( Ma Tin Aung Myo )
ผู้จำอดีตชาติได้รายนี้ คือ มา ทิน อวง เมียว เธอเป็นหญิงชาวพม่า เธอเกิดเมื่อ วันที่ 26 ธันวาคม ปี พ.ศ.2496 ระหว่างตั้งครรภ์ มารดาของ อวง เมียว ฝันประหลาดๆถึง 3 ครั้ง เธอฝันว่ามีทหารญี่ปุ่นตามเธอมา และบอกว่าจะมาอยู่กับเธอ ต่อมาเมื่อเธอคลอด อวง เมียว ออกมาและเติบโตขึ้นจนพูดได้ชัดถ้อยชัดคำ อวง เมียว ก็พูดถึงความทรงจำในอดีตชาติของเธอให้ฟังว่า ในชาติก่อน เธอเคยเกิดเป็นผู้ชาย เป็นนายทหารหนุ่มแห่งกองทัพญี่ปุ่น ซึ่งเข้ามาประจำการอยู่ในประเทศพม่า ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2
มา ทิน อวง เมียว เริ่มพูดและแสดงออกถึงความทรงจำในอดีตชาติ เมื่อเธออายุได้ประมาณ 4 ขวบ พฤติกรรมที่น่าสนใจของเธอคือ เธอเริ่มร้องไห้เมื่อมีเครื่องบินลำหนึ่งบินผ่านข้ามศีรษะ ขณะที่เธอออกไปเดินเล่นกับบิดานอกบ้าน
หลังจากนั้นเวลาที่มีเครื่องบิน บินผ่าน เธอจะก้มตัวลงในลักษณะกลัวผิดปกติเมื่อบิดาของเธอดุเอาว่า “กลัวอะไรนักกับเครื่องบิน” เธอก็บอกว่า “พ่อไม่รู้หรอก หนูถูกเครื่องบิน ใช้ปืนยิงกราดจนตายคาที่มาแล้ว” บิดาของเธอค้านว่า “พูดอะไรเหลวไหลอย่างนั้น..บ้าละซิ”
ในที่สุดเธอก็เล่าถึงเรื่องราวในอดีตชาติของเธอให้ฟังว่า ในชาติก่อนเธอเคยเกิดเป็นผู้ชาย เป็นนายทหารหนุ่มแห่งกองทัพญี่ปุ่น ซึ่งเข้ามาประจำการอยู่ที่ประเทศพม่า ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ตอนนั้นสงครามใกล้จะสิ้นสุดแล้ว พวกเธอกำลังล่าถอยออกจากพม่ามาอยู่ที่หมู่บ้านนาทัล(Nathul) วันหนึ่งขณะที่เธออยู่ในที่พัก เธอถูกกราดยิงจากเครื่องบินลำหนึ่ง ของฝ่ายสัมพันธมิตรจนถึงแก่ความตาย เธอยังจำภาพเหตุการณ์ในครั้งนั้นได้ดี ว่าขณะที่ถูกยิงนั้น เธอสวมกางเกงขาสั้น และคาดเข็มขัดเส้นโต เธอกำลังถอดเสื้อเชิ้ตออกเพื่อเตรียมจะปรุงอาหารอยู่ในโรงครัว ทันใดนั้นเสียงเครื่องบินก็ครางกระหึ่มขึ้นเหนือท้องฟ้าหมู่บ้านนาทัล พร้อมทั้งได้ยิงกราดลงมาอย่างหนัก เธอไม่มีเวลาพอที่จะหลบหนีได้ทัน จึงถูกยิงพรุนไปทั้งตัว นอนจมกองเลือดสิ้นใจอยู่ที่หน้าเตาไฟนั่นเอง เธอจำได้ว่าในชาติก่อน เธอมีลูกและภรรยาอยู่ทางตอนเหนือของประเทศญี่ปุ่น แต่จำไม่ได้ว่าเป็นเมืองอะไร และจำไม่ได้ว่าในชาติก่อนเธอมีชื่อว่าอะไร
จากการเทียบเคียงจากเหตุการณ์จริง ในประวัติศาสตร์สงครามโลกครั้งที่ 2 จากเรื่องราวที่ อวงเมียวพูดให้ฟังนั้น นายทหารหนุ่มแห่งกองทัพญี่ปุ่น น่าจะเสียชีวิตในช่วงปี พ.ศ.2488 ซึ่งเป็นช่วงที่ฝ่ายสัมพันธมิตรโจมตีหมู่บ้านนาทัล ประเทศพม่า จนมีทหารญี่ปุ่นเสียชีวิตจำนวนมาก ซึ่งถ้าเป็นดังนี้ เธอก็น่าจะเสียชีวิตไปประมาณ 8 ปีจึงได้มาเกิดใหม่อีกครั้งในชาตินี้
นอกจากเรื่องราวที่ มา ทิน อวง เมียว พูดให้บิดาของเธอฟังในครั้งนั้นแล้ว เธอยังพูดและแสดงออกถึงความทรงจำในอดีตชาติของเธออีกหลายครั้ง เท่าที่รวบรวมได้มีดังนี้ คือ เมื่อครั้งที่เธออายุได้ประมาณ 10 ขวบ เธอมักจะบ่นว่าอยากจะกลับไปประเทศญี่ปุ่นเพื่อพบกับภรรยาและลูกๆในอดีตชาติของเธอ ต่อมาเมื่อเธออายุได้ 12 ปี เธอก็ลาออกจากโรงเรียน เนื่องจากถูกครูบังคับให้แต่งกายเหมือนกับเด็กนักเรียนหญิงทั่วไป และขณะที่เธอมีอายุได้ 19 ปี เธอก็ปฏิเสธว่าเธอไม่ใช่ผู้หญิง ทั้งๆที่รูปร่างหน้าตาของเธอและทุกอย่างของเธอเป็นผู้หญิงมาตั้งแต่เกิด เธอยังคงแต่งตัวแบบผู้ชายต่อไป เมื่อเธอเป็นสาวและมีชายหนุ่มมาสู่ขอไปเป็นภรรยา เธอกลับปฏิเสธไม่ยอมมีสามี และได้ประกาศว่าจะแต่งงานกับผู้หญิงเท่านั้น ทำให้ครอบครัว ญาติมิตร รวมทั้งเพื่อนบ้านต่างก็ต่างก็พากันประหลาดใจไปตามๆกัน
ตอนที่ ดร.เอียน สตีเวนสัน ไปสอบเรื่องนี้ เขาไม่สามารถแกะรอยข้อมูลเกี่ยวกับ ครอบครัวและสถานที่ ที่ มา ทิน อวง เมียว กล่าวอ้างในประเทศญี่ปุ่นได้ เนื่องจาก เธอจำชื่อในอดีตชาติไม่ได้ และจำสถานที่หรือเมืองที่ครอบครัวในอดีตชาติอาศัยอยู่ไม่ได้ อาจเป็นเพราะเธอเสียชีวิตไปนานถึง 8 ปีแล้วถึงได้มาเกิดใหม่อีกครั้ง จึงอาจทำให้ความทรงจำในส่วนนั้นขาดหายไปก็เป็นได้