( Paulo Lorenz )
แผนที่ประกอบ : Dom Feliciano,Brazil
ในครอบครัวของ นายเอฟ วี ลอเรนซ์ กับ นางไอดา ลอเรนซ์ บิดามารดาของ มาร์ธา ลอเรนซ์ ยังมีคนที่จำอดีตชาติได้อีกคนหนึ่ง คือ นายเปาโล ลอเรนซ์ ซึ่งเป็นน้องชายคนรองจาก มาร์ธา
นายเอฟ วี ลอเรนซ์ กับ นางไอดา ลอเรนซ์ มีบุตรด้วยกันทั้งหมด ๑๒ คน บุตรคนแรกเป็นชายชื่อว่า เอมิลิโล แต่เขาตายตั้งแต่อายุได้ประมาณ ๒-๓ ขวบ
ต่อมาก็มีบุตรคนที่สองเป็นหญิง บิดามารดาจึงตั้งชื่อให้คล้ายคลึงกับบุตรชายคนหัวปีที่ตายไปว่า เอมิเลีย
เอมิเลีย เกิดเมื่อวันที่ ๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๔๔๕ เอมิเลีย มีลักษณะแปลกจากธรรมดา คือไม่อยากเป็นผู้หญิงเลย ก่อนที่เธอจะถึงแก่ความตายหลายปี เธอเคยปรารภกับพี่ๆน้องๆว่า ถ้าได้เกิดมาอีกจะขอเกิดเป็นผู้ชาย เธอเคยพูดเสมอว่า อยากอยู่คนเดียว ตายคนเดียว ไม่อยากมีสามี ไม่อยากมีครอบครัว เมื่อเป็นสาวมีผู้มาทาบทามขอแต่งงานหลายรายแต่เธอปฏิเสธ
ชีวิตที่เป็นหญิงของ เอมิเลีย ดูไม่มีความสุขเลย เธอพยายามฆ่าตัวตายหลายครั้ง คราวหนึ่งกินสารหนูแต่ช่วยเหลือได้ทัน โดยการกรอกนมสดให้กินเข้าไปจำนวนมาก ครั้งสุดท้ายเธอกินไซยาไนท์จนถึงแก่ความตายสมดังประสงค์ เมื่อวันที่ ๑๒ ตุลาคม พ.ศ.๒๔๖๔ ขณะอายุได้ ๑๙ ปี
นางไอดา ลอเรนซ์ มารดาของเอมิเลียชอบการประทับทรงในหมู่ของร่างทรงสมัครเล่น การประทับทรงคราวหนึ่งมีวิญญาณหนึ่งมาเข้าทรงบอกว่า เป็นวิญญาณของ เอมิเลีย มาขอติดต่อกับ นางไอดา ลอเรนซ์ ผู้เป็นมารดา วิญญาณนั้นมาแสดงความเสียใจและขอโทษที่ได้ฆ่าตัวตาย แล้วบอกด้วยว่าจะขอกลับมาอยู่กับ นางไอดา จะเกิดมาเป็นบุตรของนางไอดาผู้เป็นแม่อีกครั้ง แต่ครั้งนี้จะมาเกิดเป็นผู้ชาย
วิญญาณของเอมิเลีย ได้มาเข้าร่างทรงถึง ๓ ครั้ง ซึ่ง นางไอดา ได้เล่าเรื่องนี้ให้สามีฟัง แต่สามีไม่เชื่อว่าจะเป็นจริงได้
ดังได้เล่ามาแล้วว่า นางไอดา ลอเรนซ์ มีบุตรผู้หญิงคนล่าสุด คือ มาร์ธา ลอเรนซ์ ซึ่งเกิดเมื่อวันที่ ๑๔ สิงหาคม พ.ศ.๒๔๕๑ นางไม่คิดว่าจะมีบุตรอีก
แต่หลังจากที่ เอมิเลีย ตายไปได้ไม่ถึงปีครึ่ง เธอก็ให้กำเนิดบุตรอีกเมื่อวันที่ ๓ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๔๖๕ ซึ่ง นายเอฟ วี ลอเรนซ์ ผู้เป็นบิดาตั้งชื่อให้ว่า เอมิลิโอ ด้วยความคิดถึงบุตรชายคนหัวปี และเรียกชื่อกันในบ้านว่า “เปาโล” ซึ่งเด็กชอบให้เรียกชื่อหลังนี้มากกว่า
จักได้กล่าวถึงความประหลาดของ เด็กชายเปาโล นี้ต่อไป คือ ตั้งแต่ยังเป็นเด็กพอรู้ความ เด็กชายเปาโลไม่อยากนุ่งห่มเครื่องแต่งตัวของผู้ชาย ถ้าไม่ได้สวมชุดเสื้อผ้าของผู้หญิงก็จะไม่ยอมนุ่งห่มอะไร ชอบเล่นตุ๊กตาและเล่นกับเด็กผู้หญิง เขาเย็บจักรเก่งตั้งแต่อายุยังน้อย และมีนิสัยใจคอละม้ายไปทาง เอมิเลีย หลายประการ
พออายุได้ราว ๔-๕ ขวบ มารดานำเอาสเกิ๊ตของเอมิเลีย มาแปลงเป็นกางเกงให้นุ่ง เด็กชายเปาโลก็พอใจ ตั้งแต่นั้นก็ดูรังเกียจเครื่องแต่งตัวผู้ชายน้อยลง แม้กระนั้นก็ยังมีลักษณะนิสัยไปทางผู้หญิงอยู่อีก จนกระทั่งเมื่อ ดร.สตีเวนสัน ไปสอบเรื่องนี้ในปี พ.ศ.๒๕๐๕ นายเปาโลอายุได้ ๔๐ ปี ก็ยังมีลักษณะอาการของเพศหญิงปรากฏอยู่อีก เห็นได้ชัด
เมื่อ เอมิเลีย ยังมีชีวิตอยู่ เอมิเลียชอบจักรเย็บผานัก เอมิเลียรบเร้าแม่ขอให้ซื้อจักรเย็บผ้าให้ เมื่อได้มาแล้ว ก็เย็บได้เก่งเหนือน้องหญิงทุกคน และชอบเย็บผ้าเสียจริงๆ เอมิเลียสอนน้องให้หัดเย็บก็ไม่มีใครสนใจและเก่งเท่า
ปรากฏว่าเด็กชายเปาโลเย็บจักรได้เก่งโดยไม่ต้องมีใครสอนตั้งแต่อายุยังไม่ถึง ๕ ขวบ เมื่ออายุได้ ๔ ขวบ พี่สาวคนหนึ่งกำลังสนเข็มจักรด้วยความยากเย็น เปาโลเห็นเข้าก็สอนให้
คราวหนึ่ง มาร์ธา พี่สาวปักจักรงานยังไม่เสร็จทิ้งไว้แล้วไปทำธุระที่อื่น กลับมาเห็นเด็กชายเปาโลปักต่อให้เสร็จเรียบร้อยโดยไม่มีใครสอนให้เลย
พี่สาวเคยถามว่าทำไมเย็บปักได้เก่ง เด็กชายเปาโลตอบว่า ก็เขารู้อยู่แล้วและจักรนี้ก็เคยเป็นของเขา เขาเคยเย็บมาแล้ว
เด็กชายเปาโล มีความชำนิชำนาญในการใช้จักรเมื่ออายุได้ ๔-๕ ขวบ แต่หลังจากนั้นก็ไม่ได้ชำนาญขึ้นกว่าเดิม
จักได้กล่าวถึงลักษณะรูปร่างนิสัยของเอมิเลีย เทียบกับเปาโลต่อไป
เมื่อ เอมิเลีย ยังมีชีวิตอยู่ ชอบเที่ยว ชอบเดินทาง เปาโล ก็เหมือนกัน เรื่องการเดินทางเรื่องเที่ยวนี้แหละ ที่ทำให้เอมิเลียอยากเป็นผู้ชาย เพราะในสมัยนั้นชาวบราซิลไม่ชอบให้ผู้หญิงออกนอกบ้าน
เอมิเลีย เคยหัดเล่นไวโอลินแต่หัดไม่สำเร็จ เปาโลก็เรียนสีไวโอลินไม่สำเร็จเช่นเดียวกัน
เอมิเลีย รักน้องสาวที่ชื่อ โลลา มาก เด็กชายเปาโลก็รักพี่สาวที่ชื่อ โลลา มากเช่นเดียวกัน
เอมิเลีย เวลารับประทานขนมปัง ชอบแกะขอบแข็งออก เปาโลก็เหมือนกัน เอมิเลียถึงแก่ความตายด้วยการกินยาพิษ เด็กชายเปาโลเมื่ออายุได้ ๓ ขวบครึ่ง คำแรกที่พูดได้ เมื่อได้เห็นเด็กคนหนึ่งกำลังเอาอะไรใส่ปาก เด็กชายเปาโลพลั้งออกมาเป็นคำแรกว่า “ระวัง อย่าเอาอะไรใส่ปาก จะตาย”
เด็กชายเปาโล เกลียดน้ำนมมาก เมื่อคราว เอมิเลีย ฆ่าตัวตายด้วยการกินสารหนู ตอนนั้นแก้ไขกันได้ทันโดยการกรอกนมให้กินเข้าไปมากๆ ตั้งแต่นั้นมา เอมิเลียก็เกลียดน้ำนม เด็กชายเปาโลก็เกลียดน้ำนมตลอดชีวิต
คราวหนึ่ง มาร์ธา พี่สาวพา เปาโลไปเที่ยวสุสาน เด้กชายเปาโลไม่สนใจหลุมศพอื่นๆ เฝ้ายืนอยู่แต่ที่หลุมศพของ เอมิเลีย และบอกพี่สาวว่า “นี่แหละหลุมของฉัน”
อีกคราวหนึ่ง เด็กชายเปาโล เอาดอกไม้จากหลุมศพของคนอื่นมาวางที่หลุมศพของ เอมิเลีย แล้วก็ยิ้ม และมีคราวหนึ่ง เขาแย่งเอาดอกไม้จากพี่สาว ไปวางที่หลุมศพของ เอมิเลีย
เมื่อ ดร.เอียน สตีเวนสัน ไปสอบเรื่องนี้ในปี พ.ศ.๒๕๐๕ ได้ทดลองให้ เปาโล เขียนรูปคนให้ดู โดยกำหนดว่าให้เขียน ๓ รูป รูปที่หนึ่ง ให้เขียนรูปผู้หญิงหรือผู้ชายก็ได้ตามใจชอบ รูปที่สอง ให้เขียนรูปเพศตรงข้าม ส่วน รูปที่สาม ให้เขียนรูปผู้หญิงหรือผู้ชายก็ได้ตามใจชอบอีก ปรากฏว่ารูปที่หนึ่งและรูปที่สาม ซึ่งกำหนดให้เขียนตามใจชอบ เปาโลเขียนรูปคนเพศหญิง
นี่คือเรื่องราวของผู้กลับมาเกิดใหม่ในพ่อแม่เดียวกัน แต่เปลี่ยนเพศจากหญิงเป็นชายด้วยเจตนาไว้ในชาติก่อน แต่ก็ยังมีลักษณะอาการของผู้หญิงปรากฏติดค้างอยู่