( Marta Lorenz )
แผนที่ประกอบ : Rio Grande do Sul ; Brazil
นางสาวมาเรีย ยานูอาเรีย เดอโอลิเวโร มีชื่อเล่นเรียกกันในครอบครัวว่า “ซินนา” เกิดเมื่อปี พ.ศ.๒๔๓๓ เป็นบุตรสาวของเจ้าของคอกสัตว์มั่งมีแห่งรัฐ ริโอ กรัง โด ซุล(Rio Grande do Sul) ซึ่งอยู่ทางใต้สุดของบราซิล(Brazil) เธออยู่ใกล้กับตำบลดอมแฟลิซิอาโน(Dom Feliciano) ซึ่งอยู่ห่างประมาณ ๑๖๐ กิโลเมตร ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของ เมืองปอโตอาเลกรี(Porto Alegre) อันเป็นเมืองท่าและเมืองหลวงของรัฐดังกล่าว
แม้ ซินนา จะรักคอกสัตว์ของบิดาเธอมาก แต่ด้วยเหตุที่บ้านของเธออยู่ในที่เปล่าเปลี่ยว ห่างจากตำบลดอมแฟลิซิอาโนถึงเกือบ ๒๐ กิโลเมตร เธอรู้สึกหงอยเหงา จึงมักไปเที่ยวหาเพื่อนรักที่ชื่อ ไอด้า ลอเรนซ์ ซึ่งเป็นภรรยาของ นายเอฟ วี ลอเรนซ์ ครูโรงเรียนประจำอำเภอ แต่พักอยู่ที่ตำบลดอมแฟลิซิอาโน
เมื่อ ซินนา เป็นสาวได้มีความรักใคร่กับชายหนุ่มคนหนึ่ง แต่บิดาของเธอไม่ชอบชายคนนั้น จึงจำต้องเลิกร้างกันไป ต่อมาเธอมีความรักกับชายหนุ่มอีกคนหนึ่ง บิดาของเธอก็ไม่ชอบชายหนุ่มผู้นั้นอีก ชายผู้นั้นเสียใจถึงกับฆ่าตัวตาย ซินนา มีความชอกช้ำระกำใจนัก บิดาพยายามปลุกปลอบใจให้ ซินนา ไปเที่ยวพักผ่อนที่ชายทะเล ชื่อว่าเพโลตาส เที่ยวดูงานประจำปี แต่ซินนาก็ไม่หายโศกเศร้า เธอปล่อยปละตัวเอง เธอชอบเดินออกไปนอกบ้านในยามหนาวจัด อากาศชื้น หรือมีละอองฝน โดยไม่สวมเสื้อผ้ากันหนาวกันฝน ในที่สุดก็ล้มป่วยด้วยโรคที่ปอดและหลอดลม หมอตรวจพบว่าเธอเป็นวัณโรค ต่อมาอีก ๒-๓ เดือนเธอก็ถึงแก่ความตาย
ตอนที่ ซินนา ป่วยอาการหนักมากแล้ว เธอบอกกับ ไอดา ลอเรนซ์ เพื่อนสนิทว่า เธออยากตาย และการล้มป่วยในครั้งนี้ก็เป็นเจตนาที่เธอทำให้เป็นไปทั้งนั้น
เธอบอกกับ ไอดา เพื่อนรักว่า เธอจะกลับมาและมาเกิดเป็นบุตรของ ไอดา ขอให้ ไอดา จำไว้ให้ดี แล้ว ไอดา จะรู้เองว่าเธอมาเกิด
ซินนา ถึงแก่ความตายในเดือนตุลาคม พ.ศ.๒๔๖๐ ขณะอายุได้ ๒๘ ปี เธอถึงแก่กรรมในวันรุ่งขึ้นหลังจากที่เธอบอกว่าจะเกิดมาใหม่อีกครั้ง มาเป็นบุตรของ ไอดาเพื่อนรักของเธอ
อีก ๑๐ เดือนต่อมา ในวันที่ ๑๔ สิงหาคม พ.ศ.๒๔๖๑ ไอดา ลอเรนซ์ ก็ให้กำเนิดบุตรหญิง เธอตั้งชื่อให้ว่า มาร์ธา ลอเรนซ์
เมื่อ เด็กหญิงมาร์ธา อายุได้ ๒ ขวบ ๖ เดือน พอพูดได้ก็พูดถึงเรื่องในชาติก่อนกับพี่สาวของเธอ ชื่อว่า โลลา
วันหนึ่ง โลลา ไปซักผ้าที่ลำธารน้ำใกล้บ้าน พาน้องไปด้วย ตอนกลับบ้าน มาร์ธา บอกกับพี่ว่าให้เธอขี่หลังพี่กลับบ้าน พี่สาวบอกว่า “น้องโตแล้ว เดินเองได้แล้วไม่ต้องอุ้มกันอีกแล้ว” มาร์ธาบอกว่า “เมื่อก่อนนั้นฉันโตกว่า ส่วนโลลาเป็นน้องเล็กกว่า ฉันยังเคยอุ้ม โลลา อยู่บ่อยๆ” โลลา หัวเราะขบขันแล้วถามว่า “เธอ โตกว่าฉันตั้งแต่เมื่อไหร่กัน” เด็กน้อยก็ตอบว่า “ตอนนั้นฉันไม่ได้อยู่ที่นี่ อยู่ไกลจากที่นี่ ฉันมีวัวหลายตัว มีไร่ส้ม แล้วยังมีตัวอะไรอีกเหมือนแพะ แต่ไม่ใช่แพะ” ความจริงเป็นแกะ แต่เด็กเรียกไม่ถูก
เรื่องที่เด้กน้อยเล่าให้พี่ฟังก็คือ เรื่องที่ไร่ของพ่อ ซินนา นั่นเอง พอถึงบ้าน โลลา ก็เล่าเรื่องนี้ให้บิดาฟัง นายเอฟ วี ลอเรนซ์ ผู้เป็นบิดาก็ถาม มาร์ธาว่า “ที่หนูบอกว่าเมื่อก่อนไม่ได้อยู่ที่นี่น่ะลองบอกมาซิว่าหนูเคยอยู่ที่ไหน” มาร์ธา บอกกับบิดาว่า “ตอนนั้นหนูมีพ่อแม่เป็นคนอื่น ไม่ใช่พ่อแม่นี้” พวกพี่ๆของมาร์ธาก็หัวเราะสนุกสนานกันใหญ่ มีคนหนึ่งถามว่า “แล้วตอนนั้นเธอมีคนใช้ผู้หญิงเป็นนิโกรเด็กๆเหมือนที่บ้านเราไหม”
มาร์ธา ตอบว่า “ไม่ใช่ ที่บ้านของฉัน มีคนใช้นิโกรเหมือนกัน แต่เป็นผู้ใหญ่แล้ว คนทำกับข้าวก็เป็นนิโกร แต่โตแล้ว แต่ก็มีเด็กนิโกรอยู่คนหนึ่งเป็นผู้ชายนะ มีวันหนึ่งเด็กนั้นลืมตักน้ำ เลยโดนพ่อของฉันตีเสียยกใหญ่” นาย เอฟ วี ลอเรนซ์ ผู้เป็นพ่อก็ค้านขึ้นมาว่า “พ่อไม่เคยตีเด็กนิโกรเลยนะ” มาร์ธาบอกว่า “ไม่ใช่พ่อคนนี้ เป็นพ่อคนก่อน เด็กนิโกรคนนั้นยังร้องบอกให้หนูช่วย หนูจึงบอกกับพ่อว่าอย่าไปตีมันเลย พ่อเลยหยุดตีและเด็กนิโกรคนนั้นก็วิ่งหนีไป” นายลอเรนซ์ ถามต่อไปว่า “เด็กคนนั้นไปตักน้ำในลำธารหรือ” มาร์ธาบอกว่า “ที่บ้านของหนูไม่มีลำธาร มีแต่บ่อน้ำ”
นายลอเรนซ์ ถามว่า “ซินนาน่ะใครกัน” เด็กตอบว่า “คือตัวหนูเอง ตอนนั้นหนูมีชื่ออีกชื่อหนึ่งว่า มาเรีย แล้วยังมีอีกแต่หนูจำไม่ได้แล้ว”
ดร.เอียน สตีเวนสัน ได้ไปพบ มาร์ธา ลอเรนซ์ เมื่อปี พ.ศ.๒๕๐๕ ตอนนั้นเธออยู่ที่ เมืองปอร์โต อาเลกรี และเธอลืมเรื่องราวในอดีตชาติไปมากแล้ว แต่ก็ไม่ลืมจนหมดสิ้น เธอยังจำเหตุการณ์เมื่อตอนที่เธอถึงแก่ความตายด้วยวัณโรคได้
เมื่อครั้งที่ เด็กหญิงมาร์ธา ลอเรนซ์ ยังเด็ก เธอชอบพูดถึงเรื่องเมื่อตอนที่เธอเป็นซินนาอยู่เสมอ และมักจะขอกลับไปที่บ้านเดิมเมื่อชาติก่อน แต่มารดาก็อิดเอื้อนอยู่จนมาร์ธาอายุได้ ๑๒ ขวบ จึงได้พาไป
เมื่อไปถึงบ้านของซินนา มาร์ธาได้ชี้ไปยังนาฬิกาแขวนที่ฝาผนังแล้วบอกว่าเป็นของซินนา เมื่อพลิกดูด้านหลังของนาฬิกาเรือนนั้น ก็พบว่ามีตัวหนังสือเขียนไว้ว่า มาเรีย ยานูอาเรีย เดอโอลิเวโร ซึ่งเป็นชื่อจริงของ ซินนา สำหรับนาฬิกาเรือนนี้ซินนาเป็นคนซื้อไว้เอง ความจริงมาร์ธาเคยได้พบกับบิดาของซินนามาก่อนแล้วตั้งแต่เธออายุ ๑ ขวบ คือมีครั้งหนึ่งบิดาของ ซินนากับชายอีกคนหนึ่งชื่อว่า นายวาเลนติน มาเที่ยวที่บ้านของมาร์ธา วันนั้นนายวาเลนตินพูดจาหยอกเล่นกับ มาร์ธา แต่หนูน้อยไม่เล่นด้วย กลับโผเข้าไปหาพ่อของซินนา แล้วร้องเรียกว่า “ปาป๋า ปาป๋า” ซึ่งเป็นคำเรียกว่า “พ่อ พ่อ”
ตอนเด็กๆ มาร์ธา บอกกับบิดาของเธอว่า “พ่อคนก่อนของหนูแก่กว่าพ่อนี้ มีหนวดมาก และชอบพูดดุๆ” ซึ่งก็เป็นจริงตามนั้น
มาร์ธา เล่าถึงชาติก่อนว่า เมื่อตอนที่บิดาของเธอ(ซินนา)เห็นว่าเธอเศร้าโศกเสียใจมาก และได้ให้เธอไปเที่ยวพักผ่อนที่ชายทะเล ตอนขากลับฝนตกหนัก ต้องพักค้างคืนที่บ้านเก่าๆหลังหนึ่ง ซึ่งเหตุการณ์นี้บิดาของมาร์ธาได้สอบถามกับบิดาของซินนาก็ปรากฏว่าเป็นความจริงตรงกัน
มาร์ธาเล่าให้ ดร.สตีเวนสันฟังเมื่อ พ.ศ.๒๕๐๕ (ตอนนั้นมาร์ธาอายุ ๔๔ ปี) ว่า ตอนเด็กๆเธอชอบเอาอานม้าของมารดามาดูเล่น แล้วพูดขึ้นว่า“เหมือนอานม้าของฉันเลย” เพราะทั้งสองคนเพื่อนกันคือ ไอดา ลอเรนซ์ มารดาของมาร์ธาและ ซินนา ต่างก็ซื้ออานม้าที่มีรูปแบบเหมือนกันคนละอันในวันเดียวกัน
ตอนที่มาร์ธาเป็นเด็กเธอมักไม่ยอมกินอาหารรวมกับพี่น้องในครัว บอกว่าเคยนั่งกินกับพ่อด้วยกันและนั่งชิดกันด้วย ซึ่งซินนาก็มักจะทำแบบนี้
มีครั้งหนึ่ง นายซี จี เดอ โอลิเวโร พ่อของซินนามาเที่ยวที่บ้านของมาร์ธา แล้วพูดจาเสียงดัง เด็กหญิงมาร์ธาตอนนั้นได้ยินก็พูดขึ้นมาว่า “หนูไม่ชอบพ่อพูดเสียงดังเลย เมื่อก่อนก็ดุบ่าวนิโกรดังๆ”
นอกจากนี้ เด็กหญิงมาร์ธา ตอนนั้นยังพูดถึงเหตุการณ์ชีวิตหลังความตายว่า เมื่อเธอตายไปแล้ว เธอได้เห็นเขาแต่งชุดขาวให้ศพของเธอ และมีของบางอย่างวางอยู่เหนือศีรษะ แต่เธอจำไม่ได้ว่าเป็นอะไร ในงานศพของเธอมีพวกนิโกรไปกันมาก แต่พวกคนขาวไปกันน้อย ไอดา ลอเรนซ์ แม่ของเธอในชาตินี้ก็ไปด้วย ซึ่งก็เป็นความจริงในงานศพของ ซินนา มีฝรั่งผิวขาวไปในงานเพียง ๒-๓ คนเท่านั้น เนื่องจากพวกเขากลัวจะติดโรค เพราะซินนาตายด้วยวัณโรค ไอดา ก็ไปร่วมงานด้วย ตรงตามที่ มาร์ธาพูด
พี่สาวของมาร์ธาเคยแกล้งถามมาร์ธาว่า บิดาในชาตินี้ไปด้วยหรือเปล่า มาร์ธาตอบว่า “ไปด้วย” พี่สาวค้านว่า “พ่อไม่ได้ไป” ครั้นสอบถาม นายเอฟ วี ลอเรนซ์ ผู้เป็นบิดา ก็ปรากฏว่าเป็นความจริงตรงตามที่ มาร์ธาพูด
สำหรับรูปร่างลักษณะและนิสัยใจคอของ มาร์ธา เมื่อเทียบกับชาติก่อนที่เป็น ซินนา นั้น ผู้ที่รู้จักคุ้นเคยกับทั้ง มาร์ธาและซินนา ก็ยืนยันว่าทั้งสองคนมีลายมือเขียนหนังสือคล้ายๆกัน รูปร่างลักษณะก็คล้ายกัน
ตอนที่มาร์ธาอายุ ๑๘ ปี เธอได้ไปเป็นครูสอนอยู่ที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง มีหญิงนิโกรที่เคยเป็นแม่ครัวที่บ้านของซินนาคนหนึ่งเข้ามาบอกว่า เธอเหมือนกับ ซินนา จริงๆ
ซินนา เป็นโรคปอดและหลอดลมอักเสบ จนถึงแก่ความตาย ปรากฏว่า มาร์ธา ในชาตินี้ก็มักไม่สบายด้วยอาการหลอดลมอักเสบ เจ็บคอเป็นปกติแทบจะเดือนละครั้ง จนอายุได้ ๙ ขวบอาการเหล่านี้จึงหายไป มาร์ธาบอกว่าเจ็บคอแทบจะตายทุกครั้ง
ซินนา รักแมว มาร์ธาก็ชอบแมวมาก พี่ๆของมาร์ธาบอกว่า ตอนที่ครอบครัวย้ายไปอีกรัฐหนึ่งเพื่อทำไร่กาแฟ มาร์ธาต้องพาแมวติดตัวไปด้วย
ซินนา อยากเป็นครู แต่ไม่มีโอกาสได้เป็น แต่มาร์ธาได้เป็นครูในชาตินี้ ซินนากลัวฝน มาร์ธา ก็กลัวฝน พี่สาวของมาร์ธาเคยถามว่า “ทำไมกลัวฝน” มาร์ธาตอบว่า “ตอนที่เป็นซินนาก็กลัว” ซินนา และ มาร์ธา กลัวเลือดเหมือนกัน เห็นเลือดเข้าเป็นไม่ได้ มีครั้งหนึ่งบิดาของมาร์ธาตกใจ เพราะได้ยิน มาร์ธา ร้องเสียงหลง ไปดูก็เห็นเพียงแค่นิ้วเป็นแผลเลือดไหลเท่านั้น
นี่คือเรื่องราวการจำอดีตชาติได้ ของชาวบราซิลผู้หนึ่ง ที่มีการถ่ายทอดรูปร่าง ลักษณะนิสัยใจคอ
และที่น่าคิดคือเธอยังจำเหตุการณ์ในงานพิธีฝังศพของตัวเองได้ด้วย