เว็บนี้ มิได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับทางวัดพระพุทธเจ้าศรีเชียงของ ( พุทธอุทยานภูสวรรค์ ) ด้วยประการใดๆ
เป็นแต่เพียงญาติธรรมคนหนึ่งได้มีโอกาสฟังธรรมจากพระยาธรรมิกราช ในเว็บยูทูป
และเฝ้าติดตามคลิปต่างๆอย่างต่อเนื่อง โดยที่มีภูมิธรรมในระดับหนึ่ง จึงบอกตัวเองได้เลยว่า
“ นี่ไม่ใช่คำสอนที่บุคคลธรรมดาจะสามารถทำได้ “
อยู่ไม่ได้แล้ว รีบเดินทางไปปฏิบัติธรรมที่วัดพุทธอุทยานภูสวรรค์ อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย
เพราะต้องการค้นหาตัวตน และสวดคาถาชำระจิต
พร้อมทั้งปฏิบัติธรรมสายสัมมาสัมพุทธะ ปัจฉิมาสัมพุทธะ
กลับมาแล้วได้แต่รำพึงว่า เป็นบุญของเราจริงๆ
จึงอธิฐานจิตขอเป็นเสนาพระยาธรรม เพื่อเผยแผ่ธรรมให้กว้างขวางยิ่งๆขึ้นไป
และด้วยอยากได้บุญจากการร่วมเผยแผ่ธรรม จึงพยายามรวบรวมคำสอน
เพื่อเพิ่มช่องทางศึกษาธรรมให้หลากหลายขึ้น จึงเป็นที่มาของเว็บนี้...
เสนาพระยาธรรม
081-579-7557
หมายเหตุ : การเผยแผ่พระธรรมคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นหน้าที่ของชาวพุทธ
แต่การจะเข้าร่วมเผยแผ่พระธรรมคำสอนดังกล่าว ควรทำความเข้าใจ และวางจิตให้ถูก เพื่อจะได้ไม่หลงทาง
รายละเอียดตามคลิปนี้ครับ
ตอนที่ ๓๕ การร่วมบุญกับพระยาธรรม
และเมื่อเกิดความทุกข์ใจ ที่เมื่อเผยแผ่พระธรรมคำสอนของพระยาธรรมแล้วเขาไม่เชื่อ เราควรปฏิบัติอย่างไร
ตามคลิปนี้ ครับ
เผยแพร่เมื่อ 4 ธ.ค. 2014
** ข้อควรรู้ในการสวดคาถา “โอม กายาตี”
.... คาถานี้เป็นคาถาแรง-- ผู้ที่จะสวดคาถานี้ได้ ก็ต่อเมื่อได้รับการตรวจกรรมแล้ว และไม่มีจิตวิญญาณตาม หรือมีกรรมหนักอะไร จึงจะสามารถสวดได้ ควรจะได้รับอนุญาตจากครูบาอาจารย์เจ้าของคาถาเสียก่อน หากผู้ที่มีกรรมหนัก ก็จะต้องผ่านการแก้กรรม หรือบล็อกกรรมแล้ว จึงจะสวดได้ หากมิเช่นนั้นแล้ว อาจมีอาการแทรกซ้อนของจิตอื่น เช่น จิตของเจ้ากรรมนายเวรอาจแทรกซ้อนเข้ามา อาจทำให้จับไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตนเอง จึงควรแก่การที่จะให้ครูบาอาจารย์แนะนำเสียก่อน ห้ามแนะนำให้ใครสวดเด็ดขาด
วิธีสวดคาถาชำระจิต
ให้นั่งขัดสมาธิ และมือพนมขึ้น แล้วสวดคำว่า โอม กายาตี สวดคำนี้ซ้ำๆ ไวๆ สวดไปเรื่อยๆ สักพักหนึ่งก็จะรู้สึกว่ามีพลังดันขึ้นมาจากท้อง ดันขึ้นมาเรื่อยๆ จนขึ้นมาทีคอ ลิ้นก็จะรัว เปลี่ยนไปเป็นภาษาแปลกๆไป และเป็นคำพูดหรือภาษาที่เราไม่เคยพูด เรียกว่า ภาษาจิต
เสียงสวดก็จะไม่เป็น “โอม กายาตี” แล้ว อาจเป็น โอมกะตีๆ หรือเป็นภาษาแบบไหนก็ปล่อยมันไปเลย ไม่ต้องฝืน หากหลุดเป็นภาษาแปลกๆ หรือคำพูดแปลกๆ ไปแล้ว ไม่ต้องทวนกลับมาที่คำว่า “โอม กายาตี” อีก
อาจรู้สึกอยากร้องไห้ ก็ปล่อยให้มันร้องไปเลย อย่าไปฝืน หรืออาจมีการร้อน เหงื่อแตก ปวดหัว มือสั่น อยากอาเจียน ก็ปล่อยมันไปเลย ปล่อยให้มันระบายออกมาทุกสิ่งทุกอย่าง เพราะนั่นคือ การระบายหรือขับกระแสวิบากกรรม ความทุกข์ สิ่งที่เราเก็บกดไว้ในจิตทั้งหมดออกมาทางกาย แต่เราจะรู้ตัวทุกอย่าง รู้ตัวตลอดเวลา ควบคุมได้ตลอดเวลา หากเราจะหยุดสวดเมื่อไหร่ก็ได้
เมื่อสวดคาถานี้จนเสร็จแล้ว ก็จะรู้สึกว่า เบา สบายในตัว ..จิต กาย ใจ ก็จะเบาไปด้วย