กายเปรียบเหมือนรถ จิตเปรียบเหมือนคนขับ ถ้าเรายึดถือในรถ ว่าเป็นของเรา รักในรถมาก ห่วงในรถมาก
เมื่อรถเสื่อมไป เสียไป ก็จะเป็นทุกข์ ถ้ารถหมดสภาพใช้งานไปแล้ว ต้องแสวงหารถคันใหม่ เป็นทุกข์ ในการแสวงหา
การมีรถ รักษารถ ซ่อมรถ สืบต่อไป เช่นเดียวกับ จิตจะพ้นจากกาย จะต้องแยกจิตออกจากกาย
ปล่อยวางกาย ปล่อยความยึดถือกาย ความอยากมีกาย ความทุกข์ จึงจะไม่มี แก่จิตดวงนั้น อีกต่อไป
ตอนที่ ๑๘ พิจารณาจิตกายใจของตน
นักเดินทางสำรวจเส้นทาง ตรวจดูความพร้อมของยวดยาน ดูความพร้อมของจิตกายใจของผู้เดินทาง เช่นใด
นักบวชพึงพิจารณาดูตน ดูเหตุปัจจัย ดูจิตกายใจในบำเพ็ญอยู่เสมอ เพื่อความสำเร็จ ถึงจุดมุ่งหมาย ดั่งที่ได้ตั้งใจ
เส้นทางสายพุทธะ จิตต้องชนะกาย
กายนี้เกิดจากกิเลส กายนี้เกิดจากตัณหา กายนี้เกิดจากวิบากกรรมที่ทำมา
ผู้ปรารถนาความพ้นทุกข์ จึงต้องชนะกาย
ตอน กายในกาย *****
คนเรานั้นเมื่อเกิดมาแล้วจะมีองค์ประกอบ หลักอยู่สองส่วน หนึ่งคือกายภายนอกที่เรียกว่าขันธ์ห้า ส่วนที่สองคือจิต หรืออาทิสมานกาย ที่เป็นกายที่ซ้อนอยู่ภายในกายเนื้อ การที่เราจะทำให้กายภายนอกมีกำลัง ท่านทั้งหลายคงรู้แล้วว่าต้องรับประทานอาหาร เข้าไปเพื่อเกิดพลังงานทางกาย ให้แข็งแรง แต่จิตหรือกายภายในนั้นก็ต้องการพลังเช่นกัน การที่จะให้จิตมีพลังนั้น ต้องใช้กายเนื้อไปสร้างสั่งสมความดี ให้ก่อเกิดบุญมาหล่อเลี้ยงกายภายในให้เกิดความแข็งแรง มีพลังบุญและบารมี จะได้หาทางหลุดพ้นจากความทุกข์ ไม่ให้หลง ไม่อยาก ไม่ยึดติด ไม่สร้างกรรมชั่ว เพื่อจะได้ไม่ต้องกลับมาเวียนวน
...ตอนที่ ๒๙๔ ชนะขันธมาร *****
ผู้มีปัญญาธรรม เมื่อได้ร่างกายที่ดี จะไม่รีรอสิ่งใด รีบเร่งสร้างความดี ก่อนที่ร่างกายจะเจ็บป่วย ก่อนที่จะเสื่อมไป แต่ถ้าร่างกายไม่ดี ก็ใช้จิตใจที่มี ในการคิดดี พูดดี พิจารณาถอดถอน ความยึดถือในกาย จนรู้แจ้ง ความจริงในกาย จึงชนะได้ในขันธมาร
ตอนที่ ๑ กายและจิตเป็นแก้วสารพัดนึก