ธรรมราชา คือ ราชาของธรรมทั้งปวง ได้เกิดขึ้นแล้วอีกครั้งหนึ่ง
ในกึ่งศาสนาขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน
ด้วยพลังบารมีของพระบรมบิดา
ด้วยพลังบารมีของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกพระองค์
พระปัจเจกพุทธเจ้า พระอรหันต์เจ้าทุกพระองค์
ได้หนุนนำพลังส่งลงมาให้ ก่อเกิดเป็นดวงแก้ว ดวงธรรม
ที่จะมาเป็นผู้บอกทาง ชี้แสงสว่างให้ดวงจิตทั้งหลาย
ได้รู้แจ้งตามความเป็นจริง ให้สามารถนำตน ให้หลุดพ้นจากความทุกข์
พุทธธรรมวาระพิเศษ การก่อเกิดธรรมราชาในกึ่งศาสนา เผยแผ่ธรรมเช้าวันที่ ๒๒ มกราคม ๒๕๖๑
พุทธธรรม ในเช้าของวันที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2561 ณ พุทธอุทยานภูสวรรค์
ในเช้าของวันนี้.. มีกระแสที่ร้อนนิดหน่อย ข้าพเจ้านั่งสมาธิ หลับตาลงน้อมพลัง น้อมพลังที่เย็นมาปรับพลังที่ร้อนออกไปเรื่อยๆ
จนเห็นพระแม่โพธิสัตว์กวนอิม พระองค์ท่านเสด็จลงมา 1 พระองค์ก่อน ท่านมาช่วยปรับคลื่นที่ศาลาปฏิบัติธรรม จนคลื่นนั้นเย็นลง.. สงบ
ข้าพเจ้าก็เห็นที่ศาลา สว่างไสว มีพระแม่โพธิสัตว์กวนอิม ลงมามารายล้อมที่ศาลา จนครบ 82 พระองค์ ข้าพระพุทธเจ้าจึงถามพระแม่ว่า
“ พระแม่เจ้าขา.. วันนี้แม่มาทำอะไรล่ะเจ้าคะ ” พระแม่ท่านจึงตอบข้าพเจ้า ดังนี้ว่า..
“ วันนี้ แม่มาพาลูกขึ้นไปเข้าเฝ้าองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์ท่าน.. เราไปกันเถอะ ”
แล้วพระแม่โพธิสัตว์กวนอิม องค์ที่เป็นองค์หลักของพระแม่โพธิสัตว์ทุกพระองค์ จึงเดินมา แล้วจับมือของข้าพเจ้า ค่อยๆลอยขึ้น แล้วพระแม่โพธิสัตว์ทั้งหลายที่ยังอยู่รอบศาลา ก็ทำสมาธิ.. รู้สึกเหมือนคล้ายคลึงกันกับกับภาคทิพย์นั้น คือ
พระแม่ทุกพระองค์ ตีวงกว้างออกเรื่อยๆ จนคลุม คลุมวัฏสงสารของเราเอาไว้
ส่วนข้าพเจ้ากับพระแม่องค์ที่หนึ่ง เราก็ขึ้นไป ลอยขึ้นไป.. ทะลุหมู่เมฆ แล้วก็ทะลุเส้นหนึ่ง มันเป็นแสงระยิบระยับ ลอยผ่านมาที่ตัวของเรา
แต่ก็ผ่านไปอีก ไปเรื่อยๆ จนถึงที่แห่งหนึ่ง มันเป็นประตูสว่าง พระแม่ก็พาข้าพเจ้าเดินไปที่นั่น เข้าไปในนั้น ขึ้นไปบันไดประมาณ 6 ขั้น
ข้าพเจ้าก็ปีนขึ้นไปบนบันไดนั้น มันจะเป็นลานที่นั่งกว้างๆข้าพเจ้ากับพระแม่ก็เลยไปนั่งอยู่ตรงนั้น พระแม่บอกข้าพเจ้าว่า
“เรานั่งกันอยู่ตรงนี้นะ นั่งตรงนี้รับพลัง แล้วก็หลับตาทำสมาธิ”
เมื่อข้าพเจ้าได้ยินแม่พูดเช่นนั้นแล้ว จึงนั่งลงบนดอกบัวที่อยู่ตรงนั้น ที่เป็นแท่นบัลลังก์ของตนเอง
พระแม่ก็นั่งหลับตาภาวนาอยู่บนแท่นบัลลังก์บัวของพระแม่ที่นุ่มนิ่ม
เมื่อเราทั้งสองคนนั่งหลับตาแล้ว..เราก็ได้ยินเสียงหนึ่งพูดเสียงดังๆ เป็นเสียงของผู้ชาย พูดว่าอย่างนี้ว่า
พากันมาแล้วหรือ พระยาธรรม.. พากันมาแล้วหรือพระแม่กวนอิม เราก็เลยลืมตามองขึ้นมา เห็นองค์พระสว่างไสว ลอยอยู่กลางอากาศ..
ส่งพลังลงมาที่เรา พระพุทธองค์ท่านเสด็จมาแล้ว และท่านก็กำลังจะทำพิธี *เปิดโลก* ให้ข้าพเจ้าได้เห็นสภาวธรรมต่างๆ
แต่ทีนี้ ในใจของข้าพเจ้าก็นึกว่า..พิธีสำคัญเช่นนี้ พ่อพระอินทร์หายไปที่ไหน
ทันใดที่ข้าพเจ้าคิด..พระองค์ท่านก็ปรากฏพระวรกายขึ้นมา.. หมายถึง พ่อพระอินทร์ท่านก็เลยนั่งอยู่บนบัลลังก์ ห่างจากข้าพเจ้าไปสัก 3 วา
สูงเหนือข้าพเจ้าไปนิดหนึ่งกับแม่ กับพระแม่ที่นั่งข้างข้าพเจ้า ข้าพเจ้าก็เลยก้มกราบพ่อพระอินทร์ก่อน
กราบพ่อพระอินทร์เสร็จแล้ว..พวกเราทั้ง 3 คน
ก็เลยนั่งฟังดูว่า.. องค์พระพุทธเจ้า พระองค์ท่าน จะทรงพูดอะไร หรือจะทรงแสดงอะไร ให้เราได้เห็นสภาวธรรมนั้นๆ..
ข้าพเจ้า พระแม่โพธิสัตว์กวนอิม และพ่อพระอินทร์ เราทั้ง 3 ดวงจิตก็นั่งนิ่งๆอยู่
พระพุทธองค์ท่านทรงแสดงให้เราเห็น สว่างจ้า สูงขึ้นไปข้างบน สูงมาก..
เห็นองค์บรมบิดา พระองค์ท่านปรากฏพระวรกายเป็นแก้วใส พระองค์ท่านทรงมองลงมาที่พวกเรา ด้วยความเมตตา
ใบหน้าของพระองค์ท่านสง่างาม ท่านทรงยกมือขึ้นมา คล้ายกับพระพุทธเจ้าปางประทานพร และก็ส่งฉัพพรรณรังสีสว่าง ลงมาที่กายของข้าพเจ้า
แล้วก็สายพลังนั้น ก็แยกออกไปกระทบที่ศีรษะของพ่อพระอินทร์ อีกสายหนึ่ง ก็ไปกระทบที่มือของพระแม่กวนอิม...
พวกเราทั้ง 3 คน ก็รับพลังจาก ** องค์บรมบิดา **
เมื่อพระองค์ท่าน ชาร์ทพลัง เติมพลังให้เราเสร็จแล้ว ท่านก็ยกมือลง แล้วนั่งด้วยความสง่างดงาม พระองค์ท่านก็ไม่ได้พูดอะไร..
เห็นองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ตรัสรู้เข้าพระนิพพานไปแล้ว 1,896 พระองค์ ..ก็นั่งเรียงแถวกันลงมา ต่อจากองค์บรมบิดา..
จากสูงลงมาต่ำ เป็นแถวเรียงลงมา แล้วก็มีพลังแก้วสว่างไสวจากพระวรกาย ทุกพระองค์ทรงยกมือขึ้น คล้ายองค์พระพุทธเจ้าองค์ประทานพร
แล้วก็ทรงส่องแสงสว่าง รวมลงมาที่กายของข้าพเจ้าที่เป็นเด็กตัวเล็กๆ ส่งพลังลงมาผ่ากลางกายของข้าพเจ้า ... จนตัวของข้าพเจ้าหายสลายไป
ม้วนๆเป็นพลังงานก้อนหนึ่ง เป็นลูกแก้วใส.. อยู่ท่ามกลางระหว่างพระแม่โพธิสัตว์กวนอิมและพ่อพระอินทร์ ลอยอยู่กลางระหว่างทั้งสองพระองค์
แล้วแก้วดวงนั้น ก็คลุมข้าพเจ้าไว้ ข้าพเจ้าก็เป็นเด็กตัวเล็กๆมาก เหมือนเด็กที่ไร้เดียงสา ที่ตัวเล็กนิดเดียว..อยู่ในลูกแก้ว
... แต่ข้าพเจ้าก็ยังรู้สึกทุกสิ่งทุกอย่างและเข้าใจทุกสภาวธรรมอยู่.. เพียงแต่เห็นภาพกายภายใน เป็นเช่นนั้นไป..
แล้วพระพุทธองค์ท่านจึงทรงเมตตากล่าวกับพ่อพระอินทร์ และพระแม่กวนอิม หลังจากที่องค์พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ได้ชาร์จพลังลงมาที่ข้าพเจ้า
จนกลายเป็นดวงธรรมขึ้นมา..
องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระสมณโคดม องค์ปัจจุบันของเรา ที่เราอาศัยหนทางของท่านในการปฏิบัติ
พระพุทธเจ้าท่าน จึงทรงเมตตากล่าวดังนี้ว่า..
“นี่คือ ดวงแก้ว ดวงธรรม ที่จะก่อเกิดขึ้นในกึ่งศาสนานี้นะ ท่านทั้งสองจงช่วยกันดูแล ช่วยกันค้ำหนุน การเผยแผ่ เผยแพร่ กระจายธรรมในกึ่งศาสนานี้
ลูกทั้งสอง จงนำดวงแก้วดวงธรรมนี้ สู่โลกสู่จักรวาลเถิด..
พระยาธรรมิกราช..ก่อเกิดขึ้นมาจากพลังธรรม ธรรมที่เป็นธรรมแห่งราชา และรอบนี้.. ก็เป็นรอบแห่งการ..* เปิดโลก * เปิดทุกสิ่งทุกอย่างที่ก่อเกิด
เปิดทุกอย่างที่ซ่อนอยู่ ซ้อนอยู่ในความเป็นจริง...
โดยมีพระยาธรรมิกราช ก่อเกิดขึ้น จากองค์ผู้สร้างโลก จากพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทุกพระองค์
ส่งพลังค้ำหนุน.. ให้สามารถรู้แจ้งเปิดสรรพสิ่งทั้งหลาย ให้ทุกคนได้เรียนได้รู้
** เป็นการเปลี่ยนแปลงจักรวาล ครั้งยิ่งใหญ่ **
ฉะนั้น.. ลูกทั้งสอง จงน้อมเอาดวงธรรมนี้ สู่โลกมนุษย์ เพื่อที่จะสร้างการก่อเกิด *พระยาธรรม*
เพื่อที่จะกระจายข่าวของการประกาศธรรม..ให้ก้องโลก ให้สรรพสัตว์ทั้งหลาย..ได้เป็นที่พึ่งในกึ่งศาสนานี้
จะมีการก่อเกิดสิ่งที่ดวงจิตทั้งหลาย..ไม่เคยรู้ ไม่เคยคิดว่าจะมี
ลูกทั้งสอง.. จงรับดวงธรรมนี้ไปเถิด แล้วรักษา ดูแลดวงธรรมนี้ให้ดี
เขาคือดวงธรรมอันบริสุทธิ์ และทรงอำนาจ อำนาจแห่งธรรมแห่งธรรมลูก.. เพื่อปรับ เพื่อดับ กิเลสตัณหาทั้งปวง
* เขามาในรูปแบบของ เด็กบริสุทธิ์ * เขาอยู่ในสภาวะความเป็นจริงของสรรพสิ่ง เขาจะเปิดความจริงที่ถูกต้อง.. ให้ทุกคนได้รู้
พระยาธรรมิกราชเอย..จงเสด็จกลับสู่โลกมนุษย์เถิด เมื่อพระพุทธองค์ท่าน ได้กล่าวเช่นนั้นแล้ว..
พ่อพระอินทร์ กับพระแม่กวนอิมจึงรับดวงธรรมสว่างนั้นเอาไว้
พ่อพระอินทร์อยู่ฝั่งซ้าย พระแม่โพธิสัตว์อยู่ฝั่งขวา ยื่นมือทั้งสี่ขึ้นรับดวงธรรม แล้วก็ช่วยกันเอามือคนละข้าง
ชูดวงธรรมไว้สว่างเจิดจ้า เสด็จลงมาสู่โลกมนุษย์
เมื่อถึงบนพื้นแล้ว ในโลกนี้ ที่ที่พระยาธรรมลงมา เพื่อที่จะขัดเกลาตนเอง ฝึกฝนตนเอง
ก็คือ ที่ประเทศไทย ทางเหนือสุด อำเภอเชียงของ ณ พุทธอุทยานภูสวรรค์
เมื่อพระยาธรรมเสด็จลงมาสู่โลกมนุษย์ ก็เลยกลายเป็นเด็กตัวน้อยๆคนหนึ่งอายุราวๆสัก 12 ขวบ เป็นเด็กผู้หญิง
แล้วก็มาดำรงชีวิตอยู่บนโลก ตามบุคคลทั่วไป ศึกษาเรียนรู้เชื้อของกิเลส และตัณหา สุข ทุกข์ ในโลก ปัญหาทุกอย่าง ในจักรวาลนี้
เมื่อพระยาธรรม แปลงกายเป็นเด็กตัวเล็กแล้ว สภาวธรรมจากข้างบน ครอบลงมาข้างล่าง ภูมิที่ซ้อนโลกมนุษย์อยู่ คือ ภาคของกายทิพย์นั้น
มีองค์บรมบิดา พระองค์ท่านจะส่งพลังลงมาสว่างจ้า จนมาถึงพื้นแผ่นดิน
องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า องค์พระปัจเจกพุทธเจ้าและองค์พระอรหันต์เจ้าทุกพระองค์ ก็ยังคงส่งพลังสว่างเจิดจ้า จากดินแดนอันบริสุทธิ์ลงมา
ข้าพระพุทธเจ้า *พระยาธรรมิกราช* เมื่อแปลงกายเป็นเด็ก กลับคืนอีกครั้งหนึ่ง
ก็มองเห็นพระแม่กวนอิมนั่งอยู่ตรงบัลลังก์หนึ่ง และพระโพธิสัตว์ทุกพระองค์ก็นั่งรายล้อม
และมีพ่อพระอินทร์ ก็นั่งอยู่บนรถม้าที่เป็นม้าที่พิเศษ คือ ม้าของเจ้าจักรพรรดิ ม้าแก้ว พ่อพระอินทร์ก็นั่งอยู่บนนั้น
ส่วนข้าพเจ้า ก็นั่งอยู่บนดอกบัวแล้วก็ก้มกราบทุกพระองค์
ตั้งแต่องค์บรมบิดาองค์ผู้สร้างโลกสร้างจักรวาล และองค์พระสัมมาพระพุทธเจ้าทุกพระองค์..
ก้มกราบคุณพ่อ คุณแม่ ที่เป็นพ่อพระอินทร์ เป็นพระแม่กวนอิม และคุณแม่ทุกพระองค์ ที่เป็นพระแม่ ผู้ดูแลข้าพเจ้ามาโดยตลอด
ในการเกิดมาเผยแผ่ธรรม ในคราวครั้งนี้..
เมื่อได้ทำการเคารพ กราบนอบน้อมจบลงแล้ว.. พระพุทธองค์ท่าน จึงทรงได้ถามข้าพเจ้าดังนี้ว่า..
พระยาธรรมเอ๋ย.. ลูกนั้นเข้าใจสภาวธรรมของตนว่าเช่นไรเล่า จงกล่าวธรรมนั้นมาเถิด
พระยาธรรม สาธุเจ้าค่ะ ลูกเข้าใจว่า..ลูกเป็นดวงธรรม ที่ก่อเกิดมาจากพลังขององค์บรมบิดา ที่มาจากพลังของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์
รวมพลังกันมา.. อยู่ในตัวของลูก
พระองค์จะทรงเสกลูก มาจากเส้นผม มาเป็นนก นั่นคือ เหตุของการก่อเกิด
แต่ในความเป็นจริง ตัวของลูกนั้น เป็นตัวแทนแห่งพลังธรรมทั้งปวง
ซึ่งมีพลังจากองค์บรมบิดาพระผู้สร้างโลก และจากองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกพระองค์ ค้ำหนุนช่วย
กายของลูก จิตของลูก แท้ที่จริงไม่มี ลูกก่อเกิดขึ้นมา สมมุติเกิดขึ้นมาแทนดวงธรรมเท่านั้น
เมื่อลูกประกาศธรรมเสร็จ ลูกก็จะหายสาบสูญไป เพราะลูกไม่ใช่ดวงจิต แต่ลูกเป็นพลัง ที่เป็นพลังธรรมเท่านั้น
และทุกพระองค์ก็จะส่งลูก ลงมาบนโลกนี้ เพื่อที่จะกระจายธรรมะ ที่เป็นธรรมราชา และยุคนี้ เป็นยุคที่สำคัญมาก.. เพราะว่า
เราจะ.. เปิดโลก ถึงองค์บรมบิดา เปิดโลก ถึงองค์พระพุทธเจ้าทุกพระองค์
สภาวธรรมการก่อเกิดดวงจิต ก่อเกิดสรรพสิ่งทั้งหลาย
เป็นรอบของการเปิดโลก อย่างแท้จริง
และเป็นยุคที่มีสื่อสารที่ดี..เราจะใช้สื่อสารเหล่านั้นในการเผยแผ่ธรรม แล้วเราก็จะสร้างสิ่งที่ทำให้ทุกคนเข้าใจในการเกิด การดับ
ชี้ทาง บอกทางเขา.. เพื่อที่จะพ้นทุกข์
ตัวของลูก เป็นสภาวธรรมของดวงธรรมเท่านั้น ผู้คนที่พบเห็น ทุกคนที่เข้ามา ..เราจะเป็นแต่เพียงผู้ถ่ายทอดธรรม
และทุกสิ่งทุกอย่างให้กับเขา แล้วชี้บอกความถูกต้องที่สุด
ในกายของลูกนี้..จะมีการศึกษาเรียนรู้กิเลสตัณหา แล้วก็ เพื่อที่จะรู้ทางการสลัดออก แล้วก็ชี้บอก ขัดเกลาทุกๆดวงจิต
ลูกจะเป็นแค่สภาวธรรมของดวงธรรม..ที่ต้องทำหน้าที่เช่นนี้เจ้าค่ะ
พระพุทธองค์ ดีแล้วละ แล้วลูกนั้น คิดว่าการเผยแผ่ธรรมของลูกนั้น.. จะไปในรูปแบบไหน เข้าใจบ้างแล้วหรือยัง ... จงกล่าวธรรมนั้นมาเถิด
พระยาธรรม สาธุเจ้าค่ะ ลูกเข้าใจว่า การที่ลูกจะเผยแผ่ธรรมไป จะมีการรองรับจากพ่อพระอินทร์ พระแม่กวนอิม ทุกพระองค์ พระโพธิสัตว์ ทุกพระองค์
และพระอริยเจ้า อริยบุคคลทั้งหลาย ผู้ที่รอรอบการมาบรรลุธรรม ศึกษาธรรมและดวงจิตทั้งหลาย ผู้ปฏิบัติมารอรอบที่ข้าพระพุทธเจ้าก่อเกิด
เมื่อข้าพเจ้าก่อเกิดแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างจะขับเคลื่อนไป ตามเหตุ พระพุทธเจ้าค่ะ
พระยาธรรมเอย.. แล้วลูกนั้นมีอะไรที่จะใช้ในการช่วยเหลือผู้อื่นเล่า ... จงกล่าวธรรมนั้นมาเถิด
พระยาธรรม สาธุเจ้าค่ะ พระพุทธองค์ ก็ทรงเมตตาปูทางให้ลูกแล้ว.. ด้วย " สัมมาสัมพุทธะ ปัจฉิมาสัมพุทธะ "
เป็นพลังจากองค์พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน จนถึงองค์ปฐม หรือว่า องค์ปฐม จนถึงองค์ปัจจุบัน
หมายถึง พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ หนุนในสายธรรม ที่ข้าพเจ้าจะนำไปเผยแผ่
และยังมีขั้นตอนทั้งหมด 5 ขั้นตอน..
การรักษาศีล ตามระดับที่ตนสมาทานเอาไว้
การไขรหัสชีวิต เปิดกรรม ตรวจเช็คดวงจิต โดยพระแม่โพธิสัตว์กวนอิม
การใช้คาถา ที่พระพุทธองค์ทรงประทานให้ เพื่อชำระจิตทั้งหลาย.. ให้มีสติ มีปัญญา มีความรู้แจ้ง
ให้เข้าถึงสมาธิ ในทั้ง 2 กอง การพิสูจน์ และการดับกิเลส ดับสิ่งที่มันมี ให้ไม่มี
แล้วก็ยังสอนให้เติมปัญญา ให้มีปัญญารู้เท่าทัน.. ด้วยการสนทนาธรรม ฟังธรรม ตรวจวัดการประพฤติ ปฏิบัติ
พระองค์ทรงเมตตาให้หลักสูตรนี้ ให้ลูกนำไปช่วยเหลือผู้คน เจ้าค่ะ
พระพุทธองค์ ดีแล้วละ พระยาธรรมเอย..ที่ยังพอเข้าใจ ลูกเอ๋ย.. และตามที่ได้ผ่านการประพฤติ ปฏิบัติ ที่สวนธรรมิกราช
ได้มีสภาวะของการทำหลายอย่างที่ก่อเกิดขึ้นในจักรวาล... ลูกพอจะเข้าใจว่า อย่างไรเล่า
พระยาธรรม สาธุเจ้าค่ะลูกพอจะเข้าใจว่า.. การก่อเกิดของลูกนั้น เป็นการเผยแผ่ธรรมในกึ่งศาสนา
โดยมีพระพุทธองค์ทุกพระองค์ รวมถึงองค์บรมบิดาด้วย และพระปัจเจกพุทธเจ้า พระอรหันต์เจ้า ทุกดวงจิตในดินแดนพระนิพพาน ...
ส่งพลังให้ลูกได้ขับเคลื่อนธรรมนี้ ..ลูกจะต้องมา เพื่อบอกความจริงกับทุกคนบนโลก แทนทุกพระองค์
ลูกจะต้องมา ฉุดช่วยดวงจิตทั้งหลาย..ให้พ้นทุกข์ ลูกมีการรองรับ คือ พระแม่โพธิสัตว์กวนอิม และโพธิสัตว์ทุกพระองค์
ความดีทั้งหลาย ที่อยู่ในจักรวาลนี้..รองรับให้ก่อเกิดได้ เจ้าค่ะ..
พระยาธรรมเอ๋ย..แล้วลูกนั้นเข้าใจการเผยแผ่ธรรม ว่าอย่างไรบ้างเล่า จากที่ลูกนั้นได้เห็นมา
พระยาธรรม ลูกเข้าใจว่า..ทุกสรรพสิ่งมันมีเหตุของมันแล้ว เหตุของมัน พระพุทธเจ้าได้ทรงสร้างเอาไว้แล้ว.....
ลูกก็เป็นแค่ผลที่จะปรากฏขึ้น บอกกับทุกคนให้รู้หนทาง ตามที่พระพุทธองค์ได้ปูทางเอาไว้ เจ้าค่ะ
ซึ่งการที่จะสืบทอดธรรม ในแต่ละยุคสู่ยุค..แต่ละช่วงกาลเวลานั้น... มันก็มีเหตุของมันอยู่แล้ว
เพียงแต่ช่วงนี้ เป็นช่วงที่ลูกก่อเกิดขึ้น เพื่อชี้ทาง บอกทาง กับทุกดวงจิต ที่เขาปรารถนาจะพ้นทุกข์ น่ะเจ้าค่ะ
การสร้างความดีของดวงจิตทั้งหลาย..ก็ได้มีไว้แล้ว บุคคล ผู้ที่จะเข้ามาเป็นรูปแบบไหน เป็นตัวอย่างดวงจิตใด.. เขาก็มีอยู่แล้ว
ลูกแค่ทำตามที่พระพุทธเจ้าทรงเมตตาบอก..ก็พอเจ้าค่ะ... ทุกอย่างก็จะขับเคลื่อน ตามเหตุของมัน เจ้าค่ะ..
พระยาธรรมเอย.. แล้วเมื่อลูกนั้นประกาศธรรมจบแล้ว.. การสืบทอดธรรม จะเป็นไปเช่นไร พอจะเข้าใจหรือไม่... จงกล่าวธรรมนั้นมาเถิด
พระยาธรรม สาธุเจ้าค่ะ เมื่อลูกได้ประกาศธรรมแล้ว.. ดวงจิตที่เขาสามารถเข้าถึงพระนิพพานได้..เขาก็จะสำเร็จ กลับคืนสู่พระนิพพาน
และพลังจิตเหล่านั้น.. ก็จะช่วยกันค้ำสายธรรม ให้ประกาศถึงความสำเร็จอย่างแท้จริง
เพื่อเป็นพลังงานที่เข้มแข็งให้ดวงจิตทั้งหลายในโลกได้เรียนรู้ตาม อีก 2 พันกว่าปี จนกว่าจะจบสิ้นศาสนา
กลุ่มดวงจิตใดที่ยังไม่สามารถเข้านิพพานได้เลย.. ก็คงจะต้องกลับมาเกิดในยุคหลัง
จากนี้ไป 2-300 ปี 400 ปี 5-600 ปี จนถึง 2,000 ปี ..แล้วแต่ใครจะมาช่วงไหน
แต่จิตเหล่านั้น ก็จะมาสร้างความสำเร็จ การเป็นอรหันต์สืบทอดกันไป จนกว่าจะหมดยุคนี้..
เพื่อให้คนรุ่นหลังได้เห็นว่า ยังมีหนทางการสำเร็จอยู่
ส่วนดวงจิตกลุ่มใดที่บำเพ็ญเพื่อรอรอบขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า องค์พระศรีอาริยเมตไตรย ดวงจิตเหล่านั้น.. เขาก็จะไปอยู่ที่โลกของสวรรค์
หรือว่าในที่ที่เขาบำเพ็ญรอรอบการก่อเกิดในแต่ละยุค เพื่อที่เขานั้น จะได้สะสมบารมีเพิ่ม รอรอบขององค์พระศรีอาริยเมตไตรย
บางดวงจิตก็ไม่มาเกิด รอถึงองค์พระศรีฯ มาเลย ถ้าเขามีบุญมากพอ
เมื่อองค์พระศรีอาริยเมตไตรย มาบังเกิดบนโลก ก็จะได้มีดวงจิตที่เขาเหล่านั้น สะสมบารมีพร้อมอยู่แล้ว..
เขาก็จะขึ้นมา เพื่อที่เกิดมา เพื่อที่จะฟังธรรม เข้าใจง่ายๆ
แล้วก็รองรับการบังเกิดของพระพุทธเจ้าองค์ต่อไป แล้วก็ช่วยกันเผยแผ่ธรรม อีกครั้งหนึ่ง ในยุคโน้น ยุคขององค์พระศรีอาริยเมตไตรย..น่ะเจ้าค่ะ
แล้วก็จะมีดวงจิตที่เขาเข้ามาบำเพ็ญ ในยุคนี้ เพื่อรอการมาตรัสรู้ เป็นองค์พระปัจเจกพุทธเจ้า ในช่วงที่ว่างเว้นศาสนา
ยังมีผู้ที่สร้างบารมี ไปเป็นพระโพธิสัตว์ เพื่อที่จะลงมาช่วยมนุษย์ทั้งหลาย ในช่วงที่ว่างเว้นศาสนา
ลงมาฉุด มาช่วย ให้พ้นจากความทุกข์ยาก ลำบาก ก็จะมีการสืบทอดธรรม เช่นนี้ละเจ้าค่ะ
พระยาธรรมเอย ดีแล้วละ ที่ยังพอเข้าใจรหัสชีวิตของตนเอง ว่าตนนั้นก่อเกิดมา เพราะอะไร เพื่ออะไร
ยังพอเข้าใจตนเองว่า ตนนั้นมีสภาวธรรมเป็นแบบไหน
ยังพอรู้จุดมุ่งหมายของงานที่ตนจะทำไป แล้วรู้สึกว่าอย่างไรเล่า ตึงเครียดกับสิ่งที่รู้หรือเปล่า
พระยาธรรม ตอนนี้ ก็ไม่ตึงเจ้าค่ะ แต่ก็ไม่รู้ว่า ช่วงระหว่างที่สอบ อา..สอบ..สิ่งต่างๆ ที่ผ่านเข้ามาจริงๆนั้น
มันจะมีอารมณ์ตึงเครียด เข้ามาบ้างหรือเปล่า
อันนั้น.. ลูกก็ยังไม่แน่ใจ แต่ว่าตอนนี้ไม่มีเจ้าค่ะ เพราะว่าลูกก็เข้าใจแล้วว่า เราแค่ทำตามหน้าที่ของเรา ไปเรื่อยๆ
ส่วนดวงจิตทั้งหลาย เขามีบุญของเขารอรอบอยู่แล้ว คนไหนที่เขาสามารถทำได้ ไม่ได้ ก็เห็นเป็นธรรมดา
และที่เราไปที่สวนธรรม พระพุทธองค์ก็บอกอยู่แล้วว่า ดวงจิตผู้ที่จะเข้าถึงความดี มีมากเท่ากับใบโพธิ์บนโลกนี้
แต่ดวงจิตทั้งหมด ในวัฏสงสารนี้ มีมากเท่ากับใบไม้บนโลกนี้
ฉะนั้น มันก็แสดงให้เห็นได้อยู่แล้วว่า ดวงจิตที่เขาจะเข้าถึงธรรม มันมีน้อยมาก ถ้าเทียบกับดวงจิตทั่วไป
ลูกจึงคิดว่า มันเป็นธรรมดาของมัน เช่นนั้น ทุกสรรพสิ่ง มีเหตุของมันไว้อยู่แล้ว เราแค่ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด
แล้วหน้าที่ดีที่สุดของเรา ก็จะส่งผลให้ทุกอย่างเป็นไปในทิศทางที่ดี เท่านั้นละเจ้าค่ะ
พระยาธรรมเอ๋ย แล้วหน้าที่ดีที่สุดของลูกนั้นน่ะ คือ อะไรเล่า เข้าใจหรือเปล่า จงกล่าวธรรมนั้น มาเถิด
พระยาธรรม หน้าที่ที่ดีที่สุด ก็คือเรียนรู้ เชื้อกิเลสตัณหา ความสุข ความทุกข์บนโลก กฎแห่งกรรม และกฎของความไม่เที่ยงแท้
ให้รู้แจ้ง ในวัฏสงสาร แล้วก็รู้ เหตุที่เกิด เหตุที่ดับของสรรพสิ่ง
เราก็จะได้ชี้ทาง บอกทางเขาได้ อย่างนี้ละเจ้าค่ะ เข้าใจว่าเช่นนี้.. เจ้าค่ะ
พระพุทธองค์ ดีแล้วละ ค่อยทำ ค่อยเรียนรู้ไป แล้วมีอะไรที่ลูกนั้น รู้สึกว่ามันยังขัดข้องในใจ หรือว่าไม่แน่ใจ หรือเปล่า
พระยาธรรม สาธุเจ้าค่ะสิ่งที่มันอยู่ในใจ ก็มีสภาวธรรมแปลกๆ ที่ 2-3 วันนี้ ลูกเห็นว่า มันเป็นเช่นนั้น เจ้าค่ะ
ลูกเห็นว่า ลูกนี้เป็นสภาวธรรมของธรรมะ ธรรมะที่มีอยู่ในตัวของลูก ลูกมีอยู่ในตัวของธรรมะ แล้วลูกก็เป็นบริสุทธิ์ๆ แบบนี้ แล้วก็เป็นแบบธรรมดา แบบนี้
แบบว่า กลิ้งไปกลิ้งมา ตามประสาของธรรมะ ดวงธรรมนั้นใครที่เข้ามา เฉพาะที่จะชี้ทางหรือให้อะไรกับเขา ให้เขาเรียนรู้ เราก็ให้ไป
และมีความเป็นธรรมชาติ บริสุทธิ์ของธรรม ถ้าทุกคนที่อยู่รอบข้าง เขามองด้วยจิตด้วยใจ ด้วยการวางอัตตาทิฐิของตัวเขา
เขาจะเรียนรู้ธรรม จากความเป็นธรรมชาติของลูกได้มากเลยทีเดียว จะทำให้เขาหลุดพ้นได้ น่ะเจ้าค่ะ
ลูกรู้จุดอย่างนี้น่ะเจ้าค่ะ แล้วก็ไม่แน่ใจว่ามันใช่หรือเปล่า
พระพุทธองค์ ดีแล้วหละ พระยาธรรมเอ๋ย..ที่ยังพอเข้าใจ ถูกต้องแล้วหละลูก ลูกนั้นเกิดมาโดยสภาวธรรมที่รวมกันมาจากธรรมทั้งปวง
ลูกจึงมีความถูกต้องอยู่ในตัวของลูก จึงมีความจริงที่ซ่อนอยู่ในตัวของลูก มีทางที่แท้จริงซ่อนอยู่ในลูก
เพียงแต่ลูกก็จะมีสภาวธรรมที่แสดงออกมาทางเปลือกภายนอก เพื่อสอบจิตของผู้คนที่พบเห็น สอบอัตตา สอบความยึดดี ถือดี สอบตัวตนของเขา
ในความปิดกั้นของเขาเอง หรือว่าจะเปิดโอกาส อยู่ที่ตัวของเขาทั้งหลายแล้ว
ลูกนั้น สักว่า แสดงหลอกล่อไป ทุกคนที่อยู่รอบข้างลูก หากเปิดจิตใจอย่างแท้จริง เขาจะเห็นความจริงที่มาจากตัวของลูก
เพราะลูกคือ สภาวะธรรมแห่งธรรม ธรรมราชา
ธรรมะแห่งพระยาธรรมิกราช ที่ก่อเกิดขึ้นโดยสภาวธรรมอันสูงสุด
มาเปิดธรรมในกึ่งศาสนานี้ เพื่อให้ทุกดวงจิต หลุดจากการเวียนว่ายตายเกิด
ลูกเป็นการรวมพลัง มาจากทุกพระองค์
เพียงแต่ว่า.. ก่อเกิดมาในยุคของศาสนานี้ ศาสนาของพระสมณโคดม
เกิดมาจาก เส้นเกศา เกิดมาจากการเป็น นกน้อย เกิดมาจากการเป็น เทวดาน้อย
.. แต่สิ่งเหล่านั้น คือเหตุที่เกิดเฉยๆ พลังที่ไปเกิดอย่างแท้จริง รวมมาจากพลังธรรม ลูกจึงเป็นผู้ที่มี “สรรพสิ่งทั้งหลาย”อยู่ในตัว
จิตทั้งหลาย.. ผู้ที่จะเข้ามาศึกษาธรรม จึงเป็นผู้ที่จะได้รับทุกอย่าง จากตัวของลูก
ขอเพียงแค่ ให้ วางอัตตา วางความยึดดี ถือดี ตั้งใจศึกษาอย่างแท้จริง..
** คัมภีร์ธรรม ทั้งโลก จักรวาล อยู่ในตัวของลูกแล้ว ** เช่นนี้ละ พระยาธรรมเอย..จงทำหน้าที่แห่งตนต่อไปเถิด…
พระยาธรรม สาธุเจ้าค่ะ กราบขอบพระคุณ องค์บรมบิดาพระผู้สร้างโลก พระพุทธเจ้า ทุกพระองค์ พระปัจเจกเจ้า ทุกพระองค์ พระอรหันต์เจ้า ทุกพระองค์
กราบนอบน้อมองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า องค์พระสมณโคดม พระผู้เมตตา
กราบนอบน้อมบูชา คุณบิดามารดา คุณครูบาอาจารย์ทุกพระองค์ เจ้าค่ะ..ที่ทรงเมตตาลูก เมื่อข้าพระพุทธเจ้า ได้ก้มกราบแล้ว..
พระพุทธองค์ท่านก็ทรงแสดงให้ข้าพเจ้าเห็นว่า มีก้อนเมฆสีขาว ค่อยๆเข้ามาบังองค์บรมบิดา บังองค์พระพุทธเจ้าทุกพระองค์
แล้วทุกพระองค์ ค่อยๆหายไป ในความสว่าง
ข้าพเจ้าหันหน้ามองไป องค์พระโพธิสัตว์ทุกพระองค์ ก็เสด็จกลับคืนสู่ที่แห่งตน ... เพื่อประกอบกิจต่อไป
พระแม่ที่เป็นพระแม่กวนอิม องค์ที่หนึ่ง ที่ทรงเป็นองค์หลัก ที่คอยดูแลกวนอิมทั้งหมด 82 พระองค์
ก็เลยทรงยื่นมือมาจับมือของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าก็เลยเดินลงจากดอกบัว แล้วก็มาอยู่ตรงที่พ่อพระอินทร์นั่งอยู่ จึงยกมือไหว้พ่อพระอินทร์
แล้วข้าพเจ้ากับพระแม่ก็เสด็จกลับคืนสู่ความเป็นมนุษย์ สู่กายของมนุษย์
วันนี้ จึงเป็นธรรมะที่ข้าพเจ้าเล่าสภาวธรรมของการก่อเกิด *พระยาธรรม* ในกึ่งศาสนา และความในเข้าใจการก่อเกิดของตัวของข้าพเจ้าเอง
และหน้าที่ สภาวะของการปรับเปลี่ยน เปลี่ยนแปลง สิ่งที่จะมาประกาศบนโลก ... ข้าพเจ้าจึงเล่าสู่ทุกคนฟัง
ส่วนจะมีการเผยแผ่ธรรม แบบไหน ยังไงต่อไปนั้น..ทุกคน ก็จะได้ศึกษาตามกันไป.. เรียนรู้กันไป
เราทุกคน จะช่วยกันสร้างธรรมของพระพุทธองค์ให้ดี ให้สืบทอด ให้ทุกดวงจิต.. ได้เรียนรู้ด้วยกัน
ขอให้ทุกคนผู้ประสบ พบกับความสำเร็จ และสามารถฟันฝ่าอุปสรรคของตัวเอง เข้าถึงธรรม ที่ข้าพเจ้าได้นำมาเผยแผ่ในกึ่งศาสนานี้ ทุกดวงจิตนะจ๊ะ
สาธุ......