ศีลเป็นกรอบของการทำความดี ละเว้นความชั่ว เว้นจากการเบียดเบียนซึ่งตน และผู้อื่น ศีลจึงเป็นกติกาของคนดี ที่ให้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข
วัดวาอารามไม่ใช่สุสานคนเป็น นักบวชผู้บำเพ็ญคือผู้เห็นภัยในวัฏสงสาร ฉะนั้น จงแบ่งเวลาเพื่อประพฤติปฏิบัติ ให้เห็นทางแห่งความพ้นทุกข์เถิด
ผู้มีปัญญาธรรม คือผู้ที่มีแสงสว่าง ทำให้รู้แจ้ง เห็นจริง ในสรรพสิ่งทั้งหลายตามความเป็นจริง ทำให้ไม่ลุ่มหลง ไม่ยึดติดในสิ่งใด เกิดการปล่อยวาง ทำให้พ้นจากความทุกข์
ชีวิตเป็นสิ่งไม่เที่ยง ต้องรีบเร่งขวนขวายความดี ด้วยความตั้งใจ ขยันหมั่นเพียร อดทน เพื่อให้เกิดความสำเร็จ ให้จิตหลุดพ้นจากความทุกข์
การทำทานเป็นการหยิบยื่นแบ่งปัน ในสิ่งที่มีให้เกิดประโยชน์ เกิดความสุขแก่ผู้อื่น และทำให้ตนได้ละความยึดติด ลุ่มหลง ในข้าวของ ในสิ่งที่มี ทำให้พบกับความสุข เป็นการก้าวไปสู่ความพ้นทุกข์
ความอดทนเป็นหนทาง แห่งความสำเร็จ ทำสิ่งใดถ้าขาดความทน จะพบความสำเร็จเป็นไปไม่ได้ ฉะนั้น จงอดทนอดกลั้นในสิ่งทั้งหลาย ที่มาล่อหลอกให้เราออกนอกกรอบของความดี ของการเป็นคนดีของเราเถิด ชัยชนะ ความสำเร็จ ความหลุดพ้น จะพึงเกิดขึ้นแก่เรา
การที่คิดจะทำอะไร พูดอะไรออกไป ต้องพิจารณาให้รอบคอบก่อน ว่าทำได้จริง เป็นจริงเช่นนั้นหรือเปล่า เพราะอาจจะนำมาซึ่งความไม่เชื่อถือ ในคำพูด จะเป็นอุปสรรคตัดรอน ในการที่จะทำความดี ให้ถึงที่สุดแห่งความดีได้
ความตั้งใจ ความปรารถนาในสิ่งใด การอธิษฐานคือเป้าหมาย จุดหมาย เส้นชัย ของการสร้าง การทดสอบบารมีฉะนั้น การสร้างความดี จะขาดอธิษฐานไม่ได้ เพราะเป็นกรอบ เป็นเป้าหมายในการสร้างความดี
ความเมตตาเป็นธรรมค้ำจุนโลก จิตที่มีความเมตตา จะอุดมสมบูรณ์ชุ่มชื่นไปด้วยความสุข ความเมตตาไม่ปรารถนาให้ใครได้รับทุกข์ จึงไม่สร้างกรรมเบียดเบียนใคร สังคมจึงสงบสุข ร่มเย็นด้วยความเมตตา
อุเบกขา คือ การปล่อยวาง ว่างอยู่ในจิต ช่วยได้ก็ช่วย เกินกำลังก็ปล่อยวางให้ทุกอย่างเป็นไป ตามกฎของกรรม ทำแบบไม่ให้ทุกข์ ทำอย่างอุเบกขา จึงจะอยู่ในกรอบของความดี
ตอนที่ ๕ สิ่งใดที่จะได้พบเมื่อสร้างบารมี