… ตอนที่ ๗๔ ความหลงเป็นอย่างไร***
ความหลงคืออะไร นำทุกข์มาให้ได้อย่างไร
ความหลง คือ การไม่รู้ตามความเป็นจริง หลงในสิ่งใด ก็จะยึดติดในสิ่งนั้น อยากได้สิ่งนั้นมาครอง หลงมากก็ทุกข์มาก เกิดการเบียดเบียนตนและผู้อื่นให้เป็นทุกข์ เกิดหนี้กรรมต้องกลับมาชดใช้ ต้องเวียนตายเวียนเกิดไม่จบไม่สิ้น เวียนไปวนมาเหมือนคนหลงทาง จนกว่าจะรู้ตัวรู้ตน ถอดถอนตนออกจากความยึดติดทั้งหลายนั้นได้ จึงจะไม่กลับมาหลง มาเกิดอีก
ลุ่มหลงในสิ่งใด จะเป็นทุกข์เพราะสิ่งนั้น ยึดติดในสิ่งใด ก็เป็นทุกข์เพราะสิ่งนั้น คลายความลุ่มหลง คลายความยึดติด ด้วยสมาธิ สติปัญญา แสวงหาความดี ให้สร้างเหตุตามปัจจัยที่มี ปรารถนาความดีเกินความพอดี ก็จะเป็นความลุ่มหลงไป
… ตอนที่ ๕๖ ลุ่มหลงในกามคุณ ***
กามคุณทั้งหลาย ที่ผ่านมาทางตา หู จมูก ลิ้น สัมผัสทางกาย เป็นความสุขแค่นิดเดียว สุขแค่ลมพัดผ่าน ต้องเสียเวลา และต้องแสวงหา ให้ได้ความสุขชั่วคราวอยู่ร่ำไป ไม่ใช่ความสุขที่แท้จริง ปล่อยความสุขทางกามคุณทั้งหลายได้ ก็เข้าใกล้ความพ้นทุกข์ พบความสุขที่แท้จริง
ความลุ่มหลงในสิ่งล่อตา ล่อใจ ทั้งหลาย เมื่อเห็นว่าดี ย่อมตกเป็นทาสของมัน ย่อมเร่าร้อน อยู่กับความทุกข์ เพื่อให้ได้มันมาก็เป็นทุกข์ เมื่อต้องสูญเสียไปก็เป็นทุกข์ จงทำจิตปล่อยวาง ในสิ่งทั้งหลาย เพื่อให้เบาสบาย ว่างเปล่า ไร้ซึ่งความทุกข์
ผู้ที่มองแต่คนอื่น ไม่มองตนเอง ผู้ที่เห็นแต่คนอื่น ไม่เห็นคนเอง ผู้ที่คิดเพ่งโทษคนอื่น ไม่เพ่งโทษตนเอง ผู้ที่ใช้วาจาคำพูดเชือดเชือน กระทำการเบียดเบียนผู้อื่น บุคคลผู้นั้นกำลังเป็นคนหลง จงกลับมาทำความดี เว้นจากการเบียดเบียนเถิด จะได้เป็นคนดี ไม่เป็นเป็นผู้เดินหลงทาง
ทรัพย์สิน เงินทอง ข้าวของ มีไว้เพื่อสิ่งใด มีไว้เพื่อลุ่มหลงให้เป็นทุกข์ หรือมีไว้เพื่อสร้างความสุข สิ่งที่เป็นอยู่ หน้าที่การงาน ยศฐาบรรดาศักดิ์ ตำแหน่ง มีไว้เพื่อสร้างความดี หรือสร้างกรรมเบียดเบียน ผู้มีปัญญาจะรู้ จะเข้าใจ จะเป็นผู้ผ่านด่านทดสอบ ความลุ่มหลง ไม่เสียเวลา ไม่เสียแต้มคะแนนความดี กับสิ่งที่มาล่อหลอกเหล่านั้น
สรรพสิ่งที่เกิดในโลก จะเกิดโดยธรรมชาติ หรือมนุษย์สร้างขึ้นมา ให้มีคุณค่าหรือไม่ อยู่ที่การสมมติ ถ้าไม่รู้ ไม่เข้าใจในความเป็นจริง ก็จะเป็นทุกข์ เพราะความต้องการ ความยึดติด ความลุ่มหลง และการเบียดเบียนกัน เพื่อให้ได้มา ซึ่งสิ่งสมมติทั้งหลายนั้น ผู้ที่เป็นทุกข์เพราะสิ่งสมมติ จึงเป็นคนหลงโลก หลงสมมติ
อำนาจเปรียบได้ดั่งไฟ ตกไปอยู่ในมือของคนดี ก็นำไปใช้ก่อให้เกิดประโยชน์ ตกไปอยู่ในมือคนชั่ว ก็นำไปสร้างโทษ ผู้ที่ลุ่มหลงในอำนาจ จึงเหมือนตกไปอยู่ในกองไฟ มีความเร่าร้อน ก่อนได้อำนาจมาก็เป็นทุกข์ ได้มาแล้วก็เป็นทุกข์ สูญเสียไปก็เป็นทุกข์ จึงไม่ควรหลงอยู่กับความทุกข์ อยู่กับอำนาจนั้นเลย
จิตของบุคคลใด ที่กำลังหลงรักใครอยู่ ดวงจิตนั้นมีเชื้อความหลงและความรัก ที่ครอบงำจิตใจ จะทำให้เป็นทุกข์ เร่าร้อน จะต้องแสวงหาอาหารของเชื้อเหล่านั้น เติมเต็มเข้าไป ต้องได้เห็นหน้า ต้องได้ยินเสียง ไม่เช่นนั้นจะเร่าร้อน ทุรนทุรายเป็นความทุกข์ ฉะนั้น จงถอดถอนทำลายเชื้อความหลง ความรักนั้นเสีย ด้วยการมีสติ ปัญญา พิจารณาให้เห็นความเป็นจริงในสิ่งที่กำลังลุ่มหลง กำลังรักอยู่เถิด จะได้ไม่ต้องเป็นทุกข์
มนุษย์ส่วนมากจะหลงในร่างกายตนเอง และจะหลงยึดติดในร่างกายของบุคคลอื่น เปรียบเช่นดอกไม้ที่สวยงาม แต่ไม่สามารถที่จะประคับประคอง ให้สวยงดงามตลอดไปได้
แม่ชีแววออกบวชมาปีกว่าแล้ว แต่มีสภาวธรรม ที่ซับซ้อนซ่อนอยู่ภายใน ยากที่จะเข้าใจ ในสิ่งที่เขาเป็น ภายนอกดูดีทุกอย่าง แต่ภายในจิตใจ กลับมีกระแสของความไม่สงบ สับสนวุ่นวาย เกิดขึ้นบ่อยครั้ง จึงทูลขอพุทธองค์ให้แสดงธรรมโปรดเฉพาะ เพื่อจะได้เข้าใจในสิ่งที่เป็นอยู่
...ตอนที่ ๓๗ ทำยังไงไม่ให้หลงในโลกทิพย์
ฝึกฝนจิตทำสมาธิ สามารถแยกจิตออกจากกาย ได้ไปพบเจอว่าตนเป็นเทพผู้ใหญ่ มีทิพย์สมบัติ วิมานเวียงวัง บริวารมากมาย จะทำยังไงไม่ให้หลงไป กับสิ่งที่เห็น ในสิ่งที่มี พระพุทธองค์ท่านทรงชี้บอกยังไง ลองไปฟังดู
… ตอนที่ ๑๙ หลงอยู่ในธรรมของโลก
การกระทำสิ่งใดในโลกนี้ หากทำเพื่อลาภ เพื่อยศ เพื่อคำสรรเสริญ เพื่อจะให้ได้มาซึ่งความสุขแล้วนั้น ขอให้ได้พึงระลึกเสมอว่า ธรรมของโลกมาเป็นคู่เสมอ ถ้าปรารถนาในลาภ จะเจอเสื่อมลาภ ถ้าปรารถนาในยศ จะพบเสื่อมยศ ถ้าปรารถนาในคำสรรเสริญแล้วไซร้ คำนินทาจะตามหลังมาทันที ความทุกข์อันว่าไม่ปรารถนานี้ ก็จะมาเยือนเช่นกัน
… ตอนที่ ๕๑ หลงโลก หลงธรรม *****
ขึ้นชื่อว่า ความหลง ไม่ว่าจะหลงในสิ่งใด ก็จะเป็นเหตุของความทุกข์ หลงในโลก จึงติดอยู่ในโลก หลงในธรรม จึงติดอยู่ในสวรรค์ ไปพระนิพพานไม่ได้ ผู้ที่ไม่หลง ไม่อยาก ไม่ยึด ไม่เบียด เป็นผู้ดับกิเลส ตัณหา ละอุปาทาน ไม่สร้างบาป อกุศลกรรมเพิ่ม จึงจะเป็นผู้ก้าวออกจากความหลง เป็นผู้พ้นจากความทุกข์
ความดีเปรียบได้กับสีขาว แต่สีขาวแบบไหน ที่ขาวอย่างแท้จริง ขาวที่สุด เมื่อหลงว่าสีขาวที่มีอยู่ เป็นสีขาวแล้ว จึงไม่แสวงหาสีขาวที่ขาวยิ่งกว่า ดียิ่งกว่าอีก เช่นเดียวกับคนหลงดี ว่ามีดีแล้ว จึงไม่สร้างไม่ทำความดี ไม่รับความดีเข้ามาอีก จึงเรียกว่าเป็นคนหลงดี จึงทำให้ไม่หลุดพ้นจากความทุกข์
ความทุกข์ทั้งหลาย เกิดขึ้นได้เพราะมีเรา มีเราได้เพราะการเกิด เหตุของการเกิด มีมาจากความลุ่มหลง ก่อให้เกิดความอยากได้ อยากมี อยากเป็นตามมา เมื่อได้มาสิ่งใด ก็มีความยึดมั่นถือมั่น ว่าเป็นของเรา เพื่อให้ได้มาบางครั้ง ก็เล่นผิดกติกาผิดกฎเกมส์ สร้างกรรมเบียดเบียนซึ่งกันและกัน ทำให้ต้องเวียนมาเกิด มาชดใช้หนี้กรรมม่จบไม่สิ้น สิ่งที่เป็นตัวล่อ ตัวหลอกในเกมส์ที่ขาดไม่ได้นั้น คือ ความสวยงาม
ความสุขเป็นสิ่งที่มนุษย์ทุกคน ดิ้นรนแสวงหา แต่ยิ่งหากลับยิ่งทุกข์ คิดว่าถ้าได้สิ่งนี้มา จะเป็นสุข แต่เมื่อคว้ามาได้ กลับพบสุขแค่นิดหน่อย ที่เหลือส่วนมากมีแต่ความทุกข์ เพราะแท้ที่จริงแล้ว ความสุขทางโลก จะมีแต่ความสุข ไม่เจือด้วยความทุกข์นั้นไม่มี ดังนั้นหยุดแสวงหาความสุขทางโลก แล้วมาแสวงหา ความสุขทางธรรมเถิด จึงจะพบกับความสุข อย่างแท้จริง
การแสวงหาความสุข ในช่วงเวลา อันน้อยนิด ข้องเกี่ยวลุ่มหลง ผูกพัน อยู่กับความสุขทางโลก เปรียบเหมือนกับปลาติดเบ็ด จากเหยื่อทั้งหลาย ที่เขาเอามาหลอก มาล่อ ให้ปลาติดเบ็ด ย่อมมีความทุกข์อยู่ตลอดเวลา เมื่อตายไปแล้ว ต้องกลับมาเกิดใหม่ ลุ่มหลงอยู่อีก ติดอยู่อีก ผู้มีปัญญาเห็นเช่นนี้ รู้เช่นนี้แล้ว ย่อมจะไม่หลง ในเหยื่อทั้งหลาย ที่มาล่อมาหลอก ให้ต้องติดอยู่ในความทุกข์ในโลกอีก
จิตมาอาศัยอยู่ในร่างกาย ยึดถือไว้ว่าเป็นของตน ทำให้หลงยึดมั่นถือมั่น ว่าสิ่งทั้งหลายที่เกี่ยวเนื่องเกี่ยวพัน กับร่างกายเป็นของตนด้วยเช่นกัน แต่ภายใต้กฏของธรรมชาติที่ไม่เที่ยง ทำให้เกิดทุกข์ ฉะนั้น ต้องคลายความยึดมั่น ถือมั่นในร่างกายเสีย เพื่อจะได้คลายความยึดถือในทุกสรรพสิ่ง เพื่อจะได้ไม่เกิดความทุกข์
… ตอนที่ ๘๕ หลงดี ***
บุคคลเช่นใดที่มีลักษณะเรียกว่าหลงดี
ผู้ที่ทำความดีแล้ว นำความดีมายึดถือไว้ จนทำให้เหนื่อยให้หนัก เพราะความคิดว่า ได้ทำดีมาเยอะแล้ว จนไม่สามารถทำความดีต่อไปได้ ให้ถึงที่สุดแห่งความดี จนสามารถดับการเกิดได้ เรียกว่าทำดีแล้ว ยึดดี ถือดี หลง
… ตอนที่ ๙๕ ทำอย่างไรไม่ให้ลุ่มหลง ***
จะทำอย่างไร ที่จะไม่ให้เกิดความลุ่มหลงขึ้นในจิตใจ
ความลุ่มลงจะเกิดขึ้น ก็ต่อเมื่อ ทำสิ่งใดเกิดจากความอยาก มีความยึดติดในสิ่งที่ทำ จนเกิดการเบียดเบียนตนและผู้อื่น ถ้าไม่ปราถนาให้เกิดความลุ่มหลง จงใช้สติ ระลึกรู้อยู่ในสิ่งที่ทำ พิจารณาเห็นถึงความไม่เที่ยงแท้ แล้วปล่อยวาง ให้เป็นไปตามกฎเกมส์ของธรรมชาติ จึงจะเป็นผู้ไม่ลุ่มหลงต่อสิ่งใด เพราะไม่ยึดถือกับอะไร อยากให้มันเป็นเช่นนั้น เช่นนี้ จึงไม่มีความทุกข์อีกต่อไป
… ตอนที่ ๔๓ เหตุใดที่ทำให้ลุ่มหลง
...ตอนที่ ๒๓ หลงหรือไม่ เขาดูกันยังไง *****
ธรรมชาติของจิตทุกดวง ที่ยังไม่สามารถออกไปจากวัฏสงสาร ย่อมยังมีความลุ่มหลงเป็นธรรมดา การจะทำสิ่งใดขึ้นมา จะหลงหรือไม่ ถ้าไม่เบียดเบียนใคร ก็ให้ทำไป