พระยาธรรมิกราช ตอน ดวงตาเห็นธรรม
เราเป็นใคร มาจากไหน มาทำอะไร จะไปไหน ถ้ายังไม่รู้ความจริงทั้งหลายเหล่านี้ เปรียบเสมือนคนตาบอด ถ้ารู้ในเรื่องเหล่านี้ รู้ตัว รู้ตน รู้หนทาง เปรียบเหมือนคนตาดี แต่ถ้ารู้บ้าง ไม่รู้บ้าง ชัดบ้าง ไม่ชัดบ้าง จงเร่งขวนขวายแสวงหาความรู้ เพื่อเช็ดสิ่งที่ปิดบังตาบังใจ ให้สว่างให้รู้แจ้งในสรรพสิ่งทั้งหลายเถิด จะได้ไม่ลุ่มหลงในสิ่งล่อหลอก ลวงตาลวงใจทั้งหลายให้ จมอยู่ติดอยู่ในกองทุกข์ นำแสงสว่างสู่จิตใจของเรา เป็นผู้มีดวงตาเห็นธรรม
...ตอนที่ ๒๑ ธรรมะมีมากขนาดไหน
ธรรมะ คือธรรมชาติ มีขึ้น ตั้งอยู่และดับไป จึงมีมากมายมหาศาล พระธรรม คือ คำสอนให้เห็น สิ่งที่เป็นไปตามธรรมชาติ เรียนธรรมะให้จบได้ แค่รู้เหตุที่เกิด เหตุที่ดับในตน นำตนให้พ้นจากความทุกข์ เท่านั้นเอง
ร่างทรง คือ ร่างกายที่มีจิตดวงอื่น มาแฝง มาผ่าน
เพื่อสื่อ หรือทำอะไรบางอย่าง มีทั้ง ที่เคยมีกรรมต่อกันมา
มีทั้งสัญญากันไว้ จะมาร่วมบุญสร้างบารมี มีทั้งที่ดี และยุ่งเหยิง
แตกต่างจากพระยาธรรม เป็นร่างที่ถูกลิขิตมา
เพื่อรองรับดวงจิต ที่มาทำหน้าที่เผยแผ่ธรรม ได้ฟอกกาย ฟอกจิต
จนอยู่เหนือกิเลส ตัณหา ไม่มีสิ่งใดมาปิดกั้น สติและปัญญา
เข้าใจสภาวธรรม ความเป็นจริงได้ทุกอย่าง
ไปมาได้ทุกที่ ทุกแห่งหน เข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า ได้ทุกพระองค์
จึงไม่ใช่เป็นร่างทรง
การเรียนรู้พระธรรมคำสอน เปรียบเหมือนการเรียนรู้แผนที่การเดินทาง
การจะสำเร็จในธรรมนั้น ต้องปฏิบัติให้เข้าถึงด้วยตนเอง
ไม่ใช่เป็นผู้รู้จากตำรา เหมือนรู้จักแผนที่การเดินทาง แต่ไม่เคยไป
จะเรียกว่าผู้รู้ ผู้สำเร็จในธรรมยังไม่ได้ การที่รู้ไม่เท่าการที่ทำเอง
การที่ทำเองจึงจะเป็นการที่รู้อย่างแท้จริง
หนึ่งแสนความรู้ ไม่เท่ากับหนึ่งครั้งที่พิสูจน์
หนึ่งแสนคำพูดที่ฟังมา ไม่เท่ากับหนึ่งครั้งที่สำผัส
จงยืนหยัดในการบำเพ็ญ ปฏิบัติเพื่อให้รู้ได้เห็นด้วยตนเอง
การศึกษาเรียนรู้เข้าใจในธรรม นำมาสู่การปฏิบัติและการทดสอบจิต
เพื่อปรับเลื่อนระดับบารมีธรรมให้สูงขึ้น การศึกษาเรียนรู้และทดสอบ
จะมีไปเรื่อยๆจนกว่า จะเป็นผู้สำเร็จในธรรม พ้นทุกข์แล้ว
เป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน อย่างแท้จริง
จึงจะจัดไว้ในตำแหน่งของผู้บอกทาง ชี้ทางให้ผู้อื่นได้รู้และปฏิบัติตาม
ดวงจิตมีที่มาต่างกัน สภาวจิตสภาวธรรมจึงแตกต่างกัน
การเข้าใจเข้าถึงธรรมคำสอน จึงไม่เสมอกัน
ขึ้นอยู่กับการสร้าง การสั่งสม อบรมมาในกาลก่อน
ดังนั้น เราควรทำใจให้เป็นกลาง ที่รับรู้ เรียนรู้คำสอน
เพื่อให้ได้คำสอนที่เหมาะสมกับดวงจิตของเรา
จะได้นำทางให้เราออกจากความพ้นทุกข์ โดยใช้ความสนใจพอใจในธรรมที่เหมาะกับเราก่อน แล้วตั้งใจขวนขวายพิจารณาเหตุ
พิจารณาผลตาม ปฏิบัติตามภายใต้กรอบของการไม่เบียดเบียน
ไม่หลง ไม่ยึดติดในสิ่งใด แม้แต่ธรรมคำสอนเอง เพราะธรรมก็ไม่เที่ยง
มีสูงมีต่ำมีหลายระดับ แตกต่างกันออกไป
เราเป็นใคร มาจากไหน มาทำอะไร จะไปไหน
ถ้ายังไม่รู้ความจริงทั้งหลายเหล่านี้ เปรียบเสมือนคนตาบอด
ถ้ารู้ในเรื่องเหล่านี้ รู้ตัว รู้ตน รู้หนทาง เปรียบเหมือนคนตาดี
แต่ถ้ารู้บ้าง ไม่รู้บ้าง ชัดบ้าง ไม่ชัดบ้าง จงเร่งขวนขวายแสวงหาความรู้ เพื่อเช็ดสิ่งที่ปิดบังตาบังใจ ให้สว่างให้รู้แจ้งในสรรพสิ่งทั้งหลายเถิด
จะได้ไม่ลุ่มหลงในสิ่งล่อหลอก ลวงตาลวงใจทั้งหลาย
ให้จมอยู่ติดอยู่ในกองทุกข์ นำแสงสว่างสู่จิตใจของเรา
เป็นผู้มีดวงตาเห็นธรรม
ขึ้นชื่อว่า ความหลง ไม่ว่าจะหลงในสิ่งใด ก็จะเป็นเหตุของความทุกข์
หลงในโลก จึงติดอยู่ในโลก หลงในธรรม จึงติดอยู่ในสวรรค์
ไปพระนิพพานไม่ได้
ผู้ที่ไม่หลง ไม่อยาก ไม่ยึด ไม่เบียด เป็นผู้ดับกิเลส ตัณหา ละอุปาทาน
ไม่สร้างบาป อกุศลกรรมเพิ่ม
จึงจะเป็นผู้ก้าวออกจากความหลง เป็นผู้พ้นจากความทุกข์
ศีล ธรรม สมาธิ ปัญญา เป็นเหตุปัจจัยที่ค้ำหนุนกัน
การที่จะฟังธรรมเข้าใจหรือไม่ จะต้องเป็นผู้มีศีล จะต้องเป็นผู้มีธรรม
จะต้องมีสมาธิ และเป็นผู้มีปัญญา
ผู้มีกิเลส ตัณหา ยึดติด มีมานะทิฐิ มีอัตตาตัวตนมาก
จึงปกปิดปัญญา ไม่สามารถฟังธรรมเข้าใจ
ไปปฏิบัติธรรมที่วัดนี้ ก็ไม่สงบ ปฏิบัติที่สถานธรรมนี้ ก็วุ่นวาย
จะไปปฏิบัติธรรมที่ไหนดี ที่ไหนก็ไม่ดี ที่ไหนก็ไม่สงบ
ตราบใด ยังไม่ปฏิบัติที่เรา ปฏิบัติที่จิต กาย ใจ ของเรานี้แหละ
ถ้าเราสงบแล้ว ที่ไหนก็สงบ
การแสวงหาความสงบ จะพบได้เมื่อหยุดแสวงหา
เพราะความสงบที่แท้จริง คือการหยุดนิ่ง ปราศจากการดิ้นรนแสวงหา
38 พิธีเปิดสายปฎิบัติธรรมสัมมาสัมพุทธะ ปัจฉิมาสัมพุทธะ
พิธีเปิดสายปฏิบัติธรรมสัมมาสัมพุทธะ ปัจฉิมาสัมพุทธะ
วันที่ 16 พฤษภาคม 2557
พระยาธรรมิกราช พุทธโอวาทกึ่งพุทธกาล
ตอนที่ ๖๓ ความสุขชาวโลกและชาวธรรม
พระยาธรรมิกราช พุทธโอวาทกึ่งพุทธกาล
ตอนที่ ๗๑ เสียงธรรมที่นำมาเผยแผ่
พระยาธรรมิกราช พุทธโอวาทกึ่งพุทธกาล
ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนไม่มีจริง สิ่งที่เห็นเป็นเพียงสิ่งสมมุติ
การทำความดี เพื่อจะได้รู้แจ้ง ตามความเป็นจริงของชีวิต
จะได้ไม่ลุ่มหลง ยึดติด ในสิ่งสมมุติทั้งหลายเหล่านั้น
จะได้ไม่ต้องเป็นทุกข์ในสิ่งที่ไม่มีอยู่จริง
พระยาธรรมิกราช พุทธโอวาทกึ่งพุทธกาล
ตอนที่๑๖ สงสัยในความเป็นพระยาธรรม
องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า อุบัติขึ้นมาในโลก ยุคละหนึ่งพระองค์
ดำรงคำสอนอยู่ห้าพันปี พอถึงกึ่งกลางพระศาสนา
ก็จะมีพระยาธรรมิกราช ลงมาทำหน้าที่ประกาศคำสอน
จะมีได้เพียงหนึ่งพระองค์เท่านั้น ที่สามารถเข้าเฝ้า และสื่อคำสอน
เป็นองค์แทนของพระพุทธองค์
ตอนที่๑๗ ธรรมะที่แสดง ทำไมมีทั้งสูงและต่ำ
พระยาธรรมิกราช พุทธโอวาทกึ่งพุทธกาล
ตอนที่ ๔๘ การที่จะเป็นพระยาธรรม
พระยาธรรมิกราช พุทธโอวาทกึ่งพุทธกาล
21 กรรมฐานสัมมาสัมพุทธะ ปัจฉิมาสัมพุทธะ
สายปฏิบัติธรรมสัมมาสัมพุทธะ ปัจฉิมาสัมพุทธะนี้
ก่อเกิดมาในยุคของกึ่งศาสนา เพื่อมาเผยแผ่พระธรรมคำสั่งสอน
ในรูปแบบใหม่ตามยุค ตามสมัย เพื่อให้ได้เข้าใจถึงพระธรรมคำสั่งสอน
ตามแนวทางขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า โดยมีการสอนในรูปแบบใหม่
เพื่อให้ได้เข้าใจในพระธรรมคำสั่งสอนได้ง่ายขึ้น
ผู้มีพระมหากรุณาธิคุณ หาทางออก มาชี้บอกให้ออกจากความทุกข์
เป็นความดี รู้จักกตัญญู รู้จักเสียสละ รู้รักสามัคคี เป็นคุณธรรมของคนดี
ที่จะเข้าถึงความพ้นทุกข์ ผู้ที่ไม่รู้จักกตัญญู การเสียสละ ละวาง
ย่อมไปสู่พระนิพพานไม่ได้
การสร้างหุ่นรูปปั้น เพื่อเป็นองค์แทนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
… ตอนที่ ๑๗๙ ธรรมะมีอยู่ทุกที่ไม่มีชนชั้น
บุคคลที่จะศึกษาธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าได้
ต้องเป็นผู้ที่ไม่แบ่งแยกชนชั้น แบ่งหญิงหรือชาย แบ่งแยกเด็กหรือผู้ใหญ่ สูงหรือต่ำ เพราะธรรมะซ่อนอยู่ทุกที่ มีอยู่ในทุกสิ่ง
จึงจะเป็นผู้สามารถเข้าถึงแก่นแท้ของธรรมได้ เป็นผู้รู้แจ้งได้อย่างแท้จริง
… ตอนที่ ๑๒๕ ธรรมะที่นำมาเผยแผ่มีที่มาอย่างไร
การเผยแผ่ธรรมของพระยาธรรมิกราช นำคำสอนมาจากไหน
พระยาธรรมิกราชเป็นดวงจิตที่องค์สัมมาสัมพุทธเจ้าทุกพระองค์
ได้สร้างขึ้นมาเพื่อเป็นผู้แทนพระองค์ท่าน
มาเผยแผ่ในกึ่งศาสนาของทุกพระองค์
ในรอบนี้ก็เป็นกึ่งศาสนาของสมเด็จองค์ปัจจุบัน
ก็ได้สร้างพระยาธรรมิกราชมาเผยแผ่ธรรม ซึ่งทุกเช้าตอนตี ๕
ที่พุทธอุทยานภูสวรรค์ อำเภอเชียงของ ก็จะมีการแสดงธรรมสด
จากการที่พระยาธรรมนั่งสมาธิ น้อมจิตเข้าเฝ้าทูลถามปัญหาธรรม
หรือขอฟังธรรมจากองค์ท่านที่พระนิพพาน
และแสดงธรรมผ่านกายหยาบมาให้ทุกคนได้รับฟังทุกวัน
จึงเป็นโอกาสดีที่ทุกคนจะได้รับฟังธรรม
ที่มาจากองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าโดยตรงอีกครั้งหนึ่ง
รถเรือ บ้านช่อง ต้องสร้างให้แข็งแรงมั่นคง เพื่อปลอดภัยในร่างกาย
การทำความดีเพื่อหวังพระนิพพาน
ก็ต้องมั่นคงในศีล มั่นคงในธรรม มั่นคงในสมาธิ มั่นคงในปัญญาอยู่เสมอ
จึงจะมีสิ่งนำพาดวงจิตให้ไปสู่ความพ้นทุกข์ อย่างมั่นคง
… ตอนที่ ๕๕ การทำให้สำเร็จในการปฏิบัติธรรม
มีวิธีอย่างไร ที่จะทำให้สำเร็จในทางธรรม *****
ทางโลก แสวงหา ลาภ ยศ สรรเสริญ เป็นเหตุให้ได้มาซึ่งความสุข
เป็นความสำเร็จในทางโลก
ทางธรรม แสวงหา ความพ้นทุกข์ ด้วยการปฏิบัติในศีล ธรรม สมาธิ ปัญญา เพื่อถอดถอน ความยึดติด ความลุ่มหลง ในลาภ ยศ สรรเสริญ จนถึงขั้นการสลายอัตตาตัวตน ได้มาซึ่งความสงบสุข ไม่ต้องทุกข์กับสิ่งใดอีกต่อไปแล้ว เป็นความสำเร็จในทางธรรม
… ตอนที่ ๑๓๓ วิธีปฏิบัติสายธรรมสัมมาสัมพุทธะ ปัจฉิมาสัมพุทธะ
หลักคำสอนของสายธรรมสัมมาสัมพุทธะ ปัจฉิมาสัมพุทธะ มีอย่างไร
สายปฏิบัติสัมมาสัมพุทธะ ปัจฉิมาสัมพุทธะ มีพระยาธรรมิกราช
เป็นผู้นำธรรมคำสอนมาเผยแผ่ในกึ่งพุทธกาล มีหลักสูตรค้นหาตัวตน
เพื่อให้ผู้ปฏิบัติรู้จักที่มาของดวงจิตตน จะได้ไม่ลุ่มหลงในสิ่งที่มี ที่เป็น
จนเกิดความทุกข์ จะได้ทำหน้าที่ของตนก่อนหมดเวลา
… ตอนที่ ๖๗ สอนธรรมะผิด มีโทษอย่างไร **
การสั่งสอนผู้อื่น ให้เข้าใจผิด ทำให้หลงทาง จะมีโทษอย่างไร
การจะชี้บอกทางใคร เราควรเคยไปมาก่อน
จะได้ไม่ผิดพลาด ทำให้ผู้เดินตามหลงทาง
การสั่งสอนธรรมะแก่ใคร เราต้องเข้าใจถ่องแท้ในธรรมนั้น
ด้วยการสำเร็จในธรรมนั้นเสียก่อน จึงนำมาบอกสอนแก่ผู้อื่นให้เดินตาม
จะได้ไม่เป็นโทษ ให้ต้องกลับมารับกรรมในภายหลัง
เพราะได้สั่งสอนธรรมะผิดไป
… ตอนที่ ๖๘ สร้างพระพุทธรูปไปทำไม
การก่อสร้างพระพุทธรูป ได้ประโยชน์อะไร ไปนิพพานได้ไหม
การให้ธรรมะเช่นใดถึงจะไม่ทุกข์ในภายหลัง
ก่อนให้ได้พิจารณาโดยแยบคายแล้ว
หลังการให้ได้ปล่อยวาง จึงจะไม่เจอกับความทุกข์
ผู้ที่ยังครองเรือน เมื่อปรารถนาความพ้นทุกข์ ยังมีภาระหน้าที่ทางโลกอยู่ ให้เลือกประกอบอาชีพ ที่ไม่เบียดเบียนสร้างความเดือดร้อนแก่ผู้อื่น
ละเว้นจากการทำชั่ว รักษาศีลห้าให้ครบ รู้จักการทำทาน สวดมนต์
เจริญภาวนา เมื่อถึงเวลาก็จะได้ออกบวช ปล่อยวางหน้าที่ทางโลก เพื่อแสวงหาทางพ้นทุกข์ให้แก่ตนเอง
ตอนที่ ๒๕ ผู้มีธรรม ผู้รู้ธรรม
ธรรมคือแผนที่การบอกทาง ในการเดินทางของดวงจิต เข้าสู่ความพ้นทุกข์ จะเป็นผู้มีธรรมได้ ก็ต่อเมื่อได้ประพฤติปฏิบัติตามธรรมคำสอนนั้น
การที่จะเป็นผู้รู้ธรรม ก็ต้องเป็นผู้ปฏิบัติให้เข้าถึงธรรม สำเร็จในธรรมนั้น
จึงจะเป็นผู้รู้ธรรมอย่างแท้จริง
เพชรนั้น เลอค่ามากก็จริง แต่ก็เป็นแค่เพียงสิ่งสมมุติ
การน้อมที่เอาพระธรรมคำสอน ไปปฏิบัติชำระจิตใจ ให้เกิดความบริสุทธิ์ หลุดจากกิเลส พ้นจากตัณหา จึงจะเป็นสิ่งที่มีค่า อย่างที่แท้จริง
ธรรมทายาท คือ ทายาทแห่งธรรมขององค์พระศาสดา
ผู้ที่ได้สืบทอดมรดกธรรม จะต้องเป็นผู้บำเพ็ญตน
ให้หลุดพ้นจากกิเลสตัณหา สำเร็จธรรมเป็นอริยบุคคลขั้นต้นขึ้นไป
การที่ได้แต่ศึกษา ไม่นำมาปฏิบัติ
จะไม่สามารถเป็นทายาทแห่งธรรมได้เลย
พระธรรมคำสอน ได้มาจากความจริงของชีวิต
ความเป็นจริงก็ซ่อนอยู่ในตัวตน เมื่อเข้าใจชีวิต ก็เข้าใจในธรรม
ไม่จำเป็น ต้องแสวงหาธรรมที่ไหน จงแสวงหาธรรมในตนเถิด
เพราะจะเป็นธรรมที่นำตน ให้หลุดพ้นจากความทุกข์อย่างแท้จริง
ตอนที่ ๗๖ ธรรมะนอกคัมภีร์ *****
ธรรมะมาจากไหน คัมภีร์เกิดมาจากอะไร
ธรรมะเกิดจากการประพฤติปฏิบัติ จนเข้าใจเส้นทางการหลุดพ้น
ขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งภายหลัง มีพระอรหันต์ได้สำเร็จตาม
จึงได้นำมาบันทึกไว้เป็นคัมภีร์ เป็นพระไตรปิฎกในพุทธศาสนา
ฉะนั้น ธรรมะจึงไม่ได้มี เฉพาะในคัมภีร์ ธรรมะมีอีกมากมาย
ที่ยังไม่ได้บันทึกไว้ในตำรา ที่ได้จากการปฏิบัติมา
… ตอนที่ ๑๙๕ คำสอนหลวงพ่อสมปรารถนา
หลวงพ่อสมปรารถนา
เป็นพระนามขององค์พระที่ประดิษฐานอยู่ที่สวนธรรมิกราช
ท่านได้ประทานคำสอนให้ญาติบุญทั้งหลายได้ฟัง ในวันเบิกเนตร
จึงได้นำมาแบ่งปันให้ญาติธรรมได้ฟังกัน
… ตอนที่ ๑๙๖ คำสอนในคืนพุทธาภิเษก
ความจริงของสรรพสิ่งที่เกิดขึ้นมา ล้วนเกิดจากกรรม
จากการกระทำของตนเอง ทำให้เกิดความแตกต่าง ในฐานะ รูปร่าง หน้าตา องค์ประกอบทั้งภายใน ภายนอกร่างกายและจิตใจ
แต่มีความเหมือนในความทุกข์ ในการเวียนเกิดและเวียนตาย
จนกว่าจะแสวงหาหนทางและดับการเกิดได้ จึงจะเป็นผู้ที่พ้นจากความทุกข์
… ตอนที่ ๑๙๗ ธรรมชาติก็เป็นเช่นนั้น
สรรพสิ่งในโลกนี้ ล้วนมีการหมุนเวียนเปลี่ยนไป
พระจันทร์มีเสี้ยวมีเต็มดวง
มีความสงบเป็นบางครั้ง มีวุ่นวายเป็นบางคราว
บางวันมีปัญหามากมาย บางวันสุขสบาย
ชีวิตมีขึ้นมีลง ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นธรรมดา เป็นธรรมชาติเช่นนั้นเอง
เมื่อเห็นเป็นธรรมดา รู้จักปล่อยวาง ก็จะพ้นจากความทุกข์
… ตอนที่ ๔๗ สิ่งใดที่ทำให้ไม่ต้องเกิดดับอีก *****
จะทำอย่างไร เพื่อไม่ให้เรา ต้องเกิด ต้องตายอีก
สี่ย่างก้าวของผู้ที่เดินหลงวนในวัฏสงสาร คือ
ก้าวแห่งความหลง ทำให้ต้องวนเวียน
ก้าวแห่งความอยาก ทำให้ต้องแสวงหา
ก้าวแห่งความยึดติด ทำให้ไปต่อไม่ได้
ก้าวแห่งการเบียดเบียน ทำให้ออกนอกเส้นทาง
ไม่สามารถนำตนสู่ความพ้นทุกข์
ส่วน สี่ย่างก้าวของผู้ปรารถนาพ้นทุกข์ คือ
ก้าวแห่งศีล ไม่มีการสร้างกรรมอันใด
ที่ต้องกลับมาชดใช้อีก
ก้าวแห่งธรรม เข้าใจแผนที่การเดินออกไป
จะได้ไม่หลงทาง
ก้าวแห่งสมาธิ มีจิตหนักแน่นมั่นคง
ไม่หวั่นไหวกับสิ่งใดที่มาทดสอบ
ก้าวแห่งปัญญา เห็นกระจ่างแจ้งทุกสิ่ง
ไม่มีสิ่งใดที่จะทำให้ลุ่มหลงได้อีก
เป็นสี่ย่างก้าวของผู้ที่จะพ้นทุกข์ ไม่ต้องเวียนเกิดเวียนตายอีก
… ตอนที่ ๑๙๙ จงอยู่กับปัจจุบัน
สิ่งใดดี สิ่งไหนชั่ว รู้หมด แต่อดไม่ได้ เกิดจากการที่จิตไม่มีพลังมากพอ
จึงไม่สามารถอดทนต่อกิเลสตัณหา อดทนต่อสิ่งที่มาล่อหลอก
ให้เราทำในสิ่งที่ไม่ดีได้ จนกว่าเราจะฝึกฝนจิตให้มีพลังสมาธิตั้งมั่น
จึงจะสามารถดับความยึดติด ความลุ่มหลงในสิ่งทั้งหลายนั้นได้
ฉะนั้น จงฝึกจิตให้อยู่กับปัจจุบัน
… ตอนที่ ๒๐๑ ผู้เดินตามรอยเทวทัต
คนเราเกิดมา มีทางสองเส้นให้เลือกเดิน
เลือกที่จะเดินตามพระพุทธเจ้าให้ทำความดี
พิจารณาดูตนเองว่า มีสิ่งใดที่ยังบกพร่องอยู่ ในการสร้างความดี
เลือกที่จะเดินตามพระเทวทัต ให้ทำความชั่ว เพ่งโทษผู้อื่น
เป็นบันไดให้ผู้ที่สร้างความดีเหยียบย่ำขึ้นไป
เพราะเลือกเป็นมารในการทดสอบความดีของผู้อื่น
ฉะนั้นชอบแบบไหนให้ทำตามที่ใจปรารถนาเถิด
การที่จะรับธรรมะ ศึกษาธรรมให้ได้ดี
ต้องไม่มีอัตตาตัวตน ไม่ยึดติดในสิ่งที่เคยรู้มากาลก่อน
ทำใจให้เป็นกลาง ศึกษาอย่างปล่อยวาง
อ่านมาแล้ว ฟังมาแล้ว ให้ย่อยสลายธรรมะ พิจารณาธรรมให้เกิดปัญญา
จึงจะรับธรรมะได้ อย่างไม่หนัก ไม่เหนื่อย เกิดประโยชน์อย่างแท้จริง
ตอนที่ ๔๑ ธรรมชาติก็เป็นเช่นนั้น
มะพร้าวจะให้เป็นเหมือนมะนาว กาจะให้เป็นเหมือนหงส์ เกลือจะให้ไม่เค็ม คงเป็นไปได้ยาก คนเราเกิดมาจะมีนิสัย มีบุคคลิกเฉพาะตน ธรรมชาติได้กำหนดมา ให้เป็นเช่นนั้น จะเปลี่ยนให้เป็นเหมือนใคร คงเปลี่ยนไปได้ยาก ควรพิจารณาดูกิเลส ตัณหา พิจารณาดูที่จิตใจ จึงจะพบความจริงที่ซ่อนอยู่ภายใน
พระยาธรรมิกราชเสด็จมาโลกมนุษย์ เพื่อนำพระธรรมคำสอนมาเผยแผ่
ให้แก่มนุษย์
24 พุทธโอวาทสำหรับลูกทั้งหลายผู้เผยแผ่ธรรม
ลูกทั้งหลายที่ทำหน้าที่เผยแผ่ธรรม ได้เข้ารับพุทธโอวาทจากพุทธบิดา
ในวันที่ 5 กรกฎาคม 255
เณรน้อยขอพรจากองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ให้ได้เข้าถึงพระธรรมคำสั่งสอน และได้พ้นจากความทุกข์ทั้งหลาย
… ตอนที่ ๓ ธรรมคำสอนในพุทธศาสนา
การศึกษาทางโลก มีตั้งแต่ชั้นอนุบาลประถมกอกา จนถึงปริญญาเอก
พระธรรมคำสอนในพุทธศาสนา ก็มีหลายระดับ
สอนให้ทำความดี ละเว้นความชั่ว ตั้งแต่การรู้จักทำทาน รู้จักการให้อภัย รักษาศีลศีลห้าให้ได้ จนถึงศีลของผู้ออกบวช
เมื่อภูมิจิตสูงขึ้นไป ก็จะเข้าใจในการเวียนว่ายตายเกิด รู้แจ้งในกฎของกรรม
รู้ในกฎของความไม่เที่ยงแท้ ก็จะไม่หลง ไม่กลับมาเกิดอีก
ฉะนั้น การทำความดีแม้เล็กน้อย ก็เป็นคำสอนของพุทธศาสนา
การทำความชั่ว จึงจะไม่ใช่คำสอนของพระพุทธเจ้า
… ตอนที่ ๖๑ บ้านเมือง โลก จักรวาลจะเป็นเช่นใดขี้นอยู่กับใคร
บ้านเมือง โลก จักรวาล วัฏสงสาร
จะเป็นเช่นใด จะมีความสุข หรือมีความทุกข์
ย่อมมาจากการกระทำ ของดวงจิตทั้งหลาย ที่อยู่ร่วม อยู่ด้วยกัน
จึงมีเหตุให้เป็นเช่นนั้น เช่นนี้
ไม่มีใครที่ทำให้เป็นไปเช่นใด เกินอำนาจของกรรม
… ตอนที่ ๓๑ จะอยู่ทางโลกหรือทางธรรมดี
เบื่อหน่ายในทางโลก ปรารถนาจะไปในทางธรรม
แต่ปล่อยวางยังไม่ได้ จะต้องทำอย่างไร
การรักษาศีล รักษาที่บ้านก็ได้
การศึกษาธรรม ศึกษาที่ไหนก็ได้
การฝึกสมาธิ ฝึกที่ไหนก็ได้
การพิจารณาให้เห็น ตามความเป็นจริง
ในความไม่เที่ยงแท้ อยู่ที่ไหนก็มีให้เห็น
จึงไม่ควรคิดให้เป็นทุกข์ เมื่อถึงเหตุปัจจัย ความดีที่สร้าง จะเปิดทางให้เอง
การที่เราจะเอาชนะต่อพญามารได้นั้น
เราต้องมีคุณธรรม ๖ ประการ คือหนึ่งต้องมี ๑.สติปัญญา ๒.เมตตตา ๓.ศ๊ล ๔.สมาธิ ๕.อดทน ๖.เข้มแข็ง
ถึงจะสามารถเอาชนะกับสิ่งที่ไม่ดีทั้งหลายนั้นได้
ธรรมชาติสร้างเรามาแล้ว ย่อมสร้างหนทางออกให้เราด้วย ขึ้นอยู่ว่าเราจะรู้วิธี เพื่อหาทางออกจากการปนเปื้อน ในสิ่งที่สกปรกเศร้าหมองนั้นหรือเปล่า บนโลกนี้มีแต่เสียงคร่ำครวญ เสียงร้องไห้ แม้จะจากโลกนี้ไป ก็ยังไม่วายมีเสียงร้องไห้ตามไปอีก
แม้เกิดมาใหม่ ก็ยังมีเสียงร้องไห้ตามมาอีก ลองทบทวนคิดดูให้เห็น เหตุของความทุกข์ เพื่อเราจะได้ รู้วีธีออกจากความทุกข์ทั้งหลายว่า เป็นเพราะเราหลงกับสิ่งทั้งหลาย ยึดกับสิ่งทั้งหลาย อยากมีอยากเป็นในสิ่งทั้งหลาย สร้างกรรมเบียดเบียนผู้อื่นหรือเปล่า ที่ทำให้เราต้องติดอยู่ วนเวียนอยู่ จมอยู่ เป็นทุกข์อยู่ ไม่จบไม่สิ้น
เดินออกมาทางศีล ทางธรรม เถิด อย่ามัวมองดูผู้อื่นอยู่เลย ไม่เป็นผู้สร้างกรรมเบียดเบียนผู้อื่นและตนเอง ศึกษาคำสอนให้รู้ในกฎของกรรม กฎของเกมส์ กฎของความไม่เที่ยงแท้ของสรรพสิ่ง มีสมาธิ มีสติ มีปัญญา ปล่อยวางในสิ่งที่หลง ที่ยึดถือ ที่อยากมีอยากเป็นเสียเถิด จะได้หลุดพ้นจากความทุกข์ หลุดจากการมาเกิดซะที
สรรพสิ่งทั้งหลายในโลกย่อมมีความเหมือน มีความแตกต่าง
มีทั้งสูงและต่ำ มีดำมีขาว มีดินอุดมสมบูรณ์ดินที่แห้งแล้ง
นักบวชก็มีทั้งผู้กำลังเรียน กำลังศึกษา กำลังเป็นผู้หลง เป็นผู้รู้ เป็นผู้สำเร็จ มีภูมิจิตภูมิธรรมที่แตกต่างกันออกไป
อย่าคาดหวังว่า สิ่งนั้นต้องดีหมด หรือชั่วหมดเลย
จงทำหน้าที่ของตนเองให้ดี สร้างสั่งสมบุญ แสวงหาธรรมคำสอน และปฏิบัติตนให้พ้นจากความทุกข์เถิด
57… พิจารณาให้เห็นถึงความไม่เที่ยง
การที่เราจะหลุดพ้นจากความทุกข์ทั้งหลายนั้น
ต้องรู้เหตุของความทุกข์ก่อน ว่ามีเหตุมาจากสิ่งใด
การยึดถือในสิ่งทั้งหลายนั้น ก็เป็นเหตุของความทุกข์เช่นกัน
ฉะนั้นต้องพิจารณาให้เห็นความเป็นจริงว่า
สรรพสิ่งทั้งหลาย มีขึ้นมาได้ ก็จากไปได้ เสื่อมไปได้ สลายไปได้
ไม่เที่ยง เป็นทุกข์เพราะความยึดถือเหล่านี้
จงรู้ตามนี้เถิด เห็นตามนี้เถิด ปล่อยวางเสียเถิด จะได้ไม่ทุกข์อีก
ท่านกำลังน้อยเนื้อต่ำใจว่าเป็นคนต้อยต่ำ ไม่มีทรัพย์สินเงินทอง ข้าวของ ไม่มียศฐาบรรดาศักดิ์ ไม่มีชาติมีตระกูล คงไม่สามารถทำบุญทำทาน สร้างคุณงามความดีกับใครเขาได้
ให้คิดอย่างนี้ว่าคนที่เขาต่ำต้อยกว่าเราก็มี บางดวงจิตยังเป็นสัตว์เดรฉานก็มี ให้เรามองคนที่ต่ำกว่าเพื่อสร้างกำลังใจให้เรา มีพลังขึ้นมาขวนขวายสร้างคุณความดี ให้ดียิ่งๆขึ้นไป
ถ้าท่านกำลังมีความรู้สึกว่าฉันใหญ่ที่สุดแล้ว รวยที่สุด มียศฐาบรรดาศักดิ์ที่ใหญ่มาก สูงมากจนไม่มีใครสูงกว่า ให้ลดอัตตาตัวตนลงมา โดยมองคนที่สูงกว่า เพื่อจะได้ลดตัวตนลงมาสร้างคุณความดีต่อไปได้
ให้ปรับให้พอดีเพื่อเดินทางสายกลาง จะได้ไม่พบความทุกข์ความวุ่นวายทั้งหลายได้พบกับความพ้นทุกข์ซะที
64… ผู้ไม่กลัวความตาย *****
ทุกสิ่งเกิดขึ้นจากธรรมชาติ หากจะดับลงได้ต้องเข้าใจในธรรมชาติ
ยอมรับสิ่งที่เป็นไปของธรรมชาติ คือเกิดจากไหน ให้ดับจากที่นั่น
ไม่มีตัวตน ไม่ใช่เรา ไม่ใช่เขา ทุกอย่างว่างเปล่า
การสลายอัตตาตัวตน คือ ทุกอย่างเป็นธรรมชาติ
ไม่มีเรา ไม่มีเขา ไม่มีถูก ไม่มีผิด อยู่ในเรา อยู่ในเขา
มีก็เพียงแค่รู้ หรือยังไม่รู้ ผู้ที่รู้แล้วจะเข้าใจ
ทุกอย่างไม่มีผิด มีถูก มีแต่เพียงบอกทางให้รู้ตาม
… ตอนที่ ๑๔๖ ให้อยู่กับปัจจุบัน ***
การที่จมอยู่ในอดีต จิตฟุ้งไปในอนาคต จะแก้ไขอย่างไร เพื่อไม่ให้เป็นทุกข์
การเอาเรื่องที่ผ่านไปแล้วมาครุ่นคิด ติดอยู่ในอดีต
เอาสิ่งที่ยังไม่มาถึง มาเป็นเหตุแห่งความทุกข์
ให้แก้ไขด้วยการฝึกสติ ฝึกจิตให้อยู่กับปัจจุบัน
ทำสมาธิให้จิตมีพลังที่แข็งแกร่ง ก็จะเกิดปัญญา
สามารถสลายความคิดทั้งหลาย ที่จรเข้ามาทำใหว้าวุ่นเหล่านั้นไปได้
… ตอนที่ ๑๗๗ ปลูกต้นบุญต้นบารมี
ชาวสวนปลูกพืช หว่านเมล็ดพันธุ์
ต้องใส่ปุ๋ย รดน้ำ พรวนดิน ดูแลไม่ให้แมลงมากิน
กว่าจะออกดอกออกหมากเป็นผล ต้องใช้ความขยันอดทนใช้เวลานาน
ในการปลูกต้นบุญ ต้นบารมี เพื่อให้ได้มาซึ่งมรรคผล ก็เช่นเดียวกัน
ต้องรักษาศีล ศึกษาธรรม เจริญสมาธิ เจริญปัญญา
จึงจะได้มาซึ่งมรรคผลนิพพาน
… ตอนที่ ๑๙๙ จงอยู่กับปัจจุบัน
สิ่งใดดีสิ่งไหนชั่วรู้หมดแต่อดไม่ได้ เกิดจากการที่จิตไม่มีพลังมากพอ
จึงไม่สามารถอดทนต่อกิเลสตัณหา อดทนต่อสิ่งที่มาล่อหลอก
ให้เราทำในสิ่งที่ไม่ดีได้ จนกว่าเราจะฝึกฝนจิตให้มีพลังสมาธิตั้งมั่น
จึงจะสามารถดับความยึดติด ความลุ่มหลงในสิ่งทั้งหลายนั้นได้
ฉะนั้น จงฝึกจิตให้อยู่กับปัจจุบัน
... ตอนที่ ๘๖ หลักธรรม*****
รู้ในเรื่องกฎของกรรม ภพ ชาติ การเวียนว่ายตายเกิด เห็นตามความเป็นจริงในความไม่เที่ยงแท้ แล้วหาทางดับการเกิด โดยการปฏิบัติในศีล ธรรม สมาธิ ปัญญา ถอดถอนความหลง ความอยาก ความยึดติด เว้นการเบียดเบียน เพื่อดับความทุกข์ นี้คือหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า
...ตอนที่ ๒๓ เปิดคัมภีร์ธรรมในตน
สรรพสิ่งทั้งหลาย มีเหตุที่มาและเหตุที่ดับ เช่นเดียวกัน การพิจารณาให้เห็นธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นในตน ก็จะสามารถเข้าใจธรรมชาติ ของทุกสิ่งทุกอย่างได้ ก็จะเกิดความรู้แจ้ง ไม่ปรารถนามีสิ่งใด อีกต่อไปแล้ว ก็จะเป็นผู้พ้นจากความทุกข์
การจะว่ายน้ำข้ามมหาสมุทรในวัฏสงสาร จะต้องรู้หนทาง ซึ่งได้จากเสียงธรรมคำสอน ที่มาจากผู้ที่ว่ายถึงฝั่งแล้ว ที่คอยชี้ทางบอกทาง จึงจะไปถูกทางไม่หลงทาง ดังนั้นจงตั้งใจฟังธรรมคำสอน และปฏิบัติตามเถิด จะได้เป็นผู้พ้นความทุกข์ได้ เข้าสู่ฝั่งพระนิพพานได้เช่นเดียวกัน
...ตอนที่ ๕๕ การทำให้สำเร็จในการปฏิบัติธรรม
มีวิธีอย่างไร ที่จะทำให้สำเร็จในทางธรรม ทางโลกแสวงหา ลาภ ยศ สรรเสริญ เป็นเหตุให้ได้มาซึ่งความสุข เป็นความสำเร็จในทางโลก ทางธรรมแสวงหา ความพ้นทุกข์ ด้วยการปฏิบัติในศีล ธรรม สมาธิ ปัญญา เพื่อถอดถอน ความยึดติด ความลุ่มหลง ในลาภ ยศ สรรเสริญ จนถึงขั้นการสลายอัตตาตัวตน ได้มาซึ่งความสงบสุข ไม่ต้องทุกข์กับสิ่งใดอีกต่อไปแล้ว เป็นความสำเร็จในทางธรรม
...ตอนที่ ๑๔๖ พระธรรมมีแสงสว่าง*****
การรู้แจ้งในธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า ทำให้ดวงจิตเกิดความรู้แจ้งในโลก ในจักรวาล ในวัฏสงสาร
จึงไม่มีแสงสว่างใด จะเสมอแสงธรรมได้เลย