11. ซูเราะฮฺฮูด (บท นบีฮูด)

ด้วยพระนามแห่งอัลลอฮฺ พระผู้ทรงเมตตายิ่ง พระผู้ทรงปรานียิ่ง

{11:1} อะลีฟ ลาม รออ์ คัมภีร์ที่โองการทั้งหลายของมันถูกทำให้รัดกุมมีระเบียบ แล้วถูกจําแนกเรื่องต่าง ๆ อย่างชัดแจ้ง จากพระผู้ทรงปรีชาญาณ พระผู้ทรงรอบรู้เชี่ยวชาญ

{11:2} เพื่อพวกเธอต้องไม่เคารพสักการะผู้ใด นอกจากอัลลอฮฺ แท้จริงฉันได้รับการแต่งตั้งจากพระองค์มายังพวกเธอ เพื่อเป็นผู้ตักเดือนและผู้แจ้งข่าวดี

{11:3} และพวกเธอจงขอนิรโทษจากพระเจ้าของพวกเธอ แล้วจงจงสำนึกผิดต่อพระองค์ พระองค์จะทรงให้ปัจจัยแก่พวกเธอซึ่งปัจจัยที่ดีไปจนถึงวาระหนึ่งที่กําหนดไว้ และพระองค์จะทรงประทานความโปรดปรานของพระองค์แก่ทุก ๆ ผู้มีความดี และหากพวกเธอผินหลังให้ ฉันก็กลัวแทนพวกเธอซึ่งการลงโทษในวันอันยิ่งใหญ่

{11:4} ยังอัลลอฮฺคือการกลับของพวกเธอ และพระองค์ทรงมีอานุภาพเหนือทุกสิ่ง

{11:5} พึงรู้เถิด แท้จริงพวกเขาปกปิดความลับในทรวงอกของพวกเขา เพื่อพวกเขาจะซ่อนความเป็นศัตรูให้พ้นจากพระองค์ พึงรู้เถิด ขณะที่พวกเขาเอาอาภรณ์ของพวกเขาปกคลุมตัวนั้นพระองค์ทรงรู้สิ่งที่พวกเขาปกปิด และสิ่งที่พวกเขาเปิดเผย แท้จริงพระองค์เป็นผู้ทรงรอบรู้สิ่งที่อยู่ในทรวงอก

{11:6} และไม่มีสัตว์สักตัวในแผ่นดิน ที่เครื่องยังชีพของมันไม่เป็นหน้าที่ของอัลลอฮฺ และพระองค์ทรงรู้ที่พำนักของมันและที่เก็บเสบียงของมันทุกสิ่งอยู่ในบันทึกอันชัดแจ้ง

{11:7} และพระองค์คือผู้สร้างชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดินในหกวาระ

และบัลลังก์ของพระองค์อยู่เหนือน้ำ เพื่อพระองค์จะทรงทดสอบพวกเธอ ว่าพวกเธอคนใดมีการงานที่ดีเยี่ยม และหากเธอกล่าวว่า "พวกเธอจะถูกชุบชีวิต หลังจากที่ได้ตายไปแล้ว" บรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาก็จะกล่าวว่า "นี่เพียงแต่เป็นมายากลอันชัดแจ้ง"

{11:8} และหากเรายืดเวลาการลงโทษพวกเขาออกไปอีกหนึ่งกําหนดเวลา พวกเขาก็จะกล่าวว่า "อันใดได้ยับยั้งมันไว้เล่า?" พึงรู้เถิด! วันซึ่งการลงโทษจะมายังพวกเขา มันจะไม่ละเว้นไปจากพวกเขา และสิ่งที่พวกเขาได้เยาะเย้ยนั้นจะห้อมล้อมพวกเขา

{11:9} และถ้าเราได้ให้มนุษย์ลิ้มรสความเมตตาจากเรา แล้วเราได้ดึงมันคืนกลับมาจากเขา เขานั้นก็จะกลายเป็นผู้หมดหวังและสิ้นศรัทธา

{11:10} และถ้าเราได้ให้เขาลิ้มรสความโปรดปรานหลังจากความทุกข์ยากได้ประสบกับเขา เขาก็จะกล่าวว่า "ความเลวร้ายต่าง ๆ ได้ผ่านพ้นจากฉันไปแล้ว" แล้วเขาก็กลายเป็นผู้คึกคะนอง หยิ่งยะโส

{11:11} เว้นแต่บรรดาผู้อดทนและปฏิบัติความดีทั้งหลาย ชนเหล่านั้น พวกเขาจะได้รับการอภัยโทษและรางวัลอันยิ่งใหญ่

{11:12} และบางทีเธอจะทิ้งบางส่วนที่ถูกเปิดเผยสำแดงแก่เธอ และหัวอกของเธอจะอึดอัดต่อสิ่งนั้น เนื่องจากพวกเขากล่าวว่า "เหตุใดเล่าขุมทรัพย์จึงไม่ถูกส่งลงมา หรือมีมะลักลงมาพร้อมกับเขา?" อันที่จริงเธอเป็นเพียงผู้ตักเตือนเท่านั้น และอัลลอฮฺเป็นผู้ทรงคุ้มครองรักษาทุกสิ่ง

{11:13} หรือพวกเขากล่าวว่า "เขาได้ปลอมแปลงอัลกุรอานขึ้นมา" จงกล่าวเถิด "ดังนั้น พวก

เธอก็จงนำมาสักสิบซูเราะฮฺที่ถูกปลอมแปลงขึ้นให้ได้เยี่ยงนี้ และพวกเธอจงเรียกผู้ที่มีความสามารถในหมู่พวกเธอ อื่นจากอัลลอฮฺมา ถ้าพวกเธอแน่จริง"

{11:14} หากพวกเขาไม่ตอบสนองการเรียกร้องของพวกเธอ ก็จงรู้เถิดว่า อัลกุรอานถูกประทานลงมาด้วยความรู้แห่งอัลลอฮฺ และนั่นคือไม่มีพระผู้เป็นเจ้าอื่นใดนอกจากพระองค์ แล้วพวกเธอจะยังไม่สวามิภักดิ์อีกหรือ?

{11:15} ผู้ใดปรารถนาการมีชีวิตอยู่ในโลกนี้และความบรรเจิดของมัน เราก็จะตอบแทนให้พวกเขาอย่างครบถ้วนซึ่งการงานของพวกเขาในโลกนี้เท่านั้น และพวกเขาจะไม่ถูกริดรอนในการงานนั้นแต่อย่างใด

{11:16} ชนเหล่านั้น พวกเขาจะไม่ได้รับการตอบแทนอันใดในปรโลก นอกจากเพลิงนรกและสิ่งที่พวกเขาได้ประกอบไว้ในโลกก็จะสูญสลาย และสิ่งที่พวกเขาได้กระทำไว้ก็จะสูญเสีย

{11:17} ดังนั้น ผู้ที่อยู่บนหลักฐานอันชัดแจ้งจากพระเจ้าของเขา และติดตามด้วยผู้เป็นสักขีพยานจากพระองค์ - และก่อนนั้นมีคัมภีร์ของมูซา - เป็นผู้นำและเป็นความเมตตา ชนเหล่านั้นศรัทธาต่อมัน และผู้ใดจากพรรคต่าง ๆ ปฏิเสธศรัทธาต่อมัน เพลิงนรกคือสัญญาของเขา ดังนั้นเธออย่าได้อยู่ในการสงสัยต่อมันเลย แท้จริงมันเป็นสัจธรรมจากพระเจ้าของเธอ ทว่ามนุษย์ส่วนมากจะไม่มีศรัทธา

{11:18} และผู้ใดเล่าที่จะอธรรมยิ่งไปกว่าผู้ที่อุปโลกน์ความเท็จต่ออัลลอฮฺ

ชนเหล่านั้นจะถูกนำมาเสนอต่อพระเจ้าของพวกตน และบรรดาสักขีพยานจะกล่าวว่า "พวกเหล่านั้นคือบรรดาผู้ที่กล่าวเท็จต่อพระเจ้าของพวกตน" พึงรู้เถิด! การสาปแช่งของอัลลอฮฺจะประสบแก่บรรดาผู้อธรรม

{11:19} บรรดาผู้ที่กีดกันทางอัลลอฮฺ และพวกเขาใคร่ที่จะให้มันบิดเบือน และพวกเขาต่อปรโลกนั้น พวกเขาปฏิเสธ

{11:20} ชนเหล่านี้จะไม่รอดพ้นในแผ่นดินนี้ และพวกเขาไม่มีผู้คุ้มครองอื่นจากอัลลอฮฺ การลงโทษแก่พวกเขาจะถูกเพิ่มเป็นทวีคูณ พวกเขาไม่สามารถที่จะฟังได้และจะไม่เห็น

{11:21} ชนเหล่านี้คือบรรดาผู้ที่ทำให้ชีวิตของพวเขาสูญเสีย และสิ่งที่พวกเขาอุปโลกน์ขึ้นนั้นก็ได้หลงหายไปจากพวกเขา

{11:22} โดยไม่ต้องสงสัย พวกเขาในปรโลก พวกเขาเป็นผู้สูญเสียยิ่ง

{11:23} แท้จริงบรรดาผู้มีศรัทธาและผู้ประกอบการดีและสำรวมตนต่อพระเจ้าของพวกตน ชนเหล่านั้นคือชาวสวรรค์ ซึ่งพวกเขาเป็นอมตะอยู่ในนั้น

{11:24} อุปมาของทั้งสองฝ่ายนี้ อุปมัยดั่งเช่นคนตาบอดและหูหนวก กับคนมองเห็นและได้ยิน ทั้งสองนี้จะเท่าเทียมกันหรือเมื่อเปรียบเทียบ พวกเธอไม่ได้ไตร่ตรองหรือ?

{11:25} และโดยแน่นอน เราได้ส่งนูหฺไปยังกลุ่มชนของเขา (โดยกล่าวว่า) "แท้จริงฉันเป็นผู้ตักเตือนอันแน่ชัดแก่พวกเธอแล้ว"

{11:26} "คือพวกเธออย่าเคารพสักการะผู้ใด นอกจากอัลลอฮฺ แท้จริงฉันกลัวแทนพวกเธอถึงการลงโทษในวันอันเจ็บปวด"

{11:27} แล้วบรรดาบุคคลชั้นนำซึ่งปฏิเสธศรัทธาจากกลุ่มชนของเขากล่าวว่า "เราไม่เห็นท่านเป็นอื่นใด นอกจากสามัญชนเช่นเรา และเราไม่เห็นผู้ใดปฏิบัติตามท่าน นอกจากบรรดาผู้ต่ำต้อยของพวกเรา ที่มีความคิดเห็นตื้น ๆ และเราไม่เห็นว่าพวกท่านประเสริฐกว่าพวกเรา แต่เราคิดว่าพวกท่านเป็นพวกโกหก"

{11:28} เขา (นูหฺ) กล่าวว่า "ดูกร หมู่ชนของฉัน! พวกเธอเห็นแล้วใช่ไหมว่า หากฉันมีหลักฐานอันแจ้งชัดจากพระเจ้าของฉัน และพระองค์ทรงประทานแก่ฉันซึ่งความเมตตาจากพระองค์ แล้วมันยังมืดมนสำหรับพวกเธอ เราจะบังคับพวกเธอให้รับมันทั้ง ๆ ที่พวกเธอเกลียดชังมันกระนั้นหรือ?"

{11:29} "และดูกร หมู่ชนของฉัน! ฉันไม่ได้ร้องขอทรัพย์สินใดจากพวกเธอสำหรับการเผยแพร่นี้ แท้จริงรางวัลของฉันอยู่ที่อัลลอฮฺ และฉันจะไม่เป็นผู้ขับไล่บรรดาผู้มีศรัทธาดอก แท้จริงพวกเขาจะเป็นผู้พบพระเจ้าของพวกตน แต่ฉันเห็นว่าพวกเธอเป็นประชาชาติผู้งมงาย"

{11:30} "และดูกร หมู่ชนของฉัน! ผู้ใดจะช่วยฉัน ณ ที่อัลลอฮฺ หากฉันขับไล่พวกเขา พวกเธอไม่คิดบ้างดอกหรือ?"

{11:31} "ฉันไม่ได้กล่าวแก่พวกเธอว่า ฉันมีขุมคลังของอัลลอฮฺ และฉันไม่รู้ถึงสิ่งพ้นญาณวิสัยและฉันไม่ได้กล่าวว่าฉันเป็นมะลัก และฉันไม่ได้กล่าวแก่บรรดาผู้ที่สายตาของพวกเธอเหยียดหยามว่า อัลลอฮฺจะไม่ทรงประทานความดีแก่พวกเขา อัลลอฮฺทรงรอบรู้ดียิ่งถึงสิ่งที่อยู่ในจิตใจของพวกเขา แท้จริง ถ้าเป็นเช่นนั้น ฉันจะอยู่ในหมู่ผู้อธรรม"

{11:32} พวกเขากล่าวว่า "โอ้ นูหฺ! แน่นอน ท่านได้โต้เถียงกับเรา และท่านก็ได้สาวความมากขึ้น ดังนั้นจงนำมาให้เราเถิดสิ่งที่สำทับเราไว้ ถ้าท่านอยู่ในหมู่ผู้สัตย์จริง"

{11:33} เขา (นูหฺ) กล่าวว่า "แท้จริงอัลลอฮฺเท่านั้นที่จะทรงนำมันมายังพวกเธอ หากพระองค์ทรงประสงค์ และพวกเธอจะไม่เป็นผู้รอดพ้นไปได้"

{11:34} "และคําสั่งสอนของฉันจะไม่เกิดประโยชน์แก่พวกเธอ ตามที่ฉันปรารถนาจะสั่งสอนพวกเธอ ถ้าอัลลอฮฺทรงประสงค์จะให้พวกเธอหลงผิด พระองค์คือพระเจ้าของพวกเธอ และพวกเธอจะถูกนำกลับคืนสู่พระองค์"

{11:35} หรือพวกเขากล่าวว่า เขาได้อุปโลกน์มันขึ้นมา จงกล่าวเถิดว่า "ถ้าฉันได้อุปโลกน์มันขึ้นมา ความผิดของฉันย่อมอยู่ที่ฉัน และฉันปลีกตัวออกจากสิ่งที่พวกเธอกระทำผิด"

{11:36} และได้มีการเปิดเผยสำแดงแก่นูหฺว่า "จะไม่มีในประชาชาติของเธอสักคนที่จะมีศรัทธา เว้นแต่ผู้ที่ได้มีศรัทธาแล้ว ดังนั้น เธออย่าทุกข์ระทมในสิ่งที่พวกเขาเคยกระทำ"

{11:37} "และเธอจงสร้างเรือใต้การดูแลของเรา และตามคําบัญชาของเรา และอย่ามาร้องอุทธรณ์ต่อฉันให้แก่บรรดาผู้อธรรม แท้จริงพวกเขาจะถูกทำให้จมน้ำตาย"

{11:38} และเขาเริ่มสร้างเรือ และคราใดที่บุคคลชั้นนำจากหมู่ชนของเขาผ่านเขา พวกเขาก็เยาะเย้ยเขา เขาก็กล่าวว่า "หากพวกเธอเยาะเย้ยพวกเรา แท้จริงเราก็จะเยาะเย้ยพวกเธอ เช่นเดียวกับที่พวกเธอเยาะเย้ย"

{11:39} "แล้วพวกเธอก็จะรู้ว่าผู้ใดที่การลงโทษอันอัปยศจะมายังเขา และการลงโทษอันยั่งยืนจะประสบแก่เขา"

{11:40} จนกระทั่งเมื่อคําบัญชาของเราได้มา และน้ำได้พวยพุ่งออกจากเตา เรากล่าวว่า "จงบรรทุกไว้ในเรือจากทุกชนิดเป็นคู่ ๆ และครอบครัวของเธอด้วย -เว้นแต่ผู้ที่พระดํารัสได้กําหนดแก่เขาไว้ก่อน- และผู้มีศรัทธา" แต่ไม่มีผู้มีศรัทธาร่วมกับเขานอกจากจํานวนเล็กน้อย

{11:41} และเขากล่าวว่า "พวกเธอจงลงในเรือด้วยพระนามของอัลลอฮฺ ทั้งในยามแล่นของมันและในยามจอดของมัน แท้จริงพระเจ้าของฉันเป็นพระผู้ทรงอภัย พระผู้ทรงปรานีเสมอ"

{11:42} และมันแล่นพาพวกเขาไปท่ามกลางคลื่นลูกเท่าภูเขา และนูหฺได้ร้องเรียกบุตรชายของเขาซึ่งอยู่อย่างโดดเดี่ยว "โอ้ ลูกของฉันเอ๋ย! จงขึ้นมาบนเรือกับเราเถิด และเธออย่าอยู่ร่วมกับผู้ปฏิเสธศรัทธาเลย"

{11:43} (บุตรชาย)กล่าวว่า "ฉันจะไปอาศัยภูเขาลูกหนึ่ง มันจะคุ้มครองฉันจากน้ำนี้ได้" (นูหฺ)กล่าวว่า "ไม่มีผู้ใดคุ้มครองในวันนี้จากพระบัญชาของอัลลอฮฺ เว้นแต่ผู้ทีพระองค์ทรงเมตตา" และคลื่นได้ซัดเข้ามาระหว่างเขาทั้งสอง และ(ลูกชาย)ก็อยู่ในหมู่ผู้จมน้ำ

{11:44} และได้มีการกล่าวว่า "โอ้ แผ่นดินเอ๋ย! จงกลืนน้ำของเธอ และโอ้ ฟ้าเอ๋ย! จงหยุด" และน้ำได้ลดลง และกิจการได้ถูกตัดสิน และมันได้จอดเทียบอยู่ที่ภูเขาอัลญูดีย์ และได้มีกล่าวว่า "ความหมายนะจงประสบแก่หมู่ชนผู้อธรรมเถิด"

{11:45} และนูหฺได้ร้องอุทธรณ์ต่อพระเจ้าของตนโดยกล่าวว่า "พระเจ้าของข้าฯ! แท้จริงบุตรชายของข้าฯเป็นคนหนึ่งในครอบครัวของข้าฯ และแท้จริงสัญญาของพระองค์นั้นเป็นความจริง และพระองค์นั้นทรงตัดสินเที่ยงธรรมยิ่ง ในหมู่ผู้ตัดสินทั้งหลาย"

{11:46} พระองค์ทรงตรัสว่า "ดูกร นูหฺ! แท้จริงเขาไม่ได้เป็นคนหนึ่งในครอบครัวของเธอ แท้จริงเขาเป็นผลงานที่ไม่ดี ดังนั้นเธออย่าร้องเรียนต่อฉันในสิ่งที่เธอไม่มีความรู้ แท้จริงฉันขอเตือนเธอ ที่เธอจะอยู่ในหมู่ผู้งมงาย"

{11:47} เขากล่าวว่า "พระเจ้าของข้าฯ แท้จริงข้าฯขอความคุ้มครองต่อพระองค์ ให้พ้นจากการร้องเรียนต่อพระองค์ในสิ่งที่ข้าฯไม่มีความรู้ในเรื่องนั้น และหากพระองค์ไม่ทรงอภัยแก่ข้าฯและไม่ทรงเมตตาข้าฯแล้ว ข้าฯก็จะอยู่ในหมู่ผู้สูญเสีย"

{11:48} ได้มีการกล่าวว่า "ดูกร นูหฺ! จงขึ้นบกด้วยความศานติจากเรา และความจําเริญแก่เธอ และแก่กลุ่มชนที่อยู่กับเธอและกลุ่มชนอื่น ที่เราจะให้พวกเขาหลงระเริง แล้วการลงโทษอย่างเจ็บปวดจากเราก็จะประสบแก่พวกเขา"

{11:49} เหล่านั้นคือส่วนหนึ่งจากเรื่องราวอันเร้นลับ ที่เราได้เปิดเผยสำแดงมายังเธอ เธอไม่รู้เรื่องนี้และกลุ่มชนของเธอก็ไม่รู้มาก่อนเลย ดังนั้นเธอจงอดทนแท้จริงบั้นปลายที่ดีนั้นเป็นของบรรดาผู้ยำเกรง

{11:50} และยังอาด (เราได้ส่ง)พี่น้องคนหนึ่งของพวกเขาคือฮูด เขากล่าวว่า "ดูกร หมู่ชนของฉัน! พวกเธอจงเคารพสักการะอัลลอหเถิด พวกเธอไม่มีพระผู้เป็นเจ้าอื่นใด นอกจากพระองค์ พวกเธอเพียงแต่เป็นพวกอุปโลกน์เท่านั้น"

{11:51} "ดูกร หมู่ชนของฉัน! ฉันไม่ได้ขอร้องต่อพวกเธอซึ่งค่าตอบแทนในการนี้เลย ค่าตอบแทนของฉันนั้นอยู่กับพระผู้ให้บังเกิดฉัน พวกเธอไม่ใช้ปัญญาหรือ?"

{11:52} "และดูกร หมู่ชนของฉัน! จงขออภัยโทษต่อพระเจ้าของพวกเธอ แล้วจงกลับเนื้อกลับตัวต่อพระองค์ พระองค์จะส่งเมฆมาเหนือพวกเธอ ให้หลั่งน้ำฝนลงมาอย่างหนัก และจะทรงเพิ่มพลังเป็นทวีคุณให้แก่พวกเธอ และพวกเธออย่าผินหลังกลับอย่างทรชน"

{11:53} พวกเขากล่าวว่า "ดูกร ฮูด! ท่านไม่ได้นำหลักฐานอันชัดแจ้งมาให้แก่เรา และพวกเราก็จะไม่ละทิ้งพระเจ้าทั้งหลายของเรา ตามคํากล่าวของท่าน และพวกเราก็จะไม่มีศรัทธาในตัวท่าน

{11:54} เราจะไม่กล่าวอย่างใด นอกจากว่าพระเจ้าบางองค์ของเราได้นำความชั่วเข้าไปสิงในตัวท่าน" เขา(ฮูด)กล่าวว่า "แท้จริงฉันให้อัลลอฮฺทรงเป็นพยาน แล้วพวกเธอจงเป็นสักขีพยานด้วยว่า ฉันได้ปลีกตัวออกจากสิ่งที่พวกเธอตั้งภาคี"

{11:55} "อื่นจากพระองค์ ดังนั้นพวกเธอทั้งหมดจงวางแผนทำร้ายฉันเถิด

แล้วพวกเธออย่าได้ให้ฉันต้องรอคอยเลย"

{11:56} "แท้จริง ฉันมอบหมายต่ออัลลอฮฺ พระเจ้าของฉันและพระเจ้าของพวกเธอ ไม่มีสัตว์เคลื่อนไหวใด ๆ เว้นแต่พระองค์ทรงกําขมับมัน แท้จริงพระเจ้าของฉันอยู่บนทางที่เที่ยงตรง"

{11:57} หากพวกเธอผินหลังให้แล้วไซร้ ฉันก็ได้แจ้งข่าวแก่พวกเธอแล้ว ตามที่ฉันได้ถูกส่งมายังพวกเธอเพื่อมัน และพระเจ้าของฉันจะทรงแต่งตั้งกลุ่มชนอื่นจากพวกเธอเป็นตัวแทน และพวกเธอจะไม่ทำความเสียหายต่อพระองค์แต่อย่างใด แท้จริงพระเจ้าของฉันเป็นพระผู้ทรงพิทักษ์ทุกสิ่ง"

{11:58} และเมื่อบัญชาของเราได้มาถึง เราได้ช่วยฮูดและบรรดาผู้มีศรัทธาร่วมกับเขาให้รอดพ้น ด้วยความเมตตาจากเรา และเราได้ช่วยให้พวกเขาพ้นจากการลงโทษอันโหดร้าย

{11:59} และนั่นคือกลุ่มชนอาด พวกเขาปฏิเสธมวลอภินิหารสัญญาณของพระเจ้าของพวกตน และฝ่าฝืนต่อบรรดาศาสนทูตของพระองค์และปฏิบัติตามคําสั่งของผู้หยิ่งผยองผู้ขัดขืนทุกคน

{11:60} และพวกเขาถูกติดตามด้วยการสาปแช่งในโลกนี้และในวันฟื้นคืนชีพ มิหรือ อันที่จริงกลุ่มชนอาดปฏิเสธศรัทธาต่อพระเจ้าของพวกตน? มิหรือ จงห่างไกลจากความเมตตาเถิด อาดกลุ่มชนของฮูด!

{11:61} และยังษะมูด (เราได้ส่ง) พี่น้องคนหนึ่งของพวกเขาคือศอลิฮฺเขากล่าวว่า "ดูกร หมู่ชนของฉัน! พวกเธอจงเคารพสักการะอัลลอฮฺเถิด พวกเธอไม่มีพระผู้เป็นเจ้าอื่นใด นอกจากพระองค์ พระองค์ทรงบังเกิดพวกเธอจากแผ่นดิน และทรงให้พวกเธอพำนักอยู่ในนั้น ดังนั้น พวกเธอก็จงขออภัยต่อพระองค์และจงสำนึกผิดต่อพระองค์ แท้จริงพระเจ้าของฉันนั้นทรงอยู่ใกล้ ทรงตอบรับเสมอ"

{11:62} พวกเขากล่าวว่า "ดูกร ศอลิฮฺ! แน่นอนท่านเคยเป็นที่พึ่งในหมู่พวกเรามาก่อน บัดนี้ท่านจะห้ามไม่ให้เราเคารพสักการะสิ่งที่บรรพบุรุษของเราเคารพสักการะอยู่กระนั้นหรือ? และแท้จริงพวกเราอยู่ในการสงสัยต่อสิ่งที่ท่านเรียกร้องเชิญชวนเรายังสิ่งนั้น"

{11:63} เขากล่าวว่า "ดูกร หมู่ชนของฉัน! พวกเธอไม่เห็นดอกหรือ? ว่าฉันมีหลักฐานอันชัดแจ้งจากพระเจ้าของฉัน และพระองค์ทรประทานความเมตตาจากพระองค์แก่ฉัน ดังนั้นผู้ใดเล่าจะช่วยฉันให้พ้นจากอัลลอฮฺหากฉันฝ่าฝืนพระองค์ ดังนั้น พวกเธอจะไม่เพิ่มสิ่งใดให้แก่ฉันเลยนอกจากความสูญเสียเท่านั้น"

{11:64} "ดูกร หมู่ชนของฉัน! นี่คืออูฐตัวเมียของอัลลอฮฺเป็นอภินิหารสัญญาณหนึ่งแก่พวกเธอ ดังนั้นพวกเธอจงปล่อยมันให้หากินตามลําพังในแผ่นดินของอัลลอฮฺ และอย่าก่อความทุกข์ยากแก่มัน มิฉะนั้นแล้ว การลงโทษอันใกล้จะคร่าพวกเธอ"

{11:65} ต่อมาพวกเขาได้ฆ่ามัน ดังนั้น(ศอลิฮฺ)จึงกล่าวว่า "พวกเธอจงสุขสำราญในบ้านของพวกเธอสามวันนั่นคือสัญญาที่ไม่โกหก"

{11:66} ดังนั้น เมื่อพระบัญชาของเราได้มาถึง เราได้ช่วยศอลิฮฺและบรรดาผู้มีศรัทธาร่วมกับเขาให้รอดพ้นด้วยความเมตตาจากเรา และให้พ้นจากความอดสูของวันนั้น แท้จริงพระเจ้าของเธอคือพระผู้ทรงพลัง พระผู้ทรงอำนาจ

{11:67} และเสียงกัมปนาทได้คร่าบรรดาผู้อธรรม แล้วพวกเขาได้กลายเป็นผู้นอนพังพาบตายในบ้านเรือนของพวกเขา

{11:68} ประหนึ่งว่า พวกเขาไม่ได้เคยรุ่งเรืองอยู่ในนั้นมาก่อน มิหรือ อันที่จริงษะมูดนั้นปฏิเสธศรัทธาพระเจ้าของพวกตน? มิหรือ จงห่างไกลจากความเมตตาเถิด ษะมูด!

{11:69} และแน่นอนบรรดาทูตของเราได้มายังอิบรอฮีมพร้อมทั้งข่าวดี พวกเขากล่าวว่า "ขอความศานติ จงมีแด่ท่าน" (อิบรอฮีม)กล่าวว่า "ขอความศานติ จงมีแด่พวกท่าน" ดังนั้นเขาไม่ได้รีรอที่จะนำลูกวัวย่างออกมา

{11:70} ครั้นเมื่อ(อิบรอฮีม)เห็นว่ามือของพวกเขาไม่ถึงมัน เขาไม่พอใจต่อพวกเขาและรู้สึกกลัวพวกเขา พวกเขากล่าวว่า "อย่ากลัวเลย แท้จริง เราถูกส่งมายังกลุ่มชนของลูฏ"

{11:71} และภริยาของเขายืนอยู่แล้ว "นางก็หัวเราะ เราจึงแจ้งข่าวดีแก่นางด้วย(การได้บุตรชื่อ) อิสหากและหลังจากอิสหากคือยะอฺกูบ"

{11:72} นางกล่าวว่า "โอ้ แปลกยิ่งนัก! ฉันจะมีบุตรหรือ? ขณะที่ฉันแก่แล้ว และนี่สามีของฉันก็แก่ชราแล้ว แท้จริงนี่เป็นเรื่องประหลาดแท้"

{11:73} พวกเขากล่าวว่า "เธอแปลกใจต่อพระบัญชาของอัลลอฮฺหรือ? ความเมตตาของอัลลอฮฺและความจําเริญของพระองค์ จงประสบแด่พวกท่าน โอ้ สมาชิกครอบครัว! แท้จริงพระองค์คือพระผู้เป็นที่สรรเสริญ พระผู้ทรงประเสริฐยิ่ง"

{11:74} ครั้นเมื่อความตระหนกได้คลายไปจากอิบรอฮีมแล้ว และข่าวดีได้มายังเขา เขาก็โต้เถียงเราในเรื่องของกลุ่มชนลูฏ

{11:75} แท้จริงอิบรอฮีมนั้นเป็นผู้มีขันติ จิตใจอ่อนโยน หันหน้าเข้าหาอัลลอฮฺเสมอ

{11:76} "ดูกร อิบรอฮีม! จงผินหลังจากเรื่องนี้เถิด แท้จริงพระบัญชาของพระเจ้าของเธอได้มาถึงแล้ว และแท้จริงพวกเขาเหล่านั้น การลงโทษที่ไม่เปลี่ยนเป็นอย่างอื่นจะมายังพวกเขาอย่างแน่นอน"

{11:77} และเมื่อบรรดาทูตของเราได้มายังลูฏ เขาเป็นทุกข์ต่อพวกเขา และหนักใจในพวกเขา และกล่าวว่า "นี่เป็นวันอันโหดร้าย"

{11:78} และกลุ่มชนของเขาได้มาหาเขาอย่างรีบร้อน และก่อนหน้านั้นพวกเขาเคยทำความชั่ว เขากล่าวว่า "ดูกร กลุ่มชนของฉัน! เหล่านี้คือลูกสาวของฉัน พวกนางนั้นบริสุทธิ์สำหรับพวกเธอ ดังนั้น พวกเธอก็จงยำเกรงอัลลอฮฺเถิด และอย่าทำให้ฉันอับอายต่อแขกของฉันเลย ไม่มีผู้ชายสักคนในหมู่พวกเธอที่มีสติสัมปชัญญะบ้างหรือ?"

{11:79} พวกเขากล่าวว่า "ท่านก็รู้ดีว่า เราไม่มีความใคร่ในลูกสาวของท่าน และแท้จริงท่านรู้ดีถึงสิ่งที่เราปรารถนา"

{11:80} เขากล่าวว่า "หวังเหลือเกินว่าฉันมีกําลังปราบพวกเธอ หรือฉันจะหันไปพึ่งที่พัก

พิงอันมั่นคง"

{11:81} พวกเขา (มะลาอิกะฮฺ) กล่าวว่า "ดูกร ลูฏ! พวกเราเป็นทูตของพระเจ้าของท่าน พวกเหล่านั้นจะไม่ถึงท่านได้เลย ดังนั้น ท่านจงเดินทางไปในยามรัติกาลพร้อมกับครอบครัวของท่าน และคนใดในหมู่พวกท่านอย่าได้เหลียวหลังกลับมอง เว้นแต่ภริยาของท่าน แท้จริงจะประสบแก่นางเช่นเดียวกับที่ได้ประสบแก่พวกเขา แท้จริงสัญญาของพวกเขาคือยามเช้า มิหรือ ยามเช้านั้นใกล้เข้ามาแล้ว?"

{11:82} ดังนั้น เมื่อพระบัญชาของเราได้มาถึงเราได้พลิกข้างบนของมันลงข้างล่าง และเราได้ให้ก้อนหินแกร่งหล่นพรูลงมา

{11:83} ถูกตราเครื่องหมายไว้ ณ ที่พระเจ้าของเธอ และมันไม่ไกลไปจากบรรดาผู้อธรรม

{11:84} และยังกลุ่มชนของมัดยัน เราได้ส่งพี่น้องคนหนึ่งของพวกเขาคือชุอัยบฺ เขากล่าวว่า "ดูกร หมู่ชนของฉัน! พวกเธอจงเคารพสักการะอัลลอฮฺเถิด พวกเธอนั้นไม่มีพระผู้เป็นเจ้าอื่นใดนอกจากพระองค์ และพวกเธออย่าให้การตวง และการชั่งบกพร่อง แท้จริงฉันเห็นพวกเธอยังอยู่ในความดี และแท้จริงฉันกลัวแทนพวกเธอต่อการลงโทษในวันที่ถูกห้อมล้อมไว้"

{11:85} และดูกร หมู่ชนของฉัน! พวกเธอจงให้ครบสมบูรณ์ไว้ซึ่งการตวงและการชั่งโดยเที่ยงธรรม และอย่าให้บกพร่องแก่ผู้อื่น ซึ่งสิ่งต่าง ๆ ของพวกเขา และอย่าก่อกวนในแผ่นดินโดยเป็นผู้บ่อนทำลาย

{11:86} สิ่งที่เหลืออยู่ของอัลลอฮฺนั้นดียิ่งสำหรับพวกเธอ หากพวกเธอเป็นผู้มีศรัทธา และฉันไม่ใช่ผู้คุ้มกันพวกเธอ

{11:87} พวกเขากล่าวว่า "ดูกร ชุอัยบฺ! การนมาซของท่านสั่งสอนท่านว่า ให้พวกเราละทิ้งสิ่งที่บรรพบุรุษของเราเคารพสักการะ หรือว่าให้เรากระทำต่อทรัพย์สินของเราตามที่เราต้องการกระนั้นหรือ? ท่านนั้นก็เป็นผู้อดทนขันติ เป็นผู้มีสติปัญญา"

{11:88} เขากล่าวว่า "ดูกร หมู่ชนของฉัน! พวกเธอไม่เห็นดอกหรือ? ว่าฉันมีหลักฐานอันชัดแจ้งจากพระเจ้าของฉัน และพระองค์ได้ประทานปัจจัยยังชีพแก่ฉัน ซึ่งเป็นปัจจัยยังชีพที่ดีจากพระองค์ และฉันไม่ปรารถนาที่จะขัดแย้งกับพวกเธอในสิ่งที่ฉันได้ห้ามพวกเธอให้ละเว้น ฉันไม่ปรารถนาสิ่งใดนอกจากการปฏิรูปให้ดีขึ้นเท่าที่ฉันสามารถ และความสำเร็จของฉันจะไม่เกิดขึ้น เว้นแต่ด้วยความช่วยเหลือของอัลลอฮฺ ต่อพระองค์ฉันมอบหมายและยังพระองค์เท่านั้นฉันกลับคืน"

{11:89} "และดูกร หมู่ชนของฉัน! อย่าให้การแตกแยกกับฉันทำให้พวกเธอกระทำผิด ซึ่งจะประสบแก่พวกเธอเช่นที่ได้ประสบแก่กลุ่มชนของนูหฺ หรือกลุ่มชนของฮูด หรือกลุ่มชนของศอลิฮฺและกลุ่มชนของลูฏไม่ได้อยู่ห่างไกลจากพวกเธอ"

{11:90} "และพวกเธอจงขออภัยโทษต่อพระเจ้าของพวกเธอ แล้วจงกลับเนื้อกลับตัวต่อพระองค์ แท้จริงพระเจ้าของฉันคือพระผู้ทรงเมตตา พระผู้ทรงรักใคร่"

{11:91} พวกเขากล่าวว่า "ดูกร ชุอัยบฺ! เราไม่เข้าใจส่วนมากที่ท่านกล่าว และแท้จริงเราเห็นว่าท่านเป็นคนอ่อนแอในหมู่พวกเรา ถ้าไม่ใช่เพราะครอบครัวของท่านแล้ว เราจะเอาหินขว้างท่านและท่านก็ไม่ได้เป็นผู้มีเกียรติเหนือพวกเรา"

{11:92} เขากล่าวว่า "ดูกร กลุ่มชนของฉัน! ครอบครัวของฉันเป็นที่นับถือแก่พวกเธอมากยิ่งกว่าอัลลอฮฺกระนั้นหรือ? และพวกเธอได้เอาพระองค์ไว้เบื้องหลังพวกเธอ แท้จริงพระเจ้าของฉันทรงรอบรู้สิ่งที่พวกเธอกระทำ"

{11:93} และดูกร หมู่ชนของฉัน! พวกเธอจงกระทำตามแนวทางของพวกเธอ ฉันก็จะกระทำ (ตามแนวทางของฉัน) แล้วพวกเธอก็จะรู้ว่าผู้ใดที่การลงโทษจะประสบแก่เขา จะทำให้เขาอดสูและผู้ใดที่เขาเป็นคนโกหก และพวกเธอจงคอยเฝ้าดูเถิด แท้จริงฉันก็ร่วมกับพวกเธอคอยเฝ้าดูอยู่ด้วย

{11:94} และเมื่อพระบัญชาของเราได้มาถึง เราได้ช่วยชุอัยบฺและบรรดาผู้มีศรัทธาร่วมกับเขาให้รอดพ้น ด้วยความเมตตาจากเรา และเสียงกัมปนาทได้ร่าบรรดาผู้อธรรมแล้วพวกเขาได้กลายเป็นผู้นอนพังพาบตายในบ้านเรือนของพวกเขา

{11:95} ประหนึ่งว่าพวกเขาไม่ได้เคยรุ่งเรืิองอยู่ในนั้นมาก่อน พึงทราบเถิด! จงห่างไกลจากความเมตตาเถิดสำหรับมัดยัน เช่นเดียวกับที่ษะมูดได้ห่างไกลมาแล้ว

{11:96} และโดยแน่นอนเราได้ส่งมูซาพร้อมด้วยสัญญาณต่าง ๆ ของเราและหลักฐานอันชัดแจ้ง

{11:97} ยังฟิรเอานฺและบรรดาบุคคลชั้นนำของเขา พวกเขาได้ปฏิบัติตามคําสั่งของฟิรเอานฺ และคําสั่งของฟิรเอานฺนั้นไม่เหมาะสม

{11:98} เขาจะนำหน้ากลุ่มชนของเขาในวันฟื้นคืนชีพและนำพวกเขาลงในเพลิงนรก และมันเป็นทางลงที่ชั่วช้าที่พวกเขาได้ลงไป

{11:99} และพวกเขาถูกติดตามด้วยการถูกสาปแช่งในโลกนี้และวันฟื้นคืนชีพ

มันเป็นความช่วยเหลือที่ชั่วช้าที่พวกเขาได้รับความช่วยเหลือ

{11:100} นั่นคือส่วนหนึ่งจากเรื่องราวของเมืองต่าง ๆ เราได้บอกเล่ามันแก่เธอ ส่วนหนึ่งของมันยังคงอยู่ และส่วนหนึ่งก็เสื่อมโทรมไปแล้ว

{11:101} และเราไม่ได้อธรรมพวกเขา ทว่าพวกเขาอธรรมต่อตัวของพวกเขาเอง และบรรดาพระเจ้าของพวกเขาที่พวกเขาวิงวอนขออื่นจากอัลลอหนั้น จะไม่อํานวยประโยชน์อันใดให้แก่พวกเขาเลย เมื่อพระบัญชาของพระเจ้าของท่านได้มาถึง และพระเจ้าเหล่านั้นไม่ได้เพิ่มอันใดแก่พวกเขา นอกจากความพินาศ

{11:102} และเช่นนี้แหละคือการลงโทษของพระเจ้า เมื่อพระองค์ทรงลงโทษบ้านเมือง ซึ่งเป็นบ้านเมืองที่อธรรม แท้จริงการลงโทษของพระองค์นั้นเจ็บแสบสาหัส

{11:103} แท้จริง ในการนั้นเป็นสัญญาณสำหรับผู้ที่กลัวการลงโทษในวันปรโลก นั่นคือวันแห่งการรวบรวมปวงมนุษย์สำหรับพระองค์ และนั่นคือวันแห่งการอยู่ร่วมกันอย่างพร้อมเพรียง

{11:104} และเราไม่ได้หน่วงมัน เว้นแต่เพื่อวาระที่ถูกกําหนดไว้

{11:105} วันที่เมื่อมันมาถึงไม่มีชีวิตใดจะพูดได้ เว้นแต่โดยพระอนุมัติของพระองค์ ดังนั้น ในหมู่พวกเขาจะมีผู้เป็นทุกข์และผู้เป็นสุข

{11:106} ดังนั้น สำหรับบรรดาผู้ที่มีทุกข์ก็จะอยู่ในนรก สำหรับพวกเขาที่อยู่ในนั้นคือ การถอนหายใจและการสะอื้น

{11:107} พวกเขาจะพำนักอยู่ในนั้นตลอดกาล ตราบเท่าที่ชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดินยืนยง เว้นแต่ที่พระเจ้าของเจ้าทรงประสงค์แท้จริงพระเจ้าของเธอเป็นผู้กระทำโดยเด็ดขาดตามที่พระองค์ทรงประสงค์

{11:108} และสำหรับบรรดาผู้เป็นสุขก็จะอยู่ในสวนสวรรค์พวกเขาจะพำนัก

อยู่ในนั้นนิรันดร ตราบเท่าที่ชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดินยืนยง เว้นแต่ที่พระเจ้าของของเธอ ทรงประสงค์เป็นการประทานให้โดยปราศจากการตัดทอน

{11:109} ดังนั้น เธออย่าอยู่ในความสงสัยในสิ่งที่พวกเขาเหล่านั้นเคารพสักการะ

พวกเขาไม่ได้เคารพสักการะสิ่งใด เว้นแต่เช่นเดียวกับที่บรรพบุรุษของพวกเขาได้เคารพสักการะมาก่อนแล้ว และแท้จริงเราจะตอบแทนส่วนแบ่งของพวกเขาอย่างครบถ้วน โดยปราศจากความบกพร่อง

{11:110} และแท้จริงเราได้ให้คัมภีร์แก่มูซา แล้วได้เกิดการขัดแย้งกันขึ้นในนั้น และหากไม่ใช่เพราะลิขิตที่มีมาก่อนจากพระเจ้าของเธอแล้ว ก็คงจะมีการตัดสินระหว่างพวกเขา และแท้จริงพวกเขาอยู่ในความสงสัยกังขาต่อสิ่งนั้น

{11:111} และแน่นอน สำหรับพวกเขาทั้งหมด พระเจ้าของเธอจะทรงตอบแทนการงานของพวกเขาให้อย่างครบถ้วน แท้จริงพระองค์ทรงรู้ทุกสิ่งที่พวกเขากระทำ

{11:112} เธอจงอยู่ในความเที่ยงธรรมเช่นที่ถูกบัญชา และผู้ที่ขอลุโทษร่วมกับเธอเช่นกัน

และพวกเธออย่าได้ละเมิด แท้จริงพระองค์ทรงรู้เห็นสิ่งที่พวกเธอกระทำ

{11:113} และพวกเธออย่าคล้อยตามบรรดาผู้อธรรม มิฉะนั้น เพลิงนรกจะสัมผัสพวกเธอได้ และพวกเธอไม่มีผู้คุ้มครองใด ๆ นอกจากอัลลอฮฺ แล้วพวกเธอจะไม่ได้รับความช่วยเหลือ

{11:114} และเธอจงดํารงไว้ซึ่งการนมาซ ตอนช่วงปลายทั้งสองของทิวาและยามต้นของราตรี

แท้จริงความดีทั้งหลายย่อมลบล้างความชั่วทั้งหลาย นั่นคือข้อเตือนสำหรับบรรดาผู้ที่รำลึก

{11:115} และเธอจงอดทน เพราะแท้จริงอัลลอฮฺจะไม่ทรงทำให้การตอบแทนของผู้ทำความดีนั้นสูญหาย

{11:116} เหตุใดในชนรุ่นก่อนพวกเธอ จึงไม่มีปัญญาชนช่วยกันห้ามปรามการบ่อนทำลายในแผ่นดิน เว้นแต่จํานวนน้อยเท่านั้นจากผู้ที่เราได้ช่วยพวกเขาให้รอดพ้น และบรรดาผู้อธรรมได้หลงตามความสำราญที่ถูกประทานให้ พวกเขาจึงเป็นทรชน

{11:117} และพระเจ้าของเธอจะไม่ทรงทำลายหมู่บ้านโดยอยุติธรรม ขณะที่ประชากรของหมู่บ้านนั้นเป็นผู้ฟื้นฟูทำความดี

{11:118} และหากพระเจ้าของเธอทรงประสงค์ แน่นอนพระองค์จะทรงทำให้ปวงมนุษย์เป็นประชาชาติเดียวกัน ถึงกระนั้นพวกเขาก็ยังคงขัดแย้งกัน

{11:119} เว้นแต่ผู้ที่พระเจ้าของเธอทรงเมตตา และเช่นนั้นแหละพระองค์ทรงบังเกิดพวกเขา และพระพจนารถของพระเจ้าสมบูรณ์แล้วว่า "ฉันจะให้นรกนั้นเต็มไปด้วยพวกญินและมนุษย์ทั้งหมด"

{11:120} และทั้งหมดนี้เราได้บอกเล่าแก่เธอ จากเรื่องราวของบรรดาศาสนทูตเพื่อทำให้จิตใจของเธอหนักแน่น ในนี้มีความสัจจริงมาถึงเธอ และเป็นข้อตักเตือน และข้อรำลึกสำหรับบรรดาผู้มีศรัทธา

{11:121} จงกล่าวเถิดแก่บรรดาผู้ไม่มีศรัทธาว่า "พวกเธอจงกระทำตามแนวทางพวกเธอ แท้จริงเราก็กระทำเช่นกัน"

{11:122} "และพวกเธอจงคอยดูเถิด แท้จริงเราก็เป็นผู้คอยดู"

{11:123} และสิ่งพันญาณวิสัยแห่งชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดินนั้น เป็นกรรมสิทธิ์ของอัลลอฮฺ และยังพระองค์การงานทั้งมวลจะถูกนำกลับไป ดังนั้นเธอจงเคารพสักการะพระองค์และจงมอบหมายต่อพระองค์ และพระเจ้าของเธอนั้น ไม่ทรงเผอเรอในสิ่งที่พวกเธอกระทำ