การเปรียบเทียบประสิทธิภาพไหมขัดฟันจากเส้นใยธรรมชาติและไหมขัดฟันตามท้องตลาด
นายณภัทร ทิพย์อักษร
นางสาวพัสวี พัฒนปรีชาเสถียร
ครูที่ปรึกษา ครูสุภารัตน์ ชูช่วย และ ผศ.ดร.ต่อศักดิ์ กิตติกรณ์
บทคัดย่อ
โครงงานนี้เกี่ยวกับการศึกษาประสิทธิภาพของไหมขัดฟันจากเส้นใยธรรมชาติและไหมขัดฟันจากเส้นนนใยพอลิเมอร์ โดยผู้จัดทำเลือกใช้ใยกล้วย และใยสับปะรด เป็นใยพืชที่ใช้ในการทดสอบ เพื่อศึกษาว่าเส้นใยชนิดใดมีคุณสมบัติในการแปรรูปเป็นไหมขัดฟันได้ดีที่สุด โดย ในการทดลองการอุ้มน้ำพบว่าใยกล้วยสามารถอุ้มน้ำได้ 70.81% ของน้ำหนักเดิมและใยสับปะรดสามารถอุ้มน้ำได้ 78.01% ของน้ำหนักเดิม ในการทดสอบกับเครื่องtensile พบว่าเส้นใยกล้วยขาดออกจากกันเมื่อแรงดึงอยู่ที่ 18 นิวตัน เส้นใยสับปะรด เส้นใยพอลิเมอร์(Dr. Phillips) และเส้นใยพอลิเมอร์ (sparkle) ขาดออกจากกันที่แรง 4.5, 20.5 และ 21 นิวตัน ตามลำดับ และในการทดสอบการขจัดคราบ พบว่า เส้นใยกล้วยมีประสิทธิภาพในการขจัดคราบ(แป้งมัน)มากที่สุดที่ 87.17% อันดับที่ 2คือ เส้นใยพอลิเมอร์ (sparkle) ที่ 86.72% อันดับที่ 3 คือเส้นใยพอลิเมอร์ (Dr. Phillips) ที่ 84.46% และอันดับสุดท้ายคือ เส้นใยสับปะรดที่ 76.06% จากผลการทดสอบกับเครื่อง tensile เทียบกับมาตรฐานการผลิตไหมขัดฟัน(ISO 28158)สามารถสรุปได้ว่า เส้นใยกล้วย เส้นใยพอลิเมอร์ (sparkle) และเส้นใยพอลิเมอร์ (Dr. Phillips) มีประสิทธิภาพเทียบเท่ามาตรฐานการผลิตไหมขัดฟัน (ISO 28158) แต่เส้นใยสับปะรดนั้นไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ และผลการทดสอบการขจัดคราบสามารถสรุปได้ว่า เส้นใยกล้วยมีความสามารถในการขจัดคราบเทียบเท่ากับเส้นใยพอลิเมอร์ ดังนั้นจึงสามารถสรุปผลได้ว่าเส้นใยกล้วยสามารถนำมาแปรรูปเป็นไหมขัดฟันได้