ชื่อสามัญ : Coriander
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Coriandrum sativum L.
ชื่อวงศ์ : APIACEAE หรือ UMBELLIFERAE
ชื่อพื้นเมือง : ผักหอม (นครพนม), ยำแย้ (กระบี่), ผักหอมป้อม ผักหอมผอม (ภาคเหนือ), ผักหอมน้อย (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ)
ใบ : ใบของผักชีนั้นมีลักษณะคล้ายทรงกลม แต่มีรอยขอบหยักอยู่โดยรอบทำให้ดูเหมือนพัด มีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ ส่วนใบอ่อน จะมีลักษณะคล้ายกับขนนก
ต้น : ลำต้นของผักชีนั้น ก็เป็นอีกส่วนที่มีกลิ่นหอมไม่แพ้กัน โดยลักษณะโดดเด่นของลำต้นผักชี คือ มักจะเป็นก้านเล็กๆยาวๆ และค่อนข้างอ่อน เหมาะแก่การนำมารับประทาน
ดอก : ลักษณะเด่นของพืชตระกูลผักชีนั้นอยู่ที่ดอก โดย ดอกของผักชีมักจะมีลักษณะเป็นช่อมีซี่ร่ม ดอกของผักชีนั้นมีทั้งแบบสีขาว และสีม่วงแดงอ่อนๆ
อายุไข : ผักชีเป็นพืชล้มลุก ที่มีอายุค่อนข้างสั้น โดยจะมีช่วงของการเจริญเติบโตเพียงแค่ 1 ปีเท่านั้น
ถิ่นกำเนิด : ผักชีเป็นพืชที่พบเห็นได้มากในแถบเมดิเตอร์เรเนียน เป็นพืชที่มีความทนทานต่อสภาพอากาศ และแพร่พันธ์ได้เร็ว ที่น่าสนใจคือ ผักชีสามารถเจริญเติบโตได้ดีที่สุด ในช่วงที่อากาศหนาว และสำหรับประเทศไทย แหล่งปลูกใหญ่ๆ จะอยู่ในจังหวัดแถบภาคกลางของประเทศ เช่น ราชบุรี กรุงเทพ และนครปฐม
สำหรับการเข้ามาในประเทศไทยของผักชีนั้น คาดว่าจะถูกนำเข้ามาโดยพ่อค้าชาวอินเดีย เพราะก่อนหน้าที่เราจะพบเห็นในไทย ผักชีจัดว่าเป็นเครื่องเทศยอดนิยมของชาวอินเดียอีกตัวหนึ่งเลยทีเดียว
* สรรพคุณทางยาของผักชีตามภูมิปัญญา
ผักชีมีสรรพคุณดี ๆ แทบจะทุกส่วน เริ่มจากส่วนใบผักชี ลำต้น เมล็ดผักชี และราก ตามนี้
- ใบผักชี ช่วยบำรุงธาตุในร่างกาย แก้อาการกระหายน้ำ แก้ไอ แก้หวัด บรรเทาอาการคลื่นไส้ อาเจียน แก้อาการวิงเวียนศีรษะ รักษาอาการอาหารเป็นพิษ และช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด
- เมล็ดผักชี แก้ปวดฟัน รักษาแผลในปาก และผลผักชียังสามารถแก้บิด แก้อาการถ่ายเป็นเลือด ถ่ายเป็นมูก แก้ริดสีดวงทวาร และบรรเทาอาการท้องอืดท้องเฟ้อได้ด้วย
- ต้นสด มีรสเผ็ด ช่วยขับผื่นหัดให้ออกเร็วขึ้น ขับเหงื่อ ขับลม ช่วยให้เจริญอาหาร ละลายเสมหะ และรักษาโรคริดสีดวงทวาร
- รากผักชี ใช้เป็นน้ำกระสายยา ช่วยขับพิษไข้หัว ไข้อีดำอีแดง รักษาหิด และอีสุกอีใส
วิธีการปลูกผักชี
1. การเลือกเมล็ดพันธุ์ผักชี เมล็ดพันธุ์ผักชีที่นิยมปลูกกันเนื่องจากปลูกง่าย หาซื้อง่ายตามท้องตลาดทั่วไปและเจริญงอกงามดี ได้แก่พันธุ์ เมล็ดผักชีพันธุ์สิงคโปร์และเมล็ดผักชีไต้หวัน
2. การเตรียมดินเพื่อปลูกผักชี การปลูกผักชีสามารถปลูกได้ทั้งในกระถางและปลูกในแปลงดิน การปลูกในกระถางเหมาะสำหรับท่านที่ต้องการปลูกรับประทานเอง และการปลูกในแปลงดินเป็นการปลูกเพื่อจำหน่าย สำหรับท่านที่ต้องการปลูกในแปลงดินควรขุดดินหรือพรวนดินขึ้นมาตากแดดไว้ก่อนสัก5-7วัน แล้วทำการพรวนดินซ้ำอีกทีนึงเพื่อให้ดินมีความร่วนและทำการผสมปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยสดคลุกเคล้ากับแปลงดิน
3. เมื่อได้เมล็ดพันธุ์ผักชีมาแล้ว ให้ทำการบดเมล็ดผักชีให้แตกออกเป็น2ส่วนก่อน(สำคัญมาก) แล้วจึงนำไปแช่น้ำ 1-3วัน (แนะนำ การแช่น้ำควรนำผ้ามาห่อไว้ แล้วหาอะไรกดทับให้มิดจมน้ำไปเลย) การบดเมล็ดผักชีจะทำให้ผักชีเจริญเติบโตง่ายและเร็วขึ้น ที่สำคัญเมล็ดพันธุ์ผักชีที่จะนำมาปลูกควรเป็นเมล็ดพันธุ์ผักชีที่ใหม่เพราะเมล็ดพันธุ์ผักชีเก่าที่เป็นราปลูกยังไงก็ไม่ขึ้น
4. เมื่อแช่เมล็ดพันธุ์ผักชีแล้ว นำไปผึ่งลม เมื่อเมล็ดพันธุ์ผักชีเริ่มงอกก็นำไปหว่าน
5. ก่อนการนำเมล็ดพันธุ์ผักไปหว่านควรรถน้ำให้ซุ่มแปลงดิน แล้วจึงนำเมล็ดพันธุ์ผักไปหว่าน และคลุมด้วยฟางข้าวบางๆ เพื่อป้องกันต้นอ่อนจากแสงแดดและรักษาความซุ่มซื้นของแปลงดิน
6. การรดน้ำและการกำจัดวัชพืช ผักชีเป็นผักที่ต้องการน้ำมาก ดังนั้นควรรดน้ำอย่างสม่ำเสมอวันละ2ครั้ง แต่อย่ารถน้ำมากเกินไป เพราะผักชีไม่ชอบน้ำที่ขัง จะทำให้ผักชีเน่าง่าย ส่วนการกำจัดวัชพืชควรกำจัดอย่างทันที โดยใช้มือถอนได้เลย เพราะวัชพืชจะเป็นตัวแย่งน้ำจากผักชีทำให้ผักไปไม่เจริบเติบโต
7. การใส่ปุ๋ยให้ผักชีหลังจากแตกใบแล้วแนะนำให้ใส่ปุ๋ยหมัก