พืชผักพอเพียง


เคล

“ผักเคล” (Kale) หรือ “ผักคะน้าใบหยิก”ชื่อวิทยาศาสตร์ Brassica oleraceae

ชื่อสามัญ Curl leaf kale ได้ขนานนามไว้มากทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น “The new beef” เนื้อรูปแบบใหม่ “The queen of green” ราชินีแห่งผักใบเขียว หรือเป็น “A nutritional house power” บ้านแห่งสารอาหาร ผักชนิดนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ ผักเคลนั้นเริ่มเป็นที่นิยมปลูกมากในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยรัฐบาลของอังกฤษขาดแคลนอาหาร รัฐบาลของอังกฤษแนะนำให้ประชาชนปลูกและทานผัก Kale กันเพราะเป็นผักที่ปลูกง่าย แต่ มีคุณค่าทางอาหารสูงมาก

ผักเคลเป็นพืชตระกูลเดียวกับผักจำพวก บร็อคเคอรี่ คะน้า และดอกกะหล่ำ คนไทยเริ่มรู้จักกันในชื่อ คะน้าใบหยิก และเมื่อไม่นานมานี้นักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบประโยชน์ที่มากมายในผักเคล ทำให้ผักเคลเป็นที่รู้จักกันมากขึ้น สาเหตุที่ทำให้ผักเคลเป็นที่รู้จักและนิยมมากขึ้น

การรับประทานผักเคลนั้นทำได้หลายวิธี สำหรับคนที่ต้องการทานสด จะแนะนำให้ทานเบบี้เคล ซึ่งมีอายุการปลูกประมาณ 60 วัน เพราะผักเคลมีรสออกขมๆและใบค่อนข้างหนา ถ้าทานตอนอายุ 90 วันใบจะค่อยข้างขมและรับประทานยากกว่าผักสลัดทั่วไป สำหรับการนำมาทำอาหาร สามารถนำผักเคลมา ต้ม ทอด หรือผัดได้ แต่วิธีที่นิยมทำมากที่สุดนั้น คือการนำผักเคลมาปั่นเป็นเครื่องดื่มสมูตตี้ ผสมกับผลไม้ลดเปรี้ยวเช่น แอปเปิ้ลเขียวหรือกีวี่ ทำให้ทานง่ายยิ่งขึ้น

ผัก Kale ชื่อนี้ยังไม่มีใครขนานนามอย่างเป็นทางการในเมืองไทยเป็นที่รู้จักกันมาทั่วโลกนับร้อยปีแล้ว และ เพิ่งไม่นานมานี้นักโภชนาการทั่วโลกก็หันมาให้ความสนใจกับ ผักที่น่าอัศจรรย์ชนิดนี้

เป็นผักที่อยู่ในตระกูลเดียวกับ บร็อคคอลี่ ดอกกะหล่ำ คะน้า แขนง

ล่าสุด นักวิทยาศาสตร์ค้นพบว่าผัก Kale มีสารต้านเซลล์มะเร็งทำให้ ผัก Kale ได้รับความสนใจและถูกกล่าวถึงกันอย่างกว้างขวางถึงคุณค่าทางโภชนาการของมัน

เรามาดูคุณค่าที่เราจะได้รับจาก ผัก Kale กัน

คุณประโยชน์ของเคล ที่ทำให้ได้ชื่อว่าเป็น ซุปเปอร์ฟู้ด

1.มีสารชื่อ Sulforaphane ซึ่งมีคุณสมบัติต้านเซลล์มะเร็ง

2.ผัมีไฟเบอร์สูง และไขมันเป็นศูนย์ ดีต่อระบบย่อยอาหาร

3. มีธาตุเหล็กสูงมากซี่งจะบำรุงเลือดและตับได้เป็นอย่างดี

4. มีกรดไขมันโอเมก้า 3 ที่ช่วยระบบภูมิต้านทานของร่างกาย

5.ลดคอเลสเตอรอลได้เป็นอย่างดี ( ควบน้ำหนักร่างกาย )

6. มีวิตะมิน A สูงมากบำรุงสายตา ปอด และ ผิวหนังให้เปล่งปลั่ง ลดรอยเหี่ยวย่นของผิวนั่นเอง

7. มีแคลเซี่ยมสูงกว่านมเมื่อเทียบกันต่อแคลอรี่ ดังนั้นเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการกระดูกที่แข็งแรงแต่ไม่ต้องการเพิ่มน้ำหนัก

8.เป็นผักที่ Detox ตับได้เป็นอย่างดีเพราะมีไฟเบอร์และซัลเฟอร์ รักษาโรคกระดูกพรุน

9.มีวิตะมินซีสูง ช่วยให้ผู้ที่มีปัญหาเรื่องข้อต่อ หัวเข่า มีระบบข้อต่อที่แข็งแรงช่วยต่อต้านความเสียหายจากอนุมูลอิสระในร่างกาย ซึ่งเป็นตัวเร่งความแก่ของเซลล์

10. มีวิตะมิน เค สูงมาก ดีต่อสมอง กระดูก และ ระบบเลือด

11.ที่มีคุณค่ามหัศจรรย์เช่นนี้ จึงควรได้รับความสนใจในการนำมาบริโภคเป็นอย่างยิ่ง ผัก Kale สามารถนำมาทานแบบดิบแบบสลัด หรือ อบ นึ่ง ผัด ทานได้อย่างเอร็ดอร่อย หรือ แม้กระทั่งทำให้เป็นผักกรอบแห้งทานก็ได้คุณประโยชน์เป็นอย่างดี

การปลูกผักคะน้าใบหยิก / Kale

การเตรียมกล้า มี 2 วิธี

เพาะเมล็ดในกระบะที่มีส่วนผสมระหว่างทราย : ขุยมะพร้าว : หน้าดิน อัตราส่วน 2 : 1 : 1 ต้นกล้ามีอายุประมาณ 5 วัน ย้ายลงถาดหลุมที่ใช้วัสดุเพาะ

หยอดเมล็ดลงในถาดหลุมเพาะกล้าโดยตรง หลังจากต้นกล้ามีอายุประมาณ 18 – 21 วัน หรือมีใบจริงอย่างน้อย 2 – 3 ใบ จึงทำการย้ายปลูก

การเตรียมดิน ขุดดินลึก 10 - 15 ม. ตากแดดทิ้งไว้ประมาณ 7 – 14 วัน โรยปูนขาวหรือโดโลไมท์อัตรา 0 – 100 กรัม/ตร.ม. ขึ้นแปลงกว้าง 1 – 1.2 ม.หรือตามสภาพพื้นที่ ใส่ปุ๋ยรองพื้นปุ๋ยคอก (มูลเป็ด หรือมูลวัวแห้ง) หรือปุ๋ยหมักอัตรา 3 กก./ตร.ม. ผสมคลุกเคล้ากับสูตรผงชูรส+ กะปิให้เข้ากัน

การปลูก ย้ายปลูกเมื่อต้นกล้าอายุ 18 – 21 วัน ในกรณีที่ต้องการเก็บหน่อข้าง ฤดูร้อน (ไม่เกิน 28 องศาเซลเซียส) 30 x 30 ซม. ฤดูฝนและหนาว 30 x 40 ซม. เก็บเกี่ยวครั้งเดียวควรใช้ระยะปลูก 25 x 25 ซม.

การให้น้ำ ให้น้ำแบบสปริงเกอร์

การให้ปุ๋ย เนื่องจากคะน้าหยิกเป็นผักกินใบ ในระยะแรกจึงต้องการปุ๋ยไนโตรเจน ค่อนข้างสูง

วัสดุทดแทน (ขุยมะพร้าว 3 ส่วน / แกลบ 1 ส่วน) ให้ปุ๋ย ผงชุรส + กะปิ สัปดาห์ละ 2 ครั้ง เคลสีเขียวเจริญเติบโตได้ดีมาก มีความต้านทานต่อโรคและแมลงได้ดีเยี่ยม 45 วันเก็บทานได้ครับ

แถมเมนูสูตรทำทานง่าย ทำไม่ยาก ... “ Green Superfood “

ส่วนผสม

1 กำ ผักเคล หรือ 4 ถ้วย ผักเคล

1/2 ลูก อโวคาโด

1 ผล แตงกวา

4 ช้อนชา (สาหร่าย วากาเมะอบแห้ง)

2 ช้อนชา งาขาวคั่ว

ขั้นตอนการเตรียม

1. นำสาหร่ายไปแช่น้ำ ประมาณ 5 นาที หรือจนกว่าจะนิ่ม

2. นำผักเคล , อโวคาโด , สาหร่าย , แตงกวา คลุกให้เข้ากัน

3 ใส่งาขาวที่คั่วแล้วในขั้นตอนสุดท้าย

ส่วนน้ำสลัด ตามชอบ

เรียบเรียงโดยห้องสมุดประชาชนอำเภอหาดใหญ่