พืชผักพอเพียง
พืชผักพอเพียง
ผักชีไทย : ปลูกป่า 3 อย่างประโยชน์ 4 อย่าง
ชื่อสามัญ : Coriander
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Coriandrum sativum L.
ชื่อวงศ์ : APIACEAE หรือ UMBELLIFERAE
ชื่อพื้นเมือง : ผักหอม (นครพนม), ยำแย้ (กระบี่), ผักหอมป้อม ผักหอมผอม (ภาคเหนือ), ผักหอมน้อย (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ)
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ใบ : ใบของผักชีนั้นมีลักษณะคล้ายทรงกลม แต่มีรอยขอบหยักอยู่โดยรอบทำให้ดูเหมือนพัด มีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ ส่วนใบอ่อน จะมีลักษณะคล้ายกับขนนก
ต้น : ลำต้นของผักชีนั้น ก็เป็นอีกส่วนที่มีกลิ่นหอมไม่แพ้กัน โดยลักษณะโดดเด่นของลำต้นผักชี คือ มักจะเป็นก้านเล็กๆยาวๆ และค่อนข้างอ่อน เหมาะแก่การนำมารับประทาน
ดอก : ลักษณะเด่นของพืชตระกูลผักชีนั้นอยู่ที่ดอก โดย ดอกของผักชีมักจะมีลักษณะเป็นช่อมีซี่ร่ม ดอกของผักชีนั้นมีทั้งแบบสีขาว และสีม่วงแดงอ่อนๆ
อายุไข : ผักชีเป็นพืชล้มลุก ที่มีอายุค่อนข้างสั้น โดยจะมีช่วงของการเจริญเติบโตเพียงแค่ 1 ปีเท่านั้น
ถิ่นกำเนิด : ผักชีเป็นพืชที่พบเห็นได้มากในแถบเมดิเตอร์เรเนียน เป็นพืชที่มีความทนทานต่อสภาพอากาศ และแพร่พันธ์ได้เร็ว ที่น่าสนใจคือ ผักชีสามารถเจริญเติบโตได้ดีที่สุด ในช่วงที่อากาศหนาว และสำหรับประเทศไทย แหล่งปลูกใหญ่ๆ จะอยู่ในจังหวัดแถบภาคกลางของประเทศ เช่น ราชบุรี กรุงเทพ และนครปฐม
สำหรับการเข้ามาในประเทศไทยของผักชีนั้น คาดว่าจะถูกนำเข้ามาโดยพ่อค้าชาวอินเดีย เพราะก่อนหน้าที่เราจะพบเห็นในไทย ผักชีจัดว่าเป็นเครื่องเทศยอดนิยมของชาวอินเดียอีกตัวหนึ่งเลยทีเดียว
ประโยชน์ที่ได้จากผักชี
นอกจากจะสามารถนำมาประดับตกแต่งให้เกิดความสวยงามของอาหารแล้ว เชื่อว่าหลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่า แท้จริงแล้วผักชี ใช่จะสวยแต่รูป เพราะคุณสมบัติที่มีอยู่ในพืชต้นเล็กๆอย่างผักชีนั้น ยังมีอยู่มากมายทีเดียว เช่น
กระตุ้นความอยากอาหาร ด้วยกลิ่นหอมเฉพาะตัวของผักชีนั้น ทำให้ร่างกายของเราผลิตน้ำดี ออกมาได้มากขึ้น และยังช่วยให้เรารู้สึกอยากรับประทานอาหารได้มากขึ้น
ใบผักชี นอกจากจะมีลักษณะที่สวยงามแล้ว ยังเป็นยาสมุนไพร ช่วยในการปรับธาตุในร่างกายของเราให้สมบูรณ์มากขึ้นอีกด้วย และสำหรับคนที่เป็นโรคกระเพาะการปรุงอาหารโดยนำเอาใบผักชีเป็นส่วนประกอบ จะช่วยลดแผลในกระเพาะอาหารของเราได้เช่นเดียวกัน
แต่อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าผักชีจะเป็นพืชที่มีประโยชน์มากมาย แต่การรับประทานมากเกินไปก็อาจจะส่งผลเสียต่อร่างกายของเราได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่กลัวการมีกลิ่นตัว ควรรับประทานแต่น้อย เพราะไม่เช่นนั้นแล้ว กลิ่นตัวของท่านอาจจะมีมากขึ้นจนไปรบกวนคนรอบข้างได้
และสำหรับคนที่มีอาการหน้ามืดวิงเวียนบ่อยๆ ก็ควรที่จะ ระมัดระวังในการรับประทานผักชีเหมือนกัน เพราะอาจจะทำให้เกิดอาการหน้ามืดได้มากกว่าเดิม เนื่องจากธาตุในกายขาดสมดุล
ใบนำมารับประทานเป็นผักแนม รับประทานกับอาหารอื่น หรือนำมาใช้ปรับแต่งหน้าอาหาร (ใบ)
ช่วยถนอมอาหาร (ใบ)
ช่วยดับกลิ่นเนื้อและกลิ่นคาวต่าง ๆ (ผล)
1. ช่วยบำรุงและรักษาสายตา
2. ช่วยให้เจริญอาหารมากยิ่งขึ้น ด้วยการใช้ผลแห้งนำมาบดเป็นผงรับประทานหรือนำมาต้มกับน้ำดื่ม (ผล, ใบ)
3. ช่วยบำรุงธาตุในร่างกาย (ใบ)
4. ช่วยแก้อาการกระหายน้ำ (ใบ)
5. ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด (ใบ)
6. ช่วยกระตุ้นการทำงานของเลือดพลาสมาและกล้ามเนื้อ (ใบ)
7. ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็ง (ใบ)
8. ช่วยขับเหงื่อ ด้วยการใช้ต้นสดประมาณ 60 กรัมนำไปต้มกับน้ำดื่ม หรือจะคั้นเอาเฉพาะน้ำมาดื่มแก้อาการก็ได้ (ทั้งต้น)
9. ใช้เป็นน้ำกระสายยา ช่วยกระทุ้งพิษไข้หัว ไข้อีดำอีแดง (ราก)
10. ช่วยแก้อาการหวัด (ใบ)
11. ช่วยแก้ไอ (ใบ)
12. ช่วยละลายเสมหะ ด้วยการใช้ต้นสดประมาณ 60 กรัมนำไปต้มกับน้ำดื่ม หรือจะคั้นเอาเฉพาะน้ำมาดื่มแก้อาการก็ได้ (ทั้งต้น)
13. ช่วยแก้อาการสะอึก (ใบ)
14. ช่วยแก้อาการคลื่นไส้อาเจียน (ใบ)
15. ช่วยแก้อาการวิงเวียนศีรษะ (ใบ)
16.
ช่วยแก้อาการอาหารเป็นพิษ (ใบ)
17. ใช้แก้อาการปวดฟัน เจ็บปาก ด้วยการใช้ผลนำมาต้มน้ำ แล้วนำมาอมบ้วนปากบ่อย ๆ (ผล)
18. ช่วยบำรุงกระเพาะอาหาร ด้วยการใช้ผลแห้งนำมาบดเป็นผงรับประทานหรือนำมาต้มกับน้ำดื่ม (ผล)
19. ผลแก่ใช้เป็นเครื่องเทศ มีกลิ่นหอม เมื่อใช้ผสมกับตัวยาอื่น จะช่วยกระตุ้นต่อมในกระเพาะอาหารและลำไส้ เพิ่มน้ำดีให้มากขึ้น (ผลแก่)
20. ช่วยรักษาอาการปวดท้อง (ผล)
21. ช่วยแก้อาการบิด ถ่ายเป็นเลือด ด้วยการใช้ผลประมาณ 1 ถ้วยชา นำมาตำผสมกับน้ำตาลทรายแล้วนำมาผสมน้ำดื่ม (ผล)
22. ช่วยแก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ด้วยการใช้ผลประมาณ 2 ช้อนชานำมาต้มกับน้ำดื่ม (ผล)
23. ช่วยย่อยอาหาร (ผล, ใบ)
24. ช่วยขับลมในกระเพาะ (ใบ)
25. ช่วยรักษาโรคริดสีดวงทวาร มีเลือดออก ด้วยการใช้ผลสดนำมาบดให้แตกผสมกับเหล้า ดื่มวันละ 5 ครั้ง หรือจะใช้ต้นสดประมาณ 120 กรัม นำมาใส่นม 2 แก้วผสมน้ำตาลดื่ม (ผล, ต้นสด)
26. ช่วยแก้พิษตานซาง (ใบ)
27. ช่วยแก้ตับอักเสบ (ใบ)
28. ช่วยขับลมพิษ (ใบ)
29. ช่วยแก้โรคหัด (ใบ)
30. ใช้รักษาเหือด หิด อีสุกอีใส (ราก)
31. ช่วยต่อต้านเชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย และไข่ของแมลง (ใบ)
32. ช่วยแก้เด็กเป็นผื่นแดง ไฟลามทุ่ง ด้วยการใช้ต้นสด นำมาหั่นเป็นฝอย ๆ ใส่ลงไปในเหล้าแล้วต้มให้เดือด นำมาใช้ทา (ต้นสด)
33. ช่วยให้ผื่นหัดออกเร็วขึ้น โดยใช้ต้นสดนำมาหั่นเป็นฝอย ๆ ใส่ลงไปในเหล้า ต้มให้เดือด นำมาใช้ทา (ต้นสด)
34. ช่วยลดอาการปวดบวมตามข้อ (ใบ)
คุณค่าทางโภชนาการของผักชีสดต่อ 100 กรัม
พลังงาน 23 กิโลแคลอรี
รากผักชี
คาร์โบไฮเดรต 3.67 กรัม
น้ำตาล 0.87 กรัม
เส้นใย 2.8 กรัม
ไขมัน 0.52 กรัม
โปรตีน 2.13 กรัม
น้ำ 92.21 กรัม
วิตามินเอ 337 ไมโครกรัม (42%)
เบตาแคโรทีน 3,930 ไมโครกรัม (36%)
ลูทีนและซีแซนทีน 865 ไมโครกรัม
วิตามินบี 1 0.067 มิลลิกรัม 6%
วิตามินบี 2 0.162 มิลลิกรัม 14%
วิตามินบี 3 1.114 มิลลิกรัม 7%
วิตามินบี 5 0.57 มิลลิกรัม 11%
เมล็ด หรือ ผลของผักชี
วิตามินบี 6 0.149 มิลลิกรัม 11%
วิตามินบี 9 62 ไมโครกรัม 16%
วิตามินบี 12 0 ไมโครกรัม 0%
วิตามินซี 27 มิลลิกรัม 33%
วิตามินอี 2.5 มิลลิกรัม 17%
วิตามินเค 310 ไมโครกรัม 295%
ธาตุแคลเซียม 67 มิลลิกรัม 7%
ธาตุเหล็ก 1.77 มิลลิกรัม 14%
ธาตุแมกนีเซียม 26 มิลลิกรัม 7%
ธาตุแมงกานีส 0.426 มิลลิกรัม 20%
ธาตุฟอสฟอรัส 48 มิลลิกรัม 7%
ธาตุโพแทสเซียม 521 มิลลิกรัม 11%
ธาตุโซเดียม 46 มิลลิกรัม 3%
ธาตุสังกะสี 0.5 มิลลิกรัม 5%
· ปลูกป่า 3 อย่างประโยชน์ 4 อย่าง
· พระราชดำริการพัฒนาป่าไม้ ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรในการผสมผสานการอนุรักษ์ ดิน น้ำ และการฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้ ควบคู่กับความต้องการด้านเศรษฐกิจ
· ปลูกป่า 3 อย่าง คือ
· 1. ป่าไม้ใช้สอย คือ ไม้โตเร็ว
· 2. ป่าไม้เศรษฐกิจ คือ เช่น ไม้สัก ประดู่ พะยูง
· 3. ป่าไม้กินได้ คือ ไม้ผล เช่น กล้วย มะม่วง และผักกินใบต่าง ๆ
· ***ผักไทย จัดเป็นพืช อย่างที่ 3 กล่าวคือ เป็นป่าไม้กินได้ ***
· ประโยชน์ 4 อย่าง คือ
· 1. ไม้ใช้สอย สำหรับใช้ในครัวเรือน เช่น นำมาสร้างบ้าน ทำเล้าเป็ด เล้าไก่ ด้ามจอบเสียม ทำหัตถกรรม หรือกระทั่งใช้เป็นเชื้อเพลิง (ฟืน) ในการหุงต้ม
· 2. เป็นแหล่งรายได้ของครัวเรือน เป็นพืชที่สามารถนำมาจำหน่ายได้ ซึ่งควรปลูกพืชหลากหลายชนิดเพื่อลดความเสี่ยงเรื่องราคาตกต่ำและไม่แน่นอน
· 3. นำมาเป็นอาหาร ทั้งพืชกินใบ กินผล กินหัว และเป็นยาสมุนไพร
· 4. ประโยชน์ในการช่วยอนุรักษ์ดินและน้ำ การปลูกพืชที่หลากหลายอย่างเป็นระบบ จะช่วยสร้างสมดุลของระบบนิเวศ ช่วยปกป้องผิวดินให้ชุ่มชื้น ดูดซับน้ำฝน
· ***ผักชีไทย จัดเป็นพืชที่ใช้ประโยชน์ อย่างที่ 3 นำมาเป็นยาสมุนไพร***
· เทคนิคการปลูกป่า
· แบ่งป่าออกเป็น 5 ระดับ ตามชั้นความสูงของต้นไม้และระบบนิเวศของป่าดังนี้
· 1. ไม้ระดับสูง อาทิ ตะเคียน ยางนา มะค่าโมง สะตอ มะพร้าว ฯลฯ
· 2. ไม้ระดับกลาง อาทิ ผักหวานป่า ติ้ว พลู กำลังเสือโคร่ง กล้วย ฯลฯ
· 3. ไม้พุ่มเตี้ย อาทิ ผักหวานบ้าน มะนาว พริกไทย, ย่านาง, เสาวรส ฯลฯ
· 4. ไม้เรี่ยดิน อาทิ หน้าวัว ผักเสี้ยน มะเขือเทศ สะระแหน่ ฯลฯ
· 5. ไม้หัวใต้ดิน อาทิ ข่า ตะไคร้ ขมิ้น ไพล เผือก มัน บุก กลอย ฯลฯ
· *** ผักชีไทย เป็นไม้เรี่ยดิน ปลูกในระดับที่ 5 ***
· ข้อคำนึงในการปลูกป่า 3 อย่าง
· 1. การปลูกช่วงแรกควรเลือกปลูกไม้เบิกนำ เช่น แค มะรุม สะเดา กล้วย อ้อย ไผ่ ข้าวและพืชผัก ทั้งนี้ เพราะเป็นพืชอาหารและไม้ใช้ สอยเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่โตและให้ผลผลิตเร็ว สามารถคลุมดินและดูดซับ ความชุ่มชื้น โดยควรเน้นปลูกพืชกินได้ ที่โตไวเพื่อเป็นแหล่งอาหาร และไม้ใช้สอย
· 2. ไม้ปลูกเพื่ออยู่อาศัย หรือไม้เศรษฐกิจขนาดใหญ่ หรือไม้ระดับสูง ควรปลูกในปีที่ 2
· 3. ไม้สมุนไพร ส่วนใหญ่จะเป็นไม้พุ่มเตี้ย ไม้เรี่ยดิน และไม้หัวใต้ดิน มักจะเจริญเติบโตได้ดี ในที่ร่มและร่มรำไร
· 4. นาข้าวควรเลือกทำในพื้นที่ให้เหมาะสม สามารถให้ผลผลิตเพียงพอ ตลอดทั้งปี
· 5. ควรขุดร่องน้ำขนาดเล็กเพื่อเก็บน้ำและความชุ่มชื้นแก่ต้นไม้ อีกทั้ง สามารถใช้เลี้ยงปลาเพื่อเป็นอาหาร และหมุนเวียนน้ำไปสู่บ่อขนาดใหญ่
· ***ผักชีไทย ปลูกเป็นไม้เบิกนำ เลือกปลูกเป็น อันดับ 1 เพราะเป็นพืชอาหาร ให้ผลผลิตเร็ว
· หลัก 7 พอ(เพียง)
· 1. พออยู่ สามารถพึ่งตนเองด้านที่อยู่อาศัยได้
· 2. พอกิน สามารถพึ่งตนเองเรื่องอาหารและยารักษาโรคได้
· 3. พอใช้ สามารถพึ่งตนเองเรื่องรายจ่ายที่ต้องใช้ในชีวิตประจำวันได้
· 4. พอร่มเย็นเป็นสุข สามารถมีความสุข อิ่มเอิบใจ กับสิ่งที่มีที่ทำได้
· 5. พอพลังงานทดแทน ด้วยการปลูกอ้อยอินทรีย์ หรือพืชพลังงานอื่นๆ ร่วมกับป่า 3 อย่าง ร้อยละ 70
· 6. พอพัฒนาคน
· 7. มีข้อมูลและสื่อสารสู่สาธารณะที่พอเพียง
· *** ผักชีไทย หลัก 7 พอ(เพียง) ข้อพอกิน สามารถพึ่งตนเองเรื่องอาหารและยารักษาโรคได้***
แหล่งอ้างอิง : https://www.disthai.com/ แหล่งรวบรวมข้อมูลด้านงานวิจัย ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้อาหารและสมุนไพร
เรียบเรียงข้อมูลโดย : ห้องสมุดประชาชนอำเภอหาดใหญ่ กศน.อำเภอหาดใหญ่