เป็นวัดเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่โบราณ เข้าใจว่าสร้างขึ้นในสมัยปลายกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี ระหว่าง พ.ศ. ๒๒๒๙-๒๓๑๐ ในสมัยของสมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๔ วัดนี้เคยเป็นที่ประชุมกองทับมาก่อนและเป็นที่ฝึกอาวุธของเหล่าทหาร จึงน่าจะเป็นที่ ของหลวงมาก่อน เพราะได้เคยมีพลับพลาที่ประทับของพระมหากษัตริย์ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเพชรบุรีด้วยเมื่อได้ก่อสร้างวัดเสร็จจึงพร้อมใจกันตั้งชื่อว่า “วัดพลับพลาชัย” ตามลักษณะของสถานที่ก่อนมีการตั้งวัดขึ้น อันเป็น มงคลนามที่เรียกขานกันมากว่า ๑๐๐ ปีเศษ
หลักฐานอีกประการหนึ่งที่ยืนยันได้แน่ชัดว่าวัดพลับพลาชัยได้ สร้างมาแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาก็คือ พระประธานในอุโบสถ ซึ่งเป็นพระพุทธ รูปสมัยสุโขทัย หน้าตักกว้าง ๑๗๐ ซม. ลงรักปิดทอง ประทับอยู่บน ปัทมาศสูงจากฐานเขียง ๑๕๕ ซม. ฐานปัทมาศ ประดับด้วยกระจกสีต่างๆ ฐานเชียงสูงจากพื้นอุโบสถถึงองค์พระ ๒ เมตร ๕๕ ซม. พระพุทธรูปปูน ปั้นพุทธลักษณะเช่นนี้ มักนิยมสร้างกันสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย
อาคารสำคัญ: อาคารเสนาสนะ ประกอบด้วย อุโบสถ กว้าง ๑๒ เมตร ยาว ๓๘ เมตร สร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๗ เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็กทรงไทย มีช่อฟ้าใบระกา ๓ ชั้น ศาลาการเปรียญ กว้าง ๑๐ เมตร ยาว ๒๓ เมตร สร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๖ เป็นอาคารไม้ทรงไทย ๒ ชั้น หอสวดมนต์ กว้าง ๑๑ เมตร ยาว ๓๖ เมตร สร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๕๓๒ เป็นอาคารไม้ กุฏิสงฆ์ จำนวน ๔ หลัง เป็นอาคารไม้ ๒ หลัง ครึ่งตึกครึ่งไม้ ๒ หลัง วิหารกว้าง ๙.๔๐ เมตร ยาว ๒๗.๔๐ เมตร เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก ศาลาบำเพ็ญกุศล จำนวน ๒ หลัง สร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก นอกจากนี้มี โรงเลี้ยงอาหาร กว้าง ๑๔ เมตร ยาว ๑๖ เมตร (นายพิเชษฐ คำดี, 2554)
ภาพโดย นฤมล เจริญลิบ (2568)
เอกสารอ้างอิง
สาขาวิชาการพัฒนาและการจัดการอุตสาหกรรมท่องเที่ยว คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี. (2554). เส้นทางท่องเที่ยวเมืองพริบพรี. เพชรบุรี: เพชรภูมิการพิมพ์.