ภาษาถิ่นเพชรบุรี
ธงประจำจังหวัด
ชื่อภาษาไทย : เพชรบุรี
ชื่อภาษาอังกฤษ : Phetchaburi
ตราประจำจังหวัด
เขาวัง หมายถึง เขาที่ตั้งของพระนครคีรี ซึ่ง ร.๔ ทรงสร้างและพระเจดีย์พระธาตุจอมเพชร นับเป็นเจดีย์คู่บ้านคู่เมือง
ผืนนา หมายถึง เมืองเกษตรกรรมและความอุดมสมบูรณ์
ต้นตาลโตนด หมายถึง ต้นไม้สัญลักษณ์ของจังหวัด
เมืองเพชรบุรีมีชื่อปรากฏอยู่ในศิลาจารึกทั้งของไทยและของขอม ตลอดจนการจดบันทึกของหลวงจีนที่เดินทางผ่านเมืองนี้ เมืองนี้จึงน่าจะเป็นเมืองสำคัญมาแต่โบราณ เมื่อไทยได้รวบรวมบ้านเมืองเป็นปึกแผ่นตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัย กรุงศรีอยุธยา กรุงธนบุรี และกรุงรัตนโกสินทร์เป็นลำดับต่อมานั้น เรื่องราวเมืองเพชรบุรีจะมีเล่าไว้ในพระราชพงศาวดารของชาติแทบจะทุกสมัย
ขอบคุณภาพจาก : เพจเฟซบุ๊ก เพชรบุรีโพสต์
22 สิงหาคม 2568
ผู้ว่าราชการ : นายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ (คนที่ 64)
ดำรงตำเเหน่ง : เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2568 - ปัจจุบัน
แบ่งการปกครอง ออกเป็น ๘ อำเภอ ดังนี้
๑. อ.เมือง
๒. อ.บ้านลาด
๓. อ.ท่ายาง
๔. อ.ชะอำ
๕. อ.บ้านแหลม
๖. อ.หนองหญ้าปล้อง
๗. อ.เขาย้อย
๘. อ.แก่งกระจาน
สมัยฟูนาน ได้แบ่งออกเป็น ๓ ยุค คือ ยุคก่อนประวัติศาสตร์ ยุคหัวเลี้ยวประวัติศาสตร์ และยุคประวัติศาสตร์ โดยยุคก่อนประวัติศาสตร์แบ่งเป็นยุคหินและยุคโละ ยุคหินแบ่งเป็นยุคหินเก่าและยุคหินใหม่ ยุคหัวเลี้ยวปประวัติศาสตร์เป็นสมัยสุวรรณภูมิมีอาณาจักฟูนาน ยุคประวัติศาสตร์แบ่งเป็น ยุคประวัติศาสตร์ตอนต้นกับยุคประวัติศาสตร์ไทย ยุคประวัติศาสตร์ตอนต้นประกอบด้วยอาณาจักรอิศานปุระ ทวารวดี ศรีวิชัย โยนก ศรีจนาคะ ลพบุรี ยุคประวัติศาสตร์ไทยแบ่งเป็น ๒ สมัย สมัยรัฐไทยอิสระกับสมัยอาณาจักรไทย
สมัยทวารวดี (สมัยพุทธศตวรรษที่ ๑๑-๑๖) ชนชาติที่อาศัยอยู่ในแถบนี้เป็นชนชาติมอญ ศิลปวัฒนธรรมที่ได้พบในภาคกลางโดยเฉพาะที่เพชรบุรี ราชบุรี นครปฐม ส่วนใหญ่เป็นศิลปะที่มีฝีมือดีกว่าแถบอื่น ผู้เขียนเชื่อว่าอาณาจักรนี้เลยลงไปถึงเมืองปราณบุรีและชุมพรดังหลักฐานที่ได้กล่าวมาแล้ว สำหรับเมืองหลวงของอาณาจักรนี้ บ้างก็ว่านครปฐม บ้างก็ว่าเป็นเมืองอู่ทอง เพราทั้งสองแห่งได้พบโบราณสถานขนาดใหญ่
สมัยกรุงสุโขทัย อาณาจักรเล็ก ๆ อาณาจักรหนึ่ง ขึ้นตรงต่ออาณาจักรสุโขทัย ในสมัยพ่อขุนรามคำแหงมหาราช พระองค์ได้จารึกเรื่องราวในสมัยนั้นไว้ตอนหนึ่งได้กล่าวถึงพระราชอาณาเขตไว้ว่า “เบื้องตะวันออกรอดสระหลวงสองแควอุบาจารฝั่งโขงถึงเวียงจันเวียงคำเป็นที่แล้ว เบื้องหัวนอนรอดคนที่พระบาง แพรก สุพรรณภูมิ ราชบุรี เพชรบุรี ศรีธรรมราชฝั่งทะเลสมุทรเป็นที่แล้ว”
สมัยกรุงศรีอยุธยา การปกครองหัวเมืองในสมัยอยุธยา ได้จัดแบ่งเป็นหัวเมืองฝ่ายตะวันออก หัวเมืองฝ่ายตะวันตก หัวเมืองฝ่ายเหนือ และหัวเมืองปักษ์ใต้ สำหรับเมืองเพชรบุรีนนสังกัดหัวเมืองฝ่ายตะวันตก ซึ่งมีเมืองต่าง ๆ ดังนี้ เมืองเพชรบุรี ราชบุรี นครไชยศรี สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ศรีสวัสดิ์ ไทรโยค ท่านกระดาน ทองท่าพี และเมืองทองผาภูมิ
สมัยกรุงธนบุรี หลังจากกรุงศรีอยุธยาถูกพม่าเผาพลาญเสียหายยับเยินแล้ว ผู้นำที่มีความสามารถต่างก็ตั้งตัวเป็นหัวหน้าเป็นอิสระเป็นก๊ก ก๊กต่าง ๆ เหล่านี้มีพระยาตากสินด้วยก๊กหนึ่ง ซึ่งต่อมาตั้งตัวเป็นเจ้าทรงพระนามว่า สมเด็จพระเจ้าตากสิน พระองค์ทรงปราบก๊กต่าง ๆ เข้าด้วยกัน แล้วตั้งเมืองธนบุรีเป็นเมืองหลวง และมีเมืองรอบเมืองหลวงพอที่จะตั้งเจ้าเมืองออกไปได้และมีกำลังพอที่จะรวบรวมผู้คนจัดบ้านเมืองเสียใหม่
สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ หลังจากกรุงศรีอยุธยาถูกพม่าเผาพลาญเสียหายยับเยินแล้ว ผู้นำที่มีความสามารถต่างก็ตั้งตัวเป็นหัวหน้าเป็นอิสระเป็นก๊ก ก๊กต่าง ๆ เหล่านี้มีพระยาตากสินด้วยก๊กหนึ่ง ซึ่งต่อมาตั้งตัวเป็นเจ้าทรงพระนามว่า สมเด็จพระเจ้าตากสิน พระองค์ทรงปราบก๊กต่าง ๆ เข้าด้วยกัน แล้วตั้งเมืองธนบุรีเป็นเมืองหลวง และมีเมืองรอบเมืองหลวงพอที่จะตั้งเจ้าเมืองออกไปได้และมีกำลังพอที่จะรวบรวมผู้คนจัดบ้านเมืองเสียใหม่
จังหวัดเพชรบุรีตั้งอยู่ในภาคกลางตอนใต้ มีอาณาเขตตแบ่งเป็นทิศ ดังนี้
ทิศเหนือ - ติดกับอำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี อำเภออัมพวาและออำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม
ทิศใต้ - ติดกับอำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
ทิศตะวันออก - ติดกับอ่าวไทย
ทิศตะวันตก - ติดกับประเทศเมียนมา (เขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน)
จังหวัดเพชรบุรีมีภูมิประเทศที่หลากหลาย แบ่งออกเป็น ๓ ลักษณะสำคัญ ดังนี้
พื้นที่ภูเขาและป่าไม้ - อยู่ทางด้านตะวันตกของจังหวัด มีพื้นที่ป่าไม้สมบูรณ์ เช่น อุทยานแห่งชาติ
แก่งกระจาน ซึ่งเป็นแหล่งต้นน้ำลำธารสำคัญ
พื้นที่ราบลุ่ม - อยู่บริเวณตอนกลางของจังหวัด มีแม่น้ำเพชรบุรีและแม่น้ำบางตะบูนไหล
ผ่าน
พื้นที่ชายฝั่งทะเล - อยู่ทางด้านตะวันออกของจังหวัด มีสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ เช่น หาดชะอำ
และชายหาดอื่น ๆ
แม่น้ำเพชรบุรี
วิวภูเขาที่ถูกถ่ายจากมุมสูงของวัดเขาบันไดอิฐ
ทะเลหาดเจ้าสำราญ
จังหวัดเพชรบุรีอยู่ติดกับทะเล อุณหภูมิระหว่างฤดูกาลและกลางวันกลางคืน จึงไม่แตกต่างกันมากนัก อุณหภูมิโดยเฉลี่ยจึงไม่สูงมากและอากาศไม่ร้อนจัด ส่วนฤดูหนาวอากาศจะมีอากาศเย็น ได้บางครั้ง อุณหภูมิเฉลี่ยตลอดปีประมาณ ๒๘.๒ องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยตลอดปีประมาณ ๓๒.๔ องศาเซลเซียส และอุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ยตลอดปีประมาณ ๒๔.๖ องศาเซลเซียส เดือนที่มีอากาศร้อนอบอ้าวที่สุดคือ เดือนพฤษภาคม (ศูนย์ภูมิอากาศ กองพัฒนาอุตุนิยมวิทยา, 2566)
จังหวัดเพชรบุรี ตั้งอยู่ในทิศทางที่สามารถรับลมมรสุม ได้ทั้ง ๒ ด้าน ทั้งด้านอ่าวไทย และทะเลอันดามัน ทำให้ปัญหาเรื่องฝนทิ้งช่วง ปริมาณฝนค่อนข้างน้อย
ภาพงานพระนครคีรีจาก : Narunart Maikaew. (2568). ภาพ [Facebook]. https://www.facebook.com/share/p/16LxspBGEh/?mibextid=Nif5oz
ภาพโดย นฤมล เจริญลิบ เเละมัทนพร แก้วทอง (2568)
เอกสารอ้างอิง
กรมธนารักษ์. (ม.ป.ป.). เกี่ยวกับสำนักงานธนารักษ์พื้นที่เพชรบุรี. สืบค้นเมื่อ 15 มกราคม 2568 จาก https://phetchaburi.treasury.go.th/th/about/
นิพัทธ์พร เพ็งแก้ว. (2550). เล่าเรื่องเมืองเพชร. กรุงเทพฯ: พิมพ์คำ.
สมบูรณ์ แก่นตะเคียน. (ม.ป.ป.). ประวัติศาสตร์เมืองเพชรบุรี (ฉบับร่าง). เพชรบุรี: วิทยาลัยครูเพชรบุรี.
สมบูรณ์ แก่นตะเคียน. (บรรณาธิการ). (2525). สมุดเพชรบุรี. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์เรือนการพิมพ์
สำนักงานพาณิชย์จังหวัดเพชรบุรี. (2567). ข้อมูลพื้นฐานจังหวัดเพชรบุรี. สืบค้นเมื่อ 14 กันยายน 2568 จาก https://phetchaburi.moc.go.th/th/file/get/file/20241216017d55b0fa18854f280215c57e9db41b103057.pdf
คณะกรรมการฝ่ายประมวลเอกสารและจดหมายเหตุ. (2544). วัฒนธรรม พัฒนาการทางประวัติศาสตร์ เอกลักษณ์และภูมิปัญญา จังหวัดเพชรบุรี. กรุงเทพฯ: กรมศิลปากร.
ศูนย์ภูมิอากาศ กองพัฒนาอุตุวิทยา. (2566). ภูมิอากาศจังหวัดเพชรบุรี. สืบค้นเมื่อ 15 มกราคม 2568 จาก http://climate.tmd.go.th/map/thailand