งานแทงหยวกเป็นงานศิลปะอันเป็นเอกลักษณ์ที่สืบทอดมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเข้ามาสู่เพชรบุรีในสมัยกรุงศรีธยุธยาตอนปลายและพัฒนาสืบต่อกันมาทั้งในด้านรูปแบบและวิธีการด้วยการผสมผสานวิวัฒนาการ และประยุกต์ศิลปะโดยเฉพาะของเมืองเพชรบุรี จนกลาเป็นศิลปะการแทงหยวกของเมืองเพชรบุรีได้อย่างกลมกลืน มีความละเอียด ความอ่อนช้อยของลวดลายแตกต่างกันไปตามสภาพสังคมของแต่ละท้องถิ่น เป็นศิลปะแขนงหนึ่งที่มีความสำคัญ ใช้เป็นส่วนประกอบสำคัญสำหรับใช้ประดับเชิงตงตะกอนเผาศพ หรือประกอบตกแต่งเมรุในงานศพ เพื่อให้เกิดความสวยงาม และเป็นการแสดงออกถึงอุปนิสัยของคนไทยในฝีมือเชิงช่าง ซึ่งเป็นที่นิยมกัน
งานแทงหยวก เป็นงานอีกแขนงหนึ่งของจังหวัดเพชรบุรี อันเกิดจากภูมิปัญญาชาวบ้านที่นำหยวก หรือกาบของต้นกล้วย มาเขียนลาย ผูกลายเป็นลายไทย แล้วนำมาสลักฉลหรือแทงด้วยมีดเป็นลวดลายต่าง ๆ เช่น ลายกระจังฟันหนึ่ง หรือลายฟันปลา ลายกระจังฟันสาม หรือลายบัวคว่ำ บัวหงายลายน่องสิงห์ ลายกนก ใช้ประดับเชิงตะกอนเผาหรือประกอบเมรุ ในงานศพการตกแต่งเชิงตะกอน นอกจากจะใช้หยวกกล้วยแทงเป็นลวดลายต่าง ๆ ประดับแล้ว ยังใช้วัสดุธรรมชาติอื่น ๆ เช่น ฟักทอง หัวไชเท้า ฝรั่ง มันเทศมาแกะสลัก เป็นดอกไม้ ใบไม้ ภาพในวรรณคดี ภาพหัวสัตว์แล้วย้อมให้สวยงามประดับประกอบเข้าไปด้วย เรียกว่า เครื่องสด