บดกาแฟแล้วไม่ร้อนง่าย
ผงกาแฟที่ได้ออกมามีความร่วนซุย ไม่จับตัวเป็นก้อน ไม่มีไฟฟ้าสถิตย์ฟุ้งกระจายและมีความสม่ำเสมอ ( Even Grind Size Distribution)
ให้รสชาติที่เหมาะสมกับ สไตล์ ความชอบ และวิธีการสกัดกาแฟ
ราคาเหมาะสม
Workflow การทำงานกับเครื่องบด เข้ากันได้ดีกับวิธีการทำงานของ เครื่องชง ( Speed Bar / Slow bar / Home Use / Single Dose etc.)
ใช้งานง่าย ตั้งค่าเครื่องไม่ยุ่งยากหยุมหยิม
ทำความสะอาดได้ง่าย สะดวก ใช้เวลาน้อย สามารถทำความสะอาดกาแฟตกค้างได้ง่ายและบ่อยที่สุดเท่าที่ต้องการ
สำหรับร้านกาแฟขนาดเล็ก เน้นขายกาแฟเย็น เข้มๆ หวานมัน ควรเลือก Z-1900
Z-2000 เครื่องใหญ่บดเร็ว วางบนบาร์แล้วเด่น เหมาะกับใช้ในร้านกาแฟขนาด กลาง-ใหญ่ใช้กับเมล็ดกาแฟคั่วเข้มเน้นทำกาแฟเย็น หรือใช้กับเครื่อง 2 หัวชง
หากต้องการเครื่องบดที่มีฟีเจอร์ดีหน่อย ระบายความร้อนดี ขนาดเครื่องไม่ใหญ่ ทรงเหลี่ยม ไม่เกะกะ บดดี ราคาไม่แพง ก็ต้อง ZP-64
หากต้องการเครื่องบดแบรนด์อิตาลี ตัวเลือกหลากหลาย ใช้งานแบบ Espresso Grinder ขนาดกลาง - ใหญ่ เหมาะกับร้านกาแฟขนาดใหญ่ ก็ต้อง Eureka Zenith ุ , Eureka Olympus
หากต้องการเครื่องบดแบบ Home Grinder หรือ สำหรับร้านเล็กๆแนว Manual Espresso สามารถบดได้ทั้ง ดริป และ Espresso (บดไม่เกิน 200-300 กรัมต่อวัน) Eureka Mignon Crono น่าจะตอบโจทย์
หากต้องการเครื่องบดขนาดเล็กแต่ผลลัพธ์ใกล้เคียงกับเครื่องบดมืออาชีพ บดประมาณ 300-600 กรัมต่อวัน ไม่หนักมาก แนะนำ Mignon Specialita ที่ให้ Workflow เทียบเคียงได้กับเครื่องบดร้านกาแฟมืออาชีพ
Home Barista สาย Serious Espresso คงต้องแนะนำ Eureka ATOM Specialty 65/75 เครื่องบดระดับ Professional ขนาด Compact บดนิ่ม เสียงเบา มาพร้อมกับ Eureka Blow up System
สำหรับบาริสต้าที่ต้องการเปลียนเมล็ดกาแฟบ่อยๆหรือตลอดเวลาและ ต้องการเครื่องบดแบบ Single Dose ที่มีกาแฟตกค้างน้อยมากๆ ตัว Zentis NZR-64 จะตอบโจทย์สุด