การเลือกซื้อเครื่องบดกาแฟ ไม่จำเป็นต้องเพอร์เฟคที่สุด แต่ที่สำคัญ คือต้องให้เหมาะสมกับการใช้งาน
ต้องมีวัตถุประสงค์การใช้งานที่ชัดเจน เช่น ใช้บดเพื่อชงเอสเพรสโซ , บดเพื่อการชงแบบฟิลเตอร์หรือ Slow bar , บดแบบ Single Dose (บดใช้งานคร้้งต่อครั้งและเปลี่ยนเมล็ดกาแฟไปเรื่อยๆ)
ต้องดูความเร็วในการบด ( Grinding Speed ) หากต้องการบดเพื่อการชงต่อเนื่อง ซื่งร้านกาแฟสดแบบเมืองไทย มักจะเจอกับเคสนี้ ที่บางช่วงเวลาของวันจะมีลูกค้ามาพร้อมๆกันหลายคน
ความยากง่ายในการถอดเฟืองบดมาทำความสะอาด ควรทำความสะอาดเฟืองบดทุกวัน( ถ้าบดเยอะเกินกว่า 1 kg ) หรือทุกสัปดาห์
การปรับตั้งเบอร์ความละเอียดการบด ต้องทำได้ง่ายไม่ยุ่งยาก เพราะจะมีผลต่อคุณภาพ และรสชาติของชอตกาแฟเอสเพรสโซ
การระบายความร้อนในเครื่อง หากต้องใช้งานต่อเนื่องจะมีความร้อนสะสมจากมอเตอร์ และการบด ซึ่งความร้อนที่มากเกินจะทำให้กาแฟสูญเสียรสชาติ ⏩ หากใช้งานหนักควรใช้มอเตอร์ใหญ่ จะร้อนช้ากว่า และ ควรเพิ่มการระบายความร้อน
ควรเลือกเฟืองบดให้เหมาะสม
เฟืองบดเหล็กกล้าปกติ ใช้ได้ 300-400 kgs
เฟืองบดไทเทเนียม ใช้ได้ประมาณ 500-800 kgs
เฟืองบด Red Speed ใช้ได้ประมาณ 1,000-5,000 kgs
ต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจนว่าจะใช้ก้บกาแฟแบบไหน ?? คั่วอ่อน คั่วกลาง คั่วเข้ม และโทนรสชาติที่ชอบ
ทำกาแฟเอสเพรสโซหรือ ฟิลเตอร์เป็นหลัก ??
โดยสรุปแบบกว้างๆ
ถ้าเน้น Espresso สไตล์ Typical Italian Espresso โทนชอคโกแลต ควรเลือก Italmill / Mazzer / Italmill (Titanium) / DVG Red Speed
Espresso กาแฟคั่วอ่อน - กลาง เน้น Balanced มี Floral / Fruity บ้าง ต้องลอง SSP High Uniformity ( Espresso burr)
กาแฟคั่วอ่อนทั้งเอสเพรสโซ (คั่วกลาง คั่วเข้ม) และดริป สาย Floral / Fruity ต้อง SSP Unimodal -Multipurpose
เฟืองบดชนิดนี้เรียกอีกอย่างว่า เฟืองบด Multipurpose หรือ เฟืองเอนกประสงค์ มีลายเฟืองคมมีดเดียวยาวตั้งแต่ขอบวงในไปยันขอบวงนอก แคแรคเตอร์ผงกาแฟจะมีความสม่ำเสมอสูงมากถ้าปรับหยาบก็จะมีผงส่วนละเอียดค่อนข้างน้อย เหมาะกับกาแฟแบบ Filter หรือ Drip สามารถบดละเอียดแบบ Espresso ได้แต่บอดี้ที่ได้จะค่อนข้างบาง ถ้าใช้ในการบดเอสเพรสโซ ทาง SSP แนะนำเป็นควรใช้กับกาแฟคั่วกลาง หรือ กลางเข้ม ก็จะได้ผลลัพธ์ที่ดี
เฟือง S.S.P Redspeed ทั้งสองแบบสามารถบดได้ความละเอียดหยาบตั้งแต่ เอสเพรสโซถึง Cold brew แต่ลายเฟืองบดมันให้ผลลัพธ์ผงกาแฟที่ไม่เหมือนกัน
ลายเฟืองบดแบบ Espresso มันจะทำให้มีผงละเอียดคละหยาบแบบผสมผสานเหมาะไปใชกับการชงแบบใช้แรงดันหรือ Espresso
ตัว Unimodal พอปรับหยาบแล้วผงละเอียดจะมีน้อยกว่า มันเลยเหมาะไปทางดริปกับ ฟิลเตอร์ แต่ก็สามารถบดเป็นเอสเพรสโซได้
ลายเฟืองบดที่แตกต่างกัน ย่อมมีผลต่อผลลัพธ์ของรสชาติ อันเนื่องมาจากการกระจายตัวของผงกาแฟที่ได้ ( Grind Size Distribution ) จะไม่เหมือนกัน
ลายเฟืองบดแบบ Espresso จะมีคมใบมีดแบบหยาบกับแบบละเอียด ( หยาบอยู่ด้านใน ละเอียดอยู่ด้านนอก ) ทำให้ผงกาแฟที่ได้จะมีการคละกันระหว่างผงหยาบกับผงละเอียด ซึ่งมีความจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการสกัดกาแฟแบบแรงดันแบบ Espresso
ลายเฟืองบดแบบ S.S.P Espresso High Uniformity ให้รสชาติเข้มข้น Balance และเหมาะสมกับการสกัดชอตที่ อัตราส่วน Ratio 1:1-1:2.5
ลายเฟืองบดแบบ Italian Espresso จะให้รสชาติแนว Typical Italian Espresso โทนถั่ว ชอคโกแลตแบบข้นๆ เหมาะสมกับกาแฟคั่วกลางเข้ม คั่วเข้ม Ratio 1:1-1:2
ลายเฟืองบดแบบ Unimodal Multipurpose เหมาะกับกาแฟฟิลเตอร์ ดริป สามารถบดสำหรับสกัด Espresso ได้แต่บอดี้ที่ได้จากเฟืองชนิดนี้จะค่อนข้างบาง เมื่อเทียบกับเฟือง Espresso โดยตรง ดังนั้นจึงเหมาะสมกับกาแฟพิเศษ กาแฟคั่วอ่อน ที่เน้นโทนรสชาติแบบ Fruity / Floral
เฟืองบดแนวใหม่ที่กำลังเป็นที่นิยมในกลุ่ม Modern Espresso หรือกาแฟโลกใหม่เช่น USA, Australia , Asia ที่ให้ความสำคัญกับ รสชาติของเมล็ดกาแฟ ( Flavour Clarity ) มากกว่า Body / Texture เหมาะกับเมล็ดกาแฟเกรดพิเศษ โทน Fruity Floral ซึ่งผู้ผลิตรายสำคัญคือ S.S.P
เป็นลายเฟืองบดที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนานในหมู่บาริสต้ากลุ่มประเทศยุโรปซึ่งเป็นต้นกำเนิดกาแฟ Espresso แบบตั้งเดิม ส่วนใหญ่มาจากผู้ผลิตในอิตาลีเช่น Mazzer , Italmill , DVG ที่เน้นลายเฟืองบดที่ให้รสชาติกาแฟ Espresso ที่เข้มข้น Body / Texture แน่น เหมาะกับกาแฟแนวโทนรสชาติ ชอคโกแลต ถั่ว คาราเมล หรือ กาแฟที่ผสมกับ นม
เฟืองบดแบบ Unimodal Multipurpose มีจุดเด่นที่จะให้ Flavor Clarity สูงกว่าเฟืองบดชนิดอื่นๆ หวานเปรี้้ยวชัดเจน แต่ ด้วยผงละเอียดที่น้อยกว่าเฟืองบดแบบ Espresso เวลาไปทำดริปก็จะดีกว่า แต่ เวลาเอาไปบดเอสเพรสโซ ตัว Body , Texture ก็จะบางลงไปตามผงละเอียดที่น้อยกว่า
💡SSP Unimodal MP จะเด่นมากเรื่อง Flavor Clarity ส่วน Titanium / Mazzer / Italmill เป็นเฟืองบดสาย Typical Italian Espresso ซึ่งจะเน้น Body Texture
💡ที่พบกันครึ่งทาง ก็จะเป็น SSP Espresso High Uniformity
SSP Unimodal for Brewing ผงละเอียดน้อยมาก เน้น Flavour Clarity ขั้นสุด เหมาะกับสาย Brew ไม่เหมาะกับ Espresso
SSP Unimodal Multipurpose มีสัดส่วนผงละเอียดค่อนข้างน้อยสามารถทำ Espresso เน้นไปทาง Flavour Clarity แต่ ไม่เน้น Body / Texture
SSP Espresso High Uniformity เหมาะกับ Espresso ที่ได้ Balanced มากขึ้นได้ทั้ง Flavour และ Body
เฟืองบดสไตล์ Italian Espresso ( Italmill/ Mazzer) สาย Body / Texture เต็มตัว
เปรียบเทียบระหว่าง S.S.P Red Speed Burr แบบ Espresso High Uniformity (เส้นกราฟสีฟ้า) กับ เฟืองบด Mazzer Standard Burr ( เส้นกราฟสีส้ม)
เส้นกราฟสีฟ้า จะมีฐานการกระจายตัวของผงกาแฟที่แคบกว่าหรือมีความสม่ำเสมอของผงกาแฟ มากกว่า เส้นกราฟสีส้ม
** แหล่งที่มา : หน้าเวปเพจ ของ S.S.P
เฟืองบดประเภท FLAT BURR แต่ละแบบแต่ละยี่ห้อจะมีความแตกต่างกันใน 2-3 ประเด็นหลักๆดังต่อไปนี้
ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง บ่งบอกถึงความสามารถในการบด เฟืองบดใหญ่จะบดได้เร็วกว่า ร้อนช้ากว่า เหมาะกับการใช้งานบดต่อเนื่องถึ่ๆ เฟืองบดที่เหมาะสมกับการใช้งานแบบมืออาชีพมักจะมีขนาดตั้งแต่ 64 mm ขึ้นไป เฟืองบดที่มีขนาดใหญ่กว่าจะให้ Flavour Clarity ที่ดีกว่า
วัสดุที่ใช้ทำเฟืองบด และการเคลือบผิว ( Treatment) จะมีผลต่อความแข็งของผิวและคมฟันบด เฟืองบด Titanium burr กับ Red Speed Burr จะมีผิวที่แข็งกว่า สึกหรอช้ากว่า ทื่อช้ากว่า บดลื่นกว่า เฟืองบดแบบ Harden Steel ทั่วไป ( คลิกดูรายละเอียดเพิ่มเติมเรื่องเฟืองบด Titanium และ เฟืองบด Red Speed )
ลายของใบมีดเฟืองบดและมุมองศาของคมใบมีด ลายเฟืองบดที่แตกต่างกันจะให้โปรไฟล์รสชาติที่ไม่เหมือนกัน เช่นลายเฟืองบดสำหรับบดเอสเพรสโซ ก็จะต่างกับลายเฟืองบดแบบ Unimodal ที่เหมาะกับ Brewing มากกว่า