แผนภูมิคำแนะนำในการเลือกเครื่องชงแบบ หัวชงเดียวให้เหมาะสมกับการใช้งานและระดับทักษะของบาริสต้า
โดยพิจารณาจากปัจจัยสำคัญอันดับแรก คือ วัตถุประสงค์ของการใช้งาน ซึ่งแบ่งได้แบบกว้างๆ ดังต่อไปนี้
ใช้งานในบ้าน หรือ Home Barista
หากเป็นมือใหม่ หรือ มือสมัครเล่น จะแนะนำเครื่องแบบที่ใช้งานง่าย ไม่จุกจิก ได้แก่ Zentis P (ราคา 17,900- ) เด่นเรื่องขนาดเครื่องเล็กกระทัดรัด ไม่เกะกะพื้นที่ และกินไฟน้อย หรือ Mattina BASIC ( 25,900-) ขนาดเครื่องใหญ่ขี้นมาหน่อย โดดเด่นเรื่องการสตีมนมร้อน ที่เป็นแบบอัตโนมัติใช้งานง่ายมาก หน้าตาเครื่องดูโปรมากขี้น แต่จะกินไฟเยอะกว่า Zentis P
หากเป็น ระดับ PROSUMER ที่มีความรู้ความชำนาญเรื่องกาแฟ จะแนะนำเป็น 2 ตัวเลือกได้แก่ รุ่น Elrocio Manus S เครื่องกาแฟ Made in Korea หัวชง E-61 แบบ Lever คลาสสิค และ สามารถปรับเล่น Flow control และ Preinfusion ได้หลากหลาย ในราคาเพียง 49,500-
และ รุ่น Mattina Rotary PROmax ( 39,900-) ที่ได้ปั๊มใหญ่แบบ Rotary ในขนาดเครื่องแบบ Homeuse พร้อมลูกเล่นหลากหลาย ครบเครื่องครบครัน ทั้ง PID อุณหภูมิหัวชง เล่น Flow Control Device ที่หัวชง และ ปรับแต่ง อุณหภูมิการสตีมนมร้อน
ใช้เพื่อเปิดร้านกาแฟขนาดเล็กๆ
เช่นเดิม หากเป็นมือใหม่ ยังไม่มีประสบการณ์ และงบประมาณมีจำกัด ตัวที่เหมาะสม คือ Mattina Switch ( 27,900-) ที่เป็นรุ่นที่เหมาะกับร้านกาแฟรุ่นประหยัดที่สุด รองรับการใช้งานได้ 50-80 แก้วต่อวัน ใช้ได้ทั้งระบบเติมน้ำในเครื่องหรือ จุ่มถังดูดน้ำจากถังใหญ่นอกเครื่องก็ได้
หากต้องการรองรับการใช้งานต่อเนื่องในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน จะแนะนำให้อัพเกรดเป็น Mattina Rotary ( 32,900 ) อัพเกรดตัวปั๊มจาก Mattina Switch มาเป็นระบบปั๊มใหญ่แบบ Rotary pump แบบเดียวกับเครื่อง 2 หัวชงในร้านกาแฟ ซึ่งจะทำให้เพิ่มความสามารถในการรองรับได้ 100-120 แก้วต่อวัน
นอกจากนี้ ยังมีตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ต้องการเครื่องที่กินไฟน้อยลง และไม่ได้ใช้งานการสตีมนมหรือใช้น้อยมาก คือ รุ่น Zentis ML-2 ( ราคา 39,900-) ที่โดดเด่นด้วย Boiler แบบ Hx (สตีมพร้อม
สกัดชอตได้) ขนาด 3 ลิตร สกัดชอตต่อเนื่องได้มากขี้น แต่กินพลังงานเพียง 1600 Watt
ใช้เป็นเครื่องเสริมในร้านอาหารหรือ เบเกอรี่ และอื่นๆ
เช่นเดิม หากเป็นมือใหม่ ยังไม่มีประสบการณ์ และงบประมาณมีจำกัด ตัวที่เหมาะสม คือ Mattina Switch ( 27,900-) ที่เป็นรุ่นที่เหมาะกับร้านกาแฟรุ่นประหยัดที่สุด รองรับการใช้งานได้ 50-80 แก้วต่อวัน ใช้ได้ทั้งระบบเติมน้ำในเครื่องหรือ จุ่มถังดูดน้ำจากถังใหญ่นอกเครื่องก็ได้ หรือ
ถ้ามีปริมาณการใช้งานน้อยกว่านี้ สามารถเลือกเป็นรุ่น Mattina BASIC ที่เป็นระบบเติมน้ำเพียงอย่างเดียว ที่สามารถรองรับการใช้งานประมาณ 20-50 แก้วต่อวันก็เพียงพอ