โหด เถื่อน ดิบ สิบสองลูกผู้ชายกระหายรัก ( TWELVE )

แต่งโดย จอม

พวกเขาทั้ง 12 คนยังไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใคร ต่างคนต่างใช้ชีวิตไปตามแต่ที่ใจต้องการ แต่ในท้ายที่สุด พวกเขาก็ทนสัญชาตญาณดิบของตัวเองไม่ไหว พวกเขาทั้ง 12 คน มีความสัมพันธ์กันเป็นคู่โดยไม่ได้ตั้งใจ 12 คนก็ 6 คู่คือ

ครูฝึก vs นักศึกษาวิชาทหาร ( รด )

โค้ช vs นักกีฬา

กรรมกร vs เศรษฐีหนุ่ม

ตำรวจ vs เด็กขนผัก

ผู้คุม vs นักโทษ

ทหาร vs เชลย

วันนี้โรงเรียนสิงหราชพานักเรียนชายชั้น ม. 4 ไปสมัครเรียน รด ในรถบัสพวกเขาคุยกันโขมงโฉงเฉง มีแต่พลที่ไม่สนใจใคร เขาวางมาดขรึมนั่งอยู่คนเดียว พลเป็นนักเรียนชายผิวขาวแต่หุ่นล่ำ ใครเห็นพล มักจะทำให้พวกเขาคิดถึงบรู๊ซ ลี พลเป็นผู้ชายแมนๆ ที่สาวเห็น สาวชอบ แต่ถ้าพวกแมนๆ ด้วยกันเห็น ก็คงอยากชกท้อง ฟาดหน้าอกหรือต่อยไปที่หน้าดูสักตั้ง

ฉายาของพลที่เพื่อนหยิบยื่นให้คือ เสือยิ้มยาก ไอ้เสือ หรือไม่ก็ไอ้เถื่อน มาดเถื่อนๆ กล้ามๆ และขาวๆ มักเรียกความสนใจจากคนรอบข้างไม่มากก็น้อย แม้พลจะอยู่ ม. 4 แต่เขาก็อายุ 17 แล้ว เขาเรียนช้า เพราะมัวไปสำมะเลเทเมา เขาจึงมีเพื่อนไม่มาก และก็หนีไม่พ้นพวกนักเรียนโข่งเหมือนกัน พลจึงมีเพื่อนซี้ไม่กี่คน แต่ศัตรูค่อนข้างเยอะ แต่พลมักจะคิดว่าชีวิตแบบลูกผู้ชายก็ต้องเป็นแบบนี้ เมื่อรถบัสมาจอดที่กรมการรักษาดินแดง นักเรียนส่วนใหญ่ก็ยังคุยกันเสียงดังลั่นจนครูฝึกที่อยู่ตรงนั้นต้องตะโกนเสียงดัง

“พวกมึงเงียบได้แล้ว ลงมาเข้าแถว เร็ว” เสียงครูฝึกคนนั้นมีอำนาจจนถึงขั้นทำให้นักเรียนชายวัยห้าวต้องรีบวิ่งลงมาเข้าแถว

“จับคนช้านับ 1 2 3 …” เสียงขู่ยิ่งเร่งให้พวกเขารีบกุลีกุจอกันเข้าแถว

“มาสมัคร รด กันวันแรก หยั่งกับจะมาดูบอล สงสัยคงต้องเรียกสติคืนมากันหน่อยแล้ว”

หลังจากแถวตอน 6 แถวๆ ละ 15 คนถูกจัดอย่างเรียบร้อย ครูฝึกก็ปั่นต่อ

“เสื้อขาวกันนะพวกมึง เอ้า หมอบ”

ทุกคนหมอบกันแบบทางใครทางมัน

“เมื่อไม่พร้อมก็ลุก ลุกเร็วๆ … ตอนนี้ขอหมอบกลางอากาศ พอกูสั่งหมอบ พวกมึงโดดหมอบกลางอากาศเลย แล้วเอาอกกระแทกพื้นแรงๆ ”

“เอ้า หมอบ”

ทุกคนพยายามหมอบกลางอากาศ แต่คนที่ทำได้ดีที่สุดก็คือพล

“ไอ้ควายหน้าหล่อนั่น ดีมาก กูชอบ”

หลังจากทำโทษพอหอมปากหอมคอครูฝึกก็พาพวกเขาไปตรวจร่างกาย นักเรียนชายทั้งหมดถูกพาไปยืนใต้อาคาร จากแถวตอนหกแถว กลายเป็นแถวหน้ากระดานหันหน้าเข้าหากัน 3 คู่ พลอยู่คู่กลาง

ตอนนั้นมีครูฝึกอีกคนปรากฏตัวขึ้น เขาตัวสูงมาก แม้จะอยู่ในชุดทหารที่ใส่เสื้อสองชั้น แต่ทุกคนก็พอดูออกว่าแผงอกของเขาเต็มแน่นไปด้วยมัดกล้าม อกใหญ่ เอวคอด ต้นแขนใหญ่หนา มองเห็นกล้ามอย่างชัดเจน หน้าตาดุโหด แต่คมเข้มมากๆ นัยน์ตาคมกริบ ผิวค่อนข้างคล้ำ แต่ไม่ถึงกับดำ เขายืนมองแถวของนักเรียนชายวัยเริ่มแตกหนุ่มตาไม่กะพริบ แต่ไม่มีเสียงใดๆ ผิดกับครูฝึกคนแรกที่ยังคงแผดเสียงดังต่อไป

“ทั้งหมดตรง … เงียบ”

ครูฝึกหนุ่มล่ำนัยน์ตาโหดจ้องมองนักเรียนชายเหล่านั้นเหมือนกับเหยี่ยวที่กำลังจ้องมองซากศพ

ครูฝึกคนแรกออกคำสั่ง “ทั้งหมด ถอดเสื้อออก”

นักเรียนชายทั้งหมดรีบถอดเสื้อของตัวเองออกโยนไว้ตรงปลายเท้า

ครูฝึกคนแรกออกคำสั่งอีก “ยืนตรง ยืดอกขึ้น”

นักเรียนชายทั้งหมดพยายามทำตามแต่ก็ยังมีหลายคนที่หย่อนยาน ทันใดนั้น ครูฝึกหนุ่มล่ำนัยน์ตาโหดเดินใกล้เข้ามาเหมือนจะตรวจแถว ตอนนี้ยังมีนักเรียนชายบางคนที่ถึงเงียบ แต่ก็ยังยืนไม่ตรง บางคนยังแอบยิ้มให้เพื่อนฝั่งตรงข้าม ครูฝึกหล่อล่ำเดินเข้ามาช้าๆ เหมือนเสือตะครุบเหยื่อ

ทันใดนั้น ครูฝึกหล่อล่ำเอามือหนาๆ ใหญ่ๆ ของเขา ฟาดไปที่แผ่นหลังของนักเรียนชายคนหนึ่งอย่างแรง เสียงดังสนั่น นักเรียนทุกคนเงียบกริบ ยืนตรงนิ่งไม่ไหวติง ถึงทุกคนจะระวังตัวแจ แต่ก็หาได้รอดพ้นจากเงื้อมมือมารไม่ ผ่านไปเพียงครึ่งนาที ครูฝึกหล่อล่ำก็ใช้มือฟาดไปที่หน้าอกของนักเรียนชายคนหนึ่ง เสียงดังป๊าป เสียงดังฟังแล้วสะใจมาก

ตอนนี้ทุกคนยังนิ่ง นิ่งรอดูว่าใครจะเป็นรายต่อไป ท่ามกลางความเงียบ มีเสียงรอดมาจากปากของพลแบบเบาๆ ว่า “ไอ้เหี้ย”

ครูฝึกล่ำหันขวับไปทางพลทันที เมื่อเขาหันไป เขาพบกับหนุ่มล่ำผิวขาว กล้ามอกนูนเด่น หน้าท้องเป็นลอน กล้ามแขนดูแน่น กำลังยืนมองตรงไปข้างหน้า ครูฝึกหล่อล่ำเดินไปยืนอยู่ข้างหน้าพล เขาจึงเห็นได้ชัดว่า ไอ้ล่ำกล้ามขาวนี่ขนดกพอดู ตั้งแต่ขนคิ้ว ขนตาที่ดกดำ ขับใบหน้าคมๆ ให้ดูหล่อแบบแมนๆ ขนรักแร้ดกดำจนขนาดที่ว่ายืนตรงแล้ว ขนยังแพลมออกมา ตรงหน้าท้องมีไรขนเป็นเส้นตรงยาวลึกเข้าไปใต้กางเกง

พลเป็นหนุ่มที่หัวนมใหญ่ แต่ไม่น่าเกลียด นมขึ้นแข็งเป็นไต ขนบริเวณหัวนมค่อนข้างดกแต่อกขาวเนียนเป็นเนินสวยด้วยกล้ามอกเป็นลูก ครูฝึกหล่อล่ำจ้องมองไปที่ตาที่คมกริบของพล พลเองก็ไม่ได้แสดงความเกรงกลัวสักนิดเดียว เขาจ้องไปที่ตาของครูฝึกหล่อล่ำคนนั้น จ้องแบบตาไม่กะพริบ เขายังคงยืนตรงยืดอกเต็มที่

ครูฝึกใช้นิ้วมือที่ใหญ่หนาเหมือนกับข้อเหล็ก บีบไปที่หัวนมของพลทั้งสองข้างทำให้หัวนมของพลบี้แบนไปตามมือที่บีบอยู่ พลยังมีสีหน้าธรรมดา แต่ครูฝึกหนุ่มหล่อยิ้มที่มุมปากนิดๆ พร้อมออกแรงบีบตรงหัวนมให้แรงมากขึ้นไปอีกจนพลเริ่มมีสีหน้าที่แสดงความเจ็บปวด และซี๊ดปาก

ครูฝึกหนุ่มยังออกแรงบีบมากขึ้นไปอีกจนหัวนมพลแบนราบ ครูฝึกหนุ่มออกกำลังด้วยเครื่องบีบมือมาเป็นสิบๆ ปี เขาจึงสร้างความเจ็บปวดตรงหัวนมของพลได้มาก พลเจ็บที่หัวนมมาก ขณะที่หัวนมของพลบี้แบนลงไปเรื่อยๆ แต่ท่อนลำของเขาค่อยๆ แข็งขึ้นมาเรื่อยๆ จนแข็งโป๊ก ท่อนลำขนาด 8 นิ้ว กำไม่รอบแข็งเต็มที่จนทำให้กางเกงนักเรียนของพลนูนออกมา

ครูฝึกหนุ่มสังเกตเห็น กางเกงที่นูนนั้นส่งผลให้น้องชาย 7 นิ้วกว่าๆ ของเขาแข็งเป๊กขึ้นมาเหมือนกัน ตอนนี้เขากำลังได้อารมณ์จึงส่งอารมณ์ด้วยการ ใช้มือดึงหัวนมทั้งสองข้างลงมาให้ต่ำที่สุด … อย่างแรง

ถ้าเป็นคนอื่นคงต้องโน้มตัวลงเพื่อประทังความเจ็บปวด แต่สำหรับพลแล้ว เขายังขืนทำท่าตรง แล้วยืดอกขึ้น ฝืนแรงต้านจนทำให้หัวนมเจ็บปวดรุนแรงมากขึ้น ครูฝึกหนุ่มเห็นดังนั้นจึงใช้เมื่อดึงหัวนมของพลให้สูงขึ้น จนพลแทบจะต้องเขย่งเท้า แต่พลยังคงขืนตัวในทางตรงกันข้ามและรักษาท่าตรงของตัวเองไว้

ทันใดนั้น ครูฝึกหนุ่มกระชากมือที่กำลังบีบหัวนมพลอยู่เข้าหาตัวเขาอย่างแรง ทำให้ท่อนลำแข็งๆ ของทั้งคู่เสียดสีกัน ครูฝึกหนุ่มขมวดคิ้ว พร้อมกับปล่อยมือออกจากหัวนมของพล แล้วผลักหน้าอกพลให้กระเด็นออกไป

ถ้าเป็นคนอื่นคงกระเด็นไปไกล หรืออาจล้มคว่ำขมำหงาย แต่ตัวของพลถอยหลังไปเพียงสองก้าว แล้วเขายังรักษาท่าตรงอยู่ ครูฝึกมองหน้าเขา แล้วก้มลงหยิบเสื้อของพล แล้วก็เดินออกจากใต้อาคารไปบริเวณสนามอย่างรวดเร็ว

ตอนนั้นหมอที่จะมาตรวจร่างกายมาแล้ว แต่พลตัดสินใจเดินตามครูฝึกหล่อล่ำ เพื่อจะไปเอาเสื้อของเขาคืน ครูฝึกเดินมาตรงกลางสนามบอล ตอนที่แดดกำลังร้อนเปรี้ยง เขาหยุดและหันไปมองพลที่กำลังเดินมาอย่างเร็ว ครูฝึกมองพล การเดินเร็วทำให้หน้าอกเขากระเพื่อม ท่อนลำของพลยังแข็งและดันเป้ากางเกงให้ตุง

การเห็นภาพแบบนั้นทำให้อาวุธของครูฝึกพลอยแข็งตามไปด้วย และพลก็พอจะสังเกตเห็น พลเดินมาหยุดยืนห่างจากครูฝึกหนุ่มไม่มาก

“มึงเดินตามกูมาทำไม” ครูฝึกหนุ่มตะคอกออกไปก่อน

“นั่นเสื้อผม” พลพูดแบบห้วนๆ

ครูฝึกยิ้มแบบโหดๆ แต่ก็ดูเท่ไปพร้อมๆ กัน “เสื้อมึงเหรอ”

เขายกเสื้อของพลขึ้นมาระดับอก แล้วก็ออกแรงฉีกจนกลายเป็นสามท่อน ก่อนที่จะโยนทิ้งไป พลมองหน้าแบบหาเรื่องเอามากๆ

“มึง” เขาพูดออกมาก่อนที่จะหันหลังกลับไปที่ใต้อาคาร แต่เดินไปไม่เท่าไหร่ เขาก็ต้องหยุดเพราะเสียงของครูฝึก “มึงจะเดินไปไหน ไอ้สัตว์”

พลหันมา หน้าตาบอกบุญไม่รับ แต่ไม่ได้ตอบอะไรออกไป

“มึงคิดว่ามึงมีสิทธิ์ที่จะเดินไปไหนต่อไหนตามใจชอบงั้นเหรอ”

พลยังนิ่งเงียบ ครูฝึกพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่แข็งกร้าว

“ถ้ามึงเป็นลูกผู้ชายพอ มึงต้องรู้ว่ามึงกำลังอยู่ในเขตทหารและกูเป็นครูฝึก สิ่งที่มึงต้องพึงสังวรณ์ไว้ก็คือมึงต้องฟังคำสั่งจากกู ถ้ามึงเป็นลูกผู้ชายพอมึงจะเข้าใจ”

แววตาของพลยังแข็งกร้าว แต่น้ำเสียงอ่อนลง “ผมเป็นลูกผู้ชายพอ”

ครูฝึกยิ้มแบบโหดร้ายแต่ดูหล่อมาก

“งั้นมึงต้องรู้ว่าสถานการณ์ตอนนี้เป็นอย่างไร วันนี้มึงมาทำไม มาตรวจร่างกายใช่ไหม แต่มึงดันเดินมาหากู ตอนที่หมอมา มึงรู้หรือยังว่ามึงพลาดอะไร”

พลตอบแบบไม่ต้องคิด “รู้”

ครูฝึกยังพูดต่อไป “ใช่ มึงรู้ ว่ามึงพลาดอะไร มึงหันไปดู เพื่อนมึงเขาตรวจร่างกายกันไปหมดแล้ว หมอกลับไปแล้ว แต่ยังไงก็ตาม วันนี้มึงต้องถูกตรวจร่างกายและกูจะตรวจร่างกายให้มึงเอง”

พลมีอารมณ์บางอย่างเมื่อได้ยินครูฝึกพูดแบบนั้น มันเป็นอารมณ์ที่คาดเดาลำบากว่าคืออะไร พลกลืนน้ำลาย หายใจถี่ขึ้น หน้าอกกระเพื่อมเล็กน้อย หน้าท้องพองและยุบนิดหน่อย ครูฝึกเดินมาใกล้ตัวพล จ้องตาเขา

ตอนนี้แววตาของครูฝึกดูดุดันมาก เขาพูดใส่หน้าของพลด้วยน้ำเสียงเหยียบเย็นแต่แฝงไว้ด้วยอำนาจ “แต่กูไม่ใช่หมอ กูเป็นทหาร เพราะฉะนั้น กูจะตรวจร่างกายมึงแบบทหาร”

พลยังนิ่งอยู่ แต่เขารู้สึกตื่นเต้นมาก

“ถ้ามึงเป็นลูกผู้ชายพอ และเข้าใจสิ่งที่กูพูด มึงจะต้องยอมรับเงื่อนไขของกู”

พลมองหน้าของครูฝึกเขม็งก่อนจะตอบว่า “ครับ ผมยอมรับเงื่อนไข”

“และสิ่งที่มึงต้องจำให้ขึ้นใจคือ ตราบใดที่มึงอยู่ในเขตทหาร มึงต้องฟังคำสั่งของกู เพราะกูคือครูฝึกของมึง”

พลนิ่งไปนิดก่อนจะพูด “ครับ ผมจะเชื่อฟังทุกคำสั่งของคุณ”

“ถ้างั้นมึงตามกูมา”

ครูฝึกหนุ่มพาพลเข้าไปที่โรงยิมร้างที่มีขนาดใหญ่มากและอยู่ทางด้านหลังของกรม ครูฝึกเดินนำและมาหยุดยืนตรงกลางโรงยิม ครูฝึกสูงประมาณ 185 ส่วนพลสูงประมาณ 178 พลเดินเข้ามาในโรงยิม เขาเดินเขามายืนหน้าครูฝึก ห่างจากครูฝึกประมาณ 2 เมตร

เนื่องจากพลถอดเสื้อกลางแดงอยู่นาน ทำให้แผงอก แผ่นหลัง และหน้าท้อง มันแผลบไปด้วยเหงื่อ และตอนนี้ผิวขาวๆ ของพลก็เริ่มออกแดงๆ อย่างเห็นได้ชัด ครูฝึกเดินเข้าไปใกล้พล ทำให้ระยะห่างถูกทำลายไป

ครูฝึกเริ่มพูดก่อน “มึงชื่ออะไร”

“พล” ตอบเพียงเท่านั้น ครูฝึกก็ฟาดหน้าอกพลไปอย่างเต็มแรง เขาตะคอกใส่หน้าพลด้วยเสียงที่ดังมาก

“เวลาตอบกู มึงต้องลงท้ายว่าครับผมทุกคำ” ครูฝึกนิ่งไปพักนึงก่อนที่จะถามขึ้นอีก “มึงชื่ออะไร”

“พล ครับผม” พอตอบเสร็จครูฝึกก็ฟาดหน้าอกพลไปอีกสองทีซ้อน

“ไม่ดังเลยไอ้สัตว์ มึงต้องตอบดังกว่านี้”

พลพูดดังขึ้น “พล ครับผม”

มันดังมากแล้วนะ แต่สิ่งที่ตอบกลับมาคือการที่ครูฝึกตบไปที่หน้าพลอย่างแรงจนพลหน้าหันไปอีกทางหนึ่ง แต่ไม่นาน พลหันหน้ากลับมาอยู่ในท่าตรง ยืดอกขึ้น แววตาฮึกเหิม พร้อมรับกับทุกสิ่งทุกอย่างที่จะเกิดขึ้น เขายิ้มมุมปากนิดๆ ให้ครูฝึก นัยน์ตากล้าหาญ องอาจ

ความเงียบเกิดขึ้นอีกครั้ง และผู้ที่ทำลายความเงียบก็คือครูฝึก “มึงคงไม่ลืมนะว่าเราเข้ามาในนี้ทำไม มึงจำได้ใช่ไหม”

“ครับผม”

“งั้นเรามาเริ่มตรวจร่างกายกันเลย”

“ครับผม”

ครูฝึกเดินไปมาสักพักก่อนที่จะออกคำสั่งอีกครั้ง “ถอดกางเกงมึงออก”

พลนิ่งไปนิดนึงทำให้ครูฝึกชกไปที่ท้องเขาอย่างเต็มแรง พลงอตัวเพียงเล็กน้อย ก่อนที่จะเข้าท่าตรงอีกครั้ง เขาถอดกางเกงออก ครูฝึกดึงกางเกงของเขามาถือไว้ ตอนนี้เครื่องแบบทหารจำเป็นของพลคือกางเกงในเพียงตัวเดียวและบังเอิญเป็นกางเกงในสีขาว บางๆ สามารถจะมองเห็นท่อนลำที่กำลังแข็งตัวอย่างถึงที่สุด จนหัวของมันโผล่พ้นขอบกางเกงในออกมานิดนึง

ครูฝึกเอากางเกงนักเรียนของพลหายไปพักนึง เขากลับมาพร้อมกับเขวี้ยงกางเกงลงบนพื้น เอาน้ำมันราดและก็จุดไฟเผา

พลตกใจมากกับภาพที่เห็น แล้วเขาจะกลับบ้านยังไง ทั้งเนื้อทั้งตัวเหลือเพียงแค่กางเกงในตัวเดียว แค่คิดว่าต้องกลับบ้านทั้งๆ แบบนี้ ยิ่งทำให้น้องชายของเขาแข็งแกร่งมากขึ้น

พอจัดการกับกางเกงนักเรียนของพลเสร็จ ครูฝึกก็เตรียมหันมาจัดการกับพล ประโยคแรกที่เขาพูดคือ “ตอนนี้เรามาตรวจร่างกายกันแบบทหารตรวจร่างกายทหาร ทหารเราไม่ได้ต้องการอะไรมากนอกจากความแข็งแกร่งของทั้งร่างกายและจิตใจ และการทดสอบความแข็งแกร่งของจิตใจก็คือการทดสอบทางร่างกาย เราจะมาเริ่มกันทีละส่วน ทีละชุด ชุดแรกมันจะเป็นอะไรง่ายๆ ที่มึงทำได้ มึงทำสะพานโค้งค้างไว้สัก 10 นาทีซิ”

“ครับผม” พลรีบนอนหงายแล้วก็ยกตัวขึ้นมาทำท่าสะพานโค้ง

เมื่อครูฝึกเห็นพลอยู่ในท่าสะพานโค้ง ยิ่งทำให้ครูฝึกรู้สึกว่าอารมณ์ความรู้สึกของเขาถูกกระตุ้นเป็นอย่างมาก ในท่าสะพานโค้ง สิ่งที่จะเห็นได้อย่างชัดเจนคือขนรักแร้อันดกดำซึ่งขึ้นอยู่ตรงร่องรักแร้ที่ขาวๆ แดงๆ เป็นขนที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อ ลอนท้องที่ได้รูป แผงอกที่ดูใหญ่โตและหนามากเมื่ออยู่ในท่านี้และที่สำคัญ ท่อนลำที่แข็งเกร็งเป็นสิ่งที่เห็นได้ชัดมาก

สิ่งแรกที่ครูฝึกทำคือการถอดเข็มขัดของเขาออกและเอาเข็มขัดมาฟาดตรงหน้าอกขณะที่พลกำลังทำสะพานโค้ง เป็นการฟาดที่แรงและหลายครั้งมาก ตอนนี้พลแทบไม่รู้สึกอย่างอื่นเลยนอกจากความสะใจ ที่เสียวไปกว่านั้นคือการที่ครูฝึกเอาเข็มขัดฟาดไปที่บริเวณหน้าท้องและท่อนลำ แน่นอนว่าถ้าเผลอไปถูกท่อนลำอย่างแรงจะเจ็บมาก

หลังจากนั้นครูฝึกเอามือของเขามาบีบที่ท่อนลำของพล เขาไปหยิบออยมาแล้วเทลงไปตรงท่อนลำทำให้เห็นท่อนลำภายใต้กางเกงในสีขาวได้อย่างชัดเจน มือพลเริ่มสั่นจนเขาทำท่าสะพานโค้งไม่ไหว จึงนอนแผ่

ครูฝึกให้เขาพักแป๊ปนึงจึงออกคำสั่งต่อ “ชุดที่สองก็ง่ายๆ แค่วิดพื้น”

“ครับผม”

พลกำลังจะทำท่าวิดพื้น

“ใครให้มึงวิดตรงนั้น ตามกูมานี่”

ครูฝึกพาพลเดินไปที่กองลวดหนามไม่ใช่แล้วที่วางเป็นกองสูงพอควรประมาณต้นขาของพล

“สิ่งที่กูจะให้มึงทำคือ ทำท่าวิดพื้นคร่อมลวดหนามกองนี้”

พลตกใจกับคำสั่งของครูฝึกมาก เขาเดินไปที่กองลวดหนาม พยายามทำท่าวิดพื้นท่าเตรียมคร่อมไปที่กองลวดหนาม เคราะห์ดีที่ลวดหนามกองอยู่แบบหลวมๆ ทำให้พลไม่เจ็บมากนัก ครูฝึกออกคำสั่ง

“วิดพื้น 50 ครั้งปฏิบัติ”

“ครับผม”

พลพยายามวิดพื้นอย่างระมัดระวัง เขาจะไม่ลงไปต่ำมากเพราะอาจจะถูกลวดหนามได้ แต่ครูฝึกก็ออกคำสั่งเหมือนกับว่ารู้ทัน

“ตอนลง ลงไปต่ำๆ หน่อย”

พลพยายามแล้ว แต่ยังไม่ต่ำพอ ครูฝึกจึงใช้รองเท้าบูทเหยียบไปที่หลังของพล กดไปให้ต่ำที่สุด ซึ่งแน่นอนว่ามันจะทำให้หน้าอกแกร่งของเขาสัมผัสไปบนกองลวดหนามอย่างใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น

พอวิดพื้นเสร็จ พลยืนขึ้น เขาพบว่าหน้าอกของเขามีรอยแดงๆ เลือดซิบ กระจายเต็มไปหมด ครูฝึกให้เขาอยู่ในท่าตรง ครูฝึกเดินหายไปพักนึง และกลับมาพร้อมกับขวดอะไรบางอย่าง พลตกใจมากเมื่อรู้ว่ามันเป็นขวดเกลือ

ครูฝึกสั่งให้เขานอนหงาย และเทเกลือลงไปตรงบริเวณหน้าอก ที่มีเลือดซิบๆ ครูฝึกใช้มือสากๆ ของเขาละเลงเกลือไปทั่วบนแผ่นอกแกร่ง นี่เป็นครั้งแรกที่พลร้องครางแบบแมนๆ ด้วยความปวดแสบปวดร้อน ครูฝึกสั่งให้พลยืนอยู่ในท่าตรง

“นี่เป็นชุดที่สาม ซึ่งก็คือชุดสุดท้าย” ครูฝึกสั่งพลต่อไปอีกว่า “ถอดกางเกงในมึงออก”

พลนิ่งอึ้ง ครูฝึกจึงย้ำด้วยการต่อยท้องไปอีกที

“กูให้ถอดกางเกงในออกไง มึงหูหนวกหรือยังไงวะ”

พลจำใจ เขาค่อยๆ ถอดกางเกงในออกจนทำให้ท่อนลำถูกปลดปล่อย มันผงาดอย่างห้าวหาญด้วยความแข็งแกร่ง ทอดขนานไปกับพื้น หัวเชิดและบานแดง ครูฝึกจ้องท่อนลำนั้นด้วยความตื่นเต้น แต่พลตื่นเต้นกว่า เพราะเขาไม่เคยเปลือยต่อหน้าคนแปลกหน้าเลย

ครูฝึกออกคำสั่ง “มึงตามกูมานี่”

พลเดินตามครูฝึกไป ตอนนี้ครูฝึกพาเดินไปตรงมุมหนึ่ง ที่มีเครื่องมือช่างวางเรียงรายอยู่ ครูฝึกพาพลมายืนอยู่หน้าเครื่องมือช่างเครื่องหนึ่ง

“มึงเห็นไหมว่านี่คืออะไร”

พลยืนมองเขม็ง เขาพอจะมองออกว่าเจ้าเครื่องนี่คืออะไร

ครูฝึกบรรยายต่อ “มึงคงเคยเห็น ที่เขาเอาท่อนเหล็กมาวางไว้ตรงนี้ แล้วหมุนตรงนี้ เครื่องจะค่อยๆ หนีบเหล็กจนแน่น แล้วค่อยเอาตะไบมาตะไบเหล็ก มึงลองคิดดูสิว่า ถ้าของที่จะเอามาวางตรงนี้ไม่ใช่เหล็กล่ะ”

พลยืนนิ่งด้วยความตื่นเต้น น้องชายของเขาแข็งมากๆ

ครูฝึกยิ้มก่อนที่จะพูดต่อไป “เอาล่ะ กูจะให้โอกาสมึง กูจะให้เวลามึงประมาณครึ่งนาที ถ้าน้องชายของมึงยังแข็งอยู่อีก มึงเจอแน่”

พลตื่นเต้นกับคำพูดประโยคนั้นมาก และด้วยความตื่นเต้น น้องชายของเขาจึงยังแข็งข้ออยู่ตลอด ผงกหัวเป็นระยะ ไม่ยอมอ่อนลงเลย

“หมดเวลาของมึงแล้ว”

ครูฝึกเดินไปเอาเก้าอี้ไม้ตัวเล็กๆ สำหรับเอาไว้นั้นซักผ้ามา

“มึงขึ้นไปยืนข้างบน”

พอพลขึ้นไปยืน บนเก้าอี้ไม้ ครูฝึกก็พูดขึ้นมาว่า “พอดีเลยว่ะ”

ครูฝึกจับท่อนลำของพลเข้ามาวาง แล้วก็หมุนตัวหมุน เครื่องก็ค่อยๆ หนีบท่อนลำของพลจนแน่น พลร้องด้วยความเจ็บปวด มันยิ่งบีบ ท่อนลำก็ยิ่งแข็ง

ขณะที่ท่อนลำถูกจัดการอยู่นั้น ครูฝึกก็เดินไปหยิบหวาย แล้วก็เอามาซัดก้นของพลไปหลายที เวลาหวายหวดไปที่ก้นของพลทีไร ตัวของพลกระตุกทุกที และการกระตุกนั้นก็ทำให้ท่อนลำที่ถูกหนีบไว้ ถูกดึงออกจนเหมือนว่ามันกำลังจะหลุดออกมา พลเจ็บมาก แต่อีกด้านหนึ่ง เขาก็รู้สึกสะใจมากที่ถูกกระทำแบบนี้

ตอนนี้เขารู้สึกเจ็บก้นมาก และก็เจ็บท่อนลำมากๆ พลก้มมองท่อนลำของเขาที่กำลังถูกหนีบด้วยเครื่องหนีบท่อนเหล็ก ขณะนั้นครูฝึกเดินมาทางด้านหลัง จิกผมของพลขึ้นมา ทำให้หน้าของพลหงายขึ้น พลค่อยๆ หงายหลังทำให้ท่อนลำถูกดึงรั้ง หน้าอกของพลผายขึ้น

ทันใดนั้น ครูฝึกเอากำปั้นทุบไปที่หน้าอกของพลหลายที เสียง พลั่กๆๆ ฟังแล้วสะใจ ครูฝึกปล่อยท่อนลำของพลออกมาจากที่หนีบแล้วออกคำสั่งต่อ

“ยืนกางขาออก เอามือประสานไว้ที่ท้ายทอย”

พลทำตามคำสั่ง ครูฝึกเดินมายืนข้างหน้าพล ห่างประมาณ 1 เมตร ครูฝึกเตะผ่าหมากอย่างรุนแรง จนทำให้พลขาสั่น ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด

“นอนหงายลงไป” ครูฝึกสั่งต่อ

พอพลนอนหงายลงไป ครูฝึกก็ใช้คอมแบตเหยียบไปที่หน้าอกของเขาแล้วกระทืบไปที่หน้าอกสองที หลังจากนั้นก็เหยียบไปที่หน้าท้องและกระทืบไปอีกสองที ก่อนจะเหยียบอยู่อย่างนั้น หลังจากนั้นครูฝึกหันมาเตะท่อนลำที่กำลังแข็งโด่ง เตะไปมาสักพักก่อนที่จะเหยียบอย่างแรงไปที่ท่อนลำของพล พลร้องออกมาด้วยเสียงโหยหวน

ตอนนี้พลเองคงทนไม่ไหว เขาจึงเอามือขวามาจับท่อนลำของเขา แล้วชักมันอย่างแรง ครูฝึกเห็นก็เมามันด้วยเลยเอาคอมแบตไปเหยียบบนหน้าอกของพลพร้อมกับปลดปล่อยท่อนลำของเขาแล้วชักอย่างเมามัน ทั้งคู่ชักท่อนลำของตนอย่างแรงและดุดันมาก เสียงการชักได้อารมณ์แบบดิบเถื่อนอย่างสุดๆ

ไม่นานนักครูฝึกก็น้ำแตกกระจาย กระเด็นไปเปื้อนหน้าหล่อๆ ของพล พลรู้สึกกับเหตุการณ์นี้มากจนทำให้พลปลดปล่อยน้ำอุ่นๆ ออกมา ครูฝึกเดินจากไปพร้อมกับกางเกงในของพล ปล่อยให้พลนอนหลับตาพริ้มอยู่ตรงนั้น

พอหลุดจากภวังค์ พลเองก็ตกใจมาก เพราะเขาอยู่ในสภาพเปลือยเปล่า แล้วเขาจะกลับบ้านยังไงล่ะเนี่ย ก่อนอื่นพลแอบไปล้ามหน้าตรงห้องน้ำของทหาร แล้วก็ขโมยผ้าขนหนูที่ตากอยู่ตัวเดียวมานุ่ง จากนั้นก็หาทางลัดเพื่อเดินกลับบ้าน พลยังไม่เคยเดินถนนพร้อมกับผ้าขนหนูเพียงตัวเดียว พลตื่นเต้นมาก แต่ยังไงซะ เขาก็ต้องเดินกลับบ้านด้วยสภาพนี้

ณ บ้านของพลซึ่งเป็นบ้านหลังใหญ่พอสมควร จอม พี่ชายแท้ๆ ของเขากำลังนั่งกินอาหารอยู่ จอมจะหน้าคล้ายๆ พล แต่สูงกว่า ผิวขาวมากผมสั้นกว่าพล แล้วเขาก็เลือกไว้ผมปกลงมา ไม่เหมือนพลที่ไว้ผมเป๋และมีรากไทร หุ่นของจอมไม่หนาเท่าพล แต่แกร่ง เพราะจอมชอบเล่นกีฬาหลายอย่าง สิ่งที่แตกต่างอีกอย่างหนึ่งคือจอมใส่แว่น เขาเรียนเก่ง ถึงห่างจากพลไม่มาก แต่เขาก็เรียนมหาวิทยาลัยแล้วเพราะจอมสอบเทียบทั้ง ม.3 และ ม.6

ขณะที่จอมกำลังกินข้าวอยู่ พ่อบ้านเดินเข้ามาบอกเขา

“คุณจอมครับ คุณพลกลับมาแล้วครับ แต่...”

จอมรู้ดีว่าคงมีอะไรแปลก เขาจึงลุกขึ้นไปดู เห็นพลเดินเข้าบ้านมาในสภาพที่นุ่งผ้าขนหนูเพียงตัวเดียว จอมไม่ทักอะไรเลย ได้แต่มองพลเดินขึ้นบันไดไป จอมรู้สึกว่า ไม่ว่าพลจะเจออะไรมา เขาต้องเลือกแล้ว และนั่นคือสิ่งที่สำคัญที่สุด พลเลือกที่จะไม่เรียนต่อ ม. 4 หลายปี จนเพิ่งหันมาเรียนในปีนี้ จอมไม่เคยเห็นว่าพลเป็นแค่น้อง แต่พลเป็นเพื่อนที่เขารักมากที่สุด ทั้งเขาและพลล้วนเป็นสายเลือดของพ่อ “พลเอกจอมพล เจริญวงศา” และมันต้องเป็นแบบนั้นตลอดไป

จอมเลือกที่จะไม่ไปคุยกับพลในตอนนี้ เขาคิดว่าพลคงต้องการอยู่คนเดียว เขาสั่งคนรถให้ออกรถเพื่อที่จะไปดูบ้านที่เขากำลังปลูกอยู่ด้วยการออกแบบของเขาเอง มันเป็นบ้านที่อยู่ในจินตนาการมานาน

ขณะที่รถติดบนนถนน เขามองเห็นเด็กขนผัก กำลังเข็นผักอยู่ เด็กคนนั้นน่าจะอายุสักประมาณ 15 ผมเรียบ หน้าตาหล่อ เขาไม่สวมเสื้อและกำลังเข็นรถเอาผักไปลงที่ตลาด เหงื่อโทรมเต็มตัว แต่ช่างเร้าใจของจอมเป็นอย่างมาก จอมนึกถึงงานสังคมงานหนึ่งที่จัดบนชั้นที่ 7 ของโรงแรมหรูแห่งหนึ่ง

จอมนึกขำที่มีคนในงานพูดว่า “ผู้ชายไม่ต้องการอะไรหรอก นอกจากรถหรูและผู้หญิงสวยๆ”

จอมเบื่อคนพวกนี้ก็เลยเดินหนีไปตรงระเบียง ตอนนั้นฝนกำลังตกพรำๆ แต่กรรมกรที่กำลังหนุ่มแน่นยังทำงานกันอยู่ตรงตึกฝั่งตรงข้าม ตึกนั้นคงเร่งสร้าง ดึกป่านนี้จึงยังมีกรรมกรมาทำงานกันอีก กรรมกรพวกนั้นไม่ใส่เสื้อ เผยให้เห็นมัดกล้ามอันเต็มแน่น บางคนยกของ บางคนขุดดิน บางคนกำลังช่วยกันขนทราย จอมมองอย่างหลงเสน่ห์พวกเขา และนี่แหละคือสิ่งที่เขาต้องการ

ไม่นานนักรถก็มาจอดที่บ้านกำลังสร้าง ผู้รับเหมามารอรับจอม เขาพาจอมเดินดูความก้าวหน้าของการก่อสร้าง รวมถึงพาไปดูส่วนที่จอมสั่งว่าจะต้องเสร็จสมบูรณ์ก่อนสิ่งอื่นก็คือห้องที่อยู่ชั้นสองของบ้านหลังนี้ ซึ่งจะมีทางขึ้นไปถึงห้องโดยตรง

ห้องนี้สร้างเสร็จสมบูรณ์พร้อมอยู่แล้ว จอมพอใจมากกับห้องนี้ เพราะเขาจะใช้เป็นห้องพักในคราวที่มีตรวจดูความเรียบร้อยของการก่อสร้าง

ช่างรับเหมาบอกเขาว่า “สระน้ำด้านหลังที่คุณต้องการ เรากำลังเร่งเต็มที่ กะดึกจะมีกรรมกรคนหนึ่งมาช่วยทำด้วย คุณเดินออกไปดูตรงระเบียงสิครับ”

จอมเดินออกไปดู เขาเห็นกรรมกรคนหนึ่งกำลังใช้จอบขุดดิน เขาเป็นคนร่างใหญ่ อกหนา ต้นขาและต้นแขนหนามาก ร่างกายเขาล่ำแบบกรรมกรที่สมบูรณ์แบบ เหงื่ออาบร่างเวลายกจอบสูงทำให้เห็นไรขนรักแร้ที่ดกดำ เขาใส่กางเกงยีนส์ตัดขาสั้น ใบหน้าคมคาย คิ้วเข้ม ผิวค่อนข้างคล้ำ

“คุณจอมครับ พรุ่งนี้ผมจะหาคนมาสร้างสระน้ำเพิ่ม งานจะได้เสร็จเร็วครับ”

แต่จอมหันไปพูดว่า “ไม่ต้องถึงขนาดนั้นหรอก ฉันอยากให้มันพิถีพิถัน ไม่ต้องรีบและก็ไม่ต้องใช้คนเยอะ ใช้หมอนี่คนเดียวก็พอ”

คำตอบนั้นทำให้ช่างรับเหมางุนงงเป็นอย่างมาก

“คุณจะให้ไอ้เสกมันสร้างสระคนเดียวเหรอครับ”

จอมหันมามองช่างรับเหมา “ใช่ ฉันจะให้ค่าแรงเขาเป็นกรณีพิเศษ ให้เขาทำสองกะ ตอนสิบโมงถึงบ่ายสอง และก็ตอนสี่ทุ่มถึงหกโมงเช้า ฉันจะให้ค่าแรงเขามากกว่าคนอื่น คุณไปบอกเขาด้วยก็แล้วกัน อ้อ อีกอย่างหนึ่ง ตั้งแต่พรุ่งนี้ ผมจะมาค้างที่นี่นะ ช่วยจัดห้องให้ด้วย”

“เออะ ครับ แล้วผมจะจัดการให้”

ช่วงเช้า จอมอยู่ในชุดนักศึกษา เขาแต่งตัวสะอาดและเรียบร้อยมาก พลเดินลงมาในสภาพกางเกงขาสั้นตัวเดียว พ่อบ้านเสริฟอาหารให้เขา จอมเลือกที่จะไม่ถามเรื่องเมื่อคืน

“พรุ่งนี้เราจะไปค้างที่บ้านใหม่นะ นายนอนที่นี่คนเดียวไปก่อน”

พลยิ้ม “บ้านมันยังไม่เสร็จ นายยังอยากจะไปนอนอีกเหรอ … หรือว่านายชอบอะไรที่มันไม่ต้องสมบูรณ์แบบ ชอบอะไรดิบๆ”

จอมสบตากับน้องชายของเขา

“บางทีอะไรดิบๆ นี่แหละคือสิ่งที่สมบูรณ์แบบ”

ในโรงเรียนช่วงบ่ายๆ พลเดินหาเพื่อนสนิทของเขาที่ชื่อเอก เขาเดินหาจนมาพบยืนอยู่ชั้นสามของตึกแปด

“อ้าวมึง ไหงมาอยู่ตรงนี้ล่ะ” พลทักเอก แต่เอกไม่ได้สนใจพล เขากำลังดูการซ้อมของนักกีฬาบาส มีอาจารย์พละท่านหนึ่งเป็นโค้ชให้กับนักกีฬาบาสทีมโรงเรียน

โค้ชคนนั้นอายุประมาณ 30 รูปร่างสูงใหญ่ ผิวค่อนข้างคล้ำ และเป็นคนที่ดุมากๆ ทำเอานักกีฬาบาสของโรงเรียนต้องลาออกเพราะทนความโหดของโค้ชคนนี้ไม่ไหว ตอนที่เอกกำลังมองอยู่นั้นเป็นช่วงที่โค้ชกำลังลงโทษนักกีฬาของตนเอง เขาสั่งให้ทุกคนถอดเสื้อและกลิ้งไปกลิ้งมาบนพื้นปูนร้อนๆ

“ไอ้พวกลูกหมา ท่าทางเหยาะแหยะแบบนี้ จะไปสู้ทีมอื่นเขาได้ยังไงวะ”

พลเห็นเอกจ้องไปที่สนามเขม็ง เขาจึงถามเอกว่า “มึงมองอะไรวะ”

“กูว่ากูจะสมัครเป็นนักกีฬาบาสของโรงเรียน”

พลไม่ได้ถามอะไรต่อ เขาพอจะเข้าใจว่าเอกรู้สึกอย่างไร

ตกเย็นนั้นเอง เอกไปค้างที่บ้านของพล เพราะพลบอกว่าพี่ชายตัวเอง ไปนอนค้างที่อื่น

“เป็นบ้านที่ยังสร้างไม่เสร็จเหรอวะ”

“ใช่ พี่กูก็งี้แหละ บ้านที่สร้างไม่เสร็จ แต่ดันมีห้องนอนที่หรูหรา”

เอกสงสัย “พี่มึงนี่แปลกนะ ดูไฮโซ แต่ดันไปพักในบ้านที่เต็มไปด้วยกองอิฐ กองทราย”

“บางทีพี่กูอาจชอบอะไรดิบๆ แบบนี้ก็ได้” พลพูดต่อ “เออ เอกเดี๋ยวกูไปอาบน้ำก่อนนะ”

พลถอดเสื้อผ้าเดินเข้าไปในห้องน้ำ เขาเปิดฝักบัวแล้วก็เดินเข้าไปให้น้ำราดตัวไม่นานนัก เอกก็เดินเข้ามาด้วยสภาพที่เปลือยเปล่าเหมือนกัน

“กูจะถูหลังให้มึงเอง”

พลไม่ขัดข้อง เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกเอกถูหลังให้พล แล้วก็ถูสบู่ให้พลด้วย เขาถูสบู่ที่หลังให้ก่อนแล้วก็เลยไปฟอกตรงหน้าอกให้ด้วย เอกเน้นถูวนๆ รอบหัวนม พลหันหน้ามาหาเอก เขาเอาสบู่มาฟอกตรงหน้าอกของเอกจนทั่ว

หลังจากนั้นทั้งสองก็กอดกัน แล้วก็จูบกันอย่างดูดดื่ม ร่างกายที่เปรอะเปื้อนสบู่สีกันไปมาจนทำให้ท่อนลำแข็งตัว พวกเขาสีท่อนลำกันไปมา พร้อมระดมจูบกันอย่างไม่ยั้ง พลผลักอกของเอกให้นอนลง พลนั่งลงจับเอกโก้งโค้ง ก่อนจะเอาท่อนลำยัดเข้าไปในตัวเอก แล้วกระแทกกระทั้นอย่างสุดฤทธิ์ เอกร้องครางด้วยความเสียวและแสบสันต์ พลเองก็ปลดปล่อยในแบบสุดๆ จนเอกร้องครวญครางมากขึ้น พลได้ที่จึงดึงท่อนลำออก และปล่อยน้ำอุ่นๆ ไปที่หน้าอกของเอก ทั้งคู่นอนกอดกันตรงพื้นห้องน้ำ

ตอนนอนทั้งคู่นอนเตียงเดียวกันแต่หันไปคนละทาง ถึงแม้ว่าเขาเพิ่งจะมีอะไรกัน แต่เอกก็นึกถึงแต่อาจารย์ที่เป็นโค้ชบาสคนนั้น ส่วนพลก็นึกถึงแต่ครูฝึกหนุ่ม ทั้งคู่คิดกันไปต่างๆ นานาจนเผลอหลับไป

แต่คนที่ยังไม่หลับในตอนนี้คือจอม เขาแอบอยู่ตรงระเบียง แอบมองเสกกำลังใช้จอบขุดดินอยู่ ตอนนี้เสกยังไม่ได้ขุดสระลึกมาก มันจึงดูคล้ายๆ สนามโคลนที่ตีวงออกไปเรื่อยๆ เนื้อตัวของเสกมีโคลนเปรอะประปรายทำให้เขาดูเซ็กซี่มากๆ สำหรับจอม

จอมกำลังครุ่นคิด นี่เป็นคืนแรกที่เขามาค้างที่นี่และตอนดึกๆ ก็จะมีแต่เขากับกรรมกรที่ชื่อเสก มันเป็นสิ่งที่เขาใฝ่ฝันไว้มากกว่าจะให้บ้านสร้างเสร็จอีก จอมตัดสินใจที่จะลงไปข้างล่าง ตอนนั้นเขานุ่งกางเกงขาสั้นและใส่เสื้อกล้ามแต่ก่อนลงไป จอมตัดสินใจถอดเสื้อกล้ามออก

กลางดึกคืนเดียวกัน เดี่ยว ตำรวจหนุ่มที่ออกตรวจช่วงดึกกำลังมองเด็กขนผักที่ชื่อชัย ชัยเพิ่งอายุ 15 เท่านั้น แต่มีโครงสร้างร่างกายที่ตำรวจอย่างเดี่ยวชอบ ตอนนั้นชัยกำลังขนผักอยู่ริมถนน ชัยใส่กางเกงขาสั้นไม่ได้สวมเสื้อ เดี่ยวกวักมือเรียกชัย ชัยงงมากที่ตำรวจเรียกเขา แต่เนื่องจากเขากลัว จึงเดินตามตำรวจไป

ชัยกับเดี่ยว ยืนคุยกันที่ซอยเปลี่ยวแห่งหนึ่ง เดี่ยวเริ่มพูดขึ้นก่อน

“นายจะมาเอาผักวางเต็มฟุตบาทอย่างนี้ไม่ได้นะ”

“อ้าวเหรอครับ ผมไม่ทราบจริงๆ” ชัยตอบแบบซื่อๆ

“นายต้องถูกปรับนะ นายมีเงินค่าปรับรึเปล่า”

ชัยตกใจมาก “ไม่มีหรอกครับ ผมไม่มีเงินติดตัวเลย”

เดี่ยวยิ้มในใจ “ถ้างั้นนายต้องตามฉันไปโรงพัก ไปนอนคุกสักคืนนึง ดีไหม”

“ไม่ได้หรอก ผมกำลังทำงานอยู่ ถ้านายจ้างมาพบว่าผมทิ้งงาน ผมก็โดนอานสิครับ”

เดี่ยวแกล้งตะคอกอย่างดุดันมากขึ้น “แล้วจะให้กูทำยังไงวะ”

ชัยตัวสั่น กลัวสุดขีด “งั้นเอางี้ครับ คุณตำรวจลงโทษผมแทนค่าปรับได้ไหมครับ จะลงโทษผมยังไงก็ได้ แต่อย่าให้ผมไปนอนคุกเลย”

เมื่อเสกเห็นจอมเขาตกใจมาก จึงหยุดขุด “คุณจอมนอนไม่หลับเหรอครับ”

จอมยิ้มให้เสก “ใช่ ก็เลยอยากรู้ว่านายทำงานไปถึงไหนแล้ว”

“ยังไม่ถึงไหนหรอกครับ ผมทำสระตื้นๆ เป็นวงกว้างก่อน แล้วค่อยขุดลึกในจุดที่คุณต้องการอีกที ตอนนี้มันเลยดูเหมือนสนามโคลน”

จอมเพ่งมองสนามโคลนที่อยู่ตรงหน้า เขาตัดสินใจโดยฉับพลันด้วยการแกล้งลื่นตกลงไปจมโคลน เสกตกใจมาก เขาเลยกระโดดลงโคลนหมายจะไปช่วยนายจ้าง

นายตำรวจหนุ่มมองหน้าของชัยที่กำลังยืนกล้าๆ กลัวๆ อยู่

“เอาล่ะ ฉันจะไม่เอานายไปสถานีด้วย แต่ยังไงก็ต้องลงโทษนายเพื่อความหลาบจำ”

ชัยไม่ได้พูดอะไร เขานิ่งเหมือนกับยินยอม

เดี่ยวมองรูปร่างของชัย มันเป็นรูปร่างของเด็กที่กำลังจะโตเป็นหนุ่ม ชัยมีผิวที่ขาว มีกล้ามอ่อนๆ แต่กล้ามแขนดูแข็งแรงมาก ตอนนี้เหงื่อโทรมกายเขา ขับผิวกายของเขาเป็นมันวาว ใบหน้าที่หล่อเหลา แววตาที่คมกริบ ช่างเร้าใจเดี่ยวดีแท้ เด็กผู้ชายที่มีรูปร่างและหน้าตาเช่นนี้เกิดมาเพื่อที่จะโดนลงโทษเพียงเท่านั้น

เดี่ยวเดินไปที่รถมอเตอร์ไซด์ของเขา เขาหยิบเชือกออกมาแล้วเอาไปมัดที่ข้อมือของเด็กหนุ่ม ชัยตกใจมาก

“คุณตำรวจจะทำอะไรผม”

เดี่ยวยิ้ม “เดี่ยวนายก็รู้”

เดี่ยวเอาเชือกอีกปลายหนึ่งไปผูกกับด้านท้ายของมอเตอร์ไซด์ พอพูดเสร็จเขาก็หันไปพูดกับเด็กหนุ่มว่า “นอนคว่ำลงไป”

ชัยทำตามที่เขาบอก เดี่ยวขึ้นไปบนมอเตอร์ไซด์แล้วขับออกไป เดี่ยวพยายามขับไม่เร็ว แต่ก็ไม่ถึงกับช้าเกินไปทำให้อกกับท้องของชัยแถกไปตามพื้น เดี่ยวขับวนอยู่แถวตลาดเก่า และเล็งหาที่ๆ มันขรุขระหน่อยหรือไม่ก็มีน้ำขัง เพื่อให้ชัยได้เจ็บและเปรอะเต็มที่ชัยเองรู้สึกว่าการถูกลงโทษแบบนี้ทำให้เขาตื่นเต้นมาก มันเป็นสิ่งที่เขาไม่เคยเจอมาก่อน

เขาถูกรถลากไปตามทางที่ขรุขระ ถูกกระทำเหมือนกับเขาไม่ใช่มนุษย์ แต่สิ่งที่สำคัญไปกว่านั้นคือเขา “ชอบ”

พอนายตำรวจหนุ่มทำจนสาแก่ใจแล้ว เขาจึงจอดรถ ดับเครื่อง และเดินมามองสภาพของชัยที่ยังนอนอยู่ในสภาพอ่อนล้า ร่างกายเปรอะเปื้อนน้ำสกปรก ชัยนอนพัก หายใจถี่ เดี่ยวสังเกตเห็นท่อนลำที่ขึ้นแข็งเป็นลำของชัย เพียงเท่านั้น เขาก็รู้สึกว่า เขาคาดการณ์ไม่ผิด

ตอนนี้ชัยอยู่ในสภาพนอนหงาย แขนชูขึ้นเพราะเดี่ยวยังไม่ได้แกะเชือก เผยให้เห็นขนรักแร้ที่ดกดำพร้อมกับร่องรักแร้ที่เต็มแน่นไปด้วยกล้ามอ่อนๆ ของคนที่กำลังเริ่มหนุ่ม เดี่ยวใช้รองเท้าตำรวจเหยียบไปที่ท่อนลำ แล้วเขยิบมาเหยียบที่หน้าท้อง มาจนถึงหน้าอก แล้วเขาก็เหยียบเลยไปถึงใบหน้าหล่อๆ ของชัย เหยียบพร้อมกับเอารองเท้าขยี้ไปที่หน้าของชัย ชัยรู้สึกสะใจมาก หลังจากนั้นเดี่ยวเหลือบไปเห็นถังเศษอาหารวางอยู่ เขาจึงเอาเศษอาหารมาเทราดไปที่หน้าและตัวของชัยจนเหม็นคลุ้งไปหมดก่อนจะแก้มัดให้ชัยแล้วก็ขับรถออกไป

ชัยพยายามกะเสือกกะสนไปล้างตัวหลังตลาด ก่อนที่จะไปทำงานต่อ ชัยรู้สึกสะใจมากที่เขาถูกลงโทษและโดนเหยียดหยามขนาดนี้ เขาหวังว่านายตำรวจหนุ่มอย่างเดี่ยวต้องกลับมาเล่นงานเขาอีกแน่และเขาจะเฝ้ารอวันนั้น

จอมนอนนิ่งๆ อยู่ในสนามโคลน เสกโดดลงไปช่วย เขาว่ายไปหาจอม และพยายามจะดึงร่างจอมขึ้นไปแต่ดูเหมือนว่าจอมดันตัวของเสกให้คร่อมตัวเขา กดหลังเสกไว้แล้วเอาหน้าอกของเขาสีกับหน้าอกของเสกในขณะที่ทั้งคู่เปื้อนโคลนกันอย่างเต็มที่

เสกเริ่มผิดสังเกต เขาไม่แน่ใจว่าจอมกำลังสื่อสารอะไร แต่ตอนนี้ทั้งคู่นิ่งเงียบ มีเพียงร่างกายที่สีกันไปมา พอเห็นจอมเริ่มคลายตัว เสกจึงดึงจอมขึ้นจากโคลน และหาสายยางมาฉีดน้ำล้างตัวให้จอม

ขณะที่เสกกำลังฉีดน้ำล้างตัวให้จอมอยู่นั้น บางอย่างก็เกิดขึ้นโดยไม่ได้คาดคิด จอมเอามือของเขาประสานไว้ที่ท้ายทอยและจ้องตาเสกเขม็ง มันเหมือนเป็นการบ่งบอกสัญญาณอะไรบางอย่างซึ่งตอนแรกเสกไม่แน่ใจ แต่สักพักเขาก็พอนึกออก

เสกลองเอาสายยางฟาดไปอย่างแรงที่หน้าอกของจอม จอมแสดงสีหน้าเจ็บปวด แววตาเรียกร้องแต่เขาก็ไม่ได้แสดงทีท่าว่าจะขัดขืนเลย ทำให้เสกพอจะจับสัญญาณได้ เสกเดินวนรอบตัวจอม เขาเอาสายยางฟาดไปที่หลังและหน้าอกจอมอยู่หลายที

ไม่นานนักก็มีเสียงแรกออกมาจากปากของจอม “ผมชอบครับนาย”

จริงๆ แล้วเสกได้ยินที่จอมพูดและพอจะเข้าใจอะไรแล้ว เพียงแต่เขาแกล้งไม่ได้ยิน แล้วหันมาเอามือจิกผมของจอมพร้อมกับตะคอกว่า “เมื่อกี้มึงพูดว่าอะไรนะไอ้สัตว์”

จอมพูดเสียงเบาแต่มีพลัง “ผมเป็นทาสของนาย นายจะทำอะไรกับผมก็ได้”

เสกได้ยินดังนั้นจึงลากจอมเข้าไปในห้องเครื่องมือที่อยู่ไม่ไกลจากตรงนั้นมากนัก เมื่อไปถึงห้องเครื่องมือ สิ่งแรกที่เขาทำคือ เอาคีมสองอันมาแล้วบอกกับจอม

“มึงรู้จักใช่ไหมว่านี่คืออะไร” จอมไม่ตอบ เสกจึงพูดต่อ “เดี่ยวมึงต้องรู้จักมันแน่”

เสกเอาคีมหนีบไปที่หัวนมทั้งสองข้างของจอม

“ตอนนี้มึงรู้สึกยังไงล่ะ ไอ้สัตว์”

จอมตอบเบาๆ “ชอบครับนาย ชอบมาก”

ต่อไปเสกจึงออกคำสั่ง “ถอดกางเกงของมึงออกให้หมด”

จอมปฏิบัติตาม พอจอมอยู่ในสถาพเปลือยเปล่า เสกจึงนำเขามานอนบนโต๊ะแล้วเอาสายไฟมาผูกข้อมือจอมทั้งสองข้าง แล้วเอาลอดผ่านรอกที่ติดบนเพดานแล้วเอามาผูกไว้ที่ขาโต๊ะ ทำให้ช่วงแขนกับลำตัวของจอมถูกยกให้สูงกว่าระดับโต๊ะ

หลังจากนั้นเสกเอาเชือกมาผูกที่ข้อเท้าของจอมทั้งสองข้างแล้วดันเท้าของจอมขึ้นไปทำให้ก้นของเขากระดกขึ้นและเห็นรูก้นชัดเจน เสกเอาขั้วของสายไฟที่มีปากเป็นตัวหนีบมาหนีบหัวนมของจอมทั้งสองข้างพร้อมกับเปิดไฟพอประมาณช๊อตหัวนมของจอมไปด้วย จอมหงายหน้าขึ้นร้องครวญคราง เสกใช้นิ้วใหญ่ๆ ของเขา 1 นิ้ว ค่อยๆ สอดไปที่รูก้นของจอม จอมเงยหน้าขึ้นมองเสก เสกมองจอมแล้วยิ้ม

เสกค่อยๆ เพิ่มนิ้วแหย่รูก้นจอมทีละนิ้วๆ จนถึงขั้นที่เขาเอากำปั้นยัดไปในรูก้นจอม จอมร้องครวญคราง แต่เสกไม่สนใจ ตอนนี้ท่อนลำเสกแข็งอย่างกับสากเหล็ก เขาถอดกางเกงออก แล้วใจท่อนลำขนาดเขื่องค่อยๆ ยัดเข้าไปในรูก้นของจอม

จอมร้องด้วยความเจ็บปวดทรมานเป็นอย่างมาก พอเสกยัดจนมิดก็ค่อยๆ ดึงออกดันเข้าจนเครื่องเริ่มติดเท่านั้นแหละ เสกก็ระดมกระแทกกระทั้นจนรูก้นจอมระบมไปหมด เสียงโต๊ะดังสอดรับกับเสียงกระแทกกระทั้นของเสก ท่อนลำของจอมก็แข็งมากๆ เช่นเดียวกัน การกระแทกกระทั้นของเสกเข้าถึงจุดไคลแม๊ก เขาดึงน้องชายออก แล้วชักว่าวจนน้ำแตก หลังจากนั้นเขาก็หันมาชักว่าวให้จอมจนน้ำแตกเช่นกัน ก่อนที่จะปลดพันธนาการให้กับจอม

เช้านี้พลตื่นขึ้นมาแต่เช้า เขารีบแปรงฟันอาบน้ำ วันนี้มีเรียน รด. พอแต่งชุด รด เสร็จ เขาเพิ่งนึกออกว่าวันนี้ครูฝึกโหดคนนั้นจะมาตรวจกองร้อยของเขา เขานั่งลงและคิดว่าจะทำยังไงดี พอคิดตก พลก็เอาชุด รด มาใส่ เพียงแต่เขาตั้งใจจะไม่ใส่เข็มขัด ไม่ขัดรองเท้า ไม่ใส่เสื้อยืดข้างในด้วย ส่วนเสื้อตัวนอก เขาก็ดึงกระดุมเม็ดบนออกสามเม็ด เขานึกไม่ออกว่าพอครูฝึกโหดเห็นเขาในสภาพนี้ อะไรจะเกิดขึ้น แค่คิดก็ทำให้เขาตื่นเต้นซะแล้ว เสียดายที่ไอ้เอกจะไม่เห็น เพราะมันลาเพื่อจะไปสมัครเป็นนักบาสทีมโรงเรียน

พอพลเดินลงไปชั้นล่าง เขาเห็นจอมนอนเปลือยเปล่าอยู่ที่โซฟา มีเพียงผ้าขนหนูตัวจิ๋วทับน้องชายไว้ พอจอมลืมตาเห็นพล เขาก็ทักพล “ไอ้ รด วันนี้นายโดนอานแน่”

พลยิ้มให้จอมนิดๆ พร้อมกับทักว่า “แต่รู้สึกว่านายจะโดนอานตั้งแต่เมื่อคืน”

จอมยิ้มพร้อมกับพูดว่า “ไปเหอะ แล้วอย่าโดดเรียน รด ล่ะ”

สิ่งที่พลนึกไม่ถึงในเช้าวันนี้ก็คือ ตอนเช้าเขาถูกอาจารย์ฝ่ายปกครองเล่นเข้าจนได้ มันเหมือนกับเป็นน้ำจิ้มสำหรับตอนบ่าย อาจารย์ฝ่ายปกครองเรียกพลมายืนหน้าเสาธง หลังจากเคารพธงชาติเสร็จแล้ว รายการกระหน่ำพลก็เริ่มตามมา

“นักเรียนทั้งหลายดูเอาไว้เป็นตัวอย่าง นักเรียนที่ใส่ชุด รด วันนี้มีนายคนนี้ที่ทำตัวเลวมาก เข็มขัดไม่คาด รองเท้าไม่ขัด เสื้อยืดไม่ใส่ และเสื้อทหารก็กระดุมหลุดตั้งสามเม็ด นักเรียนเลวๆ แบบนี้จะปล่อยไปไม่ได้ ทางโรงเรียนต้องลงโทษให้หลาบจำ”

พลนึกในใจ “กูจำแน่”

อาจารย์ฝ่ายปกครองสั่งให้นักเรียนห้องอื่นขึ้นไปเข้าแถวบนตึก หน้าห้องของตนเองและยังไม่ให้เข้าห้อง เจตนาของเขาคือ อยากจะให้นักเรียนทุกคนได้มีโอกาสเห็นการลงโทษนักเรียนเลวๆ ในครั้งนี้

อาจารย์ฝ่ายปกครองสั่งให้พลวิ่งไปที่สนามบาส ซึ่งมีอาจารย์พละหนุ่มนายหนึ่งยืนรออยู่ พอพลไม่ถึง อาจารย์พละก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง เขาปลดกระดุมเสื้อเม็ดที่เหลือ ถอดเสื้อของพลออก และเขวี้ยงไปไกลๆ

หลังจากนั้นจึงนำที่หนีบกระดาษเหล็กสีดำขนาดพอประมาณ 2 อันมาหนีบที่หัวนมของพล พลรู้สึกเจ็บมาก สีหน้าของเขาแสดงความเจ็บปวดออกมาอย่างเห็นได้ชัด

อาจารย์พละออกคำสั่ง “มึงวิดพื้น 30 ที ปฏิบัติ”

พลทำท่าวิดพื้นท่าเตรียม แล้ววิดพื้นไปเรื่อยๆ พลรู้สึกว่าการลงโทษแบบนี้โหดเอาการ ขณะที่เขาวิดพื้นลงไป ตรงหัวนมจะถูกรั้งให้เจ็บปวดมากขึ้น เขาแข็งใจวิดจนครบ พอวิดจนครบแล้ว อาจารย์พละจึงออกคำสั่งต่อ

“วิ่งรอบสนามบาส 20 รอบ ปฏิบัติ”

พลทำตามอย่างเคร่งครัด และเขาก็เพิ่งรู้เดี๋ยวนี้เองว่าเวลาวิ่ง หัวนมที่ถูกหนีบด้วยที่หนีบกระดาษเหล็กสีดำ มันจะเด้งไปมา ทำให้ความเจ็บปวดยิ่งมากเป็นทวีคูณ พอวิ่งรอบสนามจนครบ อาจารย์พละก็ยังคงออกคำสั่งต่อไป

“นอนหงายลงไป ยกแขนขึ้นเหนือหัว”

พลทำตาม

หลังจากนั้นเขาก็ออกคำสั่งอีก “มึงกลิ้งจากตรงนี้ไปจนสุดขอบสนามบาส หลังจากนั้นให้มึงกลิ้งมาอีกทาง จนสุดขอบ ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่ากูจะเหนื่อย”

การลงโทษแบบนี้ก็เจ็บปวดไม่แพ้การลงโทษที่ผ่านมา เวลากลิ้งทับตรงหัวนมที่ถูกหนีบ พลจะเจ็บดังแปลบ มันเป็นความเจ็บปวดที่บอกไม่ถูก เจ็บๆ ชาๆ หลังจากพลกลิ้งจนเหนื่อย อาจารย์พละจึงสั่งให้พอและลุกได้

ตอนนี้อาจารย์พละสั่งให้พลตามเขาไปในห้องพักครูของอาจารย์พละ เขาเอาที่หนีบกระดาษเหล็กสีดำขนาดใหญ่พอประมาณออกจากหัวนมของพล ขณะดึงออก พลรู้สึกเจ็บมาก พลเอามือลูบที่หัวนมของเขา

“ยังก่อนไอ้เสือ การลงโทษมึงยังไม่เสร็จสิ้น” เขาสั่งพลต่อ “อ้าว ไอ้ รด ตามระเบียบพัก”

พลเอามือไขว้หลัง แยกขาออก อาจารย์พละยิ้ม เขาหยิบกล่องเล็กๆ มากล่องหนึ่ง เขาเทมันออก และสิ่งที่พลเห็นก็คือที่หนีบกระดาษเหล็กสีดำอันเล็กๆ เต็มไปหมด พลตกใจมาก และพอจะเดาได้ว่าสิ่งที่อาจารย์พละคนนี้ชื่นชอบคือการทรมานหัวนม และเขาคงจะไม่ปล่อยพลไปง่ายๆ

อาจารย์พละคิดในใจ “กูชอบหัวนมของมึงมาก มันมีขนาดพอประมาณ เป็นหัวนมที่อยู่บนกล้ามอกขาวๆ ที่แข็งแรง หัวนมแบบนี้แหละที่กูอยากทรมานมานานแล้ว”

และแล้วอาจารย์พละก็มุ่งไปที่หัวนมซ้ายของพลก่อน เขาเริ่มจากการเอาที่หนีบกระดาษสีดำตัวแรกหนีบในแนวตั้ง การหนีบแบบนี้ทำให้เนื้อหัวนมและฐานนมของพล ทั้งด้านบนและด้านล่างยังพอมีเนื้อที่ว่าง อาจารย์พละเอาที่หนีบกระดาษเหล็กสีดำ 2 ตัวไปหนีบที่หัวนมและฐานนมทั้งด้านบนและด้านล่าง ต้องอย่าลืมว่าพลเพิ่งถูกที่หนีบกระดาษสีดำตัวใหญ่หนีบหัวนมมาตลอดตอนอยู่ที่สนามบาส หัวนมของเขาเจ็บระบมมามากแล้ว และตอนนี้ที่หัวนมซ้ายของเขามีที่หนีบกระดาษเหล็กสีดำตัวเล็กหนีบอยู่ 3 ตัว

เท่านั้นยังไม่พอ อาจารย์พละยังหาที่ให้กับที่หนีบกระดาษสีดำ ตัวเล็กอีก 2 ตัว ทำให้หัวนมซ้ายของพลมีที่หนีบกระดาษเหล็กสีดำตัวเล็กอยู่ถึง 5 ตัว และแน่นอนที่เขากำลังทำแบบเดียวกันกับหัวนมข้างขวา พลก้มมองหน้าอกของตัวเอง เขาตื่นเต้นมากที่หัวนมทั้งสองข้างมีที่หนีบกระดาษเหล็กสีดำตัวเล็ก อยู่มากถึง 10 ตัวและน่าจะเป็น 10 ตัวที่อาจารย์พละเลือกมาเป็นพิเศษเพราะแต่ละตัว เวลาที่อาจารย์พละบีบตรงที่จับเขายังมือสั่นเลย เพราะมันแข็งมากๆ และพอเขาเอาปลายสอดไปที่หัวนม และปล่อยมือความเจ็บปวดแบบทวีคูณจะโถมกระหน่ำมาที่หัวนมของพลทั้งสองข้าง พลยังอยู่ในท่าพัก แต่เขารู้สึกเหมือนมีเข็มหมุดมาปักที่หัวนมทั้งสองข้างของเขาเป็นร้อยๆ เล่ม

พลนึกว่ามันจะจบเพียงเท่านี้ แต่เมื่อเห็นอาจารย์พละไปหยิบตระกร้ามาอีกใบและในตระกร้ามีไม้หนีบผ้าอยู่เป็นร้อยๆ ตัว พลจึงพอจะคาดได้ว่าการลงโทษหรือทรมานเขา ยังไม่จบลงง่ายๆ

อาจารย์พละเอาไม้หนีบผ้าสีฟ้าค่อยๆ หนีบเนื้อบนหน้าอกของพลอย่างใจเย็น เขาหนีบทุกที่ๆ เห็นว่ายังมีที่ว่างจนทำใหhบริเวณหน้าอกของพลมีไม้หนีบผ้าอีก 20 อันกระจายอยู่ทั่วหน้าอก พลเริ่มมีสีหน้าเจ็บปวดทรมานมากขึ้นแต่อาจารย์พละกลับสนุกมากขึ้น เขาไปขุดคุ้ยหาไม้หนีบผ้ามาอีกเป็นพันอัน

เขาหันมาบอกกับพลว่า “กูไม่ได้ใช้มันมานานแล้ว วันนี้กูจะใช้ให้คุ้ม”

เป้าหมายต่อไปคือบริเวณหน้าท้องของพล เขาค่อยๆ เอาไม้หนีบผ้าหนีบไปที่เนื้อบริเวณหน้าท้องของพล หนีบไปหนีบมานับรวมได้ 25 อัน ถ้ารวมกับที่หนีบกระดาษเหล็กสีดำด้วยแล้ว ตอนนี้บนหน้าอกและหน้าท้องของพลมีไม้หนีบอยู่ทั้งหมด 55 อัน

อาจารย์พละมองหน้าของพลที่กำลังแสดงความเจ็บปวดเต็มที่ “หน้าหล่อๆ อย่างมึง กูไม่ปล่อยไปง่ายๆ หรอก”

ว่าแล้ว อาจารย์พละก็เอาไม้หนีบผ้าหนีบไปที่หน้าของพลหนีบไปทั่วไม่ว่าจะเป็นหน้าผาก แก้ม คาง หนีบแบบสะใจมาd นับรวมแล้วมีไม้หนีบผ้าหนีบอยู่ที่หน้าของพลถึง 70 อันจนทำให้เราเกือบจะจำหน้าของพลไม่ได้เลย

พลเจ็บปวดทรมานมาก และขณะที่เขาเจ็บจนถึงที่สุด ท่อนลำของเขาจะแข็งมากๆ และมันก็ไม่รอดสายตาของอาจารย์พละไปได้ อาจารย์พละยิ้มอย่างมีเลศนัย เขาเอามือรูดซิบกางเกงของพล แล้วปลดปล่อยท่อนลำของเขาออกมา ท่อนลำของพลหัวบานผงาด แข็งขนานกับพื้นหัวกระดกด้วยความตื่นเต้น อาจารย์พละเริ่มเอาไม้หนีบไปหนีบที่ไข่ของพลก่อน เขาหนีบอย่างมันมือ จนไข่ของพลมีไม้หนีบอยู่ถึง 10 อันและวาระสุดท้ายของน้องชายพลก็มาถึง อาจารย์พละบรรจงเอาไม้หนีบหนีบไปที่หนังของท่อนลำและลามปามมาถึงดอกเห็ดบานที่ก็ถูกไม้หนีบๆ ไปด้วย ทำให้ท่อนลำของพลมีไม้หนีบอยู่ถึง 8 อัน

ตอนนี้พลเจ็บปวดทรมานอย่างบอกไม่ถูก แต่อีกใจหนึ่งเขาก็รู้สึกสะใจมากๆ ตื่นเต้นมากๆ เขายังคงยืนท่าตามระเบียบพัก

อาจารย์พละพูดขึ้น “อยากเปลี่ยนอิริยาบถบ้างไหมล่ะ งั้นวิดพื้นสัก 20 ที”

การวิดพื้นในสภาพนี้ทำให้ความเจ็บทวีคูณมากขึ้น พลกลั่นใจวิดพื้น เขาแทบจะวิดไม่ไหว อาจารย์พละเห็นเขาในสภาพนั้นแล้วรู้สึกมีความสุขและเกิดอารมณ์เป็นอย่างมาก เขาเหมือนนึกบางอย่างออก จึงสั่งให้พลเดินเข้าไปในห้องน้ำนักกีฬาที่อยู่ข้างๆ เขาสั่งให้พลเอามือประสานไว้ที่ท้ายทอย พร้อมกับมีของแถมคือไม้หนีบอีกประมาณ 20 ตัวที่อยู่ใต้ท้องแขนของพลทั้งสองข้าง

หลังจากนั้นเขาจึงเอาขันตักน้ำ และซัดไปยังพลอย่างแรง แรงน้ำปะทะกับไม้หนีบที่หน้า หน้าอก หน้าท้อง ท่อนแขน ท่อนลำและไข่ช่วยขับเน้นให้พลเจ็บปวดอีกเป็นทวีคูณ อาจารย์พละยังคงซัดน้ำไปที่พลอย่างบ้าคลั่ง หลังจากนั้นเขาจึงเอาไม้หนีบที่ไข่กับน้องชายของพลออกก่อน เขาสังเกตเห็นท่อนลำของพลยังแข็งมากๆ เขาก็เลยเดินไปด้านหลังพล เขายืนชิดด้านหลังพล ทำให้พลรู้สึกได้ถึงท่อนลำของเขาที่กำลังแข็งและดุนตรงก้นของเขาอยู่

อาจารย์พละ เอามือซ้ายจิกผมของพล และใช้มือขวาชักว่าวให้พลอย่างเมามันส์ เขาชักอย่างแรง และชักนาน แต่ของพลไม่แตกง่ายๆ เขายังเอาท่อนลำสีด้านหลังของพลไปด้วย พลรู้สึกทั้งเจ็บทั้งสุข แต่ทั้งหมดทั้งมวลก็เต็มไปด้วยความสะใจ อีกไม่นานนัก น้ำว่าวก็พวยพุ่งเป็นทางยาว เร้าใจอาจารย์พละเป็นอย่างมาก

อาจารย์พละแผดเสียง “กูจะไม่เอาไม้หนีบออกจากตัวมึงจนกว่ามึงจะช่วยกูให้เสร็จซะก่อน”

เขาปลดปล่อยท่อนลำของตัวเอง บังคับให้พลนั่งลงในสภาพนั้นแล้วก็กดหัวของพลมาที่ท่อนลำของเขา เขาดันปากของพลเข้าไปในท่อนลำของเขา พลตอบสนองด้วยการดูดเลีย และอมให้เขาอย่างเมามันส์จนถึงที่สุด

ไม่นานนักอาจารย์พละก็น้ำแตกเต็มหน้าพล เขาค่อยๆ ดึงไม้หนีบและที่หนีบกระดาษสีดำออกจากตัวของพลจนหมดและแผดเสียงอีกครั้ง

“มึงไปได้แล้ว ไอ้สัตว์”

พลเดินออกไปด้วยสภาพบอบช้ำแต่ยังแกร่ง เขาตัดสินใจว่า ช่วงบ่ายเขาก็ต้องไปเรียน รด ให้ได้ เขาจะไม่พลาดโอกาสมันส์ๆ แบบนี้ โดยที่หารู้ไม่ว่าเหตุการณ์ตอนเช้าเป็นเพียงน้ำจิ้มเท่านั้น

ส่วนอาจารย์พละก็รู้สึกสะใจมาก เหตุการณ์ตอนเช้ายังทำให้เขาคึกไม่หาย วันนี้เขาจะสวมบทโหดทั้งวัน เขาเปิดสมุดโน๊ตดูว่าตอนบ่ายเขาต้องทำอะไรบ้าง แล้วเขาก็พบว่า ช่วงบ่ายจะมีนักเรียนที่ชื่อเอกมาสมัครเป็นนักบาสของโรงเรียน และอาจารย์หัวหน้าหมวดมอบหมายให้เขาเป็นคนทดสอบความสามารถ

อาจารย์พละคิดในใจว่า “ทำไมมึงถึงอยากมาสมัครวันนี้นะไอ้เอก มึงคงไม่รู้หรอกว่า นรกกำลังรอมึงอยู่”

ถึงช่วงเวลาตอนบ่ายๆ เอกเดินเข้าไปในห้องพละ เขาเห็นนักกีฬาบาสของโรงเรียนยืนออกันอยู่ ทั้งหมดดูไม่ค่อยเป็นมิตรในห้องนั้นดูบรรยากาศโหดๆ แต่ก็เป็นบรรยากาศที่เอกชอบ เอกพอจำได้ว่า นักบาสทั้ง 7 เป็นตัวจริง 5 และตัวสำรองอีก 2 เขายืนรออยู่พักใหญ่ๆ อาจารย์พละก็เดินเข้ามา เขามีท่าทางฮึกเหิม และยังอารมณ์ขึ้นอยู่

“ออกไปที่สนามบาสได้แล้ว ... รวมทั้งมึงด้วย” อาจารย์พละชี้มือไปที่เอก

ตอนนี้ทุกคนพร้อมกันที่สนามบาส ทั้ง 7 คนยืนอยู่ในสนาม ส่วนเอกยืนอยู่ข้างๆ อาจารย์พละ อาจารย์พละสั่งให้นักบาสที่เก่งที่สุดออกมายืนข้างเอก อาจารย์พละพูดออกไป

“พวกมึง 6 ตัว แบ่งออกเป็น 2 ทีม”

อีก 6 คนปฏิบัติตามอย่างเร็ว

“พวกมึงแต่ละทีม จะได้ไอ้ตัวเก่ง หรือไม่ก็ไอ้ตัวซวย”

อาจารย์พละมองมาทางเอก เอกขนลุกนิดหน่อยเพราะวันแรกที่มาเข้าทีมก็ต้องมาเล่นกับพวกมืออาชีพแล้ว อาจารย์พละให้แต่ละทีมเลือกว่าจะเอาหัวหรือก้อย

“กูโยนครั้งเดียว ออกมาเป็นอะไรทีมนั้นเอาไอ้ตัวเก่งไป ส่วนอีกทีมก็ได้ตัวซวยตามระเบียบ”

พอผลออกมา ทีมที่ได้เอกไปมีสีหน้าที่ไม่พอใจอย่างมาก อาจารย์พละยิ้มโหดๆ

“กติกายังไม่หมดเพียงเท่านี้”

ทุกคนรอฟังว่ายังมีอะไรอีก

“ทีมที่ได้ไอ้ตัวซวย ทั้งหมดถอดเสื้อออก”

เอกงงกับคำสั่งของอาจารย์พละ แต่ก็ต้องทำตาม

“พวกมึงเคยดูหนังเรื่องท้าชนไหม กูจะออกกฎให้สมกับที่ทีมมึงได้ไอ้ตัวซวยไปจริงๆ ทีมไอ้ตัวเก่งสามารถจะใช้กำลังกับอีกทีมยังไงก็ได้ ส่วนทีมไอ้ตัวซวยห้ามใช้กำลังเด็ดขาด ทีมไหนแพ้กูจะลงโทษอย่างสาสม”

พอพูดจบ การแข่งแบบมันส์ๆ เถื่อนๆ ก็เริ่มต้นขึ้นในแบบที่เห็นชัดเจนถึงความได้เปรียบเสียเปรียบและคนที่โดนหนักสุดในทีมถอดเสื้อก็คือเอก

ไม่ว่าจะยกมือรับบอล ก็ต้องโดนฟาดหน้าอก ทุบอก หรือชกท้อง แทบจะทุกครั้ง พอจะไปยืนกัน ก็มักจะโดนฟาดหลัง ทุบหลัง พอมีโอกาสได้เลี้ยงลูก ก็จะมีอีกทีมเอามือมาจิกผม กระชากผม โดดถีบ แย่งลูกไปได้ทุกครั้ง เป็นแบบนี้อยู่นานจนช่วงหลัง เอกก็เจอไม้เด็ดจากทีมเดียวกัน ในฐานะที่เป็นตัวซวยและทำให้คนอื่นซวยไปด้วย ทั้งโดนทุ่มลูกบาสกระแทกอก กระแทกหลัง โดนทีมเดียวกันล็อคแขนไว้ด้านหลัง ปล่อยให้อีกทีมชกท้องได้ตามอำเภอใจ

ช่วงท้ายเกมส์เอกสะบักสะบอมมากและแน่นอนที่ทีมเขาแพ้ และต้องได้รับการลงโทษอย่างสาสม อาจารย์พละสั่งให้ทีมถอดเสื้อนอนหงายเรียงกัน ห่างกันประมาณ 1 ศอกแล้วก็ให้ทีมที่ชนะวิ่งเหยียบไปที่หน้าท้องของทั้ง 4 คนอย่างเมามันส์ วิ่งไปงิ่งมาอยู่อย่างนั้นจนสาแก่ใจอาจารย์พละ แกถึงสั่งหยุด

คนอื่นลุกขึ้นก่อน แต่เอกยังนอนแผ่ พอเอกจะลุก เพื่อนทีมเดียวกันก็เอารองเท้าถีบหน้าอกเอก จนเอกต้องล้มลงนอนหงายเหมือนเดิม ที่หน้าอกเอกมีรอยรองเท้าติดอยู่ เพื่อนในทีมเดียวกัน 2 คน เอาเท้ามาเหยียบที่มือเอกทั้งสองข้างเป็นการยืดให้เขานอนนิ่งๆ ส่วนอีกคนที่เหลือก็กระทืบไปที่หน้าอก และหน้าท้องของเอก

“มึงต้องโดนแบบนี้ ไอ้ตัวซวย”

เพื่อนอีกทีมนึกสนุกจึงเข้ามารุมเอกด้วย ต่างรุมกระทืบไปที่ยอดอกและหน้าท้องของเอกอย่างเมามันส์พร้อมกับตะโกนด่าว่า “ไอ้ตัวซวย” “ไอ้เหี้ย” “ไอ้สัตว์”

หลังจากนั้นทั้งหมดช่วยกันพาเอกไปหลังโรงเรียน พวกเขาเอาเชือกมามัดมือเอกไขว้หลัง แล้วผลักให้นอนคว่ำลงไปบนลานหินกรวดที่เต็มไปด้วยหินแหลมคม

“มึงใช้หน้าอกแถกตัวไปเรื่อยๆ”

เอกใช้หน้าอกแถกไปตามทาง ขณะที่แถกตัวไปเพื่อนคนอื่นๆ ก็รุมเหยียบแผ่นหลังแกร่งของเอกไปด้วย เอกแถกตัวลำบากขึ้น เพราะท่อนลำกำลังแข็งมากๆ เอกแถกตัวไปจนชนขาของใครสักคน เขาแหงนมองขึ้นจึงเห็นอาจารย์พละยืนอยู่

“ขอกูร่วมสนุกด้วยคนสิ”

ตอนนั้นฝนเริ่มตกหนัก อาจารย์พละจิกผมเอกให้ยืนขึ้น แก้มัดให้ แต่บังคับให้เอกถอดกางเกงจนเหลือกางเกงในตัวเดียว เขาเอาเชือกมาผูกเอวของเอก โดยปลายเชือกเป็นยางรถยนต์ อาจารย์พละสั่งให้เอกวิ่งลากยางรถยนต์ไปรอบสนามในสภาพที่เขาใส่กางเกงในตัวเดียว ท่ามกลางฝนที่กำลังตกหนัก ทั้งหมดยืนดูด้วยความสะใจ

ฝนตกหนักจนทำให้สนามบอลกลายเป็นสนามโคลน เอกวิ่งไปแล้วหลายรอบจนเขาเหนื่อยอ่อน และล้มลง เพื่อนช่วยกันเอาเชือกออกจากเอวเขา แต่กลับเอามาผูกที่ข้อมือเขาแทน พร้อมกับวิ่งลากเอกไปกับโคลนอย่างสนุกสนาน เอกรู้สึกว่าเขาถูกกระทำอย่างกับไม่ใช่คน แต่นี่คือสิ่งที่เขารอคอยมิใช่เหรอ

หลังจากการลงโทษแบบเถื่อนถ่อยเสร็จสิ้น ทั้งหมดเปื้อนโคลน จึงเดินไปที่ห้องน้ำ เอกเดินอย่างสะบักสะบอมไปที่ฝักบัว เขาเปิดฝักบัว บืนเงยหน้าให้สายน้ำปะทะหน้า เขาหลับตาพริ้ม แต่เพียงสักพักเดียว เพื่อนๆ ที่อยู่ในสภาพเปลือยเปล่า เหมือนกับเอก ที่พร้อมใจกันรุมลงโทษเขาแบบเถื่อนถ่อย กลับเดินมาหาเขา ช่วยกันเอามือลูบไล้ไปตามตัวเขา

เอกค่อยๆ นอนหงายแบบแผ่หรา เขายังไม่ลืมตา เพื่อนๆ ต่างก้มลงโลมเลียเนื้อตัวเขาไปทั่ว ไม่พ้นแม้กระทั่งหัวนมและท่อนลำ มีสองคนที่ผลัดกันเลียท่อนลำของเขา ส่วนคนอื่นๆ ก็เลียหัวนม จูบปากเขา บางคนก็ฟอกสบู่ให้เอกและเพื่อนคนอื่น ก่อนที่พวกเขาจะนอนทับกันไปมา เสียดสีกันไปมาท่ามกลางฟอกสบู่ที่เปียกชุ่ม

ตอนนี้หลายคนจูบกัน เลียกันอย่างดูดดื่ม แต่เอกก็ยังโดนกินโต๊ะ เขาถูกรุมด้วยลิ้นและมือ ตอนนี้มีคนช่วยชักว่าวให้เขา เอกยังนอนหลับตานิ่ง มีเพียงท่อนลำขนาดเขื่องที่ทำให้เราเห็นว่าเขายังตอบสนองเพื่อนๆ อยู่

ขณะมีคนชักว่าวให้เขา โลมเลียเขาไปทั่ว เอกพลางนึกถึงคำที่ผู้อำนวยการพูดตอนที่อยู่หน้าเสาธงว่า “ทีมบาสของเราทั้งเข้มแข็งและกลมเกลียวเป็นหนึ่งเดียวกันจนยากที่จะมีใครมาแยกจิตวิญญาณของเราได้และนี่คือสาเหตุที่ทำให้เราได้ถ้วยมาทุกปี”

ตอนนี้เอกเข้าใจแล้วว่า “เข้มแข็งและกลมเกลียวเป็นหนึ่งเดียว” นั้น เป็นอย่างไร

ในเวลาเดียวกับที่เอกโดน พลเองก็มาเรียน รด ตามปกติ หลังจากโดนรอบเช้ามาชุดใหญ่ พลไม่ปฏิเสธในการเรียน รด ช่วงบ่ายเพราะเขารู้สึกว่า “คิดถึง” ครูฝึกโหดมากๆ และตั้งแต่ครูฝึกโหดเห็นเขา ก็แทบไม่ละสายตาไปจากเขา เพียงแต่ครูฝึกโหดปล่อยให้พลฝึกภาคสนามไปตามปกติเพื่อที่จะรอจัดการในช่วงท้ายๆ และไม่นาน ช่วงท้ายก็มาถึง

ครูฝึกโหดบังคับให้พลถอดเสื้อผ้าออกหมดจนเหลือกางเกงในเพียงตัวเดียว ตอนแรกพลยังนึกไม่ออกว่าเขาจะโดนลงโทษอย่างไร เนื่องจากคนที่แต่งตัวผิดระเบียบมีพลเพียงคนเดียว ครูฝึกจึงเรียกรวม 6 กองร้อย และสั่งให้ทั้งหมดเข้าแถวตอนสองแถว แล้วหันหน้าเข้าหากัน

ครูฝึกโหดเอาเชือกที่ยาวมากๆ ออกมา ปลายข้างหนึ่งเอาผูกไว้กับเอวของพล หลังจากนั้นก็เอาเชือกมามัดมือพลไขว้หลังเพื่อล็อคมือของพลเอาไว้

ครูฝึกโหดประกาศกับนักเรียน รด เกือบ 600 คน “เดี๋ยวกูจะให้มันเดินไประหว่างแถวของพวกมึง พวกมึงอยากจะทำอะไรกับมันก็เชิญ จัดการได้เต็มที่ กูจะคอยดึงให้มันเดินช้าๆ ด้วยเชือกเส้นนี้”

พลเสียวสันหลังวูบ เพราะมีเพื่อนหลายคนที่ไม่ชอบขี้หน้าเขาและพวกมันคงไม่ปล่อยให้โอกาสนี้หลุดมือไป เพียงแค่คิด มันก็แข็ง แข็งจนหัวเกือบจะโผล่พ้นขอบกางเกงในออกมา

“เริ่มได้”

หลังจากสิ้นคำสั่งของครูฝึกโหด พลก็ค่อยๆ เดินเข้าไประหว่างแถว และสิ่งแรกที่เขาเจอคือการทุบอกอย่างแรง ทุบหลังอย่างแรง พลอยากจะเดินเร็วๆ แต่ครูฝึกโหดดึงเชือกไว้ทำให้พลเปรียบเหมือนกับเศษเนื้อที่โดนแร้งกำลังรุมทึ้ง บางคนก็ถุยน้ำลายใส่มือ แล้วก็เอามือปาดไปที่หน้าพลอย่างสะใจ

เมื่อเห็นน้องชายของพลแข็งเป็นลำ หลายคนก็บีบท่อนลำ บีบไข่อย่างแรงจนพลรู้สึกตื่นเต้นมาก บางคนก็จิกผม ตบหัว ฟาดหลัง บางคนบีบหัวนม เอาไฟแช็คมาลนตรงหัวนม บางคนเอามือฟาดไปที่ท้อง มีคนเอามือกางไป โดยให้ตัวของพลอยู่ระหว่างมือของเขาพอดี แล้วเขาก็ทำท่าคล้ายๆ ตบมืออย่างแรงเพียงแต่มันโดยหน้าอกกับแผ่นหลังของพลเข้าอย่างจัง

ทุกคนกำลังมันส์ กำลังคลั่ง กับโอกาสที่ครูฝึกโหดให้กับพวกเขาโดยหารู้ไม่ว่า คนที่กำลังมันส์เช่นเดียวกับพวกเขาก็คือ พล

“เอาเลย ทรมานกู ทำร้ายกูให้สาสม ทำกูได้ตามใจชอบเลย” พลคิดในใจ ยิ่งคิดก็ยิ่งสะใจ

ครูฝึกโหดค่อยๆ ปล่อยเชือกจึงทำให้พลเดินไประหว่างแถวได้ช้ามากๆ ทันใดนั้นมี รด ที่เป็นกะเทย เอากรรไกรมาตัดกางเกงในของพลออกแล้วชูขึ้น จนทำให้ตอนนี้พลอยู่ในสภาพเปลือยเปล่า พลตกใจมากกับการกระทำดังกล่าว และยังตื่นเต้นมากขึ้นไปอีกเพราะพลไม่เคยต้องเปลือยให้คนทั้งกองร้อยเห็นอย่างใกล้ชิดขนาดนี้

ครูฝึกอีกคนกระซิบที่หูครูฝึกโหด “ตอนนี้มันเปลือยแล้ว เราทำเกินไปรึเปล่า”

ครูฝึกโหดหันมาตอบ “เป็นแบบนี้สาสมกับมันแล้ว”

พอเปลือยหมด ท่อนลำก็ยิ่งแข็งเกร็ง หัวผงกไปมา ทำเห็นเพื่อนที่เห็นพร้อมใจกัน เอามือฟาดไปที่ท่อนลำอย่างแรง ใครอยากบีบไข่พล ก็จะบีบกันได้ถนัดก็คราวนี้ บางคนบีบไข่พลค้างไว้ พร้อมกับตบหน้าพลไปด้วย

“สะใจแบบนี้ไม่มีอีกแล้ว” พลคิดในใจ

พลเดินไปจนสุดแถว เขาโดนอย่างสาสม แต่การลงโทษยังไม่จบแค่นั้น หลังจากปล่อยให้ รด คนอื่นกลับบ้าน ครูฝึกโหดก็ให้ทหารเกณฑ์นำพลไปที่ห้องๆ หนึ่ง พวกเขาจับพลนอนบนโต๊ะสูงโต๊ะหนึ่งในสภาพเปลือยเปล่าและจับพลมัดแบบขึงพืดจนพลกระดุกกระดิกไม่ได้เลยแม้แต่น้อยแล้วพวกเขาก็หายตัวไป ทิ้งให้พลอยู่คนเดียวสักพัก ไม่นานไฟในห้องก็ดับลง พลไม่แน่ใจว่าไฟดับเพราะพวกเขาตั้งใจหรือเพราะฝนตก

แล้วพลก็เห็นแสงเทียนเป็นสิบ เมื่อทหารสิบนายต่างถือเทียนเข้ามา พวกเขาไม่พูดพร่ำทำเพลง พร้อมใจกันหยดน้ำตาเทียน ลงไปทั่วร่างของพล พลส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด ทหารทั้งสิบนายช่วยกันหยดน้ำตาเทียนไปที่ร่างของพล จนตอนนี้ร่างของพลเกือบไม่มีที่ว่าง จะยังมีที่เหลืออยู่ก็แค่ตรงท่อนลำกับหัวนมทั้งสองข้าง พลรู้สึกว่าทหารพวกนี้ยังเมตตาเขาที่ไม่หยดน้ำตาเทียนลงไปบนท่อนลำและหัวนมทั้งสองข้าง แต่ต่อมาพลก็รู้ว่าพลคิดผิด

เมื่อครูฝึกโหดกับเพื่อนคู่ใจอีกสองคน ถือเทียนขนาดเขื่องเข้ามา ทหารกลุ่มแรกหลีกทางให้ เพื่อนทหารทั้งสองคนเริ่มหยดน้ำตาเทียนลงบนหัวนมของพล พวกเขาหยดจนกลบมิดหัวนม แล้วก็ยังหยดกลบไปเรื่อยๆ จนพลรู้สึกได้ถึงความร้อนที่ยังระอุอยู่ ครูฝึกโหดยิ้มให้พลก่อนจะเอาน้ำตาเทียนหยดลงไปตรงท่อนลำตรงหัวบานๆ แดงๆ เขาค่อยๆ หยดลงตรงนั้นด้วยความใจเย็น

พลตะโกนร้องด้วยความเจ็บปวด เพื่อนทหารที่กำลังหยดหัวนมอยู่จึงเปลี่ยนมาหยดน้ำตาเทียนลงไปทิ่ลิ้นของพล น่าแปลกที่ท่อนลำเจ็บปางตาย แต่มันก็ยังแข็งได้ที่ พอครูฝึกโหดหยดน้ำตาเทียนลงตรงหัวได้สักพักก็เปลี่ยนมาหยดตรงโคนและข้างๆ ท่อนลำบ้างทำให้ท่อนลำเหมือนกับเป็นแท่งเทียนเล่มน้อยๆ และเพื่อให้เป็นแบบนั้น ครูฝึกโหดนำเอาไส้เทียนออกมา แล้วหยดน้ำตาเทียนลงบนไส้เทียนที่วางอยู่บนดอกเห็ดบาน พอได้ที่ก็เอาเทียนไปจุดที่ไส้เทียนตรงหัวท่อนลำ เท่านี้ก็ได้ท่อนลำที่เป็นแท่งเทียนโดยสมบูรณ์แล้ว มีทหารเอาเทียนยัดไปที่ปากของพล ขณะที่ไฟบนท่อนลำกำลังเผาไส้เทียนลงเรื่อยๆ ทุกคนหัวเราะกันอย่างมีความสุข

ขณะที่ไฟกำลังจะไหม้ถึงเนื้อแดงๆ บนท่อนลำ ครูฝึกโหดเดินมาหยิบเทียนออกจากปากของพล พลรวบรวมกำลังเฮือกสุดท้าย เป่าเทียนที่กำลังลุกอยู่ที่หัวท่อนลำของเขาดับได้อย่างเฉียดฉิว

พอเทียนดับ พลก็เจ็บและเหนื่อยจนเผลอหลับไป พอเข้ารู้สึกตัว ทหารกลุ่มหนึ่งก็พาเขาไปห้องอาบน้ำแบบพิเศษ พลถูกจับขึงโดยยืนกางขาและกางแขนเป็นรูปตัวเอ็กมีเชือกโยงที่ข้อมือและข้อเท้าของเขา ทหารกลุ่มนั้นช่วยกันเอาฟองน้ำมาขัดเอาน้ำตาเทียนออกจากร่างของพล พอออกจนหมดแล้ว พวกเขาก็เอาน้ำสาดไปที่ตัวของพล แล้วก็เอาสบู่มาถูตามตัวของพลทุกซอกทุกมุม แล้วก็ทิ้งพลไว้อย่างนั้น

ไม่นานนัก ครูฝึกโหดที่อยู่ในสภาพเปลือยเปล่าและมีฟองสบู่อยู่เต็มตัวก็เดินเข้ามาหาพล เขาเดินเข้ามากอดพล เอาตัวมาเสียดสีกับพลที่กำลังถูกพันธนาการอยู่ ท่อนลำของทั้งคู่แข็งเกร็งเวลาเอาตัวที่เปื้อนฟองสบู่เสียดสีกันจึงสีกันไปมาอย่างเมามันส์ ครูฝึกโหดมองหน้าพล พลก็มองหน้าเขา ทั้งคู่จูบปากของกันและกันอย่างดูดดื่ม ลิ้นแลกลิ้น ท่อนลำสีกัน

ทหารกลุ่มเดิมมาช่วยล้างสบู่ให้ทั้งคู่ ปลดพันธนาการของพลออกและนำทั้งคู่ไปอีกห้องหนึ่งที่มีเตียงหนานุ่ม พอทั้งคู่อยู่กันลำพังในสภาพเปลือยเปล่า พวกเขาก็กอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอย่างดุดัน ไซ้กันไปมาอย่างบ้าคลั่ง ครูฝึกโหดกดหัวของพลให้ดูดดุนของๆ เขา พลก็ไม่ขัดขืนทำให้จนเสียวสะใจแทบลืมตาย พอของครูฝึกโหดแข็งได้ที่ เขาก็จับพลนอนหงายยกขาขึ้น แล้วก็ค่อยๆ สอดดุ้นยักษ์เข้าไปที่ก้นของพล พอเริ่มได้ที่ก็กระแทกกระทั้นอย่างหนักหน่วง พลพอใจกับการกระแทกกระทั้นที่เขาได้รับ มันส์สะใจดีจริงๆ ทั้งเจ็บ ทั้งเสียว ทั้งมันส์สะใจอย่างบอกไม่ถูก เมื่อตอนที่ครูฝึกโหดใกล้ถึงจุด เขาดึงของเขาออกมาแล้วชักอย่างบ้าคลั่ง จนน้ำแตกท่วมหน้าอกของพล แถมยังเปรอะเปื้อนไปที่หน้าของเขาด้วย พลรู้สึกตื่นเต้นมาก เพราะยังไม่เคยเจอใครที่น้ำเยอะขนาดนี้

หลังจากครูฝึกโหดเสร็จแล้ว เขาก็ช่วยชักว่าวให้พล เขาชักได้มันส์จริงๆ ถ้าพลชักเอง พลจะกำรอบท่อนลำของพลแล้วชักแบบถี่ยิบ แต่เขาไม่ ครูฝึกโหดเอาอุ้งมือหนาใหญ่ของเขา มาครอบที่หัวท่อนลำของพลแล้วรูดขึ้นลงอย่างเมามันส์ ทุกครั้งที่หัวกระแทกฝ่ามือของครูฝึกโหด มันจะเสียวแบบลืมตาย คือเสียวจนบอกไม่ถูก ครูฝึกโหดชักให้จนพลเสร็จ น้ำแตกเต็มมือของเขา หลังจากทำความสะอาดกันเรียบร้อยแล้ว ทั้งคู่มานอนกอดกันในสภาพที่เปลือยเปล่า โดยพลนอนตะแคง และมีครูฝึกนอนตะแคงข้างเดียวกันอยู่ด้านหลังกล้ามแขนอันแข็งแกร่งกอดประคองพลไว้ ทำให้พลรู้สึกอบอุ่นเป็นอย่างมาก

ครูฝึกโหดพูดกับพล “มึงเป็นไงบ้าง”

“ผม ... ผม ... ไม่เป็นไร ...ผมรู้สึกดีมาก ... ทุกอย่างที่คุณทำให้”

ครูฝึกโหดกระซิบข้างหูพล “กูดีใจมากที่เจอคนอย่างมึง”

พลฟังแล้วเคลิ้ม และทั้งคู่นอนกอดกันจนเผลอหลับไป

ขณะที่ทั้งสองนอนบนเตียงอันแสนจะอบอุ่น แต่นายตำรวจหนุ่มนายหนึ่งยังคงขับมอร์เตอร์ไซด์คู่ใจอยู่บนท้องถนน เขาขับมาตรงตลาด และเห็นชัยเด็กขนผักอายุ 15 ในสภาพนุ่งกางเกงขาสั้นเพียงตัวเดียวกำลังทำงานอยู่

นายตำรวจพาชัยซ้อนท้ายไปในสภาพนั้น จนมาถึงปากซอยเปลี่ยวแห่งหนึ่ง เขาจ้องชัยเขม็ง เขาเดินไปยืนข้างๆ โอบไหล่ชัย ปากก็พูดว่า “นายรู้ไหมว่ากลางซอยนี้มีจิ๊กโก๋กลุ่มหนึ่ง แม่งโคตรซาดิสต์เลย เหยื่อของมันไม่ใช่เด็กสาวรุ่นกระเตาะ แต่เป็นเด็กหนุ่มที่ชอบเดินโชว์กล้ามในที่เปลี่ยวตอนดึกๆ”

นายตำรวจพูดพร้อมกับเอามือลูบไล้ไปที่กล้ามอกของชัย

“เมื่อจิ๊กโก๋กลุ่มนี้ที่ตอนนี้คงกินเหล้าจนเมามายได้ที่ เห็นเด็กหนุ่มหุ่นแมนๆ เดินถอดเสื้อหราเข้ามาในซอยตอนดึกๆ พวกมันจะทักว่า ‘ซ่าเหรอวะ ไอ้ลูกหมา งั้นมึงต้องเจอดีอย่างที่มึงอยากเจอ’ การทรมานจะมันส์สะใจ และได้อารมณ์มาก ถ้าไม่เชื่อมึงลองดูสิ”

แค่ฟังเท่านั้น ชัยรู้สึกตื่นเต้นมากจนน้องชายแข็งขึ้นมาทันทีทันใด นายตำรวจใช้มือมาบีบที่น้องชายของชัยที่กำลังแข็งได้ที่

“คืนนี้มึงจะเป็นเด็กหนุ่มที่ชอบเดินโชว์กล้ามกลางดึก มึงเดินเข้าไปในซอยนั้นสิ แล้วมึงจะรู้ว่าความมันส์เป็นยังไง ส่วนกูจะแอบดูมึงอยู่ห่างๆ พร้อมกับสะใจในอารมณ์ไปพร้อมกับมึงด้วย”

เมื่อได้ยินดังนั้น นอกจากน้องชายจะสู้แล้ว ชัยก็รู้สึกฮึกเหิมขึ้นมาทันที เขาผละจากนายตำรวจหนุ่มพร้อมกับเดินเข้าซอยไป โดยมีนายตำรวจซุ่มดูอยู่อย่างกระชั้นชิด ขนาดยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น ท่อนลำของนายตำรวจหนุ่มยังแข็งขึ้นมาจนเขาต้องเอามือลูบท่อนลำของตัวเองไปด้วย

ชัยในสภาพใส่กางเกงขาสั้นตัวเดียว รองเท้าก็ไม่ได้ใส่เดินโชว์อกแกร่งเข้าซอยมาในคืนดึกสงัดและมีฝนปรอย ทันใดนั้นเขาเห็นจิ๊กโก๋กลุ่มหนึ่งมีประมาณ 10-12 คน อยู่ไม่ไกลจากเขานัก เขายังเดินต่อไปและเห็นจิ๋กโก๋กลุ่มนั้นเดินมาใกล้เข้า จนล้อมรอบตัวเขา เจ้าหัวโจกที่ใส่เสื้อเชิ๊ตไม่ติดกระดุมเลยสักเม็ด โชว์กล้ามท้องเป็นลอนแข็งตะโกนใส่หน้าชัยด้วยกลิ่นเหล้าที่เหม็นหึ่ง

“โห ไอ้น้อง เดินถอดเสื้อโชว์กล้ามตอนดึกๆ นี่มึงซ่านักใช่ไหม แถวนี้เขารู้กิตติศัพท์พวกกูกันหมด มีแต่พวกกล้ามอ่อนๆ เท่านั้นที่อยากลองของ ถ้ามึงอยากลองดีกับพวกกู พวกกูก็จะสนองมึงเอง ไอ้หน้าอ่อนกล้ามสวย”

ชัยไม่ได้พูดอะไรออกมาเลย ทำให้ไอ้พวกนั้นเริ่มโมโหมากขึ้น

“ไอ้นี่แม่งซ่าจริงๆ ด้วย ไอ้ควาย”

พวกจิ๊กโก๋ที่ยืนล้อมชัยอยู่ ต่างช่วยกันฟาดไปที่หน้าอกและแผ่นหลังของชัย มีคนหนึ่งโดดถีบกลางหลังของชัย จนชัยเซไปถูกคนข้างหน้า ก็เลยเจอคนข้างหน้า ต่อยไปหมัดนึงจนชัยล้มลง พอเห็นชัยล้ม พวกนั้นช่วยกันรุมเตะและกระทืบชัยกันแบบหอมปากหอมคอ นายตำรวจหนุ่มที่กำลังซุ่มดูอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลนั้นเอามือของเขาลูบคลำน้องชายที่กำลังแข็งได้ที่ พอเห็นชัยเริ่มอ่อนแรง พวกกวนเมืองจึงลากชัยไปที่โกดังร้างใกล้ๆ แถวนั้น

“อ้าว เอาไอ้สัตว์นี่ไปกระตุ้นหน่อยเว้ย”

ด้านหน้าโกดัง พวกมันจับชัยมัดมือไขว้หลัง แล้วก็มัดข้อเท้าเขาด้วย จากนั้นก็เอาเชือกที่มัดกับเท้ามาโยงผ่านรอก แล้วก็ดึงชัยขึ้นในลักษณะที่ห้อยหัวลง เสร็จแล้วพวกมันก็ดันถังน้ำแถวนั้นให้มาอยู่ตรงหัวของชัยพอดี หลังจากนั้นจึงผ่อนรอก หัวของชัยจึงจมไปอยู่ในน้ำ ขณะที่ชัยกำลังทรมานเต็มที่ ตำรวจหนุ่มที่แอบลอบมองอยู่ มองเห็นกล้ามอกที่กำลังเกร็งอย่างได้รูป เขาทนไม่ไหวถึงกับรูดซิปและปลดปล่อยน้องชายของเขาออกมา แล้วค่อยๆ เอามือชักช้าๆ

พวกกวนเมืองดึงตัวชัยขึ้น ชัยสำลักน้ำ พวกมันถือโอกาสตอนที่ชัยถูกพันธนาการ รุมฟาดลำตัวของชัยกันอีก ก่อนจะผ่อนเชือกจนทำให้หัวของชัยจมน้ำอีกครั้ง เหตุการณ์เกิดสลับกันเช่นนี้ไปเรื่อยๆ จนพวกเหลือขอเริ่มเปลี่ยนใจ

“กูว่า เรามาเล่นเกมส์กันดีกว่า”

พวกมันปลดพันธนาการให้กับชัยแต่เอาเขาไปมัดในอีกรูปแบบนึง ตรงเสาข้างโกดัง มีไม้วางขวางคล้ายๆ ไม้กางเขน พวกมันเอาชัยไปมัดโดยให้แขนพาดไปด้านหลังไม้แนวนอนแล้วค่อยมัด การมัดแบบนี้ทำให้กล้ามอกของชัยนูนเด่นน่ามองมาก

หลังจากนั้นพวกมันไปเอาตระกร้าที่มีเข็มฉีดยาอันเล็กๆ นับร้อย พวกมันแบ่งทีมกัน และก็แข่งกัน ปาเข็มฉีดยาไปที่หน้าอกของชัย พวกมันเปรียบหัวนมทั้งสองข้างเหมือนกับจุดศูนย์กลางของเป้า ถ้าใครปาเข็มฉีดยาไปโดนตรงหัวนมหรือใกล้มากที่สุดก็จะได้แต้มมากกว่า เข็มแรกถูกปาออกไป เฉียดหัวนมของชัยไปแค่นิดเดียว นายตำรวจหนุ่มที่ซุ่มดูอยู่ชักท่อนลำของเขาอย่างเมามันส์เมื่อเห็นการทรมานชัยแบบโหดๆ

พวกมันทำเหมือนกับว่า กล้ามอกอ่อนๆ ของชัยเป็นเหมือนหมอนปักเข็มหมุด พวกมันปาเข็มฉีดยากันอย่างเมามัน บางคนปาพลาด บางคนปาไม่ติดทำให้มีเข็มปักอยู่บนหน้าอกชัยไม่มากนัก ต่อมาไอ้มือแม่นเริ่มปาบ้าง มันแม่นและแรงมากจนทำให้เข็มไปปักที่หัวนมด้านซ้ายของชัยพอดี มันกะให้แม่นกับหัวนมด้านขวาบ้าง แต่พยายามเท่าไหร่ก็ไม่สำเร็จ

จนมีไอ้เหลือขอตัวหนึ่งบอกว่า “ง่ายๆ เลยเพ่”

แล้วมันก็เดินไปใกล้ชัย แล้วเอาเข็มฉีดยาปักไปที่หัวนมขวา แล้วค่อยๆ แทงเข้าช้า ทำให้หัวนมขวามีเลือดไหลนองออกมาเป็นทางยาว ขณะที่นายตำรวจหนุ่มเห็นภาพนั้น เขาชักอย่างแรงจนถึงจุดพอดีน้ำแตกทะลักออกมาอย่างมากมาย

พอพวกนั้นทรมานชัยจนสาแก่ใจแล้ว พวกมันก็ไป ทิ้งชัยไว้ในสภาพนั้น พอตำรวจหนุ่มเห็นพวกมันไปกันหมดแล้ว เขาจึงไปช่วยแก้มัดให้ชัยและดึงเข็มฉีดยาออกจากหน้าอกของเขา หลังจากนั้นเขาจึงพาชัยไปห้องพักของเขา เขาเอาแอลกอฮอร์มาเช็ดไปทั่วหน้าอกของชัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งตรงบริเวณหัวนม ชัยซี๊ดปากด้วยความแสบ พอเห็นชัยแสบ นายตำรวจหนุ่มก็ใช้มือลูบไล้ไปทั่วบริเวณหน้าอกและหน้าท้องของชัย ชัยเป็นคนที่อกกว้าง ผิวขาว และมีกล้ามที่เกิดจากการทำงาน กล้ามอ่อนๆ แต่แข็งแกร่งของเขา เร้าใจนายตำรวจหนุ่มมาก พอลูบไล้ได้สักพัก นายตำรวจหนุ่มจึงใช้ลิ้นเลียไปทั่วหน้าอกของเขา เลียไปตรงบริเวณหัวนม แล้วเขากำลังจะขึ้นมาไซ้ที่ซอกคอ ตอนนั้นเขาสบตากับชัยพอดี

พวกเขามองกันอยู่พักหนึ่งก่อนที่นายตำรวจหนุ่มจะก้มลงจูบที่ปากของชัยและชัยก็ตอบสนองอย่างเต็มที่ พวกเขาจูบกันอย่างเร่าร้อน แลกลิ้นกันอย่างดุเด็ดเผ็ดมัน นายตำรวจละลิ้นจากปากชัย เขายกตัวขึ้น ถอดเสื้อตำรวจตัวนอกออก ตามด้วยเสื้อยืดข้างใน เผยให้เห็นกล้ามเป็นมัด เขาก้มลงจูบชัยอีกแต่ชัยกลับพลิกตัวเขาให้อยู่ด้านล่าง แล้วก็ใช้ลิ้นไซ้ไปที่ซอกคอกับติ่งหูนายตำรวจร้องซี๊ดด้วยความเสียว

ชัยยกแขนเขาขึ้น เลียไปที่ซอกรักแร้ที่มีขนดกดำ เลียลงมาที่เนินอกแกร่ง นายตำรวจร้องกระเซ่า ชัยใช้ทั้งมือทั้งลิ้น ลูบเลียจนนายตำรวจร้องแทบจะขาดใจ ชัยรู้สึกได้ถึงท่อนลำที่กำลังแข็งตัวขึ้นมา มันมีขนาดใหญ่กว่าที่เขาคิด ชัยเลียลงไปที่ตรงกล้ามท้อง

เขาถอดเข็มขัดของนายตำรวจหนุ่มออก ปลดตะขอ ดึงกางเกงลง เห็นท่อนลำนูนเด่นอยู่ใต้กางเกงในสีขาว เขาเลียท่อนลำที่ยังนอนแข็งอยู่ใต้กางเกงใน เลียไปลูบไป ทำเอานายตำรวจหนุ่มใจแทบละลาย จนถึงตอนที่ชัยปลดปล่อย ท่อนลำของเขา ให้ตั้งตระหง่านขึ้น มันใหญ่มาก หัวบานฉ่ำ ชัยเลียหัว วนรอบจนเยิ้ม ก่อนจะอมเข้าไปทั้งดุ้น มันคับปากมาก แต่เขาก็พยายามอม แล้วใช้ปากชักให้นายตำรวจ

นายตำรวจทนไม่ไหว จับชัยนอนหงาย ยกขาเขาขึ้น แล้วค่อยๆ ดันท่อนลำใหญ่ยักษ์เข้าไปในรูทวารของชัย ชัยร้องด้วยความเจ็บปวด แต่เสียวซ่านพอได้ที่ นายตำรวจหนุ่มกระทุ้ง กระแทก จนชัยส่งเสียงร้องด้วยความเสียวปนเจ็บ มันเป็นการขย่มที่ใช้แรงได้อย่างสะใจ ชัยรู้สึกได้ถึงความแข็งแรงของนายตำรวจหนุ่ม เขากระแทกจนจนได้ที่ จึงปลดปล่อยออกมา น้ำกามพุ่งกระจายไปทั่วบริเวณหน้า หน้าอก และหน้าท้องของชัย เป็นน้ำกามที่ล้นทะลักออกมาเยอะมาก เสร็จแล้วนายตำรวจหนุ่มจึงนอนทับลงบนตัวของชัย ทั้งสองนอนกอดก่ายกันจนลืมวันและเวลา

พลกลับไปที่บ้านในตอนเช้า พอไปถึงบ้าน เขาเห็นเอก นั่งอยู่กับจอม ดูเหมือนจอมจะดูเศร้าๆ หน่อย พลทักเขาทั้งคู่

“จอม นายเป็นอะไรไป แล้วไอ้เอก มึงมาอยู่บ้านกูได้ไงวะ”

เอกมองพลก่อนที่จะพูดออกไป “เมื่อคืนกูแวะมาหามึง ไม่เจอมึง แต่เจอพี่จอมกำลังเศร้าๆ อยู่ กูก็เลยอยู่เป็นเพื่อนพี่เขา”

จอมยังนิ่งอยู่จนพลต้องทักอีกครั้ง “แล้วนายเป็นอะไรไป”

เอกตะโกนบอกพล “ตัวการมาโน่นแล้ว”

พลหันมองตามเอกไป เขาเห็นชายหนุ่มคนหนึ่ง รูปร่างหน้าตาดีทีเดียว ผมยาวปรกบ่า แต่ดูท่าจะหยิ่งๆ พลหันไปถามจอม “แล้วไอ้หมอนี่เป็นใคร”

เอกเป็นคนพูดแทนว่า “เป็นใครไม่รู้ แต่เข้ามายุ่งยากกับบ้านที่พี่จอมกำลังสร้าง แถมยังเปลี่ยนผู้รับเหมา และก็ไล่คนงานออกหมด”

พลหันมาเพ่งเล่งไอ้หนุ่มรูปหล่อคนนั้น “แล้วมึงเป็นใคร มึงมีสิทธิ์อะไรมาทำแบบนี้”

จอมพูดขึ้นมาครั้งแรก “เขาชื่อ พงษ์พัฒน์ และอ้างตัวว่าเป็นลูกพ่อเหมือนกัน”

พลหันไปทางไอ้หนุ่มนั่น “หมายความว่าไง มึงเป็นใคร”

ไอ้หน้าหล่อพูดแบบห้วนๆ “มึงก็ได้ยินพี่มึงพูดแล้วนี่หว่า ว่ากูก็เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเจริญวงศาเหมือนกัน แล้วกูก็จะมาทวงสิทธิ์ของกูคืน”

พลยัวะ “อะไรวะ แล้วนายโทรถามทนายประจำตระกูลเราหรือยัง”

จอมตอบแบบเสียงอ่อยๆ “ถามแล้ว เขาบอกว่าหมอนี่มีสิทธิ์ และเขาก็มีศักดิ์เป็นน้องของเรา”

“กูไม่ถือว่ามันเป็นพี่น้องกับกูหรอก” พลพูดด้วยอารมณ์โมโห

“กูก็ไม่ถือเหมือนกัน” พงษ์พัฒน์ก็ตะโกนออกไปด้วยเสียงที่เกรี้ยวกราด “แต่กูจะอยู่ที่นี่ ที่นี่เป็นบ้านของกูเหมือนกัน”

พลโมโหจนเลือดขึ้นหน้า “ไอ้สัตว์ มึง”

“อย่าเลยพล ช่างเขาเถอะ” จอมห้ามพลไว้ พงษ์พัฒน์เดินหนีออกไป

พลหันมาพูดกับจอม “นายอย่าคิดมาก ช่างมันเถอะ เดี๋ยวเราก็หาทางจัดการกับมันเอง”

จอมไม่ได้ตอบอะไร ที่จอมเศร้าก็คือ เขาจะไม่ได้เจอเสกอีก กว่าจะหาคนอย่างเสกได้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ กว่าจะเข้าใจกัน รู้ใจกัน แต่จอมไม่รู้ว่าจะสื่อเรื่องนี้ออกมาได้ยังไง

พลกับเอกขึ้นไปคุยกันในห้องของพล

“นึกไม่ถึงเลยว่าไอ้เหี้ยนั่นจะโผล่มา” พลพูดเปรยๆ

“ไอ้เหี้ยหน้าหล่อนั่นหนะเหรอ” เอกพูดเป็นเชิงหยอก

พลหันมาเปรย “หรือมึงถูกใจไอ้หมอนั่นเข้าให้แล้ว”

เอกเปลี่ยนเรื่อง “อย่าพูดถึงเรื่องของไอ้พงษ์พัฒน์เลย หันมาพูดถึงเรื่องของกูกับมึงก่อนดีกว่า”

พลหันมาแสยะยิ้ม “พูดถึงเรื่องของเราเนี่ยนะ”

“ไม่มีอะไรหรอก กูก็แกล้งแซวมึงเล่น”

พลเดินไปใกล้เอก “เรื่องของเราแบบไหนล่ะ แบบเนี้ยเหรอ”

พลไซ้ซอกคอของเอก แต่เอกไม่ได้ตามน้ำไปด้วย เขาผลักพลออก และมองตาพล

“กูอยากรู้ว่ะว่ามึงคิดยังไงกับกู”

พลทำท่าแบบเสียอารมณ์ เขาเดินมานั่งที่โซฟา

“มึงนึกว่ากูรู้เหรอ เรามันก็เป็นเพื่อนกัน แล้วก็มีความสัมพันธ์กัน แต่ถ้ามึงจะถามกูเรื่องรักๆ ไคร่ๆ กูจะไปรู้ได้ยังไงล่ะ กูไม่รู้หรอก”

เอกนั่งลงหน้าหมองๆ ไปหน่อย พลแกล้งแหย่ “มึงหลงรักกูเหรอวะ”

เอกหันมองหน้าพล “กูก็ยังไม่ค่อยเข้าใจตัวเองว่า สิ่งที่กูตามหาอยู่มันคืออะไร มึงหรืออะไร มึงล่ะ เข้าใจตัวเองแค่ไหน”

คำพูดของพลทำให้เขานึกถึงครูฝึกโหด เพียงแต่เขาก็ยังไม่รู้ว่า เขากับครูฝึกจะเป็นยังไงต่อไป

“เอาเหอะ ไอ้เพื่อนยาก เราตกลงกันไม่ใช่เหรอว่าเรา เป็นเพื่อนกัน ส่วนเรื่องความสัมพันธ์แบบอื่น เราก็เข้าใจกันนี่ว่าเราต้องการอะไร กูช่วยมึง มึงช่วยกู มันไม่น่าจะเลยเถิดไปถึงเรื่องของความรักได้หรอกว่ะ”

เอกพูดขึ้นบ้าง “กูก็งงๆ กูรู้แต่ว่าบางครั้งกูก็พอใจในตัวมึง แต่ถึงขั้นรักรึเปล่า กูก็ตอบไม่ได้”

พลพูดตัดบท “เอาเป็นว่าเรื่องของเราก็ให้มันเป็นอย่างเดิมไปก่อน กูว่าเรามาช่วยกันคิดรับมือไอ้พงษ์พัฒน์กันดีกว่า”

เอกพยักหน้าเห็นด้วย

ณ ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง เพื่อนซี้ 4 คนนัดมาเจอกัน แต่ตอนนี้นั่งอยู่แค่ 3 นายตำรวจหนุ่ม พงษ์พัฒน์ แล้วก็นายทหารอีกคนหนึ่งส่วนนายตำรวจอีกคนยังไม่มา เดี่ยว นายตำรวจหนุ่มที่เปรียบเหมือนหัวหน้าของกลุ่มถามสารทุกข์สุขดิบเพื่อนๆ ก่อน

“มึงเป็นไงวะ ไอ้พงษ์”

“ตอนนี้กูกำลังทวงสิทธิ์ของกูอยู่ กูจะเอาจริงแล้ว”

“อ๋อ ที่มึงเคยบอกว่ามึงก็เป็นเลือดเนื้อเชื้อไข ของพลเอกจอมพล เจริญวงศาเหมือนกันใช่ป่ะ”

“ใช่ ที่กูเคยเล่าให้มึงฟังนั่นแหละ ถึงกูจะลูกเมียน้อย แต่พ่อก็รับรองกูเป็นบุตรนะโว้ย”

“แต่ที่กูรู้ ถ้าเป็นบ้านประจำตระกูล มันมีพี่น้องสองคนอยู่ที่บ้านหลังนั้น แล้วเขาไม่ว่ามึงเหรอถ้ามึงจะเข้าไปอยู่ด้วย”

“ขืนว่ากูก็จับข่มขืนมันทั้งคู่นั่นแหละ ลึกๆ ก็เกลียดมันเข้าไส้ แต่เมื่อวานเจอมันทั้งคู่ ทั้งไอ้จอม ไอ้พล กูว่าแม่งโคตรหล่อเลยว่ะ น่าจับข่มขืนทั้งคู่”

“เอ้ย ไอ้สัตว์ ทั้งคู่นั่นมีศักดิ์เป็นพี่มึงนะ ถ้ามึงคิดงั้นจริง มึงต้องวิปริตแน่ๆ ”

พงษ์พัฒน์แสยะยิ้ม “แล้วมึงนึกว่ากูเป็นคนธรรมดาเหรอ ... เออ อีกอย่าง กูอยากได้เด็กไปรับใช้ที่บ้าน มึงหาให้หน่อยสิ ไอ้เดี่ยว มึงพอมีรึเปล่า”

“กูรู้จักเด็กขนผักอยู่คน หน่วยก้านมันดี ถ้ามึงเห็นมึงต้องชอบ เพิ่ง 15 เอง แต่ดูโคตรหนุ่มเลย เอวเป็นเอว อกเป็นอก แถมยังชอบในสิ่งที่มึงน่าจะสนองมันได้ด้วย”

“โหดีเลย ถ้ามันอยากมีเจ้านายวิปริตก็ส่งมันมาเลย”

เดี่ยวหันไปคุยกับเพื่อนที่เป็นทหารบ้าง

“แล้วมึงล่ะ ไอ้กริช ไปถึงไหนแล้ว”

“ถูกย้ายหน่ะสิ ดันไปสวมบทโหดกับทหารรุ่นน้อง เลยเจอย้ายไปชายแดนโน่น”

“งั้นก็หนาวดิวะ”

“แต่คิดว่าไม่นะ เพราะเห็นพี่ที่ชายแดนบอกว่า ช่วงนี้จับเชลยได้เยอะ พวกสายลับอ่ะ เลยอยากให้กูไปเค้นหาความลับจากไอ้พวกนี้มันหน่อย”

เดี่ยวยิ้ม “แบบนี้ก็เจ๋งเลยดิ เพราะไอ้เรา 3 คนมันพวกชอบทรมานคนอื่นอยู่แล้ว ในกลุ่มเรามีแต่ไอ้เทิดคนเดียวเท่านั้นที่ชอบให้คนอื่นทรมาน”

พงษ์พัฒน์พูดขึ้นบ้าง “พูดถึงไอ้เทิด เมื่อไหร่มันจะมาสักทีวะ”

กริชเป็นคนเฉลยให้เพื่อนๆ รู้ “เห็นมันบอกว่า สารวัตรเรียกพบแต่เช้า ให้ไปที่บ้านเลยนะนั่น”

เดี่ยวยิ้ม “เรียกไปพบหรือเรียกไปเล่นกันแน่วะ ไอ้เราก็พอจะรู้รสนิยมของไอ้สารวัตรเถื่อนกันอยู่หรอก”

ณ บ้านของสารวัตร นายตำรวจหนุ่ม เทิดศักดิ์ ถูกเรียกตัวแต่เช้า พอเค้ามาถึงบ้านของสารวัตร พอเห็นประตูเปิดอยู่ เขาก็เลย เดินขึ้นไปบนบ้าน

“สารวัตรครับ สารวัตรอยู่ไหนครับ”

แต่พอเขาเดินขึ้นมาถึงด้านบน ก็มีหน่วยสวาทมารุมล้อมเขา ทุกคนถือปืนเล็งมาที่เขา แล้วสารวัตรก็โผล่มา

“ไอ้ตำรวจชั่ว มึงติดกับกูจนได้ กูจะจับมึงไปสอบสวนซะให้เข็ด”

เทิดศักดิ์ พอจะรู้ตัวว่าต่อไปเขาต้องเจออะไรบ้าง เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่สารวัตรเล่นไม้นี้

สารวัตรกับพวกหน่วยสวาทนำเทิดศักดิ์ลงไปที่ห้องใต้ดิน เพื่อเตรียมตัวสอบสวนตามบทที่สารวัตรวางไว้ เทิดศักดิ์ยังไม่รู้ว่าวันนี้สารวัตรจะวางบทโหดแค่ไหน แต่ไม่นานนักเขาก็รู้จนได้ ตอนแรกเทิดศักดิ์ถูกจับแค่ถอดเสื้อ โดยให้เอามือไพล่หลัง และสวมกุญแจมือ พวกหน่วยสวาทรุมล้อมเขา

“มึงจะบอกหรือไม่บอกว่ามึงเป็นสายลับให้กับใคร“

เทิดศักดิ์ตะโกนใส่หน้าพวกมัน “กูไม่มีอะไรจะบอก”

พวกหน่วยสวาทเลยชกหน้าท้องของเทิดศักดิ์ไปหลายหมัด พร้อมกับชกหน้าจนเทิดศักดิ์ลงไปกอง เทิดศักดิ์แข็งใจลุกขึ้นมาใหม่ สารวัตรชอบดูเทิดศักดิ์ถูกรุมทรมานมาก เพราะมันทำให้เขาถึงจุดสุดยอดแทบทุกครั้ง

หน่วยสวาทหันมาถามสารวัตร “เอายังไงดีครับสารวัตร”

สารวัตรพูดออกมาคำเดียว “จับมันขึ้นเขียง”

พวกหน่วยสวาทช่วยกันถอดกางเกงเทิดศักดิ์ออกจนเหลือกางเกงในตัวเดียว จากนั้นจับเขานอนคว่ำ เอามือไพล่หลัง แล้วมัดอย่างแน่นหนาต่อมาพวกมันจับขาของเขาพับขึ้น แล้วเอาเชือกมัดขาของเขา ต่อจากนั้นก็เอาเชือกมามัดเชือกที่มือและขาของเขาเข้าด้วยกันอย่างแน่นหนา ก่อนที่จะเอาเชือกอีกเส้นมามัดตรงปมที่ทุกเส้นโยงใยเข้าหากัน หลังจากนั้นก็เอาเชือกผ่านรอกที่อยู่บนเพดานของห้องใต้ดิน แล้วก็ยกตัวเข้าขึ้นมาระดับเอวของพวกมัน

เทิดศักด์ไม่เคยถูกมัดในลักษณะนี้มาก่อน เขาจึงตื่นเต้นมาก พอเทิดศักดิ์ถูกยกขึ้นมากลางอากาศแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นคือการถูกรุมเตะ เพราะพอพวกนั้นยกขาขึ้นเตะอย่างแรง มันจะไปถูกที่หน้าอก หน้าท้องและก็ท่อนลำของเทิดศักดิ์พอดี พวกหน่วยสวาทรุมเตะเทิดศักดิ์กันอย่างเมามันส์ เสียงดัง ป๊าปๆๆ ๆ เร้าใจสารวัตรเป็นอย่างมาก คนในหน่วยสวาทพูดกับสารวัตรว่า “มันไม่ยอมปริปากเลยครับ”

สารวัตรเดินมาหาเทิดศักดิ์ เขาหยิบรองเท้ากีฬามาข้างหนึ่ง แล้วใช้รองเท้าตบไปที่หน้าเทิดศักดิ์อย่างแรง หลายที จนเทิดศักดิ์เลือดกลบปาก พวกหน่วยสวาทไม่รู้มาก่อนว่านี่เป็นแผนเล่นงานเทิดศักดิ์ของสารวัตร พวกเขาจึงเอาจริงเอาจังกันมาก สารวัตรเอาตรงหัวของรองเท้ากีฬายัดไปที่ปากของเทิดศักดิ์

“ปากแข็งนักเหรอมึง”

หน่วยสวาทคนหนึ่งตะโกนบอกสารวัตร “ปากแข็งแบบนี้มันต้องเจอไอ้ยักษ์ครับสารวัตร”

ไอ้ยักษ์ถอดกางเกงเตรียมพร้อม ปลดปล่อยดุ้นเขื่องขนาด 9 นิ้วแบบกำไม่รอบออกมา มันเดินไปตรงปากของเทิดศักดิ์ แล้วกระแทกกระทั้นอย่างสะใจ

“ไอ้ตำรวจเลวปากแข็งมันต้องเจอแบบนี้”

ส่วนเพื่อนคนอื่นก็ยังรุมเตะเทิดศักดิ์ไปเรื่อยๆ ไอ้ยักษ์ทะลุทลวงจนมันเสร็จและปล่อยน้ำกามพุ่งใส่เต็มหน้าเทิดศักดิ์

“ไอ้นี่มันทนเหลือรับครับสารวัตร ไม่ยอมปริปากพูดอะไรออกมาเลย”

สารวัตรยิ้มแบบโหดๆ

“งั้นมันต้องเจอรุมประชาทัณฑ์”

พวกมันช่วยกันแก้มัดเทิดศักดิ์ ปล่อยเขาลงมา แก้มัดที่ขา แต่ที่แขนยังไม่แก้ ถอดกางเกงในเขาออกปลดปล่อยท่อนลำของเขาให้เป็นอิสระแล้วเอาเชือกมาผูกที่ข้อเท้าจนแน่นหนา จึงเอาเชือกดึงผ่านรอก ยกตัวเขาขึ้นไปในลักษณะห้อยหัวลงมา หลังจากนั้นสารวัตรเอาเทียนขนาดเขื่องมายัดเข้าไปในรูก้นของเทิดศักดิ์ เขาร้องด้วยความเจ็บปวด พอยัดเข้าไปได้ครึ่งลำ สารวัตรจึงเริ่มจุดเทียน แล้วรอสักพัก ขณะนั้นก็แจกแส้ให้หน่วยสวาทคนละเส้นเป็นแส้ขนาดใหญ่ที่ฟาดออกไปต้องเจ็บโคตรๆ ขณะนี้น้องชายของเทิดศักดิ์แข็งได้ที่แล้ว

สารวัตรเห็นน้ำตาเทียนเริ่มเยิ้มและเอ่อจนเกือบล้นแล้ว จึงสั่งให้หน่วยสวาททั้งหมดระดมฟาดแส้ไปที่ร่างอันกำยำของเทิดศักดิ์ พอโดนแส้ ร่างของเขาก็สั่นสะท้าน ทำให้น้ำตาเทียนที่ถูกเผาจนได้ที่ไหลลงไปโดนรูก้น และส่วนอื่นๆ ของร่างเทิดศักดิ์ซึ่งแล้วแต่แรงทางฟิสิกส์จะพาไป การเฆี่ยนด้วยแส้กินเวลานานพอๆ กับเทียนที่กำลังเผาไหม้ที่ยัดอยู่ที่รูก้นของเขา

ทันใดนั้นมีตำรวจนายหนึ่งวิ่งเข้ามาในห้องใต้ดิน ตะโกนบอกให้ทุกคนหยุดเพราะการที่เข้าใจว่าเทิดศักดิ์เป็นตำรวจเลวนั้นเป็นการเข้าใจผิดซึ่งทั้งหมดก็เป็นไปตามแผนของสารวัตร พวกหน่วยสวาทจึงหยุดทรมานเขาและขอโทษขอโพยเทิดศักดิ์เป็นการใหญ่

หลังจากที่ทุกคนออกจากห้องใต้ดินกันไปหมดแล้ว เทิดศักดิ์จึงคุยกับสารวัตร

“ไม่บอก ไม่กล่าวกันเลย นี่กะเอาให้ตายเลยใช่ไหมครับ”

“ไอ้เรื่องแบบนี้มันต้องไม่รู้มาก่อนสิ มันถึงจะมันส์ รู้ล่วงหน้ามันจะมันส์ได้ยังไง”

เทิดศักดิ์ยิ้มเจื่อนๆ สารวัตรจึงพูดต่อ “แต่อีกเรื่อง กูต้องให้มึงรู้ก่อนแน่”

“เรื่องอะไรครับ” เทิดศักดิ์ถามด้วยความสงสัย

สารวัตรตอบออกไป “เรื่องที่กูจะให้มึงไปเป็นสายสืบในคุกหน่ะสิ”

“ในคุกเหรอ สารวัตรจะส่งผมเข้าไปเป็นผู้คุมเหรอ”

สารวัตรยิ้มโหดๆ “เปล่าหรอก กูจะส่งมึงให้ไปเป็นนักโทษ”

เทิดศักดิ์มีสีหน้าที่ตื่นเต้นมาก เพราะในชีวิตเขาอยากจะเป็นนักโทษสักครั้งหนึ่ง

“แล้วผมต้องเตรียมตัวอะไรบ้างครับ” เทิดศักดิ์ถามด้วยความสงสัยไคร่รู้

สารวัตรพูดเหมือนเป็นการสั่งเสีย “สิ่งที่มึงจะต้องเตรียมมีอยู่อย่างเดียวคือ เตรียมร่างกายของมึงไว้ให้พร้อมเพราะผู้คุมแดนของมึงโหดมาก ที่สำคัญ มันไม่เคยปราณีใคร”

เทิดศักดิ์ได้ยินแค่นั้น มันทำให้เขาของขึ้นจนแข็งเลย

พงษ์พัฒน์นัดเดี่ยวมาคุยกันอีกรอบ

พงษ์พัฒน์เริ่มขึ้นก่อน “กูว่ากูจะวางแผนชิงตัดกำลังไอ้พล กับไอ้จอมก่อน”

“แล้วมึงจะทำยังไงล่ะ” นายตำรวจหนุ่มถามด้วยความสงสัย

“กูรู้มาจากเพื่อนที่เป็นทหารเกณฑ์ว่าไอ้พลเป็น รด.ที่โดนทำโทษบ่อยที่สุด แต่ด้วยความแกร่งของร่างกายมัน ทำให้มันทนได้ และกูคิดว่ามันน่าจะชอบ กูคิดแผนว่ากูจะเอาเรื่องนี้ไปบอก นายพลเฉิน”

เดี่ยวทำท่าตกใจมาก “ไอ้นายพลวิปริตโคตรซาดิสต์คนนั้นนะเหรอ”

“ใช่ กูรู้มาว่า นายพลเฉินต้องการทหารรับใช้ เพราะที่เคยมี ถ้าไม่หนีก็พิการหรือไม่ก็หายสาบสูญ ถ้านายพลเฉินรู้ข้อมูล รด. แมนๆ อย่างพล แถมไอ้เหี้ยนี่มันยังหล่ออีกต่างหาก นายพลเฉินต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้ไอ้พลไปเป็นทหารรับใช้ของนายพลจนได้”

เดี่ยวหัวเราะ “ไอ้พงษ์ มึงนี่ฉลาดจริงๆ … แล้วไอ้จอมล่ะ มึงจะทำยังไงกับมัน”

พงษ์พัฒน์ทำหน้าครุ่นคิด ก่อนจะพูดออกมา

“ก่อนอื่นกูต้องสืบให้รู้ก่อนว่า การที่กูเปลี่ยนผู้รับเหมากับกรรมกรสร้างบ้านใหม่ ทำไมมันถึงมีผลต่อไอ้จอมมากนัก ดูมันเฉาไปเลย กูจะต้องรู้ให้ได้ ตอนนี้กูกำลังจ้างนักสืบอยู่ กูว่าถ้ารู้ข้อมูลตรงนี้ กูน่าจะวางแผนปั่นหัวไอ้จอมได้ หน้าหล่อๆ แบบนั้น น่าจับมาปั่นหัวเล่นซะให้เข็ด”

เดี่ยวถามเป็นเชิงหยอก “หัวอะไรของมึงวะ ที่มึงจะปั่นอ่ะ”

พงษ์พัฒ์หัวเราะก่อนที่จะถามถึงเพื่อนอีก 2 คน

“แล้วมึงรู้ข่าวของไอ้กริช กับ ไอ้เทิดไหมวะ หายหัวไปทั้งคู่เลย”

“ไอ้เทิดมันไปปฏิบัติการลับสุดยอด ส่วนไอ้กริชโดนย้ายไปชายแดนแล้ว” เดี่ยวตอบก่อนจะเป็นฝ่ายถามบ้าง “แล้วมึงจะให้กูพาไอ้ชัยไปส่งที่บ้านของมึงตอนไหนวะ”

พงษ์พัฒน์พูดอย่างคนมีแผน “ช่วงเย็นๆ วันเสาร์ดีกว่า มึงจะได้เห็นไอ้เอกด้วย”

“เอกไหนวะ”

พงษ์พัฒน์ยิ้มก่อนที่จะพูดฃ

“ไอ้เอกที่เป็นเพื่อนไอ้พลนะสิ กูสังหรณ์ว่ามันไม่น่าจะเป็นแค่เพื่อน ลึกๆ กูสนใจไอ้เอกว่ะ หุ่นแบบนักกีฬาอย่างเนี่ย เสป็คกู กูจะวางแผนเฉดไอ้พล กับไอ้จอมให้มันหายสาบสูญไป แล้วจะกักตัวไอ้เอกไว้ทรมานเล่น โดยมีไอ้ชัยอยู่แนบข้าง”

เดี่ยวรีบพูดแซงขึ้น “ไอ้ชัยอ่ะ กูแค่ให้ยืมนะ เพราะกูคงหาเด็กอายุ 15 ที่โครงสร้างใหญ่แบบนั้นอีกคงไม่ได้”

พงษ์พัฒน์ทำหน้าอย่างกับซาตาน “มึงให้กูยืมแล้ว งั้นกูขอใช้ให้คุ้มก่อนก็แล้วกัน ถ้ามันสึกหรอ มึงก็เอาไปซ่อมเองนะ”

ทั้งคู่หัวเราะชอบใจกันใหญ่

ณ ค่ายทหารแถวชายแดน กริชกำลังนอนพักอยู่ในห้อง แต่รุ่นพี่กลับเรียกไปให้ดูอะไรหน่อย เขาพากริชไปที่ห้องขังของเชลย

“วันนี้กูจับเชลยเวียดกงได้คนหนึ่ง มันเป็นพวกทหารผ้าเตี่ยว”

กริชมองเข้าไปในห้องขัง เห็นหนุ่มเวียดกงนุ่งผ้าเตี่ยวตัวเดียว ถูกจับมัด แบบตัวเอ็กซ์กับเสาสองเสา ตัวมันล่ำมาก กล้ามเป็นมัดในแบบที่กริชไม่เคยเห็นมาก่อน

ตอนนี้มันกำลังหลับอยู่ มันเป็นเวียดกงที่ขาว ขาวมากๆ แต่หน้าโคตรหล่อมาก และใสมากจนไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นพวกสายลับที่เรียกกันว่าทหารผ้าเตี่ยวได้ อายุอานามน่าจะสัก 20 เห็นจะได้ กำลังอยู่ในวัยฉกรรจ์พอดี แต่หน้ามันเข้ม คิ้วเข้ม คม ริมฝีปากได้รูป อกใหญ่หนา เอวคอด ขนรักแร้ดกดำ กล้ามตรงต้นขาขึ้นสวยมาก ยิ่งกล้ามแขนด้วยแล้ว ยิ่งแกร่งและสวย ท่อนลำของกริชแข็งแล้ว เพียงแค่มองไอ้เวียดกงไกลๆ เท่านั้น

รุ่นพี่กระซิบข้างๆ หูกริช “กูมอบมันให้มึง ทำยังไงก็ได้ มึงต้องรีดความลับจากมันให้ได้มากที่สุด มึงจะทำอะไรกับมันก็ได้ ที่นี่มันชายแดน เพียงแต่อย่าให้มันตายเท่านั้น”

เช้านี้ เทิดศักดิ์ เตรียมตัวเป็นนักโทษตามคำสั่งของสารวัตร สารวัตรให้เขาเข้าไปเปลี่ยนชุดเป็นชุดนักโทษที่ห้องด้านใน

พอเข้าไป เขาตื่นเต้นมาก เพราะชุดที่สารวัตรเตรียมไว้ให้ดันเป็นกางเกงในตัวเดียว เมื่อเปลี่ยนชุดเสร็จ สารวัตรก็จับมือมันไพล่หลัง และใส่กุญแจมือมันจนแน่น

เทิดศักดิ์กระซิบถามสารวัตร “ทำไมทำกับผมได้ถึงขนาดนี้”

แต่สารวัตรไม่ตอบ ได้แต่ยิ้มโหดๆ สารวัตรให้ตำรวจสามนายพาเทิดศักดิ์ไปส่งที่รถที่จะพานักโทษไปคุก

พอผู้คุมเห็นถึงกับถาม “อะไรกัน พานักโทษมาแบบนี้เลยเหรอ”

ตำรวจตอบไปว่า “สารวัตรบอกว่าตอนไล่จับมัน มันก็อยู่ในชุดนี้แล้วและเราก็ไม่มีเวลาหาเสื้อผ้าให้มัน อีกอย่างสารวัตรไม่อยากเอากุญแจมือมันออกเพราะมันเป็นตัวอันตราย”

เทิดศักดิ์ได้ยินผู้คุมที่มากับรถกับตำรวจคุยกัน ถึงกับควยแข็ง นี่มันอะไรกัน สารวัตรกำลังจะทำอะไรกับเขา ยิ่งพอดูบนรถขนนักโทษ ทำไมนักโทษคนอื่นไม่ต้องโดนใส่กุญแจมือ และยังมีเสื้อผ้าใส่กันครบ แล้วทำไมเขาต้องถูกจับใส่กุญแจมือและต้องนุ่งแค่กางเกงในตัวเดียว เทิดศักดิ์ไม่เข้าใจเลย ไม่รู้แม้กระทั่งว่า สารวัตรปั้นข้อหาอะไรให้เขา

ตำรวจกับผู้คุมพาเทิดศักดิ์ขึ้นไปบนรถขนนักโทษที่เหมือนกับรถสองแถวคันเล็กๆ ที่มีนักโทษอยู่ประมาณ 9 คน เขาจับเทิดศักดิ์ให้นั่งกลาง แถมยังเอาโซ่มาล่ามตรงแขนกับขาให้ติดกับลูกกรงของรถไว้ พวกเขาอ้างว่าต้องล่ามไม่ให้เทิดศักดิ์หลบหนี เพราะนักโทษคนนี้เป็นตัวอันตราย ส่วนนักโทษคนอื่นไม่ต้อง

พอรถขนนักโทษแล่นไปนิดนึง แล้วติดไฟแดง สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือนักโทษที่นั่งข้างๆ เทิดศักดิ์ ต่างพร้อมใจกัน ใช้กำปั้นทุบไปที่หน้าอกเทิดศักดิ์อย่างแรงเหมือนแค้นอะไรกันสักอย่าง จนเทิดศักดิ์ไม่ทันตั้งตัว นักโทษที่นั่งตรงกันข้ามก็ใช้เท้า เหยียบขยี้ไปที่ท่อนลำแข็งที่อยู่ใต้กางเกงในสีขาว ยังมีคนพยายามที่จะเอาสนับมือมาชกที่ท้องของเทิดศักดิ์

เทิดศักดิ์ตะโกน “ทำไมพวกมึงทำกับกูแบบนี้”

นักโทษคนหนึ่งตะโกนตอบ “มึงคงนึกไม่ถึงว่าพวกกูรู้ว่ามึงทำอะไรมาถึงต้องเข้าคุก ไอ้สัตว์นรกที่ข่มขืนแล้วฆ่าเด็กนักเรียนอายุ 11 อย่างมึงก็ต้องโดนแบบนี้แหละ กูจะบอกให้เอาบุญ ตอนเนี่ย ทั้งผู้คุมและนักโทษทั้งหมดในเรือนจำต่างรอที่จะรุมกินโต๊ะมึงกันจนแทบจะไม่ไหว แต่พวกกูขอเล่นงานมึงก่อน คุกที่มึงจะไปเนี่ยแหละเปรียบเหมือนนรกของมึง มึงจะต้องโดนลงโทษกับสิ่งที่มึงได้กระทำกับเด็กหญิงผู้บริสุทธิ์คนนั้น”

พอพูดจบนักโทษคนนั้นต่อยไปที่หน้าของเทิดศักดิ์อย่างแรงจนเลือดกบปาก

ขณะที่นายพลเฉินกำลังนั่งอยู่บนรถ เขาเห็นผู้ชายคนหนึ่งเดินอยู่ริมถนน ผู้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครหรอก เขาคือเสกนั่นเอง หลังจากถูกพงษ์พัฒน์ไล่ผู้รับเหมาและกรรมกรทั้งหมดออกจากบ้านที่กำลังสร้าง เสกเองก็ได้เป็นคนงานในที่แห่งใหม่ แต่ลึกๆ เขายังนึกถึงจอมอยู่ แต่สิ่งที่เขาคิดไม่ออกคือว่าจะหาจอมได้อย่างไร เขาไม่รู้ว่าบ้านจริงๆ ของจอมอยู่ที่ไหน ยังไม่ได้เรียนรู้หรือพูดคุยอะไรกันเลย เขากับจอมก็มีอันต้องพลัดพรากกัน เขายังคิดถึงจอมเสมอ แต่ไม่แน่ใจว่าจอมจะคิดถึงเขาแค่ไหน

ตอนนั้นเสกสวมกางเกงขาสั้น ไม่สวมเสื้อเดินอยู่ริมถนน รูปร่างหน้าตาของเขาถูกใจท่านนายพลมากทำให้นายพลเฉินถึงกับต้องบอกคนขับรถ “เฮ้ย เส็ง นายสามารถชิดซ้ายตรงนั้นได้ไหม”

เส็งพูดด้วยความเคารพ “ไม่ได้เลยครับนาย แถวนี้หาที่จอดริมถนนไม่ได้เลย นายมีธุระอะไรด่วนเหรอครับ”

นายพลเฉินถามคนขับรถ “เรามีเวลาอีกแค่ไหน”

“มีไม่มากครับ ใกล้จะถึงเวลาที่นายนัดกับคุณพงษ์พัฒน์แล้ว”

นายพลเฉินรำพึงในใจ “เออ จริงสิ”

ไม่นานนัก นายพลก็มาถึงบ้านที่อยู่ใกล้กับกรมทหาร พงษ์พัฒน์กับเดี่ยวมารออยู่ก่อนแล้ว พอทั้งหมดมาเจอกันก็ทักทายกันตามสมควร นายพลถามในสิ่งที่ตัวเองสงสัยก่อน “ทำไมนายถึงมีทรัพย์สมบัติเยอะขึ้นมาถนัดตา ทั้งๆ ที่เป็นลูกเมียน้อยแท้ๆ ”

พงษ์พัฒน์มีสีหน้าที่ไม่พอใจกับคำถาม แต่เขาก็พยายามตอบไปด้วยน้ำเสียงที่เป็นมิตร “พอดีเมื่อไม่นานนี้ ทนายผมเพิ่งพบพินัยกรรมที่พ่อเขียนให้ผม มันเป็นเศษกระดาษที่เขาเขียนด้วยลายมือของเขาเอง จากตอนแรกที่ทุกคนเข้าใจผิดว่าก่อนเขาตาย ทรัพย์สมบัติทุกอย่างจะต้องเป็นของลูกชายสองคนเท่านั้น แต่จริงๆ แล้วทรัพย์สมบัติถูกแบ่งเป็นสองส่วน และครึ่งหนึ่งเป็นของผม”

นายพลเฉินยังถามต่อ “ได้ยินข่าวว่าตอนนี้นายมาอยู่ที่บ้านเจริญวงศา”

พงษ์พัฒน์ยิ้ม “ใช่แล้ว จริงๆ ผมอยากจะอยู่คนเดียวด้วยซ้ำ แต่ในพินัยกรรมที่เป็นลายมือระบุว่าบ้านเจริญวงศา ยกให้จอม พล และพงษ์พัฒน์”

นายพลเฉินเงียบ ไม่ถามอะไรอีก พงษ์พัฒน์จึงเริ่มประเด็นของเขาทันที

“และวันนี้ผมมาหาท่านเพราะมีสิ่งดีๆ มานำเสนอ และคิดว่าท่านน่าจะสนใจ”

นายพลมีสีหน้าสงสัย “อะไร”

พงษ์พัฒน์นำซองใส่รูปของพลยื่นให้เขา

“นี่ครับท่าน พี่ชายต่างมารดาของผม ผมให้นักสืบพยายามถ่ายให้ชัดที่สุดและก็หลายมุมมองด้วย คิดว่าท่านน่าจะสนใจ”

ท่านนายพลหยิบรูปมาดู ครู่ใหญ่ๆ จึงพูดออกไปว่า “คนที่สนใจไม่ใช่ฉันหรอก แต่เป็นลูกชายของฉันต่างหาก”

“ลูกชาย ท่านมีลูกชายด้วยเหรอครับ” เดี่ยวถามด้วยความสงสัย

ท่านนายพลตอบอย่างเสียมิได้

“มีสิ แต่ฉันพยายามไม่ให้เขาออกสื่อ และเขาเองก็ต้องการแบบนั้น ขนาดที่วิทยาลัยนานาชาติที่เขาเรียนอยู่ยังต้องปฏิบัติตามในสิ่งที่ฉันต้องการ เออะ ... จริงๆ แล้วไม่ใช่สิ่งที่ฉันต้องการ แต่เป็นสิ่งที่เขาต้องการ”

พงษ์พัฒน์เริ่มพูดบ้าง “ถ้าอย่างนั้น ผมขอพบเขาได้ไหม เราจะได้คุยกันในประเด็นสำคัญเสียที”

ท่านนายพลหันไปบอกเส็ง “ไปเรียนคุณสิงหลซิ” แล้วหันไปบอกกับพงษ์พัฒน์ว่า “ส่วนนายเข้าไปรอที่ห้องกุหลาบ และต้องไปคนเดียวนะ ส่วนตำรวจเพื่อนนายรออยู่ที่นี่ สักพักคุณสิงหลจะเข้าไป”

พงษ์พัฒน์ทำตามอย่างไม่มีเงื่อนไข เขาเข้าไปรอในห้องกุหลาบ เดินชมห้องสักพัก ก็มีชายหนุ่มอายุอานามใกล้ๆ เขา เดินเข้ามาในห้อง พงษืพัฒน์สังเกตได้ถึงความรวยของหมอนี่ เขาใส่สูทอย่างดี ทั้งตัวเต็มไปด้วยเฟอร์นิเจอร์ราคาแพง เขานั่งลงที่โต๊ะรับแขกสุดหรู พงษ์พัฒน์จึงนั่งตาม

พูดถึงความหล่อ คู่นี้สูสีกัน เพียงแต่พงษ์พัฒน์เป็นชายหนุ่มผมยาว ขาว หล่อ หุ่นแกร่งแต่ยังไม่หนามาก เขาชอบใส่เสื้อเชิ้ตหรือเสื้อที่เป็นซิปและก็ชอบปลดกระดุม 2-3 เม็ด หรือรูดซิปมาเกินครึ่งอกเพื่อโชว์แผงอกสุดเซ็กซี่ ผิดกับสิงหล ชายหนุ่มผู้มีสีหน้าเรียบเฉย ไว้ผมสั้นถึงสั้นมาก สวมแว่นแต่ความหล่อนี่กินขาด เขาชอบใส่เสื้อเชิ้ตและสูทที่มิดชิด แต่ถ้าสังเกตจะรู้ว่าสิงหลเป็นผู้ชายที่หุ่นดีมากๆ ไม่มีที่ติเลย เพียงแต่น้อยคนนักที่จะได้เห็น สิงหลมีมาดที่นุ่มมาก และบางครั้งก็ดูเย็นชา เขานั่งมองหน้าพงษ์พัฒน์แต่ไม่พูดอะไร

พงษ์พัฒน์ยากจะเดาว่าสิงหลรู้สึกอย่างไรต่อเขา แต่สิงหลรู้หมดว่าพงษ์พัฒน์เป็นคนอย่างไร พงษ์พัฒน์เข้าประเด็นอย่างไม่ลากยาว “นี่คือรูปของมัน”

สิงหลหยิบรูปมาดูอย่างเงียบๆ ถึงเงียบมาก มีอยู่ครั้งหนึ่งที่พงษ์พัฒน์เห็นสิงหลถอดแว่น เขาถึงกับผงะ เพราะเมื่อสิงหลถอดแว่น สิงหลจะหล่อกว่าเดิมสักประมาณ 2 เท่า แต่เขาก็เห็นเพียงแว๊บเดียวเท่านั้น สิงหลไม่พูดอะไรกับเขาเลย ได้แต่ดูรูป ไม่ถามแม้กระทั่งว่าหมอนี่เป็นใคร อยู่ที่ไหน เขาพูดแต่เพียงว่า “ขอบคุณมาก”

พงษ์พัฒน์ออกมาข้างนอก รู้สึกงงกับสิงหล แต่คำพูด 3 คำ ขอบคุณครับ ทำให้เขารู้ว่าเสียงของสิงหลนุ่มขนาดไหน เส็งเชิญพงษ์พัฒน์ไปพบกับนายพลเฉินอีกครั้ง เพื่อไปรับเช็ค ขณะนั่งรถกลับมากับเดี่ยว

เดี่ยวยังอดถามถึงสิงหลไม่ได้ “ไอ้ลูกชายของนายพลเป็นไงบ้าง”

พงษ์พัฒน์ตอบแบบกระชับ “วางมาด ไว้ฟอร์ม แต่โคตรหล่อและหุ่นดีมาก”

“มึงเห็นเหรอ” เดี่ยวถาม

“เปล่า มันใส่สูท แต่กูดูออกว่า หุ่นมันดีแค่ไหนใต้สูทนั่น”

“เป็นไงล่ะ เห็นแล้วอึ้งเลยดิ” เดี่ยวถามอย่างลองเชิง

“ถึงมันจะหล่อแค่ไหน หรือกูอยากมีอะไรกับมันแค่ไหน แต่กูก็สนใจไอ้เอกมากกว่า หรือรองลงมาก็เป็นไอ้จอม ส่วนไอ้สิงหลเนี่ย มาดเยอะชะมัด สงสัยจะยาก”

เดี่ยวสงสัย “แล้วมึงไม่สนใจไอ้พลเลยเหรอ กูว่ามันเข้มดีออก เซอร์ดี ถ้าเป็นกูเนี่ย กูจะสนใจมันมากกว่าคนอื่น แต่ต้องยกเว้นไอ้ชัยนะ นั่นน่ะ อันดับหนึ่งในใจกูอยู่แล้ว”

พงษ์พัฒน์ตอบไปว่า “ไอ้พลน่ะเหรอ มันก็ดูดีนะ แต่กูอยากจะกำจัดมันให้พ้นหูพ้นตากูไปก่อน ที่กูไม่สนใจมันเพราะกูรู้ว่ากูไม่มีวันได้หรอก แล้วกูจะสนใจทำไมเหมือนกับไอ้สิงหลเนี่ย กูจะไปฝันถึงมันทำไม มันเย็นชากับกูขนาดนั้น ส่วนไอ้จอมกูอาจจะชอบ แต่สุดท้ายกูก็ต้องกำจัดให้พ้นทางกู กูมีไอ้เอกเนี่ยแหละที่กูหวังอยู่ ...เออ ... พูดถึงไอ้ชัย เดี๋ยวมึงส่งกูเสร็จแล้ว มึงไปรับมันมาที่บ้านเลยนะ กูกำลังมีแผนบางอย่างอยู่ในหัว”

เมื่อรถมาถึงเรือนจำ พวกผู้คุมก็ทยอยเอานักโทษลง เทิดศักดิ์สะบักสะบอมมากแต่เขาก็เป็นที่สนใจของนักโทษและผู้คุมแถวนั้น นักโทษทุกชั้นเกาะลูกกรงจ้องมองเขา ในสภาพที่สะบักสะบอมและใส่กางเกงในตัวเดียวนั้น เทิดศักดิ์ดูเท่มาก ตอนนั้นเทิดศักดิ์ตื่นเต้นมาก สารวัตรถึงขั้นมอบคดีอุทฉกรรจ์ให้กับเขา สงสัยจะอยากเล่นงานเขาให้ถึงที่สุด สารวัตรมักโหดร้ายกับเขาเสมอ แต่ลึกๆ แล้ว เขาก็ชอบทุกอย่างที่สารวัตรจัดวางไว้ให้

พอมาถึงส่วนในเทิดศักดิ์ถูกแยกตัวไปต่างหาก ผู้คุมกระซิบที่หูเขาว่า “มีคนรอมึงอยู่”

เทิดศักดิ์ถูกพาไปในห้องขังรวมนักโทษอันตรายซึ่งมีอยู่ประมาณ 20 กว่าคน นับเป็นห้องขังที่ใหญ่ พวกนี้รอเทิดศักดิ์อยู่ พวกมันยื่นข้อเสนอกันว่า วันแรกเทิดศักดิ์ต้องเป็นสมบัติของเขาเพราะพวกเขาแค้นแทนเด็กผู้หญิงคนนั้นและอยากให้เทิดศักดิ์รู้ว่าการถูกข่มขืนแบบเถื่อนๆ เป็นอย่างไร จะได้หลาบจำไปจนวันตาย

ผู้คุมก็ดันเห็นดีด้วย จึงนำเทิดศักดิ์เข้าไปในห้องนี้ จับเขานอนหงาย เอากุญแจมาล็อคเฉพาะข้อมือ 2 ข้างแต่ช่วงขาปล่อยฟรี หลังจากเอาเหยื่อมาให้แล้ว พวกผู้คุมก็ออกไปข้างนอก ทิ้งเทิดศักดิ์ไว้กับนักโทษอันตราย

ณ บ้านเจริญวงศา จอม พล แล้วก็เอกนั่งปรึกษากัน เอกตัดสินใจย้ายมาอยู่ที่นี่เพราะเป็นห่วงพลกับจอม

เอกพูดขึ้นก่อน “จริงเหรอที่เราทำอะไรกับไอ้พงษ์พัฒน์ไม่ได้”

“น่าจะเป็นอย่างนั้น เพราะทนายบอกว่ามันมีพินัยกรรมฉบับจริงที่ถูกพิสูจน์แล้ว ถึงเราฟ้อง เราก็จะเสียเปรียบ” จอมตอบเอกไป

แต่พลสงสัยอะไรบางอย่าง “แต่พ่อไม่น่าทำอย่างนั้น พ่อรักพวกเราจะตาย พ่อต้องรู้แน่ๆ ว่าถ้าทำอย่างนั้น ไอ้พงษ์พัฒน์มันต้องเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ แล้วพ่อจะทำอย่างนั้นทำไม”

จอมร่วมแสดงความเห็นด้วย “ใช่ จริงๆ พ่อฉลาดมาก และพ่อน่าจะวางแผนอะไรไว้สักอย่าง พ่อต้องพยายามสื่อสารอะไรบางอย่างกับเรา เพราะพ่อไม่น่าจะเปิดโอกาสให้ พงษ์พัฒน์มาอยู่ร่วมกับเรา ถ้าพ่อไม่มีแผนอะไร จะว่ารักมันมากก็ไม่น่าใช่”

เอกเริ่มหูกระดิก “ผมก็คิดอย่างนั้นนะ พี่จอมกับพลฉลาดมากแต่พงษ์พัฒน์ไม่น่าจะคิดอย่างเรา”

จอมพูดต่อ “เมื่อเรามีสมมติฐานแบบนั้น สิ่งที่เราต้องทำต่อไปให้ได้คือสืบให้รู้แน่ชัดว่ามีอะไรอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นี้”

ขณะที่ทุกคนกำลังนิ่งคิด พงษ์พัฒน์ก็เข้ามาพอดี

“อยู่กันพร้อมหน้าเลยนะ” เขาทักแต่ไม่มีใครทักตอบ “วันนี้เราจะมีอาหารมื้อพิเศษกัน และเราจะมีแขกอีกสองคน คนแรกเป็นขาจร แต่อีกคนจะมาประจำอยู่ที่นี่ เพราะฉะนั้น ขอเชิญพวกนายมาร่วมกินอาหารกับเรา อย่าลืมนะว่าเราเป็นพี่น้องกัน เพราะฉะนั้นเราควรมาทำความรู้จักกันให้มากขึ้น รีบไปที่ห้องอาหารใหญ่นะ ฉันจะรออยู่ที่นั่น”

พอพูดจบเขาก็ออกไป เอกเป็นคนถามขึ้นก่อน “แล้วเราควรจะทำยังไงดี”

จอมเริ่มคิดวางแผน “เราควรไปตามคำเชิญของมัน รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง”

พลนึกอะไรออก “กว่าจะถึงเวลาอาหารอีกนาน เรายังมีเวลาที่จะเชิญแขกรับเชิญของฝ่ายเรา”

เอกพยักหน้าเป็นเชิงเห็นด้วย

พอถึงเวลาอาหาร จอม พล และเอกเดินเข้าไปในห้องอาหารใหญ่ซึ่งพงษ์พัฒน์นั่งอยู่ก่อน โต๊ะอาหารถูกจัดเป็นสองฝั่ง

นั่งฝั่งละ 4 คน ทั้งสามคนนั่งตรงข้ามกับพงษ์พัฒน์

พงษ์พัฒน์ถามขึ้น “มีใครรู้บ้างว่าทำไมพ่อครัวถึงจัด 8 ที่”

จอมตอบว่า “เรามีแขกรับเชิญฝั่งเราอีกสอง”

พงษ์พัฒน์ดูงงกับคำตอบนั้น แต่ก็ไม่ว่าอะไร

เขาพูดเพียงแต่ว่า “ขณะรอแขก เรามาทานออเดิฟกันก่อนดีกว่า”

ไม่นานนักเดี่ยวกับชัยก็เข้ามา พวกเขานั่งข้างพงษ์พัฒน์ พงษ์พัฒน์แนะนำทั้งคู่ให้อีกสามคนได้รู้จัก

“นี่เดี่ยว เพื่อนของฉันเป็นตำรวจ ส่วนนั่น ชัย เด็กที่จะมารับใช้ใกล้ชิดฉัน”

หลังจากแนะนำเสร็จเดี่ยวจ้องแต่พล เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นพลจริงๆ ก่อนหน้านั้นเห็นแต่ในรูป ส่วนเอกนั้นเขาจ้องชัยตาไม่กระพริบจนทำให้พลกับจอมรู้สึกได้

อีกไม่นานมีผู้ชายสองคนเดินเข้ามา พงษ์พัฒน์ตกใจมากที่ได้เห็นมาดของทั้งสองคนนั้น เพราะดูเข้มเต็มร้อยทั้งคู่

เอกแนะนำชายคนแรกก่อน “ที่นั่งอยู่ข้างชัยเป็นโค้ชบาสที่โรงเรียนของผมเองชื่อ รชต”

และพลแนะนำแขกของเขาบ้าง “ส่วนที่นั่งอยู่ข้างผมนี่เป็นครูฝึก รด. ที่ผมสนิทมาก ชื่อว่าก้อง”

เดี่ยวยิ้มเมื่อกวาดสายตามองชายหนุ่มทั้งหมดที่อยู่รายรอบโต๊ะอาหาร ทุกคนมีเสน่ห์เฉพาะตนอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ เขาคิดในใจว่า “ถ้ากริชกับเทิดศักดิ์อยู่ที่นี่ด้วยจะดีไม่น้อย”

ส่วนจอม พอเห็นก้อง ครูฝึกโหดของพล ทำให้เขานึกถึงเสกเพราะก้องกับเสกมีบางอย่างที่คล้ายกันมากๆ

เมื่อเทิดศักดิ์ถูกจับนอนหงายอยู่กลางห้องขังของนักโทษอันตราย เขาแปลกใจมากที่ดูเหมือนไม่มีใครสนใจเขา บางคนก็นั่งคุยกัน บางคนก็นอน บางคนก็วิดพื้น ออกกำลังกายกันไปต่างๆ นานา ที่จะสามารถทำได้ในห้องขังแห่งนี้ แต่พอมีใครสักคนเริ่มเดินมายืนข้างเขาเท่านั้น ทุกคนก็มายืนรอบตัวเขากันหมด แล้วทุกอย่างก็เริ่มต้นขึ้น

เรื่องราวเริ่มจากที่ทุกคนช่วยกันรุมกะทืบเทิดศักดิ์แบบไม่เลี้ยง กระทืบแทบจะทุกส่วนของร่างกาย แขน หน้า หน้าอก หน้าท้อง ท่อนขาแล้วก็ท่อนลำ การกระทืบท่อนลำก็เป็นไปแบบไม่มีการปรานีแต่อย่างใดและทุกคนที่กะทืบท่อนลำก็จะรู้สึกได้ถึงความแข็งแกร่งของท่อนลำของเทิดศักดิ์

หลังจากรุมกะทืบจนเทิดศักดิ์เริ่มจะไม่ไหว พวกมันก็หยุดแต่เน้นลูบไล้ โลมเลียเหมือนคนตายอดตายอยากมานาน บางคนกัดหัวนม บางคนเลียไปตามแขน ขา เลียอย่างแรงตรงหน้าท้อง

พวกมันช่วยกันถอดกางเกงในของเขา พร้อมกับอม เลีย ดูดท่อนลำกันอย่างเมามันส์แต่ขณะที่หลายคนกำลังโลมเลีย บางคนก็ตบหน้า หรือใช้เท้าลูบหน้า ลูบตามตัวไปด้วย การโลมเลีย ดูดดุนร่างกายของเขาทั้งมือ เท้าและลิ้น ทำอย่างดุดัน รุนแรง และแทบไม่ปรานีใดๆ ทั้งสิ้น

พอได้ที่ คนแรกก็จับขาเทิดศักดิ์ยกขึ้นแล้วดันท่อนลำขนาดเขื่องเข้าไปในรูก้นเขา แล้วกระแทกกระทั้นอย่างบ้าคลั่ง โดยมีอีก 19 คนที่เหลือระดมจูบลูบไล้ และใช้ฝ่ามือฝ่าตีนกับเขาอย่างเต็มที่ พอคนแรกกระทุ้งจนหนำใจ คนที่สองที่ควยกำลังแข็งก็จะเป็นฝ่ายเริ่มกระทุ้งบ้าง

พวกมันวางแผนจะอัดถั่วดำเทิดศักดิ์ทั้ง 20 คนเรียงคิวกันไป หลังจากนั้นก็จะทยอยชักว่าวแล้วทยอยปล่อยน้ำกามไปที่หน้าและหน้าอกเทิดศักดิ์ทีละคนสองคน ก่อนที่จะเสร็จพิธีกรรมในวันนี้ แล้วค่อยรุมกะทืบอีกครั้งเป็นการปิดท้าย

ค่ำคืนนี้ยังยาวนานสำหรับเทิดศักดิ์ เพราะคนที่สองยังกระแทกรูก้นเขาอย่างบ้าคลั่งเหลืออีก 18 คนที่เขาจะต้องรับมือ เออ ไม่ใช่สิ จะต้องเอารูทวารรับท่อนลำขนาดเขื่อง คืนนี้จะได้พิสูจน์กันว่า เทิดศักดิ์จะแข็งแกร่งขนาดไหน ...

ณ บ้านเจริญวงศา ตอนนี้ในบ้านมีคนอยู่ 3 กลุ่ม กลุ่มที่ 1 คือ จอม พล และเอก กลุ่มที่ 2 คือ พงษ์พัฒน์ เดี่ยว และชัย ส่วนกลุ่มที่ 3 ที่อาจเรียกได้ว่ายังไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ได้แก่ โค้ชรชตและครูฝึกโหดที่ชื่อว่าก้อง เขาทั้งแปดนั่งร่วมวงกันบนโต๊ะอาหาร

พงษ์พัฒน์ทำลายความเงียบด้วยการสั่งให้พ่อครัวที่เขาจ้างมาเสริฟอาหาร ทั้งหมดกินอาหารไปด้วยคุยกันไปด้วยประปราย

เอกถามชัยถึงงานที่ทำและอายุจริงๆ ของเขา ชัยตอบอย่างไม่เคอะเขิน หลายคนเริ่มรู้ว่า 2 คนนี้เริ่มถูกชะตากันอย่างคาดไม่ถึง เดี่ยวมองพลอย่างกระหาย และพยายามจะถามนั่นถามนี่พล ส่วนพลก็ได้แต่เป็นประเภทถามคำตอบคำ ดูเขาไม่ค่อยสนใจเดี่ยวสักเท่าไหร่

ส่วนรชตกับก้องคุยกันถึงประสบการณ์แมนๆ และดูท่าว่าคู่นี้น่าจะกลายเป็นเพื่อนซี้กันได้ในอนาคต พงษ์พัฒน์เองจ้องมองหลายคนมาก สองคนที่เขามองบ่อยก็คือเอกกับชัย ส่วนอีกคนที่มองต่อมาคือจอม และยังรวมทั้งพลด้วย พงษ์พัฒน์ยังไม่วายแอบมองโค้ชรชตกับครูฝึกก้องด้วย

พงษ์พัฒน์คิดในใจว่า ไหนๆ วันนี้ก็มีหนุ่มหล่อๆ ล่ำๆ มารับประทาน อาหารร่วมกันที่บ้านเจริญวงศาตั้ง 8 คน สิ่งที่ควรทำที่สุดคือการเฉลิมฉลอง เขาจึงสั่งให้พ่อครัวนำไวน์มา และเทไวน์ให้กับทุกคนได้ดื่มฉลองกันในที่นี้ มันช่างเป็นไวน์ที่แสนอร่อย ทั้งหมดไม่เคยลิ้มลองไวน์เช่นนี้มาก่อน

พอดื่มกันได้ที่ หลายคนเริ่มมีอาการกระสับกระส่าย รู้สึกร้อนลึกๆ ทั้งๆ ที่ในบ้านยังเปิดแอร์เย็นฉ่ำ ขณะที่ทุกคนกำลังร้อนและกระสับกระส่ายได้ที่ แขกพิเศษกลุ่มสุดท้ายที่เข้ามาเยือนบ้านเจริญวงศาก็คือ สิงหลกับลูกน้องทั้งสองคนของเขา ราวินกับหรั่ง

สิงหลลูกนายพลเฉินมาในชุดสูทเต็มตัวแต่มือขวาของเขาราวิน กลับมาในชุดกางเกงยีนส์ดำ รองเท้าผ้าใบไม่สวมเสื้อ ส่วนมือซ้ายซึ่งก็คือไอ้หรั่งมาในชุดกางเกงยีนส์ ร้องเท้าผ้าใบ ใส่เสื้อเชิ๊ตไม่ติดกระดุม ทุกคนจึงรับรู้ได้ถึงความล่ำของลูกน้องของสิงหล

พงษ์พัฒน์แนะนำสิงหลให้ทุกคนรู้จัก รวมทั้งราวินและหรั่งด้วย แต่พอการแนะนำเสร็จสิ้น ลูกผู้ชายทั้ง 7 คนบนโต๊ะอาหารกำลังกระสับกระส่ายได้ที่และร้อนรุ่มไปถึงข้างใน พวกเขาทยอยถอดเสื้อและกางเกงของตัวเองออก พงษ์พัฒน์เพียงคนเดียวที่ยังสงบนิ่งและคิดว่าทุกอย่างเป็นไปตามแผน เขาคิดในใจว่า ยาของสิงหลที่ใส่ในแก้วไวน์ช่างออกรสออกชาติได้ดีจริงๆ

ความเคลื่อนไหวแรกที่ทำให้ทุกคนตะลึงคือการที่เอกลุกจากที่นั่งและเดินไปยืนอยู่ด้านหลังของชัย เอกใช้มือทั้งสองข้างลูบไล้หน้าอกของชัยไปมาอย่างบ้าคลั่ง ใช้มือทั้งบีบ ทั้งคลึงหัวนมของชัยไปมาจนชัยหลับตาพริ้ม ร้องซี๊ดด้วยความเสียว การกระทำของเอกไม่ใช่แค่จะทำให้ชัยเกิดอารมณ์แต่ทั้งหมดที่เห็นล้วนเกิดอารมณ์ตามชัยไปด้วย

ตอนนี้ชัยลุกขึ้นยืน ยืดอกแกร่งของเขา เอกเปลี่ยนมาเอามือสอดใต้รักแร้ของของชัย พร้อมกันนั้นก็ทั้งลูบทั้งบีบหัวนมของชัยอย่างบ้าคลั่ง นี่เป็นครั้งแรกที่เอกแสดงทีท่าเป็นฝ่ายรุก และเป็นผู้เริ่มก่อนโดยที่คนอื่นยังไม่ทันตั้งตัว ขณะที่หัวนมและหน้าอกของชัยกำลังถูกเอกขย้ำ ชัยหันหน้าไปหาเอก ทั้งคู่สบตากันก่อนที่จะจูบกันอย่างดูดดื่ม

พงษ์พัฒน์มองเอกกับชัยอย่างมีอารมณ์ เขาค่อยๆ ถอดเสื้อผ้าของตัวเองออก ขณะที่ราวินกับหรั่งช่วยกันเปลื้องเสื้อผ้าให้กับสิงหลนายของเขา ชัยเบี่ยงตัวเข้าหาเอก พวกเขากอดรัดฟัดเหวี่ยง ไซ้ซอกคอและระดมจูบกันแบบเอา ลิ้นแลกลิ้น ลิ้นของทั้งสองพันกันนัวเนีย

โค้ชรชตกับก้องมองหน้ากันแล้วยิ้มในแบบที่รู้กัน รชตเข้าไปยืนข้างๆ เอก ส่วนครูฝึกก้องไปยืนข้างๆ ชัย รชตจิกผมเอกเข้ามาจูบ ในขณะที่ก้องจิกผมชัยเข้ามาจูบ พอทั้งคู่จูบกันสักพัก รชตกับก้องต่างจิกผมเอกกับชัย แล้วดันให้ทั้งคู่แลกลิ้นกันอย่างดูดดื่ม โค้ชรชตค่อยๆ กดหัวของเอก ดันให้ต่ำลง ทำให้เอกละจากลิ้นของชัยมาโลมเลียที่อกแกร่งของชัย ขณะที่เอกใช้ลิ้นเลียไปทั่วอกแกร่งของชัย และใช้ปากทั้งขบทั้งดูดไปที่หัวนมของชัยอย่างหื่นกระหาย ตามการบังคับของรชต ก้องก็จับแขนของชัยมาไพล่หลัง แล้วล๊อคจนแน่น รชตกดหัวของเอกจนไปถึงท่อนลำของชัยที่กำลังแข็งได้ที่

เอกดูดเลียท่อนลำของชัยอย่างบ้าคลั่ง ทำให้ชัยเสียวจนกล้ามเนื้อของเขาแข็งเกร็งกล้ามอกและขาของชัยขึ้นเป็นลำ เรียกร้องให้รชตใช้มือตบหน้าของชัย ชัยหน้าหันไปอีกทาง แต่เขาก็หันกลับมาหารชต ยิ้มให้ด้วยความสะใจ แววตาเรียกร้องบ่งบอกถึงความต้องการที่อยู่เบื้องลึก

รชตสนองให้อีกสองสามฉาด ชัยหน้าหัน แต่ตัวไม่เคลื่อนไหว เพราะมีก้องจับล็อคแขนไว้แน่น รชตใช้มือทั้งสองข้าง บีบหัวนมของชัยอย่างแรง ขณะที่เอกอมดูด เลียท่อนลำของชัยอย่างคนหิวกระหาย ชัยร้องออกมาด้วยเสียงแมนๆ เขารู้สึกถึงความเสียวซ่านและเจ็บสะใจ

พลมองชัยโดนกระทำจนเจ้าโลกของเขาแข็งเกร็ง และหัวเหมือนดอกเห็ดบาน เขากำลังเคลิบเคลิ้มและพยายามจะช่วยตัวเอง แต่ราวินกับหรั่งมาดึงตัวของพลออกมาและพาไปอีกมุมหนึ่ง ราวินใช้ไม้กระทุ้งเพดานจนโซ่ตกลงมาเหมือนกับที่พงษ์พัฒน์เคยบอกอย่างไม่ผิดเพี้ยน ราวินกับหรั่งช่วยกันบังคับให้พลชูแขนขึ้น แล้วเอาโซ่มามัดข้อมือของพลทั้งสองข้าง

พลถูกพันธนาการตรงข้อมือ ส่วนขาของเขาก็กางออกอย่างแข็งแกร่ง ตอนนี้พลยืนในลักษณะรูปตัวเอ็กซ์ เขาเปลือยเปล่า สิงหลเดินตรงไปหาเขา พร้อมกับต่อยไปที่หน้าท้องที่แข็งเป็นลอน

จอมกำลังจะเดินไปหาน้อง แต่ถูกสกัดด้วยพงษ์พัฒน์กับเดี่ยว ทั้งสามเปลือยเปล่า เดี่ยววิ่งเข้าประกบด้านหลัง ส่วนพงษ์พัฒน์ประกบด้านหน้า จอมเปรียบเหมือนไส้แซนวิชที่โดนสีไปมาทั้งด้านหน้าและด้านหลังจนร่างกายเขาอ่อนระทวย แต่ควยกลับแข็งขึ้นมาอย่างทันทีทันใด

พงษ์พัฒน์จูบไปที่ริมฝีปากของจอมอย่างเมามันส์ ส่วนจอมเองก็ตอบสนองเขาแบบไม่ยั้งเช่นกัน โดยมีเดี่ยวยืนประกบ ทั้งไซ้ทั้งเลียซอกคออยู่ด้านหลัง จอมเสียวซ่านไปทุกอณู เขาหายใจถี่ และระดมจูบพงพัฒน์อย่างเอาเป็นเอาตายแต่เดี่ยวกลับจิกผมจอมแล้วบังคับให้จอมหันมาทางเขาบ้าง แล้วเขาก็จูบจอมบ้างโดยมีพงษ์พัฒน์ใช้ร่างกายและควยแข็งโด่สีจอมไปมาทางด้านหลัง

หลังจากรชตซัดชัยไปหลายดอก เขาจึงนอนหงาย และจับท่อนลำของเขาค่อยๆ ดันไปที่รูก้นของเอก เอกอยู่ในท่านั่งเอามือยันพื้น แล้วขย่มให้รชตไปด้วย ในขณะเดียวกัน ก้องบังคับให้ชัยโน้มตัวลงมากๆ เพื่อให้เขาสอดใส่ชัยจากด้านหลังและกระแทกกระทั้นด้วยความเร้าร้อน ขณะโก่งตัว ปากของชัยอยู่ใกล้ปากของเอกพอดี ทั้งคู่จึงแลกลิ้นกันเท่าที่ทำได้ ตามแต่แรงขย่มของทั้งคู่จะพึงเปิดโอกาสให้

ขณะอยู่ในท่าโก้งโค้งแบบนั้น ก้องก็ยังใช้มือฟาดไปที่หลังของชัยเป็นระยะ ไม่นานนักรชตจับเอกนอนหงายขึ้นในแบบที่ท่อนลำของเขายังดันที่รูก้นของเอก เอกจึงอยู่ในสภาพที่นอนหงาย หลังโก่งคล้ายทำสะพานโค้ง ส่วนโค้ชรชตนั่งคุกเข้า ขย่มอย่างแรงไปที่ก้นของเอก

ส่วนก้องลุกขึ้นยืนจับขาชัยที่กำลังคล้ายๆ นอนคว่ำกระทุ้งอย่างแรงจนชัยต้องเอามือยันพื้นไว้แต่ปากยังจูบกับเอกที่นอนหงายอยู่ ก้องทำท่าเดินเหมือนไถนาใกล้เข้าไปอีก ทำให้ปากของชัยอยู่ใกล้ท่อนลำของเอก ชัยจึงใช้ปากดูดท่อนลำของเอก ขณะที่เขาก็กำลังโดนกระทุ้งอยู่ด้านหลังและเอกก็นอนหงาย ในแบบที่ก้นสูงกว่าหัวโดยมีรชตนั่งคุกเข่ากระทุ้งอยู่

สิงหลยังชกท้องของพลที่ถูกพันธนาการในท่ายืนรูปตัวเอ็กซ์โดยมีไอ้หรั่งยืนจิกหัวพลอยู่ ส่วนราวินกำลังเอามืออ้อมมาทางด้านหลัง ลูบแผงอกและบีบหัวนมของพลอย่างแรง หลังจากนั้นสิงหลจึงเปลี่ยนมาเป็นเอามือบีบไข่พลอย่างแรงจนพลร้องลั่น เขาจึงระดมจูบไปที่ปากของพล ทั้งคู่แลกลิ้นกันนัวเนีย

พงษ์พัฒน์นึกถึงเรื่องวิปริตขึ้นมา จึงส่งสัญญาณให้กับเดี่ยวและลากจอมมาตรงหน้าพล พงษ์พัฒน์กดปากของจอมให้ดูดดุนท่อนลำของพล จอมกำลังอยู่ในอารมณ์เมายาจึงดูดดุนอย่างเสียวซ่านสะใจ พลร้องกระเซ่า ขณะที่สิงหลเดินอ้อมมาทางด้านหลัง แต่ยังจิกผมของพลเพื่อให้พลหันมาจูบเขา ส่วนราวินกับหรั่งก็ลูบไล้หน้าอกกับหน้าท้องพล สลับกับการฟาดหน้าอกและหน้าท้องไปด้วย

ตอนนี้ดูเหมือนว่าสองพี่น้องกำลังถูกกระทำอย่างที่พวกเขานึกไม่ถึง พลถูกมัด โดยมีสิงหลจิกผมและจูบเขา ราวินกับหรั่งลูบไล้อก หน้าท้องและถึงขั้นฟาด ทุบ และชกสลับกัน ส่วนจอมถูกพงษ์พัฒน์จับหัวกดไปที่ท่อนลำของพล บังคับให้ดูดเลียซึ่งพลก็ยอมแต่โดยดีเพราะฤทธิ์ยา โดนมีเดี่ยวคอยฟาดหลังจอมอยู่

พออยู่ในท่านั้นกันสักพัก พงษ์พัฒน์กับเดี่ยวจับจอมนอนหงาย แล้วลากเขาเข้าไปใต้ฝ่าเท้าของพล พยายามจัดให้เท้าของพลยืนเหยียบอกของจอมไว้ เท้าของพลจึงอยู่ตรงบริเวณหัวนมทั้งสองข้างของจอมพอดี ตอนนั้นพงษ์พัฒน์กับเดี่ยวผลัดกันเลียท่อนลำของจอม แล้วก็ผลัดกันจูบกันเองไปด้วย และนั่นเป็นสิ่งที่อารมณ์พาไปโดยที่เขาไม่ได้คาดคิดกันมาก่อน และทั้งพงษ์พัฒน์และเดี่ยวก็ตระหนักว่า เวลาเขาทั้งคู่จูบกัน มันก็สะใจกันดี จูบกันแล้วก็ผลัดกันอมให้จอมบางครั้งพงษ์พัฒน์ก็เลียตรงหัวบานๆ ของจอมในขณะที่เดี่ยวเลียและดูดไข่ของจอมไปด้วย จอมร้องครวญครางตลอดเวลา

ส่วนสิงหลเอาแส้หนังขนาดใหญ่มาฟาดไปที่แผ่นหลังแกร่งของพล ส่วนราวินกับหรั่งต่างก็ถือแส้ขนาดเล็กผลัดกันฟาดไปที่ท่อนลำของพลที่กำลังแข็งอย่างสุดๆ

ในขณะที่ทั้งเจ็ดคนกำลังเมามันส์กันแบบนั้น อีก 4 คนก็อยู่ในท่านอนกันเป็นรูปสี่เหลี่ยมโดยที่รชตกำลังอมให้ชัย และเอกอมให้รชต ส่วนก้องอมให้เอก และชัยอมให้ก้อง พวกเขาอมกันเป็นรูปสี่เหลี่ยมและกำลังเมามันส์กันได้ที่

หลังจากนั้นพวกเขาก็แยกกัน ออกเป็นสองกับสอง เอกกับชัยนอนกอดกันจูบกันไปมา ส่วนรชตกับก้อง นี่เป็นครั้งแรกที่เขานอนแบบกล้ามชนกล้าม และกอดจูบกันอย่างออกรสออกชาติรุนแรงและสะใจไปตามๆ กัน

ไม่นานนักพงษ์พัฒน์กับเดี่ยวก็ดึงจอมให้พ้นจากฝ่าเท้าของพล จับเขามานอนหงายตรงกลางห้อง แล้วพารชตกับก้องให้มาช่วยกันดูดเลียหัวนมของจอม ส่วนเอกกับชัยถูกดึงมาให้ช่วยกันรุมท่อนล่างโดยเอกเลียท่อนลำ แล้วอมอย่างเป็นจังหวะ ส่วนชัยเลียไข่ ดูดดุนไข่ของจอมไปตามจังหวะอันเร่งเร้า

พอจัดการตรงนั้นแล้วพงษ์พัฒน์กับเดี่ยวก็มาช่วยกันรุมกินโต๊ะพล พลยังอยู่ถูกมัดในท่ายืน โดยมีพงษ์พัฒน์ เดี่ยว ราวินกับหรั่งช่วยกันรุมกินโต๊ะ โดยใช้ปากดูดเลียไปทั่วร่างของพล พอทั้งสี่ดูดเลียกันได้ที่ ก็จะปล่อยให้สิงหลเข้ามาจัดการพลโดยชกไปที่ท้องแบบเต็มๆ ตบไปที่หน้าหลายฉาด บีบไข่และถุยน้ำลายใส่หน้า ตอนที่สิงหลกำลังจัดการกับพลอยู่ อีกสี่ก็แยกเป็นสองคู่และทำการกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันแบบแมนๆ โดยพงษ์พัฒน์จูบกับเดี่ยว และราวินก็เริ่มประกบปากดูดดุนกับหรั่งเป็นครั้งแรก พอสิงหลซ้อมพลจนสาแก่ใจ เขาก็หลีกทางให้ทั้งสี่เข้ามารุมกินโต๊ะเหมือนเดิม แล้วสิงหลก็เดินไปเหยียบสลับกับกระทืบหน้าท้องของจอมโดยมีอีกสี่หนุ่มกำลังกินโต๊ะจอมอยู่

หลังจากนั้นพล จอมและเอกถูกทั้งหมดมาจับนอนหงายแบบกางเกงกางขาโดยเอาแขนของทั้งหมดชนกันมาอยู่ในจุดศูนย์กลางของวงกลม ส่วนขาก็กระจายออกเป็น 3 แฉก พลถูกมัดข้อมือติดกับจอมและเอก ส่วนเอกถูกมัดข้อมือติดกับพลและจอม และสุดท้ายจอมถูกมัดข้อมือติดกับพลและเอก

ทั้งสามถูกจับนอนแผ่อยู่ตรงกลาง โดยมีอีก 8 คือราวิน หรั่ง พงษ์พัฒน์ เดี่ยว ชัย สิงหล รชตและก้อง ต่างเห็นพ้องต้องกันที่จะเดินไปมาและใครพอใจที่จะเหยียบใคร กระทืบใครก็ทำกันตามใจชอบ ในช่วงแรกนี้สิงหลส่งสัญญาณด้วยการใช้เท้า ใครอยากใช้เท้ากับใคร ยังไงก็เชิญทำได้ตามสบาย

ดูเหมือนอีก 8 คนที่เหลือจะแบ่งเป็นสามกลุ่มคือ

1.สิงหล ราวิน หรั่ง

2.พงษ์พัฒน์ เดี่ยว ชัย (ซึ่งวันนี้ขอเป็นฝ่ายกระทำบ้าง)

3.รชต ก้อง

โดยสิงหล ราวิน หรั่ง ต่างไปจับจองที่พล โดยทั้งสามเล่นแรง ทั้งรุมเหยียบ รุมกระทืบ สิงหลเอาเท้าขยี้ไปที่หน้าของพลอย่างแรง และบังคับให้พลอมนิ้วเท้า และเลียฝ่าเท้าของตน ส่วนราวินกับหรั่งพลัดกันกระทืบไปที่ยอดอกกับหน้าท้อง และผลัดกันเตะและเหยียบไปที่ท่อนลำที่แข็งชูชันเหมือนกับจะลองดี

ส่วนพงษ์พัฒน์ เดี่ยว ชัย เลือกที่จะใช้เท้าลูบไล้ไปทั่วตัวของจอมด้วยความสะใจ เขาทั้งสามช่วยกันเหยียบไปที่ท่อนลำ ท้องและอก เหยียบไปที่หน้า ที่ท่อนขาและแขน ชัยชอบมากเวลาที่เขาใช้เท้าลูบวนไปที่ท้องและอกของจอม การได้เป็นฝ่ายกระทำมันสะใจแบบนี้นี่เอง

คนที่โดนหนักหน่อยในที่นี้คือเอก เพราะรชตกับก้องเลือกที่จะกระทืบกันอย่างเดียวและพวกเขาก็เมามันส์และสะใจมากๆ จนเองต้องร้องเสียงแมนๆ ออกมาแสดงถึงความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส แต่เมื่อรชตกับก้องได้ยินเสียงร้องของเอกแล้วต่างรู้สึกฮึกเหิมกับเสียงแมนๆ ของเอก เลยกระทืบกันหนักตีนกันมากไปอีก หลังจากกระทืบกันอย่างเมามันส์ หรั่งก็เดินแจกแส้หนังให้กับทุกคน หลังจากพล จอม เอก ฝ่าดงตีนแล้ว ต่อไปก็ต้องฝ่าดงแส้โดยพวกเขาลงแส้ทั้งสามกันอย่างเต็มที่จนร่างกายของทั้งสามเริ่มเกิดรอยแดงของแส้เป็นจ้ำๆ

พอลงแส้กันหนำใจแล้ว ทั้งหมดก็พร้อมใจกันเลียรอยแดงๆ บนร่างกายของเขาทั้งสาม ขณะเลียกันอย่างหนำใจดูเหมือนว่ามีรถแล่นเข้ามาในบ้านเจริญวงศา ปรากฏว่าเป็นรถบรรทุกของนายพลเฉินที่ทำตามคำสั่งของสิงหลโดยบรรทุกทหารเปลือยกว่า 40 คนมาที่บ้านหลังนี้ด้วย พวกเขาเดินเข้ามากันอย่างเป็นกองทัพ และเข้ามาช่วยกันรุมกินโต๊ะหนุ่มหล่อทั้งสาม

พลจะถูกรุมอย่างตะกละตะกรามมากที่สุด พอรุมเลีย ดูด บีบกันจนสาแก่ใจ ขั้นต่อไปก็คือการอัดตูด สิงหลเป็นคนอัดตูดพล พงษ์พัฒน์อัดตูดจอม ส่วนรชตอัดตูดเอก ส่วนที่เหลือชักว่าวตามกันอย่างเร่าร้อนและต่างช่วยกันลูบนม เลียนมเพื่อให้เกิดอาการเสียวกันมากขึ้น

ใครที่แตกก่อนก็ต่างแตกไปที่อก ท้อง และหน้าของทั้งสามหนุ่ม สิงหล พงษ์พัฒน์และรชตต่างเอาท่อนลำของเขาออกจากตูดหนุ่มทั้งสามและต่างชักกันเมามันส์ คนเกือบ 50 คนกำลังพร้อมใจกันชักว่าวเพื่อที่จะปล่อยน้ำกามลงไปที่อก หน้าท้องและบริเวณหน้าของหนุ่มทั้งสามด้วยความสะใจ

ดูเหมือนคู่ของรชตกับก้องจะแตกก่อนทำให้หน้าอกและหน้าท้องของเอกเต็มไปด้วยน้ำกามของเขา ทหารที่เหลือต่างค่อยๆ ช่วยกันทำน้ำแตกใส่หน้าหล่อของเอก เพื่อความสะใจ จอมก็กำลังโดนเหมือนกัน เพียงแต่พงษ์พัฒน์ ชัย และเดี่ยวต่างน้ำแตกใส่หน้าจอม ส่วนทหารที่เหลือช่วยกันแตกใส่อกและท้อง แต่คนที่โดนหนักสุดคือพล พวกมันต้องการความสะใจถึงขนาดแก้มัดพลออก และจับพลนั่ง และทหารเกือบยี่สิบคนแทบจะฟังคำสั่งของสิงหลโดยพร้อมเพียงกัน

“พวกมึงแตกใส่หน้ามันให้หมด”

พลยังสลึมสลือด้วยฤทธิ์ยา เขานั่งงงๆ ราวินเริ่มก่อนโดยจิกหัวพลมาใกล้ท่อนลำของเขาและปั่นจนน้ำแตกพุ่งใส่หน้าพล หรั่งเอาบ้าง ทหารอีก 20 คนเตรียมทยอยกันแตกและเอาหน้าหล่อๆ ของพลเป็นที่รองรับอารมณ์ของพวกเขา พวกเขาค่อยๆ แตกใส่หน้าพลที่ละคนสองคน จนหน้าพลเปียกชุ่มไปด้วยน้ำกามเหม็นคาวคลุ้ง แต่ทหารยังเรียงคิวกันแตกใส่หน้าเขา จนหน้าหล่อๆ ของพลเปียกชุ่มไปด้วยน้ำกาม แต่ก็ยังเหลือทหารอีก 10 กว่าคนที่ยังเข้าคิวทยอยกันแตกไปที่หน้าของเขา

สิงหลพยายามเลี้ยงไว้เพราะเขาอยากแตกใส่หน้าพลเป็นคนสุดท้าย ตอนนี้มีน้ำขาวขุ่นอยู่บนหน้าหล่อๆ ของพลเต็มไปหมด ทุกคนรู้สึกสะใจมากกับภาพที่เห็น ยังเหลือทหารอีก 5 คนที่กำลังปั่นกันอย่างเต็มที่

ตอนนี้ทหารอีก 5 นายกำลังทยอยปั่นน้ำให้แตกที่หน้าพลกันอย่างเมามันส์ หน้าของพลเปียกชุ่มไปด้วยน้ำว่าวจนพลเองก็รู้สึกว่ามันเหม็นคาวคลุ้งแต่เขาก็ยากที่จะต้านทานแรงทหารทั้งหมด เพราะเขารู้สึกเพลีย และยังเบลอๆ เพราะฤทธิ์ยาอยู่

พอทหาร 5 นายนั้นทำน้ำแตกใส่หน้าของพลเรียบร้อย สิงหลก็เข้ามาเป็นคนสุดท้าย เขากำลังปั่นจนเกือบจะได้ที่แล้ว พอถึงจุดเขาก็ปลดปล่อยมันออกโดยมีหน้าหล่อๆ ของพลเป็นที่รองรับ น้ำของสิงหลออกมาเยอะมากและนานมาก เขาจิกหัวพลและเอาท่อนลำจ่อให้ตรงกับหน้าของพล และพยายามแตกไปจนทั่วหน้าพล หน้าพลเหมือนถูกเคลือบไปด้วยน้ำกาม

หลังจากแตกเสร็จ สิงหลใช้ท่อนลำของเขา เสียดสีไปที่หน้าของพลด้วยความสะใจก่อนที่จะปล่อยพลไว้ตรงนั้น หลังจากเสร็จสิ้นพิธีกรรมอันน่าพิศวง ทั้งหมดจึงกลับออกไปจากบริเวณนั้น ทิ้งให้พล จอม และเอกนอนเปลือยจมน้ำว่าวกันอยู่ 3 คน

หลังจากเหตุการณ์ที่บ้านเจริญวงศาสงบลง แต่เหตุการณ์ในคุกยังคงดำเนินต่อไปอย่างโหดร้าย เทิดศักดิ์ในมาดของนักโทษที่ถูกพันธนาการที่ข้อมือทั้งสองข้างยังคงถูกอัดถั่วดำต่อมาจนถึงรายที่ 18 แล้ว เทิดศักดิ์รู้สึกว่าก้นของเขาแทบจะแหกและรู้สึกเจ็บๆ เหมือนกับมีแผลตรงบริเวณนั้น แต่เขายังถูกทัณฑ์ทรมานต่อไป

ใครที่อัดตูดเขาเสร็จแล้ว ก็มายืนออกระทืบหน้าอก ชกท้องไปตามเรื่อง เทิดศักดิ์รู้สึกว่าตัวเองถูกกระทำราวกับไม่ใช่มนุษย์ เขารู้สึกว่าถูกกระทำเหมือนกับสัตว์ตัวนึง เขาไม่มีสิทธิ์ใดๆ เลยที่จะอ้อนวอน ขอความเมตตา พวกป่าเถื่อนพวกนี้ ก็ไม่ปราณีเขาเลยแม้แต่วินาทีเดียว เทิดศักดิ์รู้สึกสะบักสบอมมาก แต่ลึกๆ เขาก็สะใจมากๆ ที่ถูกกระทำเยี่ยงนี้

พอนักโทษทั้ง 20 คนรุมอัดถั่วดำเขาจนสาแก่ใจ เขาก็ถูกนำตัวไปขังเดี่ยวในสภาพเปลือย แต่มันไม่ใช่ห้องขังเดี่ยวธรรมดา แต่เป็นห้องขังเดี่ยวที่มีเครื่องพันธนาการพร้อม เขาถูกจับนอนหงายและถูกมัดแบบขึงพืด มันแน่นซะจนเขาไม่สามารถจะขยับแขนและขาได้ สิ่งเดียวที่ขยับได้ตอนนี้คือควย ใช่แล้ว ตั้งแต่ที่ถูกไอ้โหด 20 คนรุมโทรม เขาก็ยังไม่มีโอกาสได้ปลดปล่อยอารมณ์เบื้องลึกจากควยของเขาเลย ขณะที่กำลังถูกจับนอนขึงพืดอยู่นั้น เขาได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาข้างใน

พอคนๆ นั้นเดินมายืนคร่อมที่ตัวเขา เขาถึงพอจะมองออกว่าหมอนี่ต้องเป็นผู้คุมที่ใหญ่ที่สุดในที่นั้น เพราะดูจากเครื่องแต่งกายที่เต็มยศและดูดีกว่าคนอื่น อีกอย่างนึงผู้คุมคนนี้ดูหนุ่มมากและหล่อมากด้วย เขาใส่แว่นตาดำอำพรางสายตาของตนเอง เขาเงียบไม่ได้พูดอะไร ได้แต่ยืนคร่อมตัวเทิดศักดิ์ และก็มองหน้าเขา

เทิดศักดิ์เองก็ไม่ได้เกรงกลัวแต่อย่างใด เขายังคงจ้องมองผู้คุมคนนั้นอย่างไม่กระพริบตา สักพักนึงผู้คุมทำในสิ่งที่เขาไม่ได้คาดคิดมาก่อน ผู้คุมรูดซิบกางเกงของตนเอง และปลดปล่อยเจ้าโลกของเขาออกมา มันมีขนาดใหญ่โตมาก ทำให้เทิดศักดิ์รู้สึกตื่นเต้นและหิวกระหาย

เมื่อท่อนลำของผู้คุมถูกปลดปล่อยได้ไม่นาน ผู้คุมก็เยี่ยวใส่หน้าของเทิดศักดิ์ ปริมาณเยี่ยวของเขาเยอะมากเหมือนกินน้ำมาขนานใหญ่และอั้นมานานเพื่อเทิดศักดิ์ น้ำเยี่ยวออกมาแรงมากและโดนหน้าเทิดศักดิ์เข้าอย่างจัง เมื่อผู้คุมเยี่ยวได้สักพัก ความแรงของเยี่ยวก็ลดลงจนมาโดนหน้าอกเทิดศักดิ์ และลงมาถึงบริเวณหน้าท้องก่อนจะหยุด เทิดศักดิ์ชอบมากๆ กับการถูกกระทำเยี่ยงนี้ ด้วยความตื่นเต้นของเทิดศักดิ์ทำให้ควยของเขาขยายขนาดจนใหญ่โตมาก เมื่อผู้คุมหนุ่มหล่อเห็นดังนั้น เขาจึงถอยหลังไปก้าวนึงแล้วเอาคอมแบตเหยียบไปที่ควยของเทิดศักดิ์ กดลงไปแล้วก็รูดขึ้นรูดลง มันเป็นการชักว่าวด้วยคอมแบตที่เทิดศักดิ์ไม่เคยเจอมาก่อน เทิดศักดิ์รู้สึกเสียวแบบแปลกๆ แต่ก็ชอบมากๆ

ผู้คุมเร่งจังหวะเร็วขึ้นจนเทิดศักดิ์ทนไม่ไหว น้ำของเขาจึงแตกเต็มพื้นคอมแบต ผู้คุมหนุ่มเดินมาตรงหน้าเทิดศักดิ์ ยื่นรองเท้าให้เขาทำความสะอาดให้ เทิดศักดิ์จึงเอาลิ้นค่อยๆ เลียน้ำกามของตนเองช้าๆ แต่นั่นก็ไม่ทันใจผู้คุม ผู้คุมจึงเอาคอมแบตที่เปื้อนน้ำกามละเลงไปที่หน้าของเทิดศักดิ์และก็ละเลงไปที่หน้าอกของเขาด้วย เทิดศักดิ์สะใจมากๆ หลังจากนั้นผู้คุมหนุ่มหล่อจึงเดินออกจากห้องขังเดี่ยวไปและทิ้งเทิดศักดิ์ไว้ในสภาพนั้น

ในคืนเดียวกันนี้ ณ กรมทหารบริเวณชายแดนอันไกลโพ้น กริชถูกรุ่นพี่ทหารบังคับให้ทรมานเชลยเวียดนามที่จับมาได้ รุ่นพี่ทหารเตรียมเชลยไว้ให้กริช โดยเชลยอยู่ในสภาพนุ่งกางเกงในตัวเดียวถูกจับมัดข้อมือ และถูกจับมัดโยงจนเท้าลอยจากพื้น

เมื่อกริชเข้าไปในห้องทรมานเชลยที่มีเครื่องทรมานอยู่เต็มไปหมด ตอนนั้นเชลยหนุ่มยังรู้สึกตัว เขามองมาที่กริชด้วยดวงตาที่แข็งกร้าว กริชชอบสภาพเชลยตอนนี้มาก เพราะเขาดูแมนมากๆ หน้าตาเชลยคนนี้คมเข้ม แผงอกเต็มไปด้วยมัดกล้าม ที่ต้นขามีกล้ามที่แข็งเกร็ง ขนรักแร้ดกดำ กล้ามท้องขึ้นเป็นลอน แค่มองปราดเดียว กริชก็เริ่มรู้สึกว่าเขาหลงรักเชลยคนนี้เข้าให้แล้ว

ขณะกริชมองหน้าเขา เขาก็ตะโกนมาว่า “มึงจะทำอะไรก็รีบทำ กูไม่กลัวหรอก”

กริชตกใจมากที่เชลยคนนี้พูดไทยได้ เขาเดินไปหยิบแส้ที่ทำด้วยหนังชนิดพิเศษที่รับรองได้ว่าเมื่อโดนไปที่เนื้อแล้ว ต้องมีเลือดไหลเป็นทางอย่างแน่นอน กริชตั้งใจเริ่มจากแส้ เขาตวัดแส้อย่างแรงไปที่บริเวณหน้าอกและหน้าท้องของเชลยหนุ่ม

เขาไม่ร้องสักแอะ แต่หน้าอกและหน้าท้องมีเลือดซิบๆ ไหลออกมา กริชเดินวนไปด้านหลัง แล้วเอาแส้ฟาดไปกลางหลัง หลายที เลือดกระเซ็นอย่างสะใจมากๆ เชลยหนุ่มมีสีหน้าเจ็บปวดแต่ไม่มีเสียงร้องจากปากของเขา

เมื่อฟาดด้วยแส้จนชุ่มเลือดแล้ว กริชเปลี่ยนมาใช้ที่ช๊อตไฟฟ้า แล้วเขาก็เอาที่ช๊อต ช๊อตเข้าไปที่ลอนท้อง ตอนนี้เชลยเริ่มส่งเสียงร้องออกมา เสียงร้องแบบแมนๆ ของเชลยเร้าอามรมณ์กริชมากจนควยแข็งขึ้นมา กริชเปลี่ยนมาใช้เครื่องช๊อตไฟฟ้าขนาดใหญ่ขึ้น เครื่องนี้มีสายให้หนีบไปที่ร่างกายของเชลยถึง 5 จุด

สองจุดแรกที่จะเอาไปหนีบแน่ๆ คือบริเวณหัวนม สองจุดต่อมาคือตรงกล้ามขา อีกหนึ่งจุดนั้น กริชเพิ่งสังเกตว่าท่อนลำของเชลยในกางเกงในแข็งมากๆ เขายิ้มและคาดว่าเชลยนายนี้ต้องชอบแบบเจ็บๆ แน่นอน อีกหนึ่งจุดที่กริชเอาไปหนีบก็คือที่ท่อนลำของเชลย กริชเดินไปที่เครื่อง กำลังจะเดินกระแสไฟฟ้า ก่อนกดสวิทต์เขาหันหน้ามามองเชลยหนุ่ม

เขาเห็นแววตาของเชลยหนุ่มมองมาอย่างตื่นเต้น กริชตัดสินใจกดสวิทต์ นั่นทำให้กระแสไฟฟ้าเดินเข้าไปช๊อตทั้ง 5 จุดบนร่างของเชลย เชลยหนุ่มมีสีหน้าแสดงความเจ็บปวดเป็นอย่างมาก กริชตัดสินใจเพิ่มกระแสไฟฟ้าให้มากขึ้นไปอีกเพราะเขาอยากได้ยินเสียงร้องแบบแมนๆ และก็เป็นไปตามคาด เชลยหนุ่มร้องเสียงหลง กริชเพิ่มกระแสไฟให้แรงขึ้นไปอีกจนกล้ามเนื้อตรงขา หน้าอกและที่ท่อนลำกระตุกอย่างแรงจนทำให้เชลยหนุ่มสลบไป กริชไปหยิบถังน้ำมาสาดเขาเพื่อปลุกให้ตื่น

“คืนนี้มึงหลับฝันดีนะ พรุ่งนี้เช้ากูจะมาหามึงอีก”

พอถึงรุ่งเช้า 3 หนุ่มในบ้านเจริญวงศายังหลับกันอยู่ กรมทหารชายแดนก็ยังเงียบอยู่ ที่บ้านนายพลเฉิน สิงหลสั่งราวินและหรั่งให้ตามหาเสก เพราะเขาสืบรู้มาว่ากรรมกรหนุ่มคนนี้มีความหลังกับจอม เขาจึงลุกขึ้นมาสั่งการแต่เช้า

ส่วนที่คุกนรกนั้น มีผู้คุมกระจอก 2 นายนำเทิดศักดิ์ไปอาบน้ำ และนำไปกินอาหารเช้า ก่อนจะนำกลับมาที่ห้องทรมานในคุก ตอนนั้นเทิดศักดิ์อยู่ในชุดกางเกงขาสั้นลายพราง ไม่สวมเสื้อ เขาถูกนำมาจับมัดในรูปแบบตัว x อีกครั้ง

ไม่นานผู้คุมหนุ่มหล่อก็เดินเข้ามา มีผู้คุมกระจอกเข็นรถที่ข้างบนมีถาดที่มีผ้าดำปิดไว้ ผู้คุมหนุ่มหล่อมองมาที่เทิดศักดิ์ เขายิ้มให้พร้อมกับถอดแว่นตาดำออก ทำให้เทิดศักดิ์พบว่ายิ่งถอดแว่นเขาก็ยิ่งหล่อ เขามีแววตาที่คมและหล่อมา เมื่อถอดแว่นดูเขาเด็กลงไปอีก เทิดศักดิ์ยังงงว่าเขาจะยิ้มทำไม

ผู้คุมหนุ่มยังยิ้มต่อไปเรื่อยๆ เขาเอาผ้าดำที่คลุมถาดออก เทิดศักดิ์จึงเห็นว่า ในถาดทีแม็กซ์หรือลวดเย็บกระดาษอยู่ 2 แบบคือแบบที่ใช้เย็บกระดาษกับแบบที่เป็นตัวยิงสำหรับใช้ติดบอร์ด เมื่อมองหน้าของผู้คุมแล้ว ทำให้เทิดศักดิ์รู้สึกว่า เขาหลงรักผู้คุมหนุ่มรายนี้เข้าให้แล้ว เห็นหน้ากันมาพักใหญ่ๆ แต่ยังไม่เคยได้ยินเสียงเลย เขายังไม่เคยพูดอะไรกับเทิดศักดิ์เลย เช้านี้เขาก็ยังมาในมาในมาดที่นิ่งเงียบเหมือนเดิม มีแต่รอยยิ้มโหดๆ เท่านั้นที่มอบให้กับเทิดศักดิ์

หลังจากนั้นสิ่งที่ผู้คุมคนนี้มอบให้ก็คือการที่เขาหยิบเอาที่ยิงแม็กขึ้นมาก่อน เขาทาบมันไปบนหน้าท้องแกร่งของเทิดศักด์แล้วเริ่มยิงตัวแม็กเข้าไปในเนื้อหน้าท้องของเทิดศักดิ์ เพียงตัวแรกก็ต้องทำให้เทิดศักดิ์สะดุ้งถึงความเจ็บ แต่นั่นมันเป็นเพียงแค่ตัวแรกเท่านั้น ผู้คุมหนุ่มหล่อยังคงเอาที่ยิงแม็กยิงไปตรงหน้าท้องของเทิดศักดิ์เรื่อยๆ ดูเขาสะใจมากที่ได้ทำอะไรพรรณนี้ เทิด ศักดิ์เองก็สะใจไม่แพ้กัน ที่เขาโดนทำถึงเพียงนี้ พอผู้คุมหนุ่มยิงแม็กไปที่หน้าท้องพอสมควรแล้ว ต่อมาเขาเลื่อนที่ยิงแม็กมาทาบที่หน้าอกบ้าง

หลังจากนั้นจึงกดเข้าไปที่เนื้อตรงบริเวณหน้าอกของเทิดศักดิ์ เทิดศักดิ์ซี๊ดปากด้วยความเจ็บ ใช่แล้ว ตอนนี้เขาเจ็บมาก แต่มันก็เป็นความเจ็บที่เขาอยากลิ้มลอง เพราะโอกาสแบบนี้หาได้น้อยมาก ผู้คุมหนุ่มยังคงยิงแม็กไปที่อกเขาแบบช้าๆ ไม่เร่งรีบอะไร แต่ก็ทำเป็นจังหวะด้วยความสะใจ เทิดศักดิ์รู้สึกเจ็บมากขึ้น บางรอยที่ตัวยิงแม็กทิ่มเข้าไปในเนื้อมีเลือดออกเป็นทางยาว เมื่อมองเห็นเลือดแล้วยิ่งทำให้เขาตื่นเต้นมากขึ้นไปอีก ตอนนี้ท่อนลำของเทิดศักดิ์เริ่มแข็งได้ที่แล้ว ผู้คุมหนุ่มกำลังสนุกกับการเอาที่ยิงแม็กยิงไปตามหน้าอกของเทิดศักดิ์ พอสาแก่ใจเขาถึงวางที่ยิงแม็ก และก็ไปหยิบแม็กธรรมดามา หลังจากนั้นเขาก็เอาแม็กไปจ่อตรงหัวนมซ้าย

เขามองหน้าของเทิดศักดิ์แล้วยิ้ม เทิดศักดิ์รู้สึกเสียววาบ เมื่อยิ้มให้เทิดศักดิ์แล้ว เขาก็กดแม็กที่จ่อตรงหัวนมซ้ายของเทิดศักดิ์อย่างแรง และดูเหมือนเขาต้องใช้กำลังมือที่มากเหมือนกัน จึงกดแม็กไปที่หัวนมซ้ายของเทิดศักดิ์จนแม็กเข้าไปติดที่หัวนม ตัวแม็กหนีบจนทำให้หัวนมบี้แบน เทิดศักดิ์ร้องและสะดุ้งด้วยความเจ็บปวด แต่เขาก็ทำอะไรมากไม่ได้ เพราะถูกมัดอยู่ ผู้คุมหนุ่มหล่อจัดการเอาแม็กไปจ่อที่หัวนมขวาบ้าง แล้วเขาก็กดเต็มแรงจนแม็กติดคาที่หัวนมขวาของเทิดศักดิ์

ผู้คุมหนุ่มสังเกตเห็น ท่อนลำของเทิดศักดิ์แข็งคับกางเกง เขาจึงค่อยๆ รูดซิบกางเกงขาสั้นลายพรางลง แล้วก็ล้วงมือเข้าไปข้างใน พร้อมกับดึงท่อนลำของเทิดศักดิ์ออกมาข้างนอก ตอนนั้นมันแข็งได้ที่และมีขนาดใหญ่มาก เทิดศักดิ์หายใจถี่เพราะความกลัว ด้วยเหตุที่ไม่รู้ว่าผู้คุมหนุ่มจะทำอะไรกับท่อนลำของเขาหรือไม่ ผู้คุมหนุ่มใช้มือบีบไปที่ท่อนลำ ชักเข้าออกสักพักพอทำให้เสียว เขาหยิบเอาที่ยิงแม็กมาอีก แล้วเอามือซ้ายบีบท่อนลำที่แข็งได้ที่ เขาใช้มือซ้ายรองท่อนลำของเทิดศักดิ์ไว้

ส่วนมือขวาก็ยกที่ยิงแม็กให้เทิดศักดิ์ดู ผู้คุมหนุ่มยิ้มอย่างใจเย็น มันทำให้เขาดูหล่อมาก

เทิดศักดิ์เองเริ่มมีสีหน้ากระวนกระวาย เขาพูดออกมาแค่คำเดียว เสียดูแหบๆ ว่า “ได้โปรด”

แต่ผู้คุมหนุ่มดูท่าว่าจะไม่สนใจ มือซ้ายของเขายังรองท่อนลำของเทิดศักดิ์อยู่ ส่วนมือขวาก็เอาที่ยิงแม็กไปจ่อตรงท่อนลำที่กำลังแข็งเกร็ง เขาออกแรงกดอย่างเต็มแรง จนแม็กฝังเข้าไปที่เนื้อของเจ้าโลก แต่นั่นมันเพิ่งแค่ทีเดียว ผู้คุมหนุ่มเริ่มออกแรงใหม่อีกครั้ง เขากดที่ยิงแม็กลงไปที่ท่อนลำของเทิดศักดิ์เป็นครั้งที่สอง เสียงดังสะใจมาก หลังจากนั้นผู้คุมหนุ่มก็ทำการกดที่ยิงแม็กไปยังท่อนลำของเทิดศักดิ์อย่างบ้าคลั่ง เทิดศักดิ์ดิ้นพล่าน แต่ผู้คุมหนุ่มยังไม่หยุด เขายังคงยิงแม็กไปที่ท่อนลำของเทิดศักดิ์ต่อไป จนเขาเริ่มหยุด และผ่อนคลายตัวเองลง

ถึงแม้ท่อนลำเทิดศักดิ์จะพรุนไปด้วยแม็ก แต่มันก็ยังแข็งอยู่ ผู้คุมหนุ่ม อ้อมไปด้านหลัง แล้วใช้มือขวาอ้อมมาจับที่ท่อนลำของเทิดศักดิ์ และพยายามออกแรงชักให้ ขณะนั้นเองที่ทำให้เทิดศักดิ์เจ็บจนคลั่ง เขาร้องตะโกนออกมาด้วยความเจ็บปวดถึงขีดสุด แต่ผู้คุมหนุ่มดูเหมือนจะไม่สนใจเสียงนั้น เขายังคงชักว่าวให้เทิดศักดิ์ต่อไป ตรงท่อนลำเริ่มมีเลือดออก แต่ผุ้คุมหนุ่มยังชักอย่างเมามันส์ และดูเหมือนเขาจะชอบเสียงร้องแมนๆ ของเทิดศักดิ์

เทิดศักดิ์รู้สึกทรมานมาก เจ็บปวดอย่างบอกไม่ถูก เขาร้องครวญครางแทบจะขาดใจ แต่ผู้คุมหนุ่มก็ไม่ได้สนใจเขาเลย ผุ้คุมหนุ่มยังคงสาวต่อไปอย่างบ้าคลั่ง เขาปั่นจนสุดชีวิตด้วยข้อมืออันแข็งแกร่ง ปั่นจนถึงขั้นที่น้ำพุ่งออกมา เทิดศักดิ์ร้องครวญครางด้วยความเจ็บอย่างถึงที่สุดผสมกับความเสียวแบบสุดขีดคลั่ง มันเป็นการถึงจุดสุดยอดอย่างทรมานมากที่สุดเท่าที่เขาเคยได้รับมาก คงยากที่เขาจะลืมวันนี้ไปได้

เช้าวันเดียวกัน พล จอม และเอกตื่นขึ้นมาอย่างสะลึมสะลือ ทุกคนงงมากที่ตัวเองนอนแผ่เปลือยกายหรากันอยู่แบบนี้ คงเป็นเพราะฤทธิ์ยาที่ทำให้ทั้งสามจำไม่ได้ว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นบ้าง ทั้งสามแยกย้ายกันไปอาบน้ำ แล้วก็มานั่งทานข้าวแบบงงๆ เอกเองเป็นคนเดียวที่พอจะนึกออก แต่ก็นำมาบอกเล่าได้ไม่มาก แต่จอมกลับคิดไปว่า

“สงสัยเราจะเสียท่าเจ้าพงษ์พัฒน์ซะแล้ว เจ้านี่มันร้ายกาจมาก ร้ายกว่าที่เราคิดเยอะเลย”

พลกับเอกเห็นด้วยกับจอม แต่ทั้งสามยังนึกถึงแผนการที่จะแก้ไขไม่ได้

วันนี้จอมกับเอกเลยอยากจะหยุดอยู่บ้านเพื่อที่จะปรึกษาหารือกัน ส่วนพลเขากะจะโดดเรียนช่วงเช้า ส่วนตอนบ่ายเขาว่าจะไปเรียน ร.ด.สักหน่อย เมื่อต่างตัดสินใจกันแล้ว ทั้งหมดก็แยกย้ายกันไปเตรียมตัวในสิ่งที่ตัวเองอยากทำ

สายหน่อย พงษ์พัฒน์เดินทางไปพบสิงหลที่บ้าน นายพลเฉินบอกว่าสิงหลอยู่ในห้องลับใต้ดิน และสิงหลอนุญาตให้พงษ์พัฒน์ลงไปข้างล่างได้ พงษ์พัฒน์จึงลงไปโดยไม่ลังเล และภาพที่เขาเห็นตรงหน้าก็ทำให้เขาตกใจมาก เพราะทางซ้ายมือเขาเห็นหรั่งกับราวิน ลูกน้องคนสนิทของสิงหล อยู่ในชุดใส่กางเกงในเพียงตัวเดียว ทั้งสองถูกมัดข้อมือด้วยเชือกแล้วถูกจับผูกโยงจนเท้าลอยเหนือพื้น สภาพร่างกายของทั้งคู่เหมือนเพิ่งโดนแส้กระหน่ำมาแบบสาหัสสากันย์ แต่ก็เป็นที่เข้าใจได้ว่า

คนที่เป็นมือขวาและมือซ้ายของสิงหลจะต้องตอบสนองอารมณ์ทุกอย่างของสิงหลได้ ไม่เว้นแต่การตกเป็นเหยื่อของการถูกทรมาน ส่วนด้านขวามือมีชายหนุ่มหล่อล่ำคนหนึ่งถูกจับเปลือยกาย ถูกมัดโยงแบบห้อยหัวจากด้านบ่น พงษ์พัฒน์ไม่รู้ว่านายคนนี้เป็นใคร เขาจึงถามสิงหล สิงหลตอบกลับมาว่า

“นี่คือเจ้าเสก มันเป็นกรรมกรและยังเคยเป็นคู่ขาของจอมอีกด้วย ฉันเพิ่งได้ตัวมันมาเมื่อเช้า โดยการช่วยสืบของราวินกับหรั่ง ฉันเลยเพิ่งให้รางวัลพวกมันเมื่อตะกี้นี้เอง”

พงษ์พัฒน์มองไปที่สองคนนั่นอีกครั้ง และคิดในใจว่า นี่เหรอรางวัลที่สองคนนั่นได้รับ หลังจากนั้นเขาถามสิงหลในสิ่งที่เขาสงสัย

“ทำไมเมื่อวานนายไม่ให้พรรคพวกนายจับเจ้าพลไปเลยล่ะ”

สิงหลหันไปตอบ “มันยังไม่ถึงเวลานี่ ใจเย็นๆ น่า ตอนนี้สายสืบของฉันรายงานมาว่าพลกำลังเตรียมออกจากบ้านในชุด ร.ด. ถ้ามันจะไปเรียน ร.ด. จริงๆ ตอนนี้แหละเหมาะที่สุดแล้ว นายกลับไปเตรียมตัวปั่นหัวจอมกับเอกเล่นที่บ้านเจริญวงศาในตอนบ่ายเถอะ ส่วนเจ้าพลฉันจะจัดการเอง”

พงษ์พัฒน์เห็นด้วยจึงรีบกลับไปที่บ้านเจริญวงศา

ตกบ่ายมีเหตุการณ์สามที่เกิดขึ้นพร้อมกัน เหตุการณ์แรกคือที่ค่ายทหารที่พลไปเรียน ร.ด. เมื่อครูฝึกประกาศให้พลไปรายงานตัวที่บ้านพักนายพลเฉินซึ่งอยู่ไม่ไกลมากจากบริเวณนั้น ขณะพลกำลังเดินไป ครูฝึกก้องก็รู้ข่าวนี้จากเพื่อนพอดี เขาจึงวิ่งตามไป พลเดินมาที่หน้าบ้านของนายพลเฉิน มีนายพลเฉินกับสมุนยืนรอต้อนรับอยู่ พลงงนิดๆ กับสิ่งที่เกิดขึ้น

“ครูฝึกให้ผมมารายงานตัวที่นี่ครับ แต่นี่มันอะไรกันเนี่ย”

พลยังพูดไม่ทันขาดคำก็มีทหารสองนายมาล็อคตัวพลไว้ พลงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นายพลเฉินเลยไขให้กระจ่าง

“เราอยากได้แกมาเป็นทหารรับใช้ที่นี่นานสองอาทิตย์ทางเราจะทำจดหมายไปแจ้งที่โรงเรียนกับที่บ้านของแกเอง”

ครูฝึกก้องรู้ทันจึงวิ่งมาจนทันแต่นายพลเฉินให้ทหารรุมจับครูฝึกก้องไว้

“โทษฐานที่มึงมายุ่ง พวกเราจับมันไปขังคุกใต้ดินของเราไว้ก่อน แล้วไปบอกทหารเกณฑ์ล่ำๆ เถื่อนๆ ที่เคยถูกไอ้ครูฝึกก้องลงโทษแบบป่าเถื่อนว่า คืนนี้ถ้าใครอยากแก้แค้นก็เชิญมาที่คุกใต้ดินได้เลย”

ณ บ้านเจริญวงศา ขณะที่จอมยังเก็บตัวอยู่ในห้อง เอกเดินออกมายังอีกส่วนหนึ่งของบ้านซึ่งเป็นโซนที่พงษ์พัฒน์ครอบครองอยู่ เอกแอบเห็นพงษ์พัฒน์กำลังยืนอยู่กับชัย แต่ชัยอยู่ในสภาพเปลือยเปล่า พงษ์พัฒน์พูดกับชัยว่า “มึงรู้แล้วใช่มั้ยว่ามึงมาอยู่ที่นี่ในฐานะทาสของกู”

ชัยตอบ “ทราบครับนายท่าน”

พงษ์พัฒน์พูดต่อ “งั้นมึงต้องรู้ด้วยว่ามึงไม่มีสิทธิ์ที่จะทำอะไรตามใจชอบอีกแล้ว และตลอดที่มึงอยู่ที่นี่มึงไม่มีสิทธิ์ที่จะใส่เสื้อผ้า กูจะเลี้ยงมึงเหมือนกับหมาตัวหนึ่งเท่านั้น”

พูดจบพงษ์พัฒน์ก็เอาปลอกคอไปสวมไว้ที่คอของชัย ขณะที่สวมปลอกคอควยของชัยดันโด่ขึ้นมา คงจะเป็นเพราะความตื่นเต้นของเขา พงษ์พัฒน์จึงพูดขึ้นว่า

“ไอ้ห่านี่ อยู่ดีๆ ควยโด่นะมึง ดีล่ะงั้นต้องจัดการกันหน่อยแล้ว” พงษ์พัฒน์ออกคำสั่งต่อ “คุกเข่าลงไป”

ชัยทำตามคำสั่งของเขา พอชัยคุกเข่าลงไป พงษ์พัฒน์ก็ใช้ตีนเตะแรงๆ ไปที่น้องชายของชัย ขณะที่กำลังเตะอยู่นั้นพงษ์พัฒน์เผอิญเห็นเอกยืนลับๆ ล่อๆ อยู่เขาจึงตะโกนเรียกเอก เอกเดินออกมาด้วยสีหน้าที่ตื่นเต้นเมื่อเห็นชัยมีสภาพเหมือนกับหมาตัวหนึ่ง พงษ์พัฒน์พูดกับเอกว่า

“นายอยากเป็นผู้กระทำไหมล่ะ ถ้าอยากนายก็จัดการกับหมาตัวนี้สิ”

พงษ์พัฒน์ส่งเชือกจูงให้เอก เอกก็รับไว้แต่โดยดี พงษ์พัฒน์ปล่อยให้เอกอยู่กับชัยไปก่อน ส่วนเขาจะขึ้นไปดูซิว่าจอมหายหัวไปไหน

ตกบ่ายกริชจึงเข้ามาดูเชลยของเขาอีกครั้ง ก่อนจะเข้ามากริชสั่งให้เพื่อนทหารมัดเชลยที่ข้อมือสองข้างแล้วเอาเชือกไปโยงกับเสาคนละมุม ส่วนวันนี้เชลยอยู่ในสภาพเปลือย ขาถูกมัดแบบจับยกขึ้นให้ขนานกับพื้น แต่มัดให้กางออกประมาณ 45 องศา เชลยจึงอยู่ในท่าที่ทรมานมากๆ แต่น่าแปลกที่วันนี้เชลยควยแข็งขึ้นมาอย่างกะทันหัน

มันตะโกนถามกริช “มึงจะทำอะไรกูอีก ไอ้สัตว์”

กริชให้เพื่อนทหารเตรียมเทียนไขมาเกือบ 30 เล่มและทุกเล่มจุดพร้อมแล้ว

เขาพูดกับเชลยเวียดนามหล่อล่ำ “พูดมากนักเหรอไอ้สัตว์”

พร้อมกับค่อยๆ เอาเทียนที่จุดแล้วยัดไปในปากของเชลย จากสองสามเล่มเป็นสิบๆ เล่ม ตอนนี้เชลยคนดีก็ร้องไม่ออกแล้ว กริชค่อยๆ ใช้กำปั้นของเขาทะลวงไปในรูก้นของเชลยหนุ่ม ขณะที่กำลังทะลวง เชลยดุเหมือนจะแหกปากร้อง แต่แทบไม่ได้ยินเสียงเพราะเทียนเต็มปากมันไปหมด ขณะที่กริชกำลังทะลวงก้นอยู่นั้น เขาสั่งให้ทหารอีกคนเอายางมารัดไข่ของเชลยจนบวมเป่ง และก็เอายางมารัดควยที่แข็ง จนควยมีรูปร่างที่บิดเบี้ยว กริชพูดกับเชลย

“สงสัยมึงยังไม่เคยเจอดุ้นปืนของกู”

กริชปลดปล่อยดุ้นปืนของตัวเองออกมา ก่อนที่จะค่อยๆ ยัดไปที่รูก้นของเชลย เชลยร้องเสียงหลงแต่เสียงก็ดังไม่มากเพราะเทียนเต็มปากมันอยู่ กริชเอาท่อนลำของตัวเองตะลุยแหกรูก้นของเชลยหนุ่มจนเข้าไปเกือบมิด แค่นั้นก็ทำให้เชลยหนุ่มทรมานมากๆ แล้ว เพราะดุ้นของกริชมีขนาดใหญ่มาก พอเริ่มจะเข้าที่ กริชจึงค่อยๆ ชักเข้าชักออกตามแบบที่เขาจะพอทำได้และพอได้จังหวะจริงๆ เขาก็เร่งขึ้น เขาสังเกตว่ารูของเชลยคนนี้ฟิตมากๆ เหมือนกับว่าไม่เคยมีใครกระแทกรูของมันมาก่อน

กริชคิดในใจว่า “ถ้ากูเป็นคนแรกของมึงก็ดีน่ะสิ มึงจะจำกูไว้จนตลอดชีวิต”

การกระแทกกระทั้นของเขาเริ่มหนักหน่วงมากขึ้นจนเชลยหนุ่มรับรู้ได้ถึงความเจ็บ มันเจ็บในแบบที่เชลยอย่างเขาไม่เคยเจอมาก่อน ตอนนี้เชลยหนุ่มปากก็แหก ตูดก็แหก เขาได้รับความทรมานเป็นอย่างมาก แต่พอเหตุการณ์นี้ผ่านไปสักพักความรู้สึกของทั้งคู่กลับเปลี่ยนไป ทั้งคู่กลับรู้สึกมันส์ รู้สึกเสียวขึ้นมาแทน มันเป็นความรู้สึกที่ทั้งคู่ไม่ได้คาดคิดว่าพวกเขาจะได้รับ ความมันส์อย่างหาที่สุดไม่ได้บังเกิดขึ้น ขึ้นมาแทนที่ความทรมานจนทั้งคู่รู้สึกหฤหรรษ์ และพอถึงจุด กริชก็ชักออกและพ้นน้ำระยะไกล เปื้อนไปที่หน้าท้องและหน้าอกของเชลยหนุ่ม ก่อนที่ทั้งคู่จะแยกจากกัน ทั้งคู่ต่างจ้องมองกันด้วยความรู้สึกที่เปลี่ยนไป

ขณะที่จอมกำลังนอนพักอยู่ ตอนนั้นเขานุ่งกางเกงขาสั้นตัวเดียวไม่ได้สวมเสื้อ เขาได้ยินเสียเคาะประตูที่หน้าห้อง จอมนึกว่าถ้าไม่ใช่พลก็น่าจะเป็นเอก แต่พอเขาไปเปิดดูกลับไม่ใช่ แต่กลับเป็นพงษ์พัฒน์ จอมตะโกนออกไป

“มึงจะขึ้นมาที่นี่ทำไม”

พงษ์พัฒน์ยิ้มและพยายามเบียดตัวเข้าไปในห้อง

“เดี๋ยวนี้ขึ้นมึงขึ้นกูกันเลยเหรอ มันจะไม่มากไปเหรอ อย่าลืมสิว่าเราเป็นพี่เป็นน้องกันนะ”

“ใครไปนับญาติกับมึง” จอมตะโกนใส่หน้าของพงษ์พัฒน์ พงษ์พัฒน์โอดครวญ

“โถ เราอุตส่าห์หวังดี จะเอาเรื่องของไอ้เสก กรรมกรเถื่อนมาบอก กลับกลายเป็นว่าทำดีไม่ได้ดี”

จอมตกใจมากกับสิ่งที่พงษ์พัฒน์พูดขึ้นมา

“มึงรู้เรื่องของกูกับเสกได้ยังไง”

พงษ์พัฒน์พูดออกไปว่า “อย่าเอาแค่รู้ได้ยังไงเลย แต่ตอนนี้รู้ด้วยว่าไอ้เสกอยู่ที่ไหน”

จอมตกใจมาก “มึงพูดจริงหรือพูดเล่นเนี่ย”

พงษ์พัฒน์ยิ้มยั่ว “คนเราอยู่บ้านเดียวกันควรจะเชื่อใจกันบ้าง ถ้าไม่งั้นนายอาจไม่มีวันที่จะได้เจอกับไอ้เสกอีกเลยจนชั่วชีวิต นายต้องเลือกแล้วล่ะจอมว่านายจะเชื่อฟังใคร”

จอมนิ่ง ดูเหมือนเขาจะไม่มีทางเลือก ถ้าเขาอยากเจอเสกจริงๆ เขาก็ต้องเสี่ยง จอมตัดสินใจพูดกับพงษ์พัฒน์ “แล้วนายต้องการอะไร”

พงษ์พัฒน์พูดสวนขึ้นทันที “ก็ต้องการสัมผัสพี่ชายคนนี้ให้มากไปกว่านี้ละสิ”

พงษ์พัฒน์พูดพร้อมกับเอามือลูบหน้าอกของจอมไปด้วย จอมไม่ได้ปัดป้องแต่ประการใด เวลาที่ไม่มีพลอยู่ บางครั้งจอมจะไม่เป็นตัวของตัวเอง ยิ่งตอนที่เขาต้องการพบกับเสกด้วยแล้ว เขามักจะสับสนกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น

จอมพูดกับพงษ์พัฒน์ไปว่า “นายต้องการเท่านั้นเหรอ”

เมื่อพงษ์พัฒน์เริ่มเป็นต่อ เขาจึงแสดงอารมณ์ที่ดุดันมากยิ่งขึ้น

“กูไม่ได้ต้องการแค่นั้นหรอก กูต้องการให้มึงเป็นทาสของกู ถ้ามึงยอม มึงจะได้เจอไอ้เสก กูสัญญา”

ขณะที่เอกอยู่กับชัย เขายังไม่กล้าสั่งอะไรชัย เขามองชัยในสภาพที่เปลือยเปล่า แต่พอเอกเผลอ เดี่ยวกับโคชรชตก็เข้ามาล็อคเอกทางด้านหลัง ชัยยืนขึ้นแล้วหัวเราะเสียงดังลั่น และตอนนี้แผนของพงษ์พัฒน์ก็สำเร็จไปกว่าครึ่งแล้ว เขาวางแผนแยกพล จอมและเอกออกจากันโดยมีพันธมิตรอย่างสิงหลมาช่วยกักตัวพล พลยังไม่รู้ว่าสิงหลมีแผนที่ร้ายกาจสุดๆ กับพลรออยู่ ที่แน่ๆ พลจะไม่มีโอกาสได้กลับมาที่นี่และไม่มีโอกาสที่จะได้กลับไปเรียนอีก

หลังจากพลต้องไปเป็นทหารรับใช้ที่บ้านนายพลเฉินแล้ว สิงหลวางแผนที่จะขายพลให้เป็นทาสไปจนตลอดชีวิตกับมหาเศรษฐีตะวันออกกลางที่อยากได้ทาสอย่างพลเอาไว้ใช้งานและทรมาน การที่พลอยู่ในบ้านของนายพลเฉินเป็นเวลาสองอาทิตย์ ถือว่าเป็นการเทรนเพื่อให้พลได้ไปเป็นทาสจนตลอดชีวิต และไม่มีโอกาสที่จะกลับมาได้ครองบ้านเจริญวงศาอีก

พงษ์พัฒน์เองยังประสบความสำเร็จในการหว่านล้อมเอารชตมาเป็นพวกของตนและวางแผนให้ชัย เดี่ยวและรชตเลี้ยงเอกไว้เป็นทาสหมาที่ตึกทางปีกขวาของบ้าน ส่วนจอมเองนั้น พงษ์พัฒน์จะเอาไว้ใช้เป็นทาสส่วนตัว เพราะตอนนี้พงษ์พัฒน์สนใจในตัวจอมมาก เรียกได้ว่ามากกว่าพลอีก เขาจึงยกพลให้เป็นสมบัติของสิงหล ส่วนอนาคตของจอมกับเอก พงษ์พัฒน์ยังไม่ได้คิด แต่ก็คงไม่ได้ดีไปกว่าพลสักเท่าไหร่

และเมื่อกำจัดทั้งสามคนไปแล้ว พงษ์พัฒน์ก็จะเป็นเจ้าของบ้านเจริญวงศาแต่เพียงผู้เดียวแล้วเขาจะพาเดี่ยว กริช และเทิดศักดิ์ เพื่อนรักของเขามาครอบครองที่นี่ร่วมกัน รวมทั้งทรัพย์สมบัติทั้งหมดด้วย ส่วนชัยก็ต้องคืนให้เดี่ยวไปในอนาคต และรชต หลังจากใช้เป็นเครื่องมือแล้ว พอหมดประโยชน์ก็ต้องกำจัดรชตทิ้งเช่นเดียวกัน เพียงแค่นี้พงษ์พัฒน์ก็จะได้ชื่อว่าเป็นคนที่ครอบครองทุกสิ่งของเจริญวงศาและต่อไปเขาก็จะมีอิทธิพลเทียบเท่ากับสิงหล และเมื่อวันนั้นมาถึง จึงเรียกได้ว่าเป็นชัยชนะของพงษ์พัฒน์อย่างแท้จริง

ณ บ้านของนายพลเฉิน ทหารสามนายจับพลที่ตอนนี้อยู่ในสภาพเปลือยและถูกคล้องไว้ด้วยโซ่ตรวนจนพลไม่อาจขัดขืนได้ ทหารสามนายบังคับให้พลนั่งคุกเข่าต่อหน้าสิงหลที่อยู่ในสูทหรู โดยตอนนี้ราวินกับหรั่งพ้นจากพันธนาการมายืนเคียงข้างสิงหลแล้ว

สิงหลทักขึ้นก่อน “เจอกันอีกแล้วนะพล แต่วันเนี้ย ถือว่าเรารู้จักกันอย่างเป็นทางการ”

พลถามขึ้น “แล้วทำไมมึงต้องทำกับกูแบบนี้”

สิงหลหัวเราะ “ก็เพราะมึงคือตัวเงินตัวทองของกูน่ะสิ กูจะขายมึงให้กับเศรษฐีคูเวตที่เขาอยากได้ทาสหนุ่มจากเอเชียเอาไว้ใช้งานและทรมานเล่น นับจากวันนี้มึงอย่าหวังที่จะได้เจอกับคำว่า “อิสระภาพ” อีกเลย เพราะมันจะไม่มีคำนี้สำหรับมึงอีกต่อไปแล้ว ต่อจากนี้ไปมึงจะไม่ได้รับอนุญาตให้ใส่เสื้อผ้าและมึงจะต้องโดนตีตรวนไปจนตลอดชีวิต มึงต้องทำงานหนัก และถ้าพลาดนิดนึง มึงจะต้องถูกลงโทษอย่างสาสม เวลากินอาหารมึงจะต้องกินอย่างหมา มึงน่าจะเข้าใจสถานภาพของมึงดีแล้วนะ”

พลตกใจมากกับคำพูดของสิงหล เขาไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะต้องมาอยู่ในสภาพเช่นนี้ และอาจเป็นแบบนี้ไปตลอดชีวิต

มันเป็นอะไรที่น่ากลัวมาก สิงหลเป็นชายหนุ่มรูปงามที่โหดมาก โหดกว่าทุกคนที่เขาเคยเจอในชาตินี้ พลรู้สึกว่าเขาต้องสูญเสียอิสระภาพอย่างแท้จริงซะแล้ว และเขาคงไม่ได้มีชีวิตแบบเดิมๆ อีกต่อไป

สิงหลสั่งทหารอย่างเกรี้ยวกราด “พวกมึงเอามันไปนอนได้แล้ว แล้วอย่าลืมว่าพวกมึงเป็นคนดูแลมัน พวกมึงอย่าปรานีมันแม้แต่น้อย จงคิดว่ามันเป็นทาสคนหนึ่งที่ไม่ใช่มนุษย์ เป็นทาสที่มีสถานะเยี่ยงสัตว์ พวกมึงต้องคิดแต่เพียงเท่านี้”

เมื่อสิงหลสั่งเสร็จ เขาจะลงไปในคุกใต้ดินต่อ สิงหล ราวิน และหรั่งเดินลงมาถึงคุกใต้ดิน ด้านหน้ามีทหารเกณฑ์ประมาณ 10 กว่าคนมายืนรอ พวกนี้เป็นพวกที่เคียดแค้นครูฝึกก้องกันทั้งนั้น สิงหลสั่งราวินและหรั่ง

“มึงสองคนแจกแส้ให้พวกมันคนละเส้น ขอเป็นแส้ที่โดนเนื้อและเลือดอาบด้วยนะ แส้แบบอื่นไม่เอา”

ราวินกับหรั่งทำตามอย่างไม่มีข้อแม้ พอแจกแส้เสร็จ สิงหลเดินนำเข้าไปในห้องทรมาน ครูฝึกก้องอยู่ในสภาพเปลือยเปล่า ถูกจับมัดโยงแบบห้อยหัวลงมา หมดทางดิ้นรน หมดทางต่อสู้ สิงหลส่งสัญญาณให้ทหารทั้งหมด ช่วยกันเอาแส้เฆี่ยนครูฝึกก้องจนกว่าพวกเขาจะพอใจ ทหารทุกคนที่มาเริ่มทำตามที่สิงหลให้สัญญาณ เสียงลงแส้ไปที่เนื้อของครูฝึกก้อง ถือเป็นเสียงดนตรีชั้นดีที่จะขับกล่อมให้สิงหลหลับอย่างเป็นสุขตลอดคืน

ตกกลางคืนพลอยู่ในสภาพเปลือย ถูกจับมัดให้นอนแบบขึงพืดอยู่ในโกดังเก่าๆ ที่เหม็นเน่า เขากระดุกกระดิกตัวแทบจะไม่ได้ คืนนี้เขาแทบจะนอนไม่หลับเลยในช่วงแรกๆ มันอาจจะเหมือนกับสิ่งที่เขาเคยจินตนาการไว้ว่าวันหนึ่งเขาเองอยากเป็นทาส อยากอยู่ในสภาพเปลือยเปล่าเหมือนกับสัตว์ตัวหนึ่ง อยู่อย่างสัตว์ กินอย่างสัตว์ และก็นอนอย่างสัตว์

แต่พอเขาต้องมาอยู่ในสภาพแบบนี้จริง และอนาคตก็คงต้องถูกขายให้เศรษฐีตะวันออกกลางที่อยากมีทาสเยี่ยงเขา ต่อไปเขาต้องกลายเป็นทาสไปจริงแล้วหรือนี่ ถึงแม้ลึกๆ พลจะเศร้าแต่การคิดว่าเขาต้องไปเป็นทาสจริงๆ ก็ทำให้ท่อนลำของเขาแข็งขึ้นมาได้ พลไม่นึกเลยว่าในที่สุดแล้ว เขาต้องใช้ชีวิตเยี่ยงสัตว์จริงๆ พลนอนคิดไปมาจนเผลอหลับไป

รุ่งเช้าสิงหลเป็นคนมาปลุกพลกับตีน เขาใช้ตีนค่อยๆ เหยียบท่อนลำที่แข็ง ยาว และใหญ่ เหยียบไปเรื่อยๆ จนพลรู้สึกตัว หลังจากนั้นมีทหารมาคุมพลไปกินอาหารมื้อแรกที่เขากลายเป็นทาสเยี่ยงสัตว์ไปแล้ว พลถูกใส่กุญแจมือ เขาต้องก้มลงกินข้าวในจานอาหารหมา อาหารก็แทบไม่มีรสชาติอะไรเลย แต่ก็ต้องทนกินไปกันตาย ถึงแม้จะอยู่แบบสัตว์ พลก็ไม่อยากตาย เขาอยากจะมีชีวิตอยู่เพื่ออะไรเหรอ เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกัน รู้แต่ว่าเขาต้องอยู่ต่อไป

หลังจากกินอาหารเสร็จ ทหารทั้งสามคุมพลให้ออกไปใช่แรงงาน พลต้องขนกระสอบข้าวจากรถไปยังที่เก็บ งานนี้ไม่มีใครช่วยเลยนอกจากพลคนเดียวและที่สำคัญ พลไม่ได้สวมใส่อะไรเลย และนี่เป็นครั้งแรกที่เขาต้องทำงานในสภาพที่เปลือยเปล่า ไม่มีอะไรให้ห่มกายเลย

แต่ทั้งทหารและคนแถวนั้นสวมเสื้อผ้ากันอย่างมิดชิดทำให้พลรู้สึกว่าตัวเองเป็นสัตว์จริง ไม่ได้เป็นแค่ทาส การคิดเยี่ยงนั้นทำให้ควยของพลแข็งเกือบจะตลอดเวลาที่ทำงานเป็นการแข็งเนื่องจากการคิดถึงสิ่งที่เขากำลังเป็น ถึงจะดูโหดร้าย แต่ก็มันส์ ลึกๆ แล้วก็มันส์มากๆ สำหรับเขา

ในเวลาที่เขาขนของ ทหารแต่ละคนมีแส้หนังอยู่ในมือ ถ้าเขาต้องการฟาดพลเมื่อไหร่ก็ทำได้ทันทีโดยไม่ต้องมีเงื่อนไข กฎเดียวที่ทุกคนรักษาไว้เป็นอย่างดีคือ พลเป็นสัตว์ แค่นั้นที่ทุกคนรู้ พอขนของเสร็จในช่งเช้า แถมเจ็บหลังพอประมาณเพราะ

มีการลงแส้กันแบบพอหอมปากหอมคอ หลังจากกินอาหารเสร็จแล้ว ในช่วงบ่ายงานของพลคือกระโถนท้องพระโรง

สิ่งที่พลต้องเจอคือการถูกนำตัวไปยังห้องใต้ดิน เขาถูกจับมัดให้หัวโผล่ขึ้นมาบนพื้นที่เป็นตะแกรงเหล็ก ตอนแรกพลก็งงไม่รู้ว่าทำไมพวกทหารถึงนำเขามามัดแบบนี้ ทำไมต้องให้หัวโผล่มาให้พ้นตะแกรงเหล็ก แต่มือของเขาถูกปล่อยให้เป็นอิสระ ข้างหลังเขามีทหารถือแส้อยู่คน

ไม่นานนักเขาถึงรู้ว่าข้างบนห้องนั้นคือสุขาสำหรับเยี่ยว ปากของพลคือที่รองรับเยี่ยว ถ้ามีคนเข้ามาและพลไม่อ้าปาก

ทหารที่ถือแส้จะหวดหลังของพล พลจึงต้องอ้าปากทุกครั้งที่มีคนเข้ามา พออ้าเสร็จเขาก็จะเยี่ยวใส่ปากพล เหตุการณ์มันจะเป็นแบบนี้ตลอดบ่าย การถูกกระทำเยี่ยงสัตว์แบบนี้ ทำให้พลเกิดอารมณ์จนท่อนลำดันแข็งขึ้นมาอีกครั้ง พลจึงชักว่าวไปด้วยขณะถูกกระทำเยี่ยงนั้น ขณะชักว่าว ทหารด้านหลังก็ฟาดหลังพลไปด้วยเพื่อความสะใจ ตอนนี้เขากลายเป็นกระโถนสำหรับทหารเหล่านี้ไปแล้ว แค่วันแรกพลก็โดนแบบนี้แล้ว และตลอดสองอาทิตย์ที่อยู่ที่นี่หรือตลอดชีวิตที่ต้องไปอยู่ที่ตะวันออกกลาง พลคิดไม่ออกเลยว่าเขาจะเป็นเยี่ยงไร

พลไม่รู้ด้วยซ้ำว่าครูฝึกก้องก็ถูกคุมขังอยู่ในคุกใต้ดิน แต่อีกไม่นานนัก สิงหลคงจัดการให้ทั้งคู่ได้เจอกันในแบบมันส์ๆ และโหดๆ สิ่งที่พลอดห่วงไม่ได้คือที่บ้านเจริญวงศาตอนนี้จอมกับเอกเป็นอย่างไรบ้าง พวกเขาจะรู้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้นกับพล แล้วไอ้พงษ์พัฒน์ล่ะ มันกำลังคิดอะไรอยู่ ทำไมฟ้าถึงเข้าข้างมัน พลอดสงสัยไม่ได้และบ้านเจริญวงศาล่ะ ต้องตกเป็นของพงษ์พัฒน์มันเหรอ ขณะกำลังคิดเรื่องพวกนี้อยู่ พอดีมีคนเข้ามาเยี่ยว พลจำต้องอ้าปากรองรับเยี่ยวนั้นโดยดุษฎี