บุพเพสันนิวาส

หมื่นสุนทรเทวารู้สึกคลางแคลงใจในตัวแม่หญิงการะเกดเป็นอย่างมาก ยิ่งเห็นท่าทางประดักประเดิดและภาษาพูดแปลกๆ ท่านหมื่นหนุ่มก็ยิ่งมั่นใจว่าการะเกดต้องถูกวิญญาณร้ายเข้าสิงเป็นแน่แท้ ถ้าปล่อยไว้นานอาจจะลุกขึ้นมาทำร้ายคนในครอบครัวของเขาเสียเมื่อใดก็ได้ หมื่นสุนทรเทวาจึงแอบจัดพิธีร่ายมนต์กฤษณะกาลีขึ้นมาอีกครั้งโดยสาปแช่งไปที่วิญญาณที่อยู่ในร่างของการะเกด แต่ดวงวิญญาณของเกศสุรางค์ที่อยู่ในร่างดังกล่าวมีความดีเป็นเกาะคุ้มกัน กอปรกับท่านหมื่นได้เผลอตั้งจิตมุ่งร้ายระหว่างที่ประกอบพิธีเนื่องจากมีความเกลียดชังในตัวการะเกดเป็นทุนเดิม มนต์กฤษณะกาลีจึงได้ย้อนเข้าตัวเองจนมีสติวิปลาสไป แต่อาการนั้นจะเกิดขึ้นเป็นบางเพลาเท่านั้นทำให้ในตอนแรกจึงยังไม่มีใครรู้เรื่องแม้แต่ตัวท่านหมื่นเอง

ไอ้จ้อยทนายหน้าหอคนสนิทของท่านหมื่นเป็นคนแรกที่สังเกตเห็นอาการวิปลาสนี้ เมื่อยามค่ำหลังวันที่ทำพิธีขณะที่ไอจ้อยกำลังนวดตัวเจ้านายด้วยน้ำมันมะพร้าวตามปกติ ท่านหมื่นที่กล้ามเนื้อมันวาวไปทั้งตัวก็สะดุ้งตัวขึ้นมาจากท่านอนดิ้นอาละวาดบนตั่งไม้สักจนผ้านุ่งหลุดลุ่ยไปหมด ไอ้จ้อยถึงกับผวาเมื่อเห็นลำลึงค์ขนาดเขื่องของเจ้านายโผล่พ้นออกมาหลังจากที่ท่านหมื่นถีบผ้านุ่งออกจนลงไปกองที่พื้น แต่ไหนแต่ไรหมื่นสุนทรเทวาเป็นคนที่มีระเบียบแบบแผนไม่ปล่อยตัวหละหลวมให้บ่าวไพร่ได้เห็นในยามที่ไม่เหมาะสม นี่จึงเป็นครั้งแรกที่ไอ้จ้อยได้เห็นลำควยของท่านหมื่น มันมีขนาดที่ใหญ่ยาวมากกว่าของบ่าวไพร่หรือพวกทาสชายคนใดที่มักจะแก้ผ้าอาบน้ำในลำคลองอยู่เนืองๆ

หมื่นสุนทรเทวาแววตาเปลี่ยนไปดูราวกับไม่ได้สติ มือทั้งสองข้างลูบไล้ไปทั่วร่างกายที่หนั่นหนาชุ่มน้ำมันของตัวเอง จากนั้นก็ขยับไปรูดลำลึงค์ใหญ่ยาวจนตั้งตระหง่าน หัวกระดอสีแดงเข้มถูกชะโลมด้วยน้ำมันมะพร้าวจนเป็นมันวับสะท้อนแสงตะเกียงเป็นประกาย มือนึงสาวท่อนลำขึ้นลงทั้งเร็วทั้งแรง อีกมือก็บี้คลึงเคล้นหัวหยักของตัวเองอย่างสุขสม ไอ้จ้อยมองดูเจ้านายที่ทำตัวราวกับเป็นทาสชั้นต่ำที่หมกมุ่นในกำหนัดอย่างตกตะลึง ในที่สุดท่อนลึงค์ขนาดใหญ่ของท่านหมื่นก็กระฉูดน้ำกามออกมามากมายจนเต็มหน้าท้องแล้วเจ้าตัวก็หลับตาแน่นิ่งไป ทนายหน้าหอคนสนิทลนลานทำอะไรไม่ถูก มันหยิบผ้านุ่งที่กองอยู่บนพื้นมานุ่งให้เจ้านายอย่างเร่งรีบ ขณะที่คิดว่าจะไปตามคนมาดูอาการของของท่านหมื่นหรือไม่ อีกฝ่ายก็ลืมตาขึ้นมากลับกลายเป็นปกติ

“ยังนวดให้ข้าไม่เสร็จเอ็งจะลุกไปไหน แล้วนี่ทำน้ำมันมะพร้าวหกลงบนหน้าท้องข้าฤา ก็เอามาทานวดไปเลยสิ ไม่ต้องไปเช็ดให้ยุ่งยากดอก”

คนเป็นบ่าวงงไปหมดแต่ก็ไม่กล้าพูดอะไร ได้แต่ละเลงเอาน้ำเชื้อของท่านหมื่นผสมไปกับน้ำมันมะพร้าวชะโลมไปตามตัวจนเป็นเมือก ยังดีที่กลิ่นของน้ำมันมะพร้าวที่เคี่ยวจนหอมยังพอช่วยกลบกลิ่นคาวของน้ำเชื้อแห่งบุรุษเพศไปได้บ้าง

ไอ้จ้อยไม่กล้าบอกเรื่องนี้กลับใคร บุญคุณของท่านออกญาบิดาท่านหมื่นที่ได้ชุบเลี้ยงเขาซึ่งเป็นเพียงลูกเจ๊กกำพร้าจนได้มาเป็นบ่าวคนสนิทของหมื่นสุนทรเทวามันใหญ่หลวงนัก ไหนจะเกรงกลัวโทษทัณฑ์หากท่านออกญาหรือคุณหญิงหาว่าเขาดูแลบุตรชายหัวแก้วหัวแหวนไม่ดีจะโดนหวายแช่เยี่ยวเฆี่ยนเอาเปล่าๆ แต่อาการเจ้านายของเขาก็ดูจะกำเริบขึ้นทุกที บางครั้งเดินๆ อยู่ในสวนข้างบ้าน ท่านหมื่นก็ถลกผ้านุ่งยืนเยี่ยวอยู่กลางลานที่มีบ่าวผู้ชายตักน้ำผ่าฟืนอยู่หลายคน บางเพลาที่แต่งกายชุดใหญ่กลับมาจากข้างนอก ก็ไม่รอให้ถึงเรือน ถอดผ้าผ่อนทิ้งทีละชิ้นแล้วเดินตัวล้อนจ้อนไปถึงไหนๆ เขาต้องตามเก็บแทบไม่ทัน บ่าวไพร่ลูกเด็กเล็กแดงในบ้านที่รวมกลุ่มอยู่บริเวณนั้นถึงกับแตกฮือกระเจิดกระเจิง ไอ้จ้อยทำได้แค่กำชับคนที่เห็นว่าอย่าไปบอกใครก่อนจะวิ่งตามเจ้านายที่เดินกระดอแข็งไปถึงไหนต่อไหน

ไม่นานนักอาการวิปลาสของหมื่นสุนทรเทวาก็เป็นที่รู้กันในหมู่บ่าวไพร่ ระยะหลังบ่าวผู้หญิงในบ้านที่นิสัยก๋ากั่นหน่อยถึงกับนัดแนะกันที่จะไปซุ่มรอดูปลาชะโดของท่านหมื่น เกือบทุกครั้งก็จะได้เห็นเจ้านายหนุ่มเปลือยกายทั้งร่างเผยผิวพรรณที่เรียบเนียนและกล้ามเนื้องามๆ ที่ออกอวบนิดๆ อย่างชนชั้นปกครองที่อยู่ดีกินดี ความมีสง่าราศีและท่อนลึงค์ที่อวบใหญ่ส่วนหัวแดงเหมือนทาชาดนั้นทำให้บรรดาบ่าวผู้ชายที่พวกหล่อนเคยไปแอบดูที่ลำคลองสู้ไม่ได้แม้แต่น้อย บางครั้งก็โชคดี ไปเจอจังหวะที่ท่านหมื่นถูไถลำกระดอของตัวเองอย่างคุ้มคลั่งจนกระฉูดน้ำเชื้อขาวข้นเหมือนน้ำข้าวออกมา พอได้เห็นก็เอามาเล่าสู่กันหัวเราะคิกคักอย่างไม่กลัวหวายกลัวตรวน

ผินกับแย้มบ่าวของการะเกดก็บังเอิญไปเจอท่านหมื่นเดินเล่นถกกระดอเข้าอย่างจัง ทั้งคู่เป็นสาวเทื้อไม่เคยเห็นเนื้อตัวใต้ผ้านุ่งของผู้ชายถึงกับตบอกผางเป็นลมเป็นแล้งจนต้องหายาดมยาหอมมาแก้ไขอาการกันยกใหญ่ พอฟื้นขึ้นมาก็รีบไปตามการะเกดมาดูเพราะเกรงว่าผู้เป็นนายจะต้องแต่งกับคนวิปลาสเยี่ยงนี้ เกศสุรางค์ในร่างของการะเกดมาจากยุคอินเทอร์เน็ตที่การเห็นผู้ชายแก้ผ้าทำได้ง่ายแค่ปลายนิ้วจึงไม่เขินอายแต่อย่างใด เมื่อเห็นลำลึงค์ขนาดเขื่องไม่แพ้ผู้ชายในยุคปัจจุบันก็ตาโตนั่งจ้องอย่างหลงไหลอยู่นานแต่สุดท้ายก็สะกดอารมณ์ตัวเองไว้ได้ หล่อนรู้ว่าอาการเยี่ยงนี้ไม่ใช่เรื่องปกติจึงรีบไปบอกคุณหญิงจำปามารดาของชายหนุ่มเพื่อจะได้หาทางแก้ไข

คุณหญิงที่ไม่รู้ระแคะระคายเรื่องนี้มาก่อนเนื่องจากการปกปิดของไอ้จ้อยจึงโกรธมากหาว่าการะเกดเอาเรื่องเพ้อเจ้อมาใส่ความลูกชายสุดรักที่ให้ด่างพร้อย คุณหญิงถึงกับยื่นคำขาดกับท่านออกญาผู้เป็นสามีให้ส่งตัวแม่การะเกดกลับเมืองพิษณุโลก ท่านออกญาไม่ยอมแล้วเรียกบ่าวไพร่ในบ้านมาซักถามแต่ก็ไม่มีใครกล้าบอกความจริงออกไป ยิ่งเมื่อไอ้จ้อยซึ่งเป็นบ่าวคนสนิทปฏิเสธเสียงแข็งว่าท่านหมื่นไม่เคยทำอะไรแบบนั้น ท่านออกญาจึงเชื่ออย่างสนิทใจและออกปากตำหนิติเตียนการะเกด คุณหญิงจำปาได้ทีจึงยุยงให้ส่งนางกลับหัวเมือง เกศสุรางค์ในร่างของการะเกดจึงต้องเรียกความยุติธรรมให้ตัวเองโดยบอกว่าตนสามารถพิสูจน์เรื่องนี้ได้ คุณหญิงจึงท้าทายว่าถ้าทำไม่ได้ก็ให้เก็บของออกจากเรือนไป การะเกดจึงได้เสนอเงื่อนไขต่อท่านออกญาว่าตนสามารถบอกลักษณะและขนาดกระดอที่แข็งตัวของหมื่นสุนทรเทวาได้อย่างถูกต้อง ซึ่งถ้าท่านหมื่นไม่เคยทำเรื่องวิปลาสที่ว่ากลางแจ้งจริง ใยเลยหญิงสาวอย่างเธอจะมีโอกาสได้รู้ความลับอันควรปกปิดเยี่ยงนี้

คุณหญิงจำปาแทบลมจับเมื่อได้ยินวาจาที่กล่าวถึงเรื่องใต้สะดืออย่างไม่อ้อมค้อมของว่าที่ลูกสะใภ้ แต่ท่านออกญามีความเห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่จักต้องตระเตรียมการพิสูจน์ความจริงให้ดี จึงให้บ่าวไปเชิญหลวงสุรสาคร ข้าราชการชาวกรีก ซึ่งรู้จักมักคุ้นกันดีเพราะมีเรือนอยู่ไม่ไกลมาเป็นพยาน ในเวลาไม่นานนักหลวงสุรสาครก็มาถึง

“เอาล่ะ เพลานี้พยานก็พร้อมแล้ว ออเจ้าจงบอกสิ่งที่จะใช้พิสูจน์ตัวเองออกมาเถิดหนา”

ท่านออกญาพูดกับว่าที่ลูกสะใภ้อย่างปราณี เกศสุรางค์พยายามเรียบเรียงลักษณะควยของหมื่นสุนทรเทวาออกมาเป็นภาษาที่คนยุคนั้นเข้าใจ

“ลำกระดอของคุณพี่ขณะที่พร้อมทำศึกเต็มที่มีขนาดประมาณแปดนิ้วกับอีกหนึ่งกระเบียด ความอวบเท่าๆ กับลำไม้ไผ่ข้าวหลาม ส่วนหัวบานออกคล้ายหัวปลาช่อน ถ้ารั้งหนังหุ้มลงมาจะเห็นหัวด้านในเป็นสีชมพูคล้ายกลีบบัวหลวง แต่ตรงรูเยี่ยวจะมีสีแดงสดดังชาด เส้นโลมาหยิกแต่นุ่มละเอียดยาวประมาณสองข้อนิ้ว กระโปกมีขนาดเท่าไข่เป็ดใบเขื่องมีเส้นโลมาขึ้นเล็กน้อยเจ้าค่ะ”

คุณหญิงตบอกเต้นผางทันทีที่การะเกดบรรยายลักษณะเครื่องเพศของบุตรชายสุดรักออกมาอย่างละเอียดจนจบ

“โป้ปดสิ้นดี ขนาดที่เอ็งว่ามานั่นมันศิวลึงค์ที่เขาไว้ใช้บูชาแล้ว พ่อเดชเป็นคนธรรมดากระไรจะไปใหญ่โตมโหระทึกเยี่ยงนั้น”

“ใจเย็นสิแม่จำปา ข้าจดสิ่งที่แม่การะเกดพูดไว้อย่างละเอียดแล้ว เดี๋ยวเราก็ได้รู้ความจริงกัน ไอจ้อย เอ็งจงไปตามตัวพ่อเดชมาเดี๋ยวนี้”

ทนายหน้าหอของหมื่นสุนทรเทวารีบวิ่งไปที่เรือนเจ้านายอย่างตื่นตระหนกเพราะไม่รู้ว่าตอนนี้ท่านหมื่นจะอยู่ในอาการเยี่ยงใด เดชะบุญที่เมื่อไปถึงปรากฎว่าท่านหมื่นมีสติเป็นปกติกำลังอ่านหนังสืออยู่เงียบๆ จึงรีบพาตัวเข้าไปพบท่านออกญาที่เรือนใหญ่ตามคำสั่ง เมื่อไปถึงบนเรือนก็เหลือแต่ท่านออกญา หลวงสุรสาคร และบรรดาบ่าวผู้ชายที่กระจายตัวล้อมรอบอยู่ทั้งบนเรือนและด้านล่างเพื่อกันไม่ให้ผู้หญิงคนใดขึ้นไป ส่วนคุณหญิงจำปาและการะเกดพร้อมบ่าวไพร่ผู้หญิงนั่งรออยู่ด้านล่างที่แคร่ไม้ใต้ร่มต้นพิกุล

“นี่มันเรื่องอะไรกันขอรับ คุณพ่อ ทำไมเอาบ่าวผู้ชายมาบนเรือนตั้งมากมาย แล้วคุณหลวงสุระมีกิจอันใดถึงมาอยู่ที่นี่ด้วย”

“ข้าให้คุณหลวงมาช่วยเป็นพยานเพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย พ่อเดชถอดผ้านุ่งออกเถิด ขอให้คุณหลวงได้ดูองคชาตของเอ็งสักหน่อย บนเรือนนี้มีแต่ผู้ชายทั้งนั้นไม่ต้องกังวลไปดอก”

หมื่นสุนทรเทวาได้ยินถึงกับตะลึงแต่ก็ไม่สามารถขัดคำสั่งที่แปลกประหลาดของบิดาได้ ผ้านุ่งที่ทำจากแพรเนื้อดีจึงถูกปลดออกส่งให้กับไอ้จ้อยบ่าวคนสนิท ท่านหมื่นไม่ได้สวมเสื้อเนื่องจากเป็นเพลาพักผ่อนอยู่กับเรือนตอนนี้จึงไม่มีผ้าผ่อนติดกายแม้แต่ชิ้นเดียว ชายหนุ่มก้าวไปยืนตรงหน้าของฝรั่งชาวกรีกที่มารับราชการจนได้ดีในราชสำนักอยุธยา ลำลึงค์ขนาดใหญ่ทอดยาวนิ่งสนิททำให้คุณหลวงตาลุกโพลงอย่างนึกโปรดปรานในใจ ยิ่งเห็นเนื้อตัวเปล่าเปลือยที่เคลือบน้ำมันมะพร้าวจนขึ้นเงาส่งหัวนมเม็ดเล็กๆ ให้ดูเด่นก็ยิ่งเกิดอารมณ์พลุ่งพล่านจนต้องพูดฉกฉวยโอกาสที่มาอยู่ตรงหน้า

“คำให้การของแม่หญิงการะเกดจะบรรยายถึงตอนที่ท่านหมื่นพร้อมออกศึกเต็มที่แล้ว ขออนุญาตให้ข้าเตรียมความพร้อมให้กับท่านหมื่นด้วย”

ท่านออกญาพยักหน้าอนุญาตทันทีทำให้หมื่นสุนทรเทวามิอาจขัดขืนได้ หลวงสุรสาครถือโอกาสลูบไล้ไปตามความยาวของลำลึงค์ตรงหน้าอย่างย่ามใจ ท่านหมื่นกัดฟันด้วยความอับอายเหลือจะกล่าวที่ต้องมาโดนกระทำเยี่ยงนี้ต่อหน้าบิดาของตัวเอง ไหนจะสายตาบ่าวไพร่มากมายที่ล้อมวงกันอยู่ แต่กระนั้นด้วยความหนุ่มแน่นกำยำ กระดอของท่านหมื่นจึงค่อยๆ ลุกชูชันจากการปลุกเร้าของคุณหลวงจนในที่สุดก็แข็งตัวเต็มที่ หลวงสุรสาครลอบยิ้มอย่างกระหยิ่มใจแล้วก้มหน้าลงไปมองท่อนเนื้อตรงหน้าอย่างพินิจพิเคราะห์

“ลักษณะทั้งหมดต้องตรงตามที่แม่หญิงการะเกดให้การไว้ ทั้งขนาดและความยาว ท่านหมื่นมีบุญจริงๆ ขอรับ ที่ได้สืบทอดลักษณะอันยอดเยี่ยมของเอกบุรุษมาจากท่านออกญา แต่เพื่อให้หมดข้อสงสัย ข้าจักต้องถอกหัวลงมาเพื่อดูลักษณะด้านในเพิ่มเติม”

หนังหุ้มปลายลึงค์สีนวลของท่านหมื่นถูกนิ้วสากใหญ่ของคุณหลวงรั้งลงมาเผยให้เห็นส่วนหัวสีชมพูตามคำบรรยายของการะเกด หลวงสุรสาครออกแรงบี้ส่วนหัวบานใหญ่จากด้านข้างจนรูเยี่ยวเผยอออกเห็นร่องสีแดงเข้มด้านใน ท่านหมื่นครางเบาๆ ด้วยความเสียวอย่างลืมอายบ่าวไพร่แลบิดาตัวเองที่เฝ้าดูอยู่

“ไม่มีข้อสงสัยแล้วขอรับ แม่เกดต้องเห็นเหตุการณ์ที่ว่าจริงๆ”

“ข้าก็ยังไม่ปักใจเชื่อนักหรอก คุณหลวงก็เห็นว่าพ่อเดชพูดจาเป็นปกติ ไม่ได้มีทีท่าว่าสติจะพิกลพิการที่ตรงไหน แต่เอาเป็นว่า แม่การะเกดพิสูจน์ตัวเองได้แล้วว่าไม่มีความผิด ส่วนเรื่องของพ่อเดชก็คอยดูกันต่อไป”

ท่านออกญาพูดมาถึงตรงนี้หมื่นสุนทรเทวาก็เกิดอาการผิดปกติขึ้นทันที แววตาที่ดูฉลาดแจ่มใจกลับกลายเป็นเลื่อนลอยเหมือนคนไม่มีสติ ท่านหมื่นพาร่างล่อนจ้อนพร้อมลำลึงค์แข็งโด่เดินออกไปนอกชานที่ด้านล่างมีบ่าวไพร่ผู้หญิงอยู่กันเต็มไปหมด บ่าวผู้ชายที่อยู่บนเรือนตกใจเป็นอันมาก แต่ก็ไม่มีใครกล้าห้ามปราม หมื่นสุนทรเทวาออกมายืนตรงบันไดแล้วกระตุกท่อนลำขนาดใหญ่ของตัวเองราวกับกำลังชักว่าวจุฬาประชันกัน คุณหญิงจำปาเห็นบุตรชายเปลือยกายมาแต่ไกลจึงวิ่งขึ้นไปบนเรือนด้วยความเป็นห่วง พอเข้ามาใกล้ ก็เห็นกระดอขนาดใหญ่เหมือนศิวลึงค์ตามที่การะเกดบรรยายไว้ทุกประการ ท่านหมื่นเร่งจังหวะการกระตุกอย่างรัวเร็วแล้วกระฉูดน้ำข้นเหนียวออกมารดใส่มารดาที่กำลังขึ้นบันไดมาได้สองสามขั้น คุณหญิงผงะถอยหลังจนตกบันไดก้นจ้ำแล้วก็สิ้นสติไม่สมประดีไปด้วยความตกใจ

ท่านออกญาที่ตามมาเห็นเหตุการณ์พอดีรู้สึกใจหาย อาการภรรยาที่รักยังไม่เท่าไหร่แค่สลบไปด้วยความตกใจ แต่แววตาเลื่อนลอยของบุตรชายต่างหากที่บ่งบอกว่าอาการที่เป็นมันไม่ใช่เรื่องเล็ก

“อาการอะไรก็ไม่รู้ ไม่เคยพบเคยเห็น แล้วนี่ข้าจะรักษาอย่างไรดีเล่า”

“ท่านออกญาอย่าเพิ่งกังวลไป ลักษณะอาการอย่างของท่านหมื่น ข้าเคยพบเจอมาแล้วที่บ้านเกิดเมืองนอน ตำรับตำราการแพทย์ทางโน้นก็เอาติดตัวมามากโข น่าจะให้ท่านหมื่นไปรักษาตัวที่เรือนของข้าดีกว่า ถ้าท่านหมื่นยังอยู่ที่นี่ ยังไงซะสันดานบ่าวไพร่มันก็ต้องเอาไปนินทาจนออกไปข้างนอก ที่เรือนของข้าบ่าวไพร่ล้วนแต่เป็นชาวต่างด้าว ไม่สุงสิงกับคนข้างนอกอยู่แล้วจึงไว้ใจได้นะขอรับ”

“ถ้าคุณหลวงว่าเช่นนั้นข้าก็ค่อยเบาใจหน่อย ดีเหมือนกัน ไม่งั้นแม่จำปาก็จะต้องเจออะไรแปลกๆ จนขวัญหายอยู่บ่อยๆ แค่เมื่อกี๊ก็คงแทบแย่ งั้นข้าจะให้ไอ้จ้อย บ่าวคนสนิทของพ่อเดชตามไปรับใช้นายมันด้วย ข้าจะสั่งความไว้ให้มันเชื่อฟังคำสั่งของคุณหลวงเป็นเด็ดขาด”

“ไอ้จ้อยคือบ่าวหนุ่มๆ ผิวขาวหน้าตาหมดจดคนนั้นฤา เหมาะมากจริงๆ อีกอย่างที่ข้าต้องขอจากท่านออกญา ถึงเรือนเราจะอยู่ใกล้กัน แต่ในช่วงที่ทำการรักษาอยู่นี้ ท่านหมื่นจะต้องอยู่ที่เรือนข้าตลอดเวลา และท่านห้ามไปเยี่ยมหรือส่งใครมาดูท่านหมื่นเด็ดขาด ไม่งั้นการรักษาอาจจะไม่ได้ผล แล้วข้าจะส่งข่าวมาเนืองๆ แทน”

เมื่อตกลงกันได้ ท่านออกญาก็ออกคำสั่งให้ไอ้จ้อยเก็บข้าวของของท่านหมื่นและติดตามไปรับใช้ที่เรือนของหลวงสุรสาคร เมื่อถึงเพลาที่จะออกเดินทาง ท่านหมื่นก็กลับมามีสติเรียบร้อยแล้ว แม้จะไม่เข้าใจสาเหตุที่แน่ชัด แต่ก็ต้องฟังคำสั่งของบิดาที่ให้ไปอยู่ที่เรือนของคุณหลวงและต้องฟังคำสั่งของเจ้าของเรือนอย่างเคร่งครัด

หลังจากส่งบุตรชายออกจากบ้านไป ท่านออกญาก็พูดเปรยขึ้นกับการะเกดที่ออกมาส่งท่านหมื่นด้วยกัน

“เห็นทีพ่อเดชจะต้องไปรักษาตัวที่เรือนของหลวงสุรสาครไปก่อน ถ้าหายเมื่อไหร่ ข้าจะจัดให้มีพิธีแต่งงานขึ้นทันที เจ้าทั้งสองจะได้ร่วมหอกันเสียที ออเจ้าจะว่ายังไง คงไม่รังเกียจดอกนะที่พ่อเดชเป็นเยี่ยงนี้”

ท่านออกญาถามอย่างรวบรัดด้วยไม่อยากให้อีกฝ่ายปฏิเสธ เกศสุรางค์นึกถึงกล้ามเนื้อหนั่นหนา ผิวเนียนน่าลูบไล้ และท่อนลำขนาดใหญ่ของท่านหมื่นแล้วก็ใจเต้นแรง ถ้าหล่อนยังเป็นสาวอ้วนเหมือนในยุคปัจจุบันไหนเลยจะมีโอกาสได้เสพสมกับหนุ่มหล่อใหญ่ขนาดนี้ ภายในรู้สึกลิงโลดแต่ภายนอกแสร้งทำเป็นเอียงอาย

“ข้าไม่มีอะไรขัดข้อง สุดแท้แต่คุณลุงจะเมตตาเถิดเจ้าค่ะ”