ไอ้ตั้ม เทพบุตรเพลงดาบอัปยศ

บทนำ

“คนรวย ทำอะไรก็ไม่ผิด และคนที่เรียกตัวเองว่าเป็นพวกที่เจริญจิตใจอาจจะหยาบช้ากว่าสัตว์”

คุณเห็นด้วยกับผมไหมครับ

ผมชื่อสามารถครับ เป็นเด็กจากหมู่บ้านเล็กๆ ที่จังหวังลำพูน ชื่อจริงๆ ของหมู่บ้านของผมชื่ออะไรแทบจะไม่มีใครจำได้แล้วล่ะครับ เพราะคนทั่วไปเรียกกันว่า “บ้านเคนโด้”

หากคุณยังไม่รู้จักกีฬาที่ชื่อว่า “เคนโด้” ชนิดนี้และงงว่ามันมารุ่งเองอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ ในภาคเหนือได้ยังไง ผมจะเล่าให้ฟังครับ

เคนโด้ แปลว่า “วิถีแห่งดาบ” มันคือกีฬาฟันดาบของญี่ปุ่น ซึ่งผู้ที่เป็นบิดาของเคนโด้ในหมู่บ้านของเราคือ “ลุงตี๋” อดีตนักกีฬาเคนโด้ทีมชาติไทยที่แต่งงานเข้ามาอยู่กินกับเมียของแกรวมทั้งเอาวิชาเคนโด้ที่ติดตัวแกมาสอนเด็กผู้ชายแทบทุกคนในหมู่บ้านจนเล่นเคนโด้เป็นกันทุกคน รวมทั้งผมด้วย ซึ่งผมยอมรับว่ามันทั้งเท่ และยังสามารถใช้ป้องกันตัวได้อีก

เด็กในหมู่บ้านหลายคนไปลงแข่งเคนโด้รายการต่างๆ จนได้รางวัลมามากมาย ทำให้หมู่บ้านของเรามีชื่อเสียงในเรื่องนี้ แต่ยังไงเด็กคนอื่นก็คงไม่มีทางสู้ “ทายาทแห่งนักดาบตัวจริง” อย่าง “ไอ้ตั้ม” ลูกชายคนเดียวของลุงตี๋ที่ลุงตี๋แกถ่ายทอดวิชาดาบญี่ปุ่นที่แกมีให้ลูกชายคนนี้ทั้งหมด โดยตั้งใจให้ไอ้ตั้มคนนี้สืบทอดเจตนารมณ์นเป็นนักเคนโด้ทีมชาติอย่างแกให้ได้ ซึ่งลุงตี๋ก็คงไม่น่าจะผิดหวังหรอกครับ เพราะฝีมือดาบของไอ้ตั้มเป็นที่เลื่องลือไปทั่วทั้งภาคเหนือ ลงรายการไหนชนะรางการนั้น ไม่เคยพลาดเหรียญทองเลยแม้แต่เหรียญเดียว

และสิ่งสำคัญที่ผมบอมรับว่าทำให้ผมอิจฉามันมากที่สุดคือความหล่อของมันครับ ด้วยส่วนสูงถึง 185 ร่างกายกำยำอย่างนักกีฬา ผิวขาวเนียนละเอียดจนผู้หญิงบางคนยังอาย และใบหน้าตี๋ๆ คิ้วเข้มๆ ของมันที่เป็นการผสมกันระหว่างเชื้อสายญี่ปุ่น จีน และไทย ทำให้ไม่ว่าไอ้ตั้มจะไปที่ไหนก็มีแต่สาวๆ รุมล้อมอยู่ไม่ขาด ถ้าจะเรียกมันว่า “เทพบุตรนักดาบประจำเมืองลำพูน” คงไม่ผิดนัก

วันที่เรื่องราวนี้เริ่มต้นขึ้น ผมคงต้องเล่าตั้งแต่เช้าวันฝนพรำที่ท่ารถของหมู่บ้าน ผมกับไอ้ตั้มยืนอยู่ที่ท่ารถพร้อมครอบครัวและเพื่อนบ้านในหมู่บ้านที่มาส่งกันมากมาย (เขาไม่ได้มาส่งผมหรอกครับ มาส่งไอ้ตั้มกันต่างหาก) พวกเราสองคนได้ทุนเข้าไปเรียนที่มหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่งกลางเมืองเชียงใหม่ที่ถือว่าเป็นมหาวิทยาลัยเอกชนหลักสูตรนานาชาติที่ดีที่สุดในประเทศก็ว่าได้ ถ้าไม่รวยจริงๆ อย่าหวังจะได้เข้าไปเพราะค่าเทอมและแต่เทอมนั้นเกือบครึ่งล้าน

แต่ด้วยความเก่งของผมกับไอ้ตั้มทำให้ได้โควตาและทุนพิเศษเข้าไปเรียนครับ แน่นอนว่าไอ้ตั้มเข้าไปด้วยทุนนักเคนโด้ที่ทางมหาลัยส่งหนังสือติดต่อมาด้วยตัวเอง ส่วนผมเข้าไปด้วยการสอบชิงทุนเรียนดี และเราทั้งคู่ต่างอยู่คณะเดียวกันคือคณะบริหารธุรกิจ

แต่ไหนแต่ไรมา ผมไม่เคยเห็นลุงตี๋ร้องไห้มาก่อน แต่วันนั้นผมเห็นลุงตี๋หลั่งน้ำตาด้วยความภาคภูมิใจในตัวลูกชาย พร้อมกำชับให้ตั้งใจฝึกซ้อมจนเป็นตัวจริงทีมชาติให้ได้ ทำความฝันแทนพ่อให้เป็นจริงด้วย ผมมารู้ทีหลังว่า สมัยก่อนลุงตี๋แกติดทีมชาติก็จริง แต่ขณะที่แกกำลังจะเดินทางไปแข่ง พ่อของแกก็เสียชีวิตกะทันหัน ทำให้บ้านแกมีปัญหาจนล้มละลาย จนลุงตี๋ต้องออกจากเส้นทางนักกีฬาที่แกฝันมาหากินสู้ชีวิตจนได้มาพบกับแม่ของไอ้ตั้มและแต่งงานกันในที่สุด จึงไม่แปลกว่าทำไมลุงตี๋ถึงได้หวังในตัวลูกชายอย่างไอ้ตั้มมากนัก

ระหว่างการเดินทาง ผมกับไอ้ตั้มคุยสัพเพเห่ระกันไปเรื่อย มันเล่าให้ผมฟังว่าผมพึ่งบอกเลิกสาวที่มันเพิ่งคบเมื่อหกเดือนก่อน ซึ่งผมก็ตกใจเพราะแม้ไอ้ตั้มจะเปลี่ยนแฟนบ่อย แต่เห็นล่าสุดกับคนนี้ก็ยังรักกันดี แต่ไอ้ตั้มมันตอบชิลๆ ว่า ไปเชียงใหม่คราวนี้ยังไงมันก็ต้องเจอคนใหม่ สาวมหาลัยสาวๆ สวยๆ รอมันอยู่เพียบ มันจะมัวจมปลักอยู่กับสาวบ้านดอยอย่างลำพูนทำไม แถมมันยังบอกผมด้วยว่าผมไปคราวนี้ขากลับก็หาเมียกลับมาฝากป๊าผมได้แล้ว เห็นผมไม่มีแฟนสักที

ผมกับไอ้ตั้มพักอยู่ห้องเดียวกัน ซึ่งเป็นหอของมหาวิทยาลัยซึ่งพวกเราได้อยู่ฟรีด้วย (ได้ข่าวว่าค่าเช่าจริงๆ เดือนละเป็นหมื่น)

วันแรกของการไปมหาลัยผมกับไอ้ตั้มต่างแต่งตัวเต็มยศ ใส่แขนยาวผูกเนคไทด์อยางเท่ แต่ดูเหมือนกันพยายามหล่อของผมจะไม่เป็นผล เมื่อผมเดินไปกับไอ้ตั้ม! เพระไม่ว่ามันจะเดินไปไหนสาวๆ ก็เหลียวมองมันกันเป็นแถว ส่วนไอ้ตั้มก็ยิ้มให้ยักคิ้วให้บ้างจนผมนี่หมั่นไส้มันเลยครับ ขนาดรุ่นพี่ที่คณะก็ยังมาแซวมาถามชื่ออยากรู้จัก

แต่สิ่งที่ไม่โอเคเลยสำหรับผม และโดยเฉพาะอย่างยิ่งไอ้ตั้มมันก็คงจะรู้สึกเสียเซลฟ์ไม่น้อย คือเหตุการณ์ตอนวันพี่พบน้องที่ไอ้ตั้มถูกรุ่นพี่ดึงตัวออกไปข้างหน้าแล้วพี่ผู้หญิงก็เต้นรูดตัวไอ้ตั้มไปมาแสดงความคันอย่างเต็มที่ ซึ่งไอ้ตั้มก็ยืนเต้นหล่อๆ ด้วยท่ามกลางเสียงกรี๊ดของสาวๆ ในคณะ แต่พอเต้นเสร็จแล้วพี่เขาให้ไอ้ตั้มแนะนำตัว สีหน้ารุ่นพี่ทุกคนก็เปลี่ยนไป รุ่นพี่ที่ถือไมค์ถามไอ้ตั้มอยู่พูดใส่ไมค์แบบเซ็งๆ ว่า “อ้าว เด็กทุนหรอกเหรอ เสียดายความหล่อ” แล้วไล่ไอ้ตั้มให้กลับไปนั่งที่ท่ามกลางเสียงซุบซิบของทุกคน

พอกลับมาที่หอไอ้ตั้มก็บ่นใหญ่ว่าจนแล้วไงวะ จนพวกเราได้คุยกับรุ่นพี่ที่เป็นเด็กทุนด้วยกันพี่เขาก็บอกว่า นักศึกษาที่นี่รวยๆ ทั้งนั้น เขาไม่ค่อยอยากเข้าสังคมกับคนจนๆ อย่างพวกเราหรอก ให้อยู่อย่างเจียมตัวจะอยู่ง่ายกว่า ซึ่งไอ้ตั้มก็ดูหัวเสียกับเรื่องนี้มาก แต่นั่นยังไม่เท่าที่มันกลับมาเล่าให้ฟังว่า รุ่นพี่ที่ชมรมเคนโด้จะให้ทุกคนจ่ายค่าบำรุงชมรมคนละห้าหมื่นต่อปี ซึ่งมันเถียงกับรุ่นพี่หนักมากและบอกรุ่นพี่ว่าถ้าหากินนอกระบบแบบนี้มันจะเอาเรื่องนี้ไปบอกอาจารย์ ซึ่งมันทำจริง

แต่ผลที่ได้กลับกลายเป็นอาจารย์บอกมันว่า “คนอื่นก็จ่ายได้ไม่เห็นมีปัญหา เรื่องนี้เป็นเรื่องในชมรมอาจารย์ขอไม่ยุ่ง” พอไอ้ตั้มถามว่ามันไม่มีเงินแล้วจะไห้มันทำยังไง ทุนที่มหาลัยให้ก็ไม่มีค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ อาจารย์ก็บอกว่า ก็ทำงานหาเงินมาจ่าย แต่ถ้าจ่ายไม่ได้จริงๆ แล้วทางชมรมไม่ให้ไอ้ตั้มอยู่ ทางมหาลัยคงต้องยกเลิกทุนแล้วให้ไอ้ตั้มออก ซึ่งไอ้ตั้มโมโหมากจนมันบอกจะลาออกจริงๆ

ในขณะที่มันกำลังจะตัดสินใจลาออกนั้น มันก็ได้รับข่าวจากที่บ้านว่าลุงตี๋เป็นมะเร็ง ซึ่งแม้จ้ะเป็นระยะแรกๆ แต่ก็ต้องผ่าตัดด่วนและให้คีโมต่อก่อนจะลุกลาก มันจึงรีบกลับไปหาพ่อที่ลำพูน ซึ่งการกลับไปครั้งนี้ทำให้มันรู้ว่ามันจำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมากในการรักษาพ่อ นอกจากนี้ลุงตี๋ก็ยังพูดใส่หูมันซ้ำๆ อีกว่าต้องเป็นนักเคนโด้ทีมชาติให้ได้ก่อนที่ลุงตี๋จะเป็นอะไรไป นั่นทำให้มันต้องยกเลิกความคิดที่จะลาออกและยอมเสียหน้ากลับไปขอร้องรุ่นพี่ที่ชมรมเคนโด้ของมันให้มันได้อยู่ในชมรมและขอผ่อนจ่ายค่าบำรุงชมรมจนครบห้าหมื่นบาทโดยที่ระหว่างนี้มันจะหางานทำไปเรื่อยๆ ส่วนค่ารักษาของพ่อมัน มันตัดสินใจไปคุยกับอาจารย์เพื่อขอกู้ยืมเงินจากทางมหาวิทยาลัยเพิ่ม โดยที่มันสัญญาว่าจะชดใช้ให้ทุกบาททุกสตางค์ ซึ่งในที่สุดมันก็ได้รับเงินจากมหาวิทยาลัยเพื่อเป็นค่ารักษาพ่อมันอีกเดือนละหนึ่งหมื่นบาท แม้ว่าจะไม่มาก แต่ก็ลดภาระของมันไปได้


เรื่องทุกอย่างดูเหมือนจะเป็นไปได้ด้วยดีแต่ใครจะรู้ว่า นี่แหละคือจุดเริมต้นที่ทำให้ผมเห็นว่า โลกมันไม่ได้สวยงามอย่างที่ผมคิด

เข้าชมรม

เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้ บางเรื่องผมก็อยู่ในเหตุการณ์เอง บางเรื่องผมก็ได้ฟังมาจากคนอื่น คุณอย่าหาว่าผมใจดำไม่ช่วยเพื่อนเลยนะครับ แต่ด้วยความกล้าและเดิมพันอนาคตของผม ผมทำได้ดีที่สุดเท่านี้แล้วจริงๆ

วันแรกที่ไอ้ตั้มออกไปซ้อม ผมเห็นมันหยิบเอากีและกาฮาม่า (ชุดเสื้อและกางเกงแบบญี่ปุ่นสำหรับฝึกซ้อมเคนโด้) ซึ่งเป็นผ้าญี่ปุ่นโบราณอย่างดีที่ตกทอดมาจากตระกูลของมัน และชิไน (ดาบไม้ไผ่สำหรับเคนโด้) ติดไปด้วย ซึ่งดาบไม้อันนี้เป็นดาบไม้ญี่ปุ่นฤดูหนาวอย่างดีสลักลวดลายสวยงามที่ตกทอดมาจากลุงตี๋ อายุดาบเก่าแก่มากกว่า 100 ปีแล้ว ผมถามมันว่าที่ชมรมไม่มีดาบกับชุดให้เหรอ มันบอกว่ารุ่นพี่ที่ชมรมบอกว่าถ้ามันยังจ่ายค่าชมรมไม่ครบ ที่ชมรมจะไม่สนับสนุนอุปกรณ์ฝึกซ้อมให้ มันเลยต้องเอาไปเอง

พอตอนเย็นผมเห็นมันกลับมาห้องในสภาพโซซัดโซเซ ที่มุมปากและโหนกแก้มมีรอยช้ำเป็นแนว ดาบชิไนเก่าแก่ที่เอาไปก็ไม่ได้เอากลับมา ผมถามว่าใครทำอะไรมัน ไอ้ตั้มมันก็ไม่ตอบ

ผมมารู้ทีหลังว่าวันนั้นพอไอ้ตั้มไปถึงชมรม พวกที่ชมรมต่างหัวเราะชุดของมันและดูถูกมันว่าใครสั่งสอนให้ใส่ชุดกับเอาดาบเก่าโบราณขนาดนี้เข้ามาซ้อม พวกมันไม่อนุญาต แล้วก็สั่งให้ไอ้ตั้มถอดชุดออกตรงนั้น ไอ้ตั้มไม่ยอมมันเลยถูกรุมจับแก้ผ้ากระชากทั้งกีและกาฮาม่าโบราณของตระกูลมันจนขาดออกเป็นชิ้นๆ แล้วพวกเขาก็จับมันไปมัดโยงชูแขนสองข้างไว้กับเพดานกลางห้องชมรมโดยฉีกชุดกาฮาม่าของไอ้ตั้มออกเป็นเส้นยาวๆ แล้วใช้มันมัดข้อมือชูทั้งของข้างของไอ้ตั้มชูไว้เหนือหัว ก่อนจะถอดกางเกงในจองไอ้ตั้มออกจนไอ้ตั้มต้องแก้ผ้าล่อนจ้อนโชว์ควยต่อหน้าคนในชมรม เสร็จแล้วไอ้รุ่นพี่มันก็เอาเศษผ้าอีกชิ้นจากชุดที่ถูกฉีกมามัดปากไอ้ตั้มไว้ไม่ให้ร้อง แล้วเอาดาบชิไนเก่าแก่ของลุงตี๋มาเขี่ยๆ ที่ควยไอ้ตั้มจนมันแข็งชี้หน้าทุกคน แล้วรุ่นพี่ก็เอาเศษผ้าอีกชิ้นจากชุดโบราณของไอ้ตั้มมามัดผูกที่โคนควยและไข่ของไอ้ตั้มจนแน่นไม่ให้เลือดไหลกลับ จากนั้นมันก็ยืนดูและหัวเราะกันพร้อมทั้งถ่ายรูปไอ้ตั้มที่ถูกมัดมือมัดปากมักควย ยืนควยแข็งชี้หน้าทุกคนเอาไว้

มันบอกว่านี่เป็นการสั่งสอนที่กล้ากระด้างกระเดื่องไปบอกอาจารย์เรื่องเก็บค่าชมรมตั้งแต่ทีแรก เสร็จแล้วมันก็เอาดาบชิไนของไอ้ตั้มกระหน้ำฟาดไปที่ทั้งใบหน้า กลางหลัง หน้าอก ท้อง เอาปลายชิไนกระแทกสะดือซ้ำๆ จนไอ้ตั้มจุดตัวงอและเจ็บปวดมาก แถมยังเอาชิไนประจำตระกูลของลุงตี๋นั้นฟาดควยที่แข็งชี้อยู่จนมันกระเด้งไปมาอีกทำให้ไอ้ตั้มเจ็บปวดและจุกจนแทบน้ำตาไหล

แต่สิ่งที่ทำร้ายและทำลายศักดิ์ศรีและจิตใจของไอ้ตั้มมากที่สุดคือ พวกรุ่นพี่มันไปเอาถุงยางอนามัยมาใส่ที่ปลายของดาบชิไนของไอ้ตั้ม ก่อนจะจับไอ้ตั้มยกขาแหกออกแล้วเอาปลายดาบไม้ประจำตระกูลที่มีถุงยางใส่ไว้ยัดเข้าไปในรูตูดของไอ้ตั้มแล้วชักเข้าชักออก ทำให้ไอ้ตั้มตอนนี้อยู่ในสภาพถูกมัดแก้ผ้าแล้วโดนดาบชิไนเก่าแก่ที่ตกทอดมาจากพ่อของตัวเองเย็ดตูด!

ไอ้ตั้มกัดฟันแน่น น้ำตาไหลด้วยความค้น ทั้งเจ็บและอาย แค่นั้นยังไม่พอ พอพวกมันเอาชิไนเล่นนั้นนั้นกระทุ้งตูดไอ้ตั้มจนหนำใจแล้ว พวกรุ่นพี่มันก็แกะผ้ามัดปากไอ้ตั้มออก แล้วเอาปลายดาบสวมถุงยางที่พึ่งออกมาจากตูดไอ้ตั้มนั้นมาจ่อที่หน้าแล้วบังคับให้ไอ้ตั้มดูด “มึงจินตนาการว่ามึงกำลังดูดควยอยู่แล้วกันไอ้สัด ฮ่าๆๆๆ”

ไอ้ตั้มถูกบังคับให้ทั้งดูดทั้งเลียถุงยางที่ปลายดาบที่เพิ่งออกมาจากตูดตัวเองอย่างสะอิดสะเอียน หากมันดูดไม่ดี ไม่ถูกใจก็จะถูกดีดควยเป็นการลงโทษ พอพวกมันให้ไอ้ตั้มดูดถุงยางปลายดาบจนพอใจแล้ว มันก็ถอดถุงยางออกจากปลายดาบแล้วก็ปลดตัวไอ้ตั้มลงมาจากพันธนาการ บังคับให้มันยืนตรง แล้วยื่นถุงยางอันนั้นให้ก่อนที่จะบังคับให้มันใส่ถุงยางอนามัยโชว์ต่อหน้าสมาชิกในชมรมทุกคน ซึ่งคนอย่างไอ้ตั้มแน่นอนว่ามันเคยใส่ถุงยางมาแล้วไม่รู้กี่รอบ แต่พอมันต้องมาใส่โชว์ต่อหน้าคนอื่นแบบนี้มันก็อายจนมือสั่นกว่าจะใส่ได้ถุงยางก็ถูจนน้ำควยเยิ้มไปหมด

เมื่อใส่เสร็จคำสั่งต่อจากนั้นเป็นคำสั่งที่ทำให้ไอ้ตั้มรู้สึกเสียศักดิ์ศรีมากคือให้มันชักว่าวโชว์จนกว่าน้ำจะแตกใส่ถุงยาง แถมบังคับให้ไอ้ตั้มโชว์ชักว่าวในท่าต่างๆ ตามที่พวกมันนึกอยากเห็น ทั้งยกขาว่าว กระเด้าเอว หรือแม้แต่ทำสะพานโค้งแล้วชัก แถมบังคับให้ไอ้ตั้มร้องครางเสียงดังสร้างความสนุกสนานให้กับทุกคน ซึ่งสุดท้ายแล้วไอ้ตั้มก็ไม่ทำให้พวกรุ่นพี่ผิดหวังเพราะมันผลิตน้ำกามขาวข้นปริมาณมากจนแทบล้นถุงยางออกมาพร้อมกับหอบหายใจถี่ด้วยความเหนื่อยและอับอาย ซึ่งการกระทำพวกนี้ก็ถูกพวกรุ่นพี่ถ่ายวีดีโอไว้ทั้งหมด

จากนั้นพวกมันก็ให้ไอ้ตั้มถอดถุงยางออกโดยระวังไม่ให้น้ำว่าวหกออกมา แล้วเอาถุงยางที่มีน้ำกามของไอ้ตั้มเต็มถุงอันนั้นไปครอบใส่ที่ปลายดาบชิไนโบราณตกทอดของไอ้ตั้มอีกรอบทำให้น้ำกามของไอ้ตั้มทะลักออกจากถุงแล้วไหลชโลมไปทั่วตัวดาบ น้ำกามสีขาวไหลซึมไปตามร่องแกะสลักของตัวดาบ เยิ้มลงจนถึงด้าม ไอ้ตั้มพยายามร้องห้ามแต่ไม่เป็นผล หนำซ้ำพวกมันยังจับไอ้ตั้มล็อคตัวแล้วให้ไอ้ตั้มอมเลียน้ำกามตัวเองที่เปื้อนที่ถุงยางปลายดาบอีกครั้ง

เมื่อทำจนพอใจแล้ว รุ่นพี่ก็ให้มันซ้อมต่อในสภาพแก้ผ้าควยชี้โด่ ยังมีเศษผ้าจากชุดเก่ามัดที่โคนควย แล้วบอกว่าต่อจากนี้ไอ้ตั้มจะต้องแก้ผ้าซ้อมแบบนี้ทุกวันจนกว่าจะจ่ายค่าบำรุงชมรมครบ และเนื่องจากเห็นว่ามีความพยายามเตรียมชุดและดาบเก่าๆ มาเองจริงๆ ก็จะให้ได้ใช้ โดยทุกวันไอ้ตั้มต้องปั่นควยให้แข็งแล้วใช้เศษผ้าจากชุดมัดที่โคนควยให้ควยแข็งอยู่ตลอดแบบนี้ตอนซ้อม

ส่วนดาบชิไนยังจะอนุญาตให้ใช้ดาบชิไนของไอ้ตั้มที่เอามาได้ แต่ไอ้ตั้มต้องชักว่าวใส่ถุงยางก่อนซ้อมทุกวันแล้วเอาถุงยางที่มีน้ำว่าวมาครอบที่ปลายดาบ ให้น้ำเงี่ยนของตัวเองหลั่งชโลมดาบเก่าแก่ของตระกูล ให้ดาบประจำตระกูลได้ดื่มกินลูกๆ นับล้านตัวของทายาทคนปัจจุบันทุกวัน แล้วใช้ดาบที่เปื้อนน้ำว่าวและมีถุงยางครอบอยู่ที่ปลายดาบนี้ในการซ้อมไปตลอดจนกว่าจะจ่ายค่าบำรุงชมรมครบห้าหมื่น ส่วนตัวดาบต้องเก็บเอาไว้ที่ชมรมเพื่อป้องกันไอ้ตั้มเอาไปล้าง เพราะยิ่งไอ้ตั้มหาเงินมาจ่ายครบช้าเท่าไหร่ ดาบไม้โบราณประจำตระกูลของไอ้ตั้มเล่มนี้ก็จะดูดซับน้ำเงี่ยนจนเป็นคราบถาวรที่จะติดทนกับเนื้อไม้มากเท่านั้น และพวกรุ่นพี่จะเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับแค่ภายในชมรม แต่ถ้าไอ้ตั้มตุกติกไม่ยอมทำตามแต่โดยดี แน่นอนว่าพวกเขามีอะไรเตรียมให้ไอ้ตั้มอยู่อีกมากทีเดียว

เดือนมหาลัย

นับจากวันแรกที่ไอ้ตั้มเข้าชมรม มันก็ดูซึมและเครียดยิ่งกว่าเก่า ตอนนั้นผมก็ไม่รู้หรอกว่ามันต้องไปโดนอะไรในชมรมทุกวันจันทร์ถึงศุกร์ที่มันต้องเข้าชมรมบ้าง ถ้าผมรู้ตั้งแต่ตอนนั้นผมคงหาทางช่วยมันได้มากกว่านี้ ไม่ใช่บอกมันแค่ว่า “มึงอย่าคิดมาก” ไปวันๆ แบบที่ทำไปในตอนนั้น

แต่ไม่นาน ไอ้ตั้มมันก็มีวีรกรรมที่เป็นที่กล่าวขานไปทั้งคณะบริหารธุรกิจ เมื่อมันมีโอกาสช่วย “ชมพู” สาวสวยตัวเต็งดาวคณะรุ่นเดียวกันจากการถูกคนงานก่อสร้างฉุดไปข่มขืนในขณะที่มันกำลังกลับจากการไปทำงานเสริมเป็นโค้ชในฟิตเนสให้กับยิมในโรงเรียนนานาชาติแห่งหนึ่ง

ข่าวเล่ากันว่าไอ้ตั้มประเคนหมัดใส่พวกคนงานพวกนั้นจนน่วม แถมยังโชว์เท่ห์ถอดเสื้อนักศึกษาเอามาคลุมให้ชมพูที่เสื้อของเธอถูกกระชากอีก งานนี้ทำให้เหล่าสาวๆ ในคณะหันกลับมากรี๊ดกร๊าดกับความหล่อแมนของไอ้ตั้มกันมากขึ้นจนดูเหมือนว่าเรื่องความจนจะไม่เป็นอุปสรรคอีกต่อไป และสิ่งที่ยืนยันเรื่องนี้ได้ดีคือการที่ไอ้ตั้มได้รับการโหวตจากสาวๆ ในคณะให้เป็นเดือนคณะบริหารธุรกิจของเราโดยมีชมพูได้รับโหวตเป็นดาวคณะคู่กัน

ไอ้ตั้มและชมพูกลายเป็นคู่จิ้นของคณะและทำท่าว่าจะคบกันเป็นแฟน ชมพูเองก็ดูจะหลงรักไอ้ตั้มมาก เพราะเธอยอมให้ไอ้ตั้มยืมเงินเกือบสี่หมื่นไปจ่ายให้กับรุ่นพี่ที่ชมรมเคนโด้ ทำให้ไอ้ตั้มได้ดาบประจำตระกูลของมันคืนและไม่ต้องถูกแก้ผ้าซ้อมแบบสุดอนาจารในชมรมอีกต่อไป

หลังจากนั้นไอ้ตั้มก็กลับายิ้มแย้มกวนตีนเหมือนเดิม มันดูจะภูมิใจกับตำแหน่งเดือนคณะของมันมาก ขนาดมันคุยกับชมพูอยู่แต่เวลามันเดินผ่านสาวๆ มันก็ชอบส่งสายตาให้กับสาวๆ อยู่เรื่อยจนผมหมั่นไส้ แต่ความหมั่นไส้เล็กๆ ของผมคงเทียบไม่ได้กับความไม่พอใจกับพวกรุ่นพี่ในคณะที่เล็งจะคบกับน้องชมพูอยู่ไม่ได้ ที่อยู่ดีๆ หมาข้างถนนจนๆ อย่างไอ้ตั้มก็คาบน้องชมพูไปแดก จะเห็นได้จากรูปไอ้ตั้มที่ถ่ายลงเฟสบุ๊คเพื่อแนะนำผู้เข้าประกวดดาวเดือนของมหาลัยมีคนไปคอมเม้นดูถูกถึงเรื่องความจนของไอ้ตั้มและด่ามากมายซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นผู้ชายทั้งนั้น ส่วนผู้หญิงจะเม้นประมาณว่า “หล่อมากไม่น่าจนเลย” หรือถ้าเป็นผู้หญิงในคณะก็จะเม้นเล่าเรื่องที่ไอ้ตั้มเคยเป็นฮีโร่ช่วยชมพูในคืนนั้น จนทำให้รูปไอ้ตั้มถูกกดไลค์มากมาย ตัวไอ้ตั้มเองเวลาไปอ่านพวกคอมเม้นมันก็โมโหที่มีคนมาด่ามันดูถูกมันเรื่องจน มันเลยบอกผมว่ามันจะต้องเป็นเดือนมหาลัยให้ได้ พวกนี้จะได้เลิกดูถูกมันสักที

ในคืนวันประกวดดาวเดือนมหาวิทยาลัย มองแบบไม่อคติก็จะบอกได้เลยว่า เวลาเอาเดือนแต่ละคณะมายืนเทียบกัน ไม่มีใครเด่นสู้ไอ้ตั้มได้เลยสักคน ทั้งความสูง หุ่นแบบนักกีฬา ความหล่อคมของใบหน้าแบบลูกครึ่งไทย-จีน-ญี่ปุ่น และยิ่งในรอบความสามารถพิเศษที่ไอ้ตั้มใส่ชุดเคนโด้แล้วกวัดแกว่งดาบโชว์อย่างเท่ห์ เรียกเสียงกรี๊ดจากสาวๆ ได้กระหึ่มหอประชุม ในที่สุดวินาทีประกาสผลก็มาถึง ในปีนี้ตำแหน่งดาวมหาวิทยาลัยตกเป็นของสาวจากคณะพยาบาล ส่วนเดือนมหาวิทยาลัยนั้นไอ้ตั้มก็ได้ตำแหน่งไปสมความตั้งใจของมัน พอประกวดเสร็จแล้วไอ้ตั้มยิ้มอย่างภาคภูมิใจมาก มันใส่สายสะพายเดือนมหาวิทยาลัยลงมาถ่ายรูปและให้สัมภาษณ์คู่กับดาวมหาวิทยาลัย รวมทั้งมีสาวๆ จากคณะต่างๆ มาขอถ่ายรูปคู่กับมันมากมาจนต้องต่อแถวยาวเป็นหางว่าว

“เชิญเดือนทางนี้หน่อยครับ อยากสัมภาษณ์พิเศษหน่อย” รุ่นพี่คนนึงเดินมาบอกไอ้ตั้ม ไอ้ตั้มจึงขอตัวจากแฟนๆ ที่มารอถ่ายรูปกับมันแล้วตามรุ่นพี่คนนั้นไป ตอนแรกมันจะชวนคนที่เป็นดาวมาด้วยแต่รุ่นพี่คนนั้นบอกว่าขอสัมภาษณ์เดือนก่อนครับ แล้วกระซิบบอกไอ้ตั้มว่าเป็นผู้จัดละครอยากคุยด้วยเพราะอยากชวนไปเป็นพระเอกซีรีส์วัยรุ่นแบบที่กำลังดังอยู่ตอนนี้ เขาเลยอยากคุยกับเดือนคนเดียว ส่วนน้องดาวให้ถ่ายรูปกับสัมภาษณ์อยู่ตรงนี้ไปก่อน ไอ้ตั้มเลยต้องตามรุ่นพี่คนนั้นไป

รุ่นพี่คนนั้นพามันมาที่หน้าสระว่ายน้ำเก่าที่อยู่ด้านหลังหอประชุม ยังไม่ทันที่ไอ้ตั้มจะได้สงสัยอะไรก็มีพวกรุ่นพี่ที่คณะบริหารโผล่ออกมาล้อมหน้าล้อมหลังแล้วช่วยกันจับไอ้ตั้มล็อคตัวเอาไว้ แล้วถอดถุงเท้าข้างหนึ่งของไอ้ตั้มออกมาอุดปากไอ้ตั้มไว้ไม่ให้ร้องขอความช่วยเหลือ รุ่นพี่คนนึงเดินเข้ามาต่อยท้องไอ้ตั้มจนตัวงอแล้วจิกหัวไอ้ตั้มขึ้นมา

“ไงวะไอ้เดือนมหาลัย นี่มึงนึกจริงๆ เหรอว่าหมาขี้เรื้อนอย่างมึงจะได้เป็นเดือนมหาลัย ถ้าพวกกูไม่ไปเส้นกรรมการให้เขาล็อคผลให้ กูจะบอกให้นะว่ามหาลัยนี้ไม่เคยให้พวกยาจกขึ้นมาเสนอหน้าเว้ย”

จากนั้นรุ่นพี่คนนั้นก็ถุยน้ำลายใส่หน้าไอ้ตั้มแล้วบอกว่าในเมื่อไอ้ตั้มเป็นหมาขี้เรื้อนแต่ใฝ่สูงอยากจะชุบตัวอยู่กับพวกคนรวยมันเลยต้องให้บทเรียนสำหรับความไม่รู้จักเจียมเนื้อเจียมตัวของไอ้ตั้มอย่างสาสม รวมถึงบอกด้วยว่า “มึงคงสงสัยว่าทำไมกูต้องล็อคตำแหน่งเดือนมหาลัยให้มึง กูจะบอกให้ก็ได้ กูก็แค่จะอัพราคามึงให้ขายได้ดีๆ ไงล่ะ แล้วยิ่งมึงเป็นที่รู้จักทั่วมหาลัยแบบนี้เวลามึงต้องอาย มึงจะได้อายยิ่งกว่าเป็นไอ้ตั้มโนเนมที่คณะบริหารเป็นพันๆ เท่า พวกหมาขี้เรื้อนที่ทะเยอทะยานอยากชุบตัวมันก็ต้องสั่งสอนโดนแบบนี้”

ไอ้ตั้มพอได้ยินก็หน้าตาตื่น จากนั้นพวกมันก็ลากไอ้ตั้มผ่านประตูสระว่ายน้ำเก่าเข้าไปด้านใน พอไอ้ตั้มถูกพาเข้าไปในบริเวณสระก็มีเสียงปรบมือต้อนรับจากกลุ่มเกย์ไฮโซ 7 คนที่เข้ามารออยู่แล้ว พวกเกย์เดินมาเช็คหน้าไอ้ตั้มแล้วบอกว่าตัวจริงหล่อกว่าในรูปอีก ไม่ผิดหวังจริงๆ อีกคนก็บอกวันนี้ดีใจจะได้เย็ดเดือนมหาลัยไฮโซ อีกคนก็บอกว่าสะใจดีที่ไอ้นี่เคยช่วยผู้หญิงจากการถูกรุมโทรมแต่คืนนี้จะต้องมาโดนรุมโทรมซะเอง

ไอ้ตั้มได้ยินแบบนั้นก็ดิ้นสุดชีวิต แต่เกย์คนนึงก็เข้ามาเอาที่ช็อตไฟฟ้าช็อตตัวไอ้ตั้มจนร่วงไปอยู่กับพื้นก่อนที่จะจ่ายเงินให้พวกรุ่นพี่ที่พาไอ้ตั้มเข้ามาเสิร์ฟ แล้วพวกรุ่นพี่ก็เดินหัวเราะออกจากสระไปพร้อมอวยพรไอ้ตั้มให้สนุกกับการรับลูกค้าในคืนนี้

ไอ้ตั้มถูกพวกเกย์เอาผ้าผสมยากล่อมประสาทอ่อนๆ มาโป๊ะที่ปากและจมูกครูหนึ่งเพื่อทำให้ไอ้ตั้มเคลิ้มและไม่มีแรงสู้ จากนั้นพวกมันก็ช่วยกันจับไอ้ตั้มถอดเสื้อผ้าชุดนักศึกษาออกจนไอ้ตั้มนอนล่อนจ้อนกับพื้นปูน พวกมันเอาป๊อปเปอร์มาให้ไอ้ตั้มดมแล้วก็เอามือชักควยของไอ้ตั้มไปด้วยจนควยของไอ้ตั้มแข็งจนน้ำเยิ้มออกมา ส่วนคนอื่นก็ทั้งลูบไล้ทั้งเลียไปตามส่วนต่างๆ ของไอ้ตั้มจนทั่วไม่ว่าจะเป็นใบหน้า หัวนม รักแร้ หน้าอก หน้าท้อง ง่ามขา รวมถึงจับไอ้ตั้มขึ้นมาจูบปากกันอย่างดูดดื่ม พอควยไอ้ตั้มแข็งจนพอใจพวกมันแล้วพวกมันก็จับไอ้ตั้มลนั่งชันตัวขึ้น แล้วเอาสายสะพายประจำตำแหน่งเดือนมหาวิทยาลัยให้ไอ้ตั้มใส่เอาไว้บนร่างที่เปลือยเปล่า

พวกมันคนนึงเอาปืนมาจ่อหัวไอ้ตั้ม แล้วบังคับให้ไอ้ตั้มอมควยคนที่อยู่ตรงหน้าถ้าไม่อยากหัวระเบิด ไอ้ตั้มจึงต้องเอาปากครอบควยเกย์แล้วถูกจิกหัวให้ดูดเข้าดูดออกจนไอ้ตั้มสำลัก ส่วนมือทั้งสองข้างก็ถูกบังคับให้ชักว่าวให้เกย์อีกสองคนที่อยู่ทางด้านซ้ายและขวาของคนที่ไอ้ตั้มอมควยให้อยู่ สักพักไอตั้มก็ถูกจับให้ลุกขึ้นแล้วโก่งตูดโดยที่ปากยังอมควยอยู่และมือทั้งสองข้างยังต้องบริการชักว่าวให้เกย์ทั้งสองคนไปด้วย

เกย์อีกสองคนมาช่วยกันจับขาไอ้ตั้มแหกออก แล้วเกย์อีกคนก็เข้ามาค่อยๆ เอานิ้วสอดเข้าไปในรูทวารหนักของไอ้ตั้มจนไอ้ตั้มแหกปากร้อง แต่กุถูกกดหน้ามาอมควยเหมือนเดิม จากหนึ่งนิ้วก็เป็นสองนิ้ว และสามนิ้ว ก่อนที่นิ้วมือจะเปลี่ยนเป็นลำควยท่อนเขื่องของเกย์วัยกลางคนที่แทรกผ่านประตูหลังของไอ้ตั้มเข้ามาแล้วขยับซอยเข้าออกจนไอ้ตั้มร้องไม่เป็นภาษา

“หีเดือนมหาลัยชายแท้นี่มันฟิตดีจริงๆ โว้ย!”

ภาพหนุ่มหล่อแก้ผ้าล่อนจ้อนเหงื่ออกจนตัวมันใส่สายสะพายประจำตำแหน่งเดือนมหาวิทยาลัยกำลังถูกบังคับให้อมควย มือทั้งสองข้างต้องคอยบริการชักว่าวให้เกย์ ในขณะที่โดนเย็ดตูดไปด้วยคงเป็นภาพที่สะใจพวกรุ่นพี่คณะบริหารของผมอย่างมาก

จากนั้นพวกมันคนนึงก็นอนลงกับพื้นแล้วจับไอ้ตั้มขึ้นนั่งเทียน โดยถ้าไอ้ตั้มไม่ยอมกระเด้าตูดขึ้นลงให้เป็นที่พอใจของไอ้คนที่นอนอยู่ไอ้ตั้มก็จะถูกแซ่หนังที่อยู่ในมือเกย์อีกคนฟาดไปเรื่อยๆ ไอ้ตั้มนั่งเทียนขย่มไป ปากก็ถูกเกย์อีกคนนึงเย็ดไป ส่วนมือทั้งสองข้างก็ต้องบริการชักว่าวให้เกย์อีกสองคนเหมือนเดิม ในที่สุดน้ำกามของพวกเกย์ก็แตกเข้าเต็มรูทวารรวมถึงช่องปากของไอ้ตั้ม ซึ่งไอ้ตั้มถูกบังคับให้กลืนกินเข้าไปทุกหยด

แล้วพวกมันก็จับไอ้ตั้มนอนหงาย จับแหกขาออก แล้วให้เกย์อีกคนนึงเย็ดไอ้ตั้มอย่างเมามัน ส่วนเกย์อีกคนก็เอาตูดตัวเองมานั่งยองๆ จ่อที่หน้าไอ้ตั้มแล้วบังคับให้ไอ้ตั้มเลียตูดให้อย่างน่าขยะแขยง แถมมันยังตดใส่หน้าไอ้ตั้มแล้วหัวเราะกันอีกด้วย พอคนที่เย็ดอยู่น้ำแตกใส่ตูดไอ้ตั้มแล้ว พวกมันก็จับไอ้ตั้มเข้าไปในห้องน้ำแล้วเอาเชือกมัดข้อมือไอ้ตั้มโยงขึ้นกับเพดานตรงหน้ากระจกอ่างล้างมือให้ไอ้ตั้มดูสภาพตัวเองที่มันได้ใส่สายสะพายเดือนมหาลัยแต่ต้องมาแก้ผ้าโดนเย็ดหลังรับตำแหน่ง

ไอ้ตั้มตาแดง น้ำตาลูกผู้ชายไหลอาบแก้ม แต่ดูเหมือนมันจะไม่ได้รับความสงสารจากพวกเกย์แม้แต่น้อย มันถูกจับยกขาข้างหนึ่งขึ้นในขณะที่โดนมัดยืนอยู่แบบนั้น แล้วถูกจับเย็ดในท่ายืนตรงหน้ากระจก แถมถูกบังคับให้มองตัวเองในกระจกกระหว่างที่โดนเย็ดไปด้วย พวกมันเย็ดไปก็หัวเราะสะใจใส่ไอ้ตั้มกันอย่างโรคจิต เย็ดไปปากก็ไซร้ไปตามซอกคอมือก็ลูบไปตามร่างกายที่แน่นไปด้วยกล้ามเนื้อนักกีฬาอย่างหื่นหระหาย และมันก็ไม่ลืมก็จะคอยชักควยไอ้ตั้มให้แข็งโด่จนเป็นที่พอใจอยู่ตลอดเวลา

พวกมันเรียงคิวมันมาเย็ดไอ้ตั้มหน้ากระจกจนน้ำแตกใส่ตูดไอ้ตั้มครบทุกคนจึงปลดเชือกไอ้ตั้มลงมาให้นั่งยองๆ กับพื้นแล้วเบ่งน้ำเงี่ยนที่อยู่ในตูดออกมาให้หมด ซึ่งสิ่งที่ออกมานั้นมีทั้งน้ำเงี่ยนของพวกเกย์ ขี้ แล้วก็เลือดจากตูดของไอ้ตั้มเอง แล้วพวกมันก็สั่งให้ไอ้ตั้มเลียกินสิ่งที่ออกมาจากตูดของมันเองนั้นให้หมด โดยให้ไอ้ตั้มก้มเอามือทั้งสองข้างยันพื้น แล้วมันก็จับขาทั้งสองข้างไอ้ตั้มยกขึ้นจนตูดชี้ฟ้าหัวจิ้มดิน เอาควยของมันยัดเข้าไปในตูดของไอ้ตั้ม ขาทั้งสองข้างของไอ้ตั้มลอดรักแร้เกย์คนนั้นไปด้านหลัง แล้วให้ไอ้ตั้มเดินด้วยมือเลียน้ำกามที่เปื้อนพื้นอยู่ในขณะที่โดนเย็ดตูดไปด้วย พอเสร็จแล้วพวกมันก็จับไอ้ตั้มนั่งมัดมือไว้กับโถเยี่ยวในห้องน้ำขณะที่พวกมันออกไปพักยกสูบบุหรี่กินเหล้ากัน แล้วพากันกลับเข้าไปเอาควยเย็ดปากไอ้ตั้มจนน้ำแตกใส่ปากไอ้ตั้มกันทุกคน แล้วมันก็พักกันอีกรอบ

รอบสุดท้ายก่อนเช้า มันเข้ามาจับไอ้ตั้มยืนโก้งโค้ง กดหน้าไอ้ตั้มจิ้มกับโถเยี่ยวแล้วเย็ดตูดไอ้ตั้มกันอย่างเมามัน แถมคนที่ไม่ได้เย็ดก็เข้ามาฉี่ใส่หัวไอ้ตั้มที่ถูกกดอยู่ในโถเยี่ยวกันอย่างสะใจ เสร็จแล้วพวกมันก็ช่วยกันเอาไอ้ตั้มไปมัดพิงมุมห้องน้ำไว้ โดยให้อยู่ในท่าชูแขนขึ้น กางขาแหกตูดออกโชว์รูตูดโบ๋ๆ มันบังคับให้ไอ้ตั้มอ้าปาก แล้วพวกที่ยังไม่ได้ฉี่ใส่หัวไอ้ตั้มก็เข้ามาฉี่ใส่ปากไอ้ตั้มแล้วบังคับให้ไอ้ตั้มกลืนกินฉี่พวกมันเข้าไป แถมก่อนกลืนมันยับงให้ไอ้ตั้มกลั้วปากด้วยฉี่พวกมันอีกด้วย ส่วนเกย์สองคนสุดท้ายที่ไม่ได้ฉี่รดหัวไอ้ตั้มและฉี่ใส่ปากไอ้ตั้มในตอนแรกก็ฉี่รดตัวรดหัวรดหน้าไอ้ตั้มที่ถูกมัดอยู่แทน จนทั้งเนื้อทั้งตัวของไอ้ตั้มรวมถึงสายสะพายประจำตำแหน่งเดือนมหาวิทยาลัยที่มันใส่อยู่เต็มไปด้วยฉี่ แม้แต่ขนเพชรและขนรักแร้ของมันที่ถูกมัดยกโชว์เอาไว้ก็ยังมีคราบน้ำกามแห้งๆ เปรอะเกรอะกรังอยู่อีกด้วย

จากนั้นมันก็ถ่ายรูปไอ้ตั้มไว้ด้วยกล้องวีดีโอ มันค่อยๆ ซูมจากหน้าไอ้ตั้มลงมาจนถึงควย มันถอกหัวควยไอ้ตั้มแล้วเอากล้องซูมจนเห็นรายละเอียดถี่ยิบ แล้วก็มาซูมที่รูตูดโบ๋ๆ ที่ยังมีคราบเลือดแล้วน้ำกามติดอยู่ ปิดท้ายด้วยการถอยกล้องออกมาให้เห็นไอ้ตั้มที่ถูกจับมัดทั้งตัวอย่างน่าอนาถ

ก่อนมันไป มันก็เอาไม้ถูพื้นที่อยู่ในห้องน้ำยัดคารูตูดไอ้ตั้มเอาไว้ แล้วอวยพรไอ้ตั้มว่า ขอให้มีคนมาเจอตัวเร็วๆ แล้วกันนะ ถ้าไม่ตายคงได้มีโอกาสใช้บริการอีก แล้วมันก็เอาแบงค์พัน 1 แบงค์แปะหน้าผากไอ้ตั้มเอาไว้แล้วเดินออกไปพร้อมกับแสงแรกในยามเช้า

พิสูจน์ความบริสุทธิ์

สองวันนับจากคืนนั้น ไม่มีใครเห็นตัวของเดือนมหาวิทยาลัยคนใหม่ ชมพูและสาวๆ รวมถึงพวกที่ทำข่าวกิจกรรมโรงเรียนมาถามผมหลายคนว่าเห็นไอ้ตั้มมั้ย แต่ผมก็ไม่รู้ ผมพยายามโทรหามันก็ไม่ติด จนผมจะตัดสินใจไปแจ้งความคนหายแต่ก็มีข่าวมาก่อนว่ามียามไปเจอเดือนคนล่าสุดของมหาวิทยาลัยที่ห้องน้ำในสระว่างน้ำเก่า สภาพถูกจับแก้ผ้ามัดซาดิส มีสิ่งปฏิกูลราดเต็มตัว เล่ากันว่าตอนพี่ยามไปเจอมีมดและแมลงวันตอมกันหึ่งจนเหมือนกองขยะมากกว่าคน ที่พี่ยามจำได้ว่าเป็นเดือนก็เพราะมีสายสะพายเดือนมหาวิทยาลัยคาดอยู่ที่ตัวนั่นเอง

พี่ยามที่เจอเรียกเพื่อนยามมาอีกสองสามคนให้ช่วยแก้มัด หาเสื้อผ้าให้ไอ้ตั้มใส่ แล้วพาไอ้ตั้มที่อยู่ในสภาพอิดโรยส่งโรงพยาบาล

ข่าวที่พี่ยามเจอไอ้ตั้มในสภาพแบบนั้นแพร่ไปทั่วมหาวิทยาลัยอย่างรวดเร็วจนทุกคนพากันพูดว่าเดือนมหาลัยสุดหล่อคนใหม่ถูกจับไปข่นขืนซาดิสในคืนรับตำแหน่ง โดนอัดถั่วดำจนสิ้นความเป็นชายเรียบร้อยแล้ว ผมไม่กล้าบอกไอ้ตั้มว่าเรื่องของมันตอนนี้เป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ไปทั่วมหาลัยเพราะเป็นห่วงจิตใจมัน ผมแอบได้ยินมันร้องไห้ตอนกลางคืน แม้ในตอนกลางวันที่มันคุยกับผมมันจะบอกว่ามันโอเคและมันจะแจ้งความเอาเรื่องคนที่ทำมันให้ถึงที่สุด หมอให้ไอ้ตั้มนอนโรงพยาบาลอยู่สองคืนแล้วให้กลับหอได้ แต่คืนก่อนกลับหอก็มีอาจารย์ของมหาวิทยาลัยมาเยี่ยมพร้อมบอกให้ไอ้ตั้มอย่าแจ้งความเรื่องนี้เพราะจะสร้างความเสียหายให้กับชื่อเสียงมหาวิทยาลัย ถ้าหากไอ้ตั้มไม่ทำตามมหาวิทยาลัยคงจะต้องพิจารณางดให้เงินช่วยเหลือครอบครัวไอ้ตั้มตามที่ขอเอาไว้ทำให้ไอ้ตั้มโกรธมากเกือบจะต่อยอาจารย์ แต่สุดท้ายก็ต้องเก็บอารมณ์ไว้และจำใจทำตาม

พอมันกลับมาเรียนก็มีแต่คนซุบซิบนินทาแล้วมองไอ้ตั้มเหมือนตัวประหลาด ขนาดสาวๆ ที่เคยกรี๊ดกร๊าดหรือแม้แต่ชมพูที่ก่อนหน้านี้ทำตัวแทบจะเป็นแฟนไอ้ตั้มก็ตีตัวออกห่าง แต่ยังไงด้วยตำแหน่งเดือนไอ้ตั้มก็ต้องไปทำกิจกรรมต่างๆ กับองค์กรนักศึกษาของมหาวิทยาลัยอยู่ดี หนำซ้ำพวกองค์กรนักศึกษายังบังคับให้ไอ้ตั้มใส่สายสะพายประจำตำแหน่งเดือนอันเดิมที่มันเคยใส่ตอนถูกข่มขืนแทบทุกวันเวลาออกงานทำกิจกรรม แม้ว่าสายสะพายอันนั้นมันก็ยับยู่ยี่และมีคราบเหลืองของทั้งฉี่ทั้งน้ำว่าวเปื้อนอยู่ก็ตาม ทำให้ไอ้ตั้มรู้สึกอับอายและสมเพชตัวเองมาก เพราะแทนที่สายสะพายอันนี้จะทำให้มันภูมิใจอย่างที่มันเคยฝันมาตลอด แต่ตอนนี้สายสะพายนี้กลับกลายเป็นเครื่องประจานย้ำเตือนความอัปยศของมันเองในทุกๆ วัน

วันนี้ผมพึ่งรู้ว่าไอ้ตั้มมันเจอกับรุ่นพี่ที่หลอกมันไปให้กะเทยเย็ดที่สระว่ายน้ำเก่าที่โถงกลางของอาคารเรียน มันโผเข้าไปต่อยหน้ารุ่นพี่พวกนั้นคนนึงจนล้มพร้อมตะโกนอย่างบ้าคลั่งว่า “กูจะฆ่ามึงๆๆ” ซ้ำๆ ด้วยความโกรธแค้นจนพวกนักศึกษาคนอื่นที่อยู่ตรงนั้นต้องช่วยกันจับตัวไอ้ตั้มลากออกมา แต่ไอ้รุ่นพี่พวกนั้นก็มาเย้ยไอ้ตั้มว่าพวกมันไปทำอะไรให้ไอ้ตั้มเหรอ ไม่พอใจอะไรก็บอกให้ทุกคนรู้เลยสิว่าพวกมันทำอะไรให้ไอ้ตั้มไม่พอใจ ถ้าไม่มีเหตุผลแล้วอยู่ดีๆ มาทำร้ายร่างกายพวกมันพวกมันจะแจ้งความเอาไอ้ตั้มเข้าตาราง ไอ้ตั้มจะบอกว่าตัวเองถูกข่มขืนก็ไม่ได้เพราะอายคน จะไปแจ้งความเรื่องที่โดนก็ไม่ได้เพราะติดข้อตกลงกับมหาลัยเอาไว้ มัยเลยได้แต่กำหมัดกัดฟันด้วยความแค้นแล้วเดินจากมา

วันรุ่งขึ้นมีรุ่นพี่จากองค์กรนักศึกษาโทรมาหาไอ้ตั้มแต่เช้าว่ามีวันนี้มีงานของเดือนมหาลัยช่วงบ่าย ให้ไอ้ตั้มไปให้ตรงเวลา พอช่วงบ่ายไอ้ตั้มก็ไปตามนัด เผอิญวันนี้ผมไม่มีเรียนพอดีเลยไปเป็นเพื่อนมันด้วย

สถานที่จัดงานเป็นลานเอนกประสงค์ของมหาวิทยาลัย มีเวทีชั่วคราวเตี้ยๆ อยู่ตรงด้านหน้า บริเวณพื้นที่มีนักศึกษาและนักข่าวของมหาวิทยาลัยมาจับจองที่นั่งกันเต็มจนที่นั่งไม่พอ จนมีคนที่ไม่มีที่นั่งแต่ยอมยืนอยู่รอบๆ ลานเป็นจำนวนมาก

ไอ้ตั้มถูกให้ไปรออยู่หลังเวที ส่วนผมรออยู่ตรงลานด้านนอก พอได้เวลาไอ้ตั้มในชุดนักศึกษาพร้อมสายสะพายเดือนมหาลัยเปรอะคราบเยี่ยวก็ออกมายืนบนเวที ที่แปลกคือคนที่เป็นดาวมหาลัยแทนที่จะไปอยู่กับไอ้ตั้มแต่ดันนั่งดูอยู่ข้างล่าง พร้อมพิธีกรประกาศว่า เนื่องจากตอนนี้มีข่าวโคมลอยมากมายเกี่ยวกับเดือนมหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นข่าวที่สกปรกน่ารังเกียจ สร้างความเสียหายแปดเปื้อนให้กับตำแหน่งเดือนมหาวิทยาลัยที่มีมาอย่างยาวนาน ซ้ำแล้วเมื่อวานนี้เดือนมหาวิทยาลัยของเรายังมีพฤติกรรมก้าวร้าวทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนมีข่าวลือเสียหายเกี่ยวกับการใช้สารมึนเมา ทางองค์กรนักศึกษาทราบดีถึงข่าวเหล่านี้และต้องการแก้ปัญหาพร้อมพิสูจน์ว่า นายตั้ม เดือนมหาวิทยาลัยของเรามิได้ผ่านการถูกล่วงละเมิดทางเพศและการเสพของมึนเมาจนเกินขนาด ดังนั้นในวันนี้จึงเชิญนักข่าวมหาลัยและนักศึกษาที่ไม่มีเรียนในช่วงบ่ายมาร่วมกันเป็นสักขีพยานในการตรวจร่างกายเดือนมหาลัยเพื่อพิสูจน์ว่าเดือนคนล่าสุดของเราคนนี้ยังไม่ถูกล่วงละเมิดทางเพศและไม่มีการใช้ของมึนเมาเกินขนาดแต่อย่างใด

เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ ไอ้ตั้มถูกพิธีกรรุ่นพี่ในงานสั่งให้ถอดเสื้อกับกางเกงนักศึกษาออกเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการตรวจร่างกายต่อหน้าสาธารณชนในวันนี้ แต่ไอ้ตั้มไม่ยอม มันถอดสายสะพายเดือนมหาวิทยาลัยออกแล้วเขวี้ยงลงกับพื้นด้วยความโมโหพร้อมกับตะโกนบอกพวกนั้นว่าถึงมันจะจนมันก็ไม่ใช่ของเล่นที่พวกรุ่นพี่จะทำอะไรมันก็ได้ แม้ก่อนที่มันจะกระโดดลงจากเวทีรุ่นพี่ประธานองค์การนักศึกษาได้ขู่มันว่าถ้ามันไม่ทำตามมติขององค์กรนักศึกษาพี่ประธานองค์การจะงดเซ็นชื่อในเอกสารการจ่ายเงินช่วยเหลือครอบครัวของไอ้ตั้มทั้งหมดมันก็ไม่ฟังเพราะมันคิดว่ามันสามารถออกไปทำงานพิเศษหาเงินเองได้ ดีกว่าต้องมาถูกพวกที่เกิดมาบนกองเงินกองทองเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของมันแบบนี้

แต่โชคก็ดูเหมือนจะไม่เข้าข้างไอ้ตั้ม เพราะอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมา มือถือมันก็ดังขึ้นพร้อมข่าวจากทางบ้านมันว่า พ่อมันอาการทรุดหนักต้องผ่าตัดกระทันหันทำให้ต้องใช้เงินสำรองจ่ายไปก่อนเป็นจำนวนหลักแสน ซึ่งไอ้ตั้มรู้ดีว่ามันไม่สามารถหาเงินจำนวนนี้มาได้ด้วยงานพิเศษแน่นอน มันจึงรีบไปขอความช่วยเหลือจากอาจารย์ของมหาวิทยาลัยแต่อาจารย์กลับบอกมันว่า ประธานองค์การนักศึกษาพึ่งแจ้งเข้ามาว่าไอ้ตั้มไม่ยอมทำตามมติขององค์การนักศึกษา ถึงขอถอนชื่ออกจากเอกสารอนุมัติ ทำให้การจ่ายเงินช่วยเหลือครอบครัวไอ้ตั้มต้องถูกระงับทั้งหมด หากไอ้ตั้มต้องการเบิกเงินล่วงหน้าสำหรับเป็นค่าผ่าตัดและให้มหาวิทยาลัยช่วยเหลือต่อก็ต้องไปคุยกับประธานองค์การนักศึกษาให้กลับมาเซ็นอนุมัติอีกครั้งหนึ่งถึงจะเบิกเงินได้ ไอ้ตั้มไม่พูดอะไรแต่ผมที่ไปกับมันเห็นมันกำหมัดแน่นคิ้วขมวด ก่อนที่จะเดินออกไปอย่างเคร่งเครียดโดยไม่ให้ผมตามไป

วันรุ่งขึ้นผมตื่นขึ้นมาพบกับป้ายประชาสัมพันธ์ขนาดใหญ่ “ขอเชิญนักศึกษาทุกท่านเข้าร่วมเป็นพยานการตรวจพิสูจน์ร่างกาย นายกฤชพงษ์ มีแสงขรรค์ (ตั้ม) เดือนมหาวิทยาลัยประจำปี พ.ศ.2554 ณ ลานอเนกประสงค์ของมหาวิทยาลัย เวลา 16:00 น.” ซึ่งถูกติดหราอยู่ที่โถงอาคารเรียนรวมของมหาวิทยาลัยทำให้มีคนสนใจเป็นจำนวนมาก (ผมมารู้ทีหลังว่าที่ไอ้ตั้มหายไปไม่กลับห้องเกือบทั้งคืนเพราะโดนรุ่นพี่สั่งให้เขียนป้ายนี้และนำขึ้นไปติดด้วยตนเอง) แถมงานครั้งนี้ยังเลื่อนเวลาจากตอนบ่ายแบบเมื่อวานไปเป็นตอนเย็นซึ่งนักศึกษาเลิกเรียนหมดแล้วจึงทำให้วันนี้ พื้นที่บริเวณลานเอนกประสงค์แน่นขนัดจนล้นออกมาที่ถนนด้านนอก กะด้วยสายตาน่าจะมีนักศึกษามาดูการตรวจร่างกายของไอ้ตั้มในครั้งนี้เกือบ 700 คนน่าจะได้ ซึ่งทางองค์การนักศึกษาก็อำนวยความสะดวกให้ผู้มาชมด้วยจอโปรเจกเตอร์ขนาดใหญ่แบบคมชัดที่จะถ่ายทอดเหตุการณ์บนเวทีถึง 2 จอ

พอถึงเวลาไอ้ตั้มในชุดนักศึกษาและสวมสายสะพายเดือนก็ขึ้นมายืนบนเวทีแล้วถูกสั่งให้ถอดเสื้อกับกางเกงนักศึกษาออกท่ามกลางเสียงเชียร์ของนักศึกษาที่มาดูกัน ตอนนี้ไอ้ตั้มยืนโชว์ร่างนักกีฬาสูงขาวของมันต่อหน้าคนเกือบพันคน กล้ามเนื้อแน่นทุกมัดของมันถูกถ่ายขึ้นโปรเจอเตอร์จอยักษ์ ปราการด่านเดียวที่ปกปิดร่างกายมันในตอนนี้คือกางเกงในสีเขียวราคาถูกที่มันใส่มาตั้งแต่สมัยมัธยม แม้ว่าไอ้ตั้มจะเป็นคนที่ภูมิใจในรูปร่างของมันมาก (ผมเห็นมันชอบเบ่งกล้ามชื่นชมตัวเองอยู่หน้ากระจกเวลามันอาบน้ำเสร็จเป็นประจำ) แต่ผมรับรู้ได้ว่าการที่มันต้องมาอยู่บนเวทีในสภาพนี้ สานการณ์แบบนี้มันไม่ใช่เรื่องที่น่าภาคภูมิใจเลยสักนิด ไอ้ตั้มกำหมัดก้มหน้าหลบสายตาคน แต่ก็ถูกสั่งให้เงยหน้าขึ้นเพื่อตากล้องข้างล่างจะได้ถ่ายรูปได้ชัดๆ ก่อนที่จะมีคนเข็นฉากสังกะสีเล็กๆ ที่มีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสมาปิดบริเวณเป้ากางเกงของไอ้ตั้ม ซึ่งมันก็ปิดได้ตั้งแต่ใต้สะดือไอ้ตั้มลงไปจนถึงประมาณ 1/3 ของต้นขาด้านบน จากนั้นกางเกงในสีเขียวซึ่งเป็นเสื้อผ้าชิ้นสุดท้ายของไอ้ตั้มก็ถูกถอดออกกลางเวทีตามคำสั่งของรุ่นพี่ด้วยมือของไอ้ตั้มเอง พอถอดออกมาเสร็จไอ้ตั้มก็ถูกสั่งให้ถือกางเกงในตัวเองด้วยสองมือแล้วชูขึ้นโชว์กลางเวทีพร้อมแสงแฟลชจากกล้องถ่ายรูปที่กดบันทุกภาพกันรัวๆ แล้วก็มีคนตะโกนล้อว่ากางเกงในแม่งอย่างกับผ้าเช็ดตีน ทั้งถูก ทั้งเก่า แถมมีคราบเหลืองตรงก้น ไม่รู้ว่าเป็นคราบขี้หรือคราบน้ำว่าว จากนั้นคนก็พากับวิจารณ์ดูถูกไอ้ตั้มกันจนไอ้ตั้มหน้าแดงหูแดงไปหมดด้วยความอาย

จากนั้นรุ่นพี่ก็เอาถุงผ้าอันจิ๋วสีแดงเลือดหมูที่ตัดเย็บเป็นรูปอวัยวะเพศชายมาสวมที่อวัยวะเพศของไอ้ตั้ม แล้วรูดเชือกปากถุงรัดโคนควยของไอ้ตั้มจนแน่นไม่ให้หลุด ไอ้ตั้มกัดฟันแน่นพยายามสกัดกั้นความอาบของมันจนเส้นเลือดขึ้นที่ขมับ และในขณะที่มันไม่ทันตั้งตัว รุ่นพี่ก็เลื่อนฉากบังควยของไอ้ตั้มออก เผยให้เห็นควยของไอ้ตั้มที่ถูกครอบด้วยถุงผ้าอันจิ๋วต่อหน้าสาธารณชนอย่างสุดอนาจาร

ทุกคนต่างฮือฮา ไอ้ตั้มรีบเอามือลงมาปิดควยแต่ก็ถูกพวกรุ่นพี่สั่งให้ยืนตรงแล้วยกแขนชูกางเกงในของตัวเองขึ้นเหนือหัวเหมือนเดิม ซึ่งไอ้ตั้มก็จำเป็นต้องยอมทำตามคำสั่ง ช่างภาพด้านล่างรัวชัตเตอร์จับภาพเดือนมหาวิทยาลัยตกอับคนล่าสุดที่ยืนกึ่งเปลือยอยู่กลางเวที ผิวขาวเหมือนหยวกกล้วยที่ตัดกับหัวนมฐานบานได้รูปสีน้ำตาลอมชมพูระเรื่อนั้นเริ่มมีเม็ดเหงื่อแห่งความหวาดกลัวผุดขึ้นเล่นกับแสงไฟ ขนรักแร้ไรสวยรกชัดที่เจริญเต็มที่ตามประสาเด็กหนุ่มเริ่มมีเหงื่อจับจนเป็นก้อน ไร้ขนที่ลากยาวตั้งแต่ใต้สะดือลงไปก่อนที่จะแผ่ฐานจนเป็นรูปเพชรยาวฟูบัดนี้ได้ถูกเผยออกต่อหน้าสาธารณชนจนหมดสิ้น มีเพียงและลำควยและพวงไข่ของเขาเท่านั้นที่ยังกึ่งแข็งกึ่งอ่อนอยู่ใต้ถุงผ้าสีแดงอันจิ๋ว นัยน์ยาของชายหนุ่มเริ่มรื้นด้วยน้ำตาแห่งความอับอายและโกรธแค้นที่เขาถูกคนชั่วเอามาย่ำยีเช่นนี้โดยที่เขาต้องยอมทำตามเพียงเพราะเขาไม่มีเงินและอำนาจอย่างพวกมัน

พวกองค์การนักศึกษาประกาศว่าชุดนี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้สะดวกแก่การตรวจร่างกายในวันนี้ และนายตั้มจะต้องใส่ชุดนี้ไปตลอดจนกว่ากิจกรรมตรวจร่างกายจะเสร็จสิ้น จากนั้นจึงปล่อยให้ทุกคนเก็บภาพอันน่าทุเรศของเดือนมหาวิทยาลัยไปสักพักหนึ่ง แล้วจึงเริ่มกระบวนการตรวจร่างกายโดยนักศึกษาคณะแพทย์ในชุดกาวน์ที่เอากรรไกรมาเล็มเก็บตัวอย่างจนรักแร้ของไอ้ตั้มทั้งสองข้าง รวมถึงตัดตัวอย่างขนหมอยของไอ้ตั้มออกไปต่อหน้าทุกคนจนแหว่งโดยบอกว่าตัดไปเพื่อตรวจหาว่ามีคราบอสุจิติดอยู่หรือไม่

ความอับอายขายขี้หน้าของไอ้ตั้มยังไม่หมดแค่นั้น พี่หมอจับไอ้ตั้มให้กลับหลังหัน ทำให้ไอ้ตั้มได้โชว์ตูดเนียนๆ ขาวๆ ของมันพร้อมกล้ามก้นแน่นแบบไม่มีอะไรปกปิดสู่สายตานักศึกษาทั้งหมด ยังไม่พอ พี่หมอสั่งให้ไอ้ตั้มวางกางเกงในที่มันชูอยู่ลง กางขาออกแล้วก้มตัวลงเอามือทั้งของข้างจับข้อเท้า ทำให้ไอ้ตั้มได้โชว์ดงขนตูดสีดำยุ่บยั่บของมันที่อยู่ล้อมรอบขนตูดสีชมพูสดต่อหน้าทุกคน แถมกล้องถ่ายทอดยังซูมรูตูดของไอ้ตั้มขึ้นโปรเจกเตอร์จอใหญ่ให้คนที่มาดูได้เห็นรูตูดของไอ้ตั้มกันชัดเจนทุกรูขุมขนแบบ HD บนขอใหญ่กันเลยทีเดียว ส่วนอีกกล้องก็ซูมหน้าหล่อๆ ของไอ้ตั้มที่ตอนนี้ก้มลอดอยู่ที่หว่างขาของมัน ซึ่งเห็นได้ชัดเจนว่ามันเริ่มจะร้องไห้

พี่หมอเอากรรไกรมาตัดขนตูดของไอ้ตั้มเพื่อเก็บไปตรวจ เสร็จแล้วก็บอกให้ไอ้ตั้มยืนขึ้น แล้วบอกให้คนเอาเตียงตรวจมาเพราะการตรวจของจริงกำลังจะเริ่มต้นต่อจากนี้

“เตียงตรวจ” ที่ว่าถูกพวกองค์กรนักศึกษาเข็นขึ้นมาบนเวที มันไม่ใช่เตียงตรวจทันสมัยหรือรูปร่างแปลกอะไร เป็นเพียง “โต๊ะ” โลหะสีเงินทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าธรรมดาที่มีล้อเลื่อนที่ขาทั้งสี่ด้านเท่านั้น

โต๊ะตัวนั้นถูกเลื่อนมาที่หลางเวที ไอ้ตั้มถูกสั่งให้ปีนขึ้นไปบนโต๊ะแล้วอยู่ในท่าคลานสี่ขา ผมสังเกตว่าไอ้ตั้มมักจะหลับตา คิ้วขมวด หน้าขาวๆ ของมันแดงก่ำ มันคงจะอายมากจนไม่อยากมองใคร ทันใดนั้นพี่หมอก็เอาเชือกสีแดงเส้นโตมามัดล่ามที่ข้อเท้าทั้งสองข้างของไอ้ตั้มยึดเข้ากับมุมโต๊ะ

“หยุดนะเว้ย อย่าล่ามกู กูไม่ใช่วัวใช่ควายนะเว้ย ช่วยด้วยๆ” ไอ้ตั้มโววายและพยายามดิ้นแต่ก็มีคนมาช่วยกันจับมันเอาไว้ จนพี่หมอล่ามข้อเท้าของไอ้ตั้มติดกับมุมโต๊ะเสร็จ ทำให้ตอนนี้ไอ้ตั้มอยู่ที่ท่าคลานสี่ขาบนโต๊ะ ขาทั้งสองแยกออกจากกันจนเห็นรูตูดอ้าโชว์อย่างชัดเจน

แค่นั้นยังไม่พอพี่หมอยังให้คนมาเอาเชือกผูกที่ข้อมือทั้งสองข้างของไอ้ตั้ม แล้วจับมัดโยงขึ้นกับแป้นหมุนที่ถูกนำมาแขวนอยู่ที่เพดานด้านบนอีก ทำให้ตอนนี้ไอ้ตั้มอยู่ในท่ากึ่งคลานบนโต๊ะ ขาหลังแหกกว่างโชว์ตูด ตัวเอนไปข้างหน้าเกือบขนานกับพื้นหลังแอ่นเพราะลำตัวส่วนหน้าตั้งแต่ไหล่ขึ้นไปถูกยกขึ้นแขวนกับเพดานแล้วหันหนาไปหาผู้ชม ทำให้ผู้ชมได้เห็น กล้ามแขนที่ถูกมักโยงขึ้น ขนรักแร้ทั้งสองข้าง หน้าอกขาวแน่น และลำตัวส่วนหน้าของไอ้ตั้มอย่างชัดเจน รวมถึงเห็นควยที่อยู่ในถุงหุ้มควยได้ชัดเจนด้วย

ไอ้ตั้มก้มหน้าด้วยความอาย แต่มันก็ต้องเงยหน้าขึ้นเพราะพวกนั้นเอาตะขอเหล็กปลายมนมาเกี่ยวเข้าที่รูจมูกของไอ้ตั้ม แล้วโยงเชือกขึ้นบนเพดาน ทำให้ไอ้ตั้มต้องเงยเชิดหน้าให้ผู้ชมมองหน้าหล่อๆ ของมันตลอดการตรวจ

กล้องวีดีโอถูกนำมาติดตั้งที่หัวโต๊ะและท้ายโต๊ะ เพื่อถ่ายภาพหน้าและลำตัวของไอ้ตั้มแบบชัดๆ ขึ้นจอโปรเจอเตอร์ด้านซ้าย และกล้องทางท้ายโต๊ะทำหน้าที่ถ่ายรูตูดและพวงไข่ที่ลอดง่ามตูดออกมาทางด้านหลังขึ้นจอทางด้านขวาให้คนได้เห็นทุกสัดส่วนของเดือนมหาวิทยาลัยกันชัดๆ ระดับรูขุมขน

ผมยืนดูเพื่อนของผมถูกกระทำให้อยู่ในท่าทางและสภาพไม่ต่างจากสัตว์ ผมอยากจะช่วยแต่ไม่รู้จะทำยังไง ตอนที่ไอ้ตั้มถูกมัดอยู่แบบนั้น ผมคิดว่านี่มันไม่ใช่การตรวจแล้ว นี่มันเป็นการทารุณกรรมกันชัดๆ เพราะท่าที่ไอ้ตุ้มอยู่ตอนนี้ดูผิดมนุษย์มนาและน่าทรมานมาก ผมเลยตัดสินใจโทร 191 เพื่อแจ้งกับตำรวจเมืองเชียงใหม่ว่ามีเหตุทารุณกรรมมนุษย์ในมหาวิทยาลัยแห่งนี้ ทางตำรวจแจ้งกับผมว่าจะรีบส่งกำลังเข้ามาตรวจสอบ ขอให้ผมรออยู่ตรงนั้นแล้วใจเย็นๆ ก่อน ผมเลยใจชื้นขึ้นมาบ้าง

หลังจากจัดท่าทางให้ไอ้ตั้มเรียบร้อย พี่หมอก็เอาอุปกรณ์ออกมาวางเรียงบนโต๊ะข้างหน้าไอ้ตั้ม มันเป็นแท่งซิลิโคนสีดำลักษณะไม่แตกต่างจากควยปลอมหรือดิลโด้ที่ผมเคยเห็นในหนังโป๊เท่าไหร่นัก เรียงกันตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ทั้งหมด 10 แท่ง ไอ้ตั้มถึงกับตาลุกโพลงเมื่อเห็นอุปกรณ์ที่พี่หมอเอาออกมา

พี่หมอประกาศว่า ต่อไปนี้จะเป็นการทดสอบเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ทางทวารหนักของไอ้ตั้มว่ามันเคยเสียประตูหลังจริงตามที่มีข่าวลือหรือไม่

คนดูเริ่มส่งเสียงเชียร์ ส่วนไอ้ตั้มเริ่มโวยวายขอร้องว่าอย่าเอาอะไรมายัดตูดมันและพยายามดิ้นให้หลุดพ้นจากพันธนาการแต่ก็ไม่เป็นผล แท่งซิลิโคนอันแรกขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 3 เซ็นถูกสอดเข้าไปในรูขี้ของไอ้ตั้มอย่างไม่ยากลำบากมากนัก พี่หมอดึงเอาแท่งซิลิโคนแรกออกมา แล้วเปลี่ยนเป็นอันที่สองขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 4 เซนติเมตร ไอ้ตั้มเริ่มหน้าเหยด้วยความจุก มันคงทั้งเจ็บและอายมากที่ลูกผู้ชายแท้ๆ อย่างมันต้องมาถูกเอาวัตถุยัดตูดต่อหน้าคนเป็นร้อยๆ คนแบบนี้ แถมถูกถ่ายขึ้นจอยักษ์ประจานให้ชัดเข้าไปอีกทั้งหน้าตั้งตูด

ในที่สุดพี่หมอก็ดันแท่ง 4 เซ็นเข้าไปได้จนสุด ก่อนที่จะเอาออกมาแล้วเปลี่ยนเป็นแท่งขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 5 เซนติเมตร

ไอ้ตั้มส่ายหน้าดิกพยายามขอร้องให้พี่หมออย่าเอาอะไรยัดตูดมันอีกแต่ก็ไม่เป็นผล เสียงเชียร์ของผู้ชมยิ่งดังขึ้น เมื่อแท่งขนาด 5 เซ็นค่อยๆ แทรกทะลวงเข้าไปในรูขี้สีชมพูของไอ้ตั้ม ไอ้ตั้มอ้าปากตาเหลือก แต่มีเพียงเสียงร้องคำรามในลำคอ กล้ามเนื้อทุกมัดเกร็งจนขึ้นเป็นลูกๆ โคตรชัดอย่างที่ผมเองก็ไม่เคยเห็นมาก่อน ตอนนี้เหงื่อของมันไหลชุ่มไปทั้งตัวจนตัวมันมันวับขับกล้ามของมันที่ผมอิจฉาให้ยิ่งสวยงาม นี่ถ้าผมไม่ใช่ผู้ชายผมคงเงี่ยนกับภาพตรงหน้าน่าดูมี่สุดหล่อระดับเดือนมหาลัยต้องมาถูกแก้ผ้ามัดแล้วเอาแท่งซิลิโคนยัดตูดให้ดูแบบนี้

พี่หมอใช้เวลาเกือบหนึ่งนาทีกว่าจะยัดแท่งซิลิโคน 5 เซ็น เข้าไปในตูดของไอ้ตั้มได้ทั้งหมดท่ามกลางเสียงปรบมือของคนดู เริ่มมีคนตะโกนว่า “ไอ้ตุ๊ดตูดโบ๋” “ไอ้กะหรี่” และคำหยายคายด่าว่าไอ้ตั้มต่างๆ นานา จนพี่หมอประกาศอย่างเป็นทางการว่า ความจริงโดยปกติแล้วคนที่ไม่เคยเสียประตูหลังจะยัดได้มากสุดก็คือแท่ง 3 เซ็นเท่านั้น ตอนนี้แท่งซิลิโคนขนาด 5 เซ็นที่คาอยู่ในรูตูดของไอ้ตั้มคงเป็นเครื่องพิสูจน์ได้ทางการแพทย์แล้วว่า “เดือนมหาวิทยาลัยคนนี้ เคยผ่านการมีเพศสัมพันธ์ทางประตูหลังมาแล้วอย่างโชกโชนแน่นอน”

เสียงฮือฮาและเสียงด่าประจานดูถูกไอ้ตั้มยิ่งดังขึ้นไปอีก มีคนขยำกระดาษเป็นก้อนแล้วปาขึ้นไปใส่ไอ้ตั้มบนเวทีจนพิธีกรต้องประกาศว่าให้พอก่อน เพราะเดี๋ยวจะโดนหมอไปด้วย ไอ้ตั้มตาแดงน้ำตารื้นหน้าเหวออย่างหมดอาลัยตายอยาก

ทันใดนั้นก็มีนักศึกษาบอกว่า อยากให้หมอทำการทดสอบต่อไป เพราะอยากรู้ว่ารูตูดของไอ้ตั้มมันจะรับได้ใหญ่ที่สุดแค่ไหน หลังจากนั้นก็มีเสียงสนับสนุนเต็มไปหมด พี่หมอเลยจัดให้ตามคำขอ

แท่งซิลิโคนขนาด 5 เซ้นถูกดึงออกจากตูดไอ้ตั้ม ต่อด้วยซิลิโคนขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 6 เซ็นที่ค่อยๆ ถูกดันใส่เข้าไปแทนที่จนไอ้ตั้มจุกตัวเกร็งบิดตัวเขย่าเชือกที่มัดมือมันอยู่อย่างบ้าคลั่งและเริ่มร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด เหงื่อของมันไหลหยดเป็นน้ำจากร่างกายของมันลงที่โต๊ะโลหะจนพื้นโต๊ะเปียก “พอแล้ววว พอแล้ววว อย่าทำกู อร้ากกกก อร้ากก!!” ไอ้ตั้มร้องโหยหวนขอความเตตาอย่างทรมาน จนในที่สุดแท่งซิลิโคน 6 เซ็นก็เข้าไปอุดอยู่ในตูดไอ้ตั้มจนมิดท่ามกลางเสียงหัวเราะสะใจสนุกสนานของผู้ชมด้านล่าง

“เจ็ดเซ็น เจ็ดเซ็น เจ็ดเซ็นๆๆๆ” เสียงนักศึกษาร้องเชียร์ ไอ้ตั้มอ้าปากน้ำลายยืดอย่างหมดสภาพคาพันธนาการอันแสนทุเรศวิปริตที่มันโดน แต่ดูเหมือนจะไม่มีใครสงสารมันเลยสักนิด

“พวกสวะบ้านจนมันก็ต้องโดนแบบนี้แหละ เป็นของเล่นให้พวกเราเล่น” เสียงนักศึกษาข้างหลังที่คุยกับเพื่อนอย่างสะใจดังเข้าหูผม ผมกำมือแน่นกือบจะหันไปต่อยแต่ก็ต้องสงบสติอารมณ์เอาไว้ ผมรู้ดีว่าที่นี่ไม่ใช่ที่ของผม ผมขออยู่เงียบๆ อย่างนอบน้อม ไม่พยายามต่อสู้หรือทำตัวเด่นเด็ดขนาด ไม่อย่างนั้นผมอาจมีสภาพน่าทุเรศอัปยศไม่ต่างกับไอ้ตั้มในตอนนี้ก็ได้

พี่หมอค่อยๆ ดึงซิลิโคนขนาดหกเซ็นออกมาจากตูดไอ้ตั้ม แต่คราวนี้มันไม่ได้ออกมาแค่ซิลิโคน

“แพร่ด” ขี้สดๆ สีเหลืองปนเลือดไหลตามออกมาทันทีที่ซิลิโคนแท่งนั้นพ้นรูตูด พุ่งใส่หน้ากล้องแล้วไหลย้อยไปตามขาของไอ้ตั้ม จนทำให้คนดูบางคนถึงกับอ้วกแตก แต่บางคนก็หัวเราะชอบใจอย่างสนุกสนาน ส่วนไอ้ตั้มนั้นน้ำตาแตกหน้าแดงเหมือนใครเอาพริกไปทา มันคงอายแบบอยากจะหายไปจากโลก ณ ตอนนี้ที่มันขี้แตกต่อหน้าคนเป็นร้อย

พี่หมอรีบให้ไปตามภารโรงเอาผ้าขี้ริ้วมาเช็ดทำความสะอาด ภารโรงแก่เอาผ้าขี้ริ้วมาเช็ดตูดเช็ดขาไอ้ตั้ม แถมยังเอานิ้วพันผ้าขี้ริ้วแล้วคว้านเข้าไปเช็ดในรูตูดไอ้ตั้มจนไอ้ตั้มหูตาเหลือกสร้างความเฮฮาให้กับผู้ชมอย่างมาก พี่หมอยังขอให้ภารโรงเก็บขี้ส่วนหนึ่งไปตรวจด้วย พอขี้หมดจากตูดไอ้ตั้มไปแล้ว ทุกคนจึงเห็นว่าตอนนี้รูตูดของไอ้ตั้มเป็นรูกลวงโบ๋ประมาณสามนิ้วมือสอดจนแทบจะห็นข้างใน พี่หมอจึงประกาศว่าถ้าจะยัดซิลิโคนต่อ ขอให้พี่หมอตรวจความพร้อมของรูตูดก่อน ว่าแล้วพี่หมอก็ไปหยิบอุปกรณ์ลักษณะเป็นโลหะอ้าได้คล้ายปากเป็ดที่หมอให้ตรวจภายในผู้หญิงออกมา ก่อนที่จะค่อยๆ ใส่อุปกรณ์นั้นเข้าไปในรูตูดของไอ้ตั้มจนสุดแล้วง้างปากเป็ดให้อ้าออกสร้างความเจ็บปวดให้ไอ้ตั้มอย่างที่สุด

พี่หมอขันน็อตให้ปากเป็ดอ้าค้างไว้ แล้วใช้ไฟฉายส่องเข้าไปในรูตูดของไอ้ตั้ม ทำให้ทุกคนที่ดูผ่านจอโปรเจอเตอร์ให้เข้าไปถึงข้างในที่เป็นผนังทวารมีเศษขี้และเลือดติดอยู่ เรียกว่าเป็นการสำรวจรูตูดไอ้ตั้มแบบล้ำลึกเกินจินตนาการกันเลยทีเดียว

นอกจากนั้นพี่หมอยังเอาไม้ที่ปลายมีสำลีใส่เข้าไปในรูดไอ้ตั้มก่อนจะวนไม้ป้ายผนังทวารหนักของไอ้ตั้มไปตรวจก่อนที่จะดึงปากเป็ดนั้นออกแล้วบอกว่าตอนนี้รูตูดไอ้ตั้มบอบช้ำแล้ว ซิลิโคน เส้นผ่านศูนย์กลาง 7 เซ็นอาจทำให้ตูดระเบิดได้ คงต้องพอแค่นี้ พอพูดเสร็จก็มีเสียงโห่อย่างผิดหวังของคนดูตามมา ส่วนไอ้ตั้มนั้นผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนนี้มันยังจะได้ยินเสียงอะไรอยู่หรือเปล่า เพราะสภาพมันตอนนี้ยับเยินจนผมทั้งสงสารปนสยองไปพร้อมๆ กัน

ไอ้ตั้มดูเหมือนจะผ่อนคลายขึ้นเมื่อพี่หมอดึงคัมปากเป็ดนั่นออกจากตูดของมันแล้วประกาศว่าให้พอ แต่ขั้นตอนตรวจร่างกายทั้งหมดของมันยังไม่เสร็จ ขั้นตอนต่อไปพี่หมอประกาศว่าจะทำการตรวจช่องปากว่าไอ้ตั้มเคยอมควยหรือกินอสุจิมาก่อนหรือไม่

พี่หมอเดินมาด้านหน้าไอ้ตั้ม ให้คนจับหน้าไอ้ตั้มล็อดเอาไว้ แล้วใช้อุปกรณ์ปากเป็ดอันเดิมที่เพิ่งออกมาจากรูตูดไอ้ตั้มสดๆ ร้อนๆ ยัดเข้าไปในปากไอ้ตั้มอย่างแรง ไอ้ตั้มพยายามดิ้นเม้มปากแต่ก็มีคนมาช่วยกันจับแล้วบีบจมูกบีบคอให้ไอ้ตั้มอ้าปากจนพี่หมอเอาอุปกรณ์ใส่เข้าไปในปากไอ้ตั้มได้ แต่กว่าจะเข้าได้ก็ทำให้มุมปากไอ้ตั้มเป็นรอบช้ำหลายจุด พี่หมออ้าปากเป็ดออกในปากไอ้ตั้มเหมือนกับที่ทำกับรูตูดแล้วเอาไม้สำลีมาป้ายเก็บตัวอย่างจากกระพุ้งแก้ม คอและช่องปากทุกส่วนของไอ้ตั้มจนพอใจถึงจะเอาอุปกรณ์ออกมา แล้วให้คนเอาตัวอย่างที่เก็บไปตรวจที่หลังเวที

ขั้นตอนต่อไปคือการเก็บตัวอย่างปัสสาวะเพื่อจะนำไปตรวจหาสารเสพติด พี่หมอให้คนเอาฉากเล็กๆ มากั้นที่หน้าควยของไอ้ตั้มเพื่อกันอุจาด ก่อนที่จะปิดกล้องที่ถ่ายด้านหลังและถอดถุงครอบควยไอ้ตั้มออก พร้อมกับเอาถ้วยเก็บปัสสาวะมารองที่ควยไอ้ตั้ม

“หมอให้เวลาสองนาที ฉี่ใส่ถ้วยซะ ถ้าครบแล้วไม่ฉี่ หมอจะสวน!!”

ไอ้ตั้มกลัวจนตัวสั่น สถานการณ์แบบนี้ใครมันจะไปฉี่ออก และก็เป็นตามนั้น ในที่สุดพี่หมอก็เอาสายสวนฉี่มาสวนเข้าไปในรูเยี่ยวของไอ้ตั้มจนฉี่มันไหลออกมาตามสายลงถ้วยเก็บตัวอย่าง ไอ้ตั้มเกร็งจนสั่นทั้งตัวกัดฟันร้องคำรามในลำคอสักพักแล้วแหกปากเสียงดังลั่นไปทั่วลานเมื่อสายสวนฉี่ค่อยๆ สอดเข้าไปในรูเยี่ยวของมันอย่างเลือดเย็น แม้ทุกคนจะไม่เห็นควยของมัน แต่ทุกคนก็รับรู้ได้ถึงความเจ็บปวดที่มันต้องได้รับการจากเก็บฉี่ครั้งนี้อย่างชัดเจน

พอเก็บตัวอย่างฉี่ได้แล้ว พี่หมอก็ถอดสายสวนเยี่ยวออกแล้วใส่ถุงครอบควยให้ไอ้ตั้มเหมือนเดิม พร้อมเอาฉากกั้นออกแล้วเปิดกล้องวิดีโอตัวหลังเหมือนก่อนที่จะตรวจเยี่ยว

“คราวนี้ก็มาถึงการตรวจขั้นตอนสุดท้าย” พี่หมอประกาศ ซึ่งนั่นก็คือการเก็บตัวอย่างอสุจินั่นเอง พี่หมอถามไอ้ตั้มว่า “ปกติชักว่าวมือไหน” เป็นคำถามที่คนถูกถามอายจนไม่กล้าตอบ แต่ไอ้ตั้มก็ถูกบังคับให้ตอบออกมาต่อหน้าทุกคน “มือซ้ายครับ”

พี่หมอจึงให้คนปลดเชือกที่มือมือซ้ายของไอ้ตั้มออกแล้วบอกว่าให้ไอ้ตั้มชักว่าวให้แตกในถุงหุ้มควย แล้วเดี๋ยวทีมหมอจะเก็บตัวอย่างน้ำอสุจิในถุงหุ้มควยเอง

แม้ว่าไอ้ตั้มจะอายแค่ไหน มันก็ไม่มีทางเลือก มันค่อยๆ เอามือซ้ายที่ถูกแก้มัดมาจับที่ควยของมันที่อยู่ภายใต้ถุงหุ้มแล้วชักเข้าชักออก มันหลับตาปี๋ด้วยความอายแต่ก็ถูกพิธีกรสั่งหลืมตา จะก้มหน้าก็ไม่ได้เพราะถูกตะขอเกี่ยวจมูกโยงให้เงยหน้ามองผู้ชมตลอด แต่ไอ้ตั้มก็คือไอ้ตั้ม มันชักไปสักพักมันก็ทนไม่ไหว ปล่อยมือจากควยแล้วพยายามเอามือซ้ายมาแกะเชือกที่มือขวาให้ตัวมันพ้นจากพันธนาการที่น่าอับอายนี้ ด้วยแรงและความสามารถของมันทำให้มันสามารถแกะเชือกที่มือมันออกได้อย่างรวดเร็วจนมือทั้งสองข้างของมันเป็นอิสระ มันปัดกล้องวิดีโอตัวที่อยู่ด้านหน้าโต๊ะจนตกแตกและพยายามจะแก้มัดที่ขอ้เท้า แต่มันก็ถูกทีมงานขององค์กรนักศึกษาเข้ามาช่วยกันจับกดไว้กับโต๊ะอย่างรวดเร็วจนสิ้นท่าอีกรอบ

“ฤทธิ์มากนักนะมึงอ่ะ ไอ้ลูกหมา จับมันไว้แน่นๆ” พี่หมอสั่งให้คนจับไอ้ตั้มไว้แล้วจับแขนมันยื่นออกมาให้พี่หมอเจาะเลือดพร้อมกับฉีดยาบางอย่างเข้าไปในเส้นเลือดที่แขนของไอ้ตั้ม

“ให้ชักเองดีๆ ไม่ชอบ ชอบพิสดาร เดี๋ยวหมอจัดให้.. จับมันมัดไว้เหมือนเดิม!!”

ไอ้ตั้มถูกจับมัดในท่าเดิม กล้องวีดีโอตัวใหม่ถูกนำมาติดตั้งแทนตัวเก่าที่ตกแตกอย่างรวดเร็วสมกับเป็นมหาวิทยาลัยคนรวย พี่หมอเอาอุปกรณ์ชิ้นหนึ่งออกมาจากกล่อง ผมรู้ว่าไอ้แท่งสีดำยาวเป็นปล้องๆ อันใหญ่เกือบเท่าแท่งซิลิโคน 6 เซ็นที่ผมเห็นในมือที่หมอนั้น มันไม่ใช่อุปกรณ์ทางการแพทย์อย่างแน่นอน แต่มันคือ “ควยปลอมไฟฟ้า” ที่ผมเคยเห็นเค้าใช้ยัดหีผู้หญิงในหนังโป๊ชัดๆ นี่เพื่อนผมจะโดนสิ่งนี้หรือนี่!

ผมแทบไม่เชื่อสายตาเมื่อพี่หมอเอาดิลโด้อันนั้นยัดเข้าไปในตูดไอ้ตั้มท่ามกลางเสียงหัวเราะสะใจของทุกคนก่อนที่พี่หมอจะเปิดรีโมตให้มันสั่นระดับแรงสุดจนไอ้ตั้มตาเหลือก ไม่นานไอ้ตั้มก็เริ่มบิดเกร็งตัวไปมา เหงื่อแตกพลั่ก ตัวแดงทั้งตัว ตาเหลือกลอยจนเห็นแต่ตาขาว กล้ามเนื้อทุกมัดปูดโปนจนเห็นเส้นเลือดมองดูคล้ายมันจะระเบิด ผมคิดว่าที่มันเป็นแบบนั้นคงไม่ใช่เพราะแรงสั่นจากดิลโด้ในตูดมันอย่างเดียว แต่คงเป็นเพราะยาที่พี่หมอฉีดเข้าไปให้มันก่อนหน้านี้อย่างแน่นอน

ไอ้ตั้มเริ่มมีเสียงครางซี๊ดซ๊าดออกมาจากปาก เสียร้องคำรามไม่เป็นภาษาด้วยความเสียวราวกับกำลังมีเซ้กซ์กับผู้หญิงอยู่อย่างถึงพริกถึงขิง แต่นี่มันลานเอนกประสงค์ท่ามกลางคนเป็นร้อย ไม่ใช่ห้องมึงนะไอ้ตั้ม ผมอยากจะเข้าไปบอกมัน แต่คงไม่ทัน ไอ้ตั้มเริ่มกระเด้าควยมันมาข้างหน้า ผู้ชมหัวเราะชอบใจกับภาพตรงหน้า หน้าของมันเหลือกลอยเหมือนกำลังฟินอย่างสุดขีด มันกระเด้าเอวแรงขึ้น ถี่ขึ้นพร้อมกับแหกปากร้องอย่างบ้าคลั่งไร้สติดังลั่นอย่างไม่มียางอาย

ในที่สุดมันก็หยุดกระเด้าเอวกะทันหัน ตาเหลือกค้าง อ้าปากค้างเหมือนช็อค กล้ามเนื้อเกร็งกระตุกหงึกๆ เป็นจังหวะ พร้อมกับเสียงคำรามอย่างเสียวซ่าน ทำให้ทุกคนรู้ว่าขณะนี้มันคงถึงจุดสุดยอดเรียบร้อยแล้ว เมื่อมองไปที่ถุงครอบควยของมันตอนนี้เปียกแฉะและเริ่มมีน้ำสีขาวไหลเยิ้มออกมานอกถุง พี่หมอรีบให้คนเอาฉากมาปิดควย ปิดกล้องหลัง แล้วเอาอสุจิในถุงไปตรวจ แต่คราวนี้พิเศษตรงอสุจิในถุงถูกเอาไปส่องกล้องจุลทรรศน์ที่ต่อขึ้นจอโปรเจกเตอร์ในทันที ทำให้ทุกคนได้เห็นลูกๆ นับล้านของไอ้ตั้มที่กำลังแหวกว่ายอยู่ในกล้องจุลทรรศกันเต็มๆ ตา ในขณะที่พอของมันอยู่มัดแขวนหมดแรงหลังจากที่ทำเรื่องทุเรศน่าอับอายอยู่ที่กลางเวที

ไม่นานหลังจากนั้นก็มีเสียงหวอดังขึ้นพร้อมกับรถตำรวจแล่นเข้ามาจอดที่หน้าลานเอนกประสงค์ของมหาวิทยาลัย นายตำรวจสองนายที่ผมแจ้งไปเดินเข้ามาพร้อมกับสอบถามว่ากำลังทำอะไรกัน ทำไมถึงมีการจับคนมามัดไว้ในสภาพอนาจารแบบนี้ ทางทีมองค์กรนักศึกษาจึงเข้าไปอธิบายกับตำรวจว่าเป็นการตรวจร่างกายว่านักศึกษาคนนี้ขายบริการทางเพศและใช้ยาเสพติดหรือไม่ และบอกว่าไหนๆ ตำรวจมาแล้วก็ขอให้อยู่รอฟังผลตรวจพร้อมกันเลย ถ้าหากผิดจริงจะได้ส่งตำรวจให้ไปดำเนินคดีทันที

นายตำรวจทั้งสองถูกเชิญให้ไปนั่งรออยู่ในห้องรับรอง ขณะที่ไอ้ตั้มถูกแก้ผ้าแขวนอยู่กลางเวทีแบบนั้นเพื่อรอฟังผลตรวจของตัวเอง มีเพียงฉากเล็กๆ ที่ตั้งไว้บนโต๊ะเพื่อกั้นไม่ให้คนข้างล่างมองขึ้นมาเห็นควยเท่านั้น

สิบห้านาทีต่อมานายตำรวจทั้งสองก็ออกมานั่งหน้าเวที พี่หมอขึ้นมาบนเวทีและประกาศผลตรวจว่า

“ผลตรวจร่างกายนายกฤชพงษ์ มีแสงขรรค์ นักศึกษาชั้นปีที่ 1 คณะบริหารธุรกิจ ได้ผลดังนี้

1. มีหลักฐานการผ่านการร่วมเพศทางทวารหนักอย่างโชกโชนจนรูทวารขยายขนาดได้กว้างถึง 6 เซนติเมตร

2. พบซากอสุจิที่บริเวณขนหัวเหน่าและขนรักแร้ ทวารหนัก และช่องปาก ทำให้เชื่อว่ามีการร่วมเพศทั้งทางทวารหนักและทางปาก รวมถึงมีการสำเร็จความใครบนร่างกายหลายตำแหน่ง

3. พบสารเสพติดในปัสสาวะและเลือด”

ไอ้ตั้มหน้าซีด ส่ายหน้าปฏิเสธเท่าที่มันมีแรง ผมเองยังช็อคกับผลที่ออกมา ไอ้เรื่องถูกข่มขืนก็เข้าใจได้ แต่เรื่องยาเสพติดยังไงผมก็คิดว่ามันเป็นการกลั่นแกล้งกันแน่นอน

จากนั้นก็มีอาจารย์ฝ่ายนักศึกษาของมหาวิทยาลัยเข้ามาคุยกับตำรวจ และแน่นอนว่ามีการติดสินบนกันเพื่อไม่ให้คดีนี้เป็นเรื่องใหญ่เพราะจะเสียชื่อมหาวิทยาลัย ซึ่งตำรวจก็ยอมทำตามที่อาจารย์ขอ แต่บอกว่ายังไงไอ้ตั้มก็ต้องไปลงบันทึกประจำวันเอาไว้ก่อนว่าทำผิดกฎหมาย พองบันทึกเสร็จแล้วทางมหาวิทยาลัยจะดำเนินการลงโทษอย่างไรก็ขอให้เป็นเรื่องภายใน ทางตำรวจจะไม่ยุ่ง

พอการเจรจาลงตัวเรียบร้อย พวกนักศึกษารวยเหี้ยๆ นั่นจึงเอากางเกงนักศึกษามาให้ไอ้ตั้มใส่โดยไม่ให้ใส่กางเกงใน ไม่ใส่เข็มขัดรองเท้าและไม่ให้ใส่เสื้อ โดยอ้างว่ากลัวคนจะรู้ว่าเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยแล้วจะเสียชื่อ ไอ้ตั้มจึงถูกจับใส่กุญแจมือไพล่หลังในสภาพถอดเสื้อโชว์กล้ามแล้วถูกพาขึ้นรถตำรวจไป โดยที่ยังมีควยปลอมไฟฟ้าของพี่หมอสั่นอยู่ในตูดตลอดเวลา!!