แฝดอำมหิต

รณสิงห์นั่งเบื่อโลกอยู่ในคฤหาสน์หรู เขาเป็นหนุ่มหล่อคิ้วหนา ตัวล่ำที่กำลังเซ็งกับชีวิตของตัวเอง เหตุเพราะมรดกล้นเหลือทำให้ญาติใส่มาดคุณชายให้เขามาโดยตลอดแต่มันไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ ความหรูหรา ความมีหน้ามีตามันเป็นสิ่งจอมปลอม เขาเบื่อกับชีวิตของตัวเอง คิดแล้วอยากจะอ้วกวันละหลายร้อยหน

มีอยู่ครั้งหนึ่งที่รณสิงห์ไปตรวจไร่ของตระกูลที่มีอยู่หลายหมื่นไร่ทั่วประเทศ ขณะที่เลขาส่วนตัวกำลังวุ่นกับเรื่องเอกสาร เศรษฐีหนุ่มอายุ 18 ก็เบื่อโลกเต็มทีเลยออกมาเดินเล่นในไร่ของตัวเองที่ให้ชาวบ้านเช่า

เขาเห็นคนมุงดูอะไรกันอยู่จึงเดินเข้าไปดูด้วย ตอนนั้นเขาเห็นเด็กผู้ชายอายุประมาณ 16 ปี ตัวหนา หน้าตาหล่อเข้ม นุ่งกางเกงขาสั้น ไม่สวมเสื้อ เด็กหนุ่มคนนั้นยืนอยู่ เขาโดนจับมัดเอามือไพล่หลัง มีคนต่อแถวยาวเพื่อที่จะไปฟาดหน้าอกเขาคนละทีสองที

ตอนนี้หน้าอกของเด็กหนุ่มแดงก่ำ บางคนฟาดหน้าอกแล้วก็ยังวิ่งไปต่อแถวใหม่ด้วยแรงแค้น รณสิงห์ตะลึงกับภาพที่เห็น ควยของเขาแข็งขึ้นมาอย่างกะทันหัน ชาไร่คนหนึ่งเข้ามาพูดกับเขา

“คุณชายครับ เด็กนั่นขโมยของในไร่ไปขายมาหลายรอบ เราเพิ่งจับตัวเขาได้ คนงานในไร่แค้นกันมาก พวกเขาเลยขอลงโทษกันแบบป่าเถื่อนแบบนี้ มันจะได้เข็ดหลาบ เราไม่อยากส่งมันให้ตำรวจ กลัวมันจะหมดอนาคต คุณชายคงทนดูอะไรที่มันป่าเถื่อนแบบนี้ไม่ได้ใช่ไหมครับ”

รณสิงห์ไม่ได้พูดโต้ตอบชายผู้นั้น เขาวิ่งออกมา วิ่งไปยังตึกร้างในไร่ที่อยู่ไกลออกไป พอไกลตาผู้คน เขาถอดกางเกงและกางเกงในออก แล้วนั่งชักว่าวอย่างดุดัน รณสิงห์คิดในใจว่า “กูอิจฉาเด็กนั้น ถูกคนงานในไร่รุมกระหน่ำฟาดหน้าอก เสียงดังฟังสะใจเหลือเกิน มันคงเจ็บน่าดู แต่ก็น่าจะมันส์ กูอยากเป็นอย่างมัน กูอย่างโดนลงโทษ โดนฉีกเสื้อให้ขาด โดนทรมานอย่างสาหัส กูชอบ แต่ทำไม ทำไมชีวิตกูต้องเป็นแบบนี้”

ตอนชักว่าว รณสิงห์คิดว่าตนเองเป็นเด็กผู้ชายคนนั้นที่โดนคนงานรุมฟาดหน้าอก เขานึกถึงตัวเองที่ยืนถอดเสื้ออกแดงก่ำ เขาอยากโดนอย่างนั้นบ้าง หรือโดนหนักกว่านั้น มันคงสะใจ สมกับเป็นลูกผู้ชาย

คิดแค่นั้นเขาก็เสียวสุดยอด น้ำแตกชนิดที่ไม่เคยเป็นมาก่อน หัวควยเขาเสียวมาก เขาไม่ได้ชักว่าวมาสามอาทิตย์กว่าแล้ว ตอนอยู่ที่โลกเส็งเคร็งนั่น

ขากลับ รณสิงห์นั่งในรถราคา 30 ล้าน รถแล่นผ่านตรงที่เด็กหนุ่มถอดเสื้อคนเดิมโดนลงโทษโดยการจับมัดไว้กับไม้กางเขนใหญ่และโดนทิ้งไว้อย่างนี้จนถึงเช้า

คนขับรถของรณสิงห์พูดขึ้น “ไอ้หนุ่มนั่นไปทำอะไรมาก็ไม่รู้นะครับ คนแถวนี้มันก็ป่าเถื่อนสิ้นดี”

รณสิงห์ไม่สนใจคำพูดของคนขับรถเพราะควยเขาแข็งอีกแล้ว เขาพูดแค่ว่า “ขอปิดม่านนะกร ฉันว่าจะนอนพักสักหน่อย”

“ได้ครับ”

รณสิงห์ปรับเป็นเบาะนอนด้านหลังรถ พอปิดม่านเรียบร้อยเขาก็เอาควยขึ้นมาชักอีกครั้ง จินตนาการว่าตัวเองถูกจับถอดเสื้อตรึงกางเขนไว้ทั้งคืน เขาค่อยๆ ชัก ไม่นานน้ำก็แตกอีกเป็นครั้งที่สอง เขายังอิจฉาเด็กผู้ชายคนนั้นจับใจ

พอกลับมาถึงตัวคฤหาสน์ เศรษฐีแสนล้านอย่างเขามักจะมานั่งพักตรงชั้นล่าง ไอ้พลเด็กหนุ่มวัยเดียวกันที่เป็นลูกชายของคนใช้ในบ้าน มักจะเดินเข้ามาถามเขา “มีอะไรให้รับใช้ไหมครับ”

รณสิงห์จ้องมองไอ้พล ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเวลาไอ้พลเดินเข้ามาหาเขามักจะต้องถอดเสื้อโชว์กล้ามอยู่เรื่อย จะยังไงก็ตาม เขาก็อิจฉาไอ้พลที่มันเดินถอดเสื้อไปไหนมาไหนได้เพราะเขาเองทำอย่างนี้ไมได้ “ไม่มีหรอก นายไปนอนเถอะ”

ไอ้พลกลับไปอย่างผิดหวัง เขาคิดว่าคนมีอำนาจวาสนามากอย่างรณสิงห์น่าจะเป็นพวกชอบใช้อำนาจ เขาหลงชอบรณสิงห์มานานและอยากเป็นทาสเจ้านายคนนี้ รณสิงห์หน้าคมเข้ม ถ้าดุหน่อย หรือชอบหาเรื่องลงโทษเขาบ้าง ชีวิตน่าจะสนุกกว่านี้

รณสิงห์ไม่มีวันรู้ว่า ไอ้พลออกกำลังกายหนักทุกวัน มันหวังว่ารณสิงห์จะหาเรื่องลงโทษมันแบบลงมือลงตีน ไอ้พลมันชอบและรอโอกาสนี้มานาน ถึงแม้วันนี้จะยังไม่เกินขึ้น แต่มันก็ยังหวังต่อไป หวังว่ามันจะเป็นทาสของเจ้านายคนนี้อย่างเต็มรูปแบบ

วันรุ่งขึ้น รณสิงห์นั่งรถผ่านแถวๆ ย่านชุมชน เขาบังเอิญไปเห็นผู้ชายที่หน้าตาเหมือนเขาทุกกระเบียดนิ้ว เพียงแต่หมอนั่น เดินไม่สวมเสื้ออยู่ริมถนนและถือของเต็มมือ

ชายหนุ่มคนนั้นเดินกลับเข้าบ้านหลังใหญ่ แต่ซอมซ่อ ท้ายซอย หลังชุมชนแออัด พอเดินเข้าไปในบ้าน พ่อบุญธรรมที่เป็นตำรวจก็ด่าเขาอย่างรุนแรง

“ไอ้สัตว์ มาช้านะมึง ซื้อของมาถูกรึเปล่า”

เด็กหนุ่มคนนั้นตะโกนตอบ “ก็ซื้อมาตามที่สั่งนั่นแหละ พูดมากอยู่ได้น่ารำคาญ”

พ่อบุญธรรมเดินไปใกล้เขาพร้อมกับตบหน้าเขาอย่างจัง

“พูดเบาๆ ก็ได้ ทำไมต้องตะโกนใส่กูด้วย”

แววตาชายหนุ่มเต็มไปด้วยความเคียดแค้น พ่อบุญธรรมจ้องหน้าเขา พร้อมกับฟาดหน้าอกเขาไปอีกสองสามที

“จ้องกูทำไม มึงจะชกกูเหรอ”

ชายหนุ่มยังยืนนิ่ง พ่อบุญธรรมดูของในถุง

“แม่งซื้อผิดหมดเลยนี่หว่า”

ชายหนุ่มรู้ว่าเขาถูกหาเรื่องอีกแล้ว

“ซื้อซอสอะไรมาวะ กูไม่ได้สั่ง”

เขาเอาขวดซอสราดหัวชายหนุ่ม ซอสเปรอะลงมาถึงหน้าอก

“โค้กขวดใหญ่ขนาดนี้มึงซื้อมาทำไมไอ้สัตว์”

เขาเขย่าโค้กอย่างแรง แล้วเปิดฝา ทำให้น้ำพุ่งไปยังหน้าและหน้าอกของชายหนุ่ม ชายหนุ่มยืนนิ่ง รู้ว่าทำอะไรไม่ได้

พ่อบุญธรรมตะคอกเขา “มึงไปได้แล้วไอ้เหี้ย” แล้วไล่ชายหนุ่มไปอย่างสะใจ

ชายหนุ่มเคียดแค้นพ่อบุญธรรมของตัวเองมาก เขารู้ว่าพ่อเขาซาดิสต์มากและเขาต้องรองรับอารมณ์พ่อเขาตลอดเวลา การอยู่ที่บ้านหลังนี้ สิ่งดีมีอยู่อย่างเดียวคือเขาได้เงินในแต่ละเดือนค่อนข้างมาก หลังจากจบ ป.6 พ่อของเขาก็ไม่ได้ให้เรียนต่อเลยทำให้เขาต้องจนตรอกอยู่ที่นี่

ชายหนุ่มที่ชื่อรณสรคนนี้อยากเกิดเป็นคนมีอำนาจบ้าง เขาอยากจะลงโทษใครก็ได้ที่ทนมือทนตีนเขาได้ ให้สะใจไปเลย ชดเชยกับการที่เขาต้องตกอยู่ในนรกแห่งนี้มาตั้งแต่เกิด เขาร้องขอต่อพระเป็นเจ้าให้เขาได้มีโอกาสนี้ด้วยเถิด

หลังจากรณสิงห์กลับถึงคฤหาสน์ เขาเดินตรงเข้าห้องทันที เขารีบโทรติดต่อนักสืบส่วนตัวด่วน “คุณไงพจน์ครับ ผมมีเรื่องให้คุณช่วย”

ถัดจากนั้นไป 5 วัน รณสิงห์นัดพบไวพจน์ที่โกดังร้างตอน 11 โมง ไวพจน์มาตรงตามเวลานัดหมาย เขารายงานรณสิงห์ไปว่า

“เป็นไปตามคาด เขาคนนั้นเป็นน้องชายฝาแฝดของท่านเองชื่อรณสร เหตุที่ต้องโกหกทุกคนเพราะคุณปู่ของท่าน ดันเขียนพินัยกรรมไว้ว่า ต้องเป็นหลานชายคนโตเพียงคนเดียวเท่านั้น สมบัติแสนล้านถึงจะตกเป็นของหลานคนนี้ คำว่า “เพียงคนเดียวเท่านั้นกำกวมมาก” พอแม่ของท่านมีลูกแฝด จึงต้องโกหกว่ามีลูกชายคนเดียว ท่านเป็นผู้หญิงที่คิดมากและไม่กล้าเสี่ยง ท่านฝากลูกชายอีกคนให้นายตำรวจคนหนึ่งเลี้ยงไว้และได้สั่งจ่ายเงินให้ตำรวจคนนั้นเป็นจำนวนมากทั้งเงินเดือนและเงินก้อน”

รณสิงห์นิ่งฟังอย่างใจเย็น ไวพจน์พูดต่อว่า “น่าสงสารน้องชายของท่าน เพราะได้ข่าวมาว่านายตำรวจคนนั้นโหดมาก และหาเรื่องลงโทษน้องชายของท่านอย่างซาดิสต์หลายครั้ง”

พอฟังประโยคนี้มันเหมือนมีน้ำทิพย์มาหล่อเลี้ยงหัวใจของรณสิงห์ให้แช่มชื่นขึ้นมาบ้าง

“แล้ววันนี้รณสรจะมาพบผมได้ไหม” รณสิงห์ถามไวพจน์

“ได้แน่นอนครับ ผมส่งคนของผมไปจัดการให้แล้ว” ไวพจน์ตอบด้วยความมั่นใจ

ตอนเที่ยงของวัน พ่อบุญธรรมของรณสรนั่งกินข้าวอยู่คนเดียว เขาหวนคิดถึงวันที่เขารับจ้างไปเป็นครูฝึกให้บริษัทรปภ. แห่งหนึ่ง หลังจากนั้นเขาก็ค้นพบว่าตัวเองชื่นชอบการทรมานและลงโทษมากแค่ไหน

โชคดีที่มีเศรษฐีเอาลูกชายมาให้เขาเลี้ยง เขาเลยเกิดไอเดียที่จะฝึกทาสส่วนตัวนับแต่นั้น เขาฝึกรณสรมาหลายปี ถึงแม้รณสอนจะแข็งแกร่งทั้งร่างกายและจิตใจ แต่เขาก็ยังสังเกตได้ถึงการต่อต้านอย่างรุนแรงจากแววตา เขาได้แต่หวังว่ารณสรจะเข้าใจว่าเขารักรณสรมากแค่ไหน มันก็ไม่ต่างจากนายจอมโหดรักทาสของตัวเอง เขาหวังแต่เพียงว่าวันหนึ่งรณสรจะลดแรงแห่งการต่อต้านลง และถ้าวันนั้นมาถึงเขาคงได้ลงทาและทรมานรณสรอย่างหนำใจ

เขายังไม่เคยได้ทำอะไรโหดๆ อย่างที่เขาคิดเลย เขาน่าจะมีโอกาสได้ทำแบบนั้นเข้าสักวัน ชีวิตของเขาจะได้ดีขึ้น

ทุกเที่ยงไอ้พลหาเรื่องทรมานตนเองโดยการถอดเสื้อวิ่งกลางแดดเปรี้ยงแล้วก็มาวิดพื้นอีก 200 ครั้ง ตอนนี้ร่างกายของไอ้พลเป็นดั่งดาบเหล็กร้อนๆ ที่รอคนมาตีให้มันเย็นลง บางครั้งเขาถึงขั้นเอาหน้าอกแถกตัวไปบนหินแหลมเอง

แต่แน่นอนว่ามันจะมันส์กว่านี้หลายร้อยหลายพันเท่า ถ้ามีใครมาออกคำสั่ง โดยเฉพาะถ้าออกคำสั่งอย่างดุดันด้วยแล้ว ยิ่งใช้มือใช้ตีนด้วยแล้ว ไอ้พลยิ่งชอบ สิ่งที่ไอ้พลหวังมาตลอดชีวิตคือการโดนลงโทษอย่างไร้เหตุผลโดยสิ้นเชิงเพราะมันเป็นอะไรที่สะใจมาก ถึงแม้จะยังดูห่างไกลแต่เขาก็ยังฟิตร่างกายเพื่อเฝ้ารอวันนั้น

ไม่นานเกินรอรณสรก็ปรากฏตัวขึ้นในโกดัง ไวพจน์กระซิบบอกรณสิงห์ว่าลูกน้องของเขา เล่าเรื่องราวต่างๆ ที่รณสรควรรู้ให้เขาฟังหมดแล้ว รณสรเป็นเด็กหนุ่มที่เข้าใจง่ายและหัวไว

ส่วนรณสิงห์เองก็ทำเรื่องดร๊อปไว้ที่มหาลัยเรียบร้อยแล้ว พอพี่น้องพบกัน พวกเขาต่างนิ่งเฉย รณสรมาในมาดกางเกงขาสั้นตัวเดียว ไม่สวมเสื้อ ทำให้รณสิงห์ถามด้วยความสงสัย

“ทำไมไม่ใส่เสื้อมาล่ะ”

“พ่อไม่อนุญาตให้ใส่เสื้อ กู เอ่อ … ข้าไม่เคยใส่เสื้อมาห้าหกปีแล้ว ไม่ว่าจะหนาวแค่ไหน มันก็ไม่ให้ข้าใส่เสื้อ ตอนนอนก้ไม่ให้ห่มผ้าด้วย แม่งซาดิสต์แบบสุดๆ ”

รณสิงห์ไม่ได้ตอบอะไร แต่แววตาเขาเป็นประกาย เขารู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้ยินว่าพ่อของรณสรเป็นคนที่ซาดิสต์แบบสุดๆ และเขาแทบคุมสติไม่อยู่เมื่อรู้ว่าเขามีโอกาสแต่งกายเหมือนกับทาสสมัยก่อนคือไม่สวมเสื้อเลยตลอดเวลา

“นายรู้แล้วใช่ไหมว่าข้อเสนอคืออะไร”

รณสรไม่ตอบ ได้แต่พยักหน้า

“ถ้านายเข้าใจทุกอย่างแล้วเราจะเริ่มดำเนินตามแผนตั้งแต่วันนี้เลย ไวพจน์จะช่วยเหลือนายทุกอย่าง มีอะไรก็ปรึกษาเขาได้”

ประมาณบ่ายๆ รถหรูของรณสิงห์แล่นเข้ามาในคฤหาสน์ของเขา ไอ้พลกำลังถอดเสื้อขุดดินอยู่ตรงสวนริมคฤหาสน์ เขาแค่แปลกใจว่าทำไมวันนี้เจ้านายของเขากลับบ้านเร็วผิดปกติแต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรมาก

เมื่อรณสรลงจากรถในมาดของท่านชาย สิ่งแรกที่เขาสนใจคือ “ไอ้พล” เด็กหนุ่มหุ่นล่ำที่กำลังถอดเสื้อขุดดินอยู่ รณสรเดินเข้าไปหาไอ้พลอย่างช้าๆ พอไอ้พลเหลือบเห็นมันแทบผงะ มันสังเกตว่าวันนี้แววตาของเจ้านายมันเปลี่ยนไป

รณสรมองดูสภาพสวนที่ไอ้พละกำลังจัดอยู่ ไม่นานนักเขาก็เดือดดาล

“ไมมึงทำอะไรห่วยแตกแบบนี้วะ สมองหมาปัญญาควายชัดๆ กูรับรองว่าบ่ายนี้มึงต้องตกนรกทั้งเป็นแน่”

พอพูดจบรณสรก็หันหลังเดินผละออกมา ทิ้งให้ไอ้พลยืนควยโด่หัวใจเต้นแรงอยู่ตรงนั้น ก่อนขึ้นตึกรณสรกระซิบข้างหูของไวพจน์ ไวพจน์รอให้รณสรขึ้นตึกไปแล้วจึงเดินไปพูดกับไอ้พล

“คุณชายสั่งให้มึงไปพบบนตึกเดี๋ยวนี้ มึงไม่ต้องล้างเนื้อล้างตัวหรอก ไปทั้งแบบนี้แหละ เสื้อแสงก็ไม่ต้องใส่ รีบขึ้นไปเร็ว เดี๋ยวท่านจะคอยนาน”

ไอ้พลคิดว่ามันฝันไป มันยิ้มร่าก่อนที่จะรีบวิ่งขึ้นตก

ไวพจน์นึกในใจว่า “ไอ้ห่านี่ไม่บ้าก็ปัญญาอ่อน กำลังจะตกนรกแท้ๆ ยังยิ้มร่าอยู่ได้”

ไวพจน์ยังไม่หายแปลกใจที่ทำไมรณสรถึงซื้อของแปลกๆ เต็มไปหมด ของพวกนั้นมันจะเอาไปทำอะไรได้ นอกจากทรมานนักโทษ เขาคิดในใจว่ารณสรนี่โง่มาก และยังใช้เงินไม่คุ้มค่าอีก

เมื่อไม่กี่นาทีที่แล้วรณสิงห์สั่งให้ไวพจน์ส่งเขาให้ไกลจากบ้านที่รณสรอยู่ประมาณ 5-6 ซอย

ก่อนลงจากรถ เขาคิดสั้นๆ ว่าเขาไม่ได้ฝันไปนะ เขาลงจากรถด้วยสภาพนุ่งกางเกงขาสั้นซอมซ่อตัวเดียว ไม่ได้สวมเสื้อ การเดินถนนแบบนี้ทำให้รณสิงห์รู้สึกแปลกแต่ก็ไม่ใส่เสื้อเลยก็ทำให้จิตใจฮึกเหิมและกล้าบ้าบิ่น สมกับเป็นลูกผู้ชาย เขาดีใจมากที่ได้แต่งตัวแบบทาสในสมัยก่อน เขาค่อยๆ เดินอย่างช้าๆ ผ่านฝูงชนที่มีแต่แววตาเหยียดหยามเขา เขารู้สึกได้ถึงการเป็นชนชั้นที่ต่ำที่สุดในสังคม ไม่ต่างอะไรจากสัตว์

พอมาถึงบ้านโบราณหลังใหญ่ที่เปรียบเสมือนที่คุมขังนักโทษ รณสิงห์สัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่เหี้ยมโหด ขณะที่เขากำลังเดินไปรอบๆ บ้าน นายตำรวจแก่ๆ คนหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับไม้หน้าสาม

“ไอ้สัตว์ ไมมึงมาช้าแบบนี้วะ มึงไม่เคยมาช้าขนาดนี้มาก่อน คิดจะลองดีกับกูหรือไง”

ไม่มีเสียงตอบจากรณสิงห์ทำให้นายตำรวจแปลกใจนิดนึงแต่ก็ยิ่งทำให้เขาโกรธมากขึ้น

“เอามือประสานไว้ที่ท้ายทอย” นายตำรวจสั่งอย่างดุดัน

รณสิงห์ตื่นเต้นมาก ค่อยๆ เอามือประสานไว้ที่ท้ายทอย กางขาออกเล็กน้อย แววตาบ่งบอกถึงความรู้สึกโหยหาความเจ็บปวด ท่าทางของรณสิงห์กระตุ้นอารมณ์ซาดิสต์ของนายตำรวจได้เป็นอย่างดี นายตำรวจเอาไม้หน้าสามฟาดไปที่หน้าท้องของเขาที่เต็มแน่นไปด้วยมัดกล้ามหลายครั้ง รณสิงห์สัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดและสะใจที่เขาไม่เคยได้รับมาก่อน

“ของที่กูสั่งให้ซื้ออยู่ไหนไอ้สัตว์” นายตำรวจตะคอกเสียงดัง

“ลืมซื้อครับผม” รณสิงห์ตอบได้อย่างมีอารมณ์มาก

ด้วยแรงโมโหทำให้นายตำรวจเอาไม้หน้าสามฟาดไปที่หน้าอกของรณสิงห์อีกหลายที รณสิงห์สะใจมาก แววตาเขาดุดันและโหยหาความเหี้ยมโหดโคตรซาดิสต์ถึงขีดสุด นายตำรวจโยนไม้หน้าสามทิ้ง แล้วจิกผมเขากระชากผมจนทำให้รณสิงห์ต้องเงยหน้าขึ้น

นายตำรวจตะโกนไปที่ข้างหูของเขาดังมาก “วันนี้มึงอยากจะลองดีกับกูใช่มั้ย ไอ้สัตว์อย่างมึงนี่นรกส่งมากเกิดแท้ๆ ได้ ถ้ามึงอยากลองดีกับกู เดี๋ยวกูจัดให้แบบไม่ยั้งเลย อีกไม่นานมึงจะรู้ว่านรกมีจริง”

พอพูดจบนายตำรวจก็กระชากผมของรณสิงห์อย่างแรง พาเขาเข้าไปที่ห้องด้านหลังบ้านซึ่งมีบริเวณกว้างขวางและอุปกรณ์พร้อม เหมาะแก่การทรมานเด็กหนุ่มหุ่นล่ำอย่างรณสิงห์เป็นอย่างยิ่ง

นายตำรวจลากรณสิงห์เข้าไปในบ้าน เขาไม่ได้สงสัยเลยว่าคนที่เขาลากเข้าไปไม่ใช่รณสร แต่พอเขาลากเข้าไปแล้วพินิจดูแล้วพบว่ารณสิงห์ดูหน้าหล่อขึ้น ผิวพรรณดีขึ้น กล้ามอก กล้ามแขนและกล้ามท้องดูสวยและสมดุลย์กันไปหมด เขาคิดแค่ว่ารณสร ลูกชายเขาคงหนุ่มขึ้นมาอีกขั้นหนึ่ง

จุดประสงค์ที่เขารับเลี้ยงดูรณสรก็เพราะในท้ายที่สุด เขาอยากเลี้ยงลูกชายบุญธรรมอย่างทาส เขารอว่าวันที่เขาอยากทำอย่างนั้นเต็มรูปแบบจะมาถึงเมื่อไหร่ อาจจะเป็นวันนี้ก็ได้ เขารอมานานอยากให้รณสรเป็นหนุ่มที่ดูดี รณสรน่ารักมาตั้งแต่เด็กอยู่แล้ว น่าจะโตเป็นหนุ่มหล่อล่ำได้อย่างไม่ยากเย็น ด้วยความโง่เขาเบาปัญญา เขาไม่สงสัยเลยว่าแฝดหนุ่มสลับตัวกันเพื่อหาประสบการณ์ในแบบที่ตัวเองไม่เคยเจอ รณสิงห์แค่เบื่อความเป็นคุณชายและอยากกลายเป็นสัตว์ให้คนเหยียดหยาม เขาเองต้องดูดีกว่ารณสรอยู่แล้วเพราะดูแลตัวเองดี กล้ามที่ได้มาก็ได้มาจากฟิตเนสที่มีเทรนเนอร์ส่วนตัวคอยดูแล ไม่ใช่ได้มาจากการทำงานหนักอย่างรณสร ความดูดีของรณสิงห์ ทำให้ตำรวจที่เป็นพ่อบุญธรรมของรณสร ตัดสินใจว่าถึงเวลาแล้วที่จะทำให้ลูกกลายเป็นทาสอย่างสมบูรณ์แบบ

เขาสั่งรณสิงห์ "ถอดกางเกงมึงออกไอ้สัตว์" รณสิงห์ทั้งตื่นเต้น งงงวยและควยแข็ง พอช้าเลยโดนตบหน้าอย่างแรงไปหนึ่งที รณสิงห์หน้าหัน เลือดกลบปาก เขายอมถอดกางเกงแต่โดยดี "ถอดกางเกงในของมึงออกด้วย สัตว์อย่างมึงต้องไม่ใส่อะไรเลยแม้แต่ชิ้นเดียว"

รณสิงห์ตกใจมาก เขาไม่เคยคิดเลยว่าแค่คืนแรกก็เจออะไรแบบนี้ เขาทั้งตื่นเต้น โหยหาและหวาดกลัว

"ช้าอีกมึง" พอรณสิงห์ยังไม่ถอดกางเกงใน นายตำรวจก็จัดไปอีกดอก เขาชกหน้าท้องของรณสิงห์อย่างแรง "ถอดออกเร็ว" พอรณสิงห์ถอดกางเกงในออกมา ก็เผยให้เห็นควยขนาดเขื่องที่กำลังแข็งได้ที่และหัวบานสวย นายตำรวจพาเขาไปยังห้องที่เขาจะล็อคกุญแจอยู่ตลอดเวลา พอเปิดห้องเข้าไปก็จะเห็นกรงขนาดใหญ่ "มึงเข้าไปนอนในกรงก่อน สัตว์อย่างมึงต้องอยู่ในกรงแบบนี้ในสภาพเปลือยเปล่า กูยังมีอะไรดีๆให้สัตว์อย่างมึงอีกเยอะ" รณสิงห์ยอมเข้าไปในนั้นอย่างโดยดี ตั้งแต่บัดนี้ เขาได้เป็นสัตว์สมใจอยาก แต่เขาจะทนไหวไหมกับความโหดที่รอคอยอยู่เบื้องหน้า

ฝั่งรณสรเอง เมื่อกลับมาถึงคฤหาสน์หรู เขาวางแผนเรื่องความอำมหิตไว้หลายอย่าง แต่อย่างแรกที่ต้องจัดการก่อนคือไอ้พล เขาทราบข้อมูลมาว่าไอ้พลเป็นคนสวนคนโปรดของรณสิงห์ พอไอ้พลเข้ามารายงานตัวตรงหน้า รณสรถึงรู้ว่าทำไมไอ้พลถึงเป็นที่โปรดปาน ไอ้พลหล่อมาก หน้าคม คิ้วหนา ผิวดำแดงแต่ก็ดูไม่คล้ำมาก กล้ามอกสวย กล้ามแขนใหญ่ แถมมีซิกแพคตรงหน้าท้องอีก

"มึงไม่ต้องไปเป็นคนสวนแล้วนะ มึงมาเป็นของส่วนตัวของกูดีกว่า"

ไอ้พลยิ้มอย่างมีความสุข "เป็นคนใช้ส่วนตัวของคุณสิงห์เหรอครับ"

รณสรยิ้มอย่างเลือดเย็น "เปล่า มาเป็นสัตว์ส่วนตัวของกูต่างหาก"

คืนนั้นถึงแม้รณสิงห์จะตื่นเต้นมาก แต่เขาก็หลับไปเพราะความล้า พอตื่นมาแล้วรับรู้ว่าเมื่อคืนเขาคือสัตว์ที่นอนเปลือยอยู่ในกรงทั้งคืน เขาก็รู้สึกตื่นเต้นและตระหนกขึ้นมาอีกครั้ง ทำให้ควยแข็งขึ้นมาอีกรอบ เขาจึงชักว่าวเพื่อปลดปล่อยอารมณ์แบบสัตว์ๆที่มันคุกรุ่นอยู่ภายใน เขาไม่รู้เลยว่านายตำรวจกำลังจ้องมองเขาอยู่

"ควยใหญ่จังนะมึง" นายตำรวจเห็นควยของรณสิงห์แบบเต็มตาก็ทำให้เขาเกิดความอยาก แต่ยังก่อน มันยังไม่ถึงเวลา แต่เนื่องจากรณสิงห์ชักว่าวแบบมันสะใจ ทำให้ควยของนายตำรวจพลอยแข็งไปด้วย หัวควยของรณสิงห์สวยและเร้าอารมณ์ยิ่งนัก พอเขาชักว่าวเสร็จ น้ำก็แตกทะลักออกมาเจิ่งนองเต็มพื้น นายตำรวจเดินไปเปิดกรงออกแล้วเดินเข้าไปในกรง "มึงทำสกปรกแต่เช้าเลยนะไอ้สัตว์" เขาหยุดครู่นึงก่อนจะออกคำสั่ง "เลียมันซะ"

เมื่อได้ยินดังนั้น รณสิงห์ตกใจมาก เขาหันไปมองหน้าของนายตำรวจ นายตำรวจไม่พอใจมาก จึงตบหน้าเขาไปอย่างแรง "กูบอกให้เลียไง" รณสิงห์ค่อยๆก้มลงใช้ลิ้นเลียน้ำควยของตัวเอง นายตำรวจเตะไปตรงสีข้าง "เลียเร็วๆ สิวะไอ้สัตว์" รณสิงห์เจ็บชายโครงมาก แต่ต้องแข็งใจเลียน้ำควยตัวเองที่เปรอะเต็มพิ้นให้สะอาดที่สุดเท่าที่จะทำได้

พอเลียเสร็จเขาก็นั่งคุกเข่า หันหน้ามามองนายตำรวจ มีน้ำควยเปรอะตรงริมฝีปากเขา นายตำรวจเคลิ้มไปกับความหล่อของเขา จึงลืมตัวก้มลงไปเลียน้ำควยที่เปรอะปากของเขาอยู่ ลิ้นสากๆสัมผัสริมฝีปากรณสิงห์ ทำให้เขารู้สึกเสียวซ่านอย่างบอกไม่ถูก เขาหลับตาปล่อยให้นายตำรวจโลมเลียน้ำควยที่เปรอะริมฝีปากเขาจนเขาเผลอเอาลิ้นมาสัมผัสลิ้น มันทำให้นายตำรวจได้สติ จึงตบหน้าเขาไปอีกทีนึง มันทำให้รณสิงห์ได้สติขึ้นมาด้วย

"เลียน้ำควยตรงมือมึงด้วย เลียให้สะอาดเลยนะ ไม่งั้นมึงจะโดนหนัก" รณสิงห์เลียน้ำควยที่นิ้วของเขา สายตาก็จ้องนายตำรวจไปด้วย เขาจึงโดนตบไปอีกที นายตำรวจเอาปลอกคอหมามาใส่ให้เขา แล้วลากเขาออกจากกรงตรงไปยังลานหลังบ้าน "นอนลงไปไอ้สัตว์ เดี๋ยวกูจะอาบน้ำให้" รณสิงห์นอนหงายลงไป นายตำรวจควักควยของเขาออกมาแล้วเยี่ยวรดไปที่หน้าและลำตัวของรณสิงห์ นายตำรวตอั้นเยี่ยวมานาน มันจึงออกมาแบบไหลทะลัก รณสิงห์รู้สึกแย่มากที่โดนกระทำถึงเพียงนี้ เขานึกไม่ถึงจริงๆว่านายตำรวจจะโหดขนาดนี้ แค่เริ่มต้นเท่านั้น เขาเองก็กลัวลนลานแล้ว

นายตำรวจลากเขามาอีกห้อง เอาข้าวใส่จานอาหารหมาให้เขา "ถึงเวลาแดกข้าวของมึงแล้วไอ้สัตว์" ระหว่างก้มไปกินข้าวจากจานข้าวหมา นายตำรวจยังใช้แส้ฟาดหลังรณสิงห์ไปด้วย รณสิงห์ฝืนกินข้าวด้วยอาการพะอืดพะอม "แดกไม่ลงเหรอมึง เดี๋ยวกูช่วย" นายตำรวจถุยน้ำลายลงไปในจานข้าวหมา "แดกให้หมดนะมึง ไม่งั้นมึงโดนดีแน่" นายตำรวจคิดว่าคงต้องฝึกรณสิงห์ให้เป็นทาสสักพักก่อนจะพาพรรคพวกมาร่วมสนุกด้วย

เช้าอันสดใสในคฤหาสน์ของรณสร เขาออกกำลังกายตอนเช้าด้วยการพาหมาไปเดินเล่น หมาตัวนั้นก็คือไอ้พลที่อยู่ในสภาพเปลือยเปล่า ที่คอมันมีปลอกคอหมาใส่อยู่ พร้อมสายจูงที่อยู่ในกำมือของรณสร เขาพาไอ้พลคลานประจานไปทั่ว ทำให้ไอ้พลอายมาก ทุกคนในคฤหาสน์ต่างตกใจกับพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของคุณรณสิงห์ของพวกเขา รณสรไม่หยุดแค่นี้แน่ เขากำลังคิดที่จะสร้างฮาเร็มซาดิสม์ที่ฉาวมากที่สุดที่จะคิดได้ แต่เช้านี้ขอเล่นงานแค่ไอ้พลก่อน เขาสั่งให้กรเอารถออก "กูจะพาหมาของกูไปโชว์แถวไร่ใกล้ๆหน่อย" เช้านี้อาจไม่ใช่แค่ไอ้พลที่จะโดนเละ คนงานในไร่หลายคนก็อาจไม่รอด