วันโคตรซวยของคุณหนู

ตั้งแต่เด็กจนผมโตมาเป็นหนุ่ม ผมรู้ตัวมาตลอดว่าผมพิเศษ ไม่เหมือนใคร แตกต่างและเหนือกว่าคนอื่นๆ ผมมีชีวิตที่วิเศษสุดและเป็นความฝันของใครอีกหลายๆ คน ความแตกต่างของผมกับคนพวกนั้นก็คือ ผมเกิดมาพร้อมกับความสุขสบายที่ว่านี้ ทุกอย่างเตรียมพร้อมสำหรับผมก่อนที่ผมจะเกิดมาบนโลกนี้เสียอีก ผมไม่ต้องเสียเวลาดิ้นรนหรือออกแรงพยายามเลยแม้แต่น้อย

มรดกของคุณพ่อที่มีให้นั้นเสกสรรค์ทุกอย่างให้ผมได้ดั่งใจปรารถนา ผมเคยชินกับการใช้ชีวิตแบบนี้มาตั้งแต่จำความได้ ผมมั่นใจมากว่าไม่เคยมีความต้องการใดที่ไม่เคยได้รับการตอบสนอง คุณพ่อเอาใจและตามใจผมจนเคยชิน ส่วนคนใช้ หรือจะพูดให้ถูกต้องก็คือ พวกคนงานของพ่อผมก็ตอบรับคำสั่งแต่โดยดี ไม่มีใครกล้าขัดใจผม พอๆ กับที่ไม่มีใครอยากมีเรื่องกับเจ้านายตัวเอง เมื่อตัดสินใจแล้วว่าจะทำงานรับใช้พ่อผม นั่นก็แปลว่าต้องยอมเป็นขี้ข้าผมด้วย ผมได้รับการดูแลในระดับดีเยี่ยมมาโดยตลอด ชีวิตผมไม่เคยตกต่ำ และทุกวัน ผมมีความสุข ไม่มีอะไรเลยที่จะมากวนใจผมได้ ผมต้องการอะไร ผมต้องได้ตามนั้น ผมสั่งได้ กระทั่งในเรื่องที่ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้

ตอนนี้ผมเป็นวัยรุ่นแล้ว และผมคิดว่าชีวิตผมคงไม่น่าจะดีไปกว่านี้อีกแล้ว

ทุกเช้า ผมจะตื่นมา พร้อมรับความสดใส โดยปกติแล้ว จะต้องมีดอกไม้วางอยู่บนโต๊ะข้างๆ ปักอยู่ในแจกัน และจำเป็นต้องเปลี่ยนเพื่อความสดใหม่ทุกวัน น้ำจะต้องเต็มอยู่เสมอแก้วต้องใส และอาหารเช้าต้องถูกยกเข้ามาเมื่อผมสั่ง ซึ่งอาจเป็นเวลาไหนก็ได้ สำคัญคือทุกอย่างต้องพร้อมอยู่เสมอ ผมลืมตาขึ้นและรู้สึกดีที่ได้นอนเต็มอิ่ม ไม่มีสิ่งใดรบกวน เตียงที่ผมนอนใหญ่เกินกว่าจะนอนคนเดียว แต่กลับให้ความรู้สึกสบายอย่างบอกไม่ถูก ผมใส่เสื้อยืดสีขาวกับกางเกงขาสั้นนอนเพื่อความคล่องตัวและรู้สึกดี มันอาจดูเรียบง่าย แต่ไม่ใช่อย่างที่คุณกำลังคิดแน่ๆ เพราะราคาของมันแพงกว่าค่าตัวคนงานบางคนซะอีก

ผมกวาดผ้านวมให้ออกห่างจากตัว ก่อนจะลุกขึ้นยืน บิดตัวไปมาสองสามที ไล่ความรู้สึกอ่อนเพลียที่ยังคงหลงเหลือให้หมดไป เมื่อก้มลงมอง อวัยวะเพศของผมตุงโด่ แหลมตรงไปข้างหน้า เกือบจะโผล่ออกมาทักทาย มองจากมุมนี้ดูเหมือนมันกำลังพยายามดันหัวให้ทะลุเนื้อผ้าออกมาให้ได้ ควยแข็งอีกแล้วไง เรื่องปกติของทุกวัน ผมไม่ตื่นเต้นอะไรและตัดสินใจว่าจะทำแบบเดิม ก็คือการเดินออกไปรับแสงแดดยามเช้าด้านนอก เมื่อผลักบานประตูกระจกให้ไหลออกไปตามรางของมัน ม่านในห้องเริ่มปลิวตามแรงลมที่วิ่งลู่เข้ามา ผมหรี่ตาลงเล็กน้อย หาทางปรับโฟกัสให้สอดรับกับแสงในตอนนั้น ก่อนจะเดินออกมาในสภาพชุดนอน และควยยังแข็ง เดินไปเพื่อสำรวจวิวยามเช้าเบื้องล่างเช่นเคย

ผู้คน รถรา และการจราจรยังคงเหมือนเดิมในแบบที่คุณจะเดาได้ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย และผมก็ไม่ประหลาดใจเช่นเคย ผมเฝ้ามองดูชีวิตคนตัวเล็กๆ เบื้องล่างนั้นจากมุมตรงนี้ อดรู้สึกไม่ได้จริงๆ ว่ากำลังสวมบทบาทเป็นใครสักคนอยู่ ใครสักคนที่มีอำนาจ และมีชนชั้นที่เหนือกว่าผู้คนธรรมดาทั่วไป บางทีผมอาจเป็นพระเจ้าหรือราชา ผมสังเกตดูคนพวกนั้นและคิดในใจว่าจะมีใครบ้างมั้ยที่แหงนมองขึ้นมาบ้าง เหมือนที่ผมลอบมองพวกเขา คนดูตัวเล็กเหมือนมดและแออัดยัดเยียด เมื่อมองจากระยะไกล ผ่านไปไม่ถึงห้านาที ผมรู้สึกเหมือนกำลังดูสารคดีคนเมืองยังไงยังงั้น ลมตอนเช้าพัดปะทะหน้าผมเบาๆ พร้อมกับแสงแดดอ่อนๆ ช่วยให้ร่างกายผมตื่นตัวและสลัดความง่วงทิ้งได้หมดจด

ตอนนี้ผมรู้สึกอยากสนุกแล้ว การได้ออกมาข้างนอกและได้รับรู้บรรยากาศจริงๆ เช่นนี้ชวนให้ผมคิดพิเรนทร์ ทำอะไรแผลงๆ ดูสักหน่อย รู้ตัวอีกทีมือผมข้างนึงก็คลำหาเป้าเพื่อเค้นคลึงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว น้องชายของผมกระตุกเบาๆ ตามมาด้วยความรู้สึกหลายแหล่ที่ปั่นป่วนบริเวณท้องน้อย ก่อนจะชัดเจนว่านั้นคือตอนที่ผมกำลังเสียว ผมใช้นิ้วเกี่ยว รูดกางเกงให้หลุดพ้นออกไป จะได้ง่ายต่อการชักว่าว มือขวาผมกอบกำควยแข็งๆ ได้เต็มไม้เต็มมือ มันให้ความรู้สึกที่ดีจริงๆ ผมชอบทุกครั้งที่ได้ช่วยตัวเองแบบนี้ นิ้วทั้งห้าของผมสัมผัสท่อนเนื้อและรับรู้ได้ถึงความแข็งแกร่ง เข้าใจเลยว่าทำไมบางคนถึงเลือกส่วนนี้ว่าเอ็นเนื้อ ในเมื่อมันแข็งได้ขนาดนี้ก็ไม่ผิดเท่าไหร่ที่จะเรียกแบบนั้น

ตอนเด็กๆ ผมนั้นผมชอบนึกฉงนอยู่บ่อยครั้ง ถึงตอนที่กระจู๋เหี่ยวๆ กลายเป็นเจี๊ยวแข็งโป๊กไปได้ยังไง มันดูน่าอัศจรรย์มากในความเข้าใจเมื่อตอนเยาว์วัย ต้องยอมรับเลยว่ามันเป็นช่วงที่ตื่นตาตื่นใจมากจริงๆ ผมตื่นเต้นกับการเฝ้าติดตามการแข็งตัวของจู๋ตัวเองอยู่บ่อยครั้ง มันช่างน่าเหลือเชื่อ ผมตั้งตาดูตั้งแต่ตอนที่มันยังไม่ตื่น ทุกอย่างดูอ่อนนุ่ม เห็นชัดเลยว่ามีแค่เนื้อและหนังหุ้มย่นๆ แต่พอเลือดมาเลี้ยง และใจเต็นรัวเท่านั้นแหละ ซึ่งส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นตอนที่ผมได้ดูเห็นอะไรที่วาบหวาว หรือส่วนนั้นของผมได้รับการสัมผัสเกินพอดีเท่านั้นล่ะ กระจู๋นุ่มๆ ที่ดูเหมือนจะไร้กระดูก ก็ค่อยๆ ขยายกลายเป็นมีกล้ามขึ้นมาทันที ช่วงนึงผมถึงกับเข้าใจด้วยซ้ำว่านั่นคือกล้ามจู๋ น่าหัวร่อเสียจริง แต่นั่นก็เป็นความเข้าใจในช่วงวัยเด็กๆ

แต่ตอนนี้ ในช่วงวัยแรกรุ่น นมเพิ่งแตกพานและขนหมอยเริ่มจะโตยาว ผมก็ยังรู้สึกสนุกกับกิจกรรมนี้ไม่ต่างจากเดิมตอนนี้ควยผมแข็งโป๊กเรียบร้อยแล้ว หัวบานสีแดงสด เหมือนไปจุ่มถังสีผสมอาหารมาอย่างงั้นแหละ ชมพูแวววาวดูสุขภาพดี น้ำไหลทะลักออกมา ยิ่งทำให้ตรงนั้นยิ่งลื่น บางครั้งก็ไหลออกมาเยอะขนาดเยิ้มจนมาถึงซอกนิ้ว บางทีเลอะไปถึงหมอยก็มี ผมจับกำท่อนลำอย่างเบาๆ แต่อยู่มือ ชิดเนื้อแต่ไม่แน่นมาก แค่สะดวกและพอดีต่อการจับถอกเข้าถอกออกก็เท่านั้น

ผมประเดิมเริ่มแรกด้วยการชักว่าวเบาๆ แค่พอให้ได้อารมณ์และตื่นตัว ผมมองไปข้างล่างอีกครั้ง และเมื่อคิดย้ำกับตัวเองว่า สิ่งที่ผมทำนั้นมีความเสี่ยงอยู่เพียงใด และผิดกฏหมายข้ออะไรบ้าง รวมไปถึงโอกาสที่อาจมีใครเผลอมองมาเห็น ก็ล้วนแล้วแต่ยิ่งทำให้ความรู้สึกปั่นป่วนและเสียวซ่านไปทั่วร่างมากขึ้นเท่านั้น แค่ลองคิดดูเล่นๆ ว่าอาจมีคนส่องกล้องขึ้นมา แล้วบังเอิญเจอเด็กหนุ่มวัยรุ่น หน้าตาสะอาดสะอ้าน เนื้อตัวผิวพรรณดี หล่อเหลาเอาการ แต่ดันยืนใส่เสื้อแค่ตัวเดียว ปล่อยช่วงล่างล้อนจ้อน อล่างฉ่าง ตั้งแต่สะโพกเป็นต้นไป โชว์ให้เห็นอวัยวะทุกส่วนตั้งแต่สะดือไปจนถึงข้อเท้า แถมยังทำกิจกรรมล่อแหลมเช่นนี้ ซึ่งควรจะสงวนไว้ทำในห้องส่วนตัวเท่านั้น ก็ยิ่งทำให้ผมเสียวหัวควยเข้าไปใหญ่ รีบรัวมือไวๆ ถี่ๆ ถอกเข้าออก เน้นๆ ตรงด้านบนยิ่งหนังหุ้มเสียดสีกับส่วนหัวมนๆ เท่าไหร่นั้น ผมก็ยิ่งตัวงอ ขาสั่น ซี๊ดปากมากขึ้นเท่านั้น และยิ่งผมเสียวมากขึ้นเท่าไหร่ ผมก็ยิ่งรัวให้เร็วขึ้นไปอีก

อ้าาาาาาาา ฟินจัง เสียวก็เสียว ควยก็แข็ง ยิ่งใกล้แตก ผมก็ยิ่งบิ้วตัวเอง ตอนนี้ทุกส่วนของร่างกายทำงานประสานกันเป็นหนึ่งเดียว ผมรู้ดีว่านาทีที่รอคอยใกล้เข้ามาถึงแล้ว ผมเริ่มไม่สนใจโลกรอบข้างแล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้น ตอนนี้มันบังคับให้ผมโฟกัสอยู่แค่ข้างเดียวเท่านั้น ผมสัมผัสได้ว่าใจผมเต้นแรงจนแทบจะระเบิดออกมา ผมลืมตามองไปรอบๆ เพื่อให้เกิดความตระหนักว่า นี่ผมกำลังยืนแก้ผ้าชักว่าวอยู่นอกห้องจริงๆ ดูสิ นั่นคนกำลังยืนรอรถเมล์ ส่วนนั้นก็คนที่เดินไปมา ผู้หญิงคนนั้นกำลังซื้อหมูปิ้ง ผู้ชายสองคนนั้นเพิ่งออกจากรถ

ส่วนผม อ้าาาาา ผมยืนโป๊ จับควยโด่ๆ แข็งสัสๆ ของตัวเอง รูดเข้าออกอย่างเอาเป็นเอาตาย จังหวะนี้ผมรู้สึกว่าผมใกล้จะแตกแล้วจริงๆ ผมเลยแอบผ่อนมือออกให้ช้าและเบาลง ผมยังไม่อยากเสร็จเร็วแค่นี้ ผมอยากยืดเวลาฟินออกไปอีก ผมกลับมามองควยในมืออีกรอบ มันโค้ง แอ่นชี้ฟ้า เมื่อผมผละออกชั่วครู่ มันโงง เงง ไปมา ผมพินิจท่อนลำแข็งๆ นั้นอีกที มองความงามของมัน นึกชมในใจอย่างเข้าข้างตัวเองว่า มันช่างดีงามเหลือเกิน มีควยดุ้นไหนที่สวยแบบนี้อีกมั้ยเนี่ย ดูหัวสิ ดูขนาดนั้นสิ แล้วไหนจะความอวบอูม และที่สำคัญขาวเหมือนผิวส่วนอื่นๆ ของผม ไม่ดำคล้ำอย่างของใครๆ ไม่เชื่อดูตูดผมสิครับ สีผิวแบบเดียวกันเลย ขาวผ่องวิ้งๆ ผมชื่นชมร่างกายตัวเอง แล้วกลับมาตั้งหน้าตั้งตาช่วยตัวเองอีกครั้ง

ผมมองบรรยากาศเบื้องล่างอีกครั้ง และพบว่าทุกอย่างก็ยังเหมือนเดิม เหมือนไม่มีใครสังเกตด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้นบนนี้ มันทำให้ผมรู้สึกเซ็งนิดๆ มันคงจะดีไม่น้อยถ้ามีคนเผลอมองขึ้นมา มันคงช่วยให้ตื่นเต้นกว่านี้เยอะเลย ผมถอดเสื้อออก และรู้สึกดีที่ทำแบบนั้น ตอนนี้ผมเปลือยทั้งตัวแล้ว อยู่ในชุดวันเกิดสมบูรณ์แบบ ไม่มีอะไรปกปิด ไม่มีอะไรป้องกันสายตาใครที่จะมองมาได้เลย ถ้าเกิดว่ามีใครมองขึ้นมา เขาอาจจะเห็นผมและไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง เพราะการทำใจให้เชื่อว่า กำลังเห็นหนุ่มแก้ผ้าชักว่าวกลางวันแสกๆ กลางสี่แยกสยามเช่นนี้นั้น ดูจะเป็นอะไรที่ไม่สมเหตุสมผลเสียเลย

สะโพกของผมแอ่นไปข้างหน้า เด้งรับ นิ้วทั้งห้าที่กำมือหลวมๆ สัมผัสท่อนควยเบาๆ เสียวจังโว้ย รู้สึกดีจังที่ได้ทำที่อยากทำ ผมคิดว่าการได้อยู่คนเดียวและมีอิสระในพื้นที่ของตัวเองเช่นนี้ ทำให้ผมเหิมเกริมและหมกหมุ่นกับเรื่องช่วยตัวเองมากขึ้นทุกวัน แต่เดิมผมมักจะชักว่าวอยู่แต่ในห้อง แต่หลังๆ ก็ค่อยๆ พัฒนามาเป็นอย่างที่เห็น ผมรู้สึกดีที่ได้ทำเช่นนี้ มันทำให้ผมพอใจเป็นอย่างมาก แต่ในขณะเดียวกัน ก็ปลอดภัยและไม่เสี่ยงมากมาย เพราะโอกาสที่คนจะได้เห็นผมอย่างชัดเจนนั้น มีน้อยมาก ไม่ใช่แค่จังหวะที่พอดีเท่านั้น แต่ด้วยระยะความสูงของตึกเช่นนี่ ใครคนนั้นจำเป็นต้องมีกล้องส่องทางไกลคุณภาพดีติดมือด้วย

ผ่านไปได้สักระยะ ควยของผมเริ่มสงสัญญาณให้รู้ว่าไข่โตๆ สองใบของผมได้ส่งน้ำมาที่ปลายควยแล้ว และพร้อมจะฉีดน้ำว่าวออกไป!! อีกอึดใจเดียวเท่านั้น น้ำผมก็จะแตกแล้ว อ้าาาาก ใช่แล้ว ผมแก้ผ้าชักว่าวโชว์จนน้ำใกล้จะแตกแล้ว ผมรัวมือไม่ยั้ง เร็วสุดๆ สับข้อมือพั่บๆๆๆ อย่างชำนาญ อีกนิดเดียวเท่านั้น ใกล้และๆ แต่แล้วก็...

ก๊อกๆๆๆๆ

“คุณหนูครับ มีคนมาขอพบครับผม คุณหนูครับ”

เสียงนั้นดังมาจากข้างในห้อง เล่นเอาผมสะดุ้ง หยุดกึกในสิ่งที่กำลังทำ ตกใจจนปล่อยมือ ไปต่อไม่ถูก น้ำที่ใกล้จะพุ่งก็หดกลับไข่อย่างรวดเร็ว ส่วนควยยังแข็งเด่ ชี้เป็นมุมแหลม

ผมรีบคว้าเสื้อผ้ามาใส่อย่างรวดเร็ว พลางบอกตะโกนคนที่อยู่ข้างนอกว่าให้รอและยังไม่พร้อมให้เปิดประตูเข้ามา ผมงุนงงและอารมณ์เสียที่มีแขกไม่ได้รับเชิญโผล่มาในเวลาไม่เหมาะสมเช่นนี้ ผมเดินเข้าห้องมาเพื่อหากางเกงขายาวมาใส่และตั้งใจว่าจะเสื้อที่ใส่น่าจะเป็นเสื้อเชิ้ต

ผมย้ำกับคนรับใช้ของผมว่าให้รอก่อน รอจนกว่าผมจะพร้อม แต่เหมือนใครบางคนจะความอดทนต่ำกว่าที่คิด หลังจากที่ผมกลัดกระดุมครบทุกเม็ดและกำลังจะสอดขาเข้ากางเกงอยู่นั้น ประตูก็เปิดออกโดยไม่ได้รับอนุญาต ผมยืนอึ้ง ตะลึงงันไปกับภาพชายในเครื่องแบบตำรวจสองคนตรงหน้า คำถามในหัวของผมผุดขึ้นมาเต็มไปหมด แต่ยังไม่มากเท่าความรู้สึกโกรธที่แผ่ซ่านไปทั้งตัว

“จะบ้าหรือไง เข้ามาทำไรวะ”

ชายแปลกหน้าสองคนนั้น เก็บอารมณ์ได้ดีมาก หรือเป็นไปได้ว่าอาจเตรียมใจมาแล้วว่าจะเจอกับอะไร หนึ่งในนั้นตอบกลับมาเรียบๆ แค่คำอธิบายและเหตุผลถึงการมาเยี่ยมโดยไม่แจ้งล่วงหน้าในตอนนี้

“นี่คือชื่อของพ่อคุณใช่มั้ย และนี่คือสถานที่ที่คุณพ่อคุณเป็นเจ้าของใช่หรือไม่ คุณทราบมั้ยว่าตอนนี้เขาอยู่ไหน”

นายตำรวจ หรือใครที่กำลังอ้างตัวว่าเป็นนั้น ยิงคำถามไม่หยุดใส่ผมพร้อมกับยื่นเอกสารสีขาวปึกใหญ่มาให้ มันมีมากมายหลายใบเกินกว่าจะอ่านละเอียดได้หมดในคราวเดียว ผมรับมาอย่างงุนงงและหงุดหงิดที่ฝ่ายตรงข้ามดูนิ่งอย่างเป็นมืออาชีพ ต่างจากผมที่ดูกระสับกระส่าย และมีสภาพการแต่งตัวเรียบร้อยได้ไม่เท่าคู่สนทนา บรรยากาศและจากวิธีการที่เขาพูด มันทำให้ผมนึกถึงฉากในหนังที่ผมเคยดู เอกสารในมือผมตอนนี้กำลังบอกว่าสถานะของพ่อผมนั้น ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

ผมอ่านชื่อนามสกุลของพ่อตัวเองในนั้นอย่างเรียงตัวอักษรทุกตัว ราวกับไม่เชื่อว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นจริง ผมรู้สึกประหลาดที่ต้องทำอะไรแบบนี้ แต่ก็ยังดีกว่ายกมือขึ้นมาตบหน้าตัวเอง

ผมตอบคำถามกลับไปในข้อที่ตอบได้ และเลือกที่จะเงียบในเรื่องที่ไม่รู้ หรือไม่ก็เลี่ยงเพราะไม่อยากจะพูดถึง ผมเงยหน้ามอง สลับกับกระดาษในมือ พยายามเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่ทุกอย่างก็ยังเหมือนเดิม ไม่มีใครให้ความกระจ่างได้ไปมากกว่านี้ และในกรณีเช่นนี้ การไม่พูดไม่ถามอะไรเลยน่าจะเป็นการดีที่สุด ผมนิ่งเงียบและคิดระวังคำพูดทุกครั้ง

ผมนึกในใจว่าทุเรศจริงๆ ที่ต้องรับทราบข้อกล่าวหาร้ายแรงในสภาพเช่นนี้ ยิ่งนายตำรวจอยู่ในชุดเรียบร้อยมากแค่ไหน ก็ยิ่งแตกต่างจากผมมากขึ้นเท่านั้น ที่มีเพียงเสื้อเชิ้ต และบ็อกเซอร์ แถมควยยังตุงกางเกงนิดๆ ด้วย ขนาดกึ่มๆ โด่ไม่เต็มที่ แต่ก็ตุงเด่ทิ่มผ้าอยู่เบาๆ นายตำรวจสองคนยืนตรงข้างกัน จ้องมองผมทั่วตั้งแต่หัวลงล่าง และเมื่อคิดว่าเห็นชัดเจนดีแล้ว ก็เริ่มมองรายละเอียดข้าวของในห้อง ผู้ชายอีกคนที่ดูเหมือนจะมีสถานะรองลงมายังไม่เอ่ยปากอะไรเลย ได้แต่ใช้สายตาสังเกตทุกอย่าง แต่กลับทำให้ผมรู้สึกอึดอัดเป็นไหนๆ โดยเฉพาะตอนที่เขามองและเริ่มรู้ถึงความเปลี่ยนแปลงในร่มผ้าของผม ไม่ต้องพูดออกมาเป็นคำ แค่สายตาที่มองมา ก็ทำเอาผมอายจะแย่

ไม่สิ ไม่ใช่อายหรอก ผมเกลียดความรู้สึกนี้ต่างหาก การที่ต้องเป็นฝ่ายถูกจ้องมอง มันโดนคุกคามยังไงก็ไม่รู้ ยิ่งคิด ก็ยิ่งใจเต้น ลามให้ควยยิ่งแข็ง จากที่เด่ๆ ก็กลายเป็นโด่เหยียดตรงไปข้างหน้า

ผมพยายามรวบรวมสติ และภาวนาให้ผ่านช่วงเวลาน่าขายหน้านี้ไปให้ได้ หน้าผมแดงก่ำโดยไม่รู้ตัว ลมออกหู ด้วยหลายสาเหตุ ผมนึกไม่ออกด้วยซ้ำว่าควรพูดอะไร ผมอยากจะไล่ให้พวกนี้ออกไปให้พ้นๆ ซะ แต่ผมเริ่มไม่แน่ใจว่าอยู่ในสถานะที่ทำเช่นนั้นได้มั้ย

“ทางเราจำเป็นต้องยึดทรัพย์สินทุกอย่างที่เป็นของคุณพ่อคุณ รวมถึงสถานที่แห่งนี้ด้วยหวังคุณคงเข้าใจนะครับ ขอความร่วมมือด้วยนะครับ”

พวกนั้นสั่งผมอย่างว่าง่ายและกล่าวออกมาตรงๆ เมื่อไม่จำเป็นต้องไว้หน้ากัน ก็ไม่มีเหตุผลต้องมานั่งพูดอ้อมๆ ใส่กัน ผมรู้สึกคล้ายกับคนถูกฟ้าฝ่ากลางตัว วิมานเงินล้านทั้งหมดนี้กำลังจะหายไป ผมเข้าใจเลยว่าคนโรคหัวใจกำเริบมันเป็นยังไง ผมปวดหัว มึนงงไปหมด แค้นก็แค้น เกลียดใบหน้ายิ้มเยาะที่เก็มไม่มิดของเจ้าหน้าที่ตรงหน้า นึกอยากให้มีคนอยู่ข้างๆ ผมและคอยช่วย หรือใครสักคนเดินเข้ามาและบอกว่ามันไม่ใช่เรื่องจริงๆ

ใช่สิ มันจะเป็นไปได้ยังไง ผมโดนหลอกอยู่แน่ๆ ใครสักคนคงอยากจะแกล้งผมแต่ยิ่งมอง ทุกอย่างก็ยิ่งชัดเจนชีวิตผมจบสิ้นลงแล้ว!

ยังไม่ทันที่ผมจะได้โต้ตอบอะไร ก็มีคนเดินเข้ามาในห้องผม แต่งชุดที่แตกต่างออกไปและทำการค้นข้าวของ เฟอร์นิเจอร์ชิ้นไม่ใหญ่ออกไปอย่างคล่องแคล่ว ผมโวยวาย เข้าขัดขวางแต่ความพยายามไม่เป็นผล พวกนั้นยิ้มให้กัน ส่งสัญญาณ และจากนั้นกิจกรรมก็ดำเนินต่อไป

ผมได้แต่เฝ้ามองของแต่ละชิ้นถูกหยิบจับ สำรวจ และส่งออก ไหลออกจากประตูออกไปเรื่อยๆ ผมแค้นใจและเจ็บปวดแสนสาหัส ผมตวาด และพ่นทุกคำด่าทุกคำที่คิดได้ แต่ไม่มีอะไรจะหยุดพวกคนในเครื่องแบบนั้นได้ ผมเพิ่งรู้ตอนนั้นเองว่าทีมงานไม่ต่ำกว่าครึ่งโหลอยู่เบื้องหลังปฏิบัติการในครั้งนี้ ข้าวของเครื่องใช้ด้านนอกนั้นหายไปเกินครึ่ง เหลือไว้เพียงของชิ้นใหญ่มากจริงๆ คนรับใช้ของผมมองด้วยสายตาโหวงๆ ยืนทื่อๆ ทำอะไรไม่ได้ หรือจริงๆ แล้ว นึกไม่ออกว่าควรทำอะไรก็เป็นได้

ผมหยิบมือถือเตรียมจะโทรหาพ่อ และทนายของพ่อ แต่กลับถูกฉวยออกไปจากมือ! ผมยังไม่ทันได้กดอะไรเลยด้วยซ้ำ

“ผมมีสิทธิติดต่อทนายนะ!” ผมยืนยันหนักแน่นกลับไป แต่กลับโดนตอกหน้าหงายกลับมา

“แน่นอนครับ แต่มือถือเครื่องนี้ ผมเกรงว่าเราก็ต้องยึดด้วยครับผม”

มันยิ้มใส่ให้ผมอย่างจงใจ มันตั้งใจกวนกระสาทผมแน่ๆ ไม่มีทางเป็นอื่นได้ ผมเดินวนไปทั่วๆ ห้อง มองซ้ายขวาหน้าหลัง คิดหาทางออกราวกับคนบ้า มันมืดแปดด้านจริงๆ คนใช้คนนึงเดินเข้ามาหาผมและถามย้ำๆ อยู่นั้นว่า “ทำไงดีครับ เจ้านาย” แต่นั่นล่ะ ผมก็ยังเอาตัวไม่รอดเช่นกัน

เมื่อของทุกชิ้นทุกยึดไปจนไม่เหลือ ทุกชิ้น ไม่เว้นแม้แต่ไม้จิ้มฟันไม้เดียวก็โดนเก็บไป ไม่ถึงยี่สิบนาที ห้องก็ว่างเปล่า โล่งโจ้ง เหมือนโดนโจรยกไปทั้งบ้าน ห้องนอนผมเหลือแค่เตียงเท่านั้น และโต๊ะ ส่วนเก้าอี้ก็โดนเก็บเป็นที่เรียบร้อย ตำรวจสองคนนั้นยืดอกภูมิใจกับผลงานของตัวเอง ดูสนุกสนานเกินหน้าเกินตา บางทีก็ยากจะแยกว่าที่ทำไปนั้นเพราะตามคำสั่ง หรือตอบสนองความพอใจของตัวเองกันแน่

ผมยืนหน้าบึ้งตึง เกรี้ยวกราด แต่ทำอะไรไม่ได้เลย ทุกสิ่งทุกอย่างหายไปในพริบตา ข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวและไม่ส่วนตัวถูกกวาดเกลี้ยงไปหมด เหลือเพียงสิ่งเดียวให้ดูต่างหน้าคือเอกสารหนาเต่อที่มีใจความสำคัญเพียงแค่การล้มละลายของบุคคล ผมปวดหัว ใจเต้นตุบตับเกือบจะเป็นลม นายตำรวจสองคนนั้นสั่งให้ลูกน้องที่เหลือช่วยกันยกโซฟาตัวใหญ่ด้านนอกออกไป ก่อนจะหันมาเผชิญหน้ากับผมอีกครั้ง ด้วยใบหน้าแจ่มใส ยิ้มปริ่ม ราวกับไม่เกิดอะไรขึ้น

“ต้องขอบคุณนะครับที่ให้ความร่วมมือแต่โดยดี แล้วก็ต้องขออภัยด้วยจริงๆ ที่ทุกอย่างเกิดขึ้นปุปปับเช่นนี้”

ผมกัดฟันกรอดๆ ไม่มีเสียงเล็ดลอดใดๆ ออกไปทั้งสิ้น ดวงตาจ้องมองอย่างอาฆาต คนใช้ของผมหยิบแก้วน้ำใส่น้ำเพียงครึ่งเดียวยกให้ผม เพื่อหวังว่าจะบรรเทาอารมณ์ได้บ้าง แต่ก็ช่วยได้เพียงน้อยนิด และจากนั้น แก้วใบสวยก็ถูกยึดคืนในนามของราชการไป ไม่ต่างจากสมบัติชิ้นอื่นๆ ก่อนหน้านี้

“พวกมึงมีสิทธิอะไรทำกับกูแบบนี้ กูไม่เชื่อหรอก พวกมึงรวมหัวกันหลอกกู กูเอาเรื่องพวกมึงแน่”

ผมสติหลุดลอยไปเสียแล้ว สบถด่าอย่างไม่คิดเกรงกลัว นึกเสียดายที่ไม่มีบอดี้การ์ดในเวลาคับขันเช่นนี้

“อ้าวๆ ระวังคำพูดหน่อยสิครับ พูดหมาๆ แบบนี้ อย่าหาว่าไม่เตือนนะครับ คุณหนู”

ผมไม่มีอะไรต้องแคร์แล้ว ในเมื่อไม่เหลืออะไรให้ต้องพะวง ผมพุ่งตัวเข้าไป เกือบจะได้ชกหน้าหมอนั่นจังๆ เข้าแล้วไง แต่ก็คิดได้ทีหลังว่านั่นเป็นการกระทำที่โง่เง่าที่สุดที่จะเป็นไปได้ นายตำรวจ ผู้ซึ่งถูกฝึกมาดี ไม่เพียงแต่หลบได้อย่างง่ายดายเท่านั้น แต่ยังรู้เท่าทันและตลบหลังผมคืนอย่างเจ็บแสบ

“เชี่ย ไอระยำ ปล่อยกูนะ กูจะเอาเลือดออกจากหัวพวกมึงแน่ กูจะฟ้องพ่อกู” ผมขู่ออกมาโดยไม่คิด

“พวกผมต่างหากล่ะครับ ที่เป็นฝ่ายฟ้องพ่อคุณ หัดออกจากกะลาบ้างนะครับ จะได้รู้ว่าเรื่องมันไปถึงไหนแล้ว แล้วทีหลัง อย่าได้ทำอะไรไม่คิดอีกนะครับ นี่ผมยอมให้คุณแล้วนะครับ ทั้งๆ ที่ถ้าจะทำ ผมไล่คุณออกจากบ้านวันนี้เลยก็ได้ หรือจะยึดทุกอย่างเลยก็ได้ หัดสำนึกบุญคุณบ้างนะครับ คุณหนู สำเหนียกบ้างนะครับว่าสถานะตอนนี้ของคุณคืออะไร”

ถ้าเป็นเมื่อสิบนาทีก่อนผมคงจะหันไปมองกระจก และพบว่าสภาพตัวเองในชุดลำลองใกล้จะโป๊นั้น มันน่าสมเพชสมคำครหาแค่ไหน แต่ตอนนี้แค่กระจกให้ชะโงกดูเงา ก็ยังไม่มีเลยครับ

“กูไม่กลัวมึงหรอก ไอพวกเชี่ย ไอชาติหมา พวกมึงมันสถุล ระยำๆ”

คำพูดที่ผมใช้ทำเอาบรรดาคนรับใช้ของผมถึงกับอุทานออกมาเบาๆ นี่คงเป็นครั้งแรกที่พวกนั้นมองเห็นว่า ในความแตกต่างทางชนชั้น คนรวยและคนจนก็ยังมีบางสิ่งร่วมกันได้แต่มาถึงจุดนี้ ผมไม่มีอะไรต้องอายมากไปกว่านี้แล้ว นอกจากทรัพย์สินจะหายไปร่วมร้อยกว่าล้าน ภายในไม่ถึงสี่สิบนาที สภาพตกต่ำราวกับเทวดาตกสวรรค์ ดีไม่ดีตอนนี้คนใช้ของผมยังรวยกว่าผมซะอีก ผมยังยืนควยแข็งท้าทายเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตุงทะลุไปข้างหน้า ในชุดบ็อกเซอร์บางๆ และเสื้อยืดใส่นอน นี่เป็นภาพที่ชวนตกตะลึงและหาดูได้ยาก ทั้งยังก่อให้เกิดอารมณ์ร่วมอย่างรุนแรง สำหรับทุกคนที่อยู่ในห้องนั้น

“หึๆ พวกแกทั้งหลาย ดูไว้นะ นี่แหละ ธาตุแท้ที่จริงของคุณหนู คุณชายของพวกมึง เศษสวะข้างถนนชัดๆ บ้านช่องก็ไม่มีจะให้ซุกหัวนอน แถมยังเสี้ยนได้ทุกที่ทุกเวลา นี่เหรอ ลูกคนรวย ขอทานแถวบ้านยังดูมีราศีซะกว่า”

ผมแอบเห็นคนรับใช้ของผมยิ้มมุมปาก ส่วนบางคนที่รับไม่ได้ ถึงกับเบือนหน้าหนีไปอีกทาง ยังดีที่ไม่มีใครหัวเราะออกมา

“ดูสิ ดู ยังแข็งใส่หน้าพวกแกอีก เวลาแบบนี้ยังไม่สลดอีกนะ”

ผมเครียดและแค้นเคืองจนเส้นเลือดข้างขมับปูด ตุบๆ ทำไมนะ ทำไมถึงตาลปัตรกลายเป็นแบบนี้ได้ ผมก้มหน้าลงพื้นเพราะไม่อยากเผชิญหน้ากับสายตาที่ส่งมาจากทั่วสารทิศ เลยจำใจต้องเห็นอวัยวะเพศแข็งโด่ชูชันในร่มผ้าของตัวเองอย่างเต็มตา บ้าที่สุด ทำไมต้องมาแข็งตอนนี้ด้วยวะ ทุกอย่างผิดที่ผิดเวลาไปหมดผมยืนนิ่งตัวสั่นเทา กำหมดแน่นโดยไม่รู้ตัว ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเวลาข้างนอกผ่านไปนานแค่ไหนแล้ว แต่อยู่ในนี้รู้สึกได้ว่าเวลาเดินช้ากว่าปกติถึงสามเท่าตัว

ไม่นานนัก นายตำรวจหลังจากวางท่าทางใหญ่โต และพูดจาดูถูกเหยียดหยามเกียรติผมจนสมใจแล้ว ก็ประกาศข่าวต่อมา ซึ่งทำให้ผมใจเต้นแรงกว่าเดิมเป็นไหนๆ มันหันมาพูดกับผมแต่ตั้งใจให้ทุกคนในห้องได้ยินไปพร้อมๆ กันด้วย

“ผมเปลี่ยนใจแล้วล่ะ เห็นทีว่าผมคงต้องทำตามหน้าที่และคำสั่งล่ะครับ คุณหนูเองก็ไม่ใช่เด็กๆ แล้วด้วย” มันเว้นวรรคนิดนึงก่อนจะพูดต่อสายตาหยุดมองมาจุดที่ตุงทิ่มสูงที่สุดของบ็อกเซอร์ผม “คุณจะต้องออกจากบ้านภายในวันนี้เท่านั้น อันที่จริง ก็ตอนนี้เลยล่ะครับ พวกคุณด้วย ทุกๆ คนเลย ที่นี่ไม่อนุญาตให้ใครเข้ามาได้อีกแล้ว ห้ามใครเข้า อีกต่อไป” และเน้นย้ำมากๆ ตรงคำว่า “ไม่ว่าใครหน้าไหนก็ตาม” แต่จงใจมองหน้าผมเพียงคนเดียว

“ส่วนคุณหนู ผมเสียด้วยจริงๆ สำหรับการสูญเสียในครั้งนี้ แต่เกรงว่าคุณคงจะต้องจากที่นี่ไปในสภาพแบบนี้ เพราะเสื้อผ้าทั้งหมดถูกยึดไปแล้ว เราคงจะคืนให้ไม่ได้”

ผมเจ็บใจ แต่ไม่แปลกใจเลยแม้แต่น้อย

“แต่พวกผมไม่ได้ใจร้ายขนาดนั้นหรอกครับ ขืนออกไปในสภาพแบบนี้ ไม่ถึงสิบนาทีก็คงจะไม่รอดแน่ๆ อีกอย่าง คุณพ่อคุณก็เคยมีบุญคุณกับพวกผมและลูกน้องมาก่อน ถ้าไม่ได้เงินบริจาคเมื่อปีที่แล้วมาล่ะก็ พวกผมก็คง...” แล้วมันก็หยุดยิ้มและหัวเราะกันเองกับเพื่อนของมัน “เอาเป็นว่า ผมมีข้อเสนอให้ครับ สนใจจะลองฟังดูก่อนมั้ยล่ะครับ”

ผมอับจนหนทาง และคิดว่าคงไม่มีอะไรจะแย่ไปกว่านี้อีกแล้ว ผมนิ่งเงียบ จ้องไปที่ตามัน ไม่เอ่ยคำใดออกมาขัด แปลว่ายอมรับที่จะฟังต่อไป

“ผมมีบางอย่างอยากจะให้คุณหนูทำ ถ้าทำได้ คุณจะมีเสื้อผ้าใส่ออกไป แต่ถ้าไม่ คุณจะไม่เหลืออะไรเลย”

ผมถามนิ่งๆ กลับไปว่าอะไร มันได้แต่อมยิ้มไม่พูดออดมาในคราวเดียว เหมือนกำลังค่อยๆ กับช่วงเวลานี้ให้ได้มากที่สุด ผิดกับผม ที่ร้อนรนและภาวนาให้ผ่านไปอย่างไว

“คุณเห็นรองเท้าผมมั้ย มันไม่ค่อยสะอาดน่ะ”

มันชี้ให้ผมดู แต่สิ่งที่ผมเห็นกลับเป็นรองเท้าสีดำที่เงาวาว อย่างไรก็ดี ผมพอจะเข้าใจว่ามันต้องการอะไร ผมตอบกลับไปว่าจะทำให้ผมยอมลดตัวไปเช็ดรองเท้าให้มันก็ได้ ถ้านั่นจะทำให้มันพอใจ ผมหันไปด้านข้าง และร้องเรียกให้ใครสักคนก็ได้ไปหาผ้ามา

“ไม่ๆๆๆ พวกนั้นไม่ใช่คนรับใช้ของคุณแล้ว ตอนนี้ อย่าลืมสิ คุณจะไม่มีปัญญาจ้างพวกเขาด้วยซ้ำ ผมอยากให้คุณเช็ด ด้วยผ้าของคุณ”

มันหมายถึงเสื้อครับ เสื้อตัวที่ผมใส่อยู่ ผมจำใจถอดเสื้อยืดออกมา เผยให้เห็นถึงผิวขาวๆ ที่ไม่เคยโดนแดด เนียนสะท้อนแสง และสุขภาพแบบเด็กวัยรุ่นทั่วไปที่ชอบออกกำลังกาย มันยืนมองผมขยำผ้าเป็นก้อนและเช็ดรองเท้าให้มันอย่างพอใจ ท่าทางที่มันสั่ง สายตาที่มองลงมาล้วนแล้วแต่กดขี่และรังแกผมในทุกๆ ทาง ไม่มีอะไรจะทำให้มันสะใจและทำให้ผมหมดคุณค่ามากไปกว่านี้อีกแล้ว

พวกอดีตคนรับใช้ของผมมองมาอย่างไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง กว่าครึ่งในนั้นมองมาอย่างสนอกสนใจ ตื่นเต้น แต่ไม่ใช่แววตาของคนที่เห็นใจ ผมแทบไม่เชื่อเลยว่าต้องมาทำอะไรแบบนี้ ควยแข็งโด่ เปลือยท่อนบน ใส่แค่กางเกงสั้นๆ ตัวเดียว นั่งยองๆ จนไข่ข้างนึงลอดออกมาให้คนเห็น นั่งเช็ดรองเท้านายตำรวจชั้นต่ำ ในบ้านสุดหรูของตัวเอง ที่ตอนนี้กลายสภาพไปเป็นของหลวง

ผมทำความสะอาดอย่างคนที่ไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน หลายครั้งผมโดนตะคอกค่อนแคะ และถูกทำให้อับอายขายหน้า

“หัดไว้นะครับ ชีวิตต่อไปคงได้ทำอีกแน่ๆ”

มุกต่ำๆ แต่กลับเรียกเสียงหัวเราะได้ทั่วห้อง

“ดีมาก นั่นแหละ เอาอีกๆ ทำให้เพื่อนกูด้วย อย่าให้มีคราบสักนิดนะครับ”

ผมเงยหน้าส่งสายตาดุดันกลับไป นั่นคือทั้งหมดที่ผมสามารถทำได้

“เร็วๆ สิครับ อยากใส่มั้ยเนี่ย เสื้อผ้าอะ หรืออยากโชว์โป๊ครับผม อายมั้ยครับเนี่ย โตๆ แล้วนะครับ”

ผมเช็ดวนไปวนมา จนเหงื่อเริ่มออก และผ้าเริ่มดำ มือผมก็เปื้อนแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

“เอ้า ดำแล้ว ก็เปลี่ยนซี่ เคยทำมั้ยเนี่ย”

ผมพยายามกลับข้างเอาอีกด้านมาใช้

“ทิ้งไปเลย สกปรกไปหมด เอาอันใหม่มาเช็ดซิ”

ผมเข้าใจในตอนหลังว่านายตำรวจรุ่นน้องกำลังจะหมายถึงอะไร ก็ตอนที่มันเอารองเท้ามาเขี่ยแถวบ็อกเซอร์ผม

“รีบทำให้เสร็จ อายตอนนี้ ยังดีกว่าอายตอนโน่นนะครับ หรือคุณอยากจะแก้ผ้าเดินออกไปก็ได้ ตามสบายเลย 555”

ผมเครียดเม้มปาก ในหัวคิดจนสมองแทบระเบิด ก่อนที่จะตวาดไปทางคนรับใช้มุมห้อง

“พวกมึงออกไปให้หมดเดี๊ยวนี้”

แต่กลับโดนเบรกไว้

“ไม่ต้องไปไหนทั้งนั้นแหละ คุณไม่มีสิทธิไปสั่งใครทั้งนั้นแหละ รีบๆ ทำตามที่สั่งไปเถอะ ได้ข่าวว่าชอบโชว์ไม่ใช่เหรอครับ 55”

ท้ายสุด ผมก็ต้องยอม หลังจากที่คิดแล้วว่านั่นเป็นทางเลือกเดียวที่ผมมี ผมจำใจค่อยๆ ถอดปราการชิ้นสุดท้ายที่มีอยู่ออก คนทั้งห้องเฝ้ามองมาที่ผม จับจ้องทุกความเคลื่อนไหว สายตากว่าสิบคู่ค่อยๆ เก็บรายละเอียด ตั้งแต่ตอนที่ผมขยับกางเกง จับรูดลงมาผ่านช่วงขากระทั่งหลุดออกจากทางข้อเท้า ควยแข็งๆ ของผมปรากฏออกมาให้เห็นอย่างชัดๆ ระยะห่างแค่มุมห้อง ทำให้ทุกคนได้เห็นเต็มๆ ตา

ควยของคุณหนูในขนาดโตเต็มวัย พร้อมทั้งความอวบและความยาว แข็งเด่ชี้พุ่งไปข้างหน้า หัวเปิดเห็นเนื้ออ่อนบนสุดสีชมพูแดงๆ เส้นสองสลึงตึงเปรี๊ยะไข่สองใบห้อยต่องแต่งแกว่งไกวไปมาตามการเคลื่อนไหว ยิ่งช่วงขาขยับบ่อย ควยและไข่ก็ยิ่งกระดกกระดิก ขยับขึ้นลงตามแรงเขยื้อน เช่นเดียวกับทุกสายตาที่อดมองมาอย่างเบิกโตไม่ได้ร่างกายของเด็กหนุ่มเผยให้เห็นมัดกล้ามตามสัดส่วนที่เหมาะสม แก้มก้นด้านข้างเนียนรัดได้รูป ไขมันหน้าท้องมีในปริมาณที่น้อยมาก ทำให้กล้ามชัดประมาณนึง

ผมพยายามไม่สนใจว่าใครจะมองอย่างไร และโฟกัสไปที่งานตรงหน้า รีบๆ ทำ เช็ดซ้าย เช็ดขวาไวๆ เพื่อที่จะจบลงเร็วๆ แต่กระนั้น ก็ยังได้ยินเสียงกระซิบกระซาบ และคำอุทาน บางคนก็กลืนน้ำลาย ผู้ชายบางคนก็หัวเราะ ผู้หญิงบางคนก็ตกใจ ส่วนตำรวจชั่วสองตัวนั้นก็วิจารณ์อย่างสนุกปากตามคาแรกเตอร์ของมัน

“แค่เช็ดรองเท้า ถึงกับโด่เลยเหรอครับ 55”

ผมพยายามนั่งชันขา หวังให้หน้าขาและเนื้อน่องช่วงปกปิดให้ได้มากที่สุด แต่ยังแพลมบางส่วนออกมาให้เห็นได้อยู่ดี โดยเฉพาะไข่ใบโตสีเนื้อ ที่ห้อยโตงเตงลงข้างล่าง ราวกับลูกตุ้มที่น้ำหนักดิ่งลงพื้นอยู่ดีๆ มันเอาก็ตีนในรองเท้ามาเขี่ยโดนท่อนควยของผมเบาๆ ทำท่าเหมือนจะสัมผัส หรืออยากจะเตะท่อนลำแข็งๆ ก็ไม่รู้ รู้แค่ว่า มันตั้งใจและไม่ขอโทษ

“แข็งไม่หยุดเลยว่ะ แข็งเหมือนปืนเลย 55 เฮ้ย ได้ยินมั้ย บอกว่าควยมึงแข็งอะ”

ผมขยับตัวหนีมัน แต่มันก็ยังเอาตีนมาเขี่ยควยผม ทุกครั้งที่โดนเขี่ย ควยที่แข็งอยู่ก็จะกระเด้งโงนเงนไปมาผมพยายามไม่ใส่ใจ และก้มหน้าก้มตาเช็ดรองเท้าต่อไป ไม่ว่าใครจะหัวเราะก็ตาม

“เสร็จแล้ว เอาเสื้อผ้ากูมาสิ”

มันพยักหน้าให้ลูกน้องคนข้างกายของมัน แต่สิ่งที่มันโยนมาให้ กลับเป็นกางเกงในแค่ตัวเดียว และไม่ใช่ของผมด้วย แค่เห็นทรง และสีก็บอกได้แล้ว

“นี่อะไรอะ มึงหักหลังกูเหรอ”

ผมลุกขึ้น เตรียมง้างมือออกทำท่าจะต่อยตี แต่ก็โดนผลักจนล้มโครมที่พื้น

“ใครหักหลังคุณ อย่ากล่าวหานะ คุณเข้าใจไปเองต่างหาก ผมบอกจะให้เสื้อผ้า ก็นี่ไง เสื้อผ้า ผมบอกที่ไหนว่าจะให้กี่ตัว และเป็นของใคร คุณไม่ถามเอง ได้แต่ตอบตกลง โง่ทั้งพ่อทั้งลูกแบบนี้ไง ชีวิตพวกคุณถึงต้องกลายเป็นแบบนี้”

แม่งเอ๊ย ผมพลาดอีกแล้ว

“ไอสัส มึงหลอกกู ไอเชี่ย พวกมึงมันเชี่ย”

ผมพ่นคำหยาบติดๆ แทบไม่เว้นหายใจ และอยากให้มีของข้างตัวแถวนี้บ้าง เพื่อที่จะได้ขว้างใส่มันจังๆ ที่ใบหน้า ผมเดือดพล่าน ใจเต้นแรง เลือดสูบฉีด ส่วนหนึ่งเพราะโกรธแค้นที่โดนแกล้ง ส่วนหนึ่งอายที่แก้ผ้าให้ทุกคนเห็น

ผมรีบหยิบกางเกงในรอสโซ่สีขาวมาใส่ แต่มันก็เล็กเกินกว่าจะเก็บลำโตๆ และพวงไข่สองใบยานๆ ให้มิดชิดในนั้นได้ ผมจัดการให้ควยผมพาดเอียงไปทางขวา และพยายามจัดเก็บไม่ให้มีส่วนเกินออกมา แต่ก็เป็นไปได้ยากที่จะไม่ให้ส่วนหัวควยโผล่ออกมาเลย อาจเป็นเพราะกางเกงในตัวเล็กไป หรือไม่ก็ควยผมตอนแข็งใหญ่ยาวไปก็เป็นได้

ผมยืนปะทะกับพวกมัน ควยแข็งคับตุงกางเกงในตัวจิ๋วจนแทบจะระเบิดออกมาได้ทุกเมื่อ ไม่ต่างอะไรกับอารมณ์พลุ่งพล่านที่อยู่ในตัวของผม

“แบบนี้ก็หล่อไปอีกแบบนะครับ 55”

ผมยืนมือกุมเป้า ตามองสลับไปมา ระหว่างไอชั่วตรงหน้ากับพวกคนใช้

“อะ ถ้าพร้อมแล้ว ก็ถึงเวลาร่ำลาได้และ พวกคุณทุกคนเดินตรงไปที่ลิฟต์เลยนะครับ จากนั้นลงไปชั้นล่างสุด และกลับบ้านได้เลย งานของคุณจบลงแล้ว ส่วนรายละเอียดหลังจากนั้นเราจะติดต่อกลับไป ส่วนคนที่ไม่มีบ้านให้อยู่ ยังไงก็รบกวนไปต่อเอาเองนะครับ กางเกงในที่ใส่อยู่ ทางเราอนุโลมให้เป็นสมบัติชิ้นเดียวที่ให้ติดตัวไปได้ อันที่จริง เพื่อความปลอดภัยทางสายตาของประชาชนน่ะครับ ไม่ได้ทำเพื่อคุณหรอก เข้าใจนะครับ ว่ามันอุจาดแค่ไหน ขืนปล่อยไป คนกรุงเทพคงจะอ้วก ไส้กรอกซีพีคงขายไม่ออกไปอีกนาน 555”

จากนั้นผมกับคนอื่นก็ถูกกวาดต้อนไปพร้อมๆ กัน ผมไม่มีเวลาให้ได้ร่ำลา หรือเก็บความทรงจำอะไรอีกเลย ไม่ต่างอะไรกับชาวยิวที่โดนกวาดต้อนให้ไปขึ้นรถไฟ ความบ้าบอคอแตกคือ ในขณะที่ทุกคนยังมียูนิฟอร์มใส่เรียบร้อย มีแค่ผมคนเดียวที่อยู่ในสภาพคล้ายชีเปลือย ผมเดินตามเข้าไปในลิฟต์อย่างไม่เต็มใจ หน้ามุ่ย และพร้อมจะแว้งกัดทุกคน แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ นอกจากเดินกุมเป้าตุงๆ แข็งๆ งอตัวเข้าไปในลิฟต์

คนกว่าครึ่งโลกอัดกันอยู่ในลิฟต์ ผมยืนอยู่ตรงกลาง รายล้อมไปด้วยคนรับใช้ของผม ที่ตอนนี้มีสถานะสูงส่งกว่าผมเป็นไหนๆ ทางฐานะทางสังคมและสภาพภายนอก ตำรวจชั่วนั้นเดินมาด้านหน้า แต่ไม่ได้ลงไปด้วย กดลิฟต์ค้างไว้ และกล่าวอะไรเล็กน้อย ก่อนที่ลิฟต์ชั้น 100 กว่าจะเคลื่อนลงไปยังชั้นล่างสุด ซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้าที่คนกำลังเดินกันอย่างคับคั่ง

“ผมขอลาแค่นี้นะครับ เมื่อลงไปสุด จะมีเจ้าหน้าที่มารับช่วงต่อไปเอง ผมแนะนำให้เดินออกไปเลย เพื่อความเรียบร้อย แล้วก็ สำหรับพวกคุณทั้งหลายที่เคยทำงานที่นี่ ผมเสียใจจริงๆ ที่ต้องบอกว่า คุณคงไมไ่ด้รับค่าจ้างในเดือนนี้ ด้วยเหตุผลที่รู้ๆ กันอยู่ และท้ายสุด ผมขอเตือนใจอย่างนึงว่า นี่เป็นช่วงเวลาสุดท้ายที่คุณจะได้เจอกับคุณหนู เจ้านายสุดที่รักของคุณ ถ้าพวกคุณมีอะไรอยากจะร่ำลาส่งท้ายล่ะก็ นี่เป็นเวลาที่เหมาะสมมากๆ ครับ อ่อ อีกอย่าง กระซิบบอกตรงนี้เลยนะครับ ทางเราปิดกล้องวงจรปิดในลิฟต์เป็นการชั่วคราว ดังนั้น ขอให้โชคดีนะครับ ลาก่อนครับ ทุกท่าน”

แล้วประตูก็ลิฟต์ก็ปิดไป นำมาซึ่งความเงียบแบบที่ผมไม่คุ้นเคย มันไม่ใช่ความเงียบแบบที่เกิดขึ้นตอนอยู่คนเดียว แต่เป็นความเงียบงันที่เกิดจากการรวมหมู่กันของคนหลายคน แล้วไม่มีใครตัดสินใจพูดทำลายจังหวะขึ้นมา ผมเสียวสันหลังวาบ สัมผัสได้ถึงความรู้สึกหลากหลายที่พุ่งเข้าหาจากหลากทิศทาง ผมหนาวขึ้นฉับพลันและมั่นใจมากว่าไม่ใช่เพราะแอร์แน่นอน ตอนนี้ทุกสายตาจ้องมองผม เหมือนสิงโตเจอแกะ ผมรู้สึกได้ว่าห้านาทีต่อจากนี้ต้องมีเหตุเกิดขึ้นแน่ๆ ผมหายใจถี่เร็ว และคล้ายว่าจะร้องไห้

ชายตรงหน้า ซึ่งเคยทำหน้าที่ขับรถให้ผม หันมามองหน้าผมอย่างคาดเดาอะไรไม่ได้จากสีหน้า ส่วนคนข้างๆ และข้างหลังก็มีเจตนาแอบแฝงที่ไม่ต่างกัน ลิฟต์เคลื่อนตัวลงมา แต่รู้สึกเหมือนไม่ได้ไปไหนเลย ถ้าไม่มีตัวเลขสีแดงคอยบอกถึงชั้นเปลี่ยนไป ผมคงคิดว่าเรายังคงอยู่ที่เดิม เสียงหายใจได้ยินชัดขึ้นเมื่อเราอยู่ใกล้กันมากพอ ผมรู้สึกสั่นไปหมด โดยเฉพาะเมื่อมองไปรอบๆ และคิดถึงคำพูดสุดท้ายที่ได้ยิน

ผมก้มหน้าต่ำลงเพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะทางสายตาที่อาจเกิดขึ้นแต่ไม่นานนัก มือปริศนาที่ยากจะบอกว่าของใคร ก็กำเกงในอย่างหลวมๆ ก่อนจับพรวดดึงทีเดียวจนควยแข็งๆ หลุดเด้งออกมา และอากาศเย็นๆ สัมผัสที่แก้มก้น!!!!

ปกติลิฟต์จะใช้เวลาราวๆ สิบห้านาทีจากชั้นบนสุดมาล่างสุด แต่สำหรับวันนั้น มันกลับยาวนานราวกับไม่มีที่สิ้นสุดในความคิดของผม

ในลิฟต์ไม่ได้มืดมาก แต่ก็ไม่ได้สว่างจ้าเช่นกัน มือกี่คู่ต่อกี่คู่ นัวไปทั่วตัวของผม มือขยันหยิบจับสัมผัสตั้งแต่หัวยันตูด ทันทีที่กางเกงในเจ้ากรรมหลุดออกไป ควยของผมก็ดีดผึงออกมา จากนั้นก็มีมือโผล่มาจากไหนไม่รู้ จับหมับ แน่นชิดเนื้อบีบเนื้อ จนผมไม่ขยับไปไหนได้ ที่จริงก็แน่นจนไปไหนไม่ได้อยู่แล้ว ผมนิ่งอยู่กับที่ ขนลุกซู่กับการอยู่ในดงนี้

บรรดาคนใช้ของผมไม่ยอมเสียเวลาเลยแม้แต่น้อย กับการอำลาเจ้านายสุดที่รัก คนที่อยู่ข้างหลังช่วยกันจับแขนทั้งสองข้างของผม ให้กางออกจนไม่สามารถปกป้องตัวเองได้ วงแขนของใครต่อใครพาดผ่านลำตัวของผมบ้างก็บีบ บ้างก็ล็อค อีรุงตุงนังจนอยากจะแยก ควยโด่ๆ แข็งๆ ของผมถูกจับกำแน่นจนผมเจ็บ ดูเหมือนใครก็ตามที่กำลังครอบครองไอหนูของผมอยู่นั้น ดูตั้งใจจะบันดาลโทสะเป็นอย่างมาก

เมื่อเขาพยายามจะจับถอกขึ้นลงอย่างรุนแรงที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ด้วยองศาที่ไม่คุ้นชิน เขาจึงยอมปล่อยให้ และอนุญาตให้คนที่อยู่ด้านขวาผมเป็นคนจับผมชักว่าวต่อ ด้วยความเงี่ยน ควยผมสนองรับอารมณ์โดยดุษดี มันทั้งแข็ง และโด่เด่สุดจะผยองเหลือเกิน ยิ่งมือนั้นยิ่งบีบจับลงน้ำหนักเท่าไหร่ ควยขาวๆ ของผมก็ยิ่งสู้มือมากขึ้นเท่านั้น ยิ่งจับถอก ก็ยิ่งแข็ง แรงมาก็แรงไป โด่ไปเรื่อยๆ โด่แล้วก็โด่ได้อีก ไม่มีอ่อนข้อ กระตุกบ้างบางจังหวะ ตามความเสียวซ่านที่เกิดขึ้น

แขนสองข้างของผมถูกจับกอดจนปวดไปหมด ผมไม่แน่ใจว่านี่เป็นอุบัติเหตุหรือความตั้งใจจะทำร้ายร่างกายของผมกันแน่ ผมร้องโวยวาย แต่รู้ว่าทำไปก็เท่านั้น ไม่มีใครจะช่วยผมได้แล้วในเวลาแบบนี้ อย่างน้อยก็ในอีกสิบนาทีข้างหน้า

เสียงมือกระทบกับหน้าท้องของผม ดัง ตั่บ ตั่บ ตั่บ สะท้อนไปทั่วลิฟต์เล็กๆ นั่น หลายๆ คนก้มลงมองกิจกรรมกระทำชำเรากระจู๋ของผมอย่างร่วมแรงร่วมใจ ใครช่วยทำไรได้ก็ทำในส่วนนั้นดูเหมือนว่าทุกคนจะสามัคคีกันยิ่งกว่าครั้งไหนๆ นี่คงเป็นความในใจของพวกเขาตลอดเวลาที่ทำงานที่นี่สินะ ต่อหน้าคนเหล่านี้ยอมอยู่เป็นขี้ข้าผม ปากบอกเคารพ แต่ข้างในไม่มีใครอยู่ข้างผมเลย

ผมแอ่นตัวไปข้างหน้าโดยอัติโนมัติ รู้สึกแย่มากที่ร่างกายรู้สึกดี และชอบใจที่มีคนเล่นควยให้ ใจนึงผมก็รู้สึกกลัว ตื่นตระหนก ไม่รู้เลยว่าต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น คนที่กำลังจัดการผมนั้นออกแรงหนักมาก ชักว่าวจนมือเป็นระวิง ไม่สนใจเลยว่าผมจะเจ็บควยมั้ย เส้นสองสลึงของผมจะฉีกหรือเปล่า ในทางกลับกัน เขายิ่งพอใจมากขึ้นเท่านั้นที่เสียงดังขึ้นเรื่อยๆ ตั่บ ตั่บ ตั่บ และผมยิ่งแหกร้องโหยหวน ใครคนนั้นที่ผมจำไม่ได้แล้วว่าทำหน้าที่อะไร ก็ยิ่งพอใจและยิ่งจับควยแรงขึ้น ชักเร็วขึ้นเท่านั้น ผมโคตรเสียวเลย และผมอายเหลือเกินที่ต้องสารภาพเช่นนี้ ผมอยากให้ทุกอย่างนี้หยุดลงซะ แต่ลึกๆ ผมก็ขอให้เขาทำไปเรื่อยๆ จนกระทั่งน้ำผมแตก

ในใจของผม ความคิดช่างซับซ้อน ผมอับอายและเสียศักดิ์ศรี แต่ร่างกายกลับหักหลังและอยากให้มือเจ้ากรรมนั้นทำงานเช่นนี้ต่อไป ควยใหญ่ๆ ของผมในตอนนี้กำลังปกครองตนเองและไม่รับสั่งจากสมองอีกต่อไป มันต้องการถูกกระทำ ต้องการให้จับถอกเข้าออกอย่างรุนแรง รัวและเร็วที่สุด กระหน่ำข้อมือเข้าไป ยิ่งหนักเท่าไหร่ ยิ่งดี เพราะตอนนี้มันถึงเวลา มันใกล้แล้วมันคือเวลาของการพ่นน้ำว่าว!!!

เร็วกว่าที่คิด น้ำว่าวข้นๆ ก็พ่นกระตุกออกมาติดๆ กันสองสามระลอกในไม่กี่วินาที ก่อนที่น้ำรอบต่อไปจะตามมาอีกครั้ง ควยผมกระตุก เหมือนคนชัก ทำเอาเปื้อนมือ ชุ่มเยิ้มไปหมด รวมทั้งคนที่โชคร้ายยืนอยู่ด้านของผมด้วย เสื้อเปื้อนเป็นวง เป็นสาย เห็นกันชัดๆ ผมหอบออกทางปาก ตากระพริบปริบๆ ใจเต้นแรง เพราะหลังจากที่น้ำแตกปุ๊บ มือนั้นก็ยังไม่หยุดแต่อย่างใดพร้อมกับที่มีคนร้องเชียร์ต่อเนื่องให้ทำต่อไป

“เอาเลยๆ จับมันว่าวอีก อย่าหยุด เร็วๆ สิวะ อย่าเสียเวลา เอาให้แม่งน้ำแตกหมดตัวตายห่าไปเลย 555”

เสียงฮือฮาดังต่อไป กังวานไปทั่วห้องทำเอาผมใจเสีย ชายผู้จับผมว่าวนั้นชักไปได้สักพักก็แรงตก แต่นั่นก็ไม่อาจหยุดยั้งกิจกรรมบันเทิงนี้ได้แต่อย่างใด ชายคนข้างๆ ที่ผมจำหน้าได้ว่าเป็นคนเก็บกวาดห้องผม ก็อาสาเข้ามารับช่วงต่อทันที ผมรับรู้ได้จากมือที่เข้ามาใหม่นั้นถึงความแตกต่าง มือนี้หยาบกร้านกว่าและนิ้วเรียวกว่า ทว่าน้ำหนักและความจริงจังไม่แตกต่างกัน

“ชักเลยๆ เอาให้แตกๆ ควยใหญ่ชิบหาย ไอ้คุณหนูหน้าหี!”

ผมตกใจกับคำพูดและการกระทำต่ำช้าเช่นนี้ โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาว่า ตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมานั้น พวกเขาปฏิบัติกับผมอย่างยำเกรง

“เร็วๆ สิวะ ใกล้แล้วนะ ไอสัส ชักแรงๆ เลย เล่นหัวมันเยอะๆ ตรงนั้นเสียว”

ชายหญิงที่อยู่ข้างหลังก็ร่วมด้วยเช่นกัน มีคนจิกหัวผม จนหน้าผมแหงนมองเบื้องบน มือปริศนาที่เดาว่าน่าจะเป็นของผู้หญิง เล่นหัวนมผมอย่างเมามัน บีบคลึงอย่างกับผมไม่ใช่มนุษย์ แต่เป็นตุ๊กตาไร้ชีวิตที่คิดจะทำอะไรกับมันก็ได้ ผมปล่อยให้ร่างกายของผมเป็นที่ระบายอารมณ์ของคนพวกนี้อย่างจำยอม ผมแบกรับความเจ็บปวดทั้งทางร่ายและจิตใจที่เกิดขึ้นอย่างสุดจะทน เมื่อคิดทบทวนไปว่าเมื่อชั่วโมงที่แล้วผมเป็นใครและกำลังทำอะไรอยู่ น้ำอุ่นๆ ก็ไหลท่วมตาผมก่อนจะหยดย้อยไหลเป็นทางเปื้อนแก้มทั้งสองข้าง

เมื่อใกล้ถึงชั้นล่างขึ้นเรื่อยๆ ความโหดร้ายก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน บางคนเริ่มเอาเล็มมาขูดตามตัว หยิกเนื้อขาวๆ บีบจับ เค้นจนรอยแดงขึ้นเป็นจ้ำๆ ตูดฟิตๆ แน่นๆ กลมเป็นลูก สุดจะเด้งของผมก็โดนกระทำเช่นนี้ ผมเพิ่งรู้ตัวว่ามันโดนมือบีบขยำมาได้สักระยะแล้ว ผมคิดได้ทีหลังว่าที่ผมไม่โดนจับเย็ดนั้น เพราะลิฟต์นี้มันแคบไปนั่นเอง แต่โชคร้ายที่มันไม่แคบพอที่ใครสักคนจะส่งนิ้วอวบๆ สองนิ้ว พรวดเข้ามาทีเดียวในรูก้นฟิตๆ ผมร้องจ๊ากกกกกกกก เจ็บแสบ ปวดมวน ทรมานเป็นที่สุด น้ำตาไหลพรากเป็นสาย แต่ไม่มีใครสนใจหรืออยากคิดจะสน

นิ้วปริศนานั้นแยงเข้าออกได้จังหวะไม่เร็วเท่ามือที่จับควยผม เพราะความฟิตของตูดผมทำให้การแยงทีละครั้งใช้เวลาพอควร แต่มันกลับสร้างความเจ็บปวดที่สุดแสนจะตราตรึงและยากจะลืมเลือน ผมสะดุ้งทุกครั้งไม่ใช่เพราะเสียวควยเพียงอย่างเดียว แต่พออาการบาดเจ็บที่ตูดด้วย

“อ้าาาาาากกกกกกกก”

ผมร้องไห้จนตาแดง ไม่แพ้ส่วนอื่นๆ ของร่างกาย ถ้าควยและตูดผมร้องไห้ มันคงร้องไห้ไปแล้ว เมื่อคิดดูดีๆ หรือบางทีควยผมอาจจะร้องไห้ก็เป็นได้ แค่น้ำตาที่ออกจะควย มันไม่ใส่เหมือนออกจากตาก็เท่านั้นเอง เพราะไม่กี่วินาทีต่อจากนั้น ควยของผมก็ระเบิดน้ำว่าวรอบสองออกมา!!!!

คราวนี้น้ำไม่เยอะเท่าคราวแรก แต่ก็ยังมีน้ำมีเนื้ออยู่ และเหมือนเช่นเคย ทุกคนก็เฮร้องเอะอะ สะใจ และมุ่งมั่นเดินหน้ารีดน้ำว่าวรอบต่อไปทันที!!!

มือนั้นซึ่งผมเลิกสนใจจะรับรู้ไปแล้วว่าของใคร จับบีบถอกลำควยขึ้นสุดลงสุด สลับกับพัก ปล่อยควยหลุดออกบ้าง ก่อนจะกลับมาจับหมับอีกครั้ง และกระแทกอุ้งมือให้ชนกับหน้าท้องแรงๆ ให้เกิดเสียงดังๆ เพื่อความสะใจ ผมรู้สึกเจ็บ มากกว่าจะรู้สึกเสียว ถึงแม้ควยผมจะยังคงแข็งเป็นหินท้าทายมือนั้นอยู่ตลอดก็ตาม

“พอเถอะ กูขอร้องงงงง” ผมหลุดปากอ้อนวอนโดยไม่รู้ตัว แต่ก็เป็นอย่างที่คาดการณ์ไว้ว่ามันไม่อาจเปลี่ยนแปลงอะไรได้ แต่กลับทำให้ผลที่ได้แย่ลงด้วยซ้ำ

“หุบปากไปเลยไอเหี้ย มึงมันระยำตำบอน พวกกูเกลียดมึงชิบหาย มึงเคยรู้ตัวมั่งม้ายยยย”

แล้วหลายเสียงก็ตอบรับเห็นด้วย

“กูอยากจะทำมากกว่านี้ด้วยซ้ำ ถ้ากูรู้นะว่าวันนี้มึงจะโดนเล่น ตอนเช้ากูบุกไปเย็ดตูดมึงให้บานตั้งแต่เช้าแล้วล่ะ”

ว่าแล้ว มือที่แยงตูดอยู่นั้น ก็จิ้มลึกเข้าไปอีก จนผมชักจะกลัวว่าอาจจะทะลุลำไส้ได้

สายตาผมพยายามมองว่าตอนนี้อยู่ชั้นอะไรแล้ว และทุกครั้งมันช่วยผ่อนคลายความเครียดลงได้บ้าง ตอนนี้เราอยู่ห่างจากชั้นล่างแค่สิบชั้นเท่านั้น แต่ไม่ใช่แค่ผมคนเดียวที่ตระหนักในความจริงข้อนี้ ทุกคนกลับมาเร่งสปีดในสิ่งที่ทำอีกครั้ง ช่วงเวลาพิเศษของพวกเขากำลังจะหมดลงแล้ว และผมกำลังจะได้รับอิสระ

คนที่จับชักว่าวก็ตั้งหน้าตั้งตาชักว่าว และหวังว่าจะรีดน้ำให้แตกได้อีกครั้งก่อนลิฟต์จะเปิด ส่วนคนที่เย็ดตูดผมด้วยนิ้วก็บุกทะลวงลึกเข้าไปอีก ก่อนจะดึงนิ้วกลับ ซึ่งพบด้วยว่ามีอะไรบางอย่างติดมือมาด้วย เปื้อนสองนิ้วเต็มๆ ก่อนที่จะจับป้ายหน้าผม และยัดนิ้วนั้นเข้าปาก ทิ่มเข้ารูจมูกของผมอย่างจงใจ ผมรังเกียจอย่างที่สุด หลับตาปี๋ อยากจะให้เรื่องทั้งหมดนี้ไม่เคยเกิดขึ้นจริง นิ้วนั้นรุกล้ำเข้ามาในปากผม พร้อมกับป้ายรสชาติที่ผมไม่เคยนึกฝัน ผมพยายามขยับหนีแต่ไม่เป็นผล ผมดิ้นแต่ก็ทำได้ไม่มาก คนรอบข้างยังคงตรึงผมแน่น

ชั้น 5 มาชั้น 4 ใกล้แล้ว อีกนิดเดียวก็จะถึงแล้ว หลายคนโห่ร้องด้วยความไม่พอใจ บางคนเร่งเร้าให้ลงมือหนักขึ้นไปอีก ชายด้านหน้าตั้งหน้าตั้งตาชักว่าวให้ผมอย่างสุดแรง ราวกับชีวิตนี้จะไม่ขอจับควยใครอีกแล้ว ผมทั้งเจ็บทั้งเสียวไปพร้อมๆ กัน แต่รู้สึกหนักไปทางอย่างแรกมากกว่า ผมรู้สึกว่าอีกนิดควยผมอาจจะหลุดออกไปเลยก็ได้

“อ้าาาาา ไม่ไหวแล้วว พอเถอะ” ผมแหกปาก

เมื่อลิฟต์เลื่อนลงมาถึงชั้นสอง และในไม่กี่อึดใจก็จะถึงชั้นล่างสุด หญิงชายทั้งหลายก็ส่งมือมาหยิกจับ ขยำเนื้อตัวผมไปทั่วร่าง แข่งกับเวลาที่กำลังไหลหลุดออกไป มือซ้าย มือขวา มือหนา มือบาง ต่างจับกุมได้ทุกที่ ทุกสัดส่วน แถมยังดึงทึ้งอีกด้วย ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก แต่ผมจำได้แม่นยำว่า มีคนกระชากหมอยผมอย่างแรงจนร่วงไปหลายเส้น เจ็บแปล๊บขึ้นมาในบัดดล ข้างหน้ายังไม่พอ ข้างหลังยังมีคนถอนขนตูดผมด้วย

“อ๊ากกกกกกกกก เจ็บๆๆๆๆๆ เจ็บๆ โอ๊ยยย” เสียงร้องคำรามของผมยิ่งทำให้พวกนั้นได้ใจ กระหน่ำซ้ำเติมเข้าไปใหญ่ แต่ผมก็อดไม่ได้จริงๆ

ไม่นานหลังจากนั้น ความเสียวก็รวมศูนย์มากระจุกที่หว่างขาของผม น้ำว่าวฉีดพล่านจากไข่มาอัดแน่นที่ลำควยแข็งยาวของผม มือของชายหนุ่มกำแน่น ถอกสุดลงสุด ตั่บๆๆๆ ไข่สะเทือนเลือนลั่น สั่นไหวห้อยโตงเตง เหมือนแผ่นดินไหวทำของใช้ในบ้านโครงเครง ผมแหงนหน้า ซี๊ดปาก

“จะๆ จะ อ๊ะ แตะ แตกกก แล้ววววว”

หัวแดงบานสีเลือดสดฉีดน้ำว่าวปรี๊ดดดดสุดท้ายออกจากควย เพื่อไปเปรอะเสื้อใครต่อใคร น้ำว่าวสีขุ่นๆ แต่ไม่ขาวเข้มเหมือนคราแรกทำเอาใครหลายคนยิ้มออกได้ แต่ผมคนเดียวที่เหนื่อยใกล้จะตาย จบจากนี้ผมคงไม่อยากช่วยตัวเองไปเป็นเดือน หมอยดกดำของผมเหนียวเหนอะ มีก้อนวุ้นๆ ขาวๆ เกาะเป็นก้อนๆ พันกับเส้นหมอยดูเลอะเทอะ ยากต่อการทำความสะอาด

“อ้าาาาา แตกแล้ววว แตกแล้วววว”

ควยผมปรนเปรอความสะใจให้พวกระยำนั้นเป็นครั้งสุดท้าย เล่นเอาเจ็บแปล๊บไปทั้งลำ ปวดควยไปสามวันเจ็ดวันแน่แบบนี้ กระทั่งตอนนี้หัวควยของผมก็ยังปล่อยน้ำเงี่ยนออกมาจากปลายรูอย่างเนิบช้า ค่อยๆ ไหลออกมา ก่อนจะไหลลงในแนวดิ่งอย่างหนืดๆ ตามแกนกลางลำควย ที่ตอนนี้เริ่มอ่อนตัวลงเป็นครั้งแรก

ชายผู้ที่จับผมชักว่าวเช็ดทำความสะอาดมือที่เปื้อนน้ำว่าว ด้วยการป้ายใบหน้าของผมและตามลำตัว ก่อนจะบีบไขและขยำก้นผมแรงๆ หนึ่งทีเป็นการลาจาก

ปิ๊ง! ลิฟต์ถึงชั้นหนึ่งเรียบร้อย !

ลิฟต์จอดนิ่ง ประตูเปิดออก คนใช้ระยำทั้งหลายก็พาเหรดกันออกไปจนหมด เหลือไว้แค่ผมคนเดียว ที่กำลังนอนพะงาบๆ อยู่ที่พื้น สภาพเหมือนเพิ่งโดนข่มขืนติดกันมาหลายชั่วโมงและไม่มีใครสนใจ ทุกคนเดินจากไปและไม่มีแม้แต่มองกลับมา เว้นแต่คนรับใช้ผู้หญิงคนนึง ซึ่งดูแล้วอายุไม่มากกว่าผมเท่าไหร่ อาจยังเรียนอยู่ เธอมองลงมายังร่างไร้สติของผม ก่อนจะก้มลงมา นั่งยองๆ และเอานิ้วมือจับควยผมที่กึ่งแข็งกึ่งอ่อน พลิกซ้าย พลิกขวาไปมา ค่อยๆ มองอย่างพินิจ และพูดปิดท้ายก่อนจากลาว่า “ควยใหญ่ดีนะ สวยดี กล้ามก็มี หน้าก็หล่อ เป็นกะหรี่คงได้เงินดีนะ” ปล่อยให้ผมนอนจมความบอบช้ำทางร่างกายและจิตใจต่อไป ให้หาทางรอดได้ด้วยตัวเอง

เมื่อพวกนั้นเดินออกไปหมด แต่ผมยังนอนสลบอยู่กับพื้น ประตูจึงปิดกลับมาอีกครั้ง และรอเปิดอีกเมื่อมีผู้มาใหม่

“ว๊ายยยยยยยย”

และเสียงร้องก็ดังขึ้น ก่อนที่ยามแถวสองคนนั้นจะวิ่งเข้ามาตามคำร้องขอ ของหญิงสาวไฮโซ ที่กำลังเดินเล่นช้อปปิ้งในห้าง และต้องการจะใช้ลิฟต์พอดี และนั่นก็คือเหตุผลที่ทำให้เราได้เจอกัน เธอผู้นั้นแต่งตัวดูดีเรียบหรู ถือถุงแบรนด์เนม มากับแฟนฝรั่ง ซึ่งพวกเขาก็ช็อคไม่แพ้กัน กับการเห็นภาพเด็กหนุ่มนอนโป๊หำชี้ฟ้าเช่นนี้ แถมยังเปรอะเปื้อนน้ำว่าวเป็นหย่อมๆ ทั่วตัวยามตามมาในภายหลัง แหวกผู้คนที่กำลังยืนล้อมอยู่ภายนอก เข้ามาและตัดสินใจว่าต้องรีบนำตัวผมออกไปโดยเร็ว

“เฮ้ย นี่มันคุณหนูนี่หว่า” ยามคนนั้นร้องทัก ทันทีที่เห็นหน้าผม ส่วนอีกคนก็เข้ามาช่วยพยุงตัวผม และสำรวจร่องรอยบนร่างกายทั้งหมดอย่างละเอียด

ผมแปลกใจเล็กน้อยที่ยามสองคนดูมีสติกว่าที่คิดไว้ บางทีนี่อาจเป็นการเตรียมพร้อมรับมือกับเรื่องไม่คาดฝันอย่างที่ถูกฝึกมาก็เป็นได้ แค่สงสัยว่าการจัดการดูแลนำคุณหนู ลูกเจ้าของห้าง ในสภาพแก้ผ้าล่อนจ้อน ควยโด่หลังจากว่าวน้ำแตกไปสามสี่น้ำ ออกไปจากลิฟต์นั้น อยู่ในขั้นตอนการฝึกจะเป็นยามหรือเปล่า เพราะดูแล้วยามสองคนนี้จะรับมือได้ดีเหลือเกินยามคนแรกเริ่มวอคุยเพื่อขอความช่วยเหลือจากที่อื่น ส่วนอีกคนก็คอยถามว่าผมบาดเจ็บตรงไหนบ้าง

“ขณะนี้ เจอแล้ว ผู้ชายในลิฟต์ อายุไม่ถึง 20 ผิวขาว ตอนพบเจอ ไม่สวมเสื้อผ้า พบร่องรอยบาดเจ็บเล็กน้อยตามตัว ตอนนี้เจ้าตัวนอนอยู่ที่พื้น ได้สติ โต้ตอบได้ปกติ”

บทสนทนาเงียบหายไปสักพัก

“ย้ำ ไม่มีเสื้อผ้าติดตัวมาด้วย ไม่มีชั้นใน กางเกงในก็ไม่ได้ใส่เปลือยกาย เบื้องต้น ก็คือ นอนแก้ผ้าอยู่ที่พื้น อวัยวะเพศแข็งตัว ดูจากสภาพ น่าจะเพิ่งช่วยตัวเองเสร็จไม่นานมานี้ คราบน้ำยังคงติดอยู่ ร่างกายอาจอ่อนเพลียจากการช่วยตัวเองติดๆ กัน”

จากนั้นปลายสายก็ตอบกลับมาว่า “แนะนำว่าให้รีบนำตัวออกจากที่เกิดเหตุด่วน และเรียกแม่บ้านมาทำความสะอาดด้วย พยายามอย่าให้ลูกค้าแตกตื่น”

ผมได้ยินเช่นนั้นก็เบาใจ แต่สิ่งที่ตามมากลับเป็นอะไรที่ไม่คาดฝันสุดๆ

“ได้ครับ ผมจะจัดการเดี๊ยวนี้เลยครับ”

แล้วยามสองคนก็แจ้งกับผมเช่นเดียวกับที่รับแจ้งมาเมื่อสักครู่ และบอกต่อไปอีกว่า จะเป็นอย่างไรต่อไป

“ผมคงต้องรีบพาตัวคุณหนูออกไปจากที่นี่นะครับ”

ผมเข้าใจและคิดว่าจะมีใครหาผ้าเช็ดตัวหรือเสื้อผ้ามาให้ แต่กลับไม่ใช่ซะงั้นเพราะสิ่งที่มันกำลังทำ คือการพาผมออกไปจากนี้ ในสภาพแบบนี้เลย!!!!

“เฮ้ย จะบ้าหรือไงวะ ปล่อยกูนะเว้ย” ผมโวยวายตอนที่โดยพยุงตัวขึ้นเดินกำลังจะออกจากลิฟต์ไป

ผมขัดขืน และพยายามใช้แรงทั้งหมดที่มี แต่จะไปสู้อะไรได้กับกำลังของยามแข็งแรงสองคน ผมโดนหิ้วปีกออกมาจากลิฟต์ หรือเรียกว่าโดนลากออกมาจะถูกต้องกว่า ซึ่งก็เรียกร้องความสนอกสนใจจากผู้คนที่มาเดินห้างได้เป็นอย่างดี

ลองนึกดูสิครับ ว่าถ้าคุณไปเดินห้างหรู แล้วเจอยามสองคนลากเด็กวัยรุ่นหน้าตาหล่อเหลา หุ่นดี และคุณรู้สึกคุ้นหน้าจังว่าเคยเห็นที่ไหน อ๋อ ป้ายโฆษณานั่นไง คนเดียวกันจริงๆ ด้วย ตัวจริงหล่อกว่าในรูปอีกนะเนี่ย แต่ดันมาในสารรูปที่คุณต้องอ้าปากค้างสุดๆ คุณจะรู้สึกยังไงครับ กับภาพเด็กอัสสัมสุดหล่อๆ ตรงหน้า ดีกรีลูกคุณหนู แต่เสือกแก้ผ้าควยแข็งค้าง น้ำว่าวเลอะตามหน้า ผม หน้าท้อง และกล้ามต้นขา คุณคงตกใจและงุนงงมาก สงสัยว่าทำไมเด็กหล่อๆ ขนาดนี้ถึงต้องมาแก้ผ้าโชว์เรียกเรตติ้งแบบนี้ด้วย

ผมแหกปากร้องลั่น แต่พูดไม่เป็นคำ เพราะร้องไห้ไปด้วย ทว่านั่นทำไรยามไม่ได้ มันสองคนยังคงลากผมไปตามทางเดินหลักของห้างอย่างมุ่งมั่น ผมพยายามสะบัดตัวหนี แต่แขนขยับอะไรไม่ได้เลย ควยของผมแอ่นซ้าย แอ่นขวา สลับไปมา ทำให้ใครต่อใครได้เห็นกันทั่ว แถมตลอดทาง ผมยังขมิบก้นมาตลอด เป็นที่ขบขันของคนที่เดินผ่านมาพบเห็น

“นั่นใช่ อิน อัสสัม ที่มึงชอบโพสรูปบ่อยๆ ป่าวะ เชี่ย เหยดดเข้ ตัวจริงหล่อกว่าในรูปอีกว่ะ แล้วก็ ควยใหญ่กว่าในรูปด้วยว่ะ 55555 ”

นี่ผมกำลังแก้ผ้าควยแข็งๆ และโดนลากประจานไปทั่วห้างตัวเองเนี่ยนะ ฮือๆๆ ผมไม่เหลืออะไรแล้ว ชีวิตผมพังหมดแล้ว คนเริ่มมุงจากทั่วสารทิศ และสิ่งที่ตามมาโดยที่ไม่ต้องคาดเดาเลยก็คือ ทุกคนกลายร่างเป็นมนุษย์กล้อง จะภาพนิ่งหรือคลิป ไม่นานนัก มันก็ถูกแพร่กระจายไปทั่ว ผมร้องไห้เสียงดัง งอแง เหมือนกับเด็กๆ น้ำหูน้ำตาไหล ขี้มูกไหลเยิ้ม ไม่แพ้น้ำเงี่ยนที่ออกมาก่อนหน้านี้

“ลูกคนรวยแต่งชุดแบบนี้เดินห้างได้ด้วยเหรอวะ ชิวไปมั้ยเนี่ย หรือควยใหญ่เลยทำแบบนี้ได้วะ มิน่า คนถึงพูดกันว่า ใหญ่คับฟ้า ก็ใหญ่จริงๆ อะ ก๊ากกก”

มีทั้งคนที่ตื่นเต้น มีทั้งคนที่ล้อเลียน และคนที่รับเรื่องนี้ไม่ได้ หลายคนเดินหนี คุณแม่บางคนเอามือปิดตาลูกแทบไม่ทัน ส่วนชะนีมัธยมที่ยังไม่เป็นลมไปก็วิ่งตามกรี๊ดกรี๊าดราวกับเจอดารา ส่วนพวกผู้ชายนั้นมองเรื่องนี้เป็นเรื่องตลก เมื่อผมผ่านมาให้เห็น เด็กมัธยมขาสั้นสีดำแก็งค์นึงก็หันมายิ้มๆ ก่อนจะทำท่าคล้ายกับชักว่าวนอกกางเกง แล้วหัวเราะกันเองกับเพื่อน

“โหย พี่หน้าหล่อ ใจกล้าชิบหาย นับถือๆ มีของดี ต้องโชว์เว้ย”

“เฮ้ย พี่รูปหล่อ ก็พี่นั่นแหละ จะใครซะอีกล่ะ พี่ที่ควยโด่ๆ อะ 555 ชักว่าวให้ดูหน่อยดิ”

“มึงแม่งกวนใจพี่เขาว่ะ พี่เขารีบๆ อยู่ สงสัยจะไปสนามหลวง ควยพร้อม ใจพร้อม เราทำได้ 5555 เจ๋งว่ะ”

และท้ายสุด น้องคนนึงในกลุ่มนั้นก็วิ่งเข้ามาจับควยแข็งๆ ของผม และพูดอะไรสักอย่างกับกล้อง เรียกเสียงเฮจากเพื่อนๆ ได้อยู่หมัด

“ขอโทษนะพี่ ขอจับหน่อย เฮ้ย เชี่ยยย ของจริงว่ะ ทีแรกนึกว่าควยปลอม ที่ไหนได้ จับไปเจอเต็มๆ เลยว่ะ เต็มมือกูเลยไอสาสส ควยเน้นๆ แข็งด้วย ควยตั้งชี้หน้ากูนี่เลย 55555 ไม่เชื่อ มึงมาจับเดะ”

จากนั้นน้องอีกคนก็ตามมา

“จริงด้วยว่ะ ควยจริงด้วยว่ะ ตุบๆ เลยอะ มีน้ำว่าวที่ปลายควยด้วย พี่แม่งแสบว่ะ ชักว่าวกลางห้าง ควยไม่ใหญ่จริง ทำไม่ได้นะเนี่ย”

แล้วมันก็มือที่เปื้อนน้ำเงี่ยนผมวิ่งไปป้ายเพื่อน เล่นกันไปมา ทำเป็นเรื่องสนุกสนาน ผมตวาดใส่อย่างอดไม่ได้ และไม่นานผมก็ถูกลากจากไปอีกทางนึง ซึ่งจำได้ว่าคือทางออกไปสู่บริเวณด้านหน้า มันคือประตูใหญ่ทางเข้าของห้าง!!!

“ปล่อยกู ไอพวกบ้า ทำไมมึงทำกับกูแบบนี้ ฮือๆๆ ปล่อยกู”

ยามสองตัวนั้นยังคงแข็งขันทำหน้าที่ต่อไป

“ผมแค่ทำตามคำสั่งน่ะครับ คุณหนูเข้าใจพวกผมด้วยนะครับ”

ผมไม่เข้าใจอะไรทั้งนั้นล่ะ ไม่ให้อภัยใครด้วย ลองพวกมึงมาโดนเองมั่งมั้ยล่ะ มาแก้ผ้า มาน้ำแตก โชว์คนเป็นร้อยแบบนี้ มึงจะยังโอเคอยู่มั้ย อีกอย่างกูไม่ใช่คนจน คนชั้นล่างแบบพวกมึงด้วย กูเป็นถึงเจ้าของห้างนี้เลยนะ ไอพวกเหี้ยเอ๊ยย หาอะไรมาปิดควยกูหน่อยก็ยังดี ฮือๆๆ ขอร้องล่ะ กูหนาวมาก ขอผ้าห่มให้หน่อยเถอะ หนาวจนควยแข็งหมดแล้ว ดูสิ

เสียงกรี๊ดดังขึ้นเรื่อยๆ พอๆ กับเสียงกล้อง เมื่อผมใกล้ประตูผู้คนชี้นิ้วมาที่ผม พูดถึง มองกันไม่หยุด ผมรู้สึกอายจนอยากจะหนีหายไปจากประเทศนี้ตอนนี้ไปเลย ผมร้องไห้จนไม่เหลือน้ำตาจะไหล เช่นเดียวกับน้ำว่าวของผมที่หมดกระบอกควยแต่ที่ยังแข็งอยู่ได้นั้นเพราะความตื่นเต้นล้วนๆ น่าแปลกที่ผมยังรู้สึกเงี่ยนได้อย่างมหาศาล ควยผมยังคงตั้งเด่ชี้หน้าใส่ทุกคนที่เข้าใกล้ได้อยู่เสมอไป

นี่เป็นความเจ็บปวดที่สุดในชีวิต

ประตูเปิดออก แสงแดดแยงตา พร้อมกับไออุ่น และร่างกายรับรู้ถึงอุณหภูมิที่เปลี่ยนไป ผู้คนมากหน้าหลายตา ทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ สตรี คนชรา วัยรุ่น ต่างมองมาที่ผม พวกเขาจ้องมองมาอย่างตกตะลึง และทำท่าเหมือนไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง บางคนอ้าปากค้าง บ้างเดินเข้ามาดูใกล้ๆ เพียงเพื่อต้องการเช็คว่าไม่ได้ตาฝาดไป ส่วนคนที่เดินเข้ามาใกล้กว่านี้ นั่นหมายความว่า อยากจับควย

ผมได้ยินเสียงกรี๊ดจากกลุ่มกะเทย และเสียงด่าจากผู้ใหญ่ ส่วนคนที่เหลือคือพวกที่อึ้งจนพูดไม่ออก ผมถูกปล่อยตัวออกเป็นครั้งแรก ล้มลงกองกับพื้น ทันทีที่ได้อิสระ ผมรีบเอามือกุมเป้าทันที ทั้งที่รู้ว่าสายไปแล้ว และปิดให้ตายยังไงก็ไม่มิดอยู่ดี ข้างในของผมปั่นป่วนมาก ผมเครียดและประสาทแดก ผมไม่รู้จะทำยังไงเพื่อให้คนพวกนั้นหยุดมองผมซะที

ยามสองคนนั่นทิ้งผมให้เผชิญกับความชิบหายแต่เพียงผู้เดียว หลังจากเสร็จหน้าที่แล้ว ก็เดินกลับข้างในไป ไม่คิดแม้แต่จะหันมามอง

ยามนี้ ผมเปลือยกายล่อนจ้อน ไม่เหลือใครให้พึ่งพา และไม่มีเสื้อผ้าอะไรให้ปกปิด แต่นั่นไม่ใช่สิ่งเดียวที่ผมสูญเสียไปภายในวันนี้ ความรู้สึก และศักดิ์ศรี รวมถึงภาพลักษณ์ทุกอย่างที่สั่งสม ล้วนแล้วแต่พังทะลายลงไปตั้งแต่ใครต่อใครเห็นควยใหญ่ๆ ของผม ควยใหญ่แข็งโด่หัวแดงบาน พร้อมกับไข่แฝดฟองโตเต่งๆ ที่ห้อยติดกัน

น้ำตาผมไหลเป็นรอบที่เท่าไหร่ไม่รู้ ผมตวาดใส่ใครก็ตามที่พยายามเข้ามาใกล้ในรัศมีที่พอจะเอื้อมสัมผัสร่างกายผมได้ แต่ก็ยิ่งทำให้คนยิ่งมุงดูมากขึ้นเท่านั้น เสียงหัวเราะ เสียงแฟลชและสายตาที่มองมาอย่างทะลุปรุโปร่ง ทำอะไรไม่ได้นอกจากสาปแช่งคนเหล่านั้น ผมเกลียดสีหน้าที่ใครต่อใครมองมาทางผม มันเป็นสีหน้าที่ผมคุ้นเคย รอยยิ้มสะใจ เหยียดหยัน และดูถูกอย่างไม่ปราณี มันคือสิ่งที่ผมทำเป็นประจำกับคนอื่นๆ แต่วันนี้ ผมกลับโดนเสียเอง มันช่างน่าเจ็บปวด เกินกว่าที่มนุษย์คนนึงจะรับไหวจริงๆ ใครก็ได้ช่วยผมที ผมไม่ไหวแล้ว

ผ่านไปสิบนาที เมื่อการมุงดูขยับขยายกลายเป็นจราจล เจ้าหน้าที่ถึงจะตามมาทัน และเข้าคลี่คลายสถานการณ์ นายตำรวจมาดแมนสองคนนำพาตัวผมออกไปจากที่นี่ มีอีกสองคนที่ต้องคอยบอกให้ผู้คนหลีกทาง สองคนที่เหลือดึงตัวผมให้เดินไปในทางที่ถูกต้อง

“ขอทางหน่อยครับ ช่วยหลีกทางให้ด้วยนะครับผม”

เหตุการณ์เริ่มชุลมุนขึ้น แขนสองข้างของผมถูกยกลอย และถูกจับลากไปตามทางอย่าง รวดเร็วเหมือนเช่นเคย จังหวะนั้นมีมือดีหลายคู่ฉกฉวยโอกาสเข้ามา บีบจับเนื้อตัวผมอย่างไม่เกรงใจ แต่ละคนจับได้ไม่นานก็ปล่อย แต่บางคนก็จังหวะดีกว่าใคร จับควยได้เต็มไม้เต็มมือเจ็บไปทั้งลำ บางคนก็จับควยโด่ๆ ชักสองสามที เป็นที่สะใจของมวลชนเป็นอย่างมาก ส่วนใหญ่คนที่ทำเช่นนี้จะเป็นชายหนุ่ม ไม่ก็วัยรุ่นซนๆ รวมไปถึงเกย์แอบ มีส่วนน้อยมากที่จะเป็นผู้หญิง และเมื่อเป็นมือผู้หญิง ผมจะรู้ได้ทันที

“ไอพวกเหี้ย อย่ามาจับ ไอสัส”

บางคนนึกสนุกหยิกเนื้อผมก็มี ที่เจ็บสุดคือที่หัวนม โดยเฉพาะเมื่อใครคนนั้นไว้เล็บยาวด้วย และที่เจ็บปวดไม่แพ้กันคือการดึงขนตามลำตัว ไม่ว่าจะเป็นขนที่ไหน ก็เจ็บจี๊ดดดดด ผมพยายามเอามือปิดควยโด่ๆ แต่ไม่สำเร็จ ส่วนด้านหลังของผมยิ่งแล้วกว่า โล่งโจ้งไร้การป้องกันใดๆ ทั้งสิ้น ตูดขาวๆ แอ่นเด้งท้าทุกสายตา เชิญชวนให้เข้ามาตีได้ตามใจชอบ

เมื่อลากมาได้ระยะนึง ไกลพอสมควรจากจุดเดิม ผมก็รู้สึกปวดอยากเข้าห้องน้ำ ผมจำเป็นต้องฉี่เดี๊ยวนี้ อันที่จริงผมปวดมาได้สักระยะแล้ว แต่นี่เป็นระยะสุดท้ายของการกลั้นที่จะทนไหว ผมปวดจริงๆ ผมต้องการปลดปล่อย

“พี่ครับ พาผมไปเข้าห้องน้ำหน่อย ผมจำเป็นจริงๆ ครับพี่”

แต่ตำรวจสองนายนั่นก็เหมือนคนอื่นๆ ที่ผมเจอในวันนี้ - ไม่สนใจใยดี และไม่หลงเหลือความเห็นใจ

“มีเวลาซะที่ไหนเล่า จะฉี่ก็ฉี่ตรงนี้แหละ ยิ่งรีบๆ กันอยู่ ไม่รู้หรือไง ข้างต้นไม้ได้มั้ย”

ผมต่อสู้เพื่อให้ตัวเองได้ทำกิจวัตรตามปกติ แต่ทางเลือกเดียวที่ผมมีคือ ต้องฉี่ในที่สาธารณะ แย่แล้วไง มันใกล้จะทะลักแล้ว การต่อรองของผมใกล้จะสิ้นสุดลงแล้ว

“เอาไง ไอหน้าหล่อ จะเยี่ยวมั้ย อย่าเรื่องมากได้มั้ย”

“จะอายทำไมว้าา อุตส่าห์ขนาดนี้แล้ว มีไรต้องอายอีก อยากจะรู้จริงๆ”

“ควยแข็งเป๊กแบบนี้ แก้ผ้าโชว์ทั้งบ้านทั้งเมือง ไม่รู้สึกอะไรเลยว่างั้น อย่ามาเยอะเลยดีกว่าน่า ฉี่ๆ ไปเหอะ จะได้จบๆ ไม่มีใครถือสาหรอก ไหนๆ ก็ไหนแล้ว มีไรต้องอายอีกวะ เอ้า จะฉี่ได้ยัง ไอควยใหญ่”

ผมไม่แน่ใจว่าตัวสั่นเทิ้ม เพราะเจ็บแค้น หรือปวดเยี่ยวสัสๆ กันแน่ แต่ผมตั้งใจว่าจะไม่เยี่ยวที่นี่ ต่อหน้าพวกมันเด็ดขาด ผมต้องกลั้นเข้าไว้ ต้องกลั้นเข้าไว้ อดทนเข้าไว้ โอ๊ยยยย ช่างทรมานเสียจริง ร่างกายเริ่มจะไม่ฟังผมแล้ว อดทนหน่อยซี่

“ถ้าไม่ก็ไปได้แล้ว เสียเวลาว่ะ แล้วอย่ามาเยี่ยวเรี่ยรายบนรถนะ ฟาดตูดลายแน่”

ไม่ทันแล้ว ทันทีที่สองคนนั้นลากผมไปได้แค่อีกนิดเดียว ครึ่งทางก่อนจะขึ้นรถ น้ำเยี่ยวเหลืองๆ ก็พุ่งออกจากปลายควยที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาแข็งโด่ เป็นสายยาวชี้พุ่งขึ้นทิศทางบน เหมือนสายยางที่ปล่อยน้ำในสวน

“เฮ้ย เหี้ยไรวะเนี่ย”

ผมถูกปล่อยตัวล้มโครมกับพื้น ก้นกระแทก หลังกระดก ฉี่พุ่งใส่หน้า เข้าปาก รสชาติเค็มๆ เต็มลิ้น เยี่ยวทะลักราวกับเขื่อนแตก ทำเอาเปียกเปรอะไปตลอดบริเวณหน้าท้องและต้นคอ สักพักเยี่ยวก็ค่อยๆ ลดปริมาณลง และออกมาช้าลง ควยผมค่อยๆ พ่นๆ ออกมาเรื่อยๆ จนหมดไปในที่สุด เหมือนมีคนเดินไปปิดหัวก๊อก นาทีนั้น ผมอธิบายความรู้สึกไม่ถูกเลยทีเดียว แต่สีหน้าในตอนนั้นของผมน่าจะบอกทุกอย่างได้หมด มันเป็นความอับอายประเภทที่ไม่มีใครในโลกนี้เคยประสบพบเจอมาก่อน และไม่มีใครเคยคิดว่าต้องมาเจอกับตัวเองด้วย

“เหี้ย ทำชุดกูเลอะหมดเลย ไอห่า กูบอกให้เยี่ยวดีๆ ก็ไม่”

ปั๊ก!!!! โอ๊ยยยยย!!!!

ผมโดนเตะที่ควยเข้าจังๆ หน้าจุก เจ็บปวดจนร้องลั่น หน้าตาเหยเก ร้องแหกปากไม่อายใครอีกต่อไป มันเจ็บจนลืมทุกอย่างไปเลย

“ไอเหี้ย ระยำจริงๆ ไอห่า”

ชายคนนั้นก้มมองดูร่องรอยความเสียหายที่เกิดบนเสื้อผ้าเครื่องแบบตัวอีกครั้ง ก่อนจะครุ่นคิดไวๆ ทำท่าง้างขา และพร้อมจะเตะเท้า สวนเข้าหว่างขาอีกครั้ง!!!

ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

ผมลุกพรวดขึ้นมา เด้งตัวจากที่นอน ตาเบิกโพลง หายเจ้าใจออกกระชั้น พบว่าตัวเองอยู่ในห้องนอนตามปกติ แอร์ยังทำงานเหมือนเคย แต่เหงื่อออกท่วมตัว ผมสำรวจไปรอบๆ พบตัวเองอยู่ในชุดนอน ตัวเดียวกับที่ใส่ตอนสองทุ่ม เมื่อวาน

นี่ผมฝันไปหรือนี่!!??!!

คุณพระช่วย ผมฝันไปจริงๆ ผมหันมองรอบๆ อีกครั้งสองครั้งเพื่อให้มั่นใจ เมื่อแน่นอนแล้วว่าตลอดหลายชั่วโมงที่ผ่านมาผมนอนหลับอยู่บนเตียง ในห้องมาโดยตลอด ผมจึงค่อยๆ ผ่อนคลายลง และเริ่มกลับมามีสติอีกครั้ง

ผมเพิ่งรู้ในตอนนั้นเองว่า ที่ที่ผมหย่อนก้นอยู่นั้นเปียกแฉะ เช่นเดียวกับบริเวณเป้ากางเกง ตายละ นี่ผมฉี่รดที่นอนหรือนี่ แย่จริงเชียว พอฟ้าสว่างกว่านี้ พวกแม่บ้านคงมีเรื่องเม้ากันอีกเรื่องแน่ น่าอายจริงๆ โตป่านนี้แล้ว ผมนึกตำหนึตัวเองในใจ แต่โดยรวมแล้ว ผมรู้สึกดีที่ได้ตื่นจากฝันร้ายบ้าๆ นั่น

ผมลุกขึ้นมารินน้ำใส่แก้ว บางทีการได้ดื่มน้ำเสียบ้างน่าจะเรียกความสดชื่นกลับคืนมาได้ จากนั้นก็หยิบนาฬิกาขึ้นมาดู นี่เพิ่งแค่หกโมงเท่านั้นเอง ผมตัดสินใจเดินย่ำไปทั่วๆ ห้อง ราวกับไม่เคยอยู่ที่นี่มาก่อน การหยิบจับอะไรต่ออะไร ช่วยเตือนผมมากขึ้นเรื่อยๆ ว่า หลุดพ้นออกจากความฝันนั่นแล้ว ผมกลับสู่โลกแห่งความเป็นจริง ผมปลอดภัย และไม่มีอะไรจะมาสั่นคลอนข้อเท็จจริงนี้ได้

ทางที่ดีที่สุดในการเรียกความเชื่อมั่นกลับมา ก็คือการกลับไปทำอะไรปกติตามเดิม ยามเช้าเช่นนี้ ผมถอดบ็อกเซอร์ลง และลูบไล้อวัยวะเพศเบาๆ นวดคลึงให้มันตื่นจากการหลับใหล ไม่ช้า จากที่หดห้อยอยู่อย่างซึมเซา มันก็เบิกบาน เหยียดตัวยืดยาว แอ่นโค้งไปข้างหน้า แข็งไวจริงนะ ผมนึกบอกกับตัวเอง

ผมลงมือชักให้เหมือนอย่างเคย ไม่รีบร้อน ค่อยเป็นค่อยไป เนิบๆ แต่ไม่ช้าจนเสียความ อ้าาาาาา ควยอุ่นๆ ของเรา อ้าาาาาา เสียวดี

แต่แล้ว ในช่วงที่ทุกอย่างกำลังดำเนินไปได้ด้วยดี ก็เกิดการขัดจังหวะขึ้น!!

“คุณหนูครับ คุณหนูๆ”

ผมตกใจ!

ภาพเก่าๆ ความทรงจำร้ายๆ ย้อนกลับคืนมา “คุณหนูครับผม”

ผมตอบกลับไปด้วยเสียงเรียบนิ่ง แต่ใจหวาดหวั่น “มีอะไร”

ฉากต่อไปจะเป็นอะไร จะใช่แบบที่เพิ่งเจอมามั้ย ทั้งๆ ที่เข้าใจแล้วว่าอะไรเป็นอะไร แต่เรื่องเพ้อเจ้อในความฝัน ก็ยังคงตามหลอกหลอนในวินาทีแห่งความเป็นจริง ในตอนนี้

“มีอะไรเล่า ว่ามาสิ”

ผมอดใจรอ ใจเต้นๆๆๆๆ แทบระเบิด หงุดหงิดกับการเว้นวรรคที่นานเกินพอดีของคู่สนทนา

“จะแจ้งว่าคนขับรถวันนี้ไม่สบายน่ะครับ อาจจะต้องให้พี่อีกคนขับแทนให้ไปก่อน คุณหนูจะโอเคมั้ยครับ”

โธ่เอ๊ย ผมถอนหายใจออก เรื่องแค่นี้เอง ทำเอาตกใจเป็นบ้า

“เออๆ”

เรื่องร้ายๆ แบบนั้นเกิดแค่ในความฝันเท่านั้นแหละ ผมนี่ก็บ้าจริง ที่คิดเชื่อไปได้ว่า ชีวิตจริงจะเกิดอะไรแบบนั้นได้ ผมเป็นถึงคุณหนูนะ ผมรวยยิ่งกว่าใคร ใครจะกล้าทำอะไรผมได้ ชีวิตผมไม่มีทางตกต่ำแน่นอน ผมยิ้มกว้างออกมาโดยไม่รู้ตัว หัวเราะร่า เมื่อใจไร้กังวล

งั้นมาต่อกันดีกว่า เมื่อกี้ถึงไหนแล้วนะ แล้วผมก็คว้ามือขวาจับควยมาสานต่องานที่ค้างไว้ เมื่อเห็นว่ามันอ่อนตัวลงเล็กน้อย ผมจึงรูดเบาๆ เร่งความเสียวให้กลับมา พอแข็งดีแล้ว ผมจึงถอก ถอก ถอกหัวควยอย่างเมามัน ควยดุ้นโตนี้ช่างเป็นอะไรที่คุ้นมือผมเสียจริง ต่อให้หลับตาก็ว่าวได้ไม่ผิดเพี้ยน มือขวากับควยผมนั้น สนิทแนบชิดยิ่งกว่าอะไร รู้ใจราวกับสามีภรรยา ผมตั้งใจไว้ว่า ถ้าเช้านี้ไม่แตกถึงสองน้ำ ผมจะไม่ออกจากห้องไปไหนแน่!!!

ว่าแล้ว ก็แก้ผ้าชักว่าวอย่างเมามัน