รับน้องโหด

พอดีมีน้องสองสามคนอยากทราบเรื่องราวของผมในมิตินี้เลยจัดให้ ปี 1 ผมโชว์พาวเยอะครับ มีหลายอย่างมาก ปี 2 เลยถูกโหวตให้เป็นประธานเชียร์ระดับคณะ ประธานเชียร์ฝ่ายชายมีหน้าที่หลักแค่อย่างเดียวครับ (ปี 2532) คือถูกลงโทษต่อหน้าน้องๆ และลงโทษเป็นการลับจากพี่ปี 4 พออยู่ปี 3 ผมก็ถูกโหวตให้เป็นประธานเชียร์อีก น่าจะเป็นคนเดียวนะที่เป็นสองปีซ้อน พวกเขาคงอยากจะเห็นผมโดนลงโทษอย่างหนักอีก พอขึ้นปี 4 ก็โดนให้มาเป็นหัวหน้าเชียร์สูงสุดของคณะเพื่อให้พี่บัณฑิตจับไปทรมานโหดครับ

ก่อนนอนขอเริ่มหน่อยว่าการโชว์พาวของผม ได้โชว์ตั้งแต่วันแรกที่เอนติด สมัยปี 32 เขาจะประกาศรายชื่อคนที่สอบติดที่สนามกีฬาแห่งหนึ่ง จะมีพี่จากเอกมารอต้อนรับ ผมขอปกปิดชื่อมหาลัย คณะและวิชาเอกนะครับ พอพี่เอกมาต้อนรับ ตอนนั้นในกลุ่มจะมีผมกับผู้หญิงอีกสามคน พี่ร้องเพลงกัน บอกให้เราเต้น มีผมคนเดียวที่เต้นไม่เป็น พี่ผู้ชายเลยบอกว่าถ้าผมไม่เต้นก็ให้วิดพื้นก็แล้วกัน เขาก็ร้องเพลงกันไป เต้นกันไป มีผมวิดพื้นอยู่คนเดียว วันนั้นจำได้ว่าใส่เสื้อเชิ้ตไปครับ แล้วเหงื่อแตกตั้งแต่เดินมาแล้ว พอยิ่งวิดพื้นเสื้อก็ยิ่งเปียก

รุ่นพี่ผู้ชายคนนึงเลยบอกว่า "ถอดเสื้อออกดีกว่า เสื้อเปียกหมดแล้ว" ผมก็ถอดออก แล้ววิดพื้นต่อ สังเกตว่าหลายคนก็มองผมนะ จำได้ว่าวันนั้นวิดพื้นนานมาก จนพวกผู้หญิงเต้นจนเหนื่อย ต้องไปพักกันหมดแล้ว รุ่นพี่ผู้ชายยังสั่งให้ผมวิดพื้นอยู่เลย เอกผมผู้ชายน้อยครับ ผมเลยกลายเป็นที่สนใจ มีรุ่นพี่ผู้หญิงซื้อน้ำมาให้รุ่นพี่ผู้ชายหลายคนกับผมรวมสี่ห้าขวด รุ่นพี่ผู้ชายคนหนึ่งนึกอยากลองทำอะไรบางอย่าง

จึงสั่งให้ผมนอนหงายลงแล้วเอาน้ำเทราดหน้าผม แกเทสูงทำให้เจ็บครับ แล้วก็เอาน้ำเทราดไปที่หน้าอกผมด้วย พอยกเทในระดับสูง มันก็ทำให้เจ็บหน้าอกได้ น้องคนอื่นๆ แค่เต้นก็จบ ผมก็โดนตั้งแต่วันแรกแล้ว ตอนเทน้ำ มีคนนึงแกล้งเทโดนเสื้อผม ทำให้เสื้อเปียกโชก ตอนไปรวมกลุ่มกับเพื่อนวิชาเอก ผมยังจะต้องถอดเสื้ออยู่อย่างนั้น การโชว์พาวครั้งต่อมาจึงเริ่มขึ้น

วันนั้นเขาก็มีการรวมพลคนเอกผม จากสอบติดกันประมาณ 50 คน รุ่นพี่ก็เกณฑ์คนเอกผมมาได้ประมาณ 20 คน พวกรุ่นพี่ก็รวมตัวกันมุมหนึ่งละแวกนั้น เรียกผู้หญิงหกคนออกมาเต้น แล้วเรียกผมมาอยู่ตรงกลาง ยังถอดเสื้ออยู่ ผมเต้นไม่ได้ก็ให้โดดตบเอา ก็กระโดดตบกันจนเหนื่อยอ่ะครับ พอโดดตบเสร็จ ยังยืนกันอยู่หน้าแถว ก็มีรุ่นพี่คนหนึ่งมาฟาดหลังผมเต็มแรง เสียงดังฟังชัด หลายคนส่งเสียงฮือฮาจนรุ่นพี่ผู้หญิงต้องปรามว่าอย่าเพิ่งเล่นแรง ผมจำคำนี้ได้อย่างแม่นยำ มันเกิดขึ้นเมื่อ 30 ปีที่แล้ว ผมคิดในใจว่า อย่าเพิ่งเล่นแรง แสดงว่าจะต้องมีจุดหนึ่งที่เล่นแรงได้ มันคงเป็นอย่างนั้น

ตอนมาเรียน ช่วงแรกๆ จะมีเหตุการณ์สองเหตุการณ์สลับกันไป อย่างแรกคือการรับน้องเอก ผมเองเป็นปีหนึ่งที่แตกต่างจากผู้ชายในเอกคือไม่ผูกไทด์ทั้งๆ ที่ทุกคนผูกกัน แถมยังปลดกระดุมสองถึงสามเม็ดด้วยนะครับ ตอนนั้นยังหนุ่ม ชอบโชว์แผงอก อาจารย์ไม่เคยมีใครกล้าว่า แต่รุ่นพี่ผู้ชายจะว่าตลอด รับน้องเอกช่วงแรกๆ เขาก็แค่เรียกไปด่า แต่พอหลายครั้งเข้า เขาก็เรียกไปตบ เขาคงคิดกันอยู่นานจึงสรุปว่าคนอย่างผมตบได้ ตอนนั้นแหละที่ผมรู้ว่าในมหาลัยก็มีความรุนแรงแฝงอยู่ พอเคยตบผมครั้งนึงแล้วเห็นว่าผมไม่ได้ไปฟ้องใคร รุ่นพี่ผู้ชายเอกผมหลายรุ่นก็เลยแห่มาจัดการผม รูปแบบนี้ผมพิสูจน์มาตั้งแต่ ม.ต้น ม.ปลาย เลยว่าถ้าใครทำรุนแรงกับเรา แล้วเราไม่โต้ตอบ ความรุนแรงมันจะมากขึ้นเรื่อยๆ นี่คือสัจธรรมที่ผมค้นพบ

อีกเหตุการณ์หนึ่งที่เกิดคู่กันไปคือการตรวจระเบียบตัวผม พี่ในเอกคงไปป่าวประกาศว่าไอ้หมอนี่จัดการแม่งได้เลย ไม่เป็นไร ก็จะมีรุ่นพี่ผู้ชายหลายคนชอบมาหาเรื่องผมตอนเดินสวนกัน บังคับให้ถอดเสื้อแล้ววิดพื้น รูปแบบคล้ายๆ กัน แม้แต่ในห้างใกล้มหาลัยก็ยังจะตามไปหาเรื่อง ปี 2532 รุ่นพี่ใหญ่คับฟ้ากันมาก แม้ รปภ.ห้างยังต้องเกรงกลัว วันนั้นยังจำได้เลย ผมกำลังจะลงบันไดเลื่อนชั้นหนึ่ง มีรุ่นพี่ของคณะกลุ่มหนึ่งมาตามจับคนผิดระเบียบ แต่มันจับแต่ผู้ชายครับ ไม่สนใจผู้หญิงเลย ผู้ชายที่มันชอบตามจับลงโทษไปทั่วก็ต้องเป็นพวกล่ำๆ หน้าตาพอใช้ได้หน่อย ตอนผมเดินลงบันไดเลื่อน เห็นมีผู้ชายคนหนึ่งกำลังวิดพื้นอยู่

ผมไม่ได้ผูกไทด์มาต้องโดนจับแน่ๆ พอลงบันไดเลื่อนก็โดนจับเลย พวกรุ่นพี่บังคับให้ผมถอดเสื้อก่อนจะวิดพื้น ผมคิดในใจว่า โห จะให้กูโชว์กล้ามกลางห้างเลยเหรอ สุดท้ายก็ต้องยอมครับ ถอดเสื้อแล้วก็วิดพื้น คนดูกันเยอะพอสมควร มีทั้งตั้งใจดูใกล้ๆ เลยกับดูอยู่ห่างๆ ไกลๆ หลังจากนั้นผมก็เริ่มเป็นเด็กฝาก มหาลัยผม มีอยู่คณะหนึ่ง ชอบเอาน้องปีหนึ่งมาแต่งตัวแปลกๆ แล้วพาเดินรอบมหาลัย พาออกไปเดินตามถนน พวกผู้หญิงเองก็มักจะโดนให้แต่งแบบแฟนซี ก็ดูน่ารักกันไป ส่วนผู้ชายก็มักจะให้แต่งแบบทุเรศ แต่งหน้าแต่งตาแบบตลกๆ

ปีนั้นพี่ผู้ชายในเอกเอาผมมาฝาก เอามาร่วมขบวนด้วย แต่ชุดที่ให้แต่งก็คือทหารเวียตกง ให้ผมนุ่งกางเกงในตัวเดียว ให้ถือปืนยาวกระบอกนึง แล้วก็พรางหน้าแบบทหารให้ผม ผมไม่เคยนึกเลยว่าเขามหาลัยแล้วจะโดนแบบนี้ แล้วก็พาเดินไปทั่ว พาไปโชว์แถวป้ายรถเมล์ โชว์ตามสี่แยก เมื่อสามสิบปีที่แล้วไม่มีใครมาห้ามรุ่นพี่ได้เลยครับ แม้แต่ตำรวจก็ไม่ยุ่ง ถือว่าเป็นกิจกรรมรับน้อง มหาลัยแถวสนามหลวงก็สั่งให้น้องผู้ชายคนหนึ่งที่หล่อและหุ่นดีนุ่งกางเกงในตัวเดียววิ่งรอบสนามหลวง ตำรวจไม่ว่า ไม่มีนักข่าวมาทำข่าว ดูเหมือนทุกคนจะเข้าใจกันหมดว่ามันเป็นกิจกรรมรับน้อง อย่าไปยุ่ง รุ่นพี่จึงมีอำนาจเต็มในการจัดการกับรุ่นน้อง ยกเวันถ้าใครไปแจ้งความเอาเรื่องรุ่นพี่ พวกเขาก็จะไม่ยุ่งกับน้องคนนั้น แต่ผมไม่แจ้งความ ทุกอย่างจึงถาโถมลงมาที่ผม

มีรุ่นพี่คนนึงชอบให้ขบวนหยุดและลงโทษทหารเวียตกงอย่างผม ให้หมอบคลาน นอนกลิ้งไปมาต่อหน้าชุมชน บางคนเข้าใจผิดนึกว่ามาโปรโมทหนังกัน จึงไม่มีใครว่าอะไร บางคนยังให้ผมนอนหงายแล้วเอาตีนมาเหยียบหน้าอกผม เต๊ะท่าถ่ายรูปด้วย สมัยนั้นมีหนังไทยที่เราเรียกว่าหนังบู๊เข้าโรงกันเยอะครับ ไทยมุงจึงคิดว่าโปรโมทหนัง ยืนมุงกันแต่ไม่มีใครว่าอะไร รุ่นพี่มันอัจฉริยะ หลังจากนั้นผมก็ถูกนำตัวไปฝากรับน้องกับเอกอื่น นั่นคือเอกพละ ซึ่งสมัยนั้นโหดมาก รุ่นพี่เอกผมคงอยากเห็นผมโดนต่างๆ นานา แม่งซาดิสม์จริงๆ ผมยังจำวันแรกที่ไปรับน้องกับเอกพละได้ พรุ่งนี้มาเล่าให้ฟังต่อครับ