เรื่องของราชิต

ปฐมบท

พ.ต.อ. ราชิต วงศ์พรหม ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลแห่งหนึ่ง กำลังเป็นดาวเด่นแห่งวงการสีกากี เนื่องจากก้าวขึ้นมารับตำแหน่งใหญ่ได้เร็วกว่าเพื่อนร่วมรุ่นนักเรียนนายร้อยตำรวจคนอื่น ๆ สิ่งที่เป็นจุดเด่นของราชิต นอกจากฝีไม้ลายมือในการทำงาน ที่มีผลงานดีมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการจัดการปัญหาผู้มีอิทธิพล ปัญหาเรื่องยาเสพติด และปัญหาด้านอาชญากรรมแล้ว ผู้กำกับราชิตยังเป็นขวัญใจชาวบ้านเพราะมีอัธยาศัยดี ไม่ถือเนื้อถือตัว เข้าถึงประชาชน ทำให้คนในพื้นที่ต่างยกย่องชื่นชม โดยเฉพาะเด็กผู้ชายที่ต่างมองเขาเป็นฮีโร่

อีกสิ่งที่เป็นจุดเด่นของราชิตก็คือความหล่อและสมาร์ท เขาให้เวลากับการดูแลรูปร่างหน้าตาของตนเองไม่น้อยกว่าความใส่ใจในด้านอื่น ๆ เพราะเขาคิดว่ารูปลักษณ์ที่ดีก็ถือเป็นสิ่งสำคัญในการทำงาน ความใส่ใจนี้ทำให้เขามีรูปร่างที่แข็งแรง บึกบึน เวลาที่สวมใส่เครื่องแบบตำรวจจึงดูดีไม่มีที่ติ ปกติแล้วราชิตจะให้เวลาตัวเองในการออกกำลังกายวันละ 1 ชั่วโมงครึ่ง ซึ่งเขามีวินัยกับเรื่องนี้มาก ทำเป็นประจำสม่ำเสมอ เพราะเขาได้สร้างห้องออกกำลังกายขนาดย่อมเอาไว้ที่บ้านของตัวเอง และในทุกครั้งที่ออกกำลังกาย ราชิตมักจะโพสต์รูปลงเฟสบุ๊กส่วนตัว และมันทำให้มีกลุ่มเด็กหนุ่ม ๆ เข้ามาชื่นชมและเอาเขาเป็นแบบอย่าง ราชิตมักจะได้เห็นข้อความที่เด็ก ๆ ต่างบอกว่าอยากจะเป็นเหมือนอย่างเขา จนในที่สุดราชิตก็ตัดสินใจเปิดคอร์สออนไลน์ เพื่อการพัฒนาศักยภาพเด็ก ๆ สำหรับการสอบเข้าเรียนโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ซึ่งมีเด็กหนุ่ม ๆ สนใจสมัครเข้าคอร์สของเขาหลายสิบคน ซึ่งราชิตจะใช้เวลาว่างหลังเลิกงานอาทิตย์ละหนึ่งวันสำหรับการมาติวเข้มในด้านต่าง ๆ ให้กับเด็ก ๆ

หลังเปิดคอร์สออนไลน์ได้สองเดือน

ในเย็นวันหนึ่งหลังจากที่เขาจบการสอน ราชิตชวนเด็ก ๆ คุยต่อ

“วันนี้ก็จบบทเรียนของเราแต่เพียงเท่านี้นะ ใครมีคำถามอะไรมั้ย”

พอราชิตเปิดโอกาส เสียงเด็ก ๆ ต่างเซ็งแซ่ร้องถามกันยกใหญ่ เนื่องจากชั่งโมงที่ผ่านมา พวกเขาเหมือนถูกบังคับให้นั่งเงียบ ๆ และเป็นฝ่ายรับฟังราชิตแต่เพียงข้างเดียว เพียงแต่เสียงเซ็งแซ่ของเด็ก ๆ นั้น ส่วนใหญ่เป็นคำถามที่ไม่เกี่ยวกับเนื้อหาที่ราชิตนำมาสอนและแนะนำพวกเขา แต่เป็นสิ่งอื่น ๆ ที่เป็นความอยากรู้ตามความสนใจของตนเองมากกว่า บางคนอยากรู้เรื่องการทำหน้าที่ของตำรวจ การสืบสวน การจับกุมคนร้าย บางคนอยากรู้เรื่องราวในโรงเรียนนายร้อยตำรวจ บางคนอยากให้เขาเล่าเรื่องคดีความที่กำลังเป็นที่สนใจในขณะนั้น และบางคนก็สนใจใคร่รู้เรื่องส่วนตัวของราชิต

“เบา ๆ เด็ก ๆ เบา ๆ พี่ฟังไม่รู้เรื่อง เอาเป็นว่าขอสุ่มเลือกคนนึงให้เป็นคนถามละกันนะ เอาเป็น เจ้าเป็ดแล้วกัน”

เสียงเด็ก ๆ ที่ไม่ได้ถูกเลือกต่างร้องออกมาด้วยความผิดหวังอย่างพร้อมเพรียงกัน มีแต่เจ้าเป็ดคนถูกเลือกที่ใบหน้าฉาบด้วยรอยยิ้มอย่างคนมีชัย

“ผมอยากรู้เคล็ดลับการมีรูปร่างที่ดีของพี่ราชิตครับ คาบหน้าพี่ราชิตช่วยแนะเทคนิคการออกกำลังกายให้มีรูปร่างแบบพี่หน่อยได้มั้ยครับ ปกติเห็นแต่ภาพนิ่ง คราวนี้อยากเห็นการสาธิตอย่างจริง ๆ จัง ๆ เลยครับ”

เด็กคนอื่น ๆ พอได้ยินข้อเสนอของเป็ดต่างก็ส่งเสียงสนับสนุนกันเป็นการใหญ่ ราชิตเห็นว่าสิ่งที่เด็ก ๆ สนใจ ไม่ใช่เรื่องเหนือบ่ากว่าแรงที่เขาจะตอบสนองได้ เขาจึงรับปากตอบตกลงตามที่เด็ก ๆ ต้องการ

“ได้สิ งั้นคาบเรียนหน้าเราจะเปลี่ยนจากการเรียนทฤษฎี มาฝึกภาคปฏิบัติกัน งั้นให้ทุกคนเตรียมชุดสำหรับการออกกำลังกายให้พร้อม เพราะพี่จะมีท่าออกกำลังแบบง่าย ๆ มาฝึกพวกเรากัน แล้วหลังจากนั้นจะสอยการออกกำลังกายท่าต่างๆ สำหรับการปรับกล้ามเนื้อพื้นฐาน”

“ผมมีเรื่องเสนอครับ”

เป็ดแทรกขึ้นขณะที่ราชิตกำลังพูดอยู่ จนราชิตหยุดชะงัก

“ผมว่าพี่ราชิตน่าจะมีผู้ช่วยนะครับ ผมเสนอก้องเกียรติ เพราะเค้าเป็นเด็กในพื้นที่ของพี่ราชิต และผมเห็นเค้ามีอุปกรณ์เครื่องมือสื่อสารอยู่ น่าจะช่วยเป็นตากล้องให้พี่ราชิตได้”

“เฮ้ย ไม่เป็นไร พี่ตั้งกล้องถ่ายได้”

“ผมยินดีครับ” เสียงก้องเกียรติแทรกขึ้นทั้งที่ราชิตยังพูดไม่จบ

“ผมรู้จักบ้านพี่ราชิตดี ไปไม่ยาก อาทิตย์หน้าผมจะเตรียมอุปกรณ์ไปถ่ายให้ครับ”

ราชิตรู้สึกอึ้ง ปฏิเสธไม่ออก ซึ่งเขาก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน สุดท้ายก็ต้องยอมรับเงื่อนไขของเด็กหนุ่ม

“ได้ ๆ ถ้าไม่ลำบากเรานะก้องเกียรติ”

การไลฟ์ในวันนั้นจึงจบลงด้วยข้อตกลงดังนี้ หลังโปรแกรมไลฟ์จบลง ไลน์ของก้องเกียรติก็ปรากฎข้อความใหม่ที่เพิ่งส่งเข้ามาจากเป็ด

“ขอบใจมาก กูโอนเงินให้มึงแล้ว”

ก้องเกียรติเห็นข้อความการแจ้งเตือนเงินเข้าบัญชีก็เผยอยิ้มที่มุมปากทันที

“มีของมาส่งครับผู้กำกับ”

นายตำรวจหนุ่มหน้าอ่อนเปิดประตูนำกล่องพัสดุที่จ่าหน้าถึงราชิตมาส่งให้กับเขา

“อ๊ะ มาแล้วเหรอ ไวเหมือนกันนะ เอาวางไว้ตรงนั้นแหล่ะ”

ราชิตชี้มือบอกนายตำรวจผู้เป็นลูกน้องให้วางของไว้ตรงโต๊ะที่มีกองสัมภาระวางเรียงกันอยู่หลายอย่าง ส่วนใหญ่เป็นของที่ชาวบ้านแถบนี้หิ้วเอามาฝากผู้กำกับหนุ่มหล่อที่ยังโสดด้วยความสงสาร กลัวว่าผู้กำกับจะอยู่อย่างอด ๆ อยาก ๆ

“ผู้กำกับซื้อชุดใหม่มาอีกแล้วเหรอครับ”

“คราวนี้มันจำเป็น เด็ก ๆ ที่ผมสอนเค้าจะให้สาธิตวืธีการฝึกฝนร่างกายให้ดู เลยถือโอกาสซื้อชุดใหม่เลย ชุดที่มีมันเก่าหมดแล้ว เดี๋ยวโดนเด็กมันล้อเอา”

“พูดถึงเรื่องที่พี่เปิดคอร์สสอนเด็ก ๆ เมื่อวานนี้ตอนที่ผมเข้าไปส่วนกลาง มีเจ้าหน้าที่ส่วนกลางเขามาบอกว่าเรื่องนี้ถึงหูพวกผู้ใหญ่แล้วนะครับ ดูเหมือนผู้ใหญ่จะสนใจมาก บอกว่าเป็นแนวทางที่ดีเลยที่เราจะปลูกฝังค่านิยมดี ๆ กับเด็ก ๆ เยาวชนรุ่นใหม่ เค้ายังบอกอีกว่าผู้กำกับอาจจะได้รับงานใหญ่ที่อาจจะมีผลตอนประเมินด้วย”

“จริงเหรอ ถ้าผู้ใหญ่เห็นดีผมก็ดีใจ แต่ที่ทำนี่ก็ไม่ได้หวังว่ามันจะมีผลอะไร แค่อยากทำให้ความฝันของเด็ก ๆ ที่เขามีเหมือนเราเป็นความจริง”

“เนี่ย ตอบได้หล่อแบบนี้ สาว ๆ ส่วนกลางพอเห็นหน้าผมเขาถึงถามกันใหญ่ว่าผู้กำกับยังโสดอยู่ไหม มีแต่คนรอขายขนมจีบ”

ผู้บังคับบัญชาหัวเราะหึหึในลำคอ

“ก็เห็นอยู่ว่าผมแทบไม่มีเวลาส่วนตัวเลย”

“สาว ๆ ส่วนกลางคนอกหักกันเป็นทิวแถว ผมไปดีกว่า ไม่กวนเวลาหัวหน้าทำงานแล้วครับ”

หมวดยุทธนาทำความเคารพผู้เป็นเจ้านายก่อนจะหันหลังเดินกลับไปที่ประตู แต่อยู่ ๆ ก็ชะงักมือที่จับลูกบิดค้างไว้ แล้วหันกลับมาหาราชิตอักครั้ง

“ที่ส่วนกลางแจ้งมาว่านายชัยณรงค์จะออกจากเรือนจำพรุ่งนี้แล้วนะครับ”

ราชิตชะงักมือที่กำลังจะเก็นเอกสาร เงยหน้ามองสบสายตาผู้เป็นลูกน้อง ก่อนจะพยักหน้าเบา ๆ ว่ารับรู้ข้อมูลที่แจ้งแล้ว หมวดยุทธนาจึงเปิดประตูห้องออกไป

‘คุกเจ็ดปี แต่ติดจริงแค่สองปีครึ่ง นี่สินะวิถีผู้มีอิทธิพล’

ผู้กำกับราชิตแอบคิดอยู่ในใจ

เสียงออดหน้าบ้านดังขึ้น ไม่นานเจ้าของบ้านที่อยู่ในชุดลำลองก็เดินออกมาเปิดประตูรับแขกผู้มาเยือน

“เป็นไงก้องเกียรติ มาไวดีนี่ หาบ้านยากมั้ย”

“ผมก็มาตามพิกัดที่พี่ราชิตส่งไปให้”

ราชิตมองสัมภาระที่เด็กหนุ่มหอบหิ้วมาก็อดเอ่ยปากแซวไม่ได้

“ไม่ธรรมดานะเรา อุปกรณ์นี่ยังกับมืออาชีพ”

“ผมว่าจะเอาดีทางนี้ เงินดีมาง่ายถ้างานเราดี”

“แต่ก็อย่าทิ้งเรื่องการสอบเข้าตำรวจล่ะ”

“บ้านพี่ราชิตใหญ่จังนะครับ เนื้อที่เยอะจัง อยู่กันกี่คนครับ”

“ไม่ใช่บ้านผมหรอก ของคุณพ่อท่าน ปลูกไว้หลายสิบปีแล้ว แต่ตอนนี้ผมรับช่วงมาดูแล ก็ดัดแปลงให้เข้ากับความชอบของเรา”

“แล้วท่านไม่อยู่แล้วเหรอครับ”

“พ่อกับแม่พี่เขาย้ายไปลงหลักปักฐานที่สวิตเซอร์แลนด์นานหลายปีแล้ว น่าจะหลังจากพ่อเกษียณอายุราชการสักปีสองปี”

“แล้วบ้านนี้พี่อยู่กับใครครับ”

“ลูกคนเดียว โสด จะอยู่กับใครล่ะ”

“พี่ราชิตทั้งหล่อ สมาร์ท หน้าที่การงานก็ดี ไม่น่ายังโสดเลยนะครับ เสียดายแทนสาว ๆ”

“ทำแต่งาน ไม่มีเวลาเจอใครนอกจากพวกเราเนี่ยแหล่ะ รู้ตัวอีกทีก็จะสี่สิบรอมร่อแล้ว สาว ๆ ที่เจอก็จะเรียกน้า เรียกอา แทนเรียกพี่”

“พี่ยังไม่แก่เลย พวกผมยังเรียกพี่ราชิตได้เต็มปาก”

ราชิตหัวเราะขัน เอามือขยี้หัวเด็กหนุ่ม ก่อนจะพาเดินเขาเข้าไปในบ้าน

ก้องเกียรติมองบ้านที่ตกแต่งอย่างสวยงามทันสมัยด้วยความตื่นตะลึง ราชิตเดินพาชมห้องนั้นห้องนี้จนเกือบครบ ยกเว้นห้องนอนเขา แต่เลี่ยงพาเด็กหนุ่มมาที่ห้องออกกำลังกายทันที

เมื่อมาถึง ก้องเกียรติยิ่งตื่นตะลึงกับอุปกรณ์ที่มีครบครัน ประหนึ่งอยู่ในฟิตเนสไม่ปาน ไม่เท่านั้นด้านนอกยังมีสระว่ายน้ำแบบจากุชชี่ขนาดย่อมอีกด้วย

“อีกสิบห้านาทีจะถึงเวลาออนไลน์แล้ว เดี๋ยวพี่ไปเตรียมตัวก่อน”

“ครับ เดี๋ยวผมก็จะเตรียมอุปกรณ์รอเช่นกัน”

คอร์สออนไลน์วันนี้สร้างความตื่นเต้นให้กับกลุ่มเด็ก ๆ ที่เรียนเป็นอย่างมาก เพราะหลังจากที่คร่ำเคร่งเรียนทฤษฎีมานานนับเดือน นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้ผ่อนคลาย และได้เห็นติวเตอร์ของพวกเขาในอิริยาบทอื่น ๆ บ้าง ขณะที่ราชิตเองก็ดูสนุกกับการสอนในภาคปฏิบัติ เพราะรู้สึกว่าเข้าทางเขามากกว่า นอกจากนี้เทคนิควิธีการนำเสนอของก้องเกียรติก็น่าสนใจ เขามีลูกเล่นที่ทำให้คอร์สการเรียนการสอนในวันนี้แปลกใหม่ และทำให้ทุกคนตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา

“ขอบใจมากนะก้องเกียรติ คอร์สวันนี้สนุกมาก ไม่คิดเลยว่าการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย จะทำให้การเรียนการสอนมันดีขึ้นได้มากขนาดนี้ เรานี่ไม่ธรรมดาจริง ๆ”

“พี่ราชิตอยากได้อะไรที่มากกว่านี้มั้ยครับ”

“ยังไงเหรอเรา”

ก้องเกียรติหยิบเป้ของเขาขึ้นมา แล้วหยิบเอากล้องถ่ายรูปที่อยู่ในนั้นออกมาถือไว้ ราชิตเห็นตัวกล้องก็รู้ว่านี่คือรุ่นโปรที่ราคาไม่ธรรมดา เขานึกสงสัยว่าเด็กชายที่ดูธรรมดา ๆ แบบก้องเกียรติ ทำไมจึงมีอุปกรณ์ราคาแพงขนาดนี้ แต่เขาเลือกที่จะยังไม่ถามอะไรจากก้องเกียรติตอนนี้ เขาอยากให้เด็กหนุ่มได้ภูมิใจกับงานของตัวเองมากกว่า

“ผมจะถ่ายรูปพี่ราชิตแบบแจ่ม ๆ ให้พี่เอาไปลงเฟสเลยครับ รับรองว่างานนี้ได้ยอดคนติดตามเพิ่มขึ้นอีกบานเลย”

ราชิตพยักหน้า

“เอาสิ งั้นพี่ให้เราเป็นคนนำเลย”

แล้วก้องเกียรติก็เป็นคนจัดแจงพาราชิตไปแอ๊คท่าตามอุปกรณ์ต่าง ๆ จัดท่าให้นายตำรวจหนุ่มโพสต์ท่าตามใจคิดของเขา

“ผมว่าพี่ราชิตเปลี่ยนชุดดีกว่าครับ ไม่ควรใส่ชุดซ้ำหลาย ๆ รูป”

แล้วราชิตก็ให้ก้องเกียรติทำหน้าที่ดูชุดให้เขา ซึ่งก้องเกียรติเลือกเสื้อกล้ามกับกางเกงผ้าร่มสีขาวมาให้ติวเตอร์ของเขาใส่ แล้วบอกให้ราชิตขึ้นไปนั่งโพสต์ท่าที่ม้านั่งยกน้ำหนัก ราชิตเอาตัวนอนเอนราบไปตามเบาะของตัวม้านั่ง ก่อนจะเอาแขนยกตัวอุปกรณ์ยกน้ำหนักขึ้นลง ขึ้นลง อย่างช้า ๆ ขณะที่ก้องเกียรติก็กดชัตเตอร์เก็บภาพไปเรื่อย ๆ

เด็กหนุ่มได้เห็นใต้วงแขนของติวเตอร์เขาเป็นครั้งแรก มันอุดมไปด้วยไรขนที่ขึ้นอย่างไม่เป็นระเบียบนัก เด็กหนุ่มได้แต่สงสัยว่าหลังการสาธิตวิธีการฝึกร่างกายมาชั่วโมงกว่า ๆ เหงื่อไคลที่ไหลย้อยนั้นจะสร้างกลิ่นกายให้นายตำรวจหนุ่มอย่างไรบ้าง ก้องเกียรติเคลื่อนกล้องของเขาต่ำลงมาจนถึงกึ่งกลางลำตัวของราชิต เขาค่อย ๆ ซูมเข้าไปที่บริเวณเป้ากางเกง ที่ตอนนี้ปลายขากางเกงผ้าร่มมันเผยอออกมาจนมองเห็นกางเกงชั้นในของนายตำรวจหนุ่มอยู่รำไร ก้องเกียรติค่อย ๆ ซูมภาพขยายขึ้น ๆ แต่ก็มองเห็นอะไรได้ไม่ถนัดนัก จนเขาต้องล้มเลิกความตั้งใจ

“โอ.เค. ครับพี่ราชิต น่าจะได้รูปเยอะพอแล้ว เดี๋ยวผมเซฟไฟล์ลงเครื่องให้พี่เลยนะครับ”

ขณะที่ก้องเกียรติกำลังเซฟไฟล์งานลงเครื่องของราชิตที่ต้องใช้เวลาพอสมควร อยู่ ๆ เสียงมือถือของราชิตก็ดังขึ้น ราชิตเดินปลีกตัวออกไปคุยโทรศัพท์ ก้องเกียรติเห็นสีหน้าติวเตอร์ของเขาไม่สู้ดีนัก สักพักราชิตเดินเข้ามาหาก้องเกียรติ

“เดี๋ยวพี่มา ต้องประชุมงานกับเพื่อน ๆ ที่ทำงาน อาจจะใช้เวลาหน่อย”

แล้วราชิตก็เดินไป ทิ้งก้องเกียรติไว้ในห้องทำงานนั้นเพียงลำพัง ก้องเกียรติจ้องที่ไฟล์ที่ขึ้นว่าต้องใช้เวลาในการเซฟไฟล์อีก 6 นาที เขาตัดสินใจลุกออกจากที่นั่งตรงนั้นไป

สิบกว่านาทีต่อมาเมื่อราชิตกลับมาที่ห้องทำงานอีกครั้ง เขาเห็นก้องเกียรติกำลังนั่งรอเขาอยู่พร้อมกล่องอุปกรณ์ที่ถูกเก็บอย่างเรียบร้อย

“ขอโทษที คุยงานติดพันไปหน่อย เดี๋ยวพี่ขับรถไปส่งบ้านแล้วกัน”

ก้องเกียรติยิ้มพยักหน้าอย่างยินดี

สิบวันหลังจากนั้น

ที่สถานีตำรวจในช่วงเวลาเย็น ราชิตกำลังเก็บของเตรียมเดินทางกลับบ้าน อยู่ ๆ หมวดยุทธนาก็เดินเข้ามาในห้องของเขาโดยไม่ให้สุ้มให้เสียง

“กำลังจะกลับบ้านหรือครับหัวหน้า”

ราชิตเหลือบตามองแต่มือยังสาละวนอยู่กับการเก็บของใส่กระเป๋า

“ใช่ มีนัดกับเด็กนักเรียนน่ะ หมวดมีอะไรด่วนรึเปล่า อยู่ ๆ ก็พรวดเพราดเข้ามา”

“อ้อ ขอโทษทีครับ พอดีผมเพิ่งกลับจากตลาด ลุงมิ่งแกฝากของมาให้ผู้กำกับ”

หมวดยุทธนาวางของชิ้นเล็ก ๆ ลงบนโต๊ะของหัวหน้า มันคือองค์พระรอด ราชิตชะงักมือที่จัดของไปแวบหนึ่ง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตาลูกน้องคนสนิท ก่อนจะกล่าวตอบหมวดยุทธนา

“ฝากขอบใจแกด้วย”

“ครับผู้กำกับ ผมจะบอกแกให้”

หมวดยุทธนาเดินออกจากห้องไป เขายังจำคำของลุงมิ่งได้

“พ่อเลี้ยงชัยณรงค์ออกมางวดนี้ ไม่รู้พกความแค้นอะไรมาบ้าง ยังไง ๆ ผมฝากพระนี่ให้ท่านผู้กำกับด้วย คนดีต้องตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้ พระท่านจะคุ้มครองเอง”

ความเป็นห่วงแล่นขึ้นมาจับที่หัวใจของนายตำรวจหนุ่ม สักพักผู้เป็นหัวหน้าก็เปิดประตูห้องทำงานเดินผ่านเขาไป หมวดยุทธนาเดินกลับไปดูที่โต๊ะทำงาน เขาเห็นพระรอดยังคงวางอยู่ที่เดิม

รถของราชิตแล่นมาถึงประตูบ้าน เขาเห็นก้องเกียรติยืนรอเขาอยู่ก่อนแล้ว พร้อมกับกระเป๋าสัมภาระที่ดูจะใบใหญ่กว่าเดอท เขารีบลงจากรถ เดินไปเปิดประตูรั้วหน้าบ้าน

“ขอโทษที มารอนานรึยัง”

“ไม่นานครับ เลิกเรียนสักพักถึงได้ออกมา คำนวณเวลาว่าพี่ราชิตน่าจะถึงตอนไหนด้วย”

“รอบคอบดี”

ราชิตพาก้องเกียรติเข้าไปในบ้าน เด็กหนุ่มวางสัมภาระลง แล้วเริ่มต้นจัดการอุปกรณ์ในกระเป๋า

“จริงอย่างที่เราบอก พอลงรูปไปปั๊บ ยอดคนติดตามในเฟสพี่พุ่งกระฉูดเลย ต้องขอบคุณเราจริง ๆ”

“คราวนี้ผมตั้งใจจะถ่ายให้ดูโปรเฟสชั่นนัลมากกว่าเดิม เตรียมอุปกรณ์มาเพิ่มอีกเพียบเลยครับ”

ราชิตเดินมาดู

“เวรี่ กู้ด แต่เดี๋ยวขอพี่ไปอาบน้ำแป๊บนึงนะ”

“ผมขอไปเลือกชุดให้พี่ได้ไหมครับ”

“ได้สิ วันนี้พี่ให้เราจัดการทุกอย่างตามใจเลย”

“พี่พูดแล้วนะครับ”

“นายตำรวจพูดคำไหนคำนั้น”

สิบนาทีต่อมา ราชิตออกมายืนในสภาพนุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียว เผยให้เห็นเรือนร่างที่กำยำล่ำสันที่ปกติถูกปกปิดด้วยชุดเครื่องแบบนายตำรวจ ผิวช่วงลำตัวของเขาเป็นสีแทนสวย แบบคนที่ผ่านลมผ่านแดดมาหลายร้อน ราชิตทำงานที่ต้องเผชิญไอแดดและแรงลม ถ้าไม่ดูแลรักษาผิวหน้าผิวกายอย่างดีคงทำให้ดูแย่ไปแล้ว ก้องเกียรติมองลงมาที่แผงหน้าอกของนายตำรวจหนุ่ม มันขึ้นเป็นก้อนแกร่งทั้งสองข้าง ช่วยขับหัวนมที่ขึ้นเป็นไตของเขาให้สวยงามชวนมองยิ่งขึ้นไปอีก หน้าท้องของเขาก็ขึ้นลูกเป็นหกชั้นอย่างชัดเจน สมกับความมีวินัยในการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

“พี่หุ่นดีมากนะครับ เสียดายที่ไม่ค่อยมีโอกาสได้โชว์ แต่ไม่เป็นไร โชว์วันนี้ก็คงไม่สายเกินไป งั้นเราเริ่มกันที่ชุดนี้”

ก้องเกียรติยื่นชุดให้นายตำรวจหนุ่มไปใส่ เขาคลี่ดูมันเป็นกางเกงออกกำลังกายแบบแนบเนื้อขาสั้นสีน้ำเงินเข้ม

“ใส่กางเกงตัวเดียวเหรอ”

“ครับ”

ราชิตเดินไปมุมห้องใส่กางเกงตัวเดียวที่ได้รับแล้วจัดระเบียบส่วนที่อยู่ในกางเกงให้เรียบร้อยเพื่อไม่ให้ประเจิดประเจ้อเกินไปนัก

“พี่ราชิตมานั่งตรงนี้ก่อนครับ เดี๋ยวผมจัดการหน้าผมให้”

“เฮ้ย ทำได้ด้วยเหรอ เก่งอะไรรอบด้านขนาดนั้น”

“รักจะเอาดีด้านนี้ ต้องทำให้ได้ทุกอย่างครับ”

แล้วก้องเกียรติก็บรรจงแต่งหน้า ทำผม แบบง่าย ๆ ไม่ยุ่งยากให้กับติวเตอร์ของเขา ใช้เวลาไม่นานราชิตก็กลายสภาพเป็นคนใหม่ที่ดูหล่อ ใสกว่าปกติ

“เฮ้ย เจ๋งนะเรา พี่ทึ่งจริง ๆ นะเนี่ย”

“ผมบอกแล้วไงครับ ถ้าวันนี้พี่ราชิตทำตามที่ผมบอกทุกอย่าง พี่จะกลายเป็นคนใหม่ แล้วยอดคนติดตามพี่จะพุ่งขึ้นพรวด ๆ เลย”

“เอ้า มาลองดูกัน”

รูปแรก ก้องเกียรติให้ราชิตยืนหันหลัง แล้วเอียงใบหน้ามาให้เห็นครึ่งหน้า เขาถ่ายส่วนบนด้านหลังของราชิต ให้เห็นผิวสีแทนละเอียด เมื่อกดชัตเตอร์ไปสามสี่ครั้ง ก้องเกียรติก็เดินถือขวดน้ำมันไปชะโลมที่ร่างของนายตำรวจหนุ่ม เพื่อช่วยขับเน้นผิวกายและกล้ามแกร่งให้ชัดเจนยิ่งขึ้น เด็กหนุ่มค่อย ๆ ไล้มือของเขาไปจนทั่วแผ่นหลังของนายตำรวจหนุ่ม ราชิตรู้สึกขนลุกชันกับสัมผัสจากมือของเด็กหนุ่ม หลังจากชะโลมน้ำมันจนทั่ว ก้องเกียรติก็เช็ดมือแล้วเดินกลับไปกดชัตเตอร์ต่อ ต่อมาเขาถ่ายภาพให้เห็นลงมาถึงช่วงต้นขา ที่กางเกงตัวเล็กนั้นปิดถึง เด็กหนุ่มสั่งให้นายตำรวจหนุ่มกระดกกันขึ้นมาให้เห็นชัด ๆ แต่ดูเหมือนราชิตจะทำได้ไม่ถูกใจคนสั่ง เขาจึงละจากหลังกล้อง เดินไปจัดท่าให้เอง

มือของก้องเกียรติลูบไล้ที่บั้นท้ายของหนุ่มใหญ่ เขาสัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่งของก้อนเนื้อนั้น จนอดเอ่ยปากชมไม่ได้

“ก้นพี่แน่นมากนะครับ ท่าจะฝึกขมิบบ่อย”

ว่าแล้วก้องเกียรติก็ใช้นิ้วชี้ไล้ไปที่ร่องก้นของราชิตจากด้านนอกกางเกง ก่อนจะเดินกลับไปกดชัตเตอร์ต่อ จากด้านหลังมาด้านหน้า ก้องเกียรติจัดวางท่วงท่าให้ราชิตแบบมืออาชีพยังอาย น้ำมันถูกนำมาใช้ชะโลมกายของชายหนุ่มอีกครั้ง มือขาวของก้องเกียรติไล่ไปตามลำตัวจากส่วนบนลงล่าง สัมผัสลงมาจนถึงหัวนมที่แข็งเป็นไต เขาค่อย ๆ ใช้นิ้วมือบดขยี้หัวนมนั้นราวกับจะให้แหลกคามือ จนบางครั้งเจ้าของร่างที่ยืนนิ่งเผลอส่งเสียงครางออกมาอย่างไม่ตั้งใจ และมันส่งผลไปยังเป้ากางเกงที่ค่อย ๆ ขยายตัวขึ้นมาเล็กน้อย จนเจ้าของร่างที่ถูกบดขยี้ออกอาการเขินอายผู้อ่อนวัยกว่าขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้

หลังจากนั้นก้องเกียรติก็ให้ราชิตโพสต์ท่าต่อ จากท่านั้น ไปท่านี้ มีอุปกรณ์มาช่วยเสริมความน่ามอง เด็กหนุ่มกดชัตเตอร์รัว ๆ จนเสร็จสิ้นภาพถ่ายในเช็ตแรก เขาจึงออกปากกับนายแบบ

“พี่ราชิตล้างตัวก่อนนะครับ ต่อไปเป็นเซ็ตจากุชชี่”

หลังเข้าไปชำระล้างคราบน้ำมันที่ชะโลมเกือบทั่วตัว ราชิตนุ่งผ้าเช็ดตัวออกมา เด็กหนุ่มยื่นชุดให้เขาไปเปลี่ยน ราชิตคลี่ดู มันเป็นกางเกงว่ายน้ำบิกินี่แบบเนื้อผ้ายืดสีส้มสด

“มันอยู่ตรงไหนในตู้เสื้อผ้าพี่เนี่ย ทำไมไม่เคยเห็นมาก่อน ชุดที่แล้วก็ด้วย”

“เอาเถอะครับ ใส่แล้วมันจะขับผิวสีแทนของพี่ให้ออกมาสวยแน่นอน เชื่อผมสิ”

ราชิตไม่ปริปากอีก เพราะเขาบอกเด็กหนุ่มว่าให้เป็นคนจัดการทุกอย่างก็ต้องยอมตามนั้น ราชิตเข้าไปเปลี่ยนชุดในห้องน้ำ สักพักเมื่อเขาเดินออกมาก็เห็นสระจากุชชี่เปิดน้ำรอพร้อมใช้งานอยู่แล้ว แต่ขณะที่กำลังมองหาตัวช่างภาพหนุ่ม ราชิตก็ได้ยินเสียงกระซิบอยู่ที่ข้างหูเขา

“งัดน้องชายพี่ขึ้นให้มันพาดไปด้านซ้ายนะครับ”

ก้องเกียรติพูดจบก็เดินไปเตรียมพร้อมอยู่หลังกล้อง ราชิตยืนละล้าละลังทำอะไรไม่ถูก เมื่ออยู่ ๆ ก็ได้รับคำสั่งดังกล่าว แต่สุดท้ายก็เหมือนไม่มีทางเลือก เขาเลยล้วงมือเข้าไปจัดการในเป้ากางเกงตามที่ได้รับคำสั่ง

“พี่ราชิตเดินมายืนอยู่ตรงกลางเฟรมเลยครับ ตรงริมสระว่ายน้ำ นั่นแหล่ะครับ ลองโพสต์ท่าที่พี่สบายใจที่จะโพสต์เลยครับ”

ก้องเกียรติพยายามทำให้ราชิตสลัดความเขิยอายไปก่อนในช่วงแรก ก่อนที่เขาจะเริ่มเป็นฝ่ายบอกท่าให้นายตำรวจหนุ่มโพสต์ตามที่เขาสั่ง ทั้งที่เริ่มจากริมสระ แล้วค่อย ๆ ลงไปแช่ในน้ำ ดันตัวขึ้นจากใต้น้ำมาเหนือน้ำ และท่าต่าง ๆ ตามแต่จะคิดได้

“พี่ราชิตเดินไปยืนตรงนั้นครับ ให้น้ำมันบังส่วนครึ่งท่อนล่างไว้ นั่นล่ะครับ แล้วพี่หันหลัง ดีมากครับ เอียงหน้ามา เกือบสวยแล้ว แต่เหมือนมันยังไม่สมบูรณ์แบบอย่างที่คิดไว้ ยังไงดี”

ก้องเกียรติดูภาพจากกล้อง แล้วออกมามองของจริง สลับไปมา ก่อนที่จะตะโกนออกคำสั่งใหม่ว่า

“พี่ราชิตถอดกางเกงว่ายน้ำออกครับ แล้วโยนมาให้ผมเลย”

ราชิตรู้สึกตกใจกับคำสั่งของก้องเกียรติ เขาไม่แน่ใจว่าควรทำตามคำสั่งของลูกศิษย์ตัวเองดีมั้ย แต่ก้องเกียรติไม่ปล่อยให้เขาตัดสินใจนาน ยืนกรานคำสั่งเดิมแถมใช้คำพูดเร่งเร้าจู่โจม จนราชิตตัดสินใจค่อย ๆ ถอดกางเกงว่ายน้ำออกจากตัว แล้วโยนมันให้ก้องเกียรติในที่สุด

ดีที่สระจากุชชี่ทำให้น้ำที่พวยพุ่งวนอยู่ในสระช่วยอำพรางท่อนล่างไม่ให้เห็นอะไรชัด ความเก้อเขินของราชิตจึงลดลง เขายืนนิ่งให้ก้องเกียรติถ่ายรูปต่อไป เสียงลั่นชัตเตอร์สร้างความเสียวให้ราชิตไม่น้อย แต่เพียงไม่นานก้องเกียรติก็จัดการทุกอย่างเสร็จสมบูรณ์

“เห็นมั้ยครับ สวยมาก ๆ ไม่โป๊สักนิด”

ราชิตลอบถอนหายใจหลังจากที่เห็นรูปที่ก้องเกียรติเดินเอามาให้เขาดูที่ขอบสระ รูปที่ถ่ายไม่โป๊หรืออนาจารอย่างที่เขาแอบกังวล ทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายขึ้น แถมแอบนึกชมลูกศิษย์ในใจที่ถ่ายรูปได้อย่างสวยงามมีศิลปะ ถ้าก้องเกียรติไม่อยากเอาดีทางการเป็นตำรวจ แต่อยากเป็นช่างภาพ เขาจะหาโอกาสสนับสนุนทันทีโดยไม่รีรอ

“เสร็จแล้วครับ ขึ้นจากสระได้เลย”

“จะให้ขึ้นทั้งอย่างนี้เหรอ แล้วกางเกงว่ายน้ำพี่ล่ะ”

ก้องเกียรติหันรีหันชวาง ก่อนจะยิ้มแห้ง ๆ

“ไม่รู้ไปทิ้งไว้ไหน ไม่ต้องใส่ก็ได้ครับ ชึ้นมาเลย ผู้ชายเหมือน ๆ กัน ไม่ต้องอายกันหรอกครับ”

ราชิตรู้สึกเหมือนถูกท้าทาย ความรู้สึกจากตอนแรกที่รู้สึกเก้อเขินจึงเปลี่ยนไป อย่างน้อยตอนนี้ก็ไม่มีกล้องบันทึกภาพอยู่ ว่าแล้วราชิตจึงเดินขึ้นจากสระในสภาพเปลือยเปล่าอย่างว่าง่าย ความเสียวเมื่อครู่ทำให้ลำควยของเขามีสภาพกึ่งแข็งกึ่งอ่อน หัวเปิดแล้ว ขนหมอยที่ลู่เปียกน้ำขึ้นหรอมแหรมไม่ดกดำนัก เขาเดินตรงไปที่ตู้เสื้อผ้า หยิบผ้าเช็ดตัวผืนเล็กขึ้นมาเช็ดหัว แล้วจึงค่อย ๆ เช็ดตัวจนทั่ว ทำให้หยดน้ำที่เกาะพรายอยู่ทั่วร่างค่อย ๆ จางหายไป

“ชุดไหนต่อ”

“พี่ไม่อายจริง ๆ เหรอที่แก้ผ้าอยู่หน้าผมแบบนี้ ผมแกล้งแหย่พี่แท้ ๆ ไม่นึกว่าจะขึ้นมาจริง ๆ”

“ก็คิดว่าเราเป็นน้องเป็นนุ่ง ตอนเรียนโรงเรียนนายร้อยก็แก้จนชินแล้ว ผู้ชายด้วยกัน มีเหมือน ๆ กันไม่ใช่เหรอ”

ก้องเกียรติมองต่ำลงมาที่ลำควยของราชิต ก่อนจะค่อย ๆ เดินเข้ามาหาติวเตอร์ของเขา ด้วยความที่ตัวเล็กกว่า ทำให้ก้องเกียรติต้องเงยหน้ามองสบสายตาของราชิตยามที่มายืนใกล้จนแทบจะหายใจรดกัน ราชิตสบสายตาเด็กหนุ่มที่เป็นลูกศิษย์ ไม่แน่ใจเจตนาที่เด็กหนุ่มเดินมาประชิดตัวเขา แต่ยังไม่ทันจะได้ออกปากถามอะไรออกไป ก้องเกียรติก็ทรุดตัวลงไปนั่งยอง ๆ อยู่ข้างหน้าเขา และแน่นอนว่าตอนนี้ ใบหน้าของเด็กหนุ่มอยู่ห่างจากลำควยของเขาเพียงแค่คืบเดียวเท่านั้น

“พอมาดูใกล้ ๆ ก็ไม่ค่อยเหมือนกันนะครับ ของพี่ราชิตหัวถอกแล้ว แถมขนหมอยก็ขึ้นเยอะกว่าของผมอีก อยากให้เพื่อนคนอื่น ๆ ได้มีโอกาสมาเห็นบ้างจัง”

“เฮ้ย อะไรของเราเนี่ย ไป ๆ มาอยู่ใกล้ ๆ ใจคอไม่ดี จะถ่ายชุดไหนต่อ บอกมา”

ราชิตตัดบทแล้วรีบผละออกจากตัวเด็กหนุ่ม เขารีบเดินไปหยิบเสื้อคลุมอาบน้ำมาสวมทับร่างกันการประเจิดประเจ้อทันที

ก้องเกียรติตั้งกล้องไว้ที่ตรงหน้าม้านั่งยกน้ำหนัก อุปกรณ์ที่เขาจะให้ราชิตมาโพสต์ท่าถ่ายรูปต่อไป ขณะที่ราชิตในชุดกางเกงผ้าร่มสีขาวตัวน้อยตัวเดียว กำลังเอนนอนราบไปบนอานของม้านั่งยกน้ำหนัก ครั้งที่แล้วเขาเคยให้ก้องเกียรติถ่ายรูปเขาขณะออกกำลังกายบนอุปกรณ์ชิ้นนี้ ปรากฏว่าเรตติ้งดี มีคนเข้ามากดไลค์ให้เป็นจำนวนมาก เขาเลยให้เด็กหนุ่มถ่ายรูปบนอุปกรณ์ตัวนี้ให้เขาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เหมือนชุดที่ใส่จะเปิดเผยเนื้อตัวเขายิ่งกว่าเดิม

ขณะที่ราชิตกำลังยกน้ำหนักไป ก้องเกียรติก็เอาตัวกล้องออกจากขาตั้งกล้อง แล้วเดินถือกล้องกดชัตเตอร์ถ่ายภาพเขาไปเรื่อย ๆ เช่นกัน และบางครั้งก้องเกียรติก็จะคอยบอกให้เขาโพสต์ท่านั้นท่านี้

“พี่ราชิตตอนหนุ่ม ๆ นี่ท่าทางน่าจะฮอตน่าดูนะครับ หล่อ หุ่นดี เรียนโรงเรียนนายร้อย”

“ได้มีโอกาสฮอตก็ดีสิ รู้มั้ยว่าตอนที่เรียนพี่ทำกิจกรรมเยอะมาก ๆ จนแทบไม่มีเวลาออกไปสังคมที่ไหน เรียนจนจบแทบไม่ได้เจอผู้หญิงเลย โอกาสที่จะได้สานความสัมพันธ์ก็เลยไม่มี แถมจบออกมาก็ตระเวนไปสังกัดหน่วยนั้น หน่วยนี้ กว่าจะมีโอกาสได้กลับมาประจำตำแหน่งในพื้นที่แถวบ้าน เวลาก็ล่วงเลยมาป่านนี้แล้ว ถึงได้ยังเป็นโสดมาจนทุกวันนี้ไง”

“ดีครับ พี่รู้มั้ยว่าตอนที่พี่ยกน้ำหนักไป โพสต์ท่าไป แล้วก็เล่าเรื่องตัวเองไปด้วยเนี่ย มันโคตรเซ็กซี่เลย”

“จะไปรู้ได้ยังไง ก็พี่ไม่ได้เห็นแบบที่เราเห็นนี่นา”

“แล้วตอนสมัยเรียน พี่เคยมีประสบการณ์กับผู้ชายด้วยกันมั้ยครับ”

“เฮ้ย ถามลึกนะเรา ใครจะไปมีวะ พวกที่เรียนก็ผู้ชายแท้ ๆ ทั้งนั้น อ้อ มีบ้างที่แอบ ๆ อ่ะนะ แต่เขาไม่มาประเจิดประเจ้ออะไรหรอก เพราะกฎมันเคร่งครัดมาก เผลอทำอะไรรุ่มร่ามแล้วโดนรายงาน มีหวังโดนขังลืมไม่รู้ตัว”

“งั้นพวกพี่ปลดปล่อยกันยังไงครับ เวลาที่มีอารมณ์”

“ก็ชักว่าวเอาสิ รู้จักการชักว่าวรึยังล่ะเรา”

“ทำแบบนี้รึเปล่าครับ”

ว่าแล้วก้องเกียรติก็เอามือข้างหนึ่งล้วงเข้าไปที่ขากางเกงตัวน้อยของราชิต แล้วงัดเอาท่อนลำที่ยังอ่อนตัวนั้นออกชมโลกภายนอก ก่อนจะค่อย ๆ เอามือสาวท่อนควยนั้นขึ้นลง ขึ้นลง อย่างช้า ๆ เพียงไม่นานท่อนควยนั้นก็แข็งเป็นลำขึ้นมา

“จู๋พี่แข็งแล้วนะครับ”

ราชิตหลุดหัวเราะออกมาเมื่อได้ยินคำพูดของลูกศิษย์ ไม่รู้ทำไมเขาเลือกที่จะปล่อยให้ก้องเกียรติทำอะไรตามใจต้องการ แทนที่จะขัดขืน เพราะนี่เป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นระหว่างคนที่เป็นติวเตอร์และลูกศิษย์ แต่ตอนนี้อารมณ์อยากรู้มันกำลังครอบงำเขา อยากรู้ว่าก้องเกียรติจะทำอะไรต่อไปจากนี้

ก้องเกียรติเมื่อเห็นว่านายตำรวจหนุ่มไม่มีทีท่าขัดขืน เขาก็ยัดท่อนควยที่กำลังแข็งของราชิตกลับเข้าไปในกางเกง ราชิตเผลอร้องออกมาด้วยความเจ็บ ขณะที่ก้องเกียติลุกขึ้นเดินเอากล้องไปตั้งไว้ที่ขาตั้งกล้องที่ตั้งอยู่ตรงหน้าเครื่องออกกำลังกาย หลังจากนั้นจึงเดินไปที่กระเป๋าอุปกรณ์ ล้วงหยิบผ้าผืนเล็ก ๆ สองผืนขึ้นมา แล้วเดินตรงไปหาติวเตอร์ของเขา ที่ตอนนี้เอาอุปกรณ์ยกน้ำหนักกลับไปไว้ตรงที่พักแล้ว

ก้องเกียรติจับแขนราชิตข้างหนึ่งยกขึ้นไปทางด้านหลังศีรษะ ก่อนจะเอาผ้าผืนหนึ่งมัดข้อมือของนายตำรวจหนุ่มไว้กับตัวอุปกรณ์ออกกำลังกาย เสร็จแล้วก็ทำแบบเดียวกันกับมืออีกข้างหนึ่ง

“อันนี้ธีม Basic Instinct หรือยังไง”

ราชิตเอ่ยปากถาม และได้รับคำตอบจากก้องเกียรติว่า

“ธีม ความลับของคุณตำรวจครับ”

“เอาเลย ยอมให้วันนึง”

ก้องเกียรติเก็บควยที่กำลังตื่นตัวของราชิตกลับเข้าไปในกางเกง ก่อนจะลุกขึ้นเดินไปหยิบขวดน้ำมันมาบีบลงที่กางเกงตัวน้อยของนายตำรวจหนุ่ม พอกางเกงผ้าร่มสีขาวเปียกน้ำมัน มันก็แนบไปกับผิวเนื้อของคนสวมทันที และตอนนี้เองที่ท่อนควยของราชิตตุงเด่นท้าทายสายตาขึ้นมาทันที ก้องเกียติเอามือของตัวเองค่อย ๆ ลูบไปตามรอยที่ตุงเด่นนั้น ยิ่งทำให้ท่อนลำของราชิตเด่นชัดขึ้น ราชิตจ้องมองลูกศิษย์ของตัวเอง ยิ้มที่มุมปากบ่งบอกให้รู้ว่าเจอแค่นี้ยังอ่อนสำหรับเขา

“ตกลงนี่เราเล่นอะไร ไม่ถ่ายรูปแล้วเหรอ”

“ไม่ถ่ายแล้วครับ ผมถ่ายเป็นคลิปแทน ให้พี่ราชิตไว้ดูเป็นที่ระลึก”

“พี่คงไม่ดูหรอก ใครจะมาดูตัวเองโดนลูกศิษย์ทำแบบนี้ แล้วพี่ก็ไม่ได้เป็นเกย์นะ ไม่มีอารมณ์กับผู้ชายด้วยกันหรอก”

“แต่ควยพี่แข็งนะครับ”

ว่าแล้วมือของก้องเกียรติก็เลื่อนไปจับที่ขอบกางเกงของราชิต แล้วค่อย ๆ รูดมันลงจนหลุดจากปลายเท้า พอท่อนควยเป็นอิสระมันก็เด้งตัวตั้งฉากกับพื้นโลกทันที ก้องเกียรติเอามือมารูดมันขึ้นลงอย่างช้า ๆ ยิ่งทำให้มันแข็งยิ่งขึ้นไปอีก

“ไม่มีอารมณ์เลยจริง ๆ นะครับ”

ก้องเกียรติบอกกับนายตำรวจหนุ่มอย่างขำขัน

“แสบนักนะเรา ล้อพี่แบบนี้เดี๋ยวปรับตกซะเลย”

“งั้นถ้าไหน ๆ ผมต้องตกแล้ว ผมก็ขอทำอะไรให้มันสุด ๆ ไปเลยแล้วกันนะครับ”

ว่าแล้วก้องเกียรติก็ลุกขึ้นถอดกางเกงของเขาออก พอกางเกงในถูกถลกลงไป ควยสีขาวขนาดเรียวเล็กพอดีตัวก็ดีดผึงออกมาทันที เด็กหนุ่มเอามือจับท่อนควยตัวเองตรงเข้าไปหาที่ใบหน้าของราชิต พอไปถึงเขาก็เอาท่อนควยนั้นตีเข้าไปที่หน้าของนายตำรวจหนุ่ม ราชิตไม่สามารถปัดป้องอะไรได้เพราะมือของเขาถูกพันธนาการไว้ทั้งสองข้าง ทำได้แค่ปิดตาแล้วเบือนหน้าหนีท่อนควยของลูกศิษย์ตัวเอง แต่ลูกศิษย์วัยละอ่อนก็ยังไม่ยอมลดละ พอตีได้แค่สองสามที น้ำหล่อลื่นก็หลั่งออกมาที่ส่วนหัวควยของก้องเกียรติ เขารีบเอาหัวควยที่เลอะคราบน้ำหล่อลื่นถูละเลงจนทั่วใบหน้าของราชิต

“เฮ้ย ยอมแล้ว ๆ พี่ยอมแพ้ เราพอกันแค่นี้เถอะ”

“ก็ได้ครับ”

ก้องเกียรติพูดอย่างเสียไม่ได้

“แต่ผมขออะไรอย่างสุดท้ายกับพี่ก่อน แล้วผมจะปล่อยพี่ไป”

“อะไร”

ก้องเกียรติยืนเอาควยของเขาไปจ่อที่ปากราชิต

“อมแล้วดูดให้ผมสักสองสามที นะครับพี่ราชิต ผมอยากรู้ความรู้สึกเวลาที่โดดดูดว่ามันเป็นยังไง”

ราชิตมองสบสายตาลูกศิษย์วัยละอ่อน แล้วเปลี่ยนมามองที่ท่อนควยของก้องเกียรติที่อยู่เฉียดริมฝีปากเขาไม่เกินคืบ นายตำรวจหนุ่มรู้ว่าเขาคงไม่มีทางปฏิเสธคำร้องขอของเด็กหนุ่มได้ เพราะไม่อย่างนั้นเขาคงถูกจับให้อยู่ท่านี้ไปอีกนาน และไม่รู้ว่าการปฏิเสธนั้นเขาจะโดนกระทำอะไรที่มากกว่านี้หรือเปล่า แต่ถ้ายอมทำ ๆ ให้มันจบ ๆ ไป เรื่องเล่นเลยเถิดนี้จะได้จบลงเสียที แล้วหลังจากนี้เขาคงต้องพิจารณาความสัมพันธ์กับก้องเกียรติเสียใหม่

ว่าแล้วปากของราชิตก็ค่อย ๆ เผยอครอบลงไปที่ควยของเด็กหนุ่ม ขนาดของมันยามแข็งตัวแน่นคับปากเขาพอดี แถมพออมไปมิดลำ เขาต้องพะอืดพะอมกับดงขนหมอยของเด็กหนุ่มที่ขึ้นหรอมแหรมแยงเข้าไปในรูจมูกของเขาอีก ตอนนี้ในหัวของราชิตคิดแต่เพียงว่าให้มันจบ ๆ ไป จากการร้องขอแค่สองสามที แต่พอเขาทำครบตามที่กำหนด ก้องเกียรติกลับไม่ทำตามคำพูด แต่กลับเอาควยของตัวเองเย็ดใส่ปากของราชิตลึกขึ้นกว่าเดิม เด็กหนุ่มกระเด้าควยของเขาอย่างไม่บันยะบันยัง จนราชิตหายใจไม่ออก แต่ก็ต้านทานแรงของเด็กหนุ่มไม่ไหวเพราะมือทั้งสองข้างถูกผูกมัดอย่างแน่นหนา สุดท้าย รู้ตัวอีกที น้ำอสุจิของลูกศิษย์ก็พุ่งเข้าปากเขา ส่งกลิ่นคาวคะคลุ้งตลบอบอวนจนเขาต้องโก่งคออาเจียนมันออกมา

ก้องเกียรติพอเห็นสภาพที่ไม่สู้ดีของราชิต ก็ถอนควยตัวเองออกมา เขารีบแก้ผ้าที่มัดมือของราชิตออก แต่นายตำรวจหนุ่มนั้นหมดสภาพเดินกว่าจะทำอะไรไหว ก้องเกียรติจึงได้ทีรีบแต่งตัว เก็บกล้อง เขาเอาไฟล์จากกล้องไปใส่มือของราชิต แล้วรีบขนของออกจากบ้านราชิตไปทันที

พอเริ่มได้สติ สิ่งแรกที่ราชิตทำคือทำลายไฟล์ในมือทิ้งทันที เขาไม่อยากให้ภาพอัปปรีย์หลงเหลือเป็นหลักฐาน เป็นเสนียดในความรู้สึกของตัวเอง หลังจากนั้นเขารีบเข้าห้องน้ำ ชำระล้างร่างกายของตนเองไม่ให้หลงเหลือคราบอัปยศ ระหว่างสายน้ำไหลรินรดร่าง เขาได้แต่คิดทบทวนเรื่องราวที่เกิดขึ้น รู้สึกตัวเองพลาดที่ไว้ใจก้องเกียรติมากเกินไป รวมทั้งคิดว่าจะทำอย่างไรกับก้องเกียรติหลังจากนี้ดี

พออกจากห้องน้ำเขาพยายามติดต่อหาก้องเกียรติ แต่ไม่สามารถติดต่อได้ วันผ่านไปก็ยังไม่มีเสียงตอบรับจากเด็กหนุ่ม ราชิตพยายามติดต่อหาก้องเกียรติผ่านเด็กนักเรียนคนอื่น ๆ แต่ก็ไม่มีใครติดต่อก้องเกียรติได้ สุดท้ายเขาลองไปหาก้องเกียรติในละแวกที่เขาเคยขับรถไปส่งเด็กหนุ่ม แต่คนแถวนั้นก็ไม่มีใครรู้จักก้องเกียรติเลยสักคน

ราชิตรู้สึกงุนงงและสับสนกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเองในตอนนี้


ปัจฉิมบท

เหตุการณ์นั้นผ่านมาสองเดือนเต็ม

จนถึงวันนี้ชื่อของก้องเกียรติค่อย ๆ เลือนหายไปจากความทรงจำของทุก ๆ คน

ราชิตปิดคอร์สการสอนเด็ก ๆ รุ่นแรกของเขา สิ่งที่ราชิตทำได้รับความสนใจจากผู้ใหญ่ในกรมตำรวจ บวกกับการปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ได้เป็นอย่างดี ทำให้นายตำรวจหนุ่มได้รับรางวัลนายตำรวจดีเด่นแห่งปี สร้างชื่อให้กับนายตำรวจน้ำดีอย่างเขามากยิ่งขึ้นไปอีก

วันนี้ราชิตเดินทางมารับรางวัลแห่งความภาคภูมิใจที่สโมสรตำรวจ งานนี้จัดอย่างยิ่งใหญ่ มีนายตำรวจเข้าร่วมงานกันอย่างคับคั่ง แต่มีเพียงไม่กี่นายเท่านั้นที่ได้รับรางวัลอันทรงเกียรตินี้ ก่อนที่ราชิตจะก้าวขึ้นรับรางวัล เด็กนักเรียนสามคนที่เป็นตัวแทนกลุ่มได้ขึ้นไปกล่าวถึงความประทับใจและความภาคภูมิใจที่ได้เป็นศิษย์รุ่นแรกของราชิต

และเมื่อราชิตก้าวขึ้นไปรับรางวัลต่อจากนั้น เขากล่าวความรู้สึกที่กลั่นออกมาจากใจได้อย่างดีเยี่ยม เรียกเสียงปรบมือจากตำรวจในหอประชุมได้อย่างคับคั่ง ยิ่งทำให้เขากลายเป็นดาวโรจน์แห่งวงการตำรวจ

หลังรับรางวัลเสร็จ ราชิตออกมาพบกับลูกศิษย์ของเขา นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้มีโอกาสเจอกับเด็ก ๆ ตัวเป็น ๆ เด็ก ๆ ต่างมารุมล้อมพูดคุย ถ่ายรูปกับเขา โดยมีหมวดยุทธนาคอยทำหน้าที่เป็นตากล้องจำเป็นให้

“พี่ราชิตตัวจริงนี่หล่อแล้วก็ล่ำกว่าที่เห็นผ่านกล้องอีกนะครับ ยิ่งใส่ชุดตำรวจพี่ยิ่งดูดี”

เป็ดเป็นคนเริ่มเปิดประเด็น

“นั่นสิครับ ยิ่งเห็นพี่วันนี้ยิ่งทำให้พวกผมอยากเป็นตำรวจที่ดีแบบพี่บ้าง”

“ผมจะต้องสอบเป็นตำรวจให้ได้แบบพี่ แล้วจะเป็นตำรวจที่ดี ได้รางวัลแบบพี่ด้วย”

“เออ พี่ดีใจนะที่สามารถเป็นแรงบันดาลใจให้พวกเราได้ การเป็นตำรวจว่ายากแล้ว แต่การเป็นตำรวจที่ดี เป็นที่พึ่งของประชาชนได้ยิ่งยากขึ้นไปอีก พี่หวังว่าสิ่งที่สอน ที่พี่ปลูกฝังให้กับพวกเราทุกคนจะได้นำไปใช้ ไม่ว่าสุดท้ายพวกเราจะได้เป็นตำรวจหรือไม่ แต่อย่างน้อย ๆ พวกเราก็จะเป็นคนดี ที่ทำประโยชน์เพื่อสังคมต่อไปนะ”

ราชิตกล่าวทิ้งท้าย ทำให้เด็ก ๆ ต่างรู้สึกตื้นตันเป็นอย่างมาก

“เอาล่ะครับ คุณครูและลูกศิษย์ มาถ่ายรูปหมู่เป็นที่ระลึกกันดีกว่า”

เสียงหมวดยุทธนาชักชวนสมาชิกทุกคน ทำให้ทั้งติวเตอร์และลูกศิษย์รีบจัดท่าเพื่อถ่ายรูปร่วมกัน เปลี่ยนท่านั้นเป็นท่านี้กันอย่างสนุกสนาน โดยมีหมวดยุทธนาคอยกำกับท่าให้กับทุกคน พอถ่ายรูปเสร็จ เจ้าเป็ดก็เสนอขึ้นมาว่า

“อาทิตย์หน้าเรามาเลี้ยงฉลองปิดคอร์สกันดีกว่ามั้ย”

“ยังไงวะเป็ด”

เด็กหนุ่มอีกคนถามด้วยความสงสัย

“ไหน ๆ ก็จบคอร์สแล้ว พวกราอาจจะไม่ได้เจอกันพร้อมหน้าพร้อมตาอย่างตอนนี้ เพราะแต่ละคนคงแยกย้ายกันกลับไปเรียนต่อหรือไปทำอะไรตามความสนใจ ส่วนพี่ราชิตก็คงจะเปิดคอร์สรุ่นต่อไป มีลูกศิษย์ใหม่ ๆ ต่อจากพวกเรา อาจไม่มีโอกาสที่จะได้เจอกันอีก เพราะฉะนั้นช่วงที่เรายังรวมตัวกันได้ตอนนี้ เรามาฉลองส่งท้าย เฮฮาปาร์ตี้กันสักหน่อยดีกว่า”

“ฉลองที่ไหน ยังไงล่ะเป็ด” ราชิตถามแทรกขึ้นมา

“ที่บ้านพี่ราชิตได้ไหมครับ คิดว่าพวกเราทุกคนอยากเห็นของจริง และคิดว่าบ้านพี่ราชิตน่าจะสะดวกต่อการจัดงานมากที่สุด อย่างน้อย ๆ ก็ไม่ต้องจออนุญาติพ่อแม่กัน ดีไหมพวกเรา”

เด็กหนุ่มคนอื่น ๆ หันมองหน้ากัน ไม่มีใครมีท่าทีปฏิเสธ ทุกคนจึงหันไปมองที่ราชิต

“ได้ ๆ ที่บ้านพี่ก็ได้ นัดวันนัดเวลามาแล้วกัน เดี๋ยวพี่ให้หมวดยุทธเขาดูแลจัดการอาหาร เครื่องดื่ม เตรียมเอาไว้ให้”

พวกเด็ก ๆ ต่างร้องเฮกันด้วยความดีใจ

“ได้เลยครับ เรื่องเฮฮาปาร์ตี้ กินฟรี พวกเราไม่พลาดอยู่แล้ว”

“งั้นเดี๋ยวได้ความยังไง ผมประสานเรื่องวัน เวลากับเพื่อน ๆ อีกที แล้วแจ้งพี่ราชิตนะครับ”

ราชิตยิ้มน้อย พยักหน้าตอบรับด้วยความเอ็นดูลูกศิษย์ของเขา เมื่อพูดคุยตกลงกันเสร็จ ราชิตก็เดินออกมาส่งเด็ก ๆ ขึ้นรถตู้ที่ได้จัดเตรียมไว้ส่งเด็ก ๆ แต่ละคนจนถึงบ้าน ติวเตอร์และลูกศิษย์กล่าวลาส่งท้ายกันอีกพักใหญ่ ๆ ก่อนรถตู้จะเคลื่อนออก หลังจากนั้นราชิตจึงกลับเข้าไปร่วมงานต่อ

เย็นวันถัดมา ขณะที่ราชิตกำลังนั่งง่วนอยู่กับงานจนลืมเวลา หมวดยุทธนาที่รี ๆ รอ ๆ อยู่หน้าห้องนานสองนาน ทนไม่ไหว ตัดสินใจเคาะประตูเพื่อเข้าไปหาหัวหน้าของเขาในห้อง

“ยังไม่เลิกทำงานอีกเหรอครับหัวหน้า”

“มีอะไรรึเปล่าหมวด”

ปากเอ่ยถาม แต่สายตาของราชิตเหลือบมองไปด้านนอกหน้าต่าง ทำให้เห็นว่าฟ้าข้างนอกเริ่มมืดลงแล้ว เขาจึงเหลือบสายตามองนาฬิกาข้อมือ จึงเห็นว่าเลยเวลาเลิกงานมาเกือบชั่วโมงแล้ว

“มีที่จะชวนหัวหน้าไปลงพื้นที่สักหน่อยครับ”

“ตอนนี้เนี่ยนะ”

“ใช่ครับ ต้องเป็นตอนนี้เลย เพราะตอนนี้เป็นเวลาที่เราจะได้เห็นความจริงอะไรบางอย่าง”

“หืม...”

ราชิตรู้สึกงุนงงกับการเปิดประเด็นของหมวดยุทธนา แต่ความอยากรู้ทำให้เขาตัดสินใจลุกขึ้นเก็บของไปกับลูกน้องคนสนิท

หมวดยุทธนาพาเขานั่งรถมาถึงท้ายชุมชนที่อยู่ห่างจากสถานีตำรวจเกือบหนึ่งกิโลเมตร แม้จะเป็นพื้นที่ในเมืองหลวง แต่ชุมชนแห่งนี้เป็นชุมชนเก่าแก่ สภาพความเจริญยังไม่เข้ามาสร้างการเปลี่ยนแปลงในพื้นที่มากนัก รถของหมวดยุทธนามาจอดที่บริเวณบ้านลุงมิ่ง ซึ่งมีที่ทางค่อนข้างมาก ผู้ที่นั่งอยู่ในรถทั้งคู่ได้ยินเสียงเพลงดังมาจากบ้านลุงมิ่งตั้งแต่ยังไม่ทันจะลงจากรถ

“ลุงมิ่งแกจัดงานอะไรเหรอเปิดเพลงเสียงดังเทียว”

พอคนในงานเห็นรถหมวดยุทธนาแล่นเข้ามา ก็กุลีกุจอมาที่รถ รวมทั้งลุงมิ่งเจ้าของบ้านด้วย

“ลุงมิ่งเขาจัดงานเลี้ยงให้หัวหน้าน่ะครับ ยินดีกับรางวัลที่ได้ด้วย”

ชาวบ้านในชุมชนละแวกนั้นต่างมารวมตัวกันที่บ้านลุงมิ่งอย่างคับคั่ง พอรู้ว่าลุงมิ่งจะจัดงานเพื่อแสดงความยินดีกับผู้กำกับราชิต แล้วแต่ละคนไม่ได้มามือเปล่า ต่างทำอาหาร ทำขนม มาร่วมงานกันอย่างคับคั่ง นี่สินะ ความจริงที่หมวดยุทธนาบอกเอาไว้ เขาพาเจ้านายของเขามาดูว่ามีคนในชุมชนรักเขามากมายขนาดไหน แม้ราชิตจะอยู่ที่นี่มาได้ไม่ถึง 5 ปี แต่ก็สร้างความเปลี่ยนแปลงในพื้นที่ ทำให้คนในชุมชนอยู่เย็นเป็นสุขกันมากขึ้น เพราะอาชญากรรมที่ลดน้อยลงไป

ราชิตไม่ปล่อยให้ชาวบ้านเข้ามาหาเขา พอลงจากรถเขาเป็นฝ่ายเดินเข้าหาและขอบคุณชาวบ้านที่จัดงานเพื่อแสดงความยินดีกับเขา ผู้หลักผู้ใหญ่ ลูกเล็กเด็กแดง ต่างมาล้อมหน้าล้อมหลัง คุยกับเขาด้วยบรรยากาศที่เปี่ยมสุข

แต่แล้วบรรยากาศที่กำลังดีอยู่นั้นก็เปลี่ยนไปทันที เมื่อรถเก๋งคันใหญ่แล่นเข้ามาจอดภายในบริเวณบ้านของลุงมิ่ง คนที่ลงจากรถมาคือพ่อเลี้ยงชัยณรงค์ ผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ ที่เมื่อสามปีก่อน ต้องเข้าไปนอนในตะราง เพราะการขยายผลจับกุมเรื่องของเถื่อนจากฝีมือของราชิต

พ่อเลี้ยงชัยณรงค์ลากขาเป๋ที่เป็นผลจากการเข้าไปนอนในคุกเดินมาทางที่ผู้กำกับราชิตกำลังคุยอยู่กับชาวบ้าน พอมาถึงเขาก็กล่าวทักทายนายตำรวจหนุ่มคู่ปรับทันที

“ได้ข่าวว่าลุงมิ่งจัดงานฉลองแสดงความยินดีกับผู้กำกับราชิต ผมเลยไม่อยากพลาดการเป็นส่วนหนึ่งของงานนี้ เนื่องจากผมคงเป็นหนึ่งในผลงานชิ้นเอกของผู้กำกับ”

ลุงมิ่งหน้าเสีย มองหน้าราชิตที่ยังคงสีหน้าเรียบเฉยไม่แสดงความรู้สึกอะไรออกมา ก่อนที่จะกลับไปมองหน้าของพ่อเลี้ยงชัยณรงค์ ที่ส่งสายตาเหี้ยมอยู่ภายใต้สีหน้าที่ไม่แสดงความรู้สึกอะไรเช่นกัน

“ยินดีครับพ่อเลี้ยง แต่งานนี้เป็นงานเล็ก ๆ ที่พวกเราชาวบ้านจัดให้กับท่านผู้กำกับ ที่ตลอดเวลาหลายปี ช่วยทำให้ชุมชนที่เสื่อมโทรมของเราดีขึ้น จนตอนนี้สิ่งผิดกฎหมายและความเสื่อมโทรมต่าง ๆ แทบจะหายไปจนหมด พ่อเลี้ยงลองมองไปรอบ ๆ สิครับ แล้วจะเห็นความยินดีปรีดาของชาวบ้านทุก ๆ คนที่มาช่วยงานกันวันนี้”

ลุงมิ่งแม้เสียงจะสั่น แต่แกคิดว่าอย่างน้อย ๆ ก็ยังมีผู้กำกับราชิตอยู่ข้าง ๆ แล้วสิ่งที่แกพูดก็เป็นความจริง และไม่ได้ว่าร้ายใคร แกจึงตัดสินใจพูดออกไปตรง ๆ เพื่อให้อักฝ่ายได้รู้สำนึกเสียบ้าง พ่อเลี้ยงชัยณรงค์พอเจอคำพูดจี้ใจดำก็รู้สึกโมโหจนหน้าดำหน้าแดง เขาหันไปมองรอบ ๆ เห็นสายตาชาวบ้านที่มองมาที่เขาเป็นตาเดียวกัน ท่าทีก็เริ่มเปลี่ยน เขาเลิกสนใจลุงมิ่ง แล้วหันมามองที่ราชิต

“เรื่องระหว่างเรายังไม่จบง่าย ๆ หรอกนะท่านผู้กำกับ มันใกล้จะถึงเวลาสะสางแล้ว”

ว่าแล้วพ่อเลี้ยงชัยณรงค์ก็หุนหันเดินลากขากระเผลกกลับขึ้นรถโดยมีเหล่าลูกน้องตามติดไปไม่ห่าง พอรถแล่นผ่านออกจากบ้านไป เหล่าชาวบ้านก็เดินเข้ามาแสดงความห่วงใยต่อผู้กำกับราชิต จนเขาอดรู้สึกตื้นตันใจไม่ได้

“ผู้กำกับอย่าลืมพกพระรอดที่ผมให้ติดตัวไว้ตลอดเวลาด้วยนะครับ”

ราชิตได้ยินประโยคส่งท้ายของลุงมิ่งก่อนที่เขาจะลากลับเมื่องานเลี้ยงเลิกรา เขาพยักหน้ารับคำ คิดว่าพรุ่งนี้จะเอาพระรอดห้อยกับสร้อยคอที่เขามี เพื่อความสบายใจของทุกคน แต่ด้วยงานที่ยุ่งรุงรัง สุดท้ายพระรอดก็ยังคงถูกวางเอาไว้ที่เดิมบนโต๊ะทำงานของเขา

ราชิตลืมเรื่องพระรอดไปเสียสนิท มันถูกวางกอง ๆ รวมอยู่ที่โต๊ะทำงานของเขาที่เต็มไปด้วยเอกสารกองโตมากมาย จึงทำให้ผู้เป็นเจ้าของหลงลืมและไม่ได้ใส่ใจกับมันอย่างที่ผู้ให้ต้องการ แต่สิ่งที่ราชิตไม่ลิมคือ วันนี้เขามีนัดกับเด็ก ๆ ลูกศิษย์ของเขาในตอนเย็น เพื่อเลี้ยงฉลองการปิดคอร์สนักเรียนออนไลน์รุ่นแรกของเขา

สักช่วงบ่าย ๆ ราชิตให้หมวดยุทธนาออกมาซื้อเสบียงแล้วเข้าไปจัดเตรียมสิ่งของต่าง ๆ ที่บ้านของเขาเอง หมวดยุทธนาโทรรายงานตลอดเมื่อมีลูกศิษย์ของเขาเดินทางมาถึงสถานที่จัดงาน เมื่อถึงเวลาตามที่นัดหมาย ราชิตจึงออกจากสถานีคำรวจเดินทางกลับไปที่บ้านของเขาเพื่อร่วมงาน

เมื่อมาถึง เด็ก ๆ ต่างรอพร้อมอยู่แล้วที่ห้องรับแขก มีเสบียงที่ถูกเปิดกินดื่มกันไปแล้วส่วนหนึ่ง กับที่ยังเหลืออยู่อีกไม่น้อย บ่งบอกว่างานนี้ท่าทางจะยังต่อกันอีกยาว เด็ก ๆ ทุกคนเพิ่งเลิกเรียน พวกเขาจึงสวมชุดนักเรียนกันอยู่ ทันทีที่มาถึง ราชิตก็เข้าร่วมวงสรวลเสเฮฮากับเด็ก ๆ ทันที สักพักเขาก็หันซ้ายแลขวามองหาอะไรบางอย่าง

“หมวดยุทธนาไปไหนล่ะ พี่นึกว่าอยู่ร่วมงานเลี้ยงกับเราด้วย”

“พี่หมวดแกรับโทรศัพท์สายด่วน แล้วก็ขอตัวกลับไปก่อนครับ ไม่รู้แกมีธุระอะไรรึเปล่า เห็นรีบร้อนน่าดู”

เด็กหนุ่มคนหนึ่งเป็นคนตอบคำถามของราชิต

“อ้าวเหรอ น่าเสียดาย น่าจะได้อยู่สนุกด้วยกัน แต่เอาอย่างนี้ดีกว่า พวกเราก็สนุกกันไปก่อนนะ เดี๋ยวพี่ขอไปเปลี่ยนชุดก่อน ชุดตำรวจนี่ใส่นาน ๆ แล้วอึดอัด”

“อย่า ๆ ๆ ครับพี่ราชิต” เสียงเป็ดรีบห้าม

“พี่ใส่แบบนี้เท่มาก ๆ เลยครับ เหมือนวันที่พี่ไปรับรางวัล วันนั้นพี่เป็นไอดอลของพวกเราเลยนะครับ”

“โอ.เค. ได้ ๆ วันนี้วันฉลองความสำเร็จจากการเป็นนักศึกษารุ่นแรกของพวกเรานี่นะ เพราะฉะนั้นวันนี้พี่ตามใจ อยากได้อะไรบอก เดี๋ยวพี่จัดให้”

เด็ก ๆ ต่างร้องเฮด้วยความดีใจ

“จริง ๆ นะครับพี่ราชิต พี่รับปากแล้วนะครับ”

อยู่ ๆ คำพูดของเด็กคนหนึ่งก็ทำให้ราชิตขนลุกเกรียว เพราะหวนไปถึงเด็กอีกคนที่ควรจะอยู่ตรงนี้ ในวันนี้ร่วมกับเด็กคนอื่น ๆ และเคยพูดประโยคแบบนี้กับเขามาก่อน

ราชิตรีบสลัดความคิดนั้นออกจากหัวแล้วกลับมาสนุกกับเด็ก ๆ คนอื่น ๆ ต่อ

เมื่อกิน ดื่ม สนุกสนานเฮฮาปาร์ตี้กันได้ที่ประมาณหนึ่งแล้ว เด็ก ๆ ก็ขอให้ราชิตพาชมบ้าน พาไปดูห้องที่เขาใช้เป็นสถานที่ในการไลฟ์โค้ชออนไลน์ แล้วก็บอกให้ราชิตทำหน้าที่สอนให้ดูเป็นตัวอย่าง โดยมีเด็ก ๆ เก็บภาพของครูพวกเขาขณะกำลังสอนไว้เป็นที่ระลึก

หลังจากนั้นเด็ก ๆ ก็ขอให้ราชิตพาไปชมห้องฟิตเนส สถานที่ออกกำลังกาย ที่ราชิตใช้เป็นที่สาธิตวิธีการบริหาร ฝึกร่างกายให้แข็งแกร่งเพื่อเตรียมรับมือกับการทดสอบร่างกายในการฝึกภายในโรงเรียนฝึกนายร้อยตำรวจ

เด็ก ๆ ต่างร้องขอให้ราชิตสาธิตท่าออกกำลังกายให้ดูอีกครั้ง คราวนี้ราชิตต้องถอดเสื้อสีกากีของเขาออกจากตัว เหลือแต่เสื้อในสีขาวคอสีเลือดหมู เพื่อความทะมัดทะแมงในการออกกายบริหาร ในครั้งแรก ราชิตออกกำลังท่าง่าย ๆ ด้วยการวิดพื้น ซิตอัพให้เด็ก ๆ ได้ดู แต่รู้สึกว่ากางเกงสีกากีตัวฟิตนั้นจะเป็นอุสรรคในการออกทืออกทางอยู่ไม่น้อย

“ผมว่าพี่ราชิตเปลี่ยนกางเกงดีกว่ามั่ยครับ ผมเห็นกางเกงตัวนี้พอดี น่าจะเป็นของพี่ใช่มั้ยครับ”

มันคือมันกางเกงออกกำลังกายแบบแนบเนื้อขาสั้นสีน้ำเงินเข้ม ตัวเดียวกับที่ก้องเกียรติยื่นให้กับเขา

“เออ ใช่ ของพี่เอง”

ราชิตเอื้อมมือออกไปรับด้วยมืออันสั่นเทาเล็กน้อย

“เดี๋ยวพี่ไปเปลี่ยนก่อนนะ”

“เปลี่ยนตรงนี้ก็ได้ครับ พวกเราผู้ชายด้วยกันทั้งนั้น ใช่มั้ยทุกคน”

“ใช่”

เด็ก ๆ ตอบพร้อมกันแล้วหัวเราะออกมาอย่างสนุกสนาน

ราชิตมองหน้าเด็ก ๆ ทีละคน เขาเริ่มรู้สึกอึดอัดกับอะไรบางอย่าง แต่ไม่อยากทำลายบรรยากาศความสนุก และไม่คิดว่าเหตุการณ์อัปยศอย่างวันนั้นจะเกิดขึ้นมาซ้ำรอยอีก อย่างน้อยก็เป็นเพราะวันนี้มีเด็ก ๆ อยู่ด้วยกันหลายคน สุดท้ายเขาจึงยอมปลดกางเกงสีกากีลงตรงนั้น

ราชิตเห็นสายตาของเด็ก ๆ ที่มองมาที่เขาแล้วขนลุกเกรียว ตอนนี้ตัวเขามีเพียงเสื้อยืดตำรวจสีขาวปกปิดร่างกายท่อนบน ส่วนท่อนล่างตอนนี้ปราศจากกางเกงขายาวสีกากีแล้ว เหลือเพียงกางเกงชั้นในแบบบิกินี่สีขาวเพียงตัวเดียวเท่านั้น แถมกางเกงในเจ้ากรรมที่ใส่วันนี้ก็ดันตัวเล็กจิ๋วและกระชับสัดส่วนจนคนที่เห็นแทบไม่ต้องจินตนาการอะไรเลย

ราชิตรีบหยิบกางเกงขาสั้นแบนเนื้อนั้นมาใส่ทับทันที แล้วรีบเดินไปที่เครื่องออกกำลังกาย คือม้านั่งยกน้ำหนัก และลงมือสาธิตวิธีการออกกำลังกายให้กับเด็ก ๆ ต่อ ในขณะที่หัวพยายามสลัดความคิดฟุ้งซ่านที่ทำให้เกิดความกลัวทั้งหลายทิ้งไป

เด็ก ๆ มายืนมุงล้อมรอบตัวเขา หลายคนหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาบันทึกภาพการสาธิตของนายตำรวจหนุ่มใหญ่ ยิ่งทำให้ราชิตรู้สึกเกร็งขึ้นไปอีก เขาพยายามไม่มองไปที่เด็ก ๆ และทำสมาธิให้สนใจอยู่แต่กับการออกท่าทางออกกำลังกาย แต่พอเขาเผลอมองไป ก็เห็นเด็กบางคนส่องมือถืออยู่ที่จุดบางจุดของร่างกายเขา มันคือจุดตรงกึ่งกลางลำตัว เขาเห็นมือถือนั้นพยายามสอดส่ายหามุมในการถ่ายเพื่อให้ได้ภาพอะไรบางอย่างตามที่ต้องการ สุดท้ายราชิตทนไม่ไหว เขาจึงหยุดการสาธิต และเด็ก ๆ เริ่มแตกฮือออกจากวงไป

“พี่ราชิตสาธิตการว่ายน้ำให้เราดูต่อสิครับ”

ราชิตหันไปมองตามเสียงของเป็ดที่ดังขึ้น เด็กหนุ่มยืนอยู่ที่ริมสระจากุชชี่อยู่แล้ว

“มันเป็นสระจากุชชี่เล็ก ๆ ไม่น่าจะสาธิตการว่ายได้หรอกเป็ด”

ราชิตตอบกลับลูกษิษย์ของเขา

“ไม่เป็นไรครับ แค่พี่ราชิตลงไปทำท่าให้พวกเราดูก็พอครับ การสอบเข้าโรงเรียนนายร้อยตำรวจต้องมีการสอบว่ายน้ำด้วยไม่ใช่เหรอครับ อย่างน้อย ๆ พวกเราจะได้มีทักษะการว่ายน้ำที่ถูกวิธีไว้ติดตัวกัน”

ลูกศิษย์ตัวน้อยคนอื่น ๆ รีบสนุนข้อเสนอของเป็ดทันที ราชิตรู้สึกว่าเขาปฏิเสธสิ่งที่ถูกร้องขอได้ยากอีกแล้ว

“นี่ครับ พี่ราชิต ชุดว่ายน้ำของพี่”

กางเกงว่ายน้ำบิกินี่แบบเนื้อผ้ายืดสีส้มสดตัวนั้นถูกยื่นมาตรงหน้าเขา

“พี่เปลี่ยนชุดตรงนี้เลยครับ นายร้อยตำรวจไม่น่าเขินที่ต้องเปลือยร่างกายต่อหน้าเพื่อนนักเรียนด้วยกันใช่มั้ยครับ”

ข้อเสนอของเป็ดทำให้ราชิตเหงื่อแตกซิกทันที

ราชิตเอื้อมมืออันสั่นเทาไปรับกางเกงว่ายน้ำตัวนั้นมา เขามองเด็ก ๆ ที่ยินห้อมล้อมมองมาที่เขาเป็นจุดเดียว ก่อนจะค่อย ๆ ถอเสื้อยืดขาวออกจากตัว เผยให้เห็นร่างเปลือยเปล่าท่อนบนที่แกร่งไปด้วยมัดกล้ามและลอนซิกแพ็ค เด็ก ๆ ต่างร้องโอ้โห ตื่นเต้นกับภาพที่เห็น

ราชิตค่อย ๆ ถอดกางเกงขาสั้นแนบเนื้อสีน้ำเงินตามต่อทันที ตอนนี้เขาสวมเพียงกางเกงชั้นในบิกินี่สีขาวเพียงตัวเดียว เป้าตุง ๆ นั้นเด้งเด่นสู่สายตาของเด็ก ๆ ทุกคนในห้องนั้น ทุกคนต่างลุ้นรอเวลาที่กางเกงในตัวน้อยนั้นจะหลุดออกจากร่างของผู้สวมใส่ แต่ทุกคนต่างก็ต้องผิดหวังเล็ก ๆ เมื่อราชิตตัดสินใจหันหลังให้กับทุกคน ตอนที่ถอดมันออกจากร่างของเขา

แต่กระนั้นเด็กทุกคนก็ได้เห็นตูดแน่น ๆ ของนายตำรวจหนุ่มใหญ่ ตูดที่แน่นเป็นก้อนกลมแสดงให้เห็นถึงความฟิตของร่างกายผู้เป็นเจ้าของ มันจึงเรียกเสียงฮือฮาของเด็ก ๆ ได้อีกคำรบหนึ่ง

แต่ราชิตไม่รอช้า เขารีบใส่กางเกงว่ายน้ำตัวน้อยทันที แต่ช่วงเวลายกขาขึ้นลงและก้มลงใส่แค่เสี้ยววินาทีนั้น ก็เผยให้เห็นร่องก้นที่มีขนอ่อน ๆ ขึ้นรำไร และไม่พลาดที่เด็กหนุ่มบางคนจะบันทึกช็อตนั้นเอาไว้ได้

พอใส่กางเกงว่ายน้ำเสน็จ ราชิตก็ลงไปแหวกว่ายในสระว่ายน้ำขนาดเล็กทันที เขาสาธิตวิธีการว่ายน้ำที่จะไม่ต้องโหมแรงมาก และสามารถใช้พยุงตัวเพื่อให้ผ่านการทดสอบตามขั้นตอนการสอบของโรงเรียนนายร้อยตำรวจให้ได้ เด็ก ๆ ดูจะสนใจกับการสาธิตเป็นอย่างมาก ต่างสอบถามเขาถึงเทคนิคต่าง ๆ ทำให้ราชิตคลายความกังวลและกดดันลงไปมาก

เมื่อเสร็จการสาธิต ราชิตเดินขึ้นมาจากสระ กางเกงว่ายน้ำที่เปียกน้ำยิ่งแนบเนื้อทำให้เห็นอะไรต่อมิอะไรแบบแทบไม่ต้องจินตนาการ ราชิตจึงรีบเดินจะไปเปลี่ยนเสื้อผ้าหรืออย่างน้อยหาชุดคลุมมาใส่เพื่อปกปิดร่างกายไม่ให้ต้องอนาจารต่อหน้าเด็ก ๆ

แต่ ตู้เสื้อผ้า ไม่มีชุดอะไรเหลืออยู่เลย

ราชิตตกใจ มันเกิดอะไรขึ้น

เขามองไปที่กองชุดเสื้อผ้าที่เขาถอดออกเมื่อสักครู่ ก็ไม่เห็นมันอยู่ที่เดิม

“พี่ราชิตครับ พวกผมมีเรื่องอยากจะถามพี่ราชิตสักหน่อยครับ”

“มีอะไรล่ะ”

ราชิตเสียงอ่อน ตอบกลับมาจากตรงตู้เสื้อผ้า

“มาตรงนี้สิครับ พวกเรารออยู่ตรงนี้”

พวกเด็ก ๆ นั่งอยู่กับพื้น ล้อมรอบตัวม้านั่งสำหรับยกน้ำหนักที่ราชิตเพิ่งนั่งสาธิตการออกกำลังกายอยู่เมื่อครู่

ราชิตในชุดกางเกงว่ายน้ำบิกินี่แนบเนื้อค่อย ๆ เดินมานั่งที่ม้านั่งตรงหน้าเด็ก ๆ ตอนนี้ที่ระดับสายตาของเด็ก ๆ คือเป้ากางเกงว่ายน้ำของนายตำรวจหนุ่มใหญ่นั่นเอง

เด็ก ๆ ต่างรุมถามถึงการใช้ชีวิตภายในรั้วโรงเรียนตำรวจในเรื่องต่าง ๆ ราชิตก็ตอบไปตามประสบการณ์จริงที่เขาเคยสัมผัส คำถามนั้น ไปถึงคำถามนี้ จนมาถึงคำถามที่ทำให้เขาต้องอึ้ง

“แล้วตอนที่อยู่ในโรงเรียน เวลาเกิดอารมณ์ทางเพศ พวกพี่ปลดปล่อยมันกันยังไงครับ”

ราชิตรู้สึกลำคอของเขาแห้งผากขึ้นมาทันที

“เราไม่มีเวลามาเกิดอารมณ์อะไรในนั้นหรอก เพราะการฝึกมันค่อนข้างหนัก แล้วในนั้นก็มีแต่ผู้ชายด้วยกัน เห็นกันทุกวันไม่ทำให้เกิดอารมณ์อะไรหรอก”

“แต่อยู่ตั้งหลายปี มันต้องมีช่วงที่พี่เกิดอารมณ์บ้างใช่มั้ยครับ พี่หาทางระบายออกยังไง”

“ก็เข้าห้องน้ำ แล้วช่วยตัวเองแบบที่ผู้ชายเขาทำกัน อายุขนาดนี้แล้ว พวกเราน่าจะรู้ใช่มั้ยว่าทำยังไง”

“รู้ครับ แต่ยังไม่แน่ใจว่าที่ทำ ๆ กันมันถูกวิธีไหม พี่ราชิตจะช่วยสาธิตให้เราดูสักหน่อยได้ไหมครับ”

“เฮ้ย สาธิตยังไง”

“ก็ชักว่าวให้เราดูตรงนี้ไงครับ”

“เฮ้ย ไม่ใช่แล้ว จะให้พี่ชักว่าวให้พวกเราดูได้ยังไง”

ราชิตโวยวายออกมา แล้วทำท่าจะลุกจบกิจกรรมในวันนี้ แต่ถูกเป็ดแทรกขึ้นก่อน

“แต่กับก้องเกียรติพี่ยังทำให้มันดูเลย”

ราชิตชะงักทันที เขาหันมามองที่เป็ดด้วยท่าทีตกตะตึง คอนนี้เด็กหนุ่มเปิดคลิปจากมือถือตัวเอง เผยให้เห็นภาพของนายตำรวจหนุ่มใหญ่กำลังเอามือสาวควยตัวเองรัว ๆ อยู่บนเตียงภายในห้องนอนของเขา

“เฮ้ย ไปถ่ายมาได้ยังไง”

ภาพตัดมาเผยให้เห็นมุมที่ปลายเตียง ก้องเกียตินั่งอยู่ตรงนั้น ดูจากมุมที่นั่ง สายตาของก้องเกียรติต้องกำลังมองไปที่เตียงที่ราชิตกำลังสาวควยช่วยตัวเองอยู่แน่ ๆ

แต่ภาพทั้งวองภาพนี้มาได้อย่างไร เขาไม่เคยช่วยตัวเองโดยมีใครนั่งมองอยู่แน่ ๆ

มันคือภาพตัดต่อ

มันต้องมีกล้องแอบถ่ายอยู่ในห้องนอน

และมีกล้องที่ก้องเกียรติตั้งใจถ่ายภาพตัวเองเอาไว้ด้วย

กล้องต้องถูกแอบเอามาวางไว้วันแรกที่ก้องเกียรติมา และถูกเก็บเอากลับไปใช้งานวันที่สองที่เขากลับมาทำเรื่องชวนอัปยศนั้น

ขาของราชิตอ่อนแรงลงทันที เขาทรุดตัวลงนั่งลงที่เดิม รู้สึกพ่ายแพ้ต่อเด็ก ๆ พวกนี้อย่างย่อยยับ

“พวกนายทำอย่างนี้กันทำไม”

“พี่ราชิตครับ ถอดกางเกงแล้วสาธิตการชักว่าวให้เราดูเถอะครับ อย่าให้พวกเราต้องเสียเวลา นั่ก็เย็นมากแล้ว เดี๋ยวพ่อแม่เป็นห่วงจะมาตามถึงบ้านพี่ แล้วมาเห็นภาพอะไรแบบนี้ พวกผมไม่ร่วมรับผิดของด้วยนะครับ”

ราชิตถูกสั่งให้นั่งแหกขาต่อหน้าเด็ก ๆ ที่เป็นลูกศิษย์ของเขา จากมุมที่เด็ก ๆ นั่งอยู่ ทุกคนเห็นร่างกายทุกส่วนสัดของนายตำรวจหนุ่มแบบเต็ม ๆ รวมไปถึงรูตูดที่มีขนขึ้นรำไรนั้นด้วย

“เริ่มสาธิตการชักว่าวได้เลยครับ”

ราชิตเอามือของเขาสาวท่อนลำที่ตอนนี้หดตัวอยู่ เขาค่อย ๆ รูดมันขึ้นลงอย่างช้า ๆ ใบหน้าของเขาไม่แสดงอารมณ์ความรู้สึกใด ๆ

“ถ้าพี่ราชิตยังไม่เต็มจะทำให้เราดูแบบนี้ สงสัยคลิปนี้จะไปโผล่ในโลกออนไลน์แน่ ๆ เลยครับ”

ราชิตได้ยินอย่างนั้น เขาจึงเร่งมือสาวท่อนควยของเขาให้ขึ้นลำโดยเร็ว เพียงไม่นานควยเล็ก ๆ นั้นก็ตั้งลำตระหง่านขึ้นมาท้าทายสายตาทุกคู่ที่อยู่ตรงนั้น ใบหน้าจากที่เรียบเฉยเริ่มมีอารมณ์ขึ้นมาทีละนิด ๆ จนสุดท้าย ราชิตถูกอำนาจมืดครอบงำ เพลิงกิเลสในรสกามารมณ์ทำให้เค้าเคลิบเคลิ้มลืมอาย ความรู้สึกเสียวซ่านเข้ามาแทน เพราะการได้ชักว่าวสาวควยโชว์ต่อหน้าสายตาของเด็ก ๆ ที่จ้องมองเค้าอย่างหื่นกระหาย ยิ่งมีมือถือมาถ่ายจ่อที่ใบหน้า ลำตัว และลำควยเขาอย่างใกล้ชิด ยิ่งทำให้ใจเขาเตลิด จะมีคนอีกกี่คนกันนะ ที่จะได้เห็นกามกิจวิตถารของเขาแบบนี้ ยิ่งคิดราชิตก็ยิ่งมีอารมณ์ เขาเร่งสาวควยของเขาขึ้นลงพัลวัน ยิ่งเร่ง ยิ่งเสียง ยิ่งเสียว ยิ่งร้องครางดังขึ้น ๆ เรื่อย ๆ สุดท้ายทำนบกั้นก็พังทลาย ชายหนุ่มลุกขึ้นยืนพ่นลาวาขาวข้นจำนวนมหาศาลพุ่งทะยานออกจากลำควยไปทั่วห้อง สร้างความตื่นตะลึงให้กับเด็ก ๆ เป็นอย่างมาก ทุกคนต่างวิ่งหลบหนีน้ำลาวานั้นกันจ้าละหวั่น ขณะที่เจ้าตัวหลังรีดลาวาออกร่างจนหมดสิ้น ก็ฟุบลงไปนอนพังพาบราบไปกับม้านั่งอย่างหมดเรี่ยวแรง

“ผู้กำกับราชิต ผมขอจับกุมคุณข้อหากระทำอนาจารกับเยาวชนที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ และขอเก็บหลักฐานที่คาอยู่ที่ตัวคุณ”

เสียงคุ้น ๆ ทำให้ราชิตที่นอนหมดเรี่ยวแรงต้องลุกขึ้นมามองดูที่ต้นเสียง

เขาเห็นหมวดยุทธนายืนอยู่ตรงหน้า กำลังใช้มือถือถ่ายภาพร่างกายที่เปรอะเปื้อนคาวน้ำกามเก็บไว้เป็นหลักฐาน

ความรู้สึกของราชิตตอนนี้คือ อาชีพนายตำรวจที่แสนจะภาคภูมิใจของเขาคงหมดสิ้นกันแต่เพียงเท่านี้ แล้วราชิตก็หมดสติไปหลังจากนั้น

วันถัดมา ราชิตถูกสอบสวนหนักอยู่ภายในสถานีตำรวจที่ก่อนหน้านี้เขาเป็นคนที่มีอำนาจสูงสุดอยู่ในที่แห่งนี้ เป็นคนที่ทำหน้าที่ปกครองลูกน้องที่อยู่ภายใต้บังคับบัญชาหลายสิบคน แต่วันนี้เขากลายเป็นผู้ต้องหาเสียเอง ในคดีกระทำอนาจารเด็ก ที่สำคัญคือเด็ก ๆ เหล่านั้น คือเด็กที่เขาเป็นครูสอน และเมื่อไม่กี่วันก่อนเพิ่งไปร่วมแสดงความยินดีในงานรับรางวัลของนายตำรวจหนุ่มใหญ่อยู่เลย

หนึ่งในคนที่ทำหน้าที่สอบสวนคือหมวดยุทธนา ที่เฝ้าสังเกตและเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยตลอด ซึ่งก่อนหน้านี้หมวดยุทธนาได้รับหลักฐานชิ้นสำคัญที่เด็กคนหนึ่งส่งให้เขา คือคลิปที่ผู้กำกับราชิตกระทำการอนาจารกับก้องเกียรติ ลูกศิษย์ที่หายไปของเขา

ราชิตได้เห็นคลิปที่เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก มันถูกเปิดต่อหน้าลูกน้องของเขาหลาย ๆ คน

“ไม่คิดเลยว่าผู้กำกับจะมีรสนิยมแบบนี้ แต่การทำแบบนี้กับเยาวชน ผู้กำกับน่าจะรู้นะว่ามันผิด แล้วเด็ก ๆ พวกนี้ก็เป็นลูกศิษย์ตัวเองแท้ ๆ ไม่น่าสมเพชไปหน่อยเหรอ”

“ดูควยสิ แข็งขนาดนี้ ท่าทางจะชอบกินเด็กแน่ ๆ”

“เออ กูก็เห็นว่าไม่แต่งงาน นึกว่าทำงานหนักจนไม่มีเวลา แต่ความจริงคือไม่ชอบกินหอยนี่เอง”

“พวกมึงนี่จะวิจารณ์อะไร เห็นแก่ความเป็นหัวหน้าเก่าของเขาบ้าง ฮ่า ๆ ๆ”

“เดี๋ยววันนี้มันก็หมดอำนาจ กลายเป็นผู้ต้องหาแล้ว”

ราชิตต้องทนมองคนเหล่านี้ดูภาพของเขาบนจอ และต้องทนฟังคำเหยีนดหยามต่าง ๆ นานา เขาไม่นึกเลยว่าพอเขาตกเป็นผุ้ต้องหา คนที่เคยเป็นลูกน้องของเขาแม้ ๆ จะกระทำกับเขาแบบนี้

เขาได้รับรู้ความจริงว่า กล้องที่เปิดเอาไว้นั้น มันถูกเชื่อมต่ออินเทอร์เนตไว้ และสิ่งที่ก้องเกียรติทำกับเขานั้น มันถูกถ่ายทอดสดไปถึงเด็กนักเรียนของเขาทุกคน และเด็ก ๆ เก็บความลับเรื่องนี้ไว้เพื่อรอจัดการกับเขาวันนี้ และไฟล์ที่เขาทำลายทิ้งไปนั้น เป็นไฟล์อื่นที่ก้องเกียรติแกล้งสับเปลี่ยนให้กับเขา และแอบเอาไฟล์จริงกลับไปด้วย เขาพลาดเองที่ไว้ใจเด็กเหล่านี้ พลาดเองที่รีบลบไฟล์โดยไม่เช็คให้ดีก่อนว่าเป็นคลิปจริงหรือไม่

แต่สิ่งที่เขาไม่เข้าใจคือ เด็กพวกนี้ทำกับเขาแบบนื้ทำไม

ขณะที่ความสงสัยยังไม่กระจ่าง หมวดยุทธนาถูกเรียกตัวออกไปรับโทรศัพท์จากส่วนกลาง ก่อนที่จะกลับมาพร้อมข้อเสนอบางอย่างสำหรับราชิต

ราชิตเก็บของใช้ส่วนตัวอยู่ภายในห้องทำงานของเขา ทางสำหนักงานตำรวจส่วนกลางตัดสินใจไม่ดำเนินคดีกับเขา เพราะไม่อยากให้วงการตำรวจเสื่อมเสียชื่อเสียง โดยแลกกับการให้ราชิตลาออกจากการเป็นข้าราชการตำรวจโดยไม่ได้รับบำเน็จบำนาญตั้งแต่วันนี้ ราชิตจึงต้องมาเก็บข้างของกลับบ้านทันที

ระหว่างเก็บของ เขาพบพระรอดวางอยู่รวม ๆ กับกลุ่มข้าวของอื่น ๆ พระรอดที่ลุงมิ่งให้มาแต่เขากลับไม่สนใจ ราชิตเก็บพระรอดใส่ลงกล่องข้าวของที่เขาจะขนกลับ เมื่อเก็บข้าวของเสร็จ เขาจึงหันไปหาหมวดยุทธนาที่มาทำหน้าที่นั่งเฝ้าเขาอยู่ หมวดยุทธนาเดินตรงเข้ามาหาอดีตหัวหน้า แต่ขณะที่ราชิตกำลังจะเดินออกจากห้องไป หมวดยุทธนากลับเข้ามาขวางหน้าไว้

“ผมได้รับคำสั่งว่า ให้คุณต้องถอดยศและคืนของที่เป็นของหลวงทั้งหมดคืนด้วย คุณราชิต ผมขออนุญาติถอดชุดคุณออกนะ”

ว่าแล้วหมวดยุทธนาก็ค่อย ๆ เปลื้องผ้า ถอดเครื่องแบบชุดตำรวจออกจากตัวราชิต จากเสื้อกากี เป็นกางเกงกากีขายาว และเสื้อยืดขาวชั้นใน จนร่างของราชิตเหลือแค่กางเกงชั้นในตัวเดียวติดกาย

อดีตผู้กำกับราชิตพยายามคุมสติ ไม่ไหวหวั่นต่อความเสื่อมเสียใด ๆ ที่เกิดขึ้นกับเขา เขาหยิบกล่องสัมภาระจะก้าวเดินออกไปทั้งสภาพนั้น แต่สุดท้ายก็ภูกทักท้วงอีก

“กางเกงชั้นในนั้น น่าจะใช้เงินที่ได้จากภาษี เพราะฉะนั้นผมคงต้องขออนุญาติยึดมันไว้ด้วย”

ว่าแล้วหมวดยุทธนาก็ตรงเข้ามาถอดกางเกงชั้นในออกจากตัวของผู้กำกับราชิตจนเหลือแต่ตัวเปลือยเปล่า

“ของในกล่องนี้ก็ด้วย”

หมวดยุทธนาคว้าเอากล่องไป แต่ก็ควานเหรียญพระรอดส่งคืนให้กับราชิต

“ผมยกเว้นอันนี้ให้”

ราชิตกำเหรียญพระรอดเดินคอตกออกจากห้องในสภาพเปลือยเปล่า โชว์ทั้งควย โชว์ทั้งตูด ให้ลูกน้องในสถานีตำรวจได้เห็น เป็นที่ขบขัน ล้อเลียน สนุกปากทุก ๆ คน จากที่เขาคิดว่าจะเดินออกมาอย่างสิงห์ ตอนนี้เขาไม่เหลือศักดิ์ศรีใด ๆ ถูกล้อเลียนเหยียดหยาม มีสภาพตกต่ำน่าเวทนายิ่งกว่าหมาเสียอีก

เขาก้าวออกมานอกตัวสถานีตำรวจ ยืนคว้าง สายตามองไปรอบ ๆ ดีที่ไม่มีใครอยู่ใกล้ละแวกนั้น เขาไม่รู้ว่าจะไปจากที่นี่ได้อย่างไรในสภาพเปลือยเปล่าแบบนี้

จนจู่ ๆ มีรถคันหนึ่งแล่นมาจอดตรงหน้าเขา มันคือรถลีมูซีนคันยาวโออ่า และประตูที่เปิดออกมาด้านคนนั่งตอนหลังเผยให้เห็นคนที่อยู่ในรถ

พ่อเลี้ยงชัยณรงค์

ราชิตถูกพามาที่คฤหาสน์ของพ่อเลี่ยงชัยณรงค์ในสภาพเปลือยเปล่า พ่อเลี้ยงชัยณรงค์พาอดึตนายตำรวจหนุ่มมาหยุดยืนที่โถงกลางบ้าน ยืนแก้ผ้าโชว์ควยต่อหน้าทุก ๆ คนในบ้าน และแนะนำเขาในฐานะลูกสมุนคนใหม่

เขาเห็นสายตาชวนสมเพชของลูกน้อง คนรับใช้ในบ้านที่มองมาที่เขา ขณะที่พ่อเลี่ยงหัวเราะอย่างเบิกบานใจที่แผนการที่วางไว้บรรลุผล และทำให้อดีตนายตำรวจที่เป็นคู่ปรับต้องยอมสิโรราบกับเขา

“ทั้งนี้ทั้งนั้น แผนการนี้จะสำเร็จไปไม่ได้ถ้าไม่ได้ลูกชายผมมาช่วย ผู้กำกับคงรู้จักลูกชายผมดีแล้ว”

ราชิตหันกลับไปตามสายตาของพ่อเลี้ยงที่มองจ้องไปที่ผู้มาใหม่ เขาตัวชาขึ้นมาทันที

“เป็ด”

“ไม่นึกใช่มั้ยครับว่าแผนทั้งหมดมาจากผมเอง”

เป็ด ที่ตอนนี้ร่างทั้งร่างเปลือยเปล่า กำลังเอาท่อนควยของเขาเสียบเข้าออกที่รูตูดของอดีตครูของเขาที่ตอนนี้มือและขาทั้งสองข้างถูกจับขึงพืดอยู่บนเตียงขนาดใหญ่ในห้องนอนของเป็ด ไม่ไกลมีลูกสมุนพ่อเลี้ยงสามคน ยืนรักษาความปลอดภัยให้กับลูกชายของเจ้านายอยู่

“ไม่นึกว่าอะไรมันจะง่ายขนาดนี้ รวมทั้งการได้เย็ดนายตำรวจอย่างคุณด้วย เมื่อไม่กี้วันก่อนคุณยังสอนหนังสือพวกเราในชุดเครื่องแบบตำรวจเต็มยศอยู่เลยแท้ ๆ แถมยังเพิ่งได้รางวัลจากการสอนพวกผมอีก ตอนนั้นคงภูมิใจตัวเองน่าดูเลยสินะ แล้วตอนนี้เป็นยังไง อายมั้ยที่ต้องมาโดนเด็กที่ตัวเองสอน เย้ดตูดแบบนี้ แถมโดนเย็ดต่อหน้าลผุกน้องของคนที่เคยโดนคุณจับเข้าคุกอีก ผมนี่แม่งโคตรสะใจเลย อยากรู้จังว่าถ้าเพื่อน ๆ ลูกน้องคุณมาเห็นคุณตอนนี้ เขาจะรู้สึกยังไง คงสมเพชคุณน่าดู งานนี้ต้องขอบคุณก้องเกียรติ เด็กรับใช้ในบ้านผมเองที่ช่วยจนมีวันนี้ ทำให้นายตำรวจที่แสนองอาจทนงตนได้รู้ว่าจริง ๆ มึงนั่นแหล่ะที่เป็นคนโง่ที่สุดในเกมนี้”

ราชิตรู้สึกทั้งเจ็บปวดทั้งอับอายกับทุกคำพูดของเป็ด ยิ่งเมื่อเห็นวก้องเกียรติเดินออกมาจากประตูห้องลับเขายิ่งรีบเบือนหน้าหนีไม่กล้าสบสายตาเด็กหนุ่ม

“เขาจะเป็นคนรับเดนของผมต่อไป”

ว่าแล้วเป็ดก็กระหน่ำเย็ดราชิตต่อไปอย่างเมามัน โดยที่นายตำรวจหนุ่มไม่สามารถเอื้อนเอ่ยอะไรได้ เพราะถูกปิดปากด้วยผ้าผืนใหญ่ เขาเผลอหันไปมองก้องเกียรติที่มองเขาอยู่ น้ำตาลูกผู้ชายไหลรินจากหางตานายตำรวจหนุ่มใหญ่

ไม่นานหลังจากนั้น พ่อเลี้ยงชัยณรงค์ก็จัดงานเลี้ยงใหญ่โตที่คฤหาน์หลังงาม เชิญชวนผู้คนในละแวกนั้นมากันอย่างคับคั่ง เหมือนจะปรกาศศักดาความเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่นี้อีกครั้ง

ผู้กำกับการสถานีตำรวจคนใหม่ที่ถูกส่งมาแทนราชิต นำกระเช้าของขวัญมาแสดงความยินดีกับพ่อเลี้ยง ราชิตเห็นสายตาชวนสมเพชของอดีตลูกน้องมองมาที่เขาที่ยื่นมารับกระเช้าแทนพ่อเลี้ยง เขารู้สึกอาบแทบแทรกแผ่นดินหนี

งานเลี้ยงดำเนินไปด้วยดี จนกลุ่มชาวบ้านทยอยมา หนึ่งในนั้นคือลุงมิ่งที่จำใจมาแสเงความยินดีกับพ่อเลี้ยงชัยณรงค์ พ่อเลี้ยงรีบพาราชิตมาแนะนำหับชาวบ้านในฐานะลูกน้องคนใหม่ แล้วรีบพาไปยืนต่อหน้าลุงมิ่ง แล้วสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น

ลุงมิ่งถ่มน้ำลายใส่หน้าราชิตโดยไม่ทันตั้งตัว เขาหลบไม่ทัน น้ำลายนั้นคาอยู่ที่หน้าอดีตนายตำรวจหนุ่มใหญ่ แล้วลุงมิ่งจึงกระชากเหรียญพระรอดที่ราชิตคล้องติดคอจนสร้อยขาด แล้วจึงเดินจากไปด้วยความโมโห ที่เห็นนายตำรวจที่เขาเคยคิดว่าจะเป็นคนดี กลับไปก้มหัวยอมเป็นลูกน้องของพ่อเลี้ยง คนที่ชาวบ้านเกลียดแสนเกลียดไปเสียได้

สิ่งที่เกิดขึ้นสร้างความสะใจให้ทุกคนตรงนั้น พ่อเลี้ยงชัยณรงค์หัวเราะด้วยเสียงอันดัง

ขณะที่ราชิต หมดสิ้นแล้วซึ่งศักดิ์ศรีความเป็นคน