เกียร์เฉือนคม

“จะเอางั้นจริงๆ เหรอพี่ คณะเราเลิกรับน้องแบบนั้นน่าจะเกือบสิบปีแล้ว สมัยนี้พวกสื่อพวกโซเชียลมันแรงจะตาย เป็นข่าวขึ้นมาชื่อเสียงคณะเสียหายแน่” บัสประธานรุ่นปีสามของคณะวิศวะแย้งขึ้น ทั้งๆ ที่เกรงคนตรงหน้าจนเสียงสั่น

“มึงคิดว่ามึงเป็นใครถึงจะมาเถียงกู ก็เป็นซะอย่างนี้ ความสามัคคีกันในรุ่นไม่มี กูไปดูพวกมึงว้ากแล้วเหมือนเล่นขายของ พวกรุ่นน้องถึงไม่เห็นหัวรุ่นพี่ แต่ละตัวโคตรน่าหมั่นไส้ ยิ่งพวกที่มาจากกรุงเทพ อยู่ปีหนึ่งแท้ๆ มาทำตัวกร่างอวดรวย ถ้ามึงขัดกูอีกครั้งเดียวกูจะให้พวกปีสามโดนรับน้องพร้อมกับปีหนึ่งไปด้วยเลย แล้วมึงต้องโดนหนักกว่าเพื่อน”

ประธานรุ่นปีสามโดนตะคอกใส่จนเขาต้องยกมือไหว้ แสนเป็นรุ่นพี่ที่เขาทั้งนับถือทั้งยำเกรง จริงๆ ตำแหน่งประธานรุ่นปีสี่วิศวะอย่างแสนก็ไม่ได้มีอำนาจมากมายอะไรจนทุกคนต้องหงออย่างที่เป็นอยู่ แต่วีรกรรมที่แสนสามารถสยบขั้วอำนาจในมหาลัยนี้ได้ตั้งแต่ยังไม่ทันขึ้นปีสามจนทำให้มหาลัยต่างจังหวัดที่มีเหตุตีกันเป็นประจำแห่งนี้สงบลงได้ต่างหากที่ทำให้แสนได้รับการเคารพยกย่องจากทุกคนรวมถึงตัวบัสด้วย ก่อนหน้านี้ไม่รู้กี่ยุคกี่สมัยจะมีการยกพวกตีกันอยู่เป็นประจำระหว่างคณะวิศวะกับกลุ่มพันธมิตรที่ประกอบไปด้วยคณะเกษตร คณะประมง และคณะพละ แสนทำอย่างไรไม่รู้สามารถดึงคณะเกษตรมาเข้าพวกกับตัวเองได้เป็นเหตุให้ประมงและพละต้องแตกพ่ายในที่สุด

เหตุการณ์ในครั้งนั้นทำให้มหาลัยที่มีชื่อเสียงฉาวโฉ่เรื่องการยกพวกตีกันสงบสุขขึ้น บรรดาอาจารย์ไปจนถึงอธิการบดีต่างพากันโล่งอกที่มหาลัยไม่ต้องถูกเพ่งเล็งจากส่วนกลางอีก ยิ่งจังหวัดนี้เป็นเมืองท่องเที่ยวติดทะเลที่มีต่างชาติมาเยือนเป็นอันดับต้นๆ ไม่มีใครอยากให้เกิดเรื่องฉาวโฉ่จนนักท่องเที่ยวหนีหาย ผู้หลักผู้ใหญ่ในมหาลัยสนับสนุนให้แสนขึ้นเป็นผู้นำนักศึกษาแต่เจ้าตัวพอใจที่จะอยู่หลังฉากมากกว่า บัสเองก็เห็นความสำเร็จของแสนมาโดยตลอดเพราะรุ่นติดกัน เขาชื่นชมรุ่นพี่คนนี้มากที่ช่วยกอบกู้ชื่อเสียงมหาลัยที่เขารักไว้ได้ แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าความศรัทธานั้นเริ่มเปลี่ยนเป็นความกลัวตั้งแต่เมื่อไหร่ อาจจะเพราะอำนาจในวันนี้ของแสนมันดูจะมากมายเสียเหลือเกิน ทั้งจากพรรคพวกลูกน้องที่มีอยู่เต็มไปหมด และผู้หลักผู้ใหญ่ในมหาลัยที่พร้อมจะเข้าข้างแสนโดยไม่มีข้อกังขาใดๆ

นอกจากเส้นสายที่แน่นปึ้กแล้ว รูปร่างหน้าตาของแสนก็ดูเหมือนจะเสริมบารมีที่มีให้เด่นชัดยิ่งขึ้น ชายหนุ่มมีผิวคล้ำแดดรูปร่างใหญ่เนื้อตัวเต็มไปด้วยมัดกล้ามแน่นๆ ใบหน้าคมสันยิ่งดูน่าเกรงขามมากขึ้นด้วยไรหนวดเคราและแววตาที่ดุดันมีอำนาจ บุคลิคที่สง่าผึ่งผายประกอบกับผมที่ตัดไว้ค่อนข้างสั้นทำให้ดูเหมือนนายทหารมากกว่าจะเป็นแค่นักศึกษาชั้นปีที่สี่

บัสไม่กล้าแม้แต่จะเถียงสักแอ่ะแม้ตัวเองจะมีรูปร่างกำยำล่ำสันไม่น้อยไปกว่ากัน การเป็นประธานชั้นปีทำให้ได้รู้เรื่องเบื้องลึกเบื้องหลังในมหาลัยมากกว่าคนทั่วไป เขารู้ดีว่าคนที่ขัดใจแสนจะต้องลงเอยอย่างไร ที่สำคัญ เขาไม่อยากให้เกิดความขัดแย้งขึ้นในคณะ

“ไปบอกไอ้พวกปีหนึ่งไว้ด้วย อย่าซ่าให้มากนัก โดยเฉพาะพวกที่มาจากกรุงเทพแล้วเอารถหรูๆ มาขับไม่ดูสถานที่ อย่าให้กูต้องลงมือ”

ประธานปีสามนึกแย้งอยู่ในใจ ถึงปีนี้ดูเหมือนจะมีพวกปีนเกลียวอยู่ไม่น้อย แต่การใช้รถหรูก็ไม่เห็นจะเกี่ยวอะไรด้วย เขาคงไม่บ้าจี้ไปห้ามปรามในเรื่องนั้น แต่ถึงยังไงคงต้องบอกน้องไม่ให้ต่อต้านอะไรที่แสนสั่ง โดนแค่นี้ยังดีกว่าไปขัดขืนแล้วโดนอะไรหนักๆ บัสรู้ดีว่ามันอาจไม่เป็นธรรมกับรุ่นน้อง แต่เขารักคณะนี้เกินกว่าจะปล่อยให้ขัดแย้งกันจนเป็นปัญหาใหญ่ บางครั้งอาจต้องลืมๆ ยอมๆ ไปบ้าง เขาคงต้องเตี้ยมกับปีสองคอยคุมน้องให้ดี

ในที่สุดก็ถึงวันรับน้องนอกสถานที่ ก่อนหน้านั้นทั้งปีสองและปีสามพยายามใช้การประชุมเชียร์ที่จัดขึ้นเกือบทุกเย็นอบรมให้น้องอยู่ในวินัยมากที่สุด แต่เด็กสมัยนี้ล้วนแต่มีความคิดเป็นของตัวเอง แม้จะโดนข่มขู่ก็ไม่ยอมง่ายๆ ยิ่งพอสนิทกันในชั้นปีมากขึ้นก็เริ่มรวมตัวกันต่อต้านโดยมีแกนนำเป็นเด็กกรุงเทพสามคน ยังดีที่มีเด็กในท้องที่และจังหวัดใกล้เคียงที่รู้ถึงอิทธิพลของแสนอยู่ไม่น้อย พวกนี้เลยคอยช่วยดึงๆ ไว้จนยังไม่เกิดเหตุลุกลามใหญ่โต

สถานที่ที่ใช้รับน้องเป็นรีสอร์ตขนาดกลางที่ตั้งอยู่ลึกเข้าไปในภูเขา รุ่นพี่ทั้งสามชั้นปีต้องเรี่ยไรเงินกันคนละไม่น้อยถึงจะพอเหมาปิดรีสอร์ตในราคาที่ต้องบ่นกันอุบ กิจกรรมตอนกลางวันที่ปีสองกับปีสามช่วยกันคิดก็เป็นการรับน้องตามปกติที่มีการแกล้งกันบ้างให้พอสนุกสนาน พอบรรยากาศระหว่างพี่กับน้องดีขึ้นเรื่อยๆ แต่พอหลังอาหารเย็น ปีสี่ก็เริ่มเข้ามาคุมกิจกรรมโดยแยกหญิงชายออกไปคนละที่ เด็กผู้ชายปีหนึ่งต่างตกใจและต่อต้านเมื่อรู้ว่าพิธีการที่ต้องทำต่อไปคือการวัดขนาดตัดเกรดน้องผู้ชายทุกคน

“จะบ้าเหรอพี่ นี่มัน พ.ศ. อะไรแล้ว ไม่มีใครเขาทำอะไรอุบาทว์ๆ แบบนี้กันหรอก ผมจะฟ้องมหาลัย นี่มันละเมิดสิทธิส่วนบุคคลกันชัดๆ” เวหาผู้ตั้งตัวเป็นแกนนำของเด็กปีหนึ่งลุกขึ้นมาแย้งทันที เขาไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายเป็นแค่ประธานรุ่นปีสี่ทำไมทุกคนต้องหงอให้ขนาดนั้นด้วย ครอบครัวของเด็กหนุ่มที่กรุงเทพมีฐานะทางสังคมอยู่ไม่น้อยจึงทำให้เขาไม่กลัวที่จะแสดงความเห็นอย่างตรงไปตรงมา

แสนตาลุกโชนใส่เด็กหนุ่มร่างสูงหน้าตาดีที่กล้ามาต่อต้าน เขาเดินเข้าไปใกล้ๆ แล้วประเคนกำปั้นในใบหน้าโดยที่อีกฝ่ายไม่มีโอกาสได้ทันตั้งตัว จากนั้นก็ตามไปตุ๊ยท้องติดๆ กันหลายทีจนเวหาลงไปกองกับพื้น ปีสองปีสามตกใจที่เห็นแสนลงมือรุนแรงกับน้องแต่ก็รู้ตัวว่าทำอะไรไม่ได้ ปีหนึ่งส่วนหนึ่งนั้นรู้จักแสนดีจนไม่กล้าทำอะไร คนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ยังนึกว่าเป็นการแสดงที่จะมีเฉลยทีหลัง มีเพียงไม่กี่คนที่รับรู้ถึงความผิดปกติและกล้าพอที่จะออกไปปกป้องเพื่อน แสนแสยะยิ้มแล้วเอาเครื่องซ๊อตไฟฟ้าออกมาจี้รายคนอย่างรวดเร็วจนร่างกระตุกขาอ่อนทรุดตัวลงไปกองกับพื้นกันหมดทั้งสี่ห้าคน

“ใครอยากจะลองดีอีกก็เข้ามา ถ้าไม่มีก็ทำตามที่กูสั่งซะดีๆ ไม่งั้นพวกมึงไม่ได้กลับบ้านแน่”

เวหากัดฟันรวบรวมกำลังลุกขึ้นแล้วร้องตะโกนเสียงดัง “พวกเราปีหนึ่งต้องรวมกำลังกันสิ อย่าให้เขาทำกับเราแบบนี้ เรามีคนมากกว่าอยู่แล้ว พี่ปีสองปีสามช่วยพวกผมด้วย”

ตอนนี้ทุกคนรับรู้แล้วว่านี่ไม่ใช่เรื่องอำกันเล่นแต่ส่วนใหญ่ก็ยังก้มหน้านิ่งเพราะไม่อยากเดือดร้อนไปด้วย ปีสองปีสามมองดูน้องด้วยความสงสารแต่ก็ไม่กล้าทำอะไรที่เป็นการต่อต้านแสน เวหาไม่อยากจะเชื่อว่ารุ่นพี่และเพื่อนปีหนึ่งตั้งมากมายจะยอมให้เกิดเรื่องอุบาทว์แบบนี้กับการรับน้องได้ นี่ยังไม่นับการทำร้ายร่างกายกันต่อหน้าต่อตา เขาพยายามตะโกนปลุกระดมอย่างต่อเนื่อง ประธานชั้นปีที่สี่ยิ้มเหี้ยมเกรียมพร้อมกับส่งสัญญาณให้ลิ่วล้อ ประตูห้องสัมมนาทั้งสองบานเปิดออกมีกลุ่มคนท่าทางนักเลงเข้ามายืนเฝ้าอยู่พร้อมอาวุธครบมือ

“ใครมีปัญหาอะไรอีกไหม”

ปีหนึ่งหลายคนที่ตั้งท่าจะร่วมวงต่อต้านต้องล้มเลิกความคิดเพื่อรักษาตัวเองให้รอดไว้ก่อน ปีสองและปีสามตกใจอย่างมากที่เห็นแสนเอาคนนอกเข้ามาข่มขู่ทำร้ายรุ่นน้องตัวเอง

“พี่แสนอย่าทำน้องเลยครับ พวกผมขอเถอะ” บัสประธานปีสามละล่ำละลักขอร้อง

“เพราะพวกมึงอบรมน้องไม่ดี มันถึงได้กำเริบจนกูต้องเอาคนมาช่วยรักษาความสงบแบบนี้ มึงไปรวบรวมค่าเสียเวลาของไอพวกนี้มาให้กูด้วย ทั้งหมดกูคิดแค่ห้าหมื่นพอ”

ปีสองปีสามไม่กล้าหือแม้ใจจะไม่เห็นด้วยกับทุกเรื่องที่เกิดขึ้น ได้แต่ปลอบน้องปีหนึ่งให้ทำตามคำสั่งของแสนและพยายามเข้าไปดูอาการกลุ่มของเวหาที่ตอนนี้ถูกมัดแขนมัดขาไว้กับเสาในห้องสัมมนา มีเด็กปีหนึ่งหลายคนพยายามจะหลบเลี่ยงโดยรวมตัวฝ่าออกไป แต่โดนคนของแสนที่เฝ้าประตูอยู่ลงไม้ลงมือข่มขู่สะบักสะบอมจนต้องถอยมารวมกัน

เหล้าเพียวๆ ถูกแจกจ่ายไปทั่วห้องเพื่อย้อมใจ เด็กปีหนึ่งทั้งหมดหลายร้อยคนถูกสั่งให้ถอดเสื้อผ้าออกจนล่อนจ้อน ได้แต่ยืนมองตากันปริบๆ พร้อมกับกุมควยไว้อย่างแน่นหนา ไม่ใช่ทุกคนจะเคยชินกับการแก้ผ้าให้คนอื่นดู แถมไฟในห้องสัมมนาก็สว่างจ้าจนเห็นชัดทุกรูขุมขนเป็นอาหารตาให้เหล่าเก้งกวางที่แฝงตัวในคณะอยู่ไม่น้อย วิศวะรุ่นนี้มีหุ่นดีหน้าตาดีกันเยอะ ยิ่งเด็กที่มาจากกรุงเทพจะมาแนวเดียวกันคือตัวขาวเล่นเวท ส่วนเด็กในพื้นที่ก็จะคล้ำกว่าแต่ก็หุ่นดีไม่แพ้กัน

“เข้าแถวเรียงตามรหัสนักศึกษาแล้วเตรียมตัวสาวควยได้แล้วพวกมึง เอาให้แข็งที่สุดนะไม่งั้นเกรดตกจะมาโทษกันไม่ได้ แต่เดี๋ยวกูมีตัวช่วยให้” แสนพูดอย่างคะนองพลางส่งสัญญานให้กับลูกน้อง หลังจากนั้นเด็กปีหนึ่งในห้องก็ต้องตาโตเมื่อเห็นสาวสวยสามนางในชุดเซ็กซี่เดินเข้ามา แต่ละคนไม่รู้เอามือเอาไม้ที่ไหนมาบังส่วนสงวนลูกผู้ชายไม่ให้ปรากฎต่อหญิงสาวแปลกหน้า จะปิดให้ถึงไข่หมอยก็โผล่ ถึงปิดด้านหน้าด้านหลัวก็โล่งโจ้ง ปีสองปีสามมองอย่างตกใจเมื่อพบว่าบางคนในนั้นเป็นนักศึกษาในมหาลัยของตัวเองแถมยังเป็นถึงดาวปีสามของคณะหนึ่งด้วยซ้ำ

แสนเดินเข้าไปกระซิบอะไรบางอย่างกับสามสาวพร้อมกับเอามือคลึงเคล้นหน้าอกที่อวบอั๋นของคนที่เป็นดาวไปด้วย ท่าทางประธานรุ่นปีสี่จะเกิดอารมณ์อยู่ไม่น้อย เป้านูนใหญ่ดันกางเกงออกจนโป่งพองโดยที่เจ้าตัวไม่คิดจะปกปิดอะไร เด็กสาวสองคนที่เหลือหน้าซีดเผือดเมื่อรู้ว่าตัวเองจะต้องทำหน้าที่ปลุกอารมณ์ให้กับเหล่าหนุ่มกลัดมันที่จะถูกตัดเกรด ดูจากสายตาก็รู้ว่าทั้งอายทั้งไม่เต็มใจ แต่ดาวปีสามดูเหมือนจะถูกใจไม่น้อย เจ้าหล่อนค่อยๆ ถอดเสื้อผ้าออกอย่างไม่อายต่อหน้าคนนับร้อยจนเหลือแต่กางเกงในตัวจิ๋วแล้วเดินเปลือยอกนวยนาดไปหาเด็กคนที่ยืนหัวแถวทันที

“ยังไม่พร้อมอีกหรอจ๊ะหนุ่มน้อย หืมดูซิ ท่าทางยาวดีนี่หน่า ให้พี่สาวช่วยไหม ลองจับดูได้นะพี่ไม่หวง” สาวเจ้ายื่นหน้าอกอวบที่ท่าทางจะไปทำมาจนใหญ่เกินตัวไปให้เด็กหนุ่มใส่แว่นที่ยืนตัวเกร็งกุมไข่อยู่ตรงแถวหน้าสุด วิศวะไม่ได้มีแต่พวกถ่อยเถื่อน เด็กเนิร์ดอย่างหนุ่มแว่นคนนี้ก็มีอยู่ไม่น้อย เด็กปีหนึ่งบางคนอย่าว่าแต่จับเลย ของจริงยังไม่เคยเห็นด้วยซ้ำ เด็กแว่นอ้าปากค้างมองจุกสีชมพูบนเนินอกขาวอวบอร้าอร่ามของดาวปีสามอย่างลืมตัว สองมือที่กุมเป้าอยู่ค่อยๆ เอื้อมไปลูบคลำตามคำชวนเผยให้เห็นลำควยรุ่นๆ ในดงหมอยบางๆ ที่ผงกหัวขึ้นอย่างตื่นตัว หนุ่มแว่นเริ่มได้ใจสูดปากมือนึงขยำนมสาวอีกมือก็ชักควยไปด้วยอย่างลืมอาย

ทุกขั้นตอนที่เกิดขึ้นแสนตั้งกล้องถ่ายเอาไว้หมด พอเห็นควยของเด็กหนุ่มแข็งตัวเต็มที่แล้ว แสนก็สั่งให้มาตะโกนรายงานตัวแล้วก็เอาสายวัดมาวัดทั้งความยาวและเส้นรอบวง

“6.2 นิ้ว เกรดบี” แสนตะโกนเสียงดังเพื่อให้ทีมงานจดข้อมูล จากนั้นก็เอาปากเขียนคิ้วมาเขียนเกรดลงไปตรงหน้าผากแล้วก็หัวเราะขำๆ

“ไม่เบาเหมือนกันนะไอแว่น เห็นผอมๆ อย่างนี้”

เสียงพูดคุยวิพากษ์วิจารณ์ดังขึ้นอื้ออึงเต็มห้องสัมมนา พวกคึกคะนองไม่คิดอะไรมากรู้สึกสนุกและซูฮกประธานรุ่นปีสี่ที่เอาผู้หญิงสวยๆ มาทำอะไรแบบนี้ได้ แต่ก็มีพวกไม่พอใจที่ต้องมาอับอายกับคำสั่งไร้สาระของรุ่นพี่แถมยังถูกถ่ายเป็นวิดีโอไว้ด้วย บางส่วนที่ไม่มั่นใจในขนาดของตัวเองก็กลัวจะต้องตกเป็นเป้าของการล้อเลียน รวมถึงพวกที่ไม่พอใจกับการตัดเกรดที่มหาโหดจนขนาดหกนิ้วกว่ายังได้แค่เกรดบี แต่ก็ไม่มีใครกล้าหืออะไร สภาพของคนที่ต่อต้านก็มีให้เห็นอยู่ ได้แต่ก้มหน้าสาวควยกันไปตามคิว

ถ้ามีคนนอกผ่านเข้ามาเห็นคงไม่มีใครคิดว่านี่เป็นกิจกรรมของปัญญาชนแน่ๆ เด็กหนุ่มหลายร้อยเปลือยกายล่อนจ้อนยืนเบียดเสียดกันในห้องสัมมนาจนหมอยแทบจะพันกัน มีการตั้งแถวตามรหัสนักศึกษาทีละห้าสิบคนเพื่อเตรียมตัววัดขนาดตัดเกรด เมื่อถูกเรียกให้มาอยู่ในแถวแล้วก็ต้องสาวควยไปเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเต็มใจหรือไม่ก็ตาม หญิงสาวสามคนเปลือยอกรออยู่ที่หัวแถวเพื่อปลุกอารมณ์ให้เต็มที่ก่อนจะเข้าไปวัด เด็กสาวทั้งคู่ที่ไม่เต็มใจถึงกับน้ำตาคลอเมื่อถูกลวนลามคลึงเคล้นหน้าอกเปลือยเปล่าอย่างหื่นกระหายจากเด็กหนุ่มบางคน

แสนประกาศว่าใครที่โชว์ลีลาเล่นควยใส่กล้องได้ดีจะมีรางวัลให้โดยจะอนุญาตให้ดูดนมหรือล้วงหีสาวๆ ได้เป็นพิเศษ เพียงเท่านั้นเด็กหนุ่มหื่นกามหลายคนก็ถอกควยหรือกระเด้าลมต่อหน้ากล้องกันเต็มที่โดยไม่คิดถึงหัวอกพ่อแม่เลยถ้าคลิปหลุดออกไปจะเกิดอะไรขึ้น หลายคนเริ่มมึนเมาด้วยฤทธิ์สุราจนเกิดเป็นความวุ่นวาย เด็กสาวสองคนถูกดาวคณะผลักภาระให้เป็นคนรองรับอารมณ์คนกลุ่มนี้เพราะส่วนใหญ่หน้าหน้าตาไม่ได้ดีอะไรและก็ดูหยาบคายด้วยความหื่นจนเธอไม่นึกอยากเปลืองตัว

ประธานรุ่นปีสามมองสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยความคับข้องใจ เท่าที่เขาทราบ พิธีตัดเกรดของวิศวะก่อนจะถูกยกเลิกไปเป็นแค่การเล่นขำๆ บนทะลึ่งของรุ่นพี่ ทำกันมืดๆ เงียบๆ ไม่มีการประจานผลใดๆ จะประกาศแต่ผู้ที่ได้เอบวกซึ่งเปรียบเหมือนความภูมิใจของรุ่น แต่ตอนนี้คนที่ผ่านการตัดเกรดแล้วจะถูกเขียนเกรดไว้เด่นหลาบนหน้าผากและให้ยืนแยกเป็นกลุ่ม พวกที่ได้เอฟก็รู้สึกเหมือนถูกขยี้ปมด้อย พวกที่ได้เอก็ดูจะกร่างขึ้นไปอีก สิ่งที่แสนทำไม่เพียงจะกดศักดิ์ศรีความเป็นคนแต่มันยังทำให้เกิดความแตกแยกเหยียดหยามให้เกิดในหมู่รุ่นน้อง การเอาผู้หญิงเข้ามายิ่งไม่เหมาะสมมากๆ เคราะห์ดีที่โทรศัพท์ของทุกคนถูกเก็บไปหมดก่อนเข้าห้องแล้ว ไม่งั้นคงต้องมากังวลเรื่องคลิปหลุดอีก ตอนนี้มีเพียงแสนเท่านั้นที่มีกล้องวิดีโอและโทรศัพท์ที่คอยบันทึกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น บัสได้แต่หวังว่าแสนจะไม่เอาสิ่งที่ถ่ายไว้มาทำให้เกิดปัญหา

การตัดเกรดขนาดควยผ่านไปคนแล้วคนเล่า จำนวนนักศึกษาในรุ่นที่มีอยู่หลายร้อยทำให้ต้องเร่งมือ กลิ่นเค็มๆ คาวๆ ของควยคลุ้งไปทั่วบริเวณ ตามพื้นก็เริ่มเป็นเมือกจากน้ำเงี่ยนที่หยดจากปลายควยนับร้อย เด็กหลายคนเริ่มเมาจนครองสติไม่อยู่ แสนจะทำอะไรก็คล้อยตามเห็นดีเห็นงามราวกับเป็นพระเจ้า ดาวปีสามมีความสุขกับการเลือกยั่วเด็กหนุ่มหน้าอ่อนที่ตัวเองถูกใจ ปล่อยที่เหลือไว้ให้อีกสองคนต้องรับบทหนัก เด็กสาวทั้งคู่ต้องกล้ำกลืนฝืนใจที่ทรวงอกของตัวเองต้องมาถูกบีบเคล้นถูกดูดเป็นร้อยๆ ครั้งจนแดงช้ำไปหมด หีก็ถูกควักล้วงจาบจ้วงอย่างไม่หยุดหย่อนจนแฉะเยิ้ม เม็ดแตดโดนเขี่ยแล้วเขี่ยอีกจนแทบหมดความรู้สึก ยิ่งสะอื้นก็ยิ่งเป็นเป้าสนใจของวัยรุ่นหื่นกามพวกนั้น

ในที่สุดการตัดเกรดก็ดำเนินไปจนถึงคนสุดท้ายในแถว เหลือแต่เวหากับพวกที่ยังถูกมัดติดเสาอยู่ในเสื้อผ้าครบชุดอยู่ แสนยิ้มเยาะพูดจาถากถางแล้วก็เอากรรไกรมาตัดเสื้อผ้าของเวหาเป็นชิ้นแล้วกระชากออกหมดไม่เหลือแม้กางเกงใน

“ตาพวกมึงแล้ว”

เวหาไม่ตอบอะไรใบหน้าแดงก่ำไปด้วยความอับอาย ขาทั้งสองข้างถูกแสนฉุดกระชากให้ถ่างออกจากกันเผยของสงวนให้เห็นต่อหน้าคนหลายร้อยคน ใข่แฝดใบเขื่องแกว่งโตงเตงอยู่ในหนังไข่ที่ห้อยยานมากกว่าคนทั่วไป ควยยาวใหญ่เกินหน้าเกินตาเพื่อนรุ่นเดียวกันยังนอนสงบนิ่งอยู่ทั้งที่ตรงหน้าเป็นดาวคณะสาวสวยที่เปลือยเกือบทั้งร่าง ดุ้นเนื้อปวกเปียกสีขาวนวลถูกสาวขึ้นลงด้วยฝีมืออันช่ำชอง เวหาพยายามสะกดใจไม่ให้เกิดอารมณ์ตามการปรนเปรอของหญิงสาว เขาตั้งใจจะไม่เล่นตามเกมของอีกฝ่าย ถ้าควยแข็งขึ้นมาเขาไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ไหนแล้ว เวหาเป็นคนที่มีจิตใจเข้มแข็ง ผ่านไปพักใหญ่ควยอวบหนาจึงยังอ่อนปวกเปียกอยู่สร้างความหงุดหงิดให้กับประธานรุ่นปีสี่เป็นอย่างมาก

“ถ้าทำไม่สำเร็จ เธอโดนดีแน่” แสนขู่ดาวคณะที่กำลังทำหน้าที่ของอยู่จนทำให้เจ้าตัวตกใจอย่างเห็นได้ชัด หญิงเปลี่ยนวิธีการโดยครอบปากลงไปตรงส่วนหัวแล้วเอาลิ้นฉกรัวๆ ตรงรูเยี่ยวอย่างชำนาญการแม้ว่าความใหญ่ของมันจะคับปากแน่นไปหมด ไม่น่าเชื่อว่าเด็กหนุ่มจะยังควบคุมอารมณ์ตัวเองไว้ได้ ดาวคณะร้อนรนอยู่ในใจ แต่ด้วยความช่ำชองในเพลงกามเธอจึงลองเปลี่ยนเป้าหมายด้วยการมุดตัวเข้าไปใต้หว่างขาของเวหา แหกแก้มก้นแน่นเกร็งออก แล้วละเลงลิ้นลงไปตรงช่องทางด้านหลังซึ่งเธอมีประสบการณ์มาว่าผู้ชายบางคนจะตื่นตัวเป็นพิเศษกับบริเวณนี้

สัมผัสเสียวซ่านแปลกประหลาดที่ไม่เคยเจอมาก่อนในชีวิตทำให้เวหาถึงกับเข่าอ่อนกลั้นเสียงร้องไว้ไม่อยู่ ลิ้นเล็กๆ ของดาวคณะฉกลงไปบนรอยจีบตัวเกร็ง ควยอวบใหญ่ค่อยๆ ผงาดขึ้นทีละนิดท่ามกลางความตื่นตาของทุกคนในห้อง ตอนอ่อนก็นึกว่าใหญ่จนไม่น่าจะขยายเพิ่มได้ แต่พอแข็งขึ้นมาจริงๆ ยังกะพระเอกหนังโป๊ฝรั่ง ทั้งรูปทรงก็สวยสมบูรณ์แบบ ท่อนลำก็ใหญ่มากแล้วแต่ส่วนหัวเหงี่ยงยังบานทะโร่ได้อีก ถุงกระโปกห้อยยานแกว่งไปมาตามจังหวะการฉกของหญิงสาวราวกับเป็นลูกตุ้มใบเขื่อง

เวหามองสายตาที่แตกตื่นของเพื่อนแล้วทั้งอับอายทั้งอดสู ควยใหญ่ยาวจนเกินมนุษย์แบบนี้กลับกลายเป็นปมด้อยของเขา ไหนจะไข่แฝดใบโตที่ทั้งยานทั้งห้อยนี่อีก ตั้งแต่ประถมปลายเขาก็ถูกเพื่อนล้อมาตลอด แข็งตัวทีไรก็เห็นชัดจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน นี่เป็นเหตุให้เขาต้องหัดควบคุมความต้องการของตัวเองจนเก่ง พอเป็นหนุ่มก็หาแฟนไม่ได้ ผู้หญิงดีๆ ไม่มีใครกล้าคบด้วยเพราะกลัวฉีก แสนแสยะยิ้มอย่างผู้ชนะแล้วเดินถือกล้องมาวัดขนาดของเด็กหนุ่มทันที ท่อนลำของเวหาทั้งยาวและใหญ่แถมยังป่องตรงช่วงกลางนิดหน่อย หัวบานสีชมพูใสเรียบตึงหนังหุ้มร่นลงมาได้เกือบหมดติดตรงเส้นสองสลึงเล็กน้อยแต่ก็ยังเห็นขอบเงี่ยงชัดเจน เวหาขาวไปทั้งตัวแม้แต่ควยยังอมชมพูเรื่อๆ ตัดกับไรหมอยนุ่มสีดำสนิทที่ไม่รกเกินไป

“เก้าจุดสอง เอบวก ควยใหญ่นะมึง แต่ไข่แม่งยานทุเรศชิบหาย” แสนตะโกนผลการวัดอย่างเย้ยหยันพร้อมกับเขียนเกรดลงไปบนหน้าผากขาวเนียนของเด็กหนุ่ม ถ้าวัดแบบเดียวกับคนอื่น จริงๆ มันเลยเก้านิ้วไปมากโข แต่เขาจงใจวัดไม่สุดโคนเพราะความหมั่นไส้

“โดนผู้หญิงดูดควยไม่แข็งเว้ยเฮ้ย แต่พอโดนเลียตูดกลับควยแข็งซะงั้น ทุเรศชิบหาย จริงๆ มึงเป็นตุ๊ดใช่ไหม คณะนี้ไม่ต้องการว่ะ กูจะให้โอกาสมึงอีกทีกับคนใหม่ ถ้าเที่ยวนี้มึงยังไม่น้ำแตกใส่อีนั่นเท่ากับมึงไม่ใช่ผู้ชาย แล้วกูจะให้เพื่อนมึงจับมึงเย็ดตูดกันเองดูสิว่าจะแตกไหม อีตุ๊ดเอ๊ย ควยใหญ่ซะเปล่า” แสนพูดด้วยแววตาทั้งสะใจทั้งดูถูก เวหากัดฟันอย่างอดกลั้น ตอนนี้เขาทำอะไรไม่ได้ อีกฝ่ายมีทั้งคนทั้งอาวุธ แถมยังเลือดเย็นไม่เห็นเขาเป็นรุ่นน้องซักนิด

แสนออกคำสั่งให้แก้มัดเวหาออกแล้วถือกล้องมาถ่ายใกล้ๆ ดาวคณะถูกไล่ออกไปแล้วให้เด็กสาวอีกคนนึงมาทำหน้าที่แทน

“พิสูจน์สิว่ามึงไม่ใช่เกย์ ไม่งั้นโดนทะลวงตูดแน่”

เวหาไม่มีทางเลือกอื่น เขาจ่อปลายควยมหึมาไปที่เด็กสาวตรงหน้า ความอ่อนประสบการณ์บวกกับความไม่เต็มใจทำให้หล่อนอมควยที่แข็งตัวเต็มที่แล้วของเวหาไม่ไหว ได้แต่ใช้สองมือสาวท่อนลำพร้อมกับใช้ปากเล็มๆ ฉกๆ ที่รูส่วนปลาย เด็กหนุ่มจำใจต้องลูบไล้ไปตามหน้าอกและเรือนร่างตรงหน้าเพื่อเร้าอารมณ์ตัวเองให้เรื่องอุบาทว์นี้จบลงเสียที เขาสงสารเด็กสาวคนนี้เป็นที่สุด ในใจก็กลัวว่าคนไม่ปกติอย่างแสนจะสั่งให้คนมาเย็ดตูดเขาจริงๆ ในที่สุดน้ำเชื้อขาวข้นก็ถูกพ่นออกมาต่อหน้ากล้องอย่างน่าอดสู มันมากมายจนเปรอะใบหน้าและเรือนร่างของเด็กสาวไปหมด แสนบงการให้ดาวคณะที่ยืนดูด้วยตาลุกวาวเอาความข้นเหนอะนั้นไปละเลงหน้าเจ้าของน้ำเชื้อ เวหาหลับตาอย่างรับสภาพตัวเองไม่ได้ ในใจคิดแต่ว่าจะต้องแก้แค้นความอัปยศในครั้งนี้ให้ได้

พวกของเวหาที่เหลือก็โดนกันโดยถ้วนหน้า นอกจากจะถูกตัดเกรดเหมือนคนอื่นแล้ว ยังโดนสั่งให้ผลัดกันชักว่าวจนน้ำแตกต่อหน้ากล้อง ทุกคนเห็นสิ่งที่เวหาโดนแล้วก็ไม่มีใครกล้าท้าทายหรือต่อต้านแสนอีก ดีแค่ไหนแล้วที่ไม่ถูกสั่งให้เย็ดตูดกันเองอย่างที่โดนขู่

“ถือว่ากิจกรรมสร้างความกลมเกลียวระหว่างพี่น้องก็จบลงไปได้ด้วยดี แล้วคงไม่ต้องบอกนะว่าถ้าเรื่องนี้หลุดออกไปข้างนอก พวกมึงจะโดนอะไรบ้าง พวกมึงส่วนมากเคารพเชื่อฟังคำสั่งกูซึ่งเป็นรุ่นพี่นั่นถือว่าเป็นเรื่องดี ส่วนคนที่นอกคอกแตกแถวคงเห็นแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น ไอ้เวหาซึ่งเป็นผู้ได้เกรดสูงสุดของรุ่นจะเป็นตัวแทนในการทำกิจกรรมต่างๆ ต่อไป อาจจะดูไม่เหมาะนักที่เอาไอตัวที่ถือว่าเป็นกบฏของรุ่นมารับหน้าที่นี้ แต่ไม่ต้องห่วง กูจะดูแลสั่งสอนมันเอง” แสนพูดทิ้งท้ายก่อนจะพาลูกน้องตัวเองและผู้หญิงทั้งสามคนเดินออกไปทิ้งความวุ่นวายที่เหลือไว้ให้พวกปีสองปีสามจัดการ บัสถอดหายใจมองดูสภาพน่าสมเพชของน้องแต่ละคน หลายคนเมากลิ้งนอนเแหกแข้งแหกขาโชว์ควยโด่บ้างเหี่ยวบ้างอย่างไม่รู้ตัว ตามพื้นมีกองอ๊วกบ้างกองน้ำว่าวบ้างเป็นหย่อมๆ น่าสะอิดสะเอียน คนที่ยังมีสติก็รีบไปความหาเสื้อผ้าตัวเองมาแต่งตัว ยังดีที่ไม่มีใครเมาหรือหื่นจนไปลงแขกข่มขืนผู้หญิงสามคนนั้น

พวกของเวหายังจับกลุ่มกันเหนียวแน่นในแววตามีทั้งความอับอายและความเคียดแค้น

“เป็นไงบ้างพวกเรา ขอโทษนะพี่ช่วยอะไรไม่ได้เลย” บัสฝืนใจเข้าไปคุยกับเวหาด้วยความละอายใจที่ยอมให้แสนทำเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เวหามองหน้าประธานรุ่นปีสามในสายตาไม่เหลือความเคารพไว้ใจอยู่เลย

“ช่างมันเถอะ ผมเข้าใจว่าคุณคงกลัวและไม่อยากเปลืองตัว”

บัสสะอึกเมื่ออีกฝ่ายไม่เรียกเขาว่าพี่เหมือนเดิม

“จะว่าพี่ขี้ขลาดก็ได้ แต่พี่หวังดีจริงๆ และอยากเตือนว่าเราทำอะไรพี่แสนไม่ได้หรอก เขามีอิทธิพลมากกว่าที่เห็นซะอีก ถ้าไม่สุดทนจริงๆ ยอมเขาไปเถอะ ยังไงเราก็เป็นรุ่นน้อง เขาคงไม่ทำอะไรร้ายแรงหรอก”

“ที่มันทำคุณยังว่าไม่ร้ายแรงอีกเหรอ ก็ให้มันรู้ไปว่าจะมีใครอยู่เหนือกฎหมายได้” เวหาทิ้งท้ายแล้วก็เดินออกไปทิ้งบัสไว้กับความรู้สึกผิด

วันรุ่งขึ้นกิจกรรมที่เตรียมไว้ก็ล่มไปโดยปริยาย แสนกับพวกกลับไปตั้งแต่เมื่อคืน ปีสองกับปีสามก็ดูจะไม่ได้รับความเคารพเชื่อใจจากน้องๆ เหมือนเดิม ปีหนึ่งแบ่งออกเป็นกลุ่มๆ อย่างชัดเจน มีพวกที่ศรัทธาแสนจนไม่เห็นหัวใคร พวกนี้บอกว่าจะเข้าสังกัดแสนตามที่ได้รับคำชวนเมื่อวาน กลุ่มของเวหายังไม่ละความพยายามที่จะรวมพรรคพวกเพื่อต่อต้านความเผด็จการที่เกิดขึ้น แต่คนกลุ่มใหญ่ของคณะคือพวกที่ไม่อยากเดือดร้อน พวกเด็กตัดเกรดติดเอฟก็โดนดูถูกราวกับประชาชนชั้นสองโดยเฉพาะจากกลุ่มที่ไปเข้าพวกกับแสน

สุดท้ายบัสเลยตัดสินใจที่จะกลับเร็วกว่ากำหนด ผู้ดูแลรีสอร์ตรีบเข้ามาแจ้งค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น

“ทางเราต้องขอเก็บค่าทำความสะอาดด้วยค่ะ ห้องสัมนามันเละเทะไปหมดเลย ต้องจ้างคนมาทำความสะอาดใหญ่ ถือว่าช่วยๆ กัน ไหนๆ พวกคุณก็ได้พักฟรีไปแล้ว”

จริงๆ มันยิ่งกว่าคำว่าเละเทะไปมาก หล่อนอายปากเกินกว่าจะเอ่ยถึงกองอ้วกและคราบน้ำว่าวที่กระจัดกระจายไปทั่ว นอกจากนั้นยังมีก้นบุหรี่ กางเกงในเก่าๆ ที่ซุกอยู่ตามมุมห้อง และกลิ่นฉี่ที่หึ่งไปหมด ไม่อยากจะจินตนาการถึงเลยว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นในห้องสัมนาของรีสอร์ท เผลอๆ อาจจะต้องทำบุญล้างเสนียดจัญไรด้วยซ้ำ

บัสขมวดคิ้ว เขาเก็บเงินจากพวกรุ่นพี่ตั้งหลายหมื่นเอาไปจ่ายให้กับแสนเป็นค่ารีสอร์ตไปตั้งนานแล้วตามจำนวนที่แสนแจ้งมา แล้วทำไมกลายเป็นว่าพวกเขามาพักฟรีล่ะ

“เอ๋ ทางรีสอร์ตไม่ได้เก็บเงินค่าที่พักจากคณะเหรอครับ”

“เราให้พักฟรีค่ะ ค่าน้ำค่าไฟก็ไม่คิดซักบาท คุณแสนเธอมาขอเอง กล้าขอเราก็กล้าให้ ไหนๆ รีสอร์ตก็ต้องพึ่งพาคุณพ่อเธออยู่บ้าง แต่พวกคุณทำซะเละขนาดนี้ทางเราควักเนื้อไม่ไหวหรอกค่ะ”

บัสถามอยู่อีกสองสามคำจนแน่ใจว่าไม่ได้มีการเข้าใจอะไรผิดกันแล้วก็ควักเงินส่วนตัวเป็นหมื่นไปให้ เขาไม่กล้าเอาเรื่องนี้ไปบอกทุกคนเพื่อเรี่ยไรเงินอีกรอบ ถ้ามีคำถามเกี่ยวกับความโปร่งใสก็ไม่พ้นเขาที่ต้องเป็นคนไปหาความจริงจากแสนอีก เขาไม่คิดว่าตัวเองขี้ขลาด เขาแค่อยากปกป้องคณะและมหาลัยที่เขารักไม่ให้เกิดความขัดแย้งกัน แต่ที่ไม่เข้าใจคือแสนจะเอาเงินไปทำอะไรมากมาย ด้วยฐานะของแสนก็ไม่น่าจะลำบากอะไรเรื่องเงิน

เวหาไม่ได้ปล่อยวางต่อสิ่งที่โดนกระทำในวันรับน้องนอกสถานที่ เขายังพยายามรวบรวมพยานหลักฐานที่จะเอาผิดแสนอยู่ แต่ยิ่งทำก็ยิ่งท้อ อย่าว่าแต่จะให้ไปเป็นพยานเลย แม้แต่พูดถึงเหตุการณ์ในวันนั้นยังไม่มีใครหลุดขึ้นมาซักคำ ทุกคนปิดปากนิ่งหมดไม่รู้ว่าเพราะความอับอายหรือด้วยเกรงกลัวอิทธิพลของแสนแต่เวหาคิดว่าน่าจะเป็นอย่างหลัง จากข่าวเกี่ยวกับตัวแสนที่ได้ยินมา แสนเป็นฮีโร่ผู้กอบกู้ชื่อเสียงของสถาบันแห่งนี้จนเป็นที่ไว้เนื้อเชื่อใจของอาจารย์ แต่อีกมุมหนึ่งกลับมีข่าวไม่ค่อยดีเรื่องที่แสนและพรรคพวกทำตัวเหมือนเป็นมาเฟียมหาลัย แต่ไม่ว่ายังไงก็ต้องยอมรับว่าคนๆ นี้มีอิทธิพลสูงมาก มีเด็กปีหนึ่งไปเข้าสังกัดแสนอยู่ไม่น้อย นับวันพวกนี้จะกร่างขึ้นทุกที คนอื่นๆ ก็มักจะเลี่ยงไปไม่อยากมีเรื่องด้วย แต่ไม่ใช่กับเวหา เขาจะออกตัวแรงทุกครั้งที่เด็กกลุ่มนี้เอาเปรียบเพื่อนคนอื่น หลายต่อหลายครั้งที่เวหาเข้าไปปกป้องพวกเด็กตัดเกรดติดเอฟที่มักจะเป็นเป้าหมายของการกลั่นแกล้งจนร่ำๆ จะมีเรื่องกันหลายที เอาเข้าจริงพวกนี้ก็ไม่กล้ากับคนจริงอย่างเวหาถ้าไม่ได้เป็นเรื่องที่แสนสั่งให้ทำ

เด็กหนุ่มเบื่อสภาพแบ่งพรรคแบ่งพวกในคณะเต็มที เขาเริ่มเสียใจที่ประชดที่บ้านจนมาเลือกเรียนที่มหาลัยหลังเขาแห่งนี้ โชคดีที่รูมเมทของเขาเป็นเด็กคณะอื่นซึ่งไม่รู้เรื่องราวน่าอดสูในคณะวิศวะทำให้เขายังพอคุยได้อย่างสนิทใจบ้าง ที่จริงหอพักสำหรับปีหนึ่งจะจับสลากอยู่กันห้องละสี่คน แต่ห้องของเขาเหลือเศษทำให้มีคนอยู่แค่สามคน รูมเมทอีกคนนั้นหลังจากอยู่ได้แค่สองสามคืนก็ขนของออกไปแล้วไม่กลับมาอยู่อีกเลย ทำให้เหลือแค่เขาและเด็กเภสัชที่ชื่อกันต์เท่านั้น

กันต์เป็นเพื่อนร่วมห้องที่เวหาอยู่ด้วยแล้วค่อนข้างสบายใจ อาจจะเพราะมาจากกรุงเทพเหมือนกัน ที่แน่ๆ เขาชอบที่กันต์ว่าง่ายให้ทำอะไรก็ทำ กันต์เป็นคนที่ทำทุกอย่างทั้งทำความสะอาดห้อง ล้างห้องน้ำ ซักผ้า เวหาไม่ใช่คนที่ชอบเอาเปรียบเพื่อน แต่งานพวกนี้เขาทำไม่เป็นจริงๆ เขาแกล้งลองขอดู กันต์ก็ทำให้หมดจนบางทีก็รู้สึกว่าหัวอ่อนหรือเอ๋อกันแน่ นั่นทำให้เวหายิ่งตกใจเมื่อรู้ว่าจริงๆ แล้วอีกฝ่ายอายุมากกว่าเขาตั้งสามปี ใบหน้าหล่อใสหุ่นเพียวราวกับเด็กหนุ่มมอปลายนั้นไม่ได้บ่งบอกเลยว่าอายุยี่สิบต้นๆ แล้ว เห็นว่าหลังจากจบมอต้น กันต์ก็ไปทำงานแทนที่จะเรียนต่ออยู่พักใหญ่จนตอนหลังค่อยมาเรียน กศน. แล้วแอดมิทได้ที่คณะเภสัชแห่งนี้

การพูดคุยกับกันต์ทำให้เวหารู้ว่าการรับน้องคณะอื่นก็เป็นแบบปกติ ไม่มีอะไรน่าเกลียดเหมือนอย่างที่เขาโดน นอกจากนั้นเขายังรู้ว่าคณะวิศวะของเขาออกจะเป็นที่ทั้งกลัวทั้งรังเกียจของคณะอื่นอยู่ไม่น้อย นั่นไม่ทำให้เขาแปลกใจเท่าไหร่เมื่อนึกถึงว่ามีคนอย่างแสนกุมอำนาจอยู่

หลังจากการรับน้องอัปยศผ่านไปได้หลายวัน โชคก็เริ่มเข้าข้างเวหา มีเด็กปีหนึ่งที่เข้าสังกัดแสนเข้ามาบอกข้อมูลสำคัญ เพื่อนร่วมรุ่นคนนี้นิสัยไม่แย่มากทำให้เวหายังคุยด้วยอยู่บ้าง เขาบอกเวหาว่าเด็กที่อยู่ในสังกัดแสนจะมีกลุ่มลับในเฟสบุ๊คที่แสนเอาไว้สั่งงานและโพสต์รางวัลต่างๆ ให้ และจากโพสต์ล่าสุดดูเหมือนว่าแสนกำลังจะให้เวหาเข้ากลุ่มด้วย เวหาไม่มีทางไปร่วมกลุ่มกับคนแบบนั้นได้แต่เขาก็ทำทีเป็นสนใจและขอดูกลุ่มลับที่ว่า

เด็กปีหนึ่งคนนั้นหยิบโทรศัพท์มาเปิดเฟสบุ๊คส่งให้อย่างไม่สงสัย เขากำลังดีใจที่ลูกพี่แสนออกปากให้เพื่อนนอกคอกคนนี้มาร่วมกลุ่มด้วย เวหารับมาแล้วถือโอกาสไล่ดูตั้งแต่โพสต์เก่าๆ ของแสนเพื่อเก็บข้อมูล ส่วนใหญ่จะเป็นการเกณฑ์คนไปทำงานบางอย่างให้ บางทีก็โพสต์ภาพของสาวๆ ในมหาลัยที่เปลือยอล่างฉ่างได้ไม่น่าเชื่อ แสนคิดว่าหญิงสาวเหล่านี้คงเป็นคนที่ตกเป็นเหยื่อของแสนเหมือนกัน เหล่าลิ่วล้อต่างพากันมาเม้นท์ชื่นชมภาพอย่างหื่นกาม มีรูปลับเฉพาะที่หาไม่ได้แบบนี้เป็นรางวัล ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมไอพวกนี้ถึงเลียแข้งเลียขาแสนราวกับเป็นสัตว์เลี้ยงที่ซื่อสัตย์อย่างนี้

ในที่สุดเวหาก็เลื่อนมาเจอโพสต์ที่ทำให้อีกฝ่ายวิ่งโร่มาหา แสนลงไว้ตั้งแต่เมื่อคืนโดยมีแคปชั่นกำกับไว้

‘สุดท้ายแล้วพวกปีหนึ่งก็คงเป็นไอเหี้ยนี่ที่หน่วยก้านดีสุดแล้ว ใครก็ได้ไปเรียกมันมาหากูที กูจะให้มันเป็นทาสรองมือรองตีนกูต่อไป’

รูปที่ลงเป็นรูปเวหาตอนที่โดนจับมัดแก้ผ้าควยโด่เห็นน้ำเงี่ยนเป็นประกายตรงปลายควยก่อนจะโดนตัดเกรด แม้รูปที่ลงจะเซ็นเซอร์ใบหน้าไว้ แต่ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์วันนั้นย่อมต้องจำขนาดควยอันมโหฬารดุ้นนี้ได้

เวหากัดฟันอย่างเคียดแค้นรู้ดีว่านี่เป็นการข่มขู่ให้เขายอมจำนน ถ้าเขาไม่ยอมทำตามที่สั่งรูปพวกนั้นคงถูกเผยแพร่ไปในวงกว้างกว่านี้ แต่การที่แสนทำอย่างนี้ถือว่าพลาดไปถนัดใจ เวหายิ้มมุมปากขณะที่ขอแคปเจอร์หน้าจอส่งเข้ามือถือของตัวเองโดยอ้างว่าจะเก็บไว้ยืนยันว่าแสนเรียกเขาไปหาจริงๆ

หลังเลิกเรียนเวหาก็ขับรถเข้าตัวเมืองเพื่อไปแจ้งความที่โรงพัก ร้อยเวรไม่อยู่ สิบเวรที่มารับเรื่องก็ดูท่าทางงงๆ กับข้อกล่าวหา แต่พอบอกชื่อจริงของแสนออกมาว่าเป็นคนที่เขาจะมาแจ้งความจับ สิบเวรก็รีบขอตัวเข้าไปปรึกษาผู้บังคับบัญชาทันที เวหานั่งรออยู่พักใหญ่จึงถูกเชิญไปพบกับสารวัตรในห้องทำงาน

สารวัตรท่าทางสุภาพและยังดูหนุ่มมากจนเด็กหนุ่มใจชื้นว่าคงคุยกันรู้เรื่องไม่ยาก เขาเล่าเหตุการณ์ตอนโดนรับน้องให้ฟังและบอกว่าต้องการแจ้งความข้อหาล่วงละเมิด

“ฟังๆ ดูมันก็เป็นรับน้องทั่วไป ไอเรื่องที่โดนมัดแล้วให้ผู้หญิงมาลวนลามนั่นก็ฟังเหมือนจะใส่ไข่เกินจริงไปหน่อยนะ เธอมีข้อมูลอื่นเพิ่มเติมอีกไหมล่ะ”

สารวัตรให้ความเห็นหลังฟังจบ

“ผมมีพยานสองสามคนที่จะยืนยันเรื่องนี้ได้” แสนตอบพลางนึกถึงเพื่อนที่มาจากกรุงเทพด้วยกัน

“คนเป็นหลายร้อยทำไมหาพยานได้แค่นี้ ทางตำรวจเองก็ไม่อยากตกเครื่องมือในการดิสเครดิตกันเพียงเพราะรุ่นน้องไม่ชอบรุ่นพี่หรอกนะ ยิ่งจังหวัดเราเป็นเมืองท่องเที่ยวด้วย เราไม่อยากให้เกิดข่าวฉาวโฉ่ด้วยเรื่องที่ไม่จริง”

“ผมมีหลักฐานด้วย นี่เป็นกลุ่มปิดทางเฟสบุ๊คที่ประธานรุ่นปีสี่เอาภาพอนาจารของผมที่ยังคับถ่ายไว้มาลง นอกจากข้อหาละเมิดแล้วผมแจ้งข้อหา พรบ. คอมพิวเตอร์ด้วยได้ใช่ไหมครับ”

เวหาข่มความอายเปิดรูปที่เห็นควยอันเบ้อเริ่มเทิ่มของตัวเองส่งให้ สารวัตรเอารูปในโทรศัพท์ของเวหามาดูอย่างเอื่อยเฉื่อย

“ในรูปมันไม่เห็นหน้านี่ ไม่มีอะไรบ่งบอกเลยนะว่าเธอเป็นเจ้าทุกข์ แล้วคนไทยน่ะ มันไม่ใหญ่ขนาดนี้หรอก นี่น่าจะเป็นภาพตัดต่อมาจากพวกเวบโป๊รัสเซียมากกว่า”

“รูปนี้เป็นผมจริงๆ นะครับ ถ้ายังไงผมให้เพื่อนมาช่วยยืนยันก็ได้”

“งั้นตกลงเธอจะแจ้งความแน่ๆ ใช่ไหม งั้นขอบัตรประชาชนด้วย”

“ครับ ผมไม่อยากให้คนเลวๆ ลอยนวล” เวหายืนยันพร้อมยื่นบัตรให้

“เปลี่ยนใจไม่ได้แล้วนะ เอ้า ถอดเสื้อผ้าออก”

“อะไรกัน ผมเป็นเจ้าทุกข์นะครับสารวัตร” เวหาร้องอย่างตกใจ

“ก็เธอแจ้งความแล้ว ตำรวจก็ต้องสืบคดีสิ ถอดเร็วๆ ผมจะเปรียบเทียบกับรูปที่เอามาเป็นหลักฐานว่าใช่คนเดียวกันจริงๆ”

เวหารู้สึกว่ามันมีอะไรไม่ถูกต้อง เขายังนั่งนิ่งพยายามคิดหาทางยืนยันด้วยวิธีอื่น

“เร็ว ไม่งั้นจะโดนข้อหาขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่นะ” สารวัตรตะคอกเสียงดัง ท่าทางสุภาพก่อนหน้านี้หายไปไม่เหลือ เวหากัดฟันถอดเสื้อผ้าออกตามคำสั่ง ในใจคิดว่ายังไงก็ผู้ชายเหมือนกัน แค่ให้สารวัตรดูคนเดียวคงไม่เป็นไร

เด็กหนุ่มถอดเสื้อผ้าออกมาพาดเก้าอี้ไว้ไม่เว้นแม้กางเกงใน เรือนร่างขาวอมชมพูเต็มไปด้วยความเนียนใสตึงแน่นของวัยหนุ่ม ขนดำขลับเรียงตัวเป็นไรสวยปรากฏจางๆ จากสะดือไล่ลงไปแผ่ออกเป็นพุ่มฟูนุ่มตรงโคนควย แท่งเนื้อมหึมาสงบนิ่งทอดยาวลงไปเจอกับถุงอัณฑะใบเขื่องห้อยยานโตงเตง หัวควยบานโผล่ออกมาจากหนังหุ้มปลายเล็กน้อยเห็นเป็นสีชมพูแก่รำไรๆ

สารวัตรมองด้วยความทึ่งนิดๆ

“ของเธอใหญ่จริง ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นของเด็กเพิ่งเข้ามหาลัย แต่ยังห่างจากในภาพอยู่เยอะ แจ้งความเท็จหรือเปล่า”

มีวิธีเดียวที่จะพิสูจน์ได้ เวหาสะกัดกั้นความอายแล้วเริ่มสาวควยช้าๆ ใช้เวลาอยู่พักใหญ่เลือดถึงได้สูบฉีดเข้าแท่งเนื้อมโหฬารจนแข็งตัวเต็มที่ ความยาวของมันเลยสองกำมือของเวหาไปมากโข

สารวัตรผิวปากหวือกับความพ่วงพีเกินหน้าเกินตาชายไทยของเด็กหนุ่มตรงหน้า เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปเก็บไว้โดยที่อีกฝ่ายไม่ทันตั้งตัว

“สารวัตร ห้ามถ่ายนะครับ” เวหาร้องเสียงดังพยายามเอามือปกปิดความใหญ่ยาวของตัวเองไว้ แต่ทำไงก็ไม่มิด

“นี่มันเป็นหลักฐานในการสืบคดีนะ ก็มาแจ้งความเอง” สารวัตรว่าแล้วก็สั่งให้เวหาเอามือออกไปประสานไว้หลังศีรษะ จากนั้นก็ถ่ายรูปในมุมต่างๆ ซึ่งเห็นทั้งใบหน้าหล่อเหลาและควยใหญ่ยักษ์ของเด็กหนุ่มจนพอใจ

“แต่จริงๆ ผมว่ามันก็ไม่เหมือนในรูปนะ อวัยวะเพศของเธอพอดูใกล้ๆ แล้วมันน่าจะใหญ่กว่าในรูปซะอีก งั้นรอตรงนี้ก่อน อย่าเพิ่งใส่เสื้อผ้าล่ะ” สารวัตรพูดแล้วก็หายออกไปนอกห้อง ทิ้งให้เวหายืนหนาวอยู่เพียงลำพัง แต่อีกไม่กี่อึดใจ สารวัตรก็กลับเข้ามาพร้อมด้วยตำรวจอีกเกือบสิบนายแน่นห้องไปหมดจนต้องเปิดประตูทิ้งไว้ สองคนในนั้นเป็นตำรวจหญิงด้วย

“คิดว่ายังไง พวกเรา ใช่คนเดียวกันเปล่า”

สารวัตรเปิดรูปในเฟสบุ๊คเวียนกันดูเพื่อขอความเห็น แต่บรรดาตำรวจที่มาใหม่ดูจะให้ความสนใจกับควยของเวหามากกว่า ต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์อย่างสนุกสนานท่ามกลางความอับอายของเจ้าตัว

“ใหญ่มากเลยนะว่าไหม ไม่เห็นกับตาไม่เชื่อจริงๆ”

“ดูหัวยังใสๆ อยู่เลย ผู้หญิงคงไม่ให้เอาสิท่า”

“คิกๆ น้องเขาหน้าอ่อนแบบนี้ ใครจะไปนึกว่างเครื่องเคราจะบิ๊กบึ้มยังกะนิโกร ถ้าใจดีเผื่อแผ่ให้ทั่ว รับรองสาวแก่แม่หม้ายติดกันเกลียวทั้งจังหวัด”

เวหาปั้นหน้าไม่ถูก เขาอายแทบจะแทรกแผ่นดินหนี มิหนำซ้ำ คนที่ผ่านไปผ่านมาด้านนอกห้องเริ่มมาชะเง้อมองว่าดูอะไรกันจนวุ่นวายไปหมด

“เอ้า พอได้แล้ว ตกลงว่าคนเดียวกันหรือเปล่า”

“คงใช่แหละสารวัตร ใหญ่แบบนี้คงหาไม่ได้อีกแล้ว”

“งั้นก็แยกย้ายไปได้แล้ว ผมจะสอบปากคำเจ้าทุกข์ต่อ”

พอคนอื่นออกไปจากห้องหมด เวหาก็รีบแต่งตัวอย่างเร็ว เขายัดควยเข้ากางเกงด้วยความยากลำบาก ของๆ เขาถ้าขึ้นแล้วมันแทบจะเอาลงไม่ได้เลยถ้าไม่ได้ปลดปล่อยออกมา ตอนนี้มันตึงแน่นเป็นลำอยู่ในกางเกงจนปวดไปหมด

“หลักฐานที่เธอมีมันยังอ่อนอยู่มาก ตอนนี้ผมส่งรูปเธอที่ถ่ายเมื่อกี๊กับรูปบัตรประชาชนเข้ากลุ่มไลน์ตำรวจและสายสืบในจังหวัดแล้ว ถ้ามีคนได้เบาะแสเพิ่มเติมมา ผมจะติดต่อกลับไปอีกที”

เวหาร้องขึ้นมาอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง “สารวัตรทำอะไรลงไป ส่งรูปเปลือยผมไปเข้ากลุ่มไลน์นี้นะ บ้าไปแล้ว ใครเห็นบ้างก็ไม่รู้ ถ้าหลุดไปจะทำยังไง”

“ถ้าพูดอย่างนั้นอีกทีจะถือว่าเธอดูหมิ่นเจ้าพนักงานแล้วนะ การแจ้งความไม่ใช่เล่นขาย มาให้สืบคดีไร้สาระอย่างนี้ผมก็ทำให้แล้วไง จะเอาอะไรอีก วันนี้กลับไปได้แล้ว ทางตำรวจก็มีงานอื่นต้องทำ ถ้ามีอะไรคืบหน้าผมจะเรียกตัวมา” สารวัตรเอ่ยปากไล่ เด็กหนุ่มเดินก้มหน้างุดๆ ออกไปด้วยความอับอายที่มีหลายคนในโรงพักเห็นควยของเขาแล้ว

เวหายังรอการติดต่อจากโรงพักอยู่แต่ความหวังก็ดูจะเลือนลางเต็มทน ระหว่างนั้นเขาก็ถูกข่มขู่จากแสนในหลายๆ เรื่อง หนึ่งในนั้นคือการบังคับให้เวหาลงประกวดเดือนคณะเพื่อที่จะไปประกวดเดือนมหาลัยต่อไป เวหาเป็นเด็กกรุงเทพเลยคุ้นชินกับกิจกรรมพวกนี้ เขาไม่ได้เขินอายอะไรถ้าจะต้องขึ้นเวทีประกวด เพียงแต่ไม่เข้าใจว่าทำไมแสนต้องมาเจาะจงที่ตัวเขา มิหนำซ้ำยังใช้เส้นสายทำให้เวหาได้รับตำแหน่งเดือนคณะวิศวะ แต่เรื่องที่เวหาไม่สบายใจมากๆ คือแสนบังคับเอาพาสเวิร์ดเฟสบุ๊คของเขาไปพร้อมทั้งสำทับไม่ให้เปลี่ยนใหม่ เขาไม่รู้ว่าแสนคิดจะทำอะไรแต่มันคงไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ

เวหาไปตามเรื่องจากสารวัตรที่โรงพักแต่ก็ได้ข่าวว่าสารวัตรไปอบรมที่กรุงเทพ เขาทำได้เพียงแต่แจ้งลงบันทึกประจำวันไว้ว่าถูกแสนเอารหัสเฟสบุ๊คไปเพื่อป้องกันตัวเองไว้ถ้าโดนเอาไปใช้ทำอะไรไม่ดี เขากลับเขาขับรถอย่างเหม่อลอยเพราะมัวแต่คิดเรื่องที่เกิดขึ้นจนฝ่าไฟแดงจนโดนตำรวจโบก

“ฝ่าไฟแดงมานะครับผม ขอใบขับขี่ด้วย”

“โทษทีครับ ผมเผลอไป”

เวหายื่นใบขับขี่ให้กับจ่าหนุ่มใหญ่วัยน่าจะสามสิบต้นๆ ซึ่งฝ่ายนั้นรับไปแล้วบอกให้ตามลงเอาใบสั่งที่ป้อมจราจรใกล้ๆ

พอเวหาตามเข้าไปก็เห็นจ่ามองหน้าอย่างสงสัย

“หือ เรานี่ชื่อคุ้นๆ นะ หน้าตาก็เหมือนเคยเห็นที่ไหน เฮ้ย นี่มันเด็กควยโคตรโตที่สารวัตรส่งรูปเข้ามาในกลุ่มไลน์นี่”

เวหาถึงกับช๊อค ไม่รู้ป่านนี้รูปที่สารวัตรถ่ายจะกระจายไปถึงไหนแล้ว นี่มันยิ่งกว่าที่แสนทำกับเขาอีก ไม่ทันได้ตอบอะไร จ่าก็พูดต่อเหมือนจะยืนยันสิ่งที่เขาคิด

“ไอที่ในรูปมันของจริงเหรอ เพื่อนจ่าก็บอกว่าไม่น่าใช่ เห็นว่าคงตัดต่อรูป จ่าก็ส่งไปให้เมียดูเมียจ่าก็ไม่เชื่อเหมือนกัน แต่ก็ชมว่าเอ็งหล่อมาก แล้วคดีที่เอ็งถูกข่มขืนไปถึงไหนแล้วล่ะ”

จ่าดูตื่นเต้นแถมยังเพิ่มความสนิทสนมด้วยการเรียกข้าเอ็ง

“ไม่ได้ถูกข่มขืนครับจ่า โดนรุ่นพี่ล่วงละเมิดสิทธิส่วนบุคคล”

“เออ นั่นแหละ ว่าแต่เอ็งเล่นไปแจ้งข้อหากับคุณแสนลูกท่านนายกเทศมนตรีนี่นะ ไม่มีใครในจังหวัดนี้เขาเชื่อหรอกว่าคุณแสนจะทำอะไรไม่ดี บ้านนั้นเขาเป็นตระกูลดั้งเดิมของจังหวัด แต่ละรุ่นก็สร้างความเจริญให้กับที่นี่มาตลอด เอ็งมาจากกรุงเทพคงไม่รู้ ยิ่งท่านนายกคนนี้ด้วย ท่านเป็นคนดีจริงๆ ตั้งใจทำงาน ไม่คอรัปชั่น ไม่รับสินบน คนเลยเคารพรักกันทั้งเมือง ข้าไม่ได้รู้จักกับคุณแสนโดยตรง แต่ก็ได้ข่าวว่าเป็นคนเก่งคนดีตามรอยพ่อเป๊ะ อนาคตคงได้รับเลือกเป็นนายกต่อจากพ่อ จังหวัดเราคนมันนิสัยนักเลง อาจเสียงดังโวยวายไปบ้างแต่ก็รู้ผิดชอบชั่วดี คนต่างถิ่นอย่างเอ็งมาใส่ความแบบนี้ ไม่มีใครเขาเอาด้วยหรอก”

เวหาหูผึ่ง ไม่นึกว่าแสนจะมีอิทธิพลจากทางพ่อมากขนาดนี้ มิน่าพวกรุ่นพี่ถึงไม่มีใครกล้าหือ เขาสังเกตว่าจ่าคนนี้เป็นคนซื่อๆ มีอะไรก็บอกออกมาตรงๆ เลยพยายามล้วงข้อมูลเพิ่มเติม

“ที่ผมเจอมา เขาไม่ได้เป็นอย่างพ่อแน่ๆ มันไม่มีข่าวไม่ดีเกี่ยวกับเขาออกมาเลยหรือจ่า”

“มันก็มีข่าวลือบ้าง บางทีก็เกี่ยวกับเครือข่ายญาติๆ เขา จริงเปล่าก็ไม่รู้ แต่ข้าเล่าให้ฟังไม่ได้หรอก มันข้อมูลวงในของตำรวจ”

“โธ่จ่า ช่วยผมหน่อยเถอะ ถ้าเขาเป็นคนดีจริงมันก็ไม่มีอะไรเสียหายไม่ใช่เหรอ”

“มันก็จริงนะ ข้าเชื่อว่ายังไงคุณแสนก็ไม่ทำอะไรไม่ดีแน่ แต่มีเงื่อนไข ข้าขอดูควยเอ็งหน่อย สงสัยมาหลายวันแล้วว่ามันจะใหญ่ขนาดนั้นได้จริงหรือ แล้วขอถ่ายรูปไปฝากเมียด้วยนะ วันที่ข้าส่งรูปเอ็งไปให้ มันนั่งดูทั้งวัน ตอนทำการบ้านกันแม่งโคตรมันเลยสงสัยเงี่ยนมาตั้งแต่กลางวัน ข้าจะเอารูปเอ็งไปปลุกอารมณ์มันอีก ตกลงเปล่า เดี๋ยวแถมไม่ออกใบสั่งให้เอ็งด้วย”

เวหาสะดุ้งโหยง ไม่รู้ว่าทำไมใครต่อใครจะมายุ่มย่ามกับควยเขาขนาดนี้ แต่เขาก็ไม่ได้เสียอะไรเพิ่ม รูปเขาแก้ผ้าก็เห็นกันหมดแล้วในแวดวงตำรวจ เวหาพยักเป็นเชิงตกลง ตอนนี้เขาจำเป็นต้องรู้ข้อมูลให้มากที่สุด จ่ารีบไปปิดประตูป้อมทันทีพร้อมควักโทรศัพท์ออกมาเตรียมพร้อม เด็กหนุ่มแก้กางเกงออกจนท่อนล่างเปลือยเปล่า แอบรู้สึกหวิวๆ เพราะป้อมยามแห่งนี้ตั้งอยู่ติดถนนแถมมีหน้าต่างเปิดโล่ง คนผ่านไปผ่านมาอาจจะมองเข้ามาเห็นควยเขาได้

จ่ามองควยของเด็กหนุ่มอย่างตกตะลึง ขนาดอ่อนตัวอย่างนี้มันยังใหญ่กว่าของใครที่เคยเห็นมา ตำรวจหนุ่มใหญ่ขอจับกันดื้อๆ ซึ่งเวหาก็ไม่ได้ปฏิเสธ เขาคิดว่าควรจะผูกมิตรกับจ่าซื่อๆ คนนี้ไว้ จ่าสาวควยของเด็กหนุ่มอย่างมันมือ ในที่สุดมันก็ขยายตัวเต็มที่อย่างแสนจะประทับใจจ่า ทั้งคู่ถ่ายรูปเซลฟี่กันโดยมีมือจ่ากำดุ้นยักษ์ของเวหาไว้เป็นการยืนยันความใหญ่ของมัน

หลังจากจ่าส่งรูปไปอวดเมียอย่างภูมิใจแล้ว เวหาก็ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์รู้เขารู้เราขึ้นมาไม่น้อย ตอนนี้เขาทราบว่าแสนมีเครือข่ายพรรคพวกญาติพี่น้องอยู่มากมาย เขาคงไม่ต้องหวังว่าจะพึ่งกระบวนการยุติธรรมของจังหวัดนี้ได้ซักเท่าไหร่

เวหาแลกเปลี่ยนเบอร์โทรกับจ่าคนซื่อพร้อมทั้งกำชับว่าให้เก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ นึกๆ ไปก็กระดากอายเหมือนกันที่ใช้ควยมาแลกเปลี่ยนข้อมูล แต่ผลที่ได้มันก็คุ้มค่าไม่น้อย

เวหาเป็นที่รู้จักกันนอกคณะมากขึ้นเมื่อได้รับตำแหน่งเดือนคณะวิศวะ ถึงแม้มันจะได้มาด้วยการเล่นเส้นของแสนแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ารูปร่างหน้าตาของเวหาเหมาะสมกับตำแหน่งนี่จริงๆ ใบหน้าขาวใสคมสันตามแบบหนุ่มกรุงเทพที่ดูแลตัวเองอย่างดี เวหารูปร่างสูงมีกล้ามเนื้อสวยงามถึงจะไม่ใหญ่โตแบบสายเพาะกล้าม ดูๆ ไปก็น่าจะเป็นความหวังของคณะในการประกวดอยู่ไม่น้อย แต่วิศวะพลาดตำแหน่งเดือนมหาลัยติดกันมาสองปีแล้วทั้งๆ ที่ก่อนหน้านั้นก็ได้อยู่เป็นประจำ ทุกคนยังกังขาว่าแสนที่อยู่ๆ ก็ทำตัวเป็นป๋าดันขึ้นมาจะสามารถส่งเวหาให้คว้าตำแหน่งหนุ่มหล่อที่สุดของมหาลัยกลับมาให้คณะได้ไหม

การประกวดดาวเดือนที่มหาลัยนี้เป็นกิจกรรมที่นักศึกษาจัดกันเองและใช้เกณฑ์ในการตัดสินไม่เหมือนที่อื่น ถึงจะมีตัวแทนจากคณะต่างๆ เข้ามาเป็นกรรมการ แต่หน้าที่จริงๆ ก็เป็นการเอาความนิยมที่มีต่อตัวผู้เข้าประกวดแต่ละคนจากสื่อโซเชียลต่างๆ มาหารือกันและจะตัดสินใจจากกระแสล่าสุดตอนช่วงประกวด นั่นเป็นเหตุให้คณะวิศวะที่คุมอำนาจการปกครองในมหาลัยจนเป็นที่หมั่นไส้ถูกต่อต้านอย่างลับๆ จากคณะอื่นจนชวดตำแหน่งดาวเดือนติดๆ กันมาสองปี

ทีแรกเวหาก็ยังใจชื้นเพราะกันต์รูมเมทเขาก็ได้รับเลือกเป็นเดือนคณะเภสัชเหมือนกัน อย่างน้อยก็มีคนเข้าประกวดเป็นเพื่อน เขาไม่แปลกใจหรอกถ้ากันต์จะได้ตำแหน่งเดือนมหาลัยไปครองเพราะถึงเขาจะหน้าตาดีแต่ออร่าสู้กันต์ไม่ได้จริงๆ อีกฝ่ายนั้นมีราศีอะไรบางอย่างที่เหมือนคนเป็นดารา ถ้าอยู่บนเวทีคงเด่นเด้งจนคนอื่นหมองไปเลย แต่อยู่ๆ ก่อนวันประกวดคณะเภสัชก็ถอดกันต์ออกจากตำแหน่งเดือนคณะกะทันหันโดยไม่ระบุเหตุผล เด็กหนุ่มตี๋ที่หน้าตาไม่ถึงครึ่งของกันต์ถูกส่งมาประกวดแทนท่ามกลางความไม่เข้าใจของเวหา แต่เขาเองก็ไม่อยู่ในสถานะที่จะเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับเพื่อนได้เพราะตัวเองก็อยู่ในสภาพกดดันจากประธานรุ่นปีสี่

“มึงต้องเอาตำแหน่งมาให้ได้ ไม่งั้นมึงเรียนอยู่นี่ไม่เป็นสุขแน่” แสนออกคำสั่งกับเวหาก่อนก่อนที่เด็กหนุ่มจะไปเตรียมตัวขึ้นเวทีประกวด

“ผมจะไปควบคุมได้ยังไง มันขึ้นอยู่กับกรรมการกับคนโหวต” เวหาตอบกลับหน้าตึง ไอ้บ้าอำนาจนี่มันจงใจแกล้งกันชัดๆ

“กระด้างกระเดื่องเหรอสัตว์ อย่าลืมว่าอนาคตของมึงในคณะนี้อยู่ในกำมือกู กูจะให้มึงเลือก ถ้ามึงยอมกินไอนี่ก่อนขึ้นประกวด กูจะถือว่ามึงไม่คิดต้านกูและจะปล่อยให้มึงอยู่สบายไปพักนึง”

แสนส่งยาในแผงอะลูมิเนียมให้ เวหารับมาดูแล้วแทบจะปาใส่หน้าคนให้

“มึงจะให้กูแดกไวอากร้าขึ้นเวทีนี่นะ มึงก็รู้ว่าควยกูเป็นยังไง จะให้กูอับอายขายขี้หน้าคนทั้งมหาลัย กูไม่ทำ”

“มึงเลือกแล้วนะ อย่ามาเสียใจทีหลังแล้วกัน”

เวหาแปลกใจที่อีกฝ่ายดูจะยอมล่าถอยไปง่ายๆ แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจเพราะเป็นตายยังไงเขาก็ไม่ยอมควยโด่ขึ้นเวทีแน่ เด็กหนุ่มเข้าไปเปลี่ยนเป็นชุดนักศึกษาใหม่เอี่ยมที่ผู้จัดเตรียมไว้ให้ แต่กางเกงสีดำที่ค่อนข้างพอดีตัวทำให้เกิดความยากลำบากในการจัดเก็บเครื่องเคราให้เข้าที่เข้าทาง เขาพยายามอย่างดีที่สุดแต่ไข่แฝดใบเขื่องกับท่อนเนื้อขนาดใหญ่อัดแน่นกันอยู่ตรงเป้าจนนูนใหญ่ เขาจัดควยไปไว้ทางซ้ายแล้วขยับพวงไข่ยานๆ ไปกองทางขวาเพื่อไม่ให้มันเบียดกัน เวหาทำอะไรไม่ได้มากกว่านี้ แค่นี้ก็ออกจากห้องน้ำเหงื่อท่วมจนรุ่นพี่ที่เป็นช่างแต่งหน้าดุเอา

เรตติ้งของเวหาในช่วงก่อนการประกวดก็ไม่ได้ดีมาก ถึงพวกวิศวะจะแห่กันไปกดไลค์ให้แต่ก็ไม่มีเสียงจากเด็กคณะอื่นเลย เมื่อถึงเวลาขึ้นเวทีประกวดจริง ผิวขาวใสของเวหาดูออร่าจับมาก ใบหน้าหล่อเหลาคิ้วเข้มแววตาคมกล้าแถมเป้ากางเกงที่แน่นตุง ทำให้ดูโดดเด่นกว่าเดือนคณะอื่น แต่คะแนนในโซเชียลก็ยังไม่กระเตื้องเท่าไหร่ เวหาเพิ่งได้มีโอกาสเช็คเรตติ้งตอนที่กลับไปพักหลังเวทีเพื่อรอคิวการแสดงของตัวเอง เขารู้สึกเฉยๆ กับเรื่องนี้เพราะไม่ได้อยากจะเป็นเดือนมหาลัยอยู่แล้ว แต่เมื่อเขากลับขึ้นเวทีไปเพื่อทำการแสดงของตัวเองซึ่งเป็นแค่การเล่นกีต้าร์ร้องเพลงร่วมกับดาวคณะ เสียงฮือฮาของคนดูด้านล่างก็ดังจนเด็กหนุ่มแปลกใจ สังเกตดูดีๆ ไม่มีใครสนใจการแสดงของเขาเลย ได้แต่ก้มมองโทรศัพท์และสะกิดกันดูอะไรบางอย่างในนั้น บ้างก็พิมพ์แชทข้อความรัวๆ ไม่ก็โทรศัพท์คุยกับปลายสายด้วยท่าทางตื่นเต้น

หลายคนเหมือนจะทำธุระกับมือถือเสร็จแล้วถึงได้เงยหน้าขึ้นมาจ้องมองการแสดงของเวหาแบบไม่วางตา เด็กหนุ่มรู้สึกขนลุกกับแววตาแปลกๆ ที่ได้รับ แต่ก็ฝืนใจร้องไปจนจบเพลง จากนั้นก็ออกไปยืนรอด้านข้างเวทีเพื่อรอการแสดงของอีกสองคณะสุดท้ายก่อนจะออกมายืนรวมกันเพื่อฟังคำตัดใจ ผู้เข้าประกวดทั้งหมดบนเวทีไม่มีโอกาสรู้ว่าเทรนด์คะแนนล่าสุดเป็นอย่างไรเพราะต้องฝากโทรศัพท์ไว้กับทีมงาน

เวหารู้สึกผ่อนคลายลง เขาไม่สนใจผลการแข่งขัน แต่โล่งใจที่การประกวดกำลังจะจบลงโดยที่แสนไม่ได้คุกคามอะไรเพิ่มเติม แต่ถึงอย่างนั้นหนี้แค้นมันก็ยังค้างอยู่มากเหลือเกิน เวหาเหม่อลอยคิดถึงความเป็นไปได้ที่จะใช้เส้นสายทางบ้านตัวเองเพื่อมาจัดการกับลูกนายกเทศมนตรีอย่างแสน จนถูกเพื่อนเดือนข้างๆ สะกิดเอาแรงๆ

“เวหาๆ ออกไปด้านหน้าสิ นายได้ตำแหน่งเดือนมหาลัยนะ ไม่ได้ยินเหรอ”

เวหาเงยหน้าขึ้นมาอย่างอึ้งๆ เสียงที่ดังกระหึ่มอยู่มันไม่เชิงเป็นเสียงเชียร์เพื่อแสดงความยินดี กึ่งๆ จะเป็นการโห่มากกว่า เด็กหนุ่มออกไปรับช่อดอกไม้แสดงความยินดีอย่างงงๆ ท่ามกลางเสียงตะโกนจากคนด้านล่างที่พอจับใจความได้ว่าได้แล้วก็ทำอย่างที่พูดด้วย เวหาไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงได้ตำแหน่งพอๆ กับที่ไม่เข้าใจว่าคนดูด้านล่างทำท่าเหมือนเขาไปติดค้างอะไรไว้ตั้งแต่ชาติปางไหน ไม่เฉพาะคนดู แต่คนอื่นๆ ทั้งพิธีกรหรือแม้แต่ผู้มอบรางวัลก็มีท่าทีที่แปลกๆ ไปเหมือนกัน

คำตอบทั้งหมดก็กระจ่างเมื่อเขาลงจากเวทีและอ่านโพสต์ในโทรศัพท์ที่เพื่อนรีบเอามาให้ดูด้วยสีหน้ากังวล

“มึงต้องทำขนาดนี้เลยเหรอวะ หรือว่าไอพี่แสนมันบังคับมึง”

เวหาตาเหลือกเมื่อเห็นชื่อเฟสของตัวเองไปโพสต์ใต้รูปที่ใช้ในการโหวตว่า

‘ถ้าผมได้ตำแหน่งเดือนมหาลัย จะวิ่งแก้ผ้ารอบมอให้ดู #วัดใจเดือนวิศวะ #เวหาคนจริง’

พอเลื่อนลงมาอ่านเม้นท์ด้านล่าง ก็ไม่แปลกใจว่าทำไมคะแนนของเขาถึงได้พุ่งกระฉูดอย่างนั้นในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ข้อความนั้นถูกแชร์ถูกแทกถูกเมนชั่นไปเป็นร้อยเป็นพันคนเพื่อเรียกแขกให้มาโหวตให้เขาได้เป็นเดือนสมใจ ไม่ว่าเขาจะวิ่งแก้ผ้าตามที่สัญญาไว้ หรือจะเบี้ยวจนเสียศักดิ์ศรีคณะ ก็คงสร้างความสะใจให้กับคนที่หมั่นไส้คณะวิศวะไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน เวหาไม่นึกเลยว่าพาสเวิร์ดเฟสบุคที่เขายอมให้แสนไป จะถูกนำมาใช้ได้เจ็บแสบอย่างนี้ แสนฉลาดมาก เพราะนี่เป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว ทั้งได้กลั่นแกล้งเขา ทั้งได้หลอกล่อให้คนมาโหวตจนวิศวะชิงตำแหน่งเดือนกลับมาได้

สมองของเวหาประมวลทางเลือกอย่างเร็วจี๋ เขาไม่ยอมแก้ผ้าวิ่งแน่ๆ นั่นตัดไปได้เลย แต่เขาจะบอกสังคมในมหาลัยได้ยังไง ถ้าพูดความจริงออกไป คนส่วนใหญ่คงจะเชื่อแสนมากกว่า ไม่มีใครกล้าที่จะไม่เชื่อ จะบอกว่าถูกแฮ็กเฟสก็ดูเป็นคำแก้ตัวน้ำเน่าที่ฟังไม่ขึ้น เขาคงต้องเรียนที่นี่อย่างไร้ศักดิ์ศรีไปอีกสี่ปี ถึงแม้เรื่องราวมันคงจะค่อยๆ เบาบางลง แต่มันจำเป็นไหมที่ต้องทน

เวหาตัดสินใจได้ในเดี๋ยวนั้นว่าจะลาออกจากมหาลัย เขายอมเสียเวลาไปอีกปีนึงดีกว่าจะต้องถลำลึกลงไปในเกมของแสน มหาลัยบ้านป่าเมืองเถื่อนแบบนี้ไม่เห็นมีอะไรให้ต้องอาวรณ์ ไว้ตั้งหลักให้ดีกว่านี้ค่อยแก้แค้นก็ยังไม่สาย

“ได้ตำแหน่งแล้วก็อย่าลืมไปวิ่งตามที่ประกาศไว้ด้วยนะ ถ้าไม่ทำมึงคงรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น” แสนยักคิ้วให้พร้อมกับพูดจาเยาะเย้ย เวหารู้สึกขอบคุณตัวเองที่หาทางออกไว้ก่อนแล้วไม่ต้องดิ้นไปเกมของแสน

“ผมไม่มีความจำเป็นต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ผมไม่ได้ทำ ใครทำก็ไปวิ่งโทงเทงเป็นเปรตเองแล้วกัน”

แววตาสีน้ำตาลเข้มของแสนวาวโรจน์ขึ้นมาอย่างน่ากลัว เขากระชากคอเสื้อของเวหามาใกล้จนรู้สึกถึงลมหายใจร้อนผ่าวของอีกฝ่าย

“ปากดีนักนะมึง ถึงมึงจะยอมเป็นไอลูกหมาไม่รักษาคำพูด แต่กูยอมให้คณะโดนดูถูกไม่ได้ มึงต้องทำไม่งั้นรูปมึงตอนนั้นกระจายไปทั่วแน่”

“จะปล่อยก็เชิญ แค่รูปผมคงอายไม่เท่ากับต้องวิ่งแก้ผ้ากันสดๆ หรอก แล้วอย่าลืมว่ารูปพวกนั้นก็เป็นหลักฐานประจานความชั่วของพี่เหมือนกัน ถ้าเรื่องมันดังระดับประเทศขึ้นมาญาติพี่น้องพี่คงคุ้มกะลาหัวพี่ได้อยู่หรอก”

แสนชะงักไปนิดนึงแล้วก็แสยะยิ้มอย่างเหี้ยมเกรียม

“เก่งนักนะ ยังไงมึงไม่พ้นต้องมากราบตีนกู”

เวหาฟังแล้วก็ยิ้มเยาะในใจ ยังไงเขาก็จะไปจากที่นี่อยู่แล้ว ถ้าจะตามไปที่กรุงเทพก็เอาสิ ถิ่นใครถิ่นมัน

คืนนั้นเวหาเก็บข้าวของที่สำคัญใส่กระเป๋าเดินทาง ถึงจะเจ็บใจที่ต้องไปซะก่อนจะมีโอกาสได้แก้แค้นแต่เขาคงไม่อยู่รอให้อีกฝ่ายทำอะไรไปมากกว่านี้แน่ กันต์ที่ไม่รู้เรื่องราวด้วยถามไถ่ด้วยความเป็นห่วงจนเขาอดไม่ได้ที่จะระบายเรื่องราวคร่าวๆ ออกมาให้เพื่อนที่ไม่รู้จะได้เจอกันอีกเมื่อไหร่

“นี่นายจะลาออกเพราะเรื่องแค่นี้เองเหรอ”

เวหามองหน้าซื่อๆ ของกันต์อย่างไม่เชื่อหูตัวเอง

“ถูกบังคับแก้ผ้าถ่ายคลิปทุเรศๆ แล้วยังจะโดนให้ไปวิ่งเปลือยเป็นเปรตรอบมหาลัยนี่นะเรื่องแค่นี้ของนาย”

“อื้อ ไม่เห็นเป็นอะไรซักหน่อย ก็เรื่องธรรมชาตินี่นา”

เวหาอึ้งไปเพราะกำลังคิดว่าอีกฝ่ายอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบไหนถึงเห็นว่าเรื่องพวกนี้เป็นเรื่องปกติ หรือจะเป็นเด็กที่โตเมืองนอกที่มีวัฒนธรรมเปิดกว้างกว่าเมืองไทย แต่ถึงยังไงเขาไม่ได้เล่าเรื่องสุดแสนอัปยศในวันตัดเกรดอย่างละเอียดเพราะไม่อยากให้คณะดูน่าสมเพชต่อคนนอก

“นายไม่รู้เรื่องทั้งหมดนะสิ แต่เอาเถอะ ยังไงเราก็จะไม่อยู่นี่แล้ว พวกของใหญ่ๆ นี่เราไม่เอากลับนะ นายใช้ต่อตามสบายเลย ดีใจที่ได้เป็นรูมเมทกับนายนะ หวังว่าเราคงได้เจอกันอีก”

เวหาหมายความอย่างที่พูดจริงๆ เขารู้ตัวว่านิสัยลูกคุณหนูเอาแต่ใจไม่ยอมคนของเขาใช่จะหาคนที่อยู่ด้วยอย่างสบายใจได้ง่ายๆ กันต์ทั้งมีน้ำใจ ไม่ยุ่งเรื่องส่วนตัวเขาจนเกินไป หน้าตาก็ดีมากและท่าทางฐานะก็ดีด้วย ถือเป็นความโชคดีของเขาที่ได้มาเจอคนอย่างนี้ในมหาลัยบ้านป่าเมืองเถื่อนแห่งนี้

วันรุ่งขึ้นเด็กหนุ่มขนของออกจากห้องแต่เช้าเพื่อเตรียมที่จะยื่นใบลาออกต่อคณะก็พอดีกับที่ได้รับโทรศัพท์จากโรงพักเสียก่อน ทางปลายสายบอกว่าให้เขาไปพบกับสารวัตรด่วนเพราะมีเบาะแสสำคัญเกี่ยวกับเรื่องที่เขาไปแจ้งความไว้ เวหาเริ่มมีความหวังขึ้นมา บางทีตำรวจที่นี่อาจจะไม่แย่อย่างที่เขาคิด เขายังพอมีเวลา ลองไปดูว่าพอจะมีอะไรใช้เล่นงานแสนได้ก็น่าจะดี เวหานึกถึงภาพที่เขากลับไปเข้ามหาลัยดีๆ ในกรุงเทพขณะที่แสนวิ่งหัวหมุนเพื่อแก้ต่างคดีที่ตัวเองก่อไว้

“สายของเราได้ส่งเบาะแสที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้มาให้ ดูแล้วมันซีเรียสกว่าที่คิด อาจจะเป็นคดีอาญาเลยด้วยซ้ำ ทางตำรวจเลยต้องติดตามคนผิดมาลงโทษให้เร็วที่สุด” สารวัตรเข้าประเด็นทันทีที่เวหามาถึง เด็กหนุ่มโห่ร้องในใจอย่างลิงโลด คราวนี้แสนเจอของหนักแน่ คดีอาญาแบบนี้ต่อให้พ่อใหญ่ก็น่าจะรอดยาก ขอบคุณความยุติธรรมที่ยังมีอยู่ในสังคม

“จำเลยจะโดนข้อหาอะไรครับ” เวหาถามอย่างตื่นเต้น

“กระทำอนาจารผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปี แต่ไม่เกินสิบแปดปี”

เด็กหนุ่มถึงกับงง สิ่งที่แสนทำกับเขา อาจจะมองว่าเป็นการกระทำอนาจารได้อยู่ แต่เขาก็อายุเกินสิบแปดแล้ว ทำไมถึงกลายเป็นข้อหานี้ เวหากลัวจะเกิดข้อผิดพลาดขึ้น จึงตามย้ำให้มั่นใจ

“แต่ผมอายุสิบแปดแล้วนะครับสารวัตร”

“ก็เพราะอายุสิบแปดแล้วนี่ไง คุณถึงตกเป็นผู้ต้องหาคดีนี้ ผมขอจับกุมคุณข้อหากระทำชำเราต่อเด็กสาวตามหลักฐานในคลิปนี้ ซึ่งเป็นผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปี แต่ไม่เกินสิบแปดปี ผู้ถูกจับมีสิทธิที่จะไม่ให้การหรือให้การก็ได้ ถ้อยคำของผู้ถูกจับนั้นอาจใช้เป็นพยานหลักฐานในการพิจารณาคดีได้ และผู้ถูกจับมีสิทธิที่จะพบและปรึกษาทนายความได้”

เวหาตะลึงกับเหตุการณ์ที่เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ จังหวัดนี้มันกลายเป็นแดนสนธยาไปแล้วหรือไร ต่อให้แสนมีอิทธิพลมากแค่ไหนก็ไม่น่าจะสั่งตำรวจให้ยัดข้อหาที่ไม่มีมูลแม้แต่น้อยได้แบบนี้

“นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน ผมเป็นเจ้าทุกข์นะ ยัดข้อหาผู้บริสุทธ์แบบนี้สารวัตรเดือนร้อนแน่ อย่าคิดว่านักศึกษาอย่างผมจะไม่มีเส้นสายนะ”

สารวัตรไม่ได้มีท่าทีเดือดเนื้อร้อนใจแม้แต่น้อย กลับมองเด็กหนุ่มด้วยสายตาสมเพช แล้วเปิดคลิปในโทรศัพท์ตัวเองให้อีกฝ่ายดู เวหาถึงกับตกตะลึงเมื่อเห็นคลิปรับน้องซึ่งตัดมาเป็นช่วงที่เขาถูกแก้มัดแล้ว และกำลังแอ่นควยให้เด็กสาวดูดและชักว่าวให้ ในคลิปเห็นใบหน้าของเขาอย่างชัดเจน โดยเฉพาะตอนที่ใบหน้าเขาเหยเกมือไปขยำหน้าอกอวบอย่างแรงก่อนที่จะน้ำแตกเต็มหน้าของเด็กสาว คลิปตัดจบตรงนี้โดยไม่ติดใบหน้าของแสนหรือคนอื่นๆ เลย

“คลิปนี้มีพลเมืองดีส่งมาให้ แค่นี้หลักฐานคงชัดเจนเพียงพอนะ เด็กคนนี้เพิ่งอายุสิบเจ็ดเอง ยังเป็นนักเรียนมัธยมอยู่เลย น่าสงสารจริงๆ ที่ต้องมาเป็นเหยื่อกามแบบนี้ คดีใหญ่เลยนะ ว่าไหม พ่อแม่เธอจะเสียหน้าซักแค่ไหน รวมถึงไอเส้นใหญ่ๆ ที่ว่าด้วย เขาจะอยากมายุ่งเกี่ยวคดีฉาวโฉ่แบบนี้เหรอ”

“ไม่จริง ผมถูกประธานรุ่นปีสี่บังคับ สารวัตรต้องเห็นเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ ผมถูกมัดและก็ถูกข่มขู่ด้วยว่า ถ้าผมไม่มีอะไรกับเด็กคนนี้ เขาจะให้คนข่มขืนผมทางประตูหลัง แล้วเด็กผู้หญิงคนนี้ก็น่าจะถูกข่มขู่มาเหมือนกัน สารวัตรต้องไปคุยกับเธอจะได้รู้ความจริงทั้งหมด”

“แต่หลักฐานทั้งหมดมันไม่ได้บอกอย่างนั้นนะ มีอะไรก็ไปแก้ต่างกับอัยการแล้วกัน ผมต้องทำการจับกุมและทำประวัติอาชญากรตามหน้าที่”

เวหาตกใจมาก ถ้าเรื่องมันไปขนาดนั้นชื่อเสียงของวงศ์ตระกูลจะเสียหายแค่ไหน ถึงที่หลังจะพิสูจน์ความจริงได้ แต่นักข่าวคงใส่ไข่จนเป็นเรื่องราวใหญ่โตไปแล้ว พ่อของเวหาเป็นทูตที่ตอนนี้ประจำอยู่ต่างประเทศ ประวัติด่างพร้อยแบบนี้เป็นเรื่องที่รับไม่ได้จริงๆ เขาคิดอะไรไม่ออกเลยลุกขึ้นแล้ววิ่งออกจากห้องตั้งใจจะหนีไปตั้งหลักหาทางออกก่อน

สารวัตรเดาเหตุการณ์ไว้อยู่แล้ว นายสิบสองคนที่ดักรออยู่ด้านนอกล๊อคตัวเด็กหนุ่มกลับเข้ามาในห้องในทันที

“ขัดขืนและหลบหนีการจับกุมของเจ้าพนักงาน เพิ่มอีกข้อหาแล้วสิ หมู่บันทึกไว้ด้วยนะ ทีนี้ก็ถอดเสื้อผ้าผู้ต้องหาออกแล้วเอากุญแจมือล็อคไขว้หลังไว้ค้นตัวให้ละเอียดเลยนะว่ามีอาวุธซ่อนไว้หรือเปล่า ถ่ายรูปไว้ด้วยว่ามีร่องรอยการถูกต่อสู้ขัดขืนด้วยไหม”

สายตาเวหามีแต่ความตระหนก เรื่องมันลุกลามมากกว่าที่คิด นายสิบสองคนถอดเสื้อผ้าเขาออกจนเหลือแต่ตัวเปลือยเปล่า แขนทั้งสองข้างถูกใส่กุญแจไว้จากด้านหลัง สารวัตรออกคำสั่งให้ถ่ายรูปร่างกายของเวหาไว้อ้างว่าเพื่อหาร่องรอยหลักฐาน ไม่เพียงภาพเปลือยตัวตัวในมุมต่างๆ แต่อวัยวะพึงสงวนทั้งหมดก็ถูกบันทึกไว้ทุกสัดส่วน ควยนุ่มนิ่มถูกถอกหัวออกมาถ่ายโคลสอัพจนเห็นรูเยี่ยวสีชมพูเข้มชัดเจน พวงไข่ถูกรูดหนังจนตึงเห็นกะโปกใบใหญ่สีชมพูอ่อนมีขนหรอมแหรม แม้แต่จุดที่อยู่ในซอกหลืบอย่างรูตูดก็ถูกแหกออกมาให้เห็นรอยจีบปิดสนิทมีขนอ่อนๆ ขึ้นโดยรอบ

“หมู่ ถ่ายเสร็จแล้วเก็บตัวอย่างอสุจิผู้ต้องหาด้วยนะ”

“ขออนุญาตปลดกุญแจมือผู้ต้องหาก่อนครับผม ผู้ต้องหาจะได้จัดการตัวเอง”

“ไม่ได้ ผู้ต้องหามีความพยายามที่จะหลบหนี หมู่ก็ทำไปสิ”

นายสิบผิวคล้ำหน้าเข้มทำท่ากระอักกระอ่วนที่ต้องมาสำเร็จความใคร่ให้ผู้ชายด้วยกัน เขาเบือนหน้าไปอีกทางแล้วจับควยของเวหาขึ้นมาสาวแบบรีบๆ อย่างไม่ปราณีปราศรัย ยิ่งพอท่อนเนื้อสีอ่อนขยายตัวเต็มที่จนกำไม่มิดส่วนปลายเริ่มมีน้ำเยิ้ม ตำรวจหนุ่มก็ยิ่งขยะแขยง เวหาหน้าแดงก่ำด้วยความอาย สารวัตรซ่อนยิ้มไว้ที่มุมปากขณะเอาโทรศัพท์มาบันทึกวิดีโอเหตุการณ์ที่เด็กหนุ่มผิวขาวหุ่นดีหน้าตาหล่อเหลากำลังถูกตำรวจผิวคล้ำหุ่นล่ำในเครื่องแบบสีกากีฟิตเปรี๊ยะชักว่าวโดยมีตำรวจอีกนายยืนคุมเชิงอยู่

เวหาอายเหลือที่จะบรรยาย แท่งควยที่มโหฬารจนเป็นปมด้อยมาตลอดชีวิตตอนนี้ถูกจับกุมอยู่ในกำมือผู้หมู่หนุ่ม ไม่นับทั้งสายตาทั้งเลนส์กล้องที่จับจ้องมา แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่พยายามฝืนตัวเอง เหตุการณ์น่าสมเพชนี้ควรจะจบโดยเร็ว เด็กหนุ่มหลับตาพยายามจินตนาการว่ามือใหญ่สากๆ ของผู้หมู่คือการปรนเปรอของหญิงสาวสวยๆ ซักคน แต่มันก็ไม่ง่ายนัก

เวลาผ่านไปครู่ใหญ่โดยที่แท่งควยยักษ์นั้นไม่มีทีท่าว่าจะน้ำแตกออกมา นายสิบอีกคนถูกสารวัตรสั่งให้เข้าไปช่วยเพื่อนอีกแรง คนนี้ดูช่ำชองในเรื่องแบบนี้ไม่น้อย เขาประกบเวหาจากด้านหลัง ใช้ปลายคางที่มีเคราขึ้นสั้นๆ ไซร้ต้นคอขาวพร้อมกับใช้นิ้วมือคลึงเคล้นหัวนมเม็ดเล็กๆ สีชมพูที่ลุกชันของเด็กหนุ่มอย่างเมามัน ท่อนล่างในเครื่องแบบตึงแน่นก็ถูไถไปกับก้นเปล่าเปลือยของผู้ต้องหา เวหาหายใจหอบขึ้น ผิวขาวๆ เปลี่ยนเป็นสีชมพูระเรื่อจากความเงี่ยน มือใหญ่หนารูดขึ้นลงอย่างกระแทกกระทั้นถี่ขึ้นๆ กระโปกยานๆ ของเด็กหนุ่มเริ่มหดตัวและปล่อยน้ำขาวข้นออกมามากมายล้นทะลักไปหมด นายสิบที่ทำหน้าที่ชักว่าวรู้สึกอยากจะอ้วกกับน้ำว่าวที่เปรอะเปื้อนมือตัวเองอยู่แต่ก็โล่งใจที่ภารกิจนี้จบลงไปได้ เขาเอาไม้พันสำลีเช็ดอสุจิของผู้ต้องหาจนชุ่มแล้วก็เก็บใส่ถุงหลักฐานไว้

ความน่าอดสูของเวหายังไม่จบแค่นั้น เขาต้องเดินตามสารวัตรไปทำประวัติอาชญากรที่อีกห้องหนึ่งทั้งๆ ยังไม่ได้สวมเสื้อผ้า ระหว่างทางเขาต้องเดินผ่านห้องโถงกลางของโรงพักซึ่งมีประชาชนเข้ามาใช้บริการมากมาย แขนทั้งสองข้างของเขายังถูกพันธนาการไว้ด้านหลัง ไม่สามารถเอามาปกปิดควยใหญ่ยาวที่ยังเปื้อนน้ำเชื้อเป็นคราบของตัวเองได้ เขาทำได้แค่ก้มหน้าจนสุดและหันไปอีกทางด้วยความอับอาย แม้จะเป็นเวลาไม่ถึงหนึ่งนาที แต่สายตาทุกคู่คนของคนในโรงพักต่างจับจ้องมาที่ควยมหึมาที่แกว่งตัวไปมาตามจังหวะเดิน แม่ค้ารุ่นป้าที่มาขึ้นโรงพักตกใจจะเป็นลมจนต้องควักยาดมให้วุ่นวาย เด็กช่างกลกลุ่มใหญ่ชี้ชวนกันดูและหัวเราะเสียงดังอย่างขบขัน สิ่งที่เวหาพยายามปกปิดมาทั้งชีวิตกลับต้องถูกนำมาโชว์ให้กับชาวบ้านไม่รู้กี่สิบคนภายในวันเดียว เขาได้แต่หันหน้าตัวเองหนีไปจากสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยใคร่รู้พวกนั้น

แม้จะพ้นห้องโถงไปแล้วใช่ว่าความอับอายของเวหาจะสิ้นสุดแค่นั้น เขาถูกพาไปยืนเด่นที่ฉากถ่ายรูปที่มีพื้นหลังเป็นเส้นบอกความสูงเพื่อทำประวัติ เจ้าหน้าที่ตำรวจในห้องธุรการทั้งชายและหญิงต่างพากันมามุงดูเด็กหนุ่มด้วยความสนใจ ควยยักษ์ที่ยังไม่สงบลงซะทีเดียวแถมยังมีน้ำเงี่ยนเคลือบเยิ้มมันวาวท่ามกลางแสงไฟมันเป็นเป้าสายตาเสียเหลือเกิน เสียงกระซิบกระซาบถึงความใหญ่โตของมันดังไปทั่วห้อง ปากคนถึงกับถือวิสาสะเอาปากกามาเขี่ยให้เด้งขึ้นลงด้วยความอยากรู้ว่ามันเป็นของจริงหรือเปล่า ตำรวจทุกนายรู้จักเด็กหนุ่มอยู่แล้วจากไลน์กลุ่มที่สารวัตรส่งไปก่อนหน้านี้ แต่ตัวจริงที่ได้เห็นวันนี้เป็นการยืนยันได้ว่าควยม้าดุ้นนี้เป็นของจริง

พอดำเนินการทุกอย่างจนพิมพ์ลายนิ้วมือเสร็จ เด็กหนุ่มจึงได้รับอนุญาตให้กลับมาแต่งตัวในห้องทำงานของสารวัตรอีกครั้ง แต่มันแทบไม่ทำให้เจ้าตัวดีใจขึ้นมาเลย ใจของเวหาอายจนด้านชาไปหมดแล้ว

“เอาล่ะ ถึงในเชิงคดีเรื่องนี้จะถือว่าร้ายแรง แต่สมัยนี้ก็เจอได้บ่อยๆ แล้วเธอก็เพิ่งเป็นนักศึกษาปีหนึ่งด้วย ถ้าตกลงกันได้อาจจะไม่ต้องโดนดำเนินคดีต่อก็ได้นะ” สารวัตรค่อยๆ แพลมทางเลือกออกมาหลังจากอยู่ในห้องกันแค่สองคน เวหาเดาได้ทันที ที่แท้สารวัตรอาจจะต้องการเงิน น่าสมเพชตำรวจไทยเสียจริง แต่ถ้าเป็นเรื่องนี้เขาจ่ายได้สบายๆ แล้วก็ไม่บอกตั้งแต่แรก คงตั้งใจใช้ขั้นตอนทางกฎหมายมาข่มขู่เขาเพื่อเรียกเงินเยอะๆ ล่ะสิ เวหาคิดในใจ

“มีช่องทางยังไงบ้างครับ ผมยินดีจ่ายค่าเสียหายให้เด็กคนนั้น รวมถึงค่าป่วยการอื่นๆ ให้กับเจ้าหน้าที่ด้วย”

“เธอกำลังติดสินบนเจ้าหน้าที่นะ เราจะทำเหมือนทัณฑ์บนต่างหาก จะหาคนที่ทางตำรวจไว้ใจไปควบคุมความประพฤติ เธอต้องรายงานตัวและฟังคำสั่งคนๆ นั้นทุกอย่างตลอดระยะเวลาที่กำหนด ไม่งั้นเราจะรื้อคดีนี้ขึ้นมาใหม่”

เรื่องมันผิดคาดไปมาก ดูเหมือนสารวัตรจะไม่ต้องการเงิน แต่ไม่ว่าอะไรก็คงดีกว่าถูกดำเนินคดีและติดคุกเป็นแน่ เวหาไม่มีทางเลือกได้แต่ตกลง

“เป็นอันว่าตามนี้ เดี๋ยวจะให้คนคุมประพฤติพาเธอกลับไปเลย โชคดีมากที่เขาเรียนอยู่ที่มหาลัยนี้เหมือนกัน”

เสียงเคาะประตูดังขึ้นและตามมาด้วยบุคคลที่เวหาภาวนาว่าขอให้เป็นคนสุดท้ายที่จะมาทำหน้าที่นี้

“ให้ผมรับตัวมันกลับไปเลยไหมครับ สารวัตร”

แสนมองมาที่เวหาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสะใจ เด็กหนุ่มใจหายวูบยิ่งกว่าตอนที่ถูกจับเสียอีก เท่ากับว่าต่อให้เขาลาออกจากมหาลัยไป ก็ยังหนีไม่พ้นไอสารเลวนี่อยู่ดี

“สวัสดีคุณแสนเสียสิ เขาจะเป็นคนคุมความประพฤติเธอเป็นเวลาหนึ่งปี เธอต้องเชื่อฟังเขาทุกอย่าง ถ้าเขารายงานกลับมาว่าเธอขัดขืนดื้อดึง เราจะดำเนินคดีทันที เข้าใจไหม”

“แต่นี่มันคือคนที่ทำเรื่องทุกอย่างนะครับ คนที่ผมมาแจ้งข้อหาก็คือมันนั่นแหละ มันเป็นคนละเมิดเด็กปีหนึ่งทุกคน ทำร้ายร่างกาย บังคับข่มขู่ให้ผมมีอะไรกับเด็กผู้หญิงคนนั้น ทั้งรูปทั้งคลิปมันก็เป็นคนถ่ายเอง ไหนว่าตำรวจจะหาคนที่ไว้ใจได้ไง”

“แสนเป็นทั้งลูกท่านนายกเทศมนตรี ประวัติที่มหาลัยก็ดีเยี่ยม เป็นผู้ให้ความร่วมมือกับทางราชการมาโดยตลอด และที่สำคัญเขาเป็นลูกพี่ลูกน้องของผมเอง จะไว้ใจไม่ได้ที่ตรงไหน สิ่งที่เธอพูดมันไม่มีน้ำหนักแม้แต่นิดเดียว กลับไปได้แล้วถ้าไม่อยากติดคุก”

“พวกเดียวกันนี่หว่า ตำรวจเหี้ยอะไรวะ” เวหาโวยวายเสียงดัง ทุกอย่างคงถูกวางแผนไว้และปล่อยให้เขาวิ่งไปตามเกมราวกับตัวตลก ยิ่งคิดเขาก็ยิ่งแค้น แต่ตอนนี้เขาทำอะไรไม่ได้เลย แสนกระชากคอเสื้อเข้ามาหาตัวแล้วจ้องด้วยแววตาเยาะเย้ย

“คิดว่าลาออกไปจะหนีกูพ้นเหรอ จะให้ตำรวจมาจับกูกลับถูกจับซะเอง โง่ฉิบหาย อย่างมึงกูจะเอาให้หนัก ต่อไปกูเป็นนายเหนือหัวมึง กูสั่งให้เลียตีนกูมึงก็ต้องเลีย กูจะใช้ประโยชน์จากร่างกายมึงยังไงก็ได้ จำใส่หัวไว้ซะ”

ไม่ใช่แค่วาจา แต่แสนลงมือซ้อมตามลำตัวของเด็กหนุ่มรุ่นน้องต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจจนหนำใจแล้วถึงพาตัวกลับ

“ผมไปก่อนนะพี่ แธ๊งค์กิ้วสำหรับทาสไอตัวนี้”

“อย่าลืมส่วนแบ่งนะไอน้อง แล้วก็อย่าให้ถึงกับตายแล้วกัน ขี้เกียจช่วยอำพรางศพ ฮ่าๆ”

เวหาไม่รู้ว่าเป็นเรื่องจริงหรือเรื่องล้อเล่น รู้แค่ว่าพี่น้องคู่นี้โฉดชั่วจนน่าขนลุก

แฮชแทก #วัดใจเดือนวิศวะ ถูกพวกของแสนเอามาใช้ในการปล่อยข่าวลือเรื่องที่เดือนวิศวะพ่วงเดือนมหาลัยจะวิ่งจะออกมาวิ่งแก้ผ้ารอบมหาลัย นักศึกษาในมหาลัยต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์อย่างสนุกปากแต่ส่วนใหญ่ไม่เชื่อว่าเวหาจะทำจริง จนสุดท้ายถึงกับมีการพนันขันต่อกันเกิดขึ้น

เวหาถูกแสนนัดมาที่มหาลัยตั้งแต่ตอนเช้า เด็กหนุ่มเหงื่อออกหน้าซีดไปหมดเพราะรู้ว่านี่เป็นวันที่เขาจะต้องทำเรื่องน่าอายที่สุดในชีวิต ทันทีที่เขาขับรถเก๋งคันหรูของตัวเองเข้าจอดในลานจอดรถกลางแจ้ง รถกระบะคันใหญ่ก็มาจอดท้ายขวางทางออกจนมิด

แสนลงจากรถกระบะคันนั้นแล้วเคาะกระจกเรียกเด็กหนุ่มลงมา

“มึงต้องเริ่มวิ่งเวลาเจ็ดโมงเช้า นี่กูปราณีมากแล้วนะ เช้าขนาดนี้คนจะไม่ได้วุ่นวายมาก”

เวหาเบ้หน้า ยังไงวันนี้ก็มีเรียนตามปกติ กว่าเขาจะวิ่งครบรอบคนคงทยอยมากันเต็มหาลัยแล้ว

“มึงคงไม่ได้ให้กูแก้ผ้าหมดเลยหรอกนะ มันทุเรศไป”

เด็กหนุ่มยังแอบมีความหวัง แต่ก็ต้องร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดเมื่อแสนเอามือชกท้องเขาอย่างแรง

“ปากดีนักนะ กูเป็นรุ่นพี่มึง พูดจาให้มันดีๆ หน่อย กูกำลังจะใจอ่อนให้มึงมีอะไรติดตัวซักชิ้นกันอุจาดตาอยู่แล้วเชียว งั้นก็วิ่งเป็นเปรตไปเถอะมึง”

เวหามีความหวังขึ้นมา ถ้าได้กางเกงในหรือบอกเซอร์ซักตัวก็ยังดี เขาลดศักดิ์ศรีลงชั่วคราวยอมเอ่ยปากขอร้องคนตรงหน้า

“พี่แสนครับ พี่เตรียมมาแล้ว ก็ให้ผมเถอะครับ”

แสนยิ้มย่องที่เห็นเด็กจองหองตรงหน้าหมดสภาพต้องมาร้องขอความเมตตาจากเขา แต่อย่าหวังว่าจะให้ง่ายๆ

“พูดงี้ค่อยน่าฟังหน่อย แต่สายไปแล้วว่ะ ถ้ามึงอยากได้ก็ต้องมีของแลกเปลี่ยน ถอดเสื้อผ้าออกให้หมดแล้วไปยืนชักว่าวใส่กระโปรงหน้ารถมึง เสร็จแล้วก็เอาควยมึงถูจนทั่ว เอาให้เงาเหมือนลงแวกซ์นะ ถ้าทำได้มึงจะได้มีอะไรไว้ปิดตอนวิ่ง”

เวหากำหมัดแน่นแต่ก็ต้องยอมในที่สุด ตรงนี้เป็นลานจอดกลางแจ้งที่อยู่โซนรอบนอก เช้าๆ จึงยังไม่มีคน ชักว่าวซะตรงนี้ยังดีกว่าต้องวิ่งรอบมหาลัยโดยไม่มีผ้าติดกายซักชิ้น

เด็กหนุ่มค่อยๆ ถอดเสื้อผ้าออกจนล่อนจ้อน เขาเบือนหน้าไปจากสายตาที่เต็มไปด้วยความสะใจของแสนแล้วประคองดุ้นเนื้อขนาดใหญ่ของตัวเองขึ้นมา เพียงรูดเบาไม่กี่ทีมันก็แข็งตัวขึ้นอย่างรวดเร็วทั้งๆ ที่ปกติจะจะไม่ขึ้นง่ายๆ เขาพยายามที่จะไม่หมกหมุ่นในเรื่องเพศเพราะไม่อยากให้เจ้าโลกที่ใหญ่ผิดมนุษย์มนาคุ้นชินกับเรื่องแบบนี้จนแข็งตัวในสถานการณ์ที่ไม่เหมาะสม แต่ตั้งแต่เจอรุ่นพี่สารเลวคนนี้ เขาถูกบังคับให้ชักว่าวมาหลายครั้งจนความอดกลั้นที่อุตส่าห์ฝึกฝนตัวเองมาเริ่มไม่เหลือแล้ว

ลมเย็นๆ ในยามเช้าพัดมามาโดนผิวกายเปลือยเปล่าทำให้รู้สึกแปลกๆ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาแก้ผ้าในที่โล่งแจ้งแบบนี้ เวหาแอบชำเลืองมองผู้ชมที่มีอยู่เพียงคนเดียวแล้วต้องเสียวสันหลังกับสายตาที่จ้องมาเขม็ง อารมณ์ของเด็กหนุ่มผสมผสานกันระหว่างความกลัวและความตื่นเต้นจนแยกไม่ออก ตอนนี้ลำควยแข็งเป๊กจนปวดไปหมด เวหาขยับไปยืนด้านหน้ารถตัวเองแล้วเร่งจังหวะมือให้ถี่ยิ่งขึ้น หัวสีชมพูผลุบโผล่อยู่ในหนังหุ้มปลายที่โดนถอกเข้าถอกออก ความอายค่อยๆ ลดลง จิตใต้สำนึกบอกเขาว่าการมายืนแก้ผ้าชักว่าวกลางแจ้งไม่ใช่เรื่องผิด ที่ทำไปเพราะถูกบังคับมา

เวหารู้สึกเลื่อนลอยปล่อยใจไปกับการชักว่าวอย่างเต็มที่ ไม่นานน้ำข้นขาวก็กระฉูดออกมาหลายระลอกสาดเต็มกระโปรงหน้ารถไปหมด เด็กหนุ่มรู้สึกทึ่งตัวเองอยู่เหมือนกัน แล้วท้าวแขนคล่อมกระโปรงรถไว้แล้วค่อยๆ เอาควยถูไถ ความร้อนจากเครื่องยนต์ที่ยังเหลืออยู่ทำให้เกิดอาการแสบนิดๆ โดยเฉพาะตรงส่วนหัวที่บอบบาง แต่เขาไม่ได้โชคร้ายนัก ท่อนลำอวบใหญ่ทำให้การกวาดควยแต่ละทีสามารถปาดน้ำว่าวได้เป็นบริเวณกว้าง ไม่นานก็เคลือบทั่วกระโปรงรถสปอร์ตคันหรู

แสนจับตามองเวหาที่ทำตามคำสั่งอย่างเชื่อฟังด้วยความพอใจ โดยเฉพาะเมื่อควยขาวๆ ต้องนาบลงไปบนแผ่นเหล็กร้อนๆ ครั้งแล้วครั้งเล่าจนเปลี่ยนเป็นสีแดง ที่แสบกว่านั้นก็ตรงพวงไข่ยานๆ ที่แสนจะบอบบาง ตอนนี้ทั้งรถและคนต่างเปรอะเปื้อนด้วยน้ำว่าวไม่ต่างกัน ความร้อนทำให้น้ำเชื้อแห้งเป็นคราบเกรอะกรังในเวลาไม่นานจนสีรถดูหมองไปถนัดใจ เหตุการณ์ทั้งหมดถูกแสนแอบถ่ายคลิปไว้เป็นคอลแลคชั่นสุดยอด

“ผมทำตามที่พี่ต้องการแล้ว ขอกางเกงให้ผมด้วย จะได้วิ่งให้มันจบๆ ไป” เวหาทวงสัญญา

“ใครบอกกูจะให้มึงใส่กางเกง ที่กูเตรียมไว้คือนี่ต่างหาก”

แสนยื่นของในมือให้ มันคือหน้ากากแฟนซีอันเล็กๆ ที่พอปิดแค่ใบหน้าช่วงบนเท่านั้น

“ไอสัตว์ มึงหลอกกูนี่หว่า” เวหาร้องอย่างสุดกลั้น

“มึงด่านายเหนือหัวมึงเหรอ มึงจะไม่เอาก็ตามใจ ยังไงวันนี้มึงต้องแก้ผ้าวิ่งโชว์ควยรอบมหาลัย ไม่งั้นก็ไปจบที่คุก อยากจะโชว์หน้าด้วยก็แล้วแต่”

เวหาจำยอมรับหน้ากากซึ่งยังพอปิดบังใบหน้าได้บ้างมาสวม แสนยิ้มเหยียดมองเวหาที่เปลือยเปล่ามีเพียงหน้ากากกับรองเท้าวิ่งเท่านั้นอย่างพอใจ เวหาฟังเส้นทางวิ่งที่ต้องผ่านจุดที่มีนักศึกษาคับคั่งหลายแห่งแล้วหน้าชา จบจากวันนี้ไปเขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ยิ่งก้มหน้ามองควยดุ้นยักษ์ที่น่าอับอายของตัวเองยิ่งอยากจะตายๆ ไปให้พ้นๆ ซะเลย ยิ่งเห็นสีหน้าสะใจของอีกฝ่าย เด็กหนุ่มยิ่งไม่เข้าใจ

“ทำไมต้องทำกับผมอย่างนี้ ผมไปทำอะไรให้”

“ข้าทาสอย่างมึงไม่มีสิทธิ์จะมาเรียกร้องอะไรทั้งนั้น เด็กเกิดมาบนกองเงินกองทองอย่างมึง มีความสุขไปวันๆ ต้องมาเจอประสบการณ์ชีวิตซะมั่ง” แสนพูดอย่างไม่แยแสอะไรก่อนจะเอาสีแท่งสำหรับเพ้นท์ตัวมาเขียนคำว่า 'อินทาเนีย' ลงไปหน้าอกของเวหา

“ไป ออกไปประกาศศักดาของคณะวิศวะได้แล้ว”

เวหาก้าวมายืนริมถนนใหญ่ซึ่งเป็นเส้นทางรอบมหาลัยก่อนจะวิ่งเหยาะอยู่กับที่เป็นการเตรียมตัว เด็กหนุ่มไม่เคยแก้ผ้ากลางแจ้งแบบนี้มาก่อน สายลมเบาๆ ที่ลูบไล้ร่างกายเปล่าเปลือยทำให้ขนลุกแบบแปลกๆ เขามองท่อนเนื้ออวบใหญ่ที่กระเด้งตัวตามจังหวะการซอยเท้าแล้วต้องเบือนหน้าหนีด้วยความอับอาย ไม่น่าเชื่อว่าสิ่งนี้จะเกิดกับตัวเองต่อหน้าคนทั้งมหาลัย แสนตีก้นแน่นๆ แบบนักกีฬาของเวหาดังเพี๊ยะเป็นสัญญาณให้เริ่มออกวิ่งจริงเสียที เด็กหนุ่มก้าวออกวิ่งอย่างไม่เต็มใจ มหาลัยในยามเช้าเริ่มมีนักศึกษาทยอยเดินทางมาถึงประปราย คนที่มองเห็นเวหาจากระยะไกลถึงกับขยี้ตาด้วยความไม่แน่ใจในสิ่งที่เห็น ไม่มีใครคิดว่าจะมีหนุ่มหุ่นดีมาแก้ผ้าวิ่งเห็นเครื่องเพศอล่างฉ่างอยู่ในที่สถานที่ศึกษาแบบนี้

เด็กหนุ่มวิ่งสวนกับนักศึกษาหญิงที่เดินก้มหน้าก้มเล่นมือถือคนเดียว สาวเจ้าที่ไม่ทันสังเกตเห็นเวหาในตอนแรกร้องว๊ายออกมาด้วยความตกใจเมื่อเหลือบมองไปเห็นควยดุ้นยักษ์ของเวหาที่สวนมาในระยะประชิด พอตั้งสติได้อีกทีหันกลับไปมองก็เห็นเรือนร่างนักกีฬาพร้อมก้นแกร่งขาวโพลนวิ่งด้วยท่าทางสง่าแคล่วคล่องราวกับม้าหนุ่มห่างออกไปไกลแล้ว เธอถึงกับเข่าอ่อนเมื่อสมองเริ่มรับรู้ได้ถึงความสวยงามใหญ่โตของท่อนเนื้อที่ได้เห็นอย่างเต็มตาจนในกางเกงในชื้นแฉะไปหมด

เวหาเร่งฝีเท้าผ่านผู้ชมคนแรกอย่างไม่คิดชีวิตด้วยความอับอาย ยิ่งวิ่งเร็วเท่าไหร่ดุ้นควยอวบใหญ่ก็ยิ่งกระเด้งตัวอย่างแรงทำให้พะวงอยู่ไม่น้อย แต่นั่นยังไม่เจ็บเท่ากับกระโปกขนาดใหญ่สองใบในถุงไข่ยานๆ ของเขาที่สะบัดซ้ายทีขวาทีกระแทกเข้ากับหน้าขาและดุ้นควยตัวเองจนจุกไปหมด ยิ่งบางครั้งผิดจังหวะถุงไข่แกว่งตัวเข้าไปโดนหนีบอยู่ระหว่างขาทั้งสองข้างก็ทำเอาเวหาถึงกับน้ำตาเล็ด เด็กหนุ่มจำเป็นต้องลดความเร็วลงเพื่อถนอมอวัยวะพึงสงวนไว้ ความคิดที่จะวิ่งรอบมหาลัยอย่างสุดชีวิตเพื่อให้มันจบลงเร็วที่สุดต้องพังลงไปไม่เป็นท่า

ที่ฝั่งตรงข้ามถนน นักศึกษาชายสองคนชี้ชวนกันดูเวหาวิ่งควยแกว่งอย่างขบขัน ทั้งคู่รีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาบันทึกภาพไว้พร้อมตะโกนถาม

“ทำเหี้ยอะไรวะไอน้อง ทุเรศชิบหาย”

เวหาก้มหน้าวิ่งต่อไปไม่ตอบอะไร ก่อนจะหายตัวไปทิ้งให้เขาตากหน้าอยู่ตามลำพัง แสนวางกฎหยุมหยิมมากมายให้เขาทำตามไม่งั้นจะถือว่าการวิ่งเป็นโมฆะ ห้ามพูดจาโต้ตอบ ห้ามขอความช่วยเหลือ ห้ามหยุดวิ่ง ห้ามปกปิดร่างกายตัวเอง แต่ถึงจะตอบได้จะให้เขาบอกคนพวกนั้นว่าอะไรล่ะที่ทำให้ต้องมาวิ่งโชว์ควยโชว์ตูดแบบนี้ ถ้าบอกว่าถูกรุ่นพี่ใจโฉดวางแผนข่มขู่ให้ติดคุกจะมีใครเชื่อ เรื่องทั้งหมดมันไร้เหตุผลสิ้นดี ยิ่งเห็นตัวเองโดนถ่ายรูปเอาอย่งไม่เกรงอกเกรงใจ เวหาก็ยิ่งตื่นกลัว อีกไม่นานควยขนาดมหึมาจนเป็นปมด้อยของเขาคงกระจายสู่สายตาชาวโซเชียลอย่งควบคุมไม่ได้ โชคดีที่แสนยังปราณีให้หน้ากากเล็กๆ นี้มา

เวหากำลังจะวิ่งผ่านสามแยกคณะบัญชีซึ่งเป็นจุดที่คนพลุกพล่านจุดแรกของเส้นทาง ยิ่งคิดเด็กหนุ่มก็ยิ่งเข่าอ่อนจนวิ่งแทบไม่ไหว นี่เขาต้องเอาควยโตๆ ที่แสนทุเรศนี้ไปโชว์สาวๆ ที่แสนจะเรียบร้อยพวกนั้นจริงหรือ มันคงเหมือนกับฝันร้าย ยังไม่ทันที่เวหาจะฟุ้งซ่านไปมากกว่านั้น เขาก็ต้องต้องร้องออกมาด้วยความตกใจเมื่อหางตาเหลือบไปเห็นเงาคนที่เข้ามาประชิดจากด้านหลัง

“ไม่ต้องตกใจ วิ่งไปเรื่อยๆ เราจะวิ่งเป็นเพื่อนนายเอง”

เวหาตาเบิกโพลงเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มที่วิ่งอยู่ข้างๆ ตัวเองก็อยู่ในสภาพเปลือยเปล่าไม่ต่างกัน มิหนำซ้ำยังใส่หน้ากากและมีเพ้นท์คำว่า อินทาเนีย ที่หน้าอกแบบเดียวกับของตัวเองไม่ผิดเพี้ยน

ใคร?

เด็กหนุ่มคิดด้วยความสงสัยแต่ไม่กล้าถามออกไปเพราะกลัวจะผิดกฎที่แสนวางไว้ เผลอๆ คนๆ นี้อาจเป็นพวกของแสนด้วยซ้ำ แต่จะมีใครยอมมาทำเรื่องน่าอับอายขนาดนี้อีกหรือถ้าไม่โดนเอาเรื่องร้ายแรงมาขู่บังคับ เขาได้ลอบมองร่างกายของอีกฝ่ายเพื่อดูว่าเป็นคนที่รู้จักหรือไม่ เวหาต้องยอมรับว่าคนๆ นี้หุ่นดีจริงๆ ถึงดูเผินๆ จะรูปร่างสีผิวใกล้เคียงกับเขา แต่มัดกล้ามที่ชัดและหนากว่าเล็กน้อย บ่งบอกว่าคงเป็นนักกีฬาหรือออกกำลังเพื่อดูแลตัวเองอย่างจริงจัง ใบหน้าช่วงล่างที่ไม่ถูกหน้ากากบดบังก็ดูคมสันไม่น้อย ปากสีชมพูได้รูปเผยอนิดๆ เพื่อช่วยหายใจขณะวิ่งเผยให้เห็นไรฟันขาวเป็นระเบียบ ยิ่งดูเขาก็ยิ่งไม่เข้าใจว่าคนที่ดูดีขนาดนี้จะมาวิ่งแก้ผ้าให้ตัวเองขายหน้าทำไม

เด็กหนุ่มอดมองที่จุดสำคัญกึ่งกลางตัวของคนที่วิ่งอยู่ข้างๆ ไม่ได้ ท่อนควยขนาดได้สัดส่วนกับรูปร่างกระดกตัวขึ้นลงตามจังหวะการวิ่ง ถ้าให้กะด้วยสายตาคงขนาดบีหรือบีบวกตามการตัดเกรดของคณะวิศวะ เวหาจ้องมองด้วยท่อนลำสวยสีชมพูความอิจฉา เขารู้สึกว่าควยดุ้นนี้เป็นอะไรที่สมบูรณ์แบบ ไม่ใหญ่เกินไปจนดูทุเรศลูกตาเหมือนของเขา ขนาดกำลังพอดีสมชายแบบนี้ ถ้าเอาไปลงสนามจริงคงสร้างความหรรษาให้ฝ่ายหญิงได้เต็มที่ ไม่ต้องโดนโวยวายกลัวเครื่องพังเหมือนที่เขาโดนมาตลอดชีวิต

เวหาวิ่งไปดูควยของอีกฝ่ายไปจนมาถึงสามแยกบัญชีโดยไม่รู้ตัว เสียงวี๊ดว๊ายฮือฮาของสาวแท้สาวดังขึ้นอื้ออึงจนเด็กหนุ่มได้สติ พอเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นสายตาหลายสิบคู่จากบรรดานักศึกษาในบริเวณนั้นมองมาที่ตัวเองอย่างตกใจ หลายคนอ้าปากค้างรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเก็บภาพเพื่อยืนยันว่าตัวเองไม่ได้ตาฝาดไป ใครจะคิดว่าในยามเช้าใกล้เวลาใกล้เรียนที่คนเริ่มพลุกพล่านจะมีชายหนุ่มหุ่นดีสองคนวิ่งแก้ผ้าฝ่าเข้ามากลางแยกที่มีสาวๆ เต็มไปหมด

เวหาอายเหลือที่จะกล่าว แต่ไม่น่าเชื่อว่าการที่มีคนมาวิ่งอยู่ข้างๆ เป็นเพื่อนในสภาพน่าอายไม่ต่างกันจะทำให้เขารู้สึกพอจะกล้ำกลืนฝืนทนไหว ไม่ว่าอีกฝั่งจะเป็นใครและมาด้วยวัตถุประสงค์อะไร เด็กหนุ่มก็นึกขอบคุณอยู่ในใจ

คนที่กำลังเดินทางผ่านสามแยกดังกล่าวต่างหยุดนิ่งกลายมาเป็นผู้ชม เสียงคุยกันดังเซ็งแซ่เข้าหูเวหาพอจับใจความได้

“อุ๊ย ที่หน้าอกนั่นเขียนว่าอินทาเนียใช่ไหม ใช่เดือนวิศวะที่มีข่าวว่าจะวิ่งแก้บนหรือเปล่า เอาจริงดิ”

“อีดอก ดูสิ คนทางซ้ายโคตรของโคตรใหญ่ มึงว่าของจริงเปล่าวะ”

“ขนาดไม่เห็นหน้ายังรู้ว่าหล่อ แกๆ ถ่ายเก็บไว้เยอะๆ เลย”

“คนขวาก็งานดี แต่คนซ้ายนี่อะไรกันคะ โดนซักดอกคงบานไม่หุบแน่ๆ”

“เกิดมาไม่เคยเห็นใหญ่ขนาดนี้มาก่อนเลย ดาราหนังโป๊ยังสู้ไม่ได้”

“จะเป็นลม เปรตชัดๆ ใครช่วยแจ้งยามที”

“น้องเดือนมหาลัยแน่เลย ฮีบอกในเฟสว่าจะวิ่งแก้ผ้าถ้าได้ตำแหน่ง แต่ว่าคนไหนอ่ะ ทำไมมาวิ่งสองคน คนจู๋ใหญ่หรือคนจู๋เล็ก”

เวหาวิ่งฝ่าสารพัดเสียงแซ็วที่ฮาร์ดคอร์จนเขาไม่แน่ใจแล้วว่าเด็กคณะนี้จะเรียบร้อยเป็นกุลสตรีอย่างที่คิด ยิ่งโดนวิจารณ์สิ่งที่เป็นปมด้อยตรงๆ ทำเอาเขาหน้าร้อนไปหมด คนเข้ามามุงดูตามแนวสองข้างทางจนแน่นขนัด มีบางคนหยิบธนบัตรขึ้นมาโบกไปมาซึ่งเด็กหนุ่มก็ไม่เข้าใจในทีแรก

“วิ่งรับบริจาคหรือเปล่าคะ ทางนี้ค่า ขอร่วมด้วยร้อยนึง”

คนอื่นพอได้ยินก็เริ่มควักแบ๊งค์สีต่างๆ ขึ้นมาโบกแข่ง

“มาทางเจ๊ด้วยฮ่า เจ๊ให้ห้าร้อยเลย ขอแค่เซลฟี่ด้วยซักที”

เวหาก้มหน้าวิ่งเลยไปอย่างไม่สนใจ แค่นี้เขาก็ขายหน้าจนไม่รู้จะอยู่ยังไงแล้ว เด็กหนุ่มพยายามเร่งฝีเท้าให้ผ่านจุดชุมนุมชนไปแต่ยิ่งทำพวงไข่ก็ยิ่งกระแทกแรงจนระบมไปหมด เขาสูดปากร้องเบาๆ ด้วยความเจ็บปวด ความเร็วในการวิ่งตกลงไปกว่าครึ่ง เวหาจำใจต้องเอามือข้างนึงลงไปบีบนวดและจัดระเบียบพวงไข่ต่อหน้าต่อตาคนที่มุงดูอยู่ข้างทางเรียกเสียงกรี๊ดได้ดังสนั่น

คู่วิ่งของเวหาหันมามองเหมือนจะเห็นใจแต่แล้วก็ฉีกตัวเองหลบเข้าข้างทางทิ้งให้เวหาวิ่งต่อไปตามลำพัง เด็กหนุ่มใจหายวาบ แม้จะไม่ได้คุยอะไรกัน แต่การที่มีอีกฝ่ายวิ่งอยู่ข้างๆ มันช่วยแบ่งเบาความอับอายได้มากกว่าครึ่ง เขาพยายามจะเข้มแข็ง แต่หนทางที่อีกยาวไกลกับความอับอายที่รออยู่ทำให้เด็กหนุ่มน้ำตาซึม นอกจากความกดดันทางใจแล้ว ไข่ของเขาก็ดูจะระบมและจุกขึ้นเรื่อยๆ เหมือนจะประท้วงว่าการแก้ผ้าวิ่งเป็นอะไรที่ไม่เหมาะกับคนที่ไข่ทั้งใหญ่ทั้งยานอย่างเวหา

ขณะที่เขาวิ่งต่อไปด้วยความสิ้นหวัง อยู่ๆ ก็มีน้ำผสมน้ำแข็งเย็นจัดสาดมาที่จุดสงวนกลางลำตัวจนต้องสะดุ้งสุดตัว เวหามองหาต้นเหตุด้วยความโกรธแค้นที่ถูกแกล้ง แล้วก็เจอกับหนุ่มปริศนาที่ทิ้งตัวเองไปก่อนหน้านี้ที่กำลังถือกระบอกน้ำใบใหญ่เป็นหลักฐานคามือ

“วิ่งต่อไปสิ น้ำเย็นจะช่วยให้ไข่นายดีขึ้นนะ”

เวหารู้สึกว่าความเย็นทำให้ความระบมตรงนั้นลดลงอย่างเห็นได้ชัด และที่สำคัญไข่ที่ห้อยยานของเขาเริ่มหดตัวไปติดกับโคนควยไม่แกว่งกระแทกไปมาอีกแล้ว เด็กหนุ่มยิ้มบางๆ ออกมาเป็นครั้งแรกของวัน เป็นอีกครั้งที่เวหารู้สึกซาบซึ้งกับหนุ่มปริศนาข้างๆ ที่ช่วยกำจัดความทรมาณที่ผู้ชายเท่านั้นจึงจะเข้าใจ พอปัญหาช่วงล่างบรรเทาลง เขาก็เริ่มใช้ความเร็วทิ้งห่างคณะบัญชีที่คนพลุกพล่านไปได้ แม้จะโดนด่าโดนแซ็วโดนถ่ายรูปไปตามทาง แต่เด็กหนุ่มก็รู้สึกว่าชีวิตยังไม่โหดร้ายเกินไปนัก

เวหาและคนที่ไม่ยอมเปิดเผยตัวตนวิ่งเปลือยคู่กันไปผ่านสถานที่ต่างๆ รอบมหาลัย ยิ่งวิ่งไปคนที่มามุงดูก็เยอะขึ้นเรื่อยๆ เด็กหนุ่มทำใจแล้วว่าข่าวมันคงแพร่ไปในกลุ่มโซเซียลต่างๆ ของมหาลัยจนควบคุมไม่อยู่ เขาพยายามดึงความคิดออกมาจากเรื่องที่แก้ไขอะไรตอนนี้ไม่ได้ด้วยการพยายามเดาว่าคนข้างๆ คือใคร ตอนนี้เวหาค่อนข้างมั่นใจว่าคนๆ นี้คงไม่ได้คิดร้ายอะไรกับตน ที่น่าจะเป็นไปได้ที่สุดก็คงเป็นเพื่อนร่วมรุ่นคนใดคนหนึ่งของตัวเอง เขาพยายามคิดว่าในรุ่นที่ตัดเกรดได้บีหรือบีบวกมีใครบ้าง คิดไปก็แอบมองควยดุ้นงามไปเผื่อจะสะกิดใจให้นึกอะไรออกมาบ้าง ขาวอมชมพูหมอยบางๆ ไม่รกมากแบบนี้จะเป็นใครได้ ดูไปดูมาก็เริ่มลงรายละเอียดไปถึงหนังหุ้มปลายที่ปิดส่วนหัวแค่ครึ่งเดียว หัวเงี่ยงที่ซ่อนตัวอยู่ใต้หนังหุ้มน่าจะบานไม่ใช่เล่น ขี้แมงวันจุดเล็กๆ สองจุดตรงแถวกลางๆ ลำ เส้นเลือดเขียวๆ เส้นสองเส้นที่เห็นปูดขึ้นมาเล็กน้อย เวหาไม่แน่ใจว่าพอแข็งตัวขึ้นมารูปทรงมันจะเปลี่ยนแปลงไปแค่ไหน แต่เท่าที่เห็น มันคงเป็นควยในฝันของสาวๆ จำนวนมาก ไม่เหมือนควยสัตว์ประหลาดของเขาที่คงเป็นฝันร้ายซะมากกว่า

จุดชุมนุมชนต่อไปคือบริเวณโรงอาหารกลางที่แน่นอนว่าต้องมีนักศึกษามากมายเข้ามาหาข้าวเช้าทานก่อนจะเข้าเรียน ดูเหมือนจะมีการบอกกันต่อๆ ไปถึงเส้นทางการวิ่งอัปยศนี้ เพราะมีคนมาออกันเต็มสองข้างทางตั้งแต่เวหายังมาไม่ถึง เสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงควยดุ้นยักษ์ของนักวิ่งจำเป็นที่เด่นเด้งท้าทายสายตาของผู้ชมอื้ออึงไปหมด หลายคนเข้าใจว่านี่เป็นโครงการวิ่งเพื่อรับบริจาคก็โบกธนบัตรไปมา แต่คราวนี้มีใครก็ไม่รู้ใส่แว่นดำสวมเสื้อคณะวิศวะถือกล่องวิ่งไปรับเงินจากผู้คนสองข้างทาง พอคนเห็นว่ามีการรับเงินเกิดขึ้นก็เข้าใจว่าคงเป็นเหมือนกับที่นักร้องชื่อดังวิ่งเพื่อรับบริจาคจึงเฮโลหยิบเงินขึ้นมาสมทบจนบรรยากาศคึกคักราวกับมีงาน เสียงแสดงความขบขันสมเพชเริ่มเปลี่ยนเป็นเสียงชื่นชมที่นักวิ่งทั้งสองยอมเสียสละเปลือยกายโชว์ดุ้นควยที่ควรหวงแหนเพื่อระดมเงินไปทำบุญ ต่างคนต่างคาดเดาว่าตัวตนที่แท้จริงใต้หน้ากากจะเป็นใครกันแน่ ข่าวที่มีมาก่อนหน้านี้ทำให้ชื่อของเวหากลายเป็นผู้ต้องสงสัยอันดับหนึ่ง แต่หลายคนก็ยังไม่ปักใจว่านักศึกษาวิศวะอนาคตไกลที่มีดีกรีเป็นถึงเดือนมหาลัยจะมาทำเรื่องเปลืองตัวแบบนี้ ส่วนหนึ่งกลับตัดสินว่าหน้าอ่อนๆ ใสๆ อย่างเวหาไม่น่าเป็นไปได้ที่จะควยใหญ่ขนาดนั้น จึงพุ่งเป้าไปที่นักวิ่งอีกคนที่มีดุ้นควยขนาดสมส่วนกว่าว่าน่าจะเป็นเดือนวิศวะตัวจริง

เวหาวิ่งผ่านจุดต่างๆ ไปโดยพยายามไม่สนใจต่อกระแสตอบรับที่เกิดขึ้น พอจิตใจเริ่มวอกแวก เด็กหนุ่มก็จะมองไปที่ควยของคนข้างๆ เพื่อล่อหลอกตัวเองให้ขบคิดว่าเจ้าตัวน่าจะเป็นใคร การทำอย่างนี้ทำให้เขาลดความอายไปได้บ้าง อีกฝ่ายก็เป็นเพื่อนวิ่งที่ดีมาก คอยราดน้ำเย็นในกระบอกไปที่พวงไข่ของเวหาเป็นระยะเพื่อไม่ให้มันยานจนเกะกะการวิ่ง หลังๆ พอน้ำเย็นเริ่มเหลือน้อย หนุ่มนิรนามต้องประหยัดด้วยการรินใส่มือแล้วเอาไปลูบพวงไข่ให้เวหาโดยไม่มีท่าทีรังเกียจแต่อย่างใด การกระทำดังกล่าวเรียกเสียงกรี๊ดแทบสลบจากบรรดาสาววายที่นิยมให้ชายกับชายได้กัน

ยิ่งวิ่งไปคนก็ยิ่งมารอดูสองข้างทางมากขึ้น ช่วงหลังๆ ดูเหมือนจะมีคนภายนอกเข้ามาปะปนกับบรรดานักศึกษาอยู่ไม่น้อย ยิ่งคนมากยอดเงินบริจาคก็ยิ่งได้เป็นกอบเป็นกำไม่แพ้ศิลปินชื่อดัง นอกจากโทรศัพท์นับร้อยที่ยกขึ้นเพื่อเก็บภาพของนักวิ่งทั้งสอง ยังมีกล้องระดับมืออาชีพที่มีขาตั้งกล้องและเลนส์ที่ยื่นยาวออกมาอย่างน่ากลัวคอยดักตามจุดต่างๆ ที่น่าตกใจคือมีโดรนสองสามตัวบินไปมาเพื่อเก็บภาพในมุมสูงด้วย

เวหามองดูความวุ่นวายที่เกิดขึ้นแล้วก็แปลกใจว่าทำไมไม่มีเจ้าหน้าที่หรืออาจารย์ออกมาจัดการอะไรสักที ต่อให้มหาลัยแห่งนี้บ้านป่าเมืองเถื่อนขนาดไหน ก็ไม่น่าจะปล่อยให้มีคนมาวิ่งแก้ผ้าโทงๆ อยู่ในที่ๆ ถือว่าเป็นสถานที่ราชการได้นานขนาดนี้ ตอนนี้เขาวิ่งมาได้เกือบชั่วโมงคนเหงื่อโทรมกายเป็นมันเลื่อมไปหมด จุดชุมชนสุดท้ายที่จะผ่านได้แก่คณะวิศวกรรมศาสตร์ของเขาเอง หลังจากนั้นจะเป็นการวิ่งยาวไปตามถนนเส้นรอบนอกที่คนไม่พลุกพล่านมากนักไปจบที่ลานจอดรถซึ่งเป็นจุดเริ่มต้น

เส้นทางที่แสนกำหนดเป็นการวิ่งทะลุเข้าไปถนนภายในคณะวิศวะซึ่งต้องผ่านอาคารของภาควิชาต่างๆ เวหาปลงอยู่ในใจว่าเขาคงไม่พ้นต้องโดน รปภ. แสนดุของคณะจับตัวเอาไว้แน่ๆ เขาจะไม่รู้ว่าจะแก้ตัวยังไงกับสิ่งที่ทำลงไป แต่ที่แน่ๆ ถ้าเขาซัดทอดแสน ฝ่ายนั้นคงบอกตำรวจให้จับเขาเข้าไปนอนในคุกทันที

แต่ปรากฏว่าในคณะเหมือนจะมีการเตรียมการเพื่อต้อนรับเวหาอยู่แล้ว ทันทีที่เด็กหนุ่มวิ่งเข้ามา ก็พบกับเสียงบูมของภาควิชาโยธาซึ่งมีอาคารอยู่ด้านนอกสุด รปภ. ที่เวหากลัวนักกลัวหนากลับมาเป่านกหวีดเคลียร์เส้นทางการวิ่งให้ เด็กหนุ่มวิ่งผ่านภาควิชาต่างๆ พร้อมกับได้รับการต้อนรับด้วยเสียงบูมที่ดังขึ้นไล่กันไปตามภาควิชา ถึงจะอยู่ในสภาพที่น่าอับอาย แต่เสียงบูมที่ทรงพลังก็ทำให้ขนลุกได้ไม่น้อย เวหารู้สึกตื่นตัวแปลกๆ แต่ก็ผ่อนคลายความกังวลลง ที่นี่เป็นคณะเขาเองที่ทั้งเพื่อนและรุ่นพี่ผู้ชายทุกคนเคยเห็นเขาในสภาพที่น่าอายกว่านี้มาแล้ว เด็กหนุ่มมองใบหน้าคุ้นเคยของนักศึกษาร่วมคณะแล้วนึกไปถึงตอนรับน้องที่เขาถูกบังคับให้เอาควยให้เด็กสาวอมจนอารมณ์พลุ่งพล่าน ก็พอดีกับที่เพื่อนร่วมวิ่งเอาน้ำเย็นก้นกระบอกมาลูบไล้พวงไข่อย่างที่ทำมาเรื่อยๆ แต่คราวนี้ท่อนลำขนาดยักษ์ที่สงบนิ่งมาตลอดทางเริ่มแข็งตัวทีละนิดอย่างควบคุมไม่ได้ ในที่สุดควยของเวหาก็โด่พุ่งทะยานไปข้างหน้าประกาศศักดาเฉียดสิบนิ้วให้ได้ชมกันเป็นขวัญตาก่อนจะวิ่งพ้นจากคณะไป

แม้จะควบคุมท่อนควยของตัวเองไม่ได้แต่เวหาก็ยังมีสติรับรู้อยู่ทั้งหมด เขาใช้พลังเฮือกสุดท้ายวิ่งด้วยความเร็วสุดชีวิตเพื่อให้คนเห็นความน่าอับอายอันนี้ให้น้อยที่สุด อวัยวะเพศขนาดยักษ์ที่แข็งตัวเต็มที่เด้งขึ้นลงอย่างแรงแต่ไม่แกว่งตัวสะเปะสะปะอีกต่อไป เวหาที่เริ่มมีกำลังใจที่เห็นรถตัวเองจอดอยู่ไกลๆ กลับต้องใจแป้วเมื่อเห็นว่ามีคนกลุ่มใหญ่รออยู่ที่เดียวกันเหมือนจะรู้ว่านั่นคือเส้นชัย เขาหาทางหนีทีไล่โดยคิดว่าพอวิ่งครบรอบแล้วก็จะขึ้นรถขับหนีไปทันที แต่ถ้าเป็นอย่างนั้นเลขทะเบียนรถเขาก็จะกลายเป็นเบาะแสให้คนสืบหาตัวตนได้ไม่ยาก ยิ่งพอเข้าไปใกล้ก็ยิ่งหมดหนทางเมื่อเห็นรถกระบะของแสนจอดขวางทางอยู่ เวหาหันไปหาเพื่อนร่วมชะตากรรมแต่กลับพบว่าหนุ่มนิรนามคนนั้นหายตัวไปแล้ว เด็กหนุ่มรู้สึกเสียใจที่ถูกทิ้งในช่วงสุดท้ายแต่แล้วก็คิดได้ว่าดีแค่ไหนแล้วที่มีคนมาวิ่งเป็นเพื่อนเกือบตลอดทาง

เวหาค่อยๆ วิ่งผ่านจุดเริ่มต้นเป็นอันสิ้นสุดการวิ่งตามคำสั่งแสน ตอนนี้ก็เหลือแค่ว่าเขาจะเอาตัวรอดจากคนกลุ่มใหญ่ที่มารอดูตัวจริงของเขายังไง ท่าทางอัดอั้นตันใจอยากรู้อยากเห็นของแต่ละคนบ่งบอกว่าอีกไม่กี่อึดใจเขาคงถูกรุมกระชากหน้ากากออกมาแน่

ในสถานการณ์ที่เวหากำลังจะถูกรุมสกรัมภายในไม่กี่อึดใจนั้น จู่ๆ ก็มีรถตู้สีดำคันใหญ่เข้ามาจอดเทียบ ประตูรถถูกเปิดออกแล้วมีเสียงเรียกให้ขึ้นรถไป

“ขึ้นมาเลย พวกเรามาช่วยแล้ว”

วินาทีนั้นเวหาไม่สนใจแล้วว่าในรถจะเป็นใคร ต่อให้เป็นคนที่เขาโคตรเกลียดอย่างแสนก็คงจะดีกว่าการเผชิญหน้ากับคนหมู่มากในสภาพเปลือยกายล่อนจ้อน เขาตัดสินใจขึ้นรถที่เร่งเครื่องออกไปในทันทีทิ้งความวุ่นวายไว้เบื้องหลัง

เวหาสูดหายใจลึกๆ อย่างโล่งอกแล้วก็หันไปมองคนห้าหกคนที่อยู่ในรถคันนั้นแล้วต้องเลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจ

“พวกนาย เอ่อ มาได้ยังไงนี่”

เวหาพอจะคุ้นหน้าคุ้นตาคนที่อยู่ในรถอยู่บ้าง ทั้งหมดเป็นเพื่อนปีหนึ่งวิศวะของเขาเอง แต่ก็ดูเป็นการรวมตัวกันที่หลากหลายไม่น้อย เด็กหนุ่มในรถมีทั้งที่เป็นหนุ่มแว่นตัวบางผิวซีดหน้าตาเนิร์ดๆ หนุ่มหล่อหุ่นเพรียวท่าทางเป็นมิตร หนุ่มตัวโตกล้ามเป็นมัดๆ เด็กหนุ่มร่างเล็กรูปร่างหน้าตาเหมือนเด็กมอต้น จบท้ายด้วยหนุ่มตี๋ขาวอวบจนเกือบอ้วนที่ทำหน้าที่เป็นคนขับรถ

“พวกเราได้ข่าวเวหามาตั้งแต่เช้าแล้ว คุยๆ กันก็รู้สึกว่านายอาจจะกำลังลำบาก เลยชวนเพื่อนที่สนิทขับรถกันออกมาดูลาดเลา พอเห็นท่าไม่ดีเลยเรียกนายขึ้นรถมานี่แหล่ะ”

“ข่าวคงกระจายไปแล้วไปไกลแล้วสินะ เขารู้กันยังว่าเป็นเรา”

“ยังหรอก ก็ได้แต่เดากันไป ถึงส่วนใหญ่คิดว่าเป็นนายก็เถอะ แต่คนในคณะที่ไปรับน้องวันนั้นก็จำควยนายได้หมดแหละ ใหญ่ขนาดนี้ ว่าแต่นายคงโดนกดดันมากสินะ ถึงต้องทำขนาดนี้ ถ้ายังไงเล่าให้พวกเราฟังบ้างก็ได้ เผื่อจะมีทางช่วยเหลือ”

“ขอโทษนะ เรายังไม่อยากพูดถึงเรื่องนั้นตอนนี้ แต่ยังไงก็ขอบใจพวกนายมากนะ” เวหากล่าวเลี่ยงไป แต่พอจ้องหน้ากลุ่มเพื่อนที่ดูไม่มีอะไรเหมือนกันนี้อีกทีแล้วก็สะกิดใจบางอย่าง

“เฮ้ย โทษที นายคือคนที่ตัดเกรดได้เอฟใช่เปล่า นายก็ด้วย ทุกคนเลยเหรอเนี่ย”

“คิดไว้แล้วว่าเวหาต้องจำพวกเราได้ นายเคยช่วยพวกเราไว้คนละครั้งสองครั้งเวลาถูกพวกนั้นมันแกล้งเอา นายมีน้ำใจมากนะ ไม่ค่อยมีใครอยากยุ่งกับพวกเราหรอก กลัวจะถูกพวกลูกน้องไอพี่แสนมันเขม่นเอา”

เวหานึกเห็นใจเพื่อนกลุ่มนี้ เพียงเพราะการกระทำบ้าอำนาจของประธานรุ่นปีสี่กลับทำให้เกิดการแบ่งแยกจนกลายเป็นการกลั่นแกล้งกันในหมู่ปีหนึ่ง ยิ่งมารู้ทีหลังว่าประเพณีดัดเกรดนี้เลิกกันมาได้หลายปีแต่โดนแสนเอากลับมาในปีนี้ก็ยิ่งแค้น

“พวกนายมีอะไรให้ช่วยก็บอกมาได้นะ เราไม่กลัวพวกนั้นหรอก”

“ไม่เป็นไร ตอนนี้พวกเราโอเคแล้ว พอรวมตัวกันได้เหนียวแน่น ก็พอจะเอาตัวรอดไปได้ ถึงควยจะติดเอฟ แต่ด้านอื่นๆ เราก็เจ๋งอยู่นะ อย่างเราเห็นเนิร์ดๆ อย่างนี้ แต่จริงๆ เราเทพคอมพ์เลยนะ ใครมาแกล้งเราโดนแฮ็คโซเชียลแอคเค้าท์กลับจะเอาให้อายแค่ไหนก็บอกมา ส่วนตี๋อ้วนที่ขับรถนั่นก็ลูกเจ้าของธุรกิจขนส่งในจังหวัด ตั้งแต่วินมอเตอร์ไซค์ รถประจำทาง รถทัวร์ รถบรรทุก ปั๊มน้ำมัน ก็ของบ้านมันหมด ถ้าจะเอากันจริงๆ ก็เกณฑ์พวกคนขับรถโหดๆ เป็นร้อยคนมาแก้แค้นได้นะแต่มันไม่ทำ” หนุ่มแว่นตัวบางเล่าออกมาด้วยท่าทางภูมิใจ

“โห แจ่มว่ะ”

“ใช่มะ มาที่ไอดิวหน้าหล่อนั่น จริงๆ นอกจากหล่อไปวันๆ แล้วก็ไม่มีอะไร แต่มันเป็นลูกคนสุดท้อง มีพี่สาวอีกตั้งหกคน เรียนมหาลัยนี้ทั้งหมดแหละ จบไปแล้วก็มี แต่ละคนทั้งสวยทั้งเก่ง เป็นนักกิจกรรม ประธานรุ่น ประธานชมรมโน่นนี่นั่นเต็มไปหมด พวกเจ๊ๆ โคตรจะตามใจมัน ถ้าให้มันไปขอนะ สาวๆ ทั้งมหาลัยก็พร้อมให้ความช่วยเหลือ”

ดิวหนุ่มหล่อหุ่นเพรียวยิ้มแห้งๆ ให้เวหาเมื่อได้ยินเพื่อนพูดถึงตัวเองว่ามีดีแค่เรื่องพี่สาว

“ส่วนกูเรื่องใช้แรงขอให้บอก กล้ามใหญ่ไข่น่ารักนะมึง พรรคพวกกูนอกคณะที่ออกกำลังกายด้วยกันก็เพียบ” หนุ่มนักกล้ามอวดสรรพคุณตัวเองขึ้นมาบ้าง เวหาพยักหน้ารับแล้วหันไปถามเพื่อนร่วมรุ่นที่หน้าตาเหมือนเด็กมอต้น

“แล้วนายล่ะ โทษที เราจำชื่อนายไม่ได้”

เพื่อนตัวเล็กทำหน้าตาเหรอหราใส่จนหนุ่มกล้ามโตต้องตอบแทน

“ไอเด็กแคระนี่ชื่อคริส ไม่มีอะไรอวดหรอก เห็นหน้าเด็กอย่างนี้แต่จริงๆ รุ่นเดียวกัน บางทีมันดูจะเอ๋อๆ หน่อย เห็นว่าพัฒนาการทางร่างกายค่อนข้างช้า แต่ก็เรียนหนังสือได้ปกตินะ”

ถึงจะหนุ่มร่างกำยำจะพูดว่าเป็นรุ่นเดียวกัน แต่สายตาก็แสดงออกชัดว่าเอ็นดูเพื่อนคนนี้ในฐานะน้องเล็กของกลุ่ม เวหายิ้มให้เพื่อนที่มีการเติบโตไม่สมวัยอย่างให้กำลังใจ ว่าแล้วถึงดูไม่ค่อยพูด จะตอบอะไรทีก็คิดอยู่นาน แต่หน้าตาที่เหมือนเด็กทำให้ดูน่ารักดี

“เห็นป่ะเวหา พวกเราถึงจู๋จะติดเอฟ แต่ก็ไม่ธรรมดานะ เราเลยตั้งชื่อกลุ่มว่า ดิแอฟเวนเจอร์ส เท่ป่ะล่ะ”

เห็นสีหน้าจริงจังของแต่ละคนแล้ว เวหาจะฮาก็ฮาไม่ออก แต่อีกใจหนึ่งก็นับถือที่เพื่อนกลุ่มนี้ดูจะยอมรับปมด้อยตัวเองได้ดีกว่าเขา

“พวกนายไม่กังวลหรือน้อยใจบ้างเลยเหรอที่ ของสำคัญอันนั้นมันไม่เหมือนคนอื่น เรานะคิดมากมาตั้งแต่เด็กเลยที่มันใหญ่เกินคนปกติ แบบโคตรน่าเกลียดอ่ะ วันนี้เราอายมากเลยนะที่คนทั้งมหาลัยเห็นมันหมดแล้ว”

“ทำไมจะไม่รู้สึกแย่ล่ะ จู๋เล็กแบบนี้ ยิ่งตอนโดนตัดเกรดนะ ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน แต่พอเห็นว่ามันก็มีคนอื่นนะ เราไม่ได้มีชะตากรรมแบบนี้คนเดียว มันก็ใจชื้นแปลกๆ ยิ่งพอได้มารวมกลุ่ม มาปรึกษามาปลอบใจกัน มันโอเคขึ้นนะ แต่ก่อนอายไง ไม่กล้าบอกใคร ไม่รู้ว่าใครเป็นแบบตัวเองบ้าง”

“ใช่ๆ เพิ่งมารู้สึกว่ามันก็ไม่แย่มากก็เพราะเจอเพื่อนที่ติดเอฟด้วยกันนี่แหละ แต่ไม่นึกเลยนะว่าควยใหญ่อย่างเวหาก็จะรู้สึกเป็นปมด้อยได้ เราโคตรอิจฉานายเลย เอาจู๋พวกเราห้าคนมัดรวมกันยังไม่ถึงครึ่งควยของนายเลยมั๊ง แสดงว่าแต่ละคนก็มีปัญหาของตัวเองสินะ เอางี้ดีกว่า ไหนๆ วันนี้ที่มหาลัยก็วุ่นวายไปหมดแล้ว เราโดดเรียนไปนั่งคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันดีกว่า เราอยากรู้เหมือนกันว่าควยโตๆ มันจะเป็นปัญหาอะไร จินตนาการไม่ออกจริงๆ ว่ะ”

ทั้งหมดเห็นดีด้วย รถตู้วีไอพีหรูจึงแวะที่เซเว่นเพื่อตุนเสบียงก่อนจะมุ่งหน้าไปจอดริมชายหาดนอกโซนท่องเที่ยวที่ร้างผู้คน ประตูรถตู้ถูกเปิดทั้งสองด้านให้ลมโชยผ่าน เบียร์กระป๋องเย็นเจี๊ยบและขนมกรุบกรอบถูกแจกจ่ายไปทั่วรถ กลุ่มดิแอฟเวนเจอร์สแย่งกันเล่าประสบการณ์รันทดของคนที่มีปมด้อยเรื่องขนาดอวัยวะเพศอย่างออกรส

“ไอเวหา ควยใหญ่ๆ อย่างมึงไม่รู้หรอกว่าพวกกูเวลาเยี่ยวทีต้องคอยกระมิดกระเมี้ยนเอามือบังกลัวคนจะเห็นจู๋น้อยๆ ขนาดไหน”

พอแอลกอฮอล์เข้าปาก ความสนิทสนมก็เริ่มเกิด เวหารู้สึกสบายใจมากที่ได้มีโอกาสแชร์เรื่องที่ไม่เคยระบายให้ใคร

“แล้วมึงคิดว่าควยใหญ่ๆ อย่างกูไม่ลำบากเหรอ ควักออกมาทีซ่อนยังไงก็ไม่มิด คนฉี่ข้างๆ แม่งจ้องยังกะเห็นสัตว์ประหลาด”

“เขามองเพราะอิจฉานะสิ น่าอายตรงไหน ยังไงควยเล็กก็แย่กว่าอยู่ดี ควยยาวๆ อย่างมึงคงไม่เคยโดนมังกรกินหมี่ล่ะซี่ โคตรเจ็บ”

“คืออะไรวะ มังกรกินหมี่”

เวหาทำหน้าเหรอหรากับศัพท์ใหม่ที่เพิ่งเคยได้ยิน

“เค้าใช้เรียกเวลาที่หมอยมึงเข้าไปติดในหนังหุ้มหัวควยไง พอควยแข็ง มันก็ดึงหมอยเจ็บชิบหาย ยิ่งถ้าหลายเส้นพร้อมกันด้วยนะมึง คนที่หัวควยห่างจากฐานหมอยเป็นโยชน์อย่างมึงไม่มีทางเข้าใจหรอก ไอเด็กแคระคริสด้วย เห็นว่าหมอยยังเป็นแค่ขนอุยอยู่เลย”

“แค่นั้นอ่ะนะ มึงต้องมาโดนแบบกู ควยกูยาวใช่มะ ไข่ก็ทั้งห้อยทั้งยาน เวลานั่งบางทีไม่ระวังทับของตัวเองทั้งพวงเลยก็มี มันเจ็บจุกจนน้ำตาเล็ด ถ้ากระแทกลงไปแรงๆ ด้วยนะ ไข่บวมเดินขาถ่างไปหลายวัน”

ฝ่ายดิเอฟเวนเจอร์สเจอเรื่องนี้ไปถึงกับอ้าปากค้างด้วยความสยอง สุดท้ายก็ต้องยอมรับว่าควยใหญ่อันตรายกว่าควยเล็กจริงๆ

เบียร์กระป๋องแล้วกระป๋องเล่าหมดไป วงสนทนาก็ครึกครื้นมากขึ้นทุกที ฝ่ายควยเล็กก็ขุดเรื่องสมัยเริ่มเป็นวัยรุ่นว่าลำบากยังไง ต้องแอบเอาถุงเท้ายัดเป้าตอนเรียนว่ายน้ำที่โรงเรียนไม่งั้นมันจะแบนจนโดนเพื่อนล้อ เวหาก็บอกว่าตัวเองก็แย่เหมือนกัน ต้องจับทั้งควยทั้งไข่ยัดเก็บให้ดี บางทีต้องยอมจุกหนีบๆ ไป ที่สำคัญห้ามควยแข็งโดยเด็ดขาดไม่งั้นยางยืดกางเกงว่ายน้ำโรงเรียนเอาไม่อยู่แน่ แล้วเคยมีตอนที่วิชาพละมีให้ซิทอัพทดสอบสมรรถภาพ พอขึ้นลงหลายๆ ทีเข้า ควยเสียดสีกับกางเกงวอร์มจนตั้งโด่ขึ้นมา เป้าตุงใหญ่จนเพื่อนที่ช่วยจับขาอยู่ตกใจ โชคดีที่ครูพละแกเข้าใจ แกล้งสั่งลงโทษให้ไปวิ่งรอบสนามเป็นสิบรอบจนหดเป็นปกติ เพื่อนคนอื่นในห้องเลยไม่รู้ ไม่งั้นต้องขายหน้าพวกเด็กผู้หญิงแย่

สักพักบทสนทนาก็เลยเถิด หนุ่มนักกล้ามร่างบึ๊กเริ่มชวนคุยถึงประสบการณ์กับเพศตรงข้าม เจ้าตัวยอมรับอย่างภูมิใจว่าถึงจะเล็กสั้นอย่างนี้ แต่ก็สร้างความสุขให้แฟนสาวจนถึงจุดสุดยอดตลอด เอาแค่หุ่นดีๆ กล้ามแน่นๆ ก็ทำเอาสาวระทวยไปตั้งแต่เริ่มถอดเสื้อผ้าแล้ว ยิ่งฝึกลีลาการเล้าโลมเอาอกเอาใจคู่นอนให้ดี ส่วนควยถึงจะเล็ก ถ้ามันยังใช้งานได้ ซอยถี่ๆ ควงเก่งๆ กระแทกให้ตรงจุดแค่นี้ก็เหลือเฟือแล้ว ขนาดทอมมีแค่นิ้วกับลิ้นยังทำสาวหลงได้เลย

เวหารู้สึกน้อยใจในโชคชะตา ควยเล็กยังใช้เทคนิคมาชดเชยได้ แต่ควยใหญ่จนเกินที่จะใช้งานทำยังไงผู้หญิงดีๆ ก็คงรับไม่ไหว ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังฟังเทคนิคลูกเล่นในการเอาหญิงที่หนุ่มหุ่นล่ำถ่ายทอดให้อย่างตั้งใจ เอาจริงๆ แล้วเขามีประสบการณ์เรื่องนี้น้อยมาก ถึงรูปร่างหน้าตาจะน่าดึงดูดจนมีโอกาสเข้ามามากมาย แต่มันล้วนแต่จบลงด้วยความหวาดกลัวของฝ่ายหญิงจนไปไม่ถึงไหน เวหาฟังไปเรื่อยๆ จนถึงวิธีลงลิ้นดูดเม็ดแตดแล้วก็เกิดอารมณ์ตาม ควยขนาดเอบวกค่อยๆ ผงกหัวขึ้นจนผงาดเต็มความยาวเฉียดสิบนิ้ว ความอวบใหญ่เกินคนตั้งตระหง่านเรียกสายตากลุ่มดิแอฟเวนเจอร์สมารวมที่จุดเดียว เวหารู้สึกตัวเพราะจู่ๆ หนุ่มนักกล้ามก็ตะลึงจนหยุดเล่าเรื่องไปเฉยๆ พอมองไปที่ควยลุกชูชันจนน้ำเยิ้มของตัวเองก็นึกขึ้นได้ว่าตั้งแต่วิ่งเสร็จ ก็ยังไม่ได้ใส่เสื้อผ้าเลยตลอดเวลาที่คุยกับเพื่อนกลุ่มนี้มาสองสามชั่วโมง

เวหาอายที่ถูกจ้องมองควยในระยะประชิดจนต้องเอามือปิดไว้ แต่ทำยังไงก็ไม่สามารถซ่อนความใหญ่ยาวขนาดนั้นได้

“เฮ้ย ป่านนี้แล้วไม่ต้องปิดหรอก เพิ่งจะมาอายหรือไง อย่าลืมว่ามึงวิ่งโชว์จนเห็นกันหมดมหาลัยแล้ว นี่เพื่อนนะเว้ย ยิ่งเห็นชัดๆ อย่างยิ่งโคตรใหญ่ ขอกูดูใกล้ๆ เป็นบุญตาหน่อยเถอะว่ะ โอ้ย จะใหญ่อะไรโคตรพ่อโคตรแม่ขนาดนั้น เทียบกันแล้วเหมือนกูกับมึงเป็นมนุษย์คนละเผ่าพันธ์กันเลย”

นักกล้ามหนุ่มยื่นหน้าไปพิจารณาควยของเพื่อนใหม่จนเกือบชิดด้วยความทึ่ง เพื่อนคนอื่นๆ ก็มีสภาพไม่ต่างกัน เวหายังอายอยู่แต่ก็ไม่รู้จะปิดไปทำไม พอโดนรุมหนักเข้าก็นอนแผ่ไปกับเบาะรถกางขาอ้าซ่าให้เพื่อนดูควยดูไข่กันตามสบาย ผ่านไปซักพักหนุ่มตี๋อวบก็ถือวิสาสะเอามือกำลงไปที่กึ่งกลางท่อนลำซึ่งเป็นจุดที่อวบอ้วนที่สุดแล้วค่อยขอทีหลัง

“กูขอจับหน่อยเถอะเวหา เชี่ย กำไม่รอบว่ะ ต้องเอาอีกมือมาช่วย อย่างงี้เวลาชักว่าวมึงทำไงวะ ของกูแค่ใช้นิ้วโป้งกับนิ้วกลางคีบก็พอแล้ว”

เด็กหนุ่มที่นอนแผ่ปล่อยให้เพื่อนล่วงล้ำของสงวนได้อย่างเต็มที่ตอบเสียงสั่นๆ “กูก็ใช้มือกำแบบถือแก้วน้ำอ่ะ ไม่ต้องให้รอบหรอกแต่ใช้สองมือต่อกัน จะได้สาวถนัดๆ”

เด็กหนุ่มร่างอวบทำตามทันที ตาตี่ๆ เบิกโพลงด้วยความทึ่ง

“แบบนี้เหรอ โอ๊ย ฟินว่ะ เต็มไม้เต็มมือดีจัง ควยมึงอุ่นชิบหาย กูอยากรู้มานานแล้วว่าเวลาคนควยใหญ่ๆ ชักว่าวมันจะรู้สึกยังไง สาวขึ้นลงได้สุดๆ แบบนี้สิ ถึงเรียกว่าชักว่าวจริงๆ ของกูนี่น่าจะเรียกว่าบี้หนอนมากกว่า ไอแว่น มึงจะลองไหม”

หลังจากนั้นสมาชิกดิเอฟเวนเจอร์สก็ผลัดกันลองสาวควยของเวหาไม่เว้นแม้แต่คริสเด็กน้อยของกลุ่ม แต่ละคนทำท่าปลาบปลื้มกับควยมโหฬารของเพื่อนจนเจ้าตัวนึกขำทั้งๆ ที่กำลังนอนบิดไปบิดมาด้วยความเสียว พอได้ลองก็ติดใจแย่งกันจับคลึงเคล้นจนน้ำเงี่ยนของเด็กหนุ่มหลั่งออกมาเป็นสาย ถึงจะนอนกัดฟันแทบขาดใจแต่เวหาก็สังเกตว่าดิวเพื่อนหน้าหล่อเอาแต่มองมาแต่ไม่เข้าร่วมวงด้วย ด้วยความเป็นคนรักความยุติธรรม เด็กหนุ่มจึงบอกออกไปโดยไม่ทันคิด

“นายไม่มาจับควยเราบ้างเหรอดิว” พอหลุดปากออกไป เวหาก็หน้าแดงด้วยความอายที่เผลอพูดเหมือนอยากให้คนมาจับควยตัวเอง

“ไม่เอาหรอก แค่มานั่งดูอยู่นี่ก็รู้สึกผิดกับนายแล้ว” ดิวพูดจาสุภาพอ่อนโยนมาก เวหาจึงไม่ได้ขึ้นกูมึงด้วยเวลาพูดด้วย

“อ้าว ทำไมอย่างนั้นล่ะ”

“ก็เราเป็นเกย์ไง เราชอบผู้ชาย ทำอย่างนั้นก็เหมือนเราใช้ความเป็นเพื่อนมาหาประโยชน์จากร่างกายนาย”

เป็นคำตอบที่เวหาคาดไม่ถึงเพราะเขาดูไม่ออกเลยว่าหล่อๆ แบบนี้จะเป็นเกย์ แต่ก็ไม่ได้รังเกียจอะไร กลับประทับใจในความจริงใจที่อีกฝ่ายมีให้

“โธ่ เราก็นึกว่านายรังเกียจซะอีก ถึงเป็นเกย์นายก็จับได้นะ เราไม่หวงไม่คิดมาก นายก็ไม่ได้คิดอะไรเกินเพื่อนไม่ใช่เหรอ”

ดิวทำท่าตื่นเต้น

“ได้จริงเหรอ งั้นก็ไม่เกรงใจล่ะนะ ไม่อยากจะเชื่อเลยคนไทยจะใหญ่ได้ขนาดนี้”

เวหารู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก สัมผัสของเพื่อนผู้ชายแท้ๆ ที่มารุมจับก่อนหน้านี้มันรู้สึกได้ว่าพวกนั้นแค่ตื่นเต้นชื่นชมกับแท่งควยของเขา แต่ของเกย์หนุ่มหล่อมันมีความใคร่ความหลงไหลแฝงอยู่ อีกอย่างการลูบไล้หยอกล้อก็มีลีลาเย้ายวนไม่เหมือนพวกนั้นที่จับกันทื่อๆ แค่สนุกมือ เขาเสียวจนก้นไม่ติดเบาะ กระเด้าควยตามไปด้วย ไปๆ มาๆ ก็กลายเป็นการชักว่าวอย่างจริงจัง ดิวลูบไล้ไปทั่วเนื้อตัวเปล่าเปลือยของเวหา มือนึงสาวควยอย่างถี่ยิบ อีกมือนึงก็เล่นกับหัวนมอยู่นานจนชูชัน พอเสร็จหน้าที่กับหัวนมทั้งสองข้างแล้วก็ย้ายลงมาบีบนวดไข่แฝดใบเขื่องอย่างนุ่มนวล มือที่ชักว่าวก็ยังทำงานต่อเนื่อง น้ำเงี่ยนปลายควยหลั่งออกมาไม่ขาดสายชะโลมควยดุ้นยักษ์จนมันวาวน่าเกรงขาม เวหาอ่อนระทวยไปทั้งตัว ทั้งเกร็งทั้งเสียวจนบอกไม่ถูก เขาครางเสียงดังออกมาโดยไม่รู้ตัว ซักพักไข่เริ่มหดกระตุกถี่ๆ ในที่สุดก็ร้องดังลั่นพ่นน้ำขาวข้มออกมามากมายจนเพื่อนคนอื่นๆ ที่มองดูอยู่ต้องร้องออกมาด้วยความทึ่ง

“น้ำเยอะชิบหาย ก็ไข่แม่งใหญ่ยังกะไข่เป็ดนี่นะ ถึงผลิตน้ำได้ขนาดนี้ อ้าว ยังไม่หมดนี่หว่า มีก๊อกสองก๊อกสามอีก เยอะเกินไปแล้วครับคุณเวหา”

น้ำเชื้อขุ่นเหนียวของเวหากระฉูดไปถึงหลังคารถแถมยังกระจายเลอะเทอะเป็นคราบขาวข้นเต็มเบาะไปหมด เวหานอนหายใจหอบหน้าท้องเปื้อนน้ำว่าวตัวเองเป็นมันวาว

“ขอโทษทีว่ะ เปื้อนรถมึงหมดแล้ว”

หนุ่มตี๋อวบเจ้าของรถหัวเราะชอบใจ

“โอ๊ย ไม่เป็นไร ถือว่าแลกกับการดูโชว์ที่อลังการขนาดนี้ นี่ถ้าไม่เห็นกับตาไม่เชื่อเลยนะว่าควยใหญ่อย่างของมึงมันจะทั้งแข็งทั้งอึดแบบนี้ มึงเอาเลือดที่ไหนสูบฉีดเข้าไปตั้งมากมายวะ แล้วตอนที่แตกนะ อย่างกับน้ำพุ เจ๋งสัด เดี๋ยวกูเอารถเข้าคาร์แคร์ของที่บ้าน จะไปโม้กับพี่ช่างว่าน้ำกูเอง”

เวหาเขินหน่อยๆ เมื่อนึกว่าต้องมีคนมาเก็บกู้ซากความเงี่ยนที่เปรอะไปทั้งคันของตัวเอง ไม่น่าเชื่อว่าเมื่อเช้าเพิ่งโดนแสนบังคับชักว่าวจนแตกใส่รถไป จะยังมีน้ำเหลือเยอะขนาดนี้ สงสัยเพราะฝีมือของเกย์หล่อเพื่อนใหม่ พอนึกขึ้นได้เขาก็หันไปคุยกับเจ้าตัวที่นั่งหน้าแดงอยู่ข้างๆ

“ขอบใจนะดิว ตัวเบาเลย ไม่เคยมีใครทำให้เราแบบตั้งใจขนาดนี้มาก่อน แฟนคนก่อนๆ เราพอเห็นก็ขยาดแล้ว บอกว่าต้องตายแน่ๆ ขนาดแค่ให้ใช้มือช่วยยังไม่ยอมเลย กลัวเลยเถิดแล้วเราหน้ามืด คิดว่าเราเป็นคนยังไงวะถึงได้จะขืนใจเอาทั้งที่ผู้หญิงไม่ยอม กี่คนกี่คนสุดท้ายก็เลิกกันหมด”

เกย์หน้าหล่อยิ้มอายๆ

“เกย์น่ะไม่มีใครกลัวของใหญ่หรอกเวหา แต่คราวหน้าไม่เอาแล้วนะ ไม่งั้นเราหลงดุ้นนายแย่เลย เพื่อนกันมันไม่ดี”

การได้เปิดใจเปิดกายกันขนาดนี้ทำให้เวหาไม่รู้สึกอายอะไรกับเพื่อนกลุ่มนี้แล้ว ถือว่าเป็นคนมีปมด้อยเหมือนกันถึงจะคนละแบบก็เถอะ สุดท้ายเขาก็ได้เล่าเรื่องที่มีปัญหาต่อเนื่องกับแสนจนต้องมาวิ่งแก้ผ้าในวันนี้ แต่ก็ยังไม่กล้าบอกเรื่องตำรวจและคดีกระทำชำเราผู้เยาว์ที่แสนใช้มาข่มขู่ออกไป กลุ่มเด็กติดเอฟเห็นใจเวหาเป็นอย่างมากและบอกว่าจะหาทางช่วย แต่ก็ออกตัวว่าตอนนี้คงยังไม่กล้าชนกับแสนตรงๆ เหมือนอย่างที่เวหาทำ เพราะอิทธิพลของอีกฝ่ายมากมายเหลือเกิน หลังจากนั้นก็เปลี่ยนหัวข้อมาคุยกันว่าคนที่มาวิ่งเป็นเพื่อนเวหาคือใครกันแน่ กลุ่มดิแอฟเวนเจอร์สก็ไม่มีใครรู้ ได้แต่คาดเดาไปต่างๆ นาๆ สุดท้ายก็ลงความเห็นว่าน่าจะเป็นเพื่อนคนใดคนหนึ่งในรุ่นที่พยายามช่วยเหลือเวหาแต่ไม่กล้าเปิดเผยตัวเอง

การปรับทุกข์แลกเปลี่ยนประสบการณ์กับคนอื่นทำให้มุมมองของเวหากว้างขึ้น ถ้ารู้แรงจูงใจจริงๆ ที่ทำให้แสนทำแบบนี้กับเขาก็อาจจะมีทางหยุดเรื่องทุเรศนี้ได้ เขาคิดว่าแสนต้องมีปมอะไรที่เป็นสาเหตุของแรงจูงใจที่ว่า ยิ่งเป็นปมที่เกิดขึ้นตั้งแต่อายุน้อยๆ ก็ยิ่งฝังใจเป็นพิเศษ คงต้องสืบเรื่องราวลึกๆ ของแสนให้มากกว่านี้

“ครับอาจารย์… ไม่มีอะไรมากครับ แค่น้องปีหนึ่งเค้าคึกคะนองไปหน่อย… ไม่ครับ ไม่ได้เกิดจากการใช้ยาหรือเป็นการกลั่นแกล้งกันแน่นอน… ถ้ารู้ตัวชัดๆ แล้วผมจะจัดการตักเตือนเอง… ไม่ต้องห่วงครับ เรื่องตำรวจหรือทางจังหวัด ผมเคลียร์ได้อยู่แล้ว รับรองว่าไม่มีปัญหามาถึงคณะบดีอย่างอาจารย์แน่นอน… เรื่องข่าวในโซเชี่ยลคงต้องปล่อยไปครับ เรื่องแบบนี้มันเรื่องเล็กสำหรับสังคมสมัยนี้… ครับ ผมว่าเราเล่นกับกระแสได้ ยิ่งน่าจะทำให้คนสนใจมหาลัยเรามากขึ้นด้วยซ้ำ… เงินบริจาคไม่รู้จะคืนยังไง ผมรับไปบริหารให้ดีกว่าครับ คนอื่นทำกลัวว่าจะรั่วไหล… ขอบพระคุณอาจารย์ที่ไว้ใจครับ ยังไงรบกวนอาจารย์เรียนท่านอธิการบดีด้วยนะครับว่าเรื่องนี้ผมจะดูแลอย่างเต็มที่”

แสนกดวางสายของคณะบดีแล้วก็ยิ้มเยาะอยู่ในใจ ตาแก่พวกนี้อะไรก็ได้ขออย่าให้ตัวเองต้องเหนื่อยหรือมีปัญหา การบริหารกิจการนักศึกษาตกอยู่ในการควบคุมของเขามาเป็นปีแล้ว เบื้องหน้าก็ปล่อยให้อาจารย์เจ้าหน้าที่ได้หน้าได้ตาไป แต่เบื้องหลังอำนาจอยู่ในมือเขาทั้งหมด วีรกรรมที่เขาเข้าไปแก้ไขปัญหาหนักอกหนักใจที่เรื้อรังอย่างการยกพวกตีกันของคณะต่างๆ ทำให้เขาได้รับความไว้วางใจจากผู้ใหญ่เป็นอย่างมาก ตั้งแต่นั้นเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ ก็ถูกโยนลงมาให้เขาจัดการหมด นี่ยังไม่พูดถึงเส้นสายญาติพี่น้องที่มีอยู่เต็มจังหวัดที่ทำให้ทั้งมหาลัยต้องเกรงใจ

แสนโทรศัพท์อีกสองสามสายก็เคลียร์ความวุ่นวายที่เขาสร้างขึ้นวันนี้ไม่ให้ลุกลามใหญ่ต่อได้อย่างง่ายดาย เขาไล่ดูกระแสโซเชียลที่เกิดขึ้นอย่างพอใจ เรื่องที่มีคนเข้าใจผิดว่าเป็นการวิ่งเพื่อรับบริจาคเป็นสิ่งที่เขาไม่คาดคิดมาก่อน ยังดีที่ไหวตัวทันให้คนเอากล่องรับบริจาคตามประกบไปจนได้เงินเป็นกอบเป็นกำขนาดนี้ แสนมองปึกเงินเป็นฟ่อนที่เอาเข้ากระเป๋าตัวเองอย่างอิ่มใจ เสียดายถ้าคิดได้เปิดรับบริจาคตั้งแต่เริ่มวิ่ง คงได้เงินมากกว่านี้อีกเป็นหมื่นๆ

ที่ผ่านมาถือว่าเขาเดินเกมส์ไม่พลาดมาโดยตลอด ไอเด็กเวหาถือว่ามีคุณสมบัติเป็นสินค้าทำเงินทำทองให้เขาเสียจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหน้าตาที่หล่อเหลา ฐานะทางบ้านที่คงจะรวยไม่น้อย ควยโคตรใหญ่นั่นถือเป็นบิ๊กโบนัสที่เพิ่มมูลค่าสินค้าได้เป็นเท่าตัว ไม่เสียแรงที่ดันจนได้ตำแหน่งเดือนมหาลัยมาครอง แสนนึกกระหยิ่มใจที่เห็นเวหาดิ้นรนต่างๆ นาๆ เพื่อจะหลุดพ้นจากอำนาจเขา น่าเสียดายที่กระดูกคนละเบอร์ ไม่ว่าอีกฝ่ายจะหาทางทำอย่างไร เขาก็ก้าวหน้าอยู่ขั้นนึงเสมอ นี่ถ้าเวหาไม่ผยองทำตัวเป็นผู้นำเพื่อนต่อต้านรุ่นพี่คงไม่ต้องตกเป็นเป้าหมายแบบนี้ ยิ่งพอเจอว่าเด็กหนุ่มเป็นขุมทรัพย์ชั้นดีเขาก็ยิ่งปล่อยไปไม่ได้ เสียดายว่าเมื่อเช้านี้เวหาออกจะเชื่องเกินไป ให้ทำอะไรก็ทำ ถ้ามีต่อต้านบ้างคงสนุกกว่านี้ แสนนึกหาวิธีต่างๆ ที่จะทำให้ได้ทั้งเงินและได้เหยียบย่ำศักดิ์ศรีของเด็กหนุ่มไปด้วยเพื่อความสะใจ

วันต่อมาแสนเรียกเวหาให้ไปพบที่ห้องสโมวิศวะที่เจ้าตัวใช้เป็นห้องทำงานอยู่ เด็กหนุ่มกังวลใจมากแต่ก็ไม่สามารถขัดคำสั่งได้ แสนไม่ได้บอกว่าวันนี้จะต้องเจออะไรแค่สั่งว่าให้ตามน้ำไปอย่าทำอะไรที่รู้อยู่แล้วว่าจะทำให้เขาขัดใจ เมื่อเวหาไปถึงก็พบว่านอกจากแสนแล้วคนอื่นๆ เป็นรุ่นพี่ต่างคณะที่เขาไม่รู้จักเลย

“เอ้า ไอเดือนมหาลัยมาถึงแล้ว พวกมึงก็ถามมันไปว่าคนที่วิ่งแก้ผ้ารอบมหาลัยเมื่อวานใช่มันไหม จะได้รีบเคลียร์เงินเดิมพันให้จบๆ ไป” แสนเปิดฉาก บรรดารุ่นพี่ก็หันมามองเวหาเป็นตาเดียว

“ไอแสนมันว่างั้น แต่พวกกูไม่เชื่อหรอก มึงหล่อขนาดนี้จะทำเรื่องโรคจิตแบบนั้นไปทำไม”

เวหาหน้าขึ้นสีด้วยความโกรธ ไม่น่าเชื่อว่าแสนบังคับเขาให้ทำเรื่องทุเรศแบบนั้นเพียงเพราะหวังเงินเดิมพัน เขาคิดจะบอกความจริงทั้งหมดออกไป แต่ก็คิดได้ว่านอกจากจะไม่ช่วยอะไรแล้ว แสนอาจจะโกรธจนเขาต้องซวยหนัก

“ใช่ครับ เป็นผมเอง”

“กูไม่เชื่อ มึงจะทำอย่างนั้นทำไม ไอแสนบังคับมึงใช่ไหม พูด”

หลายคนมีท่าทีฮึดฮัดเพราะถ้าจริง มันหมายถึงเงินพนันก้อนโตที่ต้องเสียไป เวหาอึกอัก เขาพยายามนึกหาเหตุผลที่จะทำให้ตัวเองดูทุเรศน้อยที่สุดในสายตาคนนอกคณะ

“ผม เอ่อ ผมบนไว้อ่ะครับ ว่าถ้าได้ตำแหน่งเดือนมหาลัยจะวิ่งเปลือยแก้บน ปากพล่อยไปหน่อย บังเอิญได้จริงๆ ผมก็ไม่กล้าเบี้ยว ไม่เกี่ยวกับพี่แสนเลย”

“แล้วไงวะ ยังไงก็พิสูจน์ไม่ได้อยู่ดีว่าไอคนใส่หน้ากากเป็นมึงจริงๆ งั้นถือเป็นโมฆะว่ะ ไอแสน มึงไม่ต้องจ่ายกู กูก็ไม่ต้องจ่ายมึง”

หลายคนโวยวายหาทางล้มกระดาน แสนยิ้มมุมปากแล้วบอกกับเวหาอย่างเยือกเย็น

“มึงก็โชว์หลักฐานให้พวกมันดูสิเวหา ของที่มึงพกไปด้วยตอนวิ่งเมื่อวานไง”

“หา หลักฐานอะไร” เวหาถามกลับด้วยความงุนงง เมื่อวานเขาแก้ผ้าหมด จะมีอะไรติดตัวไปได้

“ก็ของกลางที่อยู่ตรงหว่างขามึงไง ถอดกางเกงออกมาให้พวกมันดูเดี๋ยวนี้”

เด็กหนุ่มหน้าซีดเผือดอ้าปากจะปฏิเสธ แต่สายตาจริงจังของแสนที่จ้องเขม็งมาบอกว่าเขาไม่มีทางเลือกอื่น เวหากัดฟันแน่นด้วยความคับแค้น แล้วค่อยๆ ถอดกางเกงนักศึกษาที่สวมอยู่ออกตามด้วยกางเกงในท่ามกลางสายตาตกตะลึงของคนในห้อง

เวหายืนเปลือยท่อนล่างอยู่ท่ามกลางรุ่นพี่จากคณะต่างๆ นับสิบคน ชายเสื้อนักศึกษาสั้นๆ พอดีตัวปกปิดอวัยวะเพศของเด็กหนุ่มแทบไม่ได้เลย ท่อนเนื้อสีอ่อนขนาดมหึมาห้อยตัวจากพงหมอยสีดำทอดยาวไปเกินครึ่งหน้าขา ไข่ยานโตงเตงห้อยต่ำไม่แพ้กัน เวหาก้มหน้าต่ำด้วยความอับอายเกินจะทน

“ไอชิบหาย กูก็นึกว่าถ้ามึงวิ่งเมื่อวานจริง ก็คงเป็นอีกคนนึง ไม่นึกว่าจะเป็นไอคนควยยักษ์คนนั้น นี่มึงอยู่ปีหนึ่งจริงเหรอสัด ทั้งหล่อทั้งควยใหญ่แบบนี้กูตายไม่ต้องเกิดกันพอดี ถ้าข่าวแพร่ออกไปนะ สาวๆ ในมหาลัยมันจะเหลือมาถึงกูมั้ยนี่”

“หลักฐานแค่นี้คงพอแล้วนะ ควยใหญ่ขนาดนี้ในประเทศจะมีซักกี่คน เอาเงินมาได้แล้ว กูจะได้ไปทำมาหากินอย่างอื่น” แสนยิ้มย่องขณะพูดเร่งรัดเงิน

“เชี่ยเอ้ย ใครจะคิดวะว่าแม่งเป็นตั้งเดือนมหาลัยจะมาวิ่งแก้ผ้าจริง หน้าด้านชิบหาย แล้วอีกคนใครวะ เพื่อนมึงเหรอ นั่นก็โรคจิตไม่แพ้กัน”

“ผมก็ไม่รู้ครับ” เวหาปฏิเสธ ขณะเดียวกันก็ลอบมองสีหน้าของแสนไปด้วยเพื่อเป็นเบาะแสว่าผู้มีบุญคุณของเขาคนนั้นเป็นใคร แสนขมวดคิ้วเล็กน้อยแต่ก็ไม่มีท่าทีอะไรมากกว่านั้น

“ยังไงกูต้องขอถ่ายรูปไอเด็กนี่ให้ติดทั้งหน้าทั้งควยไปให้พวกที่ร่วมลงขันที่คณะดู ไม่งั้นไม่มีใครยอมเชื่อแน่ ถ้าไม่ได้กูไม่จ่ายเงิน”

“ก็ถ่ายไปสิ เวหามันไม่ว่าอะไรหรอก ขนาดวิ่งโชว์ควยรอบมหาลัยมันยังทำมาแล้วเลย ใช่มั้ยเวหา”

ความแค้นที่เวหามีต่อแสนมันสะสมจนล้นปรี่ ทำอย่างนี้ก็เหมือนโยนทุกอย่างให้เขากลายเป็นไอโรคจิตอยู่คนเดียว

“แต่ถ้ารูปมันกระจายออกไป ผมตายแน่” เวหาสีหน้ากังวลจนพวกรุ่นพี่ต้องปลอบ

“เห้ย ไม่ต้องห่วง ยังไงมึงก็รุ่นน้องมหาลัย พวกกูไม่ทำร้ายมึงหรอก แค่จะเอาไปเปิดให้พวกที่คณะดูทางโทรศัพท์ ไม่ส่งรูปให้หรอก แล้วกูจะกำชับพวกมันด้วยไม่ให้ปากโป้ง”

เวหารู้สึกว่า ถึงรุ่นพี่พวกนี้จะดูเถื่อนๆ แต่ก็ยังเป็นคนดีกว่าแสนเป็นร้อยเท่า สุดท้ายก็ต้องยอมมายืนแอ่นควยโดยไม่ปิดบังใบหน้าให้แต่ละคนถ่ายรูปกันหลายๆ รูปจนหนำใจ บางคนก็ขอให้เด็กหนุ่มถอกควยและส่ายไปมาอัดเป็นวิดีโอเพื่อพิสูจน์ว่าไม่ใช่ของปลอม ยังดีไม่มีใครนึกอยากจับควยของผู้ชายด้วยกัน

ในที่สุดเหล่ารุ่นพี่ก็ทะยอยจ่ายเงินแล้วแยกย้ายกันไปเหลือแต่แสนนั่งนับเงินเป็นรอบที่สามอย่างอารมณ์ดี วันนี้เขาได้มาเป็นหลักแสนโดยไม่ต้องลงทุนอะไรเลย

“มึงนี่เป็นตัวเงินตัวทองซะจริงๆ กำไรทั้งนั้น แต่กูไม่แบ่งให้หรอกนะ”

“ถ้าพี่ได้เงินไปแล้วก็เลิกยุ่งกับผมซะทีสิ”

“ได้ไง สารวัตรเขามอบหมายให้กูเป็นคนคุมความประพฤติมึง ถ้าไม่อยากเข้าคุกก็ต้องทำตามที่กูสั่ง”

“แต่ถูกทำเหมือนผมเป็นทาสไม่มีชีวิตจิตใจอย่างนี้ ก็เหมือนติดคุกอยู่ดี”

“ถ้ามึงทำตัวดี เชื่อฟังกู ทำประโยชน์ให้กู กูก็คงไม่ใจร้ายกับมึงเกินไป อย่างเมื่อวานกูก็ยังเห็นใจยอมให้มึงใส่หน้ากากเลย” แสนทวงบุญคุณ ทั้งๆ ที่เป็นความตั้งใจอยู่แล้วที่จะไม่เปิดเผยใบหน้าของเวหาเร็วเกินไปจนทำให้เสียมูลค่า อึมครึมแบบนี้เรียกความสนใจได้ดีกว่าเป็นไหน

“แต่..” เวหาไม่รู้จะพูดอะไรต่อเพราะรู้ดีว่าไม่อยู่ในสถานะที่จะต่อรองอะไรได้

“อ้อ รถมึงที่ขับมาเมื่อวานสวยดีนะ ถ้ามึงไม่ได้ใช้ก็เอามาให้กูแล้วกัน กูขี้เกียจขับกระบะแล้ว”

“ได้ไง รถผมแม่อุตส่าห์ซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิด ผมต้องขับไปเรียนทุกวัน”

“เหรอ กูว่าหลังจากนี้มึงคงไม่อยากขับมันแล้วล่ะ ดูนี่สิ”

แสนยื่นโทรศัพท์ในมือให้เวหาดู หน้าจอเปิดค้างอยู่ที่คลิปวีดีโอที่เพิ่งแชร์ลงแฟนเพจข่าวสารของนักศึกษาในมหาลัยอย่างสดๆ ร้อนๆ เวหาถึงกับช๊อคเมื่อเห็นว่ามันเป็นคลิปที่เขาชักว่าวละเลงน้ำเชื้อลงบนกระโปรงหน้ารถยนต์คันหรูของตัวเองตามคำสั่งของแสน ยังดีที่ใบหน้าของเขาถูกเบลอไว้แต่ความคมขัดของคลิปทำให้เห็นเลขทะเบียนรถอย่างชัดเจน

“มึงว่าพอคลิปถูกแชร์ต่อๆ กันไป คนในมหาลัยจะคอยมองหาไหมว่าเจ้าของรถคันนี้คือใคร รถหรูอย่างนี้น่าจะมีคันเดียวในมหาลัยมั๊ง แค่เขาเทียบรถเทียบรูปร่างสีผิวของมึงกับในคลิปก็จบแล้ว มึงคงไม่ได้ใช้รถคันนี้แล้วล่ะ เอามาให้กูแล้วกัน กูจะคอยแก้ข่าวให้”

เวหากำหมัดแน่น ถ้าทำได้เขาคงจะฆ่าคนตรงหน้าไปแล้ว

“เอากุญแจมา อย่าลีลา มึงก็รู้ว่าจริงๆ กูจะบังคับเอามากกว่านี้ก็ได้” แสนออกคำสั่ง เวหาโยนกุญแจลงบนโต๊ะตรงหน้าอย่างสุดทน ความแค้นมันอัดแน่นอยู่ในอก จะมีทางบ้างไหมที่เขาจะล้างอายให้อีกฝ่ายได้รับผลกรรมคืนกลับเป็นร้อยเท่าพันทวี

กระแสโซเชียลที่มีต่อเหตุการณ์ในวันนั้นมันกระจายไปในวงกว้าง แฮชแทก #วัดใจเดือนวิศวะ และ #เวหาคนจริง ที่แสนตั้งโดยแอบใช้เฟสของเวหา ถูกติดอยู่ในแทบทุกโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับนักวิ่งเปลือยปริศนา รูปภาพคลิปวิดีโอบทวิเคราะห์ข้อสันนิษฐานต่างๆ เหมือนจะถูกส่งมาจากทั่วทุกสารทิศ มีการต่อยอดแฮชแทกออกไปมากมาย ที่ได้รับความนิยมยมอันดับต้นๆ ก็มี #นักวิ่งสามขา ที่มักจะแทกติดไว้กับรูปที่เห็นควยมโหฬารอันเปรียบเหมือนขาที่สามของเด็กหนุ่มชัดๆ แฮชแทก #หน้ากากชีเปลือย ที่อุทิศให้กับการคาดเดาความหล่อเหลาคมสันของใบหน้าใต้หน้ากาก และแฮชแทก #TheMaskedStreaker ที่เน้นไปที่ฟอร์มการวิ่งที่สวยงามก็ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน

ความเห็นของนักศึกษาในมหาลัยแบ่งเป็นสองกลุ่มใหญ่ๆ พวกแรกเชื่อว่าเวหาจะต้องเป็นคนใดคนหนึ่งที่วิ่งเปลือยวันนั้นจริงๆ เพราะโพสต์ลงเฟสไว้ตั้งแต่ทีแรก แต่กลุ่มหลังมีความเห็นว่ายังไงคนมีชื่อเสียงอย่างเวหาไม่น่าจะทำจริง คงเป็นตัวหลอกที่พวกวิศวะจัดฉากมาเพื่อกู้ชื่อเสียงคณะมากกว่า และถ้าดูจากขนาดเครื่องเพศที่ใหญ่ผิดปกติ น่าจะเป็นเด็กขายที่จ้างมาจากบาร์ซักแห่ง

ยิ่งเวลาผ่านไป ทั้งสองกลุ่มก็ถกเถียงกันผ่านโซเชียลรุนแรงขึ้นทุกที ทุกคนอยากรู้ความจริงจนเริ่มรุกล้ำความเป็นส่วนตัวของเวหา ทุกช่องทางการติดต่อทางโซเชียลของเด็กหนุ่มท่วมท้นไปด้วยคำถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ เวหาเลือกที่จะไม่ตอบอะไร แต่หนักๆ เข้าก็เครียดจนทนไม่ไหว ไม่ว่าจะเปิดสื่อโซเชียลค่ายไหน ก็เห็นแต่รูปควยขนาดมหึมาที่เป็นปมด้อยของตัวเองเต็มไปหมด ในที่สุดเด็กหนุ่มก็ตัดสินใจพักการเล่นโซเชียลไปก่อน

ในฐานะเดือนมหาลัย เวหาต้องออกไปทำกิจกรรมนอกคณะอยู่เป็นประจำ ช่วงนั้นจะเป็นเวลาที่เขารู้สึกอึดอัดมากที่สุด อยู่ในคณะ ถึงจะต้องทำเรื่องอับอายขายหน้ามาแล้วหลายรอบ แต่ก็ไม่มีอะไรต้องปิดบัง ทุกคนรู้แล้วว่าเขาควยใหญ่ผิดปกติ ทุกคนคาดเดาได้ว่าคนที่วิ่งแก้ผ้าโชว์ควยรอบมหาลัยวันนั้นคือใคร ไม่มีใครมาซักไซร้ไล่เรียงอะไรเอากับเขา แต่นอกคณะนั้นไม่ใช่ มีแต่คนจ้องมองเขาด้วยความเคลือบแคลงสงสัย มีทั้งจับกลุ่มนินทาลับหลัง พูดจากระแนะกระแหน ไปจนถึงเข้ามาถามตรงๆ ต่อหน้า

“ไงวะ เดือนมหาลัย ตำแหน่งที่โชว์ของดีแลกมา ตกลงเป็นมึงใช่ไหม แล้วมึงคือคนไหนวะ ถ้าบอกว่าเป็นไอสามขานั่น กูจะช๊อคตรงนี้เลย” เดือนพละเข้ามาแซ็วทีเล่นทีจริงกับเวหา แต่จริงๆ หนุ่มหุ่นล่ำที่เคยเป็นตัวเต็งเดือนมหาลัยคงยังผูกใจเจ็บคิดว่าเขาโพสต์ข้อความนั้นลงเฟสเพื่อเรียกคะแนนเสียงจนได้ตำแหน่งไปอย่างไม่ยุติธรรม เวหาไม่ถือโกรธ จะว่าไปมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ ถึงเขาจะไม่ได้คนทำก็เถอะ แต่เจอแซะบ่อยๆ เขาก็เซ็งเหมือนกัน

“จะให้กูตอบยังไงล่ะ ถ้ากูบอกว่าหนึ่งในนั้นเป็นกูเอง คนก็คงเอาไปลือว่ากูเป็นโรคจิต แต่ถ้ากูตอบว่าไม่ใช่ คนก็คงมาดูหมิ่นคณะกูอยู่ดีว่าไม่ทำอย่างที่พูด”

“เอ๊ะ อ้าว เหรอ”

“อย่างที่ว่าแหละ เรื่องจริงจะเป็นยังไง กูก็บอกออกไปไม่ได้อยู่ดี เรื่องบางอย่างมันซับซ้อนนะ มึงว่าป่ะ”

ต้องขอบคุณคำตอบที่ดิเอฟเวนเจอร์สช่วยคิดมาให้ ทีแรกเวหากะว่าจะบอกทุกคนที่เข้ามาถามว่าไม่ใช่เขา แต่กลับเป็นน้องเล็กของกลุ่มที่ห้ามไว้

‘มะ ไม่ได้นะ ถะ ถ้านายปฏิเสธไป แล้ว… ทีหลังพี่แสนทำอะไรจนความจริงเปิดเผยออกมา นายก็จะถูกมองว่าเป็น Liar เอ่อ คนขี้โกหกทันที… ไม่ได้แช่งให้เกิดเหตุการณ์นั้นนะ แต่มันเป็นเรื่องที่อาจเกิดขึ้นได้’ คริสค่อยๆ พูดช้าๆ มีหยุดคิดบ้างเหมือนไม่มั่นใจในตัวเอง แต่สิ่งที่หนุ่มหน้าเด็กพูดออกมามันก็จริงจนทุกคนต้องอึ้ง

‘แต่ถ้าไม่ปฏิเสธออกไปชัดๆ คนก็คิดว่าเป็นเราอยู่ดี’ เวหาแย้ง

‘เดี๋ยวเราจะช่วยคิดคำตอบให้ เอาแบบให้คนฟังเข้าใจว่าอาจไม่ใช่นาย แต่นายไม่สามารถบอกออกมาได้ตรงๆ’

นั่นคือคำตอบที่เวหาใช้บอกเดือนพละไป เขารู้สึกว่ามันแยบยลจนน่าทึ่ง

พอแก้ปัญหาความสงสัยของคนนอกคณะไปได้บ้าง เวหาก็หันมาสนใจกับหนุ่มปริศนาที่อุตส่าห์มาแก้ผ้าวิ่งเป็นเพื่อนเขาในวันนั้น เขาสงสัยเพื่อนในคณะตัวเองมากที่สุด แต่ก็จนใจที่ไม่มีใครยอมบอกออกมา เวหาเพิ่งรู้จากกลุ่มดิเอฟเวนเจอร์สว่าหลังจากวันนั้น ทุกคนก็กลัวแสนกันหัวหด การที่แสนเลือกเส้นทางให้เขาวิ่งผ่านกลางคณะวิศวะและเกณฑ์คนมาบูมให้ ไม่ใช่เพื่อให้กำลังใจ แต่เป็นการเชือดไก่ให้ลิงดู ทุกคนจำเวหาได้จากขนาดควยอันมโหฬาร ทุกคนรู้ว่าเวหาเป็นคนที่ต่อต้านแสนมากที่สุด แค่นี้ก็คำนวณได้แล้วว่าใครเป็นสาเหตุให้เวหาต้องมาวิ่งโชว์ควยต่อหน้าคนทั้งมหาลัย เท่านี้ก็ไม่มีใครกล้าต่อต้านแสนอีกต่อไป เวหาคิดว่านี่เป็นสาเหตุที่ทำให้คนๆ นั้นไม่เปิดเผยตัวต่อเขา

เวหายังไม่ละความพยายาม เขามองว่าคนๆ นั้นยอมทำเพื่อเขาขนาดนี้ยังไงก็ต้องเป็นกำลังสำคัญให้เขาได้แน่ เวหาเริ่มไล่จากคนใกล้ตัว กลุ่มดิเอฟเวนเจอร์ตัดทิ้งไปได้ทั้งกลุ่มเพราะขนาดควยของหนุ่มปริศนาใหญ่กว่านั้นมาก สุดท้ายเลยได้เพื่อนกลุ่มนี้มาช่วยรวบรวมข้อมูลและวิเคราะห์ให้ พอลิสต์รายชื่อเพื่อนร่วมรุ่นที่ได้เกรดบีและบีบวกซึ่งเป็นขนาดควยที่เข้าข่ายและคัดอีกทีด้วยความสูงรูปร่างและสีผิว ก็เหลือผู้ต้องสงสัยไม่มากนัก สองคนในนั้นคือเพื่อนจากกรุงเทพที่ร่วมกับเวหาต่อต้านแสนในช่วงแรก แต่หลังจากถูกซ้อมและถูกอัดคลิปชักว่าววันรับน้อง สองคนนี้ก็กังวลจนถอนตัวไป หลังจากนั้นก็ไม่ค่อยได้คุยกันเหมือนเดิม

บังเอิญที่สองคนนี้พักอยู่ห้องเดียวกันพอดี เวหาจึงบุกเข้าไปหาความจริงโดยไม่บอกล่วงหน้า ทั้งคู่ทำท่าตกใจเล็กน้อยที่เห็นเขามาเคาะประตูอยู่หน้าห้อง พอหันซ้ายหันขวาว่าไม่มีใครเห็นก็รีบพาเขาเข้าห้องปิดประตูทันที

“มาได้ยังไงวะเวหา เป็นไงบ้าง กูเห็นที่มึงโดนวิ่งวันนั้นแล้ว ขอโทษด้วยนะที่ช่วยมึงไม่ได้เลย”

ทั้งคู่มองเวหาด้วยความรู้สึกผิด อีกคนก็เสริมขึ้นมา

“พี่แสนมันมีคลิปชักว่าวของพวกกูอยู่ กูกลัวว่า ถ้าทำอะไรต่อต้านมันอีก กูจะต้องลงเอยแบบ แบบ…”

“แบบเดียวกับกูใช่ไหม กูไม่ได้โกรธพวกมึงหรอกนะ มึงทำถูกแล้ว ไอแสนมันเหี้ยกว่าที่คิดมาก อยู่ให้ห่างมันไว้ล่ะดี ที่กูมาวันนี้แค่อยากรู้ความจริง”

ทั้งคู่สีหน้าดีขึ้นที่เวหาไม่โกรธตัวเอง

“มึงอยากรู้อะไรล่ะ”

“กูอยากรู้ว่าควยมึงเป็นยังไง”

เวหาพูดแล้วก็กระชากกางเกงบอลของคนที่อยู่ใกล้จนลงไปกองกับพื้น ขณะที่อีกฝ่ายยังตกใจจนไม่ทันตั้งตัว เวหาก็รูดกางเกงในลงไปถึงหัวเข่าแล้วก้มหน้าลงไปสำรวจควยค่อนข้างใหญ่ตามมาตรฐานคนทั่วไปอย่างใกล้ชิด เจ้าของควยพยายามปัดป้องแต่ในสภาพที่กางเกงในกางเกงนอกพันแข้งพันขารุงรังและโดนเวหาเอาตัวกดทับอยู่ เขาก็หนีไปไหนไม่ได้

เวหาจับควยเพื่อนพลิกซ้ายพลิกขวาอย่างไม่เกรงใจ ขนาดมันใกล้เคียงแต่เขาดูสีควยแทบไม่ออกเพราะเจ้าของโรยแป้งเด็กไว้ทั่วจนหอมกรุ่น แต่พอดูลักษณะหนังหุ้มปลายที่หุ้มส่วนหัวได้จนมิดก็ต้องลงความเห็นว่าไม่ใช่คนเดียวกัน เวหาผละออกจากเพื่อนคนแรกอย่างหมดความสนใจ และย่างสามขุมไปที่เพื่อนอีกคนซึ่งจ้องมองมาที่เวหาอย่างอกสั่นขวัญหาย

“เวหา มึงเป็นบ้าอะไร ไม่เอา กูไม่ให้ดู ของมึงใหญ่ขนาดนั้นไม่ต้องมาดูของกู” เด็กหนุ่มแหกปากพร้อมกับวิ่งหนีไปรอบห้องจนเวหารำคาญ หนุ่มควยยักษ์บอกเพื่อนที่ผ่านการพิสูจน์ควยแล้วให้ช่วยมาจับ อีกฝ่ายก็บ้าจี้ทำตามเพราะไม่อยากถูกดูควยคนเดียว ในที่สุดเพื่อนคนที่วิ่งหนีก็ถูกนั่งทับจับแขนจับขาเปิดโอกาสให้เวหารูดซิปกางเกงเอาควยออกมาดูด้วยความสะดวก

พอเวหาล้วงควยขนาดเต็มไม้เต็มมือของเพื่อนออกมาได้สำเร็จเขาก็ต้องเบ้หน้า

“กลิ่นแรงชิบหาย มึงถูสบู่บ้างเปล่าวะ”

“ก็บอกแล้ว อย่ามาดูของกู เหม็นก็ปล่อยสิวะ”

เวหาย่นจมูกแต่ก็จับควยกึ่งแข็งของเพื่อนดูอย่างตั้งใจ พอปลิ้นส่วนหัวออกมาดูเพื่อความแน่ใจ ก็พบคราบขาวเป็นแผ่นๆ นิดหน่อยตรงขอบหัวเงี่ยง

“ไอเหี้ย ขี้เปียกเต็มเลย มึงต้องปรับปรุงความสะอาดนะเว้ย เอาอย่างรูมเมทมึงบ้าง นั่นเขาควยหอม น่าดม” ยิ่งพูดเวหาก็ยิ่งรู้สึกแปลกๆ ที่มาเปรียบเทียบความหอมน่าดมของควยผู้ชายด้วยกัน สุดท้ายพอแน่ใจว่าเพื่อนคนนี้ก็ไม่ใช่หนุ่มปริศนาที่ตัวเองตามหาอยู่ เขาก็ปล่อยตัวให้เป็นอิสระ

“เฮ้ย ให้ไอเวหาดูควยเราฝ่ายเดียวได้ไงวะ พวกเรารุมโว้ย”

เพื่อนสองคนโถมเข้ามาปลุกปล้ำเวหาเพื่อควักควยออกมาดูบ้าง เวหาปัดป้องพอสนุก ตั้งแต่ได้เจอกับทีมเอฟเวนเจอร์ เขาก็มีทัศนคติที่ดีขึ้นกับควยตัวเอง อีกอย่างเพื่อนก็เคยเห็นของเขามาแล้ว ไม่รู้จะอายไปทำไม ทั้งสามคนหัวเราะอย่างสนุกสนานสนานขณะเล่นจับควยกันเหมือนเด็กๆ เวหาดีใจที่กลับมาสนิทสนมกับสองคนนี้เหมือนเดิม พวกเขาตกลงกันว่าทั้งคู่จะคอยช่วยเหลือเวหาอยู่ลับหลังโดยหาทางเข้าไปช่วยงานสโมฯ และกิจกรรมต่างๆ ของคณะ เวหากลับไปที่ห้องตัวเองอย่างมีความหวังมากขึ้น ถึงจะยังหาตัวคนๆ นั้นไม่เจอ อย่างน้อยเขาก็มีเพื่อน มีพรรคพวกที่ไม่ทอดทิ้งเขาไปซะทีเดียว

กว่าเวหาจะกลับถึงห้องตัวเองก็ดึกมากแล้ว เขาพยายามทำธุระส่วนตัวอย่างเบาเสียงที่สุดเพราะเห็นว่ากันต์รูมเมทเขาเข้านอนไปแล้ว พออาบน้ำเสร็จเด็กหนุ่มก็มานั่งเช็ดหัวอยู่บนเตียงโดยไม่ได้เปิดไฟ แสงไฟจากด้านนอกรอดเข้ามาพอเห็นกันต์ที่นอนอยู่อย่างเรียบร้อยลางๆ เวหาจ้องมองเพื่อนที่หลับสนิทแล้วก็นึกขึ้นมาได้ กันต์เป็นอีกคนที่รู้เรื่องราวบางส่วนจากเขาตั้งแต่แรก เป็นไปได้ไหมว่ากันต์จะเป็นหนุ่มปริศนาที่มาช่วยเหลือในวันนั้น นึกๆ ไปก็ยิ่งเข้าเค้า รูปร่างความสูงของกันต์ก็ดูใกล้เคียง แต่อีกฝ่ายไม่ใช่เด็กวิศวะเขาจึงไม่รู้ว่าควยกันต์ได้เกรดอะไร

เวหาไม่รู้ว่าถ้าเขาถามออกไปตรงๆ กันต์จะยอมบอกความจริงหรือไม่ เห็นได้ชัดว่าหนุ่มปริศนาต้องการปิดบังตัวเองจากเขา มีอีกทางที่จะรู้ได้อย่างแน่ชัด แต่ถ้าเล่นกันตรงๆ แบบเพื่อนสองคนวันนี้คงไม่แคล้วที่จะถูกกันต์ถีบออกมา เวหาฟังเสียงลมหายใจที่สม่ำเสมอของกันต์แล้วก็ตัดสินใจลงไปนั่งข้างเตียง เขาค่อยๆ เลิกผ้าห่มออกชุดนอนออกเผยให้เห็นกางเกงผ้าฝ้ายเนื้อดีขอบยางยืดที่กันต์สวมนอน เขาใจเต้นตึกๆ ขณะที่ค่อยๆ ปลดกระดุมตรงช่องที่ไว้สำหรับปัสสาวะทั้งสองเม็ดออก เวหานึกเปรียบเทียบตอนที่ใช้กำลังบังคับล้วงควยเพื่อนออกมาดูแล้วปฏิเสธตัวเองไม่ได้ว่ามันสนุกสะใจอย่างบอกไม่ถูก แต่สิ่งที่ทำอยู่ตอนนี้มันก็ตื่นเต้นหวาดเสียวไปอีกแบบ กันต์ยังหลับสนิทไม่มีท่าทีที่จะรู้สึกตัวแต่อย่างไร เวหามือสั่นเล็กน้อยแต่ก็ปลดกระดุมออกจนสำเร็จ เขาเอาโทรศัพท์ขึ้นมาสองไฟไปตรงรอยแยกของกางเกง ดูเหมือนกันต์จะไม่ได้ใส่กางเกงในแต่ประกายแวววาวของวัสดุบางอย่างที่สะท้อนแสงไฟกลับมาทำให้เวหาถึงกับผงะ เขาแหวกช่องให้กว้างขึ้นชะโงกหน้าไปดูใกล้ๆ แล้วก็เจอสิ่งที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อนในชีวิต

ท่อนลำที่สงบนิ่งของกันต์ซ่อนตัวอยู่ภายใต้กรอบพลาสติกใสเป็นประกายวาวท่ามกลางแสงไฟ พอมองดูดีๆ แล้วก็พบว่าพลาสติกที่ดูใสแต่แข็งแรงนั้นครอบลำควยไว้ทั้งหมดโดยเว้นช่องไว้ตรงรูเยี่ยว อีกด้านหนึ่งเป็นโครงโลหะมันวาวซึ่งอ้อมไปรั้งพวงไข่ไว้จากด้านล่าง บริเวณลำควยด้านบนที่กรอบพลาสติกสองชิ้นประกบกันมีกลไกล๊อคไว้โดยมีแม่กุญแจเล็กๆ คล้องอยู่ เวหาไม่รู้ว่ามันคืออุปกรณ์ทางการแพทย์หรืออะไร แต่ที่แน่ๆ เขารู้สึกอึดอัดแทนเพื่อน กรอบพลาสติกค่อนข้างแนบชิดกับดุ้นเนื้อไม่มีช่องว่างเหลือเพื่อรองรับควยเวลาแข็งตัวแน่ๆ ดูจากร่องรอยการเสียดสีแล้ว กันต์คงสวมสิ่งนี้มาอย่างน้อยเป็นอาทิตย์ กันต์ทนได้ยังไงกัน

เวหาพยายามสังเกตดูว่าควยอันนี้เป็นของหนุ่มนิรนามหรือไม่ แต่ดุ้นเนื้อที่ถูกจำกัดรูปทรงอยู่ภายในกรอบพลาสติกที่ขึ้นฝ้าจากความชื้นภายในทำให้ยากที่จะบอกได้ ครั้นจะถอดออกก็ดูเหมือนจะต้องมีกุญแจเท่านั้น เวหาทำได้แค่ถ่ายรูปเก็บไว้ก่อนที่จะกลัดกระดุมให้เข้าที่และห่มผ้าให้กันต์เหมือนเดิม

ชีวิตในคณะของเวหาหลังจากนั้นก็ไม่ได้แย่มากอย่างที่คิด พอเพื่อนๆ เห็นเขาไม่ได้ต่อต้านแสนแล้ว ที่เคยถอยห่างเพราะกลัวลูกหลงก็เริ่มกลับมาพูดคุยกันตามปกติ เวหายังคงพยายามตามหาหนุ่มปริศนาต่อไป ส่วนกันต์เขาเองก็ยังไม่ปักใจที่จะตัดออกไป พอไปค้นดูจนรู้ว่าสิ่งที่เพื่อนร่วมห้องของเขาสวมไว้ที่ควยคืออะไรทำเอาเขาถึงกับตะลึง ไม่น่าเชื่อว่าคนที่ดูสุภาพมีสง่าราศรีอย่างกันต์จะนิยมอะไรแบบนี้ เล่นเอาเขาไม่กล้าลักหลับกันต์เพื่อพิสูจน์ความจริงอีกเลยเพราะกลัวจะไปเจออะไรที่หนักกว่าเดิม

เพื่อนที่เข้าข่ายเป็นผู้ต้องสงสัยอีกหลายคนก็ถูกเขาทยอยพิสูจน์ความจริงด้วยวิธีการต่างๆ มีตั้งแต่ขอดูกันดื้อๆ แอบส่องตอนฉี่ มอมเหล้า ลักหลับ ไปจนถึงสร้างสถานการณ์ให้ต้องอาบน้ำรวมกัน แต่ก็ยังไม่เจอคนๆ นั้นเสียที ไปๆ มาๆ เวหาเริ่มติดเป็นนิสัย เจอใครก็หาโอกาสแอบดูควยเค้าไปเสียหมด ตอนหลังแม้แต่ทีมเอฟเวนเจอร์สก็ยังถูกเขาบังคับดูรายคนแม้จะรู้ว่ายังไงก็ไม่ใช่ คนควยมโหฬารมาทั้งชีวิตอย่างเขาพอเจอจู๋ไซ้ส์เอ็กซ์เอสแบบเห็นจะๆ ก็รู้สึกทึ่งในความหลากหลายทางพันธุกรรมของมนุษย์ จู๋หนุ่มแว่นเทพไอทีก็ผอมๆ ซีดๆ หมอยบางๆ ปลายแหลมๆ เหมือนหุ่นเจ้าตัว ของตี๋อวบก็ไม่ถึงกับเล็กแต่สั้นมากเมื่อเทียบกับขนาดตัว ดีที่หัวชมพูดูสะอาดตา หนอนน้อยของหนุ่มนักกล้ามยิ่งดูผิดสัดส่วนเมื่อไปอยู่บนร่างใหญ่โตแกร่งกำยำที่ผ่านการเทรนมาเป็นอย่างดี แต่เวหาก็ต้องยอมรับว่าหุ่นตอนเปลือยเซ็กซี่สมชายมาก สำหรับดิวเกย์หนุ่มหน้าหล่อ เวหาต้องหลอกล่ออยู่นานถึงจะยอมให้ดู รูปร่างสีสรรสวยงามไม่มีที่ติเสียแต่ว่ามันมีขนาดเพียงครึ่งนึงของที่ควรจะเป็น แต่ดิวอ้อมแอ้มบอกว่าไม่เป็นไรยังไงก็ไม่ได้ใช้งานอื่นนอกไว้ฉี่ ส่วนเด็กน้อยคริสสมาชิกคนสุดท้าย นอกจากจะรูปร่างหน้าตาเหมือนเด็กมอต้นแล้ว จู๋น้อยๆ นั่นก็เหมือนของเด็กไม่ผิดเพี้ยน ขนรักแร้ขนหน้าแข้งยังไม่มี ขนหมอยก็ยังขึ้นหรอมแหรมเป็นเส้นบางจ๋อยบริเวณโคนควยแค่นั้นเอง เวหาดูของแต่ละคนแล้วรู้สึกว่า ตั้งแต่ที่จำความได้ ควยเขาก็ใหญ่กว่าตอนปัจจุบันของเพื่อนกลุ่มนี้แล้ว

เวหาเห็นแสนขับรถสุดหวงของเขาไปมาโดยไม่ดูแลให้ดีจนฝุ่นเขรอะในขณะที่เขาต้องพึ่งรถเพื่อนหรือไม่ก็พี่วินแล้วก็ปวดใจ แสนยังคงแสดงความบ้าอำนาจในคณะเป็นครั้งคราว บางครั้งเขาก็ถูกเรียกไปแกล้งอะไรไร้สาระอย่างไม่มีเหตุผล โชคดีที่มันเกิดขึ้นไม่บ่อยนัก แสนดูเหมือนจะง่วนอยู่กับงานบางอย่างซึ่งเวหาขอทายว่าคงไม่ใช่เรื่องดีเท่าไหร่

ความพยายามที่จะขุดคุ้ยความลับที่ไม่ดีของแสนเพื่อเอามาใช้ต่อรองยังไปไม่ถึงไหน ถึงหนุ่มแว่นเทพไอทีจะแฮ็คแอคเค้าท์ส่วนตัวของแสนได้สำเร็จ แต่ในนั้นสะอาดเอี่ยมไม่มีข้อมูลที่จะสร้างความเสียหายให้กับแสนได้เลย การลอบเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์ที่คณะของแสนก็ให้ผลแบบเดียวกัน เห็นได้ชัดว่าแสนระวังตัวมาก เรื่องไม่ดีเขาจะใช้คนอื่นทำ หรือไม่ก็ผ่านแอคเค้าท์ปลอมแบบใช้แล้วทิ้งที่มีไว้เป็นสิบๆ อัน ที่ยังหาไม่เจอคือแสนเก็บข้อมูลที่ใช้แบล็คเมล์เวหาไว้ที่ไหน

เมื่อไปทางเรื่องส่วนตัวไม่สำเร็จ เวหาและพวกก็หันมาหาทางเล่นงานเรื่องทุจริตแทน คราวนี้ดูจะไปได้สวยกว่า สองหนุ่มเพื่อนจากกรุงเทพของเวหาที่เข้าไปทำงานสโมฯ ไปพบความผิดปกติของเงินกองกลางที่เอาไว้ใช้ในกิจกรรมต่างๆ ของคณะเข้า อันที่จริงมันก็ไม่ใช่ความลับที่เข้าถึงยากอะไร สมุดสำหรับลงบัญชีรายจ่ายก็วางอยู่ในห้องสโมฯ ที่มีคนเข้าออกทั้งวัน สำเนายอดบัญชีเงินฝากก็ต้องมีแนบไปกับรายงานที่ทำสรุปทุกเดือน แค่จับมาเทียบกันก็จะเจอว่ามีรายการเงินยืมที่แสนเบิกไปสำหรับค่าอะไรที่ไม่ชัดเจนวนไปวนมาจนเกิดส่วนต่างที่หายไปหลายหมื่นบาท ยิ่งพอทีมเอฟเวนเจอร์สเอาข้อมูลมาสรุปด้วยหลักทางบัญชีโดยฝีมือของคริสน้อย ก็จะเห็นได้ชัดว่าเกิดความไม่ชอบมาพากลขึ้นแน่นอน จริงๆ คนอื่นที่ทำงานสโมฯ ก็คงเห็น แต่ไม่มีใครกล้าพูดอะไรด้วยเหตุผลที่รู้ๆ กันอยู่

เวหาเดินเกมอย่างรอบครอบ เขาทำบัตรสนเท่ห์ขึ้นเพื่อความปลอดภัยของตัวเองและเพื่อนๆ ถึงจะไม่ได้ลงชื่อผู้ร้องเรียน แต่หลักฐานที่แนบไปด้วยก็แน่นหนาและเพียงพอต่อการตัดสินความผิดได้ทันที ทีมเอฟเวนเจอร์สได้ช่วยตรวจสอบโครงสร้างการบริหารของมหาลัยและเสนอว่านอกจากคณะบดีแล้ว บัตรสนเท่ห์อันนี้ควรจะส่งไปที่สำนักตรวจสอบภายในของมหาลัยด้วยเพื่อไม่ให้เกิดการเพิกเฉยของผู้ใหญ่ในคณะ

เรื่องราวเดินไปได้ด้วยดี แสนโกรธเป็นเจ้าเข้าเมื่อได้รับคำสั่งให้ชี้แจงเรื่องทั้งหมดจากคณะบดี แต่หลังจากคิดสักพักเขาก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรทันที

“เสี่ยเหรอครับ มีเรื่องจะรบกวนหน่อย ผมจะขอวัสดุก่อสร้างตามรายการที่จะส่งไปให้ ด่วนเลยนะครับ เอามาส่งที่คณะวิศวะ… ไม่มีงบครับ ขอฟรี… ไม่ได้ครับ เสี่ยจะเอาไปลงเป็นเงินบริจาคสถานศึกษาเพื่อลดหย่อนภาษีไม่ได้ ต้องทำเป็นเหมือนเสี่ยขายของให้กับสโมสรนักศึกษาคณะวิศวะ ขอใบเสร็จด้วยนะครับ… ไม่ได้เหรอครับ แน่ใจนะ… งั้นงานประมูลที่กำลังจะยื่นซองเดือนหน้า เสี่ยไม่อยากได้ข้อมูลวงในแล้วใช่ไหม… ไม่ได้ครับ ส่วนแบ่งงานนั้นก็ของงานนั้น จะเอาเรื่องนี้มาหักกลบไม่ได้… งั้นของมาภายในวันนี้เลยนะครับ ขอบคุณครับ ยินดีที่ได้ติดต่อธุรกิจกับเสี่ยอีก”

แสนผิวปากด้วยความสบายใจก่อนจะยกหูโทรหาคณะบดี

“อาจารย์ครับ ขออภัยเป็นอย่างสูงครับที่อาจารย์โทรมาสอบถามเรื่องบัตรสนเท่ห์เมื่อครู่แล้วผมยังงงๆ อยู่… คือผมดูแลหลายเรื่องก็เลยยังนึกไม่ออกในทันที…ผมจะเรียนชี้แจงว่าผมเป็นคนเบิกเงินออกไปจริงๆ แหละครับ พอดีโรงเรียนที่เราไปออกค่ายเมื่อปีก่อนเขาเดือดร้อนเรื่องหลังคารั่วเกือบทั้งโรงเรียน ช่วงนี้มรสุมกำลังจะเข้าด้วย ผมเลยจะจัดค่ายอาสาฉุกเฉินไปช่วยซ่อมให้ แต่กลัวว่าของที่จะใช้มันมาไม่ทัน บริษัทวัสดุก่อสร้างเขาก็เห็นเราเป็นแค่สโมสรนักศึกษา ไม่ยอมเอาของมาส่งให้ถ้าไม่ได้เงินเต็มจำนวน ผมเลยจำเป็นต้องลัดขั้นตอนเบิกเงินออกไปจ่ายให้ก่อน ยังไม่ได้ตั้งเรื่องอะไร กลัวไม่ทันพายุเข้าแล้วน้องๆ จะลำบากกันน่ะครับ… เดี๋ยวบ่ายนี้บริษัทวัสดุก่อสร้างเขาก็จะมาส่งแล้ว ผมตามอยู่ตั้งหลายวันทั้งๆ ที่เอาเงินเราไปก่อนแล้ว อาจารย์จะเข้ามาตรวจรับของด้วยไหมครับ… ต้องขออภัยจริงๆ ที่ความไม่รอบครอบของผมทำให้อาจารย์ต้องพลอยไม่สบายใจไปด้วย ผมมัวแต่เป็นห่วงน้องๆ ที่ปกติก็ลำบากอยู่แล้ว… ยังไงผมจะทำรายงานสรุปเรื่องทั้งหมดกลับไปเพื่อความโปร่งใสนะครับ… ไม่ครับ ผมไม่คิดว่าจะถูกกลั่นแกล้งจากคนใน อาจจะดูเหมือนโอ้อวดไป แต่ผมเชื่อว่าเพื่อนและน้องในคณะทุกคนเขารักและศรัทธาในตัวผมจากใจจริงครับ น่าจะเป็นการเข้าใจผิดกันมากกว่า… ขอบพระคุณมากครับ”

แสนวางสายไปแล้วก็พึมพำกับตัวเอง “ไอแก่โง่เอ้ย จบไปอีกหนึ่ง ว่าแต่ใครวะ ที่ริอ่านมาลูบคมกู ศพไม่สวยแน่มึง”

เวหาต้องเจ็บใจอีกครั้งที่แสนรอดตัวไปอย่างสบาย มิหนำซ้ำเพื่อนที่ทำงานสโมฯ ทั้งคู่ก็ถูกแสนจับไปสอบปากคำ ถึงจะยืนกรานปฏิเสธไม่รู้ไม่เห็นไม่ซัดทอดใครทั้งสิ้น แต่ในเมื่อเป็นคนที่น่าสงสัยที่สุด สุดท้ายก็ถูกแสนบังคับให้ผลัดกันอมควยถ่ายคลิปไว้เป็นหลักประกันก่อนจะปล่อยตัวออกมา ทั้งคู่ถึงกับขวัญหนีดีฝ่อ โดยเฉพาะคนที่ต้องอมควยกลิ่นแรงแถมขี้เปียกของเพื่อนถึงกับขมคอกินอะไรไม่ลงไปเป็นวันๆ

เมื่อเวหาทราบข่าวก็รีบมาขอโทษเพื่อนด้วยความเสียใจอย่างสุดซึ้ง เขาขอให้ทั้งคู่ถอนตัวออกไปเลยเพราะไม่อยากให้ใครมาโดนอะไรแบบนี้อีก แต่ทั้งคู่บอกว่าขอแค่พักทำใจซักพักก่อน ยังไงก็ต้องร่วมแก้แค้นแสนให้จงได้

แต่เหตุการณ์ในครั้งนั้นก็ทำให้แสนออกอาการฟาดงวงฟาดงาเอากับหลายกลุ่มในคณะ นั่นทำให้เกิดกระแสความไม่พอใจในตัวประธานปีสี่กลับขึ้นมาอีก เบื้องหน้าเหมือนจะยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่ลึกๆ การกระทำของแสนกำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างดุเดือดจากคนในคณะ

บัสประธานรุ่นปีสามมองความไม่ปรองดองกันในคณะอย่างกังวล เขาพยายามเข้าไปไกล่เกลี่ยกับกลุ่มต่างๆ ให้หันกลับมากลมเกลียวกันเหมือนเดิม ซึ่งนั่นหมายถึงการเชื่อฟังคำสั่งแสน หลายคนเกรงใจความเป็นคนดีมีน้ำใจของบัสก็พยายามลืมๆ ความไม่น่าเคารพของแสนไปซะ แต่อีกส่วนก็เริ่มมีปากมีเสียงรุนแรงกับประธานรุ่นปีสาม บัสยังคงไล่คุยกับกลุ่มต่างๆ ในคณะอย่างไม่รู้เหนื่อย ในที่สุดก็มาถึงกลุ่มของเวหาซึ่งภายนอกดูไม่ได้ต่อต้านอะไรแสนแต่บัสก็อยากทำให้มั่นใจ

“พี่นะฝันมาตลอดว่าอยากเห็นพี่ๆ น้องๆ ในคณะเรารักใคร่กลมเกลียวกันตั้งแต่ปีหนึ่งถึงปีสี่ พี่บัณฑิตที่จบไปแล้วก็มาเยี่ยมเยียนถ่ายทอดประสบการณ์การทำงานให้น้องบ่อยๆ คณะเราจะรุ่งเรืองทั้งด้านวิชาการและกิจกรรมจนขึ้นแนวหน้าของประเทศ”

บัสนัดกลุ่มเวหามาที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ตั้งแต่มาถึง บาสก็พล่ามถึงคณะในอุดมคติที่ตัวเองอยากให้เป็นจนแม้แต่เพื่อนของบัสที่มาด้วยก็ทำท่าจะหลับแหล่ไม่หลับแหล่ เวหาและทีมเอฟเวนเจอร์สที่มาไม่ครบทีมฟังไปด้วยความเบื่อหน่าย ใจจริงของเวหาหมดความไว้เนื้อเชื่อใจในตัวรุ่นพี่คนนี้ไปแล้วตั้งแต่ตอนที่โดนแสนรับน้องอย่างรุนแรงโดยที่บัสไม่ได้ห้ามปรามอย่างเต็มที่ ที่เขามาก็ตามมารยาทในฐานะรุ่นน้องแค่นั้น

แต่เมื่อฟังมาได้พักใหญ่เวหาก็อดไม่ได้ที่จะสวนกลับ

“ถ้าสิ่งที่พี่ต้องการมันเป็นอย่างนั้นจริงๆ ทำไมพี่ยังพยายามให้คนในคณะเชื่อฟังพี่แสนล่ะ พี่ก็รู้ว่าสิ่งที่เขาทำ มันตรงข้ามกับสิ่งที่พี่ว่ามาทั้งหมด”

บัสอึกอักก่อนจะยกเบียร์ขึ้นซดอึกใหญ่

“มะ มันก็ใช่ แต่พี่ก็ยังศรัทธาในตัวพี่แสนนะ รู้ไหม ตอนที่พี่อยู่ปีหนึ่งน่ะ มหาลัยเรามันไม่ได้สงบสุขอย่างนี้หรอก ก่อนหน้านั้นมีการยกพวกตีกันอยู่เป็นประจำระหว่างคณะวิศวะกับกลุ่มพันธมิตรที่ประกอบไปด้วยคณะเกษตร คณะประมง และคณะพละ แต่พี่แสนที่เพิ่งอยู่ปีสองในตอนนั้นสามารถทำให้คณะเกษตรแยกตัวออกมาร่วมกับวิศวะได้ พอประมงและพละสู้ไม่ได้ การตีกันมันก็ค่อยๆ หายไป พี่แสนทำสำเร็จมาแล้วครั้งนึง พี่เชื่อว่าเค้าจะทำได้อีกครั้งก่อนจะเรียนจบไป”

“พี่เชื่ออย่างนั้นเพราะมันเป็นสิ่งที่พี่เห็นในตัวพี่แสนจริงๆ หรือเพราะมันเป็นสิ่งที่พี่อยากเชื่อกันแน่ พี่ดูไม่ออกจริงๆ เหรอว่าพี่แสนในวันนี้เป็นยังไง พี่กล้าที่จะเห็นตัวตนจริงๆ ของคนที่พี่ศรัทธาไหมล่ะ ผมจะเล่าให้ฟัง หลักฐานต่างๆ ผมก็มีเยอะแยะไปหมด”

บัสมองเหม่อไปข้างหน้าด้วยสายตาหม่น เขาสั่งเบียร์มาเพิ่มทั้งๆ ที่กินหมดไปแล้วสามขวด ทีมเอฟเวนเจอร์สขอกลับไปก่อนเพราะส่วนใหญ่เป็นเด็กอนามัยไม่ดื่มเหล้าไม่นอนดึก

“พี่รู้ แต่พี่ก็ยังแอบหวัง พี่รักคณะนี้มาก พี่ดั้นด้นมาเรียนที่นี่ทั้งๆ ที่ทางบ้านไม่มีใครเห็นด้วย พี่อยากให้คณะนี้มหาลัยนี้เจริญรุ่งเรือง พี่อยากให้มีแต่คนชื่นชมสถาบัน ชื่นชมนักศึกษาและบัณฑิตที่จบออกไป”

“พี่จะยึดติดอะไรขนาดนี้ ถ้ามหาลัยมันไม่เป็นอย่างที่เราหวัง พี่ก็แค่ตั้งใจเรียนจนจบไปด้วยเกรดสูงๆ แล้วไปต่อโทมหาลัยดีๆ หรือไม่ก็ต่อเมืองนอกไปเลยสิ”

“ไม่ได้ มันต้องเป็นที่นี่ ที่นี่เท่านั้น”

ถึงไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่เวหาก็สัมผัสได้ถึงความมุ่งมั่นและผูกพันที่บัสมีให้กับสถานศึกษาแห่งนี้ เบียร์ขวดแล้วขวดเล่า ถูกสั่งมาอย่างต่อเนื่อง เวหาก็ดื่มพอเป็นเพื่อนบ้างเช่นเดียวกับเพื่อนของบัสที่มาด้วย เวลาผ่านไปจนเลยเที่ยงคืน ประธานรุ่นปีสามก็ฟุบไปกับโต๊ะ เพื่อนของบัสที่มาด้วยทำท่าลำบากใจ

“เอาไงดี พี่ต้องไปรับแฟนตอนนี้เลยด้วย พี่วานเราได้ไหม ช่วยไปส่งบัสที่หอมันหน่อย นี่ก็เลยเวลาปิดหอในแล้ว เราก็ค้างกับบัสไปเลยแล้วกัน หอมันใหญ่มีห้องนอนสองห้อง เดี๋ยวพี่บอกทางให้ เราขับรถได้ใช่ไหม”

เวหาเลยจำเป็นต้องลากบัสไปขึ้นรถแล้วขับไปยังอพาร์ตเมนต์ของเจ้าตัว ดีที่ รปภ. มีน้ำใจช่วยพยุงประธานรุ่นที่สิ้นท่าไปส่งถึงหน้าห้อง ห้องของบัสใหญ่อย่างที่ว่าแถมยังตกแต่งไว้หรูหราบ่งบอกถึงฐานะของผู้เช่าได้เป็นอย่างดี เวหาลากร่างของรุ่นพี่ไปนอนแผ่บนเตียงได้สำเร็จ ส่วนตัวเองต้องรีบไปเปิดแอร์แล้วมานั่งตากลมพักเหนื่อยอยู่ตรงขอบเตียง เด็กหนุ่มรู้สึกร้อนและเหนียวเหงื่อจากฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ผสมกับการออกแรงลากคนเมา เขาถอดเสื้อออกจนรู้สึกสบายตัวขึ้น หันไปมองรุ่นพี่แล้วก็คิดว่าน่าจะเหนียวตัวเหมือนกันจึงลุกไปถอดเสื้อให้ ไหนๆ แล้วเห็นกางเกงตัวฟิตก็น่าจะทำให้เจ้าตัวอึดอัดไม่น้อยเขาจึงถอดให้อย่างไม่คิดอะไร แต่พอร่างขาวออกแดงด้วยฤทธิ์เบียร์นอนแผ่เหลือแต่กางเกงในตัวเดียว ความรู้สึกคุ้นเคยก็เกิดขึ้นกับเวหา เขามองไปที่เป้านูนของบัสอย่างชั่งใจ แล้วก็ค่อยๆ เอาปลายนิ้วเกี่ยวขอบกางเกงในเพื่อรูดลง

เส้นสายที่คุ้นเคยของท่อนเนื้อที่นอนสงบนิ่งอยู่บนพงหญ้าสีดำทำเอาเวหาใจกระตุก เขาเอามือลูบไปตามความยาวอย่างเบามือ ในที่สุดก็ได้เจอ เด็กหนุ่มน้ำตาซึมออกมาโดยไม่รู้ตัว นี่ใช่ไหมสิ่งที่บัสทำ พยายามประคับประคองทุกคนในคณะไว้อย่างสุดความสามารถ แม้จะไม่อาจช่วยเหลือเขาที่ถูกแสนกลั่นแกล้งได้ แต่ก็ยอมตากหน้าเข้ามาร่วมรับชะตากรรมแบบเดียวกันเพื่อแบ่งเบาความรู้สึก ทำไมคนๆ หนึ่งถึงได้ต้องทำอะไรขนาดนี้ คณะนี้มันมีค่ามากขนาดนั้นเชียวหรือ

เวหาค่อยๆ ถอดกางเกงในของบัสออกจนเหลือแต่ตัวเปลือยเปล่า ความที่มีอคติกับบัสตั้งแต่ช่วงแรกๆ เขาจึงไม่ค่อยได้สนใจใยดีกับอีกฝ่ายเท่าไหร่ พอมาสังเกตใบหน้ายามหลับของบัสใกล้ๆ เวหาก็รู้สึกว่ารุ่นพี่ปีสามคนนี้หน้าตาดีไม่น้อย ใบหน้าขาวหล่อเหลาตามสไตล์เด็กกรุงเทพดูอ่อนโยนและเป็นมิตร ร่างเปลือยที่เขาคุ้นตาเพราะมองอยู่เกือบจะตลอดเวลาที่วิ่งด้วยกันร่วมสองชั่วโมงดูดีตั้งแต่หัวจรดเท้า เวหาลูบไล้ไปตามส่วนต่างๆ ของร่างกายอีกฝ่ายตามแต่ใจต้องการ เขานึกอยากทำอย่างนี้ตั้งแต่ตอนที่บัสยังเป็นนักวิ่งปริศนาที่เขาไม่รู้จัก หน้าอกที่ขึ้นเป็นลูกพองามให้ความรู้สึกอบอุ่นยามสัมผัส ไรขนบางๆ ตรงหน้าท้องแบนราบขึ้นลอนนิดๆ นุ่มสบายเวลาลากมือผ่าน ก้นตึงแน่นก็เต็มไม้เต็มมืออย่างที่คิด ท่อนเนื้อที่แสดงความเป็นชายของบัสเริ่มขยายตัวเล็กน้อยหลังจากร่างกายถูกกระตุ้นด้วยการลูบไล้เรียกความสนใจให้เวหาเข้าไปคลึงเคล้นเบาๆ อย่างสนุกมือ

เมื่อสำรวจร่างเปลือยของบัสแทบจะทุกซอกทุกมุมจนพอใจแล้ว หนุ่มรุ่นน้องถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกจนหมดไม่ต่างกัน เขาค่อยๆ ทอดร่างตัวเองลงไปนอนข้างๆ ประธานรุ่นปีสาม แล้วก็หยิบโทรศัพท์ออกมาเซลฟีร่างเปลือยที่เคียงข้างกันเก็บไว้ เวหาไม่รู้ว่าตัวเองทำอย่างนี้ทำไม อาจจะแค่เป็นที่ระลึกในการกลับมาพบกันของคนที่เคยวิ่งเคียงข้างกันโดยไม่มีเสื้อผ้าติดกาย หรือมันอาจจะมีอะไรที่มากกว่านั้น

ตอนที่เวหากลับไปในตอนเช้าบัสก็ยังไม่ตื่น เด็กหนุ่มไม่ได้บอกใครว่าการค้นหาหนุ่มปริศนาสำเร็จลงแล้ว เขาอยากมีเวลาขบคิดเรื่องนี้กับตัวเองอีกพักนึง แต่ที่ได้รู้กลายเป็นแรงผลักดันอย่างประหลาดให้เขาโค่นอำนาจของแสนลงให้ได้

กลุ่มเอฟเวนเจอร์สยังพยายามอย่างหนักที่ช่วยให้เวหาหลุดพ้นจากแสนให้ได้ เรียกว่าตั้งใจคิดตั้งใจสืบซะยิ่งกว่าเรื่องเรียนอีก แต่ก็ยังไม่คืบหน้าไปไหน

“ยังไงๆ ก็หาไม่เจอ มันจะเป็นไปได้ไง คนที่ทำเรื่องเลวร้ายมาตั้งมากมาย จะไม่มีหลักฐานเบาะแสให้สาวถึงสักนิด” หนุ่มแว่นตัวบางบ่นอย่างโมโห

“เราว่า… เค้าคง ไม่ได้เก็บอะไรเอาไว้ที่ตัวเองเลย… น่าจะ… น่าจะมีคนที่ไว้ใจได้… ดูแลและทำแทนหมด… ก็แค่เดานะ” สมาชิกตัวเล็กของกลุ่มออกความเห็น

“ก็เป็นไปได้ แต่จะใครวะ พวกเราก็เฝ้าดูมันอยู่ตลอด เห็นมีแต่พวกลิ่วล้อกระจอกงอกง่อย ไม่น่าจะมีใครทำงานใหญ่ได้”

“กูรู้แล้ว จะใครล่ะถ้าไม่ใช่พี่บัสประธานปีสาม เห็นวิ่งพล่านไปทั้งคณะคอยล็อบบี้คนโน้นคนนี้ให้เชื่อฟังแสน”

“จะใช่เหรอ คนที่จะช่วยพี่แสนทำอะไรแบบนี้ได้ต้องเก่งมากนะ พี่บัสดูไม่ค่อยเท่าไหร่ เห็นยอมตามพี่แสนทุกเรื่องไม่มีความเป็นผู้นำเลย”

ทีมดิเอฟเวนเจอร์สช่วยกันวิเคราะห์อย่างถึงพริกถึงขิงโดยมีเวหาฟังอยู่เงียบๆ

“มันก็ไม่แน่นะ ได้ยินว่าพี่บัสเก่งมาก ตอนมัธยมก็มีชื่อเสียงไปแข่งวิชาการระดับนานาชาติ เหมือนจะได้ทุนไปเรียนต่อต่างประเทศจนจบดอกเตอร์ ไม่รู้ทำไมถึงตัดสินใจมาเรียนมหาลัยต่างจังหวัดแบบนี้ แต่ยังไงก็เก่งอยู่ดี ว่าที่เกียรตินิยมเหรียญทอง 4.00 คนเดียวของคณะเราตั้งแต่ตั้งมหาลัยมา”

“งั้นลองจับตาดูและตรวจสอบให้ละเอียดแล้วกัน ถ้าพี่บัสเป็นคนลงมือทำเรื่องพวกนี้ให้พี่แสนอย่างลับๆ จริง ก็ไม่แปลกที่พี่แสนจะลอยนวลมาได้ขนาดนี้”

“ไม่ต้องหรอก เสียเวลาเปล่า พี่บัสไม่ใช่คนทำเรื่องพวกนี้แน่” เวหาแย้งขึ้นมา

“รู้ได้ไงวะเวหา ก็พวกกูเพิ่งวิเคราะห์อยู่นี่ไงว่าพี่บัสน่าสงสัยสุด หรือมึงไปรู้อะไรมา”

“เอ่อน่า กูบอกว่าไม่ใช่ก็ไม่ใช่สิ พี่บัสไม่มีทางทำเรื่องแบบนี้” เวหาตัดบท เขาสับสนเล็กน้อย ความลับเรื่องที่บัสเป็นนักวิ่งปริศนาทำให้เขามั่นใจในตัวบัส ไม่รู้ว่าที่เขาเชื่ออย่างนั้นเป็นเพราะมันเป็นสิ่งที่เขาอยากเชื่ออยู่แล้วหรือเปล่า

“เอ้า มึงเป็นผู้เสียหายนี่นะ แล้วแต่มึงแล้วกัน งั้นพักเรื่องนี้ไว้ก่อน มาดูแผนการที่จะยืมมือศัตรูมาจัดการไอ้พี่แสน ไอตี๋มึงรับไปดูได้คืบหน้าอะไรบ้างเปล่า”

“ถ้าดูจากตอนที่ยังมียกพวกตีกัน คณะไม่ถูกกับวิศวะก็มีเกษตร พละ และประมง สองคณะหลังตัดไปได้เลยเพราะคนน้อย ต่อให้ระดมมาได้ทั้งคู่ก็ยังสู้วิศวะไม่ได้ แต่ถ้าดึงให้พวกเกษตรออกมาลงมือกับแสนได้ พละกับประมงเอาด้วยแน่นอน”

“ไม่ใช่ว่าพี่แสนเองเป็นคนไปเจรจาให้เกษตรเข้าร่วมเป็นพันธมิตรได้สำเร็จเมื่อสองปีก่อนเหรอ”

“จะว่าพันธมิตรก็ไม่เชิงนะ เหมือนไม่ยุ่งกันมากกว่า จนตอนนี้คณะเรากับเกษตรก็ยังเขม่นกันอยู่ ถ้ามีคนฝั่งโน้นเป็นตัวตั้งตัวตี จุดติดแน่นอน พี่แสนทำเลวๆ ไว้กับคณะอื่นมาเยอะ”

“แล้วใครวะ จะสั่งให้พวกเกษตรเคลื่อนไหวได้ แล้วเขาจะกล้ามางัดข้อกับไอพี่แสนเชียวเหรอ”

“ก็เลยต้องเป็นพี่ปราบไง พี่ปราบเท่านั้นแผนของเราถึงจะมีโอกาสสำเร็จ”

“พี่ปราบประธานสภานักศึกษาอ่ะนะ เหย้ดดด สมน้ำสมเนื้อจริงด้วย แต่พี่แกจะเอาด้วยเหรอ”

หนุ่มตี๋อวบแจกแจงข้อมูลที่ได้ไปสืบมา ประธานสภานักศึกษาอย่างปราบแห่งคณะเกษตรเป็นอีกคนที่มีอิทธิพลสูงในมหาลัย ทั้งการเรียน กีฬา กิจกรรมและรูปร่างหน้าตา ทุกอย่างยอดเยี่ยมไปหมด มีเพียงฐานะทางบ้านที่ธรรมดา ปราบมาจากจังหวัดใกล้ๆ ได้รับทุนการศึกษาพิเศษของมหาลัยซึ่งจะเลือกเข้าคณะไหนก็ได้ น่าแปลกที่เขาเลือกคณะเกษตรแทนที่จะเป็นแพทย์หรือวิศวะ

กลุ่มดิเอฟเวนเจอร์สช่วยกันขบคิดวิธีที่จะทำให้คนๆ นี้ออกมาเคลื่อนไหว ข้อมูลจากแหล่งข่าวทำให้เชื่อได้ว่าลึกๆ ทั้งคู่คงไม่ถูกกัน ตำแหน่งประธานสภานักศึกษาของมหาลัยของปราบกับตำแหน่งประธานรุ่นปีสี่คณะที่ใหญ่ที่สุดของแสนน่าจะมีการพบปะร่วมมือกันในกิจกรรมต่างๆ กันบ้าง แต่นี่กลับไม่มีเลยจนผิดสังเกต

เวหาพอรู้จักปราบมาก่อนหน้านี้เวลาไปทำกิจกรรมต่างๆ ในฐานะเดือนมหาลัย อีกฝ่ายมีความเด็ดขาดน่าเกรงขามสมกับเป็นผู้นำ ปราบไม่ได้หล่อแบบที่นิยมกันสมัยนี้ แต่รูปร่างสูงใหญ่กำยำผิวเข้มคร้ามแดดใบหน้าคมสันมีเคราเล็กน้อยก็มีเสน่ห์เร้าใจจนดาวคณะต่างๆ แอบกรี๊ดลับหลังกันไม่น้อยโดยไม่ต้องมีรถหรูหรือเครื่องประดับแบรนด์เนมเลย เจ้าตัวเหมือนหัวใจยังว่าง ไม่มีข่าวซุบซิบในเชิงชู้สาวออกมาแม้แต่น้อย เวหาวางแผนในใจว่าจะต้องใช้โอกาสเวลาทำกิจกรรมต่างๆ เข้าไปตีสนิทหยั่งเชิงกับปราบดู แต่เขาไม่รู้ตัวเลยว่าเวลาของตัวเองแทบไม่เหลือแล้ว

อยู่ดีๆ เวหาก็ถูกแสนเรียกตัวออกมาทั้งๆ ที่ยังอยู่ระหว่างเรียน เขามีโอกาสได้กลับมานั่งในรถแสนรักที่ดูโทรมไปถนัดใจ รองเท้ากีฬาเน่าๆ วางสุมอยู่กับกางเกงที่ยังไม่ได้ซักบนเบาะหลัง เบาะข้างคนขับที่เขานั่งก็มีคราบแห้งกรังของน้ำอะไรซักอย่างที่เวหาไม่กล้าเดา เด็กหนุ่มลอบสำรวจสภาพรถตัวเองด้วยความใจหายจนแสนขับมาถึงจุดหมายโดยไม่รู้ตัว เขาเดินตามแสนไปตามอาคารที่ดูเหมือนจะเป็นสถานที่ราชการแห่งหนึ่งเพื่อไปพบกับสาวใหญ่ท่าทางมีอำนาจในห้องทำงานใหญ่โต

“คนนี้แหละครับท่าน รับรองวันงานปาร์ตี้ คนอื่นสู้ไม่ได้แน่”

ผู้หญิงคนนั้นกวาดสายตาวางอำนาจมองเวหาตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วพยักหน้าด้วยความพอใจ

“รูปร่างหน้าตาใช้ได้ดีเชียว แต่ยายสายสุดา ชอบทุ่มเงินเอาพวกนายแบบหรือดาราที่กำลังไต่เต้ามาจากกรุงเทพ เด็กนี่จะสู้ไหวเหรอ”

“ของเราก็ไม่ธรรมดานะครับ ปีหนึ่ง ใหม่ๆ สดๆ ไม่ช้ำอย่างคนอื่น นี่ก็เพิ่งได้ตำแหน่งเดือนมหาลัยมาไม่ถึงสองเดือนก่อน”

“ก็จริง ของยายพวกนั้นไม่รู้ว่าผ่านมากี่มือแล้ว ไหนถอดเสื้อให้ชั้นดูหุ่นหน่อยสิ”

เวหาถอดเสื้อนักศึกษาที่ใส่อยู่ออกอย่างไม่มีทางเลือก สาวใหญ่ในทรงผมตีโป่งตั้งกระบังถึงกับตาลุกวาวขณะเอาเล็บกรีดเบาๆ ไปบนเนื้อตัวของเด็กหนุ่ม

“หุ่นดี ผิวดี แต่กล้ามเนื้อยังไม่ถึงกับชัดมาก ถ้ายายจรัสศรีเอานักมวยกล้ามท้องเป็นลูกๆ มาอีกเหมือนปีที่แล้ว ชั้นก็แพ้สิ”

“นี่ไม่ใช่การประกวดกล้ามไม่ใช่หรอครับ ของเราในลุคเด็กหนุ่มใสๆ นี่ก็สมบูรณ์แบบที่สุดแล้ว หรือท่านจะเอาแบบนายสิบตำรวจเพิ่งบรรจุใหม่ๆ กล้ามเป็นมัดๆ ผมก็หาให้ได้นะครับ มีเข้าท่าอยู่หลายคน”

“วุ้ย ไม่เอาหรอก ปีก่อนก็มีเอาตำรวจทหารมาชนกันตั้งหลายคน เดือนมหาลัยนี่แหละดีแล้ว แล้วทำอะไรได้บ้างเนี่ย มีต้องมีจุดขายด้วยนะ ไม่ใช่ว่าจะมายืนหล่อเฉยๆ” คนพูดปรายตาเหยียดๆ มองมาที่เวหา

“ไม่ต้องห่วงครับ เอาจริงๆ คุณหญิงคุณนายพวกนั้นคงไม่ได้สนใจความสามารถพิเศษร้องๆ เต้นๆ อะไรเท่าไหร่ ผมรับรองว่าสิ่งที่เขารอชมกันจริงๆ ของเด็กนี่จะไม่ทำให้ท่านผิดหวังแน่”

“ให้มันแน่นะ ไม่ใช่มีแค่ราคาคุยพอถอดออกมาจริงโดนหัวเราะใส่ทั้งงาน มาตรฐานเด็กเดี๋ยวนี้มันสูงขึ้นเรื่อยๆ นะ”

“รับประกันเลยครับ เอ้า ยืนเฉยอยู่ทำไม ถอดกางเกงให้ท่านดูสิ”

เวหาจำใจต้องถอดกางเกงออกตามคำสั่ง แสนทำท่าเกรงใจอิป้าคนนี้พอควร ถ้าทำอะไรเป็นการฉีกหน้าแสนลงไป เขาคงโดนหนักแน่ คิดซะว่าไปยืนฉี่ในห้องน้ำ แล้วป้าคนทำความสะอาดเข้ามาเห็นควยแล้วกัน ถึงจะพยายามทำใจโดยคิดอย่างนั้น แต่เวหาก็รู้สึกกล้ำกลืนอยู่ดีขณะต้องโชว์ของสงวนให้ป้าตัณหากลับที่ทำเป็นวางมาดแต่ตาลุกวาว

“อุ๊ย แหก” ป้าผมตีโป่งหลุดอุทานจนเสียฟอร์มเมื่อเห็นควยดุ้นเบ้อเริ่มเทิ่มเกินคาดคิดโผล่พ้นสาบกางเกงออกมา ดวงตาที่ปัดขนตาไว้หนาส่งสายตาโลมเลียมชวนขนลุก ใบหน้าที่ฉีดโบท็อกซ์จนตึงเปรี๊ยะแสยะยิ้มน่าสยดสยอง มือที่เริ่มเหี่ยวคว้าท่อนเนื้อไปพลิกซ้ายพลิกขวาอย่างจาบจ้วง ยังไม่พอมือที่ทาเล็บสีแดงไว้ยังรูดหนังหุ้มปลายของเด็กหนุ่มลงจนสุดเพื่อดูหัวควยด้านในเหมือนเลือกผักเลือกปลา รูเยี่ยวซึ่งเป็นช่องเปิดขนาดใหญ่ตามไซส์ควยถูกสาวใหญ่เอาเล็บแหลมจิกลงอย่างไม่ปราณีจนเวหาสะดุ้งเฮือก

“ชั้นจองคนนี้แหละ อย่าเอาไปให้คนอื่นเชียวนะ มีค่าใช้จ่ายอะไรหรือเปล่า”

“ไม่มีครับท่าน นี่เป็นเด็กในสังกัดของผมเอง แค่ช่วยเร่งใบอนุญาตสถานประกอบการของบาร์ที่ผมยื่นมาด้วยครับ ใกล้จะเปิดแล้ว พอดีลูกน้องท่านดึงเรื่องไว้ หาว่ามันใกล้โรงเรียนเกินไป”

“ไม่มีปัญหา เดี๋ยวชั้นเซ็นให้เลย แต่เรื่องตำรวจเธอต้องไปเคลียร์เอาเอง คงไม่ใช่บาร์ธรรมดาหรอกชั้นรู้ จริงๆ ทีแรกก็ว่าจะไม่ให้หรอก ไม่กินเส้นกับพ่อเธออยู่ ทำเป็นคนดีมีศีลธรรมคร่ำครึ ไม่ได้ดูเลยว่าโลกเขาไปถึงไหนแล้ว นี่เห็นว่าเธอไม่เหมือนพ่อ คุยกันรู้เรื่องดี”

“ขอบพระคุณมากครับ เด็กนี่ผมว่าจะให้ไปประจำที่นั่นแหละพอเปิดแล้ว ให้เป็นตัวเรียกแขก”

“เอ๊ะ ไม่ได้สิ เดี๋ยวช้ำหมด เอาไว้หลังงานปาร์ตี้ของชั้นก่อน ค่อยส่งตัวไป”

เวหาฟังทั้งคู่คุยกันเหมือนไม่มีเขาอยู่ในห้องอย่างหวาดหวั่นกับชะตากรรมที่รออยู่ข้างหน้า ไม่น่าเชื่อว่าแสนจะเลวถึงขนาดนี้ เท่าที่ฟังเขาต้องไปเป็นของเล่นในงานปาร์ตี้ของพวกคุณหญิงคุณนายตัณหากลับ ไม่รู้จะโดนทำอะไรบ้าง ที่เลวร้ายคือหลังจากนั้นเขาต้องไปทำงานในบาร์ที่เปิดใหม่ของแสน ไม่พ้นจะต้องแก้ผ้าโชว์ให้แขกดู หรืออาจจะถึงขั้นขายตัวปรนเปรอให้สาวแก่แม่หม้ายที่มาใช้บริการ เขามีเวลาอีกไม่ถึงเดือนก่อนงานปาร์ตี้จะเริ่มขึ้น แต่ยังดูไม่มีหนทางจะหลุดพ้นจากแสนได้เลย

เวหารู้สึกท้อแท้มากกับชะตากรรมของตัวเองที่ถูกแสนกับป้าหน้าตึงแต่คอเหี่ยวกำหนดร่วมกันในวันนี้ สุดสัปดาห์ที่จะถึงเป็นวันหยุดยาวพอดี เขาอยากกลับบ้าน อยากจะไปให้พ้นๆ จากเรื่องพวกนี้ แม้ไม่กี่วันก็ยังดี เด็กหนุ่มเสี่ยงขอร้องแสนดูขณะนั่งรถกลับ

“พี่แสนครับ อาทิตย์นี้หยุดยาว ผมขอกลับกรุงเทพได้ไหมครับ”

แสนขมวดคิ้ว

“ไม่คิดว่ากูต้องใช้งานมึงช่วงนั้นบ้างเหรอ แต่เอาเถอะ เห็นแก่วันนี้มึงทำตัวดี ไม่ทำท่ารังเกียจยายป้านั่น ถ้าเป็นกูนะอ้วกไปแล้ว กูจะอนุญาตก็ได้ แต่ถ้าคิดหนี มึงตายแน่”

“ครับพี่ ผมไม่กล้าหรอก เอ่อ ผมจะขอเอารถคันนี้กลับไปด้วยนะครับ ไม่งั้นที่บ้านจะสงสัย”

“อ้าว เหี้ยนี่ แล้วกูจะใช้อะไรวะ เรื่องของมึงทำไมต้องให้กูมาลำบากด้วย ได้คืบจะเอาศอกนะมึง เห็นกูใจดีด้วยหน่อย ไม่ให้โว้ย”

“นะครับพี่ ถ้าไม่เอากลับไปผมต้องแย่แน่ๆ อีกอย่างมันถึงระยะที่ต้องเข้าศูนย์แล้ว ที่จังหวัดไม่มีศูนย์ยี่ห้อนี้ด้วย ความปลอดภัยมันสำคัญนะครับ แล้วผมจะทำความสะอาดขัดเคลือบมาให้อย่างดี อบโอโซนกำจัดกลิ่นให้ด้วย พี่ไม่รู้สึกว่ามันเริ่มมีกลิ่นแปลกๆ บ้างเหรอครับ”

เวหาหมายถึงกลิ่นคาวๆ ในรถแต่เขาก็ไม่กล้าพูดตรงๆ

“ไม่เอาเว้ย จะเข้าศูนย์ไปทำไมเสียเวลา ใช้ๆ ไปถ้าพังก็ทิ้ง”

“นะครับพี่ ผมจำเป็นจริงๆ พี่จะให้ผมทำอะไรก็ยอม”

แสนทำหน้าหงุดหงิดแต่แล้วตาก็ประกายอย่างนึกสนุก

“เอางั้นเหรอ มึงพูดเองนะ งั้นวันศุกร์มึงมาทำแบบนี้ให้กูดู อย่างมึงน่าจะพอไหว แลกกับกุญแจรถ ถ้าไม่ได้ก็ไม่ต้องเอา”

แสนเปิดคลิปในโทรศัพท์ให้เวหาดู เด็กหนุ่มเห็นแล้วเลือดขึ้นหน้าแทบจะด่าแม่แสนออกมาดังๆ นี่จะไม่ให้เหลือศักดิ์ศรีไว้บ้างเลยหรือ เขานั่งข่มใจมาตลอดทาง พอถึงมหาลัยก็เปิดประตูรถลงไปทันทีท่ามกลางเสียงหัวเราะเยาะไล่หลังของประธานปีสี่

เวหากลับมาถึงหอพักอย่างอารมณ์เสีย กันต์ไม่อยู่ในห้องซึ่งนั่นเป็นเรื่องปกติ เขาไม่รู้ว่าเด็กเภสัชจะเรียนหนักอะไรกันนักหนาตั้งแต่ปีหนึ่งถึงต้องกลับอย่างเร็วสามสี่ทุ่มทุกวัน

เด็กหนุ่มยังทำใจไม่ได้กับเรื่องที่แสนสั่งให้ทำ แต่คงไม่มีทางอื่นที่จะให้ได้รถมา เขาถือโอกาสที่อยู่คนเดียวลองค้นหาคลิปคล้ายๆ กับที่แสนเปิดให้ดูจากอินเตอร์เน็ต ดูอีกครั้งก็ยังรู้สึกผะอืดผะอมอยู่ดี แต่ถึงอย่างนั้นเวหาก็พยายามทำตามดู เขาถอดเสื้อผ้าออกจนหมดแล้วลองจัดท่าทางให้ถนัดที่สุด เขาลองอยู่หลายครั้งแต่จนแล้วจนรอดเขาก็ทำไม่สำเร็จ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะข้อจำกัดของร่างกายจริงๆ หรือจิตใต้สำนึกของเขามันต่อต้านกันแน่

“นายทำอะไรอ่ะเวหา”

กันต์ไขกุญแจเปิดประตูผลัวะเข้ามาเห็นเพื่อนร่วมห้องที่กำลังแก้ผ้าฉีกแข้งฉีกขาอ้าซ่าอยู่ เวหาทั้งตกใจทั้งขายหน้าจนพูดอะไรไม่ถูก เขากลัวรูมเมทที่ยังไม่ค่อยสนิทกันมากคิดว่าตัวเองเป็นพวกโรคจิตแล้วไปฟ้องทางหอขอให้ย้ายออกไป

“คือเรา.. เราร้อนอ่ะ เห็นนายยังไม่กลับมาเลยแก้ผ้าให้หายร้อนก่อน ขอโทษทีนะ เราจะรีบใส่เสื้อผ้าเดี๋ยวนี้” เวหาแก้ตัวไปน้ำขุ่นๆ เขารีบหยิบเสื้อผ้าวิ่งเข้าห้องน้ำไปทันที เด็กหนุ่มใส่เสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อยแต่ยังไม่กล้าออกมาเผชิญหน้ารูมเมท เขาต้องใช้เวลาทำใจอยู่พักใหญ่ เวหาพยายามทำสีหน้าให้เป็นปกติขณะเปิดประตูห้องน้ำออกมา

“เฮ้ย” เวหาร้องเสียงดังเมื่อเห็นกันต์ยืนรีดเสื้อนักศึกษาอยู่โดยไม่มีเสื้อผ้าติดกายแม้แต่ชิ้นเดียว เรือนร่างเปล่าเปลือยของชายหนุ่มเพื่อนร่วมห้องดูหล่อเนี้ยบไปทั้งตัว กันต์ตัวสูงขาวกล้ามเนื้อได้รูปราวกับนายแบบกับความขาวเนียนมีออร่าทำให้อีกฝ่ายดูดีราวกับดารา

“นายแก้ผ้าทำไมฮะกันต์”

“อ้าว ก็เหมือนนายไง ร้อนก็แก้ผ้า รีดผ้าทีไร เราเหงื่อตกทุกที แก้ผ้าแล้วค่อยยังชั่ว” กันต์พูดเหมือนสิ่งที่ทำเป็นเรื่องปกติ เขาฉีดละอองน้ำลงบนผ้าแล้วก็เอามาฉีดที่หน้าอกตัวเองด้วยเหมือนจะช่วยคลายร้อนจนแผงอกขาวเนียนมีกล้ามเนื้อสมส่วนของหนุ่มเภสัชขึ้นเงาเป็นประกาย เวหาอดไม่ได้ที่จะต้องมองหัวนมสีชมพูดึงดูดสายตาของกันต์แล้วนึกสงสัยว่าจุกนมผู้ชายมันจะสีสวยแบบนี้ได้เลยหรือ ขนาดเขาเองก็ตัวขาว แต่หัวนมมันออกส้มๆ ไม่ได้ชมพูใสไม่มีที่ติแบบนี้

ทีแรกเวหาเห็นท่อนล่างของเพื่อนไม่ถนัดเพราะชายเสื้อที่ห้อยลงมาจากโต๊ะรีดผ้าบังอยู่ แต่พอกันต์รีดเสื้อตัวนั้นเสร็จหยิบไปแขวนในตู้เขาก็ได้เห็นดุ้นควยของกันต์เต็มตา กันต์ไม่ได้ใส่ที่ล็อคควยอย่างที่เวหาคาด นั่นทำให้เขารู้สึกโล่งใจแทนเพื่อน ท่อนเนื้อขนาดเขื่องของหนุ่มเภสัชแข็งตัวเล็กน้อยทำให้ส่วนหัวโผล่ออกมาจากหนังหุ้มเป็นสีชมพูใสไม่ต่างจากหัวนม เวหาในช่วงที่ผ่านมาได้สำรวจควยของเพื่อนมาหลายสิบคนเพื่อตามหานักวิ่งปริศนา แต่เขาไม่เคยเห็นควยใครจะสวยงามสมบูรณ์แบบนี้ ขนหมอยสีดำที่ดูนุ่มมือของกันต์เรียงตัวเป็นระเบียบไม่รกเกินไป อันที่จริงรูปทรงมันดูเป็นสามเหลี่ยมพอดิบพอดีจนเวหาอยากจะคิดว่ามันถูกเซ็ทโดยช่างทำผมมืออาชีพ ส่วนลำตรงยาวอวบก็ขาวใสเหมือนสีผิวของกันต์เองไม่มีไฝฝ้าราคีแม้แต่นิดเดียว เวหามองแล้วนึกอิจฉาในความสมบูรณ์แบบที่ไม่ใหญ่จนน่าเกลียดเหมือนของตัวเอง

“นายมีเสื้อที่จะรีดหรือเปล่า เอามาให้เรารีดก็ได้นะ เตายังร้อนอยู่”

เวหาสะดุ้ง เขาละสายตาอย่างเนียนๆ ออกจากควยของเพื่อน

“ไม่เป็นไร เราเพิ่งส่งซักรีดไป เกรงใจนายอ่ะ คอยทำให้ตลอด เอ่อ นายสวมเสื้อผ้าไม่ดีกว่าเหรอ”

“อย่างนี้สบายตัวจะตาย เราอยู่บ้านแบบนี้ตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว พอต้องมาอยู่หอ เพื่อนเราสั่งไว้ว่าห้ามแก้ผ้าในห้อง รูมเมทจะรังเกียจเอา เราก็เลยไม่กล้าทำ แต่นี่เราเห็นนายก็ทำ แสดงว่ามันเป็นเรื่องปกติใช่ไหม”

เวหาคิดว่าเพื่อนผู้ชายที่สนิทๆ อาจแก้ผ้าในเวลาจะอาบน้ำแต่งตัวกันอยู่บ้างแต่คงไม่ใข่คนส่วนใหญ่ และคงไม่มีใครพูดกับรูมเมทไปชักควยตัวเองเล่นไปอย่างที่กันต์กำลังทำกับเขาอยู่ตอนนี้

“เอ่อ…ก็คงไม่ได้แปลกอะไรมั๊ง” เวหาไม่กล้าตอบตามจริงเพราะกลัวจะเข้าตัว ถ้าบอกว่ามันไม่ปกติแล้วก่อนหน้านี้ที่เขาแก้ผ้านั่งอ้าขาอล่างฉ่างพยายามจะทำเรื่องลามกกับตัวเองล่ะมันคืออะไร

“เราว่าแล้ว เดี๋ยวต้องไปต่อว่าเพื่อนว่าที่มันสั่งห้ามไว้อ่ะผิด” รูมเมทของเขาบ่นแล้วก็เดินทำโน่นทำนี่ทั้งๆ ที่ยังควยแข็งโด่ ซึ่งรวมไปถึงการเอาชุดนักศึกษาที่ใช้แล้วออกไปแขวนผึ่งลมตรงระเบียงซึ่งถึงจะเป็นด้านหลังหอ แต่ด้านล่างเลยออกไปเพียงคูน้ำกั้น เป็นสวนต้นไม้เล็กๆ ที่มีโต๊ะเก้าอี้ตั้งไว้เป็นจุดๆ ทำให้มีนักศึกษามานั่งในช่วงหัวค่ำอยู่พอสมควร เวหาไม่กล้าจะออกปากทัก เพราะกลัวหนุ่มเภสัชจะสวนกลับเรื่องที่เขาทำทุเรศกว่านี้อีก แต่ในใจเริ่มคิดแล้วว่ารูมเมทตัวเองไม่เพี้ยนก็โรคจิตชอบโชว์ ที่ตลกคือกันต์เป็นคนที่บุคลิกท่าทางการเคลื่อนไหวดูดีมากจนแม้แต่ทำแบบนี้ก็ยังดูสง่าเป็นคุณชาย

พอทำงานบ้านเสร็จ กันต์ก็เอาแทบเล็ตไปนอนคุยวิดีโอคอลบนเตียง เวลาหัวค่ำแบบนี้ส่วนใหญ่ก็คงคุยกับแฟน เวหาเลยเลี่ยงไปคิดอะไรเรื่อยเปื่อยตรงระเบียงที่มีแผงกั้นเป็นลูกกรงเหล็กโปร่งๆ มองลงไปที่ด้านล่าง ก็เห็นคนสิบกว่าคนกระจัดกระจายยืนเป็นกลุ่มเล็กๆ มองขึ้นมาทางระเบียงที่เขายืนอยู่

พอเห็นเขาเดินออกมา คนกลุ่มนั้นก็พูดคุยกันอย่างตื่นเต้นชี้มือชี้ไม้มาทางเขา

“มาแล้วๆ ใช่คนนั้นเปล่าแก ว้า ใส่เสื้อผ้าซะแล้ว”

“ใครวะ ดูไกลๆ ท่าทางน่ากินดี”

“ตกลงตอนแรกมันแก้ผ้าจริงเหรอ”

“เออ เดินโทงๆ มาเลย ควยโด่ด้วยนะ”

“ห้องนี้ห้องใครอ่ะ มีใครอยู่หอนี้บ้าง”

เสียงพูดคุยกันแว่วดังมาถึงชั้นสองที่เวหาอยู่พอจับใจความได้ เด็กหนุ่มรีบหลบเข้ามุมทันที ท่าทางความเพี้ยนของรูมเมทจะทำพิษเข้าแล้ว แค่เป็นนักวิ่งเปลือยลึกลับก็แย่แล้ว ยังจะต้องมาโดนเข้าใจผิดว่าเป็นพวกชอบโชว์ของดีบนระเบียงอีก

“เวหา มาคุยกับเพื่อนเราหน่อย”

กันต์ชะโงกหน้าออกมาตามเวหาตรงระเบียง หนุ่มวิศวะงงเล็กน้อยแต่ก็รีบเดินเข้าไปเพราะกลัวกันต์ที่แก้ผ้าอยู่จะออกมาตรงระเบียงอีก

“แทนเป็นเพื่อนเราที่กรุงเทพเอง เขาอยากคุยกับนาย แทนดีกับเรามากนะ แต่ชอบสั่งชอบบังคับเราหลายอย่าง” กันต์พูดพร้อมกับตั้งแทบเล็ตไว้บนโต๊ะทำงานเพื่อให้เวหาได้คุยกับเพื่อนตัวเอง คนปลายสายเป็นหนุ่มผิวเข้มใบหน้าหล่อจัดคิ้วเข้มดูคมสัน เวหาจ้องมองใบหน้าของชายหนุ่มที่ท่าทางจะอายุมากกว่าเขาแล้วรู้สึกคุ้นหน้ามาก

“กันต์ ไปสวมเสื้อผ้าแล้วออกไปก่อน แทนจะคุยกับรูมเมทของนายแค่สองคน” หนุ่มหน้าเข้มบอกผ่านจอ

“แต่เวหาบอกว่าแก้ผ้าได้” กันต์เถียงพลางมองมาทางเวหาเหมือนจะหาพวก

“กันต์ แทนสั่ง” พอเสียงปลายสายเข้มขึ้น กันต์ก็ตัวสั่นระริกแล้วรีบไปสวมเสื้อผ้าออกไปนอกห้องทันที

“เอาล่ะ มาคุยกันหน่อย กูชื่อแทนนะ เป็นเพื่อนของกันต์รูมเมทมึง คงไม่ต้องสุภาพอะไรมากนะ กูรุ่นพี่มึงหลายปี ตอนนี้กูเรียนอยู่ปีสี่แล้ว กันต์มันเรียนช้าไปเยอะ มึงชื่อเวหาใช่ไหมวะ”

“ใช่ครับ เอ่อ ขอโทษที พี่ใช่พี่แทน ที่ชนะรายการไทยแลนด์สตาร์แฟกเตอร์หรือเปล่าครับ”

เวหานึกออกว่าอีกฝ่ายคือผู้ชนะการประกวดรายการเรียลลิตี้โชว์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงจนเป็นที่รู้จักไปทั้งเมือง หลังจากนั้นแทนก็ต่อยอดความสำเร็จจนมีผลงานในฐานะนักร้องนักแสดงออกมามากมายทั้งๆ ที่ตัวเองยังเรียนนิเทศอยู่ที่มหาลัยชื่อดังกลางกรุง ขนาดมีข่าวคลิปโป๊คนหน้าเหมือนหลุดออกมาเป็นระยะๆ ยังไม่ทำให้กระแสของนักร้องหนุ่มผิวเข้มคนนี้ตกไปเลย มีแต่จะสร้างทั้งความเห็นใจและสนใจจนมีแฟนคลับท่วมท้น ต่อให้เป็นคนที่ไม่ค่อยดูทีวีอย่างเวหา ก็ยังรู้จักแทนจากผลงานเพลงอยู่ดี

“เออ กูเอง ถ้าจะขอลายเซ็นเอาไว้เวลาที่เจอกันแล้วกัน เอาธุระกูก่อน มึงรู้จักไอกันต์มาก่อนเปล่าวะ จากในหนังหรือทางเน็ตก็ได้”

“ไม่ครับ เพิ่งเจอกันที่หอ”

“ดี งั้นแสดงว่ามึงไม่ใช่แบบนั้น แล้วเป็นรูมเมทไอกันต์มาพักนึง เจออะไรแปลกๆ บ้างเปล่า”

“เอ่อ ก็ไม่ครับ ยกเว้นวันนี้แหละ กันต์เขาเหมือนปล่อยตัวตามสบายไปหน่อย”

ที่จริงมีเรื่องที่ล็อคควยด้วย แต่เวหาไม่กล้าบอกออกไป

“มันแก้ผ้าละสิ แล้วมึงคิดยังไง รังเกียจ ขยะแขยง หรืออยากจะแอบถ่ายเอาไปหาเงิน หรือหาประโยชน์จากร่างกายมันด้วยวิธีอื่น”

“ไม่นะครับพี่ กันต์ก็เพื่อนผม ถ้าไม่นับเรื่องแปลกๆ นี้ เขาก็ดีกับผมมาก ผมสบายใจที่มีเขาเป็นรูมเมท”

“อื้ม ไม่เลว แต่ไม่ใช่ว่ามึงเป็นเกย์พอเจออย่างนี้เลยจะคอยหาโอกาสทำมิดีมิร้ายกับมันนะ”

“โอ๊ย อย่างผมนี่นะเป็นเกย์ พี่ดูสิผมตัวควายขนาดนี้”

“มันไม่เกี่ยวกับรูปร่างหน้าตาหรอก กูเจอพวกนี้มาเยอะแล้ว แต่กูก็ว่ามึงไม่ใช่แหละ ดูจริงใจดี ไหนลองเล่าประวัติมึงมาสิ”

กลายเป็นเวหาต้องเป็นฝ่ายเล่าเรื่องตัวเองให้นักร้องดังทั้งๆ ที่ควรจะกลับกัน แทนสัมภาษณ์เรื่องส่วนตัวต่างๆ ของเด็กหนุ่มจนพอใจแล้วจึงยื่นข้อเสนอ

“ท่าทางมึงใช้ได้ กูฝากเพื่อนกูไว้กับมึงแล้วกัน กูจ้างเดือนละสองหมื่น”

“เฮ้ยอะไรพี่ เป็นรูมเมทกันผมก็ต้องช่วยดูแลอยู่แล้ว จะต้องมาจ้างทำไม”

“เพื่อนกูไม่ปกติ มึงก็คงพอดูออกบ้าง ก่อนหน้านี้มันถูกกระทำรุนแรงอยู่หลายปี เอ่อ เรื่องมันค่อนข้างซับซ้อนน่ะ มีการใช้ยาบางอย่างด้วย เอาเป็นว่ากว่ากูจะหาทางช่วยมันได้ สมองมันก็ไม่ค่อยปกติแล้ว ไม่ต้องตกใจนะเว้ย มันไม่ได้จะมาคุ้มคลั่งไล่แทงใคร เพียงแต่สามัญสำนึกบางอย่างของมันไม่มีแล้ว โดยเฉพาะเรื่องความอาย ความระแวง การป้องกันตัวเอง และก็เรื่องเซ็กส์ พูดง่ายๆ ก็คือหลอกง่าย ให้ทำอะไรก็ทำ ไม่ว่ามันจะเป็นเรื่องอุบาทว์ลามกน่าอับอายแค่ไหน”

“ขนาดนั้นเลยเหรอพี่ แล้วให้มาอยู่คนเดียวต่างจังหวัดทำไม”

“กันต์มันอยากเรียนหนังสือ แล้วประวัติที่ฉาวโฉ่ของมันทำให้ไม่มีมหาลัยดีๆ ที่ไหนรับเลยทั้งๆ ที่คะแนนสอบมันก็ดี มันตั้งใจมากเลยนะ ทั้งๆ ที่ไม่ได้เรียนต่อมอปลายยังศึกษาด้วยตัวเองไปสอบ กศน. จนเข้าที่นี่ได้ กูก็ไม่คิดว่าจะมีมหาลัยที่มีนโยบายเปิดกว้างไม่สนใจเรื่องในอดีตแบบนี้ เห็นว่าอาจารย์ที่ก่อตั้งมหาลัยเป็นคนกำหนดไว้”

“น่าสงสารกันต์จริงๆ เอ่อพี่ ก่อนหน้านี้ผมเห็นเพื่อนพี่ใส่ไอที่เรียกว่าที่ล็อคควยด้วย ไม่รู้เกี่ยวกับที่พี่เล่าเปล่า แต่ตอนนี้ไม่ได้ใส่แล้ว”

แทนทำท่าตกใจ

“เฮ้ย จริงเหรอวะ แม่ง ท่าทางไม่ดีว่ะ พวกล็อคควยนี่มันต้องมีคนสั่ง ใครวะ มึงช่วยสืบมาให้กูหน่อย กูปลีกตัวไปหามันไม่ได้จริงๆ ทั้งงานทั้งลูกไหนจะเรื่องเรียนอีก ไม่งั้นกูบึ่งรถไปแล้ว”

“นักศึกษาอย่างพี่มีลูกแล้วเหรอ”

“เออ สองคน เป็นแฝดกัน สามขวบกว่าแล้ว มึงไม่ต้องไปเสือกบอกนักข่าวหรือโพสต์โง่ๆ ลงโซเชี่ยลล่ะ ตกลงมึงเห็นแล้วนะว่างานที่กูให้ทำมันไม่ใช่ง่ายๆ แต่กูต้องขอร้องมึงจริงๆ กันต์เป็นเพื่อนรักกู ชีวิตมันน่าสงสารมาก จริงๆ พอกูไถ่ตัวมันมาได้ เอาไปรักษาอยู่ระยะหนึ่ง มันก็ดีขึ้นมากแล้ว แต่ตอนนี้อาการกลับดูแย่ลง”

“ได้พี่ ผมจะดูแลพี่กันต์ให้”

“ไม่ร้องเรียกมันพี่หรอก มันคงไม่อยากโดนแบ่งแยก หน้ามันก็เด็กเนียนไปได้อยู่แล้ว งั้นตามนี้ เอาเบอร์บัญชีมา กูจะโอนค่าจ้างให้ทุกเดือน”

“ไม่ต้องจริงๆ พี่ ผมไม่ได้ลำบากเรื่องเงินอะไร กันต์เองก็ดูแลพวกงานบ้านที่ผมทำไม่เป็นให้อยู่แล้ว”

“มึงเป็นคนดี งั้นถ้ามีอะไรให้ช่วย จะเรื่องส่วนตัวหรืออะไร มึงบอกกูได้ทันทีนะ เอาเบอร์ส่วนตัวกูไป”

พออีกฝ่ายวางสายไป เวหาก็ถอนหายใจออกมาด้วยความอัดอั้น เรื่องของตัวเองก็ยังแก้ไม่ตก ยังรับปากไปดูแลคนอื่นเหมือนเตี้ยอุ้มค่อม แต่ยังไงเวหาก็ปล่อยไปไม่ได้ เขาคิดว่าชะตากรรมของเขาในกำมือแสนมันทุเรศมากแล้ว แต่เรื่องที่กันต์เจอมามันยังเลวร้ายยิ่งกว่า รูมเมทเขาต้องเจอความโหดเหี้ยมขนาดไหนถึงทำให้สมองผิดปกติไปได้ คนพวกนี้เห็นเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเป็นอะไรถึงทำกันได้ลงคอ ถ้าตอนเป็นนักศึกษายังขนาดนี้ ต่อไปแสนคงจะกลายเป็นเหมือนพวกที่ทำกับกันต์ในที่สุด มีทางไหมที่จะยับยั้งคนๆ นี้ลงให้ได้

พอถึงบ่ายวันศุกร์ เวหาก็ไปหาแสนที่สโมคณะเพื่อเอากุญแจรถตามนัด เมื่อเข้าไปในห้องทำงานแสนก็พบว่าเจ้าของห้องกำลังคุยงานกับบัสประธานรุ่นปีสามอยู่ แสนหันมามองอย่างแปลกใจ

“มึงมาจริงดิ นึกว่าจะไม่กล้า ตกลงจะเอารถกูให้ได้สินะ”

“ถ้าไม่ขับรถกลับบ้านไป ผมไม่รู้จะบอกยังไง พี่แสนช่วยทำตามที่รับปากไว้ด้วยเถอะครับ”

“ก็ถ้ามึงทำได้ตามที่กูสั่ง” แสนตอบอย่างไว้ตัว ขณะที่บัสเงยหน้าจากแฟ้มเอกสารอย่างงงๆ กับเรื่องที่ทั้งคู่คุยกัน

“เอ่อ งั้นรบกวนพี่บัสออกไปก่อนได้ไหมครับ”

เด็กหนุ่มหน้าขึ้นสีเมื่อลอบมองใบหน้าอ่อนโยนของประธานปีสาม

“ไม่ต้อง ให้มันอยู่ดูเป็นพยาน มึงทำเลย ถ้าทำได้ก็เอากุญแจไป”

แสนเอากุญแจรถขึ้นมาแกว่งเล่นอย่างกวนประสาท เวหาตกใจที่ต้องมาทำเรื่องแบบนี้ต่อหน้ารุ่นพี่ที่แอบชื่นชม เขาอยากจะดูเท่ในสายตาคนๆ นี้ แต่ทุกครั้งที่เจอ มีแต่อยู่ในสภาพที่ลามกจกเปรตทั้งนั้น

เวหาสูดหายใจเรียกกำลังใจ ยังไงเขาก็ไม่มีอะไรจะเสียไปมากกว่านี้ เด็กหนุ่มเอากระเป๋าเป้ใบโตที่สะพายมาวางไว้บนโต๊ะ แล้วหยิบเอาผ้าขนหนูกับหมอนหนุนหัวออกมา พอปูผ้าลงบนพื้นห้องติดกำแพงและวางหมอนเสร็จเวหาก็ถอดเสื้อผ้าออกจนหมดท่ามกลางความตกใจของบัส

“พี่แสนจะให้น้องทำอะไร เลิกเถอะพี่ สงสารน้อง” บัสพยายามช่วยรุ่นน้องอย่างร้อนรน แต่ก็โดนตะคอกกลับมา

“เงียบปากมึงไปเลยไอบัส รอดูเรื่องสนุกๆ พอ ดูควยไอเวหาสิ ทั้งแดงทั้งถลอก มึงไปทำอะไรมาวะ เย็ดหีหมูในคอกคณะเกษตรมาเหรอ”

แสนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอัดคลิปเรื่องน่าอายที่เวหากำลังจะทำ ไม่ว่าจะสำเร็จหรือไม่ คลิปนี้คงขายได้เป็นหมื่นอยู่ดี เขาจ่อกล้องลงไปถ่ายให้เห็นควยยักษ์ของเวหาชัดๆ มันแดงไปทั้งลำตัดกับสีผิวขาวๆ ของเด็กหนุ่ม มีรอยขูดขีดจางๆ เต็มไปทั้งลำโดยเฉพาะส่วนหัวเงี่ยงบาน

เด็กหนุ่มพยายามตั้งสมาธิและทำตามขั้นตอนที่ฝึกซ้อมมา เขายกมือขึ้นแล้วก้มตัวแตะปลายเท้าจนสุดเพื่อเหยียดยืดร่างกาย เวหาทำซ้ำอยู่หลายครั้งให้ร่างกายยืดหยุ่นเต็มที่ แสนบันทึกภาพทั้งหมดไว้อย่างพอใจ ประธานปีสี่ถึงกับเดินอ้อมไปถ่ายคลิปจากด้านหลังเพื่อให้เห็นรูตูดของเด็กหนุ่มที่เผยอออกตอนก้มตัว

เวหาอายต่อสายตาของบัสเหลือจะกล่าว แต่จำใจต้องทำต่อให้สำเร็จไม่งั้นทุกอย่างจะเสียเปล่าไปหมด เด็กหนุ่มชักควยตัวเองจนตั้งแข็งเต็มที่แล้วเอาหนังยางมารัดโคนไว้จนแน่น พอเสร็จก็ลงไปนอนหงายกับพื้นที่ปูผ้าเตรียมไว้ เวหาฉีกขาทั้งสองข้างจนกว้าง ค่อยๆ ยกก้นขึ้น พับลำตัวไปทางด้านบนจนขาทั้งสองข้างคร่อมศีรษะ หมอนที่หนุนอยู่ช่วยทำให้ไปหน้าของหนุ่มปีหนึ่งจ่ออยู่ที่ควยตัวเอง ดุ้นลำที่ยาวผิดปกติทำให้ระยะห่างจากริมฝีปากไปจนถึงหัวควยไม่ห่างกันเกินไปนัก ในสภาพนี้ทำให้ควยไข่รูตูดและใบหน้าของเด็กหนุ่มเข้ามาอยู่แทบชิดกัน แสนถือโอกาสอัดคลิปและถ่ายรูปอันหาได้ยากของเดือนมหาลัยปีหนึ่งเก็บไว้อย่างครึ้มใจ

ประธานปีสามเห็นท่าทางอันทุลักทุเลของรุ่นน้องแล้วก็ละล่ำละลักขอร้องแสน

“ทำไมพี่ต้องให้น้องทำขนาดนี้ด้วย รถคันนั้นก็ของเวหาไม่ใช่เหรอ คืนให้น้องมันไปสิ”

“มันเป็นข้อตกลงของกูกับเด็กนี่ มึงมายุ่งอะไรด้วย”

เสียงของบัสยิ่งเพิ่มความอายให้กับเวหา เด็กหนุ่มเกร็งคอไปด้านหน้าจนสามารถแลบลิ้นไปแตะปลายควยตัวเองได้ กลิ่นเฉพาะของเพศผู้จางๆ ลอยจากหัวควยเข้าปากเข้าจมูกทั้งๆ ที่เขาทำความสะอาดและขัดถูมันด้วยแปรงสีฟันมาไม่รู้กี่รอบจนถลอกไปหมด เวหารู้สึกผะอืดผะอมจนน้ำตาคลอ เขาอ้าปากกว้างสูดหายใจเข้าลึกๆ พยายามประคองตัวเองด้วยปลายเท้าที่แตะกำแพงอยู่แล้วก็หายใจออกพร้อมกับที่พับตัวลงมาต่ำจนในที่สุดก็สามารถอมหัวควยตัวเองได้สำเร็จ เวหารู้สึกเหมือนกรามตัวเองจะล็อค ถึงควยจะใหญ่แต่ปากเขาก็ไม่ได้กว้างตามไปด้วย ทั้งกลิ่น ทั้งความร้อน ทั้งความคับแน่น มันตีกันอยู่ในปากจนอยากจะคายออกมา ในใจเวหาคิดว่าจะไม่ขอให้ผู้หญิงคนไหนอมควยตัวเองแน่ๆ ในเมื่อรู้แล้วว่ามันทรมานอย่างนี้

ไม่น่าเชื่อว่าคนที่บอกเทคนิคทั้งหมดและช่วยเด็กหนุ่มฝึกซ้อมจนสำเร็จจะเป็นกันต์รูมเมทของเขาเอง พอรู้เรื่องทั้งหมดจากแทน เวหาก็รู้ว่าเขาไม่จำเป็นต้องอายกันต์อีกต่อไป รูมเมทของเขาไม่มีความรู้สึกแบบคนปกติในเรื่องอย่างนี้ แถมยังมีประสบการณ์มาแล้วทุกรูปแบบ เลยขอให้กันต์ช่วยซึ่งก็เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องอย่างที่เห็น

เวหาทำท่าบุ้ยบ้ายใส่แสนให้รู้ว่าเขาทำตามเงื่อนไขแล้ว แต่แสนกลับมีความเห็นที่ต่างออกไป

“ยังไม่ครบเว้ย ในคลิปที่กูให้ดูแล้วมึงเมินหน้าหนีจนดูไม่จบ ตอนหลังมันดูดของตัวเองจนน้ำแตกเลย มึงต้องทำให้ได้แบบนั้นถึงจะครบเงื่อนไข ว่าไงจะเลิกก็ได้นะ ถือว่ากูให้โอกาสแล้ว”

แสนหัวเราะพลางแกว่งกุญแจรถเล่นอย่างสะใจในขณะที่บัสร้องสบถเสียงดังด้วยความรับไม่ได้

“เชี่ยแล้ว เวหา พอเถอะ ถ้าจะกลับบ้านนั่งรถทัวร์ไปก็ได้ แป๊บเดียวก็ถึง ไม่มีค่ารถพี่ออกให้ หรือถ้าอยากขับรถกลับจริงๆ เอารถพี่ไปใช้เลย ไม่ต้องทำแล้ว ลุกขึ้น”

บัสพยายามช่วยรุ่นน้องให้หลุดพ้นจากเรื่องฝืนจิตใจที่แสนอุบาทว์นี้ เวหาพูดไม่ออกได้แต่ส่ายหน้า ใบหน้าที่มีควยดุ้นยักษ์จุกปากอยู่เต็มไปด้วยความทรมาน เขาพยายามออกแรงดูดหัวควยของตัวเองแต่ยิ่งทำก็ยิ่งผะอืดผะอมจนไม่เหลือความเสียวอยู่เลย ถ้าไม่ได้รัดยางไว้ที่ฐานควยมันคงหดไปหมดแล้ว

บัสทำอะไรไม่ถูก รุ่นพี่เขาก็ใจหินเสียเหลือเกิน ส่วนรุ่นน้องก็ดื้อรั้นทั้งๆ ที่ไม่เห็นมีประโยชน์อะไรกับการได้รถคืนไม่กี่วัน พอเห็นเวหายังพยายามไม่หยุดจนน้ำลายไหลย้อยอาบลำควยมันเลื่อมไปหมด บัสก็สงสารสุดหัวใจ เขารู้ว่าเด็กคนนี้ต้องเผชิญอะไรมาอย่างหนักหนาสาหัสด้วยฝีมือของแสนโดยที่เขาได้แต่มองดูช่วยอะไรแทบไม่ได้เลย

“พี่แสนครับ งั้นให้ผมช่วยน้องแล้วกัน จะได้แตกเร็วๆ”

“คิดอะไรของมึงวะไอเหี้ย กูไม่ได้อยากจะแกล้งมึงนะ ถ้ามึงจะทำตัวเป็นพ่อพระก็เชิญ แต่มึงห้ามใช้มือ กูอนุญาตให้ใช้ปากได้เท่านั้น”

บัสหน้าเสีย แต่เขาก็ทนเห็นเวหาทรมานอย่างนี้ต่อไปไม่ได้ เด็กหนุ่มยังคงค้างอยู่ในท่าที่ขาทั้งสองข้างฉีกกว้างพับไปคล่อมหัวเผยให้เห็นพวงไข่ยานๆ และรูตูดสีน้ำตาลอ่อนอมส้มรอยจีบปิดสนิทมีขนขึ้นรอบๆ ประธานปีสามก้มหน้าลงไปที่ลำควยของหนุ่มรุ่นน้องจนใบหน้าของทั้งคู่แทบจะติดกัน แววตาของเวหาสั่นระริกด้วยอารมณ์ที่บัสอ่านไม่ออก หนุ่มรุ่นพี่แตะปลายลิ้นลงไปด้านล่างของท่อนลำที่ตอนนี้พลิกขึ้นมาเป็นด้านบนเพราะถูกปากของเวหาอมรั้งหัวควยเอาไว้

เวหาเสียววูบไปทั้งตัวเมื่อเห็นปลายลิ้นสีชมพูของรุ่นพี่แตะลำควยเปื้อนน้ำลายของตัวเองโดยไม่รังเกียจ ท่าทางของบัสเก้ๆ กังๆ แต่ก็พยายามลากกลิ้นขึ้นลงไปตามเส้นฝีเย็บของควยรุ่นน้อง เวหากระตุกควยตามจังหวะการลงลิ้นของบัส เขาทั้งเงี่ยนทั้งอุ่นวาบในใจอย่างบอกไม่ถูก พอประธานปีสามเห็นว่าได้ผล ก็อ้าปากรูดลำควยไปมาหวังจะให้รุ่นน้องพ้นความทรมานโดยเร็ว จังหวะที่ขยับขึ้นลงไปตามความยาวดุ้นนั้น ปลายคางได้รูปที่มีเครานิดๆ ของบัสก็ถูไถไปกับพวงไข่ลงไปเกือบถึงรูตูดอย่างไม่ตั้งใจทำให้ความกระสันของเด็กหนุ่มพุ่งทะยาน หนุ่มรุ่นพี่ทำแบบเดิมขึ้นลงซ้ำๆ ไม่กี่ครั้งก็ทำให้เวหาตัวเกร็งไข่หดแล้วกระฉูดน้ำเชื้อจำนวนมหาศาลเข้าปากตัวเองจนสำลักพ่นออกมาทางจมูกเป็นที่น่าสมเพช เด็กหนุ่มไอจนควยตัวเองหลุดออกจากปาก น้ำว่าวผสมน้ำลายจำนวนมากก็ถูกพ่นตามมาจนเปรอะเปื้อนใบหน้าของบัสลามไปถึงหัวจนแม้แต่แสนก็ยังอึ้งกับภาพที่เห็น

“ไอเหี้ย กูก็ไม่นึกว่ามึงจะทำให้ไอ้เด็กปีหนึ่งนี่จริง ทุเรศชิบหาย แม่ง เสียการปกครองหมด มึงเป็นตั้งประธานรุ่นปีสามนะ ส่วนมึง ไอเวหา กูจะถือว่ามึงทำสำเร็จได้ไหม เล่นทำเอาคนของกูเลอะเทอะขนาดนี้”

เวหานอนอยู่กับพื้น ทั้งหอบทั้งไอจนไม่สามารถไม่ตอบโต้อะไร กลายเป็นบัสที่พูดออกมา

“ให้กุญแจน้องไปเถอะพี่ เขาทำตามที่พี่บอกทุกอย่างแล้ว”

แสนโยนกุญแจลงพื้นใกล้เวหาอย่างไม่สบอารมณ์

“เอ้า มึงจะไปไหนก็ไป แต่กลับมาให้ทันตามกำหนดด้วย ทั้งคนทั้งรถ ถ้าคิดหนี กูจะเอามึงให้เจ็บแสบจนไม่อยากอยู่เป็นผู้เป็นคนเลยทีเดียว ไป ไอบัส มึงจะอยู่ทำเหี้ยอะไร เหม็นน้ำควยมันทั้งห้องแล้วนี่”

แสนลากบัสออกไปจากห้องทันทีโดยเวหาไม่ทันจะได้ขอบคุณหรือร่ำลา

ถึงจะสะใจที่ได้คลิปเด็ดของเวหามาครอบครอง แต่การไม่มีรถคันหรูตลอดช่วงวันหยุดก็ทำเอาแสนหงุดหงิดไม่น้อย เขาบ่นไปตลอดทางที่เดินออกมากับบัสจนอีกฝ่ายต้องยื่นข้อเสนอ

“พี่เอารถผมไปใช้แล้วกัน ผมว่าจะอ่านหนังสือไม่ออกไปไหนอยู่แล้ว”

“เอามาสิวะ เออ ค่อยสบอารมณ์กูหน่อย”

“แต่พี่ต้องเลิกแกล้งพวกเด็กปีหนึ่งได้แล้ว พี่น่าจะเอาเวลาไปคิดว่าทำยังไงที่จะให้คณะเราพัฒนาให้มากกว่านี้”

“มันเรื่องอะไรของมึงวะ เอากุญแจมา เซ็งชิบหาย ถ้าไม่เห็นว่ามึงคอยช่วยงานกูมาตลอดนะ คนต่อไปที่โดนคือมึง ชิ ทำมาเป็นสั่งสอน”

แสนคว้ากุญแจจากบัสแล้วเดินจากไป ที่จริงที่เขาหงุดหงิดขนาดนี้ เป็นเพราะเรื่องเงินขาดมือซะมากกว่า ผับที่เขากำลังตกแต่งอยู่งบมันบานปลายไปมากจนหมุนเงินไม่ทัน ขนาดหักคอขอส่วนลดบ้างขอฟรีบ้างจากผู้รับเหมาจนฝ่ายนั้นแทบทิ้งงานหนีแล้ว

แสนนึกถึงสต๊อคคลิปของเวหาและคนอื่นๆ ที่ครอบครองอยู่มากมาย จริงอยู่ที่ถ้าปล่อยออกไป คงได้เงินจำนวนมาก แต่รีบๆ อย่างนี้ มันจะโดนกดราคาไม่น้อย เขาต้องหาเงินวิธีอื่นไปก่อน

แสนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดูข้อมูลลับที่ได้จากแหล่งข่าวต่างๆ รวมทั้งบรรดาอาจารย์ในมหาลัยหลายคนที่ถูกเขาแบล็คเมล์จนต้องทำงานให้ ในที่สุดเขาก็เจอตัวเลือกที่น่าสนใจ ก้องภพ เดือนศึกษาพละปีสามสินะ เขานึกหน้าออก ไอตัวที่มันหยิ่งๆ ทำเป็นหล่อซะเต็มประดา

“พี่มีธุระอะไรกับผมเหรอ”

ก้องภพเร่งรีบมาที่ด้านล่างของหอพักเอกชนแห่งหนึ่งเพื่อพบรุ่นพี่ผู้ทรงอิทธิพลของมหาลัยทันทีที่ได้รับการติดต่อ โชคดีที่เขายังไม่ได้แพลนไปไหนในวันหยุดยาวนี้

แสนมองใบหน้ายาวรีแต่คมสันของอีกฝ่ายอย่างพอใจ เดือนพละที่เป็นนักว่ายน้ำอย่างก้องภพมีช่วงไหล่และหน้าอกที่ใหญ่หนาสมชาย แต่เอวคอดๆ และสะโพกสอบเซ็กซี่ก็ดูมีเสน่ห์ไม่เทอะทะเกินไป

“กูได้ข่าวไม่ค่อยดีเกี่ยวกับมึงมาจากอาจารย์ธีว่ามึงทำวิชาแกได้แย่มากตอนมิดเทอมจนท่าทางคงติดเอฟตอนไฟนอลแน่ๆ”

“พี่รู้จักอาจารย์ธีด้วยเหรอ คะแนนผมไม่ค่อยดีแหละ แต่ผมก็กำลังตั้งใจอยู่ ยังไงต้องผ่านวิชานี้ให้ได้ มันมีตัวต่อ ไม่งั้นคงไม่จบพร้อมเพื่อน”

“เหรอ แต่กูว่าไม่รอดว่ะ มึงไม่สงสัยหรอว่าทำไมมิดเทอมมึงถึงแย่ขนาดนั้น คะแนนเก็บอันอื่นก็ไม่ดี อาจารย์เขาเหม็นขี้หน้ามึงโว้ย อันนี้กูรู้มาลับๆ เลย”

“จริงดิ พี่ต้องช่วยผมนะ ฟ้องอธิการเลยก็ได้”

“กูจะทำอย่างนั้นทำไม กูสนิทกับอาจารย์ธี บอกคำเดียวมึงจะเอาบีก็ยังได้ แต่เอคงไม่ไหวแล้ว คะแนนเก่ามึงแย่ขนาดนี้”

“โห แค่ได้บีนี่ก็สุดยอดแล้ว พี่จะให้ผมทำยังไงบอกมาเลย”

“มึงทำงานให้กูชิ้นนึงแล้วกูจะจัดการให้”

“ไม่เอาพี่ งานของพี่มีแต่เปลืองตัว พวกเดือนคณะอื่นบอกผมแล้ว ผมให้เป็นเงินแล้วกัน สามพัน เอ๊ย ห้าพันเลย”

“เงินแค่นั้นอ่ะนะ เก็บไว้แดกข้าวเถอะ มึงฟังกูก่อน รู้จักเด็กคนนี้ไหม”

แสนเปิดรูปสาวหมวยใส่แว่นหน้าตาเรียบๆ แต่ก็น่ารักไม่น้อยให้ก้องภพดู

“ไม่อ่ะพี่ ใครหรอ”

“มึงไม่รู้จักก็ดีแล้ว เขาเรียนอยู่มหาลัยเราเอง น้องเขาเป็นแฟนคลับลับๆ ของมึง แต่เขาขี้อายมากๆ อยากเจอมึงแต่ไม่กล้า อยากกอด อยากหอมแก้ม อะไรงี้”

“โหย ถ้าแค่นี้สบายมาก สาวๆ ใสๆ ผมยินดีอยู่แล้ว”

“ไม่สิ น้องเค้าขี้อายมากจนไม่กล้าให้มึงรู้ เขาขอแอบทำตอนมึงหลับ”

“ว้า มันจะสนุกอะไร ผมแกล้งหลับได้ไหม”

“ไม่ได้ กูเกรงใจคนที่เขาฝากมามาก ถ้าน้องเค้าเอาไปฟ้อง กูเสียคนแน่ มึงจะทำหรือไม่ทำ ไม่งั้นกูจะบอกอาจารย์ธีให้เตรียมเอฟให้มึงล่วงหน้าเลย”

“ทำพี่ทำ แล้วผมต้องทำยังไง”

“มึงกินยานอนหลับเม็ดนี้แล้วขึ้นไปนอนในห้องที่กูเตรียมไว้ให้ พอรุ่งเช้ามึงก็กลับไปได้”

“แค่นี้?”

“เออ แค่นี้แหละ กูบอกแล้ว ไม่มีอะไร”

“มันต้องทำขนาดนี้เชียว ผมแค่นอนเฉยๆ ไม่ง่ายกว่าเหรอพี่ ไม่ใช่ผมตื่นมาแล้วไตหายไปข้างนึงนะ”

“เพ้อเจ้อ กูชักจะรำคาญมึงแล้วนะ ไม่ทำก็กลับไป”

“ทำก็ได้พี่ แต่พี่ต้องดูแลความปลอดภัยให้ผมนะ เดี๋ยวสาวน้อยคนนั้นปู้ยี่ปู้ยำผมแย่”

แสนทำหน้าเหม็นเบื่อแต่ก็พาก้องภพขึ้นไปบนห้องที่เตรียมไว้ เดือนพละรับยาเม็ดมาอย่างลังเล แต่ในที่สุดก็ตัดสินใจโยนเข้าปากแล้วดื่มน้ำตามลงไป

ระหว่างที่คอยให้ยาออกฤทธิ์ ก้องภพก็คิดไปถึงแฟนคลับสาวขี้อายว่าจะเข้ามาทำอะไรเขาบ้าง ที่แน่ๆ คงหอมแก้ม แล้วที่ปากล่ะ ริมฝีปากบางหยักได้รูปสีชมพูอมส้มของเขาคงไม่มีสาวคนไหนต้านทานได้ แต่กล้ามแขนของเขาก็น่าสนใจเช่นกัน ก้องภพนึกภาพออกเลยว่าสาวเจ้าคงลูบไล้ไปทั่วลำแขนของเขาอย่างตื่นเต้น แล้วแผงอกแกร่งที่เขาภูมิใจนี่ล่ะ รุ่นน้องสาวคนนั้นคงซบอยู่นานสองนาน

ก้องภพจินตนาการไปเรื่อยๆ ยิ่งคิดก็ยิ่งตื่นเต้นจนท่อนควยแข็งตัวนิดๆ แล้วถ้าแฟนคลับสาวไม่ขี้อายอย่างที่คิดล่ะ ถ้าเจ้าตัวถึงกับแอบคลำเป้าเขาตอนหลับ หรือดีไม่ดีเอาหน้าหวานๆ ลงไปซุกไซร้ เขาคงเสียดายแย่ที่ไม่รู้สึกตัว ตอนนี้ควยก้องภพแข็งตัวอัดแน่นในกางเกงนักศึกษาเต็มที่แล้ว แต่ฤทธิ์ยาทำให้เขาค่อยๆ หลับลึกในที่สุด

ประตูห้องถูกเปิดออกเบาๆ พร้อมกับที่มีสาวสวยร่างเล็กก้าวเข้ามาในห้อง ใบหน้าหวานนั้นไม่ใช่แฟนคลับขี้อายตามที่แสนอุปโลกน์ขึ้นมา แต่เจ้าหล่อนมีดีกรีเป็นถึงดาวปีสองของคณะบริหาร ด้วยรสนิยมลับๆ ทำให้เธอกลายมาเป็นลูกค้าประจำของแสนที่พร้อมจะจ่ายเงินก้อนโตแลกกับการได้เป็นคนแรกในสินค้าใหม่ๆ ซิงๆ

ไฟในห้องถูกเปิดขึ้นจนสว่างโร่ หญิงสาวเอาเท้าเขี่ยเดือนพละปีสามให้กลิ้งไปกลิ้งมาจนแน่ใจว่าอีกฝ่ายหลับสนิทจริงๆ เท่านั้นยังไม่พอ ใบหน้าหล่อเหลายังถูกตบแรงๆ อีกสองสามทีเพื่อความมั่นใจแบบสุดๆ หลังจากนั้นดาวบริหารก็ค่อยๆ ลอกคราบหนุ่มหลับด้วยฤทธิ์ยาทีละชิ้นอย่างใจเย็นพร้อมกับถ่ายรูปเก็บไว้ทุกขั้นตอน จะว่าไปก้องภพถือเป็นเหยื่อที่ตรงสเปกแบบสุดๆ ที่ไม่ได้เจอมานาน ทั้งรูปร่างหน้าตาที่หล่อเหลา และนิสัยน่าหมั่นไส้ สมัยหล่อนอยู่ปีหนึ่งและอีกฝ่ายเป็นรุ่นพี่งานประกวดดาวเดือน หญิงสาวและบรรดาเพื่อนดาวถูกก้องภพหว่านแหจีบอย่างคนหลงตัวเองจนเป็นที่เอือมระอากันไปหมด

พอกางเกงในสีแดงซึ่งเป็นด่านสุดท้ายถูกถอดออก หญิงสาวก็ต้องยิ้มขันกับดุ้นควยขนาดกลางที่โด่อยู่ทั้งๆ ที่เจ้าของกำลังหลับ มือบอบบางที่ทาเล็บสีชมพูยื่นไปกดปลายควยลงจนสุดแล้วปล่อยให้เด้งกลับที่เดิมเพื่อดูความแข็งแรง ควยของก้องภพเด้งตัวอย่างแรงจนน้ำเงี่ยนเหวี่ยงเป็นสายมาเปรอะข้อมือเล็ก ดาวบริหารรีบเอาไปเช็ดกับหน้าของชายหนุ่มอย่างนึกรังเกียจ

ใบหน้ายามหลับของก้องภพดูหล่อกว่าตอนตื่นที่ชอบทำท่าเก็กๆ หยิ่งๆ จนทำให้ดาวบริหารสนใจขึ้นมา เจ้าหล่อนถอดชุดที่ตัวเองนุ่งอยู่จนเหลือเรือนร่างเปลือยที่ขาวเนียนไปทั้งตัว หญิงสาวไม่ชอบความรกของขนจึงแวกซ์เนินเนื้อของตัวเองจนเอี่ยมอ่องเหมือนของเด็ก เนินสามเหลี่ยมอวบอูมถูกยื่นไปชิดกับใบหน้าของชายหนุ่มจนจมูกโด่งเป็นสันฝังเข้าไปในรอยแยก ดาวบริหารถ่ายรูปขั้นตอนนี้ไว้โดยเห็นใบหน้าของเดือนพละอย่างชัดเจน รูปถ่ายหลังจากนั้นก็เป็นภาพใบหน้าชายหนุ่มกับอวัยวะส่วนต่างๆ ของหญิงสาวตั้งแต่หน้าอกลงไปถึงเท้า

เมื่อพอใจกับการเล่นกับใบหน้าหล่อเหลาแล้ว ดาวบริหารก็หันมาสนใจล่างกายท่อนล่างของก้องภพอีกครั้ง คราวนี้พวงไข่ถูกบีบเล่นอย่างมันมืออยู่ครู่ใหญ่ หญิงสาวต้องเบ้หน้าเมื่อเห็นขนสีดำที่ขึ้นรอบๆ รูตูดสีน้ำตาลอ่อน หล่อนหยิบพลาสเตอร์ที่มีกาวเหนียวสำหรับกำจัดขนขึ้นมาจากกระเป๋าถือแล้วแปะไปรอบตูดก้องภพจนเต็มพื้นที่ เมื่อรีดทุกแผ่นจนแน่นแล้ว มือเล็กก็กระชากออกอย่างแรงทีละแผ่น ทุกครั้งที่ลงมือ ใบหน้ายามหลับของเดือนพละจะสะดุ้งแหยแกอย่างทรมาน ขนหงิกงอสีดำติดพลาสเตอร์ออกมาเต็มไปหมดจนรอบรูตูดของก้องภพเกลี้ยงเนียนขึ้น

หญิงสาวยิ้มอย่างพอใจขณะเอากางเกงทอมที่มีดุ้นควยยางสีดำขนาดกลางติดอยู่ขึ้นมาสวม จากนั้นก็เอาเชือกมามัดพวงไข่ที่โตงเตงน่ารำคาญของเหยื่อให้ติดกับลำควย ก้องภพถูกจัดให้อยู่ในท่าแหกขาสองแก้มก้นเปิดกว้างเพื่อรองรับควยยางสีดำที่ชะโลมเจลหล่อลื่นจนเป็นมันวาว สาวสวยกดควยปลอมแทรกรูตูดเข้าไป ชายหนุ่มหน้าตาบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวดแต่ก็ยังตกอยู่ภายใต้ฤทธิ์ยา ดาวบริหารขยับลึกลงไปเรื่อยๆ อย่างใจเย็นจนสุดความยาว จากนั้นก็ค่อยๆ ถอนคืนออกมาแล้วกดกลับเข้าไปใหม่เร็วขึ้นๆ จนหัวก้องภพสั่นด๊อกแด๊ก

หญิงสาวกระแทกควยปลอมอย่างเมามันจนถ้ามันน้ำแตกได้คงจะแตกไปหลายทีแล้ว ส่วนน้ำของก้องภพก็ไม่แตกเช่นกัน ตรงกันข้าม ควยที่เคยผงาดกลับหดตัวลงด้วยความเจ็บปวดเหลือสภาพเป็นท่อนเนื้อเหี่ยวๆ คล้ำๆ ดาวบริหารจิ๊ปากอย่างขัดใจ ความฝันของหล่อนคือการได้กระแทกรูตูดหนุ่มหล่อจนอีกฝ่ายน้ำแตก

ถึงไม่สำเร็จตามที่หวังแต่ก็สะใจไม่น้อย หญิงสาวแต่งตัวจนเรียบร้อยแล้วก็ออกจากห้องไปทิ้งก้องภพไว้กับรูตูดที่ยับเยิน

แสนรับเงินจากสาวสวยลูกค้าประจำอย่างยินดี เขากะเวลาไว้ได้พอดี อีกสิบห้านาทีจะสี่ทุ่ม กว่าเดือนพละจะตื่นจากฤทธิ์ยาก็ต้องรอถึงรุ่งสาง ถึงจะได้เงินก้อนใหญ่มาแล้ว แต่เวลาที่ยังเหลือก็ควรใช้ให้เป็นประโยชน์ที่สุด แสนดูคิวที่จองเข้ามาแบบบุฟเฟต์แบ่งเป็นรอบๆ ละหนึ่งชั่วโมงตั้งแต่สี่ทุ่มไปจนหกโมงเช้า แสนคิดเหมาจ่ายชั่วโมงละหมื่น ถ้ามามากกว่าหนึ่งคนคิดเพิ่มหัวละพัน คิวแรกเป็นกลุ่มรุ่นน้องคณะพละเองที่เก็บความแค้นตอนโดนว๊ากรับน้องไว้ ถัดมาเป็นชายแท้สามคนแฟนเก่าของสาวๆ ที่ก้องภพไปหว่านเสน่ห์จนต้องเลิกลากัน รอบเที่ยงคืนเป็นของเกย์กลุ่มใหญ่ที่โดนก้องภพสบประมาทว่าแม้แต่ขาอ่อนก็จะไม่ได้เห็น ยอดจองยังคงเข้ามาเรื่อยๆ ทั้งๆ ที่วันศุกร์หยุดยาวแบบนี้จะไม่ค่อยมีลูกค้าเท่าไหร่

“ไอ้เวหา เย็นป่านนี้ทำไมมึงยังไม่เอารถมาคืนกู จะลองดีเหรอ มึงว่ากูควรจะปล่อยคลิปไหนของมึงดี ตอนถูกตัดเกรด ตอนชักว่าวใส่รถตัวเอง หรือจะเอาอันที่ทุเรศสุดที่มึงดูดควยตัวเอง”

เสียงผ่านโทรศัพท์ของแสงแผดขึ้นอย่างหงุดหงิดในทันทีที่เวหารับสาย

“พี่ ผมขอร้อง ผมไม่ได้ตั้งใจมาช้าจริงๆ ตอนออกจากกรุงเทพรถมันติดมาก อีกไม่ถึงสิบนาทีผมจะเข้าตัวจังหวัดแล้ว พี่จะให้ผมไปเจอที่ไหน” เวหาละล่ำละลักบอกด้วยความกลัว

“กูมาดูงานตกแต่งภายในที่ผับ มึงเอารถมาคืนกูที่นี่ อย่าช้านะมึง ไม่งั้นคลิปมึงว่อนแน่”

ไอผับอุบาทว์ที่เขาจะต้องไปทำงานในอนาคตถ้ายังไม่สามารถหลุดพ้นจากแสนได้ภายในเดือนนี้ เวหาบึ่งรถด้วยความเร็วเพราะไม่อยากเป็นเหยื่ออารมณ์ของแสนไปมากกว่านี้ สักครู่ใหญ่เขาก็มาถึงอาคารที่ดูหรูหราโอ่โถงแม้ว่าจะยังตกแต่งไม่เสร็จ ถ้าไม่รู้อะไรเวหาคงทึ่งที่นักศึกษาปีสี่อย่างแสนสามารถเป็นเจ้าของสถานบันเทิงขนาดใหญ่อย่างนี้ได้ เด็กหนุ่มนึกสยองเมื่อคิดว่าตึกแห่งนี้จะเป็นสถานที่ทำงานของตัวเองในอนาคตให้กับสาวแก่แม่หม้ายมาหหน้าหลายตา

แสนยืนรออยู่ด้านหน้าด้วยท่าทางไม่สบอารมณ์ พอเวหาเปิดประตูลงไปหาแสนก็กระชากกุญแจไปจากมือทันที

“เอารถคืนมา เดี๋ยวกูต้องกลับเข้าไปทำธุระที่มออีก เย็นป่านนี้แล้ว เพราะรอมึงเลย ไอเหี้ย มึงจะไปไหนก็ไป”

แสนเข้าไปนั่งในรถโบกมือไล่เจ้าของตัวจริงแล้วกระชากประตูปิดอย่างแรง พอรถเคลื่อนตัวออก เวหาที่อึ้งในตอนแรกก็นึกได้วิ่งตามไปตบประโปรงท้ายรถรัวๆ

“พี่ๆ ของผมยังอยู่ในรถ”

“วุ่นวายจริงมึง ขึ้นมา กูจะไปส่ง”

เวหาแปลกใจกับความใจดีผิดคาดของอีกฝ่าย ของทั้งหมดของเขายังกองอยู่ที่เบาะหลังถ้าแสนเอาไปด้วยไม่รู้จะกลับหอยังไง เขารีบขึ้นมามานั่งข้างคนขับทันทีเพราะกลัวแสนเปลี่ยนใจ

“มึงกลับมาช้าโคตรๆ ยังดีที่เอารถไปทำมาซะใหม่กิ๊กเลย” แสนดูเหมือนอารมณ์ดีขึ้น เขาเอ่ยปากชมรถที่ไปขัดเคลือบทำความสะอาดมาทั้งด้านในด้านนอกอย่างพอใจ น้ำหอมติดรถราคาแพงที่เวหาซื้อมาใส่ทำให้บรรยากาศสดชื่น

“พี่ก็ดูแลหน่อยสิถ้าอยากให้รถมันสวยอย่างนี้ตลอด” เวหาอดพูดไม่ได้

“เสียเวลา”

เด็กหนุ่มไม่กล้าพูดอะไรอีก แสนขับรถไปเรื่อยๆ พักใหญ่จึงตัดเข้าถนนเส้นรองที่เป็นทางลัดไปมหาลัย

“กูว่าในรถแม่งกลิ่นมันเหม็นๆ ว่ะ”

เวหาแปลกใจ เขาเอารถไปอบโอโซนมาอย่างดีเพื่อกำจัดสารพัดกลิ่นที่แสนทำไว้

“น้ำหอมหรือเปล่า สงสัยพี่ไม่ชอบกลิ่นแบบนี้”

“ไม่ใช่ กลิ่นมันสาบๆ จะอ้วก กูว่ากลิ่นมาจากมึงแหละ”

หนุ่มวิศวะปีหนึ่งมั่นใจว่าไม่ใช่มาจากเขา ถึงจะอาบน้ำมาตั้งแต่เช้าจนตอนนี้เป็นเวลาเย็นแล้ว แต่เขาก็อยู่ห้องแอร์มาเกือบตลอด ไม่ได้ไปเหงื่อออกที่ไหน

“กลิ่นเหม็นอับจากเสื้อผ้ามึง มึงถอดออกเดี๋ยวนี้ ไอสัด กลิ่นติดรถกูหมด”

เวหามั่นใจว่ามันเป็นการหาเรื่อง ความสุขที่อุตส่าห์ได้กลับไปพักผ่อนที่กรุงเทพหลายวันมลายหายไปภายในไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงที่ได้เจอแสน แต่เขาทำอะไรไม่ได้ในเมื่ออีกฝ่ายกุมจุดอ่อนสำคัญไว้ เวหาถอดเสื้อผ้าออกอย่างทุลักทุเล และไม่ต้องให้แสนขยายความ เขารู้ว่ารุ่นพี่โฉดจะพอใจต่อเมื่อไม่เหลือเสื้อผ้าติดกายสักชิ้น เวหาพับเสื้อผ้าทั้งหมดอย่างเรียบร้อยเอื้อมตัวจะเอาไปใส่กระเป๋าเป้ที่เบาะหลัง แต่แสนกลับกระชากออกไปจากมือเปิดกระจกแล้วโยนทิ้งไปนอกรถทันที

“จะเก็บไว้ทำห่าอะไร เหม็นเหี้ยๆ”

“งั้นผมขอเอาขุดใหม่ในเป้มาใส่นะครับ”

“อย่ารื้อออกมานะมึง เสื้อผ้ามึงซักด้วยกันก็เหม็นเหมือนกัน ไม่งั้นกูทิ้งทั้งกระเป๋าแน่”

เวหาทำอะไรไม่ได้ ได้แต่นั่งแก้ผ้าตัวขาวโพลนอยู่ในรถ เขาหวังว่าควยดุ้นยักษ์ของเขาที่โชว์หลาอยู่จะไม่ไปกระตุ้นความวิปริตของอีกฝ่ายจนสั่งให้เขาทำอะไรทุเรศๆ อย่างเช่นชักว่าวในรถขึ้นมา ถึงภาวนาอย่างนั้นแต่เวหาก็เตรียมใจไว้ส่วนหนึ่งถ้าต้องทำขึ้นมาจริงๆ ยังดีที่ถนนเส้นนี้รถราไม่พลุกพล่านมากนัก ในรถก็ติดฟีล์มกรองแสง คงจะไม่อายไปกว่าที่เคยโดนมา เวหานั่งคิดระแวงไปเรื่อยจนความคิดต้องสะดุดลงเมื่อแสนจอดรถกระทันหัน

“ลงไป”

“อะไรนะพี่”

“กูบอกให้ลงไป แม่งกลิ่นมาจากตัวมึงนั่นแหละ”

“ตะ แต่…นี่มันกลางทางนะพี่”

“เถียงกู? ลงไปเดี๋ยวนี้”

เวหาพูดไม่ออก ได้แต่เปิดประตูลงจากรถไปอย่างไม่คิดต่อต้าน ลมที่พัดโชยสัมผัสร่างเปลือยทำให้เขาคิดถึงวันที่วิ่งแก้ผ้าขึ้นมา รถยนต์ที่ยังจอดนิ่งไม่ขยับไปไหนทำให้เด็กหนุ่มใจชื้นขึ้นมา บางทีแสนอาจจะแค่ลงโทษโดยการขู่นิดหน่อยเดี๋ยวคงให้เขากลับขึ้นรถ นาทีวัดใจผ่านพ้นไป เวหาส่งสายตาไปในรถอย่างอย่างขอร้อง ในที่สุดแสนก็กดปุ่มเปิดกระจกข้างลงโผล่หน้าออกมา

“กลับเองแล้วกันมึง จะได้รู้ว่าตอนที่กูไม่มีรถใช้ ลำบากแค่ไหน”

แสนยิ้มเยาะอย่างสะใจแล้วก็ออกรถไปอย่างเร็วทิ้งให้เจ้าของรถตัวจริงยืนอึ้งในชุดวันเกิดอยู่ริมทาง เด็กหนุ่มกุมควยไว้แน่นมองซ้ายมองขวาอย่างเสียขวัญ บนถนนสายเปลี่ยวเขายืนอยู่โดดเดี่ยวไม่มีอะไรติดตัวยกเว้นควยดุ้นเดียว เสื้อผ้า สัมภาระ กระเป๋าเงิน โทรศัพท์ ล้วนแต่อยู่ในรถที่วิ่งหายไปลับตา เวหาคิดอะไรไม่ออก เขาทรุดตัวลงนั่งข้างทางที่มีหญ้าคาขึ้นรก อย่างน้อยถ้ามีใครขับรถผ่านจะได้ไม่เห็นเขาตั้งแต่ระยะไกล เวหายังรออยู่ที่เดิม เขาเชื่อว่าพอแสนแกล้งทิ้งเขาไว้จนพอใจแล้วจะย้อนกลับมา

เวหานั่งรออยู่พักใหญ่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะเป็นอย่างที่เขาคิด พระอาทิตย์ใกล้ตกลงทุกที ถนนเส้นนี้ค่อนข้างเปลี่ยวแถมยังมีข่าวลือว่าคนขี่ที่ขี่มอเตอร์ไซค์ผ่านตอนดึกๆ เจอดีกันมาหลายคนแล้ว เด็กหนุ่มไม่ถึงกับกลัวผีแต่ก็ไม่อยากพิสูจน์ด้วยตัวเอง ในเมื่อไม่มีโทรศัพท์ใช้ขอความช่วยเหลือเขาเลยตัดสินใจจะเดินย้อนกลับไปเก็บเสื้อผ้าที่แสนทิ้งออกไปนอกรถกลับมาใส่แล้วค่อยโบกรถชาวบ้านกลับเข้าเมือง

เด็กหนุ่มเดินอย่างเร่งรีบไปทางไหล่ทางแคบๆ ที่เต็มไปด้วยหญ้ารถ ประสบการณ์ที่ผ่านมาสอนให้รู้ว่าไข่ใหญ่ยานแบบเขาไม่ควรวิ่งโทงเทง พอได้ยินเสียงรถเวหาจะลงไปนั่งแอบที่ข้างทาง เด็กหนุ่มถูกหญ้าคาและกิ่งไม้เล็กๆ ข่วนจนแสบๆ คันๆ ไปทั้งตัว มีครั้งที่หลบไม่ทันจนคนที่ขี่มอเตอร์ไซค์ผ่านมาเห็นร่างเปลือยเขาจะๆ ตา โชคดีที่คงคิดว่าเขาเป็นผีเปรตหรืออะไรถึงได้ร้องเสียงดังด้วยความตกใจแล้วขี่หนีไปอย่างไม่คิดชีวิต

เวหาเดินๆ หลบๆ อยู่พักใหญ่ ตอนนี้เขาคันไปทั้งตัวทั้งยุงกัด ทั้งรอยหญ้าบาด กิ่งไม้ตำ คงมีคนเห็นเขาหลายคนแต่ไม่มีใครเสี่ยงหยุดรถมาดู ในที่สุดก็จนมาถึงบริเวณที่น่าจะเป็นจุดที่เสื้อผ้าเขาถูกโยนออกมา แต่เวหาหาแล้วหาอีกก็ไม่เจอเสื้อผ้าของตัวเอง ถ้าไม่เป็นเพราะเขาจำสถานที่ผิด ก็คงเป็นเพราะมีคนเก็บไปก่อนหน้านี้แล้ว

ขณะที่เด็กหนุ่มยืนหัวเสียอยู่ริมถนนจนไม่ได้ระวังตัว ก็มีรถกระบะเก่าๆ สีเสือดหมูติดตราโล่เบรคดังเอี๊ยดเพื่อจอดรถตรงหน้าเวหา ตำรวจผิวคล้ำในเครื่องแบบถลันลงจากรถยกปืนพกมาทางเขาพร้อมตะโกนขู่

“นี่เจ้าหน้าที่ตำรวจ อย่าขยับ ยกมือขึ้น แล้วหันหน้ามาช้าๆ”

เวหาเลือดเย็นเฉียบด้วยความตกใจเมื่อ เขายังจำความอัปยศที่ถูกตำรวจเมืองนี้ทำได้เป็นอย่างดี ทำไมถึงได้ซวยแบบนี้ หรือจะเป็นการจัดฉากของแสนเพื่อยัดเยียดข้อหาเพิ่มเติมให้เขาอีก เด็กหนุ่มยกมือขึ้นตามคำสั่ง หมดโอกาสที่จะใช้ปิดบังควยของตัวเอง แล้วค่อยๆ หมุนตัวหันหน้าไปยังต้นเสียง โชว์เรือนร่างแน่นๆ ขาวใสตัดกับหมอยและขนรักแร้ดำสนิทให้กับเจ้าพนักงานได้มองอย่างไม่มีอะไรปกปิด

ตำรวจหนุ่มวัยสามสิบกว่าร้องอย่างแปลกใจเมื่อเห็นใบหน้าที่คลับคล้ายคลับคลา และยิ่งเมื่อมองจุดกึ่งกลางลำตัวของเด็กหนุ่มก็ยิ่งมั่นใจ

“เฮ้ย ไอเด็กหำโคตรใหญ่นี่หว่า ไปไงมาไงวะ ข้านึกว่าพวกโรคจิตซะอีก เกือบยิงปืนขู่ซะแล้ว เอ็งชื่ออะไรนะ เวหา ใช่ๆ เวหาควยโต ข้าจำได้”

“จ่า โอ๊ย จ่าจริงๆ ด้วย รอดแล้วเรา” เวหาร้องอย่างดีใจน้ำตาแทบไหลเมื่อเจอตำรวจน้ำดีที่รู้จัก

“ใครจ๊ะพี่จ่า คนรู้จักเหรอ อุ๊ยแม่ร่วง!!!” หญิงสาวที่เปิดประตูตามลงมาจากรถร้องด้วยความตกใจเมื่อเห็นเด็กหนุ่มหน้าตาดียืนยกมืออ้าซ่าโชว์หุ่นล่ำๆ และควยดุ้นใหญ่ที่สุดที่หล่อนเคยเห็นมารวมทั้งในหนังโป๊ด้วย

“เด็กที่พี่เคยส่งรูปให้ดูไงเมียจ๋า เรียนอยู่ที่มอตรงนี้เอง เห็นไหม พี่บอกแล้วว่าของจริง ไม่ใช่รูปตัดต่อ เมียก็ไม่เชื่อ”

เมียจ่ารูปร่างหน้าตาไม่เลว ผิวขาวตัวเล็กแต่หุ่นดีดูมีเสน่ห์ในวัยใกล้สามสิบ หญิงเบิกตาโตเงยหน้าขึ้นลงมองหน้าของเวหาสับกับดุ้นเนื้อด้านล่างหลายครั้ง เวหาอายเหลือที่จะกล่าว เขาต้องแก้ผ้าให้คนเห็นจะๆ มาหลายครั้งแล้วแต่ส่วนใหญ่เป็นผู้ชายด้วยกัน พอเจอสายตาของหญิงสาวรุ่นใหญ่จ้องมองโดนไม่เคอะเขินถึงกับทำตัวไม่ถูก เวหานึกขึ้นได้ว่าตัวเองไม่จำเป็นต้องยกมือค้างไว้แล้วจึงรีบเอาลงมากุมท่อนลำทันที

“ไม่ต้องอายหรอก นี่เมียข้าเอง ชื่อณี รูปเอ็งข้าส่งให้เมียดูเห็นหมดแล้ว เมียข้าชอบมาก เซฟเก็บไว้ดูตลอดเลย สงสัยชอบของใหญ่ ของที่โดนอยู่ทุกวันยังไม่พอ” พอจ่าพูดจบก็ถูกฝ่ายเมียทุบเอาแรงๆ หลายที

“ว๊าย พี่จ่าพูดซะฉันเสียหาย ฉันรักพี่จะตายจะไปชอบของคนอื่นได้ยังไง จนมีลูกด้วยกันตั้งสองคนแล้ว แค่ชอบว่าน้องหน้าตาหล่อดี ไม่ได้สนใจเรื่องอื่นจริงๆ น้องเวหาใช่ไหม เรียกพี่เจ๊ณีก็ได้ ขนาดเห็นจะๆ ตาฉันก็ยังไม่อยากเชื่อเลยว่าจะใหญ่ได้แบบนี้ พระเอกหนังที่เราดูด้วยกันก็ยังเล็กกว่า ฉันขอจับดูหน่อยได้ไหมจ๊ะพี่ว่ามันของจริง”

“ไม่ได้ เป็นเมียพี่จะไปจับของคนอื่นได้ยังไง”

จ่าทำท่าหึงหวงจนเวหากังวลว่าจะโดนเขม่นเอาหรือเปล่า แต่พอดูๆ ไป เหมือนจะเป็นการแหย่กันให้เกิดสีสันกระชุ่มกระชวยซะมากกว่า

เสื้อเครื่องแบบสีกากีตึงเปรี๊ยะถูกจ่าถอดออก ตามด้วยเสื้อยืดคอกลมสีขาวขลิบสีเลือดหมูเผยให้เห็นหุ่นหนากล้ามใหญ่ไร้ไขมันส่วนเกิน ผิวที่ค่อนข้างเข้มและไรขนรกครึ้มโดยเฉพาะบริเวณสะดือไล่หายลงไปใต้เข็มขัดทำให้ดูมีเสน่ห์เถื่อนๆ แบบหนุ่มใหญ่ จ่าส่งเสื้อคอกลมที่เพิ่งถอดให้เวหา

“เอาเสื้อข้าไปใส่ก่อน แต่อย่าเอาไปโดนควยนะ มันมีสกรีนตราตำรวจอยู่ ข้าถือ แล้วรถหลวงมันไม่มีแคป เอ็งต้องทนนั่งกระบะหลังหน่อยนะ ไปถึงบ้านข้าแล้วจะหาเสื้อผ้าให้ใส่ ขับรถไปแป๊บเดียวเอง”

เวหายกมือไหว้ขอบคุณ เสื้อของจ่ามีกลิ่นโรลออนผสมกลิ่นเหงื่อการทำงานมาทั้งวัน เมื่อนึกถึงน้ำใจของอีกฝ่ายที่อุตส่าห์ถอดเสื้อตัวเองให้เด็กหนุ่มก็ไม่ได้นึกรังเกียจ ที่สำคัญได้นั่งรถไปถึงจะเป็นกระบะหลังและสวมเสื้อแค่ตัวเดียว ก็ยังดีกว่าเดินแก้ผ้าไปโดยไม่รู้ว่าจะเจออะไรเป็นไหนๆ นึกแล้วก็รู้สึกว่าตัวเองโชคดีเหลือเกินที่บังเอิญได้มาเจอตำรวจใจดี แถมจ่ากับเมียยังเคยเห็นควยเขาอยู่แล้ว ไม่ต้องอายเพิ่ม ไม่ขาดทุนแม้แต่น้อย

แต่เวหาก็ดีใจไม่ได้นาน พอรถที่วิ่งฉิวมากำลังจะเข้าสี่แยกหลักใจกลางเมือง ก็เจอกับรถติดที่ท้ายแถวอยู่ห่างจากแยกอยู่หลายร้อยเมตร เด็กหนุ่มหน้าตื่นก้มตัวต่ำอยู่หลังรถ ยิ่งพอรถติดมากขึ้นก็มีการเบียดแทรกกันบังช่องว่างระหว่างเลน จนมอเตอร์ไซค์บางคันไปต่อไม่ได้ มาจอดรออยู่ข้างๆ ท้ายรถที่เวหาหลบอยู่ เวหารีบนอนคว่ำหน้าแนบตัวไปกับพื้นรถ แต่ควยดุ้นใหญ่กับพวงไข่แฝดใบเขื่องทำให้ไม่สามารถทิ้งน้ำหนักตัวลงไปทับได้ เขาต้องยกตูดขึ้นเล็กน้อยเพื่อให้มีพื้นที่สำหรับอวัยวะเพศที่ใหญ่โตเกินไป

มอเตอร์ไซค์คันข้างๆ ที่ซ้อนกันมาสองคนบุ้ยปากมาทางเวหา

“มึงดูไอคนที่มันนอนหลังรถตำรวจสิวะ มันไม่นุ่งกางเกง ตูดขาวเชียว”

“เออว่ะ ตำรวจไปจับมาจากไหนวะ นอนนิ่งเชียว สงสัยเมา”

“แต่มันโก่งตูดอยู่นะ ถ้าเมามันจะเกร็งตัวแบบนี้ได้เหรอ แม่งมองดีๆ ทางหว่างขามันสิ ไข่แม่งทั้งยานทั้งใหญ่”

“เหี้ย ให้กูดูอะไรเสียสายตาชิบหาย”

“เหรอ ตูดแม่งขาวเนียนกว่าหน้าเมียมึงอีกมั๊ง”

เด็กหนุ่มนอนเกร็งไม่กล้าขยับ ให้คิดว่าเขาเมาหลับไปเลยยังดีซะกว่า เวลาผ่านไปพักใหญ่จนเมื่อยขบไปหมด ในที่สุดรถก็เคลื่อนตัวช้าๆ อยู่ครู่หนึ่งแล้วก็หยุดลงอีกครั้ง เวหาคะเนว่าคงถึงจุดหมายแล้ว พอรู้สึกว่ามีคนมาสะกิดเขาจึงรีบลุกขึ้นทันที

ปรากฎว่าเด็กหนุ่มเข้าใจผิด ที่จริงรถเคลื่อนตัวมาถึงสี่แยกแล้วก็ติดไฟแดงพอดี ตรงบริเวณสี่แยกมีรถยนต์ชนกันอันเป็นสาเหตุให้รถติดแต่ตอนนี้ถูกลากไปแอบไว้ริมทางแล้ว รถของจ่าที่มาจอดรอสัญญาณไฟเป็นคันแรกรายล้อมไปด้วยรถมอเตอร์ไซค์ที่ขับแทรกช่องมาอออยู่เต็มไปหมด หนึ่งในนั้นเป็นคนที่เอื้อมมือมาสะกิดเวหาด้วยความสงสัย

“เป็นอะไรวะไอ้น้อง กางเกงหายไปไหน”

สายตาทุกคู่จ้องมาที่ดุ้นควยขนาดยักษ์ของเด็กหนุ่ม เวหาหน้าซีดเผือดในหัวคิดหาทางออกจากสถานการณ์นี้อย่างเร็วจี๋

“别发牢骚!”

เวหาทำเสียงโล้งเล้งพ่นภาษาจีนมั่วๆ ตามที่เคยเรียนมาบ้าง คนที่มาสะกิดเขาทำหน้าเหรอหราฟังไม่รู้เรื่อง เด็กหนุ่มแสร้งทำหน้าถมึงทึงพูดภาษาจีนที่มั่วยิ่งกว่ารอบแรกพร้อมกับชี้หน้าไปด้วย

“别那样和我说话!”

หนุ่มมอเตอร์ไซค์ไม่รู้จะตอบโต้ยังไงกับภาษาที่ฟังไม่ออก เขากำมือยกประสานขึ้นทำท่าคารวะเหมือนหนังจีนแล้วก็เอารถตัวเองลัดเลาะแทรกหนีไป คนอื่นที่มุงดูอยู่ก้มหน้าหลบตาเป็นแถว

“别烦我”

เวหาได้ทีก็ทำเสียงโล้งเล้งอีกชี้หน้าแต่ละคนไปรอบๆ แล้วก็ทำเป็นทรุดตัวลงไปนอนอย่างเดิม

“นักท่องเที่ยวจีนเมายานี่หว่า ถึงว่า”

คนที่พบเหตุการณ์ได้แต่ซุบซิบกัน ในที่สุดรถก็เคลื่อนตัวไปตามสัญญาณไฟเขียวและวิ่งต่อไปอีกพักใหญ่จนเข้าไปจอดในบ้านหลังหนึ่ง

เวหาแอบหรี่ตามองดูสถานการณ์ จนจ่าลงมาจากรถส่งเสียงเรียก เขาจึงลุกขึ้นกระโดดลงจากรถแล้วเดินกุมควยเดินตามจ่าไป เด็กหนุ่มแปลกใจกับบ้านที่ค่อนข้างใหญ่และตกแต่งไว้อย่างสวยงามของจ่ามาก

ในโรงจอดรถก็มีโฟร์วีลเอนกประสงค์คันใหญ่และเก๋งซีดานใหม่เอี่ยมจอดไว้อยู่ เวหาอยากจะถามว่าจ่าทำอาชีพเสริมอะไรหรือเปล่าถึงได้มีบ้านมีรถขนาดนี้ ลำพังเงินเดือนตำรวจชั้นประทวนก็คงไม่มากอะไร

ด้านในบ้านของจ่าก็ไม่ต่างกัน ข้างของเครื่องใช้ดูมีราคา เวหาได้รับคำเชิญให้อยู่ทานข้าวเย็นก่อนที่จ่าจะพาไปส่งที่หอพัก ขณะที่เมียจ่าขอตัวไปทำกับข้าว ตัวจ่าเองหายขึ้นไปชั้นบนซึ่งเวหาเข้าใจว่าคงไปหาเสื้อผ้ามาให้เขายืมใส่ เด็กหนุ่มนั่งเล่นโทรศัพท์รอไปเรื่อยๆ สักพักใหญ่อาหารก็ตั้งโต๊ะเสร็จเรียบร้อย

จ่าเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วลงจากชั้นบนมาสมทบที่โต๊ะอาหาร กับข้าวหลายจานวางเรียงรายตรงหน้าดูหน้าทานจนเด็กหนุ่มกลืนน้ำลายด้วยความหิว มื้อนี้มีอาหารทะเลแบบจัดเต็มสมกับเป็นจังหวัดชายทะเล พอเวหาตักชิมคำแรกถึงกับต้องยกนิ้วให้กับคนทำ

“อร่อยมากครับเจ๊ณี” เวหาเอ่ยปากชมฝีมือเมียจ่าซึ่งยิ้มภูมิใจจนหน้าบาน เด็กหนุ่มกินเอาๆ อย่างถูกปากจนทำน้ำจิ้มซีฟู้ดหยดไปที่ควยตัวเองถึงนึกได้ว่าตัวเองยังไม่ได้สวมเสื้อผ้า หลังๆ นี่เขาแก้ผ้าบ่อยจนชินไปแล้วหรือไง แต่ต้องยอมรับกับตัวเองอย่างหนึ่งว่าควยกับไข่ใหญ่ๆ อย่างเขาสบายตัวที่สุดก็ตอนไม่นุ่งผ้านี่แหละ เวหามองจ่าที่กำลังเอร็ดอร่อยกับมื้ออาหารแล้วก็เกรงใจไม่กล้าทวงเสื้อผ้า เอาไว้ทานเสร็จค่อยบอกแล้วกัน

“โห เอ็งนี่เป็นถึงเดือนมหาลัยเลยเหรอ มิน่าถึงได้หน้าตาดีขนาดนี้” จ่าร้องอุทานเมื่อได้รู้ว่าเวหามีตำแหน่งติดตัวด้วยแล้วก็สบตาเมียอย่างมีความหมาย

“ไม่เท่าไหร่หรอกครับ คนหล่อกว่าผมก็มี แต่มันคล้ายๆ นับคะแนนความนิยมกัน เลยได้มา”

“แหม มันจะมีคนหล่อกว่าน้องเวหาอีกหรือจ๊ะ สงสัยจะเป็นดารา แหม ชอบจริงๆ เลยพวกเดือนคณะเดือนมหาลัยนี่”

“ให้มันน้อยหน่อยนะเมีย จ่าแก่ๆ ยังนั่งอยู่ทั้งคน”

“แหม ฉันก็แค่อินไปกับพวกซีรี่ส์สมัยนี้ ยังไงพี่จ่าก็ยังทั้งหนุ่มทั้งหล่อเสมอ รักมาตั้งแต่เป็นนักเรียนนายสิบแล้ว”

เด็กหนุ่มนั่งฟังคู่ผัวเมียจีบกันบนโต๊ะอาหารแล้วก็นึกเขิน ถึงจะดูสไตล์บ้านๆ ไปนิด แต่ทั้งจ่าและทั้งเมียก็จัดว่าดูดีในวัยสามสิบ จ่าหน้าตาซื่อๆ แต่ก็คมเข้มสมกับสีผิว ตอนที่ถอดเสื้อเขาก็เห็นแล้วว่าหุ่นดีขนาดหนุ่มๆ สู้ไม่ได้ เจ๊เมียจ่าตัวเล็กๆ ผิวขาวแต่หุ่นเอาเรื่อง หน้าอกใหญ่น่าจะใหญ่ขนาดคัพซีเท่าที่เวหากะจากสายตาภายนอก

พอสวีทกันจบจ่าก็หันมาถามเวหาด้วยหน้าตาซีเรียสขึ้น

“เอ้อ ที่เอ็งบอกให้ข้าช่วยสืบเรื่องของสารวัตรให้หน่อย ข้าไปดูแล้วมันก็แหม่งๆ จริงๆ เพื่อนข้าบอกว่ามาอยู่ไม่กี่เดือน แต่ผู้กำกับรักและไว้ใจมาก คงเลียเก่งและส่งส่วยด้วยมั๊ง ไหนจะเป็นญาติทางภรรยาท่านนายกอีก”

“โห ตำรวจเป็นแบบนี่หมดประชาชนก็แย่สิ ทั้งโรงพักเป็นพวกเขาหมดแล้วมั๊ง ตอนผมโดนแกล้งไม่ให้ใส่เสื้อผ้าตอนไปถ่ายรูปทำประวัติ ไม่เห็นมีใครจะห้ามปรามเลย”

“ไม่ขนาดนั้นหรอก ที่จริงโรงพักข้าค่อนข้างเจอเรื่องแบบนี้บ่อยๆ จังหวัดเราเป็นแหล่งท่องเที่ยวไง นักท่องเที่ยวก็เข้ามาเยอะ แล้วช่วงหลังมีคนโปรโมทฟูลมูนปาร์ตี้ที่หาดขึ้นมาเลียนแบบเกาะพงัน มันเลยมีพวกเมาเหล้าเมายาแก้ผ้าอาละวาดอยู่บ่อยๆ โดนจับขึ้นโรงพักทั้งเปลือยๆ อย่างนั้นแหละ มีทั้งฝรั่ง เอเซีย นิโกร รัสเซีย เต็มไปหมด คนที่โรงพักเขาเลยชินกัน พอเอ็งโดนแกล้งเขาคงไม่รู้สึกผิดสังเกต”

“ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ตัว”

“เฮ้ยๆ เกรงใจข้าบ้าง ข้าก็ไม่เคยทุจริตกินสินบนหรือกลั่นแกล้งใครนะ ถ้าจะเอาระดับสูงก็มีท่านผู้การไงที่เป็นคนตรงจริงๆ แต่พอดีท่านเป็นค่อนข้างไว้ใจผู้กำกับเลยไม่ค่อยลงมาดูที่โรงพัก ถ้ามีใครที่น่าเชื่อถือไปบอก ท่านไม่เอาไว้แน่”

“ก็จ่าไง ไปบอกให้ผมหน่อยไม่ได้เหรอ”

“ข้าเป็นตำรวจผู้น้อยเองนะ ใครจะฟัง ข้าละสงสารเอ็งจริงๆ แต่ไม่รู้จะช่วยยังไง”

พอทานข้าวเสร็จ เจ้าบ้านก็เทเหล้าแก้วเล็กๆ ให้บอกว่าดื่มย่อยอาหาร เวหารับไปซดรวดเดียวรู้สึกว่ามันหวานแปลกๆ แถมยังอุ่นวาบตั้งแต่คอไปถึงท้อง จ่าบอกให้ไปเขานั่งพักที่เก้าอี้นวดก่อนขอทำอะไรอีกนิดหน่อยแล้วจะออกไปส่ง เก้าอี้นวดไฟฟ้าที่บ้านจ่าเป็นแบบอย่างดีที่นวดได้ตั้งแต่หัวถึงปลายเท้า เด็กหนุ่มนอนนวดด้วยความสบายไปตามโปรแกรมไม่นานก็รู้สึกง่วงจนหลับไป

เวหารู้สึกตัวอีกทีก็พบว่าตัวเองนอนเปลือยเปล่าอยู่บนเตียงในห้องที่ไม่คุ้นเคย แขนทั้งสองข้างถูกรวบใส่กุญแจมือไขว้หลังไว้ ยังดีที่ขายังเคลื่อนไหวได้เป็นอิสระ เด็กหนุ่มพยายามนึกทบทวนว่าทำไมตัวเองถึงมาอยู่ในสภาพนี้ คำตอบมีเพียงอย่างเดียว เขาเสียท่าสองผัวเมียคู่นี้แล้ว เวหารู้สึกเจ็บใจตัวเองที่ไว้ใจคนง่ายไป เคยเจอแค่สองสามครั้งไม่รู้ทำไมเขาถึงเชื่อลมปากของคนที่บอกว่าตัวเองเป็นตำรวจดีโดยไม่มีข้อพิสูจน์ ตำรวจที่ซื่อสัตย์คงไม่อู้ฟู่ขนาดนี้ ไม่แคล้วว่าจ่าก็คงเป็นพวกของแสนหรือไม่ก็สารวัตรผู้เป็นญาติผู้พี่ มีบ้านมีรถหรูแบบนี้ คงคอร์รัปชั่นค้ามนุษย์กันสนุกเลยสิ

เวหาพยายามลุกขึ้นจากเตียงเพื่อมองหาทางหนีทีไล่ สภาพการตกแต่งในห้องบ่งบอกว่านี่เป็นห้องนอนปกติไม่ใช่เป็นที่คุมขัง หนุ่มวิศวะใจชื้นว่าอาจจะมีของมีคมหรืออะไรให้เขาใช้เป็นอาวุธได้บ้าง การเคลื่อนไหวโดยที่มือถูกล็อคไขว้หลังไว้เป็นอุปสรรคในการค้นข้าวของมาก ยังไม่ทันจะได้ทำอะไรก็มีเสียงเปิดประตูเข้ามา

จ่าในร่างเปลือยเปล่าเต็มไปด้วยมัดกล้ามเดิมย่างสามขุมเข้ามา ดุ้นเนื้อค่อนข้างใหญ่ชี้ตระหง่านนำหน้า ถึงขนาดจะสู้เวหาไม่ได้เลย แต่สีที่ดำมะเมื่อม ปลายหัวเงี่ยงบานใหญ่แดงคล้ำจนออกม่วง เส้นเอ็นเส้นเลือดที่ปูดโปนไปทั่วท่อนลำ เสริมกับเส้นหมอยหยิกดกหนาที่ลามมาขึ้นมาเกือบกลางลำ ทำให้ดูน่าเกรงขามราวกับเป็นอาวุธทำลายล้างฉกาจฉกรรจ์ เท่านั้นยังไม่พอ เวหายังเห็นมุกเม็ดนึงฝังอยู่ตรงใกล้หัวควยเป็นการเสริมแสนยานุภาพขึ้นไปอีก

เวหามองอย่างตื่นตระหนก ไม่น่าเชื่อว่าเขากำลังจะถูกข่มขืนโดยตำรวจหน้าซื่อที่เขาไว้ใจ ยิ่งเห็นแผงอกหนากำยำปกคลุมไปด้วยไรขนอุยก็ยิ่งรู้ว่าคงสู้แรงของตำรวจวัยฉกรรจ์ไม่ได้ เด็กหนุ่มขยับตัวหนีอย่างลนลานไปจนติดขอบเตียง

ตำรวจหนุ่มใหญ่เห็นเด็กหนุ่มได้สติจนลุกขึ้นนั่งพิงขอบเตียงแล้วก็ตะโกนเสียงดังไปทางประตูห้อง

“น้องมันตื่นแล้วจ๊ะเมียจ๋า เข้ามาได้เลย”

เจ๊ณีที่พันตัวด้วยผ้าขนหนูสีขาวมีหลาดน้ำเกาะพราวเดินนวยนาดเข้ามาในห้อง จ่าหันมาที่เวหาแล้วยกมือขอร้อง

“ขอโทษทีว่ะที่ไม่ถามความสมัครใจเอ็ง แต่จ่าทนไม่ไหวแล้ว เอ็งช่วยจ่ากับเมียหน่อยเถอะ นึกว่าสงเคราะห์คนกำลังเงี่ยน”

“หา จ่าจะให้ผมทำอะไร”

“ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น แค่ดูจ่าเอากับเมียเฉยๆ จ่าอยู่กินกับเมียเป็นสิบปีแล้ว ลูกก็มีแล้วสองคน มันก็ต้องหาความตื่นเต้นเร้าใจกันมั่ง แล้วเมียจ่าชอบเอ็งสุดๆ ตั้งแต่เห็นรูปแล้ว ยิ่งรู้ว่าเรียนวิศวะแล้วเป็นถึงเดือนมหาลัยยิ่งน้ำเดิน เหมือนพวกคลั่งดาราน่ะ เอ็งก็แค่มายืนแก้ผ้าให้เมียจ่าดู ที่เหลือข้าทำเอง โทษทีที่ต้องใส่กุญแจมือไว้ ข้ากลัวเอ็งจะตะบะแตกเข้ามาร่วมวงด้วย เมียใครๆ ก็หวง เข้าใจข้าเถอะว่ะ”

เวหางงไปหมด เรื่องทั้งหมดมันพิสดารเกินกว่าเด็กสิบแปดอย่างเขาจะเคยพบเห็น แต่ดูๆ ก็คงไม่เป็นไรมั๊ง เหมือนได้ดูหนังโป๊สดๆ

พอเขาพยักหน้าตกลง เจ๊ณีก็ปลดผ้าเช็ดตัวออกอย่างแทบทนไม่ไหว เรือนร่างของสาววัยใกล้สามสิบแม้ไม่เยาว์วัยเต่งตึงแต่ก็มีเสน่ห์ยั่วยวนอย่างคนที่ดูแลตัวเองอย่างดี เจ๊ณีหนุ่นซ่อนรูปอย่างที่เด็กหนุ่มคิด เอสคอดหน้าท้องแบนราบแต่สะโพกผายออกอย่างน่าดู เนินเนื้อโหนกนูนมีขนอ่อนนุ่มขึ้นบางๆ ถึงแคมจะเผยอออกเล็กน้อยไม่ปิดสนิทแต่กลีบเนื้อก็ยังดูอมชมพูอยู่ หน้าอกสีน้ำนมของเมียจ่ายิ่งไม่ธรรมดา มันมีขนาดใหญ่เกินร่างอ้อนแอ้นไปมากแถมยังกลมได้รูปทรงไม่หย่อนคล้อย หัวนมสีชมพูชูชันด้วยฝีปากของจ่าที่กำลังดูดเม้มอย่างชำนาญ

หญิงนั่งลงบนเตียงตามองร่างเปลือยของเวหาด้วยแววตาหยาดเยิ้มปนตื่นเต้น มือใหญ่ของจ่าตะบบคลึงเคล้นไปทั่วร่างบอบบาง ร่างใหญ่ดำทะมึนกับร่างขาวบางแต่อวบในส่วนที่ควรอวบเกาะเกี่ยวสีตัดกันอย่างน่าดู เห็นแค่นี้เด็กหนุ่มที่อ่อนประสบการณ์ก็ควยตั้งเด่จนปวดไปหมด

ยิ่งเห็นควยมหึมาอยู่ใกล้ๆ เจ๊ณีก็เหมือนยิ่งเกิดอารมณ์ เจ้าหล่อนกอดรัดผัวจนอิรุงตุงนังปากก็ร้องเร่งเร้าให้เผด็จศึกเร็วๆ ตำรวจหุ่นล่ำใช้นิ้วแหวกกลีบเนื้อออกจากกันแล้วเรียกเวหาให้ไปดูใกล้ๆ

“หีเมียข้าสวยไหม เข้าไปนี่ทั้งอุ่นทั้งแน่นเลยนะ”

ไฟที่สว่างจ้าในห้อง ทำให้เวหาเห็นลึกเข้าไปร่องหีสีชมพูเข้มที่มีน้ำหล่อลื่นเยิ้มฉ่ำภายใน ถ้าไม่ถูกล็อคแขนอยู่เวหาคงเผลอเอานิ้วแหย่ไปพิสูจน์ความชุ่มชื้นด้านใน ฝ่ายผัวไม่รอช้าหงายมือแหย่นิ้วสามนิ้วลงไปแล้วชักเข้าชักออกจนได้ยินเสียงเฉอะแฉะจนเมียตัวเองดิ้นพล่านร้องครวญคราง พอทรมานเมียด้วยนิ้วแล้ว จ่าก็เปลี่ยนเครื่องมือไม่ให้อีกฝ่ายตั้งตัวด้วยการฉกลิ้นรัวๆ ไปที่ปุ่มเสียวของเมียสาวด้วยความเร็วที่เวหาต้องทึ่ง เมื่อหญิงสาวพร้อมเสียยิ่งกว่าพร้อม ฝ่ายชายก็ขึ้นคร่อมอย่างดุดัน แขนที่ยันเตียงไว้ทั้งสองด้านเกร็งกล้ามขึ้นเป็นลูกๆ จนเห็นเส้นเลือดปูด หัวนมดำปี๋มีขนขึ้นรอบๆ ลุกชูชันเป็นเม็ดอย่างเกิดอารมณ์เต็มที่ จ่ากดปลายควยลงไปในร่องหีฉ่ำแล้วแทรกตัวเข้าไปช้าๆ อย่างคุ้นเคยจนสุดความยาว หมอยหยาบหนาทึบของตำรวจหนุ่มแนบชิดกับโคกสาวเหมือนจะทำหน้าที่ช่วยบรรเทาแรงกระแทก

เวหามองภาพลามกที่เห็นจะๆ ตรงหน้าด้วยความเสียวสุดชีวิต ควยที่แข็งโด่ต้องการการสัมผัสแต่ไม่สามารถทำได้อย่างใจ เด็กหนุ่มขยับแขนที่ถูกล็อคไขว้หลังไปมาอย่างงุ่นง่าน เขาเคยเจอสถานการณ์แบบนี้มาก่อนตอนสมัยมัธยมที่ไปดูหนังโป๊บ้านเพื่อน เวหาเป็นคนเดียวที่ไม่กล้าเอาควยออกมาชักเพราะอายขนาดที่ใหญ่เกินปกติของตัวเอง ที่ตอนนี้มันแย่กว่านั้นมากเพราะเขากำลังดูคนเย็ดกันจริงๆ ยิ่งเงี่ยนก็ยิ่งทรมานจนควยปวดหนึบรูเยี่ยวฉ่ำไปด้วยน้ำใสเหนียว แต่เด็กหนุ่มไม่ละสายตาจากโชว์ตรงหน้าแม้แต่น้อย

ควยใหญ่ยาวโยกเข้าโยกออกอย่างช้าๆ ก่อนจะค่อยๆ เพิ่มความเร็วขึ้นทีละนิด เวหาย้ายตำแหน่งผู้ชมจากด้านข้างมาเป็นด้านหลัง เขามองรอดไข่ดำๆ ที่เต็มไปด้วยขนเงาะหยิกหยอยเห็นท่อนเนื้อดำเมื่อมกำลังแทงเข้าแทงออกจนกลีบเนื้อสาวปลิ้นตามเป็นจังหวะ ทั้งภาพเสียงและกลิ่นที่สดใหม่ทำให้เด็กหนุ่มเกิดอารมณ์ยิ่งกว่าการดูหนังโป๊เป็นไหนๆ เมื่อผัวเร่งจังหวะจนน้ำเงี่ยนแตกเป็นฟองขาวฟอดเมียก็ร้องครางหงิงๆ เหมือนจะขาดใจ เวหาเห็นพิษสงของมุกเม็ดเล็กๆ เวลามันครูดกับติ่งสวาทของฝ่ายหญิงอย่างเต็มตา ก้นแกร่งแน่นสีคล้ำมีขนรกเรื้อยเต็มร่องของตำรวจหนุ่มเกร็งจนเป็นรอยปุ๋มขณะโยกเข้าออกอย่างแข็งขัน พวงไข่แกว่งตัวไปมาจนบางจังหวะก็โดนหน้าของเวหาที่ส่องเข้าไปใกล้ๆ อย่างลืมตัว ยิ่งใกล้ถึงฝั่งฝัน การกระแทกก็ยิ่งรุนแรงดุดันมากขึ้นเรื่อยๆ จังหวะที่เร่งเร้าถี่ยิบจนน่าทึ่งชวนให้เด็กหนุ่มคิดว่าข้างในจะร้อนผ่าวสักแค่ไหน ความคิดที่ว่าดูไปเฉยๆ ไม่เห็นจะเป็นอะไรสั่นคลอนอย่างรุนแรง ดูแต่ตาแต่ไม่สามารถทำอะไรได้แม้แต่ชักให้ตัวเองมันทรมานเสียเหลือเกิน ในที่สุดฝ่ายผัวก็ร้องประสานเสียงดังลั่นกับเมียแล้วกระฉูดน้ำเชื้อเข้าไปจนเต็มรูหีไม่หกออกมาแม้แต่หยดเดียว เวหามองความสุขสมของคู่ผัวเมียตาละห้อย สองคนสบายตัวไปแล้วแต่เขายังมีน้ำกามแห่งวัยหนุ่มอัดแน่นเต็มกระโปกสองใบเขื่องๆ

เด็กหนุ่มยืนควยแข็งโด่บิดไปบิดมาด้วยความเงี่ยน ปลายควยเต็มไปด้วยน้ำเหนียวยืดที่เยิ้มลงมาเป็นสาย ทั้งอึดอัดทั้งทรมานด้วยความปวดหน่วงๆ ตรงพวงไข่ คู่ผัวเมียพอเสร็จสมอารมณ์หมายแล้วก็นอนกระหนุงกระหนิงคุยกันไม่สนใจเขาอีกจนเวหาต้องร้องเตือน

“จ่าครับ เสร็จแล้วก็ไขกุญแจให้ผมหน่อย”

ตำรวจหนุ่มใหญ่มองแววตากระหื่นกระหายของเด็กหนุ่มด้วยความไม่ไว้ใจ

“ไม่ไหวว่ะ เอ็งเงี่ยนควยตั้งขนาดนี้ถ้ากระโจนไปลวนลามเมียข้าจะทำยังไง ควยใหญ่สัดๆ”

“ผมไม่ทำหรอก นี่จะรีบไปชักว่าวไง”

“ข้าไม่กล้าเสี่ยงว่ะ หนุ่มกลัดมันที่กำลังหงี่อย่างเอ็งแรงบ้าเยอะชิบหาย ข้าเคยเจอไอนักท่องเที่ยวที่โด๊บยาปลุกเซ็กส์แล้วแก้ผ้าอาละวาด ตำรวจสามคนยังเอาไม่อยู่”

“พี่จ่าสบายตัวแล้วก็ช่วยน้องหน่อยสิ อย่าเอาเปรียบ ต้องขอบใจเวหานะที่ทำให้เจ๊ถึงจุดได้ติดๆ กันไม่รู้กี่รอบ หรือจะให้ฉันทำให้” เจ๊ณีส่งเสียงจากเตียงมาช่วยเหลือด้วยความเห็นใจ จ่ามองดูควยมหึมาที่แข็งโด่แทบปริของเวหาอย่างชั่งใจ สงสารก็สงสาร หวงเมียก็หวง

“เอาก็เอาวะ”

พอมือสากหนาของตำรวจหนุ่มใหญ่จับควยเวหาสาวขึ้นลงช้าๆ เขาก็หลับตาจินตนาการถึงบทรักอันดุเดือดที่ได้เห็นเมื่อครู่ ภาพรูหีชมพูที่ถูกกระแทกยังแจ่มชัดในความนึกคิด สัมผัสสากๆกระแทกกระทั้นแบบผู้ชายแมนๆ ที่เกิดขึ้นจริงก็ให้ความรู้สึกดีไปอีกแบบ ไม่นานเด็กหนุ่มก็พร้อมที่จะเสร็จกิจ จ่าเร่งมือรัวเร็วในช่วงสุดท้ายจนน้ำขาวข้นถูกพ่นออกมาจากปลายควยกระจายไปเป็นวงกว้าง เวหาลงไปนอนกองกับน้ำเชื้อตัวเองด้วยความสมใจที่ได้ปลดปล่อยจนตัวเบาหวิว เขาไม่ได้สังเกตตัวเองเลยว่า ในวินาทีที่กระฉูดน้ำออกมา ในหัวเขามีทั้งภาพหีและควยปนเปกันอย่างแยกไม่ออก

ความคิดของเวหาหมกมุ่นกับการเสพสมทางเพศระหว่างชายหญิงที่ได้เห็นมาอย่างใกล้ชิด จนแม้กระทั่งตอนที่จ่าขับรถพาไปส่งที่หอพักในมหาลัย เด็กหนุ่มก็ยังพยายามชวนคุยเรื่องนี้

“เขาว่าตำรวจเจ้าชู้ใช่เปล่า จ่าหุ่นดีแบบนี้ ยิ่งใส่เครื่องแบบ ท่าทางจะกิ๊กเยอะ ตอนจ่าจะเอากับกิ๊กสวยๆ ให้ผมไปดูด้วยแบบวันนี้ได้เปล่า”

จ่าสะดุ้งโหยง

“เวรแล้วไอเด็กเปรต ข้ามีกิ๊กที่ไหน อย่าพูดมั่วๆ ให้เมียข้าได้ยินเชียวนะ งดทำการบ้านเป็นเดือนแน่”

“ฮ่าๆ แต่จ่ากับเจ๊ณีนี่สุดยอดจริงๆ นะ คบกันตั้งแต่ยังเรียน จนถึงวันนี้ก็ยังดูร้อนแรงอยู่เลย”

“เรื่องแบบนี้ต้องช่วยกันว่ะ อย่างข้าก็ต้องดูแลหุ่น ไม่ปล่อยตัวให้ลงพุง เมียข้าก็เหมือนกัน ทำตัวให้สวยกระชุ่มกระชวยตลอด ปีที่แล้วก็ไปเสริมอึ๋มใหญ่เบ้อเริ่มมาให้เป็นของขวัญวันเกิดข้า ปีนี้ข้าเลยไปฝังมุกให้เม็ดนึงตอนวันเกิดเมียที่ผ่านมา ปีหน้าว่าจะเพิ่มอีกเม็ดดูท่าทางติดใจ เมียข้าลงทุนกับพวกความสวยความงามมาก สมัครคอร์สทีเป็นแสน”

“โห ทุ่มทุนมาก ผมว่าจะถามอยู่ บ้านจ่าก็ใหญ่ รถคันนี้ก็ราคาหลายตังค์ ถามจริง จ่าแอบเปิดบ่อนหรือค้ายาเปล่า”

“อ้าว ทำไมมากล่าวหาข้าอย่างนี้ล่ะ สมบัติพวกนี้ ข้าหามาเองที่ไหน ฝีมือเมียทั้งนั้น เจ๊ณีเขาหาเงินเก่ง คิดทำโน่นทำนี่เต็มไปหมด ยิ่งตอนหลังเขาไปเซ้งที่มาทำตลาดคนเดิน ไทยจีนฝรั่งมาเที่ยวกันตรึมเลย เก็บค่าเช่าไม่หวาดไม่ไหว”

“มิน่าล่ะ แล้วทำไมจ่าไม่ลาออกไปช่วยเมียทำล่ะ น่าจะได้เป็นกอบเป็นกำกว่าเป็นตำรวจแบบนี้”

“ข้าก็ว่าอยู่ แต่เมียไม่ยอม ที่เมียข้าคลั่งกว่าเด็กมหาลัยก็คนในเครื่องแบบนี่แหละ เลยต้องทำอาชีพนี้เป็นขวัญกำลังใจเมียต่อไป อีกอย่างก็อยากจะอยู่ขวางคลองไม่ให้พวกตำรวจกังฉินมันได้ใจเกิน ถึงข้าไม่ตามน้ำทุจริตไปกับพวกมัน แต่นายก็รักนะเว้ย ก็ข้าเอาเงินเมียซื้อของกำนัลให้ตลอด พวกมันอึดอัดก็ไปที่ทำอะไรข้าไม่ได้”

“สุดยอด ถ้ามีตำรวจเท่ๆ อย่างจ่าเยอะๆ ก็ดีสิ”

“เออ ประชาชนอย่างเอ็งก็ต้องแยกแยะด้วย ไม่ใช่เห็นเป็นตำรวจก็ด่ากราดไปหมด ตำรวจดีๆ เขาน้อยใจนะ ไว้ข้าจะพาเอ็งไปสังสรรค์กับกลุ่มตำรวจดีๆ บ้างแล้วกัน จะได้รู้จักกันไว้”

เวหาไม่รู้ว่าทำไม แต่พอได้ยินว่าจะได้ไปกินร่วมวงเหล้ากับตำรวจกลุ่มใหญ่ เขาก็ตื่นเต้นแบบแปลกๆ ขึ้นมา

หลังจากกลับกรุงเทพไปครั้งนั้น เวหาก็กลับมาพร้อมกับคอมพิวเตอร์โน๊ตบุคเครื่องนึง เขามอบให้ไว้กับทีมเอฟเวนเจอร์สเพื่อคอยตรวจสอบข้อมูลในนั้นอยู่เป็นระยะๆ ทีมเด็กติดเอฟแบ่งกันคอยดูแลแทบจะตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง แต่ก็ยังไม่พบอะไรที่เป็นประโยชน์นักจนล่วงมาสัปดาห์ที่สอง

“เหย้ยดดด พวกมึงดูนี่”

หนุ่มแว่นตาลุกวาวเมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นผ่านจอคอมพิวเตอร์ ทีมเอฟเวนเจอร์สที่ลุกฮือมามุงดูถึงกับช๊อคไปตามๆ กัน

“เป็นไปได้ยังไง กูไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง นี่มันข่าวใหญ่โคตรๆ”

“คนๆ นี้นี่นะ มาทำอย่างอย่างนี้ให้พี่แสน สาด กูดูยังไงก็ผู้ชายแท้ๆ ทั้งคู่”

“เขาเป็นแฟนกันนี่เอง มิน่า พี่แสนถึงได้ยิ่งใหญ่ปานนี้”

“แฟนบ้าอะไร ไอ้พี่แสนมันกระชากหัวขึ้นลงแบบนั้น สำลักควยน้ำหูน้ำตาไหลหมดแล้วมั๊ง ถ้าเป็นแฟนมึง มึงจะจิกหัวให้เค้าอมควยมึงแบบนั้นเหรอวะ”

“เอ่อ ถ้าเป็นควยพวกเรา คงไม่มีใครสำลักหรอก”

“นั่นมันก็จริง เฮ้อ”

กลุ่มดิเอฟเวนเจอร์สถอนหายใจพร้อมกันอย่างรันทด

“เฮ้ย มันใช่ประเด็นที่ไหน นี่เราค้นพบเรื่องใหญ่มากๆ รีบบอกเวหาเร็ว”

เมื่อเวหามาถึงเขารู้เลยว่านี่เป็นความคืบหน้าครั้งใหญ่ อาจจะเป็นเพียงโอกาสเดียวด้วยซ้ำ หลังจากนี้ไปจะเป็นหัวเลี้ยวหัวต่อว่าจะพลิกเกมได้ไหม เวหาไม่ได้บอกเพื่อนว่าเวลาของเขาเหลืออีกไม่มากแล้วก่อนที่จะถูกส่งไปขายตัว

ที่แท้ภายในรถของเวหาที่แสนใช้ได้ถูกแอบติดตั้งกล้องที่บันทึกภาพและเสียงไว้ภายในพร้อมทั้งตำแหน่งจีพีเอสของรถ ข้อมูลทั้งหมดจะถูกส่งผ่านสัญญานสี่จีมาที่คอมพิวเตอร์เครื่องนั้น นี่เป็นสาเหตุที่ทำให้เวหาต้องทำทุกวิถีทางแม้กระทั่งอมควยตัวเองเพื่อให้ได้รถคืนไปในช่วงวันหยุดยาว จริงๆ รถของเวหาไม่ได้ถูกขับกลับกรุงเทพ แต่ไปจอดอยู่ที่อู่ของหนุ่มตี๋อวบเพื่อติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ ให้แนบเนียนที่สุด ความยุ่งยากของมันทำให้เกือบเสร็จไม่ทัน เวหาถึงได้เอารถไปคืนแสนช้าจนถูกแกล้ง แต่ผลที่ได้ครั้งนี้มันคุ้มค่าความยากลำบากจริงๆ

เวหาไม่มีเวลาที่จะเสียอีกแล้ว เขาเดิมพันความได้เปรียบเดียวที่มีด้วยการโทรติดต่อไปยังคนที่แสนมีความสัมพันธ์ด้วยในรถคนนั้น

“พี่ยังไม่ต้องรู้หรอกว่าผมเป็นใคร แค่ผมรู้ความสัมพันธ์ของพี่กับพี่แสน มันก็น่าจะเพียงพอให้เรามาเจอกันแล้วนะ”

ปลายสายตอบตกลงแต่ขอเป็นคนกำหนดสถานที่ เวหาพยายามทำตัวเข้มแข็งเฉียบขาดทั้งๆ ในใจยังกังวลที่ต้องไปข่มขู่รุ่นพี่ที่เขาเคารพ

เวหาไปตามนัด เขาไปคนเดียวเพราะถ้าการต่อรองไม่สำเร็จ คนอื่นจะได้ไม่เข้ามาพัวพันด้วย เมื่อไปถึงจุดนัดพบ อีกฝ่ายก็มารออยู่แล้วเพียงคนเดียวเช่นกัน

“สวัสดีครับ ผมเป็นคนที่โทรไปนัดพี่เอง”

สายตาคมกล้ามองกลับมาที่เขา

“เฮอะ นึกว่าใคร ที่แท้เดือนมหาลัยปีนี้ ปีหนึ่งวิศวะ คุณกล้ามากที่คิดต่อรองกับผม”

“ครับ พี่คงเข้าใจว่าผมจำเป็นจริงๆ พี่ปราบ”

ที่แท้คนที่ทีมเวหาช่วยกันสืบจนเจอว่าเป็นคนสนับสนุนแสนอย่างลับๆ แถมยังมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกันด้วยคือปราบนักศึกษาปีสี่ดีเด่นของคณะเกษตรผู้ดำรงตำแหน่งประธานสภานักศึกษา ไม่น่าเชื่อว่าชายหนุ่มสูงใหญ่กำยำผิวเข้มคร้ามแดดผู้ที่ทีมดิเอฟเวนเจอร์เคยหมายมั่นปั้นมือจะให้มาต่อกรกับแสน แท้จริงแล้วคือกำลังหลักของฝ่ายนั้นเสียเอง ไม่น่าแปลกใจที่อำนาจของแสนในมหาลัยแห่งนี้ถึงมั่นคงเสียเหลือเกิน

“ต้องการอะไร”

น้ำเสียงของปราบยังคงมั่นคงแฝงไว้ด้วยอำนาจแม้จะถูกเวหาหยิบเอาความลับมาข่มขู่อยู่ในที

“ผมอยากได้ความช่วยเหลือจากพี่ พี่คงเห็นว่าพี่แสนทำเรื่องเลวร้ายกับคนในมหาลัยแค่ไหน ผมอยากให้พี่มาร่วมมือกันโค่นพี่แสนลง”

“ถ้าผมเห็นด้วยกับสิ่งที่คุณว่าจริง ผมจะร่วมมือกับเขามาโดยตลอดแบบนี้เหรอ คิดใหม่ ปีหนึ่งวิศวะ”

“เอ่อ เรียกผมว่าเวหาเถอะครับ ผมคิดว่าพี่อาจถูกบังคับข่มขู่มา ถ้าเราร่วมมือกัน เราน่าที่จะ…”

“ไม่มีใครบังคับผมได้ถ้าผมไม่อยากทำ”

ชิบหายแล้ว เวหาคิดในใจ ที่โม๊คควยให้แสนนั่นก็เต็มใจด้วยสิ หรือว่าเขาจะเป็นแฟนกันจริงๆ กำลังใจของเด็กหนุ่มหดหายไปกว่าครึ่ง แต่ซ่อนไว้ภายใต้สีหน้าเรียบเฉยเหมือนยังควบคุมสถานการณ์ไว้ได้

“ถ้าเป็นอย่างนั้น พี่ก็ยิ่งควรจะช่วยผม”

“คุณคิดว่าตัวเองจะงัดข้อกับแสนได้แค่ไหนกัน ปีหนึ่งวิศวะ”

“ผมมีพรรคพวกลับๆ อยู่มากในมหาลัย มีกระทั่งตำรวจที่โรงพัก ยิ่งถ้าผมลุกขึ้นมาต่อต้านเขาอย่างเปิดเผย มันต้องมีคนที่เดือดร้อนเพราะเขาเข้ามาร่วมอีกมาก”

เวหาหวังว่าทีมดิเอฟเวนเจอร์สกับพี่จ่าจะพอกล้อมแกล้มเป็นขุมกำลังของเขาขึ้นมาได้ถ้าปราบซักเข้าจริงๆ แต่อีกฝ่ายเพียงแค่เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยไม่ได้สนใจประเด็นนั้น

“คุณกล้าเปิดเผยตัวเองว่าเป็นศัตรูกับเขา?”

“แน่นอนครับ แต่ตอนนี้ผมยังทำอย่างนั้นไม่ได้ เขามีสิ่งที่จะเอาผมเข้าคุกอยู่”

สายตาคมกล้าของปราบจ้องเขม็งมาที่เวหาอยู่อึดใจหนึ่งเหมือนจะเอ็กซเรย์ให้ลึกถึงก้นบึ้ง

“เห็นแก่ความกล้าของคุณ ผมจะให้สิ่งที่คุณต้องการที่สุดในเวลานี้ ถือว่าแลกกับคลิปในรถอันนั้น หลังจากนี้เราไม่มีอะไรติดค้างกัน แสนจะไม่รู้เรื่องนี้ ผมจะคอยดูว่าคุณจะดิ้นรนต่อไปได้แค่ไหน ปีหนึ่งวิศวะ”

ปราบพูดทิ้งท้ายแล้วก็เดินจากไปอย่างเยือกเย็น เวหาไม่รู้สึกว่าตัวเองได้เปรียบเลยสักนิด ความสัมพันธ์ของแสนกับปราบคืออะไรมั่นคงแค่ไหนก็ไม่รู้ ตอนนี้เขาเผยไต๋ตัวเองออกไปมากมาย แต่ก็ไม่ได้ความร่วมมือของปราบกลับมา มีเพียงสิ่งที่จะเอามาแลกกับคลิปในรถซึ่งเวหาก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร

หนึ่งอาทิตย์ก่อนวันงานปาร์ตี้ของป้าหน้าตึงคอเหี่ยว แสนก็เรียกเวหาไปพบตามลำพังในห้องทำงานที่สโมฯ

“หน้าหมองๆ นะมึง บำรุงหน่อยสิ วันเสาร์มึงมีงานใหญ่นะเว้ย ถ้ามึงเปิดตัวได้ดี อีพวกป้านั่นก็จะตามมาใช้บริการมึงที่ผับต่อ ถ้ามึงทำยอดให้กูได้เยอะ มึงก็จะได้อยู่อย่างสบายหน่อย”

“ผมถามจริงๆ ผมไปทำอะไรให้พี่แค้นนักหนาถึงได้ทำกับผมขนาดนี้”

“เหอะ ทีแรกก็แค่หมั่นไส้ แต่พอมึงพยายามเล่นงานกูด้วยการไปแจ้งความ กูก็ต้องเหยียบมึงไว้ใต้ตีนแบบนี้ ไอบัตรสนเท่ห์นั่นก็ฝีมือมึงล่ะสิ เสียใจด้วยนะที่ทำอะไรกูไม่ได้ แต่ไม่ต้องกลัวว่ากูจะเจ้าคิดเจ้าแค้นนะ หลังจากนี้ไปเป็นเรื่องธุรกิจ มึงทำตัวเป็นสินค้าชั้นดีให้กู มึงก็จะไม่ลำบากมาก นี่กูเห็นว่าเป็นน้องวิศวะกูก็จะดูแลหน่อย ถ้าเป็นเด็กคณะอื่นนะ กูไม่สนใจหรอก มึงเห็นคลิปหลุดไอ้ก้องภพเดือนพละหรือยัง จะพูดไปก็เป็นฝีมือกูเองแหล่ะ”

แสนยกเคสคลิปหลุดที่ว่อนไปทั้งมหาลัยของเดือนพละปีสามขึ้นมาเจตนาต้องการข่มขู่อีกฝ่าย เขารู้ว่าคลิปที่ปรากฎภาพก้องภพในสภาพเนื้อตัวล่อนจ้อนไม่ได้สติถูกผู้ชายสองสามคนง้างปากแล้วเอาควยที่แข็งโด่ยัดลงไปคงข่มขวัญเวหาได้ไม่น้อย

“ตกลงที่เรียกมานี่พี่มีอะไรกับผม”

แสนผิดคาดเล็กน้อยที่เวหาดูไม่กลัวเขาอย่างเคย

“เหี้ยนี่ กูจะชวนคุยซักหน่อย รีบไปไหนวะ เอ้า มึงเอาของในกล่องนี้ไป ไปฝึกใช้ให้คล่อง วันงานจะได้ไม่ลำบากมาก นี่เป็นน้ำใจจากกูเลยนะ”

เวหาปรายตามองของในกล่องอย่างไม่ได้ใส่ใจเท่าไหร่

“อะไรล่ะพี่ ผมใช้ไม่เป็น พี่เอาไว้ใช้เองเถอะ”

“กูไม่ใช้ของแบบนี้ ไอ้เหี้ย มึงแหกตาดู นี่ก็ที่สวนล้างตูดไง มึงต้องทำความสะอาดให้ดี เอาให้หอมยันไส้ ไม่ใช่โดนเล่นข้างหลังนิดหน่อยก็ขี้แตกกลางงานเลี้ยง แขกจะอ้วกแตกอ้วกแตนตายห่า”

แสนหยิบของในกล่องขี้นมาแจกแจงทีละชิ้น

“แล้วนี่ก็ควยปลอม มึงเอาไปฝึกขยายรูซะ ที่จริงกูน่าจะให้มึงไปตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้ว แต่ไม่เป็นไร มีเวลาอีกหลายวัน น่าจะทัน มึงใช้คู่กับเจลอันนี้ เอาไซส์กลางไปก่อนแล้วกัน พอไปอยู่ที่ผับมึงต้องรับแขกต่างชาติด้วย มันจะใหญ่กว่านี้อีก ก็พวกเดียวกับมึงนั่นแหละ เอาไปฝึกทุกวัน อย่าขี้เกียจนะมึง ถ้าไปโดนเบิกทวารกลางงาน เจ็บสุดๆ แน่”

“พี่ดูเชี่ยวจัง ใช้บ่อยเหรอ” เวหาพูดไปพร้อมทำสีหน้าท้าทาย

“ไม่เคยเว้ย กวนตีนกูชิบหาย เพื่อนเล่นเหรอ กูเจ้านายมึงนะเว้ย เอ้านี่ อันสุดท้ายแล้ว แท่งสวนควย มีสามขนาด เล็กกลางใหญ่ มึงไปฝึกสอดรูเยี่ยวดีๆ ในงานโดนกันทุกปี เวลาใช้มึงเอาแอลกอฮอล์เช็ดฆ่าเชื้อก่อน ใส่เจลหล่อลื่นช่วยก็ได้”

“ประหลาดว่ะ พี่ทำให้ดูก่อนสิ”

เมื่อถูกกวนประสาทจนถึงที่สุด แสนก็หมดความอดทน “ไอ้เหี้ยนี่ กูพยายามจะช่วยมึงไม่ให้ต้องเจ็บตัวมาก กลับมากวนตีนกูแบบนี้ ใจดีด้วยไม่ชอบ งั้นกูให้มึงไปรับแขกเลยแล้วกัน ว่าจะถนอมจนถึงวันเปิดตัว ไม่ต้องแล้ว”

“ยุ่งยากจัง งั้นวันงานผมไม่ไปแล้ว ผับของพี่ก็ด้วย”

“สัด กล้าหือกูเหรอ มึงอยากไปโดนเอาตูดในคุกซักห้าหกเดือนก่อนใช่ไหม”

“ใครต้องติดคุกเหรอ ไม่มีนี่ อ้อ ยกเว้นถ้าเรื่องที่พี่ทำเลวๆ ไว้มันแดงขึ้นมา พี่เข้าไปตูดบานในคุกได้เลย”

“กูจะโทรหาสารวัตรให้มาลากมึงเข้าคุกเดี๋ยวนี้”

“ด้วยหลักฐานอะไรเหรอ พี่ดูคลิปนี้ก่อนดีไหม”

เวหาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดคลิปตอนที่เขามีอะไรกับเด็กนักเรียนหญิงคนนั้นให้แสนดู แต่คราวนี้เป็นคลิปตัวเต็มที่เห็นภาพและเสียงตั้งแต่ตอนที่เวหาถูกมัดและโดนข่มขู่บังคับอย่างชัดเจน เหตุการณ์ตอนที่รุ่นน้องคนอื่นถูกทำร้าย ก็ถูกบันทึกไว้ด้วย

“ไอเหี้ย มึงได้มาได้ยังไง”

แสนสีหน้าตกใจอย่างเห็นได้ชัด

“พี่ไม่จำเป็นต้องรู้หรอก เพราะสิ่งที่พี่ต้องกังวล คือถ้าคลิปนี้เผยแพร่ออกไป นอกจากผมจะหลุดจากข้อกล่าวแล้ว พี่นั่นแหละจะต้องอธิบายกับทุกคน ว่าทำไมถึงจัดการรับน้องแบบนี้ขึ้นมา ถึงในคลิปจะไม่มีหน้าพี่ชัดๆ แต่พยานหลายร้อยคนในห้องนั้น ทุกคนจะโกหกตามที่พี่สั่งได้เหมือนกันหมดเหรอ ไม่นับว่าพี่เป็นถึงประธานรุ่นปีสี่ จะบอกว่าไม่รู้ไม่เห็นกับการรับน้องครั้งนั้นคงไม่ได้”

แสนโถมตัวไปคว้าโทรศัพท์ราคาแพงในมือของเวหามาทุบเอากับกำแพงอย่างโกรธแค้นจนหน้าจอแตกยับ

“ไม่มีประโยชน์หรอกพี่ ไฟล์ดีๆ ขนาดนี้ผมจะไม่สำรองเอาไว้เลยหรือ ตอนนี้พี่ติดหนี้ผมเพิ่มเรื่องโทรศัพท์ด้วยนะ”

“กูจะฆ่ามึง”

“ว้า พี่แสนที่สุขุมเยือกเย็นคนนั้นหายไปไหนแล้วนี่” เวหาพูดด้วยเสียงล้อเลียน แสนที่อาละวาดจนหัวหูยุ่งตาแดงก่ำ พยายามระงับสติอารมณ์ตัวเอง

“กูยังมีคลิปทุเรศๆ ของมึงอีกเยอะ ถ้าทุกคนเห็นมึงตอนดูดควยตัวเอง มึงจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน”

“อย่างมากก็แค่อาย ผมโดนพี่กระทำมาเยอะจนต่อมอายมันฟ่อไปหมดแล้วมั๊ง แล้วถ้าพี่ทำอย่างนั้นจริง ผมก็ไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้ว คงต้องเอาคลิปรับน้องมาเปิดเผยให้เกิดการสอบสวนว่าใครเป็นคนบังคับผมอย่างนั้น ตีข่าวให้ดังระดับประเทศเลย ดูสิว่าอาจารย์ในมหาลัยจะยังปกป้องพี่อีกหรือเปล่า” เวหาสวนทันควัน

“มึงจะเอายังไงสัด”

คลิปที่ได้มาจากปราบทำให้ตอนนี้เวหามีสองทางเลือก ทางแรกคือหลุดจากอำนาจของแสนไปเงียบๆ แล้วไม่ลาออกไปเรียนที่ใหม่ก็รอให้อีกฝ่ายเรียนจบออกไป ทางที่สองคือตั้งตัวเป็นศัตรูกับแสนอย่างซึ่งหน้าเพื่อล้างแค้นและปลดแอกมหาลัยแห่งนี้เสียที

“อย่ามายุ่งกับผมอีก แล้วคลิปนั้นจะไม่ถูกเปิดเผย”

“ได้ งั้นมึงก็ลาออกจากมหาลัยไปซะอย่างที่ตั้งใจไว้ตั้งแต่แรก กูจะไม่ขัดขวาง”

“หึ นั่นมันก่อนที่พี่จะทำกับผมถึงขนาดนี้ ไม่ล่ะ ผมจะอยู่ที่นี่ ไม่อยากพลาดโอกาสเห็นคนเลวๆ บางคนถูกกรรมตามสนอง”

“ไอ้เวหา มึง..”

“ผมจะเป็นตัวอย่างให้ทุกคนได้เห็นเองว่าพี่ไม่ได้มีอำนาจมากมายอย่างที่กลัวกัน แค่เด็กปีหนึ่งคนเดียวก็ยังจัดการไม่ได้ อ้อ ผมขอรถผมคืนด้วย บอกตรงๆ ให้คนอย่างพี่ใช้แล้วมันเสียดายรถ”

กล้องที่แอบติดตั้งไว้ในรถไม่ได้ส่งข้อมูลกลับมาอีกเลยตั้งแต่วันที่ปราบรู้เรื่องนี้ กล้องนั้นคงถูกปราบถอดออกไปเงียบๆ โดยแสนไม่รู้เรื่อง เวหาจึงไม่เห็นประโยชน์อะไรที่จะเอารถไปให้อีกฝ่ายใช้ตามสบายเหมือนเคย แสนมองหน้าเวหาอย่างเคียดแค้น แต่สุดท้ายก็หยิบกุญแจรถยื่นให้แล้วสะบัดหน้าเดินออกจากห้องทำงานตัวเองไปโดยไม่พูดอะไร เป็นครั้งแรกที่เวหาได้มีโอกาสลิ้มรสความรู้สึกของผู้ชนะบ้าง เขามองดูกล่องอุปกรณ์พิสดารที่แสนลืมทิ้งไว้แล้วก็หยิบติดมือไปอย่างครึ้มใจ

ถึงคลิปที่ได้มาจากปราบจะเป็นประโยชน์กับเวหามหาศาล แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าประธานสภาหน้าดุจะหันมาเข้าพวกกับเขา ไปๆ มาๆ มันก็แค่การยื่นหมูยื่นแมว หลังจากส่งคลิปแลกเปลี่ยนแล้วปราบก็ไม่ยอมรับการติดต่อใดๆ จากเขาอีกเลย เวหาผิดหวังอย่างมากเพราะนั่นหมายความว่าปราบยังคงเป็นกำลังสำคัญให้กับแสน

ทีมเอฟเวนเจอร์สต้องทำงานหนักในการสืบเรื่องของปราบเพิ่มเติม จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่พบว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่คืออะไร การที่แสนและปราบทำทีไม่กินเส้นกันโดยตลอดทำให้ไม่มีใครเชื่อมโยงสองคนนี้เข้าด้วยกันมาก่อน พอสืบลึกลงไปก็ยิ่งได้ข้อมูลที่น่าตกใจว่าปราบอาจจะร่วมมือกับแสนมาตั้งแต่สองปีก่อนแล้ว

ไม่มีใครไม่รู้ถึงวีรกรรมสร้างชื่อที่ทำให้แสนได้เครดิตและความไว้วางใจจากผู้หลักผู้ใหญ่ในมหาลัย เมื่อตอนที่แสนยังเป็นประธานรุ่นปีสอง ยังมีการยกพวกตีกันอยู่เป็นประจำระหว่างคณะวิศวะกับกลุ่มพันธมิตรที่ประกอบไปด้วยคณะเกษตร คณะประมง และคณะพละ แสนสามารถทำให้คณะเกษตรถอนตัวออกจากกลุ่มพันธมิตร เหลือเพียงประมงและพละที่พ่ายแพ้ต่อวิศวะหลังจากนั้นไม่นาน มหาลัยที่มีเหตุตีกันเป็นประจำจึงสงบลงได้ในที่สุด

จากพยานหลักฐานที่ไปสืบมาทำให้รู้ว่าสาเหตุที่เกษตรต้องถอนตัวออกมาเมื่อสองปีก่อนเพราะเกิดความขัดแย้งภายในหลังช่วงรับน้อง ปีสามในเวลานั้นถูกตัดรุ่นโดยนักศึกษาเกษตรชั้นปีที่เหลือทั้งหมด สาเหตุเพราะมีการแอบถ่ายคลิปการรับน้องปีหนึ่งซึ่งถือเป็นความลับสูงสุดออกไปไปเผยแพร่ข้างนอกจนคณะเสื่อมเสียเป็นอย่างมาก คณะเกษตรเป็นหนึ่งในไม่กี่คณะที่มีการวัดควยตัดเกรดรุ่นน้องผู้ชายปีหนึ่งทุกคนและเป็นประเพณีที่ทำต่อเนื่องมาอย่างเหนียวแน่น ไม่เหมือนของวิศวะที่เลิกไปเมื่อเกือบสิบปีก่อน

รุ่นน้องจะต้องแก้ผ้าหมดแล้วเข้าไปหารุ่นพี่ในห้องทีละคน เมื่อปั่นควยจนแข็งก็จะมีการวัดขนาดจดบันทึกไว้ หลังจากนั้นรุ่นพี่จะขอทำเครื่องหมายคณะโดยโดยการเอามีดกรีดควยน้องให้เป็นรอยแผลเป็น ทีมสต๊าฟจะเตรียมการโดยเอาแอลกอฮอล์มาเช็ดทำความสะอาดควยเพื่อฆ่าเชื้อ รุ่นพี่อีกคนจะเอามีดคมกริบมาโชว์ให้น้อยดู เด็กปีหนึ่งที่กำลังขวัญหนีดีฟ่อก็จะถูกสั่งให้เอาควยวางบนเขียงไม้ขนาดใหญ่แล้วถูกปิดตาด้วยผ้าดำ มาถึงขั้นตอนนี้กว่าครึ่งก็จะควยหดด้วยความกลัว หลังจากนั้นทีมรุ่นพี่แบ่งหน้าที่กัน โดยคนแรกสับมีดดังฉึกลงบนเขียงไม้ พร้อมกับดีดหนังยางไปที่ควยน้องโดยฝีมือรุ่นพี่อีกคน รุ่นพี่คนสุดท้ายจะราดยาแดงไปที่ควยน้องจนชุ่ม ร้อยละร้อยถ้าควยยังแข็งอยู่ก็จะมาหดในขั้นตอนนี้ รุ่นน้องที่ถูกเปิดตาออกมาเห็นภาพที่น่าสยดสยองของควยตัวเองถึงกับช๊อคร้องลั่นจะเป็นจะตาย กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็ตอนที่รุ่นพี่เฉลยไปหัวเราะกันขำกลิ้ง

หลังจากการรับน้องเสร็จลงได้ไม่นานปรากฎว่ามีคลิปตอนถูกตัดเกรดและโดนแกล้งตัดควยของเด็กปีหนึ่งที่หน้าตาดีหลายคนหลุดออกไปเผยแพร่อยู่ในอินเตอร์เน็ต ความชัดเจนของภาพและเสียงรวมถึงการใช้กล้องหลายตัวจับภาพมุมต่างๆ ทำให้รู้ว่ามีการเตรียมการล่วงหน้ามาเป็นอย่างดี ปีสามที่เป็นคนเตรียมสถานที่และเป็นสต๊าฟดูแลกิจกรรมจึงตกเป็นผู้ต้องสงสัยอย่างเลี่ยงไม่ได้ ชื่อเสียงคณะป่นปี้ไปหมดจากการรับน้องที่แสนพิเรนทร์อันนี้ ทั้งชั้นปีพยายามสืบหาตัวการจากคนในรุ่นแต่ก็ไม่สามารถหาคนผิดมาลงโทษได้ ปีสามทั้งหมดจึงถูกตัดรุ่นไปในที่สุด

หลังจากนั้นไม่นาน ก็เกิดเรื่องแปลกๆ ขึ้นกับปีสี่ รุ่นพี่ที่เป็นแกนนำหลายคน ตั้งแต่ประธานรุ่น รองประธาน นายกสโมฯ ค่อยๆ เกิดปัญหาทีละคน ทั้งเกิดเหตุเสื่อมเสีย ถูกข่มขู่แบล็คเมล์ ไปจนการงานของพ่อแม่มีปัญหา ในที่สุดก็ต้องถอนตัวลดบทบาทตัวเองลงหรือบางคนก็ถึงกับลาออกจากมหาลัยไป

หลายๆ คนเริ่มรู้สึกว่าอาจมีหนอนบ่อนไส้ข้างในคณะแต่ไม่สามารถหาตัว ไม่มีใครกล้าตัดสินใจอะไร รุ่นพี่ปีสี่ระดับแกนนำก็แทบไม่เหลืออยู่ ปีสามทั้งหมดถูกตัดรุ่นแถมยังไม่ได้รับความไว้วางใจจากชั้นปีที่เหลือ ปราบในฐานะประธานรุ่นปีสองจึงก้าวขึ้นมาแก้ไขสถานกาณ์ ด้วยความเก่งกาจและบุคลิกผู้นำที่โดดเด่น ปราบจึงสามารถโน้มน้าวให้คนในคณะยอมรับว่าในสภาพแบบนี้ เกษตรไม่สามารถตั้งตัวเป็นศัตรูกับวิศวะได้อีกต่อไป แสนที่เป็นตัวแทนทางฝั่งวิศวะเข้ามายื่นข้อเสนอได้ในจังหวะที่พอดิบพอดี เกษตรยอมรับเงื่อนไขโดยไม่มีข้อโต้แย้ง ขั้วอำนาจของกลุ่มพันธมิตรระหว่างเกษตรประมงและพละจึงจบลง เปิดโอกาสให้แสนผลักดันจนวิศวะเข้ามาครองอำนาจในมหาลัยได้สำเร็จ

“แสดงว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสองปีก่อน ก็เป็นแผนการของพี่แสนกับพี่ปราบทั้งหมด เย็ดเข้ อะไรจะลึกลับซับซ้อนขนาดนี้ฟะ ทำเป็นไม่รู้จักกันจนมาถึงตอนนี้ ถ้าไม่ติดกล้องในรถไว้ คงไม่มีใครปะติดปะต่อเรื่องได้แบบนี้”

ทีมเอฟเวนเจอร์สเอาข้อมูลที่สืบมาอย่างยากลำบากมานั่งวิเคราะห์กันกับเวหา

“นั่นสิ ถ้าดูแต่ประวัติก็ไม่เห็นสองคนนี้จะเกี่ยวข้องกันตรงไหน พี่ปราบไม่ใช่คนจังหวัดนี้ เรียนโรงเรียนที่จังหวัดตัวเองมาโดยตลอด ไม่มีโอกาสเป็นเพื่อนเก่าของพี่แสนอย่างแน่นอน พอเข้ามหาลัยก็อยู่คณะที่ไม่ถูกกัน หอตอนปีหนึ่งก็คนละตึก โอกาสจะมาคบค้าสมาคมกันก็ไม่มี สมัยนั้นการยกพวกตีระหว่างคณะยังรุนแรงอยู่”

“หรือว่าทั้งคู่เป็นคนรักกันจริงๆ แบบว่าคู่เกย์อะไรงี้ จริงๆ ก็น่าจะเดาได้ตั้งแต่เห็นคลิปโม๊กควยกันในรถแล้วเปล่าวะ”

“ยังไงกูก็เชื่อไม่ลงว่ะ ตัวควายๆ แมนๆ กันขนาดนี้”

ยิ่งฟังเวหาก็ยิ่งหมดหวัง ในเมื่อพวกเขาร่วมหัวจมท้ายกันมาตั้งแต่ต้น โอกาสที่ประธานสภาหน้าดุจะทิ้งแสนมาเข้าพวกกับตัวเองก็ยิ่งริบหรี่

“งั้นก็ลองเบนเป้าหมายมาที่พี่ปราบแล้วกัน เห็นอยู่ว่าพี่ปราบเอาคลิปตอนพวกเราโดนตัดเกรดมาได้โดยพี่แสนไม่รู้ แล้วเราเคยหาข้อมูลหลักฐานความชั่วจากทางพี่แสนเองแต่ไม่สำเร็จ ท่าทางพี่ปราบนั่นแหละจะเป็นคนเก็บเอาไว้ทั้งหมด”

เวหาออกความเห็น ท่าทางเขาคงหวังพึ่งคนผิด พี่ปราบเองก็ชั่วไม่ต่างจากพี่แสนเลย นี่ทำถึงขั้นทรยศคณะตัวเองเพื่อสร้างสถานการณ์ให้พี่แสนขึ้นมาปกครองมหาลัย คนเดือดร้อนมากมายก็ไม่สนใจ

หลังจากเหตุการณ์ที่เวหาเป็นฝ่ายชนะวันนั้นแสนก็ไม่ได้มาวุ่นวายอะไรอีก รวมถึงพฤติกรรมวางอำนาจในคณะก็ลดลงไป แต่เด็กหนุ่มก็รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังยุ่งอยู่กับผับที่มีกำหนดเปิดเร็วๆ นี้มากกว่าจะสำนึกผิดหรือทำตามข้อตกลงอะไร

เป็นครั้งแรกที่เวหารู้สึกว่าชีวิตในมหาลัยเริ่มมีความสุขอย่างที่ควรจะเป็น เขามีเพื่อนสนิทอย่างทีมเอฟเวนเจอร์ เพื่อนกลุ่มอื่นๆ ในคณะก็เริ่มจะสนิทสนมกันมากขึ้น ข่าวการวิ่งแก้ผ้าก็เริ่มซาลง ไม่ต้องคอยระแวงว่าจะถูกแสนกลั่นแกล้งให้อับอายขายหน้าขึ้นมาอีก

กันต์ก็เป็นรูมเมทที่ดี เวหาพยายามช่วยดูแลกันต์ตามที่แทนข้อร้อง แต่บางครั้งเขาก็ตามความเอ๋อของกันต์ไม่ทันจริงๆ ตั้งแต่ตอนที่ต้องแก้ผ้าด้วยกันเพื่อฝึกซ้อมให้เวหาอมควยตัวเอง กันต์ก็ไม่เคยใส่เสื้อผ้าเวลาอยู่ในห้องอีกเลย แถมเมื่อไหร่ที่กันต์นึกจะเล่นควยตัวเองหรือชักว่าวขึ้นมา ก็จะทำต่อหน้าต่อตาเวหาโดยไม่เหนียมอายหรือเกรงอกเกรงใจกันแม้แต่น้อย ไปๆ มาๆ เวหาก็นึกปลงแล้วก็แก้ผ้าเป็นเพื่อนกันต์ไปเลย

“กันต์ นายว่าควยเรามันน่าเกลียดไหม”

“ก็ไม่นะ ปกติ”

“จริงดิ นายว่ามันไม่ใหญ่จนประหลาดเหรอ”

“ก็ใหญ่นะ ใหญ่มาก แต่ไม่ได้ประหลาดนะ ก็เราเคยเจอแบบนี้มาแล้ว”

“เฮ้ย ใหญ่เท่านี้เลยเหรอ นายแน่ใจนะ โอ้ยดีใจ มีแต่คนบอกว่าใหญ่แบบนี้ไม่เคยพบเคยเห็น”

“อื้ม มีใหญ่กว่าของนายตั้งหลายคน”

“ใครเหรอ เพื่อนนายใช่ไหม”

“เพื่อนร่วมงานน่ะ”

“เห งานพิเศษเหรอ มีใครเรียนอยู่ที่นี่เปล่า เราอยากรู้จักจะได้คุยแลกเปลี่ยนความลำบากในชีวิตกัน”

“ไม่ได้ติดต่อกันพักใหญ่แล้ว ก็มีคนที่พอๆ กับของนายเป็นนายแบบรัสเซีย หล่อมากเลย แล้วก็มีนิโกรที่เคยถ่ายหนังด้วยกันที่ฝรั่งเศส คนนี้น่าจะยาวกว่านายอีก ดำขนาดนั้นไม่รู้ทำไมหัวยังแดงได้ ตลกมากเลย คนอินเดียที่เจอในงานปาร์ตี้ของสุลต่านก็ใหญ่นะ ดำปี๋ด้วย ขนก็รุงรัง แต่ถ้านับเอเซียตะวันออกด้วยกันยังนึกไม่ออกเลย อ้อ มีเกาหลีคนนึง อวบกว่าของนายอีก แต่เราว่าทำศัลยกรรมมาชัวร์ มันดูบวมๆ แปลกๆ ไม่ค่อยแข็งด้วย เราอุตส่าห์ใช้ปากให้ตั้งนาน”

“เอ่อ ไม่มีคนไทยเลยเหรอ นายทำงานอะไรกันเนี่ย”

“ก็งานแสดง ถ่ายแบบ แล้วก็เอนเตอร์เทนลูกค้าเทือกๆ นี้ เอาเป็นว่า นายไม่ต้องกังวลหรอก คนใหญ่กว่านายก็ยังมี”

เวหาคิดว่ามันดูจะแปลกๆ สักหน่อยที่คนธรรมดาอย่างกันต์จะได้ไปเจอควยนานาชาติแบบนั้น แถมยังมีสุลต่านมีถ่ายหนังอีก บางทีอาจเป็นแค่จินตนาการในหัวที่ไม่ค่อยปกติอยู่แล้วของกันต์ แต่ดูแล้วเพื่อนคนนี้ก็คิดอย่างที่พูดจริงๆ ว่าควยของเขาไม่ผิดปกติ เวหาจึงสบายใจที่จะแก้ผ้าเปิดควยดุ้นยักษ์เวลาอยู่ที่ห้องโดยไม่อายอีกต่อไป

เวหาสนิทกับกันต์มากขึ้นเรื่อยๆ ในฐานะรูมเมท นอกจากนั้นเขายังมีหน้าที่คอยสอดส่องดูแลกันต์ตามที่เขารับปากแทนนักร้องดังเพื่อนสนิทของกันต์ไว้ เมื่อคืนกันต์ไม่ได้กลับมานอนที่หอ ปกติรูมเมทเขาก็กลับห้องช้าเป็นประจำอยู่แล้ว กว่าเวหาจะสงสัยและโทรตามก็เป็นเวลาเกือบเที่ยงคืนแล้ว พอไม่มีคนรับ เด็กหนุ่มก็คิดว่ากันต์อาจไปนอนค้างกับเพื่อนและคงหลับไปแล้ว จนวันรุ่งขึ้น เวหาตื่นขึ้นตอนเช้ามืดเพื่อไปวิ่งออกกำลังกายตามปกติ พอเปิดประตูออกไปก็พบร่างๆ หนึ่งกลิ้งไปกับพื้นตามแรงกระแทกของประตูอย่างไม่ได้สติ เด็กหนุ่มร้องว้ากออกมาด้วยความตกใจเพราะเป็นคนที่ขี้กลัวกับเรื่องลี้ลับอยู่แล้ว แต่เมื่อเห็นใบหน้าของร่างๆ นั้นในแสงไฟสลัว เวหาทรุดตัวลงไปประคองเพื่อนและตบแก้มเบาๆ

“กันต์ๆ นายได้ยินเราไหม”

กันต์คอพับคออ่อนไม่มีท่าทีว่าจะได้ยินเสียงเรียกของเขา เด็กหนุ่มยังใจชื้นเมื่อเพื่อนร่วมห้องครางขึ้นมาเบาๆ ถึงแม้ว่ายังไม่ได้สติ เขาคล้องไหล่กันต์พยุงเอาตัวเพื่อนกลับเข้าไปในห้องอย่างทุลักทุเล เสื้อคลุมที่กันต์สวมอยู่มันดูสกปรกและมีกลิ่นแปลกจนเวหาต้องถอดออกก่อนจะประคองเพื่อนลงไปนอนบนเตียง รูมเมทของเขาไม่ได้ใส่อะไรเลยภายใต้เสื้อคลุมที่ถอดทิ้งไป เวหาชินกับรูปร่างของกันต์มาพักใหญ่แล้วเพราะอีกฝ่ายจะเปลือยกายตลอดเวลาที่อยู่ในห้อง แต่ครั้งนี้เขาต้องตะลึงด้วยความตกใจ สิ่งที่เขาเห็นไม่ใช่เรือนร่างที่หล่อเนี้ยบสมบูรณ์แบบอย่างที่เคย ผิวขาวๆ ของกันต์เต็มไปด้วยรอยแดงเป็นจ้ำๆ ผสมกับรอยฟกช้ำไปทั่วตัวไม่เว้นแม้บริเวณใบหน้า ข้อมือมีรอยช้ำจนเขียวคล้ำเหมือนถูกมัดอยู่เป็นเวลานาน หัวนมรอยไหม้จางๆ ที่เขาไม่อยากคิดเลยว่ามันอาจเป็นรอยบุหรี่ บริเวณหน้าท้องมีร่องรอยของน้ำตาเทียนเต็มไปหมด ขนหมอยขนรักแร้แหว่งหายไปเป็นกระจุกๆ ไข่สีชมพูสองลูกบวมเป่งเหมือนอัดแน่นไปด้วยน้ำเชื้อ เวหาทราบสาเหตุโดยไม่ต้องสืบเลยเพราะเห็นอยู่ชัดๆ ว่าส่วนหัวควยขาวอวบถูกพันไปด้วยเทปกาวจนไร้ซึ่งทางระบาย

“ใครทำกับนายถึงขนาดนี้”

เวหาพึมพำกับตัวเองอย่างไม่เชื่อสายตา พอมองไปที่ใบหน้าหล่อเหลาที่มีร่องรอยการถูกทำร้ายจนปากเจ่อแล้วสงสารจับใจ เขาถูกกลั่นแกล้งรุนแรงจากแสนก็จริงแต่มันเป็นเรื่องศักดิ์ศรีและความอับอายมากกว่า ไม่เคยโดนทำร้ายร่างกายรุนแรงขนาดนี้

พอเวหาจับตัวเพื่อนร่วมห้องพลิกก็ยิ่งช๊อคขึ้นไปอีก แผ่นหลังของกันต์เต็มไปด้วยรอยถูกเฆี่ยนตี โชคดีที่ไม่รุนแรงขนาดเป็นแผลเหวอะหวะ แต่รอยเลือดซิบๆ ที่เริ่มแห้งก็พอบอกได้ว่าตอนที่โดนจะเจ็บแสบแค่ไหน แต่ที่เวหาแทบจะสติแตกก็ตอนไปเห็นคราบน้ำขาวขุ่นปนเลือดไหลซึมออกมาจากร่องก้นของเพื่อน

เวหาจับแก้มก้นแน่นๆ ของกันต์แหวกออกอย่างตกใจ สภาพอันยับเยินฉีกขาดบวมแดงของกล้ามเนื้อหูรูดบ่งบอกว่าช่องทางด้านหลังของเพื่อนคงผ่านดุ้นควยมาเป็นสิบในคืนที่ผ่านมา พอตูดถูกแหกน้ำเมือกน่าสะอิดสะเอียนที่ถูกกักอยู่ด้านในก็ไหลออกมาไม่ขาดสายส่งกลิ่นคาวคละคลุ้งไปทั่วห้อง

เวหาทำอะไรไม่ถูก เขาคิดจะพากันต์ไปส่งโรงพยาบาลแต่ก็ไม่รู้จะตอบคำถามที่ตามมาได้ยังไง ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจวิดีโอคอลไปหาเพื่อนสนิทที่สุดของกันต์ถึงแม้จะเพิ่งรุ่งสาง

“พี่แทนครับ ขอโทษที แต่ผมไม่รู้จะทำยังไง กันต์แย่แล้ว”

เวหาพูดขึ้นอย่างเกรงใจที่ต้องรบกวนนักร้องดังตั้งแต่รุ่งสาง

“ใครคอลมาแต่เช้าวะ ฮ้าว หืม มึงรูมเมทไอกันต์นี่”

“ผมเอง เวหาครับพี่ กันต์โดนทำร้าย ผมจะพามันไปโรงพยาบาลดีไหม”

“ใจเย็นๆ อาการมันเป็นไงบ้าง เอากล้องไปถ่ายมันหน่อยสิ”

เวหาทำตามที่แทนบอก อีกฝ่ายถึงกับสบถออกมาดังๆ เมื่อเห็นสภาพเพื่อนตัวเอง แต่ก็ยังดูคุ้นชินกับสถานการณ์ไม่ตื่นตระหนกเหมือนเวหา แทนขอดูร่างกายที่ละส่วนผ่านวิดีโอคอลปากก็สบถเมื่อเห็นสภาพยับเยินของกันต์

“อาการหนักอยู่ แต่ยังดีที่พวกมันไม่ได้ตั้งใจทำร้ายรุนแรงอะไร คงแค่ทำเอามันส์ แต่จำนวนคนอาจจะมากเกินไป ไม่ต้องไปโรงบาลหรอกเดี๋ยวถูกสอบประวัติเรื่องมันจะไปกันใหญ่”

เวหาฟังแล้วแทบไม่เชื่อหูตัวเอง

“ขนาดนี้พี่ยังว่าไม่รุนแรงอีกเหรอครับ กันต์โดนผู้ชายข่มขืนมานะ ถูกทรมานด้วย นี่มันต้องแจ้งตำรวจแล้ว”

“เออ กูก็โมโหเหมือนมึงแหละ ยิ่งมึงไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้คงคิดว่ามันรุนแรงมาก แต่กันต์มันแกร่งกว่านั้นเยอะ สิ่งที่พวกกูผ่านมามันยิ่งกว่านี้หลายเท่า เอาเป็นว่าเงียบๆ ไว้ก่อนอย่าให้เป็นเรื่องขึ้นมา กูไม่อยากให้มันโดนรื้อฟื้นเรื่องในอดีต แล้วเดี๋ยวพอมันฟื้นมามันก็รักษาตัวเองได้ อย่าลืมบอกให้มันกินยาต้านไวรัสด้วยล่ะ แต่ตอนนี้มึงช่วยเอาน้ำในตูดมันออกมาก่อนแล้วกัน ทิ้งไว้นานๆ ไม่ดี”

“แต่...”

“มึงรังเกียจเหรอวะ”

“ปะ เปล่าครับ แต่ผมทำไม่เป็น กลัวกันต์มันเจ็บ”

“มึงทำตามที่กูบอกแล้วกัน เรื่องแบบนี้ไม่แน่มึงก็ต้องใช้อยู่ดี”

จนเวหาเสร็จพิธีล้วงตูดเพื่อนเพื่อเอาน้ำว่าวใครต่อใครออกมาภายใต้การกำกับของนักร้องหนุ่มผิวเข้ม หลังจากนั้นเขาก็ค่อยๆ แกะเทปกาวที่พันควยของกันต์ออกอย่างระวัง น้ำเงี่ยนเหนียวใสที่ฉ่ำเยิ้มอยู่ภายในบ่งบอกว่าหนุ่มเภสัชคงตกอยู่ในสภาพปลดปล่อยตัวเองไม่ได้มานานมาก เวหาถูกสั่งให้ชักว่าวให้กันต์เพื่อระบายน้ำเชื้อที่อัดแน่นในกระโปกจนบวมเบ่ง ก่อนหน้านี้เวหาเคยแอบดูแอบจับควยของเพื่อนผู้ชายมาเป็นสิบๆ คนเพื่อสืบหาหนุ่มนิรนามที่มาวิ่งคู่เขา แต่ไม่มีครั้งไหนเลยที่เขาจะได้จับควยคนอื่นชักว่าวแบบนี้ แท่งเนื้อของกันต์ยาวตรงรูปร่างสวยงามขนาดกำโดยรอบได้พอดี ส่วนหัวเป็นสีชมพูใสแต่ตรงรูเยี่ยวกลับเป็นสีแดงช้ำมีร่องรอยเหมือนเคยถูกเอาอะไรยัดจนเผยอออกกว้าง ความอุ่นจนเกือบร้อนที่น่าจะเกิดจากอาการไข้นิดๆ และขนาดของดุ้นเอ็นที่พอดีมือทำให้เวหารู้สึกสนุกมากกว่าการชักว่าวให้ตัวเอง ยิ่งเห็นหน้าหล่อๆ ของเพื่อนเหยเกพลิกไปพลิกมาด้วยความเสียวทั้งๆ ที่ยังไม่ได้สติ ก็ยิ่งทำให้เวหาตื่นเต้น เสียดายที่ไม่นานนักกันต์ก็เกร็งตัวออกมาแล้วกระฉูดน้ำเหนียวข้นออกมาเป็นชุดอย่างไม่ขาดสาย ปริมาณของมันช่างมากมายมหาศาลจนคนที่ไข่ใหญ่กว่าอย่างเวหายังต้องยอมแพ้

เด็กหนุ่มนึกในใจว่าการชักว่าวให้ผู้ชายก็สนุกไม่เบา เขาคิดเลยเถิดไปถึงว่าถ้าเป็นควยดำๆ ขนเยอะๆ แบบของจ่าจะเป็นยังไง หรือหนุ่มสุภาพอ่อนโยนอย่างบัสเวลาแตกจะร้องเสียงดังแค่ไหน คราวหน้าถ้าจ่าชวนเขาไปดูจ่าเย็ดเมียอีก เขาอาจจะลองขอชักควยตำรวจหนุ่มใหญ่ดู จ่าอึดมาก ถึงจะเสร็จกับเมียแล้วคงจะเหลือน้ำให้เขาชักเล่นได้สบายๆ หรือไม่ก็เขาอาจจะลองขอบัสดู หลังจากเหตุการณ์ต่างๆ ที่ผ่านมา ประธานปีสามดูเกรงใจเขาอยู่พอควร

พอมองดูควยที่อ่อนตัวลงมาของกันต์แล้วเวหาก็นึกอยากจับมาชักอีกครั้ง แต่แทนที่เฝ้าดูอยู่ผ่านวิดีโอคอลบอกว่าควยยังค่อนข้างบอบช้ำแค่นี้ก็น่าจะระบายน้ำเชื้อพอแล้ว หลังจากที่ทำความสะอาดใส่ยาเบื้องต้นเสร็จแทนถึงได้กลับมาสนใจสาเหตุที่เพื่อนถูกทำร้าย

“ท่าทางคงไม่เป็นอะไรแล้ว ปล่อยให้มันนอนพักไป ว่าแต่ไอ้เหี้ยที่ไหนวะ มึงรู้ไหมว่ามันมีศัตรูที่โน่นบ้างเปล่า”

“ไม่มีนะพี่ กันต์ก็เงียบๆ ไม่ได้มีพิษมีภัยกับใคร”

แทนโกรธจัดดูน่ากลัวจนจำแทบไม่ได้ว่านี้คือนักร้องดาวรุ่งขวัญใจแม่ยกที่กำลังมาแรง

“แล้วใครวะมาทำเพื่อนกู อุตส่าห์ช่วยมันให้ไปเริ่มชีวิตใหม่ทั้งที หรือมันจะมีพวกวิปริตจำมันได้แล้วเอาตัวไปวะ”

พอพูดถึงพวกวิปริต เวหาก็นึกขึ้นได้ว่าเมื่อคืนมันเป็นวันงานปาร์ตี้ของคุณหญิงคุณนายตัณหากลับที่จริงๆ เขาต้องถูกส่งตัวไป พอเป็นไทจากแสนแล้วเขาก็ไม่ใส่ใจเรื่องนั้นอีก นี่หมายความว่ากันต์ถูกแสนส่งไปทำงานอุบาทว์นี่แทนเขางั้นหรือ แสนต้องเลวขนาดไหนถึงจะมายุ่งกับคนที่ไม่เกี่ยวข้องเพื่อแก้แค้นเขา แล้วทำไมกันต์ถึงได้ยอมไปโดนไม่มาถามเขาก่อน หรือจริงๆ แล้วจะโดนจับตัวไป เวหาขนลุกเมื่อคิดถึงว่าคนที่น่าจะตกในสภาพนั้นคือตัวเขาเองไม่ใช่กันต์

“บางทีกันต์อาจจะมารับเคราะห์แทนผมก็ได้” เวหาสารภาพอย่างกล้าๆ กลัวๆ พอโดนแทนซักด้วยสายตาคมกร้าว เด็กหนุ่มก็พรั่งพรูเรื่องของแสนออกมาจนหมดเปลือก แทนฟังพฤติกรรมของแสนแล้วก็ต้องเลิกคิ้วแต่ก็ไม่ได้มีความเห็นอะไร จนกระทั่งเวหาเล่าจบ แทนก็พูดสั่งความเพียงแค่นี้

“กูอุตส่าห์ให้มึงคอยดูแลมัน ดันหาเรื่องเชี่ยๆ มาให้มัน พอกันต์ฟื้นขึ้นมา มึงถามเรื่องนี้กับมันด้วยว่าใช่ไอ้แสนหรือเปล่าแล้วรีบรายงานกู ใครทำเพื่อนกู มันต้องเสียใจ"

พอฟื้นขึ้นมาปรากฎว่ากันต์จำเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้เลย หนุ่มเภสัชมีท่าทางมึนๆ งงๆ เหมือนยังมีฤทธิ์ยาตกค้างอยู่ แต่เวหาก็ค่อนข้างมั่นใจว่าเรื่องทั้งหมดเป็นฝีมือของแสน เดิมทีเด็กหนุ่มตั้งใจว่าถ้าหาหลักฐานที่จะเล่นงานแสนแบบดิ้นไม่หลุดไม่ได้ ก็จะต่างคนต่างอยู่ไปจนกว่าอีกฝ่ายจะเรียนจบไป แต่เมื่อแสนทำกับรูมเมทเขาที่ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรด้วยเลยถึงขนาดนี้ เวหาก็ตัดสินใจที่จะเป็นศัตรูของประธานรุ่นปีสี่เต็มตัว เขาเริ่มเป็นแกนนำในการต่อต้านแสนอย่างเปิดเผยมากขึ้นเรื่อยๆ ในที่ประชุมต่างๆ ของคณะที่เขาเข้าร่วมในฐานะเดือนวิศวะ เวหาจะวิพากษ์วิจารณ์การกระทำที่ไม่เหมาะสมของแสนอย่างตรงไปตรงมา หลายๆ ครั้งก็ทำต่อหน้าเจ้าตัวด้วยซ้ำ แสนโกรธจัดจนคนในที่ประชุมใจหายใจคว่ำไปตามๆ กัน แต่ก็ไม่ได้เกิดความรุนแรงขึ้นอย่างที่คิด หลังจากนั้นบรรดานักศึกษาปีหนึ่งวิศวะซึ่งเป็นชนชั้นที่ถูกกดขี่จากแสนมากที่สุด ต่างก็ฝากประเด็นให้เวหาไปเรียกร้องความเป็นธรรมในวงต่างๆ มากขึ้น จนสุดท้ายประธานรุ่นปีหนึ่งซึ่งกลัวแสนจนหัวหด ก็มอบหมายให้เวหาเข้าประชุมแทนเกือบจะทุกครั้งไป

นอกจากจะเริ่มเผชิญหน้าอย่างเปิดเผยแล้ว เวหายังแอบตั้งเพจ ‘แสนเลว’ ขี้นมาเพื่อเป็นสื่อกลางให้นักศึกษาในมหาลัยเข้ามาแชร์พฤติกรรมเลวร้ายของแสนออกมาเรื่อยๆ เพจแสนเลวได้รับการกดไลค์จากคนจำนวนมาก แม้กระทั่งคนนอกมหาลัยยังเข้ามาติดตาม ข้อมูลในเพจจะเป็นการพูดลอยๆ ถึงคนแสนเลวคนหนึ่งแต่ก็เป็นที่รู้กันในหมู่ลูกเพจว่าหมายถึงใคร ทีมแอฟเวนเจอร์สได้ช่วยกันตรวจสอบข้อมูลที่ได้มาก่อนการโพสต์ว่าเป็นเรื่องจริงเพื่อให้เพจมีความน่าเชื่อถือ ยิ่งเพจได้รับความนิยม ข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับแสนก็ยิ่งหลั่งไหลเข้ามาที่ทีมเอฟเวนเจอร์สซึ่งเป็นแอดมินเพจ ถึงส่วนใหญ่จะไม่มีหลักฐานที่ชัดเจน แต่ความสอดคล้องของข้อมูลและเหตุการณ์ทำให้รู้ถึงความเลวของแสนที่ทำขึ้นทั้งในและนอกมหาลัย

คนในคณะส่วนใหญ่ซึ่งนำทีมโดยบัสประธานรุ่นปีสาม ยังเชื่อว่าโดยรวมแล้วแสนเป็นคนดีถึงจะอารมณ์ฉุนเฉียวเผด็จการไปบ้างแต่ก็เป็นไปเพื่อความเข้มงวดเด็ดขาดในฐานะผู้นำ คงไม่ได้ทำอะไรรุนแรงอย่างในข่าวลือที่เพจเอามาปล่อย แต่ในอีกด้านหนึ่ง กระแสต่อต้านแสนเริ่มก่อตัวรุนแรงขึ้นเป็นคลื่นใต้น้ำจากคนที่เคยโดนแสนทำร้ายข่มขู่ทั้งกับตัวเองและคนที่รู้จักโดยตรง

ถึงแสนจะบ้าอำนาจและไม่เห็นหัวใครในสายตาแต่ก็ไม่ใช่คนโง่ เขารู้ว่าการปล่อยให้มวลชนซ่องสุมกันทางความคิดที่จะต่อต้านเขาอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆ มันไม่ดีแน่ หลังจากให้คนไปสืบต้นตอมาระยะหนึ่งเขาก็พอมองออกว่าใครที่เป็นตัวการทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง แสนกำลังคิดที่จะตัดไฟตั้งแต่ต้นลมจึงได้เรียกคนของตัวเองมาหารือนอกมหาลัยเพื่อไม่ให้ใครรู้ รถกระบะคันเก่าของแสนถูกใช้เป็นที่พูดคุยในครั้งนี้

“ขอโทษที่ต้องให้รอนานครับคุณแสน กว่าผมจะปลีกตัวจากประชุมสภาก็ใช้เวลามากกว่าที่คิด”

ปราบไม่กล่าวโทษแสนสักคำที่เรียกตัวออกมากะทันหันแถมยังพูดจานอบน้อมเกินกว่าที่จะใช้กับนักศึกษารุ่นเดียวกัน แสนมองชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ใบหน้าคมสันที่เป็นถึงประธานสภานักศึกษาด้วยความผยองในใจ ไม่มีใครรู้ว่าคนที่เป็นเหมือนอีกขั้วอำนาจที่มีอิทธิพลในมหาลัยไม่ยิ่งหย่อนกว่าเขาแท้จริงก็คือคนที่รับใช้เขาอย่างซื่อสัตย์ถวายหัวมาตั้งแต่ก่อนเข้ามหาลัยเสียอีก

ที่จริงแล้วทั้งคู่มีความสัมพันธ์ในแบบที่ทีมเอฟเวนเจอร์สืบแล้วสืบอีกก็คงไม่ได้คำตอบถ้าไม่ได้รู้มาจากเจ้าตัวหรือคนในครอบครัว แม่ของปราบเป็นคนเลี้ยงดูแสนมาตั้งแต่แรกคลอดในฐานะแม่นม อาจจะแปลกที่ยุคนี้ยังมีแม่นมอยู่ แต่พ่อของแสนที่เสียภรรยาไปหลังคลอดลูกชายคนเดียวออกมาตัดสินใจที่จะให้แสนได้รับสารอาหารจากคนมากกว่าที่นมวัวที่ผ่านการปรุงแต่งมา แม่ของปราบเป็นชาวบ้านจังหวัดใกล้ๆ ที่เพิ่งคลอดปราบออกมา หล่อนมีร่างกายแข็งแรงสามารถผลิตน้ำนมมากพอที่จะป้อนเด็กทารกได้อีกคนจึงถูกทาบทามจากคนรู้จักให้มาเป็นแม่นมของแสน หญิงสาวชาวบ้านที่ต้องการหารายได้มาจุนเจือครอบครัวจึงได้พาลูกย้ายไปอยู่ที่บ้านของพ่อแสนและเลี้ยงทั้งแสนและปราบมาด้วยกันด้วยน้ำนมของตัวเอง

ปราบถูกส่งตัวกลับไปให้ตายายเลี้ยงหลังจากหย่านมในขณะที่แม่ของเขายังทำหน้าที่เป็นทั้งแม่บ้านและพี่เลี้ยงต่อในบ้านของแสนจวบจนปัจจุบันเป็นเวลาร่วมยี่สิบปี ในช่วงเวลาดังกล่าว เกิดเหตุการณ์ต่างๆ มากมายที่ครอบครัวของปราบต้องขอรับความช่วยเหลือจากพ่อของแสน ทั้งตอนที่แม่ของปราบตั้งท้องน้องสาวและเกิดอาการครรภ์เป็นพิษจนต้องผ่าออกก่อนกำหนดอาการไม่ดีทั้งแม่และลูก พ่อของแสนก็ช่วยเรื่องค่ารักษาจนสุดกำลังจนถึงขั้นไปหยิบยืมเงินทองจากญาติพี่น้องมา เมื่อครั้งที่พ่อของปราบที่เป็นคนขับรถบรรทุกเกิดอุบัติเหตุมีผู้เสียชีวิตหลายรายรวมถึงตัวเองด้วย พ่อของแสนก็ช่วยวิ่งเต้นเรื่องคดีความขอผ่อนปรนค่าสินไหมต่างๆ ให้ เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้บ้านของปราบสูญเสียหัวหน้าครอบครัวและมีหนี้ก้อนโตจนเกือบต้องออกจากโรงเรียน แต่ก็ได้พ่อของแสนส่งเสียเรื่อยมาจนได้ทุนเข้ามหาลัย

ปราบไม่เคยน้อยใจกับชะตาชีวิตตัวเองที่แม่ต้องไปทำงานอยู่คนละจังหวัด เขารู้ว่าครอบครัวตัวเองโชคดีแค่ไหนที่ได้เจ้านายดีๆ อย่างพ่อของแสน ทั้งบุญคุณและน้ำใจที่พ่อของแสนมีให้มันมากมายยิ่งนัก เขารับปากกับแม่เสมอว่าจะดูแลรับใช้แสนในฐานะลูกเจ้านายให้ดีที่สุด ทั้งคู่แม้จะเคยถูกเลี้ยงดูร่วมกันมาตอนแบเบาะแต่หลังจากนั้นก็เติบโตมาคนละจังหวัด ปราบมีโอกาสได้เจอเจ้านายน้อยของเขาอีกทีก็ตอนเริ่มโตและมาเยี่ยมแม่ในช่วงปิดเทอม แสนถูกใจในความฉลาดแข็งแรงและท่าทางที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความภัคดีของอีกฝ่ายจึงรับมาเป็นลูกน้องใกล้ชิดในทันที

แสนขับรถไปจอดในที่ลับตาคนซึ่งอยู่ไม่ไกลแล้วก็ระบายเรื่องที่อัดอั้นใจออกมา

“ไอ้เด็กนั่นดื้อด้านชะมัดว่ะปราบ กูอยากจะอัดแม่งให้คลานลงมากราบตีนกูซะวันนี้พรุ่งนี้เลย”

“ช่วงนี้ผับของคุณแสนกำลังจะเปิดตัวอยู่แล้ว อย่าเพิ่งเปิดศึกหลายหน้าเลยดีกว่าครับ”

“นี่ถ้ามันไม่ได้มีคลิปรับน้องตัวเต็มอยู่นะ กูจะให้พี่กูเอาไปนอนเล่นในคุกสักคืนสองคืนให้มันต้องมาอ้อนวอนกูทั้งน้ำตา ตกลงมึงหาเจอยังว่าคลิปนั้นมันหลุดไปได้ยังไง”

ปราบนึกถึงคลิปต้นเหตุที่ทำให้เขาต้องเอาคลิปรับน้องไปแลกมา บางเรื่องเขาก็ไม่สามารถบอกความจริงกับเจ้านายได้ แต่เขาก็เชื่อว่าได้ทำในสิ่งที่ต้องทำแล้ว

“ยังไม่ทราบเลยครับ แต่เมื่อคืนคอมพิวเตอร์ที่ผมใช้เก็บข้อมูลทั้งหมดไว้ถูกจู่โจมจนเสียหาย บางทีอาจจะเกี่ยวกัน”

“ไอเหี้ย เรื่องใหญ่อย่างนี้ทำไมเพิ่งมาบอกวะ ข้อมูลสำคัญทั้งนั้น ทั้งคลิปทั้งรูปที่เอาไว้ขาย พวกหลักฐานที่ใช้แบล็คเมล์อีก มันได้อะไรไปบ้าง” แสนโวยวายเสียงดัง ข้อมูลที่ให้ปราบเก็บรักษาไว้เป็นสิ่งที่เขาสะสมมาตลอดระยะเวลาหลายปี ส่วนใหญ่ก็เป็นคลิปอนาจารของทั้งชายและหญิงที่เขาได้มาด้วยวิธีการต่างๆ มีทั้งเก็บไว้แบล็คเมล์เรียกเงินเรียกทองหรือข่มขู่ให้ความร่วมมือ บางส่วนก็หาโอกาสปล่อยให้ถูกจังหวะแลกกับเงินก้อนโต

“มันได้ข้อมูลไปบางส่วนครับแต่คงถอดรหัสไม่ได้ แล้วก็พยายามปล่อยไวรัสทำลายส่วนที่เหลืออยู่ ตอนนี้ผมให้ให้ผู้เชี่ยวชาญที่ไว้ใจได้กู้ น่าจะได้กลับคืนมาเกือบหมดแต่คงต้องใช้เวลา”

ประธานรุ่นวิศวะปีสี่หัวเสียมากที่เกือบจะเสียสิ่งที่เขาพยายามมาหลายปี ยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห

“ทำไมถึงมีคนเจาะจงมาแฮ็คเครื่องมึงตอนนี้วะ ไม่น่าจะมีใครตามรอยไปถึงมึงได้นี่หน่า ช่วงนี้ยิ่งต้องใช้คลิปไปแบล็คเมล์พวกผู้ใหญ่ให้ทำงานให้หลายเรื่อง”

“ผมระวังตัวอย่างดีตลอดครับ ไม่งั้นคงมีคนอื่นจับเรื่องที่ผมสนับสนุนคุณแสนอยู่ลับๆ ได้นานแล้ว ส่วนเรื่องแบล็คเมล์คงบลัฟต่อไปได้ พวกนั้นเคยเห็นหลักฐานว่าคุณแสนมีคลิป เขาคงไม่คิดว่าอยู่ๆ มันจะหายไปหรอกครับ”

“เออ รีบๆ กู้คืนมาเร็วๆ แล้วกัน และอย่าให้รู้นะว่ามึงคิดจะหักหลังกู”

“การหักหลังผู้มีบุญคุณเป็นสิ่งที่ผมไม่ทำแน่ๆ คุณแสนก็รู้ ที่ผ่านมาผมทำเพื่อคุณแสนมาตลอด ทั้งมาเข้าคณะเกษตรที่นี่แทนที่จะไปเรียนแพทย์มหาลัยอันดับหนึ่งในกรุงเทพ ทั้งทำตัวเป็นหนอนบ่อนไส้หักหลังคณะตัวเอง และรู้ไหมครับ ผมเต็มใจทำมันทั้งหมด เพราะมันเป็นสิ่งที่คุณแสนต้องการ ขอให้เชื่อในความซื่อสัตย์ของผมเถอะครับ”

ปราบจ้องตาของแสนด้วยแววตาที่มั่นคง ที่จริงแสนก็รู้ทั้งหมด ของเพียงแต่เขาสั่ง ไม่มีอะไรที่คนๆ นี้จะทำให้เขาไม่ได้ เขาก็แค่อยากระบายอารมณ์เท่านั้นเอง

“เออๆ กูด่าแค่นี้ไม่เห็นต้องมาทำท่าจริงจัง แล้วมึงคิดว่าไง ใช่ไอเวหาหรือเปล่าที่เจาะเข้าคอมมึง”

“ยังไม่รู้เลยครับคุณแสน ต้องเป็นคนที่เก่งคอมมากๆ พวกเวหามันเป็นแค่วิศวะปีหนึ่งแค่นั้นไม่น่าจะทำได้ขนาดนี้”

“ยกเว้นว่ามันจะเก่งมาอยู่ก่อนแล้ว ประวัติพวกนี้สืบได้ไม่ยาก เดี๋ยวกูจัดการเอง ตอนนี้เงี่ยนแล้วว่ะ มึงเอาน้ำออกให้กูหน่อย” แสนพูดพร้อมกับปลดกระดุมรูดซิปกางเกงลงเพื่อเอาควยดุ้นเขื่องออกมา ดุ้นเนื้ออวบใหญ่สมตัวสีคล้ำกว่าผิวเนื้อจริงเด้งตัวขึ้นตั้งเด่เหมือนเกิดอารมณ์อยู่นานแล้ว ส่วนหัวออกแหลมมีหนังหุ้มปลายปกคลุมไว้มิดแต่ไม่ได้รัดแน่นอะไร ปราบค่อยๆ ถอกหนังหุ้มลงจนส่วนหัวเปิดหมดจนถึงขอบเงี่ยง กลิ่นควยสดๆ ที่หมักไว้กระจายไปทั่วรถ

แสนเป็นคนที่เรื่องมากเรื่องคู่นอนมากด้วยนิสัยที่เป็นคนกลัวความสกปรกจนฝังหัว แต่การมีเซ็กส์ผ่านถุงยางก็เป็นสิ่งที่เขาเกลียดเช่นกัน เขาจะนอนกับผู้หญิงที่แน่ใจจริงๆ ว่าสะอาดปลอดภัยเท่านั้นหรือไม่ก็เปิดซิงไปเลย แต่เมื่อปีที่แล้วแสนไปมีอะไรกับเด็กสาวน่ารักดูไร้เดียงสาคนหนึ่งแล้วมาพบทีหลังว่ามีเชื้อเอชไอวีทั้งที่ตรวจประวัติมาอย่างดีแล้ว แสนต้องกินยาต้านทุกวันอยู่เป็นเดือน บางช่วงต้องอาเจียนออกมาอย่างทรมานด้วยผลข้างเคียงของยา โชคดีที่ไม่ติดโรคร้ายมาแต่หลังจากนั้นเขาก็ไม่ไว้ใจผู้หญิงคนไหนอีกเลย เขาอาจเล่นสนุกภายนอกแต่จะไม่เอาของสำคัญของตัวเองไปสัมผัสจุดที่มีโอกาสแพร่เชื้ออย่างปากหรือรูสวรรค์เด็ดขาด มีเพียงเด็กสาวสดซิงเท่านั้นที่แสนจะยอมมีอะไรด้วยซึ่งก็ไม่ใช่สิ่งที่หาง่ายนัก

ลูกน้องคนสนิทข้างกายอย่างปราบคือสิ่งที่แสนเลือกมาใช้คลายความเงี่ยน แรกเริ่มมันแค่เป็นการใช้มือให้ซึ่งปราบก็ทำให้อย่างเต็มใจเพราะอยากช่วยปลดปล่อยอารมณ์พลุ่งพล่านกลัดมันของเจ้านาย แต่ไม่นานหลังจากนั้นมันก็เริ่มจะไม่พอ ยิ่งแผนการของแสนเดินหน้าไปมากเท่าไหร่เขาก็ยิ่งต้องทำการแบล็คเมล์ข่มขู่ผู้คนจำนวนมากด้วยสิ่งลามกอนาจาร รูปเปลือยอร่างฉล่างของดาวคณะที่เขาลงมือถ่ายด้วยตัวเอง คลิปอาจารย์หนุ่มมีอะไรกับลูกศิษย์สาวที่เขาซ่อนกล้องไว้ ปาร์ตี้เซ็กส์หมู่ลามกสุดโต่งที่เขาจัดเพื่อเอาใจผู้หลักผู้ใหญ่ในจังหวัด เขาสะสมสิ่งกระตุ้นพวกนี้มาทุกวันจนสุดท้ายต้องสั่งให้ปราบใช้ปากให้ถึงจะปลดปล่อยความเงี่ยนได้อย่างสมใจขึ้นบ้าง เขามั่นใจในความสะอาดปลอดโรคของปราบเพราะเป็นคนสั่งห้ามด้วยตัวเองไม่ให้ปราบไปมีอะไรกับใครอีก ลูกผู้ชายเต็มตัวอย่างปราบไม่ได้พิศวาสดุ้นควยผู้ชายด้วยกันแม้แต่น้อย แต่เขาก็ทำไปเพราะเป็นหน้าที่เหมือนกับหลายๆ เรื่องที่เขาทำให้แสนในฐานะเจ้านาย

ใบหน้าคมสันคร้ามแดดสมชายของปราบก้มลงเอาปากครอบดุ้นควยอวบใหญ่จนสุดความยาวได้ในครั้งเดียว คอหอยที่ดูดรัดของชายหนุ่มสร้างความเสียวซ่านให้กับควยของแสนยามเมื่อโยกขึ้นลงอย่างชำนาญ แต่ถึงอย่างนั้นแสนก็ยังไม่พอใจ เขาจิกผมตัดสั้นของปราบแล้วจับกดขึ้นลงอย่างรุนแรงเพื่อสนองอารมณ์ที่พลุ่งพล่านมากขึ้นทุกที หนุ่มวิศวะไม่ได้ชอบผู้ชายก็จริงแต่การเห็นคนที่แกร่งกำยำสมเป็นลูกผู้ชายเต็มตัวมาปรนเปรอกามให้แบบนี้ทำให้เขาตื่นเต้นจากอำนาจที่มี ประธานสภานักศึกษาไม่ต่อต้านแม้แต่น้อยปล่อยให้เจ้านายใช้ปากและลำคอของตัวเองอย่างเต็มที่ หัวเขาถูกจิกขึ้นสูงแล้วกดลงอย่างแรงจนปากเขากระแทกหัวเหน่าที่เต็มไปด้วยขนหงิกงอหยาบๆ ของเจ้านาย ปราบคิดแต่ว่าเขาต้องทำตามที่แสนสั่งให้ดีที่สุดไม่ว่ามันจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม ครั้งแล้วครั้งเล่าที่หัวเงี่ยงบานใหญ่ครูดไปครูดมากับคอหอยที่ดูดหนึบของปราบจนในที่สุดแสนก็กระฉุดน้ำเชื้อที่ไม่มีใครมีโอกาสได้เห็นลงท้องข้ารับใช้ที่ภัคดีไปโดยตรงสามสี่ชุดใหญ่

พอแสนได้ปลอดปล่อยจนโล่งแล้ว เขาก็ถอนยวงผลักหัวของปราบออกอย่างไม่สนใจใยดี ปราบรีบเลียลำควยของแสนจนสะอาดเพราะรู้ว่าเจ้านายชอบให้ทำแบบนี้ หลังจากนั้นทั้งคู่ก็คุยงานกันต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ปราบชินแล้วที่จะต้องสนองความต้องการของเจ้านายไม่ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่หรือที่ไหน การที่มีคราบน้ำว่าวและเส้นหมอยสี่ห้าเส้นของแสนค้างอยู่ในปากก็ไม่ใช่เรื่องที่ต้องตีโพยตีพายในเมื่อมันเป็นสิ่งที่หลงเหลือมาจากการทำหน้าที่

“แล้วคุณแสนจะจัดการกับปีหนึ่งวิศวะนั่นยังไงครับ มันได้คลิปไปแบบนั้น”

“ที่จริงถึงไอเด็กเวหามันมีคลิปนั่นมันก็ใช่ว่าจะได้เปรียบอะไร ที่ยอมปล่อยมันไปก่อนเพราะไม่อยากให้ตาแก่ในคณะหรือมหาลัยมาวุ่นวาย กว่ากูเรียนจบผับกูก็อยู่ตัวพอดี ฐานอำนาจเส้นสายในจังหวัดก็คงมั่นคงเต็มที่ ถึงจะถูกพวกตาแก่เรียกไปสอบสวนก็ทำอะไรกูไม่ได้ ถึงตอนนั้นกูจะเอาคลิปเวหาออกมาขู่เรียกเงินจากพ่อแม่มัน ท่าทางรวยขนาดนี้คงได้หลายแสน ดีไม่ดีเป็นล้าน พอรีดเงินได้หนำใจถึงเอาไปปล่อยขายลูกค้ารวยๆ ไปเรื่อยๆ จนขายไม่ออกแล้วค่อยปล่อยหลุดให้ดังไปทั่วประเทศ ถึงจะช้าหน่อยแต่ได้ทั้งเงินได้ทั้งสะใจ”

“ถึงตอนนั้น ปีหนึ่งวิศวะนั่นคงคลั่งตาย”

“แต่ตอนนี้กูไม่อยากรอแล้วว่ะ ไอเด็กนั่นมันกำเริบขึ้นทุกวัน มึงก็เห็นมันทำตัวต่อต้านกูอย่างออกนอกหน้า แถมยังพยายามชักชวนคนมาเข้าพวกอีก คราวก่อนมันก็ทำให้ยัยป้านั่นด่ากูเปิงหาว่าคนที่กูส่งไปแทนทำขายหน้าเพื่อนๆ แหม กูจะไปมีปัญญาหาของขัดตาทัพที่ควยใหญ่อย่างไอเวหาได้ที่ไหนวะ แค้นว่ะ เดี๋ยวกูขอปรึกษาพี่กูก่อน ระดับสารวัตรใหญ่คงมีทางอื่นเล่นมันได้ ที่นี้แหละกูจะใช้งานควยมันที่ผับทั้งวันทั้งคืนให้คุ้มไปเลย”

หลังจากนั้นไม่กี่วันเวหาก็เลือดขึ้นหน้าเมื่อมีเพื่อนอีกคนถูกทำร้ายจนสะบักสะบอม

“ไอแว่น ใครทำมึงวะ”

เวหาได้รับโทรศัพท์จากเบอร์ที่ไม่รู้จักบอกว่าเพื่อนของเขาถูกทำร้ายอยู่ที่ห้องน้ำใกล้สนามฟุตบอลแล้วก็วางสายทันที เด็กหนุ่มรีบวิ่งไปตามที่แจ้งระหว่างนั้นก็โทรเช็คเพื่อนไปทีละคน พอมาถึงจุดเกิดเหตุเขาก็เห็นคนมุงอยู่หน้าห้องน้ำชายเต็มไปหมด เวหาแหวกคนเข้าไปอย่างร้อนใจแล้วก็แทบเข่าอ่อนเมื่อเห็นสภาพของแว่นเนิร์ดหนึ่งในกลุ่มแอฟเวนเจอร์สที่อยู่ด้านใน

เด็กหนุ่มผิวขาวรูปร่างผอมบางอยู่ในสภาพเปลือยกายล่อนจ้อนถูกมัดแขนไขว้หลังไว้กับก๊อกน้ำของโถปัสสาวะอย่างแน่นหนาจนดิ้นหนีไปไหนไม่ได้ ใบหน้าที่ถูกทำร้ายจนสะบักสะบอมเบือนหนีไปอีกด้านเพื่อหลบสายตาผู้คนที่มองมาอย่างอยากรู้อยากเห็

อวัยวะเพศชายขนาดย่อมเกลี้ยงเกลาปราศจากขนทั้งไข่และควยจนดูเหมือนของเด็ก มีดโกนแบบใช้แล้วทิ้งตกอยู่บนพื้นห้องน้ำพร้อมกับเศษขนหมอยที่ถูกโกนออกมา บนหน้าท้องขึ้นลอนนิดๆ ด้วยความผอมเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำแล้วยังถูกเขียนไว้ด้วยปากกาเส้นใหญ่สีดำว่า ‘ควยเด็กปอสี่’ แล้วมีลูกศรลากลงไปชี้ที่ควยของหนุ่มแว่น ตรงหน้าอกมีข้อความเขียนไว้ว่า ‘เชิญถ่ายรูปตามสบาย แต่ห้ามช่วย ไม่งั้นโดนดีแน่’

คนที่ออกันอยู่เต็มห้องน้ำต่างพากันซุบซิบวิพากษ์วิจารณ์ถึงสาเหตุที่หนุ่มน้อยปีหนึ่งต้องมาโดนแกล้งขนาดนี้ บ้างก็ว่าเป็นควันหลงมาจากการรับน้องที่ยังไม่เสร็จ อีกส่วนก็ลงความเห็นว่าคงไปเหยียบตาปลาผู้มีอิทธิพลเข้า ที่เห็นตรงกันคือดุ้นควยน้อยๆ อันนั้นช่างไม่สมกับที่โตจนเป็นหนุ่มเข้ามหาลัยแล้ว ถึงจะทำท่าเหมือนสงสารเห็นอกเห็นใจ แต่แต่ละคนก็อดไม่ได้ที่จะเอามือถือขึ้นมาถ่ายภาพอันพบเห็นได้ยากนี้เก็บไว้เป็นที่ระลึก

หนุ่มแว่นหันกลับมาเมื่อได้ยินเสียงเวหา น้ำตาไหลพรากด้วยความอับอายและคับแค้นใจ

“เวหา พากูออกไปจากที่นี่ที”

คนที่กลุ่มดิเอฟเวนเจอร์สที่เหลือทะยอยกันมาถึงช่วยกันนักศึกษาที่มุงดูด้วยความอยากรู้อยากเห็นแต่ไม่ช่วยอะไรให้ออกจากห้องน้ำไปพร้อมทั้งขอร้องให้ลบรูปที่ถ่ายไว้แต่ก็ไม่รู้ว่าจะเชื่อฟังกันแค่ไหน จากนั้นก็ปิดประตูห้องแล้วแก้มัดหนุ่มแว่นกินเวลาไปไม่น้อยเพราะปมเชือกที่แน่นหนา

“ใจเย็นๆ นะแว่น ไม่มีอะไรแล้ว” เวหาปลอบเพื่อนที่เพิ่งหลุดจากพันธนาการและกำลังใส่เสื้อผ้าที่หนุ่มนักกล้ามรีบวิ่งไปเอามาให้ก่อนหน้านี้ เขารอจนเพื่อนสงบสติอารมณ์ลงได้แล้วถึงเอ่ยปากถาม

“ใครเป็นคนทำร้ายมึงวะแว่น”

“กูไม่รู้ มันมากันหลายคน มาถึงก็กระชากตัวกูบังคับมาที่ห้องน้ำนี่ มันหาว่ากูไปแฮ็กคอมพิวเตอร์ลูกพี่มันอะไรไม่รู้ กูปฏิเสธว่าไม่ได้ทำพวกมันก็ไม่เชื่อ มันคาดคั้นให้กูบอกบอกว่าได้อะไรไปบ้าง กูพูดยังไงก็ไม่ฟัง พอมันเห็นว่าไม่น่าจะได้อะไรจากกูแล้วมันก็รุมอัดเอาอัดเอาจนกูไปนอนกองกับพื้น วันๆ กูได้ออกกำลังกายที่ไหน ตัวกูก็เท่านี้จะเอาอะไรไปสู้กับพวกมัน สุดท้ายกูก็ถูกจับแก้ผ้าแล้วมัดเอาไว้อย่างที่เห็น ไม่พอมันยังโกนหมอยกูออกจนหมด เขียนข้อความทุเรศๆ ไว้บนตัวกู ทิ้งกูไว้ให้คนมาหัวเราะเยาะ กูเจ็บใจ”

“เชี่ยมาก เลวอย่างนี้ต้องเป็นฝีมือไอแสนแน่ๆ ทำไมมันถึงเจาะจงมาเล่นงานแว่นวะ หรือมันนึกว่าคลิปรับน้องอันนั้นกูได้มาเพราะให้มึงไปแฮ็กเครื่องคอมมัน”

เวหาโมโหสุดขีด ไม่มีใครแล้วที่จะทำกับคนไม่มีทางสู้แบบนี้ ขนาดที่ผ่านมาเขาไม่เคยให้คนในกลุ่มเอฟเวนเจอร์สออกหน้าเลย แต่ก็ถูกสืบรู้จนได้

“ก็เป็นไปได้ว่ะ กูเคยไปแข่งคอมพิวเตอร์โอลิมปิก ก็เป็นไปได้ว่ามันจะค้นประวัติแล้วคาดเดาเอาเอง แล้วดูจากอุปกรณ์ที่เตรียมมาพร้อม มันต้องรู้อยู่แล้วว่ากูควยเล็กเลยเอาทั้งมีดโกนทั้งเชือกทั้งปากกาเตรียมมาประจานกูเต็มที่ เพราะงั้นต้องเป็นคนในคณะแน่ๆ ที่บงการพวกมันมา

“ขอโทษจริงๆ ว่ะแว่น ที่ทำให้มึงต้องโดนแบบนี้”

“มันใช่ความผิดของมึงที่ไหน ของไอแสนโน่น มึงก็เคยโดนมาเหมือนกันนี่ กูอายมากเลยนะ คนค่อยๆ มาดูกันจนเต็มไปหมด ขอร้องให้ช่วยก็ไม่มีใครกล้า อย่างว่าแหละ มหาลัยนี้มันมีอำนาจมืดครอบงำอยู่ พอเกิดเหตุการณ์แปลกๆ คนที่รู้เบื้องลึกเบื้องหลังก็เดาได้ว่าฝีมือใคร ใครจะกล้าต่อต้านวะ กูก็ได้แต่ตะโกนขอร้องว่า แค่ช่วยส่งข่าวให้คนชื่อเวหาวิศวะปีหนึ่งก็ได้ ยังดีที่มีคนสงสาร ตามมึงมาเร็วกว่าที่คิด”

ในใจของเวหาเต็มไปด้วยความแค้น คราวที่แล้วก็กันต์ คราวนี้ยังมาเป็นแว่นเพื่อนเขาอีก ทั้งคู่ไม่มีพิษมีภัยกับใคร ทำไมต้องมาโดนอะไรแบบนี้ด้วย แสนมันหน้าตัวเมียถึงไม่เล่นกับเขาซึ่งๆ หน้า เวหาสาบานกับตัวเองว่าจะต้องกระชากหน้ากากความชั่วของมันออกมาให้จงได้

เด็กหนุ่มกำลังคิดถึงความเป็นไปได้ของแผนการที่จะใช้โค่นอำนาจของแสนลงก็พอดีมีสายเข้าเสียก่อน

“ฮัลโหลๆ จากไหนครับ… ได้ยินหรือเปล่า… ถ้าคุณไม่พูดผมจะวางสายแล้วนะ…” เวหารับสายเบอร์ที่ไม่คุ้นแต่ไม่ได้ยินอะไรจากปลายทางจนเขากำลังจะกดวางสาย

“ปีหนึ่งวิศวะ…”

ความคุ้นเคยในวิธีการพูดทำให้เวหาชะงักมือ

“พี่ปราบ… พี่ปราบใช่ไหมครับ”

เวหาเรียกปลายสายอย่างตื่นเต้นเมื่อประธานสภานักศึกษาที่เขาพยายามอย่างหนักที่จะหาโอกาสพูดคุยอีกครั้งกลับเป็นฝ่ายติดต่อมาเอง อีกฝ่ายไม่ตอบรับหรือปฏิเสธแต่ยังพูดต่อไปด้วยเสียงที่มีอำนาจ

“ผมต้องการคุยกับคุณ แต่มันต้องเป็นความลับที่คุณไม่สามารถบอกใครได้แม้แต่เพื่อนคุณเอง ไม่งั้นเขาอาจตกเป็นเป้าหมายต่อไปได้”

เวหาเหลือบมองกลุ่มเอฟเวนเจอร์สที่ยังพูดคุยปลอบใจหนุ่มแว่นอยู่แล้วค่อยปลีกตัวออกมาพร้อมกับพูดเสียงเบา

“ที่เพื่อนผมโดนเล่นงานเป็นฝีมือพวกพี่สินะครับ ทำไมต้องทำกันขนาดนี้ด้วย”

“ผมแค่ต้องการคุยกับคุณ ปีหนึ่งวิศวะ เรื่องอื่นผมไม่เกี่ยว ถ้าคุณอยากคุยกับผม ก็ไปตามที่ผมนัด ถ้าคุณไม่สนใจ ผมก็ไม่มีอะไรจะพูดกับคุณอีก วางสายไปได้เลย”

“เดี๋ยวสิครับ พี่จะให้ผมไปพบที่ไหน”

“วันนี้ห้าโมงครึ่งตรงโกดังร้าง กม. สิบเอ็ด บนถนนสายสี่ คุณต้องมาคนเดียว”

“เดี๋ยวสิครับ พบกันที่ๆ มันดูอันตรายน้อยกว่านั้นไม่ได้เหรอ”

“ถ้าคุณไม่เชื่อใจผมก็ไม่ต้องมา แต่ถ้าคุณกล้าพอ บางทีมันอาจจะเกิดประโยชน์มากกว่าที่คุณคิดก็ได้ โอกาสมีแค่ครั้งเดียว ปีหนึ่งวิศวะ”

ปลายสายวางหูไปทันทีที่พูดจบ เวหาพยายามติดต่อกลับไปแต่ก็ไม่มีสัญญาณตอบรับอีก เด็กหนุ่มมองนาฬิกา ถ้าเขาจะไปตามนัด เขาต้องออกจากมหาลัยภายในครึ่งชั่วโมงนี้ เวหาไม่รู้ว่าจะไว้ใจปราบดีหรือไม่ แต่อย่างหนึ่งที่เขาแน่ใจคือปราบเป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้เขาโค่นแสนลงได้

เวหากำลังขับรถไปโกดังร้างตามนัดของปราบ เขาลังเลอยู่นานแต่ก็ตัดสินใจเดิมพันกับความเชื่อใจในตัวประธานสภานักศึกษาดูสักครั้ง เด็กหนุ่มมีเหตุผลที่รองรับการกระทำของตัวเอง คลิปที่ได้มาจากปราบทำให้เขาหลุดพ้นจากการเป็นเบี้ยล่างของแสน ถ้าปราบเป็นพวกของแสนแบบร้อยเปอร์เซ็นต์คงไม่ทำอะไรแบบนี้ ถึงจะบอกว่าเป็นการแลกเปลี่ยนกับคลิปที่ปราบดูดควยแสนในรถ แต่เรื่องนั้นมันไม่ทำให้แสนเสียเปรียบได้เท่ากับคลิปรับน้องตัวเต็มที่ให้เขามา

เวหาเลี้ยวเข้าไปจอดรถตรงลานหน้าโกดังเก่า ถ้ามองจากถนนใหญ่มาจะไม่เห็นตัวอาคารหรือรถที่จอดอยู่เลย ถือว่าเป็นจุดนัดพบลับๆ ได้ดีจริงๆ เด็กหนุ่มไม่เห็นรถคันอื่นจอดอยู่เลย แต่เมื่อถึงเวลานัด เขาก็เดินเข้าไปในตัวโกดังตามที่ปราบบอก ด้านในเป็นโครงอาคารโล่งๆ ยังดีที่หลังคาบางส่วนเป็นแผ่นอะคลิลิกใสแสงผ่านเข้ามาได้ทำให้ไม่น่ากลัวจนเกินไป เวหามองหาไม่พบคนที่นัดไว้จึงยืนรออยู่ตรงนั้น ไม่นานนักก็ได้ยินเสียงรถยนต์วิ่งเข้ามาจอดที่ด้านนอก เด็กหนุ่มเข้าใจว่าเป็นรถของปราบจึงเดินกลับออกไปแต่ไฟไซเรนวูบวาบแยงตาของรถตราโล่ที่จอดทำให้เขารู้ตัวว่าตกอยู่ในสถานการณ์คับขันเข้าให้แล้ว

“หยุด! นี่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ยกมือขึ้นช้าๆ แล้วเดินมาด้านนอกเดี๋ยวนี้”

ตำรวจในเครื่องแบบสามนายเล็งปืนมาทางเวหาพร้อมกับออกคำสั่ง เวหาตกใจจนแทบช๊อค ถึงจะเป็นหัวโจกไม่กลัวอะไรง่ายๆ แต่เขาก็เป็นแค่เด็กวัยรุ่นอายุเพิ่งสิบแปด เหตุการณ์ตรงหน้ามันควรจะเกิดขึ้นในหนังหรือเกมส์มากกว่าจะเป็นเรื่องจริงต่อหน้าต่อตาแบบนี้ เวหาขาสั่นขณะค่อยๆ ยกมือที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อขึ้นเหนือศีรษะ

ตำรวจหนุ่มหนึ่งนายวิ่งเข้ามาค้นตัวเวหาภายใต้การเล็งปืนคุ้มกันของเพื่อนตำรวจที่เหลือแล้วจึงตะโกนรายงานเสียงดัง

“ไม่พบอาวุธครับสารวัตร”

เวหาจำใบหน้าหล่อเหลาของนายตำรวจที่เปิดประตูลงมาจากรถได้ทันที ถ้าญาติผู้พี่ของแสนเป็นผู้นำกำลังตำรวจชุดนี้ เห็นทีนี่คงเป็นหลุมพรางที่เขาก็โง่จนเข้ามาติดกับด้วยตัวเอง

“ยังไงก็ประมาทไม่ได้ หมู่ ใส่กุญแจมือเอาไว้ก่อน แล้วตรวจฉี่ด้วยนะ” สารวัตรออกคำสั่ง เวหาเริ่มตั้งสติได้จึงรีบเรียกร้องความเป็นธรรมออกมาทันที

“ผมไม่ได้ทำผิดอะไร ตำรวจจะทำอย่างนี้กับประชาชนไม่ได้นะ ผมเป็นแค่นักศึกษาปีหนึ่งธรรมดา ไม่ได้เป็นโจรผู้ร้ายมาจากไหน ผมฟ้องเอาผิดกับสารวัตรได้เลยนะ”

“แล้วนักศึกษาปีหนึ่งธรรมดาทำไม่ถึงได้มาอยู่ในที่อโคจรแบบนี้ ที่นี่น่ะ มีแต่พวกที่มามั่วสุมกันหรือไม่ก็นัดส่งยา หมู่ ไม่ต้องสนใจ จัดการตามที่สั่งเดี๋ยวนี้”

นายสิบตำรวจหนุ่มจับแขนของเวหาไขว้หลังแล้วล็อคกุญแจมือทันทีอย่างไม่ปราณีปราศรัย ตำรวจอีกคนรูดซิปกางเกงเวหาลงแล้วพยายามล้วงควยออกมาเพื่อจะเก็บตัวอย่างปัสสาวะ แต่ปลุกปล้ำอยู่นานก็ยังไม่สำเร็จเพราะดุ้นควยที่ใหญ่มหึมาจนยากที่จะควักออกมาผ่านช่องซิปแคบๆ ได้ แถมเจ้าตัวยังไม่ให้ความร่วมมือด้วยการดิ้นขัดขืน สารวัตรที่รออยู่อย่างรำคาญเลยยกปืนขึ้นจ่อหัวจนเวหาต้องสิ้นพยศ ในที่สุดควยขนาดยักษ์ก็ออกมาห้อยอยู่นอกกางเกงพร้อมกับที่เจ้าตัวถูกบังคับให้เบ่งฉี่ออกมาใส่กระปุกพลาสติกที่นายสิบตำรวจถือรองไว้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถูกสารวัตรหนุ่มถ่ายวิดีโอเก็บไว้ทั้งหมด

สารวัตรเอาตัวอย่างที่เก็บได้กลับไปที่รถ จากนั้นไม่นานก็กลับมาพร้อมกับแถบกระดาษที่ขึ้นเส้นสีม่วงอย่างเห็นได้ชัด

“ฉี่ม่วงว่ะ สงสัยต้องลองค้นตัวให้ละเอียดซะแล้วว่าเสพอย่างเดียวหรือทั้งเสพทั้งขาย” สารวัตรประกาศผลต่อหน้าตำรวจสามนายที่ยืนคุมตัวเวหาอยู่ เวหาแทบคุมสติไม่อยู่ตะโกนใส่หน้านายตำรวจเสียงดัง

“โกหก ผมไม่เคยเล่นของพวกนี้ ฉี่จะม่วงได้ยังไง สารวัตรเป็นพวกเดียวกับไอแสน เตี้ยมกันมาเพื่อใส่ความผม ให้ไอปราบหลอกผมมาที่นี่”

“กล่าวหาเจ้าหน้าที่นี่เป็นอีกข้อหาได้เลยนะคุณเวหา หมู่ จับผู้ต้องหาแก้ผ้า ผมจะค้นตัวเขาเอง ใครก็ได้เอาโทรศัพท์ผมไปถ่ายต่อที มีอะไรจะได้เป็นหลักฐานว่าผู้ต้องหาขัดขืนจนตำรวจต้องใช้กำลัง”

เสื้อนักศึกษาของเวหาถูกตำรวจหนุ่มผิวคล้ำถอดออกขณะที่ช่วงล่างก็ถูกตำรวจอีกคนจัดการไปพร้อมกัน ไม่นานเวหาก็ยืนเปลือยกายอยู่หน้าโกดังร้างต่อหน้าตำรวจในเครื่องแบบสี่นาย สายตาทั้งหมดจ้องไปที่เครื่องเพศอันใหญ่โตทั้งไข่ทั้งควยแล้วก็บุ้ยปากใส่กันอย่างขบขัน เด็กหนุ่มรู้สึกเหมือนเกิดเดจาห์วู สภาพอันน่าอับอายที่เขาคิดว่าหลุดพ้นไปแล้วมันกลับมาอีกครั้ง

“แบ่งกำลังกันออกไป คนนึงค้นในเสื้อผ้าให้ละเอียด อีกคนไปค้นในรถ เดี๋ยวผมจะค้นตัวผู้ต้องหาเอง ส่วนหมู่ยืนถ่ายตรงนั้นเอาให้เห็นตอนค้นตัวชัดๆ”

ตำรวจกระจายตัวแยกย้ายกันออกไปในขณะที่สารวัตรเดินเข้าไปประชิดตัวเวหาแล้วกระซิบเบาๆ ด้วยท่าทีคุกคาม

“มึงไปทำเหี้ยอะไรน้องกูถึงได้โกรธขนาดนั้น เตรียมตัวไว้ได้เลย คราวนี้มึงเจอหนักแน่”

สารวัตรมองสายตาพรั่นพรึงของเด็กหนุ่มด้วยความกระหยิ่มใจ เขาออกคำสั่งให้ผู้ต้องหาหันหน้าเข้าหาผนังโกดังเอามือทั้งสองข้างเท้าไว้แล้วแยกขาออก จากนั้นก็เอามือไล่บีบเค้นไปทั่วร่างกายเปลือยเปล่าที่เต็มไปด้วยความหนุ่มแน่นทั้งๆ ที่รู้อยู่แก่ใจว่าไม่มีอะไรซุกซ่อนอยู่ นายตำรวจหนุ่มตรวจซ้ำอยู่หลายรอบอย่างละเอียด เขาทำแม้กระทั่งถอกหัวควยเวหาออกมาดูแต่ก็ยังไม่เจออะไร สารวัตรหนุ่มซ่อนยิ้มไว้ในใบหน้าหยิบถุงมือยางขึ้นมาสวม เขาหันตัวบังกล้องเล็กน้อยแล้วก็นิ้วล้วงเข้าไปในรูตูดของเด็กหนุ่มอย่างแรง เจ้าของช่องทางสะดุ้งเฮือกร้องลั่นออกมาด้วยความเจ็บปวด นายตำรวจหนุ่มเพิ่มจำนวนนิ้วมือแล้วควานไปมาท่ามกลางความทรมานเวหาอยู่ครู่ใหญ่จนเปิดเป็นรูกว้าง ในที่สุดเขาก็ถอนนิ้วออกมาพร้อมกับห่อพลาสติกยาวๆ ในอุ้งมือ

“หมู่มาถ่ายตรงนี้ นี่ผมเพิ่งควักออกมาได้สดๆ จากทวารหนักผู้ต้องหา เฮ้อ พวกค้ายานี่พยายามทุกรูปแบบที่จะซ่อนของ เลยนะ หมู่ถ่ายช่องทวารหนักให้เห็นชัดๆ เลยนะ นี่ผมดึงออกมาจากรูนี้เลย มันฟิตนิ้วมากหนีบซะแน่นเลยกว่าจะเอาออกมาได้ ไหนลองแกะดูสิว่ามีอะไร โหท่าทางจะเป็นยาบ้านะนี่ สิบกว่าเม็ดเลย ตัวสีเขียวแบบนี้เห็นเขาว่าสารออกฤทธิ์มันจะเยอะกว่าทั่วไปห้าเท่าไม่ใช่เหรอหมู่ อย่างนี้เท่ากับยาบ้าธรรมดาห้าสิบเม็ดเลย มีไว้เพื่อจำหน่ายชัดๆ”

เวหาเจ็บช่องทางด้านหลังที่ถูกรุกล้ำเหลือประมาณแต่เขาสาบานได้ว่าไม่มีอะไรออกมาจากรูนั้นแน่ๆ นี่เขาโดนยัดยาอย่างหน้าด้านๆ เลยหรือ เด็กหนุ่มมองหน้านายตำรวจหนุ่มด้วยความเคียดแค้นในขณะที่ใบหน้าขาวคมคายของอีกฝ่ายส่งสายตายิ้มเยาะออกมาอย่างไม่ปิดบัง

เวหาถูกจับขึ้นรถตำรวจไปทั้งๆ ที่ยังไม่ได้สวมเสื้อผ้า เขาได้รับแจ้งว่ารถของเขาถูกยึดเป็นของกลางและจะมีตำรวจขับไปไว้ที่โรงพัก เด็กหนุ่มคิดไม่ออกเลยว่าเขาจะเอาตัวให้รอดพ้นจากข้อหาร้ายแรงนี้ได้อย่างไร ยิ่งคิดก็ยิ่งแค้นใจที่คนเลวๆ อย่างแสนใช้ตำรวจชั่วมายัดข้อหาเขาแบบนี้

เมื่อไปถึงโรงพัก เวหาก็ต้องถูกฉุดกระชากไปทั้งๆ ที่ยังเปลือยๆ ผ่านประชาชนมากมายที่มาใช้บริการโรงพักตั้งแต่ที่จอดรถไปจนถึงโถงกลาง ผู้คนทั้งชายหญิงลูกเล็กเด็กแดงต่างพากันชี้ชวนกันดูหนุ่มหล่อที่ถูกจับกุมในสภาพเปลือยกายโชว์เครื่องเพศใหญ่โตมโหฬารเหมือนไม่ใช่ของคนไทยอย่างสงสัย เด็กหนุ่มอับอายเหลือจะกล่าวได้แต่ซบหน้ากับไหล่ตัวเองเพราะไม่สามารถเอาแขนที่ถูกใส่กุญแจมืออยู่ขึ้นมาปิดได้

เวหาถูกนำตัวมาที่ทิ้งไว้ที่ห้องสอบสวนคนเดียวโดยที่ไม่ได้รับอนุญาตให้สวมเสื้อผ้าแม้แต่ชิ้นเดียว เด็กหนุ่มได้แต่เจ็บใจตัวเองที่หลงกลอุบายง่ายๆ ของแสน เขามองปราบผิดไปจริงๆ จนทำให้ต้องมาตกอยู่ในสภาพแบบนี้ เวหานั่งรออยู่นานก็ยังไม่มีตำรวจคนไหนเข้ามาสอบปากคำอะไรเขา เวลาผ่านไปจนหนุ่มวิศวะเริ่มกระวนกระวาย นาฬิกาบนผนังบอกว่าเป็นเวลาสองทุ่มกว่าแล้ว แอร์ในห้องสอบสวนถูกปิดไปตั้งแต่เขาเข้ามาใหม่ๆ ตอนนี้เวหาเหงื่อท่วมเคลือบร่างเปลือยจนมันเลื่อมไปหมด เขาหิวจนปวดท้อง จะออกไปสอบถามอะไรจากตำรวจประตูก็ติดล็อคจากด้านนอก เขาไม่คิดว่าในกระบวนการสอบสวนปกติจะจำเป็นต้องให้ผู้ต้องหารอนานจนเลยเวลาราชการขนาดนี้ น่าจะเป็นการกดดันเพื่อหวังผลอะไรบางอย่าง

ในที่สุดประตูห้องก็เปิดออก สารวัตรในชุดเครื่องแบบครึ่งท่อนเข้ามาด้วยใบหน้าหล่อเนียบสดชื่นหอมกลิ่นสบู่จางๆ เหมือนได้ไปอาบน้ำแล้วงีบพักมาจนเต็มอิ่ม นายตำรวจหนุ่มเหยียดปากยิ้มให้เวหาก่อนจะทรุดตัวลงนั่ง

“ได้นั่งพักจนหายเหนื่อยหรือยัง เวหา พร้อมจะรับการสอบสวนหรือยัง”

“สารวัตรจะมายัดข้อหามั่วๆ แบบนี้ไม่ได้ ผมจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด”

“โอเค การสอบสวนเสร็จสิ้น ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธแต่ต้องจำนนต่อหลักฐานซึ่งเป็นยาบ้าจำนวนสิบสองเม็ดที่ซุกซ่อนไว้ในทวารหนักสันนิษฐานว่ามีไว้เพื่อจำหน่ายให้กับเพื่อนนักศึกษาในมหาลัย สำนวนชัดเจนขนาดนี้ อัยการใช้เวลาไม่กี่วันคงส่งฟ้องได้ โทษคดียาเสพติดมันร้ายแรงมากนัก ขั้นต่ำก็ติดคุกสี่ปี อนาคตเธอจะมาจบแค่นี้เหรอ”

“สารวัตรจะเอายังไง เรื่องทั้งหมดสารวัตรก็ปั้นแต่งขึ้นมาเองอยู่แล้วนี่”

“ในฐานะตำรวจผมก็คงต้องดำเนินคดีไปตามกฎหมาย แต่ในฐานะพี่ชายของรุ่นพี่คณะที่แสนดีของเธอ ผมมีข้อเสนอให้”

“สารวัตรทำงานให้พี่แสนจริงๆ ทำมาเป็นพูดโน่นพูดนี่ ไหน เขามีข้อเสนอทุเรศๆ อะไร” เวหาเหน็บแนมอย่างสุดทน แต่ตำรวจหนุ่มก็ไม่สนใจ

“รุ่นพี่เธอยินดีรับรุ่นน้องนอกคอกอย่างเธอกลับไปควบคุมความประพฤติให้ ขอแค่มีหลักประกันให้มั่นใจว่าเธอจะเชื่อฟังคำสั่งเขาโดยไม่มีเงื่อนไข ถ้าตกลงคดีนี้จะถูกดองไปจนหมดอายุความ”

“หลักประกันที่ว่าคืออะไร” เวหาถามอย่างหมดแรงที่จะต่อต้าน ถ้าเป็นการให้เขาลาออกจากมหาลัยไปเขาจะตกลงอย่างไม่ลังเลเลย เวหาถอดใจแล้ว การต่อสู้กับคนที่มีอิทธิพลและทำเรื่องเลวร้ายทุกอย่างได้โดยไม่คำนึงถึงวิธีการอย่างแสนมันไม่มีทางจะชนะได้เลย

“แสนเขาขอคลิปจากเธอแค่สามคลิป เป็นอะไรที่ไม่มากไปใช่ไหม น้องชายผมนี่ใจดีจริงๆ”

“คลิปอะไร ผมมีแค่คลิปรับน้องอันเดียวที่พี่แสนเขาน่าจะอยากได้คืน เอ๊ะหรือคลิปแอบถ่ายในรถด้วย”

“ผมไม่รู้ว่าเธอหมายถึงคลิปอะไร แต่อันที่แสนต้องการเธอต้องถ่ายทำใหม่หมด เขาขอคลิปที่เธอมีอะไรกับผู้ชายสามคน คลิปละคน เธอต้องแนะนำตัวเองด้วยชื่อจริงนามสกุลจริงบอกประวัติส่วนตัวโดยละเอียด บอกคนดูว่าที่มาอัดคลิปเป็นความชอบส่วนตัวทำไปเพราะความสนุก จากนั้นค่อยไปเลียตูดดูดนมอมควยผู้ชายด้วยท่าทางเต็มอกเต็มใจที่สุด ย้ำนะว่าทำให้ร่านๆ ไปเลย พอน้ำแตกเธอต้องกินเข้าไปให้หมด ทำอย่างนี้สามคลิปกับผู้ชายสามคน แสนเขาจะขอเก็บไว้เป็นหลักประกันว่าเธอจะไม่พยศเขาเหมือนที่ผ่านมา เห็นไหม ง่ายๆ แค่นี้ ส่วนผู้ชายที่จะเอามาถ่ายด้วยก็ไม่ยาก หาเอาแถวนี้ ในห้องขังก็มีตั้งหลายคน ไปชี้เลือกเอาได้เลย”

เงื่อนไขที่สารวัตรเสนอมันแสนจะอุบาทว์จนเวหาเลือดขึ้นหน้า แค่คิดก็ขย้อนมาถึงคอหอยแล้วทั้งๆ ที่ไม่มีอะไรในท้อง

“ไอเหี้ย กูไม่ทำ”

“พูดกับเจ้าหน้าที่ให้ดีหน่อย เวหา ถ้าไม่ทำเธอก็ต้องถูกดำเนินคดียาเสพติดตามกฎหมาย ไม่เสียดายชื่อเสียงวงศ์ตระกูลเหรอ”

“ก็เอาซี่ ผมขอให้เรื่องนี้ไปถึงขั้นศาล จะได้รู้กันไปเลยว่าความยุติธรรมมันไม่เหลือแล้วในสังคมไทยจริงๆ”

สารวัตรชะงักไปเมื่อเห็นเวหายืนกรานที่จะไม่ทำตามแผนการของแสน ที่จริงเขากะแค่ขู่ ถ้าจะยัดข้อหาจริงๆ มันก็ยุ่งยากอยู่ไม่น้อย นายตำรวจหนุ่มจึงพยายามกดดันต่อ

“แน่ใจหรือว่าจะเลือกทางนั้น คืนนี้คงไม่มีเจ้าหน้าที่มาทำเรื่องประกันตัวให้หรอกนะ เธอคงต้องนอนในห้องขังถึงเช้า แล้วอาจจะยาวเลยถ้าเจ้าพนักงานพิจารณาแล้วว่าไม่ควรให้ประกันตัว แต่ถ้าเธอยอมดีๆ แล้วไม่ทำตัวดื้อรั้นกับแสนอีก คลิปพวกนี้ก็จะไม่มีใครได้เห็น”

“ถามจริงสารวัตรไม่ละอายแก่ใจเลยเหรอ จบมาจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจคงผ่านพิธีสาบานตนว่าจะเป็นข้าแผ่นดินที่ดีของประเทศมาแล้ว คำสาบานมันย้อนเข้าตัวเอาได้นะ”

“หยุดพูด เด็กอย่างมึงจะไปรู้อะไร ที่กูก้าวหน้ามาขนาดนี้คงไม่ใช่เพราะเชื่อเรื่องงมงายพวกนั้นหรอก”

สารวัตรมองหน้าเวหาอย่างโกรธจัด ถ้าไอเด็กนี่อยากติดคุกจริงๆ ก็จะสงเคราะห์ให้ เขาเอาเอกสารร่างสำนวนที่ทีแรกตั้งใจจะแค่ใช้ขู่ขึ้นมาเพื่อเตรียมจะสรุปเรื่องจริงๆ ยังไม่ทันที่จะดำเนินการอะไรต่อ เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นอย่างถี่ยิบ จนสารวัตรต้องเดินไปเปิดอย่างอารมณ์เสีย

“มีอะไรหมู่ บอกแล้วว่าอย่าเข้า… เอ่อ ผู้กำกับเองเหรอครับ”

สารวัตรมองผู้บังคับบัญชาของตัวเองที่ยืนรออยู่นอกห้องด้วยความแปลกใจ อีกฝ่ายเป็นตำรวจรุ่นเก่าวัยใกล้เกษียณ อย่าว่าแต่ในโรงพักตอนสามทุ่มแบบนี้เลย ในเวลาราชการยังหาตัวผู้กำกับแทบไม่เคยเจอ การงานทุกอย่างถูกผ่องถ่ายลงมาที่ลูกน้องหมดจนหัวหน้าโรงพักอย่างผู้กำกับแทบจะไม่ต้องทำอะไร ยิ่งเขาอาสารับงานต่างๆ ไปทำ อีกฝ่ายก็ยิ่งไว้ใจ เป็นโอกาสให้เขาเอาชื่อผู้กำกับไปใช้อ้างเวลาที่ทำเรื่องที่ไม่โปร่งใสนักอยู่บ่อยๆ

“คดียาบ้าอะไรของลื้อที่ไปจับมาเมื่อเย็นนี้หลักฐานมันชัดเจนเพียงพอเปล่าวะ ไม่รู้ทำไมผู้ใหญ่เขาถามอั๊วมา เอาให้ดีนะโว้ย ไม่ใช่ไปจับเอาลูกคนใหญ่คนโตมา”

“ใครถามถึงครับ เรื่องมันเพิ่งเย็นนี้เอง ผู้ต้องหายังไม่มีโอกาสใช้โทรศัพท์เลย ไม่น่ามีใครรู้เรื่องนี้นะครับผู้กำกับ”

“แต่ผู้การโทรมาเองเลย บอกว่าให้มาดูเองให้แน่ใจหน่อย ลำบากอั๊วต้องออกจากบ้านมืดค่ำอย่างนี้ ไปเอาข้อมูลหลักฐานมาดูเร็วๆ ถ้าไม่ได้มีอะไรผิดปกติ อั๊วจะได้กลับไปนอน”

สารวัตรภคินสั่งให้ลูกน้องไปเอาข้อมูลหลักฐานเรื่องนี้มา ไม่กี่อึดใจถุงยาบ้าที่เขาแกล้งทำเป็นค้นตัวเจอจากเวหาพร้อมกับแถบตรวจสารเสพติดที่ขึ้นขีดม่วงของใครไม่รู้ที่เขาเตรียมไว้ล่วงหน้าก็ถูกเอามาให้ผู้กำกับดู นายตำรวจหนุ่มคิดว่าอีกฝ่ายคงแค่ดูพอเป็นพิธีจะได้ไปตอบนายได้ แต่นายตำรวจเฒ่ากลับตรวจสอบอย่างจริงจัง

“ทำไมหลักฐานสำคัญแบบนี้ไม่มีสลากกำกับรายละเอียดไว้ล่ะสารวัตร แบบนี้ก็มั่วหมดไม่รู้ว่าของใครเป็นของใคร หมู่ๆ ไปเอาชุดตรวจสอบอันใหม่ไปตรวจฉี่ผู้ต้องหาในห้องตอนนี้เลย แล้วนี่อะไรสารวัตร เม็ดใสๆ แบบนี้มันใช่ยาบ้าที่ไหนกัน ลื้อมั่วมาหรือเปล่า”

สารวัตรอ้าปากค้างเมื่อเห็นว่ายาบ้าสิบกว่าเม็ดที่เขาเตรียมมาเป็นหลักฐานกลายไปเป็นยาอะไรไม่รู้ที่มีขนาดใกล้เคียงกัน เขาหยิบมาดูใกล้ๆ ก็ได้กลิ่นหอมสดชื่นเหมือนเป็นลูกอมดับกลิ่นปากมากกว่า

“ที่ผมตรวจเจอมันไม่ใช่อันนี้นะครับ หรือลูกน้องผมจะหยิบสลับมา”

“จะยังไงมันก็ใช้ไม่ได้แล้ว หลักฐานที่ไม่ได้ถูกปิดผนึกลงลายมือชื่อและมีรายละเอียดกำกับจะเอาไปใช้ส่งฟ้องได้ยังไง เรื่องพื้นฐานแบบนี้ทำไมลื้อถึงหลุดไปได้ ไม่ไหวจริงๆ งั้นรอผลฉี่ก่อนแล้วกัน”

ไม่นานนายสิบหนุ่มก็กลับมาด้วยแถบตรวจสอบสารเสพติดที่หยดปัสสาวะจริงๆ ของเวหาลงไปแล้ว เรื่องมันเกิดขึ้นเร็วมากจนนายตำรวจหนุ่มเตี้ยมกับลูกน้องไม่ทัน ผู้กำกับดูแถบสีที่ขึ้นสองเส้นแล้วก็มองไปที่สารวัตรอย่างตำหนิ

“ก็ผลเป็นลบนี่หว่า ลื้อทำงานยังไงกัน แล้วอั๊วจะไปตอบผู้การยังไงล่ะทีนี้ รีบปล่อยตัวผู้ต้องหาเดี๋ยวนี้เลยนะ ดูสิ ท่านโทรมาอีกแล้ว” นายตำรวจเฒ่ารีบรับโทรศัพท์ที่ดังขึ้นทันที

“ครับท่านผู้การ… ไม่มีหลักฐานอะไรเลย… ผมให้ลูกน้องปล่อยตัวเดี๋ยวนี้ล่ะครับ… ต้องขอประทานโทษจริงๆ กับความผิดพลาดครั้งนี้… เจ้าของคดีเป็นสารวัตรครับ ชื่อภคิน ปกติก็ทำงานดีมาตลอด แต่ครั้งนี้พลาดมากๆ… ได้ครับ เดี๋ยวผมส่งประวัติไปให้ ต้องขออภัยจริงๆ ครับ” ผู้กำกับคุยโทรศัพท์ไปพลางส่งสายตาคาดโทษไปที่สารวัตรภคินจนเจ้าตัวออกอาการเครียด เขาไม่เข้าใจว่าถุงยาถูกสับเปลี่ยนไปได้อย่างไร แล้วอะไรทำให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงถึงสนใจติดตามคดีไม่สำคัญแบบนี้ แต่แน่ๆ เขาทำงานที่ญาติผู้น้องที่เขาเกรงใจไหว้วานมาไม่สำเร็จ แถมยังถูกเพ่งเล็งจากผู้บังคับบัญชาอีก

เวหาที่ถูกปล่อยตัวมาพร้อมกับได้รับข้าวของเสื้อผ้าคืนมาอย่างครบถ้วนขับรถออกไปจากโรงพักด้วยความมึนงง จากที่เหมือนจะต้องติดคุกเป็นปีกลับถูกปล่อยตัวมาอย่างง่ายๆ แบบนี้ พอขับเลยโรงพักออกไปเด็กหนุ่มก็ขวัญผวาเมื่อเห็นจราจรโบกให้จอด แต่พอดูดีๆ กลับเป็นจ่าหุ่นล่ำขนดกขี้เงี่ยนที่ชอบชวนเวหาไปดูตัวเองเย็ดเมียอยู่บ่อยๆ

“โธ่จ่า ผมตกใจหมดเลย”

“เจอหนักเลยล่ะสิเที่ยวนี้ คดียาเสพติดเลยนะ ใครจะคิดว่าสารวัตรกะเล่นเอ็งถึงตายแบบนี้”

“อ้าวจ่ารู้เรื่องนี้ด้วยเหรอ”

“ไม่ใช่แค่รู้ แต่ข้านี่แหละที่เป็นคนช่วยเอ็งออกมา”

แล้วจ่าก็เล่าอย่างภาคภูมิใจว่ารู้ข่าวเรื่องนี้จากนายสิบคนหนึ่งที่ไปร่วมจับกุมด้วยแต่ไม่ใช่ลูกน้องของสารวัตรโดยตรง ตำรวจคนนี้อยู่ในก๊วนตำรวจน้ำดีของจ่าพอเห็นขนาดควยมหึมาของเวหาก็นึกได้ว่าน่าจะเป็นเด็กที่จ่าพูดถึงบ่อยๆ ยิ่งเห็นขั้นตอนการจับกุมแปลกๆ ของสารวัตรก็ยิ่งไม่ไว้ใจเลยรีบแอบโทรบอก จ่าจึงขอให้ตำรวจคนนี้ช่วยสับเปลี่ยนของกลางส่วนตัวเองก็รีบบึ่งรถไปขอพบผู้การถึงบ้านอาศัยว่าเป็นนายเก่าที่เคยเป็นพลขับให้ ทีแรกผู้การก็คิดว่าเป็นแค่เรื่องไม่เป็นเรื่องแต่พอเห็นชื่อนามสกุลของเวหาก็เปลี่ยนท่าทีเป็นให้ความสนใจ จ่าไม่แน่ใจว่าเพราะอะไรแต่ในเมื่อผู้การรับปากก็โล่งใจรีบกลับมาดูสถานการณ์ที่โรงพักจนกระทั่งมาดักรอพบเวหาตรงนี้

“ผมขอบคุณจ่ามากๆ ครับ ไม่ได้จ่าผมต้องแย่แน่ๆ”

“เห้ย ไม่เป็นไร เอ็งกับข้าก็สนิทกันซะเกือบจะร่วมเตียงอยู่แล้ว ยังไงเรื่องนี้ทำให้เห็นธาตุแท้จริงๆ ของสารวัตรซะที”

“เห็นไหม แต่ก่อนพอผมบอก จ่าก็ไม่ค่อยเชื่อ แต่รู้แล้วก็เท่านั้น เราทำอะไรเขาไม่ได้อยู่ดี”

“นั่นสิ ข้าก็แค่ชั้นประทวน จะไปเล่นงานระดับสารวัตรได้ไง มันต้องขั้นนายพลถึงจะหือไม่ออก”

กระแสการต่อต้านแสนที่เวหาจุดขึ้นต้องมาสะดุดลงเพราะกิจกรรมเป็นหน้าเป็นตาที่กำลังจะเกิดขึ้น ปีนี้คณะวิศวะของเวหาได้เป็นเจ้าภาพจัดงานกีฬาเกียร์สัมพันธ์หรือเกียร์เกมส์ซึ่งเป็นงานใหญ่ที่มีคณะวิศวะจากมหาลัยต่างๆ ทั่วประเทศมาร่วมแข่งด้วย นี่เป็นครั้งแรกของทั้งคณะและมหาลัยที่ได้จัดงานระดับนี้ ผู้บริหารต่างหมายมั่นปั้นมือว่าผลสำเร็จของงานจะทำให้มหาลัยแห่งนี้มีชื่อเสียงทัดเทียมกับมหาลัยในกรุงเทพและหัวเมืองใหญ่ๆ

การจัดงานใหญ่ต้องมีผู้นำ และแสนเองก็เป็นตัวตั้งตัวตีทำงานนี้มาโดยตลอด คนในคณะที่ไม่พอใจแสนต่างก็ไม่กล้าจะแสดงอาการต่อต้านอะไรมากในช่วงนี้เพราะกลัวจะเสียงาน ทั้งอาจารย์ รุ่นพี่ ศิษย์เก่า ต่างคาดหวังในความสำเร็จแบบเต็มร้อยซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าแสนในฐานะผู้นำทำหน้าที่ได้ดีมาก บัสเป็นอีกคนที่ทุ่มเทเรื่องนี้อย่างถวายหัวและอาจเรียกได้ว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของงานจริงๆ เขาทำงานตามคำสั่งของแสนอย่างไม่รู้เหน็ดเหนื่อยในขณะที่แสนได้หน้าได้ตาจากผลงานไปทั้งหมด แต่ประธานรุ่นปีสามไม่ได้ใส่ใจเรื่องนั้น เขาสนแต่ว่าทำอย่างไรงานนี้จะสมบูรณ์แบบที่สุดเพื่อชื่อเสียงของคณะและมหาลัย

แสนนัดทีมงานชุดใหญ่ซึ่งประกอบไปด้วยนักศึกษาวิศวะทั้งสี่ชั้นปีเกือบสองร้อยคนมาประชุมกันที่อัฒจันทร์ใหญ่ตรงสนามกีฬาเพื่อดูสถานที่จริงไปด้วย แทนที่เขาจะให้ทีมงานนั่งสบายๆ บนอัฒจันทร์เขากลับให้ทั้งหมดนั่งเบียดเสียดกันอยู่ตรงพื้นด้านล่างส่วนตัวเองขึ้นไปยืนเด่นเป็นสง่าบนชั้นกลางๆ ของอัฒจันทร์ แต่ก็ไม่มีใครแปลกใจอะไรเพราะเป็นที่รู้กันว่าแสนไม่ชอบอยู่ที่ต่ำกว่าคนอื่น ประธานรุ่นปีสี่วิศวะแต่งตัวมาในชุดนักบอลเหมือนจะช่วยสร้างบรรยากาศ กางเกงขาสั้นโชว์ขนหน้าแข้งและรองเท้าผ้าใบสีสดที่เขาสวมทำให้การประชุมดูผ่อนคลายขึ้นจริงๆ

ถึงจะบอกว่าเป็นการประชุม แต่จริงๆ มันเป็นการมาฟังแสนพูดฝ่ายเดียวเสียมากกว่า แสนใช้เครื่องเสียงแบบพกพาในการพูดเพื่อปลุกเร้าให้ถูกคนร่วมมือร่วมใจกันเพื่องานที่เป็นหน้าเป็นตาของคณะ ถึงเบื้องหลังของประธานรุ่นปีสี่จะเป็นยังไงแต่คงไม่มีใครปฏิเสธว่าคนๆ นี้มีบุคลิคที่น่าเกรงขามและมีความมั่นใจสูงสมกับเป็นผู้นำจริงๆ แสนยืนเด่นเป็นสง่าพูดเสียงดังฟังชัดท่ามกลางผู้คนเป็นร้อยๆ คนโดยไม่มีท่าทีเคอะเขินแต่อย่างใด

“พิเศษในปีนี้ เพื่อให้กีฬาเกียร์สัมพันธ์ที่เราเป็นเจ้าภาพเป็นที่จดจำไปตลอด ผมจะจัดให้มีกีฬาสาธิตที่แสดงถึงความเป็นไทยเพื่อให้รู้ว่าว่าที่วิศวกรอย่างพวกเรา ถึงจะต้องก้าวตามให้ทันเทคโนโลยีแค่ไหน เราก็ยังไม่ลืมรากเหง้าบรรพบุรุษในกีฬาที่ถือว่าเป็นสุดยอดของลูกผู้ชายอย่างมวยไทยคาดเชือก”

เสียงฮือฮาดังมาจากนักศึกษาที่เป็นทีมงานทั้งหมด ปกติเกียร์เกมส์จะมีแต่กีฬาพื้นฐานทั่วไปอย่างฟุตบอล บาสเก็ตบอล หรือเทนนิส จะมีแหวกแนวเมื่อสองสามปีก่อนที่มหาลัยทางภาคใต้ได้บรรจุเกมส์ออนไลน์เข้ามาเป็นกีฬาใหม่ แต่ไม่เคยมีครั้งไหนเลยที่ศิลปะป้องกันตัวที่มีความรุนแรงอย่างมวยคาดเชือกจะถูกบรรจุอยู่ในโปรแกรมการแข่งขัน

“จังหวัดเรานิยมจัดมวยคาดเชือกอยู่แล้ว รวมทั้งแบบที่จัดเป็นกึ่งแข่งกึ่งโชว์สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติก็มีหลายเวที เราควรถือโอกาสนี้สร้างความรับรู้ถึงของดีของจังหวัด วิศวกรเองก็ถือว่าเป็นอาชีพของลูกผู้ชาย ผมจึงเห็นว่ากีฬานี้มีความเหมาะสมที่สุด มีใครไม่เห็นด้วยโปรดแสดงตัว”

แสนออกตัวแรงจนไม่มีใครกล้าคัดค้านถึงแม้จะไม่แน่ใจว่ากีฬาขั้นสูงที่แฝงไว้ด้วยความรุนแรงอย่างนี้จะหาใครไปลงแข่งได้ ประธานปีสี่ผู้ทรงอิทธิพลเดินลงลงบันไดอัฒจันทร์ลงมาอีกสองขั้นมายืนอยู่เหนือระดับสายของเด็กปีหนึ่งที่นั่งเบียดกันหน้าสลอนเพื่อดูว่ามีใครกล้าเห็นแย้งคำพูดเขาบ้าง นักศึกษาด้านหน้าๆ หลบสายตาอย่างยำเกรง แต่ก็มีคนส่วนน้อยที่เงยหน้าขึ้นมองแล้วก็ต้องขยี้ตาด้วยความประหลาดใจ

จากตำแหน่งที่พวกปีหนึ่งนั่งอยู่พอมองขึ้นไปจะเห็นหว่างขาของแสนได้พอดี ขากางเกงบอลที่ทั้งสั้นทั้งบานประกอบกับท่ายืนถ่างขาที่แอ่นนิดๆ อย่างมั่นใจของแสนทำให้มองลอดเข้าไปได้จนถึงไหนๆ แต่แทนที่คนด้านหน้าๆ จะเห็นห่อหมกอวบอูมถูกห่อหุ้มด้วยกางเกงในอย่างที่ควรจะเป็น เขากลับเห็นทั้งดุ้นควยและพวงไข่พร้อมกับหมอยรกครึ้มของประธานปีสี่หน้าดุอยู่รำไร ยิ่งบางจังหวะที่แสนขยับตัวก็ยิ่งเห็นชัดทั้งแท่งเนื้ออวบสีน้ำตาลทอดตัวสงบนิ่งตามแรงโน้มถ่วงส่วนปลายมีหนังหุ้มปิดสนิทและกระโปกสีเข้มห้อยยานมีขนหยิกหยอยขึ้นประปราย

จากที่มีคนเห็นแค่คนสองสามในเวลาไม่นานก็สะกิดกันจนคนด้านหน้าทั้งหมดต่างแอบมองลอดเป้าของแสนอย่างไม่เชื่อสายตา บางคนไม่คิดไม่ฝันว่าจะได้เห็นอะไรอย่างนี้ถึงกับอ้าปากค้างตาเบิกโพลงจ้องเอาๆ อย่างจะๆ ไม่มีใครคิดว่าบุคคลที่น่าเกรงขามที่สุดของคณะจะมายืนโชว์เครื่องเพศให้เห็นชัดๆ กลางวันแสกๆ แบบนี้ รุ่นน้องผู้หญิงซึ่งมีจำนวนน้อยนิดนั่งก้มหัวหน้าแดงแล้วหน้าแดงอีก แต่ก็ยังอดชำเลืองมองเป็นระยะๆ ไม่ได้

แสนไม่ได้สังเกตอะไรยังคงเล่าแผนงานที่จะกระจายให้ฝ่ายต่างๆ ทำอย่างเป็นการเป็นงานในขณะที่นักศึกษาด้านหน้าซึ่งส่วนใหญ่เป็นเด็กปีหนึ่งไม่มีใครฟังรู้เรื่องเลย ทุกคนต่างลุ้นว่าแสนจะรู้สึกตัวเมื่อไหร่ และคนวางมาดอย่างนี้จะอับอายจนระเบิดอารมณ์ออกมาขนาดไหน แต่เวลาผ่านไปพักใหญ่ประธานการประชุมอย่างแสนก็ยังพูดต่อไปเรื่อยๆ บรรดาเด็กปีจากที่ลุ้นจนเกร็งก็เริ่มเปลี่ยนเป็นความขบขัน ไม่น่าเชื่อว่ารุ่นพี่ที่พวกเขากลัวจนหัวหดจะไม่นิยมนุ่งกางเกงในจนเห็นควยที่หัวยังไม่เปิดเหมือนจู๋เด็ก แถมยังความรู้สึกช้า ขากางเกงทั้งบานทั้งกว้างลมโชยถึงไข่จนหมอยปลิวอย่างนี้ยังไม่เอะใจ

เวหาซึ่งเป็นหนึ่งในทีมงานเนื่องจากตำแหน่งเดือนต้องช่วยกิจกรรมทุกอย่างของคณะอยู่แล้วเป็นคนแรกที่ใจกล้าถึงขนาดยกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายกันต่อหน้าต่อตาโดยใช้มุมเสยเพื่อให้เห็นชัดที่สุดท่ามกลางความตกใจของทุกคน แสนไม่มีท่าทีจะสนใจหรือห้ามปรามแต่อย่างไรยังคงพูดต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น พอเห็นดังนั้นโทรศัพท์นับสิบๆ เครื่องก็ถูกยกขึ้นมาเก็บภาพอันน่าอับอายของผู้นำคณะ ปีสามและปีสี่ที่ส่วนใหญ่ยืนพิงแผงกั้นอัฒจันทร์หรือไม่ก็นั่งอยู่ด้านหลังไกลๆ ต่างไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นด้านหน้าถึงได้ดูวุ่นวายขึ้นมา แต่ในเมื่อแสนไม่ว่าอะไรบรรดารุ่นพี่จึงยังฟังแสนต่ออย่างตั้งใจ

หลังจากยืนพูดอยู่พักใหญ่จนเมื่อยแสนก็ทรุดตัวลงนั่งตรงอัฒจันทร์โดยยังพูดต่ออย่างไม่ติดขัด ด้วยความเตี้ยของที่นั่งทำให้แสนต้องนั่งชันขาขึ้นจนขากางเกงร่นลงมากองที่ต้นขา คราวนี้ดุ้นควยและพวงไข่ของประธานหน้าดุถึงกับโผล่ออกมาห้อยต่องแต่งทั้งยวงเห็นชัดไปถึงพวกรุ่นพี่ที่อยู่ด้านหลังๆ บัสสะดุ้งเฮือกเมื่อได้เห็น เขาจะตะโกนบอกก็ไม่กล้าเพราะนั่นเท่ากับหักหน้าแสนกลางที่ประชุม บัสพยายามส่งสัญญานมือจากด้านหลังแต่ก็ไม่เป็นผล แสนยังคงพูดต่อไปเรื่อยๆ โดยไม่รู้ตัวว่าของพึงสงวนของตัวเองกำลังปรากฎต่อสายตาทุกคนอย่างชัดเจนทุกเส้นหมอย บัสกระหน่ำทั้งโทรทั้งไลน์หาแสนแต่เจ้าตัวก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู

ตอนนี้ทุกคนไม่มีใครสนใจฟังแสนอีกต่อไป ได้แต่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างสงสัย จะเป็นไปได้ยังไงที่นั่งไข่โผล่ขนาดนี้แล้วยังไม่รู้สึกตัวแม้แต่น้อย ตอนนี้ใครอยากถ่ายรูปก็ทำกันอย่างเปิดเผย บางคนถึงกับยื่นมือถือไปจ่อจนสุดแขน เสียงหัวเราะคิกคักอย่างแอบๆ ดังขึ้นไปทั่ว บัสอดรนทนไม่ได้ที่จะเห็นคนที่อยู่ในตำแหน่งผู้นำของนักศึกษาวิศวะทั้งหมดต้องมาอยู่ในสภาพเป็นตัวตลกให้กับรุ่นน้องแบบนี้ เขาทำเป็นเดินเอาน้ำดื่มไปให้แสนพร้อมกับกระซิบเรื่องควยโผล่ให้พังอย่างรวบรัดที่สุด ในระยะประชิดบัสสังเกตเห็นว่ารุ่นพี่ที่เขานับถือมีอาการที่ไม่ปกติเท่าไหร่ ทั้งหน้าแดงเหงื่อแตกซกและมีอาการสั่นเล็กน้อย

บัสแน่ใจว่าแสนได้ยินคำเตือนอย่างชัดเจน แต่ก็ไม่มีท่าทีว่าจะรับรู้ในสิ่งที่เขาสื่อออกไป ประธานรุ่นปีสามทำได้แค่ถือโอกาสตอนที่แสนหยิบขวดน้ำขึ้นมาดื่มตะโกนสั่งรุ่นน้องว่าห้ามเอาโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นและให้ก้มหน้าตั้งใจฟังไป

“ในส่วนของงานเลี้ยงตอนเย็นของพิธีปิด เราจะต้องจัดให้สนุกกว่าเจ้าภาพปีก่อนๆ วิศวะนอกจากเรื่องเรียนเรื่องกีฬาแล้ว เรื่องบันเทิงเราก็ไม่น้อยหน้าสายอาชีพอื่นแน่ๆ มีดนตรีมันส์ๆ ทั้งร้องทั้งเต้นกันให้สนุกสุดเหวี่ยง ผมตั้งใจจะให้มีมินิคอนเสิร์ตของศิลปินที่กำลังดังด้วย โชคดีมากๆ ที่พอทีมงานเราเริ่มสอบตามไปทางค่ายเพลงต่างๆ ก็มีนักร้องดังติดต่อกลับมา ทุกคนน่าจะรู้จักแทนคนที่ชนะเวทีไทยแลนด์สตาร์แฟกเตอร์กันนะครับ เขายังเรียนอยู่ปีสี่ที่กรุงเทพ เห็นว่ามีเพื่อนเรียนอยู่ที่มอเราเลยอาสามาช่วยงานฟรีๆ เห็นว่าช่วงนี้ขอหยุดพักกับต้นสังกัด อาจจะมาจอยกับเราได้ตั้งแต่ช่วงเริ่มแข่งด้วยซ้ำ งานนี้สนุกแน่”

แสนยังคงพูดโดยกางขานั่งอ้าซ่าควยโผล่ต่อไป แสนขยับตัวที พวงไข่ห้อยยานก็แกว่งไปมาเรียกสายตาคนฟังดูกันเพลิน แทบจะไม่มีใครจับประเด็นที่พูดได้ มาถามกันที่หลังยังไม่รู้เลยว่านักร้องที่จะมาชื่ออะไร กว่าการประชุมจะเสร็จ ทุกคนในที่นั้นก็จำรูปร่างลักษณะควยของประธานรุ่นปีสี่ได้อย่างขึ้นใจ

พอประชุมเสร็จคนส่วนใหญ่ก็แยกย้ายกันออกไป แต่ละคนอดใจแทบไม่ไหวที่จะคุยเรื่องที่เกิดขึ้นกับเพื่อนๆ ให้มันส์ปากจึงรีบรุดออกจากสนามกีฬาไป คงเหลือแต่บัสและปีสี่สองสามคนที่รอแสนอยู่ด้วยความกังวล ปีสี่ใจกล้าคนหนึ่งเข้าไปพูดกับประธานรุ่นของตัวเองตรงๆ เพราะเห็นว่าปลอดคนแล้ว

“แสน มึงเป็นอะไรวะ ทำไมนั่งไข่โผล่อยู่ได้ตั้งนาน เด็กมันเห็นหมดแล้ว”

“มึงพูดเรื่องอะไร ใครทำอะไร”

“ก็มึงไง ใส่กางเกงขาทั้งสั้นทั้งกว้าง แล้วดันไม่นุ่งกางเกงใน ไข่ออกมาห้อยอยู่ข้างนอกทั้งพวง น้องๆ ผู้หญิงก็เห็น นั่งหัวเราะกันคิกคัก มีคนถ่ายรูปด้วย มึงไม่รู้สึกตัวได้ยังไงวะ หรือว่ามึง...”

ไม่ทันที่จะพูดจบ วิศวะปีสี่คนนั้นก็ถูกแสนต่อยอย่างแรงจนหน้าหันเลือดกลบจมูก

“อย่ามาพูดใส่ความกูเหี้ยๆ คนบ้าที่ไหนจะไม่รู้ตัวนั่งควยโผล่อยู่ได้ อย่าให้กูได้ยินใครพูดเรื่องนี้อีก” แสนชี้หน้าทุกคนในที่นั้นแล้วเดินออกไปอย่างหัวเสียท่ามกลางสายตาของบัสที่มองอย่างเป็นห่วง

พฤติกรรมแปลกประหลาดของแสนได้กลายเป็นข่าวใหญ่ไปทั่วคณะ การพูดถึงซุบซิบนินทาอย่างออกรสเป็นไปอย่างลับๆ ภาพของสงวนของประธานรุ่นปีสี่นับร้อยๆ รูปถูกแชร์กันไปในหมู่เพื่อนฝูงเฉพาะที่สนิทไว้ใจกัน ไม่มีใครอยากตกเป็นเหยื่อโทสะของผู้มากไปด้วยอิทธิพลอย่างแสน

ที่ถกเถียงกันมากคือแสนไม่รู้สึกตัวจริงๆ หรือแกล้งทำกันแน่ ถ้าเป็นกรณีหลังคงสรุปได้ทันทีว่าประธานรุ่นวิศวะเป็นพวก

โรคจิตชอบโชว์ของลับ เวหาเป็นผู้สนับสนุนความคิดนี้อย่างเปิดเผยในหมู่ปีหนึ่ง เขาอยากจะใช้โอกาสนี้ให้เพื่อนๆ ได้ซึมซับความคิดที่ว่าแสนก็เป็นแค่ไอโรคจิตคนหนึ่ง ไม่ได้มีอะไรที่พวกเขาต้องกลัวขนาดนั้น แต่กลุ่มที่เชื่อว่าแสนไม่รู้สึกตัวจริงๆ ก็ยังมีอยู่เป็นส่วนใหญ่ ลึกๆ อาจเป็นเพราะไม่มีใครอยากยอมรับว่าผู้นำของคณะตัวเองเป็นคนวิปริตทางเพศ การถกเถียงระหว่างคนสองกลุ่มนำมาสู่การทดลองพิสูจน์หาความจริงสมกับที่เรียนวิศวะ

วิศวะปีหนึ่งกลุ่มใหญ่ยกโขยงกันไปที่อัฒจันทร์ที่ที่เป็นจุดเกิดเหตุ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนั้นถูกจำลองขึ้น ชุดนักบอลคล้ายๆ กับที่แสนสวมถูกจัดเตรียมมาอย่างดีแต่หาคนใส่ไม่ได้

“มึงเป็นคนใส่สิ มึงรูปร่างพอๆ กับพี่แสน”

“ไม่เอา มึงนั่นแหละใส่ เมื่อวานมึงนั่งชิดเลย ต้องจำท่าทางพี่แกมาได้หมด”

“กูไม่ไหววะ ไม่เคยไม่ใส่กางเกงใน ทำใจไม่ได้”

เวหาเห็นเพื่อนๆ ทำท่าจะเถียงกันอีกนานก็คงไม่มีข้อสรุปเขาจึงเข้าอาสาเสียเอง เด็กหนุ่มไม่คิดเหมือนกันว่าจะกล้าทำแบบนี้โดยไม่มีใครบังคับจากที่เคยอายในขนาดของตัวเองจนไม่ยอมให้ใครเห็น เวหารู้สึกว่าตัวเองเปลี่ยนไปเยอะเหมือนกันในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา

ใช้เวลาเปลี่ยนเสื้อผ้าไม่นานเวหาก็กลับมาพร้อมที่จะทำการทดลอง แต่แค่เริ่มก็เกิดอุปสรรคใหญ่แล้ว

“คิดได้ไงวะ ให้ไอเวหาเป็นตัวทดลอง ดูสิ แค่ยืนเฉยๆ ปลายควยมันก็โผล่เลยขากางเกงแล้ว”

“เออว่ะ งั้นจะทดลองกันยังไงดี”

“เอางี้ เวหา มึงดึงกางเกงลงมาอีกเยอะๆ เลย ไม่พอ ลงอีก”

“แค่นี้พอยัง นี่ก็จะหลุดตูดอยู่แล้ว” เวหาประท้วง

“เออ พอได้ มึงขึ้นไปยืนตรงที่พี่แสนยืนเมื่อวานสิ”

เวหาทำตามที่เพื่อนบอก ลมที่โชยเข้ามาปะทะกับอัฒจันทร์ในบางจังหวะทำให้กางเกงผ้าเนื้อบางแนบไปกับช่วงล่างของเดือนวิศวะจนเห็นเป็นท่อนลำใหญ่เด่นชัด เพื่อนๆ ที่จำลองเป็นคนที่นั่งอยู่ด้านหน้าก็คอนเฟิร์มว่าสามารถมองลอดขากางเกงไปเห็นควยและไข่ของเวหาอย่างชัดเจน

“เซ็ทสถานการณ์ได้เหมือนเมื่อวานแล้ว มึงว่าไง เป็นไปได้ไหมที่จะไม่รู้สึกตัว” เพื่อนคนที่เป็นตัวตั้งตัวตีถามเวหาซึ่งเป็นตัวทดลอง เด็กหนึ่งหลับตาสำรวจความรู้สึกตัวเองอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็ตอบออกไปตามตรง

“ตั้งใจสังเกตจริงๆ ก็คงพอรู้สึกแหละ แต่ถ้าใส่กางเกงตัวนี้ซักพักจนชิน อาจจะไม่รู้สึกก็ได้นะ”

เพื่อนคนนั้นพยักหน้าอย่างกระตือรือร้น

“นั่นไง กูบอกแล้ว พี่แสนแม่งไม่รู้สึกตัวหรอก งั้นลองอีกท่าดูบ้าง มึงไปนั่งตรงที่เดียวกับพี่แสนสิ”

เวหาทำตามทันที แต่ละขั้นของอัฒจันทร์ที่ไว้สำหรับนั่งค่อนข้างเตี้ย พอนั่งลงก็ต้องชันเข่าขึ้นมาจนขากางเกงร่นลงไปเกือบครึ่งซึ่งเป็นท่าเดียวกับแสนเมื่อวาน ทั้งควยทั้งไข่เบ้อเริ่มเทิ่มของเวหาหลุดผั่วะออกมาอยู่ข้างนอกห้อยลงจนเกือบถึงพื้นอัฒจันทร์

“ไอเหี้ย ใหญ่ขนาดนี้ไปยืนตรงอัฒจันทร์ฝั่งตรงข้างก็ยังมองเห็น แล้วยังไง มึงรู้ตัวเปล่าว่าควยโผล่”

“กูไม่ได้เป็นอัมพาธครึ่งล่างนี่จะได้ไม่รู้ตัว หลุดออกมากองซะขนาดนี้ ลมโกรกเย็นชิบหาย หมอยปลิวพะเยิบพะยาบหมดแล้วเนี่ย พี่แสนแอ๊บชัวร์ๆ กูฟันธง” เวหาตอบตามความรู้สึกจริงๆ แต่ก็ใช้คำพูดให้เว่อร์ๆ ไปบ้างเพื่อจะดีสเครดิตแสน

“มึงมันควยใหญ่เกิน เปลี่ยนคนเว้ย ตัวอย่างแม่งผิดมนุษย์”

พอเห็นมีคนกล้าทำเป็นคนแรก เพื่อนหลายคนที่ข้องใจก็ขอทดลองบ้าง จริงๆ แต่ละคนก็ไม่ได้ซีเรียสที่จะโชว์ควยตัวเองเพราะเห็นกันหมดแล้วตั้งแต่ช่วงรับน้อง แค่ไม่อยากเป็นคนเริ่ม พอเห็นอย่างนี้ก็มีคนอยากลองพิสูจน์บ้างว่ามันจะรู้สึกตัวแค่ไหน กางเกงที่เวหาใส่จึงถูกถอดออกไปเวียนให้เพื่อนสามสี่คนได้ทดลองดู มันเป็นอะไรที่น่าดูอยู่ไม่น้อยที่เห็นเด็กหนุ่มๆ เวียนกันไปนั่งอ้าซ่าให้ควยโผล่ทีละคน เสียงแซ็วเสียงหัวเราะดังขึ้นอย่างครื้นเครง เวหารู้สึกว่านี่แหละคือบรรยากาศระหว่างเพื่อนที่ควรจะเป็น ไม่ใช่มัวแต่กลัวอำนาจของแสนกันจนแบ่งเป็นก๊กเป็นเหล่า

พอคนที่ข้องใจได้ทดลองกันหมดสุดท้ายทุกคนก็ลงความเห็นกันว่า ถึงท่าทางของแสนจะดูเนียนเป็นปกติแค่ไหน แต่เป็นไปไม่ได้ที่จะโชว์ควยจนลมโกรกแบบนั้นโดยไม่รู้สึกตัว บรรดาปีหนึ่งที่ร่วมทำการทดลองนี้จึงแอบเรียกแสนว่าไอโรคจิตชอบโชว์ควยกันลับหลังอย่างขบขัน พอเห็นกันอยู่ชัดๆ ว่ารุ่นพี่คนนี้ก็เป็นแค่มนุษย์ธรรมดาควยห้อยๆ ดำๆ คนหนึ่ง ความกลัวในตัวแสนอย่างไม่มีเหตุผลเริ่มลดลง ทำให้มีคนเข้ามาร่วมแฉการกระทำที่ผ่านมาของเจ้าตัวกันในเพจ ‘แสนเลว’ มากขึ้นไปด้วย

ในขณะที่เพื่อนๆ วิพากษ์วิจารณ์คาดเดาถึงสาเหตุการโชว์ควยของแสนไปต่างๆ นาๆ มีเพียงเวหาเท่านั้นที่รู้ว่ามีคนอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ เขาได้รับข้อความจากเบอร์ที่ไม่รู้จักล่วงหน้าหนึ่งวันว่าให้คอยดูว่าแสนจะถูกสั่งให้โชว์ควยในการประชุมที่จะมีขึ้น ในตอนนั้นเขาไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องจริงเลยแม้แต่น้อย ใครจะคิดว่าคนที่หยิ่งทะนงวางตัวอยู่เหนือผู้อื่นอย่างแสนจะมาทำเรื่องแบบนี้ เวหาระแวงไปว่าอาจจะเป็นการเล่นตลกหรือกับดักอันใหม่ของอีกฝ่าย แต่พอได้เห็นควยสีคล้ำขนรุงรังของประธานรุ่นแสนเลวกันจะๆ ตรงหน้าจริงๆ เขาก็รู้ว่าคนๆ นี้เป็นของจริง เวหาไม่แน่ใจว่าเอาเรื่องนี้มาบอกเขาทำไม ถึงจะเป็นศัตรูกับแสนก็ไม่แน่ว่าจะเป็นมิตรกับเขา เด็กหนุ่มถูกคนละโมบอย่างแสนหาประโยชน์มาหลายครั้งแล้วจนไม่อยากไว้ใจใคร แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังสนใจว่าบุคคลลึกลับคนนี้ทำอย่างไรถึงสั่งให้แสนทำเรื่องน่าอายได้ราวกับถูกสะกดจิต จะยังไงก็แล้วแต่ เหตุการณ์นี้ก็ถือว่าเข้าทางเขาที่กำลังพยายามบั่นทอนชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือของแสนให้ได้มากที่สุด เวหาจึงถือโอกาสกระพือข่าวเรื่องนี้ออกไปให้ได้มากที่สุด

“ครับแม่” ปราบรับสายทันทีเมื่อเห็นมารดาโทรเข้ามา

“ปราบลูก เป็นไงบ้าง เรียนหนักไหม”

“ก็เรื่อยๆ ครับ แค่ช่วงนี้มีเรื่องยุ่งๆ นิดหน่อย”

“ยังไงก็รักษาสุขภาพนะ เอ่อ แม่มีเรื่องจะวานปราบหน่อย เมื่อวานคุณแสนเข้ามาที่บ้าน แต่ท่านนายกก็ไม่อยู่ตามเคย แม่เห็นคุณแสนดูหงุดหงิดฉุนเฉียวแปลกๆ อุตส่าห์ทำของโปรดให้ก็ไม่ค่อยจะทาน อยู่ได้พักเดียวก็รับโทรศัพท์ดูท่าทางหัวเสียแล้วก็ออกไปเลยไม่พูดไม่จากับใคร ไม่รู้มีเรื่องอะไร ปราบลองถามๆ ดูหน่อยสิ เผื่อมีปัญหาอะไรจะได้แก้ไขทัน”

“ก็ไม่น่าจะมีอะไรนะแม่ เห็นช่วงนี้คุณแสนกำลังเตรียมงานแข่งกีฬาของพวกวิศวะอยู่ อาจจะมีเครียดบ้าง”

“นั่นแหละ ปราบก็ช่วยดูอีกแรง แล้วช่วงนี้ยังไปทำความสะอาดห้องคุณแสนทุกอาทิตย์อยู่หรือเปล่า”

“ไปอาทิตย์ละสองสามครั้งเลยครับ คุณแสนของแม่ขยันทำห้องรกเหลือเกิน ทั้งๆ ที่เป็นคนเกลียดความสกปรกแท้ๆ”

“คุณแสนก็อย่างนี้แหละ ตั้งแต่เด็กแล้ว ปราบไปทำบ่อยๆ ก็ดีแล้ว ห้องจะได้สะอาด” น้ำเสียงของมารดาเจือความเอ็นดูเมื่อพูดถึงเด็กที่เลี้ยงมาตั้งแต่แรกเกิดถึงแม้จะอยู่ในสถานะเจ้านายก็ตาม

“แล้วแม่ได้ไปเยี่ยมตัวเล็กบ้างหรือเปล่า” ปราบเปลี่ยนเรื่องไปถามถึงลูกชายของน้องสาวที่ถูกเลี้ยงดูโดยตากับยายของเขาที่จังหวัดบ้านเกิดซึ่งอยู่ห่างไปไม่ไกล

“วันก่อนแม่ก็เพิ่งไปมา ก็แข็งแรงดี เริ่มจะพูดอ้อแอ้เป็นคำๆ แล้ว สงสารแต่ตากับยายของปราบ แก่มากแล้วยังต้องมาเลี้ยงเหลน”

“ยังไงเรื่องเรียนของยายปรางก็สำคัญ อะไรที่ผิดพลาดไปแล้วก็ต้องแก้ไขกันไป จะให้ลาออกมาเลี้ยงลูกจนโตก็เสียดายโอกาสนะครับ เหลืออีกแค่ปีกว่าๆ น้องก็จะจบมอหกแล้ว ไหนจะต้องเตรียมสอบพยาบาลอีก ปีหน้าพอผมเรียนจบก็จะเอาหลานมาเลี้ยงเอง”

“ท่านนายกดีกับครอบครัวเรามากนะ พอทราบเรื่องนี้ก็ไม่ได้ดุด่าแม่สักคำว่าเลี้ยงลูกไม่ดี แถมยังให้เงินช่วยค่าทำคลอดมาอีกเพราะรู้ว่าบ้านเรายังมีหนี้สินเยอะ ปราบต้องดูแลคุณแสนดีๆ นะ เป็นการตอบแทนบุญคุณท่าน”

ปราบรับคำมารดาแล้วก็วางสายลง ถ้าจะมีใครที่ดูแลแสนได้ดีที่สุดคงไม่พ้นเขา ปราบรู้นิสัยทุกอย่างของแสนเพราะมารดาเล่าให้ฟังอยู่เรื่อยๆ เขารู้แม้กระทั่งเรื่องที่เจ้าตัวเองอาจไม่ทราบด้วยซ้ำ นิสัยเกลียดความสกปรกจนฝังหัวของแสนเกิดจากแม่ของเขาเอง ตอนเล็กๆ แสนร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงไม่สบายเป็นโน่นเป็นนี่อยู่บ่อยๆ มารดาของเขาจึงต้องระวังเรื่องความสะอาดให้กับเจ้านายตัวน้อย ด้วยความที่เป็นหญิงชาวบ้าน หล่อนจึงใช้วิธีทั้งหลอกทั้งขู่เพื่อให้กลัว เด็กชายแสนจึงเชื่อว่าถ้าไม่ล้างมือก่อนทานอาหารเชื้อโรคจะเข้าไปออกลูกหลานจนตัวใหญ่อยู่ในท้อง หรือถ้าไปเล่นดินเล่นทรายสกปรกพยาธิจะไชเข้าไปผิวหนังเข้าไปข้างในแล้วคลานออกมาทางจมูก จนเมื่อแสนโตขึ้นไปเรียนหนังสือที่โรงเรียนได้ออกกำลังกายจนร่างกายแข็งแรงเรื่องพวกนี้ก็จางหายไปแต่ความกลัวยังคงฝังลึกในใจ

ปราบเข้าไปที่อพาร์ตเมนต์ของแสนตามที่รับปากมารดาไว้ เขาเอาหมวกและแว่นดำมาใส่เหมือนทุกทีก่อนที่จะขึ้นตึกไปเพื่อไม่ให้ใครสืบได้ว่าทั้งคู่มีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นต่อกัน พอเปิดประตูห้องเข้าไปก็พบกับเจ้าของห้องที่ดูจะอยู่ในอารมณ์ที่ไม่ปกติจริงอย่างที่มารดาของเขาบอก

“ไอเหี้ยปราบ พวกคลิปกับข้อมูลที่โดนไวรัส ทำไมมึงยังกู้ไม่ได้ซะทีวะ” แสนระเบิดความฉุนเฉียวใส่หน้าลูกน้องคนสนิททันที

“มันยากกว่าที่คิดครับ แต่ก็ได้มานิดหน่อยแล้ว มีคลิปช่วยตัวเองของดาวคณะที่คุณแสนเคยควงอยู่เมื่อปลายปีที่แล้ว”

“ไร้ประโยชน์สิ้นดี ของยายนั่นไปหาโหลดเอาในเน็ตก็ได้ เปลี่ยนคู่นอนไปเรื่อยจนโดนถ่ายเป็นร้อยคลิปแล้วมั๊ง สกปรกชิบหาย โธ่โว๊ย แล้วเมื่อไหร่ถึงจะกู้คืนมาได้หมด ภายในสามวันนี้ได้ไหม”

“ไม่น่าจะทันนะครับ จริงๆ ข้อมูลอาจจะเสียหายไปหมดแล้วด้วยซ้ำ”

“ไอห่วยเอ๊ย ที่นี้กูจะทำยังไงดีวะ เงินค่าที่ดินงวดสุดท้ายที่จะต้องจ่ายให้เสี่ย ขอเลื่อนออกไปหน่อยได้ไหมวะ” แสนพูดถึงที่ดินซึ่งเป็นที่ตั้งของผับแห่งใหม่ที่เขาสร้างอาคารไปจนเสร็จเรียบร้อยแล้วแต่ยังไม่ได้โอนกรรมสิทธิ์มาเป็นของตัวเองเพราะยังไม่ได้ชำระเงินงวดสุดท้าย

ปราบแสดงอาการแปลกใจด้วยการเลิกคิ้วขึ้น

“คงไม่ได้ครับ ตามสัญญาแล้วถ้าเราจ่ายช้าไปแม้แต่วันเดียว เสี่ยจะยกเลิกการโอนที่ดินได้โดยไม่ต้องคืนเงินที่เราจ่ายไปแล้ว แถมสามารถยึดสิ่งปลูกสร้างบนที่ผืนนั้นให้เป็นของตัวเองได้ด้วย แต่เราก็โอนไปตามกำหนดสิครับ คุณแสนก็รวบรวมเงินได้ครบเอาเข้าแบ๊งค์รอไว้นานแล้วนี่ เอ๊ะ หรือว่าคุณแสนมีปัญหาอะไร บอกผมได้นะครับ เกิดมีอะไรร้ายแรงจะได้ช่วยกัน”

“อย่างกูนี่นะ ใครจะกล้ามีปัญหาด้วย ถึงมี มึงจะช่วยอะไรได้ มึงจะมาทำห้องก็รีบทำเข้า สกปรกจะตายห่าอยู่แล้ว แล้วจะไปไหนก็ไป” แสนตัดบท ปราบมองหน้าเจ้านายอย่างแปลกใจ ปกติถ้าแสนอยู่ห้องตอนเขาเข้ามาทำความสะอาด แสนจะต้องให้เขาช่วยระบายความใคร่อย่างน้อยหนึ่งยก แต่คราวนี้ท่าทางจะอารมณ์ไม่ดีจริงๆ จนเขาไม่กล้าถามสาเหตุแม้แม่จะฝากมา

ปราบทำความสะอาดห้องที่รกรุงรังทั้งๆ ที่เขาเพิ่งทำไปเมื่อสามวันก่อนอย่างแคล่วคล่อง แม่ของเขาเลี้ยงแสนมาอย่างคุณหนูจริงๆ หยิบจับอะไรพวกนี้ไม่เป็นเลย เขารวบรวมเสื้อผ้าใช้แล้วที่คราวนี้มีเสื้อกางเกงบอลที่ปกติแสนไม่เคยใส่เอาไปเข้าเครื่องซักผ้า ส่วนการเกงในและถุงเท้าปราบต้องแยกออกมาซักมือให้เพราะเจ้าตัวไม่อยากให้ซักปนไปกับเสื้อผ้า จากนั้นก็เข้าไปล้างห้องน้ำและเปลี่ยนผ้าปูเตียงจนเสร็จถึงได้มาจัดการกับจานชามสกปรกที่กองอยู่ที่อ่าง

ขณะที่ปล่อยให้ลูกน้องทำความสะอาดห้อง แสนก็หลบออกมาต่อโทรศัพท์หานายตำรวจผู้เป็นญาติผู้พี่เป็นครั้งที่ไม่รู้เท่าไหร่ของวันแต่ก็ยังคงไม่มีสัญญาณตอบรับ เขาติดต่อสารวัตรไม่ได้มาหลายวันแล้ว ครั้งล่าสุดที่ได้คุยกันคือตอนที่อีกฝ่ายโทรมาแจ้งข่าวว่าไม่สามารถจัดการกับเวหาได้ตามแผน ในเวลาที่เขาลำบากต้องการคนวงในช่วยสืบเสาะหาสาเหตุที่บัญชีเงินฝากต้องถูกอายัดสารวัตรกลับหายตัวไป แสนติดต่อไปที่โรงพักแต่ก็ได้ความแค่ว่าสารวัตรถูกส่งไปช่วยปฏิบัติงานนอกหน่วย ยังไม่รู้ว่าจะกลับมาเมื่อไหร่

หนุ่มวิศวะโยนโทรศัพท์โครมลงบนโต๊ะอย่างขัดใจ ถ้านี่เป็นการจงใจจะหักหลังเขาของอีกฝ่าย ต่อให้เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน เขาก็ไม่ปล่อยไว้แน่ แสนมีคลิปตั้งกล้องแอบถ่ายตอนที่สารวัตรมีอะไรกับผู้หญิงที่เขาจัดหามาปรนเปรอให้อยู่หลายคลิป ต่อให้ไม่ผิดกฎหมาย แต่อาชีพอย่างนี้คงไม่อยากโชว์ควยและลีลาเย็ดสาวของตัวเองให้คนทั้งประเทศดูหรอก

เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นทำให้แสนรีบมองหน้าจอทันที เขารู้สึกผิดหวังที่ไม่ใช่การติดต่อกลับมาของสารวัตรภคินแต่แล้วความผิดหวังก็เปลี่ยนเป็นความเครียดเมื่อเขาจำได้ว่าเบอร์ที่โทรเข้ามาคือคนที่มาข่มขู่จนเขาต้องยอมทำสิ่งที่อับอายขายหน้าที่สุดในชีวิตออกไป แสนเหลือบมองหาตัวปราบก่อนจะพบว่าเจ้าตัวทำเสียงกุกกักอยู่ตรงระเบียงคงออกไปตากผ้า เขาหลบไปรับสายอีกฟากของห้องเพราะไม่อยากให้ลูกน้องคนสนิทรู้ว่าตนกำลังตกที่นั่งลำบาก

“กูเห็นผลงานของมึงเมื่อวานแล้ว ทำหน้าตาไม่รู้ไม่ชี้ได้เก่งจริงๆ มึงน่าจะไปเป็นเข้าวงการนะ แสดงเนียนซะขนาดนี้ เสียแต่ที่ไข่ดำไปหน่อย” เสียงปลายสายผ่านการแปลงมาจนเหมือนเสียงหุ่นยนต์ แสนนึกถึงความน่าสมเพชของตัวเองที่ต้องไปแหกขาให้ไอเด็กพวกนั้นดูควยแล้วก็อายจนหน้าชา เขาทำได้ดีที่สุดคือแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ว่าเครื่องเคราของตัวเองหลุดออกมาทั้งพวงและโมโหกลบเกลื่อนเพื่อรักษาหน้าเอาไว้

คนๆ นี้มาดักเจอเขาเมื่อหลายวันก่อนพร้อมกับข้อมูลลับๆ บางอย่างที่ถ้าหลุดไปคงสร้างปัญหาให้เขาได้พอดู แสนรู้เพียงว่าอีกฝ่ายเป็นผู้ชายความสูงไล่เลี่ยกับตัวเองในชุดแจ็คเก็ตสีดำสวมหมวกกันน๊อคเต็มใบจนมองไม่เห็นใบหน้า เสียงที่พูดก็ผ่านการแปลงมาซึ่งเขาเดาว่าคงจะติดตั้งเครื่องแปลงเสียงพร้อมลำโพงไว้ด้านในหมวก ชายสวมหมวกกันน๊อคบอกว่าตัวเองเป็นคนที่ทำให้เงินในบัญชีของแสนถูกอายัด ถ้าแสนยอมทำตามคำสั่ง เงินทั้งหมดจะได้คืนตามงวดที่แสนต้องไปจ่ายค่าที่ดิน แต่ถ้าปฏิเสธ ข้อมูลความเลวต่างๆ นาๆ ของแสนจะถูกเปิดเผยต่อสาธารณะทันที

แสนค่อนข้างมั่นใจว่าอีกฝ่ายคือเวหาที่ปลอมตัวมา ข้อมูลที่เอามาข่มขู่อาจจะเป็นข้อมูลที่เวหาให้ไอเด็กแว่นเนิร์ดคนนั้นมาแฮ๊คเอาไปได้บางส่วน แสนเองก็ใช่ว่าจะยอมง่ายๆ แต่ความพยายามที่จะแก้เกมส์กลับล้มเหลวไม่เป็นท่าเพราะอีกฝ่ายดักทางได้หมด มีบัญชีถูกอายัดเพิ่ม แสนพยายามขอความช่วยเหลือจากบรรดาญาติพี่น้องและพรรคพวกของพ่อ แต่เหมือนเขาค่อยๆ ถูกตัดการสนับสนุนไปทีละน้อยโดยไม่รู้สาเหตุจนในที่สุดเขาก็จนตรอก แสนกลัวว่าจะไม่มีเงินไปจ่ายค่าที่ดินจนต้องถูกยึดผับไปจนต้องยอมทำตามที่ชายสวมหมวกกันน๊อคสั่งนั่นคือการโชว์ควยที่อัฒจันทร์เมื่อวาน

ตอนนี้แสนไม่แน่ใจแล้วว่าเวหาจะเป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมด เด็กหนุ่มที่ไม่ประสีประสาอย่างนั้นไม่น่าจะมีอิทธิพลขนาดนี้ ไม่งั้นก็จะต้องมีคนที่มีอำนาจคอยช่วยเหลือมันอีกที ไม่อยากเชื่อว่าคนที่มีแต่เป็นฝ่ายแบล็คเมล์คนอื่นอย่างเขาจะต้องมาถูกข่มขู่เสียเอง เขาเกลียดเสียงเยาะเย้ยที่แฝงไว้ด้วยความเหนือกว่าของอีกฝ่ายจับใจ

“ไอสัด มึงไม่ต้องพูดอะไรเลย กูทำตามที่มึงบอกขนาดนี้แล้ว เรื่องบัญชีกู มึงจัดการให้หรือยัง”

“มึงยังไม่ได้เช็คเหรอ กูปลดล็อคไปให้แล้วหนึ่งบัญชีสำหรับไปจ่ายงวดรองสุดท้าย ถ้ามึงทำตัวดีๆ ที่เหลือก็จะตามมา รับรองมึงมีเงินไปจ่ายเสี่ยทันแน่นอน”

“โธ่เว้ย กูยอมมึงขนาดนี้แล้ว ยังจะเอาอะไรกับกูอีก”

“ไม่ต้องห่วง กูแค่อยากสั่งสอนมึงนิดๆ หน่อยๆ กับเรื่องที่มึงเคยทำไว้ ไม่ได้จะเอาเป็นเอาตาย พอกูพอใจแล้วก็จบ”

“มึงเป็นใครกันแน่วะ กูไปล้ำเส้นมึงเรื่องอะไรก็บอกมาสิ กูจะไม่ไปยุ่งเกี่ยวอีก ต่างคนต่างอยู่”

“มึงไม่ต้องรู้หรอกว่ากูเป็นใคร ตอนนี้มึงทำตามที่กูบอกก็พอ อีกหนึ่งชั่วโมงมาเจอกันที่สวนสาธารณะใกล้ๆ อพาร์ตเมนต์มึง กูจะบอกสิ่งที่มึงต้องทำต่อไป”

สายปลายทางตัดไปในทันที แสนนึกจนหัวแทบแตกก็นึกไม่ออกว่าอีกฝ่ายเป็นใคร บางทีอาจจะเป็นคนที่เขาไม่รู้จักเลยแต่ไม่พอใจกับสิ่งที่เขาทำไป หลายปีที่ผ่านมาแสนก็ทำเรื่องต่างๆ ไว้เยอะจนนึกไม่ออกว่าจะไปกระทบกระทั่งใครบ้าง แสนเกลียดการตกเป็นเบี้ยล่างเป็นที่สุด ความแค้นครั้งนี้เขาจะต้องหาทางเอาคืนให้สาสม แต่ตอนนี้คงต้องตามน้ำไปก่อนเพื่อรักษาผับเอาไว้

แสนเข้าไปดูบัญชีของเขาผ่านระบบอีแบ๊งค์กิ้งแล้วพบว่ากลับมาใช้งานได้แล้วหนึ่งบัญชีจากสามบัญชีที่ถูกอายัด ยอดเงินในบัญชีนี้ก็พอดีๆ กับค่างวดที่เขาต้องเอาไปจ่ายเสี่ยในวันรุ่งขึ้น นี่แสดงให้เห็นว่าชายสวมหมวกกันน๊อกรู้เรื่องของเขาอย่างทะลุปรุโปร่ง แสนสั่งโอนเงินในบัญชีนั้นออกไปที่อีกธนาคารจนเกลี้ยง เขาตั้งใจว่าจะรีบไปถอนออกมาเก็บเป็นเงินสดไว้ก่อนที่จะไปเจอคนๆ นั้นตามนัด

“ปราบ กูจะออกไปธนาคารแล้วจะทำธุระต่อ มึงทำห้องเสร็จแล้วก็กลับไปเลย” แสนตะโกนบอกลูกชายของแม่นมตัวเองก่อนจะออกจากห้องไป ถึงเขาจะไว้ใจอีกฝ่ายขนาดไหน แต่ก็จะไม่บอกเรื่องนี้ออกไป คนที่อยู่เหนือคนอื่นอย่างเขาต้องควบคุมคนอื่นด้วยศัทธาและความยำเกรง การตกเป็นเบี้ยล่างคนอื่นแม้เพียงน้อยนิดอาจส่งผลกระทบต่อสถานะผู้นำของเขาได้ แสนจึงไม่คิดจะบอกให้ใครรู้แม้จะเป็นลูกน้องคนสนิทก็ตาม

แสนถอนเงินจากธนาคารเอาไปเก็บในที่ปลอดภัยเสร็จก็ไปที่สวนสาธารณะตามที่ชายลึกลับนัดไว้แล้วอยู่พักใหญ่จนเริ่มหงุดหงิด เขากดโทรศัพท์ไปยังเบอร์ที่ชายลึกลับใช้แต่ก็ปิดเครื่องเหมือนเช่นทุกครั้งที่พยายามติดต่อไป ชายหนุ่มยืนรออย่างกระสับกระส่ายจนตัดสินใจหันหลังเดินกลับก็พอดีมีเสียงที่เรียกขึ้นมาจากด้านหลัง

“จะไปไหนไอแสน ไม่มีความอดทนเลยนะมึง”

แสนหันกลับไปก็เจอกับผู้ชายในชุดแจ็คเก็ตสีดำสวมหมวกกันน๊อคเต็มใบจนมองไม่เห็นใบหน้าเหมือนเดิม

“กูทำตามที่มึงบอกทุกอย่างแล้ว ถอดหมวกมาคุยกันตัวต่อตัวให้สมเป็นลูกผู้ชายดีกว่า” แสนพยายามใช้ชั้นเชิงล่อหลอก ถ้าอีกฝ่ายยอมเปิดเผยตัวจริงออกมาเขาคงหาทางจัดการอะไรได้ดีขึ้น แต่ชายลึกลับกลับส่งเสียงหัวเราะเบาๆ ออกมาผ่านทางเครื่องแปลงเสียง

“คงไม่จำเป็น กูเป็นลูกผู้ชายหรือเปล่ากูย่อมรู้อยู่แก่ใจ ส่วนมึง จากที่โชว์อ้าซ่าที่สนามกีฬาวันนั้น กูยอมรับว่ามึงก็เป็นลูกผู้ชายเหมือนกัน ฮ่าๆ”

“มึง..”

“ใจเย็นๆ สิ หรือมึงไม่อยากได้เงินคืน เอาเถอะ กูเป็นคนขี้สงสาร แค่มึงทำอะไรให้อีกนิดหน่อย กูก็ว่าจะคืนเงินให้แล้ว”

แสนโกรธจนหน้าแดง หลายปีแล้วที่ไม่เคยมีใครท้าทายอำนาจเขาขนาดนี้ เขาต้องอดทน อีกแค่นิดเดียวเท่านั้น ถ้าเขาได้เงินคืนหรือหาแหล่งเงินจากที่อื่นได้ คนๆ นี้จะต้องถูกจัดการอย่างไม่ปราณี

“มึงจะให้กูทำอะไรอีก บอกเลยนะว่าเป็นเรื่องอุบาทว์แบบเมื่อวาน กูไม่ทำ”

“หึๆ กูก็เห็นใจนะ แต่มึงยอมทำตามขนาดนั้นก็ถือว่าสอบผ่าน กูพอใจมาก หลังจากนี้ไม่มีอะไรมาก จำมวยคาดเชือกที่กูบอกให้มึงบรรจุเข้าไปในการแข่งได้ใช่ไหม มึงมีเรื่องที่ต้องทำต่อแลกกับเงินในบัญชีที่เหลือ”

ชายลึกลับบอกสิ่งที่แสนต้องทำซึ่งเขาก็จำต้องรับปากอย่างไม่มีทางเลือก ถึงแม้จะรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระที่คนอย่างเขาต้องมาทำอะไรแบบนี้แต่ก็ยังดีกว่าต้องโชว์ของสงวนให้ใครดูอีก

เมื่อสั่งความแสนไว้เรียบร้อยแล้ว ชายผู้ปกปิดใบหน้าไว้ภายใต้หมวกกันน็อกก็จากไปโดยออกคำสั่งไม่ให้แสนตามออกไปจนกว่าจะครบสิบนาที หนุ่มวิศวะรู้สึกตะหงิดในใจ ในเมื่อถือไพ่เหนือกว่าเขาก็ไม่น่าจะต้องระวังตัวขนาดนี้ โชคดีที่เขาก็คิดไว้เหมือนกันว่าอีกฝ่ายอาจจะไม่เปิดเผยตัวตนออกมาจึงสั่งให้ลูกน้องคนใหม่ของเขาเฝ้าสังเกตการณ์และตามไปเก็บข้อมูลชายสวมหมวกกันน๊อกไว้ล่วงหน้าแล้ว ชายหนุ่มกลับไปรอที่ห้องอย่างใจเย็นจนกระทั่งลูกน้องคนนั้นต่อสายเข้ามา

“นายแสนเหรอครับ ผมก้องภพ”

“เออ มึงได้ตามคนชุดดำสวมหมวกกันน็อกที่มาคุยกับกูไปเปล่า”

“ตามครับนาย แต่มันขี่บิ๊กไบค์เครื่องแรงมาก ผมตามได้ซักพักก็ไล่ไม่ทัน มันขี่ออกนอกเมืองไปทางมหาลัยเราครับ”

“ไอ้โง่ มึงไปทำอะไรให้มันรู้ตัวล่ะสิ”

“เปล่าครับ มันขึ้นรถได้ก็บิดเอาๆ ตั้งแต่แรกเลย ผมเห็นแค่หลังลิบๆ แต่ผมจดทะเบียนรถมันมาด้วย”

“เออ ก็ยังดี รีบส่งมาให้กูเลย”

“นายครับ ผมไปสืบมาได้ นอกจากไอแว่นหน้าโง่ที่นายให้ผมไปจัดการมาเมื่อวันก่อน ไอเวหายังมีเพื่อนอีกหลายคน มีไออ้วนหมูตอน ไอตุ๊ดผอมๆ ไอเด็กเห่อหมอย แล้วก็ไอกล้ามโต ให้ผมทยอยจัดการมันทีละคนดีไหม เริ่มจากไอกล้ามปูก่อน มันจะได้ไม่มาเป็นปรปักษ์กับนายทีหลัง”

“ไอพวกควยเล็กพวกนั้นนะเหรอ พวกมันไม่มีพิษสงอะไรหรอก เก็บไว้ก่อน ตอนนี้กูมีเรื่องยุ่งๆ หลายอย่าง ไว้มึงรอคำสั่งจากกูอีกที”

แสนวางสายลงอย่างไม่สนใจ ก้องภพเป็นเหมือนเบี้ยตัวหนึ่งที่เขาตัดสินใจจะใช้แล้วทิ้งตั้งแต่ที่ส่งไปงานปาร์ตี้ของ ผอ. หญิงแทนเวหาเมื่อเดือนก่อน จากที่ยายป้านั่นโทรมาด่าเขาไม่มีชิ้นดีเรื่องก้องภพควยเล็กจนเสียหน้าเพื่อนๆ เขาก็รู้ชะตากรรมของเดือนพละคนนี้แล้วว่าคงถูกจัดการจนไม่เป็นผู้เป็นคน แต่เมื่อเหตุการณ์คืนนั้นผ่านไป แทนที่จะเฉลียวใจว่าเรื่องทั้งหมดเป็นฝีมือของใคร ก้องภพกลับพาร่างที่สะบักสะบอมของตัวเองมาฟ้องเขาให้ไปเอาเรื่อง ผอ.หญิง แสนไม่คิดที่จะมีเรื่องกับข้าราชการระดับนั้นเพื่อตัวเบี้ยใช้แล้วทิ้งอยู่แล้ว เขาเลยกุเรื่องว่าที่ก้องภพโดนกระทำถึงขั้นนี้เป็นเพราะเวหาไปตกลงไว้ตอนรับงานและเอาเงินค่าจ้างก้อนใหญ่ไปล่วงหน้าแล้ว แสนอ้างว่าพอเขามารู้ทีหลังเลยโทรไปขอร้อง ผอ. ในคืนนั้นจึงทำให้ก้องภพรอดมาได้ ก้องภพก็เชื่อและซาบซึ้งในบุญคุณมาก ยิ่งรู้ว่าแสนกำลังมีเรื่องอยู่กับเวหาเลยขออาสามาเป็นลูกน้องเพื่อจะได้หาทางแก้แค้นเวหาทีหลัง แสนเองก็ไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธลูกน้องโง่ๆ เชื่องๆ ที่มีฝีมือทางการชกต่อยและรูปร่างหน้าตาดีพอจะทำเงินให้เขาได้เรื่อยๆ อย่างนี้

มวยคาดเชือกซึ่งเป็นกีฬาสาธิตในเกียร์เกมส์ครั้งนี้เป็นที่สนอกสนใจจนแสนผู้เสนอความคิดนี้ได้หน้าได้ตาเป็นอย่างมาก แต่ด้วยความที่เป็นกีฬาโบราณ มหาลัยที่พร้อมส่งนักกีฬามาร่วมสาธิตในมวยคาดเชือกก็มีอีกเพียงแห่งเดียวคือมหาลัยในจังหวัดใกล้ๆ ที่เป็นคู่แข่งตลอดกาลกับมหาลัยที่แสนเรียนอยู่ มหาลัยดังกล่าวมีชื่อเสียงอยู่ก่อนแล้วตอนที่มหาลัยของแสนตั้งขึ้นในภาคเดียวกันเมื่อสิบกว่าปีก่อน แม้จะตั้งใหม่แต่มหาลัยของแสนในตอนนั้นก็มีชื่อเสียงขึ้นมาอย่างรวดเร็วด้วยความทุ่มเทของอาจารย์ผู้ก่อตั้ง ความที่จังหวัดที่ตั้งของทั้งสองแห่งอยู่ไม่ไกลกันมากทำให้เกิดการดึงงบประมาณและความสนใจของนักศึกษาเข้าใหม่กันเอง เรื่องนี้เป็นการจุดชนวนให้ทั้งสองมหาลัยเริ่มไม่ถูกกันตั้งแต่อาจารย์ลงมาถึงลูกศิษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคณะวิศวะซึ่วเป็นคณะเด่นของทั้งสองมหาลัย การกระทบกระทั่งสะสมมากขึ้นเรื่อยๆ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นการประกวดโครงงานด้านวิศวกรรม งานแข่งขันโรบอท ไปจนถึงการแย่งสปอนเซอร์กันเวลาออกค่ายอาสาหรือมีกิจกรรมต่างๆ

การจัดแข่งชกมวยที่มีเพียงรอบเดียวคงจะไม่ซับซ้อนอะไรถ้าแสนไม่ไปท้าทายมอคู่แข่งต่อหน้าตัวแทนจากมหาลัยต่างๆ หลายสิบคนในการประชุมวันก่อนที่จะเริ่มแข่งเกียร์เกมส์ แสนเสนอให้มหาลัยที่แพ้การชกมวยคาดเชือกจะต้องยกธงคณะวิศวะของตัวเองให้อีกฝ่าย ตัวแทนจากมหาลัยนั้นโดนยั่วอยู่พักใหญ่ก็เลือดขึ้นหน้ารับคำท้าในที่สุดโดยมีมหาลัยที่เหลือเป็นสักขีพยาน พอข่าวเรื่องนี้แพร่สะพัดออกไป บัสก็เข้ามาต่อว่าแสนทันทีทั้งๆ ที่ปกติเอาแต่กลัวอีกฝ่ายจนหงอ

“พี่ทำอย่างงี้ได้ยังไง ไม่รู้เหรอว่าธงคณะเรามันสำคัญแค่ไหน เราได้รับมาจากท่านอาจารย์ผู้ก่อตั้งมหาลัยวิทยาลัยตั้งแต่แรกเริ่มเลยนะ คณะที่ตั้งขึ้นมาใหม่ก็ไม่ได้รับสิทธิ์นี้แล้วด้วยเพราะท่านอาจารย์เสียไปหลายปีแล้ว รุ่นพี่พวกเราก็ดูแลมาอย่างดีเอาไว้ใช้ในพิธีสำคัญต่างๆ ของคณะ พี่เอาไปเป็นของเดิมพันได้ยังไง ถ้ามอโน้นได้ไปมันต้องเอาไปทำอะไรที่ลบหลู่เกียรติของท่านอาจารย์แน่ๆ”

แสนมองบัสด้วยความแปลกใจ ประธานรุ่นปีสามคนนี้ไม่เคยขึ้นเสียงกับเขามาก่อน แม้แต่ตอนที่เขารื้อฟื้นการตัดเกรดรุ่นน้องขึ้นมา ถึงอีกฝ่ายจะไม่เห็นด้วยเอามากๆ แต่พอเขาเอาจริงก็หงอ แล้วกะอีแค่เรื่องธงคณะ ทำมาเป็นจ้องหน้าเขาเอาเป็นเอาตายเหมือนไปดักตีหัวพ่อมันมา ถ้าเป็นยามปกติ เขาคงจะต่อยหน้าอีกฝ่ายไปแล้วฐานที่กระด้างกระเดื่อง แต่ตอนนี้เขามีเรื่องปวดหัวมากพอแล้ว อีกทั้งบัสก็เป็นแขนเป็นขาให้เขาทั้งในงานเกียร์สัมพันธ์และเรื่องอื่นๆ เขาจึงได้แต่ตัดบทไป

“ก็แข่งให้ชนะสิแค่นี้ก็หมดปัญหาแล้ว พอได้ธงคณะมันมา กูจะเอาไปทำผ้าคลุมรถน่าจะดี”

“พี่จะมั่นใจได้ยังไง เกิดทางโน้นเขาเก่งกว่าล่ะ แล้วของเราใครจะเป็นคนขึ้นชก คณะเรามีคนเป็นมวยคาดเชือกด้วยเหรอ” บัสถามอย่างร้อนใจ

“กูไง”

กลายเป็นข่าวใหญ่กันไปอีกรอบเมื่อแสนประกาศตัวว่าจะขึ้นชกมวยนัดสำคัญครั้งนี้ด้วยตัวเอง ไปๆ มาๆ ผ้บริหารของคณะก็รู้สึกว่ามันไม่ใช่แค่การท้าทายกันของนักศึกษาแต่เป็นเรื่องใหญ่ที่มีผลต่อศักดิ์ศรีและชื่อเสียงของคณะ แต่เมื่อเป็นการตกลงกันโดยชอบธรรมของตัวแทนจากทั้งสองมหาลัยโดยมีมหาลัยอื่นๆ ร่วมรับรู้ด้วย การจะสั่งยกเลิกยิ่งจะทำให้คณะเสียหน้าเข้าไปใหญ่ คณะบดีเองค่อนข้างเชื่อใจแสนว่าที่เสนอตัวเองขึ้นชกคงจะมีความมั่นใจอย่างเต็มร้อย แต่ถึงอย่างนั้นก็ได้มอบหมาย ดร.พีรกิตติ์ อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมโยธา ซึ่งมีความรู้ในเรื่องหมัดมวยอยู่พอตัวเนื่องจากเป็นหลานชายแท้ๆ ของอดีตแชมป์โลกมวยสากลหลายสมัยมาช่วยควบคุมการฝึกซ้อม บัสเองเมื่อทราบข่าวก็ไปเสนอตัวเป็นผู้ช่วยของดอกเตอร์พีอีกทีเพราะอยากทำให้มั่นใจว่าแสนจะไม่แพ้จนเสียธงคณะไปให้มอคู่แข่ง

แสนทราบเรื่องที่ดอกเตอร์พีและบัสจะมาดูแลการฝึกซ้อมอย่างย่ามใจ เป็นที่รู้กันว่าประธานปีสามเกรงกลัวเขาแค่ไหน ส่วนดอกเตอร์พีเองก็เป็นหนึ่งในอาจารย์ที่ถูกเขาแบล็คเมล์มาเป็นปีๆ แล้วเนื่องจากเคยตกหลุมพรางที่เขาส่งนักศึกษาสาวไปยั่วยวนขอแก้เกรด จริงๆ ดอกเตอร์พีไม่ได้ตบะแตกแต่เสียท่าถูกนกต่อสาววางยาจนถ่ายคลิปมาได้สำเร็จ เรียกได้ว่าทุกอย่างอยู่ในการควบคุมของเขา อันที่จริงธงเก่าๆ โง่ๆ นั่นไม่ได้มีค่าอะไรในสายตาของแสน ที่เขายอมเล่นตามน้ำไปเรื่อยก็เพื่อจะถ่วงเวลาสืบหาว่าใครคือผู้ชายสวมหมวกกันน๊อกที่กล้าหยามศักดิ์ศรีเขาขนาดนี้

แสนวุ่นอยู่กับการหาเงินมาจ่ายค่าที่ดินพร้อมๆ กับพยายามสืบหาตัวชายลึกลับไปด้วย ญาติผู้พี่อย่างสารวัตรภคินที่น่าจะช่วยเรื่องนี้ได้อย่างดีก็ยังไปช่วยราชการอยู่ที่ไหนไม่รู้ติดต่อไม่ได้ เบาะแสทะเบียนรถที่ก้องภพได้มาใช้การอะไรไม่ได้เพราะเขาไปยัดเงินเพื่อเช็คที่ขนส่งแล้วพบว่าเป็นทะเบียนปลอม เมื่อเจอทางตันแสนก็ได้แต่ส่งก้องภพไปเฝ้าติดตามเวหาไว้เผื่อจะเจอข้อมูลที่เป็นประโยชน์บ้าง

แสนสนใจแต่เรื่องของตัวเองจนไม่ได้เข้าไปดูแลการแข่งกีฬาเกียร์เกมส์ที่เริ่มขึ้นแล้วสักเท่าไหร่ บัสเป็นฝ่ายที่ต้องวิ่งวุ่นเพื่อจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยในขณะที่แสนจะเข้าไปปรากฎตัวเฉพาะช่วงที่มีงานออกหน้าออกตาเท่านั้น ในส่วนการเตรียมตัวเพื่อขึ้นชกมวยคาดเชือกซึ่งเป็นกีฬาสาธิตที่จะจัดให้มีขึ้นในวันรองสุดท้ายเขาก็ไม่เคยไปตามนัดที่ ดร.พี เรียกไปฝึกซ้อมเลย แม้ว่าบัสจะมาพร่ำขอร้องว่าอยากให้แสนเตรียมตัวให้เต็มที่เพื่อที่จะไม่ต้องเสียธงคณะให้กับมหาลัยคู่แข่งไป แสนไม่คิดว่าคนอย่างเขาควรจะไปลงแข่งเป็นปาหี่ให้ใครดูอยู่แล้วต่อให้จริงๆ แล้วเขาจะมีฝีไม้ลายมือในเชิงมวยที่ไม่ธรรมดาเลยก็ตาม

แต่ปรากฏว่าพอใกล้จะถึงวันแข่ง พรรคพวกต่างๆ ที่เขาติดต่อขอยืมเงินไว้ต่างพร้อมใจกันปฏิเสธกันหมด แสนร้อนใจอย่างหนักเพราะโอกาสที่จะโดนยึดผับเห็นอยู่รำไรแล้ว เหลือทางเดียวคือเขาจะต้องไปขอให้ชายลึกลับปลดอายัดบัญชีให้ ซึ่งฝ่ายน้นก็โทรเข้ามาพอดีเหมือนจะรอจังหวะอยู่แล้วราวกับทราบเรื่องทั้งหมด

“ว่าไงไอแสน เห็นว่ามึงวิ่งวุ่นอยากหาตัวจริงกูไปทั่วเลยนี่”

“อย่ามาพูดมาก เมื่อไหร่มึงจะปลดอายัดบัญชีที่เหลือของกู”

“กูนึกว่ามึงไม่ใช้แล้ว นี่ยังหาเงินไม่ได้เหรอ”

“สัด เงินในนั้นมันก็เงินของกูอยู่แล้ว มึงจะเอาไงก็ว่ามา กูต้องใช้เงินภายในศุกร์นี้”

“จริงๆ ก็เงื่อนไขเดิมนะ แข่งชกมวยให้ชนะ เรื่องง่ายๆ มึงไม่ยักทำ ไปวิ่งวุ่นอะไรอยู่ได้”

“แค่นั้นใช่ไหม มึงเตรียมไว้ได้เลย ยังไงกูก็ชนะ”

“หึๆ แน่ใจขนาดนั้นเชียว เอาแค่ให้มึงได้ขึ้นชกก่อนเถอะ”

นั่นเป็นสาเหตุให้แสนไปปรากฏตัวเพื่อลงแข่งชกมวยคาดเชือกกับมหาลัยคู่แข่งท่ามกลางความยินดีของบัส แต่ ดร.พี ดูจะไม่ค่อยพอใจนักกับพฤติกรรมนึกจะมาก็มานึกจะไปก็ไปของแสน

“ไม่เห็นเคยโผล่มาซ้อม นึกยังไงถึงจะมาลงแข่งนี่”

“ยุ่งน่า‘จารย์ ก็มาแข่งแล้วนี่ไง ไหน มีอะไรกินบ้าง ไม่มีของเลี้ยงนักกีฬาเลยเหรอ ขอรองท้องก่อนจะไปชั่งน้ำหนักหน่อย”

“ยังจะกินอะไรอีก รู้หรือเปล่าว่าแมชนี้เราจะแข่งกันที่รุ่นมิดเดิลเวท น้ำหนักไม่เกิน 160 ปอนด์”

“จะบ้าเหรอ‘จารย์ ผมตัวสูงใหญ่หนักเกิน 74 โลแน่ๆ จะไปชกรุ่นมิดเดิลเวทได้ยังไง พิกัด 160 ปอนด์นี้ยังไม่ถึง 72 โลเลยมั๊ง”

“เพราะคุณไม่เคยสนใจมาซ้อมตามที่นัดไว้เลยไงถึงไม่รู้ ภายในเช้านี้คุณต้องลดลงให้อยู่ในพิกัดให้ได้ถ้ายังอยากขึ้นชก” แสนฟังหูซ้ายทะลุหูขวา เขาไม่คิดว่าการแข่งกีฬาสาธิตแบบนี้จะต้องเคร่งครัดอะไรมากมาย แม้ว่าบัสจะแนะนำว่าควรจะวิ่งให้เหงื่อออกเพื่อลดน้ำหนักให้มากที่สุดแสนก็ไม่สนใจ

จนถึงเวลาที่จะต้องชั่งน้ำหนัก บรรยากาศในห้องเอนกประสงค์ขนาดกลางที่ถูกดัดแปลงเป็นห้องชั่งน้ำหนักคราคร่ำไปด้วยผู้คนมากมายจนแน่นขนัดไปหมด นอกจากจะมีทั้งทีมพี่เลี้ยงของทั้งแสนและนักชกจากมหาลัยคู่แข่งแล้ว ก็ยังมีทีมคณะกรรมการกลางจากมหาลัยอื่นมาร่วมเป็นสักขีพยานด้วย นี่เป็นครั้งแรกที่แสนได้เจอตัวคู่ชกของเขา อีกฝ่ายผิวคล้ำๆ หน้าตาบ้านๆ เตี้ยกว่าพอควรแต่ก็พอจะชดเชยได้บ้างด้วยกล้ามเนื้อล่ำสันแบบมะขามข้อเดียว แสนมองคู่แข่งอย่างดูถูก หุ่นล่ำๆ ตันๆ แบบนี้คงเป็นหมูให้เขาอัดเล่นบนสังเวียน มวยไทยเป็นศิลปะป้องกันตัวที่อาศัยความแคล่วคล่องในเชิงมวย มีแต่กล้ามเนื้อมันช่วยอะไรไม่ได้จริงๆ

คู่ชกของเขาเป็นฝ่ายขึ้นชั่งก่อนในชุดกางเกงมวยไม่สมเสื้อโชว์หุ่นเตี้ยล่ำที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อซึ่งก็ชั่งผ่านไปอย่างง่ายดาย พอมาถึงตาของแสนเขาคิดว่าพอถอดเสื้อออกขึ้นชั่ง น้ำหนักอาจจะเกินไปบ้างเล็กน้อยเดี๋ยวคงคุยกันให้พอหยวนๆ ไปได้ ยังไงนี่ก็เป็นแค่กีฬาสาธิตตามที่เขาเป็นคนเสนอเองอยู่แล้ว

“164 ปอนด์ ไม่ผ่าน”

กรรมการกลางอ่านตัวเลขดิจิดัลจากเครื่องชั่งหลังจากที่แสนถอดเสื้อโชว์หุ่นงามๆ ขึ้นไปยืนเด่นเป็นสง่าเรียกสายตาชื่นชมจากหลายๆ คนในห้อง

“ผมว่าเอาแค่คร่าวๆ ก็พอไม่ต้องไปเป๊ะอะไร นี่ก็เกินไม่เยอะ แล้วก็เป็นแค่กีฬาสาธิต” แสนออกความเห็นอย่างวางมาด กรรมการกลางมีสีหน้าไม่แน่ใจ แต่ก็เกรงใจแสนที่มีอีกตำแหน่งหนึ่งคือหัวหน้าคณะจัดงานฝ่ายเจ้าภาพ

“พวกผมตัดสินใจเองไม่ได้หรอกครับพี่ เดี๋ยวขอปรึกษาอาจารย์ผู้ควบคุมการแข่งขันของทั้งสองฝ่ายก่อน”

แสนผยักหน้าอนุญาตแล้วก็เดินไปกระซิบกับ ดร.พีรกิตติ์ ผู้ทำหน้าที่เป็นอาจารย์ควบคุมของฝ่ายตัวเองอย่างไม่มีความเคารพใดๆ

“ไปจัดการเจรามาให้ได้นะ‘จารย์ ยังไงผมก็ต้องได้ลงแข่ง ไม่งั้นคลิปของ‘จารย์เมื่อสองปีก่อนปลิวว่อนแน่”

พอจัดการข่มขู่อาจารย์ของตัวเองแล้วแสนก็ไปนั่งไขว่ห้างกระดิกเท้ารออย่างสบายอารมณ์ ดร.พีไปพูดคุยอย่างคร่ำเคร่งกับอาจารย์ของมหาลัยคู่แข่งและกรรมการกลางอยู่ครู่ใหญ่แล้วถึงพาแสนปลีกตัวออกไปคุยนอกห้อง

“ผมแจ้งเขาไปแล้วว่าถ้าชั่งไม่ผ่านพิกัด ทางคณะจะไม่ขอส่งนักกีฬาเข้าแข่งขัน”

“เฮ้ย ได้ไง เล่นอย่างนี้ก็สวยสิ อยากมีข่าวฉาวโฉ่จนต้องปลิวจากตำแหน่งหรอ‘จารย์”

“หึ คลิปเก่าๆ นั่นเอามาขู่ผมไม่ได้หรอก ตอนนี้ผมได้คลิปตัวเต็มมาแล้วที่จะพิสูจน์ได้ว่าผมถูกมอมยา นักศึกษาหญิงคนนั้นก็สารภาพออกมาแล้วด้วยว่าใครเป็นคนบงการ ผมรอเวลานี้มาสองปีแล้ว หลักฐานที่คุณโกงข้อสอบวิชาผมเมื่อตอนนั้นผมก็ยังเก็บไว้อย่างดี เห็นทีคุณจะต้องกลับไปเรียนปีสองใหม่ก็คราวนี้”

“มึง กูไม่เชื่อ ไม่มีทางเป็นไปได้ คิดจะบลัฟกูเหรอสัด” แสนชี้หน้า ดร.พี อย่างเหลืออด

“ระวังคำพูดหน่อย ผมเป็นอาจารย์คุณนะ ถ้าไม่เชื่อก็ลองดูในมือถือผมแล้วกัน คราวนี้คุณต้องเป็นฝ่ายทำตามคำสั่งผมบ้างแล้วล่ะ”

ดร.พีเปิดคลิปฉบับเต็มพร้อมคำสารภาพของนักศึกษาหญิงที่เป็นนกต่อให้ในครั้งนั้นให้ดูอย่างเร็วๆ แสนหน้าซีดเผือด ส่วนหลักฐานการโกงข้อสอบเขารู้ว่าคงมีอยู่จริง แต่ที่ผ่านมาเขาสามารถแบล็คเมล์อีกฝ่ายได้โดยตลอดเลยไม่เคยกังวลถึงเรื่องนี้

“อาจารย์จะเอายังไง” แสนกัดฟันถามในขณะที่ ดร.พี หัวเราะตอบเบาๆ

“ผมไม่ใช่พวกเจ้าคิดเจ้าแค้นเท่าไหร่โดยเฉพาะกับลูกศิษย์ตัวเอง เห็นแก่ว่าคุณกำลังจะเรียนจบอยู่แล้ว ถ้าไม่จำเป็นผมก็ไม่ได้อยากรื้อฟื้นเรื่องฉาวโฉ่แบบนั้นขึ้นมาเหมือนกัน เอาเป็นว่าถ้าคุณแสดงความสำนึกผิดโดยการเชื่อฟังคำสั่งผมดีๆ จนจบกีฬาเกียร์ ผมจะอโหสิให้”

แสนข่มใจพยักหน้าตกลง คนที่อยู่เหนือคนอื่นมาตลอดอย่างเขาไม่ควรจะต้องมาเป็นเบี้ยล่างดอกเตอร์กิ๊กก๊อกพรรค์นี้ แต่เวลานี้เขามีศึกหลายหน้าเหลือเกิน ทั้งชายลึกลับสวมหมวกกันน๊อก ทั้งไอ้เด็กเวหา คงต้องยอมไปก่อน ไม่งั้นทั้งชื่อเสียง ทั้งใบปริญญา ไหนจะผับที่ลงเงินไปแล้วมากมาย คงต้องเสียไปหมดในคราวเดียว

ดร.พี พาแสนกลับไปที่เครื่องชั่งซึ่งมีกรรมการกลางยืนรออยู่

“ขอโทษที่ทำให้รอนะครับ”

“แล้วอาจารย์จะเอายังไงครับ เห็นบอกว่าถ้านักกีฬาชั่งไม่ผ่านจะไม่ส่งขึ้นชก หรือมีนักกีฬาสำรอง”

“ไม่มีครับ คนนี้แหละเดี๋ยวให้เขาขึ้นชั่งอีกที”

กรรมการกลางมองหน้ากันอย่างแปลกใจ ก็เห็นอยู่ว่าแสนไม่ได้ไปทำอะไรเพิ่มเติมเพื่อให้น้ำหนักลงอย่างการวิ่งเรียกเหงื่อแล้วจะให้ชั่งใหม่ทำไม ซึ่งก็จริงอย่างว่า เมื่อแสนขึ้นไปยืนบนตาชั่งตามคำสั่งของ ดร.พี น้ำหนักที่ปรากฏก็ยังเท่าเดิม ทันใดนั้น ดร.พีก็กระชากกางเกงขาสั้นรวมทั้งกางเกงในที่แสนสวมอยู่ลงพรวดเดียวจนไปกองอยู่ที่ตาตุ่มเผยให้เห็นร่างกายที่เปลือยเปล่าที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อและไรขนของแสนอย่างถนัดตาต่อหน้าคนหลายสิบคนในห้องชั่งน้ำหนัก ทุกคนมองไปที่จุดกึ่งกลางลำตัวซึ่งมีท่อนเนื้อสีคล้ำอวบใหญ่ห้อยตัวอยู่กลางพงหมอยรกเรื้อสีดำสนิท หนังหุ้มปลายที่ปิดสนิทและยาวออกมาเล็กน้อยซ่อนส่วนหัวบานใหญ่ไว้ด้านในจนยากจะเดาว่ามันมีสีสรรอย่างไร แต่ที่แน่ๆ หนังหุ้มกระโปกเหี่ยวย่นมีขนหยิกหยอยขึ้นประปรายนั้นคล้ำเข้มจนเหมือนผลเงาะสีดำสองลูกไม่มีผิด

แสนที่ไม่ทันระวังตัวตกใจจนแทบช๊อค เมื่อมารู้สึกตัวอีกทีเขาก็ยืนแก้ผ้าล่อนจ้อนอยู่คนเดียวต่อหน้าผู้คนมากมาก ชายหนุ่มเริ่มหายใจหอบและมือไม้สั่นอย่างคนควบคุมตัวเองไม่ได้ สภาพที่เป็นอยู่ในตอนนี้กระตุ้นความทรงจำอันเลวร้ายในวัยเด็กออกมาจนแสนเริ่มรวบรวมสติไม่อยู่

“ขอเสื้อผ้าให้ผม” แสนเค้นเสียงที่แหบแห้งออกมา

“ชั่งน้ำหนักให้เสร็จก่อนแล้วผมจะคืนเสื้อผ้าให้” ดร.พีพูดขึ้นอย่างสะใจ เขาประหลาดใจเล็กน้อยที่แสนไม่อาละวาดอย่างที่คิดแต่กลับมีอาการแปลกๆ แทน แสนยกขาเพื่อให้ ดร.พี เอากางเกงของเขาออกจากตาชั่งอย่างว่าง่าย กรรมการกลางมัวแต่ตะลึงจนเกือบลืมขานน้ำหนัก พวกเขาไม่คิดว่าคนที่ท่าทางหยิ่งและมีอำนาจอย่างแสนจะมาแก้ผ้าให้คนอื่นดูง่ายๆ อย่างนี้

“162.8 ปอนด์ ไม่ผ่าน”

แสนยังยืนแก้ผ้าอยู่บนตาชั่งอย่างประหม่า เขาไม่ไม่ได้อายเรือนร่างที่แข็งแรงได้สัดส่วนหรือความเป็นชายที่พ่วงพีของตัวเอง แต่การถูกจับจ้องจากคนมากมายที่เขารู้สึกว่าเป็นสายตาที่มองมาอย่างขบขันล้อเลียนเยาะเย้ยทำให้เขารู้สึกเหมือนกลับไปเป็นเด็กตัวน้อย แสนตกอยู่ในภวังค์เมื่อนึกย้อนไปตอนที่ถูกบรรดาลูกพี่ลูกน้องรุมกลั่นแกล้งโดยการถอดเสื้อผ้าของเขาออกจนหมด แสนพยายามบอกตัวเองว่าตอนนี้เขาเข้มแข็งมีอำนาจมากมายไม่ได้อ่อนแอเหมือนสมัยเด็กแล้ว แสนมาสะดุ้งรู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่ ดร.พี หยิบปัตตาเลี่ยนไร้สายขึ้นมากร้อนผมเขาสดๆ ต่อหน้าผู้คนในห้อง

“เฮ้ย ทำอะไรวะ”

“น้ำหนักยังเกินอยู่ต้องเอาออกเพิ่ม บอกแล้วไงให้ฟังคำสั่งผม อยากโดนไล่ออกหรือกลับไปเรียนปีสองใหม่เหรอ”

แสนค่อยๆ ถูกกร้อนผมทรงเท่ที่ดูหล่อสมกับลุคแบดบอยนิดๆ ออกจนหัวล้านเลี่ยนเหมือนนาคเตรียมบวช ใบหน้าที่เคยดูเท่หล่อเข้มเพราะทรงผมที่เสริมบุคลิคลดความน่าเกรงขามลงไปกว่าครึ่ง แต่ถึงอย่างนั้น ดร.พีก็ยังไม่พอใจกับน้ำหนักที่ยังหายไปไม่มากพอ เขายังใช้ปัตตาเลี่ยนอันเดิมกร้อนขนรักแร้อันฟูฟ่องดกดำทั้งสองข้างของแสนออกจนเกลี้ยง เสน่ห์ความเป็นชายของแสนหดหายลงไปถนัดตา ตามด้วยขนหมอยหยิกหยอยอูมฟูมก็ไม่รอดพ้นปัตตาเลี่ยนอันนั้นเหมือนกัน ขนหมอยเป็นปื้นๆ ร่วงตามจังหวะการไถกระจายเต็มพื้น ในเวลาไม่นานเนินสามเหลี่ยมดกดำบริเวณฐานควยของแสนก็เตียนโล่งเหลือเพียงขนหรอมแหรมตามซอกหลืบที่ปัตตาเลี่ยนเข้าไปไม่ถึง แสนยืนนิ่งทำอะไรไม่ถูกกับสถานการณ์น่าสมเพชที่เกิดขึ้นกับตัวเอง การถูกข่มขู่กับโดนจับแก้ผ้าทำให้เขารู้สึกอ่อนแอจนสูญเสียความมั่นใจในตัวเองไปจนปล่อยให้ ดร.พี ทำเอาตามใจชอบอย่างนี้

“เหลืออีกเกือบสองปอนด์ กรรมการเขาให้เวลาถึงแค่บ่ายโมงเพราะบ่ายโมงครึ่งคุณต้องขึ้นชกแล้ว คุณต้องทำให้ได้ ไม่งั้นเตรียมออกจากมหาลัยไปได้เลย ผมพูดจริง ไม่ได้ขู่”

แม้จะถูกกร้อนขนไปเกือบทั้งตัว แต่ตัวเลขบนตาชั่งก็ยังไม่เข้าพิกัด จนถูก ดร.พี ขู่ขึ้นมาอีก แสนเก็บความแค้นไว้ในใจแต่ก็จำต้องทำตามคำสั่ง เขาใส่เสื้อวอร์มทั้งวิ่ง ทั้งชกลม ทั้งกระโดดเชือกจนหน้ามืดแต่น้ำหนักก็ยังลงได้ไม่เท่าไหร่ คนที่อยู่ในห้องไม่มีใครลุกออกไปไหน ทุกคนต่างรอลุ้นไปจนถึงวินาทีสุดท้ายว่าแสนจะผ่านหรือไม่ ระหว่างนั้น ดร.พีเอายามาให้แสนกินเม็ดนึงบอกว่าเป็นเกลือแร่รวมเพื่อจะได้รักษาสมดุลย์จากการเสียเหงื่อแล้วก็สั่งให้ไปออกกำลังกายต่อ จนเวลาใกล้บ่ายโมง แสนก็ถอดชุดวอร์มออกเหลือแต่ตัวเปล่าเปลือยไร้ขนตามจุดต่างๆ อย่างที่ผู้ชายควรจะมีขึ้นไปยืนเด่นบนตาชั่งเป็นรอบสุดท้าย

“160.3 ปอนด์ เกิดพิกัดไป 0.3 ปอนด์”

แสนเหนื่อยจนถอดใจแล้ว ไม่มีทางที่เขาจะลดน้ำหนักลงไปได้อีกภายในไม่ถึงสิบนาทีนี้ แต่ ดร.พี ยังไม่ยอมแพ้ เขาเอาที่โกนหนวดไฟฟ้าขึ้นมาโกนคิ้วและหนวดเคราสั้นๆ ของแสนออกจนเกลี้ยง แม้แต่ขนอุยตรงหน้าอก สะดือ และหัวนม ก็ถูกกำจัดออกจนหมด บัดนี้แสนแทบไม่เหลือขนสักเส้นบนเรือนร่าง ใบหน้าที่เคยคมเข้มสง่าน่าเกรงขามเพราะทรงผมเท่ๆ คิ้วเข้มหนาและไรหนวดเคราสั้นๆ เสริมบุคลิค กลายเป็นโล้นเลี่ยนโล่งโจ้งดูเด๋อด๋าจนไม่เหลือคราบผู้นำที่ทุกคนยำเกรง แต่แค่นี้ตัวเลขบนตาชั่งก็ยังไม่เปลี่ยน แสนถูกบังคับให้บ้วนน้ำลายออกมาใส่แก้วจนคอแห้งผากไปหมด

“ฉี่ออกมาตรงนี้เลย ลงแก้วนี่แหละ ไม่มีเวลาแล้ว”

แสนไม่ได้รู้สึกเลยว่าในกระเพาะปัสสาวะของเขายังมีของเหลวหลงเหลืออยู่แต่เขาก็ต้องทำตามคำสั่งของ ดร.พี เขาจับท่อนเนื้ออวบใหญ่ขึ้นมาจ่อที่ปากแก้วท่ามกลางสายตาของคนทั้งห้อง แสนเบ่งแล้วเบ่งอีกจนในที่สุดน้ำเยี่ยวสีเหลืองเข้มเพราะขาดน้ำก็ค่อยๆ ไหลอย่างรวยรินออกมาทีละนิด คนในห้องทั้งลุ้นทั้งขำที่เห็นประธานรุ่นวิศวะมาดเข้มต้องมายืนฉี่ใส่แก้วเหมือนเด็กเล็กๆ จนเมื่อแสนไม่สามารถเบ่งเยี่ยวออกมาได้อีกแล้ว ดร.พี ก็ยังออกคำสั่งให้แสนทั้งสะบัดทั้งรีดท่อนลำเพื่อไล่ของเหลวที่ค้างลำกล้องอยู่ให้ออกมาให้ แสนทำตามอย่างจำยอม ไม่น่าเชื่อว่าจะยังมีเยี่ยวค้างอยู่จริงๆ เป็นปริมาณพอสมควร แสนทั้งรูดทั้งรีดจนดุ้นเนื้อขยายตัวขึ้นมาเล็กน้อยกว่าจะเป็นที่พอใจของคนออกคำสั่ง แสนไม่รู้ว่าเขาเกิดอาการอย่างนี้ต่อหน้าผู้คนมากมายได้อย่างไร ความรู้สึกวูบวาบในช่องท้องที่ยิ่งพอแตะลำควยก็ยิ่งมีอาการมากขึ้น

“160.1 ปอนด์ ไม่ผ่าน”

เสียงประกาศท่ามกลางความลุ้นระทึกของผู้ชม ตอนนี้ไม่มีใครคิดว่าแสนจะได้ขึ้นชกแล้วยกเว้นจะตัดนิ้วออกซักข้างนึง แต่ ดร.พี กลับมองไปที่กระโปกใบเขื่องของแสนแล้วกระซิบคำสั่งสุดท้ายออกไป แสนฟังคำสั่งแล้วก็ชักสีหน้า เขาไม่คิดว่ามันจะได้ผลแต่ก็ไม่สามารถขัดคำสั่งได้ ไม่คิดว่าดุ้นควยของเขาจะสามารถแข็งตัวได้ต่อหน้าผู้คนมากมายเช่นนี้ แต่เพียงแค่เขาเอามือไปสัมผัสตามคำสั่งของ ดร.พี ความรู้สึกแปลกๆ ที่เกิดขึ้นมาครู่หนึ่งก่อนหน้านี้แล้วก็ทวีความรุนแรงขึ้น ดุ้นเนื้อในอุ้งมือผงาดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ยิ่งปราศจากเส้นขน องคาพยพต่างๆ ของอวัยวะส่วนนั้นก็ปรากกฎชัดถนัดตา ตอนนี้สายตาคนทั้งห้องกำลังจับจ้องไปที่ท่อนควยสีเข้มระดับเกรดเอที่โชว์ความแข็งแกร่งใหญ่ยาว หนังหุ้มปลายที่เคยปิดสนิทตอนนี้กับถอกร่นไปอยู่ตรงคอหยักเผอให้เห็นหัวใหญ่บานกระโท่โร่สีแดงคล้ำตัดกับดุ้นเนื้อสีน้ำตาลเข้ม เส้นเลือดที่พันเกี่ยวปูดโปนไปตามความยาวของท่อนลำยิ่งเสริมความน่าเกรงขามขึ้นไปอีก น้ำเงี่ยนเหนียวใสเริ่มปริ่มขึ้นมาจนย้อยเป็นสายจากรูเยี่ยวฉ่ำเยิ้มราวกับเป็นน้ำลายของมังกรที่กำลังผงาดศักดา

จากความฝืนใจที่ต้องทำเพราะเป็นคำสั่งกลับเป็นความต้องการของตัวเองที่จะลูบไล้ดุ้นเนื้ออ่อนไหว ไม่นานแสนก็ปล่อยความเงี่ยนให้ครอบงำ เขาลืมไปหมดว่ากำลังยืนอยู่ต่อหน้าคนหลายสิบคน มือข้างหนึ่งบดบี้ที่หัวนมตัวเองอย่างเมามัน ในขณะที่มืออีกข้างก็สาวไปตามความยาวของท่อนลำอวบใหญ่ ยิ่งสัมผัสตัวเองเนื้อตัวของเขาก็ยิ่งร้อนวูบวาบด้วยอารมณ์ใคร่ที่มากมายจนผิดปกติอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน ส่วนหัวบานใหญ่สีแดงคล้ำผลุบเข้าผลุบออกในอุ้งมือตัวเองอย่างรัวเร็วส่งเสียงเฉอะแฉะได้ยินถนัดไปทั้งห้องที่มีผู้ชมเผ้าดูอย่างแทบกลั้นหายใจ

แสนยืนจังก้าอยู่บนตาชั่งขณะที่เปลี่ยนมาสาวควยถี่ยิบด้วยมือทั้งสองข้าง ในเวลานี้ไม่มีความอับอายหลงเหลืออยู่แล้ว ในหัวของแสนมีแต่ความเงี่ยนปนร้อนรุ่มที่ต้องการจะปลดปล่อยอารมณ์ให้เร็วที่สุด ยิ่งลำควยอวบหนาเสียดสีกับมือกร้านเท่าไหร่ หัวควยบานแดงคล้ำก็ยิ่งบวมเป่งเหมือนกำลังจะระเบิด แสนแอ่นเอวกระแทกลำควยเข้าอุ้งมือตัวเองเร่งจังหวะถี่ยิบเหมือนติดสปริง แสนครางเสียงแหบพร่าออกมาดังลั่น ในที่สุดรูเยี่ยวสีแดงสดก็พ่นน้ำเชื้อขาวข้นพุ่งไปด้านหน้าโดยไม่ให้สัญญานล่วงหน้าจนคนที่มุงดูอยู่กระโจนหลบกันเกือบไม่ทัน เพราะปัญหาที่รุมเร้าทำให้แสนไม่มีอารมณ์ที่จะปลดปล่อยไปก่อนหน้านี้ น้ำเชื้อของคนหนุ่มสุขภาพดีที่เก็บสะสมไว้ในกระโปกสองลูกเขื่องๆ กว่าสัปดาห์ทะยอยพุ่งออกมาระลอกแล้วระลอกเล่าราวจะไม่จบไม่สิ้น จนในที่สุด พร้อมๆ กับที่น้ำขาวข้นระลอกสุดท้ายกระฉูดพ้นหัวควย ตัวเลขดิจิตอลบนหน้าปัดตาชั่งก็เปลี่ยนเป็นตัวเลข 160.0 ในจังหวะเดียวกับที่เข็มยาวของนาฬิกาบนผนังเคลื่อนตัวเข้าสู่เลขสิบสองบ่งบอกเวลาบ่ายโมงตรงพอดี

ทุกคนในห้องต่างประทับใจกับกองน้ำว่าวที่เจิ่งนองอยู่บนพื้นเป็นแอ่งใหญ่ส่งกลิ่นคาวคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ ไม่น่าเชื่อว่าลำพังเพียงน้ำเชื้อจากการชักว่าวแค่หนึ่งรอบจะสามารถลดน้ำหนักลงไปได้ถึง 0.1 ปอนด์ แสนทรุดตัวลงไปนั่งอย่างหมดแรง ลำควยอวบใหญ่ยังชี้พุ่งทะยานไม่อ่อนตัวเลยแม้แต่น้อย กรรมการกลางที่ตะลึงกันไปชั่วขณะใหญ่เพิ่งได้สติขานน้ำหนักออกมา

“160 ปอนด์ถ้วน ผ่าน”

คนในห้องแทบจะทั้งหมดไม่รู้เบื้องลึกเบื้องหลังที่เกิดขึ้นต่างสงสัยอยู่บ้างว่าทำไมแสนถึงต้องทุ่มเทตัวเองขนาดนี้ ได้แต่คิดไปว่าแสนทำไปเพื่อรักษาธงคณะที่เดิมพันไว้ ด้วยความที่ส่วนใหญ่เป็นนักกีฬาหรือผู้เกี่ยวข้องไม่ก็เจ้าหน้าที่จัดงานที่ทราบดีถึงการให้เกียรติกับผู้เข้าแข่งขัน จึงไม่มีใครทำเรื่องเสียมารยาทอย่างการเอาโทรศัพท์มาบันทึกภาพเปลือยของแสน แต่กระนั้นภาพชายหนุ่มมาดเข้มที่ถูกโกนขนจนเกลี้ยงทั้งตัวขณะกำลังกระฉูดน้ำว่าวขาวข้นจำนวนมหาศาลจากดุ้นควยสีคล้ำขนาดเขื่องจนกล้ามเนื้อเกร็งไปทั้งตัวก็ผังแน่นอยู่ในความทรงจำของทุกคนในห้องนั้น พอสติกลับมาแสนก็รู้สึกทุเรศตัวเองจนแทบทนไม่ได้ เขามอง ดร.พี ด้วยความเครียดแค้นพร้อมทั้งสาบานกับตัวเองว่าจะต้องแก้แค้นความอัปยศนี้ให้ได้ ดร.พีสั่งให้บัสซึ่งเป็นผู้ช่วยโค้ชพาแสนออกไปเตรียมตัวที่ห้องพักนักกีฬาเพราะการชกจะมีขึ้นในอีกไม่ถึงชั่วโมง

เมื่อเห็นคนที่รู้จักออกจากห้องไปจนหมด เวหาที่แอบดูการชั่งน้ำหนักของแสนมาโดยตลอดจึงได้ถอดหมวกและแว่นที่ใช้พรางตัวออก ในฐานะเดือนคณะ เขามีบัตรทีมงานเกียร์เกมส์อยู่แล้วจึงไม่ได้เป็นเรื่องยากที่จะลอบปะปนเข้ามาในห้องชั่งน้ำหนัก เด็กหนุ่มหยิบโทรศัพท์ที่ตั้งถ่ายวิดีโอแล้วเอาใส่กระเป๋าเสื้อไว้ให้โผล่มาแต่เลนส์กล้องมาเช็คดูผลงานแล้วก็ยิ้มอย่างสะใจเมื่อเห็นความชัดเจนของภาพและเสียงที่บันทึกไว้ได้ ต้องขอบคุณชายลึกลับคนเดิมที่แจ้งข่าวให้เขามาดูอะไรสนุกๆ อย่างนี้ ต่อให้คนๆ นั้นจะทำตัวน่าสงสัยแค่ไหนด้วยการพรางเสียงด้วยเครื่องเปลี่ยนเสียงและปกปิดใบหน้าด้วยหมวกกันน๊อกแต่ข่าวสารที่เวหาได้มาก็ไม่เคยพลาดสักครั้ง ไม่น่าเชื่อว่าคนอย่างประธานรุ่นปีสี่จะยอมทำเรื่องตกต่ำแบบนี้โดยไม่อาละวาดขึ้นมา ถ้าเรื่องนี้เกิดกับคนอื่น เวหาคงรู้สึกสงสารอยู่ไม่น้อยที่ต้องโดนให้ทำเรื่องอับอายขายหน้าต่อหน้าคนมากมาย แต่พอเป็นแสนมาถูกกระทำเสียเองแบบนี้ สิ่งที่เวหาให้ได้ก็มีแค่ความสะใจ ยิ่งนึกถึงเรื่องอุบาทว์ลามกต่างๆ ที่ตัวเองถูกแสนบังคับให้ทำแล้วก็คิดว่าสิ่งที่โดนยังไม่ถึงครึ่ง ไหนจะสิ่งที่แสนทำกับคนอื่นไว้ตั้งมากมายตามที่เขารวบรวมได้จากลูกเพจ “แสนเลว” ในฐานะแอดมิน ถ้าเรื่องที่เกิดขึ้นตอนชั่งน้ำหนักเป็นสัญญาณว่าเวรกรรมมีจริง แสนคงยังต้องชดใช้กรรมต่ออีกไม่รู้เท่าไหร่แน่

ภายในห้องพักนักกีฬา บัสที่มาช่วย ดร.พีเตรียมความพร้อมให้กับนักมวยต้องหัวหมุนเพราะต้องหาเครื่องดื่มให้ถูกใจแสน น้ำเปล่าที่เตรียมไว้ก็ไม่เอาจะต้องให้ไปซื้อน้ำแร่กับเครื่องดื่มเกลือแร่ตามยี่ห้อที่เจ้าตัวอยากได้ แสนทานอาหารรองท้องนิดหน่อยเพราะอีกไม่นานต้องขึ้นชกแล้วแต่ดื่มน้ำไปถึงสองขวดใหญ่ชดเชยที่ต้องอดน้ำและรีดเหงื่อมาตั้งแต่เช้า พอได้รับการปรนนิบัติจากบัสจนเป็นที่พอใจแล้ว แสนถึงเริ่มเตรียมตัวที่จะเปลี่ยนเป็นชุดนักมวยและเรียกบัสให้มาพันหมัดให้ตามแบบฉบับมวยคาดเชือก ในตอนนี้เองที่บัสกลับต้องพบปัญหาใหญ่

“อาจารย์ครับ เอ่อ ของพี่แสนมันไม่ยอมลงเลย ผมใส่กระจับให้ไม่ได้”

แสนเองก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองเหมือนกัน ท่อนควยของเขาถึงไม่อ่อนตัวลงเลยแม้จะปลดปล่อยน้ำเชื้อออกไปแล้วตั้งมากมาย ดร.พี ยิ้มมุมปาก

“อย่างนี้ท่าทางคงอีกนานเลย ช่วยไม่ได้นะ งั้นก็ไม่ต้องใส่กระจับ กางเกงในด้วยไม่ต้องไปใส่มัน เดี๋ยวมันจะไปรั้งจนเคลื่อนไหวไม่ถนัด เสียเปรียบคู่แข่งเปล่าๆ คุณเข้าใจใช่ไหมแสน”

แสนกัดฟันด้วยความแค้น เขานึกรู้ว่าเจตนาที่แท้จริงของของอีกฝ่ายคงอยากให้เขาขายหน้าที่สุด แต่แสนก็คิดทางแก้ไว้อยู่แล้ว พอเริ่มชก เขาจะเผด็จศึกคู่ต่อสู้อย่างรวดเร็วและโหดเหี้ยมที่สุด จะได้กู้หน้าความอับอายที่เกิดขึ้นตอนชั่งน้ำหนักแถมยังเป็นการส่งสัญญานเตือนไปยังใครก็ตามที่คิดจะลองดีกับเขาโดยเฉพาะไอเด็กเวหาซึ่งอาจจะอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้

บัสที่กำลังจะคัดค้านเพราะเห็นใจรุ่นพี่ก็เปลี่ยนใจทันที จะยังไงก็ได้ ขออย่าให้ฝ่ายนั้นชนะเป็นพอ ไม่งั้นธงคณะที่สืบทอดกันมาจะต้องถูกคนอื่นเอาไปย่ำยี ไม่มีทางที่เขาจะยอมหรอก

ยังไม่ทันที่แสนจะแต่งตัวเสร็จดี ดร.พีก็มาเร่งให้ออกไปที่เวทีก่อนถึงเวลาขึ้นชกเพื่อทำการโชว์ตัว แสนจึงต้องรีบเอามงคลจากบัสมาสวมอย่างเร่งรีบแล้วออกไปโดยยังไม่ได้ทำธุระส่วนตัวอย่างที่ตั้งใจไว้ นักมวยทั้งสองฝั่งเตรียมที่เดินขึ้นเวทีมวยซึ่งเป็นสถานที่แข่งขันอยู่ตรงประตูทางเข้า นอกจากกองเชียร์ของมหาลัยทั้งสองที่มากันอย่างคับคั่งเพราะถือเป็นศึกศักดิ์ศรีที่มีธงคณะเป็นเดิมพันแล้ว ผู้ชมจากมหาลัยอื่นๆ ก็มาร่วมชมกีฬาสาธิตอันหาดูได้ยากนี้จนแน่นโรงยิม นักชกของมหาลัยคู่แข่งเดินขึ้นเวทีมาประจำที่มุมแดงก่อนเพื่อเป็นการให้เกียรติในฐานะมหาลัยผู้มาเยือน เสียงปรบมือต้อนรับดังขึ้นอย่างพอเป็นพิธีเพราะนักกีฬาผู้นี้เรียกได้ว่าโนเนมแทบจะไม่มีใครรู้จักแม้จะเป็นกองเชียร์จากมหาลัยตัวเองก็ตาม แถมรูปร่างหน้าตาก็บ้านๆ ตันๆ ไม่หล่อเหลาโดดเด่นเหมือนนักกีฬาอีกฝ่ายที่ส่วนใหญ่รู้จักกันดีในฐานะประธานจัดงานของมหาลัยเจ้าภาพ

แต่พอแสนปรากฏตัวขึ้นในชุดกางเกงมวยตัวเดียวไม่สวมเสื้อ เสียงเชียร์เสียงตบมือกลับเงียบกริบ ในแวบแรกไม่มีใครจำประธานรุ่นคนดังได้ รูปร่างกำยำของแสนที่ทาน้ำมันจนกล้ามเนื้อมันวับควรจะดูสง่าน่าเกรงขามยามปรากฏตัวต่อหน้าผู้ชมด้วยแผงอกที่กำยำตึงแน่นและหน้าท้องที่ขึ้นซิกส์แพ็คเป็นลอน แต่น่าเสียดายที่เส้นผมและขนทั่วทั้งตัวที่ถูกกร้อนออกจนล้านโล่งเตียนเรียบไปหมดทำให้แสนดูเหมือนข้าทาสชั้นต่ำหรือนักโทษเชลยสงครามในสมัยโบราณมากกว่าที่จะเป็นนักกีฬาผู้ทรงเกียรติ กองเชียร์ของแสนที่ติดใจในใบหน้าหล่อคมเข้มในลุคแบดบอยต้องอ้าปากค้างเมื่อเห็นไอหัวล้านหน้าตาจืดชืดเด๋อด๋าที่ต้องจ้องแล้วจ้องอีกถึงจะจำได้ว่าคือประธานรุ่นวิศวะคนเก่งที่ตัวเองตั้งใจมาเชียร์ แสนพยายามเรียกความมั่นใจให้กับตัวเองอย่างเต็มที่ แม้ภายนอกจะตีหน้าเคร่งขรึมดุดัน แต่ในใจเขารู้สึกประหม่ากับหัวล้านๆ และดุ้นควยของตัวเองที่ยังแข็งตัวไม่ยอมลง เคราะห์ดีที่กางเกงมวยที่เขาใส่อยู่ผ้าจะแข็งและขาบานกว่าปกติทำให้พรางความพ่วงพีของตัวเองไปได้หลายส่วน

แสนมองสีหน้างงงวยระคนตกใจของกองเชียร์แล้วก็คับแค้นใจจนอัดแน่นในอก ยิ่งมองไปเห็นไอเด็กเวหานั่งหน้าระรื่นอยู่ตรงที่นั่งแถวหน้าสุดก็ยิ่งหงุดหงิด ถึงจะไม่ปักใจเชื่อว่าเวหาจะสามารถทำเรื่องทั้งหมดนี้ได้ แต่ไอเด็กนั่นก็คงมีส่วนเกี่ยวข้องอยู่ไม่มากก็น้อย อย่างน้อยวันนี้เขาต้องขออัดคู่ชกฝ่ายตรงข้ามให้ลงไปกองกับพื้นเป็นการระบายความแค้นเสียก่อน แสนรู้ว่าหลายๆ คนคงไม่เชื่อว่าเขาจะมีฝีมือในเชิงมวยระดับที่จะลงแข่งขันได้ เขาคิดว่าคนที่บงการเรื่องนี้คงหวังให้เขาถูกชกคว่ำเป็นตัวตลกของทุกๆ คน

ที่ผ่านมาเขามักจะมีบทบาทเป็นคนสั่งการไม่ได้แสดงฝีมือให้คนในมหาลัยเห็นสักเท่าไหร่ แต่จริงๆ แล้วเขาถูกส่งไปเรียนมวยไทยจากครูมวยฝีมือดีตั้งแต่มอหนึ่งเพราะบิดาของเขาต้องการให้ป้องกันตัวเองได้ สัญชาตญาณดิบเถื่อนที่อยู่แฝงอยู่ในตัวทำให้เขามีพรสวรรค์ในศิลปะป้องกันตัวที่ต้องใช้ความรุนแรงนี้อย่างหาตัวจับยาก ยิ่งเป็นมวยคาดเชือกที่กติกาอนุญาตให้ใช้ท่าที่อันตรายได้ รับรองวันนี้อีกฝ่ายได้สลบคาตีนเขาภายในแค่สองสามยก ก่อนหน้านี้พอรู้ว่าต้องลงแข่งแน่ๆ เขาก็ไปซ้อมกับก้องภพลูกน้องใหม่ที่เรียนพละเอกว่ายน้ำโทชกมวยมาโดยตรง ฝ่ายนั้นยังเพลี่ยงพล้ำให้เขาตั้งหลายทียิ่งทำให้แสนมั่นใจในฝีมือตัวเองขึ้นไปอีก

พอถึงพิธีไหว้ครู สายตาคนดูก็เริ่มเปลี่ยนเป็นชื่นชมเมื่อเห็นท่วงท่าที่คล่องแคล่วของแสน ผิวเนื้อสีดำแดงเกลี้ยงเกลาปราศจากขนยิ่งเน้นกล้ามเนื้อสวยงามที่เคลือบไปด้วยน้ำมันจนเป็นมันวาวราวกับรูปหล่อสำริดของนักรบโบราณ พอทั้งคู่ถอดมงคลออกกรรมการก็ส่งสัญญาณให้เริ่มชก เปิดฉากยกแรก แสนในมุมน้ำเงินเป็นฝ่ายที่เดินเข้าหา พร้อมกับออกหมัดแย็บสลับเตะตัดล่างอย่างลองเชิง เขาสังเกตว่าคู่ชกของตัวเองดูออกหมัดไม่เต็มที่เหมือนคนไม่มั่นใจในตัวเอง การเตะก็ดูเก้ๆ กังๆ ระมัดระวังแปลกๆ แสนเดาท่าทีของอีกฝ่ายว่าน่าจะไม่สันทัดมวยคาดเชือกเท่าไหร่ เผลอๆ อาจเป็นนักมวยสากลที่เพิ่งถูกจับมาฝึกมวยไทยด้วยซ้ำ ก็อย่างว่าภายในเวลากระชั้นชิด มหาลัยคู่แข่งคงหาคนที่เป็นมวยคาดเชือกจริงๆ ไม่ได้ คงจับเอาเด็กในคณะที่พอเป็นมวยมาหัดอย่างฉุกละหุก พอนึกได้อย่างนี้ เขาก็ยิ่งกระหยิ่มในใจ ยกนี้เขาจะปล่อยไปก่อนเพื่อไม่ให้ดูว่าอีกฝ่ายอ่อนเกินไป อีกสักยกสองยกเขาค่อยโชว์ฝีมือที่แท้จริงอัดอีกฝ่ายให้ลงไปนอนนับสิบเรียกศักดิ์ศรีที่เสียไปคืนมาต่อหน้าคนดูทั้งโรงยิม แสนยังคงแย็บหาจังหวะอย่างต่อเนื่อง การออกหมัดแต่ละทีทำให้คนดูเห็นชัดว่าได้วงแขนของชายหนุ่มเตียนโล่งไม่มีขนรักแร้แม้แต่น้อย แต่จนถึงปลายยก หมัดของเขายังไม่โดนคู่ต่อสู้จังสักที ท่าทางอีกฝ่ายจะเป็นพวกที่เก่งทางหลบหลีกที่คงเป็นทักษะที่ติดมาจากการชกมวยสากล

ถัดมาในยกที่สอง ก็ยังทำอะไรได้ไม่เป็นชิ้นเป็นอัน คู่ชกของแสนเอาแต่หลบไปมาหลีกเลี่ยงการประทะโดยตรงเหมือนจะรู้ว่าสู้ไม่ได้ แสนเริ่มหงุดหงิดใช้ช่วงรูปร่างสูงยาวสาดแข้งต่อยหมัดพยายามไล่ต้อนให้จนมุม เขาพยายามหลีกเลี่ยงการเตะสูงเพราะมีดุ้นเนื้อที่ยังแข็งตัวไม่ยอมลงเป็นอุปสรรคอยู่ ยิ่งพอส่วนหัวเสียดสีกับผ้ากางเกงยิ่งทำให้เสียววูบวาบแบบแปลกๆ จนเสียสมาธิไม่น้อย มุมแดงมานิ่งยังไม่แลกไม่ปะทะใช้การเต้นฟุตเวิร์คทำลายจังหวะวนออกข้างไม่เป็นเป้านิ่ง แสนเริ่มแปลกใจกับความแคล่วคล่องของอีกฝ่ายที่ผิดไปจากท่าทางเงอะงะในตอนแรก เขารัวหมัดใส่ใบหน้าของคู่ต่อสู้อย่างไม่ยั้งแต่ก็ติดการ์ดท่อนแขนสองข้างที่ยกขึ้นมาบัง แสนประชิดตัวเข้าไปใกล้หวังจะแทงเข่าเผด็จศึก แต่อีกฝ่ายกลับเบี่ยงตัวออกแล้วยกศอกทิ่มปลายคางอย่างว่องไว แสนผงะหน้าออกด้วยความตกใจที่เห็นคู่ชกพลิกแพลงจากรับให้เป็นรุกได้อย่างเชี่ยวชาญ ศอกของมุมแดงเฉียดปลายคางเขาไปแค่เส้นยาแดงผ่าแปด นี่ดูคล้ายกับท่ามวยขั้นสูงที่เรียกว่ายักเงี่ยงปลาดุกมากแต่อาจจะแค่บังเอิญก็ได้ แสนเต้นฟุตเวิร์คไปมาเพื่อหาช่องที่จะเข้าไปโจมตีทำให้ดุ้นเนื้อที่แข็งปั๋งเด้งขึ้นลงตามจังหวะไปด้วย ตอนนี้มันไม่ได้เสียวอย่างเดียวแต่มีอาการปวดฉี่เข้ามาร่วมด้วย ดูท่าน้ำสองขวดใหญ่ๆ ที่เขาดื่มอย่างไม่ยั้งก่อนหน้านี้จะเริ่มทำพิษเสียแล้ว แสนพยายามรวบรวมสมาธิที่จะเร่งเผด็จศึกแต่เสียงระฆังหมดยกก็ดังขึ้นเสียก่อน

ในยกที่สามแสนยังคงบุกหนักแต่ก็ระวังตัวเพิ่มขึ้น ดูท่าอีกฝ่ายจะไม่ใช่หมูให้เขาเชือดง่ายๆ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังได้เปรียบอยู่ค่อนข้างมากจากช่วงแขนช่วงขาที่ยาวกว่า อีกฝ่ายหลบหลีกอย่างแคล่วคล่องแต่ออกอาวุธสวนกลับมาน้อยมาก เสียงเชียร์ชื่อแสนดังกระหึ่มโรงยิมเมื่อเห็นว่าเขาเป็นฝ่ายรุกไล่ แสนเริ่มใช้ลูกเตะถึงแม้ควยที่แข็งปั๋งจะเกะกะขวางทางไปบ้าง ท่วงท่าเชิงมวยที่แข็งแรงสวยงามในแบบลูกผู้ชายของแสนทำให้กองเชียร์สาวแท้สาวเทียมพากันกรีดร้องจนเสียงแหบเสียงแห้งแม้ว่าเขาจะถูกโกนหัวโกนขนจนหมดหล่อ ยิ่งเปรียบเทียบกับความบ้านๆ ออกอาวุธแบบกล้าๆ กลัวๆ ของอีกฝ่ายยิ่งความสง่าช่างแตกต่างกันเหมือนแม่ทัพกับทหารเลว อาการปวดฉี่ที่เพิ่มขึ้นมากทุกทีทำให้แสนเร่งออกอาวุธหมายจะน๊อคอีกฝ่ายให้ได้โดยเร็ว แต่เหตุการณ์ก็พลิกผัน เมื่อมุมแดงถือโอกาสที่แสนรุกเข้ามาจนเปิดช่องว่าง ถีบเข้าให้ที่หน้าท้องโดนกระเพาะปัสสาวะเข้าจังๆ ก่อนได้จังหวะดีดแข้งขวาสูงเข้าเต็มก้านคอ แสนพยายามดึงหลบแข้งแต่ไม่พ้นโดนเข้าเต็มปลายคางถึงกับทรุดร่วงนอนกับพื้นทันที ผู้ชมต่างลุกฮือกับเพื่อดูอาการของแสนอย่างชัดๆ แสนนอนหงายลงกับพื้นในท่าชันเข่าขึ้นข้างหนึ่ง ร่างกายกระตุกอย่างแรงสองสามทีจนขากางเกงที่ทั้งกว้างทั้งบานร่นไปกองอยู่ตรงขาหนีบโชว์ดุ้นควยลำเขื่องที่ยังแข็งตัวโด่ตั้งฉากกับลำตัวพร้อมๆ กับหัวถอกแดงมันวาวพ่นน้ำเยี่ยวออกมาอย่างสุดกลั้นเป็นสายพุ่งขึ้นสูงเป็นเมตรแล้วย้อยตกลงมาอาบหน้าท้องตัวเองจนเปียกปอนไปหมด ท่อนเนื้อสีคล้ำมีเส้นเลือดปูดโปนตลอดท่อนลำทำหน้าที่พ่นน้ำพุสีเหลืองอยู่พักใหญ่เห็นถนัดตาต่อหน้าผู้ชมทั้งโรงยิม ในตอนนั้นแสนไม่มีสติที่จะรับรู้ความน่าอับอายของตัวเองที่เกิดขึ้นต่อหน้าคนหลายร้อยคน ตาที่ปรือแค่ครึ่งเดียวเหลือกขึ้นเห็นแต่ตาขาวน้ำลายฟูมปากหัวถูกโกนจนล้านเลี่ยนพวงไข่ย่นดำคล้ำห้อยออกจากขากางเกงมากองอยู่บนพื้นทั้งเนื้อทั้งตัวเปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำเยี่ยวหมดสภาพหนุ่มหล่อโหดเข้มที่น่าเกรงขามของมหาลัยอย่างไม่เหลือคราบ

สิ่งที่เกิดขึ้นสร้างความตกตะลึงต่อทุกคน รวมถึงกรรมการบนเวทีที่เป็นแค่มือสมัครเล่นที่ถึงกับทำอะไรไม่ถูกไปครู่ใหญ่ พอได้สติจึงเริ่มนับหนึ่งถึงสิบแล้วโบกมือยุติการชก และชูมือให้ทางมุมแดงเป็นฝ่ายชนะน็อกไป ในระหว่างนั้นโทรศัพท์จำนวนนับร้อยก็ถูกยกขึ้นมาเก็บภาพอันน่าอับอายที่หาดูได้ยากของบุคคลที่มีอิทธิพลอย่างสูงในมหาลัย และแน่นอนว่าคนที่มีกล้องซูมตัวใหญ่และนั่งแถวหน้าอย่างเวหาย่อมเป็นผู้ที่เก็บภาพได้ชัดเจนถนัดตาทุกรูขุมขนมากที่สุด

บัสมองความพ่ายแพ้ของรุ่นพี่ตัวเองอย่างเจ็บใจ ถึงเขาจะไม่ได้รู้เรื่องมวยไทยมากนักแต่ก็พอจะบอกได้ว่าฝีมือของแสนก็ไม่ธรรมดา เรียกได้ว่าดีกว่ามือสมัครเล่นแน่ๆ เพียงแต่อีกฝ่ายเก่งเกินไป ชั้นเชิงมวยที่แสดงออกมาในยกสองยกสามนั้นต่างจากท่าทางเงอะงะในยกหนึ่งอย่างเห็นได้ชัด แต่พอนึกไปความพ่ายแพ้ที่ทำให้ต้องเสียเดิมพันเป็นธงคณะนี้มันเกิดขึ้นมาเพราะแสนคนเดียว ไหนจะเป็นคนเสนอกีฬาสาธิตนี้ขึ้นมา ไหนจะไปท้าทายมหาลัยคู่แข่ง สุดท้ายก็เป็นคนลงแข่งเองแล้วก็สู้ไม่ได้ แถมยังแพ้ในสภาพที่น่าทุเรศที่สุดทั้งๆ ที่ตัวเองเป็นเป็นถึงพี่ใหญ่ประธานรุ่นปีสี่ที่แบกศักดิ์ศรีคณะเอาไว้ บัสปรายตาไปมองแสนที่ยังนอนควยโด่ไม่ได้สติจมกองเยี่ยวบนเวทีต่อหน้าธารกำนัลแล้วก็แทบร้องไห้กับธงคณะและชื่อเสียงที่อาจารย์ผู้ก่อตั้งและรุ่นพี่ๆ สั่งสมมาสิบกว่าปีที่ต้องสูญเสียไปเพราะคนเพียงคนเดียว

“แข่งจบแล้วก็หมดหน้าที่ของผมเสียที ผมฝากคุณบอกรุ่นพี่ของคุณด้วยแล้วกันว่าขอให้เลิกยุ่งเกี่ยวกันแค่นี้ แต่นี่เฉพาะในส่วนของผมนะ ของคนอื่นผมไม่รู้” ดร.พีพูดกับบัสแล้วก็เดินออกไปทิ้งนักกีฬาในความดูแลนอนโชว์ควยอ้าซ่าอย่างไม่สนใจใยดี ประธานรุ่นปีสามมองไปรอบๆ แล้วก็พบว่านักศึกษาคณะเขาที่เกี่ยวข้องกับการจัดงานพร้อมใจกันหายหน้าไปหมด บัสถอนหายใจด้วยความหนักใจ ไม่แปลกใจนักหรอกที่ไม่มีใครอยากร่วมแบกรับความอัปยศอันนี้ เขาเห็นเปลสนามที่พวกฝ่ายพยาบาลทิ้งไว้แล้วก็มองซ้ายมองขวาหาตัวช่วยก็พบแต่เดือนคณะปีหนึ่งที่ยังหอบกล้องพะรุงพะรังจึงเรียกให้เข้ามาช่วย เวหาเกรงใจบัสจึงยอมช่วยแบกร่างของแสนที่ยังสลบไสลขึ้นเปลพาไปห้องพยาบาลที่อยู่อีกตึกหนึ่งห่างออกไปไม่ไกล โชคไม่ดีที่เจ้าหน้าที่ประจำห้องพยาบาลดูเหมือนจะออกไปธุระ ทิ้งไว้แต่อุปกรณ์ปฐมพยาบาลเล็กๆ น้อยๆ และกล่องใส่ยาสามัญประจำบ้านบนโต๊ะ ทั้งคู่พาแสนขึ้นไปนอนบนเตียง บัสจับชีพจรและสังเกตอาการหายใจของคนป่วยแล้วก็บอกเวหาอย่างเบาใจขึ้น

“ชีพจรเต้นเร็วนิดหน่อยแต่การหายใจเป็นปกติ คิดว่าคงไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง นอนซักพักพี่แสนคงฟื้นมาเอง จะเอาไปส่งที่บ้านหรือหอ พี่ก็ไม่รู้ว่าพี่แสนพักที่ไหน เพื่อนสนิทก็ดูเหมือนจะไม่มี เท่าที่รู้นะ คือพี่แสนแกไม่ค่อยบอกเรื่องส่วนตัวกับใครเท่าไหร่”

เวหาพยักหน้า ก็ไม่ได้นึกแปลกใจสักเท่าไหร่ คนที่มีเรื่องซ่อนเร้นอย่างแสนคงไม่ยอมเผยเรื่องส่วนตัวออกมาง่ายๆ ต่อให้เป็นคนที่ตัวเองใช้งานบ่อยจนน่าจะคุ้นเคยอย่างบัส ในใจนึกขำที่ตัวเองต้องมาช่วยบัสกุลีกุจอหายาดมยานวดมาปฐมพยาบาลให้กับศัตรูคู่แค้นอย่างแสน ในระหว่างนั้นเอง บัสก็รับโทรศัพท์ที่ดังขึ้น พอคุยได้ซักครู่ ประธานรุ่นปีสามก็หน้าเปลี่ยนสี แล้วหันมาพูดกับเวหาด้วยท่าทางกังวล

“เกิดเรื่องแล้ว ในคณะกำลังระดมคนต่อต้านสิ่งที่พี่แสนทำ พี่ต้องรีบไปเคลียร์ก่อนไม่งั้นเป็นเรื่องใหญ่แน่ พี่ฝากเราช่วยดูพี่แสนให้จนกว่าจะฟื้นหน่อยนะ พี่ขอเข้าไปที่คณะหน่อย” บัสสั่งความจบก็วิ่งหน้าตื่นออกไปข้างนอกทันทีไม่ปล่อยให้เวหามีโอกาสปฏิเสธแม้แต่น้อย เด็กหนุ่มมองร่างในชุดกางเกงมวยตัวเดียวที่ยังไม่ได้สติของแสนแล้วบอกตัวเองว่าโอกาสแก้แค้นมาถึงแล้ว เขาลังเลใจเล็กน้อยก่อนจะเอื้อมมือไปดึงกางเกงมวยของแสนลงจนจุดกึ่งกลางลำตัวที่ยังแข็งขันเป็นอิสระจากขอบกางเกงดีดตัวขึ้นตั้งโด่บนฐานหัวเหน่าเตียนโล่งไร้ขนหมอยอย่างที่ชายวัยเจริญพันธ์พึงมี กางเกงชุ่มเยี่ยวที่หมักหมมมาพักใหญ่เริ่มส่งกลิ่นจนเวหานิ่วหน้า เขารีบถอดถอดมันออกแล้วโยนทิ้งลงถังขยะอย่างขยะแขยงจนแสนเหลือแต่ร่างเปล่าเปลือย ใบหน้าที่เคยดุดันน่าเกรงขามกลับกลายเป็นเด๋อด๋าน่าขันยามปราศจากทั้งเส้นผมขนคิ้วและหนวดเครา ไม่น่าเชื่อว่าคนที่เขาเคยกลัวเหมือนเป็นยักษ์เป็นมารจะต้องมาตกอยู่ในสภาพน่าสมเพชเช่นนี้

เวหามองดูท่อนควยโด่เด่ของแสนแล้วนึกสนุกขึ้นมา ไม่รู้ว่าไปโดนอะไรมาถึงได้ควยแข็งแรงดีไม่มีตกแม้จะหมดสติไปแล้ว เขาไปหยิบถุงมือยางตรงโต๊ะที่เก็บอุปกรณ์ทำแผลขึ้นมาสวมเพราะไม่แน่ใจว่าคนชั่วๆ อย่างแสนจะเป็นโรคอะไรหรือเปล่า แล้วค่อยจับขาที่อ่อนปวกเปียกของแสนแหกออกจากกัน ปรากฎว่าใต้พวงไข่และง่ามก้นของประธานรุ่นปีสี่เป็นจุดเดียวบนร่างกายที่รอดพ้นจากปัตตาเลี่ยนของดร.พีจึงยังมีขนขึ้นอยู่อย่างแน่นหนาโดยเฉพาะรอบรูตูด เด็กหนุ่มจัดท่าทางของแสนแหกแข้งแหกขาให้น่าเกลียดที่สุดแล้วก็เอากล้องมาถ่ายย้อนขึ้นไปให้เห็นรูตูดที่เต็มไปด้วยขน พวงไข่และดุ้นควยที่ถูกโกนหมอยออกจนเตียนโล่ง พร้อมกับใบหน้าที่ปราศจากทั้งผมและขนคิ้วของแสนให้อยู่ในเฟรมเดียวกัน

เมื่อถ่ายรูปจนพอใจแล้ว เวหาก็เปลี่ยนความสนใจไปที่ท่อนเนื้อตรงเด่ที่ล่อตาอยู่ เขาเอื้อมมือไปจับดุ้นควยขนาดเขื่องแต่ไม่ใหญ่จนผิดปกติเหมือนของตัวเองแล้วรู้สึกว่าพอดีกำเหลือเกิน เส้นเลือดปูดโปนที่ขึ้นตลอดท่อนลำเหมือนลายกันลื่นที่ทำให้ยิ่งถนัดมือขึ้นไปอีก เวหาชักขึ้นชักลงแรงๆ อย่างไม่กลัวเจ้าของดุ้นควยจะเจ็บ แสนครางฮือๆ ออกมาท่าทางกระสับกระส่ายแต่ก็ยังไม่ฟื้น ยิ่งชักก็ยิ่งมันมือ ปลายหนังหุ้มควยที่ค่อนข้างยาวแต่ไม่ได้รัดแน่นทำให้หัวควยบานๆ ผลุบเข้าผลุบออกได้อย่างคล่องตัว เมื่อผสมกับน้ำเงี่ยนใสเหนียวที่ซึมออกมาอย่างไม่ขาดสายทำให้เกิดเสียงเฉอะแฉะดังแฉ่กๆ เพิ่มอรรถรสในการชักควยศัตรูคู่แค้นให้กับเวหาขึ้นไปอีก ไม่นานแสนที่ยังไม่ได้สติแต่ร่างกายยังสามารถรับรู้การกระตุ้นได้ก็เกร็งไปทั้งร่าง เวหาจงใจดันควยในกำมือให้เอนไปทางด้านบนเพราะอยากให้น้ำว่าวที่กำลังจะออกกระจายเต็มหน้าท้องและหน้าอกจะได้เก็บภาพได้สวยๆ แต่ความหนุ่มแน่นของแสนมีพลังอัดแน่นมากกว่านั้น เมื่อเวหาเร่งมือจนร่างกายของแสนถึงจุดสุดจอด ท่อนลำสีคล้ำก็ส่งน้ำเชื้อขาวขุ่นขึ้นไปไกลถึงหัวที่ล้านเหม่งของแสนโดยมีบางส่วนย้อยลงมาเปรอะเปื้อนหน้าใบหน้าที่เคยคมเข้มจนทุเรศยิ่งกว่าเดิม เวหานึกทึ่งในใจแล้วก็รีบเก็บภาพน้ำว่าวที่กองแหมะอยู่กลางหัวล้านไว้เป็นที่ระลึกอีกเซ็ทใหญ่ ดูเหมือนว่าการกระฉูดน้ำเชื้ออีกชุดใหญ่จะทำให้แสนเริ่มรู้สึกตัวแบบสะลืมสะลือขึ้นมาแต่ควยก็ยังแข็งโด่ไม่ยอมลง

เสียงเปิดประตูห้องพยาบาลทำให้เวหาหันไปมองโดยเข้าใจว่าบัสกลับมาแล้วแต่ปรากฎว่าชายหนุ่มร่างสูงที่เดินเข้ามากลับเป็นประธานสภานักศึกษาที่เวหาตามหาตัวอยู่นาน เด็กหนุ่มเห็นหน้าปราบแล้วก็กัดฟันแน่นเพราะมีความแค้นที่ยังไม่ได้ชำระจากเรื่องคราวก่อน

“ไอพี่ปราบ วันนั้นทำผมเจ็บแสบมากนะ โทรมาหลอกให้ผมไปติดกับดักของสารวัตร รู้เปล่าผมถูกยัดยาด้วยนะ ผมคิดว่าพี่จะเป็นคนดีกว่านี้ซะอีก”

ปราบมองเวหาที่นั่งอยู่ข้างร่างเปลือยของเจ้านายตัวเองซึ่งเปรอะไปด้วยคราบต่างๆ ด้วยสีหน้าเรียบเฉย

“ผมก็แค่ทำในสิ่งที่ต้องทำปีหนึ่งวิศวะ ถึงยังไงคุณก็รอดมาได้นี่ ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอตัวเพื่อนผมด้วย”

“ผมชื่อเวหา เรียกปีหนึ่งวิศวะอยู่ได้ แล้วทำไมพี่เป็นคนอย่างนี้วะ เสียแรงผมเคยนับถือ พี่ไม่รู้เหรอว่าไอพี่แสนมันเลวขนาดไหน ทำไมยังไปเข้าข้างมันอีก ถามจริง พี่เป็นอะไรกับมันแน่ เป็นแฟนกันใช่ป่ะ ถ้าใช่ก็รีบเลิกๆ กันไปเถอะ เพราะอีกไม่นาน ผมจะจัดการพี่แสนให้สมกับความเลวเอง ดูอย่างวันนี้สิ พี่ไม่เห็นหรอกว่าพี่แสนมันทุเรศขนาดไหน”

“คุณแสนเป็นคนระดับไหน อย่างคุณไม่มีทางโค่นคุณแสนลงได้หรอกปีหนึ่งวิศวะ เรื่องที่ห้องชั่งน้ำหนักและเวทีมวยวันนี้ก็ไม่ใช่ฝีมือคุณซะหน่อย คนอย่างคุณทำเรื่องแบบนี้ไม่ได้หรอก”

“พี่รู้? แล้วฝีมือใครล่ะ บอกผมหน่อย”

เวหาหน้าเจื่อน เขาตั้งใจจะบลัฟอีกฝ่ายแต่คิดไม่ถึงว่าปราบจะรู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่แล้ว

“ผมเสียเวลามามากพอแล้ว ปีหนึ่งวิศวะ หวังว่าคงไม่พบกันอีกในเร็วๆ นี้”

ปราบจับร่างของแสนที่เริ่มมีสติครึ่งหลับครึ่งตื่นมาพาดไหล่ตัวเองอย่างไม่รังเกียจควยที่แข็งโด่และร่างกายที่มีแต่กลิ่นเยี่ยวและน้ำว่าวที่เปรอะเปื้อนไปหมดก่อนจะพาออกไปขึ้นรถกระบะที่จอดอยู่ด้านนอกโดยไม่ขอความช่วยเหลือจากอีกฝ่ายแม้แต่น้อย เวหาเห็นแล้วก็นึกประหลาดใจกับความแข็งแรงของปราบที่สามารถแบกร่างกายกำยำของแสนที่ตัวพอๆ กันได้อย่างสบาย

หลังจากที่ปราบคล้อยหลังไปเพียงอึดใจเดียว บัสก็กลับเข้ามาที่ห้องพยาบาลมองไปที่เตียงที่ว่างเปล่าแล้วถามอย่างประหลาดใจ

“พี่แสนไปไหนแล้วล่ะเวหา หรือว่าฟื้นแล้วกลับไปแล้ว พี่ว่าจะคุยเรื่องธงคณะหน่อย”

“พี่ปราบมารับไปแล้วครับ”

“พี่ปราบประธานสภาอ่ะนะ ตายห่า เขาไม่ถูกกัน พี่ปราบแกอยู่คณะเกษตรยิ่งเกลียดวิศวะอยู่ด้วย เราไม่รู้เหรอ”

“บางทีเขาอาจจะสนิทกันมากกว่าที่พี่คิดก็ได้ครับ พี่ไม่ต้องเป็นห่วงพี่แสนหรอก พี่ปราบคงดูแลอย่างดี”

“พี่ไม่ได้เป็นห่วงพี่แสนหรอก พี่เป็นห่วงธงคณะมากกว่า นี่ว่าถ้าพี่แสนฟื้นพี่จะคุยให้พี่แสนไปลองขอร้องมหาลัยนั้นดู ว่าให้ชดเชยด้วยอย่างอื่นแทนธงคณะได้เปล่า” บัสเผยความในใจออกมา

“คนอย่างพี่แสนคงยอมหรอก”

“นั่นสิ ทำไมพี่เขาต้องทำเรื่องขนาดนี้ด้วย นี่ที่คณะก็วุ่นวายไปหมดแล้ว พวกเด็กภาคคอมกำลังพยายามปิดข่าวในโซเชี่ยลกับเวบไซต์ต่างๆ อยู่ คิดดูมีรูปทุเรศๆ ของประธานรุ่นปีสี่กระจายไปทั่วคณะเราจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน นี่ทีมงานก็ไล่ลบไล่รีพอร์ตรูปพี่แสนกับอยู่ เวบไหนไม่ให้ความร่วมมือก็โจมตีดื้อๆ เอาให้ล่มไปเลย หนักใจก็แต่พวกที่ส่งกันส่วนตัวนี่แหละ” บัสระบายปัญหาออกมาอย่างกลัดกลุ้ม แล้วก็เล่าให้เวหาฟังต่อว่าความพ่ายแพ้อย่างน่าสมเพชของแสนสร้างความอับอายให้กับนักศึกษาวิศวะในคณะเป็นอย่างมาก จนตอนนี้ไม่มีใครกล้าสู้หน้าเพื่อนวิศวะจากมหาลัยอื่นทั้งที่เกียร์เกมส์ยังเหลือพิธีปิดและงานเลี้ยงส่งท้ายในวันถัดไป พวกรุ่นพี่ปีสี่ต่างไประดมกันแก้ปัญหาเรื่องชื่อเสียงคณะที่แสนทำไว้ ทิ้งเรื่องเกียร์เกมส์ไว้ให้บัสจัดการแต่ผู้เดียว

“เวหา นายต้องช่วยพี่นะ ตอนนี้พวกพี่ปีสี่บอยคอตพี่แสนกันหมด ไม่มีใครจะเข้าร่วมพิธีปิดและงานเลี้ยงกลางคืนพรุ่งนี้ แค่นี้คณะก็เสียชื่อจะแย่แล้ว ถ้างานล่มไปอีกต้องแย่แน่ๆ”

“พี่จะสนใจอะไรครับ ถ้าคนทำเขาแคร์คณะบ้างเขาคงไม่สร้างปัญหานี้ขึ้นมาหรอก”

“มันเป็นเรื่องของคณะไม่ใช่เรื่องตัวบุคคล พวกปีสามพี่คุยเรียบร้อย ส่วนใหญ่ก็ยังจะให้ความร่วมมืออยู่ แต่ปีสองนี่เขาไม่ค่อยพอใจพี่แสนอยู่แล้วตั้งแต่สมัยที่ถูกรับน้องโหดๆ ถ้าได้ปีหนึ่งมาช่วย งานก็ยังน่าจะไปได้อยู่ พี่รู้ว่าคำพูดเรามีน้ำหนักมากกว่าประธานรุ่นปีหนึ่งเสียอีก ปีหนึ่งทุกคนเขาฟังเรานะเวหา ช่วยพี่ที”

“พี่ก็รู้ว่าปีหนึ่งโดนพี่แสนเล่นงานมามากกว่าที่พี่ปีสองโดนเสียอีก มันไม่ใช่ง่ายๆ เลยนะ ไม่มีใครอยากแบกหน้ามารับความอับอายแทนพี่แสนหรอก ยิ่งผมด้วยแล้วโดนพี่แสนกลั่นแกล้งมาตั้งเท่าไหร่ มันไม่ใช่มีแต่เรื่องที่พี่รู้หรอกนะ ที่ผมโดนจริงๆ มันร้ายแรงกว่านั้นเยอะ ผมคงไม่เอาตัวเข้าไปช่วยพี่แสนหรอก ถ้าผมทำจะได้อะไร”

บัสทำท่าจะตอบก็พอดีมีโทรศัพท์เข้ามาเสียก่อน ชายหนุ่มกดรับสายแล้วหันหน้าไปอีกทางก่อนจะเริ่มสนทนากับปลายสาย เวหาเลยแอบเงี่ยหูฟังไปด้วยอย่างอยากรู้อยากเห็นเพราะคิดว่าอาจเป็นเรื่องของแสน

“ครับ วันนี้แข่งกีฬาเสร็จแล้วเหลือพิธีปิดวันพรุ่งนี้… คืนนี้พี่คงไปเจอตามนัดไม่ได้แล้วล่ะพอดีที่คณะมีปัญหาต้องแก้… เอางั้นเหรอ… งั้นพี่ไปหาที่หอก็ได้แต่อยู่ได้ไม่นานนะครับ… ก็ดีเหมือนกันจะได้คลายเครียดซักหน่อย… รู้ใจพี่เหลือเกินเดี๋ยวคืนนี้ให้รางวัลนะจ๊ะ จุ๊บๆ”

เวหาได้ยินเสียงปลายสายลอดออกมาแค่แว่วๆ จับใจความไม่ได้ รู้แค่ว่าเป็นเสียงผู้หญิงที่ค่อนข้างออดอ้อนจนน่าหมั่นไส้ เด็กหนุ่มตกใจมากกับเรื่องที่ได้ฟัง จริงๆ รูปร่างหน้าตาและโปรไฟล์อย่างบัสไม่มีแฟนสิถึงจะแปลก แต่เขาไม่เคยเห็นบัสควงใครในมหาลัย ข่าวลือเรื่องชู้สาวอะไรก็ไม่เคยได้ยิน แล้วอยู่ๆ รุ่นพี่หนุ่มหน้าตาดีคนนี้มีแฟนได้ยังไง ความแปลกใจเริ่มกลายเป็นความหงุดหงิดทำให้ความถามที่ถามออกไปออกจะห้วนไม่น้อย

“แฟนพี่เหรอ พี่มีแฟนตอนไหนทำไมไม่มีใครบอกผม”

บัสที่เพิ่งวางโทรศัพท์หันมามองหน้าเวหาอย่างงงๆ แต่ก็ตอบคำถามออกมาตรงๆ

“ไม่ใช่แฟนหรอก เด็กพี่น่ะ หรือจะเรียกคู่นอนก็ได้ แค่สนุกๆ กัน ไม่ผูกพัน พี่มีอยู่สองสามคน”

เวหาอึ้งกับคำตอบที่ได้ยิน บัสในสายตาของเขาเป็นรุ่นพี่ใจดีเรียบร้อยเป็นมิตรกับทุกคน ไม่นึกว่าจะมีมุมแบบนี้ซ่อนอยู่

“ทำไมพี่เป็นคนอย่างนี้ ผมไม่เคยเห็นพี่ควงใครในมหาลัยเลยนี่ แล้วทำไมมีเด็กขึ้นมาตั้งสองสามคน”

“ก็เด็กพี่เรียนที่อื่นหมด น้องที่โทรมาเมื่อกี๊ก็เรียนพาณิชย์อยู่ในตัวจังหวัด พี่ถือคติว่าจะไม่มีอะไรกับนักศึกษาในมหาลัยเรา ทุกคนเป็นเหมือนพี่น้อง พี่ไม่ทำเรื่องเสื่อมเสียด้วยหรอก แล้วนี่เราเป็นอะไรทำไมถึงมาซักไซ้ไล่เลียงพี่เรื่องนี้ด้วย”

“หึ พี่ก็รู้นี่ว่าที่ทำอยู่เป็นเรื่องเสื่อมเสีย แล้วคืนนี้จะนัดกันไปนอนเหรอ”

เวหาก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมจะต้องรู้สึกหัวเสียขนาดนี้ด้วย

“ก็แค่ไปปลดปล่อยให้คลายเครียดหน่อย พี่ก็ผู้ชายคนหนึ่งนะ แต่ไม่ต้องห่วง พี่ไม่ทิ้งปัญหาหรอก ไปแป๊บเดียว เอากันเสร็จเดี๋ยวก็กลับมาลุยงานต่อ” บัสตอบหน้าตาเฉย เวหานึกหมั่นไส้ในใจเลยยื่นข้อเสนอที่แปลกประหลาดออกไปโดยแทบไม่ได้กลั่นกรองความคิดตัวเองก่อน

“งั้นพี่ให้ผมไปด้วยสิ แล้วผมจะช่วยคุยกับเพื่อนปีหนึ่งให้เข้ามาร่วมพิธีปิดเกียร์เกมส์วันพรุ่งนี้”

บัสถึงกับผงะไป เวหาไม่รู้เหมือนทำไมถึงบอกออกไปแบบนั้น อาจเป็นเพราะว่างเว้นจากการไปดูจ่าเย็ดเมียไปพักใหญ่ เรื่องของเรื่องคือพอเวลามีเวหาไปดูด้วยจ่ากับเมียจะเร่าร้อนเป็นพิเศษ แล้วคงมีครั้งใดครั้งหนึ่งที่เย็ดกันเมามันจนลืมคุมกำเนิด ในที่สุดเมียจ่าก็ท้องลูกคนที่สามขึ้นมาเลยทำให้ต้องงดกิจกรรมหรรษาระหว่างสามคนไป จ่ายังพูดขำๆ เลยว่าพอคลอดลูกคนนี้จะยกให้เวหาเป็นพ่อทูนหัวเพราะถือว่ามีส่วนร่วมในการที่ทำให้เกิดมา

“เราอยากด้วยเหรอ พี่ไม่รู้เหมือนกันว่าทีเดียวสองคนน้องเขาจะยอมหรือเปล่า แล้วของเรามันก็ออกจะใหญ่โตมากอย่างนี้ผู้หญิงเขาคงจะกลัว”

“ผมไม่ได้อยากเอาเด็กพี่ แค่ขอไปดูเฉยๆ อยากศึกษาเรียนรู้อ่ะ ไม่เห็นมีอะไรต้องอาย ก็เราวิ่งแก้ผ้าด้วยกันมารอบมหาลัยแล้วนี่”

“เรารู้? รู้ได้ยังไง พี่ไม่เคยบอกใคร”

“เอาหน่า ตกลงพี่โอเคไหม ผมจะได้รีบไปคุยกับเพื่อนๆ เรื่องพิธีปิดพรุ่งนี้ให้ ไม่งั้นก็ตัวใครตัวมัน”

บัสรีบรับปากทันที จริงๆ เขาก็เป็นผู้ชายแมนๆ ไม่ได้หวงเนื้อหวงตัวอะไรกับรุ่นน้องที่ถูกชะตาอย่างเวหา ไม่งั้นคงไม่ยอมไปวิ่งแก้ผ้าโชว์คนทั้งมหาลัยเป็นเพื่อน เพียงแต่คิดว่าสิ่งที่เวหาขอมันออกจะแปลกไปเท่านั้นเอง

พิธีปิดของกีฬาเกียร์สัมพันธ์ก็จบลงไปได้ด้วยการทำหน้าที่อย่างไม่ขาดตกบกพร่องของฝ่ายเจ้าภาพ มหาลัยขนาดใหญ่สองแห่งในกรุงเทพครองที่หนึ่งและที่สองของผลรวมเหรียญทองไปตามความคาดหมาย ตามด้วยที่สามซึ่งได้แก่มหาลัยเจ้าภาพเอง แต่นาทีนี้ไม่มีใครให้ความสนใจกับผลการแข่งขันเท่าไหร่ ทุกคนเอาแต่พูดถึงเหตุการณ์ความพ่ายแพ้ในสภาพอันน่าอับอายของประธานรุ่นวิศวะปีสี่ที่ทุกคนรู้จักกันดีในฐานะประธานการจัดงานของเจ้าภาพ เวหาทำได้อย่างที่รับปากบัสไว้ที่จะเกณฑ์เด็กวิศวะปีหนึ่งมาเข้าร่วมงานให้ได้ แถมยังทำได้ดีกว่านั้นด้วยการไปเกลี้ยกล่อมพี่ปีสองจนใจอ่อนยอมมาร่วมพิธีปิดด้วยอีกชั้นปี เท่ากับตอนนี้มีทั้งปีหนึ่งปีสองปีสามมาร่วมถัวเฉลี่ยความอายกันขาดแต่ปีสี่ที่ยังบอยคอตแสนจนไม่มาเข้าร่วมด้วย

เมื่อพิธีปิดจบลงบัสก็เริ่มรู้สึกร้อนใจ เวลาว่างในช่วงบ่ายที่เว้นไว้ให้นักกีฬาและทีมงานได้พักผ่อนก่อนจะไปร่วมงานปาร์ตี้ในตอนเย็นถูกใช้เป็นเวลานัดหมายที่จะต้องเอาธงคณะไปส่งมอบให้มหาลัยคู่แข่ง บัสเองได้พยายามค้านอย่างสุดความสามารถแต่มติของคณะลงความเห็นว่าต้องส่งธงให้ตามสัญญาเพื่อรักษาเกียรติของคณะเอาไว้ แสนที่ควรจะเป็นคนเข้ามาแก้ปัญหากลับหายตัวไปไม่มีใครสามารถติดต่อได้อีกเลย แต่เมื่อบัสนำธงคณะไปพบกับประธานรุ่นวิศวะปีสี่ของมหาลัยคู่แข่งตามที่นัดไว้แทนแสน อีกฝ่ายกลับบอกว่าให้เรื่องการพนันครั้งนี้เป็นโมฆะไป โดยจะไปประกาศในงานเลี้ยงคืนนี้ว่าที่พนันกันก่อนหน้านี้เป็นการเตี้ยมไว้ล่วงหน้าเพื่อสร้างสีสันให้กับการแข่งขันกีฬาสาธิต ไม่ได้จะต้องให้ธงคณะกันจริงๆ ไม่ว่าฝ่ายไหนจะชนะก็ตาม บัสรีบรับข้อเสนอนั้นอย่างยินดีแกมประหลาดใจแม้ว่าประธานรุ่นของมหาลัยคู่แข่งจะดูท่าทางร้อนตัวแปลกๆ ก่อนจากกันฝ่ายนั้นยังกำชับบัสว่าขอให้จบเรื่องนี้ลงแค่นี้อย่าได้รื้อฟื้นอะไรขึ้นมาอีกเพื่อเป็นการรักษาหน้าทุกคนไว้

เวหาเป็นคนแรกที่บัสรีบไปบอกข่าวดี แต่เด็กหนุ่มไม่มีท่าทีประหลาดใจแต่อย่างใด

“ฝีมือผมเองแหละ”

“หา ฝีมือเรานี่นะ พี่นึกว่าฝ่ายโน้นเขาอยากรักษามิตรภาพไว้เลยให้ออกมาแบบนี้”

“เป็นศัตรูกันมาเป็นชาติอย่างนั้นเขาคงยอมง่ายๆ หรอก เป็นเพราะผมไปสืบมาได้หรอกว่าคนที่มาชกกับพี่แสนเมื่อวานไม่ใช่เด็กวิศวะของมอนั้นจริงๆ แต่เป็นนักมวยอาชีพที่หน้าตาคล้ายๆ กับคนที่เอามาสวมชื่อ นี่พวกเพื่อนผมต้องพยายามสืบทั้งคืนเลยนะ สงสัยตั้งแต่ตอนชกแล้ว ทำเป็นชกไม่ค่อยคล่องแต่การเคลื่อนไหวพอจวนตัวเฉียบขนาดนั้นมันไม่ใช่มือสมัครเล่นแล้ว นี่เพราะผมเรียนพวกศิลปะป้องกันตัวมาเหมือนกันนะถึงได้ดูออก พอรู้แน่ๆ ผมเลยเอาเรื่องนี้ไปขู่ฝั่งโน้นให้ยอมยกเลิกเรื่องธงคณะไป”

ทีมเอฟเวนเจอร์ต้องทำงานอย่างหนักตั้งแต่เย็นวาน ทั้งเจาะข้อมูลเข้าไปที่รายชื่อนักศึกษาของมหาลัยคู่แข่ง ทั้งเอารูปหน้าของนักมวยมุมแดงไปสอบถามจากคนกลุ่มต่างๆ จนระบุตัวได้

“โอ้ย รักนายว่ะเวหา อยากได้อะไรบอกมา ถ้าพี่ให้ได้พี่ให้หมดตัวเลย ตอนแรกแค่คิดว่าต้องเสียธงนี่ให้กับคู่แข่งพี่ก็น้ำตาจะไหลอยู่แล้ว”

บัสเข้าไปกอดเด็กหนุ่มรุ่นน้องแน่นด้วยความดีใจจนอีกฝ่ายหน้าแดงด้วยความเขิน

“รู้แล้วว่าดีใจ ไม่ต้องกอดแน่นก็ได้ แต่พี่เป็นเอามากนะ แค่ธงคณะเอง ศักดิ์ศรีจริงๆ ของคณะมันน่าจะอยู่ที่ตัวนักศึกษาและผลงานมากกว่า”

บัสลูบคลำธงอย่างทะนุถนอม ประกายตามีความโหยหาอะไรบางอย่าง

“ก็บอกแล้วไง ว่ามันเป็นธงที่อาจารย์ผู้ก่อตั้งมหาลัยเป็นคนให้คณะเรามามันก็ต้องสำคัญสิ ยังไงวันนี้ต้องขอบใจเรามากนะ ทั้งเรื่องธงและก็เรื่องที่ดึงปีหนึ่งและปีสองกลับมาร่วมงานกีฬาได้ เวหา นายนี่เป็นผู้นำที่ดีได้จริงๆ จะให้พี่ตอบแทนยังไงก็บอกมา ไม่งั้นพี่จะเลี้ยงเหล้ามื้อใหญ่แล้วกัน”

“เลี้ยงเหล้ามันไม่พอหรอก เอาไว้ผมคิดได้ค่อยบอกแล้วกัน แต่ระหว่างนี้ถ้าพี่ไปมีอะไรกับเด็กอีก ผมขอตามไปดูทุกครั้งนะ”

“เฮ้ย เมื่อวานเราก็ดูไปแล้วนี่ เห็นดูเฉยๆ ไม่เห็นทำอะไร พี่ก็นึกว่าเราจะขอต่อกับเด็กพี่ น้องเขาพอเห็นหน้าหล่อๆ ของเราก็สะกิดยิกๆ อยากให้พี่เรียกเราไปแจม”

“ยังก่อนพี่ ขอศึกษาจากพี่ไปก่อน”

“เอางั้นเหรอ ถึงว่าเมื่อวานจ้องตาไม่กระพริบ ไว้ทีหลังพี่จะจัดท่าเด็ดให้ดูแล้วกัน เมื่อวานยังเกร็งๆ ไม่ค่อยคุ้นที่มีคนมาดู ฮ่าๆ” บัสพูดขำๆ อย่างไม่คิดมาก โดยไม่ได้เฉลียวใจเลยว่าอีกฝ่ายอาจจะคิดอะไรที่ไกลกว่านั้น

งานเลี้ยงส่งท้ายเกียร์เกมส์เริ่มขึ้นอย่างแกร็นๆ เพราะทุกคนในฝ่ายเจ้าภาพต่างต้องแบกรับความอับอายที่ประธานรุ่นปีสี่ก่อไว้จนไม่มีอารมณ์จะสนุกอะไร ยังดีที่การประกาศร่วมกันของทั้งสองมหาลัยว่าการพนันธงคณะเป็นเรื่องอำขำๆ ที่เตี้ยมกันไว้ก่อนเพื่อสร้างสีสันให้กับการแข่งกีฬาสาธิตทำให้คณะของบัสไม่เสียหน้ามากนัก งานเลี้ยงดำเนินไปอย่างเรื่อยๆ เป็นพวกเด็กวิศวะจากมหาลัยอื่นๆ คุยกันเองซะมากกว่าฝ่ายเจ้าภาพได้แต่สงบปากสงบคำ ยิ่งเวลามีคนไม่รู้อิโหน่อิเหน่มาถามถึงอาการของแสนอย่างห่วงใย เด็กในคณะก็ได้แต่ทำหน้าเจี๋ยมเจี้ยมแล้วเปลี่ยนเรื่องไป แต่ส่วนใหญ่คนทั้งงานก็รู้กาลเทศะพยายามไม่พูดถึงแสนกัน

พอนักร้องรับเชิญขึ้นเวที บรรยากาศในงานก็เริ่มเปลี่ยนไป ไม่มีใครคาดว่าฝ่ายเจ้าภาพจะสามารถเชิญแทนเดอะสตาร์แฟคเตอร์ที่กำลังโด่งดังมาร่วมงานในมหาลัยต่างจังหวัดแห่งนี้ได้ เพลงที่กำลังฮิตไปทั่วบ้านทั่วเมืองถูกนำมาขับร้องโดยศิลปินต้นฉบับสร้างความคึกคักให้กับงานเลี้ยงเป็นอย่างมาก นักศึกษาวิศวะจากมหาลัยต่างๆ ลุกขึ้นเต้นตามอย่างสนุกสนาน เมื่อมาได้ฟังมินิคอนเสิร์ตสดๆ กับหูอย่างนี้ ทุกคนต่างยอมรับว่าแทนมีฝีมือจริงๆ ทั้งร้องทั้งเต้นเล่นกีต้าร์ แถมยังเอ็นเตอร์เทนคนดูได้ดีสุดๆ ไม่เหมือนข่าวลือที่เคยได้ยินมาว่าแทนไต่เต้าจนมีชื่อเสียงในวงการมาได้เพราะไปนอนกับคนใหญ่คนโตไปทั่วโดยไม่เลือกว่าจะเป็นหญิงหรือชาย

แทนหยอกล้อกับคนดูจากบนเวทีอย่างเป็นกันเอง อาจเพราะเป็นวัยนักศึกษาเหมือนกันเลยสนิทกันได้ง่าย หลังจากร้องเพลงจบไปชุดใหญ่ ก็มีเสียงเรียกร้องจากด้านล่างเวทีให้มีการสัมภาษณ์แทนซักหน่อยเพราะผู้ชมอยากรู้จัก

“ก็ดีครับ ยังไงเราก็เหมือนเป็นเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ กันอยู่แล้วเพราะเพื่อนผมเองก็เรียนอยู่ที่นี่ ถือว่าจะได้รู้จักกันมากขึ้น”

นิสิตสาวปีสามภาควิชาวิศวะเคมีจากมหาลัยชื่อดังในกรุงเทพซึ่งเป็นแฟนเพลงอยู่แล้วรับอาสาเป็นผู้ทำหน้าที่สัมภาษณ์ร่วมกับบัสที่ขึ้นไปในฐานะเจ้าภาพ

“แหม ตื่นเต้นจริงๆ ค่ะ ไม่คิดว่าจะได้มาเจอพี่แทนตัวเป็นๆ ที่นี่ เจ้าภาพก็ปิดเงียบเลย ถ้าบอกล่วงหน้า หนูจะขนเพื่อนมาเชียร์พี่แทนทั้งคณะ ไปไงมาไงคะ เห็นประกาศในไอจีว่าอยู่ในช่วงพักงาน ทำไมมาโผล่ที่นี่ได้” นิสิตสาวทำหน้าที่ผู้สัมภาษณ์ได้อย่างแคล่วคล่องไม่เคอะเขินสมกับเป็นคนรุ่นใหม่

“ที่ลางานมาเพราะผมมีแผนต้องมาทำธุระที่จังหวัดนี้อ่ะครับ เป็นอาทิตย์เลย พอดีกับทราบว่าทางคณะนี้กำลังหาศิลปินมาเล่นคอนเสิร์ตอยู่ ผมเลยยัดเยียดตัวเองมาเลย ฮ่าๆ”

“เลยเป็นโชคดีของพวกเราเลย พอบอกได้ไหมคะว่าธุระอะไร ถึงกับต้องลางานเลย แฟนๆ นี่ใจหายใจคว่ำคิดว่าจะลาวงการยาว เกี่ยวกับเพื่อนที่เรียนอยู่ที่นี่หรือเปล่า”

“ก็มีธุระส่วนตัวที่ต้องมาจัดการ เอ่อ มาเคลียร์เรื่องบางอย่างกับคนที่นี่อ่ะครับ จะว่าไม่เกี่ยวกับเพื่อนผมเลยก็คงไม่ใช่ เอาเป็นว่าไม่ใช่เรื่องงานในวงการก็แล้วกันครับ”

“แสดงว่าพอเกี่ยวกับเพื่อนพี่แทนบ้าง พอพูดอย่างนี้ อยากเห็นหน้าเพื่อนพี่แทนที่เรียนอยู่ที่นี่เลย ท่าทางคงหน้าตาดีเหมือนพี่แทนนะคะ หนูเห็นเด็กวิศวะที่นี่หล่อๆ กันทั้งนั้น” นิสิตสาวจากกรุงเทพหยอดมุกอย่างชำนาญเรียกเสียงเคาะโต๊ะฮือฮาอย่างถูกใจจากบรรดาเด็กวิศวะของมหาลัยเจ้าภาพ ในขณะที่เด็กวิศวะจากที่อื่นตะโกนแซวว่าไม่จริง

“หล่อจริงๆ นะคะ อย่างบัสนี่ก็เห็นเป็นตัวอย่างอยู่” นิสิตสาวหันไปแซวบัสที่ตั้งแต่ขึ้นเวทีมายังไม่ได้ส่งเสียงสักแอะเพราะพูดไม่ทัน

“ไหน คนไหนเป็นเพื่อนพี่แทน ลุกขึ้นโชว์ตัวหน่อย คนสวยอยากเจอ”

“ฮ่าๆ เพื่อนพี่ไม่ได้อยู่คณะนี้หรอก เรียนอยู่เภสัชโน่น เดี๋ยวให้รูมเมทเขาโชว์ตัวแทนแล้วกัน เอ้า เวหาปีหนึ่งอยู่ไหน ขึ้นมาบนเวทีหน่อย”

“กรี๊ด น้องเวหาเดือนมหาลัยนี่เป็นรูมเมทกับเพื่อนพี่แทนเหรอคะ เวหาลูก อยู่ไหนเอ่ย มาหาเจ๊หน่อย”

เวหาที่นั่งสังเกตการณ์อยู่ด้านล่างจำใจต้องเดินขึ้นไปบนเวที พอไปถึงก็โดนนักร้องดังกอดคออย่างรักใคร่สนิทสนมทั้งๆ รู้จักกันผ่านรูมเมทได้ไม่นานแถมยังเคยแค่คุยวิดีโอคอลไม่กี่ครั้ง

“พี่แทนกับน้องเวหานี่ดูสนิทกันมากนะคะ ไม่รู้จะอิจฉาใครดี”

“ถ้าบอกว่านี่เพิ่งเคยเจอตัวจริงของเวหาจะเชื่อไหมครับ เคยแต่คุยกันผ่านแชทกับวิดีโอคอลนะครับ จริงๆ มีอีกคนที่ผมอยากเจอตัวจริง แสนประธานรุ่นวิศวะปีสี่เข้ามาที่งานหรือยังครับ ตอนก่อนแสดงคอนเสิร์ตทีมงานบอกว่ายังไม่เห็น”

ทันทีที่แทนพูดชื่อแสนออกไมค์ทั้งงานก็เงียบสนิท ไม่มีใครตกข่าวเรื่องวีรกรรมงามหน้าที่แสนทำไว้ บัสพยายามแก้ไขสถานการณ์กระอักกระอ่วนที่เกิดขึ้น

“เอ่อ พี่แสนคงยังไม่ฟื้นตัวจากการลงแข่งกีฬา พี่แทนมีธุระอะไรสำคัญเกี่ยวกับคณะผมหรือเปล่า ยังไงฝากเรื่องไว้ที่ผมก่อนได้”

แทนยิ้มมุมปาก

“ไม่มีอะไรทางการอย่างนั้นหรอก แค่ได้ยินชื่อมาพักใหญ่ เลยอยากเจอตัวจริง”

นิสิตสาวเห็นใจบัสเลยรีบช่วยเปลี่ยนเรื่องให้

“คุยกันพอหอมปากหอมคอแล้ว ไม่ทราบพวกเราพอจะได้ฟังเพลงจากพี่แทนอีกซักสองสามเพลงไหม ถือเป็นของแถมให้น้องๆ นะคะ”

บรรยากาศเริ่มกลับมาสนุกสนานอีกครั้งเมื่อเสียงร้องอันมีเสน่ห์ของแทนดังขึ้น นิสิตนักศึกษาวิศวะทั้งสามคนลงจากเวทีเปิดโอกาสให้แทนได้วาดลวดลายอย่างเต็มที่ เวหานึกสงสัยอยู่ในใจ ธุระอะไรที่ทำให้นักร้องที่งานชุกแถมยังมีภาระการเรียนระดับปีสี่คณะนิเทศน์ต้องปล่อยทุกอย่างมาหมกตัวอยู่ในจังหวัดที่ไม่ใช่หัวเมืองใหญ่อย่างนี้เป็นสัปดาห์ๆ มันจะเกี่ยวกับเรื่องที่กันต์รูมเมทเขาโดนทำร้ายหรือไม่ ถ้ามีโอกาสคงต้องถามแทนออกไปตรงๆ

ช่วงท้ายของกีฬาเกียร์สัมพันธ์จบลงไปอย่างราบรื่นกว่าที่คิด แต่งานของบรรดาทีมวิศวะคอมยังไม่จบ ทุกๆ วัน หน่วยเฉพาะกิจนี้จะคอยเฝ้าติดตามเรื่องของแสนในโลกโซเชี่ยล ตัวข่าวลือนั้นสกัดกั้นได้ยากก็จริงแต่ก็ยังสามารถควบคุมรูปถ่ายจากเหตุการณ์ในวันนั้นไม่ให้แพร่กระจายไปในอินเตอร์เน็ตอย่างค่อนข้างได้ผล ต้องขอบคุณทีมดังกล่าวที่ระดมกำลังกันกวาดล้างเพื่อไม่ให้คณะเสียชื่อเสียงไปมากกว่านี้ ใครหรือเวบไหนที่พยายามจะเผยแพร่รูปของแสนออกไปจะได้รับคำเตือนถ้าไม่เชื่อฟังก็จะโดนแบนแอคเค้าท์หรือไม่ก็โดนทำให้เวบล่มไปเลยด้วยวิธีการต่างๆ

มีแต่เพจต่อต้านแสนลับๆ ของเวหาที่มีแว่นเนิร์ดเทพคอมวางระบบป้องกันไว้อย่างหนาแน่นจนทีมงานของคณะวิศวะเข้าโจมตีไม่ได้ ทำให้เพจ “แสนเลว” กลายเป็นแหล่งเดียวที่มีภาพเหตุการณ์ในวันนั้นที่ละเอียดชัดเจนที่สุดจากกล้องอย่างดีที่เวหาเป็นคนถ่ายมาเอง จริงๆ เด็กหนุ่มก็ไม่ค่อยสบายใจอยู่เหมือนกันที่ทำตัวเป็นนกสองหัวแอบทำในสิ่งที่ตรงกันข้ามกับคนทั้งคณะ แต่เขาก็บอกตัวเองว่าการที่จะฟื้นคืนชื่อเสียงของคณะให้กลับคืนมาอย่างแท้จริงจะต้องโค่นแสนลงให้ได้เสียก่อน

จากปากต่อปาก ทำให้มีคนหลั่งไหลมาเป็นสมาชิกเพจ “แสนเลว” มากขึ้นเรื่อยๆ เพราะอยากดูรูปเปลือยของแสน เวหาซึ่งเป็นแอดมินก็ปล่อยให้คนออกความเห็นวิพากษ์วิจารณ์กันได้อย่างเต็มที่เพราะนั่นคือแหล่งข้อมูลสำคัญ แถมยังสามารถเผยแพร่ความเลวเรื่องต่างๆ ไปให้คนที่ยังไม่รู้ได้ด้วย หลังจากนั้นก็มีมือดีมาโพสต์ขายเส้นผมและเส้นขนของแสนที่ถูก ดร.พี โกนทิ้งในวันนั้น คนขายหัวใสแบ่งเส้นขนออกทีละหยิบมือน้อยๆ บรรจุในตลับพลาสติกใสน่าจะได้เป็นร้อยๆ ตลับ ราคาขายพร้อมส่งก็เป็นหลักร้อยสำหรับเส้นผมและพุ่งไปถึงหลักพันสำหรับเส้นหมอยหงิกๆ งอๆ ที่ไม่มีใครรู้ว่าเป็นของจริงหรือไม่ แต่คนขายมีหลักฐานเป็นรูปถ่ายเส้นผมและเส้นขนที่ร่วงหล่นเต็มพื้นห้องชั่งน้ำหนักซึ่งสอดคล้องกับรูปที่เวหาเอามาโพสต์ในเพจ ปรากฎว่าขายดิบขายดีอย่างไม่น่าเชื่อจนของหมดในเวลาไม่นาน เวหาไม่รู้ว่าคนที่ซื้อไปตั้งใจจะเอาไปเก็บเป็นที่ระลึกเพื่อความสะใจในฐานะคนที่เกลียดแสนหรือจะเอาไปทำอะไรกันแน่

ยิ่งเพจได้รับความนิยมมากขึ้นเท่าไหร่ ข้อมูลความเลวของแสนก็เข้ามาอย่างท่วมท้นทั้งจากหน้าเพจเองและที่ส่งอย่างลับๆ เข้าอินบ๊อกซ์ของแอดมิน กระแสต่อต้านแสนเพจคึกคักมากต่างกับโลกโซเชี่ยลภายนอกเพจที่ชาวเน็ตดูจะพูดถึงแสนน้อยลงด้วยหลายสาเหตุผสมกัน การที่ไม่มีรูปถ่ายหลักฐานออกมาแพร่กระจายทำให้เรื่องนี้ไม่ต่างกับข่าวลือทั่วไป คนที่รู้จริงหรืออยู่ในเหตุการณ์ต่างก็สงบปากสงบคำกลัวถูกทีมงานวิศวะกระหน่ำรีพอร์ตจนแอคเค้าท์ถูกแบนหรือไม่ก็ถูกโจมตีทางไซเบอร์จนเวบล่ม และที่สำคัญที่สุด หลังจากนั้นเพียงไม่กี่วัน กลับมีคลิปหลุดของคนดังอีกคนในมหาลัยที่น่าอับอายฉาวโฉ่กว่าและชัดเจนแบบไม่ต้องพิสูจน์ ข่าวใหม่นี้มาแรงแทบจะกลบกระแสเรื่องของแสนไปเลย แต่ถึงกระนั้นเจ้าตัวที่หายลับเข้ากลีบเมฆตั้งแต่พิธีปิดกีฬาเกียร์สัมพันธ์ก็ยังไม่มีใครติดต่อได้จนถึงตอนนี้เป็นเวลาเกือบสัปดาห์

บุคคลโชคร้ายที่กลายเป็นกระแสฉาวแทนแสนคือเดือนปีสามรูปหล่อของคณะศึกษาพละ ความคมชัดทั้งภาพและเสียงบ่งบอกว่าคนในคลิปเป็นก้องภพอย่างไม่ต้องสงสัย จริงๆ หนุ่มหล่อหุ่นล่ำเคยมีภาพหลุดในลักษณะที่มีควยจ่อปากตอนหลับมาออกมาก่อนหน้านี้ แต่ก็มีการแก้ข่าวว่าเป็นภาพตัดต่อเรื่องจึงซาลงไป เสียดายว่าครั้งนี้คงจะแก้ต่างอย่างนั้นไม่ได้แล้ว สิ่งที่ปรากฎในคลิปเป็นภาพก้องภพนอนตาปรือไม่ได้สติร่างกายเปลือยเปล่าขาทั้งสองข้างแยกออกจากกันถูกผูกโยงไว้กับหัวเตียงเผยให้เห็นรูตูดแดงก่ำยับเยินและท่อนควยขนาดกลางที่แข็งโด่ เขากำลังถูกดีดไข่อย่างแรงจากหญิงสาวหุ่นดีที่ถูกเซ็นเซอร์ใบหน้าไว้ ก้องภพร้องครวญครางแต่ก็ดิ้นหนีไม่ได้เพราะถูกมัดขาไว้แน่นหนา ถัดจากนั้นก็มีผู้ชายผิวขาวหุ่นเพียวที่ปกปิดใบหน้าไว้เช่นกันบีบเจลหล่อลื่นใส่มือแล้วเอาป้ายตรงรอยจีบของก้องภพแล้วก็แยงนิ้วควานไปมาเพื่อขยายรู พอได้ที่เขาก็เอาท่อนลำขาวอมชมพูไร้เส้นเลือดปูดค่อยๆ ลุกชูชันโชว์รูปร่างตรงสวยที่ยาวใหญ่กว่าของเดือนพละเสียอีกกดเข้าไปในรูตูดของหนุ่มหุ่นล่ำอย่างชำนาญ ใช้เวลาเพียงไม่นานก็เข้าไปได้จนสุดลำโดยมีเสียงครางของก้องภพดังขึ้นเป็นช่วงๆ จากนั้นก็ซอยช้าๆ และเริ่มเร็วขึ้นๆ จนเดือนพละร้องเสียงหลง แต่ชายคนดังกล่าวก็ไม่ทำต่อจนสุด เขาถอนยวงออกเปิดโอกาสให้หญิงสาวคนเดิมที่ตอนนี้สวมกางเกงทอมกดควยยางสีดำลงไปในรูตูดกลวงโบ๋แดงฉ่ำของก้องภพทันที เธอกระแทกควยยางลงไปที่จุดเสียวของก้องภพย้ำๆ ซ้ำๆ จนเดือนพละร้องเสียงหลงเหมือนอีตัว ใบหน้าเหยเกด้วยความเสียวซ่าน หญิงสาวยิ่งเร่งทั้งจังหวะและความแรง ไม่นานท่อนควยที่เด้งไปเด้งมาตามแรงกระแทกของก้องภพก็พ่นน้ำขาวข้นออกมาระลอกแล้วระลอกเล่าพร้อมๆ กับเสียงครางดังลั่นด้วยความสุขสม

คลิปวิดีโอยังไม่จบลงแค่นั้น ชายหนุ่มเอาตัวเข้าไปแทนที่แล้วเริ่มซอยควยเข้าออกในรูตูดของหนุ่มรูปหล่อ ขณะที่หญิงสาวหยิบแส้ออกมาจากถุงอุปกรณ์ แล้วพาดไปที่หน้าอกของก้องภพอย่างแรงเสียงแส้กระทบหน้าอกแกร่งของเดือนคณะ ประสานกับเสียงแฉ่กๆ จากการกระแทกรูตูด ไม่น่าเชื่อว่าในเวลาไม่นาน เดือนหล่อล่ำจะน้ำแตกได้อีกครั้งจากการถูกเย็ดตูด เที่ยวนี้แรงส่งมีไม่มากเท่าจึงหกเรี่ยราดอยู่แถวหน้าท้องโดยมีรูสะดือเป็นที่รองรับที่เหลือก็ไหลย้อยไปด้านข้างลำตัว เกจบลงที่ชายหนุ่มนิรนามถอนลำควยออกมารูดถุงยางทิ้งแล้วก็ชักจนระเบิดน้ำเชื้อตัวเองลงบนใบหน้าของเดือนรูปหล่อจนทั่ว

คลิปฉาวอันนี้แพร่กระจายไปตามหมู่นักศึกษาในมหาลัยอย่างรวดเร็ว ก้องภพถือว่าเป็นเดือนที่มีคนรู้จักมากเหมือนกันเพราะชื่อเสียงในฐานะนักกีฬาขี้เงี่ยนที่คบสาวฟันดะไม่เลือกหน้า ทุกคนต่างสงสัยว่าเดือนหนุ่มถูกมอมยาหรือเป็นการละเล่นที่พร้อมใจกันทั้งสามฝ่าย ที่แน่ๆ ภาพหนุ่มหล่อหุ่นล่ำแก้ผ้าล่อนจ้อนที่ถูกทะลวงตูดจากทั้งหญิงและชายที่คาดว่าจะสวยหล่อเช่นเดียวกันจนน้ำกระฉูดสองครั้งติดเป็นสิ่งที่ปลุกเร้าอารมณ์ให้กับหลายๆ เพศสภาพ ไม่มีใครรู้ว่าคนที่ปล่อยคลิปที่น่าอับอายเกินจะนึกฝันนี้ออกมาคือใครและทำไปเพื่อวัตถุประสงค์ใด แต่ที่แน่ๆ ก้องภพซึ่งเป็นคนเดียวที่โดนเห็นหน้าในคลิปคงไม่ทำเรื่องนี้ให้ตัวเองต้องขายขี้หน้าไปทั่วมหาลัย

ก้องภพทั้งโกรธทั้งอับอายจนแทบคลั่ง คงไม่มีอะไรที่จะทำลายศักดิ์ศรีของลูกผู้ชายคนหนึ่งไปได้มากกว่านี้อีกแล้ว บรรดาคู่ควงสาวๆ ของเขาพอได้เห็นคลิปนี้ก็ตัดความสัมพันธ์ทันที ไม่มีใครอยากมีอะไรกับคนที่ถูกทั้งตัวผู้ตัวเมียยัดเยียดความเป็นผัวให้มาแล้วต่อให้หล่อล่ำแค่ไหนก็ตาม ศัตรูและคนที่หมั่นไส้ก้องภพซึ่งมีอยู่ไม่น้อยในมหาลัยต่างดาหน้ากันมาเยาะเย้ยเดือนหนุ่มให้ยิ่งเจ็บใจยิ่งขึ้น บางคนถึงกับปริ้นท์รูปก้องภพตอนถูกเย็ดตูดไปแปะตามที่ต่างๆ จนคนที่ไม่ได้เล่นโซเชียลพลอยรู้เรื่องไปด้วย ที่ยิ่งไปกว่านั้นคือมีคนแปลกๆ ติดต่อก้องภพเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย ไม่ขอนัดเย็ด ก็มาเสนอซื้อบริการทางเพศ มีกระทั่งนิตยสารโป๊เปลือยหัวดังๆ ติดต่อให้ไปถ่ายแบบฮาร์ดคอร์ที่ก้องภพต้องเป็นฝ่ายรับ

ถึงจะไม่ค่อยฉลาดเท่าไหร่แต่ก้องภพก็พอปะติดปะต่อเรื่องได้ว่าเหตุการณ์ในคลิปต้องเกิดในคืนที่เขากินยานอนหลับของแสนแล้วตื่นมาด้วยอาการเจ็บตูด เขาพยายามติดต่อแสนเพื่อขอคำอธิบายแต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้ ก้องภพยังไม่ปักใจเชื่อเสียทีเดียวว่าแสนเป็นตัวการไม่ว่าจะเรื่องที่เขาถูกจับเย็ดในคืนนั้นหรือเรื่องที่โดนปล่อยคลิปในตอนนี้ แต่ที่แน่ๆ เขาจะต้องความหาตัวชายหญิงคู่นั้นมาจัดการให้จงได้ ไม่มีไอ้เหี้ยหรือนังแพศยาตัวไหนจะมาเย็ดตูดลูกผู้ชายแมนๆ อย่างเขาแล้วจะลอยนวลอยู่ได้ ก้องภพตั้งใจอย่างแรงกล้าด้วยความแค้นที่แทบจะกระอัก

แสนฝันร้าย เขากลับไปเป็นเด็กน้อยที่กำลังถูกกลุ่มเด็กที่โตกว่ารุมถอดเสื้อผ้าออกจนเหลือแต่ตัวล่อนจ้อนยืนร้องไห้อยู่ตรงกลางในขณะที่เด็กที่เหลือต่างพากันหัวเราะและส่งเสียงล้อเลียนอยู่รอบๆ แสนสะกดกลั้นอารมณ์ เขาบอกตัวเองว่ามันเป็นแค่ฝันร้าย หลังจากพยายามอยู่นานเขาก็ลืมตาได้สำเร็จเพียงเพื่อจะพบว่าตัวเองกลับมาเป็นผู้ใหญ่แล้วและถูกบังคับถอดเสื้อผ้าออกจนเปลือยเปล่าก่อนที่จะก้าวขึ้นไปชั่งน้ำหนักต่อหน้าคนทั้งห้อง เสียงหัวเราะเยาะของผู้คนมากมายที่รายล้อมอยู่ดังขึ้นเรื่อยๆ จนแสบแก้วหู ก่อนที่แสนจะสะดุ้งตื่นขึ้นมาจริงๆ จากเสียงโทรศัพท์มือถือที่ตัวเองตั้งปลุกไว้ ชายหนุ่มหายใจหอบเหงื่อท่วมตัว ครั้งสุดท้ายที่เขาฝันถึงเรื่องแบบนี้ มันนานจนแทบจำไม่ได้แล้ว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันแข่งมวยคาดเชือกมันกระทบปมในจิตใจที่เขาลืมเลือนไปแล้วเสียเหลือเกิน

ชีวิตของแสนที่โตขึ้นมาด้วยฐานะทางสังคมที่เป็นถึงลูกชายคนเดียวของนายกเทศมนตรีที่มีผู้คนนับหน้าถือตาทั้งจังหวัดไม่ได้สวยงามอย่างที่คนอื่นคิด เด็กน้อยต้องสูญเสียแม่ผู้ให้กำเนิดไปตั้งแต่แรกคลอด มีเพียงพ่อผู้คร่ำเคร่งกับการทำงานและแม่นมที่เลี้ยงดูมาจนเติบใหญ่ หลังจากสูญเสียภรรยาไปเหลือไว้เพียงลูกชาย พ่อของแสนที่ตอนนั้นยังไม่ได้รับเลือกให้เป็นนายกเทศมนตรีได้ตัดสินใจจะเล่นการเมืองท้องถิ่นอย่างจริงจังเพราะไม่อยากให้ตำแหน่งสำคัญนี้ตกอยู่ในกำมือของผู้มีอิทธิพลมืดที่หวังจะใช้ตำแหน่งนี้หาประโยชน์ใส่ตนจนเมืองขาดการพัฒนาอย่างที่เป็นมาตลอดในอดีต พ่อของแสนทุ่มเทแรงกายแรงใจค่อยๆ สั่งสมความไว้เนื้อเชื่อใจจากชาวบ้าน พร้อมๆ กับที่วางมือจากธุรกิจของตระกูลปล่อยให้ญาติพี่น้องรับช่วงไปเพื่อกันคำครหาว่าเข้ามาเล่นการเมืองเพื่อเอื้อธุรกิจของตัวเอง หลังจากพยายามอยู่หลายปี พ่อของแสนก็ประสบความสำเร็จได้รับเลือกตั้งขึ้นเป็นนายกเทศมนตรีอย่างท้วมท้นขาวสะอาด ในระหว่างนั้นก็ปล่อยให้แม่นมเลี้ยงลูกชายคนเดียวไปอย่างไว้ใจเพราะเห็นว่านางมีความรักให้แสนอย่างจริงใจ

ถึงจะดำรงตำแหน่งที่ได้รับความรักความหน้าถือตาจากผู้คนมากมายแต่ฐานะส่วนตัวของท่านนายกก็ค่อนข้างสมถะ ลำพังเงินเดือนของนักการเมืองใจซื่อมือสะอาดที่ไม่รับสินบนก็ไม่ได้มากมายอะไร ต่างจากญาติพี่น้องที่ทำธุรกิจจนร่ำรวยมีเงินมีทองให้ลูกหลานใช้อย่างฟุ่มเฟือย เด็กชายแสนจึงมีเสื้อผ้าของเล่นของใช้ที่เทียบกับลูกพี่ลูกน้องคนอื่นไม่ได้แม้แต่น้อย ยิ่งพอโรงเรียนเอกชนชื่อดังในจังหวัดอ้าแขนรับลูกชายคนเดียวของนายกเข้าเรียนโดยไม่ต้องเสียค่าแป๊ะเจี๊ยะ เด็กชายก็ยิ่งไปตกอยู่ในสังคมลูกเศรษฐีจนเกิดความน้อยเนื้อต่ำใจที่มีอะไรไม่เท่าเพื่อนตั้งแต่เด็ก

พ่อของแสนรับเสื้อผ้าดีๆ ที่ลูกของญาติพี่น้องใส่ไม่ได้มาให้ลูกชายตัวเองอยู่เป็นประจำ ท่านนายกเป็นคนสมถะไม่เห็นความจำเป็นว่าจะต้องไปซื้อใหม่ให้สิ้นเปลืองทำไม ในวันรวมญาติ เด็กชายแสนจึงถูกลูกพี่ลูกน้องคนอื่นรุมล้อเลียนว่าใส่เสื้อผ้าเก่าของตัวเอง ลับหลังผู้ใหญ่ ก็มีญาติผู้พี่บังคับถอดเสื้อที่เป็นของตัวเองคืนไป อีกคนก็ทวงกางเกงขึ้นมา จนในที่สุด แม้แต่กางเกงในลายการ์ตูนก็มีคนประกาศความเป็นเจ้าของยื้อแย่งถอดออกไป จบลงที่เด็กชายแสนยืนแก้ผ้าร้องไห้โดยมีญาติคนอื่นหัวเราะล้อเลียนอย่างสนุกสนาน เรื่องนี้เกิดขึ้นในงานรวมญาติที่มีปีละสองครั้งอย่างต่อเนื่องอยู่หลายปี แถมยังลามไปที่โรงเรียนจนกลายเป็นปมที่หลอกหลอนแสนมาตลอด

ถ้าถามว่าสามสิ่งที่แสนเกลียดมากที่สุดในชีวิตคืออะไร คำตอบจากก้นบึ้งของหัวใจอย่างแรกคงเป็นความสกปรก เรื่องนี้ชัดเจนว่าเกิดจากการเลี้ยงดูจนฝังหัวแบบผิดๆ ของแม่นม อย่างที่สองคือความต่ำต้อยกว่าผู้อื่น ไม่ว่าจะโดนจับแก้ผ้าหรือโดนหัวเราะเยาะ อย่างสุดท้ายที่แสนเกลียดที่สุดก็คือพ่อของเขาเอง พ่อที่ไม่เคยมีเวลาให้ จะได้ออกไปไหนด้วยกันก็แค่ตอนหาเสียงที่แสนต้องไปยกมือไหว้คนไปทั่วตั้งแต่พ่อค้าแม่ค้ายันคนถีบสามล้อไปจนถึงคนกวาดถนน พ่อที่ทุ่มเททำเพื่อชาวบ้านทั้งเมือง แต่ไม่มีปัญญาซื้อของเล่นดีๆ ให้เหมือนเพื่อนคนอื่น พ่อที่ไม่เคยยอมใช้อำนาจที่มีสร้างอภิสิทธิ์ให้กับลูกตัวเอง เวลามีเรื่องชกต่อยกับเพื่อนแสนต้องถูกพ่อบังคับให้ก้มหัวขอโทษก่อนทุกครั้งไม่ว่าใครจะเป็นฝ่ายผิดก็ตาม

แสนเติบโตมาในสภาพที่ขาดอะไรหลายอย่าง พ่อที่ไม่มีเวลาให้ แม่นมที่แม้จะเลี้ยงดูด้วยความรักแต่ก็เป็นแค่ชาวบ้านที่ไม่มีความรู้เรื่องจิตวิทยาเด็ก การตกเป็นเป้าล้อเลียนของญาติพี่น้องและเด็กในโรงเรียนว่าเป็นถึงลูกนายกเทศมนตีแต่ดูจนเสียยิ่งลูกแม่ค้าในตลาด พอขึ้นมัธยม เขาก็เริ่มแสวงหาสิ่งที่ขาดด้วยตัวเอง

ถ้าถามว่าสามสิ่งที่แสนรักมากที่สุดในชีวิตคืออะไร อย่างแรกที่เขาตอบออกมาโดยไม่ต้องคิดก็คือเงิน เงินที่สามารถซื้อสิ่งของความสะดวกสบายและบันดาลหน้าตาทางสังคมได้ อย่างที่สองที่ปรารถนาไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันคืออำนาจ เขาต้องเป็นผู้อยู่จุดสูงสุด เป็นที่เกรงกลัวของทุกคน ไม่ใช่ก้มหัวไหว้คนระดับรากหญ้าประหลกๆ เหมือนที่โดนบังคับทำตอนเด็ก แสนไขว่คว้าสองสิ่งนี้มาโดยตลอด เขาเริ่มฝึกฝนร่างกายและไปเรียนชกมวยจนแข็งแกร่ง แล้วก็ตั้งตัวเป็นหัวโจกที่โรงเรียน ค่อยๆ สั่งสมอำนาจขึ้นเรื่อยๆ ไม่นานก็สามารถใช้อำนาจนั้นในการหาเงินเข้ากระเป๋า เขาเริ่มต่อยอดความเป็นลูกนายกเทศมนตรีในการทำเรื่องต่างๆ ให้ง่ายขึ้น ตอนแรกก็เป็นเพียงการอ้างชื่อพ่อ อ้างชื่อญาติที่เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ในจังหวัด แต่หลังจากนั้นเขาก็เริ่มมีคอนเน็คชั่นของตัวเอง พอขึ้นมอปลาย แสนก็กลายเป็นนายหน้าประสานผลประโยชน์ระหว่างญาติของตัวเองในวงธุรกิจและราชการกับคนนอก อำนาจและเส้นสายของแสนในตอนนั้นจึงเกินหน้าเด็กมอปลายไปมากมาย แม้แต่หัวโจกต่างโรงเรียนหรือแก๊งค์แว้นกวนเมืองก็ไม่มีใครกล้าหือด้วย

สิ่งสุดท้ายที่แสนรักมากที่สุดกลับกลายเป็นสิ่งเดียวกับที่เขาเกลียดมากที่สุด ในความเกลียด แสนก็ยังรักพ่อของตัวเองมาก พ่อที่เป็นที่รักและชื่นชมของทุกคน ยิ่งโตขึ้น เขาก็ยิ่งรู้ว่าสิ่งที่พ่อทำให้จังหวัดบ้านเกิดมันยิ่งใหญ่ขนาดไหน มันแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่คนๆ หนึ่งจะสามารถดูแลปกครองเมืองที่เคยตกอยู่ภายใต้อิทธิพลมืดท้องถิ่นได้อย่างสะอาดโปร่งใส แต่พ่อเขาก็ทำได้สำเร็จมาต่อเนื่องเป็นสิบกว่าปี ถึงการรับรู้นี้จะลบปมที่เกิดขึ้นในวัยเด็กจนฝังหัวไม่ได้ แต่มันก็สร้างความรักความภูมิใจในตัวบิดาขึ้นมาถ่วงดุลกับความเกลียดได้อย่างน่าประหลาด

แสนไม่ได้อยากเป็นอย่างพ่อ เขาเลือกเส้นทางลัดที่จะให้ได้มาซึ่งอำนาจและเงินตราอย่างรวดเร็ว เขาอยากใช้วัยหนุ่มฉกรรจ์ของตัวเองอย่างร่ำรวยและมีอิทธิพล ก่อนจบมอปลาย ชื่อเสียงของแสนก็สร้างความยำเกรงให้กับกลุ่มวัยรุ่นในจังหวัดไม่เว้นแม้พวกเด็กช่างขาใหญ่หรือแก๊งค์ขาโจ๋ที่มีสมาชิกมากมาย เขาสนุกกับการเหยียบศักดิ์ศรีของศัตรูหรือผู้ที่ขวางทางด้วยวิธีการต่างๆ การจับคนเหล่านั้นมาแก้ผ้าประจานเป็นสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกเหนือกว่าอย่างแท้จริง ปมในอดีตของเขาถูกปลดปล่อยโดยการย่ำยีผู้อื่น การวางหลุมพรางหลอกล่อข่มขู่แบล็คเมล์กลายเป็นเรื่องที่ทำเป็นปกติเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของตัวเอง

แสนรู้ว่าการที่เขาจะก้าวไปไกลกว่านี้ต้องมีภาพลักษณ์ที่ดีหลอกตาผู้ใหญ่ เขาจึงใช้สถานการณ์ยกพวกตีกันระหว่างคณะซึ่งกำลังเป็นปัญหาใหญ่ของมหาลัยที่เคยเป็นความภูมิใจของจังหวัดให้เกิดประโยชน์ แสนเลือกเข้าเรียนในคณะวิศวะซึ่งเป็นขั้วอำนาจนึงขณะที่สั่งให้ลูกชายแม่นมไปเข้าคณะเกษตรซึ่งเป็นอีกขั้วอำนาจ ด้วยความร่วมมือกันอย่างลับๆ แสนก็สามารถกลายมาเป็นฮีโร่ผู้กอบกู้สถานการณ์ของมหาลัยไว้ได้ตั้งแต่ตอนอยู่ปีสอง เขาขึ้นสู่จุดสุดยอดในมหาลัย ผู้หลักผู้ใหญ่ทั้งในและนอกคณะต่างไว้เนื้อเชื่อใจในตัวเขา รุ่นพี่รุ่นน้องก็ยอมรับและสยบในอำนาจแต่โดยดี คำชมอย่างรักใคร่ที่ได้จากผู้เป็นพ่อจากเหตุการณ์ในครั้งนั้นทำให้แสนภูมิใจอย่างมาก เขาใช้อำนาจความไว้วางใจที่ได้มาสร้างประโยชน์ให้กับตัวเองอย่างเต็มที่แต่ก็ไม่ลืมที่จะปิดบังเส้นทางสีเทาที่เขาเลือกเดินไม่ให้บิดารับรู้

การผันตัวเองจากผู้ถูกกระทำกลายเป็นผู้กระทำเสียเองทำให้ปมวัยเด็กของแสนลบเลือนไป ตอนนี้เขามีทั้งเงินทั้งอำนาจ แต่ไม่คิดว่าพอถูก ดร.พีบีบบังคับให้แก้ผ้าต่อหน้าผู้คน จะทำให้ความรู้สึกเลวร้ายในวัยเด็กกลับมาหลอกหลอนเขาจนไม่แทบเหลือสติที่จะแก้ไขป้องกันตัวเองจากความน่าอับอายที่ตามมาเป็นพรวน ยิ่งตอนหลังมีภาพและคลิปตอนที่เขาถูกเสยปลายคางจนสลบควยโผล่เยี่ยวพุ่งต่อหน้าผู้คนมากมาหลุดออกมา แสนเห็นทีหลังแล้วก็อับอายตัวสั่นเทิ้มเหมือนจะเกิดอาการทางประสาท

แสนเก็บตัวเงียบอยู่สองสามวันจนอาการค่อยๆ ดีขึ้น โชคดีที่นักศึกษาในคณะช่วยกันกวาดล้างภาพและคลิปน่าอับอายของเขาออกไปได้ เขาวางแผนที่จะกลับไปอย่างเสียหายน้อยที่สุด คนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้จะต้องถูกจัดการอย่างสาสมที่สุด ตอนนี้แสนต้องการข่าวอะไรดังๆ ซักเรื่องมากลบข่าวของตัวเอง ถ้าเป็นก่อนที่คอมพิวเตอร์ของปราบจะถูกโจมตี เขาคงมีคลิปลับของคนดังในมหาลัยมากมายให้เลือกใช้รวมทั้งของไอเด็กเวหาเดือนมหาลัยคนล่าสุดด้วย แต่ตอนนี้เขามีเพียงคลิปของก้องภพซึ่งดาวบริหารลูกค้าประจำส่งมาให้ดูหลังจากตัดต่อใส่เซ็นเซอร์หน้าตัวเองแล้ว

แสนลังเลใจเล็กน้อย ก้องภพถือว่าเป็นลูกน้องใหม่ที่ใช้งานได้แคล่วคล่องทันใจแถมยังโง่ๆ ไม่เคยติดใจสงสัยอะไรเลยซักอย่าง ซึ่งก็น่าเสียดายอยู่ แต่รูปร่างหน้าตาระดับดีกรีเดือนคณะและฉากถูกเอาอย่างโจ๋งครึ่มเห็นชัดไปถึงลำไส้ใหญ่ก็เหมาะเหลือเกินที่จะเอามาเปลี่ยนกระแสความสนใจของคนในมหาลัย ในที่สุดแสนก็ตัดสินใจปล่อยคลิปออกไป ซึ่งก็กลบเรื่องราวของตัวเองได้มิดสมความตั้งใจ

ถึงจะเอาตัวรอดจากกระแสความสนใจของคนหมู่มากไปได้ แต่แหล่งข่าวภายในก็ทำให้แสนรู้ว่าความศรัทธาในตัวเขาภายในคณะวิศวะมันลดลงอย่างฮวบฮาบ การที่เขาเอาธงคณะไปพนันจนพ่ายแพ้และทิ้งงานกีฬาไปดื้อๆ ทำให้ผู้ใหญ่ในคณะเริ่มไม่ไว้วางใจ ในหมู่นักศึกษาที่เคยถูกเขากดขี่อย่างได้ใจยิ่งไม่ต้องพูดถึง พวกนี้รวมตัวกันเป็นกลุ่มเป็นก้อนภายใต้การนำของเวหาและเริ่มตั้งคำถามถึงความเหมาะสมโปร่งใสทั้งเรื่องเงินทองและการใช้อำนาจที่ผ่านมาของแสนจนบรรดาอาจารย์ไม่อาจนิ่งเฉยได้ อาจารย์หลายคนที่เขาเคยแบล็คเมล์เพื่อเป็นฐานกำลังให้ก็ไปได้ข้อมูลหลักฐานแก้ต่างจากที่ไหนไม่รู้จนหลุดจากอำนาจควบคุมของเขาไป ยิ่งตอนหลังมีเพจใต้ดินชื่อ “แสนเลว” คอยฟีดข้อมูลโจมตีเขาอยู่ ก็เหมือนเป็นเชื้อไฟไม่ให้เรื่องจบลงง่ายๆ

แสนไม่เข้าใจว่าฐานอำนาจที่สั่งสมมานานเริ่มพังทลายลงมาได้ยังไงในเวลาเพียงไม่นาน อันที่จริงมันเริ่มต้นจากตรงไหนเขาก็ยังไม่แน่ใจ เริ่มจากการปรากฏตัวของชายสวมหมวกกันน๊อกสีดำ หรือเริ่มตั้งแต่ข้อมูลที่เขาเก็บไว้ที่ปราบถูกแฮ็ก หรืออาจจะย้อนไปตั้งแต่วันที่เวหาเป็นอิสระจากการควบคุมของเขา แสนพยายามประเมินสถานการณ์อย่างมีสติ อำนาจเขาในมหาลัยอาจลดถอยลงไปก็จริง แต่ฐานเส้นสายในระดับจังหวัดที่มาจากญาติพี่น้องพรรคพวกที่มีอยู่ทุกวงการยังคงเหนียวแน่นอยู่ขาดไปแค่สารวัตรภคินที่ยังคงติดต่อไม่ได้ คงไม่มีใครมาสั่นคลอนความสัมพันธ์เครือญาติของลูกนายกเทศมนตรีอย่างเขาลงได้ แสนวางแผนที่จะไปตั้งหลักจากภายนอกมหาลัย แล้วค่อยบีบเข้ามาเพื่อหาตัวการเบื้องหลังมาลงโทษให้สาแก่ใจ

“ท่านนายกฯ คะ มีนายทหารมาขอเข้าพบค่ะ ไม่ได้นัดไว้ก่อน อยู่ๆ ก็มาเลย ไม่ยอมบอกด้วยว่ามีธุระอะไร รปภ. เห็นว่าแต่งเครื่องแบบดูภูมิฐาน ก็เลยให้ขึ้นมาถึงบนนี้ จะให้ดิฉันทำยังไงดีคะ”

“ไม่เป็นไรหรอก ไปเชิญเขาเข้ามาพบผมในห้อง เดี๋ยวผมคุยเอง”

นายกเทศมนตรีบอกเลขาหน้าห้องอย่างใจดี ด้วยนิสัยที่จริงใจ พร้อมให้บริการประชาชน ประกอบกับเป็นคนไม่ยึดถือใครเป็นศัตรู ทำให้ที่ผ่านมาเขาเปิดกว้างที่จะพูดคุยกับทุกคน แม้จะด้วยเรื่องเล็กน้อยหยุมหยิมหรือแปลกประหลาดไปบ้างก็ตาม แต่เมื่อเห็นผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่รับผิดชอบหลายจังหวัดในภาคนี้เดินเข้ามาในห้องพร้อมผู้ติดตาม ท่านนายกก็สังหรณ์ใจว่ามันจะไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยอย่างที่คิดไว้แล้ว

“ท่าน ผบ. สวัสดีครับ ไม่นึกเลยว่าจะเป็นท่าน มีอะไรให้ผมรับใช้หรือครับถึงได้มาถึงนี่ จริงๆ ท่านโทรหาผมก็ได้ครับ ไม่ต้องลำบากเลย”

นายกเทศมนตรีรู้จักกับ ผบ.มณฑลทหารบก อยู่บ้างอย่างผิวเผินจากงานของส่วนราชการระดับภาค ได้ยินว่าเป็นคนที่กำลังมาแรงในแวดวงทหารทั้งฝีไม้ลายมือและเส้นสาย ก็ไม่น่าแปลกใจที่อีกฝ่ายยังดูหนุ่มมากเมื่อเทียบกับตำแหน่งระดับนี้ คงอายุอานามอ่อนกว่าเขาในวัยห้าสิบกว่าอยู่เป็นสิบปี

“ไม่ลำบากหรอกครับท่านนายก ขอไม่อ้อมค้อมนะครับ ผมมีเรื่องสำคัญที่จะต้องมาขออนุญาตท่านก่อนที่จะเริ่มลงมือ”

“มีอะไรร้ายแรงหรือเปล่าครับ หรือเรื่องมาเฟียรัสเซียเมื่อคราวก่อนยังไม่จบ”

นายกเทศมนตรีเริ่มกังวลในความปลอดภัยของประชาชนและนักท่องเที่ยวในจังหวัดขึ้นมาตามประสาคนหายใจเข้าออกเป็นงาน

“ไม่ใช่ครับ เรื่องนี้เกี่ยวกับลูกชายของท่าน เอาหลักฐานให้ท่านนายกดูสิ”

ประโยคหลัง ผบ. หันไปบอกผู้ติดตามซึ่งใส่ชุดดำสวมหมวกกันน๊อกปิดบังใบหน้าผิดวิสัยที่ควรต้องถอดออกเมื่อเข้ามาพบผู้ใหญ่ ชายในชุดดำรีบเอาเอกสารแฟ้มใหญ่ที่มีทั้งข้อมูลรูปภาพแยกแยะไว้เป็นหมวดหมู่มาส่งให้ นายกเทศมนตรีเปิดดูคร่าวๆ ก็พบว่าเป็นประวัติและหลักฐานความผิดของคนๆ หนึ่ง ซึ่งก็คือลูกชายของเขาเอง แต่จำนวนรายการความผิดมันช่างมากมายอย่างน่าตกใจ

“แสนหรือ? ทำไม? มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่”

“นี่เท่าที่รวบรวมมาได้แบบมีหลักฐานชัดเจนนะครับ ผมจะทิ้งไว้ให้ เอาไว้ท่านนายกค่อยๆ ตรวจสอบดูไปก็ได้ ความผิดที่ยังหาหลักฐานไม่ครบถ้วนยังมีอีกมาก แต่ตอนนี้ผมอยากให้ดูคลิปสองสามอันนี้ก่อน อย่างน้อยท่านก็จะได้แน่ใจว่าลูกชายท่านอาจไม่ได้เป็นอย่างที่ท่านคิด”

ชายชุดดำหยิบแทปเล็ตมาเปิดวิดีโอที่ปรากฎภาพลูกชายคนเดียวของนายกเทศมนตรีกำลังทำร้ายข่มขู่คนอื่นอย่างโหดร้ายรุนแรง มีทั้งการบังคับให้ทำเรื่องอนาจารไปจนถึงการทำร้ายร่างกาย คลิปอีกอีกสองอันก็ไม่แตกต่างกันเพียงแต่คนละคน คนละสถานที่ นายกเทศมนตรีถึงกับน้ำตาไหลเมื่อเห็นด้านมืดของลูกชายที่รักสุดหัวใจ

“ส่วนหลักฐานในแฟ้มนี้จะเป็นเรื่องการฟอกเงิน การติดสินบนเจ้าหน้าที่ การค้าประเวณีและสื่อลามก และเรื่องอื่นๆ อีกมาก”

“ทำไมถึงเป็นอย่างนี้ ผมเลี้ยงลูกผิดตรงไหน”

“นั่นเป็นเรื่องที่ท่านนายกจะต้องไปคุยกับลูกชายท่านเอง แต่เห็นอย่างนี้แล้วท่านคิดยังไง”

“ผมเชื่อในเกียรติของท่าน ผบ. ว่าเรื่องพวกคงเป็นเรื่องจริง อย่างน้อยก็ส่วนใหญ่ ต้องขอบคุณมากที่ท่านมาแจ้งให้คนเป็นพ่อทราบ แต่ผมไม่เข้าใจว่าท่านเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ได้ยังไงครับ”

“หนึ่งในเหยื่อของลูกชายท่านนายกเป็นหลานชายของผมเอง ผมเข้าใจหัวอกคนเป็นพ่อนะ แต่หลานผม ผมก็รักมากไม่ต่างกัน ผู้เสียหายคนอื่นนับร้อยเขาก็คงมีพ่อมีแม่ที่คอยเป็นห่วง ท่านไม่คิดว่าคนผิดต้องได้รับการลงโทษหรือ”

“ผมเข้าใจ ผมอยากจะรับผิดชอบชดเชยให้ผู้เสียหายทุกคนจนสุดความสามารถรวมถึงหลานชายของท่านด้วย นี่คงอยากให้ผมวางมือทางการเมืองด้วยใช่ไหม สมัยหน้าผมจะไม่ลงรับเลือกตั้งอีก หรือถ้ายังไม่พอใจจะให้ผมลาออกจากการเป็นนายกทันทีก็ได้”

นายกเทศมนตรีคิดไปถึงว่าอีกฝ่ายคงอยากเปลี่ยนอำนาจของการเมืองในจังหวัดที่เขาได้รับเลือกอย่างต่อเนื่องมาหลายสมัย ถึงได้ยกเรื่องนี้ขึ้นมา ถึงจะยังรักงานที่ทำและมีอีกหลายเรื่องที่อยากสานต่อในสมัยหน้า แต่เพื่อลูกชายคนเดียวเขายอมสละได้ ที่แสนเป็นถึงขนาดนี้คงโทษใครไม่ได้นอกจากตัวเองที่ไม่มีเวลาให้ลูกเพียงพอ

“ผมไม่ต้องการอย่างนั้น ท่านนายกเป็นคนดีก็ต้องทำงานต่อไป ท่านดูแลจังหวัดนี้ได้ดีก็ถือว่าเป็นการชดเชยความผิดไปได้ส่วนหนึ่ง แต่คนทำผิดจริงๆ ต้องเป็นผู้รับผิดชอบ ในฐานะที่เป็นพ่อ ผมจะให้ท่านเป็นคนเลือกบทลงโทษเอง ทางแรกคือผมจะส่งหลักฐานทั้งหมดไปดำเนินการตามกฎหมาย ส่วนทางที่สองจะเป็นการใช้ศาลเตี้ยลงโทษให้เจ็บให้อายจนสาสมกัน”

นายกเทศมนตรีเงียบไปพักใหญ่ ทางแรกคงไม่พ้นต้องติดคุกหลายปีเป็นอย่างน้อย แต่จะให้เลือกทางที่สองก็สงสารลูกจับใจ ประสบการณ์ในฐานะพ่อเมืองทำให้เขาต้องตัดสินใจเรื่องสำคัญๆ มานับไม่ถ้วน แต่ไม่มีครั้งไหนเลยที่จะลำบากใจและปวดร้าวขนาดนี้

“ถ้าผมเลือกทางที่สอง ลูกผมจะโดนทำร้ายรุนแรงขนาดไหนครับ”

“ก็คงไม่น้อยกว่าที่เขาทำกับคนอื่นไว้ ผมรับประกันได้แค่ว่า เมื่อถึงเวลา ท่านจะได้ลูกชายคืนในสภาพที่ยังสมประกอบ”

ผู้นำที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมายาวนานอย่างนายกเทศมนตรีเมื่อถึงเวลาที่ต้องตัดสินใจ เขาก็ทำได้โดยไม่ลังเลแม้ในใจจะเจ็บปวดเหลือเกิน

“ผมขอเลือกทางที่สองครับ”

“ก็ตัดสินใจได้ดี แต่ท่านนี่เลือดเย็นกว่าที่ผมคิดนะ คงไม่อยากให้ต้องไปขึ้นโรงขึ้นศาลจนติดคุกเสียชื่อเสียงมาถึงตัวเองสินะ”

“ผมไม่เคยมีความคิดอย่างนั้นเลย ชื่อเสียงเป็นของนอกกาย ผมแค่ไม่อยากให้เขาเจอคนไม่ดีในคุกจนเตลิดไปกว่านี้ หวังว่าการได้สัมผัสความเลวร้ายแบบเดียวกับที่ตัวเองทำคนอื่นไว้ คงทำให้แสนคิดได้ไม่มากก็น้อย”

“ผมออกจะเห็นด้วยนะ จริงๆ ที่ผมมาวันนี้ก็เพื่อมาคุยกับท่านในฐานะผู้ใหญ่ด้วยกัน แต่คนที่จะลงมือตามที่ตกลงไว้คือคนชุดดำนี่ เขาจะทำหน้าที่เป็นตัวแทนคนที่ถูกแสนทำร้าย ขออภัยที่ต้องปกปิดใบหน้าเขาทั้งนี้ก็เพื่อความปลอดภัย ตั้งแต่นี้ไปขอให้ท่านติดต่อไปยังญาติพี่น้องและพรรคพวกของท่านให้งดยุ่งเกี่ยวให้ความช่วยเหลือแสนอย่างเด็ดขาด ท่านรู้หรือเปล่าคนพวกนี้แหละที่มีส่วนสนับสนุนให้ลูกของท่านถลำลึกมาถึงขนาดนี้ และต่อไป ถ้ามีข่าวอะไรเกี่ยวกับลูกชายท่าน ก็ขอให้วางเฉยไว้และเก็บเรื่องนี้เป็นความลับที่สุดแม้แต่กับแสนเอง”

“ผมจะรีบจัดการทันทีครับ ต้องขอฝากลูกชายของผมด้วย”

ประโยคหลังนายกเทศมนตรีน้ำตาคลอหันไปยกมือไหว้ชายสวมหมวกกันน๊อกทั้งๆ ที่เดาได้ว่าคงเป็นเพียงคนหนุ่มรุ่นลูก ไม่มีการเคารพแบบไหนจะมากเกินไปสำหรับคนที่กุมชะตาชีวิตของลูกชายตัวเองไว้ แต่อาการที่อีกฝ่ายเบือนหน้าหนี ทำให้นายกเทศมนตรีหวั่นใจเหลือเกินว่าคนๆ นี้จะมีความแค้นกับแสนอย่างสุดประมาณ

เวหาได้รับเชิญให้มาร่วมประชุมที่ไม่ทราบหัวข้อ ถ้าเป็นปกติเขาคงไม่มา แต่ในเมื่อคนเชิญคือชายสวมหมวกกันน๊อกที่มีข้อมูลดีๆ มาให้ตลอด ถ้าไม่มาก็คงจะพลาดโอกาสอะไรไป สถานที่ประชุมก็เป็นเพียงห้องประชุมธรรมดาในตึกเอนกประสงค์ของมหาลัย แต่พอเข้ามาในห้อง เวหาก็ต้องประหลาดใจ

“อ้าว พี่บัส มาทำอะไรครับ”

“ไม่รู้เหมือนกัน เห็นว่ามีประชุมสำคัญให้พี่มาเป็นตัวแทนคณะวิศวะ”

เวหามองไปรอบๆ ห้องก็เห็นว่ากว่าครึ่งน่าจะเป็นคนที่เป็นตัวแทนจากคณะต่างๆ จริง นอกจากนักศึกษาแล้ว ก็ยังมีอาจารย์รวมอยู่หลายคน รวมถึง ดร.พีรกิตติ์ อาจารย์จากคณะวิศวะ และอาจารย์ธีจากศึกษาพละด้วย คนที่สนิทกันจับกลุ่มคุยกันได้ยินแว่วๆ ว่าไม่มีใครแน่ใจว่าการประชุมนี้จะเกี่ยวข้องกับเรื่องอะไร

ชายชุดดำสวมหมวกกันน๊อกเต็มใบรูปร่างใกล้เคียงกันสองคนเดินเข้ามาแล้วปิดประตูห้องจนสนิทเรียกความสนใจจากทุกคน เวหาเองก็นึกประหลาดใจ ไม่รู้คนที่เขาเคยเจอมาสองสามครั้งคือคนไหน หรือเอาจะเคยเจอมาแล้วทั้งคู่แต่ไม่รู้ว่าไม่ใช่คนเดียวกัน ชายคนแรกเดินไปยืนเด่นอยู่ตรงหน้าห้องขณะที่อีกคนยืนสังเกตการณ์เงียบๆ อยู่ข้างประตู คนที่หน้าห้องเริ่มกล่าวกับผู้เข้าร่วมประชุมที่หาที่นั่งกันเรียบร้อยด้วยเสียงที่ผ่านเครื่องแปลงมา

“ขอบคุณที่มากันในวันนี้ ทุกคนในห้องเป็นคนที่ผมคัดเลือกแล้วว่าเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบ หรือสามารถเป็นตัวแทนผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการกระทำที่ผ่านมาของไอ้แสน โดยจะมีตัวแทนจากทุกคณะ และผู้มีบทบาทต่างๆ กันไป อย่างคุณเวหาที่เป็นแอดมินเพจแสนเลว”

เสียงแสดงความประหลาดใจดังขึ้นเล็กน้อย เวหาเองก็สะดุ้งเหมือนกัน ไม่คิดว่าชายชุดดำจะรู้เรื่องนี้แถมเอามาเปิดเผยในห้องประชุม

“เราสามารถคุยกันได้อย่างเปิดอกในห้องนี้ ทุกอย่างจะถูกเก็บไว้เป็นความลับ วัตถุประสงค์ของที่ประชุมนี้ เพื่อกำหนดบทลงโทษและการชดใช้ความผิดของไอ้แสนที่มีต่อบุคคลหรือกลุ่มต่างๆ ในมหาลัยอย่างเป็นธรรม ไม่ทราบว่าใครมีข้อสงสัยอะไรก่อนจะเริ่มคุยกันในรายละเอียดไหมครับ”

ชายคนหนึ่งยกมือขึ้นถาม

“เราจะไว้ใจคุณได้ยังไง ในเมื่อเล่นปิดบังทั้งหน้าทั้งเสียงอย่างนี้”

“เรื่องนี้ผมจำเป็นจริงๆ ครับ แต่สิ่งที่ผมทำให้หลายๆ ท่านก่อนหน้านี้ อย่างหลักฐานที่ทำให้หลุดพ้นการแบล็คเมล์ของไอ้แสนกัน คงพอบอกได้ว่าผมไม่ได้ประสงค์ร้ายแน่ๆ”

“แล้วทำไมไม่มีปราบประธานสภานักศึกษามาร่วมในที่ประชุมด้วย หรืออย่างน้อยก็น่าจะมาเป็นตัวแทนคณะเกษตร เขาก็อยู่ฝ่ายตรงข้ามกับแสนเหมือนกัน”

อีกคนส่งเสียงถามขึ้นเมื่อเห็นว่าคนที่มาจากคณะเกษตรเป็นนักศึกษาปีสาม ไม่ใช่ปราบซึ่งรู้กันดีว่าเป็นอีกขั้วอำนาจที่ไม่ถูกกับแสน ดูเหมือนทั้งห้องจะมีเวหาเพียงคนเดียวที่ระแคะระคายถึงความสัมพันธ์ระหว่างแสนและปราบ แต่เขาก็ยังไม่อยากพูดขึ้นมาเพราะกลัวจะเป็นการปรักปรำปราบเกินไป

“ผมก็อยากให้เขามาเหมือนกัน แต่ดูเหมือนเขาไม่สนใจ มีใครมีประเด็นอะไรเพิ่มเติมไหมครับ อ้าว เชิญครับ ดร.”

ดร.พี ลุกขึ้นยืนพูดกับที่ประชุมด้วยเสียงดังชัดเจนสมกับที่เป็นอาจารย์

“ผมขอถอนตัวจากที่ประชุมนี้ ไม่ใช่ผมไม่เห็นด้วยนะครับ แต่ผมได้เอาคืนจนพอใจแล้วตอนที่นายแสนแข่งชกมวย อันนั้นต้องขอบคุณจริงๆ ไม่ว่าคุณจะเป็นใครก็ตาม จะให้ผมอยู่ต่อก็ไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่ที่ต้องมาร่วมลงโทษคนที่ได้ชื่อว่าเป็นลูกศิษย์”

เมื่อเห็นดังนั้น บัสที่นั่งอยู่ข้างเวหาก็ลุกขึ้นแสดงจุดยืนเหมือนกัน

“ผมก็ขออนุญาตไม่เข้าร่วมครับ ยังไงพี่แสนก็เป็นรุ่นพี่ที่ผมเคยนับถือ ถ้ามีอะไรที่เกี่ยวกับทางคณะวิศวะ ก็ขอให้เวหาเป็นคนตัดสินใจไปเลยครับ” บัสประกาศแล้วก็รีบออกจากห้องตาม ดร.พีไปทันที อาจดูเหมือนถูกโยนภาระให้ แต่เวหาคิดว่าเขาเข้าใจสิ่งที่บัสรู้สึก คนอย่างบัสคงไม่อยากทำร้ายใครก็ตามในคณะที่เขารักสุดหัวใจ แม้ว่าคนๆ นั้นจะมีความประพฤติเลวร้ายอย่างแสน คนอะไรจะยึดมั่นกับคณะตัวเองขนาดนี้ เวหายิ้มเล็กน้อยที่รู้สึกว่าตัวเองอ่านบัสออกอย่างทะลุปรุโปร่ง ก็น่ารักดี

เมื่อดูว่าไม่ได้มีใครต้องการถอนตัวอีก ชายชุดดำหน้าห้องก็ดำเนินการประชุมต่อ

“งั้นทุกคนที่เหลืออยู่ในห้องนี้ผมจะตั้งให้เป็นคณะลูกขุนตัดสินและดำเนินการลงโทษไอ้แสนนะครับ ถือว่าเราลงเรือลำเดียวกันแล้ว เรามาช่วยกันคิดหน่อยครับว่า จะลงโทษมันยังไงให้สมควรกับความผิดแต่ละเรื่องที่ทำ รวมถึงสิ่งที่ต้องชดเชยเป็นเงินหรือทำงานชดใช้ด้วย แล้วค่อยจัดลำดับด้วยว่าโทษอันไหนควรจะมาก่อน เบื้องต้นผมขอเสนอให้คนที่เดือดร้อนในเชิงตัวเงินได้รับการชดใช้ก่อน”

ที่ประชุมเห็นชอบด้วย ปรากฏว่าคนที่ได้รับความเดือดร้อนเรื่องเงินที่สุดในตอนนี้คือนักศึกษาคณะศิลปกรรมที่ถูกแสนใช้วิธีการพลิกแพลงเบียดบังงบประมาณการจัดงานเปิดบ้านและจัดติวศิลปะให้กับน้องมัธยมที่สนใจจะศึกษาต่อคณะนี้ไป จนคนที่เป็นทีมจัดงานต้องออกเงินจัดกันเองเป็นจำนวนหลักแสนเพราะไม่อยากให้น้องๆ ที่สมัครเข้ามามากมายต้องผิดหวัง หลายคนควักเนื้อไปจนแม้แต่ค่าหอก็ยังไม่มีจะจ่าย

“ลองเอาอย่างในเพจของเวหาไหม ที่มีคนเอาเส้นขนของแสนมาประกาศขายแล้วก็มีคนแย่งกันซื้ออย่างไม่น่าเชื่อ เห็นว่าตลับนึงขายได้เป็นพันเลย ขนาดหมอยยังขายได้ แล้วถ้าเป็นอะไรที่มันน่าสนใจกว่านั้น ต้องได้เงินเป็นกอบเป็นกำแน่ๆ” ปีสี่จากคณะศิลปกรรมเสนอขึ้นมาเอง

“อะไรล่ะพี่ หรือจะให้ไอแสนมันถ่ายรูปโป๊พิมพ์เป็นอัลบั้มขาย”

ที่ประชุมมีท่าทีสนใจไอเดียที่ว่านี้ ลำพังให้แสนไปทำงานทั่วไปทดแทน คงไม่ช่วยชดเชยอะไรในรูปตัวเงินได้

“แบบนั้นได้ตังค์ไม่เท่าไหร่หรอก ทำไปเดี๋ยวก็มีคนสแกนไปโพสต์ลงเน็ท หนังสือที่เหลือก็ขายไม่ออกเข้าเนื้อเปล่าๆ ที่พี่คิดไว้เด็ดกว่านั้น เสียดายที่ไอแสนมันคงไม่ยอมทำหรอก”

ชายในหมวกกันน๊อกหน้าห้องที่สังเกตการณ์อย่างสนใจรีบบอกออกมา

“ไม่ต้องห่วงครับ ขอแค่อย่าให้ถึงกับพิกลพิการ ไอ้แสนต้องยอมทำทุกอย่าง จากกีฬาของคณะวิศวะที่ผ่านมา คงเห็นกันแล้วนะครับ ว่ามันต้องตกต่ำแค่ไหน ทั้งหมดมีผมอยู่เบื้องหลังเอง แต่ที่ประชุมลูกขุนนี้เราสามารถสั่งอะไรก็ได้มากกว่านั้นอีก”

“ถ้าได้จริงก็ดีสิครับ แต่ยังไงๆ ผมก็ยังไม่อยากเชื่ออยู่ดี”

“งั้นขออนุญาตพิสูจน์ให้ลูกขุนทุกท่านสบายใจนะครับ เอ้า เปิดตัวได้แล้ว ทำตามที่บอกด้วยล่ะ” ชายหน้าห้องร้องบอกชายสวมหมวกกันน๊อกอีกคนที่ยืนเงียบๆ อยู่ข้างประตู ชายคนที่สองเดินมากลางห้องถอดเสื้อคลุมหนังสีดำตัวยาวที่สวมอยู่ออกพรวดเดียวเผยให้เห็นเรือนร่างกำยำล่อนจ้อนเปลือยเปล่า ควยสีคล้ำอวบใหญ่มีหนังหุ้มปลายปิดสนิททอดตัวสงบนิ่งมีขนหมอยสั้นๆ เหมือนเพิ่งโดนโกนมาไม่นาน เครื่องแต่งกายชิ้นสุดท้ายซึ่งก็คือหมวกกันน็อกใบใหญ่ถูกเจ้าตัวถอดออกช้าๆ ทันทีที่เห็นใบหน้าภายใต้หมวก ทุกคนในห้องก็ต้องตกตะลึงเมื่อพบว่าคนที่ยืนฟังการประชุมนี้มาโดยตลอดคือแสนประธานปีสี่คณะวิศวะเจ้าของหัวข้อประชุมนี่เอง

ในขณะที่บรรดาคนในห้องเริ่มเสียวสันหลังว่าตัวเองถูกซ้อนแผนอะไรหรือเปล่า แสนก็ประสานมือทั้งสองข้างไว้ที่ท้ายทอยที่มีผมสั้นเกรียนเห็นหนังหัว แขนอ้าออกโชว์ซอกรักแร้ที่มีขนขึ้นเป็นตอสั้นๆ ชวนให้รู้สึกคันคะเยอ จากนั้นก็ทรุดตัวคุกเข่าลงกับพื้นเหมือนแสดงความจำนนที่จะรับการแก้แค้นแต่โดยดี สายตาที่เคยวางอำนาจของแสนหลุบลงต่ำเห็นได้ชัดว่าพยายามสะกัดกั้นทั้งความโกรธและอายแต่ก็ไม่มีท่าทางจะต่อต้านแต่อย่างใด

“อย่างที่เห็นครับ ไอ้แสนมันพร้อมรับการลงโทษอย่างที่สุด ภายใต้การดูแลของผม ไม่มีทางที่มันจะต่อต้านลูกขุนแต่ละคนได้ มีแต่จะต้องทำตามที่สั่งอย่างเต็มที่ ไอ้แสน มึงเข้าใจใช่ไหมว่าต้องฟังคำสั่งของลูกขุนทุกคนในห้องนี้”

แสนกวาดตามองหน้าทุกคนในห้องแววตาวาวโรจน์ด้วยความแค้น แต่สุดท้ายก็พยักหน้ารับสภาพอย่างจำนน คนในห้องกระซิบกระซาบคุยกันอย่างกังวลแกมตื่นเต้น อย่างนี้ก็เท่ากับพวกเขาหันหลังกลับไม่ได้อีก แสนรู้หมดแล้วว่าทุกคนในห้องคือใคร แต่เมื่อดูสภาพอันน่าสมเพชของแสนในตอนนี้ ก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องกลัวอะไร มีแต่จะต้องใช้โอกาสอันนี้ล้างแค้นสิ่งที่เคยโดนกระทำมาให้หนำใจ

เมื่อหมดข้อสงสัย คนในที่ประชุมก็ถามปีสี่ศิลปกรรมถึงเรื่องหัวข้อที่คุยค้างไว้ต่อ

“ถ้าอย่างนั้นเรื่องที่พี่คิดไว้ว่าจะใช้มันหาเงินมาคืนศิลปกรรมคืออะไรครับ”

“ควย!”

“หา ด่าผมทำไม” คนถามร้องเสียงหลง ตัวแทนคณะศิลปกรรมผู้เสียหายเหยียดยิ้มอย่างโรคจิตเล็กน้อย

“เราจะมาขายควยไอแสนกัน”

แสนถูกนำตัวไปที่ห้องเวิร์คชอปงานหล่อและงานปั้นของคณะศิลปกรรมในบ่ายวันนั้นเลย มีรุ่นพี่ปีสี่ของศิลปกรรมสี่ห้าคนมาเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงพร้อมกับรุ่นน้องคณะอีกเกือบสิบคนที่ถูกเกณฑ์ใช้แรงงาน เวหาซึ่งแยกตัวออกไปเรียนวิชาช่วงบ่ายจนหมดคาบแล้วก็ตามไปดูด้วยความสนใจ เมื่อไปถึงในห้องปฏิบัติการก็พูดคุยกับเพื่อนคณะศิลปกรรมที่มาช่วยงานรุ่นพี่ก็ได้ความว่า ช่วงบ่ายที่ผ่านมาได้ลองผิดลองถูกกันพอสมควรแล้ว ตอนนี้กำลังจะลงมือจริง

ที่หน้างาน แสนกำลังยืนแก้ผ้าควยแข็งโด่อยู่ด้วยสีหน้าอดสู ที่โคนควยมียางมัดไว้จนแน่นเพื่อไม่ให้ดุ้นเนื้ออ่อนตัวโดยง่าย พี่ๆ ศิลปกรรมกำลังเคี่ยวขี้ผึ้งอยู่พอได้ที่ก็เทลงไปในแบบหล่อแม่พิมพ์ทรงกระบอกขนาดเท่ากระติกน้ำอันย่อมๆ จนเกือบเต็ม จากนั้นก็บังคับให้แสนแทงควยที่แข็งโด่ลงไปในกระบอกจนมิดด้าม แสนร้องครวญครางด้วยความร้อนของขี้ผึ้งที่สัมผัสกับผิวเนื้อควยสดๆ ดิ้นไปดิ้นมาจนต้องเอาคนสามสี่คนมาช่วยกันจับ เขาถูกบังคับให้แช่ดุ้นควยอยู่ในนั้นพักใหญ่จนขี้ผึ้งเริ่มแข็งตัวถึงได้มีคนดึงกระบอกแม่พิมพ์ออกอย่างแรงจนหลุดออกจากควยของแสน ขั้นตอนนี้ก็ทำให้ชายหนุ่มต้องแหกปากร้องลั่นอีกครั้งเมื่อขี้ผึ้งที่เริ่มติดแน่นกับผิวควยถูกกระชากออกในทันทีจนสร้างความเจ็บปวดเป็นอย่างมาก พอได้รูกลวงโบ๋เป็นแม่พิมพ์รูปควยของแสนมาแล้ว รุ่นพี่จากคณะวิทยาศาสตร์ที่ผสมซิลิโคนเหลวสีน้ำตาลเข้ากับสารทำให้แข็งตัวรอไว้อยู่แล้วก็เทส่วนผสมลงไป ทิ้งไว้ไม่นานก็สามารถแกะออกจากแม่พิมพ์ได้เป็นดิลโด้ซิลิโคนยางขนาดเขื่องที่รูปร่างหน้าตาเหมือนควยของแสนไม่มีผิดเพี้ยน

“แค่นี้ก็เสร็จ ร้องซะยังกับจะถูกเฉือด นี่ดีนะที่มึงหมอยมึงยังสั้นอยู่ ไม่งั้นเวลาแกะขี้ผึ้งออกมา มึงไม่เต้นเป็นผีเข้าเลยเหรอวะ”

บรรดาหัวเรี่ยวหัวแรงที่ร่วมกันลงมือหยิบควยปลอมหัวบานใหญ่มีเส้นเลือดปูดโปนที่เพิ่งทำเสร็จไปเทียบกับควยจริงของแสนที่เริ่มบวมแดงด้วยความร้อนและแรงกระชากอย่างพอใจ

“ขั้นตอนเมื่อกี้นี้ใช้ได้เลยว่ะ แต่เหมือนซิลิโคนจะแข็งตัวเร็วไปนิด ตรงปลายหัวควยนี่มันยังไหลลงไปไม่ค่อยเต็มพิมพ์เท่าไหร่ เลยดูเหมือนหัวควยไอแสนเบี้ยวไปนิด มึงลดน้ำยาลงหน่อยน่าจะใช้ได้ งั้นดุ้นนี้ถือเป็นโปรโตไทป์สุดท้ายแล้ว ครั้งหน้าถือเป็นดุ้นหมายเลขหนึ่งอย่างเป็นทางการ”

เวหาที่ร่วมดูกระบวนการผลิตอย่างสนใจออกความเห็นขึ้นมา

“สุดยอดไปเลยพี่ เดี๋ยวพอเราได้ดุ้นที่สมบูรณ์มาซักสามสี่อันแล้วเราก็กระจายกันไปใช้เป็นต้นแบบเลยสิพี่ จะได้ทำพร้อมๆ กันทีละหลายๆ อัน”

รุ่นพี่ศิลปกรรมตบหัวเวหาดังป๊าบทั้งๆ ที่ไม่ได้คุ้นเคยกันมาก่อน

“ไอพวกวิศวะมันก็เป็นซะแบบนี้ คิดแต่ประสิทธิภาพ จะประหยัดเวลาอย่างนั้นอย่างนี้ ไม่คำนึงถึงจิตวิญญาณของศิลปะ ไอ้ของก็อปปี้เหมือนๆ กันแบบนั้นมันจะไปมีคุณค่าอะไร ใครจะยอมจ่ายแพงๆ ซื้อมันวะ ของที่มีเพียงหนึ่งเดียวในโลกนี่สิถึงจะควรค่าแก่การเก็บสะสม ควยไอ้แสนที่เป็นงานของกู มันต้องหล่อกันสดๆ ใหม่ๆ ดุ้นต่อดุ้นโว้ย แต่ละชิ้นมันจะไม่เหมือนกันเลยถึงจะหล่อมาจากควยไอแสนเหมือนกัน”

เวหาตาเป็นประกายด้วยความศรัทธาในปรัชญาทางศิลปะที่ได้ฟัง ในขณะที่แสนหน้าซีดเผือดเพราะไม่รู้ว่าจะต้องโดนทรมานควยไปอีกกี่ครั้ง

“พี่คิดว่าจะทำกี่อันครับ”

คำตอบที่ได้ก็ทำให้แสนที่แอบฟังอยู่สะดุ้งสุดตัว

“เก้าสิบเก้าอัน จะได้เป็นเลขมงคล ถ้าขายได้ซักอันละห้าพัน เงินก็น่าจะพอ ถ้าได้ราคาไม่ถึงนั้น ก็ต้องทำเพิ่มอีก”

“ก็ราคาค่อนข้างสูงนะพี่ แต่ขนหมอยยังขายได้เลย นี่หล่อมาจากควยแท้ๆ ผมว่าก็พอลุ้น แต่ถ้าจะให้ชัวร์ผมว่าเราต้องทำให้คนซื้อเขามั่นใจว่าได้ของที่มีชิ้นเดียวในโลกจริง” เวหาเริ่มเสนอไอเดียทางการค้า

“ยังไงวะ”

“คือให้เป็นลิมิเต็ดเอดิชั่นไง คือแต่ละดุ้นก็จะมีเลขซีเรียลตั้งแต่หนึ่งถึงเก้าสิบเก้าสลักไปเลย แล้วก็ให้พี่แสนเซ็นชื่อกำกับด้วย กันของปลอม แล้วเราจะถ่ายคลิปตอนทำแต่ละดุ้นแถมให้ลูกค้าไปด้วย เขาจะได้มั่นใจจริงๆ ของแบบนี้นะพี่ ถ้าสตรอรี่มันชัดเจนมีที่มามีเรื่องราว มูลค่ามันจะเกิดเอง”

“เอ็งนี่ความคิดดีว่ะ งั้นเอาตามนี้เลย”

ในคืนนั้นโรงงานนรกทำการผลิตดิลโด้ท่ามกลางเสียงร้องโหยหวนเป็นช่วงๆ ของแสนไปได้เพียงเก้าดุ้น ก่อนจะต้องหยุดลงเพราะควยของแสนปวดแสบปวดร้อนบวมแดงเกินกว่าจะคงสภาพแข็งตัวไว้ได้ แสนต้องกลับไปพักโดยท่อนล่างนุ่งเพียงผ้าขาวม้าผืนเดียวไม่สามารถใส่กางเกงใดๆ ได้ วันรุ่งขึ้นเขาต้องตื่นมาอย่างทรมาณเพื่อที่จะกลับไปที่โรงงานดิลโด้นรกเพื่อเร่งหล่อควยดุ้นที่สิบ สัปดาห์นั้นทั้งสัปดาห์แสนได้แต่เอาควยจุ่มขี้ผึ้งร้อนๆ จนหัวควยอ่อนๆ เริ่มด้าน พอหล่อเสร็จแต่ละดุ้น เขาก็ต้องเอาหัวแร้งบัดกรีร้อนๆ เซ็นชื่อสลักลงไปบนโคนดิลโด้เพื่อรับรองความเป็นของแท้ แสนสังเกตว่าแต่ละอันมันดูคล้ายๆ แต่ก็ไม่เหมือนกันซะทีเดียว ขึ้นกับสภาพควยตอนนั้น และองศาที่แทงควยลงไป หนังหุ้มปลายที่รูดลงสุดบ้างไม่สุดบ้างก็มีส่วนทำให้เกิดความแตกต่าง

การผลิตควยดำเนินไปเรื่อยๆ ท่ามกลางความทรมานอย่างสาหัสของแสน เขาพยายามกัดฟันไม่ส่งเสียงร้องออกมาให้ยิ่งน่าสมเพชเพราะรู้ดีว่ามีการบันทึกคลิปขั้นตอนการทำไว้ทุกดุ้น แม้ว่าดุ้นควยหมายเลขหลังๆ จะเริ่มมีการเตรียมอ่างน้ำแข็งไว้ประคบระหว่างทำและหาเจลว่านหางจระเข้เตรียมไว้สำหรับบรรเทาอาการแสบร้อน รวมถึงทดลองลดอุณหภูมิขี้ผึ้งลงไปได้บ้าง แต่ความบอบช้ำที่สะสมมาก็ทำเอาแสนน้ำตาเล็ดเป็นบางครั้ง ไหนจะปวดควยจากการบังคับให้เลือดไปคั่งอยู่ทีละนานๆ รุ่นพี่ศิลปกรรมพูดเอาบุญคุณกับแสนว่าพยายามหาตัวช่วยมาเพื่อมนุษยธรรม แต่จริงๆ เพราะกลัวว่าควยของแสนจะมีอันเป็นไปก่อนดุ้นที่เก้าสิบเก้าจะแล้วเสร็จ

ในสัปดาห์นั้น เด็กคณะศิลปกรรมศาสตร์จะเห็นภาพรุ่นพี่คนดังจากคณะวิศวะเดินกระย่องกระแย่งท่อนล่างนุ่งผ้าขาวม้าผืนเดียวออกมาจากห้องเวิร์คชอปจนชินตา มีคนไม่มากนักที่จะรู้ว่าแสนเข้าไปทำไม ส่วนใหญ่ได้แต่ข้องใจว่าทำไมแสนถึงได้มีสีหน้าทรมานเหลือเกินในการขยับตัวแต่ละที แม้จะเสร็จจากงานในแต่ละวันแล้วแสนก็ยังไม่เป็นอิสระ บรรดาลูกขุนจะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมารับตัวแสนกลับไปด้วยเพื่อควบคุมดูแลไม่ให้คิดหนีหรือหาทางติดต่อใครให้มาช่วย โทรศัพท์ของแสนถูกริบเก็บไว้ เมื่อไปถึงที่พักของคืนนั้นๆ แสนจะถูกล่ามโซ่หรือใส่กุญแจมือไว้ ที่หลับที่นอนก็จัดให้ตามมีตามเกิด ลูกขุนบางคนอยู่หอเล็กหน่อยก็ให้แสนนอนหน้าห้องน้ำ ทุกคืนแสนต้องนอนแก้ผ้าอ้าซ่าแหกขาผึ่งควยไว้เพราะไม่สามารถมีอะไรมากระทบควยที่บวมแดงได้เลยแม้แต่เสื้อผ้าบางๆ เมื่อถึงปลายสัปดาห์ ควยของแสนก็ดำคล้ำลงอย่างเห็นได้ชัดเพราะความร้อนและการเสียดสีที่โดนอยู่ทุกวัน

ปรากฏว่าดิลโด้ซิลิโคนยางที่หล่อมาจากควยของแสนขายดิบขายดีอย่างไม่น่าเชื่อแม้ว่าจะตั้งราคาไว้ค่อนข้างสูง ในเพจแสนเลวซึ่งเป็นหนึ่งในช่องทางการจำหน่ายมีคนมาเม้นท์ไว้ว่า แค่ได้เห็นแสนร้องโอดโอยในคลิปที่แถมมาก็คุ้มกับเงินที่เสียไปแล้ว ยิ่งได้รู้ว่ามีจำนวนจำกัดและจะไม่ทำเพิ่มแล้วความต้องการก็ยิ่งท่วมท้นจนทีมงานต้องนำดิลโด้หมายเลขสวยๆ ออกมาเปิดประมูล ซึ่งจู๋หมายเลขหกสิบเก้าซึ่งหล่อมาได้ตรงสวยเห็นเส้นเอ็นปูดโปนชัดเจนก็ทำสถิติไว้สูงสุดไว้ที่หลายหมื่นบาท บรรดานักศึกษาคณะศิลปกรรมที่เป็นผู้เสียหายได้รับเงินคืนกันอย่างน่าชื่นใจ แถมยังมีเงินเหลือเป็นกองกลางให้ใช้ในการลงโทษแสนต่อไปอีกก้อนใหญ่ เวหาเองก็ได้ดุ้นควยแสนที่คุณภาพไม่ผ่านคิวซีมาเก็บไว้เป็นที่ระลึกอันนึง

ชีวิตของแสนในมหาลัยเหมือนโดนฉุดกระชากจากจุดสูงสุดลงมากลายทาสชั้นต่ำ เขาแค้นใจแทบกระอักเลือดแต่ก็ได้แต่ยอมจำนน ชายสวมหมวกกันน็อกมีหลักฐานความผิดแทบทุกอย่างที่เขาเคยทำ รวมถึงรูปและคลิปอันน่าทุเรศต่างๆ ที่เขาทุกบังคับทำไว้ก่อนหน้านี้ แสนโดนข่มขู่ว่าถ้าขัดขืนแม้แต่นิดเดียว หลักฐานของเรื่องเลวร้ายที่เขาทำจะถึงมือนักข่าวทุกสำนักพร้อมๆ กับที่รูปและคลิปพวกนั้นจะถูกกระจายสุ่มโซเชี่ยลทันที ชายสวมหมวกกันน๊อกยังจี้จุดอ่อนของแสนว่าชื่อเสียงที่พ่อของแสนสร้างมาในฐานะนายกเทศมนตรีพร้อมกับความลำบากในวัยเด็กของเขาจะต้องพังทลายในชั่วพริบตา อย่าว่าแต่จะลงเลือกตั้งนายกสมัยหน้าเลย แม้แต่จังหวัดบ้านเกิดนี้ก็คงยากที่จะอยู่ต่อไปได้ แสนกลัวการทำให้พ่อต้องผิดหวังเสียใจมากกว่าที่ตัวเองต้องติดคุกเสียอีก จนไม่กล้าต่อต้านแม้แต่น้อย

หลังจากต้องทรมานกับการผลิตดิลโด้ทุกวันอยู่ถึงหนึ่งสัปดาห์จนเสร็จ ทางกรรมการก็เร่งประชุมกันเพื่อหางานใหม่ให้แสนทันที

“ไอ้พวกเหี้ย ใจคอมึงจะไม่ให้กูพักเลยเหรอวะ” แสนด่ากราดออกมาอย่างสุดทน สายตามองชายสวมหมวกกันน็อกซึ่งเป็นตัวต้นเรื่องทั้งหมดด้วยสายตาเคียดแค้น จริงๆ ฝ่ายนั้นก็แค่มาดูความเรียบร้อยเป็นระยะให้แน่ใจว่าแสนไม่ได้มีการขัดขืนอะไร แต่พวกลูกขุนจากคณะต่างๆ ต่างหากที่เป็นตัวหลักในการลงโทษแสนด้วยวิธีต่างๆ อย่างสนุกสะใจ

“ไม่ต้องห่วง คราวนี้มึงได้พักยาวๆ สบายเลย” ลูกขุนคนหนึ่งที่เป็นตัวแทนของหลายๆ คณะในสายสุขภาพรวมกันพูดขึ้นมาอย่างสาแก่ใจที่เป็นผู้ได้รับช่วงดูแลแสนในรอบนี้ แสนถูกพาตัวไปที่โซนของพวกคณะสายสุขภาพซึ่งมีจุดศูนย์กลางคือโรงพยาบาลของมหาวิทยาลัย รอบๆ นั้นก็จะเป็นตึกเรียนของคณะต่างๆ และอาคารหอพักนักศึกษาของพวกแพทย์พยาบาลที่ต้องฝึกงานหรือขึ้นวอร์ดที่โรงพยาบาล

“เห็นหอพักพยาบาลตรงนั้นเปล่า จำได้ไหมว่ามึงเคยทำเหี้ยอะไรไว้” ลูกขุนที่มาจากคณะเทคนิคการแพทย์พูดเสียงเหี้ยม แสนนิ่วหน้าไม่ได้ตอบออกไป ไม่ใช่นึกไม่ออก แต่มันมีหลายกรณีที่เข้าข่าย ลูกขุนก็ไม่ได้เฉลย กลับพาแสนเดินเข้าไปในตัวโรงพยาบาลพร้อมกับลูกขุนคนอื่นๆ ที่สนใจ พอถึงห้องๆ หนึ่ง แสนก็ถูกให้ถอดเสื้อผ้าออกจนเหลือแต่กางเกงในตัวเดียวขึ้นไปนอนบนเตียงคนไข้ แม้จะเตรียมใจกับการลงโทษทุกอย่างแล้ว แต่มาเจอแบบนี้แสนก็กลัวอยู่เหมือนกัน เขาไม่คุ้นกับโรงพยาบาลเพราะสุขภาพแข็งแรงมาโดยตลอด

“พวกมึงคงไม่ตัดไตกูไปขายใช่ไหม”

“ถ้ามึงพูดมากก็ไม่แน่” ลูกขุนเจ้าของบทลงโทษขู่ รอซักพักหมอหนุ่มๆ คนนึงก็เดินเข้ามา

“โอ้โห เอาจริงเหรอ มากันเต็มเลย คนนี้เหรอที่จะให้พี่ทำ”

“จัดการได้เลยพี่หมอ เอาอย่างที่คุยกันไว้นะ”

คนที่ไม่เกี่ยวข้องถูกต้อนออกไปนอกห้อง รอแล้วรออีกจนบางคนก็กลับไปก่อน ในที่สุดแสนที่อยู่บนเตียงคนไข้ก็ถูกเข็นออกมาในสภาพถูกเข้าเฝือกเกือบทั้งตัว ทั้งที่คอ แขนขวา ต้นขาซ้าย และหน้าแข้งขวาลงไปจนถึงปลายเท้า รวมๆ คือแทบขยับตัวไม่ได้เหลือแต่แขนซ้ายกับลำตัวเท่านั้น ใบหน้ามีผ้าปิดแผลไว้ตรงสันจมูกและแก้มขวาบดบังใบหน้าไปเกือบครึ่งจนถ้าไม่รู้มาก่อนก็อาจจะจำไม่ได้ว่าเป็นใคร

ลูกขุนจากคณะเทคนิคการแพทย์เข็นเตียงของแสนไปขึ้นลิฟต์ที่ตึกผู้ป่วยข้างๆ แล้วก็เข้าไปในห้องๆ หนึ่งซึ่งคล้ายกับห้องพิเศษสำหรับคนไข้ แต่ไม่มีเฟอร์นิเจอร์หรือห้องน้ำอย่างที่ควรจะมี เป็นเพียงห้องโล่งๆ ขนาดใหญ่กว่าปกติที่วางเตียงคนไข้ไว้เท่านั้น จากนั้นก็ต้องใช้คนสองสามคนช่วยกันยกแสนที่แทบจะขยับตัวไม่ได้ขึ้นไปไว้บนเตียงแล้วก็จัดท่าทางเอาเชือกโยงเฝือกให้ได้ระดับเหมือนกับเป็นคนไข้จริงๆ

จากนั้นไม่นานก็มีอาจารย์พยาบาลหน้าตาดีที่ยังสาวมากเหมือนเพิ่งเรียนจบใหม่ๆ เดินนำนักศึกษาพยาบาลกลุ่มใหญ่เข้ามาในห้อง

“นักศึกษาปีสองทุกคน ที่ห้องนี้ล่ะจะเป็นที่ๆ พวกเธอจะได้ใช้ฝึกซ้อมก่อนจะไปเจอกับคนไข้จริงในเทอมหน้า อาจารย์เข้าใจปัญหาดีเพราะเคยผ่านมาก่อน อยู่ๆ เราเป็นสาวเป็นแส้ ส่วนใหญ่ก็ยังไม่เคยมีแฟนกัน จะให้ไปเช็ดตัว สวนปัสสาวะ สวนอุจจาระคนไข้ผู้ชาย ช่วงแรกๆ มันก็จะกระดากอาย ไม่กล้าทำ พอดีเรามีคนไข้ผู้ชายที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เพราะเข้าเฝือกเกือบทั้งตัวมาอยู่กับเราประมาณสองอาทิตย์ ช่วงนี้ทุกคนฝึกกันได้เต็มที่เลยจ้า ขึ้นวอร์ดคนไข้จริงจะได้ไม่เคอะเขิน”

“แต่อาจารย์ขา เอาคนไข้หนุ่มๆ แบบนี้มา ยังไงพวกหนูก็เขินอยู่ดี จะเขินตอนนี้หรือไปเขินที่วอร์ดจริง ก็คงไม่ต่างกัน”

“ต่างสิ ก็ผู้ป่วยรายนี้ ก่อนจะได้รับอุบัติเหตุครั้งนี้ เขาก็มีความผิดปกติทางสมองอยู่แล้ว ถึงร่างกายจะเหมือนชายหนุ่มปกติ แต่เขาแทบจะไม่รับรู้อะไรเลยนอกจากเรื่องพื้นๆ อย่างความหิว ความเจ็บปวด พูดง่ายๆ ก็เหมือนเด็กขวบสองขวบนั่นแหละ เพราะงั้นจะฝึกจะหัดจะจับต้องอะไรก็ได้เต็มที่ เขาไม่อายไม่โกรธอะไรทั้งนั้น และเรื่องนี้ครอบครัวเขาก็ยินยอมเองด้วย เพื่อประโยชน์ทางการศึกษาและแลกกับที่ทางเราช่วยดูแลผู้ป่วยแทนครอบครัวเขาที่ต้องเดินทางต่างประเทศช่วงนี้ เอาล่ะ อาจารย์จะปล่อยให้พวกเธอศึกษาคนไข้ ว่าจะวางแผนทำความสะอาด ให้อาหาร จัดการเรื่องการขับถ่าย ยกเว้นแผลที่หน้าไม่ต้องล้างแผลหรือทำอะไร ทิ้งไว้อย่างนั้นเลย อ้อ เแล้วก็อย่าลืมดูแลป้องกันเรื่องแผลกดทับด้วย เอาวิชาที่เรียนมาใช้ให้เต็มที่แล้วก็แบ่งงานแต่ละวันกันได้เลยนะ อาจารย์จะไม่เข้าไปยุ่งเลยตลอดสองสัปดาห์นี้”

อาจารย์สาวสั่งงานเสร็จก็ออกไปคุยกับน้องชายของตัวเองซึ่งก็คือลูกขุนเจ้าของงานนั่นเอง เมื่อเกือบสี่ปีก่อน ตอนที่แสนเข้าปีหนึ่งใหม่ๆ ได้คิดวิธีหาเงินโดยการข่มขู่ให้นักศึกษาพยาบาลคนหนึ่งเอากล้องไร้สายไปซ่อนในห้องนอนและห้องน้ำของหอพักพยาบาล รวมถึงห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าที่โรงพยาบาลด้วย คลิปชุดนางฟ้าในชุดขาวได้รับความนิยมในหมู่ชายหื่นกามเป็นอันมาก แสนรวบรวมเป็นชุดๆ ปล่อยขายในกลุ่ม แต่ในที่สุดก็มีบางส่วนหลุดออกมา ในตอนนั้นเป็นเรื่องราวใหญ่โตมากแต่ก็จับมือใครดมไม่ได้ มีผู้ปกครองหลายคนพาลูกลาออกไป ชื่อเสียงคณะพยาบาลก็ย่ำแย่

อาจารย์สาวคนนี้คือนักศึกษาพยาบาลปีสี่ในตอนนั้นที่มีคลิปหลุดเผยแพร่ไปมากที่สุดเพราะทั้งสวยทั้งหุ่นดี ตอนนั้นเธอคิดมากจนแทบจะฆ่าตัวตายแต่ก็กัดฟันเรียนจนจบและไปต่อโทจนกลับมาเป็นอาจารย์ที่เดิม ไม่นึกว่าสามปีให้หลังน้องชายของเธอจะสามารถหาตัวคนร้ายมาลงโทษได้ในที่สุด

“ผมติดกล้องไว้ในห้องแล้ว เผื่อใครอยากดูเหตุการณ์ในนั้นก็ต่อออนไลน์ดูได้ยี่สิบสี่ชั่วโมง แต่มุมกล้องจะเห็นแต่ไอแสนที่นอนอยู่บนเตียง ไม่เห็นใบหน้าลูกศิษย์ของพี่แน่นอนครับ”

อาจารย์สาวมองภาพแสนบนเตียงจากแทบเล็ทอย่างสะใจ

“ขอบใจทุกคนนะจ๊ะ แค่ต้องนอนนิ่งๆ คุยกับใครก็ไม่ได้สองสัปดาห์นี่ก็ว่าทรมานแล้ว ที่เหลือก็ต้องดูว่าพวกเด็กปีสองตัวแสบจะทำขนาดไหน”

แสนนอนนิ่งไม่กล้าขยับอยู่ในห้องที่มีนักเรียนพยาบาลออกันอยู่เกือบห้าสิบคน ที่เห็นคร่าวๆ น่าจะเป็นผู้ชายแค่หกเจ็ดคน ที่เหลือเป็นผู้หญิงหมด

“หน้าตาดี๊ดีนะ พวกแกว่าเปล่า ตัดสกินเฮดด้วย กล้ามก็เป็นมัดๆ เสียดายไม่น่าเอ๋อเลย ถ้าพวกแกขี้เกียจ ชั้นรับดูแลคนเดียวก็ยังได้”

นักเรียนพยาบาลชายที่ออกสาวนิดๆ แสดงความเห็นทันทีที่อาจารย์เดินออกจากห้องไป

“ได้ไง อีบอล อาจารย์บอกแล้วว่าให้สาวๆ ไว้ฝึกให้เคยชิน จะได้ไม่เขินเวลาเจอคนไข้ชาย อย่างแกไม่เขินอยู่แล้ว ไม่ต้องมายุ่งเลย”

“ชั้นก็เขินนะแก ไม่เคยเจอห่อหมกใหญ่แบบนี้มาก่อน อ๊ะ”

เกย์หนุ่มนักศึกษาทำท่าเขินแบบตอแหลก่อนจะเอามือวางลงไปบนเป้าของแสนที่นุ่งกางเกงในตัวเดียว แต่ก็ต้องสะดุ้งจริงๆ เพราะความอูมนั้นมันอัดแน่นไปด้วยดุ้นเนื้ออวบใหญ่กว่าที่ตาเห็น แสนรับรู้สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด แต่เขาก็ต้องท่าเหม่อลอยเหมือนเอ๋อจริงๆ ชายหนุ่มเกร็งไปหมดจนเหงื่อแตก ถ้าความแตกขึ้นมาพ่อของเขาจะโดนชายสวมหมวกกันน็อกเล่นงาน ไหนจะต้องอับอายขายหน้าพวกเด็กพยาบาลที่รู้ความจริงว่าเขาเป็นใคร

“เอาไงดี ดูคนไข้เหงื่อซึมๆ นะ เรามาเช็ดตัวให้กันก่อนดีกว่า”

หลายคนขอเป็นคนทำหน้าที่จนต้องโอน้อยออกจัดคิวกัน กางเกงในตัวจิ๋วของแสนถูกกรรไกรตัดออกเพราะติดเฝือกจนถอดไม่ได้ เพียงเท่านั้นแสนก็เปลือยร่างให้เด็กพยาบาลเกือบห้าสิบดูกันอย่างถนัดตา ดุ้นเนื้ออวบคล้ำปลายปิดสนิทห้อยตัวยาวอยู่ตรงหว่างขาที่อ้าออกจากกันเพราะต้องห้อยเฝือกที่ขาทั้งสองข้าง ขนหมอยที่ถูกโกนไปเริ่มขึ้นมาเป็นตอสั้นๆ ชวนให้รู้สึกจั๊กจี้ ขนที่แพลมออกมาจากง่ามตูดยาวกว่าขนตรงอื่นอย่างเห็นได้ชัดเพราะไม่โดนโกนไปด้วย นักเรียนพยาบาลหลายคนเขินอายตาเบิกโพลงเพราะไม่เคยเห็นของแบบนี้ชัดๆ แต่ที่หัวเราะคิกคักอย่างไม่สำรวมก็ยังมีอยู่ไม่น้อย อวัยวะเพศที่เปิดอ้าซ่าให้คนมุงดูทำให้ปมในวัยเด็กกลับมาหลอกหลอนแสนอีกครั้ง

“โห ทั้งใหญ่ทั้งดำเลย หัวยังไม่เปิดด้วย น่าเกลียดน่ากลัว”

“น่ารักดีออก เหมือนเขาเคยโกนขนตรงนั้นด้วยนะ สงสัยที่บ้านทำให้จะได้ดูแลเรื่องความสะอาดง่ายๆ”

“ดูยังไงก็เหมือนของคนปกติ พวกแกว่า มันจะแข็งได้ไหมวะ”

“จะไปรู้เหรอ คนที่สมองได้รับความกระทบกระเทือนจนเป็นอัมพาตคงไม่รู้สึกอะไรแล้วมั๊ง”

“นั่นมันกรณีกระดูกสันหลังกระทบกระเทือนเปล่า นี่ดูร่างกายแข็งแรงขนาดนี้จะเป็นอัมพาตได้ไง”

“ลองเลยแล้วกัน ถือว่าเป็นการตรวจอาการคนไข้”

เกย์หนุ่มที่ชื่อบอลพูดเข้าข้างตัวเองแล้วก็คว้าดุ้นควยของแสนมาชักขึ้นชักลงต่อหน้าสาวๆ ทั้งห้อง แสนอายจนหน้าชาแต่ในบทบาทคนสติไม่สมประกอบ เขาไม่สามารถแสดงอาการขัดขืนได้ไม่งั้นความลับคงแตก ท่อนเนื้ออ่อนปวกเปียกของแสนเด้งไปเด้งมาตามจังหวะมือแต่ก็ยังไม่แข็งตัว เขาไม่มีอารมณ์กับมือผู้ชายด้วยกันเท่าไหร่ ยิ่งเป็นคนที่ไม่สนิทใจด้วยแล้ว ไหนจะสายตาของบรรดาสาวๆ หลายสิบคนที่จ้องอย่างสนใจ บอลเร่งจังหวะมือพร้อมกับบี้ส่วนหัวแรงๆ ไปด้วยเพื่อกระตุ้นอารมณ์

“บอล อย่าทำกับคนไข้รุนแรงแบบนั้น ถึงเขาจะไม่รู้เรื่องก็เถอะ มานี่ ชั้นทำเอง”

นักเรียนพยาบาลสาวหน้าตาดีปราดเข้ามาแย่งการควบคุมแท่งเนื้อของแสนไปจากบอล กลิ่นหอมอ่อนๆ จากตัวหญิงสาวที่เข้ามาใกล้ทำให้แสนเกิดอารมณ์ทางเพศขึ้นมาทันที ยิ่งพอมือนิ่มเรียวบางจับไปที่ดุ้นเนื้อของเขาอย่างนุ่มนวล ควยดำคล้ำของแสนก็เริ่มผงกหัวขึ้นมา เขาขาดแคลนเรื่องนี้มานาน อย่าว่าแต่ผู้หญิงจริงๆ เลย แม้แต่ครั้งล่าสุดที่ให้ปราบดูดควยให้ก็ผ่านมาเนิ่นนานแล้วเพราะเรื่องยุ่งๆ ที่เกิดขึ้น แล้วคนเรียนพยาบาลอย่างนี้ คงจะสะอาดไปทั้งตัวแบบที่เขาชอบ เผลอๆ ยังไม่เคยมีอะไรกับใครด้วยเพราะเรียนหนัก ดุ้นควยของแสนผงาดอย่างน่ากลัว หนังหุ้มปลายถอกร่นลงมาที่คอหยักเผยหัวควยบานใหญ่ที่ตอนนี้เป็นจากสีแดงคล้ำเป็นสีแดงอมม่วงจากการถูกหล่อควยอย่างทารุณตลอดทั้งสัปดาห์ น้ำเงี่ยนใสๆ เยิ้มออกมาเป็นสาย ท่อนลำสีเข้มที่ขยายขนาดจนใหญ่โตขึ้นลายเส้นเลือดเส้นเอ็นปูดโปนน่าเกรงขาม นักเรียนพยาบาลสาวเห็นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจากฝีมือตัวเองแล้วก็อดตกใจไม่ได้จนต้องปล่อยมือออก

“ว๊าย ทำไมมันน่ากลัวอย่างนี้”

สาวๆ ในห้องเห็นคล้อยตามกัน ขนาดคนที่มีแฟนแล้ว ของแฟนตัวเองก็ไม่ได้ดูอลังการน่ากลัวแบบนี้ มีแต่บอลที่รู้สึกเสียหน้าจนอดเคืองคนไข้ไม่ได้

“คนสติไม่สมประกอบ จะไปเอานักหนา จู๋นี่ก็คงแข็งขึ้นมาเอง เอาไง ให้ชั้นชักต่อไหม คนไข้ได้ปลดปล่อยออกมาจะได้อ่อนตัวไป” บอลเสนอ

“อย่าเลย มันดูไม่เหมาะสม ปล่อยไว้ก็ไม่ได้อันตรายอะไรนี่ เดี๋ยวมันคงอ่อนตัวไปเอง ว่าแต่คนไข้ชื่ออะไรล่ะ อาจารย์ไม่ได้บอกด้วย ชาร์ทผู้ป่วยก็ไม่มี”

“งั้นเราตั้งชื่อไว้เรียกกันเองแล้วกัน หล่อๆ อย่างนี้ชื่ออะไรดี เอาเป็นพี่เข้มไหม เข้มทั้งหน้าตา สีผิว แล้วก็น้องชาย ฮ่าๆ”

จากนั้นนักเรียนพยาบาลเป็นสิบคนก็รุมกันเช็ดตัวแสนจนวุ่นวายไปหมด หลายคนถือโอกาสลูบคลำกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ อย่างติดใจ ถ้าไม่บอกว่าเป็นคนสติไม่ดีก็ไม่มีทางดูออกเลยในเมื่อหุ่นแบบนี้มันนักกีฬาชัดๆ ที่แย่งกันจนต้องทะเลาะคือตอนทำความสะอาดดุ้นควยของแสน ทุกคนลึกๆ ในใจอยากจะลองสัมผัสดูแต่ไม่กล้าพูดตรงๆ เลยอยากจะใช้โอกาสตอนเช็ดตัวกันทั้งนั้น สุดท้ายควยของแสนเลยโดนเช็ดแล้วเช็ดอีกโดยสาวๆ มากหน้าหลายตา เขาทั้งอายทั้งควยแข็งเป๊กจนปวดไปหมด น้ำเงี่ยนไหลซึมไม่ขาดสายจนต้องเวียนมาเช็ดใหม่อยู่หลายรอบ แสนสมเพชตัวเองเหลือเกินที่ถูกทำเหมือนคนช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ เขาถูกจับยกจับพลิกเพื่อทำความสะอาดจนทั่วร่างไม่เว้นแม้แต่ง่ามตูดที่มีขนรกครึ้มจนว่าที่พยาบาลที่จับขาอ้าออกร้องว๊ายด้วยความตกใจ

“เข้าเฝือกทั้งแขนทั้งขาแบบนี้ จะใส่ชุดผู้ป่วยแบบไหนให้พี่เข้มดี” พยาบาลปีสองหารือกันหลังเช็ดตัวเสร็จ

“ใส่ลำบากแน่ ชุดเบอร์ใหญ่สุดก็ไม่รู้ขากางเกงจะกว้างพอเปล่า ไหนจะต้องยกเฝือกออกจากเชือกโยงอีก ไม่ต้องใส่เลยไหม ยังไงพี่เข้มก็ไม่มีความรู้สึกอายอยู่แล้ว”

“ดีเหมือนกัน ทำงานสะดวกดี เอาผ้าห่มปิดไว้หน่อยก็พอ”

“แต่ของพี่เข้มยังโด่อยู่เลยนะ น้ำซึมตลอดด้วย เดี๋ยวผ้าเลอะ”

“งั้นคลุมแค่หน้าอกพอ ข้างล่างปล่อยโล่งไปก่อน ไว้อาจารย์มาค่อยถามว่าอาการแบบนี้ปกติเปล่า”

“แล้วเรื่องขับถ่ายเอายังไง”

“ไม่รู้สิ พี่เข้มแกขับถ่ายเองได้ไหม”

“ลองไปเอากระโถนฉี่มาดูสิ”

ว่าที่พยาบาลสาวไปเอากระโถนฉี่มารองด้านล่างไว้พร้อม ควยของแสนยังตรงเด่จนถ้าฉี่ออกมาคงพุ่งขึ้นสูงเลอะเทอะไปหมด บอลจึงรับอาสากดควยของแสนลงซึ่งต้องใช้แรงไม่น้อย

“พี่เข้ม เบ่งฉี่เองได้ไหม ฉี่…….. ฉี่……..”

นักเรียนพยาบาลสาวสวยพยายามทำให้แสนฉี่ออกมาด้วยการทำเสียงเหมือนกับแสนเป็นเด็กเล็กๆ แสนอายจนหน้าเขียว ไม่มีทางที่เขาจะฉี่ออกมาต่อหน้าคนมากมายขนาดนี้ ไม่ต้องพูดถึงว่าควยแข็งๆ ยิ่งยากอยู่แล้ว

“ทำไงดี ไม่เห็นออกเลย”

“สงสัยฉี่เองไม่ได้ งั้นใส่สายสวนปัสสาวะเถอะ อั้นไว้นานๆ มันจะไม่ดี”

แสนสะดุ้งสุดตัว ไม่มีทางที่เขาจะยอมให้ใครเอาอะไรมาสอดในรูเยี่ยวของตัวเองแน่ๆ ก่อนที่ว่าที่พยาบาลสาวจะเอากระโถนไปเก็บ แสนก็ส่งเสียงออกมาเป็นครั้งแรก

“ฉี่……. ฉี่……”

คนที่กำลังเก็บกระโถนชะงักมือ แสนเบ่งเยี่ยวสู้ควยที่กำลังแข็งจนหน้าเขียวหน้าเหลือง ในที่สุดน้ำเยี่ยวสีเหลืองเข้มก็ไหลออกมาจากปลายควยที่แข็งปั๋งลงสู่กระโถนอย่างแม่นยำ

“ว๊าย พี่เข้มเก่งจังเลย ฉี่เองก็ได้”

เสียงตบมือชมเชยให้กำลังใจดังขึ้นอย่างกึกก้อง ทุกคนต่างร่วมลุ้นไปด้วย จากเรื่องที่เจอมา แสนไม่คิดว่าตัวเองจะอับอายอะไรไปได้มากกว่านั้นแล้ว แต่พอต้องมาทำเสียงโง่ๆ เป็นคนปัญญาอ่อนเบ่งฉี่ออกมาต่อหน้าคนหลายสิบคน แถมยังได้รับคำชมยังกับได้เหรียญทองโอลิมปิค แสนก็แทบจะหมดความนับถือในตัวเองลงทันที

“สีเข้มไปนะ กลิ่นก็ฉุนด้วย ต้องให้ทานน้ำเยอะๆ จะได้ฉี่บ่อยๆ พี่เข้ม ต่อไปถ้าปวดฉี่อีก ให้ทำเสียงแบบเมื่อกี๊บอกพวกเรานะ ฉี่….. ฉี่…… จะได้เอากระโถนมาให้”

แสนได้แต่พยักหน้ารับ ต่อให้อายแค่ไหน แต่ถ้าเทียบกับการต้องโดนเสียบรูเยี่ยว เขายอมอายดีกว่า

“ต๊าย น่ารัก ดีนะที่พอสื่อสารกันรู้เรื่อง แล้วตอนนี้พี่เข้มปวดอึไหม อึ๊……. อึ๊………”

“ไว้เช้าพรุ่งนี้ค่อยมาลองดีกว่า ตอนนี้อาจจะยังไม่ถึงเวลา ถ้าซักสองวันยังไม่ถ่าย ค่อยสวนอุจจาระ”

แสนหลับตาลง ไม่อยากจะคิดถึงความอับอายที่จะต้องเจอในวันพรุ่งนี้และวันต่อๆ ไป

แสนต้องนอนเป็นคนไข้ติดเตียงที่โรงพยาบาลอยู่จนครบสองสัปดาห์ ระหว่างนั้นเขาต้องพบกับเรื่องน่าอายมากมายอย่างไม่น่าเชื่อ ไหนจะต้องนอนเป็นคนปัญญาอ่อนให้สาวๆ มาเช็ดขี้เช็ดเยี่ยวให้ การที่ต้องนอนยาวไม่ได้ขยับร่างกายนานๆ ทำให้ระบบขับถ่ายของแสนรวนไปด้วย เขาต้องถูกสวนอุจจาระวันเว้นวันซึ่งในตอนนั้นเขาจะทำเป็นหลับ ไม่อยากรับรู้ความอับอายที่ต้องปล่อยของเสียออกมาต่อหน้าทุกคน แสนรังเกียจความสกปรกแบบฝังหัวอยู่แล้ว ยิ่งออกมาจากร่างกายตัวเองก็ยิ่งทั้งเกลียดทั้งอาย ถึงแม้จะได้รับการทำความสะอาดอย่างดี แต่กลิ่นอบอวลที่เหลือในห้องก็ทำให้แสนขยะแขยงเต็มทน

นักศึกษาทุกคนถูกอาจารย์กำชับว่าให้ใช้โอกาสทำความคุ้นเคยกับร่างกายคนไข้ให้ได้มากที่สุด พอไปขึ้นวอร์ดจริงในเทอมหน้าจะได้ไม่เคอะเขิน ร่างกายทุกส่วนของแสนจึงถูกสัมผัสถูกใช้ฝึกงานหัตถการทางพยาบาลต่างๆ ราวกับเป็นหุ่นจำลอง พอเข้าสัปดาห์ที่สอง นักเรียนพยาบาลทุกคนก็หมดความเขินอายในตัวพี่เข้มของพวกเขา อวัยวะแสดงความเป็นชายของแสนถูกหยิบจับราวกับเป็นของสาธารณะ รูก้นถูกแหกออกดูนับครั้งไม่ถ้วน ในตอนนี้ก็เช่นกัน ดุ้นเนื้อสีคล้ำเข้มของแสนถูกจับปลิ้นทำความสะอาด พวงไข่ถูกขัดถูอย่างแคล่วคล่องจากนักเรียนพยาบาลสองคนที่กำลังคุยอย่างออกรสออกชาติ

“พอชินแล้ว ของผู้ชายก็ไม่มีอะไรนะตัวเอง”

“ใช่ๆ มาฝึกกับหนุ่มหล่อล่ำอย่างพี่เข้ม ต่อไปเจอคนไข้หนุ่มๆ เราก็คงไม่รู้สึกอะไรแล้วนะ จะหาหล่อกว่านี้คงยาก เสียดายจริงๆ ที่สมองไม่ปกติ”

“แต่ชินกับร่างกายพี่เข้มนี่ไม่ดีเลยนะ อย่างแฟนชั้น แต่ก่อนก็ว่าหุ่นโอเคนะ เดี๋ยวนี้ถอดเสื้อผ้ามาแทบหมดอารมณ์ ดูเผละๆ ยังไงไม่รู้ ไม่เหมือนพี่เข้ม แน่นไปทั้งตัว”

“ก็บอกให้แฟนตัวเองฟิตหน่อยสิ แต่จริงๆ อย่าไปคิดมากเลย แฟนเธอเรียนตั้งวิศวะ เทียบกับพี่เข้มหล่อล่ำแต่นอนเป็นผักแบบนี้ สติปัญญาประมาณน้องหมา แฟนเธอดีกว่าเป็นพันๆ เท่า”

“นั่นสิ สงสารพี่เข้มนะ อุตส่าห์เกิดมาหล่อขนาดนี้ น้องชายก็บะละฮึ่ม อยากตัดแบ่งไปให้คุณแฟนซักสามนิ้ว”

“ว๊าย ทะลึ่ง”

นอกจากความอับอายอย่างที่สุดแล้ว สิ่งที่ทรมานแสนไม่แพ้กันก็คือการต้องนอนนิ่งๆ แทบจะขยับตัวไม่ได้ คุยกับใครก็ไม่ได้ อ่านหนังสือ ดูทีวี เล่นโทรศัพท์ ทำไม่ได้เลยซักอย่าง ไม่งั้นความคงแตกขึ้นมา แสนได้แต่นอนคิดเรื่องราวต่างๆ ที่ผ่านมา ชายสวมหมวกกันน็อกที่อยู่ๆ ก็โผล่มามีข้อมูลหลักฐานเกี่ยวกับเขามากมายเหมือนใช้เวลารวบรวมมาเป็นปี ส่วนหนึ่งคงได้จากการแฮ็กข้อมูล แต่บางเรื่องก็ไม่น่าเชื่อว่าจะรู้ถึงขนาดนั้น ที่แน่ๆ ต้องมีแบ็คที่มีอิทธิพลมากคอยสนับสนุนอยู่ ไม่งั้นคงจัดการเขาพร้อมกับปิดทางหนีทุกทางไม่ได้ราบรื่นขนาดนี้ ตอนแรกเขาคิดว่าเป็นไอเด็กเวหา แต่ดูท่าแล้วคงไม่ใช่

แสนยังไม่ได้ละความพยายาม ชีวิตที่ต้องต่อสู้มาแต่เด็กทำให้เขาไม่ท้อถอยอะไรง่ายๆ ถึงตอนนี้เขาจะถูกตัดแขนตัดขา ญาติพี่น้องพรรคพวกทางพ่อที่เคยสนับสนุนก็มาตัดขาดเหมือนไม่รู้จักกันมาก่อน แต่เขาก็ยังเหลือไพ่ตายอีกสองใบ ใบแรกคือสารวัตรภคิน ญาติผู้พี่ทางฝั่งแม่ที่หายไปก่อนหน้านี้ แสนมั่นใจว่าสารวัตรคงจะระแคะระคายอะไรบางอย่างเลยหลบไปตั้งหลักก่อน แต่ความที่ทำอะไรเทาๆ ร่วมกันมาก่อน สารวัตรจะต้องหาทางช่วยเขาในที่สุด ถึงไม่ใช่เพราะความเป็นญาติ แต่อย่างน้อยสารวัตรก็ต้องกลัวโดนซัดทอด

ไพ่ตายใบที่สองที่แสนให้น้ำหนักไว้ยิ่งกว่าไพ่ใบแรกก็คือปราบ แสนสังเกตมาตลอดจนมั่นใจว่าชายสวมหมวกกันน็อกยังไม่รู้ความสัมพันธ์เบื้องลึกของเขากับลูกแม่นม ปราบเป็นคนที่เก่งมาก ที่ผ่านมาไม่เคยทำงานพลาดเลยสักอย่าง เขามั่นใจว่าถ้าปราบรู้สถานการณ์ทั้งหมด จะต้องหาทางช่วยเขาได้แน่ เสียดายเขาที่ก่อนหน้านี้ปกปิดเรื่องนี้กับปราบมาโดยตลอด พอจวนตัวจริงๆ ก็ทำทันแค่ฝากฝังเรื่องผับที่ให้ปราบไปดำเนินการต่อ พอมาตอนนี้ถูกปิดกั้นการติดต่อทั้งหมด ถ้ามีโอกาสให้เขาติดต่อสารวัตรกับปราบได้ รับรองว่าเกมจะต้องพลิกกลับมาเข้าข้างเขา

โดยรวมนักศึกษาพยาบาลก็ดูแลแสนอย่างดี จนชายหนุ่มที่ไม่เคยละเอียดอ่อนกับสิ่งใดนึกเห็นใจอาชีพที่ต้องเสียสละและใช้ความอดทนอย่างสูง แต่ก็มีพวกนอกคอกอยู่บ้าง อย่างบอลเกย์หนุ่มที่ชอบหาโอกาสมาลวนลามเขาเพียงลำพัง ร่างเปลือยของแสนถูกบอลแอบถ่ายรูปเก็บไว้นับครั้งไม่ถ้วน หนักข้อเข้า บอลก็ขนเพื่อนเกย์หลายคนเข้ามาทำทีเหมือนจะเยี่ยมไข้ แต่จริงๆ คือต้องการอวดพี่เข้มในฐานะตุ๊กตายางมีชีวิตให้เพื่อนๆ ดู แสนต้องถูกเกย์กลุ่มใหญ่ลวนลามเล่นสนุกกับร่างกายตัวเองจาบจ้วง บอลปกติทำแค่ลูบๆ คลำๆ แต่พอมีเพื่อนเชียร์ก็คึก แสนถูกทั้งดูดทั้งกัดหัวนมจนระบม ตามด้วยการอมควยเลียไข่จนมันตั้งเด่ให้ได้ถ่ายรูปกัน แต่ที่ทำแสนโกรธและผวาที่สุดก็คือเกย์รุกร่างใหญ่เริ่มมาป้วนเปี้ยนที่ประตูหลังของเขา ยิ่งบอลโฆษณาว่าเพิ่งสวนทำความสะอาดไปเมื่อเช้า เกย์รุกคนนั้นก็ยิ่งได้ใจเอาลิ้นละเลงจนแสนต้องร้องครางออกมาดังๆ กับประสบการณ์แปลกใหม่ที่เพิ่งเคยได้รับ แต่พอนิ้วแข็งแรงเริ่มสอดเข้าไปในรูตูดหุบแน่น แสนก็ดิ้นอาละวาดอย่างไม่กลัวเฝือกหลุด

“ไหนมึงว่ามันเอ๋อไม่รู้เรื่องไง ดิ้นชิบหาย” เกย์รุกหน้าตาเถื่อนๆ ที่บอลหมายตาไว้หันมาต่อว่าอย่างอารมณ์เสีย

“พี่เข้มคงจะเจ็บอ่ะ อย่าทำต่อเลย มันไม่ดี”

“มึงเรียนพยาบาล ไม่มีพวกยาสลบยานอนหลับอะไรเลยเหรอ หล่อล่ำแมนตูดแน่นแบบนี้กูจะหาได้ที่ไหนอีก เอามันเสร็จเผื่อกูจะได้สงเคราะห์มึงด้วยอีกคน”

บอลไม่รู้จะทำยังไงดี จรรยาบรรณวิชาชีพที่เรียนมาบอกว่ามันเป็นการละเมิดสิทธิ์คนไข้อย่างร้ายแรง เกย์รุกไม่รอคำตอบ เขาแทงนิ้วเข้าไปในช่องทางของแสนรวดเดียวสามนิ้วโดยไม่มีการหล่อลื่นสร้างความเจ็บปวดให้จนต้องร้องโหยหวนออกมา แสนอดทนไม่ไหวอีกต่อไป เขาดึงเฝือกออกจากเชือกโยงแล้วทุบลงไปบนหัวของเกย์หน้ามืดจนสุดแรง ฝ่ายนั้นร้องอ๊ากลงไปนั่งกับพื้น บอลสบตาขอความช่วยเหลือจากเพื่อนคนอื่นๆ จนในที่สุดก็ช่วยกันลากตัวเกย์รุกที่กำลังมึนออกไปจากห้องได้สำเร็จ

การใช้กรรมของแสนยังไม่หมดแค่นั้น สองสามวันสุดท้ายก่อนที่จะออกจากโรงพยาบาล อาจารย์พยาบาลผู้เคยถูกแสนเอาคลิปแอบถ่ายตอนเป็นนักศึกษาปีสี่ไปขายจนต้องอับอายไปทั่วประเทศได้พาช่างกล้องชุดใหญ่มาบันทึกการสาธิตขั้นตอนการทำหัตถการต่างๆ กับคนไข้ชายเก็บไว้เป็นสื่อการสอน ที่ผ่านมา วิดีโอการสอนส่วนใหญ่จะเป็นการสาธิตกับหุ่นจำลองซึ่งจะทำให้นักศึกษาไม่เห็นภาพเหมือนของจริง ในครั้งนี้ขั้นตอนต่างๆ จะถูกบันทึกด้วยกล้องความละเอียดสูงหลายตัวเพื่อเก็บภาพให้ครบทุกมุมมอง ทั้งระยะใกล้และไกล แม้แต่ใบหน้าของผู้ป่วยก็จะถูกจับภาพไว้เพื่อให้เห็นปฏิกิริยาว่าช่วงไหนอาจเกิดอาการเจ็บได้บ้าง ตากล้องทั้งหมดก็คือพวกลูกขุนนั่นเอง

อาจารย์สาวตั้งใจมาเป็นอย่างดีที่จะให้วิดีโอชุดนี้ถูกใช้สอนนักศึกษาพยาบาลไปเป็นสิบปีจนกว่ามาตรฐานขั้นตอนการทำหัตถการจะถูกเปลี่ยนแปลงจากแพทย์สภา นี่คือการชดเชยให้กับคณะพยาบาลที่ต้องมาเสียชื่อไปกับเหตุการณ์ครั้งนั้น ต่อให้ไม่คิดเรื่องการล้างแค้น ร่างการของแสนก็ถือเป็นตัวอย่างที่ดีด้วยขนาดอวัยวะที่ใหญ่โตทุกองคาพยพ ผิวสีเข้มทำให้กล้องจับภาพและปรับแสงได้ง่ายกว่า รวมถึงเส้นเลือดเส้นเอ็นที่โปนออกมาเห็นถนัดตา

หัตถการแรกที่ถูกถ่ายทำไว้คือการใส่สายสวนปัสสาวะ อาจารย์เริ่มสาธิตด้วยการใส่ถุงมือปลอดเชื้อ ทาปลายสายสวนปัสสาวะด้วยสารหล่อลื่น แล้วใช้ปากคีบทำความสะอาดอวัยวะโดยใช้มือรูดหนังหุ้มปลายของแสนลง ใช้สำลีเช็ดจากรูเยี่ยววนออกลงมาที่ฐานลำ พอเสร็จก็จับปลายควยตั้งขึ้นแล้วสอดสายสวนลงไปในรูเยี่ยวจนกระทั่งมีปัสสาวะไหลออกมา แสนรู้สึกแสบรูเยี่ยวอย่างมาก ไหนจะอายคนทำที่เป็นสาวสวย ไหนจะกล้องอีกห้าหกตัวที่มีทั้งจ่อแทบชิดหัวควย ถ่ายจากด้านข้าง ถ่ายเสยจากรูดตูด มีกระทั่งกล้องที่คอยจับภาพใบหน้าที่เหยเกของเขา สายที่อยู่ในรูเยี่ยวก็คับแน่นอึดอัดเหลือเกิน เขาไม่รู้ว่ามันเป็นไซส์ใหญ่พิเศษที่จงใจเลือกมาให้โดยเฉพาะ จนเมื่อขยับสายได้ที่ อาจารย์ก็ใส่น้ำกลั่นเข้าไปอีกทางเพื่อให้ลูกโป่งขยายในล๊อคคอกระเพาะไว้ไม่ให้หลุดแล้วต่อปลายสายสวนปัสสาวะกับถุงเก็บปัสสาวะเป็นอันเสร็จเรียบร้อย

เพียงแค่คลิปแรก แสนก็รู้สึกทั้งเจ็บทั้งอายแทบตาย คลิปที่ถ่ายไปคงถูกเปิดซ้ำๆ ให้กับนักเรียนพยาบาลไม่รู้กี่รุ่นต่อกี่รุ่นดู แม้จะมีผ้าปิดแผลบดบังใบหน้าบางส่วนของเขา แต่ถ้าเคยเจอตัวจริงหลายครั้ง คงต้องจำเขาในคลิปได้อยู่ดี นอกจากการใส่สายสวนปัสสาวะแล้ว อาจารย์ยังมีรายการสาธิตอีกเป็นหางว่าว ที่แสนกลัวที่สุดคือการสวนทวารหนักที่คงมีของสกปรกออกมา และการตรวจต่อมลูกหมากทางทวารหนักซึ่งเขาจะโดนล้วงก้นไปกดต่อมลูกหมาก ที่แย่กว่านั้นคืออาจถูกกระตุ้นจนควยแข็งต่อหน้ากล้องได้เพราะต่อมลูกหมากถือเป็นจุดเสียวของทั้งผู้ชายและเกย์ แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้ การถ่ายทำคลิปเพื่อการศึกษาดำเนินต่อไปเรื่อยๆ จนจบ โดยสิ่งที่แสนกลัวทั้งหมดก็เกิดขึ้นจริงตามคาดและถูกกล้องบันทึกเอาไว้ได้อย่างชัดเจน

จนคืนสุดท้ายในโรงพยาบาล โชคก็เริ่มเข้าข้างแสน นักเรียนพยาบาลที่กำลังดูแลเขาอยู่ถูกเพื่อนมาตามไปอย่างกระทันหันบอกว่ามีอุบัติเหตุทางรถยนต์แบบเทกระจาด ต้องระดมทุกคนไปช่วยกัน แสนพบว่าที่พยาบาลคนนั้นทิ้งมือถือเอาไว้ที่โต๊ะข้างเตียงโดยที่หน้าจอยังไม่ทันล๊อค เขารีบใช้มือที่เหลือเพียงข้างซ้ายหยิบโทรศัพท์มาเข้าเวบเมลแล้วพิมพ์เล่าสถานการณ์ที่เขาต้องเจออย่างกระท่อนท่อนกระแท่นเพราะต้องจิ้มทีละตัว เคราะห์ดีที่ในห้องฉุกเฉินคงยุ่งมากเลยไม่มีใครเข้ามาเป็นชั่วโมง แสนส่งเรื่องทั้งหมดไปให้กับสารวัตรภคินและปราบทางอีเมล ในนั้นเขาแจ้งแผนการไปสองสามอย่าง พอลบร่องรอยการใช้งานออกจากเครื่องของนักเรียนพยาบาลสาวแล้ว แสนก็ทำเป็นนอนหลับไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

หลังจากจบภารกิจที่โรงพยาบาล แสนก็ได้รับการผ่าเฝือกออก เขาสัมผัสได้ถึงความเป็นอิสระที่ขาดหายไปนาน ไม่อยากเชื่อว่าแค่การขยับร่างกายได้ตามใจคิดจะรู้สึกดีขนาดนี้ แต่จะดียิ่งขึ้นไปอีกถ้าปราบและสารวัตรทำตามแผนการที่เขาส่งไปให้เร็วๆ แสนก้มหน้าเดินตามลูกขุนที่มารับไม่กล้าสบตาใครในโรงพยาบาลที่อาจจะจำหน้าเขาได้ เขาคงจะไม่มายุ่งเกี่ยวกับนักเรียนพยาบาลอีกไม่ว่าจะรุ่นนี้หรือรุ่นไหนตราบเท่าที่คลิปวิดีโอชุดนั้นยังถูกวนเวียนใช้เป็นสื่อการสอนในคณะพยาบาลแห่งนี้

เวหาไม่แน่ใจว่าหลังจากภารกิจที่โรงพยาบาลแล้วแสนถูกส่งไปทำอะไรต่อ ช่วงนั้นกำลังเข้าสู่ฤดูการสอบไฟนอลของเทอมต้นพอดี ลูกขุนทุกคนต่างก็ต้องไปทำหน้าที่ในฐานะนักศึกษาของตัวเอง ชายสวมหมวกกันน็อกสั่งมาอย่างชัดเจนว่าให้แสนพักการเรียนสำหรับเทอมนี้และเทอมหน้าไปเลย เป็นอันว่าประธานรุ่นปีสี่คงไม่มีโอกาสรับปริญญาพร้อมกับเพื่อนๆ

ที่ประชุมลูกขุนตกลงกันว่า ในช่วงสอบซึ่งกินเวลาประมาณสามสัปดาห์ จะส่งแสนไปทำงานที่ไม่ต้องมีลูกขุนตามไปคุม และต้องเป็นที่ๆ จะหลบหนีหรือติดต่อกับคนอื่นก็ไม่ได้ ในตอนนั้นยังคิดกันไม่ออก แต่พอวันรุ่งขึ้นก็ได้ข่าวว่าแสนถูกนำตัวไปแล้ว เวหาที่กำลังยุ่งๆ กับการเตรียมสอบไฟนอลครั้งแรกก็ไม่ได้ตามต่อ ที่สำคัญคือเขากำลังติวหนังสือสอบกับบัสจนไม่สนใจเรื่องอื่น

ตั้งแต่ที่แทนนักร้องดังมาทำธุระที่จังหวัดนี้ในช่วงกีฬาเกียร์สัมพันธ์ กันต์รูมเมทของเวหาก็ขอออกย้ายออกไปอยู่ข้างนอกกับแทนชั่วคราว เห็นว่ามีเรื่องสำคัญที่ต้องไปช่วย จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ย้ายกลับเข้ามา เวหาเลยถือโอกาสขอให้บัสมาค้างด้วยเพื่อติวบางวิชาให้โดยใช้บุญคุณตอนเกียร์เกมส์ ทีแรกเรื่องติวเป็นแค่ข้ออ้าง แต่ไปๆ มาๆ ก็ติดใจ บัสเก่งมากสมคำร่ำลือ วิชาการแน่นเป๊ะ ขนาดวิชาพื้นฐานนอกคณะก็ยังสอนเข้าใจกว่าอาจารย์เสียอีก เทพขนาดนี้ไม่รู้ทำไมถึงตัดสินใจมาหมกตัวอยู่มหาลัยต่างจังหวัด

เนื้อหาแน่น อธิบายเข้าใจง่าย หน้าตาชวนมอง น้ำเสียงดึงดูด เลยทำให้เวหาเสพติดการติวของบัสจนไม่ยอมปล่อยให้เจ้าตัวไปไหน บัสก็ไม่ได้ขัดข้องเพราะถือว่าตอบแทนที่เวหาช่วยรักษาธงคณะไว้ได้ ช่วงก่อนสอบ ไม่บัสไปค้างที่หอในของเวหา อีกฝ่ายก็ไปค้างที่อพาร์ตเมนต์ของบัส หนุ่มรุ่นพี่ไม่รู้สึกอึดอัดที่มีรุ่นน้องเกาะติด เขายังทำตัวสบายเหมือนตอนอยู่คนเดียวไม่ว่าจะเป็นตอนอาบน้ำหรือเปลี่ยนเสื้อผ้าเพราะบัสถือว่าเวหาเคยเห็นแม้แต่ตอนเขาเอาผู้หญิงแล้ว จึงไม่ควรต้องอายอะไรกันอีก

“เดี๋ยวช่วงหัวค่ำนี้ เราอ่านหนังสือคนเดียวไปก่อนนะ พี่ขอเข้าไปในเมืองซะหน่อย คงเสร็จดึกๆ แล้วพี่คงจะเข้าไปนอนที่ห้องตัวเองเลยจะได้ไม่รบกวนเรา” บัสบอกเวหาหลังจากที่ติวหนังสือกันที่หอของเวหาจนเย็น เด็กหนุ่มขมวดคิ้วหลังจากได้ยิน

“พี่จะไปไหนอ่ะ”

“ก็ไปปลดปล่อยนิดหน่อย ช่วงสอบจริงคงไม่มีเวลา”

“พี่จะไปหากิ๊กเหรอ จะสอบอยู่แล้วนี่นะ ไปหาคนไหน น้องหมวยเล็กหรือว่าใคร”

“ก็ว่าช่วงค่ำจะไปหาหมวยเล็ก แล้วดึกๆ คงจะไปต่อกับริต้า เรากังวลเรื่องสอบก็ดีแล้ว อยู่อ่านหนังสือไป สองคนนี้เราก็เคยไปดูแล้วด้วย เที่ยวนี้ไม่ต้องไปหรอก”

“ทำไมพี่เป็นคนอย่างนี้วะ จะสอบอยู่แล้ว ยังมาหมกมุ่นเรื่องแบบนี้อีก โอเค พี่อาจจะถือว่าตัวเองเก่ง ยังไงก็ทำข้อสอบได้ แต่ไม่คิดว่ามันเป็นการดูถูกอาจารย์ในคณะบ้างเหรอ แล้วกิ๊กพี่สองคนนั่นเขาไม่ต้องสอบหรือไง เดี๋ยวก็ทำให้เขาเสียการเรียน ถึงจะไม่ใช่รุ่นน้องในมหาลัย แต่พี่ก็น่าจะคิดถึงอนาคตเขาบ้าง”

บัสดูจะงงกับอาการที่ไม่ค่อยพอใจของเวหาอยู่ไม่น้อย

“เกรี้ยวกราดทำไมเนี่ย ทำอย่างกับพี่จะไปข่มขืนเขา แค่คืนเดียวจะไปเสียการเรียนอะไร อีกอย่างสองคนนั้นก็โทรมาชวนพี่เอง”

“นั่นแหละ พี่ไปที พวกนั้นก็ตาลอยเอาแต่คิดถึงพี่ต่ออีกไม่รู้กี่วัน ช่วงสอบถ้าเงี่ยนก็ชักว่าวเอาสิ ใครๆ เขาก็ทำแบบนี้กัน”

“มันไม่เหมือนกัน แค่อารมณ์ก็ไม่ได้แล้ว ในห้องน้ำมันแฉะๆ พี่ไม่ชอบ”

“ชักในห้องตอนนี้เลยก็ได้ ผมไม่ถือ เดี๋ยวผมเอาแมคบุ๊คมาเปิดหนังให้ พี่ชอบแบบไหน”

“แนวญี่ปุ่น ขาวๆ แบบเต็มไม้เต็มมือ เฮ้ย แต่พี่ว่ามันน่าเกลียดว่ะ ถ้าเราคิดว่าพี่ไม่ควรไปหาสองคนนั้น เดี๋ยวพี่ไปทำในห้องน้ำดีกว่า”

“น่าเกลียดอะไร วิ่งแก้ผ้าด้วยกันก็ทำมาแล้ว ตอนพี่เอาหญิงผมก็ไปดูไม่รู้ตั้งกี่ครั้ง ไปนอนรอบนเตียงได้เลย เดี๋ยวผมเลือกแบบไม่มีเซ็นเซอร์ให้ ชอบขาวๆ ใช่ไหม”

บัสทอดตัวกึ่งนั่งกึ่งนอนรอบนเตียงอย่างงงๆ ไม่นานเด็กหนุ่มก็มานอนข้างๆ เอาแมคบุ๊คที่เปิดหนังเอวีวางไว้บนหน้าท้องตัวเอง พร้อมกับเอากล้องทิชชูมาวางข้างๆ อย่างเตรียมพร้อม

“เข้ามาใกล้ๆ สิพี่ ดูด้วยกัน”

เวหาไม่พูดเปล่า เขาควักท่อนควยขนาดมหึมาของตัวเองขึ้นมาสาวช้าๆ ต่อหน้าหนุ่มรุ่นพี่ไปด้วยจนมันเริ่มแข็งตัว บัสทราบดีถึงขนาดอันไม่ปกติของเวหาแต่ไม่มีครั้งไหนเลยที่เขาจะเห็นมันอย่างถนัดตาในสภาพตื่นตัวแบบนี้ ควยของหนุ่มรุ่นน้องยาวขึ้นมาจนเลยสะดือ ความอวบใหญ่ที่สมส่วนกับความยาวทำให้ดูเหมือนลำแขนของคนผอมๆ มากกว่าที่จะเป็นอวัยวะที่ใช้สอดใส่เข้าไปในของสงวนอันบอบบางของผู้หญิง ขนาดกิ๊กของเขาที่ช่ำชองไม่น้อยเห็นเข้ายังหน้าเสียไม่กล้าลองของอย่างที่ปากพูดตอนแรก ในฐานะผู้ชายด้วยกัน บัสก็อดรู้สึกน้อยหน้าไม่ได้ นอกจากความอลังการแล้ว ควยของเวหายังสีขาวอมชมพูแถมยังรูปร่างตรงสวยส่วนหัวได้รูปทรงยังกับควยดาราหนังโป๊ฝรั่ง

“พี่ก็รีบเอาออกมาชักไปด้วยสิ ไหนว่าเงี่ยนไง ขนาดนี้ไม่ต้องอายอะไรกันแล้ว”

บัสไม่ใช่คนขี้อายอะไรไม่งั้นคงไม่กล้าไปวิ่งแก้ผ้าต่อหน้าคนทั้งมหาลัย เขาเคยเรียนโรงเรียนประจำมาก่อนเรื่องแบบนี้มันธรรมดามาก ชายหนุ่มควักควยที่เคยภูมิใจว่าไม่แพ้ใครออกมาบ้าง แต่พอเทียบกันจะๆ แล้วก็ต้องยอมรับว่าสู้ของเวหาไม่ได้แม้แต่น้อย บัสพยายามไม่ใส่ใจกับความรู้สึกที่เหมือนโดนหยามโดยหันไปดื่มด่ำกับนางเอกเอวีหน้าตาน่ารักที่ผิวขาวเนียนไปทั้งตัวอย่างที่เขาชอบ มือก็สาวควยขึ้นลงด้วยความเร็วที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนเริ่มหายใจเสียงดัง

“เอ่อ ผมยังไม่ได้ถามพี่เลยว่าทำไมถึงได้ไปวิ่งเปลือยกับผมวันนั้น”

บัสชะงักมือ ไม่รู้จะมาถามอะไรตอนเข้าด้ายเข้าเข็มแบบนี้ แต่ก็คิดว่าเป็นโอกาสดีที่จะอธิบายออกไป

“พี่ก็ไม่ได้เป็นโรคจิตชอบโชว์อะไรหรอกนะ บังเอิญรู้แผนของพี่แสนที่จะทำกับเรามา พี่คัดค้านแล้วไม่สำเร็จ ก็กลัวเราจะอายมากจนชิงลาออกจากมหาลัยไป ตอนนั้นพี่เสียดายรุ่นน้องอย่างเรานะ คะแนนสอบเข้าก็ดี กิจกรรมเด่น ท่าทางเป็นผู้นำ หน้าตาก็โอเค น่าจะทำอะไรให้คณะได้อีกเยอะ พี่เลยตัดสินใจไปวิ่งเป็นเพื่อน เราจะได้ไม่อายมาก แล้วก็ทำให้คนที่เห็นเดาได้ยากขึ้นด้วยว่าใครเป็นใคร”

“โห พี่ใจกล้ามาก ทำเพื่อผมขนาดนั้น มา เดี๋ยวผมช่วยชักให้ ตอบแทน”

“เฮ้ย ไม่ต้อง พี่ชักเองได้”

บัสส่งเสียงคัดค้านแต่ก็ไม่ทันมือใหญ่ขาวของเวหาที่กุมส่วนสงวนของตัวเองไปแทบจะในทันที ถึงจะเป็นการชักว่าวเหมือนกันแต่พอคนอื่นทำให้มันจะเสียวกว่าปกติ ยิ่งไม่ได้ทำเรื่องอย่างว่ามาหลายวันตั้งแต่เริ่มติว ความเสียวก็ทวีจนต้องส่งเสียงครางเบาๆ

ถึงจะปล่อยให้อีกฝ่ายรูดท่อนควยของตัวเองอย่างไม่หวงตัว แต่บัสก็เริ่มสงสัยแล้วว่าเวหาจะเป็นเกย์ เขาเหลือบมองดุ้นควยมหึมาของเด็กหนุ่มที่เจ้าตัวเอามืออีกข้างสาวขึ้นลงเป็นจังหวะเดียวกันแล้วก็นึกสยองในใจ หวังว่ามันคงจะไม่ได้หมายตาตูดของเขาไว้นะ ไม่งั้นต่อให้เอ็นดูในฐานะรุ่นน้องยังไง ถ้าจะรุกเขาแบบนั้นคงต้องถีบให้หงายเก๋ง

“พี่ไม่ช่วยผมหน่อยหรอ สลับกันไง” เวหาพูดเสียงอ้อนๆ ทำเอาบัสคอย่น ทำไปทำมาอาจจะเป็นอย่างที่เขาคิดจริงๆ ถ้าเวหามันเงี่ยนจนหน้ามืดขึ้นมา เขาจะสู้แรงได้หรือเปล่า บัสคิดว่าเขาควรจะทำให้หนุ่มรุ่นน้องน้ำแตกโดยเร็วเพื่อความปลอดภัย เขาไม่ได้ชื่นชอบแต่ก็ไม่ถึงกับจะขยะแขยงดุ้นควยของผู้ชายด้วยกันจนแตะไม่ได้ ตอนอยู่โรงเรียนประจำก็เคยจับของเพื่อนมาไม่รู้เท่าไหร่

หลังจากประเมินความเสี่ยงดีแล้ว บัสก็เอามือกุมลงไปบนดุ้นควยของเด็กหนุ่มรุ่นน้อง มันเต็มมือจนกำไม่รอบ กว่าจะสาวขึ้นลงจนสุดก็รู้สึกว่ากินระยะทางมากกว่าของตัวเองเป็นไหนๆ เกิดมาเป็นคนควยโคตรใหญ่มันให้ความรู้สึกแบบนี้นี่เอง บัสชักดุ้นควยขนาดยักษ์พร้อมกับสังเกตด้วยความสนใจ แต่แล้วก็นึกได้ว่าควรจะเร่งมือให้เสร็จๆ เผื่อเวหาเป็นเกย์จริงๆ จะได้ปลดเปลื้องอารมณ์หื่นออกไปก่อนที่จะคิดการใหญ่กับเขา

พอบัสเร่งมือ เวหาก็ปรับจังหวะในการสาวควยของรุ่นพี่ไปด้วยเหมือนจะแข่งกัน แต่บัสก็ชนะไปอย่างง่ายดายเพราะหลังจากนั้นไม่กี่อึดใจ เวหาก็เกร็งไปทั้งตัวจนกระตุกเบาๆ แล้วก็พ่นน้ำออกมามากมายอย่างที่บัสไม่เคยเจอมาก่อน เสียงเด็กหนุ่มร้องลั่นราวกับได้เย็ดจนถึงสวรรค์จริงๆ ทั้งๆ ที่เป็นแค่การชักว่าวเท่านั้นทำให้บัสรู้สึกเสียวตามไปด้วยอย่างน่าแปลกใจ เวหาเกร็งมือจนจิกลงไปในท่อนเนื้อของวิศวะรุ่นพี่แต่นั่นกลับทำให้ความเสียวของบัสเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ ทั้งภาพเสียงกลิ่นและความเหนอะหนะเปียกชุ่มจากน้ำเชื้อของเวหาในอุ้งมือ ทำให้บัสถึงจุดสุดยอดตามกันไปในเวลาไม่นานนัก

หลังจากความเงี่ยนถูกปลดปล่อยไป บัสที่นอนหอบน้ำว่าวเต็มตัวอยู่ข้างๆ เวหาที่อยู่ในสภาพไม่ต่างกัน ก็เอ่ยปากถามสิ่งที่คาใจอยู่

“พี่ถามจริงๆ เราเป็นเกย์หรือเปล่านี่”

เวหาทำสีหน้าบอกไม่ถูกอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็หัวเราะลั่น

“ฮ่าๆ แค่ผลัดกันชักว่าวนี่ พี่ถึงกับคิดมากเลยเหรอ เกย์อะไรล่ะพี่ ตอนมัธยมผู้ชายมาจีบผมเยอะแยะ จะแนวหล่อ แนวน่ารัก มีหมด บางคนนี่เป็นดาราวัยรุ่นเลยนะ ถ้าผมจะเป็นเกย์ ก็คงจะเป็นไปนานแล้ว ผมยืนยันกับพี่ได้เลยนะ ว่าตอนมัธยมผมไม่เคยสนใจหรือคิดอะไรกับผู้ชายคนไหนซักนิด อย่าว่าจะคบเป็นแฟนเลย”

บัสเห็นท่าทางแข็งขันจริงจังของเวหาก็เบาใจ ยิ่งเป็นน้องในคณะวิศวะที่ผ่านเรื่องต่างๆ กันมาเขาก็ยิ่งเชื่อใจ

“อ้าวเหรอ โทษที พี่เห็นเราดูนัวเนียๆ เลยคิดเพ้อเจ้อไปเรื่อย ไม่ได้เป็นก็ดีแล้ว หล่อๆ อย่างเราน่าเสียดาย ที่พูดงี้ไม่ได้หมายความว่าพี่รังเกียจเกย์นะ ที่ถามเพราะเผื่อเราเป็นเกย์ แล้วพี่เป็นผู้ชายแท้ๆ มาเล่นถึงเนื้อถึงตัวเดี๋ยวจะคิดมาก”

“พี่นั่นแหละคิดมาก ผู้ชายแมนๆ เขาไม่คิดเล็กคิดน้อยแบบนี้หรอก ป่ะ ไปอาบน้ำล้างตัวพร้อมกันเลยดีกว่า จะได้รีบมาติวหนังสือต่อ”

เวหาเอามือเปื้อนน้ำว่าวมาโอบไหล่บัสเพื่อพาไปห้องน้ำด้วยท่าทางแมนสุดๆ หนุ่มรุ่นพี่รู้สึกแปลกๆ อยู่บ้างที่ต้องไปอาบน้ำด้วยกันในห้องแคบๆ แต่ก็ไม่อยากถูกมองว่าคิดเล็กคิดน้อยจึงปล่อยเลยตามเลยไป

ขณะที่กำลังถูสบู่อยู่ เวหาก็ถามขึ้นอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย

“พี่รู้เปล่าว่าแม่ผมเป็นคนเหนือนะ”

“เหรอ” บัสตอบไปอย่างอัตโนมัติ ไม่เข้าใจว่าอยู่ๆ อีกฝ่ายเล่าเรื่องแม่ขึ้นมาทำไม

“ใช่ แม่ผมเป็นคนเหนือ ขาวมากเลย ใครๆ ก็บอกว่าผมได้ผิวแม่มา พี่ว่าผมขาวเปล่า”

บัสมองรุ่นน้องที่ยืนเปลือยกายอยู่ข้างๆ กำลังเอาฝักบัวล้างฟองสบู่ออกจนเห็นผิวขาวเนียนและหัวนมสีชมพู สายน้ำที่ไหลลงมาทำให้เส้นหมอยลู่เป็นสายไปข้างๆ เผยให้เห็นดุ้นเนื้อสีขาวโพลนขนาดมหึมาที่ดูกี่ทีก็ยังน่าเกรงขามสำหรับเขา

“ก็ขาวนะ ยิ่งเป็นผู้ชายด้วย ขนาดนี้ต้องถือว่าขาวมาก”

“พอดีผมชอบเล่นกีฬาในร่มด้วยไง พวกเทควันโด้ เลยไม่ค่อยโดนแดด นี่ดำลงไปหน่อยแล้วตั้งแต่ช่วงเกียร์เกมส์ กว่าจะสอบเสร็จคงกลับมาขาวเหมือนเดิม พี่ว่าดีไหม”

“ก็ดีมั้ง” บัสตอบงงๆ ไม่รู้ว่าเวหาจะมาอะไรเรื่องความขาวของตัวเองมากมาย ก่อนหน้านี้ที่ต้องทำกิจกรรมในงานเกียร์เกมส์ในฐานะเดือนคณะ ก็ไม่เห็นว่าจะมีท่าทีกลัวแดดกลัวดำสักนิด สต๊าฟที่ดูเรื่องเสื้อผ้าหน้าผมบอกให้ทาครีมกันแดดก็บอกขี้เกียจทา

นายกเทศมนตรีเดินทางมาถึงบ้านพักด้วยความอ่อนล้า การงานที่ว่าหนักยังไม่เท่ากับความทรมานที่ลูกชายคนเดียวต้องโดนลงโทษอย่างหนักโดยคนเป็นพ่อช่วยอะไรไม่ได้เลย เขาเดินตามคนขับรถที่กำลังเอากระเป๋าเอกสารไปเก็บในบ้านแต่ก็ต้องชะงักเมื่อเห็นเงาตะคุ่มยืนแอบอยู่ตรงประตูบ้าน

“ใคร? อ้าว ปราบเองหรือ มาหาแม่นวลล่ะสิ แม่เราเขาไม่ได้บอกเหรอว่าเขาลากลับไปเยี่ยมหลานตั้งแต่เมื่อวานแล้ว กลับอีกทีก็คงพรุ่งนี้เย็นๆ” นายกเทศมนตรีทักขึ้นเมื่อจำได้ว่าชายหนุ่มหน้าตาดีที่ยืนอยู่คือลูกชายของแม่บ้านที่เขาให้ความเมตตาเนื่องจากเป็นเด็กเอาถ่านและได้ช่วยค่าใช้จ่ายในการเรียนอยู่เรื่อยมา เขาเห็นอีกฝ่ายตั้งแต่ยังแบเบาะก็จริงแต่ก็ไม่ได้มีโอกาสเจอกันบ่อยนักเพราะปราบถูกเลี้ยงดูที่บ้านต่างจังหวัดของแม่นมลูกชายเขา แต่ทุกครั้งที่ได้เจอหรือทราบข่าว นายกเทศมนตรีก็มีแต่ความเอ็นดูชื่นชมให้กับเด็กน้อยที่ค่อยๆ เติบโตขึ้นมาเป็นชายหนุ่มกตัญญูที่เพียบพร้อมไปทั้งด้านการเรียนกิจกรรมกีฬาและรูปลักษณ์ทั้งๆ ที่ฐานะทางบ้านก็ไม่ได้สมบูรณ์นัก

ปราบยกมือไหว้อีกฝ่ายอย่างนอบน้อม

“เปล่าครับ ผมตั้งใจมาเรียนพบคุณท่านเอง”

“หือ มีอะไรล่ะ เข้ามาคุยในบ้านก่อนสิ แล้วบอกกี่ทีแล้วว่าให้เรียกลุง ฉันไม่ใช่คนเจ้ายศเจ้าอย่างอะไร”

“มิได้หรอกครับ คุณท่านเป็นเจ้านาย เป็นผู้มีพระคุณ มันไม่เหมาะ ขอนุญาตเข้าเรื่องเลยนะครับ จะได้ไม่รบกวนเวลาคุณท่านนาน คือผมติดต่อคุณแสนไม่ได้มาพักใหญ่แล้ว ทีแรกก็คิดว่าอาจจะมีธุระหรือไปเที่ยวที่ไหน ผมไม่กล้าละลาบละล้วงเรื่องส่วนตัวของคุณเขาหรอก แต่วันนี้วิศวะเริ่มสอบวันแรก คุณแสนก็ไม่ได้เข้าสอบด้วย พอทราบแน่ชัดก็ร้อนใจ เลยมาเรียนคุณท่านนี่แหละ เผื่อมีอะไรไม่ชอบมาพากล” ปราบเล่าเรื่องด้วยสีหน้าร้อนรน นายกเทศมนตรีหลับตาลงอย่างสะเทือนใจเมื่อทราบชะตากรรมของแสนกับหูตัวเอง แต่ประสบการณ์ของนักการเมืองท้องถิ่นที่พบปะทำงานกับผู้คนมาแล้วมากมาย บอกได้ว่าสิ่งที่หนุ่มรุ่นลูกเล่ายังไม่ใช่เรื่องทั้งหมด ยิ่งเมื่อประติดประต่อข้อมูลจากแฟ้มความผิดของแสนที่เขาได้มา นายกเทศมนตรีก็นึกขึ้นได้ว่าปราบเองมีส่วนเกี่ยวข้องอยู่ไม่น้อย

“เธอรู้อะไรมามากกว่าที่บอกใช่ไหม เล่ามาเถอะ ฉันเองก็พอจะรู้สถานะของแสนอยู่บ้างแล้ว”

ปราบมีสีหน้าลังเลก่อนจะตอบผู้สูงวัยกว่าออกไป

“จริงๆ คือผมได้รับอีเมลมาจากคุณแสนน่ะครับ มีรายละเอียดคร่าวๆ ว่าตอนนี้กำลังอยู่ในสภาวะลำบาก ถูกคนกลุ่มหนึ่งจับตัวไปล้างแค้น ผมกำลังหาทางช่วยอยู่ คุณท่านก็ทราบเรื่องนี้ด้วยหรือครับ”

“ฉันพอจะรู้เรื่องมาบ้างแล้ว รวมถึงเรื่องที่เธอกับแสนร่วมมือกันเมื่อสองปีก่อน จริงๆ เธอไม่ได้ตั้งใจจะเข้าคณะเกษตรใช่ไหม แต่เป็นเพราะลูกชายของฉันสั่ง เธอเลยต้องเข้าไปช่วยเขาทำเรื่องไม่ดี”

“คุณท่านทราบ?”

“ขอโทษจริงๆ นะที่ทำให้เธอไม่ได้เรียนอย่างที่ตั้งใจไว้ ตอนนั้นฉันก็แปลกใจอยู่เพราะเห็นแม่นวลเคยบอกว่าเธอขยันมากเพราะอยากเป็นหมอ พอมารู้อีกทีเธอก็เข้าคณะเกษตรไปแล้ว”

“มิได้ครับ พอเรียนๆ ไปผมก็ชอบคณะนี้มาก เรื่องการเกษตรเป็นอะไรที่บ้านเรายังพัฒนาได้อีกเยอะ ผมสิเป็นฝ่ายที่ต้องขออภัยที่ดูแลคุณแสนไม่ได้ แต่ผมสัญญาครับว่าผมจะช่วยคุณแสนออกมาให้ได้ ไม่ว่าจะต้องแลกมาด้วยอะไรก็ตาม เพียงแต่อาจจะต้องขอรบกวนเส้นสายของคุณท่านในบางเรื่อง ทางโน้นผนึกกำลังกันแน่นมากจนเกินกำลังผม แล้วก็มีเรื่องผับของคุณแสนที่ฝากผมดูแลอยู่ด้วย”

“นี่ถึงกับไปเปิดผับเลยหรือ ฉันขอสั่งให้เธอเลิกยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ทันที อีกฝ่ายเขามีข้อมูลหลักฐานทั้งหมด แถมมีคนมีอำนาจหนุนหลัง เราทำอะไรไม่ได้หรอก ถึงยังไงแสนก็ทำความผิดมาจริงๆ ก็ให้เขารับโทษไป ฉันไม่อยากให้ทางนั้นพุ่งเป้ามาที่เธอด้วย เพราะเธอก็ไม่ใช่คนที่จะทำอะไรแบบนั้นถ้าไม่ใช่เพราะแสนสั่ง เธอยังต้องเป็นที่พึ่งของครอบครัวต่อไปนะปราบ ฉันไม่อยากให้เธอต้องมาพัวพันกับความผิดของแสน”

“แต่ถ้าปล่อยไว้แบบนี้ คุณแสนจะแย่เอานะครับ คุณท่านไม่ต้องห่วงผม ผมทำได้ทุกอย่างเพื่อตอบแทนบุญคุณของคุณท่าน ต่อให้ครอบครัวผมจะโดนกระทบไปบ้าง ทุกคนคงเข้าใจ”

“ถ้าคิดว่าฉันมีบุญคุณอย่างที่ว่าก็ขอให้ทำตามที่ฉันบอกนะปราบ เลิกคิดที่จะไปช่วยแสน ส่วนเรื่องผับส่งรายละเอียดมาแล้วกัน ฉันจะดูว่าจะทำยังไง แล้วที่เธอพูดมานะผิดนะ จริงอยู่ที่บุญคุณของคนอื่นเมื่อมีโอกาสก็ต้องตอบแทน แต่ครอบครัวน่ะสำคัญที่สุด และเป็นคนที่เธอจะต้องตอบแทนบุญคุณและดูแลพวกเขาก่อน ฉันต้องขออโหสิในสิ่งแสนเคยทำไว้กับเธอด้วยนะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม ถ้าจะโทษใครก็คงเป็นที่ฉันเองที่ไม่เคยมีเวลาให้กับลูก”

“ผมไม่เคยแค้นเคืองในสิ่งที่คุณแสนทำไว้กับผมเลยครับ ไม่ว่าเรื่องอะไร หรือคนอื่นจะมองว่ามันเลวร้ายแค่ไหน ส่วนคำที่คุณท่านสอนไว้ว่าครอบครัวสำคัญที่สุด ผมจะจำใส่ใจไว้ครับ”

ปราบทิ้งท้ายด้วยใบหน้าหมองหม่นก่อนจะขอตัวกลับไป ทิ้งความรู้สึกสงสารและไม่สบายใจไว้กับประมุขของบ้าน

จากที่คิดว่าจะมาอยู่ที่จังหวัดแห่งนี้แค่ช่วงงานกีฬาเกียร์เกมส์เพื่อสืบเรื่องอะไรบางอย่าง ปรากฏว่าข้อมูลที่ได้ทำให้นักร้องดังอย่างแทน ต้องไปๆ มาๆ ระหว่างที่นี่กับกรุงเทพอย่างต่อเนื่อง ยิ่งพอสอบไฟนอลจบลง แทนก็แทบจะมาอยู่ประจำถึงกับเช่าคอนโดหรูเอาไว้ ส่วนงานในวงการบันเทิงก็ถือโอกาสพักยาวไปเลย

ในขณะที่แทนเรียนอยู่ปีสี่แล้ว กันต์เพื่อนสนิทของแทนยังเพิ่งเรียนอยู่ปีหนึ่งคณะเภสัชเนื่องจากหยุดเรียนไปตอนมอปลาย แม้ว่าจะเรียนต่างปีต่างมหาลัยแถมอยู่คนละจังหวัดกัน แต่ความสัมพันธ์ก็ยังเหนียวแน่นเหมือนเดิม แทนและกันต์ประสบชะตากรรมเลวร้ายในสมัยมัธยมมาด้วยกัน ทั้งคู่ถูกล่อลวงโดยครอบครัวของเจฟฟรี่ย์หนุ่มลูกครึ่งซึ่งเป็นเพื่อนที่โรงเรียนให้กลายเป็นสินค้าทางเพศที่สร้างเม็ดเงินให้กับพ่อของเจฟหรือแด๊ดอย่างมหาศาล ยากล่อมประสาทจำนวนมากถูกใช้กับกันต์อย่างต่อเนื่องหลายปีจนปัจจุบันการรับรู้ผิดชอบชั่วดีในเรื่องทางเพศของกันต์ยังไม่กลับมาเป็นปกติ ในขณะที่แทนโชคดีกว่าที่รู้ตัวก่อนที่จะถลำลึกและหลบหนีไปจนถึงอเมริกาได้สำเร็จ แต่การล้างแค้นก่อนไปของแทนโดยการข่มขืนน้องสาวของเจฟจนท้องกลับกลายเป็นบ่วงที่มัดตัวแทนให้ต้องกลับมาอยู่กับครอบครัวนี้อีกครั้ง เขาไม่สามารถตัดใจทิ้งลูกชายฝาแฝดของตัวเองให้ถูกเลี้ยงดูฝ่ายเดียวโดยครอบครัววิปริตนี้ได้ หลังจากกลับมา แทนในฐานะลูกเขยและพ่อของเด็กแฝดมีสถานะที่ดีขึ้นในบ้านหลังนั้น ในขณะที่กันต์เพื่อนเขายังคงตกอยู่ในสภาพทาสกามที่ถูกมอมยาจนพร้อมที่จะทำตามเรื่องอุบาทว์ลามกทุกรูปแบบอย่างเต็มใจเหมือนเดิม

แม้แทนจะถูกนับเป็นคนในครอบครัว แต่เขายังมีหน้าที่ที่จะต้องหาเงินจำนวนมากให้กับแด๊ดในแต่ละเดือนเพื่อรักษาสถานะนั้นเอาไว้ แทนต้องกลับไปรับงานบริการทางเพศในรูปแบบต่างๆ กับคนในสังคมชั้นสูงเหมือนเดิมเพราะไม่มีทางอื่นที่เด็กที่เพิ่งจบมอปลายจะหาเงินขนาดนั้นได้ แต่ยังดีที่แทนสามารถเลือกลูกค้าที่จ่ายดีแต่ไม่วิปริตมากนักได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งลูกค้าเก่าที่ติดใจกันมาก่อน ในขณะที่กันต์ในสภาพทาสต้องรับงานทุกอย่างที่แด๊ดได้มาโดยไม่มีโอกาสปฏิเสธ แต่แทนที่มีลูกแฝดและเพื่อนผู้น่าสงสารเป็นแรงผลักดัน ก็หาหนทางที่จะทำเงินมหาศาลโดยเปลืองร่างกายให้น้อยที่สุดได้สำเร็จ

แทนเริ่มจากการยื่นผลการเรียนเพื่อสมัครเข้าคณะนิเทศศาสตร์ภาคอินเตอร์ของมหาลัยชื่อดัง แค่เอาร่างกายไปปรนเปรออาจารย์ในคณะสองสามครั้ง คะแนนที่ไม่ถึงกับโดดเด่นนักก็ไม่ใช่ปัญหาในการเข้าเรียน หลังจากนั้นเขาก็เอาโปรไฟล์เด็กนอกที่กลับมาเข้ามหาลัยดังไปสมัครรายการประกวดร้องเพลงเรียลลิตี้ฟอร์มยักษ์อย่างไทยแลนด์สตาร์แฟคเตอร์ แทนใช้สมบัติที่ติดตัวมาทั้งด้านหน้าด้านหลังสร้างความอิ่มเอมทางเพศให้กับทั้งกรรมการ สปอนเซอร์ และผู้ใหญ่ในรายการ ทุกคนต่างสนับสนุนเขาจนเข้ามาถึงรอบลึกๆ ในช่วงท้ายแม้แต่คู่แข่งก็ถูกทำให้กลายมาเป็นเซ็กส์เฟรนด์ยอมออมมือให้จนแทนครองตำแหน่งผู้ชนะในที่สุด เด็กหนุ่มทำทุกวิถีทางโดยไม่นึกละอายหรือรู้สึกผิดแต่อย่างไร การตกอยู่ในสภาพสินค้าทางเพศของแด๊ดในอดีตทำให้เขาถูกผู้ใหญ่หาประโยชน์อย่างน่าสมเพชขยะแขยงมามากกว่านี้นัก แล้วทำไมเขาจะใช้เรื่องนี้มาสร้างความก้าวหน้าให้กับตัวเองบ้างไม่ได้

ลูกค้าเก่าๆ ของแทนซึ่งเป็นผู้มีอิทธิพลในวงการต่างๆ ก็มีส่วนช่วยสนับสนุนต่อยอดให้แทนก้าวขึ้นมาจากผู้ชนะการประกวดกลายเป็นนักร้องนักแสดงดาวรุ่งที่มีชื่อเสียงมากขึ้นทุกที ยิ่งดังเขาก็ยิ่งเรียกค่าตัวได้เยอะ ค่าตอบแทนในงานร้องงานแสดงหรือออกอีเวนท์ต่างๆ ก็จัดว่าสูงเป็นอันดับต้นๆ ในหมู่ศิลปินรุ่นใหม่อยู่แล้ว แต่งานบนเตียงกลับได้เงินมากเป็นหลายเท่า ไม่ว่าใครก็อยากลิ้มลองบริการทางเพศที่นักร้องหนุ่มชื่อดังพร้อมจะปรนเปรอเซ็กส์ให้อย่างไม่หวงเนื้อหวงตัวและไม่เกี่ยงรูปแบบ แทนใช้ร่างกายตัวเองเพื่อไต่เต้าอย่างเต็มที่ บางครั้งก็เพื่อเงิน บางครั้งก็เพื่อโอกาส และหลายๆ ครั้งก็เพื่อเครือข่ายอำนาจ

ยิ่งแทนหาเงินและสร้างเส้นสายอิทธิพลได้มากเท่าไหร่ เขาก็เป็นที่เอ็นดูของแด๊ดมากขึ้นเท่านั้น หลังจากรับงานทั้งในวงการและงานบนเตียงอย่างหนัก แทนก็ใช้เงินซื้อตำแหน่งในครอบครัวที่เหนือกว่าเจฟได้ ถึงแม้เจฟจะเป็นลูกชายแท้ๆ ของแด๊ด แต่แด๊ดก็สนใจความสามารถในการหาเงินมากกว่า เจฟที่ยังใช้วิธีการเดิมๆ อย่างการล่อลวงหรือมอมยาเพื่อนๆ ในมหาลัยให้กลายเป็นสินค้าทางเพศหาเงินสู้แทนไม่ได้แม้แต่น้อย ถึงเพื่อนของเจฟจะหน้าตาดี แต่ถ้าเทียบกับแทนที่มีดีกรีเป็นถึงนักร้องที่กำลังดัง ลูกค้าพร้อมที่จะจ่ายเงินค่าตัวให้แทนมากกว่าเป็นหลายสิบเท่า ตั้งแต่นั้นเจฟต้องทำตามคำสั่งของแทนซึ่งมีแด๊ดหนุนหลังอีกที หนุ่มลูกครึ่งกลายเป็นของเล่นทางเพศตามแต่ที่แทนจะพอใจ นับว่าเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดคนนี้คือรายแรกที่แทนสามารถแค้นได้สำเร็จ

แต่สำหรับกันต์แล้วมันไม่ง่ายอย่างนั้น กันต์มีชื่อเสียงในกลุ่มเกย์ไปทั่วโลกจากผลงานหนังโป๊ถึงไส้ที่มีมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่มอต้น ความใจกล้าที่เกิดจากการถูกมอมยามานานจนสติบางส่วนเสียหายทำให้เด็กหนุ่มสามารถรองรับเซ็กส์ได้ทุกรูปแบบไม่ว่าจะดิบเถื่อนชวนขยะแขยงหรือน่าอับอายขนาดไหนก็ตาม ค่าไถ่ตัวของกันต์ผู้สามารถสร้างผลประโยชน์จำนวนมากให้กับแด๊ดจึงถูกตั้งไว้สูงลิ่ว แทนต้องใช้เวลาหลังจากนั้นเป็นปีจึงจะสามารถเก็บเงินจำนวนมหาศาลมาไถ่ตัวได้ หนุ่มนักร้องชื่อดังพาเพื่อนไปทำการรักษาอาการที่ผิดปกติไปจากการถูกมอมยามาอย่างต่อเนื่องจนอาการดีขึ้น กันต์กลับมาเรียนเนื้อหาของมอปลายจนสอบเทียบได้ แต่การหาที่เรียนต่อในระดับมหาลัยไม่ง่ายอย่างนั้น มีเกย์จำนวนมากที่รู้จักหน้าค่าของกันต์เป็นอย่างดีในฐานะนักแสดงหนังเกย์ชื่อดัง การสมัครเข้ามหาลัยแห่งแล้วแห่งเล่าถูกปฏิเสธโดยเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น แทนเข้าใจว่าสถาบันแต่ละแห่งคงต้องการรักษาชื่อเสียงของตัวเอง แต่ก็อดคิดว่ามันไม่เป็นธรรมกับคนที่ไม่มีทางเลือกในชีวิตอย่างกันต์เอาเสียเลย

ในที่สุดแทนก็มาเจอมหาลัยในต่างจังหวัดที่ไม่สนใจเรื่องในอดีตของนักศึกษา ยิ่งทราบว่าเป็นนโยบายมาตั้งแต่ต้นของอาจารย์ผู้ริเริ่มตั้งมหาลัยแห่งนี้เมื่อสิบกว่าปีก่อนก็นึกชื่นชมในวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลเกินยุคสมัย แม้จะไม่ได้จบมอปลายในโรงเรียนปกติ แต่คะแนนของกันต์ก็ดีพอที่จะเข้าเรียนต่อในคณะเภสัชตามที่หวัง แทนหวังว่าการมาอยู่ในสิ่งแวดล้อมใหม่จะทำให้อาการผิดปกติที่ยังหลงเหลืออยู่ของกันต์ค่อยๆ ดีขึ้น แต่ถึงอย่างนั้น เรื่องราวในอดีตก็ยังมีผลกระทบอยู่บ้าง การที่มหาลัยเปิดกว้างก็ไม่ได้หมายความว่าคนในมหาลัยจะเปิดกว้างไปด้วย แทนได้ทราบข่าวว่ากันต์ถูกปลดจากเดือนคณะจนต้องหาคนอื่นไปประกวดเดือนมหาลัยแทนเพราะมีรุ่นพี่ดอดไปเห็นวีดิโอที่กันต์ร่วมเพศกับนักแสดงผิวดำควยมโหฬารด้วยลีลาดดุเด็ดเผ็ดมันเข้า ไม่รวมที่ก่อนหน้านี้ก็มีรูมเมทไปรู้เรื่องที่กันต์เคยแสดงหนังโป๊เกย์จากที่ไหนไม่รู้เลยขอย้ายออกไปตั้งแต่เปิดเทอมใหม่ๆ ยังดีที่เวหารูมเมทอีกคนไม่มีท่าทีจะใส่ใจเรื่องนี้และดูเป็นคนดีพอที่แทนจะวางใจฝากฝังให้ช่วยดูแลเพื่อนสนิทของเขาได้

แต่ยิ่งเวลาผ่านไป แทนก็สังเกตได้จากการคุยผ่านวิดีโอคอลรวมทั้งข้อมูลจากเวหาว่าอาการของกันต์ไม่ได้ดีขึ้นแถมยังแย่ลงกว่าที่บำบัดมาใหม่ๆ กันต์ยังทำเรื่องน่าอายต่างๆ เป็นประจำโดยที่ไม่รู้สึกว่ามันเป็นสิ่งไม่สมควร ซ้ำร้ายเกิดเหตุการณ์ที่กันต์ถูกรุมข่มขืนทำรุนแรงทางเพศโดยที่จำเรื่องราวที่เกิดไม่ได้เลย แทนคิดว่าเรื่องนี้มันผิดปกติมากจนต้องพยายามเคลียร์งานเพื่อหาโอกาสมาสืบหาความจริงด้วยตัวเอง เวหารูมเมทของกันต์เคยให้เบาะแสว่าเรื่องนี้อาจเป็นฝีมือของนักศึกษาวิศวะปีสี่ที่ชื่อว่าแสนซึ่งมีเรื่องกับเวหาอยู่จนอาจจะลามมาถึงกันต์

แทนไปๆ มาๆ เพื่อสืบเรื่องนี้มาโดยตลอด บางครั้งที่ไม่มีคนที่ไว้ใจได้ดูแลลูกแฝดที่โน่นก็ต้องกระเตงเอามาทิ้งไว้ที่คอนโดแล้วเรียกกันต์ให้เข้าเลี้ยงขณะที่ตัวเองออกไปหาข้อมูลต่างๆ แทนไม่ไว้ใจที่จะให้แด๊ดกับเจฟอยู่กับเด็กทั้งคู่ถ้าเขาไม่อยู่ด้วย ต่อให้เป็นหลานแท้ๆ แต่กับคนอย่างแด๊ดที่ขายเจฟลูกตัวเองให้เขามาแล้ว แทนไม่กล้าเสี่ยง ยิ่งเด็กสองคนนี้คือบ่วงเพียงอย่างเดียวที่ทำให้เขาต้องจำใจอยู่กับครอบครัวนี้เพราะยังไม่ได้รับรองความเป็นพ่อตามกฎหมาย

หลังจากสอบไฟนอลเสร็จแทนก็กลับมาลุยเรื่องนี้ต่อ เขาเอาลูกชายฝาแฝดไปฝากไว้กับอบิเกลแม่ของเด็กทั้งคู่ที่ได้แยกออกไปอยู่กับตายายของตัวเองไม่ยุ่งเกี่ยวกับแด๊ดอีก เขาและอบิเกลกลายมาเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันหลังจากที่ได้อโหสิซึ่งกันและกันมาก่อนหน้านี้ วันนี้เขากำลังพากันต์ไปพบกับผู้ใหญ่ในพื้นที่ซึ่งเป็นผู้ช่วยเหลือเขาในการสืบเรื่องนี้มาโดยตลอด

แทนขับรถพาเพื่อนไปอีกจังหวัดที่อยู่ติดกันก่อนจะเลี้ยวเข้าไปในค่ายทหารขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง ค่ายแห่งนี้เป็นที่ตั้งของกองบัญชาการมณฑลทหารบกซึ่งทำหน้าที่ดูแลกำลังทหารในหลายจังหวัดซึ่งรวมถึงจังหวัดที่เป็นที่ตั้งของมหาลัยที่กันต์เรียนอยู่ด้วย ทหารรักษาการณ์ได้รับการประสานมาก่อนแล้ว จึงได้ขอให้จอดรถทิ้งไว้ก่อนจะเชิญทั้งคู่ขึ้นรถจี๊ปทหารเพื่อเดินทางสู่เขตหวงห้าม

รถจี๊ปวิ่งมาเป็นระยะทางไกลพอสมควร ผ่านสนามฝึก อาคาร และโรงนอนหลายหลัง มีกองทหารกำลังฝึกและวิ่งออกกำลังไปมาหลายชุด แทนสะดุดตากับพลทหารคนหนึ่งซึ่งโดดเด่นกว่าคนอื่นในกองที่กำลังวิ่งสวนรถจิ๊ปที่ชะลอความเร็วลง ทหารคนนั้นทั้งรูปร่างหน้าตาผิวพรรณดูมีชาติตระกูลผิดกับทหารคนอื่นที่ผิวคล้ำดูไม่มีราศีเท่า อายุก็ดูจะมากกว่าคนอื่นอยู่พอสมควร เสื้อยืดสีเขียวขี้ม้าที่สวมอยู่เล็กกว่าขนาดตัวมากรัดติ้วเห็นกล้ามอกและหัวนมเป็นเม็ดอย่างชัดเจน ชายเสื้อก็สั้นเต่อเลิกขึ้นโชว์ขนอุยที่สะดือและกล้ามหน้าท้องที่ชัดสวยราวกับผ่านโปรแกรมฝึกมาจากฟิตเนสราคาแพงในกรุงเทพ ในขณะที่เสื้อผ้าช่วงบนรัดติ้วจนไม่น่าหายใจออก กางเกงที่สวมอยู่กลับเอวหลวมโครกลงมาเกาะอยู่ที่สะโพกหมิ่นเหม่จะหลุดแหล่ไม่หลุดแหล่ ดูเหมือนเจ้าตัวพยายามวิ่งให้ขากางเพื่อจะประคองกางเกงไว้ไม่ให้ลงมากองกับพื้น พงหมอยที่ดำเป็นปื้นรวมถึงส่วนโคนของอวัยวะเพศอวบใหญ่ที่โผล่เกือบนิ้วทำให้แน่ใจได้ว่าทหารเกณฑ์นายนี้ไม่ได้นุ่งกางเกงในอย่างที่ควรจะเป็น

แม้ทหารเกณฑ์คนที่แทนมองอย่างสนใจจะดูมีราศีราวกันนายทหารก็ตาม แต่เห็นได้ชัดว่าเจ้าตัวตกเป็นตัวตลกของเพื่อนในกอง ในขณะที่ครูฝึกจะคอยตะคอกดุด่าถ้าทหารนายนั้นพยายามเอามือมาดึงกางเกงไว้ แต่กลับทำเป็นไม่ใส่ใจถ้าทหารคนอื่นในกองจะคอยเอามือแหย่ร่องตูดจากข้างหลังบ้าง หรือโดนแกล้งดึงหมอยจากคนข้างๆ บ้าง เป็นที่ขบขันทั้งของครูฝึกและเพื่อนทหาร ในขณะที่รถกำลังจะเคลื่อนตัวผ่านไป ครูฝึกก็สั่งให้ทุกคนทำความเคารพเพราะทราบว่าเป็นรถสำหรับแขกวีไอพี เมื่อต้องยืนชิดขาทำท่าตะเบ๊ะอย่างกระทันหัน ทหารเกณฑ์คนนั้นเผลอปล่อยให้กางเกงขาสั้นตัวหลวมไหลรูดลงมาจนหัวควยเกือบโผล่ เรียกเสียงหัวเราะดังลั่นจากทั้งกองร้อยจนครูฝึกต้องสั่งทำโทษ แทนมองตามจนเหลียวหลังแต่พอรถเลี้ยวโค้งไปตามถนนก็ไม่เห็นว่าเกิดอะไรขึ้นกับทหารเกณฑ์หล่อล่ำท่าทางดีคนนั้น

เมื่อมาถึงอาคารบัญชาการขนาดใหญ่ ทหารกองรักษาการณ์ก็นำทางแทนกับกันต์ขึ้นไปบนชั้นบนสุดซึ่งเป็นห้องพักรับรองซึ่งมีนายทหารวัยสี่สิบต้นๆ ท่าทางสง่าน่าเกรงขามรออยู่แล้ว

“สวัสดีครับท่าน ผบ. วันนี้ผมพาเพื่อนคนที่เคยขอให้ท่านช่วยมาด้วย จะได้รู้จักหน้าค่าตากันไว้”

“ฮ่ะฮ่า เรียกซะห่างเหินเลยนะ นึกถึงเมื่อก่อนตอนเราอยู่มัธยมยังเรียกว่าคุณอาอยู่เลย”

“ก็ตอนนั้นผมยังไม่ค่อยรู้เรื่องอะไร แถมเดี๋ยวนี้ท่านเป็นถึง ผบ.มณฑล แล้วนี่ครับ ข่าววงในก็ลือกันหนาหูว่าท่านถูกวางตัวที่จะเป็นแม่ทัพต่อไป”

“เรียกอาเหมือนเดิมน่ะดีแล้ว ว่าแต่ข่าวสายไหนล่ะ ออกมาจากปากของแทนนักร้องดังผู้เข้าถึงผู้หลักผู้ใหญ่ทุกวงการนี่ท่าทางจะแม่น แล้วนี่เหรอกันต์ หล่อจริง เคยเห็นแต่ในคลิป ตัวจริงนี่ดูดีมาก เผลอๆ ดีกว่านักร้องดังแถวนี้อีกนะ”

“คุณอาอ่า เดี๋ยวผมงอนนะ วันนี้อุตส่าห์ตั้งใจจะมาบริการถึงในค่าย”

“หือ จะจัดเลยเหรอ อาจะไหวเปล่าน้า อายุก็เยอะแล้ว”

“โห อายังหนุ่มพ้อ ยิ่งใส่เครื่องแบบนี่ยิ่งเท่ขาดใจ จริงเปล่าวะกันต์ คราวก่อนโน้นก็ทำเอาหนุ่มๆ อย่างผมเกือบตายไปแล้ว วันนี้แหละ ผมเลยเอากันต์มารุมล้างแค้น นี่พิเศษจริงๆ นะ ตั้งแต่ไถ่ตัวกันต์มาได้ผมก็ไม่ค่อยอยากให้มันทำงานแบบนี้แล้ว แต่ครั้งนี้ขอตอบแทนที่คุณอาช่วยเรื่องนี้อย่างเต็มที่ เอาให้น้ำหมดตัวกันก่อน แล้วค่อยมาคุยเรื่องแผนขั้นต่อไป วงการนั้นผมเจาะไม่เข้าจริงๆ แต่ใครๆ ก็บอกกันว่า ไม่มีอะไรที่ทหารไทยจะทำไม่ได้ ผมคงต้องขอรบกวนคุณอาอีกที”

“หึๆ เด็กร้ายกาจ แล้ววันนี้จะเอาแนวไหน จะรำลึกความหลังสมัยอาใช้บริการเราครั้งแรกๆ กันดีไหม”

นายทหารหนุ่มใหญ่นึกถึงความตื่นเต้นเสียวซ่านของเซ็กส์กับเด็กผู้ชายที่ได้สัมผัสเป็นครั้งแรกเมื่อหลายปีก่อน หลังจากความรักครั้งแรกกับหญิงสาวที่ไม่สมควรจะรักต้องจบลงอย่างน่าเศร้าตั้งแต่ช่วงต้นของชีวิตวัยหนุ่ม เขาก็ทุ่มเทกับงานและมีความสัมพันธ์แบบฉาบฉวยกับผู้หญิงจำนวนมากจนถึงจุดอิ่มตัวในช่วงปลายสามสิบ เพื่อนฝูงในสังคมระดับสูงด้วยกันจึงแนะนำให้เขาทดลองอะไรที่แปลกใหม่อย่างเด็กหนุ่มรูปหล่อผิวสีแทนจนติดใจมาถึงทุกวันนี้

“ลีลาเด็กๆ แบบนั้นมันน่าเบื่อครับ เดี๋ยวผมเริ่มจากร้องเพลงที่กำลังฮิตของผมให้คุณอาก่อนดีกว่า แล้วมาเล่นแนวพลทหารกับครูฝึกกัน เมื่อกี๊นั่งรถเข้ามา ผมเห็นพลทหารท่าทางดูดีคนนึงเหมือนถูกแกล้ง น่าสนุกดี”

“คนที่หล่อๆ ดูไม่เหมือนทหารชั้นประทวนสินะ ถ้าเราอยากดูอะไรที่เด็ดๆ ของทหารเกณฑ์คนนั้นก็บอกอาได้ แต่เอาไว้คราวหลังแล้วกัน ไหนล่ะ ที่จะร้องเพลงให้อาฟัง”

“คุณอาก็ส่งไมโครโฟนของคุณอามาให้ผมกับกันต์ซะทีสิครับ นี่รอกันจนปากแห้งแล้ว”

แทนตอบพลางแลบลิ้นสีแดงฉ่ำออกมาเลียริมฝีปากไปรอบๆ

ก้องภพพยายามตามหาตัวแสนเพื่อจะมาเคลียร์เหตุการณ์ที่เป็นต้นเหตุของคลิปฉาวที่สร้างความอับอายให้เขาจนไม่กล้าสู้หน้าผู้คนจนต้องสวมหมวกใส่แว่นดำอยู่ตลอดเวลาออกไปไหน ตั้งแต่วันที่เกิดเรื่องดูเหมือนแสนจะหายตัวไป จนมาได้ข่าวอีกทีว่าแสนไปปรากฎตัวที่คณะศิลปกรรม เขาก็ตามไปพบแต่กลับถูกกีดกันจากรุ่นพี่จากหลายคณะที่ไม่รู้ว่ามารวมตัวกันที่นั่นทำไม จนเมื่อถูกสั่งอย่างเด็ดขาดด้วยพี่ปีสี่ที่ค่อนข้างมีอิทธิพลของคณะศึกษาพละเอง เขาจึงจำต้องยอมล่าถอยออกมา หลังจากนั้นก็ไม่ได้ข่าวของแสนอีกจนเข้าช่วงสอบ ก้องภพไปสืบตารางสอบของวิศวะปีสี่มาและพยายามไปดักรอตามหน้าห้องสอบแต่ไม่เจอแสนแม้แต่เงา

ในระหว่างนั้นก้องภพก็พยายามสืบหาตัวชายหญิงที่ทำลายศักดิ์ศรีลูกผู้ชายของตัวเองไปด้วย แต่คลิปวิดีโอซึ่งเป็นเพียงหลักฐานเดียวก็ถูกตัดต่อและเซ็นเซ่อร์หน้าของคนทั้งคู่เป็นอย่างดี ความแค้นที่สะสมขึ้นทุกทีทำให้เดือนพละปีสามวิ่งพล่านกล่าวหาคนโน้นคนนี้ไปทั่ว ยิ่งพอเข้าจะเข้าช่วงปิดเทอมใหญ่โดยที่ยังหาทั้งตัวคนทำและแสนไม่เจอก้องภพก็ยิ่งบ้าคลั่ง แต่ในวันสุดท้ายก่อนที่จะปิดเทอม โชคก็เข้าข้างก้องภพอย่างไม่น่าเชื่อ

ดาวปีสองของคณะบริหารที่สอบเสร็จไปก่อนหน้านี้เข้ามาประชุมเตรียมกิจกรรมของเทอมหน้าที่คณะตัวเอง หญิงสาวสวมชุดลำลองแขนกุดดูน่าสบายรับกับปิดเทอมที่จะมาถึงเดินออกมาหาอาหารเที่ยงง่ายๆ ทานกับเพื่อนก็พอดีเจอกับก้องภพที่โรงอาหารกลาง หญิงสาวจำก้องภพไม่ได้เพราะอีกฝ่ายใส่แว่นดำและสวมหมวกปิดหน้าปิดตา เดือนพละปีสามลอบมองสาวสวยร่างเล็กที่อยู่ในชุดที่เปิดเผยเนื้อตัวมากกว่าปกติตามสันดานคนหื่นกาม เขาเคยพยายามจีบมาตั้งแต่ช่วงประกวดดาวเดือนมหาลัยปีที่แล้วแต่อีกฝ่ายไม่เคยเล่นด้วยออกจะรังเกียจเสียด้วยซ้ำ แต่แล้วความหื่นกระหายของก้องภพก็เปลี่ยนเป็นความแค้นที่ปะทุขึ้นอย่างน่ากลัวเมื่อมองเห็นปานแดงเล็กๆ ที่ต้นแขนของหญิงสาว มันเหมือนกับของผู้หญิงที่เอาควยปลอมมาเย็ดตูดเขาในคลิปฉาวอันนั้นไม่มีผิด จริงๆ ฉากที่เห็นปานอันนี้มีอยู่แค่เพียงครั้งสองครั้งสั้นๆ เท่านั้น แต่ก้องภพที่ดูคลิปความยาวเป็นชั่วโมงนั้นซ้ำไปซ้ำมาเป็นสิบรอบเห็นแล้วก็จำได้ทันที เขาเกือบจะลงมือกับดาวบริหารตรงหน้าไปแล้วด้วยความแค้นที่อัดแน่น แต่เมื่อเห็นพยานมากมายในโรงอาหารก็ต้องสะกดใจไว้ก่อน ในช่วงเวลาไม่นานที่ไปรับใช้แสนเขาก็ได้เรียนรู้วิธีการลงมือแบบมืออาชีพมาไม่น้อย ก้องภพเลือกที่นั่งลงใกล้ๆ เพื่อลอบฟังสิ่งที่ดาวบริหารคุยกับเพื่อนเก็บเป็นข้อมูลไปวางแผนการเท่าที่สมองทึบๆ ของเขาจะคิดออก

ในช่วงบ่าย ก้องภพได้ไปเตรียมการต่างๆ ตามแผนแล้วก็มาซุ่มรออย่างใจเย็น จนประมาณหกโมงกว่าดาวปีสองคณะบริหารที่เพิ่งประชุมเสร็จก็เดินตัดสวนหย่อมหลังคณะบริหารมาที่ที่ตัวเองจอดรถประจำ ในเวลานั้นแทบจะไม่มีนักศึกษาเหลืออยู่ในมหาลัยเพราะเป็นวันสอบวันสุดท้าย ยิ่งจุดที่หญิงสาวจอดรถไว้เป็นซอกที่ค่อนข้างอับสายตา พอเจ้าของรถเปิดประตูรถคันหรู ก้องภพก็ออกจากที่ซ่อนเข้ากระชิดตัวแล้วโปะยาสลบลงไปที่ใบหน้าอย่างรวดเร็ว เขาเอาร่างที่ไม่ได้สติของเหยื่อขึ้นรถแล้วขับออกไปโดยที่ไม่มีใครรู้เห็นเหตุการณ์แม้แต่น้อย

หลังจากที่ดาวบริหารฟื้นขึ้นจากยาสลบ ก็พบว่าตัวเองถูกมัดมือมัดขาอยู่ในสถานที่เหม็นอับสภาพเหมือนโรงยิมเก่าๆ

“โอย ที่นี่ที่ไหน เกิดอะไรขึ้น อ๊ะ พี่ก้องภพ”

สาวสวยร่างเล็กร้องออกมาด้วยความตกใจเมื่อเห็นใบหน้าของคนที่ไม่คาดคิดมองมาที่ตัวเองอย่างเคียดแค้น

“ใช่กูเอง แล้วกูรู้แล้วด้วยว่ามึงเป็นคนปล่อยคลิปวิปริตนั่น อีโรคจิต มึงเอาควยปลอมมาเย็ดตูดกูไม่พอ ยังเอาเพื่อนเกย์ของมึงมารุมเอาตูดกูด้วย บอกมานะว่ามันเป็นใคร”

ดาวบริหารหน้าซีดเผือด ตอนที่แสนมาขอคลิปหล่อนก็ให้ไปเพราะรู้สึกสะใจดี แล้วก็มั่นใจว่าตัดต่อเซ็นเซอร์จนไม่มีทางที่จะสาวมาถึงตัวเองได้ ไม่รู้พลาดไปที่ตรงไหน แต่เป็นตายยังไงหล่อนก็ไม่มีทางบอกชื่อเพื่อนเกย์หนุ่มที่แอบหลงรักออกไปแน่

“ชั้นไม่บอก อย่าทำอะไรบ้าๆ นะ รู้ไหมพ่อชั้นเป็นใคร แกตายแน่ๆ ถ้ามาแตะต้องเนื้อตัวชั้นแม้แต่นิดเดียว”

“กูไม่แค่แตะหรอก มึงทำกับกูขนาดนี้ อย่างมึงต้องโดนเย็ดแม่งให้หีบาน แล้วดูซิว่ามึงจะมีหน้าไปฟ้องพ่อมึงไหม ยังไงวันนี้กูต้องได้เป็นผัวมึง ถ้ามึงบอกชื่อไอเหี้ยนั่นมา กูจะทำดีๆ ไม่ให้ต้องเจ็บตัวมาก แต่ถ้าไม่ยอมบอก มึงเตรียมตัวหีแหกด้วยโคตรควยของกูได้เลย”

ดาวบริหารได้ฟังว่าผู้ชายกักขฬะสกปรกขนรุงรังตรงหน้าคิดจะข่มขืนตัวเองก็ตัวสั่นด้วยความกลัว

“ชั้นไม่บอก พ่อชั้นมีอิทธิพลมาก แกไม่มีทางรอดหรอก”

ก้องภพหัวเราะเยาะกับคำขู่

“กูต้องกลัวไหม มึงตัวเล็กแค่นี้ พ่อมึงคงสูงไม่ถึงไหล่กูเลยมั๊ง จะมีปัญญาชกถึงปลายคางกูหรือเปล่า เชิญไปบอกเลยว่ากูคือผัวคนใหม่ของมึง” ก้องภพพูดด้วยหน้าตาท่าทียียวน เขาเข้าไปฉีกเสื้อตัวบางของหญิงสาวออกอย่างรุนแรงแล้วก็ต้องตาลุกโพลงกับนมขาวอวบใหญ่ที่ถูกห่อหุ้มไว้ด้วยบราสีชมพู ดาวบริหารดิ้นอย่างแรงแต่ในสภาพที่ถูกมัดมือมัดเท้าทำให้หนีไปไหนไม่ได้ บราตัวน้อยถูกระชากออกเผยให้เห็นหัวนมสีชมพูสวยบนนวลเนื้อไร้ตำหนิ ก้องภพเอามือหยาบหนาตามแบบนักกีฬาตะปบคลึงเค้นอย่างไม่ปราณีปราศรัยด้วยทั้งความแค้นและความหื่นจนผู้ตกเป็นเหยื่อต้องร้องลั่นด้วยความเจ็บปวดจนต้องหาทางเอาตัวรอด

“อย่าทำชั้นเลย ทั้งหมดเป็นฝีมือพี่แสน ชั้นก็แค่ไปจ่ายเงินซื้อความสนุก คลิปนั้นพี่แสนก็เป็นคนขอไป ถ้าแกจะล้างแค้น ก็ไปจัดการพี่แสนสิ”

“มึงกับเพื่อนมึงเอาตูดกูขนาดนั้นจะบอกว่าไม่ตั้งใจหรอ แล้วยังไปโทษพี่แสนอีก กูไม่เชื่อหรอกว่าพี่แสนจะตั้งใจให้กูโดนแบบนั้น อย่ามาแก้ตัว”

ไม่รู้ทำไมพอฟังอย่างนั้นแล้วก้องภพก็ยิ่งโกรธ เขาออกแรงบีบเนินอกอวบในมืออย่างตั้งใจสร้างความเจ็บปวดมากกว่าจะเพื่อกระตุ้นอารมณ์ทางเพศ พอจัดการกับหน้าอกจนแดงช้ำไปหมด ก้องภพก็ฉีกกระชากกางเกงลำลองที่ดาวคณะสวมอยู่ออกไปร่างงาม ตามด้วยกางเกงในลูกไม้สีชมพูลงมากองที่ข้อเท้าจนเนินเนื้อสาวที่ถูกแวกซ์ขนจนเนียนสะอาดปรากฎอยู่ตรงหน้าเรียกความต้องการสมสู่จนเลือดสูบฉีดเข้าลำควยแทบระเบิด

ก้องภพจ้องมองเรือนร่างตรงหน้าด้วยสายตาวาวโรจน์แสดงความหื่น เขาถอดเสื้อผ้าออกอย่างรวดเร็ว ดาวคณะมองร่างแกร่งกับดุ้นเนื้อที่ลุกชูชันตรงหว่างขาอย่างหวาดกลัวและรังเกียจ ก้องภพตรงเข้าไปแล้วทับทาบร่างเปลือยกำยำของตัวเองลงบนร่างเล็กของดาวคณะ กลิ่นเหม็นเหงื่อของผู้ชายที่ไม่เคยใช้โรลออนโชยมาจนเกิดอาการคลื่นไส้อยากอ้วกโดยเฉพาะกลิ่นที่มาจากรักแร้ขนดกดำของก้องภพ ขนหยาบสากตามเนื้อตัวที่บดเบียดเข้ามายิ่งเพิ่มความน่าขยะแขยง ร่องหีที่ฟิตแน่นถูกก้องภพใช้ท่อนขาแกร่งแหกออกมาอย่างไม่ปราณีแล้วสอดใส่ท่อนควยขนาดกลางแต่แข็งปั๋งเข้าไปในฐานะเครื่องมือชำระแค้นอย่างแรงจนกลุ่มหมอยดกหยาบหนาชนกับเนินโหนกเนื้อเนียนขาวไร้ขน หญิงสาวหวีดร้องลั่นเมื่อสิ่งแปลกปลอมที่น่ารังเกียจถูกสอดแทรกกระแทกกระทั้นเข้ามาในร่างกายอย่างไม่ปราณี

“ห่า นี่มึงยังซิงอยู่เหรอ ฮ่าๆ เป็นบุญหีมึงชิบหายที่ได้คนหล่อล่ำอย่างกูมาช่วยสงเคราะห์เปิดบริสุทธิ์ให้”

ก้องภพร้องอย่างสาแก่ใจเมื่อพบกับความคับแน่นและเลือดสาวพรหมจรรย์ที่ไหลออกมาเนืองนอง ความแค้นและตัณหาของเดือนพละมีอย่างเต็มเปี่ยมจนไม่มีความสงสารให้กับเหยื่อแม้แต่น้อย ทุกจังหวะที่กระแทกกระทั้นเข้าไปล้วนแต่สร้างความเสียวซ่านสะใจให้กับตัวเขาเองอย่างที่ไม่เคยเจอมาก่อน เสียงกลุ่มหมอยกระทบเนินเนื้อ ขาวไร้ขน เสียงพวงไข่กระแทกใส่แบบเนื้อกระทบเนื้อสร้างความหฤหรรย์ให้ก้องภพจนต้องส่งเสียงร้องราวสัตว์ป่า ทั้งเนื้อทั้งตัวเขาเต็มไปด้วยหยดเหงื่อ ส่งกลิ่นกายชายไปทั่ว ก้องภพซุกหน้าลงไปที่เนินเต้านมสวยคู่นั้น ดอมดมกลิ่นกายสาว เขาดูดหัวนมสีชมพูอย่างแรงพร้อมขบกัดไปด้วย

“เป็นไงควยของกู มึงติดใจแน่ ต่อไปมึงต้องร้องหาแต่ควยกู มึงน่าดีใจนะที่ได้ผัวหล่อๆอย่างกู ฮ่าๆๆ”

ช่วงเวลาที่เหมือนกับตกนรกผ่านไปช้าๆ เหมือนจะไม่มีที่สิ้นสุด บัดนี้หญิงสาวได้แต่นอนนิ่งไม่มีแรงแม้แต่จะเปล่งเสียง เหลือเพียงน้ำตาไหลรินจากดวงตาที่ลุกโพลงอย่างไม่สามารถรับความจริงที่ตัวเองกำลังเผชิญอยู่ได้ ร่างกายของหล่อนถูกใช้เป็นที่รองรับความแค้นครั้งแล้วครั้งเล่าจนเจ็บแสบไปหมดทุกส่วน ประสาทสัมผัสทุกส่วนเริ่มดับวูบ ก่อนที่จะสลบไปหล่อนได้ยินเพียงเสียงก้องภพตะโกนอย่างบ้าคลั่ง

“จำไว้ ใครทำอะไรไว้ก็ต้องรับผลกรรมอย่างนั้น”

แสนกลับมารายงานตัวกับที่ประชุมคณะลูกขุนอีกครั้งหลังจากที่มหาลัยปิดเทอมไปแล้วเกือบอาทิตย์ เขาถูกสั่งให้ยืนแก้ผ้าต่อหน้าทุกคนในห้องประชุม เวหาถึงกับอ้าปากค้างตกตะลึงกับรูปลักษณ์ภายนอกชายหนุ่มนักโทษที่เปลี่ยนไป ผิวที่ค่อนข้างเข้มอยู่แล้วของแสนบัดนี้ถูกแดดเผาจนเกรียมตลอดเรือนร่างกลายเป็นคนผิวดำคล้ำเหมือนคนใช้แรงงานกลางแจ้ง ยิ่งตรงส่วนหัวนมเกือบจะกลายเป็นสีดำสนิทดูดิบเถื่อน หุ่นที่เคยมีมัดกล้ามได้รูปเหมือนนายแบบที่เน้นการออกกำลังกายตอนนี้กลับกลายเป็นเหมือนนักเพาะกายเตรียมประกวดที่รีดไขมันออกแบบสุดๆ จนเห็นกล้ามเนื้อคมชัด ซิกส์แพ็คที่จริงๆ แล้วนับได้มากกว่าหกลูกเรียงตัวอัดแน่นปราศจากไขมันจนสะดือนูนออกมาเล็กน้อย วีไลน์ช่วงต้นขาขึ้นเป็นร่องเห็นชัด เส้นเลือดเส้นเอ็นของแสนขึ้นปูดโปนทั้งตัวไล่ตั้งแต่ช่วงคอ แขน ไปจนถึงท่อนขาเห็นชัดยันเส้นเลือดย่อยๆ แม้กระทั่งหน้าท้องแกร่งแน่นก็ยังมีเส้นเลือดปูดสองสามเส้นวิ่งจากสะดือลงมาจนหายลับไปในพงหมอยสีดำที่กลับมายาวจนเริ่มรุงรัง ท่อนควยสีเกือบดำสนิทที่เดิมก็มีเส้นเลือดปูดโปนอยู่แล้วตอนนี้ยิ่งเห็นชัดทั้งๆ ที่ยังอยู่ในสภาพสงบนิ่ง ถ้าแข็งตัวขึ้นมาคงจะดูขรุขระไปทั้งลำ ใบหน้าคล้ำแดดของแสนเต็มไปด้วยหนวดเคราเสริมให้เสน่ห์ดิบเถื่อนแบบลูกผู้ชายพุ่งออกมา สิ่งที่เปลี่ยนไปมากคือแววตาที่เคยวาวโรจน์เปี่ยมไปด้วยอำนาจตอนนี้กลับไร้ประกายเหมือนหุ่นยนต์ที่ไม่มีขีวิตจิตใจ แสนฟังคำสั่งของชายสวมหมวกกันน็อกอย่างว่าง่ายไร้สิ้นซึ่งการต่อต้านเหมือนตัดสินใจทิ้งศักดิ์ศรีตัวเองไปโดยสิ้นเชิง

ทุกคนในห้องรู้สึกทึ่งที่ในเวลาไม่ถึงเดือนสามารถทำให้สภาพร่างกายของแสนพุ่งขึ้นสู่จุดสูงสุดของสัตว์เพศผู้ในขณะที่กดสภาพจิตใจของแสนให้ตกต่ำลงจนถึงขีดสุด เรื่องนี้ต้องให้เครดิตกับลูกขุนจากคณะประมงที่ไปขอให้รุ่นพี่ที่เรียนจบไปแล้วเอาตัวแสนไปจัดการในช่วงที่ทุกคนกำลังวุ่นอยู่กับการสอบ เมื่อเห็นผลงานอันสุดยอดก็มีแต่คนถามว่าทำได้ยังไง

“ก็ไม่มีอะไรมาก ทางบ้านรุ่นพี่ผมเขาทำธุรกิจประมงอยู่แล้ว ก็แค่เอาไอแสนไปใช้งานเป็นลูกเรือตังเกเดือนนึง สภาพก็ออกมาอย่างที่เห็นนี่แหละ ไอแสนแม่งกาก เจองานหนักหน่อยก็ทำท่าจะเป็นจะตายจนรุ่นพี่ผมต้องลงเรือไปกำกับด้วยตัวเอง พวกแรงงานคนอื่นเขาก็เจออย่างนี้ทั้งนั้นไม่เห็นบ่นกันเลย” ลูกขุนจากคณะประมงเล่าอย่างภาคภูมิใจในตัวรุ่นพี่ซึ่งเพิ่งจบไปเมื่อปีที่แล้ว ไม่ต้องสงสัยเลยว่าศิษย์เก่าประมงคนนั้นจะไม่ใช่คนหนึ่งที่โกรธแค้นแสนที่ใช้เล่ห์เหลี่ยมจนทำให้กลุ่มพันธมิตรที่มีประมงอยู่ด้วยต้องตกเป็นเบี้ยล่างของวิศวะ

แสนกัดฟันแน่นขณะที่พวกลูกขุนมารุมล้อมร่างกายเปลือยเปล่าของตัวเองไม่ใช่ด้วยความพิศวาสแต่เพื่อจะเย้ยหยันในความตกต่ำให้ถึงที่สุด หลายคนลูบกล้ามเนื้อที่มีเส้นเลือดเส้นเอ็นปูดโปนด้วยความสนใจ

“แม่งเส้นเอ็นขึ้นเต็มแขนน่าเกลียดว่ะ เหมือนพวกสัตว์ประหลาดหรือตัวเอเลี่ยนเลย ที่ควยยิ่งทุเรศใหญ่ ไหนมึงลองชักให้แข็งซิไอแสน”

ตามเงื่อนไขของชายสวมหมวกกันน็อก แสนไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธคำสั่งของพวกลูกขุน เขาได้แต่จับดุ้นเนื้อดำๆ ที่ห้อยยานของตัวเองขึ้นมารูดขึ้นลงอย่างไร้อารมณ์ต่อหน้าคนทั้งห้อง แต่ด้วยพลังของวัยหนุ่มไม่นานท่อนควยสีดำคล้ำก็ขยายขนาดผงาดทำมุมในขณะที่แสนปล่อยมือไปประสานไว้ที่ท้ายทอยโดยไม่ต้องมีใครสั่งเพื่อเปิดโอกาสให้ทุกคนรุมดูควยตัวเองอย่างเต็มที่

“เส้นเลือดแม่งเต็มไปหมด เหมือนมีกาฝากมาเกาะแล้วงอกรากออกมาดูดน้ำเลี้ยงจากควยเลย”

“มึงพูดอย่างนั้น กูยิ่งนึกถึงพวกเอเลี่ยนเข้าไปใหญ่ น่าขยะแขยงฉิบหาย”

เสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างสนุกปากของบรรดาลูกขุนไม่เข้าหูแสนเลยแม้แต่น้อย ในใจเขาล่องลอยคิดไปถึงความตกต่ำถึงขีดสุดที่ได้รับระหว่างไปเป็นลูกเรือตังเก เรื่องราวรวบรัดที่ตัวแทนคณะประมงเล่าให้พวกลูกขุนฟังยังไม่ได้แม้แต่เศษเสี้ยวของความลำบากและอัปยศที่เขาได้รับบนเรือนรกนั่น ตลอดเวลาที่ทำงานบนเรือ แสนไม่ได้รับอนุญาตให้มีผ้าติดกายแม้แต่ชิ้นเดียว เขาต้องทำงานกลางแดดร้อนจัดกลางทะเลที่ไม่มีร่มเงาใดๆ เลยทั้งวันจนเกรียมไปทั้งตัว งานของแสนหนักมากเพราะต้องยกของหนักๆ หรือดึงอวนขึ้นจากน้ำเป็นระยะๆ ทั้งวัน แต่ที่เขาเกลียดที่สุดคือการแยกปลาและสัตว์น้ำที่จับขึ้นมาได้ กลิ่นคาวและความเมือกของปลาทำให้คนเกลียดความสกปรกแบบฝังหัวอย่างแสนขยะแขยงจนทนไม่ได้ เขายอมที่จะไปทำงานหนักๆ อย่างอื่นดีกว่าที่จะมาสัมผัสของน่ารังเกียจพวกนี้ แต่ถ้าจับขึ้นมาได้เยอะเขาก็เลี่ยงไม่ได้เพราะต้องรีบคัดแยกเอาไปแช่น้ำแข็งก่อนที่จะเน่าเสีย

สถานะของแสนบนเรืออยู่ในระดับล่างสุด เรียกได้ว่าต่ำชั้นกว่าคนงานต่างด้าวเสียอีก ศิษย์เก่าคณะประมงที่เอาตัวเขาขึ้นเรือไปบอกว่าไม่ได้เตรียมเสบียงมาเผื่อเขาเพราะฉะนั้นแสนจะได้กินแค่อาหารที่เหลือจากคนอื่นกับพวกอาหารทะเลที่ไม่มีราคา โชคร้ายที่ในแต่ละวันคนงานทุกคนที่หิวโหยจากการทำงานหนักต่างกินอาหารส่วนของตนหมดเกลี้ยงไม่มีเหลือ แถมในยุคที่อุดมสมบูรณ์ทางทะเลเริ่มหมดไป จะปลาอะไรก็ขายได้เกือบทั้งนั้น แสนจึงได้กินแต่ปลาที่รสชาติจืดชืดไม่อร่อยกันตายไปในมื้อแรกๆ แต่พอมื้อหลังๆ ศิษย์เก่าประมงก็เอาปลาหมึกกล้วยตัวใหญ่มาให้กินโดยมีเงื่อนไขว่าห้ามล้างเด็ดขาด ถึงจะมีกลิ่นคาวทะเลอยู่บ้างแต่ก็ความสดหวานของปลาหมึกที่จับขึ้นมาใหม่ๆ ก็อร่อยกว่าปลาแย่ๆ ที่กินตอนแรกอย่างเทียบกันไม่ติด ส่วนที่ห้ามล้างแสนเข้าใจว่าเป็นเพื่อประหยัดน้ำจืดและรักษาความสดหวานเอาไว้

ในมื้อต่อๆ มาก็มีพวกลูกเรือหลายคนเอาปลาหมึกแบบเดียวกันตัวเล็กบ้างใหญ่บ้างมาให้แสนทำเป็นอาหารกินเอง แสนทำไปอย่างตามมีตามเกิดจนสรุปได้ว่าหั่นกินแบบซาซิมิญี่ปุ่นอร่อยสุดแล้วเพราะฝีมือการทำอาหารของตัวเองไม่ได้เรื่องเลยแม้แต่น้อย ในมื้อต่อมาก็จะมีคนงานคนอื่นๆ หมุนเวียนกันเอาปลาหมึกมาให้จนแสนได้กินอิ่มอร่อยทุกมื้อ ถือเป็นแหล่งโปรตีนคุณภาพที่ทำให้เขามีแรงทำงานหนักๆ บนเรือได้

จนเวลาผ่านไปเกือบอาทิตย์ ศิษย์เก่าประมงถึงเฉลยว่าปลาหมึกทุกตัวที่แสนกินได้ผ่านการเอาไปใช้ชักว่าวเหมือนเป็นจิ๋มกระป๋องฉบับชาวตังเกมาแล้ว พวกลูกเรือกลัดมันจะเลือกปลาหมึกกล้วยขนาดพอเหมาะกับของตัวเองดึงหัวควักไส้และแกนแข็งๆ ข้างในออกแล้วเสียบควยเข้าไป ความชุ่มฉ่ำและกล้ามเนื้อของหมึกสดๆ จะดูดรัดลำควยคล้ายกับของผู้หญิงจริงๆ พอใช้เสร็จ พวกลูกเรือจะเอาปลาหมึกที่มีน้ำว่าวอยู่เต็มด้านในทิ้งลงทะเลไปหรือไม่ก็เอาไปทำเหยื่อตกปลา ปกติก็แอบๆ ขโมยปลาหมึกมาใช้กัน แต่คราวนี้ลูกชายเจ้าของเรืออนุญาตให้เอามาชักว่าวได้เต็มที่เพราะจะให้เป็นอาหารของแสนไม่ทิ้งให้สิ้นเปลืองอย่างแต่ก่อน แสนได้ฟังที่มาของอาหารที่ตัวเองกินทุกวันถึงกับอ๊วกแตก เขาต้องกินของที่ผ่านควยสกปรกของพวกลูกเรือชั้นต่ำมาเป็นอาทิตย์ หลังจากนั้นแสนก็ไม่ยอมกินปลาหมึกอีกเลย. แต่ก็ทนได้ไม่ถึงวันครึ่ง ความที่ต้องทำงานหนัก และอยู่ในสภาพที่ยากลำบากกลางทะเล พอขาดอาหารร่างกายก็ทนไม่ได้ แสนต้องกลืนศักดิ์ศรีตัวเองไปขอปลาหมึกจากพวกลูกเรือ ตอนหลังเขาเลยถูกกลั่นแกล้งต่างๆ นาๆ แต่ละมื้อแสนต้องไปชักว่าวด้วยปลาหมึกให้คนเกือบสิบคนถึงจะมีอาหารพออิ่ม เขาต้องถูกเคี่ยวกรำทั้งร่างกายและจิตใจต่อจากนั้นไปจนครบกำหนดหนึ่งเดือน ทั้งงานใช้พละกำลังที่หนักขึ้นเรื่อยๆ กับศักดิ์ศรีที่พังพินาศจากที่ต้องกินอาหารเปื้อนน้ำควยคนทั้งลำเรือ

แต่ความทุกข์ทรมานของแสนกลับมีผลพลอยได้ที่ไม่น่าเชื่อ หนึ่งเดือนของการทำงานอย่างหนักหน่วงกับอาหารที่แทบจะมีโปรตีนจากเนื้อปลาหมึกเพียงอย่างเดียวกลายเป็นเหมือนโปรแกรมเพาะกายที่รีดไขมันส่วนเกินที่ยังมีอยู่บ้างของแสนออกไปจนไม่มีเหลือ กล้ามเนื้อที่พัฒนาเพิ่มเติมจนใหญ่โตพอปราศจากไขมันมาบดบัง ทำให้แสนกลับขึ้นฝั่งมาด้วยหุ่นที่สุดยอดราวกับนักเพาะกายที่กำลังจะขึ้นประกวด

หลังจากชื่นชมผลงานของคณะประมงที่ทำกับร่างกายแสนจนเป็นที่พอใจแล้ว คณะลูกขุนก็เริ่มประชุมกันต่อเพื่อหารือบทลงโทษของแสนในช่วงปิดเทอมที่เหลือ หลังจากโต้เถียงกันอย่างดุเดือดเพราะคณะที่เหลือต่างก็อยากได้แสนในรูปลักษณ์ใหม่นี้กันทั้งนั้น ในที่สุดตัวแทนจากนิเทศก็ชนะไปด้วยข้อเสนอที่จะให้แสนไปรับงานนายแบบ

“ด้วยหุ่นและสีผิวที่สุดยอดของไอแสนตอนนี้ ผมว่าเราน่าจะเรียกค่าตัวได้เยอะแน่ๆ ผมและเส้นขนในส่วนต่างๆ ก็ยาวได้ที่ ถ้าเอาไปตัดๆ เล็มๆ เสริมหล่อซักหน่อยรับรองว่าไปแคสงานไหนไม่มีพลาด ยิ่งเราไม่เกี่ยงด้วยว่างานวาบหวิวขนาดไหน”

“เส้นเอ็นปูดน่าเกลียดขนาดนี้จะมีใครเอามันเหรอ” มีเสียงพูดขึ้นลอยๆ อย่างหมั่นไส้ในตัวแสน

“อย่างนี้แหละครับหายาก ในสายตาคนที่เรียนทางสายศิลปะบันเทิงอย่างผมบอกเลยว่านี่คือจุดขาย รับรองว่างานเพียบแน่นอน”

นายกเทศมนตรีเดินทางมาถึงรีสอร์ทแห่งใหม่ของจังหวัดเพื่อเข้าร่วมพิธีเปิด เขาตั้งความหวังไว้ค่อนข้างมากว่ารีสอร์ทแห่งนี้จะช่วยเปิดตลาดการท่องเที่ยวใหม่ๆ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้กับท้องถิ่น แม้ธรรมชาติอาหารและวัฒนธรรมของไทยจะเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวให้หลั่งไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ต้องยอมรับว่าประเทศอื่นๆ ในอาเซียนต่างก็พยายามชูจุดเด่นของตัวเองขึ้นมาแข่งขันได้อย่างน่ากลัว เมื่อปีที่แล้ว นายกเทศมนตรีกับการท่องเที่ยวฯ ได้เลือกที่นี่เป็นโครงการนำล่อง ให้เอกชนจัดตั้งรีสอร์ตเปลือยแห่งแรกของประเทศไทยเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวที่รักธรรมชาติและความอิสระโดยเฉพาะจากโซนยุโรป ถึงจะอยู่ห่างออกไปจากแหล่งชุมชนและจุดท่องเที่ยวอื่นค่อนข้างมาก แต่ก็ทดแทนด้วยชายหาดที่ขนาบด้วยหน้าผาหินขนาดใหญ่เหมือนเป็นปราการตามธรรมชาติเกิดเป็นพื้นที่ส่วนตัวที่คนนอกจะเข้ามาไม่ได้ยกเว้นจากทางทะเล กว่าจะสำเร็จลงได้ก็ไม่ง่ายนัก เพราะภาครัฐเองก็ยังตะขิดตะขวงใจกับเรื่องที่ล่อแหลมต่อฉากหน้าที่เปี่ยมไปด้วยศีลธรรมอันดีงามของประเทศ แต่โอกาสในการขยายตลาดไปยังกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีฐานะดีเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ค่อนข้างซบเซาก็ทำให้ได้รับอนุมัติในที่สุด

นายกเทศมนตรีได้รับเชิญให้มาร่วมพิธีเปิดที่จัดขึ้นอย่างใหญ่โต ทางรีสอร์ตสามารถประชาสัมพันธ์จุดขายที่เป็นรีสอร์ตเปลือยแห่งแรกของไทยอย่างเต็มที่เพราะได้รับอนุญาตถูกต้องตามกฎหมายแล้ว มีการเชิญสื่อมวลชนจากต่างประเทศมาร่วมงานในวันนี้ด้วยเพื่อหวังผลในเชิงโฆษณา พิธีเปิดเป็นไปอย่างรวบรัดไม่เยิ่นเย้อเพราะวัตถุประสงค์หลักคือการให้สื่อมวลชนได้เข้ามาถ่ายทอดสถานที่และภูมิทัศน์อันสวยงามของรีสอร์ท นายกเทศมนตรีก็ได้ร่วมเดินตามขบวนนักข่าวไปด้วยเพราะอยากเห็นผลงานจากนโยบายของตัวเองชัดๆ กับตา

พอมาถึงโซนสระว่ายน้ำริมทะเล ก็เจอกับบรรดานายแบบนางแบบที่ทางรีสอร์ตเตรียมเพื่อให้เห็นภาพว่าเมื่อเปิดให้บริการจริงแล้วจะมีบรรยากาศเป็นอย่างไร ทุกคนกระจายตัวกันทำกิจกรรมต่างๆ โดยไม่ได้สวมเสื้อผ้าแม้แต่ชิ้นเดียว มีทั้งกำลังว่ายน้ำ นอนอาบแดด นั่งจิบเครื่องดื่มที่บาร์ริมสระ ไปจนถึงเล่นกีฬากลางแจ้งง่ายๆ ตรงสนามหญ้า นายแบบนางแบบทุกคนล้วนแต่หุ่นดีหน้าตาหล่อสวยและไม่มีท่าทีเคอะเขินกับสภาพเปลือยเปล่าโชว์จุดพึงสงวนให้เห็นชัดเจนต่อหน้านักข่าวกลุ่มใหญ่ อาจจะเพราะความเป็นมืออาชีพและส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ

นกยกเทศมนตรีเห็นชายหนุ่มผิวคล้ำกล้ามเนื้อเป็นมัดๆ ตึงแน่นจนเห็นเส้นเลือดเส้นเอ็นปูดโปนไปทั้งตัวที่กำลังใส่แว่นตาดำนอนอาบแดดแล้วก็ต้องสะดุ้งด้วยความตกใจ นายแบบคนนั้นนอนอยู่ตรงเก้าอี้ที่ใกล้ที่สุดแถมยังแบะขาอ้าซ่าจนเห็นท่อนเนื้อและถุงไข่ขนาดเขื่องสีคล้ำขนรุงรังถนัดตาจนเรียกความสนใจจากกลุ่มนักข่าวได้ไม่น้อย นายกเทศมนตรีใจหายวาบเพราะจำได้ดีว่าคนๆ นี้คือใคร ถึงรูปลักษณ์สีผิวจะเปลี่ยนไปมากแถมยังบดบังใบหน้าด้วยแว่นตาดำแต่คนเป็นพ่อก็จำลูกชายตัวเองได้เสมอ การที่แสนมาอยู่ที่นี่ในสภาพนี้คงเป็นส่วนหนึ่งของการลงโทษโดยไม่ต้องสงสัย นายกเทศมนตรีหลบไปอีกด้านหนึ่งเพราะไม่อยากให้เกิดการเผชิญหน้าที่ชวนให้กระอักกระอ่วนใจ

คณะนักข่าวขอให้นายแบบนางแบบทุกคนมารวมตัวกันเพื่อจะดูว่าคนไหนเหมาะสมที่จะเป็นแบบถ่ายภาพกิจกรรมไหนของรีสอร์ต พอแสนถอดแว่นออกมาเห็นหน้าชัดๆ คนเป็นพ่อก็ยิ่งหมดความสงสัย เขารีบเข้าไปสอบถามเรื่องเงื่อนไขในการถ่ายภาพกับผู้จัดการรีสอร์ต

“ตอนนี้ก็คงต้องปล่อยให้เขาถ่ายภาพกันไปเต็มที่ครับเพราะยังไงของเราก็เป็นรีสอร์ตเปล่อยอยู่แล้ว นายแบบนางแบบเราก็จ้างมาราคาแพงเพราะได้รวมเงื่อนไขตรงนี้ไว้ด้วย แต่ไม่ต้องห่วงนะครับ ในไทยเขาลงภาพเปลือยไม่ได้อยู่แล้ว ส่วนทางต่างประเทศเราขอความร่วมมือไปแล้วว่าให้เซ็นเซอร์รูปด้วยเพราะนายแบบนางแบบบางคนยังเรียนหนังสืออยู่” ผู้จัดการรีสอร์ตรับปากอย่างแข็งขันทำให้นายกเทศมนตรีเบาใจลงไปได้บางส่วน

“เดี๋ยวพวกนักข่าวจะไปถ่ายรูปนายแบบนางแบบที่ชายหาดส่วนตัวของเรา ท่านจะตามไปดูด้วยไหมครับ”

“ไม่เป็นไร ผมต้องขอตัวกลับก่อนดีกว่า งานวันนี้จัดได้ดีมาก หวังว่าโครงการนี้จะประสบความสำเร็จอย่างสูงนะครับ” คนเป็นพ่อรีบตัดบทเพราะไม่อยากเห็นสภาพอันน่าสงสารของลูกชายได้อีกแม้แต่วินาทีเดียว เขาภาวนาว่าแสนจะมีความอดทนเข้มแข็งพอที่จะผ่านพ้นบทลงโทษจากการกระทำของตัวเองได้ เมื่อมาเห็นสิ่งที่แสนต้องเผชิญกับตาแบบนี้ นายกเทศมนตรีก็มีแต่ความทรมานที่ต้องวางเฉยไม่สามารถเข้าไปช่วยลูกชายคนเดียวของตัวเองได้ ไม่ว่าจะมีเหตุผลที่ไตร่ตรองมาอย่างดีขนาดไหนก็ตาม

แสนลอบมองคนเป็นพ่อที่แยกตัวออกไปก่อนด้วยความโล่งใจ เขาเกร็งไปหมดตั้งแต่เห็นเสี้ยวหน้าเคร่งขรึมที่ชินตาตั้งแต่เด็กเดินปนมากับคณะนักข่าว ถ้าพ่อจำเขาได้จนสาวไปถึงความชั่วของเขาที่เป็นสาเหตุให้ต้องมาตกต่ำแบบนี้พ่อจะผิดหวังในตัวเขาขนาดไหน โชคดีที่ดูเหมือนแว่นดำที่สวมอยู่กับหุ่นและสีผิวที่เปลี่ยนไปจะทำให้พ่อยังไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร ในตอนที่ต้องถอดแว่นออก แสนก็ได้แต่พยายามหลบหน้าหลบตา แต่ก็โดนพวกตากล้องสั่งให้โพสท่าโน้นท่านี้อยู่ตลอด ไม่รู้จะมาสนใจเขาทำไมนายแบบคนอื่นก็เยอะแยะ ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะโชคดีเล็ดลอดสายตาของพ่อไปได้จนอีกฝ่ายกลับไป

หลังจากวันนั้น สื่อหลายสำนักทั้งในไทยและต่างประเทศต่างก็ลงข่าวการเปิดตัวรีสอร์ตเปลือยแห่งนี้อย่างคึกคัก ไม่เพียงแต่สื่อท่องเที่ยว สื่อนอกทั่วไปก็ให้ความสนใจมากเพราะเหมือนเป็นการก้าวออกจากกรอบที่ค่อนข้างอนุรักษ์นิยมของไทย น่าแปลกที่เกือบทุกหัวเลือกลงรูปของแสนเป็นภาพประกอบข่าว อาจเพราะการเป็นนายแบบเอเชียผิวสีเข้มคนเดียวในหมู่นายแบบฝรั่งจึงทำให้ดูเข้ากับเนื้อข่าวมากกว่า ทุกสำนักข่าวทำตามข้อตกลงที่ให้ไว้กับทางรีสอร์ต รูปเปลือยเห็นใบหน้าของแสนชัดๆ จึงถูกเซ็นเซอร์หรือตัดบางส่วนของภาพออกจนไม่รู้ว่าเป็นใคร แต่โชคร้ายที่มีสำนักข่าวต่างประเทศแห่งหนึ่งที่ไม่ได้ส่งช่างภาพไปด้วยตัวเอง แต่ใช้ภาพจากสำนักข่าวท้องถิ่นที่อยู่ในเครือเดียวกันแทน สำนักข่าวท้องถิ่นนั้นก็เลือกรูปของแสนรูปเดียวกันไปลงเวบไซต์ข่าวภาษาไทยของตัวเอง รูปที่สำนักข่าวแม่ที่ต่างประเทศลงปล่อยให้เห็นอวัยวะเพศของแสนอย่างชัดเจนแต่เบลอหน้าไว้ ส่วนรูปเดียวกันที่สำนักข่าวลูกในไทยลงจะเซ็นเซอร์ช่วงล่างแต่เห็นหน้าของแสนแบบเต็มๆ

ไม่นานก็มีมือดีเอารูปส่วนที่ไม่เซ็นเซอร์จากทั้งสองแหล่งมาต่อกันได้เป็นรูปเปลือยที่เห็นดุ้นควยอย่างชัดเจนสมบูรณ์ของแสนแพร่กระจายไปทั่วอินเตอร์เน็ต ด้วยรูปลักษณ์คมเข้มหล่อเถื่อนและเครื่องเคราที่ไม่ธรรมดาสร้างจนความแปลกใหม่ให้กับชาวต่างชาติที่นิยมมาท่องเที่ยวประเทศไทย แสนจึงกลายเป็นนายแบบโนเนมที่เป็นที่สนใจอย่างรวดเร็วจนแทบจะเป็นมาสคอตของรีสอร์ตเปลือยเมืองไทย มีคนไทยพยายามสืบค้นว่าแสนคือใครจนชี้เป้ามาที่ลูกชายนายกเทศมนตรีผู้ริเริ่มโครงการนี้เสียเอง แต่รูปลักษณ์ของแสนที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากในช่วงสองสามเดือนหลังทำให้ไม่มีใครกล้าฟันธง

พอมีคณะลูกขุนและชายสวมหมวกกันน็อกมาจัดการกับแสนแทนเวหาก็แทบจะไม่ต้องทำอะไรตามแผนการล้างแค้นเลย เขาแค่คอยอัพเดทเพจแสนเลวให้สมาชิกทราบถึงความตกต่ำน่าขายหน้าของแสนเท่าที่สามารถเปิดเผยได้ เวหาไม่คิดจะกลับบ้านที่กรุงเทพเลยตลอดช่วงปิดเทอมเล็ก กลับไปก็ไม่เจอใครนอกจากคนดูแลบ้านเพราะพ่อกับแม่ยังคงทำงานเพื่อขยายธุรกิจอยู่ที่ต่างประเทศยกเว้นจะไปเยี่ยมลุงป้าน้าอาที่บ้านใหญ่ของตระกูล โชคดีที่บัสก็ไม่กลับกรุงเทพเหมือนกัน ประธานรุ่นวิศวะปีสามยังคงวุ่นวายกับการเตรียมงานทั้งทางด้านวิชาการและกิจกรรมคณะทั้งที่ไม่มีคนอื่นมาช่วยทำเนื่องจากเป็นช่วงปิดเทอม พอเวหาถามบัสก็ตอบว่าพอไม่มีแสนเป็นหัวเรือใหญ่แล้ว พี่ปีสี่ก็แทบไม่มีใครสนใจงานคณะเลยทำให้บัสที่ต้องทำงานหนักเป็นเท่าตัวจำเป็นตัองเอาเวลาช่วงปิดเทอมมาเตรียมงานล่วงหน้าให้ได้มากที่สุด

เวหาก็ถูกประธานรุ่นคนขยันดึงมาช่วยงานโดยความเต็มใจ ถึงจะไม่รู้ว่าบัสต้องทุ่มเทขนาดนี้ไปเพื่ออะไรแต่เขาก็อยากช่วยแบ่งเบาภาระเท่าที่ทำได้ โชคดีที่ตอนนี้เวหากลายเป็นคนกว้างขวางในหมู่เพื่อนๆ จากหลายๆ เหตุการณ์ที่ผ่านมา แม้แต่พวกรุ่นพี่ปีสองที่บางครั้งตัวบัสเองยังขอความร่วมมือไม่ค่อยสำเร็จเพราะถูกมองว่าเป็นลูกน้องแสนก็ยังให้ความไว้เนื้อเชื่อใจเวหาอยู่มาก กับต่างคณะเด็กหนุ่มก็ยังมีเส้นสายจากพี่ๆ ลูกขุนที่ล้วนแต่เป็นคนสำคัญในคณะตัวเอง พอบัสได้เวหามาช่วยก็ทำให้การทำงานต่างๆ เป็นไปอย่างราบรื่นแม้จะอยู่ในช่วงปิดเทอมเล็กก็ตาม

แน่นอนว่าเด็กที่มีฐานะอย่างเวหาคงไม่ได้ลงแรงกายแรงใจในงานที่ไม่ใช่ของตัวเองเพราะต้องการเงินหรือสิ่งของตอบแทนจากบัส แต่เด็กหนุ่มก็ไม่คิดจะทำงานเป็นบ้าเป็นหลังเพื่อคณะโดยไม่ได้อะไรเหมือนกัน สิ่งที่เวหาต้องการก็เป็นเพียงเรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่างการได้อยู่ใกล้ชิดกับรุ่นพี่คนสนิทให้มากขึ้น หรืออาจจะเป็นของเล็กๆ น้อยๆ ที่ค่อนข้างส่วนตัวอย่างรหัสผ่านเข้ามือถือหรือคีย์การ์ดสำรองอพาร์ตเมนต์ของบัส เวหาจะเรียกร้องเอาสิ่งพวกนี้อยู่เสมอถ้าโดนขอให้รับงานใหญ่ๆ

ยิ่งช่วยบัสทำงานมากขึ้นเท่าไหร่ เวหาก็ยิ่งรู้สึกว่าบัสให้ความสนิทสนมที่เกินกว่าพี่น้องมากขึ้นเท่านั้น เวหาจะไปนอนค้างที่อพาร์ตเมนต์ของบัสเมื่อไหร่ก็ได้ การอาบน้ำด้วยกันก็ทำอยู่บ่อยๆ เวลาเวหาก่อกวนไม่ให้บัสไปหากิ๊กอีกฝ่ายก็ยอมโดยดี แถมมักจะลงท้ายด้วยการที่เวหาช่วยปลดเปลื้องความต้องการให้ด้วยมือเป็นการทดแทน ในเมื่อทุกอย่างชัดเจนขนาดนี้ คงจะไม่ใช่การคิดเข้าข้างตัวเองหากเวหาจะรู้สึกว่ารุ่นพี่ก็มีใจ

ความจริงข้อนี้ได้รับการพิสูจน์ในช่วงครึ่งทางของการปิดเทอม เวหาแตะการ์ดเข้ามาที่ห้องบัสในตอนเย็นแม้ว่าจะบอกเจ้าของห้องไปก่อนหน้านี้ว่าจะไม่เข้ามาเพราะจะออกไปสังสรรค์กับเพื่อนปีหนึ่งด้วยกัน เขาลืมเอกสารที่ต้องใช้พรุ่งนี้ซึ่งก็เป็นงานที่บัสมอบหมายอีกนั่นแหละ ไฟที่เปิดทิ้งไว้บ่งบอกว่าเจ้าของคงยังอยู่ในห้อง เวหาที่ได้ของที่ต้องการแล้วก็เดินตามหาบัสตั้งใจจะแทะโลมให้กระชุ่มกระชวยหัวใจก่อนจะออกไป เด็กหนุ่มได้ยินเสียงคนคุยกันลอดมาทางประตูระเบียงที่เปิดแง้มไว้เล็กน้อย ท่าทางบัสจะมีเพื่อนมาหา แต่พอเดินเข้าไปใกล้ บทสนทนาที่ได้ยินอย่างชัดเจนก็ทำให้เวหาหยุดชะงักไม่เดินออกไปทักทายอย่างที่ตั้งใจ

“แล้วตกลงมึงกับน้องเดือนมหาลัยนี่ยังไงวะ”

เวหาจำเสียงได้ว่าเป็นเพื่อนสนิทของบัสที่เรียนวิศวะเหมือนกัน ขานั้นชอบสูบบุหรี่ที่ระเบียงบัสคงตามออกไปคุย

“ยังไงอะไรวะ ก็รุ่นพี่รุ่นน้องกัน”

“นี่มึงโง่หรือโง่วะบัส ดูก็รู้ว่าน้องมันอยากจะกลืนมึงไปทั้งตัว ถ้ามึงไม่คิดอย่างเดียวกัน แล้วปล่อยให้น้องมานัวเนียขนาดนั้นทำไมวะ”

“ก็.. ก็น้องมันช่วยงานกูซะขนาดนั้น อะไรเล็กๆ น้อยๆ กูก็ไม่อยากขัดใจมัน”

“ไอเชี่ย ป่านนี้น้องมันคิดไปถึงไหนๆ แล้ว ถ้ามึงไม่คิดจะเบี่ยงเบนเป็นเกย์ ก็รีบบอกน้องมันไป”

“ถ้ากูบอกไปแล้วน้องมันไม่มาช่วยงานคณะอีกล่ะ เวหามันเป็นคนที่มีคุณสมบัติพร้อมมากนะ รักพวกพ้อง หัวดี หน้าตาดี มีเสน่ห์ดึงดูดใจคน มีความเป็นผู้นำ กูอยากปั้นมันขึ้นมาแทนพี่แสน รายนั้นน่ะชื่อเน่ามากตอนนี้ ต่อให้เคยสร้างผลงานไว้ดีขนาดไหน ก็คงใช้การไม่ได้แล้ว แต่เวหาได้รับการยอมรับจากทุกคน แถมยังมีเวลาอยู่ในคณะนี้ตั้งสามปีกว่า เขาต้องสร้างความรุ่งเรืองให้กับคณะเราได้แน่”

“คิดได้นะมึง บ้าคณะจนไม่สนใจถูกผิดอะไรแล้ว คบกันมาตั้งนานกูยังไม่เข้าใจเลยว่าทำไมมึงต้องใส่ใจกับชื่อเสียงคณะขนาดนี้ อย่างงี้ไม่เท่ากับมึงหลอกใช้น้องมันเหรอ ถ้าวันดีคืนดี เวหามันมาสารภาพรักกับมึง มึงก็จะยอมมันอย่างนั้นสิ”

“ยอมห่าอะไรล่ะ มึงกูรู้ว่าขนาดของเวหามันใช่ของคนปกติที่ไหน ใหญ่ยังกะสัตว์ประหลาดแบบนี้ กูโดนเข้าก็ตูดแหกสิ”

“มองในแง่ดีน้องมันอาจจะอยากได้มึงเป็นผัวก็ได้นะ อย่างนี้ทุกอย่างก็ลงตัวหมด”

“ลงตัวกะผีสิ มันก็ขาวแน่นดีอยู่หรอก แต่เสียบไปทีขี้ติดขึ้นมาจะทำยังไง กูไม่ได้เป็นเกย์โว้ย ยังชอบผู้หญิงอยู่และไม่มีทางเปลี่ยนใจไปเอาผู้ชายด้วยกันแน่ๆ”

เวหากำหมัดแน่นด้วยความโกรธ คำพูดเหยียดหยามที่ออกจากปากบัสทำลายภาพรุ่นพี่ที่อ่อนโยนใจดีในใจเขาลงอย่างสิ้นเชิง เวหายังไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าตัวเองเป็นเกย์หรือเปล่า บัสดูเหมือนจะเป็นผู้ชายเพียงคนเดียวที่เขารู้สึกชอบ ความชอบที่ตัวเองก็ยังไม่แน่ใจว่ามันจะหยุดอยู่แค่พี่น้องแบบถึงเนื้อถึงตัวหรือข้ามไปถึงขั้นชู้สาว แต่เขาก็ไม่พอใจที่บัสดูถูกเกย์ราวกับเป็นอะไรที่น่าขยะแขยง ทั้งๆ ที่ความคิดของบัสนั่นแหละที่น่ารังเกียจยิ่งกว่า คนที่ร้ายมาแบบตรงๆ อย่างแสนยังทำร้ายเขาให้เจ็บได้น้อยกว่าการใส่หน้ากากที่เต็มไปด้วยความอ่อนโยนแต่ในใจหวังเพียงหลอกใช้อย่างที่บัสทำ

ท่ามกลางข้อดีมากมายของเวหาที่บัสเพิ่งบรรยายให้เพื่อนฟังไป เด็กหนุ่มก็มีข้อเสียในเรื่องการเป็นคนไม่ยอมคนแถมยังโมโหร้ายแบบฝังลึกถ้าโกรธใครขึ้นมา นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้เวหาตอบโต้แสนอย่างไม่ลดละถึงแม้จะถูกกระทำรุนแรงต่างๆ นาๆ ในตอนนี้ดูเหมือนว่าเป้าหมายของเขาจะเปลี่ยนไปเป็นรุ่นพี่ที่เคยเคารพรักเสียแล้ว

เวหากระแทกประตูระเบียงเต็มแรงจนห้องสะเทือน บัสวิ่งเข้ามาดูอย่างตกใจแต่ก็เห็นเพียงหลังของเด็กหนุ่มไวๆ ก่อนที่ฝ่ายนั้นจะปิดประตูห้องดังโครม เขาคุ้นเคยกับเด็กหนุ่มจนบอกได้เวหาคงโกรธอย่างที่สุดทำให้บัสไม่กล้าที่จะวิ่งตามไป

หลังจากร่วมประชุมกับคณะลูกขุนเพื่อหารือเรื่องภารกิจต่อไปที่จะใช้ลงโทษแสนจนเย็น ประธานรุ่นปีสี่ที่เป็นตัวแทนคณะศึกษาพละก็เดินไปที่รถเก๋งเก่าๆ ของตนเพื่อจะกลับไปที่หอ แต่ยังไม่ทันจะสตาร์ทเครื่อง ประตูที่นั่งข้างคนขับก็ถูกเปิดออกอย่างกระทันหันพร้อมกับมีร่างๆ หนึ่งถลันเข้ามาแล้วไปคุดคู้ตัวสั่นเทาอยู่ตรงพื้นรถ

“อะไรวะ มึงเป็นใคร ลงไปเดี๋ยวนี้”

“ผมเองพี่ พี่อย่าทำท่าผิดปกตินะ ขับรถออกไปเลย ทำเหมือนไม่มีผมอยู่ ผมขอร้อง”

“ไอก้องภพ เอ็งไปทำอะไรมาวะนี่ ทำไมโทรมอย่างนี้”

ประธานรุ่นปีสี่มองรุ่นน้องคณะตัวเองที่บัดนี้ดูโทรมขอบตาโหลหนวดเครารุงรังไม่เหลือสภาพเดือนพละปีสามที่เคยได้ชื่อว่าเป็นเสือผู้หญิงตัวยงคนหนึ่งของมหาลัย แต่อีกฝ่ายไม่ยอมตอบพูดจาไม่รู้เรื่องเหมือนกลัวอะไรสักอย่าง สุดท้ายก็เอาแต่อ้อนวอนให้เขาขับรถกลับไปที่หอก่อนจนต้องยอมทำตาม พอไปถึงก้องภพก็ทำท่าหลบๆ ซ่อนๆ อยู่หลังเขาไปจนถึงห้องปิดประตูถึงได้ยอมปริปากบอกสาเหตุที่ทำให้ต้องหนีหัวซุกหัวซุนจนมาถึงนี่

ก้องภพเล่าเรื่องที่โดนวางยาซึ่งอาจเกี่ยวพันกับแสนจนถูกดาวบริหารกับผู้ชายอีกอีกคนข่มขืนทางประตูหลังแล้วปล่อยคลิปออกมาจนต้องอับอายขายหน้าคนทั้งมหาลัย ประธานรุ่นพละเคยเห็นคลิปที่ว่านั่นเหมือนกันเลยรู้สึกเห็นใจก้องภพอยู่มาก แต่พอก้องภพเล่าว่าเลยไปล้างแค้นดาวบริหารคนนั้นด้วยการจับตัวไปเปิดซิงข่มขืนซะหลายยกพร้อมทั้งถ่ายคลิปไว้ป้องกันตัวเขาก็ขมวดคิ้วอย่างไม่เห็นด้วย

“เอ็งไม่ควรทำอย่างนั้น ยังไงเขาก็เป็นผู้หญิงเปล่าวะ”

“ก็อีนั่นมันทำผมก่อน ผมข่มขืนมันกลับ ก็เจ๊ากันป่ะ นี่ยังไม่นับว่ามันเอาผู้ชายที่ไหนมาเย็ดตูดผมอีกคนนะ แต่ที่โคตรซวยก็คือ พ่อมันดันเป็นพวกเจ้าพ่อมาเฟียอะไรงี้จริงๆ มันสั่งลูกน้องให้มาจัดการผม คือแบบเอาให้ตายเลยจริงๆ ลูกปืนเลยนะพี่ เคยยิงเฉียดหัวผมด้วย ผมหนียังไงก็หนีไม่พ้น พวกมันมีหลายคน ไปดักรอที่หอ บ้านเพื่อน ที่ทำงานพิเศษ ยังดีที่ตอนนี้ปิดเทอม ไม่งั้นมันคงมาเป่าหัวผมกลางห้องเรียน ผมต้องหนีไปเรื่อยๆ แทบไม่ได้หลับไม่ได้นอนจนจะเป็นโรคประสาทอยู่แล้วเนี่ย ตอนแรกคิดว่ายอมไปให้พวกมันกระทืบซักทีคงจบ แต่ไม่อ่ะ มันจะฆ่าผมจริงๆ อีนั่นมันไม่ยอม” ก้องภพเล่าเรื่องที่เจอมาอย่างอ่อนล้าปนหวาดกลัว

“ถ้าถึงขนาดนี้ข้าจะช่วยเอ็งได้ไงวะ ไปหาตำรวจดีกว่าไหมข้าพาไป”

“ท่าทางพ่อมันมีอิทธิพลมากนะพี่ ผมไม่เสี่ยงหรอก ที่มาหาพี่เพราะจะให้พาผมไปหาพี่แสน ผมเห็นพี่อยู่กับพวกศิลปกรรมตอนที่ผมเจอพี่แสนครั้งสุดท้าย พี่รู้ว่าพี่แสนอยู่ที่ไหนใช่ไหม”

“เฮ้ย ไม่ใช่ไอแสนมันเป็นคนที่ทำให้เกิดเรื่องนี้ตั้งแต่แรกหรอวะ มันจะช่วยอะไรเอ็งได้ ตัวมันเองยังเอาตัวไม่รอด”

“ผมว่าพี่แสนถูกดึงให้เข้ามาเกี่ยวโดยไม่รู้ตัวมากกว่า ผมมั่นใจว่าถ้าพี่แสนรู้เรื่องทั้งหมด เขาต้องช่วยผมได้ พี่พาผมไปหาเขาหน่อย”

ก้องภพไม่ใช่คนดีอะไรในสายตาของประธานรุ่นพละ แต่เมื่อเห็นรุ่นน้องคณะที่พบหน้ากันอยู่บ่อยๆ ต้องมาหนีตายหัวซุกหัวซุนแบบนี้ก็อดสงสารไม่ได้ ในฐานะรุ่นพี่เขาเลยเอาเรื่องนี้ไปปรึกษาชายสวมหมวกกันน็อกเพราะถือว่าก้องภพก็เป็นคนหนึ่งที่เสียหายจากการกระทำของแสนเช่นกันต่อให้เจ้าตัวจะไม่เชื่อเช่นนั้น ชายสวมหมวกกันน็อกเห็นด้วยว่าน่าจะช่วยหาทางรักษาชีวิตไว้ แต่ถ้าจะใช้หลักการเดียวกับเรื่องของแสน การที่ก้องภพไปแก้แค้นคืนดาวบริหารด้วยวิธีเลวร้ายแบบนั้นก็ต้องได้รับผลที่สาสมเช่นกัน

ชายสวมหมวกกันน็อกจัดการเรื่องนี้โดยขอให้คนไม่กี่คนจากคณะลูกขุนไปช่วย เวหาเป็นตัวหลักที่เข้ามาช่วยเรื่องนี้ทั้งๆ ที่ยังอยู่ในอารมณ์ไม่ปกติ ตั้งแต่เกิดเหตุที่ทำให้รู้ธาตุแท้ของบัส เขาตัดขาดไม่ไปพบกับประธานรุ่นปีสามอีกเลยทั้งที่เคยตัวติดกัน แถมยังหยุดช่วยงานของคณะทุกอย่างที่บัสเคยไหว้วานไว้ เวหาเอาเวลาที่ว่างมาช่วยงานคณะลูกขุนอย่างเต็มที่เพราะไม่อยากให้ตัวเองอยู่ในสภาพที่ซึมเศร้า สำหรับก้องภพ แม้เด็กหนุ่มจะตกลงช่วยเพราะไม่ใจหินพอที่จะเห็นอีกฝ่ายตายไปต่อหน้าต่อตาได้ แต่เวหาก็ยังไม่ลืมเรื่องที่อีกฝ่ายมากลั่นแกล้งเขาอย่างรุนแรงโดยไม่มีเหตุผล แว่นเนิร์ดเพื่อนเขาเองก็เคยถูกก้องภพทำร้ายตามคำสั่งของแสน

เวหานัดดาวปีสองคณะบริหารซึ่งเป็นผู้กุมความเป็นความตายของก้องภพไว้มาที่ร้านกาแฟในโรงพยาบาลคณะแพทย์ของมหาลัย เด็กหนุ่มคุ้นเคยกับหญิงสาวรุ่นพี่คนนี้พอสมควรเพราะอีกฝ่ายเคยอยู่ในทีมพี่เลี้ยงตอนประกวดดาวเดือนมหาลัย เขายังเคยเป็นไม้กันหมาให้ตอนที่ก้องภพเข้ามาจีบดาวบริหารตามประสาคนเจ้าชู้

เวหานึกเห็นใจในชะตากรรมของหญิงสาวที่ต้องมาถูกคนอย่างก้องภพข่มขืน แต่ในขณะเดียวกันก็อดตกใจกับรสนิยมอันแปลกประหลาดที่ชอบเย็ดตูดผู้ชายกับความเลือดเย็นที่ปล่อยให้พ่อสั่งฆ่าคนได้อย่างหน้าตาเฉย

เวหาค่อยๆ ตะล่อมเข้าเรื่องอย่างระมัดระวัง สีหน้าของดาวบริหารเปลี่ยนเป็นบิดเบี้ยวอย่างโกรธแค้นเมื่อรู้เหตุผลที่เดือนวิศวะปีหนึ่งขอให้หล่อนมาพบในวันนี้

“มันเอาเรื่องนี้ไปบอกเธอเหรอเวหา มันต้องตาย ไอเลวก้องภพ มันอยู่ไหน”

“ใจเย็นๆ นะครับพี่ ตอนนี้ก้องภพเขาก็กลัวจนจะเป็นโรคประสาทอยู่แล้ว พี่พอจะอโหสิไม่ได้เหรอครับ บ้านเมืองมีกฎหมาย ให้ตำรวจจัดการก็ได้ อย่าเอามือตัวเองไปเปื้อนเลือดเลย นึกเสียว่าพี่ก็เคยไปทำเขาก่อน แล้วยังมีปล่อยคลิปออกมาอีก”

“เรื่องนั้นชั้นแค่ไปซื้อบริการจากพี่แสนอย่างตรงไปตรงมานะ จ่ายเงินไปตั้งเยอะด้วย จะไปรู้ได้ไงว่าไอก้องภพมันเต็มใจหรือถูกหลอกมา ถ้าจะล้างแค้นก็ไปทำกับพี่แสนสิ อีกอย่างคลิปนั้นชั้นก็ไม่ได้เป็นคนปล่อย พี่แสนนั่นแหละที่เป็นคนขอไป ทำไมชั้นต้องมาถูกไอผู้ชายน่ารังเกียจแบบนี้ทำร้ายด้วย แค่นึกว่าแท่งสกปรกนั่นเคยอยู่ในตัวขั้นก็ขยะแขยงแทบตายแล้ว” ดาวบริหารยิ่งพูดยิ่งควบคุมตัวเองไม่อยู่จนน้ำตาไหลนองออกมา เวหามองอย่างเห็นใจ สำหรับผู้หญิงแล้ว การถูกคนที่ตัวเองเกลียดข่มขืนคงเป็นอะไรที่อาจจะแย่กว่าความตายเสียอีก

“ผมเข้าใจครับ ก้องภพมันเลวจริงๆ ถ้าไม่มีอะไรชดเชยให้คงจะเลิกแล้วต่อกันไม่ได้สินะ ทางเราเองก็คิดอย่างนั้นเลยได้ลงมือไปแล้ว งั้นให้พี่เห็นสิ่งที่มันชดใช้ให้แล้วค่อยตัดสินใจอีกทีก็ได้”

“ชดใช้ยังไงคะ ถ้าเรื่องเงินน่ะ เท่าไหร่มันก็เอาสิ่งที่เสียไปคืนมาไม่ได้”

“ไปเจอก้องภพกันก่อน แล้วพี่จะทราบครับ”

หญิงสาวเดินตามเวหาไปจนถึงห้องพักคนไข้ห้องหนึ่ง ที่นั่นมีประธานรุ่นพละปีสี่นั่งเฝ้ารุ่นน้องเดือนคณะที่ท่าทางอ่อนเพลียสะลึมสะลือนอนให้น้ำเกลืออยู่บนเตียงผู้ป่วยอยู่ ก้องภพเพิ่งตื่นขึ้นมาไม่นานนี้ ยังมึนๆ อยู่ว่ามาอยู่ในที่ที่เหมือนโรงพยาบาลแบบนี้ได้ยังไง เขาจำได้ว่าเขาซ่อนตัวอยู่ในห้องของรุ่นพี่มาสองสามวันจนถึงเมื่อคืนที่รุ่นพี่เอายาบำรุงให้กินแล้วเขาก็รู้สึกตัวอีกทีก็มาอยู่ที่นี่เลยในสภาพเหมือนคนป่วย

ก้องภพตกใจแทบสิ้นสติที่เห็นดาวบริหารคู่กรณีที่เป็นต้นเหตุให้เขาถูกตามล่าเอาชีวิตมาปรากฏตัวที่นี่ เขาได้ยินเวหาคู่ปรับเก่ากำลังอธิบายอะไรบางอย่างที่เขาไม่เข้าใจ

“การที่ก้องภพเลือกใช้วิธีข่มขืนมาแก้แค้นทำให้เห็นได้ชัดว่าคนคนนี้มีปัญหาในการควบคุมความเงี่ยนของตัวเอง พฤติกรรมเพลย์บอยที่ผ่านมาของเขาก็ยืนยันเรื่องนี้ได้ดี ทางเราเห็นว่าควรจะจัดการที่ตัวปัญหาไปเลยจะได้หมดเรื่อง และเป็นการชดใช้ให้กับพี่ด้วย”

เวหาเปิดผ้าห่มที่คลุมท่อนล่างของก้องภพออกเผยให้เห็นถึงเป้ากางเกงชุดคนไข้ที่ราบเรียบจนน่าแปลกใจ

“อย่าบอกนะว่า..” หญิงสาวถามขึ้นอย่างไม่แน่ใจ

“ใช่ครับ เราจัดการตัดตัวปัญหาทิ้งไปแล้ว” เวหาพูดอย่างเหี้ยมเกรียม

“ไม่จริง” ก้องภพกรีดร้องเสียงโหยหวนเมื่อรู้ว่าอะไรเป็นอะไรขณะที่เอามือตะปบลงไปตรงเป้ากางเกงของตัวเอง แทนที่จะพบกับความนูนหยุ่นอุ่นมือไวต่อการสัมผัสที่คุ้นเคย เขากลับพบเพียงความเรียบแบนไร้ความรู้สึกใดๆ

เดือนพละปีสามถลกกางเกงตัวเองออกอย่างไม่อายใครหน้าไหนแม้จะมีหญิงสาวอยู่ในห้องด้วย สิ่งที่เห็นทำให้หัวใจเขาแทบหยุดเต้น เส้นหมอยดกดำของเขาถูกโกนจนเกลี้ยงเกลาแบบคนที่เตรียมผ่าตัดบริเวณช่วงล่าง ผ้าก๊อซชุ่มเลือดแผ่นใหญ่ที่แปะอยู่ตรงหว่างขามันเหมือนแปะลงไปตรงๆ บนช่วงรอยต่อระหว่างหัวเหน่ากับถุงอัณฑะ แล้วดุ้นเนื้อที่เคยอยู่ตรงนั้นมันหายไปไหน ชายหนุ่มตกใจจนเกือบสิ้นสติ เขาภาวนาให้มันยังอยู่ขณะที่เอามือดึงผ้าก๊อซออกอย่างไม่กลัวเจ็บ แต่พอเห็นถนัดตาว่าดุ้นเนื้อที่ตามหาเหลือแต่ตอกุดๆ ก้องภพก็ร้องลั่นแล้วสิ้นสติไปด้วยความตกใจจนเกินขนาด

ดาวบริหารนึกไม่ถึงว่าเด็กหนุ่มใสๆ ตรงหน้าจะทำเรื่องรุนแรงขนาดนี้ได้ ท่าทางจะเป็นคนแบบเดียวกับบิดาของเธอที่ทั้งเลือดเย็นและเด็ดขาด

“เป็นไงครับ สิ่งนี้พอจะชดใช้ได้หรือเปล่า” เวหาสบตากับหญิงสาวพร้อมกับตั้งคำถาม แววตาของหนุ่มลุกวาวเต็มไปด้วยความแค้นจนลูกสาวเจ้าพ่อยังเสียวสันหลัง แต่หล่อนก็ไม่ได้แสดงอาการอะไรออกไป

“ที่มันทำกับชั้น แค่ฆ่าทิ้งยังรู้สึกไม่สาสมเลยนะคะ นี่แค่อวัยวะชิ้นเดียว”

“ไม่ใช่อวัยวะแค่ชิ้นเดียวครับ สิ่งที่พี่จะได้รับเป็นการชดใช้คือความทรมานชั่วชีวิตของผู้ชายที่ทำร้ายพี่ ลองคิดดูว่าคนสำส่อนทางเพศอย่างก้องภพจะทุรนทุรายขนาดไหน ถ้าคนของพ่อพี่เก็บเขาซะวันนี้พรุ่งนี้ ช่วงเวลาที่ว่ามันก็ดูจะสั้นไปนะครับ ว่าไหม”

“คงไม่ได้คิดจะต่อให้มันทีหลังหรอกนะคะ” หญิงสาวถามอย่างระแวง

“ถูกดองในฟอร์มาลินขนาดนี้คงต่อไม่ติดแล้วครับ”

เวหายกโหลแก้วใบย่อมที่วางแอบไว้หลังแจกันดอกไม้ออกมา หญิงสาวผงะถอยหลังออกไปอย่างรังเกียจเมื่อเห็นอวัยวะเพศชายขนาดกลางเหี่ยวๆ ที่ถูกตัดลอยไปมาอยู่ในน้ำยาดูน่าขยะแขยง ดาวบริหารจำรูปร่างลักษณะของท่อนเนื้อดุ้นนั้นได้ดีเพราะเคยทรมานมันเล่นแบบสดๆ มาหลายครั้ง ไม่นับที่ดูผ่านวิดีโอที่บันทึกไว้อีกนับครั้งไม่ถ้วน

“ตัดออกมาแล้วจริงๆ ด้วย ถ้าชั้นไม่โอเคด้วยไม่เท่ากับโดนตัดทิ้งไปฟรีๆ เหรอ” หญิงสาวพูดเหมือนไม่ยินดียินร้ายอะไรนัก ทั้งๆ ที่สะใจอย่างบอกไม่ถูกที่เห็นอวัยวะของก้องภพที่ใช้ทำร้ายตัวหล่อนถูกกำจัดออกจนไร้พิษสง

“ถ้าพี่ไม่โอเคก้องภพก็เป็นศพอยู่ดี ศพจะมีไอนั่นหรือไม่มีมันคงไม่ต่างกันเท่าไหร่ ผมขอแค่เพิ่มโอกาสให้รุ่นพี่ร่วมมหาลัยได้รอดชีวิตน่ะครับ”

ดาวบริหารนึกถึงก้องภพที่ต้องกลายเป็นขันทีไปชั่วชีวิต หมดโอกาสที่จะแพร่เชื้อพันธ์เลวๆ ไปให้ผู้หญิงคนไหนได้อีก แล้วก็แสยะยิ้มมุมปาก

“ได้ ชั้นจะคุยกับพ่อให้ แต่ยังไม่รับประกันนะ”

หญิงสาวมาเยี่ยมก้องภพที่โรงพยาบาลอีกหลายต่อหลายครั้งหลังจากนั้น แต่ละครั้งมีดอกไม้ผลไม้ราคาแพงมาให้เหมือนจะประชด ทุกครั้งที่เห็นหน้าคู่กรณี ก้องภพจะร้องโวยวายเหมือนคนบ้าพยายามที่จะเข้าไปทำร้ายคนที่ทำให้ต้องสูญเสียความเป็นชายไป แต่ด้วยเสื้อรัดแขนขาสำหรับคนไข้โรคประสาทที่ก้องภพสวมอยู่ทำให้ไม่สามารถขยับตัวได้อย่างใจได้แต่ก่นด่าคร่ำครวญถึงของรักของลูกผู้ชายที่ไม่มีวันกลับคืน ดาวบริหารจะมานั่งฟังอยู่ครั้งละนานๆ เหมือนเป็นการบำบัดจิตใจตัวเอง บางทีก็หยิบเอาขวดโหลดองอวัยวะที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียงคนไข้ขึ้นมาดูอย่างสะใจแกมสะอิดสะเอียน หล่อนมักจะรออยู่จนถึงเวลาทำแผลเพื่อให้เห็นเครื่องเพศที่กุดเหลือแต่ตอมีเพียงท่อสวนปัสสาวะต่อออกมากับตา

จนวันสุดท้ายก่อนที่ก้องภพจะออกจากโรงพยาบาล หญิงสาวก็แวะมาบอกข่าวดีว่าสามารถคุยกับพ่อให้ละเว้นชีวิตก้องภพได้แล้ว แต่ถ้าวันข้างหน้าก้องภพมายุ่งเกี่ยวอะไรอีก จะต้องโดนจัดการทันทีไม่มีการอะลุ่มอล่วยอะไรอีก ก้องภพนอนน้ำตาไหลพราก ถึงจะรักษาชีวิตไว้ได้แต่ถ้าต้องเสียความเป็นชายไปตลอดกาลอย่างนี้ก็ไม่รู้ว่าจะอยู่ไปเพื่ออะไร ถ้านี่เป็นฝันร้ายก็ขอให้ตื่นเสียที

ประธานรุ่นพละปีสี่กับเวหามาเยี่ยมก้องภพในวันสุดท้าย พวกลูกขุนที่มาช่วยงานนี้ก็ทะยอยกันเข้ามาในห้องปิดท้ายด้วยชายสวมหมวกกันน็อก จนห้องผู้ป่วยเล็กๆ แน่นขนัดไปหมด

“เป็นไงวะ วันนี้เอ็งจะได้ออกจากโรงพยาบาลแล้วนะ”

ก้องภพที่เพิ่งถูกปลุกให้ตื่นนอนหมดอาลัยตายอยาก น้ำตาลูกผู้ชายไหลพรากเมื่อหันไปเห็นชิ้นส่วนอวัยวะของตัวเองในขวดโหลข้างเตียง แต่จากสภาพซึมเศร้า ก้องภพกลับมีอาการคุ้มคลั่งขึ้นมาทันทีเมื่อเห็นหน้าเวหา

“เพราะมึง เป็นฝีมือมึงใช่ไหมที่ยุให้ทุกคนทำอย่างนี้”

“หุบปากไอ้ก้อง เวหาเขาอุตส่าห์ช่วยคุยกับดาวบริหารให้ จะโวยวายใส่เขาหาอะไร ถ้าจะแค้นก็ไปแค้นไอแสนโน่น แต่คงช้าไปแล้วเพราะพวกข้ากำลังจัดการอยู่ อย่างเอ็งเดี๋ยวไปทำอะไรโง่ๆ ขึ้นมาอีก เอ้า ถอดกางเกงออก เขาจะได้ถอดสายเยี่ยวให้”

ก้องภพถูกจับถอดกางเกงออกจนท่อนล่างเปลือยเปล่า ภาพหนุ่มหล่อหุ่นดีที่เหลือแต่ตอและพวงไข่ทำให้ทุกคนในห้องรุมมองอย่างสนใจ บางคนถึงกับเอานิ้วจิ้มตอกุดๆ ของเดือนพละอย่างนึกสนุก ก้องภพรู้สึกสมเพชตัวเองจนหน้าชา ไม่นึกว่าเพลย์บอยอย่างเขาต้องกลายมาเป็นไอด้วนดอกุดหมดสิ้นศักดิ์ศรีลูกผู้ชายตั้งแต่วัยหนุ่ม ต่อไปเขาจะฉี่ยังไง จะปี้หญิงก็ไม่ได้ แม้แต่ชักว่าวที่ต้องทำทุกวันก็ไม่เหลือเครื่องมือแล้ว คนหนุ่มแน่นที่มีกำหนัดมากเป็นพิเศษอย่างเขาจะทนได้ยังไง หรือจะต้องผันตัวเองไปเป็นเกย์รับมีความสุขจากการโดนเย็ดตูดแทน เขาคิดฟุ่งซ่านไปเรื่อยภาวนาให้เรื่องนี้ไม่ใช่ความจริง

ก้องภพหลุดออกจากภวังค์ความคิดตัวเองเมื่อเห็นว่าคนที่มาถอดสายปัสสาวะให้เป็นรุ่นพี่ศิลปกรรมแทนที่จะเป็นหมอหรือพยาบาล แถมกลิ่นของน้ำใสๆ ที่กำลังใช้เช็ดแผลเขาอยู่นั้นก็มีกลิ่นฉุนของทินเนอร์มากกว่าจะเป็นแอลกอฮอล์ เขารู้สึกแปลกใจที่ไม่เจ็บแผลเลยทั้งๆ ที่รุ่นพี่คนนั้นกำลังถูบริเวณตอกุดๆ ของเขาอย่างเอาเป็นเอาตาย ในที่สุดตอควยทั้งยวงของเขาก็ถูกดึงขึ้นเห็นเนื้อร่อนเป็นแผ่นๆ อย่างน่าสยดสยอง

ก้องภพตกใจแทบช๊อคทั้งๆ ที่รู้สึกแค่ตึงๆ ไม่ได้เจ็บปวดอะไร แต่ภายใต้ก้อนเนื้อที่ถูกดึงออกนั้นกลับมีแผ่นพลาสเตอร์ปิดไว้อย่างแน่นหนาอีกชั้นหนึ่ง พอรุ่นพี่ศิลปกรรมแกะพลาสเตอร์ออกแล้วกระชากทิ้งอย่างแรง ก้องภพถึงได้เริ่มรู้สึกถึงความเจ็บขึ้นมาจริงๆ เขาแทบไม่เชื่อสายตาเมื่อเห็นดุ้นควยที่แสนคิดถึงของตัวเองนอนสงบนิ่งอยู่ กลิ่นควยสดๆ ที่หมักหมมอยู่หลายวันภายใต้แผลควยโดนตัดที่หล่อด้วยซิลิโคนฝีมือรุ่นพี่ศิลปกรรมกระจายไปทั่วห้องจนหลายคนต้องเบ้หน้าหนี ปีสี่ศิลปกรรมเอาซิลิโคนที่ใช้แต่งเอฟเฟคท์แผลออกจนหมดตามด้วยรุ่นพี่เทคนิคการแพทย์ในทีมที่มาถอดสายสวนปัสสาวะของจริงที่ต่ออยู่กับสายหลอกด้านนอกออก พอท่อนล่างเป็นอิสระ ก้องภพก็เอามือลูบคลำดุ้นควยของตัวเองอย่างตื่นเต้นโดยไม่อายสายตาของคนในห้องที่มองมาอย่างขบขัน ไม่นานท่อนลำขนาดกลางของเดือนพละรูปหล่อก็แข็งตัวเต็มมีน้ำเหนียวใสไหลออกมาจากรูเยี่ยวไม่ขาดสาย รุ่นพี่เทคนิคการแพทย์เห็นแล้วก็หัวเราะพูดกับเพื่อนคณะศึกษาพละว่า

“นี่ขนาดฉีดยายับยั้งการแข็งตัวไปโดสใหญ่แล้วนะ นึกว่าจะสงบอยู่ได้นานกว่านี้อีกซักวันสองวันเสียอีก พลังเงี่ยนของรุ่นน้องมึงนี่สุดๆ จริงๆ”

ก้องภพไม่สนใจ พอลุกจากเตียงได้ก็หัวเราะร่าเอาควยที่แข็งโด่ไปยัดเยียดให้คนโน้นคนนี้ดูราวกับคนเสียสติ

“พี่ๆ ดูควยผมสิ ควยผมยังอยู่ ฮ่าๆๆๆ ลองจับดูก็ได้ มันแข็งปั๋งเหมือนเดิม ไอเวหา มึงมาดูควยกู โคตรควยอันนี่แหละ เปิดซิงดาวบริหารมาแล้ว อิจฉาใช่ไหม กูจะได้กลับไปเย็ดสาวทั้งมหาลัยเหมือนเดิมแล้ว”

ทุกคนต่างพากันหนีเมื่อก้องภพเอาควยเหม็นโฉ่เข้ามาใกล้ เดือนพละกระโดดโลดเต้นไปทั่วห้องเหมือนคนบ้าพร้อมกับสาวควยอย่างเมามันไปด้วย ไม่นานหนุ่มหล่อนักกีฬาก็กระฉูดน้ำว่าวขาวข้นจำนวนมหาศาลออกมาชุดใหญ่ท่ามกลางความรังเกียจของคนในห้อง

ประธานรุ่นพละปีสี่ถอนหายใจอย่างระอากับความไม่รู้สำนึกของรุ่นน้องตัวเอง

“ไอก้อง เอ็งฟังข้าให้ดี ถึงควยเอ็งจะยังอยู่ แต่จะทำตัวเห้ๆ เหมือนเดิมไม่ได้แล้ว ถ้าดาวบริหารที่เอ็งไปข่มขืนเขารู้เข้า คราวนี้แม้แต่ศพก็คงไม่เหลือ จำไว้ เอ็งจะยืนเยี่ยวที่โถไม่ได้แล้ว ปี้สาวก็ไม่ได้ แก้ผ้าอาบน้ำให้คนอื่นดูก็ห้าม ชีวิตเอ็งจะต้องเปลี่ยนไปนับจากวันนี้”

“ขนาดนั้นเลยเหรอพี่ แอบๆ เอาก็คงไม่มีใครรู้”

“ตอนนี้คนที่รู้ความลับก็มีแต่คนที่อยู่ในห้องนี้เท่านั้น ทุกคนไว้ใจได้แน่นอนไม่งั้นคงไม่พยายามช่วยชีวิตเอ็งขนาดนี้ ต่อให้เอ็งนิสัยแย่ทำเรื่องไม่ถูกต้องมาแต่ทุกคนก็ยังเห็นว่าเอ็งเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องร่วมมหาลัย ตั้งแต่รุ่นพี่ศิลปกรรมที่อดตาหลับขับตานอนแต่งเอฟเฟกท์แผลให้เอ็งแถมยังหล่อควยปลอมซะเหมือนเปี๊ยบใส่โหลให้ รุ่นพี่เทคนิคการแพทย์ที่ช่วยหาห้องในโรงพยาบาลเพื่อความสมจริง ที่สำคัญคือเวหาที่เล่นละครหลอกดาวบริหารคนนั้นให้อย่างเนียน แววตาแม่งเหี้ยมได้ใจมากตอนที่บอกผู้หญิงคนนั้นว่าตัดควยไอก้องภพไปแล้ว ทำได้ไงวะ”

“ก็แค่นึกถึงคนๆ นึงที่ผมแค้นมากๆ ที่เหลือมันก็เป็นไปตามอารมณ์เอง”

เวหาตอบขณะที่แววตาวาวโรจน์ขึ้นมาอีกเมื่อนึกถึงคนๆ นั้น ประธานรุ่นพละปีสี่เห็นท่าทางที่ไม่ปกติของเด็กหนุ่มเลยรีบกลับไปสั่งสอนก้องภพต่อ

“ถ้าเอ็งไปนอนกับผู้หญิงทั่วไป เท่ากับมีคนรู้ความลับนี้เพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ แล้วมั่นใจได้ไงว่าเขาจะไม่พูดออกไป หรือคนอื่นที่อาจบังเอิญเห็นควยเอ็งในห้องน้ำห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า ใครเขาจะมาคอยรักษาความลับให้เอ็ง ดาวบริหารคนนั้นเขาท่าทางกว้างขวางนะ ดีไม่ดีป่านนี้ข่าวที่เอ็งถูกเฉือนจู๋คงรู้ถึงเพื่อนเขากันหมดแล้ว ชีวิตเอ็งเหมือนแขวนอยู่บนเส้นด้ายนะ ถ้าอยากจะเสี่ยงตายปล่อยความลับให้แตกก็ตามใจ แต่พวกข้าคงไม่ยุ่งอะไรกับเอ็งอีก”

ก้องภพหน้าเสีย แล้วอย่างนี้เขาจะมีควยเอาไว้ทำอะไรล่ะ โน่นก็ไม่ได้ นี่ก็ไม่ได้ ชีวิตหนุ่มของเขาจะเหงาหงอยขนาดไหนกันล่ะนี่

ก้องภพกลับไปใช้ชีวิตตามปกติโดยไม่ต้องพะวงว่าจะมีใครคอยตามเอาชีวิต แรกๆ ก็ดูเหมือนจะดี แต่ยิ่งนานไป เรื่องที่เขาต้องระวังตัวไม่ให้รู้ไปดาวบริหารว่าเขายังมีควยอยู่อย่างปกติก็ทำให้ชีวิตลำบากได้อย่างไม่น่าเชื่อ ก้องภพไม่สามารถยืนฉี่ได้เหมือนผู้ชายปกติเพราะไม่อยากเสี่ยงให้มีพยานรับรู้ เขาต้องยอมฟังเสียงนินทาหาว่าถูกเย็ดตูดตามที่เห็นในคลิปจนเป็นตุ๊ดเป็นแต๋วไปเสียแล้วถึงได้ไปฉี่ในห้องส้วม ห้องอาบน้ำในโรงยิมและค่ายมวยก็เป็นสิ่งที่เขาต้องหลบเลี่ยงด้วยการกลับหอพักทั้งๆ ที่ตัวยังชุ่มเหงื่อ แต่พอเกิดเหตุที่คนขับต้องเชิญเขาลงจากรถตู้สาธารณะเพราะผู้โดยสารคนอื่นทนกลิ่นอันอบอวลไม่ไหว ก้องภพก็ไม่กล้าทำให้ตัวเองต้องอับอายขนาดนั้นอีก สนามกีฬาหรือโรงยิมไหนที่ไม่มีห้องน้ำแยกเขาก็ต้องอาบทั้งกางเกงขาสั้นเหมือนพวกมีปมด้อยเป็นที่ขบขันของเพื่อนนักกีฬาคนอื่นๆ คนที่เคยเห็นคลิปฉาวอันนั้นแล้วลงความเห็นว่าก้องภพคงอับอายที่ควยเล็ก ยิ่งพูดกันไปปากต่อปากเลยกลายเป็นว่าควยของก้องภพเล็กจิ๋วจนน่าจะได้เอฟถ้าพละมีการตัดเกรดกันบ้าง ก้องภพได้แต่นิ่งเงียบ ถ้าเถียงไปแล้วมีใครพยายามพิสูจน์ขึ้นมา เขาอาจจะต้องเอาชีวิตมาทิ้งเสียเปล่าๆ หนักเข้าก้องภพก็หนีเข้าส้วมยอมล้างตัวด้วยสายฉีดตูดแทนอย่างน่าสมเพช

ปัญหาของก้องภพยังไม่จบเพียงแค่นั้น เขาถูกให้ออกจากงานพิเศษที่เป็นครูสอนชกมวยและว่ายน้ำให้กับพวกเด็กๆ เพราะคลิปฉาวที่เริ่มแพร่กระจายออกนอกมหาลัยจนการเงินฝืดเคือง แต่ก่อนก้องภพควงผู้หญิงที่ไม่ต้องสวยต้องสาวมากอยู่บ้างถ้ามีฐานะ ถือเป็นแหล่งรายได้อีกทางหนึ่ง เขาไม่ได้คิดว่าตัวเองเป็นแมงดาเกาะผู้หญิงกินเพราะไม่ได้เรียกเงินเรียกทองโดยตรง แต่เสื้อผ้าข้าวของหรือมื้ออาหารที่คู่ควงพวกนี้เปย์ให้อย่างเต็มใจก็บรรเทาภาระในแต่ละเดือนได้ไม่น้อย คลิปฉาวที่หลุดออกมาทำให้ผู้หญิงกลุ่มนี้ลดน้อยถอยลงไป ต่อให้บางคนไม่แคร์แต่พอก้องภพปฎิเสธที่จะมีอะไรด้วยก็ต้องเลิกกันไปหรือแทบไม่เปย์อะไรให้อีก สถานะการเงินของก้องภพติดลบลงทุกวันจนเงินทองที่เคยได้จากตอนเป็นลูกน้องแสนร่อยหรอจนหมด จะไปทำงานพิเศษใช้แรงงานธรรมดาค่าตอบแทนที่ได้ก็ไม่พอยาไส้ ในที่สุดเขาก็ต้องบากหน้ากลับไปขอความช่วยเหลือจากประธานรุ่นพละปีสี่คนเดิม พอเรื่องนี้รู้ถึงหูชายสวมหมวกกันน็อก เขาสั่งให้ก้องภพไปทำงานพิเศษในผับเปิดใหม่แห่งหนึ่งซึ่งสามารถใช้ประโยชน์จากรูปร่างนักกีฬาระดับเดือนพละได้เต็มที่

เมื่อก้องภพไปถึงผับตามที่อยู่ที่ได้รับก็ใจเต้นแรงด้วยความดีใจ ที่แท้ที่นี่ก็คือผับของแสนที่เขาทราบข่าวว่ากำลังจะเปิด หรือว่าชายสวมหมวกกันน็อกลึกลับที่รุ่นพี่เขาดูจะเกรงใจนักเกรงใจหนาที่จริงคือคนที่แสนส่งมา ยิ่งคิดก็ยิ่งมั่นใจไม่งั้นคงไม่สั่งการซะมากมายเพื่อช่วยชีวิตเขาหรอก อิทธิพลระดับนี้เห็นจะมีแสนแค่คนเดียว ที่แสนไม่แสดงตัวออกมาคงเพราะกำลังมีปัญหากับพวกที่พยายามต่อต้านอยู่

ก้องภพนึกปลื้มใจในความฉลาดของตัวเองที่ประติดประต่อเรื่องราวทั้งหมดออกมาได้ ที่สำคัญอีกไม่นานคงจะได้เจอกันเพราะแสนก็เป็นเจ้าของผับอยู่แล้ว แต่เมื่อเข้าไปข้างในเขากลับพบแค่ผู้จัดการผับ งานที่ก้องภพต้องทำคือเป็นโคโยตี้บอยเต้นสร้างความบันเทิงให้กับลูกค้าในโซนเฉพาะที่อยู่ชั้นใต้ดิน เขาถูกสั่งให้เปลือยกายจนหมดมีเพียงหมวกโลหะที่ทำเลียนแบบชุดเกราะอัศวินในยุคกลางครอบหัวไว้เพื่อปิดบังใบหน้าเหลือเพียงช่วงปากและคาง

จากเดือนคณะนักกีฬารูปหล่อที่เคยโด่งดังกลับต้องกลายมาเป็นเด็กเต้นโชว์ควยตามผับตามบาร์ มิหนำซ้ำค่าตอบแทนที่ได้รับก็ไม่ได้มากอย่างที่คิด ผู้จัดการผับบอกว่าต่อให้หุ่นดีแค่ไหน แต่พอมีข้อจำกัดให้ลูกค้าเห็นใบหน้าไม่ได้แถมควยยังไม่ใหญ่พอก็เป็นแค่ตัวประกอบดีๆ นี่เอง ก้องภพรู้สึกไม่คุ้มค่าเลยที่ต้องทนให้เกย์แก่ๆ มาลูบคลำเนื้อตัวเพื่อแลกกับทิปไม่กี่บาท พวกลูกค้ากระเป๋าหนักก็สนใจแต่นักเต้นคนอื่นที่หน้าตาดีหรือควยใหญ่ แต่เขาก็ไม่มีทางเลือกที่ดีกว่านี้ อย่างน้อยค่าตอบแทนบวกทิปที่นี่ก็ยังดีกว่าไปเป็นลูกจ้างใช้แรงงานที่อื่น

ก้องภพไม่ได้มีความสามารถในการเต้นมากนัก แรกๆ ก็ยังได้แต่ขยับตัวตามเพื่อนอย่างเงอะๆ งะๆ อาศัยหุ่นนักมวยนักว่ายน้ำของตัวเองบวกกับหน้ากากที่ดูลึกลับทำให้ไม่ถึงกับโดนไล่ลงจากเวทีแต่ก็แทบไม่ได้ทิปเลย ก้องภพต้องขึ้นเวทีเกือบทุกรอบตลอดคืนเพื่อจะให้ได้เงินมาพอประทังชีวิตในขณะที่โคโยตี้บอยหน้าตาดีหรือควยใหญ่ขึ้นมาเพียงครั้งสองครั้งก็ได้ทิปเป็นกอบเป็นกำแล้ว ยิ่งขึ้นเวทีมากก็ยิ่งทรมานเพราะต้องใช้หนังยางรัดควยให้แข็งอยู่ตลอดเวลา

คืนแล้วคืนเล่าที่ก้องภพต้องแก้ผ้าเต้นโชว์จนความอายกลายเป็นความชินชา ความอยากได้เงินทำให้ต้องดิ้นรนขึ้น เขามองนักเต้นหนุ่มหล่อควยใหญ่ดาวเด่นคนอื่นที่ได้ทิปทีเป็นแบ๊งค์ห้าสิบดอลลาร์ร้อยดอลลาร์ด้วยความอิจฉา แต่หลายวันผ่านไปเขาก็เรียนรู้ได้ด้วยตัวเองว่าจะต้องจับตลาดล่าง แม้แต่แบ๊งค์ยี่สิบหรือห้าสิบบาทก็ไม่เกี่ยง รวมกันหลายๆ คนก็พอประทังชีวิตไปได้ ก้องภพประยุกต์ท่วงท่าจากกีฬาที่เขาถนัดมาใช้ในการเต้น การแสดงลีลาแม่ไม้มวยไทยประกอบเพลงทำให้ลูกค้าต่างชาติเริ่มให้ความสนใจ ท่าออกหมัดศอกเข่าและลูกเตะที่แข็งแรงเสริมให้ร่างกายที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามแบบนักมวยดูมีเสน่ห์ขึ้น นอกจากนั้นเดือนพละตกอับยังใช้ความใจกล้าหน้าด้านไปเต้นตามขอบๆ เวทีเชิญชวนคนดูให้ให้มาจับต้องร่างกายได้ทุกส่วนไม่ว่าจะเป็นควยไข่หรือตูด บางครั้งก็ใช้ความแข็งแรงของร่างกายตีลังกาแหกแข้งแหกขาทำท่าสะพานโค้งโชว์ดุ้นเนื้อที่โด่เป็นเสากระโดงเรืออย่างไม่อาย

ก้องภพยอมทำทุกอย่างขอเพียงให้ได้ทิปเพิ่มสักนิดหน่อยก็ยังดี หนักเข้าเขาถึงยอมดูดปากเลียนมฉกสะดือกับโคโยตี้บอยคนอื่น ความอยากได้เงินทำให้ก้องภพลืมตัวไปแล้วว่าตัวเองเกลียดพวกตุ๊ดพวกเกย์มากแค่ไหน ยิ่งเขาทำอะไรที่เสียศักดิ์ศรีความเป็นชายมากขึ้นเท่าไหร่ ทิปก็ค่อยๆ เพิ่มขึ้นตามลำดับ หลายอาทิตย์ผ่านไป เขาก็กลายเป็นตัวยืนสำหรับโชว์แนวเกย์ของผับไปเสียแล้ว พอรู้สึกตัวก้องภพก็พยายามจะกลับไปโชว์แมนๆ อย่างเดิม แต่ทิปที่ลดฮวบฮาบอย่างน่าใจหายก็ทำให้เขาต้องกลับมาโชว์แบบเดิมในคืนถัดไป

ก้องภพกำลังเตรียมตัวอยู่ในห้องพักนักแสดงสำหรับที่จะขึ้นโชว์ชุดแรกในค่ำคืนวันศุกร์ ซึ่งมักจะมีลูกค้ามาเที่ยวอย่างหนาแน่นทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ เขาได้ยินเสียงฝีเท้าหนักๆ ของคนที่เดินเข้ามาในห้องจึงหันไปมองแล้วก็ต้องตาลุกโพลงเรียกชื่อผู้มาใหม่ด้วยความประหลาดใจ

“นายแสน!!”

“นายแสนจริงๆ ด้วย”

ก้องภพละล่ำละลักเมื่อเห็นร่างผิวคล้ำสูงใหญ่เต็มไปด้วยมัดกล้ามที่เด็กกีฬาอย่างเขายังสู้ไม่ได้ ถึงอีกฝ่ายจะเปลี่ยนไปมาก แต่เขาก็จำเจ้านายที่เขาทั้งรักและศรัทธาได้ทันที ไม่นึกว่าจากที่ตามหามานานยังไม่เจอ อยู่ๆ ก็ได้พบอย่างง่ายๆ จากข่าวลือไม่สู้ดีต่างๆ ที่ได้ยินมาหนาหู ทำให้ก้องภพพอจะรู้ว่าแสนคงมีปัญหาอะไรสักอย่างที่ทำให้ต้องหายหน้าไป แต่การที่แสนกลับมาในวันนี้ แสดงว่าเรื่องยุ่งยากคงผ่านพ้นไปแล้ว แถมการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีที่เพิ่งประกาศผลไปเมื่อวานว่าพ่อของแสนได้กลับเข้ามารับตำแหน่งต่อเนื่องอีกสมัยก็ยิ่งยืนยันว่าอำนาจของแสนจะยังคงมีเหมือนเดิม

“นายแสนมาดูกิจการเหรอครับ ผมมาเป็นนักเต้นที่นี่ตั้งนานยังไม่เคยเจอเลย วันนี้โชคดีจริงๆ ผมมีเรื่องอยากให้นายแสนช่วยตั้งหลายเรื่อง มีคนตามฆ่าผมด้วยนะครับ ดีว่าได้บารมีของนายที่ส่งลูกน้องมาคิดวิธีหลอกมันจนผมรอดมาได้ นายแสนให้ผมมาทำงานที่นี่ก็ดีอยู่หรอก แต่เหนื่อยเหลือเกิน อยากกลับไปรับใช้นายเหมือนเดิมมากกว่า”

ก้องภพพล่ามสิ่งที่อัดอั้นมาตลอดออกมาพรวดเดียวให้กับเจ้านายที่ไม่ได้เจอกันมานานฟัง แต่แสนกลับหรี่ตามองหนุ่มหุ่นล่ำภายใต้หน้ากากเหล็กอย่างแปลกใจ

“มึงเป็นใครวะ”

ก้องภพนึกได้รีบถอดหน้ากากออก

“ผมก้องภพไงครับนาย”

แสนผงะเมื่อเห็นใบหน้าของลูกน้องเก่าเต็มตา เขานึกถึงหลายเรื่องที่เคยหาประโยชน์จากเดือนพละหน้าโง่คนนี้ตั้งแต่หลอกให้กินยานอนหลับเอาร่างกายมันไปขายหาเงิน ส่งไปเป็นเครื่องสังเวยยายป้า ผอ. ที่งานเลี้ยงไฮโซ จนล่าสุดก็ที่ปล่อยคลิปก้องภพถูกเย็ดตูดเพื่อกลบข่าวตัวเอง คิดแล้วก็หวั่นใจว่าจะถูกเอาคืนอย่างเจ็บแสบเหมือนที่เคยโดนจากคนอื่น

“นายแสนหายไปไหนซะนาน ปล่อยให้พวกนั้นมาปล่อยข่าวใส่ร้ายนาย ยิ่งไอเวหาตัวดีเลย พวกมันหาว่านายแสนเป็นคนปล่อยคลิปผม ทำท่าซะจริงจัง ถ้าผมไม่ฉลาดคงเชื่อมันไปแล้ว นายแสนมาดูกิจการก็ดีแล้ว ไอผู้จัดการมันท่าทางจะโกง มันกดค่าแรงผมเหลือนิดเดียว ต้องคอยรวบรวมเอาจากเศษทิป”

แสนอึ้งไปกับความซื่อจนโง่ของก้องภพ เขาทำท่าจะตอบแต่ชายสวมหมวกกันน็อกที่เพิ่งเดินตามเข้ามาพูดตัดบทเสียก่อน

“วันนี้นายแสนจะมาร่วมโชว์ด้วย กิจการตัวเองก็ต้องทุ่มเทกันหน่อย เราช่วยเป็นพี่เลี้ยงให้หน่อยนะ นี่เป็นครั้งแรกของนายแสนอาจจะยังทำอะไรไม่ค่อยถูก”

ก้องภพรู้สึกขัดหู ชายสวมหมวกกันน็อกน่าจะเป็นลูกน้องของแสนตามความเข้าใจของเขา ทำไมถึงดูไม่เคารพนายแสนเท่าไหร่

“หมายถึงนายแสนของผมจะขึ้นไปเป็นแขกเต้นสนุกๆ เหรอครับ”

“ขึ้นไปเต้นเปลือยเหมือนคนอื่นนั่นแหละ เดี๋ยวก้องภพพานายแสนไปสอนงานเลยนะ จะได้เตรียมตัวขึ้นแสดงรอบแรกเลย ก่อนไปกินยานี่ก่อนด้วย อย่าลืมสิ ต้องกินทุกวัน”

ชายสวมหมวกกันน็อกหยิบยาเม็ดสีฟ้าให้หนึ่งเม็ดซึ่งแสนก็รับไปกินทันทีเพราะรู้ว่าไม่มีประโยชน์ที่จะต่อต้าน เขาโดนสั่งให้กินยาตัวนี้มาเป็นเดือนๆ แล้ว แม้แต่ตอนที่อยู่บนเรือก็ยังมีคนบังคับให้กิน จะว่าแสนไม่ระแวงที่ต้องมากินยาที่ไม่รู้จักก็ไม่ใช่ แต่เท่าที่ผ่านมา ร่างกายเขาก็ยังไม่มีอะไรที่ผิดปกติยกเว้นอารมณ์ทางเพศที่ดูเหมือนจะเพิ่มขึ้นบ้าง

หลังจากกินยาเสร็จแสนก็บอกให้อดีตลูกน้องพาไปที่ห้องแต่งตัว ก้องภพทำหน้าเหวอ ไม่คิดว่าคนที่ยิ่งใหญ่และเป็นถึงเจ้าของผับอย่างแสนจะลดตัวลงมาทำอะไรแบบนี้ เขาไม่รู้ว่าที่จริงแสนต้องกัดฟันข่มความโกรธไว้มากมายขนาดไหน เมื่อชายสวมหมวกกันน็อกพูดออกมาอย่างนี้ก็เท่ากับเป็นคำสั่งที่แสนขัดขืนไม่ได้ ไม่นึกไม่ฝันว่าเขาจะตกต่ำจนต้องมาเป็นเด็กเต้นโชว์ควยในผับที่ตัวเองสร้างขึ้น เขาไม่เข้าใจว่าชายสวมหมวกกันน็อกเข้ามาทำตัวเหมือนเป็นเจ้าข้าวเจ้าของที่นี่ได้ยังไง ปราบที่เขามอบหมายให้ดูแลผับแห่งนี้หายไปไหน ระดับหัวๆ ที่เขาเคยรับเข้ามาก็ดูเหมือนจะเปลี่ยนหน้าไปหมดเหลือแต่พวกพนักงานเล็กๆ อย่างเด็กเสิร์ฟหรือคนเฝ้าประตูบางคนที่จำเขาได้และยกมือไหว้ ท่าทางพวกมันคงสืบรู้ความสัมพันธ์ของเขาและจัดการกับปราบไปเรียบร้อยแล้ว มิน่าเขาถึงไม่ได้รับความช่วยเหลือจากปราบทั้งๆ ที่ส่งข้อมูลไปแล้ว

เมื่อแน่ใจว่าเจ้านายของตัวเองจะขึ้นไปเต้นเปลือยด้วยจริงๆ ความประหลาดใจของก้องภพก็เปลี่ยนไปเป็นความยินดีที่ได้มีโอกาสทำเรื่องแบบนี้กับแสน ตอนนี้ทั้งคู่อยู่ในห้องแต่งตัวหลังเวทีซึ่งจริงๆ ก็ไม่มีชุดอะไรให้แต่งเพราะโชว์ที่นี่มีแต่ชุดวันเกิดเนื้อๆ เน้นๆ เท่านั้น

“ก่อนขึ้นเวทีเราต้องเตรียมควยให้พร้อมที่สุดครับ พอไปอยู่บนนั้นแล้วจะจัดการอะไรก็ลำบาก แขกอยากเห็นควยใหญ่ๆ ครับ นายแสนต้องเตรียมตัวโดยการทำให้ควยแข็งก่อนแล้วเอามาใส่ในเครื่องปั๊มสูญญากาศให้มันขยายจนสุดเอายางมัดส่วนโคนไว้ถึงเอาเครื่องออกได้ ผมจะทำให้ดูก่อนนะครับ”

ก้องภพอธิบายขั้นตอนการเตรียมตัวก่อนจะแหย่ควยตัวเองไปในเครื่องเป็นการสาธิต ไม่นานดุ้นเนื้อขนาดกลางของเดือนพละก็พองตัวจนสุดซึ่งก็ไม่ได้ใหญ่จากเดิมเท่าไหร่นัก เจ้าตัวรีบเอาหนังยางมามัดไว้ที่ส่วนโคนจนแน่นกันไม่ให้เลือดไหลออกเพราะต้องคงสภาพการแข็งตัวไว้ตลอดเวลาที่ขึ้นโชว์ จากนั้นก็ส่งเครื่องปั๊มสูญญากาศที่เพิ่งถอดจากควยตัวเองส่งให้ แสนรับมาด้วยความขยะแขยงเมื่อเห็นน้ำเงี่ยนใสๆ ของก้องภพยังเปรอะเปื้อนอยู่ภายในกระบอกแก้ว แต่เมื่อชายสวมหมวกกันน็อกยังจับตามองอยู่ทำให้เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเอามาสวมควยที่ค่อยๆ แข็งตัว แสนนึกสงสัยว่าทำไมควยตัวเองถึงยังแข็งตัวได้แม้ในสภาพที่น่าอดสูใจแบบนี้ หรือว่าจะเป็นเพราะฤทธิ์ยาที่กินทุกวัน

เมื่อเครื่องเริ่มปั๊มอากาศออก ควยดำเข้มของแสนที่เหมือนจะขยายตัวเต็มที่แล้วยังสามารถรับเลือดที่สูบฉีดเข้ามาได้อีกอย่างน่ากลัว เส้นเลือดปูดโปนที่กระจายไปทั่วลำควยพองตัวเต้นตุบๆ เหมือนจะระเบิด ก้องภพมองความน่าเกรงขามของเจ้านายด้วยความทึ่งขณะที่อาสาเอาหนังยางมารัดให้หลังจากที่ดุ้นเนื้อของแสนขยายตัวขึ้นถึงขีดสุดในสภาพสูญญากาศ

ผู้ชมในโซนลับของผับส่งเสียงฮือฮาอย่างถูกใจเมื่อเห็นนักเต้นหน้าใหม่ขึ้นเวทีมาพร้อมกับไอหน้ากากเหล็กควยเล็กคนเดิม ลูกค้าต่างชาติหลายคนถึงกับอึ้งเมื่อเห็นหุ่นสูงใหญ่เข้มทะมึนอันสมบูรณ์แบบที่นักเต้นคนอื่นในร้านเทียบไม่ติดเลยแม้แต่น้อย ท่อนควยสีคล้ำขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยเส้นเลือดคือจุดสนใจอับดับแรก แต่พอเงยหน้าขึ้นมา ก็เห็นใบหน้าหล่อคมที่ดูดิบเถื่อนในแบบเอเซียจนต้องตะลึง ไม่น่าเชื่อว่าคนที่ดูดีราวกับเป็นซุปเปอร์โมเดลแบบนี้จะมาแก้ผ้าเต้นเปลือยตามผับเกย์ในต่างจังหวัดของประเทศไทย

แต่ที่ตกตะลึงไปยิ่งกว่าลูกค้าคือบรรดาพนักงานในร้านที่ตาค้างไปตามๆ กัน ไม่มีใครคิดว่าเจ้าของผับหนุ่มหล่อที่ได้ยินว่าเป็นถึงลูกชายนายกเทศมนตรีคนดังจะกล้ามาเต้นโชว์สัดส่วนเรือนร่างให้ดูกันจะๆ ตา ต่อให้เป็นร้านของตัวเองก็ไม่น่าจะลงทุนขนาดนี้ หรือว่าเป็นรสนิยมชอบโชว์ของพวกคนรวยที่เปิดผับไว้สนองตัญหาตัวเอง โชคดีที่เจ้านายของพวกเขามีรูปร่างหน้าตาและท่อนควยที่สุดยอดขนาดนี้ ถ้าอ้วนน่าเกลียดเหมือนเสี่ยเจ้าของผับเกย์คู่แข่งลูกค้าคงได้อ้วกแตกไปตามๆ กัน

แสนเห็นสายตาของคนในร้านแล้วก็ได้แต่กัดฟันทน เขาจะแสดงความอับอายออกไปไม่ได้ ดูเหมือนคนที่นี่จะยังไม่รู้เรื่องที่เขาตกต่ำจนต้องกลายมาเป็นทาส แสนกัดฟันเชิดหน้าเต้นแกว่งควยไปมาเหมือนกันเป็นความต้องการของตัวเองเพื่อรักษาศักดิ์ศรีที่มีอยู่อย่างน้อยนิด

แขกในร้านตะโกนเรียกความสนใจจากนักเต้นหน้าใหม่จนอื้ออึงไปหมด ในมือของแต่ละคนมีธนบัตรสกุลต่างๆ โบกแข่งกันไปมา แสนจำใจโน้มตัวลงไปตามขอบเวทีเพื่อเก็บทิปเหล่านั้นซึ่งก็ต้องแลกมาด้วยการถูกขยำขยี้ทั้งควยทั้งตูดอย่างไม่ปรานีปราศรัยจากชาวต่างชาติที่มีทั้งหนุ่มแก่ผอมอ้วนคละเคล้าไป ชายสวมหมวกกันน๊อกตั้งเงื่อนไขว่าจะต้องได้ทิปไม่ต่ำกว่าคืนละสองพันเหรียญไม่งั้นแสนจะต้องออกไปเต้นเรียกแขกหน้าร้านในคืนถัดไป

ควยที่ถูกยางรัดโคนไว้เริ่มปวดแต่แสนก็ยังคงต้องเต้นหาเงินไปเรื่อยๆ ช่วงแรกก็ได้เงินเป็นกอบกำ แต่ก็ค่อยๆ แผ่วลงจนแสนใจเสียว่าคงไม่ถึงยอดที่ตั้งเป้าไว้ ก้องภพที่เป็นงานกว่าแอบกระซิบว่าชาวต่างชาติจะชอบดูอะไรที่มันถึงใจกว่าการเต้นเฉยๆ แสนเลยบังคับเย็ดปากก้องภพโชว์ซึ่งก็ทำให้เพิ่มยอดทิปได้บ้างจากพวกที่ชอบงานคู่ แต่ลูกค้าก็ยังไม่พอใจนักเพราะไม่ได้เห็นใบหน้าที่ควรจะอึดอัดเหยเกภายใต้หน้ากากเมื่อถูกควยดุ้นใหญ่กระทุ้งปาก ก้องภพไม่ยอมถอดเพราะกลัวดาวบริหารรู้แม้แสนจะสั่งให้ทำตามเสียงเรียกร้องจากลูกค้า ในที่สุดการแสดงคืนนั้นก็จบลงโดยที่ได้เงินเลยเป้าไปเส้นยาแดงผ่าแปด

แสนโกรธมากที่ตัวเองเกือบโดนให้ไปเต้นโชว์ควยหน้าร้านเพราะความดื้อด้านของก้องภพ แม้อีกฝ่ายจะพยายามอธิบายเหตุผลยังไงก็ตาม ในที่สุดก้องภพต้องบากหน้าไปขอให้กลุ่มกระเทยที่บาร์แถวนั้นแต๊บควยและไข่ให้แลกกับการถูกลวนลามจนแทบไม่เหลือชิ้นดี ในคืนนั้น ก้องภพขึ้นเวทีโดยไม่สวมหน้ากากเหล็กโชว์ใบหน้าหล่อคมจนคนนึกว่าเป็นนักเต้นหน้าใหม่ แต่ท่อนล่างเขากลับสวมเพียงกางเกงในลูกไม้สีแดงตัวจิ๋วที่เผยเป้าแบนราบเรียบไม่ต่างจากผู้หญิง แขกในร้านที่มีรสนิยมแปลกๆ รู้สึกตื่นเต้นพอใจเป็นอันมาก หลายคนถกเถียงกันว่าก้องภพเป็นอะไรกันแน่ระหว่างกระเทยแนวใหม่ที่เน้นความหล่อล่ำแต่เชือนเจ้าโลกแปลงเพศไปแล้ว กับผู้หญิงที่ข้ามเพศเป็นผู้ชายโดยไปฉีดฮอร์โมนชายและตัดเต้านมทิ้งแต่ยังคงมีจิ๋มเหมือนเดิม

เมื่อแสนขึ้นมาสมทบ ก้องภพที่เป็นตัวประหลาดไปแล้วก็วาดลวดลายดูดเลียอมควยกับเรือนร่างแกร่งกำยำของแสนอย่างเต็มที่เท่าที่กระเทยกลุ่มนั้นจะสอนได้ในเวลาจำกัด เขาไม่รู้เงื่อนไขของชายสวมหน้ากากแต่อยากเอาใจแสนที่ดูจะโมโหที่ได้ทิปน้อยเมื่อวาน อดีตเดือนพละรู้สึกคับแน่นไปทั้งปากจนตาเหลือกน้ำลายไหลยืดเมื่อโดนควยดุ้นใหญ่กระแทกเข้ามาสร้างความสะใจให้คนดูข้างล่างเป็นอันมาก คอหอยเขาปวดหนึบไปหมดที่ต้องพยายามรับความยาวของท่อนลำอันนั้น เส้นหมอยที่หยิกหยอยรกทึบเข้ามาทั้งทางปากและจมูกสร้างสัมผัสสากหยาบไปทั่ว ขณะที่ก้องภพพยายามอย่างเต็มที่ที่จะสนองต่อคำสั่งของนาย แสนกลับรู้สึกอดสูใจที่ตัวเองต้องมามีอะไรกับคนที่ดูเป็นหญิงก็ไม่ใช่ชายก็ไม่เชิงบนเวที แต่จำนวนทิปที่ไหลมาเทมาก็ทำให้เขามั่นใจว่าคงจะไม่ต้องถูกทำอะไรให้ขายหน้าไปมากกว่านี้

ค่ำคืนนั้นจบลงด้วยยอดทิปที่สูงลิ่วจากความพยายามของก้องภพ แต่แสนกลับต้องถอดสีหน้าเมื่อชายสวมหมวกกันน็อคบอกว่าพรุ่งนี้น่าจะมีเย็ดโชว์ตามเสียงเรียกร้องของลูกค้า แสนพยายามไม่แสดงอาการต่อต้านแต่ในใจเขาเต็มไปด้วยความคลั่งแค้นจนไม่คิดที่จะยอมอีกแล้ว ในเมื่อพ่อเขาเพิ่งได้รับเลือกเป็นนายกเทศมนตรีอีกครั้งก็แสดงว่าฐานอำนาจยังมั่นคงไปอีกนาน ถ้าเขาหนีออกไปได้แล้วเอาคนมีอิทธิพลมาช่วยคงจะถอนรากถอนโคนคนกลุ่มนี้ได้ทันก่อนที่จะมีความเสียหายไปถึงพ่อของเขา

แสนแอบสั่งให้ก้องภพที่ดูจะยังจงรักภักดีกับเขาไปเรียกร้องความสนใจของชายสวมหน้ากาก พอได้จังหวะก้องภพก็ลงไปนอนดิ้นกับพื้นโวยวายว่าท่อนควยกับไข่ของตัวเองถูกเทปกาวแต๊บไว้นานเกินไปเลือดไม่เลี้ยงจนปวดเหมือนไข่จะระเบิดออก ขณะที่ทุกคนไปรุมดูอย่างตกใจ แสนก็อาศัยความวุ่นวายหลบออกไปทางด้านหลังซึ่งมีทางออกลับไปที่บริเวณที่จอดรถ เด็กพม่าที่เฝ้าอยู่ยอมให้เขาออกไปโดยดีเพราะเข้าใจว่าเขายังเป็นเจ้าของผับอยู่แถมยังยอมถอดเสื้อผ้าและเอาเงินน้อยนิดในกระเป๋าตัวเองยกให้เขาตามคำสั่งจนเหลือแต่ตัวล่อนจ้อน แสนในชุดที่รัดติ้วเดินลัดเลาะไปจนถึงริมถนนคนละด้านกับที่ผับตั้งอยู่ตั้งใจจะหารถไปกบดานที่บ้านผู้มีอิทธิพลสักคนหนึ่งเพื่อกลับมาล้างแค้น แต่ในยามวิกาลอย่างนี้ไม่มีรถรับจ้างวิ่งผ่านมาเลย เขารู้สึกเจ็บใจตัวเองที่ไม่ได้บังคับเอาโทรศัพท์มือถือจากเด็กพม่ามาด้วยไม่งั้นคงจะติดต่อขอความช่วยเหลือได้สะดวกกว่านี้

ทันใดนั้นก็มีแสงไฟจากรถมอเตอร์ไซค์สามสี่คันวิ่งตรงมา แสนไม่มีเวลาคิดมาก เขาต้องออกไปจากบริเวณนี้ให้เร็วที่สุด เขาโบกรถขอความช่วยเหลือทันทีคิดว่าถึงเป็นเด็กแว้นยังไงก็คงพอเจรจาให้ไปส่งได้

“อ้าวคุณแสนนี่หว่า เคราะห์ดีจริงๆ ที่มาเจอกันตรงนี้ นึกว่าคืนนี้จะคว้าน้ำเหลวซะแล้ว”

แสนหรี่ตาเพราะแสงไฟที่ส่องตรงหน้า เขาไม่แน่ใจว่าคนๆ นี้เป็นใคร แต่ฟังจากเสียงแล้วก็ยังใจชื้นว่าไม่ใช่ไอคนสวมหมวกกันน็อกหรือพวกคณะลูกขุนห่าเหวอะไรของมัน แสนหลบไปด้านข้างเพื่อมองหน้าคนที่พูดกับเขาชัดๆ โดยอาศัยไฟถนน ใบหน้าเสี้ยมนั้นดูเหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน แต่พอมีผู้หญิงหน้าขาววอกปากแดงลงจากรถอีกคันมายืนข้างๆ เขาก็นึกออกทันที

“ไอจอม!”

“เออ กูเอง ไอแสน วันนี้แหละกูจะได้แก้แค้นมึงให้สาสม”

สมัยที่แสนอยู่มอปลาย เขาก็รวบรวมพรรคพวกสร้างอิทธิพลจนยิ่งใหญ่ได้อย่างที่ไม่เคยมีวัยรุ่นในจังหวัดนี้คนไหนทำได้ จอมเป็นหัวหน้าแก๊งค์ซิ่งกลุ่มหนึ่งที่กระทบกระทั่งกับแสนหลายครั้งจนต้องมาแข่งรถตัดสินกัน โดยมีพยานเป็นลูกน้องของทั้งสองฝ่าย ในคืนนั้นแสนสามารถเอาชนะจอมลงไปได้ แต่แทนที่แสนจะเอาเงินหรือรถเป็นของเดิมพัน เขากลับให้ลูกน้องไปลักพาตัวแฟนสาวของจอมมาเป็นของรางวัลสำหรับชัยชนะแทน จอมเห็นแฟนตัวเองถูกพาตัวมาก็ก้มหัวขอร้องแสนให้เอารถหรือเงินไปแทนแต่แสนก็ไม่ยอม เขาต้องการให้ลูกน้องของจอมเห็นความน่าสมเพชของหัวหน้าแก๊งตัวเอง ในที่สุดจอมก็สั่งให้แก๊งตัวเองตะลุมบอนกับอีกฝ่ายเพื่อแย่งตัวแฟนสาวกลับมา แต่ไม่มีใครกล้าเพราะฝ่ายแสนมีคนมากกว่าและการเอาผู้หญิงของคนแพ้ไปก็เป็นธรรมเนียมปกติของการแข่งความเร็วอยู่แล้ว

แสนพาแฟนของจอมไปแต่ก็ไม่ได้ลงมือทำอะไรด้วยตัวเอง เขาสั่งให้เด็กสาวใช้ดิลโด้ช่วยตัวเองแล้วถ่ายคลิปสั้นๆ ไว้ พอเสร็จก็ปล่อยตัวกลับไปง่ายๆ พร้อมกับสั่งความไปถึงจอมว่าอย่ามาเสนอหน้าในเขตอิทธิพลเขาอีกถ้าไม่อยากให้คลิปหลุด หลังจากนั้นแสนก็รู้เพียงว่าแก๊งของจอมก็สลายตัวไปตามแผนที่วางไว้และเขาก็ไม่เคยเจอคนทั้งคู่อีกเลย

“ได้ข่าวมาพักใหญ่แล้วว่ามึงถูกเล่นงานจนตกต่ำ ไม่นึกว่าจะขนาดต้องมาเป็นกระหรี่โชว์ควยแบบนี้ พวกกูเข้าไปในผับนั่นไม่ได้ก็จริงแต่กูสืบจากแขกที่ออกมาแล้วใช่มึงจริงๆ วันนี้กูมาดูลาดเลาเผื่อจะดักมึงตอนออกจากผับได้ ไม่คิดว่าจะมาเจอจังๆ แบบนี้”

“พี่จอมต้องแก้แค้นให้หนูนะ ตอนนั้นที่มันเอาตัวหนูไปมันข่มขืนหนูแล้วข่มขืนหนูอีก บอกว่าไม่มีใครสวยเท่าหนูอีกแล้ว แล้วมันก็ถ่ายคลิปเย็ดหนูไว้ บอกจะเอาไว้ช่วยตัวเองทีหลัง ยังดีมันไม่ได้ให้คนอื่นมาลงแขกหนูทั้งๆ ที่พวกนั้นขอร้องมันเหมือนจะลงแดง มันบอกว่าหวง”

แสนฟังข้อกล่าวหามโนของสก๊อยสาวด้วยความมึนงง คนที่รักความสะอาดอย่างเขานี่นะจะไปมีอะไรกับผู้หญิงที่ดูจากระยะร้อยเมตรก็รู้ว่าแรดร่านผ่านผู้ชายมาไม่รู้เท่าไหร่ แต่ดูเหมือนจอมจะไม่สงสัยในประเด็นนั้น

“ยังไงตอนนั้นมึงก็เป็นเมียกู มันทำถึงขนาดนี้กูต้องเอาคืนให้อยู่แล้ว”

จอมพูดกับสก๊อยปากแดงแล้วก็หันมาทางแสน

“ต้องขอบใจเมียเก่ากูนะไอแสน ที่มันคอยหาข่าวของมึงมาให้ เห็นว่ามันติดตามจากเพจแสนเลวอะไรก็ไม่รู้ ตอนแรกกูก็ไม่เชื่อหรอกว่าลูกนายกอย่างมึงจะมาตกต่ำขนาดนี้ แต่ก็นั่นแหละ คนเลวๆ อย่างมึงจะไปได้กี่น้ำ วันนี้กูจะเอาคืนความแค้นทั้งหมด เห้ย จัดการมัน”

จอมสั่งลูกน้องอีกสามคนที่คอยคุมเชิงไว้ตั้งแต่ต้น แสนขยับตัวหนีแต่ก็โดนประกบเสียก่อน เขาอัดพวกมันกลับด้วยกล้ามเนื้อที่สมบูรณ์กว่าแต่ก่อนอย่างเทียบไม่ติด ไม่นานลิ่วล้อสามคนก็ลงไปกองกับพื้น จอมหน้าเปลี่ยนสี เขารู้ว่าแสนเป็นมวยแต่ไม่คิดว่าจะเก่งและแข็งแรงขนาดนี้ เขาหยิบมีดขึ้นมาแล้วพุ่งตัวเข้าหาแสนทันที อีกฝ่ายหลบหลีกอย่างคล่องแคล่วคอยหาจังหวะที่จะเลี่ยงคมมีดแล้วสวนกลับ ลูกน้องของจอมที่ล้มลงไปเริ่มตั้งหลักได้และกลับมาช่วยหัวหน้าอีกแรงแต่ก็ไม่สามารถจัดการกับแสนได้อย่างใจคิด จอมเหวี่ยงมีดวืดพลาดไปไปเกิดเป็นช่องว่างให้แสนเตรียมจะสวนกลับ แต่สุดท้ายแสนก็กระตุกไปทั้งตัวเพราะที่ช๊อตไฟฟ้าที่สก๊อยสาวหยิบขึ้นมาจากกระเป๋าใบใหญ่

แสนถูกจับถอดเสื้อออกเอามามัดแขนไพล่หลังไว้ เขาถูกอัดจนน่วมไปทั้งตัว แรงช๊อตไฟฟ้าทำให้เขาไม่มีแรงต่อต้าน

“เอายังไงกับมันต่อดีวะ”

จอมพูดกับตัวเอง เขาไม่ได้คิดไปถึงจะฆ่ามันทิ้ง ถึงจะแค้นแค่ไหนแต่ก็ไม่ได้อยากเป็นฆาตกร แต่ที่ทำลงไปก็ดูจะยังไม่สาสม

“หนูถูกมันข่มขืนนะพี่ มันก็ต้องโดนข่มขืนกลับ”

สก๊อยสาวพูดขึ้นอย่างเคียดแค้น ที่จริงความแค้นของหล่อนมันลึกล้ำยิ่งกว่านั้น ตอนแรกที่ถูกหนุ่มมัธยมที่มีดีทั้งรูปร่างหน้าตาชาติตระกูลและอิทธิพลเอาตัวไปหล่อนก็ดีใจจนเนื้อเต้น ใจนึกไปถึงนิยายชวนฝันที่นางเอกถูกพระเอกหล่อเลวซึ่งอยู่ฝ่ายตรงข้ามเอาตัวไปเพราะติดใจในความสวยหวังจะเอาไปใช้เป็นทาสบำเรอ แต่ในที่สุดด้วยอำนาจรักแท้ก็ทำให้พระเอกต้องพลีหัวใจให้กับนางเอกรักกันหวานชื่นไปจนวันตาย แต่เมื่อเรื่องไม่เป็นดังหวัง แถมเจ้าตัวยังทำท่าเหมือนรังเกียจอยู่ไม่น้อย การที่ถูกปล่อยตัวไปโดยไม่โดนทำอะไรเลยมันน่าอายเสียยิ่งกว่าโดนรุมเป็นหมู่คณะอีกในความคิดของหล่อน เมื่อกลับไปจึงกุเรื่องว่าถูกแสนข่มขืนอย่างบ้าคลั่งเพื่อไม่ให้เสียหน้า

ภายหลังแม้สก๊อยสาวจะเลิกกับจอมแล้วแต่ความแค้นของผู้หญิงที่ถูกหยามมันฝังลึก หล่อนพยายามติดตามเรื่องของแสนอยู่ตลอดเวลาหลายปี จนระยะหลังเมื่อได้รู้ว่ามีการรวมตัวกันในเพจแสนเลวเพื่อต่อต้านแสน หล่อนก็ได้ไปสิงตัวอยู่ในนั้นด้วยจนได้ข่าวดีๆ ไปไม่น้อย จนไปดึงจอมมาเข้าร่วมเพื่อแก้แค้น

“ให้กูข่มขืนไอ้ควายเนี่ยนะ ขนลุกเลยว่ะ กูไม่เอาด้วยหรอก หรือพวกมึงสน”

จอมหันไปหาลิ่วล้อสามคนซึ่งแต่ละคนก็ทำหน้าสยองตาม ใครจะไปเอาตูดผู้ชายด้วยกัน

“ไม่ได้เรื่องเลย งั้นหนูจัดการเอง พวกพี่แก้ผ้ามันออกแล้วแหกขามันให้หน่อย”

ผู้ชายทั้งสี่ตะลึงไปกับคำตอบของหญิงสาว แล้วก็ต้องตะลึงยิ่งขึ้นเมื่อเจ้าหล่อนหยิบควยยางอันใหญ่ขึ้นมาจากกระเป๋า มันมีรูปร่างลักษณะเหมือนของจริงไม่เว้นแม้แต่รอยเส้นเอ็นที่ปูดโปนตลอดลำควยดูน่าเกรงขาม แสนที่นอนฟังชะตากรรมตัวเองอยู่บนพื้นข้างทางที่ถูกลากมาให้หลบสายตาคนเล็กน้อยตาลุกโพลงเมื่อเห็นรูปร่างที่คุ้นตานั้น

“ลงมือสิ รออะไรอยู่ พี่จอมรู้ไหมที่ในเพจที่เอามาขายเขาบอกว่าควยยางนี้มันหล่อมาจากควยไอแสนจริงๆ คนที่ซื้อไปยอกว่ามีคลิปยืนยันด้วย แต่หนูไม่มีปัญญาซื้อหรอกแพงมาก อันนี้เป็นของก๊อปอีกที ไหนลองเอามาดูสิว่าใช่จริงๆ ไหม”

แสนถูกถลกกางเกงลงไปกองอยู่ที่ข้อเท้า ชายหนุ่มพยายามดิ้นรนขัดขืนแต่เมื่อโดนช๊อตอีกครั้งก็สิ้นฤทธิ์ท่อนควยเขาถูกสาวขึ้นลงอย่างไม่ปราณีปราศรัย น่าแปลกที่ภายในสภาวะแบบนี้น้องชายของเขาก็ยังตื่นตัวขึ้นได้อย่างแข็งขัน

“ดูสิเหมือนกันเปี๊ยบเลย แม่งตกอับจนต้องหล่อควยขายจริงด้วยว่ะ ฮ่าๆ”

แสนได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของฝ่ายตรงข้ามดังมาอย่างแว่วๆ เขาไม่อยู่ในสภาพที่จะขัดขืนอะไรได้ ขาทั้งสองข้างเขาถูกยกสูงแล้วจับแยกออกจากกัน รูตูดที่ชุ่มเหงื่อจากความเครียดเย็นวาบเมื่อมีกระแสลมมาประทะ เขาแว่วเสียงวิจารณ์ถึงความดกดำของขนรอบรูตูดแต่ก็อ่อนแรงเกินกว่าจะสนใจ สัมผัสหยุ่นหนืดของแท่งยางมาจ่ออยู่ที่ประตูหลังแล้วก็ถูกกดเข้ามาทันทีโดยไม่มีสารหล่อลื่น มีเสียงบอกว่าให้เอามือถือขึ้นมาถ่ายคลิปไว้ เขารู้สึกถึงกล้ามเนื้อหูรูดที่ขยายตัวจนเริ่มปริเมื่อส่วนหัวบานใหญ่ชำแรกผ่าน ไม่น่าเชื่อว่าดุ้นเนื้อที่คุ้นชินมันจะใหญ่ถึงเพียงนี้ จะมีใครสักกี่คนในโลกนี้ที่โดนเย็ดตูดด้วยควยตัวเอง สติของแสนเลื่อนลอยฟุ้งซ่านคิดไปถึงว่ารู้อย่างนี้แล้วก็ไม่น่าจะอิจฉาควยของเวหาเลยสักนิด ท่อนยางดุ้นเขื่องถูกอัดจากภายนอกอย่างรุนแรงจนทะลุแนวต้าน ความเจ็บปวดมหาศาลประดังเข้ามารวดเดียวจนร่างกายที่อ่อนแรงเพราะถูกช๊อตมาหลายครั้งของแสนจวนเจียนจะสลบเต็มที ก่อนที่สติของเขาจะหายไป แสนได้ยินเสียงโหวกเหวกเหมือนคนกำลังปะทะกันแต่เขาก็ไม่อยู่ในสภาพที่จะรับรู้อะไรอีกแล้ว

ตั้งแต่วันที่เกิดเรื่องขึ้นเวหาก็ไม่ยอมเจอกับบัสอีก ถึงแม้จะไม่ได้บล๊อคช่องทางการติดต่อทางโซเชียลแต่ก็เพียงขึ้นว่าอ่านแล้วโดยไม่มีการตอบกลับใดๆ เด็กหนุ่มหยุดการช่วยงานทั้งหมดของคณะอย่างไม่ใยดี เห็นว่ากลับกรุงเทพไปด้วยซ้ำทั้งๆ ที่ก่อนหน้านั้นเคยบอกว่าจะอยู่ช่วยบัสเตรียมงานคณะตลอดช่วงปิดเทอม พอขาดแกนนำอย่างเวหา วิศวะปีหนึ่งและปีสองก็เหมือนจะไม่ให้ความร่วมมือขึ้นมาเฉยๆ ไม่ต้องพูดถึงรุ่นพี่ปีสี่ที่ต่างพากันหายหน้าไปตั้งแต่เกิดเหตุน่าอับอายของประธานรุ่นอย่างแสน บัสเห็นเค้าลางได้ว่ากิจกรรมมากมายที่จะมีขึ้นหลังเปิดเทอมปลายคงจะล้มเหลวอย่างไม่เป็นท่า

ก่อนเปิดเทอมสองสามวันเวหาถึงได้กลับจากกรุงเทพมาที่หอของตัวเอง กันต์รูมเมทของเขาก็กลับหอมาแล้วเหมือนกันหลังจากที่ออกไปอยู่ข้างนอกกับเพื่อนที่เป็นนักร้องชื่อดังตั้งแต่ก่อนปิดเทอม เด็กหนุ่มวิศวะถามสารทุกข์สุขดิบพูดคุยกับเพื่อนเภสัชที่ไม่ได้เจอกันนานจนดึกดื่นแล้วรู้สึกแปลกใจที่อาการเอ๋อๆ ไม่รู้เนื้อรู้ตัวของกันต์ดีขึ้นมากจริงๆ นับว่าเป็นเรื่องดีหลังจากเรื่องแย่ๆ ของบัสที่เขาเจอมาตอนช่วงปิดเทอม ไหนจะเรื่องที่แสนพยายามหลบหนีจากการดูแลของคณะลูกขุนจนต้องบาดเจ็บซึ่งเวหาเพิ่งจะทราบเรื่องจากชายสวมหมวกกันน็อกก็ตอนที่กลับมาแล้วนี่เอง เวหายังไม่รู้ในรายละเอียด

วันรุ่งขึ้นเวหาออกจากห้องไปตั้งแต่เช้าเพื่อเตรียมหนังสือเสื้อผ้าข้าวของเครื่องใช้เพิ่มเติมสำหรับช่วงเปิดเทอม เพื่อนๆ ที่เขาบังเอิญเจอก็ทักกันเกรียวกราวว่ากลับบ้านไปตั้งแต่เมื่อไหร่ประธานรุ่นปีสามตามหาวุ่นไปหมด เวหาได้แต่หน้าตูมไม่อยากได้ยินใครพูดถึงคนลวงโลกที่ปั้นหน้ายิ้มแย้มจริงใจเพื่อหาประโยชน์ให้ตัวเอง จนเสร็จธุระกลับหอไปตอนเย็นก็เจอกับกันที่เปิดประตูสวนออกมาพอดี

“ได้ยินเสียงก๊อกแก๊กตรงประตูเลยรู้ว่ามาถึงแล้ว เข้าไปข้างในสิ มีคนมารอคุยด้วย ยังไงก็ค่อยๆ พูด ค่อยๆ จากันนะ เราออกไปข้างนอกก่อน น่าจะกลับดึกๆ เลย”

กันต์บอกพร้อมกับรุนหลังให้เวหาเข้าไปในห้องแล้วตัวเองก็รีบออกไปปิดประตูห้องให้เสร็จสรรพ บัสนั่งรออยู่ในห้องด้วยท่าทางกระวนกระวาย เขาร้อนใจจนต้องมาให้รูมเมทของเวหาช่วยเพื่อจะได้คุยกับเด็กหนุ่มรุ่นน้องทั้งที่รู้ดีว่าอีกฝ่ายคงไม่อยากพบหน้าตัวเองเท่าไหร่ หรืออาจจะถูกเกลียดไปแล้วด้วยซ้ำ

“มาถึงห้องอย่างนี้ มีงานอะไรจะมาใช้ผมเหรอครับประธานรุ่นปีสาม ต้องขอโทษด้วย ตั้งแต่เทอมนี้ไปผมคงไม่สะดวกแล้ว เชิญรุ่นพี่ออกจากห้องผมไปได้แล้ว”

แม้เวหาจะพูดด้วยอย่างสุภาพ แต่น้ำเสียงเย็นชาและแววตาที่คมกร้าวซ่อนความเกรี้ยวกราดไว้ภายในก็ทำเอาบัสถึงกับกลืนน้ำลายด้วยความประหม่า กล้าๆ หน่อยสิ นั่นเด็กปีหนึ่งเองนะ เขานึกเพื่อปลอบขวัญตัวเอง

“เวหา พี่ขอโทษ พี่ไม่ได้ตั้งใจพูดอย่างนั้นนะวันนั้น พี่กลัวว่าเพื่อนจะหาว่าเป็นเกย์ เลยพูดเกินเลยไปบ้าง แต่พี่จริงใจกับเรานะ เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมไม่ได้เหรอ”

“เหมือนเดิมยังไง ให้ผมเป็นควายทำงานอย่างที่คุณสั่ง แลกกับที่คุณยอมเปลืองตัวเล็กๆ น้อยๆ ให้กับไอเกย์น่าขยะแขยงแบบผมงั้นสิ”

“พี่ไม่ได้คิดอย่างงั้นจริงๆ ถึงเราจะเป็นเกย์พี่ก็ไม่ได้รังเกียจนะ แค่พี่ไม่ใช่ไง พี่เป็นผู้ชายปกติ แต่ถ้าเราชอบ เอ่อ ร่างกายพี่ เราจะทำแบบเดิมก็ได้นะ พี่ไม่คิดมากอยู่แล้ว ขอแค่อย่าถึงขนาด เอิ่ม สอดใส่ก็พอ”

“นั่นไง คุณก็ยังคิดว่าผมเป็นแค่เกย์เงี่ยนๆ คิดแต่จะมีอะไรกับผู้ชาย คุณดูถูกผมมาก กลับไปเถอะ ผมไม่อยากเสียมารยาทกับรุ่นพี่คณะ”

“เรายังโมโหพี่อยู่ใช่ไหม จะให้พี่แก้ตัวยังไงบอกมาเลย ขอร้องหล่ะเวหา จะชกหน้าพี่ก็ได้ถ้ามันจะทำให้เราให้หายแค้น ทำอะไรก็ได้ให้เราพอใจ แล้วกลับไปช่วยงานคณะเถอะ ตอนนี้ปั่นป่วนไปหมดแล้ว ปีหนึ่งปีสองไม่มีใครยอมฟังพี่เลย ไม่มีพี่แสนแล้ว เราคนเดียวเท่านั้นที่จะกอบกู้คณะไว้ได้”

“สุดท้ายก็ไม่พ้นเรื่องนี้ คนอย่างคุณคงไม่รู้สึกผิดจริงๆ หรอก รักจังนะครับคณะนี้ ผมก็อยากรู้เหมือนกันว่าคุณจะรักคณะขนาดไหน ถ้าอยากให้ผมกลับไปช่วยงาน ก็ถอดเสื้อผ้าออกให้หมดแล้วนั่งคุกเข่าหน้าผม”

บัสชะงักไปชั่วครู่ แต่ก็คิดว่าไม่เหลือบ่ากว่าแรงที่จะทำถ้ามันจะทำให้เวหายอมกลับไปช่วยงาน ยังไงเขาก็แก้ผ้าให้คนตรงหน้าดูมานับครั้งไม่ถ้วน บัสรีบถอดเสื้อผ้าออกอย่างไม่อายจนเหลือแต่ตัวเปลือยเปล่าแล้วไปนั่งคุกเข่าตรงหน้าเด็กหนุ่มรุ่นน้องในตำแหน่งที่เป็นรองโดยไม่ลังเล

เวหาแสยะยิ้มมุมปากเมื่อเห็นรุ่นพี่ทำตามความต้องการของตัวเองอย่างว่าง่ายแล้วเอ่ยปากยื่นขึ้นเสนอ

“คุณบอกว่าให้ชกหน้าได้ใช่ไหม ผมขอเป็นตบหน้าแล้วกัน หลายๆ ที แล้วพรุ่งนี้ผมจะกลับไปช่วยงาน”

บัสยิ้มกว้างอย่างดีใจ ท่าทางเวหาคงเห็นแก่ความสัมพันธ์ที่ผ่านมาไม่อยากให้เขาเจ็บเกินไป เด็กหนุ่มเห็นรอยยิ้มอ่อนโยนที่เคยทำให้ตัวเองหลงไหลแล้วก็ก้มลงเอามือหนาเชยคางอีกฝ่ายพร้อมกับไล้ปลายนิ้วเบาๆ ไปบนแก้มคมสันมีเลือดฝาดแบบชายหนุ่มสุขภาพดี

“หลับตาเอามือไขว้หลังเตรียมรับการลงโทษสิครับรุ่นพี่”

บัสหลับตาลงตามคำสั่ง พอมองไม่เห็นเขาก็รู้สึกหวาดเสียวเล็กน้อย ไม่รู้แรงฝ่ามือของเวหาจะขนาดไหน ดูจากความล่ำสันของอีกฝ่ายแล้ว ถ้าซัดมาเต็มเหนี่ยวก็เจ็บไม่น้อย แต่ยังไงคงดีกว่าถูกชกจนฟันกระเด็นแน่

สัมผัสเพี้ยะแรกเกิดขึ้นเบาๆ ตรงแก้มซ้ายตามด้วยแก้มด้านขวาสลับกันไปมาอย่างต่อเนื่อง ความถี่และความแรงค่อยๆ เพิ่มขึ้นจนบัสรู้สึกว่าแก้มเห่อร้อนจากความแรงของเนื้อที่กระทบกัน สัมผัสหยุ่นๆ ของสิ่งที่ทำร้ายใบหน้าของเขา และกลิ่นแปลกๆ ยามที่สิ่งนั้นพาดผ่านจมูกทำให้บัสต้องหรี่ตามอง ที่แรกมันใกล้เกินไปจนเขามองเห็นไม่ชัดแต่พอปรับสายตาได้ สิ่งที่ประชิดอยู่ตรงใบหน้าของเขามันคือเป้ากางเกงของเวหาที่ถูกปลดตะขอและรูดซิปลงจนสุด เด็กหนุ่มรุ่นน้องกำลังจับดุ้นควยกึ่งแข็งกึ่งอ่อนของตัวเองฟาดไปมาบนหน้าของเขาอย่างเมามัน พอเห็นหนุ่มรุ่นพี่ลืมตาขึ้น เวหาก็แสดงสีหน้าสะใจแล้วเร่งมือและความแรงขึ้นอีก

“ควยนี้น่ารังเกียจนักใช่ไหม ใหญ่เหมือนสัตว์ประหลาดใช่เปล่า คิดบ้างไหมว่าผมเจ็บขนาดไหน ทำไมต้องหลอกกันด้วย”

บัสพยายามจะส่งเสียงขอความเป็นธรรม แต่หัวควยบานใหญ่ที่ฟาดไปมาจนเกือบจะทิ่มเข้าไปข้างในทำให้เขาหุบปากแทบไม่ทัน หนุ่มรุ่นน้องจับที่โคนดุ้นควยมหึมาสะบัดใส่หน้าซ้ายทีขวาทีอย่างไม่ยั้งมือ ท่อนเอ็นอุ่นร้อนที่ทั้งยาวทั้นหนาสร้างความเจ็บปวดให้อย่างคาดไม่ถึง บัสทั้งเจ็บทั้งอายจนหน้าชา ต่อให้เป็นคนไม่ถือเนื้อถือตัวแต่อย่างนี้เหมือนโดนหยามศักดิ์ศรีจนเกินไป แต่แววตาวาวโรจน์ของเวหาทำให้เขาไม่กล้าขัดขืน ไหนๆ ก็มาถึงขั้นนี้แล้วปล่อยให้อีกฝ่ายระบายความโกรธไปจะได้ไม่เสียเปล่า

นับว่าบัสตัดสินใจถูกไม่น้อย หลังจากนั้นไม่นานใบหน้าของเขาก็สัมผัสได้ถึงน้ำเหนียวใสที่ไหลยึดออกมาจากปลายควยของเวหาบ่งบอกว่าอารมณ์แค้นเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นความเงี่ยนในที่สุด พอใบหน้าของเขาเปรอะได้ที่ ดุ้นเนื้อขาวอวบที่แดงเถือกไปด้วยแรงปะทะก็แข็งเป้กเกินกว่าที่จะใช้ฟาดหน้าใครได้อย่างมีประสิทธิภาพ เวหามีท่าทีอ่อนลง ความโกรธแค้นกลายเป็นความอึดอัดงุ่นง่านจนสังเกตเห็นได้

เวหาพยายามปั้นสีหน้าเย็นชาเหมือนเดิมแล้วก็พูดเสียงเรียบใส่รุ่นพี่ที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้า

“พี่กลับไปได้แล้ว พรุ่งนี้ผมจะเข้าไปช่วยงานตามที่พี่ต้องการ”

บัสไม่กล้าโต้ตอบอะไรเพราะกลัวอีกฝ่ายจะเปลี่ยนใจ เขาลุกขึ้นสวมเสื้อผ้าจนเรียบร้อย สายตาของที่จับจ้องมาทำให้รู้สึกขนลุก แต่อย่างน้อยการที่เวหากลับมาเรียกเขาว่าพี่เหมือนเดิมก็แสดงว่าอะไรๆ น่าจะดีขึ้น ชายหนุ่มมองต่ำลงไปที่ดุ้นควยมหึมาที่แข็งตัวมีน้ำเหนียวใสไหลยืดจากส่วนปลายแล้วก็นึกได้ เขาค่อยๆ เอามือปาดของเหลวแบบเดียวกันที่เปรอะเปื้อนใบหน้าออกเพราะไม่แน่ใจว่าติดอยู่ตรงไหนบ้าง

“ถ้ารังเกียจขนาดนั้น จะล้างหน้าถูสบู่ให้หนังถลอกก่อนไปก็ได้นะครับ”

เสียงประชดประชันของเวหาทำให้ประธานรุ่นคนขยันชะงักมือ เขาพลาดแล้วที่ทำให้รุ่นน้องอารมณ์ไม่ดีขึ้นมาอีก

“เปล่านะ พี่ไม่ได้รู้สึกอย่างนั้น ไม่เห็นเป็นไรเลย นายกับพี่ก็สนิทกันจะตาย แค่เผลอเอามือไปปาดออกนึกว่าเหงื่อ เดี๋ยวพี่กลับเลยทั้งอย่างงี้ละกัน เจอกันพรุ่งนี้ที่สโมฯ นะ”

บัสก็คนจริงเหมือนกัน เขาเดินสวนกับเด็กหอหลายต่อหลายคนไปขึ้นรถที่จอดอยู่ห่างไปพอสมควรแล้วขับกลับอพาร์ตเมนต์ทั้งๆ ที่ใบหน้ายังเปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำเงี่ยนของเวหา พอไปถึงห้องก็รีบเซลฟี่ใบหน้าตัวเองส่งไลน์ไปเข้าเครื่องของรุ่นน้องที่เพิ่งจากมา

‘พี่ถึงห้องแล้ว เจอกันพรุ่งนี้นะครับ’

บัสรู้ว่าถ้าเวหาเปิดรูปนี้ดูก็จะเห็นคราบน้ำที่แห้งกรังอยู่ ถ้าเขาจับทางไม่ผิด นี่คงจะทำให้เจ้าเด็กนั่นหายโกรธได้ไม่น้อย ถ้าเพื่อคณะและมหาลัยนี้ เขาทำได้ทั้งนั้นแหละ

ถ้าถามว่าการที่ต้องมาลดศักดิ์ศรีลูกผู้ชายเปลืองเนื้อเปลืองตัวกับเวหาขนาดนี้มันคุ้มไหม บัสก็มีคำตอบทันทีว่ามันคุ้มค่ามาก ไม่อยากเชื่อว่าเด็กปีหนึ่งที่เพิ่งผ่านรั้วมัธยมมาไม่ถึงปีจะเก่งและมีความเป็นผู้นำได้ขนาดนี้ งานต่างๆ ของคณะที่ทำท่าจะร่อแร่เพราะไม่มีคนดูกลับถูกเวหาจัดการจนเรียบร้อยได้อย่างน่าทึ่งราวกับได้ดูแลด้วยตัวเองมาตลอด ปีหนึ่งและปีสองมาช่วยงานกันอย่างคึกคักรวมไปถึงพี่ปีสี่บางคนที่เคยเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงสำคัญในยุคของแสนก็กลับมาสนับสนุนให้คำปรึกษาเป็นอย่างดี การประสานงานกับคณะอื่นก็เป็นไปอย่างราบรื่นไม่ติดขัดทั้งๆ ที่ปกติไม่ค่อยมีใครชอบหน้าวิศวะสักเท่าไหร่จากผลพวงของสิ่งที่แสนทำในอดีต กิจกรรมต่างๆ ที่เคยคิดว่าต้องล่มไปเพราะขาดบารมีของแสนกลับคืบหน้าไปอย่างที่บัสไม่คิดว่าจะเป็นไปได้ แต่ทั้งหมดนี้ก็มีราคาที่บัสต้องจ่าย เวหาไม่ได้ทำงานให้ฟรีๆ บัสต้องรับการลงโทษจากเวหาอยู่เรื่อยๆ โดยที่หนุ่มรุ่นน้องบอกว่าเป็นค่าตอบแทน ยังดีที่ในเวลาปกติ เขาทั้งคู่ก็ยังปฏิบัติตัวแบบรุ่นพี่รุ่นน้องที่สนิทกันเหมือนตอนก่อนที่จะเกิดเรื่อง

การเอาควยตบหน้าดูจะเป็นสิ่งที่เวหาชื่นชอบไม่น้อย ถึงบัสจะพอทำใจได้ไม่ได้นึกรังเกียจนักแต่โดนบ่อยๆ มันก็เจ็บไม่เบา แถมจะต้องคอยตอบคำถามคนอื่นว่าไปทำอะไรมาหน้าถึงบวมแดงแบบนั้น ไหนจะคราบเปรอะเปื้อนเหนียวๆ ใสๆ นั้นอีก เวหายิ่งไม่เลือกสถานที่อยู่ด้วย อยู่ๆ จะเรียกเก็บค่าตอบแทนที่ว่าขึ้นมาก็ทำกันตรงนั้นเลยไม่ว่าจะเป็นห้องน้ำคณะ ในรถ และที่บ่อยที่สุดก็คือในห้องประธานรุ่นซึ่งเคยถูกครอบครองโดนแสนแต่ตอนนี้กลายมาเป็นห้องทำงานที่บัสและเวหาใช้ด้วยกัน เวลาที่งานเร่งจนทั้งคู่ต้องอยู่กันจนดึกดื่น เวหาจะสั่งให้บัสแก้ผ้ามานั่งข้างๆ ตัวเองที่กำลังทำงานอย่างซีเรียสแล้วเอามือขยำขยี้อวัยวะพึงสงวนของบัสเล่นบอกว่าเพื่อคลายเครียดที่ต้องทำโอที แม้แต่เวลาที่มีคนอื่นอยู่ในห้องด้วยอย่างตอนประชุมกับทีมงานเป็นกลุ่มเล็กๆ ในห้อง เวหาก็ยังไม่วายควักล้วงดุ้นเนื้อของบัสออกมาบีบเล่นอยู่ใต้โต๊ะทำงานตัวใหญ่ที่ทั้งสองนั่งคู่กัน บางครั้งก็ทำรุนแรงถึงขนาดที่บัสตัองกลั้นเสียงจนหน้าเหลืองหน้าเขียวเพราะกลัวคนอื่นจะเข้ามาเห็น

ถึงจะอยู่ในสภาวะจำยอม แต่บัสก็ไม่ได้คิดโกรธเวหา เขาออกจะรู้สึกผิดด้วยซ้ำที่ไม่ได้ช่วยเหลือเด็กหนุ่มอย่างจริงจังจากการกลั่นแกล้งของแสนในตอนนั้น เขาเดาว่าเวหาคงหมกมุ่นอยู่กับการแก้แค้นแสนแบบตาต่อตาฟันต่อฟันจนกลายมามีรสนิยมแบบนี้เสียเอง ไหนจะเรื่องที่เขาทำเหมือนหลอกให้รักเพื่อใช้งานจนสร้างความผิดหวังให้กับอีกฝ่ายอีก ถ้าเวหาอยากจะได้ค่าแรงเป็นการเล่นสนุกกับร่างกายเขาบ้างก็พอจะยอมได้ตราบเท่าที่มันไม่เกินเลยไป เขาไม่ใช่คนหวงเนื้อตัวอยู่แล้ว

นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้บัสยอมให้เวหาทำตามใจชอบมาตลอด ถึงจะชินจนไม่เหลือความรังเกียจใดๆ แล้ว แต่การถูกควยขนาดใหญ่ตบหน้าจนเจ็บทุกวันก็ไม่ใช่เรื่องสนุก หลังๆ เขาถึงได้พัฒนาเทคนิคที่จะทำที่ให้ให้ควยของเวหาแข็งโดยเร็วที่สุด พอสะบัดเหมือนแซ่ไม่ได้มันก็แทบไม่เหลือความเจ็บปวดใดๆ อย่างดีก็แค่เอามาถูไถทิ่มหน้าทิ่มตาบ้าง ตอนที่โดนควยกึ่งแข็งกึ่งอ่อนฟาดหน้า บัสจะพยายามเอาปากรับบ้าง แลบลิ้นออกมาเลียบ้าง บางทีก็เป่าลมใส่ เอาจมูกเข้าไปถูไถ ทำทุกวิถีทางเพื่อให้เด็กหนุ่มเกิดอารมณ์ไวๆ จะได้ไม่ต้องเจ็บตัวมาก แรกๆ ก็ได้ผล แต่บ่อยๆ เข้าเวหาก็เริ่มรู้ไต๋ ก็ปรับเปลี่ยนลีลาการฟาดควยไม่ให้บัสจับทางได้ เดี๋ยวก็ฟาดเฉพาะทางซ้าย เดี๋ยวก็สลับข้าง ไปๆ มาๆ ก็เหมือนเป็นเกมชิงไหวชิงพริบระหว่างสองคนที่เวหาดูจะสนุกไปกับมัน

เมื่อบัสไม่บิดพริ้วข้อตกลง เวหาก็ทำงานให้อย่างเต็มที่ กิจกรรมและงานต่างๆ ของคณะเป็นไปได้ด้วยดีจนบัสหน้าบานจากคำชมและชื่อเสียงที่กระเตื้องขึ้นแม้จะเพิ่งเปิดเทอมปลายได้แค่สองเดือน

“เสร็จงานเปิดบ้านวิศวะนี่ผมจะพักบ้างนะ ไม่รู้จะรับอะไรมาทำเยอะแยะ”

เวหาบ่นอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์ใส่บัสขณะที่มานั่งเคลียร์ค่าใช้จ่ายของงานที่เพิ่งเสร็จไปเมื่อเย็นในห้องสโมฯ ตามลำพังสองคน

“เอ่อ จริงๆ พี่เพิ่งไปคุยกับรองคณะบดีมา ท่านอยากให้คณะเราเป็นเจ้าภาพการแข่งโรบอทระดับอาเซียนที่จะจัดขึ้นกลางเทอมนี้แทนอีกมหาลัยที่ถอนตัวไปกระทันหัน”

บัสหยั่งท่าทีอย่างกล้าๆ กลัวๆ

“เห่อะ ไม่เอา ใครโยนขี้มาก็ต้องรับหมดเหรอ ใครจะทำก็ทำแต่ไม่ใช่ผม”

“แต่นี่เป็นโอกาสที่หาไม่ได้แล้วนะ มหาลัยชั้นนำแถบนี้จะได้รู้จักเรา แถมเป็นเจ้าภาพก็จะได้เปรียบตอนส่งทีมเข้าแข่งอีก ขอร้องล่ะ ถ้าไม่ใช่นายก็ไม่มีใครทำได้แล้ว จะเอาของนายฟาดหน้าพี่ทุกวันก็ได้นะ”

บัสพยายามตะล่อม งานที่จะสร้างชื่อให้กับคณะขนาดนี้ต่อให้โดนควยเวหาตบหน้าทุกวันก็คุ้ม เขาชินจนไม่รู้สึกรังเกียจอะไรแล้ว

“พี่ก็พูดง่ายสิ รับๆ มาแล้วก็สั่งต่อ งานใหญ่ขนาดนั้นใช้คนใช้เงินตั้งเท่าไหร่ ปกติต้องวางแผนล่วงหน้าเป็นปี นี่มีเวลาแค่สองเดือน ผมไม่ใช่ซุปเปอร์แมนนะ เหนื่อยเป็นเหมือนกัน เที่ยวนี้มันไม่ใช่แค่เอาควยฟาดหน้าแล้วจะทดแทนกันได้นะ”

“เราจะให้พี่ชดเชยยังไงบอกมาเลยพี่ยอมทุกอย่าง ขอแค่นายรับปากก็พอ”

“ยอมทุกอย่างจริงสิ งั้นอะไรดีน้าที่จะทำให้พี่รู้สึกสำนึกได้นานๆ ในขณะที่ผมต้องทำงานหัวปักหัวปำให้ เอ รู้สึกว่าพี่แสนจะมีของแบบนั้นเก็บไว้ที่นี่ด้วยนี่นา”

เวหาหยิบกุญแจจากลิ้นชักโต๊ะทำงานที่เคยเป็นของแสนออกไขตู้ด้านหลังแล้วยกลังขนาดใหญ่ออกมา ในนั้นมีอุปกรณ์หน้าตาแปลกมากมาย เด็กหนุ่มควานอยู่สักครู่ก็หยิบอุปกรณ์หน้าตาเหมือนจุกยางขนาดใหญ่ที่มีฐานป้านออกมา

“เอาไอนี้ใส่ไว้ในรูก้นพี่ตลอดเวลาที่ผมทำงานนี้ให้ ผมจะสุ่มเช็คเรื่อยๆ ถ้าครั้งไหนไม่เจอผมจะวางมือจากเรื่องนี้ทันทีแล้วจะไม่กลับมาทำอีก”

เวหาเอาอุปกรณ์วิปริตของแสนที่เขาบังเอิญค้นเจอออกมาขู่ ในใจคิดว่าผู้ชายแท้ๆ อย่างบัสยังไงก็ไม่มีทางยอมให้เอาของแปลกปลอมมาใส่ในช่องทางด้านหลัง

บัสหน้าซีดเผือดดูของในมือเวหาอย่างไม่เชื่อสายตา มันดูคล้ายอุปกรณ์ที่ตาลุงโรคจิตใช้กับสาวๆ ในหนังเอวี แต่นี่เขาเป็นผู้ชายแท้ๆ จะเอาไปใส่ตรงนั้นได้ยังไง ไม่เจ็บแย่เหรอ ไหนจะสกปรกอีก

เวหามองสีหน้าลังเลของบัสแล้วก็ชักมือกลับ

“ไม่ตกลงก็ดีผมจะได้ไม่เหนื่อย”

“ไม่นะ พี่จะทำ แต่ขอเอากลับไปลองก่อนได้ไหม ว่าแต่เราคงไม่ได้คิดจะทำอะไรที่มากกว่านี้หรอกนะ ถึงไงพี่ก็ยังเป็นผู้ชายแท้ๆ”

เวหาตกใจไม่น้อยที่บัสยอมรับข้อเสนอของตัวเอง นี่จะทุ่มเทให้คณะจนไม่สนว่าตัวเองจะเป็นยังไงเลยเหรอ ทำไมไม่หวงตัวเลย ไม่รู้ไปทำอย่างนี้กับใครมาบ้างหรือเปล่า ยิ่งคิดเด็กหนุ่มก็ยิ่งโมโหคนตรงหน้า เขาพยายามซ่อนอาการไว้แล้วพูดกับบัสด้วยสีหน้าเรียบเฉย

“หลงตัวเองไปแล้ว คิดว่าผมจะยังพิสวาทพี่อยู่อีกเหรอในเมื่อเห็นธาตุแท้พี่ขนาดนั้นแล้ว แค่อยากจะให้สำนึกไว้ว่าผมไม่ได้ทำงานให้ฟรีๆ แล้วนี่แค่ตอนเริ่มงานนะ พอช่วงที่งานหนักกว่านี้ผมจะเปลี่ยนเป็นอันใหญ่ขึ้นให้สมน้ำสมเนื้อกัน”

บัสรู้สึกหนาวไปตั้งแต่หัวจรดเท้าเมื่อเห็นสายตาเวหา นี่เขาไม่เคยได้รับการอภัยเลยใช่ไหม

สารพัดกิจกรรมต่างๆ ที่บัสไปสรรหามาเพื่อสร้างชื่อให้กับคณะและมหาลัยทำให้เวหาแทบไม่ได้เข้าไปยุ่งกับการลงโทษแสนอีกเลย เขาทราบข่าวเพียงคร่าวๆ ว่า แสนต้องรักษาตัวจากอาการบาดเจ็บซึ่งได้มาตอนที่หนีไปจนไปเจอโจทก์เก่า จากนั้นก็โดนชายสวมหมวกกันน็อกและคณะลูกขุนลงโทษอย่างรุนแรงจนยอมสยบโดยสิ้นเชิง พวกนั้นบอกเวหาว่าถ้าอยากรู้ว่าแสนถูกลงโทษอย่างไรก็ต้องไปดูให้เห็นกับตาเอง เวหาไม่ได้รู้สึกสนใจเรื่องการลงโทษแสนมากเหมือนเมื่อก่อน ความแค้นที่เคยมีก็ดูจะจางลงไปเมื่อคิดถึงสิ่งที่แสนต้องเจอมาทั้งหมด เวลานี้เรื่องการลงโทษบัสดูจะเป็นสิ่งที่เขาสนใจมากกว่า

แม้จะโดนลงโทษหนักขึ้นแต่บัสก็เหมือนยังไม่เข็ด ประธานรุ่นปีสามยังมีเรื่องให้เวหาทำอีกมากซึ่งเด็กหนุ่มก็ไม่เดือดร้อนเท่าไหร่ เขาวางแผนการทำงานโดยมีกลุ่มดิเอฟเวนเจอรส์ช่วยคิดแล้วก็กระจายงานออกไปให้เพื่อนฝูงพี่น้องทั้งในและนอกคณะช่วยกันทำ จากนั้นก็ค่อยติดตามและคอยแก้ปัญหาต่างๆ อีกที เครือข่ายคณะลูกขุนที่มีรุ่นพี่ซึ่งเป็นแกนนำอยู่ในคณะต่างๆ ช่วยเขาได้มากในเรื่องนี้ ที่ลำบากจริงๆ คือตัวต้นเรื่องนี่แหละ บัสต้องถูกเขาเรียกเก็บค่าตอบแทนทุกครั้งที่มีงานเพิ่ม

“ไหน ตอนนี้ใส่อยู่หรือเปล่า วันนี้ต้องเป็นตัวไหนนะ ผมจำไม่ได้”

เวหาทักรุ่นพี่ด้วยประโยคประจำหลังจากที่นั่งลงข้างๆ ตรงหน้าห้องพักอาจารย์ ทั้งคู่นัดกันมารอพบผู้ช่วยคณะบดีเพื่อปรึกษาเรื่องการขอสปอนเซอร์สำหรับงานออกค่ายอาสาของคณะ

“พี่ใส่อยู่ ตัวเบอร์เจ็ดตามที่เราบอกไง แต่ขอร้องล่ะ อย่าเช็คตอนนี้ได้ไหม นี่มันหน้าห้องพักอาจารย์นะ”

“ทำตัวน่าสงสัยนะ อย่าลืมข้อตกลงสิ”

เวหาล้วงมือเข้าไปทางด้านหลังกางเกงของบัส เขาแหวกเข้าไปในกางเกงในอย่างชำนาญ บัสยกก้นขึ้นเล็กน้อยสายตาล่อแล่กกลัวว่าจะมีใครผ่านมาบ้าง เวหาควานเข้าไปถึงรูก้นรุ่นพี่แล้วขยับฐานปลั๊กที่อุดอยู่อย่างพอใจ บัสส่งเสียงอิ๊ขึ้นมาอย่างกลั้นไม่อยู่ ปลั๊กตัวนี้เป็นขนาดใหญ่สุดที่เขาเคยใส่มามันทำให้ช่องด้านหลังของเขาตึงแน่นจนอึดอัดไปหมด เวหายังไม่เอามือออก เขาลูบไล้ก้นเนียนของรุ่นพี่อย่างเพลิดเพลินจนได้ยินเสียงเปิดประตูออกมาถึงได้ชักมือออกอย่างรวดเร็ว

“อ้าว มารอกันอยู่ตรงนี้เหรอจ๊ะ ตัวติดกันเหมือนเดิมเลยนะ อาจารย์นึกว่าจะเข้าไปข้างในเลย เข้ามาสิ”

นักศึกษาทั้งคู่เดินตามอาจารย์เข้าไปนั่งตรงเก้าอี้ตรงข้ามโต๊ะทำงาน บัสไม่รอช้ารีบเล่าเรื่องสปอนเซอร์ที่ไปประสานงานมาได้ แรกๆ เขาก็ช่วยเสริมในส่วนที่รุ่นพี่ยังครอบคลุมไม่หมด แต่หลังๆ เป็นการคุยรายละเอียดปลีกย่อยที่ทำให้เขาเริ่มเบื่อ ถึงท่าทางของบัสตอนเอาการเอางานมันจะน่าดูมากก็เถอะ แต่เขาอยากอยู่กันตามลำพังสองคนมากกว่า เด็กหนุ่มเปิดกระเป๋าเป้ทำทีเป็นหยิบเอกสารเพิ่มเติมขึ้นมา แต่จริงๆ เขาแอบกำรีโมทอันจิ๋วออกมาด้วย ปลั๊กตัวที่บัสใส่อยู่ตอนนี้มันเป็นแบบสั่นไร้สาย และเขาก็สามารถควบคุมมันได้ผ่านรีโมทตัวนี้เอง

“ครับอาจารย์ ถ้าเราขอสปอนเซอร์ได้อีกสักสองเจ้า เราน่าจะเพิ่ม.. เชี่ย..”

อาจารย์เงยหน้าขึ้นมองอย่างแปลกใจ แรงสั่นในช่องทางคับแคบทำให้ประธานรุ่นปีสามเสียวจี๊ดขึ้นสมอง เขาพยายามข่มอาการอย่างสุดความสามารถที่จะไม่ทำอะไรน่าเกลียดต่อหน้าอาจารย์สาวใหญ่ผู้นี้ แต่แรงสั่นเน้นๆ ตรงจุดกระสันในรูตูดทำให้เขาต้องส่งเสียงประหลาดออกมาอีก

“อ๊ะ ซี๊ด...”

หญิงสูงวัยมองบัสที่อยู่ๆ ก็เหงื่อแตกพลั่กด้วยความเป็นห่วง พอถูกกระตุ้นเรื่อยๆ บัสก็ทนไม่ไหว ความเสียวซ่านด้านในทำให้ดุ้นเนื้อเขาแข็งไปหมด เขาแข็งใจขอตัวกับอาจารย์ด้วยเสียงแหบพร่าแทบฟังไม่รู้เรื่องแล้วลากเวหาออกมาโดยไม่มีเวลาแม้แต่จะปิดความโป่งนูนช่วงล่างของตัวเองที่มีน้ำซึมจากปลายท่อนลำเห็นเป็นดวงสีเข้ม นักศึกษาที่เดินสวนมาถึงกับตาโตเมื่อเห็นสภาพของประธานรุ่นคนดีที่เดินผ่านไป เขาขยี้ตาถี่ๆ แล้วบอกตัวเองว่าตาฝาดแน่ๆ คนที่ทั้งเก่งและดีอย่างบัสคงไม่มาเดินควยโด่อยู่ในสถานศึกษาแบบนี้หรอก

แม้จะอยู่ในสภาพที่ถูกกระตุ้นจนหายใจหอบ แต่บัสก็ยังอุตส่าห์วกเข้าสู่เรื่องงาน

“เราได้ยินที่อาจารย์บอกแล้วใช่ไหม งานออกค่ายอาสาครั้งนี้ ทางคณะอยากให้มีการไลฟ์สดผ่านเฟสบุคให้คนที่ติดตามเพจดูด้วย ส่วนใหญ่ก็พวกน้องๆ มัธยมที่กำลังจะเลือกที่เรียนแหละ เขาจะได้เห็นชีวิตในมหาลัยแล้วตัดสินใจเข้าคณะเรากันเยอะๆ งานใหญ่เลยล่ะ คงต้องเตรียมสคริปต์กันบ้างให้ภาพลักษณ์ออกมาดูดีหน่อย เอาพวกที่หุ่นดีหน้าตาดีมาผ่านกล้องเยอะๆ หน่อย อาจต้องมีดราม่าบ้างเรียกความประทับใจ ไหนจะต้องติดต่อคณะที่ถ่ายภาพเก่งมาช่วยอีก แล้วคงต้องหาสปอนเซอร์เพิ่มด้วย หรือว่าเราน่าจะชวนน้องมัธยมบุคลิคดีๆ ซักสี่ห้าคนมาลองออกค่ายด้วยจะได้เพิ่มมุมให้น่าติดตามอีก”

“งานเยอะขนาดนี้พี่คงรู้ใช่ไหมครับว่าต้องโดนอะไร”

“พี่ก็ทำตามที่เราสั่งอยู่ทุกวันแล้วนะ จะเอาอะไรกับพี่นักหนา”

บัสคิดถึงความทรมานที่ทุกวันเขาต้องสอดปลั๊กยางอันเบ่อเริ่มเทิ่มคารูก้นไว้ จะลุกจะนั่งก็เหมือนคนเป็นริดสีดวง กว่าจะแหกแข้งแหกขาจับยัดจนเข้าไปได้หมดมันแสนลำบาก เจลหล่อลื่นยี่ห้อไหนดีเขากล้าพูดได้ว่าตัวเองเชี่ยวชาญที่สุด ไหนจะต้องคอยทำความสะอาดด้านในรูไม่ให้เหลือสิ่งตกค้างก่อนใส่ ไม่งั้นตอนถอดออกมาสกปรกแย่

“แต่งานช้างขนาดนี้พี่จะให้ผมทำฟรีๆ คงไม่ได้หรอกครับ ผมขอเปลี่ยนปลั๊กเป็นเบอร์แปด ไม่งั้นก็เลิกคิดเรื่องไลฟ์สดไปได้เลย แต่น่าเสียดายนะครับ เรื่องนี้ผมมีไอเดียต่อยอดอีกเยอะ ถ้าทำให้ดี น้องๆ มอหกคงยื่นคะแนนมาสมัครคณะเรากันเพียบเลย โอกาสที่จะได้คนเก่งๆ เข้ามาก็มากขึ้น”

บัสหน้าเสีย แค่เบอร์เจ็ดเขายังไม่ชินเลย ถ้าโดนเบอร์แปดไปรูต้องบานไม่หุบแน่ ไม่รู้ว่าเวหาจะแค้นเขาไปถึงไหน แต่อีกทางหนึ่ง งานที่คาดหวังได้จากเวหามันก็ยอดเยี่ยมจริงๆ แหล่ะ บัสหลับตานึกภาพกระแสโซเชียลที่หนุนชื่อเสียงคณะจนแม้แต่เด็กเก่งๆ โรงเรียนดังๆ จากส่วนกลางยังแย่งกันมาสมัครแล้วก็ยิ้มอย่างปลื้มใจ ถ้าเพื่อการนั้นจะต้องเสียสละตัวเองอีกนิดก็คุ้มค่า

ทันทีที่บัสตกลง เวหาก็ซ่อนยิ้มไว้ในใบหน้าอย่างสมใจ กว่าจะมาถึงขั้นนี้เขารู้ว่ามันไม่ง่ายสำหรับผู้ชายแท้ๆ อย่างบัส แต่ไม่นานหรอก ขออีกแค่สองเบอร์เท่านั้นทุกอย่างก็พร้อมแล้ว

การลงโทษแสนคิวต่อไปเป็นของคณะเกษตรที่เคยเป็นคู่ปรับตลอดกาลของคณะวิศวะ จากข่าวลือที่หลุดออกมาว่าแสนเป็นคนใช้เล่ห์เหลี่ยมจนเกษตรต้องยอมให้วิศวะขึ้นมาเป็นใหญ่เมื่อสองปีก่อน ทำให้ลูกขุนจากคณะอื่นตั้งตารอดูว่าพวกเกษตรจะเอาคืนแสนอย่างเจ็บแสบขนาดไหน เสียดายว่าตัวแทนคณะที่ชายสวมหมวกกันน๊อกเชิญมากลับเป็นเพียงตัวแทนรุ่นปีสามไม่ใช่ปราบประธานสภานักศึกษาที่ว่ากันว่ามีอำนาจเทียบเคียงกับแสนตอนก่อนตกต่ำเลยทีเดียว

ถึงแม้ปราบจะไม่ได้เข้ามามีส่วนร่วม แต่เมื่อได้ฟังแผนการที่เกษตรเตรียมมา คณะลูกขุนก็รู้ได้ทันทีว่าความแค้นฝังลึกของเกษตรที่มีต่อแสนมันถูกส่งต่อมายังรุ่นหลังโดยไม่ได้ลดน้อยถอยลงไปเลย เกษตรเสนอว่าในเมื่อรูปเปลือยของแสนก็ปลิวว่อนไปทั่วโลกเรียกระแสผู้นิยมเปลือยกายให้สนใจจังหวัดนี้มากขึ้นอยู่แล้ว ก็ควรจะให้แสนทำหน้าที่ต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติไปเลย เป็นการเพิ่มพูนรายได้จากการท่องเที่ยวให้กับจังหวัดและตอบสนองนโยบายที่อนุญาตให้เปลือยกายในพื้นที่ท่องเที่ยวเฉพาะจุดของนายกเทศมนตรีซึ่งเป็นพ่อของแสนเอง

ลูกขุนที่เป็นตัวแทนเกษตรเอาตัวแสนไปเตรียมความพร้อมล่วงหน้าหนึ่งวัน ในวันรุ่งขึ้น คณะลูกขุนทุกคนรวมถึงเวหาด้วยก็มารวมตัวกันที่สะพานรถไฟข้ามแม่น้ำเล็กๆ ก่อนถึงตัวจังหวัดซึ่งเป็นจุดที่จะใช้ให้แสนทำการแสดงต้อนรับนักท่องเที่ยว จริงๆ จังหวัดนี้ก็มีเส้นทางคมนาคมทางรถที่สะดวกสบายกว่าการนั่งรถไฟมา แต่ด้วยเส้นทางที่สวยงามและความคลาสสิคของรถไฟไทย ทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนมากนิยมที่จะเดินทางมาที่นี่ด้วยรถไฟจากหัวลำโพง สะพานข้ามแม่น้ำแห่งนี้ถึงจะมีขนาดเล็กและค่อนข้างเก่า แต่ที่ว่าถือเป็นจุดที่ผู้โดยสารจะมองเห็นวิวที่สวยงามของลำน้ำคดเคี้ยวซึ่งทอดตัวยาวก่อนจะไหลลงทะเลที่เห็นอยู่ไกลลิบตา

แสนยืนเปลือยเปล่าต่อหน้าคนนับสิบในสภาพหมดอาลัยตายอยากในชีวิต เขาก้มหน้าลงต่ำแต่ก็เบือนหน้าหนีอย่างทำใจไม่ได้เมื่อเห็นความเป็นชายของตัวเองที่บัดนี้แทบไม่เหลือสภาพเดิม สภาพควยของแสนในตอนนี้น่าเกลียดน่ากลัวมากจนเวหาซึ่งเพิ่งมีโอกาสได้เห็นถึงกับตะลึง ตามท่อนลำถูกฝังมุกไว้เกือบสิบเม็ดตะปุ่มตะป่ำไปหมด หนังหุ้มปลายที่ค่อนข้างยาวถูกจับกรีดออกเป็นสามแฉกฉีดซิลิโคนจนบวมเป่งแบบที่พวกนักโทษในคุกเรียกกันว่าผ่าหัวเบ๊นซ์ ตั้งแต่โคนควยดำคล้ำไปถึงส่วนหัวสีแดงเข้มถูกสักเป็นรูปสัตว์เลื้อยคลานชนิดหนึ่งกำลังแลบลิ้นที่แยกออกเป็นสองแฉกตรงกับรูเยี่ยวพอดี เส้นหมอยยาวรกรุงรังยิ่งทำให้สภาพควยของแสนดูถ่อยเถื่อนน่าขยะแขยงอย่างบอกไม่ถูก เวหาโวยวายกับพวกรุ่นพี่ว่าทำแบบนี้มันเกินไปจริงๆ แต่ก็ได้คำตอบว่าเป็นการสั่งการของชายสวมหมวกกันน็อก

แสนนึกถึงความโหดเหี้ยมของคนพวกนี้กระทำกับเขาแล้วก็แทบคลุ้มคลั่งด้วยความแค้น ในตอนที่เขาหนีไปเจอกับหัวหน้าแก๊งซิ่งโจทก์เก่าแล้วโดนข่มขืนด้วยควยปลอมตัวเองจนเกือบหมดสติ เคราะห์ดีที่ชายสวมหมวกกันน๊อกตามมาช่วยไว้ได้ทันก่อนที่รูตูดของเขาจะฉีกขาดด้วยขนาดควยตัวเอง แต่โชคของแสนหมดลงแค่นั้น เขาถูกเอาตัวไปผ่าตัดโมดิฟายจนอัปลักษณ์เพื่อเป็นการลงโทษ สภาพเขาหลังจากนั้นไม่ต่างอะไรกับพวกคนขี้คุกหรือนักเลงชั้นต่ำที่ชื่นชอบการปรับแต่งควยตัวเองจนน่าเกลียด ยิ่งรับรู้ว่าคนที่ลงมือผ่าตัดให้เป็นนักศึกษาสัตวแพทย์โดยใช้เครื่องมือเดียวกับที่ใช้ทำหมันสุนัขยกเว้นยาชาที่ใช้ของคนแสนก็ยิ่งคลุ้มคลั่ง เขารับเรื่องนี้ไม่ได้จนมีสภาพซึมเซามาตั้งแต่นั้นมา

ประธานรุ่นวิศวะปีสี่ถูกนำตัวเปลือยเปล่าไปผูกติดกับโครงสร้างโลหะที่ทำหน้าที่เป็นราวสะพาน ลูกขุนตัวแทนจากเกษตรเป็นผู้ทำหน้าที่นี้ด้วยตัวเองในขณะที่ชายสวมหมวกกันน็อกยืนดูอยู่ห่างๆ อย่างพอใจ แขนขาที่กำยำของแสนถูกขึงแยกออกจากกันเป็นรูปกากบาททำให้เครื่องเพศขนาดเขื่องแสนน่าเกลียดห้อยอยู่ตรงหว่างขา หนังหุ้มปลายที่ถูกกรีดออกเป็นสามแฉกเผยให้เห็นควยบานโร่สีแดงเข้มที่สักลายลิ้นสองแฉกของตัวเหี้ยเอาไว้ กล้ามเนื้อแกร่งนาบกับแผ่นเหล็กที่เริ่มร้อนจากแสงแดดช่วงเกือบสิบเอ็ดโมงจนแสบร้อน สภาพแสนในตอนนี้เหมือนนักโทษเชลยที่ถูกจับแขวนประจานให้ผู้คนมาสมน้ำหน้าในความน่าอับอายของผู้แพ้หมดสิ้นศักดิ์ศรีทั้งปวง แต่ถึงอย่างนั้นชายสวมหมวกกันน๊อกก็ดูจะยังไม่พอใจ เขาสั่งให้ปลดพันธนาการแขนข้างนึงออกแล้วบอกในสิ่งที่แสนต้องทำเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยว แสนที่ดูเหมือนจะปลงกับทุกสิ่งกลับมีประกายตาวาวโรจน์ด้วยความโกรธ

“กูไม่ทำ มึงทำเองสิเรื่องอุบาทว์แบบนั้น”

“มึงขัดกูไม่ได้หรอก ถ้าไม่ทำพ่อมึงเดือดร้อนแน่”

“ไอ้เหี้ย แค่นี้ศักดิ์ศรีกูก็ไม่เหลือแล้ว ต้องให้กูตายไปเลยใช่ไหมมึงถึงจะสาสมใจ”

แสนตะโกนออกมาอย่างอัดอั้น ที่ผ่านมาเขายอมทำเรื่องทุเรศทุกอย่างแล้วเพื่อผู้เป็นพ่อ แต่ก็เหมือนจะไม่จบไม่สิ้นซักที

เมื่อเตรียมความพร้อมทุกอย่างเสร็จ ก็เหลือแต่รอเวลาให้รถไฟนำนักท่องเที่ยวมาถึง ในที่สุดเสียงหวูดรถไฟก็ดังขึ้น คนทั้งหมดรีบหลบลงไปด้านล่างทิ้งแสนไว้เพียงคนเดียว ไม่นานรถไฟรูปร่างคลาสสิกที่พานักท่องเที่ยวมาเต็มขบวนก็ปรากฏสู่สายตาและค่อยๆ ชะลอความเร็วตามข้อจำกัดของสะพานและเจตนาจะให้ผู้โดยสารได้ชมวิวแม่น้ำที่สวยงาม แต่สายตานักท่องเที่ยวที่โผล่หน้าออกมารอชมความงามของธรรมชาติ กลับต้องเบิกกว้างเมื่อเห็นชายหนุ่มชาวเอเชียหน้าตาหล่อเหลาคมเข้มผิวคล้ำหุ่นกำยำถูกผูกติดอยู่กับราวสะพานในสภาพเปลือยกายล่อนจ้อนสองขาแยกจากกันเห็นดุ้นควยและพวงสวรรค์อย่างถนัดตา เสน่ห์ความดิบเถื่อนแบบชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทำให้ชาวต่างชาติทั้งชายทั้งหญิงถึงกับมองอย่างหลงไหล แต่เมื่อสายตาไปเห็นดุ้นควยอัปลักษณ์ก็ต้องอุทานขึ้นด้วยความตกใจ ขณะที่บางคนเริ่มคิดว่าคนๆ นั้นต้องการความช่วยเหลือหรือไม่ ชายหนุ่มคนนั้นกลับร้องตะโกนเสียงดังขึ้นมา

“Welcome to Thailand, Land of smile”

แสนตะโกนตอนรับนักท่องเที่ยวตามคำสั่งของชายสวมหมวกกันน็อก มือข้างที่เป็นอิสระสาวควยอย่างถี่ยิบจนมันขยายตัวอวดศักดาของของไทยว่าไม่ได้ด้อยอย่างที่ฝรั่งคิด

“Welcome to my wonderful home town”

แสนยังคงแหกปากต่อเนื่องเรียกความสนใจจากชาวต่างชาติที่จ้องมองอย่างไม่เชื่อสายตา

“Let’s enjoy beautiful beaches, spicy foods, exotic fruits and hot guys”

แสนโฆษณาจังหวัดตัวเองไปเรื่อยเปื่อยตามแต่จะนึกออกทั้งๆ ที่อายจนหน้าชาเมื่อแทบทุกคนบนรถเริ่มหยิบโทรศัพท์หรือแม้แต่กล้องขนาดใหญ่ออกมาถ่ายตัวเองในสภาพแสนทุเรศหมดสิ้นซึ่งศักดิ์ศรีทั้งปวง เขาซบหน้าลงกับไหล่เพื่อไม่ให้กล้องจับใบหน้าได้ชัดเจนขณะที่ชักควยไปด้วยตามคำสั่ง ขบวนรถไฟตู้แล้วตู้เล่าที่ค่อยๆ เคลื่อนตัวผ่านแสนในระยะใกล้ทำให้ความน่าสมเพชนี้ปรากฎต่อสายตาของนักท่องเที่ยวหลายร้อยคนไม่รวมถึงรูปภาพและคลิปวิดีโอที่คงมีมากถึงเป็นพันเป็นหมื่นรูป ภายใต้คำสั่งที่แลกกับชื่อเสียงของบิดา แสนจึงทำได้แค่ตะโกนต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วยประโยคโง่ๆ พร้อมกับทำอนาจารกับอวัยวะเพศอันแสนอัปลักษณ์ของตัวเองไปด้วยอย่างน่าอดสู

เมื่อขบวนรถไฟวิ่งผ่านไป บรรดาคณะลูกขุนที่ซุ่มดูอยู่ก็กลับขึ้นไปบนสะพานพร้อมกับพูดคุยอย่างสะใจถึงความอับอายที่แสนได้รับ มีคนเริ่มเสนอไอเดียว่าน่าจะเอาแสนไปโชว์ตัวที่ถนนคนเดินช่วงกลางคืนที่นักท่องเที่ยวนิยมไปกัน คงจะสร้างความคึกคักให้ได้ไม่น้อย

“งั้นรอรถไฟรอบบ่ายอีกทีแล้วกัน แล้วค่อยไปหาทำเลในตลาด”

“แล้วตอนนี้เอาไงดีครับ จะเอานักโทษของเราลงมาพักก่อน หรือจะทิ้งไว้งี้รอรถไฟรอบบ่าย”

ลูกขุนจากคณะเกษตรเข้าไปสำรวจสภาพของแสนที่ถูกผูกตากแดดไว้กับโครงเหล็กร้อนๆ จนแผ่นหลังเริ่มไหม้แล้วก็คลายปมเชือกออกโดยไม่รอคำตอบ แต่ชายสวมหมวกกันน๊อกกลับตอบปฏิเสธ

“ปล่อยทิ้งไว้อย่างนี้ก็ได้ อีกไม่กี่ชั่วโมงเอง ดูๆ ก็ยังทนถึกอยู่นี่นา”

ชายสวมหมวกกันน็อกเดินเข้าไปจับเนื้อตัวของผู้เป็นนักโทษอย่างไม่ใยดีเท่าไร แสนได้ฟังก็เหมือนจะสติหลุดด้วยความโกรธแค้นอย่างที่สุด ใบหน้าบิดเบี้ยวดวงตาเหลือกโปนที่กวาดมองใบหน้าทุกคนในที่นั้นแล้วมาหยุดนิ่งที่เวหาซึ่งยืนห่างออกไป ทำให้เด็กหนุ่มขนลุกด้วยความเกลียดชังที่ส่งมาอย่างสุดประมาณ

“ทรมานกูไปถึงไหนไอพวกใจสัตว์ หรือว่าต้องได้ชีวิตกูพวกมึงถึงจะพอใจ ได้ งั้นกูจะตายให้พวกมึงดู กูขอพยาบาทพวกมึงทุกชาติไป แต่ชาตินี้ กูขอเอาไอพวกเหี้ยนี่ไปลงนรกด้วย”

แสนดิ้นหลุดออกจากพันธนาการได้อย่างไม่น่าเชื่อท่ามความตกใจของทุกคน เขาโถมเข้าหาจุดที่เวหาและชายสวมหมวกกันน็อกยืนอยู่ เวหาไม่ทันตั้งสติแต่ด้วยสัญชาตญานของนักเทควันโด้ทำให้เขาเบี่ยงตัวหลบได้ทัน เหลือเพียงชายสวมหมวกกันน็อกที่ถูกกระแทก เต็มแรงตกจากสะพานลอยละลิ่วลงสู่แม่น้ำไปพร้อมกับแสนจนน้ำกระจายขึ้นมาตู้มใหญ่ ร่างเปลือยเปล่าของแสนทะลึ่งพรวดขึ้นมาเหนือน้ำทีนึงแล้วก็หายไปในขณะที่อีกคนดูจะทุลักทุเลจากเสื้อหนังสีดำอุ้มน้ำหนักอึ้งและหมวกกันน็อกเต็มใบที่สวมอยู่ น้ำในแม่น้ำค่อนข้างขุ่นและไหลแรงจากมรสุมที่มีขึ้นสองสามวันก่อนทำให้สถานการณ์ตอนนี้อันตรายไม่น้อย คนที่อยู่บนสะพานซึ่งล้วนแต่ว่ายน้ำแข็งตามประสาเด็กที่โตมากับทะเลรีบกระโดดลงไปเพื่อเอาตัวคนทั้งสองขึ้นมา เหลือเพียงเวหาที่ว่ายน้ำไม่แข็งเพราะสมัยที่เริ่มโตหน่อยมัวแต่อายความตุงแน่นในกางเกงว่ายน้ำของตัวเองจนไม่ค่อยได้ฝึกว่ายน้ำเหมือนเด็กทั่วไป จึงรีบลงมาที่ริมตลิ่งเพื่อดูสถานการณ์อย่างร้อนใจ

เวหามองจากฝั่งเห็นความวุ่นวายมีคนดำผุดดำว่ายกระจายกันเต็มไปหมด ซักพักใหญ่เด็กหนุ่มก็เห็นรุ่นพี่ประมงซึ่งมีชายสวมหมวกกันน็อกเกาะหลังมาด้วยอย่างหมดสภาพว่ายพาตัวมาใกล้ฝั่งจึงรีบเข้าไปช่วย รุ่นพี่บอกว่าท่าทางจะสำลักน้ำไปพอสมควรเพราะไม่ยอมถอดหมวกกว่าจะควานตัวขึ้นมาได้ เมื่อฝากฝังไว้กับเวหาแล้ว รุ่นพี่ประมงก็รีบว่ายน้ำออกไปบอกว่าจะไปช่วยหาตัวแสนที่บัดนี้ยังไม่มีใครเจอ

เวหาลากตัวชายสวมหมวกกันน็อกขึ้นมาบนฝั่งตั้งใจจะทำการปฐมพยาบาล เขาปลอดสายรัดออกเพื่อจะถอดหมวกออกแต่ก็มีมือมาสะกัดไว้ด้วยเรี่ยวแรงที่เหลือน้อยนิด

“อย่าถอด”

เสียงของชายสวมหมวกกันน็อกครั้งนี้เปล่งออกมาโดยตรงไม่ได้ผ่านเครื่องแปลงเสียงอย่างทุกที ดูเหมือนลำโพงแปลงเสียงใต้หมวกใบนั้นคงจะพังไปแล้ว

“ถอดออกมาเถอะครับ คุณเพิ่งจมน้ำมานะ”

อีกฝ่ายดูเหมือนจะรวบรวมกำลังได้มากขึ้นจนพยุงตัวเองมาอยู่ในท่านั่งได้ หลังจากไอเอาน้ำออกสองสามครั้ง ชายนิรนามก็พูดขึ้นด้วยเสียงแหบพร่าอ่อนแรง

“ผมไม่เป็นไร ปีหนึ่งวิศวะ ผมต้องใช้โทรศัพท์คุณขอกำลังคนมาช่วยค้นหาแสน ของผมตกน้ำไปแล้ว”

ในเวลานี้ถ้าเวหาจะฝืนถอดหมวกของอีกฝ่ายก็คงไม่ยากอะไร เพียงแต่มันไม่ใช่สิ่งจำเป็นอีกแล้ว เวหายื่นโทรศัพท์ให้แต่ในใจสับสนไปหมด เขาร้อนใจมากที่แสนโดนกดดันจนต้องคิดสั้นแบบนี้ เขาแค่ต้องการล้างแค้นไม่ได้อยากเป็นฆาตกร ถ้าครอบครัวของแสนรู้เรื่องนี้เข้าจะเสียใจแค่ไหน เวหารู้สึกผิดที่ปล่อยความแค้นให้ครอบงำจนเรื่องมันเลยเถิดขนาดนี้ การล้างแค้นแบบตาต่อตาฟันต่อฟันมันเท่ากับว่าเขาเองก็เลวไม่ต่างจากแสน หรืออาจจะเลวกว่าด้วยเพราะเท่าที่รู้แสนก็ไม่เคยทำให้ใครถึงตาย

เวหาวิ่งไปที่ตลิ่งเพื่อตะโกนถามข่าวจากบรรดารุ่นพี่ที่อยู่ในแม่น้ำ โชคร้ายที่ยังไม่มีใครเจอแสน พอหันกลับมาอีกทีชายสวมหมวกกันน็อกก็ไม่อยู่แล้วทิ้งไว้แต่โทรศัพท์ของเวหาบนพื้น หลังจากนั้นไม่นาน ก็มีทหารในชุดฝึกเต็มคันรถบรรทุกมาช่วยกันตามหาโดยไม่ถามไถ่ที่มาอะไรเลยแม้แต่น้อย เวหาไปเลียบๆ เคียงๆ พูดคุยก็ทราบแค่ว่านายสั่งมาให้ช่วยตามหาคนแถมยังมีอีกหลายทีมกระจายกันไปตามปลายน้ำจนถึงปากน้ำก่อนที่จะออกทะเล แต่สุดท้ายหลังจากที่ค้นหากันหลายชั่วโมงทหารก็สั่งให้พวกนักศึกษากลับบ้านไปถึงแม้จะยังไม่พบร่างของแสนเพราะแต่ละคนเหนื่อยล้าเต็มที