ประสบการณ์ซาดิสต์

เหตุการณ์ตอนอยู่ ม.ปลาย โรงเรียนชายล้วนแห่งหนึ่ง ที่โรงเรียนนี้มีครูพละที่โหด ซาดิสต์ และเหี้ยอยู่หลายคน ไม่รู้ว่าซวยหรือโชคดีที่ได้มาอยู่ที่โรงเรียนแห่งนี้

ตอนผมเข้ามาเรียนใหม่ๆ ผมกล้าๆ กลัวๆ เพราะไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน สิ่งกระตุ้นแรกเกิดจากการพลั้งเผลอตอนเรียนพละชั่วโมงแรก ผมดันลืมใส่เสื้อพละมา วันนั้นลืมจริงๆ ไม่ได้ตั้งใจแต่ประการใด จำได้แค่ว่า เรียนพละชั่วโมงแรกเป็นกิจกรรมเข้าจังหวะซึ่งน่าจะสนุก แต่บรรยากาศดูจะขึงขัง จริงจังมิใช่น้อย

ผมเดินมาหน้าโรงยิม มีป้ายเขียนไว้ว่า “ห้ามใส่เสื้อนักเรียนและกางเกงนักเรียนเข้ามาในโรงยิม”

แถมมีหมายเหตุบอกข้างล่างว่า “นักเรียนที่เรียนพละ แต่ไม่ได้ใส่เสื้อและกางเกงพละมาให้รออยู่หน้าห้อง จนกว่าอาจารย์จะมาเรียก”

และแถมมีอีกข้อความเขียนไว้ว่า “ถ้าขาดชั่วโมงแรกจะได้เกรด 0 ไปเลยทันที”

ผมงุนงงกับข้อความเหล่านี้ แต่พอจะจับใจความได้ว่า ผมต้องยืนรออยู่ข้างนอกเพราะไม่ได้ใส่ชุดพละมา คือลืมทั้งเสื้อและกางเกงวอม ยืนรอจนเมื่อย ผมก็เลยนั่งรอ ประมาณครึ่งชั่วโมง อาจารย์ก็เดินออกมาหน้าห้อง เป็นอาจารย์พละที่ตัวใหญ่มาก และหน้าตาดุมาก ตอนนั้นอาจารย์ปล่อยเพื่อนๆ ผมให้กลับไปเข้าชั้นเรียนได้ พอเพื่อนๆ ไปหมดแล้ว เขาหันมามองหน้าผม

“เข้าใจป้ายที่เขียนไหม” เขาชี้ไปที่ป้ายแรก

“ห้ามใส่เสื้อนักเรียนและกางเกงนักเรียนเข้ามาในโรงยิม” แล้วก็ชี้ไปที่ป้ายที่สอง

“ถ้าขาดชั่วโมงแรกจะได้เกรด 0 ไปเลยทันที” แล้วก็หันมามองหน้าผม

“อ่านแล้วเข้าใจไหม”

ผมตอบแกไป “เข้าใจครับ”

แกถามผมกลับ “เข้าใจว่ายังไง”

ผมหยุดนิดนึงก่อนที่จะตอบแกไป “ชั่วโมงแรกห้ามขาด แต่ถ้าเข้าโรงยิมก็ห้ามใส่เสื้อและกางเกงนักเรียนเข้าไป”

แกพยักหน้า “มึงเข้าใจถูกต้อง มึงต้องเข้าไปในโรงยิมกับกู และห้ามใส่เสื้อและกางเกงนักเรียนเข้าไป เพราะฉะนั้นมึงรู้ใช่ไหมว่าต้องทำอย่างไร”

ผมงงนิดๆ และเงียบอยู่พักนึง ก่อนที่จะเข้าใจ แต่ก็ทำอะไรไม่ถูก จนอาจารย์พละเตือนสติผม

“ถูกแล้ว อย่างที่มึงเข้าใจ มึงต้องเข้าไปในโรงยิมกับกู แต่ต้องถอดเสื้อกับกางเกงกองไว้ข้างนอกตามระเบียบ”

ฟังแล้วผมหนาวเลย เพราะยังไม่เคยถูกลงโทษแบบนี้แต่ประการใด แกตะคอกผม

“รีบถอดออกและตามกูมา”

ผมยังงงๆ แต่ก็ต้องทำตามคำสั่ง ผมถอดเสื้อออก และทำใจอยู่พักนึง จึงถอดกางเกงนักเรียนออก ตอนนี้ผมเหลือแต่กางเกงในตัวเดียว ผมกลัวๆ กล้าๆ น่าแปลกที่ควยโด่แบบสุดๆ มันเสียวซ่านไปถึงข้างใน พอทำใจได้ ผมจึงเดินเข้าไปในโรงยิมอย่างองอาจ

ตอนเดินเข้าไปในโรงยิมที่มีอาจารย์พละอยู่คนเดียวและผมอยู่ในชุดกางเกงในตัว เดียว ตอนนั้นรู้สึกตื่นเต้นมากๆ ครับ เพราะเป็นประสบการณ์ครั้งแรก ตอนนั้นยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองเป็นเกย์หรือนิยมชมชอบความซาดิสต์ หรืออาจเป็นอาจารย์พละท่านนี้แหละที่มอบสิ่งดีๆ มาให้กับนักเรียนชายวัยนมแตกพานอย่างผม ผมเดินเข้าไป นุ่งเพียงกางเกงในสีขาว ควยโด่ตุงกางเกงใน

ผมเดินมายืนหน้าอาจารย์พละ ยืนตรงอยู่ข้างหน้าแก แกพูดใส่หน้าผม

“ไม่ได้ใส่ชุดพละมาวันแรก ถือว่าเลวมาก กูจะต้องลงโทษมึงอย่างสาสม”

ผมสะดุ้งกับคำพูดที่ดุดันนั้น หลังจากนั้นอาจารย์พละก็เริ่มออกคำสั่ง “ทำท่าวิดพื้นท่าเตรียม”

ผมปฏิบัติตามทันทีอย่างไม่รอช้า

แกสั่งต่อ “วิดพื้น 30 ที”

ผมรีบทำตามคำสั่ง ตอนวิดพื้นผมนับดังมาก ลั่นโรงยิมเลย ตอนนั้นเหมือนแกจะเดินไปหยิบอะไรบางอย่าง พร้อมกับล็อคโรงยิม แกเดินมายืนข้างๆ ผม ตอนนั้นผมยังวิดพื้นไม่เสร็จ แกเอาเท้ามาเหยียบที่หลังของผม พร้อมกับกดหลังผมลงไป

“ตอนลงต้องลงไปมากๆ หน่อย แล้วค่อยยันตัวขึ้น”

แกทำแบบนี้อยู่หลายครั้ง จนผมรู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นในชีวิตผมมาก่อน ชีวิตของลูกผู้ชายวัย 15 ปีที่ฮอร์โมนกำลังพลุ่งพล่าน หลังจากวิดครบ 30 ทีแล้ว ผมยังคงค้างอยู่ในท่าวิดพื้นท่าเตรียม นิ่งและรอว่าจะเกิดอะไรขึ้น

แกตะคอกผมเสียงดัง “วิดพื้นไม่ได้เรื่องเลย”

หลังจากนั้นเหมือนมีอะไรมาหวดลงที่หลังของผมอย่างแรง ไม่นานนักผมก็รู้ว่าเป็นเข็มขัดของผมเอง แกหวดอย่างบ้าคลั่ง ยิ่งเห็นผมยอมทำตามที่แกสั่งทุกอย่าง แกก็หวดอย่างได้ใจ ผมเจ็บมาก แต่ก็ไม่รู้ว่าจะหนีอย่างไร ต้องจำใจโดนลงโทษต่อไปเรื่อย สิ่งที่แปลกประหลาดมากๆ คือควยแข็งเด่ในแบบที่ไม่เคยแข็งขนาดนี้มาก่อน ผมทั้งเจ็บ แต่เริ่มจะเสียวๆ และมันส์

แกหยุดหวดหลังผมด้วยเข็มขัด สั่งให้ผมลุก และสั่งให้เอามือกอดอก หลังจากนั้นแกไปหยิบไม้เรียวขนาดใหญ่ เดินมายืนข้างๆ ผม แกหวดไม้เรียวไปที่ก้นของผมอย่างแรง ทีแรกผมสะดุ้งโหยง เพราะมันเจ็บมาก แต่อีกในความรู้สึกหนึ่ง ผมก็รู้สึกสะใจ แกหวดอย่างแรงไปอีก 2-3 ที เจ็บสุดๆ ครับ ก้นแทบพัง

หลังจากนั้นแกสังเกตเห็นควยของผมแข็งโด่ ตุงกางเกงใน แกจึงสั่งในสิ่งที่ผมคาดไม่ถึง

“ถอดกางเกงในมึงออก”

ผมยืนงง นึกว่าหูฝาดไป รู้สึกเบลอๆ แต่กลับมาได้สติหลังจากโดนชกท้องไปหนึ่งที

“บอกให้ถอดกางเกงในมึงออก ไม่ได้ยินเหรอ ไอ้สัตว์”

ผมจำต้องถอดออกตามคำสั่ง ตอนนั้นยังสงสัยว่าทำไมตัวเองต้องฟังคำสั่งของแกด้วย ทำไมผมถึงไม่วิ่งหนีไป

พอถอดออกแล้ว ควยที่แข็งจึงผงาด ตั้งขนานกับพื้น หัวเชิดขึ้นอย่างองอาจ แกยิ้ม แล้วเอามือมาฟันที่ควยของผมอย่างแรง 1 ที เจ็บแบบจุกๆ ครับ แต่ว่า “สะใจ” เป็นบ้า หลังจากนั้นแกสั่งให้ผมนอนหงาย และออกคำสั่งที่ผมคาดไม่ถึง

“ชักว่าวไป”

ตอนแรกผมไม่กล้า แกจึงเอารองเท้าผ้าใบเหยียบลงไปที่ควยของผม แล้วบดขยี้ซ้ำ

“ถ้ามึงไม่ชัก กูจะกระทืบให้ควยมึงเลือดอาบเลย”

จบประโยคนั้นทำให้ผมรีบชักว่าวโดยเร็ว ผมไม่เคยชักว่าวให้ใครเห็นมาก่อน การชักต่อหน้าครูพละจึงตื่นเต้นมาก

ขณะที่ผมกำลังชักว่าวอยู่นั้น อาจารย์พละเอาเข็มขัดฟาดไปที่หน้าอกผมไปด้วย เจ็บ แสบ แต่สะใจ และเสียวมาก ตอนนั้นบอกไม่ถูกจริงๆ ครับ เลือดกับฮอร์โมนมันพลุ่งพล่านไปหมด

ผมชักว่าวอย่างเมามันส์ ไม่เคนเสียวซ่านเช่นนี้มาก่อน อาจารย์พละหวดเข็มขัดมาที่หน้าท้องและหน้าอกได้อย่างเป็นจังหวะเสียวปนเจ็บ มันสร้างความตื่นเต้นให้ผมอย่างบอกไม่ถูก ผมไม่สนใจอะไรอีกแล้ว นอนหลับตาพริ้ม ชักว่าวแบบสาวได้สาวเอา ควยก็เสียว สลับกับความเจ็บปวดที่หน้าอกและหน้าท้อง ผมอยู่ในสภาพแบบนั้นจนน้ำแตก

อาจารย์พละปล่อยให้ผมนิ่งแค่เพียงชั่วครู่ก็บังคับให้ผมนั่งคุกเข่า แล้วเอามือไพล่หลัง หลังจากนั้นแกก็ถอดกางเกงและกางเกงในของแกออกมา เดินตรงเข้ามาหาผม แกเอามือจิกผมของผมอย่างแรง จนผมต้องชันเข่าขึ้นมา แกจิกหัวผมขึ้นมาให้ตรงกับควยของแก แกยัดควยของแกซึ่งใหญ่มากเข้ามาในปากของผม

หลังจากนั้นแกก็จับหัวผมพร้อมกับโยกก้นด้วยความสะใจ ควยแกใหญ่คับปาก ตอนแกดันเข้า ปลายมันกระทุ้งไปที่คอหอย ผมเจ็บมากแต่ร้องไม่ออก เพราะควยคับปาก แกซาดิสต์มาก กระทุ้งควยใส่ปากของผมอย่างไม่ยั้ง ผมปากแทบฉีก เจ็บ ปวด แต่มันส์ สะใจมากที่ถูกกระทำถึงขนาดนั้น โดยคนอย่างครูพละที่ทั้งล่ำ ทั้งโหด

พอแกกระทุ้งจนได้ที่ ก็รีบเอาควยออกจากปากผม แล้วก็ถีบหน้าอกผมจนผมล้มลงไปนอนหงาย จากนั้นแกก็ขึ้นมานั่งทับบนตัวผม ชักว่าวอย่างแรง จนเสร็จ น้ำแตกกระจายใส้หน้าท้อง หน้าอกและใบหน้าของผม กลิ่นคาวยังรู้สึกได้จนถึงเดี๋ยวนี้ มันเป็นคาวน้ำกามที่ข้นคลั่ก ผมประมาณอายุของแกก็น่าจะอยู่สักประมาณ 35 ปี ส่วนผมตอนนั้น 15 แกหุ่นดีมาก ล่ำได้ใจ ผมเองก็หุ่นค่อนข้างดี หน้าตาก็ใช้ได้ ใครเห็นผมสมัยนั้นมักจะพูดเป็นเสียงเดียวว่าผมเหมือนรอน บรรจงสร้างมากๆ เพียงแต่จะล่ำกว่าหน่อยก็เท่านั้น

วันนั้นเป็นประสบการณ์ครั้งแรกที่ผมตื่นเต้นมาก หลังจากแกปล่อยผม ผมรีบเข้าห้องน้ำที่โรงยิมเพื่อล้างตัว ขณะกำลังล้างตัว ผมยังนึกถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นไปสดๆ ร้อนๆ นึกไปนึกมา ความเสียวซ่านสุดบรรยายมันก็กลับมาอีก ควยก็แข็งโด่อีก ผมก็เลยชักว่าวจนน้ำแตกอีกรอบ

พอกลับไปถึงบ้าน ตกดึกก็คิดถึงเรื่องนี้อีก พอคิดควยมักก็โด่อีก ผมก็เลยต้องทำให้น้ำแตกอีกรอบ สมัยนั้นผมเลยชักว่าวเฉลี่ยวันละ 4-5 ครั้ง พร้อมกับพยายามออกกำลังกายให้มากขึ้น รู้แต่เพียงว่าผมต้องเตรียมร่างกายให้พร้อม ไปโรงเรียนทีไรผมมักจะกล้าๆ กลัวๆ โรงเรียนชายล้วนแห่งนี้โหดได้ใจมาก นักเรียนส่วนใหญ่มักเป็นลูกของทหารและตำรวจ

ทางโรงเรียนมีทุนสำหรับนักเรียนที่สามารถไปเรียนต่อทางทหารและตำรวจได้ อาจารย์ที่โคตรโหดที่เห็นชัดๆ คืออาจารย์พละ แต่ไม่หรอกครับ คนที่โหดกว่ายังมี และนั้นคืออาจารย์ฝ่ายปกครอง เกือบลืมบอกไปว่าครูพละที่เปิดซิงผมชื่อกำพล หลังจากวันนั้นผมก็ไม่ได้เจอแกอีก กว่าจะเจออีกทีก็ตั้งอาทิตย์นึง คนต่อไปที่ดวงของผมโคจรไปพบด้วยคืออาจารย์ฝ่ายปกครองที่ชื่อแผน

หลังจากเจอความโหดของอาจารย์กำพลในโรงยิม ผมคิดว่ามีแต่แกเท่านั้นที่โหด ต่อมาไม่นานผมก็รู้ว่าผมเข้าใจผิด นอกจากแกแล้วยังมีคนที่โหดเหี้ยมมาก และหลายครั้งก็มักจะไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย คนๆ นั้นก็คืออาจารย์แผน อาจารย์ฝ่ายปกครองที่โหด เหี้ยม และเหี้ยเป็นอย่างมาก ความเหี้ยของแกเป็นที่ขึ้นชื่อลือชา แกมักจะหาเรื่องลงโทษนักเรียนที่หน้าตาดี ล่ำและดูแมนมากๆ เมื่อแกวางแผนไว้อย่างนั้น ผมเองจึงตกไปอยู่ในลิสต์ของแก โดยที่ผมก็ไม่รู้ตัวมาก่อน

ครั้งแรกที่เจอแกเป็นตอนเย็นๆ ผมเองเป็นพวกไม่ชอบกลับบ้านเร็ว ก็เลยมักจะเตร็ดเตร่อยู่ที่โรงเรียนจนเย็น บางครั้งก็อยู่จนถึงค่ำ และค่ำวันหนึ่งผมเองก็เจอเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันเข้าจนได้ จริงๆ แล้วมันเป็นเหตุการณ์ที่ดูจะไม่มีเหตุผลเอามากๆ แต่มันก็เคยเกิดขึ้นในชีวิตของผม

ค่ำนั้นผมเล่นบอลกับเพื่อน พอเล่นเสร็จ เสื้อนักเรียนของผมก็โชกไปด้วยเหงื่อ เพื่อนๆ กลับไปหมดแล้ว แต่ผมเดินหาที่ล้างตัว พอดีผมยังไม่คุ้นกับบางส่วนของโรงเรียน เดินไปเดินมาก็พบก๊อกน้ำที่อยู่บริเวณตึกๆ หนึ่ง ผมว่ามันเหมาะเพราะก๊อกมันอยู่ในระดับที่ไม่สูงหรือต่ำจนเกินไป ผมจึงตัดสินใจจะล้างตัวที่นี่ก่อนกลับบ้าน

ผมถอดเสื้อแขวนไว้ที่แป้นบาส แล้วก็เดินไปที่ก็อก เปิดก็อกน้ำออก แล้วก็ก้มตัวลงไป โดยเอาหัวจ่อไปที่สายน้ำที่กำลังไหลลงมาอย่างแรง ผมรู้สึกสดชื่นมาก จึงเอาหัวจ่อไว้อย่างนั้นสักพักนึง แต่ไม่นานนัก สิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น

ผมรู้สึกว่ามีใครสักคนเอากำปั้นมาทุบหลังของผมอย่างแรง มันเจ็บมาก ผมยกตัวขึ้น จึงเห็นว่าเขาผู้นั้นคืออาจารย์แผน พอสบตากับเขา เขาก็ตะคอกใส่หน้าผมอย่างแรง

“ใครให้มึงมาล้างตัวตรงนี้”

ผมพยายามจะตอบคำถามแก แต่ยังไม่ทันตอบ แกก็ใช้ฝ่ามือหนาๆ ฟาดมาที่หน้าอกผมอย่างเต็มแรง ผมงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น นี่มันเป็นการหาเรื่องกันชัดๆ ผมเลยนิ่ง ไม่พูดอะไรทั้งนั้น แต่การนิ่งเงียบทำให้ผมโดนฟาดหน้าอกไปอีก 1 ที แกยังตะคอกใส่หน้าผมว่า “กูจะต้องลงโทษมึงให้รู้สำนึก ไม่อย่างนั้นมึงก็จะไม่เข็ดหลาบ”

ถึงแกจะตอคอกแบบนั้น ผมก็ยังนิ่งเงียบ แววตาผมแข็งกร้าวจ้องมองไปที่แกอย่างไม่กระพริบตา แกสั่งผมต่อว่า “เอามือประสานไว้ที่ท้ายทอย”

ผมปฏิบัติตามอย่างไม่ขัดขืน แกเดินวนรอบๆ ตัวผม เดินช้าๆ เงียบๆ จากนั้นไม่นานก็ใช้มือฟาดหลังผม แล้วก็เปลี่ยนมาเป็นทุบหลังผม หลังจากนั้นก็เดินวนมายืนข้างหน้าผม ผมจ้องไปที่ตาของแก แต่สิ่งที่ได้รับการตอบกลับมาอย่างรุนแรงคือการโดนตบหน้าไป 1 ฉาด

ตอนนั้นควยผมค่อยๆ โด่ขึ้นในแบบที่ผมก็ไม่ทันได้สังเกตตัวเอง ขณะควยโด่ ผมโดนชกท้องไปอีก 1 ที ดูท่าทางแกสะใจมากที่ได้มีโอกาสลงโทษผมในช่วงเวลาค่ำๆ แบบนี้ เขาเรียกว่าหาเรื่องลงโทษโดยไม่มีเหตุผล ซึ่งลึกๆ แล้วผมเองก็เต็มใจ หลังจากโดนฟาดโดนทุบไปพอสมควร

คำสั่งต่อมาก็คือ “นอนหงายลงไป”

ผมรีบทำตามแต่โดยดี แล้วแกก็สั่งให้ผมกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่หลายรอบ แต่มันก็ยังไม่ถูกใจแก แกจึงสั่งให้หยุดและลุกขึ้น

แกตะคอกใส่หน้าผม “สั่งให้กลิ้ง มึงเสือกกลิ้งช้า เอาแบบนี้ ตามกูมาที่หลังโรงเรียน”

ผมวิ่งตามแกไป พอไปถึงหลังโรงเรียน ผมก็เจอสนามบอลเก่าๆ ที่เต็มไปด้วยโคลน ตอนนั้นมืดมากและปลอดผู้คน

แกจึงสั่งผม “ถอดกางเกงของมึงออก”

ผมถอดจนเหลือกางเกงในตัวเดียว แกสั่งต่อให้ผมถอดรองเท้าและถุงเท้าออกด้วย หลังจากนั้นแกก็สั่งให้ผมไปยืนกลางสนามโคลน

แกเองก็ถอดรองเท้าและถุงเท้าออก พับขากางเกงขึ้น แล้วก็เดินลุยโคลนมายืนใกล้ๆ ผม แกสั่งให้ผมวิดพื้น 20 ที ผมทำตามแต่โดยดี ขณะที่กำลังทำอยู่นั้น แกเอาเท้าเหยียบไปที่หลังของผม และกระทืบอย่างแรงจนผมนอนคว่ำลงไปในโคลน ตอนนั้นหน้าอกและหน้าท้องของผมเปื้อนโคลนหมดแล้ว แต่ผมยังเชิดหน้าขึ้น ไม่ให้หน้าเปื้อนโคลน ผมได้ยินเสียงแกเดินลุยโคลนเข้ามาใกล้

และสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น แกเอาเท้าเหยียบลงไปที่หัวของผมจนหน้าผมจมลงไปในโคลน แกเหยียบอย่างสะใจมาก หลังจากนั้นก็สั่งให้ผมกลิ้งไปมาในทะเลโคลน มันส์สะใจมากๆ ครับ สะใจจนควยโด่เลย หลังจากกลิ้งสักพักแกก็สั่งให้ผมลุก แกเพ่งมองเนื้อตัวของผมที่เปื้อนโคลนไปทั่ว ผมสังเกตเห็นว่าควยของแกก็ตุงเหมือนกัน

แกสั่งให้ผมเอามือประสานไว้ที่ท้ายทอยอีกครั้ง และให้กางขาออกกว้างๆ แกเดินวนรอบตัวผมอีก พร้อมกับเอามือฟาดไปที่กลางหลังและหน้าอก แกทำแบบนั้นอยู่หลายครั้ง แล้วก็มาหยุดยืนอยู่ข้างหน้าผม จ้องไปที่ควยที่ตุงคับกางเกงในของผม แกเอามือไปกำที่ไข่ของผม แล้วบีบอย่างแรง ผมร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด แต่แกก็ยังคงบีบอยู่อย่างนั้น

หลังจากนั้นแกเอามือล้วงไปที่กระเป๋าหลังและหยิบคัตเตอร์คมกริบที่พับได้ออกมา แกเอามันมาค่อยๆ ตัดกางเกงในของผมจนกางเกงในเกือบขาด แกกระชากกางเกงในอย่างเต็มแรง และได้ปลดปล่อยควยของผมให้ผงาดเป็นการท้าทายแก แกสั่งให้ผมเดินขึ้นไปบนสนามปูน พร้อมกับนอนหงาย แกเอาเท้าเหยียบไปที่ควยของผม แล้วกระทืบลงไปอย่างแรง ผมเจ็บแทบกระอัก ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดทรมาน การนอนเปลือยเนื้อตัวเปื้อนโคลนอยู่กลางแจ้ง ทำให้ผมตื่นเต้นมาก กลัวคนจะมาเห็น กลัวและคิดไปต่างๆ นานา

ตอนนั้นเริ่มดึกมากขึ้นเรื่อยๆ แกสั่งให้ผมลุก และเดินไปที่อีกด้านหนึ่งของโรงเรียน ขณะกำลังเดินไป ผมเห็นเหมือนมีใครกำลังยืนอยู่ไกลๆ มีคนอยู่จริงๆ ด้วย แกก็สั่งให้ผมเดินไปทางนั้น แล้วผมจะทำยังไงดี ผมอายมาก ไม่อยากเจอใครในสภาพนี้ ไม่อยากเจอจริงๆ ขณะอายและตื่นเต้นมาก แต่ควยผมก็แข็งโด่อย่างเต็มที่

พอเดินเข้าไปใกล้ๆ ผมจึงพอมองออกว่าคนที่ยืนอยู่คือภารโรงหนุ่มที่ผมเคยเห็น เขากำลังล้างรถตู้ของโรงเรียนอยู่ แถวนั้นมีถังน้ำใบใหญ่อยู่หลายใบซึ่งมีน้ำอยู่เต็ม เขามองผม ดูเขาจะไม่ตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นสักเท่าไหร่นัก ผมจึงเดาเอาว่านี่คงไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาเห็นนักเรียนในสภาพแบบนี้

อาจารย์แผนพูดกับเขาว่า “เอ้ย เกริก ขอพาควายมาอาบน้ำหน่อยนะ”

อาจารย์เกริกพาผมไปยืนแถวนั้น บังคับให้ยืนในท่าที่แกชอบคือ มือประสานไว้ที่ท้ายทอย กางขาออก หลังจากนั้นก็เอาขันตักน้ำ แล้วก็เอาน้ำสาดมาที่ตัวผมอย่างรุนแรง ผมยังไม่เคยอาบน้ำที่โหดขนาดนี้มาก่อน

พอแกสาดไปได้หลายขัน แกก็หันไปพูดกับเกริก ภารโรงหนุ่ม “เฮ้ย ช่วยสงเคราะห์มันหน่อย”

เกริกทำทีทำท่าว่ารู้กัน เขาเดินไปหยิบสบู่แล้วเอามาฟอกให้ผมจนทั่วตัว มันเสียวมากครับ เกริกไปยืนข้างหลังผม เขาเอาสบู่ฟอกหลังกับก้นให้ผมก่อน เสร็จแล้วจึงเอามืออ้อมมาฟอกด้านหน้า เขาฟอกสบู่ไปที่บริเวณหน้าอก วนไปมาจนผมเสียวซ่านแบบสุดๆ หลังจากนั้น เขาก็ฟอกวนบริเวณหัวนม ฟอกไป บีบคลึงไป

เสร็จแล้วก็มาฟอกควยของผม เขาฟอกจนทั่วควย แล้วก็ทำเป็นแกล้งชักว่าวให้แป๊ปนึง ผมงี้สั่นสะท้าน พอเกริกฟอกสบู่ให้ผมจนทั่ว อาจารย์แผนก็ตักน้ำสาดอย่างแรงมาที่ผมหลายครั้ง แกเดินไปรอบๆ ตัวผม สาดน้ำจนฟอกสบู่แทบไม่เหลือ หลังจากนั้นก็ส่งผ้าขนหนูให้ผมเช็ดตัว

พอผมเช็ดจนสะอาดแล้วแกก็สั่งผมว่า “มึงจัดการนุ่งผ้าขนหนูให้เรียบร้อย”

ผมตกใจมาก การลงโทษยังไม่จบอีกเหรอเนี่ย อาจารย์แผนหันไปหาเกริก พร้อมกับออกคำสั่ง “มึงไม่ต้องเช็ดรถตู้แล้ว ไปเอากุญแจแล้วสตาร์ทรถรอกู”

เกริกทำตามคำสั่งของอาจารย์แผนอย่างเคร่งครัด

อาจารย์แผนหันมาคุยกับผม “เดี๋ยวเราจะออกไปข้างนอกกัน”

ผมตกใจกับคำพูดของแกมาก

“ในสภาพนี้เหรอครับ” ผมถาม

“ใช่” แกตอบอย่างเด็ดขาด และบังคับให้ผมขึ้นรถตู้ในสภาพที่นุ่งผ้าขนหนูตัวเดียว ผมหายใจถี่มาก ตื่นเต้นในแบบที่ไม่เคยมาก่อน พอผมกับแกขึ้นรถตู้เรียบร้อยแล้ว เกริกก็ออกรถไปอย่างรวดเร็ว

ผมก้มมองสภาพของตัวเอง ผมตกอยู่ในสภาพเปลือย มีเพียงผ้าขนหนูที่นุ่งอยู่ แต่ตอนนั่ง ควยมันก็โด่ดุนดันผ้าขนหนูอยู่ดี ผมตื่นเต้นมากและคาดเดาไม่ถูกว่าแกจะทำอะไรผมอีกในขณะที่ผมอยู่ในสภาพนี้ เกริกขับรถตู้ไปจอดที่ถนนฝั่งหนึ่ง ห่างจากป้ายรถเมล์ไม่มาก ถัดจากป้ายรถเมล์ฝั่งนี้ จะมีสะพานลอยข้ามไปอีกฝั่งหนึ่ง พอลงฝั่งโน้นก็จะพบป้ายรถเมล์อีก และถ้าเดินเลยป้ายรถเมล์ไปก็จะมีร้าน 7-11อยู่ตรงนั้นร้านนึง ป้ายรถเมล์ทั้งสองฝั่งยังมีคนยืนรอรถเมล์กันอยู่อย่างหนาแน่น

อาจารย์แผนส่งกระดาษให้ผมแผ่นหนึ่ง พร้อมกับพูดใส่หูผมว่า “มึงลงไป เดินข้ามสะพานลอย ไปซื้อของพวกนี้ที่ร้านเซเว่นฝั่งโน้นให้กูที”

ผมตกใจมากกับคำสั่งของอาจารย์แผน แกยัดเงินใส่มือผม ผมเองยังนั่งงงอยู่ งงมากว่าตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตของผม แต่ผมนั่งงงอยู่ได้ไม่นาน อาจารย์แผนก็เอามือฟาดที่หน้าอกผมอย่างแรง

“มึงจะลงไปดีๆ หรือจะให้กูต้องทรมานมึงก่อน”

ผมยังงงอยู่ เลยโดนฟาดหน้าอกไปอีกหนึ่งที แกเห็นผมไม่ยอมที่จะทำตามคำสั่ง แกจังกำหมัดและทุบไปที่หน้าอกของผม

“ถ้ามึงไม่ลงไป หน้าอกมึงช้ำเลือดช้ำหนองแน่ๆ”

ฟังดังนั้น ผมจึงเปิดประตูรถตู้และลงไปข้างนอกรถ ตอนนั้นทั้งอายและตื่นเต้น เพราะผมอยู่ในสภาพนุ่งผ้าขนหนูตัวเดียวและควยโด่ขนาดนั้น ตอนเดินผ่านป้ายรถเมล์ฝั่งเดียวกับรถตู้ บางคนก็ไม่สนใจผม แต่บางคนมองผมตาถลน ผมเสียวมาก ถ้าเกิดเจอคนรู้จักล่ะ ผมจะทำอย่างไร

ผมกัดฟันเดินขึ้นสะพานลอย รองเท้าก็ไม่ได้ใส่ มีคนเดินสวนมาสองสามคน พวกเขาคงคิดว่าผมเป็นคนบ้าหรือคนโรคจิต บางคนชี้มือมาทางผม แต่ผมต้องทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้แล้วก็เดินต่อไป จนเดินลงสะพานลอย และกำลังจะผ่านป้ายรถเมล์อีกป้ายนึง ก่อนจะถึงร้านเซเว่น ตอนถึงแล้วผมรีบเปิดประตูเข้าร้าน โชคดีที่พนักงานร้านเป็นผู้ชาย พวกเขาจ้องมองผมเขม็ง

ผมรีบจัดการหาของที่อาจารย์แผนสั่งมาโดยเร็ว พยายามเดินหลบมุม ไม่ให้คนสังเกตมากนัก ใครก็ตามถ้าเดินตรงมาตรงที่ผมกำลังเลือกของอยู่ พวกเขาเป็นอันต้องขยับร่างกายให้ห่างไกลจากตัวผม ผมอายมาก และที่สำคัญแอร์ในร้านหนาวมาก ผมคิดแค่เพียงว่า ต้องทำภารกิจที่อาจารย์แผนสั่งมาให้เรียบร้อย จะได้เข้าไปอยู่ในรถตู้ได้เสียที

พอหาซื้อของเสร็จผมก็เดินมาที่บริเวณจ่ายตังค์ พนักงานมองผมเป็นตาเดียว พวกเขาไม่พูดไม่จากับผม พอคิดเงินเสร็จและจ่ายตังค์เรียบร้อย ผมก็เดินออกจากบริเวณนั้นทันที พนักงานไม่ได้พูดกับผมสักคำ ผมต้องเดินกลับทางเก่า และก็เป็นข่วงที่คนเริ่มจะเยอะขึ้นเรื่อยๆ ผมหิ้วของเต็มสองมือ ไอ้กลัวผ้าขนหนูจะหลุดเนี้ยก็กลัวอยู่หรอก แต่ไม่รู้ว่าจะต้องทำตัวอย่างไร

ผมกัดฟันจนเดินไปถึงรถตู้อีกครั้ง ขึ้นไปบนรถตู้และรถตู้ก็วิ่งต่อไป

รถตู้ของอาจารย์แผนกับนายเกริกวิ่งเข้ามาทางปากซอยเปลี่ยวแห่งหนึ่ง อาจารย์แผนบอกให้ผมลงไปจากรถตู้อีกครั้ง พอผมลงไปยืนบนถนนตรงปากซอย อาจารย์แผนรีบดึงผ้าขนหนูที่ผมนุ่งอยู่ออกทันที แล้วรถตู้ก็วิ่งเข้าไปในซอยลึก อาจารย์แผนตะโกนว่า “ถ้ามึงอยากได้ผ้าขนหนู ก็เดินมาเอาได้ที่ท้ายซอย”

ตอนนั้นผมตื่นเต้นจนแทบจะหมดลมหายใจ การแก้ผ้าเดินอยู่ในซอยเปลี่ยวคนเดียวมันทำให้ผมขนลุกซู่ ควยผมแข็งโด่ในแบบที่มันไม่เคยแข็งมาก่อน ผมมองเห็นไฟรถตู้อยู่ไกลๆ ทันใดนั้นมีรถมอร์เตอร์ไซด์วิ่งออกมาจากในซอย ผมเองตกใจมาก ต้องรีบวิ่งไปหลบตรงพุ่มไม้ รอจนรถแล่นผ่านไปก่อนจึงจะออกมาเดินอีกครั้ง

อาจารย์แผนเล่นงานผมครั้งนี้โหดมาก และผมไม่ทันได้ตั้งตัวเลย เกริกเองก็ดูชาชินกับวิธีลงโทษผมในแบบของแก ผมเดินตัวเปล่าเข้าไปในซอยลึกอย่างรีบเร่ง ประเด็นคืออยากตามรถตู้ให้ทัน เดินไปเดินมาก็รู้ว่าซอยนี้ลึกมากๆ เดินเท่าไหร่ก็ไม่ถึงท้ายซอยสักที ผมกัดฟันเดินไปเรื่อยๆ และไม่ทันระวังตัวว่ามีใครซุ่มอยู่ ผมโดนล็อคตัวเข้าอย่างจัง หันหลังไปจึงพบตำรวจ 4 นายดักซุ่มอยู่

“ไอ้เปรต ดันมาเดินเปลือยทำไมแถวนี้วะ มึงนี้บ้ารึเปล่า หรือเพิ่งไปย่องเบาใครเขามา”

ผมตื่นเต้นมาก ไม่รู้ว่าจะตอบออกไปว่าอย่างไร ตำรวจ 4 นายที่ใส่เครื่องแบบเต็มยศ จับผมเอามือไพล่หลัง แล้วก็เอากุญแจมือมาล็อคที่ข้อมือผม นั่นทำให้ผมดิ้นไม่หลุด ควยก็ตั้งโด่อยู่อย่างนั้นจนตำรวจนายหนึ่งเริ่มที่จะรำคาญ

“มาแก้ผ้าเดินตอนดึกๆ แถมควยโด่อีก ดีล่ะกูจะสั่งสอนมึงให้รู้สำนึกซะบ้าง อะไรวะ ยังดูเป็นหนุ่มน้อยแท้ๆ แต่ดันมานุ่งลมห่มฟ้าตอนดึกๆ ในที่เปลี่ยวๆ สงสัยมึงอยากจะลองดีน่ะสิ งั้นเดี๋ยวพวกกูจัดให้” ฟังที่ตำรวจมันพูด ผมเงี้ยหนาวเลย กำลังลุ้นอยู่ว่ามันจะทำอะไรผม

ตำรวจสองนายเข้ามาล็อคแขนผมสองข้าง ทำเอาผมดิ้นไม่หลุด ตอนนั้นเสียวมาก ควยโด่และผงกหัวท้าทายตำรวจอยู่ตลอดเวลา คนที่มันหมั่นไส้ผม มันเดินไปหาอะไรบางอย่าง พอหาได้มันก็เดินกลับเข้ามายืนต่อหน้าผม มันยิ้มอย่างน่ากลัว

“ไอ้สัตว์ อยากลองดีกับพวกกูดีนัก มึงรู้ไหมว่าที่กูถืออยู่นี้คืออะไร”

พูดจบมันก็โชว์ของที่อยู่ในมือของมันออกมา ผมตกใจมาก เพราะนั่นคือไม้เสียบลูกชิ้นปลายแหลม ตำรวจอีกนายจับควยผมแล้วถอกจนเห็นดอกเห็ดบานอย่างชัดเจน

มันพูดว่า “ควยมึงใหญ่น่าดู แข็งโปกเลย ท้าทายพวกกูดีนัก ดีล่ะกูจะทำให้มึงประทับใจไม่รู้ลืมเลย”

พูดจบไอ้คนที่ดูซาดิสต์ที่สุดเอามือจับควยผม และค่อยๆ เอาด้านแหลมของไม้เสียบลูกชิ้นค่อยๆ ยัดลงไปในรูควย มันไม่มีทีท่าว่าจะเร่งรีบ แต่ผมร้องออกมาด้วยความเจ็บพวก จนคนที่ยังว่างอยู่ต้องเอาท่อนไม้พอดีปากมาให้ผมคาบไว้ จะได้ไม่ปหกปากร้อง ไอ้ตำรวจซาดิสต์ค่อยๆ แทงไม้เสียบลูกชิ้นลงไปในรูควยอย่างใจเย็น ผมทั้งเสียวทั้งเจ็บ มันเจ็บปวดทรมานอย่างบอกไม่ถูก ไม่เคยเจ็บขนาดนี้เลยตั้งแต่เกิดมา

ความเจ็บปวดแผ่ซ่านไปทุกรูขุมขน ผมกัดท่อนไม้จนฟันแทบหัก ใช้เวลาไม่นานมากนัก ไม้เสียบลูกชิ้นก็ลงไปอยู่ในรูควยของผมเกือบจะมิดด้าม แค่นั้นยังไม่สาแก่ใจมัน มันยังชกไปที่หน้าท้องผม มันพูดว่า “หน้าท้องมึงแกร่งดี กล้ามขึ้นเป็นลอน แบบนี้ซิกูชอบ จะชกให้แดงก่ำเลย”

มันชกหน้าท้องผมไปหลายที เล่นเอาจุกจนผมแทบจะทนไม่ไหว พอชกเสร็จมันก็ค่อยๆ ดึงไม้เสียบลูกชิ้นออกจากรูควย ตอนดึงออกก็ทรมานโคตรๆ เพราะรูควยเหมือนจะไม่ยอมปล่อยออกมาง่ายๆ มันต้องใช้ความพยายามเป็นอย่างมากกว่าจะดึงไม้เสียบลูกชิ้นออกมาจากควยของผม เล่นเอาทั้งลำควยเจ็บระบมไปหมด

เท่านั้นยังไม่พอ พวกมันยกตัวผมขึ้นไปพาดไว้กับตอไม้ ไอ้ตำรวจซาดิสต์ถอดกางเกงมันออก ปลดปล่อยควยขนาดเขื่องออกมา มันยกขาของผมขึ้นจนเห็นรูตูดถนัด เอาน้ำลายของมันมาลูบที่รูตูดผม แล้วค่อยๆ จับเอาควยขนาดยักษ์ของมันยัดเข้าไปในรูตูดของผม เจ็บฉิบหาย ผมอยากจะร้องให้ลั่นซอย แต่ท่อนไม้มันอุดปากของผมไว้

หลังจากมันยัดจนเข้าที่เข้าทาง มันก็ค่อยๆ ซอยให้ถี่มากขึ้น แรงอัดแรงดันมันทำให้ผมเริ่มรู้สึกระบม มันเจ็บสุดที่จะทานทนจริงๆ มันอัดตูดผมเหมือนว่าผมกับมันแค้นกันมาเป็นปี มันไม่ปรานีปราศัยแม้แต่น้อย ผมเสียว เจ็บ ผมเจ็บแล้วก็เสียว สลับกันไป พอมันใกล้เสร็จมันก็ชักควยมันออก แล้วมาชักว่าวตรงหน้าผม พุ่งน้ำกามใส่หน้าอย่างสะใจ คนที่เสร็จแล้วก็มาช่วยล็อคผมต่อ เปิดโอกาสให้คนที่ยังไม่ได้อัดตูดผมก็จะได้มีโอกาสอัดตูดผมบ้าง

คืนนั้นตำรวจทั้ง 4 นายต่างรุมอัดตูดผมอย่างหนักหน่วง จนตูดผมแสบระบมไปหมด ซ้ำร้ายกว่านั้น พอพวกมันอัดกันจนหนำใจแล้ว ก็ปลดกุญแจมือให้ผม แล้วก็โยนบกผมไปทีหนึ่ง ก่อนจะรุมกันเตะและกระทืบเป็นการส่งท้าย ผมแทบหมดแรง ลุกไม่ไหว และก็รู้สึกว่าทั้งรูตูดและรูควยมันร้าวระบมไปหมด ตำรวจทั้ง 4 คนยังรุมเหยียบผมกันต่อ จนกระทั่งไฟรถตู้สว่างขึ้นและอาจารย์แผนปรากฏตัวขึ้น ผมจึงรู้ว่าตำรวจทั้ง 4 นายเป็นเพื่อนของอาจารย์แผน และนี่คือแผนที่วางเอาไว้อย่างรัดกุม

หลังจากวันนั้นผมต้องหยุดไป 3 วัน ไม่นับวันเสาร์-อาทิตย์ เพราะรูควยระบมมาก มันระบมจนถึงขั้นอีกเสบ แต่ก็นับได้ว่าไม่เป็นอะไรมาก เปิดเทอมวันแรก ผมก็โดยอาจารย์กำพลกับอาจารย์แผนเล่นซะแล้ว มันเหมือนกับการรับน้องใหม่ ทั้งคู่กระตุ้นให้ผมเกิดวิญญาณเถื่อนขึ้นมาในใจและมันประทับอยู่กับผม ตั้งแต่วันนั้นจนกระทั่งถึงวันนี้

ผ่านไปสามอาทิตย์ ผมได้เพื่อนคู่หูมาคนหนึ่ง มันชื่อไอ้พงษ์ มันคงสงสัยว่าผมมานั่งบนยอดตึกทำไม

“ว่าไงวะเสือ ขึ้นมาดูไรวะ”

เสือคือชื่อเล่นของผม ผมยังไม่ตอบมัน มันก็เลยมองในสิ่งที่ผมกำลังมอง นั่นคือการฝึกลูกเสือกองร้อยพิเศษ รุ่นพี่คนหนึ่งที่มีนามว่า สมิง กำลังวิ่งนำแถวรุ่นน้อง ทั้งหมดถอดเสื้อและวิ่งรอบโรงเรียนรอบใหญ่มาก

ไอ้พงษ์พูดกับผม “มึงสนหรือไอ้สัตว์ อยากฝึกลูกเสือกองร้อยพิเศษเหี้ยๆ แบบนี้นะเหรอ ไอ้สัตว์พวกนี้มันมีแต่ลูกทหาร ลูกตำรวจ ลูกพ่อค้าในตลาดอย่างมึง ขืนสมัครไปอยู่กับพวกมันรับรองว่าเละ โดยมันรับน้องแบบเละเทะแน่”

ผมพูดกับไอ้พงษ์ “มึงเอาอะไรมาพูดวะ”

“กูไม่ได้โกหกนะโว้ย ไอ้คนที่สมัครเข้ากองร้อยพิเศษคนล่าสวุดเพิ่งเข้าโรงพยาบาลไป ถ้ามึงชอบอะไรเถื่อนๆ สัตว์ก็ลองได้เลย”

ผมนิ่งไป ไม่ได้ตอบไอ้พงษ์ ผมนิ่งคิดอะไรนิดหน่อยก่อนจะพูดออกไปว่า “กูสนนะ แต่ไม่ใช่ตอนนี้หรอก กูยังไม่สมัครหรอก”

แต่ผมไม่ได้บอกมันทั้งหมด ไม่ได้บอกว่าผมสนใจไอ้สมิง รุ่นพี่ ม.5 ที่เป็นหัวหน้าฝึกลูกเสือกองร้อยพิเศษ ผมว่าผมชอบไอ้หมอนี่ ผิวมันขาว หน้าจีนๆ ตัวหนา ไหล่กว้าง เอวคอด และแผงหลังกับแผงอกเต็มไปด้วยมัดกล้าม ตอนนี้ไอ้สมิงใหญ่สุดในกองร้อยพิเศษของโรงเรียนนี้

ไอ้พงษ์พูดกับผมต่อว่า “ไอ้เหี้ยเสือ มึงรู้หรือยังว่า เทอมสอง พวกเราต้องเรียน รด. กันแล้ว แต่ไอ้โรงเรียนห่าเหวอะไรเนี่ย มันจะส่งเราไปเรียนที่ไหนรู้รึเปล่า มันจะส่งไปเรียนที่ค่ายทหารชายแดนโน่น ไอ้ค่ายนั้น แม่งมีแต่ครูฝึกโหดๆ โหดสัตว์ๆ เลยด้วย ไมไอ้โรงเรียนของเราต้องไปเป็นพันธมิตรกับมันด้วยก็ไม่รู้”

ผมเดา “สงสัยไอ้เหี้ยแผนกับไอ้เหี้ยกำพล แม่งไปสัญญากับไอ้พวกห่านี้ไว้แน่เลย”

ไอ้พงษ์มันสงสัยว่า “ที่นี่มีแต่เหี้ยๆ สัตว์ๆ ทั้งนั้นเลย เราสองคนมาทำอะไรกันอยู่ที่นี่วะ”

ผมตอบมันไปตามที่ผมคิด “ไม่รู้ดิ หรือพวกเรามันก็เหี้ยๆ สัตว์เหมือนกันมั้ง เลยต้องมาอยู่ที่นี่”

ช่วงที่คลื่นลมสงบ อ.กำพล กับ อ.แผน ไม่ได้หาเรื่องอะไรกับผมอีก เหมือนจะรู้ว่าร่างกายผมกำลังพัก กำลังฟื้น และกำลังเพิ่มความแข็งแกร่งด้วยการออกกำลังกายในหลายรูปแบบ เทอมนี้ ร.ด.ก็ยังไม่ต้องสมัคร ลูกเสือกองร้อยพิเศษก็ยังไม่ได้เปิดรับสมัคร จุดเน้นของผมจึงตกไปอยู่ที่เพื่อนแถวบ้าน มีคนหนึ่งที่มันน่าสนใจมาก มันชื่อว่า ไอ้เกิ้ล

ไอ้เกิ้ลดูเป็นคนบุคลิกห่ามๆ มันผิวดำแดง ตัวหนา มีกล้าม แต่มันทำตัวดูเถื่อนโคตรๆ ตอนเย็นหลังเลิกเรียน มันเดินกลับบ้าน เมื่อออกพ้นรั้วโรงเรียน มันก็ถอดเสื้อออกทันที มันเอาเสื้อพาดบ่า เดินอาจๆ เหมือนพวกนักเลง ใครที่เห็นก็ไม่ชอบขี้หน้ามันทั้งนั้น

ที่น่าสนใจไปกว่านั้นก็คือไอ้เกิ้ลมีน้องชายชื่อไอ้หมู ไอ้นี่เองดูขาวกว่าพี่ ถึงจะล่ำสู้พี่ไม่ได้แต่ก็ดูแกร่ง หน้าตามันก็หล่อกว่าไอ้เกิ้ลหลายเท่า ผมรู้สึกสนใจพี่น้องคู่นี้ขึ้นมาตั้งแต่พวกมันและกลุ่มเพื่อนๆ เล่นกระโดดข้ามตัวกัน ไม่รู้ว่าที่อื่นยังเล่นกันอยู่รึเปล่า แต่กลุ่มของมันชอบเล่นกันมาก

การเล่นคือคนที่เป็นคนที่ให้คนอื่นโดดข้ามจะยืนก้มตัวลง ด่านแรกง่ายหน่อยคือคุกเข่ามือยัน คล้ายท่าหมา ด่านนี้ใครๆ ก็โดดข้ามได้ แทบไม่ต้องใช้มือช่วย ใครโดดข้ามไม่ผ่านด่านไหน ก็ต้องมาเป็นคนที่ยอมให้เพื่อนๆ โดดข้ามแทน ด่านมีตั้งแต่ คุกเขา ยืนก้มเอามือแตะเท้า ยืนก้มเอามือแตะหัวเข่า แล้วก็ยืนก้มตัวเล็กน้อย

มีอยู่วันหนึ่ง ไอ้เกิ้ลเล่นแบบนี้กับเพื่อนๆ ของมันรวมทั้งไอ้หมูด้วย จนถึงตาที่มันต้องเป็นด่านบ้าง พอมันมาเป็นมันก็ถอดเสื้อออกเลย ด่านแรกที่มันต้องทำให้เพื่อนๆ โดดข้ามคือท่าคุกเข่ามือยัน หรือท่าหมา ท่าแบบนี้ง่าย หลายคนโดดข้ามไปได้อย่างสบาย มีแต่ไอ้หมูเท่านั้นที่ไม่โดดข้าม แต่มันโดดขึ้นไปที่หลังไอ้เกิ้ล และก็โดดเล่นบนหลังอีกทีก่อนจะโดดลงพื้นไป ภาพนั้นสร้างความสนใจให้กับผมมาก

ตอนไอ้เกิ้ลต้องยืนก้มเอามือแตะหัวเข่า ท่าแบบนี้จะโดดข้ามได้ต้องใช้มือช่วย คือโดดแล้วใช้มือเท้าหลังของมันเพื่อดันให้ตัวเองโดดข้ามไปได้ หลายคนก็ใช้วิธีแบบนี้กันทั้งนั้น แต่ไอ้หมูพิสดารไปกว่านั้น มันไม่ได้ใช้มือเท้าเพื่อดันให้ตัวเองข้ามไปได้ มันตั้งท่าวิ่งมาแต่ไกลและวิ่งมาอย่างเร็ว พอใกล้ถึงไอ้เกิ้ล มันให้กำปั้นฟาดไปที่หลังไอ้เกิ้ล แล้วก็ยันตัวเองให้กระโดดข้ามไปได้ ไอ้เกิ้ลแสดงสีหน้าท่าทางว่าเจ็บหลังมาก แต่มันก็ไม่ได้ว่าน้องชายมันเลย

เหตุการณ์นี้เรียกร้องความสนใจผมได้มาก และเหตุการณ์ที่ทำให้ผมแน่ใจอะไรบางอย่างก็คือตอนที่ไอ้พวกนี้เล่นทหารเชลยกัน

ไอ้เกิ้ล ไอ้หมู น้องชายของมัน และเพื่อนพวกมันอีกประมาณ 5-6 คน ชอบเล่นทหารเชลยกันมาก ไม่รู้ไอ้พวกนี้มันชอบอะไรกันนักหนา และการเล่นของพวกมันก็ไม่พ้นสายตาของผมไปได้ โดยส่วนมากไอ้เกิ้ลจะรับบทของทหารที่หลงเข้ามาในค่ายทหารฝ่ายศัตรู จนถูกจับไปเป็นทหารเชลย การเล่นของพวกมันเริ่มที่จะจริงจังและสมบุกสมบันมากขึ้นเรื่อยๆ มีอยู่วันหนึ่งที่พวกมันนัดเล่นกันอีก ผมจึงเฝ้าดูอยู่ตลอด

วันนี้ไอ้เกิ้ลรับบททหารเชลยอีก แต่เป็นบทประมาณว่าถูกจับได้ แล้ววิ่งหนี มันเล่นกันที่สนามหลังตึกแถวที่ผมอยู่ ซึ่งเป็นสนามที่กว้างมาก เป็นสนามทรายที่บางมุมมีหญ้าขึ้นเล้กน้อย ฉากแรกที่ผมเห็นคือการที่ไอ้เกิ้ลถูกปล่อยให้วิ่งหนีมา มันอยู่ในสภาพนุ่งกางเกง ร.ด. ไม่ใส่เสื้อ มือถูกมัดแบบไพล่หลัง โดยใช้เสื้อยืด ร.ด. มัด หลังจากมันถูกปล่อยให้วิ่งได้ไม่นาน เพื่อนในกลุ่มของมันก็ออกไล่ล่า ทุกนใส่ชุด ร.ด. กันหมด จึงดูเหมือนทหารจริงมาก ไอ้หมูน้องชายของมัน เอาผ้าหัวกะโหลกโพกหัว และก็เอาฝุ่นดำๆ มาพรางหน้าด้วย

ทุกอย่างที่มันเล่นกันในวันนี้ดูสมจริงมาก ไอ้เกิ้ลวิ่งหนีสุดชีวิต พยายามที่จะหลบจากพวกทหารฝ่ายตรงข้ามให้ได้ แต่ในท้ายที่สุด ไอ้เกิ้ลก็ถูกรุมล้อม และแทบจะฝ่าวงล้อมไปไม่ได้ ไอ้เกิ้ลเสียเปรียบมาก เพราะมือถูกมัดอยู่ มันพยายามระวังตัวเป็นอย่างมาก แต่ก็พลาดท่าเจอคอมแบตถีบเอาที่หลัง จนตัวมันกระเด็นออกไป และเจอถีบอกด้วยคอมแบตของอีกคนหนึ่ง ตอนนี้พวกมันตีวงให้แคบลงจนไอ้เกิ้ลเสียเปรียบมากๆ เพื่อนๆ ที่รุมล้อมมัน ต่างเล่นมันด้วยทีเผลอ เริ่มจากการทุบหลังอย่างแรง พอมันเผลอหันไปมองก็โดยฟาดหน้าอกและต่อยท้องเข้าอย่างจัง พอไอ้เกิ้ลตัวงอ พวกมันก็เข้าประชิดตัว

ตอนนี้ไอ้เกิ้ลถูกล็อคไว้แล้ว เพื่อนๆ เปิดทางให้ไอ้หมูเข้ามาใกล้ พอเจอหน้าพี่ชายมัน ไอ้หมูแสดงบทเข้มแบบไม่ยั้ง มันชกหน้าไอ้เกิ้ล ชกแรงจริงๆ ไม่มีการยั้ง ชกไปสองสามที จนไอ้เกิ้ลเลือดกลบปาก หลังจากนั้นก็ชกท้องไอ้เกิ้ลที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามเป็นลอน มันชกไปหลายทีอย่างเมามันส์ เหมือนกับอยากทำให้ไอ้เกิ้ลอ่อนแรงจริงๆ ถึงตอนนี้ผมอดใจไม่ไหวก็เลยตามไปดูอยู่ใกล้ๆ ไอ้เกิ้ลเจ็บจริง และเจอความโหดของน้องชายเข้าไปเต็มๆ

หลังจากโดนชกท้องจาตัวงอแล้ว ไอ้เกิ้ลยังโดนไอ้หมูเดินมาจิกผม แล้วดึงหัวให้ไอ้เกิ้ลเงยหน้าขึ้น จนหน้าอกแอ่นได้ที่ ไอ้หมูเอามือขวาที่เหลืออยู่ฟาดหน้าอกไอ้เกิ้ลไปอีกหลายดอก แต่ละดอกส่งเสียง ดังสนั่นหวั่นไหว สร้างความสะใจให้กับผู้พบเห็นโดยแท้ ดูสภาพไอ้เกิ้ลตอนนี้แล้ว ผมว่าแรงมันหมดของจริง

ไอ้หมูตะโกนสั่งพรรคพวกว่า “จับมันไปทรมานต่อที่ฐานของเรา”

ฐานที่ไอ้หมูมันว่าก็คือใต้ถุนเรือนไทยของเพื่อนในกลุ่มคนหนึ่งที่มีบ้านเป็น เรือนไทย แต่พ่อแม่ของมันย้ายไปอยู่คอนโดใจกลางเมือง และให้ลูกชายวัย 15 อยู่ที่เรือนไทยเพียงคนเดียว ใต้ถุนเรือนไทยจึงกลายเป็นฐานที่มั่นของทหารฝ่ายตรงข้ามกับไอ้เกิ้ล พอพวกมันจับไอ้เกิ้ลมาถึงที่นี่ พวกมันก็รีบแก้มัดไอ้เกิ้ล เพื่อที่จะมามัดใหม่ที่ใต้ถุนเรือนไทย พวกมันรีบร้อนกันมาก กลัวว่าไอ้เกิ้ลจะมีแรงฮึดขึ้นมาอีกครั้ง การทำงานของพวกมันดูสมจริงสมจังมากจนดูเหลือเชื่อ พวกมันเห็นผมตามมา ก็ดูท่าจะไม่พอใจ แต่ก็ไม่ได้เอ่ยปากไล่เลย ผมก็ถือประมาณว่า ไม่ไล่ก็ไม่ไป ก็นมันอยากดูนี่หว่า ช่วยไม่ได้โว้ย

พวกมันจับไอ้เกิ้ลมัดแบบโหดน่าดู พวกมันเอาไอ้เกิ้ลยืนพิงกับเสาเรือน แล้วเอาเชือก 2 เส้นมาผูกข้อมือในแต่ละข้าง แล้วดึงจนตึง ทำให้แขนของไอ้เกิ้ลถูกดึงไปด้านหลัง อยู่ในท่าที่เจ็บปวดทรมานมาก ส่วนปลายเชือกทั้งสองเส้นก็ถูกนำไปผูกที่เสาอีกต้นหนึ่ง ด้านหลัง ส่วนเชือกอีกเส้นถูกนำมามัดที่ข้อเท้าให้ติดกับเสาต้นแรก การมัดในลักษณะนี้ทำให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่าการทรมานชุดต่อไปพวกมันไม่เน้น แผ่นหลังเลย แต่จะเน้นตรงแผงอกกับหน้าท้องเท่านั้น

พอมัดเสร็จ เพื่อนๆ คนอื่นๆ เริ่มด้วยการชกอัดไปที่หน้าท้องก่อน ต้องยอมรับกันว่า หน้าท้องซิกแพ็คของไอ้เกิ้ลนี่น่าชกมาก ผิวของมันดำแดง พอชกท้องจนเกือบจะช้ำ สีช้ำๆ ตรงท้องมันจะดูเหมือนช้ำเลือดช้ำหนองดูสวยงามมาก พอพวกที่อยากซัดท้องหมดรอบไป รอบต่อมาก็เป็นพวกที่ชอบทรมานหน้าอก อกแน่นๆ เน้นๆ อย่างไอ้เกิ้ลนี่ก็น่าทรมานมากๆ การทรมานไล่ตั้งแต่ ฟาดหน้าอก ชกหน้าอก จนถึงมีบางคนเอาไม้บรรทัดขนาดใหญ่มาฟาดที่หน้าท้องและหน้าอกของไอ้เกิ้ล และคงเพื่อให้ความมันส์ถึงขีดสุด พวกมันเลยตีจนไม้บรรทัดหัก เอาแบบว่าถ้าไม้ไม่หัก กูก็จะไม่เลิก ทุกคนสะใจกันเป็นอย่างมาก เท่าที่สังเกตจากแววตาของไอ้เกิ้ล ไอ้เกิ้ลเองก็คงจะสะใจเหมือนกัน

รายสุดท้ายที่จะเข้ามาทรมานไอ้เกิ้ลก็คือ ไอ้หมูน้องชายของมัน ไอ้หมูเกริ่นแบบง่ายๆ ว่า “เครื่องมือทรมานของกูเป็นอะไรที่พวกมึงใช้กันอยู่ทุกวัน” แล้วไอ้หมูก็หยิบแม็กที่พวกเราใช้เย็บกระดาษขึ้นมา เป็นแม็กตัวค่อนข้างใหญ่ และอีกอันที่มันดึงออกมาคือปืนยิงแม็กที่หลายๆ คนชอบเอามาจัดบอร์ด ไอ้หมูใช้ปืนยิงแม็กมาทรมานก่อน โดยเอาปืนยิงแม็กไปจ่อตรงหน้าท้องของไอ้เกิ้ล แล้วกดให้ตัวแม็กหรือลวดเย็บกระดาษนั้น ทิ่มเข้าไปที่เนื้อหน้าท้อง ไอ้เกิ้ลไม่ร้องสักแอ่ะ แค่มีสีหน้าที่เจ็บปวดเล็กน้อย

ไอ้หมูยังใช้ปืนยิงแม็ก ยิงตัวแม็กไปติดที่หน้าท้องของไอ้เกิ้ลอีกหลายครั้ง จนหน้าท้องของมันเต็มไปด้วยลวดเย็บกระดาษฝังเข้าไปในเนื้อเต็มไปหมด ตอนนี้ทุกคนควยตุงกันหมด รวมทั้งไอ้เกิ้ลด้วย

หลังจากนั้น ไอ้หมูเปลี่ยนอุปกรณ์เป็นตัวแม็กธรรมดาที่เราใช้กันทั่วๆ ไปเวลาต้องเย็บมุม ของกระดาษ ไอ้หมูไม่มีความลังเลแม้แต่น้อย มันเอาตัวแม็กไปจ่อที่หัวนมซ้ายของไอ้เกิ้ลก่อนที่จะกดให้ลวดเย็บกระดาษเย็บ ติดอยู่ที่หัวนมซ้ายของมัน เป็นครั้งแรกที่มีเสียงร้องจากปากไอ้เกิ้ล ไอ้หมูไม่รอช้ามันเอาแม็กไปจ่อที่หัวนมขวาของไอ้เกิ้ลทันที พร้อมกดลงไปอย่างแรง

ตอนนี้สภาพของไอ้เกิ้ลยั่วยวนมาก หัวนมมันบี้แบนเพราะมีลวดเย็บกระดาษตรึงอยู่ หลังจากนั้นไอ้หมูหาเหล็กเล็กๆ ยาวๆ มาแกะลวดที่หน้าท้อง คิดว่าตอนแกะคงทรมานมากเหมือนกัน เพราะไอ้เกิ้ลสั่นไปทั้งตัว ส่วนลวดเย็บที่หัวนมมันยังไม่แกะให้ และการทรมานในวันนั้นก็สิ้นสุดลง

ผมมีสมมติฐานเกี่ยวกับพี่น้องสองคนนี้มากมาย สิ่งที่ผมทำต่อไปคือการแลกห้องนอนกับเพื่อนตึกข้างๆ โดยเลือกห้องที่มองเห็นห้องนอนของไอ้เกิ้ล เพราะบ้านไอ้เกิ้ลและไอ้หมูเป็นบ้านไม้สองชั้นที่อยู่หลังตึกแถวและติดกับ สนามกว้างที่พวกมันเคยใช้วิ่งไล่ล่ากัน

ผมแอบซุ่มอยู่หลายคืน จนคืนหนึ่ง ไอ้เกิ้ลมายืนที่หน้าต่าง มันไม่ได้ใส่เสื้อและสวมกางเกงในสีดำ มันอยู่ในสภาพนั้นดูแมนมากๆ มันเอาแขนชูขึ้น โดยเอามือวางไว้ที่กรอบด้านบนของหน้าต่าง เผยให้เห็นขนรักแร้ดกดำ ทันใดนั้นผมเห็นไอ้หมูที่อยู่ในสภาพนุ่งกางเกงในตัวเดียวเช่นกัน ยืนอยู่ข้างหลังไอ้เกิ้ล ไอ้หมูสอดมือมาลูบไล้หัวนมไอ้เกิ้ลทั้งสองข้าง ที่ยังเห็นได้ชัดถึงรอยแผลเก่า การลูบคลึงหัวนมเช่นนั้นทำให้ไอ้เกิ้ลมีอารมณ์มาก จนหันมาหาไอ้หมู ทั้งสองจูบกันอย่างหนักหน่วง ถือเป็นการจูบแบบแมนๆ ที่พวกเราพบเห็นได้น้อยมาก หลังจากนั้นพวกเขาก็เดินเข้าไปข้างในห้อง ทำให้ผมมองไม่เห็นอะไรอีกเลย

ตอนนั้นผมทนไม่ไหว จึงเดินไปที่บ้านของมัน แล้วแอบปีนขึ้นไปที่ระเบียงชั้นสอง โชคดีมากที่บ้านไม้แบบโบราณนี้ปีนไม่ยาก ผมขึ้นมาอยู่ตรงระเบียงชั้นสอง ซึ่งเป็นห้องของทั้งคู่พอดี ผมมองเข้าไปเห็นทั้งคู่นอนอยู่บนเตียงเหล็กแบบโบราณ ไอ้เกิ้ลนอนหงายข้อมือทั้งสองข้างถูกล็อคกุญแจไว้กับเหล็กหัวเตียง ตอนนี้ทั้งคู่เปลือยเปล่า ไอ้หมูนั่งทับไอ้เกิ้ลอยู่ด้านบน มันกำลังโน้มตัวดูดเลียหัวนมไอ้เกิ้ลอย่างเมามันส์ ผมสังเกตว่าทั้งเลีย ทั้งกัด ตอนโดนกัดหัวนม ไอ้เกิ้ลจะซีดปากด้วยความเจ็บปวด หลังจากเลียหัวนมอย่างหนักหน่วงจนดูเหมือนไอ้เกิ้ลแทบจะทนไม่ไหว

ไอ้หมูเปลี่ยนมาโลมเลีย ลอนท้อง มันโลมเลียแบบลืมหายใจ มันทั้งหนักหน่วงและรุนแรง ราวกับว่าลิ้นของไอ้หมูจะเจาะลงไปในลอนท้องของไอ้เกิ้ล ผมเกิดอารมณ์มาก ปลดปล่อยควยตัวเองมาชักขณะยังซุ่มแอบดูอย่างเงียบๆ ความเสียวซ่านทำให้ไอ้เกิ้ลดิ้นและร้องทุรนทุราย แต่มันก็ดิ้นไปไหนไม่ได้เพราะถูกกุญแจมือล็อคอยู่แบบนั้น ไอ้หมูยังลามปามไม่หยุด ตอนนี้มาถึงควยของไอ้เกิ้ล มันเอามือกำควยของไอ้เกิ้ล ควยขนาดเขื่องที่ยาวประมาณ 7 นิ้วกว่าๆ ขนาดใหญ่มาก ตอนนี้หัวบานมาก

ไอ้หมูถอกควยพี่ชายมันให้เห็นดอกเห็ดบานชัดๆ มันใช้ลิ้นชำแหละและเลียวนรอบๆ ดอกเห็ดสลับกับการขบแบบเบาๆ และแรงๆ ไอ้เกิ้ลร้องเสียงกระเซ่า ได้อารมณ์เป็นยิ่งนัก ทำให้ผมชักว่าวรุนแรงมากขึ้น ไอ้หมูเลียตรงหัวควยก่อนจะอมเข้าไปทั้งดุ้น และรูดขึ้น-ลงอย่างเมามันส์และแข็งแรง มันเป็นความแมนที่ผมไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน มองแล้วได้อารมณ์เป็นอย่างมาก ภาพของทั้งสองทำให้อารมณ์ของผมกระเจิดกระเจิง

ไอ้หมูยกขาของไอ้เกิ้ลขึ้น แล้วมันก็ค่อยๆ เอาควยมหึมาของมันยัดเข้าไปในรูตูดของพี่ชายของมัน ภาพนั้นทำให้ผมเสียวซ่านสุดบรรยาย ผมรู้สึกหูอื้อ และชักว่าวอย่างเมามันส์มากๆ ตอนนี้ทุกอย่างเร่งอารมณ์ผมจนถึงที่สุด และที่หนักข้อมากขึ้นไปกว่านั้นก็คือตอนที่มีคนสองคนมาล็อคแขนผมไว้ด้านหลัง จนผมกระดิกไม่ได้ เหลือแต่ควยที่ยังแกว่งไปมา มีคนมากระซิบข้างหูผมว่า “รอให้เพื่อนกูขึ้นสวรรค์ก่อน แล้วกูจะส่งมึงลงนรก”

สำหรับพวกไอ้เกิ้ลและไอ้หมูนั้น คืนนั้นผมทำความผิดอย่างร้ายแรง การแอบดูไอ้หมูกับไอ้เกิ้ลมีอะไรกัน ถือว่าเป็นความผิดที่ให้อภัยไม่ได้ ศาลเตี้ยของพวกมันได้ตัดสินผมแล้ว และก็เป็นอะไรที่ผมไม่อาจปฏิเสธได้ พวกมันพาผมไปที่เรือนไทยของเพื่อนมัน แต่ไปที่ตึกหลังเรือนไทย ผมเพิ่งรู้เดี๋ยวนี้เองว่าตึกหลังเรือนไทยมันก็คือห้องทรมานดีๆ นี่เอง ตึกนี้มีสองชั้น ใช้เป็นห้องทรมานทั้งสองชั้น และใครก็ตามที่ถูกนำมาทรมานที่นี่จะต้องจำยอมเป็นทาสของพวกมัน ไม่งั้นพวกมันเอาตาย

พอผมถูกนำไปที่ชั้นสองของตึกนั้น อย่างแรกเลยคือการโดนจับถอดเสื้อผ้าออกหมด ดูพวกมันหลายคนจะพอใจกับหุ่นและหน้าตาของผมมาก

มีคนหนึ่งในกลุ่มพูดว่า “หุ่นไอ้เสือนี่เหมาะที่จะโดนทรมานมากๆ”

บางคนก็พูดกับผมว่า “หลังจากวันนี้ มึงต้องเป็นทาสพวกกูไปตลอดชีวิต”

สิ่งแรกที่ผมโดนคือการถูกจับมัดห้อยหัว เพราะตึกชั้นสองมีรอกอยู่ด้านบนเพดาน พอถูกจับมัดห้อยหัวเสร็จ พวกมันทุกคนมีแส้อยู่ในมือ พวกมันระดมเอาแส้ฟาดมาที่ร่างกายของผม พวกมันฟาดอย่างจริงจังมาก ไม่ปราณีปราศรัยเลย ทำให้ผมแทบกระอัก ที่ทรมานมากๆ ก็คือ บางครั้งแส้ไปโดนตรงควยพอดี มันทำให้ผมเจ็บสุดที่จะทานทน แต่ควยกลับโด่และแข็งมากๆ

พวกมันคงกะเอาแส้ฟาดผมให้เป็นแผล แต่มันก็มีแผลไม่เยอะ ส่วนมากตามตัวจะแดง แต่ยังไม่ถึงกับช้ำ มีแผลบ้างนิดหน่อย แต่ไม่มาก แต่เป็นมากคือรอยแดงตามตัว พอฟาดกันจนหนำใจ และทำให้เนื้อตัวผมมีร่องรอยบอบช้ำแล้ว การทรมานด่านที่สองก็เริ่มต้นขึ้น พวกมันจับผมลงมา และก็จับมัดในแบบปกติ ตอนนี้มัดโดยการมัดข้อมือก่อน และดึงข้อมือผมขึ้นไปจนสุด พวกมันดึงขึ้นไปจนเท้าของผมลอยขึ้นมานิดนึง แต่ปลายเท้ายังติดพื้นอยู่ หลังจากนั้นมันขนไม่หนีบผ้ามานับพัน เพื่อมาหนีบเนื้อที่กำลังช้ำจากการถูกแส้ฟาด พวกมันเอาไม้หนีบผ้ามาหนีบร่างกายของผมอย่างใจเย็น ส่วนแรกที่มันเอามาหนีบคือตรงหัวนม

บังเอิญว่าหัวนมของผมค่อนข้างใหญ่ และมีเนื้อที่มาก พวกมันจึงพยายามเอาไม้หนีบผ้ามาหนีบที่หัวนมในแบบที่ว่า หนับจนไม่ให้เห็นเนื้อตรงหัวนมเลย พอหนีบเสร็จทำให้หัวนมข้างหนึ่งของผมมีไม้หนีบผ้าอยู่ประมาณ 5-6 อัน เรื่องความเจ็บนั้นไม่ต้องพูดถึง หลังจากนั้น พวกมันจึงช่วยกันเอาไม้หนีบผ้าหนีบไปตามส่วนต่างๆ ของร่างกายผม คนที่อยู่ด้านหลังก็พยายามหนีบไปที่หลังกับตรงก้น ส่วนที่อยู่ด้านหน้าผมก็เน้นตรงบริเวณหน้าอกกับหน้าท้อง ดูท่าพวกมันไม่อยากให้เนื้อตัวของผมมีที่ว่างเลย

หลังจากหน้าท้องกับหน้าอกเต็มไปด้วยไม้หนีบผ้าแล้ว พวกมันก็เล็งมาที่หน้าของผมต่อ หนึ่งในพวกมันบางคนพูดว่า “หน้าหล่อๆ แบบเนี้ย ต้องเอาให้เละ”

พวกมันช่วยกันเอาไม้หนีบผ้ามาหนีบที่หน้าผม หนีบไปที่ปาก ทุกซอกทุกมุมของใบหน้า คือเน้นแบบไม่ให้มีที่ว่างเลย มันเจ็บปวดรวดร้าวมาก ผมกะประมาณว่า น่าจะมีไม้หนีบผ้าอยู่ที่หน้าผมประมาณ 70-80 อัน มันทำให้หน้าของผมเจ็บแบบชาๆ

ที่สุดท้ายที่พวกมันตั้งใจเอาไม้หนับผ้ามาหนีบก็คือควยของผม ตอนแรกมันถอกเอาหัวบานๆ ออกมาก่อน แล้วเอาไม้หนีบผ้าไปหนีบที่หนังตรงแท่งควย พวกมันทำจนผมรู้สึกว่า ไอ้พวกนี้มันซาดิสต์ของจริง หลังจากหนังควยถูกหนีบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ต่อมาก็คือตรงบริเวณหัวควยที่เป็นดอกเห็ดบาน ตรงนี้มันไวต่อความเจ็บปวดมาก แต่พวกมันก็ยังเอาไม้หนีบผ้าไปรุมหนีบตรงหัวควยที่เป็นเห็ดบาน จนผมต้องร้องด้วยความเจ็บปวด แต่ตอนนั้นร้องออกมาก็เจ็บปากมาก เพราะปากก็ถูกหนีบไว้หลายอัน ทั้งเจ็บทั้งชาปนกัน

หลังจากหนีบครบทุกที่ในร่างกายของผมแล้ว พวกมันก็ลงแส้ผมอย่างสะใจ

ตอนที่ทรมานมากกว่าตอนโดนหนีบก็คือตอนดึงออก ตอนดึงออกนั้นพวกมันไม่ง้างตัวหนีบเลย คือดึงออกดุ้นๆ แบบนั้น เวลามันดึงไม้หนีบออกแต่ละครั้งมันทรมานโคตรๆ ผมเองทนแทบไม่ไหว พวกมันดึงไม้หนีบออกกันแบบไม่สนใจเลยว่าผมจะเจ็บปวดทรมานขนาดไหน พวกมันกระทำย่ำยีกับผม ลงโทษผมอย่างถึงแก่นจริงๆ ตอนแรกผมนึกว่า คงแค่นี้แหละ ความผิดทั้งหมดของผมคงโดนชดใช้หมดแล้ว แต่ผมดันเข้าใจผิดถนัด พวกมันนำร่างเปลือยที่บอบช้ำของผมไปนอนบนเตียงเหล็ก แล้วก็เอากุญแจมือล็อคไว้ทั้งมือและเท้า ผมนอนควยโด่นิ่งอยู่ตรงนั้น

หลังจากนั้น พวกมันก็เดินเข้ามาให้ห้องกันหมด ทุกคนถือเทียนเล่มให้มาคนละเล่มที่จุดแล้ว ที่แรกที่มันหยดน้ำตาเทียนลงไปคือตรงหัวนม มันหยดลงไปจนกลบหัวนมของผม ผมก็ยังหยดน้ำตาเทียนลงไปอีก จนหัวนมทั้งสองข้างถูกกลบมิดและน้ำตาเทียนตรงหัวนมกองสูงมาก ผมรู้สึกเจ็บและต่อมาก็รู้สึกร้อนๆ ตรงหัวนม

หลังจากนั้น พวกมันก็หยดน้ำตาเทียนไปทั่วตัวผม หยดแบบไม่คิดเลยว่าผมจะเจ็บปวดทรมานขนาดไหน หลังจากทั้งตัวผมเต็มไปด้วยน้ำตาเทียนของพวกมันแล้ว เหลืออีกที่หนึ่งที่ยังไม่ได้หยดคือตรงควย ตอนแรกผมนึกว่าจะรอด แต่จริงๆ แล้วไม่ ไอ้เกิ้ลเป็นคนจับควยแข็งโด่ของผมแล้วหยดน้ำตาเทียนไปตรงหัวควย กะให้โดนตรงรูเยี่ยวด้วย ตอนโดนตรงหัวควยผมดิ้นพล่าน ร้องลั่น แต่พวกมันหัวเราะกันอย่างสะใจ พวกมันไม่สนเลยว่าหัวควยของผมจะปวดแสบ ปวดร้อนขนาดไหน ขอให้ผมทรมานถึงขีดสุด พวกมันก็พอใจแล้ว

หลังจากโดนทารุณกรรมเสร็จสิ้น พวกมันบังคับให้ผมกราบตีนพวกมันทุกคน แถมเลียตีนให้พวกมันด้วย ตอนผมก้มกราบตีน พวกมันก็เอาตีนเหยียบที่หัวของผม บางคนหลังผมก้มกราบ พอเงยขึ้นมันก็จิกหัวผมแล้วก็ตบหน้าอย่างแรงหลายทีจนเลือดกลบปาก หลังจากนั้น ยังให้ผมคลานเหมือนหมาไปรอบๆ บริเวณนั้น บ้างเดินมาตบหัว บ้างเดินมาเตะ และก็ปิดท้ายด้วยการรุมกระทืบกันอย่างสะใจ คืนนั้นผมสะบักสะบอมถึงขีดสุด โชคดีที่คนที่เป็นเจ้าของเรือนไทย ยอมให้ผมล้างตัวก่อนกลับบ้าน

พอกลับมาถึงบ้าน และนึกถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมา แทนที่ผมจะรู้สึกแยกับตัวเอง แต่ควยกลับแข็งจนผมต้องชักว่าวเอาน้ำออกติดๆ กันเลยสองครั้ง ผมเองสะใจมากกับสิ่งที่ตัวเองโดน พวกมันกระทำกับผมเหมือนหมา เหมือนเชลย เหมือนทาส เหมือนไอ้เดนมนุษย์คนหนึ่ง ผมถูกเหยียดหยามจากพวกมัน แต่สิ่งที่ได้รับกลับมากลับเป็นความสะใจ รู้สึกได้รับการตอบสนองอารมณ์ทางเพศถึงขีดสุด ผมเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองถึงรู้สึกแบบนั้น ถึงชอบแบบนั้น มันเป็นสิ่งที่ผมเองก็ไม่สามารถจะอธิบายได้

สามครั้งแรกนั้นเหมือนโชคชะตาลิขิตมาให้ผมต้องเจอประสบการณ์แบบนี้ แต่หลังจากนั้น สิ่งที่ผมมักทำมาตลอดคือ การรนหาที่ และบางครั้งผมก็แทบนึกไม่ถึงเลยว่า ที่เจอมาก่อนหน้านี้กลายเป็นเรื่องเล็กน้อยไปเลย

หลังจากวันโดนรุมกินโต๊ะประมาณอาทิตย์นึง ผมก็สังเกตว่า อ.แผนและอ.กำพล กำลังมีแผนจัดการกับนักเรียน ม.ปลายที่มาโรงเรียนสาย เพื่อไม่ให้เป็นตัวอย่างอันเลวให้กับรุ่นน้อง ผมสังเกตอยู่ประมาณ 2-3 วัน นักเรียนที่มาสายจะโดนลงโทษแค่ให้วิ่งรอบสนามบาสที่พวกเราเข้าแถวกันอยู่ มันก็แค่นั้นเองไม่ได้มีอะไรมาก แต่ถึงจะแค่นั้น แต่มาตรการนี้ก็ทำให้นักเรียนมาสายหายไปเยอะมากๆ คือแทบจะไม่มีใครมาสายเลย

หลังจากนั้น อ.แผนที่เป็นอาจารย์ฝ่ายปกครอง ได้พูดตอนเข้าแถวช่วงเช้าว่า “พรุ่งนี้อย่าให้มีใครมาสายอีกนะ ถ้าพรุ่งนี้มาสาย การลงโทษมันจะไม่ธรรมดาอีกต่อไป”

หลังจากฟังคำพูดนั้นของ อ.แผนแล้ว ผมรู้สึกว่ามันกระแทกไปที่อกผม ควยผมกระดิกเลย นี่เป็นครั้งแรกที่ผมอยากลองดี หรือออาจจะเรียกได้ว่ารนหาที่ ยิ่งฟังคำพูดของ อ.แผนด้วยแล้ว ผมก็ยิ่งอยากลอง

หูผมได้ยินแต่คำว่า “การลงโทษมันจะไม่ธรรมดาอีกต่อไป” ผมอยากรู้มากๆ ว่ามันจะเป็นไง ที่มากไปกว่าการอยากรู้ก็คืออยากโดน และสิ่งที่ผมไม่รู้ก็คือ ผมจะโดนลงโทษในห้องลับ หรือโดนต่อหน้าคนทั้งโรงเรียน ถ้าโดนลงโทษต่อหน้าคนทั้งโรงเรียนล่ะก็ ... ผมไม่อยากคิดว่าผมจะรู้สึกอย่างไร แค่นอนนึกเล่นๆ คืนนี้ ควยก็โด่เอาๆ ตอนนี้ผมอยากให้ถึงพรุ่งนี้เช้าเร็วๆ

ด้วยความตื่นเต้น วันนี้ผมจึงตื่นเช้ามาก และก็แต่งตัวออกจากบ้านแต่เช้าด้วย แต่หลังจากนั้นผมกลับไปนั่งรออยู่ตรงซอยเปลี่ยวๆ ข้างโรงเรียน ผมมานั่งรอแต่เช้า ก็เพื่อที่จะได้เข้าโรงเรียนสาย การนั่งรอของผมนั้นมันตื่นเต้นโคตรๆ ผมไม่แน่ใจว่าวันนี้ จะมีผมมาสายคนเดียว หรือมีคนมาสายหลายคน การลงโทษที่ไม่ธรรมดาคืออะไร และอะไรบ้างที่ผมต้องเจอ ผมนั่งรอเวลาจนได้ยินเสียงนักเรียนทั้งโรงเรียนร้องเพลงชาติ มันเป็นสัญญาณที่บอกว่า นักเรียนที่มาโรงเรียนช่วงเวลาแบบนี้คือนักเรียน “มาสาย”

ผมแกล้งเดินไปอย่างเร่งรีบ เดินไปตรงแถวที่ดักคนมาสาย ผมตกใจมาก เพราะวันนี้ไม่มีใครมาสายเลย มีแค่ผมคนเดียวเท่านั้น และอีกอย่าง อาจารย์ที่ยืนดักรออยู่ก็คือ อ.กำพล ตอนนี้ อ.แผนกำลังยืนพูดออกไมค์อยู่หน้าเสาธง อ.กำพลพาผมไปยืนรอข้างล่าง บนที่ อ.แผนยืนอยู่เหมือนกับเป็นเวทีเล็กๆ ที่จะทำให้นักเรียนทุกคนมองเห็น อ.แผน และ อ.แผนก็มองเห็นนักเรียนทุกคน พอได้เวลา อ.กำพลส่งสัญญาณให้กับ อ.แผน

อ.แผนจึงได้พูดว่า “ครูได้เตือนแล้วเตือนอีกว่า วันนี้อย่าได้มีนักเรียนมาสาย เพราะมันเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีให้กับรุ่นน้อง ถึงแม้จะมีการเตือนไปแล้ว แต่ก็ยังมีนักเรียนมาสาย 1 คน ครูจะถือว่ามันผู้นี้ได้ลองดีกับครู ครูขอประจานมันไว้ตรงนี้เลย มันชื่อสิงห์คำรณ นักเรียนชั้น ม.4/3 อ.กำพล ช่วยพาสิงห์คำรณขึ้นมาบนเวทีด้วยครับ”

ผมฟังแล้วหนาวเลย นี่ผมกำลังจะถูกประจานต่อหน้าคนทั้งโรงเรียนเหรอเนี่ย อ.กำพลพาผมเดินขึ้นไปบนเวทีเล็กๆ นั้น ตอนนี้ครูและนักเรียนทั้งโรงเรียนต่างจ้องมาที่ผมเป็นตาเดียว เหตุการณ์แบบนี้ช่างเร้าอารมณ์ผมมาก ควยผมเริ่มกระดิกแล้วต่อจากนั้น อ.แผนก็ได้พูดขึ้นอีก

“ตอนนี้ครูจะเริ่มลงโทษนักเรียนคนนี้เพื่อไม่ให้นักเรียนคนอื่น เอาเป็นเยี่ยงอย่าง” อ.แผนเว้นระยะสักนิดก่อนที่จะพูดต่อว่า “ถอดเสื้อออก”

ผมตกใจมากกับคำพูดนั้น นี่เป็นครั้งแรกที่ผมต้องถอดเสื้อโชว์นักเรียนทั้งโรงเรียน มันเป็นอะไรที่พูดไม่ออก บอกไม่ถูกเหมือนกัน แต่อารมณ์เสียวและอารมณ์ตื่นเต้นได้ปะทุขึ้นแล้ว ควยเริ่มกระดิกแล้ว ผมถอดเสื้อออก แล้วโยนไว้ด้านหลัง จากนั้นก็ยืนอยู่ในท่าตรงรอรับคำสั่งต่อไป

อ.แผนพูดออกไมค์ว่า “ตอนนี้ อ.กำพล จะนำเอาที่หนีบกระดาษเหล็กสีดำไปหนีบที่หัวนมของสิงห์คำรณทั้งสองข้าง ก่อนที่เขาจะต้องวิ่งรอบสนามบาส 10 รอบ”

เสียงนักเรียนที่กำลังเข้าแถวกันอยู่ดังหึ่งขึ้น อ.กำพลเดินเข้ามาหาผม แล้วเอาที่หนีบกระดาษเหล็กสีดำหนีบหัวนมผมทั้งสองข้าง มันเจ็บมากครับขอบอก หลังจากนั้นแกฟาดหลังผม 1 ที แรงมาก พร้อมกับตะโกนบอกว่าให้ผมวิ่งได้ ผมวิ่งลงจากเวที และก็รีบวิ่งไปรอบๆ สนามบาส

ตอนนั้นขอบอกว่าเจ็บหัวนมมาก เพราะตอนวิ่งไป หัวนมมันก็จะแกว่งไปด้วย พอเอาที่หนีบกระดาษเหล็กสีดำมาหนีบแล้วถูกบังคับให้วิ่ง มันเจ็บที่หัวนมมากๆ ครับ สำหรับเพื่อนๆ ที่อ่านและยังไม่เคยถูกลงโทษแบบนี้ ขอลองล่ะครับ ลองทำดู อุปกรณ์หาได้ไม่ยาก ลองเอาที่หนีบกระดาษเหล็กสีดำมาหนีบหัวนมของตัวเองทั้งสองข้าง แล้ววิ่งเป็นระยะทางแค่ 1 รอบสนามฟุตบอล ลองทำดูเถอะครับ เพื่อจะได้รู้ว่าผมนั้นเจ็บแค่ไหน ต้องลองทำกันทุกคนนะครับ จะได้รับรู้ถึงความเจ็บปวดที่ผมได้รับในครั้งนั้น และถ้าทำแล้วควยแข็งเหมือนกับผม จะได้รู้กันไปเลยว่าท่านมีสายเลือดซาดิสต์อยู่ในตัวของท่านด้วย

ขณะที่ผมกำลังวิ่งอยู่ อ.แผนค่อยๆ ให้นักเรียนห้องอื่นๆ ทยอยขึ้นห้อง แกยืนมองผมถูกทำโทษด้วยความสะใจ แกมองผมแทบจะไม่ละสายตา อ.กำพลก็เหมือนกัน พอวิ่งจนครบ 10 รอบ นักเรียนก็ขึ้นห้องกันหมดพอดี ทำให้สนามบาสว่าง โรงเรียนของผมนั้น มีตึก 3 ตึกถูกสร้างให้รอบสนามบาส พอนักเรียนขึ้นไปหน้าชั้นแล้ว พวกครูก็ยังไม่ให้เด็กเข้าห้อง พวกเขาคงอยากรู้ว่าผมจะโดนอะไรต่อไป ทุกคนจึงยืนออกันอยู่ที่ระเบียงหน้าห้อง เหมือนกับพวกเขากำลังยืนอยู่บนสนามโคลอสเซียม หรือสนามกีฬากรุงโรม เพื่อรอดูการลงทัณฑ์ในขั้นต่อไป

พอวิ่งเสร็จผมวิ่งไปหยุดยืนหน้า อ.กำพล แต่ อ.กำพลไล่ให้ผมไปยืนกลางสนามบาส ผมจึงพอจะเข้าใจว่าเมื่อสักครู่ที่ อ.แผนทำเขาเรียกว่าการเคลียร์พื้นที่ เสร็จแล้ว อ.กำพลสั่งให้ผมนอนหงายชูมือไว้เหนือหัว หลังจากนั้นแกก็สั่งต่อว่า “กลิ้งไปทางซ้ายจนสุดแล้วกลับมาใหม่ปฏิบัติ”

ผมตกใจมากแต่ก็ต้องทำตาม เวลากลิ้งแบบนี้ไม่ต้องบอกนะครับว่าเจ็บหัวนมแค่ไหน อ.กำพลยังไม่ได้สั่งให้เอาที่หนีบกระดาษเหล็กสีดำออกจากหัวนม ผมเลยต้องกลิ้งแบบนั้น กลิ้งไปกลิ้งมาจากว่าแกจะบอกให้หยุด แต่แกก็ไม่บอกสักที ตอนนี้เนื้อตัวของผมเปื้อนทราย เปื้อนฝุ่นเต็มไปหมด เหงื่อก็ออกเยอะมาก ดูสารรูปของผมตอนนี้แล้ว บอกตรงๆ ว่าดูไม่จืด

หลังจากนั้น อ.กำพลสั่งให้หยุด ผมก็นึกว่าคงพอแล้ว แต่การลงโทษครั้งนี้ยังไม่สิ้นสุด อ.แผนเป็นคนพาผมขึ้นไปที่ห้อง ม.4/1 ขออาจารย์ประจำชั้นที่กำลังโฮมรูมอยู่ให้เอาผมเข้าไปข้างในในสภาพนั้น แกบังคับให้ผมตะโกนดังๆ ว่า “ผมจะไม่มาสายอีกแล้วครับ” ส่วนแกก็ยืนข้างหลังผม พอผมพูดจบแกก็เอามือมาฟาดที่หลังผมเสียงดังมากพร้อมกับพูดว่า “ดังกว่านี้อีก” ทำให้ผมต้องตะโกนอีกหลายรอบ ที่น่ากลัวไปกว่านั้นคือ แกทำแบบนี้กับผมในห้องเรียน ม.ปลายทุกห้อง ให้ผมตะโกนทุกห้อง และก็โดนฟาดหลังทุกห้อง จนมาถึงห้องของสมิง สมิงกับพวกเพื่อนๆ ของมันจ้องมองผมเป็นตาเดียว เหมือนกับจะกินเลือดกินเนื้อผม ตอนนี้ผมคงเป็นไอ้เหี้ยตัวหนึ่งในสายตาของพวกมัน

หลังจากวันนั้นผมเองก็ถูกมองแบบแปลกๆ จากนักเรียนทั้งโรงเรียน วันหนึ่งผมนั่งขี้อยู่ในห้องน้ำ ได้ยินไอ้สมิงกับเพื่อนคุยกันสองสามคน พอจับใจความได้ว่า “ถ้าไอ้เหี้ยที่ถูกหนีบนมมาสมัครเข้ากองร้อยพิเศษของเราก็ดีน่ะสิ”

“ใช่ บึกๆ ล่ำ และชอบลองดีแบบนี้กูชอบ จะรับน้องใหม่กองร้อยพิเศษแบบรับมันคนเดียวเลย”

“หน้าตาของมันก็ใช้ได้ หล่อๆ ล่ำๆ แบบนี้ทรมานได้มันส์โคตรๆ แค่คิดยังสะใจเลย”

“เออ อยากลงโทษแม่งมันให้หนำใจ ทำกับมันเหมือนเป็นชิ้นเนื้อชิ้นหนึ่ง”

“ใช่ ต้องอย่านึกว่ามันเป็นมนุษย์ แต่มองเป็นชิ้นเนื้อล่ำๆ ที่พวกเราจะเอาไว้ทรมานแก้เซ็ง”

ขณะที่พวกมันพูดคุยกันไป ผมเองทนไม่ไหว ต้องชักว่าวไปด้วย เพราะสิ่งที่พวกมันพูดกระตุ้นอารมณ์ของผมมากมายเหลือเกิน ผมชักว่าวจนน้ำแตก รู้สึกได้ถึงสิ่งที่พวกมันพูดถึงผม

วันรุ่งขึ้นตอนเย็นๆ ผมเห็นพวกมันเป็นกลุ่มยืนดูน้องๆ ฝึกลูกเสือกองร้อยพิเศษกัน ผมทำใจกล้าเดินเข้าไปสมัครกับไอ้สมิง

“มึงมาทำไมวะไอ้เหี้ย”

ผมแกล้งตอบในแบบที่จะทำให้มันเกลียดขี้หน้าผมรุนแรงมากขึ้น “กูจะมาสมัครลูกเสือกองร้อยพิเศษ”

พูดยังไม่ทันขาดคำ พวกมันช่วยกันถอดเสื้อผมออก แล้วเอาเสื้อมัดมือผมไพล่หลัง แล้วก็ถีบผมไปกลางสนามหญ้า พวกมันยืนล้อมผม ช่วยกันฟาดหน้าอก ฟาดหลัง ชกท้อง ตบหน้า จิกผม ทุบหลัง ทำทุกอย่างที่พวกมันอยากทำจนหนำใจ ผมเซล้ม เลยโดนเตะโดนกระทืบแถมไปด้วย

ไอ้สมิงตะโกนใส่หน้าผมว่า “พูดกับรุ่นพี่ให้มันมีสัมมาคารวะหน่อย ไม่ใช่ขึ้นกูขึ้นมึงกับพวกกู สำหรับมึง กูจะรับน้องกองร้อยพิเศษออกมาต่างหาก อย่างมึงต้องเจอซ่อมเดี่ยว”

พวกมันพาผมไปซ่อมเดี๋ยวในต่างจังหวัด ได้ยินมาว่าที่นี่เป็นที่ส่วนตัวของลุงไอ้สมิง ลุงมันเป็นครูฝึกทหารเก่า เลยดัดแปลงที่นี่ให้กลายเป็นที่ดัดนิสัยของทหารเกณฑ์ที่ชอบลองดี ตอนนั้นเราไปถึงสถานที่ซ่อมเดี่ยวผมประมาณ 11 โมง วันนั้นผมเพิ่งกินข้าวเช้าไปมื้อเดียวเอง พอไปถึงพวกมันก็ตั้งวงแดกเหล้า เพื่อนไอ้สมิงจับผมไปไว้ในที่ๆ หนึ่ง เหมือนเป็นห้องน้ำแต่ไม่มีห่าอะไรเลย มันจับผมแก้ผ้าออกจนหมด ไม่เหลือแม้กระทั่งกางเกงใน มันบังคับให้ผมนอนหงาย แล้วเอากุญแจมือมาล็อคข้อมือและข้อเท้าของผมเข้ากับหมุดที่มีอยู่ในห้องนั้น แล้ว ผมตกใจและตื่นเต้นมาก ไม่รู้เลยว่าต่อไปจะได้เจออะไร

ผมนอนนิ่ง รอเวลา คงเป็นเพราะความตื่นเต้น ควยเลยแข็งโด่ ไม่นานนักคนแรกในกลุ่มเดินเข้ามา มันยืนคร่อมตัวผม บังคับให้ผมอ้าปาก พอไม่อ้า มันก็เหยียบควย จนผมต้องอ้าปากตามที่มันสั่ง แล้วมันก็งัดควยขนาดเขื่องออกมา ยืนเล็งมาที่ปากผม พอปวดเยี่ยวถึงขีดสุด มันก็พยายามเยี่ยวให้ตรงปากของผมพอดี ผมทั้งตื่นเต้น ตกใจ สำลัก เพราะนั่นคือการถูกเยี่ยวใส่ครั้งแรก พวกมันโหดกับผมมาก พอโดนคนแรกไปเท่านั้น ผมรู้สึกงงๆ และก็ตื่นเต้นมาก ที่ตื่นเต้นอีกอย่างคือการได้เห็นควยขนาดยักษ์ของรุ่นพี่ มันได้อารมณ์มาก พอคนแรกผ่านไปไม่นาน คนที่สองก็ตามมา จนมาถึงสมิงกับควยขนาดมดหฬารของมัน มันเยี่ยวออกมาเยอะมาก เล็งให้เข้าปาก เล็งไปทั่วหน้า เล็งมาที่หน้าอกและหน้าท้อง ตอนนั้นเนื้อตัวผมเหม็นเยี่ยวมาก อยากตั้งสมญาตัวเองว่าไอ้มนุษย์เยี่ยว พวกมันวนเวียนกันมาเยี่ยวใส่หน้าผมตั้งแต่เที่ยงจนเย็น ผมเองทำหน้าที่รองรับเยี่ยวของพวกมัน พวกมันทำกับผมเหมือนไม่ใช่คน

บ่ายวันนั้นผมเหม็นเยี่ยวมาก แต่ก็ดีใจที่ได้เห็นควยตอร์ปิโดถึง 12 ควย ผมชอบมาก ถ้าไม่โดนซ่อมเดี่ยว ผมก็คงไม่มีโอกาสได้เห็น หลังจากนั้นพวกมันไม่ยอมให้ผมกินข้าว แต่เอาผมไปทรมานต่อในห้องอาบน้ำ

พวกมันเอาผมไปมัดโยงในห้องน้ำที่ทำไว้เป็นพิเศษ มันเป็นห้องที่กว้างมาก และผมถูกมัดในแบบเอาเชือกมัดข้อมือแต่ละข้างและถูกดึงขุ้นไปจนตึง ส่วนขาก็มัดแยกแต่ละข้าง และก็ถูกดึงจนขาแยกออกจากกันพอประมาณ การถูกมัดแบบนี้ทำให้ผมตื่นเต้นจนควยตั้งโด่ หลังจากนั้นไอ้สมิงก็เอาสายยางฉีดน้ำมาที่ผม น้ำค่อนข้างแรง ทำให้ผมเจ็บระบมไปทุกส่วนที่เขาฉีดน้ำ

พอฉีดน้ำเสร็จ เขาก็ไม่ได้ฟอกสบู่ผม ไอ้สมิงจ้องมาที่ควยของผม พร้อมกับพูดว่า “โด่มากนักใช่ไหม แข็งมากใช่ไหม อย่างมึงต้องเจอแบบนี้” แล้วไอ้สมิงก็ไปหยิบเหล้าที่ดูเหมือนว่าลุงมันจะทำขึ้นเอง และท่าจะแรงมาก มันเอาเหล้าเทมาที่หัวควยของผม ผมรู้สึกแสบมาก แต่ก็พยายามจะไม่ร้องออกมา

หลังจากนั้นเพื่อนของมันหยิบขวดน้ำส้มสายชูออกมา “ควยใหญ่ๆ ของมันต้องเจอกำหราบด้วยขวดนี้” พูดจบมันก็เทน้ำส้มสายชูมาที่ควยของผม ผมดิ้นพล่าน เพราะแสบมาก แสบแบบไม่เคยเจอมาก่อน (ใครอยากรู้ลองดูเองนะครับ) ผมดิ้น แต่ตั้งใจไว้แล้วว่าจะไม่ร้องออกมาให้เป็นที่น่าเวทนาของพวกมัน

ผมยังไม่ทันหายแสบควย เพื่อนของไอ้สมิงก็เอากับดักหนูมาสองอัน มันส่งให้ไอ้สมิง อันหนึ่ง มันทั้งคู่เอากับดักหนูมาแนบตรงหัวนมผมข้างละอัน มันต่างส่งสัญญาณให้กัน แล้วก็ปลดสลักทำให้กับดักหนูเด้งไปหนีบที่หัวนมของผมทั้งสองข้าง ผมเจ็บจนสะดุ้ง หลังจากนั้นมันก็ปล่อยที่ดักหนูหนีบค้างไว้อย่างนั้น มีเพื่อนมันหลายคนมาโยกกับดักหนูเล่น ทำให้หัวนมของผมเจ็บมากขึ้นไปอีก หลังจากทรมานหัวนมกันจนหนำใจแล้ว พวกมันก็เอากับดักหนูออกจากหัวนมของผม

ต่อจากนั้นมีเพื่อนของมันอีกคน เอาผ้าขนหนูมาเช็ดตัวผมจนแห้ง ไอ้สมิงเอาขั้วไฟฟ้ากับเครื่องปล่อยกระแสไฟฟ้ามาชุดนึง มันเอาขั้วสองขั้วแรกแปะไว้ที่ลอนท้องของผม อีกสองขั้วแปะไว้ตรงหัวนม หลังจากนั้นมันก็ปล่อยกระแสไฟฟ้าไปยังสี่จุดบนตัวผม ผมบอกไม่ถูกนะครับ เพราะมันทั้งซ่า ชาและก็เจ็บแบบมีเข็มหลายร้อยเล่มไปตำตรงลอนท้องและหัวนมของผม ไอ้สมิงปล่อยกระแสไฟฟ้าจนกล้ามเนื้อตรงลอนท้องและกล้ามเนื้อหน้าอกของผม กระตุกจนเห็นได้ชัด เพื่อนของมันต่างหัวเราะชอบใจที่เห็นผมในสภาพนั้น ผมพยายามอดกลั้นเอาไว้ แทบจะไม่ส่งเสียงร้อง แต่สีหน้าที่แสดงความเจ็บปวดนั้นไม่สามารถที่จะเก็บซ่อนไว้ได้

พอมันช๊อตผมจนหนำใจ พวกมันจึงช่วยกันปลดขั้วไฟฟ้าออกจากตัวผม และสิ่งที่ผมโดนต่อไปคือการปาพายใส่หน้าอย่างแรง พวกมันเตรียมพายไว้ถึง 36 ถาด กะจะปาใส่หน้าผมคนละสามถาด คนแรกเริ่มก่อน มันปาใส่ผมอย่างแรง หน้าผมรู้สึกได้ถึงความเจ็บ ส่วนครีมของพายนั้นเปรอะทั่วตัวผม มันต่อคิวกันปาพายใส่หน้าผมไม่เว้น จนถึงสามถาดสุดท้าย ซึ่งเป็นฝีมือของไอ้สมิง มันปาพายใส่หน้าผมแรงมาก จนผมเองรู้สึกมึนๆ ต่อจากนั้นก็เอาสายยางมาฉีดน้ำใส่ผมไปทั้งตัวอีก แล้วก็ช่วยกันเอาสบู่ฟอกให้ผม แล้วก็ฉีดน้ำอีก พอฉีดจนพอใจก็เอาผ้าเช็ดตัวเช็ดให้ผม แล้วก็พาผมออกไปนอนที่สนามหญ้าข้างๆ บ้าน พวกเขาตอกหมุดไว้ 4 มุม แล้วก็จับผมมัดแบบขึงพืด ไอ้สมิงเอาน้ำเชื่อมมาราดที่ตัวผม มันราดไปทุกส่วน ไม่เว้นแม้แต่หัวนมและหัวควย

มันพูดกับผมก่อนที่มันจะไปนอนว่า “คืนนี้สนุกแน่มึง เพราะมึงจะต้องเจอกับมด ผึ้งและก็แมลงอีกหลายชนิด ขอให้ผึ้งต่อยที่หัวนมมึงทีเถอะ กูจะหัวเราะให้ฟันร่วงเลย”

และคืนนั้นพวกมันนอนกันอย่างเป็นสุข พวกมันได้ยินเสียงจิ้งหรีดสลับกับเสียงร้องของผมยามที่มดกัดไปที่ไข่หัวควย และหัวนม

หลังจากนั้นผมต้องพักร่างกายนานมาก พวกมันเหมือนรู้ เลยไม่ได้ยุ่งอะไรกับผม ผมออกกำลังจนร่างกายผมแข็งแกร่งขึ้นมาอีกครั้ง ไอ้กองร้อยพิเศษนี่ก็ยังตามเล่นงานผมต่อ ภายใต้การสนับสนุนของ อ.กำพลและ อ.แผน

ครั้งนั้นเป็นการแสดงละครเวทีเรื่องทรมานโหดเชลยหนุ่ม เป็นการแสดงละครเพื่อเก็บเงินเข้ากองทุนสนับสนุนกองร้อยพิเศษ แน่นอนที่ผมถูกพวกมันเลือกให้รับบทพระเอก นั่นก็คือเชลยหนุ่ม ตอนซ้อมนั้น พวกมันจับผมถอดเสื้อผ้าจนเหลือเพียงกางเกงในตัวเดียว จับผมมัดแบบขึงพืดในลักษณะยืน จนผมดิ้นไม่หลุด การทรมานตามที่ซ้อมก็มีการชกท้อง ฟาดอก ตบหน้า ถุยน้ำลายใส่ เตะไปที่อก ประมาณนี้และแน่นอนที่ไอ้สมิงจะเป็นตัวชูโรง และมันก็เล่นงานผมจริงๆ ไม่ได้ยั้งไว้เลย ตอนแสดงรอบแรกๆ ก็เป็นแบบนี้ คนดูต่างสะใจกันไปตามๆ กัน

จนมาถึงการแสดงรอบพิเศษ ที่มีแต่กองร้อยพิเศษประมาณร้อยกว่าคนและอ.กำพลกับ อ.แผน พอถึงฉากโดนจับมัดและทรมาน ผมเองก็โดนไปตามบทที่พวกมันเล่นจริง จนทำให้ผมเจ็บจริง ซึ่งผมเองก็โอเค เพราะมันส์สะใจดี แต่พอมาถึงช่วงท้ายของการทรมาน พวกมันดันหักหลังผม ไอ้สมิงหยิบมีดขึ้นมา และตัดกางเกงในของผมจนขาด ปลดปล่อยควยขนาดเขื่องที่กำลังแข็งได้ที่ของผมออกมา ต่อหน้าคนดูนับร้อย หลายคนร้องด้วยความสะใจ แต่ผมอายมาก ไม่คิดว่าพวกมันจะเล่นกับผมได้ถึงเพียงนี้

หลังจากนั้นพวกมันก็เอาหนังยางมามัดควยผมจนควยหงิกงอ ผมเจ็บตรงลำควยมาก ต่อมามันเอาเชือกมาผูกกับไข่ผม ปลายเชือกผูกกับถังน้ำ พวกมันช่วยกันตักน้ำใส่ถังน้ำเพื่อถ่วงให้ไข่ถูกดึงรั้งมากขึ้น ทุกคนโห่ฮากันด้วยความสะใจ แต่ผมนั้นทั้งเจ็บ ทั้งอาย แต่ก็มันส์สะใจถึงขีดสุดด้วยเช่นกัน แทบไม่น่าเชื่อว่า แค่อยู่โรงเรียนนี้แค่เพียงเทอมเดียว ผมจะถูกทรมานมากถึงขนาดนี้ มันเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อมากๆ

สิ่งที่นึกไม่ถึงและหนักข้อขึ้นไปอีกก็คือ ตอนงานโรงเรียนก่อนปิดภาค ผมยังคงงงจนถึงวันนี้ว่าทาง ผอ. หรือครูอาจารย์ท่านอื่นยอมให้พวกกองร้อยพิเศษทำกับผมได้ยังไง งานมีด้วยกันสามวัน และแต่ละหมวดของโรงเรียนต้องออกร้านทั้งสามวันเพื่อที่จะหาเงินเข้าหมวดของตนเอง งานนี้คนภายนอกก็เข้ามาร่วมได้ ผมเองถูกไอ้สมิงออกคำสั่งให้มาทั้งสามวัน โดยที่ผมเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะโดนอะไรบ้าง

วันแรก สิ่งที่พวกมันเตรียมไว้ให้ผมไม่ใช่สาวน้อยตกน้ำ แต่เป็นหนุ่มล่ำตกบ่อโคลน พวกมันจับผมถอดเสื้อผ้าจนเหลือกางเกงในตัวเดียว มัดข้อมือผมไว้ด้วยกัน แล้วโยงขึ้นสูงด้วยเครื่องไฮโดรลิกที่พวกมันเตรียมไว้ ข้างล่างเป็นถังน้ำที่ใส่โคลนไว้เต็ม ถ้าใครปาลูกเทนนิสถูกแป้นที่ชูไว้ ร่างของผมจะจุ่มลงถังโคลนทั้งตัว แล้วก็จะถูกดึงขึ้นมาใหม่ คืนนั้นผมโดนจุ่มลงถังโคลนไปหลายสิบครั้ง

พอถึงวันที่สอง ผมอยู่ในชุดกางเกงในตัวเดียวอีก ยืนกางขาเอามือประสานไว้เหนือหัว คราวนี้เป็นการปาถุงพลาสติกใส่น้ำเต็มและรัดจนพองให้โดนตัวผม มันขายกัน 2 ถุง 5 บาท (สมัยนั้นนะครับ) อ.แผนซื้อไปเกือบ 30 ถุง แล้วแกก็ระดมปาใส่ผมแบบไม่อั้น มีหลายคนสนุกกับซุ้มของกองร้อยพิเศษมาก โชคดีที่ผมโดนปาถุงพลาสติกในวันศุกร์ ซึ่งงานวันที่สามจะจัดขึ้นในวันจันทร์ ร่างกายของผมจึงได้พักสองวัน

พอถึงวันที่สาม ผมถึงกับอึ้ง ครั้งนี้ผมถูกจับถอดเสื้อ และบังคับให้ใส่กางเกงทหาร ยืนเอามือประสานไว้ที่ท้ายทอยและใส่หมวกกันน๊อคด้วย เพราะด่านของวันที่สามคือผมกลายเป็นเป้าของกระสุนเพนท์บอล ไอ้สมิงขายกระสุนละ 10 บาท แต่ก็ยังมีคนซื้อกันเยอะ การถูกยิงด้วยกระสุนเพนท์บอลไปที่หน้าอกและหน้าท้องนั้น เจ็บเกินที่จะบรรยายจริงๆ

ผมเองต้องพักฟื้นถึง 10 กว่าวันถึงจะหาย สรุปว่าเทอมแรกของ ม.4 ผมเองโดนลงโทษและทรมานแบบคาดไม่ถึงหลายครั้ง มันทำให้ผมรู้ว่าจริงๆ แล้ว ผมชอบที่จะโดนแบบนี้มากๆ และถ้าตอนนั้นร่างกายผมไหว ผมจะไม่หลีกเลี่ยงเลย

ช่วงปิดเทอมเดือนตุลานั้นผมเหงามาก นอกจากออกกำลังกายแล้ว ผมแทบไม่ได้ทำอะไรเลย แค่นึกถึงเรื่องของเทอมที่แล้วและชักว่าวไป มันไม่สาแก่ใจของผม วันหนึ่งเห็นมีคนเล่าให้ฟังว่าช่วงดึกๆ จะมีตำรวจเถื่อนคอยตั้งด่าน ตำรวจกลุ่มนี้ไม่ชอบรีดไถ แต่ชอบทำร้ายร่างกายประชาชน คนที่โดนมักเป็นผู้ชายล่ำๆ หน้าตาดี และส่วนมากมักจะไม่ได้ใส่เสื้อ คนที่มาเล่าให้ผมฟัง จริงๆ แล้วเขาหวังดี เห็นผมหน้าตาใช้ได้ หุ่นล่ำและชอบถอดเสื้อเดินตามท้องถนน เลยมาเตือนว่าดึกๆ อย่าได้ไปแถวนั้น แต่พอฟังแล้วผมตื่นเต้นมาก ผมถามสถานที่จนรู้แน่ชัดว่าเป็นแถวไหน แล้วผมก็มานั่งคิดว่าจะเอายังไงกับเรื่องที่รับรู้มาดี

ผมคิดอยู่สามวันจึงตกลงใจแล้วว่าตัวเองอยากจะไปเผชิญหน้ากับตำรวจเถื่อน กลุ่มนั้นซึ่งผมก็ยังไม่รู้แน่ว่ามีกี่คน และตำรวจพวกนั้นจะทรมานอะไรเหยื่อของเขา เรื่องนี้ผมไม่ได้ถาม เพราะอยากเก็บไว้จะได้ตื่นเต้น ผมคิดอยู่นานว่าจะแต่งตัวแบบไหนดี คิดไปคิดมา ผมจึงเลือกที่จะแปลงร่างตัวเองให้กลายเป็นกรรมกรหนุ่มไร้การศึกษา ผมว่าผมเองก็ล่ำพอที่จะเป็นกรรมกร การทำตัวเองให้เป็นกรรมกรหนุ่มไร้การศึกษานั้นออกจะเสี่ยงอยู่สักหน่อย เพราะเป็นชนชั้นที่ตำรวจน่าจะกล้าทรมานมากที่สุด เพราะเป็นพวกที่ไม่มีอำนาจในสังคม ผมยิ่งตื่นเต้นเข้าไปใหญ่ เพราะเย็นวันที่ผมกะจะออกไปผจญภัย ผมได้ข่าวว่าตำรวจเถื่อนด่านนั้นได้ทำร้ายกรรมกรหนุ่มล่ำไปเมื่อคืน มันผู้นั้นบาดเจ็บไปทั่วตัว ตอนนี้กำลังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล

ได้ยินอย่างนั้น ผมตื่นเต้นมาก และรู้สึกว่าความสุขสุดยอดกำลังรอผมอยู่ ตกดึกผมถอดเสื้อออก นุ่งกางเกงขาสั้นเก่าๆ เอาทรายและดินทาหน้าทาตัวพอให้เปรอะๆ จะได้สมกับเป็นกรรมกร ผมเดินไม่ใส่รองเท้า ตรงไปยังที่ๆ ใครๆ ก็บอกว่ามีด่านตำรวจเถื่อนตั้งอยู่ ตอนนั้นเที่ยงคืนกว่า ถนนที่ผมเดินไปเปลี่ยวมาก แทบไม่มีแสงไฟเลย บรรยากาศมันน่ากลัวมาก แต่ยิ่งกลับทำให้ผมรู้สึกฮึกเหิม ผมเดินไปเรื่อยๆ เข้าซอยไปลึก ทะลุไปยังถนนอีกเส้นนึง

ตอนนั้นผมคิดว่าผมน่าจะมาใกล้ด่านของตำรวจเถื่อนแล้วนะ แต่บรรยากาศโดยรอบยังเงียบๆ อยู่ แต่ผมเดินใกล้เข้าไปอีกหน่อย แสงไฟจากรถตำรวจ 3 คันก็สว่างขึ้น ขณะที่ผมหรี่ตาเพราะแสงไฟมันจ้ามาก ผมรู้สึกเหมือนมีใครตรงเข้ามาชกท้อง หลังจากนั้นผมถูกกระชากขึ้นมา ถูกเอามือไพล่หลังแล้วใส่กุญแจมือ หลังจากนั้นก็ถูกโยนเข้าไปท้ายรถตำรวจคันหนึ่ง สักพักรถคันนั้นก็แล่นออกไป ยากที่ผมจะคาดเดาว่ามันจะพาผมไปไหน แต่ตอนนั้นผมทั้งกลัว ทั้งยากโดน ที่ๆ แน่ ควยผมแข็งโด่แล้ว

ตอนที่อยู่ท้ายรถตำรวจ ผมคิดวนไปมาอยู่หลายเรื่อง กลัวเหมือนกันว่าวันนี้จะต้องเจออะไรบ้าง คิดไปต่างๆ นานา ไม่แน่ใจว่าสิ่งที่ตัวเองทำอยู่นี้มันถูกต้อง แต่แน่นอนว่ามันเป็นสิ่งที่เราต้องการ และเราก็หามันจนพบ คงไม่มีอะไรที่เราอยากจะทำมากไปกว่านี้อีกแล้ว ผมคิดวนไปมาอยู่ในหัวจนผมรู้สึกว่า เวลามันเนิ่นนานมาก กว่าที่รถจะมาถึงจุดหมาย ถึงความรู้สึกหนึ่งจะกลัว แต่อีกความรู้สึกหนึ่ง ผมก็รู้สึกท้าทายและคิดว่าสิ่งที่ทำอยู่นี้ถ้าอายุมากขึ้นอาจไม่สามารถหา โอกาสทำได้อีก

รถแล่นไปในที่เปลี่ยว เพราะนานเข้าผมแทบไม่ได้ยินเสียงรถข้างๆ เลย มันยิ่งเงียบเข้าไปทุกที จนรถมาหยุดอยู่ ณ ที่ใดที่หนึ่ง โดยที่ผมเองก็ไม่รู้ว่าที่ไหน รู้แต่ว่าน่าจะเป็นที่ห่างไกลผู้คน และถ้าเกิดอะไรขึ้นมาคงไม่มีใครจะช่วยเหลือผมได้ ตอนนี้พวกมันเปิดท้ายรถ และช่วยกันนำผมลงมา พวกมันเอาผ้าผูกตาผมไว้ และพาผมเข้าไปนั่งในห้องที่ผมรู้สึกว่ามันน่าจะเป็นห้องมืด

ผมนั่งอยู่ในนั้นสักพัก ยังอยู่ในชุดเดิมคือไม่ได้ใส่เสื้อ และถูกใส่กุญแจมือไว้ ผมพยายามฟังเสียงว่ากำลังมีอะไรเคลื่อนไหวอยู่ในห้อง ไม่นานนักก็รู้สึกว่ามีคนเข้ามาในห้องหลายคน ผมรู้สึกอึดอัด และรู้สึกว่าตนเองจะไม่ได้เป็นตนเองอีกต่อไป ทันใดนั้นมีคนจิกหัวของผมให้ผมเชิดหน้าขึ้น พร้อมกันนั้นน่าจะมีคนส่องไฟมาที่หน้าผม

มีเสียงหนึ่งถามขึ้นว่า “มึงอายุเท่าไหร่”

ผมตอบออกไป “15” มีคนฟาดหน้าอกผมเสียงดังมาก

“ตอบใหม่ไอ้สัตว์”

ผมตอบใหม่และตอบไปตามที่มันอยากได้ยิน “15 ... ครับผม”

มันถามผมต่อ “มึงทำงานอะไร”

ผมตอบออกไป “เป็นกรรมกรครับผม”

มีเสียงอื้ออึงดังขึ้นในห้องนั้น ต่อจากนั้นไอ้คนที่ถามก็ถามผมต่อ “แล้วคืนนี้มึงออกมาเดินทำไม”

ผมนิ่งเงียบ ไม่ตอบ ทำให้โดนฟาดหลังไปอีก 1 ที ประเด็นสำคัญที่สุดคือ ไม่รู้ว่าจะตอบว่ายังไง ตอบว่าอยากลองดีเหรอ ก็ตอบไม่ได้อีก

พอนิ่งเงียบไป ไอ้คนที่เคยถามก็ถามใหม่ “ดึกๆ แบบนี้ มึงมาเดินหาอะไรวะไอ้สัตว์”

คิดว่าคงต้องตอบแล้ว ผมจึงตัดสินใจตอบไปว่า “เดินหาตำรวจครับผม”

มันถามผมอีก “หาตำรวจทำไมวะ”

ผมตอบไปตรงๆ เพราะคิดอะไรไม่ออกแล้ว “อยากโดนตำรวจซ้อมครับผม”

ตอนนั้นทุกอย่างนิ่งเงียบ

ผมถูกพาไปยืนกลางห้อง ตาก็ยังถูกผ้าผูกไว้ กุญมือก็ยังใส่อยู่ แต่เสื้อไม่ได้ใส่เหมือนเดิม ผมยืนนิ่ง ฟังและรอ ไม่นานนักก็มีคนชกมาที่หน้าท้องผมอย่างแรง ผมไม่ทันตั้งตัวเลยออกอาการเต็มที่ หลังจากนั้นก็เงียบไปพักนึง แต่คิดว่าน่าจะมีคนล้อมรอบตัวผมประมาณ 10 กว่าคน ต่อจากนั้นผมโดนเตะมาที่หลัง เขาเตะได้หนักหน่วงมาก อีกไม่นานก็โดนทุบหลังแรงๆ สามที ตามด้วยฟาดหน้าอก 2 ที ตอนนี้เริ่มจะถี่มากขึ้น ผมเองยังทรงตัวไว้ได้ ต่อมาเจอถีบไปที่หน้าท้อง และเหมือนจะถูกตีที่หน้าอกด้วยไม้หน้าสาม ตามมาด้วยถูกชกไปที่หลัง และก็ใช้ไม้หน้าสามตีไปที่หน้าท้อง

หลังจากเจอชุดใหญ่ไป ทุกสิ่งทุกอย่างก็เงียบลงอีก ผมยังยืนนิ่งเฝ้ารอต่อไปว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่ดูเหมือนทุกอย่างจะเงียบไปนานกว่าที่ผมคิด หลายคนเคยบอกว่า ก่อนพายุจะมาทุกอย่างจะดูเงียบผิดปกติ และน่าจะจริงตามนั้น เพราะอีกไม่กี่นาทีถัดไป ผมก็เหมือนโดนตะลุมบอน ทุกอย่างเข้ามาแรงและเร็วจนตั้งตัวแทบไม่ทัน ผมพยายามตั้งหลักเพราะไม่อยากล้ม ตอนนี้เหมือนกับว่า โดนฟาดอก ฟาดท้อง ต่อยหลัง ฟาดหลัง ชกท้อง ต่อยหน้า คือมันหลายอย่างมากและเร็วมาก จนผมแทบจะตั้งรับไม่ทัน และปิดท้ายด้วยการเตะผ่าหมากที่หนักหน่วงไป 1 ที ผมร้องเพราะเจ็บมาก ตอนนั้นเริ่มเซ และรู้สึกได้ว่ามีตำรวจสองนายเข้ามาพยุงผมไว้ แล้วจับผมหันไปอีกด้านหนึ่ง เขากระชากผ้าผูกตาผมออก ทำให้ผมเห็นถังน้ำตรงหน้า และยังไม่ทันตั้งตัว เขาทั้งสองก็จับผมกดน้ำ ผมแทบจะหายใจไม่ออก พอกดสักพักก็ดึงผมขึ้นมาสูดอากาศแค่แป๊ปเดียว แล้วก็จับกดน้ำอีกรอบ เขาทำสลับกันแบบนี้อยู่หลายรอบ จนผมรู้สึกกลัวและรู้สึกอ่อนแรง

ตำรวจสองนายยังจับผมกดน้ำไปมาไม่ยอมหยุดจนผมรู้สึกเหนื่อยอ่อน พอพวกมันทำจนสาแก่ใจ จึงจับผมนั่ง และเอาถุงพลาสติกใบใหญ่ครอบหัว และเอาเชือกฟางมัดตรงคอ มันทำให้ผมหายใจถี่มาก จนถึงเวลาที่จะหายใจไม่ออก จนผมแทบจะทนไม่ได้ มันจึงดึงเชือกฟางและดึงถุงออก ผมสูดอากาศแค่แป๊ปเดียว มันก็เอาถุงครอบหัวผมต่อ จนถึงตอนที่ผมกำลังจะหายใจไม่ออก มันสองคนช่วยกันฟาดหน้าอกกับฟาดหลัง ตอนนี้ทรมานสุดยอด เพราะหายใจไม่ออก กำลังจะตายอยู่แล้ว พอโดนฟาดหน้าอก ฟาดหลัง มันเจ็บแบบจุกๆ อย่างบอกไม่ถูก และมันก็โหดร้ายกับผมมากพวกเขาครอบถุงเอาถุงออกอยู่หลายครั้งจนผมรู้สึก เพลีย หลังจากนั้นพวกเขาจึงเอากุญแจมือผมออก และเอาผมไปนอนหงายบนโต๊ะ และบังคับให้ผมยกแขนไปด้านหลังแล้วก็เอาเชือกมามัดข้อมือจนแน่น พร้อมกับดึงปลายเชือกไปมัดกับเสาอีกต้นหนึ่ง เสร็จแล้วพวกเขาถอดกางเกงกับกางเกงในผมออก จนผมเปลือยเปล่า

สิ่งที่ผมไม่เคยคาดคิดแต่มันกำลังเกิดขึ้นกับผมคือ มีตำรวจสองนายเอาเบ็ดตกปลามาสองอันซึ่งโยงกับสายเบ็ดและคันเบ็ด มีอีกสองนายช่วยกันเอาเบ็ดตกปลามาแทงทะลุหัวนมของผม กว่าจะทะลุได้ต้องใช้เวลาเหมือนกัน ตอนนั้นผมตกใจแทบช๊อค เพราะไม่คิดว่าจะโดนทรมานหัวนมด้วยวิธีนี้ พอเบ็ดแทงทะลุหัวนมแล้ว ตำรวจที่ถือค้นเบ็ดก็ดึงสายเบ็ดให้ตึงขึ้น เหมือนกับว่าปลาติดเบ็ดแล้ว พวกเขาพยายามดึงกันจนหัวนมของผมถูกดึงรั้งให้สูงขึ้น พวกเขาเอาสายเบ็ดไปโยงกับรอกเล็กๆ และล๊อคให้มันค้างไว้แบบนั้น ทำให้หัวนมผมถูกดึงค้างอยู่อย่างนั้น มันหวาดเสียวมากครับ เจ็บมาก และนึกไม่ออกว่าหลังจากนี้หัวนมของผมจะมีสภาพเช่นไร ความเจ็บหัวนมถึงขีดสุดทำให้ควยของผมแข็งโด่ขึ้นมา แต่พวกมันยังไม่สนใจ แต่ดันมาสนใจไข่ของผมแทน พวกมันเอาเชือกมามัดจนไข่ของผมพองโต ก่อนที่พวกมันจะเอาเข็มหมุดมาค่อยๆ ปัก ทำเหมือนกับว่าไข่ของผมเป็นหมอนปักเข็มหมุด หลังจากนั้นพวกมันจึงไปหาของเทียมขนาดใหญ่ที่มีท่อนลำตะปุ่มตะป่ำมาค่อยๆ ยัด ไปที่รูตูดของผม ตอนนั้นผมเจ็บจนต้องร้อง เพราะมันทั้งยัดทั้งดันจนตูดผมเกือบแหก จุดยุทธศาสตร์ทั้งหมดของความเป็นชายโดนทรมานจนแทบไม่เป็นชิ้นดี เหลือเพียงควยที่กำลังโด่เท่านั้นที่ผมยังคิดไม่ออกว่าจะถูกทารุณกรรมยังไง

เวลาผ่านไปสักพักมีตำรวจนายหนึ่งที่ดูไม่ค่อยโหดเหมือนพวกแรก เขาขาว ดูดี และดูไม่ล่ำมาก เนื้อตัวสะอาดสะอ้าน เขาเดินเข้ามาและจับควยของผม เขาใช้ลิ้นวนรอบหัวควยเป็นเวลานาน มันเสียวซ่านมากเพราะตำรวจคนนี้ใช้ลิ้นได้เก่งมาก พอวนได้สักพัก เขาก็อมเข้าไปทั้งอัน แต่เนื่องจากควยผมขนาดใหญ่จึงคับปากมัน มันทั้งอม ดูด เลียจนผมเสียวมาก ตอนนั้นจะว่าอยู่บนสวรรค์ก็ไม่ใช่ นรกก็ไม่เชิง เพราะทั้งเสียวและเจ็บระคนกันไป ผมถูกดูดเลียควยจนน้ำหล่อลื่นออกจนเยิ้ม ต่อจากนั้นตำรวจนายนั้นก็ชักว่าวให้ผม จังหวะเขาร้องแรงมาก แต่ชักได้ถูกใจผมมาก จนผมต้องเสียวซ่านตามไปด้วย ตอนชักแรงๆ มันทำให้ผมเจ็บตรงหัวนมและไข่ไปด้วย จึงทำให้ผมทั้งเจ็บและเสียวไปพร้อมๆ กัน สะใจมากครับ เพราะความรู้สึกแบบนี้เป็นสิ่งที่ผมต้องการ ตอนนั้นตำรวจหลายนายก็ควักควยของพวกมันออกมาและชักว่าวอยู่รอบๆ ตัวผม ตำรวจที่ชักให้ผมเร่งจังหวะขึ้น ทำให้ความเสียวซ่านยิ่งทวีคูณ ผมร้องครางไม่หยุดเพราะเสียวเหลือเกิน ตำรวจรอบๆ ตัวก็ชักกันหนักหน่วงไม่แพ้กัน ตำรวจบางคนชักเสร็จและปล่อยให้น้ำแตกบนหน้าอกผม น้ำที่แตกกระเด็นไปโดนหัวนมที่ถูกเบ็ดตกปลาเกี่ยวไว้ ตอนนั้นมันเร้าอารมณ์ผมมากทำให้ผมเกือบแตกแล้ว

และก็ถึงวินาทีที่สำคัญ ไอ้หน้าอ่อนทำผมจนถึงจุดที่น้ำแตกกระเด็นไปทั่ว การแตกของผมเร้าอารมณ์ตำรวจอีกหลายนายที่ทำให้แตกตาม และน้ำของพวกมันกระเด็นโดนหน้า หน้าอก หน้าท้อง และตรงบริเวณขาของผม หลังจากนั้นผมถูกปล่อยให้นอนนิ่งแบบนั้นสักพักก่อนที่ตำรวจอีกชุดหนึ่งจะ เข้ามาช่วยกันปลดพันธนาการทุกอย่าง และช่วยทำความสะอาดให้ผม แล้วพวกมันก็ขับรถไปส่งผมที่เดิม ตอนขากลับผมก็ถูกผูกตาไว้เหมือนเดิม

ประสบการณ์ตอนปิดเทอมครั้งนี้ผมไม่เคยลืมเลย มันกลายเป็นภาพที่ผมนึกตอนที่กำลังชักว่าวหลายครั้งและมันเป็นภาพที่กระตุ้น อารมณ์มากๆ ถือว่าเป็นการถูกทรมานที่น่าจดจำมากในชีวิตของผม

หลังจากนี้พอเข้าเทอมสองของ ม.4 จะมีบุคคลสองคนที่เข้ามาในโรงเรียนของผม เขาทั้งสองเป็นบุคคลที่น่าสนใจมาก คนหนึ่งเป็นนักเรียน ม.4 ที่เข้ามาตอนเทอมสอง การที่มันเข้ามากลางเทอมได้ แสดงว่ามันเส้นใหญ่มาก ไอ้หมอนี่ชื่อไอ้โรมและมันน่าจะมีรสนิยมแบบเดียวกับผม ไอ้โรมเข้ามาพร้อมๆ กับครูพละคนใหม่ที่หนุ่ม หล่อ ล่ำ และโคตรโหด ไอ้ครูพละคนนี้กับไอ้โรมทำกิจกรรมกันบ่อยมาก ไอ้โรมถูกครูพละทำโทษแบบโหดร้ายมาก และภายหลังผมสนิทกับไอ้โรม ผมจึงรู้มาว่าพ่อของมันที่เป็นทหารที่ใครๆ ก็เคยขนานนามว่า “ครูฝึกซาดิสต์” ลงโทษลูกชายแบบป่าเถื่อนมาตั้งแต่ยังเด็ก และวันหนึ่งทั้งผมและไอ้โรมก็ถูกพ่อของมันลงโทษในแบบที่ทำให้ผมกับไอ้โรม เริ่มรู้สึกเปลี่ยนไป มันโหดเหี้ยมมาก

เหตุการณ์ต่างๆ เหล่านี้เกิดขึ้นไปพร้อมๆ กับการเรียนรด.ในเทอมแรก ซึ่งกองร้อยของผมโชคดีมาก เพราะเจอครูฝึกซาดิสต์ถึง 2 คน มีทั้งแบบซาดิสต์โดยสันดาน และซาดิสต์โดยความแค้น และสมัยนั้น ครูฝึกรด.ยังสามารถซาดิสต์ได้อย่างถึงกึ๋น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับโรงเรียนของผม ใครที่เคยเรียนรด.ต่างจังหวัดรุ่นเดียวกับผมคงทราบดีว่าบางที่โหดแค่ไหน (ตอนนี้ผม 30 กว่าแล้ว) ตั้งแต่ตอนที่ 8 เป็นต้นไปอาจเรียกได้ว่าเป็น “มหกรรมอำมหิต” จนทำให้หลายคนอาจรู้สึกว่า ตอนที่ 1-7 นั้น ไม่โหดเลยก็ว่าได้ ถ้าชอบก็ติดตามกันต่อไปนะครับ

ใน ตอนที่ 8 นี้ เรื่องจะเริ่มตั้งแต่เทอมสองของ ม.4 นะครับ ในเทอมสองจะมีเหตุการณ์ที่น่าจดจำอยู่สองเหตุการณ์คือครูพละคนใหม่ที่ชื่อ ไอ้ต้นกับเรื่องของครูฝึก ร.ด. ทั้งสองเรื่องมีผมกับไอ้โรมเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย ถ้าจะเล่าตามเหตุการณ์จริง เพื่อนๆ อาจจะงง เพราะเรื่องของไอ้ต้นกับครูฝึก ร.ด. จะเกิดขึ้นสลับกันไป งั้นผมขอเล่าแยกกันไปเลยนะครับ คิดว่าน่าจะได้อรรถรสกว่า

งั้นขอเริ่มจากครูพละคนใหม่ที่ชื่อไอ้ต้น ตอนเปิดเทอมช่วงพฤศจิกายนของปีนึง ตอนนั้นหนาวมากครับ อุณหภูมิประมาณ 10 องศา พอพวกเรามาที่โรงเรียนจะเห็นได้ว่านักเรียนทุกคนสวมเสื้อหนาวกันหมดเลย มีเพียงนักเรียนชายคนหนึ่งที่ไม่ได้สวมเสื้อหนาว เขาสวมเพียงเสื้อนักเรียน แล้วมันก็บางมากจนมองเห็นรูปร่างที่ดีเอามากๆ แถมเขายังขาวและมีใบหน้าที่หล่อเหลาเอาการ เสื้อนักเรียนของเขาก็ปลดกระดุมตั้งสามเม็ดทำให้เห็นแผงอกขาวที่น่าลูบไล้ เป็นอย่างมาก ผมไม่คุ้นหน้าของเขาเลย ไม่แน่ใจว่าใช่นักเรียนใหม่รึเปล่า

หลังจากนั้นไม่นาน พวกเราก็เข้าแถวเคารพธงชาติ ต่อมา อ.แผนได้แนะนำอาจารย์ใหม่ให้พวกเรารู้จัก นั้นคือครูพละที่ชื่อว่าเมฆิน แต่ผมนิยมเรียกเขาว่าไอ้ต้นมากกว่า เพราะภายหลังผมรู้มาว่าเขาชื่อต้นและรู้ว่าตอนเรียนเขาทำคะแนนได้ดีมาก ได้ดีจนไม่น่าจะมาสอนที่นี่ แต่เขาก็เลือกที่นี่เองและหลายคนบอกว่าเขาอยากสอนโรงเรียนชายล้วนมากๆ และที่นี่ก็มีชื่อเสียงเรื่องความโหดอยู่ก่อนแล้ว

ที่น่าสนใจไปกว่านั้นคือไอ้ต้นเป็นครูพละที่หนุ่มและโคตรหล่อ ถึงวันนั้นจะใส่แจ็คเก็ตกันหนาว แต่ก็พอจะสังเกตได้ว่าหุ่นของเขาดีมาก ใบหน้าเขาคมเข้ม คิ้วดก แต่แววตาดุมาก ขณะที่ผมกำลังดูความหล่อของไอ้ต้น อ.แผนก็พูดขึ้นมาว่า “อาจารย์ช่วยดูนักเรียนที่ไม่ได้ใส่เสื้อหนาวคนนั้นด้วยครับ แต่งตัวไม่เรียบร้อยเลย ช่วยดึงมาหน้าเสาธงที”

ไอ้ต้นมีปฏิกิริยาเร็วกว่าใคร เขารีบเดินไปหาไอ้โรมแล้วกระชากคอเสื้อของมัน บังคับให้มันเดินออกมายืนหน้าเสาธง ขนาดโดนดึงมาประจานแบบนั้นไอ้โรมก็ยังไม่ติดกระดุมเสื้อของตัวเองให้เรียบร้อย จนทำให้อาจารย์แผนต้องดุด่า “นี่เป็นนักเรียนใหม่ของเรา แต่ทำตัวได้แย่มาก แต่งตัวไม่เรียบร้อยเลย อาจารย์เมฆินจัดการรับไปลงโทษที”

ไอ้ต้นทำหน้าที่ได้ดีมาก เพราะเดินขึ้นมากระชากคอเสื้อของไอ้โรมแล้วก็ดึงมันไปตรงบริเวณข้างๆ แถวนักเรียน ผมอยากรู้มากว่าไอ้โรมจะถูกลงโทษยังไง จึงเดินออกนอกแถวนิดนึงเพื่อจะได้เห็นเต็มตา แต่ทันใดนั้นผมก็ได้ยินเสียงที่คุ้นหูจากทางด้านหลัง “มึงกำลังทำอะไร”

พอผมหันไปก็พบกับ อ.กำพล ผมตกมากเพราะไม่คิดว่าแกจะมาข้างหลัง “เดินตามมานี่”

ผมเดินตาม อ.กำพลไป เขาเดินพาผมไปให้ไอ้ต้น

“ฝากลงโทษไอ้หมอนี้ด้วย”

ไอ้ต้นจึงสนใจผมมากกว่าไอ้โรม ไอ้ต้นเดินมายืนตรงหน้าผม ตอนนั้นลมหนาวพัดแรงมาก อุณหภูมิน่าจะเหลือประมาณ 9 องศา ขนาดผมใส่มาสี่ชั้นคือเสื้อกล้าม เสื้อยืด เสื้อนักเรียนและก็เสื้อหนาว ผมยังยืนตัวสั่นเลย

แต่ผมดันสั่นมากขึ้นเมื่อไอ้ต้นพูดกับผมว่า “ถอดเสื้อหนาวออก”

ผมค่อยๆ ถอดตามที่เขาต้องการ ผมรู้สึกหน่วมากๆ เสื้อสามชั้นไม่น่าจะเอาอยู่ แต่ไอ้ต้นก็ยังสั่งต่อ “ถอดเสื้อนักเรียนออก”

ผมงี้สั่นเลย เพราะหนาวมากภาวนาให้สองชั้นที่เหลือยังคงอยู่แต่ ไอ้ต้นไม่หยุดเพียงแค่นั้น

“ถอดเสื้อยืดของมึงด้วย”

เจอครั้งแรกก็ขึ้นต้นมึง-กูแล้ว แถมยังบังคับให้ผมถอดเสื้อยืดจนเหลือแต่เสื้อกล้ามอีก โหดร้ายกับผมมากจริงๆ โหดจนควยผมตุงไปหมดแล้ว และแล้วสิ่งที่ผมคาดคิดก็มาถึง

“ถอดเสื้อกล้ามของมึงออกด้วย”

แล้วทำไมไม่สั่งทีเดียววะ ผมอดฉุนเขาไม่ได้ พอถอดเสื้อกล้ามออกเท่านั้น ผมก็รู้สึกถึงความหนาวเย็นยะเยือกขึ้นมาได้เลย ลมหนาวปะทะหน้าอกของผม จนผมยืนตัวเกร็ง หลังจากนั้นไอ้ต้นก็เดินไปยืนข้างหน้าของไอ้โรม แล้วกระชากเสื้อมันออกจนกระดุมของมันหลุดหมดทุกเม็ดและถอดเสื้อมันออก เผยให้เห็นหุ่นที่โคตรดีของไอ้โรม ผิวของมันขาวมาก แต่มีริ้วรอยของแผลนิดหน่อย กล้ามสวย ไม่ว่าจะเป็นกล้ามอก กล้ามแขน หน้าท้องเป็นลอนสวยงาม ยิ่งหนาวๆ แบบนี้ ทำให้หุ่นของมันดูแกร่งและน่าลูบไล้มาก ไอ้ต้นยืนจ้องหน้ามัน แต่ไอ้โรมก็สู้หน้า มันสองคนยืนจ้องตากัน ตามันดุทั้งคู่

ขณะที่ไอ้ต้นหันหลังเพื่อจะมาเล่นงานผม ไอ้โรมก็พูดในสิ่งที่ผมเองก็ไม่ได้คาดคิดมาก่อน “ไอ้สัตว์”

ไอ้ต้นถึงกับหยุดเดิน กลับหันหลังมายืนอยู่หน้าไอ้โรม

“เมื่อกี้มึงพูดว่าอะไรนะ”

ไอ้โรมไม่ตอบ แต่อมยิ้มแบบเถื่อนๆ ใส่หน้าไอ้ต้น ไอ้ต้นเลยตบหน้าไอ้โรมไปทีนึง ไอ้โรมหน้าหันไป แต่มันหันหน้ามาเผชิญกับไอ้ต้นใหม่ ไอ้ต้นจึงตบหน้ามันไปอีกทีนึง แต่มันก็ยังเฉย ไอ้ต้นเลยเอามือสองข้างไปบีบหัวนมของไอ้โรม ไอ้ต้นบีบด้วยความโมโหเขาจึงออกแรงเต็มที่จนไอ้โรมแสดงสีหน้าที่เจ็บปวดออกมา

ไอ้ต้นตะคอกใส่หน้า “มึงจะลองดีกับกูเหรอ”

ไอ้โรมยังเงียบอยู่ มันไม่ได้ปริปากพูดอะไรอีกเลย ไอ้ต้นทำท่าบีบแรงมากขึ้น ผมรู้สึกได้ถึงความแรง เพราะสีหน้าของไอ้โรมเริ่มบ่งบอกชัดเจนว่ามันเจ็บที่หัวนมขนาดไหน ตอนนั้น อ.กำพลเดินเข้ามาพอดี เขาเดินเข้าไปพูดเพียงแค่ว่า “ขอร่วมด้วยคน” และ อ.กำพลก็เอามือไปบีบไข่ของไอ้โรม ผมเห็นแล้วรู้สึกสะใจจนลืมหนาวเลย ตอนนี้สีหน้าไอ้โรมเริ่มแย่ขึ้นเรื่อยๆ เพราะ อ.พละสองคนที่ชอบออกกำลังมือและข้อนิ้วเป็นที่สุดกำลังบีบหัวนมกับไข่ของเขาอยู่

ผมนึกว่าจะหมดแค่นั้น แต่ อ.แผนเดินมาเล่นด้วยโดยการทุบหลังของไอ้โรมไปสี่ทีซ้อน ผมสังเกตเห็นเป้าของไอ้โรมค่อยๆ ตุงมากขึ้นเรื่อยๆ ไอ้ต้นปล่อยมือออกจากหัวนมของมัน ทำให้ อ.กำพลปล่อยมือออกจากไข่ของมันด้วย ไอ้ต้นออกคำสั่งกับมันอีก “เอามือประสานไว้ที่ท้ายทอย ยืนกางขาออก”

ตอนนี้ไอ้โรมกลับทำตามคำสั่งอย่างดี ซึ่งน่าแปลกมาก หลังจากสั่งไอ้โรมเสร็จ ไอ้ต้นเดินไปหยิบสายยางของคนสวนที่กำลังรดน้ำต้นไม้อยู่ แล้วฉีดน้ำเย็นๆ ใส่หน้า หน้าอก และหน้าท้องของไอ้โรมในขณะที่อุณหภูมิของอากาศประมาณ 9 องศา ไอ้โรมเองก็ไม่หลบเลย เอาหน้ากับหน้าอกสู้น้ำตลอด ดูเหมือนว่าทุกคนกำลังเมามันส์จนลืมผมไปเลย

หลังจากไอ้ต้นเอาน้ำฉีดไปที่ไอ้โรมจนสาแก่ใจ มันจึงเรียกผมกับไอ้โรมไปที่โรงอาหาร ตอนนั้นพ่อค้าแม่ค้าตกใจมากกับภาพที่เห็น เพราะผมกับไอ้โรมไม่ได้ใส่เสื้อในขณะที่ทุกคนใส่เสื้อกันสามถึงสี่ชั้น

ไอ้ต้นสั่งให้ผมกับไอ้โรมนอนหงายบนโต๊ะที่โรงอาหารคนละตัว แล้วมันก็หายไปพักนึง พอกลับมามันก็เล่นงานไอ้โรมก่อนโดยการเทน้ำแข็งไปที่หน้าอกและหน้าท้องของ ไอ้โรม ต่อจากนั้นก็เทน้ำแข็งมาที่หน้าอกและหน้าท้องของผม และทิ้งให้เรานอนหนาวเหมือนอยู่ในนรกน้ำแข็งแบบนั้นสักแป๊ปนึง ก่อนจะเอาน้ำมาราดซ้ำ การโดนกระทำแบบนี้ถ้าผมกับไอ้โรมไม่แข็งแรงจริงๆ คงป่วยเป็ยปอดบวมตายกันไปแล้ว

ไอ้ต้นซาดิสมาก และมันก็แสดงความซาดิสออกมาตั้งแต่วันแรกโดยมี อ.กำพลกับ อ.แผนคอยให้ท้าย ไอ้ต้นปล่อยให้ผมกับไอ้โรมนอนอย่างนั้นอยู่พักนึง ก่อนจะไล่กลับไป ไอ้โรมไม่ได้อยู่ห้องเดียวกับผม ขณะเดินกลับห้อง มันก็ไม่ได้พูดอะไรกับผมสักคำ ผมเองก็หยิ่ง ไม่อยากทักมันก่อน

หลังจากวันนั้นมีอยู่วันหนึ่ง ผมคาดว่าไอ้ต้นคงจำผมได้และอาจแน่ใจว่าเล่นงานผม ผมไม่เอาไปฟ้องผู้ปกครองแน่นอน มันจึงหาเรื่องเล่นงานผมแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย วันนั้นผมถอดเสื้อเล่นบอลกับเพื่อน มันเดินมาที่สนามและสั่งให้นักเรียนมาตามผมให้ไปหามันที่โรงยิม ผมก็ไปในสภาพนั้นเลยคือยังไม่ได้ใส่เสื้อ พอไปถึงโรงยิม ผมก็วิ่งไปยืนข้างหน้ามัน

มันพูดกับผมว่า “เมื่อรู้ตัวรึเปล่าว่าผิดอะไร”

ผมตอบไปว่าไม่ทราบ

มันก็เลยพูดว่า “งั้นกูจะลงโทษมึงก่อนแล้วค่อยบอกว่ามึงผิดอะไร”

ผมก็นึกในใจว่าไอ้ห่านี่จะมาไม้ไหนกัน

ต่อจากนั้นมันก็สั่งผม “ตามระเบียบ พัก”

ผมทำตามที่มันสั่ง ผมเอามือไขว้หลัง ยืนกางขาออกพอประมาณ

หลังจากนั้นมันก็สั่งต่อว่า “เกร็งหน้าท้องของมึงไว้”

ผมก็เกร็ง แล้วมันก็ชกมาที่หน้าท้องผมทีหนึ่ง พอได้จังหวะก็ชกเข้ามาอีก แล้วก็ชกอีก มันเว้นจังหวะอย่างสม่ำเสมอ แล้วก็ชกหน้าท้องผมเรื่อยๆ ผมจุกมาก หน้าท้องผมเริ่มแดงก่ำ ควยขึ้นแข็งโด่ ผมได้แต่นึกในใจว่าไอ้เหี้ยนี่มันซาดิสจริงๆ ซาดิสไม่มีใครเหมือน หลังจากชกหน้าท้องของผมจนสาแก่ใจ นับรวมแล้วประมาณ 15 ที มันก็สั่งผมต่อ “ถอดกางเกงมึงออก”

ผมรีบทำตามที่มันบอกจนเหลือแค่กางเกงในตัวเดียว แล้วก็มาหยุดยืนในท่าเดิม มันเดินรอบๆ ตัวผม เพ่งมองร่างกายของผมเหมือนกับว่าจะกลืนกินผมไปทั้งตัว หลังจากนั้นก็มาหยุดยืนข้างหน้าผม มันเอามือฟาดหน้าอกผมตอนแรกมันฟาดเป็นจังหวะแบบไม่ถี่มากนัก เว้นช่วงห่างกันพอควรเพื่อเก็บเกี่ยวความสะใจให้เต็มร้อย หลังจากนั้นมันก็ฟาดหน้าอกผมถี่ขึ้นๆ จนเริ่มจะรัว พอรัวถึงขีดสุดมันจึงหยุด ผมตั้งตัวแทบไม่ติด เพราะสิ่งที่มันทำราวกับคนบ้า

หลังจากนั้นมันเดินไปข้างหลังผม พร้อมกับทุบหลังเป็นจังหวะ ทุบไปหลายทีเลยทีเดียว เสร็จแล้วสั่งให้ผมนอนหงาย แล้วมันนั่งขึ้นคร่อมตัวผม ผมตกใจมาก มันก้มลงมาใกล้หน้าผมแล้วก็ถุยน้ำลายใส่หน้าผม มันถุยไม่หยุด แล้วก้เอามือละเลงน้ำลายบนหน้าผม จนผมรู้สึกเหม็นไปหมด แล้วมันก็ถุยน้ำลายไปที่หน้าอกและหน้าท้องของผม มันค่อยๆ ถุยจนน้ำลายเต็มหน้าอกและหน้าท้องของผม แล้วมันก็ใช้มือของมันละเลงน้ำลายบนหน้าท้องและหน้าอกของผม มันค่อยๆ ละเลงไปจนทั่ว วนซ้ำบ่อยตรงหัวนมทั้งสองข้าง ตอนนั้นผมทั้งเหม็นและเสียวมากจนควยตั้งเด่ตุงกางเกงใน

หลังจากนั้นมันก็สั่งให้ผมยืนขึ้น แล้วคลานไปทั่วโรงยิมเหมือนหมาตัวหนึ่ง มันสั่งให้ผมคลานเร็วๆ ผมทำตามที่มันบอกโดยไม่บิดพลิ้ว ผมคลานจนเหนื่อย มันก็ยังไม่ยอมให้ผมหยุด

“คลานต่อไป” มันออกคำสั่ง ผมจึงคลานต่อไป แต่พอนานเข้าผมเริ่มไม่ไหวเหมือนกันผมจึงหยุด แล้วสิ่งที่ผมโดนก็คือมันเตะผมไปที่ข้างลำตัว เตะครั้งแรกผมยังตั้งหลักอยู่ แต่เตะครั้งต่อๆ มา ผมเริ่มไม่ไหวก็เลยกลิ้งไม่เป็นท่า นึกแต่ในใจว่าผมทำผิดอะไรมันจึงลงโทษผม แล้วมันก็สั่งให้ผมคลานเหมือนหมาอีก

พอผมเหนื่อยมากคลานแทบไม่ไหวมันก็พูดว่า “มึงคงหิวน้ำ งั้นพักกินน้ำก่อน”

มันเทน้ำลงตรงพื้นและบังคับให้ผมเลียจนหมด ระหว่างก้มลงเลียน้ำที่พื้น มันชอบเอาเท้ามาเหยียบหัวผมแล้วกดลงไป ดูมันสะใจมากกับการกระทำแบบนั้น หลังจากนั้นก็สั่งให้ผมลุกและสั่งให้ถอดกางเกงในออก แล้วสั่งให้ผมนอนหงาย ควยของผมแข็งโด่โตได้ที่ ไอ้ต้นมันไปหยิบไม้กอล์ฟมา พร้อมกับพูดว่า “ขอกูตีกอล์ฟหน่อยนะ”

แล้วมันก็เอาไม้กอล์ฟมาสัมผัสที่ไข่ของผม ก่อนจะตั้งวงสวิงแล้วหวดมาที่ไข่ของผม เคราะห์ดีที่ไอ้ต้นมันยังยั้งมือไว้ ไม่งั้นผมมีหวังไข่แตกแน่ๆ แต่ถึงยั้งก็รู้สึกเจ็บนะครับ ใครไม่เคยมักไม่รู้ หลังจากนั้นมันก็ใช้ไม้กอล์ฟหวดควยอีกต่างหาก มันหวดแม่นซะด้วย โชคดีที่ไม่แรงจนทำให้ควยอักเสบ แต่กระนั้นก็เถอะ ตอนนี้ผมเจ็บทั้งควยและไข่ เท่านั้นยังไม่พอ

หลังจากนั้นมันก็ใช้ไม้กอล์ฟหวดควยอีกต่างหาก มันหวดแม่นซะด้วย โชคดีที่ไม่แรงจนทำให้ควยอักเสบ แต่กระนั้นก็เถอะ ตอนนี้ผมเจ็บทั้งควยและไข่ เท่านั้นยังไม่พอไอ้ต้นยังนั่งลงตรงจุดสำคัญของผม และใช้มือฟันควยของผมอย่างแรง ควยกำลังโด่ ฟันแล้วคงมันส์สำหรับมัน แต่สำหรับผม จุกตรงลำควยมากๆ ครับ พอใช้มือตบไปที่ควยจนสาแก่ใจ ไอ้ต้นก็ใช้กำปั้นชกไปที่ไข่ ผมกลัวไข่ผมจะแตกมาก แต่มาถึงขั้นนี้แล้ว เจ็บแค่ไหนก็ต้องทน มันยังต่อยมาที่ไข่ของผม จนผมรู้สึกเจ็บปวดมาก มันจึงสลับมาใช้สันมือฟันควยอีก มันทำสลับกันแบบนี้ไปสักพัก จนถึงขั้นที่ผมต้องแหกปากร้องเพราะทนไม่ไหว

หลังจากนั้นไอ้ต้นก็หายไปพักนึง ปล่อยให้ผมนอนควยโด่อยู่ตรงนั้นคนเดียว แต่ไม่นานนักมันก็กลับมา และโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง มันเอากาวลาเท็กซ์ ขาวๆ เหนียวๆ ราดบนหน้าอกและหน้าท้องของผม แล้วก็ใช้มือของมันละเลงกาวไปทั่วหน้าอก ลำคอ หน้าท้อง จนผมเองรู้สึกเหนียวแบบหนืดๆ พอมันละเลงทุกอย่างจนทั่วแล้ว มันก็เอานมข้นหวานมาเทใส่ควยของผม ถึงจะไม่เจ็บ แต่ความหนืดของนมก็ทำให้ผมทรมานมาก ผมไม่ชอบเลยที่มีนมข้นมาเทตรงควยมากขนาดนั้น ผมเริ่มหนืดๆ ตรงหน้าอกและตรงลำควยด้วย จึงนอนร้องครางอยู่ตรงนั้น

ไอ้ต้นพูดกับผม “ครางหาพ่อหาแม่มึงเหรอไอ้สัตว์”

พอพูดจบก็เอานมข้นหวานราดมาที่หน้าของผม ราดมาที่ปากจนเข้าปากไปเยอะ หวานจับคอมาก แล้วมันก็ราดไปที่ผมของผม ตอนนั้นมันเอานมข้นราดไปที่หน้าประมาณ 2 กระป๋อง ตรงควยนี่น่าจะหมดไปสองกระป๋องเหมือนกัน ทำให้พื้นโรงยิมนองไปด้วยกาวและนมข้น

ไอ้ต้นมันตะโกนบอกผม “ความผิดของมึงวันนี้ก็คือการที่ทำให้โรงยิมเปรอะเปื้อนได้ขนาดนี้ไงวะ”

มันพูดเสร็จก็ทิ้งผมไว้ตรงนั้น ผมยังไม่กล้าลุกเพราะมันยังไม่ได้สั่ง ผมนอนตัวหนืดๆ จมกองกาวและกองนมข้นหวาน รู้สึกว่าตัวเหนียวมาก อยากอาบน้ำใจจะขาดแต่ยังทำไม่ได้ ผมถูกปล่อยให้นอนอยู่ตรงนั้นนานพอดู จนไอ้ต้นเดินมาแล้วสั่งผมลุก พร้อมกับบอกว่า “เดี๋ยวมึงใส่กางเกงในแค่ตัวเดียว และวิ่งตามกูมา กูจะไปลงโทษมึงต่อที่ข้างล่าง”

ผมนึกในใจว่าตอนนี้โรงเรียนคงเลิกแล้ว คนต้องเยอะแน่ๆ แล้วผมอยู่ในสภาพนี้ แล้วยังต้องลงไปข้างล่างอีก แต่ถึงกระนั้นผมก็ทำตาม ผมลุก ใส่กางเกงใน และก็วิ่งลงไปข้างล่าง ตกใจมากครับ เพราะ อ.กำพล เตรียมกระป๋องสีหลายกระป๋องไว้ที่สนามปูน แสดงว่า อ.กำพลกับไอ้ต้นต้องฮั้วกันแน่ๆ

ไอ้ต้นสั่งให้ผมยืนตรงมุมตึก ยืนตรงนั้นทำให้คนเห็นผมชัดขึ้น มีหลายคนหยุดยืนดูการลงโทษผม ซึ่งเป็นการลงโทษที่ไม่เป็นธรรมสักเท่าไหร่ แต่แน่นอนที่ผมก็ไม่ปฏิเสธ ไม่นานนักแกก็เอากระป๋องสีราดตัวผม เริ่มจากสีฟ้าก่อน แล้วก็แดง และเหลือง ตอนนั้นผมดูไม่จืดเลย เวลาราดแกก็ราดตั้งแต่หัวลงมา

ตอนนั้นผมโดนทั้งสี แถมยังมีกาว มีนมข้นฉาบอยู่ที่ตัวอีก มันบอกไม่ถูกเลยครับว่าผมรู้สึกยังไง หลังจากนั้น แถวๆ นั้นตรงสนามหญ้ามันมีโคลนอยู่หน่อย มันก็สั่งให้ผมไปคลุกโคลนอีก ก่อนจะสั่งให้วิ่งรอบสนามบาสสัก 10 รอบ ตอนนั้นคนดูเยอะมากๆ หลายคนอยากดูผมโดนลงโทษมากกว่าที่จะกลับบ้าน บ่ายๆ เลยมาถึงตอนเย็นวันนั้นผมโดนเข้าไปหลายขนานอยู่ จนผมรู้สึกแย่ รู้สึกคันตามเนื้อตัว แค่นั้นยังไม่พอ

พอผมวิ่งเสร็จแล้ว ไอ้ต้นพาผมไปด้านหลังโรงอาหาร แถวนั้นปลอดคน มันสั่งให้ผมนอนหงาย แล้วมันก็ไปหยิบถังเศษอาหารที่เหม็นเน่ามากๆ มาราดตัวผมทั้งตัว ราดไปที่หน้าที่ผมของผม จนผมต้องอาเจียนเพราะทนต่อความเหม็นเน่าของเศษอาหารไม่ได้ ผมนอนอาเจียนอยู่ที่พื้น ยังไม่ได้ลุกไปไหน ขณะอาเจียนมันเอาแกงเขียวหวานที่เหลือของวันนั้นราดไปที่หน้ากับหน้าอกของผม แต่ตรงควยกลับเจอต้มยำ ผมร้องครางเพราะพริกทำให้ควยแสบมาก ผมอยากให้มันหยุดซะที เพราะผมรู้สึกทรมานมาก อยากให้ตัวเองพ้นไปจากสภาพนี้เร็วๆ

พวกพ่อค้าแม่ค้ามายืนดูผมกันแน่น บางคนพูดว่า “ไอ้ห่านี่ทำผิดอะไรวะ ถึงได้โดนอาจารย์ทำโทษถึงขนาดนี้”

มีอีกเสียงหนึ่งตอบให้ว่า “ถ้าเป็นไอ้ล่ำนี่ไม่ต้องห่วงหรอก คงเป็นเด็กเลวดีๆ นี่เอง เห็นโดนลงโทษบ่อยมาก นี่แค่อยู่ ม.4 เองนะ”

ทำให้อีกคนพูดว่า “สมน้ำหน้า”

พอแม่งเอาอะไรต่อมิอะไรราดผม แม่งก็สั่งให้คลานเหมือนหมาอีก คลานไปรอบๆ โรงอาหาร จนผมเริ่มรู้สึกล้า เพราะโดนลงโทษมานานแล้ว ผมแสดงความล้าให้มันเห็น แต่ไอ้ต้นพูดว่า “คลานไปเร็วๆ กูยังไม่เหนื่อยเลย” ผมคลานจนหมดแรง ได้ยินเสียงคนเดินมาเป็นกลุ่ม ผมเงยหน้าดูก็รู้ว่าเป็นพวกไอ้สมิงนั่นเอง

ไอ้สมิงพูดว่า “สิ่งที่อาจารย์ให้ผมไปซื้อ ผมซื้อมาแล้วครับ”

ไอ้ต้นหัวเราะ “ดีมาก”

สิ่งที่ไอ้ต้นให้ไอ้สมิงไปซื้อก็คือไข่เน่าที่ตลาด มันซื้อมาเยอะมาก พวกมันยืนล้อมผมเป็นวงใหญ่

ไอ้ต้นออกคำสั่ง “ลุกได้แล้วไอ้ลูกหมา”

ผมลุกขึ้นยืน หันหน้าไปทางไอ้ต้น เห็นหน้ามันเต็มๆ อีกครั้ง ไอ้ต้นหล่อมาก หน้าคม ขาว หนาพองาม กล้ามเป็นกล้ามแต่ไม่ใหญ่จนน่ากลัว แต่สายตาของมันโหดร้ายมาก

“เอามือประสานไว้เหนือหัว” มันออกคำสั่งผม

ผมทำตามที่มันสั่ง หลังจากนั้นทั้งกลุ่มช่วยกันเอาไข่ปามาที่ผม ผมทั้งเจ็บทั้งเหม็น แต่ร่างกายผมทนได้ รู้สึกว่าคนที่จะปาแรงที่สุดคือไอ้ต้น มันคงสะใจมาก มันจึงปาพร้อมกับตะโกนไปด้วย “ไอ้สัตว์ กูชอบนักเรียนล่ำๆ อย่างมึงมาก ล่ำๆ หล่อๆ มันต้องเจอแบบนี้ กูหามานานแล้ว อยากซัดนักเรียนอย่างมึงให้หมอบเลย กูชอบมาก สะใจกูมากไอ้สัตว์”

เมื่อมันพูดออกมา ผมจึงเข้าใจว่า มันอยากจะทำอะไรแบบนี้กับนักเรียนอย่างผมมานานแล้ว พอเข้ามาที่นี่ อ.กำพลคงไฟเขียว และบอกมันว่าทำกับผมนี่สะใจที่สุด เพราะผมเองก็ชอบ โดนมาเยอะ รับรองว่าไม่เกิดเรื่องแน่นอน ไอ้ต้นมันจึงทำด้วยความสะใจ มันจึงอยากปลดปล่อย ทำอะไรได้แม่งทำหมด แต่ก็ยังมีข้อจำกัดว่าอยู่ในโรงเรียน ถ้ามันเอาผมออกนอกโรงเรียนได้มันคงทำมากกว่านี้

ผมสังเกตควยของมัน น่าจะกำลังแข็งตุงกางเกง คืนนี้มันคงชักว่าวอย่างเมามันส์ รู้สึกคึกที่ได้มีโอกาสกระทำกับนักเรียนสักคนได้มากถึงขนาดนี้ และแน่นอน คืนนี้ผมก็คงชักว่าวอย่างเมามันส์เช่นกัน สะใจที่มีครูพละจอมโหดแต่หน้าหล่อสักคน มาทำกับเราเหมือนหมา เหมือนกับเราไม่ใช่คน ผมสะใจมาก ชอบมาก ถึงแม้เนื้อตัวจะเละเทะไปหน่อย บอบช้ำไปหน่อย แต่ชอบครับ ชอบมากๆ ผมยังเก็บความสะใจไว้จนถึงบัดนี้ พอโตขึ้น ก็หาประสบการณ์ดีๆ แบบนี้ไม่ได้อีกแล้ว หาไม่ได้เลยจริงๆ

หลังจากนั้นไอ้ต้นไม่ค่อยยุ่งกับผม ผมคาดเองว่ามันคงรอให้ร่างกายผมฟื้น จะได้หาอะไรมาลงโทษผมอีกเป็นการปิดท้ายก่อนที่จะปิดเทอม ช่วงนั้นผมเดาว่าเป้าหมายของมันต้องไปที่ไอ้โรม นักเรียนรูปหล่อหุ่นดีที่ใครๆ ก็อยากทรมานมัน ยิ่งท่าทางของไอ้โรมดูเป็นขบถมากกว่าผม และที่สำคัญวันแรกไอ้โรมกับไอ้ต้นก็รู้จักกันในแบบของมันไปแล้ว

อีกอย่างข่าวลือหนาหูที่แทบไม่น่าเชื่อก็คือ พ่อของไอ้โรมกับ อ.แผนเป็นเพื่อนรักกัน และที่ไม่น่าเชื่อกว่านั้นก็คือทั้งสองชอบลงโทษลูกชายของตนแบบรุนแรง ลูกของอ.แผนนั้น เมียของแกมารับไปอยู่ด้วยเพราะคิดว่าอยู่กับพ่อคงจะไม่ได้ดี แต่ไอ้โรมนั้นแม่มันเสียแต่เด็ก มันจึงอยู่ภายใต้อุ้งมืออุ้งตีนของพ่อมัน และการที่พ่อของมันอยากให้มันมาเรียนที่นี่ก็เพราะอยากให้มันเจอประสบการณ์ ดีๆ จากครูพละและอาจารย์ฝ่ายปกครองที่นี่ และที่ผมได้ยินมาอีกก็คือ พ่อของไอ้โรมเป็นคนจัดการให้ไอ้ต้นมาสอนที่นี่ ลึกๆ แล้วพ่อของไอ้โรมคงจะสังเกตลูกชายตัวเองออกว่า ลึกๆ แล้วมันก็ชอบ เพราะท่าทางไอ้โรมมันกวนตีนตลอดเวลา จนทำให้คนอยากลงโทษมันให้สาแก่ใจ

และอย่างที่ผมคิดไว้ไม่มีผิด เพื่อนๆ มาชวนผมให้ไปดูไอ้ต้นลงโทษไอ้โรมเนื่องจากไม่ได้ใส่ชุดพละมาเรียน พอรู้ผมรีบวิ่งไปอย่างเร็วจนมาเห็นเหตุการณ์ตรงสนามบาส มีนักเรียนมุงดูกันเต็ม และเต็มทุกชั้นตั้งแต่ชั้น 1-6

สภาพที่ผมเห็นตอนนั้นคือไอ้โรมอยู่ในสภาพนุ่งกางเกงในตัวเดียว นอนหงาย เอามือประสานไว้ที่ท้ายทอย เผยให้เห็นขนรักแร้ที่ดกดำ ตัวมันขาว ล่ำ เวลานอนหงายทำให้หน้าอกมันนูนขึ้นมา แต่หน้าท้องแบนราบ วันนี้มันดันใส่กางเกงในสีขาวบางๆ อีก ทำให้ทุกคนมองเห็นควยที่กำลังตุงอยู่อย่างชัดเจน พวกไอ้สมิงก็อยู่ตรงนั้นด้วย พวกนี้แม่งไม่พลาดอะไรแบบนี้เลย มันต้องฮั้วกับไอ้ต้นแน่ๆ

ตอนที่ผมวิ่งมาเห็นไอ้ต้นกำลังใช้เท้าที่ใส่รองเท้าผ้าใบอย่างหนากระทืบไปที่หน้าท้องของไอ้โรม ต่อจากนั้นไอ้ต้นตัดสินใจขึ้นไปยืนบนหน้าท้องของไอ้โรมหันหน้าไปสบตากับมัน หลังจากยืนตรงหน้าท้องแล้ว ไอ้ต้นก้าวเท้าซ้ายไปเหยียบที่หน้าอกด้านขวาของไอ้โรมที่กล้ามอกนูนได้รูป และสวยมาก สักพักจึงก้าวเท้าขวาไปที่หน้าอกด้านซ้ายของไอ้โรม ทำให้ตอนนี้ไอ้ต้นยืนอยู่บนยอดอกของไอ้โรม มันซอยเท้าไปมาจนไอ้โรมเริ่มเจ็บและจุก มีหลายคนที่อยู่ชั้นสองและสามเริ่มตะโกนว่า เหมือนดูหนังจีนเรื่องแผงอกกระอัก หรือเรื่องทะลุกลางอกเลย ตอนนั้นหนังของหลิวเต๋อหัวดังมากๆ ไอ้ต้นก้าวขึ้นไปยืนที่หน้าของไอ้โรมโดยมีพวกไอ้สมิงช่วยจับแขนให้ทำให้ทรงตัวอยู่ได้

“หน้าหล่อๆ อย่างมึงต้องเจอแบบนี้” ไอ้ต้นตะโกนอย่างสะใจ

หลังจากนั้นมันจึงลงไปยืนที่หน้าอกและหน้าท้องเหมือนเดิม ไอ้ต้นเอาเท้าข้างหนึ่งไปเหยียบตรงควยที่กำลังแข็งเกร็งของไอ้โรม มีเสียงออกมาจากปากของไอ้โรมเป็นเสียงแสดงความเจ็บควยของมัน ตอนนี้ไอ้ต้นเดินไปข้างล่างตรงพื้น และเดินไปตรงควยของไอ้โรม มันเอาเท้าขวาเหยียบไปที่ควยไอ้โรม พร้อมกับเลื่อนเท้าไปมา สภาพดูเหมือนไอ้ต้นกำลังชักว่าวให้ไอ้โรมโดยใช้รองเท้า หลังจากนั้นก็กระทืบไปที่ควยหนึ่งที ตามด้วยเตะไปที่ไข่อีก 1 ที ไอ้ต้นกำลังจะหันหลังกลับ แต่สังเกตเห็นว่า หลังจากเตะไปที่ไข่ทีนึงแล้ว ไอ้โรมกางขาของตัวเองออกไปอีก ทำให้ไอ้ต้นโมโหหนัก หันมาเตะไข่ไอ้โรมไปอีกหลายที

“มึงท้าทายกูเหรอไอ้สัตว์”

ผมกลัวไข่ไอ้โรมจะแตก แต่คิดได้ว่า ไข่ของมันคงทนน่าดู เพราะคงฝ่าดงตีนของพ่อมันและทหารรับใช้ของพ่อมันมาอย่างโชกโชน เล่าแบบนี้แล้วเกือบรอไม่ไหวเลยครับ อยากเล่าตอนที่ผมกับไอ้โรมต้องฝ่าด่านทมิฬของพ่อมันกับทหารรับใช้ ตอนนั้นผมกับไอ้โรมซี้กันมาก หลายคนคงสงสัยว่าเราซี้กันได้ยังไง เรื่องมีอยู่ว่า

วันหนึ่ง อ.กำพลสั่งให้ผมไปหาที่ห้องซ้อมมวยของหมวดพละ ผมงงมากว่าแกสั่งให้ผมไปหาทำไม แต่พอเดินไปด้านในผมตกใจมาก เพราะเห็นไอ้ต้นกำลังซ้อมมวยอยู่ เพียงแต่ว่ากระสอบทรายของมันคือไอ้โรมที่อยู่ในสภาพนุ่งกางเกงในตัวเดียว ถูกจับมัดห้อยเท้าลอยเหนือพื้นอยู่ ไอ้ต้นบอกผมว่ารอเดี๋ยว เดี๋ยว อ.กำพลก็มา

ผมไม่แน่ใจว่า ไอ้โรมถูกซ้อมด้วยนวมแบบนี้มานานเท่าไหร่แล้ว และมันทนได้ยังไง แต่ที่แน่ๆ พอมันถูกแขวนไว้แบบนี้ ดูมันแมนมากๆ หุ่นหนาได้ใจ หน้าท้องมีซิกแพ็กที่สวยมาก พ่อของมันขัดเกลามันมาดีมาก ผมรอจนไอ้ต้นเลิกซ้อมและเดินหายเข้าไปด้านใน ผมทนไม่ไหว เดินมายืนตรงหน้าไอ้โรม ผมมองดูหน้าอกและหน้าท้องของมัน ได้เห็นหน้าหล่อๆ อย่างถนัดตา คิ้วกับตามันคมมาก บาดใจสาวๆ หรือหนุ่มๆ ได้ไม่ยาก เนื้อตัวมันมีเหงื่อมันแผล๊บ ขัดกับผิวขาวๆ ของมันทำให้ผิวของมันมันเป็นประกาย มีหลายที่ๆ แดง แต่ตรงหน้าท้องนั้นแดงก่ำ ผมทนไม่ไหวเอามือไปลูบที่หน้าท้องของมัน หน้าท้องมันแข็งมาก แข็งกว่าผมเสียอีก ผมสบตามัน เห็นมันไม่ว่าอะไรผม ผมเลยใช้มือทั้งสองข้าง สัมผัสอกแกร่งของมัน ผมลูบไล้หน้าอกมัน ลูบไล้หัวนม จับ คลึง บีบเบาๆ มันไม่ว่าอะไรผม ได้แต่หายใจถี่ขึ้น

วันนี้มันใส่กางเกงในสีขาว บางๆ มาอีกแล้ว ทำให้รู้ได้ว่าควยมันแข็งเป็นลำ ไม่ผิดกับควยของผมในตอนนี้ ขณะที่ผมลูบไล้หน้าอกของมัน พร้อมกับมองดูควยของมันไปด้วย อ.กำพลกับไอ้ต้นก็เข้าห้องมาอย่างเร็วมาก ไอ้ต้นเข้ามาจิกผมของผมและล็อคแขนผมไว้ แล้วดันผมไปที่มุมห้องอีกมุมหนึ่ง สั่งแกมบังคับว่า “ถอดเสื้อผ้าของมึงออกให้หมด”

ผมรีบทำตามแต่โดยดี ในขณะที่ อ.กำพลเอากรรไกรไปตัดกางเกงในไอ้โรมออกจนปลดปล่อยควยขนาดมหึมาของมันออกมา ตอนนั้นไอ้ต้นเอาเชือกมามัดมือไพล่หลังของผมขณะที่ผมอยู่ในสภาพเปลือยเปล่า และควยโด่ไม่แพ้ไอ้โรม ไอ้ต้นจิกผมของผมอีกครั้ง บังคับให้ผมมานั่งคุกเข่าข้างหน้าไอ้โรม ตอนนี้ อ.กำพลเดินไปด้านหลังไอ้โรม และเอาแส้หนังหวดหลังของมัน ส่วนผมเจอแส้หนังของไอ้ต้นฟาดมาที่หลังเช่นกัน มันฟาดผมพร้อมกับตะโกนว่า “อมควยของมัน”

ผมตกใจกับคำพูดนั้นมาก เพราะไม่คิดจะทำอย่างนั้นตั้งแต่ต้น ผมเพียงแค่หลงใหลในร่างกายของมันเท่านั้น แต่ไอ้ต้นยังกระตุ้นผมโดยการเอาแส้หนังฟาดไปอีกทีหนึ่ง “เลียหัวควยมันสิ ไม่งั้นมึงหลังลายแน่”

ผมทำอะไรไม่ถูก ตอนนี้ควยขนาดเขื่องของไอ้โรมอยู่ตรงหน้าผม ขนาดของมันน่าจะเจ็ดแปดนิ้วได้มั้ง หัวบานเต็มที่ ผมค่อยๆ ใช้ลิ้นแตะไปที่หัวควย เห็นมันสะดุ้งนิดหน่อย ผมค่อยๆ ใช้ลิ้นวนรอบๆ ก่อนจะอมเข้าไปทั้งดุ้น ควยของมันคับปากผมเลย ตอนนั้น อ.กำพลก็เอาแส้ฟาดหลังไอ้โรมอย่างสะใจ ส่วนไอ้ต้นก็เอาแส้ฟาดหลังผมด้วยเช่นกัน ตอนนั้นมีเสียงร้องออกมาจากปากของไอ้โรม ผมไม่รู้ว่ามันร้องเพราะมันเจ็บหรือมันเสียวกันแน่ แต่เสียงร้องนั้นแมนมากๆ เสียงของมันกระตุ้นผมให้อมดูดควยของมัน ผมค้นพบการทำให้มันมันส์ขึ้น ผมเอาปากเข้าไปเต็มที่จนหัวควยของมันมากระแทกที่คอหอยผม แล้วผมก็ใช้กล้ามเนื้อแถวนั้นบีบรัดจนไอ้โรมต้องร้องเสียงสะเด่าไปเลย

ขณะดูดดุนผมเองยังคงถูกแส้ของไอ้ต้นฟาดกลางหลังเป็นจังหวะ แต่ไอ้โรมนั้น อ.กำพลหยุดฟาดหลังของมันแล้ว แกเปลี่ยนเป็นใช้มือลูบไล้หัวนมแทน ทั้งรูป คลึงและบีบเบาๆ ตอนนั้นมีบางครั้งที่ผมเงยหน้าขึ้นมองไอ้โรม และมันก็ก้มลงมามองผม เราสองคนสบตากัน สายตาของไอ้โรมแปลกมาก ผมไม่เคยเห็นสายตาแบบนี้มาก่อน จะว่าแข็งกร้าวก็ไม่ใช่ อ่อนไหวก็ไม่เชิง

พอถึงจุดๆ หนึ่ง ไอ้ต้นดึงผมของผม ทำให้ปากของผมพ้นจากควยของไอ้โรม ส่วน อ.กำพล เอามือชักว่าวให้ไอ้โรมที่กำลังจะแตกแล้ว ไอ้ต้นจับผมเงยหน้าผมเดาว่ามันอย่างให้ไอ้โรมแตกใส่หน้าผม และเรื่องที่ผมคิดก็ไม่ผิด ไอ้โรมแตกใส่หน้าผม น้ำของมันหลั่งออกมาเยอะมาก สมกับเป็นของเด็กหนุ่มที่หัวนมกำลังแตกพาน ไอ้ต้นเอามือละเลงน้ำของไอ้โรมจนทั่วหน้าผม พร้อมกับถุยน้ำลายใส่หน้าผมอีกทีหนึ่ง

นอกจากการทารุณกรรมของสองอาจารย์จากหมวดพละที่ขึ้นชื่อลือชาที่สุดแล้ว ไอ้โรมยังโดนกลุ่มไอ้สมิงดักรอทำร้ายด้วย มันเป็นวันที่ไอ้โรมกลับดึกเพราะเล่นกีฬาที่โรงเรียน มันจึงไปอาบน้ำในโรงยิม และมันก็เสือกแก้ผ้าหมดด้วย ขณะกำลังฟอกสบู่อยู่ พวกไอ้สมิงก็จัดการจับมันนอนบนพื้น พวกมันเอาสายฝักบัวมาสามสายที่พอจะดึงมาได้ มันเปิดน้ำแรงมากๆ สายหนึ่งแล้วเอาฝักบัวสายนั้นฉีดลงไปที่หน้าท้องของไอ้โรม ส่วนฝักบัวอีกสองสายเปิดน้ำปานกลาง สายหนึ่งฉีดไปที่หน้า ส่วนอีกสายฉีดไปที่หัวควย ไอ้โรมรู้สึกทรมานมาก แต่ไอ้สมิงกลับชอบมันมาก ผมว่าไอ้สมิงคิดตรงกับไอ้ต้นว่าคนอย่างผมกับไอ้โรมเกิดมาเพื่อถูกพวกมัน ทรมานเท่านั้น

วันนั้นควยของไอ้โรมถูกน้ำฝักบัวฉีดจนแสบไปหมด พอฉีดน้ำจนหนำใจ ไอ้โรมก็ถูกพวกไอ้สมิงรุมกระทืบคาห้องน้ำต่อ ข้อสังเกตอีกอย่างคือช่วงห่างของการกระทำของไอ้ต้นกับไอ้สมิงนั้น ห่างกันพอที่จะให้ร่างกายของไอ้โรมฟื้นตัวก่อน

ช่วงปลายๆ ม.4 จึงเกิดการแบ่งขั้วกันชัดเจนที่สุด คือฝ่ายผู้กระทำ นำหน้ามาเลยคือ อ.พละหนุ่มสุดหล่อ ไอ้ต้น โดยมี อ.แผนกับ อ.กำพลมาร่วมแจม และมีไอ้สมิงมาร่วมสมทบ ส่วนฝ่ายผู้ถูกกระทำมีผมกับไอ้โรมสองคนเท่านั้นที่โดดเด่นมากๆ พอการแบ่งขั้วชัดเจนและไม่มีการปิดบังซ่อนเร้นกันอีกแล้ว

หลังจากคืนที่ไอ้โรมถูกน้ำฝักบัวจ่อควย สงครามแบบย่อยๆ ก็เริ่มดำเนินไปโดยมีการใช้สงครามแบบจิตวิทยาก่อน มีช่วงเกือบจะปลายเทอมที่ไม่รู้ว่า อ.แผนไปกินรังแตนที่ไหนมา วันนั้นนักเรียนทุกคนก็เข้าแถวตามปกติ แต่คนที่ไม่ปกติคือ อ.แผน อ.ฝ่ายปกครองของเรานี่เอง

ขณะพูดออกไมค์อยู่หน้าเสาธง แกดันเดินลงมาตรวจแถวเอง ตอนนั้นยังมีเด็กนักเรียนบางคนพูดคุยอยู่แต่พอแกเอามือฟาดไปที่หน้าอกของนัก เรียนคนหนึ่งอย่างแรง เสียงนักเรียนทั้งหมดก็เงียบราวกับป่าช้า มีแต่เสียงรองเท้าของ อ.แผนที่ดังเป็นระยะสลับกับเสียงฟาดหน้าอกนักเรียนหนุ่มหุ่นล่ำบึ้กทั้งหลาย และเป็นดังที่คาดไว้แต่แรก สองคนที่ถูกดึงตัวไปให้ไอ้ต้นก็คือผมกับไอ้โรม

ไอ้ต้นทักทายเราสองคนเป็นอย่างดี “พวกมึงอีกแล้ว สัตว์ล่ำๆ อย่างพวกมึงนี่กูชอบนัก”

สิ่งแรกที่โดนในวันนั้น ถึงแม้จะไม่เจ็บ แต่โคตรอายเลย ไอ้ต้นจับเราสองคนถอดเสื้อและพาเดินไปตรงป้ายรถเมล์ใกล้ๆ โรงเรียน พอรถเมล์มาจอดซึ่งตอนเช้าคนแน่นมาก มันก็สั่งให้เราตะโกนว่า “พวกผมจะไม่ยืนแตกแถวอีกแล้วครับ”

ผมกับไอ้โรมอายมาก แต่ดูไอ้ต้นสะใจมากกับสิ่งที่มันทำลงไป ลืมบอกไปว่าโรงเรียนแห่งนี้มี อ.ผู้หญิงไม่มาก และเธอเหล่านั้นก็ไม่มีสิทธิ์จะมายุ่งอะไรกับการลงโทษนักเรียนชาย สิทธิ์ขาดจึงอยู่ที่ อ.ฝ่ายปกครองและ อ.พละเพียงแค่นั้น ด่านแรกผมกับไอ้โรมเจอแบบนั้น แต่มันเป็นเพียงด่านแรกของวันนี้เท่านั้น

ไอ้ต้นพูดกับพวกผมตรงๆ ว่า “กูต้องไปสัมมนาสองอาทิตย์คงคิดถึงพวกมึงมาก วันนี้เลยอยากจะสั่งลาสักหน่อย”

ว่าแล้วก็จับพวกเรามาที่สนามบาสเช่นเคย ด่านสองก็ยังไม่มีอะไรมาก พวกเรายังแค่ถอดเสื้อ มันยังไม่สั่งให้เราถอดกางเกง มันให้ผมกับไอ้โรมนอนหงาย แล้วให้ผมพลิกตัวกลิ้งทับไปบนตัวไอ้โรมแล้วกลับมานอนหงายอีกครั้ง ไอ้โรมก็กลิ้งทับมาบนตัวผม เรากลิ้งทับกันแบบนี้หลายรอบมาก บางครั้งอกแนบอก บางครั้งหลังแนบอก ถึงดูจะเป็นการลงโทษ แต่เหมือนเป็นการทำให้ผมกับไอ้โรมมีความสัมพันธ์กันมากขึ้น ตอนนั้นเนื้อตัวของเรามอมแมมไปหมด

ด่านสามคือการสั่งให้เราวิ่งแข่งกัน ถ้าใครแพ้จะต้องโดนลงโทษอย่างสาสม ผมกับไอ้โรมก็ตั้งใจวิ่งมากๆ ไม่มีใครยอมใครเลย เพราะเราเองต่างรู้สึกว่าถ้าเราชนะ อีกฝ่ายจะต้องถูกทำโทษเพราะเรา ผมเองสะใจลึกๆ ว่าเป็นอย่างนั้นก็ดีเหมือนกัน ครั้งแรกไอ้โรมแพ้ สิ่งที่มันโดนคือการให้ทำสะพานโค้งค้างไว้ ทั้งผมและไอ้ต้นเพ่งมองท่าสะพานโค้งของไอ้โรมเพราะดูดีมาก กล้ามท้อง กล้ามอกมันเกร็งอย่างได้รูป ขนรักแร้มันดกดำมาก ผมไม่เคยเห็นใครขนรักแร้ดกเท่านี้มาก่อนเลย ไอ้ต้นฟาดหน้าอกและหน้าท้องของมันไปสองสามทีขณะที่ถูกสั่งให้ทำสะพานโค้ง การวิ่งแข่งแบบนั้นมีครั้งเดียว

ด่านสี่ผมกับไอ้โรมเจอให้ตามไอ้ต้นไปที่ห้องด้านหลังหมวดพละ พอพวกเราทุกคนเข้าไปในห้อง ไอ้ต้นล็อคกุญแจ แล้วสั่งให้เราสองคนถอดกางเกงออกหมด กางเกงในก็ไม่ให้เหลือ มันสั่งให้เราสองคนวิดพื้นใกล้ๆ กันและมันก็ขึ้นไปนอนบนหลังเรา

“กูขอนอนพักก่อน พวกมึงวิดพื้นไปเรื่อยๆ”

การวิดพื้นในขณะที่เปลือยเปล่านี้ก็ทรมานเหมือนกันนะ เพราะผมกับไอ้โรมควยโด่แล้ว เวลาเอาตัวลงไปควยจะแตะกับพื้น เล่นเอาเสียวเหมือนกัน

และก็มาถึงด่านห้า ไอ้ต้นให้เราสองคนนั่งเอาเท้าชนกัน แล้วมันก็ไปหยิบที่หนีบกระดาษสีดำมาสองคู่ ทั้งสองคู่เหมือนกันคือเป็นที่หนีบกระดาษสีดำ สองตัวที่ถูกร้อยโดยยางยืด พอเอาตัวหนึ่งไปหนีบหัวนมของไอ้โรม แล้วไอ้ต้นดึงยางยืดเพื่อมาหนีบหัวนมของผม พอปล่อยมือ ไอ้ยางยืดมันก็มีแต่จะเด้งกลับทำให้เจ็บปวดหัวนมแบบทรมานมาก มันทำแบบเดียวกันกับหัวนมอีกข้างหนึ่ง ต่อมามันเอายางยืดมาผูกไข่ของเราสองคน แม่งรัดจนไข่บวมเป่ง แล้วสั่งให้เราสองคน sit-up ครับ

แม่งเป็นการ sit-up ที่โคตรทรมานเลย ตอนนอนลงไป ไอ้ยางยืดที่รัดหัวนมกับไข่ก็ถูกยืดออกซะจนเจ็บไปตามๆ กัน พอดึงตัวขึ้นว่าจะไม่เจ็บแล้วแต่ก็ยังเจ็บอีก สรุปว่าการ sit-up ครั้งนั้นโหดเหลือเชื่อเลยครับ ไม่น่าเป็นไปได้เลยว่าการทำอะไรแบบนั้นจะทรมานให้เจ็บและเสียวได้ถึงเพียง นี้

มาถึงด่านหก เป็นการชักเย่อ ไอ้ต้นแก้ยางยืดตรงไข่ก่อนเหลือที่หนีบตรงหัวนมไว้ มันเอาไม้บรรทัดมาวางตรงกลาง แล้วสั่งให้เราเอามือไพล่หลัง มันบอกว่าให้ใช้หัวนมดึงชักเย่อกัน ดูสิว่าใครแพ้ใครชนะ พวกเราทำตามที่มันสั่ง แต่การชักเย่อแบบนั้นมันทำให้เจ็บหัวนมมาก แต่ผมกับไอ้โรมก็ไม่มีใครยอมใคร แต่พอเอาเข้าจริงๆ ผมกลัวหัวนมผมจะถูกดึงจนพังไปซะก่อน ผมเลยเป็นฝ่ายแพ้ไปตามระเบียบ ส่วนไอ้โรมนั้นมันแน่กว่า ดูมันไม่กลัวเลยว่าหัวนมของมันจะเป็นยังไง ขอให้เจ็บเป็นพอ อย่างอื่นมันแทบจะไม่สนใจ

หลังจากชักเย่อหัวนมกันเสร็จแล้ว พวกเราก็ต้องมาชักเย่อไข่ต่อ โดยไอ้ต้นปลดพันธนาการที่หัวนมของเรา และมันเอายางยืดมารัดไข่แทน และให้เราออกแรงชักเย่อแบบเอามือไพล่หลัง งานนี้สงสัยไอ้ต้นจะได้อาหารตาไปเต็มๆ เพราะการชักเย่อไข่แบบนี้เราสองคนตื่นเต้นมาก จึงทำให้ควยแข็งโด่ในแบบที่แข็งมาก ดึงไข่กันไปมาควยก็เด้งไปมา สร้างความสะใจให้ไอ้ต้นเป็นอย่างมาก มันดูผมสองคนชักเย่อไข่แล้วมันก็หัวเราะชอบใจ ผมไม่ค่อยเห็นมันยิ้มสักเท่าไหร่ แต่พอเห็นแล้วสรุปได้เลยว่าไอ้ต้นนี่หล่อบาดใจผมมากๆ มีหลายครั้งที่ผมเกลียดมัน แต่หลายครั้งที่ผมเองก็อยากหาโอกาสมีอะไรกับมัน สาเหตุนี้ที่ทำให้ผมเรียกมันว่าไอ้ต้น และไม่เคยเรียกมันว่าอาจารย์เลย มันเองเพิ่งจบ แก่กว่าผมก็ไม่กี่ปี ความหนุ่มก็สูสี พอฟัดพอเหวี่ยง แล้วจะเรียกมันว่าอาจารย์ไปทำไม ผมคิดว่าถ้าเรียกมันว่าอาจารย์ผมก็ไม่กล้าคิดอะไรเลยเถิดกับมัน ซึ่งอาจจะเป็นการตัดโอกาสตัวเองก็เป็นได้

แล้วก็มาถึงด่านเจ็ดเข้าจนได้ สงสัยไอ้ต้นจะไม่อยากให้เราสองคนเรียนชั่วโมงเช้าเลยมั้ง ถึงได้เล่นลงโทษแบบมาราธอนขนาดนี้ ด่านเจ็ดดูเหมือนไม่มีอะไรมาก ก็แค่ฟันดาบกัน แต่เราไม่มีดาบเลยใช้ควยฟันกันแทน การฟันควยก็เริ่มจากอะไรง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก พอดีควยของผมกับไอ้โรมมีขนาดใหญ่อยู่แล้ว พอแข็งตัวเต็มที่ก็สามารถจะเอามาฟาดฟันกันได้ โดยผมทั้งสองคนต้องเอามือไพล่หลังไว้ตลอด และต้องหาแรงเหวี่ยงกันเอง เพิ่งรู้ว่าการเอาควยฟันกันนี่มันส์มาก เราสองคนต่างไม่ยอมแพ้

ไอ้ต้นทำหน้าที่เป็นกรรมการห้ามควย พอเห็นควยของเรานัวเนียกัน มันก็ห้ามควย แล้วจับควยเราออกห่างกันนิดนึง ก่อนจะให้เข้าฟันกันอีก ก่อนจะเข้าฟันกัน ผมกับไอ้โรมต่างผงกหัวควยข่มขวัญคู่ต่อสู้ แล้วก็เดินเข้าไป พร้อมกับเหวี่ยงควยฟันกัน พวกเราเล่นกันแบบเอาเป็นเอาตายเพราะทั้งเจ็บทั้งมัน ไอ้ต้นก็พลอยสนุกไปกับพวกเราด้วย ดูมันผ่อนคลาย ไม่ทำหน้าดุและโหดเหมือนที่มันเคยทำใส่พวกเรากันเป็นประจำ

พอฟันควยกันเสร็จ ด่านแปด มันให้พวกเราพักแบบว่า ยืนหันหน้าเข้าหากัน ควยยังโด่อยู่ทั้งคู่ มันจับควยเราขนานกันแล้วเอากระดาษกาวมารัดติดกันไว้แบบแน่นมาก ทั้งผมกับไอ้โรมตกใจมาก เพราะเราต่างรู้กันว่าเวลาแกะออกมันเจ็บแค่ไหน การที่ต้องยืนหันหน้าเข้าหากันในสภาพเปลือยเปล่า และมีควยถูกมัดติดกันอยู่ มันทำให้ผมกับไอ้โรมเริ่มรู้สึกแปลกๆ ต่อกันมากขึ้น แต่เราสองคนต่างไม่แสดงออกกันมาก ลืมบอกไปว่านอกจากถูกมัดควยติดกันแล้ว ยังถูกบังคับให้เอามือไพล่หลังและเอาเชือกมัดไว้ ไอ้ต้นทิ้งเราไว้อย่างนั้น มันบอกว่าจะไปเยี่ยวแล้วก็หายไปเลย

ผมกับไอ้โรมเหมือนถูกบังคับให้ยืนมองหน้ากันอย่างเลี่ยงไม่ได้ ผู้ชายที่ถูกจับเอาควยมามัดติดกัน เพียงแค่ช่วงเวลาสั้นๆ แต่มันกลับทำให้เกิดความรู้สึกพิเศษได้อย่างยาวนาน ตอนนั้นมือก็ถูกมัด ควยก็ถูกมัด แต่ยืนใกล้กันแบบนี้ อารมณ์ของทั้งสองฝ่ายก็กระเจิดกระเจิงอย่างไม่เป็นท่า เราทำอะไรอย่างอื่นไม่ได้นอกจากแลกลิ้นกัน เราใช้ลิ้นสัมผัสลิ้น แล้วก็จูบปากกันอย่างรุนแรง ประกบปากกัน ชอนไชลิ้นเข้าหากัน จูบกันนัวเนีย การทำแบบนี้ยิ่งทำให้เราสองคนทรมานมากขึ้น เพราะตอนแลกลิ้นกันนัวเนีย ควยของทั้งสองคนกลับแข็งเกร็งมากขึ้น แต่เนื่องจากมันถูกกด ถูกรัดไว้ด้วยกระดาษกาว มันจึงดีดตัวออกไม่ได้ พอจูบกันแรงขึ้น เกิดอารมณ์มากขึ้น และเจ็บที่ควยมากขึ้น แต่เราสองคนกลับชอบความเสียวและความเจ็บแบบนี้จึงยิ่งจูบกันนัวเนีย

ตอนนี้ผมอยากกอดและเอามือสัมผัสหลังแกร่งของมัน แต่มือก็ถูกมัดอยู่ โคตรทรมานมากๆ เลย ไอ้ต้นมันจะรู้ไหมนะว่ามันทำกับเราแบบนี้แล้วเราสองคนจะต้องมีปฏิกิริยาแบบนี้ มันน่าจะรู้นะ พอมันกลับมา มันดึงกระดาษกาวออกจากควยของเรา แก้มัดมือของเรา ผมกับไอ้โรมก็กระโดดกอดเข้าหากัน จูบกันนัวเนีย เอามือลูบไล้แผ่นหลัง แผงอกกันไปมา ไอ้ต้นก็ไม่ได้ว่าอะไร ไอ้โรมเลยถือโอกาสผลักผมนอนลง ยกขาผมขึ้น แล้วค่อยๆ ยัดควยใส่รูตูดของผม พอเข้าที่ก็ซอยถี่ยิบ มันออกแรงหนักมาก จนตูดผมระบมไปหมด เป็นการออกแรงที่เก็บกดไว้มาเป็นเวลานาน ไอ้ต้นยืนดูเราสองคนโดยไม่พูดอะไรสักคำ มันคงตั้งใจให้เป็นแบบนี้

วันนี้ ไอ้ต้นคงสั่งลาก่อนไปสัมมนาหลายเรื่อง หายไปตั้งสองอาทิตย์ ตกบ่ายผมกับไอ้โรมเห็นมันเล่นบอลกับนักเรียน แต่ อ.กำพลกะจะมาสั่งลาไอ้ต้นด้วย ดูจากสีหน้าของไอ้ต้น มันคงไม่คิดว่าจะโดน อ.กำพล เล่นงานต่อหน้านักเรียนในที่กลางแจ้งแบบนี้

“อ.เมฆิน ผมบอกคุณแล้วนะว่าอย่าเล่นบอลกับเด็ก มันเสียระเบียบ คุณดื้อด้านมากไม่ยอมฟังผมเลย ถ้าไม่สั่งสอนกันซะบ้าง คุณคงกำเริบใหญ่”

ไอ้ต้นหน้าเปลี่ยนสีเลย แววตามันเหมือนกำลังจะบอกว่า วันนี้ อ.กำพล เล่นมันแรงฉิบหาย ต่อหน้าคนเยอะมากในเวลาพักเที่ยง อ.กำพลออกคำสั่งต่อ “อ.เมฆิน กรุณาถอดเสื้อออกด้วยครับ”

ตอนนี้ขอไปเล่าในตอนที่ 11 นะครับ เพราะผมเองก็ตื่นเต้นมากที่จะได้เห็นหุ่นแมนๆ ของ อ.พละหนุ่มที่หล่อราวเทพบุตร และถูกหัวหน้าหมวดพละลงโทษแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยต่อหน้าเด็กนักเรียนนับร้อย ช่างเป็นภาพที่หาดูได้ยากจริงๆ

ไอ้ต้นถือเป็น อ. หนุ่มคนแรกที่เข้ามาใน รร. แห่งนี้ในช่วงที่ผมเรียนอยู่ ตอน ม.5 เราต้องเรียนช่างเชื่อมกัน และทาง รร.ก็ได้ อ. หนุ่มคนใหม่ที่ชื่อหนุ่มด้วย และผมก็เรียกเขาว่าไอ้หนุ่มเพราะแก่กว่าผมไม่มาก ถึงจะหล่อสู้ไอ้ต้นไม่ได้ แต่ไอ้หนุ่มก็มีเสน่ห์และความแมนกินขาด พวกเรียนช่างมามักจะเท่อยู่แล้ว ไอ้หนุ่มเห็นไอ้ต้นทรมานเด็กผู้ชายแล้วอยากจะเอาเยี่ยงอย่างบ้าง และมันก็ได้ลองจนรู้ว่าการทำอะไรแบบนี้ก็เหมือนเป็นอาหารหวานหลังมื้ออาหาร หลัก ช่วง ม.5 จึงกลายเป็นสองคู่แมนๆ คือผมกับไอ้โรม และไอ้ต้นกับไอ้หนุ่ม แต่ก่อนจะถึง ม.5 นั้นในตอนที่ 11 เพื่อนต้องมาดูกันก่อนว่า ไอ้ต้นถูก อ.กำพลลงโทษยังไงต่อหน้าธารกำนัล

หลังจากนั้นพอไอ้ต้นกลับมา มันก็คิดถึงเราสองคนมากจึงเปิดศึกปิดท้ายก่อนปิดเทอม พอหลังจากนั้นก็อย่างที่ผมบอกไปว่า มีอีกเรื่องหนึ่งตอน ม.4 เทอมสองที่ดำเนินไปพร้อมกับเรื่องราวที่เล่าไปแล้ว แต่ผมไม่อยากจะเล่าแบบสลับไปมา คือเรื่องของการเรียน รด.

พอไปเรียน รด.เราก้ได้พบกับดาวเด่นดวงใหม่คือไอ้หิน จริงๆ แล้วตอนเทอมต้น อ.แผนเคยหาเรื่องลงโทษไอ้หินด้วย แต่มันต่อต้านมาก จึงไม่มีใครกล้ายุ่งกับมันเพราะกลัวจะเป็นเรื่อง แต่พอไปเรียน รด.เท่านั้น ไอ้หินกลับหาเรื่องใส่ตัวแบบไม่ยั้ง จนกระตุ้นผมไปด้วยอีกคน ผมก็เลยมารู้ภายหลังว่า ไอ้หินชอบโดยทรมานโดยคนในเครื่องแบบมาก และโชคดีมากที่มีครูฝึก รด.ซาดิสต์ที่มาสนองมันส์

น้องๆ รุ่นใหม่ผมไม่ทราบว่าเป็นไง แต่การเรียน รด. สมัยนั้น มีครูฝึกโหดๆ หลายคน ใครกล้าลองดีก็ได้รับสิ่งดีๆ กันไปทั่วหน้า ไอ้โรมตัดสินใจไม่เรียน รด. เพราะพ่อของมันอยากให้ลูกเป็นทหารเกณฑ์ ไอ้โรมก็เห็นดีด้วย ผมสงสัยความสัมพันธ์ของพ่อลูกคู่นี้จริงๆ

พอไอ้โรมจบ ม.6 มันก็สมัครเป็นทหารเกณฑ์เลย พ่อมันก็เป็นใจ เพราะดันไปย้ายทะเบียนบ้านเพื่อให้มันได้เข้าไปอยู่ในค่ายทหารเกณฑ์ที่โหด ที่สุดตั้งแต่มันอยู่ ม.4 และสิ่งที่ไอ้โรมโดนมาก็หนักหนาสาหัสเป็นอย่างยิ่ง

เมื่อสองปีก่อน (2007) ผมสงสัยมากว่าความซาดิสต์ของครูฝึกทหารเกณฑ์ในสมัยนี้เป็นยังไงบ้าง ผมเลยส่งเพื่อนรุ่นน้องคนหนึ่งที่ชอบแบบผมสมัครเป็นทหารและขอให้มันลองดีกับ ครูฝึกในทุกรูปแบบ และมันก็โดนลงโทษแบบเละเทะสมใจ เมื่อปีที่แล้วนี่เองผมปลอมตัวเข้าไปเป็นนักวิชาการและทำโครงการร่วมกับทหาร เกณ์ค่ายหนึ่งที่มีชื่อเสียงโด่งดังมาก บอกไปใครๆ ก็ต้องรู้จักและคงงงว่า โรงเรียนทหารดันมีค่ายทหารเกณฑ์อยู่ในนั้นด้วยเหรอ

ผมไปนอนค้างอยู่ 10 วันและพยายามหาโอกาสสืบดูจึงรู้ว่าทหารเกณฑ์โดนลงโทษรุนแรงมาก แต่อย่างที่ผมตั้งสมมติฐานไว้ ส่วนใหญ่เป็นพวกชอบลองของ หุ่นล่ำ แมนเกินร้อย เป็นพวกนี้ทั้งนั้นที่โดนลงโทษแบบไม่ปรานี ผมแอบถามบางคน มันบอกว่ามันชอบมาก สะใจมาก และผมก็ตีซี้ครูฝึกบางคน เขาก็บอกผมว่าเขาดูออกว่าทหารเกณฑ์คนไหนชอบการทรมาน มันก็จัดให้ ทางเมืองนอกมีค่ายแบบนี้เปิดด้วยและให้เราๆ ท่านๆ สมัครเข้าไป เราต้องเสียตังค์นะ เขาจะตรวจร่างกายของเรา มีแบบสอบถามมาให้ทำว่าเราชอบโดนลงโทษแบบไหน ชอบการเข้าใจผิดว่าเป็นทหารของฝ่ายตรงข้ามหรือทหารเชลยหรือไม่ ใครติ๊กแบบไหนก็จะได้แบบนั้น

เอาล่ะเล่ามายาวด้วยความเมามันส์ งั้นขอจบตอนที่ 10 ก่อนนะครับ เจอกันตอนที่ 11 มาดูกันครับว่าไอ้ต้น เทพบุตรซาดิสต์ของเราจะโดนลงโทษแบบไหนต่อหน้าธารกำนัล

“กรุณาถอด เสื้อออกด้วย” คำสั่งของหัวหน้าหมวดพละอย่าง อ.กำพลช่างมีมนต์ขลังเสียนี่กระไร เพราะ อ.พละหนุ่มที่โคตรโหดและโคตรเหี้ยอย่างไอ้ต้นก็ไม่สามารถปฏิเสธคำสั่งนี้ได้ มันถอดเสื้อยืดของมันออกและโยนลงพื้นอย่างแรง แสดงความไม่พอใจเป็นอย่างมากที่ อ.กำพลหาเรื่องมันโดยที่ไม่ได้บอกมันก่อน มันอาจกำลังคิดว่ามันเสียหน้า เพราะนักเรียนอีกเป็นร้อยเฝ้ามองเหตุการณ์อยู่

ไอ้ต้นมันจะรู้สึกอย่างไรก็ช่าง แต่การที่มันถอดเสื้อโชว์แผงอกขาวๆ ของมันก็เป็นที่พอใจของทุกฝ่าย นักเรียนหลายคนถึงแม้จะเคยโดนมันลงโทษอย่างแรง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า คนที่มีใจให้มัน ก็มีใจให้มันอย่างล้นเหลือ เพราะความหล่อคมของมัน การอยู่ในชุดเสื้อยืดกางเกงวอร์มรองเท้าผ้าใหม่ การที่มันทำหน้าดุอยู่ตลอดเวลา คุณสมบัติเหล่านี้ก็สร้างเสน่ห์ให้กับมันไม่น้อย ถึงจะเหี้ย มันก็เหี้ยอย่างมีเสน่ห์

มันเองฉีกแนว อ.พละสมัยนั้น เพราะสมัยนั้นร้อยทั้งร้อยผิวคล้ำ แถมกล้ามก็ไม่สวย แต่มันทั้งขาว ทั้งกล้ามสวยพอผมเห็นมันถอดเสื้อเท่านั้น ผมยังตกตะลึงเลย รูปร่างของมันแตกต่างจากไอ้โรมมาก ไอ้โรมเองอายุ 15 ย่าง 16 เด็กหนุ่มวัยแบบนี้ถ้าสูงมักจะมีรูปร่างที่เร้าใจในแบบที่ช่วงหน้าท้องจะดู ยาวเป็นพิเศษ ยิ่งเป็นคนที่ชอบออกกำลังกายด้วยแล้ว หน้าท้องแบบราบที่ยาวได้รูปกับกล้ามอกอ่อนๆ ก็ทำให้เนื้อตัวของไอ้โรมดูหอม หวานมากเป็นพิเศษ

แต่กับไอ้ต้น มันคนละแบบกัน ไอ้ต้นอายุประมาณ 21-22 ได้มั้ง มันเพิ่งจบตรีมาใหม่ๆ แต่แววความเป็นหนุ่มฉกกรรจ์ของมันนั้นเห็นได้อย่างชัดเจน เวลาเห็นมันถอดเสื้อ ผมนึกถึงคำพูดที่ว่า “ลูกผู้ชายอกสามศอกไปเลย” เพราะหน้าท้องของไอ้ต้นไม่ยาวมาก แต่เต็มไปด้วยมัดกล้าม เราสามารถเห็นซิกแพ็คได้อย่างชัดเจน แต่ที่โดดเด่นมากๆ คือกล้ามอกที่หนา ดูแข็งแกร่งแต่เนียนสวยในเวลาเดียวกัน ประกอบกับเอวคอดของมัน ถ้ามองตั้งแต่แผงอก เราจะเห็นหุ่นรูปตัววีได้อย่างเด่นชัด อย่างมันต้องเรียกว่า อกหนา เอวคอด หัวนมใหญ่และขึ้นสีชมพูชัดเจน ทำให้เวลาถอดเสื้อและยังใส่กางเกงวอร์มสีดำ สีผิวกล้ามๆ ของมัน ดูตัดกับกางเกงวอร์มในแบบที่ใครเห็นก็ต้องขอเหลียวหลังลอบมองการลงโทษครั้ง นี้ เพราะผู้ที่ถูกลงโทษหล่อและหุ่นดีเป็นบ้า

หลัง จากนั้น อ.กำพลสั่งให้มันวิดพื้น 50 ที มันทำตามคำสั่งแต่โดยดี การลงไปอยู่ในท่าวิดพื้นของมันเท่มากๆ มันค่อยๆ โน้มตัวลงไปด้านหน้าพอตัวเอียงได้ที่ตัวของมันก็ลงไปเลย โดยมันเอาแขนพยุงตัวไว้ แล้วก็เริ่มวิดพื้นเลย มันวิดเร็ว วิดลงไปต่ำมาก และตะโกนเสียงดังมาก ไม่เคยเห็นใครวิดพื้นได้แมนสุดๆ เท่ากับมันอีกแล้ว ขณะที่มันกำลังวิดพื้นอยู่ ผมเดินไปดูใกล้ๆ ได้เห็นกล้ามเนื้อแผ่นหลังของมันทำงานอย่างได้สัดส่วน เป็นแผ่นหลังของลูกผู้ชายที่แข็งแกร่งมากๆ และก็ขาวเนียนมากๆ ด้วย

พอมันวิดจนครบ 50 ที อ.กำพลออกคำสั่งว่า “ไหนลองวิดพื้นมือเดียวให้ดูซิ”

ไอ้ต้นมันก็ไม่ปฏิเสธ มันเอามือขวาไพล่หลังไว้ และใช้มือซ้ายในการวิดพื้นมือเดียว มันวิดได้ช้าลง แต่ก็ยังโชว์ความแข็งแกร่งได้อย่างเต็มที่ คนที่มุงดูมันต่างชอบใจกันเป็นแถว มันเองก็กะโชว์แมนด้วย เลยตั้งใจวิดพื้นมือเดียวมาก มันวิดจนแทบจะวิดไม่ไหว อ.กำพลจึงสั่งให้หยุด มันเอามือขวาลงมาอยู่ในท่าวิดพื้นท่าเตรียมเหมือนเดิม ต่อมา อ.กำพลสั่งอีกว่า “ไหนลองวิดพื้นแบบตบมือกลางอากาศซิ”

ผมว่าท่านี้โหดมากเลยนะ ยังไม่เคยมีใครกล้าสั่งทำโทษนักเรียนท่านี้มาก่อน ผมดีใจมากที่จะได้เห็นเป็นบุญตา แค่เห็นท่าผ่านๆ มา ควยก็เริ่มตุงขึ้นมาทีละนิดแล้ว ผมสังเกตไอ้โรม มันจ้องไอ้ต้นเขม็งแบบตาไม่กะพริบเลยทีเดียว ไอ้ต้นเริ่มโดยการยืดตัวขึ้นมานิดนึง แล้วตบมือกลางอากาศก่อนที่จะเอามือมายันพื้นเหมือนเดิมและวิดพื้นลงไปอีกที นับหนึ่ง มันทำเหมือนเดิมจนหมดรอบ นับสอง ผมมองแล้วควยสั่นเลย ไอ้ต้นแข็งแรงมาก ขนาดวิดไปตั้ง 50 ทีแล้วยังทำแบบนี้ได้ นักเรียนที่เห็นต่างมีสีหน้ายกย่องมันเป็นตาเดียว

ทุกคนยอมรับในความแข็งแรงของมัน มันสมแล้วที่เหี้ยได้ใจและชอบสั่งลงโทษนักเรียนแบบรุนแรง คือถ้าใครก็ตามที่ทำอย่างนั้นได้ จะต้องทนต่อการลงโทษที่โหดได้เหมือนกัน ไอ้ต้นคงไม่รู้ตัวว่าสิ่งที่มันทำซื้อใจนักเรียนที่เคยถูกมันลงโทษได้ขนาด ไหน หลังจากมันวิดพื้นแบบตบมือกลางอากาศเสร็จเรียบร้อยตามที่ อ.กำพล ต้องการ ต่อไป อ.กำพลสั่งให้มันลุก และคำสั่งที่ไม่มีใครคาดคิดก็ถูกสั่งออกมา

“อ. เมฆินช่วยถอดกางเกงด้วย”

ไอ้ต้นมีสีหน้าที่ตกใจมาก มันยืนนิ่งอยู่นานก่อนที่จะยอมถอดกางเกงวอร์มออกเหลือเพียงกางเกงในตัวเดียว วันนั้นมันใส่กางเกงในสีขาว แต่ตัวเล็กมาก ทุกคนเห็นตรงกันว่าควยมันกำลังตุง และมีขนาดใหญ่มาก ถึงจะสู้ของไอ้โรมไม่ได้ แต่ก็สูสี อ.กำพลคงอยากเห็นควยของมันให้ชัดกว่านี้จึงออกคำสั่งต่อไป “ไหนลองทำท่าสะพานโค้งซิ”

ไอ้ต้นชูมือขึ้นแล้วค่อยๆ เอียงตัวหงายหลังลงจนเป็นท่าสะพานโค้ง มันทำได้อย่างแมนมากๆ จนมีเสียงฮือฮาตามมา นักเรียนแถวนั้นต่างจ้องมองหุ่นของมันในท่าทางเช่นนี้ ทำให้เราเห็นกล้ามตรงวงแขน ขนรักแร้ที่ขึ้นดกและเรียงตัวกันสวย กล้ามอกที่เปลี่ยนรูปมาอยู่ในแบบที่ดูดีไม่แพ้ตอนที่มันยืน กล้ามท้องที่สวยงามได้ใจ กับควยตุงๆ ที่ขยายขนาดและตุงได้รูปอย่างสวยงาม แสดงว่าไอ้ต้นมันต้องชอบโดนลงโทษเหมือนกัน เพราะถ้าไม่ชอบ ควยของมันไม่น่าจะตุงได้ถึงขนาดนี้

อ.กำพลเดินไปหยิบเสื้อมันมาชุบน้ำ บิดพอหมาดๆ แล้วเอาไปตีที่หน้าอก หน้าท้อง และตรงควยของมัน มันส์สะใจทีเดียวครับ แสดงว่า อ.กำพลโปรดปรานในการทรมานผู้ชายในท่าสะพานโค้งเป็นพิเศษ ดูแกมีความสุขมากที่ได้ทำแบบนี้กับไอ้ต้น และการลงโทษไอ้ต้นในช่วงนี้ เสียงจากใต้ดินกล่าวกันเป็นเสียงเดียวกันว่าเห็นด้วย เพราะหลายคนเคยเห็นไอ้ต้นทำโทษนักเรียนแบบรุนแรงมานักต่อนัก พอตัวเองมาเจอบ้าง หลายคนมีสีหน้าท่าทางแบบ “สมน้ำหน้ามัน”

การลงโทษไอ้ต้นครั้งนี้จึงทำให้ อ.กำพล ได้หน้ามากกว่าเสียหน้า แต่ผมสงสัยว่าน่าจะเป็นแผนของ อ.กำพลแต่แรกที่สนับสนุนให้ไอ้ต้นบ้าดีเดือดกับนักเรียนยังไงก็ได้ เพราะแกอาจคิดไว้แล้วว่าจะเช็คบิลที่หลัง และเป็นการเช็คบิลไอ้ต้นที่มีความชอบธรรมในสายตาของคนอื่นเสียด้วย ถ้า อ.กำพล คิดได้ถึงขนาดนั้น ผมต้องยกตำแหน่ง อัจฉริยะจอมซาดิสต์ ให้แกไปเลย เพราะน้อยคนนักที่จะคิดแบบนี้ได้ อ.กำพลมีความสุขมากที่ได้ใช้เสื้อของไอ้ต้นเองที่เปียกน้ำหมาดๆ มาฟาดไปตาม ตัวมัน โดยเล็งหน้าอกกับหน้าท้องเป็นหลัก แต่ช่วงหลังๆ ก็เน้นไปที่ควยขนาดเขื่องที่ซ่อนอยู่ใต้กางเกงในสีขาว

วันนั้นนับเป็นการลงโทษผู้ชายแมนๆ ในท่าสะพานโค้งที่ดูจะยาวนานเป็นพิเศษ แต่ไอ้ต้นก็แข็งแกร่งจริงๆ เพราะสามารถทำท่าสะพานโค้งได้นานกว่าคนทั่วไป หลังจากลงโทษในท่านี้จนสาแก่ใจ อ.กำพลก็สั่งให้มันลุก ไอ้ต้นก็ค่อยๆ ลุกโดยไม่ต้องลงตัวไปนอนเลย มันโชว์แมนด้วยการลุกขึ้นมาได้เองคือค่อยๆ เอนตัวขึ้นมา มันเอาเท้าเขยิบเข้าไปใกล้มือของมัน ก่อนที่จะดันตัวขึ้นมาอย่างห้าวหาญ มันนึกว่าจบแล้ว แต่การลงโทษของ อ.กำพล คงไม่จบลงง่ายๆ อ.กำพลสั่งให้มันวิ่งรอบสนามบาสอีก 20 รอบ วิ่งทั้งๆ ที่มันนุ่งกางเกงในตัวเดียว สร้างความชื่นชอบให้กับ อ.ผู้หญิงสาวๆ ยิ่งนัก

ไอ้ต้นวิ่งไม่เร็วและไม่ช้าจนเกินไป มันรู้จักการรักษาจังหวะได้ดี เวลามันวิ่งหัวนมของมันก็สั่นตามไปด้วย นับเป็นภาพที่น่ามองยิ่งนัก ตอนนี้เหงื่อท่วมตัวมันแล้ว เวลามันวิ่งไปโดนแดด แดดจะสะท้อนผิวมันๆ ของมันได้อย่างได้อารมณ์ดีจริงๆ หลังจากวิ่งครบ 20 รอบ มันมายืนหายใจหอบๆ อยู่หน้า อ.กำพล อ.กำพลจึงสั่งให้มันนอนกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่หลายตลบ มันกลิ้งแบบไม่คิดชีวิตจริงๆ หลังจากนั้นก็สั่งให้มันลุก แล้ว อ.กำพลสั่งให้มันหมอบ โดยการหมอบกลางอากาศ ก่อนจะลงไปหมอบจริงๆ การสั่งแบบนี้อันตรายมาก เพราะทหารชอบสั่งกัน แต่ทหารอยู่ในชุดฝึกหลายชั้น แถมยังให้โดดหมอบบนพื้นหญ้า แต่นี่ไอ้ต้นอยู่ในชุดกางเกงในตัวเดียว และต้องโดดหมอบกลางอากาศบนพื้นปูน แต่ไอ้ต้นก็ทำได้ดี และไม่มีการลักไก่เลย ตอนมันโดดหมอบกลางอากาศมันก็หมอบก่อน ก่อนที่จะเอาตัวของมันกระแทกพื้น เห็นแล้วชอบในความทรหดอดทนและความกล้าเสี่ยงของมันมาก มันถูกสั่งให้หมอบ ลุก หมอบ ลุก อยู่หลายครั้ง

จนสุดท้ายมันถูกสั่งให้ลุก และอยู่ในท่ายืน มันยืนหอบอยู่ ตามเนื้อตัวขาวๆ ของมันมีรอยแดงๆ เป็นระยะ ทำให้ตอนอยู่ในสภาพนี้แล้วมันดูเท่เป็นบ้า หุ่นของมันดูรับกับใบหน้าหล่อแบบเหี้ยๆ อย่างไม่มีขาดไม่มีเกิน อ.กำพลเดินไปหยิบถุงกระดาษที่ อ. สั่งให้นักเรียนคนหนึ่งไปหยิบให้ในห้องหมวดพละตอนที่ไอ้ต้นถูกสั่งให้วิ่ง รอบสนาม ยากต่อการคาดเดาว่าในถุงนั้นจะมีอะไร แต่เราคงสามารถจะเดาได้ว่า นี่น่าจะเป็นการลงโทษด่านสุดท้ายของมันแล้ว

หลายคนหายสงสัยเมื่อ อ.กำพลหยิบสิ่งๆ หนึ่งออกมาจากถุง สิ่งนั้นคือ ประทัดขนาดเล็กแต่สายยาวมาก ใครเห็นก็หนาวกันทั้งนั้น ไอ้ต้นเห็นประทัดสายนี้ เล่นเอามันหน้าเสียเลย คาดว่าคงไม่เคยโดน คนอะไรวะ หน้าเสียแต่ควยโด่ อ.กำพล เอาประทัดขนาดเล็ก สายยาวแบบปานกลางมาคล้องคอไอ้ต้น ประทัดพาดคอมัน ยาวลงมาถึงบริเวณหน้าขา ใกล้ๆ ควยพอดี ที่สำคัญประทัดพาดผ่านหัวนมทั้งสองข้างด้วย

ผมพอจะคุ้นเคยกับประทัดแบบนี้ เสียงดังอยู่ ถ้าแตกก็คงทำให้เกิดแผลเจ็บๆ คันๆ พอประมาณ แต่ไม่น่าจะถึงสาหัส อ.กำพลถึงกล้าเล่น แต่หลายคนต่างกลัวไปตามๆ กัน อ.กำพลมีไฟแช็คสองอัน แกเลยหานักเรียนแถวนั้นมาช่วยจุดด้วย นักเรียนแม่งก็กล้าฉิบหาย ตอนนั้นถ้าไอ้ต้นจะปฏิเสธ อ.กำพลก็คงไม่ว่าอะไร แต่ไอ้ต้นกลับยอมโดนลงโทษด้วยการจุดประทัดที่กำลังคล้องคอมันอยู่ สิ่งที่น่าห่วงก็คือกลัวว่าแรงประทัดจะไปโดนควยมัน แต่ที่น่าห่วงกว่าคือหัวนมแมนๆ เพราะประทัดพาดผ่านแบบนั้น ต้องโดนเข้าไปเต็มๆ อย่างแน่นอน

ตอนนี้ อ.กำพล เตรียมพร้อมกับนักเรียนอีกคนแล้ว เขานัดแนะเพื่อที่จะจุดพร้อมกัน พอ อ.กำพลนับ 1 2 ... 3 ประทัดก็ถูกจุดขึ้น หลายคนไม่กล้ามอง แต่ผมจะไม่พลาดโอกาสนี้ ประทัดแตกเสียงดังพอสมควร มีประกายไฟเกิดขึ้นตามสายประทัด และตามเนื้อตัวของไอ้ต้น ไอ้ต้นใจแข็งมาก ยืนนิ่งไม่ไหวติง เพียงแต่หน้าหล่อๆ ของมัน แสดงความเจ็บปวดออกมาให้เห็น

หลังจากสิ้นเสียงประทัดก็เป็นอันว่า การลงโทษไอ้ครูพละหนุ่มหน้าเหี้ยมีอันสิ้นสุดลง ก่อนที่มันจะหายหน้าไปสองอาทิตย์ มันก็ได้ฝากผลงานชิ้นเอกไว้ โดยมี อ.กำพลเป็นผู้กำกับการแสดง คืนนั้นผมนึกถึงแต่ไอ้ต้นโดนประทัด นึกไปนึกมาก็ควยตุงสิครับ เลยต้องชักว่าวอย่างบ้าระห่ำประมาณ 3 ครั้งติดต่อกัน มันส์จริงๆ ครับ

ช่วง สองสัปดาห์ที่ไอ้ต้นหายไป ผมกับไอ้โรมก็ไม่ได้คุยกันแบบญาติดีกันนัก จะด้วยเหตุผลอะไรผมก็ไม่รู้ได้ ผมเองลึกๆ แล้วก็ไม่อยากจะญาติดีกับมันสักเท่าไหร่ (ณ ขณะนั้น) อ.แผน กับ อ.กำพลก็เงียบๆ ไป มีข่าวลือหนาหูว่า ผ.อ.โรงเรียนได้รับบัตรสนเท่เลยเรียกทั้งสองไปตำหนิและสั่งว่าถ้าจะมีการลงโทษนักเรียนในที่กลางแจ้งต้องคิดให้รอบรอบ ต้องให้เหมาะสมอย่าให้ห่ามจนเกินไป เพราะมีคนเขียนบัตรสนเท่มาถึงตั้งสามคนแล้ว ช่วงนั้นก็เลยเงียบเหงาเป็นพิเศษ

แต่ถึงแม้สิ่งรอบๆ ตัวจะเงียบเหงา แต่ผมก็สามารถทำให้ชีวิตของตัวเองไม่เงียบเหงาได้ นอกจากผมจะม่อารมณ์ทางเพศมากๆ จากการถูกทำโทษที่รุนแรงโดยผู้ชายแมนๆ แล้ว การออกไปหาประสบการณ์ตอนกลางคืน มืดๆ เปลี่ยวๆ ก็เป็นสิ่งที่ผมแสวงหามิใช่น้อย เพราะมันเป็นการกระตุ้นอารมณ์ทางเพศได้มากทีเดียว ช่วงนั้นฮอร์โมนพุ่งพล่านครับ นึกอะไรออกก็ทำหมด กลัวโตแล้วไม่มีโอกาสได้ทำได้ลอง

เวลาผมนั่งรถเมล์ ผมจะชอบมองวิวสองข้างทาง มองหาซอยเปลี่ยวๆ ที่น่าเดินเล่นในตอนดึกๆ ผมเรียกการที่ตัวเองทำแบบนี้ว่า “สำรวจสนาม” การทำแบบนี้มันเสี่ยงอยู่สักหน่อย เพราะการไปไหนคนเดียวตอนดึกๆ มันทำนายไม่ได้หรอกว่าจะไปเจอใครไปเจอเหตุการณ์แบบไหน ยิ่งถ้าไม่ใส่เสื้อเดินแล้ว ยิ่งเสียวมาก เพราะไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น บรรยากาศดึกๆ ก็ทำให้เสียว ถอดเสื้อเดินก็ทำให้เสียว ผมเองก็ยังจำได้ดีที่เจอพวกตำรวจซาดิสต์หาเรื่องผมในตอนดึกๆ ประสบการณ์ครั้งนั้นยังจารึกอยู่ในความทรงจำไม่สร่างซา นึกทีไรก็เสียวหัวนมทุกครั้ง ถึงตอนนี้หัวนมที่โดนเบ็ดเกี่ยวหายดีแล้ว อาจจะเป็นแผลเป็นนิดๆ หน่อยๆ แต่หัวนมก็ยังใช้การณ์ได้ดี และคิดว่าพร้อมในการถูกทรมานครั้งต่อไป

พอหาซอยเปลี่ยวได้ คืนหนึ่งบรรยากาศเป็นใจ ผมจึงตัดสินใจว่าคืนนี้จะปฏิบัติภารกิจ ตอนนั้นยังคิดอยู่เลยว่าคืนนี้จะเอาแค่ถอดเสื้อเดินอย่างเดียวเหรอ ไม่น่าจะมันส์นะ เราต้องหาอะไรที่เสี่ยงและตื่นเต้นมากกว่านี้ คิดไปคิดมา ผมจึงตัดสินใจที่จะนุ่งกางเกงในตัวเดียวเดิน แน่นอนที่ตอนออกจากบ้าน ผมจะนุ่งแต่กางเกงขาสั้น ไม่สวมเสื้อและสวมร้องเท้าแตะ ตอนนั้นก็ประมาณเที่ยงคืนกว่าแล้ว พอเดินมาถึงซอยเปลี่ยวที่เป็นจุดหมายในการเดินคืนนี้ของผม พอสบโอกาส ผมจึงถอดกางเกงขาสั้นออก วางหลบไว้ใต้ต้นไม้ต้นหนึ่งที่ผมจำได้อย่างแม่นยำ

ตอนนั้นรู้สึกตื่นเต้นมากๆ เพราะเป็นการเดินแบบนุ่งกางเกงในตัวเดียวครั้งแรก บอกไม่ถูกครับว่าตื่นเต้นแค่ไหน ใครอยากรู้ต้องไปหาซอยเปลี่ยวเดินเอง เดินไปในซอยในสภาพแบบนี้ คืนนี้ไม่แน่ใจว่าจะเจอใครหรือไม่ อากาศก็โคตรจะหนาว ลมพัดแรงมาก สภาพรอบๆ ตัวผมมันมืดมิดไปหมด แทบจะไม่มีบ้านคนเลย ซอยนี้บรรยากาศดีจริงๆ ผมคิดว่าตัวเองตัดสินใจไม่ผิดที่เลือกซอยนี้ ผมเดินตรงเข้าไปในซอยด้วยความห้าวหาญและตื่นเต้น เดินไปสักพัก ถึงสังเกตเห็นว่ามีคนเดินมาประมาณ 3 คน น่าจะเป็นผู้ชายทั้งสามคน ผมตื่นเต้นมาก นึกไม่ออกว่าจะทำยังไงดี จะวิ่งหลบดีไหม แต่คิดอีกที ถ้าวิ่งหลบก็ไม่สนุกล่ะสิ คิดได้ดังนั้นเลยทำใจดีสู้เสือ เดินอาดๆๆ เข้าไป

พอเดินเข้าไปใกล้ ผมก็ตกใจมากเพราะเพิ่งเห็นว่าทั้ง 3 คนเป็นทหาร สองคนแรกใส่ชุดลายพราง ส่วนอีกคนนุ่งกางเกงลายพรางไม่สวมเสื้อ ขณะที่กำลังจะเดินสวนกัน ทหารคนที่ไม่สวมเสื้อเดินเข้ามาหาผม ทำให้เพื่อนของมันเดินตามมาด้วย ทหารคนที่ไม่สวมเสื้อทักผมก่อน

“ไงวะไอ้หนุ่ม มาทำไรแถวนี้วะ เสื้อผ้าไม่ใส่ นุ่งกางเกงในแค่ตัวเดียวเอง”

ตอนนั้นผมงงนิดๆ ไม่รู้ว่าจะตอบยังไงดี เลยทำให้ไอ้ถอดเสื้อทักผมอีกแบบ

“เฮ้ย พูดด้วยทำไม่ไมตอบวะ หยิ่งนักเหรอ เป็นนักเลงคุมซอยรึเปล่าวะเนี่ย”

ผมตอบมันไป ถ้าไม่ตอบ ต้องโดนรุมกระทืบตายแน่ “เปล่า ผมไม่ใช่นักเลงคุมซอยครับ”

ไอ้ถอดเสื้อยังถามต่ออีก “ถ้าไม่ใช่ ทำไมมึงถึงมาเดินเอามืดๆ ค่ำๆ ป่านนี้วะ แล้วยังแต่งตัวแบบนี้อีก”

ผมไม่รู้จะตอบกับไอ้ถอดเสื้อยังไง เลยยืนนิ่ง เพื่อนมันอีกคนเดินเข้ามาหาผมแทน มันใส่ชุดซะเต็มยศ ผมเดาว่ามันน่าจะเป็นครูฝึกทหาร มันอาจเป็นครูฝึกทหารเกณฑ์ก็ได้ แต่เดาไม่ถูกว่ามันมาแถวนี้ดึกๆ ทำไม ไอ้คนที่คล้ายครูฝึก พอมายืนข้างหน้าผม มันจ้องตาผมเขม็ง แล้วมองผมตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนจะมาจ้องตาผมอีก มันยิ้มแบบโหดๆ แล้วหันไปบอกเพื่อนมันสองคนว่า “พวกมึงกลับไปก่อน กูขออยู่จัดการไอ้หนุ่มนี่ก่อน”

ผมฟังแล้วหนาวเลย ไม่รู้ว่ามันคิดอะไรอยู่ หรือกะเล่นผมกันแน่ เพื่อนมันก็เชื่อไอ้หมอนี่ รีบเดินกลับกันไป ทิ้งผมให้อยู่กับไอ้ครูฝึกทหารคนนี้สองต่อสองในซอยเปลี่ยวยามดึกดื่น ไอ้ครูฝึกยังไม่พูดอะไร รอให้เพื่อนของมันเดินไปไกลพอสมควร มันถึงเอื้อนเอ่ยกับผม “เสื้อผ้ามึงหายไปไหนหมด”

ผมไม่นึกว่ามันจะถามถึงเรื่องนี้กับผมตอนนี้ แน่นอนว่าผมไม่ได้เตรียมคำตอบของตัวเองเอาไว้ ผมจึงเงียบ พอเห็นว่าผมเงียบ แววตาของมันกลับโหดเหี้ยมมากขึ้น และสิ่งที่มันทำต่อมาคือการเอามือมาบีบไข่ผม มันถามผมอีกครั้ง “เสื้อผ้ามึงไปไหน แล้วมึงมาทำอะไรที่นี่”

ผมเจ็บไข่มาก เลยตอบมันไปว่า “เดินเล่นครับ”

มันเอามือที่ยังว่างอยู่ตบหน้าผมไปฉาดนึง แล้วพูดกับผมว่า “ตอบใหม่ซิ มึงรู้นะว่ามึงต้องตอบยังไง”

ผมนึกนิดนึงก่อนจะตอบไปว่า “เดินเล่นครับผม”

มันถามผมขณะที่มือมันยังกำไข่ผมว่า “มึงชอบเดินเล่นในสภาพแบบนี้เหรอ”

ผมไม่รู้จะตอบมันยังไงจึงตอบมันไปว่า “ครับผม”

มันยิ้มให้ผมแบบโหดๆ แล้วพูดต่อว่า “ดีล่ะ คืนนี้กูจะฝึกทหารให้มึงนิดหน่อย พอเป็นกระสัย แต่กูจะไม่ฝึกท่าบุคคลมือเปล่านะ กูจะฝึกท่าบุคคลตัวเปล่า”

ผมตกใจกับคำพูดของมันมาก มันปล่อยมือออกจากไข่ของผม แล้วเริ่มออกคำสั่ง “ถอดกางเกงในมึงออก”

ผมยิ่งตกใจกับคำสั่งของมัน มันเห็นผมนิ่ง มันเลยถีบไปที่หน้าท้องทำให้ผมล้มกลิ้งไม่เป็นท่า พอตั้งหลักได้ ผมลุกขึ้นยืนและรีบถอดกางเกงในออก

เนื่องจากผมไม่เคยมีประสบการณ์แบบนี้มาก่อน ผมจึงตื่นเต้นมาก ควยแข็งโด่แบบสุดๆ มันออกคำสั่งผม “ยืนในท่าตรงไว้ไอ้สัตว์ ตอนนี้ให้มึงนึกว่ามึงเป็นทหารเวียดกงอยู่ และต้องมาฝึกเอาตอนตีหนึ่ง”

พอมันพูดแบบนี้ผมถึงนึกออก เพราะเคยได้ยินมาว่าพวกทหารเวียดกงหน่วยกองโจร เวลาฝึกมักจะฝึกตอนดึกๆ โดยไม่นุ่งอะไรเลย และตอนออกรบแบบกองโจรใต้ดิน ทหารเวียดกงหน่วยนี้จะนุ่งเครื่องแบบในลักษณะคล้ายผ้าเตี่ยว ซึ่งเหมือนกับการใส่กางเกงในเพียงตัวเดียว ผมคาดว่ามันคงเดาว่าผมเป็นเด็กหนุ่มอยากลองของ มันก็เลยสนองให้ มันให้ผมยืนด้วยท่าตรง ยังไม่ออกคำสั่งอะไรทั้งนั้น

ผมยืนตรง ควยก็ตรง ตรงแบบขนานกับพื้น ต่อมามันสั่งให้ผมม้วนหน้าไปจนสุดสนาม โชคดีที่แถวนั้นเป็นสนามดินแห้งๆ ไม่เละเป็นโคลน การม้วนหน้าจึงไม่ค่อยลำบากกับผมมากเท่าไหร่ แต่ที่รู้สึกแปลกก็คือต้องมาม้วนหน้าในสภาพเปลือยแบบนี้ พอม้วนหน้าไปจนสุด มันก็ให้ผมม้วนหลัง ผมยังงว่านี่มันการฝึกทหารที่ไหนกัน ถึงมีการให้ม้วนหน้าม้วนหลังด้วย พอม้วนหน้าม้วนหลังจนสมใจมัน

การฝึกต่อไปคือการที่มันสั่งให้ผมกระโดดกบรอบสนามดินนั่น การกระโดดกบคือการนั่งยองๆ เอามือไพล่หลังแล้วกระโดดไปเรื่อยๆ โหดมากเหมือนกัน แถวควยก็เด้งไปเรื่อยๆ ผมเริ่มจุกที่ควยนิดๆ พอโดดเสร็จมันก็สั่งให้ผมยืน แล้วมันก็บีบไข่ผม ถามว่า “เป็นไงบ้างไอ้สัตว์”

ผมไม่ได้ตอบอะไรมันเลย ตอนนี้รู้ว่าไอ้ครูฝึกนี้คงชอบการบีบไข่เป็นอย่างมาก หลังจากปล่อยมือออกจากไข่ของผม ต่อไปมันสั่งให้ผมวิ่งรอบสนามดินนั้น 20 รอบ ผมวิ่งตามที่มันสั่ง วิ่งตอนเปลือยและควยโด่นี่มันเสียงเป็นบ้า ต่างจากการวิ่งแบบใส่กางเกงในลิบลับ เพราะเราไม่สามารถจะวิ่งเร็วๆ ได้ แต่ถ้าวิ่งช้าไปไอ้ครูฝึกคนนี้มันต้องเล่นงานผมแน่ หลังจากวิ่งครบ 20 รอบตามที่มันสั่ง คำสั่งของมันต่อไปก็คือ ให้วิดพื้น ผมเข็ดมากกับการวิดพื้นในสภาพเปลือยและควยแข็งเป็นลำแบบนี้ เพราะวิดไปขณะลง หัวควยต้องเสียดสีกับพื้นอย่างเลี่ยงไม่ได้ วิดพื้นคราวนี้ผมจึงพยายามเลี่ยง แต่พอจะเลี่ยงก้นก็โด่งอีก มันจึงเดินมาใกล้ผม และเหยียบลงไปที่ก้นผมตอนวิดพื้น มันก็รู้นะว่าควยต้องโดนพื้น แต่มันก็ยังใช้คอมแบตกดก้นจนควยโดนพื้นเข้าอย่างจัง แสบมากครับ แสบไม่รู้จะสบยังไง ต่อไปมันพูดกับผมในขณะที่อยู่ในท่าวิดพื้นท่าเตรียม มันสั่งให้ผมนอนคว่ำลงไป แล้วเอามือไพล่หลัง มันพูดกับผมว่า “ใจจริงกูก็ไม่อยากสั่งมึงท่านี้หรอก เพียงแต่ว่ามึงจงใจเลี่ยงตอนที่มึงวิดพื้น กูเลยต้องสั่งทำโทษมึงให้หลาบจำ มึงแถกตัวไปจนสุดโน่น ปฏิบัติ”

การแถกตัวแบบนี้ผมไม่ค่อยห่วงนมเท่าไหร่หรอก แต่ห่วงควยนี่แหละ จริงๆ แล้วการสั่งให้ทหารแถกตัวแบบนี้ ถึงแม้จะให้ถอดเสื้อ แต่ท่อนล่างก็ต้องใส่กางเกงทั้งกางเกงในและกางเกงทหาร ไม่มีใครบ้าสั่งให้แถกตัวในสภาพเปลือยเปล่าเช่นนี้ เพราะควยจะโดนไปเต็มๆ เวลาแถกตัวผมต้องระวังมาก เพราะตอนแถกไป ควยจะเสียดสีกับพื้นเข้าอย่างจัง ถ้าไม่ระวังให้ดีควยอาจจะถลอกปลอกเปิกได้ มันคงเห็นผมแถกตัวช้าเลยหาไม้แถวนั้นมาฟาดที่หลัง ทำให้ผมแถกตัวเร็วขึ้น แต่ตอนที่แถกตัวเร็วจนาดนั้น ควยก็ถูกเสียดสีมากขึ้น เจ็บโคตรๆ แต่ก็ต้องทนเอา พอมันให้ผมแถกตัวจนสาแก่ใจมัน มันก็สั่งให้ผมลุกและยืนตามระเบียบพัก มันเอามือมาจับควยผม และพูดว่า “ยังสภาพดีอยู่เลยนี่หว่า ไม่เห็นจะเป็นห่าอะไรสักหน่อย” แต่จริงๆ มันไม่รู้หรอกว่าผมแสบควยมากแค่ไหน

หลังจากนั้นมันเอาเชือกในเป้ด้านหลังของมันออกมา แล้วเอามาผูกไข่ของผมไว้ มันรัดแน่นมาก ส่วนปลายเชือก มันเอาไปผูกกับท่อนไม้ขนาดใหญ่พอสมควร แล้วก็ออกคำสั่งให้ผมวิ่งลากท่อนไม้ไปรอบสนามดินสัก 10 รอบ ตอนนั้นไข่แทบระเบิดครับ เพราะต้องดึงท่อนไม้ที่หนักมาก แต่มันไม่สนใจผมเลย ผมเลยพอจะเดาได้ว่ามันชอบที่จะทรมานไข่เป็นที่สุด หลังจากนั้นมันก็เอาเชือกที่ผูกปลายไข่ผมออก แล้วมันเอาเศษต่างๆ ที่ไปหามาได้ตอนที่ผมวิ่งมาวางกระจัดกระจายไปตามพื้น มีทั้งเศษของไม้มีหนาม เศษกระเบื้อง เศษกระจก และเศษของขวดเหล้าแตกที่หาได้บริเวณนั้น มันเอาเท้าเขี่ยให้เศษเหล่านั้นกระจัดกระจาย แล้วสั่งให้ผมนอนลงและกลิ้งไปทับเศษเหล่านั้น

ตอนนั้นผมกลัวมาก กลัวไอ้เศษพวกนั้นจะบาดไข่กับควย ตรงอื่นผมไม่กลัวสักเท่าไหร่ แต่ผมก็ต้องทำตามคำสั่งของมัน ผมกลิ้งทับเศษนั้นไปมา เจ็บตรงขาอ่อนกับแขนมาก แสดงว่าต้องมีอะไรบาดโดนผมแล้ว พอมันสั่งลุก ผมสังเกตดูพบว่าตรงข้อศอกกับขาอ่อนเลือดไหลนิดหน่อย คงโดนอะไรบาดมา ส่วนตรงควยนั้นแค่ถลอกๆ ตรงไข่ก็เจ็บหน่อยๆ แต่ไม่มีเลือดออก ก่อนจากกันมันสั่งให้ผมยืนตามระเบียบพักและกางขาออก แล้วสิ่งที่ไม่ได้คาดคิดก็คือ มันเตะผ่าหมากผมอย่างแรง ผมเจ็บมากจนล้มนอนเกลือกกลิ้ง ร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวด มันหัวเราะด้วยความสะใจ แล้วทิ้งนามบัตรไว้ให้ผม มันบอกกับผมว่า “ถ้าอยากลองของอีก ไปที่กรมนี้นะ กูเป็นครูฝึกทหารเกณฑ์อยู่ที่นี่ พร้อมจะฝึกมึงทุกเมื่อ” เก็บไว้ให้เพื่อนๆ เดาเล่นนะครับว่าผมติดต่อมันไปรึเปล่า

อ้อ ลืมบอกอีกอย่าง ในตอนที่ 13 ไอ้ต้นหายไปสองอาทิตย์ กลับมาคงเก็บกดอารมณ์เถื่อนดิบไว้เยอะ ลองติดตามกันต่อไปว่ามันจะระบายออกโดยใช้วิธีไหน และตั้งแต่ตอนที่ 14 เป็นต้นไป จะเล่าถึงการฝึก รด. มีตัวละครตัวใหม่อีก 3 ตัวนะครับคือไอ้หิน และครูฝึก รด.สุดโหดอีก 2 คน คนนึงหน้าหล่อ อีกคนหน้าลาวครับผม

สิ่งหนึ่งที่ผมอาจจะลืมเล่าไปคือตอนที่ฝึกกองร้อยพิเศษ แต่จริงๆ แล้วก็ไม่ค่อยมีอะไรที่สลักสำคัญสักเท่าไหร่ จะมีสำคัญอยู่เรื่องเดียวตรงที่ว่า ช่วงท้ายๆ เทอม ต้องมีการพักแรมของลูกเสือในต่างจังหวัด ผมเองต้องดูแลลูกเสือ ม.ต้น แต่ลูกเสือที่ผมดูแลกลับเหี้ยแบบสัตว์ๆ ทำให้ผมในฐานะผู้ดูแลต้องโดนทำโทษ อย่างหนักโดย อ.กำพลและอ.แผน ปิดท้ายด้วยการที่ไอ้ต้นเก็บกดความคลั่งไว้และหาเรื่องผมกับไอ้โรม แต่คราวนี้ผมกับไอ้โรมกลับฮึดสู้ เรื่องมันจึงค่อนข้างจะยุ่งๆ หน่อย และทั้งสองเรื่องนี้ควรเล่าหลังจากเรื่องรด.แล้ว เพราะถือว่าเป็นเหตุการณ์ปิดท้ายเทอมจริงๆ

วันนี้ผมจึงขอเล่นเหตุการณ์ที่ไอ้สมิงกับเพื่อนมายุ่งวุ่นวายกับผมอีก นับเป็นเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึงอีกเหตุการณ์หนึ่ง หลังจากที่ผมถูกพวกมันซ่อมเดี่ยวอย่างแสนสาหัส หลังจากกลับจากการซ่อมเดี่ยวคราวนั้น ผมก็ไม่ได้ญาติดีกับมันสักเท่าไหร่ ผมเองกับกลุ่มของพวกมันก็ยังอึมครึมกันอยู่

มีอยู่วันหนึ่งซึ่งเป็นวันที่ผมไม่ได้ระมัดระวังตัว เลยเจอดีเข้าจนได้ ไอ้พวกนี้ก็ช่างเลือกเวลาถูกคือเลือกตอนที่ไอ้ต้นไม่อยู่ วันนั้นผมกำลังเยี่ยวในห้องน้ำ ขณะที่กำลังเยี่ยวก็มีคนมาล็อคแขนผมไว้ ไอ้คนที่ล็อคแขนผมมันมีแรงมหาศาลเลย ผมเองกระดิกตัวไปไหนไม่ได้ ตอนนั้นควยก็โด่ออกมา ซิบกางเกงก็ยังไม่ได้รูด พอถูกล็อคจากทางด้านหลัง ไอ้สมิงก็โผล่มาทางด้านหน้า มันบีบควยผมพร้อมกับพูดว่า “ว่าไง ไอ้รุ่นน้องสารเลว เมื่อไหร่มึงจะหัดทำตัวให้มีสัมมาคารวะกับพวกรุ่นพี่บ้าง”

ผมไม่ตอบอะไรมัน แต่ถุยน้ำลายใส่หน้ามันด้วยความสะใจ ไอ้สมิงโมโหมาก มันส่งสัญญาณให้เพื่อนของมันล็อคประตูห้องน้ำที่เป็นประตูใหญ่เพื่อไม่ให้ ใครขัดความสำราญของพวกมัน เมื่อประตูถูกปิด ไอ้สมิงหันมามองหน้าผม มันจับปากผมอย่างแรงจนปากของผมบิดเบี้ยวไปตามแรงมือของมัน

“ไอ้สัตว์ มึงยังคงเป็นเหมือนเดิมนะไอ้เสือ ไม่ยอมเปลี่ยนเลย กูให้โอกาสมึงตั้งหลายครั้ง แต่มึงก็ชอบท้าทายกูอยู่ตลอดเลย กูต้องสั่งสอนให้มึงรู้จักผิดชอบชั่วดีซะบ้าง”

ไอ้สมิงสั่งให้เพื่อนของมันนำผมไปในห้องส้วม แล้วมันก็กดหัวผมลงไปในชักโครก พร้อมกับกดชักโครกไปด้วย พอหนำใจก็ดึงผมของผมขึ้นมา แล้วก็จับผมกดลงไปในชักโครกใหม่ ตอนนั้นผมตั้งตัวไม่ติด เลยไม่ได้ขัดขืนอะไร

หลังจากจับกดผมจนพอใจ มันกับเพื่อนช่วยกันถอดเสื้อผ้าของผมออกจนหมด แล้วจับผมกดพื้น ผมนอนหงายแบบขึงพืดโดยที่พวกมันจับแขนกับขาของผมเอาไว้ ถึงแม้จะโดนแบบนี้แต่ควยผมสู้ไม่ถอย มันแข็งขืนต่อหน้าทุกคน เพื่อนมันคนหนึ่งแอบเห็นว่ามียาสีฟันอยู่แถวนั้น มันจึงนึกสนุก เอายาสีฟันมาบีบใส่หัวควยกับหัวนมทั้งสองข้าง ที่หัวนมซ่าครับ แต่ที่หัวควยแสบสุดบรรลัย ผมร้องออกมา แต่โดนพวกมันคนหนึ่งตบหน้าไปสามที ผมจึงร้องไม่ออกแล้ว ควยก็แสบไปหมด ผมพยายามดิ้นแต่ก็ดินไม่หลุด

แล้วหลังจากนั้นการทารุณกรรมทางเพศก็จะเกิดขึ้น เพื่อนไอ้สมิงคนแรกควักควยใส่ปากผม และซอยไม่ยั้ง ส่วนคนที่สองเอาควยอัดตูดผมและซอยถี่ยิบเช่นเดียวกัน ผมเจ็บปากกับรูตูดมาก แต่ก็ต้องทน พอคนที่ปากใกล้จนเสร็จก็ชักควยออกแล้วก็หลั่งใส่หน้าผม คนที่ตูดก็ชักควยออกและหลั่งตรงแถวตูดผม พอคู่นี้เสร็จก็ผลัดมาจับผมแทน อีกสองคนก็มาเอาควยยัดปากกับยัดรูตูดผม คู่ที่สองนี้จำได้ว่า แรงสุดๆ ปากผมแทบฉีกเพราะควยมันใหญ่มาก ส่วนตูดก็ระบมไปหมด เพราะเอาควยทะลุทะลวงแบบไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม ทำให้ปากกับตูดผมแสบมากๆ พอคนที่ปากใกล้เสร็จก็ชักควยออกมาแตกใส่หน้าผมอีก แล้วมันก็ใช้มือละเลงน้ำกามไปทั่วหน้า พอหมดคู่นี้ผมเองก็ต้องเจอแบบเดียวกันอีกสองคู่ ตอนนั้นแสบตูดมากๆ ปากก็แทบพัง พอพวกมันอัดผมครบทั้งสี่คู่ หลายคนปวดเยี่ยวก็เลยเยี่ยวใส่ผมทั้งที่หน้า หน้าอก หน้าท้อง พอคนอื่นเห็นมีคนเยี่ยวใส่ผมก็หันมาเยี่ยวใส่ผมเป็นการใหญ่ เพราะหลายคนปวดอยู่แล้วจึงเข้ามาในห้องน้ำ พอเสร็จกิจก็เยี่ยวกันยกใหญ่

ผมเองรู้สึกว่าตัวเองโสโครกมาก เพราะมีทั้งน้ำกาม ทั้งเยี่ยวเปรอะเต็มหน้า เต็มตัวไปหมด ควยก็โดนยาสีฟันสีจนแสบ ตอนนั้นผมหมดแรงจริงๆ จึงยังคงนอนอยู่ที่พื้นถึงแม้ว่าจะไม่มีใครมากดแขนกับขาผมอีกก็ตาม

ตอนนั้นหลายคนนึกสนุก ปั่นควยจนแข็งได้อีกและช่วยกันยัดควยเข้าปากผม จนปากผมมีควยสองอันอยู่ด้วยกัน ตอนนั้นแทบจะหายใจไม่ออก มันก็เอาควยคาปากผมอยู่อย่างนั้น ไม่ยอมเอาออกไปไหน ผมก็เลยยังลุกไม่ได้ แต่ควยผม ถึงจะแสบแต่ก็ยังแข็งและผงกหัวได้อยู่ มีใครสักคนนึกอะไรขึ้นมาได้ จึงเดินไปดึงไม้กวาดทางมะพร้าวออกมาก้านนึง พร้อมกับตะโกนพูดกับผม “เสร็จแน่ ไอ้เสือ”

มันเอาไม้กวาดก้านหนึ่งค่อยๆ ยัดลงไปในหัวควยของผม ผมพยายามจะร้องเพราะเจ็บมาก แต่ปากก็มีสองควยยัดไว้จนปากจะฉีกอยู่แล้ว ผมเลยร้องไม่ออก มีเพื่อนไอ้สมิงอีกคน แม่งเอาตีนมากระทืบที่หน้าท้องผมเป็นระยะ มีไอ้คนนึงตะโกนว่า “เฮ้ย รูตูดมันยังว่าง” มันเลยเอาด้ามของไม้ที่เอาไว้สูบส้วมซึ่งโชคดีมากที่ปลายด้ามมันกลมมนมา ค่อยๆ ยัดไปในรูตูดของผม

ตอนนั้นผมทรมานมาก แต่ลุกไม่ขึ้นเลย ควยก็โด่ไม่รู้ล้มและก็ทั้งเสียวและแสบจากการโดนเอาไม้กวาดทางมะพร้าวก้าน หนึ่งแทงลงไปในรูควย ผมอยากร้องระบายความเจ็บปวดใจแทบขาดที่ควยมันค้ำคออยู่ พอไอ้สมิงเห็นผมทรมานถึงขีดสุด มันจึงสั่งให้ลูกน้องมันหยุดทรมานผม ตอนนั้นทุกคนหยุดเอาอะไรต่อมิอะไรมาแทงปาก รูตูด รูควยของผม ไอ้สมิงพูดกับผม “มึงสำนึกหรือยังไอ้เสือ”

ตอนนั้นผมนอนนิ่งเพราะอ่อนแรง แต่ผมก็กลั้นใจ ไม่ตอบอะไรมันไป ทำให้เพื่อนของมันโกรธมาก จึงรุมกระทืบผมอีก มีบางคนกระทืบไปที่หน้าและควย บางคนกระทืบไปที่ท้องกับหน้าขา ผมร้องไม่ออกแล้ว หมดแรงแต่ควยยังแข็งอยู่ จนเพื่อนมันบางคนบอกให้ผมชักว่าว ระบายน้ำควยออกหน่อย ผมก็ชักตามที่มันบอก ทั้งมันส์ทั้งเจ็บครับ เพราะควยถูกทารุณกรรมไว้เยอะ

ขณะชักว่าวอยู่ พวกมันก็ยังรุมกระทืบท้อง กระทืบหน้าอก และเอาตีนลูบหน้าของผมเป็นระยะ ขณะที่ผมกำลังชักน้ำจะแตกอยู่แล้ว ไอ้สมิงก็มาเตะมือผมและตะโกนบอกให้หยุด ซึ่งทำให้ผมอารมณ์ค้าง หลังจากนั้นมันก็เอาเท้าเตะควยผมเป็นว่าเล่น เตะไปเตะมาอยู่อย่างนั้นพร้อมกับบอกผมว่า “วันนี้กูจะไม่ให้มึงน้ำแตกง่ายๆ หรอก ไอ้ควยถอก”

ตอนนั้นใครปวดเยี่ยวก็ยังเยี่ยวใส่ตัวผมเป็นระยะๆ คนที่เหลือก็ต่างเตะควยผมกันเป็นที่สุกสนาน ตอนนั้นผมรู้สึกเหมือนถูกกระทำเยี่ยงสัตว์ ยิ่งรู้สึกแบบนี้มากเท่าไหร่ ควยผมก็แข็งมากเท่านั้น จนในท้ายที่สุด ไอ้สมิงจึงยอมให้ผมชักว่าวจนน้ำแตก พอผมน้ำแตกแล้วมีอีกคนนึกสนุก มันปั่นควยมันและบอกไอ้สมิงว่า มันอยากแตกใส่ปากผม ผมตกใจมากไม่คิดว่าไอ้สมิงมันจะเห็นด้วย แต่มันดันเห็นด้วย

คนที่ยังพอปั่นควยให้แข็งก็อยากทำอย่างนั้นบ้าง คนแรกตอนจะแตกก็บังคับให้ผมอ้าปาก ผมก็อ้าตามคำสั่งของมัน พอแตกใส่ปากก็บังคับให้ผมกลืนลงไป ถ้าฝืดคอก็เยี่ยวใส่ มันทำทารุณกรรมกับผมจนควยที่กำลังหลับถูกปลุกขึ้นมาอีกครั้ง ผมอาจอยู่ในสภาพย่ำแย่ แต่ถ้าควยแข็ง ผมเองก็จะรู้สึกฮึกเหิมขึ้นมาอีก ประเภทว่าถ้าควยสู้ ผมก็สู้เหมือนกัน

แต่ตอนนั้นสิ่งที่แย่มากที่สุดคือมีคนเอายาสีฟันมาทารอบหัวควยผมก่อนมันจะ ชักให้ผมอย่างเมามันส์ แต่ผมต้องแหกปากร้องด้วยความแสบ แต่เพื่อนมันอีกคนก็เอาร้องเท้ามายัดปากผมไว้ อีกคนก็เอาตีนมากดไว้ที่หน้าท้อง ไอ้สมิงมันมาช่วยชักให้ผม ขณะกำลังชักก็มีการเอายาสีฟันมาถูกตรงหัวควยมากขึ้นเรื่อยๆ และมันก็ชักว่าว ให้ผมถี่ขึ้นเรื่อยๆ ผมทนแทบไม่ไหว แต่ก็ต้องทนเพราะรองเท้าใครสักคนคาปากผมอยู่ น้ำผมยังไม่แตก มันก็เอายาสีฟันมาทาอยู่เรื่อยๆ แล้วก็ชักให้อีก ผมแสบ ผมเจ็บ ขาดิ้นกระแด่วๆ พวกมันก็กระทืบไปที่หน้าขาของผม เจ็บครับ เจ็บมาก พวกมันยังอัดยาสีฟันเข้ามาอีก ผมแสบมาก ไอ้สมิงตะโกน “กูจะให้มึงแตกตอนที่มึงแสบควยสุด”

ผมได้แต่นึกในใจว่า “แม่งโคตรซาดิสต์เลย ซาดิสต์แบบเหี้ยๆ เลย”

ไอ้สมิงพยายามชักจนผมแตกรอบสอง ความแสบทรมานประดังเข้ามาแบบไม่ยั้ง ผมนอนแผ่ หมดแรง พวกมันล้างหน้าล้างตากัน ไม่มีใครสนใจผมอีก จนผมเริ่มมีแรงพอจะลุกขึ้นยืนได้

ไอ้สมิงกับเพื่อนปลดล็อคประตู พอพวกมันออกกันไปแล้ว ผมก็ไปล็อคประตูอีกครั้ง ผมต้องนั่งพักสักระยะ รอให้ควยหายแสบ รอให้เรี่ยวแรงฟื้นคืนมา ถึงแม้ผมจะรู้สึกแย่เหมือนกับสัตว์ตัวหนึ่ง แต่อีกความรู้สึกหนึ่งผมก็รู้สึกสะใจมากที่มีคนทำกับผมได้ถึงขนาดนี้ วันนั้นผมแสบไปหมด แสบปาก แสบนม แสบตูด แสบควย ร่างกายดูสะบักสะบอมไปหมด แต่ผมก็สะใจครับ เป็นประสบการณ์ที่ลืมไม่ลงเลยจริงๆ ทุกวันนี้ก็ยังนึกถึงประสบการณ์ในวันนั้นอยู่เสมอ และผมก็รู้สึกว่าไอ้สมิงเป็นนายคนหนึ่งในชีวิตของผมที่มันทำหน้าที่ได้ดีมาก แบบไม่ขาดไม่เกิน หลังจากนั้นผมกับกลุ่มของมันก็ไม่ได้ญาติดีกัน แต่ลึกๆ แล้วผมรู้ว่ามันรู้สึกยังไงและผมรู้สึกยังไง ช่วงชีวิตหนึ่งของลูกผู้ชาย ผมรู้สึกดีครับที่ได้มีประสบการณ์แบบนี้

เป็นประสบการณ์ที่ดี ที่จนถึงทุกวันนี้ผมก็ยังไม่เคยลืมเลย คือ ลืมไม่ลงจริงๆ ครับ

จริงๆ แล้วการเรียน รด.ของผมก็เหมือนกันคนอื่นๆ สิ่งที่แปลกมีอยู่เพียงสองอย่างคือ วันแรกที่ไปสมัครเรียน รด. ผมสังเกตเห็นครูฝึกคนหนึ่ง กำลังลงโทษทหารเกณฑ์อยู่ ทหารเกณฑ์คนนั้นอยู่ในสภาพนุ่งกางเกงในตัวเดียวและกำลังทำท่าสะพานโค้ง ผมแอบเห็นครูฝึกคนนั้นบีบไข่ บีบควย และฟาดหน้าอกของทหารเกณฑ์คนนั้นไปด้วย ครูฝึกคนนั้นหล่อมาก ผมตั้งฉายาให้แกว่า “ครูฝึกโหดโคตรหล่อ”

หลังจากนั้นผมกับเพื่อนก็เรียน รด.กันตามปกติ ครูฝึกในกองร้อยของผมมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 3 คน คนที่ 1 กับ 2 แมนดี สอน รด.ไปตามปกติ ส่วนคนที่ 3 หน้าออกลาว และดูเหมือนไม่ค่อยเชื่อมั่นในตนเอง ความแมน ความเป็นที่เชื่อถือก็สู้ 2 คนแรกไม่ได้ กลุ่มผมตั้งฉายาให้ครูฝึกคนที่ 3 ว่า “ไอ้ขี้มูก”

เวลาผ่านไปประมาณ 3 สัปดาห์ไอ้ขี้มูกแทบจะไม่มีบทบาทใดเลยในการฝึก ส่วนครูฝึก 2 คนแรกฝึกดีมาก แถมยังลงโทษเป็นบางครั้ง รด. คนอื่นๆ กลับเกรงกลัวและให้ความเคารพยำเกรง จนมาถึงจุดเปลี่ยนในสัปดาห์หน้า ครูฝึกคนที่ 1 และ 2 จะต้องไปปฏิบัติภารกิจที่อื่น ทั้งสองนายดันพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “ฝากไอ้ขี้มูกช่วยดูแลพวกเราทุกคนด้วย”

ไอ้ขี้มูกรู้สึกเสียหน้ามาก พวกเราก็ไม่รู้ว่าครูฝึกสองนายแรกรู้มาจากไหนว่าพวกเราตั้งฉายาให้ “ไอ้ขี้มูก” แบบนี้ แต่พวกเราก็ไม่ได้ตระหนกถึงเภทภัยที่จะเกิดขึ้น ต่างคิดว่าอยู่กับไอ้ขี้มูกน่าจะสบายกว่า แต่พวกเราคิดผิดถนัดครับ เพราะไอ้ขี้มูกสะสมความแค้นของพวกเราไว้เต็มประดา แต่เขาก็ไม่ค่อยมั่นใจในตัวเอง จึงไปตาม “ครูฝึกโหดโคตรหล่อ” มาช่วยฝึกพวกเราอีกแรง สัปดาห์ที่ 4 ในการเรียน รด.ของพวกเราเปรียบเสมือนกับสัปดาห์นรกโดยที่ไม่ได้มีใครคาดคิดมาก่อน

เริ่มตั้งแต่ไอ้ขี้มูกแนะนำ “ครูฝึกโหดโคตรหล่อ” ให้พวกเรารู้จัก หลังจากนั้นก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง มันสั่งพวกเราทุกคนให้ถอดเสื้อออกทั้งเสื้อตัวนอกและเสื้อยืด พอหลังจากนั้นก็ฝึกท่าบุคคลมือเปล่าในแบบที่แปลกพิสดาร ฝึกไปลงโทษไปให้หมอบให้กลิ้งไปตามเรื่อง แต่นั่นยังไม่ใช่ประเด็นของผม ประเด็นอยู่ตรงที่ว่าก่อนจากกัน “ครูฝึกโหดโคตรหล่อ” ได้พูดไว้ว่า คราวหน้าขอให้ทุกคนแต่งตัวให้ถูกระเบียบมากที่สุด จะหย่อยยานไม่ได้ ใครหหย่อนยานจะต้องเจอการลงโทษอย่างสาสม

ผมเองทนฟังคำพูดทำนองนี้ไม่ค่อยได้ สงสัยมากเลยครับว่าการลงโทษอย่างสาสมคืออะไร ผมก็เลยตั้งใจไว้เลยว่า สัปดาห์หน้าต้องแต่งตัวให้ผิดระเบียบ แต่แบบไหนถึงจะให้อารมณ์มากกว่าแบบอื่น คิดไปคิดมาก็มาสรุปตรงที่ว่า เสื้อยืดข้างในผมจะไม่ใส่เสื้อยืดแบบทหาร แต่จะใส่เสื้อยืดสีเหลืองแทน น่าจะเตะตาไอ้ขี้มูกกับ “ครูฝึกโหดโคตรหล่อ” พอสมควร

พอถึงสัปดาห์ที่ 5 ผมก็ตั้งใจแต่งชุดตามนั้น พอไปถึงกรมทหาร ดันไม่ใช่ผมคนเดียวที่ตัดสินใจแบบนั้น แต่ยังมีเพื่อนร่วมชั้นที่ชื่อไอ้หิน มันก็ตัดสินใจทำแบบผมด้วย ผมแปลกใจมาก เพราะตอนอยู่ที่โรงเรียนมันไม่มีวี่แววแบบนี้มาก่อน และแน่นอนว่าไอ้ขี้มูกกับ “ครูฝึกโหดโคตรหล่อ” ต้องเห็นผมกับไอ้หินแต่งตัวท้าทายแกแบบนั้นแน่ เราสองคนจึงถูกเรียกไปหน้ากองร้อย และถูกสั่งให้ถอดเสื้อออกทั้งสองตัว

“ครูฝึกโหดโคตรหล่อ” พูดขึ้นมาว่า “ยอมไม่ได้ที่จะให้มีใครแต่งตัวผิดระเบียบแบบนี้ เป็นอันว่าไอ้สองตัวนี้ไม่มีเสื้อใส่ในคราวนี้ แต่สิ่งที่ขาดไม่ได้คือป้ายชื่อที่ต้องติดที่หน้าอก”

เขาหมายถึงป้ายชื่อที่พอเราใส่เสื้อตัวนอก เราจะมีป้ายชื่อที่ใส่ชุด รด. ติดที่หน้าอก โดยป้ายออกแบบมาให้ติดกับกระดุมที่กระเป๋าของเสื้อตัวนอก สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ “ครูฝึกโหดโคตรหล่อ” บอกว่า รด. ทุกคนจะขาดไม่ได้

“แต่ในเมื่อไอ้สองตัวนี่จะไม่ได้รับอนุญาติให้สวมเสื้อใดๆ ทั้งสิ้นตลอดการ ฝึกวันนี้ เราจะเปลี่ยนบัตรแบบกลัดกระดุมให้เป็นบัตรแบบหนีบแทน”

ผมได้ยินแล้วหนาวเลย มันเตรียมบัตรแบบหนีบมาให้เราคนละสองบัตร เราต้องเอาบัตรที่เป็นกระดาษสอดเข้าไปในซองพลาสติกของบัตรแบบหนีบ ส่วนอีกอันให้สอดกระดาษที่เขียนชื่อโรงเรียนไว้ และที่ทุกคนพอจะคาดเดาได้ มันเอาบัตรแบบหนีบทั้งสองใบมาหนีบที่หัวนมของผมกับไอ้หิน มันหนีบเสร็จก็ให้พวกเราเดินโชว์ เพื่อนๆ เห็นแค่นี้ก็หนาวแล้ว ผมกับไอ้หินที่ถูกหนีบหัวนมแบบนี้ตลอดการฝึกในวันนี้ นับว่าเป็นการถูกหนีบหัวนมที่ยาวนานที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอ และไม่ว่าจะไปไหนในตลอดเวลาการฝึกก็ห้ามเอาป้ายหนีบนี่ออก

มีอยู่ช่วยหนึ่งที่ “ครูฝึกโหดโคตรหล่อ” เรียกผมไปพบ เขาพูดว่า “ไหนชื่ออะไรนะ อยู่โรงเรียนอะไร ไหนขอดูใกล้ๆ หน่อยซิ”

เขาจงใจดึงป้ายชื่อที่หนีบหัวนมของผมทั้งสองข้างอย่างเต็มแรง ตอนนั้นผมต้องอยู่ในท่าตรง การดึงของเขาทำให้หัวนมถูกดึงออกไปข้างหน้าอย่างแรง ถ้าจะบรรเทาความเจ็บปวด ตัวผมต้องก้าวไปข้างหน้าด้วย แกเหมือนจะรู้ทันเลยพูดเผื่อไว้ก่อนว่า “อยู่ในท่าตรงนะ อย่าลืมรักษาท่าตรงไว้”

แกยังดึงป้ายชื่อแบบหนีบทั้งสองข้างไปข้างหน้าอย่างแรง จนหัวนมของผมถูกดึงไปข้างหน้าจนมันเริ่มที่จะผิดรูปไป แต่แกก็ไม่ได้สนใจอะไรทั้งสิ้น แกพูดใส่ผมด้วยน้ำเสียงที่เปลี่ยนไป

“มึงชอบลองดีใช่ไหม คราวหน้าลองแต่งตัวแบบนี้มาอีกสิ ถ้าแน่จริงนะ แต่งมา กูจะรอ”

คำพูดนั้นกระตุ้นผมอีกแล้ว กระตุ้นผมมากถึงมากที่สุด “ครูฝึกโหดโคตรหล่อ” ให้เกียรติผมขนาดนี้ ผมจะไม่สนองมันก็จะกระไรอยู่นะ ผมก็เลยสนองซะเลย ในสัปดาห์ที่ 6 ผมก็ยังใส่เสื้อยืดที่ไม่ใช่เสื้อยืดของ รด. อีกและเป็นไปตามคาด ไม่ใช่ผมคนเดียวที่ทำตัวแบบนี้ ไอ้หินก็จงใจทำแบบนั้นด้วย สิ่งแรกที่เจอเหมือนเดิมคือต้องถอดเสื้อออกตลอดการฝึก ห้ามใส่เสื้อเด็ดขาด และอารมณ์เหมือนเดิมคือ ถึงจะไม่ได้ใส่เสื้อก็ต้องมีป้ายชื่ออย่างน้อย สองป้ายชื่อบนหน้าอกบริเวณราวนม

ครั้งนี้ไอ้ขี้มูกประกาศบ้าง มันพูดว่า “วันนี้ป้ายที่เป็นตัวหนีบของเราหมด เราจะตัดสินใจใช้เข็มกลัดแทน” เพียงเท่านั้นเสียงของเพื่อนๆ ผมก็อื้ออึงกันไปทั้งกองร้อย มีเสียงแว่วขึ้นมาว่า “แม่งโคตรซาดิสต์เลยว่ะ”

ไอ้ขี้มูกมันพูดจริงทำจริง ดูมันจะชอบไอ้หินเป็นพิเศษ ส่วน “ครูฝึกโหดโคตรหล่อ” ก็พิศวาสผมเป็นพิเศษเหมือนกัน มันเอาเข็มกลัดกลัดป้ายชื่อทั้งสองป้าย แล้วก็เอาเข็มกลัดมาแทงทะลุหัวนมของผม แต่ละข้างใช่ว่าจะแทงได้ง่ายๆ คนแทงต้องใจเด็ดพอสมควรคือต้องซาดิสต์มาจากจิตวิญญาณ เพราะถ้าไม่ได้เป็นแบบนั้นแล้ว คงไม่กล้าทำอะไรแบบนี้กับนักศึกษาวิชาทหาร

“ครูฝึกโหดโคตรหล่อ” ใช้ความพยายามในการใช้เข็มกลัดแทงทะลุหัวนมของผม แล้วก็กลัด แล้วมันก็พยายามทำกับหัวนมอีกข้างหนึ่ง ขณะทำมันพูดกับผมว่า “ดูเหมือนหัวนมของมึงน่าจะเจอเบ็ดตกปลามาก่อน เยี่ยมยอดมาก คราวหน้ากูขอจองตัวมึงเลยนะ กูมีสิ่งดีๆ จะให้มึงเพียบเลย”

หัวนมของไอ้หินไม่ค่อยเท่าไหร่ แต่หัสนมข้างซ้ายของผมมีเลือดไหลออกเป็นทางยาว ความเจ็บผสมกับเห็นเลือดออกจากหัวนมทำให้ควยผมลุกอย่างรวดเร็ว “ครูฝึกโหดโคตรหล่อ” ถึงแม้จะเห็นเลือดออกจากหัวนมของผม แต่เขาก็เฉยๆ แถมยังมาดึงป้ายชื่อของผมแบบเดิมอีก คราวนี้ดึงแรงมาก จนหัวนมถูกดึงตามเข็มกลัดไปด้วย สร้างความเจ็บและความหวาดเสียวให้ผมมิใช่น้อย

หลังจากสองสัปดาห์นั้น ผมกับไอ้หินโดนตีตราจองเพราะเราสองคนทำตัวเอง เพื่อนๆ ทุกคนก็เรียนกันไปแบบสบายๆ ไม่ค่อยได้โดนทำโทษ มีแต่ผมกับไอ้หินนี่แหละที่ตั้งแต่นี้ต่อไปก็จะโดนทำโทษกันเป็นประจำและมักจะหนักข้อมากขึ้นเรื่อยๆ ตามแต่ครูฝึกจะปรารถนา

พอถึงสัปดาห์ที่ 7 ผมตั้งใจแต่งตัวให้ถูกต้องตามระเยียบทุกอย่าง แต่ “ครูฝึกโหดโคตรหล่อ” พูดกับผมว่า “มันสายไปแล้ว” มันเป็นคำพูดที่เยือกเย็นมาก “ครูฝึกโหดโคตรหล่อ” แยกผมไปซ่อมเดี่ยวเป็นครั้งแรก มันพูดเองว่า รด. เขาไม่ซ่อมเดี่ยวกันหรอก แต่สำหรับผม มันเป็นกรณีพิเศษ

หลังจากนั้นประโยคแรกที่มันพูดกับผมก็คือ “ถอดเสื้อออกสิ กูรู้ว่ามึงไม่ชอบใส่เสื้อหรอก” พอผมถอดเสื้อออกจนหมด มันก็มาเพ่งมองที่หัวนมของผม “แผลหายเร็วดีนี่ แสดงว่าพร้อมแล้วสำหรับการทรมานครั้งใหม่” ผมยืนนิ่งไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ มันจ้องหน้าผม แล้วก็จ้องมาที่หัวนมของผม

มันพูดกับผมว่า “วันนี้กูมีไม้แขวนเสื้อพร้อมตัวหนีบเอาไว้ให้มึง” มันหยิบไม้แขวนเสื้อแบบห่วงที่มีที่หนีบ มันเอามาหนีบที่หัวนมของผม ผมรู้สึกว่าแค่น้ำหนักของไม้แขวนเสื้อมันก็หนักพอดูแล้ว แต่ “ครูฝึกโหดโคตรหล่อ” พูดต่อไปว่า “กูอยากจะรู้จังเลยว่าหัวนมของมึงจะรับน้ำหนักได้แค่ไหน” พูดจบมันก็เอาแม่กุญแจมาคล้องที่ห่วงไม้แขวนเสื้อ พร้อมกับล็อคแม่กุญแจ แล้วปล่อยทันที ทำให้หัวนมผมถูกรั้งลงไปอีก มันพูดย้ำกับผมว่า “ระวัง ต้องอยู่ในท่าตรงไว้”

ผมพยายามรักษาท่าระวังตรงไว้ ไม่ให้หลังงอ มันยังคงเอาถุงซึ่งใส่ของหนักพอสมควรมาผูกไว้กับห่วงของแม่กุญแจ มันพยายามถ่วงน้ำหนักไปเรื่อยๆ หัวนมของผมก็บี้แบนไปตามของที่ถ่วงที่มันหนักขึ้นเรื่อยๆ มันบอกว่าหลังของผมงอ จึงเอาเป้สนามหนักอึ้งมาให้สะพายด้วย พอสะพายไปแล้วมันคิดว่าผมหลังตรงมากขึ้น มันจึงหาของมาถ่วงต่อ ผมกะถ่วงให้หัวนมของผมเจ็บให้ถึงที่สุด มันหาของมาถ่วงจนแทบไม่มีที่จะแขวนแล้ว เป้หลังก็หนักมาก เหมือนมันจะใส่หินเอาไว้ หัวนมก็ถูกถ่วงด้วยของหนักๆ จนผมแทบทนไม่ไหว เพราะตรงหัวนมนั้นเจ็บมาก สักพักมันจึงเอาของที่ถ่วงออก แล้วดึงที่หนีบที่ติดมากับไม้แขวนเสื้อออกไปด้วย

แต่ยังไม่จบแค่นั้น มันเอาไม้หนีบผ้ามาหนีบที่หัวนมของผม หัวนมหนึ่งข้างมันใช้ไม้หนีบผ้ามาหนีบสองอัน การทำแบบนี้เป็นการย้ำความเจ็บไปที่จุดเดิม ขณะที่หัวนมถูกหนีบ มันสั่งให้ผมวิดพื้น วิ่งรอบๆ ห้องนั้น เพื่อเป็นการถ่วงเวลาและได้ผลเป็นสองเท่าคือเจ็บด้วยกับเหนื่อยด้วย หัวนมผมถูกหนีบนานจนเจ็บและชา มันเจ็บซ้ำที่เดิมจนเกือบจะทนไม่ได้อยู่แล้ว พอเวลาผ่านไปสักพัก มันก็เอาไม้หนีบผ้าออกจากหัวนมของผม ผมเจ็บที่หัวนมมาก เจ็บจนบอกไม่ถูก อยากเอามือมาลูบตรงหัวนมเพื่อบรรเทาความเจ็บ แต่ก็ทำไม่ได้ เพราะต้องอยู่ในท่าตรง ตอนนั้นผมเห็น “ครูฝึกโหดโคตรหล่อ” กำลังเตรียมที่หนีบกระดาษเหล็กสีดำมาอีก 4 อัน

พอผมเห็นที่หนีบกระดาษเหล็กสีดำอีก 4 อัน ผมก็สันนิษฐานได้ว่า “ครูฝึกโหดโคตรหล่อ” นายนี้น่าจะชอบการทรมานหัวนมเป็นชีวิตจิตใจ และคงรอหาโอกาสที่จะทรมานหัวนม รด. สักคนมาพอสมควรแล้ว ตอนนั้นเท่าที่จำได้ หัวนมผมเจ็บมากอยู่แล้ว ถึงแม้ผมจะชื่นชอบความเจ็บปวดปานใดก็ตาม ผมก็ไม่อยากให้ใครมาทำอะไรกับหัวนมผมอีก แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนั้นคือ ผมไม่มีสิทธิปฏิเสธ เพราะอำนาจอยู่ในมือเขา ตอนนั้นเขาจะทำอะไรกับผมก็ได้ คนที่จะบอกให้หยุดก็คือเขา ไม่ใช่ผม ในสถานการณ์แบบนี้ผมไม่มีสิทธิอะไรเลยนอกจากทำตามคำสั่งหรือยอมให้เขาทำ บางอย่างโดยที่ผมไม่อาจปฏิเสธได้ เพราะกฎของเกมส์นี้มันเป็นอย่างนั้น

“ครูฝึกโหดโคตรหล่อ” ไม่รอช้าที่จะเอาที่หนีบกระดาษเหล็กสีดำมาหนีบที่หัวนมของผมข้างละสองอัน ที่มันเอามาใช้เป็นที่หนีบขนาดเล็ก ซึ่งในความรู้สึกของผมที่หนีบขนาดเล็กเจ็บกว่าขนาดใหญ่มาก และนี่ผมโดนข้างละสองอัน ทำให้ผมส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด

“ครูฝึกโหดโคตรหล่อ” ตะคอกใส่ผมว่า “แค่นี้สำออยเหรอมึง ... ดีล่ะ งั้นเอามือประสานไว้ที่ท้ายทอย” ผมทำตามคำสั่ง แล้วมันก็ชกไปที่ท้องผมหลายที ขณะชกก็พูดไปด้วยว่า “สำออยนักใช่มั้ย มึงสำออยมึงก็ต้องเจอแบบนี้”

วันนั้นเป็นวันที่หัวนมของผมระบมมากๆ เพราะยังไม่เคยมีใครหนีบซ้ำหนีบซากเท่านี้มาก่อน ตอนนั้นไอ้ขี้มูกกับ “ครูฝึกโหดโคตรหล่อ” ดูแลกองร้อยของผมอีกแค่สองครั้งก่อนที่ครูฝึกคนที่ 1 กับ 2 จะเข้ามาทำหน้าที่ตามปกติ ผมสังหรณ์ว่า ไอ้ “ครูฝึกโหดโคตรหล่อ” ต้องไม่ทิ้งโอกาสงามๆ ของมันเป็นแน่ และพอถึงตอนเรียน รด. อีก ผมก็พบว่าลางสังหรณ์ของผมไม่ผิด แต่ที่ผิดคือ ไอ้ “ครูฝึกโหดโคตรหล่อ” ดันชวนไอ้ขี้มูกมาด้วย มันทั้งสองปล่อยให้กองร้อยผมนั่งๆ นอนๆ ตามสบาย มันทำแบบนี้เพื่อเอาเวลามาทรมานผมเล่น เพื่อนๆ ผมก็เลยสบายไปเลย ไม่ต้องโดนฝึกอะไรทั้งนั้น

ครั้งนี้มันสั่งให้ผมถอดเสื้อออกจนหมดเหมือนเดิม แล้วสั่งให้ผมนอนหงาย หลังจากนั้นมันทั้งสองไปเอากระดาษทรายมาช่วยกันขัดหัวนมผมคนละข้าง ผมเคยได้ยินเรื่องแบบนี้มาก่อน แต่ไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะมาเจอจริงๆ การขัดมันขัดแบบไม่เร็วมาก ค่อยเป็นค่อยไป แต่ก็จะแรงมากขึ้นเรื่อยๆ การเอากระดาษทรายขัดหัวนมนั้นเป็นการขัดเอาหนังกำพร้าที่หัวนมออก

จุดประสงค์ก็เพื่อ พอหลังจากขัดเสร็จแล้ว ไม่ว่ามันจะทำอะไรกับหัวนมของผม ผมจะเจ็บมากกว่าปกติอีกสองเท่า มันสองตัวซาดิสต์มากจริงๆ ครับพอผมคิดถึงความซาดิสต์ของมัน ควยผมก็แข็งโด่เลย พอมันสองคนเอากระดาษทรายขัดหัวนมของผมจนสาแก่ใจ มันก็หยิบเทียนมาคนละเล่มครับ

“ครูฝึกโหดโคตรหล่อ” พูดกับผมว่า “ถึงมึงจะเคยโดนคนเอาน้ำตาเทียนหยดลงที่หัวนมมาก่อน แต่กูรับรองว่า ครั้งนี้มึงจะทรมานจนลืมไม่ลงเลย มึงจะเจ็บมากกว่าทุกครั้งที่มึงเคยโดน” และก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ ครับ ผมเจ็บที่หัวนมมาก เจ็บอย่างบอกไม่ถูก มันสองตัวช่วยกันเอาน้ำตาเทียนหยดลงที่หัวนมของผมคนละข้าง มันพยายามหยดจนน้ำตาเทียนกลบมิดหัวนมของผม หลังจากนั้นมันก็พยายามหยดทับมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อไม่ให้ความแสบร้อนหายไปไหน วันนั้นนี่เจ็บโคตรๆ เลยครับ เจ็บแบบสาหัสสากรรจ์จริงๆ เล่นเอาลืมไม่ลงจนถึงวันนี้

พอครั้งต่อไปซึ่งเป็นโอกาสสุดท้ายของพวกมันที่จะลงโทษผมแบบไม่มีเหตุผล มันพาผมไปอีกห้องซึ่งมีเตียงเหล็กอยู่เตียงหนึ่ง มันสั่งให้ผมถอดเสื้อแล้วนอนลงไป มันเอาเชือกมามัดข้อมือข้อเท้าผม มันมัดจนตึงในลักษณะแบบจับผมนอนขึงพืด ไอ้ “ครูฝึกโหดโคตรหล่อ” พูดกับผมว่า “จริงๆ แล้ววันนี้สิ่งที่กูอยากทำมากที่สุดคือการตัดหัวนมของมึงทิ้ง แล้วเอาเกลือมาทาให้สาแก่ใจ แต่กูทำอย่างนั้นไม่ได้ แต่มึงก็ไม่ได้โชคดีหรอกนะไอ้สัตว์ เพราะสิ่งที่มึงกำลังจะเจอต่อไปอาจเจ็บประมาณนั้นเหมือนกัน”

พอพูดจบมันกับไอ้ขี้มูกก็เอาเข็มฉีดยามาแทงไปที่หัวนมของผม มันทำคนละข้าง แต่ละข้างมันเตรียมเข็มฉีดยามาตั้งยี่สิบกว่าอัน การแทงมันใช้วิธีแทงให้ทะลุจากด้านหนึ่งไปยังอีกด้านหนึ่ง การแทงแต่ละครั้งก็ใช่ว่าจะง่าย คนที่จะทำแบบนี้ได้ต้องซาดิสต์จริงๆ และจะต้องแน่ใจว่าผมจะไม่เอาเรื่องนี้ไปแจ้งความแน่นอน มันสองตัวทำกันอย่างใจเย็นมาก

ตอนนี้หัวนมทั้งสองข้างของผมโดนเข็มฉีดยาไปข้างละประมาณ 7-8 เล่ม มีเลือดไหลออกมาซิบๆ ทั้งสองข้าง เจ็บสะใจมากครับ เพื่อนๆ ก็นั่งเล่นกันสบายไม่ต้องฝึก แต่ผมต้องมาเจออะไรแบบนี้ พอมันแทงกันเสร็จเรียบร้อย ไอ้ “ครูฝึกโหดโคตรหล่อ” ก็ไปเอาน้ำเกลือที่มันเตรียมไว้มาสาดใส่หน้าอกของผม ผมร้องลั่นเลยเพราะปวดแสบปวดร้อนมาก เห็นผมร้อง ไอ้ “ครูฝึกโหดโคตรหล่อ” มันหาว่าผมสำออย ผมจึงโดนตบหน้าแบบไม่ยั้งไปหลายที ช่างเป็นประสบการณ์ที่ลืมไม่ลงจริงๆ ครับ

และนั่นคือประสบการณ์เด็ดๆ เจ็บๆ ตอนเรียน รด. ตอน ม.4 น้อยคนมากครับที่จะเจอประสบการณ์ดีๆ อย่างผม โชคดีที่เหตุการณ์นี้อยู่ห่างจากตอนที่ไอ้ต้นจะกลับมาชำระแค้นพอสมควร โชคดีมากจริงๆ ครับ ผมขอเล่าตอนไอ้ต้นกลับมาชำระแค้นเลยนะครับ

หลังจากนั้นก็จะปิดท้ายด้วยค่ายลูกเสือตอนปลายเทอมจริงๆ ที่ผมทำหน้าที่ลูก เสือกองร้อยพิเศษ แต่กลับเจอยำใหญ่ใส่สารพัด ยิ่งอยู่ในบริบทของลูกเสือด้วยแล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลยครับว่า ผมจะโดนหนักขนาดไหน และพอกล่าวถึงตรงนั้นก็เป็นอันว่า ผมจบ ม.4 โดนสมบูรณ์ ถ้าใครสงสัยว่าการเรียนผมเป็นอย่างไรในตอนนั้น ต้องบอกเลยครับว่าเหลวแหลกมาก แต่ช่วงนั้นโชคดีครับที่เด็ก ม.ปลายฮิตสอบเทียบกัน (ถ้ายังจำกันได้) ผมก็เลยจบ ม.6 ด้วยวิธีการสอบเทียบครับ แถมยังเอ็นท์ติดในคณะและสถาบันที่ดีด้วย ถือว่าฟลุคมากๆ ซึ่งนั่นเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ผมมีการงานที่มั่นคงจนถึงปัจจุบันนี้ ถ้าตอนนั้นเขาไม่ฮิตสอบเทียบกัน ผมก็คงไม่ไปสอบ และอาจไม่จบ ม.6 เพราะตอนนั้นโดนหนักสุดๆ ครับ มีแค่ ม.ปลายเท่านั้นที่โดนทำโทษแบบไม่เคยโดนมาก่อนเลยในชีวิต หนักหนาสาหัสมากจริงๆ ครับ แต่ในอีกด้านหนึ่ง มันก็เป็นประสบการณ์ที่ผมจะจดจำไปตลอดชีวิตด้วย ถือว่าจังหวะชีวิตของผมดีโคตรๆ พระเจ้าช่างเข้าข้างผมจริงๆ งั้นขอเล่าต่อนะครับ

พอหลังจากที่ไอ้ต้นกลับมาแล้ว มันยังแค้นไม่หายที่โดน อ.กำพลทำมันถึงขนาดนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การโดนประทัด มองดูก็รู้ว่ามันแค้นมากๆ และแค้นนี้ต้องระบายออกอย่างสาสมเท่านั้นครับ มันถึงจะหายแค้น และที่สำคัญคือ มันไม่สามารถไประบายออกกับ อ.กำพลได้ มันจึงเลือกที่จะระบายออกกับไอ้โรมและผมแทน

ตอนนั้นลุ้นอยู่เหมือนกันครับว่าใครจะโดนก่อน แต่พอถึงเวลาไอ้โรมโดนก่อนครับ และสิ่งที่มันโดนคล้ายกับสิ่งที่ไอ้เกิ้ล เพื่อนบ้านผมเคยเจอ ไอ้ต้นสั่งให้ไอ้โรมถอดเสื้อออก แล้วมันก็เอาตัวยิงแม็กไปยิงที่หน้าท้องของไอ้โรมครับ วันนั้นหน้าท้องของมันแทบไม่มีที่ว่างเลย ไอ้ต้นยังเล็งตัวยิงแม็กไปที่หัวนมทั้งสองข้างของไอ้โรมอีกด้วย ถือว่าไอ้ต้นเลือกการระบายออกได้ถูกต้องจริงๆ เพราะการระบายแค้นที่มันเก็บสะสมในใจ ไม่มีอันไหนเหมาะเท่ากับการเอาตัวยิงแม็กยิงเข้าไปในเนื้อของหนุ่มหล่อล่ำ อีกแล้ว

พอไอ้โรมโดนแบบนั้นผมก็ยิ่งลุ้นว่าแล้วผมจะโดนอะไรล่ะ ไอ้ต้นมันจะระบายความแค้นกับผมแบบไหน ผมสงสัยได้ไม่นาน วันที่มันจัดการผมก็มาถึง

ไอ้ต้นเรียกผมไปพบ มันบอกว่า “มีเรื่องให้มึงไปช่วยขนของหน่อย เอานี่มึงเอาชุดนี้ไปเปลี่ยนแล้วรีบออกมาหากูที่รถ”

สิ่งที่ไอ้ต้นให้ผมมาคือกางเกงยีนส์โคตรเก่า เป็นกางเกงยีนส์ที่ตัดขาจนกลายเป็นกางเกงขาสั้น มันให้กางเกงกับผมมาตัวเดียว ผมไปเปลี่ยนชุดในห้องน้ำ ไม่แน่ใจว่ามันต้องการอะไร วันนั้นก่อนใส่เสื้อนักเรียน ผมจะใส่เสื้อยืดไว้ด้านในก่อน จึงสวมเสื้อนักเรียนทับ ดังนั้นวันนั้นผมเลยเปลี่ยนเป็นกางเกงยีนส์ขาสั้นกับเสื้อยืดที่ใส่ไว้ด้าน ใน พอผมไปหาไอ้ต้นที่รถ มันกลับฉุนเฉียวใส่

“มึงใส่กางเกงตัวเดียวก็พอ เสื้อยืดก็ถอดทิ้งไว้ที่โรงเรียนนี้แหละ รองเท้าก็ไม่ต้องใส่ไปล่ะ”

ผมแปลกใจมาก แต่ก็ทำตามมันทุกอย่าง ผมถอดเสื้อ ถอดถุงเท้ารองเท้า และก็โดดขึ้นกระบะหลังของรถกระบะของไอ้ต้น ไอ้ต้นก็ขับรถออกไป ผมรู้สึกดีเหมือนกัน เพราะไม่เคยนั่งรถกระบะด้านหลังในสภาพแบบนี้มาก่อน ใครเห็นใครก็มอง ยิ่งเวลารถติดไฟแดงด้วยแล้ว ทุกคนต่างมองผมเป็นตาเดีย

ไอ้ต้นขับรถพาผมออกไปไกลมาก ผมตกใจนิดหน่อยตรงที่มันขับรถเข้าไปในโรงเรียนเทคนิคแห่งหนึ่ง ซึ่งมีชื่อเสียงมากในการยกพวกตีกันหรือการรับน้องโหด ผมงงเหมือนกัน แทบเดาไม่ถูกเลยว่าวันนี้ผมจะเจออะไร พอมันขับไปถึงอาคารๆ หนึ่ง มันก็จอดให้ผมลง ใต้ถุนอาคารมีเก้าอี้จัดไว้เป็นระเบียบประมาณสองร้อยกว่าตัว มันสั่งผมว่าให้ขนเก้าอี้ทั้งสองร้อยกว่าตัวนี้ไปเก็บในห้องเก็บของด้านในทั้งหมด ถ้าทำเสร็จแล้วก็คอยอยู่ตรงนี้เดี๋ยวมันจะขับรถมารับ ผมเห็นว่าไม่ใช่เรื่องยากอะไร จึงทำอย่างแข็งขัน แต่พอทำจนเกือบเสร็จ จะมีเด็กช่างกลเกือบห้าสิบคนเดินออกมาจากอาคารที่อยู่ติดกัน และมันก็กรูเข้ามาหาผม ผมตกใจมาก

ไอ้หัวโจกคนหนึ่งพูดกับผมว่า “มึงทำอะไรวะไอ้เหี้ย พวกกูจะใช้เก้าอี้จัดงานตอนเย็นกัน นี่มึงเก็บหมดเลยเหรอไอ้สัตว์”

เพื่อนมันอีกคนบอกว่า “สงสัยไอ้ห่านี่เป็นกรรมกรที่จารย์ต้นบอกว่าจะเอามาช่วยงาน”

ไอ้หัวโจกยิ่งโมโหหนัก “มิน่าละ มึงถึงโง่เป็นควายเลย”

ตอนนี้พวกมันทั้งห้าสิบกว่าคนต่างเดินมารุมล้อมผม ผมพยายามยืนอย่างองอาจ ยืดอก แสดงออกว่าไม่เกรงกลัวอะไรทั้งนั้น

ไอ้หัวโจกยังด่าผมต่อ “ไอ้เหี้ย ไอ้ควาย มึงทำงานกูบรรลัยหมด ไอ้สัตว์”

ครั้งนี้มันไม่พูดเปล่า มันยังเอามือแข็งหนามาฟาดหน้าอกผมด้วย พอไอ้หัวโจกเริ่ม เพื่อนของมันที่ยืนล้อมรอบตัวผมอยู่แล้วก็เริ่มกันบ้าง หลายสิบคน ทั้งฟาดหน้าอก ฟาดท้อง ฟาดหลัง ทุบหลัง ทุบอก แล้วแต่ใครยืนตรงไหนและถนัดอย่างไร ผมไม่ปริปากสักคำว่าผมไม่ใช่กรรมกร ปล่อยให้พวกมันเข้าใจว่าผมเป็นกรรมกรก็ดีแล้ว

ตอนนั้นพวกมันรุมเอามือฟาดหน้าอกกับแผ่นหลังของผมกันใหญ่ มันฟาดกันเร็วและแรงมาก เสียงดังสนั่นหวั่นไหวไปหมด คนแถวนั้นเดินผ่านไปผ่านมา ต่างคิดว่ารุ่นพี่กำลังซ่อมน้องที่ไม่ยอมไปรับน้องต่างจังหวัด การรุมฟาดผมแบบนั้นจึงกลายเป็นเรื่องธรรมดาไปสำหรับคนแถวนี้ ไอ้คนที่ยืนข้างหัวโจกพูดกับเพื่อนของมันว่า “กูว่าไม่ต้องจัดงงจัดงานอะไรกันแล้ว เอาไอ้กรรมกรล่ำนี่ไปซ่อมเดี่ยวดีกว่า กูว่ามันส์กว่าเยอะ”

ไอ้หัวโจกตกลงใจที่จะเอาผมไปซ่อมเดี่ยว เมื่อพวกมันเห็นตรงกัน พวกมันจึงลากผมไปสนามหลังตึกที่หลบมุมหน่อย จะได้ดูเป็นส่วนตัว ตอนนั้นผมเหมือนถูกรุมล้อมด้วยกลุ่มผู้ประท้วงที่กำลังบ้าระห่ำ พวกมันคิดว่าผมเป็นคนที่ทำให้พวกมันเสียหน้า เสียเวลา ไม่ได้ทำในสิ่งที่อยากทำ พวกมันจึงอยากที่จะลงโทษผมอย่างสาสม แต่ถ้าในภาษาของมัน คำว่า “ซ่อมเดี่ยว” ฟังแล้วมันส์กว่าเยอะ

พอไปถึงสนามหลังตึกจริงๆ ไอ้หัวโจกสั่งผมว่า “นอนคว่ำลงไป” พอผมนอนคว่ำลงไปจริงๆ พวกมันก็ต่างถอดเข็มขัดของตัวเองออก และต่างกระหน่ำฟาดมาที่แผ่นหลังของผม ผมคิดว่ามันน่าจะทำอย่างนี้บ่อยกับรุ่นน้องของพวกมัน ตอนนั้นเจ็บหลังมาก เพราะเข็มขัดลงมาอย่างกับห่าฝน พอสาแก่ใจ มันก็ให้ผมนอนหงาย พอนอนหงายแล้ว พวกมันก็ซัดเข็มขัดมาอย่างเต็มที่ทั้งหน้าอกและหน้าท้อง เอาเข็มขัดฟาดผมเหมือนเก็บกดอะไรกันบางอย่าง บางคนฟาดเลยมาโดนหน้าโดนตาด้วย หลังจากนั้นแม่งก็ให้ผมทำท่าสะพานโค้ง ก่อนจะใช้เข็มขัดฟาดลงมาอีก

วันนั้นน่าจะเป็นวันที่โดนเข็มขัดฟาดมากที่สุดแล้ว ในชีวิตของผม หลังจากนั้นมันก็สั่งให้ผมวิดพื้น ขณะวิดแม่งก็เอาเข็มขัดฟาดอีก ดูพวกแม่งสะใจกันมาก ไม่นานนักไอ้หัวโจกจิกหัวผม จนผมต้องยืนขึ้น และก็เอามือผมไพล่หลัง และเอาเข็มขัดมารัดแขนผมไว้ ก่อนจะถีบให้ผมล้มลงแบบอกกระแทกพื้น หลังจากนั้นมันก็สั่งให้เอาหน้าอกแถกพื้นไปข้างหน้า ผมก็ทำตามที่มันบอก ตอนแรกอยู่ตรงพื้นหญ้าก็ดีหน่อย แต่พอถัดไปต้องขึ้นไปบนสนามปูน มันก็ให้ผมแถกตัวขึ้นไป ผมต้องใช้หน้าอกแถกกับพื้นไปไกลมาก และนานพอสมควรกว่าพวกมันจะพอใจ

ต่อจากนั้นไอ้หัวโจกก็จิกหัวผมขึ้นมาอีก พร้อมกับให้เพื่อนของมันจับตัวผมไว้ ตอนนี้แม่งมันอัดท้องผมอย่างเดียว อัดแบบไม่ปรานีเลยแม้แต่น้อย จนผมจุกจนตัวเอง แม่งก็ยังอัดต่อ การถูกต่อยท้องซ้ำกันหลายครั้งนี่ก็ทรมานใช่ย่อยนะครับ เพราะมันจุกจนบอกไม่ถูก คือจุกจนพูดไม่ออกเลย หลังจากนั้นพวกมันก็ยันผมลงพื้นอีก และก็ช่วยกันรุมกระทืบ มันกระทืบหมดทั้งท้อง อก หน้าและตรงควยด้วย ทำเอาผมยับเยินไปหมดทั้งตัว มีคนนึงเตะมาที่หน้าผม เล่นเอามึนเลยครับ

ผมคิดในใจตอนนั้นว่า ไอ้พวกนี้มันจะเอาผมให้ตายเลยเหรอ พอคิดแบบนี้ขึ้นมาก็เหมือนจะมีคนมาช่วยผม เหมือนมีคนมาห้ามพวกมัน และดึงผมขึ้นมา แก้เข็มขัดออกให้ผม ผมรู้สึกขอบคุณเขามาก แต่พอหันไปเห็นหน้าชัดๆ มันคือไอ้ต้นนี่เอง มันเอาผมไว้ที่ห้องทำงานของพวกมัน คล้ายๆ ห้องเชื่อมโลหะ ผมถูกมัดข้อมือไพล่หลังใหม่ด้วยเชือกเส้นใหญ่ หนาและเหนียว คนมัดแม่งก็ระยำจริงๆ มัดซะมือและแขนของผมถูกรั้งไปไว้ด้านหลังมากเกินไป การถูกมัดแบบนี้ทำให้ปวดแขนมากๆ พอมัดผมมันก็ทิ้งผมให้นอนอยู่ตรงนั้นสักพัก พวกมันเดินปเหมือนจะเตรียมอุปกรณ์อะไรบางอย่าง ส่วนผมนอนแน่นิ่งไม่ไหวติง เพราะรู้สึกว่าขยับร่างกายตัวเองไม่ได้เลย ต้องนอนนิ่งอย่างเดียว

พวกมันเดินกันไปมา บางคนเดินข้ามผมไป บางคนเดินมาเตะท้องผม และหลังผมก่อนที่จะผ่านไป ผมรู้สึกว่าร่างกายตัวเองบอบช้ำกว่าที่เคย เพราะไม่เคยมีใครมารุมกระทืบผมหลายๆ คนอย่างรุนแรงแบบครั้งนี้มาก่อน ไอ้ต้นมันก็อยู่ที่นั่นด้วย แต่มันก็ปล่อยให้ไอ้พวกนั้นเข้าใจผิดว่าผมเป็นกรรมกรที่มันเอามาช่วยขนของ พวกมันดูเหมือนเตรียมเครื่องมือเชื่อมโลหะบางอย่างพร้อมแล้ว มันนำตัวผมไปยืนตรงกลาง มันทำบางอย่างให้เกิดประกายไฟแดงๆ กระจายออกมาเต็ม และจับเอาหน้าอกกับแผ่นหลังของผมไปรับประกายไฟนั้นแบบเต็มๆ ผมเจ็บและปวดแสบปวดร้อน แต่พวกมันยังคงทำต่อไป

พวกมันทำผมแบบนั้นอยู่นานมาก นานจนผมเริ่มที่จะทนไม่ไหว เสร็จแล้วพวกมันก็เอาผมไปนอนรอต่อไป ต่อจากนั้นเหมือนพวกมันตั้งเตา ตั้งหม้ออะไรสักอย่าง ผมมารู้ที่หลังว่าไอ้ต้นเป็นคนเตรียมเรื่องนี้ หม้อเหมือนมีอยู่สองใบ ใบเล็กอยู่ในใบใหญ่ ผมรู้แค่นั้นนะ แล้วพวกมันก็เอาเทียนไขน่าจะร้อยกว่าอันมั้ง เทไปในหม้อเล็ก แล้วก็รอเวลาให้เทียนละลายเป็นขี้ผึ้งเหลวร้อน มันเคี่ยวจนได้ที่ แล้วก็จับผมนอนหงายในท่าที่ถูกมัดอยู่เหมือนเดิม แล้วมันก็เอาน้ำตาเทียนร้อนๆ นั้นตักมาเป็นหม้อแล้วราดไปที่หน้าอก ราดทีเดียวก็เต็มหน้าอกกับหน้าท้องของผมเลย มันร้อนมาก ผมสะดุ้งเฮือก พวกมันทิ้งให้น้ำตาเทียนนั้นแห้งอย่างใจเย็น พร้อมกับนั่งฟังผมร้องทุรนทุราย พอน้ำตาเทียนแห้งได้ที่บนตัวผมแล้ว พวกมันก็ช่วยกันแกะออกและเอาไปต้มใหม่

พวกมันเทน้ำตาเทียนแข็งๆ ลงไปในหม้อเล็กที่อยู่ในหม้อใหญ่อีก แล้วเคี่ยวจนกลายเป็นขี้ผึ้งร้อนที่มีปริมาณมากเหมือนเดิม คราวนี้พวกมันช่วยกันพลิกให้ผมนอนคว่ำ ก่อนใช้แก้วน้ำตักขี้ผึ้งร้อนนั้นเทราดไปที่แผ่นหลังของผม แม่งตักเทสามทีก็ทั่วแผ่นหลังของผมแล้ว ผมทั้งร้องทั้งดิ้น เพราะมันเจ็บโคตรๆ เจ็บมากที่สุดเลยครับ มันทำเหมือนเดิมคือ ยืนและนั่งรอกันอย่างใจเย็น รอให้ขี้ผึ้งร้อนบนตัวผมแห้ง พวกมันจะได้เลาะออกแล้วเอาไปต้มใหม่

ไอ้ต้นดูพวกเด็กเทคนิคทรมานผมอย่างมีความสุข มันมองผมแล้วยิ้ม เสือยิ้มยากอย่างมัน พอยิ้มจนเต็มที่แบบนี้ ดูมันหล่อแบบสุดๆ เลย พอเห็นไอ้ต้นยิ้มนานๆ แบบนี้ ทำให้มันดูหล่อในแบบที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน คิ้วเข้ม ตาคม ผิวขาวนวล หน้าตามันเท่และมีเสน่ห์เอามากๆ เพียงแต่แววตาของมันมีรังสีอำมหิตอาบอยู่เต็ม วันนั้นผมโดนเอาขี้ผึ้งร้อนราดไปที่หน้าอกและแผ่นหลัง รวมแล้ว 4-5 รอบ ผมรู้สึกว่าร่างกายของผมบอบช้ำมาก และกลัวมันจะไม่ฟื้นทันวันที่โรงเรียนมีค่ายลูกเสือซึ่งผมต้องไปปฏิบัติ หน้าที่ในฐานะของลูกเสือกองร้อยพิเศษ ผมกลัวมากครับว่าการโดนทรมานคราวนี้จะทำให้ร่างกายบอบช้ำมาก และฟื้นตัวช้า

ตอนนั้นมันคงให้ผมพักก่อนที่จะเอาขี้ผึ้งราดตัวของผมอีกรอบสองรอบ และรุมกระทืบกันต่อ พอผมสะบักสะบอมถึงขีดสุด ไอ้พวกเด็กเทคนิคก็จับผมยืนขึ้น ช่วยกันแก้มัดผม ตอนแรกผมนึกว่าทุกอย่างจบแล้ว แต่จริงๆ แล้วมันไม่ได้เป็นอย่างนั้น พวกมันแก้มัดให้ผมเพื่อที่จะเอาผมไปมัดใหม่ในอีกสถานที่แห่งหนึ่งซึ่งเป็น ที่โล่งกว้างเหมือนกับระเบียงบนตึก ตอนนั้นผมเบลอๆ งงๆ เพราะอ่อนเพลียมาก และอยากจะพักแล้ว แต่พวกมันเอาผมไปมัดแถวนั้น โดยการมัดข้อมือทั้งสองข้างก่อน ก่อนที่จะเอาปลายเชือกไปมัดโยงกับเสา

พอมัดผมเสร็จ พวกมันก็ทิ้งผมไว้อย่างนั้นสักพัก ไม่นานนักทุกคนก็เดินมาตรงที่นั้น ไอ้ต้นเดินตามพวกมันมาพร้อมกับประทัดขนาดเล็กแต่ยาวมากๆ หลายเส้น มันเดินมาใกล้ผม เดินกระซิบข้างหูผม “วันนั้นที่กูโดนประทัด กูเห็นมึงมองกู แววตาของมึงเว้าวอนว่า มึงอยากโดนบ้าง กูก็เลยจัดให้มึง กูรู้ว่ามึงอยากโดนมากแค่ไหน”

พอพูดจบไอ้ต้นก็เอาประทัดสายหนึ่งมาผูกไว้รอบเอวผม ส่วนอีกสายหนึ่งเอามาคล้องคอผมไว้ประทัดพาดเลยหัวนมทั้งสองข้างเหมือนที่มัน เคยโดน และยังมีอีกเส้นหนึ่ง เอามาพาดคอผมแต่เอาสายประทัดทิ้งไปทางแผ่นหลังของผม ตอนนั้นผมกังวลมาก ควยตุงด้วยความตื่นเต้น ผมไม่แน่ใจว่าสะเก็ดประทัดแบบที่มันเตรียมมาจะทำร้ายร่างกายผมขนาดไหน มันจะรุนแรงแค่ไหน ตอนมันพาดเสร็จ มันก็ยังไม่จุดในทันที มันยืนจ้องมองผมในสภาพนั้น ยิ้มให้ผมอีกครั้ง ผมมองหน้าตาอันหล่อเหลาของมัน ความหล่อของมันทำเอาผมเคลิ้มไปสักพัก มันพูดกับผมว่า “มึงอยู่ในสภาพนี้โคตรหล่อเลยว่ะ แต่หลังจากนี้ มึงจะหล่อกว่านี้อีกหลายเท่า”

มันนัดแนะให้พวกเด็กเทคนิคพวกนั้นจุดประทัดพร้อมกัน พอพวกมันจุดพร้อมกันแล้ว เสียงประทัดดังลั่นจนแสบแก้วหูผมอย่างมาก หูผมอื้อไปหมด แต่ผมก็พอคาดเดาได้ว่า ประทัดขนาดเล็กที่มันเอามามีอานุภาพไม่รุนแรงมาก ไม่งั้นผมคงได้รับบาดเจ็บและหูหนวกไปแล้ว ความดังของมันพอประมาณ เพียงแต่ที่พาดคออยู่มันอยู่ใกล้หูของผมจนเกินไป เสียงของมันเวลาได้ยินใกล้ขนาดนั้น ฟังดูน่ากลัวมาก เสียงเหมือนสัตว์ประหลาดที่กำลังจะมากลืนกินโลก ทั่วแผงอก หน้าท้อง แผ่นหลังของผมแสบไปหมด ไอ้ต้นพาผมไปนั่งอยู่หลังกระบะรถของมัน แต่ผมหมดแรง ผมนอนลงไปที่กระบะ

ไอ้ต้นตกใจมากเหมือนกัน มันเลยส่งผมไปโรงพยาบาลแทน ตอนนั้นจำไม่ได้จริงๆ ว่ามันบอกกับหมอว่าผมโดนอะไรมา ตอนนั้นผมจะเบลอๆ นิดหน่อย แต่พอร่างกายฟื้นตัว ด้วยความเก่งกล้าของหมอ ไอ้ต้นก็มาเยี่ยมผม ดูท่าทางมันเปลี่ยนไปนิดหน่อย

“เป็นไงมึง รู้สึกอย่างไรบ้าง” มันพูดกับผมในน้ำเสียงที่เปลี่ยนไป

ผมตอบมัน “ดีขึ้นครับ ดีขึ้นมาก ผมคงแค่เพลียเกินไปเท่านั้น แต่ไม่น่าจะเป็นอะไรมาก”

มันจ้องตาผม พูดกับผมอีกว่า “กูเสียใจนะ กูเล่นมึงแรงไปหน่อย จริงๆ แล้วกูเป็นอาจารย์ ไม่น่าทำกับมึงถึงขนาดนี้เลย”

หลังจากนั้นห้องก็เงียบงันไปพักนึงก่อนที่ผมจะพูดขึ้นมาว่า “จารย์ไม่ผิดหรอก ผมมันสมยอมเอง เรื่องแบบนี้มันพลาดกันได้ ผมเข้าใจ”

หลังจากนั้นคำพูดก็พรั่งพรูออกมาจากปากของผมกับไอ้ต้น

“กูรู้ว่าบางครั้งกูก็ทำเกินไป แต่มึงก็รู้ว่ากูแค้น กูอยากระบาย กูไม่รู้ว่าจะทำยังไงกับไอ้กำพลดี”

ผมตอบไปว่า “ผมรู้ ผมเข้าใจ ไม่ต้องพูดอะไรมากหรอก”

แต่ความเข้าใจของไอ้ต้นกับของผมจะตรงกันไหมนะ ตอนนั้นผมไม่เข้าใจ บางวันไอ้โรมมาเยี่ยมผม แล้วก็เจอกับไอ้ต้น เราพูดดีต่อกันในแบบที่เราพอจะพูดได้ ไอ้ต้นให้ไอ้โรมถอดเสื้อออก เพื่อดูว่าแผลที่ท้องมันหายหรือยัง แปลกมากที่ดูเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ร่างกายมันฟื้นเร็วมาก ไอ้ต้นสารภาพกับเราสองคน

“กูชอบลงโทษพวกมึงนะ บอกว่าชอบทรมานเลยก็ไม่ผิด เพราะแววตาของพวกมึงมันออดอ้อนร้องขอเหลือเกิน โดยเฉพาะมึง” ไอ้ต้นหันมาทางผม “รูปร่างหน้าตามึง แววตามึง ท่าทางของมึง บางทีมึงดูแมน แต่บางทีมึงก็ดูอ่อนไหว สำหรับกูนะ มึงเป็นคนที่น่าจับมาลงโทษมากที่สุด เพราะหน้าตามึงได้อารมณ์มากตอนที่กูลงโทษ บางทีมันแข็งกร้าว บางทีมันอ่อนไหว ร่างกายของมันก็เช่นกัน มีทั้งส่วนที่แข็งแรงและอ่อนไหว”

ไอ้ต้นได้คุยกับไอ้โรมบ้าง การคุยกันแบบนั้นในวันนั้น มันคงไม่สามารถที่จะทำนายได้ว่าต่อไป จะเกิดอะไรขึ้น มันจะไม่ลงโทษผมอีกเหรอ หรือมันกำลังคิดอะไรอยู่ มันทำนายไมได้จริง สิ่งที่น่าแปลกอยู่อย่าง ค่ายลูกเสือของโรงเรียนเลื่อนออกไปอีก 1 เดือนเต็มๆ จริงๆ มันช่วงปิดเทอมใหญ่ เลื่อนออกไปก็ไม่น่าแปลก แต่ผมสังหรณ์ว่าการเลื่อนครั้งนี้เพื่อรอให้ร่างกายผมฟื้น พอร่างกายผมฟื้น และก่อนที่จะถึงค่ายลูกเสือ ผมกับไอ้โรม และ ผมกับไอ้ต้น เริ่มมีความรู้สึกแปลกๆ ต่อกัน และมีการสัมผัสที่แปลกประหลาด ซึ่งอาจจะอธิบายลำบาก แต่ตอนหน้าสัญญาว่าจะเล่าให้ฟังครับ

หลังจากหายดีแล้ว ผมก็กลับมาพักฟื้นที่บ้านต่อ มันเป็นช่วงปิดเทอมพอดี อีกเกือบเดือนถึงจะต้องไปทำหน้าที่ที่ค่ายลูกเสือของโรงเรียน ช่วงปิดเทอมคราวนี้ผมรู้สึกเหงาๆ ยังไงบอกไม่ถูก ผมกำลังถามใจตัวเองว่า ผมเป็นอะไรไป กำลังคิดถึงใครอยู่ ใจของผมตอบกลับมาว่า กำลังคิดถึงไอ้โรม

ผมงงว่าใจของผมมันไปคิดถึงไอ้โรมได้ยังไง ไม่น่าเป็นไปได้เลย ผมกับไอ้โรมสนิทกันถึงขั้นนั้นเชียวหรือ ผมกับมันแทบจะไม่ค่อยได้มีโอกาสคุยกัน อย่างมากก็แค่ อืม ... ชักเย่อหัวนมกัน ชักเย่อไข่กัน และก็ถูกเอากระดาษกาวมามัดควยอยู่ด้วยกัน มันก็แค่นั้นเอง แต่เพื่อนผู้ชายที่สนิทกัน คุยกันตั้งแต่เช้ายันเย็น กลับบ้านด้วยกันเกือบทุกวัน ก็ยังไม่เคยชักเย่อหัวนมกัน ชักเย่อไข่กัน และถูกเอากระดาษกาวมามัดควยอยู่ด้วยกัน

การคิดไปคิดมาแบบนี้ทำให้ผมพอจะนึกออกว่าทำไมผมถึงคิดถึงไอ้โรม เราอาจจะไม่ผูกพันจากการพูดคุย แต่ครั้งหนึ่งควยถูกผูกติดกัน โดยที่เราก็ไม่ได้เต็มใจ แต่เหตุการณ์นั้นก็เกิดขึ้นแล้ว ผมคิดเสมอว่าแล้วหลังจากนั้นเราสองคนจะเป็นอย่างไร จะพูดคุยอะไรกัน จะเข้ากันได้ดีขึ้นหรือเลวลง ผมว่าผมกำลังเข้าโหมดแห่งความสัมพันธ์ที่ไม่ค่อยจะปกติ ซึ่งในที่นี้หมายถึง ไม่ค่อยจะเกิดขึ้นได้ง่ายระหว่างผู้ชายสองคน สิ่งที่ผมถามอยู่ในใจก็คือ แล้วไอ้โรมล่ะ มันคิดอย่างไร มันรู้สึกอย่างไร มันจะรู้สึกเหมือนกันที่ผมรู้สึกไหม มันจะคิดถึงผมบ้างไหม ผมกำลังจิตใจอ่อนไหวหรือนี่ หรือตอนนี้ผมเป็นอะไรไป

ไม่นานนักก็ถึงช่วงฟังผลสอบ ผมมาถึงที่โรงเรียนแต่เช้า ยังงงตัวเองเหมือนกันว่าทำไมมาเช้านัก เดินไปเดินมาอยู่หลายรอบ เจอแต่ภารโรง ลุงภารโรงคงงงว่าไอ้นี่แม่งเป็นไร ทำไมมาเดินไปเดินมาอยู่ได้ เวลาผ่านไปช้ามาก ผมไม่มีอะไรจะทำ ได้แต่นั่งเฉยๆ มองอะไรรอบตัวไปเรื่อยๆ ถึงมองสิ่งรอบตัวก็ไม่พบอะไรที่น่าสนใจเลย ผมเฝ้าถามตัวเองว่า แล้วอะไรล่ะที่มันน่าสนใจ

สายหน่อย คนเริ่มเยอะขึ้น แต่สำหรับผม คนจะเยอะจะน้อยมันไม่แตกต่างกันสักเท่าไหร่ เอ ผมงงจริงๆ นะว่าวันนี้ผมเป็นอะไรไป ทำไมถึงเป็นได้ขนาดนี้ ผมนั่งกินข้าวอยู่คนเดียว มีคนแวะเวียนมาทักผมบ้าง ทักแล้วมันก็ไป ผมก็นั่งคนเดียวเหมือนเคย วันนี้กินข้าวได้ไม่เยอะ กินน้ำไปนิดเดียว ไม่นานนัก สายตาเจ้ากรรมก็มองไปเห็นไอ้โรมเดินเข้ามาที่โรงอาหาร ผมรีบลุกแล้วหลบออกไปข้างนอก

ตอนนั้นแปลกใจว่าทำไมต้องหลบมันด้วย ไม่อยากเจอมันเหรอ ผมเล่นหลบไปแต่ไม่ไกลนัก แล้วยืนแอบมองมันนั่งทานข้าว มันเองก็ไม่ค่อยมีเพื่อน ไม่ค่อยยิ้ม กินข้าวคำสองคำก็หันรีหันขวางเหมือนกำลังจะหาใคร พอไม่เห็นเป้าหมาย มันก็ก้มกินข้าวสักคำสองคำ แล้วก็เงยหน้าขึ้นมองนั่นมองนี่อีก ผมยืนแอบมองมัน แอบยิ้มคนเดียวในใจ ยืนมองมันกินข้าวเหมือนกับว่าภาพนั้นเป็นของหายาก เหมือนผมไม่เคยเห็นผู้ชายคนไหนนั่งกินข้าวคนเดียวมาก่อน เวลามันอยู่ในชุดนักเรียนและนั่งกินข้าว ดูมันอ่อนไหว หน้าตามันก็ดูน่ารัก น่าทะนุถนอมดี ไม่เห็นจะน่ากระทืบตรงไหน

ผมแอบมองมัน แล้วก็ยืนยิ้มกับตัวเอง พอเรียกสติคืนมาได้ ผมก็ด่าตัวเองไม่ยั้ง ไอ้เหี้ยสิงห์คำรณ มึงเป็นอะไรไปวะ ไอ้โรมนั่งกินข้าวมันน่ามองตรงไหน มีอะไรแปลกเหรอ ไอ้สัตว์เสือ มึงหยุดทำอะไรเปิ่นๆ ได้แล้ว มึงควรจะเดินจากตรงนั้นนานแล้ว แล้วทำไมมึงถึงยังยืนอยู่อีก กูไล่ทำไมมึงไม่ไปวะ ผมได้แต่ด่าตัวเอง คิดคำเพ้อเจ้อ เพ้อพก คิดไม่ตกว่าควรทำตัวอย่างไร ไอ้โรมมันก็เพื่อนนะ คิดถึงก็เข้าไปทักสิ ยืนบ่นเหี้ยอะไรอยู่ได้คนเดียว หรือวันนี้มึงเป็นลูกแมวเหรอไอ้เสือ ไอ้สัตว์เสือเอ้ย มึงทำตัวแมนๆ หน่อยสิ อย่าทำตัวให้มันน่าเอ็นดูนัก

ในเมื่อทนตัวเองไม่ได้ ผมจึงหนีตัวเองขึ้นไปบนตึกๆ นึง ซึ่งอยู่ไม่ห่างโรงอาหารมากนัก ผมขึ้นไปชั้น 6 จำได้ว่ามีห้องๆ หนึ่งที่มันไม่เคยล็อค แต่คนส่วนใหญ่ที่เดินผ่านจะคิดว่ามันล็อคอยู่ตลอดเวลา แต่ผมกับเพื่อนรู้ว่าห้องนี้ไม่เคยล็อค แต่ถ้ามีการล็อคเกิดขึ้น แสดงว่าต้องมีใครอยู่ด้านใน และพวกเขาทำบางอย่างที่ไม่อยากให้ใครล่วงรู้

ผมเดินไปที่ห้องนั้น เปิดหน้าต่างเพื่อรับลม ตอนนั้นร้อนมากครับ ผมถอดเสื้อออก เดินไปยืนใกล้หน้าต่าง ลมพัดแรงขึ้น ผมกางแขนออก ยืนสูดอากาศเข้าจนเต็มปอด รู้สึกว่าตัวเองกำลังล่องลอย ผมรู้สึกสบาย ไม่ได้มีอะไรมากดมาดัน การยืนอยู่ตรงนั้นทำให้ใจชื้นขึ้น รู้สึกว่าตัวเบา ทำให้ได้คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย ถึงจะมีโอกาสได้คิดเยอะแค่ไหน ภาพคนๆ หนึ่งยังเข้ามาในหัว เสียงคนๆ หนึ่งที่ผมเคยได้ยิน

ผมรู้สึกเหนื่อย เอามือจับขอบหน้าตา มองออกไปยังท้องฟ้าแสนไกล พยายามถามตัวเองว่าผมเป็นอะไรไป แต่ไม่ได้คำตอบ หรือผมกำลังปิดบังตัวเองอยู่ ตอนนี้ผมอยู่ใกล้ตัวเองมากที่สุด แต่เหมือนกับว่าผมอยู่ไกลตัวเองลิบลับ ขณะที่กำลังปล่อยใจไปไกลตัวนั้น เสียงประตูเปิดออกทำให้ผมต้องหันไปมอง

ผมเห็นไอ้โรมเดินเข้ามา ผมคงไม่ได้ฝันไปนะ หน้าแบบนี้ หุ่นแบบนี้ คล้ายๆ คนที่ผมรู้จัก ผมจ้องหน้ามัน มันก็จ้องหน้าผม เราไม่ได้พูดอะไรกันเลย ได้แต่ยืนมองหน้ากัน เหมือนกำลังเล่นเกมส์ “ใครยิ้มก่อนแพ้”

ไอ้โรมถอดเสื้อออก แล้วเดินไปล็อคประตู เสร็จแล้วมันก็หันหลังมามองผม ไม่มีใครยิ้มให้กัน ไม่มีใครพูดอะไรกัน และก็ไม่มีใครทำอะไรกัน ตอนนั้นเหมือนโลกหยุดนิ่ง เหมือนความเงียบเป็นพระเอกในละครฉากสำคัญฉากนี้ ไม่นานนัก บางอย่างเคลื่อนไหว มันเดินเข้ามาใกล้ผม เดินมายืนสัมผัสลมหายใจของผม แล้วเอามือของมันมาลูบหน้าอกของผม ลูบหัวนมของผม หลังจากนั้นมันก็ฟาดหน้าอกผมอย่างแรง ผมตอบสนองด้วยการฟาดหน้าอกของมันอย่างแรงเช่นกัน มันฟาดหน้าอกผมอีก ผมก็ฟาดหน้าอกมันอีก แล้วมันก็เข้ามาจูบผม จูบประกบปากกันอย่างแรง จูบอย่างเร่าร้อนและรุนแรง ลิ้นแลกลิ้น สัมผัสแลกสัมผัส ใจแลกใจ พอจูบกันได้สักพัก ผมกับมันก็ผละออกจากกัน ต่างคนก็ต่างถอดกางเกงออกจนหมด แล้วก็เข้ามาจูบกันใหม่ ลิ้นสัมผัสลิ้น ควยสัมผัสควย ใจสัมผัสใจ

ขณะ จูบกันเราสองคนต่างเอามือฟาดหลังกันและกันอย่างแรง เอาควยเสียดสีกันอย่างบ้าคลั่ง มันถอยฉาก ผลักอกผมให้ห่างจากตัวมัน มันชกท้องของผม ผมเกร็งหน้าท้องไว้ ปล่อยให้มันชก มันตบควยผมไปมา และผลักผมล้มลง ผมนอนกางแขนแหกขา หลับตาพริ้ม มันเอาเท้าลูบไล้ไปที่หน้าอกของผม เอาหัวแม่ตีนหนีบหัวนม แล้วเอาตีนยัดเข้าไปในปากผม แล้วมันก็เอาตีนลูบมาที่หน้าอก หน้าท้องและควย มันเตะควยเต็มแรง เหยียบลงไปแล้วกระทืบอีกที แล้วมันก็ทิ้งตัวลงทับผมอย่างแรง จูบอย่างเร่าร้อนอีกครั้ง ผมหมุนตัวอยู่บน ตบหน้ามันไปหลายที แล้วเอามือกดหน้าอกของมัน ดันตัวผมขึ้น แล้วถุยน้ำลายใส่หน้ามัน มันเอาหัวเข่าตีไปที่ควย ผมร้องโอดโอย มันก็เอามือตบไปที่หน้าผมจนผมล้มไปนอนแผ่ ผมได้ทีเข้ามากัดหัวนมผมพร้อมกับใช้มือบีบไข่ผมไปด้วย ผมร้องซี๊ดด้วยความเจ็บปวดทุรนทุราย

มันทำลายเสียงดังของผมด้วยการจูบไปที่ปากอีกครั้ง เราแลกลิ้นกันอย่างเมามันส์ และต่างบีบไข่ของกันและกัน มันลุกขึ้นยืน เอาตีนลูบหน้าผม ลูบอกผมสลับกัน ผมทนไม่ไหวเลยชักว่าวตัวเองอย่างแรง ภายใต้ฝ่าตีนของมันที่กำลังลูบหน้าลูบอกผมไปทั่ว ผมชักจนน้ำแตก มันจึงผละไปนอนช่วยตัวเอง ผมคลานไปทุบอก และเอาศอกกระทุ้งท้องมัน มันช่วยตัวเองอย่างไม่ลืมหูลืมตา ผมใช้มือที่ยังพอมีแรงฟาดหน้าอกมันไปเรื่อยๆ จนมันน้ำแตก

เราสองคนจมดิ่งลงไปในมหาสมุทรแห่งความเงียบ ไม่มีแม้เสียงของสายน้ำและเกลียวคลื่น ไม่มีหาดสวยและน้ำใส มีเพียงแต่เราที่เปลือยกาย นอนแผ่หลาอยู่ในห้องที่ปิดทึบ และล็อคจากด้านใน ห้องที่คนหลายคนคิดว่ามันล็อคอยู่ตลอดเวลา แน่นอนว่าถ้าได้แต่มองแต่ไม่เคยเปิดออกดู ก็คงไม่รู้ว่าห้องนี้ไม่เคยล็อคเลย มันเปิดอยู่ตลอด ซึ่งก็ไม่ต่างจากหัวใจของเรา ที่ไม่เคยล็อค มันเปิดอยู่ตลอด แต่หลายคนคิดว่ามันล็อค เพราะแค่มองแต่ไม่เคยสัมผัสไปในห้องอย่างแท้จริง แค่คิดตามที่เชื่อ และก็เชื่อตามที่คิด เกลียวคลื่นจึงไม่เคยสงสัยชายหาด เพราะคิดว่าต่างอยู่ไกลกันตลอดเวลา ฟ้าจึงไม่สงสัยสายน้ำ เพราะหลงสีแห่งฟ้าของน้ำทะเลฉาบลึก แล้วใครล่ะจะเข้าถึงหัวใจของผู้ชายอีกคนได้ ถ้าไม่ใช่ผู้ชายที่รู้สึกสัมผัสรับรู้และเหลือบเร้น

หลงคารมห่มฟ้านภากาศ

พิศวาสวาดฝันวันเปลี่ยวเหงา

หลงดาวสกาวเดือนเหมือนไร้เงา

หลงเฝ้าเร้าฝันเมื่อวันวาน

เพ้อคลั่งหวังว่าฟ้าจะสาง

ค่ำน้ำค้างพร่างพราวดาวแว่วหวาน

เยือนฟ้าดาดาษพิลาศลาน

เหมือนเมื่อวานหวานล่วงดั่งดวงใจ

ใครจะนึกตรึกรู้และดูเห็น

สาดกระเซ็นเห็นหน้าน้ำตาไหล

เมื่อคืนดาวพราวพรั่งยังร่ำไร

เหมือนหัวใจไร้เดือนไร้เพื่อนยา.

ถึง แม้ผมกำลังอ่อนไหวกับไอ้โรม แต่ก็ใช่ว่าความชอบลิ้มรสความซาดิสต์มันจะหายไปจากใจ และตอนนั้นผมก็รู้สึกแปลกๆ กับไอ้ต้นด้วย เพียงแต่ว่ายังไม่มีโอกาสเจอมันอีกเลย ยังไม่รู้ว่าถ้าเจอมันอีก เราสองคนจะวางตัวกันอย่างไร ผมอาจจะมี sense หลายอย่างเกี่ยวกับมัน ผมจึงไม่เคยเรียกมันว่าอาจารย์เลย และที่สำคัญ ผมก็ไม่เคยโกรธหรือเกลียดมันด้วย

ตอนนั้นผมเองก็งงมากกับสิ่งที่ตัวเองเป็น ที่โรงเรียนผมมีอีกกลุ่มหนึ่งที่เห็นได้ชัดเจนว่าไม่อยากเป็นผู้ชาย พวกนี้จะชอบรวมกลุ่มกันและชอบแซวพวกกองร้อยพิเศษอยู่บ่อยๆ แต่ผมชัดเจนว่าไม่ใช่พวกนี้ ผมอยากเป็นผู้ชาย และก็อยากจะมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ชาย แต่ต้องมีความรุนแรงแฝงอยู่ตลอดเวลา แล้วนี้ผมเป็นอะไรกัน ไอ้โรม ไอ้ต้น หรือแม้แต่ไอ้สมิง มันจะคิดถึงเรื่องพวกนี้หรือไม่ ผมไม่อาจตอบได้ ผมรู้แต่ว่าตัวเองรู้สึกยังไง ผมรู้แค่นั้นจริงๆ

ไม่นานนักก็มาถึงช่วงที่ลูกเสือ ม.ต้นเข้าค่าย และผมก็หายดีเป็นปลิดทิ้ง เหมือนกับว่าการเลื่อนกำหนดการเข้าค่ายลูกเสือเหมือนกับพวกมันรอผม ตอนแรกผมก็แค่สังหรณ์ แต่ตอนนี้ผมแน่ใจว่าพวกมันน่าจะขยายเวลาเพื่อรอผม ไอ้สมิงจัดให้ลูกเสือกองร้อยพิเศษทุกคนคอยดูแลน้องๆ ลูกเสือ ม.ต้น หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าเป็นพี่เลี้ยง

ผมได้ดูแลประมาณ 3 หมู่ ทุกอย่างก็เป็นไปด้วยความเรียบร้อยดี เพียงแต่สังเกตว่าทำไมลูกเสือที่ผมดูแลถึงได้ซ่ามากกว่าหมู่อื่น เหมือนกับว่าเป็นการระดมเด็กเลวๆ มาไว้ให้ผมดูแล ไอ้สมิงเองก็เลือกผมให้มาดูแลลูกเสือกลุ่มนี้ คอยมาเป็นพี่เลี้ยงให้ ผมเองก็แปลกใจอยู่เหมือนกัน มีอยู่คืนหนึ่งที่ผมนอนหลับไปแล้ว แต่ตื่นมาอีกทีผมก็พบว่าลูกเสือกลุ่มที่ผมดูแลมันแอบเล่นไพ่กัน ไม่หลับไม่นอน แถมไอ้สมิงมันยังมาพบด้วย มันพูดกับผมว่า “พรุ่งนี้มึงเสร็จแน่ กูจะรายงาน อ.แผนว่าลูกเสือที่มึงดูแลลักลอบเล่นไพ่กันยามดึก”

ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร มันอยากรายงานก็รายงานไป ผมไม่ว่าอะไรอยู่แล้ว ยังไงก็ได้

วัน รุ่งขึ้นตอนรวมพลช่วงเย็นก่อนไปกินข้าว อ.แผนเรียกรวมพลเร็วกว่าปกติ และแจ้งว่าลูกเสือกลุ่มที่ผมดูแลแอบเล่นไพ่กันเมื่อคืน จริงๆ แล้วต้องลงโทษลูกเสือกลุ่มนั้น แต่ความผิดจริงๆ อยู่ที่กองร้อยพิเศษรุ่นพี่ที่ไม่ยอมดูแลและตักเตือนรุ่น น้อง วันนี้เราจะมีพิธีลงโทษรุ่นพี่คนนั้นเพื่อไม่ให้คนอื่นจำไปเป็นเยี่ยงอย่าง และรุ่นพี่คนนั้นได้แก่ สิงห์คำรณ ผมเดินออกไปยืนข้างหน้าด้วยใจฮึกเหิม และไม่หวั่นว่าจะต้องโดนอะไร

เสียง อ.แผนออกคำสั่งว่า “ขอให้กองร้อยพิเศษ สิงห์คำรณ ถอดเครื่องแบบออก”

ผมเลยถอดชุดลูกเสือออกจนหมด เหลือแค่กางเกงในตัวเดียว การลงโทษด่านแรกที่ผมต้องโดนคือการออกมายืนตรงกลาง เอามือประสานท้ายทอยพร้อมกับกางขาออก ลูกเสือกองร้อยพิเศษอีก 20 คนที่เหลือ แบ่งเป็นแถวตอนแถวละ 10 คน 10 คนแรกจะเดินมาอยู่ข้างหน้าผม อีก 10 คนที่เหลือจะเข้าแถวต่อด้านหลังผม

อ.กำพลเป่านกหวีด คนที่ยืนข้างหน้าผมและข้างหลังผมจะต้องฟาดหน้าอกและฟาดหลังของผมพร้อมๆ กัน ให้ดังสนันหวั่นไหว พอพวกเขาฟาดเสร็จแล้ว จึงเดินออกไป คนที่เหลือก็ก้าวเข้ามาแทนที่ พอ อ.แผนสั่งให้เริ่ม ทุกคนก็เข้าประจำที่ มีลูกเสือกองร้อยพิเศษบางคนตื่นเต้นมาก พวกเขาเข้าแถวทั้งตรงหน้าผมและด้านหลังผม พอเสียงนกหวีดเริ่มให้สัญญาณ คู่แรกก็ฟาดหน้าอกและฟาดหลังผมเสียงดังมากๆ น้องๆ ลูกเสือ ม. ต้นต่างตกใจกันใหญ่ พวกเขาคงไม่ค่อยเห็นอะไรที่มันรุนแรงก่อนหน้านี้ยกเว้นวิดพื้น หรือทำอะไรเทือกนั้น

พอเสียงนกหวีดส่งสัญญาณอีกครั้ง คนที่ยืนอยู่ข้างหน้าผมกับคนที่ยืนอยู่ข้างหลังผมก็ฟาดหน้าอกกับแผ่นหลังของ ผมพร้อมกัน ทำอย่างนี้มันเจ็บมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งมือควายๆ ของพวกกองร้อยพิเศษ แต่ในขณะเดียวกัน มันก็มันส์สะใจมากๆ ทีเดียว เหตุการณ์เป็นแบบนี้จนครบ 9 คู่ คู่สุดท้ายคือ ไอ้สมิงกับเพื่อนของมัน ไอ้สมิงยืนอยู่ข้างหน้าผม มันอมยิ้มให้กับผมเหมือนกำลังจะบอกว่า มันอยู่เบื้องหลังงานนี้ และผมเองก็มารู้ภายหลังว่ามันเป็นคนสั่งให้ลูกเสือที่ผมดูแลแอบเล่นไพ่กันใน ยามค่ำคืน พอนกหวีดดัง มันกับเพื่อนก็ซัดผมซะเต็มแรง

ด่านสองที่ผมโดนนั้น พวกเราย้ายสถานที่ไปยังลานหินกรวดมน ผมรู้สึกเสียวมาก เสียวอะไรนะเหรอ ก็เสียวควยสิครับ เพราะกางเกงในผมบางมาก ผมพอจะเดาออกว่ามันจะสั่งให้ผมทำอะไรที่ลานหินกรวดมนนี้ ซึ่งเต็มไปด้วยหินแหลมๆ ทั้งนั้น อ.แผนเป็นคนสั่งให้ผมนอนคว่ำบนลานหินกรวดมน แล้วเอามือประสานไว้ด้านหลัง พร้อมกับให้ผมเอาหน้าอกแถกตัวไปข้างหน้า ระยะทางค่อนข้างไกลเหมือนกัน ผมต้องค่อยๆ แถกตัวไป ต้องใช้ความพยายามพอสมควร เพราะหินแต่ละก้อนแหลมมาก สมกับชื่อที่ว่าลานหินกรวดมน ตอนแถกตัวไป ควยที่ขึ้นแข็งก็ดันสัมผัสกับหินแหลมๆ ไปด้วย ทั้งไข่และควยโดนไปเต็มๆ ทำให้ผมรู้สึกเสียวมาก มาถึงครึ่งทางผมก็เริ่มแย่แล้ว แต่ก็ต้องกัดฟันไปต่อให้ได้ ทุกคนมองผมถูกลงโทษด้วยความสะใจ ผมพยายามเอาหน้าอกแถกตัวมาจนถึงปลายมาง พอลุกขึ้นตามตัวมีแต่รอยแดงเต็มไปหมด และแล้วก็มาถึงด่านที่สาม

อ. แผนพาลูกเสือทั้งหมดไปตรงลวดหนาม แต่แรกผมก็ไม่กล้าคิดนะ เพราะการทำโทษให้ลอดลวดหนามในสภาพที่นุ่งกางเกงในตัวเดียวมันโหดเกินไป และลวดหนามที่ทำไว้ก็อยู่ต่ำมาก ตอนที่เด็ก ม.ต้นลอดก็แทบจะพอดีตัวเขา แต่ทุกคนก็อยู่ในชุดที่ป้องกันได้ อ.แผนพูดว่าด่านนี้คือการที่ผมต้องลอดลวดหนาม ผมตกใจมากที่แกสั่งแบบนั้นจริงๆ แกไม่อนุญาตให้ผมใส่เสื้อผ้าเลย ผมต้องอยู่ในสภาพนั้น ผมตื่นเต้นมาก พื้นตรงที่ลอดลวดหนามก็เต็มไปด้วยโคลน อารมณ์ตื่นเต้นทำให้ควยผมตุงเข้าไปใหญ่และนี่ก็คืออุปสรรคสำคัญในการลอดลวด หนามครั้งนี้

ผมเดินไปตรงทางที่จะลอด ผมนอนหงาย รู้สึกเสียวๆ เพราะ ลวดหนามต่ำเกือบจะประชิดตัวผม การนุ่งกางเกงในตัวเดียวลอดลวดหนามทำให้ควยแข็งมากๆ เพราะมันทั้งเสียวและ สร้างบรรยากาศฮึกเหิมได้ดีทีเดียว ลวดหนามที่เอามาตั้งนั้นเป็นการตั้งแบบเรียบไปกับพื้น แต่ไม่ได้ขึงไว้ตึง เป็นการขึงไว้แต่พอหลวมๆ ตอนที่ผมจะลอดต้องเอามือค่อยๆ ดันลวดหนามขึ้น และค่อยๆ ดันตัวเข้าไป ระยะทางยาวพอประมาณ ผมจำได้ว่าตอนที่น้อง ม.ต้นลอดมันดูลอดง่ายกว่านี้ แสดงว่าต้องมีใครไปปรับให้มันลอดยากขึ้น

ตอนที่ผมลอดเข้ามาครึ่งตัวแล้ว ผมต้องเอาหัวนอนลงไปในโคลนเลย เพราะว่ากลัวลวดหนามเกี่ยวตา ลวดหนามครูดตรงหน้าอกผมพอสมควร ด้วยความที่ตอนนอนหน้าอกจะค่อนข้างใหญ่ ทำให้มันครูดกับลวดหนามพอดี แต่ไม่ค่อยห่วงเท่าไหร่ ที่ผมห่วงมากๆ คือตรงควยต่างหาก เพราะตอนนี้ควยเริ่มแข็งและโผล่พ้นขอบกางเกงในออกมา ทำให้มันเสียวมากๆ แย่ก็ตรงที่ยิ่งเสียวมันก็ยิ่งแข็ง ผมต้องลอดช้ามากๆ เพราะกลัวลวดหนามจะไปโดนควยเข้า พอร่างกายของผมเข้าไปในลวดหนามทั้งตัว ผมก็เริ่มเหนื่อยแล้ว เพราะต้องระวังหลายอย่างเหมือนกัน มีอยู่ครั้งหนึ่งลวดหนามไปโดนตรงหัวควยพอดี ผมเลยต้องพลิกขา พยายามที่จะหลีกเลี่ยงให้ได้ จริงๆ แล้วถ้าควยไม่แข็งผมจะลอดง่ายกว่านี้อีกเยอะ แต่เจ้ากรรมที่ควยแข็งมาก และแข็งเกินกว่าที่จะควบคุมมันได้ การพลิกตัวเลี่ยงหลบของผมทำให้เกิดเหตุการณ์คาดไม่ถึงคือ ลวดหนามดันไปเกี่ยวกางเกงใน ขณะที่ลอดต่อ กางเกงในดันติด

ตอนนั้นไม่มีใครช่วยผมได้ ผมจึงต้องพยายามช่วยเหลือตัวเองอย่างเต็มที่ พอลอดได้อีกนิดนึง กางเกงในติดลวดหนามเข้าอย่างจังทำให้พอลอดต่อ กางเกงในก็หลุดออกจากก้นผม นั่นเป็นเหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดมาก่อน ตอนนี้ทุกคนเสียวไปตามๆ กัน เพราะควยของผมถูกปลดปล่อยกลางลวดหนามแหลมคม ผมต้องลอดอย่างระวังเป็นอย่างมาก ต้องทำตัวเอียงๆ คือให้สีข้างโดนลวดหนามบ้างก็ช่างมัน แต่ต้องระวังอย่าให้ควยไปโดนเลย

การระวังก็ต้องใช้ความรู้สึกแต่เพียงอย่างเดียว เพราะผมมองไม่เห็นว่าลอดต่อไปแล้วจะเกิดอะไรขึ้น พอมองไม่เห็น แต่รู้ว่ากางเกงในถูกถอดออกโดยปริยาย ตอนนั้นอายก็อายเพราะมีคนยืนดูเยอะมาก แต่ห่วงควยก็ห่วง เป็นประสบการณ์ที่ยากลำบากมากกว่าผมจะผ่านมันมาได้ ผมต้องทำอย่างค่อยเป็นค่อยไปจนลอดออกมาทั้งตัวได้ หลายคนปรบมือให้ผม แต่กองร้อยพิเศษกันตัวผมขึ้นไปที่ห้องด้านบน

ตอนนี้การลงโทษผมทั้งสามด่านเสร็จสิ้นแล้ว แต่ผมต้องโดนลงโทษโดยพวกกองร้อยพิเศษอีก พวกมันพาผมเข้าไปในห้องพิเศษ ตอนนั้นผมอยู่ในสภาพเปลือยเปล่า ผมเข้าไปยืนอยู่กลางห้อง พวกมันบังคับให้ผมยืนแบบตามระเบียบพัก ตอนนั้นยืนแบบควยขนานกับพื้นเพราะควยแข็งมาก พวกมันก็ก่นด่าผมกันใหญ่ ด่าๆๆๆ แล้วก็ฟาดๆๆๆ ฟาดทั้งหน้าอก หน้าท้อง แผ่นหลัง ก้น หน้าขา คือโดนฟาดทุกส่วนที่พวกมันอยากฟาด บางคนก็ตีมาที่ควยแรงๆ บางคนเอามือฟาดช้อนไปที่ไข่ ผมโดนฟาดไป ด่าไป อายมากที่ต้องยืนเปลือยต่อหน้าพวกมัน แต่ตอนนั้นผมทำอะไรไม่ได้เลย นอกจากต้องยอมทำตามทุกอย่างที่พวกมันสั่ง พวกมันก็ทำผมกันอย่างสะใจ ด่าไปทำร้ายร่างกายไป ตอนนั้นผมรู้สึกสะใจเหมือนกัน ที่ผมต้องยืนเปลือยเปล่าให้ทุกคนที่แต่งเครื่องแบบลูกเสือรุมด่าและรุม กระหน่ำฟาดมาที่ตัวผม จนกระทั่งไอ้สมิงสั่งผมว่า “ชักว่าวไปด้วยดิ”

ผมงี้ตกใจเลย เสียวกับคำสั่งของมัน แต่สุดท้ายก็ต้องยอมชักว่าวไปด้วย ตอนนั้นผมปลดปล่อยตัวเองแบบไม่สนอะไรแล้ว ผมชักว่าวอย่างเมามันส์ท่ามกลางเสียงด่า และบางคนยังรุมฟาดหน้าอก ฟาดก้นผม แบบนี้สิมันส์ของแท้ ผมเลยชักแบบไม่คิดชีวิต แอบเห็นหลายคนควยตุง ผมชักไปสีหน้าแสดงออกถึงความเสียงอย่างถึงที่สุด ชักจนถึงขั้นที่น้ำแตกออกมา น้ำพุ่งไกลมาก ผมร้องด้วยความเสียว ไอ้สมิงเอามือมารองน้ำที่กำลังไหลหลั่งออกมาจากควยผม แล้วมันก็เอามาละเลงหน้าผมด้วยความสะใจ และนั่นคือการปิดฉากชีวิตนักเรียน ม.4 ของผมอย่างสมบูรณ์

และแล้วก็ถึงเวลาเปิดเทอม ผมขึ้น ม.5 ด้วยเกรดที่เหลวแหลก ม.5 นี้ไม่รู้ใครจัดให้ผมกับไอ้โรมมาอยู่ห้องเดียวกัน คือ ม.5/3 และผมกับมันก็ตัดสินใจมานั่งด้วยกัน ส่วนไอ้สมิงเป็นรุ่นพี่ปีสุดท้ายแล้วและมันก็ดูจะมองผมในสายตาที่เปลี่ยนไป ส่วนไอ้ต้นก็ยังดูโหดเหมือนเดิมแต่ช่วงต้นเทอมผมกับมันยังไม่ค่อยได้เจอกันมากนัก

คนที่น่าสนใจมากที่สุดก็คือ อ.ใหม่ที่ชื่อเชิด แกเข้ามาสอนวิชาช่างให้กับพวกเรา ตอนนั้นพวกเราต้องทำที่เปิดขวดกัน จำได้แค่ว่าต้องเอาท่อนเหล็กมาเจียจนกว่าจะได้ที่เปิดขวด อ.เชิดมักจะสั่งนักสั่งหนาว่า เวลาเข้ามาทำงานในห้องปฏิบัติการต้องแต่งตัวให้เรียบร้อย ห้ามถอดเสื้อโดยเด็ดขาด ซึ่งผิดกับ อ.สอนวิชาช่างคนก่อนที่เพิ่งลาออกไป เพราะเขาจะเข้าใจว่าเวลาทำเหนื่อยๆ มันร้อนมาก คงต้องมีการถอดเสื้อกันบ้าง เคยมีคนร้องขอ แต่ อ.เชิดก็ไม่ฟัง บอกว่าดูไม่เรียบร้อย แกอนุโลมให้เอาเสื้อยืดมาเปลี่ยนได้ หรือจะใส่เสื้อกล้ามก็ได้แต่ต้องไม่ถอดเสื้อ และห้ามใครขัดคำสั่งของแกเด็ดขาด ไม่งั้นจะเจอดี

แน่นอนว่าคำขู่ของแกกระตุ้นความอยากรู้ของผมกับไอ้โรมเป็นอย่างมาก

เย็นวันหนึ่งผมกับไอ้โรมจึงขึ้นไปที่ห้องช่าง แล้วก็เอาท่อนเหล็กของเราออกมาทำที่เปิดขวดต่อ สงสัยคงต้องทำทั้งเทอมกว่าจะเสร็จ ผมกับไอ้โรมคิดเหมือนกันว่าอยากลองดี จึงถอดเสื้อทำงานกันทั้งคู่

ไม่นานนัก อ.เชิดมาเห็นเข้า แกโกรธพวกเราเป็นฟืนเป็นไฟ “ทำไมถึงกล้าขัดคำสั่งกู อยากถอดเสื้อกันนักใช่ไหม”

ผมกับไอ้โรมไม่กล้าพูดอะไรกันเลย รอลุ้นกันว่าแกจะลงโทษผมกับไอ้โรมยังไง

แกออกคำสั่งว่า “ดีล่ะ ถ้าอยากถอดเสื้อกันนัก งั้นกูจะริบเสื้อพวกมึงไว้ พรุ่งนี้เย็นๆ ค่อยมาเอาคืน”

ผมกับไอ้โรมตกใจเหมือนกันนะ เพราะพวกเราไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจไว้

อ.เชิดยังพูดต่อว่า “แต่กูจะไม่ริบเสื้อพวกมึงอย่างเดียวหรอก กูต้องลงโทษพวกมึงด้วย โทษฐานไม่เชื้อฟังกู”

ผมกับไอ้โรมรอฟังว่า อ.เชิดจะสั่งให้เราทำอะไรกันต่อไป อ.เชิดสั่งให้เราลงไปข้างล่าง แล้วสั่งให้เราวิ่งรอบสนามบอล 6 รอบแต่ต้องผลัดกันขี่คอคนละสามรอบ การลงโทษของแกแมนมาก

ขณะที่ผมกำลังวิ่งเอาไอ้โรมขี่คอ ผมสังเกตเห็นไอ้ต้นเดินมาคุยกับ อ.เชิด ไอ้ต้นถาม อ.เชิดว่าผมสองคนทำอะไรผิด พอไอ้ต้นรู้ก็เล่าใส่สีตีไข่ว่าผมสองคนเป็นเด็กเหี้ยประจำโรงเรียน ต้องลงโทษให้เข็ดหลาบ

ไอ้ต้นพูดกับ อ.เชิดว่า “ลงโทษไอ้สองตัวนี่ แค่ให้วิ่งขี่คอรอบสนามนี่ยังน้อยไป”

อ.เชิดจึงออกปากให้ไอ้ต้นมาช่วยกันลงโทษผมกับไอ้โรมด้วยและนั่นเป็นมิตรภาพครั้งแรกของ อ.เชิดกับไอ้ต้นแต่ดันเป็นมิตรภาพที่เอาความเหนื่อยของผมกับไอ้โรมเป็นเดิมพัน

พอผมกับไอ้โรมผลัดกันวิ่งขี่คอรอบสนามเสร็จแล้ว อ.เชิดสั่งให้เราสองคนมาหาไอ้ต้น ไอ้ต้นออกปากว่าให้พวกเราสี่คนไปที่โรงยิม ดูท่าไอ้ต้นจะพยายามสาธิตการเป็นอาจารย์ที่ดีให้อาจารย์ใหม่อย่าง อ.เชิดได้รับรู้ อ.เชิดเองก็ดูพร้อมที่จะเรียนรู้อะไรเทือกนี้อยู่แล้ว

พอพวกเราถึงโรงยิม ไอ้ต้นก็ออกคำสั่งกับเราต่อ “กูขอริบกางเกงพวกมึงด้วย”

อ.เชิดตกใจมากกับคำสั่งของไอ้ต้น “แล้วมันจะกลับบ้านกันยังไง”

ไอ้ต้นตอบว่า “ไม่ต้องห่วงหรอก ไอ้พวกนี้มันหาทางของมันได้อยู่แล้ว”

อ.เชิดก็พยักหน้าตอบ ผมกับไอ้โรมเหลือกางเกงในคนละตัว

ก่อนปล่อยเรากลับ ไอ้โรมลงโทษเราสองคนด้วยการให้เรานอนกอดกันแล้วกลิ้งไปกลิ้งมา ไอ้ต้นชอบลงโทษพวกเราแบบนี้เสมอ ปัญหาสำคัญหลังจากที่ไอ้ต้นกับ อ.เชิดไปแล้วคือผมกับไอ้โรมจะกลับบ้านกันยังไง สิ่งหนึ่งที่ทำได้คือ รอจนดึกจึงกลับบ้าน แต่วันนี้ไอ้โรมเสนอว่า ผมควรไปค้างที่บ้านมันสักคืน เพราะบ้านมันอยู่ซอยเปลี่ยวและก็ไม่ไกลโรงเรียนมากนัก น่าจะค่อยๆ เดินกลับได้

สิ่งที่ไม่ได้คาดคิดมาก่อนก็คือ พ่อของไอ้โรมรอไอ้โรมอยู่ พอผมกลับไปด้วย ผมกับไอ้โรมจึงโดนพ่อของมันหาเรื่องลงโทษเราสองคนและนั่นคือครั้งแรกที่ผมรู้จักกับพ่อของไอ้โรม

ตอนนั้นผมกับไอ้โรมต่างแอบไปหาผ้าขนหนูหรือผ้าขาวม้าแถวๆ บ้านคนงานหลังโรงเรียน พูดง่ายๆ ก็คือขโมยนั่นแหละครับ พอหาเสร็จก็ได้ผ้าขนหนูมา 2 ผืนพอจะนุ่งกันได้ เพราะการนุ่งกางเกงในดูท่าจะอนาจารไปหน่อย เวลาผมนั่งรถและจ้องมองผู้ชายที่ไม่ใส่เสื้อเดิน ที่ชาวบ้านเห็นเป็นของธรรมดามักจะเป็นนุ่งกางเกง ผ้าขาวม้าหรือผ้าขนหนู ถ้าเป็นนุ่งกางเกงในตัวเดียวจะต้องมีการถือแหถืออวนไปด้วย คนก็จะเข้าใจว่าเพิ่งไปหาปลามา

แต่สำหรับเย็นนั้นผมกับไอ้โรมขอนุ่งผ้าขนหนูไปก่อนก็แล้วกัน คือมันยังพอรับได้ถ้าใครจะมาเห็น ขณะที่ผมกับไอ้โรมรอให้ค่ำเพื่อจะได้ไปบ้านไอ้โรม ผมมารู้ภายหลังว่าอ.เชิดกับไอ้ต้นดันไปกินข้าวด้วยกัน ต่างคนต่างได้เพื่อนใหม่ อ.เชิดสงสัยอะไรบางอย่างจึงถามไอ้ต้นว่า

“เราสามารถลงโทษนักเรียนชายได้ถึงขนาดนั้นเลยเหรอ ผู้ปกครองกับ ผอ.เขาไม่เอาเรื่องเหรอ” ไอ้ต้นตอบกลับมาแบบมืออาชีพ

“ผอ.ไม่เข้ามายุ่งหรอก ถ้าผู้ปกครองไม่ร้องเรียน ส่วนเรื่องจะถึงหูผู้ปกครองหรือไม่ มันขึ้นอยู่กับเด็ก แต่ไอ้เสือกับไอ้โรมนี่รับรองว่าไอ้สองตัวนี้ไม่เอาเรื่องที่โดนลงโทษไปบอกผู้ปกครองแน่ และก็ยังมีนักเรียนอีก 5-6 คนนะที่เป็นแบบนั้น”

“อ๋อ เหรอ” อ.เชิดเริ่มที่จะเข้าใจอะไรบางอย่าง

ไอ้ต้นยังพูดต่อว่า “ตอนนี้เรามีโอกาสนะ เรามีเด็กเหี้ยๆ ล่ำๆ อยู่ในมือ ถ้าชอบหรืออยากทำอะไรก็รีบๆ ทำซะ เพราะต่อไปอาจไม่มีโอกาสอีก”

สิ่งที่ไอ้ต้นคิดนั้นตรงกับที่ผมคิด อายุ 14-24 เป็นเวลาประมาณ 10 ปีที่ผมทุ่มเทให้กับสิ่งเหล่านี้ ทางผมเองคิดว่าความหนุ่มมันอยู่กับเราไม่นาน อยากจะทำอะไรก็ต้องรีบทำ อยากโดนอะไรก็ต้องรีบขวนขวายหาเพราะเวลามีไม่มาก พอคิดแบบนี้ก็มักที่จะชอบทำอะไรที่มันดู “บ้าบิ่น” มากไปหน่อย

ผมเดินไปบ้านของไอ้โรมกับไอ้โรม รู้มาบ้างเหมือนกันว่าเป็นบ้านพักในกรมทหาร และพ่อของมันก็มีชื่อเสียงในเรื่องของความซาดิสต์ ไม่รู้เหมือนกันว่าไปบ้านมันครั้งแรกแล้วจะเกิดอะไรขึ้น จริงๆ แล้วพ่อของผมก็เป็นทหารเหมือนกันนะ และผมก็ชอบรูปร่างของพ่อมาก

สมัยผมเด็กมากๆ ตอนเห็นพ่อนอนดูทีวีบนโซฟาและๆ ไม่ใส่เสื้อ ผมมักจะชอบถอดเสื้อและขึ้นไปนอนกอดพ่อบนโซฟา ชอบตอนที่หน้าอกของผมได้สัมผัสกับอกแกร่งๆ ของพ่อ มันเป็นความอบอุ่นที่หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว แต่ตอนโมโห พ่อผมก็โมโหร้ายใช่เล่น และการลงโทษที่พ่อโปรดมากก็คือการใช้เข็มขัดฟาดตรงอกเปลือยๆ และหลังเปลือยๆ ของผม

ผมคงตอบไม่ได้หรอกว่าชอบเป็นผู้ถูกกระทำก่อนหน้านั้นหรือหลังจากนั้น ที่ตอบได้เพียงอย่างเดียวก็คือ ชอบเป็นผู้ถูกกระทำมากๆ และการปิดฉากการเล่นอะไรแบบนี้เกิดขึ้นตอนอายุ 24 ที่โดนตำรวจสองนายเล่นเอาปางตาย จนต้องเข้าโรงพยาบาลแต่เนื่องจากมันเป็นภารกิจชิ้นสุดท้าย ผมจึงคิดว่ามันต้องหนักหนาสาหัสมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมาในชีวิต

ตอนย้ายมาอยู่ที่ตึกแถวใกล้ๆ บ้านไอ้เกิ้ล ผมยังจำได้ว่าชั้นสาม ผนังทางด้านขวามีเก้าอี้ไม้ตัวไม่สูงมากนักวางอยู่ติดกันหลายตัวมาก พ่อสั่งว่าห้ามใครไปทำความสะอาดใต้เก้าอี้เหล่านั้นคือปล่อยให้มันสกปรกและมีฝุ่นอยู่อย่างนั้น บางทีพ่อก็แอบเอาทราย เศษดินหรือเศษกระจกไปโรยไว้ใต้เก้าอี้พวกนั้น

พอผมกลับมาจากโรงเรียน พ่อมักจะหาเรื่องลงโทษผมและมักจะพาผมไปลงโทษที่ชั้นสาม บังคับให้ผมถอดเสื้อผ้าจนเหลือแต่กางเกงในตัวเดียว และให้คลานต่ำลอดเก้าอี้พวกนั้น พอลอดไปจนครบทุกตัว (น่าจะประมาณ 10 กว่าตัว เพราะตึกแถวนี้ลึกมาก) ผมลุกขึ้นยืนก็จะมีหยากไย่หรือเศษทราย เศษดิน และขี้ฝุ่นเปรอะเปื้อนตามตัวของผม

พ่อก็จะพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ ว่า จะช่วยปัดฝุ่นให้แต่พ่อปัดแรงมาก เหมือนจงใจฟาดไปที่หน้าอก หน้าท้องและแผ่นหลังของผม ผมรู้มาจากเพื่อนพ่อว่าสมัยพ่อเป็นทหารใหม่ๆ พ่อก็ถูกลงโทษมาหนักเหมือนกัน ไม่แน่ใจว่าพ่อชอบถูกลงโทษรึเปล่า แต่ลูกชายของพ่อชอบถูกลงโทษมากๆ ครับ

ตอนเดินเข้ามาในกรมทหารในสภาพนุ่งผ้าขนหนูมาตัวเดียว ทหารที่เห็นเราก็จ้องมองเราตาไม่กะพริบเหมือนกัน

ผมหันไปถามไอ้โรมว่า “จะมีใครมาหาเรื่องเราไหมเนี่ย”

ไอ้โรมตอบมาด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ ว่า “ไม่มีใครกล้าหาเรื่องเราหรอก ถ้าพ่อไม่สั่ง”

แค่คำพูดเพียงแค่นี้ ควยของผมก็ตุงกางเกงในไปไหนต่อไหนแล้ว พอเดินมาถึงหน้าบ้าน ไอ้โรมก็เดินเข้าไปในบ้านทันที ผมเดินตามเข้าไปติด และพบว่าพ่อของมันนั่งรอพวกเราอยู่ ผมมารู้เอาที่หลังว่าไอ้ต้นโทรรายงานเรื่องของเราให้พ่อของไอ้โรมรู้ ไอ้ต้นก็ยังเป็นไอ้ต้นอยู่วันยังค่ำ ไอ้โรมเดินเข้าไปหาพ่อของมัน ทั้งคู่จ้องตากัน พ่อของไอ้โรมกระชากผ้าขนหนูออกจากตัวของไอ้โรมแรงมากจนตัวมันกระตุก

ตอนนี้ไอ้โรมอยู่ในสภาพนุ่งกางเกงในตัวเดียว พ่อของมันไม่พูดอะไรเลย แต่กำหมัดและต่อยไปที่หน้าของไอ้โรมเข้าอย่างจัง ผมตกใจมาก เพราะการออกหมัดนั้นแรงมาก ไอ้โรมหันหน้าไปตามแรงหมัด แต่มันก็หันกลับมาจ้องหน้าพ่อของมันต่อ มันก็เลยเจอต่อยหน้าไปอีกหมัด แค่สองที ไอ้โรมก็เลือดกลบปากแล้ว

หลังจากนั้นพ่อของไอ้โรม เอามือซ้ายจับไหล่มันและใช้มือขวาชกไปที่หน้าท้อง ตอนแรกๆ ก็ชกแรงๆ ไปทีนึง ก่อนที่จะชกเร็วขึ้น แต่ยังคงความแรงอยู่จนต่อมา ชกแบบรัวเลย แต่ไอ้โรมก็ยังยืนเฉย มีสีหน้าแสดงความเจ็บปวดเพียงเล็กน้อย

ปิดท้ายด้วยการถีบไปที่หน้าอกของไอ้โรม ไอ้โรมถอยหลังไปสองเก้าและก็เดินขึ้นไปชั้นสอง ผมเลยเดินตามขึ้นไปด้วย

พอถึงชั้นสองไอ้โรมยังเงียบอยู่ แต่พอพักใหญ่ๆ เขาก็เล่าให้ผมฟังว่าพ่อมีฉายาว่า “ครูฝึกซาดิสต์” เพราะชอบลงโทษทหารแบบโหดๆ อยู่เป็นประจำ พอไม่ได้เป็นครูฝึกแล้ว คนที่โดนหนักคือไอ้โรมเองกับทหารรับใช้ พอดีว่าไอ้โรมก็ชอบแนวนี้เลยไม่ได้เกลียดพ่อของมัน ผมเดินเข้าไปใกล้ไอ้โรม ได้กลิ่นเหงื่อแบบผู้ชายๆ แล้วเกิดอารมณ์จึงสอดมือจากด้านหลังของมัน ไปลูบไล้หน้าอกและหน้าท้อง

ความเชื่อหนึ่งของพวกเราก็คือ คนที่ชอบแบบเรา หลังจากโดนซัดหน้าท้อง หน้าอกแบบแรงๆ จนจุก ถ้าปล่อยไปสักพักให้หายจุกแต่ยังไม่หายเจ็บ และใช้มือลูบไล้พอมันส์ ความรู้สึกเสียวแบบแปลกจะเกิดขึ้นกับคนๆ นั้น ความเชื่อนี้ไม่น่าผิด เพราะไอ้โรมกลับมีความรู้สึกร่วมโดยไม่ได้ขัดขืนแต่อย่างใด มันหันมาหาผม และเราสองคนก็จูบกันอย่างบ้าระห่ำ ผมรับรู้ได้ถึงความเจ็บที่หน้าของมันและตรงปากที่มีเลือดออก ผมเลียบริเวณนั้น เลียไปที่หน้าที่มันเพิ่งได้รับความเจ็บมา มันส่งสายตาเรียกร้องเหมือนจะบ่งบอกว่า การใช้ลิ้นเลียตรงที่กำลังเจ็บปวดถือเป็นความหฤหรรษ์ที่หาได้ยากในโลกนี้

เราจูบกันกอดกันและต่างก็ล้มลงบนเตียง หลังจากนั้นไอ้โรมก็เป็นฝ่ายใช้ลิ้นกับหน้าอกผมบ้าง แต่มันใช้ลิ้นได้รุนแรงอย่างกับสัตว์ป่า ไอ้โรมเหมือนกับสัตว์ที่เพิ่งถูกทารุณกรรม และผมดันไปเลียแผลกายของมันทำให้สัญชาตญานเถื่อนทางเพศถูกปลุกและดูเหมือนว่ามันกำลังจะแก้แค้น

จริงๆ แล้วมันอาจจะอยากแก้แค้นกับพ่อของมัน อยากใช้ควยอัดรูตูดพ่อมันแรงๆ โทษฐานที่ทำกับมัน แต่พอมันทำอย่างนั้นจริงๆ ไม่ได้ มันจึงคิดซะว่าผมเป็นพ่อมัน มันใช้ลิ้นเลียแรงๆ กัดหัวนมผม และตบหน้าผมเป็นระยะ

โอย พระเจ้า ผมชอบมาก ผมชอบความเถื่อนของมัน ชอบความรุนแรงเหมือนกับสัตว์ป่าของมัน มันถุยน้ำลายใส่หน้าผมแล้วก็เอามือละลเงไปทั่วหน้าแล้วมันก็ถุยน้ำลายใส่หน้าอกผมพร้อมใช้มือละเลงไปทั้งอกและท้อง

มันชกท้องผมหนึ่งทีก่อนจะถอดกางเกงในของผมและตัวมันเอง มันเอาควยเข้ารูตูดผมและซอยยิบแบบไม่ยั้ง เป็นการเอาที่รุนแรงและป่าเถื่อน พอถึงจุดก็ปล่อยน้ำควยลงไปที่หน้าและหน้าอกของผม เป็นการแตกอย่างมีชั้นเชิง หลังจากนั้นเราก็อาบน้ำด้วยกัน ช่วยกันฟอกสบู่เอาตัวสีกันไปมา จนควยลุกกันอีกครั้ง

พออาบน้ำเสร็จเราก็ไปที่เตียง ผมอยากเป็นฝ่ายรุกบ้าง จึงอัดของผมเข้าไปในรูตูดมัน และซอยแบบบ้าระห่ำ ชอบจัง ทั้งกระชับ ทั้งฟิต ตอนนั้นมันอยู่ในท่านอนคว่ำและยกบั้นท้าย ผมก็เลยทั้งซอยทั้งแอบฟาดหลังทุบหลังมันไปด้วย

พอเสร็จก็ปล่อยลงที่หลังมัน และผมก็นอนทับตัวมันในแบบที่ไม่ต้องเช็ดน้ำควยก่อน เราต่างไม่ได้พูดอะไรกัน ผมนอนทับมันจนเผลอหลับไป

ตื่นตอนเช้า ผมกับไอ้โรมเดินลงไปข้างล่างเห็นทหารนายหนึ่ง นุ่งกางเกงขาสั้นแบบทหาร เสื้อไม่ใส่ นั่งชันเข่าอยู่ต่อหน้าพ่อของไอ้โรมพร้อมกับเอามือประสานไว้ที่ท้ายทอยโดยมีทหารรับใช้อีกคนหนึ่งยืนอยู่ข้างๆ พ่อของไอ้โรมเตะไปที่สีข้างของทหารรับใช้ที่นั่งชันเข่า เตะไปหลายทีอย่างแรง จนเขาเห็นผมจึงสั่งทหารรับใช้อีกคนว่า “เอาไอ้โรมไปขังไว้ในห้องแดงก่อน”

ทหารรับใช้คนนั้นจึงดึงไอ้โรมออกไป พ่อของไอ้โรมเดินมายืนข้างหน้าผมและพูดกับผมว่า “ถอดเสื้อออก”

ผมทำตามคำสั่งแต่โดยดี พอถอดเสื้อเสร็จเขาก็ออกคำสั่งอีกว่า “เอามือไพล่หลัง”

ผมรีบทำตาม ตอนนั้นยังไม่แน่ใจว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น พ่อของไอ้โรมเอาเสื้อของผมมามัดข้อมือด้านหลังจนแน่นแล้วก็จิกหัวผมเดินไปทางหน้าบ้านซึ่งตอนนั้นมีครูฝึกทหารยืนกันอยู่ 4-5 คน พ่อของไอ้โรมบอกกับพวกนั้นว่า “เมื่อคืนไอ้เหี้ยเนี่ยแอบเข้ามาขโมยของในบ้านกู กูจับได้ เลยอยากให้พวกมึงสั่งสอนมันหน่อย อย่าเอาให้ถึงขั้นสาหัสล่ะ แค่สั่งสอนมันให้รู้สำนึกก็พอ”

ทหารทั้งหมดรับคำสั่งของพ่อไอ้โรม พวกเขาพาผมไปยังบริเวณด้านหลังของค่ายทหาร บริเวณแถบนี้เป็นสนามกว้าง แต่ก็มีมุมหลายๆ มุมที่เราเรียกได้เต็มปากว่ามุมทรมาน ทหารคนหนึ่งพูดขึ้น “ริอาจขโมยบ้านของท่านนะมึง อย่างมึงต้องโดนสั่งสอนซะให้เข็ด”

พวกมันพาผมไปยังมุมหนึ่งที่เป็นใต้ถุนตึก เมื่อผมเห็นอุปกรณ์รอบๆ ผมก็ทราบทันทีว่าสิ่งที่ผมกำลังจะโดนคืออะไร พวกมันหาเชือกมามัดข้อเท้าผม แล้วจับผมโยงกับรอกแบบเอาหัวลง หลังจากนั้นถุงน้ำที่ติดล้อเลื่อนและมีน้ำอยู่พอสมควรก็ถูกเลื่อนมา เสร็จแล้วก็ค่อยๆ เอาหัวผมหย่อนลงไปในถังน้ำ บอกตรงๆ ว่าการทรมานในลักษณะนี้ ถ้าผมเป็นคนดูผมจะชอบมาก เพราะได้เห็นกล้ามเนื้อที่แข็งเกร็ง และการเอาหัวลงก็โหดพอดู เวลาหัวมิดน้ำในถัง ดูแล้วเซ็กซี่มาก ยิ่งตอนดิ้นหน่อยๆ กล้ามจะเกร็งทำให้ชวนมองยิ่งนัก ควยตุงได้ตุงดีแบบไม่มีที่ติ

แต่ถ้าโดนเอง สิ่งที่ได้รับคือความทรมานล้วนๆ การเอาหัวลงเป็นสิ่งที่น่ากลัวมากสำหรับผม เพราะมันทรมานจริงๆ ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ และการเอาคนที่หัวห้อยลงจุ่มลงไปในถังน้ำมันทรมานสุดๆ คือมันมากกว่าการถูกจับกดน้ำหรือแค่การเอาหัวลงธรรมดาเป็นไหนๆ ยิ่งถ้าเอาหัวจุ่มน้ำ สักพักค่อยดึงขึ้น แล้วเอาจุ่มน้ำใหม่ นี่มันแกล้งทรมานระบบหายใจกันชัดๆ ผมคิดว่ายิ่งกว่าการเอาถุงพลาสติกคลุมหัวซะอีกเพราะการถูกเอาถุงพลาสติกคลุมหัวนั้น แค่การหายใจมันถี่ขึ้นเรื่อยๆ พอถี่ถึงขีดสุด หัวก็เริ่มเปียก คนที่ทรมานเขาก็จะรีบเอาถุงออกจากหัวเราเพราะตอนนั้นถุงมันจะแนบไปตามหน้าเราเมื่อถุงคลุมอยู่นานๆ

แต่แบบเอาหัวจุ่มน้ำนี่โหดกว่ามากๆ ทหารบางคนจะดึงขึ้นก็ต่อเมื่อเราดิ้นแต่ถ้าผมไม่ดิ้นล่ะมันจะเกิดอะไรขึ้น แต่ทหารเขานี่มืออาชีพจริงๆ พอถึงจุดที่ควรดึงขึ้นเขาก็ดึงขึ้น ผมคิดว่าเขาคงสังเกตหน้าอกกับหน้าท้อง พอดึงขึ้นสักพัก ก็เอาจุ่มลงอีก ใครที่เคยโดนครั้งแรก พอจะเอาจุ่มลงอีกจะเริ่มกลัวมากขึ้นและไม่อยากโดนอีก และนั่นก็หมายถึงว่าการทรมานแบบนี้ มันควบคู่ไปกับการทรมานจิตใจด้วย มันทำให้เกิดอาการหวาดกลัวและรู้สึกว่าเมื่อไหร่ มันจะเสร็จสิ้นซะที พอโดนเองนี่ควยมักจะไม่ตุงนะเพราะทรมานโคตรๆ แต่ถ้าเป็นผู้ดูล่ะก็ตุงไปนานแล้ว

และตอนที่หัวของเราถูกจุ่มลงในน้ำ มันออกจะน่ากลัว ยิ่งถ้าทหารทำแล้วมันจะค่อยๆ หย่อน มันน่ากลัวมากนะครับ และจะรู้สึกว่าตอนที่หัวจุ่มน้ำทำไมมันถึงนานนัก มันดูนานมาก แต่ตอนที่เขาดึงขึ้นให้หัวพ้นน้ำมันดูสั้นแป๊ปเดียวเองทั้งๆ ที่ความจริงอาจไม่เป็นเช่นนั้น วันนั้นบอกตรงๆ ว่าผมกลัวมากและไม่รู้สึกสนุกตามไปด้วย มาควยตุงหลังจากนั้น หรือตอนคิดถึงวันที่เราถูกทรมาน

ทางด้านจิตใจก็ไม่ไหวแล้ว เพราะถูกดึงขึ้น เอาลงบ่อยมาก ความจริงมันอาจไม่บ่อยก็ได้ แต่ในความนึกคิด ผมรู้สึกว่ามันโคตรบ่อยเลย อยากให้มันจบๆ กันไปซะที ตอนหัวจุ่มลงในถังก็รู้สึกอึดอัดมาก รู้สึกแย่มากๆ ก่อนที่จะเอาหัวจุ่มลงไปก็รู้สึกว่ามันหลอนๆ รู้สึกเหมือนถังมันใหญ่กว่าถังจริงๆ น่าจะใหญ่กว่าตั้งสองเท่า

หลังจากถูกดึงขึ้นและรับรู้ว่าการทรมานแบบนี้เสร็จสิ้นไปแล้วมันก็เอาผมมานอนหงายข้างๆ ถังน้ำ ผมนอนหอบหายใจอยู่นานรู้สึกเหนื่อยมากๆ รู้สึกล้าด้วย มือด้านหลังก็ยังถูกมัดอยู่ พอนอนพักนานพอสมควร ควยถึงจะเริ่มตุงมากขึ้น พวกมันก็ยืนมุงดูผมกัน ผมรู้สึกได้ว่าการสั่งสอนของเด็กที่ขโมยของนั้นมันเป็นอย่างไร

คงมีสักคนที่เห็นควยผมตุง มันจึงเอาคอมแบตเหยียบที่ควยเต็มแรง พอคนแรกเริ่มคนต่อมาก็เอาคอมแบตมาเหยียบที่หน้าอกโดยเน้นตรงกล้ามอกตรงหัวนม กลายเป็นว่าผมโดนคอมแบตเหยียบหน้าอกตรงหัวนมทั้งสองข้าง อีกคนก็เน้นเหยียบที่ท้อง การเหยียบคล้ายกับการบีบนวดแต่หนักข้อกว่าคือเหยียบเน้นตรงที่เดิมซ้ำๆ

อาการเสียวมากที่สุดก็คือการถูกเหยียบตรงหน้าท้องเพราะคนที่เหยียบลงน้ำหนักกับหน้าท้องของผมมากจนรู้สึกว่าหน้าท้องถูกเหยียบจนบี้แบน เกือบจะติดกับผ่นหลังเลย ความรู้สึกมันเป็นอย่างนั้นจริงๆ

มันรุมเหยียบผมสักพัก ทหารนายหนึ่งก็พูดขึ้นว่า “เฮ้ย พวกมึงถอยซิ”

พวกมันเอาคอมแบตถอยออกจากตัวผม ทหารคนที่พูดก็รูดซิบ ปลดปล่อยควยของตัวเองแล้วก็เยี่ยวใส่ตรงหน้าและหน้าอกผม เท่าที่จำได้ผมคิดว่ามันคงอั้นจนได้ที่ เพราะเยี่ยวมันแรงและนานมาก นานมากกว่าปกติ และมีน้ำออกมามากกว่าปกติ ตอนที่พุ่งตอนแรก มันมาถึงหน้าผม หน้าอกผม พอผ่านไปนิดนึง เยี่ยวอุ่นๆ ก็โดนไปที่หน้าท้อง มันเยี่ยวจนสุด และทิ้งผมไว้อย่างนั้นสักพัก ก่อนที่จะตักน้ำในถังมาราดตามตัวของผม

และแล้วการสั่งสอนเด็กที่ชอบขโมยก็จบลง วันนั้นผมถูกนำตัวกลับไปที่บ้านพักของพ่อไอ้โรม พวกทหารรายงานสิ่งที่ทำกับผมให้พ่อไอ้โรมทราบ พ่อไอ้โรมรู้สึกชอบมาก ผมแปลกใจนิดหน่อยตรงที่ว่าทำไมเขาถึงไม่ตามไปดู เพราะถ้าเป็นผม ผมจะตามไปดูแน่ ผมจะไม่ปล่อยโอกาสทองแบบนี้ให้หลุดลอยไป แต่ทำไมเขาถึงไม่ตามไปดูนะ สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ผมยังคิดไม่ตกจนถึงปัจจุบัน ถ้าใครคิดตกก็ช่วยบอกหน่อยแล้วกันนะครับ

หลังจากนั้นผมก็พอรู้ว่าไอ้ต้นคุยอะไรกับ อ.เชิดบ้าง หลังจากวันนั้นไอ้โรมมักจะกลับบ้านเร็ว ผมจึงมาที่ห้องช่างเพียงคนเดียวและแน่นอนที่ผมแกล้งถอดเสื้อทำงาน พอ อ.เชิดเห็น แกรีบหลบเข้าห้องแกก่อน ผมรู้นะว่าแกอยากทำอะไร แต่แกไม่เชี่ยวเหมือนไอ้ต้น แต่แกอยากมากและแกคงอยากลอง ระหว่างไอ้โรมกับผม ผมคาดว่า อ.เชิดน่าจะเลือกผมสำหรับการเปิดซิงเพื่อจะทรมานใครสักคน

ไม่นานนักแกก็โผล่หน้าออกมาด้วยอาการโกรธเกรี้ยว “ไอ้เสือ มึงเข้ามาหากูหน่อย”

ผมเดินเข้าไปหา อ.เชิดในห้องด้านใน แกทำหน้าดุใส่ผม ผมเดินไปยืนข้างหน้าแก แกจ้องมาที่ผม ดูแกมีท่าทางตื่นเต้น และกำลังจะพยายามทำอะไรสักอย่าง

ผมถามแก “มีอะไรเหรอครับ”

แต่แกไม่ตอบ ยังคงจ้องผมเขม็ง ผมงงเหมือนกัน ทำไมแกถึงไม่พูดะไรเลย เอาแต่จ้องหน้าผมอย่างเดียว ทันใดนั้น แกตบหน้าผมอย่างแรงมาฉาดนึง ผมหน้าหันไปทางอื่น

ตอนนั้นผมเข้าใจแล้วว่าแกต้องการอะไร ผมหันมามองหน้าแก ตกใจมาก เพราะหน้าตาแกดูเปลี่ยนไป ดูสะใจ ดูฮึกเหิมและดูโหดมากขึ้น ผมไม่แน่ใจว่าผมกำลังเจอกับอะไร แต่ผมก็พอคาดเดาได้กับสิ่งที่เกิดขึ้นกับผม ไม่นานนัก ผมโดนตบอีกฉาด ดูแกสะใจมากที่แกสามารถทำอย่างนี้ได้กับนักเรียนชายสักคน ผมดูจากท่าทางของแก นี่น่าจะเป็นประสบการณ์ครั้งแรก แต่น่าจะเป็นสิ่งที่แกโหยหามานาน

มีคนเคยบอกผมว่า อ.ผู้ชายบางคนที่เข้ามาเป็นอาจารย์ก็เพราะต้องการอยากจะลงโทษ นักเรียนชายแบบเอาให้กระอักไปเลยสักหนสองหน เรื่องแบบนี้มันฝังอยู่ลึกๆ ภายในและเป็นสิ่งที่เราพอจะคาดคิดถึงมันได้

อีกไม่นาน การตบครั้งที่สามก็ตามมา ครั้งนี้แรงกว่าสองครั้งแรก สีหน้าผมคงแสดงความเจ็บให้แกเห็น แกเลยทำหน้าแบบสาแก่ใจมาก ตอนนี้แกดูผ่อนคลายลงเล็กน้อย แต่ผมเองกลับเครียดตึงมากขึ้นเพราะไม่แน่ใจว่า อ.เชิดจะควบคุมตนเองได้มากน้อยแค่ไหน อาการของแกไม่เหมือนไอ้ต้นเลย มันต่างกันอย่างสิ้นเชิง

นี่คงเป็นอาการตื่นกลัวระคนดีใจมั้งครับ สำหรับอาจารย์ที่ได้มีโอกาส ลงโทษนักเรียนแบบถึงเนื้อถึงตัวเป็นครั้งแรก

แกยืนจ้องผมต่อไปอีกสักพัก แกจึงออกคำสั่งกับผมเป็นครั้งแรก “ยืนแยกขา เอามือประสานไว้ที่ท้ายทอย”

ท่านี้เป็นท่าที่อาจารย์อย่างแกคงชอบมาก เพราะพอผมทำท่านี้เสร็จดูแกค่อนข้างฮึกเหิมมากขึ้น พอผมทำท่านี้ร่างกายผมได้เปิดช่องท้อง ช่องอกและแผ่นหลังให้ใครก็ได้สามารถทำอะไรได้ตามใจชอบ

อ.เชิดยังไม่ได้ทำอะไร ได้แต่เดินวนรอบตัวผมช้าๆ ถึงเป็นการเดินช้าๆ มันก็น่ากลัวนะครับ เพราะเดาไม่ได้เลยว่าต่อไปจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้างแล้วแกก็หายไป แกคงยืนอยู่ข้างหลังผม ตอนนั้นผมยังยืนนิ่งไม่ไหวติง รอฟังคำสั่งจากแกอย่างเดียว แต่เวลาผ่านไปครู่ใหญ่ๆ แกก็ยังไมได้ทำอะไรผม

แต่พอถึงช่วงที่ผมเผลอ ผมก็โดนทุบเข้าที่กลางหลังอย่างจัง เป็นการทุบแบบเน้นๆ เข้าไปที่กลางหลังของผู้ชายคนหนึ่งอย่างแรงเท่าที่จะแรงได้ ถึงแม้จะโดนทีเดียวและหายไปอีก แต่ผมเริ่มรู้สึกกลัวแล้ว แกไม่เหมือนคนอื่นเลย แกคงกำลังสร้างอารมณ์บางอย่างให้กับตัวแกเอง แกยังคงยืนข้างหลังผมต่อไป โดยไม่ได้เดินมาข้างหน้าผมเลย

เวลาผ่านไปอย่างเงียบงัน การทุบหลังครั้งที่สองจึงเกิดขึ้น และมันหนักกว่าครั้งแรก ตอนนี้ผมกลัวจริงๆ ว่าแกอาจกำลังควบคุมอารมณ์ของแกไม่ได้แต่ผมก็ไม่ได้ทำอะไรเลยเพื่อปกป้องตัวเอง ผมยืนรอเหมือนซากศพที่รอนกแร้งมากัดกิน

ไม่นานนักการทุบหลังครั้งที่สามก็เกิดขึ้น แล้วแกก็เดินมายืนข้างหน้าผม ผมเริ่มสงสัยแล้วว่าทำไมถึงต้องสามครั้งด้วย แกยืนมองจ้องหน้าผมจนผมต้องหลบสายตา ผมมเคยรู้สึกแบบนี้กับอาจารย์กำพล อาจารย์แผนหรือไอ้ต้นนะครับเพราะพวกเขาเหล่านั้นลงโทษกันอย่างรวดเร็ว ไมได้เชื่องช้าแบบนี้และก็มีการลงโทษที่หลากหลาย

เพียงแต่อารมณ์ของการลงโทษที่ อ.เชิดให้นั้นก็ทำให้ควยผมตุงได้เพราะมันกลายเป็นอีกอารมณ์นึงที่สดและใหม่ และก็น่ากลัวพอสมควร ขณะที่ผมเผลอ ผมเจอแกชกเข้าไปเต็มๆ ที่ท้อง ตัวงอครับ เจ็บมาก ตอนนั้นแกไม่ได้ตามเหมือนกับคนอื่นๆ แต่แก “รอ”

แก “รอ” จนผมเริ่มดีขึ้น เริ่มค่อยๆ ยืดตัวขึ้นมาเอง แล้วมาอยู่ในท่าที่แกบังคับให้ผมอยู่แต่แรก แกยังนิ่ง ควยผมตุงมาก แต่แกไม่สนใจ แกเงียบและนิ่งทำให้ผมยิ่งกลัว “ทำไมต้องสามครั้ง” ผมพอนึกออกแล้ว

แกคงอยากให้ผมรู้ และอยากให้ผมรอคือทั้งรอทั้งลุ้นแต่ครั้งที่สองนี้เร็วกว่าครั้งแรก แต่การชกท้องครั้งที่สองนี้จุกกว่าและโหดกว่ามาก ผมเกือบจะอาเจียน ผมเริ่มไอมากขึ้น นี่แกเล่นทะลวงท้องแล้ว และมันได้ผล มันทำให้ผมกลัวจนเริ่มคิดว่าทำไมผมต้องทนรอ ทำไมผมไม่เป็นคนทำให้เกมส์จบและเดินออกจากห้องไปเอง

แน่นอนผมอาจคิดอย่างนั้นได้ แต่สิ่งที่ไม่อยากไปและอยากรอคือ ผมว่ามันน่ากลัวดี ตอนนี้ผมกลับมาอยู่ในท่าเดิมและก็รู้ว่าหมัดสุดท้ายตรงท้องกำลังมา แต่ไม่รู้ว่าจะมาเมื่อไหร่ผมพยายามดึงตัวขึ้น แต่พระเจ้า แค่สองหมัดก็จุกแล้ว ผมไม่อยากให้มีหมัดสุดท้ายเลย ผมต่อต้านมาก

แต่ผมก็รู้ว่ายังไงก็ต้องเจอ ผมจึงพาตัวเองมาอยู่ในท่าเดิมและทนรอ การรอครั้งสุดท้ายนี้นานมาก และแกก็มัวแต่จ้องหน้าผมอยู่ได้ แกทำให้ผมรอจนผมรู้สึกตายใจ แต่พอผมเผลอ การชกท้องครั้งสุดท้ายจึงเข้ามาอย่างเต็มเหนี่ยวจนผมรู้สึกจุกอย่างแรงและอยากอ้วกแต่ผมก็ทำอย่างนั้นไม่ได้ ในท้ายที่สุดแกไม่ได้ไล่ผมแต่แกเดินออกไปเอง

วันนี้เหมือนผมจะโดนไม่มาก แต่ทุกอย่างที่โดนมันทำให้จำและวันนี้ที่ผมโดนไปเต็มๆ ก็คือตบหน้า ทุบหลังและชกท้อง อืม ... แล้วทำไมมันต้อง 3 ด้วย

หลังจากนั้น อ.เชิดก็ห่างๆ ผมไป ผมนึกว่าคลื่นลมอาจสงบแล้วและ อ.เชิดอาจต้องการแค่นั้น แต่เปล่าเลย คลื่นลมสงบก็เพื่อที่จะรอการเกิดของพายุไต้ฝุ่นที่รุนแรงมากกว่าที่ใครจะคาดคิด

ปลายเทอม ตอน ม.5 นี้ผมได้ข่าวว่าผู้สนับสนุนโรงเรียนจะมาเยี่ยมโรงเรียนซึ่งส่วนใหญ่ก็จะมีแต่พวกทหารกับตำรวจเท่านั้น ไอ้ต้นจึงคิดการแสดงที่จะแสดงให้พวกทหารและตำรวจดูกันซึ่งในกลุ่มสปอนเซอร์ของโรงเรียนนั้นมีพ่อไอ้โรมเป็นหลักอยู่ด้วย การแสดงที่คิดค้นขึ้นจึงต้องเหมาะกับผู้ชมกลุ่มนี้

ผมนึกไม่ถึงเลยว่า การเตรียมการแสดงและฝึกซ้อมร่วม 2 เดือนเพื่อให้การแสดงออกมาดีที่สุด มันจะกลายเป็นค่ายนรกเดียนเบียนฟูไปได้ ผมกับพวกกองร้อยพิเศษถูกเรียกไปที่โรงยิมในเย็นวันหนึ่ง แน่นอนว่ามีไอ้โรมไปด้วย ผมสังเกตพวกที่ไปแล้วรู้สึกสังหรณ์เพราะถ้าไม่เป็นพวกกองร้อยพิเศษก็จะเป็นพวกที่อาจารย์โหดทั้งหลายชอบจับมาลงโทษ

พอไปถึงโรงยิม คนที่รอต้อนรับพวกเราอยู่คือ อ.แผน อ.กำพล อ.เชิดและไอ้ต้น ไอ้ต้นเป็นคนพูดให้เราเข้าใจว่าพวกเราทั้งหมดถูกคัดเลือกมาเป็นทีมผู้แสดงด้วยเหตุผลที่ว่าพวกเราสูงพอๆ กัน ล่ำพอๆ กัน และน่าจะสามารถรับมือกับการฝึกซ้อมอย่างโหดได้ การแสดงนี้เป็นการออกกำลังกายตามจังหวะดนตรี

เพื่อให้ผู้ชมได้เห็นถึงความแข็งแกร่งของผู้แสดง พวกเราต้องถอดเสื้อแสดง ส่วนกางเกงที่จะใช้ใส่ในการแสดงจะเป็นการเกงแนบเนื้อสีขาวซึ่งทุกคนจะได้รับก่อนการแสดงเพียง 2 วันเท่านั้น ส่วนชุดที่สำหรับใช้ในการฝึกซ้อมนั้นคือกางเกงในตัวเดียว ไอ้ต้นย้ำด้วยว่ากางเกงในต้องสีออกขาว ดำหรือเทาเท่านั้น ถ้าใครใส่กางเกงในสีสดมา จะต้องถูกทำโทษให้ถอดกางเกงในฝึกซ้อมหรือเรียกแบบง่ายๆ ว่า เปลือยฝึกซ้อม

พวกนักเรียนที่ถูกคัดเลือกมาเมื่อได้ยินดังนั้นต่างควยตุงกันเป็นแถว อุปกรณ์การแสดงที่พวกเราเห็นกันวันนั้นคือกระบอกไม้ไผ่ขนาดยาว วันนั้นไอ้ต้นเรียกเรามาเหมือนเป็นการปฐมนิเทศแต่มันก็ขู่ไว้ด้วยว่าพวกเราจะต้องตั้งใจซ้อมเพราะสัปดาห์สุดท้ายจะมีทหารมาสังเกตการณ์ ถ้าพวกเรายังเหยาะแหยะจะต้องเจอการทำโทษอย่างหนักแน่นอน

วันรุ่งขึ้นพวกเราก็ต้องซ้อมกันเลย นักเรียนที่ถูกเลือกมาทั้งหมดมี 21 คน แบ่งเป็นแถวตอน 3 แถวๆ ละ 7 คน ผมถูกจัดให้อยู่แถวกลาง ได้ยินมาเหมือนกันว่าแถกลางถือว่าหนักหน่อยแต่หนักอย่างไรผมยังนึกไม่ออก

วันแรกยังไม่มีดนตรีอะไรมาประกอบทั้งสิ้น การซ้อมที่ไอ้ต้นอยากให้พวกเราทำก่อนคือการใช้ไม้ไผ่ มีไม้ไผ่ทั้งหมด 6 ลำ ลำยาวมาก ไอ้ต้นแจกแถวละ 2 ลำ มันให้เอาไม้ไผ่วางไว้ข้างๆ แถวสองข้างก่อนแล้วก็ไล่พวกเราไปถอดเสื้อและกางเกงจนเหลือกางเกงในตัวเดียว

วันแรกนี้ยังไม่มีกางเกงในของใครที่ผิดระเบียบ พวกเรามายืนตรงแถว ไอ้ต้นสั่งให้แต่ละแถวยกไม้ไผ่ขึ้นมา แถวกลาง 7 คนก็ยกขึ้นมาและอยู่ในท่าตรง ไอ้ต้นให้พวกเรายืนห่างกันประมาณ 1 ช่วงแขน ท่าแรกที่ไอ้ต้นฝึกพวกเราคือท่าที่หลังจากท่าตรง พวกเราต้องกางขาซ้ายออก พร้อมกับกางแขนแล้วหันลำตัวมาทางซ้าย ตอนหันมานี่ล่ะที่ข้อมือของคน ข้างหน้าที่กำลังกำไม้ไผ่อยู่จะมากระแทกหน้าอกของคนข้างหลัง เสียงดังพอสมควรเมื่อทำพร้อมกันทั้งหมด

หลังจากนั้นก็หันกลับไปท่าเดิม แล้วก็ชักเท้าซ้ายมาอยู่ในท่าตรงแล้วก็กางขาขวาออก พร้อมกับกางแขนแล้วหันลำตัวไปทางขวา มือที่กำไม้ไผ่ก็จะไปกระแทกหน้าอกของคนข้างหลังพอดี ดูท่า อาจารย์ทั้ง 4 ที่มาร่วมชมการฝึกจะพึงพอใจกับท่านี้มาก

พวกเราลองทำท่าที่ผมเรียกชื่ออย่างไม่เป็นทางการว่า “หมัดกระแทกอก” กันสักพักเพื่อให้เกิดความคล่องตัวและดูแข็งแรงแต่เห็นว่าคนหนึ่งคงซ้อมเยอะไม่ได้ เพราะเดี๋ยวอกจะช้ำซะก่อน ท่าอื่นไอ้ต้นก็ยังไม่สอนเรา มันบอกว่าจะสอนมากขึ้นเรื่อยๆ และให้พวกเราทำให้คล่องก่อนแล้วค่อยทำท่าประกอบเพลง

หลังจากลองกับไม้ไผ่สักพัก ไอ้ต้นก็ให้พวกเราอบอุ่นร่างกาย ก่อนที่จะให้ซ้อมจริงกับไม้ไผ่สักยก การอบอุ่นร่างกายก็ไม่มีอะไรมากมีแต่ท่าออกกำลังกายพื้นฐานที่แปลกหน่อยก็คือทุกคนต้องมาออกกำลังกายแบบนี้ใน สภาพนุ่งกางเกงในเพียงตัวเดียว นี่สิที่ทำให้พวกเรารู้สึกแปลกๆ พออบอุ่นร่างกายกันพอสมควร ไอ้ต้นก็ให้พวกเราซ้อมกับไม้ไผ่กันอีกรอบ พอซ้อมเสร็จก็เหมือนกับที่ผมเดา ไอ้ต้นหาเรื่องว่าพวกเรายังไม่ค่อยตั้งใจทำ บางคนยังกินแรงเพื่อ มันจึงขอลงโทษทั้งกลุ่มเพื่อฝึกให้พวกเราต้องหัดรับผิดชอบร่วมกัน

ตอนนั้นยังนึกไม่ออกว่ามันจะสั่งให้พวกเราโดนลงโทษกันแบบไหน ทุกคนอยู่ในสภาพที่เหงื่อเต็มตัว ขัดผิวจนมันแผล๊บ ไม่นานนักไอ้ต้นเริ่มออกคำสั่งพวกเรา “เพื่อความสามัคคี กูอยากให้พวกมึงมานอนทับกันตรงบริเวณนี้”

ไอ้ต้นอ้างว่าอยากให้กลุ่ม 7 คนสามัคคีกันก่อน เลยลงโทษให้นอนทับกัน กลุ่มละ 7 คน แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ตอนนั้นผมแน่ใจว่าทุกอย่างเป็นข้ออ้างของไอ้ต้นแต่สิ่งที่มันต้องการจริงๆ คือ อยากเห็นผู้ชายแมนๆ นุ่งกางเกงในตัวเดียวนอนทับกัน มันให้คนนอนหงายทั้งหมด 4 คน นอนหงายเรียงกัน ซึ่งผมก็เป็นกลุ่มที่นอนหงาย การนอนหงายเรียงกัน จะให้สองคนหันหัวไปทางทิศเดียวกัน ส่วนอีกสองคนหันหัวไปในทิศทางตรงกันข้าม

เหลืออีกสาม คนแรกไอ้ต้นให้นอนทับโดยเอาหน้าอกมาทับกับหน้าอกของคนสอง อีกคนก็ให้มาทับหน้าอกของอีกสองคน คนสุดท้ายก็ให้นอนข้างบนและให้นอนอยู่อย่างนั้นพักใหญ่ๆ ผมกับไอ้โรมถึงจะอยู่กลุ่มเดียวกัน แต่ไอ้โรมนอนบนสุด ส่วนคนที่นอนทับหน้าอกผมและเป็นคนที่ผมไม่ได้สังเกตมาก่อน เขาคือไอ้เข้ม กองร้อยพิเศษคนหนึ่ง ตอนนอนทับเขาหันหน้ามองมาทางผมแต่แขนของเขากลับมาโดนที่เป้าของผมซึ่งเป็นกางเกงในบางๆ เขาสัมผัสได้ถึงอาการแข็งเป็นลำของควยผม เขามองหน้าผม แต่ผมยังไม่อยากสบตากับเขา หน้าอกเขาทับมาที่หน้าอกผมพอดี มันเร้าใจมาก ไอ้เข้มกลับไม่เข้มสมชื่อ ผิวมันค่อนข้างขาว ผมกับมันยังไม่เคยได้พูดอะไรกันสักคำแต่การลงโทษครั้งนี้ทำให้เราสังเกตซึ่งกันและกัน และผมรู้สึกว่าไอ้เข้มเป็นคนที่แมนมากๆ สงสัยไอ้ต้นคงเป็นโรคจิต ชอบลงโทษอะไรที่ทำให้ผู้ชายสองคนหรือเป็นหมู่เริ่มผูกสัมพันธ์กัน ตอนผมกับไอ้โรมก็ทีนึงแล้ว

หลังจากสาแก่ใจไอ้ต้น มันก็สั่งให้ทุกคนลุก พอลุกแล้ว ผมกับไอ้เข้มมองหน้ากัน มองหุ่นกันแล้วก็ยิ้มให้กันนิดๆ ตอนนั้นยังไม่รู้หรอกครับว่ามันจะเป็นยังไงต่อไป

ระหว่างการฝึกซ้อมดิบๆ เตรียมการแสดงถวายทหารและตำรวจ ผมก็เริ่มสังเกตพฤติกรรมแปลกของอาจารย์สอนศิลปะคนหนึ่ง อ.ศิลปะคนนี้คือ อ.ผู้ชายที่ชื่อ อ.ธนภัทร แกพักอยู่ใกล้ๆ โรงเรียน ผมสังเกตแกตั้งแต่เห็นแกชอบเดินถอดเสื้อแถวโรงเรียนตอนเย็นๆ ตอนแรกผมไม่รู้ว่าเป็นอาจารย์ แต่พอรู้ผมก็เริ่มสังเกตแกมากขึ้นและพบว่าช่วงเย็นแกชอบเดินถอดเสื้อมาแถวโรงเรียนและก็ชอบมีพวกกองร้อยพิเศษไปทักแก ผมชอบแอบมองแก แรกๆ แกก็ไม่รู้ตัวหรอก ชอบมีพี่ศิษย์เก่าที่เรียนจบแล้วและกำลังเรียนมหาวิทยาลัยกันอยู่มาหาแกบ่อยๆ วันหนึ่งเห็นพี่ชื่อพี่โชคมาหาแกในโรงเรียน ผมแอบมองแกเดินคุยกับพี่โชค แกเปิดหน้าท้องให้พี่โชคดู คงคุยกันว่าหน้าท้องแกเป็นไงบ้าง กล้ามขึ้นไหมแต่ อ.ธนภัทร แกเปิดเสื้อมากหน่อยจนเห็นหัวนมทั้งสองข้าง

ขณะที่แกกำลังโชว์กล้ามท้องให้พี่โชคเห็น แต่พี่โชคกลับหยอกแกโดยเอามือไปลูบหัวนมเล่น แกเองก็ไม่ว่าอะไร แต่ตอนนั้นบังเอิญที่แกมาสบตากับผมและเริ่มรู้ว่าผมแอบมอง แกก็แค่มองผมเฉยๆ แต่ก็ยังไม่มีอะไร ผมไม่แน่ใจว่าแกจำผมได้รึเปล่า

ถึงการซ้อมการแสดงช่วงเย็นอีกครั้ง ทุกคนยังถูกบังคับให้นุ่งกางเกงในซ้อมเหมือนเดิมและยังไม่มีคนที่นุ่งกางเกงในผิดระเบียบ วันนี้เราไม่ได้ซ้อมกับไม้ไผ่ แต่ซ้อมอีกท่าหนึ่งเป็นท่าที่ซาดิสต์ไม่เบา

ไอ้ต้นให้ 7 คนแถวกลางยืนเอามือประสานไว้ที่ท้ายทอยและให้คนที่อยู่ทางซ้ายและขวาหันหน้าเข้าหาคนแถวกลาง คนที่หันหน้าเข้าให้เตรียมมือขวาเอาไว้เพราะจะมีช่วงที่ให้เอามือขวาของคนที่หันหาเราฟาดหน้าอกเราหรือแผ่นหลังเราดังๆ และต้องให้พร้อมกันทั้ง 14 คนที่รุมฟาด 7 คนตรงกลาง

ไอ้ต้นบอกว่าการแสดงตรงนี้จะโชว์ความแข็งแกร่งของนักเรียนของเราให้สมกับการเป็นโรงเรียนชายล้วน การแสดงตรงนี้จะไม่มีดนตรี เพื่อให้เสียงฟาดดังฟังชัด เย็นนั้นเลยซ้อมความพร้อมเพียงและขอให้ระดับความแรงในการฟาดหน้าอกและแผ่นหลังของแถวกลางทั้ง 7 คนดังพอๆ กัน ไอ้ต้นบอกว่าการซ้อมชุดนี้ก็คงต้องหลายรอบหน่อยเพื่อจะได้พร้อมและควบคุมความแรงได้

ผมนึกในใจว่า มันพูดกันหน้าตาเฉยเลยเว้ยแต่มันก็เหมือนการทรมานต่อหน้าธารกำนัล

ไอ้ต้นมันคิดได้ยังไง การซ้อมวันหลังๆ อ.แผนกับอ.กำพลมักจะไม่มา แต่คนที่มากับไอ้ต้นกลับเป็น อ.เชิด และอ.ธนภัทร

อ.ธนภัทรเอง บางครั้งแกกลับบ้านไปก่อน และแวะมาดูตอนเย็นโดยใส่กางเกงขาสั้นไม่ใส่เสื้อ ผมว่า อ.ธนภัทรดูมีอะไรแปลกๆ แต่ยังตอบไม่ได้ว่าแปลกยังไง

เย็นนั้นพอทุกคนไปหมด เหลือผมกับไอ้เข้มที่ยังอยู่ในโรงยิม เราสองคนให้เพื่อนคนอื่นๆ อาบน้ำกันก่อน ส่วนเรานั่งคุยกันหลายเรื่อง แน่นอนที่มีเรื่องการแสดงปนอยู่ด้วย

ผมถามไอ้เข้มว่ารู้สึกยังไง มันตอบว่า “กูว่ามันส์ดีนะ ตอนเล่นกับไม้ไผ่ก็มันส์ กูชอบเวลากำปั้นเพื่อนมาโดนหน้าอก ยิ่งตอนอยู่แถวกลางและเพื่อนสองแถวมารุมฟาดอกกับหลัง กูว่ามันส์ดี”

ไอ้เข้มพูดเหมือนเป็นเรื่องธรรมดา ถ้าเป็นคนอื่น คุยกันแรกๆ มักจะไม่กล้าคุยเรื่องพวกนี้ ผมเจอถามกลับว่า “แล้วมึงชอบไหม”

ผมไม่รู้จะตอบไปอย่างไรดี ไม่รู้ว่าผมนึกอะไรผมเลยตอบไปว่า “ชอบนะ แต่ชอบตอนที่โดนลงโทษให้นอนทับกันมากกว่า”

มันหันมามองผมและยิ้มอย่างมีเลศนัย “กูรู้ เห็นควยมึงตุงกางเกงในเลย สงสัยจะชอบมาก”

ผมเขินนะที่ไอ้เข้มเป็นคนที่ตรงเกิน แต่ฟังมันพูดก็มันส์ดี มันพูดขึ้นอีกว่า “เย็นมากแล้วไปอาบน้ำกันเถอะ”

ผมเห็นมันแก้ผ้าเข้าไปที่ห้องอาบน้ำรวม ผมเลยแก้มั่ง หุ่นมันแน่นมาก มันบอกผม “หันหลังมา กูจะถูหลังให้”

ผมหันหลังให้มัน แต่ตอนนั้นควยตุงแล้ว มันเห็นเลยถามผม “นึกถึงอะไรอยู่เหรอวะ ควยตุงเลย”

ผมไม่รู้ว่าจะพูดอะไรออกไปดี ผมเขินมาก มันพูดอีกว่า “สงสัยเห็นหุ่นกูมั้ง”

ผมตอบไปว่า “มั่นใจตัวเองจังนะ แล้วก็โคตรตรงเลยมึงอ่ะ”

มันยิ้ม “กูตรงเหมือนควยมึงแหละ”

มันก้มลงจับควยผม “ดูหน่อยนะ สวยดีนี่ เส้นเลือดเป็นมัดเลย หัวไม่ค่อยคล้ำนะ ชักว่าวบ่อยเหรอ”

ผมอึ้งไปเลย เพราะไม่ค่อยเจอแบบนี้ กับไอ้โรมก็ยังไม่สนิทกันถึงขนาดนี้ ผมตอบออกไปขณะที่เข้มกำลังเล่นควยผมอยู่ “ก็ชักบ่อยอยู่ มันเกิดอารมณ์บ่อย”

ไอ้เข้มหันมาถามผม “เกิดอารมณ์เมื่อเห็นผู้หญิงหรือผู้ชายล่ะ”

ผมตอบ “มึงลองเดาดูเองดิ”

มันมองผมแอ่นอกมาทางผม “อย่างกูนี่ทำให้มึงเกิดอารมณ์ได้ไหม”

ผมตอบ “ไม่แน่ใจนะ”

มันพูดว่า “แต่หุ่นมึงกับหน้าตามึงทำให้กูเกิดอารมณ์ว่ะ แล้วกูควรทำไงดี” มันพูดพร้อมกับเอามือมาจับควยผมไว้

ผมนิ่งเงียบไม่ตอบ มันเลยพูดว่า “กูนึกออกแล้ว”

มันเดินมาข้างหลังผม มือขวาจับควยชัก มือซ้ายอ้อมมาบีบหัวนมไปมา ขณะที่ผมกำลังเคลิ้ม เราสองคนก็ได้ยินเสียงมาจากทางด้านหลัง “พวกมึงทำห่าอะไรกันอยู่วะ”

ผมกับไอ้เข้มตกใจกันมาก เสียงนั่นเป็นเสียงที่เราไม่คุ้น พอเราหันไป คนที่เราเจอคืออาจารย์ธนภัทร อาจารย์หนุ่มสอนศิลปะ เขาอยู่ในชุดผ้าขนหนูตัวเดียว เหมือนกับว่ากำลังจะมาอาบน้ำที่โรงยิม เขาเป็นอาจารย์สอนศิลปะที่หุ่นเหมือนอาจารย์พละมาก ถึงแม้จะหล่อสู้ไอ้ต้นไม่ได้ (เพราะไอ้ต้นนี่หล่อสุดแล้ว) แต่เขาก็ดูดีมีเสน่ห์เฉพาะตน

และสิ่งที่ผมกับไอ้เข้มไม่ได้คาดคิดมาก่อนคือการที่ อ.ธนภัทรถอดผ้าขนหนูออก เอาไปพาดไว้ที่ราวทำให้เราสองคนเห็นควยของอาจารย์เต็มสองลูกกะตา มันเป็นควยที่ใหญ่มาก และขณะนั้น มันกำลังแข็งโด่

ผมสงสัยมากว่าอารมณ์ของ อ.ธนภัทรเป็นอารมณ์แบบไหน ตั้งแต่มีประสบการณ์ทางนี้มา ผมยังไม่เคยเจอใครที่เป็นเหมือนเขา เขาสามารถที่จะโชว์ควยของตัวเองให้พวกผมเห็นได้โดยไม่เคอะเขินซึ่งจริงๆ แล้ว มันผิดวิสัยนะ

ตอนนั้นผมกับไอ้เข้มก็ตื่นเต้นเหมือนกัน เราจึงยืนตัวแข็ง ควยแข็ง แกเดินอาดๆ เข้ามาหาเรา หัวควยกระดิกตามจังหวะการเดิน พอเดินมาถึงเราสองคน แกก็ด่าเราใหญ่ หาว่าเราใช้โรงยิมเกินเวลาไม่มีระเบียบวินัยบ้าง ไม่เป็นตัวอย่างที่ดีบ้าง

เวลาแกด่าผมกับไอ้เข้ม เราสองคนจะก้มหน้าลง ตาของเราจะมองไปที่ควยของแกพอดี แกยิ่งด่าเรามากเท่าไหร่ ควยของแกก็ยิ่งแข็งมากเท่านั้น ผมว่าแกก็คงไม่ต่างจากเรา เพราะตอนด่าเราแกก็ก้มหน้าลง แกคงเห็นควยเราสองคนที่กำลังแข็งได้ที่แต่แกก็ยังด่าเราไม่หยุด และเนื้อหาในการด่าดูจะแปลกขึ้นเรื่อยๆ

สักพักแกพูดขึ้นว่า “มึงสองคนฟังกูอยู่เปล่าวะ” พูดไม่พูดเปล่าแกเอามือมาจับควยของเราทั้งสอง จับไม่จับเปล่า แถมยังบีบด้วย ผมกับไอ้เข้มตกใจมาก แกตะโกนสั่งเรา “ยืนเอามือไพล่หลัง”

เรารีบทำตามที่แกบอก แต่ควยยังอยู่ในกำมือของแก แกยังยืนด่าเราต่อ และก็บีบควยเราไปด้วย เมื่อควยเราสองคนถูกบีบในลักษณะนี้ มันก็ยิ่งสู้มือทำให้ อ.ธนภัทรก็ยิ่งบีบควยของเราสองคนใหญ่เลย ผมว่าเหตุการณ์แบบนี้มักจะเกิดไม่มากและอาจารย์ที่จะทำแบบนี้ได้ย่อมไม่ปกติ ผมเลยฟันธงลงไปแล้วว่าแกไม่ปกติ

แกยังคงยืนด่าเราต่อ พร้อมกับบีบควยของเราสองคนด้วย หลังจากนั้นแกเปลี่ยนจากบีบควยเป็นบีบไข่ ใช่ครับ เราสองคนยืนแหกปากร้อง เพราะบีบไข่มันเจ็บกว่ากันเยอะและแกก็บอกเองว่าแกจะลงโทษเราสองคน แกกลับหันหลัง มือยังคว้าควยของเราสองคนแล้วดึงควยเราให้เราเดินตามแกออกไปตรงโรงยิม ผมคาดว่าตอนแกเข้ามาโรงยิมแกคงล็อคประตูทุกด้านแล้ว แกยืนควยโด่มองดูเราสองคนที่ยืนควยโด่เหมือนกัน การลงโทษในแบบแปลกๆ กำลังจะเริ่มขึ้น

การลงโทษครั้งนี้ผมงงนะว่าเราผิดอะไร แต่ช่างเหอะ บางอย่างก็ไม่ต้องไปนั่งคิดหาเหตุผล

แกเริ่มออกคำสั่ง “มึงสองตัวหันหน้าเข้าหากัน”

พอเราหันหน้าเข้าหากัน อ.ธนภัทรก็หันไปทางไอ้เข้มและออกคำสั่งกับไอ้เข้ม “ตบหน้ามัน”

ไอ้เข้มนึกไม่ถึงกับการออกคำสั่งแบบนี้ ไอ้เข้มยังคงนิ่งอยู่ อ.ธนภัทรจึงพูดต่อ “ถ้ามึงไม่ตบหน้ามัน กูจะชกหน้ามึงให้ดั้งหักเลย”

ไอ้เข้มจึงหันมามองตาผม ผมพยายามสื่อสารจากทางแววตาว่าผมไม่เป็นไร ไอ้เข้มจึงตบหน้าผมแบบเบาะๆ คือไม่เบาะและไม่แรงมาก อ.ธนภัทรสั่งต่อ “แรงอีก” เข้มชะงักนิดนึงแล้วก็ตบหน้าผมแรงขึ้น

“แรงขึ้นอีก” อ.ธนภัทรออกคำสั่งเข้มอีกไอ้เข้มเลยตบแบบแรงสุดๆ ผมอดสงสัยไม่ได้ว่าแกรู้ได้ยังไงว่าผม “ชอบ” ทำไมแกถึงสั่งถูกคน

ตอนไอ้เข้มตบหน้าผม อ.ธนภัทรมองควยของผมไปด้วย บางทีผู้ชายบางคนอาจหลอกความรู้สึกกับอีกคนด้วยการแสดงออกทางสีหน้า หรือแววตา มันอาจกลบเกลื่อนความรู้สึกจริงๆ ที่อยู่ภายในได้แต่สิ่งหนึ่งของผู้ชายที่หลอกคนอื่นไม่ได้คือ “ควย” ควยของเรา หลอกคนอื่นไม่ได้ ควยพูดแต่ความจริงเสมอ ควยไม่ปิดบังความรู้สึกเมื่อถูกตบ ควยผมแข็ง หัวควยกระดกแค่นี้แกก็รู้แล้วว่าแกคิดไม่ผิด

แกยังสั่งไอ้เข้มต่อว่า “ทีนี้ ฟาดหน้าอกมัน”

ครั้งแรกไอ้เข้มก็พยายามฟาดให้แรงแล้วแต่แกยังคงไม่พอใจ “แรงขึ้นอีก”

ไอ้เข้มทำตามที่แกสั่ง

“แรงขึ้นอีก”

ไอ้เข้มพยายามจนสุดแรง

“แรงกว่านี้อีก”

ตอนนั้นผมตกใจเหมือนกันเพราะไม่เคยโดนฟาดหน้าอกด้วยความแรงเท่านี้มาก่อน

อ.ธนภัทรยังสั่งไอ้เข้มต่อ “ชกหน้าท้องมัน” “ชกแรงอีก” “แรงขึ้นอีก” “แรงอีก” “ชกให้แรงกว่านี้”

ไอ้เข้มพยายามชกให้แรงขึ้นทุกครั้ง จนผมจุกและอยากอ้วก

ตอนนี้ อ.ธนภัทรสั่งให้ไอ้เข้มไปอยู่ข้างหลังผม “ทุบไปที่กลางหลังมัน” “แรงกว่านี้” “ทุบแรงๆ” “แรงขึ้นอีก” “เอาให้แรงกว่านี้” “เอาให้สุดแรงเกิดไปเลย”

หลังจากนั้นแกสั่งให้ผมนอนลง แกยังคงสั่งไอ้เข้มต่อไป “กระทืบหน้าอกมัน” “กระทืบหน้าท้องมัน” “กระทืบไปที่ควยของมัน” “แรงขึ้นอีก” “แรงขึ้นอีก” “แรงมากกว่านี้” “เอาเท้าขยี้ไปที่หน้าของมัน” “ขยี้แรงๆ” “เอาตีนมึงเหยียบและกดไปที่หน้าของมัน” “ขยี้ไป” “ขยี้เข้าไป”

ไอ้เข้มทำตามทุกอย่างที่เขาสั่ง

ผมเริ่มสะบักสะบอมเต็มที่ แกสั่งให้ผมลุกและสั่งให้ไอ้เข้มนอนหงายบ้าง แกพูดกับผม “มันทำให้มึงถึงขนาดนี้ มึงจะไม่ขอบคุณมันบ้างเหรอ”

ผมงงกับคำพูดของเขา แต่ไม่นานแกก็ออกคำสั่งผม

“ก้มลง เลียหน้าอกมัน เลียให้ทั่ว ทำให้มันเสียวถึงขีดสุด” ผมนั่งลง ทำตามที่ อ.ธนภัทรบอกทุกอย่าง “เลียหัวนมมัน เลียหนักๆ แรงๆ ทำให้มันเสียวถึงขีดสุด”

“เลียหน้าท้อง เลียไปทั่วอกและท้องของมัน”

ผมทำตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด

“เลียควยมัน เลียตรงหัว เอาลิ้นวนตรงรอยหยัก ใช้ลิ้นวนให้มันเสียว”

ผมทำตามแต่โดยดี

“เลียได้ที่แล้วก็อมเข้าไป ใช้ลิ้นดูดดุน อม เลีย ให้มันเสียวแทบขาดใจ”

ไอ้เข้มเริ่มร้องเสียงกระเซ่า ในหน้ามันเหยเก บ่งบอกถึงความเสียวอย่างที่สุด

“ตอนนี้มึงชักให้มัน ตั้งใจชักว่าวหน่อย ชักให้มันแรงๆ ให้แรงขึ้นอีก”

เสียงของไอ้เข้มบ่งบอกว่ามันเสียวมาก เสียวจนสุดจะทน

“ชักแรงขึ้นอีก ชักให้แรงอีก มีแรงเท่าไหร่ทุ่มมาให้หมดแต่อย่าลืมรักษาจังหวะ อย่าลืมจังหวะที่ต้องทำให้มันเสียวด้วย อย่าลืม”

“ตอนนี้ผ่อนลง เลียหัวควย แล้วก็ชักแรงขึ้นอีก”

ผมทำตามที่เขาบอกทุกอย่าง ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าการทำตามคำสั่งในลักษณะนี้จะทำให้ผมและไอ้เข้มเกิดอารมณ์ได้มากถึงขนาดนี้

แกสั่งผมว่า “ตอนนี้มึงหยุดได้แล้ว ให้มันชักเอง”

ไอ้เข้มรอคอยเวลาในการคุมจังหวะเองมานาน

“ส่วนมึง มึงชักของมึงด้วย เล็งให้แตกบนหน้าท้องของมัน”

ผมรีบทำตามทันทีเพราะอยากแตกจนทนไม่ไหวแล้ว ตอนนั้นเสียงของ อ.ธนภัทรดูทรงพลังมาก “พวกมึงชักกันไป ชักให้สาแก่ใจ ชักแรงๆ เอาให้มันสะใจไปเลย ชักให้หายบ้า หายซ่าไปเลย ชักให้สุดแรงเกิด แล้ว แล้ว ...”

อ.ธนภัทรต้องหยุดเมื่อเห็นผมกับไอ้เข้มแตกพร้อมๆ กัน ผมแตกไปบนท้องของมัน ส่วนไอ้เข้มเอง รัศมีของมันไกลมาก มันแตกแบบพุ่งไปโดนอก โดนหน้าของมันเอง อ.ธนภัทรไล่ให้เราสองคนไปล้างตัว พอล้างเสร็จแล้วให้กลับมาหาแกเหมือนเดิม พอพวกเรากลับมา แกพูดขึ้นว่า “กูทำให้มึงถึงจุดแล้ว พวกมึงจะไม่ช่วยกูเหรอ”

จริงๆ แล้ว ฉายาที่ผมกับไอ้เข้มตั้งให้กับ อ.ธนภัทรหลังจากนั้นก็คือ “ไอ้โรคจิต” ยิ่งแกมาสอนพวกผมตอน ม.5 เทอมปลาย แกยิ่งแสดงความเป็น “โรคจิต” ให้ผมเห็นมากขึ้นไปอีก ผมเลยขอเรียกแกว่า “ไอ้โรคจิต” ตั้งแต่ตอนนี้เลยก็แล้วกัน วันนั้นแกก็ยังไม่ปล่อยพวกผมสองคนไป แต่บังคับให้เราสองคนอยู่กับแกต่อไป มานึกย้อนตอนนี้ ถ้าผมกับไอ้เข้มไม่มีใจให้ แกจะมาทำอะไรเราสองคนได้ แสดงว่าตอนนั้นผมกับไอ้เข้มก็น่าจะอยากอยู่ในเกมส์ของแกต่อไป

และแล้วไอ้โรคจิตก็นอนหงายลงพื้น ร่างกายของแกก็ยังเปลือยเปล่า แกหนุนหัวลงบนเบาะ แถมยังเอามือทั้งสองข้างรองหัวไว้ด้วยเผยให้เห็นขนรักแร้ดกดำ เซ็กซี่เป็นยิ่งนัก ไอ้โรคจิต บังคับให้ผมกับไอ้เข้มเลียหัวนมของเขาคนละข้าง เราสองคนทำตามอย่างไม่อ้อมค้อม หัวนมของแกค่อนข้างใหญ่และได้รูป ผมเลียอย่างเอร็ดอร่อย ไอ้เข้มก็เหมือนกัน เราสองคนต่างเลีย ต่างดูดดุน จนไอ้โรคจิตร้องซี๊ดไม่ขาดปาก

ผมลอบมองควยของไอ้โรคจิตที่กำลังขยายขนาดเต็มที่ เป็นลำควยที่ใหญ่และยาวมาก ไม่น่าเชื่อว่าควยของไอ้โรคจิตจะใหญ่และยาวถึงเพียงนี้ มันคงเห็นผมลอบมองควยของมัน มันจึงเอามือจิกผมของผมแล้วพูดว่า “แอบมองของกูเหรอ งั้นไปอมให้หน่อยดิ”

ผมเลื่อนตัวไปข้างล่าง เลียตรงหัวควยน้ำเยิ้มของไอ้โรคจิต เลียและขบไปตามรอยหยัก แต่ก็ยังไม่กล้าอม เพราะดูแล้วท่อนลำมีขนาดใหญ่มาก ไอ้เข้มถูกบังคับให้มาเลียตรงควยเหมือนกับผม มันคงเห็นผมเลียควยอยู่ มันเลยดูดเลียไปที่พวงไข่ของไอ้โรคจิต ผมเห็นว่าไอ้เข้มมันเลียไข่ไปสักพัก ผมเลยตัดสินใจอมและดูดควยของแก ควยแกใหญ่มากเลยครับ ผมกะอมให้มิด จนปลายของแกมาชนที่คอหอยของผมเลย

ถึงจะใหญ่แต่ผมก็พยายามอม และโยกหัวไปตามจังหวะ ประกอบกับการที่ไอ้เข้ม เลียไข่ อมไข่ของแก คงทำให้แกเกิดอารมณ์มาก และเหตุการณ์ที่ไม่ได้คาดคิดก็เกิดขึ้น แกลุกขึ้นโดยฉับพลันแล้วเดินไปจับตัวไอ้เข้ม ผลักมันนอนลง ยกขามันขึ้นแล้วเอาควยมหึมาค่อยๆ แทงเข้าไปในตูดของไอ้เข้ม ไอ้เข้มร้องลั่นที่เจอควยของไอ้โรคจิตเข้าไป ไอ้เข้มร้องดังมากขึ้น แต่ไอ้โรคจิตก็ยังพยายามสอดควยของมันเข้าไปในรูตูดไอ้เข้มให้ได้ เสียงร้องของไอ้เข้มดังมาก จนไอ้โรคจิตสั่งผมให้ไปหยิบกางเกงในของมัน

พอผมหยิบมาให้ไอ้โรคจิต มันก็เอากางเกงในของไอ้เข้มยัดไปที่ปากไอ้เข้ม ช่วยได้เยอะจริงๆ ครับ เพราะไอ้เข้มเงียบเสียงลง จริงๆ แล้วมันยังร้องอยู่ แต่เสียงไม่ออก พอเข้าที่เข้าทางมากขึ้น ไอ้โรคจิตก็เร่งจังหวะ จนไอ้เข้มหน้าเหยเก

“ช่วยเพื่อนมึงหน่อยสิ”

ไอ้โรคจิตหันมามองผม ผมจึงเอามือไปช่วยกระตุ้นหัวนมไอ้เข้มทั้งสองข้างขณะที่มันกำลังเจอการอัดถั่วดำอย่างบ้าคลั่ง ไอ้โรคจิตทำเหมือนเป็นการปลดปล่อย และทำอย่างคนเสียสติ

“คราวนี้ถึงตามึงแล้ว”

มันกะทันหันมากเลยครับ เมื่อไอ้โรคจิตปล่อยตัวเองออกจากไอ้เข้มแล้วก็หันมาผลักผมให้นอนลง แล้วก็พยายามที่จะยัดท่อนลำมหึมาใส่รูตูดผม คราวนี้ผมรับรู้ได้ถึงความเจ็บที่ไอ้เข้มเพิ่งได้รับ แต่ผมเลือกที่จะไม่ร้องและพยายามอดทนให้ถึงที่สุด ยิ่งผมไม่ร้อง ไอ้โรคจิตก็ยิ่งกระแทกกระทั้น มันพูดขณะซอยถี่ยิบว่า “กูต้องทำให้มึงแหกปากให้ได้”

คำพูดของมันขณะที่มันกำลังเร่งซอย ดูเป็นคำพูดที่มีอำนาจ มีพลัง แต่คำพูดนั้นก็ไม่ได้เปลี่ยนใจผม ตอนนั้นไอ้เข้มมาช่วยกระตุ้นหัวนมผมโดยที่ไอ้โรคจิตไม่ต้องสั่ง ไอ้โรคจิตอัดผมจนผมรู้สึกว่าตูดผมระบมไปหมดแล้ว มันทั้งเจ็บ แสบ และเสียวระคนกัน ผมแทบจะทนไม่ไหว แหกปากร้องทำให้ไอ้โรคจิตมีอารมณ์ ปลดควยจากตูดผมมาจ่อตรงปากผมแล้วชักจนน้ำแตกไหลทะลักไปที่ปากของผม

“ร้องได้แล้วเหรอมึง งั้นเอานี่ไปกิน”

ผมนึกว่านั่นจะคือจุดสิ้นสุดของทุกอย่างแล้วแต่ไอ้โรคจิตก็ยังไม่สาแก่ใจ มันบังคับให้ผมกับไอ้เข้มยืนหันหน้าเข้าหากัน ให้เราต่างคนต่างเขี่ยหัวนมให้กัน ไอ้โรคจิตยืนมองเราอย่างนั้นสักพัก เมื่อเห็นเราต่างควยแข็งกันขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งมันก็มานั่งคุกเข่าระหว่างเรา และใช้ลิ้นเลียหัวควยของเราสองคนแบบสลับกันไปมา แกเลียอย่างเมามันส์จนผมกับไอ้เข้มเลือดขึ้นหน้า

และเพราะความเสียว ผมกับไอ้เข้มแทบจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว มันทรมานเหลือเกิน แต่แกก็ยังไม่ยอมหยุด ยังนั่งเลียหัวควยเราสองคนต่อไป ผมมองตาไอ้เข้ม เราสองคนยังไม่หยุดเขี่ยหัวนมให้กันและไม่นานผมกับไอ้เข้มก็ค่อยๆ ชะโงกหน้าเข้าหากัน เราไม่เห็นไอ้โรคจิตพูดอะไร เราจึงเอาหน้ามาใกล้กันมากขึ้นและเราก็เอาปากชนกันและจูบกัน ลิ้นพันกันนัวเนีย

ตอนนั้นถือเป็นการลงโทษหรือทรมานที่เสียวและสนุกมาก ผมกับไอ้เข้มกำลังหลงอยู่ในรสของความเสียวนั้น มือก็ยังลูบไล้หัวนมกันไม่ห่าง ลิ้นก็เสียดสีกันภายใต้การจูบที่แสบเสียวในขณะที่ควยก็ถูกอม ถูกเลียโดยไอ้โรคจิตคนหนึ่ง ตอนนั้นผมกับไอ้เข้มจูบกันสนุกมาก เราจูบกันตลอดไม่ได้หยุดเลย ยิ่งเห็นไอ้โรคจิตไม่ว่าอะไร เราก็ยิ่งจูบกันแบบลืมตาย เราจูบกันหนักขึ้น ไอ้โรคจิตก็เลียหัวควยเราหนักขึ้นแล้วไอ้โรคจิตก็ชักว่าวให้เราในท่านั้น ผมเพิ่งรู้ว่ามันถนัดทั้งซ้ายขวา มันชักว่าวอย่างเอาเป็นเอาตายในขณะที่เราก็จูบกันแบบไม่สนใจมันจนกระทั่งไอ้เข้มแตกก่อน ไอ้โรคจิตเอาหน้าของมันไปรองรับน้ำของไอ้เข้ม

หลังจากนั้นมันก็เล็งชักให้ผมคนเดียว ถึงแม้ไอ้เข้มแตกแล้ว แต่เราก็ยังอยู่ในท่านั้น ถึงจะรู้สึกเมื่อย แต่มันส์ เราก็ยังต่างลูบหัวนมให้กัน จูบกัน แต่ไอ้โรคจิตชักให้ผมคนเดียวเพราะไอ้เข้มแตกแล้ว จนมาถึงช่วงที่ผมใกล้จะแตก ผมเริ่มส่งเสียงเป็นสัญญาณ แต่ไอ้เข้มไม่ยอมให้ผมผละจากการจูบมัน เมื่อไอ้เข้มไม่ยอม ถึงแม้ผมจะแตกเต็มหน้าของไอ้โรคจิตแต่เราก็ยังจูบกันอยู่ และนั่นก็เป็นปรากฏการณ์ความเสียวครั้งสำคัญในชีวิตของผมกับไอ้เข้ม ผมไม่เคยลืมวันนั้นไปได้เลย ยังจำติดตาตรึงใจจวบจนปัจจุบัน

ไอ้โรคจิต ซาดิสต์น้อยมาก แต่แสดงความเป็นโรคจิตมากกว่าซึ่งการออกลายแบบเต็มๆ จะเป็นในเทอมสอง หลังจากวันนั้นผมสนิทกับไอ้เข้มมากขึ้น (และเทอมสองก็เกิดเหตุการณ์ประหลาด เมื่อผมสนิทกับไอ้โรคจิตมากขึ้นและก็มีเหตุการณ์ประหลาดเกิดขึ้นมากมาย)

ไอ้เข้มถามผมว่า “มึงเคยสงสัยอะไรไหม”

ผมงงกับคำถามของมัน “สงสัยอะไรเหรอ”

ไอ้เข้มตอบผม “สงสัยว่าทำไมมึงถึงชอบในสิ่งที่เป็นอยู่”

“อืม ... กูไม่เคยสงสัยเลยนะ แต่พอมึงถามกูเริ่มสงสัยแล้วสิ”

ไอ้เข้มเป็นแรงบันดาลใจให้ผมเริ่มสงสัยในสิ่งที่ผมเป็นและผมก็เริ่มค้นคว้า เริ่มจากหนังสือจิตวิทยาก่อนแล้วก็มาถึงชีววิทยา ทำให้ตอนนั้นผมชอบชีววิทยามากและมันก็ทำให้ผมสนใจเรื่องกำเนิดมนุษย์ กำเนิดโลกเรื่องของจักรวาล สังคมวิทยา ปรัชญาและศาสนา ช่วงนั้นเหมือนเป็นพหูสูตคนหนึ่งเลยทีเดียว แต่ตอนนี้ห้ามถามนะครับ ไม่ใช่เพราะผมลืมหรอกแต่ผมดันสร้างทฤษฎีใหม่ไว้ซะเยอะ ไม่ว่าจะเกี่ยวกับมนุษย์หรือโลก ตอนแก่ผมคงได้เขียนและได้แจกจ่ายให้กับทุกคน โดยญี่ปุ่นจะเป็นผู้ออกเงินให้ทั้งหมดแต่นั่นต้องเมื่อผมอายุ 55 นะครับ

แต่ตอน ม.5 แค่ผมสนใจสิ่งต่างๆ มากขึ้นโดยเริ่มจากเรื่องเพศทำให้ผมสอบเทียบ ม.6 ได้ตอน ม.5 เทอมปลาย และได้เกรด 4 หลายวิชามากทำให้ผมยิ่งสนิทกับไอ้เข้มมาก และหารู้ไม่ว่าไอ้โรม คนที่เย็นชากับผม แต่ดันหึงผม และมันดันร่วมมือกับพ่อมันแก้แค้นผมกับไอ้เข้ม เราสองคนไม่โกรธมันหรอก เพราะเราสนุกกันมากจากการทรมานของมันกับพ่อ แต่มันก็เสี่ยงมากๆ ด้วย ปัจจุบันไอ้เข้มเป็นวิศวกรที่ดูดีมากๆ น่าแปลกที่ตอนนั้นมันดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่แต่ดันเป็นประเภทยิ่งโตยิ่งหล่อ แต่ผมเหรอ ตอนนี้ผมเป็น ... ผมไม่บอกหรอกครับ ไปสืบกันเอาเองก็แล้วกัน

งานวันกิจกรรมไม้ไผ่ที่พวกเราซ้อมกันอย่างแข็งขันใกล้เข้ามาแล้ว อีกสองวันก็จะเป็นวันซ้อมใหญ่ในโรงยิมและผมก็แอบได้ยินมาว่า วันซ้อมใหญ่จะมีพวกนายตำรวจนายทหารหนุ่มๆ มาดูพวกเราซ้อมด้วย พอรู้อย่างนั้นอาการแปลกๆ ก็เกิดขึ้นกับผม พอได้ยินอย่างนั้น จิตใจผมก็มักจะฝักใฝ่แต่เรื่องนั้น และไม่ค่อยสนใจเรื่องอื่น พอจิตใจฝักใฝ่อารมณ์บางอย่างมันก็จะเข้ามาในจิตใต้สำนึกทำให้คิดถึงคำเตือนที่บอกว่า ห้ามใส่กางเกงในสีๆ มาซ้อม ไม่งั้นจะถูกทำโทษด้วยการให้ถอดกางเกงในซ้อม ในห้วงสำนึกของผมได้แต่คิดว่า ไม่มีวันไหนจะเหมาะเท่ากับวันนี้อีกแล้ว ผมกะว่าวันซ้อมใหญ่ในโรงยิมเหมาะที่สุดที่ผมจะใส่กางเกงในสีแดงไปซ้อม แถมยังเป็นวันที่มีนายตำรวจนายทหารหนุ่มๆ มาตรวจอีก แค่คิดเท่านั้นควยของผมก็เริ่มตุงแล้ว (ขณะเขียนอยู่นี้ ควยก็แข็งมากๆ เลย)

หลังจากเกิดความคิดแบบนี้ในแบบที่ฮึกเหิม สิ่งที่ตามมาในห้วงความคิดก็คือ ถ้าทำอย่างนั้นจริงๆ คงถูกลงโทษหนักแน่ๆ ต่อมาผมจึงเกิดความรู้สึกกล้าๆ กลัวๆ และเกิดความคิดว่า “จะทำดีไหม” และผมก็นั่งคิดวนไปวนมา จินตนาการต่อไปว่าถ้าทำอย่างนั้นจริงๆ ผมอาจจะโดนลงโทษแบบไหนได้บ้าง ขณะคิดก็ชักว่าวไป พอน้ำแตกก็ชักใหม่ ความสุขที่ได้ก่อนจะถึงวันที่ตัดสินใจทำจริงๆ ก็คือการตกอยู่ในห้วงของความนึกคิดแบบนี้ ควยแข็งบ่อยมาก พอมันแข็งก็ชักว่าวบ่อยมาก ทำให้บางทีแตกวันละ 5-6 ครั้งและแล้วเวลาก็เดินทางมาถึงวันจริง

วันนั้นก่อนขึ้นไปที่โรงยิม ผมรู้สึกตื่นเต้นมากๆ เหงื่อการแตก เพราะคิดว่าไม่น่าจะมีใครกล้าทำนอกจากเรา ผมเตรียมกางเกงในสีแดงแจ๋มาจากบ้านเพื่อจะรอโอกาสดีๆ แบบนี้สักครั้งในชีวิต พอขึ้นไปบนโรงยิม ผมเห็นทหารและตำรวจหนุ่มๆ แต่งเครื่องแบบกันมาเต็มยศ พวกเขาคัดแต่คนหนุ่มๆ มาทั้งนั้น เห็นแค่นั้น ความตื่นเต้นก็ทวีคูณมากยิ่งขึ้น ผมกับเพื่อนๆ ไปที่ห้องแต่งตัว ผมถอดกางเกงออก

พอเพื่อนผมเห็นเท่านั้น มันถึงกับอุทาน “ทำไมมึงใส่กางเกงในสีนี้มาวะ”

ไม่มีคำตอบออกมาจากปากผม

ใครคนหนึ่งพูดขึ้น “ไอ้นี่มันวอนซะแล้ว”

ได้ยินเพื่อนพูดแบบนี้ผมยิ่งฮึกเหิมมากขึ้น ตื่นเต้นมากขึ้น ตอนนั้นแทบขาดใจ พอเดินออกมาเข้าแถว ทุกคนมองผมเป็นตาเดียว ไอ้ต้นเป็นคนเดินมาย้ำถึงกฎระเบียบการแต่งกายของพวกเรา มันพูดด้วยน้ำเสียงกังวานว่า “ใครที่รู้ว่าตัวเองผิดระเบียบ ขอให้ถอดกางเกงในก่อนที่จะซ้อม”

ผมหายใจถี่ขึ้นประมาณ 3 วิ และยืนนิ่งอีก 2 วิ ก่อนจะตัดสินใจถอดกางเกงในแล้วโยนไปทางด้านหลัง ควยผมผงาดและพร้อมที่จะรับกับทุกสิ่ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม วันนี้ควยผมพร้อมรับทุกเรื่อง ขณะซ้อม ควยมันแข็งไม่ยอมอ่อนเลย ครั้งนี้เป็นการแข็งที่นานมาก นานอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน แค่ซ้อมเต้นขณะควยแข็งและมีพวกทหารและตำรวจจ้องมองแบบตาไม่กะพริบ อารมณ์ความรู้สึกของผมก็ถึงมากๆ แล้ว

หลังจากซ้อมเสร็จ ไอ้ต้นก็มายืนตะโกนว่า “คนที่แต่งตัวผิดระเบียบให้ยืนอยู่ก่อน”

ผมรู้สึกหนาวๆ อย่างบอกไม่ถูก ผมยืนนิ่งตรงกลางโรงยิมพอดี พยายามจะไม่มองทนายทหารกับนายตำรวจหนุ่มกลุ่มนั้นแต่สายตาของผมก็อดมองไม่ได้ พอหลงมองไป ผมเห็นเขา 5-6 คน จับกลุ่มคุยกัน บางคนหน้ายิ้ม แต่บางคนหน้าตาดุดันมาก ไม่นานนัก นายทหารและนายตำรวจทั้ง 6 คนนั้นก็ค่อยๆ เดินเข้ามาหาผม ตอนนั้นผมยืนนิ่งมากๆ แต่สิ่งที่ผมไม่สามารถควบคุมได้คือควย ตอนนั้นจิตใจของผมส่งความรู้สึกของจิตใต้สำนึกมาถึงปลายควย นั่นทำให้ถึงแม้ว่าผมจะยืนนิ่ง รอดูสถานการณ์ แต่ควยที่แข็งเป็นลำของผมดันผงกหัวขึ้นลงอยู่ตลอดเวลาและตกเป็นเป้าสายตาของนายทหารและนายตำรวจหนุ่มกลุ่มนั้นอย่างหมดทางเลี่ยง

ทุกคนจ้องมัน พอทุกคนจ้องไปที่มัน มันก็ผงกหัวอย่างเอาเป็นเอาตายและขึ้นลำแข็งอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน นายทหารและนายตำรวจทั้ง 6 คนมายืนล้อมรอบตัวผม บรรยากาศนิ่งเงียบเหมือนคลื่นลมสงบ คนที่ยืนอยู่ข้างหน้าผมทั้งหล่อและมีแววตาดุดัน ตอนนั้นผมยืนตรงก็เลยจำเป็นต้องมองหน้าเขาไปด้วย ตาของเขาและตาของผมประสานกัน อีกสักครู่เขาจึงออกคำสั่งผมอย่างดุดัน “ชักว่าวไปเรื่อยๆ แต่อย่าให้น้ำแตก”

นายทหารและนายตำรวจทั้ง 6 คนมายืนล้อมรอบตัวผม บรรยากาศนิ่งเงียบเหมือนคลื่นลมสงบ คนที่ยืนอยู่ข้างหน้าผมทั้งหล่อและมีแววตาดุดัน ตอนนั้นผมยืนตรงก็เลยจำเป็นต้องมองหน้าเขาไปด้วย ตาของเขาและตาของผมประสานกัน อีกสักครู่เขาจึงออกคำสั่งผมอย่างดุดัน “ชักว่าวไปเรื่อยๆ แต่อย่าให้น้ำแตก”

อยากจะบอกว่าผมรอเวลาแบบนี้มานานมาก การยืนเปลือยควยโด่และมีนายทหาร นายตำรวจที่แต่งเครื่องแบบเต็มยศมายืนห้อมล้อมนั้น มันสร้างบรรยากาศให้กับผมมากทีเดียว ผมเริ่มทำตามที่เขาต้องการ ควยก็แข็งพร้อมเต็มที่แล้ว จริงๆ ก็แปลกดีนะครับ เพราะเรื่องชักว่าวนี่ เรามักจะทำโดยลำพัง พอทำคนเดียวก็มักจะไม่ทำท่ายืน แต่นี่ต้องมาทำต่อหน้าธารกำนัล มันยิ่งทำให้ตื่นเต้นมากขึ้นไปอีก ผมเริ่มเอามือค่อยๆ ชัก ต้องค่อยๆ ครับ เพราะถ้าชักเร็ว กลัวจะน้ำแตกเสียก่อน ผมไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น จึงต้องค่อยๆ ชักแบบค่อยเป็นค่อยไป

ตอนนั้นมันทำให้เกิดอารมณ์เสียวสองอย่างไปพร้อมๆ กัน เสียวจากการชักและเสียวจากบรรยากาศ พวกในเครื่องแบบที่ยืนล้อมมองผมนั้น เขายังคงนิ่งกันอยู่แต่พอผมชักได้สักพัก ก็จะมีมือหนาๆ มาฟาดที่หน้าอกอย่างแรง ผมผงะ และตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น และยังคงชักแบบรักษาจังหวะต่อไป

สักพักก็มีทหารนายหนึ่งเอามือมาลูบที่หัวนมผม มันทำให้ผมเสียวมาก ขณะที่ทหารคนนั้นลูบหัวนมผมอยู่ คนที่อยู่ข้างหลังก็เอากำปั้นทุบหลังผมอย่างแรง ตอนนั้นความแรงกับความเสียวมันเริ่มมาปะทะกันในแบบที่เราก็ไม่ได้คาดคิด วันนั้นมันทั้งแรงมากและก็เสียวมาก หลังจากโดนทุบหลังเสร็จก็มีคนเอานิ้วมาค่อยๆ ลูบตรงก้นก่อนจะแทงลงไป เขาทำยังไงไม่รู้ แต่เสียวมาก แทบยืนไม่อยู่ คนที่ลูบหัวนมก็ลูบไปก่อนจะบิดอย่างแรงและเอามือฟาดลงไปตรงหัวนมนั้น คือตอนนี้มันมีทั้งเสียว ทั้งเจ็บแบบสะใจ ขึ้นอยู่กับว่าใครอยากจะทำกับเราแบบไหน ตอนนั้นควยน้ำเยิ้มแล้วแต่ผมต้องประคับประคองไม่ให้มันแตก คิดไม่ออกเหมือนกันว่าถ้าแตกแล้วจะเป็นยังไง เขาจะทำอะไรกับเรา

หลังจากนั้นก็มีคนเอามือมาลูบหลัง เขาลูบได้เสียวมาก แต่ขณะที่เขากำลังลูบหลังผมอยู่ ตำรวจที่ยืนอยู่ด้านหน้า กำหมัดแล้วชกมาตรงหน้าท้อง ผมจุกจนตัวงอ แต่ก็ต้องชักต่อไปคนที่ยืนอยู่ข้างๆ คงเห็นผมจุก ก็เลยต่างพร้อมใจกันเอามือมาลูบหัวนมผมทั้งสองข้างแต่คนข้างหลังคงจะยังเมามันส์อยู่ก็เลยฟาดหลังผมสามทีซ้อน ตอนนั้นรู้สึกได้ถึงความเสียวและเจ็บระคนไปกับความสะใจ ชีวิตผมจะหาอะไรที่สะใจไปกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว

หลังจากโดนฟาดหลัง และกำลังโดนลูบหัวนมอยู่ ทหารที่ยืนหน้าสุดก็ตบหน้าผมอย่างแรง พอตบซ้ายแล้วเขาก็ตบขวา ขณะที่โดนตบ คนที่ลูบไล้หัวนมผมก็ยังลูบคลึงหัวนมต่อไป ขณะที่อีกคนก็ยังตบแบบสะใจจนผมเริ่มรู้สึกแปลกๆ และก็อยากจะชักให้แตกคามือแต่มีเสียงหนึ่งห้ามไว้ “ประคองไว้ ถ้าแตกมึงตาย” มันเป็นเสียงที่เหี้ยมและดุดันมาก ผมจึงจำเป็นต้องชักแบบเลี้ยงไว้แต่โดนบังคับให้ทำแบบนี้มันก็ทรมานมากเหมือนกัน เหมือนคนโดนทรมานแบบอยากออก อยากแตกแล้ว แต่เขาไม่ยอมให้เราแตก ตอนนั้นผมเหงื่อแตกพลั่ก ที่หัวควยน้ำเยิ้มมาก แต่ก็ยังโดนบังคับให้ชักต่อไปจนเหตุการณ์เริ่มงวดเข้าทุกที ตัวผมเองก็เริ่มเหนื่อยกับการชักว่าวที่ดูท่าว่าจะไม่มีวันสิ้นสุด

และแล้วการปิดฉากก็มาถึง เมื่อทุกคนต่างเห็นพ้องต้องกันโดยมิได้เอ่ยปาก ผมโดนตบหน้า ฟาดอก ชกท้อง ฟาดหลัง ตบหัว ทุกอย่างมันเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วมาก จนผมชักเกือบแตกแต่มีเสียงหนึ่งสั่งผมไว้ “หยุดชักได้แล้ว” เมื่อได้ยินคำสั่งผมจึงหยุด และพวกทหารและตำรวจก็เดินกลับออกไป คนที่เดินเข้ามายืนข้างหน้าแทนทุกคนตอนนี้คือไอ้ต้น

สีหน้าไอ้ต้นดูโมโหและดุดันมาก มันตบหน้าผมอย่างแรงพร้อมกับตะโกนออกมา “มึงทำให้กูเสียหน้า มึงท้าทายกู ไอ้สัตว์” มันทุบหน้าอกผมไปหลายที จนผมรู้สึกเจ็บระบมที่หน้าอกมากเพราะคราวนี้มันทุบแรงมาก และมันก็เดินไปทุบหลังผมอีกหลายที เสียงทุบฟังแล้วสะใจมาก ไอ้ต้นไม่เคยทุบผมแรงขนาดนี้

มันสั่งผมต่อ “มึงรออยู่ตรงนี้นะ อย่าเพิ่งไปไหน” ไม่นานนักมันก็หยิบถุงตาข่ายที่มีลูบบอลอยู่หลายลูกมาและเอาเชือกปลายถุงมาผูกไข่ผมจนแน่น ผมก้มลงมองไข่ที่บวมแดง เห็นผมก้ม มันจึงฟาดหน้าอกผมอีก มันสั่งว่า “มึงวิ่งไปรอบๆ โรงยิม วิ่งจนกว่ากูจะเหนื่อย”

ผมเคยเห็นแต่คนวิ่งลากยางรถยนต์ แต่ผมต้องวิ่งแบบเอาไข่ลากลูกบอล ตอนนั้นโหดมาก เพราะเจ็บตรงไข่มาก เวลาวิ่งแล้วไข่จะโดนลากจนมันเกิดอาการบวมแดง ผมไม่แน่ใจว่าอาการบวมแดงเกิดจากการที่ไอ้ต้นรัดไข่ผมจนแน่นหรือไม่ แต่พอผ่านไปสักพัก ตรงไข่ก็รู้สึกชาๆ คือไม่เจ็บไปกว่าเก่า แต่ผมยังคงวิ่งต่อไปโดยมีไอ้ต้นยืนเท้าเอวแบบกำลังโมโหแทบจะเป็นบ้า มันคงนึกไม่ถึงว่าจะมีใครกล้าลองดีกับเหตุการณ์แบบนี้

พอผมวิ่งจนสะใจมัน มันก็สั่งให้พอ และเดินมาแกะเชือกออกจากไข่ผม ตอนแกะนี่เจ็บมากครับ พอแกะเสร็จมันก็บีบไปมาอยู่ชั่วครู่ บีบอย่างมันสะใจแต่ผมเจ็บจนอยากร้องออกมา ตอนแรกนึกว่ามันจะจบแค่นั้น แต่เปล่า มันสั่งให้ผมนั่งลง แต่แหกขาให้กว้าง แล้วมันก็ไปหาหนังสือหนาๆ มาเล่มนึง มันเอามาวางตรงไข่ผม คือกระแทกไข่ผม ดันไปจนบี้แบนและก็เอาควยผมมาวางพาดตรงหนังสือปกแข็งเล่มนั้น พอเสร็จแล้ว มันก็เอาตีนของมันที่ใส่รองเท้าผ้าใบอยู่มาเหยียบที่ควยผม มันเหยียบจนควยผมบี้แบนไปตามแรงที่มันเหยียบจนเต็มที่

ตอนนั้นผมเจ็บควยมาก เหยียบไม่เหยียบเปล่า มันถึงกับใช้รองเท้ากระทืบไปที่ควย คือกะจะเอาให้เจ็บแบบลืมไม่ลงเลยและผมก็ลืมไม่ลงจริงๆ ตอนนั้นเจ็บทั้งควยทั้งไข่ เพราะไข่ก็ถูกสันหนังสืออัดอยู่ แล้วมันก็ดันให้ไข่โดนบีบมากขึ้นไปอีก ควยก็โดนกระทืบมากขึ้นแล้วมันก็หยุดโดยเอารองเท้าเหยียบควยผมไว้ แล้วก็จิกหัวให้มองหน้ามัน มันพูดกับผมว่า “มึงนี่ชอบท้าทายกูนะ แต่ครั้งนี้กูยอมให้ไมได้ ถือว่ามึงหักเหลี่ยมกูจนถึงที่สุด มึงรู้มั้ยว่ากูอยากทำถึงขั้นไหน กูอยากเอามีดมาหั่นควยมึงให้ขาดไปเลย อยากดูน้ำหน้าอย่างมึงว่าถ้าไม่มีควยแล้ว มึงจะทรมานขนาดไหน”

ขณะที่ไอ้ต้นพูดพล่ามและเหยียบควยผมไว้ ตอนนั้นผมรู้สึกได้และจินตนาการว่าไอ้ต้นไปหยิบมีดเล่มใหญ่มา และมาค่อยๆ เฉือนที่ควยของผม น่าแปลกที่ควยผม พอรู้ว่าจะมีคนมาเฉือนมันออก มันก็ยิ่งแข็งเหมือนท้าทาย ไอ้ต้นค่อยๆ เอามีดกรีดที่ฐานควย มีดที่คมกริบ มันกรีดเบาๆ และควยก็ค่อยๆ แยกออกจากร่างกายผม เลือดพุ่งออกมาไม่หยุด สีเลือดมีสีสันที่ฉูดฉาดมาก และไหลออกมานองพื้น ดูแดงฉานไปหมด มันค่อยๆ บรรจงเฉือนจนคยค่อยๆ ขาดออกจากร่างกายผมแล้วมันก็ชูควยของผมขึ้น แล้วเอามาอุดปากผมไว้แล้วก็เตะซ้ำไปที่แผลตรงที่ควยเคยอยู่ เลือดไหลนองอย่างกับแม่น้ำ

ตอนนั้นผมจินตนาการอยากให้เป็นอย่างนั้นจริงๆ คือตอนนั้นเจ็บควยมากและต้องนั่งแหกขานานมาก ตอนนั้นในหัวได้แต่คิดว่า “มึงเหยียบควยกูเหรอ ทำไมไม่เอามีดมาตัดควยกูเลยล่ะ ตัดควยกูทิ้งไปเลย เอาให้มันสะใจมึงไปเลย” ตอนนั้นผมนั่งคิดเหมือนคนบ้า ยิ่งคิดแบบนี้ควยผมยิ่งแข็งเป็นหินอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

คือตอนนั้นอารมณ์ให้มาก ตอนนั้นความโหดของมัน บรรยากาศขณะนั้น มันส่งให้อารมณ์มันถึงจริงๆ พอควยผมแข็งสู้ตีนมัน และมันน่าจะรู้สึกได้ มันจิกหัวผมให้มองหน้ามันอีกครั้ง มันสบถออกมาว่า “หรือกูจะตัดควยมึงทิ้งดีมั้ย”

ผมจ้องไปในตามันตอนนั้นผมเริ่มบ้า ผมพูดว่า “มึงอยากจะทำอะไรกับควยกูมึงก็ทำสิ ตอนนี้ควยกูอยู่ใต้ฝ่าตีนมึงแล้ว มึงอยากทำอะไรก็เชิญตามสบาย”

ไอ้ต้นสบถอีก “มึงกล้าพูดกับกูแบบนี้เหรอ มึงท้าทายกูมากเลยนะวันเนี้ยแสดงว่ามึงอยากลองดีกับกูใช่ไหม มึงคงอยากรู้ว่ากูกล้าทำอะไรได้บ้าง”

ผมยังมองมันนิ่งสายตาไม่ไหวติง ผมเอารองเท้าออกจากควยผม กำควยผมไว้แน่น แล้วดึงกระชากขึ้นจนทำให้ผมต้องลุกขึ้นยืนตามไปด้วย ตอนนี้ควยผมอยู่ในกำมือมัน น้ำควยไหลเยิ้ม แต่น้ำยังไม่แตกแต่กลิ่นน้ำควยเยิ้มมันส่งมาแตะจมูกของทั้งมันและผม เป็นกลิ่นที่ยั่วยวนเราสองคนมาก มันบีบควยผมแน่น บีบแรงมากจนผมเริ่มร้อง

มันจับมาทั้งลำคือเต็มมือมัน แต่ยังไงก็ไม่สามารถกำรอบได้แต่มันจับและพยายามกระชากเหมือนมันกำลังจะดึงข้าวโพดออกจากต้น มันยังไม่ยอมปล่อยมืออกจากควยผม มันดึงกระชากจนผมต้องเดินตามมันไปข้างหน้า และมันก็นิ่ง มันคงกำลังคิดอยู่ว่าจะทรมานควยของผมยังไงดี มันนิ่งคิดไม่นาน สายตาแห่งความโฉดก็ฉายแววเด่นชัดมากขึ้น

“มึงรนหาที่เองนะไอ้สัตว์ อยู่ดีไม่ว่าดี มึงจำไว้ว่ามึงรนหาที่เอง” มันพูดกับผม มือยังกำที่ควยผมแน่น ควยผมยาวขนาด 6 นิ้วกว่าๆ เกือบ 7 เส้นรอบวงก็ประมาณนั้นเหมือนกัน มันพาผมเดินลงไปข้างล่าง เดินผ่านไปยังอีกตึกนึง ซึ่งตอนนั้นมืดแล้ว และไม่มีใครอยู่แล้ว มันเดินไปที่ห้องช่างซึ่งยังมีอาจารย์ช่างอยู่ แต่อาจารย์ก็ทำไม่รู้ไม่ชี้ มันให้ผมเขย่งขานิดนึง แล้วเอาควยไปพาดกับที่ๆ เขาเอาไว้หนีบท่อ เวลาจะตัดหรือกลึง ซึ่งผมก็ไม่แน่ใจว่าจะเรียกว่าอะไร พอหมุนที่คันโยก มันก็ค่อยๆ หนีบควยผม ผมร้องจ๊ากเมื่อเจอเครื่องมือแบบนี้ พอมันล็อคควยผมไว้กับเครื่องบีบท่อ มันก้เดินมามองผม ตบหน้าผมและก็พูดกับผมว่า “เดี๋ยวกูไปหามีดมาก่อน”

ตอนนั้นผมเสียวมาก แต่อารมณ์มันพาไป ก่อนไปมันยังตบหน้าผมอีกทีเป็นการแถมท้าย พอมันหามีดมาได้ มันก็ตะโกนใส่หน้าผม “กูจะตัดควยมึงไอ้สัตว์ กูจะตัดควยมึง” มันตะโกนอย่างดุดัน แล้วก็เริ่มเอามีดมาจ่อตรงฐานควย มันพูดกับผมว่า “หรือก่อนทำ กุเอามีดไปผ่าตรงหัวควยมึงให้เหมือนไส้กรอกก่อนดีกว่าไหมแล้วค่อยตัดทีเดียว”

ผมไม่ได้พูดอะไรเลย ตอบไม่ได้ว่ากลัวหรือไม่ ตอนนั้นผมจินตนาการว่าไอ้ต้นค่อยๆ เอามีดตัดควยของผมที่คาอยู่บนเครื่องนั้น แกค่อยๆ หั่นอย่างใจเย็นและมีความสุข ผมนึกถึงความเจ็บที่มันเจ็บจี๊ดลึกเข้าไปข้างใน แต่ก็เป็นความเจ็บที่ผมน่าจะทนได้ ผมค่อยๆ จินตนาการถึงควยที่ค่อยๆ ถูกหั่นจนมันขาดจากร่างกาย นั่นทำให้ร่างกายของผมเป็นอิสระ แต่ควยยังคาอยู่ตรงเครื่องนั้น เลือดไหลเป็นทาง ไหลลงมาที่ขาผมเยอะมาก ไอ้ต้นหัวเราะอย่างสะใจจนแทบเป็นบ้า มันเอามือชกไปที่ควยผมเคยอยู่เพื่อทำให้เลือดไหลมากขึ้นจนทำให้แถวนั้นกลายเป็นทะเลเลือดไปเลย

ผมหันเหจากจินตนาการเข้าสู่ความจริง ไอ้ต้นวางมีด แต่หันไปหาอะไรบางอย่างจนมันได้เทียนมาแท่งหนึ่ง มันใช้ไฟแช็คจุดแล้วเอาน้ำตาเทียนมาหยดลงตรงควยที่กำลังถูกบีบอัดอยู่ ผมร้องลั่นเพราะเมื่อน้ำตาเทียนหยดลงไปที่ควยแล้ว ถึงแม้จะหยดไปแค่หยดเดียว แต่ความร้อนมันแผ่ซ่านไปทั่วควย ความเจ็บปวดรวดร้าวมันยิ่งกว่าการเอาน้ำตาเทียนหยดลงไปที่หัวนมมากทำให้น้ำตาเทียนหยดไปที่หัวนมนั้นกลายเป็นของเด็กเล่นไปเลย

ตอนนี้ควยที่ถูกบีบอัด มันร้อนผ่าว ผมปวดแสบปวดร้อนมากแต่ควยก็ยังแข็งได้ที่ ไอ้ต้นยังบ้าระห่ำหยดน้ำตาเทียนไปที่ควยผมอย่างสะใจจนถึงจุดหนึ่งที่มันคงค้นพบอะไรบางอย่าง มันปล่อยควยออกจากเครื่องบีบอัดและสั่งให้ผมชักจนน้ำแตก ควยร้อนๆ เวลาชักมันเสียวซ่านและปวดแสบปวดร้อนมาก เป็นการชักว่าวที่ทรมานถึงขีดสุดแต่ผมก็ยังชักด้วยความยินดี ผมจะไม่ปล่อยให้โอกาสทองแบบนี้หลุดลอยไปเป็นอันขาด ผมชักจนถึงจุดที่น้ำแตกกระเซ็น ตอนนั้นความรู้สึกเหมือนควยหลุดกระเด็นออกไปจากร่างผมด้วย สะใจเหลือเกินครับ ขอบคุณไอ้ต้นมากที่ทำกับผมได้ถึงขนาดนี้

เมื่อตอนที่ผมอยู่ชั้น ม.5 ในเทอมที่ 2 ในเทอมนั้นอาจารย์ที่ดูจะมีอิทธิพลกับผมมาก มากซะจนบางครั้งเหมือนกับว่าผมหลุดไปอยู่ในโลกของเขาก็คืออาจารย์ศิลปะ โลกของเขาช่างเป็นโลกที่นักเรียนน้อยคนนักจะได้สัมผัส มาถึงวันนี้ผมแน่ใจมากขึ้นว่าเขามองผมมาตั้งแต่อยู่ชั้น ม.4 เขามองผมมาปีครึ่งโดยที่ผมเองก็ไม่ได้สังเกต มองจนเขาแน่ใจว่าผมนี่แหละเหมาะที่จะเป็นวัตถุทางศิลปะของเขา

ในช่วงแรกๆ ที่เขายังไม่ได้แตะต้องผม เขามักจะคุยบางเรื่องในห้อง จริงบ้างไม่จริงบ้าง แต่น่าแปลกที่เวลาเขาพูดคุยเรื่องเหล่านั้น ควยของผมจะค่อยๆ ขยายตัวขึ้นมาทุกครั้ง และไม่นานนักเขาก็จะจ้องเข้ามาในดวงตาของผม วันนี้ก็เช่นกัน

“สมัยครูอยู่ต่างจังหวัด โรงเรียนครูกันดารมาก อยากจะเล่นวอลเล่ย์ มันดันมีลูกวอลเลย์ แต่สนามไม่มีตาข่ายกั้น ครูพละของครูเวลาสอนก็จะบอกให้นักเรียนที่กำลังจะแข่งวอลเล่ย์ให้ทั้งสองฟากเป่ายิงฉุบกัน ถ้าใครแพ้ก็ต้องเอาเชือกฟางมาขึงกลางสนาม แล้วก็ต้องถอดเสื้อผ้าออกจนหมดเหลือเพียงกางเกงในตัวเดียว แล้วเอาเสื้อผ้าทั้งหมดไปทำเป็นตาข่ายกั้นกลางสนาม ตอนนั้นทีมใส่เสื้อมันคงคึกเลยตบอัดๆ ทีมของครูไม่หยุด บางครั้งใช้มือรับไม่ทัน ครูเลยต้องใช้หน้าอกรับลูกวอลเล่ย์ที่มาอย่างเต็มแรง อกแดงไปเลย สงสัยทีมแก้ผ้า พอแก้แล้วคงขาดความมั่นใจในการเล่น มิหนำซ้ำยังถูกครูพละลงโทษอีก ให้คลาน ให้กลิ้ง ให้หมอบ ทั้งๆ ที่อยู่ในสภาพใส่กางเกงในตัวเดียว”

พอพูดจบเขาก็หันหน้ามามองผม ตอนนั้นควยผมลุกแล้ว แกมองผมพร้อมกับยิ้มในดวงตาของแกกำลังจ้องลึกไปในใจของผม ผมไม่เคยเจอคนอย่างแกมาก่อนเลย เหมือนแกมีความแตกต่างจากคนอื่น หน้าตาของแกมีเสน่ห์มาก สำหรับผม แกยังดูหนุ่ม อายุอานามก็น่าจะประมาณ 30 กว่าๆ เอง แต่ดูหนุ่มมาก หลังจากวันนั้นแกก็เล่าเรื่องพวกนี้อีก ผมยังคิดในใจว่า ไม่เห็นจะเกี่ยวกับศิลปะสักหน่อย ทำไมชอบเล่าจัง จนมาถึงวันหนึ่งที่แกพูดเรื่องทฤษฎีสี แกยกตัวอย่างว่าชาวนาที่ออกไปทำนามักใส่เสื้อสีเข้ม เพราะสีเข้มมันป้องกันความร้อนได้ ทำให้คนใส่เสื้อที่ปกปิดร่างกาย เวลาอยู่กลางแดดจะไม่ถึงกับร้อนมาก พวกกรรมกรเองก็มักจะชอบใส่เสื้อสีเข้ม โพกผ้าปกปิดใบหน้าตนเองเวลาทำงานอยู่ท่ามกลางแสงแดด

เพื่อนเจ้ากรรมคนหนึ่งดันถามแกไปว่า “ตอนอยู่กลางแดด ถอดเสื้อออกจะไม่เย็นกว่าเหรอครับ”

แกยิ้มพร้อมกับพูดออกมาว่า “สงสัยต้องลองดู” แล้วก็หันมาทางผม แกพูดอย่างรวดเร็วว่า “สิงห์คำรณ ถอดเสื้อออกและไปยืนกลางแดดสักครึ่งชั่วโมงซิ เพื่อนๆ อยากรู้ว่ามันร้อนหรือเย็น”

ผมตกใจกับคำสั่งของแกมาก แต่ผมก็ยอมทำตาม ผมถอดเสื้อนักเรียนออกและออกไปยืนกลางแดด ผมรู้สึกว่าร้อนมาก ตอนนั้นเวลาประมาณบ่ายสอง ลืมบอกเพื่อนๆ ไปว่าห้องเรียนศิลปะของเราอยู่หลังโรงเรียน เป็นเรือนไม้โปร่งชั้นเดียว และมีห้องเก็บงานที่ทำด้วยปูน เวลาผมต้องไปยืนกลางแดดจึงทำได้ง่ายๆ

ตอนผมยืนถอดเสื้ออยู่กลางแดด ครูศิลปะผู้นี้ก็เล่าเรื่องทฤษฎีสีให้นักเรียนคนอื่นฟังต่อ เขาหันมามองผมเป็นระยะๆ ก่อนจะพูดออกมาว่า “ยืนแบบนั้นแดดมันไม่โดนตัวหรอก ล้มนอนหงายลงไปเลยดีกว่า แดดจะได้โดนตรงหน้าอกแบบจะๆ หน่อย จะได้รู้ว่าร้อนหรือไม่ร้อน”

ผมนอนหงายลงไปตามคำสั่ง จำได้แค่ว่าวันนั้นแดดแรงมาก ผมต้องหรี่ตาและต้องนอนหลับตาไปเลย ผมนอนหลับตาจนเผลอหลับไป มารู้สึกตัวตื่นตอนที่รู้สึกว่ามีใครเอาตีนมาเหยียบหน้าอกผมไว้ ผมลืมตาขึ้นมาก็เห็นอาจารย์ศิลปะของผม เอารองเท้ามาเหยียบที่หน้าอกของผมเหมือนเป็นการปลุก “ขอโทษด้วยนะ ปลุกดีๆ มึงไม่ตื่นก็เลยต้องปลุกแบบนี้ เพื่อนๆ มึงเขาไปกันหมดแล้วนะ เหลือแต่มึงคนเดียวนี่แหละ เห็นมึงหลับกูก็ไม่อยากปลุก แต่นี่มันเลยเวลาไปนานแล้วนะ”

ผมตกใจมากที่เขาขึ้นกูมึงกับผมเวลาที่เราอยู่ด้วยกันสองต่อสอง ตอนนั้นผมยังนอนนิ่งเพราะรองเท้าของเขายังเหยียบอกผมอยู่ และเขายังไม่ได้สั่งให้ผมลุก แต่ควยของผมดันลุกโดยไม่ต้องสั่ง

“ควยมึงแข็งมากเลยนะ”

เขาเอารองเท้าเตะไปที่ควยของผมสองสามครั้ง ทำให้ผมรู้สึกได้ว่าอาจารย์ศิลปะรูดซิบกางเกงของผมและปลดปล่อยควยของผมให้ออกมาสูดอากาศนานแล้ว ผมนึกในใจว่า ทำไมเขาถึงกล้าทำถึงขนาดนั้นในบริเวณที่โล่งแจ้งและยังมีคนเดินไปเดินมา โชคดีที่ไม่มีใครมาสนใจเราสองคน ผมเลยไม่ค่อยอายเท่าไหร่ ตอนนั้นผมแค่รู้สึกตัวแต่ยังมองไม่เห็นควยตัวเอง พอมันแข็งผมก็อยากชักนะ คืออยากให้น้ำมันแตก แต่เขายังคงเอารองเท้ามาเตะที่ควยไปมา การเตะแบบนี้มันกระตุ้นให้ผมอยากชักว่าวมากขึ้น ไม่รู้ว่าแกจะเข้าใจความรู้สึกของผมรึเปล่า

หลังจากแกเตะควยผมไปมา แกก็เหยียบไปที่ควยผมอย่างแรง แกเหยียบแบบบดขยี้ และต่อจากนั้นแกก็ใช้รองเท้าผ้าใบของแกถูกับควยผมไปมาเหมือนกับกำลังชักว่าวให้ผม ผมทั้งเจ็บทั้งเสียว แต่ไม่กล้าร้องออกมาดังๆ เพราะกลัวจะโดนหนักกว่านี้ แกใช้รองเท้าชักว่าวให้ผมแรงขึ้น การทำวิธีแบบนี้มันทั้งเสียวและก่อให้เกิดความเจ็บปวดอย่างมาก แกขยี้อย่างเมามันส์ จนผมถึงจุด น้ำแตกทะลักเลอะพื้นรองเท้าแกไปหมด แกเอารองเท้าข้างนั้นมาละเลงที่หน้าผม เอารองเท้าเหยียบหน้าผมไปมาบดขยี้น้ำกามให้เลอะเปรอะเปื้อนไปทั้งหน้าผม และแกก็เอารองเท้ามาลูบหน้าอกและหน้าท้องจนน้ำกามเลอะเนื้อตัวผมไปทั่ว และนั่นเป็นการประเดิมหนแรกที่ผมเองไม่ได้ขัดขืนแต่ประการใด สำหรับอาจารย์ศิลปะคนนี้ เมื่อมีหนแรกก็ต้องมีหนสอง ยิ่งเขามาเจอนักเรียนที่ว่าง่ายอย่างผม มันก็เหมือนไปกระตุ้นโลกแห่งความวิปลาสของเขาให้เปิดมากขึ้นโดยทั้งผมและเขาก็ต่างไม่รู้ตัวมาก่อน

เวลาผ่านไปสองอาทิตย์ มาถึงชั่วโมงที่แกสอนศิลปะแบบประยุกต์สมัยใหม่ แกสอนไปสักพักก็เรียกเพื่อนผมคนหนึ่งไปยืนหน้าห้อง โดนบังคับให้ถอดเสื้อออก ต่อจากนั้นอาจารย์ศิลปะก็เอาพู่กันขนาดใหญ่จุ่มสีในจานสีแล้วก็เอาพู่กันมาระบายบนหน้าอกของเพื่อนผมคนนั้น แกตะโกนถามนักเรียนในห้องว่า “นี่เป็นงานศิลปะไหม” ทุกคนตอบว่าเป็น ผมแปลกใจมากที่ทำไมวันนี้แกถึงไม่เรียกผม แต่ผมคิดยังไม่ทันไร แกก็เอ่ยชื่อผม “สิงห์คำรณออกมาหน้าห้องซิ”

ผมเดินออกไปยืนหน้าห้องโดยยังเดาไม่ออกว่าอะไรจะเกิดขึ้น อาจารย์ศิลปะของผมพูดขึ้น “ถอดเสื้อออก” ผมถอดเสื้อตามที่เขาสั่ง หลังจากนั้นเขาไปหยิบขนมปังไส้ครีมที่มองเห็นครีมชัดเจน ไม่นานนักเขาก็เอาขนมปังใส้ครีมมาละเลงที่หน้าอกของผม ผมรู้สึกแปลกๆ กับการที่ครีมเหนียวเนอะถูกนำมาละเลงตรงหน้าอก วนย้ำตรงหัวนมทั้งสองข้าง ก่อนที่จะละเลงลงไปที่หน้าท้อง เขาถามนักเรียนคนอื่นว่า “แล้วแบบนี้อ่ะ เรียกว่างานศิลปะไหม” เพื่อนในห้องส่วนใหญ่ดันตอบว่าใช่ ต่อมาแกจึงเอาขนมปังไส้ครีมละเลงทั่วใบหน้าของผม ผมตกใจมาก ไม่คิดว่าแกจะกล้าทำแบบนี้ต่อหน้าคนทั้งห้อง แกถามอีกว่า “แล้วอย่างนี้ล่ะ ใช่งานศิลปะไหม” เพื่อนประมาณ 10 คนตะโกนตอบว่า ใช่ แกจึงพูดต่อว่า “จะมีสัก 5-6 คนไหมที่จะอาสามาช่วยกันสร้างงานศิลปะ” มีคนยกมือประมาณ 6-7 คน แต่ละคนล้วนหมั่นไส้และไม่ถูกกับผมทั้งนั้น หลังจากเลิกเรียนก่อนเวลา แกกับเพื่อนผมอีกประมาณ 7 คนก็มายืนล้อมรอบตัวผม

“ถอดกางเกงมึงออก” แกออกคำสั่งอย่างเฉียบขาด ผมรีบถอดกางเกงออกโดยเร็ว “เอามือประสานไว้ที่ท้ายทอย กางขาออก” ผมรีบทำตามทันที หลังจากนั้นแกแจกขนมปังไส้ครีมให้เพื่อนของผมคนละสองอัน แกเริ่มออกคำสั่ง “สร้างงานศิลปะของพวกมึงได้แล้ว” พอพูดไม่ทันขาดคำ เพื่อนแต่ละคนก็ละเลงครีมลงบนตัวผม ทั้งบริเวณแผ่นหลัง ใบหน้า ตรงรักแร้ทั้งสองข้าง ตรงหน้าอก หน้าท้อง ขา แขน คือละเลงครีมไปทั่วตัวผม ยิ่งเหนอะหนะ ควยผมก็ยิ่งแข็งและกางเกงในที่ใส่ดันยางยืดไม่ค่อยดีด้วย เวลาควยแข็งจึงเห็นชัดมาก

หลังจากนั้นครูศิลปะจึงไล่เพื่อนๆ กลับไป เขามายืนข้างหน้าผม จับควยของผมที่กำลังแข็งได้ที่ เขาตะโกนสั่งผมว่า “ตามกูมา” แล้วเขาก็เดินนำหน้าพาผมไปยังอีกตึกนึง ผมต้องเดินออกไปข้างนอกเรือนไม้ที่ใช้เรียนวิชาศิลปะในสภาพนุ่งกางเกงในตัวเดียวและมีครีมเปรอะเต็มตัวไปหมด โชคดีมากที่โรงเรียนยังไม่เลิก ไม่งั้นผมมีหวังได้อายจนแทบแทรกแผ่นดินหนี ขณะเดินผ่านก็มีนักเรียนห้องอื่นหันมองผม ผมรู้สึกอาย ยิ่งอายควยก็ยิ่งแข็ง แกเดินพาผมมาจนถึงโรงยิมใหม่ที่อยู่ด้านล่าง และมีห้องน้ำขนาดใหญ่ แกเดินนำผมเข้าไปในห้องอาบน้ำ พร้อมกับลงกลอน หลังจากอยู่ด้วยกันแค่ 2 คนแล้วแกออกคำสั่งผม “ถอดกางเกงในมึงออก”

พอผมถอดกางเกงในออก ควยของผมก็ผงกหัวท้าทายแก แกเอาขนมปังใส้ครีมมาลูบที่ควยผม แกลูบไปมาทั้งที่ท่อนลำและหัวควย จนควยผมเต็มไปด้วยครีมขาวเนียน ต่อจากนั้น แกจึงถอดเสื้อผ้าของแกออก เผยให้เห็นหุ่นที่เต็มไปด้วยมัดกล้าม และควยขนาดเขื่อง แกสั่งให้ผมยืนเอามือประสานไว้ที่ท้ายทอยและกางขาออก แล้วแกก็เข้ามากอดผม ลูบไล้ตัวผม จนครีมเปรอะเปื้อนตัวแกเต็มไปหมด แกเอาควยแกมาสีกับควยผม มันแข็งทั้งคู่ และเสียดสีกันไปมาด้วยความลื่นของครีม ผมรู้สึกเสียวไปทั่ว โดยเฉพาะที่หัวควย หลังจากนั้น แกดันเปลี่ยนไปอีกอารมณ์หนึ่ง แกตบผม ฟาดหน้าอกผม ชกไปที่ท้องผม ทุกครั้งที่แกฟาดแกตบผม ครีมจะกระจายไปทั่ว ตอนนั้นดูแกมีอารมณ์มาก ควยแกขยายใหญ่ มีน้ำเยิ้ม

ผมโดนแกฟาดจนล้มกลิ้งไป แกสั่งให้ผมนอนคว่ำ แล้วเอาครีมมาทาที่ก้น เป็นขนมปังไส้ครีมที่มีครีมอัดแน่น แกเอามันทาที่ก้นผม พร้อมกับค่อยๆ ยัดควยขนาดยักษ์ของแกลงไปที่ก้นผม ไม่นานก็ยัดจนมิดเพราะความลื่นของครีม ตอนนั้นผมรู้สึกเหมือนถูกเย็ดอย่างบ้าคลั่ง แกจับผมค่อยๆ พลิกตัวขึ้นนอนหงายแต่ดุ้นขนาดเขื่องของแกยังอยู่ในรูตูดผม แกซอยถี่ยิบ ผมรู้สึกแปลกประหลาดเพราะครีมมันลื่นมากพอแกได้อารมณ์ถึงขีดสุด แกก็ชักควยแกออกมาและแตกใส่หน้าใส่หน้าอกผม หน้าและหน้าอกที่เลอะไปด้วยครีม แล้วแกก็นอนทับผม เรากอดกันสีกัน ทั้งครีมทั้งน้ำกามทั้งเหงื่อ คละเคล้ากันไปมา แกจูบที่หัวนมผม หันมาจูบปาก เราสองคนใช้ลิ้นเลียลิ้น ไซ้ซอกคอที่เหนียวเหนอะไปด้วยครีม ผมสัมผัสได้ถึงรสหวานของครีม แต่พอรู้สึกถึงรสอะไรแปร่งๆ ผมก็พอเดาออกว่าได้ลิ้มน้ำกามตัวเองเข้าไปแล้วเราสองคนนอนกลิ้งเหนอะหนะกันไปทั้งตัว แกบังคับให้ผมชักว่าวให้น้ำแตก มันค่อนข้างลำบากมากเพราะครีมมันลื่น

ขณะชักแกก็เอาหน้ามารอเหมือนกับว่าถ้าผมแตก ของผมจะกระเด็นใส่หน้าแก บางครั้งแกก็แลบลิ้นช่วย ให้ลิ้นของแกสัมผัสหัวควยผมเวลาผมชักว่าว ไม่นานนักผมก็น้ำแตก กระเด็นโดนหน้าของแก หลังจากผมเสร็จแกก็ล้มตัวลงนอนทับผม เรากอดกันเมามันส์ ผมพอเดาได้ว่าแกอยากให้ทั้งน้ำกามทั้งครีมผสมปนกันบนตัวเราจนแยกไม่ออก เรานอนกอดก่ายกันแบบหมดแรง วันนั้นถือเป็นประสบการณ์ที่ดีมาก มันทั้งตื่นเต้น และไม่ได้เตรียมตัวมาก่อน

หลังจากนั้นอีกอาทิตย์กว่าๆ ขณะที่ผมกำลังนั่งกินก๋วยเตี๋ยวกับเพื่อนในโรงอาหารตอนเที่ยงซึ่งมีคนอยู่เต็ม อาจารย์ศิลปะเดินเข้ามาที่โต๊ะผม แกยกแก้วโค้กที่มีโค้กและน้ำแข็งอยู่เต็มราดหัวผม ตอนนั้นทุกคนช้อคที่เห็นแกทำอย่างนั้น ผมเองก็ช้อค ทั้งตกใจทั้งอาย ตอนนั้นอายมากๆ ครับ อายแทบแทรกแผ่นดินหนี เพียงแต่ผมยิ่งอายมากเท่าไหร่ ทำไมควยมันแข็งมากขึ้นเท่านั้น ผมไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันครับ ต่อจากนั้นเพียงชั่วอึดใจ แกก็ยกชามก๋วยเตี๋ยวราดหัวผม ตอนนั้นทุกคนออกแนวเหวอไปตามๆ กัน ไม่มีใครคิดว่าแกจะเล่นผมแรงถึงขนาดนี้ คือถ้าทำอย่างนี้ได้ ผมคิดว่าแกจะไม่ยั้งมือให้ผมอีกต่อไปแล้ว ตอนนั้นจิตใจผมฮึกเหิมมาก คิดเสียว่าเป็นไงเป็นกัน หลังจากราดทุกอย่างที่ผมกินลงที่หัวผม แกก็คำรามใส่ผมว่า “มึงไปเจอกูตรงสนามบอลเลย มึงทำผิดไว้มาก กูต้องลงโทษให้เข็ดหลาบ”

ความผิดอะไร ผมไม่เห็นรู้เรื่องเลย ผมทำผิดอะไร

แกเดินไปยืนรอผมที่สนามบอล ผมเดินตามไปพร้อมกับไทยมุงนับร้อย นับร้อยจริงๆ นะครับ ตอนนั้นถึงแม้จะยังไม่เกิดอะไรขึ้น แต่ผมก็ถึงกับขนลุก ควยลุกเพราะนี่มันเป็นการหาเรื่องผมในที่สาธารณะโดยที่ผมไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจมาก่อนเลย ผมกับอาจารย์ศิลปะยืนเผชิญหน้ากัน โดยมีนักเรียนนับร้อยยืนล้อมรอบเราสองคนเป็นวงกลมใหญ่พอประมาณ

คำสั่งแรกของอาจารย์ศิลปะก็คือ “ถอดเสื้อผ้ามึงออก”

คำสั่งนี้ยังคงก้องอยู่ในหูผมจวบจนปัจจุบัน ถึงแม้ว่ามันจะนานมาแล้ว แต่ผมยังจำสีหน้าและแววตาของอาจารย์ศิลปะได้ดี ผมถอดตามคำสั่ง ถอดจนหมดเหลือแค่กางเกงในตัวเดียว ตอนนั้นเป็นที่น่าอับอายมากที่ต้องอยู่ในสภาพนั้นต่อหน้าคนนับร้อย แกเริ่มด้วยการทำร้ายจิตใจผมได้ดีมาก

ตอนนั้นเริ่มมีอาจารย์คนอื่นมายืนดูด้วย และถามแกว่าผมทำผิดอะไร แกถึงเรียกมาทำโทษประจานแบบนี้ แกสร้างเรื่องได้สะใจมากว่าผมไปต่อยนักเรียนรุ่นน้องคนหนึ่งจนถึงขั้นเข้าโรงพยาบาล เรื่องที่แกสร้างขึ้นได้สร้างความเคียดแค้นชิงชังผมให้กับอาจารย์ท่านอื่นได้เป็นอย่างดีเพราะรุ่นน้องคนนั้นเป็นเด็กที่ได้รับรางวัลเรียนดีทุกเทอมและน้อยคนนักที่จะรู้ว่ามันเรียนเก่งแต่เลวแค่ไหน มันดันร่วมสร้างเรื่องไปกับอาจารย์ศิลปะด้วย ยิ่งทำให้มีคนชิงชังผมมากขึ้น และไม่แปลกใจเลยที่ตลอดปีครึ่งที่ผ่านมา ผมมักจะเป็นนักเรียนที่โดนทำโทษบ่อย

การสร้างเรื่องครั้งนี้ถือเป็นจุดพลิกผันอีกจุดหนึ่งที่ทำให้ทั้งเพื่อนและอาจารย์เริ่มถอยห่างออกจากตัวผม ทำให้ตลอด 1 ปีกับอีก 6 เดือนหลังจากนั้น ผมเหมือนกับตกนรกทั้งเป็น แต่ไม่เป็นไรครับเพราะสำหรับผม ผมเป็นคนที่ชอบลงนรกอยู่แล้ว ความรู้สึกนี้ติดตัวผมไปจนถึงมหาวิทยาลัยและผมโคตรโชคดีเลยที่อยู่ในมหาวิทยาลัยที่ระบบว๊ากกำลังเถื่อนถ่อยสุดๆ (เมื่อเกือบ 20 ปีมาแล้ว) ผมกลายเป็นรุ่นน้องที่กวนตีนจนโดนรุ่นพี่จัดการจนถึงขั้นซื้อใจทุกคนได้ และตอนขึ้นปีสองผมก็ได้ถูกเลือกให้เป็นประธานเชียร์และหารู้ไม่ว่าการถูกเลือกครั้งนั้นเป็นการหาเรื่องลงโทษผมต่อหน้ารุ่นน้องนับพันที่น้องผู้หญิงร้องไห้สงสารผมจนสลบ แต่น้องผู้ชายกลับซ้ำเติมผมอย่างคาดไม่ถึง

เอาละครับ ผมเคยสัญญาแล้วว่ากลับมาครั้งนี้ผมจะพยายามเล่าตามลำดับทำให้ทุกท่านที่อ่านได้เห็นพัฒนาการของผมจนในท้ายที่สุดผมก็ได้มาเขียนเรื่องตัวเองในเว็บนี้ได้

กลับมาในเหตุการณ์ตอน ม.5 เทอมสอง หลังจากผมอยู่ในสภาพนุ่งกางเกงในตัวเดียวและคนนับร้อยมองผมในสายตาที่ชิงชัยและเกลียดขี้หน้าแล้วสมุนของอาจารย์ศิลปะก็เริ่มโหมโรงก่อน พวกมันหาใช่ใครที่ไหน พวกมันคือเพื่อนห้องเดียวกับผม ที่เคยรุมผมในห้องเรียนนั่นเอง อาจารย์ศิลปะกล่อมให้พวกมันโกรธแค้นผมและพร้อมที่จะเป็นสมุนให้อาจารย์ตราบใดที่อาจารย์ต้องการ

พวกมันเริ่มจากเอาเชือกมามัดมือไพล่หลัง แล้วก็เอาเชือกอีกเส้นมามัดรอบเอวและมัดมือที่ไพล่หลังนั้นอีกทีจนผมรู้สึกได้ถึงความอึดอัด เพราะมันเป็นการถูกพันธนาการที่แน่นหนาต่อหน้าคนนับร้อย จากนั้นสมุนก็เริ่มลงมือก่อนด้วยการด่าประจานความเลวของผมประมาณว่า “มึงทำร้ายเด็กดีๆ อย่างนั้นลงคอได้ยังไง”

มันด่าผมสาดเสียเทเสีย น่าแปลกมากที่ไทยมุงต่างเห็นด้วยทำให้ผมตระหนักว่าโรงเรียนที่อยู่นี้แม่งโคตรเถื่อนเลย หลังจากด่าจนทำให้ตัวมันเองอารมณ์ขึ้น มันจึงตะคอกใส่หน้าผม พร้อมกับฟาดหน้าอกผมไปอย่างแรง 1 ที เสียงดังสะใจมาก หลังจากการถูกกระทำวันนั้นแล้ว ถ้าใครฟาดหน้าอกผมแรงพอ ผมถึงขั้นแข็งอย่างเฉียบพลันและพร้อมจะหลั่งออกมาเองได้เลยเพราะอารมณ์และบรรยากาศในวันนั้นมันมีผลต่อจิตใจผมมากและก็ส่งผลต่อร่างกายอย่างรุนแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลไลทางเพศ

ตอนนั้นความรู้สึกที่เกิดขึ้นมาอย่างอัตโนมัติคือ “ผมเกิดมาเพื่อสิ่งนี้” และผมก็ยังเชื่อแบบนี้มาจนถึงปัจจุบัน

พอไทยมุงได้ยินเสียงฟาดหน้าอกที่ดังสะใจพระเดชพระคุณ ก็มีคนตะโกนบอกว่า “ฟาดอกมันอีก เอาให้กระอักเลือดไปเลย” สมุนคนนั้นจึงทำตามแรงเชียร์ โดยมีอาจารย์ศิลปะยืนยิ้มร่าอยู่ไม่ห่างนัก

เสียงอ๊อดดังขึ้นพอดี นักเรียนคนอื่นต้องไปเข้าแถวหน้าห้อง เตรียมเรียนภาคบ่ายต่อไป มีเพียงผมกับอาจารย์และสมุนที่ยังยืนประจันหน้ากัน ตอนนั้นนักเรียนที่เคยมุงก็ขึ้นไปเข้าแถวกันหน้าห้องของตน มีตึกนึงอยู่แถวนั้นและมีห้าชั้น

ไอ้สมุนคนนั้นคงอยากสร้างบรรยากาศให้ไทยมุงที่พลาดโอกาสเห็นภาพ ขอแค่เสียงก็ยังดี ไอ้สมุนร่างควายจึงฟาดหน้าอกผมทีนึงให้ดังไปถึงชั้น 5 เลย ตอนนั้นอาจารย์ห้องอื่นไม่ต้องเหนื่อย เพราะนักเรียนยืนเข้าแถวกันเงียบกริบเพื่อต้องการฟังเสียงฝ่ามือใหญ่ๆ ฟาดอกแกร่งของผมอย่างสะใจ ตอนนั้นควยผมลุกแบบหยุดไม่อยู่

บรรยากาศตอนนั้นทำให้ไอ้สมุนคนนั้นเกิดอาการฮึกเหิม มันจึงไม่ต้องการเพียงแค่การฟาดหน้าอกอีกต่อไป ยิ่งเห็นควยผมลุกจนตุงกางเกงใน มันจึงทุ่มแรงไปที่เท้าขวาที่เดียว และเตะผ่าหมากผมอย่างสุดแรงเกิด ผมทรุดลงไปกองพร้อมกับดิ้นพราดๆ เพราะมันโคตรเจ็บ และโคตรทรมาน ไม่มีการทรมานผู้ชายแบบไหนเท่ากับการเตะผ่าหมากเต็มแรงอีกแล้ว การทรุดตัวของผมและลงไปนอนดิ้นไม่ได้ทำให้อาจารย์ศิลปะเห็นใจผมแม้แต่น้อย เขากลับสะใจและออกคำสั่งสมุนคนอื่นๆ ว่า “พามันไปหลังโรงเรียน”

หลังโรงเรียนในที่นี้หมายถึง สนามหลังโรงเรียนที่ไกลผู้ไกลตาคนเพราะลึกเข้าไปกว่าเรือนศิลปะอีก และกว่าจะเดินไปได้ ต้องฝ่าด่านของหญ้าที่ขึ้นสูงท่วมหัว พอพ้นไปแล้วมันก็จะเป็นสนามกว้างแบบแฉะๆ มีหินแหลมประปราย มีหลุมที่มีน้ำขัง และมีพืชที่มีหนามแหลมขึ้นบนพื้นแบบต้นเตี้ยๆ เป็นหย่อมๆ พวกมันจับผมนอนลง แล้วเอาเชือกมามัดเท้าผม ตอนนั้นผมมีสภาพเหมือนทหารเวียตกงที่ถูกจับเป็นเชลย หลังจากนั้นพวกสมุนก็เตะตัวผมให้ผมกลิ้งไปมา ทับพืชที่มีหนามบ้าง ทับหินแหลมๆ บ้าง ตอนนั้นผมเจ็บปวดรวดร้าวไปทั่วตัวแต่ที่เจ็บไม่แพ้กันคือตรงควย แต่โชคดีมากที่ควยอยู่ในกางเกงใน

ตอนนั้นผมรู้ซึ้งถึงคำว่า “กางเกงในคือปราการด่านสุดท้ายของผู้ชาย” เพราะมันเป็นอย่างนั้นจริงๆ มันจึงทำให้ควยไม่ถึงกับเจ็บมากนักแต่อาจารย์ศิลปะไม่หนำใจ แกเดินเข้ามา และเอานิ้วแหย่ลงไปตรงรูเล็กๆ ของกางเกงในแล้วค่อยๆ ฉีกกระชากจนกางเกงในผมขาดและผมอยู่ในสภาพที่เปลือยเปล่า แล้วพวกมันก็เตะผมให้กลิ้งไปมาทับหินทับหนาม ตอนนั้นเสียวควยมาก เพราะควยแข็งและก็แกว่งไปมาตามสภาพที่กลิ้งไป ควยโดนหินแหลม ควยโดนหนามถลอกปลอกเปิกไปตามๆ กัน เพียงแต่ว่ามันยังแข็งอยู่

พวกมันเตะให้ผมกลิ้งลงไปในบ่อหลุมของสนามที่มีน้ำขังและก็รุมกระทืบผม เหยียบหน้าให้จมน้ำ เหยียบกระแทกไปที่ลำควย โชคดีที่พวกมันทำแค่เอามัน เพราะถ้ากระทืบแบบแรงสุดแรงเกิด ผมอาจจะช้ำในตายตรงนั้นแล้วก็ได้ หลังจากผมโทรมสุดชีวิตพวกมันก็ดึงผมขึ้นมาแล้วสมุนก็จากไป เหลือแค่อาจารย์ศิลปะและตัวผมที่ยังถูกพันธนาการอยู่ ตอนนั้นเขาไม่พูดอะไรกับผมแม้แต่คำเดียว ไม่ช่วยแก้มัดด้วย เขาแค่นั่งลงกำควยผม และชักว่าวให้ผมจนสุดแรงเกิด เป็นอีกหนึ่งการชักว่าวที่ผมประทับใจมาก แกชักให้ผมจนเสร็จแล้วค่อยแก้มัดให้ผม แกถอดเสื้อออกให้ผมปิดบังจุดสำคัญแล้วพาผมไปที่เรือนศิลปะซึ่งไม่มีใครอยู่ พาไปห้องด้านในซึ่งเปรียบเสมือนห้องพักชั่วคราวของแก

ตอนนั้นแกหาผ้าห่มมาให้ ผมเหนื่อยมาก และโทรมมาก ผมนอนพักจนเผลอหลับไป กว่าจะตื่นอีกทีก็เป็นตอนหัวค่ำแล้ว แกบอกให้ผมไปอาบน้ำ ผมเดินไปที่ห้องน้ำ แกบอกว่าไม่ต้องปิดประตูและแกก็ยืนดูผมอาบน้ำ

ตอนผมฟอกสบู่ แกก็บอกว่าฟอกยังไม่พอเพราะผมสกปรกมาก ให้ผมฟอกอีก ฟอกอีก ฟอกไปเรื่อยๆ จนฟองสบู่เต็มตัวผมไปหมดแต่ตอนผมจะตักน้ำล้างฟองสบู่ออก แกก็ตะโกนบอกแบบน้ำเสียงดุมากๆ “ห้ามล้างสบู่ออก” ผมตกใจกับคำพูดนั้นมาก แกส่งผ้าขนหนูให้ผม “นุ่งซะ เดี๋ยวกูจะพามึงไปเดินเล่น” ผมรับผ้าขนหนูมานุ่งในขณะที่ฟอกสบู่เต็มตัวผมไปหมด ตอนนั้นควยของผมก็แข็งขึ้นมาอีกแล้ว

ตอนนั้นผมนุ่งผ้าขนหนูโดยไม่ได้ใส่กางเกงใน เนื้อตัวตรงหน้าอกและหน้าท้องเต็มไปด้วยสบู่ อาจารย์ศิลปะพาผมออกไปเดินเล่นด้วยสภาพแบบนั้น ตอนแรกผมคิดว่าจะเดินไม่ไกล แต่ที่ไหนได้ แกพาผมเดินไปไกลมากขึ้น เดินออกไปจนถึงริมถนนใหญ่ เดินคุยเรื่องไร้สาระเรื่อยเปื่อยไปเรื่อย แต่ละเรื่องหาสาระไม่ได้เลย

ริมถนนที่เดินไปมีรถเมล์วิ่งผ่านไปมา แกสั่งให้ผมยืนรอแกอยู่แถวนั้น สักพักแกกลับมาพร้อมกับโค้กกระป๋อง แกเขย่าอย่างแรงพร้อมกับเปิดกระป๋องโค้กใส่หน้าผม แล้วเอาราดหัว ตรงนั้น แถวนั้นเลย ซัดกันริมถนนนี่แหละ ผมอายคนแถวนั้นมาก จะมีหลายคนหยุดมองเราสองคน ผมอายที่อยู่ในสภาพนี้ และอายที่ตอนนี้ควยโด่จนผ้าขนหนูตุง อากาศก็เริ่มเย็น ตอนนี้ตามตัวเต็มไปด้วยโค้กกับฟองสบู่เหนะหนะ วันนั้นแกสิ้นสุดมหกรรมกระทำผมเอาไว้แค่นั้น

แต่มันเพิ่งแค่ตอนต้นเทอมของ ม.5 เทอมสองเอง ผมยังต้องเจอแกอีกเยอะ มีอยู่วันหนึ่ง แกเรียกผมให้ไปช่วยทำความสะอาดบ้าน วันนั้นผมค่อนข้างรู้งานผมเลยถอดเสื้อทำงานบ้านให้แก แกเข้าห้องน้ำไปสักพัก พอแกเปิดประตูห้องน้ำ แกก็เรียกผมเข้าไปในห้องน้ำ

แกสั่งให้ผมยืนอยู่หน้ากระจก ให้ผมยืนมองตัวเองแล้วถามคำถามแปลกๆ “มึงมีกล้ามตั้งแต่ยังหนุ่มเลยนะ ชอบเล่นกล้ามเหรอ”

“เปล่าครับ ไม่ถึงกับชอบ แต่ก็มีออกกำลังกายบ้าง แต่ส่วนใหญ่มันจะมาจาก ... เออ”

“มาจากอะไรเหรอ” แกถามผม ผมไม่ได้มองหน้าแกเลย เพราะผมมองแต่ตัวเองในกระจก มองหน้าตาตัวเอง มองรูปร่างตัวเอง

“มาจากการถูกลงโทษครับ ผมมักจะถูกลงโทษบ่อยๆ ให้วิ่งรอบสนามบ้าง วิดพื้นบ้าง ขนของแบกของบ้าง”

แกถามผมต่อ “โดนลงโทษบ่อยๆ ชอบไหม”

ผมเงียบ ผมไม่กล้าตอบคำถามที่มันเจาะลึกแบบนี้ ผมได้แต่คิดในใจว่า มึงอยากทำอะไรก็ทำไปสิวะ มายืนถามกูหาหอกอะไร

แต่แกก็ยังถามผมต่อ “มึงชอบโดนลงโทษใช่ไหม” ผมยังนิ่งอยู่ อาจารย์ศิลปะเลยตะโกนเสียงดัง “ตอบกูมาสิไอ้สัตว์ มึงชอบถูกลงโทษใช่ไหม”

ผมนิ่งไปสักพักก่อนจะตอบว่า “ใช่ครับ”

มันถามผมต่อ “มึงชอบถอดเสื้อไหม” ผมรู้สึกหงุดหงิด ไม่รู้ว่าเขาจะถามผมทำไม แต่พอผมเงียบ เขาก็กระตุ้นผมอีก “ตอบกูมาสิไอ้เหี้ย”

“ชอบครับ”

เขาถามผมต่อ “ทำไมถึงชอบถอดเสื้อล่ะ”

ผมตอบเร็วขึ้น “รู้สึกเป็นลูกผู้ชายขึ้นครับ”

เขาเงียบไป ก่อนจะถามผมอีก ขณะนั้นผมไม่ได้มองหน้าเขาเลย ผมมองแต่หน้าตัวเองในกระจก การตอบคำถามแบบนี้ขณะมองหน้าตัวเองทำให้ผมรู้สึกแปลกๆ ว่าเขาจะทำกับผมแบบนี้ทำไม

“ชอบถอดเสื้อโชว์กล้ามเหรอ” เขาถามอีก ผมยังเงียบอยู่ ตอนนี้เขาเดือดดาลขึ้น ใช้มือซ้ายจิกผมของผม ส่วนมือขวาฟาดหน้าอกผมอย่างแรง “ตอบสิไอ้สัตว์ ชอบไหม”

“ชอบครับ” ผมตอบ

เขายังเอามือจิกผมของผมอยู่ “แล้วเมื่อกี้ที่กูฟาดหน้าอกของมึงล่ะ มึงชอบไหม”

“ชอบครับ” ผมตอบเร็วขึ้น

“มึงชอบกล้ามอกของมึงไหม”

“ชอบครับ” ผมตอบไปตามความรู้สึก

เขาพูดกลับมาว่า “แต่กูเกลียดว่ะที่กล้ามมันสวยเกิน กล้ามอกมึงต้องเจอแบบนี้”

เขาไปหยิบถังพลาสติกที่มีฝาปิดมา เขาเปิดฝาออก ผมจึงรู้ว่าเป็นถังขี้ เขาเอามือขวาโกยกองขี้ขึ้นมา แล้วละเลงทั่วหน้าอกผม กลิ่นของมันเหม็นมาก ผมตกใจมากที่เขากล้าทำถึงขนาดนี้ ผมรู้สึกว่าเขาเหยียดหยามความเป็นมนุษย์ของผม ถึงผมจะเคยถูกลงโทษแบบโหดแค่ไหน ผมก็ไม่เคยรู้สึกว่าถูกเหยียดหยามเท่ากับครั้งนี้ ความรู้สึกถูกเหยียดหยามกระตุ้นให้ควยผมลุกได้ ซึ่งผมไม่เคยรู้มาก่อน

ผมได้แต่ถามเขาในใจว่าทำไมถึงกล้าทำกับผมถึงขนาดนี้ ตอนนี้เขาเงียบไม่ถามอะไรผม เขาหันไปควักขี้ขึ้นมาอีก เขาพูดว่า “ส่วนหน้าหล่อๆ ของมึงต้องเจอแบบนี้” แล้วก็เอาขี้ละเลงหน้าของผม ผมมองหน้าของตัวเองที่ถูกละเลงขี้จนเต็มหน้า

โอย มันไม่เจ็บ แต่ผมรู้สึกด้อยค่า รู้สึกถูกเหยียดหยามเหมือนสัตว์ ควยผมลุกชัน เขาบอกให้ผมนอนลงไปแล้วชักว่าว ตอนนั้นผมชักว่าวด้วยอารมณ์เหมือนสัตว์เป็นครั้งแรก ผมมองหน้าอกที่เต็มไปด้วยขี้ แล้วรู้สึกว่าเขาทำอย่างนี้กับผมได้ยังไง ขี้ที่หน้าส่งกลิ่นเหม็นมาก เหม็นจนแทบทนไม่ได้ ขณะที่ผมกำลังชักว่าวอยู่นั้น อาจารย์ศิลปะเดินมาเยี่ยวรดผมซ้ำ แกตั้งใจเล็งเยี่ยวให้ตรงกับหน้าอกและหน้าของผม ผมรู้สึกเหมือนถูกนายพรานเอาหอกแทง ถ้าเยี่ยวอย่างเดียวยังพอทน

แต่นี่ผมโดนเยี่ยวใส่หลังจากถูกละเลงขี้ ความเป็นมนุษย์ของผมหมดไปโดยสิ้นเชิง ผมรู้สึกเหมือนเป็นสัตว์ที่เขาจะทำอะไรกับผมก็ได้ สัตว์ล่ำๆ ที่ตอบสนองตัณหาของครูศิลปะที่เป็นมนุษย์ หลังจากวันนั้นผมรู้สึกว่าผมมองโลกเปลี่ยนไปจากเดิม ความฮึกเหิมต่างๆ ยังอยู่ แต่ผมรู้สึกด้อยค่า และมองตัวเองไม่ต่างจากสัตว์หรือตัวเหี้ย อาจารย์ศิลปะทำให้ผมเป็นแบบนี้ เขาไม่ต้องทำให้ผมเจ็บปวดทางกาย แต่เขาเน้นไปที่จิตใจที่อยู่ก้นบึ้ง เขาซัดเข้ามาตรงกลางใจ โดยไม่ต้องลงทัณฑ์ทรมานอะไรผมมากนัก ตอนนั้นผมรู้สึกกลัวเขามาก กลัวมากกว่าใครทั้งหมดที่เคยเจอ

แต่ก่อนผมโดนลงโทษโหดๆ เจ็บๆ แต่ผมยังรู้สึกสุข สนุก สะใจตามไปด้วย แต่ครั้งนี้ผมรู้สึกด้อยค่าอย่างแรง มันก็สะใจนะ แต่ก็รู้สึกว่าตัวเองไม่ใช่มนุษย์ มันมีความรู้สึกหลายอย่างที่ซ้อนกันอยู่ และยากจะแบ่งแยกได้อย่างชัดเจน ผมรู้สึกว่าอาจารย์ศิลปะเป็นเหมือนนายของผมและเขาก็ทำให้ผมรู้สึกว่าผมเป็นสัตว์เลี้ยงของเขา แถมดันเป็นสัตว์เลี้ยงที่แสนเชื่องเสียด้วย

ตลอด ม.5 เทอม 2 ผมตกอยู่ในโลกของเขา ผมรู้สึกว่าเขามีอิทธิพลกับผมมากจนผมลืมคนอื่นไปหมดสิ้น ขนาดผมรู้สึกถึงเพียงนี้ แต่พอผมได้รับโน้ตจากเขา ให้ผมไปหาตอนเย็นวันเสาร์ ถึงจะรู้สึกกล้าๆ กลัว แต่ผมก็ไป ผมไปหาเขาตามนัด โลกใหม่ของผมมันไม่ได้เต็มไปด้วยความซาดิสต์อย่างเดียว แต่มันเต็มไปด้วยความวิปลาสด้วย

ผมไปหาเขาตามนัดที่บ้านในเย็นวันเสาร์ เขาพาผมขึ้นรถไปที่โรงแรมเล็กๆ ผมงงมากว่าเขาจะพาผมมาที่โรงแรมทำไม ที่นี่มีอะไรงั้นเหรอ ตอนแรกผมยังไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น เขาพาผมไปในห้องเล็กๆ ห้องหนึ่ง

“ถอดเสื้อผ้ามึงออกให้หมด”

ผมไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น แต่เมื่อมาแล้วผมยินดีทำตามคำสั่งของเขาโดยที่ผมไม่ขัดขืน ผมถอดเสื้อผ้าออกจนหมดไม่เหลือ ยืนเปลือยเปล่าต่อหน้าเขา เขาเพ่งมองผมและเรือนร่างของผม

“หน้าตาของมึงดูคมสัน รูปร่างกำยำ นี่แหละที่เหมาะจะเป็นสัตว์เลี้ยงของกู”

แค่ได้ยินคำว่าสัตว์เลี้ยง ควยผมก็แข็งโด่แล้วเพราะคำๆ นี้มันให้อารมณ์กับผมมาก การเป็นสัตว์เลี้ยงล่ำๆ ของใครสักคนครั้งหนึ่งในชีวิตถือเป็นประสบการณ์ที่หาไม่ได้ง่ายๆ

ครูศิลปะให้ผมเอามือไพล่หลังแล้วเขาก็เอากุญแจมือแบบของตำรวจใช้มาใส่ที่ข้อมือผม พอผมถูกพันธนาการที่มือเรียบร้อยแล้ว เขาจึงเอาปลอกคอหมามาใส่ที่คอผม พร้อมกับเตรียมดึงโซ่

“ออกไปพบโลกใหม่หน่อยนะ”

ผมตกใจมาก เขาจะให้ผมเดินออกไปนอกห้องด้วยสภาพนี้เหรอ กลัวก็กลัว กล้าก็กล้า ควยก็แข็ง ผมงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ยังเดาไม่ถูกว่าเขาวางแผนอะไรไว้ เขาพาผมเดินออกจากห้องเล็กๆ ของโรงแรมเพื่อไปสู่ห้องที่ใหญ่กว่า ผมคาดว่าน่าจะเป็นห้องจัดเลี้ยง

ผมได้ยินเสียงคนจำนวนมากดังอยู่ในห้องนั้น ผมได้ยินแต่เสียงผู้ชาย พวกเขากินเหล้าโห่ร้องกันเสียงดังมาก เมื่อประตูเปิดออก เขาผลักผมเข้าไปข้างใน ไม่นะ ไม่ ผมไม่อยากเข้าไป ผมไม่อยากประจานตัวเองในสภาพนี้

ห้องข้างในเป็นห้องจัดเลี้ยงที่ไม่ใหญ่มากนัก มีโต๊ะประมาณ 10 โต๊ะ คนไม่น่าจะเกิน 50 คน ทุกคนล้วนแต่เป็นผู้ชาย พอเขาพาผมเข้าไปทุกคนหันมามองผมเป็นตาเดียว พวกเขาทุกคนอยู่ในชุดมางานเลี้ยงมีผมคนเดียวที่เปลือยเปล่าและถูกพันธนาการ

การเปลือยต่อคนแปลกหน้าหลายคนเช่นนี้ จริงๆ แล้วก็เป็นสิ่งที่ผมโหยหาแต่เมื่อมันเกิดขึ้นจริง มันช่างตื่นเต้นเสียนี่กระไร ผมตื่นเต้นมากจนไม่รู้ว่าจะทำตัวยังไง เขาพาผมไปทักทายกับโต๊ะแรก แน่นอนที่ผมไม่มีรอยยิ้มออกมาจากปากเลย

คนในโต๊ะแรกตะโกนถามเขา “สัตว์เลี้ยงตัวใหม่ของมึงเหรอเนี่ย ดีกว่าตัวเก่าเยอะนะ ทั้งล่ำทั้งหล่อ ตัวเก่าของมึงมันไม่ได้เรื่องเลย ไม่หล่อและยังผอมเหมือนคนขาดอาหารอีก”

คนในโต๊ะแรกที่ไม่พูดอะไร เอามือมาลูบไล้หน้าอกผม ส่วนอีกคนเอามือลูบแผ่นหลังไปมา ยังไม่มีใครกล้าทักทายน้องชายที่กำลังโด่ของผม การถูกลูบไล้เหมือนกับสัตว์แบบนี้ ช่างกระตุ้นอารมณ์ผมได้ดีทีเดียว มันทำให้ผมรู้สึกว่าผมเป็นสัตว์เลี้ยงตัวจริงเสียงจริง

ในห้องจัดเลี้ยงนั้นเปิดแอร์เย็นมาก มันทำให้ผมเริ่มหนาว พอเดินไปโต๊ะที่สอง เขาก็ทักทายคนไปทั่ว โต๊ะนี้มีคนใจถึงพอที่มาจับควยของผม เขากำควยและลูบไล้ท่อนลำโดยรอบ

“ไอ้หมอนี่ควยใหญ่ดีนะ ปลายควยก็สวย เป็นสัตว์เลี้ยงชั้นดีจริงๆ ว่างๆ กูจะขอยืมหน่อย”

“ขอยืมกันได้ด้วยเหรอ” ผมนึกในใจ ดูเขาจะปลาบปลื้มกับสัตว์เลี้ยงตัวใหม่ของเขามาก เขานำไปโชว์ตามโต๊ะต่อๆ ไป มีหลายคนลูบไล้ตัวผม จับควยผม เอานิ้วสอดเข้ามาในรูตูดของผม มันทำให้ผมสยิวเพราะพวกเขาทุกคนเป็นคนแปลกหน้าแต่กล้าทำกับผมทุกคน อารมณ์แบบนี้มันโคตรวิปลาสเลยแต่มันก็ตื่นเต้นมากๆ ด้วยเช่นกัน

พอไปถึงโต๊ะ ผมไม่มีสิทธิ์นั่งบนโต๊ะ ผมต้องนั่งคุกเข่าอยู่ข้างๆ เขาและก้มลงกินข้าวในชามอาหารหมา อาหารในชามก็ไม่ใช่ข้าว แต่ดันเป็นอาหารหมาของจริง ที่ผมต้องทนฝืนกินมันเข้าไปด้วยความหิว

ไม่นานนักมีคนขึ้นไปบนเวที เขาพูดขึ้นว่า “เชิญเอาสัตว์เลี้ยงของคุณมาขึ้นเวที ดูสิว่าคืนนี้ใครจะประมูลมันได้”

พอได้ยินเสียงนั้น อาจารย์สอนศิลปะมาดึงตัวผมขึ้นไปข้างบน ผมรั้นเพราะไม่กล้าขึ้นบนเวทีในสภาพควยโด่ พอเห็นผมดื้อ แกจึงฟาดหน้าอกผมไปสองสามที เพียงเท่านี้ผมก็เลยกล้าขึ้นไปบนเวทีกับแก

พอขึ้นมาอยู่บนเวทีจริงๆ ผมกะว่าคนในห้องนั้นน่าจะประมาณ 30 คนได้ อายุอานามก็น่าจะสัก 35-55 ปี ทุกคนจ้องผมเป็นตาเดียว อาจารย์ศิลปะพูดผ่านไมค์ว่า “วันนี้ผมจะให้ทุกท่านประมูลสัตว์เลี้ยงของผมครับ ท่านจะเอามันไปทำอะไรก็ได้ เป็นสิทธิ์ของท่าน ผมจะโชว์สรรพคุณให้ท่านดูก่อน” หลังจากนั้น เขาก็เอามือมาฟาดหน้าอกผมแรงมากประมาณสองสามที “นี่ครับ อกหนาและแข็งแกร่ง มีร่องรอยของการผ่านสมรภูมิมาบ้าง” แล้วเขาก็เอามือฟาดไปที่หน้าท้องแบนราบของผม “หน้าท้องมันแกร่งครับ และทนทายาทเอามากๆ” เขาหมุนตัวผมไปข้างหลังแล้วฟาดไปตรงกลางหลัง 1 ที เสียงดังสะใจมาก “แผ่นหลังกว้างและแกร่ง” เขาจับผมหันหน้าอีก ทีนี้เอามือมาฟาดที่ควย “ควยมันใหญ่ครับ ท่านจะทรมานควยทรมานไข่หรือจะทำให้น้ำแตกเลยก็ได้ ไอ้นี่ผมลองมาแล้ว น้ำเยอะมากๆ”

พอบรรยายสรรพคุณผมเสร็จ ก็ถึงขั้นตอนการประมูลซึ่งก็ไม่มีอะไรยุ่งยาก ขณะพวกเขาประมูลกัน ด้วยความตื่นเต้นทำให้ควยผมแข็งอยู่ตลอดเวลาจนอาจารย์ศิลปะต้องชักว่าวให้ผมเป็นช่วงๆ จนท้ายที่สุดคนที่ประมูลผมได้คือนายทหารท่านหนึ่ง ท่านพาหารรับใช้ของท่านมาด้วยสองนาย ผมถูกประมูลไปในราคาประมาณเกือบ 4 พันบาท ซึ่งสมัยนั้นถือว่าแพงมาก

พออาจารย์ศิลปะส่งตัวผมให้กับสมุนทั้งสองของนายทหาร มันสองคนก็เริ่มเข้าเรื่อง โดยมันนำผมไปรายงานต่อนายมันว่า “เราจับทหารเชลยได้หนึ่งนายครับผม”

นายทหารมองดูผมใกล้ๆ ตั้งแต่หัวจรดเท้า ตอนนั้นร่างกายผมยังเปลือยเปล่าเหมือนเดิม นายทหารพูดขึ้นว่า “นำมันไปทรมานที่ฐานของเรา” แล้วผมก็ถูกนำขึ้นรถไปยังค่ายทหารแถวนั้น

รถที่นายทหารนำมาเป็นรถใหญ่ ด้านหลังมีผ้าใบปิดมิดชิด นายทหารนั่งหน้าคู่พลขับ ส่วนผมถูกจับไปแขวนด้านหลังรถ สมุนสองตัวของนายทหาร ก็ผลัดกันเล่นงานผมหลายรูปแบบแต่ส่วนใหญ่แล้ว พวกมันจะชอบชกท้อง จนหน้าท้องผมแดงกล่ำไปหมด

พอมาถึงค่าย ผมถูกพาลงไปที่ยิมเก่าของโรงฝึก ผมตกใจมากที่พอถึงที่นั่นมีทหารอีกนับสิบรอทรมานผมอยู่ ตอนนั้นผมยังอยู่ในสภาพเปลือยเปล่า ถูกใส่กุญแจมือไว้ด้านหลัง พอเข้าไปในยิมเก่า เห็นเศษแก้งแตกเรียงรายเต็มไปหมด

“นอนคว่ำลงไปไอ้สัตว์” มันสั่งผมให้นอนคว่ำไปบนเศษแก้วพวกนั้น “มึงค่อยๆ แถกตัวไปไอ้เหี้ย” มันสั่งให้ผมเอาตัวแถกไปในกองเศษแก้ว ตอนนั้นเสียงควยกับไข่จะโดนบาด

ตอนเอาหน้าอกแถกไป เสียวมากเลยครับ กลัวหัวนมโดนบาดด้วย แถกไม่แถกเปล่า พวกมันยังเอาตีนมากระทืบที่กลางหลังผมเป็นระยะแถมยังมีกระทืบไปตรงก้นด้วย คงกะให้ควยโดนเชือดเต็มที่ ผมคิดอยู่ในใจว่าพวกมันซาดิสต์มาก ไม่ห่วงผมเลยสักนิด พอพ้นด่านแรกไปแล้ว พวกมันจับผมไปมัดขึงพืดเป็นรูปตัว x ตรงกำแพงแล้วเอาที่หนีบกระดาษเหล็กสีดำตัวใหญ่มากมาหนีบที่หัวนมผมทั้งสองข้างพร้อมกับหนีบตรงเนื้อหน้าอกและหน้าท้องอีกหลายจุด หลังจากนั้นจึงเอาถุงพลาสติกที่ใส่น้ำเตรียมไว้เกือบร้อยถุงมาปาใส่ผม พวกมันปาแข่งกัน บางคนตะโกนว่า “ถ้าใครปาแล้วทำให้ที่หนีบสีดำกระเด็นหลุดออกมาได้เยอะๆ นายจะให้รางวัลอย่างงาม”

นายทหารที่ประมูลผมมาไม่ทำอะไรผมเลย เขานั่งดูอย่างเดียวและตอนนี้เขาเอาควยตัวเองออกมาชักแล้ว

ตอนไอ้พวกนั้นปาถุงน้ำ เวลาโดนตรงที่มีตัวหนีบอยู่มันเจ็บแบบสะใจผมมากๆ ยิ่งปามาแล้วตัวหนีบกระเด็นหลุดนี่ สะใจโคตรๆ เพราะมันเจ็บแบบกระอักจริงๆ พอปากันจนสาแก่ใจ พวกมันก็จับผมมัดห้อยหัวเหนือถังน้ำใหญ่ที่เป็นกระจกใส ผมคาดว่ามันคงสั่งทำพิเศษ ตอนนั้นยังมีตัวหนีบสีดำติดตามหน้าอกหน้าท้องผมอยู่เยอะเหมือนกัน

พวกทหารหย่อนตัวผมลงในถังน้ำ ตอนนั้นผมหายใจแทบไม่ออกแต่มันก็ยังไม่ดึงตัวผมขึ้น ผมเริ่มดิ้น พวกมันเลยดึงขึ้น พอดึงขึ้นมาแป๊ปเดียว ก็หย่อนหัวผมลงในถังอีก ตอนหลังๆ นี้โหดขึ้น เพราะขณะหย่อนหัวผมลงในถังน้ำ แม่งยังเอาไม้หน้าสามมาฟาดผมอีก

ตอนนั้นใจแป้วมาก นึกว่าจะไม่รอดซะแล้ว มีอยู่ครั้งนึงมันดึงผมขึ้นมาให้พักหายใจนานหน่อย ตอนนั้นผมเห็นนายทหารชักว่าวอย่างเมามันส์ มันคงมีอารมณ์มากเมื่อเห็นคนถูกทรมานจนเกือบหายใจไม่ออก

หลังจากทรมานเอาหัวผมลงน้ำจนสาแก่ใจแล้วมันก็เปลี่ยนใหม่ คราวนี้มันดึงตัวหนีบออกจากตัวผมหมดแล้วช่วยกันจับผมมัดแบบแขนชูขึ้น เท้าลอยเหนือพื้นแล้วมันก็เลื่อนอีกถังนึงมาอยู่ใต้ตัวผม

ครั้งนี้รู้สึกนายทหารจะอินมากเพราะเขาชักว่าวเร็วเสียจนเหมือนเตรียมแตก พอได้จังหวะสมุนก็หย่อนตัวผมลงในถังนั้น มันค่อยๆ หย่อนลงช้าๆ พอเท้าผมแตะของเหลวในถังนั้น ผมจึงรู้ว่าเป็นถังโคลน ก่อนตัวผมจะถูกหย่อนลงไปในถังโคลนจนมิด ผมเห็นนายทหารท่านนั้นชักว่าวอย่างเมามันส์ คงสาแก่ใจเขาที่เห็นผมในสภาพนั้น ผมถูกหย่อนลงไปในถังโคลนจนมิดหัว ตอนนั้นอึดอัดมาก นึกว่าจะตายเสียแล้ว ทรมานแบบสุดๆ หายใจไม่ออก

พอตัวผมถูกดึงขึ้นจากถังโคลน ผมจึงค่อยรู้สึกว่ามีอากาศเข้ามาปะทะจมูก ตอนนั้นร่างกายผมเปรอะเปื้อนไปด้วยโคลนทั้งตัว หายใจสะดวกได้ไม่นานผมก็ถูกหย่อนลงในถังโคลนอีก พอมิดหัว และเหมือนอยู่นานกว่าครั้งแรก นรกก็ถามหาเลยทีเดียว

ตอนนั้นเกือบจะขาดอากาศหายใจแล้วจึงถูกดึงขึ้นมา พอผมโผล่หัวพ้นมาได้ไม่นานก็เหลือบไปเห็นว่านายทหารน้ำแตกแล้ว เขาครางดังมาก พวกสมุนเอาสายยางมาฉีดล้างโคลนออกจากตัวผม มันส่งผ้าขนหนูเก่าๆ ให้ผมผืนนึงและไล่ผมออกจากค่ายทหารโดยให้ผมหาทางกลับเอง

ประสบการณ์ครั้งนั้นดูโหดและวิปลาสมากๆ หลังจากนั้นผมกับอาจารย์ศิลปะค่อยๆ ห่างเหินกันไป ผมเดาว่าถ้าถึงจุดพีคของแต่ละคนแล้ว พวกเขาจะห่างๆ เราไปเองเพื่อไปหาเหยื่อคนใหม่แต่ผมรับรองได้ว่าไม่มีนักเรียนคนไหนจะชอบทัณฑ์ทรมานเท่าผมอีกแล้วเพราะสำหรับผม มันซึมอยู่ในกระแสเลือด

ช่วงปลายๆ เทอมสองของ ม.5 เงียบมาก รด. ก็ไม่ค่อยมีอะไร ตอนปี 2 มักเรียนในห้อง ไม่ค่อยมีอะไรแปลกใหม่มาก อาจารย์แผน อาจารย์กำพล ไอ้ต้นก็เงียบๆ ไป ไอ้สมิงกับกลุ่มซาดิสต์ของมันก็ใกล้จะจบ ม.6 แล้ว ส่วนไอ้โรมก็สอบเทียบ ม.6 ได้ ผมเองก็เบื่อๆ เพราะโรงเรียนดูเงียบมาก ผมเองก็สอบเทียบได้แต่เอนท์ไม่ติด ตอนนั้นในห้องเหลือนักเรียนแค่ 10 ว่าคนเอง ผมก้าวขึ้นมาเป็นหัวหน้าห้องตอน ม.6 อย่างเต็มภาคภูมิ

ขณะกำลังเริ่มเซ็งเข้าขั้น ก็แอบรู้มาว่าทางโรงเรียนรับอาจารย์พละเข้าใหม่มา 2 คน และทั้งสองคนจะมาสอนห้องผมวิชายูโด ตอนแรกแปลกใจมากว่าทำไมนักเรียนเหลือน้อยแล้วยังหาครูมาเพิ่มตั้งสองคน ภายหลังมารู้ว่าเป็นแผนของอาจารย์แผนกับอาจารย์กำพลนี่เอง

แกสองคนก็เหมือนนายทหารที่ผมเพิ่งเจอไป พอนานๆ เข้าก็อยากเป็นแค่คนคอยบงการ ไม่จำเป็นต้องลงมือเอง อีกทั้งห้องผม 10 กว่าคนที่เหลือนั้นมีแต่หล่อๆ ล่ำๆ ทั้งนั้น (ม.6/3) และผมยังรู้มาอีกว่าอาจารย์พละคนใหม่ทั้งสองก็คือลูกศิษย์ของทั้งสองคนนั่นเอง เป็นลูกศิษย์ที่เคยโดนทั้งสองคนลงโทษโหดมาแล้วทั้งคู่ แค่รู้เรื่องพวกนี้ควยผมก็เริ่มแข็งเกร็งขึ้นมาอีกครั้ง

ผมก็เลยมีแก่จิตแก่ใจออกกำลังกายเต็มที่เพื่อทำให้ร่างกายแกร่งถึงขีดสุดไปพบกับประสบการณ์ตอน ม.6 เทอมแรกของผมในประสบการณ์ฯ ตอนที่ 29 เลยนะครับและซาดิสต์วิปลาสคงต้องจบตอนอย่างบริบูรณ์

พอถึง ม.6 เทอม 1 ผมกับเพื่อนที่เหลือก็ต้องเรียนยูโดกัน เทอมนี้หมวดพละรับอาจารย์ใหม่ 2 คน เป็นอาจารย์หนุ่มทั้งคู่และทั้งคู่เคยเรียนกับ อ.แผนและ อ.กำพลมาก่อน ผมก็ไม่รู้ว่าเขาใช้เส้นกันยังไง แต่ท้ายที่สุดทั้งคู่ก็ได้มาสอนยูโดห้องผม

อาจารย์คนแรกที่สอนเป็นหลักแกชื่อโสภณ หน้าตาคล้าย เคน ภูภูมิมาก เพียงแต่จะล่ำกว่าและหล่อกว่า แกเป็นครูหนุ่มที่โหดมาก ผมไม่เคยเห็นแกยิ้มเลยแม้สักครั้งเดียว ส่วนอีกคนชื่อ อ.ภาคภูมิ คนนี้จะดูบู้ๆ หน่อย หน้าตาท่าทางจะคล้ายๆ กอฟ อัครา อมาตยกุลแต่อาจจะมีกล้ามมากกว่าและแกร่งกว่า

ชั่วโมงแรกก็ยังไม่มีอะไรมาก เพียงแต่ อ.โสภณจะดุๆ หน่อยและจะไม่ยอมให้ใครใส่เสื้อยืดแล้วค่อยสวมชุดยูโดทับ

“เป็นตุ๊ดหรือไงวะ ต่อไปนี้จะออกกฎเลยว่าให้มีแต่เสื้อยูโดเท่านั้น ห้ามใส่เสื้อตัวอื่นมาเด็ดขาด คนเราเกิดเป็นลูกผู้ชายก็ต้องทำตัวให้สมกับเป็นลูกผู้ชาย”

ส่วน อ.ภาคภูมิยังเงียบอยู่ แกได้ยิน อ.โสภณพูดอย่างนั้น แกก็ยิ้มๆ ซีนต่อไปเป็นการฝึกท่านอนตบเบาะ โดยให้ทุกคนนอนหงายชันเข่า แล้วก็ใช้ฝ่ามือทั้งสองข้างตบไปที่เบาะข้างลำตัว

“ทำให้มันแข็งแรงกันหน่อย ใครทำเหยาะแหยะ เดี๋ยวมีรางวัลให้”

ผมอยากรู้ว่ารางวัลคืออะไรเลยแกล้งทำเต็มที่ สักพัก อ.โสภณก็พูดขึ้นว่า “กูเห็นแล้วว่ามี 2 คนหมกเม็ด คือมึงกับมึง” แกชี้มาที่ผมและก็ชี้ไปที่ไอ้มารถ (ชื่อเต็มมันชื่อสามารถ) เพื่อนที่ผมไม่ค่อยคุ้นนัก อ.โสภณพูดต่อว่า “รางวัลของมึง 2 คนก็คือไม่ต้องทำแล้ว” ผมยังงงกับความคิดของเขา อ.โสภณยังพูดต่อว่า “และกูก็จะให้รางวัลกับคนที่ตบเบาะดี นั่นก็คือมึง” เขาชี้ไปทางไอ้ยักษ์ จริงๆ มันไม่ได้ชื่ออย่างนี้หรอกแต่เนื่องจากมันตัวใหญ่ เพื่อนๆ ก็เลยเรียกมันว่าไอ้ยักษ์ ไอ้ยักษ์มันชอบโชว์พาวเสมอ

“มึงสองตัวลุกมาด้วย” เขาชี้มาที่ผมกับไอ้มารถ ตอนนั้น อ.ภาคภูมิเดินไปยกแท่นไม้แบนๆ มาแท่นหนึ่ง เขาเอามาวางบนเบาะยูโด “มึงลองไปนอนบนแท่นซิ” อ.โสภณสั่งไอ้ยักษ์ พอไอ้ยักษ์ไปนอนบนแท่น อ.โสภณก็เดินมาใกล้ผมกับไอ้มารถ เขากระชากเสื้อยูโดของผมกับไอ้มารถออกอย่างเร็วจนทำให้เราสองคนเปลือยท่อนบน

“มึงสองคนไปนอนข้างๆ มันคนละฟาก”

ผมพอจะนึกออกแล้วว่าเขาจะทำอะไร เขาให้ไอ้ยักษ์ลองทำท่าตบเบาะและให้ผมกับไอ้มารถจัดท่านอน เอาให้หน้าอกผมสองคนตรงกับฝ่ามือของไอ้ยักษ์พอดี พอทุกอย่างเข้าที่ อ,โสภณก็สั่งให้ไอ้ยักษ์ตบเบาะ ไอ้ยักษ์ออกแรงเต็มที่ แต่จริงๆ มันไม่ได้ตบเบาะหรอก มันตบหน้าอกผมกับไอ้มารถมากกว่า

“สะใจไหมวะมึง” อ.โสภณตะโกนถามไอ้ยักษ์

“สะใจมากเลยครับ” ไอ้ยักษ์ตอบเสียงดัง

อ.ภาคภูมินึกสนุก “จริงอ่ะ ขอกูลองมั่งดิ”

พูดจบ อ.ภาคภูมิก็ถอดเสื้อออก เผยให้เห็นกล้ามท้องแกร่งๆ กับกล้ามอกหนาๆ เป็นมัดกล้ามที่น่าลูบไล้มาก อ.ภาคภูมิมานอนแทนไอ้ยักษ์ เขานอนตบเบาะแบบเต็มที่ ทุกครั้งที่ฝ่ามือของเขาโดยหน้าอกผมกับไอ้มารถ มันดังไม่รู้ว่าเป็นกี่เท่าของไอ้ยักษ์ ดูท่า อ.ภาคภูมิจะสะใจจริงๆ แกเลยนอนตบเบาะแบบไม่หยุด

เพื่อนๆ ที่เหลือก็ดูสะใจกันมากที่ผมกับไอ้มารถโดนแบบนี้ แกทำอยู่นานจนสาแก่ใจจึงหยุด อ.โสภณพูดต่อว่า “ต่อไปจะสอนวิดพื้นแบบยูโดให้ เขาเรียกกันว่า judo push-up” เขาจะคอยบอกแล้วให้ อ.ภาคภูมิทำให้ดูเป็นตัวอย่าง

อ.ภาคภูมิลงไปทำท่าวิดพื้นท่าเตรียมแต่ก้นโด่งแล้วเขาก็ทำท่าแบบช้อนตัวลงไปจนอกแอ่นขาตึงแล้วก็ดึงตัวกลับมาทำท่าวิดพื้นก้นโด่งเหมือนเดิมนับหนึ่ง แกทำให้ดูตั้ง 10 กว่าครั้ง เป็นการวิดพื้นที่โชว์กล้ามอกและกล้ามแขนของเขาได้ดีมาก ตอนนั้นผมหลงใหลมัดกล้ามของ อ.ภาคภูมิมากจนมองตาค้าง และตัวผมก็ไม่รอดสายตาของ อ.โสภณไปได้

“ไอ้ถอดเสื้อมาลองทำให้เพื่อนๆ ดูซิ” อ.โสภณหมายถึงผมเพราะตอนนั้นไอ้มารถใส่เสื้อยูโดของมันแล้วแต่ผมยังนั่งถอดเสื้ออยู่ คงทำให้ อ.โสภณเกิดหมั่นไส้ผมขึ้นมา แต่กว่าจะลุกได้ผมกลับลุกช้าเพราะมัวแต่มองกล้ามอกของ อ.ภาคภูมิ ถึงเขาจะวิดพื้นเสร็จแล้ว แต่เขาก็ยังไม่สวมเสื้อ เป็นเหตุให้ อ.โสภณหงุดหงิดกับผมตั้งแต่ชั่วโมงแรก “เอ้า ให้ลุกออกมายังช้าอีก เดี๋ยวโดนดีหรอกมึง”

ผมรีบลุกออกไปทำท่าวิดพื้นแบบก้นโด่งแล้วค่อยๆ ช้อนตัวขึ้นจนอกแอ่นขาตึง พอทำท่านั้น อ.โสภณตะโกนบอกว่า “ค้างไว้อย่างนั้นก่อน” พูดจบเขาก็เดินมายืนตรงหน้าผม ก้มลงมาแล้วก็ฟาดหน้าอกผมเต็มแรงขณะทำท่านั้นอยู่