ความลับ

ไม่นึกไม่ฝันจริง ๆ ครับ ที่ผมได้มีโอกาสเข้ามาทำงานที่ A Coffee Bar แห่งนี้

มองย้อนกลับไปเมื่อสี่ปีก่อนตอนที่ร้านกาแฟ A Coffee Bar แห่งนี้เปิดตัว มันกลายเป็นกระแสอย่างรวดเร็ว จากรสชาติของกาแฟที่เป็นเอกลักษณ์ และไอเดียในการตกแต่งร้านที่แตกต่างจากร้านกาแฟอื่น ๆ ซึ่งทางร้านใช้เป็นจุดขายสำคัญในการเจาะตลาดเพื่อเรียกลูกค้ากลุ่มใหม่ ๆ ที่ต้องการความแปลก แตกต่าง อย่างมีสไตล์ ให้เข้ามาเป็นลูกค้า เพียงไม่นานหลังเปิดตัวมันจึงทำให้ร้านกาแฟเล็ก ๆ แห่งนี้ถูกพูดถึงอย่างมากในสังคมออนไลน์ คนจำนวนมากเข้ามาที่ร้านเพื่อถ่ายรูป เซลฟี่ และเผยแพร่พร้อมติดแฮชแท็กชื่อร้าน จนกลายเป็นการส่งต่อและเรียกลูกค้ากลุ่มใหม่ ๆ ให้หลั่งไหลเข้ามาในร้าน จนไม่นานมันก็กลายเป็นร้านกาแฟชื่อดังแห่งยุคที่ใคร ๆ ก็ต้องเคยมาสักครั้ง

แต่อีกจุดขายสำคัญที่ทางร้านไม่ได้ตั้งใจจะใช้เป็นจุดขาย แต่มันกลับกลายเป็นกระแสจนทำให้ทางร้านต้องหันมาชูสิ่งนี้เป็นจุดขายหลักอีกอย่างหนึ่งนั่นคือ เจ้าของร้าน คนหนุ่มรุ่นใหม่วัยยี่สิบแปดปีที่มีความคิด ความฝัน และสามารถทำให้มันเป็นความจริงขึ้นมาได้ คุณอธิตย์ ชายผู้เป็นเจ้าของตัวอักษร A ในชื่อร้าน ชายผู้เป็นแรงบันดาลใจให้ผมวางเป้าหมายในการทำงานทันทีทั้งที่ยังเรียนไม่จบ วิธีคิด และมุมมองของคุณอธิตย์ที่ผมได้อ่านผ่านบทสัมภาษณ์ มันทำให้ผมชื่นชมและหลงไหลเขาเป็นอย่างมาก มันทำให้ชายหนุ่มมาดขรึม สุขุม และหล่อเหลาอย่างเขา ยิ่งดูหล่อเพิ่มยิ่งขึ้นไปอีก คุณอธิตย์กลายเป็นเป้าหมายสำคัญที่ลูกค้าสาว ๆ อยากมาเจอ มาถ่ายรูปเซลฟี่ด้วย เพื่อเอาไปอวดในสังคมออนไลน์

ผมนั่งดูรูปคุณอธิตย์ที่ลูกค้าสาว ๆ ลงเฟสบุ๊กและแท็กผ่านมาทางร้าน ทุกวัน ทุกวัน ทุกวัน มันยิ่งเพิ่มความหลงไหลในตัวคุณอธิตย์มากขึ้นไปอีก

จนมาถึงวันที่ผมได้มีโอกาสนั่งสัมภาษณ์งานโดยมีคุณอธิตย์เป็นคนให้สัมภาษณ์ มันไม่ใช่เรื่องยากเลยที่ผมจะตอบคำถามให้เขาประทับใจ เพราะผมศึกษางานของที่นี่มาเป็นอย่างดีตลอดสี่ปีที่ผ่านมา แต่ขณะถูกสัมภาษณ์ผมก็อดตื่นเต้นไม่ได้อยู่ดี เพราะมันเป็นครั้งแรกที่ผมมีโอกาสได้พูดคุยกับคุณอธิตย์แบบตัวต่อตัว อย่างใกล้ชิด

แล้วผมก็ได้เข้ามาทำงาน ในตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการ

ทุกวันนี้ A Coffee Bar ไม่ได้เป็นเพียงร้านกาแฟอีดต่อไป แต่มันขยายกลายเป็นธุรกิจขนาดกลางที่มีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง มีสาขานับสิบสาขาทั่วเมือง และมีแพลนที่ขยายไปตามหัวเมืองใหญ่ ๆ อีกด้วย คุณอธิตย์ทุกวันนี้ไม่ได้ออกหน้าในการทำประชาสัมพันธ์ และขึ้นไปนั่งบริหารงานอย่างเต็มตัว ปล่อยหน้าที่ในการโฆษณาร้านกับคนรุ่นใหม่ ๆ ที่เป็นผู้ดูแลแต่ละสาขาย่อยแทน

และผู้จัดการที่เป็นผู้กุมบังเหียนสาขาย่อยเหล่านี้นี่แหล่ะ ที่เป็นเจ้านายโดยตรงของผม

นายอาทร ชายวัยสี่สิบห้า หน้าตาท่าทางเบื่อหน่ายโลก ไม่มีความกระตือรือร้น มีแต่การทำผลงานเอาหน้า และผลงานที่ทำก็มาจากสองมือของลูกน้องอย่างพวกผมนี่แหล่ะ ผมล่ะเกลียดนายอาทรที่ไม่มีความเอื้ออาทรนี่จริง ๆ ถ้าไม่ใช่เพราะมันคืองานที่ผมเลือกที่จะทำเพราะมีคุณอธิตย์เป็นแรงบันดาลใจ ผมคงเดินจากองค์กรเพราะคนอย่างนายอาทรนี้ไปแล้ว

ผมเห็นพฤติกรรมความชั่วร้ายของนายอาทรหลายอย่าง แต่อยู่ในภาวะน้ำท่วมปากพูดไม่ได้ ผู้ดูแลสาขาที่ส่วนใหญ่เป็นสาว ๆ หน้าตาดีโดนนายอาทรเอารัดเอาเปรียบและด่ากราดยามที่ทำงานไม่ได้ตามเป้าที่วางไว้ แต่เรื่องเหล่านี้ไม่เคยไปถึงหูคุณอธิตย์ พนักงานทุกคนยอมทนกับพฤติกรรมของนายอาทรเพราะผลงานที่ดีของเขาในสายตาของคุณอธิตย์ ยิ่งในทุกมื้ออาหารกลางวันที่คุณอธิตย์มักออกไปทานกับนายอาทรเสมอ ๆ แม้บางมื้อจะมีพนักงานชายจากแผนกต่าง ๆ ผลัดเปลี่ยนเวียนหน้าไปด้วย แต่ทุกคนก็รู้ว่าถึงความสนิทสนมของคุณอธิตย์กับนายอาทร และรู้ว่านายอาทรนั้นเส้นใหญ่ขนาดไหน มันยิ่งทำให้ไม่มีใครกล้าเสี่ยงเปิดเผยเรื่องของนายอาทรกับคุณอธิตย์

แต่คนมันทำอะไรไว้เยอะ มันเลยเจองานเข้าได้สักวันเป็นเรื่องธรรมดา

หัวหน้ากลุ่มผู้ดูแลร้านส่งเอกสารสำคัญมาให้นายอาทรเซ็นต์อนุมัติด่วน แต่นายอาทรกลับลืมจนสร้างความเสียหายทางธุรกิจ นายอาทรให้ผมปกปิดความผิดโดยการทำลายเอกสารที่เป็นหลักฐานที่จะโยงมาถึงตัวเขา และทำเหมือนว่าตัวเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือต้องรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้น จนพนักงานดูแลร้านทั้งแผนกโดนเล่นงานทุกคน ที่เลวร้ายที่สุดคือเป็นนายอาทรเองที่เป็นคนลงดาบจัดการสาว ๆ เหล่านี้ด้วยตัวเอง ผมเฝ้ามองความเลือดเย็นนี้ด้วยความเดือดดาล และคิดว่านายอาทรน่าจะถึงเวลาโดนจัดการได้เสียที ผมจึงนำหลักฐานที่นายอาทรคิดว่าถูกทำลายแล้วไปส่งให้หัวหน้าฝ่ายดูแลร้าน และมันกลายเป็นสิ่งที่ผู้ดูแลใช้เล่นงานนายอาทร

คุณอธิตย์เห็นหลักฐานนั้นแล้ว และเขาเรียกนายอาทรเข้าไปพบโดยด่วน

แล้ววันที่พลิกโลกของผมก็เกิดขึ้น

ผมถูกเรียกให้ไปเป็นพยานทางฝ่ายนายอาทร โดยผมต้องยืนยันว่าไม่เคยเห็นเอกสารดังกล่าวมาก่อนหน้านี้ และมันถูกทำขึ้นเพื่อป้ายความผิดมาที่เขา นายอาทรมองหน้าผมเหมือนจะพยายามอ่านใจผมว่าผมจะอยู่ฝ่ายไหน จัดการกับเรื่องนี้อย่างไร ทั้งที่เมื่อเห็นเอกสารนายอาทรน่าจะรู้ว่าผมมีส่วนกับเรื่องนี้ด้วย เพราะมันป็นเอกสารที่เขาส่งมาให้ผมทำลายเองกับมือ

แล้วสุดท้ายผมก็ต้องพูดความจริง ผมทนพูดโกหกต่อหน้าคุณอธิตย์ไม่ได้จริง ๆ

ผมมองหน้าคุณอธิตย์ เหลือบเห็นสีหน้าและแววตาที่ผิดหวังของเขาที่มองมาทางผม มันทำให้ผมใจหาย สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น เขาผิดหวังที่นายอาทรคนสนิทไม่ได้ดีอย่างที่เขาคิด หรือเขาผิดหวังที่ผมออกมาเปิดเผยเรื่องนี้

“พูดออกมาได้สักทีนะมึง” นายอาทรเปล่งเสียงคำรามกร้าวออกมา พร้อมกับลุกขึ้นย่างสามขุมตรงมาที่ผม ผมรู้สึกเหมือนตัวหดเหลือนิดเดียว ได้แต่คิดสงสัยว่าทำไมนายอาทรถึงกล้าทำสิ่งเหล่านี้ต่อหน้าคุณอธิตย์

“ถึงเวลาของมึงแล้วที่จะได้รู้ความจริง” นายอาทรผละจากที่ผมนั่งเดินตรงปาคุณอธิตย์ มันเดินอ้อมไปข้างหลังแล้วกวาดสายตามองจากด้านหลังคุณอธิตย์แล้วมองขึ้นไปบนเพดาน

“มึงเห็นอะไรมั้ย”

ผมส่ายหน้า ไม่เข้าใจความหมายที่นายอาทรพยายามสื่อ

“มึงไม่เห็นสายเชิดหุ่นเหรอ มึงไม่เห็นเหรอว่าไอ้คนที่นั่งอยู่ตรงนี้มันไม่ใช่มนุษย์ แต่มันคือหุ่นเชิดของกูเอง หุ่นที่กูจะสั่งซ้ายหันขวาหันไปทางไหน ยังไงก็ได้”

ผมงงงันกับสิ่งที่นายอาทรกล่าว พอเหลือบไปสบสายตาคุณอธิตย์ ผมเห็นเหงื่อเขาออก แม้จะนั่งอยู่ในห้องแอร์อันเย็นฉ่ำ

“ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ ทุกคำที่มันพูด ทุกสิ่งที่มันทำ มันออกมาจากสมองของกูทั้งหมด กูคนที่ไม่มีหน้ามีตา กูจึงต้องจ้างมันมารับหน้าที่เป็นร่างทรงของกูไง A ที่มึงเห็นในชื่อร้านไม่ได้ย่อมาจากชื่อมัน แต่มันย่อมาจากชื่อกูนี่ ทีนี้มึงเข้าใจรึยัง”

ผมตกตะลึงจังงังกับความจริงที่ได้รู้ ใช่ ผมคิดว่ามันเป็นความจริงเพราะคุณอธิตย์ไม่เอ่ยคำพูดอะไรเพื่อปฏิเสธสักคำ เขาเอาแต่นั่งทำตาตื่นและเหงื่อตกอยู่บนเก้าอี้

“งั้น ถ้าไอ้นี้มันเป็นแค่หุ่น เราจะจัดการอะไรกับมันก็ได้ใช่มั้ยครับ” ผมถามออกไปทั้งที่เสียงยังสั่น ๆ

“กูรู้ว่ามึงหมายถึงอะไร ไอ้พวกตุ๊ดที่แม่งเข้ามาทำงานที่นี่ ร้อยทั้งร้อยแม่งก็หวังควยไอ้อธิตย์ทั้งนั้น กี่ราย กี่รายไม่เคยผิดปากกู กูก็เห็นแววมึงตั้งนานแล้ว ถ้ามึงฉลาดที่จะรักษาผลประโยชน์องคค์กรมากกว่านี้ มึงคงได้เสพสุขไปนานแล้ว นี่ต้องมารับเดนต่อจากคนอื่น ๆ”

“ไม่เป็นไรครับ แค่นี้ฝันผมก็เป็นจริงแล้ว”

“แต่กูขอบอกไว้อย่างนะ ว่าไอ้นี่มันเป็นแค่หุ่นเชิด เพราะฉะนั้นมันเย็ดมึงไม่ได้หรอก เป็นหน้าที่มึงที่ต้องเย็ดมัน”

“ได้ครับ ผมก็อยากเย็ดมันเหมือนกัน เย็ดให้หายแค้นที่ถูกหน้าหล่อ ๆ คารมดี ๆ ของมันหลอกลวงมานานหลายปี”

“ได้ งั้นมึงไปเตรียมตัว กูจะพามึงออกไปกินข้าวกลางวัน”

แล้วฉากที่ทุกคนในสำนักงานได้เห็นคือ คุณอธิตย์เดินมาที่ห้องของนายอาทร ชงนนายอาทรไปกินข้าว และนายอาทรก็พ่วงผู้ช่วยอย่างผมไปด้วยเป็นครั้งแรก ผมเห็นสายตาของบรรดาตุ๊ดแต๋วในสำนักงานที่มองมาอย่างรู้ทัน บางคนหน้าเชิ่ดที่ผมกำลังจะรับเดนต่อจากมัน บางคนส่งสัญญาณรับผมเข้ากลุ่มเข้าพวกอย่างเป็นทางการ

ระหว่างนั่งรถไลน์ของผมก็เด้ง กลุ่มไลน์นึงเชิญผมไปเข้าร่วม

‘กลุ่มทลายประตูหลังไอ้อธิตย์’

ผมรับคำเชิญเข้าร่วมกลุ่มทันที ตลอดสี่ปีที่ผ่านมากลุ่มนี้มีสมาชิกยี่สิบสองคนแล้ว

ความลับดำมืดที่ซ่อนอยู่ข้างหลังคุณอธิตย์สุดหล่อ ผู้มีความคิดอันเฉียบคม เป็นไอดอลของใครต่อใคร เป็นสิ่งที่สุดเหลือเชื่อสำหรับผู้ชายธรรมดาอย่างผมจริง ๆ

ผมได้รับการรับน้องโดยรุ่นพี่ต่างส่งคลิปที่ได้มีโอกาสกระหน่ำเย็ดคุณอธิตย์มาให้ดู

“ยินดีต้อนรับเข้ากลุ่ม” ข้อความจากพี่ที พี่แผนกประชาสัมพันธ์

“พี่เป็นคนแรกที่ได้เย็ดไอ้อธิตย์ พี่เย็ดแบบไม่ยั่งเพราะโกรธมากที่ถูกหลอก หลังจากนั้นพี่ก็เชิ่ดใส่มันทันที แต่อย่างว่าพี่ทำอย่างนั้นกับมันที่ทำงานไม่ได้ ฝากน้องถ่ายรูปรูตูดมันมาให้พี่ดูหน่อยสิว่าตอนนี้ตูดมันบานขนาดไหนแล้ว”

รถของคุณอธิตย์แล่นเข้าม่านรูดไร้ระดับ คนขับรถกุลีกุจอลงมาเปิดประตูด่นนายอาทร ขณะที่เจ้านายของมันกลับไม่ได้รับการใส่ใจ ผิดจากที่ผมเห็นตอนเช้ายามรถมาจอดหน้าสำนักงาน หน้าของนายคนขับมองหน้าคุณอธิตย์ด้วยหางตา อย่างไม่ให้ค่า

“เข้าไปด้วยมั้ยไอ้ดำ” นายอาทรถาม

“ไม่ล่ะครับเจ้าบ่าย เบื่อแล้ว” นายดำคนขับพูดเซ็ง ๆ ขณะที่นายอาทรหัวเราะขัน ๆ ขณะที่พนักงานของโรงแรมม่านรูดตรงเข้ามารับทิปจากนายอาทรเป็นเงินก้อนใหญ่

“รู้ใช่มั้ยว่าต้องทำอย่างไร”

“ครับนาย ผมรูดซิปปากมิดเลย ว่าแต่มึงนี่ตูดไม่เคยว่างเลยนะ เห็นหน้าออกสื่อนี่อย่างโก้ ตัวจริงรับแขกเยอะจนกะหรี่ยังอาย น้องก็เต็มที่เลยนะ โอกาสทองครั้งเดียว เอาให้คุ้ม” เสียงหัวเราะประสานกันของนายอาทร คนขับรถ และพนักงานโรงแรมดังขึ้นพร้อมกัน

“รับรองผมจะทำให้ไอ้อธิตย์มันลืมผมไม่ลงเลย”

แล้วผมก็ลากไอ้อธิตย์เข้าไปในห้องของโรงแรมม่านรูด โดยมีคุณอาทรถือกล้องเดินตามเข้ามาบันทึกภาพเหตุการณืประวัติศาสตร์ของผม พอผมเข้ามาในห้องผมก็ต้องตกตะลึง ห้องทั้งห้องเต็มไปด้วยภาพของไอ้อธิตย์ ที่ออกตามสื่อต่าง ๆ ภาพความคิดของผมแล่นไปถึงวันแรกที่ผมได้รู้จักมัน ไม่นึกเลยว่าผมหลงชอบกะหรี่มานานแสนนาน

“หมดเวลาปั้นหน้าเป็นคนเก่งแล้ว ไอ้กะหรี่อธิตย์”

ไอ้อธิตย์ไม่ได้ขยับอะไร ผมรู้ว่ามันไม่ได้ตั้งใจมารับงานนี้แบบต้องการควบตำแหน่งกะหรี่ แต่พอขึ้นหลังเสือแล้วมันลงไม่ได้ อนาคตมันจะดับวูบไปอย่างไรถ้ามีคนรู้ความจริง แล้วทุกอย่างมันก็เลยเถิดจากจุดตั้งต้น

ผมเข้าไปหามัน เริ่มจากการแลกกลิ้นกับมัน แล้วเริ่มปลดเปลื้องเครื่องแต่งกายของทั้งตัวมันและผมออกอย่างช้า ๆ ทั้งหมดเกิดขึ้นโดยมีกล้องของนายอาทรบันทึกภาพไว้

เหตุการณ์ต่อจากนั้นคือการเอาคืนของผมต่อไอ้อธิตย์

ขณะกำลังนั่งรถกลับผมส่งรูปหนึ่งเข้าไปยังกลุ่มไลน์

นายอธิตย์นอนอ้าขาแหกดากให้ผมถ่ายรูป มันตามมาด้วยข้อความไลน์กระหน่ำจนเกิดเสียงแจ้งเตือนดังระงมสำนักงานจนคนแปลกใจ

แล้วรูปถ่ายและคลิปของผมที่ได้กระหน่ำเย็ดไอ้อธิตย์ก็ถูกส่งไปในกลุ่ม ตามมาด้วยข้อความที่กระหน่ำไลน์อีกครั้ง

นายอธิตย์เดินนำพวกผมเข้ามาในสำนักงาน ท่ามกลางสายตาบางคู่ที่รู้เห็นอะไรมากกว่าที่ควรรู้ ผมไม่รู้ว่าเขาทนมันได้อย่างไร พี่ทีรีบกุลีกุจอไปเอาน้ำเข้าไปเสิร์ฟในห้องของไอ้อธิตย์ เป็นการเสิร์ฟน้ำที่นานมากผิดปกติ และก่อนที่พี่ที่จะออก เสียงไลน์ก็ดังเตือนขึ้นพร้อมกันอีกครั้ง

พี่ทีนั่งคุกเข้าถ่ายรูปเซลฟี่กับไอ้อธิตย์ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้กรรมการบริหารในท่าชันเข่าโชว์ดากและท่อนควย ภาพต่อมาไอ้อธิตย์โม้คควยให้พี่ทีที่ยืนยิ้มแป้นสุขสำราญใจ

พี่ทีเดินออกจากห้อง หันมาสบตาส่งยิ้มให้กับผม เรารู้กันว่านี่คงไม่ใช่ครั้งสุดท้ายที่เราจะได้สนุกกับเรือนร่างและความเป็นชายของไอ้อธิตย์ ผู้บริหารกำมะลอ