สิ้นลาย...ยอดขุนพล

แต่งโดย หมึกหมด

ห้องโถงใหญ่หน้าจวนแม่ทัพถูกสาดส่องด้วยแสงจันทร์สว่างเรืองรองยามนิทรามืดสนิท ในเรือนอันกว้างขว้างแห่งนี้ถูกประดับตกแต่งอย่างเลิศหรู สมแก่เกียรติของผู้เป็นเจ้าของซึ่งกำลังหลับไหล ด้วยใบหน้าวัย 30 ปี ช่างสง่างดงามเกินบุรุษทั่วเขตแคว้นแดนต้าเหลียนแห่งนี้ พระพักตร์คมคายได้รูปจนสตรีทั้งหลายยังต้องแอบชายตามอง ดวงเนตรปิดสนิทพร้อมขนตาที่ยาวโค้งละมุน จมูกสูงโด่งเป็นสันดูงามตายิ่งนัก ริมฝีปากสีดอกเหมย เรียวบางและหยักโค้งกระจับได้รูป ขนคิ้วริ้วเรียงรายพร้อมด้วยไรผมยาวดกดำตัดกับสีผิวที่ขาวสะอาดผ่องแผ้ว พร้อมด้วยมัดกล้ามที่แม้นถูกปกคลุมด้วยชุดผ้าแพรก็ยังสามารถเห็นเป็นรูปร่างที่ชัดทุกสัดส่วน ช่วยขับให้ชายผู้นี้ช่างดูน่าเกรงขามไม่ต่างจากพญาราชสีห์

ชายผู้เป็นเจ้าของร่างฉกรรจ์อันงดงามจนเป็นที่ต้องตาต้องใจของสตรีทั่วหล้าและเป็นที่อิจฉาในหมู่บุรุษเพศด้วยกันเองนี้ มีนามว่าแม่ทัพซู่เหวิน ยอดขุนผลผู้ปกครองใหญ่แห่งแคว้นต้าเหลียน ผู้เป็นเจ้าของจวนแม่ทัพใหญ่แห่งนี้ ผู้เป็นที่เคารพรักของชาวต้าเหลียนทุกผู้ทุกคน ผู้เป็นเจ้าชีวิตของทหารและนางสนมน้อยใหญ่ในจวนแห่งนี้

บัดนี้แม่ทัพซู่กำลังหลับสนิท ชายหนุ่มตกอยู่ในห้วงความฝันว่าตนกำลังเสพสมอยู่กับหญิงงามรูปหนึ่ง ส่วนบนของหญิงสาวถูกปลายลิ้นท่านแม่ทัพบรรจงไล่เลียตั้งแต่เนิ่นนมไปถึงยอดประทุมถันอย่างกระหื่นกระหาย ขณะเดียวกันปลายนิ้วก็เค้นคลิ้งส่วนล่าง บี้บดเม็ดสาวอย่างเมามัน

แม้เป็นเพียงความฝัน แต่ท่อนลึงค์ขนาดเชื่องกลับตอบสนองดีเยี่ยม ลำควยขนาด 8 นิ้ว อวบเต่งและผงาดล้ำชูชันขึ้นดันกางเกงของท่านแม่ทัพ น้ำใสๆ ไหลออกจากปลายควยเป็นระยะจนกางเกงเปียกชุ่มเป็นดวงๆ

ในเพลาเดียวกันนั้นเอง... มีกลุ่มควันลอยล่องไหลเข้าห้องบรรทมอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับกลุ่มชายรูปร่างกำยำล่ำสัน 3 คนลอบเข้ามาในห้องบรรทมที่กำลังจะกลายเป็นห้องทรมานในอีกไม่ช้า

ชายทั้งสามสวมชุดสีดำสนิทกลมกลืนกับบรรยากาศภายในห้อง เคลื่อนไหวรวดเร็ว ไร้สิ้นเสียง ไม่นานก็เข้ามายืนอยู่หน้าแท่นบรรทมใหญ่ ม่านที่กั้นอยู่ถูกชายทั้งสามแหวกออก เผยให้เห็นบุรุษที่แม้หลับสนิทอยู่ก็ยังดูออกว่าหล่อเหลาเกินกว่าชายใดจะเทียบได้ งามจนโจรชุดดำทั้งสามตกอยู่ในภวังค์ช่วงขณะ

เมื่อได้สติคืนมา จู่ๆ โจรชุดดำทั้งสามก็เข้าจับแม่ทัพซู่ คนหนึ่งใช้แขนรัดคอจากด้านหลัง อีกสองเข้าขนาบจับแขนซ้ายขวา พลันแม่ทัพซู่ก็หลุดออกจากฝันที่กำลังเคลิบเคลิ้มอยู่ทันที

“พวกเจ้าเป็นใคร บังอาจมากที่เข้ามาในห้องบรรทมของข้า!!!” แม่ทัพซู่คำรามลั่น

“ท่านแม่ทัพนี่ปากดีจริงนะ พวกข้าจะคอยดูว่าท่านจะไปได้สักกี่น้ำ ฮ่าๆๆๆ” หนึ่งในโจรสวนกลับ

แม้ร่างกายแม่ทัพซู่จะแข็งแรงสมชายชาตินักรบ แต่เมื่อถูกชายฉรรจ์รูปร่างกำยำมากถึงสามคนจับไว้เช่นนี้ อีกทั้งก่อนหน้านี้โจรทั้งสามได้ปล่อยควันพิษที่ทำให้ผู้ที่สูดหายใจเข้าไปหมดเรี่ยวแรงแล้ว ก็เป็นการยากที่แม่ทัพใหญ่จะดิ้นหลุดออกจากการควบคุมได้

เมื่อเห็นทีว่าไม่สามารถจัดการพวกโจรต่ำช้านี้ได้ จึงร้องตะโกนเรียกทหารที่เฝ้าอยู่นอกห้องบรรทมทันที

“ทหาร!!! มีผู้บุกรุก” แม่ทัพซู่ตะโกนออกไปอย่างสุดเสียงพร้อมกับเรี่ยงแรงที่น้อยลงทุกที

สิ้นเสียงแม่ทัพใหญ่ บานประตูก็ถูกถีบออกอย่างแรง เผยให้เห็นองครักษ์เอกของท่านแม่ทัพยืนสง่างามสมกับเป็นทหารมือขวาของแม่ทัพซู่

“หลี่เฉิน!!! ช่วยข้าด้วย” แม่ทัพร้องพร้อมกับดิ้นรนหวังให้พ้นจากพันธนาการของชายชุดดำทั้งสาม แต่ดูเหมือนว่าจะไม่เป็นผล

ภาพที่เห็นตอนนี้คือแม่ทัพถูกล็อคคอและแขนทั้งสองข้างจากทั้งด้านหลัง ส่วนทางด้านหน้าปรากฏให้เห็นท่อนแกนชายลำเขื่องตั้งผงาดดันกางเกงจนแทบทะลุ น้ำใสไหลเยิ้มเปรอะเปื้อนกางเกง มองแล้วช่างน่าเย้ายัวและสมเพชยิ่งนัก

หลี่เฉินเยื้องย่างเข้ามาในห้องอย่างใจเย็น มุมปากแสยะยิ้มอย่างพอใจ แววตาเปี่ยมไปด้วยความแค้นที่สั่งสมไว้มานาน

“หลี่เฉิน เหตุใดจึงยืนอยู่เฉยๆ เล่า รีบมาช่วยข้าสิ” แม่ทัพถามอย่างฉงน

“เจ้ารู้ไหม? คุณชายซู่ ข้าไม่ใช่เป็นเพียงเด็กกำพร้าที่ท่านเก็บมาฝึกทหารหรอกนะ แท้จริงแล้วข้าคือบุตรชายคนเดียวแห่งตระกูลเฉิน ผู้ปกครองแคว้นเหอเป่ย เมืองที่ข้าเกิดและเป็นเมืองเดียวกับที่ท่านทำลายไปพร้อมกับท่านพ่อและท่านแม่ของข้า เมื่อ 15 ปีที่แล้ว” หลี่เฉินกัดฟันตอบ

ย้อนกลับไปเมื่อ 15 ปีที่แล้ว ซู่เหวินเข้ากำราบกบฏแค้วนเหอเป่ยที่กระด้างกระเดื่องกับองค์ฮ่องเต้ ในการศึกครั้งนั้น ซู่เหวินได้สังหารแม่ทัพใหญ่และมเหสีแห่งแคว้นเหอเป่ยไปเพื่อไม่ให้เป็นเสี้ยนหนามแก่องค์จักรพรรดิ ไม่นึกว่าทั้งสองจะมีลูกชายหลงเหลืออยู่ด้วย ในตอนนั้นหลี่เฉินเป็นเพียงเด็กกำพร้าไร้หัวนอนปลายเท้า เดินเร่ร่อนอยู่ในตัวเมืองต้าเหลียนจนบังเอิญได้พบกับซู่เหวินขณะออกตรวจเยี่ยมราษฎร

เด็กน้อยถลาเข้ามาหาเค้า อ้อนวอนขอร้องให้รับเค้าเป็นทหารชั้นเลวในจวน ตั้งแต่นั้นหลี่เฉินก็ตั้งใจฝึกวรยุทธ์อย่างดีมาตลอด ไม่นึกว่าจะพัฒนาตัวเองจนกระทั่งได้เป็นทหารเอกมือขวาของเขา มาบัดนี้คนที่เขาไว้ใจที่สุดกลับเป็นคนที่เครียดแค้นเขาอย่างสุดหัวใจ...

“เจ้าพลากทุกอย่างไปจากข้า วันนี้ข้า -หลี่เฉิน- จะขอทวงคืนเจ้าอย่างสาสม ฮ่าๆๆ” หลี่เฉินหัวเราะอย่างผู้ชนะ ทิ้งให้คุณชายซู่เหวินกังวลกับชะตากรรมที่กำลังจะมาถึงในไม่ช้า

แม่ทัพซู่กำลังสับสนอยู่ได้ไม่นาน หลี่เฉินก็ถือกระบองไม้ไผ่ที่มีผ้าอุดปิดรูด้านบนไว้ คุณชายซู่รู้สึกหวาดหวั่นขึ้นมา ไม่ว่าในกระบอกไม้ไผ่นั้นจะบรรจุสิ่งใดเอาไว้ สิ่งนั้นต้องไม่ใช่เรื่องที่ดีกับเขาเป็นแน่

“พวกเจ้าจับมันมัดไว้กับเสากลางห้องโถง เอามือไพล่หลังไว้และเอาผ้าอุดปากมันไว้” หลี่เฉินออกปากสั่งลูกน้อง พร้อมกับอธิบายต่อทันที

“ในกระบอกไม้ไผ่นี้บรรจุแมงมุมแม่หม้ายดำไว้นับสิบตัว พิษของมันรุนแรงยิ่ง หากแม้นโดนต่อยเข้าครั้งเดียว หลอดเลือดทั่วร่างกายจะขยายขนาดทันที ต่อมาหากไม่ได้รับยาแก้พิษ เนื้อจะเริ่มเน่าเหม็น สมดุลหยินหยางจะเสียไป เจ้าของร่างจะตายในที่สุด ฮ่าๆๆ” หลี่เฉินพูดพร้อมกับหัวเราะร่า

ทันใดนั้นเหมือนรู้งาน ลูกน้องทั้งสามก็กระชากกางเกงแพรไหมของซู่เหวินออกจนขาดไม่เหลือชิ้นดี บัดนี้ท่อนควยขนาด 8 นิ้วของท่านแม่ทัพได้รับการปลดปล่อย ตั้งลำผงกราวกับหลุดพ้นจากความคับแคบภายในกางเกง ขนาดควยสร้างความตะลึงให้แก่บุรุษผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก

พินิจไล่มาตั้งแต่ส่วนหัวควยที่บานร่า สีแดงคลำเล็กน้อยแสดงถึงการผ่านศึกกับนางสนมในจวนที่มีอยู่นับร้อยนาง เงี่ยงควยชัดเจนโดยรอบพร้อมเข้าทะลวงข้าศึกอย่างไม่ไว้หน้า ลำควยทั้งยาวทั้งใหญ่ อวบจนมือกำไม่มิด พวงไข่ห้อยยานโต้งเตงสั่นไหวไปกับแรงดิ้นของผู้เป็นเจ้าของ เนิ่นหัวหน่าวอุดมไปด้วยขนดกดำหยิกยาวไล่ตั้งแต่โคนควยไปจนถึงใต้สะดือ สอดรับกับมัดกล้ามท้องที่ขึ้นเป็นลอนสวย ดูแล้วเจริญตาเหลือเกิน

“ข้าไม่คิดเลยว่าท่านแม่ทัพจะพกอาวุธล่ำค่าเช่นนี้ไว้กับตัว” หลี่เฉินกล่าวน้ำเสียงระคนอิจฉา

“พวกเจ้าต้องตาย ข้าจะสั่งประหารพวกเจ้าเจ็ดชั่วโคตร!!!” ซู่เหลิงคำรามจนสมุนทั้งสามผงะถอยหลัง

“ข้าจะใช้ของดีที่ท่านมีมาแต่เกิด ย้อนกลับทำลายตัวท่านเอง เตรียมตัวให้ดีเถอะ ไอ้คุณชายซู่ นับจากนี้ไปทุกอย่างจะไม่มีวันเหมือนเดิมอีก บอกลาบรรพบุรุษ เกียรติยศ อำนาจ ศักดิ์ศรีลูกผู้ชาย นางสนมในจวน ลูกเมียทั้งหลายและประชาชนไพร่ฟ้าของท่านได้เลย” หลี่เฉินพูดอย่างไม่แยแส

ทันใดนั้นเอง หลี่เฉินก็ดึงจุกผ้าที่ปิดปากกระบองไม้ไผ่ออก แม่ทัพซู่ตกใจแต่ยังคงกัดฟันรักษาไว้ซึ่งมาดนักรบ ไม่แสดงอ่าการอ่อนแอให้ผู้ใดเห็น ไม่นานนักแมงมุมแม่หม้ายดำถูกบรรจงเทลงบนควยของท่านแม่ทัพอย่างสนุกสนาน เหล่าแมงมุมเมื่อเผชิญกับแสงสว่างก็แตกตื่น บางก็กัดท่อนควยคุณชายซู่ บางก็กัดลูกอัณฑะทั้งสอง บางส่วนไต่ไล่ขึ้นไปตามมัดกล้ามราวกับหาที่หลบภัย ส่วนที่กัดอยู่ก็เร่งระบายพิษออกเป็นกระแสจนเจ้าของควยรับรู้ได้ บังเกิดความร้อนผ่าวๆ จากภายใน

ยอดขุนพลอย่างซู่เหวินได้แต่อดทนขบฟันแน่น ผ่านไปเพียงชั่วครึ่งข้อยาม บัดนี้เนื้อตัวซู่เหวินไม่เหลือเค้าท่านแม่ทัพใหญ่แห่งต้าเหลียนแล้ว ผิวกายมีรอยแดงเป็นจ้ำขนาดเล็กกระจายไปโดยทั่ว

ที่น่าตกใจมากที่สุดคือลำควยที่บัดนี้ทั้งบวมทั้งช้ำ หัวควยบานทะโร่ยิ่งกว่าตอนแรก บานจนเต่งตึงเงาวับราวกับจะระเบิดได้ทุกเมื่อ เงี่ยงควยขึ้นรูปราวกับฟันเลื่อย เส้นเลือดขึ้นลำควยจนปูดโปน แม้แต่เส้นเลือดฝอยยังขยายแตกกิ่งก้านสาขากระจ่ายไปทั่วท่อนควย ขับให้ลำควยดูน่ากลัวปนน่าเกรงขามไปพร้อมกัน พวกไข่ใหญ่โตขึ้นกว่าเดิมเกือบ 2 เท่า สีควยตอนนี้ดำคลำจนน่ากลัว ปากควยมีน้ำใสไหลยืดทอดลงสู่พื้นเป็นสายยาว แม่ทัพซู่ตอนนี้ตกอยู่ในอำนาจพิษแมงมุมเรียบร้อยแล้ว

หากไม่ได้รับยาแก้พิษจากหลี่เฉิน เขาคงต้องจบชีวิตลงในสภาพน่าสมเพช สิ้นภาพนักรบผู้เกรียงไกรเป็นแน่

เหมือนห้วงเวลาผ่านไปอย่างยาวนานสำหรับแม่ทัพซู่เหวินที่บัดนี้ถูกมัดนั่งคุกเข่าตรึงติดกับเสากลางห้องบรรทม ไร้เสื้อผ้าอาภรณ์ เผยให้เห็นมัดกล้ามที่ได้จากฝึกรบอย่างหนักตั้งแต่สมัยวัยเยาว์ มัดกล้ามที่แม้นทหารชั้นเลวหรือนายกองใหญ่ยังต้องอิจฉา

ยิ่งถ้ารู้ว่าคุณชายแห่งตระกูลซู่มิใช่มีเพียงมัดกล้ามเท่านั้นที่ใหญ่สมส่วน แต่ยังมีแท่งบรรเลงรักที่บรรพบุรุษมอบให้คุณชายซู่มาตั้งแต่เกิด ก็คงอดริษยาในความสมบูรณ์แบบเพียบพร้อมของคุณชายซู่ไม่ได้

นึกแล้วก็สงสารนางสนมที่ต้องรับแท่งนี้เข้าไปในร่างตน ช่างน่าเสียดาย บัดนี้แท่งบรรเลงรักได้เปลี่ยนสภาพกลายเป็นแท่งหรรษาสำหรับพวกหลี่เฉินไปเสียแล้ว

“เจ้าจงฟังข้าให้ดี ไอ้คุณชายซู่ พิษแมงมุมนี้จะคั่งและสร้างความกำหนัดอย่างถึงที่สุด พร้อมทั้งแผดเผาควยเจ้าไปเรื่อยๆ จนกว่าเจ้าจะสิ้นชีพ ทางแก้มีเพียงวิธีเดียวเท่านั้น คือเจ้าต้องระบายพิษแมงมุมออกจากควย ทุกยามวอก เป็นเวลา 7 วัน หลังจากนั้นเจ้าต้องได้รับกระสินธุบุษราคัมทุกวัน ซึ่งข้าได้เตรียมไว้ให้เจ้าแล้วไม่ต้องห่วง หากเจ้ายอมเชื่อฟังข้า เจ้าจะรอด หากเจ้าขัดขืนดึงดัน เจ้าก็ตาย” หลี่เฉินอธิบายอย่างรวดเร็ว

ซู่เหวินได้แต่นั่งคุกเข่าตาแดงกล่ำ หายใจหอบถี่ มัดกล้ามแข็งเกร็งทุกสัดส่วน ท่อนควยบรรจุความร้อนดังลาวาจากพิษแมงมุม จนเขาต้องกระดกลำควยเพื่อหวังระบายความเจ็บปวดที่เกิดขึ้น ยิ่งเขากระดกท่อนควยมากเท่าไร น้ำหล่อลื่นสีใสและพิษแมงมุมสีดำก็ยิ่งไหลเยิ้มชโลมหัวควยและไหลย้อนไปทางลำควย ก่อนจะยืดหยดไหลนองกองบนพื้นห้องบรรทมของเขาเอง

“เป็นเยี่ยงไรบ้างคุณชาย หมดสภาพนักรบไปเลยนะ คงจะกำหนัดมากใช่หรือไม่ กระดกควยงึกๆ เลย ฮ่าๆๆ” หลี่เฉินพูดพลางหัวเราะไปกับลูกสมุนทั้งสาม

“เห็นแม่ทัพใหญ่แห่งแคว้นกำหนัดหนักเช่นนี้ ให้ข้าช่วยบรรเทาเถิดขอรับ” โจรชุดดำพูดพร้อมกับใช้มือจับลำควยของท่านแม่ทัพที่แข็งราวกับกระบี่เหล็ก

ทันทีที่ท่อนควยถูกสัมผัสก็บังเกิดความเสียวซ่านแก่ผู้เป็นนายเอาเสียมาก เสียวจนท่านแม่ทัพต้องโยกตัวขึ้นตามมือของนายโจรชั่วต่ำช้าเพื่อหวังซึมซาบความเสียวให้นานที่สุด

บัดนี้ซู่เหวินคิดเพียงว่าขอระบายความเจ็บปวดและความกำหนัดนี้ออกไปจากควยของตนให้ได้เสียก่อน อย่างน้อยขอมีชีวิตไว้แก้แค้นพวกใจทรามเหล่านี้ให้สาสมกับที่มันทำกับเขาในกาลภายหลัง ขอเพียงวันนี้รอดชีวิตได้เป็นอันพอ

“ซิ๊ดดด...อู้ยย..ข้าเสียวเหลือเกิน” แม่ทัพปล่อยเสียงเสียวเล็ดลอดออกจากริมฝีปากเรียวบางที่ห่อขยุมเป็นจีบสวยงาม

เมื่อไร้ซึ่งมือหยาบของโจร ซู่เหวินจึงจำใจต้องโยกสะโพกไปมา ดูคล้ายคนบ้าไร้สติกำลังกระเด้ากับอากาศในเรือนแห่งนี้

“ฮ่าๆๆๆ พวกเจ้าจงดูเอาเถิด ยอดขุนพลอย่างซู่เหวิน ใช้ชีวิตเยี่ยงราชา ถึงคราวกำหนัดแล้ว ช่างไม่ต่างอะไรจากเหล่าขอทานไร้บ้านสักนิด” หลี่เฉินมองอย่างสมเพช ในใจรู้ดีว่านี่เป็นเพียงการเริ่มต้นเท่านั้น ระหว่างที่คุณชายตระกูลซู่กำลังตกอยู่ในกามราคะอย่างน่าเวทนา

หลี่เฉินเหลือบไปเห็นกระบี่เล่มหนึ่งตั้งอยู่บนแท่นวางในห้องบรรทมนั้น ปอกกระบี่ประดับประดาด้วยอัญมณีสีแดงฉานระยิบระยับยามต้องแสงจันทร์ ลวดลายวิจิตรบรรจงงดงามยิ่งนัก หลี่เฉินยิ้มอย่างเจ้าเลห์ทันที

“นั้นคงเป็นกระบี่ประจำตระกูลซู่ที่สืบทอดกันมาช้านาน กระบี่ที่ร่วมรบกับตระกูลซู่ร่วม 500 ปี กระบี่พระราชทานจากฮ่องเต้ที่ไพร่ฟ้าทุกคนเคารพบูชา กระบี่ที่ฟาดฟันศัตรูมานับไม่ถ้วน ช่างเป็นบุญของข้ายิ่งนักที่ได้ยล”

หลี่เฉินไม่พูดเปล่า เดินไปหยิบกระบี่ออกจากแท่น

“จะ..เจ้า ห้ามแตะต้องกระบี่เล่มนั้นเด็ดขาด!!! แม้ข้าจะใช้กระบี่เล่มนั้นฟันพวกเจ้า ข้ายังเสียดายคม” ซู่เหวินรู้ดีว่ากระบี่นี้เป็นมหาศาสตราวุธที่ตกทอดจากรุ่นสู่รุ่น คนอย่าง

หลี่เฉินไม่คู่ควรกับกระบี่เล่มนี้แม้เพียงปลายเล็บ

“ไม่ควรคู่กับคมกระบี่อย่างนั้นหรือ?” หลี่เฉินทวนคำพูดซู่เหวิน พลันเริ่มรู้สึกโกรธขึ้นมา

และแล้วสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น หลี่เฉินใช้คมกระบี่ประจำตระกูลซู่ ลากผ่านขนดกดำรกทึบใต้สะดือถึงโคนควยของบุตรชายคนเดียวแห่งตระกูลเจ้าของกระบี่ ครั้นขนควยเนินหัวหน่าวของคุณชายซู่ก็ร่วงโรยโปรยลงสู่พื้น น้ำตาซู่เหวินรินไหลออกมาอย่างไร้การควบคุม

เหตุใดกระบี่สูงส่งเล่มนี้กลับต้องมาใช้ตัดขนควยของเขาอย่างน่าสมเพช หลี่เฉินจัดการใช้กระบี่วาดไปมาอย่างคล่องแคล่วเพื่อตัดขนให้แม่ทัพซู่อย่างเกลี้ยงเกลา ขนในที่ลับที่เขาแสนภาคภูมิใจในความเป็นชายวัยเจริญพันธุ์ บัดนี้แม่ทัพซู่ไร้ซึ่งขนแม้เพียงเส้นเดียว ดูเหมือนเด็กชายวัยเริ่มโตทุกอย่างยกเว้นขนาดควยมหึมาแท่งนี้ที่ช่วยยืนยันว่าเขาพร้อมผลิตลูกได้อย่างไม่จำกัด

“เจ้าว่าบรรพบุรุษของเจ้าจะว่าเช่นไร หากรู้ว่าคมกระบี่ชาตินักรบเล่มนี้ถูกนำมาใช้ตัดขนอัปรีย์ในร่มผ้าของเจ้า สะใจข้าเหลือเกิน ฮ่าๆๆๆ” หลี่เฉินกล่าวอย่างมีความสุข

“ท่านหลี่เฉินขอรับ มาถึงขนาดนี้แล้ว ข้าว่าจับไอ้ขุนศึกนี่โกนหัวเลยดีหรือไม่ ขอรับ?” โจรชุดดำเอ่ยถามผู้เป็นนาย

พูดไม่ทันสิ้นเสียง ผมสลวยดกดำของคุณชายซู่ก็ถูกหลี่เฉินจิกรวบขึ้นมาอย่างรุนแรงจนใบหน้าแหงนขึ้นมาตามแรงดึง สร้างความเจ็บปวดแก้แม่ทัพอยู่ไม่น้อย ไม่ทันไรคมกระบี่เล่มเดิมก็ฟาดผ่านเส้นผมที่ถูกรวบไว้ ร่วงหล่นสู่พื้นอย่างน่าเสียดาย ก่อนจะถูกตัดแต่งให้ดูไม่น่าเกลียดจนเกินไป

“ผมของเจ้าสั้นกุดราวกับนักโทษรอวันประหาร ช่างน่าขันเสียจริง อย่ากระนั้นเลยข้าไม่ใช่คนใจดำขนาดปล่อยให้เจ้าออกไปคุมกองทัพเยี่ยงนี้หรอก ประเดี๋ยวข้าจะเติมผมให้เจ้าเอง ไอ้ซู่เหวิน” หลี่เฉินกล่าว พลางเดินไปหยิบยางไม้ในตู้เก็บของที่อยู่ไม่ไกลนัก พร้อมกับราดน้ำยางเหนี่ยวสีใสลงบนหัวของซู่เหวิน ก่อนจะสั่งให้ลูกน้องปลดเชือกที่คล้องมือของคุณชายซู่ออกจนเป็นอิสระ ปลายกระบี่จี่เข้าที่คอของแม่ทัพพร้อมฟาดฟันทันทีที่อีกฝ่ายขัดขืน

“โกยขนควยหยิกยาวสีดำอัปรีย์ของเจ้าที่กองอยู่บนพื้นขึ้นมา แล้วโปรยลงไปบนหัวของเจ้าซะ!!!” หลี่เฉินออกคำสั่งอย่างโหดเหี้ยม สร้างความตะลึงแก่ผู้รับคำสั่งอย่างไม่เชื่อหู

บัดนี้หากเขาไม่ทำตามที่หลี่เฉินสั่ง คมกระบี่คงตรงเข้าปักคอหอยของเขาและสิ้นใจเป็นแน่ เขากลั้นใจกวาดขนหยิกดำที่เดิมเคยอยู่กับควยระหว่างขาทั้งสอง ขยี้ลงบนหัวกลางกระหม่อม ขนลับเชื่อมติดกับยางไม้ยากที่จะดึงออก ดูน่าขันคล้ายกับคนมีผมสั้นหยิกกระจายอยู่ทั่วหัว บัดนี้เกียรติยศของแม่ทัพอย่างซู่เหวินแทบไม่เหลือแล้ว แม้จะเป็นคนบ้าใบ้ไร้สติอย่างไรก็มิอาจตัดขนในที่ลับมาติดกลางกบาลในที่แจ้งแบบนี้

“ข้าจะตั้งชื่อผมใหม่ของเจ้าว่าอย่างไรดีนะ? เอาเป็นหมอยซู่เหวินดีไหม ชื่อซู่เหวิน แซ่หมอยฮ่าๆๆ” หลี่เฉินสนุกกับการตั้งชื่อใหม่ให้อดีตแม่ทัพใหญ่

“ลูกพี่ดูมันสิ ควยไม่มีหมอย เพราะหมอยย้ายไปอยู่บนหัวมันหมดแล้ว ฮ่าๆๆ” ลูกสมุนร่วมผสมโรง

“วันนี้พอแค่นี้ก่อน อย่าลืมนะคุณชายซู่เหวินเร่งระบายพิษแมงมุมออกให้ทันทุกยามวอก ภายใน 7 วันนี้ ต้องทำทุกวัน พวกข้าขอทูลลาพะยะค่ะ ฮ่าๆๆ”

หลี่เฉินและสมุนก้าวออกไปจากห้องบรรทม ทิ้งไว้เพียงซู่เหวินที่นั่งควยแข็ง ปากควยปริออก พร้อมน้ำเมือกใสผสมกับพิษของแมงมุมเอ่อล้น ดูคล้ายมังกรยักษ์ตาเดียวกำลังร้องไห้ไม่ต่างจากเจ้าของควยไร้หมอยที่กำลังโศกเศร้ากับเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้และวันต่อๆ ไป

แสงตะวันยามเช้าสาดส่องเข้ามาภายในห้องบรรทมกระทบกับผิวชายหนุ่มรูปร่างดี ที่บัดนี้ไร้ซึ่งขนปกคลุมร่างกาย ผมบนหัวก็ถูกตัดออกจนสั้นและถูกแทนที่ด้วยขนหมอยของตนเอง

สภาพทั้งหมดนี้ดูปกติไปทันที เมื่อเทียบกับควยของชายหนุ่มที่ตอนนี้ยาวกว่าเดิมจนสองมือต่อกันยังจับไม่หมด ลำควยขยายออกทุกทิศทาง ทำให้ลำควยอวบใหญ่กว่าข้อมือของผู้เป็นเจ้าของจนน่าตกใจ

เส้นเลือดเต่งตึงมองเห็นการไหลเวียนได้อย่างชัดเจน พร้อมด้วยสีสันลำควยที่แลดูม่วงคลำจนน่าเกลียดน่ากลัว แต่ก็มิอาจปิดบังความงดงามของคุณชายซู่เหวินได้เลย

นับตั้งแต่เกิดคุณชายซู่ได้รับฉายาว่า ‘โอรสสวรรค์’ ด้วยรูปร่างหน้าตาที่งามเกินมนุษย์ด้วยกัน จนผู้พบเห็นทุกคนล้วนยอมรับว่าฉายานี้ไม่ได้กล่าวเกินจริงเลยแม้แต่น้อย

เช้านี้แม่ทัพซู่รู้ดีว่าตนมีตารางฝึกซ้อมรบกับเหล่าทหารล่างชั้นเลว ซึ่งตามปกติแล้วไม่ได้สร้างความหนักใจให้แก่เขาได้เลย เว้นเสียแต่ว่าวันนี้ช่วงเวลาฝึกซ้อมนั้นคาบเกี่ยวกับยามวอก ยามที่เขาต้องระบายพิษแมงมุมออกจากควยของเขา แต่คนอย่างซู่เหวินรบมาทั่วหล้าล้วนได้รับชัยชนะ เขาไม่มีทางยอมแพ้คนชั้นต่ำอย่างหลี่เฉินเป็นแน่

“ทหาร ไปตามหมอหลวงมาพบข้าที่ห้องบรรทมเดี๋ยวนี้”

ทหารนอกจวนที่พึ่งผลัดเปลี่ยนเวรยามมายืนเผ้าห้องบรรทมตั้งแต่ไก่โห่ เมื่อได้ยินเจ้านายสั่งก็เร่งสาวเท้าไปตามหมอหลวงมาทันที เมื่อหมอหลวงมาถึงห้องบรรทม ก็พบกับแม่ทัพซู่เหลิงที่ดูแปลกตาไปมากเหลือเกิน ทรงผมดู... ดูประหลาดอย่างอธิบายไม่ถูก ร่างกายดูกำย่ำ กล้ามเนื้อแข็งนูนไปทั่วร่าง หมอหลวงคาดว่าต้องเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นแล้วแน่ๆ

“เมื่อคืนข้าถูกหลี่เฉิ...”

ยังไม่ทันกล่าวจบประโยค แม่ทัพซู่ก็หยุดพูดไปดื้อๆ พลางคิดว่าหากหมอหลวงไม่สามารถช่วยรักษาอาการติดพิษของเขาได้ หลี่เฉินจะเป็นตัวเลือกสุดท้ายที่เขาจะไปขอยาแก้พิษ

หากประกาศแก่ธารกำนันและทหารน้อยใหญ่ว่าหลี่เฉินเป็นกบฏตอนนี้ หลี่เฉินคงไม่พอใจรั้งแต่จะทำให้ความหวังของเขาริบหรี่ สู้หาทางรักษาพิษอย่างเงียบๆ แล้วจัดการหลี่เฉินภายหลังก็ไม่เสียหาย คนอย่างเขาวางแผนการรบมานับร้อยครั้งไม่เคยพลาด ครั้งนี้เขาก็หวังเช่นนั้น

“ข้าบังเอิญถูกแมงมุมแม่หม่ายดำกัดเข้าเมื่อคืน พอจะมีทางรักษาได้หรือไม่ ท่านผู้เฒ่า” ซู่เหวินเอ่ยถามหมอหลวงต่อทันที

“เรียนฝ่าบาท แมงมุมแม่หม่ายดำเป็นสัตว์มีพิษร้ายจากแคว้นเหอเป่ย ไม่ปรากฏในแคว้นต้าเหลียนของเรามาหลายทศวรรษแล้วขอรับ เดิมทีมีการสกัดเอาพิษของแมงมุมชนิดนี้ปริมาณเท่าเม็ดถั่วเขียวผสมกับน้ำสามสิบถัง ปรุงเป็นยาเพิ่มกำหนัดแก่ทั้งชายและหญิง หากพระองค์ถูกกัดจริงแล้วเล่า พิษจะมากเหลือนับคณา คงมิอาจอยู่พูดกับหม่อมฉันได้ถึงตอนนี้หรอกพะยะค่ะ” หมอหลวงพยายามอธิบายถึงความเป็นไปไม่ได้ที่องค์เหนือหัวของเขาจะถูกสัตว์ร้ายชนิดนี้กัดเข้าเมื่อคืน

ซู่เหวินจนปัญญาที่จะอธิบาย พลั้นก็ปลดเสื้อคลุมร่างออก เผยให้เห็นทุกสัดส่วนของตนปรากฏแก่ท่านผู้เฒ่า แม้ท่านผู้เฒ่าจะเคยเห็นแม่ทัพซู่เปลือยกายมาตั้งแต่เด็กแรกเกิดจวบจนเป็นชายหนุ่มวัยฉกรรจ์เช่นนี้ ก็มิอาจสร้างความตะลึงงันได้มากเท่าครั้งนี้ เพราะเครื่องเพศของฝ่าบาทนั้นช่างดู...ดูองค์อาจน่ากลัวยิ่ง

ท่อนลำลึงค์ฝ่าบาทผงกขึ้นลงพร้อมสายน้ำเมือกใสไหลยืดย้อยตั้งแต่ส่วนปลายจรดลงบนพื้นแท่นบรรทม คิ้วหมอหลวงขมวดขึ้นอย่างไม่รู้ตัว ลักษณะเช่นนี้เขารู้ดีว่าเกิดจากพิษของแมงมุมแม่หม้ายดำแห่งเหอเป่ยไม่ผิดแน่

“ฝะ... ฝ่าบาท ท่านถูกพิษของแมงมุมแม่หม้ายดำ ขะ... ข้าจนด้วยปัญญาจะรักษาได้พะยะค่ะ”

นี่เป็นครั้งแรกที่หมอหลวงปฏิเสธการรักษาให้ฝ่าบาทอย่างรนราน

“เหตุใดจึงกล่าวเช่นนั้นเล่า ท่านเป็นหมอ ท่านย่อมรู้จักสมุนไพร รู้จักวิธีการรักษาพิษ โปรดบอกข้ามาเถิด”

แม่ทัพเริ่มหงุดหงิดเล็กน้อยที่ความหวังของเขาเริ่มเลือนหายไป

“เรียนฝ่าบาท พิษนี้ร้ายกาจยิ่งนัก หากแม้รักษาผิดวิธีจะกลายเป็นดูดซึมพิษกลับเข้าเจ้าของร่างทันที เอ่อออ... ในเบื้องต้นข้าทำได้เพียงแนะนำท่านว่า...”

หมอหลวงเงียบไป

“ว่าอย่างไรท่านผู้เฒ่า เร่งชี้แจ้งมาเถิด จะได้หาทางแก้ไขได้ทันท่วงที่” ซู่เหวินคะยั้นคะยอ

“ฝ่าบาทต้องระบายพิษออกมาให้เหลือน้อยที่สุดเสียก่อนจะเป็นการดี วิธีการขับพิษนั้นทำได้โดย... เอ่ออ ข้าลำบากใจที่จะพูดเหลือเกิน” หมอหลวงถอนหายใจ

“พูดมาเถอะ อย่าได้เกรงใจข้าเลย บัดนี้ชีวิตข้าสำคัญกว่าสิ่งใด” ซู่เหวินกล่าวเตือนสติหมอหลวง

“เรียนฝ่าบาท ท่านต้อง...ทำการรูดเครื่องเพศขึ้นลงจนเกิดการเคลื่อนของกระแสน้ำภายใน ช่องทางที่พิษจะขับออกมาคือช่องเดียวกันกับช่องน้ำรักพะยะค่ะ อีกทั้งการเคลื่อนของพิษต้องกระทำยามวอกเท่านั้น เนื่องจากเป็นเพลาที่อุณหภูมิของพระอาทิตย์กำลันระอุ พิษที่หลั่งออกมาจะสลายไปอย่างสมบูรณ์พะยะค่ะ กระทำเช่นนี้ 7 วัน ก่อนแล้วจึง... ดื่มสารคัดหลั่งของคนจากเหอเป่ย” หมอหลวงกล่าวจบพร้อมกับปาดเหงื่อที่หน้าผาก

สรุปความได้ว่าขุนศึกอย่างเขาต้องช่วยตัวเองในยามวอกจริงๆ เป็นเวลา 7 วันดังที่หลี่เฉินกล่าวไว้ไม่ผิด หลังจากนั้นหลี่เฉินบอกว่าได้เตรียมกระสินธุบุษราคัมไว้แก้พิษ คงเป็นสารคัดหลั่งบางอย่างตามที่หมอหลวงชี้แจ้ง

อย่างไรเสียวันนี้เขา-ในฐานะแม่ทัพใหญ่-ยังพอมีโอกาสที่จะไม่ต้องพ่นน้ำรักออกมาในช่วงฝึกทหารชั้นเลวในยามวอก นั้นคือเขาต้องยกเลิกการฝึกในวันนี้ไปเสีย

“อ้าว ทูลกระหม่อมของข้าอยู่นี่เอง ข้าตามหาเสียให้นาน บัดนี้เหล่าทหารกล้าพร้อมเพียงเข้าแถวเรียงรายรอรับการฝึกจากท่านแล้วขอรับ”

หลี่เฉินเดินเข้ามาอย่างกะทันหัน พร้อมแจ้งข่าวที่ทำให้แม่ทัพซู่ถึงกับควันออกหู คนอย่างเขาไม่เคยมีใครตามความคิดได้ทัน หลี่เฉินนี้ช่างร้ายกาจราวกับรู้ว่าเขากำลังคิดการอันใดอยู่

“ฝ่าบาทจะเลื่อนการฝึกออกไปก่อนก็ได้พะยะค่ะ แต่กระแสสินธุบุษราคัมนั้นคงจะ...” หลี่เฉินกล่าวท้าทาย

เมื่อสถานการณ์บีบบังคับ ทางหนึ่งก็ทหารในจวนที่รอแม่ทัพใหญ่อยู่ ทางหนึ่งก็ยาแก้พิษ ซู่เหวินจึงจำใจต้องสวมอาภรณ์แม่ทัพใหญ่ออกฝึกพวกทหารที่ยืนเข้าแถวตากแดดรอเขาอยู่นาน

ณ ลานฝึกทหาร

แม่ทัพใหญ่ซู่เหวินปรากฏกายแก่เหล่าทหารนับหมื่นคนที่เข้าแถวอย่างเป็นระเบีบบ การมาของท่านแม่ทัพทำให้ทหารน้อยใหญ่ยืดตัวขึ้นตรงอย่างไม่ต้องคิด เบื้องหน้าของเหล่าทหารคือยอดขุนพลตระกูลซู่ที่ยืนตระหง่านอยู่บนแท่นสั่งการ

ใบหน้าแม้นมองจากระยะไกลก็รู้ได้ว่านี่คือโอรสสวรรค์ที่งามเหนือบุรุษทั่วแคว้น หมวกและอาภรณ์สีทองระยับงดงามยามต้องแสงตะวัน ขับให้ชายผู้นี้ดูหล่อเหลาเสียจนทหารต้องเก็บอาการอิจฉาไว้ภายใต้ใบหน้าที่ราบเรียบรอรับคำสั่ง

“วันนี้ข้าจะสอนการใช้ดาบแก่พวกเจ้า จงฟังให้ดี หยิบดาบข้างกายพวกเจ้าขึ้นมา แล้วจับคู่หันหน้าเข้าหากัน”

แม้แม่ทัพซู่เหลิงจะไม่ได้ตะโกนแต่เสียงกลับดังก้องกังวานสมเป็นนักรับผู้กล้า สร้างความเลื่อมใสแก่เหล่าทหารได้มากโข แม่ทัพซู่เดินลงจากแท่นเพื่อสอนทหารใช้ดาบอย่างใกล้ชิด บัดนี้เสียงดาบกระทบกันดังโฉงเฉงทั่วสนามฝึก ซู่เหวินให้ความทุ่มเทมากกับการฝึกทหารเหล่านี้เพื่อหวังสร้างกองทัพที่เกรียงไกร จนลืมไปว่าใกล้ยามวอกเข้าทุกที

จู่ๆ แม่ทัพซู่ก็รู้สึกร้อนผ่าวๆ ไล่ตั้งแต่หัวลงไป-เท้าขึ้นมาบรรจบตรงควยของเขา ซู่เหวินรู้สึกได้ทันทีว่าความกำหนัดนั้นเพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณ ลำควยยกดันชุดเกราะแข็งสร้างความอึดอัดให้เขาอยู่ไม่น้อย

“เกิดอะไรขึ้นกับข้ากันแน่? แย่แล้ว บัดนี้เป็นยามวอกแล้ว” ซู่เหลิงพึมพำกับตัวเองอย่างลนลานเมื่อนึกขึ้นมาได้ว่าถึงเวลาต้องระบายพิษออกแล้ว

บัดนี้เขายืนอยู่กลางสนามรบ ท่ามกลางเหล่าทหารที่ตั้งใจฝึกฟันดาบอย่างมุ่งมั่น กลับเป็นตัวเขาเองที่เกิดความกำหนัดขึ้นมาในเพลาเช่นนี้ น่าอายยิ่งหนัก แต่สิ่งสำคัญกว่านั้นคือเขาต้องระบายพิษให้ทันก่อนจะล่วงเลยยามวอกไป ซึ่งก็เหลือเวลาอีกไม่มากแล้ว สมองของซู่เหวินคิดทบทวนหาทางออกที่ดีที่สุดซ้ำไปซ้ำมา

“หยุดซ้อม!!!” ซู่เหวินกัดฟันโพลงออกไปจนเหล่าทหารได้ยินกันถ้วนหน้า

“วันนี้พวกเจ้าใช้ดาบได้ดีอย่างนักรบมาก อย่างไรก็ตามพวกเจ้าสมควรต้องฝึกการใช้ดาบอย่างนักรักด้วยเช่นกัน กองทัพของข้าต้องสมบูรณ์ในทุกรูปแบบ” ซู่เหวินตะโกนอย่างผู้มีอำนาจ ทหารทั้งหลายน้อมรับฟังอย่างเจียมตัว

“ยามศึกสงครามพวกเจ้ามีเพียงดาบในมือ อีกทั้งต้องทนรับกับสภาวะกดดันทุกทิศทาง ยามศึกสงบพวกเจ้าก็ควรใช้ดาบประจำกายหาความสุขสำราญให้เป็นด้วยเช่นกัน เข้าใจหรือไม่?” ซู่เหวินตะโกนถาม

“เข้าใจขอรับ” เหล่าทหารตอบพร้อมเพียงกัน ในใจนึกสงสัยในการสอนครั้งนี้ แต่ประสบการณ์สอนให้พวกเขารู้ว่าควรทำตามที่ท่านแม่ทัพสั่งมิให้บกพร่องหากไม่อยากเดือดร้อน

“ในที่แห่งนี้มีเพียงพวกเรา ชายชาติทหารเหมือนกัน ยามรบร่วมรบ ยามพักร่วมพัก ไม่มีความลับใดๆ ต่อกัน”

เมื่อเห็นว่าจะใกล้สิ้นสุดยามวอกเต็มที่แล้ว ซู่เหวินไม่รอช้า เร่งปลดเครื่องราชย์อาภรณ์สีทองอร่ามออก เผยให้เห็นทรงผมที่ดูแปลกประหลาด ดูคล้ายขนในที่ลับ สร้างความสงสัยให้ทหารชั้นเลวแต่ก็ไม่มีใครกล้าออกปากถามท่านแม่ทัพ เลื่อนจากผมลงมาเจอมัดกล้ามที่สวยงามอย่างทึ่สุด กล้ามอกที่นูนเด่น ไหล่กว้าง สอดรับกับกล้ามแขนที่สมส่วน ถัดมาเป็นกล้ามท้องขึ้นเป็นลอนชัดเจน แต่สิ่งที่เห็นหลังจากนี้กลับสร้างความมึนงงระคนตะลึงแก่เหล่าทหารทั่วลานยุทธ์

ท่อนเอ็นขนาดผิดมนุษย์ของแม่ทัพเผยต่อเหล่าทหาร ไร้การปกปิดใดๆ บัดนี้ท่านแม่ทัพยืนเปลือยกายท้าแสงแดดยามวอก ท่ามกลางเหล่าทหารนับหมื่นคน

“เหตุใดท่านแม่ทัพของพวกเราจึงปราศจากขนตรงเนินโคนควยเช่นนี้ ช่างดูประหลาดยิ่งนัก ดูไม่สมชายชาตรีชาติทหารเอาเสียเลย แลดูสะอาดราวกับขันที”

นี่คือความคิดแรกของเหล่าทหารในลานฝึก

“เหลือเชื่อเกินไปแล้ว นี่เป็นควยที่ใหญ่ที่สุดตั้งแต่ข้าเคยพบเห็น ใหญ่เสียจนสตรีที่เจอต้องนอนซมป่วยไข้ไปสามวันเจ็ดวันเป็นแน่แท้”

เหล่าทหารคิดกันไปต่างๆ นาๆ

“แม้ผิวกายของท่านแม่ทัพจะขาวระเรื่อเรืองรอง แต่ควยกลับดำคล้ำน่าเกลียด สงสัยจะเปิดศึกกับนางสนมเสียบ่อยจนหัวควยด้านดำได้ถึงขนาดนี้”

ทหารบางส่วนตั้งข้อสังเกต ซู่เหวินไม่ปล่อยให้ทหารคิดกันไปเรื่อย ตะโกนออกคำสั่งให้ทุกคนปลดเสื้อผ้าออกเสียให้หมด จนบัดนี้ชายฉกรรจ์ร่างกำยำกว่าหมื่นคน ยืนเปลือยเปล่าอยู่ในลานฝึกของจวนแม่ทัพใหญ่ ใครมาพบเห็นเข้าคงคิดว่าเสียสติไปแล้วแน่ๆ

“พวกเราเป็นชายเหมือนกัน เรามีสิ่งที่นักรบมีแต่อิสตรีไม่มี นั้นคือดาบคู่กาย ใหญ่เล็กต่างกัน หากผู้ใดแสดงอาการเขินอายให้ข้าเห็น ข้าจะจับตอนให้เป็นขันทีอยู่วังหลังทันที” ซู่เหวินขู่ เพื่อให้ทหารในลานผ่อนคลายมากขึ้น

บัดนี้ทหารทั้งหลายล้วนเห็นของกันและกัน ดังที่แม่ทัพสอน พวกเราเป็นทหาร ไม่สมควรมีความลับต่อกัน คิดได้ดังนั้นก็เลื่อมใสในวิธีการสอนของท่านแม่ทัพด้วยเข้าใจว่าต้องการให้พวกเราเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน

“การฝึกวันนี้นั้นง่ายมาก หากพวกเจ้าซื่อสัตย์กับข้าจริง พวกเจ้าต้องกล้าทำทุกอย่างเพื่อข้าแม้สิ่งนั้นจะน่าอายสักเพียงใดก็ตาม ข้าขอสั่งให้ทหารทุกนายยืนเค้นคลึงลำดาบระห่างขาของตนให้แข็งและปลดปล่อยน้ำรักร่วมสาบานพร้อมกัน เป็นสัญญาว่าพวกเราคือทหารแห่งตระกูลซู่”

แม้จะงุนงงในคำสั่ง แต่ทหารทั้งหลายก็ทำตามแต่โดยดีเพื่อพิสูจน์ว่าตนพร้อมจะรับใช้ตระกูลซู่ที่ยิ่งใหญ่ทุกเมื่อ ขณะเดียวกันแม่ทัพหนุ่มจ้องมองเงาตะวันที่ใกล้ถึงเวลาเปลี่ยนจากยามวอกเป็นระกา พลันก็เร่งสาวควยอย่างเมามัน ท่ามกลางเสียงระงมของทหารที่พอเห็นแม่ทัพใหญ่ไม่อาย ก็เริ่มรูดควยเคียงบ่าเคียงไหล่เจ้านายอย่างไม่อายกันและกัน บัดนี้ชายทั้งลานรวมทั้งขุนศึกยืนกระถอกควยขึ้นลงอย่างเสียวซ่าน บ้างก็เน้นต้องส่วนหัวควย บ้างก็ลูบไล่ไปตามเรือนร่างของตน บ้างก็บี้หัวนมชูชันจากกล้ามอก บ้างก็ดึงพวงไข่ไปมา

เสียงซิ๊ดปากดังก้องไปทั่วลานยุทธ์ น้ำหล่อลื่นหลั่งไหลเปรอะเปื้อนไปทั่วลาน หากนี่เป็นการประชันแข่งขันกันสาวควยก็ยากที่จะหาผู้ชนะได้ศึกครั้งนี้ได้ ท่านแม่ทัพเองบัดนี้ก็เสียวซ่านอย่างที่สุด เคยหลั่งน้ำรักก็มาก ทั้งกับสนมเล็กใหญ่ หรือกับมือตนเอง แต่ไม่มีครั้งไหนเลยที่จะเสียวไปทั้งร่างทั้งตัวเช่นนี้ อาจเพราะฤทธิ์ของแมงมุมร้ายแห่งเหอเป่ย

เขา-ซู่เหวิน-ในตอนนี้ยืนสาวควยกลางแดดจ้า ร่วมกับเหล่าทหารหาญ บ้างคนก็เริ่มกระฉูดน้ำรักออกมาอย่างไม่สงสารพื้นดินที่รองรับ กลิ่นคาวน้ำรักคละคลุ้งไปทั่วลาน เพิ่มความเสียวซ่านให้แม่ทัพใหญ่ที่เร่งสาวควยอย่างไม่ลืมหูลืมตา สองเท้าจิกพื้นดินแน่นมั่นคง เงยหน้าซูดปากเย้ยฟ้า สองมือกระถอกควยยาวอย่างไม่ลดละ ดวงตาเลื่อนลอย กล้ามเนื้อเกร็งตัวเป็นสัญญาณว่าน้ำรักของท่านแม่ทัพกับจะหลั่งรดพื้นแผ่นดินแห่งเต้าเหลียนที่บรรพบุรุษหลั่งเลือดสร้างขึ้นมา ทหารทั้งหลายจ้องมองช่วงเวลาสำคัญ

“โอ้วว....อ่า...ข้าทนต่อไปไม่ไหวอีกแล้วววว”

ไม่นานท่านแม่ทัพก็คำรามลั่นดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วลานฝึก นักน้ำรักของท่านแม่ทัพซู่ก็กระฉูดพุ่งเป็นสายยาวขาวขุ่น ไกลกว่า 3 เมตร อีกทั้งยังพุ่งออกมาอย่างต่อเนื่องกว่า 10 ระลอกไม่ลดละ แก่นควยกระดกปลดปล่อยน้ำเสียวออกมาเรื่อยๆ จนกระทั่งลดลงจนกลายไปไหลหยาดเยิ้มจากปากควยลงสู่พื้นดิน ทหารหลายนายขยี้ตาราวกับไม่เชื่อในภาพที่เกิดขึ้น

“ท่านแม่ทัพควยช่างใหญ่ น้ำรักก็เยอะ ถ้าข้าได้สักครึ่งหนึ่งของท่านแม่ทัพ ภรรยาข้าคงหลงข้าไม่น้อย” นายทหารหลายนายแอบคิดในใจ

“ไม่อยากเชื่อเลยว่าควยแห่งโอรสสวรรค์จะน่าอิจฉาได้ถึงเพียงนี้ ใครเห็นเป็นต้องยกธงขาวยอมแพ้ราบคาบ ไม่แปลกใจเลยที่ท่านแม่ทัพมีภรรยาและลูกอยู่มากมาย”

กระแสความคิดของทหารเริ่มหลั่งไหลออกมา

“ควยท่านแม่ทัพช่างดูน่าเกรงขามสมพระยศของท่านจริงๆ พระมเหสีทรงรับท่อนควยขนาดนี้ไหวได้เยี่ยงไรกัน” ทหารนายหนึ่งพูดกับตัวเอง

“บัดนี้พวกเราหลั่งน้ำรักสาบานเป็นพี่น้องร่วมเคียงบ่าเคียงไหล่กันเรียบร้อยแล้ว ข้าซาบซึ้งในน้ำใจของพวกเจ้ามาก” ซู่เหวินกล่าวทั้งที่ยังมีน้ำควยเหนี่ยวข้นไหลยืดออกมาจากปลายควย

เพลานี้ล่วงเลยยามวอกแล้ว ซู่เหวินพบกว่าเขาอยู่ท่ามกลางน้ำรักเนืองนองเต็มผืนดิน ส่งกลิ่นเหม็นคาวไปทั่วจวน เมื่อสิ้นความกำหนัดแล้วจึงเกิดความรู้สึกผิด ลานยุทธ์แห่งนี้เป็นลานมีเกียรติ ผลิตทหารกล้ารับใช้กองทัพตระกูลซู่เรื่อยมา บัดนี้กลับกลายเป็นลานโลกี เจิ่งนองไปด้วยน้ำสีขาวขุ่นจากเหล่าทหารในบังคับบัญชา รวมถึงน้ำรักของตัวเขาเอง แต่นี่เป็นวิธีที่ดีที่สุดแล้วที่เขาคิดได้

หากเขาต้องยืนสาวควยระบายพิษแต่เพียงผู้เดียวท่ามกลางทหารที่กำลังฝึกอยู่คงถูกมองจากเหล่าทหารว่าเป็นโรคจิตวิปราศ แต่วิธีนี้ทำได้แนบเนียบกว่า โดยเอาการฝึกและความจงรักภักดีมาเป็นข้ออ้างในการระบายความใคร่ หากเป็นความผิดก็ต้องโทษไอ้หลี่เฉินแต่เพียงผู้เดียว เพราะมันทำให้ข้าต้องอยู่ในสภาพเช่นนี้ ยิ่งคิดยิ่งแค้น ได้แต่กัดฟันกรอดๆ รอยามวอกวันถัดไป

ยามราตรีค่ำคืนนี้ ชายหนุ่มรูปงามนอนก่ายหน้าผาก ในใจล้วนคิดถึงเหตุการณ์อันน่าอดสูของวันนี้ ก่อนจะแสดงสีหน้าตกตะลึงยิ่งกว่าเดิมเมื่อรู้ว่ายามดวงสุริยันโผล่พ้นขึ้นขอบฟ้า

วันพรุ่งนี้ คือวันเคารพบรรพชนที่ลูกหลานตระกูลซู่ทำกันมาช้านาน แน่นอนว่างานพิธีใหญ่เช่นนี้กินเวลายาวนานคลอบคลุมยามวอกด้วย ชายหนุ่มได้แต่คิดกังวลจนเผลอหลับไปด้วยความเพลีย

ยามเช้าของวันใหม่เริ่มขึ้น ซู่เหวินมิได้สดชื่นเหมือนแต่ก่อน บัดนี้ดวงพักตร์ของชายน้ำถูกประดับด้วยไรหนวดเขียวคลึม ขับส่งใบหน้าชายหนุ่มให้คมเข้มน่ามอง ผิวกายคล้ำขึ้นจากการยืนสาวควยเมื่อวานที่ผ่านมา ขนหมอยที่ติดบนหัวเริ่มหลุดลอกออกบ้างเป็นหย่อมๆ ขณะที่ขนหมอยที่ควยเริ่มผุดขึ้นเป็นตอ สร้างความคันยุบยิบแก่ขุนศึกอย่างมาก

“ฝ่าบาทตื่นแล้วหรือพะยะค่ะ ข้าได้เตรียมอาภรณ์สำหรับใส่ไปร่วมงานเคารพบรรพชนให้ท่านเรียบร้อยแล้ว รับรองท่านต้องพอใจ” หลี่เฉินพูดพร้อมผลักบานประตูเข้ามาอย่างไม่แยแส พร้อมกับกล่องไม้บรรจุเสื้อผ้าสำหรับซู่เหวินไว้

แม่ทัพซู่เปิดกล่องไม้ออกก็พบชุดไหมทองคำที่ดูงดงามยิ่งนัก แต่พอหยิบขึ้นสวมใส่ กลับพบว่าเส้นไหมทองคำเหล่านี้บางละเอียดแต่แนบสนิทติดกับผิวกายของเค้าได้ดี ดีจนเผยทุกสัดส่วน ตัวเสื้อแสดงกล้ามอก กล้ามท้อง ได้อย่างงดงาม ตัวกางเกงสั้นเหนือเข่าแสดงเค้าโครงร่างซู่น้อยใต้หว่างขาได้อย่างชัดเจน

“แล้วเสื้อนอกกับชุดคลุมข้าเล่าอยู่แห่งใด?” ซู่เหวินกัดฟันถามหลี่เฉินอย่างใจเย็น

“ชุดของท่านมีเพียงเท่านี้ หากขอมากกว่านี้ เห็นทีข้าคงให้ยาถอนพิษแก่ท่านไม่ได้” หลี่เฉินกล่าวอย่างสบายใจ

ซู่เหวินเห็นดังนั้นก็รู้ทันทีว่าเปล่าประโยชน์ที่จะต่อรองกับหลี่เฉิน จึงยอมฉลองพระองค์แต่เพียงเท่านี้แม้อย่างไม่เต็มใจ เมื่อก้าวพ้นขอบประตู แม่ทัพกลายเป็นจุดสนใจขึ้นในหมู่ทหารอย่างฉับพลัน ด้วยการแต่งกายที่มีเพียงเส้นใยสีทองเคลือบร่างอยู่ แต่มิอาจปกปิดรูปร่างสัดส่วนใดๆ ได้เลย โดยเฉพาะท่อนควยที่ประจักษ์แก่สายตาทหารกล้ามาแล้วเมื่อวานนี้

แม่ทัพไม่แสดงความสนใจรีบก้าวขึ้นเกี่ยวรับเสด็จแล้วปิดม่านลงทันทีที่สั่งให้เคลื่อนขบวนเดินทางมุ่งหน้าสู่หลุมศพบรรพชน

ณ หลุมศพบรรพชน มีผู้คนเดินขวักไขว่ไปมาในลานโล่งแจ้ง บัดนี้ขบวนเสด็จของซู่เหวินเดินทางมาถึงปลายทางแล้ว ม่านถูกแหวกออก พร้อมกับการเยื้องย่างอย่างสง่าของโอรสสวรรค์ งดงามราวเทพบุตร ดูน่าชมไปเสียหมด เว้นเสียแต่ชุดที่แปลกประหลาดพอๆ กับทรงผม และไรหนวดที่ขึ้นไล่เป็นเคราเขียว

ผู้คนเริ่มซุบซิบนินทาถึงความไม่ปกติของท่านแม่ทัพในครานี้ แต่แม่ทัพกลับไม่สนใจเดินตรงไปนั้นในเก้าอี้ประธานหน้าหลุมศพบรรพชนของเขา งานนี้เต็มไปด้วยคนใหญ่คนโต ขุนนาง ข้าราชบริภาร นายทหารใหญ่ องค์รักษ์ฮ่องเต้ อีกทั้งชนชั้นชาวบ้าน ไพร่ทาส ก็มาร่วมงานอย่างครึกครื้น

ทุกคนล้วนซาบซึ้งและให้ความสำคัญกับตระกูลซู่ผู้ปกปักษ์รักษาดินแดนในอาณาบริเวณนี้มาช้านาน บรรพบุรุษตระกูลซู่ได้รับความเคารพเลื่อมใสแก่ผู้คนทั่วทุกเขตแคว้น ปัจจุบันบุตรชายคนเดียวที่เหลืออยู่ของตระกูลซู่ก็ทำหน้าที่ได้อย่างดีไม่บกพร่อ

เฉกเช่นบรรพบุรุษ ซู่เหวินเป็นยอดขุนพลที่สร้างความดีความชอบให้แก่ฮ่องเต้จนมอบตำแหน่งขุนนางชั้นหนึ่งให้ ถือว่ามีอำนาจรองจากฮ่องเต้เหนือหัวเลยก็ว่าได้ มาปีนี้ซู่

เหวินกลับรู้สึกอยากให้งานนี้จบไวๆ ก่อนยามวอกได้ยิ่งดี แต่สถาณการณ์ดูตรงกันข้ามกับสิ่งที่หวัง เพราะผู้คนล้นหลามต่างเข้าไปไหว้ป้ายบรรพบุรุษตระกูลซู่อย่างคับคั่ง

ควันธูปล่องลอยเป็นกลุ่มหนา ช่วงเวลาผ่านไปนานจนใกล้ยามวอกขึ้นทุกที ลำควยเขาเริ่มพองโตขึ้นอย่างควบคุมไม่ได้ แต่จำนวนคนกลับไม่ลดลงเลยแม้แต่น้อย

“เพลานี้ถือเป็นมงคลยิ่งนัก ขอเชิญท่านแม่ทัพเหวินเข้าเคารพบรรพชนตระกูลซู่ขอรับ”

อยู่ๆ หลี่เฉินก็ลุกขึ้นยืนพร้อมกับป่าวประกาศก้องได้ยินทั่วทั้งงาน เสียงปรบมือดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ ซู่เหวินตกอยู่ในฐานะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก หากแม้นนั่งอยู่ตรงนี้ก็จะเป็นที่เคลือบแคลงสงสัย หากแม้นลุกยืนขึ้นก็จะเผยสัดส่วนชายหนุ่มที่ควยขึ้นเป็นรูปเป็นร่าง เม็ดเหงื่อเริ่มผุดทั่วร่างกาย ความร้อนผ่าวๆ จากภายในเป็นสัญญาณเตือนว่าเขาต้องเร่งระบายพิษออกจากท่อนควยของตนก่อนพ้นยามวอกนี้ไป

“ท่านแม่ทัพซู่ โปรดให้เกียรติเคารพป้ายหลุมศพบรรพชนด้วยเถิด” นายกองชิงฟู่-องครักษ์ของฮ่องเต้เอ่ยทัก เมื่อเห็นว่าแม่ทัพซู่ยังไม่ลุกจากที่นั่งของตนเสียที

ซู่เหวินได้แต่สูดหายใจลึกๆ แล้วลุกยืนขึ้น สร้างความฮือฮาไม่น้อยเมื่อท่อนควยของเขาแข็งตัวเต็มที่ดันชุดไหมทองออกมาอย่างชัดเจน แม้แต่ไข่ทั้งพวงของเข้ายังมิอาจเล็ดลอดสายตาของคนในงานได้ สตรีบางคนรีบปิดตาลูกเล็กเด็กแดง แต่สายตาตนยังคงจ้องมองท่อนลำของบุตรชายตระกูลซู่อย่างตกตะลึงในความใหญ่และยาวเหนือบุรุษใดๆ ปานจะกลืนกินให้ได้สักครั้งหนึ่งในชีวิต

แม่ทัพซู่กำลังถูกพิษแมงมุมเข้าเล่นงานอีกครั้ง ความกำหนัดพึ่งทะยานสูง พร้อมกับความร้อนจากท่อนควยที่ผงกหัวขึ้นลงอย่างเสียวซ๋าน ซู่เหวินรู้ดีว่าหากเขาไม่รีบปลดปล่อยน้ำรักออกมา เขาจะตายในไม่ช้า แผ่นเดินต้าเหลียนจะไร้ผู้ปกครอง เหล่าทหารจะไร้ที่พึ่ง ที่สำคัญความแค้นของเข้ายังไม่ได้ชำระ

“ข้าต้องมีชีวิตอยู่ต่อไป ท่านพ่อท่านแม่ ข้าขอโทษ”

ทันทีที่ความคิดจบลง ซู่เหวินก็กระชากชุดไหมทองแนบเนื้อออกจากกาย ยืนเปลือยเปล่าหน้าหลุมศพบรรพชน หัวควยกระดกขึ้นลงอย่างอิสระราวกับกำลังทักทายบรรพบุรุษตระกูลซู่ที่ล่วงลับไปแล้ว

ผู้คนในงานยังคงตกตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้น เหตุใดโอรสสวรรค์ผู้นี้จึงกระทำการน่าอับอายต่อหน้าผู้คนได้ขนาดนี้

“ทหาร!!! จับแม่ทัพซู่เหวินใส่เสื้อผ้าเดี๋ยวนี้” องค์รักษ์ชิงฟู่ร้องขึ้นทันที

ทหารนับสิบตรงเข้าจับแม่ทัพซู่ แต่ไม่ทันไรก็ถูกแม่ทัพซู่ทุ่มกระเด็นออกจากบริเวณหลุมศพบรรพชน เหลือเพียงสองทหารที่เข้าจับแม่ทัพซู่จากด้านหลัง จนแม่ทัพดิ้นไม่หลุด

“ปล่อยข้า! ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้ ข้าต้องระบายความกำหนัดครั้งนี้” ซู่เหวินโวยวายไร้สติ ปากพร่ำร้องขอให้ตนสำเร็จโทษควยนักรบของตน สร้างความน่าสมเพชแก่ประชาชนทุกคนในบริเวณนั้น

เมื่อดิ้นเท่าไรก็ไม่เป็นผล แม่ทัพซู่จึงปล่อยลมปราณพวยพุ่งใส่ทหารทั้งสองที่จับเขาไว้ ส่งผลให้ทหารกระเด็นไปไกล ทหารที่เหลือเห็นดังนั้นแล้วก็ไม่กล้าย่างกายเข้าไป ได้แต่ยืนคุมสถานการณ์ไว้

เมื่อแม่ทัพซู่เป็นอิสระ ก็ทิ้งตัวนั่งคุกเข่าหน้าป้ายบรรพชน ลงมือสาวควยอย่างสิ้นสติ อัณฑะพวงใหญ่ไกว่ไปมาตามแรงมือที่รูดควยขึ้นลงอย่างเคลือบเคลิ้ม หัวควยบานทะโร่สู้แสงตะวันยามวอก

ภาพที่เห็นช่างน่าสมเพชเวทนาแทนตระกูลซู่เหลือเกิน บุตรชายคนเดียวของตระกูลมานั่งรูดควยสำเร็จความใคร่ต่อหน้าป้ายหลุมศพพ่อแม่ปู่ย่าตายาย น้ำควยก็ไหลหยาดเยิ้มเต็มพื้นหลุมศพไปหมด ทุกภาพเหตุการณ์อยู่ในสายตาชองผู้ร่วมงานทุกคนตั้งแต่บุรุษยศใหญ่ไปถึงไพร่ทาส

เจ้าของท่อนควยดำยังคงไม่ได้สติ เมามันกับการเล่นแท่งควยลำนี้-แท่งควยใหญ่-ที่เป็นมรดกตกทอดจากบรรพชนจากรุ่นสู่รุ่น ซู่เหวินได้แต่ดูดปากเสียงดังซิ๊ดอยู่เป็นระยะๆ บัดนี้ไม่เหลือสติอันใดให้คิดพิจารณาอีกต่อไปแล้ว เขาต้องการปลดปล่อยความกำหนัดที่มีอยู่อย่างบ้าคลั่งเท่านั้น

ความกำหนัดแผ่ซ่านไปทั่วร่างกายแม่ทัพใหญ่ตระกูลซู่ และทำสิ่งที่หลายคนรับไม่ได้ นั่นคือการคว้ากระบี่บรรพชนเล่มเดียวกับที่หลี่เฉินใช้ตัดขนอัปรีย์ของเขาเมื่อครั้งก่อน ตรงเข้าเจาะป้ายหลุมศพขึ้นรูปด้วยหินอ่อนสีขาวนวล ซู่เหวินใช้กระบี่ควงเป็นเกลียวโดยรอบ

ไม่นานนักหินอ่อนก็ถูกเจาะเป็นรูกลวงขนาดใหญ่ ไม่ทันหายตกใจ ซู่เหวินคว้าท่อนควยลำโตสอดเสียบเข้าไปในรูที่ป้ายหลุมศพนั้น และเริ่มโยกสะโพก กระเด้าป้ายบรรพชนอย่างคนเสียสติ หนังควยถลอกเมื่อครูดไปกับหินอ่อนที่ใช้กระบี่คว้านเป็นรู แต่ซู่เหวินก็ไม่ละความพยายาม ใช้สองมือกอบโกยน้ำหล่อลื่นที่ไหลนองเต็มพื้นขึ้นมาทาลำคยพร้อมกับยัดกลับลงไปในป้ายหินอ่อนอีกครั้ง

ผู้คนพากันยืนส่ายหน้าอย่างรับไม่ได้ที่เห็นสายเลือดตระกูลซู่กำลังกระเด้าควยเข้าออกป้ายศักดิ์สิทธิ์แห่งบรรพชนของตนอย่างกระหาย แต่ก็มิได้เข้าไปห้ามด้วยเกรงวรยุทธ์ของแม่ทัพใหญ่ ได้แต่ยืนมองด้วยความรังเกียจ ขอให้เหตุการณ์นี้จบลงไวๆ

“ท่านพ่อท่านแม่ ข้าเสียวควยเหลือเกิน... ท่านปู่ท่านย่า ข้าขอใช้ควยที่ข้ารักเคารพพวกท่านในวันนี้… ท่านตาท่านยาย ข้ามีความสุขจริงๆ ข้าชอบความเสียวนี้จริงๆ” ซู่เหวินพูดพร้อมยืนกระเด้าควยเข้าออกอย่างไม่ลดละ น้ำหล่อลื่นไหลชะโลมป้ายหินอ่อนจนเงาวับ ซู่เหวินผลักป้ายหินอ่อนล้มลงพร้อมกับเข้าไปนอนกระเด้าอย่างไม่สนใจสายตาที่จ้องมองอยู่

“อู้ยย.. โอ้วว... เสียวเหลือเกิน สุขเหลือเกิน”

ชายหนุ่มขยับสะโพกขึ้นสุดลงสุด ยามขึ้นมองเห็นควยยาวใหญ่ผุบขึ้นจากรูหินพร้อมกับน้ำควยที่ไหลยืดตามออกมา ยามลงกดสะโพกสุดแรงเสียงดังฝับๆๆๆ ถ้าไม่ทำอุจาดตาเยี่ยงนี้ นับว่าลีลาทางเพศของท่านแม่ทัพทำให้สาวน้อยสาวใหญ่ในเขตนั้นเกิดติดใจอยากลิ้มลองได้ไม่ยากนัก

ไม่นานนัก แม่ทัพใหญ่เร่งกระเด้าควยอย่างไม่ปราณี สองมือยันพื้นไว้ มีเพียงท่อนควยที่ขยับเข้าออก เพลานี้ซู่เหวินตกอยู่ในห้วงจินตนาการ พระพักตร์เงยรับแสง แลบลิ้นตวาดไล่เลียอากาศอย่างเย้ายวน มือหนึ่งยกขึ้นมาบี้บดหัวนมใหญ่อย่างไม่รู้ตัว ใบหน้าขมวดเกร็งดูทรมานแต่มีความสุขไปพร้อมกัน อีกไม่นานความใคร่ของเขาก็จะถูกระบายออกสู่ป้ายบรรพชนแล้ว

“ท่านพ่อ... ท่านปู่... ท่านตา ข้าจะปล่อยน้ำออกแล้ว ข้าไม่ไหวแล้ว โอ๊ยยย... ข้า.. จะ... แตก... แล้ว”

“ท่านแม่...ท่านย่า...ท่านย่า ฟ้าดินเป็นพยาน ข้า-ซู่เหวิน-ขอปล่อยน้ำเสียวใส่หน้าหลุมศพพวกท่านตรงนี้”

ไม่ทันชาดคำซู่เหวินก็ถอนควยออกจากรูหิน ยืนขึ้นหันหน้าเข้าหลุมศพบรรพชน มือสาวรูดลำควยใหญ่ยาวที่บัดนี้มีสีดำทมิฬจนน่ากลัว

“ขะ... ข้า ข้าคือเง็กเซียนฮ่องเต้!!! ฮ่าๆๆๆ ควยข้าใหญ่ยิ่งกว่าชายในในหล้า น้ำเง็กเซียนจะออกแล้ว น้ำเง็กเซียนจะแตกแล้ว” อยู่ๆ แม่ทัพก็หลุดปากพูดอย่างไร้การควบคุม

“น้ำเงี่ยนเซ็กส์ออกมาแล้ววว... ท่านพ่อท่านแม่” ซู่เหวินตะคอกพูดผิดพูดถูก พร้อมกับการล้นทะลักของน้ำควยที่พวยพุ่งออกมา ราดรดลงบนหลุมศพของตระกูลเขา

สายน้ำเงี่ยนพรมลงบนพื้นอย่างล้นหลาม ไหลแผ่ไปทั่วบริเวณ บัดนี้หลุมฝังศพบรรพชนเลอะไปด้วยน้ำเงี่ยนจากผู้สืบสกุล ป้ายหลุมศพก็ล้มระเนระนาด น้ำหล่อลื่นชะโลมไปทั่วบริเวณ กลิ่นเหม็นคาวน้ำเงี่ยนเริ่มแผ่กระจาย

ไม่ทันที่ซู่เหวินจะได้สติก็ถูกทหารจับมัดมือไพร่หลังในสภาพไร้เสื้อผ้าอาภรณ์ปกปิด ผู้คนในบริเวณนั้นจำภาพที่เกิดขึ้นได้จนวันตาย สามารถเล่าต่อลูกหลานจากรุ่นสู่รุ่นถึงความอัปยศในวันเคารพบรรพชนของตระกูลซู่ หลี่เฉินยืนดูเหตุการณ์ทั้งหมดอย่างพอใจในผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

“นี่ยังเป็นแค่การเปิดฉากเท่านั้นไอ้คุณชายซู่” หลี่เฉินพูดกับตนเองพร้อมฉายแววตาอาฆาต

“แม่ทัพซู่กระทำการอุจาดผิดผีเยี่ยงนี้ ข้าจำต้องทูลรายงานต่อองค์จักรพรรดิ” องครักษ์ชิงฟู่กล่าวอย่างโมโหสุดขีด หลังจากสิ้นสุดเหตุการณ์ที่บุตรชายหลั่งน้ำควยต่อหน้าบรรพชน

ในขณะที่เจ้าของความผิดถูกมัดมือไพร่หลัง แอ่นท่อนควยท้าสายตาบรรดาขุนนางน้อยใหญ่ แม้จะหลั่งน้ำเงี่ยนออกแล้ว แต่สภาพควยยังคงดูแช็งตรงพร้อมรบอยู่ทุกเมื่อ น้ำตาขุนศึกเริ่มหลั่งรินอาบแก้มแดงทั้งสองข้าง เขารู้สึกราวกับความเจ็บปวดจากพิษแมงมุมถูกแทนที่ด้วยความอายที่ต้องอยู่ในสภาพเช่นนี้ต่อหน้าผู้คนในงาน

“ท่านชิงฟู่โปรดเมตตา ฝ่าบาทของข้าทำความดีความชอบไว้มาก ความผิดครั้งนี้เป็นครั้งแรกของท่านแม่ทัพ โปรดลืมไปเสียเถิด อย่าให้ต้องถึงหูองค์ฮ่องเต้เลย หากเกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ขึ้นอีก ฝ่าบาทของข้าก็พร้อมน้อมรับความผิดอย่างลูกผู้ชาย” หลี่เฉินออกปากขอร้องแทนนายของตน

ชิงฟู่ตรองอยู่ไม่นานก็เห็นด้วยกับหลี่เฉิน ความผิดครั้งนี้ไม่ควรถึงหูองค์ฮ่องเต้ให้ขุ่นเคืองพระทัย บัดนี้ท่านแม่ทัพซู่อยู่ในสภาพไม่สู้ดีนัก จำเป็นต้องมีคนดูแลอย่างใกล้ชิด อย่างน้อยหากแม่ทัพจะกระทำการไร้ยางอายเช่นนี้อีก ก็ยังมีผู้ใกล้ชิดคอยยับยั้งการกระทำนั้นได้ทันท่วงที

“ข้าเห็นด้วยกับเจ้าหลี่เฉิน และในฐานะที่เจ้าเป็นผู้ใกล้ชิดกับแม่ทัพซู่มากที่สุด ข้าวานรบกวนเจ้าดูแลทัพแม่ทัพอย่างใกล้ชิด ด้วยว่าบัดนี้ท่านแม่ทัพดูไม่สบายคล้ายป่วยไข้ ได้เจ้ารับใช้อยู่ใกล้ชิดคงจะดี” ชิงฟู่กล่าวกับหลี่เฉิน

หารู้ไม่ว่าความหวังดีขององครักษ์ชิงฟู่ที่มีต่อขุนศึกอย่างซู่เหวินจะกลับกลายเป็นความโชคร้าย ไม่ต่างจากโยนลูกไก่เข้าปากจระเข้

“เหตุการณ์วันนี้ขอให้ทุกคนปิดปากให้สนิท อย่าได้แพร่งพรายให้ใครรู้โดยเด็ดขาด งานเลี้ยงสิ้นสุดลงแล้ว ย้ายแยกกันกลับบ้านเรือนของพวกเจ้าบัดเดี๋ยวนี้” ชิงฟู่ตะโกนแจ้งผู้คนในงานที่เริ่มทยอยกลับกันด้วยความรังเกียจคุณชายซู่

ณ ห้องบรรทม จวนแม่ทัพ

เมื่อได้รับคำสั่งจากองครักษ์ใหญัตัวแทนฮ่องเต้ บัดนี้หลี่เฉินได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้ดูแลคุณชายซู่อย่างใกล้ชิด หากแต่สิ่งที่เขาทำกลับตรงข้ามกับหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย

คุณชายซู่ถูกมัดติดกับเสากลางห้อง มีเพียงหยาดเหงื่อที่ห่อหุ้มร่างกายเอาไว้เท่านั้น ขณะที่หลึ่เฉินขึ้นไปนอนบนแท่นบรรทมของคุณชายซู่อย่างสุขอุรา

“เตียงของแกช่างนุ่มเหลือเกินไอ้เหวิน หากได้สตรีสักนางมาร่วมรักบนเตียงนี้คงสำราญไม่น้อย” หลี่เฉินพูดอย่างเบิกบานใจ

วันนี้เป็นวันที่หลี่เฉินเฝ้ารอมานาน วันที่ทุกอย่างของซู่เหวินเป็นของมัน วันที่ทวงคืนทุกสิ่งที่ซู่เหวินพลากจากมันไป วันที่มันสั่งให้ลูกน้องไปเชิญพระมเหสีเอกของซู่เหวินมาที่ห้องบรรทม

ไม่นานนักหลังจากออกคำสั่ง หน้าห้องบรรทมก็ปรากฏกายของสตรีรูปงามหยดย้อย ผิวพรรณเปล่งรัศมีสว่างทั่วเรือนร่าง ดวงตาคมใสดังลูกสมันน้อย คิ้วโก่งดังคันศร จมูกโด่งเชิดได้รูป ปากเล็กสีชมพูระเรือ เรือนผมเกล้าอย่างปราณีตวิจิตรบรรจง ดูแล้วเหมือนนางฟ้านางสวรรค์ เหมาะสมกันกับท่านแม่ทัพอย่างยิ่ง

“นี่เจ้าจะทำอะไรพระมเหสีของข้า ไอ้ชาติชั่...”

ยังไม่ทันที่แม่ทัพจะพูดจบ ผ้าขี้ริ้วสกปรกผืนหนึ่งถูกยัดปากแม่ทัพซู่ทันที พระมเหสีองค์นี้เป็นถึงบุตรีของเจ้ากรมการคลังในพระราชสำนัก ที่องค์ฮ่องเต้ทรงเห็นชอบจัดพิธีสมรศให้อย่างสมเกียรติ แม้เขาจะมีนางสนมอยู่มาก แต่มีเพียงพระมเหสีคนเดียวที่เขารักจนหมดหัวใจ

“ข้าบอกแล้วไงว่าทุกอย่างของเจ้าต้องเป็นของข้า” หลี่เฉินตอบ พร้อมกับสั่งทหารให้ปิดตาพระมเหสีด้วยผ้าแพร ก่อนเปิดประตูต้อนรับอย่างหื่นกระหาย

สตรีรูปงามก้าวเข้ามาในห้องอย่างระมัดระวังด้วยถูกปิดตาไว้ ก้าวเดินผ่านสวามีที่ถูกมัดมือปิดปากไว้อย่างน่าอนาจ

“ถวายบังคมเพคะฝ่าบาท” พระมเหสีกล่าวพร้อมย่อตัวทำความเคารพ ตัวนางเองรู้ดีว่าการที่ฝ่าบาทเรียกพบยามวิกาลเช่นนี้หมายถึงอะไร แม้จะยังสงสัยเรื่องที่ต้องปิดตาแต่ก็กล้าเอ่ยปากถาม

“ไม่ต้องมีพิธีรีตองนักหรอก มเหสีของข้า” หลี่เฉินกล่าวกับภรรยาของแม่ทัพซู่เหวิน

ซู่เหวินรู้ทันทีว่าบัดนี้หลี่เฉินได้สวมรอยเป็นเขา และกำลังจะทำสิ่งที่เขารับไม่ได้ แต่เขาทำอะไรไม่ได้นอกจากนั่งตาแดงกัดฟันแน่น ขณะเดียวกันหลี่เฉินก็ลุกขึ้นไปปลดเปลื้องเสื้อผ้าของมเหสีออกจนหมด เผยความงดงามที่แท้จริง ความงามที่แอบซ่อนอยู่ใต้เสื้อผ้าของนาง

เต้านมที่อวบใหญ่จับได้เต็มไม้เต็มมือ พร้อมด้วยหัวนมสีชมพูดูเข้ากันได้ดีกับผิวกายสีขาว เบื้องล่างมีขนอุยขึ้นบางๆ เหนือปากหอยมุขที่ยังคงปิดสนิทแน่น หลี่เฉินพินิจอย่างเร้าใจ ท่อนเอ็นภายในเริ่มชูชันตอบโต้

หลี่เฉินในวัยเจริญพันธ์ มีใบหน้าหล่อเหลาอย่างชายฉกรรจ์ ดวงตาดำขลับคมคาย ขนตาดกดำรับกับคิ้วหนา จมูกพุ่งโด่งเป็นสันงดงาม เรียวปากบางสวยได้รูป ดูแล้วมีความงามเหนือทหารชั้นเลวทุกนาย สมกับเป็นบุตรชายของแม่ทัพใหญ่แห่งแคว้นเหอเป่ย

ไม่รอช้าหลี่เฉินปลดเสื้อผ้าของตนออก เผยให้เห็นสัดส่วนที่ไม่ด้อยไปกว่าแม่ทัพซู่เลยสักนิด กล้ามเนื้อแต่ละส่วนขึ้นเป็นรูปร่างชัดเจนจากการฝึกทหารตั้งแต่เด็กของเขา ท่อนควยตรงใหญ่ขนาดเกือบ 8 นิ้ว ชูเชิดชี้ขึ้นฟ้า แม้ขนาดจะไม่ใหญ่เท่ากับของแม่ทัพซู่แต่ก็จัดว่าใหญ่เกินมาตรฐานชายฉกรรจ์ ขนหมอยที่ยาวหยิกฟู่ฟ่องอยู่เหนือโคนควย ดูดกดำน่าค้นหา

บัดนี้หลี่เฉินจับพระมเหสีกดไหล่ให้นั่งลงบนพื้นใกล้กับตำแหน่งที่แม่ทัพซู่ถูกจับมัดไว้ ไม่รอช้าหัวควยสีชมพูสดจ่อเข้าตรงกลางริมฝีปากของสาวงาม พร้อมกับที่ปากเล็กเผยอออกรับท่อนควยนั้นเข้าไป ด้วยความใหญ่ของควยทำให้ปากน้อยๆ ตึงขึ้นทันที ริมฝีปากคลอบลงบนท่อนควยดูดเข้าดูดออก ตั้งแต่ปลายถึงโคนควยอย่างเอาเป็นเอาตาย

“เมียรักของข้า เจ้าช่างดูดควยเก่งเหลือเกิน” หลี่เฉินทนความเสียวซ่านแทบไม่ไหว สองมือจับศีรษะพระมเหสีไว้แน่น พร้อมกับการเคลื่อนสะโพกเข้าออกจากปากอย่างต่อเนื่อง บัดนี้ซู่เหวินนั่งน้ำตาตก ได้แต่มองดูศัตรูกำลังกระเด้าเย็ดปากเมียของตน

“ฝ่าบาทเพคะ โปรดเมตตาสงเคราะห์หม่อมฉันด้วยเถิดเพคะ หม่อมฉันทนต่อไปไม่ไหวแล้ว” พระมเหสีกล่าวเสียงกระเซ้า น้ำใสไหลออกจากกลีบบุปฝา เป็นสัญญาณว่าพร้อมจะร่วมรักเต็มที่แล้ว

“เจ้าต้องการสิ่งใดก็พูดมาตรงๆ เถิด อย่าได้อ้อมค้อม” หลี่เฉินถาม

“มะ... หม่อนฉัน เอ่อ... กำหนัดเหลือเกินเพคะฝ่าบาท” พระมเหสีตอบกลับ

“ต่อไปถ้าเจ้ากำหนัด ให้เจ้าพูดว่า-เงี่ยน- เข้าใจชัดไหม” หลี่เฉินกล่าวอย่างมีความสุข

“เพคะฝ่าบาท บัดนี้หม่อมฉัน... งะ... เงี่ยนแล้วเพคะ เงี่ยนเหลือเกิน โปรดฝ่าบาทช่วยปลดปล่อยหม่อมฉันด้วยเพคะ” พระมเหสีเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว

หลี่เฉินอุ้มว่าที่ภรรยาของเขาตรงไปที่แท่นบรรทม ก่อนจะวางนางลงและก้มหน้าไปดูดกินน้ำหวานจากกลีบผกาที่หลั่งไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง ปลายลิ้นตวัดแตะกับเม็ดสาวอย่างคล่องแคล้ว สาวน้อยเบียดเสียดโคกใหญ่เข้ารับกับใบหน้าของหลี่เฉิน นอนก้นลอยเสียวซ่าน สะบัดไปมาเหมือนสัตว์หาคู่ สร้างความเงี่ยนแก่หลี่เฉินได้มากขึ้น เมื่อดูดดื่มเนินโคกหญิงสาวอย่างพอใจแล้ว ก็จับนางนอนหงาย พร้อมคุกเข่าจ่อลำควยชายให้ตรงกับกลีบหอยสาว

“บัดนี้ ช้าจะสอดควยแท่งนี้เข้าไปให้ช่องสาวงาม เทพยดาทั้งหลายเป็นพยาน เราสองเป็นผัวเมียกันอย่างสมบูรณ์” หลี่เฉินคำรามลั่นห้องหวังให้ซู่เหวินได้ยินสิ่งที่เข้าพูด ก่อนจะจับแกนควยกดล้ำเข้าไปให้ช่องรักอย่างยากเย็น กลีบแคมทั้งสองบานอูมโอบรัดลำควยอย่างแน่นหนา ลำควยค่อยๆ เคลื่อนผ่านช่องรักทีละน้อย จนมิดเงี่ยงบานของหลี่เฉิน

“อ่า...ควยเข้าไปแล้วเมียข้า ควยได้ลิ้มรสช่องสาวของเจ้าแล้ววว เป็นบุญควยของข้าเหลือเกิน” หลี่เฉินดูดปากกับสาวงามก่อนจะกระแทกแท่งชายเข้าร่องมเหสีอย่างสุดแรงเกิดเสียงดับสวบๆ

บัดนี้เครื่องเพศทั้งคู่แนบสนิทติดกัน ซึมซาบความเสียวซ่านแก่กันและกัน หลี่เฉินเริ่มขยับเอวเข้าออก ซอยควยถี่ยิบจนหญิงสาวพร้อมแอ่นโคกให้กระแทกไม่ยั้ง

“เงี่ยนเหลือเกิน ฝ่าบาทของข้าช่างเก่งกาญทั้งการรบและการรัก” หญิงสาวปลดปล่อยอารมณ์เต็มที่ ก่อนที่จะถูกฝ่ายชายช้อนร่างขึ้นเดินตรงไปทางแม่ทัพซู่ที่นั่งใจสลายอยู่

บัดนี้เบื้องหน้าซู่เหวินคือหนึ่งชายหนุ่มกำลังอุ้มหนึ่งหญิงสาว มือฝ่ายชายโอบอุ้มสะโพกฝ่ายหญิง ในขณะที่มือฝ่ายหญิงก็โอบลำคอของฝ่ายชาย เบื้องล่างเป็นแท่งควยชายที่จ่อตรงพอดีกับร่องฝ่ายหญิง ก่อนที่จะแทงมิดลำ

ภาพทั้งหมดนี้เห็นได้อย่างชัดเจนเพราะหลี่เฉินจงใจให้ซู่เหวินรับรู้ทุกการกระเด้าเครื่องเพศมเหสี หลี่เฉินกระแทกควยด้วยความถี่ราวกับกระหายร่องสาวนี้มานาน น้ำหล่อลื่นไหลปะปนกันจนแยกไม่ออกว่ามาจากฝ่ายชายหรือหญิง

“ร่องสาวของเจ้าตอดลำควยข้าตุบๆ คล้ายมีมือเด็กน้อยคอยบีบคลายท่อนควยให้ข้าอยู่ตลอด” หลี่เฉินปล่อยให้ควยถูกบีบรัดจากร่องอ่อนละมุน แล้วจึงนอนลง ปล่อยให้เมียสาวขึ้นโยกลำควยของเขาด้วยตัวเอง ปล่อยเต้านมให้หลี่เฉินดูดเลียอย่างกระหาย ต่อหน้าสวามีที่แท้จริงตรงหน้า

“ซิ๊ดดด... ดด ข้าเงี่ยนเหลือเกิน เงี่ยนมาก สาวงามกำลังขย่มควยข้า สกุลซู่จงเป็นพยานรักของเราสอง” หลี่เฉินพูดเสียงดัง ก่อนจะพลักนางนอนลงข้างกายสวามีตัวจริง แล้วซอยควยถี่ พวงไข่กระทบกับเนินสาวเกิดเสียงดังผับๆๆๆ ก่อนจะไล่น้ำเงี่ยนจากอัณฆะพุ่งขึ้นมาตามลำควย

“จะแตกแล้วเมียรัก ผัวจะปล่อยลูกๆ ของเราเข้าไปในท้องเมียแล้ว โอ้วว...อ่า”

สิ้นสิ้นคำราม ลำควยหลี่เฉินก็แข็งเกร็งกระตูกพ่นน้ำเงี่ยนขาวเข้าใส่ท้องพระมเหสีอย่างมากมาย จนหญิงสาวรับรู้แรงดันภายในได้ชัดเจน ลำควยยังคงกดแนบแน่นไม่ปล่อย กระตุกหลั่งน้ำเขื้อชายเข้าไปจนล้นท้นกลับออกมา ไหลย้อนย้อยออกจากร่องหญิงสาว

สิ้นบทเพลงบรรรักของทั้งคู่ หญิงสาวนอนสลบหมดสติเพราะความเหนื่อยอ่อน หลี่เฉินถอดควยออก มีน้ำเชื้อยืดติดปลายควยเป็นสายยาว พรางหัวเราะร่า

“บัดนี้เมียของเจ้ารับน้ำรักจากจากข้าเข้าไปแล้ว เชื้อหลี่เฉินของข้าคงปะปนอยู่กับเชื้อซู่เหวินของเจ้า หากแม้นมีเด็กฟูมฟักอยู่ในท้องพระมเหสี ก็คงบอกได้ยากว่าเป็นเชื้อของใคร แต่ที่แน่ๆ เมียของเจ้าคือเมียของข้า ฮ่าๆๆๆ” หลี่เฉินเย้นเยาะแม่ทัพซู่

เมื่อคิดถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมา ซู่เหวินยังไม่เชื่อว่าเรื่องทั้งหมดนี้จะเป็นจริง เขา-แม่ทัพใหญ่แห่งแคว้น-ต้องมาร่วมหลั่งน้ำรักพร้อมทหารในบังคับบัญชานับหมื่นนาย ต้องกระแทกควยเข้าป้ายบรรพชนของตระกูลต่อหน้าคนมากมาย ต้องสาวควยพ่นน้ำหนุ่มลงบนหลุมศพสกุลซู่ แล้วยังต้องมานั่งดูร่องเมียรักที่บัดนี้มีน้ำเชื้อศัตรูไหลหลั่งออกมา ในเพลานี้เขาทำได้เพียงคิดว่าพรุ่งนี้ต้องเจอกับเรื่องร้ายใดอีกบ้าง....

ยามค่ำคืน ณ แคว้นเหอเป่ย ดินแดนกบฏที่ถูกขุนศึกซู่เหวินกำราบเสียราบคาบ ตั้งแต่นั้นมาสตรีในเมืองก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นสาวรับใช้กระจายไปต่างเมือง ส่วนบุรุษก็กลายเป็นทรชน ไพร่ทาส ยาจก ชนชั้นแรงงาน คอยรับใช้ “ซู่เริน” บุตรชายคนโตของแม่ทัพซู่ ที่บัดนี้ได้รับคำสั่งจากผู้เป็นพ่อให้มาควบคุมดูแลแคว้นเหอเป่ยแห่งนี้

ซู่เรินนั้นเป็นชายหนุ่มกลัดมันในวัย 18 ปี มีใบหน้าหล่อเหลาคมคายผ่องสว่างดังดวงจันทร์ พระเนตรดำสนิทดูแข็งแกร่งชวนหลงไหล เสริมด้วยขนตายาวโค้งช่วยเสริมให้ดูน่ามอง พระนาสิกเห็นเป็นสันเรียวสวย ขับใบหน้าให้ดูมีมิติ พระโอษฐ์ยามยิ้มเห็นฟันขาวเรียงราย ชวนให้ผู้พบเห็นใจอ่อนระทวย

บุตรแห่งโอรสสวรรค์ถอดแบบจากพระบิดามาได้อย่างสมบูรณ์แบบ เป็นความลงตัวที่รวมอยู่ร่างเดียว แน่นอนว่าซู่เรินนั้นเป็นที่หมายตาของสตรีทั่วเขตแคว้น แม้นบุรุษยังต้องมองตาค้างในความงามที่เหนือพวกเขาอย่างเทียบไม่ติดฝุ่น

แม้ซู่เรินจะเป็นวัยรุ่นอยู่ แต่ก็เติบโตมาในจวนแม่ทัพ เท่าที่เขาจำความได้ เมื่ออายุเพียง 8 ขวบก็ถูกสั่งสอนตำราพิชัยสงคราม และเริ่มฝึกหัดเป็นทหารตั้งแต่อายุ 10 ปี ไม่แปลกใจเลยที่รูปร่างทรวดทรงจะดูบึกบึนเกินวัย ขอบแขนเสื้อที่โอบรัดมัดแขนแทบปริแตกออก กล้ามอกก็ยกดันชุดมองเห็นเป็นแผงใหญ่ เป็นที่มาของคำว่าลูกผู้ชายอกสามศอก

เขาถูกส่งตัวมาอยู่ที่เหอเป่ยนานเกือบ 2 ปีแล้ว หลังจากพระบิดาได้สังหารประมุขใหญ่ของแคว้นแห่งนี้ ส่งผลให้กลายเป็นเมืองร้างไร้ผู้ปกครอง พระบิดาเห็นว่าหากปล่อยไว้เช่นนี้จะเกิดปัญหาชนกลุ่มน้อยตั้งต้นเป็นใหญ่ จึงส่งเขามาเป็นราชาปกครองทีนี้ไว้เป็นการณ์ชั่วคราว

วันนี้จู่ๆ ก็มีจดหมายเร็วจากแม่ทัพซู่ส่งมา ใจความแจ้งว่าให้ซู่เริ่นกลับเมืองต้าเหลียนโดยเร็ว

“วันพรุ่ง ข้าจะเสด็จกลับแคว้นต้าเหลียนไปหาพวกท่าน รอข้านะ... ท่านพ่อท่านแม่” ซูเริ่นคิดในใจ

ยามราตรี ภายในห้องประชุม ณ จวนแม่ทัพ

ชายชุดดำ 3 คนนั่งอยู่เบื้องหน้าชายรูปงามที่พึ่งสำเร็จกิจกามกับพระมเหสีของราชาแห่งแคว้นต้าเหลียน บัดนี้ชายทั้งสี่กำลังนั่งสรวลเสเฮฮา นั่งดื่มสุราอย่างสบายใจ

“บัดนี้ใต้เท้าซู่อยู่ในกำมือนายท่านแล้ว เหตุใดจึงไม่ยึดเมืองต้าเหลียนเลยขอรับ?” ชายชุดดำถามผู้เป็นนาย

“สิ่งที่ข้าหวังนั้นมากกว่าเมืองต้าเหลียนแห่งนี้ จะคิดการณ์ใหญ่ต้องใจเย็น พวกเราต้องค่อยๆ ทำลายอำนาจเก่าจากภายในไปเรื่อยๆ เริ่มจากตัดสัมพันธ์บุคคลที่เกี่ยวข้องกับแม่ทัพซู่ให้หมดสิ้นเสียก่อน ตั้งแต่สตรีเคียงข้างกาย บุตรชาย นายกองทหารทั้งหลาย ไปจนถึงประชาชนทั้งหญิงชาย” หลี่เฉินอธิบาย

เขาทนรอวันที่จะเห็นแม่ทัพสิ้นเนื้อประดาตัวแทบไม่ไหว วันที่ซู่เหวินจะไม่เหลือเกียรติยศและความเป็นชายอีกต่อไป วันที่มันต้องอายแทบเอาหน้ามุดดิน ก่อนจะถึงวันนั้น เขาต้องจัดการกับบุตรชายของซู่เหวินเสียก่อน

“ไอ้ซู่เริน เจ้าเกิดมามีพร้อมทั้งรูป ทรัพย์สมบัติ อำนาจและความสบาย ต่างจากข้าที่ต้องกำพร้าพ่อแม่ คุณหนูอย่างเจ้าต้องเรียนรู้ความเจ็บปวดเสียบ้าง” หลี่เฉินคิดในใจอย่างเงียบๆ ก่อนเผยรอยยิ้มตรงมุมปากอย่างน่ากลัว

รุ่งสาง ซู่เหวินตื่นจากหลับไหล คราบน้ำตาแห้งเหือด ไม่ต่างจากน้ำรักของหลี่เฉินที่เกอะกังอยู่ในเครื่องเพศของพระชายาที่ขณะนี้ยังคงหลับสนิทอยู่

บานประตูถูกเปิดออก กลุ่มชาย 3 คนเดินตรงเข้ามาจับพระมเหสีลุกขึ้น ทำให้นางตกใจตื่นในสภาพเปลือยเปล่าไร้สิ่งใดปกปิดเรือนร่าง ขณะที่ซู่เหวินพยายามดิ้นให้หลุดจากเครื่องพันธนาการแต่ไร้ผล ได้แต่ส่งเสียงอู้อี้ผ่านผ้าอุดปาก

“พวกเจ้าเป็นใคร เข้ามาห้องแม่ทัพเช่นนี้ได้อย่างไร” พระมเหสีโวยวาย ก่อนจะเหลือบไปเห็นพระสวามีที่มัดอยู่ในสภาพไร้การปกปิดเช่นเดียวกับตน

“หากไม่อยากเห็นผัวของเจ้าถูกเชือดคอต่อหน้าก็จงหุบปากไปซะ” หลี่เฉินกล่าวพร้อมเดินเข้ามาอย่างใจเย็น

“หลี่เฉิน นี่จะ... เจ้า!” พระมเหสีกำลังจะด่าทอแต่ก็หยุดไปเมื่อนึกถึงคำขู่ของชายตรงหน้า

“ดีมากพระมเหสี เมียรักของข้า เชื่อฟังข้าแบบนี้แล้วเจ้าจะไม่เดือดร้อน” หลี่เฉินกล่าว

พระมเหสีประติดประต่อเรื่องราวได้อย่างรวดเร็ว นางเข้าใจแล้วว่าเหตุใดเมื่อคืนจึงถูกปิดตาร่วมรัก ครั้นความอายก็บังเกิดแก่หญิงสาวที่กำลังนึกถึงเรื่องราวเมื่อคืน เป็นนางเองที่ขึ้นโยกรับเครื่องเพศของฝ่ายศัตรูอย่างเมามัน คิดได้เช่นนี้ก็สิ้นแรงยืน ทรุดตัวลงกับพื้นอย่างหมดอาลัยตายอยาก

“หากไม่อยากเห็นใครต้องมีอันเป็นไป ก็จงทำตามคำสั่งของข้าให้ดี” หลี่เฉินกล่าวกับซู่เหวินและชายาของเขา ก่อนที่ทั้งสองจะยอมจำนนโดยดีเพราะไม่อยากให้อีกฝ่ายต้องมาจบชีวิตในสภาพเช่นนี้

“จับพวกมันมัดไว้ในห้องนี้ อย่าให้หลุดหนีไปไหนแล้ว ปิดปากพวกมันอย่าให้ส่งเสียงเด็ดขาด” หลี่เฉินประกาศ ก่อนที่ลูกน้องจะทำตามคำสั่งอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง

หน้าจวนแม่ทัพ

ขบวนเสด็จของซู่เรินเดินทางมาถึงเมืองต้าเหลียนแล้ว ประชาชนต่างดีใจในการมาของบุตรชายท่านแม่ทัพซู่ บุตรชายที่จะได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ปกครองแคว้นแห่งนี้ต่อไปในภายภาคหน้า

หลี่เฉินเข้ามารับเสด็จพระโอรสด้วยตนเอง ก่อนจะนำพระโอรสไปพักผ่อนในเรือนรับรองภายในจวน ที่ซึ่งทั้งพ่อและแม่ของพระโอรสถูกคุมขังอยู่อย่างอเนจอนาจ

“เสด็จพ่อและเสด็จแม่อยู่ที่ไหนรึ ท่านหลี่เฉิน” ซู่เรินกล่าวอย่างสุภาพ

“ท่านแม่ทัพและพระชายาคงกำลังเสด็จมาพะยะค่ะ องค์ชายเดินทางมาคงเหน็ดเหนื่อย ระหว่างนี้เชิญดื่มน้ำชารอก่อนดีไหมขอรับ” หลี่เฉินน้อมน้อมก่อนจะถวายถ้วยน้ำชาให้พระโอรส

ไม่นานหลังจากที่ดื่มชาเข้าไป พระโอรสก็เกิดง่วงอยากนอนขึ้นมา ก่อนจะหมดสติลงบนโต๊ะ ทิ้งถ้วยชาตกแตกบนพื้น

หลี่เฉินยิ้มอย่างมีความสุขที่ซู่เรินหลงกลดื่มชาผสมว่านปลาไหลเผือก ที่มีสรรพคุณเสริมสร้างความกำหนัดและพละกำลัง ส่วนผสมที่ไหลเวียนอยู่ในร่างคุณหนูเริน คงกำลังออกฤทธิ์ในอีกไม่ช้า

ซุ่เรินลืมตาตื่นขึ้นมาในห้องสลัวแห่งหนึ่ง สายตาปรับการมองเห็นอยู่ชั่วครู่เดียว ก็เผยภาพตรงหน้าอย่างชัดเจน ภาพท่านพ่อและท่านแม่เปลือยกาย ถูกเชือกจากเพดานมัดรวบมือ ชูแขนลอยขึ้นฟ้า ก่อนจะตระหนักได้ว่าตนก็อยู่ในสภาพไม่ต่างกันกับผู้ให้กำเนิด

“ฟื้นแล้วหรือ องค์ชาย? ข้าจะไม่พูดมาก หากไม่อยากให้สกุลซู่ต้องมีใครสิ้นลม ก็จงทำตามคำบอกของข้า บัดนี้แม่ทัพซู่ได้รับพิษแมงมุมร้าย ทางเดียวจะรักษาได้คือต้องหลั่งน้ำกำหนัดในยามวอกวันนี้เท่านั้น” หลี่เฉินพูดชัดได้ใจความ

“แต่พิษแมงมุมนั้นร้ายกาจมาก ยามหลั่งออกมาแล้วจะยังคงมีความเป็นพิษอย่างช่วงเวลาหนึ่ง วิธีที่ปลอดภัยที่สุดคือต้องให้แม่ทัพหลั่งน้ำออกมาโดยไม่สัมผัสกับแท่งชายและน้ำกำหนัด เพื่อรักษาชีวิตของพระองค์ไว้ เป็นหน้าที่ลูกอย่างเจ้าแล้ว” หลี่เฉินกล่าวต่อ

พระโอรสเข้าใจในสิ่งที่หลี่เฉินพูดทุกอย่าง เว้นเสียแต่ว่าเขาจะทำอย่างไรให้บิดาหลั่งน้ำกามได้โดยไม่สัมผัสกับเครื่องเพศ ตั้งแต่เล็กเขาเองก็ช่วยตัวเองอยู่บ่อย ทุกครั้งต้องกำมือรูดสาวแท่งชายจึงจะปลดปล่อยน้ำกามออกมาได้ เห็นทีคงไร้ความหวังที่จะตอบแทนบุญคุณท่านพ่อเสียแล้ว

“ในกายของผู้ชายเรา มีจุดรวมปราณอยู่มากมาย ในบรรดาจุดรวมปราณทั้งหลายนั้น มีจุดหนึ่งอยู่ลึกเข้าไปทางทวารหนัก ใกล้กับกระเพาะปัสสาวะ หากจุดนี้ถูกกระตุ้นจะหลั่งไหลน้ำกามออกมาได้เองโดยไม่ต้องแตะแม้แต่เนื้อตัว” หลี่เฉินพูดราวกับรู้ความคิดขององค์ชาย

ซู่เรินใช้เวลาคิดอยู่ไม่นาน ก็เข้าใจดีว่าในยามนี้ชีวิตของพระบิดาสำคัญที่สุด ต่อให้บุตรอย่างเขาต้องตายก็ยอม ลูกชายอย่างเขาจะยอมทำทุกอย่างเพื่อรักษาชีวิตของผู้เป็นพ่อเอาไว้ แม้จะด้วยวิธีใดก็ตาม...

หากมีตำแหน่งนายคุมทาสยอดเยี่ยม คงตกเป็นของหลี่เฉินอย่างไม่ต้องสงสัย-เจ้านายที่ไม่ได้บังคับให้ทาสทำในสิ่งที่นายต้องการ แต่ปล่อยให้ทาสเรียกร้องความเจ็บปวดนั้นด้วยตนเอง-เจ้านายที่ทำให้ทาสทรมานทั้งร่างกายจิตใจและเกิดความเสียวได้ในเวลาเดียวกัน

ยามเช้า ณ ลานฝึกทหาร จวนแม่ทัพสกุลซู่

เหล่าทหารทุกนายในจวนถูกเรียกมาพร้อมหน้ากันในที่แห่งนี้ ตั้งแต่ทหารชั้นเลวไปจนถึงระดับนายกองใหญ่ นับหัวแล้วเกินหนึ่งหมื่นนาย ยืนเรียงรายรอรับคำสั่งจากท่านแม่ทัพ หลังจากที่หลี่เฉินเรียกระดมพล

หลี่เฉินเยื้องย่างออกมาจากแท่นสั่งการณ์เบื้องหน้าทหารทั้งหลาย ด้วยท่าทีองค์อาจน่าเกรงขาม สายตาจ้องมองทหารเบื้องล่างอย่างกระหยิ่มใจ ก่อนออกคำสั่งเสียงดังฟังชัด

“วันนี้แม่ทัพซู่จะสอนบทเรียนการเป็นชายชาติทหาร พร้อมทั้งสาธิตให้ดูเป็นบุญตาแก่พวกเจ้าทั้งหมาย”

เหล่าทหารต่างยินดีปรีดาเป็นอันมาก ทหารทุกคนต่างรู้ดีในฝีมือไม่ธรรมดาของท่านแม่ทัพ แต่น้อยครั้งที่ผู้นำอย่างท่านจะลงมาสอนพร้อมทั้งแสดงฝีมือให้ทหารทั้งหลายรับชม นับว่าครั้งนี้เป็นบุญยิ่งนัก ชาตินี้เกิดมาถึงว่าคุ้มค่าแล้ว

“เชิญท่านแม่ทัพซู่เหวินเข้าสู่แท่นบังลังค์” หลี่เฉินกล่าว พร้อมที่ม่านที่เปิดออก เผยให้เห็นซู่เหวินที่อยู่ในชุดเกราะนักรบพระราชทานประจำตระกูล เป็นการแต่งฉลองพระองค์อย่างเต็มยศ ซึ่งปกติแล้วจะแต่งกายลักษณะนี้ในพิธีพิเศษ อย่างเข้าเฝ้าฮ่องเต้หรือพิธีเฉลิมฉลองใหญ่เท่านั้น

มาบัดนี้ซู่เหวินดูงดงามเหลือเกิน ใบหน้าเกลี้ยงเกลาหลังจากโกนหนวดเคราออกไปจนสิ้น รูปร่างสูงใหญ่กำยำ ปกคลุมด้วยชุดเกราะทองอร่ามตา พร้อมหมวกทรงสูงอันเป็นสมบัติประจำตัวของบุตรชายผู้สืบทอดบังลังค์ ถูกสวมใส่มานับตั้งแต่รุ่นทวด รุ่นตา รุ่นพ่อ จนตกทอดมาถึงเขา-ซู่เหวิน

“วันนี้ท่านไม่ทัพไม่ต้องการให้มีพิธีรีตองอะไรมาก ไร้ซึ่งชนชั้น เพื่อความเป็นกันเองของทุกคน” หลี่เฉินตะโกนบอกทหาร ขณะที่ซู่เหวินยังยืนก้มหน้านิ่งไม่พูดจา

“ตั้งแต่นี้ต่อไป ท่านแม่ทัพต้องการให้พวกเจ้าเรียกท่านสั้นๆ เพียงว่า-ซู่เหวิน-เท่านั้น ไม่ต้องมีคำอวยยศนำหน้าชื่อใดๆ เพราะในการศึกสงครามทุกวินาทีมีค่ายิ่งนัก มัวมานับชื่อถือยศ เห็นที่จะไม่เหมาะสม” หลี่เฉินยังคงพูดต่อ

แม้จะยังไม่ชินเท่าไร แต่เมื่อเห็นท่านแม่ทัพไม่ได้คัดค้านคำประกาศของหลี่เฉิน เหล่าทหารก็เข้าใจว่าเป็นความต้องการของท่านซู่เหวิ... ไม่สิ ต่อแต่นี้ต้องเรียกสั้นๆ เพียงว่า ซู่เหวิน เท่านั้น

เมื่อเห็นทหารทั้งหลายเข้าใจดี หลี่เฉินจึงได้เริ่มบทเรียนที่ได้รับเกียรติการสอนโดยซู่

เหวินทันที

พวกเจ้าคิดว่ายามมีศึกสงคราม พวกเจ้ามีโอกาศที่จะปราชัยศัตรูหรือไม่” หลี่เฉินกล่าว

“มีขอรับ!!!” ทหารตอบพร้อมเพียงกัน

“พวกเจ้าคิดว่าหากพ่ายแพ้ให้กับศัตรูแล้ว ชะตาชีวิตของพวกเจ้าจะเป็นเช่นไร หากไม่ถูกเกณฑ์ไปเป็นเชลย ก็เป็นแรงงานทาสไร้คุณค่า จริงหรือไม่?” หลี่เฉินถาม

“จริงขอรับ!!!” ทหารทั่วลานตอบเสียงดังฟังชัด

“บทเรียนวันนี้ล่ำค่ายิ่งนัก แม้ทองทัพสกุลซู่จะชื่อเสียงเกรียงไกร แต่ซู่เหวินต้องการให้พวกเจ้าทนรับกับเหตุการณ์ความพ่ายแพ้ให้ได้ด้วยเช่นกัน ยามถูกจับเป็นเชลยศึก ศัตรูจะทรมานพวกเจ้าอย่างถึงที่สุด หากทนไม่ได้ก็คงกัดลิ้นตัวเองตายเป็นแน่แท้” หลี่เฉินกล่าวต่อ

“วันนี้ซู่เหวินจะแสดงความอดทนต่อการทรมานที่อาจเกิดขึ้นได้เมื่อพวกเจ้าถูกจับเป็นเชลยแก่ข้าศึก เริ่มแรกสุดพวกมันจะยึดชุดทหารกล้าของพวกเจ้าไปหมดไม่เหลือสักชิ้นเดียว”

เมื่อหลี่เฉินพูดจบก็ผายมือเชิญซู่เหวินก้าวขึ้นมาหน้าแท่นให้ทหารทั้งหลายมองเห็นกันทั่วหน้า ก่อนจะถีบซู่เหวินล้มคว่ำโดยไม่ทันตั้งตัว ทหารเบื้องล่างหลายหน้าก้าวครึ่งเท้าออกมาเหมือนสัญชาตญาณปกป้องเจ้านาย แต่ก็นึกถึงได้ว่านี่คือการฝึกอดทนต่อการเป็นทาสอยู่ จึงหยุดนิ่งดูการกระทำต่อไป

หลี่เฉินสั่งให้ชาย 3 คนเข้ามาปลดเปลื้องชุดเกราะพระราชทานประจำตระกูลออกก่อนโยนทิ้งอย่างไม่แยแสคุณค่าของชุดนั้นแม้แต่น้อย พร้อมถอดหมวกมรดกตกทอดจากรุ่นสู่รุ่นของตระกูลออกวางไว้เบื้องหน้าซู่เหวิน

“ยามเป็นทาส ข้าศึกจะยึดของมีค่าทุกอย่างของพวกเจ้าไป เรื่องแค่นี้พวกเจ้าต้องอดทนให้ได้ ของพวกนี้เป็นสิ่งนอกกาย รอดชีวิตให้ได้สำคัญกว่า” หลี่เฉินอธิบาย ขณะที่ซู่

เหวินอยู่ในสภาพอวดสัดส่วนทุกรูขุมขนให้ทหารเกณฑ์รับชมกันทั้วหน้า

ซู่เหวินค่อยๆ ลุกขึ้น เผยลำควยขนาดยักษ์ ที่ดูเหมือนจะใหญ่ขึ้นทุกวันหลังจากได้รับพิษแมงมุม จนวันนี้ควยซู่เหวินยาวเกือบหนึ่งฟุต หัวควยม่วงคล่ำบานฉ่ำไปด้วยน้ำหล่อลื่นใส จนทหารทั้งหลายต้องกลืนน้ำลายโดยไม่รู้ตัว

“พวกเจ้าจงดูไว้ และทำใจให้ได้เมื่อต้องเป็นทาสเปลือยกายต่อหน้าข้าศึก แม้แต่ท่านแม่ทัพยังทำได้ ช้าเชื่อว่าพวกเจ้าทุกคนย่อมทำได้เช่นกัน” หลี่เฉินพูดอย่างสบายอารมณ์

“บทเรียนที่สอง ยามเป็นทาส ข้าศึกจะไม่ปราณีพวกเจ้า แม้แต่น้ำและอาหารก็อย่าหวังจะได้จากศัตรู วิธีเอาตัวรอดจากสถานการณ์เช่นนี้ไม่ยาก...” หลี่เฉินเริ่มบทเรียนต่อมา

“ขาดอาหารอยู่ได้ 7 วัน แต่ขาดน้ำอยู่ได้เพียง 3 วันเท่านั้น หากพวกเจ้าอยากรอดชีวิตกลับมาแก้แค้นต้องหาน้ำดื่มกินให้ได้ โชคดีที่สวรรค์ยังมีตา ประทานน้ำใสที่ไหลออกมาได้เองจากร่างกายพวกเจ้ายามกำหนัด เป็นน้ำที่กลั่นมาจากร่างกายตัวเองจึงไม่เป็นอันตรายใดๆ” หลี่เฉินเล่าต่อ

“อย่างที่พวกเจ้าเห็น ซู่เหวินฉลาดหลักแหลมมาก เมื่อไร้ซึ่งน้ำดื่มกิน แม่ทัพใหญ่ก็ปล่อยน้ำหล่อลื่นใสสะอาดออกจากจากหัวควยของท่าน น้ำนี้แหละที่จะทำให้พวกเจ้ารอดชีวิตกลับมา” หลี่เฉินกล่าว

ก่อนจะป้ายน้ำชะโลมหัวควยของซู่เหวินขึ้นมาเป็นสายยาวราวกับใยแมงมุม ขณะชายทั้ง 3 คนก็จับซู่เหวินนั่งคุกเข่า เชิดใบหน้าและอ้าปากของซู่เหวินออก ปล่อยให้หลี่เฉินยัดนิ้วเปื้อนน้ำควยของซู่เหวินเข้าปากไป บังคับให้ซู่เหวินดูดดื่มน้ำจากร่างกายตัวเองอย่างน่าสมเพช

ทหารได้แต่ยืนมองดูท่านแม่ทัพ ในใจก็คิดเคลือบแคลงสงสัยว่าน้ำจากควยจะกินได้จริงหรือ แต่เมื่อคิดตามคำอธิบายของหลี่เฉินแล้วก็คล้อยตาม ด้วยว่าเป็นน้ำที่หลั่งออกมาจากกายเรา ย่อมไม่มีพิษต่อร่างกายเป็นผู้เป็นเจ้าของ อีกทั้งแม่ทัพซู่ยังแสดงการกินให้ดูอีก นั่นก็ทำให้เหล่าทหารเชื่อได้สนิทใจแล้วว่าน้ำหล่อลื่นชายสามารถดื่มกินได้

“ปริมาณน้ำแค่นี้ยังไม่พอยังชีพพวกเจ้าได้ ซู่เหวินโปรดแสดงวิธีการเพิ่มปริมาณน้ำให้ทหารของท่านดูไว้เป็นบุญตาด้วยเถิด” หลี่เฉินหันไปพูดกับซู่เหวิน

ซู่เหวินหมดหนทาง ยอมทำตามความต้องการของหลี่เฉินโดยดีด้วยห่วงพระมเหสีและพระโอรส ก่อนจะยืนขึ้นตรง แอ่นลำควยไปเบื้องหน้าทหารใต้ฝ่าเท้าของตน ก่อนใช้มือขวากำรอบลำควย ปล่อยนิ้วชี้ออกมาหมุนวนรอบหัวควย มือซ้ายเค้นคลึงพวงไข่ยานทั้งสองข้างสลับไปมา ก่อนเลื่อนขึ้นมาบีบบี้หัวนมชาย ส่งผลให้น้ำหล่อลื่นผุดไหลเยิ้มเป็นสายน้ำใสหลายระลอก

แม่ทัพรีบใช้มือรองรับน้ำหล่อลื่นไว้เต็มอุ้งมือ และหันไปมองหน้าหลี่เฉินซึ่งกำลังพยักหน้าให้สัญญาณ จากนั้นแม่ทัพซู่ก็หันกลับไปทางทหารพร้อมทั้งยกอุ้งมือที่เต็มเปี่ยมด้วยน้ำควยขึ้นเลีย กระดกซด ทุกหยาดหยดตกลงสู่ปากของแม่ทัพ เป็นภาพที่หาดูได้ยาก เมื่อชายหนุ่มรูปงามเต็มใจมายืนกินน้ำจากควยตนเองให้ทหารในจวนดูเช่นนี้

“ขอเสียงปรบมือให้ในความเด็ดเดี่ยวกล้าหาญของซู่เหวิน แม้นทำได้อย่างท่าน พวกเจ้าจะไม่มีทางอดน้ำตาย เพราะน้ำหล่อลื่นนี้จะผลิตขึ้นทุกวันทุกเวลา หลั่งออกมาได้ไม่อั้น” หลี่เฉินกล่าวพร้อมปรบมือขึ้นเบาๆ

เหล่าทหารผู้โง่เขลา เมื่อได้รับการสั่งสอนงจึงคล้อยตามคำสอนอย่างไม่ลืมหูลืมตา ราวกับพบทางสว่างที่ใคร่ควรญดูแล้วก็เห็นเป็นจริง น้ำหล่อลื่นนี้มีปริมาณไม่จำกัด ต่อให้ถูกจองจำอยู่ในคุกมืดก็ไม่อดน้ำตาย ท่านแม่ทัพซู่ช่างฉลาดล้ำและมีเมตตายิ่งนัก ที่บอกเคล็ดลับเอาตัวรอดที่ไม่มีใครคิดได้เช่นนี้ แต่เมื่อคิดว่าจะต้องกินน้ำจากควยตัวเอง ทหารหลายนายก็ขนลุกขึ้นทันใดที

“สิ่งที่ยากยิ่งกว่าการดื่มน้ำควยของตัวเอง คือการสร้างความกำหนัดให้ได้แม้ยามถูกทรมาน หลังจากนี้ให้พวกเจ้าแบ่งเวลาฝึกตนสร้างความกำหนัดในทุกสถานการณ์ให้ได้ แต่วันนี้ในเบื้องต้นยังพอมีอีกวิธีหนึ่งที่จะรอดชีวิตหากพวกเจ้าสร้างความกำหนัดไม่สำเร็จ นั่นคือขอดื่มน้ำจากเพื่อนเชลยศึกของพวกเจ้า” หลี่เฉินกล่าวอย่างรู้และเข้าใจความคิดของทหารทุกคนเป็นอย่างดี

“บทเรียนต่อไป... ขอเชิญคุณหนูเริน ขึ้นบนแท่งบัลลังค์เพื่อสาธิตการดื่มน้ำควยจากชายอื่นให้ทหารทั้งหลายดูด้วยเถิดพะยะค่ะ” หลี่เฉินกล่าวเชิญพระโอรสของซู่เหวิน

ม่านถูกเปิดออก เผยภาพคุณหนูเรินค่อยๆ ก้าวขึ้นมาบนแท่งแสดงโชว์ ไม่มีแม้นผ้าเตี่ยวสักชิ้นปกปิดเรือนร่าง!!!

ซู่เรินขึ้นมายืนเคียงข้างบิดาของตน ไร้เสื้อผ้าอาภรณ์ไม่ต่างกัน ร่างกายวัยรุ่นของซู่เรินถูกมองผ่านสายตาของทหารในจวน ร่างกายที่เขาใช้ฝึกรบจนมัดกล้ามขึ้นเป็นรูปร่างสมชายชาตรี ร่างกายที่หญิงงามทั้งหลายยังไม่มีโอกาสให้ยล บัดนี้ร่างกายที่งดงามราวเทพบุตรกลับปรากฏแก่สายตาลูกน้องใต้บังคัญบัญชาของตน

เจ้าโลกของซู่เรินยังอยู่ในสภาพสงบนิ่ง ทิ้งตัวลงสู่เบื้องล่าง เหมือนพญางูยักษ์ที่กำลังจำศีล แม้จะยังไม่พองตัว แต่ขนาดก็นับว่าใหญ่กว่าทหารทั้งหลาย สกุลซู่คงสืบสายเลือดกันมา ขนาดควยของชายแต่ละคนในตระกูลจึงดูไม่ธรรมดาเมื่อเทียบกับชาวบ้านทั่วไป

หนังหุ้มปลายปกคลุมหัวควยของซู่เริ่น มีเพียงปากควยสีชมพูสวยที่เผยออกมาเล็กน้อย พ่อลูกสบตากันชั่วขณะ ก่อนซู่เรินจะคุกเข่าลงเบื้องหน้าพระบิดาของตน

ภาพตอนนี้ที่ทหารเห็น คือพ่อลูกเปลือยกายเห็นทุกอย่างชัดเจน คนพ่อยืนขึ้น สอดประสานมือยกขึ้นรองศีรษะ แอ่นท่อนควยใหญ่ที่ปล่อยน้ำเงี่ยนไหลปุดๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง คนลูกนั่งคุกเข่าอยู่ตรงหว่างขาคนพ่อ สีหน้าไม่สู้ดีเท่าไรนัก มือทั้งสองพยายามปกปิดท่อนควยของตนจากสายตาทหารเบื้องล่างที่กำลังมองตาเป็นมัน

“เริ่มแสดงบทเรียนได้แล้ว ไอ้เริน ยิ่งรีรอชักช้าจะล่วงเลยยามวอกเอาได้” หลี่เฉินเดินเข้ามากระซิบข้างหูคุณชายเริ่น

ไม่รอช้า คุณชายเริ่นก็ค่อยๆ เปิดริมฝีปากบนล่างออกจากกัน ก่อนจะเอาปากยื่นตรงเข้าไปตรงควยของพ่อ ปล่อยให้ท่อนควยไหลเข้าปากไปช้าๆ พยายามห่อปากให้มากที่สุดเพราะไม่อยากให้ฟันสวยครูดกับควยของพระบิดา บัดนี้ควยทั้งลำของพ่อจมมิดเข้าปากของลูก แทงลงคอหอยจนซู่เรินต้องรีบถอนปากออก หายใจสำลักหน้าแดง

“ในที่นี้มีใครไม่เคยถูกหญิงสาวอมควยให้บ้าง?” หลี่เฉินตะโกนถามทหารด้านล่าง

มีทหารอายุน้อยๆ อยู่ไม่กี่คนที่ยกมือขึ้นแสดงตัว นั่นแปลว่าควยทหารที่นี่ส่วนใหญ่ล้วนเคยผ่านเข้าปากของสตรีมาแล้วถ้วนหน้า

“พวกเจ้าลองตรองดู แม้เหล่าสตรียังกล้าอมควยของพวกเจ้าได้ เหตุใดทหารกล้าเช่นพวกเจ้าจะอมควยคนอื่นไม่ได้ อย่าให้ทหารสกุลซู่ต้องขายหน้าสตรีที่รบไม่เป็นเลย” หลี่เฉินอธิบายด้วยเหตุและผล

เหล่าทหารรับฟังอย่างเข้าใจ แม่ทัพสอนบทเรียนวันนี้ก็เพื่อชาติบ้านเมือง ความคาดหวังตกมาที่ทหารทั้งหลายที่ยังทำใจไม่ได้หากต้องอมควยชายอื่น

“ข้าเข้าใจดีว่าพวกเจ้ายังไม่มีประสบการณ์ ดังนั้นข้าจะแสดงวิธีง่ายๆ ที่จะทำให้เรื่องนี้ผ่านพ้นไป” หลี่เฉินรู้ทันทุกความคิดของทหาร

ก่อนจะใช้นิ้วยาวบีบจมูกของซู่เรินจนหายใจไม่ออก จังหวะที่คุณชายกำลังอ้าปากพยายาไขว่คว้าอากาศอยู่นั้น ก็ถูกหลี่เฉินใช้มืออีกข้างจิกผมกดหัวเข้าตรงหว่างขาของซู่

เหวิน ควยลำสวยของซู่เหวินเข้าปากซู่เรินมิดด้าม ปลายจมูกบุตรชายชนเข้ากับโคนควยของพ่อ จากนั้นหลี่เฉินจึงคลายมือที่บีบจมูกอยู่ ปล่อยให้ลูกสูดหายใจดมกลิ่นหมอยของผู้เป็นพ่อให้เต็มปอด

เมื่อปล่อยไว้สักพักจะปากเริ่มชินชากับควยแล้ว มือข้างที่จิกหัวซู่เรินอยู่เริ่มขยับเข้าออก กดหัวของบุตรชายที่มีควยของผู้เป็นพ่อเข้าออกอย่างเมามัน จนทหารเบื้องล่างยังตกใจในวิธีเช่นนี้ แต่ก็เป็นหนทางเดียวที่จะทำให้มีความกล้าที่จะอมควยชองชายอื่น แม้นคุณชายเริ่นจะเป็นลูกชายแท้ๆ ของท่านแม่ทัพยังทำได้ พวกเขาคงไม่กล้าปฏิเสธวิธีนี้เช่นนี้

“ทำได้ดีมาก ซู่เริน” หลี่เฉินกล่าวชม ก่อนจะปล่อยมือออก แต่ซู่เรินยังคงหลับตา ดูดดื่มน้ำควยจากผู้เป็นพ่ออย่างลืมตัว

บัดนี้ซู่เหวินได้แต่ยืนเสียวควยที่กำลังถูกปากน้อยๆ ของลูกชายไล่เลียตั้งแต่ส่วนหัวควยไปจนถึงโคนควย เขาซึมซาบความอุ่นในปากบุตรชายอย่างเสียวซ่าน มือทั้งสองเข้าจับหัวของบุตรชายอย่างลืมตัว ก่อนกระเด้าควยยาวเข้าออกรูปากของลูกอย่างติดใจในประสบการณ์ใหม่ครั้งนี้

จริงอยู่ที่ซู่เหวินมีพระมเหสีและนางสนมอยู่มากมาย นี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาถูกอมควย แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ควยของเขาผ่านเข้าปากนักรบชายชาตรีอย่างบุตรชายในสายเลือดแท้ๆ ของตน ให้ความรู้สึกแตกต่างจากอิสตรีอยู่บ้างตรงที่เหล่าสตรีทั้งหลายมักเขินอาย ไม่กล้าใช้ปากของตนกับควยให้เต็มที่เหมือนกับบุตรชายของเขาในตอนนี้

ฝ่ายซู่เรินก็เริ่มปรับตัวกับเหตุการณ์น่าอายนี้ได้ หัวถูกตรึงด้วยสองมือของผู้ให้กำเนิด มีเพียงปากที่ทำหน้าที่ปนเปรอความสุขให้ผู้มีพระคุณ ในใจคิดเพียงว่าลูกคนนี้ขอตอบแทนคุณของท่านพ่อสักครั้งในชีวิต วันนี้ต้องช่วยท่านพ่อให้รอดพ้นจากน้ำมือของยมฑูตก่อนยามวอกให้ได้

แม้ควยของเด็กหนุ่มอย่างซู่เรินจะผ่านปากหญิงงามมานักต่อนัก แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาต้องสลับตำแหน่งมาเป็นผู้อมควยแทน และเป็นควยอันเดียวกับที่ทำให้เขาเกิดมาดูโลกได้ ควยของบิดาที่เขาเคารพเทิดทูนมาโดยตลอด

ทหารทั้งหลายก็ยืนดูคุณหนูเรินดูดควยของแม่ทัพซู่อย่างไม่อายฟ้าอายดิน ปลายลิ้นเลียรอบหัวควยผู้พ่อ อ้าปากรองรับน้ำหล่อลื่นปริมาณมาก ก่อนปิดปากกลืนจนลูกกระเดือกกระดก และแลบลิ้นออกมาเลียวนรอบปากของตนอย่างกลัวเสียดายน้ำผู้พ่อที่ติดอยู่รอบปากลูกอย่างตน

“โอ้ยย...ซิ้ดดด บัดนี้ข้าเสียวควยเหลือเกิน ควย-ข้า-อยู่-ใน-ปาก-ลูก-แล้ว!!!” แม่ทัพใหญ่ซูคำรามลั่นไปทั่วลานฝึก ขณะที่กำลังจับลูกชายกระเด้าปากเข้าออก มือที่ว่างยกขึ้นมาลูบไล้มัดกล้ามของตน เน้นตรงหัวนมเป็นพิเศษ

“ทหารทั้งหลายจงดูไว้เป็นตัวอย่าง ซู่เหวินและซู่เรินช่างมีความกล้ายิ่งนัก” หลี่เฉินกล่าวชมพร้อมปรบมือให้สองพ่อลูกอย่างพอใจและเหลือบดูเงาตะวันที่ย่างเข้ายามวอกเต็มที่แล้ว

“บทเรียนต่อมา ยามเป็นเชลยศึก พวกเจ้าอาจถูกศัตรูจับมัดพันธนาการไว้ด้วยเครื่องมือมากมายหลายชนิด แม่ทัพทั้งสองจะแสดงให้ดูเป็นตัวอย่าง” หลี่เฉินพูด ก่อนจะใช้สมุนนำเครื่องมือไม่คุ้นตาออกมาจากหลังผ้าม่าน

ชิ้นแรกเป็นโต๊ะไม้ยาว 4 ขา ขนาดเท่าหนึ่งตัวคน ส่วนบนด้านหน้าสุดของโต๊ะมีที่สอดศีรษะเข้าไป ดูคล้ายเครื่องประหารชีวิต ด้านบนด้านล่างของโต๊ะถูกเจาะเป็นรูทะลุเหมือนไว้ให้บางอย่างสอดเข้าไปได้ สร้างความสงสัยแก่บรรดาทหารทั้งหลายที่ดูอยู่เบื้องล่าง

ไม่นานความสงสัยก็คลายสิ้น เมื่อสมุนตรงเข้าจับซู่เหวิน ยืนขึ้นตรงหน้าโต๊ะประหลาด และถูกจับก้มตัวลงคว่ำหน้า ศีรษะของท่านแม่ทัพถูกสอดเข้าตำแหน่งหน้าสุดของโต๊ะก่อนที่หลี่เฉินจะกดแผ่นไม้เข้าพันธนาการศีรษะของซู่เหวิน สองมือถูกล็อคแยกออกด้วยโซ่ตรวนยาว ตรึงไว้ตรงมุมโต๊ะแต่ละข้าง สองขาถูกแยกออกและมัดด้วยเชือกเข้ากับขาโต๊ะทั้งสองข้าง

บัดนี้ท่านแม่ทัพซู่อยู่ในสภาพขยับตัวไม่ได้ หัวถูกตรึงไว้ ทำได้เพียงจ้องมองตรงไปด้านหน้าและเห็นเหล่าทหารรักของตนยืนมองดูเขาอยู่ สองมือแยกออกไปคนละข้าง สองขาถูกมัดแยกออกเห็นทวารหนัก ที่สำคัญลำควยถูกจับสอดเข้าไปในรูกลวงทะลุจากแผ่นไม้ด้านบนออกสู่ด้านล่าง ปรากฏให้เห็นแก่สายตาทุกคู่ที่จ้องมองอย่างตั้งใจ รูไม้ขนาดไม่ใหญ่เมื่อเทียบกับควยเขาทำให้ควยถูกบีบรัดอย่างแรง

“นี่คือตัวอย่างเครื่องทรมานเชลย ยามถูกตรึงอยู่เช่นนี้ พวกเจ้าจะไม่สามารถขยับตัวได้แม้แต่น้อย ทำได้เพียงจ้องมองไปข้างหน้าเท่านั้น” หลี่เฉินกล่าว ก่อนจะนำเครื่องทรมานสำหรับซู่เรินออกมา

เครื่องทรมานชิ้นที่สองมีลักษณะเป็นโครงไม้โปร่ง มีเสา 2 เสา พร้อมโซ่ตรวนติดอยู่ บนล่างซ้ายขวา รวม 4 จุด ตรงกลางระหว่างเสามีแท่นไม้ขนาดใหญ่ ที่บัดนี้ถูกซู่เรินขึ้นไปเหยียบเรียบร้อยตามคำสั่งของหลี่เฉิน

สองมือสองเท้าถูกจับแยกไปคนละข้างของเสาไม้ ก่อนจะถูกมัดข้อมือข้อเท้าด้วยโซ่ที่ติดอยู่กับเสา ภาพตอนนี้ช่างยากที่จะอธิบาย คุณหนูเรินที่เหล่าทหารเห็นตั้งแต่เล็กแต่น้อย บัดนี้ยืนเผยควยหนุ่ม ระยางค์แขนขาแยกไปคนละทิศละทาง ลำแขนถูกยกขึ้นเห็นขนรักแรดกดำของวัยหนุ่ม ต้นขาถูกแยกออกเผยเครื่องเพศที่ชัดเจนขึ้นทั้งลำควยและไข่ยานโต่งเตง

ยามนี้ว่านปลาไหลเผือกเริ่มออกฤทธิ์แล้ว ลำควยของคุณหนูเรินเริ่มมีเลือดไหลเวียนมากขึ้น พญางูยักษ์กำลังตื่นจากนินรา หนังหุ้มส่วนปลายหัวควยเริ่มเคลื่อนถดถอยลงไปทางโคน จนหัวควยปลิ้นออกมาเต็มที่ เห็นเงี่ยงตรงรอยต่อระหว่างหัวควยกับลำควยใหญ่ชัดเจนโดยรอบ เส้นเลือดปูดโปนไหลแผ่ไปทั่วแท่งหนุ่มน้อย ไข่ทั้งสองข้างก็เห็นเป็นลูกกลมห้อยย้อยลงสู่พื้น

บัดนี้ควยเด็กหนุ่มอย่างซู่เรินแข็งตัวเต็มที่ คาดคะเนความยาวแล้วน่าจะมากกว่ากริชขนาด 1 ฝ่ามือ ความอวบใหญ่มากกว่าเทียนไหว้บรรพชน สีควยชมพูช่างสวยงาม ตัดกับพงหมอยดำที่ไหลแผ่ไปทั่วโคนควยและใต้สะดือของหนุ่มน้อย

“นี่คือสภาพจริงที่เกิดขึ้นได้ยามพวกเจ้าถูกจับเป็นเชลย” หลี่เฉินทำลายความเงียบของทหารที่กำลังจ้องมองสองแม่ทัพพ่อลูกเบื้องหน้า

“บทเรียนสุดท้ายของวันนี้ ชายชาตรีอย่างพวกเราล้วนมีความกำหนัดด้วยกันทั้งสิ้น จริงหรือไม่?” หลี่เฉินเริ่มถามทหารด้านล่างแท่นแสดง

“จริงขอรับ” ทหารตอบพร้อมเพียงกันเสียงดังไปทั่ว

“ยามพวกเจ้าถูกจับมัดดั่งเช่นสองแม่ทัพเบื้องหน้า ย่อมเป็นการยากที่จะระบายความกำหนัดได้ เหตุการณ์นี้จะสร้างความทรมานให้พวกเจ้ายิ่งกว่าข้าศึกทั้งหลาย” หลี่เฉินอธิบาย

เป็นจริงดังท่านเฉินกล่าว เหล่าทหารรู้ดีแก่ใจว่ายามเงี่ยนจัดแล้วไม่ได้ปลดปล่อยออกมานั้นสร้างความอัดอึดในควยได้มากนัก ยามนั้นจะเหมือนขาดสติ จิดใจล่องลอย อย่าหวังจะคิดหาทางรอดจากข้าศึกเลย จะคิดการณ์อันใดย่อมยากไปเสียหมดด้วยความเงี่ยนบดบังตา คิดได้อย่างนี้ทหารจึงตั้งใจฟังวิธีเอาตัวรอดในสถานการณ์เลวร้ายเช่นนี้

“วิธีการปลดปล่อยความเงี่ยนของผู้ชาย มีอยู่ 2 อย่างเท่านั้น คือการสาวควยรูดขึ้นลง กับการเสพสมกับสตรี ซึ่งทั้งสองอย่างนั้นกระทำมิได้เลยยามเป็นทาสที่ถูกจับมัดขยับไม่ได้เช่นนี้ แต่กระนั้นก็ยังมีหนทางรอดได้ คือการร่วมรักกับชายชาติทหารด้วยกัน” หลี่เฉินพูดต่อ

ไม่พูดอธิบายต่อ ปล่อยให้สองพ่อลูกแสดงให้ดูเป็นตัวอย่างเสียเลยดีกว่า หลี่เฉินเคลื่อนเสาที่พันธนาการซู่เรินให้มาด้านหลังตรงกับโต๊ะที่แม่ทัพซู่เหวินนอนนาบอยู่ พร้อมกระซิบข้อความเข้าหูของคุณหนูเริ่นที่ทำให้คุณหนูแสดงสีหน้าตกใจจนตาค้าง

“บัดนี้สองแม่ทัพใหญ่แห่งแคว้นต้าเหลียน จะแสดงการปลดปล่อยความกำหนัดยามเป็นทาสข้าศึกให้พวกเจ้าทั้งหลายดู” หลี่เฉินพูดเสียงดัง สร้างเสียงปรบมือและเสียงโห่ร้องด้วยความดีใจของทหารเบื้องล่างได้เป็นอย่างดี ก่อนที่ซู่เรินจะประกาศข้อความตามที่หลี่เฉินบอกเขาไว้เมื่อสักครู่

“เลือดต้องทดแทนด้วยเลือด ข้า-ซูเริน-กำเนิดขึ้นมาจากน้ำเงื่ยนของท่านพ่อ-ซู่เหวิน วันนี้ลูกชายอย่างข้าขอตอบแทนน้ำเงี่ยนของพ่อด้วยน้ำเงี่ยนของลูกอย่างข้า ขอคืนน้ำเงี่ยนทุกหยาดหยดท่านพ่อจากควยของข้าเอง” ซู่เรินหลับตาหน้าแดงพูดเสียงดังฟังชัด

“ท่านพ่อ ข้าขอโทษ ยามนี้ขอให้ข้าได้ช่วยท่านให้พ้นจากความกำหนัดก่อนหมดยามวอกเถิด ข้าขอสัญญาด้วยเกียรติลูกชายว่าจะหาทางล้างแค้นให้ท่านในภายหลัง” ซู่เริ่นกระซิบพูดกับท่านพ่อ

ก่อนจะลูกชายจะขยับบั้นเอวให้ตรงอยู่กับบั้นท้ายของพ่อ ลำควยใหญ่ของลูกชายจัดอยู่ตรงพอดีกับรูทวารที่ขึ้นเป็นจีบสีชมพูสวยของผู้เป็นพ่อ เมื่อได้ตำแหน่งที่เหมาะสมแล้ว คุณหนูเรินก็กดบั้นเอวพร้อมหัวควยเข้าสู่รูจีบของพ่อแท้ๆ

รูก้นที่มิเคยมีสิ่งใดรุกล้ำเข้าไป ย่อมไม่ปล่อยให้แท่งควยเด็กน้อยสอดใส่ได้โดยง่าย หัวควยเด็กหนุ่มทำได้เพียงเฉียดไปมาตรงรูก้นที่ไม่มีทีท่าว่าจะยอมให้ผ่านไปง่ายๆ เห็นดังนั้นผู้เป็นลูกจึงคิดว่าการผ่อนแรงเพื่อให้ไม่ท่านพ่อเจ็บคงไม่เป็นผล ครั้นมีแต่จะล่วงเลยยามวอกไป อย่างไรเสียวันนี้ควยของเขาต้องเข้าไปถึงจุดรวมปราณของท่านพ่อให้ได้อยู่ดี

ฝ่ายซูเหวินเองที่แม้จะมองไม่เห็นข้างหลัง แต่ก็รู้สึกได้ทุกการกระทำของบุตรชาย ที่ส่งท่อนควยแข็งขนาดใหญ่มายังบริเวณก้นของเขา ที่ตอนนี้เปรอะเปื้อนด้วยน้ำหล่อลื่นของบุตรชายไปทั่ว แม้จะยังไม่สอดเข้าตรงกลางทวาร แต่ก็สร้างความกลัวไม่น้อยให้ท่านแม่ทัพ แต่อย่างไรเสียวันนี้ เขาย่อมรู้ดีว่าหากน้ำเงี่ยนเขาไม่หลั่งก่อนยามวอก เขาจะสิ้นลมหายใจ ลูกเมียทั้งหลายก็พลอยเดือดร้อนไปด้วย คิดได้เช่นนี้จึงพยามยามผ่อนคลายรูทหารให้เปิดออก ปล่อยให้ลูกชายสานต่อให้เสร็จ

ซู่เรินเห็นรูทวารท่านพ่อเผยออกเล็กน้อย ก็เข้าใจทันทีว่าท่านพ่อเองก็พยายามผ่อนคลายให้เขาเต็มที่ เหมือนเป็นคำอนุญาตให้ลูกอย่างเขาสอดควยเข้ามาได้ ชายหนุ่มอย่างเขาจึงหลับตาคิดว่าเบื้องหน้าคือสตรีงดงามล้ำแผ่นดิน กำลังนอนแผ่เครื่องเพศ ยอมให้เขาสอดใส่แท่งควยชายเข้าไปทำลายเยื่อพรหมจรรย์สาวให้สิ้น

ไม่ช้าลำควยซู่เรินก็เชิดชูชี้ฟ้าปล่อยน้ำหล่อลื่นออกมาจำนวนมาก ไหลชะโลมไปทั่วตั้งแต่หัวควยบานจนถึงลำแก่นควย บัดนี้หนุ่มน้อยตกอยู่ในห้วงจินตนาการ ที่คิดว่าพระบิดาเบื้องหน้าคือสาวงามบริสุทธิ์ ก่อนที่จะจ่อหัวควยเข้าตรงรูจีบนั้น

สิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น ซู่เรินพร้อมควยที่ชะโลมด้วยน้ำหล่อลื่นเขาเอง ถูกดันกดอย่างแรงจนมิดหัวควยจมดิ่งสู่รูทหารผู้เป็นพ่อที่กำลังสะดุ้งเฮือกแต่กัดฟันแน่น ด้วยว่าไม่ต้องการแสดงความอ่อนแอให้ทหารทุกคนเห็น และไม่ต้องการให้ซู่เรินวิตกกังวล จึงหลับตากำมือแน่น สองเท้าจิกพื้นอย่างเจ็บปวด

ฝ่ายลูกชายไม่เห็นพ่อแสดงความเจ็บปวดก็ไม่รอช้า ถอดควยออกมาครึ่งหัว รูจีบบานออกตามหัวควยที่ถอยออก เหมือนกำลังผ่อนคลายเต็มที่ ก่อนจะถูกควยเสียบลงไปอย่างแรงจนมิดด้ามจมหายไปในรูทวารผู้พ่อ

บัดนี้เขาได้ฉีกพรหมจรรย์ของแม่ทัพใหญ่จนขาดสิ้น เลือดชายไหลซึมออกมาตามต้นขาถึงข้อเท้า บุตรชายแช่ควยนิ่งไว้ในร่างผู้เป็นพ่อสักพัก ซึมซาบความแน่นที่โอบรัดเริ่นน้อยลำเขื่อง เนื้อของพ่อที่กำลังบีบรัดลำควยเด็กหนุ่มนั้นช่างแข็งแรงและแน่นหนายิ่งกว่าโยนีของสตรีใดๆ ที่เขาเคยร่วมหลับนอนด้วย เป็นความรู้สึกเสียวซ่านแก่ลูกชายอย่างที่สุดตั้งแต่เขาเคยร่วมเสพสมมา

ฝ่ายผู้เป็นพ่อเมื่อมีท่อนเนื้อของลูกชายฝังอยู่ในกายตน ก็ยืนขาสั่นมือสั่น แต่ทำอะไรไม่ได้เพราะว่าถูกตรึงด้วยโซ่ใหญ่ ได้แต่เงยหน้ามองเหล่าทหารที่ยืนขนลุกขนชันเบื้องล่าง

เมื่อร่างกายซู่เหวินเริ่มปรับตัวได้ ซู่เรินก็เริ่มกระเด้าเย็ดท่านพ่อของตน เขาลืมตาก้มลงมองควยที่ผุบเข้าผุบออกจากรูทหารของพ่อ แม้ไม่คุ้นตาเหมือนภาพควยสอดใส่เข้าหีของสาวงาม แต่ก็พอสร้างอารมณ์เงี่ยนแก่ลูกชายอย่างเขาได้มาก

“ขะ... ข้าเสียวควยเหลือเกินท่านพ่อ ก้นของท่านโอบรบมควยของข้าเสียแน่นไปทั่วบริเวณ” ซู่เริ่นพูดกับผู้เป็นพ่อ

เมื่อปรับตัวได้ ความเจ็บปวดก็หายกลายเป็นความเสียว ซู่เหวินนอนคว่ำปล่อยให้ลูกชายเย็ดส่วนล่างของตนอย่างบ้าคลั่ง ความเสียวนี้มากล้นยิ่งกว่าเย็ดกับนางสนมหลายร้อยเท่า

“เริ่นลูกพ่อ... พ่อเองก็เสียวเหลือเกิน พ่อภูมิใจในควยลูกชายอย่างเจ้าจริงๆ” ซู่เหวิน

ปลดปล่อยอารมณ์ของตนไปตามความต้องการ

ทุกครั้งแต่ซู่เรินแทงควยสวนขึ้นไประหว่างก้นกับควยของฝ่ายพ่อ จะเข้าไปจี้จุดหนึ่งที่อ่อนนุ่มอุ่นกำลังดี และเมื่อหัวควยแทงเข้าจุดนี้เมื่อไร ท่านพ่อจะซิ๊ดปากเชิดหน้าปลดน้ำหล่อลื่นออกมามากอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เขาจึงทราบได้ทันทีว่าเจอจุดรวมปราณเข้าให้แล้ว

“หยิบหมวกพระราชทานประจำสกุลซู่มาวางรองน้ำควยของท่านแม่ทัพซู่ไว้” หลี่เฉินที่บัดนี้นั่งบนแท่นบังลังค์รับชมการร่วมเพศของพ่อลูกอย่างพอใจ ออกคำสั่งกับลูกสมุน

หมวกที่ถูกสวมใส่บนศีรษะอันมีเกียรติของชายสกุลซู่ตั้งแต่รุ่นทวดมาจนถึงปัจจุบัน ถอดหยิบมาวางรองรับน้ำควยของผู้สืบทอดตระกูลอย่างซู่เหวิน ที่ปลดปล่อยน้ำใสออกมามากมายทุกครั้งที่บุตรชายแทงควยเสพสังวาส

“ขอเชิญวิญญาณบรรพชนทุกคนมา ณ ที่แห่งนี้ โปรดดูข้าหลั่งน้ำควยใส่หมวกที่เคยอยู่บนหัวพวกท่าน โปรดดูหลานชายสกุลซู่กำลังร่วมเพศกับข้า-ผู้เป็นพ่อ-เยี่ยงสัตว์ป่า… ซิ๊ดดด” แม่ทัพพูดตามที่หลี่เฉินเคยสั่งเอาไว้

เมื่อซู่เริ่นค้นเจอจุดกระตุ้นความกำหนัดก็ตั้งใจเสียบควยแทงตรงจุดนั้นตลอด สองมือที่ถูกขึงแยกออกเกร็งไปทั้งลำแขน สองขาก็ยืนแทบไม่ติดพื้น ทิ้งน้ำหนักตัวลงบนบั้นท้ายของพ่อ กดควยเสียบลึกเข้าเข้าไป ก่อนจะถอนออกมาครึ่งลำแล้วควงหมุนเพื่อเบิกรูทวารให้ใหญ่ขึ้น สร้างความเงี่ยนให้พระบิดาเป็นอย่างมาก

“โอ๊ยย... เรินลูกพ่อ เสียวเหลือเกิน” ซู่เหวินพูด พลางคิดว่าเห็นลูกชายคนนี้มาแต่เล็ก ไม่คิดว่าลีลาของจะดีน่าติดใจอย่างนี้ หากรู้ก่อนหน้านี้จะประทานนางสนมให้สักครึ่งจวน สมแล้วที่เป็นลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของเขา

“ท่านพ่อขอรับ ข้าก็เสียวสะท้านไปทั้งร่าง ไม่คิดเลยว่าทวารของท่านจะเย็ดมันกว่าหีของหญิงทั้งหลายที่ข้าเคยเจอ” ซู่เรินคราง

บัดนี้เข้าสู่ยามวอกแล้ว ภาพที่ทหารเห็นคือสองเทพบุตรรูปงาม คนหนึ่งยืนกระเด้าควยเข้าออก เนื้อตัวขาวกระจ่างมีหยาดเหงื่อปกคลุม ทำให้ผิวดูลื่นมันเป็นวาววับ หัวนมก็ชูชันสีชมพูน่าเลียยิ่งกว่าของเมียที่มีอยู่ หมอยดำก็ขึ้นตัดกับสีผิว อีกคนก็แอ่นทวารรับควยใหญ่ยาวอย่างไม่ยี่หระ หลั่งไหลน้ำใสออกมาใส่หมวกบรรพชนจำนวนมาก

เหล่าทหารก็ยืนดูพ่อลูกเสพสมกันตรงหน้าอย่างอยากรู้อยากเห็น บ้างก็คิดอยากลองเย็ดท่านแม่ทัพดูสักครั้งหนึ่ง บ้างก็คิดว่าคุณหนูเรินช่างมีฝีมือเรื่องบนเตียง เห็นอย่างนี้แล้วทหารก็ควยแข็งไปตามๆ กัน

“เอาเลยลูกพ่อ เย็ดพ่อแรงๆ เลย คิดเสียว่าพ่อเป็นนางโลมโคมเขียวไร้ค่านางหนึ่ง” ซู่

เหวินพูดอย่างเงี่ยนจัด เพราะเข้าสู่ยามวอกแล้ว พิษแมงมุมเริ่มสำแดงฤทธิ์

ซู่เรินเห็นท่านพ่อเรียกร้อง ก็ปล่อยของดีอย่างไม่ยั้ง ซอยลำควยเข้าออกถี่ยิบ จนรูทวารเบิกบานออก น้ำหล่อลื่นไหลปนกับน้ำเลือดจากการเปิดบริสุทธิ์ หลี่เฉินที่นั่งดูอยู่เงียบๆ สั่งให้ทหารไปปลดโซ่ที่ลามซูเรินไว้

ยามนี้ลูกชายไม่มีเครื่องพันธนาการใดๆ แล้ว แต่ก็ยังคงยืนเย็ดแม่ทัพใหญ่ผู้พ่ออย่างเมามัน สองมือจับบั้นท้ายของพ่อกดรับทุกครั้งที่สวนควยเข้าไป เกิดเสียงดัง ตับ... ตับ... ตับ... เมื่อพวงไข่ของลูกกระทบกับพวงไข่ของพ่อ ก่อนที่คนลูกจะหลับตาจินตนาการ แล้วหลั่งไหลคำพูดออกมามากมาย

“เจ้ามันสาวนางโลมไร้ค่า ได้ควยบุรุษชั้นสูงอย่างข้าเสียบเข้ารูหีเจ้านับว่าเป็นบุญนัก”

“ไม่คิดเลยว่าราชาหนุ่มรูปงามอย่างข้าจะได้เมียน่ารังเกียจเยี่ยงเจ้า”

“ยืนนิ่งแอ่นหีสกปรกให้ข้าเย็ดแบบนี้ เจ้าคงเงี่ยนมากซินะ”

“หีโสโครกของเจ้าแน่นรัดควยกษัตริย์อย่างข้าเหลือเกิน”

ฝ่ายผู้ถูกกระทำก็เสียวไปทั่วร่าง โดยเฉพาะตรงรูทวารที่รู้สึกยุบยับอย่างบอกไม่ถูก ภายในท้องก็เหมือนมีพายุขนาดย่อมก่อตัวอยู่ภายใน เกิดความโล่งๆ อยู่ภายใน ร่วมกับความเสียวซ่านสุดทน จนต้องเปร่งวาจาน่าไม่อายออกมา

“ซิ๊ดดด... ควยเจ้ามีค่าเหลือเกิน หากชาตินี้ได้เป็นเจ้าของควยเจ้า ข้าก็ตายตาหลับแล้ว”

“อ่า... กระเด้าอย่างนั้นพ่อหนุ่ม เย็ดเข้ามาอีก ร่วมรักกับข้าให้ตายตรงนี้ไปเลย”

“โอ๊ยย... ถูกควยชายหนุ่มรูปงามเย็ด เสียวยิ่งกว่าเย็ดกับสาวสวยเป็นไหนๆ”

“ซู้ดด... สุขจริงๆ อยากถูกว่าที่กษัตริย์อย่างเจ้าใช้ควยทิ่มแทงข้าทุกวัน”

บัดนี้ใกล้สิ้นยามวอกแล้ว ฝ่ายกระทำก็ทนเสียวซ่านมานาน หลังจากได้ลิ่มลองรูมหัศจรรย์ใหม่ที่ไม่เคยลองมาก่อน ได้ปล่อยลำควยเสียบกระเด้าเข้าออก ได้ใช้แท่งควยหมุนวนควงอยู่ภายใน แม้อีกฝ่ายจะเป็นผู้มีพระคุณ แต่ยามนี้ย่อมต้องปล่อยให้เป็นไปตามสัญขาตญาณของสัตว์ที่อยู่เหนือกฏเกณฑ์ทางสังคม

ไม่นานนัก ลูกชายก็รู้สึกได้ถึงปริมาณน้ำที่ค่อยๆ ปล่อยออกมาจากลูกอัณฑะทั้งสองข้างซ้ายขวา ไล่ขึ้นมาตามแกนนำทางที่ฝังอยู่ภายในแทงควยใหญ่ ก่อนจะเปิดออกสู่ปากควยที่ประกบกันอยู่ในจังหวะสุดท้าย

“ซิ๊ดดดด… ข้า-จะ-ถึง-จุด-แตก-แล้ววว ท่านพ่อ... โปรดรับลูกๆ ของข้าเข้าไปด้วยเถิด” ซู่เรินประกาศ

ลำควยซอยรูก้นแม่ทัพจนมองแทบไม่ทัน ก่อนซู่เรินจะกระตุกร่างกายแข็งเกร็งไปทั่ว ยืนเขย่งเท้าจิกพื้น สองมือกางออก ปลดปล่อยน้ำควยขาวขุ่นข้นเหนียวกระฉูดพุ่งเข้าร่างผู้เป็นพ่ออย่างล้นทะลัก เปลี่ยนทวารของพ่อให้กลายเป็นหลุมรับน้ำเงี่ยนของลูก

ปากควยยังคงพ้นน้ำออกมาไม่หยุดยั้ง น้ำระลอกแรกเริ่มไหลเยิ้มออกมาจากรูทวาร ก่อนจะชะโลมไปทั่วขาทั้งสองของแม่ทัพ น้ำระลอกต่อมาก็ฉีดพ่นเข้าสู่ร่างกายของอีกฝ่าย หากแม่ทัพเป็นสตรีก็คงตั้งครรภ์ไปเสียแล้ว นับเป็นครั้งที่ซู่เรินปล่อยน้ำเงี่ยนออกมาเยอะที่สุด

เมื่ออีกฝ่ายปลดปล่อยน้ำออกมาราวกับฝายกั้นน้ำแตก หลั่งเต็มช่องท้องของผู้เป็นพ่อ ก็เกิดแรงดันกดจุดรวมปราณ สะท้านจนขนลุกไปทั่วร่าง ก่อนจะบังเกิดความเสียวซ่านไหลแผ่ไปตามลำควยที่ผงกหัวขึ้นลงอย่างน่ากลัว จนในที่สุดท่านแม่ทัพก็ทนต่อไปอีกไม่ไหว

“ขะ... ขะ... ข้า-เสียว-ควย-เสียว-ไข่-ไป-หมด-แล้วว ไม่ไหวแล้ววว” ซู่เหวินคำราม

ก่อนจะเผยภาพไม่น่าเชื่อให้ทหารทั้งหลายดู โอรสสวรรค์กำลังหลั่งน้ำได้เองโดยไม่ต้องสัมผัสร่างกายเลยแม้เพียงนิด หลั่งไหลน้ำเงี่ยนกลิ่นคาวคุ้งปริมาณมากมายพุ่งกระทบใส่หมวกบรรพชนที่เคยถูกสวมใส่มาทุกรุ่น และยังคงปล่อยน้ำควยออกมาอีกหลาย 10 ที จนเอิ่อเต็มหมวกที่รองรับอยู่ เหนียวข้นเหมือนน้ำยางที่ออกมาจากต้นไม้ลำใหญ่ ยืดเป็นสายตั้งแต่ปลายควยถึงหมวกเบื้องล่าง

สองพ่อลูกเริ่มได้สติกลับคืนมา พร้อมกับความอับอายจนหน้าชาไปหมด พวกเขาอยู่ในสภาพอวดสัดส่วนทรวดทรงและเครื่องเพศชายชาตรีที่หมายปองของหญิงสาวทั้งหลาย พวกเขาพึ่งจะร่วมรักกันเองต่อหน้าทหารน้อยใหญ่ในจวน พวกเขาพึ่งปล่อยน้ำรักออกมาใส่ร่างกายและหมวกบรรพชนอย่างไม่อายฟ้าดิน

“บทเรียนในวันนี้ พวกเจ้าทั้งหลายจงดูและจำไว้เป็นตัวอย่างยามตกเป็นทาสของข้าศึก วันนี้ท่านแม่ทัพและองค์ชายให้เกียรติมาสอนด้วยตัวเอง อย่าให้น้ำใจของท่านทั้งสองไร้ค่า” หลี่เฉินลุกขึ้นกล่าวต่อหน้าทหาร

“สิ้นสุดการสอนแต่เพียงเท่านี้ โปรดปลดพันธนาการและแต่งกายท่านแม่ทัพให้สมพระยศอีกครั้ง” หลี่เฉินหันไปบอกสมุน

ลูกสมุนรับคำสั่ง เดินไปแก้มัดให้แม่ทัพซู่และหยิบหมวกบรรพชนที่เต็มไปด้วยน้ำหล่อลื่นและน้ำเงี่ยนของแม่ทัพกลับไปสวมใส่ลงบนหัว ทำให้น้ำเงี่ยนตัวเองไหลย้อยเปื้อนเต็มหน้าไปหมด ขนคิ้วและขนตาหยาดเยิ้มไปด้วยน้ำเงี่ยน บ้างก็ไหลเข้าปาก เข้าจมูก

ใบหน้าหล่อเหล่าถูกเคลือบไปด้วยน้ำเงี่ยนของตนเอง ดูสภาพน่าสมเพชเหลือเกิน น้ำตาหลั่งไหลออกมารวมกับน้ำเงี่ยน ชะโลมไปทั่วแก้มทั้งสอง เบื้องล่างก็มีน้ำเงี่ยนของลูกชายไหลออกมาจากรูทวารที่บานแดงกลวงโบ๋ ปล่อยน้ำเงี่ยนย้อยเปื้อนขาเปื้อนเท้าไปหมด ไม่เหลือภาพท่านแม่ทัพใหญ่แห่งแค้วนต้าเหลียนเลยสักนิด

“นำแม่ทัพไปล้างเนื้อล้างตัวให้สะอาด พรุ่งนี้ท่านมีภาระกิจต้องออกตรวจเยี่ยมราษฏร” หลี่เฉินสั่งพร้อมกับแววตาของผู้เป็นนายทาสอย่างแท้จริง

รุ่งอรุณวันใหม่เริ่มขึ้น แต่ความเจ็บปวดของสองแม่ทัพยังไม่เลือนหายไป เหตุการณ์สมสู่กันระหว่างสายเลือดแท้ๆ ของสองพ่อลูก คงยากที่จะทำให้กลับมามองหน้ากันได้อีกครั้งหนึ่ง

ยามนี้องค์ชายเรินถูกจับมัดขึงร่างติดอยู่กับเสาไม้กางเขนในสภาพเปลือยเปล่า สองแขนขนาดใหญ่ถูกตรึงไปคนละฝั่ง สองเท้าถูกมัดรวบติดกัน ใบหน้าหมองคลำไม่สดใส ผมเผ้ารุกรัง เนื้อตัวสกปรกมอมแมม แต่กระนั้นก็ยังลดทอนความงามของเทพบุตรอย่างซู่เรินได้เลย

วันนี้หลี่เฉินมีคำสั่งให้นำตัวองค์ชายกลับไปยังเมืองเหอเป่ย เมืองที่องค์ชายเรินพึ่งจากมาในฐานะกษัตริย์ผู้ปกครอง แต่กำลังจะกลับไปในฐานะทาสเชลย

ขบวนส่งเสร็จถูกจัดเตรียมพร้อม ถ้าจะเรียกให้ถูกน่าจะเป็นขบวนแห่เสียมากกว่า เพราะในตอนนี้ไม่มีแม้พระที่นั่งหรือม้าอาชาศึก มีเพียงเสาไม้กางเขนที่แขวนร่างเปลือยของหนุ่มน้อยหน้าตาดีไว้ พร้อมด้วยทหารรับใช้ของหลี่เฉินราว 10 กว่าคน

“พวกเจ้าจงพาคุณชายเรินไปให้ถึงเมืองเหอเป่ยโดยสวัสดิภาพ เมื่อถึงที่นั่นให้คุณชายทำงานเป็นทาสที่เหมืองแร่ในตัวเมือง โดยให้เพื่อนรักของข้า นามว่าเง็กจือเป็นผู้ดูแล”

เง็กจือเป็นชายหนุ่มหน้าตาดี อายุรุ่นราวคราวเดียวกับหลี่เฉิน ทั้งสองเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก ก่อนที่หลี่เฉินจะแฝงตัวเข้ามาในเมืองต้าเหลียน ส่วนเง็กจือนั้นก็ถูกใช้แรงงานเป็นทาสอยู่ที่เมืองเหอเป่ย ด้วยความที่ทำงานหนักใช้แรงมากตั้งแต่เด็ก ทำให้เง็กจือเติบโตเป็นชายหนุ่มผิวขาวใส รูปร่างกำลังดี ไม่ผอมแห้งแรงน้อย แต่ก็ไม่ได้มีกล้ามใหญ่จนเกินงาม ยามถอดเสื้ออวดทรวดทรงก็เรียกน้ำลายจากชายหญิงได้มากโข

“ท่านพ่อท่านแม่... ข้าจะกลับมา ล้างแค้นให้ท่านสักวัน” ซู่เรินเค้นคำพูดออกผ่านไรฟันที่ขบแน่น

ก่อนขบวนแห่จะเริ่มเคลื่อนออกจากเมืองต้าเหลียน มุ่งสู่เมืองเหอเป่ย

ณ เมืองเหอเป่ย

ขบวนแห่ร่างเปลือยของคุณชายเรินเดินทางมาถึงแล้ว ประตูเมืองถูกเปิดออกต้อนรับ แต่ภาพที่เห็นกลับสร้างความแปลกใจให้ทหารและทาสในเมืองเป็นอย่างมาก

ร่างของซู่เรินค่อยๆ เคลื่อนผ่านสายตาของผู้คนในบริเวณนั้นจำนวนมาก ชายหนุ่มถูกจ้องมองจากดวงตานับร้อยคู่ที่กำลังเก็บภาพประวัติศาสตร์ในครั้งนี้ ภาพที่คุณชายรูปงามถูกจับมัดตัวลอยติดเสา ปล่อยองคชาติและไข่ห้อยยานสั่นไปตามแรงเคลื่อน ดกหมอยดกดำปกคลุมไปทั่วเครื่องเพศ

ช่างน่าอายเหลือเกินที่เขาต้องมาอวดของดีให้ทหารและทาสดูโดยไม่เสียแม้ตำลึงเดียว ร่างกายที่เคยเป็นที่หมายปองของหญิงสาวทั้งหลาย บัดนี้ถูกมองแทะโลมอย่างหื่นกระหายจากเหล่าทาสในเมืองที่ไร้ซึ่งสตรีมานาน ทุกพื้นที่บนร่างไม่เหลือสิ่งใดให้จินตนาการ ทั้งหัวนมสีชมพูดอกท้อ ทั้งเส้นขนทุกเส้นใต้รักแร ทั้งกล้ามเนื้อใหญ่โต ทั้งหัวควยที่ทิ้งปลายลงสู่แผ่นดิน

“แม่ทัพซู่เหวินมีรับสั่ง ให้ราชบุตร-องค์ชายซู่เริน-เข้ารับการฝึกทำงานพร้อมพวกทาสทั้งหลายในเมืองนี้ กินนอนพร้อมทาส ไม่มีชนชั้น เพื่อให้ราชบุตรมีประสบการณ์ รู้และเข้าใจความรู้สึกของทุกชนชั้นก่อนขึ้นเป็นกษัตริย์ โดยแต่งตั้งเง็กจือให้เป็นผู้ดูแล” ทหารในขบวน กล่าวออกมาประกาศเสียงดังฟังชัด ได้ยินไปทั่วบริเวณ สร้างเสียงโห่ร้องอย่างดีใจแก่ทาสทั้งหลายในตัวเมือง

เง็กจือก้าวเท้าออกมาจากหมู่คน พร้อมรับราชโองการ สองตาของซู่เรินสบกับเจ็กจือชั่วขณะ ก่อนจะหลบสายตาไปอีกทาง เบื้องหน้าซู่เริ่นคือชายหนุ่มใบหน้างดงาม รูปร่างสมส่วน แววตากลมสดใส ส่วนเบื้องหน้าของเง็กจือคือชายฉกรรจ์หล่อเหลา มัดกล้ามใหญ่ชัด พร้อมเครื่องเพศที่ยากจะละสายตามอง

“คุณชายเริน ท่านช่างโชคร้ายเหลือเกินที่ต้องมาตกอยู่ในสภาพเช่นนี้” เง็กจือได้แต่ถอนหายใจ

ฝั่งแม่ทัพซู่เหวิน ยามนี้จิตตกยิ่งหนัก ความเจ็บปวดบริเวณทวารที่ถูกแหวกทำลายโดยบุตรชายยังเทียบไม่ได้กับความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นภายในจิตใจ

ในระหว่างที่ขบวนแห่ร่างเปลือยของบุตรชายกำลังเดินทาง ขบวนเยี่ยมราษฏรของเขาก็ถูกจัดเตรียมขึ้นเหมือนทุกครั้งที่แม่ทัพจะเสด็จออกตรวจเมืองและเยี่ยมเยียนประชาชน ต่างที่เครื่องแต่งกายของแม่ทัพที่มีเพียงผ้าเตี่ยวผืนเล็ก ที่ถูกสั่งปักลายสัญลักษณ์ประจำตระกูล ปิดตรงองคชาติเท่านั้น

วันนี้แม่ทัพใหญ่ใส่ผ้าเตี่ยว กำลังขึ้นนั่งบนอานม้าศึกคู่ใจ ขณะที่ประตูจวนถูกเปิดออก เผยให้เห็นเหล่าประชาชนที่มารอนั่งอยู่สองฝั่งข้างทาง หวังเชยชมบารมีของผู้นำอย่างซู่เหวินสักครั้ง

ขบวนเริ่มเคลื่อนออกจากประตูเมืองได้ไม่นาน ก็เริ่มเกิดความโกลาหลเล็กน้อย เกิดเสียงซุบซิบนินทา บ้างก็เบือนหน้าหนี บ้างก็จ้องไม่ละสายตา

เมื่อภาพตรงหน้าไม่ใช่สิ่งที่ประชาชนเฝ้ารอ ไม่มีภาพผู้นำที่สง่างามเกรียงไกร แต่เป็นภาพของแม่ทัพที่เปลือยส่วนบน เผยแผงอกขนาดใหญ่ หัวนมชูชัน กำลังขี่ม้าศึกสีขาวคู่ใจ เบื้องล่างมีผ้าเตี่ยวทรงสี่เหลื่ยมปิดไว้เฉพาะเครื่องเพศ ที่เมื่อมองจากด้านล่างขึ้นไปยังอานม้า ก็เห็นพวงไข่ยานพร้อมขนหมอยท่านแม่ทัพที่ขึ้นประปรายได้ไม่ยาก

ยามม้าเคลื่อนที่ไป ผ้าเตี่ยวก็ขยับขึ้นลงตามจังหวะการเดิน หากชายหญิงคนใดจ้องให้ดี ก็จะสามารถมองเห็นควยใหญ่ของท่านไม่ทัพได้ไม่ยาก แม้จะเป็นเพียงแวบเดียว แต่ก็สร้างความอยากรู้อยากเห็นแก่ผู้จ้องมองได้มาก

แม้จะยังงุนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ประชาชนก็ยังคงไม่ไปไหน รอท่านแม่ทัพเสร็จขึ้นแท่นบังลังค์ใจกลางเมือง เพื่อหวังได้ยินเสียงน่าเกรงขามของผู้นำยามประกาศข่าวสารที่แท่นใจกลางเมือง

ขบวนเสร็จเดินทางใจกลางเมือง ท่านแม่ทัพเสร็จลงจากหลังม้า ก่อนเดินขึ้นบังลังค์พร้อมสายตาจับจ้องไม่ลดละมาที่ร่างกายของท่านแม่ทัพ เพราะบั้นท้ายของแม่ทัพไม่มีผ้าเตี่ยวปกปิดเหมือนด้านหน้า จึงเผยให้เห็นก้นกลมของท่านแม่ทัพ ยามเดินขี้นบันไดทำให้มองเห็นรูทวารที่บานแดงออก หลายคนตาค้างกับภาพที่เกิดขึ้น

“อดทนเข้าไว้ อดทนเข้าไว้... ข้าจะต้องผ่านมันไปให้ได้” ซู่เหวินคิดขณะถูกจ้องมองเรือนร่างจากประชาชนผู้เป็นที่รัก

แม่ทัพเดินมาถึงใจกลางแท่น ยืนอวดรูปกายยามต้องแสงจ้า ช่างงดงามเหลือเกิน ผิวหนังมีเหงื่อไคล สะท้อนกับแสงแดดดูเหลื่อมมัน วับวาวเป็นประกาย ผ้าเตี่ยวได้รับผลจากน้ำเหงื่อ ทำให้บัดนี้เปียกชุ่ม เผยให้เห็นเค้าโครงเครื่องเพศขนาดไม่ธรรมดา ยกนูนเด่นอยู่ใต้ผืนบางที่แทบปิดไม่มิด

“ประชาชนที่รักทั้งหลาย ข้าในฐานะแม่ทัพใหญ่ผู้ปกครองดินแดนแห่งนี้ ขอประกาศว่ายามนี้บ้านเมืองอยู่ในความสงบดี ไม่มีศึกหรือภัยอันใดให้ต้องระแวง” แม่ทัพเริ่มทำหน้าที่

เวลาล่วงเลยไป แม่ทัพได้ประกาศข่าวสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับบ้านเมืองและประชาชน ทุกเรื่องไม่มีสิ่งใดน่าเป็นห่วง ที่น่าห่วงคือขนาดผ้าเตี่ยวที่ดูเหมือนจะปกปิดองคชาติที่ค่อยๆ ขยายขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ของแม่ทัพไม่ไหวเมื่อใกล้ยามวอก

ยามนี้ดูข่าวสารจะน่าสนใจน้อยกว่าของดีของท่านแม่ทัพเสียแล้ว ประชาชนเริ่มหลั่งไหลเข้ามาเบื้องหน้าแท่นประกาศ จ้องมองสิ่งที่ไม่คิดว่าจะได้มีโอกาสเห็น พลางคิดไปต่างๆ นานา

“วันนี้แม่ทัพซู่กินอะไรผิดสำแดงมาหรือเปล่า?”

“แม่ทัพเล่นพิเรนทร์อะไรกัน? แต่งตัวน่าขันยิ่งนัก”

“แม่ทัพรูปงาม ควยท่านกำลังจะแข็งตัวจริงๆ หรือนี่?”

“ทำไมแม่ทัพจึงเกิดกำหนัดต่อหน้าประชานชน ใจกลางเมืองเช่นนี้?”

“หุ่นแม่ทัพช่างดีเหลือเกิน อยากรู้ว่าควยของท่านจะดีเหมือนหุ่นหรือไม่?”

“ขนาดมองผ่านผ้าเตี่ยว ควยแม่ทัพยังดูใหญ่ขนาดนี้ ชักอยากเห็นของจริงเสียแล้ว”

“ไอ้ซู่เหวินควยใหญ่ นี่ใกล้จะยามวอกแล้ว หากไม่รีบดำเนินการ เจ้าคงไม่รอดแน่” หลี่เฉินกระซิบบอกแม่ทัพให้ทำตามที่นัดแนะไว้

แม่ทัพหลับตา ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนสูดหายใจเข้าลึก หน้าแดง พร้อมประกาศเสียงดังว่า

“ข้าเป็นแม่ทัพใหญ่ เงี่ยนได้ชักว่าวเป็น บัดนี้ควยข้ากำลังแข็ง ขอสั่งให้ประชาชนทุกคนมองควยข้าให้ดี อย่ากระพริบตาเด็ดขาด”

ทันทีที่ประกาศจบ ผ้าเตี่ยวผืนเล็กก็ถูกกระชากออกโดยมือของแม่ทัพเอง ทุกคนในที่แห่งนั้นล้วนตกใจกับภาพที่เกิดขึ้น ต่อมาเปลี่ยนเป็นความตะลึง เมื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า คือกษัตรย์ปกครองเมือง ยืนกลางแท่นเวที ไม่มีสิ่งใดปกปิดร่างกาย

แม่ทัพยืนเด่นอยู่กลางเวทีพร้อมด้วยขนาดความเป็นชายที่ไม่ธรรมดา ขนาดควยที่ชายทุกคนในเมืองยังคิดอิจฉา หญิงทั้งหลายกลืนน้ำลายตาค้าง ควยใหญ่ใหญ่ยาว ตั้งโด่ชี้ฟ้า แข็งทะมึน ลำอวบยิ่งกว่าข้อมือแม่ทัพ กำไม่รอบ เส้นเลือดปูดโปน ขึ้นเต็มอยู่รอบลำควย หัวควยบานสีม่วงคล้ำ พวงไข่ยาน ลูกใหญ่กลมรี พร้อมด้วยดงขนหยิก ที่ขึ้นกระจายไปทั่วเนินควย

“พวกเจ้าเห็นควยข้าแล้ว มีความคิดเห็นอย่างไรบ้าง?” แม่ทัพพูดตาที่หลี่เฉินเคยสั่งไว้ ก่อนชี้นิ้วถามชายหนุ่มคนหนึ่งเบื้องล่างแท่นประกาศ

“ขะ... ขะ.. ข้ามิกล้าออกความเห็นขอรับ ท่านแม่ทั...” ชายหนุ่มตัวสั่น สายตาจับจ้องที่ควยผู้นำ

“เหลวไหล ข้าถามเจ้าอยู่ จงตอบมาตามจริง ไม่เช่นนั้นข้าจะสั่งลงโทษเจ้า” แม่ทัพพูดแทรกชายหนุ่ม

“ระ... เรียนท่านแม่ทัพ ลำควยของท่านชะ... ช่างใหญ่โตราวกับกระบองไม้ไผ่ ใหญ่กว่าของข้าหลายเท่านัก” ชายหนุ่มตอบตะกุกตะกัก

“แล้วเจ้าคนนั้นคิดเห็นกับควยข้าอย่างไร?” แม่ทัพเปลี่ยนไปถามชายหนุ่มอีกคน

“ควยท่านแม่ทัพดูช่างน่าเกรงขาม ทั้งใหญ่ทั้งยาว ส่วนหัวควยก็งดงามเหมือนดอกเห็ดยามต้องฝน บานสะพรั่ง อัณฑะทั้งสองก็ดูบวมเต่ง ราวกับบรรจุน้ำอมฤตไว้ปริมาณมหาศาลขอรับ” ชายหนุ่มอีกคนรีบตอบด้วยกลัวถูกลงโทษ

“ท่านผู้เฒ่าคนนั้นละว่าอย่างไร? ควยข้าเป็นเช่นไร?” แม่ทัพหันไปถามชายแก่คนหนึ่ง

“นับตั้งแต่ข้าเกิดมาจนบัดนี้ ยังมิเคยพบเห็นอวัยวะเพศของผู้ชายคนไหนใหญ่ได้เทียบเท่ากับของท่านเลย น้ำหล่อลื่นช่างเยอะอย่างไม่น่าเชื่อ เหมือนเมือกจากทากนับร้อยตัว่ พวยพ่นหลั่งไหลออกมาไม่หยุด สมชายชาตรีอย่างท่านยิ่งนัก” ชายแก่ตอบ

บัดนี้เข้าสู่ยามวอกแล้ว ความกำหนัดเริ่มแผ่ซ่าน พร้อมลำควยที่ปล่อยน้ำใสออกมา ไหลนองไปทั่วพื้นเวที แม่ทัพเริ่มคุมสติไม่อยู่ กำมือสาวควยต่อสายตาประชาชนที่ถูกแม่ทัพสั่งให้จ้องมองเขาตลอด เงยหน้าเม้มปาก ตั้งหน้าตั้งตาชักว่าวอย่างมีความสุข ท่ามกลางแสงแดดจ้า เหมือนคนบ้าเสียสติ

จู่ๆ ทหารหลายคนก็ขึ้นมาจับแม่ทัพไว้แน่น พร้อมกับที่หลี่เฉินขึ้นมาประกาศต่อหน้าประชาชนว่า “บัดนี้ท่านแม่ทัพเหมือนคนเสียสติไปแล้ว ข้าในฐานะองค์รักษ์ผู้ดูแลขอพันธนาการแม่ทัพไว้ก่อนที่เรื่องจะบานปลาย”

ทหารทั้งหลายตรงเข้าจับแม่ทัพมัดกับเสาหลักกลางเวที เชือกถูกมัดข้อมือรวบเข้าหากัน และไพร่ไว้หลังเสา ก่อนใช้เชือกอีกเส้นพันรอบตัวยึดแม่ทัพติดกับเสา ขยับร่างกายไม่ได้ มีเพียงควยเท่านั้นที่ยังกระดกพ่นน้ำใสไหลยืดยาวออกมา

“ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้นะ ปล่อยข้า!!! ข้าเงี่ยน ต้องชักว่าว ข้าต้องน้ำแตกตอนนี้” แม่ทัพดิ้นทุรนทุราย โวยวายต่อหน้าธารกำนัล ที่ยังคงยืนจ้องมองผู้นำตรงหน้า

“ท่านต้องสงบสติอารมณ์ให้ได้ก่อนพะยะค่ะ ข้าจึงจะปลดท่านลงมา” หลี่เฉินบอกกับแม่ทัพให้ประชาชนได้ยิน

“หาทางเอาตัวรอดเองนะซู่เหวิน ข้าจะมัดเจ้าไว้ที่นี้จนครบกำหนด 3 วันที่จะกำลังพิษแมงมุมออกหมด ข้าจะรอดูวิธีเอาตัวรอดชองเจ้า ฮ่าๆๆๆ” หลี่เฉินโน้มตัวไปกระซิบข้างหูแม่ทัพใหญ่

เมื่อท่านแม่ทัพถูกตรึงเรียบร้อย เหล่าทหารทั้งหลายก็พากันลงจากเวทีและเดินทางกลับเข้าจวน ปล่อยให้แม่ทัพฉายเดี่ยว ร้องตะโกนลั่น แสดงความกำหนัดถึงขีดสุดให้ประชาชนรับชมเป็นบุญตา

“ใครก็ได้ ปลดปล่อยข้าที ข้าเงี่ยนไม่ไหวแล้ว โอ๊ย... เงี่ยนเหลือเกิน” แม่ทัพร้องลั่นอย่างน่าสมเพช

ประชาชนได้แต่ยืนดูภาพตรงหน้าอย่างไม่เชื่อสายตา เป็นไปได้อย่างไรที่ท่านแม่ทัพจะแสดงพฤติกรรมน่ารังเกียจออกมาเช่นนี้ ชายหนุ่มชาตินักรบรูปงามที่มาร้องตะโกนขอให้คนช่วยให้หลุดจากความเงี่ยน ชายหนุ่มขวัญใจเหล่าประชาที่มายืนแสดงควยต่อหน้าชายหญิงในที่นี้

เมื่อรับกับภาพตรงหน้าไม่ได้ ประชาชนบางคนเริ่มทะยอยกลับ แยกย้ายไปคนละทาง บ้างก็ยืนสายหัว บ้างก็ถอนหายใจ จนเหลือคนหน้าแท่งอยู่ไม่มาก

“พวกเจ้าอย่าพึ่งไป ห้ามไปไหน!!! ข้าขอสั่งให้กลับมา กลับมาชักว่าวให้ข้าที ข้าเงี่ยนไม่ไหวแล้ว” แม่ทัพได้แต่ตะโกนตามหลังผู้คนที่เดินหนีกลับ

ระหว่างที่ร้องตะโกนหาคนช่วย บั้นเอวแม่ทัพก็พยายามเด่งสวนแทงอากาศ กระเด้าความว่างเปล่าเบื้องหน้า ปล่อยน้ำเมือกออกมาได้อีกหลายระลอก ปุดๆ ออกจากปากหัวควยบาน ครั้นแม่ทัพก็เหลือบไปเห็นขอทานคนหนึ่งนอนอยู่ข้างกองขยะ จึงเกิดความคิดดีๆ ขึ้นมา

“ทะ... ท่านๆ ท่านยาจกรูปงาม ข้าขอร้องท่าน ได้โปรดสาวควยให้ข้าทีเถอะ ข้าปวดควยไปหมดแล้ว ข้าเงี่ยนควยเหลือเกิน” แม่ทัพละล่ำละลักน้ำเสียงสั่น

“ข้ามิกล้าหรอกท่านแม่ทัพ ท่านเป็นถึงผู้นำใหญ่แห่งแคว้น ข้าเป็นเพียงคนจรไร้หัวนอนปลายทาง มิอาจกล้าสัมผัสร่างกายท่านหรอกขอรับ” ขอทานตอบด้วยความกลัว

“ด้วยเกีรยติแห่งกษัตริย ข้าสัญญาว่าจะไม่ลงโทษเจ้า อีกทั้งยังจะตบรางวัลให้อย่างงาม ขอเพียงเจ้าทำให้ข้าน้ำแตกได้ก็พอ” แม่ทัพพูดกระอึกกระอัก แข่งกับยามวอกที่ใกล้หมดลงทุกทีๆ

“เจ้าเห็นผ้าเตี่ยวผืนนั้นไหม? นั่นมีตราสัญลักษณ์ประจำสกุลซู่อยู่ ขอมอบให้เจ้าเลย หากเจ้ามีติดตัวไว้ ทหารทั้งหลายยังต้องเกรงกลัว” แม่ทัพหมดหนทาง

ขอทานชั่งใจอยู่ไม่นาน จึงตัดสินใจลุกขึ้น เดินไปยังแท่นเวที เพื่อระบายความกำหนัดให้แม่ทัพใหญ่ที่บัดนี้ควยบานตึงไปทั่วลำ พ่นของเหลวใสออกมาไม่หยุด

ขอทานค่อยๆ ใช้มือสกปรก หยาบด้าน จับเข้าที่ควยของพระราชา สร้างความเสียวซ่านให้กษัตริย์ใหญ่ได้มากนัก ทันทีที่มือโสโครกกำรอบลำควย แม่ทัพก็เด่งควยสวยสะอาด สวนกระเด้ามือขอทานนั้นทันที หัวควยผุบเข้าออกมือเหม็นของขอทานอย่างถี่ยิบ

น้ำเมือกไหลเปื้อนมือขอทานไปทั่ว เกิดไปฟองเมือกรวมกับความสกปรกของมือที่หยิบจับขยะของขอทาน ทำให้ควยสวยเปรอะเปื้อนไปหมด ไม่นานแม่ทัพก็ชะลอการซอยควยเข้าออกมือยาจก

“ท่านยาจกใจบุญ ได้โปรดชักว่าวให้ข้าที ลูบไล้ร่างกายให้ข้า บีบหัวนมข้า ข้าเงี่ยนจัดแล้ว” แม่ทัพพูดเสียงกระเส่า

หลังจากนั้น ขอทานจึงใช้มือข้างที่เคยถูกกระเด้า รูดสาวควยให้แม่ทัพจากโคนไปถึงหัว ก่อนจะรูดกลับจากหัวจนสุดโคน ทำให้เส้นสองสลึงแม่ทัพตึง สร้างความเงี่ยนให้อีกระดับ มือสกปรกอีกข้างลูบไล้กล้ามอกและท้องของแม่ทัพ จนเนื้อตัวแม่ทัพสกปรกไปหมด แต่ยามนี้ไม่มีสิ่งใดให้กังวลอีกแล้ว นอกจากหลุดออกจากความเงี่ยนจัดนี้ไปให้ได้

“โอ๊ยยย... เสียว ช่างดีเหลือเกิน ข้าชอบเหลือเกิน” แม่ทัพซิ๊ดปากเสียงดัง

ขอทานเห็นดังนั้น จึงใช้อุ้งมือหยาบ ประกบเข้าตรงส่วนหัวควย ก่อนจะหมุนวนเหมือนฝนไม้ สร้างความเสียวสุดยอดให้ท่านแม่ทัพอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

“ซู้ดด... อ่า ข้าเสียว ข้าจะทนไม่ไหวแล้ว เงี่ยนจริงๆ ท่านยาจก” แม่ทัพส่ายตัวไปมา เหมือนคนเต้นระบำเปลื้องผ้า ขณะที่ขอทานก็ฝนหัวควยให้ท่านแม่ทัพอย่างต่อเนื่อง

“ข้าทนต่อไปไม่ไหวแล้ว ข้าจะแตกแล้ว จะแตกออกมาแล้ววว... ซิ๊ด” แม่ทัพคำรามลั่นไปทั่วบริเวณ จนคนที่ทะยอยเดินกลับต้องหันมาดู

ภาพที่เห็นนับว่าเป็นสิ่งเหลือเชื่อมากเมื่อท่านแม่ทัพส่ายตัวถูกับเสาไปมา แอ่นควยใหญ่ไปตรงหน้า ไข่สองใบในถุงหุ้มอัณฑะเคลื่อนตัวขึ้นไปใกล้องคชาติเหมือนกำลังบีบเค้นน้ำภายใน แม่ทัพคำรามกึกก้องจนฟ้าสั่นแผ่นดินไหว

ลำควยแข็งเกร็งขนาดกดลงแล้วยังดีดขึ้นมาได้อย่างแรง หัวควยเบ่งบานใหญ๋ ก่อนกระตุกพวยพ่นน้ำเงี่ยนขาวขุ่นออกจากรูควยบาน พุ่งจากเวทีไปจนถึงประชนชนที่อยู่ด้านล่าง ไกลกว่า 5 เมตร จังหวะเดียวกับไข่สองใบทิ้งตัวต่ำก่อนจะเคลื่อนตัวขึ้นอีกครั้ง กระตุกบีบคั้นน้ำเงี่ยนออกมาอีกนับ 10 ระลอก ไม่ลดระยะลดแม้แต่น้อย สาดใส่ประชาชนเบื้องล่างไปทั่ว ก่อนจะเริ่มหลั่งเบาลงเรื่อยๆ กลายไปหยดน้ำใหญ่ไล่จากหน้าเวทีมาจนถึงปลายควย ยืดยาวเป็นสายเหนียวข้น สร้างกลิ่นเหม็นคาวไปทั่วบริเวณ

ไม่นานแม่ทัพก็ฟุบหน้าลงด้วยความเพลียจากการหลั่งน้ำเงี่ยนครั้งยิ่งใหญ่ ปล่อยให้ขอทานใช้ผ้าเตี่ยวปักชื่อสกุลซู่เช็ดควยยาวที่เปรอะเปื้อนไปทั้งลำ ขณะที่ประชาชนเริ่มพูดคุยกันอีกครั้ง

“นั่นคือน้ำเงี่ยนกษัตริย์หรอกรึ? หลั่งไหลเยอะและแรงยิ่งกว่าน้ำตกหวางกว่อฉู้เสียอีก”

“น้ำเงี่ยนของราชาไม่ธรรมดาจริงๆ คนสามัญอย่างพวกเราคงเทียบไม่ได้”

“ดูสิ น้ำเงี่ยนของแม่ทัพยังติดเสื้อข้าอยู่เลย เหนี่ยวข้นยิ่งกว่าน้ำยางจริงๆ”

“ข้าว่าเราเก็บน้ำเงี่ยนของขุนศึกไปขายกันเถอะ ของหายากเช่นนี้คงได้หลายตะลึง”

ซู่เหวินอายจนแทบอยากเอาหน้ามุดดิน ขุนศึกกล้าหาญอย่างเขาพึ่งอ้อนว้อนขอร้องให้ขอทานสกปรกสำเร็จความใคร่ให้ต่อหน้าผู้คนกลางใจเมือง คิดแล้วก็สลดใจ ที่ต้องถูกตรึงอยู่กลางแท่นเวทีแบบนี้ต่อไปอีกจนครบ 3 วัน วันพรุ่งนี้จะทำอย่างไรดี

หน้าเหมืองแร่ ณ เมืองเหอเป่ย

เสาไม้กางเขนยังคงห้อยร่างไร้เสื้อผ้าของบุตรชายท่านแม่ทัพอยู่ เสาไม้ถูกปักอยู่หน้าทางเข้าเหมือง ทำให้ทาสและคนงานถูกคนที่ผ่านเข้าออกมองเห็นเรือนร่างของอดีตคุณชายรูปงาม

หลังจากมีคำสั่งจากหลี่เฉินให้ตรึงร่างองค์ชายไว้เป็นเวลา 3 วัน โดยมีเงื่อนไขว่าให้คนงานทุกคนที่เข้าออกสามารถจับควยขององค์ชายได้ตามต้องการ ให้ชักว่าวหรือรูดควยให้แข็งอยู่ตลอดเวลา แต่ห้ามให้องค์ชายน้ำแตกโดยเด็ดขาด

คนงานที่นี่ขาดผู้หญิงมานาน ด้วยว่าถูกเกณฑ์ไปเป็นสาวรับไช้ต่างเมืองเสียหมด ความกำหนัดและความแค้นจึงระบายลงสู่ควยคุณหนูเริ่น ที่ตอนนี้เหมือนควยสาธารณะ คนงานทุกคนสามารถลูบคล้ำได้ บ้างก็ลูบไล้พวงไข่ บ้างก็จับสาวควยยาวจนแข็ง สร้างทั้งความเสียวและความทรมานให้คุณหนูเริ่นอย่างมาก

“เอ็งดูควยมันซิว่ะ อายุแค่นี้แต่ใหญ่กว่าของพวกเราอีกว่ะ” คนงานคนหนึ่งพูด

“ข้าขอดึงหมอยคุณหนูเก็บไว้เป็นที่ระลึกสักหน่อยนะขอรับ ฮ่าๆๆ” คนงานอีกคนเริ่มสมทบ

“หน้าก็หล่อ หุ่นก็ดี ควยก็ใหญ่ แบบนี้สาวไหนไม่หลงก็โง่เต็มทนแล้ว” คนงานเริ่มวิจารณ์

คนหนึ่งถูกบังคับให้น้ำแตกโดยชักว่าวไม่ได้ อีกคนถูกชักว่าวแต่น้ำแตกไม่ได้ สองพ่อลูกกับสองสถานการณ์ที่แตกต่างกันแต่เกิดในเวลาเดียวกัน

เช้าวันใหม่เริ่มขึ้น แสงตะวันทอแสงสาดส่องเข้าเปลือกตาที่ยังปิดสนิทของซู่เริน ชายหนุ่มยังคงถูกมัดติดกับเสาไม้กางเขน อวดมัดกล้ามและเครื่องเพศที่ยังหลับใหลทิ้งตัวสู่พื้นดินหน้าเหมืองแร่ ดูเหมือนเทพบุตรรูปงามที่กำลังรอเหล่าซาตานมาพิพากษาและลงทัณฑ์

น้ำเย็นถูกสาดใส่ร่างหนุ่มหล่อ เพื่อปลุกเขาให้ตื่นจากความฝันมาพบกับความเป็นจริงที่ว่าบัดนี้เขาถูกแขวนอยู่ต่อหน้าคนงานที่รอเดินเข้าไปทำงานในเหมืองแร่

“วันนี้พวกข้ารีบตื่นแต่เช้าเลยนะคุณชาย ฮ่าๆๆ” หัวโจกคนงานเริ่มพูดกับซู่เริน

“กลัวจะมาทรมานหนุ่มหล่อกล้ามโตไม่ทันละสิ ฮ่าๆๆ” คนงานเริ่มเฮ

เช้าวันนี้คนงานตื่นเต้นกว่าทุกวัน หลังจากที่หลี่เฉินออกกฎว่าก่อนที่คนงานแต่ละคนจะเข้าออกเหมืองต้องทรมานคุณชายเรินด้วยวิธีใดก็ได้ ทำให้เหล่าคนงานรีบตื่นมาแต่เช้าตรู่ และเริ่มการทรมานด้วยการสาดน้ำเย็นใส่ร่างเปลือยของคุณชายรูปงาม

บัดนี้คนงามเริ่มเข้าแถวเป็นระเบียบเพื่อรอเดินเข้าเหมืองแร่และทรมานคุณชาย คนงานคนต่อมาเดินตรงเข้าซู่เริน ก่อนจะถุยน้ำลายใส่หน้าเทพบุตรหน้าหล่อ และเดินเข้าเหมืองไปอย่างสบายใจ

คนต่อมาเข้าจิกผมคุณชายขึ้นมาอย่างแรง จนหน้าคุณชายสะบัดเงยขึ้นมองหน้าคนงานที่อยู่ตรงหน้า ก่อนจะบังคับให้คุณชายตะโกนเสียงดังๆ ว่ายอมเป็นทาสของทุกคนในที่แห่งนี้ แต่คุณชายไม่ยอมพูดตาม จึงถูกตบหน้าไปฉาดใหญ่ เสียงดังเพี้ยะ

เง็กจือยืนดูเหตุการณ์อยู่อย่างสลด หนุ่มน้อยที่รู้จักกับหลี่เฉินมาตั้งแต่เด็ก บัดนี้ถูกแต่งตั้งให้เป็นนายผู้ดูแลคุณชายเริน แต่จิตใจของเด็กหนุ่มอย่างเง็กจือนั้นไม่ใช่คนใจดำอำมหิต แต่เป็นคนเห็นอกเห็นใจผู้อื่นและมีเมตตาอย่างมาก ภาพตรงหน้าจึงบาดตาบาดใจของเง็กจือจนต้องเบือนหน้าหนี

“เจ้าตบหน้าองค์ชายไปแล้วถือว่าได้ทรมานสำเร็จแล้ว เจ้าเดินเข้าเหมืองไปได้แล้ว” เง็กจือเอ่ยขึ้นขณะที่คนงานพยายามบังคับคุณชายให้พูดต่อ

เมื่อเง็กจือตักเตือน คนงานคนนั้นจึงยอมปล่อยคุณชายและเดินเข้าเหมืองไปโดยดี คนถัดมาถือมีดโกนคมกริบ ตรงเข้าไปจิกผมคุณชาย ก่อนจะปาดใบมีดผ่านเส้นผมจนร่วงกรูลงสู่พื้น ก่อนจะเก็บรวบเส้นผมนั้นขึ้นมา

“ปอยผมจากหัวของคุณชาย ข้าขอนะ ข้าจะเอามามัดรวมกันแล้วนำไปใช้ปัดกวาดสิ่งสกปรก ฮ่าๆๆๆ” คนงานกล่าวอย่างมีความสุขที่ได้มีโอกาสใช้ผมของคนสูงศักดิ์มาใช้กับของชั้นต่ำ

คนถัดไปบีบปากคุณชายจนอ้าออก ก่อนจะบ้วนน้ำลายยืดเหนียวใส่ปากหนุ่มหล่อ และรีบเอามือปิดปากคุณชายไว้ก่อนจะสำลักอย่างแรง ทำเอาคุณชายเลือดขึ้นหน้า ต้องฝืนใจกลืนน้ำลายคนงานชั้นต่ำลงเข้าคอหอย สร้างความพอใจให้คนงานเป็นอย่างมาก

“กล้ามท้องของแกสวยงามจริงๆ ขึ้นเป็นลูกเป็นลอนเชียว” คนงานคนถัดมาตรงเข้าลูบไล้กล้ามท้องของซู่เรินขึ้นลง สัมผัสความแข็งของลอนกล้ามเนื้ออย่างอิจฉา ก่อนจะชกเข้าหน้าท้องของคุณชายจนจุกไปถึงลิ้นปี่ ทำเอาร่างบุตรชายแม่ทัพขดงอเหมือนกุ้ง ขณะที่สองมือสองเท้ายังถูกตรึงติดเสาไว้

“นี่คือกางเกงในของข้าเอง ข้าสวมและชักว่าวใส่มาหลายวันแล้ว เห็นทีวันนี้ต้องสละให้เทพบุตรรูปงามเสียแล้ว” คนงานอีกคนเดินถือกางเกงในสีขาวโสโครก เปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำปัสสาวะและน้ำกามเป็นคราบเหลือง กระจายไปทั่วผืนผ้า ก่อนจะคลี่ออกและสวมใส่ลงบนหัวขององค์ชายเริน ตำแหน่งเป้ากางเกงอยู่ตรงกับปลายจมูกโด่งของซู่เริน สร้างความพะอืดพะอมให้เจ้าตัวมาก เพราะกลิ่นน้ำเยี่ยวและน้ำควยของคนงานลอยตรงเข้าเสียดแทงโพรงจมูกจนอยากจะอ้วก

“อย่าพึงอ้วกออกมานะคุณชาย” คนถัดมาตรงเข้ามากำขนหมอยคุณชายไว้ในอุ้งมือ ก่อนจะกระชากอย่างแรง จนขนหยิกดำหลุดติดมือมาเป็นกระจุก

“อ้ากกกกกกกกกก!!!” คุณหนูเรินอ้าปากร้องน้ำตาไหลด้วยความเจ็บ ขณะคนงานกำลังยืนดูและหัวเราะอย่างสนุกสนาน

ก่อนคนงานที่ดึงเส้นหมอยคุณชายจะเดินเข้าเหมืองไป เขาจับหน้าคุณชายหันมาและรีบยัดเส้นหมอยคุณชายใส่ปากตัวเอง ก่อนจะรีบเดินหนีเพราะกลิ่นกางเกงในที่ใส่ไว้โดยคนงานคนก่อนโชยกลิ่นน้ำกามอย่างแรง

“โห้ พวกเอ็งดูสิว่ะ คุณชายกินหมอยตัวเองว่ะ ฮ่าๆๆๆ” คนงานที่เหลืออีกกลุ่มเริ่มทะยอยเดินเข้ามาและถอนขนหมอยจากโคนควยและก้อนไข่ยานทั้งสองข้าง ก่อนจับยัดใส่ปากคุณชายตรงหน้า ใบหน้าส่วนบนมีกางเกงในเหม็นคลุมอยู่ ใบหน้าส่วนล่างก็เลอะไปด้วยเส้นขนหมอย

คุณชายหนุ่มหล่อเหลา ใบหน้าชวนให้สาวทั้งหลายหมายปอง พร้อมด้วยกล้ามเนื้อที่ทำให้ร่างกายดูกำยำล่ำสัน บัดนี้กลายเป็นชายหนุ่มผมสั้น ใบหน้ามีกางเกงในสกปรกโสโครกครอบไว้ ในปากอมเส้นขนหมอยดกดำจากควยตนเองไว้ รอบๆ ปากมีเส้นขนหยิกกระจายไปทั่ว เครื่องเพศดูเกลี้ยงเกลาไร้เส้นขนปกปิด ทำให้ดูเหมือนมังกรใหญ่คืบคลานออกจากพงหญ้าดำแล้ว

“พวกเจ้าหยุดทรมานตรงส่วนนั้นของคุณชายเรินได้แล้ว!” เง็กจือหลุดปากออกไปหลังจากทนรับกับภาพตรงหน้าไม่ได้

“ท่านสงสารมันรึ เง็กจือ?” คนงานตะโกนถามด้วยความสงสัย

“ขะ... ข้าเปล่านะ คือข้า... เห็นว่าวันนี้ส่วนนั้นของคุณชายบอบช้ำมามากแล้ว เก็บไว้ทรมานวันอื่นบ้างไม่ดีหรอกรึ?” เง็กจือรีบแก้ตัว พร้อมหาทางออกให้วันนี้คุณชายเรินผ่านพ้นเรื่องร้ายๆ ไปด้วยดี

“อืม... นั่นก็จริง เก็บควยมันไว้ทรมานต่อวันพรุ่งนี้ก็ดี ถ้าเช่นนั้นพวกข้าไม่ยุ่งกับควยมันอีก” คนงานคนถัดไปพูดพร้อมตรงเข้ามาบิดหัวนมทั้งสองของคุณชายเป็นเกลียว จนคุณชายร้องเสียงดัง เผยให้เห็นเส้นขนสีดำอัดอยู่เต็มโพรงปาก

การทรมานร่างกายของคุณชายเรินยังคงดำเนินไปเรื่อยๆ ทั้งถูกเตะ ถูกต่อย ถูกตบตีใบหน้า หยิกหัวนม ถอนขนรักแร้ ทาตัวด้วยขี้เถ้า ฟาดด้วยแส่ แต่กระนั้นชายหนุ่มก็ยังกัดฟันอดทนต่อไป

“คุณชายเริน อดทนหน่อยนะ ข้าจะหาทางช่วยท่านเอง” เง็กจือคิดในใจก่อนหลบหน้าหนีจากภาพที่เห็นเบื้องหน้า

ใจกลางเมืองต้าเหลียน

แม่ทัพซู่ยังคงถูกมัดร่างไว้กลางเวที เป็นแบบให้ผู้คนที่ผ่านไปมาแวะดู และวิพากษ์วิจารณ์เสียงดัง ทั้งรูปร่างหน้าตา และที่สำคัญคือเครื่องเพศที่น่าตกตะลึง

“เป็นอย่างไรบ้างขอรับท่านแม่ทัพ ท่านรู้สึกดีขึ้นบ้างหรือยัง?” หลี่เฉินเดินขึ้นมาบนเวที ทักทายอดีตหัวหน้าของตน

“แก! ไอ้สารเลว ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้ ข้าจะรีดพิษแมงมุม” แม่ทัพดิ้นร้องโวยวาย

“ดูเหมือนท่านแม่ทัพยังไม่ได้สติ คิดแต่เรื่องใต้สะดือ ข้าเป็นห่วงท่านเหลือเกิน” หลี่เฉินกล่าวต่อหน้าประชาชนที่ยืนดูอยู่

“เมื่อวานได้ข่าวว่าท่านสำเร็จความใคร่กับมือยาจกคนหนึ่ง เหตุใดท่านต้องระบายความกำหนัดลงกับประชาชนด้วยเล่า” หลี่เฉินเล่นตามบทองครักษ์ผู้แสนดี

“อย่ามายุ่งกับข้า วันนี้ข้าต้องชักว่าววว ปล่อยให้ข้าชักว่าวเดี๋ยวนี้” แม่ทัพกระเสือกกระสนดิ้นให้หลุดจากพันธนาการ

“เห็นทีข้าคงห้ามไม่ให้ท่านสำเร็จความใคร่ได้ แต่ข้าทนดูท่านระบายลงกับประชาชนผู้บริสุทธิไม่ได้ “ หลี่เฉินกล่าว พลางหยิบไม้ท่อนหนึ่งขึ้นมาปักลงกลางเวที ตรงปลายเป็นเถาวัลย์ทำเป็นห่วงกลมสูงระดับเดียวกับเครื่องเพศแม่ทัพพอดิบพอดี ก่อนจะเดินกลับไป ทิ้งให้ท่านแม่ทัพหาทางออกเอง

เบื้องหน้าควยที่กำลังแข็งของท่านแม่ทัพคือห่วงเถาวัลย์และประชาชนจำนวนมาก ไม่รอช้าแม่ทัพพยายามแอ่นควยใหญ่สอดเข้าห่วงอย่างเก้ๆ กังๆ แม่ทัพยักย้ายสะโพกไปมาอยู่ไม่นาน ในที่สุดควยใหญ่ก็ถูกบรรจงสอดเสียบลงห่วงเถาวัลย์จนสุดโคนควย

ไม่รอช้า แม่ทัพเริ่มกระเด้าเย็ดห่วงเถาวัลย์อย่างเมามัน ท่ามกลางสายตาของประชาชนที่เห็นทุกการกระทำ ลำควยยาวเสียดสีเข้าออกจากห่วง หัวควยผุบเข้าออกทิ่มแทงสายตาของผู้คนเบื้องหน้า พร้อมทักทายประชาชนด้วยน้ำควยที่เริ่มหลั่งไหลออกมาเรื่อยๆ

ประชาชนเองก็เหมือนถูกมนต์สะกด แม้ภาพตรงหน้าจะอุจาดอัปรีย์ แต่ความสงสัยใคร่รู้ว่ากษัตริย์ใหญ่เวลาเย็ดจะมีลีลาเด็ดกว่าประชาชนคนทั่วไปหรือไม่ จึงยืนดูอยู่ห่างๆ หัวใจเต้นรัวไม่เป็นจังหวะ เมื่อเห็นแม่ทัพกระเด้าห่วงโชว์ด้วยท่าทางที่หาดูได้ยากจนสตรีบางคนเริ่มเกิดอารมณ์ร่วม

แม้จะถูกมัดแขนมัดขา แต่สะโพกแม่ทัพยังคงทำหน้าที่ได้อย่างดี ทั้งส่งลำควยเข้าออกปล่อยน้ำควยไหลยืด ทั้งสอดควยแรงแทงสุดจนห่วงเถาวัลย์ติดกับเนินโคนควย หากเป็นเครื่องเพศสตรีก็คงถูกแทงเข้าถึงมดลูกเป็นแน่ บางจังหวะก็สอดควยแช่ทิ้งไว้พร้อมกับบดบี้สะโพกเข้ากับห่วงซ้ายทีขวาที บางจังหวะก็ควงควยเป็นเลขแปด ไม่ว่าจะลีลาไหนก็ปลดปล่อยความเงี่ยนให้ท่านแม่ทัพได้เป็นอย่างดี

ประชาชนเห็นแล้วยังตะลึง ท่าทางที่แม่ทัพเย็ดมีทั้งความนุ่มนวลทั้งรุนแรง ช่วงที่นุ่มนวลก็ตราตรึงจนสตรีทั้งหลายยังอยากร่วมรักด้วย ช่วงรุนแรงก็กระหน่ำแทงไม่ยั้ง ซอยสะโพกถี่ยิบจนแท่งไม้ยังสั่นคลอนจนหนุ่มๆ เบื้องล่างยังซูฮกในลีลาการเย็ดของกษัตริย์ที่ดุเด็ดเผ็ดมันจนต้องจำไปใช้กับภรรยาที่บ้าน

ห่วงเถาวัลย์เมื่อถูกเสียดสีก็หดตัวโอบรัดท่อนควยแม่ทัพเสียแน่นไม่ยอมคลาย ในระหว่างที่แม่ทัพกำลังเงี่ยนจัด กระแสเลือดก็ไหลเวียนเข้าไปในท่อนควยอย่างมาก แต่ไม่สามารถไหลกลับออกไปได้ด้วยว่าติดห่วงเถาวัลย์ที่โอบรัดอยู่ ทำให้เกิดเลือดคั่งอยู่ในควย ยิ่งทำให้ท่อนชายของแม่ทัพดูบวมโตม่วงดำ บีบคั้นน้ำหล่อลื่นให้ไหลออกมาเหมือนฝายน้ำแตก

แม่ทัพเข้าเย็ดห่วงไม้อยู่นานจนถึงจุดที่ทนต่อไปไม่ไหว ใบหน้าเริ่มยี้เก คิ้วขมวดเข้าหากัน ปากบิดเบี้ยว ทุกคนจำได้ดีว่าใบหน้าที่ดูตึงเครียดเช่นนี้คือช่วงที่ชายหนุ่มทุกคนกำลังจะขึ้นสวรรค์ ดวงตาทุกคนจึงจับจ้องไปที่ปากควยใหญ่ ลุ้นว่าแม่ทัพจะหลั่งไหลน้ำเงี่ยนออกมาได้มากสักแค่ไหน

ในที่สุดภาพที่ทุกคนรอก็มาถึงในอึดใจ ปลายควยเริ่มเบ่งบาน รูควยเปิดอ้าออกพร้อมกระแสของเหลวขุ่นคักอัดแน่นอยู่ภายใน ในจังหวัดสุดท้ายที่กำลังจะหลั่ง ห่วงเถาวัลย์ที่รัดแน่นควยอยู่เริ่มสำแดงฤทธิ์ เพราะท่อนำส่งน้ำเงี่ยนก็ถูกรัดไปด้วย ดังนั้นเมื่อควยและอารมณ์ชายพร้อมแล้ว แต่ท่อนำส่งถูกขัดขวางอยู่ จึงกลายเป็นสถานการณ์ที่ทรมานมาก เหมือนกับน้ำเชี่ยวไร้ทางระบาย

อย่างไรก็ตามแม่ทัพที่กำลังเงี่ยน ไม่สนฟ้าดิน ก็ออกแรงเบ่งน้ำควย ขมิบก้นส่งน้ำเงี่ยนให้ไหลไปตามท่อในควย ด้วยกำลังกล้ามเนื้อที่แข็งแรงของชายฉกรรจ์ ในที่สุดน้ำเงี่ยนก็ไหลผ่านท่อตีบพุ่งออกสู่แผ่นดินภายนอก

ด้วยความแรงของน้ำควยที่พวยพุ่งออกมาเป็นปกติของแม่ทัพ บวกเข้ากับแรงที่เกิดจากการเกร็งกล้ามเนื้อเชิงกราน จึงส่งผลให้ครั้งนี้น้ำเงี่ยนพุ่งออกมาราวกับห่าฝน ความแรงไม่ต่างจากกระสุนดินปืน พุ่งอัดใส่ประชาชนเบื้องล่างที่วิ่งหลบกันจ้าระหวั่น บ้างก็หลบได้ บ้างก็หลบไม่ทัน ทุกครั้งที่แม่ทัพพยายามเกร็งควยก็จะยิงกระสุนน้ำเงี่ยนออกไปเป็นชุดๆ พอหยุดเกร็งก็หยุดหลั่งเพราะเถาวัลย์รัดควยอยู่ เมื่อเกร็งอีกก็หลั่งอีก

แม่ทัพยืนแอ่นควยกระตุกน้ำเงี่ยนออกมาตามได้ตามใจสั่ง ขอเพียงแรงเกร็งจากกล้ามเนื้อเอาชนะแรงรัดจากเถาวัลย์ได้ก็จะปลดปล่อยน้ำชายออกมาได้ไม่ยาก ดังนั้นแม่ทัพจึงยืนเกร็งมัดกล้าม พวยพุ่งน้ำขุ่นออกมาเรื่อยๆ อย่างไม่จำกัด

พลั้นแม่ทัพก็เหลือบไปเห็นหลี่เฉินที่ยืนดูอยู่เบื้องล่างห่างออกไปประมาณ 5 เมตร แม่ทัพยืนหันควยไปตรงหน้าหลี่เฉิน ก่อนจะเกร็งกล้ามเนื้อสุดแรง จนควยกระดกเต่งตึง ด้วยความโกรธแค้นรวมกับความแรงของน้ำในตอนนี้ แม่ทัพจึงยิงน้ำเงี่ยนเป็นสายพุ่งตรงใส่หน้าหลี่เฉินเต็มแรง และยังคงกระตุกพ่นน้ำเงี่ยนออกมาอีกเรื่อยๆ จนหลี่เฉินและทหารวิ่งหลบกันวุ่น

จนน้ำเงี่ยนหยดสุดท้ายหมดลง เถาวัลย์ยังคงรัดแน่นไม่คลายตัว ทำให้เลือดควยไม่สามารถไหลกลับได้ ตอนนี้จึงกลายเป็นว่าชายหนุ่มรูปหล่อควยใหญ่ยืนเปลือยเปล่า ลำควยถูกรัดตึงจนเส้นเลือดขึ้นเป็นสายแขนง สร้างความปวดอวัยวะเพศให้แม่ทัพเป็นอย่างมาก

“ไอ้ซู่เหวิน ไอ้ทาสชั้นต่ำ บังอาจทำหน้าของข้าเปื้อนน้ำสกปรกของเจ้า ข้าจะไม่ไว้หน้าเจ้าอีกต่อไป “ หลี่เฉินกัดฟัน กำมือแน่นเช็ดน้ำเงี่ยนขุ่นขาวเหนียวยืดจากใบหน้าออกด้วยความโกรธแค้น

เง็กจือยืนอยู่เบื้องหน้าองค์ชายสุดหล่อ จ้องมองร่างซู่เรินอย่างสงสารอนาจใจ แสงจันทร์ตกกระทบผิวกายชายหนุ่มที่กำลังหลับสนิท ขณะถูกมัดห้อยอยู่หน้าเหมืองแร่ เนื้อตัวเต็มไปด้วยเถ้าดินดำ หัวนมแดงช้ำ ผมสั้นกุด ไร้ขนรักแร้และขนหมอย ควยบวมเป่ง แต่กระนั้นเจ้าตัวก็ยังคงความหล่อเหลาไว้ได้อย่างดี

“องค์ชายเริน ข้าขอโทษที่ไม่สามารถช่วยท่านได้เหมือนที่ท่านเคยช่วยข้าไว้” เง็กจือน้ำตาไหลพูดกับร่างที่ไม่ได้สติ

ไม่มีใครล่วงรู้ความลับของเง็กจือมาก่อน เมื่อหลายปีที่แล้ว เด็กหนุ่มร่างเล็กกำลังถูกชายหลายคนรุมแกล้งสารพัด ครั้งนั้นองค์ชายเรินผ่านมาเห็นเข้า จึงคว้าตัวเด็กหนุ่มแยกออกมาจากกลุ่มอันธพาล พร้อมทั้งใช้กระบี่ชี้หน้าสั่งห้ามใครทำร้ายเด็กน้อยคนนี้อีกเด็ดขาด แม้ซู่เรินจะจำเด็กหนุ่มคนนั้นไม่ได้ แต่ภาพอัศวินม้าขาวที่เข้าช่วยเหลือเด็กน้อยได้ประทับอยู่ในจิตใจของเง็กจือมาโดยตลอด ซู่เรินที่คนที่เง็กจือแอบชอบอยู่ห่างๆ

“ท่านดื่มน้ำก่อนดีกว่านะ” เง็กจือนำน้ำสะอาดมาป้อนให้คุณชายเรินที่ยังไม่ได้สติ ก่อนรีบเดินจากไปไม่ให้เป็นที่น่าสงสัย

ยามเช้ามาเยือนอีกครั้ง คุณชายถูกปลุกให้ตื่นด้วยการนำก้อนหินขนาดใหญ่ผูกเชือกรัดเข้ากับพวงสวรรค์ ทำให้ไข่คุณชายยานลงสู่พื้นดินตามน้ำหนักของหิน สร้างความทรมานให้คุณชายจนหน้าแดงก่ำ

“โอ้ยยยย... เอาออกไป ข้าเจ็บบบบ!!!” เสียงคุณชายร้องลั่นต่อหน้าคนงาน

เมื่อคนงานคนแรกทรมานคุณชายเสร็จ ก็เดินเข้าเหมืองไปอย่างสบายใจเฉิบตามกฎที่

หลี่เฉินตั้งไว้ คนงานคิวถัดไปเดินเข้ามาเติมก้อนหินที่ปลายเชือกอีกก้อน ทำให้น้ำหนักหินยิ่งเพิ่มมากขึ้น ดึงพวงไข่ได้อีกเกือบนิ้ว

“ไอ้พวกทรชนใจทราม เอาหินออกไปจากไข่ข้าเดี๋ยวนี้ ข้าปวดเหลือเกิน อ้ากกก!!!” ซู่เรินจุกอัณฑะจนหน้าเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเขียว

“พวกเรามาพนันกันดีกว่าว่าไข่คุณชายจะยืดยานได้สักเท่าไร” คนงานเริ่มเกมทรมานคุณชาต่อไป

คนถัดๆ มาค่อยๆ เติมหินลงไปเรื่อยๆ จนบัดนี้ไข่คุณชายยืดออกจากกลางหว่างขามากกว่าหนึ่งฝามือ มองเห็นลูกไข่รีทั้งสองได้ชัดเจน ตึงยานจนเกือบทะลุออกจากถุงหุ้มอัณฑะ ไกว่ไปมา สร้างความเจ็บปวดเป็นอันมากให้ซู่เริน แต่สร้างเสียงหัวเราะให้คนงานที่ยืนมุงดูอยู่ได้อย่างดี

“พวกเอ็งดูสิว่ะ ไข่คุณชายยานยิ่งกว่าหนังสติ๊กอีกว่ะ” คนงานคนหนึ่งพูดขึ้น

“ไข่ใหญ่ฉิบหายเลยว่ะ น้ำเงี่ยนคงอัดอยู่ข้างในเต็มไปหมดแน่ๆ” อีกคนเสริม

“รูปหล่อ ควยใหญ่ ไข่โต เทพบุตรส่งมาเกิดชัดๆ” คนงานเริ่มสนุกปาก

เมื่อถึงคิวถัดไป คนงานเดินถือพร้าเล่มใหญ่ตรงเข้าหาคุณชาย ก่อนจะวางคมมีดลงบนควยของคุณชาย อีกมือจับควยคุณชายยืดยาวออกไปขนานกับพื้นดิน

“ไอ้เรินควยใหญ่ วันนี้ข้าจะจับเจ้าตัดควยทิ้ง แล้วเก็บไว้เป็นอนุสรณ์ ว่าแต่จะตัดตรงไหนดีว่ะ ฮ่าๆๆๆ” คนงานถืดมืดขยับไปมาตรงหัวควย กลางควย และโคนควยของคุณชาย

“ตัดตรงหัวควยออก แม่งควยเอ็งก็ยังยาวอยู่ดี ตัดตรงกลางก็ยังเหลือไว้ใช้เสพสุขได้ งั้นตัดตรงโคนออกเลยแล้วกัน จะได้เป็นขันทีเต็มตัว ฮ่าๆๆๆ” คนงานพูดอย่างสะใจ

“ยะ... อย่าๆๆๆ อย่าทำข้า อย่าตัดควยข้านะ ข้ายอมแล้ว ข้ายอมทุกอย่างแล้ว” ซุ่เรินละล่ำละลักไม่เป็นภาษา

คนงานไม่สนใจเสียงร้องขอของคุณชาย ง้างมีดหมายจะฟั่นเครื่องเพศที่น่าอิจฉาขององค์ชายให้ขาดกระเด็น แต่ก็ต้องหยุดชะงัก เมื่อเง็กจือออกคำสั่งให้หยุดการกระทำทันที

“หยุดเดี๋ยวนี้นะ ยังไม่มีคำสั่งจากหลี่เฉิน ห้ามพวกเจ้าทำอะไรเกินเลยเด็ดขาด” เง็กจือลั่น

คนงานได้ยินดังนั้นจึงยอมทิ้งมีดลงอย่างหงุดหงิด ก่อนจะคิดอะไรดีๆ ได้ คนงานตรงเข้าปลดพันธนาการคุณชาย แล้วล่ามข้อเท้าไว้ด้วยโซ่ตรวน

“เมื่อกี้เจ้าบอกว่ายอมทำทุกอย่างใช่ไหม? งั้นช่วยแสดงการชักว่าวให้พวกเราดูเป็นบุญตาหน่อยเถิด” คนงานพูดพร้อมหัวเราะเสียงดัง

บัดนี้คุณชายหนุ่มรูปงาม ยืนเปลือยเปล่าไร้เสื้อผ้า ไข่ถูกดึงยานด้วยก้อนหินหลายก้อน อยู่ท่ามกลางสายตาของคนงานที่เข้าล้อมเป็นวง เตรียมดูการแสดงสุดพิเศษยามเช้า

“ได้ดูคุณชายสุดหล่อชักว่าวให้ดูก็ดีเหมือนกัน ชาตินี้คงหาดูที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว”

“ยังหนุ่มยังแน่น น้ำควยคงเยอะแน่ๆ เลยว่ะ”

“เอาเลยคุณชาย ข้าอยากเห็นท่านแสดงความเงี่ยนแล้ว”

คนงานที่มุงดูอยู่เริ่มเฮฮาสนุกสนานกับการแสดงที่กำลังจะเกิดขึ้น นับว่าเป็นบุญของคนงานที่นี้ที่มีโอกาสออกคำสั่งให้คุณชายทำตามได้ สร้างความสะใจให้หลายคนที่รอดูการแสดงอยู่

“คำสั่งแรก ให้คุณชายปั่นควยให้พวกเราดูหน่อย ปั่นให้แข็งเลยนะ ฮ่าๆๆ” คนงานเริ่มออกคำสั่ง

ซู่เรินไร้ทางขัดขืน จะหนีก็ไม่ได้ จะไม่ทำตามก็จะเจ็บตัว จึงได้แต่ยืนใช้สองมือบีบปั่นท่อนควยตามคำสั่งของคนงาน

“เอามือมาประกบกันแล้วปั่นไล่จากโคนมาถึงปลายควยเลยสิว่ะ” คนงานสั่ง ขณะที่ซู่เรินยอมทำตาม

“ดีมากอย่างนั้นแหละ พวกเอ็งดูซิ ควยแม่งเริ่มแข็งแล้วว่ะ” คนงานเริ่มตั้งข้อสังเกตุ

ไปอย่างที่คนงานกล่าว เมื่อควยถูกสัมผัสและปั่นไล่เลือดให้ไหลเวียนสู่ควย แท่งสวรรค์ขององค์ชายจึงตอนสนองอย่างรวดเร็ว ค่อยๆ ขยายใหญ่ยาวขึ้น เส้นเลือดปูดโปน แท่งควยตั้งโด่เป็นลำ ชี้ปลายขึ้นฟ้า ขณะที่ไข่ทิ้งตัวลงดิน

“คำสั่งที่สอง ยืนแอ่นควยให้พวกข้าดูชัดๆ เอาทุกมุมเลยนะโว้ย ไอ้ทาสเริน” คนงานสั่งต่อ

องค์ชายรูปงามต้องยอมยืนเปิดควยตนเองต่อหน้าคนงานชั้นต่ำ หมุนซ้ายหมุนขวาตามคำสั่ง สร้างความอับอายให้ซู่เรินอย่างมากจนอยากเอาหน้ามุดดิน ขณะที่คนงานเริ่มวิพากษ์วิจารณ์ควยองค์ชาย

“ควยแข็งแล้วโว้ย ทั้งใหญ่ทั้งยาว สมกับชายหนุ่มวัยเจริญพันธุ์จริงๆ”

“โห้ เส้นเลือดขึ้นเยอะกว่าของข้าอีกว่ะ ได้เลือดหล่อเลี้ยงควยแบบนี้ ไม่น่าควยถึงใหญ่เอาเรื่อง”

“ข้าว่าควยไอ้เรินมันสวยดีนะ ลำอวบใหญ่ตลอดตั้งแต่โคนถึงปลาย ควยผู้ดีมันเป็นแบบนี้เองหรอว่ะ”

“คำสั่งที่สาม เอามืดรูดหนังควยออก เปิดให้เห็นหัวควยชัดๆ” คนงานสั่งเพิ่ม

ซู่เรินหลับตา ใช้มือรูดควยจนเผยให้เห็นหัวควยแดงสด และเงี่ยงที่บานจัด สร้างความพอใจให้ผู้ชมในเวลานี้เป็นอย่างมาก

“เป็นบุญตาจริงๆ โว้ยย ควยคุณชายนี่มันเปี่ยมด้วยคุณภาพจริงๆ ข้าขอสั่งต่อเลยแล้วกัน คำสั่งที่สี่ให้แสดงความเงี่ยนออกมาจนกว่าพวกข้าจะพอใจ” คนงานอีกคนสั่งบ้าง

ซู่เรินตะลึงกับคำสั่ง แค่ยืนแก้ผ้าปั่นควยถอกต่อหน้าคนงานก็น่าอายมากพอแล้ว นี่พวกมันยังให้เขาแสดงอาการเงี่ยนที่ควรจะเป็นความลับส่วนตัว รู้กันแค่เขากับคู่นอนเท่านั้น ออกมาให้พวกมันรับชมกันอย่างนั้นหรือ

“มัวรออะไรอยู่เล่า เวลาเจ้าเงี่ยน เจ้ายืนนิ่งๆ แบบนี้หรอว่ะ?” คนงานทักทวง

ซู่เรินยอมกัดฟัน ใช้มือข้างหนึ่งลูบไล้ไปตามผิวกาย ตั้งแต่กล้ามอก ลงไปถึงกล้ามท้องและพวงไข่สลับกับการบี้หัวนมชายไปมา น้ำหล่อลื่นก็เริ่มผลิตออกมาเรื่อยๆ ชะโลมหัวควยขึ้นเป็นเงา

“คำสั่งที่ห้า ตะโกนบอกพวกข้าทีว่าเจ้าเป็นใครและเงี่ยนแค่ไหน” คนงานอีกคนสั่งบ้าง

“ข้าชื่อซู่เริน ข้าเงี่ยนเหลือเกิน” ซู่เรินกัดฟันพูด

“อะไรกันว่ะ เงี่ยนแล้วทำได้แค่นี้เองหรอว่ะ เป็นยอดขุนศึกภาษาอะไร เอาใหม่จนกว่าพวกข้าจะพอใจ” คนงานโวยวาย

“ข้าชื่อซู่เริ่น ข้ากำลังเงี่ยนควย ควยข้าแข็งไปหมดแล้ว ข้าอยากชักว่าว” ซู่เริ่นพูดใหม่อีกครั้ง

“ยังไม่ผ่าน เวลาเจ้าเงี่ยน เจ้าปลดปล่อยได้แค่นี้เองหรือ ถ้าทำไม่ได้ก็ไม่ต้องฝันจะกลับไปหาท่านพ่อท่านแม่เลย” คนงานเริ่มไม่พอใจ

ซู่เรินได้ยินดังนั้น ก็น้ำตาไหล คิดถึงท่านพ่อท่านแม่ ครั้งสุดท้ายที่เห็นหน้ากันคือตอนที่เขาเสพสังวาสกับบั้นท้ายพ่อตัวเอง แต่อย่างไรเขาก็ให้สัญญากับผู้ให้กำเนิดแล้วว่าจะกลับไปล้างแค้นให้จงได้ แต่เขาต้องรอดจากสถานการณ์ตรงนี้ไปให้ได้ก่อน คิดอย่างนั้นจึงหลับตาปลดปล่อยอารมณ์เต็มที่ ระบายความเงี่ยนออกมาเต็มพิกัด

“ข้ามีนามว่าซู่เริน ข้าคือหนุ่มหล่อรูปงามเป็นที่หมายปองของผู้หญิงทั้งหลาย แต่ข้ากลับไปเย็ดกับพ่อของข้าเอง เพราะข้าเป็นคนเงี่ยนจัด เงี่ยนตลอดเวลา บัดนี้ควยข้าได้แข็งเต็มที่แล้ว ข้าขออนุญาตพวกท่านชักว่าวตรงนี้ ได้โปรดให้ข้าชักว่าวด้วยเถิดขอรับ” ซู่เรินไม่สนฟ้าหน้าดิน

“ฮ่าๆๆ องค์ชายเงี่ยนกำลังขอร้องพวกเราอยู่ สะใจจริงๆ โว้ย งั้นคำสั่งที่หกให้ชักว่าว โดยการกำมือรอบแท่งควยแล้วรูดขึ้นลงต่อหน้าพวกข้าเดี๋ยวนี้” คนงานรีบสั่งทันที

ซู่เรินที่บัดนี้อารมณ์เงี่ยนกำลังได้เต็ม จึงใช้มือขวากำท่อนควยใหญ่ รูดขึ้นรูดลงอย่างเมามัน สาธิตการชักว่าวให้คนงานดูทุกท่าทาง

“มืออีกข้างปล่อยไว้ทำไม ใช้ให้เป็นประโยชน์ด้วยสิ” คนงานสั่งอีก

ซู่เริ่นจึงใช้มืออีกข้างบี้เค้นไข่ไปมา ปากซู้ดดูดอากาศ ใบหน้าเหยเกเหมือนคนทรมาน แต่จริงๆ กลับมีความสุขอย่างที่ชายทุกคนเป็นขณะกำลังสำเร็จความใคร่

“คำสั่งที่เจ็ด ทำนิ้วเป็นห่วง ใช้นิ้วหัวแม่มือจรดกับนิ้วชี้ แล้วครอบลงไปกลางแท่งควย แล้วกระเด้านิ้วตัวเองให้พวกเราดูหน่อย” คนงานทะยอยสั่ง

ซู่เริ่นทำตามโดยดี ใช้นิ้วทำเป็นห่วงกลม แล้วสวมลงไปบนแท่งควย ก็จะเริ่มกระเด้ามือตนเองให้คนงานดู ควยคุณชายหลั่งไหลน้ำเมือกลื่นออกมาเปื้อนนิ้วมือเต็มไปหมด

“ท่าทางการซอยช่างเร้าใจเหลือเกิน เด้งแทงควยไม่ยั้งเลยว่ะ น้ำเงี่ยนก็ไหลเต็มมือไปหมด” คนงานกล่าว ก่อนสั่งคำสั่งที่แปด คือให้คุณชายยกมือข้างที่เปื้อนน้ำหล่อลื่นตนเองขึ้นมาเลีย แล้วใช้อีกข้างที่สะอาดห่อเป็นอุ้งมือแล้วหมุนบี้หัวควยแรงๆ

ซู่เรินพะอืดพะอม ตั้งแต่เกิดมาเขาไม่เคยคิดจะกินน้ำคัดหลั่งจากร่างกายตัวเองเลย แต่บัดนี้กลับถูกสั่งให้เลียกินน้ำหล่อลื่นจากควยตนเอง ไม่รอช้าเขาค่อยๆ ยกมือขึ้นมาตรงปากแล้วแลบลิ้นยาวออกมาไล่เลียน้ำใสในฝ่ามือ ขณะที่มืออีกข้างกำลังฝนหัวควยสร้างความเสียวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนให้ชายหนุ่ม

“โอ้โห้ เล่นหัวควยตัวเองจนตัวบิดไปมา คงเสียวน่าดู ฟังคำสั่งที่เก้าจากข้าบ้าง ให้เอาสองมือมาประกบควยให้โผล่ออกมาเฉพาะส่วนหัว แล้วปั่นไปมาให้เห็นเส้นสองสลึงชัดๆ” คนงานชิงกันสั่งแทบไม่ทัน

ซู่เรินที่บัดนี้เงี่ยนจนลืมทุกสิ่งทุกอย่าง กำลังสนุกเมามันกับวิธีเล่นควยแบบใหม่ๆ จึงยอมทำตามอย่างไม่ได้สติ ใช้มือประกบท่อนควย ปล่อยให้หัวบานโผล่ออกมา แล้วเริ่มบดขยี้มือไปมา ทำให้เส้นสองสลึงตึงและบิดซ้ายทีขวาทีให้คนงานดูกันทั่วหน้า

“สนุกจริงๆ โว้ยย คำสั่งที่สิบให้ใช้มือกำโคนควยแล้วสบัดแรงๆ” คนงานอีกคนสั่งบ้าง

คุณชายที่บัดนี้ควยแข็งน้ำไหลเยิ้ม พอถูกสั่งให้สบัดควยแรงๆ จึงทำให้น้ำหล่อลื่นกระจายเป็นวงกว้าง กระเด็นเซ็นซ่านไปทั่วบริเวณ สร้างความพอใจให้คนงานทุกคน

“คำสั่งที่สิบเอ็ด ใช้นิ้วจับตรงคอหยักของควยแล้วกระตุกแรงๆ” คนงานอีกคนสั่ง ขณะที่ซู่เรินทำตามคำสั่ง กระตุกเงี่ยงควยอย่างแรง จนเส้นสองสลึงตึงรั้ง ชายหนุ่มเม้มปากด้วยความเสียวโดยไม่รู้ตัว

“ข้าสั่งบ้าง คำสั่งที่สิบสอง ให้ใช้มือข้างหนึงรูดควยจนสุด อีกข้างชักเฉพาะตรงส่วนหัวควย” คนงานรีบชิงกันสั่งอย่างสนุกสนาน

ซู่เรินที่กำลังเล่นกับหัวควยตัวเองอยู่ เจอคำสั่งที่ให้ชักเฉพาะตรงส่วนหัวที่มีจุดรับความเสียวอยู่มากมาย ทำให้ชายหนุ่มยืนแอ่นควย เขย่งเท้าจิกพื้น ปล่อยน้ำหล่อลื่นออกมาเพิ่มอีกรอบ

“ข้าเปลี่ยนบ้าง คำสั่งที่สิบสาม ให้จับส่วนหัวควยไว้อยู่กับที่ แต่ให้ชักว่าวได้ตั้งแต่ส่วนใต้เงี่ยงลงมาถึงโคนควย” อีกคนสั่งตรงกันข้ามกับคนก่อน

ท่านี้ทำให้ซู่เรินเงี่ยนได้ไม่แพ้กัน แม้จะมีจุดรับความเสียวไม่มากเท่าส่วนหัวควย แต่ด้วยลำควยที่ยาวกว่า ขณะรูดจึงขับเคลื่อนน้ำออกมาได้มากกว่า สร้างความเสียวซ่านไปทั่วแก่นควย

“ทาสคงจะเงี่ยนเต็มที่แล้ว คำสั่งที่สิบสี่ ใช้นิ้วทั้งหมดจีบเป็นขยุ้มแล้วครอบไปที่หัวควย” คำสั่งเริ่มหลั่งไหล

ซู่เรินขยุ้มนิ้วรวบเป็นจีบแล้วแทงหัวควยลงไป ให้ความรู้สึกเหมือนสตรีกำลังดูดควยให้เขาอยู่ ซู่เรินปล่อยอารมณ์ให้ไหลไปตามความเงี่ยน มือก็ขยับเข้าออก ควยก็แทงสวนไม่ยั้ง จนคนงานเห็นแล้วก็เริ่มเงี่ยนตามไปด้วย

“คำสั่งที่สิบห้า บีบโคนควยเจ้าไว้ แล้วใช้มืออีกข้างบิดควยเป็นเกลียวไล่ขึ้นมาถึงหัวควย”

“คำสั่งที่สิบหก เค้นคลึงพวงไข่ให้พวกข้าดูหน่อย”

“คำสั่งที่สิบเจ็ด อ้อมมือไปข้างหลัง ลอดมาจับควยจากไต้หว่างขา แล้วชักว่าว”

“คำสั่งที่สิบแปด แหกขากว้างๆ แล้วขย่มสะโพกกระเด้ามือตัวเองแรงๆ”

ซู่เรินทำตามทุกคำสั่งอย่างดี จนในที่สุดก็ใกล้ถึงจุดสุดยอด คนงานให้ความสนใจกับการแสดงชิ้นสุดท้ายเป็นพิเศษ

“เง็กจือ ท่านไม่ออกคำสั่งบ้างหรือ?” คนงานหันไปถาม

“เอ่ออ ขะ... ข้า ขอสั่งให้คุณชายเรินหลั่งน้ำกามออกมาให้หมด” เง็กจือตะกุกตะกัก แต่เห็นว่าเป็นทางออกสุดท้ายที่ดีที่สุดแล้วสำหรับคนรักของเขา ให้ซู่เรินได้ปลดปล่อยความทรมานออกมาให้หมด

“เอาเลยคุณชาย ท่านเง็กจือสั่งให้น้ำแตกได้แล้ว แสดงให้พวกข้าดูหน่อยเถอะ” คนงานรอดูตาเป็นมัน

ซู่เรินทนต่อไปไม่ไหวแล้ว เขารู้สึกได้ถึงกระแสน้ำที่ขับเคลื่อนอยู่ภายในท่อนควย กระแสน้ำที่เริ่มไหลเชี่ยวออกมาตั้งแต่ไข่ก้อนใหญ่ มาจนถึงจุดเปิดออกสู่โลกภายนอก เหมือนเวลาเดินไปช้าๆ ทุกสายตาจับจองไปที่ควยคุณชาย จนในที่สุดก็พวยพ่นน้ำอสุจิขาวขุ่นออกมาเป็นสายยาว พุ่งลงตรงพื้นเบื้องหน้า หลายสิบครั้ง ทุกหยาดหยดไหลพุ่งออกมา หยาดเยิ้มไปทั่วพื้น

“ฮ่าๆๆๆๆ น้ำควยเยอะฉิบหายเลยว่ะ”

“ควยผู้ดีปล่อยน้ำเงี่ยนออกมาเต็มพื้นเลยพวกเรา”

“พวกเอ็งได้กลิ่นน้ำเงี่ยนกษัตริย์ไหมว่ะ กลิ่นคาวเหมือนน้ำเงี่ยนพวกเราหรือเปล่า?”

คนงานสนุกสนานกับการออกคำสั่งวันนี้มาก ที่สำคัญยังมีโอกาสได้ดูองค์ชายบุตรแม่ทัพใหญ่ยืนชักว่าวหลั่งน้ำควยออกมาให้ดูกันทุกอริยาบท ทำให้คนงานที่นี่ชอบใจเป็นอย่างมาก

ขณะที่ซู่เรินที่ถูกล่ามโซ่ไว้ ก็ทิ้งตัวคุกเข่า มือยันพื้น ร้องไห้น้ำตานองแก้ม จ้องมองผลผลิตน้ำเงี่ยนตัวเองที่พึ่งหลั่งออกมาตรงพื้นอย่างเจ็บช้ำ หมดอาลัยตายอยาก รอรับชะตากรรมวันถัดไป

หลังจากปล่อยน้ำเงี่ยนใส่หน้าหลี่เฉินแล้ว แม่ทัพก็หมดแรงอ่อนเพลียบนอยู่เสาที่มัดร่าง ปลายควยยังมีคราบน้ำควยเกรอะกัง กลิ่นตัวร่วมกับกลี่นน้ำควยเหม็นโชยไปทั่ว

วันนี้มีคำสั่งจากหลี่เฉินให้ปลดพันธนาการแม่ทัพแล้วนำตัวกลับเข้าจวนทันที แม่ทัพซู่เหวินรู้ดีว่าคงต้องเจอกับเรื่องไม่ดีอีกเป็นแน่ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่ทำใจรับกับชะตามกรรมเบื้องหน้า

“ขอต้อนรับกลับสู่ห้องบรรทมของเอ็ง ไอ้ซู่ ข้านอนห้องนี้มาหลายคืน ช่างสบายเหลือเกิน” หลี่เฉินเยาะเย้ย

“เจ้ากล้ามากที่ทำใบหน้าของข้าแปดเปื้อนน้ำเงี่ยนของเจ้า เตรียมรับบทลงโทษจากข้าได้เลย” หลี่เฉินกล่าวต่อ

“เจ้าจะทำอะไรข้า ปล่อยข้านะ ปล่อยข้าเดี่ยวนี้” ลูกน้องหลี่เฉินตรงเข้ามาจับแม่ทัพมัดมือไพร่หลัง เอาผ้าโพกหัวปิดครึ่งหน้า เหลือแต่ช่องปากไว้ให้หายใจเท่านั้น

“ข้าจะให้รางวัลแก่ทหารที่ซื้อสัตย์ของท่านไง รับรองว่าพวกเขาจะต้องพอใจเป็นแน่” หลี่เฉินพูดขณะพาตัวแม่ทัพออกไปสุ่ล่านฝึก

ณ ลานฝึกทหาร

หลี่เฉินยืนกลางแท่นควบคุม เบื้องหน้าเป็นเหล่าทหารหลายพันนายที่ถูกเรียกตัวมารวมกัน แบ่งเป็นแถวๆ ละ 10 คน จำนวน 100 แถว เป็นระเบียบสวยงาม

“อย่างที่เรารู้กันว่าช่วงนี้แม่ทัพไม่ค่อยสบาย แต่กระนั้นแม่ทัพซู่ก็ยังมีเมตตา ให้รางวัลในความซื่อสัตย์จงรักษ์ภักดีของพวกเจ้า” หลี่เฉินเอย

“แม่ทัพมีคำสั่งให้ข้านำเชลยศึกในคุกมาคนหนึ่ง ให้มาปลนเปรอความสุขแก่พวกเจ้าให้สมกับที่พวกเจ้าต้องทนเหน็ดเหนื่อยกำราบปราบพวกเชลยเหล่านี้” หลี่เฉินอธิบายต่อ

ไม่เพียงพูด หลี่เฉินนำตัวแม่ทัพที่บัดนี้ปิดหน้าปิดตาจนจำไม่ได้ว่าเป็นซู่เหวิน รู้เพียงว่าเป็นชายหนุ่มรูปร่างดี กล้ามเนื้อเด่ดชัด ผิวพรรณงดงาม ไร้เสื้อผ้าอาภรณ์ปกปิด

“นี่คือเชลยที่แม่ทัพส่งมาให้ มันคือคนที่ทำให้พี่น้องทหารของพวกเจ้าหลายคนต้องตายไปในสนามรบ มีอะไรก็ปลดปล่อยลงที่มันได้เลย ข้าอนุญาต” หลี่เฉินพูด

ไม่นาน หลี่เฉินสั่งให้ทหารเบื้องหน้าหนึ่งพันคน ปลดกางเกงตัวเองออก ควักควยของตนเองออกมา ก่อนจะสั่งให้แม่ทัพที่อยู่ในฐานะเชลย คลานคุกเข่าไปที่พื้น นั่งตรงตำแหน่งทหารแถวแรกที่มีสิบคนยืนเรียงกัน แต่ละคนมีควยยืนออกมาตรงหน้า รอให้แม่ทัพเข้าไปปรนนิบัติ

แม้ทหารจะยังอึ้งกับคำสั่งอยู่ แต่ก็ไม่รอช้า เบื้องหน้าเขาคือเชลยชั่วที่นั่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้าควย แม่ทัพไม่ทันได้พูดอะไร ก็ถูกควยทหารในสังกัดจับยัดใส่ปากอุ่นๆ ทันที

“อมเข้าไปไอ้เชลย ควยข้าอร่อยไหมว่ะ ฮ่าๆๆ” ทหารคนแรกเริ่มภารกิจ

ควยทหารคนนี้ทั้งเหม็น ทั้งสกปรก มีแต่คราบเหงื่อไคลจากการยืนตากแดด ทำให้แม่ทัพแทบอาเจียน แต่ถูกจิกหัวกดควยแช่ไว้ในปาก ไม่นานก็ถึงคราวเปลี่ยนไปบริการทหารคนที่สองของแถว คนนี้ควยขนาดปานกลาง สีดำสกปรก ทันทีที่แม่ทัพมาคุกเข่าอยู่ตรงหน้าก็ถูกจับควยดำกดใส่ปากจนสุด ริมฝีปากสวยติดกับพกหมอยดำของทหารตนเอง

“ปากนุ่มจริงๆ ว่ะ ขอเย็ดปากเอ็งหน่อยแล้วกัน ไอ้ทาสเชลย” ทหารควยดำยืนแทงควยเข้าปากแม่ทัพเข้าออก จนแม่ทัพหายใจไม่ทัน

ไม่นานก็ถูกเปลี่ยนตัวมาอมควยให้ทหารคนถัดมา คนนี้ควยอวบกำลังดี แต่เมื่อถอกหัวควยออกมามีแต่คราบสกปรก แม่ทัพถูกบังคับเอาปากครอบแล้วดูดควยแรงให้ให้ทหารคนนี้ ในปากมีแต่เศษสิ่งสกปรกและความเค็มจนอยากจะอ้วก แต่ถุกบังคับให้กลืนให้หมดห้ามเหลือไว้ในปาก

คนต่อมา เอาควยฟาดหน้าแม่ทัพอย่างแรง ซ้ายทีขวาที จนน้ำควยเปื้อนหน้าแม่ทัพไปหมด ก่อนจะกดควยยาวยังให้คอหอยแม่ทัพ แล้วเริ่มซอยกระเด้าทันที

“ขอยืมลีลาท่านแม่ทัพซู่ที่เคยแสดงไว้ให้พวกข้าดู มาใช้กับเชลยชั่วตัวนี้บ้างแล้วกัน” ทหารคนนั้นพูด

เปลี่ยนมาที่ทหารคนถัดไป ที่ยืนรอควยแข็งอยู่แล้ว ทันทีที่แม่ทัพคลานมาถึงก็ถูกควยและไข่บดบี้เข้าที่ใบหน้า บังคับให้ดูดเลียไข่ดำของทหารชั้นเลวให้ชุ่ม

แม่ทัพต้องปรนนิบัติทหารแถวแรกอย่างทรมาน แม่ทัพใหญ่อย่างเขากลับต้องมาดูดควย ดูดไข่ให้ทหารในบังคับบังชา ถูกย่ำยีศักดิ์ศรีความเป็นชาย ไม่ทันได้คิดอะไรมาก แม่ทัพก็ถูกจับมาบริการทหารแถวที่สองที่ยืนเรียงรายรออีกสิบคน

คนแรกของแถวยืนแอ่นควยชี้หน้าแม่ทัพ ก่อนบังคับให้แลบลิ้นออกมา เลียแหย่เข้าไปในรูเยี่ยวที่บัดนี้มีแต่น้ำหล่อลื่นอยู่เต็มไปหมด

“ดูดเข้าไปให้หมด เอาลิ้นเลียอย่าให้เหลือ” ทหารสั่งเชลยเบื้องหน้า

คนถัดมาจับปากแม่ทัพฉีกออกแล้วเอาควยยัดเข้าไป ก่อนจะเรียงทหารอีกคนให้ร่วมยัดควยใส่ปากกว้างอีกแท่ง

“ฮ่าๆๆ ไอ้ทาสชั่ว ดูดควยพร้อมกันสองควยเป็นไงบ้างว่ะ ควยเต็มปากเลยว่ะ” ทหารทั้งสองชอบใจ

คนถัดมาเอาเท้าถีบหน้าอกแม่ทัพจะล้มไปนอนกับพื้น ก่อนจะเอาเท้าเหยียบองคชาติแม่ทัพจนจุกไปหมด

“ควยใหญ่เหมือนกันนี่หว่าไอ้ทาสร่าน ควยแบบนี้ข้าเคยเห็นแต่ท่านแม่ทัพเท่านั้น ไม่น่าเชื่อว่าเอ็งจะควยไม่ธรรมดาเหมือนกัน” ทหารกระทบควยแม่ทัพจนนอนกุมท้อง เจ็บปวดอย่างมาก

คนถัดมาบังคับให้แม่ทัพเลียตั้งแต่หัวควยไปจนถึงดงหมอย ก่อนจะจับแม่ทัพแหกปาก ยัดควยและไข่ทั้งสองเข้าปาก ทำเอาแม่ทัพสำลักอากาศ ตาเหลือก หายใจไม่ทัน

“อมให้หมด ทั้งควยทั้งไข่ ดูดด้วย ดูดแรงๆ ดีมาก” ทหารคนนั้นสั่ง

ทหารคนต่อมายืนเฉยๆ ให้แม่ทัพใช้ปากชักว่าวให้ตน ให้ปากสวยรูดควยขึ้นลง และดูดกลืนน้ำหล่อลื่นที่ไหลออกมาตามความเงี่ยน

“โอ้ยยย เสียวโว้ยย มันส์ควยดีจริงๆ แน่นกว่าเครื่องเพศสตรีเสียอีก” ทหารเคลิ้ม

แม่ทัพซู่ถูกสั่งให้ใช้ปากบริการควยทหารมาเรื่อยๆ ทีละแถว จนครบทั้งหมด บัดนี้ปากแม่ทัพชาและบานไปหมด ท้องเต็มไปด้วยน้ำจากควยทหารที่ยืนเรียงราย ก่อนที่จะต้องตกตะลึงเมื่อหลี่เฉินออกคำสั่งให้ทหารทั้งหมดหลั่งน้ำเงี่ยนใส่ทาสเชลยศึกเพื่อเป็นแสดงเครื่องหมายของคนชั้นต่ำให้ทาสตัวนี้

ทหารทั้งหมดไม่รอช้า หลังจากถุกดูดควยมาจนสำราญใจ ย่อมมีอารมณ์อยากจะปลดปล่อยน้ำเงี่ยนออกมาเป็นธรรมดา บัดนี้ในลานฝึก ปรากฏเป็นภาพทหารเข้าแถวเรียงคิว ยืนชักว่าวกันส่งเสียงเสียวระงมไปทั่ว ตรงกลางลานฝึกเป็นชายหนุ่มกล้ามสวย ถูกปิดหน้าปิดตา ปากเลอะไปด้วยน้ำควยและน้ำลาย ถูกมัดมือไพร่หลัง

ทหารคนไหนที่ชักว่าวแล้วใกล้เสร็จ ก็จะเดินมาตรงหน้าเชลย ก่อนจะฉีดพุ่งน้ำเงี่ยนให้หน้าและอกไหลเยิ้มไปทั่วร่าง ขณะเดียวกันก็ใกล้ยามวอก ควยแม่ทัพก็เริ่มขยายขนาดแข็งเด่

“พวกเราดูซิว่ะ ไอ้ทาสมันเงี่ยนแล้วว่ะ โดนน้ำควยพวกเราฉีดใส่ ถึงกับควยแข็งเลย” ทหารคนหนึ่งพูด ขณะยืนรูดควยตัวเองอยู่หน้าแม่ทัพ

ทหารหลายคนชักว่าวจนถึงจุดสุดยอด เดินเข้ามาปล่อยน้ำควยใส่ตัวแม่ทัพเหม็นไปทั่ว บ้างคนก็สบัดน้ำเงี่ยนใส่ควยแม่ทัพที่กำลังตั้งตระหง่าน ทำให้ควยแม่ทัพถูกชโลมด้วยน้ำเงี่ยนของทหารชั้นเลว ไหลยืดไปทั่วทั้งโคนควยถึงหัวควย

หลี่เฉินยืนดูอย่างพอใจ นี่คือบทลงโทษในความผิดที่ซู่เหวินบังอาจหลั่งน้ำใส่หน้าของเขา ซู่เหวินจึงต้องรับโทษเป็นเชลยรองรับน้ำเงี่ยนให้ทหารในค่าย ให้ทั้งตัวมีแต่น้ำเงี่ยนน้ำควยแบบนี้

ทหารแต่ละคนเริ่มทยอยมาหลั่งให้เงี่ยนใส่แม่ทัพจนบัดนี้เหมือนร่างแม่ทัพถูกชุบด้วยของเหลวเหนียวสีขาวขุ่นและเหม็นคาวอย่างแรง ในขณะที่ความเงี่ยนของแม่ทัพก็เริ่มเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ

แม่ทัพถูกมัดมืออยู่ไม่สามารถชักว่าวให้ตนเองได้ จึงนอนคว่ำลงไปกับพื้น อาศํยน้ำเงี่ยนจากเหล่าทหารนอนกระเด้าพื้นดิน ทหารเห็นดังนั้นก็สะใจไปทั่ว

“โห้ ไอ้ทาสร่านควย เอ็งเงี่ยนขนาดเย็ดกับพื้นดินเลยหรอว่ะ พวกเรามาช่วยสงเคราะห์มันหน่อยเร็ว” ทหารคนหนึ่งพูด ก่อนจะเดินมากระฉูดน้ำเงี่ยนใส่พื้นให้แม่ทัพนอนกระเด้าต่อไป

ทหารหลายคนเริ่มทยอยกันเข้ามามุงแม่ทัพ แล้วยืนปล่อยน้ำเชื้อออกมาเรื่อยๆ ให้แม่ทัพใช้หล่อลื่นควยแล้วเย็ดกับพื้นต่อไปอย่างเมามันส์

ทหารคนสุดท้ายยืนฉีดน้ำควยใส่หัวแม่ทัพ ก่อนจะกระทืบซ้ำอีกรอบ ทำให้แม่ทัพนอนจมกองน้ำเงี่ยนของเหล่าทหารที่เคยอยู่ในคำสั่งของตน บัดนี้กลับกลายเป็นว่าเขาต้องมาแช่อยู่ในน้ำกามขุ่นที่เริ่มละลายตัวเป็นน้ำใสและส่งกลิ่นเหม็นไปเป็นวงกว้าง

แม่ทัพไม่ได้สนใจมากนัก ยังคงนอนกระเสือกกระสนมือไพร่หลัง พยายามบี้ควยไปกับพื้นดิน ขยับสะโพกเด้งขึ้นลงเป็นจังหวะ ทำให้น้ำเงี่ยนทหารติดยืดเป็นสายตามลำตัวของแม่ทัพ จนในที่สุดแม่ทัพก็ทนไม่ไหว

“อ่าสสสส์ ซิ๊ดดด เสียวควยเหลือเกิน จะแตกแล้ว จะปล่อยน้ำควยออกแล้วว” แม่ทัพหนุ่มคำรามตามความเงี่ยน

“พวกเรามาดูเร็ว น้ำควยทาสเชลยจะออกแล้วว่ะ ฮ่าๆๆ” ทหารมาล้อมยืนดูแม่ทัพ

ไม่นานควยแม่ทัพก็กระตุกพ่นน้ำเงี่ยนออกมารวมกับของเหล่าทหาร น้ำควยแม่ทัพขาวข้นนองพื้น ตัดกับสีน้ำเงี่ยนของเหล่าทหารที่ละลายเป็นน้ำใสหมดแล้ว ทำให้เห็นขัดว่าน้ำควยของแม่ทัพนั้นมีปริมาณมากมายยิ่งนัก แม่ทัพนอนกระตุกพ่นน้ำควยออกมาเรื่อยๆ เป็นสายยาว เห็นกล้ามท้องที่บีบรัด เห็นควยที่กระดก เห็นน้ำเงี่ยนที่พุ่งตรงออกมา สร้างเสียงโห่ร้องจากทหารได้กึกก้อง

“พวกเจ้าแยกย้ายกันไปทำความสะอาดร่างกาย ปล่อยให้ทาสตัวนี้นอนแช่น้ำเงี่ยนของพวกเจ้าและของมันเองแบบนี้ทั้งคืน” หลี่เฉินกล่าว

ทหารเริ่มแยกย้าย ขณะที่แม่ทัพนอนน้ำตาไหล ดมกลิ่นน้ำเงี่ยนที่ปนกันไปหมดไม่รู้ของใครเป็นของใคร สายตาจ้องมองไปยังหลี่เฉินด้วยความโกรธแค้น

หลี่เฉินค่อยๆ เดินมาหาแม่ทัพพร้อมสตรีนางหนึ่ง แม่ทัพค่อยๆ เงยหน้ามอง จึงรู้ว่าเป็นพระมเหสีของตนเอง ยืนอยู่เคียงข้างหลี่เฉิน

“น่าสมเพชเหลือเกิน นี่คืออดีตผัวของข้าจริงหรือนี่? นอนจมกองน้ำคาว น่ารังเกียจจริงๆ” พระมเหสีกล่าว

“มเหสีของข้า เหตุใดเจ้าจึง...?” เหวินงุนงงไปหมด ที่เห็นพระมเหสีจึงไปยืนเคียงข้างหลี่เฉิน แล้วพูดจากเยาะเย้ยเขาเช่นนี้

“ไหนๆ ก็ไหนแล้วแล้ว เจ้าจะบอกให้เจ้าฟัง เจ้าคิดว่าหลี่เฉินจะกระทำการอุกอาจเช่นนี้ได้เพียงลำพังหรือ?” มเหสีกล่าว

“ข้ากับ ‘นายใหญ่’ เป็นคนอยู่เบื้องหลังทั้งหมด ค่อยสนับสนุนหลี่เฉินอยู่ห่างๆ” มเหสีเฉลย

แม่ทัพอึ้งไปครู่หนึ่ง นึ่คู่ชีวิตของเขากลับมาทรยศเขาเอง ในขณะที่เขานอนจมกองน้ำว่าว คนที่เขารักกลับไปยืนอยู่ข้างศัตรู

“ข้ามีเรื่องอึ้งให้ท่านฟังอีกเรื่อง แท้จริงแล้วข้าไม่ใช่ผู้หญิง หากแต่เป็นเพศกระเทย ข้าตัดองคชาติออกแล้วให้หมอยาตัดแต่งเครื่องเพศให้เป็นหญิง ข้าคือกระเทยที่ได้ร่วมหลับนอนกับท่าน ข้ายอมรับว่าลีลาของท่านช่างตราตรึงเหนือชายทุกคนที่ข้าเคยร่วมรักด้วย” มเหสีกล่าวต่อ

“นี่!!! จะ... เจ้า เจ้ามันนังแพศยา อีนังงูพิษ อีเพศวิปริต” แม่ทัพโกรธจัดจนตัวสั่น

“ใช่ ข้ายอมรับว่าข้ามันวิปริต แต่ควยของท่านข้าก็ได้ครอบครองมาแล้ว แบบนี้ท่านเรียกตัวเองว่าปกติหรือ?” มเหสีย้อน

“เจ้า...เจ้าเป็นกระเทย ถ้าเช่นนั้น ซู่เรินไม่ได้เกิดจากท้องเจ้าเป็นแน่ แล้วซู่เริ่นเป็นลูกของใครกัน? แล้วใครคือนายใหญ่ที่บงการอยู่เบื้องหลัง?” แม่ทัพตะคอกถาม

หลี่เฉินกับมเหสีไม่สนใจ เดินหัวเราะกลับเข้าจวนไป ทิ้งให้แม่ทัพนอนอยู่กลางลานฝึกของตน ลานที่เคยเป็นสถานที่ที่เขามีอำนาจมากที่สุด กลับกลายเป็นสถานที่ที่เข้ามานอนกระเด้าเย็ดพื้นให้ให้ทหารทั้งหลายดู และเป็นสถานที่ที่เขานองแช่อยู่ท่ามกลางน้ำเงี่ยนจากลูกน้องของตน

เหนือยอดไม้สูง ณ เมืองต้าเหลียน

ชายหนุ่มคนหนึ่งยืนอยู่บนยอดไม้สูง ใบหน้าหล่อเหลาเกินจะเปรียบเทียบกับความงามที่มีอยู่บนโลกมนุษย์ได้ ชายผมยาวสีขาวประกายเงินทอแสงสะท้อนตะวัน พัดโบกไปตามกระแสลม นุ่งห่มชุดรัดพอดีตัวเผยให้เห็นกล้ามเนื้อเป็นมัดสวย คลุมด้วยผ้าคลุมยาวสานจากเส้นไหมละเอียดระยับระยับ

เขามีฉายาว่าจิ้งจอกเงิน “เอ้าเทียน” ผู้ที่มีใบหน้าเหมือน “ซู่เริน” ทุกประการเหมือนฝาแฝด ต่างกันเพียงเอ้าเทียนเป็นเซียน บำเพ็ญตบะมานาน จึงทำให้ร่างกายและใบหน้ามีแสงสว่างเรืองรองผ่องใสออกมา ดูงดงาม มีเสน่ห์ชวนหลงไหล แม้ยามยืนนิ่งๆ มองดูชายคนหนุ่มนอนอยู่กลางลานฝึกทหาร

“เมืองนี้แปลกดีแฮะ มีการทรมานมนุษย์ด้วยวิธีรุนแรงแบบนี้ด้วยหรอ ชักน่าสนใจแล้วสิ” เทพจิ้งจอกเงินพูดกับตัวเอง ก่อนสลายร่างหายไปจากตำแหน่งนั้นเพียงชั่วพริบตา

ในจวนแม่ทัพ

“ข้าเบื่อเหลือเกิน อยู่แต่ในห้องสี่เหลี่ยมแบบนี้” กระเทยสาวอดีตมเหสีบ่นกับหลี่เฉิน

“เรายังทำอะไรไม่ได้ หากนายใหญ่ยังไม่มีคำสั่งลงมา” หลี่เฉินกล่าว

“ข้ามีความคิดดีๆ อย่างหนึ่งแล้ว ขอให้ข้าได้เล่นสนุกกับผู้ชายหน่อยเถอะนะ” กระเทยพูดอ้อน

“เจ้ามีแผนการอะไรรึ?” หลี่เฉินถาม

กระเทยสาวไม่ตอบ แต่หยิบพู่กันและกระดาษออกมาเขียนเป็นจดหมาย ได้ใจความว่า แม่ทัพซู่เหวินมีประสงค์จะให้หาราชบุตรเขยแก่พระราชธิดาของแม่ทัพ จึงขอให้แคว้นต่างๆ ที่อยากเป็นครอบครัวเดียวกับตระกูลซู่ส่งราชบุตรมายังเมืองต้าเหลียนเพื่อทำการคัดเลือกต่อไป

“งานนี้สนุกแน่ๆ คงมีผู้ชายหล่อหล่า ระดับราชบุตรของแคว้นต่างๆ มาสนองตัณหาของข้า แค่คิดก็ใจสั่นแล้ว ฮ่าๆๆๆ” อดีตเมียแม่ทัพใหญ่หัวเราะร่า

หลี่เฉินนั่งดื่มน้ำชาบนบังลังก์ใหญ่ของแม่ทัพซู่เหวิน คู่กับอดีตพระมเหสีผิดเพศที่กำลังสรวลเสเฮฮาอย่างมีความสุข อยู่ในจวนแม่ทัพ

หลังจากที่ซู่เหวินนอนแช่น้ำกามของเหล่าทหารทั้งคืน อย่างน้อยก็มีข่าวดีอย่างหนึ่ง คือเขาไม่ได้สมสู่กับลูกชายตัวเอง ถึงแม้จะยังไม่รู้ว่าซู่เรินเป็นลูกของใคร แต่ไม่ใช่ลูกที่เกิดจากเขาเป็นแน่ ความคิดต้องสะดุดลงเมื่อทหารกลุ่มหนึ่งคุมตัวแม่ทัพเข้ามาอยู่ต่อหน้าบังลังก์ ที่มีหลี่เฉินและกระเทยสาวนั่งอยู่เบื้องหน้า

“อยู่ตรงหน้าข้า จงคุกเข่าซะ ข้ามีเรื่องจะบอก” หลี่เฉินสั่งแม่ทัพ ก่อนที่ลูกน้องจะเข้าไปสกัดขาแม่ทัพจนล้มลงไปคุกเข่ากับพื้น

“เจ้าทำอะไรกับซู่เริน ปล่อยซู่เรินออกจากเหอเป่ยซะ เขาไม่เกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้” แม่ทัพโวยวาย

“ห่วงตัวเองก่อนเถอะไอ้ซู่เหวิน เจ้าคงไม่ลืมเรื่องพิษแมงมุมแม่หม่ายดำ วันนี้คือวันที่เจ็ดพอดี วันสุดท้ายของการขับพิษ อย่างที่ข้าเคยบอก วันนี้เจ้าต้องได้รับกระสินธุบุษราคัมจากข้า มิเช่นนั้นที่ทำมาทั้งหมดก็จะสูญเปล่า” หลี่เฉินพูดกับซู่เหวิน

“อย่ามัวพูดพรามทำเพลง รีบส่งยาขับพิษนั้นมาให้ข้าซะ ก่อนที่ข้าจะฆ่าเจ้า” ซู่เหวินตอบ

“ฆ่าข้ารึ? ฮ่าๆๆ แม่ทัพที่ขนาดร้องขอให้ยาจกช่วยชักว่าวให้ จะมีปัญญาที่ไหนมาทำร้ายข้า ดูสภาพเจ้าตอนนี้เสียก่อนเถอะ” หลี่เฉินเถียง

ซู่เหวินย้อนมาดูตัวเองที่บัดนี้ร่างกายว่างเปล่าไร้เสื้อผ้า ผิวหนังเคลือบไปด้วยคราบน้ำกามแห้งเกอะกังตั้งแต่หัวจรดเท้า เครื่องเพศที่บอบช้ำราวกับผ่านศึกมาอย่างโชกโชน พร้อมด้วยโซ่ตรวนที่ล่ามข้อมือและข้อเท้าของเขาอยู่ มองแล้วรู้สึกอเนจอนาถตัวเองเหลือเกิน

“เจ้าจะเอายังไงก็ว่ามา” ซู่เหวินยอมจำนน

“ข้าจะมอบกระสินธุบุษราคัมให้เจ้าก็ได้ แต่เจ้าต้องคลานเยี่ยงทาส เข้ามาตีนเท้าให้ข้าเสียก่อน” หลี่เฉินตอบ

“นี่เจ้าบ้าไปแล้วหรือ!?!?” ซู่เหวินโกรธควันออกหู

“มึงอยากตายตรงนี้ก็ได้ กูจะจัดงานศพแบบเปิดควยให้ทหารทุกคนเข้ามารดน้ำ แล้วจะตัดควยดองเก็บไว้ในโหลให้ลูกหลานดูว่าแม่ทัพชื่อเสียงเกรียงไกรมีควยใหญ่แค่ไหน ฮ่าๆๆ” หลี่เฉินตวาด

ซู่เหวินอยู่ในสภาพกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ไม่ตายกับตายแทบไม่แตกต่างกัน จึงยอมก้มหน้าน้ำตาไหล คลานสองขาเข้าไปหาหลี่เฉิน

“ฮ่าๆๆๆ ไอ้หมาเหวินมาเร็ว มาเลียตีนให้กูเร็วๆ” หลี่เฉินทำทางเรียกสุนัข

ซู่เหวินหยุดอยู่ใต้บังลังก์ของตนเอง ใบหน้าอยู่แทบเท้าหลี่เฉิน สองมือสั่นอยู่ภายใต้โซ่ตรวน ยืนไปถอดรองเท้าให้หลี่เฉิน ก่อนจะถูกหลี่เฉินถีบหน้าอกอย่างแรง ล้มนอนหงายแผ่ควยให้คนในจวนดู

“มึงเป็นทาสทำอะไรต้องขออนุญาติกูก่อน เข้าใจไหม” หลี่เฉินดุ

“ขะ... เข้าใจแล้ว” ซู่เหวินตอบ และถูกหลี่เฉินยืนค่อมร่าง ใช้มือก้มไปตบหน้าอย่างแรง

“พูดกับกูต้องมีหางเสียงด้วย จำใส่กระโหลกมึงไว้ ไม่งั้นกูจะให้มึงใช้ปากบำเรอความใคร่ให้ทหารในจวนไม่เว้นเด็กหรือเฒ่า” หลี่เฉินสั่งสอน

“เข้าใจแล้วขอรับ” ซู่เหวินน้ำตาไหลนองแก้ม ผยุงตัวลุกขึ้นนั่งคุกเข่าหน้าหลี่เฉิน

“ทาสขออนุญาตถอดรองเท้าให้นายขอรับ” หลี่เฉินพูดเสียงสั่นเทา

“ดีมาก ถอดรองเท้ากู แล้วเอาถุงเท้าไปครอบไว้ที่ควยมึงซะ” หลี่เฉินอนุญาต

ซู่เหวินมือไม้สั่น ค่อยๆ ถอดรองเท้าพร้อมถุงเท้าให้หลี่เฉิน ก่อนจะค่อยๆ เอาควยของตนเองสอดเข้าไปใสถุงเท้าสุดเหม็นของหลี่เฉิน

“ใช้ได้ ให้ควยมึงมีแต่กลิ่นเท้าของกู อยากรู้เหมือนกันว่าคนหล่อควยใหญ่อย่างมึง หากเปิดควยมามีกลิ่นเหม็นโชยแบบนี้ จะยังมีใครเสน่หาในตัวมึงอีกบ้าง” หลี่เฉินเยาะเย้น ขณะที่ซู่เหวินกำลังกัดฟัน

“เลียตีนกูให้สะอาดเดี๋ยวนี้ ไอ้แม่ทัพควยเหม็น” หลี่เฉินรุก

ซู่เหวินหลับตา กลั้นหายใจ อ้าปากอมนิ้วเท้าของหลี่เฉินเข้าไป ขณะที่หลี่เฉินรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก จึงยัดเท้าเข้าปากแม่ทัพสุดแรงจนปากแทบฉีก

“ฮ่าๆๆๆ สะใจจริงๆ โว้ย เป็นไงบ้างว่ะ ตีนกูอร่อยไหม?” หลี่เฉินถาม

“อะ... อะ… อร่อย ขะ… ขอรับ” ซู่เหวินตะกุกตะกักตอบอย่างจำใจ

“เลียง่ามนิ้วด้วยซิว่ะ แลบลิ้นออกมาตวาดตามซอกนิ้วซอกเล็บ ดูดให้สะอาด ตีนกูต้องสะอาดกว่าปากของมึง” หลี่เฉินชอบใจ

หลี่เฉินยกเท้าให้ตรงกับปากของซู่เหวิน ให้แม่ทัพชายชาตรีบรรจงไล่เลียง่ามนิ้วเท้าสกปรกของตน ฝืนใจกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก

“ว๊าย! ตายแล้ว อดีตผัวควยคุณภาพของข้า สภาพตอนนี้อย่างกับสัตว์ น่ารังเกียจจริงๆ” มเหสีร่วมผสมโลง

ซู่เหวินต้องทนรับฟังคำเยาะเย้ย ถากถางต่างๆ นานา ขณะใช้ปากทำความสะอาดเท้าให้เจ้านาย ขณะที่ควยเริ่มตั้งแข็งขึ้นเป็นสัญญาณว่าใกล้ยามวอกเข้าทุกที

“พูดถึงควยไม่ทันไร ตั้งโต่ชี้หน้าทักทายซะแล้ว ว่าไงเจ้าควยหัวบาน สบายดีหรือเปล่า?” มเหสีลงไปนั่งจ้องควยซู่เหวิน ขณะที่เจ้าตัวยังคงถูกบังคับให้ดูดเท้าหลี่เฉินอยู่

ควยแม่ทัพผงกหัวงึกๆ เริ่มมีหยดน้ำใสไหลออกมาทะลุถุงเท้าที่ครอบควยไว้ มเหสีนึกสนุก ใช้นิ้วจิ้มหัวควยก่อนชักนิ้วออก น้ำหล่อลื่นใสยืดเป็นสายตานิ้วเรียวของกระเทยสาว

“ดูดตีนเสร็จแล้ว สงสัยต้องล้างปากเสียหน่อย เอา! มาขอน้ำล้างปากจากข้าสิ พูดให้ดีๆ นะ” มเหสีสวมบทเป็นนายบ้าง

“นายกระเทยของข้า… ได้โปรดให้น้ำล้างปากแก่ทาสอย่างข้าด้วยเถิดขอรับ” ซู่เหวินกระซิก หัวใจแตกสลาย

“มาสิ คลานอย่างหมามาเลียที่นิ้วข้า มีแต่น้ำควยมึงเอง ซึมผ่านถุงเท้าสกปรกออกมา กินซะ แล้วบอกด้วยว่ารสชาติเป็นอย่างไร” กระเทยสนุกสนาน

ซู่เหวินคลานสี่ขาเหมือนสุนัขตัวหนึ่ง มาหยุดตรงหน้าอดีตมเหสีหน้าสวยใจโหด ก่อนจะอ้าปากกว้าง อ้อนวอนให้เจ้านายประทานน้ำหล่อลื่นใส่ปากของตน

มเหสียัดนิ้วเข้าปาก ปล่อยให้ซู่เหวินดูดเลียน้ำจากควยตนเองอย่างต่อเนื่อง เสียงดังจ๊วบๆ สร้างเสียงเฮฮาให้คนในห้องอย่างมาก

“ว่าไง น้ำควยมึงอร่อยไหม” มเหสีถาม

“อร่อยขอรับ รสชาติดียิ่งกว่าชาใดๆ ที่ข้าเคยดื่มกิน” ซู่เหวินพูดเสียงสั้นให้บุคคลในห้องพอใจ

“สงสัยจะกระหายน้ำควยเอามาก แค่นี้คงไม่พอ” กระเทยสาวเอ่ย

ก่อนจะสั่งให้ลูกน้องจับแม่ทัพนอนหงายโชว์ควย แล้วจับสะโพกแม่ทัพยกสูงขึ้น จนเท้ายกมาอยู่เหนือหัว ตัวงอเกือบเป็นวงกลม ก้นยกสูงเห็นรูตูดบานแดง ควยย้ายมาอยู่ตรงหน้าแม่ทัพ

“กินน้ำเงี่ยน กินน้ำเงี่ยน กินน้ำเงี่ยน ฮ่าๆๆๆ” คนในห้องส่งเสียงเชียร์

แม่ทัพอยู่ในท่าทางที่ทำอะไรไม่ได้เลย นอกจากปล่อยน้ำจากความเสียว ไหลยืดตามแรงโน้มถ่วง ซึมออกจากถุงเท้าที่ชุ่มไปหมด ตกลงเข้าสู่ปากที่อ้ากว้างรออยู่เบื้องล่าง

“เป็นภาพที่สวยจริงๆ แม่ทัพนอนกินน้ำเงี่ยนตัวเองในจวน ดูสิว่ะ แม่งน้ำควยไหลไม่หยุดเลย” หลี่เฉินชอบใจ

“ไอ้เหวิน มึงอยู่ท่านี้แล้วชักว่าวให้พวกกูดูหน่อย กูอย่างเห็นหมากินน้ำเชื้อตัวเองว่ะ” หลี่เฉินสั่ง

ซู่เหวินหมดอาลัยตายอยาก ยกสองมือขึ้นมาประกบควยที่แข็งอยู่ภายในถุงเท้า แล้วรูดเข้าออกซ้ำๆ ยิ่งทำให้น้ำหล่อลื่นไหลลงปาก เลอะปาก เลอะจมูกไปหมด

“ถอกควยแรงๆ สิว่ะ ทีตอนเอากับกู เย็ดซะเครื่องในเกือบพัง” มเหสีสั่ง

แม่ทัพยอมทำตามคำสั่งอย่างจำยอม ถอกควยขึ้นสุดลงสุด จนเส้นสองสลึงตึง ดึงรั้งหัวควยบาน เสียดสีกับถุงเท้า สร้างความเสียวและเจ็บได้ไปพร้อมๆ กัน

“ไปเอาว่านปลาไหลเผือกมาให้มันกินหน่อยสิ จะได้เงี่ยนมากขึ้นอีก” หลี่เฉินสั่ง

ลูกน้องรีบไปจัดการ นำน้ำชาผสมว่านเพิ่มความกำหนัดเหยือกใหญ่ เทกรอกปากแม่ทัพ กลืนแทบไม่ทัน ชั่วครู่ร่างกายแม่ทัพเริ่มร้อนผ่าวๆ เนื้อตัวสั่นเป็นเจ้าเข้า ควยเป่งขยายขนาดมากขึ้นไปอีก จนมาจ่ออยู่ตรงหน้าแม่ทัพที่ตอนนี้ตาลอยไร้สติ พยายามเด่งสะโพกแทงควยเข้าปากตัวเอง

“โอ๊ยย... สนุกจริงๆ ได้ดูหมาพยายามจะเลียควยตัวเอง ดูสิ โยกไม่หยุดเลย” หลี่เฉินปรบมือชอบใจ

“เมื่อก่อนมีแต่คนอยากอมควยมัน ดูตอนนี้มันยังอยากอมควยตัวเองเลยว่ะ” คนในจวนเชียร์

“ดีแล้ว ฝึกเอาไว้ ต่อไปคงหาคนมาอมควยมึงไม่ได้ ใครจะอยากอมควยให้คนบ้า ปากมีแต่กลิ่นเท้า ตัวก็เหม็นกลิ่นน้ำเงี่ยนแบบมึง ชาตินี้คงได้อมควยตัวเองไปจนตาย ฮ่าๆๆๆ” หลี่เฉินหัวเราะ

ด้วยฤทธิ์ของว่านปล่าไหลเผือกปริมาณมาก ทำให้แม่ทัพตกอยู่ในสถาวะเงี่ยนจนไม่ได้สติ แม้จะรับรู้ถึงถ้อยคำของศัตรูอย่างชัดเจน แต่ก็ไม่อาจควบคุมร่างกายให้หยุดกระเด้าสะโพก พยายามเอาควยเข้าปากตนเอง

“น่าสมเพชจริงๆ ใครสักคนช่วยสงเคราะห์หมาขี้เงี่ยนตัวนี้หน่อยเถอะ” มเหสีทนไม่ไหว

“ไปเอาชุดเกราะทองอันแสนภาคคูมิใจของมันมาที” หลี่เฉินสั่งลูกน้อง

ไม่นานชุดเกราะออกรบของแม่ทัพที่ส่งแสงทองงดงาม ก็ถูกนำเข้ามาในจวน ก่อนที่ลูกน้องหลี่ฉินจะนำมาวางบนสะโพกของแม่ทัพ ทำให้น้ำหนักชุดเกราะถ่วงลำตัวแม่ทัพลงมา จนควยจ่อเข้าปาก

“โถ่ ไอ้หมาร่าน ชนาดยอมให้เอาชุดเกราะนักรบมาใช้เป็นเครื่องมือให้ได้อมควยตัวเอง มึงนี่มันเงี่ยนฉิบหายเลยว่ะ” หลี่เฉินกล่าว

แม่ทัพยกหัวสูงขึ้นจนสามารถเอาปากไปครอบหัวควยตัวเองผ่านถุงเท้าได้ ก่อนจะดูดเลียควยราวกับกระหายน้ำมานาน ยิ่งควยถูกดูดมาเท่าไร ก็ยิ่งปล่อยน้ำซึมทะลุถุงเท้า ก่อนไหลลงปากตัวเอง

“โอ้โห้ หมาตัวนี้มันคงชอลกินน้ำจากควยสดๆ กรองผ่านถุงเท้าเหม็นๆ ว่ะ ยกหัวขึ้นมาเลียให้เลย”

“ชุดนักรบอันมีเกียรติถูกเอามาถ่วงน้ำหนักเพื่อให้ได้กินน้ำควย มึงใช้ชุดนักรบได้คุ้มค่ามากว่ะ”

“เห้ยย... ดูมันกระเด้าควยใส่ปากตัวเองสิว่ะ มันคิดว่าปากตัวเองเป็นช่องคลอดรึไง?”

ซู่เหวินกดสะโพกขึ้นลง เย็ดปากตัวเอง ดูดถุงเท้าของหลี่เฉิน ดื่มกินน้ำเงี่ยนตัวเอง ต่อหน้าหลี่เฉิน อดีตเมียตัวเองและทหารลูกน้องหลายคน ภายในจวนใหญ่ที่ตนเคยเป็นเจ้าของ

“เอาละ ไอ้หมาเหวิน เดี๋ยวกูจะให้ยาถอนพิษกับมึงแล้วนะ” หลี่เฉินพูด พร้อมทั้งลุกจากแท่นบังลังก์ ตรงไปหาแม่ทัพที่กำลังใช้ปากครอบควยตัวเองอยู่

เมื่อหลี่เฉินไปยืนตรงหน้า ก็ที่ในสิ่งที่หลายคนตะลึง เขาปลดกางเก่งส่วนบนออก พร้อมทั้งควักท่อนควยขนาดเหมาะมือ ออกมาเล็งใส่หน้าและปากแม่ทัพใหญ่

“กระสินธุบุษราคัมก็คือน้ำเยี่ยวของกูเอง มึงกินให้หมดเลยนะ ของดีแบบนี้ไม่ได้มีบ่อยๆ” หลี่เฉินเฉลย ทำให้ซู่เหวินตกใจอยู่ไม่น้อย

“กินเยี่ยว กินเยี่ยว กินเยี่ยว” ลูกสมุนส่งเสียมโห่ร้อง

ไม่นาน สายน้ำสีเหลืองใสก็พุ่งออกจากปลายหัวควยของหลี่เฉิน ไหลตรงเข้าสู่ช่องปากและใบหน้าของทาสหนุ่ม แม่ทัพรับรู้ถึงของเหลวอุ่นที่กระทบกับผิวหน้าของตน ก็จะได้สติรีบอ้าปากรองรับน้ำเยี่ยวของหลี่เฉินให้มากที่สุด เพื่อใช้ขับพิษครั้งสุดท้ายในร่างกายตนเอง

“สะใจจริงๆ โว้ย อ้าปากดื่มน้ำเยี่ยวเองเลยว่ะ ดีมาก กินเข้าไป แบบนั้นแหละ” หลี่เฉินกล่าวชมพร้อมทั้งส่ายสะโพกซ้ายทีขวาที ทำให้กระแสน้ำเยี่ยวพุ่งเปื้อนไปทั้งหัว ทั้งหน้า และกล้ามอกของแม่ทัพ ขณะที่ปากแม่ทัพก็พยายามย้ายตามกระแสน้ำเยี่ยวไปทุกทิศทาง จนกระทั่งหยาดเยี่ยวหยดสุดท้ายหมดลง หลี่เฉินสบัดควยไล่น้ำที่คั่งอยู่ในควยออกมาใส่ร่างแม่ทัพอย่างสะใจ

ซู่เหวินเปียกชุ่มไปด้วยเยี่ยวของหลี่เฉิน ของเหลวอุ่นอัดอยู่เต็มท้องแม่ทัพ ขณะที่บังเกิดความเงี่ยนขั้นสูงสุด เหมือนพิษในร่างกายมาร่วมอยู่ที่ปากควย พร้อมจะไหลออกสู่ภายนอก

“พวกเราจงดูให้ดี ไอ้ทาสหมามันจะน้ำแตกให้พวกเราดูแล้ว” หลี่เฉินประกาศ

ซู่เหวินแสบร้อนตรงควยมาก แต่ปากก็ยังคงดูดควยตัวเองไม่หยุด ครางหงิกๆ ไม่ต่างจากหมาข้างถนน ผงกศีรษะขึ้นลงสอดรับกับจังหวะที่สะโพกกระเด้าช่องปากตัวเอง

“ดูท่านสิ เล่นเป็นทั้งผัวทั้งเมียในคนเดียวกัน เมียใหม่ไปไงบ้างเพค่ะ? สู้หม่อมฉันได้ไหม?” มเหสีทักทายปากแม่ทัพที่บัดนี้ทำหน้าที่เป็นพระชายาคนใหม่ไปเรียบร้อยแล้ว

“โอ้ยยย... อ้าส์... ซี้ดดด มันส์ควยจริงๆ ตอดควยฉิบหาย เงี่ยนไม่ไหวแล้ว” แม่ทัพเสียวสุดๆ

บัดนี้แม่ทัพใช้ปากโอบรัดท่อนควยอย่างแน่นหน้า ดูดจนกระพุงแก้มยุบ ขณะเดียวกันควยใหญ่ก็สอดใส่แทงเข้าปากตอบถี่ยิบ ริมฝีปากครูดไปกับหนังควย จนวาระสุดท้ายที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง

แม่ทัพอัดควยซอยปากไม่ปราณี บดบี้ไข่เข้ากับหน้าตัวเอง ก่อนคำรามอย่างราชสีย์ กระตุกควยพ่นน้ำเงี่ยนจากถุงเท้าที่ครอบควยอยู่ยังมิอาจต้านทานปริมาณและความแรงได้ น้ำเงี่ยนไหลทะลุถุงเท้าตรงลงเข้าช่องปากแม่ทัพเป็นระลอก แม่ทัพกลืนน้ำควยตัวเองก่อนจะรีบอ้าปากรับน้ำควยชุดใหม่ที่ทยอยปล่อยออกมาไม่หยุด กระตุกควยอยู่ในปากอุ่นๆ ให้ความรู้สึกเหมือนหลั่งน้ำกามใส่ช่องคลอดสาวสวย

“ไอ้เหวินมันกินลูกๆ ตัวเองหมดเลยว่ะ ไอ้หมาน่าสมเพช” หลี่เฉินหัวเราะสะใจ

“น่าสงสารเหล่าลูกน้อยของมันจริงๆ เย็ดกับข้าก็ไม่เจอมดลูก มาคราวนี้ยังไหลเข้าปากตัวเอง ลูกๆ มันคงไม่มีโอกาสได้เกิดมาดูโลกแล้วแน่ๆ” มเหสีเสริม

“ปากแม่ทัพมีแต่น้ำเยี่ยวกับน้ำเงี่ยนเต็มไปหมด พวกเราเอาถุงเท้าอุดปากปิดไว้เถอะ” ลูกสมุนเสนอ

เมื่อเห็นเจ้านายไม่ขัด จึงดึงถุงเท้าที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำเงี่ยนขุนศึกยัดใส่ปากซู่เหวิน ก่อนจะบังคับให้แม่ทัพลุกขึ้นนั่งคุกเข่ากลางวงน้ำเยี่ยว

แม่ทัพได้แต่นั่งก้มหน้า ปล่อยให้น้ำเยี่ยวของหลี่เฉินที่ไหลเปียกเส้นผม ย้อยลงพื้นเบื้องหน้าเขาเป็นหยดๆ ด้านล่างเห็นควยตัวเองที่เริ่มเหี่ยวกลับสู่สภาวะพัก ในปากมีแต่รสชาติและกลิ่นของน้ำเงี่ยนตัวเองปนกับถุงเท้า น้ำตาก็หลั่งไหล กัดฟัน กำมือแน่น

“นำตัวมันไปขังไว้ในคุกใต้ดิน อย่าให้ใครรู้ว่ามันอยู่ที่ไหน” หลี่เฉินออกปากสั่งลูกน้อง

เหนือหลังคาของจวนแม่ทัพ

เซียนจิ้งจอกเงินเจ้าปัญญายืนกอดอกอย่างสง่างาม มองดูเหตุการณ์ทั้งหมดเบื้องหลังอย่างใจเย็น ก่อนปล่อยมือหนึ่งขึ้นมาลูบคาง ครุ่นคิดเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้า รวมทั้งเรื่องประกาศรับสมัครหาลูกเขยเพื่อมาอภิเษกสมรสกับบุตรีของแม่ทัพซู่ที่ถูกส่งไปยังแคว้นต่างๆ หลายสิบแคว้น สร้างความสนใจให้ราชโอรสต่างแคว้นที่หวังเป็นครอบครัวเดียวกับตระกลู่ซู่อันมีเกียรติ

“เรื่องนี้ไม่ชอบมาพากล ดูมีเงื่อนงำน่าสงสัย คนรักสนุกและขี้สงสัยอย่างเรา คงไม่พลาด ต้องแปลงกายไปเข้าร่วมคัดเลือกบุตรเขยครั้งนี้เสียหน่อย ฮ่าๆๆ” เอ้าเทียนคิดในใจ

“แต่ก่อนอื่นต้องแวะไปเมืองเหอเป่ยซะหน่อย ดูแล้วผู้ชายที่ชื่อซู่เรินคงกำลังตกที่นั่งลำบากอยู่” จิ้งจอกหนุ่มรูปงามพูดกับตัวเอง ก่อนใช้วิชาตัวเบา กระโดดสูงขึ้นไปในอากาศ และสลายร่างหายไปอย่างรวดเร็ว

ซู่เริ่นยังคงเป็นเครื่องมือสนองความสนุกให้คนงานอย่างต่อเนื่อง บัดนี้ไม่เหลือภาพชายหนุ่มที่เคยหล่อเหล่า ผิวขาวสะอาด เนื้อตัวหอมกรุ่น แต่กลายเป็นชายหนุ่มสกปรก เนื้อตัวเปรอะเปื้อนไปด้วยเศษขี้เถ้า อีกทั้งยังส่งกลิ่นตัวเหม็นโชยออกมา

“นี่หรอว่ะ คุณหนูเริน องค์ชายสุดที่รักของขุนศึกผู้เกรียงไกร ดูไม่ต่างจากทาสเลยว่ะ” คนงามยืนพูดตรงหน้าซู่เริน

“ถุ้ย ไอ้พวกเศษสวะ ถึงข้าเป็นทาสจริงก็ยังดีกว่าพวกเจ้าในทุกๆ เรื่อง ทั้งรูปร่างหน้าตา กล้ามเนื้อ และเครื่องเพศ ฮ่าๆๆๆ” ซู่เรินถุยน้ำลายใส่หน้าชายตรงหน้า พร้อมเยาะเย้ยชายคนนั้น

“ไอ้สัตว์ มึงภูมิใจในรูปร่างหน้าตามึงมากใช่ไหม? มึงคิดว่ามึงควยใหญ่มากนักใช่ไหม?” คนงานโมโห

“ก็ใหญ่และสวยกว่าของพวกเจ้านั่นแหละ ให้ข้าเดา ควยพวกเจ้าคงจะดำและสกปรก ขนาดคงเท่าๆ ปลายนิ้วก้อย” ซู่เรินยังคงยั่วโมโหมันต่อไป

“ปากเก่งนักนะมึง กูยอมรับก็ได้ว่าควยมึงมันดีจริงๆ เกิดมากูก็ยังไม่เคยเห็นของใครทั้งใหญ่ทั้งยาว อวบตรง สีสวย หัวบาน ได้เท่ากับควยของมึง…” คนงานสารภาพ

“พวกเจ้ามันคนชั้นต่ำ อย่าเอาควยมาเทียบกับคนชั้นสูงอย่างข้า จำใส่หัวไว้ซะ” ซู่เรินพูดไม่เกรงกลัว

“...โทษฐานที่มึงหยามความเป็นชายของพวกกู มึงดูควยสวยที่มึงภาคภูมิใจนัก ภาคภูมิใจหนาเอาไว้ให้ดีๆ มึงจะไม่มีวันได้เห็นภาพควยที่มึงรักแบบนี้อีกต่อไป” คนงานพูด ซู่เรินถึงกับหน้าถอดสี

“พวกเจ้าจะทำอะไรกับควยของข้า อย่าหวังแม้แต่จะคิด ห้ามยุ่งกับควยของข้าเด็ดขาด” ซู่เรินตวาด ในใจเริ่มนึกกลัว

“พวกกูก็จะทำให้มึงหมดความภูมิใจในควยที่มึงรักและทะนุถนอมมาตั้งแต่เด็กไง” คนงานตอบ

ไม่นานคนงานหลายคนก็ทะยอยกันเข้ามา พร้อมทั้งวางเม็ดแร่สีสดใสที่ได้จากเหมืองที่พวกเขาทำงานอยู่ พร้อมกับเหล็กแหลมแท่งยาว

“พวกเจ้าหยุดนะ หยุดเดี๋ยวนี้ อย่าทำอะไรข้าเลย ข้าขอร้อง” ซู่เรินเริ่มใจไม่ได้

“อ้าว เมื่อกี้มึงยังปากดีอยู่เลยนี่หว่า มาร้องขอตอนนี้ก็ไม่ทันแล้วว่ะ ได้เวลาลงโทษคนปากเก่งแล้ว” คนงานตอบ พร้อมป่าวประกาศข้อความเสียงดังฟังชัด

“พวกเราทั้งหลาย โปรดฟัง เบื้องหน้าทุกท่านคือคุณหนูเริน โอรสรูปหล่อของแม่ทัพซู่เหวิน ขนาดควยยามอ่อนวัดได้ยาว 4 นิ้วครึ่ง รอบวง 4 นิ้ว ยามแข็งวัดได้ยาว 7 นิ้วครึ่ง รอบวง 6 นิ้ว ลูกอัณฑะทรงกลมรี ใหญ่เท่าสองไข่นกกระทา เคยมีเส้นหมอยยาวดกดำ แผ่กระจายทั่วโคนควย”

“พวกเจ้าเป็นบ้าอะไรกานนนน!!! ปล่อยข้า ปล่อยข้าไปปป!!” ซู่เรินใจไม่ดี ร้องลั่น ดิ้นไปมาอยู่บนไม้กางเขน

“สีควยขาวเจือชมพู หัวควยแดงสด วัดส่วนปลายหัวควยถึงเงี่ยงควยได้เท่ากับสองข้อนิ้วหัวแม่มือ และมีเงี่ยงลึกเท่าครึ่งเล็บของนิ้วเดียวกัน ปากควยประกบปิดสนิท ลำควยตั้งตรง โค้งขึ้นเล็กน้อย เคยผ่านการสมสู่ทั้งกับผู้หญิงและ... ผู้ชายที่เป็นพ่อของตัวเอง” คนงานกล่าวต่อ

“บัดนี้ได้เวลาอันสมควรแล้ว ขอให้ทุกท่านโปรดอยู่ในความสงบ ยืนจ้องมองควยสวย อันเป็นอวัยวะที่องค์ชายเริ่นภาคภูมิใจและใช้บำเรอความสุขมายาวนาน ก่อนที่จะไม่เหลือภาพนี้ให้จดจำอีกต่อไป” คนงานประกาศลั่น

“ไอ้พวกชั่ว ไอ้เลวระยำ พวกแกจะทำอะไร หือๆๆ อย่านะ ข้าขอร้อง ข้ายอมแล้ว” ซู่เรินร้องขอราวกับคนเสียสติ

“คุณชายเรินไม่ต้องตกใจไปหรอกขอรับ พวกเราจะทำให้ท่านอย่างดีที่สุด” คนงานตอบกลับ พร้อมทั้งเอาผ้ายัดปากคุณชายรูปหล่อ

“อย่าๆๆ ขอ้า-กอัว-แลอ้ว หือๆๆๆ” ซู่เรินร้องไม่เป็นภาษาผ่านผ้าอุดปาก

คนงานเดินไปหยิบเม็ดอัญมลีสีสวย รูปร่างหลากหลายมากมาย ทั้งทรงกลม ทรงรี ทรงสีเหลี่ยม พร้อมเหล็กแหลม ตรงไปที่ควยของคุณชายเริ่นสุดหล่อ พระเอกในวงล้อมของคนงานตอนนี้

ซู่เรินมองคนงานเดินเข้ามาช้าๆ ดิ้นๆ ทุรนทุราย ส่ายหน้าไปมา บิดตัวหนีซ้ายขวา แต่ไม่เป็นผล ในที่สุดคนงานก็มาหยุดอยู่ตรงหน้า

“คุณหนูขอรับ ท่านคงพร้อมจะบอกลาท่อนควยลำสวยอันนี้แล้วใช่ไหม?” คนงานพูด

ไม่ทันได คนงานถือเหล็กแหลม แทงเบาๆ ผ่านหนังกลางลำควยของคุณชายเริน ที่บัดนี้ก้มมองการกระทำของคนงานต่อควยตนเองอยู่ ความเจ็บแทรกซึมไปทั่วจนร่างกายสั่นไม่หยุด

แท่งเหล็กถูกแทงทะลุจากฝั่งหนึ่งถึงฝั่งหนึ่ง ก่อนที่คนงานจะหยิบอัญมลีล้ำค่าจากเหลืองแร่ ยัดใส่รูที่มีเหล็กแหลมเปิดนำร่องอยู่ ฝั่งอัญมลีเม็ดใหญ่ไว้ใต้ผิวหนังของควยคุณชาย

“อ้ากกกกกกกกกกกก!!!! ขอ้า-เจอ็บบบบบบ” ซู่เรินร้องลั่นดิ้นน้ำตาไหลพราก

“คุณชายอดทนหน่อยนะขอรับ ฮ่าๆๆๆ รับรองว่าได้ควยใหม่สมใจอยากแน่นอนขอรับ” คนงานตอบ

ไม่ช้า คนงานเริ่มแทงเหล็กแหลมเพิ่มอีกหนึ่งตำแหน่ง และทำเหมือนเดิม คือหยิบแร่งดงามกดฝั่งลงไปบนควยของคุณชาย ที่บัดนี้ความรู้สึกเจ็บปวดเริ่มเปลี่ยนเป็นอาการชาไร้ความรู้สึก

คนงานเห็นคุณหนูแน่นิ่งไปก็ได้ใจ เสียบเหล็กอีกตำแหน่งใต้เส้นสองสลึง ก่อนยัดอัญมลีทรงสี่เหลี่ยมเข้าไป ยกเส้นสองสลึงให้นูนขึ้นจนตึง

“โอ้ยยย... กลายเป็นคุณชายควยแปลก ควยฝั่งแร่ราคาแพง นี่มันควยอัญมลีเลยนะเนี่ย” คนงานร่วมเฮกันสนุกสนาน

คุณชายเรินยังคงถูกคนงานจับฝั่งแร่สีสดเข้าไปเรื่อยๆ กว่ายี่สิบเม็ด จนลำควยดูเป็นตะปุ่มตะป่ำดูน่าเกลียดน่ากลัว

“พวกเราดูควยคุณหนูตอนนี้สิว่ะ เหมือนควยคนเป็นโรคท้าวแสนปมเลยว่ะ ผิวขรุขระยิ่งกว่าผิวผลน้อยหน้าซะอีก” คนงานคนหนึ่งตะโกนบอก

“จับไปตรงไหน หาความเรียบไม่เจอเลย ควยอันนี้มันจะยังใช้การได้อยู่ไหมว่ะ? ฮ่าๆๆๆ” คนงานอีกคนเสริม

ขณะที่ซู่เรินอยู่ในภาวะกึ่งมีสติ ภาพเบื้องหน้าพล่ามัว แต่รับรู้ได้ทุกการกระทำที่คนงานทำกับควยของเขา ถึงแม้จะชาไปหมดแล้ว แต่จิตใจกลับบอบช้ำยิ่งกว่าสภาพควยในตอนนี้เสียอีก

“ท่านควรจะดีใจนะขอรับคุณชาย หากท่านตกต่ำไร้อัฐเงินทอง อย่างน้องท่านก็ยังมีอัญมลีราคาสูงอยู่ในควยของท่าน มีทั้งแบบเม็ดกลม แบบเป็นแท่ง ลำพังควยแท่งเดียวก็แลกเป็นทองแล้วหลายชั่วหลายตำลึงแล้ว” คนงานชอบใจ

“ไอ้หนังหุ้มปลายนี้คงไม่ได้ใช้ประโยชน์อีกแล้ว ข้าว่าตัดออกเสียเถอะขอรับ ฮ่าๆๆๆ” คนงานเริ่มเกมต่อไป

“อย่าทิ้งเสียๆ ก็เสียของหมดสิว่ะ ข้าว่าตัดออกเป็นแฉกๆ สักหกแฉกกำลังดี” คนงานอีกคนเสนอ

เป็นไปตามข้อเสนอ หนังหุ้มปลายถูกดึงยืดออกมาจนบาง มองเห็นเส้นเลือดฝอย ก่อนจะถูกกริชสั้นปาดออกเป็นแฉกๆ เลือดไหลซึม หนังหุ้มปลายที่มีความยืดหยุ่นเมื่อถูกปาดแยกออกจากกัน ก็ม้วนตัวเป็นขดแยกกันไปตามแต่ละแฉก

ทำให้ตอนนี้ส่วนหัวควยคุณชายเริน เปิดอ้าออกเต็มที่ และล้อมรอบแล้วขดของหนังหุ้มปลายเป็นก้อนๆ อยู่ล้อมรับเงี่ยงควย ทำให้ควยดูแปลกประหลาดมากขึ้นไปอีก

“ข้าว่าสีควยมันยังสวยกว่าพวกเราอยู่ดีว่ะ ของมันทั้งขาวทั้งชมพูด ไม่ดำเหมือนควยพวกเราเลย” คนงานอีกคนเสนอบ้าง

ไม่ช้าน้ำหมึกพร้อมปลายเข็มเจาะถูกเตรียมออกมา น้ำหมึกมีสีสันหลากหลาย ให้สีสดชัดเจน ปลายเข็มถูกจรดลงบนน้ำหมึกสีแดง ก่อนจะถูกนำไปเจาะลงบนปลายควยของคุณชายเริน วาดเป็นดวงตาอยู่ล้อมรอบปากรูควย คนงานเริ่มบรรจงแต่งเติมลวดลายสีสันลงเป็นควยทั้งทั้งลำของซู่เริน ออกมาเป็นศิลปะที่สวยงามไม่ใช่น้อย

สุดท้ายซู่เรินได้ภาพสักลายนกอินทรี ที่กางปีกกว้างสวยงามแผ่อยู่เหนือโคนควยทั้งสองข้าง ลำตัวของนกสีดำถูกวางยาวไปตามลำควยขนาดใหญ่ ส่วนหัวของพญานกใหญ่อยู่ตรงกับส่วนของหัวควยคุณหนู ดวงตาแดงของนกตรงกับปากรูควย มองแล้วสวยงามยิ่งหนัก

ควยถูกสักเป็นรูปพญานกอินทรีตัวใหญ่ กางปีกน่าเกรงขาม ลำตัวสีดำเมื่อม ประดับด้วยอัญมลีที่ปล่อยแสงสีระยับระยับผ่านหนังควยบาง ลำคอนกมีปมหนังหุ้มปลายปกคลุมโดยรอบ ปลายสุดเป็นดวงตาจ้องมองขึ้นเหนือฟ้าตามรูปร่างควยที่แอ่นขึ้น

“โห้ ควยแม่งโคตรสวยเลยว่ะ แต่ข้าว่าคงไม่มีสาวไหนที่เห็นแล้วไม่ตกใจแน่ๆ” คนงานอุทาน

ซู่เรินเห็นภาพลางๆ นี่ควยเขากลายเป็นอะไรไปแล้ว ทำไมไม่เหลือภาพควยที่อยู่คู่กับเขามาตั้งแต่แรกเกิด ควยที่เขาใข้เสพสุขหายไปแล้วแล้ว

คนงานยังไม่หยุดการแต่งเติมควยให้คุณชาย เพราะไม่นานนักหลังจากสักควยเสร็จ คนงานก็เดินไปหยิบแท่นเหล็กทู่อีกอัน แทงเสียบเข้าไปกลางรูควยที่ปิดสนิทของชายหนุ่มรูปงาม

“ขยายปากควยซะหน่อย เวลาน้ำแตกจะได้ไหลออกมาได้เยอะๆ ฮ่าๆๆ” คนงานกล่าวอย่างสะใจ

“พญานกอินทรีจะได้ลืมตาก็ตอนนี้แหละ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ” คนงานอีกคนพูดขณะเปล่งเสียงหัวเราะร่า

“ใส่ปลอกคอให้นกอินทรีซะหน่อยดีไหมว่ะพวกเรา” คนงานเริ่มเสนอความคิด

“ข้าเห็นด้วย สมัยเมืองพวกเรายังสงบ ตอนนั้นการเกษตรยังเจริญ ข้าเลี้ยงแพะไว้ฟูงหนึ่ง และได้เก็บขนตาของพวกมันไว้นานแล้ว เราเอามาติดที่คอหยักของควยไอ้คุณชายนี่เถอะ” คนงานออกตัว

ไม่ช้าขนตาแพะเส้นเรียวยาวขนาดไม่ใหญ่แต่เต็มไปด้วยความสากและหยาบ ก็ถูกบรรจงติดเข้าไปรอบคอของนกอินทรี ซึ่งตรงกับเงี่ยงควยของคุณชายพอดิบพอดี

“หลังจากนี้ หากมันไปสมสู่กับใคร ขนตาแพะนี้ก็จะครูดไปกับเนื้อร่องสาวหรือร่องตูด จะสร้างความเสียวให้คู่รักของมันได้มาก แต่มันคงจะไม่มีโอกาสได้เย็ดกับใครแล้วล่ะ สภาพควยน่าเกลียดซะขนาดนี้” คนงานคนหนึ่งพูด

สุดท้ายคนงานนำเหล็กลนไฟแดงฉาน มีตัวอักษรจีนสองตัว กดประทับไปบนผิวหนังเหนือดกหมอยที่เคยมีอยู่เดิม ตำแหน่งอยู่ใต้สะดือเล็กน้อย อ่านได้ใจความชัดเจนว่า “หลงควย”

“ข้าชอบชื่อนี้ว่ะ คุณชายหลงควย ฮ่าๆๆๆ” คนงานทุกคนปรบมือ หัวเราะสนุกสนาน

ก่อนจะแยกย้ายกันไปทำงานตามปกติ ทิ้งให้ซู่เรินหมดสติค้างอยู่บนไม้กางเขน มีเพียงผ้าปิดส่วนล่างไว้ป้องกันการติดเชื้อระหว่างรอให้แผลหายสนิท

ยามค่ำคืนมาเยือน

เง็กจือแอบลอบออกมาจากกระโจม เดินมาหยุดอยู่เบื้องหน้าคนรักที่หมดสติ น้ำตาเง็กจือไหลพราก หัวใจแตกสลายไม่เหลือชิ้นดี ระหว่างที่ยืนอยู่นั้น จู่ๆ ก็มีเสียงคนเดินออกมาจากพุ่มไม้ด้านหลัง

“นั่นคือใครกัน? ออกมาเดี๋ยวนี้นะ” เง็กจือกล่าวเสียงสั้น มือปาดน้ำตา

ชายหนุ่มคนหนึ่งออกมาจากพุ่มไม้ ปรากฏให้เง็กจือเห็นได้ชัดเจน เบื้องหน้าเขาคือชายหนุ่มที่งามเหลือเกิน งามยิ่งกว่ามนุษย์คนไหน งามจนลืมหายใจไปชั่วขณะ ร่างกายมีแสงออร่าเปล่งประกาย เคลื่อนไหวราวกับเหาะเหินเดินอากาศ ชายผมขาวประกายเงินทิ้งยาวปลิ้วตามแรงลม ที่สำคัญหน้าเขาเหมือนซู่เรินราวกับฝาแฝดท้องเดียวกัน

“ไม่ต้องตกใจหรอกนะ พ่อหนุ่ม เรามาดีนะ จะบอกให้” เทพจิ้งจอกเงินสุดหล่อยังมีอารมณ์ขี้เล่น

“ท่านเป็นใคร? มาจากไหน? ต้องการอะไร?” เง็กจือรัวคำถาม

“เราชื่อเอ้าเทียน นี่ไม่ใช่เวลามาตอบคำถาม รีบพาร่างชายคนนั้นลงมาแล้วหนีไปให้ไกลที่สุด” เอ้าเทียนกล่าวอย่างใจเย็น

“หนี? หนีไปไหน? ข้าทำไม่ไหวหรอกท่าน” เง็กจือปฏิเสธ

“แล้วเจ้าทำอะไรได้บ้างหรือ? ยืนร้องไห้ดูชายตรงหน้าไปแบบนี้หรอ? ตลกเสียจริง” เอ้าเทียนสวน

เง็กจือใคร่ครวญอยู่ไม่นาน ซู่เรินเป็นคนที่เขาแอบชอบ แต่เขากลับไม่สามารถทำอะไรให้ซู่เรินได้เลย ทั้งที่ซู่เรินก็เคยช่วยเขาเมื่อนานมาแล้ว คิดแล้วก็ละอายใจ เกิดแรงฮึดสู้ขึ้นมาทันที

“ท่านช่วยข้านำร่างคุณชายเรินลงจากไม้กางเขนหน่อยเถิด” เง็กจือขอความช่วยเหลือ

ไม่ทันสิ้นเสียง เอ้าเทียนกระโดดฉวัดเฉวียนก่อนปลายเท้าจะลงมาสัมผัสพื้นอย่างแผ่วเบา เชือกที่มัดตัวคุณชายอยู่ก็หลุดล่วงลงมาเป็นเส้นฝอย ก่อนที่เง็กจือจะเข้ามาพยุงร่างคุณชายไว้

“ท่านไปกับข้าได้หรือไม่” เง็กจือถาม

“เจ้ารีบหนีไปให้ไกลก่อนเถอะ เราต้องอยู่รับมือกับสถานการณ์ตรงนี้ก่อน ไม่อยากแหวกหญ้าให้งูตื่น หากคนงานพวกนื้ตื่นมาไม่เจอคนที่ชื่อซู่เริน จะเป็นเรื่องใหญ่ เข้าใจนะ” เอ้าเทียนตอบ

ไม่นานเง็กจือก็ประคองร่างคุณชายเดินโซเซเข้าป่าจนพ้นสายตาของเอ้าเทียน เทพจิ้งจอกเงินหันกับมาที่ไม้กางเขน ก่อนจะแปลงร่างให้ดูกลมกลืนกับมนุษย์ทั่วไป หน้าตารูปร่างคล้ายเป็นซู่เรินทุกประการ จากนั้นจึงกระโดดขึ้นไปพันธนาการตัวเองบนไม้กางเขน

“ผู้ชายที่ชื่อซู่เรินนี่หน้าตาเหมือนเราเลยแฮะ แปลกดีจัง” เอ้าเทียนคิดกับตัวเอง

ยามเช้ามาถึง คนงานรีบตื่นแต่เช้าหวังจะมาดูผลงานที่ทำไว้กับคุณชายเรินเมื่อคืน บ้างก็คิดว่าคุณชายอาจจะตายไปแล้วก็ได้ บ้างก็คือว่าคุณชายคงยังหมดสติอยู่ บ้างก็คิดว่าคุณชายคงกลายเป็นบ้าไปแล้วแน่ๆ

แต่ไม่มีใครคิดถูกสักคน เพราะเบื้องหน้าคนงาน คือคุณชายเรินที่ดูปกติ เปลือยกายท่อนบน ท่อนล่างมีผ้าปิดคลุมไว้เหมือนเมื่อวาน

“มาทำงานกันได้แล้วหรอ ตื่นสายจริงๆ ถ้าเราเป็นหัวหน้าพวกเจ้า จะไล่ออกให้หมดเลย” เอ้าเทียนในร่างซู่เรินกล่าวทักทายคนงานอย่างอารมณ์ดี

สร้างความงุนงงให้เหล่าคนงานเป็นอย่างมาก ว่าทำไมซู่เรินจึงฟื้นตัวเร็วมากเช่นนี้ แถมใบหน้ายังดูสดใส ร่างกายก็สะอาดสะอ้าน

“ปากดีอีกแล้วนะไอ้คุณชาย” คนงานคนเดิมกับเมื่องานกล่าว

“เราก็ปากดีแบบนี้แหละ ส่วนเจ้าก็ปากเสียไม่เปลี่ยนเลย” เอ้าเทียนยอกย้อน

“อยากจะโดนอีกใช่ไหมคุณชาย ได้... เดี๋ยวข้าจัดให้ เอาให้ตายไปเลยวันนี้” คนงานเริ่มมีน้ำโห

“โถ้! เหล่ามนุษย์ผู้โง่เขลา เราก็ถูกแขวนอยู่ที่นี้มาตั้งนานแล้ว หากจะฆ่าให้ตายจริงๆ คงไม่อยู่พูดได้มาถึงทุกวันนี้หรอก จริงไหมละท่าน?” เอ้าเทียนฮัมเพลงไปพลางๆ

“ปากดีอย่างนี้ ขอเอาควยยัดปากหน่อยเถอ่ะวะ” คนงานหมดความหมดทน ถอดกางเกงถอกควย เตรียมเดินเข้ามาทางคุณชายเริน

“เดินมาอีกก้าวเดียว เราจะกัดลิ้นตัวเองตายตรงนี้แหละ ถึงตอนนั้นข้าว่าเจ้านายใหญ่ของพวกเจ้าคงไม่ปลื้มเป็นแน่ เจ้าคงต้องเตรียมเหตุผลดีๆ ไว้อธิบายกับนายใหญ่อ่ะนะ” เอ้าเทียนต่อรอง

“หน๊อยยย... ไอ้ซู่เรินนนน ไอ้ทาสชั้นต่ำ” คนงานเริ่มลังเล เหมือนสถานการณ์เริ่มผลิกกลับ กลายเป็นซู่เรินถือไพ่เหนือกว่าคนงาน

“อืม... ด่าได้เจ็บปวดเข้าไปถึงขั้วหัวใจเลย! โอ๊ยปวดจิตปวดใจเหลือเกิน! ทนรับแทบไม่ได้แหน่ะ” เอ้าเทียนล้อเลียนคนงาน

คนงานต่างก็ยืนลังเลอยู่ ไม่กล้าเข้าไปทำร้ายซู่เรินเพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะกัดลิ้นตายตรงนั้น จึงได้แต่ยืนคุมสถานการณ์ รอเวลาผ่านไปนาน ระหว่างที่ซู่เรินก็ฮัมเพลงไปเรื่อยอย่างสบายใจ

ยามบ่ายมาถึง คนงานยังคงทำอะไรไม่ได้สักอย่าง สถานการณ์แน่นิ่งสนิท เหมือนทุกอย่างอยู่ในการควบคุมของซู่เรินไปซะหมด จนกระทั่งคนงานเริ่มทนไม่ไหว

“ข้าทนไม่ไหวแล้ว วันนี้ต้องเอาควยยัดปากไอ้สัตว์กวนตีนซู่เรินนี่ให้ได้” คนงานลุกขึ้นฮือ

“อ้าวทนไม่ไหวซะแล้วหรอ? ก็ได้ๆ มาสิ เอาอวัยวะของเจ้ามาใส่ปากเราซะ แต่เราจะบอกให้นะ พวกโง่เขลา พอเจ้ายัดสิ่งนั้นเข้ามาให้ปากเราแล้ว เราจะกัดให้ขาดออกจากกัน ตอนนั้นพวกเจ้าจะทรมาน เลือดไหลไม่หยุด ไม่มีแม้แต่แรงที่จะทำร้ายเราได้อีก” เอ้าเทียนพูดขณะเหลือบตาขึ้นมามองพักหนึ่ง

“หรือต่อให้มีแรงเหลืออยู่ เราก็จะเอาส่วนที่ขาดอยู่ในปากเราเป็นเงื่อนไขให้พวกเจ้ายอมทำตาม มิเช่นนั้นเราก็จะบีบอวัยวะของเจ้าให้แหลกละเอียด จนนำกลับไปต่อไม่ได้ เราพร้อมเดิมพันชีวิตของเรากับอวัยวะเพศของเจ้า เจ้าล่ะ กล้ามาเดิมพันกับเราไหม?” เอ้าเทียนรัวไปชุด จนคนงานยืนนิ่งตาค้าง

“ซู่เหวินกับซู่เรินก็แปลก ถูกคนชั่วใช้เงื่อนไขหนึ่งมาต่อรองเพื่อให้ทำสิ่งที่พวกคนชั่วต้องการ สุดท้ายก็ดันไปยอมทำตามเงื่อนไข โดยไม่ได้สำเหนียงเลยว่ายิ่งทำก็ยิ่งถลำลึก แทนที่จะเป็นปมเดียวให้แก้ง่ายๆ สุดท้ายกลายเป็นปมซับซ้อนแก้ยาก” เอ้าเทียนพึมพำกับตัวเอง

ขณะที่คนงานก็ทำอะไรไม่ได้ นอกจากยืนคุมเชิง ไม่มีใครกล้าเข้าไปในอาณาเขตของซู่เรินสักคน คนงานหลายคนก็แปลกใจในท่าทางและการพูดของซู่เริน ที่ไม่ว่าคนงานจะทำอย่างไรก็ต้องผลิกกลับมายอมผู้ชายตรงหน้า ทั้งที่ผ่านมาพวกเขาอยู่เหนือทาสตรงหน้ามาโดยตลอด

เง็กจือหอบร่างที่ยังไม่ได้สติของซู่เรินหนีเข้าดงป่า ผ่านมาสองวันสองคืน ทะลักทุเลอยู่ไม่น้อย เพราะร่างกายของซู่เรินนั้นกำยำแข็งแรง มีน้ำหนักมาก ทำเอาเง็กจือที่ประคองร่างอยู่เหนื่อยหอบไม่ใช่น้อย

วันที่สามคุณชายเรินเริ่มได้สติฟื้นคืนกลับมา จ้องมองเง็กจือด้วยความสงสัย พยายามประคองร่างตัวเองลุกขึ้น แต่ไร้เรี่ยวแรง

“จะ... เจ้าคือหัวหน้าคนงานที่เหมืองใช่ไหม เจ้าจะพาข้าไปไหน ปล่อยข้านะ” ซู่เรินเริ่มเอะอะ

“องค์ชายเรินอย่าได้วิตก ข้าช่วยท่านหนีมาจากที่นั่นแล้วขอรับ” เง็กจือตอบ

“ช่วยข้า? ช่วยข้าทำไมกัน?” ซู่เรินสงสัย

“นานมาแล้ว ท่านเคยช่วยข้าไว้ครั้งหนึ่ง ครั้งนี้ข้าจึงอยากตอบแทนท่านบ้าง” เง็กจือตอบ แต่ไม่กล้าสารภาพรักออกไปได้

“ข้าอยากพักสักหน่อย เจ้าไปหาอะไรให้ข้าดื่มเสียหน่อยเถอะ คอแห้งเหลือเกิน” ซู่เรินตอบ

เง็กจือไม่รอช้า รีบประคองร่างคุณชายให้นั่งอิงกับต้นไม้ใหญ่ ก่อนจะรีบเดินออกไปเก็บผลไม้ที่อยู่บริเวณนั้น และหาน้ำดื่มมาให้คุณชายที่เขาแอบรัก

เมื่อถูกทิ้งให้อยู่คนเดียว คุณชายเรินก็ค่อยๆ ตั้งสติ คิดถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมา ก่อนจะค่อยๆ เปิดกางเกงตัวเองออกดู แล้วต้องตกใจกับภาพที่เกิดขึ้น

“นี่... ข้าไม่ได้ฝันไปจริงๆ ด้วย ควยงามของข้าไม่เหลืออีกแล้ว...” ซู่เรินน้ำตาคลอเบ้า

ซู่เรินปาดน้ำตา ปิดกางเกงไว้เหมือนเดิม แล้วมองไปรอบๆ จนจำได้ว่าแถบนี้อยู่ใกล้กับเมืองใหญ่ของเพื่อนที่รู้จักกัน หากเข้าเมืองไปขอความช่วยเหลือ ย่อมดีกว่าอยู่กับเง็กจือที่ยังไม่รู้จักกันเลย แถมไม่น่าไว้ใจ ไม่รู้ว่าจะพาเขาไปไหน จะทรมานเขาอีกหรือไม่ คิดได้อย่างนั้นจึงพยุงตัว ค่อยๆ ลุกขึ้นแล้วเดินทางมุ่งไปยังเมืองที่อยู่ข้างหน้าอย่างโซซัดโซเซ หายลับไปในป่าใหญ่

เมื่อเง็กจือกลับมาไม่เจอคุณชายเริน ถึงกับยืนอึ้ง จิตใจก็ดับวูบ ปล่อยผลไม้ที่หอบมาร่วงพื้นระเนระนาด น้ำตาเริ่มไหลรินออกมาอาบแก้มแดงทั้งสอง

“คุณชายเรินนนนนนนน ท่านหายไปไหนนนนนน? ท่านอยู่ที่ไหน? หืออออออๆๆ” เง็กจือได้แต่วิ่งอย่างคนบ้า ตะโกนร้องหาคุณชาย แต่กลับไร้เสียงตอบกลับ

หน้าประตูเมืองจางโจว

ซู่เรินพาร่างสะบักสะบอมของตัวเองมาหยุดอยู่หน้าประตูเมือง ทหารเฝ้าประตูรีบเข้ามาประคองร่างที่ใกล้หมดแรง

“ข้ามาพบ “หงเวย” เพื่อนเก่าของข้า ช่วยขะ... ด้ว...” ซู่เรินหมดสติด้วยความอ่อนเพลีย ก่อนทหารจะรีบพาซูเรินเข้าเมืองไป

ร่างของซู่เรินถูกนำเข้ามาในเรือนรับรองภายใน ก่อนที่กษัตริย์ใหญ่จะเสร็จเข้ามา เบื้องหน้าคือเด็กหนุ่มเหงื่อไหลเต็มตัว แต่พินิจพิเคราะห์ดูหน้าตาแล้วช่างหล่อเหล่าเอาเรื่อง แม้จะมีไรหนวดเคราขึ้นปกปิดใบหน้าอยู่บ้าง มองท่อนบนมีเพียงผ้าคลุมตัวหนึ่ง แต่ก็สามารถมองเห็นได้ชัดว่าใต้ผ้าผืนนั้นเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อใหญ่ ท่อนล่างใส่กางเกงเก่าๆ มีเป้ายกนูนสูง

“ชายผู้นี้เป็นใครกันหรือ?” กษัตริย์ใหญ่ถามทหาร

“เรียนท่านหงฟู่ ข้าน้อยมิทราบขอรับ เขาบอกเพียงว่าเป็นเพื่อนเก่ากับท่านหงเวย แต่บัดนี้ท่านหงเวยเดินทางไปร่วมคัดเลือกราชโอรสที่แคว้นต้าเหลียน พวกข้าจึงพาชายคนนี้มาพบท่านแทนขอรับ” ทหารรีบรายงาน

“เป็นเพื่อนกับลูกชายข้าหรือ? หรือว่านี่จะเป็น....?” นายใหญ่จ้องมองใบหน้าของซู่เรินที่หมดสติ ก่อนจะรีบสั่งให้ทหารในเรือนออกไปให้หมด

“เป็นซู่เรินจริงๆ หรือเนี่ย? ไม่คิดเลยว่าลูกชายคนโตของซู่เหวินจะอยู่ในสภาพเช่นนี้” หงฟู่คิดในใจ

จริงๆ หงฟู่กับซู่เหวินนั้นก็รู้จักกันมานาน หากซู่เหวินเป็นเลิศด้านการศึก หงฟู่เองก็จัดว่าเป็นเลิศด้านการค้า เมืองจางโจวนับว่าเป็นเมืองที่ร่ำรวยมั่งคั่งลำดับต้นๆ แคว้นต้าเหลียนเองก็สั่งอาวุธจากเมืองจางโจวอยู่บ่อยครั้ง เมื่อซู่เหวินและหงฟู่มีลูกชาย ก็ส่งเข้าร่ำเรียนที่สำนักเดียวกัน สองครอบครัวนี้จึงสนิทสนมกันดี

เมื่อมีอันจะกิน จึงไม่แปลกที่หงฟู่จะกลายเป็นชายแก่ หัวล้าน รูปร่างอ้วนท้วม พุงโต ทุกอย่างดูตรงข้ามกับแม่ทัพซู่เหวินที่หล่อเหล่า รูปร่างดี แม้จะมีอายุไล่เลี่ยกันก็ตาม

ความแตกต่างในภาพลักษณ์ของหงฟู่กับซู่เหวิน ถูกเก็บมาเป็นปมในใจของหงฟู่อยู่นาน เบื้องลึกในใจของหงฟู่เองก็รู้สึกอิจฉาซู่เหวินที่ไม่มีชายคนใดเทียบได้ หากให้สตรีในโลกนี้เลือกระหว่างเขากับแม่ทัพซู่เหวิน เขาก็คงแพ้ราบคาบอย่างไม่ต้องสงสัย

“โชคเข้าข้างข้าก็วันนี้แหละ ฮ่าๆๆๆ ข้ารอวันนี้มานานเหลือเกิน แก้แค้นคนพ่อไม่ได้ อย่างน้อยลงที่ลูกชายสุดหล่อของมันก็ยังดี” หงฟู่มองซู่เริน และยิ้มอย่างมีเลศนัย

เมืองเหอเป่ย

เอ้าเทียนยังคงปลอดภัยอยู่บนเสาไม้กางเกง จริงอยู่ที่เทพอย่างเขาจะปลดพันธนาการและเป็นอิสระจากสถานการณ์ตรงหน้าได้เพียงเสี้ยววินาที แต่เขาก็ยอมถูกมัดอยู่บนนั้นอยู่หลายวัน เพื่อให้คนงานไม่สงสัย และถ่วงเวลาให้ซู่เรินตัวจริงหนีไปได้ไกลจากเมืองเหอเป่ยเสียก่อน

“นี่ก็ผ่านมาหลายวันแล้ว ซู่เรินคงหนีไปได้อย่างปลอดภัยแล้วสินะ” จิ้งจอกเงินเอ้าเทียนพูด

“เมื่อกี้เจ้าบ่นอะไร ไอ้ทาสซู่เริน” คนงานที่อยู่รอบๆ ด่า

“คำก็ทาส สองคำก็ทาส พวกท่านเป็นอะไรกันมากไหมเนี่ย?” เอ้าเทียนพูดอย่างสบายใจ

“พวกกูเป็นนายของมึง เรียกมึงว่าทาสก็ถูกต้องแล้วไงว่ะ” คนงานเถียง

“อย่างแรกนะ ท่านคงสับสนระหว่างคำว่า “เจ้านาย” กับ “ผู้ทรมาน” อย่างพวกท่าน เราให้ได้มากสุดเป็นแค่ผู้ทรมานเท่านั้นแหละ” ซู่เรินถอนหายใจ

“อย่างที่สอง... ปากก็บอกว่าเป็นเจ้านาย แต่ทำอะไรเรามิได้สักอย่าง ทรมานทางกายก็ไม่มี ทรมานทางใจก็ว่างเปล่า ลองใคร่ครวญดูเอาเถอะท่านทั้งหลาย” เอ้าเทียนพูดต่อ

คนงานถึงกับโมโหควันออกหู เลือดขึ้นหน้า จริงอย่างที่ซู่เรินพูด พวกเขาทำอะไรผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าไม่ได้เลย แม้เส้นขนสักเส้นยังไม่อาจเข้าไปสัมผัสผิวกายของซู่เรินได้ จะตะโกนด่าทอต่างๆ นานา ก็ไม่สะทกสะท้าน กลับกลายเป็นพวกเขาเองที่โดนยอกย้อนกลับมาให้เจ็บปวดใจ

“เราว่าถึงเวลาแล้วล่ะ จะได้ยืดเส้นยืดสายเส้นที เมื่อยไปหมดทั้งตัวแล้ว อีกอย่างงานเลือกราชโอรสก็ใกล้เข้ามาแล้ว เห็นทีเราต้องไปจากที่นี่ได้แล้ว” เอ้าเทียนพูด

คนงานก็ได้แต่ยืนงง ฟังในสิ่งที่เอ้าเทียนพูดอย่างไม่เข้าใจ จู่ๆ เง็กจือก็ปรากฏกายขึ้นท่ามกลางคนงาน ทำให้เอ้าเทียนต้องหยุดความคิดที่จะใช้วรยุทธ์เข้าตัดเชือกที่มัดเขาอยู่ แล้วรอดูสถานการณ์

“ท่านหายไปไหนมาตั้งหลายวัน เง็กจือ? พวกข้าเป็นห่วงแทบแย่” คนงานร้องทัก

“ข้าขอโทษด้วยที่หายไปเฉยๆ พอดีหลี่เฉินเรียกพบข้ากะทันหัน จึงไม่มีเวลาบอกลาพวกเจ้า” เง็กจือตอบ

“หลี่เฉินเรียกพบท่านหรือ? มีการอันใดสำคัญหรือเปล่า?” คนงานถาม

“อีกไม่นาน แคว้นต้าเหลียนจะมีพิธีคัดเลือกราชโอรสเพื่ออภิเสกสมรสกับบุตรสาวแม่ทัพ หลี่เฉินต้องการให้ปล่อยซู่เรินเป็นอิสระ และเดินทางไปยังเมืองต้าเหลียนทันที” เง็กจือกล่าว

เมื่อเป็นคำสั่งจากผู้บังคับบัญชา คนงานจึงไม่มีทางเลือก แม้จะโกรธแค้นซู่เรินแค่ไหน แต่ก็ต้องยอมให้ซู่เรินเป็นอิสระลงมาจากเสาไม้ ปล่อยให้ซู่เรินกับเง็กจือยืนคุยกันสองคน

“ท่านเคยช่วยข้าหนีไปครั้งหนึ่ง ครั้งนี้ข้ากลับมาช่วยท่านแล้ว ถือว่าเราหายกันนะ” เง็ก

จือพูดเบาๆ กับเอ้าเทียนโดยไม่มองหน้า เพราะจะยิ่งทำให้เขานึกถึงหน้าของซู่เริน

“แล้วซู่เรินหายไปไหนซะแล้วล่ะท่าน?” เอ้าเทียนถามอย่างสงสัย

“ขะ... เขา หายไประหว่างข้าออกไปกินผลไม้ ข้าตามหาเท่าไรก็ไม่พบ” เง็กจือตอบเสียงสั่น น้ำตาเริ่มเอ่อขึ้นอีกครั้ง

“ไม่เป็นไรนะ ท่านอย่าพึ่งคิดมากไป ผ่านมาหลายวันแล้ว ซู่เรินคงมีกำลังขึ้นมาบ้าง เราเชื่อว่าซู่เรินดูแลตัวเองได้ อย่างไรเสียเราจะช่วยตามหาอีกทาง แต่ตอนนี้ขอไปแก้ปัญหาให้แม่ทัพซู่เหวินก่อนนะ” เอ้าเทียนพูดให้กำลังใจเง็กจือ

“ความวัวไม่ทันหาย ความควายเข้ามาแทรก นี่เราต้องไปตามแก้ปัญหาให้มนุษย์ตระกลูซู่ทุกครั้งเลยใช่ไหมเนี่ย?” เอ้าเทียนคิดในใจ ส่วนหนึ่งที่ช่วยก็เพราะอยากรู้ต้นกำเนิดของตัวเองว่าเป็นใคร เหตุใดซู่เรินกับเขาจึงหน้าตาเหมือนกันราวกับแกะ

ก่อนที่เอ้าเทียนจะวิ่งหายเข้าป่าไปอย่างว่องไว ทิ้งให้เง็กจือยืนอยู่เบื้องหลังอย่างมีความหวังว่าจะได้พบกับซู่เรินอีกสักครั้ง แล้วครั้งนั้นเขาจะรีบสารภาพรักกับซู่เรินทันที ไม่ให้เหมือนครั้งนี้ที่มีโอกาสแต่กลับไม่พูดความในใจออกไป

“พวกเราทั้งหลาย ข้าว่าช่วงเวลาสงบเช่นนี้ พวกเราควรมาช่วยกันพัฒนาเมืองเหอเป่ยของเรา ที่นี่มีเหมืองแร่ชั้นดี พื้นที่ก็กว้างขวางอุดมสมบูรณ์ หากพวกเราช่วยกัน ข้าเชื่อว่าเมืองเหอเป่ยจะกลับมายิ่งใหญ่ได้อีกครั้ง” หลี่เฉินประกาศกับคนงาน สร้างเสียงเฮถูกใจจากคนงานได้มาก

เมืองต้าเหลียน

เอ้าเทียนวิ่งมาหยุดอยู่ข้างกำแพงเมือง ก่อนจะยืนไชว่เท้าและใช้ศอกอิงกับกำแพงเพื่อพักเหนื่อยสักครู่ ใจหนึ่งก็นึกเป็นห่วงซู่เริน อีกใจหนึ่งก็ห่วงแม่ทัพซู่เหวิน แต่เมื่อคิดดูแล้ว งานคัดเลือกมีกำหนดชัดเจน หากไปช่วยซู่เรินก่อน คงหมดทางช่วยซู่เหวินเป็นแน่

“ว่าแต่... เราจะแปลงกายเป็นอย่างไรดีนะ? นึกไม่ออกจริงๆ” เอ้าเทียนพูดอย่างไม่สนใจเรื่องภาพลักษณ์มากนัก

“เสียเวลานึกจริงๆ เอางี้แล้วกัน หากร่างปกติของเราเป็นภาพลักษณ์ดั่งเดิม งั้นภาพลักษณ์ใหม่ก็เหลือสักประมาณหนึ่งในสี่ก็แล้วกัน” เอ้าเทียนบ่นกับตัวเอง

ว่าแล้วก็สะบัดภาพคลุมแวบเดียวเท่านั้น ก็กลายเป็นผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง ไม่มีแสงออร่าเปล่งประกายออกมาเหมือนร่างที่แท้จริง ก่อนจะพาร่างแปลงที่เหลือประมาณหนึ่งในสี่ของร่างจริงเดินเข้ากำแพงเมืองไป

ระหว่างที่เดินอยู่นั้น เอ้าเทียนสังเกตุเห็นว่าสาวๆ ในเมือง มองมาที่เขาแล้วก็กระซิบพูดคุยอะไรกัน บ้างก็มองแล้วหน้าแดง เอ้าเทียนเกิดความสงสัยจึงใช้หูทิพย์ฟังข้อความที่สาวๆ คุยกัน

“เธอๆ ดูคุณชายรูปงามคนนั้นสิ งามเหลือเกิน งามไปทั้งร่างตั้งแต่หัวจรดเท้า งามอย่างที่ข้าไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน” สาวคนหนึ่งพูดกับเพื่อนอีกคน

“จริงๆ ด้วย ดูหน้าคุณชายสิเธอ หล่อเหลาเหลือเกิน ดวงตาก็กลมสวยเหมือนแววตาของเด็กแรกเกิด จมูกก็โด่งคม ปากก็... น่าจุมพิศจริงๆ” เพื่อนอีกคนตอบ

“พวกเจ้าๆๆ เห็นคนหนุ่มตรงนั้นไหม คนอะไรเกิดมาได้หล่อขนาดนี้ หล่อราวกับเทพบุตร รูปร่างก็ดี หาที่ติไม่ได้สักจุด สงสัยจะมาเข้าร่วมคัดเลือกราชโอรสเป็นแน่ โอ๊ยย คิดแล้วอยากเป็นเจ้าสาวแทน” สตรีอีกกลุ่มยืนคุยกัน มองมาทางเอ้าเทียน

“สตรีพวกนี้เป็นอะไรกัน เราไม่เห็นว่าร่างนี้จะน่าสนใจตรงไหนเลย” เอ้าเทียนคิด

เขาไม่รู้ตัวหรอก ว่าเขาเป็นคนที่หล่อและมีเสน่ห์เหลือหลาย ตั้งแต่เขาเกิดมาก็หน้าตาประมาณนี้จึงไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองน่าสนใจตรงไหน ตรงกันข้ามกับผู้พบเห็นที่ล้วนแล้วแต่ตกอยู่ในภวังค์เสน่หา

เอ้าเทียนเดินตรงเข้าเมืองไปเรื่อยๆ จนมาถึงจุดลงชื่อผู้เข้าร่วมคัดเลือก มองเห็นผู้คนมากมายในบริเวณนั้น มีทั้งกลุ่มองค์ชายน้อยใหญ่จากต่างเมืองมากมาย มีองครักษ์ผู้ติดตาม เอ้าเทียนไม่ได้สนใจมากนัก เดินตรงเข้าไปลงชื่อทันที

“มีเจ้าชายมาสมัครเกือบห้าสิบคนเชียวหรือ?” เอ้าเทียนคิดในใจขณะกำลังลงชื่อของตน

ในคุกใต้ดิน

ตั้งแต่แม่ทัพซู่เหวินขับพิษแมงมุมออกจากหมด ก็ถูกขังอยู่ในคุกใต้ดินลับ ไม่เห็นแสงเดือนแสงตะวัน มีเพียงอาหารและน้ำที่จัดส่งให้ประทังชิวิตไปวันๆ ไม่รู้ว่าจะหนีออกไปจากที่นี่ได้อย่างไร

ตอนนี้ใบหน้าแม่ทัพซู่เหวินมีแต่หนวดเครายาวปกคลุมใบหน้า เนื้อตัวสกปรกมีแต่คราบและกลิ่นน้ำกามและน้ำปัสสาวะ นอนก่ายหน้าผาก เปลื่อยเปล่าอยู่บนกองฟางในคุก

ขณะเดียวกันซู่เรินก็ได้รับการดูแลอย่างดีจากหงฟู่ จนเริ่มได้สติฟื้นคืนกลับมาเป็นปกติ เปลือกตาซู่เรินค่อยๆ ลืมขึ้น จนเห็นชายแก่ร่างท้วมตรงหน้า นั่งอยู่ขอบเตียง

“ท่านคือหงฟู่ พ่อของหงเวยใช่หรือไม่? ข้าคือซู่เรินเพื่อนสนิทของหงเวย ท่านลุงจำข้าได้ไหม” ซู่เรินทักเสียงแหบ

“ลุงจำได้สิ เจ้าคือซู่เริน ลูกชายแม่ทัพซู่เหวินเพื่อนรักของข้า ข้าจำได้ดีเชียวละ” ชายอ้วนตอบ

“เจ้าฟื้นแล้วก็ดี ไปแช่บ่อหน้าอุ่นกับข้าเถอะ จะได้สบายตัว” หงฟู่เอ่ยต่อ

ทหารสองนายถูกเรียกเข้ามาในห้องพักเพื่อประคองร่างซู่เรินให้ลุกขึ้นแล้วไปยังบ่อน้ำอุ่นที่จัดเตรียมไว้ในห้องอาบน้ำของหงฟู่ เมื่อมาถึงทหารทั้งสองก็ออกไป ทิ้งให้หงฟู่อยู่กับซู่เรินตามลำพัง ชายแก่ปลดเสื้อผ้าจนหมดก่อนลงไปแช่ตัวในน้ำอย่างสบายใจ

“เจ้ารออะไรเล่า รีบลงมาแช่ตัวกับข้าสิ บ่อน้ำนี้แช่แล้วสบายตัวมากนะ” หงฟู่พูด

ซู่เรินก็ทำตามคำสั่ง ค่อยๆ ปลดเสื้อคลุมออกจากส่วนบน ชายแก่มองอย่างตั้งใจ เห็นแผงอกใหญ่ พร้อมหัวนมสีชมพูของเพื่อนลูกชาย ไล่ออกมาเป็นกล้ามท้องที่คนอ้วนอย่างเขาไม่มีโอกาสได้เป็นเจ้าของ ใต้สะดือเป็นไรขนดำขึ้นเป็นแนวสวย พร้อมข้อความว่า “หลงควย”

“หลานข้า เหตุใดเจ้าจึงประทับความว่าหลงควยไว้ตรงนั้นเล่า?” ชายแก่เอ่ยปากถาม

“ขะ... ข้า คือข้า....” ซู่เรินอ้ำอึง รีบเอาเสื้อคลุมมาปิดใต้กล้ามท้องทันที

“ข้ารู้ที่แท้เจ้าก็เป็นพวกวิปริต ไม่ชอบสตรี แต่กลับไปชอบแท่งควยของผู้ชายด้วยกันเองสินะ” หงฟู่เริ่มถากถาง

ไม่ช้าทหารสองนายที่รออยู่ข้างนอก ก็ถูกเรียกตัวเขามา จับล็อคแขนซ้ายขวาขององค์ชายซู่เรินที่เปลือยท่อนบนอยู่ แล้วก้มให้คุกเข่าลงไปข้างบ่อน้ำที่ชายแก่กำลังแข่อย่างมีความสุข

“ท่านลุง ท่านจะทำอะไรข้า ข้าเป็นเพื่อนกับลูกชายท่านนะ!!!!” ซู่เรินตะคอกใส่

“ใช่ ข้ารู้ว่าเจ้าเป็นลูกของแม่ทัพใหญ่ซู่เหวิน แล้วเจ้ารู้อะไรไหม? คนอย่างข้าเทียบอะไรกับซู่เหวินไม่ได้สักอย่าง ข้านึกอิจฉาทั้งพ่อและลูกตระกูลซู่มาโดยตลอด วันนี้อย่างน้อย ข้าจะได้อยู่เหนือกว่าลูกชายของแม่ทัพซู่แล้ว ถือว่าเจ้ามันซวยที่เกิดมาเป็นลูกซู่เหวินเองนะ” หงฟู่กล่าว

ทันใดนั้นทหารก็ตรงเข้าฉีกกางเกงของซู่เรินออก คนทั้งสามในห้องอาบน้ำถึงกับตาค้างในภาพที่เห็น ตกใจเสียยิ่งว่าเห็นคำว่าหลงควยบนหน้าท้องส่วนล่างขององค์เสียอีก เพราะภาพที่เห็นคือเครื่องเพศรูปร่างน่ากลัว ลำควยมีแต่ปุ่มนูนกระจายอยู่ทั่ว แถมยังสักควยเป็นรูปนกอินทรีสีดำสนิท เกิดมาไม่เคยพบเคยเห็นอะไรเช่นนี้มาก่อน

“ฮ่าๆๆๆ เจ้ามันพวกอัปรีย์จังไรจริงๆ ด้วย เล่นพิเรนทร์กับควยขนาดนี้ ข้าเชื้อแล้วว่าเจ้าหลงควยจริงๆ ฮ่าๆๆๆ ดีๆ อย่างนี้ข้าชอบ เจ้าคงทำเงินให้ข้าได้มากโข” ชายอ้วนพูดอย่างมีความสุขที่สุด

“ท่านลุงจะทำอะไรข้า ปล่อยข้าเถอะ ข้าทำเงินอะไรให้ท่านไม่ได้หรอก” ซู่เรินดิ้นแต่ไม่หลุดจากทหารทั้งสอง

“เจ้ารู้ไหมว่าสาเหตุที่เมืองนี้ร่ำรวยเงินทอง ไม่ได้มาจากแค่การค้าขายอาวุธเท่านั้นนะ เบื้องหลังข้าเปิด “สมรภูมิเผยกาม” ให้คนมีเงินทั้งหลายเข้ามาชมเด็กหนุ่มในสังกัดของข้า มีทั้งคนใหญ่คนโตในบ้านเมือง มีจอหงวนระดับหัวกะทิของประเทศ มีขุนนางไพร่ฟ้ามากมายที่เป็นลูกค้าของข้า” หงฟู่พูดขณะแช่น้ำร้อนอย่างสบายใจ

“เด็กในความดูแลของข้าไม่มีใครหล่อหุ่นดีเทียบเจ้าได้สักคน เป็นถึงลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของแม่ทัพซู่ แถมควยก็ยังแปลกประหลาด น่าสนใจไม่น้อย แค่นี้ก็ดึงลูกค้าให้ข้าได้เยอะแล้ว” ชายแก่กล่าวต่อ

“ปล่อยข้าๆๆๆ ไอ้พวกชั่ว ข้าจะฆ่าพวกเจ้า พวกเจ้าจะต้องตกนรก” ซู่เรินร้องโวยวาย

“ข้าไม่รู้ว่าเจ้าเจออะไรเลวร้ายมาบ้าง แต่ข้าจะแสดงให้เจ้าดูเองว่านรกจริงๆ นั้นเป็นอย่างไร ฮ่าๆๆๆ วันนี้ข้ามีความสุขเหลือเกิน” หงฟู่พูด

เง็กจือ-ที่กำลังคิดห่วงหาและเฝ้ารอซู่เริน

ซู่เริน-ที่กำลังตกอยู่ในน้ำมือของหงฟู่โรคจิต พ่อของหงเวย

หงเวย-ที่กำลังร่วมงานคัดเลือกในเมืองของซู่เริน ที่คุมขังซู่เหวิน

ซู่เหวิน-ที่กำลังถูกจองจำอยู่ในคุกของเมืองตนเองจากคำสั่งของหลี่เฉิน

หลี่เฉิน-ที่กำลังจะใช้ราชบุตรต่างเมืองมาทรมานแม่ทัพซู่ตามแผนมเหสี

มเหสี-ที่กำลังรอสนุกกับการได้ผู้ชายหล่อหลายคนเป็นของเล่น ภายใต้คำสั่งของนายใหญ่

นายใหญ่-ที่กำลังปล่อยให้แผนการดำเนินไปเพื่อความยิ่งใหญ่ในอนาคต

----อนาคตที่เอ้าเทียนก็ยังไม่รู้ว่าจะรับมือคนเดียวไหวหรือไม่----

เช้าวันนี้เป็นวันแรกของการเริ่มคัดตัว ราชบุตรยืนรวมตัวกันอยู่หน้าลานประลองของจวนแม่ทัพซู่เหวิน แต่ละคนบ่งบอกชาติตระกูลของตนเองผ่านหน้าตาที่หล่อเกินชายธรรมดา แต่งองค์ทรงเครื่องดูสง่างมงามไปเสียหมด อย่างไรก็ตามเอ้าเทียนก็ยังคงดูโดดเด่นเป็นพิเศษเมื่อยืนท่ามกลางองค์ชายแต่ละแคว้นเช่นนี้

หลี่เฉินออกมายืนบนแท่นประกาศ ก่อนจะกล่าวทักทายองค์ชายแต่ละแคว้นอย่างโนบน้อม และกล่าวเชิญพระมเหสีที่กำลังก้าวออกมาจากหลังม่าน ปรากฏอยู่เบื้องหน้าของบุรุษรูปงามทั้งหลาย

“สวัสดีท่านราชโอรสทั้งหลายที่ให้ความสำคัญกับการคัดเลือกราชบุตรเขยของตระกลูซู่ เป็นที่ทราบกันดีแล้วว่าตระกูลซู่เป็นตระกูลใหญ่ มีขุนศึกชื่อดังสืบทอดสายเลือดมายาวนาน ฉะนั้นคนที่จะขี้นมาเป็นบุตรเขยได้นั้นต้องไม่ธรรมดา” พระมเหสีกล่าว

“ข้ามีวิธีการคัดเลือกอยู่ทั้งหมดหลายรอบ ขอให้ท่านราชบุตรทั้งหลายเตรียมตัวให้พร้อม ภายในครึ่งชั่วยามนี้จะเริ่มการคัดเลือกรอบแรก” พระมเหสีกล่าว

เมื่อครบกำหนดเวลา ราชโอรสกว่าห้าสิบคนได้รับชุดขาวสะอาดทั้งเสื้อและกางเกง เพื่อเปลี่ยนให้เหมือนกันทุกคน ก่อนจะมายืนรวมตัวกันที่หน้าแท่นประกาศ

เมื่อราชบุตรทั้งหลายรวมถึงเอ้าเทียนและหงเวยได้เปลี่ยนชุดเป็นสีขาวเช่นนี้ ยิ่งทำให้มองเห็นกล้ามเนื้อชัดเจนยิ่งขึ้น แต่ละคนมีหุ่นที่สมกับเป็นราชบุตรว่าที่ลูกเขยชองแม่ทัพซู่

“ดีมากทุกๆ ท่าน ต่อไปจะเริ่มการคัดเลือกรอบแรก ขอให้พวกท่านฟังกติกาให้ดี” พระมเหสีขึ้นกล่าวต่อหน้าราชโอรส

“การคัดเลือกรอบนี้เป็นการวัดความแข็งแรงทางกาย โดยแบ่งเป็นฐานๆ แต่ละฐานจะมีคำสั่งให้ทำตามอยู่ชัดเจน คนที่ถึงเส้นชัยก่อนเก้าคนแรกจะเป็นผู้ชนะ” มเหสีอธิบาย

ราชโอรสแต่ละคนอยู่ประจำที่เส้นเริ่มต้น และเมื่อสัญญาณกลองดังขึ้น ราชโอรสทั้งหลายก็เริ่มออกวิ่งไปยังฐานแรกทันที

ฐานแรกเป็นราวไม้สูงขนาดพอดีมือ ฐานนี้ให้ราชโอรสกระโดดขึ้นไปเกาะราวไม้ยาว แล้วพยายามยกตัวเองให้อกพ้นสูงจากราวไม้นั้น ขึ้นลงเป็นจำนวนหนึ่งร้อยครั้ง

ไม่รอช้า ราชบุตรทั้งหลายต่างเข้าประจำที่ของตนเองพร้อมทั้งมีทหารที่คอยยืนนับจำนวนครั้งอยู่ข้างๆ เมื่อเกาะราวไม้สำเร็จ ราชบุตรก็รีบดึงตัวเองให้หน้าอกเลยสูงพ้นขอบไม้ จึงนับเป็นหนึ่งครั้ง

พระมเหสีมาร่วมยืนสังเกตุการณ์อยู่ด้วย นางเดินไล่ดูที่ละคนๆ แต่ไม่ได้สนใจจำนวนครั้งที่ราชบุตรทำได้เลย หากแต่จ้องมองไปที่มัดกล้ามแขนใหญ่ที่แข็งเกร็งขณะดึงตัวขึ้น มองกล้ามหน้าอกที่เริ่มมีเหงื่อซึมออกมา ทำให้เห็นรูปร่างของแต่ละคนชัดเจน บ้างคนก็เริ่มส่งเสริมฮึดขณะดึงตัวขึ้น ที่สำคัญยามห้อยตัวลงแบบนี้ ทำให้มองเห็นเป้านูนของเหล่าชายหนุ่มเชื้อสายกษัตริย์ต่างแดนได้ชัดเจน ทำให้พระมเหสียืนจ้องมองอย่างเลือกไม่ถูก เก็บข้อมูลองค์ชายแต่ละคนอย่างเพลิดเพลิน

เอ้าเทียนไม่ได้รู้สึกว่าฐานนี้จะยากอะไร เขาสามารถดึงตัวแบบนี้ได้ทั้งวันด้วยซ้ำ แต่ก็ต้องแกล้งทำเป็นเหนื่อยเพื่อให้ดูสมจริง อย่างไรก็ตามขนาดเป้าของเอ้าเทียนจะดูน่าสนใจกว่า เพราะมันยกนูนพุงออกจากกางเกงสีขาวอย่างเห็นได้ชัด ทำให้พระมเหสีต้องเงยขึ้นมองหน้าเจ้าของเป้า

“ว๊ายยย... ใครกันเนี่ย? หล่อล่ำเป้าใหญ่เหลือเกิน น่าครอบครองเป็นเจ้าของยิ่งนัก” มเหสีหื่นกามคิดในใจไปถึงเรื่องบนเตียงของตนกับเอ้าเทียน

ไม่นานชายหนุ่มบางคนก็ทำครบหนึ่งร้อยครั้ง แน่นอนว่ารวมถึงเอ้าเทียนด้วย ทั้งหมดรีบไปที่ฐานที่สอง ทิ้งให้ราชโอรสที่ยังทำไม่ครบจำนวนดึงตัวเองขึ้นลงต่อไป

ฐานสองให้ราชโอรสนอนคว่ำ ให้หนักอกแตะถึงพื้นก่อนจะใช้มือดันยกลำตัวขึ้นนับเป็นหนึ่งครั้ง ให้ทำเช่นนี้เป็นจำนวนหนึ่งร้อยครั้ง

ราชโอรสแต่ละคนรีบวิดพื้นทันทีที่ทราบกติกา โดยมีพระมเหสีและเหล่าทหารยืนดูอย่างสนุกสนาน เพราะบัดนี้บั้นท้ายของชายหนุ่มหลายคนกำลังยกขึ้นลง สร้างความกำหนัดให้กระเทยสวยอยู่ไม่น้อย ในใจก็คิดไปต่างๆ นานา

“ก้นราชบุตรคนนี้กลมสวยจัง น่าจับตีให้แดง คนโน่นก็ก้นแน่นเชียว คิดแล้วน้ำลายไหล”

“คนนี้วิดพื้นแข็งแรงจัง อยากเข้าไปแทรกตัวนอนบนพื้นให้ราชบุตรทิ้งตัวลงมาทับจริงๆ”

เหล่าชายหนุ่มหลายคนเหงื่อท่วมตัว จนชุดสีขาวแทบปกปิดเนื้อหนังไม่ได้เลย เผยให้เห็นมัดกล้ามเนื้อ และร่างกายที่อยู่ใต้ผืนผ้าบาง

ผู้ชายแต่ละคนล้วนกินกันไม่ลง มองไปทางไหนก็กระตุ้นอารมณ์คนมองได้ทั้งหมด ทั้งกล้ามแขนที่ยันพื้นไว้ ทั้งกล้ามกันที่เกร็งเห็นชัด ทั้งเป้าใหญ่ที่ทิ้งตัวลงพื้น และเด้งไปมายามยกตัวขึ้น เหมือนเหล่าชายฉกรรจ์รูปงามทั้งหลายมาแสดงการเย็ดให้ดูตรงหน้า

ราชโอรสบางคนเหนื่อยจัดก็จะค้างอยู่ในท่าพัก คือใช้แขนดันพื้นนิ่งไว้ ท่านี้ทำให้มองเห็นควยใหญ่ในผ้าขาวได้ชัด ถึงแม้จะไม่แข็งตัวแต่ก็ใหญ่เอาเรื่อง ถึงกับดันกางเกงขาวนูนเป็นพวงใหญ่

เอ้าเทียนในร่างมนุษย์แปลงกายก็ไม่แพ้กัน ดันพื้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่เครื่องเพศก็ขยับตามแรงยกตัว ขนาดตุงอยู่ในกางเกงบาง ทำให้ทหารหลายคนจับจ้องเป้าราชโอรสรูปงามอย่างลืมตัว

ผ่านจากฐานวิดพื้น ต่อด้วยฐานสุดท้าย ฐานนี้ให้ราชโอรสทุกคนถอดเสื้อผ้า แล้วจับคู่โดยให้หลังชนกันแล้วใช้สองมือคล้องกันไว้ ให้คนหนึ่งก้มตัวเพื่อยกอีกคนให้เท้าลอยพ้นพื้น จากนั้นให้อีกคนก้มตัวเพื่อยกอีกคนให้ลอยขึ้นจากพื้นเช่นกัน ทำสลับกันจนกว่าจะมีอีกฝ่ายที่ไม่ไหว จึงให้ตกรอบไป

ชายหนุ่มเริ่มถอดเสื้อออกเผยหน้าอกและกล้ามรอบแขนที่แข็งเกร็งจากการวิดพื้นและยกตัว หัวนมแตกต่างกันไป บ้างก็ใหญ่นูนน่าดูด บ้างก็เล็กแต่น่ามอง บ้างก็สีคล่ำหน่อย บ้างก็สีชมพูดสวย ก่อนที่ทั้งหมดจะรีบจับคู่กันทันที แล้วเริ่มยกอีกฝ่าย สลับกันไปมา

ภาพที่หลายคนเห็นตอนนี้สร้างความตื่นเต้นได้ไม่น้อย เพราะชายหนุ่มหล่อหลายคนมาเข้าคู่กันในสภาพเปลือยท่อนบน ขณะที่ท่อนล่างก็ยิ่งเห็นได้ชัดยามถูกยกแล้วแอ่นตัวขึ้น มองเป้าทางซ้ายทีขวาที คู่นั้นทีคู่นี้ที อย่างสำราญใจ

ยิ่งถูกเหงื่อชะโลมกางเกงเช่นนี้ ยิ่งง่ายต่อการมอง เพราะเครื่องเพศขององค์ชายทั้งหลายแทบจะสัมผัสกับเนื้อผ้าบาง จนมองเห็นขอบเขตคร่าวๆ ได้ไม่ยาก ร่วมทั้งสีของเครื่องเพศและขนหมอยดำที่ตัดกับสีกางเกง

การคัดเลือกยังคงดำเนินไปเรื่อยๆ จนในที่สุดก็เริ่มมีคนยอมแพ้ เพราะหมดเรี่ยวแรง ส่วนคนที่ชนะทั้งเก้าคนก็เข้าไปยืนรอที่เส้นชัยอย่างหอบเหนื่อยเปลือยท่อนบน ยกเว้นเอ้าเทียนที่ไม่มีอาการเหนื่อยใดๆ แต่ต้องแสร้างทำเป็นเหนื่อยให้กลมกลืนไปกับอีกเก้าคนที่เหลือ

ทั้งเก้าถูกเชิญตัวเข้าไปในห้องรับรองขนาดใหญ่ พร้อมบริการน้ำชาที่แอบผสมยากระตุ้นทางเพศไว้ รอบๆ ห้อง มีทหารยืนกระจายอยู่ ตรงกลางห้องคือหลี่เฉินพร้อมพระมเหสี

“ขอแสดงความยินดีกับพระโอรสทั้งเก้าคนที่ผ่านเข้ารอบมาได้พะยะค่ะ รอบนี้จะยิ่งเข้มข้นมากกว่ารอบแรกมากนัก ขอให้พระโอรสทั้งหลายเตรียมตัวให้พร้อม และหลังจากนี้ขอเรียกพระโอรสตามลำดับการเข้ารอบ ได้แก่ ราชโอรสหมายเลขหนึ่ง หมายเลขสอง จนถึงหมายเลขเก้า” หลี่เฉินประกาศ

“ตอนนี้พวกท่านผ่านการทดสอบทางด้านร่างกายมาแล้ว แต่อย่างไรก็ตามแม่ทัพยังอยากได้ลูกเขยที่สามารถผลิตทายาทให้ตระกลูซู่ได้อย่างแข็งแรงสมชายชาตรี” หลี่เฉินอธิบาย ขณะที่องค์ชายทั้งหลายเริ่มขมวดคิ้ว

“ข้าอยากให้พวกท่านทั้งเก้าคนสร้างอารมณ์ร่วมรักให้เต็มที่เพื่อแสดงความเป็นชายที่แท้จริง” หลี่เฉินอธิบายต่อ

“ข้าเข้าใจวัตถุประสงค์ของการคัดเลือกดี ถ้าให้สร้างอารมณ์ต่อหน้าทหารชายด้วยกันย่อมไม่มีปัญหา แต่นี่มีพระมเหสีร่วมอยู่ด้วย ข้าว่าคงไม่เหมาะกระมัง” ราชโอรสท่านหนึ่งพูดขึ้น

“ข้ากำลังหาลูกเขยให้ตระกลูอยู่ ข้าต้องรู้ทุกเรื่องของพวกท่าน โปรดอย่าได้ถือสาเลย” มเหสีตอบ

ราชโอรสยืนสับสนกันถ้วนหน้า พวกเขาทราบดีว่าตระกลูซู่นี้ไม่ธรรมดา แต่ไม่คิดว่าการคัดเลือกราชโอรสจะเข้มข้นและละเอียดถึงเพียงนี้ แต่อย่างไรก็ตาม การได้เป็นราชบุตรเขยของแม่ทัพซู่นับว่าเป็นเกียรติยศสูงสุดอย่างหนึ่งในชีวิต ไม่รอช้าราชโอรสทั้งหลายจึงเริ่มหลับตาสร้างความเงี่ยนให้ตัวเองทันที

ราชโอรสหมายเลขหนึ่งคือเอ้าเทียนที่เข้ารอบเป็นคนแรก เขาไม่ได้สนใจทำตามคำสั่งบ้าบอนี้ แต่ก็ยืนหลับตาไปตามเรื่องราวให้ดูไม่มีพิรุจน่าสงสัย แต่กระนั้นหน้าตาก็จัดว่าหล่อที่สุดในหมู่ชายทั้งเก้าคน แถมกล้ามเนื้อก็ยังดูดีโดนเด่นกว่าอีกแปดคนที่เหลือ

ราชโอรสหมายเลขสองหน้าหล่อ หุ่นล่ำ กล้ามแข็ง หน้าท้องเป็นลอนๆ กำลังยืนจินตนาการ จนควยใหญ่ แข็งตุง เป็นลำตั้งตรง ชี้ขึ้นจนปลายหัวควยโผล่พ้นออกมาจากขอบกางเกงเล็กน้อย เห็นเป็นสีแดงสวย มีน้ำหล่อลื่นเคลือบตรงปลาย

ราชโอรสหมายเลขสามที่ยืนติดกัน ใบหน้าดึงดูด ร่างกายสมส่วนกำลังดี ไม่มีไขมันสะสมอยู่ตามผิว ทำให้มองเห็นมัดกล้ามชัดไปหมด แถมเห็นขนอันดกดำสวย ขึ้นเป็นริ้ว หยิกเป็นพุ่มฟูอยู่เหนือขอบกางเกง ดึงให้สายตาเข้าไปตามค้นหาส่วนหมอยที่เหลือในกางเกง และสะดุดเข้ากับเป้าที่ยกนูนออกมาอย่างเห็นได้ชัด จนอยากจะเข้าไปสัมผัสความเป็นชายในซ่อนอยู่

ราชโอรสหมายเลขสี่ผิวพรรณขาวผ่อง หน้าตาตี๋หล่อ ตัวสูงใหญ่ รูปร่างดี ไม่แพ้หมายเลขอื่นๆ มีแพรหมอยที่ดกมากจนไม่อาจปกปิดไว้ได้ทั้งหมด จึงเผยออกมาให้เห็นตามขอบกางเกงไล่ขึ้นมาถึงหน้าท้อง พร้อมท่อนลึงค์ตุงที่ชวนให้สงสัยว่าจะขาวเหมือนผิวของเจ้าของหรือไม่

ราชโอรสหมายเลขห้าหน้าตาชวนสมสู่ มีกล้ามอกและกล้ามแขนไม่เล็กไม่ใหญ่ ขนาดกำลังพอดี มีหัวนมสีชมพูดูน่าดูดน่าเลีย ลูกกล้ามท้องนูนขึ้นพอเห็นได้เป็นแผง ยืนควยตุงแข็งเป็นลำอยู่ภายใต้กางเกงบางที่มีน้ำหล่อลื่นเปื้อนอยู่เป็นวงๆ ตรงกับตำแหน่งหัวควย

ราชโอรสหมายเลขหก หล่อใช้ได้ทีเดียว แผงอกหนาขนาดใหญ่พร้อมไรขนขึ้นบางๆ หัวนมคล่ำเล็กน้อย กล้ามท้องเห็นส่วนนูนส่วนร่องแล้วชัดเจน ควยกำลังแข็งเป็นลำยาวตั้งตรง แทบชี้ทะลุออกจากกางเกง จนอยากจะฉีกกางเกงออกเพราะบดบังของดีภายใน

ราชโอรสหมายเลขเจ็ด หน้าหล่อตาหวาน รูปร่างสมส่วน แต่ไม่ล่ำเท่าคนอื่นๆ แต่ดูเหมือนกล้ามเนื้อตรงควยจะใหญ่กว่าเป็นพิเศษ มองเห็นเป็นลำอวบใหญ่พาดไปทางซ้ายเหมือนงูยักษ์ ที่กำลังอึดอัดเพราะกางเกงตัวเล็กเกินไป

ราชโอรสหมายเลขแปด ชายหนุ่มหน้าเข็ม หนวดเคร้าขึ้นตามกรอบหน้าเล็กน้อย ดูน่าเย้ายวน หัวนมเม็ดใหญ่สีเนื้อ ขนหมอยที่ขึ้นลามไปยิ่งกล้ามท้องสวยถึงโคนควยที่อยู่เบื้องล่าง พร้อมควยดำโตที่ถูกกางเกงพาดทับ ชวนให้น่าร่วมรักด้วยจริงๆ

ราชโอรสหมายเลขเก้า ใบหน้าชวนมองได้ทั้งวัน หัวนมชมพูสวย วางอยู่บนแผงอกล่ำ และกล้ามแขนขนาดใหญ่ พร้อมด้วยควยลำเขื่อง กระดกตุงกางเกงอยู่เป็นระยะๆ ทำให้กางเกงขยับอยู่เรื่อยๆ

“บัดนี้ดูเหมือนเจ้าชายทุกพระองค์จะกำลังเพลินอยู่ในจินตนาการ ยกเว้นราชโอรสหมายเลขหนึ่ง” หลี่เฉินทักขึ้น

เอ้าเทียนลืมตาขึ้น มองไปรอบๆ ก็เห็นราชโอรสทั้งเก้ากำลังอยู่ในอาการเคลิ้มในห้วงความคิด สะท้อนออกมาให้เห็นเป็นความแข็งแรงของอวัยวะเพศที่กำลังผลักกางเกงออกมาเรื่อยๆ ก่อนจะเลิกคิ้วเล็กน้อย ทำหน้าสงสัย

“ปกติแล้วเรามีอารมณ์กำหนัดเป็นประจำ โดยเฉพาะกับสตรีเพศทั้งหลาย แต่ครั้งนี้นับว่าแปลกยิ่งนัก แม้จะมีพระมเหสีอยู่ในห้องด้วย แต่เราไม่มีกามารมณ์เลยสักนิด” เอ้าเทียนกล่าวใจเย็น

“เราว่าไม่ปกติแน่ๆ แค่เรานึกว่ามีผู้หญิงจ้องมองเราอยู่ยามนี้ ย่อมมีอารมณ์ได้ไม่ยาก หรือแม้แต่ได้กลิ่นสตรีเพียงเล็กน้อยย่อมเกิดกำหนัดขึ้นแน่นอน แต่นี่เหมือนไม่มีสตรีในห้อง” เอ้าเทียนพูดต่อ

“หรือว่าพระมเหสีจะไม่ใช่...” เอ้าเทียนยิ้ม มองไปยังพระมเหสี

“สามหาว จะ... เจ้าจะกล่าวหาว่าข้าไม่ใช่สตรีอย่างนั้นหรือ เจ้าล่วงเกินข้ามากไปแล้ว” พระมเหสีปฏิเสธอย่างมีพิรุธ ขณะที่ราชโอรสองค์อื่นๆ ก็หยุดกิจกรรมแล้วรอดูสถานการณ์

“ทหาร จับราชโอรสองค์นี้ไปชังในคุกใต้ดิน เขาหยามเกียรติข้าเกินไปแล้ว ข้าทนไม่ได้” พระมเหสีรีบออกตัวทันที ใจหนึ่งก็เสียดายโอรสรูปงามที่หล่อกว่าอีกเก้าคนอย่างชัดเจน แต่อย่างไรเสียจะปล่อยให้คนหล่อหนึ่งคนมาทำลายแผนการณ์นี้ไม่ได้

เอ้าเทียนยอมให้จับแต่โดยดี ครั้งนึ้นับว่ายิงนกทีเดียวได้สองตัว นอกจากจะได้หักหน้าพระมเหสีจอมปลอมแล้ว ยังได้รู้ที่อยู่ของซู่เหวินที่ถูกขังไว้อีกด้วย ถือว่าประสบความสำเร็จล้นหลาม

กลับมาที่กิจกรรมทางเพศของเก้าพระโอรสที่เหลือ ที่ตอนนี้ยืนเรียงรายควยแข็งตุงอยู่ภายในกางเกง ลำควยคุณภาพจากชายหล่อเก้าคน สร้างความพอใจให้คนในห้องที่ดูอยู่เป็นอย่างมาก

“ข้อให้เจ้าชายทุกพระองค์... ปลดกางเกงลงให้ถือข้อเท้า” หลี่เฉินสั่งอีกครั้ง

เจ้าชายแต่ละคนหันมามองหน้ากันอย่างลังเล ต่างคนต่างรอให้มีคนเริ่มก่อน ไม่ช้าราชโอรสหมายเลขสามก็สอดนิ้วเข้าตรงขอบกางเกง ก่อนจะดึงกางเกงลงสุดจนถึงข้อเท้า

ลำควยยาวผงาดเด้งออกจากกางเกงทันที เผยเห็นให้ขนหมอยที่น่าค้นหาเมื่อสักครู่ออกมาประจักษ์แก่สายตาทุกคนในห้อง หลี่เฉินนั่งดูลำควยเจ้าชายอย่างสำราญใจ

เมื่อเห็นว่ามีคนเริ่มแล้ว ราชโอรสองค์อื่นๆ ก็ไม่รอช้า รีบถอดกางเกงออกกันถ้วนหน้า ต่างคนต่างไม่อายซึ่งกันและกัน อีกทั้งยังหันไปมองของกันและกันอย่างอยากรู้อยากเห็น

ควยทุกคนแข็งจัด และเริ่มมีน้ำหล่อลื่นไหลออกมา ความเป็นชายที่ซ่อนอยู่ปรากฏให้ทุกคนเห็นอย่างชัดเจนไร้ข้อสงสัย และช่วยตอบคำถามเกี่ยวกับเครื่องเพศที่น่าสนใจของแต่ละคนได้ไม่น้อยเช่นกัน

อย่างของราชโอรสหมายเลขสี่ ก็มีสีควยที่ขาวสวยเหมือนผิวกาย หัวแดงจัด บานใหญ่ ดูเหมือนดวงอาทิตย์ดวงใหญ่สีแดง ท่ามกลางเมฆสีขาวนวล

ส่วนราชโอรสที่ผิวคล่ำหน่อย ก็มีลำควยที่ค่อนข้างขาวผสมกับสีน้ำตาลเนื้อ หัวควยก็จะคล่ำตามสีผิวจริง แต่ขนาดก็ใหญ่ไม่แพ้กับคนควยขาว

ส่วนราชโอรสที่มีแพรหมอยขึ้นดกดำตรงหน้าท้อง เมื่อปลดกางเกงออกแล้วก็พบว่าภายใต้กางเกงนี้เต็มไปด้วยพกหญ้าหยิกเป็นฐานส่งให้แท่งควยพุ่งยาวออกไปข้างหน้า ดูเย้ายวน ชวนให้ลูบไล้จริงๆ

“ทำได้ดีมากทุกพระองค์เลยพะยะค่ะ ต่อไปจะเป็นการวัดขนาดเพื่อเก็บข้อมูล เนื่องจากตระกูลซู่เป็นตระกูลที่มีเครื่องเพศใหญ่มาหลายชั่วอายุคน ผู้เป็นบุตรเขยจึงควรมีเชื้อความใหญ่อยู่ในตัว เพื่อให้ทายาสคนต่อไปภาคภูมิใจในความใหญ่เครื่องเพศของตน”

ซู่เรินตกอยู่ในฐานะว่าที่นักแสดงในสมรภูมิเผยกามของหงฟู่ ตั้งแต่เกิดเรื่องเขาไม่ได้รับอนุญาตให้ใส่เสื้อผ้าสักชิ้น ได้แต่ยืนเปลือยกายถูกมัดสองมือไพร่หลังติดกับเสาไม้ใหญ่ที่มีท่อนไม้ค้ำไว้บริเวณสะโพกบั้นท้าย ทำให้ซู่เรินรูปงามตกอยู่ในท่าท่างยืนแอ่นควยประหลาดไปข้างหน้าอย่างเสียมิได้

“ว่าไง หลานรัก? เตรียมตัว เตรียมใจ เตรียมควยให้พร้อม วันนี้ข้าจะให้เจ้าเปิดตัวเป็นนักแสดงหน้าใหม่ให้สมเกียรติไปเลย ก็แหม่! อุตสาห์เป็นถึงลูกชายของแม่ทัพซุ่เหวินจะเปิดตัวธรรมดาคงไม่ได้ ฮ่าๆๆ” หงฟู่ยืน

“ขอร้องล่ะท่านลุง ปล่อยข้าไปเถอะ ข้ายอมท่านทุกอย่างแล้ว อย่าให้ใครเห็นข้าในสภาพเช่นนี้เลย ข้ารับไม่ได้ โปรดช่วยข้าด้วย” ซู่เรินพูดพร้อมน้ำตารินไหลอาบใบหน้าหล่อๆ

“ปัดโถ่! ดูเจ้าสิ หน้าตาหล่อเหลาระดับเทพบุตร หุ่นดีอย่างที่หาชายใดเทียบได้ยาก แถมควยยังเต็มไปด้วยความน่าเกรงขาม ใครเห็นเป็นต้องตะลึง ของดีแบบนี้แบ่งให้คนอื่นชมบ้างจะเป็นไรไปเล่า” หงฟู่พูดอย่างไม่แยแส

เอ้าเทียนถูกทหารจับกุมตัวมาคุมขังในคุกใต้ดินลับ ที่เดียวกับแม่ทัพซู่เหวิน ภายในคุกใต้ดินนี้มีเพียงแสงไฟจากคบเพลิงที่จุดอยู่ตามมุมห้อง อับชื้นและสกปรก มีตะใคร่น้ำขึ้นบนกำแพงราวกับกำลังวาดลวดลายจากธรรมชาติ ภายในมีเอ้าเทียนและแม่ทัพซู่เหวินที่ถูกมัดมือและจองจำอยู่ในกรงเหล็กหนา

“สวัสดีท่านแม่ทัพซู่เหวิน” เอ้าเทียนในร่างมนุษย์ทักทาย

“เจ้าเป็นใครกัน? เหตุใดจึงถูกจับมาที่นี่ได้?” แม่ทัพถามด้วยความสงสัย

“เราชื่อเอ้าเทียน มาที่นี่เพื่อช่วยท่านนั่นแหละ” เอ้าเทียนตอบ

“ช่วยข้ารึ? เจ้าหนุ่มน้อย เจ้าจะช่วยข้าได้อย่างไร? เจ้าดูรอบๆ เสียก่อน พวกเราติดอยู่ในกรงเหล็กขนาดใหญ่ แถมสองมืออยู่ถูกมัดไพร่หลังอยู่อย่างนี้ ลำพังจะหยิบจับอะไรยังไม่สะดวกเลย” แม่ทัพทักทวง

“ทำได้สิ อย่างแรกเราต้องปลดเชือกที่มัดมือเราออกให้ได้เสียก่อน” เอ้าเทียนตอบ

“ปลดเชือกที่มัดมือจากข้างหลัง? ไม่มีทางเป็นไปได้” แม่ทัพตอบ

“ได้สิ ยามมีกันสองคน ขอเพียงท่านกับเรานั่งหันหลังชนกัน ต่างฝ่ายต่างแก้เงื่อนที่มัดไว้ให้กัน ก็ย่อมสำเร็จได้ไม่ยาก” เอ้าเทียนเฉลย ทำให้แม่ทัพเริ่มยอมรับในปัญญาของหนุ่มน้อยคนนี้

“หรือต่อให้มีคนเดียว... ก็ยังสามารถปลดพันธนาการนี้ได้ไม่ยาก ท่านดูเราเป็นตัวอย่างนะ” เอ้าเทียนพูดต่อ

เอ้าเทียนที่ถูกเชือกมัดสองมือติดอยู่ข้างหลังเริ่มสาธิตวิธีการเอาตัวรอดให้แม่ทัพซู่เหวินดู เริ่มจากการที่เขานั่งเหยียดสองขาตรงขนานไปกับพื้น ก่อนจะค่อยๆ ใช้สองมือที่ผูกติดกันสอดไประหว่างก้นกับพื้นที่นั่งอยู่ แล้วขยับมือออกมาทางปลายเท้าเรื่อยๆ จนในที่สุดสองมือก็กลับมาอยู่ข้างหน้า แล้วเชือกก็ถูกคลายออกด้วยปากของชายหนุ่ม

“นี่ไง ง่ายจะตายท่านแม่ทัพ มือเราเป็นอิสระแล้ว ต่อไปก็แค่หาทางออกจากกรงเหล็กนี่” เอ้าเทียนพูดต่อ ขณะที่แม่ทัพซู่เริ่มทำตามนักโทษที่มาใหม่คนนี้ด้วยความทึ่งในสติปัญญา

“ว่าแต่เราจะออกไปจากกรงนี้ได้อย่างไรเล่า?” แม่ทัพมืดแปดด้าน

“ระหว่างที่ข้าถูกสองทหารจับกุมตัวมาที่นี่ ข้าฉกกุญแจออกมาจากเอวของทหารได้ โดยที่พวกนั้นไม่ร้ตัวเลยสักนิด หรือต่อให้ไม่มีกุญแจ เราก็สามารถออกไปจากที่นี่ได้เช่นกัน” เอ้าเทียนกล่าว

ขณะใช้กุญแจที่ขโมยมาจากทหารไขประตูกรงเหล็ก เอ้าเทียนก็อธิบายให้แม่ทัพฟังว่ากลไกการทำงานของกุญแจนั้นไม่ยาก มีหลักการคือการสอดลูกกุญแจเข้าไปจนถึงจุดล็อคของแม่กุญแจแล้วบิดออกเพื่อปลดล็อค ขอเพียงหาวัสดุที่สอดเข้าไปถึงจุดนั้นแล้วบิดได้ ก็จะคลายแม่กุญแจออกได้ไม่ยาก

บัดนี้หนึ่งแม่ทัพ หนึ่งเทพ พากันออกมาเป็นอิสระนอกกรงขัง และกำลังพากันหนีออกจากคุกใต้ดินนี้ อยู่ๆ ก็เกิดควันสีดำทะมึนพวยพุ่งออกมาจากอากาศ กระจายไปทั่วคุกใต้ดิน จนแทบมองอะไรไม่เห็น

“จะรีบหนีไปไหนกันเล่า เจ้าจิ้งจอกเงิน” เสียงชายหนุ่มทุ่มตัวพูดออกมาจากกลุ่มควันสีดำ

“เราไม่จำเป็นต้องบอกทุกเรื่องให้คนแปลกหน้ารู้หรอกนะ แล้วเมื่อไรไอ้ควันบ้าๆ นี่จะหมดสักที เปิดตัวเสียอลังการเชียวนะ” เอ้าเทียนตอบอย่างไม่สะทกสะท้าน

เมื่อกลุ่มควันดำเรื่มจางออก จึงเผยให้เห็นชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ ชายผมยาวสีดำสนิททิ้งตัวลงถึงกลางแผ่นหลัง ผิวสีเนื้อเข้มนวลเนียน เครื่องหน้าดูจัดวางอย่างลงตัว บนกรอบหน้าที่ชัดเจน สวมใส่ชุดไหมสีดำสนิท เข้ารูปดูทะมัดทะแมงและคล่องตัว

“ข้าคืออสูรงูดำ “นายใหญ่” ส่งข้ามาเพราะเริ่มระแคะระคายว่าจะมีคนอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้” จอมมารพูดกับเอ้าเทียน

“สรุปว่าจะมาขัดขวางเราใช่ไหม? งั้นเจอกันสักตั้งเป็นไง?” เอ้าเทียนตอบ ขณะประคองแม่ทัพซู่เหวินไว้ข้างลำตัว พร้อมทั้งเริ่มแผ่หมอกสีขาวออกมารอบๆ บริเวณ

เทพจิ้งจอกเงินปะทะอสูรงูดำ หมอกสีขาวเข้ากระแทกกับกลุ่มควันสีดำ เกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว มารงูดำปล่อยกองทัพอสรพิษเลือยเข้าโจมตีเซียนจิ้งจอกเงิน ก่อนจะถูกเทพใช้ลมปราณสีเงินโบกเฉือดเฉือนกองทัพงูจนตัวขาดกระเด็นและสลายหายไป

ในสภาพที่ต้องประคองแม่ทัพไว้และสู้ไปด้วย ทำให้เอ้าเทียนตกเป็นฝ่ายรับโดยปริยาย จอมมารไม่รอช้า รุกเข้าโจมตีอย่างว่องไว ขณะที่เอ้าเทียนก็ปิดจุดอ่อนไว้ได้ทั้งหมด การเคลื่อนตัวและหลบไปมารวดเร็วจนคนธรรมดามองไม่ทัน

“ท่านเก็บยันต์นี้ไว้กับตัว มียันต์นี้ติดตัวท่าน เราจะรู้ว่าท่านอยู่ที่ไหน” เอ้าเทียนยิ้มให้ และกระซิบบอกแม่ทัพ พร้อมทั้งส่งยันต์ใส่ไว้มือ

ทันทีที่ส่งยันต์เสร็จ อสูรพิษงูดำก็เห็นช่องว่างทางด้านหลัง จึงรีบเข้าโจมตีเอ้าเทียน จี้จุดสำคัญกลางแผ่นหลัง ทำให้เอ้าเทียนขยับตัวไม่ได้ในชั่วพริบตา ก่อนจะเข้าโอบรัดจิ้งจอกหนุ่มสุดหล่อแล้วหายไปตรงหน้า ทิ้งให้แม่ทัพซู่เหวินยืนกำยันต์แน่นในอุ้งมือ

ไม่ช้าก็มีทหารวิ่งลงมาจากบันไดด้านบน ตรงเข้าจับกุมแม่ทัพซู่ และใช้ผ้าอุดปากไว้ จนมิอาจส่งเสียงร้องได้อีก ทหารพาร่างแม่ทัพซู่เหวินขึ้นไปที่จวนแม่ทัพ สถานที่ที่กำลังคัดเลือกราชโอรส

ในจวนแม่ทัพตอนนี้ถูกปิดประตูมิดชิด เพราะภายในห้องกำลังทำเรื่องที่ไม่อาจเปิดเผยได้ของบรรดาเจ้าชายแต่ละพระองค์ หลังจากที่ตอนนี้หนุ่มหล่อทั้งแปดยืนถอดกางเกง ปล่อยควยให้ทุกคนในห้องดูกันแบบเต็มๆ ตา

“ต่อไปจะให้ทหารเข้าไปวัดขนาดควยของเจ้าชายแต่ละท่าน และให้เจ้าชายแต่ละพระองค์ประกาศขนาดของตน พร้อมบอกเล่าความภูมิใจในควยของตนเองให้ทุกคนรับทราบ” คำประกาศดังไปทั่วห้อง

ทหารเดินถือสายวัดตรงเข้าไปหาเจ้าชายหมายเลขสอง แล้วเริ่มทาบสายวัดตั้งแต่โคนควยไล่ไปจนถึงปลายควย แล้วเปลี่ยนมาวัดเส้นรอบวงตรงที่อวบที่สุด ก่อนจะประกาศออกมาเสียงดัง

“ควยของข้า ยาวหกนิ้วครึ่ง รอบวงหกนิ้ว ข้าภูมิใจที่หัวควยข้ามีสีแดงสดกว่าผู้ชายทั่วไป” เจ้าชายหมายเลขสองประกาศ

ทหารเริ่มไปวัดเครื่องเพศของเจ้าชายหมายเลขสามที่ยืนอยู่ติดกัน ขั้นตอนการเก็บข้อมูลดำเนินไปเรื่อยๆ ภายใตสายตาหื่นกระหายของพระมเหสีที่นั่งจ้องดุ้นควยทั้งแปดตรงนั้น

“ท่อนควยข้า ยาวเจ็ดนิ้ว รอบวงห้านิ้วครึ่ง ข้ามีขนหมอยที่ดกดำลามไปทั่วหว่างขา” เจ้าชายหมายเลขสามหุ่นล่ำกระกาศอย่างภูมิใจ แอ่นหมอยฟูให้ทุกคนมองกันทั่ว

“ส่วนของข้า ยาวเจ็ดนิ้ว รอบวงหกนิ้ว สตรีที่ร่วมรักล้วนติดใจในลีลาท่าเย็ดของข้า” เจ้าชายหมายเลขสี่ตี๋หล่อประกาศเสียงดัง

“ท่อนควยข้า ยาวหกนิ้วครึ่ง รอบวงเจ็ดนิ้ว ข้ามั่นใจว่าข้ามีน้ำควยเยอะกว่าชายคนใดในห้องนี้” เจ้าชายหมายเลขห้าหน้าตาชวนสมสู่ประกาศลั่น พร้อมน้ำหล่อลื่นที่เริ่มหลั่งชะโลมปลายควย

“ควยของข้า ยาวเจ็ดนิ้วครึ่ง รอบวงเจ็ดนิ้ว ข้าภูมิใจในรูปทรงที่ตั้งตรงของควยแท่งนี้” เจ้าชายหมายเลขหกเจ้าของแผงอกใหญ่ประกาศ พร้อมโชว์ควยแท่งใหญ่ตั้งโด่ชี้หน้าคนมอง

“ส่วนควยของช้า วัดได้ยาวหกนิ้วครึ้ง รอบวงเจ็ดนิ้วครึ่ง สิ่งที่ข้าชอบในควยแท่งนี้คือความอวบที่พร้อมฉีกร่องสตรีทั้งหลายให้แยกออกจากกัน” หมายเลขเจ็ดหล่อตาหวานพูด

“ข้ามีควย ยาวแปดนิ้ว รอบวงเจ็ดนิ้ว ควยข้าทั้งใหญ่ทั้งยาวสาวที่ไหนก็ชอบ” เจ้าชายคนที่แปดหล่อเข้มพูดอย่างมั่นใจ

“ของข้า ยาวเจ็ดนิ้วครึ่ง รอบวงเจ็ดนิ้ว ข้ามีความอึดมากขนาดชักว่าวได้ทั้งวันโดยไม่เหน็ดเหนื่อย” เจ้าชายหมายเลขเก้าประกาศดังทั่วห้อง

เมื่อเก็บข้อมูลจากเจ้าชอบครบทุกพระองค์ ทหารก็รีบวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อสรุปผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น ต่างฝ่ายต่างเฝ้ารอฟังผลสรุป

“เจ้าชายที่มีท่อนควยยาวที่สุด คือเจ้าชายหมายเลขแปด มีท่อนควยยาวถึงแปดนิ้ว” เสียงปรบมือดังขึ้น พร้อมกับที่เจ้าชายหงเวยจากเมืองจางโจวโบกไม้โบกมือแสดงความขอบคุณ

“ส่วนเจ้าชายที่มีลำควยอวบที่สุด คือเจ้าชายหมายเลขเจ็ด มีลำควยรอบวงกว้างถึงเจ็ดนิ้วครึ่ง” เสียงทหารประกาศ ขณะที่เจ้าชายหมายเลขเจ็ดโค้งคำนับแทนคำขอบคุณ

“เจ้าชายองค์อื่นๆ ก็มีของดีไม่แพ้กัน บ้างก็มีสีขาวอมชมพูสวย บ้างก็มีหัวควยบานร่า บางคนก็มีพวงไข่แฝดลูกใหญ่ บางคนก็มีดกหมอยที่ดกดำหยิกเป็นพุ่ม ถือว่าทุกคนล้วนเหมาะสมกับฐานะว่าที่ลูกเขยตระกูลซู่ด้วยกันทั้งนั้น” มเหสีลุกขึ้นกล่าว ตายังจ้องมองควยเจ้าชายเป็นมัน

“ภาระกิจสุดท้ายสำหรับการคัดเลือก เนื่องจากควยไม่ใช่เงื่อนไขเดียวเท่านั้นในการผลิตลูก เรื่องลีล่าบนเตียงเองก็สำคัญ ข้าอยากให้พวกท่านแสดงความสามารถในการร่วมเพศให้พวกเราดูเพื่อตัดสินใจเลือกคนที่เหมาะสมที่สุด” มเหสีกล่าวต่อ

“แต่คนที่จะตัดสินเรื่องนี้ได้ดีที่สุด ต้องเป็นคนที่ได้ร่วมรักกับพวกท่านทั้งหลาย เขาคนนั้นย่อมบอกได้ว่าพึงพอใจในลีลาของเจ้าชายองค์ไหน และเขาคนนั้นต้องเป็นคนที่มีสิทธิ์ตัดสินอย่างเป็นเอกฉันท์” มเหสีอธิบายต่อ

“ท่านจะให้พวกเราร่วมรักกับใครกันหรือพระมเหสี?” เจ้าชายคนหนึ่งถามขึ้น

“พ่อตาของพวกเจ้าเอง... กษัตริย์ซู่เหวิน!” มเหสีพูดอย่างสำราญใจ

ร่างของแม่ทัพซู่เหวินถูกจับมาไว้กลางห้อง ทหารก้มหัวแม่ทัพบนแนบกับแผ่นโต๊ะกลม สองขายืนติดพื้นและถูกแยกออกจากกัน ทำให้รูตูดสีแดงสดปิดสนิทอยู่เป็นวงสวยปรากฏขึ้นแก่สายตาของเหล่าราชโอรสทั้งหลายที่ยืนควยแข็งอยู่ตอนนี้

“แม่ทัพยอมสละตนเพื่อเลือกลูกเขยที่ดีที่สุด ต่อไปเป็นหน้าที่ของพวกท่านที่จะแสดงให้แม่ทัพเห็น” หลี่เฉินประกาศกับเหล่าราชบุตร ทำเอาซู่เหวินร้องดิ้นส่งเสียงอู้อี้อยู่ใต้ผ้าอุดปาก

เอ้าเทียนถูกจอมมารสกัดจุดและพามาที่ถ้ำลึกภายในป่าใหญ่ ภายในค่อนข้างมืด แต่พอมองเห็นบริเวณรอบๆ ที่เต็มไปด้วยหินงอกหินย้อย จอมมารดำจับเอ้าเทียนมัดเข้ากับแท่งหินในสภาพขยับตัวหรือพูดไม่ได้เลย

“ดูไปดูมา... ใบหน้าเจ้านี่ก็หล่อใช่เล่นเลยนะ” อสูรงูดำพูดพร้อมใช้นิ้วเรียวลูบไล้ใบหน้า และเสยเส้นผมสีขาวประกายเงินไปข้างหลัง เผยให้เห็นหน้าเอ้าเทียนแบบเต็มๆ ซึ่งชวนให้จ้องมองได้เหมือนเวลาหยุดเดินไปชั่วขณะ

“ขอแนะนำตัวอย่างเป็นทางการ ข้ามีนามว่าอู๋ทง จอมมารงูดำ” อสูรร้ายกล่าว หลังจากตั้งสติได้

ยามยืนประชิดตัวกันเช่นนี้ ทำให้เห็นความแตกต่างอย่างชัดเจนระหว่างเทพเอ้าเทียนกับจอมมารอู๋ทง เอ้าเทียนนั้นผิวพรรณผ่องใสขาวสว่างรับกับไรผมสีเงิน ขณะที่อู๋ทงมีผิวเนียนเข้มพร้อมผมสีดำสนิท อย่างเดียวที่เหมือนกันคือความหล่อบนใบหน้าของทั้งคู่และหุ่นที่ล่ำสมส่วน

อู๋ทงจ้องมองเอ้าเทียนตั้งแต่อยู่ในคุกใต้ดินแล้ว ในใจก็เกิดนึกเสห่หาจิ้งจอกหนุ่มคนนี้ตั้งแต่แรกเห็น ซึ่งเป็นธรรมดาเพราะเอ้าเทียนนั้นมีเสน่ห์ดึงดูดผู้พบเห็นทุกคนให้หลงไหล รวมทั้งจอมมารดำรูปหล่อคนนี้ด้วยเช่นกัน ยิ่งยามได้กอดรัดเอ้าเทียนเพื่อชิงตัวออกมาจากคุก ยิ่งได้สัมผัสร่างและสูดดมกลิ่นกายหอมเย้ายวนของเอ้าเทียนแล้ว จึงยากที่จะควบคุมอารมณ์ต่อไปได้

อู๋ทงตรงเข้าไปใช้ลิ้นอุ่นเลียใบหน้าของเอ้าเทียนอย่างหื่นกระหาย ก่อนจะใช้มือสวยกระชากชุดไหมเงินระยับระยิบของเอ้าเทียนขาดกระจุย เผยให้เห็นส่วนบนที่ไม่เคยมีใครได้ยลมาก่อน ผิวขาวสว่างใสจนมองเห็นเส้นเลือดได้จางๆ แผงอกล่ำขนาดใหญ่เป็นฐานสำหรับวางหัวนมสีชมพูสดใสระเรื่อ อีกทั้งกล้ามท้องที่เต็มไปด้วยลูกระนาดที่มีขนาดเท่ากันทั้งซ้ายและขวา นับได้แปดลูก

“เจ้ารู้ไหม? เจ้าทำให้ข้าเกิดอารมณ์เสียแล้วล่ะ เจ้าจิ้งจอกหนุ่มหน้าหล่อ” อู่ทงพูด

ไม่ทันไรจอมมารหน้าเข้มก็ตรงเข้าประกบปากเอ้าเทียน ปล่อยลิ้นซุกซนกวาดสำรวจไปทั่วช่องปากอุ่น ดูดดื่มความบริสุทธิ์อย่างหนักหน่วง มือหนึ่งก็ไล่เค้นคลึงหัวนมสีสวยของเอ้าเทียนไปมาบนแผงอกโต อีกมือลูบไล้หน้าท้องเทพบุตรตามร่องกล้าม ราวกับมีงูที่เลื้อยอย่างแผ่วเบาไปบนร่างขาวสะอาด ปล่อยให้จิ้งจอกหนุ่มตาค้างด้วยความตกใจ

“มาเป็นเมียข้าเถอะนะ... เอ้าเทียน” อู๋ทงกระซิบข้างหูเอ้าเทียนด้วยเสียงกระเส้า ริมฝีปากชิดติดกับติ่งหู ลมหายใจอุ่นรดต้นคอขาว ทำเอาเอ้าเทียนขนลุกซู่

วันนี้ที่สมรภูมิเผยกามเริ่มมีผู้คนจากทั่วสารทิศเดินทางมาเพื่อรับชมการแสดงใต้ดินของหงฟู่ วันนี้ดูคนจะเยอะเป็นพิเศษหลังจากที่มีข่าวแพร่สะพัดไปทั่วว่ามีของดีที่สุดมาจัดแสดงในวันนี้

“ขอต้อนรับท่านผู้มีเกียรติทุกท่านที่มาร่วมอุดหนุนชมการแสดงในคืนวันนี้ ข้า-หงฟู่-หวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกท่านจะพอใจในกามารมณ์ที่เราจัดเตรียมไว้ให้” ชายอ้วนประกาศกลางเวที

บรรดาเด็กหนุ่มทั้งหลายต่างผลัดกันขึ้นแสดง บ้างก็ควักควยออกมาปั้นเล่น บ้างก็โชว์การสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเอง บ้างก็แสดงการออกกำลังกายท่าต่างๆ โดยไม่ใส่เสื้อผ้า คนดูนั่งชมอยู่ล้อมรอบลานด้านล่างอย่างรู้สึกเบื่อ ไม่มีอะไรน่าสนใจ ต่างก็เฝ้ารอการแสดงชุดพิเศษของวันนี้

เมื่อการแสดงดำเนินไปเรื่อยๆ ในได้ที่ ในที่สุดหงฟู่ก็ออกมายืนหน้าเวทีอีกครั้ง สร้างความกระตือรือร้นให้คนดูได้มาก จนในที่สุดสิ่งที่ทุกคนเฝ้ารอก็มาถึง

“อย่างที่หลายท่านพอจะทราบมาแล้ว คืนนี้ข้ามีการแสดงชุดพิเศษ พิเศษกว่าทุกๆ ครั้งที่เคยมีมา รับรองว่าทุกท่านจะต้องชอบแน่นอน” หงฟู่ประกาศเสียงคึกคะนอง

ก่อนที่ลูกน้องจะเข็นเอาร่างของซู่เรินที่ถูกมัดข้อมือและข้อเท้าตรึงอยู่ในสภาพเหมือนเครื่องหมายกากบาท ติดกับแผ่นวงกลมที่หมุนได้ขนาดใหญ่ มากลางลานแสดงที่ล้อมรอบด้วยผู้ชมจำนวนมาก

คนดูหลายคนถึงกับลุกขึ้นยืน มองเด็กหนุ่มตรงหน้าอย่างหื่นกระหาย เพราะเด็กหนุ่มตรงหน้าทั้งหล่อเหลา เนื้อตัวก็สะอาดสะอ้าน เรียกได้ว่าหนุ่มคนนี้คนเดียวชนะเด็กทุกคนที่แสดงผ่านมาในคืนนี้

“ข้าขอแนะนำเด็กใหม่ของเราในวันนี้ ใช่แล้วว... เด็กหนุ่มตรงหน้าทุกท่านในตอนนี้คือ “ซู่เริน” บุตรชายคนเดียวของแม่ทัพซู่เหวินนั้นเองงงงง” หันซู่ประกาศเสียงดัง

คนดูลุกขึ้นปรบมือเสียงดังสนั่น พร้อมทั้งส่งเสียงร้องอย่างตื่นใจกึกก้องไปทั้งลานแสดง ขณะที่ซู่เรินทำอะไรไม่ได้เลย นอกจากจ้องมองไปยังกลุ่มคนดูข้างบน เขาเห็นทั้งชายแก่หัวล้าน ข้าราชการตำแหน่งใหญ่โตที่เขาเคยพบปะพูดคุยด้วย เห็นกลุ่มจอหวอนวัยเจริญพันธุ์ เห็นเพื่อนที่เคยร่ำเรียนด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก เห็นกลุ่มทหารที่เคยรับใช้ในจวนแม่ทัพ

“ช่วยข้าด้วยยยย!!!!!!! จี้เหวย... เจ้าจำข้าได้ไหม ข้าเคยเรียนวิชากระบี่กับเจ้าที่สำนักบูรพาไง ข้าเป็นเพื่อนเจ้านะ ช่วยข้าที” ซู่เรินร้องอย่างน่าสมเพช บอกหนึ่งในคนดูเบื้องบน

“จำได้สิ ไอ้ซู่เริน! ตอนนั้นเอ็งจับคู่กับข้าประลองฝืมือกระบี่กัน ฝีมือเจ้าดีกว่าข้าทุกอย่าง ครั้งนั้นข้าต้องเสียหน้าพ่ายแพ้แก่เจ้า วันนี้นึกไม่ถึง จะได้มาเห็นเจ้าอีกทีในสภาพเด็กขายกามที่นี่” เพื่อนเก่าตอบ ใบหน้าเต็มไปด้วยความแค้นและความสะใจ

“ทหารตรงนั้น ข้าจำได้ เจ้าเคยอยู่จวนแม่ทัพ ช่วยข้าที ข่วยข้าด้วย” ซู่เรินย้ายความหวัง หันไปร้องบอกกลุ่มทหารแทน

“โถ้คุณชายเริน ก็เพราะท่านไล่พวกข้าออก เพียงเพราะพวกข้าดื่มสาเกกันในค่ายฝึก ครั้งนั้นข้ายังแค้นไม่หาย วันนี้พวกข้ารอล้างแค้นท่านไม่ไหวแล้ว” กลุ่มทหารพากันหัวเราะเยาะ

“ท่านอา... ขะ... ข้าจำท่านได้ ท่านเคยสอนหนังสือข้าเมื่อนานมาแล้ว ไม่ผิดแน่ ท่านใช่ไหม ข้าขอร้องช่วยข้าเถอะ ช่วยข้าหน่อยเถอะ” ซู่เรินถามชายแก่หนึ่งในกลุ่มคนดู

“ถือว่าเป็นเวรเป็นกรรมของท่านแล้วกันนะคุณชายซู่เริน ส่วนข้าเองเห็นท่านมาแต่เด็ก วันนี้ก็อยากเห็นเหมือนกันว่าโตแล้วจะเป็นอย่างไร” ชายแก่ร่างท้วมเอ่ยด้วยความกำหนัดที่อยู่เหนือความสงสาร

“ขอให้ทุกท่านอยู่ในความสงบ วันนี้ทุกท่านได้เล่นกับทาสสุดหล่อของเราได้ทุกส่วนแน่นอน ฮ่าๆๆๆๆ” หันซู่ตัดบท

เสียงคนดูร้องกึกก้องดังกังวานไปทั่วลานแสดงลับ ก่อนที่ลูกน้องสองคนจะตรงเข้ามาฉีกเสื้อผ้าสวยของซู่เรินออกจนขาดกระเด็น เผยทุกอย่างให้ทุกคนเห็นอย่างหมดจด เกิดเสียงโห่ร้องอย่างพอใจดังขึ้นไปอีกระดับ

“พวกแกมันบ้า พวกวิปริต ไอ้พวกโรคจิต ปล่อยข้าไปเดี๋ยวนี้!!!!!!!!!!!” ซู่เรินเสียงหลง

“เรามาเริ่มการแสดงแรกกันเถอะ” หันซู่ลั่นวาจา ทำเอาซู่เรินตัวสั่นอยู่บนแผงจักรต่อหน้าผู้ชม

ซู่เหวิน-พ่อตาที่กำลังตกเป็นเมียลูกเขย

ซู่เริน-นักแสดงหลักที่กำลังเล่นบทต่อหน้าคนรู้จัก

เอ้าเทียน-จิ้งจอกหนุ่มที่กำลังได้สมสู่กับงูใหญ่

บรรดาราชบุตรยืนควยแข็ง ลังเลกับสถานการณ์ตรงหน้า ใจหนึ่งก็ไม่อยากเชื่อว่านี่จะเป็นเรื่องจริง อีกใจหนึ่งก็นึกเอาเย็ดแม่ทัพใหญ่แห่งแคว้นสักครั้งในชีวิต

“มัวระอะไรกันเล่าพวกท่าน ราชโอรสองค์ใดสามารถร่วมรักกับแม่ทัพจนทำให้แม่ทัพหลั่งน้ำกามออกมาได้ ถือว่าเป็นผู้ชนะ มีความเป็นเลิศทั้งทางด้านร่างกาย และพร้อมผลิตทายาทให้สกุลซู่” มเหสีกล่าว

ราชบุตรทั้งหลายเมื่อได้รับอนุญาต จึงค่อยๆ เดินมาล้อมรอบแม่ทัพซู่ ที่ถูกกดไว้แน่นิ่ง กลุ่มชายแปดคนจากต่างแคว้น แต่ละคนควยไม่ธรรมดา แตกต่างกันไป แต่มีจุดประสงค์เดียวกันคือต้องการเป็นลูกเขยแม่ทัพ ถึงแม้วิธีการจะแปลกสักหน่อย แต่เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย เจ้าชายทุกพระองค์ก็ยอมทำ

“ท่านหมายเลขสี่ ท่านบอกว่าลีลาท่าเด็ดเล้าใจ ไหนท่านลองแสดงให้พวกเราดูสักครั้งเถิด” เจ้าชายคนหนึ่งพูดขึ้นกลางวง

องค์ชายสี่มองหน้าคนอื่นๆ ก่อนจะพยักหน้ารับคำท้า เดินอ้อมไปอยู่หลังบั้นท้ายของแม่ทัพซู่ ก่อนจะคุกเข่าลง ก้มหน้าเข้าไปเลียรูสวาทอย่างช่ำช่อง ปลายลิ้นถูกแลบออกมาสัมผัสเนื้อนุ่มรอบๆ วงจีบของแม่ทัพใหญ่ ก่อนจะตวาดขึ้นลงอย่างรวดเร็ว จนองค์ชายคนอื่นจ้องตาค้าง

แม่ทัพซู่เหวินยามถูกเลียก้นจากลิ้นอุ่นๆ เช่นนี้ก็เสียวสะท้าน แม้จะพยายามขัดขืน แต่เหมือนธรรมขาติสร้างให้จุดเสียวไปกองรวมอยู่ตรงกันที่รูก้น ต่อให้เป็นชายแท้ทั้งแท่ง เจอลิ้นจี้จุดเสียวเช่นนี้ก็ย่อมฝืนธรรมชาติไม่ได้ ฟ้องออกมาชัดเจนผ่านลำควยที่ค่อยๆ ชูชันขึ้น

องค์ชายสี่หน้าตี๋หล่อกดหน้าลงเข้าไปในแก้มก้นสวยของว่าที่พ่อตา ตั้งใจเล้าโลมสุดชีวิตหวังเป็นลูกเขยที่น่าภูมิใจ ขณะที่องค์ชายคนอี่นๆ เริ่มหวั่นใจว่าจะแพ้ลิ้นรัวของราชโอรสหมายเลขสี่ จึงรีบแทรกตัวเข้าไปเล่นกับพ่อตาบ้าง

องค์ชายหกเจ้าของควยแท่งตรง กับองค์ชายเก้าเจ้าของใบหน้าหล่อเข้ม จับแม่ทัพซู่พลิกหงายตัวขึ้น ยืนประกอบซ้ายขวา ใช้นิ้วมือหยาบบี้หัวนมแม่ทัพจนแข็งขึ้นไปไต ขณะที่ขาสองขาถูกองค์ชายเจ็ดและแปดจับยกขึ้น ให้องค์ชายสี่ระรัวลิ้นนุ่มจี้จุดเสียว

ไม่นานนับหลังจากลูกเขยทั้งหลายเล้าโลมพ่อตาอย่างไม่ปราณี ทำให้ควยใหญ่แปดนิ้วของแม่ทัพซู่ขึ้นเด่ชี้หน้าราชโอรสทั้งแปด สร้างความตกตะลึงให้ลูกเขยทุกคน เพราะความใหญ่และยาวของควยแม่ทัพชณะนี้ชนะพวกเขาทุกคน

เมื่อเห็นเช่นนั้น องค์ชายที่เหลืออีกสามคนไม่รอช้า คนหนึ่งรีบเข้าไปชักควยให้แม่ทัพใหญ่ อีกสองคนเข้าไปลูบไล้ เล่นกับพวงไข่แฝดขนาดมหึมา ที่ห้อยยานลงตรงขอบโต๊ะพอดี

แม่ทัพซู่ได้แต่นอนเสียวซ่านไปทั่วร่างกาย ไร้เรี่ยวแรงขัดขืน เนื่องจากท่อนบนก็ถูกกระตุ้นหัวนมหนุ่มอย่างต่อเนื่อง ท่อนล่างก็ถูกรูดขึ้นลง ไข่ก็ถูกเล่น ตูดก็ถูกดูด แทบไม่เหลือส่วนรับความรู้สึกไหนที่ไม่ถูกกระตุ้นได้อีก จึงได้แต่นอนปล่อยกายให้เป็นไปตามธรรมชาติ

เมื่อไรแม่ทัพหนุ่มไม่ว่าอะไร ว่าที่บุตรชายทั้งหลายก็เริ่มยกระดับเป็นขึ้นถัดไป องค์ชายสี่ลุกขึ้นยืนปล่อยให้องค์ชายสองที่ยืนควยบานแดงเข้าประจำตำแหน่ง ระดับควยและรูก้นของแม่ทัพอยู่แนวเดียวกัน ก่อนที่องค์ชายสองจะจับท่อนควยหกนิ้วครึ่งจ่อเข้าตรงรูสวย แล้วสบัดขึ้นลงไปมา หัวควยแดงหลั่งน้ำหล่อลื่นมาปนกับน้ำลายขององค์ชายสี่ ละเลงไปทั่วรูก้นแม่ทัพหนุ่ม

องค์ชายสองค่อยๆ กดหัวควยบานขนาดใหญ่ตรงเข้ารูรัก แม่ทัพสะดุ้งตัวเฮือก เกร็งไปทั่วร่าง ราชบุตรองค์อื่นๆ เห็นดังนั้นจึงรีบเล้าโลมดูดหัวนมให้ท่านแม่ทัพเท่าที่ มือองค์ชายสองก็กำรูดควยให้แม่ทัพ จนชายหนุ่มเริ่มผ่อนคลายอีกครั้ง

จังหวะนั้นเอง องค์ชายสองรีบกดหัวควยจมเข้ารูสวาทของแม่ทัพเหวินทันที ขุ่นศึกรู้สึกตึงๆ และเจ็บเล็กน้อยในระดับที่พอทนได้ องค์ชายสองได้ใจ จึงถุยน้ำลายใส่แท่งควยจนชุ่มแล้วโยกสะโพกสอดลำควยแทงทะลุผ่านรูจีบแม่ทัพอย่างง่ายดาย

“โอ้ววววส์... แน่นดีเหนือเกิน อ่าสสสส์” องค์ชายสองร้องอย่างลืมตัว

“ดูควยเจ้าสิ เข้าไปในร่างแม่ทัพใหญ่แล้ว ไม่น่าเชื่อ” องค์ชายห้าทัก

“เป็นอย่างไรบ้างองค์ชายสอง ความรู้สึกเหมือนของสตรีหรือไม่?” หลี่เฉินถาม

“ข้าว่ามันโอบรัดและแน่นกว่าของผู้หญิงมาก บีบท่อนควยข้าไปทั้งลำเลยล่ะ” องค์ชายสองตอบ

ไม่ช้า องค์ชายสองก็ค่อยๆ โยกสะโพกเข้าออก เย็ดแม่ทัพหนุ่มอย่างชอบใจ เบื้องลึกของชายหนุ่มเหล่านี้ล้วนมีความต้องการอยู่เหนือผู้อื่นอยู่แล้ว วันนี้ได้มีโอกาสจับแม่ทัพซู่เหวินมาเป็นเมีย จึงนับว่าสะใจบรรดาองค์ชายทั้งแปดเป็นอย่างมาก

ซู่เหวินนอนปล่อยกายให้องค์ชายสองกระเด้าต่อไป ครั้งสุดท้ายที่เขาถูกสอดใส่เข้ามาในร่างคือตอนที่ถูกบังคับให้ร่วมรักกับซู่เรินที่ยังไม่รู้ว่าเป็นบุตรของใคร มาครั้งนี้กลับถูกเย็ดสดจากบรรดาลูกเขย คิดแล้วก็น่าอนาจใจ

ขณะที่องค์ชายสองเย็ดอยู่นั้น องค์ชายก็อื่นๆ ก็ทำหน้าที่ไม่ขาดตกบกพร่อง ต่างเข้าประชิดตัว สัมผัสจุดเสียวทั่วกาย ทั้งหัวนม รักแร้ ต้นคอ หน้าท้อง ขนหมอย เนินควย แท่งควย อัณฑะ ซฮกขา แก้มก้น รูก้น เจอแบบนี้เข้าไป เป็นใครก็ไร้เรี่ยวแรงด้วยกันทั้งนั้น

เกมกามดำเนินต่อไปเรื่อยๆ จนในที่สุดก็เหมือนจะในจุดสิ้นสุดขององค์ชายสอง เหมือนแท่งควยมิอาจอดกลั้นต่อความเสียวครั้งนี้ได้ เตรียมปล่อยน้ำลูกเชยใส่ตัวพ่อตา

“อ้าส์ อู้ววววส์ ...อู้วว จะ-ไม่-ไหว-แล้ว ข้าจะแตกแล้วววว ซีดดด” องค์ชายสองแอ่นสะโพก กดควยแช่ไว้ในรูก้นซู่เหวิน หลั่งทะลักน้ำเงี่ยนออกจากควยปริมาณมากมาย กระตุกอยู่ในร่องรักอยู่หลายที ก่อนจะทิ้งตัวหมดแรงลงบนร่างแม่ทัพใหญ๋

ซู่เหวินรู้สึกได้ถึงปริมาณน้ำอุ่นที่หลั่งเสียดแทงเข้ามาในท้อง รู้สึกถึงการพุ่งกระแทกเป็นระลอกๆ ไม่นานองค์ชายสองก็ถอนควยออกจากรู ทำให้เห็นน้ำกามขาวข้นของลูกกษัตรย์ต่างแคว้นไหลเยิ้มออกจากรู้ ไล่ลงมาถึงต้นขา

เมื่อทางโล่งแล้ว องค์ชายห้าจึงจับท่อนควยมาสอดใส่โดยอาศัยน้ำเงี่ยนขององค์ชายสอง ช่วยหล่อลื่นควยใหญ่ ก่อนกดแทงทีเดียวมิดด้าม

“ซิ๊ดดด..ข้างในนี้ดีเหลือเกิน ทั้งแน่นทั้งอุ่น” องค์ชายห้าหลุดปาก

“ขอให้ข้าได้แสดงฝีมือการเย็ดให้ท่านดูนะขอรับ แม่ทัพซู่” องค์ชายห้าพูดคำสุดท้าย ก่อนจะซอยควยไม่ยั้ง เข้าออกร่องเสียว เสียดสีบี้อัด จนแม่ทัพต้องหลับตากลั้นความเสียวไว้

องค์ชายเก้าเห็นแล้วทนไม่ได้ จึงเข้าไปร่วมในการสังวาสขุ่นศึกพร้อมกับองค์ชายห้า ร่างแม่ทัพถูกบรรดาราชโอรสจับยกขึ้น เพื่อให้องค์ชายเก้าสอดตัวไประหว่างแม่ทัพกับพื้นโต๊ะ

บัดนี้ซู่เหวินนอนทับตัวองค์ชายเก้า เจ้าของร่างที่มีขนหน้าอกอุยๆ ทิ่มแทงแผ่นหลังใหญ่ของขุ่นศึก ขณะที่เบื้องล่างกำลังเจอกับควยลำเขื่องงอนสวยที่พยายามหารูเงี่ยนของแม่ทัพอยู่

ราชบุตรคนอื่นไม่นิ่งดูดาย จับควยขององค์เก้าลำโตจ่อเข้ารูที่มีควยขององค์ชายห้าคาอยู่ เมื่อระบุเป้าหมายชัดเจนแล้ว องค์ชายเก้าก็เสียบกระบอกขนาดเจ็ดนิ้วครึ่งเข้าไปสำรวจร่องชายพร้อมกับควยขององค์ชายห้า

“ไอ้สัตว์ นี่มันร่องสวรรค์ชัดๆ เสียวควยฉิบหาย” องค์ชายเก้าเผยสัญชาตญาตการสมสู่ที่แท้จริงออกมาต่อหน้าคนอื่นๆ

“โอ้ยยย เย็ดมันเลย แทงมันแรงๆ แทงเข้าไปลึกๆ อ่าส์” องค์ชายห้าเห็นองค์ชายเก้าปลดปล่อยเต็มที่ ตนจึงไม่เขินอายอีกต่อไป

ซู่เหวินต้องทนรับศึกนัก สองแท่งควยขนาดไม่ใช่เล็กๆ สอดประสานแทงเข้าแทงออกอย่างเป็นจังหวะรับกัน ไม่ปล่อยให้มีช่วงเวลาหายใจทั่วท้องเลยสักครั้ง บัดนี้เขารู้สึกเหมือนรู้ก้นจะฉีกออกไปเสี่ยงๆ รู้สึกได้ถึงความบานที่ต้องรับควยของโอรสกษัตรย์ทั้งสอง แม่ทัพได้แต่นอนขมิบร่องก้น ปล่อยน้ำหล่อลื่นใสไหลไม่หยุด ออกเป็นสายจากปลายควย

“ไอ้ควยใหญ่ แม่งตอดควยพวกกูเหลือเกิน เสียวจริงๆ เสียวโว๊ยยย” องค์ชายสองคราง

“กูจะไม่ไหวแล้ว กูจะหลั่งแล้ว จะแตกใส่มึงแล้ว ไอ้เวรตะไล” องค์ชายเก้าหลับตาร้องซิ้ด

“อ้าสสสสสสสส์ แตกแล้ว กูจะแตกแล้ววว ไอ้เหิ้ย” สองโอรสร้องพร้อมกัน ไม่เหลือคราบเจ้าชายเรียบร้อย

สองควยผลัดกันกระตุกพ่นได้เงี่ยนรวมกัน ไหลนองเต็มท้องแม่ทัพ จนรู้สึกร้อนในช่วงท้องส่วนล่าง ก่อนทั้งคู่จะดึงควยออก เห็นรูตูดบานปิดไม่มิดของแม่ทัพ พร้อมของเหลวขุ่นไหลอยู่ภายในจนล้นยืดยาวออกจากรูหยดแปะๆ หยดบนพื้นห้องเป็นกองใหญ่

องค์ชายสามและองค์ชายหกรีบเข้ามาแทนที่ทันที โดยองค์ชายสามนอนใต้แม่ทัพในตำแหน่งเดิมจององค์ขายเก้า ก่อนกดแท่งควยกลืนหายไปในรูบานน้ำชุ่ม

“อู้ววส์ ดีฉิบหายเลยว่ะ กูติดใจตูดมึงแล้วว ไอ้ควาย” องค์ชายสามปล่อยอารมณ์เต็มที่

ขณะที่องค์ชายหกผู้มีควยเจ็ดนิ้วครึ่ง เข้ามายืนตรงหว่างขาแม่ทัพ แล้วจับควยของตนกับแม่ทัพมาชนกัน ลำควยของพ่อตาแนบขนานกับไปลำควยของลูกเขย เทียบขนาดให้เห็นกันจะๆ ว่าควยซู่เหวินนั้นยาวกว่าของลูกเขยอยู่ค่อนข้อนิ้ว ความอวบของแม่ทัพชนะขาดลอย

“เรามาชักว่าวไปพร้อมๆ กันนะ คุณพ่อ” องค์ชายหกพูด พร้อมกับใช้สองมือกำแท่งควยใหญ่ทั้งสองรวบติดกัน รูดขึ้นรูดลงอย่างเสียวสะท้าน หนังควยสัมผัสกัน เสียดสีกันไปมา ขณะที่น้ำหล่อลื่นก็แข่งกันทะลักออกมา ชะโลมควยทั้งคู่จนลื่นไปหมด

ท่านี้ทำให้แม่ทัพเสียวถึงขั้วหัวใจ เพราะตูดก็ถูกควยยาวแทงกระหน่ำเข้าจุดรวมปราณ ท่อนควยก็ยังถูกชักว่าวให้ต่อเนื่อง ทำให้แม่ทัพถึงกันนอนส่ายตัวไปมาด้วยความเสียวเกินจะทน

อนิจจังแม่ทัพนั้นอึดกว่ามาก ควยหนุ่มราชบุตรทั้งสองมิอาจทนความเสียวต่อไปได้อีก หลั่งทะลักน้ำเชื้อเหนียวออกมาเต็มไปหมด โดยเฉพาะขององค์ชายหกที่กระตุกน้ำควยพุ่งลอยสูงขึ้นไปในอากาศหลายเมตร ก่อนจะทิ้งตัวตกกระทบกับลำตัวและใบหน้าของซู่เหวินกระจายไปทั่ว สร้างความเสีย่วสนุกให้ราชบุตรคนอื่นๆ เป็นอย่างมาก

“สุดยอดเลยพะยะค่ะ พ่นน้ำเงี่ยนใส่หน้า ใส่ตัว ใส่ตูดแม่ทัพ เต็มไปหมด” หลี่เฉินลุกขึ้นปรบมือ

ถึงคราวองค์ชายสี่ลีลาเด็ด ตรงเข้าจับแม่ทัพพลิกคว่ำ ชันแชนและเข่าอยู่ในท่าเหมือนหมากำลังคลาน สองมืดแหกรูตูดแม่ทัพจนเนื้อชมพูปริ้น ก่อนจะจับควยขาวกระแทกสุดโคน

“มึงเสียวไหม ไอ้สัตว์หมา กูเสียวฉิบหายเลย มึงกับกูมาติดเป่งพร้อมกันเถอะ” องค์ชายสี่พูดเสียงสั่น ขณะเริ่มซอยควยอย่างเร็ว

ทุกคนเชื่อแล้วว่าลีลาของเจ้าชายหน้าตี๋นี่ไม่ธรรมดา ด้วยควยขนาดใหญ่เป็นทุนเดิม บวกกับลีลาท่าเย็ดขั้นปรมาจารย์ ทำเอาซู่เหวินถึงกับหมดเรี่ยวแรง ฟุบตัวลงกับโต๊ะ แอ่นตูดให้องค์ชายสี่เสพสมเต็มที่

เมื่อเห็นแม่ทัพก้มหัวลง องค์ชายสี่ที่กำลังเงี่ยนจัด กระชากผมแม่ทัพซู่ขึ้นจนหน้าเชิด แล้วกระเด้าสะโพกอัดใส่รูแม่ทัพอย่างไม่กลัวฉีก บิดซ้ายทีชวาที แทงเสยขึ้นไป จนแม่ทัพตัวสั่นดิกๆ

“เสียวไหม เสียวไหม กูถามมึงว่าเสียวตูดไหม? ไอ้สุนัขขี้เรื้อน” องค์ชายสี่ฟาดมือไปที่ก้นแม่ทัพหลายครั้ง จนเนื้อเหลวไปหมด แก้มก้นมีแต่รอยนิ้วมือราชบุตร

“มึงมันหมาร่าน แหกตูดให้ใครก็ใครเย็ด มึงติดสัตว์แล้วใช่ไหม ไอ้เหิ้ย” องค์ชายสี่หลุดคำหยาบออกมามากมาย ราวกับว่าเก็บกดมานาน

“กูไม่แตกง่ายๆ หรอกโว๊ย กูจะเย็ดมึงไปจนกว่าตูดมึงจะบานเท่ากำมือ” ตี๋หล่อคำรามก่อนเปลี่ยนท่าเย็ดเป็นท่าอุ้มแม่ทัพ แล้วเสยควยแท่งจากด้านล่าง

“เมียจ๋า เมียของผัว เมียชอบท่านี้ของผัวไหม ผัวจะเย็ดเมียแล้วนะ” ราชบุตรหมายเลขสี่เริ่มเย็ดอีกครั้ง

ภาพตอนนี้สร้างความตะลึงให้ทุกคน เมื่อแม่ทัพถูกลูกเขยอุ้มไว้ ทิ้งก้นบรรจบกับควยบาน ที่สอดแทงเข้าออกให้เห็นได้อย่างชัดเจน จนน้ำเงี่ยนของราชบุตรคนก่อนๆ ไหลเยิ้มชะโลมทั่วควยของหนุ่มหล่อหน้าตี๋

“ติดใจควยผัวแล้วใช่ไหม? ชอบควยผัวคนนี้ใช่ไหม?” แต่ละคำหลั่งไหลออกจากปากราชบุตร

“แบบนี้ชอบไหมที่รักของผัว?” องค์ชายสี่พูดก่อนอัดควยแทงแรงสุด กระแทกก้นแม่ทัพเสียงดังตับๆๆๆๆ ก่อนจะชะลอลงแล้วเปลี่ยนมาบดบี้ควยอัดลึกเข้าไปในร่างแม่ทัพ

เจอท่านี้เข้าไปแม่ทัพถึงกับขนลุกซู่ เพราะหัวควยหนุ่มตี๋แทงจี้ตรงจุดเสียวในร่าง ควยแม่ทัพกระดกงึกๆ อยู่ระหว่างร่างตนเองกับบุตรเขย

“เงี่ยนละสิมึงหน่ะ กระดกควยเด้งใหญ่เชียวนะมึง ฮ่าๆๆ” ไม่ช้าองค์ชายสี่ก็เร่งซอยกระเด้าควยใส่ขุนศึกอีกครั้ง คราวนี้แม่ทัพตาลอย เสียวจนอยากจะแตกเสียตรงนี้ให้ได้

เหลือโอรสอีกสองพระองค์ เจ้าของรางวัลควยใหญ่กับควยยาว เมื่อเห็นองค์ชายสี่ผู้มากด้วยลีลาท่าเย็ดจนแม่ทัพเกือบตาย ก็ไม่รอให้พลาดโอกาส ตรงเข้าไปร่วมผสมโรงทันที

องค์ชายแปดตรงเข้าคว้าควยแปดนิ้วของตน ยัดใส่ตูดแม่ทัพทางด้านหลัง เข้าไปร่วมกับควยขององค์ชายสี่ ส่วนองค์ชายเจ็ดสอดตัวไปตรงกลางระหว่างองค์ชายสี่กับองค์ชายแปด เสียบควยเข้าไปอีกอัน จนรู้สึกได้ว่ารูตูดแม่ทัพฉีกออกกว้างเลยทีเดียว

“ตูดฉีกแล้ว ฮ่าๆๆๆ สะใจควยพวกกูจริงๆ” องค์ชายเจ็ดร้อง

“เสียวสุดๆ เลย ซิ้ดดด..เสียวควยฉิบหาย” องค์ชายสี่คราง

“มาเย็ดพร้อมกันเถอะ ข้าชอบความรู้สึกนี้จริงๆ” องค์แปดบอก

แม่ทัพต้องเจอกับสุดยอดราชบุตรสั้งสาม คนหนึ่งก็ใหญ่ที่สุด คนนี้ก็ยาวที่สุด อีกคนก็ลีลาเด็ดที่สุด เจอแบบนี้พร้อมกันในรูเดียว แม่ทัพถึงกับปล่อยสติหลุดลอย

“ดูสิ เลือดไหลมาชะโลมควยพวกเราแล้วว่ะ ฮ่าๆๆ” องค์ชายแปดสะใจ เมื่อตูดแม่ทัพฉีกขาด

ทั้งสามเริ่มบรรเลงเพลงรักกับขุนศึกอีกครั้ง คนหนึ่งเสียบ คนหนึ่งถอย คนหนึ่งควงควยไปมา สร้างความเสียวให้กันและกันอย่างที่สุด

ทุกคนกระหน่ำแทงควยไม่ยั้ง เหมือนแข่งกันซึมซาบความเสียวให้ได้มากที่สุดจากก้นใหญ่แม่ทัพ จนในที่สุดองค์ชายเจ็ดก็ทนไม่ไหว ถอดควยออก จับแม่ทัพนั่งคุกเข่ากับพื้น และพวยพ้นน้ำควยออกมาอย่างแรง กระฉูดพุ่งกระทบหน้าและอกของแม่ทัพอย่างแรง ขึ้นเป็นรอยจ้ำแดงเป็นวง หยาดเยิ้มไปทั่วใบหน้าและลำตัว

เมื่อเห็นเพื่อนหลั่งออกไปแล้ว องค์ชายสี่ที่เย็ดมานานก็ทนต่อไปไม่ไหว กระแทกควยเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะปล่อยควยออกมาฟาดใบหน้าซู่เหวินและทะลักสายน้ำขุ่นขาวเหมือนควยออกมาไม่หยุดยั้ง พุ่งรดราดลงบนหัวของแม่ทัพจนชุ่ม เหนียวเปื้อนเส้นผมไปทั่วศีรษะ

“อู้ววส์...น้ำควยผัวจะออกแล้วเมียจ๋า ผัวจะหลั่งลูกๆ ตัวน้อยแล้ว เมียรับน้ำเชื้อของผัวไปให้หมดนะ” องค์ชายแปดควยยาวก็ทนไม่ไหว คำรามร้องออกมาด้วยความเสียวแทงควยยาวเข้าตูดบาน และเป็นจังหวะเดียวกันกับที่แม่ทัพซู่ก็ถึงจุดสุดยอดเหมือนกัน

ทั้งสองปล่อยน้ำควยออกมาพร้อมกัน คนหนึ่งปล่อยออกใส่ร่างแม่ทัพซู่อย่างสะใจ หลั่งไหลลูกๆ ตัวน้อยเข้าไปแหวกว่ายเต็มโพรงอุ่น ขณะที่แม่ทัพซู่ก็กระฉูดน้ำเงี่ยนออกมาอย่างแรง พุ่งขึ้นเหนืออากาศ สูงเลยหัวของตน ก่อนจะสาดเทลงมาราวกับห่าฝนใหญ่ หยดกระจายเต็มไปทั่วพื้นห้อง

ในห้องตอนนี้มีแต่กลิ่นน้ำกามของราชโอรสทั้งหลายรวมกับของซู่เหวิน เป็นเมือกขุ่นขาวอยู่ทั้งบนพื้นและบนร่างของแม่ทัพ เหตุการณ์น่าอดสูครั้งนี้ทำให้รู้ว่ายามเงี่ยนจัดแม้แต่กษัตริย์ก็ยังไม่ต่างจากชาวบ้านทั่วไป บางทีอาจจะเก็บกดและปลดปล่อยรุนแรงกว่าเสียด้วยซ้ำ

ซู่เรินถูกจับจองเป็นเป้าสายตาจากบรรดาผู้ชมในอัฒจรรย์ใหญ่ ร่างกายล่ำบึกที่เขาตั้งใจดูแลรักษามาตั้งแต่เด็กกลับกลายเป็นอาหารทางตาของผู้ชมโรคจิต เครื่องเพศที่ปกปิดไว้มาตลอดเปิดให้ดวงตาทุกคู่เข้ามาสอดส่องไม่เว้นสักบริเวณ

“อู้หู้ กล้ามสวยจริงๆ ว่ะ ไอ้เริน” เพื่อนเก่าทักด้วยความอิจฉา

“ทำไมควยเอ็งเป็นแบบนั้นว่ะ ควยวิปริตน่าเกลียด ฝังอะไรไว้ข้างไหนว่ะนั่น” คนชมร้องถาม

“สักควยซะสวยเชียวนะองค์ชาย แถมประทับคำว่าหลงควยอีก ข้าชอบจริงๆ” อีกคนตะโกน

“หัวนมน่าดูดจริงๆ พวกเราดูสิ ชมพูอะไรปานนั้น” ทหารเอาบ้าง

“ขนรักแร้สวยว่ะ ขึ้นเต็มวงแขนขาวเลย” จอหวอนคนหนึ่งตั้งข้อสังเกตุ

“เอาล่ะทุกท่าน ประเดี๋ยวจะเริ่มการแสดงชุดแรกแล้ว เตรียมรับชมให้ดี” หงฟู่ประกาศ

“อันดับแรก ข้าขอเชิญเหล่าทหารที่เคยถูกคุณหนูเรินไล่ออกเพราะดื่มสาเกในค่ายฝึก ลงมาที่ลานแห่งนี้ด้วย” ชายอ้วนตะโกน ไม่ช้าเหล่าทหารทั้งหลายรีบลุกจากที่นั่ง ตรงเข้าไปในลานโล่ง

“วันนี้ ข้าเตรียมสุราไว้หลายไห อยากหาคนป้อนให้คุณหนูรูปงามคนนี้หน่อย” หงฟู่พูดกับเหล่าทหาร

เมื่อพูดจบ เหล่าทหารทั้งหลายเผยรอยยิ้มมุมปากอย่างสะใจ ก่อนจะหยิบไหสุราใหญ่ เดินเข้าไปหาซู่เริน แล้วเทสุราราดลงบนหัวของซู่เรินให้ไหลไปทั่วร่างที่เปลื่อยเปล่า

“ปล่อยข้า ข้าไม่ชอบดื่มของพวกนี้ หยุดเดี๋ยวนี้นะ” ซู่เรินดิ้นรน

“มึงไม่ชอบให้กินเหล้าใช่ไหม? คราวนี้กูจะให้มึงกินจนหน่ำใจเลย” ทหารพูดพร้อมจับซู่เรินกรอกปาก รินสุราเข้าไปจนสำลึก ไหแล้วไหเล่า จนในท้องซู่เรินมีแต่สุรา เนื้อตัวเหม็นโชย

เมื่อได้รับสุราเข้าไปในปริมาณมาก ทำให้สติซู่เรินไม่อยู่เนื้อกับตัว สมองมึนงงสับสนไปหมด อยากจะอาเจียนออกมาตรงหน้า

“ฮ่าๆๆๆ เป็นอย่างไรบ้างท่านผู้ชม คุณหนูเรินแสดงการดื่มเหล้าเข้าไปกว่าสิบไหแล้ว เราไปพบคชกับความสนุกขั้นตอนไปเลยดีกว่า” หงฟู่ประกาศ

ทันใดนั้นลูกน้องก็ตรงเข้าไปทางซู่เริน พร้อมกับใช้มือหมุนกงล้อวงกลม ให้หัวคุณชายชี้ลงพื้น ปลายเท้าชี้ขึ้นฟ้า สภาพน่าสังเวชเหลือทน

“กินน้ำเข้าไปเยอะขนาดนี้ คงต้องฉี่ออกมาสักหน่อย ไหนๆ เนื้อตัวก็เหมือนเหล้าหึ่งขนาดนี้ เอาเยี่ยวตัวเองมาล้างคงไม่เป็นไร” หงฟู่จอมโฉดเริ่มแผนต่อ

“เยี่ยวเลย เยี่ยวเลย เยี่ยวเลย” เสียงคนดูตะโกนเชียร์อย่างสะใจ

แม้ร่างกายจะได้รับปริมาณน้ำไปเยอะ แต่ให้ปัสสาวะทันทีคงเป็นไปไม่ได้ หงฟู่รู้ความจริงข้อนี้ดี จึงสั่งให้ลูกน้องนำสายยางขนาดเล็กสีใสขึ้นมาแสดงกลางแท่นโชว์

“สงสัยว่าคุณหนูเรินจะอายที่ต้องฉี่ให้พวกเราในที่นี้ดูต่อหน้า งั้นข้าถือวิสาสะช่วยอีกแรงแล้วกัน” หันซู่ประกาศ ก่อนเดินเข้าไปทางซู่เริน

ชายแก่ทำในสิ่งที่ซู่เรินไม่คิดมาก่อน เขาจับท่อนควยสีดำสนิทตั้งขึ้น ก่อนจะใช้ปลายสายยางสอดเข้าไปในรูควยบานที่เคยถูกขยายถ่างไว้ด้วยแท่งเหล็กเมื่อครั้งเป็นทาสอยู่ที่หน้าเหมืองแร่ สายยางถูกสอดลึกลงไปเรื่อยๆ ท่ามกลางสายตาที่จับจ้องอย่างไม่กระพริบของบรรดาผู้ชม

ในที่สุดปลายสายยางก็แทงเข้ากระเพาะปัสสาวะของหนุ่มหล่อ และอยู่ๆ ก็ทำให้เจ้าของร่างรู้สึกปวดปัสสาวะขึ้นมาอย่างทันที แม้เจ้าตัวจะพยายามอั้นไว้ แต่ก็ไม่อาจต้านทานปริมาณน้ำที่พร้อมจะไหลออกจากท้อง

ของเหลวสีเหลืองใสหลั่งไหลออกมาจากควยผ่านท่อยางเล็ก ฉีดออกมาเป็นสายน้ำเยี่ยว สร้างเสียงโห่ร้องอย่างชอบใจให้คนดูทั่วอัฒจรรย์ ก่อนที่หงฟู่จะจับปลายสายยาง ฉีดล้างตัวให้คุณชายซู่เรินที่ห้อยหัวอยู่

“โอ๊ยยย...สะใจฉิบหาย ได้เห็นคนหล่อระดับคุณชายเยี่ยวให้พวกเราดู” คนดูร้องอย่างสนุก

“ดูดิ เยี่ยวเหลืองใสราดใส่ตัวเอง เหม็นทั้งเยี่ยว เหม็นทั้งเหล้า ไม่เหลือความเป็นผู้ดีแล้ว” อีกคนพูด

“ให้มันกินน้ำเยี่ยวจากตัวมันเองเลย ไม่อยากกินเหล้าก็ให้กินเยี่ยวแทน” ทหารร้องขอ

เยี่ยวใสยังคงไหลออกมาจากควยน่าเกลียดของซู่เรินเรื่อยๆ ขณะเดียวกันหงฟูกับจับปลายสายยางแทงเข้าปากให้ซู่เรินดูดดื่มน้ำเยี่ยวจากร่างตัวเองจนอ้วกออกมาเต็มหน้าหล่อๆ

“คุณหนูแม่งจังไรจริงๆ เยี่ยวออกมาแล้วก็ดื่มกลับเข้าไปใหม่” อีกคนพูด

“อ้วกเต็มหน้าเลย เอาฉี่ล้างให้มันหน่อยเร็ว” คนดูเริ่มสนุก

หงฟู่ฉีดน้ำเยี่ยวล้างหน้าให้คุณหนูสุดหล่อ จนน้ำเยี่ยวเหม็นไหลเข้าจมูกเข้าตา ชะโลมเส้นผมจนเปียกชุ่มไปทั่ว

“หล่อจริงๆ โดนขนาดนี้แล้ว แม่งยังหน้าตาดีกว่าพวกเราอีกว่ะ” คนดูกลุ่มหนึ่งโห่ร้อง

“เอาอีก ทรมานมันอีก เอาให้คุ้มกับเงินที่เสียไปวันนี้” คนดูเร่งให้แกล้งคุณชายต่อ

“ใจเย็นๆ ทุกๆ ท่าน เมื่อสักครู่เห็นว่ามีเพื่อนเก่าของไอ้เรินเยี่ยวเหลืองคนนี้ ขอเชิญเพื่อนรักสมัยเรียนกระบี่ด้วยกันลงมาตรงนี้ด้วย” ชายอ้วนประกาศเรียก

“ข้าเองๆ ข้าคือคนที่มันเคยหักหน้าข้าสมัยประลองกระบี่กัน ครั้งนั้นข้ายังแค้นไม่หาย” หนุ่มคนหนึ่งอายุไล่เรี่ยกับซู่เริน แต่หน้าตาเทียบไม่ติด

หนุ่มคนนั้นวิ่งออกมาถึงกลางลานที่บัดนี้มีกระบี่เตรียมไว้ให้เล่มหนึ่ง หงฟู่บอกว่าใช้กระบี่นี้ทำอะไรกับซู่เรินก็ได้ตามใจเขา สร้างความพอใจให้หนุ่มคนนี้เป็นอย่างมาก

“โอ้โห้ ไอ้เริน มึงคิดว่าเก่งมากใช่ไหม? วันนี้ข้าจะสอนให้ว่าใครใช้กระบี่ได้เก่งกว่ากัน” เพื่อนสมัยเด็กพูดก่อนจะใช้คมกระบี่ลากปาดขนรักแร้ใต้วงแขนที่ถูกแยกออก จนขนสวยร่วงโรยลงพื้น ลูกน้องของหงฟู่เข้ามาเก็บ แล้วโปรยขึ้นฟ้า ปล่อยให้ร่วงลงมาต่อหน้าซู่เริน ที่กลับหัวมองอย่างปวดใจ

ยังไม่จบเท่านั้น กระบี่ยังคงถูกนำไปใช้ตัดขนหมอยของซู่เรินอีกครั้ง จนแทบไม่เหลือไว้ให้ดูสักเส้น ร่วงลงบนหน้าไปรวมกับฉี่ของซู่เริน ดูน่าสังเวชเหลือทน แต่กลับสร้างความพอใจให้คนดูได้มาก

“หน้าหล่อมากนักใช่ไหม? มึงคิดว่าหล่อมากนักใช่ไหม?” เพื่อนสมัยเด็กยังคงระบายความแค้น

ก่อนจะใช้กระบี่โกนเส้นผมและขนคิ้วดกของซู่เรินออกจนเกลี้ยง สภาพซู่เรินเหมือนบุรุษที่กำลังสละเพศฆราวาส หัวไม่มีผม หน้าไม่มีคิ้ว เนื้อตัวไร้ขนตั้งแต่รักแร้ ถึงหัวหน่าว

“โอ๊ยยย อยากจะให้สาวๆ ทั้งหลายมาเห็นคุณหนูที่ว่ากันว่าหล่อเหลาที่สุด ถ้ามาเจอในสภาพแบบนี้จะยังมีใครชอบอีกไหมว่ะ? ฮ่าๆๆ” คนดูชอบใจ

“เอาละๆ เรามาเริ่มการแสดงต่อไปกันเลยดีกว่า” พิธีกรประกาศอีกครั้ง

“อย่างที่ทุกท่านเห็นชัดแล้วว่าควยของซู่เรินนั้นแปลกประหลาด ข้าจึงคิดว่าเรามาร่วมกันสร้างสรรค์ควยแท่งนี้ได้ไม่ธรรมดายิ่งขึ้นกันเถอะ” หงฟู่พูดอย่างคึกคะนอง

สิ้นคำประกาศ รถเข็นที่มีหลอดฉีดขนาดเล็กวางเรียงรายถูกเข็นออกมากลางลานแสดง สร้างความสงสัยให้คนดูได้ไม่น้อย

“ในเข็มนี้บรรจุไขจากวาฬทะเลน้ำลึกหายาก วันนี้เราจะมาร่วมกันฉีดสิ่งนี้เข้าควยคุณชายเรินกัน วันนี้จะเป็นประวัติศาสตร์ที่คุณหนูเรินต้องจดจำไปชั่วชีวิต” หงฟู่ลั่น

คนดูไม่รอช้ารีบวิ่งลงมาต่อแถวหยิบหลอดฉีดคนและแท่ง วงล้อถูกหมุนกลับมาอยู่ที่เดิมอีกครั้ง เพื่อให้ผู้ชมสามารถฉีดควยให้สุดหล่อได้อย่างสะดวกสบาย

“ขอให้ควยท่านใหญ่ๆ ยิ่งขึ้นไปอีกนะ คุณชายเรินรูปงาม” คนแรกของแถวพูด พร้อมกันปักเข็มเข้ากลางลำของซู่เริน ก่อนดันไขวาฬสีขาวใสไหลลงไปใต้ผิวควย สร้างความทรมานให้ซู่เรินอย่างมาก

“ควยแท่งนี้จะตกถูกจารึกลงในประวัติศาสตร์ของประเทศ” คนที่สองตรงเข้ามาจับควยของคุณชาย แล้วแทงเข็มเข้าไปตรงโคนควย ปล่อยไขขาวเติมเข้าไปให้ควยของหนุ่มหน้าหยก

“ข้าขอให้ท่านภาคภูมิใจกับควยแท่งนี้นะคุณชาย จดจำมันไว้ให้ดีก่อนที่มันจะไม่เหมือนเดิมอีก” คนที่สามใช้เข็มสอดเขาใต้แก่นควย ฉีดสารหายากใส่เข้าควยจนบวมเป่ง

แต่ละคนทยอยช่วยกันรังสรรค์ควยให้คุณชายซู่เรินอย่างตั้งอกตั้งใจ ตรงไหนที่เห็นว่าเล็กก็ฉีดเติมเข้าไปให้จนใหญ่อวบยิ่งกว่ากระบอกไม่ไผ้ลำใหญ่ๆ เสียอีก

“หือออ...ๆ...ๆ...พอทีเถอะ ข้าขอร้อง ควยข้าไม่เหลืออะไรดีอีกแล้ว ไม่มีใครชอบควยข้าอีกแล้ว หือออ เอาควยอันเดิมของข้าคืนมา” ซู่เรินร้องอย่างคนเมาสุราไม่ได้สติ

“ข้าว่าหลังจากนี้ท่านคงไม่มีโอกาสได้เย็ดกับใครอีกแล้วล่ะ โถ้ อดเย็ดตั้งแต่ยังหนุ่มยังแน่น น่าสงสารจริงเชียว” จอหวอนคนหนึ่งกล่าว

“เอาล่ะ วันนี้ข้าว่าพอแค่นี้ก่อน ให้คุณหนูได้พักเสียหน่อย เด๋วจะตายเสียก่อน ของดีต้องเก็บไว้ใช้เรื่อยๆ” หงฟู่ทักขึ้น กลัวจะเสียตัวแสดงหลักที่เรียกเงินให้เขาได้มากโข

“งั้นก็ได้ แต่วันนี้พวกเราขอเอาควยยัดปากคุณชายรูปหล่อคนนี้หน่อยได้ไหม” คนดูคนหนึ่งขอ

“นั่นสิ ข้าฝันมาตลอดว่าอยากจะมีคนหล่อหุ่นดียอมมาอมควยให้ข้าสักครั้ง” ชายแก่อ้วนพูดขึ้น

“ใช่ๆ พวกเราเสียเงินไปแล้ว ขอแค่ได้ปากของคุณชายครอบควยให้หน่อยคงไม่ว่ากัน” อีกคนเสริม

เมื่อเห็นว่ามีหลายคนเรียกร้อง หงฟูก็ไม่อยากขัดลูกค้า เมื่อเป็นเช่นนั้น จึงสั่งให้ปลดร่างซู่เรินสุดหล่อสิ้นสภาพคุณชายลงมานั่งกองบนพื้นบริเวณทางออกของลาน

“ข้าอนุญาตให้พวกท่านเอาควยยัดปากหนุ่มหล่อคนนี้ได้ที่ทางออก ชอให้เดินทางกลับโดยสวัสดิภาพ” ชายอ้วนกล่าวปิดท้าย สร้างความพอใจให้คนดูเป็นอย่างมาก

ซู่เรินที่ถูกมัดนั่งอยุ่ตรงประตูทางออก ต้องใช้ปากบริการความเงี่ยนให้แขกที่มารับชมกันถ้วนหน้า โดยเลือกไม่ได้ ทุกคนต้องผ่านประตูนี้เหมือนกันหมด ปากซู่เรินจึงเหมือนด่านมอบความสุขสุดท้ายให้คนดูก่อนเดินทางกลับ

ชายแก่พุงยื่นเดินตรงเข้ามาควักควยเหม็นขึ้นมาสอดใส่ปากหนุ่มหล่อกล้ามโต ก่อนจะกระเด้าปากคุณหนู จนพุงกระแทกหน้าซู่เรินไปจังหวะ ก่อนจะปล่อยน้ำเงี่ยนเหม็นคาวสกปรกเข้าปากซู่เริน

“กินเข้าไปเยอะๆ นะซู่เริน น้ำควยดีๆ ของข้าทั้งนั้น” พูดจบก็ควักควยออกมาสบัดน้ำใส่หน้าซู่เรินก่อนเดินออกประตูไปอย่างสบายกาย

คนต่อมาเป็นทหารเก่าในจวน เดินตรงเด่เข้ามากดหัวซู่เรินให้อมแท่งควยขนาดกลาง ก่อนจะแทงลงมิดคอหอยของสุดหล่อ จนคุณชายสำลักหน้าแดง

“ควยของบ่าวเป็นอย่างไรบ้างคุณหนู อร่อยดีไหมพะยะค่ะ” ทหารตบหัวซู่เรินอย่างชอบใจ

“อมเข้าไป โอ๊ยย..เสียว ได้เย็ดปากคุณขายลูกแม่ทัพ บุญควยของบ่าวแล้ว” ทหารคราง ก่อนจะฉีดพ่นน้ำเสียวออกมารดใบหน้าหล่อของซู่เรินจนเยิ้มไปหมด

คนต่อมาเป็นจอหวอนหนุ่มหน้าตาดี มีการศึกษา ถือเป็นหัวกะทิลำดับต้นๆ ของประเทศ แต่ยิ่งร่ำเรียนมากก็ยิ่งเงี่ยนมาก ต้องมาหาระบายในสถานที่อโคจรเช่นนี้

“เราไม่เคยมีความแค้นอะไรต่อกัน ข้าเพียงมาหาที่ปลดปล่อย โปรดทำหน้าที่ของท่านด้วย คุณชาย” จอหวอนหนุ่มพูดเสร็จ ก็รูดกางเกงลง แทงควยเข้าปากคุณชาย ก่อนจับหัวซู่เรินประคองไว้แล้วกระเด้าปากสวยเข้าออกอยู่นาน จนในที่สุดก็พ่นน้ำคาวหลั่งชะโลมหัวของซู่เรินไปทั่ว

การบริการด้วยปากครั้งนี้ผ่านไปอย่างยาวนาน ซู่เรินต้องดูดควยและดื่มน้ำกามเข้าไปจนท้องโต บัดนี้เนื้อตัวและใบหน้าซู่เรินแทบไม่เหลือเค้าคุณชายรูปงามเมื่อครั้งก่อน โดยเฉพาะท่อนควยที่ใครเห็นเป็นต้องขนลุกชัน ขณะที่เจ้าของร่างนอนหมดสติบนกองน้ำเงี่ยนของทั้งคนรู้จักและคนแปลกหน้า

“มาเป็นเมียข้าเถอะนะ...เอ้าเทียน” อู๋ทงกระซิบข้างหูเอ้าเทียนด้วยเสียงกระเส้า ริมฝีปากชิดติดกับติ่งหู ลมหายใจอุ่นรดต้นคอขาว ทำเอาเอ้าเทียนขนลุกซู่

พูดไม่ทันขาดคำ อู่ทงก็ก้มลงไประรัวลิ้นบนยอดอกขาวของเอ้าเทียน ปลายลิ้นอุ่นสัมผัสกับปลายหัวนมสีชมพู ลิ้นของอู๋ทงตวัดขึ้นลงอย่างชำนาญ ก่อนจะใช้ปากประทับติดกับอกเอ้าเทียน บรรจงดูดและใช้ปลายฟันขาวกัดขบเนินนมของจิ้งจอกหนุ่ม จนร่างแทบไม่มีเรี่ยวแรง

“ยะ...อย่าทำแบบนั้นนน อ่าสสสส์” เอ้าเทียนคราง

อู่ทงเงยหน้าขึ้นมามองเอ้าเทียนช่วงครู่ สายตาจับจ้องซึ่งกันและกัน หนึ่งใบหน้าคือเทพเจ้าเสน่ห์ อีกหนึ่งใบหน้าคือมารสุดเท่ รอยยิ้มปรากฏบนมุมปากของอู๋ทง แม้จะรวมเร็วแต่ก็ไม่พ้นสายตาของเอ้าเทียน

อู่ทงปลดเชือกออกจากข้อมือเอ้าเทียน แต่ยังคงใช้มือข้างหนึ่งรวบสองมือของเอ้าเทียนไว้แล้วยกขึ้นเหนือศีรษะ อีกมือยังคงซุกซนลูบไล้ร่างกายอีกฝ่ายอย่างต่อเนื่อง เอ้าเทียนที่ถูกจี้จุดไว้จึงยังไม่สามารถขยับร่างกายได้

ตอนนี้อู่ทงกำลังขยับปากร่ายเวทมนต์ ปล่อยงูอาคมออกมาโอบรัดร่างของเอ้าเทียน งูจำนวนมากเลื้อยอย่างแผ่วเบาไปบนผิวของเอ้าเทียน บางส่วนเลื้อยไปตามกล้ามแขนใหญ่ บางส่วนก็รัดพันอกและกล้ามท้อง บางส่วนเริ่มมุดเข้าไปในกางเกงผ้าไหมเงินของเทพจิ้งจอก

“ดูเหมือนงูอาคมของข้าจะเจอกับพญางูของจริงในกางเกงของเจ้าเสียแล้ว” อู๋ทงแซว

ความกำหนัดของอู๋ทงทะลุจุดที่จะควบคุมได้แล้ว เขาถอยตัวออกห่างจากเอ้าเทียน ก่อนจะปลดชุดคลุมสีดำส่วนบนออก เผยให้เห็นร่างกายที่กำย่ำแล้วงดงามของอู่ทง

อู่ทงที่มีผิวเข้มตัดกับสีผิวของเอ้าเทียน แต่มีมัดกล้ามเนื้อสวยไม่แพ้กัน จะมีจุดต่างกันอยู่บางตรงที่เอ้าเทียนมีผิวใสเนียนละเอียด ใบหน้าดูสะอาดสะอ้าน ขณะที่อู๋ทงจะมีไรขนบางๆ ขึ้นตามหน้าอกใหญ่ล่ามลงไปถึงหน้าท้อง กรอบหน้ามีเคราสั้นขึ้นขับให้ใบหน้าดูสมชายชาตรี

เมื่อทั้งสองอยู่ในสภาพเปลือยเปล่าทั้งคู่ บทเพลงกามก็เริ่มบรรลงขึ้น ร่างเข้มเข้าประกบร่างขาวอย่างหื่นกระหาย กอดรัดราวกับพบของมีค่าที่สุด พร้อมกับไซร้ซอกคอเนียนของฝ่ายตรงข้าม ทำให้เคราสั้นๆ ถูไถไปกับผิวของเอ้าเทียน สร้างความเคลิบเคลื้มได้ไม่ใช่น้อย

มือของอู๋ทงไม่อยู่นิ่ง เริ่มลูบไล้ลอนกล้ามท้องแล้วล้วงผ่านกางเกงของเอ้าเทียนเข้าไป มือหยาบเข้าสัมผัสกับท่อนเนื้อละเอียดอุ่น แม้จะยังไม่แข็งตัวชูชัน แต่กะขนาดคร่าวๆ ด้วยมือแล้วไม่ธรรมดาแน่ๆ มารงูดำถึงกับตาโต และอมยิ้มอย่างพอใจ

“ใครจะรู้ เทพจิ้งจอกเงินไม่ได้มีดีแค่หน้าตาเท่านั้น” อู๋ทงแซว จนเอ้าเทียนหน้าแดงเป็นลูกท้อ

“ขอให้ข้าให้เห็นของดีล้ำค่าในกางเกงเจ้าสักครั้งในชีวิตเถอะนะ” อู่ทงรุกต่อพร้อมกับสอดนิ้วเข้าตรงขอบเกงเกงของเอ้าเทียน

ไม่ช้า ขอบเกงเกงของเอ้าเทียนก็ถูกดึงรูดลงสู่ปลายเท้า หัวใจอู๋ทงตอนนี้เต้นรัวด้วยความตื่นเต้น สายตาแทบจะกลืนกินร่างของเทพหนุ่มตรงหนา แต่ไม่ทันทีจะได้ก้มมองของดีของเอ้าเทียน จู่ๆ ก็ถูกส้นมือเข้ากระแทกที่ต้นคอ ทำเอาจอมมารถึงกับโซซัดโซเซ

“สวัสดีอีกครั้ง จอมมารอู๋ทง” เจ้าของสันมือทักทาย

อู๋ทงที่ตอนนี้สับสนมึนงงไปหมด มองดูคู่สนธนาอย่างโมโห ทันใดนั้นใบหน้าก็เผยความประหลาดใจขึ้นอย่างปกปิดไม่ได้ เพราะคนตรงหน้าเขาคือเอ้าเทียนใสสภาพสง่างาม ในขณะที่เอ้าเทียนคนที่เขาลวนลามเมื่อสักครู่นี้กลายเป็นท่อนไม้ไปเสียแล้ว

“ในยามที่ซู่เหวินกำลังยับเยิน ซู่เวินกำลังย่ำแย่แบบนี้ หากข้าไม่แยบยลคงพากันจบเห่” เอ้าเทียนเริ่มพูดต่อ

“ตั้งสติซะ เราจะเฉลยให้ฟัง เหตุการณ์ในคุกใต้ดินเจ้าบอกว่ามีนายใหญ่คอยบงการอยู่เบื้องหลัง นายใหญ่สั่งให้เจ้ามาขัดขวางข้า ตอนนั้นเราก็คิดได้ทันทีว่าหากต้องการรู้ว่านายใหญ่เป็นใคร สืบจากเจ้าคงจะง่ายที่สุด” เอ้าเทียนกล่าว พร้อมเดินไปมาอย่างสบายใจ

“เราก็เลยจงใจเผยจุดอ่อนให้เจ้าเห็น แล้วเจ้าก็ตกหลุมพลางที่เราวางไว้ เราแยกร่างจริงออกมาทันก่อนที่เจ้าจะสะกัดจุดและพาร่างปลอมของเรามา...ลวมลาม” เอ้าเทียนพูดทำหน้าขนลุก

“ที่แท้ข้าก็หลงกลจิ้งจอกเจ้าเล่ห์หรอเนี่ย” อู่ทงบ่นตัวเองก่อนจะเริ่มร่ายท่องคาถาร่ายเวทมนต์ดำ

“สภาพแบบนี้อย่าฝืนสู้กับเราเลย จะเอาชีวิตมาตายเสียเปล่าๆ” เอ้าเทียนพูด

มนต์ดำของอู่ทงเริ่มแผ่ขยายทิศทางไปรอบๆ สรรพสิ่งที่อยู่ในอาณาเขตกลับกลายเป็นก้อนหินไปทั้งหมด ในขณะที่ไสยเวทค่อยๆ คืบคลานเข้าหาร่างของเอ้าเทียน

เอ้าเทียนก้าวถอยหลังมาตั้งหลัก สองมือวาดลวดลายในอากาศ เกิดแสงสีเงินขึ้นตามมือที่ขยับไปมา ก่อนจะเกิดช่องว่างมิติขึ้นระหว่างเอ้าเทียนกับอู๋ทง

“มะ..มะ...ไม่จริงใช่ไหม? มนต์ที่เจ้าใช้...เวทมนต์โบราณ...” อู๋ทงระล่ำระลัก

“ใช่...มนต์มิติเวลา เจอกันโลกหน้านะ สุดหล่อ” เอ้าเทียนยิ้มและกระพริบตาให้อู่ทง

ก่อนที่ร่างของอู๋ทงเริ่มถูกมิติเวลาของเอ้าเทียนดูดกลืนเข้าไป แม้จอมมารจะพยายามทรงตัวและยึดร่างไว้แน่นหนาเพียงใด ก็มิอาจทนแรงดูดจากช่องว่างสีเงินได้ ในที่สุดอู๋ทงก็หลุดเข้าไปในมิติเวลา

“เอ้าเทียนนนนน ข้าจะกลับมาให้ได้ ข้าจะกลับมาเจอเจ้าอีกแน่นอนนนนน!!!!” อู่ทงคำรามลั่น

ก่อนจะสิ้นเสียงสุดท้าย ร่างของจอมมารก็กลืนหายไปกับมิติเวลา บัดนี้เหลือเพียงเอ้าเทียนยืนอยู่ท่ามกลางมวลก้อนหินจำนวนมากในถ้ำใหญ่

“ทีเหลือก็แค่รอให้นายใหญ่ติดต่อมา” เอ้าเทียนพึมพา ขณะแปลงร่างเป็นอู๋ทง

เอ้าเทียนในร่างอู่ทงล้มตัวลงนอนกันโขดหิน มือก่ายหน้าผา ในใจในถึงเรื่องที่พึ่งเกิดขึ้น ภาพอู๋ทงที่กำลังลวมลามตนเองผุดขึ้นมาในหัว เหมือนติดตรึงอยู่ในส่วนลึกของจิดใจ สลัดอย่างไรก็ไม่หลุด

“นี่เราเป็นอะไรไปเนี่ย?” เอ้าเทียนหลุดปาก

ท่ามกลางมุมหนึ่งที่ลับสายตาคน เกิดช่องว่างสีเงินขึ้นกลางอากาศ พร้อมกันร่างของอู่ทงที่หลุดออกมาจากมิติของเทพจิ้งจอกเงิน

อู่ทงประคองตัวเองลุกยืนขึ้นอย่างลำบาก สับสนงุนงงไปหมด สายตาเริ่มปรับสภาพแล้วมองไปล้อมๆ แต่ก็ไม่ช่วยอะไร มองไปทางไหนก็มีแต่สิ่งแปลกตา ไม่เคยพบเห็นมาก่อน ปากเริ่มร่ายเวทมนต์อีกครั้ง แต่ไม่เกิดอะไรขึ้นเลย

“ไอ้จิ้งจอกเจ้าเล่ห์มันส่งข้ามาที่ไหนกันแน่? เวทมนต์ข้าใช้ไม่ได้แล้วหรือ? บัดซบที่สุด!!!” อู่ทงพึมพำ มือนวดขมับทั้งสองข้าง

“กริ๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!!!!!!!!!” อยู่ๆ ก็เสียงเสียงร้องของผู้หญิงแถวนั้น

อู่ทงหันไปมอง พบหญิงสาวคนหนึ่งแต่งตัวประหลาด วิ่งหนีออกไปอย่างตกใจ เขาก้มมองตัวเองจึงพบว่าอยู่ในสภาพเปลือยเปล่า เผยร่างกำย่ำทุกรูขุมขนให้ผู้หญิงคนนั้นดูอย่างถึงใจ

“เกิดมาไม่เคยเห็นผู้ชายแก้ผ้ารึไง? เห้ออ..ข้าต้องมาหาเสื้อผ้าใส่ให้ดได้ก่อนสินะ แล้วค่อยหาทางกลับ” อู่ทงบ่น พร้อมกับหลบตัวเองเข้ามุมมืด ปลอดสายตาคนแถวนั้น

ไม่นานก็มีชายหนุ่มคนหนึ่งเดินผ่านมา แม้อู่ทงจะไร้ซึ่งมนต์ดำ แต่วิชายุทธ์ยังติดตัวอยู่เหมือนเดิม เมื่อหนุ่มน้อยแปลกหน้าเดินเข้ามาใกล้อู่ทง ก็ถูกกระบวนท่าของจอมมารซัดจนสลบไปกับพื้น ก่อนอู๋ทงจะยึดเสื้อผ้าของหนุ่มโชคร้ายมาเป็นของตน

“เสื้อผ้าที่นี่แปลกจริงๆ ดูไม่คุ้นตาเอาเสียเลย” อู่ทงบ่นไปตลอดทาง

บัดนี้เขากลายเป็นชายหนุ่มรูปงามเจ้าเสน่ห์ ใบหน้ายังคงไว้ซึ่งความคมเข้มแบบที่หาไม่ได้ในยุคสมัยนี้ ร่างกายสูงใหญ่พร้อมมัดกล้ามสวยอย่างเป็นธรรมชาติ ที่แม้จะเข้าฟิตเนสหรือกินเวย์โปรตีนในสมัยนี้ก็ไม่อาจเทียบได้ ใบหน้าที่หล่อเหลาอย่างแตกต่าง ไร้ซึ่งศัลยกรรมใดๆ ทำให้ชายหนุ่มเป็นที่สนใจจากคนรอบข้าง

จอมมารหน้าหล่ออยู่ในชุดเครื่องแบบเท่ ใส่เสื้อเชิตติดกระดุม พร้อมกางเกงสแลคสีดำ ทุกอย่างขับให้เขาดูโดดเด่นกว่าคนในยุคปัจจุบัน ชนิดที่ดาราดาวรุ่งยังต้องยอมแพ้ในรูปร่างและหน้าตา

“ไปสำรวจดีกว่าว่าที่นี่คือที่ไหน?” อู่ทงเริ่มตั้งสติ ไม่สนใจสายตาหวานที่จ้องมองมาจากบรรดาหญิงสาวที่เขาเดินผ่าน หรือเสียงแซวจากเหล่าสาวประเภทสองที่จ้องมองเขาราวกับจะกลืนกิน

อู๋ทงเดินมาเรื่อยๆ จนถึงลานขนาดใหญ่ มีเสียงเชียร์ดังสนั่น พร้อมผู้คนและนักข่าวจำนวนมากมายกำลังสัมภาษณ์เด็กหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่งอยู่

“เตรียมตัวอยู่นานไหมคะสำหรับวันนี้” นักข่าวสาวถามเด็กหนุ่มหล่อ

“พวกเราซ้อมกันหนักมากครับ พวกเราตั้งใจจะทำให้ออกมาดีที่สุดและจะทำสถิติคว้าแชมป์สี่สมัยซ้อนให้ได้” เด็กหนุ่มตอบ

อู๋ทงมองไปรอบๆ มีผู้คนเต็มไปหมดทั้งชายและหญิง เหมือนมารวมตัวกันเพื่องานอะไรสักอย่าง แม้จะยังไม่ชิน แต่เขาเริ่มปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว สายตาสาดส่องไปทั่วจนเจอเข้ากับประโยคหนึ่ง

“ยินดีต้อนรับสู่จตุรเทพเกมส์ ครั้งที่ 22” อู๋ทงอ่านข้อความนั้นในใจ พร้อมความสงสัยเต็มไปหมด

“เข้าเมืองตาหลิ่ว ต้องหลิ่วตาตาม” อู่ทงพูดขึ้น ก่อนจะเดินตามผู้คนเข้าไปหาที่นั่งชมการแข่งกีฬา

อู๋ทงเลือกที่นั่งอยู่ระดับกลางๆ ไม่ติดขอบสนาม แต่ก็ไม่ใช่ตำแหน่งบนสุด ระหว่างนี้เป็นช่วงที่รอให้นักกีฬาเตรียมความพร้อมก่อนการแข่งขัน ความสนใจของผู้ชมเลยพุ่งมาตกที่อู๋ทงแทน

“เห้ยย มึงๆ ดูผู้ชายคนนั้นดิ แม่งหล่อฉิบหายวายวอดเลยว่ะ” ผู้หญิงแถวหลังชี้ให้เพื่อนข้างๆ ดู

“เป็นดาราป่าววะ? ได้สักครั้งจะตั้งใจเรียนจนไปถึงปริญญาเอกเลย 555” เพื่อนตอบ

“แม่ง อิจฉาผู้หญิงที่ได้นั่งข้างๆ โว๊ยยย เราเปลี่ยนที่นั่งทันไหมว่ะเนี่ย” สาวคนแรกหงุดหงิด

ตอนนี้สาวที่นั่งติดกับอู๋ทงพยายามเก็บอาการให้ดูปกติที่สุด แต่หัวใจเต้นแรงและเร็วจนเกือบหลุดจากอก แถมยังทำเนียนขยับตัวเข้าไปนั่งชิดติดกับอู่มงอีกต่างหาก

“อู้ยยย คนอะไรจะหล่อปานนี้ หล่อวัวตายควายล้ม” สาวที่นั่งข้างๆ คิดในใจ ใบหน้าแดงฉ่ำ

สาวสวยนั่งจินตนาการ ซึมซาบความอุ่นจากร่างที่นั่งติดกันของอู๋ทง สูดกลิ่นกายหอมสดชื่อ แต่ไม่ทันที่สาวสวยจะได้ทำอะไรต่อ หนุ่มอีกคนที่นั่งข้างอู๋ทงก็เปิดฉากพูดคุยไปเสียก่อนแล้ว

“สวัสดีครับ วันนี้เชียร์ทีมไหนเป็นพิเศษหรือเปล่าครับ?” หนุ่มข้างๆ ทักทายอู๋ทง

“ก็...เอิ่มมม...ข้าควร “เชียร์” ทีมไหนดีล่ะ?” อู๋ทงไม่เข้าใจความหมายที่หนุ่มข้างๆ พูดเท่าไร?

“แทนตัวเองว่าผมก็ได้ครับ 555 ว่าแต่นายชื่ออะไรหรอครับ?” หนุ่มน้อยชวนคุย

“ข้า...เอ้ยยย..ผมชื่ออู๋....เอ่ออ...เรายังไม่มีชื่อเลยครับ” อู๋ทงเลียนแบบการพูดของคู่สนธนา

“ไม่มีชื่อ? 555 งั้นเรามาตั้งชื่อกันดีไหมครับ ระหว่างรอเกมเริ่ม” หนุ่มน้อยเสนอความคิด

“ตั้งชื่อหรอ? ได้สิ ฉันขอช่วยด้วยคนนะ อิอิ” สาวอีกข้างโผล่เข้ามาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย

“นายอยากได้ชื่อแบบไหนล่ะ? ถือเคล็ดอะไรหรือเปล่า?” ชายหนุ่มถาม

“ชื่ออะไรก็ได้ เอามาสักชื่อเถอะ” อู๋ทงตอบ

“เอางี้ นายมีอะไรที่ชอบเป็นพิเศษไหม? แบบนึกถึงตลอดเวลาไรงี้” สาวสวยพูดระริกระรี้

“เทพจิ้งจอกเงิน!!!!” อู๋ทงตอบทันที เอ้าเทียนคือคนที่เค้าคิดถึงที่สุดในตอนนี้

“หา???? เทพจิ้งจอกเงินเนี่ยนะ? ยากจุง” สาวสวยพยายามคิดชื่อ

“เอาเป็น “ธวัลเทพ” ดีป่ะ? เพราะดีนะ” หนุ่มน้อยเร่งทำแต้ม

“ธวัลแปลว่าสีขาว ส่วนเทพก็หมายถึงเทพบุตร โดยรวมจะแปลว่า “เทพสีขาว” เราว่าใกล้เคียงกับโจทย์ของนายมากที่สุดละ แล้วชื่อนี้ก็เพราะและเหมาะกับนายมากเลย” หนุ่มข้างๆ เสนอ

“ธวัลเทพ-เทพสีขาว ชื่อนี้ก็ได้” อู๋ทงยอมรับ เขาชอบชื่อนี้เพราะทำให้นึกถึงเอ้าเทียนทุกครั้งที่พูด

“ไม่ยอมๆ งั้นขอเราคิดนามสกุลละกันนะ คริคริ” ผู้หญิงข้างๆ ไม่ยอมแพ้

“นายมีอะไรที่บ่งบอกความเป็นนายไหม เอาชัดๆ ตรงๆ ง่ายๆ” ฝั่งผู้ชายรีบถาม

“ความเป็นตัวเองหรอ? งูดำละมั้ง 5555” อู๋ทงเริ่มพูดได้ใกล้เคียงกับมนุษย์ยุคปัจจุบัน

“นี่เลย-นิลนาคา-แปลว่างูดำ เราเก่งป่ะละ คิดแปปเดียวเอง” หญิงสาวดีใจ นั่งเบียดอู๋ทงไปมา

“ชื่อธวัลเทพ นิลนาคา ชื่อเพราะดีจีง ถึงความหมายจะแปลกๆ ไปหน่อยก็เถอะ” เด็กหนุ่มพูด

“แล้วชื่อเล่นนายล่ะ? ชื่ออะไรหรอ?” หญิงสาวยังคงมีความสุขยามได้ยินเสียงของอู่ทงสุดหล่อ

อู๋ทงทำหน้างงไม่เข้าใจ โลกนี้ทำไมซับซ้อนไปหมด มีทั้งชื่อหนึ่ง ชื่อสอง แล้วยังถามหาชื่อสามอีก ในอดีตเรียกอู๋ทงคำเดียวก็เข้าใจแล้ว อย่างมากก็แค่เติมคำว่าจอมมาร อสูร ปีศาจเข้าไปในชื่อ

“อย่าบอกนะว่าจะให้เล่นเกมตั้งชื่อเล่นอีก” หญิงสาวยิ้มแย้ม หน้าแทบจะซบไหล่อู๋ทง

“ก็คงอย่างนั้น คิดมาให้สักชื่อหนึ่งนะครับ” นายธวัลเทพ นิลนาคาอ้อนเพื่อนใหม่

“เวลาคนพูดถึงแล้วนาย เค้าจะนึกถึงอะไรกันบ้างละ?” เด็กหนุ่มข้างๆ ถามบ้าง

“ส่วนใหญ่ก็จะเป็น-พิษงู-หรือไม่ก็-กลัว-กันนะ แหะๆ” อู๋ทงตอบ

“กลัว? นายหล่อปานเทพบุตรขนาดนี้ ใครกลัวก็บ้าแล้ว” เด็กหนุ่มข้างๆ แซว

“อะไรแปลว่ากลัวบ้างน้า?” หญิงสาวใช้ความคิด

“ภีตะไง แปลว่ากลัว แต่ไม่เหมาะกับชื่อเล่นเท่าไร เรียกยากไปหน่อย” เด็กหนุ่มชิงตอบ

“ภีตเป็นไง!! ออกเสียงใกล้เคียงคำว่าพิษ แถมแปลว่ากลัวอีกต่างหาก คริคริ” หญิงสา;รีบแย่งไอเดีย

“สรุปผมชื่อธวัลเทพ นิลนาคา ชื่อเล่นคือภีต….วันนี้มาดูการแข่งขันกีฬา” อู๋ทงท่องจำในใจ

ขณะที่สองคนข้างๆ นั่งซึมซับความสุขที่ได้ชิดใกล้กับคนหล่อระดับดารา และไม่พลาดที่จะหยิบสมาร์ตโฟนขึ้นมาถ่ายรูปคู่กับภีตก่อนอัพโหลดภาพอยู่โซเชียลมีเดีย สร้างความอิจฉาให้กลุ่มเพื่อนที่เห็นรูปคู่ได้ไม่น้อย ขณะที่ยอดไลท์พุ่งทะล่มทะลายภายในเวลาไม่นาน พร้อมคอมเม้นต์มากมาย

“ว๊ายยย ตายแล้ว ไปถ่ายกับนายแบบที่ไหนมาย่ะ”

“กดไลท์รัวๆ อยากได้เป็นผัวจัง”

“ไปดูกีฬาหรือไปดูผู้ชายกันแน่”

“ห่อกลับบ้านมาด้วยนะเมิง”

อู๋ทง ไม่สิ... ตอนนี้ต้องเรียกว่าภีต ไม่ได้สนใจกับเทคโนโลยีในปัจจุบันมากนัก เพราะตอนนี้เขากำลังเก็บข้อมูลรอบตัวให้ได้มากที่สุด พอสรุปได้ว่ามิติที่เขาหลุดเข้ามานั้นค่อนข้างเจริญมาก มีอุปกรณ์มากมายที่ราวกับมีเวทมนต์ อย่างเช่น ไมโครโฟนที่ทำให้เสียงมนุษย์ดังขึ้นหลายสิบเท่า จอภาพที่มีรูปมนุษย์เคลื่อนไหวอยู่ภายใน หรือกล้องถ่ายรูปที่สามารถดูดรายละเอียดของมนุษย์เข้าไปได้

ความสนใจของภีตถูกขัดด้วยเสียงเชียร์ที่กระหึ่มดังสนั่นกึกก้อง พร้อมกับเสียงประกาศชื่อนักกีฬาในวันนี้ เหล่านักกีฬารูปร่างใหญ่วิ่งลงสนามอย่างกระตือรือร้น แต่ภีตก็จำความผิดปกติและสีหน้าของนักกีฬาในทีมได้ ในขณะที่คนดูก็แสดงความสับสนออกมาเล็กน้อย

“เกิดอะไรขึ้นหรอครับ?” ภีตกระซิบถามผู้หญิงข้างๆ

“อ่ออ สงสัยจะเปลี่ยนกัปตันเฉยๆ อ่ะ จากตอนแรกเป็นพี่บิ๊ก เปลี่ยนเป็นพี่เอแทน” สาวสวยตอบ

“บิ๊กหรออ?” ภีตนึกถึงหน้าเด็กหนุ่มหล่อเหลาที่ถูกนักข่าวรุมสัมภาษณ์เมื่อตอนเขาเข้ามาในสนาม

ภีตนั่งดูการแข่งขันดำเนินไปเรื่อยๆ จึงเข้าใจว่าเป็นกีฬาที่ให้ผู้ชายวิ่งแย่งลูกบอลกัน ฝ่ายไหนวิ่งพาบอลถึงจุดหมายก่อนเป็นฝ่ายได้คะแนน แต่ผลการประเมินเห็นชัดว่าสองทีมนี้มีฝีมือทิ้งห่างกันเกินไป ทีมของกัปตันที่ชื่อเอทำคะแนนได้น้อยมาก ขณะทีมฝ่ายตรงข้ามกลับทำคะแนนติดๆ กันจนจบครึ่งแรกของการแข่งขัน

ครึ่งหลังกำลังจะเริ่มขึ้น จู่ๆ คนที่ชื่อบิ๊กก็ปรากฏตัวขึ้นข้างสนาม ภีตจ้องมองไปที่บิ๊กและคนที่ยืนอยู่ข้างๆ อายุดูน้อยกว่าไม่มากแต่มีสีหน้าเจ้าเล่ห์จัด

“คนที่อยู่ข้างๆ พี่บิ๊กคือใครหรอครับ?” ภีตหันไปถามเด็กหนุ่มข้างๆ

“อ่อ น้องชายเค้าเองครับ ชื่อบอล เป็นนักกีฬาเหมือนกัน” หนุ่มน้อยตอบอย่างยิ้มแย้ม

ภีตเห็นบอลถือโทรศัพท์หันไปทางพี่บิ๊ก ทันทีที่พี่บิ๊กเห็นบางอย่างในโทรศัพท์ก็หน้าถอดสี และวิ่งไล่น้องชายถึงกลางสนาม ก่อนจะรัวหมัดใส่หน้าบอลไม่ยั้ง ท่ามกลางสายตาของผู้ดูในสนาม เกิดความวุ่นวายชุลมุน จน รปภ. เข้ามากุมตัวพี่บิ๊กออกไปจากสนาม

บรรดาแฟนคลับและคนดูต่างอึ้งกับสิ่งที่เกิดขึ้น เสียงตาจับจ้องไปที่พี่บิ๊กที่ผันตัวเองจากนักกีฬากลายเป็นนักเลงไปเสียแล้ว ขณะที่จอมมารอสรพิษผู้มีสายตาเฉียบคม ก็จับความพึงพอใจที่ปรากฏออกมาผ่านสีหน้าของคนที่ชื่อบอลได้

“ไม่ต้องถึงเอ้าเทียนเทพแห่งปัญญา ก็ดูออกว่าเรื่องนี้ไม่ปกติ คนชื่อบี๊กกำลังตกที่นั่งลำบาก ส่วนคนชื่อบอลกำลังเล่นละครตบตาคนดูทั้งสนาม” ภีตพึมพำออกมา

การแข่งขันครึ่งหลังเริ่มขึ้นอีกครั้งโดยไร้วี่แววของกัปตันบิ๊ก ถึงกระนั้นผู้ชมก็ยังคงเชียร์ทีมตัวเองเสียงดังลั่น ทุกคนตั้งหน้าตั้งตาชมภาพการแข่งขันเบื้องล่าง ตรงกันข้ามกับภีตที่ไม่สนใจเกมการแข่งเลยแม้แต่น้อย สายตากลับจ้องมองสูงขึ้นไปบนกระจกบานใหญ่ตรงห้องวีไอพี

ภาพที่เห็นช่างน่าสลดใจเหลือเกิน เพราะภีตกำลังเห็นภาพกัปตันบิ๊กถูกมัดด้วยโซ่ ตัวลอยสูง ท่อนขามีเหล็กยาวมัดติดอยู่ ทำให้ขากางออกสี่สิบห้าองศา มือถูกมัดไพร่หลัง ที่สำคัญกำลังถูกรุมข่มขืนทางประตูหลังจากกลุ่มชายหลายคน จนในที่สุดเสียงนกหวีดดังขึ้นเป็นสัญญาณหมดเวลาการแข่งขัน ผลปรากฏว่าทีมพี่บิ๊กแพ้ย่อยยับ ตกรอบไปอย่างไม่น่าเชื่อ

ภีตยังคงจ้องมองบิ๊กที่น่าสงสารอยู่ ตอนนี้ชายคนหนึ่งกำลังจับควยพี่บิ๊กขักเป็นจังหวะ ถึงแม้จะไม่ได้ยินเสียง แต่ภีตก็สามารถอ่านปากบิ๊กได้ชัดเจนว่ากำลังพูดอะไรอยู่

“ผมกัปตันบิ๊ก สิทธิศักด์ ปฐมวงศ์ ทำให้ทีมรักบี้มหาลัยตกรอบ ขออนุญาตน้ำแตกฉลองความพ่ายแพ้นี้ครับ” ภีตอ่านปากของอดีตกัปตัน

“เมืองนี้แปลกดีจัง มีการทารุณมนุษย์ด้วยวิธีแบบนี้ด้วยหรอ ชักน่าสนใจแล้วสิ” ภีตพูดกับตัวเอง

ภีตไม่รู้เลยว่าประโยคแบบนี้เคยหลุดออกมาจากปากเอ้าเทียนครั้งหนึ่ง เมื่อครั้งที่จิ้งจอกหนุ่มยืนมองดูกลุ่มชายชั่วทารุณแม่ทัพซู่เหวินกลางลานฝึก ต่อจากนั้นไม่นานเอ้าเทียนก็เข้ามาพัวพันกับเรื่องยุ่งๆ ตามแก้ปัญหาไม่หวั่นไม่ไหว

บัดนี้สถานการณ์ไม่แตกต่างกันเลย ภีตหลุดประโยคเหมือนเอ้าเทียน หลังจากที่มองกลุ่มชายหลายคนทารุณกัปตันทีมรักบี้กลางสนามแข่งขัน ถ้าเหมือนกันเช่นนี้ ต่อไปภีตอาจต้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องชั่วๆ ของมนุษย์ เหมือนที่เอ้าเทียนกำลังทำอยู่ตอนนี้ก็เป็นได้

หลังจากส่งอู๋ทงงูพิษข้ามมิติไปแล้ว บัดนี้เอ้าเทียนในร่างแปลงกายเป็นอู๋ทงก็ยึดถ่ำที่อยู่แห่งนี้เป็นของตน เพื่อรอเวลาให้นายใหญ่ผู้บงการอยู่เบื้องหลังปรากฏตัว

ไม่นานนัก ก็เกิดกลุ่มควันฟุ้งกระจายพร้อมกับการปรากฏตัวของชายคนหนึ่ง ที่เอ้าเทียนรู้สึกคุ้นหน้ามากเหมือนเคยพบเจอมาก่อน แต่นึกไม่ออกว่าเคยพบเจอที่ไหนหรือเมื่อไร

“ทุกอย่างเรียบร้อยดีใช่ไหม?” ชายปริศนาถามเสียงทุ้มต่ำ

“เรียบร้อยดี ท่านไม่ต้องกังวล” อู๋ทงตัวปลอมตอบ

“ตอนนี้ข้าต้องการตัวแม่ทัพซู่เหวิน เจ้าจงไปเอาตัวแม่ทัพมาให้ข้าโดยเร็ว” ชายปริศนากล่าวต่อ

“ไม่มีปัญหา ว่าแต่จะให้ข้านำตัวแม่ทัพไปให้ท่านที่ไหน?” เอ้าเทียนหลอกถาม

“ถึงตอนนั้นข้าจะบอกอีกที รีบไปจัดการซะ” ชายปริศนาสั่ง

เมื่อออกคำสั่งเสร็จ ชายปริศนาก็ปาระเบิดควันจำนวนหนึ่งลงที่พื้นจนเกิดกลุ่มควันโขม่งแทบมองอะไรไม่เห็น กินเวลาอยู่ช่วงหนึ่งกว่ากลุ่มควันจะสลายหายไป ถึงตอนนี้ชายปริศนาก็หายไปพร้อมกับกลุ่มควันเสียแล้ว

“ชายคนนี้เป็นใครกันนะ? ช่างเถอะ อย่างน้อยก็ได้เบาะแสเพิ่มเติม ตอนนี้ไปช่วยแม่ทัพซู่เหวินก่อนดีกว่า” เอ้าเทียนพูดพร้อมกับหมุนตัวสลายร่างหายไปในอากาศ

ยามค่ำคืน ณ คุกใต้ดินที่ซู่เหวินถูกคุมขังอยู่หลังจากโดนรุมลงแขกจากบรรดาราชบุตรแคว้นต่างๆ บัดนี้แม่ทัพนอนขดตัวเปลือยเปล่า ร่างกายบอบช้ำพอๆ กับจิตใจที่หดหู่อย่างที่ถึงที่สุด

กลุ่มควันสีเงินปรากฏขึ้นภายในคุกที่เงียบสงบ เพราะมีผ้ายันต์วิเศษที่เคยให้แม่ทัพซู่ไว้ทำให้เอ้าเทียนสามารถหายตัวเข้ามาได้อย่างง่ายดาย เสมือนว่าผ้ายันต์เป็นประตูมิติที่เปิดให้เอ้าเทียนเข้าออกได้ตามใจชอบ

“เรามาช่วยท่านแล้วแม่ทัพซู่ ทำใจดีๆ ไว้นะ” เอ้าเทียนนั่งข้างกายแม่ทัพ เขย่าร่างซู่เหวินให้ตื่น

“จะ..เจ้ากลับมาแล้ว ช่วยข้าด้วย พาข้าออกไปจากชุมนรกนี้เสียที” แม่ทัพค่อยๆ ลืมตาขึ้น พูดเสียงแหบ ก่อนจะสลบไปด้วยความอ่อนเพลีย

เอ้าเทียนใช้พลังปราณแสงสีเงิน ตัดโซ่ตรวนที่มัดแม่ทัพเอาไว้ทั้งแขนและขาออกจนหมด ทำให้แม่ทัพเป็นอิสระอีกครั้ง เอ้าเทียนประคองร่างแม่ทัพที่ไม่ได้สติให้ค่อยๆ ลุกขึ้น

“ไปจากที่นี่กันเถอะ” เอ้าเทียนพูดคนเดียว

ก่อนจะสลายร่างหายไป เขาก็พลันเหลือบไปเห็นแสงจันทร์เต็มดวงผ่านช่องลมสี่เหลี่ยมของกำแพงคุก คืนนี้พระจันทร์เต็มดวง ส่องแสงเหลืองทอง สว่างสดใส กระทบเข้าดวงตาดำสวยของเอ้าเทียน

“โธ่เอ๊ย มาเต็มดวงเอาอะไรตอนนี้!!!” เอ้าเทียนสบง

ไม่มีใครรู้มาก่อนว่าในวัยเด็กของเอ้าเทียนนั้น เขายอมสละร่างเทพจิ้งจอกเงินของตัวเองเพื่อใช้ที่เป็นปิดผนึกพลังเทวาด้านมืดเอาไว้ ร่างของเขาจึงเป็นเสมือนที่อยู่ของพลังร้าย หนทางเดียวที่จะปลดปล่อยพลังมืดนี้ออกไปคือต้องหาร่างใหม่ที่ใกล้เคียงกับเอ้าเทียนมากที่สุด เพื่อถ่ายทอดพลังเทวาออกจากตัวเอ้าเทียน ซึ่งในปฐพีนี้คงหาคนที่เหมือนเอ้าเทียนไม่ได้อีกแล้ว

พลังเทพจิ้งจอกเงินรวมกับพลังเทวาที่ถูกกดไว้ทำให้เอ้าเทียนกลายเป็นบุรุษที่ทรงเสน่ห์ที่สุดในใต้หล้า เอ้าเทียนสามารถใช้ชีวิตที่มีสองพลังในร่างเดียวได้อย่างสมดุล แต่กระนั้นพลังเทวามืดนี้ก็จะถูกปลดปล่อยออกมาในทุกคืนที่พระจันทร์เต็มดวง

หากพลังเทวาถูกปลดปล่อยออกมาแล้ว เอ้าเทียนจะจำเหตุการณ์ในช่วงนั้นไม่ได้เลย เขาจะกลายเป็นอีกคนที่แตกต่างจากปกติ ทั้งการพูด การคิด และการกระทำ

เมื่อแสงจันทร์วันเพ็ญในคืนนี้ตกกระทบเข้ากับร่างของเอ้าเทียน กายเทพสีเงินก็เริ่มเปลี่ยนเป็นสีทองอร่ามกลืนไปกับแสงจันทรา เส้นผมสีเงินค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีดำขลับไล่ตั้งแต่โคนผมไปจนถึงปลายผม ชุดไหมสีเงินก็พลันเปลี่ยนเป็นสีทอง ขลิบขอบดำสนิท ทำให้ดูสง่าองค์อาจแฝงความลึกลับ ราวกับราชสีห์หนุ่ม

“เฮ้ออ คราวนี้จะเกิดเรื่องวุ่นๆ อะไรอีกนะ” เอ้าเทียนที่ยังพอเหลือสติอยู่ รีบใช้โซ่ตรวนในคุกจองจำตัวเองไว้อย่างแน่นหนา หวังเพียงว่าร่างมืดจะไม่ออกไปสร้างความวุ่นวายใดๆ อีก

เมื่อจัดการขังตัวเองเสร็จ เขานั่งนิ่งไม่ไหวติง ได้แต่หลับตาหวังว่าเหตุการณ์จะไม่เลวร้ายไปมากกว่านี้ ทันใดนั้นสติของเขาก็ค่อยๆ เลือนหายไป ก่อนจะลืมตาขึ้นอีกครั้งเผยให้เห็นดวงตาสีน้ำเงินเข้มชวนหลงไหล ร่างใหม่แสยงยิ้มมุมปากอย่างน่ากลัว

“ได้ออกมาสูดอากาศสักที ฮ่าๆๆๆ” เอ้าเทียนร่างมืดหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง

รุ่งเช้า ทหารจำนวนหนึ่งรับคำสั่งให้มาพาตัวแม่ทัพและราชบุตรหมายเลขหนึ่งซึ่งก็คือเอ้าเทียนที่ถูกจับมาเพราะปากพล่อยไปกล่าวหาพระมเหสีว่าไม่ใช่ผู้หญิงแท้

ไม่มีใครรู้เลยว่าองค์ชายหนึ่งตอนนี้ไม่ใช่คนเดิมอีกแล้ว ภายใต้ร่างมนุษย์ที่หล่อเหลานี้คือร่างเทวาที่ออกมาเล่นสนุก

ทหารเข้าไขกุญแจคุกใต้ดินออก และตรงเข้าจับร่างแม่ทัพที่สลบไสลไม่ได้สติ พร้อมกับตรงเข้าไปปลดโซ่ตรวนที่มัดองค์ชายหมายเลขหนึ่งที่นั่งยิ้มอย่างสบายใจออก ทั้งสองถูกกุมตัวในลานกว้างกลางเมือง

ผู้คนนับร้อยมารอชมการประกาศผลการคัดเลือกราชบุตร ราชบุตรทั้งแปดคนยืนเรียงกันในสภาพผ้าเตี่ยวรัดเป้าผืนเดียว ทำให้เห็นหุ่นกล้ามของราชบุตรทั้งเก้าชัดเจน ควยของเหล่าราชบุตรยังอยู่ในสภาพอ่อนตัว

ขณะที่หลี่เฉินกำลังจะประกาศ เอ้าเทียนก็ถูกนำตัวมาหน้าเวทีพอดี เสียงฮือฮาจากประชาชนดังขึ้นทันทีที่เอ้าเทียนปรากฏ เล่นเอาคนทั้งงานรวมถึงราชบุตรทั้งแปดเองก็อึ้งไปตามๆ กัน

“เจ้าดูไอ้รูปหล่อเนี่นสิ ทำไมมันถึงได้หล่อ มีออร่าอย่างนั้นวะ” ชาวเมืองตะลึงงัน

“เธอๆ คนที่เราเห็นตอนเข้าเมืองไง ผู้ชายคนนี้ หล่อจริงๆ กรี๊ดดด” สาวกลุ่มใหญ่ส่งเสียงกริ๊ด

“ได้ยินว่าวันนี้จะประกาศผล แต่เจ้าลืมใครไปหรือเปล่า?” เอ้าเทียนร่างมืดพูดขึ้น

“ไม่ลืม แต่เจ้ามันปากสามหาว ข้าต้องคัดเจ้าออกจากผู้ประกวด” มเหสีชิงตอบ

“อย่างนี้ก็ไม่ยุติธรรมสิ ข้าเข้ารอบมาคนแรกด้วยซ้ำ ยังไม่ทันได้ร่วมประกวดกับเหล่าราชบุตรพวกนี้เลย” เอ้าเทียนร่างมืดแย้ง

“ปากดีนัก! รู้หรือไม่ว่าหลังจากที่ข้าจับเจ้าออกไป เหล่าราชบุตรนี้ประกวดแข่งขันอะไรกัน” มเหสีตอบ

“ข้าไม่รู้เรื่องการประกวดงี่เง่าอะไรของเจ้าหรอก” เอ้าเทียนร่างมืดพูดไปเพราะไม่รู้จริงๆ ว่าราชบุตรพวกนี้ผ่านการประกวดอะไรมา

“ได้สิ! ถ้าเจ้าชนะละก็นะ ข้าจะให้เจ้าเป็นผู้ชนะ แต่คงจะยากหน่อยละ เพราะราชบุตรพวกนี้มีแต่เด็ดๆ ทั้งนั้น” พระมเหสีตอบพร้อมกับหัวใจพองโต

จริงๆ หล่อนได้เล็งเอ้าเทียนไว้ตั้งแต่รอบแรกๆ แล้วด้วยซ้ำ เพราะความหล่อที่โดดเด่น และหุ่นที่ล้ำหน้าราชบุตรคนอื่น จึงไม่แปลกที่กระเทยสาวจะออกหน้าออกตา ยอมให้เอ้าเทียนกลับมาเล่นเกมกามอีกรอบ หัวใจก็สั่นระรัว ยามที่จะได้เห็นของดีที่เฝ้ารอ

“ไง ไอ้หน้าหล่อ เมื่อคืนที่ผ่านมาพวกข้า ทั้งมันส์ ทั้งสนุกกันมาก ข้าบอกเลยว่าของลับและลีลาแต่ละคน เจ้าเห็นแล้วจะหนาว หน้าอย่างเจ้าเนี่ยจะได้สักครึ่งนึงของพวกข้าไหมวะ ฮ่าๆ” ราชบุตรคนหนึ่งข่มทับ

เอ้าเทียนร่างมืดได้ยินดังนั้นก็พอจะเดาออกว่าคงเป็นทดสอบสมรรถภาพของเครื่องเพศแน่ แต่เรื่องนี้ไม่ได้ทำให้เทพอย่างเขาวิตกกังวลแม้แต่น้อย แม้ว่าจะอยู่ในร่างที่เป็นเพียงหนึ่งในสี่ของเทพก็ตาม แถมตอนนี้เขาซึ่งอยู่ในร่างมืดกลับรู้สึกตื่นเต้นด้วยซ้ำ ที่จะได้โชว์ของดีของตัวเองต่อหน้าคนมากมายขนาดนี้

“เอาละครับท่านผู้ชม ตอนนี้มีองค์ชายหมายเลขหนึ่งกลับมาท้าดวล แต่ถ้าหากเขาแพ้......... เขาจะยอมเป็นทาสของมเหสีไปตลอดกาล” เอ้าเทียน ตกใจที่หลี่เฉินพูดแบบนั้นออกไป

“ข้าไปพูดแบบนั้นตอนไหน เจ้านี้มันช่างเล่นสกปรกซะจริง” เอ้าเทียนพึมพำ

“เพื่อไม่ให้เสียเวลา เราทดสอบต่อหน้าประชาชนที่นี้เลยแล้วกัน ...การทดสอบแรก เนื่องจากตระกูลซู่มีขนาดของควยที่ใหญ่มากมาทุกรุ่น การจะคัดราชบุตรเขยจึงต้องวัดขนาดควยเพื่อคงพันธุ์กรรมเด่นนี้ไว้” หลี่เฉินเอย

“ก่อนอื่นข้าจะอ่านข้อมูลของแต่ละคนที่ประกวดไปแล้วให้เจ้าฟังก่อนแล้วก่อน องค์ชายหมายเลขสองมีควยยาวหกนิ้วครึ่ง รอบวงหกนิ้ว องค์ชายหมายเลขสามมี....” หลี่เฉินประกาศข้อมูลขององค์ชายแต่ละคนจนครบ

“เจ้าจะยอมถอนตัวซะตั้งแต่ตอนนี้ก็ได้นะ พวกข้าจะได้ไม่เสียเวลา ฮ่าๆ” ราชบุตรเยาะเย้ย

“เป็นไงเจอขนาดควยแปดนิ้วข้าเข้าไป ตะลึงเลยสิเจ้า” องค์ชายแปดโอ้อวด

อันที่จริงเอ้าเทียนก็ไม่เคยวัดขนาดของตัวเองมาก่อน ไม่รู้ว่าที่มีอยู่มันใหญ่ยาวกว่ามาตรฐานทั่วไปหรือไม่ เลยไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นอะไรเป็นพิเศษ เขาเองก็อยากรู้เช่นกันว่าขนาดของตนจะด้อยกว่าพวกมนุษย์ที่ได้ชื่อว่ามีควยยาวที่สุดหรือไม่

“เอาละมาวัดกันเลยดีกว่า” เอ้าเทียนร่างมืดบอก

เอ้าเทียนก้าวมายืนกลางเวทีพร้อมปลดเสื้อผ้าออกจนหมด เหลือเพียงผ้าเตี่ยวตัวเดียว บัดนี้แววตาของบรรดาผู้ชมเป็นประกายกว่าเดิม ที่ได้เห็นท่อนบนอันเปลือยเปล่าของเอ้าเทียน ทั้งกล้ามแขน กล้ามหน้าอกที่นูนเด่น ต่ำลงไปเป็นกล้ามหน้าท้องแปดลูกเรียงตัวอย่างสวยงาม

จุดรวมสายตาที่ทำให้คนทั้งงานทึ่งก็คือผ้าเตี่ยว ที่ห่อหุ้มควยของเอ้าเทียนเอาไว้ มันนูนเต่งจนเหมือนเอาอะไรไปยัดไว้

“แหม! ควยโด่รอเชียวนะไอ้เงี่ยน” องค์ชายสี่แซวเอ้าเทียน

“ใครบอกเจ้าว่าของข้าแข็งตัวแล้ว?” เอ้าเทียนตอบหน้าเฉย

“หยุดโม้สะทีไอ้หน้าหล่อ” ราชบุตรได้ยินถึงกับอึ้ง เป้าตุงแทบปริ้นแบบนั้น ควยจะยังหดอยู่ได้อย่างไร

“ข้าไม่ได้โม้ ถ้าพวกเจ้าอยากเห็นมันแข็งตัว ก็มาทำให้ข้ามีอารมณ์สิ ฮ่าๆๆๆ” ราชสีห์ร่างมืดตอบ

พวกราชบุตรแม้ว่าใจจะหมั่นไส้เอ้าเทียนมาก แต่พอเห็นเอ้าเทียนในสภาพแบบนี้ก็เล่นเอาราชบุตรทั้งหลายเงี่ยนได้เหมือนกัน หลังจากที่ได้เย็ดแม่ทัพใหญ่ เหล่าราชบุตรก็เริ่มติดใจในการสมสู่กับเพศเดียวกัน จนลืมไปเสียสนิทว่าพวกเขามาที่นี่เพื่อสมัครเป็นสวามีของบุตรสาวแม่ทัพ ตอนนี้องค์ชายบางคนเริ่มเข้าไปสำรวจกล้ามแขนกล้ามท้องของเอ้าเทียน

บรรดาชาวเมืองเองก็เหมือนปรับตัวกับเรื่องแบบนี้ได้แล้ว หลังจากที่ได้เห็นแม่ทัพใหญ่สำเร็จความใคร่ด้วยตัวเองด้วยวิธีพิศดารต่างๆ นานา เหล่าประชาชนไม่ได้แสดงความไม่พอใจใดๆ ออกมา ตรงกันข้ามกลับแสดงความสนอกสนใจอย่างออกนอกหน้าด้วยซ้ำ ที่โชคดีได้เห็นของลับจากบรรดาเชื้อสายกษัตริย์

“หุ่นแม่งดีจริงๆ ข้ายอมรับ” องค์ชายคนนึงเดินเข้ามาเขี่ยหัวนมเอ้าเทียน ทำให้เอ้าเทียนเริ่มเงี่ยนขึ้นมาแล้ว พลังงานในตัวเทพเริ่มไหลจากร่างกายเข้าสู่ท่อนควยที่ยังสงบ จนค่อยๆ ขยายขนาดขึ้น ผ้าเตี่ยวตอนนี้เริ่มดูบวมขึ้น เต่งขึ้นเรื่อยๆ ใหญ่ขึ้นๆ จนแทบระเบิดออกมา

“ไม่น่าเชื่อ ตอนนี้เป้าองค์ชายหนึ่งในผ้าเตี่ยวใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ตุงขึ้น เต่งขึ้น ไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ท่าทางขนาดของเขาจะไม่ธรรมดาจริงๆ ซะแล้ว” โฆษกประกาศ

องค์ชายอีกคนเห็นเอ้าเทียนแล้วเงี่ยนจนทนไม่ไหวอ้อมไปอีกข้างเพื่อดูดนมเอ้าเทียน ทำให้ตอนนี้เอ้าเทียนนั้นโดนรุมจากบรรดาราชบุตรอย่างเมามัน ทันทีที่ปากขององค์ชายอีกคนสัมผัสกับหัวนมเอ้าเทียน ความเงี่ยนก็พุ่งทะยาน พลังงานแห่งเทพไหลเข้าไปในท่อนควยเอ้าเทียนอย่างรวดเร็ว

เอ้าเทียนเสียวจนหลับตาครางซิ๊ด ควยเทพที่ใหญ่ขึ้นไม่หยุดทำให้ผ้าเตี่ยวรัดตึงแน่นเปรี้ยะ จนในที่สุด! เมื่อเอ้าเทียนเกิดความเงี่ยนขึ้นแล้ว อะไรก็มาฉุดไม่อยู่ เอ้าเทียนรู้ดีว่าจะเกิดอะไรขึ้น จึงลืมตามองไปข้างหน้าผู้ชม และบรรดาราชบุตรที่กำลังจ้องตาเป็นมัน

และแล้วเอ้าเทียนก็กระดกควย พรืดดดดดดดดด!! ปมของผ้าเตี่ยวไม่อาจทนกับขนาดความใหญ่ของลำควยเอ้าเทียนได้อีกต่อไป มันแน่นจนร่นลงมาแล้วคลายออกจากกัน เนื่องจากเอ้าเทียนเก็บควยโดยพาดไว้ข้างบน พอผ้าเตี่ยวหลุด ควยขนาดมหึมาก็เด้งออกมาทันที

และทั้งสนามประลองก็แทนที่ด้วยความเงียบสนิทเหมือนเวลาหยุดเดิน เอ้าเทียนยิ้มมุมปาก รอฟังสิ่งที่จะเกิดขึ้น ลานประลองฮือฮายิ่งกว่าเสียงนกกระจิบนกกระจอกอีกครั้งเมื่อทุกคนคืนสติ หลังจากเห็นขนาดควยของเอ้าเทียน

“เกินไปแล้วววว? นั่นควยจริงๆ หรือ? ช่างใหญ่ยาวอะไรได้ถึงเพียงนี้ ข้าว่าราชบุตรที่ทดสอบไปก่อนหน้านี้ก็ใหญ่แล้วนะ ราชบุตรคนนี้ใหญ่กว่าอีก” ทหารกลุ่มหนึ่งพูดขึ้น

ทั้งชายทั้งหญิงวิจารณ์กันขรม พอควยเป็นอิสระมันก็พองเต็มเหยียด และสิ่งที่ตามมาก็คือน้ำเงี่ยน แน่นอนน้ำเงี่ยนระดับเทพมีปริมาณไม่ธรรมดา มันไหลเป็นสาย จากปลายหัวควยใหญ่ของเอ้าเทียนลงสู้พื้นลานประลองอย่างมากมาย

“โหหหห ดูน้ำเงี่ยนของมันสิ ช่างมากมายอะไรอย่างนี้” บรรดาราชบุตรเห็นแล้วก็อึ้งไปตามๆ กัน

“เอาละ ข้าพร้อมแล้ว มาวัดกันเลยไหม?” เอ้าเทียนพูดพรางยืนแอ่นเอวให้เหล่าราชบุตร

หลี่เฉินสั่งให้ทหารเอาสายวัดมาวัด นายทหารนั่งลงข้างๆ ควยเอ้าเทียน ตาก็มองดูควยที่สำรอกน้ำเงี่ยนไหลออกมาไม่หยุดเป็นทางยาวอย่างกล้าๆ กลัวๆ

“เอาละเริ่มวัดได้ เริ่มจากเส้นรอบวง สถิติความอวบตอนนี้เป็นขององค์ชายเจ็ดซึ่งมีความอวบคือเจ็ดนิ้วครึ่ง” หลี่เฉินเร่งทหารที่นั่งอึ้งตรงหน้าเอ้าเทียน

ขณะนี้ทหารกำลังนำสายวัดทาบจากด้านข้างลำควยเวียนมาจนครบรอบ ทหารอ่านเลขบนสายวัดเสียงสั่น

“เจ็ดนิ้วกับอีกแปดหุนขอรับ”

“อะไรนะ ข้าไม่ได้ยิน” หลี่เฉินตวาด จริงๆ แล้วเขาได้ยินชัด เพียงแต่ไม่เชื่อหูตนเอง

“เจ็ดนิ้วกับอีกเจ็ดหุนครับ” ทหารตอบเสียงดังก้องทั่วลาน

ผู้ที่ได้ยินแทบจะไม่เชื่อหูตัวเอง ความอวบขนาดนี้มันเทียบเท่าบ้องไม้ไผ่ลำโตๆ เลยด้วยซ้ำ ก่อนจะวัดความยาวในขั้นถัดมา เอ้าเทียนหันไปถามบรรดาราชบุตรว่าใครคือคนที่มีควยยาวที่สุดในตอนนี้

“ขะ...ข้าเอง ขะ..ข้ามีควยยาวแปดนั้ว”องค์ชายแปดตอบด้วยน้ำเสียงสั่นเทา

“ข้าอยากให้เจ้าเป็นคนมาวัดความยาวควยข้า พวกเจ้าหลบไปก่อน” เอ้าเทียนพูดพร้อมยื่นสายวัดจากทหารให้กับองค์ชายแปด

ควยเอ้าเทียนแข็งไม่ยอมหด องค์ชายแปดทาบสายวัดตั้งแต่โคนควยของเอ้าเทียน เลขหนึ่งเลขสองผ่านไป จนถึงเลขเจ็ดองค์ชายที่แปดถึงกับตาโต เพราะสายวัดยังทาบอยู่บน “ลำ”ควยของเอ้าเทียนเท่านั้น ผ่านไปถึงเจ็ดนิ้วแล้วยังไม่ถึงหัวควยเอ้าเทียนเลย

พอถึงเลขแปดก็มาถึงตรงคอหยัก ราชบุตรคนที่แปดทาบสายวัดยาวไปสุดหัวควยที่เลขเก้าครึ่งพอดี หมายความว่าหัวควยของเอ้าเทียนนั้นใหญ่จริงๆ ตอนนี้องค์ชายแปดหน้าถอดสีอย่างเห็นได้ชัด

“ไหนบอกซิว่าควยข้ายาวกี่นิ้ว” เอ้าเทียนพูดกับองค์ชายแปดผู้เคยหยิ่งทะนงในความยาวของควย

“กะ... เก้านิ้วครึ่ง” องค์ชายแปดระล่ำระลัก

“ดังๆ สิวะะะะะะ แล้วบอกด้วยบนเวทีนี้ใครที่ควยใหญ่ยาวที่สุด” เอ้าเทียนร่างมืดตวาด

“ราชบุตรที่ควยใหญ่และยาวที่สุดก็คือราชบุตรหมายเลขหนึ่ง ด้วยความยาวเก้านิ้วครึ่ง รอบวงเจ็ดจุดแปดนิ้ว!!!” ราชบุตรคนที่แปดพูดเสียงดังอย่างอับอาย

ประชาชนหันไปซุบซิบกัน เสียงฮือฮาดังลั่นลานประกวด บัดนี้ราชบุตรทุกคนเจอเสน่ห์ของเอ้าเทียนก็กลับมาตกอยู่ในพะวังอีกครั้ง ยืนควยแข็งไปตามๆ กัน

“เอาหล่ะสำหรับการประกวดที่สองคือลีลาร่วมรัก ทำให้คู่นอนได้เสียวจนถึงใจ ก่อนหน้านี้ราชบุตรที่สี่ได้ทำลีลาไว้ได้เด็ดที่สุด เจ้าจะสู้ได้หรือไม่?” หลี่เฉินออกปาก

“ข้าไม่รู้นะว่าลีลาของเจ้านั้นเด็ดแค่ไหน แต่ถ้าเจ้าเป็นเมียข้า เจ้าจะโดนแบบนี้” ว่าแล้วเอ้าเทียนก็กระชากราชบุตรที่สี่มาดูดปากอย่างเมามันและหนักหน่วง

ราชบุตรสี่ถึงกับเคลิ้ม เสียงเอ้าเทียนบดปากกับองค์ชายสี่นั้นดังจ๊วบจ๊าบไม่หยุด จนองค์ชายสี่ต้องขอหยุดพัก หอบหน้าแดง เมื่อปากแยกออกจากกัน เอ้าเทียนก็โชว์ลีลาเล้าโลมต่อทันที ตอนนี้เอ้าเทียนหันหน้าสู่ประชาชนเบื้องล่าง ราชบุตรหมายเลขสี่ประกบอยู่ด้านหน้า

เอ้าเทียนสอดมือสองข้างเข้าไปที่หลังราชบุตรสี่ แล้วใช้ปากและลิ้นไซร้ต้นคออย่างหื่นกระหาย ตั้งแต่ใบหู จนมาถึงลำคอ ราชบุตรร้องคราง แล้วเอ้าเทียนก็งับที่หัวนม แล้วใช้พลังชิวหาที่กระหายของเทพ รัวลิ้นอย่างไม่ยั้ง

ราชบุตรเสียวจนต้องจิกเท้า เอ้าเทียนจับราชบุตรหันไปด้านหน้าเวทีทางเดียวกัน โดยเอ้าเทียนประกบด้านหลัง แล้วเอ้าเทียนก็จับขาหนุ่มตี๋หล่อแยกออกจากกัน สองมือแหวกแก้มก้นออก ทำให้เอ้าเทียนเห็นภาพรูทวารของราชบุตรอย่างชัดเจน ก่อนจะยิ้มมุมปาก แล้วเอ้าหน้าซุก พร้อมใช้ลิ้นมหากาฬเลียรัวอย่างไม่ยั้ง

“โอ้ยยยยย เสียวโว้ยยยยยยยย” ราชบุตรสี่ครางไม่เปนศัพท์ต่อหน้าประชาชน ชายหญิงเบื้องล่างแห่กันเข้ามาติดขอบเวทีเพื่อดูลีลาของเอ้าเทียนซึ่งทั้งเลีย ดูด ตวัดลิ้น ใช้ลิ้นดันเข้าไป ทั้งประชาชนและราชบุตรคนอื่นๆ เองก็ซูฮกในลีลาของเอ้าเทียนจนเริ่มใช้มือจับควยตัวเองเบาๆ

บัดนี้เอ้าเทียนคิดว่าถึงเวลาสมควรที่จะโชว์ของจริงแล้ว ปล่อยลิ้นจากทวารของราชบุตร แล้วยืนเอาน้ำเงี่ยนที่ไหลยืด มาลูบควยยาวๆ ตัวเอง และเอาไปทาตรงตูดของราชบุตรหมายเลขสี่

“นี่... เจ้าจะทำอะไร!?!?!?!” ราชบุตรหมายเลขสี่ถาม ตัวสั่นดิกๆ

ยังไม่ทันที่จะหนี เอ้าเทียนก็จับแขนสองข้างของราชบุตรไว้ทางด้านหลัง แล้วค่อยๆ แอ่นควยเข้าไปจ่อที่รูทวารขององค์ชายสี่ องค์ชายสี่เอี้ยวคอมาดูเห็นควยขนาดใหญ่กำลังจ่อรูตัวเองอยู่ก็หน้าซีดเป็นไก่ต้ม ดิ้นไม่หยุด แต่ด้วยกำลังแขนของเอ้าเทียนไม่มีทางปล่อยให้องค์ชายสี่หลุดไปได้

“ตอนนี้องค์ชายหมายเลขหนึ่งกำลังจะแสดงลีลาการเย็ดให้ทุกท่านได้ดูแล้ว โปรดจับตามองให้ดี” โฆษกของงานประกาศ

เอ้าเทียนยิ้มอย่างสะใจก่อนจะค่อยๆ กดหัวควยขนาดใหญ่เข้าไปที่รูทวารของราชบุตร แต่มันทำได้ยากเหลือเกิน เนื่องจากหัวควยนั้นมีขนาดใหญ่กว่ามาก เอ้าเทียนจึงแอบเกร็งควยกระดกให้น้ำหล่อลื่นตัวเองออกมาเพิ่มขึ้น มันได้ผลเพราะหัวควยเริ่มยัดเข้าไปได้ทีละน้อย

“อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกก.....!!!! อ้ากกกกกกกกก” องค์ชายสี่ตะโกนลั่นอย่างคนบ้า

เสียงร้องของราชบุตรไม่ได้ทำให้เอ้าเทียนสงสารแต่อย่างใด กับสะใจยิ้มมุมปากและแทงหัวควยสวนเข้าไปเรื่อยๆ เสียงร้องขององค์ชายสี่ดังลั่นลานประกวด จนซักพักหัวควยก็เข้าไปได้หมด ประชาชนยังอึ้งเพราะที่ยังเหลือคือความยาวของลำควยอีกกว่าเจ็ดนิ้ว

“พร้อมจะโดนเย็ดหรือยัง? เจ้าไก่อ่อน...” เอ้าเทียนกระซิบข้างหูราชบุตร

องค์ชายสี่น้ำตาไหลอาบแก้ม กำลังจะอ้าปากด่า เอ้าเทียนมองตาองค์ชายแล้วก็แทงลำควยเข้าไป พรวดดดดดด องค์ชายสี่กรีดร้องจนไม่มีเสียง หลับตาปี๋ เปนภาพที่เอ้าเทียนสะใจมาก แล้วก็ค่อยๆ ถอนควยออกแล้วเสียบเข้าไปใหม่ช้าๆ

ประชาชนมองที่ควยเอ้าเทียนก็สังเกตเห็นอะไรบางอย่างระหว่างที่เอ้าเทียนกำลังแทงควยเข้าตูด นั่นก็คือควยของเอ้าเทียนไม่สามารถแทงเข้าไปได้หมด แม้ว่าเอ้าเทียนจะดันควยจนสุดก็ยังเหลืออยู่อีกราวๆ สองนิ้ว

ตอนนี้ภาพบนเวทีเปรียบเหมือนหนังสดโรงใหญ่ ทุกคนที่มาชมตอนนี้มีอารมณ์ร่วมจนเริ่มช่วยตัวเองตามไปด้วย ราชบุตรอีกเจ็ดคนก็เช่นกัน จากจังหวะช้าๆ เอ้าเทียนเริ่มซอยเร็วขึ้นจนราชบุตรที่สี่ต้องครางด้วยความเสียว เอ้าเทียนซอยท่าหมาไปเกือบยี่สิบนาที

“อยากตื่นเต้นกว่านี้ไหม?...” เอ้าเทียนหยุดกระเด้าแล้วกระซิบข้างหูเมียใหม่

ราชบุตรอ้ำอึ้งเพราะไม่รู้ว่าหมายถึงอะไร จากท่ายืนซ้อนกันหันหน้าออกสู่เวที เอ้าเทียนใช้แขนกำยำของตัวเองสอดไปด้านหน้าและโอบต้นขาสองข้างของราชบุตรไว้ ด้วยไหวพริบในหัวราชบุตรก็นึกออกทันทีว่าตนเองกำลังโดนสิ่งเดียวกับที่เคยทำไว้กับซู่เหวิน

สายตาประชาชนจ้องมาที่เอ้าเทียนว่าจะทำอะไรกันแน่ และแล้วเอ้าเทียนก็ใช้แขนอันแข็งแกร่งประสานกันรวบต้นขาราชบุตร ยกราชบุตรขึ้นมาเป็นท่าลิงอุ้มแตง เล่นเอาราชบุตรที่เหลืออ้าปากค้าง ประชาชนทนกับภาพตรงหน้าไม่ไหวช่วยตัวเองกันอย่างไม่อายใคร

มันไม่ใช่ท่าลิงอุ้มแตงธรรมดา แต่เอ้าเทียนจงใจให้ราชบุตรสี่หันหน้าไปด้านเดียวกับตน เพื่อให้เกิดความอับอาย เอ้าเทียนเริ่มกระเด้าอีกครั้ง ภาพจากมุมด้านล่างเวทีนั้นดีที่สุด เพราะเห็นควยใหญ่ๆ ของเอ้าเทียนจมมิดเข้าไปในรูตูดของราชบุตรชัดเจน

“แม่งสุดยอดเลยว่ะ ท่านี้ถ้าไม่แข็งแรงจริงทำไม่ได้นะเนี่ย” คนดูฮือฮา

แล้วเอ้าเทียนก็ เอาควยเทพซอยตูดราชบุตรอย่างไม่ยั้ง เสียงแก้มก้นกระแทกกับโคนควยเอ้าเทียนดัง ป๊าบ ป๊าบ ลั่นไปทั่วบริเวณ ราชบุตรที่น่าสงสารทำหน้าเหยเก ปากก็โดนดูดอย่างหนัก ร่างก็ขยับหนีไม่ได้ บั้นท้ายก็โดนรัวกระเด้า นี้คือสิ่งที่เขาเคยทำไว้กับแม่ทัพซู่ทั้งนั้น

“โอ้ววว...เมียของข้า..โอ้ว.. เย็ดมันส์อะไรอย่างนี้ โอว..” เทพคราง

พร้อมกับเปลี่ยนท่าใหม่ เอ้าเทียนนอนลงกับเวที ขณะควยยาวยังคาอยู่ในตูดของราชบุตรขาวตี๋ ทำให้บัดนี้ ภาพที่ทุกคนเห็นตอนนี้คือราชบุตรนั่งหันหน้าไปทางเอ้าเทียน หันก้นออกไปทางประชาชน

เอ้าเทียนใช้สองมือแหกแก้มกันของราชบุตรสุดหล่อออก ทำให้ตอนนี้ทุกคนยืนนิ่งไปตามๆ กัน เพราะสิ่งที่ชายหญิงเห็นคือควยยาวจมเข้าไปในรูตูดสวยสีชมพูไร้เส้นขน ถึงตอนนี้เอ้าเทียนเริ่มซอยควยมุดเข้ามุดออกจากรูบาน เป็นภาพที่ชวนให้เงี่ยนได้ไม่น้อย

ราชบุตรดวงซวยได้แต่นั่งให้เอ้าเทียนยกสะโพกขึ้นมาอัดตูดตนเอง เดชะบุญที่รูตูดเริ่มปรับสภาพได้บ้างแล้ว จึงคลายความเจ็บปวดลงไปมาก และเริ่มถูกแทนที่ด้วยความเสียวซ่าน

“อ่าส์...ซิ๊ดดดด.....” ราชบุตรกัดฟันหน้าร้องครางออกมาตามไรฟัน หลังจากโดนเย็ดท่านี้เกือบสิบกว่านาที

สองร่างบุรุษโชกไปด้วยเม็ดเหงื่อเคลือบผิวกาย แต่กระนั้นเอ้าเทียนก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะหยุดยั้ง กลับผลักร่างตี๋ลงนอนหงายลงบนพื้น ขณะที่เขาลุกขึ้นนั่งคุกเข่าหันหน้าออกไปทางประชาชน ดันตัวราชบุตรจนศีรษะเลยออกไปจากขอบเวที ทำให้ราชบุตรต้องปล่อยหัวลงไปมองประชาชน

และแล้วเอ้าเทียนก็เย็ดเมียใหม่อีกครั้ง ท่านี้แม้ประชาชนจะมองไม่เห็นตูดของราชบุตร แต่ก็เห็นหน้าราชบุตรเต็มๆ แม้จะหลับตาอยู่แต่ก็ดูออกว่าผู้ทุกกระทำนั้นเสียวมากแค่ไหน

ช่วงล่างของเอ้าเทียนโยกไม่ยั้ง เข้าออกตูดราชบุตรอย่างช่ำชอง อีกฝ่ายได้แต่นอนควยแข็ง ใบหน้าเหยเกด้วยความเสียวระดับทะลุฟ้า ส่งเสียงร้องระงม

“ข้าขอหลั่งในกายเจ้านะ” เอ้าเทียนก้มไปกระซิบข้างหูหนุ่มตี๋

“ยะ...อย่าๆๆๆๆ อย่าทำเช่นนั้นนะ ข้าขอร้องละ ...อ่าส์” ราชบุตรในสภาพกึ่งมีสติ ร้องอ้อนวอน

ไม่ทันเสียแล้ว ในที่สุดเอ้าเทียนร่างมืดก็ถึงคราวยุติบทสามีใหม่ของราชบุตร เอ้าเทียนซอยควยอยู่สักพักหนึ่ง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นฟ้า กระแทกอัดควยใส่ตูดดังป๊าบๆๆ

และทะลักน้ำรักพ่นเข้าใส่ร่างราชบุตรชุดใหญ่ จนราชบุตรเองยังรู้สึกได้ถึงความร้อนของน้ำเอ้าเทียนที่พุ่งอัดใส่กระเพาะของเขา เอ้าเทียนกระดกพวยพ่นปริมาณน้ำคาวออกมาไม่หยุด จนท้องราชบุตรมีเต็มน้ำกามของเอ้าเทียน

เมื่อควยเทพยังคงหลั่งไหลน้ำออกมาเรื่อยๆ แต่ช่องที่รองรับมีพื้นที่จำกัด จึงไม่อาจทนรับน้ำเงี่ยนได้อีกต่อไป สุดท้ายจึงเกิดแรงดันจากน้ำเงี่ยนที่เอ่อล้น ผลักให้ควยเอ้าเทียนต้องหลุดออกมาจากตูดของราชบุตร พร้อมกับน้ำเงี่ยนที่ไหลทะลักย้อนกลับออกมาเจิ่งนอง

ที่น่าตกใจกว่านั้น แม้ควยเอ้าเทียนจะหลั่งน้ำใส่ก้นเมียหนุ่มไปมากแล้ว แต่เมื่อควยเอ้าเทียนหลุดออกมาจากร่างหนุ่มตี๋ น้ำชายกลับยังคงกระฉูดออกมาไม่หยุด พุ่งแรงเลยไปถึงหัวและหน้าของราชบุตร ชะโลมทั้งตาจมูกปาก เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ราชบุตรหลั่งน้ำเงี่ยนออกมาเองโดยไม่ต้องชัก

น้ำเงี่ยนของราชบุครพุ่งขึ้นฟ้าราวกับน้ำพุและตกลงมาเป็นเม็ดเหมือนห่าฝน กระทบร่างหนุ่มของเขาเสียงดังแปะๆๆๆ อยู่นานจนเริ่มแผ่วลง ใกล้เคียงกับของเอ้าเทียนที่แม้จะแตกไปก่อนแล้ว แต่ยังคงไว้ซึ่งปริมาณและความแรงเทียบเท่ากับมนุษย์ที่พึ่งแตกได้ไม่นาน บัดนี้น้ำควยทั้งสองหยุดหลั่งแล้ว มีเพียงหยาดน้ำชายที่ไหลยืดย้อยเป็นสายออกจากปากควย

หยาดน้ำแห่งความสุขหลั่งชะโลมร่างที่น่าสงสารของราชบุตรหมายเลขสี่จนชุ่มฉ่ำ เนื้อตัวมันวาว นอนแช่น้ำเงี่ยนกองโต หน้าแทบไม่เหลือพื้นที่ว่างเพราะเต็มไปด้วยของเหลวสีขาว ก้นก็ปล่อยน้ำกามไหลออกมาเต็มพื้นเวที

เอ้าเทียนแสดงสีหน้ามีความสุขอย่างที่สุด เมื่อได้ปลดปล่อยความกำหนัดที่สะสมไว้ สติของเอ้าเทียนเริ่มกลับคืนมาอีกครั้ง พร้อมกับพลังมืดที่เริ่มสลายหายไป เอ้าเทียนเริ่มคว้าเสื้อผ้ามาปกปิดร่างของตนอย่างรวดเร็ว

“โธ่เอ๊ยยยยย! นี่เราทำอะไรลงไปเนี่ยยยย” จิ้งจอกเงินหัวเสีย

ท่ามกลางความตกตะลึงของผู้คนหลังจากได้ชมการมีเพศสัมพันธ์สุดเร้าร้อนของเชื้อสายกษัตริย์ ผู้ที่ได้ได้สติคืนกลับมาก่อนใครคือเอ้าเทียน หลังจากที่เขาคว้าเสื้อผ้าอาภรณ์มาปกปิดร่างกายเสร็จสรรพ เขาก็เริ่มมองหาตัวแม่ทัพซู่เหวิ่นทันที

เป้าหมายของเขาถูกเหล่าทหารหลายคนคุมตัวไว้ใกล้ๆ กับเวทีแสดง เมื่อจิ้งจอกเงินเห็นเช่นนั้น จึงรีบปรี่เข้าไปหาแม่ทัพซู่เหวิ่นหวังจะชิงตัวแม่ทัพออกมา ร่างจำแลงเป็นมนุษย์ถลาเข้าไปยังเหล่าทหารที่ยืนคุมตัวแม่ทัพไว้

เมื่อเหล่าทหารเห็นราชบุตรหมายเลขหนึ่งพุ่งตัวเข้ามาด้วยท่าไม่ดี จึงรีบยกอาวุธขึ้นเตรียมป้องกัน แต่ไม่ทันทีจะทำอะไร องค์ชายหนึ่งก็เข้าถึงตัวทหารคนแรกแล้ว ตามด้วยการปล่อยหมัดหนักตรงเข้าท้องน้อยของทหารจนล้มลงไปกุมท้องด้วยความเจ็บปวด ทหารคนที่สองยังไม่ทันหายตกใจ ก็ถูกเอ้าเทียนซัดลงไปนอนกับพื้น

ทหารที่เหลือรีบชักกระบี่ออกจากฝัก ฟาดฟันคมมีดหมายหยุดยั้งองค์ชายหนึ่ง แต่กระบี่กลับทำได้เพียงแหวกผ่านอากาศไปเฉยๆ เพราะเอ้าเทียนหลบคมกระบี่นับสิบได้อย่างคล่องแคล่วว่องไวจนมองตามแทบไม่ทัน ก่อนใช้สันมือฟาดต้นคอทหารที่เหลือจนหมดสติ ล้มระเนระนาด ในที่สุดเอ้าเทียนก็เข้าไปประคองตัวแม่ทัพได้สำเร็จพร้อมๆ กับเสียงของหลี่เฉิน

“ยิงงงงงงง!!!!!!!” หลี่เฉินแผดเสียงสั่งพลธนูที่วิ่งเข้ามาสมทบ

ลูกศรปลายแหลมแหวกผ่านอากาศมานับไม่ถ้วน มุ่งตรงเข้าหาร่างเอ้าเทียนและแม่ทัพซู่ จิ้งจอกเงินประเมินแล้วว่าจำนวนและความเร็วของลูกศรระดับนี้ ไม่สามารถหลบได้ทันแน่ๆ ในระหว่างที่สมองกำลังคิดอยู่นั้น ลูกศรคมกริบก็พุ่งเข้าเกือบถึงตัวทั้งสองคน เอ้าเทียนจึงรีบสบัดผ้าคลุมขึ้นกางอากาศ ทำให้ห่าลูกศรทั้งหมดพุ่งย้อนกลับไปหาต้นทางที่ยิงมา

ทหารทั้งหลายรีบหลบกันจ้าระหวั่น โชคดีที่พลิกตัวหลบทันเสียก่อน ทำให้ศรคมเฉียดไหล่ทหารหลายนาย แม้จะไม่ถึงแก่ชีวิต แต่ก็ทำให้ขวัญเสียไม่น้อย

เมื่อความวุ่นวายที่เกิดขึ้นจบลง ทุกคนตกอยู่ในสภาวะแน่นิ่ง เมื่อเห็นศรตรงเข้าปักกลางอกของพระมเหสีผู้โชคร้าย ด้วยนางไม่ทันระวังตัว จึงไม่สามารถหลบคมศรที่พุ่งมาได้ทัน เลือดแดงไหลค่อยๆ ซึมออกมาจากอกกระเทยสาว

หลี่เฉินรีบตรงเข้าไปนั่งประคองร่างพระมเหสีที่ทิ้งตัวลงกับพื้น ใบหน้าซีดเผือก เขามือไม้สั่นตกใจจนไม่กล้าทำอะไร ได้แต่เขย่าตัวพระมเหสีที่ค่อยๆ ไร้สติลงเรื่อยๆ เปลือกตางามทั้งสองค่อยๆ หลี่ลงจนเกือบปิดสนิท

“ขะ...ขะ...ข้า ไม่..ไหวแล้ววว” พระมเหสีกระอักเลือดออกจากปาก

ในห้วงเวลานี้ นางคิดย้อนกลับไปถึงสิ่งที่เคยทำเอาไว้ ทั้งหลอกลวงแม่ทัพให้หลงรัก แล้วก็ถูกนางหักหลัง นางนึกถึงภาพของแม่ทัพซู่เหวิ่นที่ดีกับนางทุกอย่าง แต่นางกลับจับซู่เหวิ่นไปทรมานอย่างหนักเกินกว่ามนุษย์คนหนึ่งจะรับได้ แต่น่าเสียดายที่นางรู้สึกผิดในวินาทีสุดท้ายของชีวิต

“ข้าขอโทษนะซู่เหวิ่น” มเหสีมองไปทางแม่ทัพซู่เหวิ่น หยาดน้ำตาไหลริน ก่อนหมดลมหายใจลงอย่างสงบ ร่างไร้วิญญาณแน่นิ่ง มือทั้งสองทิ้งตัวลงกับพื้น

“ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!” หลี่เฉินตะโกนลั่น

ท่ามกลางความตกใจของทุกคนในบริเวณนั้น เอ้าเทียนกับแม่ทัพซู่ก็หายตัวไปเสียแล้ว

หลังจากเหตุการณ์น่าสลดที่เกิดขึ้น เหล่าราชบุตรทั้งหลายได้ทยอยกลับเมืองของตนเองพร้อมประสบการณ์แปลกใหม่ที่ได้ลองร่วมรักกับเพศเดียวกัน และหนึ่งในนั้นคือหงเวย-ราชบุตรหมายเลขสี่ตี๋หล่อที่ได้ทะลวงก้นแม่ทัพ ก่อนถูกเอ้าเทียนขมขืนทางประตูหลัง

หงเวยเดินทางกลับถึงเมืองของตนด้วยจิตใจขุ่นมัว ทันทีที่ถึงบ้านเกิด เขารีบตรงเข้าไปหาหงฟู่ผู้เป็นบิดาทันที ตอนนี้เขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น สองมือกำหมัดแน่น ฟันขบกันดังกรอดๆ

“อ้าว เป็นยังไงบ้างลูกรัก? กลับมาแล้วรึ?” ชายอ้วนทักทายลูกชายหัวแก้วหัวแหวน

“ขะ..ข้าเกลียดๆๆๆๆ เกลียดทุกอย่างที่เกี่ยวกับแคว้นต้าเหลียน” หงเวยปัดชุดถ้วยน้ำชาราคาแพงลนโต๊ะตกแตกกระจายเต็มพื้น

“ลูกรักของพ่อ ใครทำอันใดเจ้า บอกพ่อมาเดี๋ยวนี้” หงฟู่ร้อนรนแทนลูกชาย

“ขะ...ข้าถูก....” หงเวยไม่กล้าเล่าให้ผู้เป็นพ่อฟัง

“เจ้าถูกอะไร บอกพ่อมา ใครทำอะไรเจ้า พ่อจะฆ่ามันเอง” หงฟู่ซัก

“เพราะไอ้แม่ทัพซู่คนเดียว มันทำให้ข้าเสื่อมเสียเกียรติของลูกผู้ชาย” หงเวยโยนความผิดให้ซู่เหวินคนเดียว เพราะแม่ทัพซู่ทำให้เขาต้องถูกชายแปลกหน้ารูปงามเปิดบริสุทธิ์บั้นท้าย

“ไอ้ซู่เหวินหรอ?? หึหึ มันทำให้ลูกของพ่อต้องเจ็บปวดใช่ไหม? ดี!! เจ้าตามพ่อมาทางนี้ พ่อมีอะไรให้เจ้าดู รับรองเจ้าต้องถูกใจแน่ๆ” หงฟู่ยิ้มอย่างมีเลศนัย

ก่อนที่หงฟู่จะพาหงเวยที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้นตรงไปยังห้องคุมขังซู่เรินสุดหล่อ ลูกชายคนเดียวของแม่ทัพซู่เหวิน ที่บัดนี้กลายเป็นนักแสดงทำให้เงินเฒ่าแก่เจ้าเล่ห์ได้มากมาย

ชายแก่พาลูกรักไปที่ห้องคุมขังซู่เริน ลูกชายสุดที่รักของแม่ทัพซู่เหวิน ที่บัดนี้นอนสลบอยู่ในสภาพที่แทบจำไม่ได้ หากไม่รู้จักกันมาก่อนคงยากที่จะเชื่อว่าชายหนุ่มตรงหน้าจะเคยเป็นคนหล่อเหลาและเป็นที่หมายปองของหญิงสาวมากมาย

“นี่มัน…ซะ..ซะ...ซู่เริ่น! ใช่ไหมท่านพ่อ?” หงเวยถามอย่างไม่เชื่อสายตา

“ใช่แล้ว ซู่เริ่นคนเดียวกับที่เคยเป็นเพื่อนเจ้าตั้งแต่สมัยวัยเยาว์ คนเดียวกับที่เป็นลูกชายของไอ้คนที่ทำให้ลูกโกรธแค้นอยู่ตอนนี้ไง” หงฟู่ยิ้มอย่างมีความสุข

“แล้วทำไม? ทำไมมันถึงตกอยู่ในสภาพแบบนี้ได้ล่ะท่านพ่อ?” หงเวยถามด้วยความอยากรู้

“เจ้าอย่าได้สนใจไปเลย รู้เพียงว่าตอนนี้มันเป็นทาสของเราแล้ว เราจะทำอะไรกับมันก็ได้ คืนนี้พ่อจะเปิดโชว์พิเศษของมัน ลูกไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง ฮ่าๆๆๆ” สองพ่อลูกหัวเราะร่า

“ท่านๆ ไม่ต้องกลัวนะ เราช่วยท่านออกมาสำเร็จแล้ว” เอ้าเทียนพยายามป้อนน้ำจากกระบอกไม้ให้แม่ทัพซู่ที่เริ่มฟื้นตัวขึ้นหลังจากสลบไปนาน

“พวกเราอยู่ที่ไหน?” แม่ทัพพยายามส่งเสียงถาม

“เราพาท่านมาซ่อนตัวอยู่ในป่านอกเมือง อยู่ที่นี่ปลอดภัยแน่นอน ไม่ต้องกังวล” จิ้งจอกหนุ่มตอบ

ซู่เหวินค่อยๆ ตั้งสติ เขาปวดระบมไปทั่วร่างกาย เหตุการณ์ที่ผ่านมาค่อยๆ หลั่งไหลเข้ามาในสมอง เขารู้ดีว่าไม่ได้ฝันไป บัดนี้เขาแทบจะไร้สิ้นซึ่งเกียรติยศแห่งลูกผู้ชาย ไม่มีแม้แต่ที่ซุกหัวนอน ไม่มีทหารรับใช้สักคน คิดได้ดังนี้ความเจ็บปวดก็แผ่ซ่านไปทั่วหัวใจของซู่เหวิน

“ท่านฟื้นก็ดีแล้ว เดี๋ยวเราจะออกไปหาอะไรให้ท่านกิน แล้วจะรีบกลับมา ท่านซ่อนตัวอยู่ที่นี่สักครู๋เดียว” เอ้าเทียนพูดแทรกทำลายความเจ็บปวดของแม่ทัพ

หลังจากแม่ทัพรับคำ เอ้าเทียนก็วิ่งโฉบเฉี่ยวพุ่งจากต้นไม้หนึ่งไปยังอีกต้นหนึ่งด้วยความว่องไว หายลับเข้าป่าไปในพริบตา

“ซู่เริ่น ตอนนี้เจ้าอยู่ที่ไหนกัน?” แม่ทัพพึมพาขณะนั่งอิงหลังพิงต้นไม้ใหญ่

“เห้ยยย!! พวกเรา คืนนี้มีโชว์พิเศษที่เมืองจางโจว คนแสดงเป็นถึงลูกชายสุดหล่อของแม่ทัพใหญ่แห่งต้าเหลียนเลยนะ” ชายคนหนึ่งพูดกับกลุ่มเพื่อนขณะกำลังล่าสัตว์ด้วยกันในป่าใหญ่

“ข้าก็ได้ข่าวมาเหมือนกัน แต่ไม่เชื่อว่าจะเป็นไปได้ เอ็งคิดดูสิเป็นถึงเจ้าคนนายคน จะมาเล่นบทเป็นทาสหาเงินทำไมว่ะ?” เพื่อนอีกคนตอบ

“ไม่รู้ว่ะ แต่อย่างไรเสีย พวกเราแวะไปดูด้วยกันสักหน่อยก็ดีนะ คิดซะว่าคลายเครียด ฮ่าๆๆๆ” อีกตอบแสดงความเห็น

ระหว่างที่กลุ่มชายทั้งหลายพูดคุยกันอยู่นั้น เอ้าเทียนที่หลบอยู่บนยอดไม้สูงก็ได้ยินทุกประโยคอย่างชัดเจน สีหน้าครุ่นคิดก่อนสบัดปลายเท้าหายวับไปจากตำแหน่งนั้นทันที

“พวกเรามีเรื่องต้องไปสะสางกันคืนนี้ที่เมืองจางโจว ไปช่วยซู่เริ่นกันเถอะ” เอ้าเทียนกลับไปหาแม่ทัพซู่เหวิน ก่อนจะหาเสื้อผ้าและชุดคลุมปิดใบหน้าให้แม่ทัพสวมใส่อำพรางตัว

“ปล่อยข้าไปๆๆ ใครก็ได้ช่วยข้าด้วย” ซู่เริ่นร้องขอความช่วยเหลือ ทั้งที่รู้ตัวดีว่าคงไม่มีใครมาช่วย ความรู้สึกเจ็บปวดกระจายไปทั่วร่าง มันร้าวไปถึงขั้วกระดูก ไล่ตั้งแต่หัวที่ปวดแทบจะระเบิด กล้ามเนื้อที่อุตสาห์สร้างมาอย่างลำบาก ตอนนี้กลับมีแต่รอยขีดช่วนเปรอะเปื้อน

ซู่เริ่นใช้สองมือลูบเนื้อตัวหวังจะปัดทำความสะอาดสิ่งสกปรก แต่ปลายนิ้วก็ดันไปสัมผัสกับข้อความที่เกิดจากรอยแผลเป็นนูนที่หน้าท้อง เขารู้ดีว่ามันเขียนว่าอะไร

“ไอ้พวกเดรัจฉาน” เขาโกรธเกลียดทุกคนที่ทำร้ายเขา เกลียดคำว่าหลงควยบนหน้าท้องของเขา ต่อไปซู่เริ่นคงไม่กล้าถอดเสื้อให้ใครดูกล้ามท้องอีกแล้ว

“ตื่นแล้วหรอไอ้ซู่เริ่น” เสียงคุ้นหูดังขึ้น

“ปล่อยข้าไปนะ ข้าจะฆ่าแก ไอ้เฒ่าโรคจิต” ซู่เริ่นไม่อยากเชื่อเลยว่าหงฟู่ที่เขานับถือมานานจะเป็นคนแบบนี้

“เตรียมตัวมันให้พร้อม คืนนี้สนุกแน่ๆ” หงฟู่สั่งทหารรับใช้

ฝูงทหารเปิดกรงเหล็กเข้ามาจับตัวซู่เริ่น แม้จะดิ้นเอาตัวรอดอย่างไรก็ไม่หลุด ก่อนใช้ผ้าสกปรกยัดอุดปากซู่เริ่น และใช้เชือกหยาบมัดข้อมือ ก่อนจะจับหนุ่มหล่อไปสาดน้ำล้างตัว ความเย็นของน้ำกระเซ็นสาดลาดไปตัวผิวกาย หลังจากนั้นพวกทหารโฉดก็จับซู่เริ่นแต่งองค์ทรงเครื่องอย่างสง่างาม

“ขอต้อนรับทุกคนเข้าสู่สมรภูมิกามมม” พิธีกรประกาศลั่น

“ขอเสียงปรบมือทุกท่านให้นักแสดงสุดหล่อของเราในคืนนี้ด้วย” เสียงปรบมือดังสนั่น ท่ามกลางเสียงเฮลั่นของผู้ชมที่ดูจะมีจำนวนมากเป็นพิเศษในค่ำคืนนี้ รวมทั้งหงเวยเพื่อนสนิทของซู่เริ่นด้วย

ร่างของซู่เริ่นถูกนำออกมายังลานแสดง ปรากฏแก่สายตาหื่นกระหายของผู้ชม คืนนี้เขาช่างดูหล่อเหล่ามากเมื่ออยู่ในชุดนักรบอย่างสง่างาม จนคนดูแทบจะอดใจรอชมสิ่งที่อยู่ใต้ชุดสวยไม่ไหว ชายหนู่มถูกจับมัดติดกับเก้าอี้ตัวใหญ่ลายมังกร พร้อมผ้าปิดปากแน่นสนิท

“ขอเข้าสู่การแสดงแรกกันเลย ข้าเปิดโอกาสให้ท่านผู้ชมท่านใดก็ตามที่ยอมจ่ายสามตำลึงได้รับสิทธิ์เข้าไปปลดเสื้อผ้าของหนุ่มหล่ออย่างซู่เริ่น” หงฟู่บอกอย่างสะใจ

คนดูหลายคนรีบยกไม้ยกมือ ยอมควักเงินจ่ายให้ผู้จัดแสดง ก่อนจะเดินไปเข้าแถวข้างลานแสดงตามลำดับการจ่ายเงิน คนแรกตรงเข้าไปถอดชุดเกราะนักรบออกจากตัวซู่เริ่นที่นั่งดิ้นรนอยู่อย่างกระวนกระวาย

“ชุดเกราะนี่สวยจริงๆ ข้าขอเอาไปใช้รองเยี่ยวหมาที่ตำนักหน่อยนะ ฮ่าๆๆ” หนุ่มคนแรกแย่งชุดเกราะไปจากซู่เริ่น พร้อมกับชายคนที่สองที่ตรงเข้าใช้มีดกระตุกปมเสื้อขาวจนขาด

“ขอดูกล้ามอกมึงหน่อยนะว่าจะสวยแค่ไหน?” ชายคนนั้นพูด ขณะกระชากเสื้อขาวขาดกระจุย เสียงคนดูร้องโห่ด้วยความชอบใจ เมื่อเห็นท่อนบนของบุรุษหนุ่มรูปงามที่มีมัดกล้ามมันวาวพร้อมคำว่าหลงควย

“ไหนๆ ก็ถอดเสื้อแล้ว ข้าถอดกางเกงให้แล้วกัน” ชายคนที่สามคว้าขอบกางเกงดึงลงพื้น เผยให้เห็นผ้าเตียวขาวที่ปกปิดลำควยแทบไม่มิดของซู่เริ่น นักรบหนุ่มพยายามเอี่ยวตัวหลบสายตาคนดู แต่กลับยิ่งทำให้ผ้าฝืนเล็กร่นขึ้นจนหัวควยบางส่วนโผล่ออกมาดูโลกภายนอก

แม้จะโผล่ออกมาแค่หัวถอก แต่ก็สร้างความตะลึงให้คนดูได้ไม่น้อย นั่นก็เพราะควยที่ผ่านการทรมานมาอย่างหนัก ทั้งฉีด ทั้งฝัง ทั้งผ่า บัดนี้ดูใหญ่โตจนน่ากลัว แค่หัวควยครึ่งเดียวก็ใหญ่เกือบครึ่งหัวปลาช่อนแล้ว

“โอ้โห้ คุณชายสุดหล่อคงจะอายน่าดู บิดตัวหลบใหญ่เลย ฮ่าๆๆ” พิธีให้เสียง

“เอาละ ต่อไปข้าคิดห้าตำลึงสำหรับใครก็ตามที่อยากเข้าไปทรมานทาสตัวนี้ แต่มีข้อแม้ว่าห้ามถูกเนื้อต้องตัวมัน” หงฟู่ประกาศ

เหมือนเช่นเคย คนดูรีบแย่งกันจ่ายเงินเพื่อหวังได้มีโอกาสสักครั้งในชีวิตที่ได้ทรมานชายชาติทหารอย่างซู่เริ่น เริ่มจากคนแรกที่ตรงเข้าไปถุยน้ำลายใส่หัวคุณชาย

“เป็นไงบ้างว่ะ น้ำลายกูเต็มหัวมึงเลย สะใจจริงๆ” ชายคนแรกเดินจากไปพร้อมรอยยิ้ม

ผู้ชมคนอื่นๆ ก็เริ่มทยอยเข้าไปบ้วนน้ำลายใส่หน้า ใส่ตัวของคุณหนูจนหยาดเยิ้มเต็มไปหมด ซู่เริ่นได้แต่ถูกพันธนาการนั่งนิ่งรับน้ำลายจากชายแปลกหน้าจำนวนมาก

“น้ำลายยืดเต็มตัวแบบนี้ เดี๋ยวข้าช่วยชำระล้างให้นะ” ชายคนหนึ่งตรงเข้าไปควักท่อนควยออกมา หลั่งน้ำเยี่ยวเหลืองสาดรดเข้าไปตรงหัวของคุณหนู

คนอื่นๆ เห็นดังนั้นก็เริ่มคึก ไม่รอช้า ตรงเข้ายืนล้อมคุณชาย แต่ละคนต่างดึงควยของตนออกมา และเบ่งปัสสาวะ จนสายเยี่ยวสีเหลืองจำนวนมากตรงเข้าใบหน้าของคุณชาย บางคนก็ตั้งใจเน้นให้ตรงกับปากของเป้าหมาย บางคนก็อัดเยี่ยวเหม็นใส่จมูกโด่งของคุณหนู

“ขอเยี่ยวใส่ควยมึงหน่อยนะไอ้หน้าหล่อ” ชายคนหนึ่งปล่อยน้ำเยี่ยวฉีดใส่ผ้าเตี่ยวของซู่เริ่นจนเริ่มมองเห็นควยน่าเกลียดของเขาแล้ว

“ไม่คิดเลยว่าจะมีวันนี้ วันที่ได้เยี่ยวใส่หน้านักรบอนาคตไกล” ชายอีกคนสบัดควยไล่หยดเยี่ยวที่ค้างอยู่ในกระบอกควยของตนใส่หน้าซู่เริ่นที่นั่งหลับตาปี๋ เรียกได้ว่าตอนนี้ร่างหล่อมีแต่น้ำสกปรกทั้งเยี่ยวทั้งน้ำลายชะโลมไปทั่ว

ซู่เริ่นไม่กล้าเปิดปากออกด่าประนามพวกชั่วโฉดเพราะเกรงว่าน้ำเยี่ยวของพวกมันจะกระเด็นเข้าปากของตน จึงได้แต่นั่งทนรับน้ำฉี่เหม็นๆ จากแต่ละคนที่ยอมจ่ายเงินเพื่อมาทรมานเขา

ตอนนี้ทหารรับใช้เข้ามาจับซู่เริ่นลุกออกจากเก้าอี้ แล้วนำตัวไปพาดติดกับไม้ที่มัดสูงและขนานกับพื้น ในลักษณะที่สองมือและสองเท้าถูกรวบติดกัน ทิ้งลำตัวให้ห้อยลงมา หน้ามองพื้น และผ้าเตี่ยว ผืนเล็กที่แม้จะยังผูกติดกับเอว แต่ก็ทิ้งน้ำหนักลงตามแรงโน้มถ่วง ทำให้ควยใหญ่ยาวชี้ลงสู่ลาน

“ต่อไปจะเป็นการฉีดยาใส่ควยของคุณชายท่านนี้เพื่อทำให้หนอนน้อยผงาดขึ้นมังกรใหญ่” หงฟู่ประกาศ

ครั้งนี้หงเวยผู้เป็นลูกรับอาสาทำหน้าที่นี้ด้วยตนเอง เขาตรงไปกลางลานแสดงที่บัดนี้ได้เตรียมปลายเข็มแหลมผ่านการชุบว่านปลาไหลเผือกไว้พร้อม

“หงง..เวยยย หงเวย นี่ข้าเอง ช้าซู่เริ่นไง” ซู่เริ่นพยายามชอความช่วยเหลือผ่านผ้าอุดปากชุ่มเยี่ยว

“มึงมันเป็นไอ้ทาสนางโลม มึงรู้ไหมเพราะพ่อมึงคนเดียวที่ทำให้กูต้องเสียความเป็นชาย วันนี้มึงเตรียมรับความผิดแทนพ่อสุดที่รักของมึงได้เลย ไอ้สัตว์นรก” หงเวยหยิบเข็มแหลมขึ้นมา

ซู่เริ่นหน้าถอดสีทันที พยายามเบี่ยงตัวหลบไปมาอย่างน่าสมเพชบนคานไม้ใหญ่ แต่หงเวยไม่สนใจ เขาจ้องมองไปที่ควยอัปลักษณ์น่าเกลียดของซู่เริ่น เพื่อหาจุดที่จะปักเข็มลงไปได้ แต่มองไปทางไหนก็มีแต่รอยตะปุ่มตะป่ำของไขวาฬที่ฉีดเข้าควย ร่วมกับอัญมลีสีสวยที่ฝังลึกลงตรงหนังควย

แต่ในที่สุดเขาก็นึกขึ้นได้ จุดที่น่าปักเข็มลงไปมากที่สุด หงเวยจ้องสายตาไปตรงหัวควยขนาดครึ่งหัวปลาช่อนของซู่เริ่น และเสียบเข็มชุบยาที่มีสรรพคุณทำให้เงี่ยนเข้าไปตรงหัวบานโตของคุณชาย

“อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!!!” คุณชายร้องสุดเสียง ดื้นเหมือนปลาถูกทุบหัว

“ฮิ้ววววววววววววววววว” เสียงคนดูโห่ร้องอย่างชอบใจที่เห็นคุณชายทุรนทุราย

ไม่นานนักเมื่อหงเวยถอดเข็มออก ลำควยของซู่เริ่นก็คอยๆ พองขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ แม้เจ้าตัวจะพยายามข่มใจไว้เท่าไรก็ไม่อาจหยุดยั้งการขยายขนาดของเจ้าโลกได้ ตอนนี้ซู่เริ่นน้อยแพร่ขยายออกไปทุกทิศทางทั้งความยาวและความกว้าง เส้นเลือดต่างๆ เริ่มปูดขึ้นเป็นเส้นชัด

ที่น่าตกใจที่สุดคือหัวควยที่ถูกเข็มปัก เพราะตอนนี้มันพองจนเนื้อแทบจะปริออกจากกัน เต็มไปด้วยเลือดแดงฉาด ทำให้หัวควยกลายเป็นสีแดงสด เงี่ยงใต้หัวควยก็บานใหญ่จนแทบจะใช้แทนตะขอเกี่ยวได้

ด้วยฤทธิ์ยารวมกับควยที่ผ่านการดัดแปลงมาอย่างหนักหน่วง ทำให้ตอนนี้ทุกสายตาจ้องมองไปที่ควยของซู่เริ่นด้วยความอิจฉา เพราะมันทั้งใหญ่ทั้งยาว คาดคะเนด้วยสายตาจากระยะใกล้แล้ว ความใหญ่น่าจะมากกว่าควยคนธรรมดาสองอันมัดรวมกัน ส่วนความยาวนั้นไม่ต้องพูดถึง สองมือกำแล้วยังมีส่วนหัวควยโผล่ออกมาแน่นอน

“เอาละๆ ข้ามีกิจกรรมดีๆ เพียงวันนี้วันเดียวเท่านั้น ข้าจะคิดเพียงสองชั่งเท่านั้นสำหรับผู้ที่ต้องการน้ำหล่อลื่นขององค์ชายสุดหล่อคนนี้ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ” หงฟู่ชอบใจ

ครั้งนี้มีผู้ยอมจ่ายเช่นเดิม แม้จะมีราคาสูงลิบแต่ของดีมีค่าเช่นนี้ หากไม่รีบคว้าไว้คงไม่มีโอกาสอีกแล้ว ชายหนุ่มคนหนึ่งที่ยอมจ่ายได้รับถ้วยแก้วหยกอย่างดี ก่อนเดินลงไปที่ลานแสดง

“คุณชาย ข้าขอน้ำหล่อลื่นสดๆ จากควยของท่านไว้เป็นที่ระลึกหน่อยนะ” ชายหนุ่มพูดอย่างสะใจ

ชายหนุ่มหยิบถ้วยหยกจ่อไว้ที่ปากควยบานของซู่เริ่นที่น่าสงสาร น้ำหล่อลื่นบางส่วนใหญ๋ย้อยลงมาตามความเงี่ยนที่เกิดขึ้น แม้ซู่เริ่นจะพยายามหักห้ามใจ แต่น้ำควยนั้นไม่สามารถสั่งการได้เลย มันหลั่งรินลงมายืดย้อยลงสู่ปากถ้วยแก้วที่รองอยู่ สร้างความพอใจให้ผู้เสียเงินเป็นอย่างมาก

“ข้ายอมจ่ายห้าชั่ง แต่ขอน้ำหล่อลื่นไอ้หนุ่มน้อยคนนี้เต็มถ้วยหยก” ชายมีอายุคนหนึ่งร้องขึ้น ผู้คนต่างหันไปมองเป็นทางเดียวกัน

“ห้าชั่งงง ห้าชั่งเชียวหรือ ได้ๆๆๆๆ ขอรับคุณชาย ได้ทุกอย่างเลยขอรับ” หงฟู่กระหายเงินยอมรับขอเสนอ รีบประเคนถ้วยหยกใบใหญ่ให้ลูกค้าด้วยความดีใจ

“ข้าว่าเราต้องกระตุ้นองค์ชายของเราเสียหน่อยเพื่อให้ได้น้ำหล่อลื่นเยอะๆ ทหารจัดการที” หงฟู่หันไปสั่งทหารรับใช้

ไม่ช้า เหล่าทหารบางส่วนนำน้ำบางอย่างทาบริเวณหัวนมของซู่เริ่น อีกส่วนรีบน้ำโต๊ะยาวมาวางไว้ใต้คานไม้ที่มัดตัวซู่เริ่นไว้ ก่อนปล่อยสุนัขหลายคนกระโดดขึ้นบนโต๊ะ ทันทีที่ฝูงหมาขึ้นโต๊ะเสร็จ พวกมันก็ดมหากลิ่นอาหาร จนพบว่าเป้าหมายคือหัวนมสีชมพูขององค์ชายเริ่นนั่นเอง

พวกหมายกหน้าแลบลิ้นขึ้นไปเลียหัวนมของซู่เริ่นอย่างกระหายหิว แต่ละตัวไม่ยอมกัน ต่างแย่งกันดมแย่งกันเลียยิ่งกว่าสตรีหน้าไหน ลิ้นสากๆ ลื่นๆ ของสัตว์เดรัขฉานสัมผัสผิวนมสร้างความเสียวจนแทบหยุดหายใจให้ซู่เริ่น

“ข้าแก่แล้ว แต่ความเงี่ยนยังมากเหลือเกิน เสียดายที่อายุมาก น้ำหล่อลื่นก็น้อยลงเป็นธรรมดา ข้าจึงตั้งใจจะเอาน้ำจากควยเด็กหนุ่มอย่างเจ้าไปใช้หล่อลื่นควยคนแก่อย่างข้า” เศรษฐีมีอายุกล่าว พร้อมวางถ้วยแก้วตรงปากควยซู่เริ่น

ที่เหลือปล่อยให้เป็นหน้าที่ของฝูงหมาที่คอยกระตุ้นความเงี่ยนให้ซู่เริ่น เพื่อปลดปล่อยน้ำหล่อลื่นออกมาให้ชายชรานำไปใช้เย็ดคนอื่น

“ไอ้คุณชายยยยย มึงมันเกินไปแล้ว เงี่ยนแม้กระทั่งหมาหรอว่ะ?” คนดูเฮ

“เหี้ย ให้หมาเลียนม แล้วควยกระตุกๆ ปล่อยน้ำไม่หยุดเลยมึง” อีกคนพูด

“อิจฉาเศรษฐีคนนั้นจริงๆ ได้น้ำหล่อลื่นสดๆ ขององค์ชายไปใช้ คงจะเสียวน่าดู” อีกคนตอบ

“ถ้วยใหญ่ขนาดนั้นจะเต็มได้หรอ ไม่น่าเชื่อ” อีกคนตั้งข้อสังเกตุ

“เอ็งดูเสียก่อน น้ำแม่งยืดยาวเป็นสายใส เกือบเต็มถ้วยแล้ว” คนดูชี้

ชายชราพึงพอใจมาก เขาหยิบถ้วยที่เต็มไปด้วยน้ำหล่อลื่นจากหนุ่มน่าหล่อระดับองค์ชายไปเต็มถ้วยก่อนปิดฝาอย่างดี และเดินกลับไปสู่ที่นั่งดูอย่างมีความสุข

อย่างไรก็ตามฝูงหมายังไม่ยอมหยุดเลีย หน่ำซ้ำยังเดินไปดมๆ แถวๆ หัวควยของซู่เริ่น แล้วเลียกินน้ำหล่อลื่นเหมือนดื่มน้ำจากท่อ ยามปล่อยลิ้นหมาแตะเข้ากับหัวควย ซู่เริ่นถึงกับตัวสั่นเทาๆ

“มึงมันต่ำยิ่งกว่าสัตว์ ดูสิหมาเลียควยมึงไม่หยุดเลย สงสัยมันจะชอบน้ำมึงนะ” ซู่เวยเพื่อนสนิทพูด

“ทุกท่านโปรดฟัง ครั้งนี้ท่านมีโอกาสให้คุณหนูอมควยและกินน้ำเงี่ยนของพวกท่านได้ เพียงจ่ายข้ามาแค่ห้าชั่งเท่านั้น” หงฟู่เริ่มเกมต่อ

แน่นอนว่ามีผู้คนสนใจมากมาย นี่นับเป็นโอกาสทองที่จะได้สอดควยเข้าปากคุณชาย ได้ปล่อยให้ควยเบียดเข้าออกโพรงปากหนุ่มหล่อ ได้ครูดควยกับริมฝีปากงดงามของนักรบ ได้ปล่อยน้ำควยเข้าสู่ลำคอของชายผู้เป็นที่หมายปองของสาวทั่วแดน ใครก็ยอมจ่ายเพื่อโอกาสดีๆ แบบนี้

ผู้คนที่จ่ายเงินเดินเข้าไปหาซู่เริ่นที่ถูกมัดอยู่ ทหารคนหนึ่งจับหัวซู่เริ่นตั้งขึ้น่มองไปข้างหน้า เพื่อให้มองเห็นบุคคลที่จะเอาควยมาใส่ปากของตนชัดๆ ผ้าปิดปากถูกนำออก พร้อมกับที่ทหารคนหนึ่งนำกรรไกรมาจ่อไว้ที่พวงไข่ของคุณหนู

“หากร้องโวยวายหรือกัดควยลูกค้า ข้าจะตัดไข่ท่านทิ้งทันที” ทหารกล่าว

ซู่เริ่นน้ำตาไหลออกมาไม่ต่างจากน้ำหล่อลื่นที่หลั่งออกมาจากการถูกฝูงหมากระตุ้นอย่างต่อเนื่อง ปากสวยๆ ของคุณชายค่อยๆ อ้าเปิดออกอย่างไม่เต็มใจ ใบหน้าถูกบังคับให้มองควยลูกค้าคนแรกที่เข้ามา มันทั้งดำทั้งสกปรก มีคราบขาวติดตรงหัวควย แต่เจ้าของควยกลับไม่สนใจ

“อมเข้าไปลึกๆ ดูดทำความสะอาดให้ข้าด้วยนะคุณชาย” ลูกค้าคนแรกสอดควยทิ่มเข้าปาก บังคับให้คุณชายที่ทำหน้าพะอืดพะอมดูดควยของตนให้สะอาด

“ดูดแรงๆ เน้นตรงหัวให้ข้าด้วย ข้าเสียเงินไปแล้ว ทำให้คุ้มค่าหน่อย” ชายแปลกหน้ากล่าว

ซู่เริ่นรู้สึกได้ถึงกลิ่นเหม็นแต่ต้องฝืนใจกลืนเข้าไปอย่างลำบาก ทหารจับหัวของเขาก้มเข้าไป จนควยลูกค้าทิ่มลิ้นไก่ลึกเข้าไปในคอ ทำเอาคุณชายหายใจไม่ทัน

“ดีๆ แบบนั้นแหละ ดีมาก ใช้ลิ้นวนๆ ตรงหัวควยให้ด้วย” ลูกค้าสั่ง

“โอ๊ยย เสียวจริงๆ เสียวมาก ซิ๊ดดดดด ไม่คิดเลยว่าคุณชายจะอมควยเก่งแบบนี้”

“อ่าสสสสส์ ข้าจะแตกแล้ว อ้าปากๆ อ้าปากกว้างๆ ข้าจะฉีดน้ำควยเข้าไป อ่าส์” ชายแปลกหน้าเกร็งตัวจิกเท้า พ่นน้ำคาวฉีดใส่โพรงปากของคุณชายเริ่นไม่ยั้ง ความเหนี่ยวข้นและกลิ่นคาวทำให้คุณชายทำท่าจะอ้วก แต่กรรไกรที่จ่อรอไว้ที่ไข่ยานเตรียมงับตัดลงมา เขาจึงต้องฝืนใจทนกลืนน้ำเงี่ยนทั้งหมดเข้าไป

ลูกค้าคนที่สองมาพร้อมควยยาว คนนี้สั่งให้ซู่เริ่นแลบลิ้นออกมายาวๆ แล้วใช้ปลายลิ้นสอดแทรกเข้าไปในรูควยของตน ตวัดไปมาเพื่อให้ลิ้มรสน้ำหล่อลื่น ก่อนจะประคองหัวคุณหนูไว้นิ่งๆ แล้วกระเด้าปากหนุ่มหล่อเข้าออกโดยไม่แยแสความเจ็บปวดของผู้ถูกกระทำ จนในที่สุดก็ปล่อยน้ำเสียวรินลงลิ้นและฟันของคุณชายเต็มไปหมด

“เอาลิ้นปาดทำความสะอาดปากตัวเองซะ ไอ้หล่อตกอับ” ลูกค้าสั่ง

ซู่เริ่นต้องยอมเอาลิ้นกวาดคราบน้ำเงี่ยนที่ติดอยู่ตามกระพุ้งแก้มและฟันออก ขณะที่ตุ่มรับรสบนลิ้นก็ทำหน้าที่ได้ดีเหลือเกิน คุณชายรับรสเค็มอ่อนๆ ของน้ำเงี่ยนได้ทั้งหมด ก่อนจะปิดปากกลืนเศษน้ำรักเหล่านี้ลงไปในคอ

คนที่สามมาถึงตรงหน้าซู่เริ่น คราวนี้ควักพวงไข่ที่เต็มไปด้วยหมอยดำยื่นให้ซู่เริ่นเลีย องค์ชายต้องอมไข่ลูกใหญ่ที่มีแต่ขนดำไว้ในปาก ขณะที่ฝูงหมาก็เลียควยและหัวนมของเขาเช่นกัน ระหว่างที่เลียและอมไข่ให้ลูกค้าอยู่นั้น น้ำควยลูกค้าก็ทะลักออกมาเต็มหน้าของซู่เริ่นที่ไม่ทันระวังตัว

คนที่สี่จับควยของตนเองปาดเอาน้ำเงี่ยนของคนก่อนหน้ามา แล้วฟาดใส่ปากของซู่เริ่นดังป๊าบๆ ก่อนจะยัดท่อนควยที่ชะโลมน้ำเงี่ยนของลูกค้าคนก่อนไว้เข้าปากเด็กหนุ่ม แล้วซอยเย็ดปากโดยอาศัยน้ำเงี่ยนและน้ำลายเป็นตัวหล่อลื่น จนในที่สุดก็หลั่งน้ำกามออกมา พร้อมกดควยให้ลึกที่สุดเพื่อฉีดเข้า

ลูกค้าคนอื่นๆ ก็ทะยอยเข้ามาเรื่อยๆ ใช้ปากองค์ชายเป็นที่ระบายความเสียวไม่หยุด จนปากและท้ององค์ชายมีแต่น้ำเงี่ยนของคนแปลกหน้าเต็มไปหมด บางคนก็บังคับให้เขาห่อปากแล้วยัดควยเข้ามา บางคนก็จับควยฟาดหน้าเขาอย่างไม่ให้เกียรติ บางคนพอน้ำแตกแล้วก็ฉี่ใส่ปากซ้ำอีกรอบ

“ดีมากครับทุกท่าน ต่อไปจะเป็นช่วงสำคัญ ใครที่มีความฝันว่าอยากจะเย็ดองค์ชายสักครั้งในชีวิต วันนี้เป็นโอกาสของท่านแล้ว เพียงแลกความฝันของท่านกับทองคำหนึ่งชั่งเท่านั้น ที่สำคัญองค์ชายของเรายังบริสุทธิ์อยู่ด้วย รับรองว่าก้นองค์ชายต้องรัดตอดแน่นอย่างแน่นอน” หงฟู่หน้าเงินกล่าว

มีผู้คนสนใจเป็นจำนวนมากมาย ทุกคนที่มาที่นี่ล้วนเป็นพวกมีเงินทั้งนั้น เมื่อชำระค่าใช้จ่ายเรียบร้อย ทุกคนก็เตรียมเรียงลำดับตามคิว ต่อแถวยืนเรียงราย รอเย็ดองค์ชายสุดหล่อ

“ข้าขอเปิดบริสุทธิ์มันด้วยตัวเองก่อน” หงเวยพูดขึ้น

ไม่รอช้า อดีตเพื่อนสนิทเดินตรงไปหาซู่เริ่นที่น่าสงสาร ด้วยหน้าตาที่เปี่ยมไปด้วยความเงี่ยนปนความแค้นอย่างเต็มที่ เขาปลดกางเกงออก เดินควยโด่เข้าไปกลางลานแสดง

“อมควยให้ข้าซะ เอาให้น้ำลายชุ่มๆ จะได้ยัดเข้าตูดเอ็งง่ายๆ” หงเวยสั่ง

ซู่เริ่นไม่มีทางหนีได้ หากไม่ทำก็ต้องถูกตัดไข่แน่นอน หากไม่อมก็ต้องทรมานเมื่อโดนควยเพื่อนรักยัดเข้ารูตูดที่ปิดสนิท ยามนี้เขาจึงจำใจอ้าปากดูดควยให้เพื่อนของตนเอง พยายามทำให้อดีตเพื่อนรักเสียวที่สุด หวังให้มีน้ำหล่อลื่นออกมาบรรเทาความเจ็บปวดยามถูกควยสอดใส่เข้าก้น

“อมควยเก่งทั้งพ่อทั้งลูกเลยนะ ตระกูลมึงเกิดมาเพื่อดูดควยจริงๆ” หงเวยครางด้วยความเสียว

เมื่อความเสียวได้ที่แล้ว หงเวยดึงควยออกจากปากองค์ชาย แล้วเดินอ้อมกลับไปด้านหลัง ก่อนใช้สองมือแหวกก้นองค์ชายออกอย่างตื่นเต้น

“ยังปิดสนิทไม่เหมือนของพ่อมึงเลย วันนี้กูรับรอง รูตูดมึงจะบานยิ่งกว่าของพ่อมึงอีกแน่ๆ”

หงเวยจับท่อนควยแท่งใหญ่อันเดียวกับที่เคยใช้แทงเข้าตูดแม่ทัพซู่เหวิ่น จ่อเข้าตรงปากรูตูดของซู่เริ่นแล้วอาศัยน้ำหล่อลื่นและน้ำลายเป็นตัวขับเคลื่อนลำควยเข้าไป

อยู่ๆ หงเวยก็นึกถึงภาพตนเองถูกเอ้าเทียนเย็ดอย่างไม่ปราณี ความโกรธแค้นที่สะสมไว้ปะทุขึ้น พร้อมๆ กับที่หงเวยยัดควยพรวดเดียวเข้ารูตูดของเพื่อนรักอย่างแรง เกิดเสียงฉีกขาดของเนื้อเยื่อเบาๆ แต่เสียงกรีดร้องของเจ้าของเนื้อเยื่อกลับดังสนั่น

“อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!!!!!!!” ซู่เริ่นร้องสุดเสียง แต่คนดูกลับยิ่งชอบใจ

สองขาของซู่เริ่นสั้นดิกๆ ตัวกระตุกด้วยความเจ็บปวด แต่หงเวยไม่สนใจ ถอนควยออกมาครึ่งลำและยัดกลับเข้าไปใหม่อีกครั้งด้วยความแรงและเร็ว จนเกิดขึ้นเนินควยกระทบกับผิวก้นดังพลั่บๆๆ

“เสียวจริงๆ ตูดมึงนี่แน่นยิ่งกว่าของพ่อมึงอีก กูภูมิใจมากที่เกิดมาได้เมียเป็นสองพ่อลูกตระกูลซู่”

ซู่เริ่นร้องไห้น้ำตาไหล เขาเจ็บปวดและแสบบริเวณรูตูดมาก อีกทั้งยังรู้สึกจุกเข้าไปถึงในท้องน้อย กระนั้นควยของเขาก็ยังแข็งโด่จากยากระตุ้น ขณะที่หงเวยก็กระเด้าควยเข้าออกอย่างแรงทุกครั้ง อัดกระแทกด้วยความเงี่ยนระคนความแค้น

“ซิ๊ดดดด...อ่าส์ พ่อมึงกลายเป็นเมียกูเรียบร้อย แต่มึงมันเหี้ย มึงเสือกมาเป็นเมียน้อยกูอีกคน ฮ่าๆๆๆ” หงเวยเยาะเย้น ระบายความแค้นออกมาผ่านลำควยที่เย็ดอย่างไม่หยุดยั้ง

“ถ้าจะเป็นเมียที่สมบูรณ์เหมือนพ่อมึง มึงต้องรับน้ำเชื้อของกูเข้าไป มึงต้องให้กูฉีดน้ำควยกูเข้าตูดมึงเหมือนที่พ่อมึงเคยทำไว้” หงเวยเร่งซอยควยเข้าตูดที่เริ่มบานของซู่เริ่นด้วยความสะใจ

“อย่าๆๆๆๆๆๆๆๆ อย่าทำอย่างนั้น อย่านะ หยุดนะ” องค์ชายเริ่นดิ้นรนร้องขอ

“ไม่ทันแล้วโว้ยย ไอ้ทาสชั่ว กูจะแตกแล้ว รับน้ำกูไปซะ...อ่าสสสสส์” หงเวยกระตุกพวยพ้นน้าอสุจิจำนวนมากเข้ารูตูดสวยขององค์ชาย เป็นครั้งแรกที่ซู่เริ่นรู้สึกถึงการหลั่งของน้ำควยเข้ามาในตัวของเขา ปกติยามที่เขาเย็ดกับผู้หญิงก็มักจะแตกใน แต่ไม่รู้เลยว่าความรู้สึกเป็นเช่นไร จนวันนี้

“ฮ่าๆๆๆๆๆ เป็นไงบ้างเพื่อนรัก กูเย็ดเสียวไหมว่ะ ตูดมึงคงอร่อยกับน้ำเงี่ยนกูเลยสิ” หงเวยหยาม

“ขอเชิญคนต่อไป เย็ดสดไอ้คุณชายเริ่นหน้าหล่อหุ่นดีคนนี้ให้ถึงใจ กฏคือทุกคนต้องปล่อยน้ำควยข้างในตัวมัน แล้วให้คนต่อไปใช้น้ำเงี่ยนของคนก่อนเป็นหล่อลื่นควยตนเองเพื่อ***ไอ้หล่อคนนี้”

ซู่เริ่นแทบไม่เชื่อหูตนเอง ที่เขาเห็นตอนนี้คือผู้ชายกว่ายี่สิบคนที่เข้าแถวรอเป็นสามีของเขา ทั้งที่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เขาต้องเสียความเป็นชาย และเสียให้กับเพื่อนที่เคยเชี่อใจกันมาด้วย แถมผู้ชายอีกหลายคน เขาหมดแล้วซึ่งเกียรติยศที่เคยมี องค์ชายที่ต้องการของทุกคนกลายเป็นทาสที่คนรวยหน้าไหนก็ยัดเยียดความเป็นผัวให้ได้

กิจกรรมกามดำเนินไปเรื่อยๆ ซู่เริ่นต้องทนถูกทั้งคนแก่ คนหนุ่ม รุมเย็ดอย่างไม่ปราณี รูตูดเขาชาไปหมดแล้ว ลีลาแต่ละคนนั้นไม่ธรรมดา บางคนก็แทงควยเสยเข้าอัดลำไส้ของเขาอย่างรุนแรง บางก็ทำแบบนุ่มนวลแต่หนักหน่วง บางก็ควงควยขยายรูตูดของเขาจนบานอ้าน่าเกลียด

ในช่วงหลังๆ ตูดซู่เริ่นไม่สามารถรับน้ำควยได้อีกต่อไป ทำให้น้ำเงี่ยนไหลทะลักออกมายืดยานจากตูดหนุ่มหล่อหยดถึงพื้นดินเบื้องล่างอย่างน่าอับอาย

“ควยก็อัปลักษณ์ รูตูดก็บานโร่ มึงมีอะไรดีเหลืออยู่อีกบ้างว่ะ?” ชายคนหนึ่งเย้ย

“เตรียมตูดมึงไว้ดื่มน้ำเงี่ยนกูนะ กูจะฉีดเข้าไปแล้วสุดหล่อ”

“โอ๊ยยย ซี๊ดดดด น้ำเงี่ยนเต็มโพรงตูดเลยว่ะ เสียบควยเข้าไปแล้วลื่นไปหมด”

“ตูดฉีกแล้วองค์ชาย ไม่เป็นไร เดี๋ยวก็ชินไปเอง”

“เป็นผู้ชายหล่อๆ ให้สาวติดไม่ชอบ เสือกชอบโดนเย็ดอย่างสัตว์”

“เสียดายแทนพวกคนจนที่ไม่มีเงิน อดเย็ดตูดองค์ชายรูปงามอย่างพวกข้า ฮ่าๆๆ”

“เมียรัก ขอให้ควยผัวคนนี้เข้าไปสำรวจข้างในหน่อยนะ เดี๋ยวแถมน้ำเชื้อให้ สะใจจริงๆ”

ซู่เริ่นต้องทนฟังคำพูดหยามเหยียดต่างๆ นานา ได้แต่ขอให้ช่วงเวลานี้ผ่านพ้นไปเสียที ก่อนจะรู้ตัวว่าคิดผิด เมื่อกิจกรรมทำลายตูดของเขาจบลง เสียงประกาศก็ดังขึ้นอีก

“ต่อไปจะเป็นการรีดน้ำควยขององค์ชายออกมา พร้อมไหมทุกท่าน” โฆษกประกาศ

ทหารตรงกับมาใช้เชือกรัดตั้งแต่โคนควยของคุณหนูเริ่น แล้วพันรอบขึ้นมาอย่างแน่นสุด ด้วยความใหญ่อวบของควยทำให้เชือกที่เตรียมมาเกือบรัดไม่พอ เมื่อทำการรัดควยเรียบร้อย กิจกรรมกามก็เริ่มขึ้นทันที

“จ่ายเพียงสิบอัฐ ได้เข้าไปรีดน้ำควยออกจากองค์ชาย” หงฟู่กล่าวเสียงดัง

เมื่อได้ลูกค้าสมใจอยาก หงฟู่ก็อนุญาติให้เข้าไปรีดเอาน้ำควยขององค์ชายออกมา แต่ละคนตรงเข้าไปบีบท่อนควยเหมือนเหมือนรีดนมวัว แต่ด้วยความใหญ๋และยาว ทำให้มือของลูกค้าแต่ละคนกำแทบไม่รอบควยของเริ่น

ผู้คนต่างพากันมาชักควยให้เริ่นอย่างสนอกสนใจ บางคนก็เอานิ้วหมุนวนที่ปลายหัวควย บางคนก็กำรูดตั้งแต่โคนขึ้นมาถึงคอหยัก ก่อนจะสลับมือทำเหมือนเดิมไปเรื่อยๆ บางคนก็เค้นคลึงไข่ไปทั่ว

“ซิ๊ดดด อ่าสสส์ อ่าส์ อาส์....หลั่งแล้วววว” ซู่เริ่นทนไม่ไหวแล้ว ผู้ชายหน้าไหนโดนแบบนี้ย่อมทนไม่ได้เป็นธรรมดา

ซู่เริ่นกระตุกควยและร่างอย่างแรงกลางอากาศ ควยผงกหัวงึกๆ อนิจจังเชือกที่รัดควยไว้กลับขัดขวางการหลั่งของน้ำเงี่ยน ซู่เริ่นทำได้เพียงแค่กระตุกควย กระเด้าลมในอากาศ แต่ไร้ซึ่งหยาดน้ำเงี่ยนแม้เพียงหยดเดียว

“หือๆๆ เงี่ยน เงี่ยนๆๆๆ แก้เชือกให้ข้าเถอะ ข้าเงี่ยน ปวดควยไปหมดแล้ว” ซู่เริ่นคำราม

ไม่มีใครสนใจ กลับตรงเข้าไปรูดควยรีดน้ำเงี่ยนอีกครั้ง คราวนี้ยิ่งสะใจ บางคนชักควยองค์ชายรัวๆ บางคนดึงไข่ทั้งพวงขององค์ชายอย่างแรง ก่อนที่องค์ชายจะกระตุกควยน้ำแตกอีกครั้ง

น้ำที่ไหลออกมาจากโรงผลิตที่ใข่ทั้งสองใบหลั่งออกมาเจอทางตัน ก็ไหลย้อนกลับเข้าไปในไข่อีกครั้ง ซู่เริ่นโดนทำเช่นนี้อยู่หลายรอบ จนไข่บวมเป่ง อัดแน่นเป็นด้วยน้ำเงี่ยนที่มิอาจหลั่งออกจากปากควยบานได้

“เงี่ยนเหลือเกิน ข้าเงี่ยนควยเหลือเกิน ข้ายอมแล้ว ยอมทุกอย่างแล้ว” ผู้ชายทุกคนรู้ดีว่าหากเงี่ยนแต่น้ำแตกไม่ได้นั้นทรมานแค่ไหน

“ยอมทุกอย่าง? งั้นกราบตีนกูซะ แล้วกูจะช่วยให้มึงสมใจอย่าก” หงเวยท้า

“ได้ๆๆ ข้ายอมแล้ว ยอมแล้ว ขอน้ำแตกทีเถอะ ปวดควยเหลือเกิน” ซู่เริ่นยอมรับชะตากรรม

“ตกลง ข้าจะปล่อยเอ็งลงมา แต่ต้องคลานเข้ามากราบตีนข้าซะ” หงเวยสะใจสุดๆ

ซู่เริ่นพยักหน้ายอมรับเงื่อนไข หงเวยจึงสั่งให้ทหารปรับคานไม้ให้ตั้งขึ้นแล้วแก้มัดมือขององค์ชายออก ก่อนที่องค์ชายจะกลั้นใจคุกเข่าลงกับพื้น แล้วคลานเหมือนหมาเข้าไปหาหงเวย

หงเวยยืนรอดูอย่างสะใจ ภาพองค์ชายที่เหนือกว่าเขาทุกด้าน ทั้งหน้าตารูปร่าง ฝีมือ คารม ทุกอย่างหงเวยล้วนเป็นรอง แต่บัดนี้คุณชายกลับต้องคลานเข่ามาหาเขาเหมือนสัตว์ตัวหนึ่งที่อ้อนวอนขอชักว่าวด้วยความเงี่ยน ช่างน่าสมเพชเสียจริง

ซู่เริ่นคลานมาถึงเท้าของหงเวยแล้ว สองมือประกบกันขึ้นก่อนเขาจะโน้มหัวลงไปแทบเท้าของหงเวย สร้างความพอใจให้หงเวยมาก เขายกเท้าขึ้นมาขยี้หัวของเริ่นอย่างสะใจ ลืมความโกรธแค้นที่เคยมี เปลี่ยนเป็นความชอบใจอย่างถึงที่สุด

“ดีมากไอ้ทาสจอมเงี่ยน ข้าอนุญาตให้เอ็งน้ำแตกต่อหน้าคนดูทีนี่ได้” หงเวยพูด มองหน้าให้สัญญาณทหารรับใช้ข้างๆ

ทหารรับใช้เดินเข้ามาหิ้วตัวซู่เริ่นไปนั่งคุกเข่าบนโต๊ะกลางลานให้ทุกคนเห็นโดยทั่ว ก่อนจะคลายมัดเชือกที่รัดควยไว้ แล้วเอาวงแหวนเหล็กใส่เข้าไปใต้เงี่ยงควย ตรงคอหยัก

“ชักว่าวได้ แต่ห้ามถูกหัวควย ห้ามเลยขึ้นมาถึงขอบวงแหวนนี้” หงเวยสั่ง

ซู่เริ่นไม่สนใจสิ่งใดแล้ว ทันทีที่เขาเป็นอิสระ สองมือก็เข้าประกบกำรอบท่อนควยแล้วรูดหนังขึ้นลงอย่างเสียวซ่าน แม้จะรูดได้ไม่สุดถึงหัวควยเพราะมีวงแหวนจำกัดบริเวณอยู่ แต่ด้วยความยาวของท่อนควยที่เหลืออยู่ก็สร้างความพอใจให้เจ้าของควยได้มากโข

“อ่าสส์ ซิ๊ดดดดด...เสียววว” ซู่เริ่นโยกสะโพกไปมาอย่างลืมตัวว่ามีคนดูเขาสำเร็จความใครอยู่

เขาบ้วนน้ำลายใส่มือแล้วกำรอบลำควย หนังควยกับหนังฝ่ามือสัมผัสกัน เกิดเป็นจินตนาการว่ากำลังได้เย็ดคนอื่นอยู่ แม้จะยุ่งกับหัวควยไม่ได้ แต่องค์ชายก็อาศัยความเสียวจากลำควยแทนได้ เขาใช้สองมือกำต่อกันรอบลำควย แต่กระนั้นก็ยังมีส่วนควยที่โผล่พ้นออกมาอยู่ดี

“เสียวเหลือเกิน เสียวอะไรอย่างนี้ ทนไม่ไหวแล้ว กลั้นไม่อยู่แล้ววววว อ่าสสสส์” ซู่เริ่นคำรามลั่น

น้ำควยเคลื่อนที่ออกจากไข่บวมจนเห็นหนังข้างนอกเต่งตึง ก้อนน้ำเชื้อเก่ารวมกับน้ำเชื้อใหม่ที่พึ่งผลิตค่อยๆ วิ่งมาที่โคนควย ก่อนองค์ชายกระตุกจะควยเพียงครั้งเดียว หัวควยเบ่งบานขึ้นจนวงแหวนที่ครอบไว้กระเด็นหลุดเพราะแรงดัน ห่าน้ำเงี่ยนพวยพุ่งหลั่งไหลออกมา ทะลักไปข้างหน้าซู่เริ่นกว่าห้าเมตร

“ไอ้ฉิบหาย นั่นน้ำควยองค์ชายหรอว่ะ? เยอะเหี้ยๆ” คนดูร้อง ขณะที่ซู่เริ่นปล่อยน้ำออกมาเรื่อยๆ นับได้ตอนนี้ก็มากกว่าสิบห้าระลอกแล้ว

“ขนาดแตกออกมาเยอะแล้ว ยังพุ่งไกลทุกครั้งเลยว่ะพวกเรา” อีกคนทัก ขณะที่ควยซู่เริ่นยังคงกระตุกหลั่งน้ำออกมาเติมใส่กองอสุจิที่อยู่บนพื้นข้างหน้าไม่มีท่าว่าจะหยุด

“ความเสียวทะลุออกมาจากใบหน้ามันแล้ว ดูสิเงยหน้าซิ๊ดปากใหญ่เลย” สองมือของซู่เริ่นยังกำรอบควย ขณะที่ใบหน้าเผยความเสียวอย่างชัดเจน

“โห้ น้ำแม่งเยอะจริงๆ ผู้หญิงที่โดนไอ้หล่อนี้แตกใน คงท้องโตแน่ๆ เลย” หนุ่มคนหนึ่งพูดขึ้น

“น้ำเชื้อคุณภาพทั้งนั้น น่าจะเก็บไว้ให้คนรับใช้ที่ตำหนัก เห็นบ่นว่าอยากมีลูก” ชายคนหนึ่งเอ่ย

“น้ำเงี่ยนมันขาวข้นจริงๆ เหนียวยืดไปหมด ข้าชอบว่ะ” คนดูกล่าว

“ควยใหญ่ๆ ก็เหมาะกับน้ำเงี่ยนเยอะๆ แบบนี้ใครก็ชอบ” อีกคนตอบ

“ข้ายอมจ่ายทองคำสามชั่ง ช่วยกรีดเอาไข่คุณชายคนนี้ออกมาให้ข้าสักข้างหนึ่งได้ไหม” เศรษฐีหนุ่มคนหนึ่งพูดด้วยความอิจฉาซู่เริ่น

“ตอนมันเลย! ตอนมันเลย! ตอนมันเลย!” คนอื่นๆ ส่งเสียงเชียร์ด้วยความอยากรู้เหมือนกันว่าหากเหลือไข่เพียงข้างเดียว น้ำเงี่ยนจะยังเยอะแบบนี้อยู่ไหม

หงฟู่หน้าเงินเมื่อได้ขอเสนอที่ถูกใจเช่นนี้ก็รีบรับคำขอทันที ก่อนสั่งให้ทหารจับตัวซู่เริ่นไว้ให้แน่น ล็อคตัวไว้จนซู่เริ่นที่หน้าเริ่มถอดสีขยับตัวไม่ได้ ทหารอีกคนถือมีดคมกรีบเดินเข้ามา

“อย่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ อย่าทำหมันข้า อย่าตัดไข่ข้านะ ไม่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ” ซู่เริ่นน้ำตาไหล ดิ้นเหมือนคนบ้า

ทหารที่ถือมีดนั่งลงตรงควยของซู่เริ่นพอดี นี่ขนาดน้ำแตกไปแล้ว ยังคงขนาดใหญ่ไว้ได้อีก อึดสมกับเป็นชายชาติทหารจริงๆ ปลายมีดถูกถือจ่อไว้ตรงไข่ข้างซ้าย คมมีดเตรียมปาดเข้าไปทันทีที่มีคำสั่งจากหงฟู่

“ตัดเลย!” หงฟู่กล่าวสั้นๆ แต่ซู่เริ่นถึงกับหมดเรี่ยวแรงทันที

ปลายคมค่อยๆ ปักเข้าไปในหนังไข่เพียงเล็กน้อย ก่อนทหารรอบๆ ตัวซู่เริ่นจะกระเด็นออกไปคนละทิศคนละทางจากพลังปราณในระยะไกล เกิดฝุ่นควันตลบ พร้อมการปรากฏตัวของเอ้าเทียนและแม่ทัพซู่เหวิ่น

“ขอโทษที่มาช้านะ เรามาช่วยแล้ว” จิ้งจอกเงินปลอบ

เหมือนเหตุการณ์หยุดนิ่ง จิ้งจอกหนุ่มยืนคู่กับแม่ทัพซู่เหวิ่นข้างๆ เวทีไม่ไกลมากจากซู่เริ่น ขณะที่ซู่เริ่นยืนอยู่คนเดียวกลางลานแสดง ก่อนที่ซู่เริ่นจะถูกชายปริศนาคนหนึ่งที่อยู่ท่ามกลางคนดู กระโดดออกมาจากอัฒจรรย์ด้วยวิชาตัวเบา ตรงเข้าจับล็อคตัวซู่เริ่นไว้จากข้างหลัง

“หยุดนะ ถ้าไม่อยากให้ซู่เริ่นตาย” ชายปริศนาสั่งเอ้าเทียน

“เจ้าเองสินะ คนที่บงการอยู่เบื้องหลัง” เอ้าเทียนจำได้ ชายคนนี้คือคนเดียวกับที่มาหาเขาที่ถ้ำงูดำ

ชายปริศนาถือมีดเล่มหนึ่งไว้ในมือพร้อมปาใส่ซู่เริ่น ขณะที่อีกมือถือหน้าไม้ที่เล็งไปทางแม่ทัพซู่เหวิ่น พร้อมอัดลูกศรเตรียมยิงเสร็จสรรพ

“มาดูกันว่าใครจะเร็วกว่ากัน” ชายปริศนาพูด

เหมือนเวลาค่อยๆ เดินอย่างช้าๆ ปลายนิ้วของชายปริศนาค่อยๆ เหนี่ยวไกหน้าไม้ พร้อมกับลูกศรแหลมที่ค่อยๆ วิ่งออกจากหน้าไม้มุ่งไปทางแม่ทัพซู่เหวิ่น ขณะเดียวกันมืออีกข้างก็ขว้างมีดบินตรงไปยังซู่เริ่นทันที

จิ้งจอกเงินมองเห็นทุกอย่างชัดเจนดี ทางหนึ่งเป็นแม่ทัพซู่เหวิ่นที่กำลังถูกลูกศรพุ่งเข้าใส่ อีกทางเป็นซู่เริ่นที่มีมีดบินตรงเข้ามาเรื่อยๆ ในยามนี้เขาหนึ่งคนต้องช่วยสองคนในเวลาเดียวกัน สมองรีบประมวลผลอย่างรวดเร็วแข่งกับอาวุธที่ใกล้เป้าหมายเข้ามาเรื่อยๆ

เอ้าเทียนไม่รีรอ รีบตัดสินใจทันที มือข้างหนึ่งรีบผลักตัวแม่ทัพซู่เหวิ่นออกให้พ้นระยะของลูกศร ก่อนจะกระโจนเขาไปรับตัวซู่เริ่นให้ออกจากเส้นทางของมีดบิน

จังหวะเดียวกันกับที่ผลักตัวแม่ทัพออกไปพ้นระยะของลูกศร ชายปริศนาก็เคลื่อนที่อย่างรวดเร็วด้วยวิชาตัวเบา พุ่งตรงเข้าจับร่างของแม่ทัพซู่เหวิ่น

พร้อมกับที่เอ้าเทียนคว้าตัวของซู่เริ่นได้อย่างปลอดภัย แต่หารู้ไม่ว่ามีดบินกลับวนย้อนกลับมาเหมือนบูมเมอแรง ตรงเข้าปักอกของซู่เริ่นเต็มๆ

เวลากลับมาเดินปกติอีกครั้ง ชายปริศนากับแม่ทัพซู่เหวิ่นหายไปจากลานแสดงเรียบร้อยแล้ว ส่วนซู่เริ่นทรุดร่างลงบนตักของเอ้าเทียนที่ล้มนั่งลงกับพื้น เลือดแดงฉานไหลออกมาจากอกองค์ชายเริ่นไม่หยุด เอ้าเทียนสัมผัสได้ถึงชีพจรที่เต้นแผ่วลงเรื่อยๆ ของซู่เริ่น พร้อมกับลมหายใจรวยริน

“เจ้ากำลังจะตาย” เอ้าเทียนพูดเสียงสั่น เขาช่วยอะไรซู่เริ่นไม่ได้อีกแล้ว

เลือดซู่เริ่นทะลักไหลออกจากอกไม่หยุด พร้อมกับชีพจรที่แผ่วลงเรื่อยๆ เอ้าเทียนเองก็รู้ดีว่าบัดนี้ไม่มีใครช่วยซู่เริ่นได้อีกแล้ว เมื่อวาระสุดท้ายของชีวิตชายหนุ่มนักรบคืบคลานเข้ามาเรื่อยๆ

ซู่เริ่นไม่แสดงออกถึงความกลัวใดๆ เขาคิดว่านี่อาจจะเป็นเรื่องดีด้วยซ้ำ หากเขาลาโลกนี้ไปเสียตั้งแต่ตอนนี้ เพราะอยู่ในสภาพเช่นนี้ก็เหมือนตายทั้งเป็น

“ปล่อยให้ข้าตายอย่างสงบเถอะ อึกกก!” ซู่เริ่นกระอักเลือดออกปาก

เอ้าเทียนไม่เข้าใจ เหตุใดสวรรค์จึงปิดหูปิดตาเช่นนี้ คนดีๆ อย่างซู่เริ่น ทำคุณให้แผ่นดินมากมาย แต่กลับต้องมาถูกคนชั่วข่มเหงและจบชีวิตลงอย่างน่าอเนจอนาจ เช่นนี้ไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย

ในเวลาเช่นนี้คงมีเพียงยมบาลเท่านั้นที่เป็นผู้ตัดสินความเป็นความตายของซู่เริ่นได้ หากแม้นซู่เริ่นมีพลังอย่างเอ้าเทียน เหตุการณ์น่าอดสูเช่นนี้คงไม่เกิด แต่น่าเสียดาย ซู่เริ่นเป็นเพียงมนุษย์เดินดินธรรมดา

“มนุษย์เดินดินธรรมดา?” เอ้าเทียนพูดย้ำ พร้อมกับความร้อนลุ่มจากภายในร่างที่ประทุออกมา

จู่ๆ ก็มีเสียงดังขึ้นในหัวของเอ้าเทียน --- หนทางเดียวที่จะปลดปล่อยพลังเทวานี้ออกไป คือต้องหาร่างใหม่ที่ใกล้เคียงกับเอ้าเทียนมากที่สุด เพื่อถ่ายทอดพลังออกจากตัวเอ้าเทียน ซึ่งในปฐพีนี้คงหาคนที่เหมือนเอ้าเทียนไม่ได้อีกแล้ว --- ข้อความนี้ดูจะไม่เป็นจริงเสียแล้ว

จิ้งจอกเงินรู้สึกถึงพลังเทวาที่หลั่งไหลแผ่ซ่านออกมาทั่วกาย ราวกับพบเจอเจ้าของร่างใหม่ที่แท้จริงตรงหน้าชั่วขณะเดียวกัน ผู้คนที่กำลังชุลมุนวุ่นวายอยู่รอบๆ กลับนิ่งสนิทไม่เคลื่อนไหว แม้แต่แมลงวันยังบินค้างอยู่ในอากาศ ทุกอย่างหยุดนิ่งไม่เว้นแม้แต่เวลาของโลก มีเพียงเอ้าเทียนและซู่เริ่นเท่านั้นที่ไม่ตกอยู่ในอำนาจของห้วงเวลานี้

“เจ้าสินะ เจ้าของพลังเทวาที่แท้จริง!!!!” เอ้าเทียนกล่าวกับซู่เริ่น

“นี่คงเป็นหนทางเดียวแล้วล่ะที่จะช่วยเจ้าได้ คุณชายเริ่น” เอ้าเทียนพูดต่อ

ซู่เริ่นที่กำลังจะตายรับรู้ได้ถึงความอบอุ่นจากร่างเอ้าเทียนที่แผ่ซ่านออกมาหาเขา ลำแสงสีทองอร่ามพุ่งไหลออกเป็นสายสู่ร่างของเขาไม่ลดละ พร้อมกับความเจ็บปวดที่ค่อยๆ จางหายไป

แสงทองส่องสว่างไหลอาบชโลมไปทั่วร่างของซู่เริ่น ชีพจรที่ใกล้ดับกลับเต้นระรัวยิ่งกว่าครั้งไหนๆ กำลังวังชาเพิ่มขึ้นทวีคูณ บาดแผลที่เคยถูกกระทำต่างๆ นานา รวมทั้งความทุกข์ทรมานทั้งหลายมลายหายสิ้น ก่อนจะเกิดแสงสว่างจ้า วาบไปทั่วลานกว้าง

เมื่อแสงสว่างหายไป เอ้าเทียนค่อยๆ พยุงตัวเองลุกขึ้น และต้องยืนนิ่งไปชั่วขณะ เมื่อเขาเห็นซู่เริ่นที่บัดนี้ร่างกายเปล่งแสงสวย ผิวกายอาบไปด้วยสีทองผ่อง ใบหน้าสว่างสดใส อยู่ในชุดไหมทองสง่างามปลิ้วไสว ยืนสง่างามอย่างเทพหนุ่มชวนหลงไหล

ท่ามกลางเวลาที่หยุดนิ่ง เซียนหนุ่มรูปงามสองคนยืนอยู่กลางลานใหญ่ คนหนึ่งร่างกายเปล่งแสงออร่าสีเงิน ใบหน้าคมคายพร้อมไรผมสีขาวประกายเงิน อยู่ในชุดคลุมยาวสีเงินขลิบขอบขาว อีกคนมีร่างออร่าสีทอง ใบหน้าเหมือนกันทุกกระเบียดนิ้ว ริ้วผมดำสนิทปลิ้วสลวย อยู่ในชุดคลุมยาวสีทองขลิบขอบดำ

คนหนึ่งเหมือนจิ้งจอกตัวแทนของดวงจันทร์ ให้ความรู้สึกถึงไอเย็นยะเยือก เปี่ยมไปด้วยสติปัญญา อีกคนเหมือนราชสีห์ตัวแทนของดวงอาทิตย์ ให้ความรู้สึกถึงรัศมีความร้อน เปี่ยมไปด้วยความกล้าหาญมุ่งมั่น ยามที่บุรุษสองคนนี้ยืนอยู่ด้วยกัน เหมือนความแตกต่างที่ลงตัวที่สุด

“สดชื่นจริงๆ เลยยย ฮ่าๆๆๆ” ซู่เริ่นร่างเทพพูดประโยคแรก

“ใจเย็นๆ ก่อนนะ เจ้าพึ่งรับพลังเข้าไป เรายังไม่รู้ว่าพลังของเจ้าเป็นแบบไหน? อาจก่อให้เกิดอันตรายขึ้นได้นะ” เอ้าเทียนปราม

“พลังของข้ารึ? ฮ่าๆๆ ทำไมเจ้าของพลังอย่างข้าจะไม่รู้” ซู่เริ่นตอบพลางอมยิ้ม พร้อมกล่าวต่อ

“พลังของเจ้าคือเปิดมิติเวลาและเร่งไปยังอนาคตข้างหน้าได้ พลังของข้านั้นก็ตรงกันข้ามกับของเจ้าโดยสิ้นเชิง” ซู่เริ่นพูด

“ถ้าเช่นนั้น...?” เอ้าเทียนไม่พูดต่อ เขาเข้าใจทุกอย่างได้ทันที พลังของเขาคือเร่งเวลาให้เดินไปข้างหน้า เหมือนที่เขาเคยส่งจอมมารงูดำอู่ท่งไปยังอนาคตได้ ส่วนพลังของซู่เริ่นก็...

“ใช่! ข้าสามารถย้อนเวลาถอยหลัง กลับไปยังอดีตได้” ซู่เริ่นพูดอย่างร่าเริง

คนหนึ่งปรับเวลาไปสู่อนาคต คนหนึ่งย้อนเวลากลับสู่อดีต ยามที่เทพทั้งสองอยู่ด้วยกันจึงสามารถควบคุมเวลาได้ทั้งหมด เหมือนกับตอนนี้ที่เวลาหยุดนิ่ง ทุกอย่างไม่เคลื่อนไหว นั่นก็เพราะเวลาไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้ด้วยพลังเวทย์จากซู่เริ่น

หรือเวลาที่เอ้าเทียนกระโดดสลายร่างหายไปในอากาศแล้วไปโผล่อีกที่หนึ่ง นั้นไม่ใช่การหายตัวจากตำแหน่งหนึ่งไปยังอีกตำแหน่งหนึ่ง แต่เป็นเพราะเวทย์เร่งเวลาของเอ้าเทียน ที่ทำให้เวลาของเขาเดินเร็วกว่าคนอื่น เร็วจนคนทั่วไปไม่ทันรู้สึกอะไร แต่นานพอให้เขาย้ายตัวเองไปยังปลายทางได้ กว่ามนุษย์จะทันรู้ตัว ก็เห็นเอ้าเทียนตรงหน้าหายไปเสียแล้ว

“ถึงเวลาเอาคืนคนพวกนี้แล้วล่ะ” ซู่เริ่นกล่าว พร้อมคลายพลังออกให้เวลาเดินตามปกติ

ณ มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง

“และค่ำคืนนี้ เราได้ผู้ชนะในการประกวดดาว-เดือนของมหาวิทยาลัยเรียบร้อยแล้วครับทุกๆ ท่าน ขอเสียงปรบมือให้ผู้เข้าประกวดทุกคนในที่นี้ด้วยครับบบ” พิธีกรชายกล่าว

บนเวทีเต็มไปด้วยหนุ่มหล่อสาวสวยยืนเรียงกันหลายสิบคน ถึงอย่างนั้นก็ไม่อาจปกปิดความโดดเด่นของชายหนุ่มหนึ่งในผู้เข้าประกวดได้ ด้วยใบหน้าที่แตกต่างโดดเด่นออกมาจากผู้เข้าประกวดคนอื่นๆ อย่างชัดเจน

“และผู้ที่ชนะในการประกวดเดือนสุดหล่อของเรา ได้แก่....”พิธีกรชายพูด พร้อมเสียงดนตรีบรรเลงอย่างลุ้นระทึก

“นายธวัลเทพ นิลนาคา หรือน้องภีต ตัวเต่งอันดับหนึ่งของเรานั่นเองครับบบบบบ” เสียงปรบมือ พร้อมเสียงกริ๊ดกร๊าดจากผู้ชมดังลั่นไปทั่ว

ใช่แล้ว พิธีกรประกาศเรียกชื่อผม นี่ผมได้รางวัลรึ ไม่น่าเชื่อจริงๆ ผมไม่เคยคิดว่าตัวเองหล่อหรือดูดีอะไรเลย จริงๆ ไม่ได้สนใจเรื่องรูปร่างหน้าตาด้วยซ้ำ

สิ่งที่ผมให้ความสนใจมากกว่าก็คือความทรงจำของผมต่างหาก ผมจำอะไรไม่ได้เลยนับตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุรถชนตอนที่ผมกำลังข้ามถนน ผมจำได้ครั้งสุดท้ายว่าไปดูการแข่งขันรักบี้อะไรสักอย่าง สิ่งเดียวที่ผมจำได้คือผมชื่อภีต ชื่อจริงก็อย่างที่พิธีกรประกาศไปนั่นแหละครับ

ส่วนครอบครัวผมน่ะหรอ? ผมก็จำไม่ได้เลยสักนิด ไม่มีประกาศตามตัวคนหายหรืออะไรสักอย่าง ในอดีตผมคงเป็นคนเลวมาก ขนาดญาติพี่น้องยังไม่แสดงตัวช่วยเหลือ

โชคดีที่คุณลุงที่ขับรถชนผมเค้ามีความรับผิดชอบ แกชื่อปรานต์ภพครับ แกยอมให้ผมพักอาศัยในบ้านของแกไปก่อน และเลี้ยงดูผมเหมือนลูกคนหนึ่ง อีกทั้งยังใช้เส้นสายให้ผมได้เข้าเรียนในสถาบันแห่งนี้ด้วย นับว่ามีบุญคุญกับผมมากจริงๆ

จะว่าไปคุณลุงปรานต์ภพที่ช่วยผมก็รวยนะ บ้านที่อยู่ตอนนี้ก็ใหญ่อย่างกับคฤหาสถ์ ในบ้านมีคุณลุงอาศัยอยู่กับลูกชายคนหนึ่งชื่อเพิร์ท เห็นว่าไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของคุณลุงหรอกครับ แต่เป็นลูกที่ติดมาจากภรรยาใหม่ แต่โชคร้ายที่ภรรยาเสียไปซะก่อน

เพิร์ทก็อายุใกล้กับผมนี่แหละครับ แถมเรายังเรียนมหาลัยเดียวกัน คณะเดียวกันอีกด้วย สรุปเราสามคนคือผมกับคุณลุงและเพิร์ทก็เลยต้องอยู่ด้วยกันในบ้านหลังใหญ่ ยังดีที่มีคนรับใช้ ไม่งั้นคงเก็บกวาดไม่ไหวแน่ๆ

“น้องภีตครับ!!!! น้องได้รางวัลที่หนึ่งครับ” เสียงพิธีกรชายดังขึ้นทำลายความคิดของผม

“อ่อครับๆ” ผมพยักหน้ารับ รีบก้าวออกจากแถว เดินมาหน้าเวที ไฟสปอร์ตไลท์สาดส่องมาที่ผม ทำเอาแสบตาไปหมด มองไปข้างหน้าแทบไม่เห็นอะไร นอกจากกลุ่มคนดูจำนวนมาก

“เออ...ผมขอขอบคุณมากจริงๆ ครับสำหรับตำแหน่งนี้” ผมพูดแบบไม่มีสคลิป เพราะไม่คิดว่าจะชนะด้วยซ้ำ เสียงกริ๊ดหยุดลง ทุกคนดูตั้งหน้าตั้งตาฟังสิ่งที่ผมจะพูด

“จริงๆ ผมก็ดีใจนะครับที่ได้รับรางวัลนี้ แต่ลึกๆ ผมอยากให้เราทุกคนมองกันที่ภายในมากกว่ารูปลักษณ์ภายนอกนะครับ” เสียงปรับมือดังไปทั่วเมื่อผมพูดจบ

“สมแล้วครับกับตำแหน่งเดือนมหาลัยในปีนี้ หล่อทั้งข้างนอกและข้างในจริงๆ นะครับ ไม่แปลกใจเลยที่น้องภีตจะเป็นที่รักของทุกๆ คนด้วยคะแนนโหวตที่ล้นหลามขนาดนี้” พิธีกรกล่าว

“ใช่ค่ะ สำหรับน้องภีตของเรานั้น เป็นหนุ่มหล่อรูปร่างดี เรียนเก่ง เล่นกีฬาได้ นิสัยก็ดี มีแต่คนชื่นชม Perfect อะไรอย่างนี้” พิธีกรหญิงประกาศ พร้อมเสียงเชียร์จากคนดูดังกระหึ่ม

ทุกคนแสดงความยินดีกับภีตกันถ้วนหน้า ยกเว้นเพิร์ทที่อยู่ในกลุ่มคนดู เขายืนกำมัดแน่นด้วยความอิจฉาริษยาในตัวภีต เด็กหนุ่มที่พ่อทิ้งไปตั้งแต่ยังเล็ก ต้องทนอยู่กับแม่ซึ่งแต่งงานใหม่กับคุณลุงปรานต์ภพที่ไม่ใช่พ่อแท้ๆ และตอนนี้ยังมีภีตเข้ามาวุ่นวายอีกคน

“ไอ้ภีต แกต้องโดนสั่งสอนซะบ้าง” เพิร์ทกัดฟันนิ่ง ท่ามกลางเสียงกริ๊ดจากคนดูให้เดือนคนใหม่

ทันทีที่ซู่เริ่นคลายพลังลง เวลาก็กลับมาเดินตามปกติ บัดนี้สิงโตทองและจิ้งจอกเงินตกอยู่ท่ามกลางฝูงคนพร้อมอาวุธครบมือ

“ซู่..เริ่น ทำไมเจ้าถึง...?!?!?” หงเวยตะกุกตะกัก ล่าสุดที่เห็นคือซู่เริ่นกำลังจะตาย แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นหนุ่มหล่อรูปงามมีแสงออร่าสีทองเปล่งประกาย

“ยิงงงงงงงง!!!!” หงฟู่ผู้เป็นพ่อไม่รอช้า รีบสั่งให้พลทหารทั้งหลายระดมสาดลูกธนูพุ่งตรงเข้าจุดศูนย์กลางที่ซึ่งเอ้าเทียนและซู่เริ่นยืนอยู่

ลูกดอกนับร้อยวิ่งพุ่งเข้าหาร่างของทั้งสองอย่างรวดเร็ว และเป็นจังหวะเดียวกับที่ซู่เริ่นใช้เวทย์ย้อนเวลาพาลูกศรที่วิ่งตรงมา ย้อนกลับไปทางเดิม พร้อมๆ กับที่เอ้าเทียนใช้มนต์เร่งเวลา พาตัวเองและซู่เริ่นออกจากเป้าหมายของศรแหลม เหตุการณ์ย้อนกลับมาดำเนินเป็นปกติอีกครั้ง

“ยิงงงงงงงง!!!!” หงฟู่ผู้เป็นพ่อไม่รอช้า รีบสั่งให้พลทหารทั้งหลายระดมสาดลูกธนูพุ่งตรงเข้าจุดศูนย์กลางที่ซึ่งเอ้าเทียนและซู่เริ่นยืนอยู่

กว่าลูกศรจะถูกยิงมาอีกครั้ง เป้าหมายทั้งสองก็หายไปอยู่ข้างหลังของเหล่าทหารเสียแล้ว ทิ้งให้เหล่าทหารยืนงงว่าเหตุใดทั้งสองจึงหลบลูกธนูได้ว่องไวปานนั้น โดยหารู้ไม่ว่าเทพทั้งสองปรับเวลาไปมาเรียบร้อยแล้ว

ไม่รอช้า เอ้าเทียนแผ่ไอเย็นเป็นบริเวณกว้างจนทหารทั้งหลายยืนสั่นดิกๆ ความเย็นจี้ไปถึงขั้วหัวใจ ขยับไม่ได้แม้ปลายเท้า ขณะที่ซู่เริ่นก็ปลดปล่อยรังสีความร้อนแผดเผาทหารจนวิ่งอุตลุดแตกตื่นเหมือนคนเสียสติ

บัดนี้เหล่าทหารทั้งหลายโดนสองเทพยำเละ เพราะไม่ว่าจะทำอะไรก็เหมือนสองเทพจะรู้ทันไปเสียหมด เหตุการณ์จึงจบลงด้วยการที่เหล่าทหารล้มไปนอนเป็นกองเต็มพื้น หงฟู่กับหงเวยเห็นท่าไม่ดีจึงรีบพากันหนีออกจากลาน

“จะรีบไปไหน ไอ้สองพ่อลูก!!!” ซู่เริ่นยิ้มมุมปาก ทำเอาสองพ่อลูกหยุดชะงัก

“ปล่อยข้าไปเถอะ” หงเวยร้องขอชีวิต

“ข้าปล่อยแน่....ปล่อยทุกหยาดหยดในตัวเจ้าไง” ซู่เริ่นพูด ฝ่ายเอ้าเทียนได้แต่ยืนส่ายหน้า

เริ่นกระชากสองพ่อลูกมาคุกเข่าตรงหน้า ขณะที่ซู่เริ่นกำลังหันหลังไปประกาศบางอย่างกับคนดู หงฟู่ผู้เป็นพ่อรีบคว้าหอกยาวจากกองทหารที่สลบอยู่ใกล้ๆ ขว้างตรงเข้าใส่ร่างซู่เริ่นทันที

เป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่เอ้าเทียนกำลังจะร้องขึ้นเตือนให้ซู่เริ่นระวัง วินาทีเดียวกับที่หงฟู่ลุกขึ้นเตรียมวิ่งหนี เป็นจังหวะเดียวกับที่ซู่เริ่นหันหน้าปะทะกับหอกยาวที่พุ่งตรงมา

และไม่ทันที่จะสังเกตุอะไรได้ ซู่เริ่นปัดมือตัวเอง ปล่อยลมปราณกระแทกหอกยาว สบัดกลับไปในทิศทางที่พุ่งตรงเข้ามา ย้อนกลับใส่ร่างอ้วนของหงฟู่เหมือนยิงศรเข้าเป้า เสียบทะลุพุงหนา นอนดื้นกับพื้นอย่างทรมาน

ความจริงที่เอ้าเทียนจะร้องบอกให้ซู่เริ่นระวัง ไม่ใช่ให้ระวังหอกหรอก แต่ให้ระวังการใช้พลังใหม่ของตัวเองต่างหาก

“เราทนดูไม่ได้จริงๆ” เอ้าเทียนรีบกระโดดเข้าไปคว้าร่างของหงฟู่ แล้วสลายหายไปในอากาศ เขารู้ดีว่าสิ่งที่ซู่เริ่นกำลังจะทำนั้นคงเลวร้ายมาก แต่เขาก็ไม่อยากเข้าไปห้ามหรือขัดขวางตอนนี้ อย่างไรเสียช่วยชีวิตคนเจ็บสำคัญกว่า

“ม่ายยยยยยยยยยยยย ท่านพ่ออออ” หงเว่ยพูดเป็นลูกร้องอย่างคนบ้า

“ข้าคิดจะไว้ชีวิตอยู่แล้วเชียว ไม่น่ามาลอบกัดกันอย่างนี้” ซู่เริ่นพูด

เหตุการณ์สักครู่เขาไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายหงฟู่ เพียงแต่เป็นเหตุบังเอิญเท่านั้น เมื่อมาคิดดูแล้วสิ่งที่หงฟู่เคยทำกับเขามันเลวร้ายยิ่งกว่านี้เสียอีก นี่ก็นับว่าเป็นเวรกรรมเสียแล้วกัน และเขาก็ไม่ใช่เทพพ่อพระอย่างเอ้าเทียนเสียด้วย เขามันเป็นเทพเจ้าสำราญ จอมหื่น ขี้เงี่ยนสุดๆ

“ท่านทั้งหลาย ไม่ต้องตกใจ นี่เป็นหนึ่งในการแสดงที่พวกเราเตรียมไว้ให้พวกท่านเท่านั้นเอง รอบนี้จะเป็นรอบสุดท้ายที่คืนกำไรให้กับคนดู ใครที่กล้าแก้ผ้าและเข้าร่วมดูบทบรรเลงเพลงกามของข้ากับหงเว่ย ข้าจะให้พวกท่านคนละห้าสิบช่าง” ซู่เริ่นประกาศ

เมื่อคนดูทราบก็ค่อยคลายกังวล นึกว่ามีการฆ่ากันสดๆ ในลานเสียแล้ว สิ่งที่น่าสนใจกว่าตอนนี้คือการแสดงชุดใหม่ที่ซู่เริ่นประกาศ แม้ว่าหงเว่ยจะเป็นลูกกษัตริย์ที่ปกครองเมือง แต่วันๆ ก็ไม่ได้ทำอะไรที่เป็นประโยชน์ ไม่ได้มีบารมียิ่งใหญ่อะไรพิเศษ แค่เข้าไปดูใกล้ๆ แถมได้เงินมาใช้อีกตั้งเป็นโข

คิดได้ดังนี้ กลุ่มคนก็รีบวิ่งกูกันเข้ามายืนล้อมรอบซู่เริ่นและหงเว่ย ซู่เริ่นบังคับให้หงเว่ยยืนขึ้นเคียงข้างกับตน ตอนนี้ผู้คนเริ่มวิจารณ์กับขรม

“ถ้าเทียบกันแล้ว เทพบุตรเริ่นดูดีกว่าทุกด้านจริงๆ ว่ะ”

“ข้าเหนด้วย หน้าตาหล่อเหลากว่า ร่างกายก็สมส่วนกว่า มึงดูกล้ามแขนดิ ใหญ่พอๆ กับหัวทารก”

“อะไรกันนี่ข้าแค่ยืนเฉยๆ นะ อยากเห็นกล้ามของข้า ดูนี่...” เริ่นหัวเราะชอบใจ ยกแขนขวาขึ้นมา กำหมัดพร้อมเบ่งกล้ามให้ประชาชนดู

กล้ามซู่เริ่นจากเดิมก็ขนาดเท่าหัวเด็กอยู่แล้ว พอซู่เริ่นเบ่งเข้าหน่อย กล้ามเนื้อภายในก็ถูกรีดให้ขยายขนาดใหญ่ขึ้น แถมเส้นเลือดก็ปูนโปนตามแขนไปทุกอนู

“โห แม่ง ใหญ่ขึ้นอีกจริงๆ ด้วยว่ะ เส้นเลือดขึ้นโคตรชัด” คนดูชม

“ถึงมึงจะหล่อแค่ไหน แต่ควยกูก็สวยกว่าของมึงอยู่ดี ดูสภาพควยมึงสิ ยับเยินดูไม่ได้เลยว่ะ” หงฟู่ปากดี ตะคอกใส่หน้าพร้อมมองต่ำไปทางควยของซู่เริ่น

พูดจบหงเว่ยก็เหลือกตาให้ซู่เริ่นมองไปทางควยมันบ้าง ซึ่งตอนนี้แม้จะเพิ่งเย็ดไปแต่กลับแข็งตะหง่าน แถมทำหน้าเบ่งท้าทาย คนดูก็มองตาม

“เดี๋ยวได้รู้กัน” ซู่เริ่นตอบสั้นๆ

“เจ้าคงได้มาเห็นเฉพาะตอนที่ควยข้าโดนทรมานแล้วสินะ วันนี้ข้าจะให้เจ้าเห็นว่า ควยของไอ้ซู่เริ่น ราชบุตรคนเดียวของตระกูลซู่ ก่อนที่จะโดนกระทำมันเป็นยังไง”

ซู่เริ่นปลดเสื้อผ้าออกจนหมด แอ่นควยของตนที่อ่อนตัวและโดนกระทำจนช้ำชนกับควยของหงเว่ย หงเว่นจ้องมองควยบอบช้ำ แสยะปากด้วยความสมเพช ซู่เริ่นจ้องหน้าหงเว่ยก่อนจะปล่อยไอแสงสีทองมาชโลมทั่วเครื่องเพศ ปรับให้สภาพร่างกายส่วนสุดท้ายที่ยังบอบช้ำกลับไปเป็นเหมือนเดิม

พักเดียวก็เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงที่ควยของซู่เริ่น ไข่ที่เคยบอบช้ำ สีกลับมาเป็นเหมือนสีเดียวกับเนื้อ แถมห้อยใหญ่อย่างกับไข่ไก่ ควยที่มีรอยเขียว ม่วงจากการฟกช้ำและถูกจับฉีดยา ก็ซีดจากลงกลับไปสภาพเดิม อัญมณีและรอยสักทั้งหลายสลายหายไปจนสิ้น

“โห มึงดูไข่ของไอ้เทพบุตรดิ แม่งใหญ่เกือบเท่าไข่ไก่เลย”

“ไม่ใช่แค่ไข่นะเว้ย มึงดูลำควยมันดิ นี่ขนาดยังอ่อนตัวอยู่ ความอวบนี่เท่ากับควยขององชายหงเว่ยเลยนะ”

“เออมึงดูตรงหนังหุ้มที่หัวควยดิ ปิดหัวควยไม่มิดเลยว่ะ แม่งขนาดยังไม่แข็ง”

“คุ้มค่าที่สุดตั้งแต่เคยดูการแสดงของที่นี่เลยว่ะ”

ตอนนี้หงเว่ยเริ่มสีหน้าไม่ดี ซู่เริ่นยิ้มมุมปาก ก่อนที่จะให้อารมณ์เงี่ยนพาตัวเองเข้าครอบงำร่างกาย ควยที่อ่อนตัวอยู่ขยายตัวขึ้นทีละนิดๆ เลือดในกายเทพพุ่งตรงไปที่ลำควยมากขึ้นๆ ควยที่เคยห้อยลงตอนนี้เอียงข้างกลับขึ้นมาตั้งตรงขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับความใหญ่และความยาวที่เพิ่มขึ้นอย่างไม่หยุด

พื้นที่ทั้งเวทีเงียบสงัด สายตาทุกคู่จับจ้องไปที่ควยของซู่เริ่น ตอนนี้ไข่ของทั้งสองแนบชนกัน แต่ความใหญ่ของไข่เทียบชั้นกันไม่ได้เหมือนไข่ไก่กับลูกมะนาว ตอนนี้หัวควยของซู่เริ่นยาวเลยหัวควยของหงเว่ยไปแล้ว หนังหุ้มที่เดิมก็ปิดแทบไม่มิดอยู่แล้ว ก็ค่อยๆ ร่นลงมา พร้อมกับรอยสักว่า “หลงควย” ก็ค่อยๆ จางลงจนหายไป

เผยให้เห็นหัวควยสีแดงก่ำ บานใหญ่จนสุดพลัง แล้วน้ำเงี่ยนใสๆ ก็ไหลออกมาเป็นทาง เสียงประชาชนระงมขึ้นมาทันที

“มึงดูควยมันดิ รอยสักหายไปแล้ว ตอนนี้ควยแม่งสวยมาก ทั้งยาวทั้งใหญ่เลย”

“เออ ควยสวยจริง ดูตรงหัวควยดิแม่ง โคตรใหญ่เลย”

“ตอนนี้ไอ้เทพบุตรนี่มันชนะทุกอย่างแล้วจริงๆว่ะ”

“เป็นอย่างไร พูดมาสิว่าควยใครสวยกว่ากัน” หงเว่ยอ้ำอึ้ง หน้าถอดสี

“ไม่ตอบก็ไม่เป็ฯไร งั้นให้คนดูตอบแทนละกัน” ซู่เริ่นกล่าว พร้อมกำตรงโคนควยทั้งสองแท่งไว้ด้วยกัน

“ควยของข้ากับหงเว่ย ของใครยาวกว่ากัน” ซู่เริ่นตะโกนถาม

“ท่านซู่เริ่นนนนน...ควยยาวกว่าชัดๆ เลย” คนดูตอบ

“แล้วควยใครใหญ่กว่า” ซู่เริ่นถามต่อ

“ก็ท่านซู่เริ่นอีกนั้นแหละ” คนดูตอบเป็นเสียงเดียวกัน

“ได้ยินชัดไหม ไอ้หงเว่ย” ซู่เริ่นเยาะเย้ยหงเว่ยอย่างสะใจ

พูดจบซู่เริ่นปาดน้ำเงี่ยนของตนเองที่ไหลออกมาไม่หยุดจนนองพื้น เอามาป้ายให้หัวควยของหงเว่ย “ข้าให้ เห็นน้ำเงี่ยนเจ้าไม่ค่อยจะมี” ซู่เริ่นยักคิ้วให้อย่างสะใจ

หงเว่ยโกรธมากแต่ทำอะไรไม่ได้ เพราะอยู่ในสภาพเสียเปรียบ ได้แต่แสดงออกทางสีหน้า

“เอาหล่ะทุกท่าน ถึงเวลาที่ทุกท่านรอคอยแล้ว เจ้าเมืองผู้ไร้ประโยชน์ของท่านกำลังจะโดนเย็ด!”

เสียงเฮดังลั่น ซู่เริ่นจับหงเว่ยนอนคว่ำกลางเวที และแหกขาหงเว่ยออกจากกัน สายตาทุกคู่จ้องที่หัวควยขนาดใหญ่ของซู่เริ่นที่สำรอกน้ำเงี่ยนใสๆ ยืดเหนียวลงสู่พื้น

“มองตรงไปเข้าหน้าสิไอ้หงเว่ย ประชาชนกำลังมองเจ้าโดนเย็ดอยู่ ชอบไหมล่ะ” ซู่เริ่นถาม

“ช่างแม่งสิ คนพวกนี้จะเป็นอย่างไร กูไม่เคยสนใจพวกมันอยู่แล้ว” หงเว่ยตอบ

“สงสัยคราวนี้ต้องขอยืมแรงประชาชนของเจ้าหน่อยแล้ว” ซู่เริ่นทักขณะที่ฟูงชนเริ่มโกรธหงเว่ย

“คิดจะทำไรข้า!?!?” หงเว่ยขวัญเสีย

“ขอแรงพวกท่านทั้งหลาย ช่วยจับตัวคุณชายหงเว่ยโยกกับควยของข้าที ข้าจะยืนอยู่เฉยๆ” ซู่เริ่นร้องบอก

ซู่เริ่นรู้ดีว่าประชาชนกำลังโกรธ ชาวเมืองยิ้มสะใจที่จะได้สั่งสอนไอ้เจ้าเมืองปากดี จึงยอมทำแต่โดยดี

“เอาล่ะ ด้านหน้าดันมันมา” ซู่เริ่นสั่ง

ตัวหงเว่ยถูกดันเข้ามาหาซู่เริ่นเรื่อยๆ ในระดับเอวของซู่เริ่น ตูดมันเข้าใกล้ควยบานๆ มากขึ้นๆ ส่วนด้านซ้ายขวาก็รู้งาน ค่อยๆ จับขาหงเว่ยฉีกไปคนละทาง เผยให้เห็นรูตูดสีชมพูระเรื่อเด่นชัด

ควยของซู่เริ่นที่ห่างจากรูตูดหงเว่ยไม่ถึงนิ้ว ตอนนี้เหมือนฉลามกำลังจะได้กินเหยื่อ กระดกหงึกๆ เตรียมแหวกเข้าร่องแคบๆ

ด้านซ้ายขวาดึงขาหงเว่ยถอยหลังมาอีก ทำให้ควยซู่เริ่นสัมผัสอยู่ที่ปากรูตูดพอดี หงเว่ยเสียววาบขนลุก เมื่อรู้ตัวว่าจะถูกรุกล้ำ ซู่เริ่นโชว์ลีลาจับหัวควยตัวเองลูบไปมารอบๆ รูตูด แถมใช้นิ้วแหกให้ดูว่าขนาดรูกับขนาดควยต่างกันขนาดไหน

ประชาชนตื่นเต้นที่จะได้เห็นฉากนี้ ซุบซิบกันเกรียวกราว

“แม่งโคตรเงี่ยนเลยว่ะ มึงดูดิ ควยใหญ่ขนาดนั้นจะเข้าไปได้ไหมวะ”

“แม่งเอ้ย โคตรเงี่ยน กูจะชักว่าวละ” ชาวเมืองหลายๆ คนเริ่มควักควยตัวเองออกมาชักว่าวตาม ซู่เริ่นยังยั่วคนดูต่อไป

“เจ้าคนนั้นช่วยจับควยข้าไว้ให้มั่น เตรียมยัดเข้ารูตูดเจ้าเมืองของเจ้าที” ซู่เริ่นร้องบอกคนดูคนหนึ่ง

ไอ้หนุ่มคนนั้นยื่นมือสั่นๆ อย่างตื่นเต้นออกมากำรอบควยซู่เริ่น พลางคิดในใจว่าควยอะไรแข็งและอุ่นได้ขนาดนี้ กำเกือบไม่รอบแถมยาวมากๆ

“จับไว้ดีๆ ข้าพร้อมแล้ว” ซู่เริ่นชอบมากที่มีคนมาจับควยให้ก่อนจะยัดเข้ารูตูดของหงเว่ย

ซู่เริ่นเอี้ยวคอมาสบตากับชาวเมืองด้านซ้ายขวา แล้วยักหน้าเป็นอันรู้กัน ขาหงเว่ยถูกดึงถอยหลังเข้ามามากขึ้น ไอ้หนุ่มคนนั้นกำควยซู่เริ่นไว้แน่น ควยซู่เริ่นที่จ่ออยู่ที่ปากรูค่อยๆ ยัดเข้าไปในรูของหงเว่ย

“โอ้ยยยยยยยยยยยย เจ็บบบบบบบบบบบบบบบ” หงเว่ยร้องอย่างทรมาน แต่ในที่นี้ไม่มีใครสงสารสักคน หัวควยขนาดใหญ่แหวกเข้ารูตูดจนเลือดเริ่มซึมออกมา

“ไอ้สัสสสสสสส ปล่อยข้า ปล่อยข้า ปล่อยข้า” หงเว่ยดิ้นไม่หลุดจากเหล่าคนดูที่ร่วมแสดงครั้งนี้

ซู่เริ่นหันไปพยักหน้าอีกครั้ง ก่อนที่ขาสองข้างของหงเว่ยจะถูกดึงถอยหลังอย่างแรง พร้อมๆ กับที่คนดูที่จับควยของซู่เริ่นปล่อยมือให้ควยยัดเข้าไปจนสุด ซวบบบบบบบบบ! เลือดสีแดงสดไหลหยดออกมาจากปากรูตูดหงเว่ย

“โอ๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ไอ้พวกระยำ ใครก็ได้ช่วยข้าที ช่วยด้วยยยยย” หงเว่ยร้องขอความช่วยเหลือจนลั่นไปทั่วบริเวณ

ควยซู่เริ่นยัดเข้าไปจนเกือบสุดลำ ซู่เริ่นกัดฟันยิ้มอย่างสะใจ ซึบซาบความกระชับของผนังรูตูด ฝ่ายคนดูก็วิพากษ์วิจารณ์กันระงม

“เข้าไปแล้วว่ะ สุดยอดดดดดด”

“เข้าไปได้ไงวะหัวควยใหญ่ขนาดนี้”

“โอ้ย ข้าไม่ไหวแล้ว ข้าขอแตกก่อนนะ” บางคนเงี่ยนกับภาพที่เห็นจนทนไม่ไหว แตกไปแล้วก็มี

“เอาหล่ะ ด้านหน้า ด้านหลัง พร้อมนะ จัดมาแรงๆ เลย” ซู่เริ่นรุกต่อ

ตัวหงเว่ยถูกดึงแขน ดึงขา ดันให้ตูดเคลื่อนที่เข้าออก คลอบควยใหญ่ๆ ของซู่เริ่นไว้ หงเว่ยร้องเสียงหลง ส่วนซู่เริ่นกลับร้องครางด้วยความเสียว หงเว่ยโดนจับให้ถูกเย็ดท่านี้อยู่นาน

“คราวนี้ข้าขอลงมือเองบ้างดีกว่า” ซู่เริ่นบอก

ร่างของหงเว่ยถูกโยนลงกับพื้นในสภาพกางแขนกางขา เลือดไหลออกจากตูด หงเว่ยน้ำตาไหลด้วยความเจ็บและความอาย

“ไม่ร้องนะคนดีของข้า ดีใจที่จะได้เป็นเมียข้าใช่ไหม? ฮ่าๆๆ” ซู่เริ่มพูด

ซู่เริ่นก้มลงไปช้อนตัวเอาแขนหงเว่ยมาจับที่หลังของตน ทันใดนั้นซู่เริ่นก็ยกหงเว่ยทั้งตัวขึ้นมาที่หน้าอกให้หงเว่ยเกาะ แล้วก็แทงควยสวนขึ้นไปทันที

“อ๊ากกกกกกกกกกกกก” หงเว่ยร้องเสียงสั่นไปตามแรกกระแทกของซู่เหวิน

ท่านี้อีกแล้ว เป็นท่าเดียวกับตอนโดนเอ้าเทียนในร่างพลังเทวาเย็ดที่ลานประกวด มาตอนนี้หงเว่ยถูกเย็ดโดยเจ้าของพลังที่แท้จริง เรียกว่าผ่านควยทั้งสองเทพมาแล้วอย่างสาหัสสากรรจ์

“ข้าชอบท่านี้จริงๆ รู้สึกว่าจะเข้าได้ลึกดี จริงไหม?” ซู่เริ่นหันไปถาม

คนดูที่มุงอยู่รอบข้าง กำลังจ้องที่ตูดของหงเว่ยซึ่งโดนซู่เริ่นขย่มแทงขึ้นไปอย่างไม่ยั้ง น้ำหนักตัวที่ลงมาทำให้เกิดเสียงกระทบดัง ปั๊กๆๆๆๆๆ การเย็ดดำเนินต่อไปเรื่อยๆ จนฝูงคนทั้งหลายต่างก็ชื่นชมในความอึดของซู่เริ่น

“สุดยอดเลย ซู่เริ่นเย็ดเก่งจริงๆ”

“แถมอึดมากด้วย”

“ท่านี้ข้าเคยเย็ดกับเมีย ไม่เกินห้านาที ข้าก็ต้องวางเมียลงแล้ว โคตรเมื่อย แต่พวกเราดูคุณชายเริ่นสิ เย็ดท่าอุ้มแตงมาเกือบสิบห้านาทีแล้ว ยังเย็ดแรงไม่ตกเลย”

“ไม่น่าสงสัยหรอก เอ็งดูดกล้ามแขนดิ ใหญ่ขนาดนั้นยกคนได้สบายอยู่แล้ว”

ชาวเมืองวิจารณ์กันสนุกปาก ซักพักไอ้หงเว่ยเริ่มรู้สึกแปลกๆ ควยมันแข็งขึ้นเรื่อยๆ ตอนที่โดนเย็ด ตอนนี้ควยมันถูขึ้นลงๆ ไปกับกล้ามหน้าอกของซู่เริ่นและค่อยๆ ปล่อยน้ำเงี่ยนใสๆ ออกมา

“เห้ยเอ็งดูดิ ควยหงเว่ยแข็งแล้วว่ะ”

“สงสัยโดนเย็ดจนเงี่ยน”

“เงี่ยนแล้วเหรอไอ้หงเว่ย” ซู่เริ่นถาม หงเว่ยเงียบไม่ยอมตอบ

“ข้าถามว่าเงี่ยนไหมมมมมมม” ซู่เริ่นกดตัวหงเว่ยลงแล้วกระเด้าเย็ดเข้าไปอย่างบ้าคลั่ง

“ซีสสสสส เงี่ยนโว้ยยยย ข้าเงี่ยนนนน ช่สยอมแล้ว เย็ดข้าแรงๆ เลย” หงเว่ยปริปากออกมาอย่างอายสุดขีด ไม่สามารถปฏิเสธสัญชาตญาณการผสมพันธ์ของตัวเองได้

ตอนนี้จากเสียงร้องครวญครางกลายเป็นเสียงกระเส่าลั่นบริเวณ ผ่านไปพักใหญ่ ซู่เริ่นจับตัวหงเว่ยให้สูงขึ้น แล้วค่อยๆ ถอนควยออกจากรูตูด หัวควยบานใหญ่ค่อยๆ ถ่างรูตูดจนออกมาภายนอกเสียงดังบล็อกกกกก

พร้อมกับน้ำเงี่ยนปริมาณมหาศาล ผสมกับเลือดทะลักตามออกมา ฉากนี้เล่นเอาชาวเมืองหลายคนน้ำแตกไปตามๆ กัน แล้วซู่เริ่นก็วางหงเว่ยนอนหงายลงกับพื้น ก่อนจะดัดหลังยกปลายเท้าให้งอโค้งมาด้านบน

ตอนนี้สภาพหงเว่ยอยู่ในท่าที่พิเรนสุดๆ หัวและไหล่นอนหงายอยู่กับพื้น หลังโดนดัดตั้งฉากกับพื้น ขากางออกกลับมาที่หัว ทำให้ควยของหงเว่ยจ่อมาที่ปากตัวเอง ในขณะที่ตูดลอยเด่นอยู่ด้านบน

ซู่เริ่นจับหัวควยขนาดใหญ่ของตัวเอง จ่อไปที่รูตูดของหงเว่ยอีกครั้ง ท่านี้ได้เสียงเฮจากผู้ชมเยอะที่สุดเนื่องจากทุกคนสามารถเห็นควยซู่เริ่นยัดเข้ารูตูดหงเว่ยอย่างชัดเจน

“เจ้าคงรู้สินะ ว่านี่ท่าอะไร” ซู่เริ่นถาม ยังไม่ทันที่หงเว่ยจะอ้าปากพูด ซู่เริ่นก็กดหัวควยลงไป

“อ๊ากกกกกกกกกกก” หงเว่ยแหกปากร้องด้วยความเจ็บดังลั่น ซู่เริ่นบรรเลงบทหนุมานขย่มต่ออย่างชำนาญ เสียงไข่กระทบแก้มตูดหงเว่ยดังปั่กๆๆๆ

หงเว่ยเองก็เสียวจนน้ำเงี่ยนจากควยที่จ่ออยู่ที่หน้าไหลเข้าปากจนเลอะเทอะไปหมด ซู่เริ่นตอกควยกระแทกลงรูไปได้เกือบสิบห้านาที หงเว่ยก็เริ่มทนไม่ไหว

“ขะข้าจะแตกแล้ว อ่าสสส์...แตกแล้ววววว” หงเว่ยคราง

หงเว่ยตะโกนลั่นก่อนควยจะกระตุกพ่นน้ำควยสีขาวออกมา ใส่หน้าตัวเองร่วมห้าระลอกจนเลอะเทอะไปทั้งหน้า เข้าปากเข้าจมูก ขณะที่หงเว่ยแตก รูตูดของมันก็เกร็งแน่นจนรัดควยของซู่เริ่น

“อ่าาาาาา ซิ๊ดสสสส์ น้ำข้าใกล้มาละ ข้าจะทำให้เจ้าจำวันนี้ไปจนตายเลย” ซู่เริ่นคราง

ซู่เริ่นถอนควยออกจากตูดหงเว่ย ก่อนจะใช้แขนซ้ายหนีบคอหงเว่ยให้ยืนขึ้น ส่วนมือขวาก็ชักว่าวเป็นระวิง พร้อมบังคับให้หงเว่ยมองตรงไปข้างหน้า

“เจ้าเห็นใช่ไหมว่าตรงหน้าเจ้าคืออะไร” ซู่เริ่นถาม

“บะ...บังลังก์ของท่านพ่อ” หงเว่ยตอบเสียงอ่อยจะหมดแรง

“ดูให้ดีนะ ข้าจะน้ำแตกใส่บัลลังพ่อเจ้าให้คนโลภมากอย่างพ่อเจ้าดิ้นตายไปเลย

ซิ๊ดสสสสสส์ อ่าาาาาาา” ซู่เริ่นรูดควยตัวเองอีกไม่นานก็รู้ว่าตัวเองไม่ไหวแน่

“ลืมตาไว้ไอ้หงเว่ย ดูข้าฉีดน้ำควยใส่บังลังค์พ่อตัวเองซะ ซิ๊ดสสสสสส อ่าาาาาาาาาา” ซู่เริ่นคราง

ปล่อยแขนที่หนีบไอ้หงเว่ยไว้จนมันร่วงไปนอนกับพื้น หัวมันอยู่ตรงตีนซู่เหวิน หันหน้าไปทางบัลลังก์ ชาวเมืองตื่นเต้น เงียบเสียงรอดูฉากเด็ด

ซู่เริ่นใช้สองมือกำควยต่อกันชักเข้าชักออกอีกไม่กี่ที ไข่ใบเท่าไข่ไก่ก็หดตัวไปเป็นก้อนอยู่ที่โคนควย เส้นเลือดเส้นเอ็นปูดโปนขึ้นทั่วลำควยไปหมด หัวควยขนาดใหญ่ บานทะโร่ แดงก่ำ

“ไม่ไหวแล้ว อ่าสสสสสส์” ซู่เริ่นให้สัญญาณเป็นจังหวะสุดท้าย

น้ำควยระลอกแรกพุ่งอย่างแรงผ่านลานกว้างระยะทางร่วมห้าเมตร ไปไกลจนถึงบังลังก์ที่นั่ง แรงดันมหาศาลของน้ำควยพุ่งออกจากรูควยของซู่เริ่นจนได้ยินเสียงฟืดดดดดดดดดดดดด

น้ำควยระลอกที่สองพุ่งไกลไปจนถึงโต๊ะทองหน้าบัลลัง ชาวเมืองอ้าปากค้าง ทึ่งในความไกลของน้ำควยซู่เริ่น หงเว่ยที่นอนอยู่ปลายตีนของซู่เริ่นลืมตาดูน้ำควยขาวข้นฉีดอย่างแรงไปถึงบัลลังของพ่อตัวเอง ระลอกแล้วระลอกเล่า

ซู่เริ่นมองควยใหญ่ของตัวเองพ่นน้ำควยออกมาเป็นสิบละรอก ไข่ใหญ่ๆ ใต้โคนควยกระตุกตึ้บๆ ไล่เอาน้ำควยออกมาไม่หยุด เสียงโห่เฮสะใจดังลั่นไปหมด

เวลาผ่านไปนานและน้ำควยขาวๆ ถูกฉีดออกจากควยซู่เริ่นหลายสิบกว่าระลอกกว่าจะหมด ลานกว้างมีแต่คราบน้ำควยซู่เริ่นจนขาวโพลนไปทั้งบัลลังก์ คราบน้ำควยขาวโพลนเกาะเลอะเทอะจนไม่เหลือสภาพความเป็นบังลังก็หรูเลยแม้แต่น้อย

“ตอนนี้พ่อเจ้าไปหายไปแล้ว เจ้าไปรับตำแหน่งแทนพ่อเจ้าสิ ไปนั่งบนบัลลังก์ของพ่อเจ้าเลย” ซู่เริ่นสั่ง

เสียงเฮลั่นพร้อมเสียงปรบมือดังขึ้นเกรียวกราว เมื่อเห็นราชบุตรหงเว่ยแก้ผ้าล้อนจอน เห็นทุกรูขุมขนกำลังหย่อนก้นลงไปนั่งบนบัลลังก์ใหญ่ ที่เต็มไปด้วยน้ำเงี่ยนของซู่เริ่น หงเว่ยได้แต่นั่งละเลงน้ำเงี่ยนบนที่นั่ง เปื้อนเต็มตูด

“เจ้ารังแกข้าก่อนนะ สิ่งที่เจ้าเจอวันนี้คือสิ่งที่เจ้าเคยทำกับข้าไว้ทั้งนั้น” ซู่เริ่นตอบ

หลังจากประกวดดาวเดือนเสร็จ ผมก็แทบจะสลบเพราะหมดแรง ยังดีที่คุณลุงปรานต์ภพให้คนขับรถมารับผมกับเพิร์ทกลับบ้าน

“เป็นยังไงบ้างครับคุณหนูภีต? ได้รางวัลกลับมาฝากคุณท่านไหมครับ?” ลุงแดงคนขับรถทักทาย

“ได้สิครับลุงแดง ผมให้ลุงทายดีกว่าว่าได้รางวัลอะไร” ดูสิว่าคุณลุงจะทายถูกหรือเปล่า

“หน้าตาระดับคุณภีต ความสามารถก็เพียบพร้อม ถ้าไม่ได้ที่หนึ่งก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้วครับ”

“ลุงแดงอ่ะ จริงๆ มีคนหน้าตาดีมีความสามารถพิเศษตั้งหลายคน ไม่ใช่ผมคนเดียวซะหน่อย แต่ลุงก็ทายถูกนะครับ”

“แหม่ นี่คุณภีตไม่รู้ตัวหรอครับว่าตัวเองโดดเด่นขนาดไหน แล้วคุณหนูเพิร์ทละครับ วันนี้เป็นไงบ้าง?”

“ก็ดี…” เพิร์ทตอบสั้นๆ

“แล้วคุณหนูเพิร์ททำ...” ลุงแดงจะถามต่อ

“อย่าถามซอกแซกได้ป่ะ รีบกลับบ้านเถอะ หิวจะตายอยู่แล้ว” เพิร์ทดูหงุดหงิด

เมื่อมาถึงบ้านหลังใหญ่ เพิร์ทรีบเปิดประตูรถวิ่งตรงเข้าบ้านทันที ส่วนผมก็ช่วยลุงแดงหิ้วของนิดๆ หน่อยๆ สงสารแกหน่ะครับ อายุก็ราวๆ 60 ปี ไม่มีเมียมีลูก แถมยังต้องทำงานหนัก อะไรที่ช่วยได้ก็อยากช่วยแกครับ

“ขอบคุณคุณภีตมากครับ ที่เหลือเดี๋ยวลุงจัดการเองครับ รีบขึ้นไปหาคุณท่านเถอะครับ”

ผมถือของเดินเข้าบ้าน ตรงไปที่โต๊ะอาหารที่มีกับข้าวเตรียมไว้ให้พร้อมเสร็จสรรพ มีคุณลุงปรานต์ภพนั่งรออยู่หัวโต๊ะ ส่วนเพิร์ทนั่งอีกฟากของโต๊ะ

“สวัสดีครับคุณลุง” ผมทักทาย

“มาๆๆ มากินข้าวกัน คงหิวแย่แล้วสิ” ลุงปรานต์ภพชวน

พวกเรานั่งกินข้าวกันอย่างเอร็ดอร่อย พลางพูดคุยกันถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันนี้ คุณลุงดูดีใจมากที่รู้ว่าผมได้เป็นเดือนมหาลัย ส่วนเพิร์ท ผมไม่รู้ว่าเขาเป็นอะไร ดูเขาเงียบๆ สงสัยอาหารจะไม่ถูกปาก

“ขอตัวก่อนนะครับ” เพิร์ทลุกออกไปจากโต๊ะอาหารทันที แล้ววิ่งขึ้นไปชั้นสองของบ้าน วันนี้เขาคงจะเหนื่อย ขนาดผมยังเหนื่อยเลย หัวถึงหมอนก็คงจะหลับทันที

หากแต่เพิร์ทไมได้ขึ้นไปนอนอย่างที่ภีตเข้าใจ เข้าแอบย่องเข้าไปในห้องนอนของเดือนมหาลัยคนใหม่สดๆ ร้อนๆ แล้วแอบเอาบางอย่างใส่ลงในกระเป๋าของภีต โดยที่เจ้าของห้องยังนั่งกินข้าวอยู่ขั้นล่าง ไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังจะซวย

เช้าวันรุ่งขึ้น ภีตและเพิร์ทไปมหาลัยพร้อมกัน โดยมีลุงแดงเป็นคนขับรถมาส่งเหมือนทุกวันครับ วันนี้เราสองคนมีเรียนวิชาเลือกเป็นวิชาพละศึกษาด้วยกัน ซึ่งผมค่อนข้างชอบวิชานี้เพราะผมทำได้ดี ก็คนมันชอบเล่นกีฬานี่ครับ พวกเราเดินเข้ายิมของมหาลัยไปพร้อมกัน

“วันนี้อาจารย์จะสอนเรื่องการวอร์มอัพและการหยืดหยุ่นกล้ามเนื้อนะ” อาจารย์ชัยพูด แกเป็นชายวัยกลางคนแต่ยังรักษาหุ่นได้ดีทีเดียว หน้าตาก็คงถูกใจนิสิตสาวๆ หลายคน เห็นเขาว่ากันอย่างนั้นนะ

“เดี๋ยวพวกเธอเอากระเป๋าไปเก็บไว้ในล็อคเกอร์ และไปเปลี่ยนชุดให้เรียบร้อยใน 5 นาที เสร็จแล้วกลับมานั่งรอที่ลานตรงนี้นะ” อาจารย์ชัยสั่ง

ผมกับเพื่อนๆ ก็รีบไปเก็บกระเป๋าและย้ายก้นลุกไปเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที ต่างคนก็เข้าห้องส่วนตัวเพื่อเปลี่ยนขุดของใครของมัน ผมเองก็ไม่รอช้ารีบเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างรวดเร็ว และรีบตามเพื่อนๆ ไปรออาจารย์ชัย ระหว่างนั้นเพิร์ทก็เดินมาพร้อมๆ กับผมพอดี

“อ่ะ เอาน้ำไหม? จีบสักนิดก่อนออกกำลังกาย” เพิร์ทยื่นขวดน้ำมาให้ผม

“อือ ขอบคุณมาก” ผมตอบพร้อมกับดื่มน้ำจากเพิร์ทไปอึกใหญ่เหมือนกัน หารู้ไม่ว่าน้ำนั้นผสมยาปลุกเซ็กซ์อย่างแรง

พวกเราไม่รอช้ารีบไปนั่งรออาจารย์ชัยกันพร้อมหน้า แต่ตอนนี้ผมรู้สึกไม่ค่อยดีเลยครับ รู้สึกร้อนๆ ข้างในตัวอย่างบอกไม่ถูก จังหวะการหายใจก็ถี่ขึ้น ที่หนักกว่านั้นเหมือนเจ้าโลกผมจะขยายตัวอย่งควบคุมไม่ได้ขึ้นมาซะอย่างนั้น สงสัยจะไม่สบายแน่ๆ

“เอาละ ทุกคน มาพร้อมกันก็ดีแล้ว แต่ก่อนจะเริ่มเรียนกัน เรามาวอร์มอัพกันก่อน ทุกคนยืนขึ้น”

หา..ให้ยืนตอนนี้เนี่ยนะ ซวยแล้ว ไอ้จ้อนดันมาตื่นตัวอะไรตอนนี้ ถ้ายืนตรงทุกคนต้องรู้แน่ว่าผมควยแข็งดันกางเกงจนตุง ทำไงดีว่ะเนี่ย

“นายภีตเป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมยืนบิดไปบิดมาแบบนั้นล่ะ” อาจารย์ชัยถาม

“เออ...คือว่า..ผม” จะตอบว่าอะไรดีว่ะเนี่ย

“ยืนดีๆ เหมือนคนอื่นได้ไหมนายภีต อุตสาห์เป็นถึงเดือนมหาลัยนะ” อาจารย์ชัยแซว

“ผมปวดฉี่ครับอาจารย์ ขออนุญาตไปเข้าห้องน้ำครับ” รอดแล้วเรา พูดเสร็จก็รีบวิ่งออกจากแถว

“เห้ออ ลูกศิษย์คนนี้ ถ้าไม่ติดว่าหน่วยก้านดี จะลงโทษเสียให้เข็ด”

ผมรีบวิ่งกุมเป้าเข้ามาให้ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วตรงเข้าห้องน้ำทันที จะรออะไรล่ะครับ ควยแข็งขึ้นมากลางห้องเรียนแบบนี้ต้องหาทางเอาลงให้ได้ วิธีที่รวดเร็วที่สุดก็เห็นจะเป็นการช่วยตัวเอง หรือชักว่าวนั่นแหละครับ ต้องรีบซะด้วย เดี๋ยวคนอื่นจะสงสัย

“อาจารย์ครับ ผมว่าภีตเค้าไม่ค่อยสบายนะครับ เราลองเข้าไปดูอาการมันหน่อยดีไหมครับ?” เพิร์ทพูดขึ้น ระหว่างที่ภีตกำลังสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเองอยู่ในห้องน้ำ

“อาจารย์ก็ว่าอยู่ หน้าเจ้าภีตก็ดูแดงๆ แถมลุกลี้ลุกรน ไปดูสักหน่อยก็ดี นายมากับฉัน ส่วนคนอื่นๆ รออยู่ตรงนี้นะ” อาจารย์ชัยบอก พร้อมกับพาเพิร์ทเข้าไปในห้องล็อกเกอร์

“เออ..ผมนึกขึ้นได้ว่าภีตมันมียาอยู่ในกระเป๋า เดี๋ยวเราแวะไปหยิบยาให้มันดีไหมครับ

“ก็ดีเหมือนกัน เดี๋ยวเดือนมหาลัยเป็นอะไรในวิชาผมคงจะไม่ดีแน่ๆ ฮ๋าๆๆ”

เพิร์ทตรงเข้าไปเปิดล็อกเกอร์ของภีตและหยิบกระเป๋าออกมา ทำทีเป็นเปิดและค้นหายาอยู่ แล้วจู่ๆ ก็ทำหน้าตกใจ

“อา..จารย์ครับ ในกระเป๋าของภีต...!!” เพิร์ททำหน้าอึง

“มีอะไรหรอนายเพิร์ท ตกใจอะไรหนักหนา” อาจารย์ชัยเดินเข้ามาดู

ในกระเป๋าของนายภีต เดือนสุดหล่อหุ่นล่ำ มีชีทเรียนอยู่จำนวนหนึ่ง แต่นั่นไม่ได้น่าสนใจเท่ากับหนังสือโป๊เล่มหนึ่ง ที่สำคัญนี่มันหนังสือโป๊เกย์ซะด้วย

อาจารย์ชัยเปิดหนังสือดูก็พบแต่ภาพอนาจาร มีแต่ผู้ชายแก้ผ้าโชว์ควยเต็มไปหมด บางหน้าก็มีภาพหนุ่มหล่อกำลังชักว่าว เปิดไปอีกหน้าก็มีแต่ภาพน้ำเงี่ยนไหลออกมาจากควยนายแบบเต็มไปหมด ไม่น่าเชื่อว่าเดือนมหาลัยจะดูอะไรแบบนี้

“นี่..นี่อย่าบอกนะว่า นายภีตปะ..เป็นเกย์” อาจารย์ชัยตกใจ

“ผมว่าเราไปถามเจ้าตัวกันดีกว่าครับอาจารย์?” เพิร์ทตอบ

ผมกำลังชักว่าวอยู่อย่างเมามัน ไม่ทันน้ำแตก จู่ๆ ก็มีเสียงเคาะประตู พร้อมกับเสียงตะโกนของอาจารย์ขัยให้เปิดประตูออก นี่มันวันซวยอะไรกันว่ะเนี่ย อาจารย์ชัยทุบประตูไม่หยุด ผมจะเปิดได้ยังไงในสภาพแบบนี้ แต่สุดท้ายสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่ออาจารย์ชัยกับเพิร์ทพังประตูห้องน้ำเข้ามา

สิ่งที่ผมเห็นคืออาจารย์ชัยกับเพิร์ทยืนนิ่งจ้องมาที่ควยที่กำลังแข็งโด่ของผม พร้อมกับน้ำหล่อลื่นใสที่ไหลยืด ทั้งสองตกตะลึงไม่แพ้กับผมที่ยืนเปลือยกายต่อหน้าคนอื่นเป็นครั้งแรก

“นายภีต นี่นายกำลัง...ชักว่าวในห้องน้ำมหาลัยหรออออ!?!?” อาจารย์ชัยพูดเหมือนคนจะเป็นลม

“นายเกิดอารมณ์กับนักกีฬาชายด้วยกัน แล้วแอบมาเล่นว่าวในห้องน้ำใช่ไหม?” เพิร์ทเสริม

“เออออ..ไม่ใช่ซะหน่อย ผมไม่ได้เป็นเกย์นะ” ผมรีบตอบ สองมือพยายามปิดเป้าใหญ่ไข่ย้อย

“หนังสือเล่มนี้อยู่ในกระเป๋าเธอ แปลว่าอะไร?” อาจารย์ชูหนังสืออะไรไม่รู้ขึ้นมาให้ผมดู

“ไม่ใช่ของผมนะครับอาจารย์!” ผมรีบปฏิเสธ

“หลักฐานมันคาอยู่ตรงหน้าแบบนี้จะยังปฏิเสธอีกหรอ?” โถ้ ทำไมอาจารย์ไม่เชื่อผม

“น่าเสียดายจริงๆ นายภีต นายเป็นถึงระดับเดือน หน้าตาหล่อเหลา จีบสาวที่ไหนก็ติด แต่ทำไมถึงไปชอบผู้ชายและหนีมาชักว่าวในห้องน้ำสาธารณะแบบนี้ ผมผิดหวังมากในตัวคุณมาก” อาจารย์เริ่มดุผมเป็นครั้งแรก

“ผมต้องรายงานเรื่องนี้ถึงฝ่ายปกครอง”

“ยะ..อย่านะครับอาจารย์ ผมขอร้อง ผมไม่อยากมีประวัติเสื่อมเสีย”

“อาจารย์ครับ ผมว่าอย่าพึงทำให้เป็นเรื่องใหญ่เรื่องโตเลยครับ น่าจะมีการพิสูจน์ให้แน่ใจเสียก่อน” เพิร์ทพูดขึ้น

“พิสูจน์? ยังไงล่ะนายเพิร์ท?”

“ก็ลองดูว่านายภีตมันมีอารมณ์กับผู้ชายด้วยกันจริงไหมไงครับ ผมเคยได้ยินว่าพวกเกย์มันชอบควยผู้ชายด้วยกันมากๆ อาจารย์ลองพิสูจน์ดูก่อนดีไหมครับ?”

“ก็ดีเหมือนกัน แต่นายต้องเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับก่อน เข้าใจไหม?”

“ตกลงครับอาจารย์ ตามสบายเลยครับ”

อาจารย์กระชากตัวผมเข้าไปหาและกดผมนั่งลงกับพื้นห้องน้ำ พร้อมกับรูดกางเกงวอร์มของอาจารย์ลงสุดข้อเท้า เขาจิกหัวผมขึ้นมองเป้ากางเกงในสีขาวที่มีท่อนเอ็นลำเขื่องอยู่ข้างใน

“หือออๆๆ อาจารย์ปล่อยผมไปเถอะครับ ผมไม่ได้เป็นเกย์นะครับ” ผมเริ่มสะอืน คุ้มตัวเองไม่อยู่แล้ว ทำไมผมต้องมานั่งจ้องมองเป้าผู้ชายด้วยกันแบบนี้ ถ้าใครรู้เข้า ผมจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน

“เพิร์ท ช่วยเราด้วย นายก็รู้ว่าเราไม่ได้เป็นพวกชอบผู้ชายด้วยกัน” ผมหันไปขอร้องเพิร์ท แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือความเพิกเฉย

“ดูสิครับอาจารย์ ขนาดมีเป้าชี้หน้าแบบนี้ ควยไอ้ภีตมันยังแข็งตุงกางเกงวอร์มเลยครับ”

ไม่ใช่นะ ผมไม่ได้มีอารมณ์พิศวาสเป้าอาจารย์สักนิด แต่ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมควยถึงแข็งเองแบบนี้

“โอ๊ย ไอ้ภีตเหี้ย นี่มึงเป็นเกย์จริงๆ หรอว่ะ กูอุตสาห์ตั้งใจให้มึงเป็นตัวแทนนักกีฬาไปแข่งขัน”

อาจารย์ชัยจิกหัวผมอย่างแรง แล้วกดหน้าผมลงไปแนบกับเป้ากางเกง แถมยังบี้อัดเป้าใหญ่ใส่หน้าผมอย่างไม่เกรงใจ ผมได้กลิ่นอับนิดๆ จากเป้ากางเกงของอาจารย์ ชวนให้อาเจียนมากๆ

แต่นั่นยังไม่น่าอายเท่าตอนที่ลำควยอาจารย์กระแทกกับจมูกโด่งของผม โดยมีเพิร์ทคอยรัวชัตเตอร์ถ่ายรูปอย่างต่อเนื่อง

“เดือนสุดหล่อ มหาลัยดัง แอบถอกควยในห้องน้ำรวม แถมชอบดมเป้าผู้ชาย” คำพูดของอาจารย์มันบาดลึกเข้าไปในใจผม

“ช่วยด้วยยยยยย!!” ผมตะโกนสุดเสียง ก่อนจะโดนมือหนาของอาจายร์ปิดปากสนิท

“อยากให้คนอื่นมาเห็นมึงสภาพแบบนี้ใช่ไหม หา?” อาจารย์ตวาด

“มาทำแบบนี้หนังสือโป๊ของมึงกันดีกว่า มึงชอบแบบนี้ไม่ใช่หรอ” อาจารย์ชัยพูดเสร็จก็งัดควยใหญ่ออกมาฟาดหน้าผมอย่างแรง นี่เป็นครั้งแรกที่ผมเจออะไรน่ารังเกียจแบบนี้

“กูไม่ได้เป็นเกย์จังไรแบบมึง แต่วันนี้มึงต้องทำให้ควยกูแข็งและน้ำแตกให้ได้ ไม่งั้นกูไม่ปล่อยมึงไว้แน่ ไอ้ลูกศิษย์ทรพี”

อาจารย์ชัยกดหัวผม บังคับให้อ้าปากและอมควยของอาจารย์เข้าไป ผมแทบจะอ้วกออกมาตรงนั้น เพราะมันทั้งเหม็นอับและสกปรก แต่ทำอะไรไม่ได้เพราะถูกท่อนควยของอาจารย์สวนแทงเข้ามาในโพรงปากลึกขึ้นเรื่อยๆ

“สะใจกูจริงๆ ได้คนที่หล่อที่สุดของมหาลัยมาอมควยให้แบบนี้ ฮ่าๆๆ” อาจารย์หัวเราะเยาะผม พร้อมดันควยที่เริ่มแข็งแทงคอหอยผมจนหายใจไม่ออก โดยมีไอ้เพิร์ทเก็บภาพอย่างใกล้ชิด

“เป็นไงควยกูใหญ่เต็มปากมึงดีไหม แม่งเงี่ยนเลย” ส่วนเพิร์ทถ่ายคลิปไปควยก็แข็งไป อาจารย์ยัดควยเข้าออกปากของผมอย่างเมามัน จนตอนนี้ควยอาจารย์ชัยแข็งเต็มที่ เพิร์ทถ่ายคลิปไปก็หัวเราะชอบใจใหญ่

“เชี่ยย เสียวว่ะ กูใกล้ละ ซิ๊ดสสสสส์”

“แตกใส่ปากมันเลยครับอาจารย์” เพิร์ทยุ

“หิวไหมไอ้หน้าหล่อ กูจะเอาน้ำให้มึงกิน” ผมสบัดหน้าหนีไปมา

“มึงต้องตอบว่าหิวสิ” อาจารย์ตบหน้าผมอย่างแรง

“หะ หิวครับ” ผมตอบอย่างไม่เต็มใจ

“อ่าาาาาา แตกแล้วเว้ยๆๆ” น้ำควยอาจารย์พุ่งใส่ปากผมสามสี่ระลอก ผมหลับตาปี๋เตรียมจะบ้วนทิ้ง “กลืนมันลงไปให้หมด”

“ห๊ะ!” ผมตกใจ

“กูบอกให้กลืนลงไปเดี๋ยวนี้ หรือมึงอยากให้เรื่องนี้ถึงฝ่ายปกครอง” ผมจำยอม ตัดสินใจกลืนน้ำว่าวอาจารย์ลงไป กลิ่นคาวคละคลุ้งไปทั้งปากแทบจะอ๊วก

“เอาละคราวนี้ยืนขึ้น ถอดเสื้อออก” ผมลังเลก่อนจะยอมถอดเสื้อออกแต่โดยดี

“อื้อหือ หุ่นดีจริงๆนะมึง อกเป็นอก กล้ามท้องเป็นกล้ามท้องเลย”

จริงๆ แล้ว ยามที่ภีตอยู่ในชุดนักศึกษานี่ดูขัดกับภาพลักษณ์สุดๆ เพราะด้วยความที่ร่างกายเป็นถึงเทพ หุ่นดีก็ดี กล้ามก็แน่น หน้าตานี่ไม่ต้องพูดถึง ถ้าเดินมาด้วยกันเป็นกลุ่มผู้ชาย ผู้หญิงก็จะมองภีตก่อนเป็นคนแรก

“ถอดกางเกงเดี๋ยวนี้” ผมขัดขืน

“จะถอดไหมไอ้สัส อยากให้เรื่องนี้รู้กันทั่วหน้าใช่ไหมมึง?” อาจารย์เร่ง

ผมจำใจค่อยๆ ถอดกางเกงออก สภาพผมตอนนี้คือล่อนจ้อน มีเพียงกางเกงในสีขาวตัวเดียว พอกางเกงหลุดลง อาจารย์อึ้งไปพักใหญ่เลย เพราะกางเกงในมันบาง จนเห็นควยผมกำลังแข็งเป็นลำ พาดขึ้นข้างบน จนหัวควยเลยขอบกางเกงใน เกือบถึงสะดือ แถมขนาดหัวควยนี่ไม่ธรรมดาเลย ใหญ่พอๆ กับลูกปิงปอง

“แม่งหัวควยโคตรใหญ่ยังกับไม่ใช่ของมนุษย์ มึงจะสมบูรณ์แบบอะไรอย่างนี้” อาจารย์ถึงกับตะลึง “ถอดกางเกงในออกด้วย” อาจารย์สั่ง ผมได้แต่ยืนอึ้ง ไม่คิดว่าต้องมาโชว์ควยต่อหน้าอาจารย์แบบนี้

“มึงเงี่ยนไม่ใช่เหรอวะ ควยตุงเชียวนะไอ้เกย์” ไอ้เพิร์ทตรงมาจับขอบกางเกงในสองข้างของผม ก่อนจะดึงลงไปที่หัวเข่า ควยขนาดใหญ่เด้งหวือลงมาขนานกับพื้นห้องน้ำ

“โห!!!! ควยแม่งงงงงง” อาจารย์อุทานในความใหญ่ยาวของควยผม แม้แต่เพิร์ทเองถึงจะเคยแอบดูควยภีตที่บ้านมาบ้างก็ยังต้องกลืนน้ำลาย ไข่แฝดใบใหญ่ห้อยยาน ลำควยอวบอ้วนยาว หัวควยขนาดใหญ่ผงกงึกๆ แล้วน้ำเงี่ยนใสๆ ก็ไหลออกมา เพิร์ทเดินเข้าไปซูมควยผมใกล้ๆ ความใหญ่ยาวของควยถูกบันทึกในวีดีโอเรียบร้อย ผมอายมาก ทำตัวไม่ถูก

“ต่อไปให้มึงว่าวให้น้ำแตก” ผมแทบไม่เชื่อหูตัวเองว่าอาจารย์จะสั่งอะไรน่าอายแบบนี้

ผมรู้ดีว่าคงโดนแน่ๆ ขัดขืนไปก็เท่านั้นเลยยอมว่าวแต่โดยดี ให้เรื่องจบๆ ไปดีกว่า ไหนๆ ก็เงี่ยนขนาดนี้แล้วด้วย ผมหลับตาใช้มือซ้ายเขี่ยหัวนมตัวเอง จินตนาการว่ากำลังร่วมเพศกับสาวสวย มือขวาก็กำควยตัวเอง ชักว่าวต่อหน้าอาจารย์และกล้องบันทึกภาพ ผมรูดไปได้ซักพัก

“จะแตกละครับ อ่าสสส์”

“เออ แตกออกมาเลย คงเงี่ยนมากสิ มึงไม่เอาน้ำออกมากี่วันหล่ะ แตกมาให้สะใจกูเลยไอ้สัส”

“ซิ๊ดสสสส์” ไข่หดเกร็ง สองมือของผมจับควยรูดถี่ยิบ ถึงตอนนี้อะไรก็ฉุดผมไม่อยู่แล้ว

“แตกแล้วววววววววววว”

ด้วยพลังน้ำควยของเทพ น้ำควยมหาศาลพุ่งอย่างแรงออกมาจากรูควย ตรงไปยังอีกฝั่งของห้องน้ำที่มีหนังสือโป๊เกย์วางอยู่

“โห! พุ่งแรงฉิบหาย เสียดายแทนคนในประเทศนี้ ที่ไม่รู้ว่าเดือนมหาลัยของเรา ควยใหญ่น้ำเยอะแค่ไหน” อาจารยหัวเราะสะใจ

น้ำควยระลอกสอง สาม สี่พุ่งทะลักออกมาเป็นสายยาวไม่หยุด ไอ้เพิร์ทถือกล้องบันทึกภาพ อึ้งจนมือสั่น ทุกอย่างถูกบันทึกไว้ทั้งหมด น้ำของผมแตกกระจายไปไกล จนเพิร์ทต้องถอยหลังออกให้เห็นระยะที่ควยไอ้ภีตกำลังฉีดน้ำออกมา

ผมลืมตามองดูควยเจ้าปัญหาของตัวเองฉีดน้ำควยออกมาไม่หยุด ทุกครั้งที่แตก ผมจะแตกทีน้ำเยอะมาก ไม่รู้ไปเอามาจากไหนถึงเยอะขนาดนี้ ผมชักไปฉีดน้ำไป จนหัวควยขาวเป็นฟองฟอดจากน้ำเงี่ยนตัวเอง น้ำควยมันก็ยังออกมาเรื่อยๆ

ปรี๊ดดดดด ปรี๊ดดดดด อาจารย์นับคร่าวๆ ได้ร่วมสิบกว่ากระฉอก กว่าน้ำควยจะหมด พื้นห้องน้ำขาวโพลนไปด้วยคราบน้ำควย กลิ่นคาวคุ้งเต็มห้องน้ำ หนังสือโป๊เกย์ท่วมไปด้วยน้ำควยขาวข้นกองโต

“เห้ยแม่ง คนอะไรน้ำเยอะขนาดนี้วะ แม่งเกิดมากูไม่เคยเห็น” ผมไม่รู้ครับ ผมน้ำแตกทีไรมันก็ออกมาประมาณนี้ทุกที

เมื่อเสร็จกิจกาม อาจารย์ชัยคุมตัวผมออกมาจากห้องน้ำ แล้วพามายังหน้าลานที่มีเพื่อนๆ นั่งรออยู่ โชคดีที่มีเสื้อผ้าใส่อยู่ไม่งั้นผมคงต้องเอาหน้ามุดดินแน่ๆ

“ครูมีเรื่องจะแจ้งกับทุกคน ฟังให้ดีๆ”

“ครูตามนายภีตเข้าไปในห้องน้ำ.....และจับได้ว่านายภีตแอบหนีไปชักว่าว”

อาจารย์ชัยประกาศต่อหน้าเพื่อนๆ ร่วมวิชาของผม สร้างเสียงฮือฮาไปทั่ว หลายคนทำหน้าไม่เชื่อ เพราะทุกคนรู้ดีว่าผมเป็นตัวอย่างที่ดีมาโดยตลอด ไม่มีทางทำเรื่องน่าอดสูแบบนี้ได้แน่นอน

“จริงไหมนายภีต? ตอบ!” อาจารย์ชัยหันมาถามผมเสียงแข็ง พร้อมกับไอ้เพิร์ทที่โชว์กล้องถ่ายรูปให้ผมดู เหมือนส่งสัญญาณว่าหากผมพูดอะไรไม่ถูกใจ มันจะปล่อยภาพและคลิปหลุดของผมทันที

“จะ...จริงครับ” ผมจำใจตอบ กำหมัดแน่นทั้งสองข้าง เกิดเสียงฮือฮายิ่งกว่าเดิมในหมู่เพื่อน

“ยอมสารภาพมาให้หมดนายภีต ยอมรับต่อหน้าเพื่อนๆ นายนี่แหละ” อาจารย์ชัยบังคับ

“คืออ..ผมชื่อนายภีตครับ หือๆๆ ผมเป็นถึงระดับเดือนมหาลัยของที่นี่ แต่ผมเกิด...อารมณ์เงี่ยนขึ้นกลางห้องเรียน ท่ามกลางผู้ชายด้วยกัน เพราะผมเป็นเกย์ครับ ผมแอบไปชักว่าวในห้องน้ำยิมจนน้ำแตก น้ำเงี่ยนผมยังติดมือกับหนังสือโป๊อยู่เลยครับ หือออๆๆ” ผมสะอืน พูดตามที่อาจารย์ชัยสั่ง น้ำตาผมเริ่มไหลออกมาเรื่อยๆ ต่อหน้าเพื่อนผู้ชายด้วยกันเอง

อาจารย์ชัยโชว์หนังสือโป๊เกย์ที่เต็มไปด้วยน้ำเงี่ยนเคลือบจนมันวาว พร้อมทั้งจับมือผมยกขึ้นให้เพื่อนๆ ทุกคนดูกับตา คราบน้ำเงี่ยนของผม ทั้งขาวขุ่นและเหนียวยืดไปตามข้อนิ้ว ไหลย้อยมาถึงฝ่ามือและหลังมือ ถูกสายตาเพื่อนๆ มองอย่างรังเกียจ

“พวกมึงเห็นกับตาแล้วใช่ไหมว่าไอ้ภีตมันเหี้ยแค่ไหน เกิดอารมณ์กับพวกมึงได้ ถ้าวันดีคืนดีมันจับพวกมึงเป็นเมียมันจะทำไงว่ะ” ไอ้เพิร์ทเสริม ทุกคนเริ่มเห็นด้วยกับสิ่งที่มันพูด

“เราจะไม่ยอมให้เดือนสุดหล่อประจำมหาลัยของพวกเรา มีพฤติกรรมชั่วๆ อย่างที่มันทำวันนี้”

“ครูว่าเราทุกคนต้องช่วยกันสั่งสอนนายภีตว่าผู้ชายแท้ๆ เขาเป็นยังไง!” อาจารย์ชัยพูด ผมเริ่มใจคอไม่ดี ขาทั้งสองข้างเริ่มสั่นและยืนไม่อยู่ เมื่อวานผมยังเป็นที่ชื่นชอบของทุกคนอยู่เลย มาวันนี้ทุกอย่างพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือไปเสียแล้ว

ซู่เริ่น - อดีตเคยเป็นมนุษย์ผู้ถูกกระทำ ปัจจุบันเป็นเทพทรงพลัง หื่นจัด พร้อมเอาคืนในบทนาย

ภีต - อดีตเคยเป็นเทพมากเล่ห์ผู้กระทำ ปัจจุบันกลายเป็นคนสามัญ เตรียมรับกรรมในบททาส

เอ้าเทียน – เทพรักสงบ ผู้เป็นอิสระ พร้อมเข้าพลิกสถานการณ์ ช่วยเหลือคนดีได้ทุกเมื่อ

ซู่เหวิ่น – มนุษย์รักสงคราม ผู้ถูกจองจำ รอวันสำเร็จโทษ จากคนโฉดใจชั่วได้ทุกเวลา

ไหนจะชายปริศนา คุณลุงปรานต์ภพ ลุงแดง อาจารย์ชัย เพื่อนร่วมมหาลัย พ่วงด้วยมิติเวลาที่เชื่อมระหว่างอดีต ปัจจุบันและอนาคต .....เกิดเป็นเรื่องราวความสัมพันธ์ที่ซับซ้อน..รอวันเฉลย

หลังจากที่เอ้าเทียนช่วยหงฟู่ที่บาดเจ็บสาหัส ซู่เริ่นที่ได้รับพลังเทพก็เข้ายึดเมืองและครอบครองหงเว่ยในฐานะนายทาส ส่วนซู่เหวิ่นยังคงถูกจับตัวหายไปกับชายปริศนา

“ทำใจดีๆ ไว้ก่อนนะท่าน” เอ้าเทียนพยายามช่วยหงฟู่ หลังจากที่เขาหายตัวหนีออกมาอยู่ท่ามกลางป่าใหญ่เงียบสงบ

“ขะ..ขะ...ข้าคงไม่รอดเป็นแน่” หงฟู่กระอักเลือดพร้อมสำนึกผิดในวาระสุดท้ายของชีวิต

“ท่านเทพ...โปรดฟังข้าให้ดี แม่ทัพเหวิ่นถูกจับเข้าไปในวังหลวง ดะ..โดย...ชะ..ชิง..” หงฟู่ทนพิษบาดแผลไม่ไหว สิ้นใจไปอย่างสงบต่อหน้าต่อตาจิ้งจอกหนุ่ม

“หลับให้สบายเถิดท่านหงฟู่” เอ้าเทียนใช้มือลูบปิดตาทั้งสองข้างของหงฟู่ที่เบิกโพลงให้ปิดลง ก่อนจะสร้างหลุมฝังศพไว้ให้ข้างๆ ต้นไม้ใหญ่ และฝังร่างอดีตผู้ปกครองเมืองลงไป

“คนตายไม่อาจฟื้นคืนได้ ข้าคงทำให้ท่านได้แต่เพียงเท่านี้ หลังจากนี้ข้าต้องไปช่วยซู่เหวิ่นให้ทันก่อนจะสายเกินไป” เอ้าเทียนพูดกับตัวเองก่อนจะหายวับไปเหลือแค่หมอกควันสีขาวนวล

ณ บังลังก์เมืองจางโจว

“เมืองนี้ขึ้นชื่อเรื่องการแสดงทางเพศใช่ไหม? ดี! เช่นนั้นข้าจะให้อดีตบุตรชายเจ้าของเมืองเป็นผู้แสดงเอง เพื่อหาอัฐมาไถ่ตัวจากการเป็นทาสของข้า” ซู่เริ่นประกาศต่อหน้าธารกำนัลน้อยใหญ่ที่ยอมสวามิภักแต่โดยดี

“ไม่ ปล่อยข้าไปนะ ข้าจะฆ่าเจ้า” หงเว่ยคัดค้านอยู่เพียงผู้เดียว บัดนี้เขาถูกล่ามโซ่และมัดไว้กับเสา ในสภาพไร้เสื้อผ้าอาภรณ์ ดูเหมือนหมาไร้ค่าตัวหนึ่งต่ออดีตหน้าธารกำนัลในห้องตัวเอง

“หุบปาก!! ข้าไม่ส่งเจ้าตามพ่อของเจ้าไปยังยมโลกก็นับว่าปราณีแค่ไหนแล้ว คืนนี้เตรียมตัวให้พร้อมเถอะ ข้าจะเริ่มฝึกให้เจ้าเป็นทาสที่ดีเอง” ซู่เริ่นตวาด

ยามค่ำ ณ ลานแสดงโชว์เมืองจางโจว

ผู้คนมากมายยังคงยอมเสียอัฐเพื่อมาชมการแสดงเฉกเช่นทุกคืน วันนี้ผู้คนหลั่งไหลมาจากทุกสารทิศ ดูหนาแน่นเป็นพิเศษ เมื่อมาถึงทุกคนก็หาที่นั่งประจำที่เพื่อรอรับชมความเสียว

“ยินดีต้อนรับทุกท่านเข้าสู่ลานโลกีย์ คืนนี้รับรองว่าทุกท่านจะไม่ผิดหวัง” ซู่เริ่นประกาศจากบนบังลังก์ใหญ่ สร้างเสียงโห่ร้องชอบใจให้คนดูกระหึ่ม

ผู้คุมนำตัวหงเว่ยเข้ามายังใจกลางลานแสดง โดยวิธีที่สร้างความชอบใจให้คนดูอย่างล้นหลาม หงเว่ยในตอนนี้อยู่ในท่าคลานสี่ขาเหมือนหมาตัวหนึ่ง เนื้อตัวไม่มีแม้เสื้อผ้าปกปิดร่างกาย ทำให้ทุกสัดส่วนปรากฏแก่สายตาทุกคน มีปลอกรัดคอที่เชื่อมไว้กับโซ่ยาวที่โยงไปถึงมือของผู้คุม ดูเหมือนภาพผู้คุมคนหนึ่งกำลังจูงสุนัขรูปหล่อเข้ามายังพื้นที่แสดง

“นั่นมัน....” สิ่งแรกที่คนดูจ้องคือใบหน้าของสุนัขหนุ่มที่หล่อเหลา

“ใช่แล้ว นักแสดงวันนี้ไม่ใช่ใครที่ไหน เขาคือหงเว่ยนั่นเองงงง” ซู่เริ่นทำหน้าที่โฆษก

“สุดยอดดดด วันนี้ลูกเจ้าเมืองลงทุนมาแสดงด้วยตัวเองเลย เป็นบุญตาของข้าแท้ๆ” คนดูตื่นเต้นดีใจ

คนดูไล่แทะโลมสายตาไปยังร่างของหนุ่มหล่อ ไล่ไปตั้งแต่ส่วนหัวที่มีผมยาวดกสีดำ ตัดกับสีผิวขาวทั้งตัวของเจ้าของร่าง ขยับมาที่ใบหน้าก็พบแต่ความงดงามสมกับผู้ดี ใบหน้าหล่อเหลาคมคายในระดับราชบุตร ดูขัดกับสภาพที่เป็นอยู่ตอนนี้

คนดูไล่สายตาลงมายังลำตัวที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อไร้ซึ่งสิ่งปกปิด สีหัวนมชมพูกลืนไปกับสีขาวของหน้าอก ฐานนมที่กว้างดูเย้ายวนให้น่าสัมผัส พร้อมขนรักแร้ดกดำสมชายชาตรี ต่อด้วยกล้ามท้องที่หดเกร็งไร้ไขมันปกปิด ทำให้มองเห็นมัดกล้ามอย่างชัดเจน

หงเว่ยยังคงถูกข่มขืนทางสายตาจากบรรดาเหล่าคนดู เพราะตอนนี้ทุกคนพุ่งไปที่เป้าใหญ่ไข่ยานของเขา พวงควยแม้ในสภาพไม่แข็งตัวแต่ก็มีขนาดใหญ่ใช่เล่น ไข่สองใบยานโตกเตงยามที่เจ้าของคลานไปมา ขนหมอยล่ามไปทั่วบริเวณโคนควย เส้นหยิกสีดำฟูฟ่อง ด้านหลังคือรูทวารที่แม้จะผ่านการสอดใส่มาบ้างแต่ก็ยังคงจีบสวย และเห็นได้ชัดยามที่อยู่ในท่าคลานเข่าเช่นนี้

ด้านหงเว่ยนั้นอายสุดชีวิต คนระดับเขามีชื่อเสียงเกียรติยศมากมาย เขาเป็นราชบุตร เขาเป็นว่าที่กษัตริย์ แต่กลับต้องมาเปลือยร่างให้คนที่ด้อยว่ารับชม ความเจ็บปวดนี้มันกรีดแทงหัวใจเมื่อรู้ว่าตอนนี้เขาต้องพลิกสถานะกลายเป็นของเล่นของคนชั้นต่ำเหล่านี้

ด้านซู่เริ่นนั้นต้องการให้เป็นอย่างนี้อยู่แล้ว เขาต้องการสร้างความอับอายให้ทาสคนนี้ของเขา เพื่อปลูกฝังความรู้สึกของการเป็นผู้ที่อยู่ต่ำกว่า ด้อยกว่า เข้าไปในจิตใจของหงเว่ย ให้หงเว่ยซึมซาบความเป็นทาสเข้าไปอย่างไม่รู้ตัว

ด้านคนดูก็ชอบใจ พากันวิพากษ์วิจารณ์กันสนุกปาก ทั้งชมถึงใบหน้าหล่อๆ ชมหุ่นและรูปร่าง และไม่พลาดที่จะพูดถึงควยสวยๆ และตูดแน่นของหงเว่ย

“วันนี้ ไอ้หมาเว่ย จะแสดงการเป็นทาสให้พวกท่านดู เชิญรับชมได้ ฮ่าๆๆๆ” ซู่เริ่นกล่าว

การแสดงแรก หงเว่ยต้องคลานท่าหมาไปมารอบลานแสดง ต้องถูกบังคับให้แลบลิ้นเหมือนหมาที่กำลังเหนื่อย บางก็ถูกคนดูสั่งให้ส่ายตูดไปมาต่อหน้าทุกคน หงเว่ยยอมทำตามแต่โดยดี น้ำตาก็ไหลออกมาไม่หยุด

“ดูเหมือนไอ้หมาเว่ยจะเหนื่อยแล้ว ท่านผู้ใดจะกรุณาประทานน้ำให้มันดื่มบ้าง” ซู่เริ่นสั่งต่อ

ผู้คุมถือชามปล่าวใบใหญ่เข้ามาใส่ลานฝึกทาส ทุกคนเข้าใจแล้วว่าน้ำที่ซู่เริ่นต้องการให้ทาสหมาตัวนี้ดื่มคือน้ำปัสสาวะจากคนดูนั่นเอง

คนดูกว่าครึ่งยกมือ และยอมจ่ายอัฐเล็กน้อยเพื่อแลกกับการที่ได้ฉี่ใส่ชามใบนั้น สายเยี่ยวสีเหลืองหลายสายพุ่งออกจากควยคนหลายระดับ ทั้งจากทหารชั้นเลวไปจนถึงบัณฑิตหนุ่มรูปงาม ทะย่านลงใส่ชามใบโต ทุกคนปล่อยเยี่ยวใส่ชามและสบัดควยบีบน้ำเยี่ยวจนหยดสุดท้ายไหลลงสู่ภาชนะ

“ขอบคุณผู้ให้น้ำของแกซะซิ ไอ้หมาน้อยของข้า” ซู่เริ่นสั่ง บัดนี้ชามนั้นเต็มไปด้วยน้ำเยี่ยวสีเหลืองอร่าม ส่งกลิ่นฉุนๆ อุ่นๆ กำลังดี

หงเว่ยถูกบังคับให้ก้มกราบผู้คนบนอัฒจรรย์จนหน้าผากติดกับกองดิน สร้างความสะใจให้คนดูมากเป็นพิเศษ ฝั่งหงเว่ยเองก็ได้แต่เจ็บช้ำน้ำใจ ทนทำไปเพื่อความอยู่รอด

และฉากต่อไปที่ทุกคนรอก็มาถึง เมื่อผู้คุมถือชามใบใหญ่เต็มไปด้วยเยี่ยวเหม็นๆ ไปวางไว้กลางลานฝึก ก่อนที่จะสั่งให้หงเว่ยคลานเป็นหมาไปกินน้ำจากชามนั้น

หงเว่ยแทบไม่เหลือความภาคภูมิใจใดๆ อีกแล้ว เขาฝืนใจคลานเข่าไปเช่นหมาตัวหนึ่ง และไปหยุดอยู่ตรงชามใบใหญ่ สายตามองจ้องไปเห็นแต่ของเหลวสีเหลือง กลิ่นฉุนปะทะกับจมูก ชวนให้อ้วกอยู่ไม่น้อย

“รีบกินเข้าไปซะ หากปล่อยไว้นานกว่านี้ กลิ่นจะยิ่งฉุน กินตอนที่ยังอุ่นๆ แบบนี้แหละดี คิดซะว่าดื่มชาชั้นดีก็แล้วกัน” ซู่เริ่นแนะนำ เขาเองเข้าใจหัวอกหงเว่ยดี เพราะเขาเองก็เคยผ่านสภาพเช่นนี้มาก่อน

หงเว่ยค่อยๆ ก้มหน้าลงไป ปลายจมูกโด่งรับสัมผัสได้ถึงกลิ่นและไออุ่นของเยี่ยวในชาม ผู้คนต่างจับจ้องตาเป็นมัน ปลายลิ้นของหงเว่ยค่อยๆ แลบออกมาแล้วสัมผัสกับเยี่ยวเล็กน้อย

ปุ่มรับรสที่ปลายลิ้นเริ่มทำงานทันที หงเว่ยรับรู้ได้ถึงรสชาติของเยี่ยวจากคนดูทั้งหลาย ด้านรสชาตินั้นไม่ได้แย่อย่างที่คิด เพราะจริงๆ แล้วแทบจะไม่มีรสด้วยซ้ำ หงเว่ยจึงพอที่จะกลั้นใจก้มน้ำเลียน้ำเยี่ยวเข้าปากตนเองได้

รสจืดๆ ของเยี่ยวทยอยเข้าปากของหงเว่ยที่อยู่ในสภาพเป็นหมากำลังกินน้ำ ความลำบากอย่าวเดียวที่หงเว่ยต้องเผชิญไม่ใช่เรื่องของรสชาติ แต่เป็นกลิ่นที่ฉุนและภาพของเยี่ยวที่ถูกคิดว่าเป็นสิ่งสกปรกทำให้เขาอยากจะอ้วกมากกว่า

“กลั้นหายใจไว้แล้วจะดีขึ้น และไม่ต้องคิดอะไรมาก ดื่มๆ เข้าไป จำไว้แกมันคือทาส แกชอบถูกกระทำเยี่ยงคนไร้ค่า แกมันไม่เหลือเกียรติอะไรอีกแล้ว” ซู่เริ่นสอนทาสตัวนี้อีกครั้ง ตอกย้ำความเป็นจริงเข้าไปในใจของหงเว่ย

หงเว่ยได้ยินดังนั้นก็น้ำตาไหล เป็นไปตามที่ซู่เริ่นพูด เขามันไม่มีค่าอะไรอีกด้วยซ้ำ อยู่ที่นี้ในฐานะทาสเริงกาม ต้องทำตามคำสั่ง คิดได้ก็หลับหูหลับตากลั้นหายใจ ดูดดื่มน้ำเยี่ยวเข้าไปไม่หยุด สร้างเสียงหัวเราะชอบใจจากคนดูไม่น้อย ด้านซู่เริ่นก็เผยยิ้มออกมาที่มุมปาก

“หมาหน้าหล่อกินเยี่ยวพวกเราใหญ่เลยว่ะ” คนดูกล่าว

“สะใจกูจริงๆ โว๊ย ได้เยี่ยวให้ราชบุตรดื่มต่อหน้า” อีกคนเสริม

“เห็นราชาต้องมาดื่มเยี่ยวคนชั้นต่ำอย่างพวกเรา ไปเล่าให้ใครฟังก็คงไม่เชื่อ” คนดูพูด.

“หมาจริงๆ มันยังไม่กินเยี่ยวคนเลยพวกเรา ดูไอ้หนุ่มเทพบุตรนั่นสิ ยิ่งกว่าหมาจรจัด กินเยี่ยวมนุษย์อย่างพวกเรา ไม่น่าเชื่อๆ” อีกคนตะโกน

แม้ว่าหงเว่ยจะไม่กระอักกระอวนที่จะกินเยี่ยวจากคนแปลกหน้าแล้ว แต่ด้วยปริมาณมหาศาลของเยี่ยวในชาม ทำให้กินเท่าไรก็ไม่หมดสักที ท้องของหงเว่ยมีแต่น้ำเยี่ยวเต็มไปหมด ส่งผลให้เขาเองก็เริ่มปวดปัสสาวะขึ้นมาเช่นกัน

“คงจะเริ่มปวดฉี่แล้วสินะ ข้ายังมีเมตตายอมให้เจ้าฉี่ก็ได้ แต่ต้องฉี่ต่อหน้าทุกคนใส่ชามนั้นซะ และฉี่อย่างหมาตัวผู้ด้วย” ซู่เริ่นรู้ทันและสั่งได้อย่างต่อเนื่อง

น้ำที่ออกมาตอนนี้ไม่ใช่ฉี่ แต่เป็นน้ำตาของหงเว่ยที่ไหลรินอาบแก้มขาวอมชมพู มันเป็นอย่างที่ซู่เริ่นว่าจริงๆ เขาปวดฉี่มาก แม้จะพยายามกลั้นไว้เท่าไรก็ไม่อาจทนได้ มีแต่จะปวดท้องน้อยปล่าวๆ คิดเข่นนั้นจึงยอมทำตามคำสั่งแต่โดยดี แม้ในใจจะอายและสมเพศตัวเองมากแค่ไหนก็ตาม

หงเว่ยคลานขยับร่างขนานไปกับชามใบใหญ่ และยกขาข้างหนึ่งขึ้น ท่านี้ยังทำให้ทุกคนมองเห็นควยของกษัตริย์อย่างเขาได้ชัดเจนไม่ต่างจากหมาตัวผู้ที่กำลังจะเยี่ยวออกมา ความสะใจเกิดขึ้นกับทุกคนในที่แห่งนั้น ยกเว้นหงเว่ยที่อายจนแทบแทรกแผ่นดินหนี

สุดท้ายสิ่งที่ทุกคนรอก็มาถึง เมื่อสายเยี่ยวเหลืองใสพุ่งไหลออกมาจากปลายควยของหนุ่มน้อย ปริมาณมหาศาล น้ำเยี่ยวของหมาไหลรินเข้าไปกระทบรวมกับน้ำเยี่ยวของคนดู สร้างเสียงหัวเราะดังลั่นจากผู้ชม เมื่อได้เห็นภาพราชบุตรยกขาเยี่ยวใส่ชามที่ตนพึ่งกินน้ำเยี่ยวเข้าไป

น้ำเยี่ยวยังคงไหลอย่างต่อเนื่อง หงเว่ยหลับตาไม่อยากรับรู้อะไร ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติถึงแม้จะยังคงได้ยินเสียงด่า เสียงเยาะเย้ยต่างๆ นานา เขาเบ่งเยี่ยวออกมาระลอกสุดท้าย จนเหลือเป็นหยดเล็กๆ

“สะบัดควยไล่น้ำเยี่ยวออกมาให้หมด” ซู่เริ่นพูดเสียงดัง

หงเว่ยต้องสะบัดก้นและควยให้ไกว่ไปมา เพื่อให้น้ำเยี่ยวที่ติดอยู่ตามปลายควยหลุดออกมาใส่ชาม ดูแล้วช่างน่าสมเพชที่สุด เมื่อน้ำเยี่ยวหยดสุดท้ายไหลไปรวมกับเยี่ยวจากทุกคน หงเว่ยก็ต้องตกใจเมื่อซู่เริ่นยังคงสั่งต่อ

“ก้มเอาหน้าหล่อๆ ของเจ้าเข้าไปแช่น้ำน้ำเยี่ยวเดี๋ยวนี้”

หงเว่ยแทบจะทรุดร่างลงตรงนั้น แค่นี้เขาก็แทบจะไม่เหลือความเป็นคนอยู่แล้ว นี่ยังต้องเอาหน้าเข้าไปแช่เยี่ยวตัวเองอีก หงเว่ยได้แต่แน่นิ่ง จนกระทั่งผู้คุมเดินมาจิกผมและกดหน้าหงเว่ยเข้าไปในชามอย่างไม่ทันตั้งตัว

หงเว่ยรู้สึกได้ถึงความอุ่นจากเยี่ยวตัวเองที่พึ่งปล่อยออกมาเมื่อสักครู่ ความอุ่นสัมผัสทุกรูขุมขนบนใบหน้าของเขา ผู้คมจิกหัวส่ายไปมาในชามใบนั้น ทำให้หงเว่ยทั้งสำลักและน้ำเยี่ยวก็กระฉ่อนเปื้อนหน้าเปื้อนหัวเขาไปหมด

น่าแปลกที่แม้จะถูกกระทำอย่างรุนแรงเช่นนี้ แต่ควยของหงเว่ยกลับค่อยๆ แข็งตัวขึ้นมาประชันกับสายตาของผู้ชม ควยที่เดิมอ่อนตัวอยู่กลับค่อยๆ พองขยาย ชี้หน้าซู่เริ่นที่มองอย่างชอบใจ

หรือในน้ำเยี่ยวจะมีสารกระตุ้นความเงี่ยนให้หงเว่ย...

ผู้คุมยกชามน้ำเยี่ยวเทราดไปบนตัวของหงเว่ยจนทุกอณูรูขุมขนมีแต่น้ำปัสสาวะ ส่งกลิ่นเหม็นสาปไปทั่วทั้งร่าง คนดูทั้งหลายร้องเฮสนุกสนาน

“เจอแบบนี้ยังควยแข็งได้อยู่อีก สุดยอดไปเลย ท่านหงเว่ยย ข้าน้อยขอคารวะ” คนดูเยาะ

“คงจะเงิ่ยนไปตามประสาเด็กหนุ่มกลัดมัน” อีกคนเสริม

“ไหนๆ ก็กินน้ำเยี่ยวได้แล้ว ข้าอยากเห็นท่านเว่ยกินน้ำเงี่ยนให้ดูเป็นบุญตาสักหน่อยได้ไหม” อีกคนถามโฆษก

“เป็นความคิดที่ดี ข้าเสนอเพียงสิบตำลึงเท่านั้นแลกกับการให้หงเว่ยอมควยและน้ำแตกใส่ปาก” พิธีกรตอบ

เหล่าคนดูจำนวนมากมาที่นี่ก็เพื่อการณ์นี้อยู่แล้ว ฝูงผู้ชมรีบลุกขึ้นจากที่นั่ง จ่ายค่าบริการเพียงเล็กน้อย แลกกับความสะใจที่ได้เห็นควยตัวเองถูกองค์ชายเลียอม แถมแตกใส่ปากได้อีก ถือว่าคุ้มค่ามาก

ไม่นานนัก ฝูงชนจำนวนมากก็ไปยืนมุงล้อมหงเว่ยไว้ตรงกลาง แต่ละคนปลดกางเกงตัวเองออก และงัดควยที่แข็งรอเป็นทุนเดิมอยู่แล้วจากการรับชมการแสดงของหงเว่ย

บรรดาแท่งควยนับไม่ถ้วนอยู่รายล้อมองค์ชายที่น่าสงสาร บรรดาชายแก่ชายหนุ่มทั้งหลายต่างหยิบยื่นลำควยตัวเองให้หงเว่ย บังคับให้หนุ่มหล่อดูดเลียอย่างสะใจ หงเว่ยมองไปทางไหนก็มีแต่อวัยวะเพศที่แสนน่าเกลียดอยู่เบื้องหน้า จำใจฝึนอมไปทั้งน้ำตาที่หลั่งรินจนแทบเป็นสายเลือด นัยตามีแต่ความเศร้าและสำนึกผิด

แวบนึงที่ดวงตาสวยของหงเว่ยหันไปสบปะทะเข้ากับดวงตาที่ดุดันของซู่เริ่นผู้นั่งดูอยู่เบื้องบน หงเว่ยหลบสายตาทันทีแต่กระนั้นสายน้ำตาก็ยังคงหลั่งไหลออกมาไม่หยุด ไม่ต่างจากน้ำหล่อลื่นของบรรดาคนดูที่เลอะเต็มปากของเขา

ในจังหวะที่ดวงเนตรของซู่เริ่นชนเข้ากับความโศกเศร้าระคนสำนึกผิดของหงเว่ย ความเครียดแค้นเกลียดชังก็เบาบางลงไป และถูกแทนที่ด้วยความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย ความรู้สึกสงสารระคนเจ็บใจ ความรู้สึกสะใจเจือปนด้วยความรู้สึกผิด

ความอดทนต่อภาพที่ซู่เริ่นกำลังเห็นตรงหน้าสิ้นสุดลง เขาทนไม่ได้ที่เห็นหงเว่ยในสภาพแบบนี้ เขาทนไม่ได้ที่เห็นหงเว่ยกำลังปรนเปรอความสุขให้ชายอื่น.....ที่ไม่ใช่เขา

เขากำลังหึง!

“วันนี้พอแค่นี้ก่อน ข้าขอโทษทุกท่านจริงๆ วันนี้การแสดงจบลงแล้ว” ซู่เริ่นยืนประกาศชัด น้ำเสียงแสดงความมุ่งมั่นชัดเจน

“อะไรกันท่าน พวกเรากำลังติดลมบนกับไอ้ทาสตัวนี้อยู่ อีกอย่างพวกเราก็จ่ายเบี้ยให้ท่านไปแล้ว พวกเราเป็นเจ้าของไอ้ทาสตัวนี้” คนดูเอ่ยขณะกำลังส่งควยเข้าปากหงเว่ย

“เป็น-เจ้า-ของ-ไอ้ทาสตัวนี้” ประโยคนี้เหมือนบาดเข้าไปในอกของซู่เริ่น เขาไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมต้องโกรธขนาดนี้ เขารู้เพียงว่าหงเว่ยเป็นสมบัติของเขา เป็นทาสของเขาคนเดียวเท่านั้น

“ข้ายินดีคืนเบี้ยทุกสลึงให้พวกท่าน และแถมอัฐอีกเล็กน้อยเป็นค่าเรียกขวัญปลอบใจ เช่นนี้เป็นอย่างไร?” ซู่เริ่นต่อรอง

“เมื่อว่าวติดลมบนแล้วย่อมเอาลงได้ยาก อย่างไรเสียวันนี้พวกข้าต้องได้แตกใส่ปากไอ้หมอนี้” คนดูย้อน

ซู่เริ่นเริ่มโกรธจัด เขาพึ่งรู้ตัวว่าไม่ต้องการให้ผู้อื่นมาแสดงความเป็นเจ้าของในตัวหงเว่ยนอกจากเขา เขาไม่ชอบที่เห็นชายอื่นมาใช้ปากกระจับของหงเว่ยเพื่อเสพสมความสุข เขาต้องการครอบครองหงเว่ยแต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น หงเว่ยเป็นสมบัติส่วนตัวของเขา

“ในเมื่อพูดกันดีๆ แล้วไม่รู้เรื่อง งั้นข้าไม่เกรงใจละนะ” ซู่เริ่นกล่าว

ไม่ช้า ร่างล่ำสันกำยำพร้อมชุดคลุมสีทองสว่างของซู่เริ่นของสบัดออก ทะยานเข้าสู่ใจกลางลานแสดง เซียนสิงห์ทองเพียงกวาดมือไปในอากาศ ปราณก็พุ่งปะทะฝูงชนจนกระเด็นลอยล่องออกไป ซู่เริ่นเข้าคว้าร่างที่ใกล้หมดสติของหงเว่ย แล้วหมุนตัวกลืนหายไปในอากาศ

ฝั่งเทพจิ้งจอกเงินเอ้าเทียน หลังจากจัดการฝังศพหงฟู่แล้วก็เร่งเดินทางเข้าสู่วังหลวงเพื่อช่วยเหลือแม่ทัพซู่เหวิ่นโดยไวไม่รอช้า

ขณะที่กำลังโลดแล่นทะยานอยู่บนยอดไม้สูงเพื่อมุ่งสู่ที่หมาย จู่ๆ เอ้าเทียนก็รู้สึกหม่นๆ ขึ้นในจิตใจ รู้สึกไม่ค่อยสบายใจนัก ภาพของจอมมารงูดำคมเข้มแทรกเข้ามาในความคิด ภาพที่จอมมารจุมพิตลงบนใบหน้าของเขา นึกถึงความอุ่นของลมหายใจของจอมมารปล่อยออกมารดต้นคอของจิ้งจอกหนุ่ม

“ป่านนี้ อู๋ทงจะเป็นอย่างไรบ้างนะ? รู้สึกไม่ค่อยดีเลย” จิ้งจอกขาวหยุดพึมพำกับตัวเองชั่วครู่ ก่อนจะพุ่งร่างต่อไปทางวังหลวงอย่างรวดเร็วจนสายตามนุษย์มองไม่ทัน

“ไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร จงเร่งผูกมิตรกับนักโทษเหล่านี้ไว้ คนเหล่านี้จะยังประโยชน์ให้ท่านได้ในภายภาคหน้า”

เสียงของเซียนหนุ่มผมสีขาว ใส่ชุดประกายเงิน ดูองค์อาจและน่าเลื่อมใสกำลังพูดกับเขา-แม่ทัพซู่เหวิ่น ก่อนที่ภาพของเทพคนดังกล่าวจะค่อยๆ เลือนหายไปช้าๆ

“อย่าๆๆ อย่าไปไป ช่วยข้าด้วย ช่วยข้าที” แม่ทัพซู่เหวิ่นตะโกนเสียงดัง ขณะที่เซียนหนุ่มค่อยๆ สลายร่างไป

“จงมีสติในทุกลมหายใจ” นั่นคือคำพูดสุดท้ายของจิ้งจอกเงิน ก่อนที่แม่ทัพซู่จะตกใจตื่นขึ้นมา

ช่างเป็นฝันที่แปลกประหลาด!!!

ภายในคุกอาญาแห่งวังหลวง

“ท..ที่นี่...ที่ไหน?” แม่ทัพซู่ค่อยๆ ลืมตาหลังจากหมดสติ ถามออกไปด้วยเสียงแหบแห้ง

หลังจากที่แม่ทัพซู่เหวิ่นถูกจับตัวมา ก็ถูกคุมขังอยู่ในคุกหลวง ที่ซึ่งเป็นสถานที่จองจำนักโทษที่ทำความผิดร้ายแรง ที่สำคัญนักโทษเหล่านี้มากกว่าครึ่งหนึ่งถูกแม่ทัพซู่เหวิ่นจับและส่งตัวมายังที่นี่ เท่ากับว่าตอนนี้ แม่ทัพซู่อยู่ท่ามกลางศัตรูที่เต็มไปด้วยความแค้น

แม่ทัพซู่รูปงามบัดนี้มีแต่หนวดเครารกรุงรัง ผิวคล่ำลงไปมาก นอนไม่ได้สติอยู่บนพื้นสกปรก ไม่มีเสื้อผ้าสวมใส่สักชิ้น ขณะที่นักโทษในนั้นมีมากกว่ายี่สิบคน แต่ละคนล้วนกำหนัดอย่างแรง เพราะไม่เคยได้ร่วมสังวาสกับใครมานานหลายปี

การที่แม่ทัพอยู่ที่นี่จึงแทบไม่ต่างจากโสเภณีไร้ราคา ต้องทำหน้าที่ปรนนิบัติชายฉกรรจ์นับยี่สิบคน

“ที่นี่นะหรอ?...ก็เรือนสมสู่ของพวกข้ากับเจ้าไง” นักโทษคนหนึ่งตอบ

แม่ทัพซู่ค่อยๆ ตั้งสติ มองไปรอบๆ ก็เห็นแต่เหล่านักโทษที่ตนเคยจับส่งมายังคุกหลวง สีหน้าแต่ละคนเต็มไปด้วยความโกรธแค้น นักโทษแต่ละคนยืนเรียงราย ล้อมรอบแม่ทัพซู่

“เรามาเล่นสนุกกันดีกว่าอดีตท่านแม่ทัพผู้เกรียงไกร ฮ่าๆๆๆ” นักโทษคนหนึ่งเดินตรงเข้ามา

“ไอ้นางโลม...ถอดกางเกงให้พวกกูเดี๋ยวนี้” นักโทษออกคำสั่งตัดบท

แม่ทัพยังคงนิ่งเฉย จนนักโทษคนหนึ่งตบหน้าแม่ทัพอย่างแรงจนล้มไปนอนกับพื้น ก่อนจะใช้เท้าเหยียบควยแม่ทัพอย่างแรง แถมยังบดขยี้ไปมา สร้างความเจ็บปวดจนแม่ทัพนอนกุมท้อง ขดตัวเป็นกุ้งแห้ง

“โอ๊ยยยยย ข้าเจ็บบบ” แม่ทัพร้องด้วยความทรมาน

“ถ้าไม่อยากให้ควยแหลกคาตีนของกู ลุกขึ้นมาปลดผ้าให้พวกกุเดี๋ยวนี้” นักโทษสั่งอีกครั้ง

จู่ๆ ประโยคในฝันนี้ก็ดังก้องขึ้นมาในหัวของแม่ทัพ

“ไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร จงเร่งผูกมิตรกับนักโทษเหล่านี้ไว้ คนเหล่านี้จะยังประโยชน์ให้ท่านได้ในภายภาคหน้า”

หรือนี่อาจจะเป็นบัญชาจากสวรรค์!!!!

แม่ทัพซู่ค่อยๆ ลุกนั่งคุกเข่าอีกครั้ง สองมือสั่นดิกๆ ขณะที่ยื่นไปจับขอบกางเกงของนักโทษคนแรก ก่อนจะดึงลงสู่ปลายเท้า ทันใดนั้นลำควยแท่งใหญ่ก็ดีดเด่งออกมาฟาดหน้าของแม่ทัพอย่างแรง เกิดเสียงดับพรึ่บ!

กลิ่นสาบควยนักโทษโชยเตะจมูกแม่ทัพจนแทบอ้วก แม่ทัพจ้องมองควยตรงหน้าก็ต้องขนลุกซู่ เพราะทั้งใหญ่ทั้งยาว หัวควยแดงบานทะโร่เหมือนงูเห่ากำลังแผ่แม่เบี้ย ผงกหัวงึกๆ ต้อนรับสายตาหวาดกลัวของแม่ทัพผู้เคยอาจหาญ

“จูบควยกูซะ แล้วอ้าปากอมควยเข้าไปให้สุด” นักโทษบังคับ

ไม่ช้าปากสวยของแม่ทัพก็ประกบลงไปจุมพิศลงบนหัวควยเหม็นๆ และเต็มไปด้วยน้ำเยิ่มๆ ของนักโทษ

นักโทษร้องครางด้วยความเสียว “โอ๊ยย ได้ใจกูจริงๆ ดีมาก คราวนี้อ้าปากอมควยเข้าไปในสุดลำ ห้ามให้เห็นโคนควยอยู่นอกปากเด็ดขาด อมเข้าไปในหมด”

แม่ทัพเปิดปากกว้าง กลั้นหายใจอมควยสกปรกเข้าไป ความอุ่นของแท่งควยระอุอยู่ในโพรงปากนุ่มๆ แม่ทัพจำใจต้องอมควยให้หมด อนิจจังควยนักโทษคนนี้ยาวมากๆ ทำให้แม่ทัพต้องอมเข้าไปเกือบถึงคอหอย แทบจะสำลัก

“ซิ๊ดดด ดี ดีมากๆ สองมือที่ว่างอยู่ก็ถอดกางเกงในผัวคนอื่นด้วย ปากก็ห้ามหยุดอมควยกู” นักโทษคนนั้นสั่ง

ส่วนนักโทษรายอื่นๆ ก็ตรงปรี่เข้ามาทางแม่ทัพ แอ่นเป้าให้แม่ทัพถอดกางเกงให้ แม่ทัพทยอยปลดเสื้อผ้าให้นักโทษทั้งยี่สิบกว่าคน ขณะที่ปากก็ยังคงปรนเปรอความสุขให้แท่งควยยาว

บัดนี้นักโทษทั้งหมดอยู่ในสภาพเปลือยล้อนจ่อนเหมือนแม่ทัพ แต่ละคนมีลำควยไม่ธรรมดาทั้งนั้น มีทั้งหัวบานทะโร่ มีลำอวบอ้วน มีสองไข่ใบโต หมอยก็ดำหยิกงอ ในตอนนี้คุกหลวงได้กลายเป็นหอนางโลมไปเสียแล้ว

“วันนี้มึงจะได้ผัวทีเดียวยี่สิบกว่าคน รับรองพวกกูจะเย็ดจนมึงเสียสติไปเลย ฮ่าๆๆ” นักโทษสะใจกันยกใหญ่