ไซซี ยอดหญิงงาม

ไซซี

เขียนโดย ขุนอัสดร

ประวัติศาสตร์จีนมีบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร วัตถุโบราณ ภาพเขียน ต่อเนื่องยาวนานมากกว่า 2,000 ปี จึงเป็นวัตถุดิบอย่างดีของนักสร้างหนังใหญ่หรือหนังทีวีให้หยิบยกบางส่วน บางเสี้ยวของบันทึกเหล่านั้นมาสรรสร้างให้คนดูเพลิดเพลินใจและรับทราบประวัติชนชาติไปพร้อมกัน สิ่งที่ได้จากการนำบางเสี้ยวของประวัติศาสตร์จีนไปทำเป็นหนัง คือ เมื่อฉายในต่างประเทศจะทำให้คนดูต่างสัญชาติเรียนรู้ ซึมซับ ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันงดงามของจีนด้วย บันทึกประวัติศาสตร์ย่อมมีทั้งด้านดี ด้านมืดมัว ของผู้นำบ้านเมืองหรือสังคมในเวลานั้นให้ชนรุ่นหลังเรียนรู้และจดจำเป็นบทเรียนมิให้กระทำซ้ำกันเพื่อเกิดโศกนาฏกรรมดังกล่าวขึ้นอีกครั้ง

ไซซี เป็นชื่อหญิงในบันทึกประวัติศาสตร์จีนยุคชุนชิวที่ถือกันว่า เป็นหญิงงามที่สุดคนหนึ่งในแผ่นดินจีนนอกจากคำสรรเสริญด้านความงามของเธอแล้ว ไซซียังได้รับคำยกย่องอย่างสูงในความเสียสละความรักและชีวิตสังเวยเพื่อแผ่นดินเกิดของเธอโดยอาศัยความงามทำลายล้างแคว้นศัตรู สุดท้ายชีวิตของเธอก็ได้รับเกียรติยกย่องจากชนรุ่นหลัง แต่ผลลัพธ์ของความเสียสละในชีวิตส่วนตัวนั้นไม่งดงามสำหรับเธอนัก ส่วนยุคชุนชิวนั้นนับว่าเป็นสมัยที่สังคมจีนมีความแตกแยกเป็นก๊ก เป็นแคว้นมากมาย แต่ละแคว้นล้วนพยายามขยายดินแดน แผ่บารมี เข่นฆ่าเป็นอาจิณ จึงถือเป็นยุคแห่งสงครามระหว่างแคว้นที่สร้างความทุกข์ยากแก่ปวงชนที่สุดยุคหนึ่งในประวัติศาสตร์

ไซซี สร้างโดยบริษัท อาร์ทีวี(อดีต)หรือเอทีวี(ปัจจุบัน)

แคว้นอู๋ที่มีฮ่องเต้ ฟูเชา เป็นประมุข มีความเก่งกล้าในการทำสงครามอย่างมาก จึงคิดขยายดินแดนไปยังเพื่อนบ้านที่เพิ่งมีกษัตริย์องค์ใหม่ครองอำนาจ คือ พระเจ้าโกวเจี้ยน แห่งแคว้นเยี่ย ซึ่งมีนิสัยรักความสนุก รู้จักเลี้ยงลูกน้อง ขาดวิสัยทัศน์ด้านการปกครอง ไม่เก่งด้านการรบ แต่ทะยานอยากเป็นกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่เหนือบรรพชน สองแคว้นรบกันมาตลอด ผลัดแพ้ผลัดชนะกันเสมอ พระเจ้าโกวเจี้ยนนั้นมีข้าหลวงที่เก่งกาจและซื่อสัตย์สองคน คือ เสนาฟ่านหลี่ กับ เสนาฝ่ายบู๊ รวมกับความสมานสามัคคีของประชาชนที่มีให้กษัตริย์ของเขาทำให้ศัตรูทำลายยาก การทำสงครามต่อเนื่องหลายปีระหว่างสองแคว้นนี้ทำให้คนแคว้นเยี่ยเริ่มเบื่อหน่ายกับความพ่ายแพ้ที่เกิดบ่อยขึ้นเมื่อกษัตริย์เริ่มเอาแต่ใจและยึดตนเอง ไม่ฟังเสียงของเสนาบดี ขณะที่ฮ่องเต้ ฟูเชา แค้นเคืองที่พระบิดาตายในสนามรบด้วยฝีมือทหารแคว้นเยี่ยซึ่งพระเจ้าโกวเจี้ยนครองอำนาจอยู่ จึงคิดแผนชั่วร้ายเพื่อทรมานและสร้างความอับอายแก่กษัตริย์แคว้นเยี่ย ความรักสงบของประชาชน ความอ่อนแอของทหารที่กรำศึกมานาน เสบียงร่อยหรอลง ในที่สุดพระเจ้าโกวเจี้ยนจำต้องตัดสินใจครั้งสำคัญที่จะเลือกระหว่างรักษาเมืองและชีวิตประชาชนกับการยอมเป็นตัวประกันที่แคว้นอู๋ตามข้อเสนอของฮ่องเต้ฟูเชา มิฉะนั้น ฮ่องเต้ฟูเชาประกาศจะใช้ทหารล้างทุกชีวิตของแคว้นเยี่ย

ความเก่งกล้าและชาญศึกของทหารแคว้นอู๋สร้างความหวั่นกลัวแก่เสนาบดีของพระเจ้าโกวเจี้ยนอย่างมาก เสนาฟ่านหลี่กับเสนาฝ่ายบู๊เสนอแผนรักษาชีวิตกษัตริย์ ชีวิตประชาชน รักษาบ้านเมือง เพื่อพลิกฟื้นชีพอีกครั้งแก่กษัตริย์แคว้นเยี่ยโดยพระองค์ต้องยอมเสียสละเพื่อปวงชนก่อน ในที่สุดพระเจ้าโกวเจี้ยนยอมรับแผนของเหล่าเสนาบดีโดยประกาศรับข้อเสนอของฮ่องเต้ฟูเชาแลกกับความปลอดภัยของประชาชนและรักษาบ้านเมืองไว้ วันที่ฮ่องเต้ฟูเชารอคอยการแก้แค้นจึงเกิดขึ้นเมื่อพระเจ้าโกวเจี้ยนต้องคุกเข่ากล่าวยอมรับความพ่ายแพ้ต่อหน้าศัตรู สิ่งที่พระเจ้าโกวเจี้ยนกระทำไปนั้นทำให้ชาวแคว้นเยี่ยศรัทธาต่อความเสียสละของกษัตริย์เพิ่มขึ้นอันเป็นไปตามความคาดหมายของเสนาบดีทั้งสองและพร้อมจะช่วยกันสร้างความเข้มแข็งให้บ้านเมืองอีกครั้ง นอกจากพระเจ้าโกวเจี้ยนต้องเดินทางไปอยู่แคว้นอู๋ในฐานะเชลยแล้ว ทุกปีแคว้นเยี่ยต้องส่งเครื่องบรรณาการแก่ฮ่องเต้ฟูเชาด้วย

เมื่อพระเจ้าโกวเจี้ยนเดินทางไปอยู่แคว้นอู่ในฐานะเชลยนั้น เสนาฟ่านหลี่ยอมติดตามไปดูแลเขาด้วยฮ่องเต้ฟูเชายินยอมอนุญาตโดยมีแผนจะเกลี้ยกล่อมเสนาหนุ่มคนนี้ให้มาทำงานที่แคว้นอู๋ด้วยศรัทธาในความฉลาดหลักแหลมของฟ่านหลี่ ฮ่องเต้ฟูเชาบังคับให้กษัตริย์แคว้นเยี่ยกับฟ่านหลี่ไปอาศัยในกระท่อมท้ายวังโดยให้ดูแลตัวเอง ห้ามบุคคลใดยุ่งเกี่ยวกับทั้งสอง ฟ่านหลี่สอนการใช้ชีวิตสามัญแก่พระเจ้าโกวเจี้ยน ทั้งสองต้องปลูกข้าวและผักเพื่อดำรงชีพเองโดยอยู่ในสายตาของฮ่องเต้ฟูเชา เพื่อเป็นการเตือนสติที่ต้องเจ็บช้ำและอับอายในการเป็นเชลย พระเจ้าโกวเจี้ยนผูกดีหมีไว้กลางกระท่อมเพื่อแตะความขมของมันทุกคืนก่อนนอนและเตือนใจให้อดทนรอการแก้แค้นไม่ว่าจะใช้เวลานานเท่าไร ความขมของดีหมีใช้แทนความปวดร้าวและอับอายของพระองค์ที่แคว้นอู๋ต้องชดใช้สักวันหนึ่ง

เวลาเดียวกันนั้นเสนาฝ่ายบู๊ของแคว้นเยี่ยเตรียมสะสมเสบียงใหม่ ฝึกกำลังทหารให้เข้มแข็งขึ้นโดยหลบหลีกสายตาของตัวแทนแคว้นอู๋อย่างเต็มที่ แผนทำลายแคว้นอู๋เริ่มต้นขึ้นเมื่อต้องส่งเครื่องบรรณาการให้ในฐานะผู้แพ้สงคราม เขาประกาศคัดเลือกลูกสาวจากชาวบ้านเพื่อเป็นของบรรณาการให้แคว้นอู๋ มิฉะนั้น สงครามอาจต้องเกิดขึ้นอีก ไซซีและเพื่อนอีกคนซึ่งเป็นสาวงามที่สุดในแคว้นถูกคัดเลือกแคว้นเยี่ย จากนั้นเสนาฝ่ายบู๊จึงกล่อมเกลาให้สองสาวทราบหน้าที่พิเศษที่ต้องทำเพื่อถ่วงเวลาให้แคว้นเยี่ยสะสมเสบียง อาวุธ และกำลังทหารได้ เขาถามความสมัครใจจากไซซีซึ่งเป็นคนรักของเสนาฟ่านหลี่อีกครั้ง เธอยอมเสียสละความรักเพื่อชาติเยี่ยงเดียวกับฟ่านหลี่ที่ยอมเป็นเชลยในดินแดนศัตรู เธอหวังลึกๆว่าการเป็นเครื่องบรรณาการครั้งนี้จะพบฟ่านหลี่และช่วยเหลือเขาได้บ้าง

ฮ่องเต้ฟูเชาชื่นชอบความงามของไซซีและเพื่อนจึงรับเป็นสนมใกล้ชิด โดยเฉพาะไซซีซึ่งมีความงามโดดเด่นและความอ่อนหวานช่างเอาใจทำให้เขาหลงใหลอย่างมาก จนกระทั่งเหล่าเสนาบดีหวาดระแวงใจกับการปรากฏกายของเธอที่เคียงกายของฮ่องเต้ในทุกสถานที่ ความเห็นของไซซีมีอิทธิพลต่อฮ่องเต้แคว้นอู๋มากขึ้นเรื่อยๆ แม้จะมีข่าวแจ้งพฤติกรรมลึกลับของคนแคว้นเยี่ยในการสะสมกำลัง ไซซีสามารถใช้ความหลงใหลของฟูเชาทำให้เขาไม่เชื่อข่าวนั้นด้วยการพูดดูแคลนความสามารถของเสนาบดีแคว้นเยี่ยและความกลัวของชาวบ้านที่มีต่อแคว้นอู๋ บางขณะเธอใช้เสน่ห์เพื่อช่วยให้ฟูเชาไม่ฆ่าฟ่านหลี่ที่เย่อหยิ่ง ไม่ยอมเป็นข้ารับใช้เขา คนรักทั้งสองมีบางโอกาสพบกันด้วยความห่วงใย ฟ่านหลี่นับถือใจเด็ดเดี่ยวของไซซีและเตือนให้ระวังความโกรธของฟูเชา อีกทั้งต้องไม่ลืมภารกิจสำคัญที่แคว้นเยี่ยฝากเธอไว้

หลายปีผ่านไปความหลงใหลที่ฮ่องเต้ฟูเชามีต่อไซซีเริ่มส่งผลเสียต่องานราชกิจ งานทหาร ทำให้กองทัพอ่อนแอลง เสนาบดีโกงกินบ้านเมืองอย่างหนักเมื่อฮ่องเต้มั่วอยู่ความสำราญที่ไซซีและเพื่อนปรนเปรออย่างหนัก ส่วนพระเจ้าโกวเจี้ยนกับฟ่านหลี่พยายามอดทนต่อการหมิ่นเกียรติจากข้าหลวงแคว้นอู๋เพื่อรอฟังสัญญาณความพร้อมจากแคว้นเยี่ย วันหนึ่งข่าวลับจากเสนาฝ่ายบู๊มาถึงทั้งสองให้เดินทางกลับแคว้นได้แล้ว ฟ่านหลี่จึงวางแผนให้ไซซีส่งพวกเขากลับแคว้นเยี่ยโดยอาศัยข้ออ้างสุขภาพของพระเจ้าโกวเจี้ยน ฮ่องเต้ฟูเชาเฝ้ามองพฤติกรรมของเชลยทั้งสองที่อยู่อย่างสงบ ไม่มีทีท่าต่อต้าน ยอมรับการหมิ่นแคลนจากพระองค์มาตลอด กอปรกับคำพูดยุยุงของไซซี เมื่อทั้งสองมีคำร้องขอกลับบ้านเกิดโดยข้ออ้างสุขภาพของพระเจ้าโกวเจี้ยนทรุดหนัก เขาติดสินบนหมอหลวงที่มาตรวจอาการของพระเจ้าโกวเจี้ยนให้บอกความเห็นเท็จ ในที่สุดพระองค์ยินยอมให้ทั้งสองกลับแคว้นเยี่ยโดยไม่ฟังคำทัดทานจากเหล่าเสนาบดีซึ่งต่างรู้ดีว่าไซซีมีอิทธิพลสูงต่อการตัดสินใจครั้งนี้

พระเจ้าโกวเจี้ยนกับฟ่านหลี่กลับถึงแคว้นเยี่ยจึงตระเตรียมแผนทำสงครามกับแคว้นอู๋ทันทีเมื่อเห็นการเตรียมเสบียง อาวุธ และกำลังทหารพร้อมแล้ว อีกทั้งจิตใจฮึกเหิมของชาวบ้านที่ถูกทหารแคว้นอู๋กดขี่บังคับนานหลายปีมาแล้ว เวลาเดียวกันที่แคว้นอู๋ไซซีใช้เสน่ห์กับฮ่องเต้ฟูเชาโยกย้ายแม่ทัพที่เป็นอันตรายต่อการศึกไปที่อื่น เสนาบดีเก่งกาจถูกไล่ออก บ้างย้ายไปอยู่ห่างไกลจากฮ่องเต้ ข่าวการเคลื่อนทัพโจมตีประชิดกำแพงเมืองอย่างรวดเร็วโดยกองทัพแคว้นเยี่ยสร้างความตกใจแก่ฮ่องเต้ฟูเชายิ่ง มันสายเกินกว่าจะพลิกฟื้นสู่ชัยชนะได้ กองทัพของพระเจ้าโกวเจี้ยนบุกทำลายแคว้นอู๋ด้วยเวลาไม่นานนัก สุดท้ายก็สังหารฟูเชาล้างความอับอายได้

พระเจ้าโกวเจี้ยนสั่งทำลายบ้านเรือน ชีวิตของชาวแคว้นอู๋อย่างเหี้ยมโหดเพื่อล้างแค้น ฟ่านหลี่พยายามพูดทัดทานไว้ แต่พระองค์ไม่ฟังและไล่เขา เวลานี้เขาตระหนักใจแล้วว่า พระเจ้าโกวเจี้ยนมิใช่กษัตริย์ที่รักสงบอย่างที่พระองค์เคยบอกไว้ จริงแล้วพระองค์รอคอยการแก้แค้นมาตลอด มิได้รักประชาชน แต่รักตัวเอง ยิ่งพระเจ้าโกวเจี้ยนสั่งจับไซซีไปบำเรอความสุขของตนด้วยชื่นชมในความงามของไซซี ยิ่งสร้างความผิดหวังแก่ฟ่านหลี่อย่างมาก เขาจึงลาออกจากตำแหน่งเสนาบดีและพาไซซีหนีหายไปใช้ชีวิตสองคนอย่างเงียบสงบในดินแดนที่ไม่มีใครพบเห็นพวกเขาอีกตลอดกาล

ไซซี สร้างโดย ทีวีบี ประมาณปี 2007

ไซซี เป็นหนังชุดที่สร้างโดยบริษัท เอทีวี หรือ อาร์ทีวีในอดีต ถือเป็นหนังชุดใหญ่ประจำปีของบริษัทซึ่งรวบรวมผู้กำกับ นักเขียนบท นักแสดง นักออกแบบเสื้อผ้า นักแต่งเพลงประกอบหนัง ซึ่งถือเป็นสุดยอดฝีมือของบริษัทในเวลานั้น เพื่อถ่ายทอดเนื้อหาให้สนุกเร้าใจ แสนรันทด และเป็นที่ประทับใจแก่คนดู นักแสดงที่รับมอบหน้าที่ถ่ายทอดความงามและความเสียสละของไซซี คือ หลี่เอี้ยนซัน นางงามฮ่องกงในเวลานั้น เธอมีใบหน้างดงาม ร่างบอบบาง เหมาะกับจินตภาพของนางงามในประวัติศาสตร์อย่างยิ่ง ส่วน พานจื้อเหวิน รับบท ฟ่านหลี่ เสนาบดีหนุ่มผู้ซื่อสัตย์มีปัญญาปราดเปรื่องและเป็นจอมยุทธผู้เสียสละเพื่อบ้านเมือง ส่วนพระเจ้าโกวเจี้ยนนั้นมอบให้นักแสดงเจ้าบทบาทท่านหนึ่ง ฮ่องเต้ฟูเชาก็ให้ ไป่เปียว (อดีตผู้แสดงเป็นก๊วยเจ๋งรุ่นแรก) นำแสดงได้เหี้ยมดุมาก เพลงไตเติ้ลให้นักร้องหญิงขับร้องอย่างไพเราะและนำเสนอความรักอ่อนหวาน ความเสียสละ ที่ไซซีมีเพื่อชาติ เพื่อชายคนรัก ในยามบ้านเมืองทุกข์เข็ญ ต่อมาในปีค.ศ. 2007 บริษัท ทีวีบี ยังนำเรื่องนี้ไปสร้างอีกครั้งในชื่อใหม่ คือ มหาศึกจ้าวแผ่นดิน โดยให้ หลิวสงเหยิน แสดงเป็น พระเจ้าโกวเจี้ยน ซึ่งมีบทบาทสำคัญทางประวัติศาสตร์และเขาถ่ายทอดความทุกข์ยากนานหลายปี การแก้แค้นหฤโหดของเชลยต่อฟูเชาได้เยี่ยม ส่วนไซซี ก็ยังให้นางงามฮ่องกงเข้ารับบทนี้เช่นเคย ส่วนจะถูกใจคนดูหรือไม่เมื่อเปรียบเทียบกับไซซี ยุคเอทีวี คงต้องให้คนดูไปเลือกหาดีวีดีทั้งสองเรื่องมาตัดสินกันเอง

เกร็ดประวัติศาสตร์เกี่ยวกับไซซี ในยุคชุนชิวนั้นมีข้อความในบันทึกไม่ยาวนัก แต่อ่านแล้วให้ความสะท้อนใจแก่ผู้อ่านยิ่งเมื่อชาวบ้านต้องเสียสละลูกสาวด้วยหวังนำความสงบกลับสู่บ้านเมืองในฐานะผู้ชนะสงคราม แต่พระเจ้าโกวเจี้ยนมิได้เป็นดังที่ชาวบ้านฝากความหวังไว้ด้วยการก่อสงครามยึดครองเพื่อนบ้านเพราะความฮึกเหิมกับชัยชนะต่อแคว้นอู๋ แต่ยุคของพระองค์ต้องสิ้นสุดด้วยเวลาอันสั้นหลังครองแคว้นอู๋ได้ไม่นาน จึงพ่ายแพ้ศึกต่อแคว้นอื่นและถูกประหารชีวิต ฟ่านหลี่พาไซซี สาวคนรักของเขาหนีพ้นเงื้อมมือของพระเจ้าโกวเจี้ยนไปใช้ชีวิตสงบในดินแดนห่างไกลและไม่มีใครพบทั้งสองอีก เป็นบันทึกทางประวัติศาสตร์ที่เขียนไว้สั้นๆ แม้แคว้นเยี่ยจะพบภัยพิบัติจากสงครามต่อมา ทั้งสองก็ไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวอีกเพราะคงเข็ดขยาดกับการเป็นเครื่องมือของผู้นำบ้านเมืองแล้ว แต่ความงามและวีรกรรมของไซซีถูกบันทึกอย่างยกย่องในประวัติศาสตร์ของจีนสืบทอดกันมาถึงชนรุ่นหลังให้จดจำกันทั้งในอักษร ในหนัง จึงไม่มีผู้ใดลืมเลือนสาวงามนามไพเราะว่า ไซซี ซึ่งเป็นสาวร่างบาง ใบหน้างดงาม ที่ทำลายแคว้นใหญ่เข้มแข็งลงได้ จนกระทั่งมีคำเรียกแผนของฟ่านหลี่ว่า แผนสาวงาม แม้พระเจ้าโกวเจี้ยนจะแก้แค้นแสนโหดกับชาวแคว้นอู๋ แต่บันทึกประวัติศาสตร์ยกย่องความอดทนของพระองค์ในฐานะเชลยในแคว้นอู๋ว่าเยี่ยมยอดยิ่ง เนื่องจากพระองค์แขวนดีหมีและลิ้มรสชาติความขมของมันเพื่อเตือนให้สำนึกสถานภาพวันนี้กับอนาคตวันหน้า จึงเกิดคำพูดติดปากถึงทุกวันนี้ของคนจีนว่า ขอให้อดทนผ่านวันนี้ให้ได้ แก้แค้น 10 ปีก็ไม่สาย พระเจ้าโกวเจี้ยนจึงเป็นต้นตำนานความอดทนถูกหยามเหยียดเกียรติของกษัตริย์ได้เพื่อรอวันล้างแค้นแม้ว่าจะกี่ปีก็ตาม บทเรียนชีวิตของพระเจ้าโกวเจี้ยนในฐานะกษัตริย์ที่ยอมถูกย่ำยีสถานภาพเพื่อรอเวลาพลิกฟื้นชะตากรรมใหม่ให้ยิ่งใหญ่ แสดงผลสำเร็จของการอดทนในยุคประวัติศาสตร์แล้ว จึงปรับสอนให้คนธรรมดาต้องรู้จักอดทนเพื่อทำงานให้สำเร็จเยี่ยงเดียวกับพระเจ้าโกวเจี้ยน

เราจักเห็นบทเรียนชีวิตที่แฝงไว้ในหนังชุดหรือประวัติศาสตร์จีนเพื่อให้คนรุ่นหลังเข้าใจง่ายและนำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวันหรือการทำงานได้ไม่ยากนัก การอ่านหรือดูแล้วคิดพิจารณานำสิ่งดีๆในเนื้อหาเป็นทางลัดแห่งความรู้ของคนรุ่นใหม่ที่ได้จากประวัติศาสตร์ซึ่งเขียนด้วยเลือดเนื้อของคนที่ผ่านความทุกข์ยากเมื่อหลายพันปีก่อน คนดูหนังชุดนี้ก็ได้หลายอรรถรสจากเนื้อหาที่ถ่ายทอดผ่านนักแสดงและนักเขียนบทชั้นเยี่ยมที่ทำให้ ไซซี มีชีวิตอีกครั้งในโลกมายาและเตือนมิให้ลืมเลือนวีรกรรมของสาวงามคนนี้

*******************************