มรสุมชีวิต ลิขิตพระจันทร์

มรสุมชีวิต ลิขิตพระจันทร์

มรสุมชีวิต ลิขิตพระจันทร์

เขียนโดย ขุนอัสดร

หนังชุดฮ่องกงยุคใหม่ที่เน้นชีวิตครอบครัวและความรักของคนหลายรุ่นในเรื่อง มรสุมชีวิต ลิขิตพระจันทร์ หรือ Moonlight Resonance สร้างและฉายที่ฮ่องกงเมื่อปี ค.ศ. 2008 เป็นหนังชุดมีชื่อเสียงโด่งดังมากจากเนื้อหาและนักแสดงฝีมือเยี่ยมร่วมงานมาก อาทิเช่น เซียะหวี่ หลี่ซื่อฉี หมีเซียะ และนักแสดงรุ่นใหม่ของทีวีบีระดับสุดยอด ส่วนคนไทยได้รับชมหนังคุณภาพเยี่ยมเรื่องนี้โดยช่อง 3 นำมาฉายเมื่อปี ค.ศ. 2010 หรือ พ.ศ. 2553

มรสุมชีวิต ลิขิตพระจันทร์ เป็นหนังชุดแนวครอบครัว ชื่อเรื่องนี้มีความเกี่ยวข้องกับเนื้อหาอยู่เนื่องจากครอบครัวร่ำรวยที่เป็นต้นเรื่องนี้ทำธุรกิจ ขนมเปี๊ยะไหว้พระจันทร์ ยี่ห้อ วันเพ็ญเดือนเต็ม หัวหน้าครอบครัวคือ อาจู่ (เซียะหวี่) เป็นเจ้าของบริษัทและเคยเป็นคนทำขนมไหว้พระจันทร์จนโด่งดังเป็นที่รู้จักไปทั่วฮ่องกง มีน้อยคนจะรู้เบื้องหลังบริษัทและชีวิตครอบครัวที่แสนวุ่นวายของเขา หนังเรื่องนี้ฉายภาพที่บางครอบครัวก็มีประสบการณ์ของความล้มเหลวที่พ่อแม่สร้างไว้ด้วยจิตใจที่รวนเร ทำให้ครอบครัวที่น่าจะมีความสุขที่สุดกลายเป็นเต็มไปด้วยความทุกข์ใจแม้จะมีเงินทองอยู่สุขสบาย เมื่อหญิงมือที่สามก้าวเข้าไปในชีวิตของอาจู่ด้วยจิตไม่ดีและอิจฉาครอบครัวของเขา เชื่อว่าถ้าเขาเป็นสามีของ หยินหง (หมีเซียะ) น่าจะทำให้เธออบอุ่นใจและมีความสุขเหมือนที่เขาทำกับครอบครัวเดิม จึงใช้ความสวยและมารยาหญิงช่วงชิงเขาและยุให้ทอดทิ้งเมียหลวงที่ร่วมทุกข์สร้างสุขด้วยกันมาจนมีลูกชายหญิง 6 คนแล้ว

ชีวิตเมียน้อยอย่างหยินหงก็มีที่มาซึ่งมีแนวคิดแย่งชิงผัวของคนอื่นเนื่องจากสามีของเธอหนีไปกับเมียน้อยอีกคน ทอดทิ้งให้เธอกับลูกสาวอยู่ตามลำพังอย่างยากจน เธอเคยขู่สามีให้กลับมาด้วยการฆ่าตัวตายโดยกระโดดตึกลงไปทั้งแม่ลูก แต่สามีไม่สนใจพวกเธอเลย เธอตั้งใจมั่นว่าจะไม่ยอมให้ใครทิ้งเธอและจะช่วงชิงทุกสิ่งที่คิดว่าสร้างความสุขให้เธอได้ เธอต้องเป็นผู้ชนะโดยไม่คำนึงถึงศีลธรรมหรือกฎหมาย การฆ่าตัวตายครั้งนั้นด้วยคำพูดเกลี้ยกล่อมของ จงเสี่ยวเหอ (หลี่ซือฉี) และความช่วยเหลือทางการเงินกับให้ชีวิตใหม่อีกครั้งด้วยการให้งานทำที่ร้านขนมไหว้พระจันทร์ที่เป็นของพ่อและอาจู่ช่วยทำงานอยู่ หยินหงเห็นความรัก ความสุข ที่สองสามีภรรยามีให้ลูกของพวกเขา จึงรู้สึกอิจฉาและอยากได้เขามาเป็นสมบัติของเธอ จึงใช้เสน่ห์เล่ห์กลและมารยาหญิงกล่อมให้เขาหลงใหลและยอมหนีจากเมียหลวงไป โดยไม่ลืมที่จะเอาใจแม่ผัวซึ่งอาจู่ให้ความเคารพรักที่สุดเพื่อให้เข้าข้างเธอ พาลเกลียดชังลูกสะใภ้อย่างจงเสี่ยวเหอที่เป็นคนพูดจาตรงไปตรงมา อาจู่ตัดสินใจหนีตามเมียน้อยอย่างหยินหงไปพร้อมกับเงินก้อนในร้านขนมของเมียหลวง แต่เลี้ยงชีพไม่ได้ แทบอดอยากเพราะร้านขนมของอาจู่ไร้ชื่อเสียงและทำรายได้ไม่ดี

หยินหงบากหน้ากลับมาหาเมียหลวงด้วยการบรรยายความล้มเหลวของอาจู่ที่แทบไม่มีเงินทองแล้ว จึงขอใช้ชื่อร้านของพ่อจงเสี่ยวเหอซึ่งมีชื่อเสียงมากในเวลานั้น ด้วยความสงสารอดีตสามีอาเหอหรือจงเสี่ยวเหอจึงขอร้องพ่อให้ยอมให้ทั้งสองนำชื่อร้านไปใช้ด้วย ต่อมาอาจู่กับหยินหงพัฒนาร้านขนมเปี๊ยะไหว้พระจันทร์ให้เด่นดังขึ้นอีกแล้วยึดครองยี่ห้อนี้ไปเป็นของตนฝ่ายเดียว เนื่องจากในอดีตพ่อของจงเสี่ยวเหอมิได้ทำสัญญายอมให้ใช้ชื่อไว้ หยินหงใช้ข้อกฎหมายนี้ยึดครองชื่อร้านไป หลังจากร้านค้ามั่นคงแล้วอาจู่ปลีกตัวจากการทำงานมาอยู่บ้านกับมารดาที่แก่ชรา เมื่อมีเวลาเพิ่มขึ้นทำให้เขาคิดถึงลูกๆที่อยู่กับเมียหลวงซึ่งเขาไม่ได้ดูแลมานานแล้ว จึงพยายามไปเยี่ยมพวกเขา ทำให้หยินหงมองอย่างหวาดระแวง

จงเสี่ยวเหอพูดสอนลูกๆให้อภัยแก่อาจู่ที่อาจทำร้ายจิตใจแม่ของเขา แต่เธอยืนยันว่า อาจู่รักลูกๆสุดหัวใจ หยินหงยิ่งไม่พอใจมากขึ้นเมื่ออาจู่หมั่นไปเยี่ยมลูกๆที่บ้านอดีตภรรยาด้วยอยากทดแทนความรักที่ขาดหายไป ยิ่งได้เห็นความสุขสนุกสนานในบ้านของอาเหอ ยิ่งทำให้เขาตระหนักใจว่าบ้านใหญ่โตของเขาแท้จริงแล้วเงียบเหงามาก เมื่อเทียบกับห้องเล็กๆของอดีตภรรยาที่มีลูกๆอยู่ร่วมกันแสนอบอุ่นยิ่ง มันทำให้เขาสนิทกับลูกๆมากขึ้น ความลับที่หยินหงทำร้ายลูกชายสามคนที่เขาแย่งจากอดีตเมียหลวงไปเลี้ยงดูนั้นก็ถูกแฉออกมาทีละเรื่องจากผลกระทบที่หยินหงบีบคั้นและข่มเหงอดีตเมียหลวงหรือลูกของอาจู่

ลูกชายคนแรก ถูกหยินหงสอนให้เล่นหุ้นแบบเล่นพนันทำให้เขาหมกมุ่นกับการพนันหุ้นจนทำให้อาจู่ต้องกังวลใจหนัก กอรปกับเขาไม่ชอบพฤติกรรมของพ่อที่หนีไปอยู่กับเมียน้อยแล้วพรากเขาและน้องชายอีกสองคนจากแม่ไปอยู่ด้วย ทำให้พวกเขาไม่มีความสุข ลูกชายอีกคนก็ถูกหยินหงใส่ร้ายอ้างว่า เป็นต้นเหตุให้เธอแท้งลูกของอาจู่ ทั้งที่เธอเกิดอุบัติเหตุขณะเร่งทำงานที่โรงงานสมัยกำลังตั้งตัวอยู่ เพื่อควบคุมเขาด้วยข้อกล่าวหาเท็จและความสำนึกผิดของเขา ลูกชายคนสุดท้องที่อาจู่พรากจากแม่เหอก็ถูกส่งไปเรียนเมืองนอกด้วยจุดประสงค์เดียวคือ เป็นเพื่อนลูกสาวของหยินหง ทั้งที่เขายังมีอายุน้อยมากและปรับตัวไม่ได้กับสถานที่ต่างแดน ทุกปัญหาล้วนเข้าไปสู่การรับรู้ของจงเสี่ยวเหอ เธอพยายามแก้ไขลูกชายทั้งสามด้วยความรักและเอาใจใส่โดยให้พวกเขาเห็นความสุขและพลังของครอบครัวที่จะพาพวกเขาออกจากทุกปัญหาได้ด้วยความรัก ในที่สุดลูกชายทั้งสามก็ย้ายกลับมาอยู่กับจงเสี่ยวเหอ มารดาที่แท้จริงและอยู่ท่ามกลางความรักของครอบครัวอาเหอ

เมื่อความจริงที่ถูกเก็บซ่อนไว้ของหยินหงปรากฏออกมาทีละน้อย ความเชื่อใจที่อาจู่กับแม่เคยให้เธอก็ลดน้อยลง หยินหงยิ่งเพิ่มความระแวงใจขึ้นและพยายามทำลายล้างชีวิตของอาเหอซึ่งถือเป็นผู้มีพระคุณของเธอและลูกสาวโดยใช้อำนาจเงิน แต่จงเสี่ยวเหอมีความสุขุม ลุ่มลึก ฉลาด หนักแน่นสมเป็นหัวหน้าครอบครัวทำให้หยินหงต้องพ่ายแพ้เป็นระยะ สุดท้ายอาจู่ทนไม่ได้กับพฤติกรรมที่หยินหงคิดฮุบกิจการร้านขนมไหว้พระจันทร์ที่เขาสร้างไปเป็นของเธอคนเดียว เขาจึงฟ้องหย่า การต่อสู้คดีจึงเริ่มขึ้น อาจู่เพิ่งรู้ว่าหยินหงถ่ายเทเงินทองในบัญชีของเขาผ่านอดีตสามีใกล้ตายที่หวนกลับมาพบหยินหงด้วยการใช้ความลับที่มีชีวิตอนาคตลูกชายเป็นเดิมพัน เธอขอให้เขาช่วยทำลายล้างอาจู่ ทำให้เขาเหลือเงินทองไว้สู้คดีไม่มาก แต่อาจู่ได้รับกำลังใจจากลูกทั้งหกและอดีตเมียหลวง ในที่สุดเขาก็ได้รับผลตอบแทนจากสวรรค์เมื่อความจริงต้องเป็นฝ่ายถูกต้องเสมอ คำพูดโกหกของหยินหงที่กระทำในที่สาธารณะและสื่อมวลชนได้กลับไปทำลายล้างเจ้าของคำพูดนั้นจนต้องพ่ายแพ้และอยู่เดียวดายเมื่อลูกสาวไม่อาจยอมรับพฤติกรรมที่แม่มีชีวิตอยู่กับคำโกหกและคิดร้ายทำลายผู้มีพระคุณในชีวิตของสองแม่ลูกอย่างจงเสี่ยวเหอ

หนังชุดเรื่อง มรสุมชีวิต ลิขิตพระจันทร์ มีคติให้คนดูได้คิดว่า ถ้ามีเงินมากมาย แต่ชีวิตครอบครัวไม่ครบถ้วน จะมีความสุขแท้จริงได้อย่างไร ความสุขทางกายหาได้ง่าย ขยันทำมาหากิน มีโอกาสจังหวะชีวิตดีๆเงินมากน้อยก็หาความสุขทางกายตามอัตภาพได้ แต่ความสุขทางใจนั้นหามิได้ง่าย ครอบครัวอาจู่กับหยินหงที่เกิดขึ้นจากการแย่งชิงสามีคนอื่นเพียงแค่อิจฉาริษยาความสุขของจงเสี่ยวเหอ หยินหงทรยศต่อผู้มีพระคุณในชีวิตของเธอและลูกสาวที่ให้ชีวิตใหม่ งานดีๆ ย่อมอยู่กับความหวาดระแวงมาตลอดชีวิต โดยคิดว่าเมื่อมีเงิน สามีก็อยู่กับเธอได้โดยไม่คำนึงว่าอาจู่เป็นคนดีเพราะเขารักครอบครัว รักลูก วันที่เขาแสดงความรักลูก เธอก็อิจฉาและระแวงใจว่าอาจู่คิดกลับไปหาอดีตภรรยา ทั้งที่อาจู่กับอาเหอต้องการแค่ได้ดูแลลูกตามหน้าที่ด้วยความรักเท่านั้น

หยินหงใช้เงินซื้อคำพูดโกหกจากเพื่อนเก่าแก่ ลูกจ้าง ของอาจู่ ใช้คำพูดโกหกเป็นระยะเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวและสนองความระแวงของเธอ สิ่งที่เธอได้มีเพียง ความว่างเปล่าและความโดดเดี่ยวที่เธอเคยเกลียดชังนักหนา ส่วนจงเสี่ยวเหอให้ความรัก ความจริงใจ แก่ผู้คนรอบข้างและลูกๆอย่างจริงใจ เธออยู่ท่ามกลางความรักและอ้อมแขนของลูกๆ แม้จะต้องเจออุปสรรคการแย่งชิงเงินทองจากน้องสาวบุญธรรมอย่างจงเสี่ยวซา ที่เป็นจอมโกหกและเห็นแก่เงินมากที่สุดในครอบครัวก็ยังพ่ายแพ้ต่อความรักของพี่สาว

หนังชุดเรื่องนี้ให้แง่คิดยืนยันว่า เงินเป็นเครื่องมือหาความสุขทางกาย แต่ความรักในครอบครัวคือความสุขทางใจที่ประเมินค่าเป็นเงินมิได้ บ้านหลังเล็กที่มีความรักของสมาชิกในครอบครัวเป็นเสาหลักย่อมสูงค่ากว่าบ้านหลังใหญ่ที่ทะเลาะ วุ่นวาย แย่งชิง ตลอดเวลาหรือปล่อยให้เงินครอบงำชีวิตไว้ เงินอาจซื้อคำพูดโกหก ซื้อชีวิตคน แต่ไม่เคยซื้อความรักให้ยั่งยืนได้ เงินหมด ความรักก็บินหนี เป็นคำเปรียบเปรยที่ได้ยินกันมาบ่อยครั้ง ยามเกิดอุปสรรคและต้องฝ่าฟันคลื่นลม พลังครอบครัวและความรักคือหัวใจสำคัญในการรอดชีวิต หนังเรื่องนี้ถือเป็นหนังชุดครอบครัวที่มีคุณภาพดีเยี่ยมทำให้เห็นคุณค่าของครอบครัว ชีวิตของเด็กครอบครัวแตกแยก มิใช่ว่าต้องเลวร้ายเสมอไป ขอเพียงผู้ใหญ่ที่เป็นพ่อแม่สำนึกในหน้าที่ของตนใช้ประสบการณ์และความรักดูแลลูกๆ ช่วยพวกเขาฝ่าฟันอุปสรรคในชีวิตเพื่อเป็นผู้ใหญ่ที่ดีของสังคม แม้พ่อแม่จะอยู่ต่างครอบครัวก็ทำหน้าที่นี้เพื่ออนาคตของลูกได้

**************************