"หัวใจ" เป็นอย่างไร

เมื่อ"ติดอยู่ในถ้ำ"

"หัวใจ" เป็นอย่างไรเมื่อ"ติดอยู่ในถ้ำ"..เขียนแล้วรู้สึกตื่นเต้นและหวาดเสียวย้อนหลังครับที่น้องๆผ่านข้อ1กับข้อ2 มาได้,เจอแค่ข้อ3,ข้อ4และยังไม่โดนข้อ5 ตอนนี้ก็แค่ระวังข้อ6 ต่อเท่านั้นล่ะครับ..แต่..วันนี้..มี ทีมผู้ช่วยเหลือ "หน่วยซีล" ประสบกับ "ข้อ1" ไปท่านนึงครับ!!..ต้องขอแสดงความเสียใจอย่างที่สุดครับ!!


..Timeline..Series Of Unfortunate Events ของ"คนที่ติดอยู่ในถ้ำ" เป็นข้อๆอย่างนี้ครับ..


1..ถ้าขาดออกซิเจน เช่น น้ำท่วมปากถ้ำ จมน้ำ หรือ ติดอยู่ในซอกหินแคบๆที่ไม่มีอากาศหายใจ.."หัวใจจะหยุดเต้นภายใน 5-10 นาที"


2..ถ้าขาด "น้ำดื่ม และ อาหาร".."หัวใจจะหยุดเต้น และเสียชีวิตภายใน 10-12 วัน"


3..ถ้าขาด "อาหาร" แต่ไม่ขาดน้ำ

30-48 ชม.แรก..จะเริ่มหิว จุกเสียดท้องบริเวณลิ้นปี่


4..ถ้าขาด"อาหาร" 4-5 วัน ร่างกายจะเริ่มสลายไขมันและโปรตีน จากอวัยวะต่างๆ เพื่อนำพลังงานมาใช้ชดเชยการขาดกลูโคส ทำให้ดูผ่ายผอม เบ้าตาลึกโหล ผิวหนังเริ่มเหี่ยวย่น อารมณ์เปลี่ยนแปลง


ความดันโลหิตลดต่ำลง


อัตราการเต้นของหัวใจลดลง อาจช้าลงไปถึง 35 ครั้งต่อนาที


อัตราการเต้นของหัวใจ มักจะกลับมาเต้นเร็วขึ้นอีกครั้งหลังพ้น 4 สัปดาห์


คลื่นไฟฟ้าหัวใจเริ่มผิดปรกติ ในหลายๆส่วน และนำไปสู่ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ (cardiac arrhythmia) ได้ง่าย


การหายใจช้าลง


5..ถ้าขาด"อาหาร" 6-8 สัปดาห์..ไขมันในร่างกายจะสลายไป 70-90%, โปรตีนจะสลายไป 20%.."เซลกล้ามเนื้อหัวใจ" จะเริ่มเสื่อมสลายตัว (brown atrophy)..และเริ่มมี "กระบวนการกลืนกินตัวเองของเซล" (autophagy) ทำให้หัวใจบีบตัวอ่อนแรงลง ประกอบกับ ร่างกายเริ่มขาดสารเกลือแร่ต่างๆ ทำให้ "หัวใจเต้นผิดจังหวะ" (cardiac arrhythmia) ผลก็คือ "หัวใจจะหยุดเต้น" และ"เสียชีวิต"ในระยะนี้


"กระบวนการกลืนกินตัวเองของเซล" ที่เกิดที่"กระบังลม" ซึ่งเป็นอวัยวะสำคัญที่ใช้ในการหายใจ ยังทำให้ "กระบังลมอ่อนแรง สูญเสียการทำงาน" ส่งผลให้ "การหายใจของคนไข้ล้มเหลว" จนเสียชีวิตด้วย


จึงเป็นเหตุผลว่า "คนที่ขาดอาหาร" มักเสียชีวิตที่ 6-8 สัปดาห์"..เต็มที่ไม่เกิน 70 วัน ครับ!!


6..ถ้า "ได้รับการช่วยเหลือเรียบร้อยแล้ว"..ผู้ป่วยอาจต้อง "เผชิญอันตรายอีกครั้งหนึ่ง" กับภาวะ "Refeeding Syndrome"


..ภาวะ "Refeeding Syndrome" คือ ภาวะที่ร่างกายเกิดความผิดปรกติรุนแรงอันตรายถึงชีวิตจาก "การได้รับอาหารอีกครั้งหนึ่ง" หลังจาก "ขาดอาหาร" มาหลายวัน


..ภาวะนี้..เกิดจาก..การที่ร่างกายได้ปรับสมดุลของเกลือแร่ในเซลใหม่ไปแล้วในช่วงที่ขาดอาหาร..เมื่อร่างกายกลับมากินอาหารอีกครั้งโดยไม่ระมัดระวัง กินเร็วเกินไป มากเกินไป กินอาหารผิดประเภท ผิดสเต็ป ผิดขั้นตอน จะทำให้ สมดุลของเกลือแร่ภายในเซล โดยเฉพาะในเซลกล้ามเนื้อหัวใจผิดปรกติอย่างรวดเร็ว และ อาจทำให้"หัวใจเต้นผิดจังหวะรุนแรงหรือหยุดเต้น"ได้


..อาการของภาวะนี้ ได้แก่ หัวใจเต้นผิดจังหวะรุนแรง, หัวใจวาย, หัวใจหยุดเต้น, ความดันโลหิตสูงขึ้น, ชัก, โคม่า, เสียชีวิต


..นี่เป็นเหตุผลที่ "ทีมแพทย์ผู้ช่วยเหลือ" น้องๆทั้ง 13 ชีวิตในขณะนี้ ทราบเป็นอย่างดี จึง ค่อยๆให้สารอาหารแก่น้องๆ อย่างเป็นขั้นเป็นตอน ทีละสเต็ป ตามหลักการ เพื่อป้องกันภาวะ "Refeeding Syndrome" นี่ล่ะครับ..ไม่ใช่เจอหน้ากันปุ๊บจะมาจัดข้าวเหนียวไส้อั่ว แคบหมู ต้มยำ ต้มแซ่บ แจ่วฮ้อน อะไรกันทันที ไม่ได้นะครับ


..สู้ๆครับ!!


..พวกเรารอดูวันที่น้องๆจะออกมาจากถ้ำอย่างปลอดภัยครับ..Live It Up !!.."ทีมหมูป่า อะคาเดมี่" และ "ทีมผู้ช่วยเหลือทุกท่าน" คือ...

"แชมป์ฟุตบอลโลก 2018 ตัวจริงเสียงจริงครับผม"

#13ชีวิตต้องรอด