ลิเวอร์พูล เจอ เรอัล มาดริด
จะไหวมั้ยครับ.."ลิเวอร์พูล" เจอ "เรอัล มาดริด"..เป็นห่วงสุขภาพ"หัวใจและหลอดเลือด"ของแฟนบอลทั้งสองทีมน่ะครับ..ผลกระทบต่อ"หัวใจและหลอดเลือด"ที่จะเกิดขึ้นเมื่อได้รับ"ความตึงเครียดถึงขีดสุด"ในการดู"ฟุตบอลนัดหยุดโลก"คู่นี้ ในนัดชิงถ้วยใบใหญ่สุดของยุโรป..01.45 น.คืนวันเสาร์นี้..จะเป็นอย่างไร
มีข้อมูลตีพิมพ์ในวารสารNew England Journal of Medicine นะครับว่า ในปี 2006 ช่วงเวลาที่ทีมฟุตบอลทีมชาติเยอรมันแข่งฟุตบอลโลกแต่ละแมตช์ทั้งหมด 7แมตช์นั้น มีอยู่ถึง 6 แมตช์ที่จะพบอุบัติการณ์เกิด"โรคหัวใจเฉียบพลัน" หรือ "heart attack" ของคนเยอรมันสูงขึ้นชัดเจนเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีอื่นๆที่ทีมเยอรมันไม่ได้แข่งฟุตบอลโลก
.."ช่วงเวลา"ที่จะ"เกิดโรคได้บ่อยที่สุด"คือช่วง "2ชม.แรก" นับจากที่กรรมการเป่านกหวีดเริ่มการแข่งขัน นั่นแปลว่า มักเกิดในขณะที่เกมการแข่งขันกำลังดำเนินอยู่ จนถึง ช่วงเวลาที่การแข่งขันจบใหม่ๆนั่นเอง
..เป็นเพราะอะไรครับ..เกิดอะไรขึ้นกับ"หัวใจ"ในขณะเชียร์กีฬา
..เมื่อดูกีฬานัดสำคัญ ที่มีบรรยากาศบีบเค้น กดดันอย่างนัดชิงชนะเลิศ..สมองจะเกิด..ความตื่นเต้น..ความตึงเครียด..ความกลัว..ความดีใจสุดขีด..ความเสียใจสุดขีด..ความโกรธ..ความวิตกกังวล..เยอะแยะไปหมด
..ระบบประสาทอัตโนมัติจะหลั่งสาร"อะดรีนาลิน"ออกมาในปริมาณมาก..กระตุ้นให้"หัวใจเต้นเร็ว".."หลอดเลือดหดตัว".."ความดันโลหิตสูงขึ้น"..นอกจากนี้ยังหลั่งสารที่มีผลกระตุ้นการอักเสบและกระตุ้นการเกิดลิ่มเลือดในหลอดเลือดหัวใจอีกหลายชนิด
..หัวใจจะเต้นเร็วขึ้น 75%ถ้า"ดูสดทางหน้าจอทีวี" ซึ่งเทียบเท่ากับออกกำลังกายใน"ระดับปานกลาง"
..หัวใจจะเต้นเร็วขึ้น 110%ถ้า"ดูสดในสนาม" ซึ่งเทียบเท่ากับการออกกำลังกายใน"ระดับหนัก"
..โดยเฉลี่ยระหว่างชมเกมการแข่งขันอัตราการเต้นของหัวใจจะเร็วขึ้นประมาณ 92%
.."ช่วงพีค"ที่อะดรีนาลินจะหลั่งมาก และ มีผลกระทบต่อหัวใจมากที่สุด จะเป็นช่วงที่บีบหัวใจสุดๆ เช่น ทุกจังหวะหวาดเสียวที่จะได้หรือเสียประตู, ช่วงที่ยิงประตูได้หรือเสียประตู, ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ, ช่วงต่อเวลาพิเศษ หรือ ช่วงยิงจุดโทษตัดสิน
..ผลพวงจากจากกลไกที่กล่าวมา..จะทำให้เกิด"โรคหัวใจ"ที่มักพบในขณะเชียร์ฟุตบอลที่บีบคั้นและกดดันแบบนี้ ซึ่งมีอยู่ 3 โรคครับ คือ
1. โรคหลอดเลือดหัวใจอุดตันเฉียบพลัน หรือ โรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน
เกิดขึ้นเนื่องจาก สารอะดรีนาลินที่หลั่งออกมามาก ทำให้หัวใจเต้นเร็ว แรง จนแรงดันในหลอดเลือดสูงขึ้นและดันให้คราบไขมันที่เกาะอยู่ที่ผนังด้านในของหลอดเลือดหัวใจเกิดการปริแตก จนเกิด"ลิ่มเลือดอุดตัน"ในหลอดเลือดหัวใจอย่างเฉียบพลัน นอกจากนั้น ยังมีสารที่มีฤทธิ์กระตุ้นการอักเสบ และ กระตุ้นการก่อตัวของลิ่มเลือด อีกหลายอย่างที่หลั่งออกมามาก เป็นปัจจัยเสริมให้เกิดโรคนี้ด้วย
2. โรคหัวใจสลาย (Broken heart Syndrome)(Stress induced cardiomyopathy)
เกิดขึ้นเนื่องจาก อะดรีนาลิน ที่หลั่งออกมามาก ไปทำให้ เซลกล้ามเนื้อหัวใจสูญเสียการทำงานอย่างฉับพลันโดยที่ไม่ได้มีโรคหัวใจใดๆมาก่อนเลย รวมทั้ง"ไม่ได้เกิดการอุดตัน"ของหลอดเลือดหัวใจอย่างในโรคแรกด้วย
โรคนี้เกิดได้ทั้งในขณะ"เสียใจสุดขีด"จากการที่ทีมเสียประตูหรือพ่ายแพ้ หรือ"ดีใจสุดขีด"จากการได้ประตูหรือได้รับชัยชนะแบบดราม่าสุดระทึกก็ได้นะครับ
..อาการของทั้งสองโรคนี้คล้ายกันครับ คือ "แน่นหน้าอกอย่างรุนแรงเฉียบพลัน หายใจไม่ออก"
3. โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ
อะดรีนาลินที่หลั่งออกมา มีฤทธิ์กระตุ้นให้หัวใจเต้นผิดจังหวะได้ด้วย..ทำให้เกิดอาการ ใจสั่น ใจกระตุก ใจเต้นแรง หรือ เป็นลม หน้ามืด
..ดังนั้น.เพื่อความปลอดภัยของแฟนบอลทั้งสองทีม
..ผมจะแนะนำอย่างนี้ครับ!!
- คุมอารมณ์ของตัวเองให้ดี อย่าตื่นเต้น หรือ เครียดกังวลไปกับแต่ละจังหวะในเกมมากจนเกินไป
- ถ้าแพ้..ให้หลับตา หายใจลึกๆ คิดว่านี่เป็นแค่เกม อย่าซีเรียส ปีหน้าเริ่มใหม่..ถ้าเป็น"แฟนลิเวอร์พูล"เค้าจะมีสโลแกน.."you will never walk alone"(คุณจะไม่มีวันเดินเดียวดาย) ไว้เป็นตัวช่วยครับ
- ถ้าชนะ..อย่าคลั่งสุดขีดครับ..ให้ยิ้มอย่างผ่อนคลาย..นอนหลับอย่างมีความสุข..คิดถึงแต่สิ่งดีๆและโลกที่สวยงามที่จะได้พูดคุยกับเพื่อนๆเกี่ยวกับชัยชนะในวันพรุ่งนี้
- สำคัญที่สุด..ถ้ามีอาการแน่นหน้าอก หรือ ใจสั่นหน้ามืด เป็นลม ระหว่างเชียร์การแข่งขันอยู่ ให้รีบไป"พบแพทย์ทันที".."อย่ารอจนเกมจบ"นะครับ เพราะทั้งสองโรคนี้ "ถ้าถึงมือหมอเร็ว การรักษาจะได้ผลดีที่สุดครับ".."the faster is better..the fastest is the best"
..ในส่วนของเกมการแข่งขัน..มันส์แน่ๆครับ ว่ากันว่านี่เป็นคู่ชิงที่น่าจะสู้กันได้สนุกตื่นเต้นที่สุดในรอบหลายปี เป็นบอลเกมรุก บุกแหลก เดินหน้าท่าเดียว ถอยหลังไม่เป็น ถ้าถอยหลังจะหกล้มด้วยกันทั้งคู่ ถ้าเป็นมวยก็เป็นมวยเปิดหน้าแลก ลุยกันตั้งแต่ยกแรกจนยกสุดท้ายหมัดหนักด้วยกันทั้งคู่..แต่..ลิเวอร์พูลเป็นรองแทบทุกภาคส่วนนะครับ..นักเตะมาดริดมีเทคนิค แท็กติก และ ประสบการณ์ในเกมใหญ่ชี้เป็นชี้ตายแบบนี้สูงกว่านักเตะลิเวอร์พูลเยอะ..จุดแข็งที่ลิเวอร์พูลจะดูดีกว่ามาดริด..ผมมองว่ามีอยู่ 2 จุด ครับ..จุดแรก คือ สามประสานในแนวรุก อย่าง ซาล่าห์, ฟีร์มิโน่ และ มาเน่ สามคนนี้ ผมว่ามีประสิทธิภาพ ความเร็ว ทะลุทะลวง รวมถึง การเคลื่อนที่ เคลื่อนตัวขณะไม่มีบอลอย่างชาญฉลาด ฉีกแผงหลัง และเปิดพื้นที่ให้เพื่อนได้ดีสุดๆ..จุดนี้ผมว่า เหนือกว่าสามประสานของมาดริด อย่างโรนัลโด้, เบล และ เบนเซม่าครับ..จุดที่สอง คือ หัวจิตหัวใจที่ห้าวหาญดุดัน ไม่มีกลัวหรือหงอให้คู่ต่อสู้ซึ่งอยู่ในDNAของนักเตะลิเวอร์พูลมาทุกยุคทุกสมัย รวมทั้งถ่ายทอดออกมาจากบุคลิกของผู้จัดการทีมอย่าง เจอร์เก้น คล็อป ด้วย..สองจุดนี้"สำคัญมาก"นะครับ
..แมตช์นี้..อย่ากะพริบตาครับ!!
..เรียนตามตรง..ผมทายไม่ถูกจริงๆครับ..ว่า..ฉากจบ และ ภาพสุดท้าย ในสนาม Stadion NSK Olimpiyskiy ในกรุงเคียฟ ประเทศยูเครน และ หน้าจอทีวี ในคืนวันเสาร์นี้..จะ ฉาบ และ ละเลง..ไปด้วย.....
"สีขาว" หรือ "สีแดง"!!