WORLD CUP 2018
Live It Up!!..ภาพแฟนบอลนั่งเชียร์ฟุตบอลโลก บนเก้าอี้ที่มีพนักพิง มือซ้ายถือกระยาสารท มือขวาถือแก้วน้ำเต้าหู้ เป็นภาพที่ดูดี ดูแพง ดีต่อสุขภาพ มีความอนุรักษ์และดูคลาสสิกมากๆครับ
ของมันต้องดูน่ะครับ ฟุตบอลโลกครั้งนี้ สนุก ตื่นเต้น และ มีดราม่าเยอะมาก โดยเฉพาะช่วงท้ายเกม อย่างสายเยอรมัน เกาหลีใต้นี่บทภาพยนตร์ออสการ์ชัดๆ..จบรอบแรกแล้ว เข้าสู่รอบน็อกเอาท์ 16 ทีมสุดท้าย ใครแพ้ตกรอบ กลับบ้านทันที น่าจะยิ่งเข้มข้นขึ้นไปอีก
ยิ่งถ้าได้ยินเพลง "Live It Up" ซึ่งเป็นเพลงประจำฟุตบอลโลกหนนี้ประกอบไปด้วยจะยิ่งคึกคัก กระฉับกระเฉงสุดๆ โดยเฉพาะถ้าฟังพร้อมภาพไฮไลท์ของการแข่งขัน ภาพการดีใจเสียใจของแฟนบอล หรือ ภาพมิวสิกวิดีโอประกอบเพลงนี่ อินเน่อร์มาเต็มเลยครับ
เป็นเพลงจังหวะเทคโนผสมเร็กเก้ จังหวะ 144 BPM (จังหวะพิมพ์นิยมที่กระตุ้นให้หัวใจคึกคักเลยครับ) ร้องโดยศิลปินเชื้อสายเปอร์โตริโก้ ชื่อ Nicky Jam featuring กับ ศิลปินสาวชาวแอลเบเนีย-โคโซโว ชื่อ Era Istrefi และ ได้ Will Smith นักแสดงฮอลลีวูดซึ่งเป็นแร็พเปอร์ด้วย มาเสริมอีกแรง เสียงของ Will Smith แกแหบนิดๆ เสียงหนาหน่อยๆ แทรกมากับจังหวะเทคโน-เร็กเก้ ของนักร้องสองท่านแรกได้อย่างลงตัวมากๆ
ความหมายของเนื้อเพลง กระตุ้นหัวใจ กระตุ้นพลังได้ดีเหลือเกิน!!
"นักเตะ" ฟังแล้ว ฮึกเหิม ลงเตะ ลืมตาย
"กองเชียร์ แฟนบอล" ฟังแล้วคึกคัก เชียร์สุดใจขาดดิ้น
"คนวัยทำงาน" ฟังแล้ว กระฉับกระเฉง จิตวิญญาณลุกโชน
"อาจารย์หมอ" ฟังแล้ว กระตือรือร้น มีพลัง อยากตรวจ อยากรักษาคนไข้ อยากสอนนิสิตแพทย์
"พยาบาล" ฟังแล้ว มีเรี่ยวมีแรงดูแลคนไข้ตลอดเวรเช้า บ่าย ดึก
"คนไข้" ฟังแล้ว หายท้อแท้ มีกำลังใจสู้กับโรคภัย
"ทีมงานค้นหาน้องๆ13ชีวิตในถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน" ฟังแล้ว จะมีพลังใจ บุกตะลุยค้นหาน้องๆอย่างหนัก
"One life to live!, Live It Up!..Live It Up!"
"Cause We Got One life"
"Cause You Don't Get It Twice"
"We Got The Power, Make Condition Correct"
..ในส่วนของสุขภาพแฟนบอล..
..บอลโลกครั้งนี้แข่งที่รัสเซียครับ เวลาต่างจากบ้านเรา 3-4 ชม.คู่ดึกแข่งตี1 จบตี3 ตามเวลาบ้านเรา ถ้ามีต่อเวลาพิเศษ หรือ ยิงจุดโทษ อาจถึงตี4 ถ้าทีมแพ้อาจนอนไม่หลับถึงตี5 หรือ 6 โมงเช้า..ผลเสียจากการอดนอนมีแน่ๆ..ระหว่างดูอาจมีกินอาหาร ดื่ม ดริ๊งค์ เครียด ตื่นเต้น ดีใจ เสียใจ
.. ถ้าแฟนบอล "กินไม่ดี".."ดื่มไม่ดี".."นอนไม่ดี"
"เครียด ใจไม่นิ่ง".."โรคหัวใจ" จะถามหาเอาได้ครับ..
ผมจะสรุปคำแนะนำ "วิธีปฏิบัติตัวระหว่างดูฟุตบอลโลก"ให้ครับ..ภายใต้คอนเซ็ปต์ "ชีวิตมีชีวิตเดียว..ต้องดูแลและใช้ชีวิตให้ดีที่สุด.."One life to live..Live It Up..Live It Up"
1. อาหารที่จะรับประทานระหว่างดูบอล
- อาหารที่ไม่ควรรับประทาน..เนื่องจากมีแคลอรี่สูง จะทำให้เกิดภาวะอ้วนลงพุง ได้แก่ ขนมขบเคี้ยวที่มีรสหวานต่างๆ, มันฝรั่งทอดกรอบ, ข้าวเกรียบทอดไส้กรอก, ป๊อปคอร์นที่เคลือบเนยหรือคาราเมล, ไก่ทอด ของทอด ของมัน ดูบอลไปกินหมูกระทะไปนี่ไม่แนะนำเลยครับ
- อาหารที่รับประทานได้..ได้แก่ "ถั่วต่างๆ" ซึ่งมีสารต้านอนุมูลอิสระและสารที่มีประโยชน์อีกหลายชนิด, แต่ไม่ควรโรยเกลือนะครับ เดี๋ยวจะทำให้ความดันโลหิตสูง, "งาดำ, กระยาสารท" ซึ่งมี"สารซีสเทอีน" ช่วยกระตุ้นสารสื่อประสาท ทำให้สมองสดชื่น ไม่อ่อนล้าจากการอดนอน, ผลไม้ เช่น ฝรั่ง แอปเปิ้ล ชมพู่ ส้มโอ
- อาหารที่จะช่วยเพิ่มความกระปรี้กระเปร่าในตอนเช้าหลังตื่นนอน ได้แก่ กระยาสารท, งาดำ, ไก่, ไข่ตุ๋น, นมวัว, ซุปไก่
2. เครื่องดื่มที่จะดื่มระหว่างดูบอล
- ดีที่สุด คือ "น้ำเปล่า"ครับ..ไม่มีแคลอรี่ และ ทำให้ร่างกายสดชื่น ดื่มให้มากๆเลยครับ
- "น้ำเต้าหู้" ก็ดีครับ แต่ต้องหวานน้อยหรือไม่หวานนะครับ ย่อยง่าย แคลอรี่ไม่มาก
- ที่ไม่ควรดื่ม คือ "น้ำอัดลม", "น้ำหวาน" และ "เครื่องดื่มชูกำลัง"ทั้งหลาย เพราะมักมีแคลอรี่สูง และ บางชนิดมีคาเฟอีน ทำให้นอนไม่หลับหลังบอลจบ กลายเป็นอดนอนต่อไปอีก
- "ชา, กาแฟ"..ไม่ควรดื่มครับ แฟนบอลชอบดื่มเพื่อให้ไม่ง่วงระหว่างดูบอล แต่จะทำให้นอนไม่หลับหลังบอลจบ ทำให้อดนอน
- "แอลกอฮอล์"..ดื่มได้ครับ แต่ต้องไม่เกิน 1 ดริ๊งค์ สำหรับผู้หญิง และ ไม่เกิน 2 ดริ๊งค์สำหรับผู้ชาย(1 ดริ๊งค์ เทียบเท่า ประมาณเบียร์ 1 กระป๋องเล็ก หรือ ขวดเล็ก หรือ ไวน์ 1 แก้ว หรือ เหล้าวิสกี้ 45 มล.) ถ้าเกินนี้จะเพิ่มแคลอรี่ และ มีผลเสียต่อสุขภาพหลายอย่าง
3. รักษาจำนวนชั่วโมงในการนอนหลับไว้ให้ได้อย่างน้อย 6 ชม.ต่อวัน..คงต้องหาเวลานอนชดเชยกันให้ดีครับ และ ควรจะมีช่วงที่ได้นอนติดต่อกันอย่างน้อย 4 ชม.ด้วยนะครับ..บอลคู่ดึกเริ่มตี 1 จบตี 3..ได้นอนตี 3 กว่าๆ ตื่น 6 โมงเช้า ถือว่าไม่เพียงพอแน่ๆ..เมื่อนอนไม่พอ ร่างกายจะสร้าง "ฮอร์โมนคอร์ติซอล"(Cortisol) และ "โกร๊ธ ฮอร์โมน"(Growth hormone) ได้น้อยลง ส่งผลให้ อารมณ์หงุดหงิดง่าย สมาธิในการเรียนหรือทำงานไม่ดี ความจำและการเรียนรู้ลดลง มีภาวะซึมเศร้า
4. นั่งดูบอลบนเก้าอี้ที่มีพนักพิงหลัง ห้อยขาทั้งสองข้างลงที่พื้น ไม่นั่งขัดสมาธิหรือพับเพียบ และ เปลี่ยนอิริยาบถ ยืดเส้นยืดสายบ่อยๆ เพื่อให้กล้ามเนื้อและข้อต่อไม่เมื่อยล้า จอทีวีควรอยู่ในระดับสายตา คอจะได้ไม่ก้มหรือเงยมากเกินไป มิฉะนั้นจะทำให้ปวดกล้ามเนื้อและกระดูกต้นคอได้ง่าย
5. ใจต้องนิ่ง..เพื่อป้องกันไม่ให้เกิด "โรคหัวใจสลาย"
(Broken heart Syndrome) คือ โรคกล้ามเนื้อหัวใจอ่อนแรงอย่างเฉียบพลัน อันเกิดจากผลกระทบของ "สารอะดรีนาลิน" ที่ร่างกายสร้างออกมามากในขณะจิตใจตึงเครียด บีบเค้น กดดัน ตื่นเต้น ดีใจสุดขีด เสียใจสุดขีด ที่มักเกิดขึ้นในโมเม้นต์สำคัญๆของเกมฟุตบอล เช่น จังหวะได้หรือเสียประตู, ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ, ช่วงต่อเวลาพิเศษ, ช่วงยิงจุดโทษตัดสิน หรือช่วงที่ได้รับชัยชนะหรือพ่ายแพ้แบบดราม่าสุดระทึก..จำไว้นะครับ..ถ้าชนะ..อย่าดีใจจนหลุดโลกเกินไป..ถ้าแพ้..ก็อย่าเศร้าจนหดหู่..เปิดเพลง "Live It Up" ฟังครับ..ช่วยได้เยอะ
..ทั้งหมด 5 ข้อ ปฏิบัติให้ครบ..ถ้าพร้อมแล้วก็ไปลุยเชียร์ทีมโปรดกันต่อเลยครับ
"That Sweeter When You Reach That Goal !!"
"That Sweeter When You Reach That Goal !!"
"One Life..Live It Up..Cause We Got One Life"
One Life..One Dream..One Moment..One Team..One Truth..No Fears..One Flag..Oh Yeah!
..และสุดท้ายขอฝาก "Live It Up" ไปเป็นกำลังใจให้น้องๆทั้ง 13 ชีวิต รวมถึงทีมงานค้นหาในถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอนด้วยนะครับ