ถ้า"หลอดเลือดหัวใจ"เป็นนางเอก
คุณว่าใครจะเป็นพระเอกโอปป้าสามีแห่งชาติ
คริๆ..ถ้า"หลอดเลือดหัวใจ"เป็นนางเอก..คุณว่าใครจะเป็นพระเอกโอปป้าสามีแห่งชาติที่จะทำให้นางเอกรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยที่สุด.ระหว่าง"หมอหัวใจ".."บอสวศิน"..และ"โค้ชเอก"..และผู้ร้ายที่จะทำให้นางเอกตรอมใจและตีบตันได้มากที่สุด คือใคร..ระหว่างกรดไขมันอิ่มตัว, ไขมันทรานส์, กรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวและกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน..และพระเอกกับผู้ร้ายเหล่านี้อยู่ในอาหารประเภทใด...
1. ไขมันทรานส์
..นี่คือ "ตัวร้ายสายโหด" ที่"โหดเหี้ยมที่สุด" ที่ก้าวขึ้นมาเป็น "เบอร์1"ของโลก เมื่อไม่นานมานี้..เป็นตัวที่ทำให้นางเอกชอกช้ำระกำทรวง เกิด"โรคหลอดเลือดหัวใจตีบตัน"ได้มากที่สุดในปัจจุบันสองพันสิบแปด
..กินแล้วทำให้ "ไขมันเลวLDLเพิ่มขึ้น", "ไขมันไตรกลีเซอไรด์เพิ่มขึ้น" และ "ไขมันดีHDLลดลง"
..มาจาก "น้ำมันพืช" + "ไฮโดรเจน" + "ความร้อนสูง" + "ตัวเร่งปฏิกิริยา" = "ไขมันทรานส์"
..จึงพบอยู่ในอาหารจำพวก เนยแข็ง เนยขาว เนยเทียม มาการีน ของเบเกอรี่ ขนมเค้ก คุกกี้ โดนัท
ครัวซองต์ บิสกิต พาย พัฟ ขนมกรุบกรอบ ของทอดกรอบต่างๆ ครีมเทียม วิปครีม อาหารฟาสต์ฟูดต่างๆ รวมทั้งอาหารที่ติดฉลากว่ามี hydrogenated oil หรือ partially hydrogenated oil
..คำแนะนำ..กินอาหารกลุ่มนี้ให้น้อยกว่า 1% ของแคลอรี่จากอาหารทั้งหมดต่อวัน ไม่กินเลยยิ่งดีครับ
..ถ้าใช้"น้ำมันพืช"ปรุงอาหาร ให้ใช้ "ความร้อนน้อยที่สุด".."ใช้เวลาสั้นที่สุด".."อย่าให้ร้อนจนเกิดควัน"..และ "อย่าใช้ซ้ำ" เพื่อลดการเกิด "ไขมันทรานส์"
2. กรดไขมัน"อิ่มตัว"
..อาหารที่มีกรดไขมันอิ่มตัวมาก กินแล้วทำให้"ไขมันเลว LDL สูงขึ้น" ส่งผลให้"หลอดเลือดหัวใจตีบตัน" ได้แก่
.."น้ำมันหมู"...นี่คือ "อดีตตัวร้ายสายโหดเบอร์ 1" ของวงการ ซึ่งปัจจุบันหล่นลงมาเป็น "ผู้ร้ายเบอร์ 2"
เนื่องจากความเหี้ยมเกรียมต่อหลอดเลือดหัวใจนั้นได้ตกเป็นรอง "ไขมันทรานส์" ไปแล้ว.. แต่ย้ำว่า "ยังเป็นผู้ร้ายนะครับ" "ไม่ใช่พระเอก"..ช่วงที่เรากลัว "ไขมันทรานส์" กันมากๆ แล้วเราทราบว่า"ไขมันทรานส์" นั้นมาจาก "น้ำมันพืช" (ตามกระบวนการที่กล่าวไว้ในข้อ 1)..หลายคนเลยเข้าใจผิด คิดว่า "น้ำมันหมู" กลายเป็นพระเอกซะแล้ว จึงต่อต้าน "น้ำมันพืช" แล้วโปรโมทให้มาใช้ "น้ำมันหมู" กันใหญ่..ถือเป็นความเข้าใจที่ผิดครับ!!
ยังคงแนะนำว่า "ไม่ควรใช้น้ำมันหมู" ต่อไปนะครับ
.."น้ำมันมะพร้าว"..ฉายา "มารร้ายสายแบ๊ว" ประจำวงการเลยครับ..ใครๆก็คิดว่าดีต่อนางเอก..จริงๆแล้ว "ร้ายมาก"..ที่หลายคนคิดว่าดีและชอบเชียร์ให้ใช้กันก็เพราะมีกรดไขมันชนิดดีที่กินแล้วช่วยเพิ่ม "ไขมันดีHDL" ให้ร่างกายอยู่บ้าง แต่จริงๆแล้วก็ยังมี "กรดไขมันอิ่มตัว" อยู่เยอะ(มากกว่าน้ำมันหมูซะอีกนะครับ) กินแล้วจึงทำให้ "ไขมันเลวLDL" สูงขึ้นจนส่งผลให้ "หลอดเลือดหัวใจตีบตัน"ได้ง่าย.."ไม่แนะนำให้ใช้ครับ"
.."น้ำมันปาล์ม"..นี่คือ "เพื่อนนางร้ายตัวอิจฉา"
ว่ากันว่า เป็น "ร่างทรง" ของน้ำมันหมูกันเลยทีเดียว
มีกรดไขมันอิ่มตัวเยอะพอๆกับน้ำมันหมู
"ไม่แนะนำให้ใช้" ครับ
..อาหารอื่นๆ เช่น มันสัตว์ หนังสัตว์ สามชั้น เนื้อสัตว์ติดมัน กะทิ และ ของทอด ทั้งหลาย "ต้องหลีกเลี่ยง" ครับ
3. กรดไขมัน"ไม่อิ่มตัว"เชิงซ้อน (PUFA)
..เป็นกรดไขมัน"ที่ดี"..ใช้แทนกลุ่มกรดไขมัน"อิ่มตัว" แล้วจะสามารถลดการเกิด "โรคหลอดเลือดหัวใจตีบตันได้"..ได้แก่...
.."น้ำมันถั่วเหลือง"..นี่คือ "พระเอกมาดแมน"
"โอปป้า"สามีแห่งชาติ..ตัวจริงเสียงจริงแห่งยุคครับ..ไม่หรู..ดูเซอร์ๆ..แต่รักและดูแลนางเอกดีเป็นที่สุด..พิมพ์เดียวกับ "โค้ชเอก" เป๊ะๆ..นางเอกจะรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย "แนะนำให้ใช้ครับ"
..และนี่คือ "กลุ่มเพื่อนพระเอกนิสัยดีสี่จตุรเทพ" ที่ "แนะนำให้ใช้" เช่นกันครับ
.."น้ำมันข้าวโพด"
.."น้ำมันเมล็ดดอกทานตะวัน"
.."น้ำมันดอกคำฝอย"
.."น้ำมันงา"
4. กรดไขมัน"ไม่อิ่มตัว"เชิงเดี่ยว (MUFA)
.."บอส" มาดเนี้ยบ สุดหรู ดูดี มีแต่ความจริงใจ
ให้คำปรึกษา และ ไม่เคยคิดร้ายกับนางเอก
เป็นกรดไขมัน"ที่ดี"รองลงมาจากPUFA..สามารถลดการเกิด "โรคหลอดเลือดหัวใจตีบตัน" ได้..
ใช่ครับ..เค้าคือ.."บอสวศิน""แนะนำให้ใช้"
เช่นกัน.แต่"ราคาแพง"และ"อาจจะเข้าถึงยาก"สักหน่อย...ได้แก่..
.."น้ำมันรำข้าว"
.."น้ำมันมะกอก"
.."น้ำมันถั่วลิสง"
.."น้ำมันคาโนล่า"
5. คาร์โบไฮเดรตชนิด"โฮลเกรน"
.."เพื่อนน่ารักแสนดีที่นางเอกต้องมีไว้ข้างกาย"
สามารถลดการเกิด"โรคหลอดเลือดหัวใจตีบตัน" ได้ดีเช่นกัน ได้แก่ ข้าวกล้อง ข้าวโพด โฮลวีต และ ธัญพืช ต่างๆ
..เอาล่ะครับ..รักใครชอบใครก็จัดก็เลือกกันไป..
..แต่ขอให้รู้ไว้นะครับว่า..ถ้าผิดหวังหรืออกหักจากพระเอกหรือผู้ร้ายเหล่านี้..ไม่ว่า "โค้ชเอก" จะอยู่ที่ไหน.."บอสวศิน" จะมาหรือไม่..แต่ "หมอหัวใจ" จะรอคุณอยู่ตรงนี้เสมอ..รอขยายบอลลูนหลอดเลือดหัวใจให้ครับ!!!
.สาธารณสุขไทย..เฉียบขาดแข็งแกร่ง..รวดเร็ว..และ..ดุดัน มากครับ ที่ประกาศตัด"ไขมันทรานส์" ออกจากชีวิตประชาชนคนไทย เมื่อวันที่ 13 กค.2561 ว่า ห้ามผลิต ห้ามนำเข้า และ ห้ามจำหน่าย "ไขมันทรานส์" อีกต่อไป โดยมีผลบังคับใช้ภายใน 180 วัน!!
..เห็นแล้วอิจฉาคนในเจเนอเรชั่นถัดไปครับที่จะได้ลดโอกาสเกิด"โรคหลอดเลือดหัวใจตีบตัน"ลงไปได้เยอะเลยทีเดียว
..รอลุ้นอีกอย่างครับ..ว่า..สูตรใหม่ของขนมเบเกอรี่ต่างๆ..จะอร่อยเหมือนเดิมรึเปล่า.....