โรคหัวใจอักเสบติดเชื้อ

...."โรคหัวใจอักเสบติดเชื้อ"....ถึงชีวิตนะครับโรคนี้...เราจะป้องกันได้อย่างไร ?...ภาพวิดีโอคลิปด้านล่างเป็นภาพการตรวจหัวใจด้วย"เครื่องเอ็คโค่ฯ"ซึ่งจะเห็น"ก้อนเป็นเส้นๆสีขาวๆแกว่งไปแกว่งมา"ตามจังหวะการเต้นของหัวใจ (ตรงลูกศรชี้ อยู่ติดกับลิ้นหัวใจ)..ก้อนนี้เกิดจากการติดเชื้อในหัวใจ..ในก้อนจะมีส่วนผสมของเชื้อแบคทีเรีย, เม็ดเลือดขาว, เกล็ดเลือด และเส้นใยเหนียวในเลือด รวมกันเป็นก้อนขึ้นมา และยังเห็น"สีที่แสดงถึงการรั่ว"ของลิ้นหัวใจด้วย...

"10 ข้อควรรู้เกี่ยวกับ"โรคหัวใจอักเสบติดเชื้อ"

1. โรคติดเชื้อนี้ เกิดจากการ ไอ จาม ติดต่อกันเหมือนไข้หวัด หรือไม่?

ตอบ..ไม่ใช่ครับ ไม่ติดต่อกัน

2. โรคนี้เกิดได้อย่างไร?

ตอบ.."เชื้อโรคในช่องปาก" เข้าสู่กระแสเลือด แล้ว เข้าไปสู่หัวใจ แล้วจึงเกิดการอักเสบติดเชื้อภายในหัวใจขึ้น ซึ่งเชื้อโรคในช่องปากนี้ ปรกติเราทุกคนจะมีกันอยู่เป็นปรกติอยู่แล้ว แต่คนที่ดูแลสุขภาพในช่องปากไม่ดี มีฟันผุ ก็จะมีเชื้อโรคมากกว่าคนอื่นและจะมีโอกาสเป็นโรคนี้ได้ง่าย

3. "เชื้อโรคในช่องปาก"จะเข้าสู่กระแสเลือดในช่องทางไหน?

ตอบ..เมื่อมีแผลจากการถอนฟัน ผ่าฟันคุด หรือ การทำฟันที่มีแผลที่เหงือก หรือ แม้กระทั่ง กิจวัตรประจำวัน เช่น การเคี้ยวอาหาร แปรงฟัน ใช้ไหมขัดฟัน ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้บางครั้งทำให้เกิดแผลเล็กๆบริเวณเหงือก เป็นช่องทางให้เชื้อโรคในช่องปากเข้าสู่กระแสเลือดแล้วไปสู่หัวใจได้

4. โรคนี้มีอาการอย่างไร?

ตอบ..อาการที่พบบ่อยที่สุด คือ "มีไข้" อาจจะเป็นสองสามวัน หรือ"ไข้เรื้อรัง"เป็นสัปดาห์

..มีอาการหอบเหนื่อยจาก"ลิ้นหัวใจที่รั่วหรือตีบ"

..บางรายอาจมีอาการของอัมพฤกษ์ อัมพาตที่เกิดจาก"สะเก็ดของก้อนติดเชื้อ"ในหัวใจหลุดลอยไปอุดหลอดเลือดสมอง

5. ใครบ้างที่มีความเสี่ยงเป็นโรคนี้?

ตอบ..คนที่เป็นโรคลิ้นหัวใจตีบหรือรั่ว, ลิ้นหัวใจเทียม, โรคหัวใจตั้งแต่กำเนิด, คนที่ภูมิคุ้มกันบกพร่อง, โรคเอดส์, คนที่ใช้ยาเสพติดชนิดฉีดเข้าเส้นเลือด

6. โรคนี้"อันตราย"อย่างไร?

ตอบ..เมื่อหัวใจอักเสบติดเชื้อแล้วจะทำให้ลิ้นหัวใจทะลุ, รั่วหรือตีบมากขึ้น และ อาจมีการอักเสบลุกลามจนเกิดเป็น"ฝี"รอบๆลิ้นหัวใจ อาจทำให้ผนังห้องหัวใจทะลุจน"หัวใจวาย"หรือ"ช็อค"เสียชีวิตได้

..เกิดอัมพฤกษ์ อัมพาต ได้เนื่องจาก"สะเก็ดของก้อนติดเชื้อ"ในหัวใจ หลุดลอยไปอุดหลอดเลือดสมอง ส่งผลให้หลอดเลือดสมอง"ตีบ"หรือ"แตก"ได้

7. เมื่อไรที่ควรสงสัยว่าตัวคุณเองหรือญาติของคุณอาจจะเป็นโรคนี้?

ตอบ..มีไข้อย่างน้อยสองวันโดยที่ไม่พบสาเหตุชัดเจน โดยเฉพาะถ้าคุณหรือญาติของคุณอยู่ในกลุ่มเสี่ยงตามข้อ5

8. จะตรวจให้พบโรคนี้ได้อย่างไร?

ตอบ..ตรวจหัวใจด้วย"เครื่องเอ็คโค่ฯ"

..เจาะเลือดส่งตรวจ"เพาะเชื้อ"

9. โรคนี้รักษาอย่างไร?

ตอบ..ฉีดยาปฏิชีวนะฆ่าเชื้อทุกวันติดต่อกัน4-6สัปดาห์

..บางรายต้องรีบ"ผ่าตัด"ซ่อมแซมหัวใจอย่างฉุกเฉิน

10. จะป้องกันไม่ให้เป็นโรคนี้ได้อย่างไร?

ตอบ..รักษาสุขภาพในช่องปากให้ดี อย่าปล่อยให้ฟันผุ

..กินยาปฏิชีวนะ ป้องกันการติดเชื้อ ครึ่งชั่วโมงหรือหนึ่งชั่วโมงก่อนถอนฟันหรือผ่าฟันคุด สำหรับบุคคลที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง(ต้องปรึกษาแพทย์และทันตแพทย์)

...ครับ..ทราบดังนี้แล้ว.."ใครที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง"แล้ว"มีไข้อย่างน้อยสองวันโดยไม่พบสาเหตุที่ชัดเจน" ก็รีบไปตรวจกันให้ละเอียดนะครับ