SYMBIOX™

Probiotic Premix Powder

(Food Grade)

นักวิทยาศาสตร์ ชาวรัสเซียชื่อ Metchnikoff E จากสถาบันหลุยส์ปาสเตอร์ สังเกตว่าชาวบัลกาเรีย เป็นกลุ่มคนที่มีอายุยืนได้ศึกษาถึงชีวิตความเป็นอยู่และอาหารที่มีบทบาทสำคัญต่อสุขภาพ พบว่าชาวบัลกาเรียรับประทานอาหาร จำพวกนมหมักเป็นประจำทุกวัน เขาได้ทำการศึกษาพบว่า เชื้อจุลินทรีย์ชนิด Lactobacilli ใช้น้ำตาลที่มีในน้ำนมและ เปลี่ยนไปเป็นกรดแลคติก (Lactic acid bacteria, LAB) ในปี ค.ศ. 1906 ได้มี รายงานการศึกษาเกี่ยวกับเชื้อ LAB พบว่าเชื้อ LAB สามารถ หยุดยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อ Vibrio cholerae (โรคอหิวาตกโรค) ได้ ผลงานนี้ ได้รับรางวัลโนเบล ในปี ค.ศ. 1908 นับว่าเป็นการจุดประกาย การศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับเชื้อจุลินทรีย์ในลำไส้ ตั้งแต่นั้นมาจนถึงปัจจุบัน

Metchnikoff, E. The prolongation of life, 1st ed, 1908

เชื้อ LAB ได้แก่เชื้อ Lactobacilli, Eubacteria และ Bifidobacteria สามารถผลิตกรดแลคติก (Lactic acid) ซึ่งเป็นกรดไขมันห่วงสั้น (Short chain fatty acid : SCFA) ช่วยรักษาสภาวะแวดล้อมของเหลวในโพรงลำไส้ จะแย่งอาหารและแย่งจับตัวรับต่าง ๆ (receptors) ขณะ เดียวกันก็ปล่อยสารที่เรียกว่า Bacteriocin มีคุณสมบัติฆ่าเชื้อ และยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรคกลุ่มอื่น ๆ กรณีที่เป็น อาหารจำพวกแป้ง ใยอาหารและโอลิโกแซ็กคาไรด์ซึ่งจะไม่ย่อย ในลำไส้เล็กจะเคลื่อนลงมาที่ลำไส้ใหญ่เชื้อเหล่านี้จะใช้เป็น อาหารเรียกวิธีการนี้ว่า การหมัก (Fermentation) เมื่อเชื้อนี้ ได้รับอาหารจะมีการเพิ่มจำนวนขึ้น จนเป็นเชื้อส่วนใหญ่ภายในลำไส้ เชื้อกลุ่มนี้จะไม่สร้างสารกระตุ้นร่างกายให้กำจัดตนเอง จึงทำให้เชื้อเหล่านี้มีอยู่เป็นจำนวนมาก เรียกว่า เชื้อปกติ (Normal flora) หรือเชื้อท้องถิ่น

Guarner, F., Schaafsma, GJ. Probiotics. Int J Food Microbiol, 1998

เชื้อจุลินทรีย์ที่ทำให้เกิดผลดีต่อสุขภาพ เรียกว่า Probiotic โดยนักวิทยาศาสตร์ชื่อ Fuller R ได้ให้คำจำกัดความของคำว่าโพรไบโอติกส์ "จุลินทรีย์ที่มีชีวิตซึ่งรับประทานเป็นอาหารประเภทเสริมอาหารแล้วจะให้ประโยชน์แก่คนได้ โดยช่วยปรับให้เกิดความสมดุลของเชื้อจุลินทรีย์ภายในลำไส้" นอกจากนี้ยังมีผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าโพรไบโอติกส์ (Probiotics) คือ “จุลินทรีย์ที่มีชีวิต เมื่อรับประทานเข้าไปแล้วจะทำให้สุขภาพดีในภาวะต่างๆ โดยเป็นจุลินทรีย์ที่มีคุณสมบัติทนต่อกรดและด่าง สามารถจับที่บริเวณผิวของเยื่อบุลำไส้แล้วผลิตสารต่อต้านหรือกำจัดเชื้อจุลินทรีย์ชนิดอื่นๆ รวมถึงก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสุขภาพได้”

Fuller, R.. Probiotics in man and animals. J Food Microbiol, 1989

ปัจจัยที่ทำให้โพรไบโอติกในร่างกายลดลง

o การรับประทานอาหารที่มีกากใยน้อย เช่น ไม่ค่อยรับประทานผัก ผลไม้

o การรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง หรือน้ำตาลสูง

o การรับประทานอาหารซ้ำ ๆ ไม่หลากหลาย

o การรับประทานยาปฏิชีวนะ หรือยาแก้ปวดเป็นประจำ

o การดื่มแอลกอฮอล์ หรือสูบบุหรี่

o ความเครียด

พงศธร ประภักรางกูล,โพรไบโอติก Probiotics, สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.), 2563

จากการศึกษาถึงสาเหตุของอาการท้องผูก โดยเปรียบเทียบปริมาณจุลินทรีย์ที่พบในกลึ่มผู้ป่วยที่มีอาการท้องผูก และกลุ่มสุขภาพดี พบว่า ในผู้ป่วยที่มีอาการท้องผูกมีปริมาณ Bifidobacterium และ Bacteroides น้อยกว่าในกลุ่มสุขภาพดี จึงเป็นสาเหตุให้กลุ่มผู้ป่วยเกิดอาการท้องผูก

การสร้างสภาวะความสมดุลของ normal flora ในร่างกายจึงมีความสำคัญ ซึ่งการรับประทานโพรไบโอติกส์จึงเป็นทางเลือกอย่างหนึ่งในการรักษาสมดุลจุลินทรีย์ที่ดีในร่างกาย และในผลิตภัณฑ์ควรมีปริมาณจุลินทรีย์โพรไบโอติกที่ยังมีชีวิตอยู่คงเหลืออยู่ไม่น้อยกว่า 1 ล้านตัวต่ออาหาร 1 กรัมจึงมีประสิทธิภาพในเสริมสร้างประโยชน์ต่อร่างกาย ดังนั้นการเลือกโพรไอติกส์มาใช้ในผลิตภัณฑ์จึงต้องมีการคำนึงคุณภาพดังกล่าว

ทางผู้ผลิตจึงพัฒนา Microencapsulation technology มาใช้ในการรักษาคุณภาพของโพรไบโอติกส์ เพื่อรักษาปริมาณจุลินทรีย์โพรไบโอติกที่ยังมีชีวิตอยู่ให้คงเหลืออยู่ไม่น้อยกว่า 1 ล้านตัวต่ออาหาร 1 กรัม