สาหร่ายคลอเรลลา (Chlorella) สาหร่ายน้ำจืดเซลล์เดียวที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางขนาดเล็กเพียง 3-8 ไมครอน มีชีวิตอยู่ได้นานกว่า 2.5 พันล้านปีเนื่องจากผนังเซลล์ด้านนอกที่เป็นเอกลักษณ์และความสามารถในการฟื้นฟูตัวเองอย่างรวดเร็วเป็นเซลล์ใหม่ 4 เซลล์ทุกๆ 17 ถึง 20 ชั่วโมง สาหร่ายคลอเรลลาอุดมด้วยสารอาหารซึ่งประกอบด้วยโปรตีน 60% กรดอะมิโน 18 ชนิด (รวมกรดอะมิโนที่จำเป็นทั้งหมด) และวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ สีเขียวเข้มมาจากการที่คลอเรลล่ามีคลอโรฟิลล์ในปริมาณมากที่สุดในบรรดาพืชที่เป็นที่รู้จัก 

สาหร่ายคลอเรลลา (Chlorella) ประกอบด้วยสารคลอโรฟีลล์ในปริมาณที่สูงกว่าพืชชนิดอื่น ซึ่งมีส่วนประกอบอันเปี่ยมด้วยคุณค่าอาหารและมีประโยชน์ต่อสุขภาพ จากการวิจัยพบว่า สาหร่ายคลอเรลลาสามารถเปลี่ยนก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้กลายเป็นก๊าซออกซิเจนได้ในทันที โดยจากการศึกษาวิจัยในประเทศสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่นพบว่า คลอเรลลาเป็นแหล่งอาหารเสริมจากธรรมชาติที่ทรงคุณค่าครบถ้วน ช่วยเสริมสร้างสุขภาพ ป้องกันและขับสารพิษโลหะหนักส่วนเกินออกจากร่างกาย   

การรับประทานสาหร่ายคลอเรลลาโดยตรงจะไม่สามารถทำให้ร่างกายได้สารอาหารที่อยู่ในคลอเรลลาได้ เพราะคลอเรลลามีผนังเซลล์ที่แข็ง (Hard Cell Wall) เกินกว่าลำไส้มนุษย์จะย่อยได้ ดังนั้นการรับประทานคลอเรลลาให้ได้ผล จึงต้องเป็นคลอเรลลาที่ผ่านการแตกผนังเซลล์แล้ว (Broken Cell Chlorella) เท่านั้น เพื่อให้ร่างกายสามารถดูดซึมสารอาหารที่อยู่ในเซลล์คลอเรลลาได้ 

1.Chlorella is a superfood

ในสาหร่ายคลอเรลลาพบสารอาหารที่หลากหลายเป็นประโยชน์ต่อร่างกายดังนี้

• สาหร่ายคลอเรลลามีโปรตีนสูงถึง 60 เปอร์เซ็นต์ หรือ 3 เท่าของโปรตีนจากเนื้อสัตว์ ซึ่งช่วยเสริมสร้างและซ่อมแซมเนื้อเยื่อ

• สาหร่ายคลอเรลลามีปริมาณคลอโรฟีลล์สูงกว่าพืชชนิดอื่นๆ  ขจัดสารพิษและโลหะหนักออกจากร่างกาย

• สารซี.จี.เอฟ.(Chlorella Growth Factor) พบเฉพาะในสาหร่ายคลอเรลลาเท่านั้น ให้พลังมหาศาลแก่มนุษย์ ช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับเซลล์ เสริมสร้างระบบต่อต้านโรคและกระตุ้นร่างกายให้มีชีวิตชีวา

• ผนังเซลล์สาหร่ายคลอเรลลามีผลช่วยในการต่อต้านมะเร็งและกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน มีคุณลักษณะพิเศษในการกำจัดสารไฮโดรคาร์บอนและสารโลหะที่เป็นพิษออกจากร่างกายมนุษย์ได้ (แต่ต้องเป็นคลอเรลลาที่แตกผนังเซลล์แล้วเท่านั้น ร่างกายจึงจะสามารถดูดซึมสารอาหารได้)

• สาหร่ายคลอเรลลามีวิตามินเอและสารเบต้าคาโรทีนเป็นโปรวิตามินเอ ย่อยง่าย ไม่สะสมจนเกิดพิษในร่างกาย บำรุงสายตา ช่วยให้ปอดแข็งแรงและสามารถยับยั้งเซลล์มะเร็งได้

• สาหร่ายคลอเรลลามีไนอาซีนช่วยบำบัดโรคจิตประสาทคิทโซเพรเนีย ทำให้ร่างกายกระชุ่มกระชวยและยังช่วยเสริมการบำบัดโรคหัวใจ

• สาหร่ายคลอเรลลามีแคลเซียมเสริมสร้างกระดูกและฟัน ทั้งช่วยให้ระบบประสาททำงานได้เต็มที่

• สาหร่ายคลอเรลลามีธาตุเหล็กช่วยสร้างเม็ดเลือดแดงและเป็นตัวนำออกซิเจนไปเลี้ยงร่างกาย

• สาหร่ายคลอเรลลามีสังกะสี ที่ช่วยสร้างสมรรถภาพของสมองและช่วยให้ร่างกายฟื้นไข้เร็ว

2.Detoxify heavy metals

สาหร่ายคลอเรลลาสามารถจับกับโลหะหนักหลายชนิด เช่น ตะกั่ว สารหนู ปรอท และอะลูมิเนียม และการล้างพิษในตับ จากการศึกษาในปี 2550 ใน Journal of Medicinal Food ได้ทดสอบประโยชน์ของ สาหร่ายคลอเรลลาในหญิงที่เลี้ยงลูกด้วยนมในประเทศญี่ปุ่น โดยมีไดออกซินในน้ำนมแม่สูง เป็นผลให้กลุ่มของผู้หญิงที่รับประทานทานคลอเรลล่ามีระดับสารพิษในน้ำนมแม่ต่ำกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญ อีกทั้งสาหร่ายคลอเรลลาไม่เพียงแต่ช่วยลดระดับไดออกซินในน้ำนมแม่เท่านั้น แต่ยังอาจส่งผลดีต่อทารกที่เข้ารับการเลี้ยงด้วยการเพิ่มระดับ IgA ในน้ำนมแม่” [อิมมูโนโกลบูลินเอคือสารที่สร้างโดยระบบภูมิคุ้มกันของคุณเพื่อตอบสนอง ต่อแบคทีเรีย ไวรัส เชื้อรา ฯลฯ 

3.Support immune system

จากการศึกษาผลของสาหร่ายคลอเรลลาต่อการตอบสนองต่อภูมิคุ้มกัน/ การอักเสบในมนุษย์ที่มีสุขภาพดี โดยให้อาสาสมัครสุขภาพดีรับประทานสาหร่ายคลอเรลลา 5 กรัม/วัน เป็นระยะเวลา 8 สัปดาห์ ผลการกระตุ้นภูมิคุ้มกันของสาหร่ายคลอเรลลาในระยะสั้นพบว่าช่วยเพิ่มการทำงานของเซลล์ NK และผลิต interferon-γ และ interleukin-12 รวมทั้งinterleukin-1β ซึ่งเป็น cytokines ที่เกิดจากเซลล์ Th-1 ในคนที่มีสุขภาพดี 

4.Lower cholesterol

การศึกษาหลายงานิจัยแสดงให้เห็นว่าการรับประทานคลอเรลลา 5-10 กรัมต่อวัน ช่วยลดคอเลสเตอรอลรวมและ LDL และไตรกลีเซอไรด์ในผู้ที่มีความดันโลหิตสูงและ/หรือคอเลสเตอรอลสูง