Hyaluronic Acid (Food Grade) 

กักเก็บน้ำ และเติมความชุ่มชื้นให้ผิว

          Hyaluronic Acid เป็นสารประกอบประเภทพอลิแซ็กคาไรด์ ที่ร่างกายสามารถผลิตสารนี้ขึ้นมาได้เองตามธรรมชาติ เป็นส่วนประกอบสำคัญของแมทริกซ์นอกเซลล์  (Extracellular metrix) ที่มีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำและช่วยให้ผิวคงรูปได้ดี ช่วยกักเก็บน้ำภายในเนื้อเยื่อเพื่อรักษาความชุ่มชื้น โดยพบได้มากบริเวณผิวหนัง ดวงตา ข้อต่อ รวมถึงเนื้อเยื่อเกี่ยวพันทั่วร่างกาย ดังนั้นในคนที่ยังสามารถผลิต Hyaluronic Acid ได้ในปริมาณมาก ผิวก็จะแลดูฉ่ำน้ำ กระชับ แต่อย่างไรก็ตาม ร่างกายจะผลิต Hyaluronic Acid ได้น้อยลงเรื่อยๆตามวัยที่สูงขึ้น ซึ่งโดยค่าเฉลี่ยสำหรับคนทั่วไป ผิวของคนเราจะเริ่มเสื่อมตามวัยเมื่ออายุมากกว่า 20 ปี และปริมาณ Hyaluronic Acid ที่ร่างกายผลิตได้จะเริ่มลดลงตามไปด้วยเช่นกัน   

 จากผลการศึกษาประสิทธิภาพของ Hyaluronic Acid ในการช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวในอาสาสมัครผู้หญิงอายุ 38-52 ปี จำนวน 48 คน โดยให้อาสาสมัครกลุ่มที่ 1 รับประทาน Hyaluronic Acid 60 mg/capsule ครั้งละ 2 แคปซูล เช้า-เย็น เป็นเวลา 8 สัปดาห์ และอาสาสมัครกลุ่มที่ 2 ไม่ได้รับประทาน Hyaluronic Acid  พบว่า หลังรับประทาน Hyaluronic Acid สามารถเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวได้ภายใน 4 สัปดาห์ และเมื่อหยุดรับประทานพบว่าผิวยังคงมีความชุ่มชื้นมากกว่ากลุ่มที่ไม่ได้รับประทาน Hyaluronic Acid

          นอกจากประโยชน์ที่เกี่ยวข้องกับผิวพรรณแล้ว ร่างกายจะผลิต Hyaluronic Acid ขึ้นเพื่อทำหน้าที่เป็นสารหล่อลื่นและลดแรงกระแทกบริเวณข้อต่อ แต่หากระหว่างกระดูกข้อต่อมีสารหล่อลื่นน้อยก็จะทำให้กระดูกเสียดสีกันจนเป็นเหตุให้เกิดอาการปวดได้ ซึ่งจากการศึกษาพบว่าผู้ป่วยโรคข้อเข้าเสื่อมที่รับประทานอาหารเสริม Hyaluronic Acid วันละ 200 มิลลิกรัม เป็นเวลาอย่างน้อย 2 เดือน มีอาการปวดหัวเข่าลดลงและอาจช่วยบรรเทาอาการข้อติดได้ในระดับปานกลาง

ประโยชน์ของ Hyaluronic acid

ปริมาณ Hyaluronic Acid ที่แนะนำ : 60-200 มิลลิกรัม

*********************************************

ติดต่อและติดตามข่าวสารผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพได้ตามนี้

☎️Tel:+662-274-7316 to 8 ต่อ 25

info@chemsources.co.th

Line ID: @chemsources (มี@ด้านหน้า)

http://line.me/ti/p/%40chemsources

คลิกดูรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติมได้ที่

http://www.chemsources.co.th/

www.dimethiconecrosspolymer.com

www.facebook.com/chemsourcesthailand

www.youtube.com/user/ChemSourcesThailand


หากท่านประสงค์ต้องการแนะนำเพื่อนสำหรับจดหมายข่าวนี้กรุณากดที่นี่


บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ