VITA-HA400 (Hyaluronate-Vitamin C derivative) ผสานพลังของวิตามินซีและไฮยาลูรอนิก เพื่อประสิทธิภาพต่อผิวที่ดียิ่งขึ้น

VITA-HA400


VITA-HA400 คือ อนุพันธ์วิตามินซี ที่เกิดจากการรวมตัวของวิตามินซี (ascorbic acid) และ ไฮยาลูรอนิก (Hyaluronic) ที่มีความคงตัวสูง ทนต่อแสง ความร้อน และความร้อนที่ใช้ในการผลิต  แต่เมื่อทาลงบนผิวแล้วจะสามารถแตกตัวให้วิตามินซีและไฮยาลูรอนิกได้ง่ายโดยเอนไซม์ที่มีในผิวหนังของเรา จึงสามารถแสดงประสิทธิภาพของทั้งวิตามินซีและไฮยาลูรอนิกได้ในครั้งเดียว

VITA-HA400 มีประสิทธิภาพต่อผิว ดังนี้

จากการทดลองใน B16F10 melanoma cells โดยการเติม α-MSH ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ไปกระตุ้นให้เกิดการสร้างเม็ดสีผิว และ treated แต่เซลล์ด้วย Arbutin(Arb), Hydroquinone(HQ), Ascorbic acid(AA), และ VITA-HA400 ที่ความเข้มข้นแตกต่างกันออกไป เป็นเวลา 3 วัน หลังจาก 72 ชั่วโมง ก็นำมาวัดค่าเม็ดสีเมลานิน พบว่า VITA-HA400 มีประสิทธิภาพที่ดีในการลดการสร้างเม็ดสีผิวเมลานิน โดยประสิทธิภาพจะดีขึ้นตามความเข้มข้นที่ใช้ (dose dependent)

จากการทดลองใน B16F10 melanoma cells โดยการเติม α-MSH ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ไปกระตุ้นให้เกิดเอนไซม์ไทโรซิเนส (Tyrosinase) และเกิดการสร้างเม็ดสีผิวต่อมา โดย treated แต่เซลล์ด้วย Arbutin(Arb), Hydroquinone(HQ), Ascorbic acid(AA), และ VITA-HA400 ที่ความเข้มข้นแตกต่างกันออกไป หลังจาก 72 ชั่วโมง ก็นำมาวัดค่าการทำงานของ Tyrosinase พบว่า VITA-HA400 มีประสิทธิภาพที่ดีในการลดการทำงานของเอนไซม์ไทโรซิเนส (Tyrosinase) โดยประสิทธิภาพจะดีขึ้นตามความเข้มข้นที่ใช้ (dose dependent)

โดยการทดสอบในอาสาสมัครชาวเอเชีย 20 คน อายุในช่วง 44 - 61 ปี ให้ใช้สูตรที่มี VITA-HA400 0.005% ทาบริเวณใบหน้า วันละ / ครั้ง เป็นเวลา 8 สัปดาห์ พบว่า VITA-HA400 มีประสิทธิภาพช่วยให้ผิวขาว กระจ่างใสอย่างเห็นผลได้ชัดใน 4 สัปดาห์

จากการทดลองใน HDF-neo (human primary dermal fibroblast-neonatal) โดยการ treated ด้วย VITA-HA400 ที่ความเข้มข้นแตกต่างกัน และ Ascorbic acid(AA) เป็น positive control เป็นเวลา 72 ชั่วโมง แล้วนำมาวัดค่าการสร้างคอลลาเจน พบว่า VITA-HA400 มีประสิทธิภาพในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนชนิดที่ 1 (collagen type I) ที่เป็นคอลลเจนหลักในชั้นผิวหนังได้ดี  และมีประสิทธิภาพในการกระตุ้นเซลล์ Fibroblast ที่ทำหน้าที่ในการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินในชั้นผิวหนังอีกด้วย โดยประสิทธิภาพจะดีขึ้นตามความเข้มข้นที่ใช้ (dose-dependent)

โดยการทดสอบในอาสาสมัครชาวเอเชีย 20 คน อายุในช่วง 44 - 61 ปี ให้ใช้สูตรที่มี VITA-HA400 0.005% ทาบริเวณใบหน้า วันละ / ครั้ง เป็นเวลา 8 สัปดาห์ พบว่า VITA-HA400 มีประสิทธิภาพในการลดริ้วรอยอย่างเห็นผลได้ชัดใน 4 สัปดาห์

จากการทดลองใน HDF-neo (human primary dermal fibroblast-neonatal) โดยการ treated ด้วย VITA-HA400 แล้วนำมาย้อมสีเส้นใยแอกติน และโปรตีนบริเวณรอยต่อของเซลล์ พบว่า VITA-HA400 มีประสิทธิภาพในการช่วยให้เส้นใยแอกตินในผิวเพิ่มมากขึ้น และช่วยให้โปรตีนบริเวณรอยต่อของเซลล์มีการยึดเกาะกันแน่นมากขึ้น จึงเป็นการช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับผิวหนังทั้งภายนอกและภายใน

จากการทดลองใน HDF-neo (human primary dermal fibroblast-neonatal) โดยการ treated ด้วย VITA-HA400 และนำไปฉายรังสี UVB เป็นเวลา 48 ชั่วโมง จากนั้นนำมาวัดค่า MMP-1 ซึ่งเป็นเอนไซม์ชนิดหนึ่งที่ก่อให้เกิดการอักเสบ พบว่า VITA-HA400 มีประสิทธิภาพในการลดการสร้าง MMP-1 ที่ถูกกระตุ้นโดยรังสี UVB ได้ดี โดยประสิทธิภาพจะดีขึ้นตามความเข้มข้นที่ใช้ (dose-dependent)

และอีกหนึ่งการทดลอง โดยทดลองใน HaCat (Human keratinocyte) นำมา treated ด้วย VITA-HA400 และเติม LPS ที่เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการอักเสบ เป็นเวลา 24 ชั่วโมง หลังจากนั้นนำมาวัดค่า TNF-α ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการอักเสบ พบว่า VITA-HA400 มีประสิทธิภาพในการลดการสร้าง TNF-α ได้ดี โดยประสิทธิภาพจะดีขึ้นตามความเข้มข้นที่ใช้ (dose-dependent)

จากการทดสอบในอาสาสมัครชาวเอเชีย 20 คน อายุในช่วง 44 - 61 ปี ให้ใช้สูตรที่มี VITA-HA400 0.005% ทาบริเวณใบหน้า วันละ / ครั้ง เป็นเวลา 8 สัปดาห์ พบว่า VITA-HA400 มีประสิทธิภาพช่วยให้สุขภาพผิวองค์รวมดีขึ้น เป็นที่น่าพึงพอใจ

VITA-HA400 มีลักษณะ ดังนี้

*********************************************

ติดต่อและติดตามข่าวสารผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพได้ตามนี้

☎️Tel:+662-274-7316 to 8 ต่อ 25

info@chemsources.co.th

Line ID: @chemsources (มี@ด้านหน้า)

http://line.me/ti/p/%40chemsources

คลิกดูรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติมได้ที่

http://www.chemsources.co.th/

www.dimethiconecrosspolymer.com

www.facebook.com/chemsourcesthailand

www.youtube.com/user/ChemSourcesThailand


หากท่านประสงค์ต้องการแนะนำเพื่อนสำหรับจดหมายข่าวนี้กรุณากดที่นี่


บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ