Tomato Extract 

(Food Grade) 

มะเขือเทศ (ชื่อวิทยาศาสตร์: Lycopersicon esculentum Mill.) เป็นพืชชนิดหนึ่งที่อุดมไปด้วยคุณค่าทางอาหาร มะเขือเทศขนาดปานกลางจะมีปริมาณวิตามินซีครึ่งหนึ่งของส้มโอทั้งผล มะเขือเทศผลหนึ่งจะมีวิตามินเอราว 1 ใน 3 ของวิตามินเอที่ร่างกายต้องการในหนึ่งวัน นอกจากนี้มะเขือเทศยังมีโปแตสเซียม ฟอสฟอรัส แมกนีเซียมและแร่ธาตุอื่นๆ อีกหลายชนิด

ผลมะเขือเทศมีสารจำพวก แคโรทีนอยด์ชื่อ ไลโคพีน (Lycopene) ซึ่งเป็นสารสีแดง และวิตามินหลายชนิด เช่น วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินเค โดยเฉพาะวิตามินเอ และวิตามินซีมีในปริมาณสูง มีกรดมาลิค กรดซิตริก ซึ่งให้รสเปรี้ยว และมีกลูตามิค (Glutamic) ซึ่งเป็นกรดอะมิโนที่ช่วยเพิ่มรสชาติให้อาหาร

ไลโคปีน (Lycopene) คือ สารสีแดงพบมากในมะเขือเทศ เป็นสารสารต้านอนุมูลอิสระป้องกันการเสื่อมของเซลล์ต่างๆในร่างกาย มีประโยชน์ต่อสุขภาพ มีฤทธิ์ที่ดีกว่าแบต้าแคโรทีน และแอลฟาโทโคฟีรอล ถึง 2 และ 10 เท่า ตามลำดับ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงพลังที่สุด และเป็นสารที่ละลายในน้ำมัน และจะถูกดูดซึมได้ดีในรูปของน้ำมัน ให้ประโยชน์สูงกับอวัยวะที่มีเซลล์ไขมันเป็นส่วนประกอบจำนวนมาก เช่น ต่อมลูกหมาก และผิวหนัง จากผลวิจัยที่ผ่านมาในอดีต Lycopeneเป็นเม็ดสีที่ช่วยให้ผักและผลไม้ เช่น มะเขือเทศ แตงโม ส้มโอมีสีชมพูและแดง และที่สำคัญ ไลโคปีนจะปรากฎขึ้นเพื่อแสดงความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระที่แข็งแกร่ง ซึ่งเป็นสิ่งที่เราได้รับนอกเหนือจากการป้องกันและสามารถลดอัตราการเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็ง

ไลโคปีน(Lycopene) ที่พบมี โครงสร้างทางเคมี 2 แบบคือ trans – configuration และแบบ cis-isomer โดยในธรรมชาติจะพบไลโคปีนแบบ trans – configuration แต่สามารถเกิดการเปลี่ยนแปลงไปเป็นแบบ cis-isomer ได้เมื่อสัมผัสกับความร้อนหรือและสว่าง โดยในกระแสเลือดของคนเราพบไลโคปีนแบบ cis-isomer อยู่ถึง 60% เลยทีเดียวร่างกายไม่สามารถสังเคราะห์ไลโคปีนเองได้ ดังนั้นเราจึงต้องรับประทานไลโคปีนเข้าไปจากผักผลไม้ หรืออาหารเสริม โดยไลโคปีนจะไปกระจายอยู่ทั่วไปในเนื่อเยื่อบริเวณที่แตกต่างกัน โดยส่วนใหญ่พบการสะสมของไลโคปีนมากที่ต่อมหมวกไต ลูกอัณฑะ และตับ

จากการศึกษาวิจัยพบว่าไลโคปีนที่ผ่านกระบวนการใช้ความร้อน (heat processed-lycopene) เช่น การปรุงอาหาร ร่างกายจะสามารถดูดซึมไปใช้ได้ดีกว่าไลโคปีนในธรรมชาติ เนื่องจากไลโคปีนที่มีโครงสร้างแบบ cis -isomer ถูกดูดซึมได้ดีกว่าแบบ trans – configuration และแบบ cis -isomer จะสามารถละลายและรวมตัวกับกรดน้ำดี (bile acid micells) ได้ดีกว่า แบบ trans–configuration ด้วย นอกจากนั้น การใช้ความร้อนในการประกอบอาหารยังทำให้ไลโคปีนที่อยู่ในผนังเซลล์ของผักและผลไม้ละลายออกได้มากขึ้น ทำให้ดูดซึมในระบบย่อยอาหารได้ดีกว่ารับประทานแบบสดถึง 2.5 เท่า ดังนั้นหากจะรับประทานผักและผลไม้เพื่อให้ร่างกายได้รับ   ไลโคปีนจึงควรนำผักและผลไม้ไปปรุงให้สุกก่อน

ประโยชน์ต่อสุขภาพของไลโคปีน

จากการทดลองแสดงให้เห็นว่าไลโคปีน มีบทบาทในการลดความเสียหายของเเซลล์ที่ได้รับแสงยูวีที่เป็นอันตราย 

Specification

Product Name : Tomato Extract

Botanical name : Lycopersicon esculentum Mill.

Part of use : Fruit

Specification :Lycopene 1%, 10%

Recommend dosage : Lycopene 8-21 mg./day  [ 1% : 800-2100 mg. / 10% : 80-210 mg.]

*********************************************

ติดต่อและติดตามข่าวสารผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพได้ตามนี้

☎️Tel:+662-274-7316 to 8 ต่อ 25

info@chemsources.co.th

Line ID: @chemsources (มี@ด้านหน้า)

http://line.me/ti/p/%40chemsources

คลิกดูรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติมได้ที่

http://www.chemsources.co.th/

www.dimethiconecrosspolymer.com

www.facebook.com/chemsourcesthailand

www.youtube.com/user/ChemSourcesThailand

หากท่านประสงค์ต้องการแนะนำเพื่อนสำหรับจดหมายข่าวนี้กรุณากดที่นี่

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ