No Vernacular Name

วิสัยเป็นไม้ต้นสูง 5–16 ม; เปลือกไม้เรียบสีครีมถึงน้ำตาลอ่อน, แตกเป็นเกล็ดบาง (tabaek)

ใบเป็นใบเดี่ยวเรียงตัวแบบสลับ (opposite), ก้านใบยาวประมาณ 0.5 ซม, ใบรูปหอก (lanceolate) ขนาดยาว 7–12 กว้าง 3–5 ซม; เส้นใบแบร่างแหขนนก (pinnately webbed) เส้นใบมี 6–8 เส้นต่อข้าง; การเรียงตัวของเส้นใบย่อยระหว่างเส้นใบเป็นแบบร่างแห (reticulate), ผิวใบเกลี้ยง (glabrous)

ดอกเป็นช่อกระจะ (racemose) เกิดตามปลายยอด, ช่อดอกยาว 20 ซม, ก้านช่อดอกมีขนสั้นหนาแน่น ขนรูปดาว (stellate), ตาดอกทรงกรวยกลับ (obconical) ยาวประมาณ 8 มม, ปลายแบน มีจุกยาว 1.5 มม, ผิวมีขนสั้นหนาแน่น, ก้านดอกย่อยเทียม (pseudopedicel) ยาว 3–5 มม; ท่อกลีบเลี้ยง (calyx tube) ยาว 7 มม, ผิวมี 12 ร่องชัดเจน, มีติ่งกลีบ (auricles) รูปร่างคล้ายกลีบเลี้ยง; ปลายกลีบเลี้ยงแยกเป็น 6 แฉก ผิวเกลี้ยงภายใน ยาวประมาณ 4 มม; กลีบดอกสีม่วง 6 กลีบ รูปรีกว้าง (broadly ovate) ยาวประมาณ 15 มม, ขอบเกือบเรียบ (subentire) หยักเป็นคลื่น  (undulate), แผ่นกลีบ (claw) ยาวประมาณ 5 มม; เกสรเพศผู้มีภาวะทวิสัณฐานแบบไม่สมมาตร (asymmetrically dimorphic), เกสรเพศผู้รอบนอก 6 หรือ 7 อันยาวกว่าเกสรเพศผู้ชั้นใน และมีปลายเกสรอยู่ระหว่างช่องว่างกลีบดอก, ผิวรังไข่มีขน

ผลแห้งแตกได้ชนิด Capsules ผิวสีเกือบดำเรียบ, บางผลมีรอยย่นเล็กน้อย ขนาดยาว 15–18 มม, เมื่อแตกจะแตกตามยาว (septilucidal) เป็น 6 แฉก; กลีบเลี้ยงคงทน ปลายกลีบแบะออก (reflexed)