{ INTRODUCED SUBSPECIES}
{ INTRODUCED SUBSPECIES}
ศรีตรัง
Description
Vernacular name: Jacaranda, Green Ebony
ไม้ต้นผลัดใบได้, ความสูงต้น 4-10 ม, กิ่งอ่อนมีเลนติเซลที่ผิว
ใบประกอบแบบขนนกสองชั้น (compound bipinnate) เรียงกันบนกิ่งแบบตรงข้าม (Opposite), ใบย่อยขนาดเล็กรูปข้าวหลามตัด (rhomboid), ผิวใบมีขนบาง (pilose), ขอบใบเรียบ (Entire), เส้นใบแตกแขนงแบบร่างแหขนนก (Pinnately Webbed)
ดอกออกเป็นช่อใหญ่ตามกิ่งหรือออกดอกช่อที่ยอด, กลีบดอกสีม่วงเชื่อมกันเป็นหลอด ปลายแยกเป็น 5 กลีบ รูปร่างคล้ายระฆัง, เมื่อบานขนาดผ่าศูนย์กลาง 2 ซม. เกสรตัวผู้ 5 อันติดกับกลีบดอก ประกอบด้วยเดสรตัวผู้ปกติ 4 อัน และเกสรตัวผู้เป็นหมัน 1 อันซึ่งมีขนาดใหญ่ สีขาว มีขนที่ปลาย และเห็นได้จากด้านนอกท่อกลีบดอก, เกสรตัวเมียมีรังไข่แบนเหมือนจานและรูปร่างแบบไข่ (ovate)
ผลเป็นฝักแบน (capsule) รูปไข่กว้าง (ovate) ขนาดกว้าง 1-1.5 ซม. ยาว 2-2.5 ซม, เมื่อแก่จะมีผิวเหมือนเนื้อไม้สีน้ำตาลแตกเป็น 2 ซีก ภายในมีเมล็ดซึ่งมีเยื่อปีกแบนใสติดอยู่ที่แกนกลางของผล
หมายเหตุ พืชชนิดนี้มีถิ่นกำเนิดที่ทวีปอเมริกาใต้ และเป็นสัญลักษณ์ประจำโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์อีกด้วย
Gallery
รูปที่ 1: ช่อดอกแบบ cymose บนกิ่งตามธรรมชาติ (บนซ้าย บนกลาง และ บนขวา) แสดงลักษณะดอกที่มีสมมาตรแบบสองซีก (zygomorphic), โครงสร้างท่อกลีบดอกแสดงกลีบดอกสีม่วงมีขน (Pubescent corolla tube) และเกสรตัวผู้เป้นหมัน (Petaloid staminode) อยู่ภายใน (ล่างขวา), โครงสร้างภายในกลีบดอกแสดงเกสรตัวผู้ปกติสี่อัน เกสรตัวผู้เป้นหมันขนาดใหญ่หนี่งอัน เสรตวผู้ทุกอันติดอยู่บนท่อกลีบดอก (epipetalous) และเกสรตัวเมียหนึ่งอัน (ล่างซ้าย และ กลางซ้าย)
รูปที่ 2: ลักษณะต้นตามธรรมชาติ (ล่างขวา), ใบอ่อนมีการม้วนแบบ conduplicate สองชั้น มีการสะสมสารสีแดงภายในเนื้อใบ (บนซ้าย), ลักษณะปลายใบประกอบแบบขนนกสองชั้นแสดงติ่ง (Apex) รูปไข่ (ovate) (บนกลาง), เนื้อเยื่อปีกเล็กๆ ยื่นออกมาจากก้านใบย่อย (petiolule) แสดงการเว้าเพื่อเกิดใบประกอบแบบเกือบสมบูรณ์ (บนขวา), ลักษณะผิวใบด้านหลังใบและท้องใบ แสดงเส้นใบจมลงไปในผิวใบ (ล่างซ้าย), ใบประกอบอายุมาก (ล่างกลาง)
รูปที่ 3: กิ่งที่มีเลนติเซลแตกเป็นแนวตามยาว (กลาง), ผลเดี่ยวเมื่อสุกเต็มที่ (ซ้าย), ผลเมื่อมีการแตกเพื่อปล่อยเมล็ดแล้ว (ขวา),
รูปที่ 4: ผลที่เพิ่งสุกและผลแตกแล้ว (ซ้าย และ กลางซ้าย), เมล็ดที่มีปีกบางทั้งสองข้างยังคงติดอยู่กับผล (กลางขวา), เมล็ดมีปีกที่กำลังพัฒนา ทำให้ไม่แห้ง แสดงบริเวณ Placenta ใช้ในการยึดออวุลให้ติดกับ Central Axis (ขวา)
References & Credit
http://www.qsbg.org/database/botanic_book%20full%20option/search_detail.asp?botanic_id=1012
ถ่ายภาพโดย ดร.จิโรจน์ แสงรัตนประเสริฐ, นายนิธิศ ชัยวีระวัฒนะ และนายติณณภัชน์ ศรีเพ็ง, รวบรวมคำอธิบายโดย นายติณณภัชน์ ศรีเพ็ง
ข้อมูลพื้นฐานโดย นายปภพ เตชาทวีวรรณ, นายพัทธ์พงศ์ ปัญจอานนท์ และ นายหะทัยธรรม รัตนเสถียร