{ INTRODUCED SPECIES }
{ INTRODUCED SPECIES }
Aubl.
ลูกปืนใหญ่ ~ สาละลังกา
Descriptions
Vernacular name: cannonball tree
ไม้ยืนต้นเนื้อไม้อ่อนสูงได้ถึง 60 ม., เปลือกไม้เรียบแตกร่องตามแนวยาว, ผลัดใบได้ในบางครั้ง (Deciduous)
ใบเป็นใบเดี่ยวเรียงตัวแบบ spiral, ก้านใบยาว 1-3 ซม., ใบขนาดยาว 10-16 ซม. กว้าง 4-6 ซม., ใบรูปร่างขอบขนาน (oblong) รี (elliptic) หรือไข่กลับ (obovate), ปลายใบแหลม (acute), โคนใบรูปลิ่ม (cuneiform), ขอบใบเรียบ (entire) หรือหยักเล็กน้อย (slightly serrate), ผิวใบด้านหลังใบมันวาวไม่มีขนปกคลุม (glabrous), ผิวใบด้านท้องใบมีขนปกคลุม (pubescent), เส้นใบร่างแหแบบขนนก (pinnately webbed)
ช่อดอกเป็นแบบช่อกระจะ (racemose) ออกดอกที่ลำต้น (cauliflorous) ขนาดดอกช่อ 30-150 ซม., ก้านช่อดอกตั้ง (erect), ก้านดอกหลัก (Peduncle, Axis) มีสีเขียวตอนอ่อนและมีเปลือกไม้ตอนแก่ ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 5-15 มม., ก้านดอกย่อยยาว 20-60 มม. มีใบประดับบางหนึ่งใบประกบฐาน ดอกย่อยมีขนาด 8-15 ซม, กลีบเลี้ยง (sepal) มีหกกลีบขนาดยาว 5 มม กว้าง 4-6 มม รูปสามเหลี่ยม (triangular) สีเขียวจนน้ำตาล อยู่ที่ฐานถ้วย hypanthium, กลีบดอกสีแดงหรือชมพูมี 6 กลีบ ช่ำน้ำ (fleshy) เรียงตัวกันวงกลีบดอกละสามกลีบ, กลีบดอกรูปไข่ (ovate) แกมขอบขนาน (oblong) ขนาดยาว 2.5-5 ซม กว้าง 2-3 มม รูปร่าง, กลีบดอกมีเส้น abscission line ที่ฐานทำให้สามารถหลุดออกได้เมื่อดอกบาน, เกสรตัวผู้ขนาด 2-5 มม มีหลายอันสีชมพูปลายเหลือง ขนาดของก้านชูอับเรณูหนามากกว่าอับเรณูรูปรี (elliptic) ขนาดยาว 1 มม กว้าง 1 มม, ฐานเชื่อมอาจเชื่อมติดกันอยู่บนฐานรองดอกที่ต่อยื่นจาก hypanthium มาชูเกสรตัวผู้เรียกว่า Androphore รูปร่างคล้ายโถส้วม ตรงคอห่านเป็นเกสรตัวเมีย, ยอดเกสรตัวเมียเป็นแผ่นรายเรียกว่า Stigmatic disc รูปร่างเป็นหกเหลี่ยม (stellate) สีขาว บริเวณตรงกลางเป็นตุ่มแหลม, ฐานรองดอกโอบลัอมรังไข่แบบ half-inferior กลายเป็นถ้วย hypanthium ขนาดยาว 5-10 มม กว้าง 5-10 มม สีเขียว, ยอดเกสรตัวเมียเส้นผ่านศูนย์กลาง 1.5 มม ก้านชูยอดเกสรตัวเมียยาว 2 มม รังไข่มี 5-7 โลคูล (petaloculate to heptaloculate) แต่ละโลคูลมีออวุลนับไม่ถ้วน
ผลเป็นผลเดี่ยวฉ่ำน้ำผิวมีเปลือกไม้สีน้ำตาลอ่อนและมีเลนติเซล, ผลรูปร่างกลม (globose) ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 10-23 ซม, ตอนเจริญไม่เต็มที่รูปร่างทรงไข่กลับ (obovate) หน้าตัดรูหกเหลี่ยม, เนื้อผลด้านในมีสีขาวและจะดำขึ้นเรื่อยๆ หากสัมผัสอากาศ
Gallery
รูปที่ 1: โครงสร้างดอกบนลำต้น (ซ้ายบน), ดอกตูม (กลางบน), และดอกที่เจริญเต็มที่ (ขวาบน), ภาคตัดขวางของดอกตูม แสดงทิศการห่อของกลีบดอกและ androphore (ซ้ายล่าง), Androphore ในมุมมองด้านข้าง แสดงลักษณะฐานเกสรสีมพู แนวการหลุดของกลีบดอก และฐานรองดอกรูปกรวยที่หุ้มรังไข่ (กลางล่าง), รูของ Androphore (ขวาล่าง)
รูปที่ 2: ช่อดอกที่ยังไม่บาน แสดงการเรียงตัวของดอกย่อยแบบเวียน (spiral) (ซ้าย และ กลาง), ช่อดอกแบบ racemose ซึ่งมีการเกิดผลที่ดอกช่วงล่าง แสดงผลที่เจริญไม่เต็มที่รูปกรวย (connate) (ขวา)
รูปที่ 3: ผลที่เจริญเต็มที่รูปทรงกลม (globose) (ซ้าย), ภาคตัดขวางของผล (กลาง และ ขวา)
Reference & Credit
http://www.efloras.org/florataxon.aspx?flora_id=5&taxon_id=220003416
ภาพถ่ายโดย ดร. จิโรจน์ แสงรัตนประเสริฐ, นายนิธิศ ชัยวีรวัฒนะ และ นายติณณภัชน์ ศรีเพ็ง
คำอธิบายโดย นายติณณภัชน์ ศรีเพ็ง