สิทธิและหน้าที่
การเลือกตั้งของประเทศไทยในปัจจุบัน มีการเลือกตั้ง ๒ ระดับ คือ การเลือกตั้งระดับชาติ ประกอบด้วย การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร การเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา และการเลือกตั้งระดับท้องถิ่น
ประกอบด้วย การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น และผู้บริหารท้องถิ่น ซึ่งในการเลือกตั้งทั้งสองระดับดังกล่าวนี้
ประชาชนมีสิทธิและหน้าที่ตามที่ได้บัญญัติไว้ในกฎหมาย ประกอบ ด้วย
๑. การลงคะแนนเลือกตั้ง ประกอบด้วย
๑.๑ สิทธิในการลงคะแนนเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือ ส.ส.
๑.๒ สิทธิในการลงคะแนนเลือกตั้ง สมาชิกวุฒิสภา หรือ ส.ว.
๑.๓ สิทธิในการลงคะแนนเลือกตั้ง ผู้บริหารท้องถิ่นหรือ ผ.ถ.
๑.๔ สิทธิในการลงคะแนนเลือกตั้ง สมาชิกสภาท้องถิ่นหรือ ส.ถ.
ทั้งนี้ ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง สามารถเลือกผู้แทนได้ตามจำนวนที่กฎหมายกำหนด
๒. การลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา สมาชิกสภาท้องถิ่น ผู้บริหารท้องถิ่น ทั้งนี้ ผู้ประสงค์จะลงสมัครรับเลือกตั้ง จะต้องเป็นผู้มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม ตามที่กฎหมายกำหนด
๓. การร้องคัดค้านการเลือกตั้ง กรณีที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง หรือประชาชน เห็นว่า การเลือกตั้งใด เป็นไป
โดยไม่สุจริตเที่ยงธรรม หรือมีการดำเนินการที่ไม่ถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด สามารถร้องคัดค้านการเลือกตั้งดังกล่าวได้ ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กฎหมายกำหนด
คุณสมบัติของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง
เมื่อได้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดให้มีการเลือกตั้ง กรณีการเลือกตั้งระดับชาติ (การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร การเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา) หรือเมื่อได้มีประกาศให้มีการเลือกตั้ง กรณีการเลือกตั้งในระดับท้องถิ่น (การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น และผู้บริหารท้องถิ่น ) บุคคลที่จะเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งจะต้องมีคุณสมบัติ และไม่มีลักษณะต้องห้ามตามที่กฎหมายกำหนด ประกอบด้วย
๑. การเลือกตั้งระดับชาติ
คุณสมบัติของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ประกอบด้วย
๑) มีสัญชาติไทย บุคคลผู้ได้สัญชาติไทยโดยการแปลงสัญชาติ ต้องได้สัญชาติไทยมาแล้วไม่น้อยกว่า ๕ ปี
๒) มีอายุไม่ต่ำกว่า ๑๘ ปี บริบูรณ์ในวันที่ ๑ มกราคม ของปีที่มีการเลือกตั้ง
๓) มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขตเลือกตั้งมาแล้ว ไม่น้อยกว่า ๙๐ วัน นับถึงวันเลือกตั้ง
๔) ผู้มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขตเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้งติดต่อกันเป็นเวลาน้อยกว่าเก้าสิบวันนับถึงวันเลือกตั้ง ให้มีสิทธิลงคะแนนเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้งที่ตนมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านติดต่อกันครั้งสุดท้ายเป็นเวลาไม่น้อยกว่าเก้าสิบวัน และให้มีสิทธิลงคะแนนเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อที่ผู้นั้นใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้งด้วย
ลักษณะต้องห้ามบุคคลผู้มีลักษณะดังต่อไปนี้ในวันเลือกตั้ง เป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิเลือกตั้ง
๑) เป็นภิกษุ สามเณร นักพรต หรือนักบวช
๒) อยู่ในระหว่างถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง
๓) ต้องคุมขังอยู่โดยหมายของศาลหรือโดยคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย
๔) วิกลจริต หรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ
๒. การเลือกตั้งระดับท้องถิ่น
คุณสมบัติของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ประกอบด้วย
๑) มีสัญชาติไทย หรือได้สัญชาติไทยโดยการแปลงสัญชาติมาแล้วไม่น้อยกว่า ๕ ปี
๒) มีอายุไม่ต่ำกว่า ๑๘ ปี บริบูรณ์ ในวันที่ ๑ มกราคม ของปีที่มีการเลือกตั้ง
๓) มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขตเลือกตั้งมาแล้ว เป็นเวลา ติดต่อกันไม่น้อยกว่า ๑ ปี นับถึงวันเลือกตั้ง
๔) กรณี ย้ายทะเบียนบ้านออกจากเขตเลือกตั้งหนึ่ง ไปยังอีกเขตเลือกตั้งหนึ่งภายในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเดียวกัน ทำให้บุคคลมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขตเลือกตั้ง น้อยกว่า ๑ ปี นับถึงวันเลือกตั้ง ให้บุคคลนั้นมีสิทธิออกเสียงลงคะแนนเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งที่ตนมีชื่อในทะเบียนบ้านครั้งสุดท้ายเป็นเวลาไม่น้อยกว่าหนึ่งปี
ผังแสดงขั้นตอนการใช้สิทธิเลือกตั้ง
ทั้งนี้ เพื่อให้การลงคะแนนเลือกตั้ง เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ก่อนขั้นตอนการแสดงตนต่อกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง ผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง ควรจะได้ตรวจสอบรายชื่อ และลำดับที่ของผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ได้ปิดประกาศไว้ ณ ป้ายปิดประกาศหน้าที่เลือกตั้ง และจดจำลำดับที่ เพื่อแจ้งต่อกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง เพื่อให้เกิดความรวดเร็ว และถูกต้องในการตรวจสอบรายชื่อ การจัดที่เลือกตั้ง เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง ระเบียบ กฎหมาย กำหนดให้ที่เลือกตั้ง มีองค์ประกอบ และแผนผังในการจัดที่เลือกตั้ง ดังนี้
องค์ประกอบของที่เลือกตั้ง
๑. ป้ายปิดประกาศ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าที่เลือกตั้ง ใช้สำหรับการปิดประกาศและคำสั่งที่เกี่ยวกับ
การเลือกตั้ง เช่นบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ประกาศรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้ง ประกาศกำหนดหน่วยเลือกตั้ง
และที่เลือกตั้ง คำสั่งแต่งตั้งกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง เป็นต้น
๒. ป้ายบอกทางเข้า – ออก ที่เลือกตั้ง
๓. ที่นั่งกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งผู้มีหน้าที่ตรวจสอบรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง/บันทึกการใช้สิทธิ
เลือกตั้ง มอบบัตรเลือกตั้งให้กับผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งซึ่งจะตั้งอยู่บริเวณทางเข้า ที่เลือกตั้ง
๔. ที่นั่งกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง ฝ่ายควบคุมคูหาลงคะแนนตั้งอยู่ในที่เลือกตั้ง และเป็นจุดที่
สามารถสังเกตการณ์ หรือมองเห็นการกระทำผิด ณ บริเวณคูหาการลงคะแนนได้อย่างชัดเจน
๕. คูหาลงคะแนน อย่างน้อย ๓ คูหา ตั้งอยู่บริเวณด้านในที่เลือกตั้ง แต่ละคูหาตั้งห่างกัน อย่างน้อย
คูหาละ ๐.๕๐ เมตร และห่างจากฉากกั้นหลังคูหา อย่างน้อย ๑ เมตร
๖. หีบบัตรเลือกตั้ง และที่นั่งกรรมการฝ่ายควบคุมหีบบัตรเลือกตั้ง ตั้งอยู่ด้านหน้าที่ตั้งคูหาลงคะแนน
หรือบริเวณที่ผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง สามารถหย่อนบัตรเลือกตั้งได้โดยสะดวก ห่างจากที่ตั้งคูหาลงคะแนนพอสมควร
๗. ที่นั่งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำหน่วยเลือกตั้ง
๘. ที่นั่งประธานกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง และผู้อำนวยการ
ประจำหน่วยเลือกตั้ง
ทั้งนี้ ที่เลือกตั้ง จะต้องเป็นสถานที่ที่มีอาณาเขต ชัดเจน เช่น ห้องเรียน หรือหากจะเป็นเต็นท์
กลางแจ้ง จะต้องมีแถบกั้นแสดงอาณาเขตของที่เลือกตั้งได้อย่างชัดเจน
ตัวอย่างแผนผังสถานที่เลือกตั้ง แบบเข้าออกคนละทาง
ตัวอย่างแผนผังสถานที่เลือกตั้ง แบบเข้าออกทางเดียวกัน