ความเป็นมาของโครงการลูกเสืออาสา กกต.
คณะกรรมการการเลือกตั้งและกระทรวงศึกษาธิการได้ตกลงร่วมมือในการดำเนินการโครงการลูกเสืออาสา กกต. เพื่อพัฒนาประชาธิปไตย ในปีงบประมาณ 2550 โดยได้ดำเนินการฝึกอบรมผู้บังคับบัญชาลูกเสือระดับผู้นำขั้นความรู้ชั้นสูง เพื่อนำไปฝึกอบรมลูกเสืออาสา กกต.เพื่อพัฒนาประชาธิปไตยให้กับลูกเสือทุกจังหวัด เพื่อให้ลูกเสืออาสา กกต.สามารถช่วยเหลืองานของสำนักงาน กกต.ในการรณรงค์ประชาสัมพันธ์การเลือกตั้งและการช่วยเหลือ บริการผู้พิการ ผู้สูงอายุ ประชาชนผู้ใช้สิทธิเลือกตั้ง รวมทั้งจัดการจราจรบริเวณที่เลือกตั้งกลางและหน้าหน่วยเลือกตั้ง ให้ลูกเสือได้ศึกษาหาความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขและเห็นความสำคัญและคุณค่าของการเลือกตั้งเพิ่มมากขึ้น ให้ลูกเสือได้มีความภาคภูมิใจในการกระทำตนให้เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ โดยช่วยเหลือสำนักงาน กกต. รณรงค์ถ่ายทอดความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับประชาธิปไตยและการเลือกตั้งให้แก่ประชาชน และให้รู้จักการสร้างและปลูกจิตสำนึกรักบ้านเกิด รวมทั้งการดำเนินชีวิตแบบวิถีประชาธิปไตย มีความเป็นอยู่อย่างพอเพียงและรู้จักช่วยเหลือผู้อื่น
โครงการลูกเสืออาสา กกต.เพื่อพัฒนาประชาธิปไตย ได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2550 จนถึงปัจจุบัน ได้รับการตอบรับจากผู้ที่เกี่ยวข้องว่าลูกเสือซึ่งเป็นเยาวชนที่มีเกียรติเชื่อถือได้ มีความซื่อสัตย์ สุจริต และมีความเป็นกลางทางการเมือง ปฏิบัติภารกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ประชาชนมีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการเลือกตั้งระบบใหม่เป็นอย่างมากและภารกิจที่สำคัญของลูกเสืออาสา กกต. อีกประการหนึ่งคือ การเผยแพร่และพัฒนาประชาธิปไตย เพื่อปลูกฝังการดำเนินชีวิตตามวิถีประชาธิปไตยตั้งแต่เยาว์วัย
วัตถุประสงค์การจัดตั้งกองลูกเสืออาสา กกต.
เป้าหมายในการจัดกิจกรรม
การสร้างกองลูกเสืออาสา กกต. ให้เข้ามามีส่วนร่วมรณรงค์ถ่ายทอดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการเมืองการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และอำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งในการเลือกตั้งทุกประเภท
รูปแบบกิจกรรม
จัดอบรมผู้บังคับบัญชาลูกเสืออาสา กกต., ผู้บังคับบัญชาลูกเสืออาสา กกต. ที่ผ่านการอบรมจัดฝึกอบรมหมู่ลูกเสือเพื่อฝึกอบรมกองลูกเสืออาสา กกต. เพื่อพัฒนาประชาธิปไตย ทั่วประเทศ
ลูกเสืออาสา กกต. เพื่อพัฒนาประชาธิปไตย แต่ละกองเข้ามามีส่วนร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง โดยการเข้าร่วมรณรงค์ประชาสัมพันธ์การเลือกตั้ง และอำนวยความสะดวกแก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง โดยเฉพาะคนชรา และผู้พิการ เป็นต้น
4 ความหมาย ความสำคัญ หลักการของการเลือกตั้ง
5 อำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง
กกต.เปิดตัว 3 วิชาพิเศษลูกเสืออาสา
ลูกเสืออาสา กกต. เริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 18 มิ.ย. 2550 เป็นความเห็นพ้องต้องกันระหว่าง กกต. และกระทรวงศึกษาธิการในการสร้างเยาวชนให้เข้าใจวิถีประชาธิปไตย ไม่มีกระบวนการไหนดีเท่ากระบวนการลูกเสือ ตลอด 9 ปีที่ผ่านมา เป็นการเปิดโอกาสให้ลูกหลานทำงานเพื่อชาติและซึมซับประชาธิปไตย จากการลงไปทำหน้าที่ดูแลบรรยากาศการเลือกตั้ง ช่วยเหลือผู้พิการและผู้สูงอายุในการเลือกตั้ง จากเดิมที่มี 844 โรงเรียนได้จัดตั้งกองอาสาลูกเสือ กกต. ขึ้นแล้ว ต่อไปก็จะมีการขยายไปทั่วประเทศ ซึ่งในการประชุมลูกเสือนานาชาติ ก็มีการนำเอาแนวคิดนี้ไปเล่าให้ที่ประชุมฟัง ขณะนี้ลูกเสืออาสา กกต.เป็นองค์ประกอบสำคัญในการจัดการเลือกตั้งแล้ว และเป็นการสะท้อนให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในกระบวนการประชาธิปไตย
การทำประชามติเมื่อวันที่ 7 ส.ค.ที่ผ่านมา มีผู้ใช้สิทธิเพิ่มมากกว่าปี 2550 และไม่มีเรื่องร้องเรียน กกต.ประสบความสำเร็จได้เพราะเครือข่ายทั้งหมดสนับสนุนให้เดินหน้าไปได้ เครือข่ายจึงเป็นเรื่องสำคัญที่สุด ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) ทำให้ลูกหลานได้สัมผัสประชาธิปไตยในทางปฏิบัติจริง ตนขอขอบคุณผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการที่เห็นความสำคัญและช่วยให้ทุกอย่างเดินหน้าไปได้ การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตปลายปี 2560 เหลือระยะเวลาอีก 1 ปีเศษ ถือว่าไม่ไกลเลยสำหรับการทำงานอย่างจริงจังในการทำความเข้าใจร่วมกันและจัดสรรทรัพยากรลงมา จำเป็นต้องให้ความสำคัญด้วยการทำให้เป็นรายวิชาพิเศษทุกโรงเรียนทั่วประเทศในการจัดตั้งกองลูกเสืออาสา กกต. เข้าไปอยู่ในหลักสูตร
ด้าน นายชัยยศ กล่าวว่า ลูกเสือเป็นกิจกรรมที่ไม่ตกยุคสมัย เป็นกิจกรรมเพื่อความสุขและตอบสนองจิตวิญญาณของเด็กและเยาวชน การทำกิจกรรมข้างนอกทำให้ได้เรียนรู้และฝึกการอยู่ร่วมกันในสังคม เป็นจุดกำเนิดประชาธิปไตย ที่ทุกคนต้องอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติสุข และมองบ้านเมืองเป็นเรื่องของเราทุกคน ดังนั้นคนเป็นลูกเสือจึงเข้าใจพื้นฐานประชาธิปไตย เราเล็งเห็นร่วมกันว่าวิชานี้จะส่งเสริมประชาธิปไตยได้ และได้เรียนรู้ร่วมกัน กระทรวงศึกษาธิการยินดีสนับสนุนกิจกรรมนี้ให้เจริญก้าวหน้าต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมในครั้งนี้เป็นการประชุมเพื่อแนะนำหลักสูตรวิชาพิเศษลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่ ลูกเสืออาสา กกต. เป็นวิชาเสริมในโรงเรียน ซึ่งประกอบด้วย 3 วิชา ได้แก่ วิชานักประชาธิปไตยและการเลือกตั้ง วิชานักบริการการเลือกตั้ง และวิชานักสร้างเครือข่ายการเลือกตั้ง พร้อมทั้งชี้แจงการได้มาซึ่งเครื่องหมายพิเศษลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่ ลูกเสืออาสา กกต. จากทั้ง 3 วิชา โดยความร่วมมือของกระทรวงศึกษาธิการและสำนักงานลูกเสือแห่งชาติ ซึ่งได้จัดทำหลักสูตรคู่มือสำหรับผู้บังคับบัญชาลูกเสือและสำหรับลูกเสือ สำหรับครูผู้สอนและนักเรียนที่สนใจวิชาพิเศษ จำนวน 2 เล่ม เพื่อนำไปเป็นแนวทางในการจัดฝึกอบรมหลักสูตรลูกเสืออาสา กกต.
หลังเสร็จสิ้นการกล่าวมอบนโยบาย นายประวิช ให้สัมภาษณ์ถึงการร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่า เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ซึ่งในส่วนที่เกี่ยวข้องกับ กกต. มี 4 ฉบับ คือ ร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.), ร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง, ร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) และร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย กกต. ซึ่ง กกต.จะพิจารณากฎหมายลูกส่งให้ กรธ.พิจารณา เมื่อถึงวาระที่ กรธ.จะยกร่างกฎหมายลูกในส่วนของ กกต. ขณะนี้ กกต.เตรียมความพร้อมเข้าให้ข้อมูลกับ กรธ. โดยจะเป็นการเสนอปัญหาเกี่ยวกับการจัดการเลือกตั้งในอดีต เรื่องของพรรคการเมือง ในการเพิ่มความสะดวกและลดขั้นตอน รวมถึงเรื่องของการร้องเรียน เพื่อทำความเห็นให้ชัดเจน และเป็นการปรับให้สอดคล้องกับร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งขณะนี้ยังไม่ทราบรูปแบบการพิจารณาของ กรธ.ว่าจะดำเนินการอย่างไร
เมื่อถามถึงข้อเสนอการปรับปรุงพรรคการเมืองที่มาจากหลายฝ่ายจะมีแนวทางปรับปรุงร่าง พ.ร.บ.พรรคการเมืองอย่างไร นายประวิช กล่าวว่า ข้อเสนอนั้นมีเป็นจำนวนมาก ซึ่งทุกคนก็อยากเห็นพรรคการเมืองเป็นสถาบัน มีอุดมการณ์ และมีความรู้สึกเป็นเจ้าของพรรคร่วมกัน เป็นเรื่องที่ต้องช่วยกันคิด
เมื่อถามถึงข้อเสนอของนายไพบูลย์ นิติตะวัน ที่เสนอให้พรรคการเมืองงดหาเสียงนั้น นายประวิช กล่าวว่า ตนไม่ขอวิจารณ์ เพราะยังมีความคิดเห็นอีกหลายด้าน ทั้งที่เสนอไปยัง กรธ.และนำเสนอผ่านสื่อมวลชนเมื่อถามถึงกระบวนการสรรหาเลขาธิการ กกต. นายประวิช กล่าวว่า อยู่ในกระบวนการดำเนินการของคณะกรรมการสรรหา ซึ่งเป็นไปตามดุลยพินิจ กกต.ไม่ก้าวก่าย เชื่อว่าน่าจะมีความชัดเจนภายในเดือน ต.ค.นี้"
อ่านต่อที่ : http://www.nationtv.tv/main/content/politics/378515259/