ข้อมูล 2 มิติ และ 3 มิติ มีความแตกต่างกันหลัก ๆ อยู่ที่มิติของข้อมูลในด้านต่างๆ เหล่านี้
1 มิติและโครงสร้างข้อมูล
ข้อมูล 2 มิติ:
แทนข้อมูลในสองมิติ: โดยทั่วไปอยู่ในรูปของเมทริกซ์หรืออาร์เรย์หรือแถวและคอลัมน์ เช่น ภาพ สเปรดชีท หรือกราฟ
ทุกรายการข้อมูลถูกกำหนดโดยพิกัดสองตัวเลข นั่นคือ (x, y)
ตัวอย่างข้อมูล เช่น รูปภาพ แผนที่ กราฟ ตาราง เป็นต้น
ข้อมูล 3 มิติ:
แทนข้อมูลในสามมิติ: โดยเพิ่มความลึกเข้าไปในโครงสร้างที่มีสองมิติ
ทุกรายการข้อมูลถูกกำหนดโดยพิกัดสามตัวเลข นั่นคือ (x, y, z) หรือ อาร์เรย์ 3 มิติ
ตัวอย่างข้อมูล เช่น โมเดล 3 มิติ ข้อมูลปริมาณ (volumetric data) ข้อมูลการสแกนทางการแพทย์ และpoint clouds
2 การแสดงผล
ข้อมูล 2 มิติ:
นิยมแสดงบนพื้นผิวแบน เช่น หน้าจอคอมพิวเตอร์หรือกระดาษ
ข้อมูลมักถูกนำเสนอในรูปของพิกเซล หรือรูปทรงที่เรียงลำดับในแถวและคอลัมน์
ข้อมูล 3 มิติ:
ต้องใช้การแสดงผลที่มีมิติที่สามเพื่อสื่อสารข้อมูลความลึก
การแสดงผลในคอมพิวเตอร์จำเป็นต้องมีโปรแกรมเฉพาะ
3 ความซับซ้อน
ข้อมูล 2 มิติ:
มีความซับซ้อนน้อย
ข้อมูล 3 มิติ:
มีความซับซ้อนมากขึ้น เพื่อแสดงข้อมูลที่มีความลึก
4 การใช้งาน
ข้อมูล 2 มิติ:
ใช้มากในสื่อดิจิทัล กราฟิก การออกแบบ และการแสดงข้อมูลทั่วไป
ข้อมูล 3 มิติ:
การใช้งานมีความเฉพาะ เช่น การออกแบบสินค้า การใช้งานทางการแพทย์ และระบบเกม เป็นต้น
จากตัวอย่างภาพข้อมูลของซุงไม้สัก หากเป็นข้อมูล 2 มิติจะไม่สามารถวัดความโต ความสูงของซุงไม้สักได้ถ้าไม่มีมาตราส่วนในภาพ แต่ข้อมูล 3 มิติสามารถวัดส่วนต่างๆ ได้ และสามารถตัดหรือเลือกข้อมูลส่วนที่สนใจได้ สำหรับขนาดของไฟล์ภาพตัวอย่างนี้ ข้อมูล 2 มิติสกุลไฟล์ jpg มีขนาด 2.9 MB และข้อมูล 3 มิติสกุลไฟล์ las มีขนาด 140 MB.
#LiDAR #TLS #ป่าไม้ #3D #ข้อมูลสามมิติ #point cloud
ผู้เขียน : ผศ.ดร.ลัดดาวรรณ เหรียญตระกูล ภาควิชาวิศวกรรมป่าไม้ คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (5 Jan 2024)