เทคโนโลยี SLAM LiDAR (Simultaneous Localization and Mapping with LiDAR) คือการผสานระบบระบุตำแหน่งและการสร้างแผนที่เข้าด้วยกันแบบเรียลไทม์ โดยอาศัยเซ็นเซอร์เลเซอร์ (LiDAR) ที่สามารถสแกนพื้นที่โดยรอบพร้อมคำนวณตำแหน่งของอุปกรณ์ขณะเคลื่อนที่ได้อย่างแม่นยำ โดยอาจไม่ต้องพึ่งพาระบบ GPS เสมอไป ซึ่งเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับการใช้งานในพื้นที่ป่าไม้ที่สัญญาณ GPS ถูกบดบัง เช่น ใต้เรือนยอดไม้หนาแน่น
SLAM LiDAR มีจุดเด่นที่ความสามารถในการเคลื่อนที่ได้อย่างอิสระ ไม่ว่าจะติดตั้งบนมือถือ แบกสะพาย หรือใช้งานร่วมกับโดรน ทำให้สามารถเก็บข้อมูลโครงสร้างของป่าแบบสามมิติได้อย่างรวดเร็วและครอบคลุม โดยสามารถระบุตำแหน่งของต้นไม้ ความสูง เส้นผ่านศูนย์กลาง และความหนาแน่นของพรรณไม้ในแปลงสำรวจได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ในด้านงานป่าไม้ SLAM LiDAR ถูกนำมาใช้ในการทำ Tree Inventory หรือการสำรวจทรัพยากรป่า เช่น การนับจำนวนต้นไม้ วัดขนาดต้นไม้ ประเมินปริมาณคาร์บอน หรือวิเคราะห์โครงสร้างป่าแบบไม่รบกวน (non destructive) เทคโนโลยีนี้จึงมีศักยภาพสูงในการสนับสนุนการจัดการป่าไม้อย่างยั่งยืน
แม้ SLAM LiDAR จะยังมีข้อจำกัดในเรื่องความละเอียดของจุดข้อมูลเมื่อเปรียบเทียบกับ TLS (Terrestrial Laser Scanning) แบบติดตั้งอยู่กับที่ แต่ข้อได้เปรียบด้านความสะดวกในการใช้งานและการลดเวลาในการเก็บข้อมูลภาคสนาม ทำให้เป็นทางเลือกที่น่าสนใจในงานวิจัยและการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติ
ปัจจุบันเทคโนโลยี SLAM LiDAR มีใช้อย่างแพร่หลายในประเทศไทย ทั้งในงานวิศวกรรมสำรวจ การโครงสร้าง และงานป่าไม้ เป็นเทคโนโลยีนำเข้ามีราคาตั้งแต่หลักแสนถึงหลักล้าน โดยส่วนใหญ่มาพร้อมซอฟแวร์ประมวลผลข้อมูลสามมิติ.
#LiDAR #SLAM #ป่าไม้ #PointCloud #สามมิติ
ผู้เขียน: ผศ.ดร.ลัดดาวรรณ เหรียญตระกูล ภาควิชาวิศวกรรมป่าไม้ คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (13 July 2025)